...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 484718 ครั้ง)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
อ่านกลวิธีเปลี่ยนชายแท้ให้เป็นเกย์แล้ว เกิดอาการแบบว่า  :a5:

เราพบหนทางสู่สวรรค์แล้ว  :oni1:

อ่อ  ม่ายช่ายยย 

แต่วิธีน่าลองดีเหมือนกันนะเนี่ย   :m12:

คนที่เราเล็ง ๆ ไว้ดันเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกันซะด้วยสิ 555+


ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2

gnoy

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว น้องจ๋า

อาจารย์ สุธานี เพ็ชร..  เป็นที่ปรึกษาห้องพี่ตอนมอสี่อ่ะ

ถ้าพี่บอกชื่อพี่ไป รับรองเจ๊แกรู้จักและต้องจำได้แน่

ว่าแต่ เจ๊แกยังมีนัดเรียนเพิ่มอยู่หรือป่าวครับ

แล้วก็เจ๊แกยังพูดถ้อยคำเหล่านี้หรือไม่ เช่น "ขีดเส้นใต้ร้อยเส้น" "กาดอกจันพันดอก" "....หน่ะค่ะ" "สอนไม่ทันแล้วค่ะ ต้องนัดเพิ่ม"

แล้ว รีบมาต่อเร็วๆนะครับ เป็นกำลังใจให้น้องเสมอนะ

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
สงสารแดนจัง  :เฮ้อ:
หวังว่าแดนคงจะเข้าใจหัวใจของตนเองซักวันหนึ่งว่ารักใครมากที่สุด  o13

ว่าแต่มารอลุ้นใครจะเป็นพระเอกตัวจริงกันแน่หว่า  :m23:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ทุกๆคนอ่านตอนนี้ให้จบ แล้วเดี๋ยวจะเข้ามาตอบเม้นท์ไขปัญหาคาใจทุกข้อทีเดียวเลยนะคับ ขอบคุงงับ  :m4:


บทที่ 30



      ตอนนี้ผมเริ่มจะคิดได้แล้วว่าการมีความรักมันไม่เห็นน่าพิสมัยตรงไหน...

      ชีวิตวัยรุ่นของผมช่วงนี้ทำให้ผมหงุดหงิดมาก แล้วเวลาที่คนเราหงุดหงิดมากนั้นอะไรๆรอบตัวเรามักจะพลอยดูน่ารำคาญ ขวางหูขวางตาไปหมด เกิดอารมณ์อยากโดดเข้าบีบคอใครได้เสมอ แง่ง!!!~~~ :-<)

      ที่พูดถึงนี่คือรวมแม่...ผู้ที่ร่าเริงสวนทางกับผมขึ้นทุกวันด้วย

      

                         เรื่องต้นเหตุ เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ขณะที่ผมเดินกลับลงมาจากห้องหมวดภาษาต่างประเทศกับพี่เมฆนั้น ใครคนหนึ่งที่ทำให้เชือกเส้นสุดท้ายของผมขาดลงยืนรออยู่เงียบๆที่หน้าประตูเช่นเคย แต่ไม่ได้รอผมนะ รอคนอื่นต่างหาก

      แค่มองเห็นว่าเป็นใคร ภาพตอนนั้นทำให้อารมณ์ของผมซึ่งตึงเครียดมากอยู่แล้วเกิดปะทุขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทำให้ผมตัวชาไปแว๊บ แล้วเหมือนสมองมันหลั่งสารบ้าบิ่นออกมามากพอให้ผมกล้าเดินตรงเข้าไปหาพี่มาร์คได้ แล้วเปิดฉากกับเขาอย่างไม่ปราณี(หมายถึงกับพี่มาร์ค)

      ‘นี่กำลังประชดผมอยู่ใช่มั้ย!’

      ผมยืนกอดอก ไม่หลงเหลือความเคารพและเป็นเด็กน่ารักหัวอ่อนอีกต่อไป(ป่าวหว่า?) พี่มาร์คที่ผมเดาว่ากำลังเก๊กนู่นนี่อยู่มองอึ้งๆไปอย่างจะตกใจ ก็ผมไม่เคยก้าวร้าวใส่ใคร ยกเว้นแต่จะทำให้มันลาสต์เนิฟส์เจงๆ แบบว่า หลุดอ่านะ =_=”

      ‘อะ...อะไรนะ?’ คราวนี้พี่มาร์คเป็นฝ่ายต้องพูดตะกุกตะกักบ้าง

      ‘ผมรู้นะครับว่าพี่มาร์คทำตัวสนิทสนมกับพี่เมฆเพื่อเอาคืนผม ทำไมครับ? แค่พี่มาร์คหึงแดนเรื่องไอ้ชิพ แล้วแดนจะหึงพี่มาร์คเรื่องพี่เมฆบ้างไม่ได้หรือไง?’

      ‘เดี๋ยว...เรามาคุยกันตรงนี้ดีกว่า’

      ผมพูดเสียงดัง พี่มาร์คมองซ้าย-ขวา เพราะพี่เมฆซึ่งเดินตามผมมามองด้วยสายตางงๆ ก่อนที่ร่างของผมจะโดนลากไปหลบอยู่หลังเสา พี่มาร์คเริ่มคุยจริงจังด้วยแววตาโกรธขึงเล็กน้อย

      ‘ใช่ พี่กำลังโกรธ’ หน้าตาพี่มาร์คแดง และคงไม่แตกต่างไปจากผมเท่าไรนักหรอก แต่มันอยู่ที่ว่าผมหน้าแดงร้อนด้วยความโมโหมากกว่า

      ‘เรื่องอะไร? แดนทำผิดอะไรเหรอครับพี่มาร์ค? อ้อ ถ้าเป็นเรื่องที่พี่มาร์คเห็นวันนั้นแล้วยังฝังใจล่ะก็ ผมขอบอกได้เลยว่ามันไม่มีอะไร จนวันนี้มันก็ไม่มีอะไร และผมก็ขอโทษไปแล้ว ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพี่มาร์คจะเป็นคนคิดมากอย่างนี้ ขี้หึง แล้วก็ไม่มีเหตุผล แล้วก็...’

      ‘พอ! หยุดได้แล้ว’ พี่มาร์คกระซิบชู่ว์

      ‘พี่มาร์คก็ตอบมาซิ’ ผมคาดคั้น และพยายามแกะนิ้วมือแข็งแรงของพี่มาร์คที่บีบต้นแขนผมอยู่ ตอนนี้ผมออกจะกลายร่างเป็นแดนภาคเอาแต่ใจ ก็มันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ผมอยากได้พี่มาร์คคืนเหลือเกิน...

       ในฐานะ...

       ไม่รู้ซิ...แค่คิดว่าเราคบกันมานาน ผมไม่พูดกับเขา มันดูโหว่งๆชอบกล...

       ไม่รู้ว่าฐานะอะไรว่ะ...

       แต่รู้แค่ว่าตอนนี้อยากคืนดีมากกว่า

      ‘พี่ไม่ได้งอน หรือโกรธมากมาย...หรืออยากประชดประชันอะไรประมาณนั้น’ พี่มาร์คพูดไปเอามือปิดจมูกแดงๆไป อายล่ะเซ่~~~ ‘พี่กับไอ้เมฆเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ม.1...ความจริงแล้วแดนน่าจะรู้…’

      ‘แต่ผมเคยเห็นสองคนเดินโอบกัน! ถ้าอยากเป็นอะไรกันนัก เลิกกันตรงนี้เลย ผมหลีกทางให้!’

      ‘ไม่ใช่! ถ้าพี่ชอบไอ้เมฆจริงซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ พี่คง...พี่คงทำอย่างอื่น เช่น จูบ...’

      ผมสะอึก อึ้งเล็กน้อย...เอ ไอ้ประโยคนี้ผมไม่เคยคาดหวังจากปากพี่มาร์ค มาก่อน นั่นยิ่งทำให้เขากล้าเอ่ยประโยคถัดไป

      ‘แดนน่าจะรู้...ว่าการที่ได้เห็นแฟนตัวเองยืนจูบกับใครคนอื่น มันเจ็บแค่ไหน...’

      โห...อะไรวะ นี่พี่มาร์คเล่นเปลี่ยนประเด็นมาโทษผมได้เนียนๆเลยนะเนี่ย

      ‘รู้มั้ยว่ามันเจ็บมากแค่ไหน แล้วก็ทรมานมากแค่ไหน ที่ต้องห้ามใจไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับแดนได้อีก’

      ‘พี่มาร์คเป็นพวกซาดิสต์หรือไง เห็นผมเป็นพวกชอบมีความสุขกับการถูกทิ้งงั้นเหรอ?’

      ‘...พี่ขอโทษ แต่มันก็ห้ามใจไม่อยู่นี่ที่จะโกรธแดน อีกอย่าง พี่ไม่ชอบขี้หน้าไอ้หมอนั่นสักนิด...’

       ‘เพราะเรื่องน้องฟ้า...ใช่มั้ยคับ?’ ผมอ้อมแอ้มถาม

       ‘อืม…’

        ‘งั้นตอนนี้พี่มาร์คก็ยังคงห้ามใจไม่อยู่ที่จะโกรธผมต่อไปใช่มั้ยคับ?’

      เราสองคนจ้องหน้ากันภายใต้ความกดดันเงียบๆ วัดใจด้วยการสบตาแน่นิ่ง...’ปรี๊ยๆๆ’ (เสียงไฟฟ้าแลบออกจากดวงตาเราทั้งสองฝ่าย พยายามจิ้นกันสักนิดส์~~~นะคับ(-_-“)) โอ พระเจ้า! อึดอัดโคตรๆ...แต่กำลังใจครั้งนี้เกินร้อย ตายเป็นตายว่ะ! Yo_O***Y

      ‘แดน...พี่ขอโทษ…’

       และนั่นคือคำที่ผมเกลียดที่สุดที่จะได้ยินจากคนที่เรารัก...

      ‘...รู้มั้ย’ ผมพยายามกลั้นน้ำตา และบังคับให้มันหายแดงลงไป (ทว่าก็ทำไม่ได้อ่านะ -_-) ‘ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าพี่มาร์คจะเป็นคนเห็นแก่ตัวได้ถึงขนาดนี้…พี่มาร์คไม่ฟังเหตุผลแดนเลย เอาแต่โกรธๆ...แล้วตอนนี้มาขอโทษ ก็คนมันเสียใจไปแล้ว...ความจริงไอ้ชิพมัน เอ่อ รุกมาก่อน ผมยืนอยู่เฉยๆ มันแกล้งผม ผมไม่ได้คิดพิศวาสอะไรกับมันเลย...แม้แต่นิดเดียว’

       ตึกๆ...

       ตึก!

       ไม่อยากจะเชื่อ ผมพูด...โกหกคำโตออกไปแล้วเหรอ?

       ตอนท้ายๆ...แน่ใจเร้อไอ้แดน...ที่นายไม่รู้สึกอะไรเลย...

       ผมรีบสะบัดเสียงของตัวเองภายในหัว!

       ‘ก็แล้วจะให้พูดยังไง?’ เสียงพี่มาร์คถามห้วนๆ กอดอกโกรธๆ

       ‘อย่างน้อยด่าว่าผมต่อก็ยังดี...คำว่าขอโทษ...ผมเกลียดที่สุด ส่วนผมขอโทษพี่มาร์คไปแล้ว...หมายความตามนั้นจริงๆ’

       ‘แดน...’

       ‘ผมเกลียดเวลาที่พี่มาร์คทำให้ผมต้องนึกถึงวันเก่าๆ มันเจ็บรู้มั้ย? อย่ามาป้วนเปี้ยนให้ผมเห็นซิ อย่ามาประชดให้ผมหึงซิ ถ้าเราสองคนโกรธกันจริงๆล่ะก็ พี่มาร์คยังมาทำให้ผมรู้สึกแบบเดิมๆอีกทำไม’

      ...จากนั้น ผมไม่ แม้แต่จะมองหน้าเขา เพียงแต่เดินจ้ำอ้าวผ่านพี่เมฆที่ยังคงยืนมองด้วยสายตางุนงงอยู่ จะมีใครรู้มั้ยนะ? ว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากความรัก จากความเจ็บปวดของจิตใจ มันช่างแสนทรมาน...แบบที่ไม่มีวันอธิบายได้ใกล้เคียงมากที่สุด แบบที่เจ็บปวดแสนสาหัสเหลือเกิน

      นั่นเป็นวันแรกที่ผม ‘เจ็บ’ ข้างในใจจริงๆ...และรู้แล้วว่ามันเป็นเช่นไร ส่วนวันนั้นคือวันที่สองในชีวิต ที่ผมได้เดินตากฝนกลับบ้านคนเดียว...



      จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่รู้ว่าจะนั่งเศร้าซึมรอบที่ล้านแปดไปทำไม การนอนไม่หลับ+ร้องไห้น้ำตาไหลเงียบๆอยู่คนเดียวมันไม่สนุกหรอกนะ(แล้วก็ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด) เครียดสุดกู่เลยต่างหาก(เชื่อขนมได้!) ฉะนั้นตอนนี้ผมจำเป็นต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ ที่มันสนุกจนทำให้ผมลืม...ลืมเรื่องทุกอย่างได้ แบบที่สมองปลอดโปร่งจนไม่มีอะไรต้องคิดเลยว่างั้นเหอะ(เล่นยาก็ได้ อะไรประมาณนั้น อ่ะ ล้อเล่นๆ :p )

       เฮ้อ...ผมกำลังจิตตกหนักเอาการ ตอนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ร่มไม้หน้าตึกสองนั้นผมพบกับใครบางคน...โดยไม่คาดฝัน

      มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง คนที่เดินผ่านไปมาตรงหน้าบนถนนตั้งเยอะแยะ แต่ต้องเป็นครั้งนี้...รังสีจากใครคนนั้นทำให้ผมใจเต้นแรง ต้องเป็นเวลานั้นพอดี ยิ่งสบตากัน มองหน้ากัน จดจำได้ว่าผมคิดถึง...มันมากแค่ไหน แค่นั้นผมก็ยิ่งปวดหัวใจ มากยิ่งกว่าตอนทะเลาะกันคราวก่อนเสียอีก

      วินาทีนั้นไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา(สงสัยผีเข้าสิง) ผมลุกขึ้นตะโกนเรียกมันเสียงดังลั่น
      
       “ชิพ!”

      ร่างสูงใหญ่นั่นหยุดนิ่ง ตาของผมจับจ้องที่แผ่นหลังภายใต้เสื้อนักเรียนสีขาว ใกล้เข้ามาทุกที จนผมหยุดยืนอยู่หลังมัน

      “ชิพ...”

      “...”

      “เป็นไงบ้าง…”

      บ้าฉิบ! ผมพูดคำเห่ยๆแบบนั้นออกไปได้ยังไงนะ บ้า! บ้าชะมัด!

      “มีอะไร”

      ชิพค่อยๆหันมาเผชิญหน้า หน้าหล่อๆของมัน...ใกล้แบบนี้ โอย...ผมคิดถึงดวงตาเท่ห์ๆเถื่อนๆเป็นที่สุด...เสียงมันเย็นเชียบ ใบหน้าแข็งเป็นหินราวกับจะไม่ยอมแสดงความรู้สึกใดๆออกมา


      “...เอ่อ”

      มันทำท่าจะเดินหนี เอ๊ะไอ้นี่ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับมานง่า~~~แต่ผมรั้งมันไว้

      “กูขอโทษ...”
       
       “อะไร?”

      “...กูขอโทษ...กูขอโทษชิพ เรื่องที่พูดไปวันนั้น มันแรงไป แล้วกูก็รู้ว่ามึงโกรธกูมาก แต่กูโมโห ซึ่งมันไม่แฟร์เลยสักนิด จริงมั้ย? แต่ตอนนี้กู…”

      ผมก้มหน้า ค่อยๆสะอึกสะอื้น...หมดท่า ทุกๆอย่างมันพรั่งพรูออกมาเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกต่อมัน กลุ้มใจเรื่องพี่มาร์ค เครียดเรื่องแข่งขันตอบปัญหา พูดไปพลางปาดน้ำตาไปทาง ไม่รู้มันฟังเสียงอู้อี้ๆของผมออกหรือเปล่าหรอกนะ

      ผมพล่ามไปนานเท่าไรไม่รู้ จนมารู้ตัวอีกทีก็อีตอนที่มันลากแขนผมไปหลังตึก ระหว่างสระน้ำมันจะมีตรอกเล็กๆอยู่อ่ะคับ...ลับตาคนแล้วก็เหมาะมากสำหรับพวกชอบแอบหนีเรียน

      “กูขอโทษ…” ผมพร่ำพูดแต่คำขอโทษ แล้วก็ไม่รู้จะขอโทษมันหลายครั้งทำไมด้วย หลังจากนั้นไอ้ชิพก็ค่อยๆดึงตัวผมเข้าไปใกล้....ใกล้จนผมซบหน้าอกมัน สะอึกสะอื้นอยู่ตรงใต้คาง

       สงสัยชาติก่อนผมเป็นพวกซาดิสท์แน่ๆ...

       ก็ไม่รู้ทำไม?...ไอ้ความผูกพันกับความเจ็บช้ำทางอารมณ์ ที่มีให้กับไอ้คนหน้าหล่อร่างสูงคนนี้ ถึงได้รุนแรงนัก

       มือผมสั่น อยากโดนมันรังแกอีก อยากโดนมันกดหัวใช้โขกสับอีก

       อยากโดนมันตะคอกแรงๆ ผมชินแล้ว และคิดถึงมันมากมาย

      “แดน หยุดร้องไห้เถอะนะ”

      น้ำเสียงนุ่ม ทุ้ม ทว่าแผ่วเบาของมันดังก้องไปทั่วแผงอกกำยำของมันจนสะเทือน ผมค่อยๆถอนตัวออกมา จ้องตา มองหน้า ใจเริ่มเต้นระรัวและแก้มแดงผะผ่าว...แววตาของไอ้ชิพแปลกอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน มันช่าง...เศร้า แล้วก็อ่อนล้า ส่องประกายความเข้าใจผม แต่ผมกลับไม่ยักกะเข้าใจมันเลยแฮะตอนนี้ แงะ?(*_*”)

      “…”

      ลมหายใจร้อนๆของมันเป่ารดใบหน้าผม อยากจะบอกว่าตูยิ่ง ‘ร้อน’ เข้าไปใหญ่ ใบหน้าของมันโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น...

      และแล้ว 555+ (อายจังเลยที่ต้องเล่าถึงตอนนี้ >.<***) ริมฝีปากอ่อนนุ่มแสนเย้ายวนนั่นก็เคลื่อนเข้ามาประทับอยู่บมริมฝีปากของผม ทั้งอุ่น...แล้วก็แฉะๆนิดๆ(เหอะๆ) จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ รสสัมผัสของชิพช่างอ่อนนุ่ม อ่อนโยน และอ่อนหวาน

      มันสอดลิ้นเข้ามา ทั้งอ่อนนุ่มและดุนดันในคราวเดียวกัน...ชิพค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาจากการครอบครอง...จ้องตาผม แต่ยังไม่พูดในทันที

       “...”

       แงะ~! พูดไม่ออกอ่ะ

       ตอนนี้ตกใจมากกว่า เมื่อเพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างของเราสองคนบดเบียน ท้องน้อยของผมก็ไปถูไถกับ...ความแข็งของมัน เฮ้ย!!! ไอ้ชิพเกิดอารมณ์เหรอเนี้ย???

       ยิ่งมันส่ายสะโพกน้อยๆ ขยับท่ายืน...เลือดกำเดาจะไหล ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะเนี้ย!!! >///<

       Y +O+Y///~~~O[]O!!...

      “...ชิพ…” ผมโผล่งชื่อมันออกไปเบาๆ

       “มึงสับสนอยู่หรือเปล่า?”

       งื้อ??? o_O?

       “เรื่องอะไร?...”

       “...เรื่องพี่มาร์ค มึงกังวลเรื่องนี้ใช่มั้ย?”

       ความรู้สึกข้างในมันกระพือตีขึ้นมาถึงคอ กลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว...ความเจ็บปวดหลั่งไหลออกมาอีกรอบ น้ำตาของผมร่วงเพลาะๆลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

       เจ็บจนกลั้นไว้ไม่ไหว

       เสียงของมันอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความต้องการบางอย่าง “ตอบมาคำเดียว…”

       “ใช่”

       มือมันบีบแน่นแปล๊บ...วินาทีนั้นสงสัยจังว่าถ้าผมตอบว่า ‘ไม่’ มันจะทำยังไง (แต่ก็คือโกหกไงคับ ผมไม่อยากโกหกมันหรอก)

       “...กู...เรายังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ย?”

      ผมหลับตาปี๊ ใจนึกพะวงกลัวต่างๆนานาไปก่อนแล้วว่ามันจะโกรธ จะงอนผมอีก แล้วเดี๋ยวลืมตาขึ้นมามันจะต่อยผมมั้ยนะ? มันจะไปฆ่าตัวตายประชดผมหรือเปล่า แต่ไม่นา...ไอ้ชิพไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนั้นหรอก หรือว่าถ้ามันทำจริงก็คงไม่ตาย...เอ๊ะ ไม่นะ มันจะตายไม่ได้ แล้วเมื่อกี้มันจะเข้าใจมั้ยนะ ผมถึงขนาดไม่กล้ามองตามัน ผมกลัว...แล้ว...และ...

       แค่หวังว่า มันจะเข้าใจความหมายในคำๆนั้น

      ผมพล่ามในใจ จนลืมตาขึ้นมา อ้าว?! มันไม่อยู่ตรงนี้แล้ว...

      แล้วผมก็นึกขึ้นได้ ไอ้ชิพต้อง ‘รัก’ ผมแน่ๆ...

       แล้วผมล่ะ? รักมันหรือเปล่า

       ไม่แน่...แต่รู้สึกดี เมื่อมีมันอยู่ใกล้ๆ

       แล้วพี่มาร์คล่ะ...

       นั่นซินะ ทำไมกรูหลายใจแบบนี้  เลวเจงๆ...\(o_o*)

       เคยมั้ยคับ? เวลาที่เราสับสน ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆ อยากวิ่งหนีปัญหา แต่ทำไม่ได้เพราะคนอื่นๆกำลังรอการตัดสินใจของเราอยู่ เหมือนเป็นสิ่งค้ำคอให้ผมต้องทำ ในสิ่งที่ไม่อยากทำเลยสักนิดเดียว
       
         มันแค่บอกไม่ถูก คนล่ะแบบกันง่ะ...บอกตามตรง หัวใจก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเหมือนกัน =_=... :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

      ผมน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว แต่ก็เปล่า มันรักผม แต่...ผมกลับไม่ได้รับรักมัน...

      ...ชิพ...กู ขอโทษ...

       ถ้าจะบอกว่ามีใจให้...แต่รักไม่ได้นี่ ผิดมั้ยนะ?




       โปรดติดตามตอนต่อไป

ปล. เขียนผิดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเด้อ ไปนอนและ :a12:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

นะแดนต้องรัก๙พ ดิครับ

แต่พี่มาร์คก็สงสารครับ

ไม่รู้เชียร์ใครดีแล้วตอนนี้

สงสารทุกคนไปหมดอะครับ

 :impress: :impress: :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
รักสามเศร้า  :เฮ้อ:
ตอนนี้รู้สึกสงสารทั้งสามคนเลยแฮะ  :sad2:
แต่คนที่น่าสงสารมากที่สุดคงเป็นแดน ไม่ว่าแดนจะเลือกใครแดนก็เป็นฝ่ายเจ็บมากสุดอยู่ดี
คนหนึ่งก็เป็นในฐานะที่แดนรัก ส่วนอีกคนก็ในฐานะที่รักแดน  :m15:
อย่านี้สงสัยแดนคงต้องไปบวชชีเพื่อหนีรักแล้ว  :m14: อะมะช่ายแระ

เรื่องอย่างนี้ แดนลองใช้หัวใจในการเลือกคนที่คิดว่าใช่ละกัน  o13
แต่ไม่ว่าแดนจะเลือกพี่มาร์คหรือเจ้าช็อกชิพ ผมก็จะเชียร์แดนต่อไปนะ  :m11:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเฮ้อ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อย่างนี้เขาเรียกว่าคนเจ้าชู้ปะ
อีกคนก็หวง อีกคนก็ไม่อยากเสียไป
ไม่ไหวนะแบบนี้
เลือกให้ได้ก่อนดีกว่า ว่าจริงๆรักใคร
 :mc1: :mc1: :mc1: :mc1:

artkung

  • บุคคลทั่วไป
โศกนาฏกรรมที่เกิดจากความรัก ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องล้วนสูญเสียทั้งสิ้น  :m15:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะแดน แดนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร แต่สุดท้ายก็ต้องเลือก

อย่างที่คุณ Alex เกริ่นไว้ในเกี่ยวกับแดนในภาคสอง คนที่ทำให้แดนเป็นไปเยี่ยงนั้น

ก็น่าจะเป็นแดนเอง

อ่านถึงตอนล่าสุดนี้แล้ว แดนดู Soft ลงไปมาก และก็คงเสียใจมากเช่นกัน

คงคิดว่าอย่างไรเสีย แดน ก็คงไม่สามามารถตัดรักจากพี่มาร์คได้

รักเขาข้างเดียวมันทรมานมากนะ

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
 o2 o2 o2 o2 o2

ปัญหาโลกแตกชัด ๆ เลยอ่ะคับ

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวอ่ะ  เพราะงั้น  เราก็จะรอดูต่อไปละกันนะ

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
      ถ้าจะบอกว่ามีใจให้...แต่รักไม่ได้นี่ ผิดมั้ยนะ?


อืม ผิดป่าว

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เอิ่มมม เด็ดขาดซักทีก้อดีเหมือนกันนะแดน :m29:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
รักสามเศร้านี้น่าสงสารมากๆ

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
ไม่ได้นะแดนนนนนน

พระเอกคือชิพเท่านั้นนะ   :m15:

ชิพ อย่าปล่อยแดนไปน้า  :serius2:

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
มาอัพเร็ว ๆ จิค้าบบบบบบ

ฉลองตรุษจีน  รอรับอั่งเปา  :mc4:  :mc4:

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
มาเยี่ยมเช้า - เย็นขนาดนี้  ยังไม่ยอมอัพอีกเหรอครับ  :o12:

พูดไปงั้นแหละครับ  แล้วเราก็ยังรอต่อไป

รีบ ๆ กลับมานะครับ  :m4:

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะเป็นอย่างไรต่อไปนะ อยากรู้ๆ จะติดตามต่อไปนะ

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เชียร์ชิพดีกว่า ไอ้มารืคท่าทางจะงงกับตัวเองอยู่ อย่าไปเอาเลย

แปลกเนอะ ทำไมคนชอบไปสิงตรงซอกนั้นกันจัง

แต่มันติดหน้าต่างห้องเรียนชั้น 1 ตึก สามัคเลยไม่ใช่เหรอ

แอบโดดไปนั่งยังไงกันหว่า

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทษด้วยที่มาช้า แต่งานเยอะมาก และมีแต๊ะเอียมาฝากทุกๆคนด้วย 555+

สองตอนนี้เป็นอะไรที่ตรวจอักษรยากมากๆ เพราะต้องระวังเรื่องคำพูดของแดนสุดๆ ยังไงก็ออกมาแล้ว ฝากไว้กับทุกๆคนด้วยนะครับ จะจบแล้วด้วย อิอิ


บทที่ 31



      “แดน เพื่อนมาหาลูกกกกก”

      แม่ตะโกนขึ้นมา เรียกผมซึ่งอยู่บนห้อง กำลังนั่งเหม่อฆ่าเวลาออกไปด้านนอกหน้าต่าง ฝนข้างนอกกำลังตั้งเค้ามืดครึ้มทะมึน คงเป็นฝนปลายฤดูแล้ว แถมช่วงนี้ยังมีมรสุมจากภาคเหนือพัดเข้ามาอีก(พูดเหมือนนักข่าวช่องห้าเลยเนอะ 555+) ส่วนผมก็ได้แต่ภาวนาให้หน้าหนาวย่างกรายเข้ามาสักที เพราะจะได้ปิดเทอมเร็วๆ(อิอิ)

      “ไอ้ชัตเหรอแม่ะ?”

      ผมเดินลงมาเนือยๆ ภายในบ้านเปิดไฟสว่าง แล้วนี่ไอ้ชัตมันจะมาหาผมกันทำไมเนี่ย? รายงานก็ไม่ได้นัดจะมาทำกันไว้ก่อนสักหน่อยนี่หว่า???

      “รู้สึกจะไม่ใช่ชัตนะ คนนี้ชื่อมาร์คล่ะมั้งถ้าจำไม่ผิด”

      ผมชะงักมือค้างไว้ที่ลูกบิดประตู หันกลับมาถามแม่อีกรอบ

      “ใครนะแม่?”

      “คนที่ตัวสูงๆ ผิวเข้มๆไงลูก”

      ผมสูดหายใจเข้าไปลึกๆ ปั้นสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ก่อนจะเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับร่างสูง ที่ยืนทำหน้าสลดพร้อมกับกระเป๋าเป้หนึ่งใบ

      “แดน...”

      “พี่มาร์คมีธุระอะไรคับ”

      ผมถามเฉยๆ ไม่ได้แสดงท่าทีปั่นปึ่งอย่างที่ตั้งใจไว้ การได้เห็นพี่มาร์คครั้งนี้เหมือนเป็นการกวนตะกอนอารมณ์ของผมให้มันฟุ้งซ่านอีกครั้ง นอกเหนือจากความสับสนแล้ว...ผมยังไม่สามารถลืมเรื่องไอ้ชิพ หรือว่าใบหน้านั่น หรือแม้แต่กระทั่ง...รสจูบแสนอ่อนหวาน ปนตื่นเต้น ดิบเถื่อน เร้าใจ...

      ผมรู้สึกผิดที่ใจมันเริ่มหวั่นไหว(อีกแล้วอ่า) และรู้ตัวเลยว่าสองสามวันมานี่จิตใจไม่อยู่กับร่องกับรอย คอยเอาแต่คิดถึงความผิดบาป จูบนั้น...ความว้าวุ่นใจต่างๆ เหตุการณ์ที่แล้วๆมาทำให้ผมเครียด และมันก็ผ่านพ้นไปยากมากเมื่อไม่มีใครอยากหันหน้าเป็นที่พึ่งให้ผมเลยสักคน...

      “แดน...พี่ขอโทษ”

      “ขอโทษ?”

      “แดน พี่รู้นะว่าแดนโกรธ...แต่ก็ใช่ พี่เป็นคนเห็นแก่ตัวจริงๆนั่นแหละ ยกโทษให้พี่นะครับแดน...พี่รู้ว่าทำผิดไปแล้ว พี่รู้...ว่าตัวเองโง่งมแค่ไหน ที่ทำร้ายจิตใจแดนได้ลงคอ พี่...”

      “แดนไม่ได้โกรธ” และกำลังจะพูดต่อไป แต่กลัวใครได้ยินเข้า เลยมองซ้ายมองขวา ก่อนจะลากพี่มาร์คขึ้นไปคุยบนห้อง(เดินผ่านแม่มาก็ไม่ได้ทักว่าอะไร)

      “~แดนไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจ...แดนก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน” เออซิ กูเป็นคนนี่หว่า

      “โธ่ พี่ขอโทษนะ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำตัวไร้เหตุผลแบบนั้นอีกแล้ว”

      เสียงฝนข้างนอกเทกระหน่ำลงมา ภายในห้องเงียบ ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันในความมืด

      “…”

      “พี่...พี่...ผิดไปแล้ว ตอนแรกพี่ก็แค่หึง ต่อมามันก็พาลโกรธจริงๆจังๆ เพียงเพราะแค่คิดถึงแต่ภาพแดนจูบกับเจ้าเด็กนั่น...”

      “...”

       ดีนะเนี้ยที่ไม่เห็นครั้งล่าสุด คราวนี้ผิดเต็มประตูจริงๆ...

      “วันนี้พี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรไปนอกเหนือจากคำว่าขอโทษ...แต่พี่รู้ว่ามันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของแดน แต่พี่อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้มั้ยแดน? ยกโทษให้พี่ได้มั้ยครับ?”

      “...”

      “แดนจะด่าว่าอะไรพี่ก็ได้ ที่พี่ทำตัวเป็นไอ้งั่งตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่พี่คิดถึงเรื่องระหว่างเรา...พูดอะไรสักอย่างซิแดน ด่าว่าอะไรก็ได้...”

      ผมไม่ได้นึกอยากโทษอะไรพี่มาร์คเลย...แล้วจะให้ด่าว่าเค้าได้ไง ในเมื่อผมมีความรู้สึกผิดต่อเขามากมายขนาดนี้...

      ขอบตาของพี่มาร์คแดง ส่วนผม มันร้อนผะผ่าว

       เคยมั้ย? เวลาที่เราตัดสินใจอะไรลงไปเพียงเพราะความรู้สึกของคนอื่น ต้องการทำให้คนอื่นพอใจ ไม่ใช่เรา แล้วค่อยมานั่งเศร้า โทษตัวเองว่างี่เง่าสิ้นดีที่ต้องทำแบบนั้น

       นั่นแหละ...ตัวผมเลย

       “ผม...ผมจะพยายามลืมเรื่องทุกอย่าง...เรา…”

       บอกตามตรงว่าพูดได้ไม่เต็มปาก...เราสองคนรักกัน?

       ผมรักพี่มาร์คแบบพี่ชายต่างหาก

       แต่ปากไวไม่ทันใจ พี่มาร์คเข้ามาสวมกอดผมแล้ว ทำให้อึ้งจนพูดไม่ออก...

      อ้อมแขนแข็งแรงของร่างสูงตรงเข้ามาตะครุบผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเรียบร้อยแล้ว…ผมสงสารพี่มาร์ค สงสารที่เค้าต้องมาเจอคนเลวๆแบบผม ชีวิตจริงไม่เห็นเหมือนนิยายสักนิด ผมรู้สึกผิดแต่ก็บอกเค้าไม่ได้...อยากจะรักใครผมก็ไม่กล้า...ได้แต่แบกรับความรู้สึกต่างๆเอาไว้

      “ขอบคุณนะครับแดน...”

      ฝ่ามือหนาใหญ่ของพี่มาร์คลูบไปมาบนแผ่นหลังของผม เราสองคนผละจากกัน และจากนั้น(>.<)…ใบหน้าของพี่มาร์คอยู่ใกล้ผมมาก หายใจแทบจะรดแก้มกัน ดวงตาแดงๆแสนน่ารักของพี่มาร์คคลอหน่วยอยู่ก็จริงทว่าเปี่ยมความหมาย ยิ้มที่อ่อนโยนสดใส ชวนให้ผมคิดถึง...ใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อยเคลื่อนเข้ามาใกล้ แต่แทนที่ผมจะขืนตัวไว้ กลับยื่นริมฝีปากเข้าไปหา และแล้วกระแสบางอย่างก็ไหลผ่านเข้ามาท่วมท้มเติมเต็มร่างกายของผม จากจูบกระชากใจนั่น (เหอะๆ)…ลิ้นนุ่มๆนั้นแทรกผ่านเข้ามาหา ผมคงลืมตัว ลืมความอายไปมั้ง...เลยแลกลิ้นกับพี่มาร์คต่ออย่างไม่แคร์ แถมยังรั้งศีรษะพี่เขาไว้ด้วยอีกต่างหาก

       มันเป็นผลมาจากการระเบิดอารมณ์ที่เก็บไว้นาน...เพราะความสับสน ความสงสาร ความผูกพันและเยื่อใยเก่าๆที่ทักทอระหว่างเรา ที่เคยมีให้กันและกัน ทำให้ผมจูบเขา ทั้งๆที่รู้ว่าความรู้สึกเปลี่ยนไป ผมเฝ้าบอกย้ำกับตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายจริงๆ...

       ต่อจากนั้นเหรอ?...

       นั่นซิ ต่อจากนั้นผมจะทำยังไง?

       รู้สึกกับเค้าแบบพี่ชาย แต่ไม่บอก มันก็เลวมากพออยู่แล้ว

       ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้เหรอ? ไม่ได้...ผมคงหาโอกาสเหมาะๆบอกเขา สักวัน สักวันหนึ่ง...

       แต่ตอนนี้ขอให้ความทุกข์มันไหลอาบร่างของผมก่อน ปล่อยตัวเองให้มันทรมานผมจนสาแก่ใจ...หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ความกล้าอาจจะมาเยือนผมก็ได้

       ขอเป็นคนเลวๆครั้งสุดท้าย แล้วผมจะไม่ขออะไรอีก...

      เราถอนริมฝีปาก เพียงเพื่อแค่จะมองหน้ากัน ซึ่งก็แดงก่ำ ตาหยาดเยิ้ม(มั้ง?) สมองของผมว่างเปล่า เขาจูบผมต่อ...เริ่มหอบเหนื่อย และผมก็รู้สึกร้อนจนทนไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ทันจนเจ็บปอด เหมือนมันจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆไปยังไงยังงั้น

      “เดี๋ยว...”

      ผมดึงดันตัวออกมา แพขนตาของพี่มาร์คปรือเย้ายวน บ้าฉิบ! ผมยิ่งเป็นโรคแพ้คนตาหวานกับหนุ่มร่างสูงอยู่ซะด้วย ยิ่งอารมณ์แบบนี้ หน้าตา...แบบนี้ ภาพริมฝีปากที่แดงเจ่อเย้ายวนแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆ...คนๆนี้จะไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไปแล้ว

       เพราะแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเย้ายวนเพียงใด ใจผมต่างหากที่มันรู้สึกธรรมดา

       อ้อมกอดของเขา อบอุ่น แต่ไม่เร่าร้อน...

       จูบ...ไปตามอารมณ์ แต่ความซาบซ่าและแสงสีขาวสว่างวาบที่ระเบิดในสมอง กลับไม่มีปรากฏ

       หัวใจมันร้องบอกว่า ผมต้องการแตกต่างจากนี้

      “คืนนี้พี่ขอค้างด้วยนะ”

      “อะไรนะ!?” อะไรว่ะ บ้าที่สุด! พูดเรื่องอะไรน่ะ เสียอารมณ์หมด

      “ขอโทษที่โพล่งออกไปแบบนี้ แต่มันก่อนที่จะอดใจไม่ไหวน่ะ...พี่แบกเสื้อผ้ามาด้วยแล้ว กะว่าจะมาขอค้าง พี่ยังไม่เคยมานอนค้างบ้านแดนเลยนี่นา ขอแม่มาแล้วด้วย อีกอย่าง...เราควรนอนกอดกัน...หลังจากทะเลาะกันมานาน คิดว่าดีมั้ย?”

      ผมแทบจะฟังคำพูดหอบรัวๆของพี่มาร์คไม่รู้เรื่อง เหมือนสมองเสื่อม เบลอไปชั่วขณะ ใจมันตะเลิดเปิดเปิงหายไปตั้งนานแล้ว เลยไม่ทันฟัง ได้แต่พยักหน้าส่งเดชไป(ไอ้พี่มาร์คก็ยิ่งได้ใจไงล่ะ ฮึ!)   

       บ้าที่สุด!

      ผิวหน้าของผมแดงร้อนขึ้นมาด้วยความเขินอาย “ลงไปขอแม่ก่อน”

      “ถ้าท่านอนุญาต แล้วห้ามเบี้ยวกันนะ”

      “แต่...แค่นอนค้างนะ”

      “ก็...คืนนี้อยากกอดอ่ะ คิดถึง”

      ว่าแล้วก็เข้ามากระแซะซอกคอผมเบาๆ นิ้วเรียวๆบีบปลายจมูกผมอย่างหมั่นเขี้ยว เฮ้ย!!! คราวนี้ผมขึงตัวออกห่างได้ในที่สุด

       “อ๊ะ! พี่ขอโทษนะ” พี่มาร์คทำหน้าเศร้า

       “ผมขอเวลา...” ...ขอเวลาให้ผมได้บอกว่า...เราเป็นได้แค่พี่น้องกัน

       ใบหน้าเข้มๆนั้นพยักหน้า ยิ้ม “ครับ”

      ผมก้มหน้า ส่ายหัวเบาๆ ทำไมกรูเลวได้ถึงขนาดนี้ว่ะ ให้ความหวังกับเขา ทั้งๆที่ยังไงก็ต้องเลิกกัน...ใจมันกระตุกทุกครั้งที่นึก TT^TT



ALeX

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 32



      “เฮ้อ~~~ เสร็จซักทีเนอะพี่เมฆ”

      ผมกำลังเดินคุยอยู่กับพี่เมฆที่ทางเดินหน้าตึกสอง ซึ่งเป็นอาคารเรียนสำหรับเด็กชั้นม.ปลายอย่างพวกเรา พี่เมฆเป็นคู่ทีมที่ไปแข่งตอบปัญหาภาษาอังกฤษกับผมเอง และผลที่ออกมาก็คือทีมของโรงเรียนเราได้ตำแหน่งชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครอง (ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย) (-/\-)

      “นั่นซิเนอะ จะได้หายเหนื่อยกันสักที แต่ว่าไปมันก็ใจหายเหมือนกันนะ...”


      ผมยิ้ม ตบไหล่ปลอบใจพี่เขาสองสามที ก็แน่อยู่หรอก พี่เมฆเป็นรุ่นพี่ม.6แล้วนี่นา เวลาที่หลงเหลืออยู่ในโรงเรียนที่เราทุกคนรักแห่งนี้ก็อีกแค่ไม่ถึงสองเดือน อีกอย่างเราเตรียมซ้อมโปรแกรมนี้มานาน พี่เมฆคงคุ้นเคยกับมัน แม้แต่ผมเองยังอดใจหายวูบๆเป็นบางครั้งไม่ได้

      ผ่านมาหลายวันแล้วหลังรายการออกอากาศ เราทำดีที่สุด ภายในเวลาหลายเดือนของการ ‘เขี้ยว’ ‘เค็น’(ขึ้นภูเขา)จากท่านอาจารย์ทั้งหลายไม่ทำให้ใครผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ความทุ่มเทของพวกเราทุกคนได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ

      “พี่คงคิดถึงจารย์’สุธานีตอนต้องไปเรียนมหาลัย’ ...ก็เราสนิทกันมาตั้งนาน”

       “เด๋วอัดเสียงตอนแกสอนไว้ให้เอาเปล่า?”

       “...เอ็งอยากให้พี่นอนไม่หลับไปอีกสิบปีหรือไง”

        ผมหัวเราะรับมุกของพี่เมฆ...ขอแซวนิดส์เหอะ เจ๊สุธานีเนี้ยนะเขาจะเป็นคนที่คล่อง ไว สอนๆอยู่ใครไม่ทันใจแกเอาปากกาปาหัวบ้าง เดินไปด่า+ตีบ้าง แต่สอนดีมากนะคับ ทว่าเวลาแกพูดจะชอบลงท้ายประโยคเป็นเอกลักษณ์ว่า ‘อ่ะข่ะ’ หรือ ‘น่ะข่ะ’...

       ไม่เชื่อถามเด็กม.4ที่เรียนกับแกได้...ทุกคนร๊ากกกเจ๊กันทั้งนั้น

      “คิดซะว่าเก็บช่วงเวลาที่ดีที่สุดนี้ไว้ในความทรงจำก็แล้วกันคับพี่ อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็ทำสำเร็จแล้ว หลังจากต้องทนแกด่า ทั้งด่า ทั้งหยิก ทั้งจิก! มานานนนน”

      ผมลากเสียง แล้วก็หัวเราะไปกับพี่เมฆ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ “แล้วนี่พี่เมฆจะเข้าที่ไหน?”

      “คงเป็น…” พี่เมฆเอ่ยชื่อสถาบันชื่อดัง ผมเคยคุยกับพี่เขา เห็นที่ทำหน้าเศร้าๆอยู่ตอนนี้เป็นเพราะพ่อพี่เขาบังคับให้เข้าเรียนต่างหาก ใจจริงแล้วอยากเข้าไอ้โรงเรียนวาดรูปเก่าแก่เท่าๆกับโรงเรียนของเรา ที่อยู่ข้างๆกันนี่มากกว่า...

      “แต่ก็ยังดีนะ ที่ไอ้มาร์คมันก็จะไปด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นพี่ไม่มีเพื่อนปรับทุกข์ อกแตกตายแน่…เอ คิดใหม่ดูอีกทีดีกว่าแฮะ ไม่มีมันก็ดีอยู่หรอก มันจะได้ไม่ต้องแย่งกันหลีสาวกับพี่ 555+”

      พี่เมฆหัวเราะเสียงดัง หลี่สาว? คำๆนี้ทำให้ผมตากระตุกเล็กน้อย แอบสะอึกในใจกับความหมายของมัน...แต่ว่าพี่เมฆไม่รู้นี่ว่าพี่มาร์คเป็น...เกย์

       ทว่าถ้าเขาได้เจอคนที่ดีกว่า ผมก็ดีใจด้วย...

      “นั่นไง พูดถึงก็มา ไอ้นี่ตายยากจริงๆ”

      ผมรีบสะบัดหัว ไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปให้หมด พี่มาร์คไม่มีทางจีบ ‘สาว’ ไหนแน่นอน เหอะๆ (-_-“) เราสองคนเดินตรงเข้าไปหาร่างสูง ที่ยืนถือกระเป๋านักเรียนพิงรั้วเหล็กอยู่น่าโรงเรียน พอผมมองเห็นเขา สบตากัน ได้เห็นหน้า ทว่าไม่หน้ามืดหรือใจเต้นรัวแรงเพราะความคิดถึง...แค่แอบปลื้มว่าพี่มาร์คต้องไม่ไปหลีสาวที่ไหนแน่ ผมมั่นใจ

      “คุยอะไรกันอยู่ ฮือ?” พี่มาร์คถามเรียบๆ

      “เออ เรื่อยเปื่อย แล้วนี่รอใคร เมียมึงเหรอ?”

      “ใครว่ะเมียกู?” นั่นซิ ใครกัน?

      “ก็...นี่ไง ไอ้แดนไง เมียมึง ว่ะฮ่าๆๆๆๆ”

      ไอ้...ไอ้พี่เมฆบ้า!!! บ้าๆๆๆ+++ ผมก็นึกว่ามีเด็กสก๊อยกระโปรงสั้นหน้าอกตูมที่ไหนรอพี่มาร์ค ’หลี’ อยู่...กลับโดนไอ้พี่เมฆอำซะจนเข้าใจผิดหน้าดำ ตอนนี้กลายเป็นหน้าแดง แดงแจ๊ดแจ๊ไปแล้วซะด้วย -_-)

       ไอ้บ้า มาล้ออะไรกันตอนนี้...

      “อะ...อะรายไอ้เมฆ แค่เคยกลับบ้านทางเดียวกัน มึงอย่าล้อไปมากกว่านี้ล่ะ เดี๋ยว...จะยุ่ง”

      อุ๊ย! พี่มาร์คเขาก็หน้าแดง เกาหัวเขินๆท่าทางน่าร๊ากแบบฉบับพี่มาร์คคนเดิม

       สำหรับผม ก็จะเป็นพี่ชายที่แสนดีตลอดไป

      “เออๆ พอหอมปากหอมคอหน่า ว่าแต่ อย่าลืมเรื่องไปทะเลกันนะโว้ยไอ้มาร์ค นี่ก็ใกล้แล้ว กูก็จะได้รีบบอกพ่อให้จองที่พัก กูต้องไปแล้ว เดี๋ยวมีเรียนxxxต่อ ไปล่ะ”

      พี่มาร์คร่ำลาพี่เมฆกันอีกสองสามคำ ส่วนผมยกมือไหว้แล้วโบกมือให้พองาม ตอนเราสองคนมองเขาเดินข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์ เฮ้อ...ผมเองยังสงสัยอยู่เลยว่าตอนใกล้จะเอ็นท์ฯแบบเด็กม.6 กรูจะมีแรงตะเวนเรียนพิเศษเหมือนใครต่อใครเขามั้ยน๊อ…=_=

      “แดนครับ”

      “ฮื้อ?”

      “นี่แดนรู้หรือยังว่าเราจะไปทะเลกันหลังสอบเสร็จ”

      ผมเงยหน้าไปหาร่างสูงที่เดินเคียงข้าง “ก็รู้ แต่ไม่ละเอียด”

      พี่มาร์คยิ้มๆ ค่อยๆเอามือมาโอบไหล่ผม เราสองคนเดินไปยังป้ายรถเมล์เพื่อรอขึ้นรถ แล้วก็เล่ารายละเอียดต่างๆของทริปให้ผมฟังทั้งหมด

      “แดนอยากไปด้วยกันมั้ย? พี่อยากให้แดนไปด้วยกันนะ”

      “ผมก็อยากไป...”

       “ไปซิ”

       “แต่...พี่มาร์คไปกับเพื่อนๆไม่ใช่เหรอคับ?”

       พี่มาร์คกระชับวงแขนขึ้น ปลอบเบาๆ

       “ไม่เป็นไรน่า...เดี๋ยวก็รู้จักกันเอง ทะเลน่ะสวยมากนะ พี่ชอบทะเล แดนก็ชอบไม่ใช่เหรอ เราจะไปลงทะเลกัน เล่นน้ำ ถ่ายรูป กินอาหารทะเล ตกเย็นก็เกากีต้าร์ร้องเพลงกับพวกเพื่อนๆรอบกองไฟ...”

      “พี่อยากใช้เวลากับแดนให้มากๆ ภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เราจะไม่ได้เจอหน้ากันแบบทุกวัน พี่คงคิดถึงเราแย่...”

       บรรยากาศยามเย็นชวนให้เราเดินกันช้าๆ ทอดน่องไปตามริมฟุตบาท รถที่แล่นสัญจรไปมา แสงไฟจากเสาโคมโบราณด้านหน้าเพาะช่าง...ชวนให้ผมเอ่ยคำบางคำออกมา          “ถ้าสมมติ...เราเป็นได้แค่พี่น้องกัน...พี่มาร์คจะยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีของผมอยู่มั้ย?”

       พี่มาร์คดูเหมือนยังไม่รู้ตัวว่าผมพยายามจะบอกอะไร ได้แต่ยิ้ม...

       รอยยิ้มที่ค่อยๆกรีดแผลใจของผม โดยไม่รู้ตัว

       “ทำไมแดนพูดแบบนั้น?”

       “ก็...ถ้าเผื่อผมรักพี่มาร์คแบบพี่ชาย”

      “พี่ก็จะยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีสำหรับแดนเสมอครับ”

      บางครั้งผมคิดว่าการที่พี่มาร์คมีเสน่ห์ในแบบฉบับของเขา ก็คืออารมณ์ง่ายๆ ใช้ชีวิตแบบสบายๆ แต่มันมีอำนาจกับคนอื่นอย่างน่าประหลาด น่าหลงใหล แบบที่ดึงดูดเราเข้าไปทีละน้อย แต่ยาก...ที่จะถอนตัว เหมือนล่อให้หลงหัวปักหัวปำ มีความสุขกับรอยยิ้มจริงใจของเขา

       แววตาของพี่มาร์คอ่อนโยน ฉายแววสงสัย...

       “ผมอยากให้พี่มาร์คเป็นพี่ชายที่แสนดีของผม”

      “ก็เป็นอยู่แล้วไงคับ ทำไมเหรอ?”

      “…เปล่าหรอกคับ แค่พี่มาร์คดีต่อผมเหลือเกิน...”

       พี่มาร์คยิ้ม รอยยิ้มอบอุ่น พร้อมทั้งฝ่ามือที่หนาใหญ่กระชับมั่นกุมมือของผมไว้ แล้วก็ลูบหัวผมเบาๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมีพี่ชายคนหนึ่ง ทั้งๆที่ผมไม่เคยมีพี่น้องมาก่อนเลยในชีวิต

       พอดีรถเมล์สายที่กลับบ้านของพี่มาร์คมาพอดี “พี่กลับก่อนนะ แล้วค่อยโทรฯไปหาคืนนี้นะครับ”

      พี่มาร์คไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ผม เดือนนี้หน้าหนาวกำลังคืบคลานเข้ามาปกคลุมทั่วทั้งมหานครกรุงเทพ ลมหนาวเย็นๆพัดมา พร้อมกับมือของใครบางคนที่กระชากเข้ามาที่ต้นแขนของผมอย่างแรง

      “เฮ้ย!” ผมร้อง ตัวที่ถูกกระชากหมุนไปเจอหน้าใครคนนั้น แววตาที่เย็นชา...ไร้อารมณ์อย่างกับหุ่น มีอยู่คนเดียวที่ทำให้ผมใจเต้นรัวได้ด้วยสีหน้าแบบนั้น (เชรี่ยยย กูนึกว่าโจรซะอีก…)

      “ชิพ!!!”

      “นี่จะไปไหนกับมัน?”

      “ไป...ไปไหน” นี่...นี่มันอะไรกันเนี่ย??? o_O”””

      “ก็ไปทะเล อ้ออออ...เล่นน้ำ เกากีต้าร์รอบกองไฟ...แล้วตอนกลางคืนก็จะนอนกับมันด้วยใช่มั้ย?!”

      ...นอน...

      มันคิดอะไรของมัน...หา!?

      “นี่...มึงรู้ได้ยังไง...มึง มึงแอบตามกูมาเหรอไอ้ชิพ”

      มันไม่ตอบ ได้แต่จ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ คนแถวนั้นก็เริ่มมองมาทางทิศเดียวกัน แต่โชคดีหน้าหนาวมืดเร็ว เลยไม่ค่อยอาย ทว่าไอ้ชิพยังไม่หยุดพูดเสียงดังสักที

      “แล้วมันจริงมั้ยล่ะ” หน้าตามันหาเรื่อง แต่กูไม่กลัวหรอกโว้ย!!!(แฮะๆ ความจริง ก็มีอยู่บ้างเล็กน้อย…)

      “จริง! กูจะไปไหนมันก็เรื่องของกูนี่”

      “สรุปจะไปกับมันเหรอ?”

      “เรื่องส่วนตัวว่ะ!” เชรี่ย!!! กูเจ็บแล้วนะโว้ย =_=””

      ผมตะคอกใส่หน้ามัน ซึ่งมันชะงักไป และวินาทีต่อมาผมก็รู้สึกตัวว่าไม่น่าทำอย่างนั้นใส่มันเลย แววตาของมันหม่นแสงลง ทว่ามือที่จับข้อแขนของผมกลับออกแรงบีบแข็งขึ้น ชิพก็อย่างนี้แหล่ะ...ชอบใช้กำลังมากกว่าเหตุผลอยู่เรื่อย

      “ชิพ กูขอโทษนะที่ต้องพูดแบบนี้ แต่กู...เอ่อ ไม่ชอบที่มึงใช้กำลังเข้าแก้ปัญหา ถ้ามีอะไร ก็พูดออกมา” ความจริงแล้วกะจะบอกไปว่ารำคาญไอ้ท่าทีเอาแน่เอานอนไม่ได้ของมัน และก็เริ่มจะโมโหๆกับมันแล้วด้วย “ชิพ ถ้ามึงอยากไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีปัญหานะ ก็แค่...”

      “ไม่!” มันออกแรงลากผม แรงควายชะมัด แล้วก็ชอบไม่ออมมือเลยด้วย เหอะ! ตัวของมันเดินนำหน้าเร็วจี๊ ทำเอาตัวของผมลอยลิ่วตามทางของมันไปจนถึงรถส่วนตัว  อ้อ คงยังไม่ลืมใช่มั้ยครับว่าไอ้เด็กอายุสิบเจ็ดปีคนนี้ขับรถมาเรียนด้วยตัวเอง...

      “จะไปไหนว่ะ?”

      “มากับกูนี่!”

      มันออกรถ เพียงเสี้ยววินาทีเดียวรถก็พุ่งตัวออกไปแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็วสูง ขณะที่นั่งอยู่ข้างๆมันผมพยายามอย่างหนักที่จะไม่เปิดปากพูดแม้แต่นิด ก็เพราะกลัวว่ามันอาจเกิดบ้าขึ้นมาได้ทุกขณะ ถ้าหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าชนเสาตอม่อล่ะ แง ผมยังไม่อยากตายตอนนี้น๊า~~~~T_T

      เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้(แค่รู้สึกว่ามันนานประมาณชาติกว่ากับอีกเจ็ดสิบกว่าปีเห็นจะได้) ผมกับไอ้ชิพนั่งกันอยู่ในรถของมัน คอแข็ง ตาเหม่อลอยทั้งคู่ แล้วไม่เปิดปากพูดกันสักคำตลอดทาง ตอนนี้เราอยู่กันที่หน้าบ้านผมแล้ว แบบ...ประมาณว่าบรรยากาศอึดอัด มาคุๆ รู้สึกทะแม่งๆยังไงชอบกล

      ผมลอบมองหน้ามัน ไม่เห็นมันแสดงปฏิกิริยา เลยทำท่าจะเปิดประตูลง ช่วงเวลานั้นแหละที่มันขยับตัวรวดเร็วปานสายฟ้า(โอเคๆ...ไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอก แต่ไม่ทันเห็นก็แล้วกัน) โน้มกายเข้ามาโอบผมไว้ แล้วจูบผมเข้าที่ริมฝีปากซะอย่างงั้น

      เย้ย!!!?

      เอ่อ...เอาอีกแล้ว ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีกลองดุริยางค์ทั้งวงมารัวดรัมอยู่ในอก จนเสียงมันดังก้องอย่างกับอยู่ในสเตเดียมที่ไหนสักแห่ง บ้าเอ๊ย! ผมเกลียดชะมัดเวลาไอ้บ้าชิพมันทำกับผมแบบนี้...

      แล้วไหนจะยังปลายนิ้วมือของมัน ที่กำลังสัมผัส อยู่ที่โคนต้นคอด้านหลัง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นไหลผ่านทั่วร่าง ราวกับจะน๊อคเอ๊าท์ผมไปได้นานเป็นวันๆ...เดือนๆ...ปีๆ...ยังไงยังงั้นเลย...

      “แดน กูรักมึง...”

       ……………….

      ……...........

       ……….

        ...ตึง...

      ..........

       ……

      …จะหาว่าผมเป็นบ้าไปแล้วก็ได้ แต่ในหูผม ได้ยินเสียง ‘ตึง!’ ดังก้องทันทีที่มันเอ่ยคำๆนั้นจบ...วินาทีที่มันถอนริมฝีปากออก ลมหายใจร้อนๆหอบหนักอย่างกับไปวิ่งมาเป็นสิบๆกิโล

      ‘รัก’...ตอนแรกผมไม่สามารถซึมซับความหมายของมันได้มากนัก เพราะหัวยังมึน เหมือนมีค้อนมาทุบ หูอื้ออึงไปหมด ปวดท้อง ลืม...ลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหายใจไม่ออก(ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก)...สมองขาดอำนาจในการสั่งการร่างกายให้ขยับตามหัวใจ ว่าอยาก...อยากโผเข้าไปกอด...

      ...แต่ผมก็ไม่ทำ และนึกเกลียด โทษตัวเองที่ทำตัวน่ารังเกียจ...แดน มึงเพิ่งตัดใจจากพี่มาร์คได้แล้วนะ! ไอ้แดน!...แต่แล้วหัวใจผมมันก็ร่ำร้อง ว่าเราอยากได้ยินคำๆนี้มาจากคนนี้มานานแสนนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ไงล่ะ คำว่ารักมันหลุดออกมาจากปากคนตรงหน้าแล้ว ทำไมผมถึงทำใจยอมรับมันไม่ได้ ทำไม?

       ไม่ใช่ซิ...ไม่ใช่ยอมรับไม่ได้...

      ...ทว่าในส่วนลึก ผมรู้สึกเหมือนได้ลอยขึ้นไปบนฟ้า ไม่มีวันตก ไม่มีวันเสียศูนย์ เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกอย่างจะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้...

      หรือว่านี่...ผมเองก็รักมันเข้าให้ซะแล้ว!

   

      “แดน...”

      เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นขัดภวังค์ อ้อ ไอ้ชิพน่ะเอง...มันสะกิดผม สติสตังเลยย้อนกลับมาใหม่ ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนกันนะ ในรถ...ของชิพ แล้วทำไมใบหน้าของมันถึงได้อยู่ใกล้ผมแบบนี้นะ ลมหายใจร้อน หน้าแดง อ้อ เพราะเราพึงจูบกันไปสดๆร้อนๆน่ะเอง

      หา?!!!

      มิน่าทำไมหน้ามันถึงเป็นแบบนั้น ผมรีบดึงตัวเองออกห่าง มันกลับรุกเข้ามาอย่างไม่รอช้า แหม...สติดีเชียวนะมรึง...

      “แดน กูรักมึงจริงๆนะ เลิกกับพี่มาร์คอะไรนั่นเถอะ กูรักมึงมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร ที่แน่ๆตอนนี้หยุดคิดถึงมึงไม่ได้แล้ว...ไม่ได้แล้วจริงๆ”

      “เอ่อ...” อย่าคาดขั้นกูมากนักได้มั้ย กูไม่ไหวแล้วโว้ย!!!

      “โทรฯไปซิ เอาซิ โทรฯเลย บอกเขาว่าขอเลิก หรือ...หรืออะไรก็ได้! แล้วไม่ต้องไปไหนกับเขาทั้งนั้น ไปกับกู เราจะ-“

       มันอึกอัก

       “แล้วทำไมที่ผ่านมา มึงถึงชอบทำตัวร้ายกาจกับกู”

       เออ นั่นซิ แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังยอมตามมัน

       “แดน...กูไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไง แต่พอได้เจอมึง...กูก็รู้ว่าไอ้ความสุข ความอบอุ่น ทุกๆครั้งที่คิดถึงมึงนี้คือความรัก...กูโกรธตัวเองที่ไม่รู้จะบอกมึงยังไง พอมึงเป็นแฟนกับพี่มาร์ค กูก็โมโห ที่มันมาแย่งมึงไป ทำไม...ทำไมกูถึงรักมึงไม่ได้บ้าง”

       “กูอยากรักมึง บอกมึงใจจะขาด...แต่มึงมีแฟนแล้ว กูก็อยากทำให้มึงหึงบ้าง อยากให้มึงสนใจ...มึงหึงกูบ้างมั้ย? มึงรักกูมั้ยแดน?”

      เอ่อ...ชิพ กูทั้งหึงมึง ทั้งหมั่นไส้มึงในคราวเดียวกัน...

       แต่คำถามหลัง ลำบากใจที่จะตอบ

       “แล้วให้กูทำยังไง”      

      “ก็เลิก...แล้วกูเอง กูนี่แหล่ะจะเป็นคนคอยดูแลมึงเอง เป็นแฟนมึง ทำให้มึงมีความสุข ของร้องล่ะ...กูรักมึง และ...และยอมแลกกับอะไรทั้งนั้นเพื่อให้มึงตอบตกลง”

      ผมจ้องหน้ามัน เชื่อมั้ยครับ? เป็นครั้งแรกที่รู้จักคนอย่างมันมา ไอ้ชิพ...ผู้ที่แข็งกระด้างและเชื่อมั่นว่าตัวมันเองแข็งแกร่งที่สุดในโลก บัดนี้กลับกำลังร้องไห้น้ำตาอาบไหลสองแก้ม หนำซ้ำ ยังสะอึกสะอื้นเหมือนเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ไม่ต้องการอะไรเลยนอกจาก...ความรัก

      “ชิพ กูขอโทษ...” ผมไม่ได้ร้องไห้ หน้าตาเฉยๆนะตอนนั้น แบบประมาณว่าธรรมดามาก แต่รู้อะไรมั้ย? ว่าหัวใจของผมเจ็บปวดมาก มากกว่าตอนที่เรารู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต ครั้งนี้หนักมากที่สุด...รู้สึกเหมือนประมาณว่าชีวิตจะจบสิ้นแล้ว อะไรทำนองนั้นเลย...เพราะผมรู้ดีว่าคำพูดที่ผมตัดสินใจจะพูดต่อไป มันจะฆ่าไอ้ชิพ และหัวใจของผมทั้งเป็นเช่นกัน…

      “ถึงกูเลิกกับพี่มาร์คแล้ว กูก็รักมึงไม่ได้ กู...ไม่ได้รักมึง”

      เงียบ...ไม่มีใครพูดอะไรต่อ จากนั้นมันค่อยๆถอยตัวกลับไปนั่งที่เดิม คอตก ไหล่หลู่ลงอย่างคนพ่ายแพ้ยับเยิน ซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อน...แววตา แววตาที่เตือนผม ว่าทุกครั้งจะสดใส ร่าเริง หรือไม่ก็ทำให้ผมใจเต้นแรง ภาพเหตุการณ์ต่างๆนานาไหลย้อนกลับเข้ามา เพียงแต่บัดนี้แววตาของชิพว่างเปล่า หลงเหลือแต่เพียงความอ่อนล้า เหม่อลอย...ผมรู้สึกคล้ายกับมีก้อนอะไรบางอย่างอัดแน่นขึ้นมาจุกอยู่ในอก สะอึกในชั่ววินาที

      ทำใจแข็งเปิดประตูรถ วิ่งหนีเข้าบ้าน

       เรื่องทั้งหมดนี่เป็นเพียงความฝัน ภาพลวงตา เดี๋ยวสักพักแม่ก็จะมาปลุกผมให้ตื่นขึ้นเหมือนทุกวันใช่มั้ย? ทำไมความรักของผมมันต้องวุนวายมากขนาดนี้ ต้องทำให้หลายคนเจ็บปวด เพราะตัวผมเอง...เพราะผมเองทั้งหมดเลย

       ผมโกหกมัน...เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาลงเอยกับคนอย่างผมอีกแล้ว…

       แม้แต่ชิพ ผมก็ไม่ควรค่ากับความรักของมัน

      เจอแม่ แม่ก็ทักเป็นปกติ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ผมยังไม่เข้าใจเลยแม้แต่บัดนี้ว่ามีปัญญายืนคุยกับแม่ได้ยังไงตั้งหลายนาทีโดยไม่ได้ระเบิดอารมณ์ ‘นั้น’ ออกมา คงเพราะเจ็บจนชาไปชั่วขณะล่ะมั้ง จนเมื่อขึ้นถึงห้อง ค่อยๆเดินไปชะโงกดูรถของไอ้ชิพเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ผมถึงกับต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นๆให้ไหลชโลมใจทั้งที่อยู่ในชุดนักเรียน ก่อนที่ใบหน้าจะเหยเก และร้องไห้เสียงดังมากไปกว่านี้...โดยไม่สนว่าเสียงน้ำจะช่วยกลบไม่ให้แม่ได้ยินได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆมันไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่เลยจริงๆ...



       โปรดติดตามตอนต่อไป :bye2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด