เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว  (อ่าน 74185 ครั้ง)

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
เห็นขึ้นวรรคสาม นึกว่าจบแล้ว


ยังมีต่อ    จะบอกว่ารออยู่

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แอบค้างและลุ้น อยากรู้ว่าเสือทศ หรือเสือกร กันแน่

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โถ ๆ พี่เสือได้แต่จด ๆ จ้อง ๆ ไม่ลงมือซะที
งานนี้พลาดจากพี่ได้น้องชัวร์

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่าติดตามม๊ากกก
ชอบโต้อ้าาา

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

วรรคสี่ (จุดหนึ่ง)




เสือครุ่นคิดว่าจะจัดสนามรบสงครามเย็นในครั้งนี้เช่นไรดี….

ยังมีเวลาอีกอาทิตย์กว่าที่ข้าศึกจะเคลื่อนทัพมาถึงเมืองหลวงของประเทศไทย ทว่า ขณะที่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร จู่ๆ วันนั้นก็ถูกร่นมาให้ถึงเร็วขึ้น น้องกรชักธงรบแล้ว แต่ไอ้เสือยังไม่ได้ปักลายธงทัพบกของมันเลย!!!

“โทษทีมึง กูจำเป็นว่ะ รบกวนมึงป่าววะ?” ทศโอบแขนมากระชับไหล่เสือเข้าไปหา

ตามกำหนดเดิมทศจะมาส่งกรใน 4 วันข้างหน้า แต่บังเอิญวันนั้นทศต้องพาแม่ไปงานแต่งงานของญาติที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่สนิทกันมาก แม่จึงต้องไปอยู่ช่วยงาน พอหลังจากเสร็จงานแม่ก็ต้องทำธุระเรื่องของผู้ใหญ่ ซึ่งไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่วัน เพราะธุระนี้ต้องรอญาติหลายคนมารวมกันให้ครบ แต่ต่างคนต่างกระจัดกระจาย งานการลูกเต้าก็เยอะ ปลีกตัวลำบาก  แม่ซึ่งว่างเฉพาะช่วงนี้จึงจำเป็นต้องอยู่รอแต่ละคนมาที่ตรงนั้น ดังนั้นทศจึงต้องมาส่งกรเร็วกว่ากำหนด

กรตวัดตาคมกริบมาหาเสือ แล้วหันไปสะกิดพี่ชายตัวเอง “กรอยู่หอได้นะพี่ทศ กรไม่หนีเที่ยวหรอก พี่ทศไม่เชื่อน้องเหรอ?”

ทศรั้งแขนที่โอบบ่าเสือคืน หันตัวไปหาน้องชายที่นั่งอยู่อีกข้าง “พี่เชื่อน้องพี่ แต่พี่ห่วงน้องพี่มากกว่า นะ ขอความสบายใจพี่หน่อย ขอพี่เอาแต่ใจสักเรื่องนะ”

พูดแบบนี้เป็นใครจะไม่ให้ กรรับปากพี่ชายอย่างเสียมิได้

คืนนั้นทศและเสือไปฉลองกับเพื่อน (ฉลองที่เพื่อนได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา) กรก็ไปด้วย

ด้วยความดีใจ ต่างก็กรอกน้ำชาเข้าปากแบบไม่กลัวหมด พอน้ำชาเข้าปากมากเข้า ความครึกครื้นก็คืบคลานเข้ามา ความลับอะไรก็ตามที่ต่างคนต่างรู้ เริ่มขุดเอามาแฉ กรขำน้ำตาเล็ด
กระทั่งกรได้ยินเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ใช่ความลับสำหรับคนในวงน้ำชา กรเริ่มยิ้มไม่ออก
ใจหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองตีความความหมายผิดไปหรือเปล่า ไอ้จะให้ถามตอนนี้ก็ไม่ได้ เสียมารยาทเกินไป กรจึงเก็บความสงสัยเอาไว้กับตัวก่อน…. ไว้ค่อยถามพี่ทศตอนกลับก็ได้

กลางดึกของคืนนั้น

เสือที่นอนแผ่หลาอยู่ข้างเตียง นอนสลบด้วยฤทธิ์น้ำชา กรนเสียงไม่เบาไม่ดัง แต่ชวนให้รำคาญสำหรับกร

พ่อไม่เคยกรน พี่ทศไม่นอนกรน กรไม่เคยเจอใครนอนกรนมาก่อน ไอ้พี่เสือนอนกรน…ได้ยินแล้วรำคาญหูที่สุด ไม่ชอบเลย ไม่ได้อยากเกลียดพี่เสือ หากไม่เคยรู้เรื่องนั้นกรคงไม่รู้สึกแบบนี้ ก่อนนี้พี่เสือก็เหมือนพี่ชายของกรกลายๆ เพราะพี่เสือสนิทกับพี่ทศมาก ไม่มีพี่ทศอยู่กรจะมีพี่เสือมาอยู่ด้วยแทน

อยู่กับพี่เสือก็สนุกดี จัดอยู่ในลำดับ “ชอบ” สำหรับกร พี่เสือฮาแบบซื่อๆ สมัยที่เพิ่งย้ายมาอยู่กับพี่ทศและแม่อร กรชอบเล่นกับพี่เสือ พี่เขามีเกมแปลกๆ ของน่าสนุกมาให้เล่นให้ดูไม่ขาด

นอกจากความรักและความใจดีของแม่อรกับพี่ทศที่ให้กรแล้ว สิ่งที่เสือทำให้ก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยให้กร คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เร็วขึ้น

อยู่กับพี่เสือก็สบายใจดี… แต่รับไม่ได้กับวันนั้น กรรู้ตัวว่าไม่ควรไปรู้สึกกับพี่เสือแบบนั้น ความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่พี่เสือก็ไม่ได้ไปบังคับเอาอะไรกับพี่ทศ ทำตัวเหมือนเพื่อนสนิทกันมาตลอด…. ทำไมถึงรับไม่ได้ ทำไม ทำไม

ถามไปก็ไม่คำตอบ กรมีแต่ความรู้สึกว่า “ไม่ชอบพี่เสือแบบวันนั้น” เท่านั้น


***********************


สงครามเย็นที่กรทำกับเสือ เริ่มหมดกำลังพลเมื่อการเรียนพิเศษดึงดูดความสนใจของกรไปเกือบ 100 % สิ่งใหม่น่าเรียนรู้ มีเรื่องให้ศึกษาได้ตลอดเวลา กรสนุกกับการเรียน เหมือนเสือสนุกกับ “วงษ์คำเหลา” ดูที่ฉายในทีวีทุกวันไม่พอ ว่างๆ ยังมาดูย้อนหลังในคอมอีก พ่อเจ้าประคุณเสือเขามีไอดอลคือพี่หม่ำ

ถึงรำคาญ “วงษ์คำเหลา” มากแค่ไหน คนอาศัยก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า เอาหูฟังยัดใส่รูหู…. ไม่ชอบเลย ให้ตายเหอะ กรชอบอ่านหนังสือแบบเงียบๆ อยู่บ้าน เวลาอ่านหนังสือจริงจังเปิดเพลงกรยังไม่เปิดฟัง ปิดประตู งับหน้าต่าง ให้ห้องเงียบให้ได้มากที่สุด ซึ่งแม่อรกับพี่ทศรู้ดีและจะทำอะไรเบาๆ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกรปิดประตูห้องและหน้าต่าง

แรกเริ่มเดิมที กรเกรงใจมาก เพราะพี่ทศกับแม่อรไม่ใช่คนพื้นเพนิสัยโหวกเหวกเลย เสียงนิดๆ หน่อยๆ กรไม่ถือ พอกลั้นใจบอกพี่ทศ พี่ทศกลับบอกว่า “คิดมากน่า เราก็อยู่กันแค่นี้ ไม่เห็นอึดอัดอะไรเลย ตอนพ่ออยู่พี่ก็ต้องทำแบบนี้ เสียงดังมากไม่ได้หรอก พ่อชอบเอางานมาทำที่บ้าน”

คิดมาถึงจุดนี้ กรก็รับฟัง จริงอย่างที่พี่ทศบอก…. ตอนที่พ่อย้ายมาอยู่บ้านกรและแม่ กรก็ต้องทำอะไรเบาๆ เวลาที่พ่อร้องบอกว่า “เดี๋ยวพ่อขอไปทำงานหน่อยนะ” …. พ่องานเยอะ แต่พ่อก็ต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านด้วย หากพ่อมีสมาธิ งานจะเสร็จเร็ว และออกมาเล่นกับกรได้นานขึ้น

“พี่เสือ วันนี้กรขอแวะไปห้องสมุดxxxx นะ” กรโทรบอก พี่ทศกำชับว่า หากไม่ให้พี่เสือไปรับไปส่ง จะไปไหนมาไหนต้องโทรรายงานพี่เสือตลอด ไม่งั้นจะไม่ปล่อยให้ไปคนเดียวเด็ดขาด ---- หากอยากได้อิสระ กรต้องลดธงลงครึ่งเสา!!! ไม่ชอบเลย!

“ไปทำไม? ไปกลับใคร?” เสือถาม ก่อนนี้มีแต่ไปเรียน กินข้าว ไม่ก็ซื้อของ แล้วก็กลับมานั่งอ่านหนังสือ กินข้าว อาบน้ำ นอน ชีวิตประจำวันกรวนเวียนอยู่แค่นั้น เสือเห็นแล้วเครียดจึงต้องคลายเครียดด้วย “หน้าพี่หม่ำ”

“ไปคนเดียว อยากไปยืมหนังสือครับ ไม่อยากซื้อ” กรบอก

“อื้ม ยืมเป็นเหรอ?” ห่วงน้องต่อมพี่ชายทำงาน

“มีปากครับ ถามได้” กรแอบถอนหายใจในใจ

“เออ อย่าให้รู้ว่าแอบหนีไปเที่ยว!” ปากมันดี!!!!!! ไม่น่ารักเลย ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่น่ารักเหมือนแต่ก่อนฟ๊ะ!

เสือตัดสายแล้วลุกขึ้นไปเอาถุงข้าวมันไก่ที่ซื้อเตรียมไว้เข้าไปเก็บในตู้เย็น เดินเลยไปที่เตาไมโครเวฟ เอาข้าวหมูแดงที่แกะใส่จานเตรียมไว้ เข้าไปอุ่น

ทุกครั้งเสือจะรอกินข้าวกับกรตอนบ่าย ปิดเทอมเสือถือว่าเป็นวันพักผ่อน ใช้ชีวิตชิวๆ ดูหนัง ฟังเพลง นั่งเล่น นอนเล่น…..ช่วงเช้าจะตื่นมาทีนึง ออกไปซื้อของกินมาให้กรกินก่อนออกไปเรียนพิเศษ นั่งหาวน้ำตาเล็ดดู “กิน อยู่ คือ” รอกรกินข้าวเช้า และปิดประตู หลังจากที่กรออกไปแล้วเท้าจะถลาราวกับเหาะได้ไปทุ่มตัวลงเตียง….ฝันถึงทศต่อ ฮา------

แรกๆ กรไม่ยอมคุยด้วยเลย ตั้งป้อมแน่นหนา แต่เสือก็ไม่สน สงครามเย็นมาก็สงครามลูกกวาดไป

เด็กชอบกินลูกกวาด เสือเห็นกรติดทศ เลยตัดสินใจทำแบบไอ้ทศทำกับน้องชายมัน บ้านอยู่ใกล้กัน เป็นเพื่อนสนิทกัน บ้านไอ้ทศเป็นหลุมหลบภัยให้เสือ เสือเลยเห็นทู๊กอย่างที่ทศมันทำให้กร ซึ่งก็ไม่ยาก…. แค่นี้เสือทำได้

ไม่นานนัก กรก็เจาะหน้าต่างออกของป้อม ต่อมาก็เป็นประตู จนมาถึงตอนนี้ป้อมนั้นกลายสภาพเป็นรั้วเหล็กโปร่งๆ อันหนึ่ง แต่ได้เท่านี้ก็เกินพอแล้ว

เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกที ข่าวในพระราชสำนักมาแล้ว เสืองัวเงียลุกขึ้น มองไปรอบห้อง ไร้วี่แววของกร……???!!!!!!!!!!!!!

“ฉิบหายแล้วมึง” เสือกดโทรศัพท์ ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู

กึก….. “มึงอยู่ไหน?” เสือตวาดเสียงดังใส่ปลายสาย

“บนรถเมล” เสียงที่ตอบกลับฟังดูปกติ เหมือนปกติ

“ทำเหี้ยไรอยู่? ไหนบอกจะไปยืมหนังสือ? นี่มันกี่โมงแล้ว?” เสือใจหายวาบ

“กรขี้เกียจหอบมา มันหนัก หลายเล่มอ่ะ เลยนั่งอ่านที่ห้องสมุดเลย” กรแอบถอนหายใจในใจ

ต้องไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเพราะทนรำคาญเสียงเจ้าของห้องไม่ไหว มาเรียนทั้งที กรอยากได้ความรู้ไปเยอะๆ ไม่อยากให้พี่ทศเหนื่อยฟรี ไม่อยากให้แม่อรจ่ายเงินไม่คุ้ม…ความอึดอัดของผู้อาศัย ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นยังไง มาซึ้งก็ตอนนี้เอง

“ถึงไหนแล้ว?” เสือลดเสียงลงแต่น้ำเสียงยังฟังดูเข้มอยู่

“ยังอยู่ xxxxx ครับ รถติดไม่ค่อยขยับ” กรบอก เวลาเลิกงานของคนเมืองหลวงเป็นแบบนี้นี่เอง ทางที่เคยนั่งรถมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วันนี้เกือบชั่วโมงแล้วยังต้องไปต่อ

มลพิษทางอากาศทำให้กรสมองตื้อและเริ่มปวดหัว มาเจอมลพิษทางเสียงจากพี่เสือไปอีก กรเริ่มหายใจลำบากขึ้นมาเล็กน้อย….เครียดนะกับการเป็นผู้อาศัย เพลียกับการจราจร ท้องก็หิวมากเพราะกะจะมากินข้าวที่หอ ขอความสงบให้กรบ้างได้มั้ย?

‘อยากกลับบ้านอ่ะพี่ทศ ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่ชอบที่นี่ ไม่ชอบพี่เสือตะคอก’ กรร้องอยู่ในใจ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เมื่อรถเริ่มเคลื่อนต่อไป มือกรกำที่จับไวเแน่นทรงตัวให้มั่นท่ามกลางฝูงคนที่เบียดเสียดกันชนิดสนิทแนบเนื้อตัว….. ใกล้ถึงแล้ว



มีต่อ  Reply #67  :oni1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2012 23:44:29 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
แล้วทำไมมันไม่พูดกันเนี่ย

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
วรรคสี่ (จุดสอง)


รถเมลจอด ประตูเปิดอ้า ผู้ที่จะลงเบียดเสียดออกมาทางหน้าประตู เด็กหนุ่มต่อแถวเดินลงมาด้วยความโล่งอก

ทันทีที่ก้าวห่างออกมาจากตัวรถมือหนึ่งคว้าเข้าที่ต้นแขนเด็กหนุ่ม คนตัวสูงฉุดลากอีกฝ่ายให้ถลาไปตามแรงได้โดยง่าย

ทั้งสองไม่พูดอะไรกันสักคำ…จนไปถึงหอพัก

ปั๊ง! ประตูกระแทกปิด

กรสะดุ้ง!

มือที่ราวกับคีบบีบต้นแขนเขาจนเจ็บสะบัดออกไป เสียงถอนใจพรืดหนักดังตามมาให้ได้ยิน เสือเดินกระแทกเท้าไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำอัดลมออกมาสองขวด เดินเอาขวดหนึ่งมายื่นให้กร กรรับไปถือ เสือเดินเลยไปนั่งหน้าทีวี ทิ้งให้กรยืนแบบไม่รู้จะทำอะไรต่ออยู่ที่เดิม

พี่เสือโกรธ กรรู้ แล้วจะให้ทำไง?

กรเดินไปที่โต๊ะกินข้าว วางขวดน้ำอัดลมลง ก้มหน้าคิด……. สักพักใหญ่

กระเป๋าถูกวางลงบนเก้าอี้ นาฬิกาถูกถอดไว้ที่โต๊ะ รองเท้าที่เผลอใส่เดินเข้ามาถูกถอดวางบนชั้นรองเท้า แล้วขาทั้งสองข้างก็พาตัวเขาเดินไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าและเช็ดหน้า เสร็จแล้วขาทั้งคู่จึงพากรมายืนห่างจากเสือในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย อยู่ในนั้นไม่เห็นข้างนอกเลยไม่รู้ว่าเย็นมากแค่ไหน กรขอโทษที่ไม่ได้โทรมาบอก พอดีเห็นรถมาก็รีบขึ้นมาเลย คนเบียดมากหยิบโทรศัพท์มะ….” พูดยังไม่จบดีก็ถูกอีกฝ่ายสวนเข้ามาก่อน

“พี่ทำอะไรไม่ดี กรไม่ชอบอะไร ทำไมกรไม่บอก พี่เป็นใคร คนอื่น? คนไม่รู้จัก? ไม่ชอบอะไรก็บอกกันสิ พี่ไม่ใช่พี่กรเหรอ? เราต้องอยู่กับพี่อีกเป็นเดือนๆ นะ” โตใส่เป็นชุด

ไม่ใช่ไม่เคยรู้จักกัน แต่เด็กคนนี้โตมองมาหลายปี แถมที่รู้มาจากปากทศอีก ก็เหมือนเสือรู้กลายจักกรผ่านทศเป็นอย่างดีนั่นละ กรเป็นเด็กติดบ้าน ไม่เที่ยวเตร่แบบเด็กรุ่นเเดียวกัน ชอบที่ที่คนน้อยๆ ชอบอ่านหนังสือ สนุกอยู่เงียบๆ คนเดียว ชอบทานข้าวที่บ้าน ไม่ว่าจะทำเองหรือซื้อเข้ามา ไม่ชอบการอยู่คนเดียวเพราะความเสียใจที่ต้องเรียนบุคคลที่รักไปในอดีตพร้อมกันถึงสองคน กรจึงขี้อ้อนเฉพาะกับคนที่ไว้วางใจและเชื่อใจ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรักตัวเองมาก กรจะตามแจ อยากได้ความรัก อยากเป็นที่รัก สำหรับกรโลกที่ต้องอยู่คนเดียวมันหนาวเข้าไปถึงกระดูก กรจึงติดทศ และนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องห่างทศ ตัวแทนพ่อและแม่ของตัวเอง ด้วยความเป็นเด็ก ด้วยไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้โดยบังเอิญ และด้วยป้อมที่ตัวเองสร้างเอาไว้ พี่เสือที่เคยสนิทกับเหมือนเป็นพี่ชายคนนึง กลับกลายเป็นใครอีกคนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก....กร "ไม่ชอบ" พี่เสือในแบบนี้

รู้ว่าพี่เสือโมโหเพราะห่วง และรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับพี่เขาไปมาก แต่ทำไปทำไมไม่รู้ แต่มันหยุดตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้…… แล้วน้ำตาที่ไหลบ่าออกมา

“ปวดหัว…มึนควัน…หิวข้าว…” กรสะอึกสะอื้นพูดออกมาได้แค่สามคำ

เสือลุกขึ้นและเดินมากอดอกอยู่ตรงหน้ากร นิ่ง ไม่พูด ไม่เคลื่อนไหว….สักพัก

“ฮึก…ฮึก…กร…ขอโทษ….ฮึก…ฮึก…” กรเช็ดน้ำตาเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที

มือที่ใหญ่กว่าวางลงบนหัว ขยี้แรงๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็ลดระดับลงมาจับข้อมือของกรไว้ และดึงเบาๆ ให้ตามไป

เสือพากรไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เอาอาหารที่ซื้อเตรียมไว้ตอนบ่าย ออกมาอุ่นให้ ระหว่างที่รอ….. “กินน้ำไปก่อน มาเพลีย ดื่มน้ำหวานหน่อยจะดี”

“ฮึก ฮึก กิน…ไม่ได้…หมอ…ห้าม…” กรยังคงสะอื้น

“อ๋าว! เป็นโรคอะไรวะถึงห้ามกินน้ำหวาน” เสืออึ้ง พึ่งรู้….ก่อนนี้เห็นพูดแต่ ไม่เอา ไม่ชอบ ก็นึกว่าไม่ชอบกินน้ำอัดลมเฉยๆ-----ถึงว่ากินแต่น้ำเปล่า

“....กระเพาะ….” ปวดหัวมากขึ้นอีกแล้ว

เสือถอนหายใจหนักๆ หนึ่งที แล้วเปิดตู้เย็นเอาน้ำเปล่าใส่แก้วมาให้ หยิบขวดน้ำอัดลมไปดูดเอง…

ไม่กี่นาทีข้าวมันไก่ก็ถูกวางลงบนโต๊ะ เสือนั่งลงฝั่งตรงข้าม ดูดน้ำอัดลมต่อไปอย่างเงียบๆ แต่อาการแวดหัวรุมกรมากขึ้น กินข้าวไปได้คำเดียว กรก็ไม่ไหว มันร้าวไปทั้งหน้า หยุดมือค้างไว้อย่างนั้น กะรอจนกว่าจะทุเลาลงหน่อยค่อยกินต่อ

“เป็นไรน่ะ?” เสือถาม

“…….” ตอบไม่ไหว และยังคงก้มหน้านิ่ง

เสือไสเก้าอี้เสียงดังครืนบาดไปถึงหัวของกร เวลานี้อาการปวดไล่มารุมที่เบ้าตา….

“กินข้าวครับ อิ่มแล้วไปพัก นะ” มือใหญ่วางลงเบาๆ ที่กลางหัว มือที่เล็กกว่ารีบปัดมือเขาทิ้งทันที

เท่าที่จำได้ เสือไม่เคยเห็นกรเป็นแบบนี้เลยสักครั้งเดียว ปัดมือกันแบบนี้ รังเกียจกันขนาดนั้นเลย? ขณะที่เสือใจเสียอยู่นั้นเอง---- “ไม่ไหว ปวดหัว อื๊อออออ” กรเลื่อนจานออกไป แล้ววางหน้าผากแนบไปกับผิวโต๊ะ

“เฮ้ย!” เสือเริ่มลนลาน ----- ปวดหัว ยา! ยา! ยา! ยา!

คืนนั้นปรากฏว่า กินพาราไปสองเม็ด กรก็ยังไม่หายปวดหัว เสือเลยเอายาสำหรับอาการไมเกรนให้กิน พออาการปวดหัวเริ่มคลาย ถึงขยั้นขยอให้กินข้าว ปล้ำเกือบตายกว่าจะหมดจาน กินเสร็จสักพักใหญ่กรถึงหลับไป เสือใจหายใจคว่ำแทบตาย กลัวสุดติ่งว่าน้องจะเป็นอะไรมากถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลมั้ย เลยนั่งตาแข็งเฝ้าทั้งคืน เช้าวันต่อมา กรไม่เป็นไรมาก แต่ยังเพลียอยู่ เสือไม่ยอมให้ไปเรียนพิเศษ จับกินข้าวแล้วให้กินยาสำหรับอาการไมเกรนอีกเม็ด นั่งเฝ้าจนกรหลับไปอีกที ส่วนตัวเองก็เผลอหลับไปด้วยความง่วง

ตื่นมากันอีกทีช่วงหัวค่ำ กรนอนพักเพียงพออาการเลยหายเป็นปลิดทิ้ง เสือก็ได้นอนเต็มที่…. พอต่างอารมณ์ดีขึ้น เปิดใจกันมากขึ้น ป้อมที่กลายสภาพเป็นรั้วเหล็กก็สลายไปจนเกลี้ยง กลับมาเป็นกรคนเดิมก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องในเช้าวันนั้น …. ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม ทว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าสิ่งใหม่สิ่งหนึ่งนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่เจ้าตัวนั้นไม่ได้รู้ตัวเลย

ปิดเทอมนั้น กรอยู่กับเสือราวๆ เดือนกว่า จนใกล้จะกลับแล้ว อีกแค่10 วันเองทศถึงได้มาอยู่ด้วย วันคู่ชู้ชื่นที่รอคอยมาถึงแล้ว แต่เสือไม่ได้กระตือรือร้นที่จะสารภาพรักกับทศ เขาลืม?

ไม่ เสือไม่ได้ลืม… รักมันเต้นอยู่ทุกลมหายใจ แต่ไว้ก่อนก็ได้ เวลามีอีกเยอะ เพิ่งเข้าหน้ากรติด หากสุ่มสี่สุ่มห้าไปทำอะไรเข้าอีก เรื่องมันจะยากยิ่งขึ้น แลกโอกาสทองในครั้งนี้ แล้วได้คนคอยช่วยเขาสักคนนึง (แถมเป็นคนในมากเสียด้วย) มันคุ้มน่า!


****************************


เมื่อกรกลับไปบ้าน ความคุ้มค่าที่เสือรอก็บังเกิดผล

กรยอมรับกลายๆ ว่า ‘รู้นะพี่เสือคิดไรอยู่’ … ทว่ากรไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด แต่กรไม่ขัดขาเสือ ไม่เป็นก้างเสือ เสือถามไรก็ตอบ (ถามเรื่องพี่ทศ) เสือบอกให้ทำไรก็ทำให้ (ถ้าทำได้)  เสือกำลังวางแผนหามทศ แต่ทศไม่รู้เรื่อง นานวันเข้ากรก็เบื่อ

“โอ๊ย ไม่ทำอะไรสักที พี่เสือ ควายรึเปล่าเนี่ย?” กรระเบิดขึ้นมาในวันนึง

ไอ้พี่เสือไม่กล้าบอกรัก มันป๊อด มันกลัว มันย้ำคิดย้ำทำ มันบ้า มันน่ารำคาญที่สุด…. ในเรื่องพี่ทศ กรหน่ายไอ้พี่เสือสุดๆ ตั้งสามปี จากที่กรไม่ช่วยแต่ไม่ขวาง เปลี่ยนมาเป็นช่วยทางอ้อม และกลายร่างมาเป็นกุนซือก็แล้ว แต่ควายก็ยังเป็นควาย สักแต่ห่มหนังเสือ…หากจะเป็นควายอยู่อย่างนั้นก็ตามใจ!!! หมดปัญญา หมดอารมณ์

“เฮ้ออออ กรไม่เข้าใจพี่หรอก” เสือนอยด์

“ฮึ” เหยียดหยามด้วยน้ำเสียง แต่ก็เข้าใจนะ อีกใจนึงก็สงสารไอ้พี่เสืออยู่เหมือนกัน ได้รับความไว้ใจให้เป็นเพื่อนสนิท แบบสนิทที่สุดในบรรดาเพื่อนสนิท ทั้งความเชื่อใจที่พี่ทศมีให้อย่างกับเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง ภาระอันนี้หนักมากสำหรับใครคนหนึ่งที่คิดเกินเพื่อน

ไม่กล้าเสี่ยง…คำนี้เท่านั้น

แล้วเมื่อไหร่จะกล้า…เสือตอบได้ในทันทีว่า “ไม่รู้ว่ะ เอาน่าโอกาสเหมาะๆ ก่อน”

ตลอดสามปีมานี้ กรได้ยินเสือพูดประโยคนี้ซ้ำหลายครั้งมาก แรกๆ ก็นับ หลังๆ เลิกนับไปแหละ…. วันนี้ก็อีกครั้งที่ต้องมานั่งฟังคำนี้

กรมาขอพักที่คอนโดเสือ เพื่อเตรียมสอบโควต้าเข้ามหาลัยที่เล็งไว้ เพราะความอยากมาเปิดหูเปิดตา ดูสถาบันในฝัน ทดลองใช้ชีวิตในเมืองหลวง ด้วยเหตุเหล่านี้ กรจึงมาล่วงหน้าก่อนวันสอบถึงหนึ่งเดือน สอบครั้งนี้ไม่ซีเรียสเพราะกรท่องมาดีแล้ว เหลือแค่ทบทวนทุกวันตามเป้าที่วางไว้กันลืม ได้ไม่ได้ไปวัดดวงเอา เหนือฟ้ายังมีฟ้า หากไม่ได้ที่นี่กรก็ไม่ฟูมฟาย เขาเตรียมใจไว้แล้ว เอาที่อื่นก็ได้แต่ขอให้เป็นคณะที่ต้องการเป็นพอ

มาคราวนี้ พี่เสือทำงานแล้ว ไม่มีเวลาดูแลกร แต่กรโตแล้วจะมาดูแลกันทำไม ปีหน้าก็จะถูกเรียกว่า “นักศึกษา” ไม่ใช่ “เรียน” อีกต่อไป ดังนั้น หน้าที่ในตอนนี้จึงกลับกัน กรจะตื่นแต่เช้า พอๆ กับเสือที่ต้องเตรียมตัวไปทำงาน แต่คนไปหากับข้าวหรือทำกับข้าวง่ายๆ สำหรับมื้อเช้าคือกร คนปิดประตูห้องล็อคก็คือกร คนคอยไปซื้อมื้อเย็นเตรียมไว้ก็กร เช็ดถูปัดกวาดคอนโดก็กร เอาเสื้อผ้ายัดใส่ตู้เสื้อผ้า เก็บผ้าที่ตาก รีดผ้า ---- กรทั้งนั้น

คอนโดนี้ทางบ้านพี่เสือซื้อให้เป็นของขวัญที่เรียนจบ ตอนย้ายเข้ามาพี่ทศพักร้อนพอดี เลยได้มาช่วยจัดห้องนี้ด้วย เห็นรูปมาแล้วก็จริง แต่พอมาสัมผัสด้วยตัวเองก็ยิ่งขำ พี่ทศจัดห้องพี่เสืออย่างกับเป็นห้องของตัวเอง ช่างกล้าเอาเงินคนอื่นไปซื้อของมาแต่งห้องแบบที่ตัวเองชอบ คนที่รู้อะไรอะไรแบบกร ทั้งขำทั้งสงสารพี่เสือ จริงอยู่ได้คนที่รักมาจัดห้องให้ อย่างกับห้องหอก่อนเข้าพิธีแต่งงาน ไอ้พี่เสือน่ะดีใจหน้าบานไม่หุบ แต่ความเชื่อใจมันมาพร้อมภาระที่ไอ้เสือต้องแบกไว้… ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน ยิ่งให้ความสนิทก็ยิ่งคิดมาก ภูเขาของความเป็นเพื่อนก็หนักขึ้นทุกวัน กี่ปีแล้วที่มันควบคุมและกดมันไว้

เขาบอกว่า คนเราหากเก็บกดความรู้สึกไว้มากจนเกินไป สักวันมันจะระเบิด….. แต่ไม่มีทางเลยที่เราจะรู้ว่า สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ครึ่งเดือนผ่านไปด้วยความสนุก กรเริ่มมั่นใจว่าสามารถอยู่คนเดียวได้ ใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่หายใจลำบากนี้ได้ ด้วยความที่เป็นเด็กไม่ตามแฟชั่นอยู่แล้ว กรจึงไม่มีห่วงอื่นอีก และมองหาแต่พื้นที่ที่ตัวเองชอบเท่านั้น หากมาอยู่ที่นี้….. ทำแบบนี้ได้มั้ย----ถามพี่เสือ ทำแบบนั้นดีมั้ย----ถามพี่เสือ อะไรที่พี่เสือตอบไม่ได้หรือตอบไม่ละเอียดก็ไปถาม พี่โต้ พี่เจต พี่คิว พี่ไผ่ …..สิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดี ข้อควรระวัง กรเรียนรู้และจดไว้หมดแล้ว…. กรตื่นเต้นกับชิวิตที่อิสระในข้างหน้าด้วยความอุ่นใจ

ต้องห่างกับพี่ทศ เหงาอยู่เหมือนกัน แต่เพื่ออนาคตของตัวเอง กรมีคนแก้เหงาเตรียมไว้ในใจหลายคน หึหึหึ

“นอนไปก่อนเลยนะกร ออฟฟิชมีเลี้ยงรับพนักงานใหม่ กูสุดจอก” เสือโทรมาบอกกร ‘สุดจอก’ ของเสือหมายถึงวันนี้เมาปลิ้น กรเลยไม่รอกินข้าว พรุ่งนี้มีสอบจึงรีบเข้านอนไปก่อน ตอนที่หลับฝันดีอยู่นั้น เตียงก็เกิดยวบแรงขึ้นมา กรปรือตามาดู เสือกลับมาแล้ว เมาเละ แต่กลิ่นเหล้าไม่ฉุนเท่าไหร่ กรพลิกตัวไปอีกฝั่ง หันหลังให้เสือ แล้วหลับต่อไป



***********************


เสียงนกกาเหว่าที่ทำรังอยู่ในสวนของบ้านหลังใหญ่ตรงหลังคอนโด บรรยากาศห้องนี้เหมือนห้องนอนของเสือที่บ้าน เสือเลือกห้องนี้ เพราะได้ยินเสียงของนกกาเหว่า บ้านที่คับใจไม่ได้มีอะไรให้อาวรณ์ ทว่าเสียงนกกาเหว่าเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เสือคิดถึงวันเวลาที่ได้อยู่กับทศ การย้ายบ้านทำให้ระยะเริ่มชัดเจน ถึงแม้จะไกลกันแค่ตัว ทว่าหากต้องให้เสือแบกภูเขาที่สลักคำว่าเพื่อนเอาไว้ ตลอดชีวิต เสือก็อยากอยู่ใกล้คนที่เฝ้ารักแบบเมื่อครั้งยังเด็ก ได้เห็นหน้ากันบ่อยๆ ได้ทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกันเรื่อยๆ พูดคุยแบบเห็นหน้า แอบจับเนื้อต้องตัวกันบ้าง ให้พอชุ่มชื่นหัวใจ เท่านี้เสือก็พอใจแล้ว

ทว่า ความห่างนานปี ส่งผลให้เกิดความเหงา ยิ่งความเหงาทับทนเป็นตะกอนในหัวใจ ความ “ไม่พอ” จึงเริ่มทรงอิทธิพลขึ้นมา….

อยากมีใครสักคน คนที่อยู่เคียงข้างเรา คนที่อยู่แล้วสบายใจ คนที่ทำให้หายเหนื่อย… คนคนนั้นหัวใจเสือเรียกเขาว่าทศ

ทว่า ความ “ไม่พอ” มันกรีดร้องเพิ่มมาอีกคำ…ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้

เวลานี้เสือเริ่มนึกอยากให้มีใครสักคนมาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน คนที่จับต้องได้ คนที่มองเห็นหน้ากัน ไม่ใช่ได้ยินแต่เสียง ไม่ใช่ได้แค่ฝันถึง….. อาการนี้เป็นมากขึ้นเมื่อคนคนหนึ่งถือกระเป๋าเข้ามาที่คอนโดของเขา คนที่หน้าเหมือนเขาคนนั้นอย่างกับแกะ จะต่างกันก็แค่ตา

นิสัยน่ะเหรอ?.... โดยพื้นแล้วเหมือนกันมาก ต่างกันแค่บางส่วน แต่ก็เป็นความต่างที่ดึงดูดใจของเสือ




มีต่อ  Reply #69
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2012 14:31:39 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
พี่เสือก็นะ ปากแข็งจริงๆ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
วรรคสี่ (จุดสาม)



กรงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยเสียงของนกกาเหว่าที่แข่งกันร้อง อาทิตย์นี้ไม่รู้เป็นยังไง ไอ้พวกกาเหว่าที่อยู่ด้านล่างถึงแข่งกันอวดเสียงร้องกันแต่เช้ามืด ปกติกรจะหลับต่อไปอีกจนกว่านาฬิกาปลุกจะดัง ทว่าวันนี้ความอึดอัดทำให้กรหลับต่อไม่ลง

มีบางอย่างรัดตัวกรไว้อยู่ใต้ผ้าห่ม เครื่องปรับอากาศดังเบาๆ พอยกฝ่ามือออกไปนอกผ้าห่ม ไอเย็นกระทบมือ ผ้าห่มที่ห่มมาเกือบเดือนนี้ไม่เคยให้ความอุ่นกับกรเท่าวันนี้….ขณะที่งุนงงอยู่นั้น ลมหายใจจากคนข้างหลังเป่ารดที่หลังลำคอของกร กรตัวเย็นวาบด้วยความตกใจ ครั้นพอได้กลิ่นจางๆ ของเหล้า ความตกใจจึงคลายลง

คงฝันถึงพี่ทศอยู่ล่ะมั๊ง เมาซะขนาดนี้ กรดิ้นขลุกขลักอยู่กรงแขนนั้น แต่ไม่สำเร็จ เหนื่อยแรงเปล่า สุดท้ายกรจึงตัดใจปล่อยให้เสือกอดไปอย่างนั้น … ช่างมันเว้ย นอนดีกว่า

…….

……

…...

…..

….



..

.

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น กรสะดุ้งเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง ความมึนงงงัวเงียและความตื่นตัวที่จำได้ว่าวันนี้มีสอบ ส่งผลให้กรลุกจากเตียงเดินเซไปเซมาเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำออกมาแต่งตัวเสร็จ พี่เสือก็ยังนอนหลับ กรหิ้วกระเป๋าออกไปจากห้องนอน แล้วเตรียมมื้อเช้าให้ตัวเองและใส่ตู้เย็นไว้ให้พี่เสือ เมามาแบบนี้ไม่รู้จะตื่นตอนไหน ….ก่อนออกจากบ้าน กรเดินกลับเข้าไปบอกเสือว่าจะออกไปสอบแล้ว เสือนิ่งไม่อือ อือ เหมือนทุกที กรใจเริ่มเสีย

“ไม่สบายรึเปล่าพี่เสือ ตัวไม่ร้อนนะ ตอบกรหน่อยดิ พี่เสือ พี่ พี่” กรเขย่าหัวไหล่ของเสือ สักพักตาที่ลืมขึ้นมา กรจึงถามซ้ำอีกครั้ง

“อืมมมม” เสียงฮัมในลำคอยาว ตายังลืมค้างถึงแม้ไม่เต็มที่นักก็ตาม

“กรไปสอบก่อนนะพี่เสือ กับข้าวอยู่ในตู้เย็น ตื่นมาก็กินซะ ก่อนกลับจะโทรมานะ อยากกินไรก็นึกไว้” กรพูดจบและหวังจะได้ยินเสียงฮัมในลำคอเหมือนเดิม ทว่ากลับไม่มี

ตาพี่เสือยังคงปรือครึ่งอยู่เช่นเดิม กรชักไม่แน่ใจว่า พี่แกปกติดีมั้ย จากที่ยืนคุย จึงเปลี่ยนไปนั่งที่พื้น เอาคางเกยเตียงแล้วจ้องตาที่ปรือมาครึ่งหนึ่งนั้นนิ่ง ค้นหาว่าพี่เสือเป็นอะไรกันแน่ระหว่างไม่สบายกับละเมอ

พี่เสือนอนตะแคงหมิ่นเหม่กับขอบเตียง ดังนั้น พอกรเกยคางกับเตียงแล้วนั้น ใบหน้าของทั้งสองจึงค่อนข้างที่จะใกล้กัน คล้ายแค่เอื้อมมือออกไปนิดหน่อยก็สามารถคว้าเอาไว้ได้… และขณะที่กรกำลังขมวดคิ้ววุ่นอยู่กับการจับสังเกตุนั้นเอง มือของเสือก็ค่อยๆ ยกขึ้นมาจับที่ลำคอของตัวเองโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ทันทีที่รู้สึกถึงสัมผัสของฝ่ามืออุ่นๆ ใบหน้าของเสือก็แนบชิดเข้ามาใกล้ ใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เป่าออกมา….. ใกล้จนริมฝีปากทาบทับกัน และไม่นานนักลิ้นของอีกฝ่ายก็สอดอย่างนุ่มนวลเข้ามาในปากของกร

ความรู้สึกเหมือนไฟช็อตเกิดอยู่ตลอดเวลาจวบจนเมื่อเรียวลิ้นและริมฝีปากนั้นถอนตัวออกไป ใบหน้าที่เคยเคลื่อนเข้ามาชิดกับใบหน้าของโต ถอยกลับไปที่เดิม ดวงตาปิดลงแล้ว เสียงลมหายใจเข้าออกดังให้ได้ยินอย่างสม่ำเสมอ แสดงความหมายว่า ‘หลับ’

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

กรที่นั่งอึ้งไปครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็ลุกขึ้น วิ่งตึกตักออกไปจากห้องนอน เสียงกึงกังดังลอยเข้ามาสองสามครั้ง จากดังก็มีเสียงใส่รองเท้า ทดลองตอกส้น เสียงเปิดประตูซึ่งตามมาด้วยเสียงประตูปิด

ความสงบเงียบคืบคลานเข้ามาสู่ภายในห้อง เสียงนกกาเหว่าที่แข่งกันร้องเพลงเริ่มเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในห้องนั้น ทว่า ใครคนหนึ่งที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มกลับได้ยินแต่เสียงเต้นของหัวใจตัวเอง


***************


“พี่เสือตื่นยัง?”

“ตื่นแล้ว จะกลับยังวะ ซื้อก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่มาให้หน่อยดิ” เสือสั่งเมนู

“อื้ม กำลังออกจากที่สอบนะ บาย” กรพูดจบก็วางสายไป

โชคดีที่ระหว่างทางมาสนามสอบ กรต้องนั่งรถถึงหนึ่งชั่วโมง… เวลานานมากขนาดนั้นทำให้กรสงบใจคลายความตื่นเต้นลงได้ทัน หากทำไม่ได้ ข้อสอบวันนั้นอาจกลายเป็นกระดาษว่างเปล่าก็เป็นได้

จูบ…. มันคือจูบ เคยเห็น แต่ไม่เคยลอง ยังไม่เคยทำกับใครขนาดนี้

หอมแก้มเขาหรือโดนหอมแก้มก็มีบ้าง กอดก็เคย แม่เจนเป็นลูกครึ่ง กรเลยคุ้นเคยกับการกอดมาตั้งแต่เด็ก แต่นี่คือจูบ แถมเป็นจูบแบบผู้ใหญ่ด้วย!! ….

สอบเสร็จคิดว่าจะโกรธพี่เสือสักตั้ง แต่พอคิดถึงเช้าของเมื่อวันนั้น…. “ไอ้บ้าเอ้ย! แยกไม่ออกรึไงว่าใครเป็นใคร? เก็บกดเกินไปแล้ว…..เฮ้อออออ เอาไงดี”

กรบ่นพึมพำพลางมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ คิดว่ากลับไปจะทำหน้ายังไงกับพี่เสือดี นั่งคิดอยู่สักพักก็คิดไม่ออก เลยเดินทางกลับพร้อมกับหาทางตัดสินใจท่าจะดีกว่า… แต่จนเดินมาถึงหน้าประตูห้องก็แล้ว กรกลับยังคิดไม่ออกว่าจะทำหน้าแบบไหนดี ขณะที่ลังเลว่าจะไขกุญแจดีมั้ย จู่ๆ ประตูที่เปิดออกมาเอง

ถุงก๋วยเตี๋ยวตกปุ๊สู่พื้นด้วยความตกใจ กรถอยวืดออกมาทันควัน

“อ้าว ไอ้กร เป็นห่าไร กูไม่ใช่ผี! อ๊ะ! ซื้อไรมาแดกเนี่ย” พูดจบเจ้าของเสียงก็หยิบถุงที่กรทำตกพื้นขึ้นมา ดมกลิ่นฟุดฟิ๊ด จากนั้นก็หิ้วถุงเข้าไปในห้องหน้าตาเฉย

กรมองตามหลังหัวขโมยก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เข้าไปข้างใน พี่คิว พี่ไผ่ ก็อยู่ในนั้นด้วย พี่เสือนั่งอยู่ตรงเก้าอี้นอกระเบียงห้อง กรโล่งใจที่ยังพอมีเวลาเตรียมหน้าไปเผชิญกับเจ้าตัวอีกนิด…มีพวกพี่ๆ อยู่ด้วยก็ดี เอาว่ะ ตามนั้น!!

ตัดสินใจได้แล้วกรก็เดินเข้าไปทักทายเฮฮากับทุกคน…ทำให้เป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่กรตัดสินใจ ไปว่าคนเมามันไม่ได้อะไรขึ้นมา จะสอนแมวต้องสอนตอนทำผิด นี่เลยมาตั้งนานแล้ว แมวมันลืมไปแล้วว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง

ไม่นานเท่าไหร่ พี่เสือก็เดินเข้ามาในห้องแล้วบอกว่า ให้ไปเปลี่ยนเสื้อ พี่ๆ จะพาไปฉลองสอบเสร็จ กรก็ไปอย่างว่าง่าย

พี่เสือเป็นปกติ ไม่มีเค้าว่าตัวเองทำผิด กรจึงตัดใจไม่เอาเรื่อง และใช้ชีวิตอยู่ในห้องเสือครบตามกำหนด ก่อนกลับกรขอเสือว่า หากสอบติดจริงให้ช่วยพาไปเลือกหอด้วย โดยจะมาค้างที่นี่ด้วย เสือก็รับปาก

กลับมาบ้าน กอดพี่ทศให้ชื่นใจเสร็จ รายงานการเดินทางจบ พี่ทศก็ปล่อยไปให้ไปพัก

พออยู่ในห้องคนเดียว ความคิดที่แวบขึ้นมา…. พี่เสือมักมีอาการละเมอแบบนั้นทุกครั้งที่ไปดื่มมา มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ปริมาณแอลกอฮอร์ ส่วนจูบกรพลาดให้อีกแค่ครั้งเดียว นอกนั้นหลบมาได้ตลอด… น่าสงสารพี่เสือ แต่ก็ไม่รู้จะบอกพี่ทศยังไง

พี่ทศรักพี่เสือกรรู้ พี่ทศไม่ตัดเพื่อนกับพี่เสือกรแน่ใจ…. แต่พี่เสือกับพี่ทศจะเข้าหน้ากันติดมั้ยกรไม่มั่นใจเลย

มันทรมานนะ หากคนที่สนิทกัน เกิดมองหน้ากันไม่ติดขึ้นมา…

สำหรับเขากับติ เพื่อนรักที่สนิทกันมาก เวลาโกรธกัน ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าขอโทษอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเกลียดขี้หน้า แต่พอหายโกรธแล้วมันละอาย ละอายจนไม่กล้ามองหน้ากัน พอฉาบผนังคำว่า "ไม่กล้ามองหน้า" ไปนานวันเข้า ผนังนั้นจะหนาขึ้น หนาขึ้น หนาจนเราทุบมันไม่ได้….และคราวนี้ ความรู้สึกผิดของเราจะไม่มีวันส่งไปไม่ถึงอีกฝ่ายได้อีก

เราจะกลายเป็นเจ้าหญิงผู้โดดเดี่ยว อยู่ในห้องที่ฉาบด้วยผนังหนาทึบ รอวันที่ใครคนนั้นจะมาทุบมันให้เรา… หากเป็นเทพนิยาย เขาคงมีเจ้าชายมาช่วยพังมันให้ แต่พอเป็นชีวิตจริง ต่างฝ่ายต่างกลับเป็นเจ้าหญิงด้วยกันทั้งคู่

กำแพงจึงยังคงหนาและหนักไปเรื่อยๆ จนเราหาทางออกไม่ได้… และไม่มีทางออก

กรไม่อยากให้พี่ทศกับพี่เสือเป็นแบบนั้น แค่เท่าที่เป็นอยู่นี้ พี่เสือก็น่าสงสารพออยู่แล้ว… คิดถึงเสือ เสือก็โทรหา กรรีบรับสาย รายงานว่าถึงแล้วและบรา บรา บรา บรา



อนิจจา....ต้นเหตุของความรัก เกิดขึ้นด้วยความสงสาร

และด้วยความเหงา รักจึงบังเกิด

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครทันคาดคิด ไม่มีใครเตรียมพร้อม…. แต่ก็นั่นแหละ “รัก” มันนึกจะเกิดก็เกิด มันนึกจะหยุดก็หยุด ใครห้ามมันได้บ้าง


*******************


“มึงเป็นห่าไรวะ เมาปลิ้นบ่อยไปแหละ” โต้บ่นแต่ก็ยังมาเป็นเพื่อนเสือทุกรอบ เป็นห่วงเพื่อน เล็งเห็นว่าเพื่อนมีปัญหา ไม่ใช่ติดใจน้ำชา ฟรี!

“กูอยากเลิกรัก ดื่มมันให้ลืม เลิกมัน เอ้าดื่ม!!” เสือยกแก้วขึ้นชน

แต่ละแก้วในวงน้ำชารู้ว่าเสือหมายถึงเลิกรักใคร แต่นึกยังไงถึงจะมาเลิกตอนนี้? กี่ปีแล้ว ไอ้เสือมันยังนับอยู่ไหม? หากมันไม่ได้นับ เพื่อนๆ นับให้ ----- 13 ปี

นับง่ายมาก เพราะจำนวนปีที่เสือหลงรักทศ เท่ากับจำนวนปีที่เจตมันตกหลุมรักไอ้โต้…. !!!!

หือ? ถามถึงตัวเลขของไอ้โต้เหรอ อืม…………ม เป็นความลับ

มันไม่บอกเคยบอกใคร แม้กระทั่งแฟนมันเอง ไอ้เจตเคยให้รางวัลกับคนที่ไปเค้นถามไอ้โต้มาได้ว่า ไอ้โต้มันรักตัวเองตั้งแต่เมือไหร่? แต่ของรางวัลมันคงวางนิ่งอยู่บนหิ้ง.....เรื่องนี้ไอ้โต้ไม่รู้เรื่องนะ จุ๊ จุ๊ ไว้

“เลิกรัก มันทำไงวะ บอกกูที” เจตหันไปถามโต้

โต้ตบหน้าเจตหันขวับ แล้วเอียงคอไปพักที่หัวไหล่ของเจต สายตาโต้มองตรงมาที่เสือ สักพักจึงพูดว่า “มึงทำไม่ได้หรอก มึงสั่งหัวใจให้หยุดเต้นได้มั้ย ถึงมึงกลั้นหายใจจนจะตายห่าอยู่แล้ว สัญชาติญาณมึงแม่งก็จะสั่งให้มึงหายใจ แล้วหัวใจมึงมันจะเต้นอีกครั้ง”

“เชี่ยโต้! น้ำชาทำให้มึงเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้เจตมึงให้เมียมึงแดกบ่อยๆ เลยนะ แบบนี้กูชอบ เพื่อนดีมีสาระ” ไผ่ร้องขอ

บาทาถีบไผ่จนตกเก้าอี้ ไอ้คิวที่นั่งอยู่ถัดจากไอ้ไผ่ก็ล้มไปนอนกองกับพื้นในคราวเดียวกัน เจตเอาแขนโอบล๊อคตัวโต้ไว้ ไม่ให้ตามไปซ้ำ เวลาน้ำชาเข้าสายเลือดโต้จะเหลือสติเล็กน้อย เหตุผลนิดหน่อย แต่ระดับความอันตรายพุ่งสูง! ถึงเป็นเพื่อนกันก็เจ็บได้

“กูเหนื่อย… กูเจ็บ… กูไม่ไหว…” เสือย้ายสายตาไปจับจ้องอยู่ที่เจตซึ่งเอาโต้มานั่งที่เก้าตัวเดียวกัน แขนทั้งสองข้างยังรัดตัวโต้ไว้ไม่ยอมปล่อย ล็อคโต้ไม่ให้ไปทางไอ้ไผ่กับไอ้คิวที่เพิ่งกลับมานั่งที่เก้าอี้ในตำแหน่งเดิม โต้เอานิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าของไผ่ทีนึง แล้วหันมาดื่มน้ำชาต่อ หมดอารมณ์ หมดความสนใจ ทำโทษหมาในปากไอ้ไผ่ไปแล้ว พอก็ได้!

....เห็นเขากอดกันแล้วมันอิจฉา...... “กูอยากมีใครสักคน คนที่สามารถมาอยู่ด้วยกันตรงนี้ได้ คนที่จับได้ กอดได้ จูบได้…กู………….เหงา…” เสือบอกเสียงเศร้า

เพื่อนๆ รับรู้ถึงความจริงจังของเพื่อน

“มึงค่อยๆ คิดเถอะ กูก็ไม่ชอบให้มึงอกกลัดหนองแบบนี้หรอก แต่มึงจะเจ็บกว่ามั้ย หากมึงไปหักดิบหัวใจตัวเอง” ไผ่บอก

“เปิดรับคนใหม่ซะ แล้วมึงค่อยกลับมาถามใจตัวเอง สัด! ก้าวก็ไม่ก้าวสักก้าว เสือกมีหน้ามาโม้ว่าจะเลิก มึงไปลองก่อนแล้วค่อยเลิกรักไอ้ทศก็ยังทัน เจ็บเพราะรัก แม่งไม่ตายหรอก” โต้ชี้หน้าเสือ เสนอทางเลือกใหม่ให้

“เชี่ยโต้! ทำไม่ดีถึงตายได้นะมึง” คิวค้าน ของแบบนี้อยู่ที่พื้นฐานของใจคน เสือมันไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น คิวว่าเพื่อนมันทนเจ็บไม่ไหวหรอก

“ไม่ตาย ไม่ตาย ไอ้นี่มันยังไม่ตายเลย ฮ่าฮ่าฮ่า” โต้หัวเราะร่า พลางยกฝ่ามือขึ้นไปตบแก้มเจตเบาๆ แบบหยอกเล่น

คนนี้อ่ะ โต้มันขอเลิกกับเค้ามาสองครั้งแล้ว ตอนนี้ก็คบกันเป็นครั้งที่สาม คิดอยากเลิกกับกับมันอยู่บ่อยครั้ง โมโหมากๆ รำคาญมากๆ ก็ทิ้งมันไป.....แต่ไอ้เจตไม่ยักกะตายสักที ไอ้เสือถึงขี้ป๊อด แต่พื้นฐานของจิตใจแล้วไอ้เสือไม่ต่างจากเจตเท่านั้น... มันไม่เคยรู้ตัวหรอก เพราะมันไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าเหมือนไอ้เจต ถึงโต้จะเมา แต่เพื่อนนิสัยอย่างไร โต้สลักไว้ในหัวหมดแล้ว ให้คำปรึกษาได้ไม่พลาดหรอก แต่เจ้าตัวมันจะทำหรือไม่ เป็นเรื่องของตัวมันเอง

เจตไม่สนมือที่ตบแก้มตัวเองเล่น แต่สนับสนุนความคิดของเจ้าของมือ “มึงลองก้าวบ้างเหอะว่ะ ยืนเฉยๆ แม่งไม่มีอะไรดีหรอก เสี่ยงแม่งไป ดีไม่ดีมึงอาจเจอแจ๊คพ๊อตก็ได้ใครจะรู้”


************************


เสือที่อยู่ในระยะทำใจได้รับข่าวร้ายในวันหนึ่ง

“พี่เสือ กรไปค้างด้วยนะ วันที่ xx-xx พี่ว่างพากรไปหาหอป่าว?”

เสือกุมกบาลทันทีหลังวางสาย แน่นอนไม่ปฏิเสธเพราะสัญญาไว้แล้ว แต่มันแค่อีกไมกี่วัน เสือไม่แน่ใจว่าตัวเองจะปรับสติอารมณ์ตัวเองได้ทัน

“ทำไมต้องหน้าเหมือนกันด้วยวะ!!!”





มีต่อ  Reply #71 :a12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2012 15:33:21 โดย BaoBao »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
กำลังสนุกเลยอ่ะ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

วรรคห้า


ตั้งแต่มาหาหอนี่ก็ห้าวันแล้ว พี่เสือแปลกมาก ดื่มเหล้าทุกวัน

ถ้าไม่ดื่มมาจากข้างนอกก็กลับมานั่งดื่มตรงเก้าอี้ยาวนอกระเบียงคอนโด เกือบเที่ยงคืนถึงเดินเข้ามานอน เช้าก็ลุกไปทำงาน วันหยุดก็พาวนหาหอ หากเว้นเรื่องดื่มเหล้าไว้เรื่องหนึ่งแล้ว พี่เสือก็เป็นปกติดี ดูจะใจดีกว่าปกติซะด้วยซ้ำ------อาจมีเรื่องกับที่ทำงาน เป็นเด็กคงช่วยอะไรไม่ได้ เอาแค่ทำตัวไม่ให้เป็นปัญหา ทำตัวไม่ให้เป็นภาระกับพี่เสือ เท่านี้น่าจะพอ

กรตัดสินใจเช่นนั้น โดยหารู้ไม่ว่า การที่ตัวเองทำดีเอาใจเสือแบบนั้นกลับยิ่งทำให้เสืออาการทรุดหนัก เปลี่ยนจากระยะทำใจเป็น ระยะสุดท้าย!!!!!

ตั้งแต่กรมาพักด้วย เสือถามใจตัวเองแค่คำเดียว “มึงเหงาใช่มั้ย?”

หากหัวใจตอบว่า “ใช่” อะไรควรทำไม่ควร เขาจะรู้----- หากเป็นความเหงา มันจะทำร้ายกร ต้องเลิกให้ได้….. ทว่า กี่วันแล้ว หัวใจเสือกลับยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้….. ลังเลอะไรอยู่?

หากเป็นรัก…. รักจริง หรือ รักปลอมๆ…. รักเพราะหลงรักคนคนนี้ หรือรักเพราะอยากได้คนคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกัน แต่ไม่มีวันคว้าลงมาได้

หากรักกร เขาจะคว้ากรลงมาได้มั้ย?--------------คำตอบคือ “ได้”

ระหว่างกรกับเสือ ไม่มีเส้นกั้นอะไรกัน จะมีก็แค่ความเกรงใจต่อทศ
เสือ-----เกรงใจที่จะไปพรากเอาน้องชายสุดที่รักของทศมาดูแล ......
กร------เกรงใจที่จะแย่งเพื่อนคนสำคัญของพี่ชายที่ตัวเองรักและเคารพมา .....

เสือรู้จักเด็กคนนี้พอควร หากสิ่งที่เขาทำกับกรไปเมื่อครั้งก่อน กับที่แสร้งว่าเมาและทำอยู่เรื่อยๆ ในเวลานี้ น้องกรไม่ชอบ รังเกียจ กรจะไม่มีวันกลับมาค้างคืนกับเขาอีก กรจะไม่ให้ช่วยหาหออยู่แบบนี้

เสือห้ามตัวเองไม่ให้ฉวยโอกาสเอาความสงสารของกรมากอดไว้ไม่ได้ เขารู้ตัวดีว่ากรจัดเขาให้อยู่ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง แต่เขาเป็นพี่ชายที่ได้สิทธิพิเศษกว่าไอ้เจต ไอ้โต้ ไอ้คิว หรือไผ่ ในหัวใจของกรเสือคือคนที่รองลงมาจากทศ

แค่อยากมีใครสักคน แค่อยากให้คนคนนั้นเป็นคนที่จับต้องได้ แต่ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ น้องกรเป็นคนคนนั้นได้ ดูจากจังหวะการใช้ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ น้องกรเหมาะ ใจเสือเองยังยอมรับ ถึงเป็นความเหงาแต่หากน้องมีใจให้จริงเหมือนที่คาดไว้ เสือคิดว่าจะดูแลความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดีที่สุด

เสือเหนื่อยเกินไปแล้วกับการที่ต้องอยู่คนเดียวและถูกโดดเดี่ยวหัวใจ หัวใจดวงนี้มันหนัก มันมีภูเขาทับมันไว้ เสือถือมันไม่ไหวแล้ว ขอเถอะ ช่วยรับมันไปถือที ช่วยยกภูเขานี้ออกไปจากหัวใจเขาที…..

เขาขอมากไปหรือเปล่า?



มีต่อ Reply #74
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2012 23:45:23 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
กำลังสนุกเลยอ่ะ

สนุกก็ต่อเลยนะ
เรื่อยๆ มาเรียงๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มัวแต่ป๊อด ไม่ลงมือซะทีแล้วเสียใจให้ได้อะไรขึ้นมาพี่เสือ
แล้วหวยมาออกที่น้องกรนี่เพราะเป็นตัวแทน หรือเป็นอีกคนที่จับต้องได้ หาคำตอบให้ได้ซะก่อนเถอะ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

ห้าวันที่ผ่านมา เวลานอนด้วยกันกรมักถูกพี่เสือแต๊ะอั๋งตลอด เกือบเสียจูบเป็นครั้งที่สามก็อีกหลายที…

ยิ่งพี่เสือทำกับตัวเองแบบนี้กรยิ่งสงสารพี่เสือ วันก่อนที่เจอพวกพี่ๆ พี่โต้เล่าให้ฟังว่า พี่เสือมันเครียด อยากเลิกรักพี่ทศ เลยดื่มน้ำชาย้อมใจ กรได้ยินแล้วใจสั่น มันเต้นรัวแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กรรู้สึกตื่นเต้น…..มาก

“13 ปีเลยเหรอพี่โต้” กรผิวฝากด้วยความอึ้งกับจำนวนตัวเลข กรมาสนิทสนมกับพี่ทศได้เจ็ดปีแล้ว แต่พี่เสือเอาหัวใจตัวเองไปผูกติดกับพี่ทศนานขนาดนี้ได้ยังไง

“เออดิ คงมาถึงจุดระเบิดแล้วมั๊ง” พี่โต้เคี้ยวข้าวผัดคำโต พอกลืนลงคอก็พูดหน้าตาเฉยว่า “มึงก็ระวังตัวไว้!”

กรหันหน้าขวับไปมองหน้าไอ้พี่โต้ ไอ้พี่โต้มันรู้อะไร? ทำไมพูดแบบนี้?

กรเอาจานชามไปล้าง แล้วถึงค่อยหยิบผ้าจะมาเช็ดโต๊ะ พี่โต้กลับไปแล้ว เพราะพี่เจตโทรมาตาม ทีแรกพี่โต้กะว่าจะรอจนพี่เสือกลับมา เห็นว่าจะชวนพี่เสือไปดูของอะไรสักอย่าง โทรหาพี่เสือ พี่เสือก็กลับมาถึงเลทกว่าปกติเพราะติดประชุม พี่โต้เลยบอกว่าจะกลับก่อน ไว้ว่างๆ ค่อยไปดูของด้วยกัน

ตอนที่เช็ดโต๊ะ กรเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง อ่านดูถึงรู้ว่ามันเป็นแผนที่คอนโดของพี่เจตซึ่งพี่โต้คงลืมวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว…. ช่างมัน ไว้ค่อยคืนพี่แกตอนเจอกันคราวหน้าละกัน กรพับมันไว้ในกระเป๋าสะพาย เผื่อลืมแล้วออกไปเจอพี่โต้จะได้มีคืนให้เลย

วันนั้นพี่เสือกลับมาหิวซก หน้าตาเหนื่อยมาก แต่วันนี้เป็นวันศุกร์ หยุดยาวอีก 3 วันเพราะวันจันทร์เป็นวันหยุด…. กินข้าวอาบน้ำเสร็จ เสือก็ไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ที่ระเบียงห้อง ประตูตรงระเบียงเปิดทิ้งไว้ ทุกวันพี่เสือจะเปิดโทรทัศน์ฟังเสียงข่าว แต่วันนี้บรรยากาศอยู่ในความสงบเงียบ กรไม่ชอบดูข่าว หากอยากรู้ข่าวกรจะอ่านเอาในเวปไซด์เอาเอง

สงสารพี่เสือ ยิ่งได้ยินที่พี่โต้เล่าเมื่อตอนเย็น กรยิ่งเอ็นดูพี่เสือเพิ่มขึ้น

ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพี่เสือไม่กล้าสารภาพรักกับพี่ทศ แต่คำที่พี่โต้บอก กรรับฟังและเข้าใจ---- ‘ถ้ามึงเป็นผู้ชาย มึงรักผู้หญิง มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ เจ็บแป๊บนึงก็หาย แต่หากมึงเป็นผู้ชายที่รักผู้ชาย มึงจะมีเรื่องให้ตัดสินใจมากกว่า ถ้ามึงรักผู้ชายคนนั้นมาก มึงกล้าแค่ไหนที่จะดึงเค้ามาอยู่ในทางของมึง’

บางครั้งสังคมก็ปกป้องเรา บางครั้งสังคมเดียวกันนั้นก็ทำร้ายเรา

มีชีวิตนั้นไม่อยากเลย แค่ปล่อยมันไปตามธรรมชาติก็พอ แต่การมีชีวิตในสังคมมัน ลำบาก อึดอัด ซับซ้อน ปวดหัว----- แม่เจน แม่อร และพ่อ ทั้งสามไม่ได้เกลียดโกรธกัน แต่สังคมขีดคั่นให้ทั้งสามคนมีชีวิตด้วยความอึดอัดลำบากใจ กรไม่สนขี้ปากชาวบ้าน พี่ทศไม่เก็บเอาคำพูดคนอื่นมาใส่ใจ แม่อรเดินหน้าใช้ชีวิตไปในแบบของตัวเอง เรื่องในครอบครัวขอแค่เพียงคนในครอบครัวเข้าใจ มันควรเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ?

“พี่เสือ เค้กมั้ย?” กรนั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่ง ยกเค้กในมือขึ้นให้พี่เสือดู พี่เสือส่ายหน้า

กรหันไปสนใจกับการตัดเค้กเข้าปากตัวเองแบบเงียบๆ ตลอดเวลากรรู้ว่าพี่เสือมองตัวเองอยู่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เสือจ้องตัวเองแบบนี้

พี่เสือเหมือนคนในครอบครัวสำหรับกร เห็นพี่เสือทุกข์ กรไม่สบายใจ

หากหน้าตาที่เลือกเกิดไม่ได้ของตัวเองจะช่วยประโลมหัวใจพี่เสือได้บ้าง กรจะช่วยพี่ชายคนนี้

อากาศสดชื่นยามเมื่อผืนดินไม่ถูกแสงแดดสาดส่องโชยพัดขึ้นมาถึงระเบียงซึ่งสูงจากพื้นดินมากพอควร

“เพลาๆ มั่งเหอะพี่เสือ เหล้ามันไม่ช่วยให้คิดอะไรตกหรอกนะพี่ เสียสุขภาพเปล่าๆ ถ้าไม่เกินไปกรไม่พูดแบบนี้หรอกนะ” เค้กหมดแล้ว แก้วน้ำถูกยกขึ้นมาจรดริมฝีปาก

“ฮึ ห่วงพี่ด้วยเหรอเรา” พี่เสือเย้ยหยัน

“อ๋าว พี่ชายทั้งคน” กรเคือง

คำคำหนึ่ง เสียดแทงเข้าที่หัวใจหัวใจอีกฝ่าย------เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่ชิน

ตาชั่งในหัวใจมันแกว่งเลือกน้ำหนักระหว่าง ‘คุณธรรมของพี่ชาย’ กับ ‘ความอยากมีอยากได้ของตัวเอง’….ด้วยความเจ็บปวดของหัวใจ ด้วยความเหนื่อยล้า ด้วยความที่อยากจะปลดปล่อย  และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ เสือจึงพลั้งปากพูดคำหนึ่งออกไป เมื่อพูดไปแล้วก็นึกเสียใจทีหลังอยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ให้อยู่แบบนี้ก็ทรมาน ไม่เห็นหน้าคนที่รักก็ทรมาน ได้เห็นหน้าที่เหมือนคนที่รักตลอดเวลาก็ทรมาน ….. ทรมานเพราะตัวเองไม่มีคนของตัวเอง

“เป็นมากกว่าพี่ชายไม่ได้เหรอ”

กรหันขวับมองหน้าพี่เสือ พี่เสือไม่หลบตา กรเห็นความลังเลในแววตาของเสือ ครั้นมองนิ่งนานขึ้นกรจึงเห็นความเศร้าที่ฉาบบางๆ อยู่ในนั้น…. กรรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังระเบิดออกมาอย่างช้าๆ ทีละน้อย

มีใครมั้ยที่จะช่วยเขาได้ ต้องทำอะไรบ้างถึงจะช่วยเขาได้ กรคิดวนเวียนอยู่แบบนี้มาตลอดตั้งแต่เมื่อเย็น

แขนเรียวบางขาวผิดกับประชากรไทยทั่วไปยกขึ้นไปกอดรอบคอของคนที่ตัวโตกว่า ตอนที่เสียแม่ไป กรเสียใจจนบรรยายไม่ถูก แต่กอดของพี่ทศ ทำให้กรรู้ว่าเขายังมีคนอีกคนที่รักและห่วงใยกัน กอดนั้นเป็นกำลังใจให้กร กรนั้นทำให้กรมั่นใจว่ายังสามารถใช้ชีวิตได้ต่อ ด้วยกอดของพี่ทศความทรมาน ความเสียใจจึงทุเลาลง …. เขาอยากให้พี่เสือรู้สึกเช่นนั้นบ้าง

กอดแต่ฝ่ายเดียวกลายมาเป็นกอดซึ่งกันและกันในไม่ช้า ยิ่งอีกฝ่ายรัดตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ กรก็กระชับวงแขนตอบให้มากเท่านั้น อยากให้รู้ว่ามีคนเข้าใจ อยากให้รู้ว่ามีคนห่วงใย อยากให้รู้ว่าพี่ยังมีคนคนนี้อยู่ด้วย

นานเท่าไหร่กรไม่รู้ กรเคยกอดพี่ทศไว้ไม่ปล่อย กอดจนเผลอหลับไปก็มี

ทว่า เมื่อกอดมีน้ำหนักที่แปลกขึ้น เมื่อการกระทำบางอย่างเริ่มส่งความหมายมาให้กร

กรใจสั่น หัวใจเต้นรัว ไม่ใช่เด็กๆ ที่จะไม่รู้ภาษา และเมื่อใบหน้าถูกมือที่ใหญ่กว่าประคองไว้ เมื่อริมฝีปากประทับเข้าหา เมื่อกระแสไฟช็อตไปทั่วร่าง ความคิดต่างๆ เริ่มกระเจิดกระเจิง ในหัวขาวโพลน ร่างกายเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง มันโอนอ่อนไปตามเขา จูบที่นุ่มนวล อ่อนโยน โลมไล้กรราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด

ความเนิ่นนานเดินทางมาถึงปลายทาง ใบหน้าที่เคลื่อนออกไป ระบายความรู้สึกผิดเล็กน้อย สายตาอมเศร้ายังคงจับจ้องมาที่กร กรรับฟังคำพูดของเจ้าของสายตาด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“พี่ขอโทษ….” ถึงกระนั้นแล้ว มือที่ประคองใบหน้าของกร กลับยังไม่ยอมปล่อย ตาที่จ้องกรกับยังไม่ยอมเบือนหนี

เหตุผลไม่สามารถใช้ได้ตอนนี้ ตอนที่หัวมันว่างเปล่า ตอนที่เหมือนโลกไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยนอกเสียจาก คนสองคนที่อยู่ตรงนี้ เวลาราวกับหยุดนิ่ง การตัดสินใจใช้เวลานานมั้ยกรไม่ได้จับเวลา เขาไม่รับรู้ว่าเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้เลยตัวว่าทำอะไรลงไป พูดอะไรออกไป…. กรไหลไปตามแรงขับดันจากภายในร่างกาย------ หัวใจ

“ไม่ต้องขอโทษ… หากเป็นผมได้….” เสียงพูดหยุดไป ก่อนที่จะตามมาด้วยคำสั้นๆ คำหนึ่ง “….ก็ได้…”

เสือได้มาแล้ว เป็นไปตามที่คาด คำว่าก็ได้เหมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจ และเป็นน้ำกรดที่หยดลงมาทีละหยดพร้อมกันในตัว

เสือกอดรับสิ่งที่ปรารถนาตรงหน้านี้ไว้ ซึมซับความรู้สึกจากอ้อมกอดนั้น ปล่อยใจไปตามอารมณ์ที่เกิด เมื่อเสื้อยืดของกรถูกถอดออก เมื่อเห็นใบหน้าแดงซ่านผิดจากสีขาวนวลบนตัวของอีกฝ่ายแล้ว เสือจึงฉุกคิด และเอ่ยถาม “พี่ต่อได้มั้ย?”

ต่ออะไร…. ไม่โง่

ตัวเองต้องทำยังไง…. ตำแหน่งมันชัดเจน

พูดออกมั้ย…. กรที่นอนราบไปกับเก้าอี้ยาว โผตัวขึ้นไปกอดรอบคอของเสือ ซบหน้านิ่งกับซอกคอของอีกฝ่าย ทันใดนั้นตัวของกรก็ถูกเสืออุ้มเดินเข้ามาด้านใน เสือสาวเท้าอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ชักช้าไปยังห้องนอน กรถูกวางลงบนเตียงโดยไว แต่เสื้อของเสือถูกถอดออกไปจากตัวในเวลาที่เร็วยิ่งกว่า

เสื้อเชิ้ตถูกดึงทึ้งออกไปจากตัวโดยไม่ต้องแกะกระดุมเลยสักเม็ด เมื่อผิวที่เปลือยเปล่าสัมผัสกัน ความร้อนเริ่มสุมและลุกโชน กองไฟสองกองต่างสุมฟืนให้กันและกันอย่างไม่ขาด เครื่องปรับอากาศหาได้ขจัดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นมาบนตัวของคนทั้งสองไม่ เมื่อถึงพีธีการสุดท้าย ก่อนเสือจะสอดใส่ร่างกายตัวเองไปในตัวกร เขาหันมาจ้องตากับกรอยู่นิ่งนาน

คนของเรา ความรู้สึกเป็นแบบนี้เอง....เสือเก็บทุกความรู้สึกในเวลานี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ จูบที่อ่อนโยนยิ่งถูกประทับลงไป เมื่อริมฝีปากแยกจากกัน ริมฝีปากหนึ่งนั้นก็เลื่อนขึ้นไปพรมจูบที่หน้าผาก “พี่ทำไม่ได้”

น้ำกรดที่หยดลงทีละหยดในหัวใจเสือ เริ่มส่งความแสบร้อนให้เจ้าตัวได้รู้สึก

“กรไม่ถือ พี่ไม่ต้องรู้สึกผิด กรเป็นได้”… กรยกมือขึ้นลูบใบหน้าของอีกฝ่าย

เสือกุมมือของกรไว้ เม้มปากตัวเองเข้าไปขบกัด กำมือของอีกฝ่ายไว้แน่นก่อนพูดว่า ““ถึงจะหน้าเหมือนกันยังไง หัวใจมันก็แยกออก”

ชัดเจนแล้วสำหรับเสือ… ความชัดเจนแลกมาซึ่งความผิดหวังจากคนอีกคน เมื่อใบหน้าถูกอีกฝ่ายตบฉาด เมื่อหมอนถูกกระหน่ำฟาดใส่ เสือหลับตารับการกระทำจากอีกฝ่ายนิ่ง

ไม่ใช่ว่าร่างกายไม่มีความรู้สึก หรือไม่มีอารมณ์ ทั้งตัวเองและกรมีอารมณ์ร่วมกันเต็มที่ แต่เสือไปต่อไม่ได้ ….ไม่ได้จริงๆ

เสียงกระทืบเท้าลงส้น ตามมาด้วยเสียงปิดกระตูดังปังใหญ่ แล้วความเงียบก็คลื่นคลานเข้ามา เสือรออยู่นาน แต่กรก็ไม่ออกมาจากห้องน้ำสักที ในที่สุดเมื่อใจสงบลงแล้ว เสือจึงลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า

“กรอยู่ที่ห้องนะ คืนนี้พี่…. ไว้พรุ่งนี้เช้าพี่จะกลับมา” เสือเคาะประตูห้องน้ำ เพื่อบอกอีกฝ่าย รออีกสักฝ่าย คนที่อยู่ข้างในก็ไม่มีท่าทีว่าจะออกมา เขาจึงตัดใจออกไป หากน้องไม่ยอมออกมา และหลบอยู่ในนั้นไปทั้งคืน น้องอาจไม่สบายได้

กรใจแข็งแค่ไหน เสือรู้ซึ้งกับตัวเองดี เสือยกห้องให้กร และเอาแค่รถกับกระเป๋าตังค์ไปด้วยในคืนนั้น



*****************************



น้ำตาไหลอาบแก้ม เสียงสะอื้นนั้นไม่มี ไม่ใช่กลั้นไว้ แต่มันไม่มีของมันเอง กรปล่อยให้น้ำตามันถั่งไหลออกมา และจะปล่อยให้มันหยุดของมันไปเอง

ชีวิตเขาผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งมักเกิดด้วยความเสียใจ และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน

ทั้งที่รู้ว่าพี่เสือรักพี่ทศ ทั้งที่รู้ในใจเงียบๆ ว่าพี่ทศยกพี่เสือไว้ในฐานะหนึ่งที่พิเศษ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองจะต้องเป็นตัวแทนของคนอื่น ทั้งที่รู้ ทั้งที่รู้ ทั้งที่รู้………….

“บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า บ้า…..บ้า…….” กรด่าตัวเองให้มันจำ ทำตัวเองแท้ๆ ทำไมไม่ตั้งสติให้ดี ทำไมต้องทำ

นอกจากเสียใจ กรยังรู้สึกผิดหวังที่ตัวเองไม่สำคัญได้ถึงขนาดนั้น อับอายที่ตัวเองปล่อยตัวปล่อยใจให้พี่เสือเห็น เข้าหน้าพี่เสือไม่ติดอีกแล้ว ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย… ไม่อยากเลยจริงๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ กรจะให้มันหยุดแค่กอดแรก…เท่านั้น

ยิ่งสำนึกว่าตัวเองไปเพิ่มภาระให้พี่เสือก็รู้สึกผิดมากขึ้น ยิ่งรู้ว่าตัวเองทำให้พี่เสือเป็นทุกข์ยิ่งขึ้น กรก็ยิ่งร้องไห้…. ทุกอย่างมันหยุดไม่ได้อีกแล้ว กรไม่รู้จะหยุดมันยังไง…. ภายในเวลาไม่นานเท่าไหร่ จากคนที่ฉลาดที่สุด กลับกลายมาเป็นคนโง่ที่สุดคนหนึ่ง

เพราะรัก… เขาถึงเป็นคนโง่

เพราะรัก… เขาถึงมองหน้าอีกฝ่ายไม่ได้อีก

เพราะรักที่ไม่เคยรู้ตัวว่าจะมีให้เขามากขนาดนี้… ทำให้ตัวเองละอายใจ


กรเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำ ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มสูดกลิ่นของคนที่ตัวเองรักซึ่งติดอยู่กับหมอน กอดผ้าห่มที่ยังคงมีกลิ่นของเขาไว้แน่น ไปพร้อมกับหลั่งน้ำตา… ไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้ แต่วันพรุ่งนี้ไม่ฟัง และมันจะยังคงเดินทางมา

จงนับถอยหลังตอนรับการมาของมันเสียเถอะ…….

****************************


มีต่อ  Reply #77
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2012 15:52:13 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :กอด1:

มาอ่านต่อยาวสะใจมากค่ะ  รอคลี่คลาย

ตกลงเสือทศ หรือ  เสือกร  กันแน่  รอ

บวกเป็ด

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
คำผิดค่ะ

ทันใดนั้นตัวจองกรก็ถูกเสืออุ้มเดินเข้ามาด้านใน



น่าสงสารน้องกร ดีแล้วล่ะที่ทำเหมือนไม่รู้จักไอ้ควาย เอ้ย! เสือ น่ะ  :m31:

โหมด กำลังอิน/

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
วรรคหก




เมื่อเสือกลับมาที่ห้องในตอนเช้า ไม่มีร่องรอยของกร

ไม่ผิดจากที่คิด เขาเชื่อมั่นว่ากรจะไม่เป็นอะไร แต่ใจก็ยังนึกห่วง จนรวบรวมความกล้ากดเบอร์ของกร แต่กรก็ไม่รับสาย… รับก็บ้าแล้วสิ!

เสือเก็บห้องทั้งห้อง ทำความสะอาดครั้งใหญ่ หมดไปเกือบครึ่งวัน เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น เขารีบปล่อยกระจาดที่อยู่ในมือให้ล่วงลงพื้น แล้ววิ่งไปหาที่มาของเสียง โดยไม่สนใจแม้เสียงแตกแพล้งที่ลอยตามหลังมา

เชี่ยโต้…. ชื่อนั้นโชว์ขึ้น

“ตายรึยัง?” เสียงต้นสายกรอกมาหาอย่างยียวน

“เกือบแล้วว่ะ” เสือไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรกับอีกฝ่าย ตอนนี้มันหมดแรงไปหมดทั้งตัว ไม่ใช่คนที่รอ กังวลตลอดว่าน้องไปไหน จะโทรหาทศก็ไม่กล้า กลัวทศจับได้ กลัวตัวเองเผลอบอกให้ทศฟัง

“ไอ้กรมันอยู่ห้องกู พรุ่งนี้กูจะไปส่งมันที่บ้าน ไอ้เจตมันหยุดงานพอดี กูเลยว่าจะไปเที่ยวบ้านไอ้ทศแก้เซ็งหน่อย ร้อนนรกเลย!” โต้บ่นถึงความร้อนของเมืองหลวงประเทศไทย

ไอ้โต้ไม่ถามอะไรมากความ มันถามแบบปกติ จะฝากอะไรไปให้ทศมั้ย กับจะให้เอาอะไรกลับมาให้มั้ย…. เสือขำอยู่ในใจ

อยากฝากน้องชายสุดที่รักของทศไปให้ทศ พร้อมคำว่า “ขอโทษ”

อยากได้คำว่า “ไม่เป็นไร” หรือ “ยกโทษให้” เป็นของฝากจากน้องชายของทศ

และถ้าเป็นไปได้ อยากฝากให้เอาหัวใจที่มันอัดแน่นด้วยความรักของเขาไปให้ทศ อยากให้ทศถือมันไว้ อยากให้ทศดูแลมัน

และอยากให้เอาหัวใจของทศกลับมาให้หน่อย

------- อยากได้แต่ในสิ่งที่ไม่สามารถเป็นจริงได้

เมื่อห้องถูกเก็บเรียบร้อย เสือจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาวนอกระเบียง มองฝูงนกกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่บินกลับรังพร้อมกับนั่งถามหัวใจตัวเองไปเรื่อยๆ … คำตอบอยู่ตรงหน้า  ใจทำใจยอมรับกับมันได้ เหลือเพียงแค่ว่า…..เสือจะรับมือกับมันอย่างไร


****************************


เดือนหนึ่งหลังจากนั้น ทศก็เข้ามาหาส่งกรเข้าหอ และแวะมานอนด้วยที่คอนโดในคืนสุดท้ายก่อนที่จะกลับบ้าน

ระเบียงห้องที่คอนโดเสือ จะมีอิฐสีแดงปูเต็มพื้นที่ บนอิฐจัดวางต้นไม้เล็กบ้างใหญ่บ้าง

คนคนหนึ่งออกแบบมันไว้ คนคนหนึ่งมาคอยจัดมัน และเปลี่ยนต้นไม้อยู่เรื่อยๆ… เขาสนุกก็ปล่อยเขาทำไป เสือไม่เคยห้าม ตรงระเบียงจึงแปลกใหม่ไม่จำเจ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ…. เก้าอี้ไม้เรียบๆ ทรงยาวสำหรับพอนั่งกันได้สองคน หากเบียดกันก็นั่งได้สามคน

คนคนหนึ่งชอบนั่งมัน…. ตอนเช้าก็นั่งมองฟ้า ตอนค่ำก็นั่งมองดาว ปล่อยใจไปเรื่อยๆ ตัดขาดความคิดกับเมืองที่สับสนวุ่นวายทั้งๆ ที่เราอยู่ในใจกลางของมัน เขาบอกกับเสืออย่างนั้น

ทุกครั้งที่คิดไม่ตก มีเรื่องให้กลุ้ม ความคิดสับสนวุ่นวาย เหนื่อย หรือแม้กระทั่งท้อ… เสือจะมานั่งอยู่ตรงนี้

ไม่ใช่ว่านั่งมองฟ้าแล้วสบายใจ แต่เขามานั่งเพื่อคิดถึงความทรงจำทั้งหมดที่ผ่านมา….ทุกนาที ทุกวันเวลา มีค่ากับเสือเสมอ เสือใช้ความทรงจำที่สร้างขึ้นมาร่วมกันกับคนคนนั้นเป็นเครื่องผ่อนความทุกข์ เป็นเสมือนเครื่องผลิตแรงใจ…ให้กับตัวเอง

นานมากแล้วที่คนคนนั้นไม่ได้มานั่งที่เก้าอี้ตัวนี้ แต่เสือยังได้คุยโทรศัพท์กับเขาบนเก้าอี้นี้อยู่ไม่ขาด ด้วยอาชีพและหน้าที่ ทำให้ตัวติดกันหรือเห็นหน้ากันตลอดแบบตอนยังเด็กไม่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทิ้งห่างกัน

‘เพื่อนกันมันตัดกันไม่ขาดหรอกว่ะ’-------- เพราะคำนี้ เพราะเหตุนี้ เขาจึงรักษาและหวงความสัมพันธ์ระหว่างกันนี้ไว้

ไม่ต้องเป็นแฟนก็ได้ ไม่ต้องรักกันแบบนั้นก็ได้ ไม่ต้องเจอกันให้มากกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องกังวลหากเสือโกรธ น้อยใจ หรือเสียใจ ปล่อยเสือไว้สักพัก แล้วเขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง… ขอเพียงแค่ยังอยู่ ขอแค่ให้ได้พูดคำว่า “เรา” เสือขอแค่นั้นเอง

“เอ้า! มึง มะม่วงต้นบ้านกูเอง เดือนก่อนฝากมาไม่ถึงมึง ไอ้เชี่ยโต้เก็บไปแดกคนเดียวเลย เชี่ยจริงๆ มึงแดกซะให้เปรม กูยกมาให้มึงทั้งเข่งเลย” ทศเดินออกมาที่ระเบียงห้องพร้อมมะม่วงดิบที่เฉาะแล้วชามหนึ่ง

“มึงไม่แบ่งให้มัน เกิดมันรู้ กูน่ะหูชา ใกล้พวกมันแค่เนี้ยเอง” เสือคิ้วขมวด

“มึงอยากแบ่งก็แบ่งเอง วันนั้นกูแยกถุงให้เรียบร้อย แม่งก็รับปากกูดิบดีว่าถึงมือมึงแน่ เชี่ยเอ้ย! เลวเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” ทศกระแทกก้นลงนั่งที่อีกฟากของเก้าอี้ไม้

วันนี้ลมพัดเย็นดี มีกลิ่นหลังฝนตกจางๆ พอรดน้ำต้นไม้ไปแล้ว กลิ่นสดชื่นจากใบไม้จึงลอยอบอวลทั่วระเบียง วันดีๆ กับคนแสนดี….ชีวิตนี้จะเอาอะไรอีกมั้ยไอ้เสือ?

“คราวนี้ไอ้โต้กับไอ้เจตมันคบกันยืดดีเนอะ” ทศชวนคุย

เสือพยักหน้าพลางกัดมะม่วงเข้าปาก เคี้ยวด้วยความมันส์…. แม่เจ้าเว้ย สมกับ “มะม่วงมัน” แม่งอร่อยสวรรค์ชั้นเจ็ดแบบนี้นี่เอง ไอ้โต้ถึงยอมเสียสัตย์กับเพื่อน!!

“หึ หึ หึ…เหลือเชื่อว่ามันจะรักกันแบบนั้นได้” ทศพูดกลั้วหัวเราะ

“เหงอ่างอั๊น….” มะม่วงมันคาปาก

“สัด เคี้ยวให้เสร็จค่อยพูด เดี๋ยวลำบากกูเอาส่งโรงบาลอีก” ทศเอาเท้าแตะขาเสือ

ก้วม ก้วม ก้วม … ฮึก ซู๊ดดดด อึก อึก อึก “ฮ๊าาา…” ดื่มน้ำไปสามอึก “อร่อยโคตรว่ะ!....นี่กูจะบอกว่า เห็นไอ้โต้มันอย่างงั้น แต่มันรักไอ้เจตฉิบหายเลยว่ะมึง ก่อนนี้แม่งไม่แสดงออก ทำเฉย ทำหน้าเบื่อ ฮึ มึงมาดูตอนนี้ซะก่อน ภรรเมียดีๆ นี่เอ๊ง ไม่รู้ผีอะไรดลใจให้มันเปลี่ยนไป ไอ้เจตเลยแจ๊คพ๊อต ซื้อหวยมาเป็นสิบปี หวยพึ่งยอมให้มันถูก” ไอ้เสือเทียบไอ้โต้เป็น “หวย”

เจตเขาซื้อหวยทุกงวดไม่เคยขาด แต่ไม่เคยถูกหวยสักที ไม่ใช่ว่าเลขไม่ตรง แต่ “หวย” ไม่ยอมให้ถูก…. ถึงคบกัน ถึงเอาโต้เป็นเมียได้ แต่โต้ไม่ได้รับสมยอมว่าเป็น “เมีย” เจตเลยสักครั้ง แต่หลังจากกลับมาจากทริป “ซิ่งไอ้เดสไปเที่ยว” โต้ก็เปลี่ยนไป ยอมเจตมากขึ้น รำคาญเจตน้อยลง ยอมอยู่ในฐานะเมีย และบอกรักเจตบ่อยขึ้น ผิดกับก่อนนี้--------

เจตรู้ว่าโต้รัก แต่เจตมันโรคจิตอยากให้อีกฝ่ายพูดให้มันฟังบ่อยๆ มันบอกว่า “มึงอ่ะ ทำแต่ละอย่าง บ่อนทอนความเชื่อมั่นกูทั้งน๊านนนน กูก็รู้แหละว่ารัก แต่พูดให้กูชื่นใจบ้างมันจะตายเรอะไง!”

หากเป็นคนอื่นคงน้ำตาปริ่ม โผไปกอด และบอกรักให้ฝ่ายที่เรียกร้อง แฟนทั้งคนนะครับ คนที่เรารักนะครับ เขาขอคำว่าว่ารัก …มันยากตรงไหน?

“สัด! ก็เพราะมันยากกูถึงไม่ทำไง เรียกร้องอยู่นั่นแหละ รำคาญเว้ย!” ยันตีนเข้ากลางท้องของแฟนที่รักแบบเต็มเหนี่ยว จนแฟนที่รักตัวลอยไปทรุดคุกเข่าที่กลางพรมผืนใหญ่หน้าชุดโซฟา

“ได้ครกจะเอาสาก!” โต้บ่นฉิว ของขึ้น รำคาญ----- ทำไม่ได้ก็ไม่ได้สิ จะเซ้าซี้ทำไม หาว่ากูบั่นทอนความเชื่อมั่นมึงเรอะ! เสือกคิดเอง เกี่ยวไรกับกู!

“อูยยยยย….ตะ โต้…..” ครางเสียงอ่อย “ได้คืบจะเอาศอก ไม่มีสำนวนครกสาก….”

ดีดผึงขึ้นมาจากโซฟา ก้าวฉับๆ เข้าไปหาแฟนที่รักอย่างไว และ ‘ถวายบาทา’

“ไม่ต้องเสือกมาสอนกู! เก็บเอาไปสอนนักเรียนมึงนู่น! กูจะพูด! กูจะบัญญัติ! มึงจะทำไม?! อย่างมึงนี่แหละเหมาะแล้ว!”

รู้อยู่ว่าโต้มีปมเรื่องภาษา แฟนที่รักก็ยังจะไปจี้ต่อมเขาอีก…..แต่ด้วยสำนึกในวิชาชีพ ทำให้เจตอดไม่ค่อยได้  อยากแก้คำพูดของเมียรักให้ถูกต้อง…. นี่กูผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย!!!!!

“โตๆ กันแล้ว ความคิดมันก็ต้องเปลี่ยนบ้างสิวะ ถ้าเป็นแบบเดิมๆ คงได้เลิกกันอีกรอบว่ะ” ทศบอก

“แม่ง! น่าอิจฉา” เสือกัดมะม่วง เคี้ยวกร้วมๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“อยากมีคนรัก?” ทศกัดมะม่วงเข้าปาก

“อื้อ”เคี้ยวกร้วมๆ

“กูก็รักมึงอยู่นี่ไง” กัดมะม่วงเข้าปากต่อจนหมดชิ้น

เสือใจหายวาบ ตั้งสติกับสิ่งที่ได้ยิน เหมือนเดิม เหมือนทุกครั้งที่เคยพูด เราเป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้เกลียดกัน เราถึงรักกันไงไอ้เสือ ใจเย็นไว้มึง “ไม่ใช่ อิจฉารักแบบของพวกมัน แบบนั้นอ่ะ” หยิบมะม่วงมากัดต่อ ใจจดจ่ออยูกับความมันของมะม่วง ไม่สนใจกับความหวังเล็กน้อยที่ผุดขึ้นมาในหัวใจ…ตอนนี้

หากมันเป็นจริงก็คงดี…….

“กูก็รักมึง แบบที่มึงอิจฉาพวกมันนั่นแหละ” ทศยิ้มกริ่ม หน้าตาไม่ได้ล้อเล่น มันพูดจริง

“มึงอย่ามาอำ” เสือใจหายวาบ

“หึ หึ หึ.....มึงมานี่” พูดจบปุ๊บทศก็เหนี่ยวคอเสือเข้าไปหา ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันโดยที่เสือไม่ไม่คาดคิด ทีแรกตกใจจนผลักอีกฝ่าย แต่แขนที่เหนี่ยวคอกับล็อคคอเขาไว้แน่น จากริมฝีปากประกบกันเฉยๆ กลับกลายเป็นจูบที่เสือเฝ้าฝันมานานหลายปี หัวใจเสือร้อนวูบวาบ มันเต้นระรัวจนรู้สึกอึดอัด

ริมฝีปากถอนออก หน้าผากจรดกันและกัน เสียงลมหายใจดังถี่กระชั้น

“ไอ้ทศ มึง......เป็นไรรึเปล่าวะ?”  เสืออึ้งกับการกระทำของคนตรงหน้า

“หึ หึ หึ....... มึงรักกูใช่มั้ย?” ทศจับคอเสือไว้หมั่น จ้องตาเสือแบบเจ้าเล่ห์

“ไอ้ทศ!” เสือตาโต

“อยากนอนกับกูป่าวล่ะ?” ทศถามขึ้นมาดื้อๆ

“เหี้ยทศ!” เสือตาค้าง

“โอกาสมึงมีครั้งเดียว เอาไม่เอา?” ทศพูดเสียงจริงจัง สายตายังจ้องกับเสือตลอดเวลา

“เอา!” เสือบอก..... ไม่คว้าก็โง่ไปมั้ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ทศหัวเราะพร้อมซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของเสือ แขนกอดกระชับแผ่นหลังของอีกฝ่ายแน่น แน่นจนเสือเกือบหายใจไม่เข้า เสือกอดตอบอีกฝ่าย ทั้งสองต่างนิ่งเงียบ เสือรอเริ่มต้นจากอีกฝ่าย ให้เขาเริ่มเองเขาไม่กล้า แต่พร้อมรับนะ ขยับมาสักกิ๊กเหอะ เสร็จไอ้เสือแน่!!

“จูบกูทำได้ กอดกูทำได้ แต่มากกว่านั้นกูไม่ได้ว่ะ” ทศบอกแต่ยังไม่คลายวงแขนที่รัดตัวเสือไว้

“-มึง-แกล้ง-กู-” เสืออายแทบแทรกแผ่นดินหนี

“ไม่!” ทศคลายวงแขน ยกฝ่ามือทั้งสองกุมแก้มของเสือเอาไว้ “กูคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องคุยกัน.....มึงรักกู แบบนั้นใช่มั้ย?”

เสือพยักหน้า ------ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ พุ่งชนแม่งเข้าไปเลย

“กูรักมึง..... รักมากกว่าเพื่อน กูยกให้มึงเป็นคนพิเศษของกู ให้เป็นแฟนกับมึงกูก็ทำได้ แต่กูทำได้ไม่เท่ากับที่มึงหวัง” ทศบอก

“มึงรับกูได้เหรอ?” เสือแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน แต่หน้าที่เรียบตึงผิดปกติของทศทำให้เสือสะดุดใจ “มึงเป็นไรป่าวเนี่ย?”

“คบกันมั้ย? กูถามครั้งเดียว ไม่มีซ้ำ” ทศถาม

“มึงรักกูจริงง่ะ” เสือถาม

“จริง!” น้ำเสียงหนักแน่น

“ตรงไหน? ยังไง? เมื่อไหร่?” เสือถาม

“หึ หึ หึ แล้วมึงน่ะรักกูเมื่อไหร่?” ทศถาม

จ้องตากันสักพัก เสือก็หน้าแดงพรึ่บ คำที่เคยท่อง ความรู้สึกที่เคยกดเก็บ....มานานหลายปี ได้พูดจริงก็วันนี้.....พอบอกออกไปหมด สิ่งที่อีกฝ่ายบอกมากลับทำให้เสือทั้งตกใจและดีใจ.... ทศรักเสือ จริง! แถมเริ่มในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

บางคนอาจบอกว่า “นี่ไม่ใช่ความรัก”

น่าขำ เอากฏเกณฑ์อะไรมาวัด ถามหัวใจตัวเองกันรึยังว่า “รัก” รึเปล่า?

เสือและทศผ่านการถามหัวใจตัวเองมาแล้ว

ทั้งสองฝ่ายต่างรักกัน ทว่ารักของทศยั้งตัวเร็วกว่าเสือ

“กูเคยคิดว่า กูอยู่กับมึงไปจนแก่ได้โดยไม่ต้องมีเมีย ไม่ต้องแต่งงาน ถ้ามึงยอมอ่ะนะ แต่พอนานไป กูว่ามันยังขาดอะไรไปสักอย่าง กูไม่ซีเรียสเรื่องของที่มึงมีแล้วกูก็มี.....หึหึหึ ไงก็ได้ แต่กูมีเซ็กส์กับผู้ชายแล้วเฉยๆ ว่ะ แต่อยู่กับมึงแล้วก็สบายใจดี แค่นี้...จบ ทั้งกรทั้งมึงทำให้ชีวิตกูพอดี กูพอแล้วกับจุดนี้ มีคนที่กูรัก มีคนที่รักกู......”

“มึงเลยถามว่าจะคบกันมั้ย?” ใจเสือปวดหนึบ ชื่อของใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ถ่วงความดีใจของเสือให้จมลงสู่ความมืดอันเป็นนิรันดร์

“ก็ไม่เชิงว่ะ....กูคิดมานแล้ว กูให้มึงไม่ได้เท่าที่มึงต้องการ กูสงสารมึงว่ะ กูรู้ว่าคนรักกันเค้าต้องให้กันมากแค่ไหน แต่กูก็รู้จักตัวเองดีพอว่ากูให้อะไรมึงได้บ้าง..... ที่กูพูดวันนี้ กูให้มึงถามใจตัวเองละกัน ว่าจะเอายังไงกับกู หากมึงรับข้อเสนอกูได้ เราก็เป็นแฟนกัน เหมือนไอ้โต้ไอ้เจตนั่นแหละ แต่หากมึงรับไม่ได้กับสิ่งที่กูให้ได้ “เท่านี้” เราก็เป็นเพื่อนกัน.... ปล่อยความรู้สึกมึงไว้กับกู แล้วมึงก็ไปต่อซะ”

“กูถามหน่อย มึงตอบกูจริงๆ นะ” เสือทำหน้าจริงจัง

“เอออ ว่ามา” ทศรับปาก

“ที่มึงบอกว่ามีเซ็กส์กับผู้ชายแล้วเฉยๆ มึงเคยมีอะไรกับใครวะ?” สงสัยมากที่สุด

“ฮ่าฮ่าฮ่า กูพูดแล้วมึงจะโกรธกูป่าววะ” ทศหัวเราะร่า

เสือส่ายหน้า ใจเต้นระทึก.....

เสือมองใบหน้ายิ้มกริ่มของอีกฝ่าย มือของทศยกขึ้น นิ้วพับเข้าหาตัว เหลือแค่นิ้วชี้ที่ยื่นออกมา------ที่เขา นิ้วชี้จิ้มมาที่อกด้านหนึ่งของเขา ทศขำอยู่ในลำคอ

“ห๊า!!!! กูเนี่ยนะ เชี่ยกูไปมีอะไรกับมึงเมื่อไหร่ ไม่ได้อยู่ในความทรงจำกูสักกะตี๊ดเดียว” หมาออกลูกเป็นไข่ยังน่าเชื่อกว่า *0*

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในความฝันมึงคืนไหนคืนนึงล่ะมั๊ง” ทศหัวเราะร่า

เค้นคอมันสักพักก็ได้ความว่า ไอ้ทศมันลักหลับไอ้เสือ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ตอนนั้นทศอยากรู้ว่า ตัวเองจะยอมรับอีกฝ่ายได้แค่ไหน จับลูบคลำมันก็ได้อยู่ น้องชายไอ้เสือมันก็แข็งแรงดี ละเมอเรียกชื่อคนลักหลับมันได้ถูกคนด้วย แต่จนแล้วจนรอดทศก็ไม่ได้มีอารมณ์ถึงที่สุดกับเสือ ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่มันเฉยๆ ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีการตอบสนองอย่างที่คาดคิดไว้ แต่การกระทำในวันนี้ ตอกย้ำให้ทศมั่นใจว่า----- เขาไม่อยากเสียคนคนนี้ไป

ทศหันกลับมาคิดว่า..... หรือว่ารักไม่มากพอ

ทศเฝ้าคิดวนเวียนอยู่แบบนั้นมาตลอด จนปัจจุบัน “รัก” มีมากพอแล้วรึยัง ทศไม่รู้ แต่ “รัก” ยังคงอยู่ในใจทศเสมอ เท่าเดิม ไม่เปลี่ยน

ทศรักคนคนนนี้ แต่ “รัก” ของทศยังมีลิมิตของมันก็แค่นั้น....

อนาคต....ทศไม่รู้ หากอีกฝ่ายทำให้เขาเปลี่ยนได้ เขาก็พร้อมและจะไม่แข็งขืน

ตลอดมาทศสู้กับความคิดของตัวเองอย่างหนัก.... และวันนี้เขาต้องจัดการความรู้สึกที่มีระหว่างกันให้ชัดเจน จะรักก็รัก จะคบกันก็คบ จะเดินต่อไปก็เดิน ย่ำอยู่กับที่มันไม่มีอะไรดีขึ้นมา

“มึงรักน้องกู มึงรู้ตัวบ้างมั้ย?” ทศถอนหายใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ใจเสือ

เสืออึ้ง และก้มหน้าลงไปพักที่หัวไหล่ของทศ เป็นนานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “กู......เสียใจ”

เขาทำให้ทศลำบากใจ

เขาทำให้กรต้องเจ็บ

แค่ตัดสินใจว่า “เราจะคบกัน” ไม่ง่ายเลยสำหรับทศ..... เสือรู้ดี เพราะถ้าหากทศตัดสินใจง่ายขนาดนั้น ทศคงไม่ปล่อยให้เวลามันยืดเยื้อมาถึงขนาดนี้

การยอมทำตามหัวใจสั่ง การยอมเป็นตัวแทนคนอื่น การก้าวตัดหน้าพี่ชายที่ตัวเองรักและเคารพ ไม่ใช่จะดี ไม่ใช่จะมองเห็นความสุข แต่กรก็เลือกมัน.... แต่แล้วเสือกลับ “ไม่รับ” ความรักที่คนคนหนึ่งฝ่าฟัน “ความรู้สึกผิดของตัวเอง” จนเลือดโชกก่อนที่จะยื่นมันมาให้เขา

ระหว่างพวกเขาซึ่งหันหน้าเข้าหากันเป็นสามเหลี่ยม ระหว่างเรา.... พวกเรามีแค่เชือกเส้นบางๆ ถือไว้เพื่อกั้นกลางความสัมพันธ์ของเราทั้งสามคน

เชือกเส้นบางๆ ที่แค่ทึ้งก็หย่อน แค่จับมันมากระตุกก็ขาด ทว่าพอคนเราอยู่หลังเส้นกั้นนั้นมานาน เชือกบางๆ เส้นนั้นกลับยากที่จะทำลาย

ความรักเป็นเรื่องยาก บางคนต้องเดินผิดกันจนเหนื่อย ถึงกลับมาทางที่ถูกได้ แต่!!!!.......อะไรล่ะที่เรียกว่า “ถูก” จะแน่ใจได้ยังไงว่านั่น “ผิด”

ตัดใจจากทศ ไปคบกร....เสือทำไม่ได้ คนนี้น่ะ รักมานานมาก

เลือกทศ เสียกรไป....เสือทำใจลำบาก เขาต้องทนอยู่กับความเสียใจไปตลอดชีวิตแน่

“กูกับมึงชัดเจนกันแล้วนะ กูจะอยู่ตรงนี้ ส่วนเรื่องมึงกับกร มึงไปจัดการเอาเอง กูไม่บังคับใจใคร แล้วกูก็ไม่ช่วยมึงด้วย จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มึงมีกู!”

วาจาตัดญาติขาดมิตร คำทิ้งท้ายที่หนักแน่น กรีดแทงหัวใจของเสือให้อาบเลือด

เสือจับข้อมือทศไว้แน่น ทศพยายามจะลุกแต่ก็ลุกไม่ขึ้น ทศถอนหายใจหนักๆ ทีนึง หลังจากนั้นก็นั่งนิ่งๆ ให้เสื้อยืดที่ไหล่ซับน้ำตาให้กับอีกฝ่าย

ราวกับน้ำตาไม่มีวันหมด กระทั่งสายลมดึงตะวันให้คล้อยลงสู่เส้นขอบฟ้า กระทั่งฝืนฟ้าถูกห่มด้วยผ้าสีนิล กระทั่งดวงดาวเปร่งกระกายล้อกับแสงจันทร์เต็มดวง น้ำตานั้นก็ยังหลั่งริน

ให้มันไหลไป....สมค่ากับคำว่า “เสียใจ”






http://www.youtube.com/watch?v=rREEl9VGHuc&feature=channel











[จบ]   :pig4:






โอเคนะ จบแล้ว มันจบแล้ว
[สองก้าว] จบแล้ว
พอโน๊ะ..... ขอไล่เก็บตรวจทานก่อน อาจมีพิมพ์เพิ่มลงไปบ้าง ใครตามมมาอ่านทีหลังน่าจะโชคดีไป 5555+ (รึเปล่า?)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2012 15:17:49 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
งง อ่ะ

Chobkub

  • บุคคลทั่วไป
เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ จบแล้วหรอครับ มีต่อไหมครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
ก้าวต่อไป




นิยายบางเรื่อง จบแบบค้างคา…

คุณจะเปิดหน้าต่อมาแล้วพบกับคำว่า “จบบริบรูณ์”

คุณจะอึ้งและทิ้งตัวอยู่ในความคิดสุดท้ายของตัวละคร

ว่ามันเป็นไงต่อ ทำไม อะไร ยังไง แบบนั้นใช่มั้ย แบบนี้รึเปล่า …….

 [สองก้าว] ของเสือจบไปแล้ว

ในเส้นทางความรัก เสือก้าวเข้าไปหาความรักทั้งที่ไม่รู้ใจตัวเอง

ต่อมา…. เมื่อเดินมาถึงต้นความรัก เสือเลือกที่จะก้าวผ่านมันไป และไม่เก็บผลของต้นความรักมากิน




เสือตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร เสือเลยไม่เลือกใครสักคน!!!!!


การเลือกใครสักคน หมายถึงการที่ต้องปล่อยให้คนที่ไม่ถูกเลือก เสียใจโดยลำพัง… แค่คิด ใจเสือก็เหมือนจะขาด เขาไม่สามารถปล่อยให้คนที่เขารัก มีความสุขแบบช้ำๆ บนความทุกข์ของคนอื่น หรือแม้แต่มีทุกข์เพื่อให้คนอื่นสุข

ในเมื่อต้องเจ็บด้วยกันทั้งสามฝ่าย… เสือจึงปล่อยให้เจ็บกันไปแบบนี้ เสือคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ตนสามารถทำให้กับคนที่ตัวเองรักทั้งสองคนนี้ได้

เสือหวังว่า เจ็บในครั้งนี้จะจางลงไปเอง…..ในสักวัน












บางคนไม่รู้จะทำยังไงกับความรัก?

พอมีรัก ทำไมถึงทำแต่เรื่องโง่ๆ ในสายตาคนอื่น คิดแต่เรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกรำคาญแทน …..



…….

……

…..

….



..

.


เสือยังก้าวต่อไปในชีวิต เขายังทำตัวเหมือนเดิม ทั้งกับทศ และกับกร.... แต่เขาคงขอมากไปกรถึงให้กับเขาไม่ได้


ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ตรงหน้าอกเรา มันบงการเราได้ แต่เราบงการมันไม่ได้
เราทำได้แค่ “เป็นผู้รับความรู้สึก” จากมัน


หลายครั้งเมื่ออารมณ์มันพีคสุดๆ ขึ้นมาที ไอ้เสือมันก็จะมาชวนเพื่อนๆ ไปอาบเหล้า แหกปากเอาสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมาไม่ยอมหยุด จนเมื่อรำคาญมากๆ ถึงมีประโยคเผด็จศึกไอ้เสือที่ว่า “มึงทำตัวเอง ไอ้ควาย!”

พอหัวไอ้เสือประมวลความหมายเสร็จปุ๊บ มันจะหยุดแหกปากแล้วเปลี่ยนมาเป็น “เสือร้องไห้” แทน
คำนี้ไม่ใช่จะพูดได้บ่อยๆ มันจี้ใจดำเสือที่สุด เพื่อนทุกคนพยายามเลี่ยงสุดชีวิต….. หากพูดให้ไอ้เสือได้ยิน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร มันก๊อกแตกได้ทันที

คนที่พูดประโยคนี้บ่อยๆ ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของเพื่อนก็คือคนที่เริ่ม “บัญญัติประโยคเผด็จศึกไอ้เสือ” นั่นเอง

แต่ไอ้เสือมันแอบซาดิส ชอบไปชวนคนนั้นเค้ากินเหล้า ไปเมาให้เค้าด่า…. มันคงกะให้เจ็บและชินไปเองล่ะมั๊ง?!!!

สำหรับเสือ ถึงมันจะบ้า แต่มันก็ยังก้าวต่อไป

อนาคตเป็นสิ่งที่ปัจจุบันไม่รู้ พรหมลิขิตหน้าตาเป็นยังไง..... เสือคงได้เจอในสักวัน


เอวัง :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2012 14:47:18 โดย BaoBao »

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
เป็นบทสรุปที่ "คาราคาซัง" มากสำหรับความสัมพันธ์ที่เป็นสามเหลี่ยมอันนี้

ทศ รักเสือ แต่ให้ได้แค่ความรัก

กร รักเสือ แต่ก็รักตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นจึงเลือกที่จะจบความสัมพันธ์นี้

เสือ เป็นผู้ชายที่ "โคตร" โชคดี เพราะมีคนรักถึง 2 คน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้ว เสือ ก็ไม่เหลือใครเลย (หรือเปล่า?.....อันนี้ก็แล้วแต่คนแต่งละเนอะ)

ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ที่มีมาให้อ่านนะคะ ขอให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงทุกย่างก้าวค่ะ จะเป็นกำลังใจให้  :3123:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โอ้ว สงสารเสือที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :เฮ้อ:

ก้าวต่อไป  ทั้งสามคนอาจจะเจอคนอื่นที่ทำให้สามเหลี่ยมสามมุมพังลงก็ได้เนอะ

บวกเป็ด

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จบได้แนวมากๆ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
อึมครึมจริงๆ แต่ก็ชอบมากอ่ะ เรื่องนี้

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ชอบตอนจบอ่ะ \(><)/

bellity

  • บุคคลทั่วไป
มันช่างจบได้ค้างคาหัวใจดีจริงๆ แต่ก็นะชีวิตไม่ใช่ละคร ^^

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
อึดอัดอ่ะ รู้สึกว่ามันไม่สุด ไม่เต็มที่
มัน ค้างคา อย่างงี้ไม่ค่อยชอบเลย

แต่คุณผู้แต่ง แต่งดีนะคะ อินมากๆเลย
เราชอบ พาสแรกที่มีโตกะเต็ง อ่ะ น่ารักดี
^__^

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...งืมๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด