ภูวไนย vs จอมทัพร้านนี้เป็นร้านสบายๆข้างม. เสียงเพลงเปิดคลอเบาๆกับลมเย็นๆหลังฝนตกให้ความรู้สึกเพลินจริงๆ
“ฟิ๊ววววว” เสียงดังจากไอ้คนที่นั่งข้างๆเรียกให้ผมหันกลับมาสนใจ
เอ่อ เห็นแล้วจิตตกเบาๆ เอาแล้วไง ไอ้น้ำไปคนแรกละ ใครให้มันกินเหล้าวะ
“อ้าว ทำไมเมาเร็ววะ กินไปแค่สองสามแก้วเอง”
“นั่นสิ”
“น้องน้ำๆ”
อ่อ ตัวการอยู่นี่
“อะไรเหรอพี่พลอย”
“นี่เลขอะไร”
“เลขสองสิ ถามแปลกๆ”
“แน่นะ”
“แน่ใจ” ไอ้คนตอบพยักหน้ายิ้มกว้างตาเชื่อมเชียว
พี่พลอยกับไอ้ปอมพยักหน้าเออออพลางเดินกลับไปนั่งหัวโต๊ะ
“ฟิว แก้วของน้ำหายไปไหน” นั่น ไวจริงนะมึง
“อ้าว หายไปได้ไง เมื่อกี้ก็วางตรงนี้ไม่ใช่เหรอ” ชายฟิวตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้
ไอ้ฟิวพึ่งส่งแก้วของน้ำให้ผมเอาไปรวมๆกับใบอื่นๆตอนน้ำคุยกับพวกพี่พลอย
เดี๋ยวมันเมาหนักแล้วจะงอแงอีก
“ฮื่อออ โกหก” ไอ้น้ำพ่นลมออกจมูกพลางจ้องไอ้ฟิวตาโต
“โกหกที่ไหน ก็นั่งอยู่ด้วยกันเนี่ย ไม่รู้จริงๆ”
น้องน้ำเริ่มไขว้เขว เห็นทำคิ้วขมวดมองซ้ายขวา
หึ คงจะเจออยู่หรอกเนอะ
“มา มานั่งนี่เร็ว เล่นเกมส์ดีกว่า น้ำชอบเกมส์นี้ไม่ใช่เหรอ”
ชายฟิวตัดบทพลางล้วงมือถือให้น้ำที่ยิ้มๆพยักหน้าแล้วเดินเซๆเข้าไปนั่งพิงชายฟิวกดเกมส์หัวเราะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
หันมองข้างซ้าย ก็เห็นไอ้คีมองอยู่
คืนนี้เหนื่อยแน่มึง ไอ้ตัวแสบงอนไม่ยอมคุยด้วยอยู่แล้ว นี่เมาเข้าไปอีก ยิ่งพูดไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่
“ฟิว ไอ้ฝรั่งโรคจิตโทรมา” คนพูดทำหน้าสงสัย
ผมมองไอ้ฟิวขำๆเมื่อได้ยินน้ำอ่านชื่อที่โชว์บนจอขณะมือถือสั่นและแผดเสียงอยู่ในมือเล็กที่ทำท่าประคองสองมือราวกับกลัวว่ามันจะหล่น
ไอ้ฟิวทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนกดรับ
“อะไร”
“กินเหล้าอยู่กับเพื่อน”
“เพื่อนที่โรงเรียน”
“เออ มึงจะคุยกับมันมั้ย”
“ฟิวทำไมคุยกับคนโรคจิตรู้เรื่อง ขอน้ำคุยด้วยคนสิ” ไอ้ตัวแสบที่จ้องอยู่นานเขย่าแขนชายฟิวพลางทำหน้าอยากรู้
ไอ้ฟิวมองไอ้น้ำยิ้มๆก่อนส่งมือถือให้
“บัดดี้มึงขอคุยด้วย”
“สวัสดี” น้ำมองโทรศัพท์ก่อนจะเอาแนบหู
“Andy!, I haven’t known that you’ve a mental problem.(แอนดี้ ไม่เห็นรู้เลยว่านายมีปัญหาทางจิต)” คนพูดทำหน้าตกใจก่อนขมวดคิ้วแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์อีกที
“Cause the phone showed…(ก็หน้าจอมันโชว์ว่า...)” เจ้าตัวหันมองชายฟิวแล้วเอียงคอหัวเราะ
“555 อ๋อ I see… (อ๋อ รู้ละ)”
“Watcha doin? (ทำอะไรอยู่เหรอ)”
“He’s a liar. I don’t wanna talk about him.(เค้าโกหก น้ำไม่อยากพูดถึงเค้า)” รู้ๆกันอยู่ว่า He นี่หมายถึงใคร เห็นไอ้ he ที่ถูกพาดพิงทำหน้านึก ว่ามันไปก่อความผิดอะไรมา
“I want to have fish n’ chip. (อยากกิน fish n’ chip อ่ะ)”
* หมายเหตุ fish n’ chip คืออาหารยอดนิยมของคนอังกฤษ หน้าตาก็ตามชื่อค่ะ ปลาทอด (ปลาที่เป็นที่นิยมก็คือปลาคอด Cod หรือ ปลาแฮดดอก Haddock) กับมันฝรั่งทอด (คล้ายเฟรนช์ฟรายด์แต่อันใหญ่กว่าค่ะ)
“That’s exactly what I think. (น้ำก็คิดว่างั้นเหมือนกัน)”
“จอม อยากกิน Fish n’ chip” น้ำส่งมือถือคืนให้ชายฟิวก่อนเขยิบมาพิงตัวผม
“หืม ขี้เกียจทำ ไปกินร้านดีกว่ามั้ง”
“ไม่อาวว ไปกินร้านได้กินแต่แป้งกับเกล็ดขนมปัง ไม่เห็นมีเนื้อปลาเลย” คนขี้อ้อนส่ายหัวไปมาอยู่ตรงไหล่พลางจ้องจะให้ผมตอบตกลง
“แล้วทำไมจู่ๆถึงอยากกิน”
“ก็เห็นใน power point ของคุณครู น่าอร่อยนะ” คนพูดยิ้มตาหยีพลางพยักหน้า
เอ่อ...นี่พวกมึงเรียนอะไรกันวะ
“น่า นะ นะจอมนะ”
“อืมๆ รู้แล้ว”
ผมรับปากน้ำแล้วนั่งดื่มไปเรื่อยๆ
หัวโต๊ะฝั่งซ้ายบรรยากาศครึกครึ้นโดยมีพี่พลอยและพี่ซินนี่เป็นแกนนำ ต่างกับฝั่งขวาที่พวกพี่กรพี่ภูคุยกันเบาๆ ส่วนไอ้เกรียนฝั่งตรงข้าม(ป็อบ แซ็ก โจ)ก็ยังคงเกรียนต่อไป
“จอม”
“หืม”
“ง่วงจัง”
“กลับไปนอนมั้ย” ผมถามไอ้ตัวแสบที่กำลังนั่งทำตาปรือและทิ้งน้ำหนักตัวพิงผมมากขึ้น
“คืนนี้ไปนอนห้องจอมได้ป่าว”
“ไม่กลับไปนอนห้องตัวเองล่ะ”
“ฮื่อ ไม่เอา”
ผมหันไปเลิกคิ้วเป็นเชิงถามไอ้คีว่ามันจะเอายังไง ซึ่งคำตอบที่ได้คือการส่ายหัวน้อยๆ
“จอมมม” พอผมไม่ตอบ น้ำก็เริ่มงอแง
“ฮู้วว วันนี้กูจะดูบอล เดี๋ยวเสียงดัง มึงสะดุ้งตื่นอีก”
“ไม่เป็นไร น้ำนอนได้”
“แล้วมึงเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมกลับไปนอนห้องตัวเอง” ผมถามไอ้น้ำด้วยสีหน้าเอือมๆ
“ฮึ ไม่รักจอมแล้ว” ไอ้ตัวแสบกัดปากจ้องผมตาโตแล้วยืนขึ้น มันส่ายหัวน้อยๆด้วยท่าทางมึนๆ ก่อนจะเดินเกาะราวเฉลียงไปหาพี่ภู
เฮ่อ แลเห็นความยุ่งยากใจมาแต่ไกล
หันมาดูไอ้คีก็เห็นมันจิบเหล้าแล้วมองตามไอ้น้ำด้วยท่าทางนิ่งๆ
นี่ตกลงพวกมึงจะได้กลับหอด้วยกันมั้ยวะ
“มึง เดี๋ยวกูต้องไปรับคนที่สนามบิน จะเลยกลับไปก่อน พรุ่งนี้เจอกัน” ไอ้ฟิวที่ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ เดินมาบอกผมกับไอ้คีก่อนผลุนผลันออกจากร้านไป
“เชรี่ยโจ มึงบ้าป่าววะ เต็มแปดสิบ ได้เจ็ดสิบสอง”
“เออ นั่นดิ แม่งต้มหนังสือกินก่อนสอบแน่ๆ”
“อะไร กูก็อ่านของกูตามปกติ”
“กูก็อ่านปกติ คะแนนกูก็ห้าสิบกว่าตามเกณฑ์ปกติ”
“ไอ้เก่ง ไอ้อัจฉริยะ ไอ้ทีมชาติ ไอ้...”
“มึงเป็นตัวการทำให้มีนสูงขึ้น”
“อ้าว แล้วให้กูทำไง”
“มึงต้องหัดทำตัวให้เหมือนชาวบ้านเค้าบ้าง ไอ้ดอยบอกกูอยู่ว่าจะมากราบง่ามตีนมึง เผื่อจะฉลาดขึ้นบ้าง”
“เออ ทำไรไม่ไว้หน้าพวกกูบ้าง”
เสียงไอ้เกรียนฝั่งตรงข้ามถกกันอย่างออกรส ฟังดูเหมือนจะมีประเด็นอยู่บ้าง
“กูอยากได้ชาวต่างชาติเป็นแฟน”
“ชาวต่างชาติไหนยะ”
“ก็เผ่าอินเดียนแดง*อ่ะ”
หมายเหตุ ปีนี้เด็กปีหนึ่งถาปัตย์แต่งตัวคอนเซ็ปต์อินเดียนแดงค่ะ
“น้อง 02...หน่ะเหรอ”
“จริงๆ คนนี้เป๊ะเวอร์”
มองฝั่งซ้ายก็คง...เอิ่ม มีประเด็นเหมือนกัน
แต่พอมองฝั่งขวา อืม ประหนึ่งอยู่คนละโลก
นั่งกินเหล้ามองหน้ากัน คงส่งกระแสจิตคุยกันได้
อ้อ ที่เงียบนี่คงเป็นเพราะไอ้แสบที่หลับคาอกพี่ภูอยู่สินะ
เอ่อ หันมองไอ้คนข้างๆก็เห็นมันจ้องอยู่ตลอด
ผมสงสารพี่ภูว่ะ ดูก็รู้ว่ารักไอ้น้ำไม่เปลี่ยน แค่มองอยู่ห่างๆยังสัมผัสได้เลยว่าพี่เค้ารักมันนักหนา นัยน์ตาเวลาพี่แกมองเหมือนคำว่ารักมันทะลุออกมา อืม ไม่รู้สิ มองแบบทั้งรักทั้งห่วงหน่ะ
“จอม กูจะพาน้ำกลับ ฝากมึงอยู่เคลียร์ด้วย” ไอ้คีพูดกับผมก่อนเดินไปช้อนตัวไอ้น้ำจากตักพี่ภู
พอไอ้ตัวแสบปรือตามองเห็นไอ้คี
มันก็ซุกหน้ากับไหล่พลางกอดคอพี่ภูแน่นเลยครับ
ไอ้คีจับมือน้ำข้างนึงมากุมไว้พลางลูบหลังมือเบาๆ
คนงอนสะบัดมือแล้วกอดพี่ภูแน่นกว่าเดิม ตัวมันสั่นน้อยๆ
ไอ้เด็กน้อยเป่าปี่แล้ว
ตั้งแต่มันเป็นแฟนกันก็พึ่งเห็นไอ้น้ำงอน ส่วนไอ้คีก็ดูใจเย็นกว่าแต่ก่อน มีอะไรก็เห็นมันถามคุยกันตรงๆ ถึงไอ้คีจะมีคนเข้าหาเยอะ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหา
คงเป็นนิสัยคิดมากของน้ำอีกตามเคยล่ะมั้ง ยิ่งมันเมาก็ยิ่งชอบงอแง เอาแต่ใจ
ซักพักผมก็เห็นไอ้คีลูบหัวน้ำแล้วกระซิบบางอย่าง เห็นน้ำเงยหน้ามามองทั้งน้ำตา แล้วโผเข้ากอดไอ้คี
หลังจากโอ๋กันอยู่พักใหญ่ มันก็จูงมือกันกลับ ท่ามกลางความโล่งใจของสมาชิกรอบโต๊ะ
พวกผมดื่มอยู่ซักครู่ใหญ่ก็ได้เวลากลับ ผมเป็นตัวแทนของอีกสามคนคอยเคลียร์บิลในส่วนที่ต้องแชร์
อืม ตีหนึ่ง รถก็ไม่อยู่แล้วสิ ผมกะโทรให้ไอ้คีออกมารับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพี่กรเรียก
“จอม กูวานไปส่งไอ้ภูที่คอนโดมันหน่อย ไอ้อาร์มมีธุระกลับด่วน เดี๋ยวกูจะไปส่งพวกผู้หญิง อ่ะนี่กุญแจรถมัน จำได้ใช่ป่าว Crv สีดำจอดอยู่หน้าร้าน พวกคีการ์ดอะไรก็ค้นๆดูในกระเป๋ามันนั่นแหละ”
ผมช่วยพี่กรพยุงพี่ภูมาจนถึงรถแล้วจับพี่แกยัดเข้าไป
“ขอบใจมาก”
“ไม่เป็นไรพี่”
ผมขับรถไปตามทางที่เคยไปคอนโดพี่ภูเมื่อเดือนก่อน อย่าถามล่ะว่าไปทำอะไร ก็...ร่ำสุรากันเหมือนเคย
พอไปถึงผมก็พยุงพี่แกขึ้นลิฟท์ไปถึงห้องด้วยความทุลักทุเล
เป็นคนเมาที่แปลกที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ เงียบ ไม่พูด ตาก็มองดูปรกติ มีแค่อาการทรงตัวไม่อยู่เท่านั้นที่บอกให้รู้ว่าพี่แกเมา
ห้องพี่ภูอยู่ชั้นสิบสี่ มองเห็นวิวเมืองที่พราวไปด้วยแสงไฟ มีห้องนอนกั้นจากห้องรับแขกและมุมครัวเล็กๆในโซนแรกที่เปิดประตูเข้ามาเจอ และห้องน้ำที่อยู่ติดกัน
ผมทิ้งตัวคนเมาบนเตียงก่อนหาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นไปเช็ดหน้าเช็ดตาให้พี่แกเผื่อจะสร่างเมาขึ้นมาบ้าง
“เฮ้ย” ขณะผมกำลังเช็ดหน้าให้พี่ภูก็ต้องตกใจเมื่อถูกเหวี่ยงลงบนเตียงแล้วถูกคร่อม
“น้ำ น้องน้ำ” พี่ภูก็เพ้อเรียกชื่อไอ้น้ำพลางประคองหน้าผมแล้วใช้นิ้วโป้งไล้แผ่วเบา
“พี่...อื้ออ” เชรี่ย กูน้องจอม ไม่ใช่น้องน้ำ จะจูบกูทำไม๊
“แฮ่กๆ” ผมผลักไอ่พี่ภูออกด้วยความรู้สึกแปลกๆ แม่ง เก็บสายตาทั้งรักทั้งห่วงไปไกลๆโว้ย กูไม่ใช่น้องน้ำ
“น้ำ...ทำไม...เป็นพี่ไม่ได้เหรอ” ไอ้พี่ภูทิ้งน้ำหนักลงมาแล้วกอดผมไว้ทั้งตัว
ผมว่า ผมรีบกลับดีกว่า ท่าทางสถานการณ์ชักจะยุ่งยากขึ้นทุกขณะจิต
“พี่ ปล่อย ตัวหนักว่ะ” ผมดิ้นพลางผลักตัวพี่แกออก แต่เหมือนจะไม่เป็นผล
“เฮ้ย พี่ ทำอะไร” ผมโวยวายเสียงดังเมื่อพี่ภูเริ่มซุกไซร้ตรงซอกคอ
แคว่ก
โห แรงควายชิบหาย ดึงจนกระดุมหลุดทั้งแผง
“เฮ้ย พี่ ใจเย็นๆ ผมจอม ไม่ใช่น้ำ” ไอ้พี่ภู แม่งกะปล้ำกูแน่ๆ
ผมจะอยู่เฉยเรอะ ดิ้นสิครับ
อ้าว ล็อคแขนกูอีก
ผมดิ้นพลางกระถดตัวหนี
ปึ่ก
ตุ้บ
อูย ก้นกู
ผมเอามือลูบก้นตัวเองด้วยความเจ็บหลังจากดิ้นจนตกเตียง
อ่าว แล้วทำไมไอ้พี่ภูนิ่งไปวะเนี่ย
พอพยุงตัวลุกขึ้นมองถึงเห็นว่าพี่แกหลับไปแล้ว
เอามืออังดูตรงจมูก
อืม ยังหายใจ
ฮู่ววว เกือบไปแล้วมั้ยละ
ผมเดินหากุญแจรถของพี่ภูเพื่อจะขับกลับหอ ยังไงพรุ่งนี้ค่อยขับมาคืนแล้วกัน
ว่าแต่ กูวางกุญแจไว้ไหนวะ
ผมเดินหากุญแจตั้งแต่หน้าห้องตามทางที่เข้ามา วนมาถึงห้องนอน
มองดูตามโต๊ะก็ไม่ได้วางไว้
แล้วมันหายไปไหนวะ
หรือจะตกตามพื้น ก็ไม่เห็นมีนี่หว่า
ผมเดินวนหาจนเริ่มหงุดหงิด ปวดตูดกับสะโพกแปลบๆ กระแทกจนช้ำชัวร์
พอฟ้าสว่างผมถึงเหลือบไปเห็นกุญแจโผล่ออกมาจากกองผ้าห่มบนเตียง
นี่กูเดินหาจนเช้า แต่มาตกอยู่บนเตียงเนี่ยนะ
ผมมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาหกโมงสิบนาที
อีกซักสองชั่วโมงไปโบกรถแดงกลับเองดีกว่า
แล้วเวลาที่เหลือทำไรดีวะ จะหลับก็ยังไงอยู่ หลับไม่เต็มอิ่มตื่นมาก็ปวดหัว
แม่งท้องร้องอีก
ผมตัดสินใจเดินไปทางมุมครัว ถือวิสาสะหาของกินยามเช้า
ลองเปิดตู้เย็นดูก็เห็นสารพัดวัตถุดิบ
สงสัยไอ้พี่ภูจะชอบทำกับข้าวกินเอง
เช้าๆแบบนี้กินข้าวต้มแล้วกัน
>>>>ภูวไนย<<<<ผมตื่นมาด้วยความรู้สึกมึนหน่อยๆ
กลิ่นอาหารที่ลอยมาจากครัวฉุกให้ผมสงสัยว่ามีใครอีกคนอยู่ในห้อง
เมื่อคืน ผม...ดื่มจนเมา
พอมีสติรู้ว่ามีคนพยุงกลับมา
เมื่อคืน...ฝันดี
หึ จะเรียกว่าฝันดีได้รึปล่าว
ได้นอนกอดคนที่ตัวเองรักทั้งคืน
ผมเดินตามกลิ่นไปจนถึงห้องครัว เห็นไอ้น้องจอมกำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยอยู่
“อ้าวพี่ ตื่นแล้วเหรอ ขอถือวิสาสะใช้มุมครัวหน่อยแล้วกัน หิวว่ะ”
ผมพยักหน้าน้อยๆพลางเดินไปนั่งตรงโต๊ะกินข้าว ขณะไอ้น้องจอมเลื่อนชามข้าวต้มมาตรงหน้า
ผมสังเกตเห็นจอมปลดกระดุมเชิ้ตจนหมด เห็นแต่เสื้อกล้ามข้างใน
ไอ้น้องจอมเลื่อนเก้าอี้นั่งฝั่งตรงข้ามพลางซี้ดปากเอามือจับสะโพก
“ไปทำไรมาวะ”
ไอ้น้องจอมชะงักมองหน้าผม
ผมเลิกคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นมันมองผมค้างอยู่อย่างนั้น
“เอ่อ เดินชนขอบโต๊ะ”
เรากินกันเงียบๆจนกระทั่งผมเก็บชามไปล้าง
ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่า ไอ้น้องจอมคงยังไม่ได้กลับหอ
“จอม เดี๋ยวมึงกลับยังไง”
“เดี๋ยวโบกรถแดงกลับเอง” เจ้าตัวพูดพลางเดินไปนั่งใส่รองเท้าตรงหน้าประตู
“เดี๋ยวกูไปส่ง มึงรีบรึเปล่า”
“ไม่รีบพี่ ผมมีเรียนบ่าย”
“เดี๋ยวกูล้างหน้าแล้วจะไปส่ง”
ผมเปิดน้ำล้างหน้าในห้องน้ำ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยนูนที่ผุดขึ้นมาตรงหน้าผาก ผมเอามือแตะส่วนที่นูนออกมาพลางนึกว่าไปกระแทกอะไรเข้า
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนค่อยๆฉายเข้ามาในหัว อดขยี้ผมตัวเองด้วยความสับสนไม่ได้
นี่ผม เผลอทำอะไรไอ้น้องจอมไปรึปล่าววะ
ผมเช็ดหน้าแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถที่เห็นอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง
รู้สึกว่าเหยียบโดนอะไรซักอย่าง
พอก้มดูถึงได้รู้ว่าเหยียบโดนกระดุม ลองกวาดสายตามอง เห็นตกอยู่บนพื้นสองเม็ด ส่วนที่เหลือกระจายอยู่บนเตียง
สาเหตุที่ไอ้น้องจอมไม่ติดกระดุมเสื้อคงเป็นเพราะผม...กระชากเสื้อมันเมื่อคืน
ผมขับรถไปส่งไอ้น้องจอมพลางครุ่นคิด
ผมทำอะไรไอ้น้องจอมไปรึเปล่า
“ไปนะพี่” ไอ้น้องจอมยกมือไหว้แล้วเปิดประตูรถ
พอดีกับที่ผมหันไปเห็นรอยตรงคอ
ภาพกระดุมที่อยู่ในห้องและอาการที่ไอ้น้องจอมเดินแปลกๆ
ผมเปิดประตูรถแล้วตะโกนเรียกขณะมันกำลังจะเดินเข้าหอ
“จอม”
เจ้าตัวหันมามองผมที่ชะงักเพราะไม่รู้จะพูดอะไร
สมองพยายามคิดหาคำพูดอะไรซักอย่าง
“เอ่อ วันนี้มึงเลิกกี่โมง”
“สี่โมง พี่มีอะไรรึป่าว” คนตอบทำหน้าแปลกใจ
“เรียนที่ตึกคณะใช่มั้ย”
“อืม”
“รออยู่ใต้ตึกคณะ เย็นนี้กูจะไปรับ”
..............จบตอนพิเศษ ภูวไนย vs จอมทัพ...............
@ คุณ yeyong คู่ของน้องจอมอาจเริ่มต้นแปลกๆไปซักหน่อยเนอะ
@ คุณ kasaras
คู่นี้เค้าก็ง้องแง้งกันเรื่อยๆแหละค่า และเนื่องจากนี่คือเว็บไทยบอยเลิฟ เพราะฉนั้นคู่ของน้องจอมต้องเป็น ช ค่า
คุณ kasaras เป็นคุณหมอเหรอคะ ฝั่งสวนดอกมีอะไรอร่อยๆมั่งอ่ะ ไม่ค่อยได้ไปฝั่งนู้นเหมือนกัน ได้แต่ผ่านเฉยๆ
@ คุณ takara ใช่แล้วล่ะค่ะ น้องจอมคู่กับพี่ภู แต่ไปรักกันได้ยังไงต้องจินตนาการเอาเองแล้วกันเนอะ