“โทษครับ พี่เสือใช่มั้ยครับ” เสียงหนึ่งเอ่ยถามพร้อมส่งมือมาสะกิดหลัง
คนที่ไม่ถูกเรียกหันควับทันที “ใครอ่ะ มึงรู้จักเหรอไอ้เสือ”
เสือหันหลังกลับไปมอง เด็กหนุ่มตัวเก้งก้าง ใบหน้าโชกน้ำ เสื้อผ้ามอมแมม ส่งยิ้มกว้างมาให้พวกเขา…. ยังตัวติดกันเป็นตังเมเหมือนเดิม
“ไม่รู้จักว่ะ” เสือพูดจบก็หันหน้ากลับมากินต่อ
“โหยยยยยยยยยยย พี่เสือ ใจร้ายว่ะ” เด็กหนุ่มกำหมัดยันหลังเขาทีนึง แล้วหันไปหาตัวช่วยอีกคน “หวัดดีคร๊าบ พี่โต้” ยกมือขึ้นไหว้ไอดอลของตัวเอง
“ไหว้พระเถอะลูก ว่าแต่มึงเป็นใครวะ?” โต้ถาม
“พี่โต้ง่าาาาาาาาาาาาาา ใจร้าย ใจร้าย ใจร้ายยยยยยยยย” เด็กหนุ่มโดดเข้ารัดคอไอดอลของตัวเอง
“สัดติ กูเจ็บ! เหี้ยยยยยย ข้าวกรู…….” โต้รีบประคองกล่องข้าวที่เทเอียงคืนกลับมา เสียเสบียงไปครึ่งหนึ่งแต่ยังดีที่เหลืออีกครึ่ง
“มึงเก็บให้เกลี้ยงเลย สกปรกพื้นที่เค้า” เสือจัดหนึ่งโบกให้เด็กหนุ่ม
ติรับคำหน้าบาน อ้อมมาข้างหน้า เก็บเศษข้าวจำนวนหนึ่งที่หกอยู่กับพื้นพร้อมกับถามสารทุกข์สุกดิบของไอดอลตัวเองไม่หยุดปาก ไอ้โต้ก็ตอบบ้าง ยียวนบ้างไปตามเรื่องของมัน ระหว่างนั่งกินข้าว ติมันก็จ้อจนเสือได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้เกือบหมด
ติสอบเข้ามหาลัยเดียวกันกับกร แต่อยู่คนละคณะ พอพ้นปีหนึ่งติก็มาอยู่หอนอกกับกร ตอนนี้เรียนปี 4 กันแล้ว เรียนหนักมากแต่ไม่เป็นปัญหากับกรหรือติ เสียแค่ว่านอนน้อยเพราะอาจารย์ส่งงานมาให้ทำกันแบบไม่ขาดมือ ติบิกว่าพี่ทศมาหาบ้าง เวลาที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่ไม่บ่อยเหมือนช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเข้ามหาลัย
วันนี้ติมากับแฟน กับกร แล้วก็เพื่อนในเอกของกร….. เมื่อนกขุนทองเล่ามาถึงตรงนี้ เสืออยากถามใจจะขาดว่า …
“เพื่อนสนิทมึงมีแฟนกับเค้ามั้ยล่ะ? พาสาวมากรอกทรายด้วยรึเปล่า?” เสียงเข้มเอ่ยถาม
ไม่ใช่เสียงของเสือ แต่พูดเหมือนที่เสือคิดเป๊ะ!!! ไอ้โต้มันมีองค์ *0*
“ไม่ยักกะมีอ่ะพี่ ก็แนะนำให้หลายคนนะพี่โต้ แต่ไอ้กรมันเอาแต่เรียนอ่ะ ดูมันเฉยๆ กับเรื่องความรักมาก” ติบอก
เสือแอบถอนหายใจไม่ให้ใครสังเกตุเห็น… กรไม่มีแฟน แต่ใช่ว่ากรจะยอมมาเป็นแฟนของตัวเอง
กรจะยอมคบกับเสือได้ยังไง ในเมื่อเสือนี่ล่ะที่เป็นฝ่ายปฏิเสธกรเมื่อครั้งก่อน ไม่สิ จะเรียกว่าปฏิเสธกันก็ไม่ได้ ก็ตอนนั้น…..
***********************************
วันนึง พวกที่เคยมีเรื่องกับไอ้ทศพาพวกมาพาติกับกรไป ทศรู้คร่าวจากหน่วยสอดแนมของมันคนนึง เราต่างก็วิ่งวุ่นตามหาตัวน้องๆ กันให้ควัก ทั้งที่ระวังตัวกันก็แล้ว ยังไม่วายเจอเหตุนี้เข้าจนได้ วันนั้นหากันอยู่นานจนเกือบเที่ยงคืน สายไอ้เจตก็โทรเข้ามาที่เครื่องเสือ
“เออ ทางมึงว่าไงวะ” เสือกรอกเสียงถาม
“เออ กูเจอเห็บตัวนึง ไอ้โต้มันกำลังเค้นสถานที่อยู่ เดี๋ยวคงได้ มึงมาหากูที่xxxxx อย่าเพิ่งบอกพวกไอ้ทศ เอาแค่กู มึง ไอ้โต้พอ เผื่อแม่งอยากตามมาล้างแค้น จะได้ไม่โยงไปหาไอ้กรอีก” เจตบอก
เสือรีบขี่มอเตอไซด์มายังที่ที่เพื่อนบอก ยังไม่ทันจอดรถดี เพื่อนทั้งสองก็เดินพริ้วออกมาจากด้านใน
“อยู่ xxxxxxx ไม่รู้ถึงสิบคนมั้ย มึงจะไปรถไอ้เจตหรือเอารถมึงไปล่ะ” โต้บอกสถานที่ที่เราค้นหากันมาเกือบค่อนคืน…. ไอ้โต้เลิกค้นตามที่ต่างๆ หันมาตามหาคนที่น่าจะเกี่ยวข้องแทน แต่พวกมันก็เหมือนนกรู้ เก็บตัวกันเงียบ
โชคดีที่ไอ้เจตเคยไปสีหญิงคนนึงที่คบกับหนึ่งในพวกมัน โต้ให้เจตโทรเรียกตัวผู้หญิงคนนั้นออกมา ไอ้โต้ส่งไอ้เจตเป็นเครื่องเซ่นเล็กน้อยก็ได้ตัวหนึ่งในพวกมันมาคนไอ้โต้ก็ไปขอร้องงามๆ ด้วยหมัดและตีน เจตบอกว่าเผลอลืมห้ามไอ้โต้ ไอ้นั่นเลยสลบ ต้องรอสักพักใหญ่ถึงฟื้น
“แม่งเสียเวลาฉิบ เสือกสลบทำแม่งไรวะ! บอกกูมา มึงเอาน้องกูไปไว้ไหน? จำไว้ หากมึงสลบอีกที กูจะตัดน้องชายมึงตอนนั้นล่ะ”โต้บ่นอุบ…..
ใช่เรียกว่าบ่นน่ะถูกแล้ว ไอ้โต้มันบ่นแบบนี้เป็นปกติ ส่วนเรื่องที่จะทำตามที่พูดหรือไม่นั้น------แล้วแต่อารมณ์มัน
ด้วยความห่วง “น้องชาย” พวกเราจึงได้ชื่อสถานที่ที่พวกมันเอา “น้องชายเรา” ไป
ก่อนเข้าไป พวกเราเอาเครื่องทุ่มแรงติดตัวไปนิดหน่อย ก็โอเคละ พวกมันก็สิบคนได้ เสือรับไปสอง นอกนั้นปล่อยไอ้เจตกับไอ้โต้ออกกำลังกันไป เสือจัดการส่วนของตัวเองเสร็จก็คอยดูเชิงให้หมาบ้าสองตัวต่อ เขาเห็นแล้วว่าน้องๆ ยังอยู่ดีปลอดภัย ท่าทางเหมือนกลัว แต่ไม่มีบาดแผลหรือรอยฟกช้ำ….ก็ปล่อยไปก่อน กันหมาบ้าสองตัวนี่ “ทำเกิดเหตุ” สำคัญกว่า
ขากลับ เจตกับโต้รับหน้าที่ไปส่งติกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้พ่อแม่ติไม่อยู่บ้าน เลยเล่าเรื่องเบื้องต้นให้พี่สาวติฟัง ขอโทษพี่สาวเค้าแทนพ่อแม่ พี่สาวติไม่ติดใจอะไร บอกแค่ว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก หากเป็นอะไรมาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องสนุก
เสือรับหน้าที่พากรกลับบ้าน แต่พอโทรไปหาทศ กรกลับเข้าบ้านไม่ได้ เพราะทศโกหกแม่ไปว่า น้องไปนอนค้างกับเพื่อน เสือเลยต้องพากรกลับไปนอนที่บ้านตัวเองก่อน
คืนนั้นอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ ….. กรร้องไห้ ทั้งๆ ที่ก่อนนอนก็ถามกันดีแล้วว่าเป็นยังไง กรก็ว่าโอเคกลัวนิดหน่อย แต่เหนื่อยมากกว่า เสือเห็นน้องไม่เป็นอะไรมากเลยปิดไฟนอน คิดไม่ถึงว่า.... เฮ้อ เจอแบบนั้นไป ใครจะไม่กลัวล่ะวะ คนยิ่งใสซื่อด้วย พี่มันก็ไม่อยู่ ลูกคนเดียวอย่างเสือทำอะไรไม่ถูกไปเลย
นอนฟังเสียงสะอื้นได้พักใหญ่ เสือเริ่มรำคาญ แต่ก็ไม่รู้จะปลอบยังไง เขาไม่เคยปลอบใจใคร.....
เสือยื่นแขนไปคล้องตัวน้องชายเพื่อนมากอดไว้ มือโอบเด็กชายเข้ามากระชับตัว และลูบหลังหัวของเด็กชายเบาๆ เด็กชายยิ่งปล่อยโฮมากขึ้น แต่ไม่ได้ร้องเสียงดัง
ตอนแม่ของกรเสีย เสือที่อยู่ข้างบ้านอาสาน้าอรไปช่วยจัดการธุระในงานศพให้ด้วย ครั้งแรกที่ได้เห็นน้องชายเพื่อนเขาใจกระตุกวูบ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ ต่างกันแค่สีของตา กับความยาวของทรงผม ทศชอบตัดสกรีนเฮดเหมือนไอ้โต้ สองคนนี้ไม่ชอบไว้ผมยาว ภาพที่น้องชายไอ้ทศวิ่งโผมาหาไอ้ทศ กอดไอ้ทศร้องไห้ไม่ยอมปล่อย ร้องจนหลับไป
“ใจว่ะมึง ขอบใจนะเว้ยที่มาช่วยแม่กูจัดงาน” ทศรับถ้วยข้าวต้มไปถือ แล้วจ้วงตักเข้าปาก
“เออ มึงก็ดูน้องมันไป เดี๋ยวกูทำให้.... มันไม่มีใครเลยเหรอ ญาติฝ่ายแม่มันล่ะ” เสือนั่งลงขัดสมาธิตรงข้ามกับทศ
“ไม่มีแล้วว่ะ แม่ว่าทางนั้นเค้าตัดญาติกันไป เพราะคุณเจนเค้ามาแต่งกับพ่อกู........เสือ ถ้าน้องเค้ายอมไปอยู่กับกูกับแม่กู มึงว่ากูจะดูแลมันได้มั้ยวะ ตัวนิดเดียว ไม่ดื้อ แต่เก็บความคิดน่าดู นี่ถ้ากูไม่รู้จักไอ้ห่าเจตมาก่อน กูคงไม่กล้ารับมันสนิทกันขนาดนี้หรอกนะ” ทศพูดพลางวางถ้วยข้าวต้มที่หมดไปอย่างรวดเร็วลง เสือยื่นแก้วน้ำไปให้ ทศก็รับไปพร้อมว่า ใจว่ะ
“เลือกทางที่ดีที่สุดให้มันละกัน คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่อยาก” เสือบอก
“เฮ้ย กูขอโทษ มึงอย่าคิดมากนะเว้ย!” ทศนึกขึ้นได้ว่าคำพูดตัวเองอาจไปสะกิดต่อมของเพื่อนได้
เสือมีปัญหาทางบ้านคาราคาซังมานาน แต่เพราะเป็นเด็กมันจึงต้องไปอยู่ในที่ที่ผู้ใหญ่ให้ไป ความอึดอัดจากปัญหาของผู้ใหญ่เคยทำให้มันแทบบ้าไปช่วงแรๆ แต่แม่ของทศ เสนอให้เสือมาให้บ้านของเขาเป็นที่พักพิงใจได้ เวลาที่เบื่อจริงๆ เท่านั้น นานวันไป ถึงเจอกับปัญหาทุกวัน แต่คนคนหนึ่งมีที่พักใจ เขาก็สามารถอยู่ร่วมกับปัญหาไปได้ อย่างไรเสีย นั่นก็พ่อแม่ถึงตัดขาดแต่ แต่ใจมันก็ยังนึกห่วง
ในกลุ่ม ทศจึงสนิทกับเสือมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่เพราะต่างเจอมรสุมชีวิตมาพร้อมๆ กันมากกว่า เพื่อนที่คบกันอยู่ตอนนี้ ถึงบ้าและซ่าเกินสายตาผู้ใหญ่ แต่กลุ่มของพวกเขาก็มีลิมิตไม่ทำเรื่องที่เกินเลย ทั้งผิดกฏหมาย และผิดศีลธรรม พวกเขาแค่ไม่ยอมใคร และกล้าที่จะปกป้องตัวเองและเพื่อนด้วยกำลังที่มีทั้งหมด.....ก็เท่านั้น
เพราะเห็นความสับสนซับซ้อนของพวกผู้ใหญ่ พวกเขาทั้งกลุ่มจึงตระหนักถึงอนาคตเร็วกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันที่ เรียนเล่นไปวันๆ
*****************
แสงแดดแยงตา เสียงนกกาเหว่ามาร้องที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงนอกหน้าต่าง รุ่งสางแล้ว แต่บรรยากาศยังน่านอน
กรลืมตางัวเงียขึ้นมา รู้สึกสงสัยว่าเสียงนกกาเหว่าดังมาจากไหน ที่บ้านเขาไม่มีนกแบบนี้ กรลืมตามาเห็นเสื้อสีขาวเนื้อบาง รู้สึกถึงท่อนแขนหนักๆ ที่พาดอยู่บนตัว ยังงัวเงียอยู่ไม่หาย อากาศก็เย็นเจี๊ยบ กรจึงซุกเข้าไปกอดพี่ชายแล้วนอนหลับต่อ
พี่ทศใจดี พี่ทศเหมือนพ่อ กรชอบเวลาที่พี่ทศเอามือวางบนหัว พ่อเองก็ชอบทำแบบนั้น หากกรจะร้องไห้ พ่อชอบเอากรเข้าไปกอดไว้ ปล่อยให้กรร้องให้เต็มที่ เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไร อยากอะไร ไว้ถามกันทีหลัง พี่ทศก็ทำเหมือนกับพ่อ จนตอนนี้ถึงกรโตแล้ว แต่หากไปขอนอนด้วย พี่ทศก็จะนอนกอดกรเสมอ
ก่อนนี้เคยน้อยใจคนชื่อทศ พ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ถามทีไรแม่จะบอกว่า พ่อไปหาพี่ทศ
ตอนนั้นกรยังเด็กมาก รู้แต่ว่าแม่บอกว่าว่าตัวเองมีพี่ชาย แต่แม่ของพี่ชายไม่ใช่แม่ เป็นคนอื่น พ่อจึงต้องไปหาพี่ทศบ้าง แต่กรน้อยใจ ที่พ่อมีเวลาอยู่กับกรน้อยมากๆ พี่ทศเอาพ่อไป พี่ทศใจร้ายไม่ยิมแบ่งพ่อให้กรเลย ครั้งหนึ่งกรเคยโวยวาย แต่แม่บอกว่า อย่าพูดแบบนี้กับพ่อ พ่อจะเสียใจ พ่อรักกรมาก และพ่อก็รักทศมากด้วย
“หากน้องกรเป็นลูกพ่อ แล้วพ่อไม่รักน้องกรเลย ไม่มาหา ไม่มาดูแล น้องกรเสียใจมั้ยคะ?” แม่ย้อนถาม
เสียใจสิ ตอนนี้กรก็เสียใจ แต่กรก็เกลียดคนชื่อทศอยู่ดี
แต่นั่นก็เป็นความคิดช่วงที่ก่อนพ่อจะเสีย หลังจากที่พ่อเสีย กรก็ไม่ได้เกลียดคนชื่อทศอีกเลย
พ่ออยากให้ลูกๆ รักกัน เป็นพี่น้องที่ดูแลกัน.... แม่บอกกรก่อนที่แม่อรกับพี่ทศจะมางานศพของพ่อ แรกเลยที่เห็นหน้าพี่ทศ กรตกใจ ใครก็ไม่รู้ หน้าตาเหมือนกันเลย แถมเหมือนพ่อมากกว่ากรเสียอีก กรคิดแบบเด็กๆ ว่าตัวเองเกลียดขี้หน้าพี่ทศ เพราะพี่ทศชอบยึดพ่อไป อีกฝ่ายก็ย่อมไม่ชอบเขาด้วยเหมือน เพราะตอนนี้พ่อย้ายมาอยู่กับกรและแม่ของกรแล้ว ไม่ได้อยู่กับแม่อรและพี่ทศเหมือนเดิม
ไม่รู้ยังไง พอคนชื่อทศยื่นมามาหา พอสอดมือไปใส่ในมือเค้า กรกลับอุ่นใจ คนคนนี้น่าสนใจดี ไม่พูดมาก ไม่เซ้าซี้กร แต่คอยมองตามกรตลอดเวลา ช่วงเวลาไม่นานระหว่างจัดพิธีศพให้พ่อ กรพบว่าพี่ชายคนนี้ ทำอะไรหลายอย่างเหมือนพ่อ ด้วยความเสียใจที่พ่อไม่อยู่แล้ว กับการขาดความรักที่ไม่เคยได้เต็มๆ กับพ่อ เมื่อทศไม่ว่าอะไร กรจึงอ้อนทศเต็มที่ แล้วทศก็ให้กรเต็มที่
“มีพี่น้องน่ะมันดีนะ ไว้ต่อไปลูกจะรู้เอง” พ่อเคยบอกกรไว้อย่างนั้น แล้วก็จริงอย่างที่พ่อพูด
พี่ทศเป็นพี่ชาย พี่ทศเป็นตัวแทนพ่อ พี่ทศเป็นเพื่อน มีพี่ทศกรหายเหงาขึ้นเยอะ ยิ่งพอแม่เสียกรยิ่งรักพี่ทศมากขึ้น เอาความรักที่เคยให้แม่มาให้พี่ทศด้วย หากไม่มีพี่ทศ กรไม่มีใครอีกแล้ว แม่อรไม่เหมือนพี่ทศ ไม่มีใครเหมือนพี่ทศ
“อืออออ” เอวถูกรวบไปรัดแน่นขึ้น จนกรที่หลับอยู่รู้สึกอึดอัด มือที่วางอยู่ตรงช่วยเอวเริ่มเลื้อยมาตรงก้นของตัวเอง มันเคลื่อนไหวแบบแปลกๆ เสียงลมหายใจหนักดังเข้ามาในหู แรกเริ่มคิดว่าเขาคงละเมอ ทว่า กรเริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ ก็เมื่อแท่งแข็งๆ เสียดสีกับหน้าขาของตัวเอง
กรตัวแข็งทื่อ พอได้สติจึงเงยหน้าขึ้นไป !!!!! พี่เสือ.......... แล้วพี่ทศไปไหน?
กรตื่นเต็มตา พอเห็นอีกฝ่ายเหมือนหลับลึก ไม่ได้ลักหลับ จึงพยายามยันอกจะออกไปจากกรงแขนของเขา ทว่าเรี่ยวแรงที่ใช้กลับไม่เป็นผลเลย กระทั่งเสียงอึมอัมดังขึ้น ต้นขากรรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น กรสะดุ้งเฮือก อ้าปากร้องเรียก “พี่......เสือ......” คำว่าพี่ติดอยู่ในลำคอ แต่คำว่าเสือดังออกมาเป็นคำ
“อื้อ...... ทศ.......” เสือครางเรียกคนในฝัน พร้อมก้มหน้าลงหอมไปทั่วหน้าของกร
กรตาแข็งค้าง----- ทศ พี่ทศ....... นี่พี่เสือคิดกับพี่ทศแบบนี้เหรอ?
กรอึ้งกับสิ่งที่ได้รู้ สักพักพอพี่อารมณ์ร้อนของพี่เสือสงบลง กรงแขนเหมือนคลายตัว กรขืนตัวออกจากที่ตรงนั้น ลุกพรวดออกมาจากเตียง มองหาห้องน้ำ พอเจอก็วิ่งตื๋อเข้าไป กรนั่งทำใจสักพักอยู่ในนั้น รวมรวบความคิดว่าจะทำไงต่อ ระหว่างที่คิดตาก็เลื่อนลงมาที่ต้นขา รอยเปียกเป็นนวงหนึ่งแสดงหลักฐานว่า
“ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? ไอ้พี่เสือ! ไอ้ลามก!” กรครางพลางถอดกางเกงล้างคราบนั้นออกจากผิวเนื้อ ถ้าไม่ล้างคราบที่ติดกับกางเกง กรก็ใส่มันคืนไม่ลง ว่าแล้วก็เอากางเกงมาขยี้คราบนั้นออก ระหว่างมองดูว่าคราบนั้นขยี้ออกมาหมดรึยัง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ไอ้กร กูปวดขี้ ออกมาเร็ว!” เสียงทุบประตูปึงปังดังขึ้นไม่ขาดช่วง
กรรวบรวมความกล้า เปิดประตูไปเผชิญหน้ากับความจริง.... ทันทีที่เปิด เขาก็โดนดึงหวือออกมาจากห้องน้ำ ฝ่ายที่ดึงแรกตัวเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูตามเสียงปังใหญ่
กรเดินไปนั่งที่เตียงหน้าเหวอ จะเอาไงต่อ.....คงต้องดูท่าทีของอีกฝ่ายก่อน จากที่จำได้ เหมือนอีกฝ่ายทำไปด้วยความละเมอระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“พี่ทศ มารับก่อนหน่อยดิ จะกลับบ้าน” กรร้องหาพี่ชาย
พอพี่ชายซักถามว่าเป็นไงบ้าง รู้สึกไม่ดีอะไรมั้ย เรื่องของเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัว โดนจับตัวไปมันก็น่ากลัว เมื่อคืนยังนอนร้องไห้เลย แต่ว่า........... เรื่องเมื่อเช้ามันปลุกขนแขนให้แสตนอัพได้มากกว่า พี่ทศเอากรกลับบ้านทีเหอะ ไม่อยากรับรู้เรื่องไอ้พี่เสือง่า *0*
***************[/size]
มีต่อ Reply #59