...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 428680 ครั้ง)

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีคับ อาทิตย์นี้ยุ่งสุดๆเลยคับ ขออภัยด้วยถ้ามาต่อช้าไปหน่อย

จบแบบsad ending อ่ะคับ มันแบบหักมุมนิดๆด้วยเพราะจามีpart2ต่อ เป็นเรื่องในมหาลัยฯซึ่งกำลังแพลนๆอยู่อ่ะคับ

ใครแฟนคลับพี่มาร์ค ตอนหน้าเจอกัน  :m4:

ปล. ผมอ่ะแฟนคลับน้องโค้ก บ้านพักอลเวงฯ พี่เตอิงรีบมาต่อตอนต่อไปเร็วๆน๊า >/////<


บทที่ 19



      รถเก๋งยุโรปเคลื่อนตัวเข้าจอดเลียบกำแพงบ้านสีขาวเก่าๆ ผมลงจากรถ ชวนไอ้ชิพเข้าไปกินข้าวเย็นพร้อมแม่

       ไอ้ชิพยิ้มสว่างวาบ หน้าตาเท่ห์ๆของมันทำหัวใจผมกระตุกนิดส์นึ่ง o_O*

       “เออ ดีว่ะ เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้กูยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยเลยนี่หว่า”

       มันรีบเดินเข้าบ้านนำหน้าผมไป เกลียดมันเจงๆเวลามันทำเหมือนกับบ้านของผม เป็นบ้านของมันอย่างงั้นน่ะ...

      แม่ผมพูดไปทำกับข้าวไป แถมยังมีไอ้ชิพเป็นลูกมือ ทั้งเล่นทั้งคุย ทำครัวพร้อมทั้งเล่นกับไอ้ชิพจนเพลิน ผมนั่งเท้าคางมองแล้วอิจฉาไม่น้อย...ไอ้ชิพมันทำตัวน่ารักอบอุ่นกับผู้ใหญ่แบบนี้เสมอเลยเหรอว่ะ? ไม่เหมือนตัวตนของมันง่ะ -v- ...ไอ้ชิพคนนี้ตอนที่อยู่ในห้องครัว หยอกล้อเล่นกับแม่ของผมนั้นช่างดูมีชีวิตชีวา สดใส ดูน่ารักในสายตาของผมอย่างบอกไม่ถูกเลยเชียวล่ะคับ...

      เริ่มดึกเข้าไปทุกทีแล้ว หลังจากพวกเราฟาดข้าวกันไปหลายจาน แม่ผมออกมาส่งชิพด้วยกัน แต่จนแล้วจนรอดไอ้รถเบนซ์คันเบ้อเริ่มของมันก็ยังไม่ได้ฤกษ์ล้อหมุนออกไปสักที

      “แดน ไปดูเพื่อนซิลูก ชิพมันเป็นอะไรหรือเปล่า”

      ผมวิ่งไปตามคำแม่(ซึ่งหมู่นี้อารมณ์ดีทู๊กวัน ไม่รู้เล่นหวยกินเจ้ามือหรือเปล่า?) ไอ้ชิพก็เปิดประตูลงมาทำหน้าเสียๆ

      “รถสตาร์ทไม่ติดอ่ะครับ สงสัยแบ๊ตหมด”

      อ้าว เวรแล้วไง

      “แล้วทีนี้ทำไงล่ะลูก?” แม่ถามเสียงเป็นกังวล

      “อ้อ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ แม่พอจะมีเครื่องมือ...” มันอธิบายยืดยาว ชื่อเครื่องมือที่แม่ผมไม่รู้จัก(รวมถึงผมด้วย) สรุปแม่ผมส่ายหน้า...ก็แล้วทำไมมึงขับรถถึงไม่พกไว้ล่ะไอ้เครื่องมือสำคัญๆแบบนั้น ดี สมน้ำหน้า กลับบ้านไม่ได้ กิ๊วๆ /(>0<)/!@

      “แล้วมึงทำอีท่าไหนว๊า แบ็ตถึงได้หมด” ผมถามบ้าง ออกอาการเซ็งๆ

      “สงสัยกูลืมปิดไฟห่าสักอย่าง...”

      ผมเตรียมอ้าปากจะด่าความโง่ของมันต่อ แต่แม่แตะแขนห้ามไว้ เห็นหน้าเศร้าๆคอตกๆของมันแล้วก็น่าสมเพชอยู่เหมือนกันล่ะครับ หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากน้องแอนดี๊ด๊ามาทั้งวัน

      “เอางี้ คืนนี้ชิพนอนกับแดนแล้วกันนะลูก เดี๋ยวเราเข้าไปคุยโทรศัพท์ขอคุณย่าเขาซะ อีกอย่าง พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปโรงเรียนพร้อมกันเลยไง ดีมั้ยแดน?”

      แม่พุ่งสายตาคาดคั้นมา...ซวยล่ะหว่า...

       ง่า~~~แล้วจาให้ผมตอบอะไรเป็นอื่นไปได้ล่ะคับงานเนี้ย!!!

      “คะ...คับ...”

      “ผมไม่อยากรบกวนแม่...” ไอ้ชิพพูดเสียงละห้อย...โห ไอ้หน้าด้าน! ไอ้มารยา!

      “ไม่ต้องชิพ เข้าบ้าน แล้วเดี๋ยวแดนไปเตรียมจัดที่นอนเผื่อเพื่อนด้วยคืนนี้”

      ผมเดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ไม่พอใจเท่าไรนัก...ก็คืนนี้ห้องส่วนตัวของผมจะต้องถูกบุกรุก โดยแขกไม่พึงประสงค์บางคน...บ่นๆแล้วก็เดินกระแทกเท้าขึ้นชั้นบนไปจัดที่นอนให้คุณชายชิพ ฮึ้ย!!! มันน่าโมโหเจงๆ! <<<\oo(-_-*)o

      ตกลงผมให้แขก...นอนที่นอนใหญ่ ส่วนผมเดี๋ยวปูนอนแถวนั้นเอง ช่างมัน

      เดินลงมา เห็นไอ้ชิพมันยืนคุยโทรศัพท์เสียงเครียดอยู่ พูดคับๆน้ำเสียงสุภาพนอบน้อมเชียะ...บ่นพึมพำเบาๆเหมือนเกรงใจคนปลายสาย ผมไม่เคยเห็นมันมีท่าทีเป็นผู้(ดี)ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย เลยต้องเดินแอบเฉียดเข้าไปฟัง

      “…ครับคุณย่า คืนนี้ชิพนอนบ้านเพื่อนสนิท คนที่ชิพเล่าให้ฟังบ่อยๆ...คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วง”

      “…ไม่ต้องครับคุณย่า ไม่ต้องให้ลุงเอี่ยมขับรถมารับ นี่มันดึกแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้จะได้ไปโรงเรียนด้วยกันกับเพื่อน คุณย่าไม่ต้องห่วงชิพนะครับ ชิพจะดูแลตัวเองให้ดี...”

      ผมรีบหลบไปคุยกับแม่ก่อนขึ้นนอน ไอ้ชิพปิดโทรศัพท์เดินตามเข้ามาในครัว แม่อุ่นนมให้ไอ้ชิพดื่มก่อนตัวท่านเองจะแยกย้ายไปนอนเช่นกัน(ชั่วตานานปีไม่เคยมีอุ่นให้ผมบ้างเลยง่ะ??? *O*)

      “แล้วพรุ่งนี้ตื่นกันให้ดีๆนะ แดน เอ็งลงมาใช้ห้องน้ำข้างล่าง ในห้องเราให้ชิพเขาใช้ไป”

      ผมชำเลืองมองตาไอ้ชิพ เห็นมันยิ้มๆเกรงใจ

      เชอะ!

      ไม่สน...ผมต้องไม่สนใจ...ขาของผมมันก้าวขึ้นไปชั้นสองเองโดยอัตโนมัติ ปิดไฟ และพยายามข่มตานอนหลับให้สนิทท่ามกลางความมืดและเงียบงัน ทำไมไอ้ชิพมันต้องมานอนห้องเดียวกับผมด้วย แม่คงไม่รู้...ว่าใจผมเต้นแรงมากแค่ไหน เมื่อมีมันอยู่ใกล้ชิดกันแค่เราสองคน

       ยอมรับ...ที่ผมแอนตี้มันนัก ก็เพราะกลัวหัวใจตัวเองล้วนๆ...



      “ฮื้อ?”

      เสียงงัวเงียของผมดังขึ้น ใคร? ใครวะ??? ใครที่มันกำลังนอนเบียดผม ไม่ซิ นอนกอดผมอยู่ต่างหาก!

      “เฮ้ยยยยยย” ผมโอยเสียงยาว ร่างอุ่นๆหนาหนักข้างกายผมตอนนี้ต้องเป็นไอ้แขกหน้าเป็นแน่นอน ผมพยายามถีบๆมันออกไป แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ มันรีบกระแซะเข้ามา

      “กูไม่เล่น”

      “ใครบอกกูเล่นล่ะ” น้ำเสียงมันเล่นแย้มหัวชัดๆ...ยิ่งตอนนี้อกกว้างๆของมันอยู่ชิดใกล้ จนได้กลิ่นสบู่กลิ่นเดียวกันกับที่ผมใช้

      พอมันเริ่มออกแรง ผมถึงรู้ว่านี่มันชัก...จะยังไงๆ หรือว่ามันเอาจริง? เย้ย!!!O+O*

      ตามันวาววับล้อแสงจากโคมไฟหัวนอน “คุยเป็นเพื่อนหน่อยดิ”

      ไม่อาวววว...มึงจาคุยเรื่องรายยยยว้า???

       พ่อมรึงตายเหรอง่ายยย+++>///<~~~~!!!

      “เชี่ยยยย กูจานอน” ใครบอก มันปลุกผมแล้ว คราวนี้ทำกรูตาสว่าง ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยนะมึง

      “เอานา” มันเลิกผ้าห่มคลุม ซุกเข้ามาที่หน้าอกผม

      มือหนาแต่นุ่มโคตรๆของมันดันทะลึ่งล้วงเข้ามาในเสื้อของผม ลูบไล้ไปทั่วแผงอกเบาๆทันที

       ผมสะดุ้ง...มันลงไปซนแถวๆขอบกางเกงแล๊ว…

      เฮ้ย!! มึงจาทาม’ไรกูว่ะไอ้ชิพ!!!

      “มึงเล่นเหี้ย’ไรเนี่ยชิพ กูบอกว่ากูจานอน...แล้วที่นอนมึงก็อยู่ตรงนู้น นี่ที่กู”

      ผมพยายามไม่ให้พูดตะกุกตะกัก...พยายามไม่ให้มันรู้ว่าใจผมเต้นแรงแค่ไหน

       มือของมันหยุดลงที่ฝั่งอกด้านซ้าย

      “ทำไมใจเต้นแรงจัง” มันอู้อี๊ขณะเอาหูแนบอกข้างซ้าย ข้างที่หัวใจของผมกำลังร่ำๆโดดออกมาเต้นระบำ เนื่องด้วยความ...

      “ไปนอน”

      “~ไม่อาวววว หนาว”

      “เอาผ้าห่มไปเพิ่ม” มันยังไม่ยอมปล่อย

      “ไม่เอาอีกน่ะแหละ กูจะนอนเบียดแกล้งมึงอย่างเงี้ย”

      ผมเงียบ อยากจะเดาใจมันให้ออก อยากจะตีความรู้สึกของมันให้ถูก...แต่ผมมืดแปดด้าน ในอ้อมแขนของไอ้ชิพ...จิตใจของผมดูเหมือนไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไป

       ดูเหมือนหลอกตัวเองชะมัดยาด

      “...แดน”

      “...”

      “กูอยากรู้...เรื่องที่มึงเครียด หายเครียดหรือยัง”

      “...มะ หมายถึงเรื่องอะไร?”

      “เรื่องที่กูบอกว่ามึงเป็นเกย์...มึงคิดออกหรือยัง”

      ตัวผมแข็งทื่อไปทั่วร่าง บัดนี้มันหายใจไม่ออก ความรู้สึกเหมือนเราจะตาย...ไปกับคำพูดแทงใจประโยคนั้น

      เจ็บจิ๊ดลงไปในหัวอก...

      “...”

      “...กูอยากจะบอกว่า...กูก็เป็น”

      ดวงตาของมันขยับเข้ามาใกล้ ทรงพลังอย่างประหลาด...กดผมให้อยู่ภายใต้อำนาจดวงตาเรียวสวยของมัน โน้มให้จิตใจของผมไม่สั่งสามารถการร่างกาย ไม่ขยับเขยื้อน นอนนิ่งๆให้มันจ้องเล่นเอาอย่างหยามใจ

      “กูไม่รู้...”

      “งั้น…” มันเลื่อนหน้าลงมาใกล้ จนกลายเป็นอยู่เหนือ คร่อม “ถ้ากูทำ...มึงจะรู้มั้ย?”

      น้ำเสียงไอ้ชิพแตกพร่า สั่น หวิว...เหมือนอารมณ์ของผมในตอนนี้ ผมเกือบจะกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อหักห้ามเสียงครางภายในใจออกไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำ เพียงแค่ตอบไปว่า

      “อย่า...กู...กูคิดว่าใช่...”

      แล้วมันก็นิ่ง เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด นิด นิด....ผมหลับตา ไม่กล้าลืมขึ้นมองสบแววตาคมๆของมัน แต่แล้วมันก็เลื่อนตัวลงไปนอนเคียงกันเฉยๆครับ อ้าว!?(ไม่ใช่เสียดาย แค่งงเฉยๆ) ผมนึก...ผมนึกว่ามันจะ!!!...

      แสดงว่าผมนึกไปเอง มันไม่ได้จะตั้งใจทำ...อย่างที่คิดจริงๆเหรอเนี่ย?!

       อะไรว่ะ? ทำกรูหน้าแดงไปหมดเลย >///<

      ไอ้ชิพมันนอนตะแคงมองมาทางผม ยิ้มมีเล่ห์นัยน์...ทว่าผมคิดว่าเป็นรอยยิ้มที่น่ารักและทรงเสน่ห์ที่สุดของมัน...ดวงตาก็แพรวพราว แถมยังบื้ออมพะนำไม่พูดอะไร

      “ไอ้บ้า!” ผมวาดหมัดชกมันเข้าที่ต้นแขนแข็งๆที

      “โอย” มือเรียวยาวลูบปอยๆ แต่ไม่ตอบโต้(อ่านะ) “ไง เสียดายหรือว่า...”

      “หยุด! ไม่ต้องพูด” ผมรู้ว่ามันจะล้อผม แต่ไม่มีทาง ไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมรู้สึก...หมดท่า และอายจนแทบอยากหนีมุดลงดิน

      “อย่างอนดิ สารภาพกับคนอื่นแล้วมางอนเล่นแบบนี้ได้ไง” มันดึงตัวผมกลับมาเผชิญหน้า ใครวะงอนมัน น้ำหน้าอย่างมันเนี่ยนะมีคนงอน ไม่มีทาง! “ตอนนี้กูรู้แล้ว...อย่างน้อยมึงก็ซื่อสัตย์กับตัวเอง กูดีใจด้วย…มา ขอกอดหน่อย จะได้หายหนาว”

      มันไถตัวเองเข้ามากอดอีกครั้ง แปลก ในเวลาที่เราอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ปากบอกว่าหนาว แต่ความจริงแล้วผมรู้สึกร้อนรุ่มสุดๆ ร้อนกว่าหน้าร้อนเมืองไทยเดือนเมษา...

      ไม่ว่าผมจะดิ้นแค่ไหน มันก็ไม่ยอมปล่อย

      ไม่ว่าผมจะผลักดันออกเท่าไร มันจะยิ่งกอดรัดมากยิ่งขึ้น…

      “จำไว้แดน...ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไร กูจะคอยอยู่เคียงข้างมึงแบบนี้ ตลอดไป”

      ...ผมจำได้ แม้คืนนั้นจะเป็นคืนแห่งความวุ่นวาย(น้อยๆ) ฉุกลหุไปนิด แต่มันเป็นคืนที่ผมคลายใจ หลับใหลในอ้อมแขนของใครบางคนอย่างอิ่มเอมมากที่สุดในชีวิต... 

      

       (โปรดติดตามตอนต่อไป)

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

nut499

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งเข้ามาอ่านครับ พี่

ไม่นึกว่าจะมีรุ่นพี่ในบอร์ดนี้ด้วย 555+

นับไปนับมาเยอะเลย :oni2: :oni2:

จะติดตามผลงานครับ

gnoy

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดันครับบบ

น่าน มีน้องสวนฯอีกคนด้วยรึนี่

รีบมาต่อเร็วๆนะครับน้อง

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
จบแบบเศร้าหรอ บ่อน้ำตาแตกอีกแน่ ๆ เลยเรา หุหุ

 :m1: :m1:

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
อยากให้ชิพ เป็นมากกว่าเพื่อนจังเลย อิอิ :m1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผมอ่านไม่ทันเพื่อนๆๆเลย

เพิ่งมาอ่านใหม่อ่านถึงหน้า2อยู่เลย

เป็นกำลังใจให้ครับผม สู้ๆๆ

เรื่องของนายสนุกมาก

พรุ้งนี้เรามาอ่านใหม่นะคืนนี้ง่วงมากแล้ว

 :impress: :impress: :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
แหม...นึกว่าชิพจะทำอะไรมากกว่านี้นะเนี่ย
ขัดใจอ่ะ...  :m16:

Marunaki

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งเพื่อนผมเองครับ อิอิ
ใครเป็นเด็กสวนฯ ออกมาแสดงตัวกันหน่อยซิครับ อิอิ :oni1:

ปล.อย่าลืมลงแต่นิยายจนลืมทำงานล่ะ
ปล.2 เดี๋ยว เสาร์ อาทิตย์จามาอ่านทั้งหมดนะ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อน

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เอามาลงให้แบบย๊าวยาว ถ้าคำไหนเขียนผิดบอกด้วยนะครับ ตอนนี้เร่งๆเจงๆ  :m23:


บทที่ 20



      แสงแดดอ่อนๆส่องลอดหน้าต่างห้องผมเข้ามา แยงนัยน์ตาให้ผมตื่นขึ้นหลังจากเสียงนาฬิกาปลุกดังลั่น ตามด้วยเสียงงืมงำของใครบางคนที่ข้างๆหูผม

      บ้าชิบ…ไอ้ชิพดันกอดผมไว้แน่น เลยขยับตัวไม่ได้

       อึ๊บ...แขนยาวๆของผมตะเกียกตะกายไปกดนาฬิกาปลุกให้มันหยุดร้อง ทว่ายิ่งขยับเขยื้อนตัวมากขึ้นเท่าไร อ้อมแขนแน่นๆของชิพยิ่งดูเหมือนรัดแน่นขึ้น...

       โอย! อึดอัดโว้ย...ฮะ...เฮ้ย...ทำไมมันซุกๆเข้ามาวะ...

      ...ในที่สุด ในเมื่อผมไม่มีทางหลุดออกจากวงแขนมันได้โดยไม่ทำให้ตื่น ผมเลยผ่อนแผ่นหลังลงนอนตามเดิม ประชันหน้ากับมัน แอบดูใบหน้าของไอ้ชิพตอนมันหลับ...

      จะว่าไปชิพหลับได้เหมือนเด็กผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง เหมือนมากจนผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่า...ความรู้สึกตอนนี้คือความอ่อนโยนที่เล่นงานให้ผมรู้สึกอ่อนไหว...

       จังหวะการหายใจที่สงบราบเรียบ สม่ำเสมอของมัน อีกทั้งดวงตาที่ยังคงหลับพริ้มปิดสนิท...ทั้งหมดทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ ต้องค่อยๆยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากเนียนเกลี้ยง แล้วลูบเบาๆ...

       ขนตางอนยาวของมันกระพริบๆ...

       กู...โดนมันหลอกอีกแล้ว!

      ”ฮื้อ?...” หมับ! ไอ้ชิพสะดุ้งคว้ามือผม แรงโคตรๆ

      “ตะ...ตื่นได้แล้วชิพ...”

      “ทำมายอ่ะ...”

      มันทำเสียงงัวเงีย น่ารักเชียวคับ...

       ดีแล้ว หากเมื้อกี้มันไม่ถูกขัดจังหวะ ผมอาจจะ...

      “ไปโรงเรียน ไปเถอะ ลุกขึ้นเร็วเข้า” ผมตะเกียกตะกายขึ้นมายืนได้ในที่สุด

      มันนิ่งไปแปบ ก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย



      ผมกับไอ้ชิพไหว้แม่ก่อนออกจากบ้าน ในมือของผมตอนนี้มีแค่นมกล่องเดียวเป็นอาหารเช้า ส่วนไอ้ชิพไม่กิน เรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆจนเข้าโรงเรียน ไอ้ชิพก็คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของผมโดยไม่รู้ตัว

      “...แดน วันนี้กลับกับเรานะ”

      “ ’ไมอ่ะ”

      “...เรา เอ่อ กู...เป็นห่วง”

      เอาอีกแล้ว...วินาทีนั้นหัวใจผมเต้นแรงขึ้นและผ่อนช้าลงในคราวเดียวกัน แก้มก็รู้สึกร้อนๆขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ไอ้ชิพก็เหมือนกัน...

       มันยืนยิ้มบางๆให้ผม ใบหน้าขาวๆ หล่อแบบเด็กเลว(แต่หล่อโคตร)มองตรงมาทางผม แก้มแดงเรื่อๆของมันทำให้ท่าเกาหัวเท่ห์ๆแบบฉบับไอ้ชิพลงตัว

       พอๆ...ผมคิดถึงมัน...ตลอดเวลาแบบนี้ไม่ได้

       สะบัดหัว เราสองคนหลบตากัน ผมอ้อมแอ้มตอบ

      “...ได้ เดี๋ยวมารอหน้าโรงเรียน”

      ว่าแล้วผมก็รีบเดินหันหลังหนีไป ไม่กล้าสบตามองมันอีก...ความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างมันกัดกินจิตใจผม ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกกับไอ้ชิพมันไม่ถูกต้อง และเป็นการทรยศต่อใครบางคน...ถึงแม้มันจะยากเย็นนัก ในการหักห้ามใจตัวเองก็ตาม... 



                  ใต้ร่มไม้แผ่กิ่งก้านเย็นสบาย แสงแดดร้อนแรงตอนกลางวันไม่สามารถส่องทะลุลงมาสร้างความระคายผิวให้แก่ผู้พักอาศัยเบื้องล่างได้

      ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ ใครบางคนก็แอบโผล่มาหอมแก้มผมเข้าอย่างจัง!

      “โอ๊ย!”

      พี่มาร์คน่ะเอง /(*_*)@

      “ว่าไงคับ”

      ผมวางมือจากสมุดการบ้าน กางแขนขึ้นกันไม่ให้คนตัวใหญ่เบียดเข้ามาใกล้อีก

      “ร้อน อย่าเบียดจิ”

      “ก็คิดถึงอ๊า~~~”

      จะบ้า! ทำเสียงออดอ้อนแบบนั้น ผมก็ใจละลายหมดซิคับ (ขอแอ๊บแบ๊วหน่อยเหอะ งุงิ o(>.<)o )

      “อะไร เมื่อเช้าเราก็เจอกัน คืนนี้พี่มาร์คโทรฯหาผมก็ได้นี่คับ”
      
       “ไม่อาว พี่ต้องเรียนอีกตั้งหลายชั่วโมง ต้องแว๊บออกมาเจอแดนก่อน” แหม ดวงตาหวานๆงี้เยิ้มเข้าไปใหญ่ พี่มาร์คจะรู้ไหมน๊อว่าเป็นเอามาก...ผมหมายถึง ‘คิด’ เองมากจริงๆ

      มือใหญ่ๆเริ่มโอบหลังผม ฮูยส์~~~ร้อนระอุ

       ตัวพี่มาร์คก็ร้อนไม่แพ้กัน
       
       กลิ่นโคโลญหอมจางๆบนตัวพี่มาร์ค ทำให้ผมอยากขยับเข้าไปใกล้อีกนิด

      “ลามก”

      “ว่าพี่เหรอ? ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนา” ไอ้(เริ่มลามปาม)พี่มาร์คเจ้าเล่ห์ ยิ้มอย่างงี้มีเร้อจะแปลความหมายได้เป็นอย่างอื่น นอกจากกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ...คุณแฟนจอมฉวยโอกาส >O<

      เขาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ แต่ผมไม่หลงกลแล้ว...อะไรน่ะเหรอ? ก็เมื่อคราวก่อน...

      ………<<<<<<<<<……………..

       ……<<<<<………..

       …<<<……

       ‘แดน’

      เสียงเรียกหวานๆดังข้างหู จนผมต้องหันมาจากหน้าจอทีวีห้องชุมนุม(อ๊ะๆอย่าคิดมาก ตอนนั้นไปเช่าหนังมาดูกาน ก็เลยหลบไปดูในห้องชุมนุมสองคน ก๊อเท่าน๊านเอง~~~)

      ‘จุ๊บ!’

      ‘อ๊ะ?!’   

      ‘พี่มาร์ค เล่นบ้าอะไรเนี่ย!’ ผมถลึงตาใส่ โวยวายด้วย แต่พี่แกเอาแต่หัวเราะหึๆ

      ‘ก็ขโมยจูบแรกของแดนไง พี่ขอนะ’

      …นับแต่นั้นมา ผมไม่มีวันปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้คนอย่างพี่มาร์ค...ตอนที่เราอยู่ใกล้กันอีก เป็นอันขาด...

      “แดน” อ๊างส์~~~น้ำเสียงพี่มาร์คโคตรสั่น

      “อย่าเชียวนา ไม่งั้นแดนต่อย” (จริงๆด้วย)

      “กล้าเหรอ เรากล้าทำพี่เหรอ?”

      นิ้วเรียวยาวๆจิ้มเข้ามาที่สีข้างผม เฮ้ย!!! รู้ได้ไงอ่ะว่าผมบ้าจี๊???

      ผมจำเป็นต้องวิ่งหนี ทำให้งานไม่เสร็จไปอีกตามเคย เฮ้อ...ถึงแม้เราจะเพิ่งตกลงคบเป็นแฟนกัน แต่ผมเหมือนสนิทกับพี่มาร์คมานาน อาจจะเป็นเพราะนิสัยเป็นกันเองของเขา และความอบอุ่นแสนพิเศษที่ผมไม่สามารถรู้สึกได้กับใคร

      เกือบทุกเย็น ที่เราต้องไปนั่งคลุกกันอยู่ในห้องชุมนุม ดูหนังกันบ้าง ติวหนังสือกันบ้าง ผมรักรอยยิ้มของพี่มาร์ค และแววตาที่เปล่งประกายความห่วงใยต่อผู้อื่นเสมอ...อบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ รู้สึกปลอดภัยและคลายกังวลเมื่อมีพี่มาร์คคอยอยู่ใกล้และดูแล

                                แต่พี่มาร์คก็ยังไม่เคยขอผมออกเดทสักที

      อันนี้เป็นหน้าที่ของพี่มาร์คที่จะถามผมคับ…ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องเรียกร้อง(จริงป่ะ...วะ?)



      ตอนเย็น ที่ไอ้ชิพนัดผมกลับบ้านเอาไว้ ปกติแล้วผมจะเดินมารอมันคนเดียว แต่วันนี้พี่มาร์คเขาอยากตามมาด้วย ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง บอกว่าจะต้องรู้ว่าผมกลับบ้านยังไงลูกเดียว…

      นั่งรอไปสักพัก ผมก็เห็นร่างสูงของไอ้ชิพเดินมาแต่ไกล...ใจผมเต้นแรงขึ้นมานิดส์...ผมยอมรับนะครับว่าพี่มาร์คเขาดูหล่อมาก แต่ถ้าเทียบกันกับการเดินเท่ห์ๆแบบเด็กเกเรของไอ้ชิพแล้ว ไอ้ชิพดีกรีสูงกว่าพอตัว

       เคยป่ะคับ...ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเค้านิสัยไม่ดี แต่เราก็ห้ามไม่ได้ที่จะแอบหลงไปกับเสน่ห์ห่ามๆอันเป็นเอกลักษณ์...

      “ป่ะแดน กลับกันเถอะ...”

      ไอ้ชิพเหลือบไปมองหน้าพี่มาร์คที่ยืนกอดอกรออยู่ สีหน้าขรึมอย่างที่ผมนึกหนาว...ทั้งสองจ้องหน้ากันเงียบๆ(สูงไล่เลี่ยกัน) ก่อนที่ไอ้ชิพจะเอ่ยขึ้นก่อนโดยไม่ละสายตาไปจากหน้าพี่มาร์ค

      “แดน ไปขึ้นรถ”

      “ชิพซินะ...” พี่มาร์คพูดเย้ยๆ แต่หน้าตาย

      “แดน กูบอกว่าให้ไปขึ้นรถ!”

      ผมสะดุ้ง ก่อนจะรีบวิ่งออกไปนอกโรงเรียน หันกลับมาเห็นทั้งสองคนคุยกันเครียดๆอีกคำสองคำ แล้วไอ้ชิพก็เดินหน้ามุ่ยออกมา นำหน้าผมไปยังฝั่งตรงข้ามที่รถเบนซ์คันหรูจอดพำนักไว้

      “ทำไมไอ้พี่มาร์คนั่นต้องมาคอยตามยุ่งกับมึงด้วย”

      มันขับรถเร็วผิดปกติ เนื่องจากอารมณ์โมโห ที่แม้แต่ผมก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้

      “อะ...เอ่อ พี่เขาเป็นห่วงกู”

      “กูเป็นห่วงมึงคนเดียวได้!”

      มันแซงรถอีกคันหนึ่งไปอย่างน่าหวาดเสียว

      “เฮ้ย...ไอ้ชิพ กูว่ามึงขับรถให้ช้าลงกว่านี้ดีมั้ย?” ต่อท้ายในใจเอง…กูไม่อยากตายเพราะมึง!

      “นี่มึงไม่รู้...มึงไม่รู้เลยใช่มั้ยว่ากูห่วงมึง?”

      “กูรู้…”

      “~แต่มึงไม่รู้ว่าเป็นเพราะ...”

      ตา...ตาของผมฝาดไปหรือเปล่า ว่าน้ำใสๆซึ่งคลอในดวงตาไอ้ชิพนั้น...คือหยาดน้ำตา...

      มันกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง สบถออกมาดังลั่น ผมไม่เคยเห็นมันในสภาพนี้มาก่อน...คือเหมือนโกรธอย่างกะฆ่าใครได้สักคน

      มันด่ารถข้างๆคันนึ่งซะดังลั่น แล้วปาด...

      บีบแตรไล่คนนู่นคนนี้ที จนผมทนไม่ได้

      “หยุด! พอได้แล้ว! มึงอย่ามาโมโหเพราะเรื่องของกู หยุดขับรถเร็วเดี๋ยวนี้!”

       “ทำไม? นี่มันรถกูไอ้แดน”

       “มึงอย่าพาลได้ป่ะ”

        “เออ! พาลแล้วไมว่ะแมร่ง~~~”

       ผมเคยเจอกับพายุชิพมาแล้ว แต่นี่มันโคตร Tornado ชัดๆ

       “ชิพ...กูขอร้อง กู...”

      “แดน มึงรู้ แต่มึงแกล้งกู แกล้งกูให้ทรมานเล่นแบบนี้ใช่มั้ย?”

       ระหว่างเราสองคน เหมือนมันรู้สึกแปลกออกไป...

       แต่มันตอบไม่ถูก ผมไม่สามารถอธิบายให้มันฟังได้ เสียงมันคาดคั้นจนผมเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นๆ

       “เฮ้ย พูดไรก็พูดมา กูไม่รู้เรื่อง”

      “~ไอ้ควาย! อย่าทำโง่ วันๆมึงเอาแต่รอนๆไปวันๆกับไอ้รุ่นพี่หน้าหม้อนั่น ไม มึงชอบเขาเหรอ? ถ้าชอบก็แมร่งไปเอากันเลยไป! กูเห็นแล้วทุเรศลูกตาว่ะ”

       “ไอ้ชิพ...มึงพูดแรงไปแล้วนะ” ผมมองมันแบบโกรธสุดๆ น้อยใจก็โคตรๆเลยอ่ะคับตอนนั้น... “กูไม่ได้เป็นแบบนั้น มึงเลิกพูดแบบนั้นนะ”

       “ไม่! กูเกลียดมัน กูเกลียดมันได้ยินมั้ย!”

       “…”

      “ไง...มึงเจ็บแค้นแทนเขาใช่ป่ะล่ะ แอบรักเขาแล้วไง ก็ยอมรับมาเด่ ไอ้ขี้ขลาด”

       วินาทีนั้นเชือกบางๆเส้นสุดท้ายของผมขาดออกจากกัน แมร่งโคตรโมโหสีหน้ากับท่าทางและทุกคำพูดของมันเลย...ไม่ทนแล้วเว้ย!!! ตั้งแต่เกิดมาพ่อผมสอนตลอดว่าอย่าให้ใครกล้ามาเรียกเราว่าไอ้ขี้ขลาด อย่างงี้ยอมได้ไง!(เผอิญไอ้ชิพเป็นคนแรก)

      “เออ! กูไม่ได้เกลียดเขา แต่กูชอบเขาแล้วไง?! ไอ้ขี้อิจฉา เขาเป็นแฟนกู พอใจหรือยัง!!!”

      ผมโพล่งออกไปอย่างไร้สติเช่นกัน โมโหจนแทบฆ่ามันได้ เดือดจนทนไม่ไหวแล้ว ต้องตะโกนใส่หน้าชิพเสียงดังบ้าคลั่ง...โดยไม่คำนึงเลยสักนิดว่ามันอาจจะวูบไป จนอาจไปชนกับอะไรเข้าก็ได้

      “...มึง...มึงว่า...ว่ายังไงนะ?”

      “...กูบอกว่าเขาเป็นแฟนกู! ได้ยินมั้ย...กูไม่รู้ว่ามึงไปเกลียดเขามากมายขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน แต่กูไม่ยอมให้มึงด่าว่าแฟนกู...”

      มันละสายตาจากถนน หันมามองโดยความเร็วยังคงระดับที่120กว่าๆ...น่าหวาดเสียวชะมัด จำได้เลยว่าใจเต้นแรงมากๆๆๆๆ ทั้งโกรธทั้งกลัว(TT^TT) ผมจะไม่มีวันไปไหนกับมันอีกแล้ว ถ้ามันไม่สัญญาว่าจะไม่ขับรถบ้าดีเดือดแบบนี้อีก

      “มึง...”

      “หยุดพูดเถอะชิพ...มึงทำตัวเป็นคนไม่มีเหตุผลเลย ยิ่งควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แบบนี้ บอกตรงๆ กูเบื่อว่ะ...”

      ล้อรถทั้งสี่ค่อยๆเคลื่อนเข้าจอดที่ไหล่ถนน จนเมื่อมันนิ่งสนิท...ผมนั่งนิ่งก้มหน้า ใจเต้นตึกตักรอต่อไปว่ามันจะเอาไงกับผม...หัวใจเต้นแรง กลัว ว่ามันจะเอาคืนกับที่ผมว๊ากใส่มันไปเมื่อกี้เปล่า

      ไอ้ชิพเองนั่งนิ่งหัวพิงกระจกฝั่งมัน...เหม่อมองออกไปนอกกระจก ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เมฆฝนซึ่งตั้งเค้ามานานทำท่าเหมือนจะเทสายฝนลงมาได้ทุกเมื่อ

      ผมเริ่มใจเย็นลง เนื่องด้วยความเป็นคนไม่ค่อยโกรธใคร เลยยอมลดทิฐิตัวเองทั้งๆที่ไม่ควรเลยสักนิด

       “เอ่อ...กูขอโท...”

      “ลงไป…”

      “ไอ้ชิพ กูขอโทษที่ตะโกนใส่…”

      “กูบอกให้มึงลงไปยังไง!”

      สายตาที่มันถลึงใส่ ผมเจ็บร้าวไปทั่วทั้งหัวใจ ร่างทั้งร่างชา แผ่ซ่าน...ไม่รู้เพราะอะไรที่เราต้องเจ็บ มันไม่มีสาเหตุเลย แต่การที่มันทำโหดร้ายกับผม หัวใจมันตัดพ้อ น้อยใจ...เสียใจที่มันทำร้ายจิตใจผมได้ลงคอ เกลียดมัน...ที่ทำอย่างนี้กับผม

       ความรู้สึกตอนนั้นมันบอกไม่ถูก ทุกอย่างเลย...เสียงข้างในมันตะโกนก้องว่าผมเสียใจ...เสียใจที่ทำให้ชิพต้องโมโห

       อ้าว ไหงกูต้องใจอ่อนให้มันด้วยว่ะ...แบบนี้ทุกที

       ทำไงได้...ผมกลับรู้สึกผิดเองซะงั้นนี่

       สรุปแล้วกลายเป็นกูผิด?

      ผมต้องแข็งใจ กลั้นเสียงสะอื้นพร้อมน้ำตาเอาไว้ รีบลงไปจากรถให้พ้นๆหน้ามันซะ มันคงเกลียดผมมาก...เกลียดมากใช่มั้ย งั้นผมก็ไม่ง้อ ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับมันอีก ผมก็เกลียดมันเหมือนกัน!

      รถสีเงินมันปลาบของมันหักออกไปสู่ถนนอีกครั้งด้วยความเร็วสูง พรวดเดียวมันหายไปแล้ว ช่างแมร่งงง... มันอยากขับรถเร็วแล้วไปตายห่าที่ไหนก็เชิญเลย ผมไม่สนหรอก ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว...ไม่เคยห่วงมันเลยแม้แต่น้อย ไม่เลย...ผมไม่เคยอยากให้มันรู้ว่าเป็นห่วงมันมากแค่ไหนซะด้วยซ้ำ...

       ตามันปวดๆ ต้องกำมือแน่นให้ขาก้าวต่อไป แต่ทำไมนะผมถึงเจ็บเหลือเกิน...

       แล้วน้ำตามันก็ค่อยๆไหลออกมา...

      

       โปรดติดตามตอนต่อไป

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ชิพบอกชอบแดนก็หมดเรื่องงง เสียดายจัง

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เง้อว...

ชิพจ๊าทามมายไม่บอกปายอ่า

แง้ สงสารมากมาย เหนื่อยจายแทนทั้งสองคน หุหุ

มาเป็นกำลังใจให้อีกนะคร้าบบบบ

 :m29:   :m29:   :m29:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

artkung

  • บุคคลทั่วไป
พวกปากแข็ง ขี้หึง อีกแล้ว

แบร่ๆ  :m14:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปเรื่อยๆแล้วอย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองของเราหลายใจนะคับ แฮะๆ  :m23:

ชิพปากเเข็ง ขอโทษจริงๆเพราะผมเอานิสัยเขามาแต่งด้วย ถ้าไม่ได้มู๊ดส์แบบนั้นผมแต่งไม่ออกง่ะ  :m1:

ตอนหน้าถ้าไม่รีบไปนอนจะมาตอบเม้นท์น๊า

ปล. ผมเล่าให้เพื่อนฟัง...สรุปผมมีรุ่นน้องที่โรงเรียนในบอร์ดนี้ด้วยเหรอ?


บทที่ 21



      ฝน...หยดแรกที่ตกลงมาจากท้องฟ้ากระทบสู่ใบหน้าของผม มันช่างเยือกเย็น และน่ากลัว...

      ตามมาด้วยหลายๆหยด เทกระหน่ำลงมา ผมเดินไปท่ามกลางห่าฝนซึ่งซัดสาดไปทั่ว เอ๊ะ...น้ำที่อยู่บนแก้มผมในตอนนี้คือฝน หรือว่าหยาดน้ำตาของผมเองกันแน่นะ?

      ทั้งหนาว ทั้งกลัว ผมรู้สึกแปลกๆ...คือมันเจ็บจี๊ดๆทุกครั้งที่วูบหนึ่ง ภาพใบหน้าของชิพปรากฏเข้ามา...ความสับสนในจิตใจของผมทำให้เสียงสะอื้นค่อยๆเล็ดลอดออกมา จนมันกล้า ด้านชา...ร้องไห้ออกมาเบาๆไม่สนใจสายตาใคร

      กว่าจะเดินกลับถึงบ้าน มันก็ดึกไม่ใช่น้อย ผมแบกเอาร่างเปียกโชกของตัวเองถึงบ้านในที่สุด หนาวจนสั่น ตาแดงก่ำ...พอแม่เปิดประตูบ้านออกมาแกก็ตกใจ รีบดึงผมเข้าบ้านไปถอดเสื้อผ้าเปียกออก แล้วยืนเปาผมให้

      “แกบอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ ไปทำอะไรมา”

      ถึงแม่จะเสียงดุ แต่การกระทำของแม่อ่อนโยน อบอุ่นที่สุด...ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด...คนที่สามารถคลายความหนาวเหน็บในจิตใจของผมได้เสมอ...

      “วันนี้แดนตกรถ...ดึกแล้ว เลยกลัวกลับบ้านไม่ทัน”

      ผมโกหก ไม่อยากให้แม่มองไอ้คนที่ไล่ผมลงมาจากรถของมันด้วยอคติ

      “แล้วแกเดินมางั้นเหรอ?”

      “ครับ”

      แม่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปเปิดเตา เพื่ออุ่นนมร้อนให้ผม

      “แกนี่บ้าเหมือนพ่อไม่มีผิด”

      แม่ยื่นนมให้ผม แล้วบอกให้รีบขึ้นไปอาบน้ำนอน แต่คืนนั้นผมนอนไม่หลับ ภาพต่างๆมันยังคงค้างติดตา...แววตาที่ไอ้ชิพมันมองผม เหมือนมีใครบางคนเอามีดมากรีดหัวใจมัน เหมือนมีคนมาทุบดวงใจมัน ปล่อยให้ทรมานจนตาย...แทบตายทั้งเป็น...

      ‘กูขอโทษ...กูขอโทษชิพ กูรู้ว่ามึงห่วงกูมากเพราะอะไร...’

      แต่ผมคงกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนใจได้

       ผมพยายามหาเหตุผลดีๆมาเสริมความรู้สึกตัวเองให้ดีขึ้น แต่เพราะอะไรไม่รู้...จิตใต้สำนึกบอกว่าผมเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีที่สุดของมัน...นอกเหนือจากนั้น คือความว่างเปล่า...

      ‘นั่นแหละ...คือเหตุผลที่กูให้สิ่งที่มึงอยากได้จากกูไม่ได้...ชิพ’



      วันรุ่งขึ้น ไอ้ชิพไม่มาโรงเรียน อย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด

      “นี่แก ไอ้แดน บอกมันด้วยว่าอย่าหยุดบ่อย จะสอบอยู่รอมร่อนี่แล้ว”

      อาจารย์วัน ครูประจำชั้นของผม ท่านยังมีเมตตาแอบ(จิก)กระซิบบอกผม ให้ไปบอกไอ้ชิพในฐานะเพื่อนสนิท แต่มันจะเชื่อผมอยู่หรือเปล่านี่ซิคับ...อีกเรื่อง

      ตอนกลางวันผมกำลังนั่งเรียงงานให้ไอ้ชิพอยู่ พี่มาร์คก็รออยู่หน้าประตูห้อง

      “...แดน ไปกินข้าวกับพี่เถอะ”

      ร่างสูงๆยืนอยู่ตรงนั้น แต่ผมไม่ยักมีอารมณ์อยากไปตามคำชวนแสนหอมหวานนั่นแฮะ...

      “ทำงานน่ะครับพี่”

      หน้าเข้มๆยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ตายล่ะหว่า~~~เก็บไม่ทันแล้วด้วย กระจายเต็มโต๊ะเลย หว่า~~~(T-T)

      “แดน นี่มันอะไร?”

      ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่มาร์ค เชื่อมั้ยคับ ว่าตอนนั้นผมขนลุกจริงๆ ดวงตาพี่มาร์คคู่นั้นแน่นิ่งเย็นชามาก น่ากลัวที่สุด!!! สายตาที่เขาเหลือบลงมา กับน้ำเสียงเบาหวิวเยือกเย็น ทำให้ผมมือสั่น ทำอะไรไม่ถูกในทันที

      “แดนทำงานให้คนอื่นเหรอ”

      พี่มาร์คคว้าสมุดไอ้ชิพ(มันไม่เคยเอาหนังสือกลับบ้าน)ขึ้นมาดูชื่อ ก่อนจะวางลงเบาๆ โฮยส์...ท่าทางพี่มาร์คเหมือนคนที่กำลังจะดุผมหนักยิ่งกว่าแม่ซะอีก เหอะๆ

      “แดนลอกสมุดให้...เพื่อน เพียงเพราะเขาไม่มา เท่านั้นเหรอ?”

      “เอ่อ...แดนไม่ได้...มันไม่ใช่…”

      “ไม่ใช่อะไร บอกพี่มาซิว่ามันไม่ใช่อะไร”

      ผมอึกอักตอบไม่ถูก รู้นะว่าพี่มาร์คเขากำลังหงุดหงิด แต่ยั่งงั้นพี่มาร์คก็ยังคงพูดเรียบๆกับผมอยู่ดี(ขอบคุณนะครับพี่มาร์คที่ไม่ดุแดนแรงๆ ผมรักพี่มาร์คที่ซูดส์ >.<)

      “ผม...ผมรู้สึกผิด”

      “ผิด? ผิดอะไร คนที่แดนควรจะรู้สึกผิดด้วยน่าจะเป็นพี่มากกว่านะ”

      ผมพยักหน้ากลายๆ

      “ไม่เอานาแดน...บางครั้งที่พี่ทำไม่โกรธ ไม่ได้หมายความว่า...พี่จะไม่หึง”

      เฮ้ย! พี่มาร์คอ่ะ พูดอะไรไม่รู้ แดนหน้าแดงหมดแล้วนะเฟ้ย!!!

       …หึง...

       คำๆนี้ทำให้เรารู้สึกเป็นคนสำคัญ ของเขา

      “~คนอะไร มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วทั้งที ยังคิดแอบกลับบ้านกับคนอื่นอีก”

      พี่มาร์คค่อยๆยิ้ม ปรากฏเป็นรอยบุ๋มน่ารักทั้งสองข้างแก้ม พลอยทำให้ผมยิ้มตามไปด้วย และวงแขนกว้างที่วาดมาโอบผมไว้หลวมๆ

      “ต่อไปนี้ แดนจำไว้เลยนะ อย่าปิดบังพี่อีก พี่เป็นแฟนเราแล้วนะ แล้วขอบอกไว้เลยว่าแฟนคนนี้ขี้หึงมากๆด้วย”

      ผมไม่พูดอะไร พี่มาร์คก็เริ่ม...จะทำอย่างอื่น

      “เฮ้ย! เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

      “หึๆ งั้นเย็นนี้ไปหาพี่ที่ชุมนุมนะ พี่จะ///…”

      พี่มาร์คกระซิบเบาๆ ประโยคที่ได้ยินยิ่งทำให้ผมใจเต้นแรงหนักหน่วง และหน้าแดงก่ำเข้าไปอีก บิดมือไม้ไปมา

      “555+ ดูแดนดิ หน้าแดงไปหมด พี่ชอบนะเวลาแดนหน้าแดง พี่คิดว่ามันน่ารักดี ดูเด่ะ แก้มแดงตัดกับผิวขาวๆ ยิ่งเวลาแดนพูดอะไรไม่ออก คิดว่ามันยิ่งน่าหอมแก้ม...”

      เรากระหนุงกระหนิงต่อกันอีกแปบนึ่ง ก่อนที่เพื่อนๆคนอื่นๆจะขึ้นมาจากโรงอาหาร(แต่มันก็ชินกับภาพพี่มาร์คในห้องแล้วล่ะ เพราะรู้ว่าสนิทกับผม) เลยทำให้เราต้องผละออกจากกัน(อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ชิ! \(-_-*))

      

       พี่มาร์คชวนลงไปโรงอาหาร ในใจผมแอบห่วงเรื่องงานไอ้ชิพอยู่ ผมสงสารมัน...เลยทำการบ้านให้มันแทน มันไม่มาโรงเรียน ไม่รู้เป็นอะไรมากหรือเปล่า...

      “แดน...เลิกกังวลเรื่องคนอื่นสักที”

      พี่มาร์คทักเสียงเรียบ เขาคงสังเกตเห็นสีหน้าไม่ค่อยสบายใจของผม

      “เพื่อนแดนคนนั้น...เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ แดนไม่ต้องไปรู้สึกผิดอะไรกับเขาอีกต่อไป...พี่ไม่เห็นความจำเป็นเลยสักนิดที่แดนต้องไปทำดีง้อเขา เราไม่ได้ทำอะไรผิด ฉะนั้นอยู่กับพี่แดนก็ต้องเป็นของพี่ เขาน่าจะรู้...ว่าพี่หวงของพี่มากแค่ไหน”

      ดวงตาพี่มาร์คขณะกำลังพูดเปล่งประกาย จริงจัง และแสนอบอุ่น คล้ายจ้องลึกทะลุลงสู่ก้นบึ้งหัวใจ จนทำให้ผมเคลิ้มตามได้โดยง่าย...เฮ้อ พี่มาร์คจะรู้มั้ยหน้อว่ายังไงผมก็ยังอดห่วงไอ้ชิพมันไม่ได้ ก็มันคือเพื่อนสนิทผมนี่ จะให้เพื่อนทิ้งเพื่อนได้ยังไงกัน จริงม่ะ…

      “ครับ” ผมรับคำพี่มาร์คเบาๆ

       แต่บอกตามตรง ความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่มาร์ค นอกเหนือจากความรักแล้ว ผมรู้สึกผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้ง เพียงแค่มองตากันเราก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ผมรู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่ต้องการความต้องการแตะต้องเนื้อตัวกันหรือสัมผัสทางกาย ผมก็มีความสุขกับพี่มาร์คได้...

       นี่หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่า...รักครั้งแรก...รักอันบริสุทธิ์

      ...แววตาคู่สวยของพี่มาร์คมีความหมายเปล่งออกมาอยู่เสมอ ความหมายที่แปลว่า ‘ความรัก’...

      ...แต่แววตาเย็นชาของใครบางคน กลับเชือดเฉือน จนหัวใจของผมอ่อนล้า บอบช้ำ...

      ดี! ผมจะไม่มีวันเห็นใจมันอีก คอยดู...คอยดูเถอะ ผมจะทำใจแข็งยิ่งกว่าหิน ให้มันรู้สึกผิดให้ได้เลย คอยดูซิ! 

 



ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม สงสารชิพอะครับ

แต่ถ้าแดนไปรักชิพก้สงสารพี่มาร์ค เหมือนกัน

แล้วสุดท้ายใครกันนะที่เป็นเจ้าของใจของแดน

ผมเดาว่าน่าจะเป็น ชิพ นะครับ อิอิ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ไม่รักกันแล้วก็ต้องตัดให้ขาดหล่ะนะ
ไม่เจ็บวันนี้ ก็จะืยืดเยื้อไปอีก
 :m15: :m15: :m15:

artkung

  • บุคคลทั่วไป
งานนี้มีศึกชิงนาง เอ้ย ชิงนายแดน แง๋มๆ  :m4:  :m4:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง2คน

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากๆๆๆๆ ใครจะเป็นพระเอกน๊า

13th Devil

  • บุคคลทั่วไป
ก็อย่างว่าอ่ะนะ ถ้าเราจะเลือกใครแล้ว เราก็ต้องตัดคนอื่นให้ขาด
เจ็บทีเดียวดีกว่าอ่ะ  :เฮ้อ:

อ้างถึง

ปล. ผมเล่าให้เพื่อนฟัง...สรุปผมมีรุ่นน้องที่โรงเรียนในบอร์ดนี้ด้วยเหรอ?


เหอๆๆ สงสัยเหมือนกันว่ามีเด็กสวนฯเยอะแค่ไหนกันเนี่ย
พี่ก็ OSK115 อ่ะครับ...( :serius2: ม่ายยย ตูยังไม่แก่)

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
ไม่เอาพี่มาร์คอ่า จาเอาชิพๆๆๆๆ  :serius2:

ชิพจ๋า กลับมาหาแดนน้า  :m15:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
เลือกที่จะเจ็บตอนนี้ดีกว่าที่มันจะลามกลายเป็นแผลเรื้อรังนะครับ  :m15: :m15:
ไม่ว่าแดนจะเลือกใครก็สงสารทั้งสองคนเลยอะ  :o12:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ตอบเม้นท์คับ

artday สงสารชิพช่ะม่ะคับ?

myloveisyo เข้าใจความรู้สึกคับ... :m15:

deshiwa บอกไม่ได้หรอกคับเจ้าของหัวใจของแดนคือใคร เอาไว้ลุ้นภาค 2 อิอิ

blueboyhub รับรองแดนได้เจ็บแน่ๆ...

artkung ชิงกันไปได้นิดส์นึ่งแล้วคับ

ifwedo ไม่ได้คับไม่ได๊!!!  :serius2:

maya~boy พระเอกถือว่ามีสองคนคับเรื่องนี้

13th devil คับ แต่บางครั้งเราก็เลือกที่จะเจ็บครั้งเดียวไม่ได้...(ประมานว่าเคยมาเเล้ว) :seng2ped:

kaporzung แปลกนะคับ ฐานเสียงพี่มาร์คที่โรงเรียนผมเยอะมากเลยคับ ส่วนในบอร์ดตรงกันข้าม 555+ :m20:

~gunkun~ อย่าลืมสงสารแดนด้วยนะคร้าบ

เอาล่ะ ครบแล้วน๊า ผมขอขอบคุณทุกๆกำลังใจไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆๆๆ


บทที่ 22



      หลายวันต่อมา ไอ้ชิพก็ยังไม่ได้มาโรงเรียน...

      ให้ตายซิ นี่มันจะปาเข้าไปอาทิตย์นึ่งแล้ว ทำไมไอ้ชิพมันยังไม่มาโรงเรียน บ้าชะมัด!...หรือว่ามันไม่สบาย...ไม่อยากเรียน...ไม่อยากเจอหน้าผมกันแน่...

       ห่วงมันชะมัด

       เข้าใจความรู้สึกม่ะคับ?...ว่าการที่เราคิดถึงใครคนหนึ่งตลอดเวลา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย...ช่าง น่าหงุดหงิด

      “…วันนี้นายนพเกตุยังไม่มาโรงเรียนอีกเหรอ? มีใครรู้บ้างมั้ยว่าเขาเป็นอะไร นี่หยุดไปหลายวันแล้วนะ มีใครเก็บงานไว้ให้มันหรือเปล่า? ฉันกลัวมันจะเรียนไม่ทัน...ฯลฯ”

      ‘จารย์วันมายืนหน้ามุ่ยอยู่หน้าห้อง เสียงแว๊ดๆของแกจิกไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่มีใครกลัวจริงๆจังๆหรอก ทว่าสีหน้าแกเป็นกังวล ก็อย่างที่บอกอ่ะคับ เจ๊วันทนาเขาเปรียบเสมือนแม่พระที่ต้องคอยถามไถ่ ห่วงใยคนอื่นเสมอๆ (โอ้...จริงแน่หรือจอร์จ?)

      “ไอ้แดนไง’จารย์ แดนมันสนิทกับชิพมากที่สุด” ไอ้ชัตที่โดนจิกหัวให้ขึ้นมากวาดห้องโพล่งออกมา

      “เหรอ? งั้นแกช่วยโทรศัพท์ไปหามันได้มั้ย ฉันเป็นห่วง”

      จารย์วันมองผมแบบ ‘มึงรู้หน้าที่ดีใช่ม่ะ?’ ผมก็เลยต้องพยักหน้าตอบๆไปโดยปริยาย แฮะๆ...แต่ถึงยังไงผมก็กะจะบุกไปบ้านมันเร็วๆนี้อยู่แล้ว ความจริงแล้วไม่มีใครหารู้ไม่ว่าผมกับมันเกลียดขี้หน้ากันอยู่

                        หลังจากที่ผมไปขอที่อยู่ไอ้ชิพจากเจ๊เค้ามา(ต่อไปนี้ขอเรียกชีว่าเจ๊) เย็นวันนั้นผมเอาข้อมูลออกมาดูเตรียมพร้อมบุกไปบ้านมัน

      แปลกแฮะ...ผมจำได้ตั้งแต่วันแรกว่าบ้านมันอยู่ใกล้บ้านผม แค่สองซอย มันบอก...แต่ทำไมทะเบียนที่เจ๊ให้ผมมาถึงได้...

      ผมยังไม่เอ๊ะใจเท่าไรนัก แต่ก็ไปตามที่ทะเบียนบอก บ้านมันอยู่ฝั่งธนฯนู่น ซึ่งผมไม่ค่อยเชียวชาญทางเท่าไรเพราะส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแค่ภายในฝั่งพระนคร...ผมไม่เข้าใจว่ามันจะโกหกผมทำไม ก็อีแค่บ้านไม่ได้อยู่ใกล้กัน ไม่จำเป็นต้องมาโกหกให้ผมรู้สึกสนิทกับมันเร็วขึ้นเลยนี่นา

      หรือว่า...มันมีเหตุผลอื่น?

       แอบโกรธมันเล็กๆด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้ทำมาปกปิด

       รู้สึก...ตัวไอ้ชิพจะเป็นปริศนาเสียส่วนใหญ่ (ทั้งๆที่กรูคบกับแมร่งมาตั้งนาน -_-“)

      นี่เท่ากับว่ามันต้มผมซะเปื่อยมาตลอดเวลา รับ-ส่งผมเป็นประจำ แถมต้องเสียค่าน้ำมันเกินความจำเป็นอีกต่างหาก...ไอ้ชิพมันแน่มาก มันแน่มากๆ!

      หลังจากทุลักทุเลตามหาบ้านของไอ้ชิพอยู่ครึ่งชั่วโมง ผมก็หอบเอากระเป๋านักเรียนตัวเองและการบ้านกองพะเนินของมันมายืนถือ ณ หน้าประตูบ้านเหล็กดัดสุดอลังการ มองลอดเข้าไปเห็นตัวบ้านหลังงาม สีขาวโดดเด่น มีสนามหญ้ากว้างเกือบเท่าบ้านผมทั้งหลังเลยมั้ง สีเขียวขจี แล้วไหนจะรถหรูๆห้าหกคันที่จอดเรียงรายอยู่ในโรงรถนั่นอีกล่ะ ทั้งเบนซ์ บีเอ็ม นิวบิทเทิล และฯลฯ...

       เศษเสี้ยวกระผีกสวนหญ้าหน้าบ้านมันก็ใหญ่เกือบเท่าสนามบาสที่โรงเรียนแล้วอ่ะคับ...(เว่อร์ไปเนอะ แต่บ้านมันใหญ่จริงๆงับ)   

      ผมกดออดด้วยมืออันสั่นเทา(นิดๆ อ้าว! พูดจริงนะคับ ไม่ได้โม้ว) สักพักก็มีผู้หญิงใส่ผ้าถุงสีแดงเข้ม เสื้อสีขาว เข้าใจว่าเป็นคล้ายๆพนักงานภายในบ้าน ที่แต่งตัวเหมือนกันยังกะแกะออกมาจากละครช่องเจ็ด ผมพูดจริงๆนะครับว่าบ้านไอ้ชิพมันยั่งกะในนิยาย คุณชายหนุ่มรูปหล่อ ร่ำรวย มีข้าทาสรับใช้มากมาย...มันช่างเกิดมาโชคดีกว่าเด็กคนอื่นจริงๆ พูดแล้วก็ตื่นเต้ล~~

      ตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นพจมาน สว่างวงศ์ ยังไง๊ยังไงไม่รุ >O<

      “ค่า~~~ มาหาใครค้า~~~” พี่คนนั้นวิ่งมาเกาะรั้ว มองลอดออกมาพร้อมลากเสียงยาว

      “เอ่อ...ผมเป็นเพื่อนของ...ชิพ นะครับ วันนี้เอาการบ้านที่โรงเรียนมาให้”

      “อ้อ~~~ เพื่อนคุณชิพเหรอค้า ตอนนี้คุณชิพก็มีแขก แต่เดี๋ยวเชิญข้างในก่อนคะ”

      ผมเดินตามพี่กระโปรงผ้าซิ่นไปหลังบ้าน เข้าใจอีกรอบว่าเป็นครัว เหมือนที่พวกแม่บ้านชอบมานั่งเม้าท์นินทาเจ้านายในละครอ่ะ เหอะๆ ชั่วครู่น้ำก็ปรากฏตรงหน้า พี่นงค์(แนะนำตัวเรียบร้อย)ที่พาผมเข้ามาบอกว่าจะออกไป ‘เรียน’ คุณชิพก่อนว่ามีแขกมาหา ผมเลยต้องนั่งแกร่วอยู่คนเดียว ใจเต้นระทึก(เล็กน้อย)ด้วยความตื่นเต้น

      สิบนาทีก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว ครึ่งชั่วโมง...จนปาเข้าไปครบหนึ่งชั่วโมง ไม่ยักมีใครเข้ามาตามผมออกไปเลย อะไรวะ บ้านแมร่งใหญ่โต จะไม่มีใครว่างมาตามกูสักคนเลยเหรอไง เสียมารยาทที่สุด!

                         ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ อีกอย่างบริเวณบ้านไอ้ชิพนั้นผมไม่ชำนาญทาง ยิ่งมืดผมยิ่งไม่สบายใจ กลับบ้านดึกกลัวแม่ด่าด้วย ในที่สุดผมตัดสินใจเดินออกไปเอง ทิ้งการบ้านไว้ให้มันในครัวนั่นแหละ ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว มันจะสนใจหรือไม่ก็เรื่องของมัน

      ผมเดินอยู่บนทางเดินภายในบ้านซึ่งทอดตัวออกไปทางประตู พลันรู้สึกสะท้อนใจยังไงชอบกล...ผมน่าจะรู้สึกโล่งใจ สบายกาย แต่ทำไมนะ...ตอนนี้ถึงได้ใจหายชอบกล น้อยใจ? เสียใจ?    น้ำใสๆมันเหมือนจะไหลมารวมอยู่ตรงหัวตาที่เดียว

       รีบเดินเร็วมาก ทั้งโกรธทั้งโมโห ฉุนสุดๆ

      “เดี๋ยว”

      ผมยังคงเดินต่อไปเรื่อยเหมือนไม่ได้ยิน ตอนนั้นไม่ได้ยินอะไรจริงๆครับแค่คิดว่าตัวเองโง่เหลือเกินที่ถ่อมาถึงบ้านไอ้เวรนี่ได้(กำลังโมโหง่ะ แง่ง!!!\(-_-*))

      “เดี๋ยวเซ่~~~”

      ผมสะดุ้งเพราะไอ้เสียงเถื่อนๆ คุ้นหูนี่แหละ...ไอ้ชิพมันตามมาจับไหล่แล้วสะบัดให้ผมหันกลับไปมองหน้ามัน ใจแอบกระตุกนิดๆที่เห็นหน้ามันผอมลงผิดหูผิดตา ดวงตาก็ออกซีดๆเหมือนผีจมน้ำ หน้าแมร่งเหมือนแค๊บหมูค้างคืนอยู่แล้ว เวลาโทรมๆอย่างงี้ยิ่งดูไม่จืด

      “มา’ไม”

       มันถามห้วนๆกวนๆ แต่น้ำเสียงเย็นชา

      “ก็มึงไม่เคยอยากให้กูมาบ้านมึง วันนี้มาแล้วไง...เพิ่งรู้ว่ามึงโกหกกูมาตลอด”

      ไอ้ชิพกระพริบตาถี่ “...ไม่ใช่...ไม่ใช่เรื่องของมึง การบ้านฝากไว้แล้วใช่มั้ย ไป! อย่ามาบ้านกูอีก”

      อะไรว่ะ? งงเด่ะคับ ผมงงเหมือนไก่ตาแตก!!! ไอ้เชี่ยชิพจะขอบคุณสักคำก็ยังไม่มี ผมก็ฉุน มันก็คงฉุน แต่ผมอดไม่ได้ที่จะตามไปจับข้อแขนหนาๆนั่น

      “หยุด! มึงคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน มึงเป็นเหี้ยอะไร...”

      “ปล่อยแขนกู!”

      เชื่อมั้ยคับ...วินาทีนั้นที่ไอ้ชิพใช้แรงควายๆของมันสะบัดแขนให้หลุดจากมือผม เด็กวัยรุ่นที่ตัวเกือบเท่ากัน...แรงของมันทำเอาผมเกือบเซ มันหันมาตะโกน ขึงตา น่ากลัวที่สุด! ผมไม่เคยเห็นมันโกรธใส่ผมขนาดนี้มาก่อนเลย แต่วันนี้มันทำ...มันจะทำให้ผมลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต

      และวันนั้นคือครั้งแรก...ที่มันสะบัดความหวังดีจากผม

      ตาชิพเริ่มแดงขึ้นมา แต่ผมไม่สนใจ เราสองคนยืนหอบกันอยู่ตรงนั้นด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการตะโกนใส่หน้ากัน โมโหใส่กันอย่างรุนแรง

      “มึงมีอะไรอีก...” น้ำเสียงไอ้ชิพที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ...ช่างเบาหวิว เยือกเย็น

      “มึงเป็นอะไร...ยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอ”


      “กูไม่อยากเห็นหน้ามึง...”

      “กูทำผิดอะไรวะชิพ? กูทำอะไรให้มึงไม่พอใจ!”

      “กูไม่รู้ มึงอยากรู้ก็ถามแฟนมึงเซ่!”

      ผมจ้องหน้ามัน เจ็บหน้าอกแปล็บๆ...

      ท่ามกลางความเงียบ ผมเห็นร่างเล็กๆอยู่ข้างหลังไอ้ชิพ...เด็กผู้หญิงที่ชอบใส่ชุดสีเปรี้ยวหวาน เสียงแหลมเล็กๆแบบดัดจริต แต่ผมยังสั้นเหมือนเด็กม.ต้นแถมยังแต่งหน้าจัด คนที่แอบชอบไอ้ชิพหัวปักหัวปำ...

      น้องแอน!

      “มึงมีแขก...”

      “ใช่...ต่อไปนี้กูจะมีแต่น้องแอนเป็นเพื่อน”

      ใจผมเต้นแรงบอกไม่ถูก มันกระตุกๆ แต่ละทีก็นำความเจ็บปวดมาสู่หัวใจของผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

       “ชิพ...กูเพิ่งรู้วันนี้นะว่ามึงเป็นคนขี้อิจฉา”

       “มึงพูดอะไรนะ!”

       ตายล่ะหว่า >.<~~~ ไปยั่วต่อมโกรธมัน ไอ้นี่ยิ่งธรรมดาอยู่ที่ไหน...ร่างใหญ่ตรงเข้ามาบีบแขนผมแน่น จนต้องนิ่วหน้าต้านความเจ็บปวด

       “ไอ้เชี้ยปล่อยแขนกู!”

       “...ไอ้แดน”

       ผมตะคอกใส่มัน แต่สู้แรงมันไม่ได้แฮะ...โชคดีที่มีระฆังช่วย

      “อ้าว...เพื่อนพี่ชิพคนนี้” น้องแอนเดินข้าวมาเกาะแขน จู่ๆเจ้าหล่อนก็เดินเข้ามาขัดจังหวะผมกับไอ้ชิพ...ทำให้มันปล่อยมือออก แต่ยังจ้องหน้าไม่ลดละ ผมก็จ้องตอบไม่ยอมเหมือนกัน

       “คุยอะไรกันอยู่คะ? สนุกเชียว”

       อี…’ตู๊ด’…(เซ็นเซอร์) เห็นๆอยู่ว่าคนกำลังทะเลาะกัน ทำไมมันต้องเสแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยว่ะ แมร่ง~~ ผมล่ะไม่เข้าใจว่าทำไมน้องแอนต้องทำตัวเป็นชะนีตอแหลด้วย???(ผมเกลียดแต่น้องแอนเท่านั้นนะคับ)

       ความรู้สึกอยากกระชากร่างยัยตัวเปี๊ยกนี้ออกไปตะงิดๆขึ้นมา หมั่นไส้ชะมัด “…พี่ชิพคะ คุยอะไรกันน่ะเอะอะเสียงดังจังเลย รีบเข้าบ้านเถอะค่ะ น้องแอนหิวแล้ว เดี๋ยวให้นมเตรียมอาหารเย็นได้เลย”

       กระซิบกระซาบกันด้วย ฮึ้ย!!! \o(-_-*)oo

        “ไปก่อนซิครับ...”

       “แต่พี่ชิพคะ...”

      “ไปก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป”

       ไอ้ชิพตัดบทเด็ดขาด ฮึๆๆฮ่าๆๆๆ

      “น้องแอนว่ารีบไล่ไปเถอะคะ ถ้าพี่ชิพอารมณ์เสีย…” น้องแอนจงใจกระซิบเสียงดัง(อีกที)

      เบื่อนังเด็กไม่มีสมองนี่จริงๆ แหน่ะ...ยังมาทำหน้าเยาะเย้ย ผมแค่จ้องหน้าไอ้ชิพแล้วไม่พูดอะไร มันทำกับผมแบบนี้ได้ ผมก็ทำกับมันได้เหมือนกัน!

                        “ทำไมมึงไม่ไปเรียน”

      “เรื่องของกู”

      “กูขอร้อง...ชิพ ถ้ามึงเกลียดกูแล้วไม่ยอมไปเรียน กูยอมหลบหน้ามึง แต่นี่มันเพราะประโยชน์ของมึงเอง รู้บ้างมั้ยว่าทุกคนเขาเป็นห่วงมึงขนาดไหน?”

      “แล้วมึงล่ะ เป็นห่วงกูขนาดไหน…”

      อุก!!!...เจ็บคับ เจ็บ...ไอ้ประโยคแทงใจดำนี้ทำเอาผมอึ้งอยู่หลายนาที ไม่ใช่เพราะมันเหรอผมถึงอดนอนหลายคืน ไม่ใช่เพราะมันเหรอผมถึงนั่งเหม่อลอยทุกกลางวัน ไม่ใช่เพราะมันเหรอผมถึงได้ยอมตากหน้ามาหาถึงที่นี่...

      ความรู้สึกตอนนั้นหลากหลาย จนอยากระเบิดออกไปให้รู้แล้วรู้รอด อยากด่ามันว่าเห็นแก่ตัว มันเคยคิดถึงผมบ้างมั้ย? แต่อีกใจก็อยากร้องไห้ให้มันเห็นใจ สงสาร ตัดพ้อยังไงก็ได้ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไอ้ชิพคนที่ผมรู้จักคนเดิม...       

      “กู...ไม่ห่วงมึง แล้วกูจะมาที่นี่ทำไม…”

      ไอ้ชิพยืนกอดอก มองผมไม่กระพริบตา(ยัยน้องแอนทำหน้างงๆ ตามใครเขาไม่ทัน)

      “กูน่าจะเป็นฝ่ายพูดคำนั้นมากกว่า...มึงรู้มั้ยว่ากูต้องเดินตากฝนกลับบ้าน วันนั้น...วันที่มึงไล่กูลงจากรถ”

      ไอ้ชิพเริ่มขยับ ตามันมีน้ำใสๆมาคลอ แต่ก็ยังไม่เสียฟอร์มทำอะไรลงไป

      “กูรู้แบบนี้...กูไม่มาก็ได้”

      ผมปาดน้ำตา เดินหันหลังไปเร็วๆ...ในใจลึกๆแอบหวังว่ามันจะรั้งผมไว้ หรือไม่ก็วิ่งตาม โอบกอดผมไว้...หรือแค่ตะโกนเรียกก็ยังดี แต่ไม่มีเลยสักนิด ไร้ซึ่งวี่แวว จนเมื่อผมถึงหน้าปากซอย ขึ้นแท็กซี่ ผมมองข้างหลังก็ไม่มีรถของมันตามมาสักคันเดียว



      คืนวันนั้นฝนตกพร่ำทั้งคืน ทำให้ผมนอนไม่หลับ...นอนฟังเสียงฝนตกกระทบหลังคาบ้านดังเปาะแปะอยู่ภายนอก เสียงน้ำไหลเย็นสบาย สงบ แต่ข้างในของผมนั้นหนาวยะเยือกจับขั้วหัวใจ จากชีวิตของผมที่คิดว่าสดใส ณ วันนี้ผมมีเรื่องต้องให้คิดมากมาย ใบหน้าของใครบางคนผุดขึ้นมาหลังม่านตา...เหมือนแม้ว่าหลับตา ก็ไม่สามารถลืมได้ลง...

                        ...แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นเมื่อนึกถึงเขา...


       โปรดติดตามตอนต่อไป


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด