สายชล Another side of the story... (02/11/55)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สายชล Another side of the story... (02/11/55)  (อ่าน 62855 ครั้ง)

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #120 เมื่อ13-05-2012 18:50:32 »

ฟิวเหมือนพ่อของน้ำเลยแหะ นิสัยแอบน่ากลัวเล็กน้อย   :try2: ทิ้งมาดไอ้งี้งกออกไปได้สนิท5555
แต่หวังว่าตอนหน้าคงดีกันนะ เค้าหัวใจจะวายตามแย้ว  :m17: จะได้รักกันซะกะที  o13

ปล แอบเชียรฟิวจอมไงไม่รู้เคอะ555  ตอนนี้ได้ทำการตัดพี่ภูออกจากสารบบ(เขียนงี้ป่าวหว่า ?)ไปแล้ว 5555
ปล1 thank you very much ka   :กอด1:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #121 เมื่อ13-05-2012 22:21:53 »

หืมมมมมมม

ถ้าเกิดว่ามีผู้หญิงเกาะไม่ปล่อยนะคี เเกตายยยยยย

น้ำเจ็บมากไหมนั้น สงสารอ่ะ

ฟิวนายเจ๋งว่ะ ส่งลูกน้องมาเลยทีเดียว

เเต่ก็ยังเคืองคีไม่หาย <<< สรุป

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #122 เมื่อ14-05-2012 00:44:17 »

คีรักน้ำแค่คนเดียวจริงรึเปล่า
แค่คำพูดยังไม่พอนะ แสดงให้เห็นด้วยสิ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #123 เมื่อ14-05-2012 22:16:29 »

แวะมาดัน  :z13:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #124 เมื่อ14-05-2012 22:35:40 »

น้องจอมน่ารักอะ ฟิวกะน่ารัก

Made

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #125 เมื่อ14-05-2012 23:54:22 »

 :monkeysad: คนอ่านขา พอดีช่วงนี้อิ๋งเจอกับมรสุมชีวิตนิดหน่อย แล้วก็ต้องสอบอาทิตย์หน้า ยังไงก็อาจจะหายไปซักสิบวัน ขอโทษจริงๆนะคะ แต่ว่าไม่ทิ้งแน่นอน

@ คุณ suck_love ขอบคุณที่แวะมาดันนะคะ แต่ว่า เอ่อ อย่าดันเลย เดี๋ยวจะโดนพี่ๆที่ดูแลเค้าดุเอาน้า ว่าปั่นกระทู้

 :sad4: มาเห็นคอมเม้นต์คนอ่านแล้วดีใจมากเลย ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: สายชล (ลงแว้ว เหนื่อย2) 12/05/55)
«ตอบ #126 เมื่อ16-05-2012 14:26:36 »

 ไม่ดันแล้วค่ะ กลัวว่าทู้นี้จะถูกอุ้มหาย แหะๆ :try2:
แต่ยังไงก็รอได้ค่ะ  รักน้ำ รักคีย์เสมอ  รักคุณอิ๋งด้วยค่ะ  :กอด1: สิบวันจิ๋บจ๋อยค่ะ  มาๆกอดให้กำลังใจ 55555

ขอให้ทำข้อสอบให้ได้นะค่ะ  :a2:

Made

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายชล (ลงแว้ว How can this feeling begin?) 19/05/55)
«ตอบ #127 เมื่อ19-05-2012 19:02:06 »

How can this feeling begin?

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกนี้ก่อตัว

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมควบคุมมันไม่ได้...

อาจจะเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน

คนอะไรวะ ขาวยังกะผงซักฟอก ตัวรึก็นิดเดียว

หืม เป็นน้องพี่ธารหรอกเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย...

อาจจะเป็นครั้งแรกที่เราคุยกัน

“มา ให้กูช่วยรึป่าว” พอหันมองตามเสียงถึงได้รู้ว่าเป็นไอ้ผงซักฟอกวันนั้นนี่หว่า

“ขอบใจ” ผมพยักหน้าแล้วยื่นแปรงลบกระดานคู่หนึ่งให้อีกคนเอาไปตบฝุ่นออก

เซ็งชะมัดยาก แค่เอากบที่จะต้องผ่าในคาบวิทย์มาแกล้งพวกผู้หญิงก็กรี๊ดกันซะลั่นตึก โดนลงโทษให้ทำความสะอาดห้องคนเดียวเลยไง

อ้อ สองคนสิ มีคนข้างๆนี่อีกคน

กว่าจะทำความสะอาดห้องเสร็จก็ปาไปหกโมงเย็น ไม่นึกว่าที่เคยทิ้งเศษกระดาษ รึว่าทำน้ำหวานหกมันจะทำความสะอาดยากขนาดนี้

มีแต่เราที่ทำแบบนั้นซะเมื่อไหร่ เห็นเป็นแบบนี้กันทั้งห้อง

มองไอ้ตัวเล็กที่ฮำเพลงไปเช็ดกระดานไปแล้วก็สงสัย แล้วมันมาช่วยเราทำไมวะ

“จะกลับเลยก็ได้นะ เหลือแค่ถูพื้น”

“ไม่เป็นไร กูอยากช่วย” หน้าตาคุณหนูจนไม่กล้าพูดกูมึงด้วย แต่เจ้าตัวกลับพูดเองซะงั้น

“หน้าที่ก็ไม่ใช่ ถามจริง คิดไงถึงได้มาช่วย”

“ก็...ถ้าทำคนเดียวก็เหงาใช่ม้า ช่วยกันจะได้ทำเสร็จไวๆด้วยนะ” คนตอบทำท่าคิดก่อนจะยิ้มให้

โห คนดีว่ะ

หรืออาจจะเกิดขึ้นตอนที่เราอยู่ม.ต้น

นับจากวันนั้น ผมก็ได้รู้ว่าไอ้ผงซักฟอกชื่อว่าน้ำ และที่สำคัญ น้ำนั่งอยู่ข้างหลังผมนี่เอง ไม่ยักรู้มาก่อน จากที่เคยพูดกูมึง น้ำก็เริ่มไม่พูด เนื่องจาก...

“น้ำ จอมขอเหอะ อย่าพูดเลย มันไม่เข้ากับหน้า” เออ จริงของมึง กูคิดงั้นตั้งแต่วันแรกที่ได้พูดกับน้ำแล้ว

“เอางั้นเหรอ” คนถามหันมามองผม จอม ฟิวและปลิวที่พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

และ...

“น้องน้ำ แม่ไม่เคยสอนให้พูดไม่เพราะเลยนะ”

ตั้งแต่นั้นมา คำว่ากูมึงก็ไม่ออกจากปากของน้ำอีกเลย

ยิ่งสนิทกัน ผมก็เริ่มรู้ว่าไอ้ตัวเล็กเนี่ยขี้อ้อน แถมเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ

ร้ายกาจยังไงหน่ะเหรอ ก็ตรงที่อยากได้อะไรก็จะเอาเดี๋ยวนั้น และวิธีการให้ได้มาก็ยากที่จะปฏิเสธซะด้วยสิ

“น้ำอยากไปดูแฮรี่”

“ไปวันเสาร์นี้ดีมั้ย” จอมเก็บของลงกระเป๋านักเรียนพลางถามน้ำที่นั่งจับปากกาทำหน้าจริงจัง

“ไม่เอา น้ำอยากไปวันนี้” น้ำทำหน้างอ

“นะ ฟิวนะ ไปด้วยกันนะ” นั่นไง รายแรก ไอ้ฟิวยืนเหงื่อตกทำหน้าลำบากใจ

“จอม ไปด้วยกันน้า”

“ไปหลายๆคนสนุกดี อีกอย่างวันเสาร์ขี้เกียจออกบ้าน”

“เราไปกันวันนี้เถอะ”

หรือจะเป็นตอนที่ไปทำรายงานกันที่บ้านชายฟิว

“ฟิว ทำไมพี่ๆเค้าไม่ยอมยิ้มเลยล่ะ”

เค้าใส่สูทใส่แว่นดำเข้าแถวหน้ากระดานต้อนรับเจ้านายอยู่แบบนั้นคงจะยิ้มให้เสียภาพพจน์อยู่หรอกนะ

“พี่” ไอ้ตัวเล็กหยุดยืนตรงหน้าพี่บอดี้การ์ดคนหนึ่งพลางยิ้มกว้างให้ แต่พี่เค้ายังคงก้มหัวให้น้อยๆแล้วทำหน้านิ่ง

“ยิ้มหน่อยน้า” ไม่พูดเปล่า ดึงแก้มเค้าด้วย

“อืม ไม่ยอมยิ้ม” เจ้าตัวพูดพึมพำพร้อมกับเดินกลับไปกลับมาอยู่ตรงหน้าการ์ดคนนั้น

พวกผมก็อยากรู้ว่าน้ำจะทำยังไงต่อไป เลยยืนมองเงียบๆ

“งั้นน้ำให้ฮาร์ทบีท” น้ำล้วงลูกอมออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้พี่บอดี้การ์ดพลางส่งยิ้มน้อยๆ

พี่เค้าที่ยื่นมือมารับพร้อมกับบอกขอบคุณครับ แต่หน้ายังนิ่งเหมือนเดิม

“ฮื่อ” ไอ้ตัวเล็กถอนหายใจพลางทำหน้าบูด

“ถ้าไม่ยอมยิ้มน้ำจะโกรธแล้วนะ” น้ำกอดอกจ้องการ์ดตาโต

ไอ้ฟิวคงเห็นว่าถ้าการ์ดบ้านมันไม่ยอมยิ้มวันนี้คงไม่ได้ไปไหนแน่ๆเลยพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เค้าทำตามที่น้ำบอก

เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่น้ำไปบ้านไอ้ฟิว ถ้ายิ้มให้การ์ดคนไหน คนนั้นต้องยิ้มตอบ ถ้าใครไม่ยิ้ม ก็รู้ๆกันอยู่ว่าจะเป็นยังไง
 
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยอมให้กับคนๆนี้

“คี ไปเหอะ” แค่มือเล็กแตะแขน ผมก็รู้ว่าต้องใจเย็นกว่านี้

ถ้าวันนั้นผมอยู่แค่คนเดียว เรื่องคงจบตั้งแต่หน้าห้องน้ำ ไม่ต้องรอให้มาต่อที่สวนหลังโรงเรียนให้เสียเวลาหรอก

ความรู้สึกผูกพันนี้เริ่มตั้งแต่วันที่เราสัญญากันรึป่าว

สัญญาที่ผมไม่เคยลืม จะดูแล จะปกป้อง จะอยู่ข้างๆ

อะไรที่ทำให้อร รักอรแบบไหน น้ำก็ไม่ต่างกัน

และเพราะสัญญานี้ ทำให้ผม ไม่กล้าก้าวผ่านเส้นกั้นบางๆและคิดมาตลอดว่าที่ผมห่วง ผมหวง คงเป็นเพราะน้ำคือคนในครอบครัวที่อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไป

ยิ่งอรกับพี่ธารไปอยู่ไกล เรายิ่งแทบไม่ได้ห่างกัน

และนั่น ทำให้ผมรู้ว่าน้ำเป็นคนคิดมาก เครียดง่าย เป็นโรคกระเพาะ

น้ำไม่ชอบทำอาหาร แม้แต่เวลาไปกินหมูกระทะกัน น้ำยังดูไม่ออกเลยว่าชิ้นไหนสุกแล้ว พวกผมต้องคอยคีบหมูให้ไอ้ตัวเล็กที่นั่งเคี้ยวแก่มตุ่ยและมักจะอิ่มเป็นคนแรกเสมอ แต่แปลกที่ชอบทำงานบ้าน เป็นคนที่ค่อนข้างเนี๊ยบนะ เสาร์อาทิตย์ครึ่งเช้านี่อย่าชวนไปไหน เพราะเห็นทำนู่นทำนี่ทั้งวัน

น้ำเป็นคนรักครอบครัว รักแม่มาก จำได้ว่าไอ้ฟิวเคยถามน้ำว่าทำไมต้องตั้งใจเรียนถึงขนาดนี้ น้ำก็ตอบว่าแม่จะได้ดีใจ

เป็นคนว่าง่าย แต่ต้องพูดต้องกล่อมด้วยเหตุผล ถ้าใช้อารมณ์หรือเสียงดังใส่มากๆจะไม่ยอม

เป็นคนใจเย็น ยิ้มเก่ง ใจดี ขี้สงสาร และที่น่าเป็นห่วงคือดูคนไม่เป็น

มองโลกในแง่ดีจนเกินไป บางทีเห็นโดนเพื่อนใช้ให้ทำการบ้านจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผมต้องโวยคนพวกนั้นไปหลายครั้ง

เรื่องโต้รุ่งสำหรับผมเป็นเรื่องธรรมดานะ แต่พอเห็นเด็กอนามัยที่นอนสี่ทุ่มตลอดต้องฟุบลงกับโต๊ะทำการบ้านก็พลอยทำให้เป็นเดือนเป็นร้อนแทนเจ้าตัวเสียอย่างนั้น

บางครั้งก็รู้สึกว่าทำไมน้ำนิสัยเหมือนเด็ก แต่พอเข้ามาอยู่คลุกคลีด้วย ถึงได้รู้ว่าครอบครัวเค้าเลี้ยงมาแบบนั้น

ดูง่ายๆก็จากที่พี่ธารไม่ยอมปล่อยให้น้ำขี่มอไซต์ ทั้งๆที่น้องตัวเองอยู่มัธยมแล้ว บางครั้งเห็นตามใจ ดูแลน้องเหมือนน้องยังเล็ก จะพูดไงดี แบบชวนให้ดูการ์ตูน หนังพวกแนวสยองขวัญ แนวฆาตกรรมไม่เคยให้ดู สังเกตได้จากครั้งหนึ่งที่นั่งดูหนังเรื่อง House of wax ที่บ้านผม น้ำดูไปปิดตาไป บางทีก็พยายามปิดหูนั่งตัวสั่น น้ำตาคลอจนพวกผมต้องเลิกดู

เค้าคงเลี้ยงเหมือนไข่ในหินจริงๆ

ปกติตามตัวเด็กผู้ชายนี่จะมีแผลเป็นบ้าง แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวของน้ำเนียนไปหมด ไม่มีแม้แต่รอยข่วน และผิวขาวๆนี่คงจะบางมาก เวลาชนอะไรนิดอะไรหน่อยถึงได้ขึ้นรอยช้ำชัดเจน

รู้ทั้งรู้ว่าเพราะแบบนี้น้ำถึงไม่โตซักที แต่เอาเข้าจริงๆพอได้มาอยู่ด้วย ผมก็อดเป็นห่วง อดที่จะดูแลคนตัวเล็กนี่ไม่ได้

หรือที่จริงแล้วความรู้สึกนี้พึ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน

ผมเลิกกับพราว คนที่คิดว่ารักมาก คนที่คิดว่าเราจริงจัง คนที่เราให้ความสำคัญ

ผมเจ็บ ผมเสียใจที่สุดท้ายคนที่เราคิดว่าใช่ กลับหักหลังเรา

บางทีอาจจะจริงอย่างที่ไอ้จอมบอก...

“เสือกเจ้าชู้ดีนัก เป็นไง เจอกับตัวเองแล้วสนุกมั้ยละมึง”

ก็มันช่วยไม่ได้อ่ะนะ แค่คุยกับคนที่เข้ามาหาบ้าง จะให้ปฏิเสธแบบไร้เยื่อไยมันก็ยังไงอยู่

แต่ที่ผมรู้สึกว่าไม่เป็นไรอาจเป็นเพราะคนข้างๆ...

“จอม อย่าว่าเพื่อน” ตอนได้ยินไอ้เรารึก็นึกว่าจะให้กำลังใจกัน ที่ไหนได้

“ไม่เป็นไรนะคี แต่ว่าก็สมควรโดนแล้วล่ะ” เจ้าตัวตบไหล่พลางทำหน้าว่าเห็นใจเราเต็มทน

ผมถึงได้หมั่นเขี้ยวล็อกเอวแล้วจี้จนไอ้ตัวเล็กดิ้นลงไปกองกับพื้น หัวเราะน้ำตาไหล หอบแฮกแล้วทำตาโตค้อน

ทุกอย่างคงเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ทว่า...

“น้องน้ำ เก็บบอลให้หน่อยครับ” พี่ภูบอกน้ำพร้อมกับวิ่งไปข้างสนาม

แล้วนั่นกล้าดียังไงถึงได้จับแก้มน้ำ กล้าดียังไงถึงได้มองน้ำด้วยสายตาแบบนั้น

“เฮ้ย ไอ้พี่ภู อย่าอู้ กลับเข้าสนามมาได้แล้ว” เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า

ผมทนไม่ได้ที่เห็นน้ำต้องเจ็บ ทั้งเสียใจ แค้นใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนตัวเล็กต้องร้องไห้  ใบหน้าที่เคยมีเลือดฝาดขาวซีดจนผมนึกกลัว คราบเลือดและรอยแผลยังติดตา ช้ำไปทั้งตัวจนไม่กล้าจะจับแรงๆ คืนนั้นผมแทบไม่ได้นอน

“น้ำเจ็บ” น้ำสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียพลางเพ้ออยู่อย่างนั้น

“นอนซะนะ” ผมได้แต่ลูบหัวจนเจ้าตัวหลับไป

ผมหงุดหงิด รำคาญไอ้พี่ภูที่ทำท่าเข้ามาจีบน้ำ เห็นกันอยู่ว่าผมไม่ชอบ แต่ทำไมถึงได้ชอบเข้ามายุ่งกับคนของผมอยู่ได้

จนกระทั่งวันที่ไปเลี้ยงฉลองหลังงานกีฬาสี ไอ้พี่ภูประกาศขอจีบน้ำซะอย่างนั้น เหี้ยเอ้ย ผมโคตรโมโห

ไอ้ตัวเล็กนี่ก็ยังไง ทำไมไม่ปฏิเสธ นั่งอ้ำๆอึ้งๆ น่าแดงอยู่ได้

แล้วนั่นจะไปไหนกัน โธ่เว้ย ผมคงจะลุกไปห้ามน้ำทันทีถ้าไอ้ฟิวไม่รั้งไว้ก่อน

“มึงอย่าเข้าไปยุ่ง ให้เค้าคุยกันเอง”

ผมนั่งรอได้พักใหญ่ น้ำก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้คุยอะไรกันนักหนา

ผมรอไม่ไหวถึงต้องไปตาม และภาพที่เห็นคือไอ้พี่ภูจับแก้มน้ำอีกแล้ว

เผลอเป็นไม่ได้

ยังไงซะวันนี้ผมกับไอ้พี่ภูต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง

“คี มึงฟังกูนะ เรื่องนี้น้ำมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง มึงดูอยู่ห่างๆได้แต่ห้ามเข้าไปขวาง” ไอ้ฟิวตบไหล่ผมก่อนจะผละไป
และนั่น ทำให้ผมฉุกคิด นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่

“แล้วถ้ามีซักวันที่มึงดูแลไม่ได้ ถ้ามึงต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง มึงจะทำยังไงต่อไป” คำพูดนี้ฟาดลงกลางใจผมอย่างจัง ใช่ ถ้าหากผมดูแลน้ำไม่ได้ ถ้าหากเราโตขึ้น แล้วแต่ละคนต้องมีทางเดินเป็นของตัวเอง และถ้าหากน้ำเลือกไอ้พี่ภูขึ้นมาจริงๆ ผมควรจะทำยังไงต่อไป

บางทีผมอาจต้องลองดูซักครั้ง ลองเชื่อใจไอ้พี่ภูดูบ้าง ว่ามันจะไม่ทำให้น้ำต้องเสียใจ

แค่ลองแบ่งที่ว่างระหว่างเราบ้าง เรายังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ผมก็มีทางของผม และน้ำก็มีทางของตัวเอง

สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้คือยืนอยู่ข้างๆเท่านั้น

แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น แต่พอเห็นน้ำจูบกับไอ้พี่ภู ผม...ทนไม่ได้

ไม่รู้ว่าโมโหอะไร ยิ่งเห็นน้ำทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ยิ่งหงุดหงิด

และนั่น ทำให้เราต้องทะเลาะกัน

ผมหนีออกมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง

ที่ทำไปเพราะอะไร ทำไมถึงได้ทำแบบนั้น

มองมือตัวเองที่พึ่งทำร้ายคนสำคัญ

หัวใจ เจ็บแปลบเมื่อนึงถึงน้ำตาคลอหน่วยก่อนจะผละออกมา

ผม...รักน้ำ

แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อสัญญาของเรา...เป็นได้แค่พี่น้อง

ในเมื่อผม...ตกลงกับไอ้พี่ภูไว้แล้ว จะให้กลืนคำพูดตัวเองก็คงจะสายไป

ที่สำคัญ...น้ำไม่ได้รักผม

แค่คิด...เรี่ยวแรงที่เคยมีเหมือนจะหายไปหมด

“ฮะๆ” ทำยังไงได้ ผมหัวเราะตัวเองด้วยความสมเพช ยังไงก็ต้องตัดใจ

ผมฝากให้จอมช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนน้ำ เพราะผมต้องการเวลา

ถ้าเห็นน้ำตอนนี้ ผมคงทำใจไม่ได้

เวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ผมกลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วยความรู้สึกล้า

ทั้งๆที่ที่นี่เป็นบ้านของผม แต่ทำไมกลับเหงาเหลือเกิน

มองไปที่เตียงก็เห็นภาพน้ำนอนขดตัวเพราะปวดท้อง นั่น...เป็นครั้งแรกที่น้ำมาที่นี่

ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตื่นมาอีกทีก็ได้ยินเสียงทีวีที่เปิดทิ้งไว้

“ทุกคนหายไปไหนกันหมดเนี่ย บ็อบบี บ็อบบี...” (เสียงจาก Cartoon network)

ป่านนี้น้ำคงกำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่สินะ

อยู่กับจอม คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง หากคนที่ผมจะไว้ใจว่าไม่มีวันหักหลังกันเด็ดขาด คงมีอยู่คนเดียว ผมรู้ จอมดูแลน้ำได้ดีพอๆกับที่ผมทำ เผลอๆอาจดีกว่าด้วยซ้ำ

ผมอยู่บ้านทั้งวัน หวังให้ภาพของน้ำหายไปจากหัว แต่คงไม่มีทาง

“คี ดอกไม้สีขาวสวยดีเนอะ ไว้เราซื้อมาปลูกที่บ้านเยอะๆดีกว่า”

“คี น้ำฝันร้าย”

“คี น้ำอยากกินขนมปุยฝ้าย”

“คี...”

ผมตัดสินใจออกจากบ้านไปนั่งกินเหล้าที่ร้านประจำ

พึ่งเคยมานั่งดื่มคนเดียว

หึ แต่คงไม่ได้นั่งคนเดียวนานหรอกมั้ง ในเมื่อ...ถ้าตรงเคาเตอร์บาร์มองมาด้วยสายตาแบบนั้น

แล้วเราก็จบลงที่เตียง

เธอร้อนแรง เธอเอาใจเก่ง แต่น่าแปลก ในหัวผมมีแต่ใบหน้าของคนที่อยู่ที่บ้าน

“อยู่กับเกดแต่คิดถึงใครกันคะ” เกดกระซิบและบดเบียดริมฝีปาก

ผมตกลงคบกับเธอในฐานะแฟน

เธอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน เกดบอกว่าเธอเหงาและผมเองก็ไม่มีใคร...

เราจึงคบกันด้วยข้อตกลงว่าถ้าหากอีกฝ่ายเจอตัวจริงค่อยตกลงกันอีกที

เราแค่สนุกด้วยกันเท่านั้น

ผมตัดสินใจกลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

แต่แค่เห็นหน้าน้ำตรงแยกไฟแดงที่นั่งรถมากับพี่ภู ผมก็ต้องเมินหน้าหนี

คิดว่าพร้อมแล้ว ทว่าในความเป็นจริงผมทนไม่ได้

“พี่คี นั่นเพื่อนพี่ไม่ใช่เหรอที่ตะโกนเรียกหน่ะ”

“อืม”

เธอคงดูออกว่าผมไม่อยู่ในอารมณ์ปกติ ผมส่งเกดที่หน้าประตูโรงเรียนก่อนขี่มอไซต์กลับบ้าน

ผมรักน้ำ รักเหลือเกิน

คิดถึงเสียงที่คอยเรียกหา

คิดถึงรอยยิ้ม

คิดถึงใบหน้าก่อนหลับตาในทุกค่ำคืน

คิดถึงกลิ่นหอมอ่อนๆในยามที่ได้กอด

คิดถึงบ้านของเรา

“อ๊ะอาอะอาว แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน ของฉันสวยงาม...”

จอม แปลก ปกติไม่เคยโทรมา

“มีไรวะ”

“คี มึงคิดจะกลับมาเมื่อไหร่” นั่นสิ เมื่อไหร่ที่ผมจะพร้อม

“กูยังไม่แน่ใจ”

“มึงรออะไรอยู่” แค่...รอให้ทนเห็นน้ำเดินไปกับไอ้พี่ภูได้ แค่นั้น...แค่นั้นจริงๆ แต่ผมไม่กล้าพูดออกไป

“....”

“ถ้ามึงไม่กลับมาวันนี้ มึงก็ไม่ต้องกลับมาเหยียบบ้านนี้อีก” ผมเริ่มฉุกคิด เกิดอะไรขึ้น

“จอม มึงหมายความว่าไง”

“ที่ถามนี่คิดรึยัง มึงก็รู้ว่าเวลาน้ำคิดมากมันเป็นยังไง” น้ำ...ผม...ลืมไปได้ยังไง...ว่าน้ำชอบคิดมาก...ผมลืมไปได้ยังไงว่าน้ำจะต้องกังวลที่เราต้องทะเลาะกัน ผมมัวแต่นึกถึงตัวเอง

“น้ำเป็นอะไร” ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง รู้ตัวอีกทีก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์แล้ว

“น้ำตกบันได”

ถ้าน้ำเป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองอีกเลย

...............

มาก่อนสิบวันซะแล้ว คิดถึงคนอ่าน :กอด1: คิดถึงน้องคี น้องน้ำ
หนังสือเหรอ อืมมม ยังอ่านไม่ถึงครึ่งเลยอ่ะ :เฮ้อ:

@ คุณ yeyong ค่า เดี๋ยวทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่ใจเย็นๆก่อนเนอะ วันนี้ลองมาอ่านมุมของพ่อพระเอกของเราบ้าง โดนเข้าใจผิดมานานแสนนาน  :laugh:

@ คุณ iforgive เดี๋ยวตอนพิเศษของลูกเจ้าพ่อเอาไว้วันหลังดีกว่าน้าาา

@ คุณ suck_love ความจริงฟิวก็ยังงกอยู่น้า เค้าแค่เก็บๆไว้บ้าง
ตอนนี้ก็ยังไม่ดีกันหรอกน้า แต่ว่าตอนหน้าน่าจะดีกันแล้วจ้า อย่าพึ่งหัวใจวาย ใจเย็น เย้นน
ปล. โอ๊ะ แอบเชียร์ฟิวจอมเหรอ อืมมมม ต้องรอติดตาม แต่ว่าน้าอย่าพึ่งตัดพี่ภูออกจากสาระบบเรย เดี๋ยวตอนพิเศษจะได้เจอพี่เค้าแน่ๆ ตอนหน้าก็ได้เจอจ้า
ปล. 1 น่ารักแบบนี้มาจุ๊บทีซิ  :จุ๊บๆ:

@ ข้าว ผู้หญิงคนนี้คิดว่าไม่เกาะนะคะ
น้ำเจ็บมากไหมเหรอ อืม ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แค่นอนหลับยังไม่ตื่นเอ๊งง
บ้านชายฟิวเค้ามีอิทธิพลมืดค่ะ ต้องเจ๋งอยู่แว้ว
สรุป อ่านตอนนี้แล้วหายเคืองคีรึยังคะ ถ้ายังไม่หาย ตอนหน้าอาจหายก็ได้น้า

@ คุณ kasarus คีรักน้ำคนเดียวจริงๆน้า ไว้เดี๋ยวตอนหน้าเค้าคงจะแสดงให้เห็นแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้ก็แสดงไปเยอะแล้วน้า

@ คุณ takara ใช่ม้าาาา น่ารักทั้งคู่เลย คุณ takara ก็น่ารักน้าาา

@ คุณ suck_love ความจริงเค้าดีใจมากเลยที่เห็นว่าตัวมารอ(แต่แอบเสียใจเบาๆ ไม่มีอารมณ์แต่ง มรสุมชีวิตพาให้น้ำตานองหน้าไปสามวัน ตื่นมาตาเฉียงยังกะมนุษย์ต่างดาว :laugh:
วันนี้เค้ามาต่อเรียกน้ำย่อยแล้วน้า ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันนะคะ
ส่วนเรื่องทำข้อสอบ สอบวันพุธหน่ะค่ะ แต่ยังอ่านได้ไม่ถึงครึ่งเลย จะทันมั้นเนี่ย o6


คุณคนอ่านขา เรื่องนี้อีกซักสองตอนก็จะจบแล้วนะคะ แต่ว่าอาจมีตอนพิเศษเยอะอยู่นา
ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้กันค่าาาา :pig4:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายชล (ลงแว้ว How can this feeling begin?) 19/05/55)
«ตอบ #128 เมื่อ19-05-2012 21:52:24 »

เพราะ รักษาคำสัญญาบ้าบอนั้นเอง

ทำให้เรื่องบานปลาย จนถึงขั้นนี้

เล่าเรื่องอดีตเเค่นี้ยังไม่หายเคือง ไว้คืนดีกันก่อน

เรื่องอ่านหนังสือ ก็ค่อยๆอ่านไปนะ อย่าหักโหม เดี๋ยวจะงงว่าอ่านไรไปบ้างเเล้ว

เหลือเวลอีกสามวัน สอบ ไงก็สู้ๆเเล้วกันนะอิ๋งข้าวเป็นกำลังใจให้ฮะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: สายชล (ลงแว้ว How can this feeling begin?) 19/05/55)
«ตอบ #129 เมื่อ21-05-2012 11:08:50 »

อ่านบทคีย์ก็หายโกรธที่ทำกับน้ำนิดนึง เน้นนะค่ะ  นิดนึง 5555     

สู้นะคีย์เค้าเชียร์เธออยู่   :a2:


กอดให้กำลังใจคุณอิ๋ง   :กอด1: เรื่องสอบสู้ๆนะค่ะ   ไฟท์ติ้งงงงงงงงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สายชล (ลงแว้ว How can this feeling begin?) 19/05/55)
« ตอบ #129 เมื่อ: 21-05-2012 11:08:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: สายชล (ลงแว้ว How can this feeling begin?) 19/05/55)
«ตอบ #130 เมื่อ21-05-2012 11:31:48 »

ยังเคืองนายคีอยู่ มัวแต่คิดมากเรื่องตัวเอง แต่ไม่ยอมคิดเรื่องน้ำมั่งเลย
ถ้าน้ำตกไปเป็นของคนอื่นนะ จะหัวเราะเยาะสามวันสามคืนไม่หยุดพักเลย

Made

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ใช่ความลับแต่ยังบอกไม่ได้

ผั๊วะ

เปิดประตูเข้าไปในบ้านปุ๊บ ผมก็ล้มไปชนกับตู้เก็บรองเท้าปั๊บ ยังไม่ทันได้ตั้งสติ ไอ้ฟิวก็กระชากคอเสื้อผมด้วยท่าทางเดือดจัด

รู้สึกมึนๆ เบลอๆในหัว

“ฟิว มึงใจเย็นก่อน” พอได้ยินเสียงจอม ผมหลับตาลงและสะบัดหัว

ลืมตาขึ้นมาถึงเห็นฟิวทำหน้าขัดใจ ก่อนจะปล่อยคอเสื้อผมและเดินลงส้นไปเตะหมอนอิงที่วางไว้บนพรมหน้าทีวี

ผมรีบลุกขึ้นจากพื้นเพื่อจะไปหาน้ำบนห้องนอน

“หยู๊ดดดด อย่าพึ่งไป มึงไปนั่งตรงโซฟาก่อนเลย” จอมรีบเดินมาดันตัวผมให้นั่งลงตรงโซฟา

“แค่โดนเอาเลือดหัวออกยังไม่พอรึไงวะ ถ้ามึงขึ้นไปตอนนี้เดี๋ยวได้กระทืบกันตายคาบ้าน”

“หมอครับ ช่วยทำแผลให้ไอ้บ้านี่อีกคนเถอะ” พอได้ยินแบบนี้ผมก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที

หัวคงกระแทกกับเหลี่ยมตู้เก็บรองเท้า

หมัดหนักเป็นบ้า ผมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มข้างที่พึ่งโดนชก หมดหล่อไปอีกหลายวันเลยกู

แต่ช่างเหอะ ป่านนี้คนบนห้องนอนเป็นยังไงบ้าง

ไม่รู้ไปทำยังไงให้ตกบันได

เคยบอกแล้วว่าอย่าวิ่งลงบันได

ไอ้ตัวเล็กนี่ยิ่งความรู้สึกช้ากว่าชาวบ้านซะด้วยสิ

เฮ้ออ

ปล่อยให้คลายสายตาไม่ได้เลย

พอทำแผลเสร็จ ผมไหว้หมอแล้วรีบเดินไปห้องนอน

มองตรงเข้าไปในห้องที่เปิดประตูแง้มไว้ก็เห็นคนที่คิดถึงมาหลายวันนอนอยู่บนเตียง ข้างหมอนยังมีตุ๊กตาน้องผสมนอนหงายท้องอยู่ ไอ้ฟิวยืนมองผมที่เดินเข้ามาเงียบๆ

ไม่ได้เจอกันแค่สามวัน ทำไมถึงได้ดูซูบลงขนาดนี้ ตรงข้อพับแขนมีสำลีแปะสก๊อตเทปปิดอยู่

หมอคงพึ่งฉีดยาให้ไป ผมเอื้อมมือปัดผมตรงหน้าผากและเก็บปอยผมทัดข้างหูให้คนที่นอนหลับตาอยู่

หืม ตัวร้อน

ไม่สบายอีกแล้ว

คราวนี้โดนฉีดยา ถ้ายังมีสติอยู่คงไม่ยอม เห็นกลัวเข็มมากขนาดนั้น

“มึงไปไหนมาวะ”

ผมชะงักมือที่กำลังไล้ผิวแก้มคนป่วย

“มีปัญหาอะไรกันหนักหนา พี่ที่ร้านบอกว่ามึงไปนั่งกินเหล้าได้ทุกวัน”

“....” นั่นสิ คนที่มีปัญหาคงมีแต่ตัวผม พลอยให้น้ำต้องคิดมากไปอีกคน

ก็เพราะว่าแคร์กันแบบนี้ไง ถึงตัดใจไม่ได้

เพราะแค่ปล่อยให้คลาดสายตา ก็ป่วยซะแล้ว

“หึ กูพอจะรู้แล้วล่ะว่ามีปัญหาอะไรกัน”

“ชอบก็จีบสิวะ กลัวอะไร อยู่ด้วยกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว ทำเป็นน้อยใจหนีออกจากบ้าน ตัวโตเท่าควาย น่ารักตายล่ะ”
ผมหันไปจ้องหน้าไอ้ฟิวทันที

มัน...ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอว่าผมคิดไม่ซื่อกับน้ำ

“หายกันนะมึง” ไอ้ฟิวพูดพลางยิ้ม ยิ้มที่บอกว่ามันรู้ทัน

ได้ทีเอาใหญ่เชียวนะมึง โดนชกฟรีเลยกู

“หมัดหนักใช้ได้เลย” ผมยิ้มมุมปากจ้องมันกลับให้รู้ว่าฝากไว้ก่อน

อย่าให้รู้ว่าไปแอบชอบใครเข้านะมึง

“กูต้องกลับแล้ว มึงมีปัญหาอะไรกับน้ำก็เคลียร์ให้มันจบ” ไอ้ฟิวหยิบกุญแจรถบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนเดินผ่านผมออกไป

เห็นทีเรื่องนี้ตอนจบกูต้องเจ็บว่ะ

ผมล้มตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็ก

อะไรที่ทำให้รักได้ขนาดนี้นะ

ตาโตๆคู่นี้

จมูก จะว่าโด่งก็ไม่โด่ง ดูเชิดรั้นหน่อยๆ

แก้ม ก็ไม่ค่อยนุ่มนะ

หรือจะเป็นผิวเนียนลื่นมือที่สัมผัสอยู่ทุกวัน...

รู้สึกตัวแล้วล่ะสิ แต่รู้ตัวรึป่าวว่าทำอะไรอยู่

มือเล็กที่ไล้ใบหน้าของผมก่อนค่อยๆเอื้อมไปลูบผ้าพันแผล

อยากรู้ คิดเหมือนกันรึเปล่า

ถ้าผมจูบ จะรักกันบ้างรึเปล่า

ไม่อยากมอง

ตากลมคู่นี้รู้สึกยังไง ถ้าในแววตาไม่ได้ฉายภาพผม...

แรงขยับยุกยิกก็รู้ว่าต่อต้าน

แต่ทำยังไงได้

แค่อยากลบออกไปให้หมด

ลบรอยจูบที่ไม่ใช่ของผม

อยากครอบครองทุกๆอย่าง

มองตากลมที่จ้องอยู่ เสียงหอบหายใจน้อยๆและแก้มที่ขึ้นสีเป็นริ้ว

น่าเอ็นดูจนต้องกดจูบอีกหลายครั้ง

ท่าทางที่หลับตาซุกตัวเข้ามาแล้วกำเสื้อเราไว้

นี่ผม...ทิ้งคนในอ้อมกอดนี่ไปตั้งหลายวันได้ยังไง

“ขอโทษนะ”

ไม่รู้ว่าจะขอโทษเรื่องอะไร เพราะรู้แก่ใจ ผมผิดหลายเรื่อง

ผมจะอยู่ข้างๆ ต่อให้ถูกมองว่าเป็นมือที่สามก็จะไม่ไปไหน เว้นเสียแต่จะถูกไล่ให้ไปไกลๆซะก่อน

น้ำคงจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้

ดีเหมือนกัน แต่อีกใจอยากให้จำได้

อยากจะรู้ ถ้าคิดเหมือนกันก็คงจะดี

ถ้าไม่เหมือน ก็แค่ถูกเกลียด

แบบไหนดีกว่ากันล่ะ

นับจากวันนั้น เราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

พี่ภูรับส่งน้ำไปโรงเรียน

ผมรับส่งเกดไปโรงเรียน

คบกันอยู่นาน จนผมเห็นเกดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากน้องสาว

“ฮั่นแน่ พรุ่งนี้วันเกิดใครเอ่ย” เกดทักผมทันทีที่เจอหน้า

“แล้วไง” ผมถามกลับด้วยความรู้สึกเฉยๆ

“ทำเป็นนิ่งๆ รู้นะ วางแผนสวีทกับพี่น้ำอ่ะดิ” เกดกอดอกพลางหรี่ตา ทำท่าเหมือนจับผิดผมอยู่

“เค้ามีแฟน เค้าก็ไปสวีทกับแฟนเค้าสิ พี่มันคนนอก”

“โถ น่าสงสาร อยู่กับคนที่ชอบทั้งวันแต่ดันไม่มีสิทธิ์แตะ”

“นี่แหละน้า เห็นอยู่ด้วยกันตั้งนานจนนึกว่าเป็นแฟนกัน ที่ไหนได้ มัวแต่รีรอ พี่ภูสุดหล่อเค้าได้ไปควงแล้วมานั่งน้ำตาตกใน โฮะๆ” ผมมองยัยแม่มดที่เดินหัวเราะจากไปด้วยความรู้สึกหมั่นไส้

ระวังนะครับ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้น่ากลัว

ผมขี่มอไซต์กลับบ้านตามเคย วันนี้น้าภากลับมาบ้าน ผมเองก็กลับไปนอนบ้านตัวเองบ้างดีกว่า

นานๆทีได้กลับมานอนห้องตัวเอง เงียบแปลกๆ

ป่านนี้ไอ้ตัวเล็กคงกำลังคุยไม่หยุด

แรกๆก็ไม่รู้หรอกครับว่าน้ำพูดมาก

ตอนม.ต้นอยู่ห้องเดียวกัน อยู่ด้วยกันทั้งวัน น้ำก็พูดปกติ แต่พอขึ้นม.ปลาย เวลากลับบ้าน น้ำคุยให้ฟังไม่หยุด

ไปเล่นกับหมาบ้านลุงภารโรงบ้างล่ะ

เจอใคร ที่ไหน ไปทำอะไรมาบ้าง

เล่าชนิดไม่พลาดรายละเอียด

อ้อ แต่ต้องเป็นคนที่เจ้าตัวสนิทใจเท่านั้นนะ

ถ้าไม่ค่อยสนิท จะแค่ยิ้มๆ นิ่งฟัง

“อ๊ะอาอะอาว แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน ของฉันสวยงาม...”

ผมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าใครโทรมา

นอนไม่หลับอีกแล้วล่ะสิ

พอไปถึงบ้านก็เห็นไอ้ตัวเล็ก นั่งไกวชิงช้าอยู่ตรงสนามหน้าบ้าน

รอยยิ้มที่มีให้กัน เก็บไว้ให้ผมคนเดียวได้รึเปล่า

ในคืนนั้น ผมกอดน้ำจนเจ้าตัวหลับไป

ผมมองไปที่ “น้องผสมตัวใหม่” ด้วยความรู้สึกหน่วงในใจ

รู้สึกเหมือน...พื้นที่ระหว่างเราเหลือน้อยลงทุกที

ความจริงที่ว่าซักวันน้ำต้องมีทางเป็นของตัวเองใกล้เข้ามาจนน่าใจหาย

ผมได้แต่ภาวนา...หากวันไหนไม่มีผม ขอให้คนตรงหน้าดูแลตัวเองให้ดี

ผมสัญญา วันเกิดทุกปี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราจะมาเจอกัน

“พี่คีไปส่งบ้านหน่อยดิ” เกดตะโกนบอกผมที่กำลังเตะบอลอยู่

“โอเค รอสิบนาที”

ผมไปเอากระเป๋าที่อยู่ข้างสนามแล้วเดินไปโรงรถ

เซ็งๆไม่มีไรทำอยู่เหมือนกัน ชวนฟิวเตะบอลก็บอกรีบกลับ พอชวนจอม ไอ้ฟิวก็โทรมาบอกว่าน้ำอยู่รอพี่ภูคนเดียวบนห้อง
ผมคงอยากเห็นฉากจูงมือกลับบ้านของคนที่ตัวเองรักกับคนอื่นอยู่หรอก

ตุบ

“อ๊ะ ขอโทษครับ” มัวแต่เหม่อเลยเดินชนน้ำซะอย่างนั้น

“อ้าวน้ำ ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”

“อ๋อ ยังหรอก พี่ภูเลิกช้าหน่ะ” อืม ผมรู้แล้วล่ะ ยิ่งรู้ว่าทั้งคู่ไปด้วยกันได้ดีแบบนี้ก็ยิ่งหงุดหงิด

เห็นน้ำมองผ่านตัวผมไป คงอยากรู้ว่าเกดเป็นใคร

เอาเถอะ ผมไม่คิดจะขวางทางรักใคร บอกให้สบายใจได้เลยว่าผมเองก็มีแฟนแล้ว ถึงจะเป็นแค่ในนามอ่ะนะ

“จริงสิน้ำ นี่น้องเกดแฟนคี”

“เกด นี่น้ำเพื่อนพี่”

“ดีใจจังที่วันนี้ได้เจอพี่น้ำ พี่คีเล่าเรื่องพี่น้ำให้เกดฟังบ่อยๆ” นั่นยัยแม่มดจะทำอะไร ไม่เห็นต้องยิ้มให้กันหยาดเยิ้มขนานนั้นเลย
 
“งั้นคีไปส่งน้องก่อนนะ” ผมรีบลากเกดกลับบ้านเมื่อเห็นว่ายัยตัวร้ายจะหลอกจับมือน้ำ

“อะไร แค่นี้ทำหวง”

“เออ หวงโว้ย ห้ามแตะ”

“ถามจริง พวกพี่ไม่ใช่แฟนกันจริงๆเหรอ” ผมชะงักมองเกดทันทีที่ได้ยินคำถาม

“ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอว่าน้ำรอพี่ภู”

“มันก็ใช่อ่ะนะ แต่ว่า...”

“เออ จะยังไงก็ช่างเหอะ กลับบ้านๆ” ผมพูดตัดบทก่อนจะได้ยินคำวิเคราะห์จากเกดที่ทำท่าทางนิ่งคิด

“พี่ หนูว่าพวกพี่ต้องใจตรงกันแน่ๆ” คำพูดของเกดยังคงวนเวียนอยู่ในหัว

ผมทอดสายตาจากระเบียงห้องนอนไปยังประตูรั้วหน้าบ้านที่รถของพี่ภูขับเข้ามาจอด

มองอยู่นาน ทำไมน้ำไม่ลงจากรถ

เฮ้ย แล้วนั่นอะไรวะ

จะยืนกอดกันหน้าบ้านอีกนานมั้ย เห็นแล้วรมณ์เสีย

ใจตรงกันตรงไหน หึ เค้ารักกันปานนั้น

ยิ่งเห็นน้ำเดินเข้าห้องมาด้วยสภาพระโหยโรยแรง ผมยิ่งโมโห

ที่วันนี้กลับมาช้าเพราะมัวแต่ไปทำอะไรกันมาล่ะสิ

โว้ยยยย

ผมเฝ้าถนอมมาตั้งนาน

แล้วไอ้พี่ภูเป็นใครวะ

ในเมื่อเป็นคนดีแล้วมันไม่ได้อะไรขึ้นมาก็ไม่ต้องเป็นมันแล้ว

โอเค ยอมรับก็ได้ว่าตอนนั้นผมหน้ามืด

ผมไม่ขอแก้ตัวว่าไม่ได้ตั้งใจปล้ำน้ำ เพราะผมตั้งใจและเจตนา

และผมก็พึ่งได้รู้ว่า ผมเป็นคนแรกของน้ำ

อย่าถามเลยว่าทำไม

ช่วยตัวเองยังไม่รู้จักแล้วจะให้ไปมีอะไรกับใครได้ไง

คิดว่าผมเลวล่ะสิที่ไม่ยับยั้งชั่งใจ

ผมไม่ใช่พระเอกละครนะครับ

บอกตรงๆว่าเอ็กซ์สุดๆ

ตาที่หรี่ปรือคลอไปด้วยน้ำตา เสียงหอบหายใจและตัวแดงๆกับน้ำเสียงที่เจ้าตัวพยายามกลั้นไม่ให้ออกมาหน่ะ เซ็กซี่เป็นบ้า

ถ้าไม่เห็นว่าน้ำเจ็บนะ ผมไม่ยอมปล่อยออกมาจากห้องน้ำง่ายๆแน่

ความรู้สึกตอนนั้นมันเต็มตื้นไปหมด

ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง น้ำจะรักผมหรือไม่รัก

ผมจะไม่ยอมปล่อยไปอีก

ต่อให้ต้องกลืนคำพูดตัวเอง ผมก็จะไปขอน้ำคืนจากพี่ภู

“อ๊ะอาอะอาว แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน ของฉันสวยงาม...”

ผมรีบกดรับโทรศัพท์เพราะกลัวคนในอ้อมแขนที่หลับไปแล้วจะสะดุ้งตื่น

“พี่คี มารับเกดกลับบ้านหน่อยดิ” เสียงเพลงที่ดังมาตามสายพอจะทำให้ผมรู้ว่าเกดคงไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ขากลับ เพื่อนคงกลับกับแฟนกันหมด

ผมนิ่งมองคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ไม่อยากห่างเลย

“พี่ มารับได้ป่าวเนี่ย” ถึงจะซ่ายังไงน้องก็ยังเป็นผู้หญิง ปล่อยไว้แถวนั้นนานๆคงไม่ดี

“โอเค เกดรออยู่ตรงนั้นนะ เดี๋ยวพี่ไป”

ผมกดจูบหน้าผากน้ำด้วยความรู้สึกแสนรัก

หืม ตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้

คงต้องกวนจอมอีกแล้วล่ะสิ

“พี่คีคนนี้แฟนเกด” พอผมไปถึงร้านเหล้าก็ต้องมึนไปตามระเบียบเมื่อน้องเกดแนะนำชาวต่างชาติคนหนึ่งให้ผมรู้จักและบอกว่าเป็นแฟน

“เดี๋ยว แล้วเรียกพี่มาทำไมวะ ไหนบอกไม่มีใครพากลับบ้าน”

“เอาน่าพี่คี วันนี้พาแฟนมาให้รู้จัก ข้อตกลงระหว่างเราเป็นโมฆะ แล้วก็นะ ถ้าเกดไม่บอกว่าไม่มีใครมารับพี่จะออกมาหาเกดเหรอ โฮะๆ” นั่นไง ผมบอกคุณแล้วว่านี่หน่ะเป็นนังแม่มดชัดๆ

“เออๆ งั้นพี่กลับล่ะ” ผมเดินเกาหัวออกจากร้านด้วยความรู้สึกเซ็งๆ

แต่ก่อนเดินออกไปผมก็เหลือบไปเห็นพี่ภูนั่งกินเหล้าอยู่ตรงมุมร้าน

“ไงพี่ ทำไมวันนี้มานั่งคนเดียว”

“อกหักว่ะ” ไอ้พี่ภูยกแก้วดื่มแล้วตอบผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

มือผมเริ่มชื้นเหงื่อ หรือไอ้พี่ภูจะรู้ว่าผมได้น้ำแล้ว

“เอ่อ พี่ ผมมีเรื่องคุยด้วย” ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งฝั่งตรงข้าม

“แล้วมึงออกมาแบบนี้น้องน้ำอยู่กับใคร” พี่ภูถามพลางยื่นแก้วเหล้าให้ผม

“อยู่กับจอม”

ผมถูฝ่ามือด้วยความประหม่า

“พี่ ผมมาขอน้ำคืน”

“หึ มาขอทำไมวะ ใจน้ำอยู่กับมึงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”  ไอ้พี่ภูหัวเราะขึ้นจมูกเหมือนเยาะตัวเอง

“พี่หมายความว่าไง”

“มึงจะให้กูหมายความว่าไง ก็วันนี้น้องน้ำมาร้องห่มร้องไห้ บอกให้กูเลิกไปรับไปส่ง เพราะน้องรักมึง”

ผมนั่งกุมขมับอยู่ซักพัก

ก่อนจะรู้สึกว่าแก้มกระตุก

“ฮ่าๆๆๆๆ”

ที่ผมกังวลมาตั้งนาน เพื่ออะไรวะ

“หัวเราะอะไร นี่อย่าบอกนะว่ามึงพึ่งรู้” พี่ภูมองผมด้วยสีหน้าเอือมๆ

“โทษทีพี่ ผมพึ่งรู้จริงๆ ดีใจเป็นบ้า”

“คี กูพูดจริงๆนะ มึงดูแลน้องน้ำให้ดี ถ้ากูต้องเห็นน้องน้ำต้องร้องไห้อีก มึงเจ็บแน่”

“ขอบคุณมากพี่ ผมไปก่อนนะ” ผมพยักหน้ารับก่อนตบไหล่พี่ภูและเดินออกจากร้าน

รู้สึกมีความสุขจนเหมือนจะลอยได้ ผม...หุบยิ้มไม่ได้เลย

http://www.youtube.com/watch?v=XlSOAglo_n0 เพลงประกอบตรงกับชื่อตอนเลยค่ะ

แต่พอผมกลับบ้าน

กลับไม่มีใครอยู่ในบ้าน รถจอมก็หายไปด้วย

ดึกๆดื่นๆพากันไปไหนวะ

หรือน้ำจะไม่สบายหนัก

ผมรีบโทรหาจอม

“จอม น้ำอยู่ไหน”

“อยู่บ้านกู” เสียงเครียดแปลกๆ หรือผมจะโทรไปปลุกมันอีก

“ไปอยู่บ้านมึงได้ไงวะ”

“กูน่าจะเป็นฝ่ายถามมึงมากกว่านะ ว่ามึงทำได้ยังไง” ผมตบหน้าผากตัวเองด้วยความรู้สึกเซ็งๆ ถามแบบนี้คงรู้แล้วแน่ๆ

“จอม...กู...” ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง มันสับสนไปหมด

“จอมมึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้” ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันบานปลายขนาดนี้เลย

“มึงจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกูไม่รู้ แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำกับน้ำแบบนี้” จอมโมโหผมอยู่แน่ๆ

“....” ผมควรจะเริ่มจากตรงไหน

“คี กูขอเหอะ น้ำเป็นเพื่อนเรา ถ้ามึงไม่ได้คิดจริงจัง กูก็ขอให้มึงปล่อยน้ำไปซะ”

“...” ผมจะปล่อยน้ำไปได้ยังไง ในเมื่อ...รักมากขนาดนี้

“...”

“กู...จะไปรับน้ำกลับ” ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอธิบายให้จอมฟัง แต่คนที่ผมเป็นห่วงตอนนี้ก็คือน้ำ ป่านนี้ไม่รู้เข้าใจผิดไปถึงไหน ถึงได้หนีไปกับจอมแบบนี้

ถ้าจะต้องนั่งคุยหรืออธิบายกับใครซักคน

ผมขอคุยกับน้ำคนแรก

ป่านนี้คงร้องไห้อยู่แน่ๆ

พอผมจะไปรับน้ำกลับ ไอ้จอมก็ไม่ยอมให้เจอ

แล้วการ์ดบ้านไอ้ฟิวอีก

นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้วสิ

ผมกลับบ้านด้วยความรู้สึกหน่วงในใจ

แค่คิดว่าน้ำกำลังเสียใจ ผมก็ตื้อในอกเหมือนหายใจไม่ออก

เห็นคราบน้ำตาที่อยู่บนหมอนก็ได้แต่ถอดถอนใจ

นี่คงคิดมากจนปวดท้องอ้วกอีกล่ะสิ

กลิ่นที่โชยมาจากห้องน้ำ ทำให้ผมรู้ถึงต้นตอที่เป็นพวกกระดาษทิชชู่ในถังขยะ

ยังไงคืนนี้คงไม่ได้เจอ

ผมตื่นมาอีกทีประมาณเที่ยงวัน

หลังจากจัดการกับอาหารมื้อแรกของวันอย่างง่ายๆและมัดถุงขยะไปทิ้งแล้วผมก็ขี่มอไซต์ออกจากบ้าน

คาดว่าวันนี้คงไม่ได้เจอน้ำ แต่อย่างน้อยก็คงต้องคุยกับจอมให้รู้เรื่อง

ผมยืนอยู่หน้าบ้านจอมพลางพยายามโทรหาน้ำ

รอบแรกโดนตัดสายทิ้ง ส่วนรอบสองปิดเครื่องไปเลย

โกรธมากแน่ๆ

ผมโทรบอกจอมให้ออกมาคุยกันหน้าบ้าน เหี้ยจอมยังไม่ยอม ยียวนให้ผมอารมณ์เสียอีก

“กูจะพาน้ำกลับ”

“กูคงให้กลับไปกับมึงไม่ได้ว่ะ” เคยมีใครบอกคุณมั้ยว่าไอ้จอมเป็นคนที่ทำหน้ากวนได้อ้อนตีนสุดๆ

“น้ำเป็นของกู”

“แล้วไง มึงได้ไปแต่ตัว ใจน้ำอยู่ที่มึงรึป่าวก็ยังไม่รู้” กูรู้แล้ว ใจน้ำอยู่ที่กูนี่แหละ

“จอม มึงอย่ากวนโมโห เปิดประตูให้กู”

“กูไม่ได้กวน มึงก็ไม่ได้คิดอะไรกับน้ำอยู่แล้ว ปล่อยน้ำไปซะ”

ตอนนั้นผมเริ่มหงุดหงิดปนรำคาญจริงๆนะครับ

เหมือนอะไรมันไม่ได้ดั่งใจไปซะทุกอย่าง

ตั้งใจจะมาคุยดีๆ ก็ไม่มีใครฟัง

“กูรักน้ำ” แล้วทำไมผมต้องมาบอกรักน้ำให้ไอ้จอมฟังวะ

“มึงมาบอกกูทำไม ไปบอกน้ำเองดิ” ไอ้ห่า มึงยิ้มได้กวนส้นมาก นี่ตกลงที่ทำมาทั้งหมดนี่กะแกล้งกูใช่มั้ย

“เฮ้ยจอม ไมมึงไม่ให้กูเข้าไปหาน้ำซักทีวะ” ผมตะโกนบอกด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นไอ้จอมเดินเข้าบ้านไป

“ถ้าน้ำอยากเจอมึงก็คงออกมาหาเองนั่นแหละ”

น้ำไม่ยอมฟังกูแบบนี้คงอยากออกมาหากูอยู่หรอก

วู้ว เซ็งโว้ยย

ผมกลับบ้านมานั่งทบทวนตัวเองอีกครั้ง (ถึงได้เล่าให้ฟังเป็นวรรคเป็นเวรอยู่นี่ไง)

ผมจะง้อน้ำยังไง

ทำยังไงให้ได้เจอ

ผมตัดสินใจส่งข้อความสั้นๆไปหาน้ำ

ในเมื่อโทรไปไม่ยอมรับสาย ก็คงมีแต่วิธีนี้เท่านั้น

“คิดถึง” ผมหมายความตามนี้จริงๆ

ประมาณหกโมงเย็นของอีกวัน ผมตั้งใจว่ายังไงก็จะพาน้ำกลับบ้านให้ได้

แวะซื้อขนมปุยฝ้าย ก่อนมุ่งหน้าไปบ้านจอม

พอผมขี่มอไซต์ไปถึงก็เห็นน้ำนอนหลับอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน

ไอ้จอมนี่ก็ยังไง รอให้ยุงมาหามน้ำกลับรังก่อนใช่มั้ย

อยู่ห่างกันแค่เอื้อมแต่เข้าไปหาไม่ได้

ผมปีนรั้วเข้าไปในบ้าน

ตอนจังหวะที่กระโดดลงคงเสียงดัง ปลุกให้น้ำลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย

ผมรีบเดินไปคว้าข้อมือน้ำไว้ก่อนเจ้าตัวจะเดินหนี

“น้ำ คุยกันก่อนได้รึเปล่า”

“คี ปล่อย น้ำไม่มีอะไรจะคุย” น้ำพยายามบิดมือออก

กลัวข้อมือของคนตัวเล็กช้ำ ผมเลยรวบตัวมากอดไว้

“งอนเหรอ” ผมถามคนในอ้อมกอดที่นิ่งไป

“ไม่ได้งอน” น้ำตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ นี่ขนาดไม่ได้งอนนะ

“แล้วหนีหน้ากันทำไม”

“น้ำ เปล่า”

ผมค่อยๆคลายกอดก่อนจะชูถุงขนมขึ้นมาตรงหน้า

“คิดว่าให้ขนมแล้วจะหายโกรธเหรอ”

“อ๋อ ตกลงว่าไม่ได้งอน แต่โกรธ”

“คี” น้ำมองผมพลางยู่หน้าด้วยความขัดใจ

“ครับ”

“....”

“เงียบไปแบบนี้ไม่อยากกินขนมแน่เลย ถ้ายังงั้นคงต้องเอาไปทิ้งซะแล้วสิ”

“ใครบอกว่าจะไม่กิน” น้ำวิ่งมาคว้าแขนผมที่แกล้งทำท่าเดินหันหลังไปทางประตูรั้ว

ผมดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบอกอีกครั้ง

“คิดถึงกันบ้างรึเปล่า” ผมถามคนในอ้อมแขนพลางกดจูบตรงกลุ่มผม

“...” น้ำนิ่งจนผมเดาใจเจ้าตัวไม่ออก

“กลับบ้านของเรากันเถอะนะ”

“อื้ม” น้ำกอดผมตอบพลางพยักหน้า

ผมคิดไว้อยู่นะ ถ้าวันนี้น้ำยังไม่ยอมกลับไปด้วยกันดีๆ ผมคงจะต้องฉุด

......................................

 :laugh: วันนี้สอบเสร็จแล้วค่า ดีใจจริง จริ๊ง  :oni1:

ตอนหน้าเรื่องนี้ก็จะจบแล้ว ดีใจ นิยายเรื่องแรกในชีวิตที่แต่งจบ

@ ข้าว อ่านตอนนี้แล้วหายเคืองรึยังเอ่ย คืนดีกันแล้วน้าาา ใจอ่อนง่ายตามสไตล์น้องน้ำเค้าล่ะ
ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจในการอ่านหนังสือนะ อ่านจนเป็นไข้เลย ไม่รู้ว่าข้อสอบที่ทำไปมันจะถูกรึปล่าว ต่อไปนี้ก็ต้องรอเกรดอย่างเดียวแว้วว  :กอด1:

@ คุณ mild-dy มาต่อแล้วนะคะ เข้ามาอ่านเร้ววว

@ คุณ suck_love คราวนี้หายโกรธรึยังคะ ความจริงน้องคีรักน้องน้ำมากๆอยู่น้า แต่ว่าในมุมมองและเหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เรื่องราวเลยออกมาเป็นแบบนี้อ่ะเนอะ
ขอบคุณสำหรับกอดให้กำลังใจกันน้า มีแรงฮึดสู้มากๆเลยพอเห็นคอมเม้นต์ของทั้งคุณ suck_love แล้วก็ข้าว  :man1:

@ คุณ kasarus อืม อิ๋งว่าตัวละครเรื่องนี้แต่ละคนเป็นพวกคิดในมุมมองของตัวเองเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็จริงที่นายคีเค้าคิดถึงแต่ตัวเองเน๊อะ น้องน้ำเลยต้องเสียใจบ่อยๆ ( :m26:เกรงว่าจะไม่ได้หัวเราะสามวันสามคืนแล้วล่ะค่ะ)

ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2012 22:35:23 โดย Made »

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
วู้น้ำ ยอมง่ายสุดๆคงเพราะมีใจด้วยละมั่ง ตอนนี้ก้ดีกันเเล้วตอนหน้าขอหวานๆเลยน้า

ว่าเเต่เรื่องนี้จะจบโดยที่พี่ภูไม่มีใครมาดามใจเลยหรอ

น่าสงสาร

++++
อ่านหนังสือจนเป็นไข้เลยหรอ ตั้งใจจริงจัง(ต่างกับเรา)
เอาใจช่วยให้คะเเนนออกมาดีๆนะ

Made

  • บุคคลทั่วไป
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ (จบ)

ผมทำถูกแล้วใช่รึเปล่า

ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าให้จำ เพราะคำว่ารักที่อยู่ในใจนั้นทำให้เจ็บแสนเจ็บ

ทั้งๆที่รู้ว่าคีมีน้องเกดเป็นตัวจริงอยู่แล้ว

ทั้งๆที่คีอาจไม่ได้คิดเกินเลยกับผม

หัวใจเจ็บแปลบขึ้นมาทันที

สองวันที่ผ่านมาร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลออกมาอีก

บอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง

บอกกับตัวเองให้ตัดใจ

แต่สุดท้าย...

แค่เห็นคีเดินเข้ามาหา อ้อมกอดที่คุ้นเคยและเสียงกระซิบที่บอกว่าคิดถึงกัน

ใจที่เคยเตือนให้เข้มแข็ง

กลับอ่อนยวบพังทลายไปเสียอย่างนั้น

พยายามบอกกับตัวเองว่าที่เรายอมกลับบ้าน ก็เพราะเป็นบ้านของเรา ถึงวันนี้ไม่กลับ แต่ซักวันก็ต้องกลับ

หรือที่จริงแล้ว...

ผมคิดถึงคนตรงหน้าแทบขาดใจ

“กินข้าวมารึยัง” คีทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมที่กอดเข่าดูทีวีอยู่ตรงโซฟา

“กินมาแล้ว” ผมตอบแต่ไม่ละสายตาจากหน้าจอทีวี

“ไม่เจอกันแค่สองวัน ทำไมตัวบางลงกว่าเดิม” คีถามผมแล้วโน้มหัวผมให้ซบลงกับไหล่

“...” ไม่กล้าตอบออกไปว่าเพราะในหัวมีแต่เรื่องของเราวนเวียนอยู่ตลอด

เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป

แค่คิด ในอกมันก็ตื้อไปหมด ไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย

“คิดอะไรอยู่ รู้รึเปล่าว่าคีเป็นห่วง” คีพูดพลางไล้แก้มผมเหมือนที่ชอบทำ

“ก็...คิดว่าพรุ่งนี้มีการบ้านอะไรรึเปล่า อืม น้ำไปทำการบ้านก่อนนะ” มือที่ไล้แก้มอยู่หยุดชะงัก

“พึ่งฟื้นไข้ไม่ใช่เหรอ พักอีกหน่อยดีกว่ามั้ย”

“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” ผมหันไปยิ้มให้คีก่อนจะเดินไปห้องนอน

ผมปิดประตูห้องและทรุดตัวอยู่ตรงนั้น

รู้รึเปล่ายิ่งพูดว่าเป็นห่วง ในอกมันทรมานจนทนแทบไม่ไหว

ถ้าไม่ได้รักกัน...อย่าทำแบบนี้เลย

ผมหยิบสมุดการบ้านออกมาจากกระเป๋านักเรียนแล้วเปิดหนังสือเพื่ออ่านทบทวนก่อนทำ

      “ความรักเหมือนโรคา   บันดาลตาให้มืดมน
    ไม่ยินและไม่ยล         อุปสรรคใดใด
      ความรักเหมือนโคถึก   กำลังคึกผิขังไว้
   ก็โลดออกจากคอกไป      บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
      ถึงหากจะผูกไว้      ก็ดึงไปด้วยกำลัง
   ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง         บ หวนคิดถึงเจ็บกาย...”
(จากบทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา มาจากตอนที่เป็นคำเตือนของฤษีกาละทรรศินที่มีต่อพระเอกคือท้าวชัยเสน และนางเอกคือมัทนา)

นั่นสินะ ที่จริงแล้วความรักคืออะไรกันแน่

“ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอน” คนพูดโอบไหล่ผมไว้หลวมๆพลางเอี้ยวตัวมาหอมแก้ม

ผมตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ

ทำไมจู่ๆถึงได้...

“เอ่อ น้ำไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” ผมรีบลนลานปิดสมุดการบ้านแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

อยากรู้...

ถ้าหากเราเป็นแค่เพื่อนกัน ทำไมต้องทำแบบนี้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“น้ำ ลืมผ้าเช็ดตัวรึเปล่า” เสียงเคาะประตูปลุกผมให้หลุดจากภวังค์

“อ๋อ อื้ม ขอบคุณ” ผมเปิดประตูห้องน้ำแล้วยื่นมือไปรับพลางบอกขอบคุณ

แย่จริงๆ มัวแต่คิดเรื่องแบบนี้จนลืมแม้กระทั่งผ้าเช็ดตัว

ผมเดินออกจากห้องน้ำแล้วมองไปรอบๆห้อง

หืม ยืนคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงเหรอ

เวลาแบบนี้ คงคุยกับแฟนก่อนนอน

ผมจัดตารางเรียนของวันต่อไป ไม่ลืมสวดมนต์ก่อนล้มตัวลงนอน

“อืมๆ เดี๋ยวไป” เสียงเปิดประตูกระจกตรงระเบียงและฝีเท้าที่เดินเข้ามาในห้องนอน

ความรู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาใกล้ๆ สัมผัสแผ่วเบาตรงหน้าผากมาพร้อมกับภาพเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนทำให้ผมลืมตา

“นึกว่าหลับไปแล้ว” คนพูดยิ้มน้อยๆพลางลูบหัวผม

“เดี๋ยวคีออกไปข้างนอกนะ” คีก้มจูบหน้าผากก่อนทำท่าจะผละออกไป

“อย่า...” ผมจับมือคนตรงหน้าทันที

ไม่เข้าใจการกระทำของตัวเองเหมือนกัน นี่เรากำลังทำอะไร

“หืม มีอะไรเหรอ” คีทรุดตัวนั่งลงตรงขอบเตียงพลางถามผมที่ปล่อยมือเหมือนจับโดนของร้อน

“ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ผมปฏิเสธแล้วซุกหน้าลงกับตัวน้องผสม

“อืม ตัวก็ไม่ร้อน...”

“คี...ไม่ไปได้มั้ย”  ผมลุกขึ้นนั่งแล้วรั้งแขนคีไว้

“นะ...”

ผมยืนเข่าแตะปากตัวเองกับคนตรงหน้าพลางหลับตา

แขนแกร่งโอบเอวผมแล้วจูบตอบ สัมผัสที่แตะเพียงแผ่วเบาก่อนผละออก

ผมซุกตัวกับอกของคีด้วยความรู้สึกสับสน

“รู้รึเปล่า ว่าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” คีดันตัวผมออกแล้วเชยคางให้สบตา

สายตาที่มองมา น้ำเสียงแหบพร่าและส่วนที่ดุนดันอยู่บ่งบอกถึงความต้องการ

ณ เวลานี้ อะไรที่รั้งคีไว้ได้ ผมไม่ลังเลที่จะทำ

“อยู่กับน้ำเถอะนะ” ผมพูดอย่างเว้าวอนแล้วสวมกอดคนตรงหน้า

สัมผัสที่ไล่เรื่อยมาตั้งแต่หน้าผาก ตา แก้ม จมูก

สายตาที่แสดงถึงความปรารถนา และมือที่เชยคางลูบเบาๆตรงริมฝีปาก

คีดันตัวผมให้นอนลงแล้วประกบปากดูดกลืน ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัด และมือแกร่งที่เริ่มซุกซนขยุกขยิกอยู่กับกระดุมเสื้อ

“แฮ่ก แฮ่ก”

ริมฝีปากร้อนถอนออกก่อนก้มรุกรานตรงซอกคอทำให้ผมสะบัดตัวไปมาเพราะความบ้าจี้

“อื้อ คี จั๊กจี้ คิกๆ”

คนตรงหน้าผละออกมาลูบแก้มผมเบาๆแล้วแหวกเสื้อนอนของผมออกก่อนประกบปากกับหน้าอกและใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ

“อะ...” ผมรู้สึกแปลกๆจนต้องปิดริมฝีปากกลั้นเสียงไว้

คีใช้ปากกับหน้าอกทั้งสองข้างก่อนจะค่อยๆลากปลายลิ้นผ่านหน้าท้อง

คนตรงหน้ากดจูบตรงใต้สะดือแล้วกัดเบาๆบริเวณหน้าท้อง

“อ่ะ...ตรงนั้น” ผมตัวกระตุกและรู้สึกได้ว่าน้ำน้อยกำลังดุนดันกางเกงในอยู่

“รู้สึกดีรึเปล่า”

เสียงทุ้มแหบพร่าที่เอ่ยถามทำให้ผมอายจนต้องซุกหน้าลงกับที่นอน

กางเกงนอนขายาวและกางเกงในถูกดึงออกพร้อมกัน

ผมหนีบขานอนตะแคงกอดเข่าตัวเองไว้

อากาศเย็นที่กระทบผิวย้ำให้รู้ว่าทั้งตัวเปลือยเปล่า

ผมเห็นเสื้อยืดสีน้ำเงินของคีปลิวตกไปข้างเตียง ตามมาด้วยกางเกงบอลที่เจ้าตัวชอบใส่อยู่บ้านประจำ

ผมหลับตาเพราะในใจประหม่าและตื่นเต้น ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นชัดเจนจนกลัวมันจะหลุดออกมา

ทำยังไงดี หน้าร้อนจนจะระเบิดแล้ว

คีกดจูบตรงต้นคอก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงนิ้วมือที่กดนวดบริเวณช่องทางด้านหลัง

“อืออ”

สัมผัสอุ่นร้อนของนิ้วมือตรงปากทางหายไปและกลับมาใหม่พร้อมกับความรู้สึกลื่นๆเย็นๆ

รู้สึกได้ว่าอีกคนเขยิบเข้ามาใกล้

แผ่นอกแนบชิดกับแผ่นหลัง

ริมฝีปากกดจูบบริเวณต้นคอ

“อ๊ะ เจ็บ” ความเจ็บแล่นริ้วเมื่อนิ้วค่อยๆสอดเข้ามา

คีหยุดนิ้วแช่ค้างไว้แค่นั้น

ลมหายใจร้อนกระทบกับหู สัมผัสเปียกชื้นที่เม้มดึงเบาๆตรงใบหูและยอดอกที่ถูกสะกิด ทำให้ขนลุกทั่วตัว

นิ้วมือสอดเข้ามาลึกขึ้นและแช่ค้างไว้ก่อนค่อยๆขยับเข้าออก

“อ๊ะ ห๊ะ อึ๊”

อีกนิ้วค่อยๆตามเข้ามากระดิกอยู่ข้างใน

“อะ อะ อื๊อ” 

นิ้วทั้งสองยังไม่หยุดขยับก่อนนิ้วที่สามจะตามเข้ามา

 “อ๊ะ คี น้ำ...น้ำ...” สามนิ้วที่ขยับเข้าออกย้ำตรงจุดเดิมทำให้ผมทานแรงอารมณ์ไม่ไหว และผมที่กำลังจะไปถึงฝั่งฝันต้องชะงักเพราะความรู้สึกโล่งตรงช่องทาง ก่อนสัมผัสอุ่นร้อนของส่วนแข็งขืนขนาดใหญ่จะชำแรกเข้ามา

“อึ่ก จะ เจ็บ” คีนิ่งแล้วกัดฟันกรอด

มือแกร่งจับน้ำน้อยและรูดรั้งจากช้าไปเร็วพร้อมๆกับท่อนเนื้อที่ดันเข้ามาเรื่อยๆ

“คี...น้ำ อ่ะ รู้สึก แปลกๆ” คีคลึงพวงแฝดและสะกิดส่วนปลาย

“อื๊ออ” ผมกัดหมอนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ถูกปลดปล่อยออกมา

“แฮ่ก แฮ่ก” ผมหอบหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อยอ่อนพลางปรือตามองคนตรงหน้าที่โน้มตัวจูบหน้าผากแล้วพลิกตัวผมให้นอนหงาย

“อ๊ะ คีจะทำอะไร” ผมเสียววาบในช่องท้องเพราะส่วนแข็งขืนที่ยังไม่ได้เอาออกครูดกับผนังข้างใน

“ทำรักครับ”

>_< คนอะไรพูดออกมาได้หน้าตาเฉย

ไม่พูดเปล่า คีจับขาทั้งสองข้างของผมพาดไว้กับไหล่และเริ่มซอยเข้าออก

ความเสียวจากการกระแทกตรงจุดที่อยู่ข้างในทำให้น้ำน้อยชูชันขึ้นมาอีกครั้ง

“อ๊ะ ห๊ะ อ่ะ อะ อย่า” ผมรีบร้องห้ามเมื่อคีกุมตรงนั้นของผมแล้วขยับมือ

“ฮะ อ่ะ ไม่เอา” แรงขยับจากทั้งสองทางที่เร็วขึ้น ส่วนแข็งขืนที่ถูกดันให้ลึกกว่าเดิม ทำให้ผมเปล่งเสียงประหลาดและบิดตัวไปมาเพราะทนไม่ไหว

“อะ อีกนิดเดียว ไปพร้อมกันนะ” เสียงของคีฟังดูทรมาน ทว่าสีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ เหงื่อเกาะพราวตามตัว หน้าท้องแกร่งและซิกแพ็คอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำทำให้ผมอิจฉา ช่วงเอวที่...อึ๋ยยย ไม่กล้ามอง

“มองกันแบบนี้ ก็แย่หน่ะสิ” คนพูดซอยถี่ก่อนจะกระแทกเข้ามาหนักๆสองสามครั้งและปลดปล่อยออกมา

“อ่า น้ำ” น้ำเหนียวๆทะลักเข้ามาข้างในก่อนที่ผมจะตามไปติดๆ

“อะ อะ อ่ะ อ๊า”  ในหัวมันขาวโพลนไปหมด

คีล้มตัวมากอดผมไว้และหอบหายใจอยู่ข้างกัน ส่วนแข็งขืนยังพ่นน้ำไม่หยุด รู้สึกได้ว่ามันเต้นตุบๆอยู่ข้างใน

“แฮ่กๆ” เหนื่อยจัง

“อึ๊ย” ผมสะดุ้งน้อยๆเมื่อคีค่อยๆดึงส่วนนั้นออก

น้ำเหนียวๆไหลย้อยตามออกมา

“รักนะครับ” ผมตัวแข็งเอามือปิดปากด้วยความตกใจ

“รักมาก” คนพูดท้าวแขนคร่อมตัวผมไว้พลางโน้มตัวเอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากผมและจ้องเข้ามานัยน์ตา

ผมเม้มปากแน่น รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า

“หึๆ” คีหัวเราะน้อยๆพลางจับปอยผมทัดหูแล้วจูบหน้าผาก

“น้ำ บอกคีหน่อยได้มั้ย รักกันบ้างรึเปล่า” คีค่อยๆแกะมือข้างที่ผมใช้ปิดปากขึ้นมาจูบ

ผมเขินจนต้องหลบตา

“...ก”

“หืม ว่าไง ไม่ได้ยินเลย”

“อ๊ะอาอะอาว แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน ของฉันสวยงาม...”

เสียงเรียกเข้าจากมือถือที่ดังขึ้นทำให้ผมฉุกคิดถึงความเป็นจริง

นี่ผม...กำลังทำอะไรอยู่

ผมกำลังแย่งแฟนคนอื่น

ผมมองคีที่หยิบกางเกงบอลขึ้นมาสวมและกดรับโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกผิดเต็มอก

“โทษที กูไปไม่ได้ว่ะ มีธุระสำคัญ ไว้วันหลังแล้วกัน”

“เออๆ แค่นี้ก่อนนะเว้ย” คีวางสายและจ้องผมที่ลุกขึ้นนั่งกอดเข่าพิงหัวเตียง

ลำคอตีบตันพร้อมกับน้ำอุ่นๆรื้นขึ้นมา

“...น้ำ น้ำ เป็นอะไรไป” คนพูดถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วนั่งคุกเข่าตรงหน้า

“คี ที่เราทำอยู่หน่ะ มันไม่ถูกต้องหรอกนะ” ผมสบตาคนตรงหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“คีมีน้องเกดอยู่แล้ว เราไม่ควรทำแบบนี้เลย” น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มเป็นสาย

“อา....น้ำ” คีถอนหายใจน้อยๆแล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้ผมเบาๆ

“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้” ยิ่งทำแบบนี้ ในใจผมยิ่งเจ็บ

“อย่าร้องไห้เลย หยุดร้องเถอะนะคนดี” คีรั้งตัวผมให้แนบกับอกพลางลูบหัวเบาๆ

“น้ำฟังนะ คีกับน้องเกดไม่ได้เป็นแฟนกัน น้องเกดเค้ามีแฟนใหม่แล้ว”

ผมกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาก่อนจะสะอื้นเบาๆอยู่กับอกคนตรงหน้า

“ที่คีบอกน้ำไปแบบนั้น เพราะคีคิดว่าน้ำเป็นแฟนกับพี่ภู คีคิดว่าเราไม่ได้รักกัน...”

เอ๋ หมายความว่า

“บอกให้คีฟังได้รึเปล่าว่าน้ำก็คิดเหมือนกัน” น้ำเสียงอ่อนโยนและอ้อมกอดที่กระชับแน่นขึ้นทำให้ผมอดยิ้มให้ตัวเองไม่ได้

“หืม รักกันบ้างรึเปล่าครับ” คนพูดเชยคางผมให้สบตา

เล่นจ้องกันแบบนี้ก็เขินหน่ะสิ ใครจะไปกล้าพูด

“ไม่ยอมบอก...” มือซุกซนเริ่มปัดป่ายไปทั่ว

“อื้ออ ไม่เอานะ จักจี้” ผมหดคอหนีคีที่โน้มตัวมาซุกไซร้ตรงซอกคอ

“จะยอมบอกดีๆมั้ย หรือว่า...” ผมกอดตัวเองแน่นเพราะสายตาที่โลมเลียไปทั่วตัว

คนบ้า

“รัก” ผมก้มหน้าพูดด้วยความอาย

“รักใครนะ” ฮึ่ย ก็บอกไปแล้วไง ผมจ้องคนตรงหน้าพลางทำหน้าบูด

“ไม่ตอบ งั้น...” คียิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆลูบตรงแผ่นหลังของผม ผมรีบจับมือนั้นไว้ทันที

“น้ำรักคี พอใจรึยัง” ผมหลับตาพูดเสียงดัง ก่อนจะก้มหน้าเอามือปิดปากตัวเองกระพริบตามองคนตรงหน้าปริบๆ

“หึๆ พอใจมาก” คีหัวเราะก่อนกดผมลงกับเตียง

“อ๊ะ ไหนบอกว่า...” ผมเริ่มถดตัวหนีเมื่อนึกถึงเรื่องน่าอายที่พึ่งทำไป

“ก็...น้ำอยากทำตัวน่ารักเองทำไมล่ะ”

“ไม่เอานะคี”

“อ่ะ อื้อออ”

จบบบบบ

......................

 :-[ จบไปแล้วววววววววววววววว

มันอาจจะแปลกๆไปบ้างนะคะ  :o8:

@ ข้าว อ่านตอนนี้แล้วตัวอาจรู้สึกว่าน้องน้ำยอมง่ายกว่าเดิม  :laugh:
เอ่อ แบบนี้เรียกว่าหวานได้รึเปล่าอ่ะ
ส่วนเรื่องพี่ภูเหรอ อืม เค้าไม่แน่ใจอ่ะ
คือ เอางี้นะตัว เค้าถามตรงๆเลย ตัวว่านิยายเค้ามันหนุกป่าว
แล้วเอ่อ คืออิ๋งลังเลไง ว่าควรแต่งตอนพิเศษต่อรึป่าว แต่ถ้าข้าวยืนยันว่าอยากอ่าน อิ๋งก็จะแต่งให้น้า
แต่อาจจะมาช้าบ้าง เพราะว่ารับน้องเหนื่อยมว๊ากกกกก พึ่งรู้ว่าพอได้เป็นพี่เหนื่อยกว่าน้องสองเท่า(รึป่าว)
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ตอนสุดท้ายคลอดออกมาจนได้ เย้  :mc4:

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด ขอบคุณคนอ่านและทุกคอมเม้นต์ที่ทำให้เรื่องนี้ดำเนินมาถึงตอนจบ

special thanks to.....
คุณ Ipatza ถ้าไม่มีตะเอง นิยายเค้าก็ไม่จบหรอกนะ เพราะแรกๆไม่มีใครมาเม้นต์เลย และคอมเม้นต์ของตัวทำให้เค้ากลับมาฮึดสู้อีกครั้งและสัญญากับตัวเองว่า ไหนๆก็ลงนิยายแล้ว ต่อให้มีคนอ่านแค่คนเดียวก็จะแต่งให้จบ ขอบคุณจากใจค่า :กอด1:
ตอนนี้เค้าไม่รู้ว่าตัวเองจะได้มาอ่านข้อความนี้รึเปล่า แต่ว่า ดีใจมากๆเลยที่ได้คอมเม้นต์จากตัวเองนะ

ข้าว ถ้าไม่มีข้าว เรื่องนี้ก็คงไม่จบ เพราะตอนสุดท้ายจะไม่ออกมาเลย ถ้าไม่มีคอมเม้นต์ของข้าว ขอบคุณกำลังใจที่มีให้กันเสมอ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องนิยาย ขอบคุณคำแนะนำดีๆที่มีให้กัน และอาจจะรบกวนถามอะไรอีกซักหน่อย  :o8:
และสุดท้าย ขอบคุณเรื่องมนต์ตรานาคาที่ทำให้เราได้เจอกัน อ่า พูดแล้วซึ้ง :monkeysad: (เวอร์ไป)

คุณ yeyong ดีใจมากๆที่เข้ามาคอมเม้นต์ให้บ่อยๆนะคะ บางครั้งคุณ yeyong ถามตรงพล็อตจนอิ๋งไม่รู้จะอุบไว้ยังไง ปล่อยไก่ไปหมดเล้า เอ่อ อีกเรื่องนะคะ เจ้าหมาน้อยขนสีน้ำเงินนี่คือไลก้าแห่งสายลมจากมอนสเตอร์ฟาร์มภาคน่ารักรึเปล่าคะ(เอ๊ะ มันเกี่ยวกับนิยายยังไง) ขอบคุณมากค่ะ

คุณ kasarus ขอบคุณคอมเมนต์ที่คอยแนะนำให้ปรับปรุงตอนเมา 2 ขอบคุณที่เป็นคนอ่านที่น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย (อิ๋งเรียกร้องปุ๊บ มาปั๊บ) ขอบคุณกำลังใจที่มีให้กันค่ะ

คุณ iforgive มาสั้นๆ แต่อิ๋งจุกเบาๆทุกที ขอบคุณที่คอยเชียร์พี่ภูอย่างเหนียวแน่น และขอโทษที่อาจทำให้รู้สึกแย่ ที่นายคีได้เป็นพระเอกทั้งที่คีมันแย่ คีมันแพ้ป.สี่ ขอบคุณค่า

คุณ takara ขอบคุณที่ติดตามเป็นขาประจำ มาสั้นๆแต่น่ารักมากๆค่ะ  o13

คุณ suck_love จำได้ว่าตัวเองเป็นสมาชิกที่มาทีหลังแต่น่ากอดมาก ขอบคุณกำลังใจที่มีให้กันในทุกเรื่อง ทั้งยังเจตนารมณ์ที่แสดงว่าอยากอ่าน เป็นเหมือนกระทิงแดงให้อิ๋งต้องปั่นนิยายสุดกำลัง ที่สำคัญเป็นแฟนคลับพ่อพระเอกที่ออกจะอึน ซึน มึน แต่สุดท้ายก็รักนะ ถึงนิยายจะจบแล้วเค้าก็จะคิดถึงตัวเองนะ

ถ้านิยายจบแล้วคงคิดถึงคนอ่านแย่เลย อิ๋งคงวนเวียนคอยอ่านนิยายของคนอื่นๆต่อไปค่ะ

 :กอด1:  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2012 22:25:08 โดย Made »

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
 :L2: :L2:
ในที่สุดก็ลงเอยกันจนได้

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จบแล้วจริงอ่ะ  ว่างๆมาแต่งตอนพิเศษนะ 
ขอบคุณที่แต่งให้อ่าน  และที่สำคัญแต่งจนจบ  สำคัญมากๆเลย
ถึงแม้จะหมั่นไส้คีเพียงใดแต่ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นพระเอก
พี่ภูมามะ  มาหาพี่มา จะปลอบใจให้

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ เลยได้อ่านรวดเดียวจนจบเลย

ชอบที่เล่าเรื่องจากหลายมุมมอง โดยที่เนื้อเรื่องไม่โดดเลย ลำดับเหตุการณ์ได้ชัดเจนมาก
ตามด้วยการปูนิสัยตัวละครมาละเอียดมากๆ เราคิดว่าเรื่องมันสมจริงสมจังมาก
เวลาอ่านเลยอิน หมั่นไส้คีเป็นกำลัง =___=#
เชอะถ้าน้ำไม่ถูกนายเลี้ยงมาคิดเหรอว่านายจะได้สมหวัง

คือ รักจริงแต่งี่เง่าได้ใจมาก และสุดท้ายก็เกลียดไอ้หมอนี่ไม่ลง
จะทำตัวกาละมังถังแตกยังไง นายก็ได้ใจเพราะรักน้ำมากเนี่ยล่ะ

แต่ขอติดโทษแบน ลบร้อยแต้มที่ลงมือก่อนจะเข้าใจนะคะ

รออ่านเรื่องถัดไปของคนแต่งจ้า

ออฟไลน์ ryokijung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 :o8: :o8:อ๋าาาาาา
อ่านรวดเดียวจบนี่ชอบจริงๆ
สนุกดีค่ะ ชอบๆ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เปิดเทอมไม่ค่อยได้เข้ามา  พอเข้ามาอีกที  อ้าววว จบแล้วซะงั้น  :a5:

แต่ก็ดีแล้วค่ะ  ที่สุดท้ายก็แฮปปี้   :impress2:  เราอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า คีย์เป็นลักษณะคนที่มีตัวตนอยู่จริงๆ  ไม่ใช่พระเอก ไม่ใช่ตัวร้าย  แต่เป็นแค่คนๆที่รักคนหนึ่งเท่านั้น  อาจจะทำอะไรขัดใจไปบ้าง แต่ที่ทำก็เพราะรักน้ำเราเข้าใจ (ป่าวลำเอียงนะเออ  :laugh: )

ในที่สุดก็จบไปอีกเรื่องแล้วสำหรับนิยายดีๆ สนุก ๆ  ไว้มาเขียนเรื่องใหม่นะค่ะ  หรือตอนพิเศษก็ได้  เราจะติดตามแน่นอน  o13


ปล ขอบคุณ  ขอบคุณ และขอบคุณค่ะ ไม่มีอะไรที่จะรู้สึกอยากจะบอกเท่าคำนี้อีกแล้ว   :pig4:

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
 :-[ปลื้มจัง ได้ special thank ด้วย

จบซะแล้วเหรอ หวังว่าจะมีผลงานใหม่ออกมาให้อ่านกันอีกนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แม้จะอึดอัดขัดใจกับทั้งน้ำและคี แต่สุดท้ายก็รู้ใจตัวเองได้ เฮ้อ!

Made

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษ เนื้อคู่ปาฏิหารย์

ฮื้มมมม เช้าวันนี้สดชื่นจริงๆเลยน้า นานๆทีวันหยุดแบบนี้จะได้ตื่นเช้าๆซักครั้งหนึ่ง

เฮ้ สวัสดีเจ้ากระแต แกก็ตื่นเช้าเหมือนกันใช่ป่าว วิ่งดีๆล่ะ อย่าเผลอโดนไฟช็อตเข้าก็แล้วกัน

คิดถึงวันที่ไฟทั้งโรงเรียนดับไปสามชั่วโมงเพราะกระแตที่ชอบวิ่งอยู่ตามสายไฟในโรงเรียนถูกไฟช็อต

เฮ้อ เศร้าใจแทนเจ้าตัวที่ตายไปจริงๆเลย

อ๊ะ ห้ามวอกแวก วันนี้นางสาวแตงกวามีภารกิจที่สำคัญ อุตส่าตื่นมาโรงเรียนแต่เช้าก็เพื่อสิ่งนี้

และเป้าหมายก็อยู่ข้างหน้านี่เอง

ลานน้ำพุหน้าโรงเรียนไงล่ะ

รู้รึเปล่าว่าโรงเรียนมัธยมต้นกล้าของเราหน่ะ มีตำนานที่เล่ากันมานานมากแล้วว่า หากใครที่อยากจะเจอเนื้อคู่ให้หลับตาอธิษฐานและยืนกลับหลังหันโยนเหรียญลงไปที่ลานน้ำพุหน้าโรงเรียนในเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบน้ำจนเกิดรุ้งกินน้ำในตอนเช้าหลังฝนตก และพอลืมตาขึ้นมา คนที่คุณเห็นคนแรก นั่นล่ะ คือเนื้อคู่ของคุณ!

แหม้ แค่คิดจิตใจมันก็กระชุ่มกระชวย

คราวนี้แหละ ความฝันของนางสาวแตงกวาที่วาดฝันมาตั้งแต่อนุบาลสองว่าอยากจะมีแฟนหล่อๆ เท่ๆกับเค้าซักคนจะเป็นจริงซักที

รู้รึเปล่า ว่ากว่าจะสอบเข้าโรงเรียนนี้ได้ แตงกวาต้องอ้อนคุณป่ะป๊าตั้งครึ่งปี แถมยังต้องอ่านหนังสือแบบมาราธอนอีก

หึๆ ชีวิตอันจืดชืดในโรงเรียนหญิงล้วนจะได้หมดไปเสียที

แตงกวาจะพิสูจน์ให้เพื่อนๆเห็นเองว่าหนุ่มหล่อไม่ได้มีแต่ในนิยาย แต่มีอยู่จริงที่โรงเรียนข้างบ้านแตงกวานี่ไง

เอาละ ได้เวลาแล้ว

‘คุณแสงอาทิตย์ คุณสายรุ้งเจ้าขา ขอให้เด็กดีอย่างแตงกวาได้เจอเนื้อคู่หล่อรวย แสนดีเหมือนพระเอกนิยายกะเค้าซักคนเถอะเจ้าค่ะ ถ้าหากแตงกวาเจอเนื้อคู่กับเค้าจริงๆ จะมาวิ่งรอบน้ำพุสามสิบรอบเป็นการตอบแทนนะคะ’


จ๋อมม

ฮ้า โยนเหรียญไปแล้ว

ตื่นเต้นจัง ไม่กล้าลืมตาเลย 

สูดหายใจลึก ลึ๊กกกก แล้วก็...

กรี๊ดดดดดดดด

เป็นไปตามตำนานจริงๆด้วย

ผู้ชายที่กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าผ้าใบตรงอาคารห้องสมุดเป็นใครกัน อ๊ะ เงยหน้าขึ้นมาแล้ว อ๊ายยยยย หล่อใจละลาย ร่างสูงสมส่วนหุ่นนักกีฬาผิวสีแทน ผมสั้นไม่เป็นทรงกับกางเกงยีนขาดๆสีซีด เสื้อยืดสีเทา โหยยย มองมุมไหนก็หล่อ

อ๊ะ เดี๋ยว นั่นจะไปไหนคะ

“นี่...” ทำไงดี เค้าไม่ยอมหันมา แถมวิ่งไปแล้ว โธ่ เนื้อคู่ของแตงกวา ยังไม่ทันได้ทักทายกันเลย หายไปซะแล้ว

ฮึ ไม่เห็นเป็นไร คู่กันแล้วจะแคล้วกันได้ไง

....
....
....

ทว่า

นี่มันก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วนะ แตงกวามาดักรอแถวห้องสมุดทั้งตอนเช้า กลางวัน เย็น แล้วทำไมไม่เห็นเจอเนื้อคู่ของแตงกวาเลยล่ะ ฮือออ หรือว่ามันจะเป็นแค่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมา

“เฮ้ออออ แตงกวา ผักกาดว่านะ เราเลิกมารอแถวนี้กันเถอะ นี่มันก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ถ้าเนื้อคู่ของแตงกวามีอยู่จริงๆ ผักกาดคิดว่ายังไงแตงกวาก็ต้องได้เจอแน่ๆ”

อืม มันก็จริงอย่างที่ผักกาดว่าแหละน้า

“งั้น เรากลับห้องกันดีกว่า”

พอเราเดินไปถึงหน้าห้อง แตงกวาก็หันไปอำลาลานน้ำพุอีกครั้ง

โอ๊ะ นั่นมัน คุณคนหล่อวันนั้นนี่นา

“แตงกวา จะไปไหน” เสียงผักกาดไล่ตามหลังมาขณะที่แตงกวาใส่เกียร์เสือชีตาร์วิ่งสุดฝีเท้า

“อย่าพึ่งถามอะไรเลยผักกาด แตงกวาเจอคนๆนั้นแล้ว”

ฮือออ จะทันมั้ยเนี่ย

ตุบ

“โอ๊ย”

“ขอโทษครับ”

ง่า เจ็บจัง  แต่เดี๋ยว

คุณคนหล่อล่ะ

อ๊า หายไปแล้ว

“เอ่อ เป็นอะไรรึเปล่าครับ”

“อะ อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ สบายมาก” ต้องสปริงตัวลุกอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันว่าแตงกวาหน่ะ โอเคนะ

“แฮ่ก แฮ่ก โอ๊ยย แตงกวา วิ่งเร็วจัง”  โอ๊ะ ลืมไปเลยว่าผักกาดก็ตามมาด้วย

“งั้นแตงกวาไปก่อนนะคะ” แตงกวาบอกลาคนที่เผลอวิ่งชนก่อนจะลากแขนผักกาดไปตามหาร่องรอยของคุณเนื้อคู่กันต่อ

“อ้าว จะไปอีกแล้วเหรอ ขอผักกาดพักเดี๋ยวสิ”

“เร็วเข้าผักกาด”

โธ่ ถัง กะละมัง ชาม คุณคนหล่ออออออ คุณหายไปไหนค้า

เอาเถอะ อย่างน้อยวันนี้ก็ได้ข้อมูลเพิ่มหนึ่งอย่าง

นั่นก็คือ คุณคนหล่ออยู่ม.ปลาย และที่สำคัญ เป็นนักเรียนโรงเรียนเราแน่นอน เย้!

“เพื่อนๆครับ วันนี้ผมมีข่าวมาแจ้ง” เอ๋ วันนี้คุณเพิ่มพูนมีเรื่องอะไรกันนะ

“วันนี้ตอนพักเที่ยง ขอความร่วมมือทุกๆคนไปประชุมที่ห้องม.4/5 ด้วยนะครับ เนื่องจากสิ้นเดือนนี้ทางโรงเรียนจะจัดงานกีฬาสีสัมพันธ์ขึ้น และจะมีพี่ๆม.5 มาพูดถึงเรื่องกิจกรรมที่พวกเราต้องเข้าร่วมในงานนี้ ขอให้ทุกๆคนไปประชุมอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”

ฮึ่ม งั้นเที่ยงนี้แตงกวาก็ไม่ได้ไปดักรอคุณเนื้อคู่หน่ะสิ แย่จังงงง

“แตงกวา จะทำหน้าอมทุกข์ไปไหนเนี่ย แค่ไม่ได้ไปดักรอวันเดียวเอง”

“ผักกาดไม่เข้าใจ นั่นเป็นเนื้อคู่ปาฏิหาริย์ของแตงกวาเชียวนะ”

“เอาน่า งานกีฬาสีที่นี่น่าสนใจออก”

“จ้ะๆ” ยิ่งเดินใกล้ห้อง 4/5 ยิ่งห่อเหี่ยว เฮ้ออออ

โอะโห คนเยอะได้อีก

“นั่นเพิ่มพูนนี่นา เราไปยืนข้างๆเพิ่มพูนดีกว่า”

ผักกาดว่าไงแตงกวาก็ว่างั้นแหละ ไม่มีกะจิตกะใจจะฟัง

เฮ่อ นั่งมองนกดีกว่า

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ
จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

ขนาดนกยังมีแฟน นี่คงจู๋จี๋กันอยู่แน่เลย แล้วแตงกวาล่ะ แตงกวาก็อยากมีแฟนเหมือนกันนะ

“น้องๆครับ ช่วยฟังพี่หน่อยนะครับ” แตงกวาฟังอยู่ พี่พูดมาได้เลย

“น้องครับ เงียบๆกันหน่อย” แตงกวาเงียบแล้ว

โครม ปั่ง

“ว๊ายย”

“อ๊ายยย” เฮ้ย ผักกาดกรี๊ดอะไรอ่ะ แตงกวากรี๊ดด้วย

“เออ เงียบได้ซักทีนะพวกมึง”

นี่มัน...คุณคนหล่อนี่นา

โห ท่าหงุดหงิดยังหล่อเลยอ่ะ
 
อาละวาดอีกสิคะ แตงกวาช๊อบบบ

แต่พี่สุดหล่อเหมือนจะหายหงุดหงิดแล้วแฮะ เห็นพี่ผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆเข้าไปจับแขนไว้

อร๊ายย พี่สุดหล่อยิ้มให้แตงกวาเหมือนที่ยิ้มให้พี่ตัวเล็กหน่อยสิคะ แตงกวาจะละลาย

“สวัสดีครับ พี่ชื่ออัคคี เรียกพี่คีเฉยๆก็ได้ ปีนี้พี่เป็นประธานของสีเรา อยากจะมาขอความร่วมมือจากน้องๆทุกคนให้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยนะครับ” อ่า พี่คีเหรอ เนื้อคู่ของแตงกวา ที่แท้เป็นประธานสีของเรานี่เอง

“สวัสดีครับ พี่ชื่อ....”

มองมุมไหนก็หล่อ ยืนกอดอกพิงกระดานแล้วดูเท่จัง

“นี่ๆ แตงกวา เราจะอยู่ฝ่ายไหนดี”

“หา ฝ่ายอะไรเหรอ”

“นี่ฟังที่พี่เค้าพูดรึเปล่าเนี่ย เค้าให้ไปลงชื่อช่วยงานกีฬาสีฝ่ายต่างๆ”

“อะ อ๋อ เหรอ ผักกาดอยู่ฝ่ายไหน แตงกวาก็อยู่ฝ่ายนั้นนั่นแหละ”

อ๊ะ นั่นพี่แป้ง พี่สาวข้างบ้านแตงกวานี่นา

“ผักกาด เราไปอยู่ฝ่ายพี่คนนั้นกันเถอะ”

“ฝ่ายฉากและอุปกรณ์เหรอ ดีเลย ผักกาดว่าจะชวนแตงกวาอยู่พอดี”

 “พี่แป้ง”

“อ้าว แตงกวาจะมาสมัครอยู่ฝ่ายพี่เหรอ”

“ค่ะ พี่แป้ง นี่ผักกาดเพื่อนแตงกวา ขอสมัครสองคนค่ะ”

“งั้นลงชื่อตรงนี้เลย”

ระหว่างที่ผักกาดกำลังลงชื่ออยู่ แตงกวาก็เหลือบไปเห็นพี่คียืนคุยอยู่กับเพิ่มพูน

เออ จริงสิ พี่แป้งก็ทำงานกีฬาสีด้วยนี่นา น่าจะรู้จักพี่เค้านะ

“พี่แป้งๆ พี่รู้จักพี่คีรึเปล่า”

“อ๋อ รู้จักสิ ทำไมเหรอ”

“คือว่า...” อึ๊ย เขินจัง

“เอ้า มัวแต่อ้ำอิ้งอยู่นั่น”

“พี่แป้งเอียงหูมานี่หน่อยสิ”

“คือว่าพี่คนนั้นหน่ะ เป็นเนื้อคู่ของแตงกวา พี่แป้งช่วยเป็นแม่สื่อให้หน่อยสิ”

“หา ไอ้คีเนี่ยนะ คนที่ผักกาดเจอตอนไปเสี่ยงทายตรงลานน้ำพุ”

“คนนี้แหละค่ะ นะพี่แป้งนะ ช่วยแตงกวาหน่อย”

หลังจากกระซิบกระซาบกันเสร็จพี่แป้งก็ทำหน้าหนักใจ

“เออ เอางี้นะแตงกวา เห็นพี่ผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆคนนั้นป่าว พี่น้ำฝ่ายพยาบาลหน่ะ”

“อื้อ เห็นค่ะ”

“พี่คนนั้นรู้จักไอ้คีดีกว่าพี่อีก แบบว่าสนิทสนมกันมาก แตงกวาลองไปคุยกับพี่เค้าดูสิ”

“งั้น แตงกวาไม่อยู่ฝ่ายพี่แป้งแล้ว แตงกวาขอไปสมัครฝ่ายพยาบาลดีกว่า”

“เอ่อ ตามสบ๊าย”

อะโด่ พี่แป้งนะพี่แป้ง น้องนุ่งขอแค่นี้ก็ช่วยกันไม่ได้

“พี่คะ มีใครสมัครเป็นฝ่ายพยาบาลรึยังคะ”

“ยังเลยครับ น้องห้องอะไรครับ”

“น้องแตงกวาห้องสิบค่ะ”

“ชื่อน่ารักจังเลย ลงชื่อตรงนี้เลยครับ”

อ่า พี่น้ำท่าทางใจดีจัง แบบนี้คงต้องช่วยแตงกวาได้แน่ๆเลย

“ไว้ตอนเย็นๆ เรามาเจอกันแถวๆต้นหูกวางเนอะ พี่น้ำจะสอนพยาบาลเบื้องต้น แล้วอีกสองสามวัน ถ้ารายชื่อฝ่ายกีฬาลงตัว เดี๋ยวพี่น้ำจะพาไปเดินดูเค้าซ้อมกีฬากัน เผื่อมีใครเป็นอะไร เราจะได้ฝึกช่วยเค้าด้วยกัน ตกลงมั้ย”

“รับทราบค่ะ” แตงกวาทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารให้พี่น้ำรู้ว่าพร้อมปฏิบัติหน้าที่แน่นอนค่ะ

พี่น้ำยิ้มหวานให้แตงกวาด้วย อืม อยู่ฝ่ายพยาบาลนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

อะฮ้า ในที่สุดหลักสูตรปฐมพยาบาลเบื้องต้นของพี่น้ำก็จบลงจนได้ มีแตงกวาเรียนอยู่คนเดียวเอง ทีแรกนึกว่าฝ่ายเราจะมีกันสองคนซะแล้ว แต่เห็นมีพี่ผู้ชายที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ฝ่ายนี้ด้วย เพราะว่าพี่น้ำเค้าจะต้องคอยดูแลพี่คนนี้อยู่ ชื่อว่าอะไรนะ เดี๋ยวคิดก่อน อ๋อ ชื่อพี่ Andrew แต่เห็นพี่น้ำเรียก Andy พี่น้ำเก่งภาษาอังกฤษด้วยนะ เห็นคุยกับพี่ฝรั่งท่าทางสนุก

นอกจากนี้ แตงกวายังได้เห็นพี่น้ำไปนั่งรอพี่คีที่สนามบาสทุกวันด้วย พี่ๆกลุ่มนี้เค้าดูสนิทกันจัง แถมแต่ละคนหน้าตาดีจนแตงกวาคิดว่าเค้าคบแต่คนหล่อซะอีก ถ้าไม่นับพี่น้ำอ่ะนะ ขาวซะจนแตงกวายังอาย แถมตัวเท่าแตงกวา ยิ้มหวาน ใจดี ไม่เห็นเข้ากับกลุ่มพี่ๆที่ถึงแม้จะหล่อ แต่ก็ดูเถื่อนๆยังไงบอกไม่ถูก แม้กระทั่งพี่ฝรั่ง Andrew ก็ยังให้ความรู้สึกเกรงๆหน่อยๆเลยแฮะ

ส่วนเรื่องที่จะให้พี่น้ำเป็นพ่อสื่อหน่ะเหรอ สบายมาก เราซี้กันแล้วนะ เดี๋ยวเย็นนี้แตงกว่าจะลองขอพี่น้ำดู

“พี่น้ำ คือว่า แตงกวามีเรื่องขอความช่วยเหลือ”

“หืม เรื่องอะไรเหรอครับ”

“คือ...แตงกวา...แบบว่าแอบชอบพี่คีอยู่ พี่น้ำช่วยเป็นพ่อสื่อให้แตงกวาหน่อยสิ”

“เออ จะดีเหรอครับ” รบกวนพี่น้ำมากไปรึเปล่าเนี่ย เห็นพี่น้ำทำหน้าลำบากใจแปลกๆ

“ดีสิคะ พี่น้ำรู้รึเปล่า แตงกวาไปเสี่ยงทายตรงลานน้ำพุแล้วเจอพี่คีเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ตามหาตั้งนานกว่าจะเจอ พี่น้ำช่วยแตงกวาเถอะนะ” ต้องจับมือทำตาปิ๊งๆด้วย พี่น้ำจะต้องเห็นใจแตงกวาแน่นอน

“อ่า ครับๆ”

“งั้นวันนี้พี่น้ำช่วยพาแตงกวาไปรู้จักกับพี่คีหน่อยสิ”

โอ๊ะ พูดไม่ทันไร พี่ๆก็เดินเข้ามาข้างสนามซะแล้ว แต่ทำไมพี่คีต้องมองแตงกวาดุๆด้วยอ่ะ ไม่เข้าใจ

พี่น้ำเดินไปยื่นขวดน้ำให้คนในทีม แตงกวาไปช่วยด้วยดีกว่า

“นี่น้องแตงกวานะ น้องฝ่ายพยาบาล”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” แตงกวาซะอย่างยิ้มไว้ก่อน คุณแม่บอกว่าแตงกวายิ้มสวยที่สุด

“ยินดีเช่นกันครับ พี่โจนะครับ” หือ พี่คนนี้อัธยาศัยดีจัง เข้ามาทักแตงกวาคนแรกเลย

“ส่วนนี่ก็ พี่ฟิว พี่จอม พี่คี แล้วก็น้องแบงค์ห้องห้า”

ทุกคนเค้ายิ้มให้แตงกวา แต่ทำไมพี่คียังมองแตงกวาดุๆอยู่เลยล่ะ

ถึงดุก็หล่อนะ คมเข้มจัง

“คี”

“หืม”

“ไปมองน้องแบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวน้องเค้าก็กลัวหรอก”

โห พี่น้ำนี่เยี่ยมไปเลย แค่คุยกับพี่คีเดี๋ยวเดียว หน้าดุๆก็เปลี่ยนเป็นยิ้มซะอย่างนั้น

“มือเปื้อน เช็ดเหงื่อให้หน่อยสิ”

พี่ขา แตงกวาเช็ดให้ก็ได้ สมัครใจค่ะ

“ฟิวกับจอมก็มือเปื้อนเหมือนกัน ยังเช็ดเองได้เลย”

“นะครับ”

เอ่อ นี่แตงกวารู้สึกไปเองรึเปล่าเนี่ยว่ามีออร่าสีชมพูวิ้งๆอยู่รอบๆตัวพี่ทั้งสองคน

ฮึ้ยย ทำหน้าตาอ้อนๆก็ยังหล่ออ่ะ

“น้องแตงกวาครับ น้องเล่นเฟซรึเปล่า แลกเฟซกันมั้ย”

เอ๊ะ พี่คนนี้เข้ามาบังระยะสายตาของแตงกวาซะมิดเลย ฮึ่ม

แต่แลกเฟซเหรอ ถ้าเรามีเฟซพี่เค้า เฟซพี่คีก็คงหาได้ไม่ยากใช่ป่าว

“เล่นค่ะพี่...”

“พี่โจครับ”

อ่อ พี่โจ

แต่เอ... คิดไปคิดมา หรือว่าพี่เค้าจะจีบเรานะ ไม่หรอกม้างง พึ่งเจอกัน จะเป็นไปได้ไง

“แตงกวา เดี๋ยวพี่น้ำจะเดินไปซื้อขนม แตงกวาอยากกินอะไรรึเปล่า”

กินขนมเหรอ เอาอะไรดีล่ะ

“พี่น้ำเลี้ยงนะ”

“ได้สิ”

พูดเล่นแต่พี่น้ำเลี้ยงจริงแฮะ

“งั้นพี่น้ำกินอะไรแตงกวาก็กินอันนั้นแหละค่า”

“ครับ เดี๋ยวพี่มานะ”

ใจดีจังเลยน้า

พอแตงกวาแลกเฟซกับพี่โจเสร็จก็กะจะเข้าไปทำความรู้จักกับพี่คีซะหน่อย แต่ไม่รู้หายไปไหน

อ้าว นั่นไง เดินถือขนมมากับพี่น้ำ

โอะโห นี่พี่ๆซื้อขนมกันมาขนาดนี้นี่จะกินกันกี่วันเนี่ย

เห็นพี่คีหิ้วของเต็มสองมือ ส่วนพี่น้ำเดินดูดนมชาเขียวปั่นยิ้มหวานมาแต่ไกล

แล้วนั่น ออร่าชมพูวิ้งๆตอนที่พี่น้ำยื่นนมชาเขียวปั่นให้พี่คีดูดมันคืออะไรกันนนน

เอ๊ะ จะว่าไปก็เห็นพี่เค้าแบ่งขนมให้เพื่อนๆคนอื่นเหมือนกันนี่นา

ฮู้ววว คิดมากไปได้นะแตงกวา

แต่เอ...ไหนๆแตงกวาก็ได้เจอพี่คีหลังจากที่ตามหาอยู่นาน

จะทำยังไงให้พี่เค้าสนใจเราดีนะ

“กินลูกชิ้นมั้ยแตงกวา”

อืม ลองถามพี่น้ำดูดีกว่า

“พี่น้ำ รู้รึเปล่าว่าพี่คีชอบผู้หญิงแบบไหนอ่ะ”

“แค่กๆ”

โอ๊ะ ทิชชู่ไปไหน ทำไมจู่ๆพี่น้ำก็สำลักได้ล่ะเนี่ย

“ว่าไงคะพี่น้ำ”

“เอ่อ พี่น้ำก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะ แต่เห็นคีบอกว่าชอบดูมังกรหยกเพราะนางเอกสวยหน่ะ”

ชอบผู้หญิงหมวยๆจีนๆเหรอ แตงกวาก็หมวยนะ

“อ๋อ แล้ว...”

หลังจากสืบข้อมูลของพี่คีได้ครบถ้วน และแตงกวาก็สนิทสนมกับพี่ๆทีมบาสเป็นที่เรียบร้อย

แตงกวาก็ได้รู้ว่านอกจากพี่คีจะหล่อแล้วยังเป็นคนรักเพื่อน เห็นคอยแวะเอาขนมมาฝากพี่น้ำตลอด บางทีก็ไปส่งแตงกวากลับบ้าน ดูใจดีผิดกับครั้งแรกที่ได้รู้จัก

เวลาทำงานพี่คีจริงจังมากเลย

ตอนแตงกวากับพี่น้ำนั่งรอข้างสนาม พี่คีชอบหันมายิ้มให้แตงกวาบ่อยๆ ชอบแตงกวาเข้าแล้วล่ะสิ

ก็แตงกวาออกจะน่ารักนี่นา ฮิๆ

“พี่น้ำๆ พี่ว่าพี่คีเค้าสนใจแตงกวาบ้างรึเปล่า”

“คีก็สนใจน้องๆที่มาช่วยกันทำงานทุกคนนะ”

“โธ่ ไม่ใช่ซักหน่อย สนใจแบบว่าเป็นพิเศษอ่ะ”

“เอ่อ พี่น้ำก็ไม่รู้หรอก”

แต่แตงกวาว่าน้าพี่เค้าน่าจะชอบแตงกวาอยู่บ้างแหละ ไม่งั้นคงไม่มองมาตรงโต๊ะที่แตงกวานั่งแล้วยิ้มให้บ่อยๆหรอก

“งั้น แตงกวาฝากเบอร์มือถือไปให้พี่คีหน่อยสิ”

“เอ่อ แตงกวา คือ...พี่น้ำ...”

“นะ นะ พี่น้ำ ช่วยแตงกวาหน่อยนะ”

ฮ้า เจอลูกอ้อนของแตงกวาเข้าไปพี่น้ำเลยตกลงช่วย

และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่พี่ๆพักเหนื่อยกัน แตงกวาเลยสะกิดพี่น้ำให้เดินไปยื่นขวดน้ำเปล่าที่แตงกวาเขียนเบอร์แปะโพสอิทให้พี่คี
เห็นพี่คีขมวดคิ้วมองพี่น้ำสลับกับขวดน้ำเปล่า

อ๊ะ พี่คีเดินมาทางนี้แล้ว

โอ๊ย ตื่นเต้นอ่ะ

“น้องแตงกวาครับ พี่คงรับไว้ได้แค่น้ำขวดนี้ ส่วนโพสอิทพี่คงต้องคืน”

เอ๋ ทำไมล่ะ แตงกวามองพี่น้ำที่พี่คีโอบให้เดินมายืนอยู่ข้างๆก็เห็นพี่น้ำทำหน้าแปลกๆ

“พี่มีแฟนแล้วครับ แล้วพี่ก็เห็นแตงกวาเป็นรุ่นน้องมาตลอด ขอโทษด้วยนะครับ”

อ่ะ ไม่จริง พี่คีจะมีแฟนได้ยังไง ถ้ามีพี่แป้งก็ต้องบอกแตงกวาแล้วสิ

“พี่คีคะ คือ อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะคะ แตงกวาไม่เห็นพี่คีไปอยู่กับแฟนบ้างเลย แฟนพี่ไม่น้อยใจแย่เหรอคะ”

“หึๆ” พี่คีหัวเราะน้อยๆแล้วมองพี่น้ำที่ยืนก้มหน้าบีบมือตัวเองอยู่

“แฟนพี่ก็ยืนอยู่ตรงนี้ไงครับ”

เอ๋

...
...
...

ไม่จริงงงงงงงงงงง ตำนานต้องไม่ผิดพลาดสิ

ฮืออออ

แตงกวาไม่อยากอยู่บนคานตลอดไปน้า T^T

.................................

5555 ตอนพิเศษนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงนี้เลยค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=fWNaR-rxAic&ob=av3e
 :กอด1:

Made

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคอมเม้นต์ค่าาา

@ คุณ jimmyFG  :pig4:ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ อิ๋งก็ดีใจค่ะ ที่ในที่สุดทั้งสองคนก็ลงเอยกันจนได้ ถ้าจะได้แต่งยาวกว่านี้สงสัยต้องรอลุ้นกันจนเหนื่อย

@ คุณ iforgive จบแล้วจริงๆค่ะ วันนี้ตอนพิเศษมาแล้วน้า แต่จะขอเปลี่ยนมุมมองคนเล่าเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็แล้วกันเนอะ ดีใจมากๆเหมือนกันค่ะที่แต่งจนจบ ไม่อยากยืดเรื่องให้ยาวกว่านี้ เดี๋ยวกลัวคุณ iforgive จะหมั่นไส้นายคีมากไปกว่านี้  :laugh: เอ๊ะ จะปลอบพี่ภูเหรอคะ พี่ภูเค้ามีคนปลอบแล้วน้า

@ คุณ fuku ขอบคุณสำหรับคำชมที่มีให้กัน อิ๋งดีใจมากๆเลย  :try2: มีแต่คนหมั่นไส้คีเนอะ แต่ยังไงแล้วรักแท้ก็แพ้ใกล้ชิดค่ะ ถึงพี่ภูจะรักจริง แต่อย่างที่เห็นน้องน้ำน้องคีอยู่บ้านกันสองคน  :-[ จะเหลือเหรอค้า  :laugh3:
อืม ส่วนเรื่องต่อไปของคนแต่งเหรอคะ คงไม่มีแล้วค่ะ ขอกลับไปเป็นคนอ่านเหมือนเดิมดีกว่า คนแต่งยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ ถ้าจะให้เขียนเรื่องต่อไปคงไม่พ้นแนวนี้อีก ซึ่งปัจจุบัน มีเยอะมว้ากกก

@ คุณ ryokijung สนุกจริงๆเหรอคะ ขอบคุณที่แวะมาเติมกำลังใจให้กันค่ะ  :pig4:

@ คุณ suck_love อิ๋งก็จะเปิดเทอมวันที่ห้านี้แล้วค่ะ คงไม่ค่อยว่างเหมือนกัน ถึงตัวเองจะเข้ามาช้า แต่เค้าก็ดีใจน้าที่ตัวยังไม่ลืมกัน แล้วก็นะ เค้ามีไรจะบอก :m26: คาแรกเตอร์อัคคีเอามาจากคนจริงๆค่ะ เพราะฉะนั้น คนแบบนี้มีอยู่จริงๆ แต่ที่อิ๋งถ่ายทอดออกมาเป็นมุมของอัคคีที่อิ๋งเห็นและรู้จัก ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าจะมองยังไงบ้าง และขอบคุณมากๆที่คอยเชียร์พ่อพระเอก แม้ว่าจะทำตัวเกเรให้น้องน้ำเสียใจมาตลอด
ตอนพิเศษอิ๋งคงมีแน่ๆ(ลงไปแว้ว) แต่เรื่องต่อไปไม่น่าจะมีแล้วค่ะ เพราะยังประสบการณ์น้อย ถ้าเรื่องแนวอื่น ไม่น่าจะแต่งได้ค่ะ เคยลองๆดูแล้ว รู้สึกว่ายากมากเลย ขอเป็นคนอ่านต่อไปดีกว่า
ปล. คนแต่งกับคนอ่านเป็นของคู่กัน ถ้าไม่มีคุณ suck_love ก็คงไม่มีนิยายเรื่องนี้จนมาถึงตอนนี้เหมือนกันค่ะ :man1:

@ คุณ kasarus เป็นคนอ่านที่น่ารักมาก
เรื่องนี้จบแล้วค่ะ แต่ยังมีตอนพิเศษอยู่บ้าง เนื่องจากอิ๋งเองก็ยังสงสารพี่ภูอยู่  :m23:แต่เรื่องผลงานใหม่คงไม่มีแล้วค่ะ ขอเป็นคนอ่านต่อไปดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ

@ คุณ mild-dy ขอบคุณที่คอยติดตามค่ะ ฝากตอนพิเศษอีกตอนนะคะ :m13:

@ คุณ yeyong อิ๋งแต่งเองยังรู้สึกเลยค่ะว่านิยายเรื่องนี้ให้ความรู้สึกอึดอัดขัดใจจริงๆ แต่เรื่องความรักแบบนี้เกิดขึ้นได้ในชีวิตของคนเราจริงเพราะอิ๋งคิดว่าบางครั้งการที่เราไม่เข้าใจกัน หรือเข้าใจกันผิดเพราะเรามองคนละมุม ต่างคนต่างความคิดและเราไม่ได้คุยกัน นิยายเรื่องนี้เลยเกิดขึ้นมาค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กันค่ะ  :pig4:

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
5555++ น้องแตงกว่าถึงน้องจะน่ารักแต่ก็จงอยู่บนคานต่อไปเถอะนะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แอบขำแตงกวา แปลพฤติกรรมของคีเข้าข้างตัวเองมากกก

Singleman

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสาร น้องแตงกวา แต่คู่นี้ เค้ารักกันนะค่ะหนูจ้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอตอนต่อไปจ้า :call:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออออออออออ หายไปนาน โทษนะอิ๋ง ข้าวยุ่งอยู่กับเรื่องรับน้องอ่า

เป็นพี่พยาบาลเหมือนน้ำเลย ๕๕๕๕๕

แต่เข้ามาอีกทีดันจบซะแล้ว

ชอบตอนพิเศษนะ เอาตัวละครอื่นมาเล่าเหตุการณ์

เเต่มันก็ไปโฟกัสที่แตงกว่ามากกว่าอ่ะ

ข้าวว่าสำหรับเรื่องแรกก็สนุกในระดับหนึ่งละ อาจจะไม่ดีที่สุดเพราะเราไม่ใช่นักเขียนที่ผ่านงานมาเยอะ

มันก็ต้องเริ่มต้นกันทั้งนั้นละ

เชื่อว่าหากมีเรื่องหน้าละก็ แฟนๆนักอ่านต้องตามไปอ่านอย่างแน่นอน

เอาใจช่วยนะคับ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
ชอบมากๆเลยจร้ารอติดตามผลงานต่อไป

Made

  • บุคคลทั่วไป
....vs จอมทัพ1

ภาพผู้คนเดินกันขวักไขว่บริเวณใต้ตึกคณะมนุษย์ดูไม่แปลกตานักสำหรับช่วงเทศกาลรับน้องต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี

เฮ่อ หนีจากคณะตัวเองก็มาเจอความอึกกระทึกอีกระลอก ที่นี่เห็นจะวุ่นวายกว่าอีกล่ะมั้ง เห็นปีแก่ใส่เสื้อเชิ้ตประจำภาควิชากันให้ละลานตา ทั้งสีเขียวอ่อน สีส้ม สีฟ้า สีน้ำเงินเข้ม สีขาว สีดำ สีเทา สีม่วง ฯลฯ ส่วนรุ่นน้องเฟรชชี่ปีหนึ่งก็มีป้ายชื่อและเครื่องประดับหลากรูปแบบให้ได้เห็นและนึกเดาไปตามแต่สาขาวิชา มีทั้งป้ายชื่อรถโฟล์คสวาเกนสีม่วง คงเป็นเมเจอร์เยอรมัน ป้ายชื่อรูปรถเมล์สองชั้นสีแดงที่มีควันเป็นลายธง Union Jack ของเมเจอร์อังกฤษ รูปหน้าคนชายหญิงและมีผ้าคาดหัวสีแดงเขียนเป็นอักษรจีน 中文系 เหมือนที่ชายฟิวได้ใส่ปีที่แล้ว ป้ายรูปรถตุ๊กๆและหมวกใบเล็กคล้ายกับที่แอร์โฮสเตสใส่ กลุ่มน้องผู้หญิงบางคนผูกโบว์สีเขียวสะท้อนแสงกันทั้งกลุ่ม ไหนจะป้ายรูปดอกไม้กลีบสีม่วงแต่ตรงเกสรเป็นสีส้มสะท้อนแสง โห ละลานตาว่ะ คงจะจริงแบบที่น้ำเคยเล่าว่าคณะมันมีสิบกว่าเมเจอร์ รับน้องทีพื้นที่แทบไม่พอ แต่คณะมนุษย์นี่ไม่ได้เล็กๆนะคุณ มีไม่รู้กี่ตึกกว้างไปถึงอ่างแก้ว และใต้ตึกที่ผมเดินเข้ามาคือตึก HB7 (Humanities Building 7) ดูเป็นผู้มีความรู้เนอะ แต่ความจริงผมรู้จักอยู่ตึกเดียวแหละครับ เคยมาสอบ Eng1 ตอนปีหนึ่ง

อ้อ แล้วที่ผมต้องถ่อสังขารจากคณะของตัวเองที่อยู่โซนหลังม.มาคณะมนุษย์ที่อยู่โซนหน้าม.ก็เพราะวันนี้พวกผมมีนัดสังสรรค์เล็กๆน้อยๆตอนสี่ทุ่มแถวๆร้านข้างม. ผมโทรหาไอ้คีไม่รับก็เลยโทรหาน้ำ ตั้งแต่พวกมันคบกันตัวติดกันยังกะตังเม สอบเข้ามหาลัยคณะเดียวกัน สาขาวิชาเดียวกัน ไอ้น้ำติดรอบโครงการเรียนดี ไอ้คีติดรอบโควตาภาคเหนือ ส่วนไอ้ฟิวก็อยู่คณะนี้เหมือนกันแต่คนละเมเจอร์ น้ำนัดผมให้มาเจอตรงหน้าร้านพัฟแอนด์พายของการบินไทยที่มาเปิดตรงทางเชื่อมอาคาร HB7 กับอีกอาคารหนึ่ง ผมหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นจะเจอทั้งสองคน พลันเสียงกลองบริเวณหน้าห้องบริการของคณะก็ดังขึ้น คนกลุ่มใหญ่ลุกขึ้นกระโดดตามจังหวะกลองพร้อมกับร้องเพลง

อ้าว นั่นไอ้คีนี่หว่าเห็นยืนถ่ายรูปอยู่นอกวง พอกวาดสายตามองเรื่อยๆก็เห็นน้ำอยู่ในกลุ่มพี่ที่ยืนล้อมน้องกระโดดตามจังหวะไปด้วย

เห็นทีคงต้องรออีกยาว เอาเถอะ ถือว่ามาทัศนะศึกษาช่วงรับน้องที่คณะมนุษย์แล้วกัน

ตึ่งๆ โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ อิงลิชๆ
ตึ่งๆ โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ อิงลิชๆ
ตึ่งๆ โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งๆ อิงลิชๆ
“พวกเราเป็นชาวอิงลิช สลิ๊ด สลิดอยู่อิงลิชมอชอ
ที่จริงก็สอบติดหมอ แต่สลิดเกินพอเลยมาอยู่อิงลิช
รุ่นพี่มีแต่หล่อๆแต่แม่งโคตรหม้อนี่แหละอิงลิช
ผู้หญิงสวยๆก็มีแต่แม่งคัน...นี่แหละอิงลิช
กระเทย อีแอบ ทอม ดี้ ไล่ตบชะนีนี่แหละอิงลิช
ทุกคนว่ากูไฮโซแต่ที่จริงกูโมมมมมมมมมมมมมมม้ เพราะกูอยู่อิงลิช”

ผมขำน้อยๆกับเนื้อเพลงประจำสาขาวิชาภาษาอังกฤษ ไอ้คีกับน้ำเรียนอยู่เมเจอร์นี้ก็จริง แต่ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อน

เสียงกลองเปลี่ยนจังหวะให้เร็วขึ้น พร้อมกับที่คนทั้งกลุ่มร้องเพลงพร้อมกับเต้นไปด้วย

“อิงลิชชชชชชช อิงลิชชชชชชชชชช อิงลิช มีแต่สลิดเข้ามาอยู่อิงลิช
ผู้ชายก็มีแต่ตุ๊ด (เป็นแฟน) ผู้ชายก็มีแต่ตุ๊ด อกหักรักคุดเอาตุ๊ดอิงลิช อกหักรักคุดเอาตุ๊ดอิงลิช
อิงลิชชชชชชช อิงลิชชชชชชชชชช อิงลิช มีแต่สลิดเข้ามาอยู่อิงลิช
ผู้หญิงไม่ง๊าม ไม่งาม (ไม่จริ๊ง) ผู้หญิงไม่ง๊าม ไม่งาม มีแฟนเป็นสามมีผัวเป็นสิบ มีแฟนเป็นสามมีผัวเป็นสิบ”

“ว่าวที่เราชอบเล่น เช้าเย็นเราชอบเล่นว่าว....”

“สันทนาการออกไป!” เสียงพี่ชุดดำตะโกนเสียงดังพร้อมกับเรียงแถวเดินเข้าไปล้อมน้องแทนที่พวกสันทนาการที่ค่อยๆเดินออกมา

บรรยากาศที่เคยครึกครื้นหายไปหมด แทนที่ด้วยความตรึงเครียดที่สัมผัสได้ ทุกคนพร้อมใจกันเงียบจนแทบได้ยินเสียงหายใจ
น้ำกวักมือเรียกผมให้เดินไปหา แล้วเดินนำไปอีกอาคารหนึ่ง

ที่นั่นมีพวกที่ยืนเต้นล้อมน้องรวมกันอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งผมได้รู้จากน้ำอีกทีว่าเป็นปีสองทั้งหมด ทำไมเมเจอร์มึงคนเยอะวะ
ทุกคนต่างค่อยๆแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามจุดต่างๆ

“จอม นั่งรอน้ำตรงเสื่อผืนนี้นะ เดี๋ยวน้ำมา” น้ำบอกให้ผมนั่งลงบนเสื่อผืนยาวสีแดงที่เห็นได้ตามวัด บนเสื่อมีกล่องยาสองกล่องและหมอนใบเล็กวางเรียงรายอยู่

มองไปที่เสื่อข้างๆก็เห็นเป็นกลุ่มเมเจอร์จีนที่ปูเสื่อไว้ข้างกัน

น้ำและเพื่อนๆผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกลับมาพร้อมกับคูลเลอร์น้ำและน้ำแดงขวดใหญ่

เห็นน้ำบอกว่าเป็นหัวหน้าพยาบาลฝ่ายชาย ผมเองไม่นึกว่าน้ำจะได้ทำหน้าที่นี้ตอนอยู่มหาลัยด้วย เห็นเป็นพี่ฝ่ายพยาบาลมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยม ไม่เบื่อบ้างรึไงวะ

พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง น้ำก็แนะนำผมให้เพื่อนๆได้รู้จัก

“นี่เพื่อนน้ำอยู่แอคบาร์(คณะบริหาร) ชื่อจอม”

“ส่วนนี่ใบเฟิร์น ด้าย ป่าน พิม”

สาวๆยิ้มให้ผมแล้วหันไปจับกลุ่มคุยเบาๆ

คงจะจริงอย่างที่เค้าว่าสาวมนุษย์อิงค์สวย ( อิ๋ง- แต่ทำไมแอคบาร์ได้ตำแหน่งดาวมหาลับไปครองติดกันหลายปีแล้ว อ๊ะ ก็เค้าสวยกว่าไง)

น้ำเคยเล่าให้ฟังถึงเพื่อนๆในเมเจอร์อยู่เหมือนกัน ผมฟังผ่านๆบ้าง เห็นชมเพื่อนตัวเองให้ฟังว่าไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่เก่งด้วย หลายคนพูดได้มากกว่าสองภาษา และกว่าค่อนสาขาวิชาเคยไปแลกเปลี่ยนมาแล้วทั้งนั้น

“จอม รอนานหน่อยนะ เบื่อรึเปล่า” น้ำนั่งกอดเข่าคุยกับผมด้วยเสียงกระซิบ ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าเป็นการให้เกียรติรุ่นพี่ที่กำลังประเมินผลน้องอยู่ ห้ามคุยเสียงดัง

“น้ำ พวกผู้ชายหายไปไหนหมดวะ ทำไมมีแต่ผู้หญิง”

“ก็ปีน้ำมีผู้ชายประมาณยี่สิบคน อีกแปดสิบเป็นผู้หญิงหมดเลย แล้วงานแบบนี้หน้าที่สำคัญๆต้องใช้แรงผู้ชายทั้งนั้น”

“อ้าว แล้วมึงมานั่งอยู่นี่ได้ไง”

“เค้าให้หัวหน้าพยาบาลประจำอยู่ตรงเสื่อ รอพยาบาลวิ่งส่งน้องมาให้”

โห ทำงานกันเป็นระบบดีเนอะ

“น้ำ อยากรู้อ่ะ” ด้ายที่ชะเง้อคอมองไปตรงหน้าห้องบริการอยู่นานหันมาบอกด้วยสีหน้าอยากรู้สุดๆ

“ก็เดินไปฟังเสียงตรงบันไดสิ แค่อย่าเสียงดังก็พอ ไว้ถ้าน้องมาค่อยวิ่งกลับมาช่วยกันก็ได้” พอน้ำพูดจบ ด้ายก็พยักหน้าแล้วจูงมือพิมเดินไปตรงทางเชื่อมอาคารข้างร้านพัฟแอนด์พาย

ผมนั่งคุยเล่นกับน้ำไปได้ซักพัก เมเจอร์จีนก็เริ่มหิ้วปีกน้องมาวางที่เสื่อ

เสียงพี่ว๊ากน้องเสียงดังพร้อมกับเสียงตะโกนร้องเพลงประจำสาขาวิชาที่ได้ยินมาแว่วๆ

“เมเจอร์จีน เมเจอร์จีนเชียงใหม่ เราเองก็ไม่ใช่ใคร เราคือน้องใหม่ Human 555 ถึงจะสวยแต่ก็ไม่เคยอ้อนแอ้น...ผู้ชายของเรามีน้อย เฮ้ย...เรามา...ฮุ่ยๆๆ...พวกเราเด็กจีนมอชอ ปั่งๆๆ” อืม จับใจความไม่ค่อยได้ เสียงว๊ากกลบเสียงร้องเพลงเลยแฮะ

“ฮือออออออ ฮึกๆ” เสียงร้องไห้ของน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่ตรงเสื่อของเมเจอร์จีนทำให้ผมและน้ำหันควับไปดูทันที

“เฮ้ย ห้ามแกะมือน้อง เดี๋ยวนิ้วน้องหัก” น้ำรีบวิ่งเข้าไปกลางวงล้อมพยาบาลเมเจอร์จีนที่กำลังพยายามแกะมือน้องที่กำแน่น

“ต้องแกะค่ะต้องแกะ เดี๋ยวน้องจิกเนื้อตัวเอง”

“แต่เป็นไฮเปอร์ต้องให้น้องเค้าคลายอาการเกร็งเองไม่ใช่เหรอครับ”

“โอ๊ย โอ๊ย”

“เห็นมั้ยว่าน้องเจ็บ” น้ำเถียงกับคนฝ่ายนั้นแล้วก็ผละออกมาเมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะฟังกัน

“จอมไปเบิกยากันยุงที่สโมเป็นเพื่อนน้ำหน่อยสิ”

ผมลุกเดินตามน้ำที่ทำท่าถอนหายใจเดินนำไปก่อน

เราค่อยๆเดินผ่านกลุ่มพี่เสื้อดำและน้องๆที่ยืนระเบียบเชียร์อย่างเงียบเชียบจนไปถึงสนามหญ้าที่มีเก้าอี้ไม้หินอ่อนและมีป้ายPhychology และ Chinese เขียนติดอยู่แถวต้นไม้

“คี กูบอกให้มึงถ่ายรูปน้อง ไม่ใช่ถ่ายรูปน้ำ โอ๊ย กูละปวดหัว พรุ่งนี้มึงไปตีกลองแล้วเปลี่ยนให้กรีนมาถ่ายรูปแทนแล้วกัน”

ผมหันไปยักคิ้วให้กับไอ้คีที่มองตรงมายิ้มๆ มันคงไม่ได้ฟังที่เพื่อนพูดหรอก เห็นจ้องน้ำตั้งแต่พวกผมเดินผ่านแล้ว
 
แต่คราวนี้แปลก น้ำรีบเดินจ้ำผ่านไปเฉยเลย สงสัยไม่ได้ยิน

เฮ่อ กูละเอียนกับความหวานของพวกมึงจริงจริ๊ง คือ จะอธิบายยังไงดีล่ะ พวกมันก็ทำตัวเหมือนก่อนเป็นแฟนกันนั่นแหละครับ ไม่พูด ไม่บอกว่ารักยังงู้น เค้างี้นะตัวเอง ไม่พู๊ด แต่ทำเลย เอาให้เห็นกันจะๆ จับแก้มบ้างล่ะ หนักๆก็เห็นหอมแก้มกันบ้างล่ะ เล่นเอาสาวๆที่แรกๆส่งสายตาหวานๆมาให้ ช็อคค้างไปหลายราย แต่บางคนก็เห็นวี๊ดว๊ายกับเพื่อนเบาๆ ความซวยมันอยู่ที่กูนี่!

ผมเดินกับพวกมันไง เค้าก็คิดว่าผมชอบผู้ชายไปซะอย่างนั้น ที่ผมไม่มีแฟนจนทุกวันนี้ สาเหตุหนึ่งต้องมาจากไอ้สองคนนี้แน่ๆ

หลังจากไปเอายากันยุงแล้วพวกผมก็กลับมานั่งตรงจุดพยาบาลเหมือนเดิม

เห็นเสื่อเมเจอร์จีนเต็มไปด้วยน้อง ส่วนเมเจอร์อิงค์ว่างเปล่า

“ฮืออออออออ” เอ่อ น้องคนนั้นก็ยังไม่หยุดร้องไห้เลยครับ หายใจหอบๆตัวเกร็งเหมือนเดิม

“พยาบาลกันตั้งนาน ไม่เห็นดีขึ้นเลย” ใบเฟิร์นที่นั่งเฝ้าเสื่อไม่ไปไหนลุกขึ้นยืนกอดอกแล้วบ่นออกมาด้วยเสียงที่ได้ยินทั่วกันทั้งบริเวณ

ฝ่ายนั้นถึงกับชะงักไปนิดแล้วพยาบาลน้องต่อ

น้ำทำหน้าเจื่อนๆพลางบอกให้เธอใจเย็นๆ

และสุดท้ายการประเมินน้องวันแรกของเมเจอร์อิงค์ก็ไม่มีใครล้มหมอนนอนเสื่อ

ทีแรกผมก็คิดว่าน้องๆคงแข็งแรงมีจิตใจมั่นคง แต่น้ำบอกว่าทั้งคณะเนี่ย เมเจอร์อิงค์รับน้องเบาที่สุด (ผมว่าอาจจะเบาที่สุดในมหาลัยเลยล่ะ) ถ้าใครทนไม่ไหวจะซิ่วไปคณะอื่นผมก็ไม่รู้ว่าน้องจะผ่านมันไปได้รึป่าวนะ ที่สำคัญเมเจอร์นี้เค้าว๊ากน้องสุภาพมากครับ มีลงท้ายคะ ครับ ไม่มีคำหยาบแม้แต่น้อย แต่ไม่รู้ว่าทำไมน่ากลัว ออร่าที่ออกมามันยากจะบรรยาย

กว่าไอ้น้ำ ไอ้คี ไอ้ฟิวจะประชุมหลังส่งน้องกลับหอเสร็จก็ปาไปสี่ทุ่ม พวกผมถึงได้ฤกษ์ออกเดินทาง

พอพวกเรามาถึงร้านก็เห็นโต๊ะยาวต่อกันห้าหกโต๊ะ ไอ้ปอมกวักมือเรียกมาแต่ไกล

ไอ้น้ำพอเห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหาพี่ภูที่มองมายิ้มๆอยู่ตรงหัวโต๊ะ

หันมองไอ้คนที่เดินข้างๆ เห็นหนังหน้ามันเริ่มกระตุกละ ไม่รู้น้ำโกรธอะไรไอ้คี เห็นเล่นสงครามเย็นกันตั้งแต่อยู่ในรถ ผมเลยพลอยอึดอัดไปด้วย เฮ่อ

เดินถึงโต๊ะพวกผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงกันให้มากความ ช่วงนี้ห่างหายแอลกอฮอร์ไปนาน  รู้ตัวอีกทีก็มีน้ำสีอำพันอยู่ในมือกันคนละแก้วซะแล้ว

“อย่าแอ๊บชะนี” พี่ซินนี่เดินนวยนาดโบกมือมาถึงโต๊ะ ระหว่างที่พี่แกหาที่นั่ง ก็หยุดปะทะคารมณ์กับพี่พลอย

“อะไร กูไม่ได้แอ๊บ กูเป็นชะนีอยู่แล้วได้มะ”

บรรยากาศเก่าๆตอนมัธยมปลายเริ่มกลับมาเมื่อได้มารวมตัวกับกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆอีกครั้ง ทั้งโต๊ะก็มีกลุ่มพวกผม พวกพี่ภู พี่กร ไอ้ป๊อบ ไอ้แซ็ก  พี่พลอย พี่ซินนี่ก็มากับเค้าด้วย


หายไปนานมากเลยค่ะ พอดีชีวิตวุ่นวายมากๆ พอกลับมาก็สั้นไปหน่อยเนอะ :o8:

@ คุณ YELLOWSTAR ชีวิตน้องแตงกวาเป็นเหตุการณ์จริงอย่างไม่ต้องสงสัย  :o12: ไว้อาลัยให้กับน้องแตงกวาและคานต่อไปค่า :laugh3:

@ คุณ yeyong นั่นสิคะ น้องไม่น่าไปอยู่ใกล้น้องน้ำเลย ออร่าสีชมพูลอยผ่านน้องแตงกวาไปโดยไม่รู้ตัว

@ คุณ Singleman  :laugh3: ใช้แล้วล่ะค่ะ คูนี้เค้ารักกันน้าาา

@ คุณ mild-dy ตอนต่อไปมาแล้วค่ะ แต่กว่าจะมาให้คอยนานไปหน่อยเนอะ ขอโทษทีนะคะ

@ ข้าว ไม่เป็นไรจ้า อิ๋งก็ยุ่งเรื่องรับน้องมากๆเหมือนกัน เป็นแรงบันดาลใจให้ตอนพิเศษนี้ออกมาจนได้ ขอบคุณสำหรับใจที่มีให้เค้าเสมอๆเลยนะจ๊ะ  ยังไงก็ขอให้สนุกกับกิจกรรมรับน้องน้า ถึงมันจะเหนื่อยรากเลือดเลยก็ตามมมม  :a2:

@ คุณ JimmyFG ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ดีใจมากเลย ยังไงก็ฝากตอนพิเศษตอนนี้อีกตอนนะคะ

ตอนหน้าอาจล่าช้ายังไงก็ขอโทษมาล่วงหน้าด้วยนะคะ  :pig4:

 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2012 17:28:47 โดย Made »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด