...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 434921 ครั้ง)

artkung

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ะๆ คู่ของช็อคชิพกับแดนเนี่ย ท่าทางจะบอกรักกันแบบดิบเถื่อนแฮะ ไม่มีคำหวานๆ กันเลย 555+

ในที่สุดก็ลงเอยกันซะที  แต่น่าสงสารพี่มาร์นะครับ โดนทรยศจริงๆ นั่นแหละ

ปล. แล้วคืนนั้น แดนโดนไปทั้งหมดกี่ยกล่ะครับ (อยากรู้เหมือนชาวบ้านด้วยคน)

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ลงเอยกันเสียที ตามลุ้นแทบแย่
 :oni2: :oni2: :oni2:
ชอบแรงๆแบบนี้ไม่บอกแต่แรก ชิฟจะได้จัดให้
 :m25: :m25: :m25:
สงสารก็แต่พี่มาร์ค ถ้าไม่รักเขา ก็บอกไปตรงๆเถอะ เจ็บตอนนี้ ดีกว่าเจ็บไปอีกนาน
 :mc1: :mc1: :mc1:

ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮืออออออออออ  :sad2: พี่มาร์ค น่าสงสารอ่า :m15:

แต่ ในที่สุดก็เลือกได้แล้วเนอะว่าจะเอาคนไหน  :เฮ้อ: จาได้ไม่ต้องมีใครเจ็บอีก

 :m25: เลือกได้แล้วก็เสร็จ ทันทีเรยนะ  :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1:  :oni1:  :oni1:  :oni1:

อาโหล อาโหล อาโหล อาโหล อาโหล อาโหล


อ๊ะหลั่น ลัน ล้า...


เค้าว่า  อย่าสนคนบ้า  อย่าว่าคนเมา

เพราะงั้น  ปล่อยผมไปเถอะครับ  :o8:  :o8:

รีบ ๆ อัพเร็ว ๆ นะครับ

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
เป็นกำลังใจให้ในการเขียนต่อไปนะคร้าบบบ สู้ๆ จะติดตามต่อไปนะ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ให้สอบได้คะแนนดี ๆ นะครับ มารอตอนต่อไปของนายช๊อคชิพ  :m4:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ดีครับ สอบเสร็จแล้ว เย้!!! ดีใจมากมาย วันนี้เอาตอน37มาฝาก อีกสองตอนจบแล้วน๊า... :bye2:

ผมมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากทุกๆคนหน่อยหนึ่งอ่ะคับ คือช่วงนี้อยากอ่านนิยายแนวซาดิสมากมาย แนะนำหน่อยนะคับ ขอบคุงล่วงหน้าน๊า~~~ :oni1: :oni1: :oni1:


บทที่ 36



       ชิพ...

       ผมค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นทีละน้อย อากาศอบอุ่นห้อมล้อมรอบๆตัวผม แสงแดดอ่อนๆยามเช้าตรู่พร้อมทั้งสายลมอุ่นพัดผ่านเข้าปะทะผิว มือของผมค่อยๆกวาดไปทั่วที่นอนเพื่อหาร่างของใครบางคน...

       ผมพบเพียงความว่างเปล่า...ทว่ามีรอยยับจริง ผมค่อยๆก้มลงไปสูดกลิ่นกายของชิพที่หมอนของมัน อืม...

       ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวผม

       ทุกฉาก ทุกตอน...มันไม่ใช่ความฝันจริงๆ

       ผมพยายามชันกายลุกขึ้น มึนๆแฮะ มองไปรอบๆก็เห็นเสื้อผ้าที่เมื่อคืนเราสองคนร้อนรนเปลื้องมันออกวางกองอยู่บนพื้น แต่ไม่มีของไอ้ชิพ

       ขาของผมลุกไปทางห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองพร้อมทั้งแต่งตัว นาฬิกาข้อมือบอกเวลาประมาณแปดโมงกว่าๆ พอมองหน้าตัวเองในกระจก แมร่ง!!! โคตรตกใจเลย~~~รอยช้ำสีแดงๆที่รอบคอเป็นผลจากความเสียวของไอ้ชิพเมื่อคืน ชัดแบบนี้กูจาปิดยังไงฟ่ะ’เชี่ยชิพ???

       เปิดประตูออกมา ส่องหาร่างไอ้ชิพเพื่อจะต่อว่ามัน แต่เดินเร็วไม่ได้...(คงรู้ใช่ม่ะคับว่าเพราะอะไร =_=”...)

       ชานด้านนอกว่างเปล่า เอะใจแปลกๆ...เลยเดินวนไปดูด้านที่ติดทะเล กวาดตามองไปรอบๆก็ไม่เห็นร่างของไอ้ชิพเลย รถก็ไม่มี เสื้อผ้าก็ไม่อยู่ แสดงว่า...

       มันกลับไปแล้ว?

      ใจของผมสั่นขึ้นมาทันที

       ผมรู้สึกหนาว...มาก คือทั้งตัวและข้างในมันโหว่งไปหมด ความทรงจำที่มีชิพสัมผัส ความเร่าร้อน กลิ่นกายของมัน ยังคงวนเวียนไปมาอยู่ในหัวผม เคยมั้ยเวลาเราคิดถึงใครสักคนมากๆเพียงในช่วงเวลาสั้นๆ? มันไม่ใช่แค่โหยหา แต่เป็นความทรมานที่แทบจะระเบิดร่างกายออกเป็นเสี่ยงๆ ผมอยากเห็นหน้ามันตอนนี้ อยากกอดมันที่นี่ เดี๋ยวนี้...

       แต่มันไม่อยู่ซะแล้ว

       ผมถอนหายใจ เดินออกมาจากบ้านพักที่ไอ้ชิพเปิดไว้เมื่อคืน ระหว่างทางที่ลัดเลาะมาตามชายหาด กลับมาที่เดิมซึ่งไม่ไกลมากนั่นคือบ้านของพี่กร พยายามทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างละเอียด

       รู้สึกเหมือนไม่ใช่คนเดิม วินาทีที่ผมเป็นของมัน ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม…

       หัวใจอีกครึ่งหนึ่งจะไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว

       ไม่มีทางหวนกลับ ไม่มีทางเรียกร้องคืน...รักมันแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีทางเติมเต็มได้หากไม่มีมัน

       เพิ่งรู้ ว่าความรักมีสองด้าน...อ้อ ให้ความรู้สึกแบบนี้เอง

       รู้สึกตัวอีกทีขามันก็เดินมาส่งให้ใกล้ทางเข้าบ้านพี่กรแล้วครับ -_-* บ้านหลังใหญ่ทั้งหลังเงียบสงบ คงยังไม่มีใครตื่น...ผมแอบเดินย่องจะเข้าบ้าน ค่อยเปิดประตูเบาๆก่อนจะวิ่งไปหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลที่ตู้ยา แล้วตรงไปยังห้องของตัวเอง

      ใจผมกระตุกวูบด้วยความรู้สึกผิด…แต่เรื่องราวทั้งหมด คงเป็นเพราะความเมา ความคาดสติ...และอารมณ์รักที่ปะทุอยู่ในใจผมตลอดเวลาที่ผ่านมา

       พี่มาร์คคงเป็นได้แค่รุ่นพี่ที่มีความรู้สึกดีๆต่อกัน สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมนั้น มันผิดเกินไปที่จะรั้งคนที่ผมไม่ได้รักจริงๆไว้ จะเชิญดุด่าว่าอะไรผมก็ตามใจเถอะครับ แต่ผมบอกตรงๆว่าห้ามใจไม่ได้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่มากๆที่นอกใจพี่มาร์คแบบนี้

       ทำไงดี? อ๊ากกกกกกกก ผมมันเลวมากมั้ย? คิดแบบนี้แล้วจะช่วยให้กรูมองหน้าพี่มาร์คได้ติดอีกมั้ยเนี้ย??? เซ็งโว้ย…

 

       สาธุ๊!!! ขอให้พี่มาร์คยังไม่ตื่นเถอะ มีหวังผมโดนบีบคอตายแน่ ทว่า ภายในห้องว่างเปล่า

       อ้าว ไม่มีใครอยู่?

      ทันใดนั้นแหละที่เสียงโวยวายของใครหลายคนดังมาจากทางด้านนอก ตรงหน้าต่าง ผมรีบวิ่งไปชะโงกดู ไม่รู้ทำไมใครหลายคนถึงออกไปตรงหาด ชี้ๆมุงๆกันอยู่ตรงทะเล ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย

       วิญญาณไทยมุงกำเริบคับ กูดูด้วยคนดิ ผมเลยไม่รอช้าใส่เกียร์ที่พอจะได้(อย่าลืมคับ ว่าวันนี้เกียร์มันไม่ค่อยดี...) แล่นเข้าไปสมทบ แต่มันแปลก...เสียงของชาวบ้านหลายคนเคร่งเครียดขึ้น เหมือนมีเรื่องร้ายๆไม่ดีๆ (แต่ก็ยังอยากดู) อ้อ สายตาของผมเล็งไปที่แผ่นหลังคนที่น่าจะเป็นพี่...แล้วนั่นก็พี่...กับพี่...แฟนเค้า ป้าสมบรูณ์ เอ? ทำไมป้าถึงได้ร้องไห้ตัวโยนขนาดนั้นนะ

       และแล้ว สิ่งที่ผมเห็น ก็ทำให้หัวใจของผมเกือบหยุดนิ่ง...

       นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

      ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนชายหาด คลื่นน้ำที่โถมซัดเข้ามาลูกแล้วลูกเล่าไม่สามารถปลุกเขาให้ตื่นได้...

       ทันใดนั้น

       ผมถึงได้เข้าใจว่ามันคือร่างที่ไร้วิญญาณ...

       ร่างที่อ่อนปวกเปียกลอยโคลงมาตามน้ำแล้วเกยบนฝั่งช้าๆ…เนื้อตัวซีดๆนั้นยังคงติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ บอกไม่ถูกอ่ะคับ อธิบายไม่ได้ด้วย แต่แค่รู้ว่ามันน่ากลัว น่าขนลุกมากกว่าอะไรทั้งปวง

       ภาพที่อยู่ตรงหน้าผมนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนแล้ว พี่วุต...ใจมันวูบไปเร็ว คิดไปเองเลยอ่ะคับว่าใครคนนี้คงไม่ใช่...

       หัวใจของผมมันเจ็บจี๊ดขึ้นมา

       ชาวบ้านผู้ชายและคนในชุดสีขาว ช่วยกันพาร่างขึ้นมาบนหาด พลิกร่างนั้นให้เงยหน้า...เส้นผมสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคย บัดนี้ซีดเซียวไร้ชีวิตชีวา พี่มาร์ค...พี่มาร์คตายแล้วเหรอนี่…นั่นคือพี่มาร์คจริงๆเหรอเนี้ย!

       ตอนแรกผมได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น ขยับขาไปไหนไม่ได้...ความรู้สึกเลวร้ายกัดกินหัวใจผมอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดนี่เป็นแค่เพียงภาพในความฝัน แต่ทุกๆอย่างดูจะตอกย้ำและสมจริงเหลือเกิน...บางคนถึงกับนั่งก้มหน้าเศร้า บางคนก็แค่ส่ายหัว แต่อย่างพี่กรและก็พวกพี่ๆของเขาต่างพากันไปออมุงดูรอบพี่มาร์ค...แต่ละคนมีน้ำตาไหลนองอาบหน้า

       ทั่วร่างของผมชาหนึบ ตรงหัวตามันร้อนผะผาวขึ้นมา สมองสั่งให้ก้าวเดินออกไปช้าๆ...ที่ตรงนั้นทุกคนโวยวายจนฟังไม่รู้เรื่อง ผมเพียงได้ยินแต่เสียงป้าสมบรูณ์พูดว่า

       “อย่าให้น้ำตาโดนตัวเขานะคะ...”

      แต่ผมนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ใช่ ผมไม่อยากให้ร่างของพี่มาร์คแปดเปื้อนน้ำตาสกปรกๆของผม แต่มันยาก ยากมากเหลือเกิน...ดวงตาของผมปวดระบมไปหมดเมื่อต้องอดกลั้นไม่ให้เขื่อนตรงนั้นไหลทะลักออกมา ผมเม้มปากแน่น จนเจ็บ...ตัวงี้เปียกน้ำไปหมดแล้ว แต่ไม่สนใจ ค่อยๆเอื้อมมือไปจับแขนพี่มาร์ค...เย็น เย็นเหลือเกิน...

       “น้องอย่าเพิ่งเกะกะคับ ต้องรีบพาคนป่วยส่งโรงพยาบาล”

      ผมรีบเอามือออก แต่ชะงักคำว่า ‘ส่งโรงพยาบาล…’

       นี่…นี่พี่มาร์คเค้ายังไม่ตาย…

      นี่เรื่องจริงเหรอเนี้ย?

       “อ้าวน้อง รีบถอยไปเซ่!~~~”

      ไอ้รถพยาบาลก็ตะคอกใส่ มองผมด้วยสายตาตำหนิ

       “ผมนึก…นึกว่าเขา…”

      แต่ไม่มีใครฟังผมหรอก ผมมองร่างพี่มาร์คถูกหามขึ้นรถเข็น ประตูสีขาวเขรอะๆของรถพยาบาลปิดลง…คนหลายคนกำลังช่วยกันยื้อชีวิตพี่มาร์คไว้

       ผมกลั้นเสียงตะโกนของตัวเองอยู่ในอกลึกๆ ไม่สามารถพูดมันออกมาเพราะความช็อคล่ะคับ แต่ข้างในตอนนี้มันแตกสลาย ปวดมวนท้องไปหมด ผมหายใจไม่ออกจริงๆที่ต้องเห็นหน้าพี่มาร์คหลับตาสนิท หัวใจไม่เต้นอีกต่อไปแล้ว และไม่หลงเหลือความอบอุ่นที่เขาเคยมอบให้ผมตลอดมา...

       ไม่เคยนึกกลัวอะไรมากมายเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต

       แค่คิดก็กลัว ผมไม่อยากนึกถึงมันอีกเลยให้ตายเถอะ…

       …ความวุ่นวายกลับเข้ามาแทนที่ภาพที่รถยนต์สีขาวแล่นออกไป…ตอนนั้นทุกคนเร่งรีบพากันซักถามคนในบ้านใหญ่ ไม่รู้หรอกว่าผมไปไหน…สักพักชาวบ้านที่มามุงดูก็สลายตัวไป เหลือเพียงผมคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนั้น เปียกน้ำและหนาว...ที่สำคัญคืออ้างว้างมากจนผมกลั้นใจไม่ไหว แบบสุดจะทนโคตรๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาพร้อมแรงสะอื้นจนตัวโยน

       ...ฮัก...ฮัก...

       แค้นใจตัวเองที่ผมไม่สามารถทำอะไรให้พี่มาร์คมีความสุขได้เลย ตลอดเวลาที่เราคบกัน ผมรู้ตัวดีว่าใจของผมมันไม่ได้อยู่กับตัวเอง หรือแม้แต่พี่มาร์คก็ตาม และผมปันให้ชิพมาตลอด…ทั้งๆที่พี่มาร์คทุ่มให้ผมหมดหน้าตัก...ผมรู้ ว่าผมมันไม่ควรค่าอะไรเลย ไม่มีค่าพอมานั่งร้องไห้เสียใจกับพี่มาร์คเสียด้วยซ้ำ เขาไม่คู่ควรกับผมเลย ไม่เลยสักนิดเดียว...

       เกลียดที่ทำผิดได้ถึงขนาดนี้

       มือของใครบางคนแตะที่ไหลผม มือทั้งสองข้างค่อยๆลดลงมาปาดน้ำตา ผมเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาพร่ามัว

       พลัก!

       ผมล้มลง นอนหงาย ตามด้วยร่างของพี่เมฆที่นั่งคร่อมแล้วกระหน่ำหมัดรัวลงมาบนใบหน้าไม่หยุด เสียงหมัดกระทบกับหน้าผมดังมากจนน่ากลัว แต่โชคดีที่ไม่มีใครเลยอยู่แถวนั้น

       “มึง!...พลัก!...มึงเป็นตัวการที่ทำให้ไอ้มาร์คต้องฆ่าตัวตาย เพราะมึง!...พลัก!...มึงรู้มั้ยว่าที่มาร์คเจ็บปวดแบบนี้เพราะอะไร เพราะมันตามมึงไป มันเพ้อมากจนเดินลงทะเลไปด้วยความเสียใจ เพราะมันรักมึง! พลัก! มันไม่อยากให้มึงไปกับไอ้เหี้ยนั่น!”

       ความเจ็บปวดที่ใบหน้าผมทำให้ร่างของผมชาหนึบไปทั้งร่าง แต่มันไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อเทียบกับความเจ็บปวดที่หัวใจของผม...เลือดไหลนองเต็มหน้าคละเคล้าไปกับน้ำตา ผมไม่ได้สู้ แต่เต็มใจยอมรับความผิดทุกประการ...

       “กูไม่นึกเลยว่า...ว่า ว่ามันจะฆ่าตัวตาย...”

      มือของพี่เมฆที่กำคอเสื้อผมแน่นอยู่ค่อยๆปลดออก และเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่...ร้องไห้หนักๆอยู่ตรงนั้น เราต่างหมดแรงเพราะความเสียใจ หยุดต่อยผมไปโดยปริยาย

       ผมมองใบหน้าที่ชะโงกอยู่เหนือตัวเอง หน้าแดงๆนั่นแสดงสีหน้าแห่งความเจ็บปวด จนผมเองก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

       “ไป...มาร์คไม่ต้องการเห็นหน้ามึงอีก”

      “พี่เมฆครับ...ผมขอ ผมขอร้อง…”

      “หลังจากที่มึงทำกับมันแบบนี้ มึงยังต้องการอะไรจากมันอีก? หา! ตอบกูหน่อยซิ!!!”

       เรายืนจ้องหน้ากัน

      “…พี่เมฆรู้?”

      พี่เมฆลุกขึ้นมาต่อยผมอีกหมัด เลิกร้องไห้ตัวโยนในทันที

       “เออ! ก็กูรู้ กูถึงได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ไง!”

      เศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกขย้ำไว้ลอยมาโดนหน้าผม มืออันสั่นเทาค่อยๆคลี่กางมันออกมาอ่าน ลายมือของพี่มาร์คเขียนอยู่บนนั้น ร่องรอยแห่งความบอบช้ำบ่งบอกความหมายของทุกๆค่อยคำของตัวมันดี...

       แค่เห็น ผมก็ไม่กล้าแม้แต่จะอ่านมัน หรือ ซึมซาบมัน...

       “ไง มึงอายหรือว่ามึงรังเกียจที่จะอ่านกันแน่ว่ะ แต่กูบอกมึงให้ก็ได้” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประชด “มันบอกว่ามันรักมึง…มาก หมดหัวใจ แต่มึงทำให้มันต้องใจสลายเพราะมึงหลอกมัน มึงหลอกให้มันรักมึง ในขณะที่มึงไปเริงร่ากับคนอื่น เอ้า มึงอ่านเองเซ่! จะได้รู้ให้ชัดๆไงว่ามึงเลวแค่ไหน ว่าเมื่อคืนมึงไปไหนกับใครมา มึงทำให้มาร์คต้องฆ่าตัวตาย มึงทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งต้องตาย!”

      ผมได้แต่นั่งหมดแรง สมองปิดตัวลง แต่หูยังคงได้ยินเสียงพี่เมฆพูด...

       “ถึงมันจะไข้ขึ้นมาก แต่ก็ยังมีสติพอได้รู้เรื่องชั่วๆของมึง…กูเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามันเป็นเกย์ แล้วก็เป็นแฟนกับมึง แต่กูไม่นึกเลย...ว่าเพื่อนดีๆของกูต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะมึง! กูไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนไอ้มาร์ครู้อะไร แล้วมึงไปxxx(เซ็นเซอร์)ที่ไหนมา แต่กูไม่อยากเห็นหน้ามึงอีก แค่เพื่อนกูฆ่าตัวตาย มันก็มากพอแล้ว!”

      พี่เมฆด่าผมหยาบคายมาก แต่มันก็สาสมแล้วนี่...ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เขาพูดเป็นความจริงทุกอย่าง...พี่มาร์คคงเห็นภาพตอนที่ผมกอดจูบอยู่กับชิพ ด้วยความเมาบวกความเสียใจ พี่มาร์คตัดสินใจทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ก็เหมือนผม...แต่เขาทิ้งจดหมายลาตายไว้ที่ห้องพี่เมฆ และพี่เมฆก็รู้เรื่องทุกอย่างดีมาโดยตลอด

       พี่มาร์ค ผมขอโทษ...

       ผมไม่โทษใครเลย ยกเว้นตัวผมเอง

       “กลับไปได้แล้ว กูไม่อยากเห็นหน้ามึงอีก”

      “พี่เมฆคับ...ผมขอ ผมขอไปด้วย”

      “มึงยังหน้าด้านอยากยุ่งกับมันอีกเหรอ?”

      ผมสูดลมหายใจลึกๆ เอาล่ะ ตอนนี้ผมยอมทุกอย่าง พี่เมฆทอดสายตามองลงมาที่ผม ซึ่งค่อยๆก้มลงกราบที่แทบเท้าพี่เขา...ถ้าเป็นตอนอื่นผมคงร้อนด้วยศักดิ์ศรีที่โดนเหยียบย้ำไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้...แลกด้วยอะไรผมก็ยอม

       “ผมกราบล่ะครับพี่...ขอผมเห็นหน้าพี่มาร์ครั้งสุดท้าย”

      ในแววตาคู่นั้น ไม่รู้ว่านอกเหนือจากความเกลียดชัง...ยังมีประกายตาแห่งความสงสารหลงเหลืออยู่น้อยๆหรือเปล่า

       แล้วเขาก็เดินไปที่รถ ไม่พูดไม่จา ตอนนี้คนในบ้านไม่มีเหลือแล้ว ผมขึ้นไปนั่งข้างๆพี่เมฆที่เบาะหน้า ในรถบรรยากาศมาคุไปตลอดทาง พี่เมฆไม่ชำเลืองมองมาทางผมเลยแม้แต่นิดเดียว...



       เราสองคนตกลงกันสั้นๆว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ระหว่างทางผมสาบานว่าหลังจากเจอพี่มาร์ค ผมจะไม่มีวันมาให้ใครเห็นหน้าอีก ให้ถือว่าเป็นการจบสิ้นจริงๆ…

      “ไม่มีใครอยากเห็นหน้ามึงอยู่แล้ว…”

      รถเลี้ยวเข้าที่จอดของโรงพยาบาลในตัวเมืองแห่งหนึ่ง ไม่ใหญ่มากนักทว่าก็ดูทันสมัย ที่ชั้นบนทุกคนรออยู่แล้ว และต่างอยู่ในอาการเสียขวัญ ตำรวจสองสามนายยืนคุยกับผู้ใหญ่ของบ้านอยู่นั่นคือป้าสมบรูณ์ พี่ๆที่เหลือนั่งหน้าเศร้า ผมเข้าไปสมทบด้วยอีกคน แต่...ไม่มีใครมองผมหรือพูดกับผมเลย ได้แต่นั่งห่างๆ...และทำเหมือนไม่รู้จักผมกันทั้งหมด

       คาดว่าอาการแบบนี้ทุกคนคงระแคะระคายกันมาบ้าง

       “แล้วคุณป้าโทรฯบอกผู้ปกครองเด็กหรือยังครับ?”

       “ยังเลยค่ะ เมื่อกี้ฉุกละหุกมาก และ...ป้าไม่อยากบอกข่าวร้ายนี้กับทางบ้านเขา”

      “งั้นเดี๋ยวผมให้หมวดเขาติดต่อให้ก็แล้วกันครับ ทุกคนใจเย็นๆก่อน”

       พวกเรานั่งรอกันอยู่ตรงนั้น(ไม่รู้เหมือนกันรออะไร มึนๆหัวด้วย คิดอะไรไม่) เงียบเชียบ ไม่มีใครคุยอะไรกันเลย คือมันรู้สึกแย่มากๆอ่ะคับ ใครจะไปนึกว่าการมาเที่ยวฉลองด้วยกันครั้งนี้จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้ แล้วไหนจะเรื่องความรับผิดชอบ...ที่พวกเราทุกคนต้องแบกหน้าไปบอกครอบครัวพี่มาร์ค...

       ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้บอกว่าทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว

       “กูไม่น่าเอาเหล้ามาเลย ให้ตายซิ!”

      จู่ๆพี่กรก็พูดขึ้น น้ำเสียงสลดดังเบาๆ...แล้วค่อยๆปล่อยโฮออกมาทีละน้อยจนพี่ดอมที่นั่งอยู่ข้างๆต้องคอยปลอบ...ผมคิดว่าความจริงแล้วทุกคนในทีนี้ก็รู้สึกผิดกันหมดทุกคนแหละ ด้วยความซ่าและคะนองของพวกเรานั่นเอง

       สักพัก พี่ตำรวจสองคนเดิมก็เดินมาประกาศ น้ำเสียงเหมือนจะร่วมแสดงความเสียใจตามมารยาท

      “แจ้งทางบ้านให้แล้วนะครับ กำลังเดินทางมาวันนี้ครับ…”

       ทุกคนมองหน้ากัน ยังช็อคไม่หาย และไม่เชื่อว่าพี่มาร์คจะพยายามฆ่าตัวตาย…

       
       โปรดติดตามตอนต่อไป
















[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เฮ้อ...ความรัก :sad2:
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์จริงๆ :sad2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
จากสาเหตุนี้หรือเปล่า ที่ทำให้แดน

กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวตัวและไม่ใส่ใจใคร

เกี่ยวกับความรักในที่สุด

ตอนนี้แดนคงเจ็บปวดน่าดู น่าสงสารแดนเหมือนกัน

รักสามเศร้า สุดท้าย ก็ต้องจบลงด้วยความผิดหวัง  :m15:

========================

ปล..ตกลงตอนที่ 36 หรือ 37 แน่ะครับ  :m22:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :m15: :m15:พี่มาร์ค :m15: :m15:
แดนจะทำไรต่อไป...........

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
มาร์คจะตายมั้ย.........แล้วชิพหายไปไหน

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่านแล้วสะเทือนใจมากครับ

สงสารพี่มาร์คด้วยอะครับผม

แต่ผมว่าไม่วันใดก็วันหนึ่ง พี่มาร็คก็ต้องรู้อยู่ดีครับ

แล้วชิพหายไปไหนอะรู้ปะคราวนี้ทำไรไว้อะ

มารับผิดชอบด้วยเลย อิอิ สงสารทุกคนนะครับผม

แล้วพี่เมฆ ก็แอบรักพี่มาร์คใช่ปะ อิอิ

:impress: :impress: :impress:

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเศร้าจัง แต่ว่า ตอนที่ลงมันตอนที่ 36 มะช่ายเหรอ

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
โอยๆๆๆ ขอโทษๆๆนะครับ ลงชื่อตอนผิด ตอนนี้ต่างหากต้องเป็นบทที่37 555+

สรุป ไม่มีใครแนะนำนิยายประมานตบจูบๆเลยเหรอ? :o o12

เออ แต่มีเรื่องจาถาม ถ้าอยากเอารูปมาแปะตรงใต้ชื่อตัวเอง ต้องทามไงอ่ะคับ???

รอคำตอบจากผู้ใจดีนะคร้าบ~~~~

งั้นตอนนี้ขอไปอ่านเรื่องอื่นก่อนนะ อิอิ


บทที่ 37



       ภายในห้องผู้ป่วย มีเตียงตั้งอยู่กลางห้อง ร่างของพี่มาร์คที่พ้นขีดอันตรายแล้วกำลังหลับสนิทอยู่ตรงนั้น มีลมหายใจ ห่มผ้าแลดูอบอุ่น ทำให้ผมโล่งใจไม่น้อย

       นอกหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีเขียวประดับอยู่ เป็นภาพต้นไม้ที่ไหวลู่ตามลมด้วยแรงของพายุฝน สายฟ้าแลบสว่างเป็นจังหวะ ผมนั่งลงที่ข้างๆเตียง มีเก้าอี้สองสามตัววางอยู่แล้ว เนื่องจากพ่อแม่พี่มาร์คเพิ่งเข้ามาดูอาการครั้งล่าสุด ตามด้วยเหล่าเพื่อนๆซึ่งตอนนี้กลับบ้านไปกันหมดแล้ว

       เหลือแต่ผมคนเดียว…ส่วนเกิน

       เป็นเวลาดึกมากพอสมควร พ่อแม่พี่มาร์คคงลงไปซื้อกาแฟ ผมเลยหลบเข้ามาได้…นั่งมองพี่มาร์คเงียบๆ ผมจับมือของพี่มาร์คไว้อย่างไม่กล้า ค่อยๆกุมมันเอาไว้แน่น

       หมอบอกว่าพี่มาร์คมีอาการน้ำท่วมปอดตอนนำส่งโรงพยาบาล โชคดีที่พี่มาร์คตัดสินใจ…ฆ่าตัวตายตอนเช้ามืด ระยะเวลาที่กว่าจะมีคนมาพบตอนเช้าเลยไม่ค่อยห่างกันมาก บวกกับที่พี่มาร์คถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งด้วย ส่วนก่อนหน้านี้พี่มาร์คมีไข้สูง เพิ่งจะได้ยาลดไข้ไป ก็อาการดีขึ้นตามลำดับ เพียงแต่ยังไม่รู้สึกตัวเท่านั้น

       แล้วหมอยังบอกอีกว่า…รอดมาได้ด้วย ปาฏิหารษ์…       

       น้ำตาผมรื้นขึ้นมา วูบหนึ่งคิดถึงพี่วุต…พี่มาร์คคงทรมานมากเหมือนกัน

       ทั้งสองคนเจอเรื่องเลวร้ายต่างๆก็เพราะผม

       จู่ๆ…มือพี่มาร์คก็กระตุก พลันทำให้ผมเงยหน้าจากการกุมมือพี่มาร์คเอาไว้

       “พี่มาร์ค!”

      ดวงตาเรียวสองชั้นเหม่อมองบนเพตาน จนทำให้ผมต้องมองตาม สักพัก…พี่มาร์คเหมือนจะรู้สึกตัวว่าผมกุมมือเขาอยู่

       “ไง…”

      เสียงนุ่มคุ้นเคยทำให้อารมณ์อ่อนไหวของผมขาดผึงลงในที่สุด ร้องไห้ออกมา ซบลงไปกับหลังมือสีเข้ม

       พี่มาร์คมองผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นไปไม่ได้…พี่ควรจะโกรธผมซิคับ ควรจะเกลียดผม รังเกียจในสิ่งที่ผมกระทำลงไป แต่ทำไม???...พี่มาร์คถึงได้มองผมและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและห่วงใยมากมายขนาดนี้

       “พ่อแม่พี่ล่ะ?”

      ผมไม่ได้ตอบ ก็ท่านเพิ่งเดินออกไป

       “แดน หยุดร้องเถอะ”

      ผมปาดน้ำตา แต่มันยังคงไหลไม่หยุด แสบไปหมด ทว่าใบหน้าพี่มาร์คที่ตอนนี้กำลังยิ้มให้ผม เอามือสัมผัสหัวของผมอย่างอ่อนโยน สงสัยจังว่าทำไมถึงสร้างความอุ่นซ่านในหัวใจของผมได้มากมายขนาดนี้…ทั้งๆที่พี่มาร์คเกือบต้องตายเพราะผม ทำไม?...

      “ลืมมันไปซะเถอะเรื่องทุกอย่าง”

      “ผม…”

      “ลืมมันไปซะ…ต่อไปนี้จะมีแต่พี่กับแดน ที่เป็นพี่น้องกัน”

       วินาทีนั้น…เหมือนแดนคนเก่า ที่อยู่ในตัวผมตายลงไป

       แดนคนปัจจุบัน คนที่มีแต่บาดแผล ตราบาป ติดแน่นอยู่ข้างใน เป็นคนเดียวแล้วที่อยู่ในสายตาของพี่มาร์ค

       แดนคนเก่า ผู้ที่ไม่เคยทำใครร้องไห้ จากไป…ไม่มีวันกลับคืนมา

       ผมกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

       “แดนเก็บความทรงจำระหว่างเราสองคนไว้ แต่มันเป็นเพียงภาพแห่งความสุขเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แดนไม่ได้รักพี่แล้ว…พี่ก็ ไม่ได้รักแดนอีกแล้วเหมือนกัน”

       พี่มาร์คตะแคงหน้ามาทางผม น้ำตาค่อยๆไหลลงมาหนึ่งหยด ทีละนิดๆจนกระทั่งเป็นทางยาว

       “…ระหว่างที่จมน้ำ พี่มีความรู้สึกว่า…ชีวิตของพี่ยังมีหนทางให้เลือกอีกมากมาย อีกยาวไกล”

      “แล้วพี่เลือกที่จะต้องมาตายแบบนี้น่ะเหรอ? ชีวิตของคนเรามีค่าเพียงแค่เจ็บช้ำ? ต้องตายเพราะความรัก? พี่เลยนึกขึ้นได้ว่าเราไม่ควรจะยึดติดกับรัก…โดยเฉพาะรักที่ไม่ใช่ของคนรัก หรือแม้แต่กระทั่งตัวเอง อย่างที่คนอย่างพี่ไม่เคยได้ความรักจากแดนเลย…”

      ผมหลับตาลง ซึบซับคำพูดพี่มาร์คไว้ และพบว่าแม้มันจะเป็นแค่คำพูดที่พี่มาร์คสารภาพ บอกเล่า ปรับทุก…แต่มันกรีดแทงลงไปในหัวใจผมได้เจ็บปวดอย่างแปลกประหลาด เกินกว่าจะบรรยายได้

       ความจริงที่ทำร้ายผมอยู่ตลอดเวลานับจนบัดนี้

       “พี่เลยอดทน…แดนจะอดทนเพื่อพี่ด้วยได้มั้ย?”

      ผมพยักหน้า พี่มาร์คยิ้มบางๆ…

       “พี่มาร์คคือพี่ชาย…พี่ชายที่ดีที่สุดของแดน ผมไม่เคยมีพี่ชาย แต่พี่มาร์คคือพี่แท้ๆของแดนแล้ว…ขอบคุณและขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา…ขอบคุณ…สำหรับความหวังดีที่พี่มาร์คมีแต่ให้กับผมเสมอมา”

      เราสวมกอดกัน เป็นกอดที่แนบแน่น ครั้งสุดท้าย…ผมรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน เหมือนว่าเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในช่วงหนึ่งปี ตั้งแต่พบพี่มาร์ค ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ทั้งสุขและทุกข์ ท้ายที่สุดแล้วภายในอ้อมกอดนี้ เป็นสถานที่ๆผมรู้สึกอบอุ่นและสุขใจจนเรื่องเลวร้ายทุกอย่างหมอดดับลง…พร้อมๆกับภาพต่างๆ ความทรงจำต่างๆ เรื่องเลวร้ายต่างๆถูกบดบังแทนที่ด้วยแสงอาทิตย์เจิดจ้า สว่างจ้าราวกับนี่ คือวันแรกก่อนที่ผมจะได้รู้จักกับทุกๆคน…และดำเนินเรื่องราวมาจนถึงจุดจบนี้…

       “เรายังเป็นพี่น้องกันอยู่ใช่มั้ย?”

      “ใช่คับ” ผมตอบเบาๆ…ฮื้อ?

      “งั้นถ้าพี่ไปเมืองนอก แดนยังคงจะตอบจดหมายทางไกลจากพี่ชายคนนี้อยู่รึเปล่า”

      ผมอึ้ง…แต่ถ้านี่ถือความต้องการของพี่มาร์ค ผมก็ไม่อยากห้าม

      “แล้วเรื่องเรียน…”

      “สบายมาก…ถ้าพี่ติดมหาลัยที่นี้ ก็ไม่เอาหรอก พี่คิดว่าถ้าได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนไกลๆคงจะดีกว่า…มันทำให้ลืมเรื่องราวได้เร็วนักล่ะรู้มั้ย ส่วนมหาลัยที่นู่นคงต้องคุยกับพ่อ แต่แค่เอาหลักฐานมัธยมกับวีซ่าไปสมัคร สองปีพี่ก็จบแล้ว…แดนคิดว่าแพงไปมั้ยกับค่าจดหมายทางไกลยาวนานแบบนี้?”

      น้ำเสียงของพี่มาร์คติดตลกอยู่อีก แม้ในสถานการณ์แบบนี้ พี่มาร์คก็ยังคงทำตัวน่ารัก จนน่า…

      ภาพผมแสดงความรักกับพี่มาร์คกำลังแล่นเข้ามาในหัว ทว่าผมพยายามหยุดไว้ แล้วมันก็ค่อยๆเลือนหายไป เหลือเป็นเพียงแค่รอยยิ้มที่ผมมอบให้เขาเท่านั้น

      บอกแล้ว ว่าพี่มาร์คเป็นแต่ผู้ให้ที่แสนดี เป็นคนที่ผมไม่คิดว่ามีจริงบนโลกใบนี้…และครั้งหนึ่งผมเกือบเสียเขาไป…

       จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นอีกแล้ว

      เราสองคนนั่งกับเงียบๆ พี่มาร์คกุมมือผมตลอดเวลา ดึงไปเล่นอย่างจะจดจำเอาไว้ และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมต้องไป ทำตามคำสัญญา…ว่าผมจะเจอหน้าพี่มาร์คเป็นครั้งสุดท้าย

       “พี่จะไม่ได้เจอแดนอีกแล้วใช่มั้ย?”

      พี่มาร์คพูดขึ้นทำลายความเงียบ…เหมือนรู้...แล้วความจริงก็พุ่งเข้าทิ่มแทงผมอย่างเจ็บปวด เราสองคนต่างรู้ดี…ว่าไม่มีทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้อีกแล้ว

       ผมพยักหน้าเงียบๆ คราวนี้ถ้าร้องไห้…ผมคงเจ็บปางตาย

       แค่คิด ภายในอกก็เหมือนจะระเบิดเป็นเสี่ยงซะแล้ว

      “แต่ขอให้รู้ไว้นะ…พี่รักแดนเสมอ”

      ผมค่อยๆปล่อยมือพี่มาร์ค เดินออกมายืนที่หน้าประตู…แต่แล้วกลับต้านทานกระแสบางอย่างไว้ไม่ไหว ทำให้ต้องหันหลังกลับไปมอง…ภาพพี่มาร์คนั่งอยู่ตรงนั้น ยิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มแสนเศร้า เศร้าที่สุด…โบกมือให้ผม ผมเดินออกมาช้าๆเหมือนคนใกล้ตาย พยายามจดจำใบหน้านั้นไว้ให้ได้นานมากที่สุด ก่อนจะออกเดินด้วยขาแข้งที่ไร้เรี่ยวแรง บอกตัวเอง…อดทนไว้ๆ…ทุกอย่างจะหายดี ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง…

      …ทุกอย่างจะหายดี ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง…




 

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ตอบน้อง Alex นะครับ

วิธีการใส่รูป

1. ที่ด้านบนของบอร์ดให้คลิกที่ Profile

2. ที่เมนูด้านซ้ายมือให้เลือก Forum Profile Information

3. ที่ด้านขวามือ ให้เลือกตัวเลือก I have my own pic หลังจากนั้นก็ใส่ URL Link ของรูป ที่เราเอาไปฝากไว้ตามเว็บฝากรูปครับ

เว็บฝากรุป เช่น http://www.smileupload.com/ , http://temppic.com/ , http://www.photo2host.com/ , http://uppic.net/

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม สงสารพี่มาร์คจังเลยอะครับ

ถ้าผมเป็นแดนผมคงน้ำตานองไปแล้ว อิอิ

เป็นกำลังใจให้พี่มาร์คเร็วๆๆเจอคนที่ดีและใช่สำหรับพี่มาร์คนะครับ

เป็นกำลังใจให้แดน เข็มแข็งไว้ครับผม ยังมีชิพที่รักแดน รออยู่นะครับ

 :impress: :impress: :impress:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
และแล้วก็มาถึงตอนสุดท้ายจนได้นะครับ 555+ รู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูก :m15: :m1: ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจ ที่สละเวลาเข้ามาเยี่ยมทุกคนเลยนะครับ ทุกreplyของท่านมีความหมายต่อผมมากๆ ขอบพระคุณมากนะครับ :pig4: :pig4: :pig4:

ส่วนภาคสอง ผมยังคิดชื่อไม่ออก ขอเป็นชื่อเดิมแต่เติม (2) เข้าไปตรงท้ายเท่านั้นก่อนนะงับ :m23: ใช้ชั่วคราว แล้วเปลี่ยนเมื่อไร จะเอามาบอกอีกทีนะครับ ระยะนี้กำลังแต่งอยู่ ขอแต่งให้ได้มากกว่านี้อีกหน่อยแล้วค่อยเริ่มลงนะครับ

ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดทั้งปี

ALeX

ปล.มาขอขอบคุณ myloveisyou ไว้เป็นพิเศษด้วยนะครับที่อุตสาห์สอนให้ลงรูป อิอิ รู้บ้างหรือเปล่าว่าในรูปนั่นน่ะใคร  :m12: :m12: :m12:

บทส่งท้าย



       ผ่านไปเกือบหนึ่งปีแล้วซินะ…แต่ผมยังมีความรู้สึกว่าใครบางคนยังคงนั่งอยู่ข้างๆผม ตอนนี้ก็ใช่

       หลังจากอ่านจดหมายฉบับล่าสุดของพี่มาร์ค ที่ประทับตราไปรษณีย์ของประเทศอังกฤษไว้หร่า ผมอมยิ้มน้อยใหญ่คนเดียวอย่างกับคนบ้า พลางวนดูรูปถ่ายของพี่มาร์คกับไอ้พี่เมฆตัวดี ที่หลายรูปในจำนวนปึกนั้นส่อเค้าว่าเพื่อนรักทั้งสองคนคงจะไม่ใช่แค่ ‘เพื่อน’ กันอีกต่อไป…

      ทำไมนะเหรอ? อ้าว เพื่อนรักกันใครเค้าจะคอยป้อนไอติมเพื่อนได้หวานและน่ารักปานนั้น เพื่อนที่ไหนกันจะคอยแกล้งทำเป็นหอมแก้มเพื่อนอย่างไม่ทันระวังอยู่เรื่อย แล้วใครที่ไหนกัน…ที่เมื่อรู้ข่าวว่า ‘เพื่อน’ ต้องไปเรียนต่างประเทศ ก็รีบขอพ่อขอแม่ตามไปด้วยกันทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เมื่อยตุ้ม

      แถมจดหมาย ยังลงท้ายด้วยนัยทำนองว่า…‘หากพี่ไม่มีไอ้เมฆเป็นเพื่อนแก้เหงา พี่คงไม่มีความสุขได้มาจนถึงทุกวันนี้’…

      หวานแค่ไหน คิดเอาเองและกัน >.<~~~

      ลมเย็นๆพัดผ่านมา นานแล้วซินะที่ผมไม่ได้รู้สึกปลอดโปร่งเหมือนอย่างเช่นตอนนี้ อย่างน้อยก็ดีขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้น...ภาพเหตุการณ์ที่เศร้าหมอง ภาพแม่พี่มาร์คร่ำไห้ปานหัวใจจะขาดอยู่ในอ้อมแขนพ่อเขา ด้วยความรักในตัวลูกชายคนเดียว...ภาพเพื่อนๆพี่มาร์คที่นั่งหน้าเศร้า บางคนตากับจมูกแดงๆเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ

       แม้ตอนนี้มันก็ยังรู้สึก...รู้สึกว่าผมไม่สามารถผูกพันกับใครได้บริสุทธิ์ใจเหมือนอย่างเช่นความสัมพันธ์ครั้งนี้อีก ความรู้สึกที่มีใครสักคนคอยห่วงใยเรา อยากดูแลเรา ปกป้องเราตราบชั่วชีวิตเขา มีคุณค่ามากมายเช่นนี้เอง

       การที่พี่มาร์คเป็นพี่ที่แสนดี...ความรู้สึกอบอุ่นไม่มีที่สิ้นสุดนี้จะคงอยู่ในใจของผมตลอดไป

       ผมยกมือขึ้นลูบใบหน้าของพี่มาร์ค ตามด้วยพี่เมฆ...ใบหน้าอันหล่อเหลา ดวงตาสองชั้นอ่อนโยนท่ามกลางเครื่องหน้าคมเข้มนั้นมองตรงมาที่ผม น้ำตามันเริ่มไหลออกมา...ออกมาเองด้วยความตื้นตันที่ชีวิตนี้ผมได้รู้จักใครคนหนึ่ง...คนที่ทำให้ชีวิตของผมเองสวยงามขึ้นท่ามกลางความเลวร้ายต่างๆนานา

       แค่เพียงนึกถึง…ใจมันก็รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด

       ...ขอบคุณนะครับพี่มาร์ค...

       “ขอให้มีความสุขมากๆนะครับพี่มาร์ค…”

       ผมกระซิบเบาๆ ท่ามกลางความเงียบสงบที่ลานหน้าตึกสี่(ย้อนกลับมาที่โรงเรียนนิดส์หนึ่ง) จู่ๆก็มีลมเย็นๆพัดมา ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าหนาว...

       สายลมเอ๋ย…พัดเอาคำพูดนี้ไปให้ไกล ให้ไกลจนถึงเค้าให้ได้นะ…

       …ผมอยากให้เค้ารู้ว่า ผมขอบคุณพระเจ้าทุกวัน...ที่ได้รักเขา...



       ผมค่อยๆลุกขึ้น แล้วหลับตาลง...ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นภาพสนามฟุตบอลโล่งๆ กว้างๆ…บัดนี้สนามที่เคยเขียวขจีกลับกลายเป็นทุ่งฝุ่นคลุ้งด้วยแรงลม กาลเวลาเปลี่ยนอะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยน(แต่สนามหญ้าน่ะโรงเรียนไม่มีงบ แฮะๆ =+=”)…ความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างไม่ทำให้ผมเกลียดเท่าสิ่งๆหนึ่ง…ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

       แค่ผมเดินผ่าน ภาพของใครบางคนเหมือนจะคอยตามหลอกหลอน ว่ามันเคยยืนอยู่ตรงนี้ เคยนั่งอยู่ตรงนี้ เตือนให้ผมเจ็บปวด กับความเลวของมัน ความร้ายกาจของมัน…

      ในโรงอาหาร ภาพที่มันนั่งอยู่ตรงข้ามผม…ทำร้ายผมจนต้องเบือนหน้านี้ ทุกๆที่เต็มไปด้วยความทรงจำของมัน…ยังเจ็บทุกครั้ง แบบว่าแม้แต่หลับตายังไม่สามารถลบภาพนั้นออกได้สักที

       ใครกันน่ะเหรอครับที่ผมเกลียดได้ถึงขนาดนี้?

       ก็ใคร…ที่มันสัญญาว่าจะอยู่กับผมตลอดไป…

       …ถ้าไม่ใช่ ไอ้ชิพ…



       หนึ่งปีก่อน…เมื่อหลังจากอำลาพี่มาร์คเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็รีบขึ้นรถtourกลับบ้านที่กรุงเทพฯทันที

       หลายวันที่ผมเอาแต่นอนซม ใจลอย คิดถึงแต่เรื่องเก่าๆครั้งกระโน้น โรงเรียนก็ไม่ค่อยได้ไป โดดบ้าง หนีเรียนบ้าง จนแม่ด่า แต่มันห้ามไม่ได้นี่ ใจผมมันลอยไปหาแต่คนที่คิดถึง ลอยไปหาสิ่งที่ทำให้หัวใจของผมมีความสุข

      แม้มันจะเป็นเพียงความสุขอันน้อยนิด ทว่าในขณะนั้นผมรู้สึกเหมือนขาดความสุขขั้นรุนแรง จนใจมันแห้งตายไปซะอย่างงั้น

       แม่ผมก็ทราบดีเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงต้นปิดเทอม บัดนี้แล้ว...แม่ยังคงเป็นห่วงกับอาการซึมเศร้าของผมเสมอ แต่แม่ไม่รู้หรอก...ว่าผมรู้สึกยังไง

       ข้าวปลาก็ไม่กิน มันไม่อยากกินอ่ะ ทำไงได้

       ‘แดน ลูกต้องกินข้าวหน่อยนะ แม่อุตสาห์ทำ’

      ถ้าแม่พูดแบบนี้ ก็หมายความว่าแม่เป็นห่วง ขอร้องให้กิน และในขณะเดียวกันก็อย่าทำให้แม่เสียใจ

       ผมจึงจำใจต้องกิน

       เวลามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิต ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่านะ?...แต่กับข้าวที่มันอร่อยๆมาตลอดกลับขมจัดไปซะงั้นในความคิดของเรา

       ‘แดนผอมลงไปมาก...แม่รู้ว่าแดนกำลังเศร้า แต่ต้องกินนะลูก’

      ผมคับๆตอบแม่ไปงั้นแหละ เสร็จก็ขอตัวขึ้นมาหมกอยู่บนห้องเหมือนเดิม อยากจะซ่อนตัวให้หายไปจากโลกนี้ซะเลยให้หมดเรื่อง เฮ้อ...

       ผม…กลัว กลัวการเริ่มต้นวันใหม่ กลัว...ว่าวันนี้ผมจะทำให้ใครเสียใจอีก

       ผมลุกออกจากเตียง นั่งมอไซค์ฯออกไปหน้าปากซอยเพื่อรอรถเมล์ นั่งไปไม่ไกลมากนักก็ลงเดิน จำทางพอได้บ้างไม่ได้บ้าง...

       แต่ตอนนี้ก็เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูเหล็กใหญ่โต มองเข้าไปเห็นบ้านหลังใหญ่สีขาวสะอาดตา

       ผมกดออด

       ‘มาหาใครคะน้อง?’

      พี่ผู้หญิงชุดขาวกระโปรงผ้าถุงสีแดงดำถาม สำเหนียงอีสานแท้ๆ

        ‘ชิพครับ...ผมเป็นเพื่อนชิพ’

      พี่ผู้หญิงคนนั้นนิ่งไปพัก แล้วบอกว่า

       ‘ยืนรอก่อนนะ’

      รอก็รอว่ะ ดีนะที่แดดยังไม่ร้อน

       สักพัก อีพี่คนเดิมเดินหน้ามุ่ยมาและ

       ‘คุณชิพไม่อยู่แล้วนะคะ คุณไปเรียนที่เมืองนอกแล้ว’

       ‘หา?’ งง งงดิคับ งงเป็นไก่ตาแตกเลย o_O???

       เกิดอาการช็อคเล็กน้อยด้วย...’น้องคือ...น้องแดนหรือเปล่าคะ?’

       อ้าว ทำไมรู้จักชื่อกูอ่ะ? ‘ใช่คับ?’

       ‘น้องคะ’ พี่อีสาน(ขอเรียกเพราะไม่รู้จักชื่อเขาจริงๆ ไม่ได้ต้องการลบหลู่ใครนะคับ)ค่อยๆดันตัวเองออกมาจากภายในบ้าน เหมือนแกมีเรื่องสำคัญจะพูดกับผม(ซึ่งก็จริงด้วยซิ)

      ‘ต่อไปนี้น้องไม่ต้องมาอีกแล้วนะคะ พี่ไม่รู้เหมือนค่ะว่าทำไมคุณท่านถึงสั่งให้มาพูดแบบนี้...แต่ตอนนี้คุณชิพไม่อยู่แล้ว คุณเค้าไปเมืองนอกตั้งนานแล้ว และบอกว่าไม่อยากเจอน้องอีก พี่ขอโทษด้วยนะคะ แต่บ้านมหภควัตรไม่ขอต้อนรับน้องอีก อ้อ คุรท่านสั่งว่าน้องไม่ต้องติดต่อกับคุณชิพด้วยนะคะ ท่านบอกว่าคุณชิพเธอสั่งไว้ ไม่ต้องการติดต่อกับน้องอีก’

      เสร็จแล้วพี่เขาก็ก้มหน้า ปิดประตูบ้าน เดินหลังแข็งหายลับเข้าไปทันที

       ‘อะไรว่ะ?’ ผมได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ งงมาก

       ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนยืนยันขนาดนั้น จะให้เรียกย่าชิพมาถามเลยผมก็ไม่กล้า ทำให้ผมต้องก้มหน้ายอมรับความจริงไป…ความจริงที่ว่า

       …ชิพไล่ผม?

      ไม่ซิ มันบอกคนรับใช้ให้มาบอกผม...ว่าไม่อยากเจอหน้าอีก

       ทำไม? ถ้าเรื่องแค่นี้...บอกตรงๆกับผมก็ได้

       ไม่ต้องให้คนใช้มาบอกหรอก...แต่แค่โทรมา บอกว่ามันอยู่ไหน ก็ได้...

       แต่นี่ แม้แต่จะเขียนจดหมายหากัน ก็ไม่มี...

       หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ผมไม่ได้รับข่าวคราวจากมันเลย มันไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น หรือแม้แต่โทรมา...ให้ได้ยินเสียง ไม่งั้นผมไม่เก็บเอามันมาคิดถึงจนฝันตั้งแต่เมื่อคืนหรอก...ไม่งั้นผมคงไม่คิดถึงมันมากมายขนาดนี้

       ไม่รู้เหมือนกันมาผมไปทำอะไรผิดให้มันไม่พอใจ ให้มันหมดรักผม ทิ้งผมแบบเย็นชาไร้เยื้อใยแบบนี้

       รวมรวบสติได้แล้ว เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว แล้วไอ้ความจริงทั้งหมดทั้งปวงมันเหมือนโหมเข้ามากระแทกร่างผม ผมเดินคอตกออกมา น้ำตามันค่อยรินไหล...ไอ้ชิพมันหลอกผม ผมรักมันแล้วแต่มันหนีไปไหน? มันทิ้งผมไว้ ทิ้งผมไว้คนเดียว กับไอ้ความทรมานและคิดถึงมันแทบจะขาดใจ

       แล้วมาสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆผมตลอดไปกันทำไม? มาบอกรัก มาให้ความหวังทำไม?

       เปล่าเลย…ที่มันมีให้ คือความเย็นชา ความไร้เยื่อใยที่ราวกับเฉือนใจของผมให้ขาดวิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

       ผมพยายามกลั้นน้ำตา ปวดเบ้าตาไปหมด...เพิ่งรู้ก็อีวันนี้นะเนี้ยว่าอกหักของจริงมันเป็นยังไง(ประโยคน้ำเน่า -v-)

       ความรู้สึกตอนนั้นบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก ผมกลับบ้านไปอ้วกเลยอ่ะคับ(ประมาณว่ากว่าจะลากตัวเองกลับบ้านได้นี่ร้องไห้ไปตลอด) ใจผมมันแทบคลั่งเพราะทั้งโกรธทั้งรักไอ้ชิพมันจนจะบ้า ตอนนี้เข้าใจหมดทุกอย่างแล้วพวกความรัก ความสุข ความเศร้า ความทุกข์ ความผิดหวัง...ก็มีแต่มันนี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกทั้งหมดนั้น<<<ได้ภายในเวลาเดียวกัน

       อยากจะหัวเราะดังๆ...ชาตินี้ผมไม่ขอเจอหน้ามันอีกเลย ไอ้ชิพ!

       ถึงบ้านแล้ว ล้มตัวลงนอน ผมต้องต่อต้านกับความรู้สึกบ้าคลั่งในตัวเอง ใจหนึ่งบอกให้เลิกรักมันซะ แล้วเปลี่ยนมาเป้นอาฆาตแค้นมันแทน อีกใจหนึ่งบอกให้รักมันสุดหัวใจต่อไป

       แต่ไอ้การรอคอยใครสักคนเนี้ย ใครไม่เป็นไม่รู้หรอก…ว่ามันเหี้ยขนาดไหน

       เคยคิดมั้ยว่าพระเจ้าเล่นตลกกับเรา?

       เคยคิดมั้ยว่าชะตากรรมชอบทดสอบเรา?

       ที่แน่ๆ ผมถูกลิขิตมาเพื่อความสิ้นหวัง ฮ่าๆๆๆ

       ……………………………………………………………..

       ………………………………………………

       ………………………………..

       ///////////////////////////////

       >>>>>>>>>>>>นั่นแหละครับ เรื่องน้ำเน่าๆแกมรันทดของชีวิตเด็กมัธยมปลายอย่างผม หวังว่าเรื่องเล่านี้คงทำให้ผู้ที่อ่านรู้ตัวได้ทันท่วงทีนะครับ ว่าความรักน่ะ มันมีสองด้าน…บทมันจะหวานอิ่มใจก็แสนหวาน บทมันจะร้ายเหี้ยๆกับเราได้ก็เลวเยี่ยงซาตาน ฉะนั้น ก่อนจะเทใจรักใคร คิดให้ดี ว่าพร้อมจะเจอเรื่องเหี้ยๆเท่าเรื่องที่ผมได้เจอมาหรือเปล่า…

      ซึ่งมันไม่ได้หยุดแค่นี้ เหี้ยที…เหี้ยล่วงหน้าไปอีกตั้งห้าปี ห้าปีเต็มที่ผมอยู่อย่างอาฆาตแค้น เฝ้ารอคอย และโอกาสประสบเหมาะก็มาถึง…

       และแล้วเรื่องทุกอย่างก็บังเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง





       จบ ขอเก็บนายไว้...ให้หัวใจอุ่นรัก

       

แล้วเจอกานนะคร้าบบบบบ~~~ :bye2: :bye2: :bye2:



ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
พี่มาร์คดีเว่อร์มากกกกกกกกกกกกกกกกกก คิดแล้วแอบเสียดายแทน

แต่ไอ้ชิพเนี่ยสิ มันยังไงอะไรกันแน่ๆ รอลุ้นภาคสองดีกว่า เอามันส์ๆเลยน่ะ อิอิ

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านติดๆ โหย เจ้าชิพสุดๆ หรือชิพมีเหตุผลไรหว่า

ภาค 2 มาเร็วๆน้า อยากรู้แดนจะแก้แค้นยังไง

ปล. ช่วยเสนอชื่อเรื่อง ไหนๆทั้แค้นทั้งรัก ลองชื่อนี้มะคับ  รอยรัก แรงแค้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2008 00:14:38 โดย BEta-K »

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยในตัวชิพเหลือเกิน  o12 :o

ภาค 2 ในระดับมหาลัย แดนคงร้ายน่าดูเลย อ่านจากบทส่งท้าย  o12

5 ปี กับ ความแค้น  :m16: :m16:

สรุปแล้ ไอ้พี่เมฆ เจ็บแทนคนที่ตัวเองรักมากที่สุด อย่าง พี่มาร์คนี่เอง  :oni2: o13

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:impress: :impress: :impress:

อ่าครับจบซะงั้น

อยากให้แดน กับ ชิพ รักกันอะครับ

แต่ภาคนี้แดนไม่สมหวังไม่เป็นไร

แต่ภาค2ต้องสมหวังนะครับ

เชื่อว่าชิพจะกลับมาหาแดน

แดนอดทนรออีกหน่อยนะครับ อิอิ

:impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
เป็นอีกเรื่องแล้วที่เจอผู้ชายห่วยๆ  :เฮ้อ:   

แดนใจเย็นนะคะ อย่าคิดมาก


มาต่อภาค สอง ไวๆล่า อิอิ :m4:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ภาค2คงเกี่ยวกะแดนและชิพล้วนๆๆแน่เลย ดีแล้วต้องเอาคืนซะบ้างฟันแล้วหนีหน้า ไงรอภาค2น๊าจ๊ะ ก็เป็น รักมากแค้นมาก ไปละกันเนอะ

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด