...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 484426 ครั้ง)

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ รักชิพ
ชิพเอ้ย จับแดนกดซะทีซิ จะได้รุ้ๆกันไปเลย 555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เลือกไม่ถูกเลยเจงๆ
มันสับสนอลหม่านแทนแดนไปด้วย

ค่อยๆหยุดคิดถึงหัวใจตัวเองก่อนเถอะว่ารักใครกันแน่

สุดท้ายมันก็ต้องมีคนเจ็บนะ
แต่อย่าให้เขามาเจ็บเพราะความโลเลของเราเลย

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

coloniser

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮุฮุ เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้  o13 หนุกดีคับ ชอบๆ :m4:
ผมก้อ จาไป เขาชนไก่เหมือนกัน :m15: เร็วๆนี้แหละ  :sad2: เลย เกรียนเรย ช่วงนี้

ง่า เลือกไม่ถูกเรยนะ เอาใครดี ล่ะ เห็นจายยย แดน เน้อ เกิดมาน่าตาดีก้อเงี้ย :o8:



แล้วมาต่อเร็วๆน้าคับ :a1:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ไปรด.เสร็จเรียบร้อยกลับมาแล้ว เหนื่อยมากมาย แต่สนุกกับการส่องหนุ่มมาก เอามาเล่าให้ฟังได้มากมาย :m13:

จากการสำรวจ หนุ่มที่หล่อมากมายคือหนุ่มทวีธาภิเษก สูง ขาว หุ่นดี โอมั่กๆๆ....5ดาว :m25:

รองลงมา หนุ่มสาธิตจุฬาฯ เค้าบอกว่าเป็นเกย์ด้วย น่ารักดี ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนแล้วเนี้ยจีบต่อเลยนะ 555+ ....4ดาวครึ่ง :m15: :seng2ped:

และรางวัลพิเศษ หนุ่มสวนฯนี่แหละ หล่อ+มีให้เลือกเยอะเเยะมากมายตลอดกาล เอาไปเลย 10ดวง!!! :m4:

ข้างบนเนี้ย ขำๆนะคร้าบ :m20:

ตอนนี้ขอตัวไปตามอ่านนิยายในบอร์ดต่อก่อนสักสองสามเรื่อง แล้วจาไปนอนแล้ว

ต่อไปอาจไม่ค่อยได้เอามาลงนะครับ ขอตัวอ่านหนังสือเตรียมสอบก่อง ปิดเทอมแล้วค่อยมาลุย

ปล.แฟนคลับชิพนี่เยอะเเยะจริงๆๆๆ น่าภูมิใจคับ ขอบคุณมากคับทุกคน :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


บทที่ 27



      “พี่มาร์ค…พี่มาร์คครับ เดี๋ยวก่อน!”

      หลังจากที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่นาน โชคดีที่ผมเรียกสติคืนได้ทันก่อนที่พี่มาร์คจะเดินหนีไปได้ไกลมากกว่านี้ ขายาวๆของพี่มาร์คก้าวเร็วมาก เร็วเสียจนผมเกือบตามไม่ทัน

      “พี่มาร์ค!”

      ในที่สุด ผมก็วิ่งตามพี่เขาทัน หน้าตาแดงๆของเขาทำเอาผมใจไม่ดีเลยสักนิด   

      “แดน…”

      “พี่มาร์คครับ…มันไม่ใช่…อย่างที่คิด” แฮกๆ...เหนื่อย...วิ่งหนีเร็วโคตรๆ...

      “ไม่ต้องพูดแล้วแดน” ตัวพี่มาร์คเย็นเชียบ ดวงตาเย็นชาคมกริบจ้องมองผมไม่กระพริบ พร้อมทั้งสะบัดแขนออก “พี่ไม่อยากฟัง…”

      “แต่พี่มาร์ค…”

      “แล้วจะให้พี่คิดยังไง…ในเมื่อ…แฟนตัวเอง…ไปยืนจูบกับคนอื่น?”

      คำว่า ‘แฟน’ ที่ถูกเอ่ยจากปากพี่มาร์คช่างทำให้ผมรู้สึกปวดใจเหลือเกิน เหมือนคำพูดมันกรีดแทงลงไปในจิตใจ…ผมรู้สึกว่าตัวเองเลวยังไงไม่รู้

      “แดน พี่เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าพี่ก็คน…แถมเราสองคนเป็นอะไรกัน แดนก็รู้ดี” พี่มาร์คกระซิบประโยคสุดท้าย “พี่หึงเป็นนะ แล้วก็ไม่ชอบด้วย ที่ต้องเห็นภาพบาดตาแบบนั้น”

      “แต่แดนไม่รู้เรื่องเลย แดนไม่ได้เป็นคนเริ่มด้วยซ้ำ…”

      “ก็นั่นแหละ! ไอ้เพื่อนหน้าขาวของแดนคนนั้นมันแอบชอบเรา ยังไม่รู้ตัวอีกหรือไง?!”

      ผมอึ้ง…รู้อยู่หรอกครับว่าไอ้ชิพพอจะมีใจให้ผมอยู่บ้าง…แต่ไม่ยักรู้ว่าพี่มาร์คมองออกว่าไอ้ชิพก็เป็นเกย์ด้วย…

      “พี่มาร์ครู้?”

      “…มองออก ถึงบอกไงว่าให้เลิกยุ่งกับหมอนั่นสักที มันพยายามจะแข่งกับพี่ ท้าทายพี่ รู้มั้ยว่ามันอยากแย่งเราไป…เหมือนน้องฟ้า...พี่จะไม่พูดอีกแล้ว เพราะยิ่งพูดไปก็ยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นคนไร้สาระมากขึ้นเท่านั้น”

      พี่มาร์คส่ายหน้าแล้วออกเดินต่อ โอย…ไม่รู้จะรีบไปตามควายที่ไหน เดินเร็วชะมัด

      ผมวิ่งไปตื้อต่อ คนตัวโตที่กำลังโกรธผมอยู่ตอนนี้ทำตัวได้ ‘งอนสะบัด’ จริงๆ

      “เดี๋ยวครับ ผมขอโทษ…”

      พี่มาร์คหันกลับมาทำหน้าดุใส่ แถมยังสะบัดมือผมออกอีก

      “พอเถอะ…เราเลิกคุยกันสักพัก…พี่จะกลับไปทบทวนว่าตัวเองบกพร่องอะไรไป สำหรับตอนนี้ พี่ก็ขอแค่ให้แดนคิดดูก็แล้วกัน ว่าควรทำยังไงกับเพื่อนเราคนนั้นดี…”

       “ตลอดเวลา...แดนเคยเห็นพี่นอกใจเหรอ? เคยเห็นพี่ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าแดนมั้ย?...พี่แค่ต้องการให้เราเป็นของกันและกัน”

       โธ่...พี่มาร์ค...ผมขอโทษครับ แต่เมื่อกี้นี้มันดวงซวยแท้ๆ...

       ไอ้ชิพ มึงแกล้งกูชัดๆ!

       “ผมขออธิบายก่อนได้มั้ย?”

       ทว่า พี่มาร์คส่ายหน้า

       “พี่แค่ต้องการอยู่คนเดียว เราสองคน...ต่างคนต่างอยู่กันสักพักเถอะ”

       วินาทีที่ประโยคนั้นเล็ดลอดออกมา..เรายืนแน่นิ่งกันอยู่เพียงสองคน สายลมเย็นๆพัดผ่านความรู้สึกต่างๆให้หลุดลอยออกไปจนตัวผมเริ่มชา แทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่กำลังได้ยิน

      “พี่มาร์ค…” นี่…นี่เขากำลังจะ…

      “ไม่อย่างนั้น…เราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันอีกต่อไป”



      คืนนั้นทั้งคืน ผมนอนน้ำตานองอาบสองแก้ม…

      นี่พี่มาร์คบอกเลิกผมแล้วใช่มั้ย? นี่พี่มาร์ค…ไม่ต้องการผมต่อไปอีกแล้วใช่มั้ย?

      เวลาจะถูกทิ้ง มันให้ความรู้สึก...แบบนี้เองน่ะเหรอ?

      ผมเฝ้าทบทวนตัวเอง แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่า ผมทำผิดไปแล้วมากแค่ไหน…

      …ซึ่งผม เพิ่งรู้ตัวว่าแคร์และคิดถึงพี่มาร์คมากเท่าไร ก็ตอนนี้เอง…



      หลายวันต่อมา อาการซึมเศร้าของผมก็ยังไม่ทุเลาลง ทว่าไม่มีใครระแคะระคาย จนกระทั่งวันหยุดยาวเสาร์-อาทิตย์ ไอ้โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมจู่ๆมันก็ดังขึ้นขัดจังหวะการนอนฟุ้งซ่านของผมพอดี -v-

      “ฮัลโหล...”

      “อาบน้ำแต่งตัวเด๊ะ เดี๋ยวไปรับ”

      ผมทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง เพราะไอ้เจ้าของเสียงปลายสายนั้น เกินความคาดหมายของผมจริงๆ

      “ทะ…โทรมาทำไม?”

      “เอาน่า จะถึงแล้ว รีบลงมาเลยนะ”

      ไอ้ชิพไงคับ ไอ้ชิพน่ะเอง...เสียงของมันร่าเริงยังไงชอบกล ผมจำได้ว่าตัวมันเพิ่งจะประกาศเป็นศัตรูกับผมไปหยกๆเองไม่ใช่เหรอ? แล้วที่มันหลบหน้า ทำงอน ทำโมโห โกรธใส่ผมอยู่ตั้งนานตั้งแต่วันฝนตกนั้น มันทำไปเพื่ออะไร? ในเมื่อตอนนี้มันโทรฯมาชวนไปเที่ยว(ตามเคย)อีกแล้ว แบบเหนือความคาดหมายซะด้วย หรือว่ามันมีแผนสูงอะไรมาอีกกันแน่นะ...

      ถ้าไม่นับเรื่องจูบนั่นล่ะก็...นี่คงเป็นไอ้ชิพภาคที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนแน่ๆ จู่ๆทำมาเป็นหายโกรธ ทำตัวเป็นมิตรขึ้นผิดหูผิดตา(เอ่อ...ทำตัวดีแบบน่ารักน่าใจหาย) น่ากลัวชะมัด... (+_+)



      ผมอาบน้ำแต่งตัว พยายามทำหน้าตาให้สดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ สักพักหลังจากนั่งรออยู่หน้าบ้าน รถยุโรปคันหรูมันปลาบก็ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่หน้าประตูบ้าน ผมเดินเอื่อยเฉื่อยไปขึ้นรถมัน ไม่ทันไรมันก็บีบแตรเร่ง แหนะ! ไอ้บ้านี่จะรีบไปไหนของมันฟ่ะ!

      คนร่างสูงในรถฉีกยิ้มกว้างเมื่อผมถดตัวไปนั่งบนเบาะข้างๆคนขับ...ซึ่งดูจากลักษณะการแต่งตัวแล้วก็เหมือนเดิม ทั่วๆไป แต่ทำไมนะ?...วันนี้ผมถึงคิดว่ามันดู เอ่อ...หล่อเป็นพิเศษ แล้วยังไอ้แว่นตากันแดดกรอบบางทรงโฉบเฉี่ยวนั่นอีก...

      “ไง ‘ไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะ?”

      ขึ้นมามันก็พูดคุยเป็นปกติ แต่ผมอึดอัด และงง...ยังไม่สามารถพยายามทำใจพูดกับมันเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างปกติสุข มันขัดๆอยู่ข้างในใจยังไงไม่รู้ เหมือนว่าไอ้ชิพไม่สะทกสะท้านกับการทะเลาะกันครั้งใหญ่ระหว่างมันกับผมที่ผ่านมา

      “...” เลยได้แต่นั่งนิ่งเงียบๆ

      “เฮ้ย เป็นอะไรไป”

      ผมถอนหายใจ ต้องแกล้งพูดกับมัน แต่เป็นเรื่องอื่น “วันนี้แต่งตัวซะหรู นัดสาวที่ไหนไว้เหรอ?”

      “แน่นอน” มันยิ้มกว้าง แต่ผมแอบสังเกตเห็นลูกกระเดือกมันขยับอย่างยากลำบาก เหมือนจะพยายามกลืนน้ำลายผ่านลำคออันแห้งผาด...555+(แอบสะใจ) ผมกัดมันคืนบ้างจะเป็นไรไป จริงม่ะ? ไอ้คนปากแข็ง

      “ตาแดงๆแบบนี้ร้องไห้มาหรือไง”

      เชี่ย!!! จู่ๆมันก็พูดขึ้นมาแทงใจดำผม

      ผมได้แต่รำพึงในใจว่ามันตรัสรู้ได้ยังไงฟ่ะ...”เปล่า” แต่น้ำเสียงตอแหลของผมมันดันสูงแบบไม่แนบเนียนไปนิดส์ (อ่านะ)

      “เหรอ งั้นนึกว่าร้องไห้เพราะเสียใจ ที่ไอ้แฟนตัวดำนั่นมันทิ้งไปแล้วซะอีก”

      ฉึก!!! เสียงมีดคมๆมันแทงเข้ามากลางอก ผมค่อยๆทำตาโต ก่อนจะรีบเก็บอาการ เหลือแต่เพียงความตกใจเล็กน้อย

      “ใครบอก”

      “กูรู้ แล้วก็ อ้อ แสดงความเสียใจด้วยนะ คงจะร้องไห้มาตลอดทั้งคืนเลยซิท่า 555+”

      วินาทีที่มันหัวเราะ เสียงอันดังก้องนั้นเหมือนจะแทรกผ่านความคิดของผม เข้าไปดังก้องอยู่ในหูแทน ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าที่มันเรียกผมมาในวันนี้เพราะต้องการเยาะเย้ยผม ของจริง แบบที่ต้องการจะซ้ำเติมจิตใจผม และก็ไม่รู้ว่าทำไม...มันถึงต้องทำตัวใจร้ายกับผมแบบนี้ด้วย

      ผมมองไปที่มัน ความแค้นน่ะอยู่ในใจ แต่แววตาที่ส่งออกไปคือความตัดพ้อ...

      “ทำไม...มึงถึงต้องทำแบบนี้กับกูด้วย”

      มันนิ่งไปนิด ดวงตาภายใต้แว่นตาดำบ้าบออะไรนั่นเล็งมาทางผม “ไม่พอใจก็ลงไปซิ”

      “งั้นก็จอด รู้อย่างนี้กูไม่มานั่งให้มึงทรมานเล่นเฉยๆหรอก”

      ทว่าไอ้ชิพหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม แล้วขับต่อไป...มุ่งตรงไปสู่ห้างสรรพสินค้าที่พวกเราเคยเดินเที่ยวเล่นกันเป็นประจำ แต่พอถึงที่หมาย บุคคลที่ผมไม่คาดฝันก็ปรากฏตัวขึ้นโดยที่ไอ้ชิพต้องเป็นส่วนรู้เห็นสำคัญด้วยอย่างแน่นอน

      “อ้าวพี่แดน สวัสดีค่ะ”

      ยัยน้องแอนดี๊ด๊า! ยัยตัวแสบนี่อีกแล้วเหรอ?...ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาเมื่อไร แต่ตอนนี้ยัยเปี๊ยกนั่นเข้าไปกอดรัดลำแขนไอ้ชิพเป็นที่เรียบร้อยแล้วเฉกเช่นทุกครั้ง แถมวันนี้ยังแต่งตัวไม่ธรรมดาอีกซะด้วย

      “สวัสดีครับน้องแอน...” ผมทักตอบ ไม่สบตาใครทั้งสิ้น

      “น้องแอนครับ วันนี้ให้พี่แดนเขาเที่ยวเล่นกับเราด้วยนะ เพราะว่า…”

      “อ้อ เพราะว่าพี่แดนเขาพึ่งอกหักมาน่ะเหรอคะ? ได้ซิคะ แหม ดีนะคะที่พี่ชิพชวนพี่แดนมา ไม่อย่างงั้นคงเหงาแย่เลย คนพึ่งอกหักใหม่ๆเนี่ย”


      ได้ยินดังนั้น ผมจึงหันไปถมึงตาใส่ไอ้เพื่อนเลว...เห็นมันทำหน้ายิ้มชอบใจ เข้าขากันดีกับยัยน้องแอนนั่น

       มันสองคนสบตากันต่อแบบคนรู้ทัน

      “โธ่น้องแอน อย่าไปพูดอย่างนั้นซิครับ พี่แดนเขากำลังเสียใจนะครับ”

      “เอ่อ...แอนขอโทษค่ะ” (เสียงกระซิบ) “ก็พี่ชิพบอกแอนว่าอย่างงั้นไม่ใช่เหรอคะ...”

       ไอ้ชิพเนียน ยังทำมาดนิ่ง

       “เอาเถอะคะ วันนี้เดี๋ยวพี่แดนเที่ยวกับเราแล้วก็จะสนุกเองน่ะแหละ จริงมั้ยคะพี่ชิพ”

      คนสองคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น ‘แฟน’ กันหยอดคำหวาน ก่อนจะควงแขนกันเดินนำหน้าไป ปล่อยให้ผมตามหลังอยู่คนเดียว มองภาพหวานๆ แต่ไม่ยักบาดใจ มีแต่ความโมโห โมโหไอ้คนตัวสูงนั่น! จิตใจมันทำด้วยอะไร ทำไมถึงต้องแกล้งกันอย่างนี้ด้วย ทำไม?



      เวลาทั้งวัน ไอ้ชิพพายัยน้องแอนดี๊ด๊าเที่ยวซะรอบห้าง ซื้อของราคาแพงๆให้ กระซิบกระซาบกระหนุ๋งกระหนิ๋งใส่กันอย่างไม่เกรงใจใคร ส่วนผมเสียอารมณ์ที่ต้องเดินตามพวกมัน ถึงจะออกปากแล้วว่าผมอยู่ในฐานะเพื่อน(นอกคอก) แต่เหมือนถูกปล่อยเกาะให้เดินเองเสียมากกว่ายังไงยังงั้น

      มาหยุดพักที่ร้านขายไอติม หลังจากสั่งขนมหวานเย็นๆมาคนละที่เรียบร้อยแล้ว ยัยตัวเปี๊ยกปากสว่างนั่นก็เริ่มหันมาขุดคุ้ยเรื่องของผมต่อ

      “แฟนพี่แดนเขาเลิกกับพี่แดนทำไมเหรอคะ?”

      ไอ้นัยน์ตาใสซื่อ หลอกผู้ชายที่โง่พอนั่นไม่สามารถปกปิดประสงค์ร้ายจากเจ้าตัว ไม่ให้ผมรู้ไม่ได้หรอก...เมื่อโดนคำถามนี่เข้าไป ผมเลยได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตากินไอติมต่อไปเงียบๆ

      “ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรคะ...พี่แดนอาจจะยังทำใจไม่ได้ ว่าแต่เมื่อไรจะหาแฟนใหม่ล่ะคะ”

      น้องแอนซักผมไปมาอย่างไร้มารยาท จนทนไม่ได้ เลยต้องมองหน้าแบบไม่เกรงใจบ้างแล้ว เห็นไอ้อาการแอ๊บแบ๋วน่าสมเพชนั่น แม้กรูจะรู้ทั้งรู้ว่าน้องแอนกำลังเสแสร้งเป็นคนดี...แต่ความจริงกำลังสะใจกรูอยู่ล่ะซิ...’เออ! กูไม่แย่งผัวมึงหรอก’...

       แทนที่จะพูดออกไป ทว่าไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกอยากก้มหน้ารับความขมขื่นในใจไปเรื่อยๆ คล้ายกับว่าอยากทรมานตัวเองต่อไปโดยไม่มีจุดสิ้นสุด...

      ไอ้ชิพก็นั่งยิ้มสนใจฟังอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่คิดช่วยเหลือ...จู่ๆเสือกถามขึ้นมาอย่างใคร่รู้เกินความจำเป็น

      “นั่นซิ เมื่อไรจะหาแฟนใหม่สักทีละครับคุณแดน”

      ผมกำหมัดแน่น...นับหนึ่งถึงสิบข่มความอยากต่อยหน้าไอ้ชิพให้หงายหลัง

      “คงไม่ใช่เร็วๆนี้...”

      “แต่แอนจะแนะนำอะไรให้อย่างหนึ่งนะคะ รับรอง พี่แดนต้องชอบ” และแล้วน้องแอนก็พูดแทรกขึ้นมา ทำให้ผมไม่มีกะใจจะพูดอะไรอีกต่อไป “น้องแอนว่าพี่แดนก็หน้าตาดี พอจะหาแฟนได้ง่ายๆอยู่แล้ว พี่แดนก็ทำใจให้ปกติไว้ซิคะ เดี๋ยวก็มีใครเข้ามาเอง อ้อ แต่ที่สำคัญอย่าไปแย่งแฟนใครเขาเข้าล่ะคะ เดี๋ยวจะหาว่าแอนไม่เตือน”

      ยัยแอนจิกสายตากลมโตแพรวพราวกลับมา ผมมองเฉยๆ ตีสีหน้าเย็นชา ระอากับยัยเด็กตัวแสบสวมบทนางร้าย สมองกลวงนี่เสียเต็มประดา...

       ไม่รู้ไอ้ชิพไปคว้าของ ‘ต่ำๆ’ พรรคนี้มาจากไหนนะ



      กว่าจะ(ไล่)ลายัยน้องแอน สลัดให้ยัยนั่นกลับบ้านไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยอีกตามเคย เพียงแต่ตอนนี้ไอ้ชิพดูจะสบายใจหน่อย ที่มีการจุ๊บกันข้างแก้มก่อนกลับสมใจน้องเขา ซึ่งเป็นอะไรที่ผมคิดว่าไร้สาระมาก \\\(-_-*) กับการต้องพะเน้าพะนอยัยเด็กใจแตกคนนี้ให้เคยตัว

      “ไง สนุกมั้ย?” ผมกับมันเดินไปลานจอดรถ ผมไม่ตอบ หน้ามันยังแทบไม่อยากจะมอง

      “กูถามว่าสนุกมั้ย?” มันเริ่มขึ้นเสียง ทำหน้าตาท่าทางหงุดหงิด แหม พอไม่อยู่ต่อหน้ายัยน้องแอนแฟนสาว มึงก็ทำตัวเหี้ยได้ตามใจชอบขึ้นมาเลยนะ สาดดดด @#=+//**

      “…”

                         “กูถามว่าสนุกมั้ย ได้ยินหรือเปล่า?”

      โชคดีที่ตรงประตูเชื่อมสู่ลานจอดรถขณะนั้นไม่มีผู้คน ไอ้ชิพเลยได้ตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร มันเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาแบบโกรธจัด หน้าตาดุร้ายน่ากลัวชะมัด...ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกลัวมันมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมก็โกรธมันเหมือนกัน เลยตอบกวนๆกลับไป

      “เสียงดังหาพ่อมึงเหรอ?!”

      “กูไม่สน! ไม่มีใครได้ยินอยู่แล้ว แต่มึงไม่ยอมตอบกู”

         “กูไม่ตอบแล้วจะทำไม? มันเรื่องของกู ฮึ มึงอย่ามาทำอารมณ์เสียเพราะน้องแอนลากมึงไปมาทั้งวันหน่อยเล้ย ทีกูตามต้อยๆยังไม่รำคาญ ชอบซะอีก น้องแอนน่ารักดีออกนะว่ามั้ย”

      ตอนนี้ไอ้ชิพเป็นฝ่ายกำหมัดแน่น เม้มปาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร ผีเข้าสิง? เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำตัวไอ้น่าตืบมาก

      ผมจ้องมองมันด้วยใบหน้าเฉยเมย แม้ว่าใจจะเต้นรัวแรง...กลัว...หวาด...ก็ตาม

      “กูจะบอกอะไรมึงให้ฟัง เรื่องที่มึงพยายามประชดประชันกู หรือว่าทำเป็นโกรธ โมโห รำคาญกู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห่าเหวอะไรก็ตาม...กูเบื่อเรื่องพวกนั้นเต็มทน ฉะนั้นเลิกทำตัวให้กูสนใจได้แล้ว เข้าใจมั้ย?”

      ระหว่างที่พูดไป ผมรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ใบหน้าที่บัดนี้เย็นเชียบนิ่งเฉย ทว่า...ใบหน้าไอ้ชิพดูเหมือนคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แววตาที่ดุดันแปรเปลี่ยนเป็นหรี่ลง มีน้ำใสๆคลอหน่วย ก่อนที่จะหยดลงมาเม็ดหนึ่งจากตาแดงๆของมัน ผมรู้สึกดีจริงๆที่ได้พูดออกไป...

      “ไม่ต้องไปส่งหรอกนะ เดี๋ยวกลับเอง”

      ตอนหันหลังกลับ เดินออกมาด้วยความรู้สึกเบาหวิว...ความจริงแล้วจะหนีกลับบ้านก่อนก็ได้แต่ไม่ได้ทำ ผมต้องการพูดให้มันรู้เรื่อง ให้มันเข้าใจ มันจะมาทำตัวเอาแต่ใจเป็นลูกคุณหนูกับผมแบบนี้ไม่ได้(ถึงมันจะเป็นคนแบบนั้นก็ตามทีเถอะ) 

      เรียกแท็กซี่หน้าห้าง ฝนเริ่มตกลงมาบางๆ วันนี้ผมไม่ได้โดนไล่ลงจากรถของใคร ผมสมัครใจเดินออกมาเอง ไม่มีความลังเล ชะงักใจ หรือพะวงอะไรทั้งสิ้น แค่กลับบ้าน...กลับไปให้พ้นจากใครบางคนก็เท่านั้น เท่านั้นเองจริงๆ...

       สักพัก หน้าจอของผมก็ปรากฏข้อความหนึ่งฉบับ

       ‘มึงไม่รู้จริงๆเหรอ...ที่กูเป็นตัวเหี้ยสำหรับมึง เพราะอะไร?’

       ตาที่จ้องมองข้อความบนหน้าจอสีฟ้าค่อยๆเริ่มพร่ามัว รู้สึกว่าความอ่อนไหวในจิตใจของผมเริ่มสั่นคลอน...ทว่าเพียงแค่หลับตาลง ภาพของใครบางคนก็ปรากฏขึ้น ผมรู้สึกผิด และไม่อยากผิดไปมากกว่านี้ แม้ว่าหัวใจจะเต้นตุบด้วยความเจ็บปวดเชื่องช้า ซึ่งค่อยๆทรมานเข้ามาตามร่างกายก็ตาม

       
       ยอมรับก็ได้ว่า...ชิพทำให้ผมสับสน

       ผมพยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัว แล้วกดปุ่ม ‘ลบทิ้ง’...

       มันส่งตามมาอีก

       ‘กูโกรธตัวเอง ที่ต้องยอมสารภาพกับมึงตอนนี้...เพราะกูรู้ใจตัวเองช้าไป’

       สารภาพ?

       ไอ้ชิพสารภาพ...รู้ใจตัวเองช้าไป ผมกดปุ่มพิมพ์ข้อความส่งกลับไปอย่างด่วน

       ‘ชิพ...กูขอร้อง เลิกทำแบบนี้’

       กำมือถือไว้แน่น รอมัน...รอว่าจะมีข้อความของมันตอบกลับมามั้ย?

       ตั้งนาน มีแต่ความว่างเปล่า

       มันคงถอดใจไปแล้ว...กะจะไม่ง้อมันหรอกนะ

       ผมถอนหายใจ เงยหน้าไปข้างหลังเบาะ...พยายามกลั้นอารมณ์ไว้ เพราะตอนนี้คนขับแท็กซี่เริ่มชำเหลืองมองมาด้านหลัง มองดวงตาของผมที่เอ่อคลอผิดปกติ...

       พยายามคิดถึงความร้ายกาจของมัน อารมณ์ร้ายๆของมันต่างๆนานา แต่ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด...นอกจากจะทำให้ผมยิ่งเป็นคนเห็นแก่ตัวขึ้นไปอีกแล้ว เหตุผลของมันทั้งหมด...ผมรู้แก่ใจว่ามันทำลงไปเพราะอะไร

      แล้วทำไม...ไอ้น้ำตาเจ้ากรรม...มันถึงได้ไหลออกมา มากมายแบบนี้นะ?...


       โปรดติดตามตอนต่อไป

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
สงสารแดนจัง พี่มาร์ค เหตุผลน้อยไปใหมเนี่ย

ส่วนชิพ ก็ทำเกินไปหน่อย เหนื่อยใจกับทั้งคู่จริง ๆ  :m15: :o12:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :เฮ้อ: เลือกไม่ถูกอ่ะ เห็นใจทุกคนเรย   :m15:

ง่า ไม่รู้เลือกใครดี ปล่อยเป็นหน้าที่ แดน ละกัน  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับดูพี่มาร์ค มีเหตุผลมากๆๆครับผม

ส่วนชิพเอาแต่ใจตัวเองเป็นหลัก

ไม่รู้จักผิดและถูกในสิ่งที่ตัวเองทำไป

แต่ยังไงก็เชียร์ชิพอยู่ดีครับ

แต่สงสารพี่มาร์ค อะครับ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
เชียร์พี่มาร์คครับ อย่างน้อยก็ไม่เคยทำให้ชิพต้องเสียใจ

เจ้าช็อคชิพเล่นกับความรู้สึกของแดนมากเกินไปแล้วนะ มีแต่ทำให้แดนต้องเสียใจ  :m16:

ไม่ชอบการกระทำของชิพเลยแฮะ ชอบที่จะประชดประชันแดน

การกระทำบางอย่างของชิพดูเหมือนเห็นแก่ตัวมากเกินไปนะ ถ้ารักกันจริงก็ไม่สมควรทำอย่างนี้เลยอะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
สงสารพี่มาร์คมากๆ สงสารที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เศร้าอ่ะ แต่อ่านแล้วทำให้อยากกลับไป ร.ร. จังเลย อิอิ

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

artkung

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าแฮะ ... ทำไมชิพใจร้ายจัง จงใจให้แฟนเข้าใจผิดกัน สงสารพี่มาร์คมากๆ

เกลียดชิพๆๆๆ ... (เกลียดไอ้พระเอกเนี่ยจะผิดไหม ???)

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
น่าสงสารชิพจังเลย
อย่าไปรักคนที่เขาไม่รักเราเลย
 :m15: :m15: :m15: :m15:

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:

เคยไม๊คับ   เวลาที่เห็นเด็กร้องงอแง  อยากได้ของอะไรจากพ่อแม่  แล้วเอาแต่แหกปากลูกเดียวอ่ะคับ  เห็นแล้วมันจี๊ดมากเลยอ่ะ  อยากจะเดินเข้าไปตบให้เกรียนแตก (เด็กมันเกรียนป่าวหว่า??) แล้วตะโกนบอกมันว่า  "หุบปากเฟ้ย!!!!"

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มักจะรู้สึกแบบนี้เวลาที่เห็นภาพพวกนี้อ่ะ

แต่ว่า  ขอนะคับ  อย่ามาตบผมเลยอ่ะ (ผมไม่เกรียนนะ  จะบอกให้ :m12:)  ก็ผม...



จะเอาอีก อ่ะ  จะเอาอีก  ถ้าไม่รีบมาลงเพิ่มเค้าฟ้องแม่จริง ๆ ด้วยนะเอ้า...

ปั่ น ป่ ว น

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ALeX

  • บุคคลทั่วไป
เอามาลงให้สองตอนนะครับ แต่ครั้งนี้ไม่มั่นใจเลยว่าตรวจอักษรครบถ้วน ยังไงวอนผู้ใจบุญเช็คดูให้อีกทีจะเป็นพระคุณมากมายเลยอ่ะคับ อิอิ   :m1: :m1: :m1:

ปล. ของแถมเด๋วเอามาลงให้หลังท้ายรายการ

บทที่ 28



      นับจากเหตุการณ์วันนั้น ไอ้ชิพไม่ได้พูดอะไรกับผมอีกเลย

      ความจริงแล้วไม่มีใครพูดกับผมเลยต่างหาก...

      และผมก็ไม่ได้ใส่ใจ เหมือนมันด้านชา เอาแต่เรียน แม้ว่าผมจะมีเพื่อนกลุ่มอื่นบ้าง  แต่ก็ไม่ได้คุยกับพวกมันเหมือนเมื่อก่อน กระนั้นก็ไม่มีใครสังเกตว่าผมเศร้าๆไป เงียบขรึมขึ้น ความจริงแล้วแทบไม่มีใครสนใจผมเลยอีกนั่นแหละ...

      พี่มาร์ค...เอาแต่หลบหน้า นับแต่นั้นผมยังไม่ได้เจอหน้าพี่เขาเลย ไม่มีแรงไปง้อด้วย จวบจนบัดนี้...

       นั่งทบทวนความรู้สึกลึกๆภายในใจดูอีกที...ทำไมผมถึงรู้สึกเปลี่ยนไป...

      ไอ้ชิพ...ไม่ได้โกรธผม เย็นชาใส่ผม หรือว่าทำตัวร้ายกายใส่อีกแล้ว แต่มันเลิกยุ่งเลยต่างหาก ทำตัวเหมือนเป็นอากาศธาตุ ไม่ให้ผมใส่ใจอะไรทั้งนั้น ข่าวคราวต่างๆของมันไม่มีทางเข้าถึงหูผมได้ถ้าไม่ได้รู้เอง จนรู้สึกเหมือนไม่มีมันอยู่ร่วมห้อง...

      ผมไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งสิ้น...แม้แต่ตัวผมเอง ยังไม่กล้าส่องกระจกดูใบหน้าโทรมๆในตอนเช้าเลย...



      “เธอ...เดี๋ยวเที่ยงนี้ไปพบครูหน่อยนะ”


      ครูสอนภาษาอังกฤษท่านหนึ่งนัดพบผมหลังจากหมดคาบเรียนช่วงเช้า สงสัยคงจะให้ผมไปตอบปัญหาแข่งขันภาษาอังกฤษ คือยังงี้คับ ทุกๆปีตอนใกล้จะสอบกลางภาคเทอมสอง ทางหมวดภาษาต่างประเทศเขาจะคัดเด็กไปตอบปัญหาเชลล์Quiz ที่ออกโทรทัศน์อ่าคับ (หลายๆท่านคงรู้จัก)

      ด้วยความที่ผมได้เปรียบเรื่องภาษา ครูเขาเห็นแวว(มั้ง) ก็เลยเรียกไปซ้อมพวกความรู้รอบตัวตั้งแต่อยู่ม.3 (ประมาณว่าผมไม่ค่อยเก่งสังคมง่ะ) ช่วงนี้ผมยุ่งๆก็เพราะเตรียมตัวไปแข่งของหมวดนี่แหละ ส่วนเพื่อนร่วมทีมไม่รู้ปีนี้เป็นใคร เพราะปีที่แล้วพี่ม.6ที่อยู่ทีมเดียวกับผม ออกไปเรียนมหาวิทยาลัยกันหมดแล้วตอนนี้

      ตอนเที่ยง ขึ้นไปเตรียมความพร้อมตามที่อาจารย์นัดไว้ ซึ่งก็ต้องนั่งรอรุ่นพี่ม.6อีกคนนานพอสมควร...เกือบหมดเวลาพักแล้วเขาถึงโพล่มา ดูท่าเหมือนวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล

      “ขอโทษครับอาจารย์ พอดีผมถูกเรียกไปหมวดคณิตศาสตร์มา ฯลฯ...”

      รุ่นพี่วิ่งเข้ามาขอโทษขอโพยอาจารย์ที่นั่งรอหน้าบูดอยู่ยกใหญ่ ก่อนจะโดนสั่งให้ไปนั่งพักเหนื่อย เขาเข้ามานั่งใกล้ๆผม แล้วจึงหันมาทักทายให้ผมได้เห็นหน้าชัดๆ

      “ดี’ คับน้อง พี่ชื่อเมฆ น้องล่ะคับชื่อ’ไร?”

      เป็นการทักทายธรรมดาๆ จากคนที่หน้าตาไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย สารภาพเลยก็ได้คับ...ว่าตอนนั้นรู้สึกเหมือนนั่งคุยอยู่กับดาราเอเอฟ(เชื่อมั้ยว่าหล่อกว่านั้นอีก>.<)

      นัยน์ตาหวานๆเรียวสวยสองชั้น จมูกไม่โด่งจัดเหมือนพวกดาราสมัยนี้ แต่ก็รับกับโครงหน้าเรียวสวยนั้นอย่างไร้ที่ติ ริมฝีปากแดงๆบางๆ ตัวสูง ไหล่กว้าง และถึงแม้จะตัดผมสั้นแบบนักเรียน มันก็ไม่ได้ลดทอนความดูดีของพี่เขาเลย

      “ชะ...ชื่อแดนครับ”

      “ว้าว! พี่นึกว่าน้องจะพูดภาษาไทยไม่ได้ซะแล้วครับ 555+ เห็นหน้าออกฝรั่งแบบนี้ น้องโตเมืองไทยหรือเปล่าครับ?”

      พี่เมฆหัวเราะเสียงนุ่ม ฟังแล้วเพลินหูจัง เป็นธรรมชาติ คนอะไรหน้าตาดี๊ดีแถมยังอัธยาศัยดีอีกด้วย น่าคบหามากมาย -_-*”*)


      “คนไทย โตเมืองไทยนี่แหละครับพี่ แค่มีพ่อเป็นฝรั่ง”

      “เหรอ ยังไงพี่ฝากตัวด้วยนะครับ ที่ได้มานี่ก็เพราะอาจารย์เรียกมาหรอก ไม่ได้สมัคร อีกอย่างพี่คงไม่เก่งภาษาเท่าเรา มีอะไรช่วยแนะนำด้วยก็แล้วกันนะคับ”

      ปากแดงๆบนหน้าขาวๆผิวขาวๆนั่นขยับไปมาอย่างที่เจ้าตัวกำลังคุยเจื้อยแจ้วกับผมแบบคนอารมณ์ดี คุยกันไม่กี่นาทีผมก็พอจะรู้แล้วล่ะคับว่าพี่เขาเป็นคนยังไง คือเป็นกันเอง มีมนุษยสัมพันธ์ แถมยังขี้เกรงใจอีกด้วย บุคลิคก็สบายๆแต่ดูดีชะมัด มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้ไอ้โรคอึดอัดต่อหน้าคนหน้าตาดีของผมผ่อนคลายลงไป เฮ้อ...พี่เขาน่าจะไปสมัครเป็นดาราจริงๆนะคับเนี่ย!!!

       คุยกับพี่เมฆ รุ่นพี่คนใหม่เพลินๆ อาจารย์ก็เรียกเราไปติวเข้มตลอดบ่ายวันนั้น ปรากฏว่าพี่เมฆฉลาดกว่าผมมากครับ ความรู้รอบตัวแน่นปึก แต่ภาษาอังกฤษพอถูไถ ผิดกับผมที่โง่ไม่เป็นสับปะรด แค่ถามว่ายอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกาชื่ออะไร ผมยังใบ้แด๊กเลยคับ เอิร์กๆo_O****(คีรีมันจาโรนะครับเพื่อนๆ :->)

      

      ตกเย็น กว่าจะเลิกติวเข้มกันเป็นวันแรก ก็ปาเข้าไปเกือบๆหกโมงกว่า(อ้อ ลืมบอกไปว่าทางหมวดมีจดหมายลาคาบบ่ายให้นะคับ) บรรยากาศเริ่มมืดแล้วเพราะช่วงนั้นเป็นต้นๆฤดูหนาว ยิ่งมืดเร็ว เงียบสงัดสุดๆ โรงเรียนเก่าแก่นับร้อยปีอย่างโรงเรียนผมก็ยิ่งเพิ่มความขลังเข้าไปด้วยความมืดสนิทที่แผ่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า มีแต่แสงไฟนีออนซึ่งภารโรงเปิดทิ้งไว้ประปราย แล้วก็พวกนักกีฬาโรงเรียนที่ซ้อมอยู่กลางสนามหลงเหลืออยู่เท่านั้น แถมโรงเรียนผมตึกเก่าที่หมวดวิชาภาษาต่างประเทศสิงสถิตอยู่ก็น่ากลัวมากด้วยอ่ะคับ(-_-“) พวกเราสามคน(นั่นคือเจ๊สุธาณี เพชรxxx พี่เมฆ และตัวผมเอง)พร้อมใจกันเกาะกลุ่มลงลิฟต์ตัวเก่าๆน่ากลัวๆมาด้วยกัน(เวลาลิฟต์ผ่านแต่ละชั้นก็ลุ้นทีหัวใจจะวาย เสียงครืดคราดๆหลอนประสาทตลอดเวลา) และเดินเงียบๆมาตามทางเดินอย่างเร่งรีบเหลือเกิน...

      “เขาบอกว่าตึกนี้เคย...”

      “อีเมฆ! หยุดพูดแบบนั้นนะ”

      เสียงพี่เมฆจอมแกล้งหัวเราะคิกคักแบบเด็กๆหลังถูกเจ๊สุธานีดุ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายพอจะหัวเราะตามไปกับพี่เขาด้วย

      “โธ่’จารย์คับ ผมล้อเล่งอ่าคร้าบ~~~”

      ครูท่านเอากระเป๋าถือฟาด ป๊าบ!!! ป๊าบๆๆๆ พี่เมฆก็รีบยกถุงใส่เอกสารที่แย่งของชีไปช่วยถือขึ้นมากันไว้ นั่นพอทำให้บรรยากาศวังเวงลดลงไปได้มาก จนในที่สุดเราเดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียน แต่ละคนต่างก็แยกย้ายกันกลับไป เจ๊สุธานีเค้าข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ที่แถวๆหน้าจราจรกลาง ส่วนพี่เมฆกลับกับเพื่อน

      “พี่รอเพื่อนน่ะ แล้วแดนล่ะ กลับยังไง”

      กำลังจะตอบพี่เมฆไป สายตาดันเหลือบไปเห็นร่างสูงๆคุ้นตา ปากมันเลยชะงักกลางอากาศซะงั้น

      “อ้าวไอ้เมฆ เสร็จแล้วเหรอมึง ไป กลับบ้าน เนี่ยแม่งมืดโคต-…”

      ร่างสูงที่มองไกลๆเห็นเป็นเงาลางๆนั่นก็คือพี่มาร์คน่ะเอง! พี่มาร์คพอมองเห็นผมถนัดขึ้นก็ชะงักเหมือนกัน ก่อนจะปรับสีหน้าขรึมแล้วเดินเข้ามาใกล้ ถอนหายใจ ก้มหน้าไม่ยอมสบตา ขยับออกห่างจากผมซะเหลือเกินหยั่งกะรังเกียจยังไงไม่รู้...

      “เออใช่ ไอ้มาร์ค นี่น้องแดนนะ มึงรู้จักนี่ อยู่ชุมนุมเดียวกันกับมึงไง”

      ผมแย้งอยู่ในใจเงียบๆ...ยิ่งกว่ารู้จักอีกครับ...แต่ไม่กล้าพูดออกไป เห็นสีหน้าลำบากใจของพี่มาร์คแล้ว ผมรู้สึกอึดอัดตาม อยากหนีไปให้พ้นๆหน้าพี่เขายังไงไม่รู้

      พี่เมฆซึ่งไม่รู้เรื่องระหว่างเราเอาแต่พูดชวนคุย เลยคงลืมสังเกตว่าผมกับพี่มาร์คมีท่าทีกระอักกระอวนมากแค่ไหน แต่ละคนไม่พูดไม่จา ยิ่งพี่มาร์คไม่ได้เอาตามาแลมองผมเลย ส่วนผมหน้าแดงซ่าน...นี่พี่เขาเกลียดผมขนาดนี้เชียวเหรอ?

      “งั้น พี่กลับก่อนนะแดน แล้วเดี๋ยววันพุธค่อยเจอกัน เตรียมตัวมาดีๆล่ะเรา”

      ผมสวัสดีพี่เมฆผู้ร่าเริง และพี่มาร์ค...พวกเราเดินเคียงกันสามคน ก่อนจะพ้นประตูพี่มาร์คหันมามอง แสงไฟหน้าประตูยามช่วยให้ผมเห็นว่าแววตาพี่มาร์คเศร้าสร้อยไม่แพ้ตอนผมเสียใจใหม่ๆ ก่อนจะกลับมาเป็นเย็นชาดังเดิม...แล้วเลี่ยงจากไป 

      แต่แปลก...แค่แว๊บเดียว แว๊บเดียวเท่านั้นแหละ...ที่มีความรู้สึกหนึ่งตื้อขึ้นมาว่า...ผมอยากวิ่งตามเข้าไปกอดแผ่นหลังคุ้นเคยนั้นยังไงไม่รู้...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2008 22:53:30 โดย ALeX »

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ปล.ล. ตอนนี้แดนกำลังอยู่ในช่วงสับสน ให้อภัยกานหน่อยน๊า~~~ :m13: :m13: :m13:

บทที่ 29



      พี่มาร์คเป็นคนพูดน้อย แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำเหมือนไม่รู้จักผมได้ถึงขนาดนั้น...

      ตอนเที่ยงเป็นเวลาที่นักเรียนทุกคนต้องออกไปรวมตัวกันที่โรงอาหาร เพื่อพูดคุย(ที่ออกรสชาติมาก) และกินข้าวโรงเรียน ผมเริ่มเบื่ออาหารโรงเรียนแล้วครับ ก็กินมาตั้งสี่ปี แต่ที่ไปนั่งกับเพื่อนๆเพราะขี้เกียจอุดอู้อยู่ในห้อง แล้วก็จะได้อู้งานไปในตัวด้วย เหอะๆ(ดินพอกหางหมู)

      “เฮ้ยแดน มึงจาเอาส้มตำด้วยเปล่าว่ะ เดี๋ยวกูจะไปซื้อ”

      ผมพยักหน้าในทันควัน แถมแอบสั่งเพิ่มด้วยว่าให้ใส่ปลาร้า หลายคนคงอาจไม่เชื่อว่าผมกินปลาร้าเป็น เชื่อเถอะครับ 555+ เพื่อนๆผมมันยังเชื่อเลย(แม้ตอนแรกจะแอบงงกันไปนิดส์) แต่คงเป็นเพราะผมหน้าฝรั่งไปมั้ง เลยดูเหมือนไม่ชอบอาหารกลิ่นจัดพรรค์นั้น แต่ขอโทษ ปลาร้ามันอาหารชั้นเลิศในวงเม้าท์จริงๆนี่นา >O<

      อันที่จริงแล้ว ถ้าไม่รวมไอ้พวกถิ่นกำเนิดมาจากอีสาน กลุ่มเพื่อนของผมก็ชอบการจกส้มตำกินกันในโรงอาหารเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะคุณแม่ของผมท่านปลูกฝัง(จับยัดปาก)มาตั้งแต่เล็ก ให้เป็นคนกินง่าย ไม่เรื่องมากเหมือนคุณหนูทั่วๆไป(ซึ่งช่างบังเอิญเข้ากับหน้าผมเหลือเกิน แฮะๆ O_O)

      ไอ้โย่งเป็นคนลุกออกไปซื้อที่ร้านเจ๊เหนือ(ป้าแกมาจากเหนือ) ขณะที่กลุ่มที่เหลือ อันประกอบไปด้วยไอ้ชัต ไอ้บิว ไอ้อ๋อง ไอ้กั๋ว และไอ้แว่นกำลังนั่งด่าทออ.ภาษาไทยอยู่อย่างเพลิดเพลินปากนั้น (อาจารย์PT) สายตาของผมดันเหลือบไปเห็นร่างสูงของผู้ชายสองคน เดินเคียงมาด้วยกัน...พี่มาร์คที่กำลังยิ้มร่าหน้าตาระรื่น หัวเราะต่อกระซิกอยู่กับ...พี่เมฆ...ทำเอาใจของผมฟุ้งซ่าน ตะเหลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหน

      ผมเฝ้าจับตามองสองคนนั้นด้วยใจระทึก เห็นเลี้ยวเข้าไปต่อคิวร้านก๋วยเตี๋ยว และแล้วสิ่งไม่คาดฝัน...สิ่งที่ทำให้ใจของผมเต้นรัวเร็ว ใบหน้าร้อนผะผ่าว กำมือแน่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติก็เกิดขึ้น พี่มาร์ค...พี่มาร์คเขาค่อยๆเลื่อนมือขึ้นแตะแผ่นหลังเหนือบั้นเอวของพี่เมฆ จากนั้นค่อยดึงเข้ามาหาตัว เหมือนจะกอดแล้วส่งยิ้มหวานๆให้กันและกัน!

      วินาทีนั้นอยากลุกพรวดขึ้นไปจับแยกออกด้วยกันทั้งคู่ แค่ความคิด ก็ไม่อยากให้พี่มาร์คทำตัวหวานๆแบบนั้น...กับใคร

      สงสัยผมคงจ้องนานไปหน่อยมั้ง จนรังสีอัมหิตมันแผ่ไปถึง...พี่มาร์คเหมือนหันหลังมากวาดตามอง แล้วก็สะดุดลงที่ผม พี่เขาทำตาโตอ้าปากหว๋ออยู่สักพักก็รีบเบือนหน้าหนีไป แวบสุดท้ายตีหน้าเหลอหลาซะด้วย ก่อนจะรีบเดินหลบหน้า เร่งพี่เมฆให้ตามไปด้วยกันแล้วก็หายไปภายในกลุ่มนักเรียนอันหนาแน่น

      ผมโกรธ หน้าแดงก่ำจนรู้สึกได้ เหมือนจะมีลมร้อนๆเป่าออกมาจากหูด้วย…นี่หรือเปล่านะที่เรียกว่าอาการหึง...แต่ใจมันเนือยๆ บอกกับตัวเองว่าถ้าเขาสองคนมีความสุขแล้ว ผมจะต้องไปขัดเขาทำไม?



      ไม่รู้ทำไมผมถึงต้องหงุดหงิดด้วย? ก็เรื่องที่พี่มาร์คกับพี่เมฆเข้าขากันอย่างน่าหมั่นไส้ เชอะ! ความจริงแล้วผมไม่ได้อยากใส่ใจอะไรนักหรอก ทว่า...ทำไมมันรู้สึกตะหงิดๆยังไงไม่รู้...เหมือนผมอยากให้เขาเลิกเดินด้วยกัน กระซิบกระซาบกันแบบยิ้มๆที่ข้างหู แม้ว่าพี่เขาทั้งสองคนจะดูสนิทสนมเหมาะสมกันมากก็ตาม...

       เข้าใจความรู้สึกของใครบางคนและ...เออเน๊าะ กรรมตามทันเร็วกว่าติดจรวดซะอีก =_=




      “เฮ้ยแดน ‘จารย์เจ๊ให้มาเรียกแหน่ะ ป่ะ”
      
       เที่ยงวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังนั่งปั่นรายงานอยู่ พี่เมฆเจ้าเก่าก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาเรียกผมไปพบอาจารย์สุธานีที่ห้องหมวดภาษาต่างประเทศ นี่ก็ใกล้แข่งขันเข้าไปทุกทีแล้ว ‘จารย์ท่านเลยเรียกซ้อมถี่ขึ้นอย่างไม่เห็นใจผมเลย...ที่งานในห้องก็เพิ่มพูนขึ้นมากมหาศาลเช่นกัน อือๆ T_T’

      หลังจากเหตุการณ์วันนั้น...ทำให้ผมมองหน้าพี่เมฆอย่างไม่ค่อยจะสนิทใจอีกต่อไป...มักจะหลบตา เพราะผมกลัวว่าพี่เขาอาจจะระแคะระคายได้ว่าเรากำลังหึงเพื่อนสนิทเขาอยู่...และไม่อยากให้ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างเราแตกระแหงแต่อย่างใด

      ผมพยายามเรียนอย่างตั้งใจควบคู่ไปด้วยกับการติวเข้มพิเศษเตรียมไปแข็งขันตอบปัญหา ทว่ามันยากเหลือเกิน เมื่อมีเรื่องอื่นๆวิ่งเข้ามาวุ่นวายใจผมอยู่ตลอดเวลา อย่างเรื่องพี่มาร์คและพี่เมฆเป็นต้น...

      ผมเห็นพี่เมฆวิ่งหน้าตาตื่นมาพอสมควร เลยเกรงใจ งานเงอนทุกอย่างเป็นต้องวางมือ แล้วรีบวิ่งตามเขาไป

      พลั่ก!

       จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนชนอะไรแข็งๆเข้า แล้วก็ล้มหงายหลังตึงลงไป ตึง! อูย...เจ็บระบมก้นกบไปหมด ไอ้ผมก็วิ่งทะเล่อทะล้าออกไปไม่ดู เลยต้องลงไปนอนดูพัดลมบนเพดานซะงั้น

       ไม่ทันไร ผมก็สัมผัสได้ถึงมืออุ่นๆของใครบางคนช้อนร่างผมขึ้นมา พยุงไว้ให้ผมเกาะท่อนแขนแข็งแรงไปพลาง...ฉุดผมลุกขึ้นยืนจากการล้มจ้ำบ้ำ

      “เฮ้ย! ไอ้แดน เป็น’ไรป่าว?”

      พี่เมฆซึ่งมองงงๆเอ่ยล้อขำๆในความเปิ่นของตัวกระผมเอง(เหอะๆ) พี่เขายืนเฉยแล้วก็หันไปทางคู่กรณีทางด้านนอกประตู

      “น้องเป็นไรมากหรือเปล่าครับ?”

      ...ไอ้คนนั้นไม่ตอบ และคงไม่ได้เป็นอะไรด้วย...ก็แหงล่ะ ตัวมันใหญ่อย่างกับหมีควายปานนั้น ทว่าสายตาที่มันใช้มองผมนั้นแสนเย็นชา จนทำให้ผมกลับไปยังความรู้สึกเดิมๆอีกครั้ง...นั่นคือใจเต้นแรง และวูบวาบไปในขณะเดียวกันที่...ไอ้ชิพ...มอง...

      มันคงลืมไปมั้งว่าผมโกรธมันอยู่...แต่ไหงมันไม่ลืมแฮะว่าก็กรูงอนๆอยู่หมือนกัน

       แต่ไหงฝ่ามือของมันถึงไอ้อบอุ่นแบบนี้นะ...แล้วท่าทางของมันก็แสดงถึงความห่วงใยในตัวผม ทั้งๆที่ผมเองเป็นฝ่ายวิ่งมาชนมัน...ซ้างั้นน่ะ???

       ...ผมไม่พูด มันไม่ตอบ แค่มองแวบเดียวแล้วก็เบือนหน้าหนีไป ไม่ได้ทักทายกันเลยแม้แต่คำเดียว(ประมาณว่าเชิดกันไปคนละทาง) ก่อนจะเดินหายลับไปในห้อง ท่าทางยังห่างเหิน(กันมากขึ้น)...ซึ่งผิดกับเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงที่ผมเคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของมัน

      ผมไม่รู้ว่าเราเลิกเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไร แล้วมันเลิกคุย หมองเมิน เริ่มทำตัวเย็นชากับผมตั้งแต่เมื่อไร อีกอย่าง ความห่างเหินระหว่างเราสองคน เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนผมเองก็ไม่สามารถระลึกได้...ผมไม่ได้มองหน้ามันตรงๆแบบนี้มานานมากแล้ว และบางครั้ง...ผมก็คิดถึงมันอย่างน่าใจหาย และรู้สึกใจหายวาบทุกครั้งที่ผมอยากคุยกับมัน แต่ด้วยความหยิ่งส่วนตัว เลยทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปทักมันก่อนเรื่อยไป

      ผมพยายามบอกตัวเองว่าที่เราโกรธกันเป็นความผิดของมันคนเดียว...และผมไม่อยากคุยกับมันเพียงเพราะไม่ชอบความเอาแต่ใจของมัน...แต่ในใจอยากเข้าไปหา...ใจจะขาด...แล้วชวนมันออกไปเที่ยวเหมือนเก่าสักครั้ง แบบที่เราเคยเป็นเพื่อนรักกัน แบบที่มันชอบข่มเหงผมอยู่ร่ำไป(ซาดิสต์ป่าวว่ะตู -_-“)

       แค่คิดใจของผมมันก็กระตุกจี๊ดๆ...ความรู้สึกผิดต่อพี่มาร์คหายไปไหนหมดแล้วว่ะ?

       …หรือว่า ผมมันเป็นพวกความรู้สึกตายด้าน?...

      “เอ๊ะ ไอ้เด็กนี่แปลก ไม่พูดยังจะจ้องอีก...เพื่อนเอ็งป่าวว่ะ?”

      “เปล่า”

      “เอ็งเคยมีเรื่อง?”

      “ไม่รู้...”

      ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าทำไมปากมันตอบออกไปได้อย่างรวดเร็วปานนั้น


       โปรดติดตามตอนต่อไป...

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ของแถมที่ว่านี้ ผมคิดว่าอ่านแล้วก็ปลงดี เด๋วนี้ชาวเรามีการวางแผนเปลี่ยนชายแท้ให้เป็นเกย์กันแล้วเหรอ? แต่จะว่าไปแล้ว...มันก็น่าลองอยู่เหมือนกันนะครับ 555+  :oni2: :oni2: :oni2:

00000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

อ่านกันยังอ่ะ วิธีทำให้ชายแท้กลายเป็นเกย์
ทำยังไงให้ผู้ชายแท้ๆกลายเป็นเกย์

ก่อนอื่น ถามตัวเองก่อน ว่าทำไมถึงอยากให้ผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์?

ทำด้วยความสเน่หา หรือ ความเกลียดชัง

คุณอยากให้ผู้ชายคนนั้นหันมารักคุณ หรือ ทำเพื่อใคร

จงแน่ใจก่อนว่า ที่ทำไปตรึกตรองมาอย่างดีแล้ว เพราะถ้ามันพลาด คุณกับเค้าจะมองหน้ากันไม่ติดอีกเลย แต่ถ้าสำเร็จ คุณก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ไปทำให้ชีวิตคนๆนึงต้องเปลี่ยนไป

เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ก่อนจะเริ่มบุก มาสำรวจตัวเองกันก่อน ว่าคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้หรือไม่

1. หน้าตาพอใช้ได้ขึ้นไป อาจจะไม่ต้องถึงกับดีมาก แต่ต้องดูมีสเน่ห์
2. ใจเย็น มากถึงมากที่สุด ของแบบนี้ใจร้อนไม่ได้ เดี๋ยวเหยื่อรู้ตัวเผ่นหนีซะก่อน
3. มีความจริงใจให้เป้าหมายตลอดเวลา และทำตัวให้เค้าไว้ใจได้
4. ฉลาดที่จะปกปิดความลับ แต่ต้องไม่โกหก จงรู้จักที่จะเลี่ยงแทนที่จะโกหก
5. อย่าทำสำอางต่อหน้าเป้าหมายให้มันมากนัก ใช้ชีวิตในระดับเดียวกับเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
6. รู้จักที่จะฟังมากกว่าพูด แต่เมื่อเป้าหมายมีเรื่องต้องการปรึกษา ให้แนะนำในเชิงทั่วไป อย่าเบี่ยงเบนเข้าตัวเองตลอดเวลา

ทีนี้ก็ต้องมาสังเกตุก่อนว่าเป้าหมายของเราเนี่ย มีโอกาสที่จะเบี่ยงเบนได้บ้างไม๊ สังเกตุยังไงดี

1. พวกบ้าหม้อฟันหญิงไม่เลือก แต่ก็หาแฟนเป็นตัวตนไม่ได้
2. พวกเก็บกดไม่ค่อยพูดจาแต่พยายามแสวงหารักแท้ มักแอบรักคนนู้นคนนี้ แต่ไม่กล้าซักที
3. ชอบพูดเรื่องลามก แต่ไม่เคยทำจริงๆซะที
4. พวกสะสมหนัง AV โดยเฉพาะ หนังแนว SM
5. พวกติดเพื่อนขั้นรุนแรง เอ่ยปากชวนไปไหนแล้วไม่ต้องรอคิด ไปไหนไปกัน
6. เมาง่าย (อันนี้ช่วยได้เยอะเลย) และเวลาเมาแล้วชอบทำอะไรทะลึ่งๆ

เอาล่ะ เรามาเริ่มแผนกันดีกว่า

หลังจากที่ทำความรู้จักเป้าหมายมาระยะหนึ่ง ส่วนมากคุณคงไม่บอกให้เค้ารู้ว่าคุณเป็นเกย์ (ไม่บอกน่ะดีแล้ว เดี๋ยวเหยื่อตื่น) จงจำไว้ ในช่วงที่ทำความรู้จักกัน อย่าเผยให้เค้ารู้ว่าเราชอบเค้า (บางกรณีอาจจะมาจากการเป็นเพื่อนกันแล้วรู้สึกว่าชอบ เลยอยากให้เค้าเป็น) ให้แสดงความรู้สึกออกมาว่าเค้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเรา ให้เค้าวางใจ และมองว่าเราก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเค้า

จะรู้ได้ไงว่าเค้าไว้ใจเราแล้ว?
ถ้าเค้าเล่าเรื่องในอดีต หรือเรื่องของครอบครัวให้คุณฟังล่ะก็ แปลว่าเค้าไว้ใจคุณแล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องสานสัมพันธ์ให้แน่นกว่านั้น เช่นเมื่อมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ให้เรียกเค้าเป็นคนแรก และบอกเค้าด้วยว่า เค้าเป็นคนแรกที่เราบอกให้รู้ อย่าลืมว่าต้องให้สัมพันธ์กับความชอบของเค้าด้วย เช่นเมื่อรู้ว่ามีคอนเสิร์ทของวงดนตรีที่เค้าชอบ ก็ให้รีบโทรไปบอกเค้าเลย จะให้ดีต้องบอกว่า มีบัตรอยู่สองใบ ไปดูด้วยกันไม๊ (ถึงจะไม่อยากไปก็ทนๆหน่อย) ตัวอย่าง

"เฮ้ย กูได้บัตร Incubus มา 2 ใบหว่ะ ไม่รู้จะไปกะใครดี"
"จริงดิ่ Incubus เหรอวะ อยากไปหว่ะ"
"ไปกับกูป่าวล่ะ" เข้าล๊อค~*

หาวิธีให้เค้าสนิทสนมกับครอบครัวของเรา จะทำให้เค้ารู้สึกว่า บ้านของเรามันน่ามาเที่ยวบ่อยๆ ชวนเค้าอยู่ทานข้าวเย็นฝีมือคุณแม่ (งานนี้ถ้าแม่ไม่เล่นด้วยล่ะแย่เลย) อีกอย่าง พ่อๆแม่ๆ มักอยากจะคุยกับเพื่อนๆของลูกอยู่แล้ว การได้คุยกันบ่อยๆ จะยิ่งทำให้เค้าไว้ใจเรามากขึ้น และเวลาเราขอไปค้างบ้านเพื่อนคนนี้ ก็ทำได้ง่ายขึ้น

จำไว้ว่าผู้ชายไม่ต้องการของขวัญวันเกิด แค่คำอวยพรกับงานเลี้ยงเหล้าในวงเพื่อนฝูงก็พอแล้ว พวกของจุกจิกไม่มีผลอะไรกับผู้ชายแท้ๆ

เวลาที่เค้าเสียใจที่สุดจงย้ำกับเค้าว่าเราจะอยู่ข้างๆเค้าเสมอ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเค้า โอกาสแบบนี้ช่วยทำคะแนนได้มาก และอาจเป็นจุดพลิกผัน

แต่จะทำยังไงให้เข้าสู่สถานการณ์แบบนี้ได้ ถ้ารอให้มันเกิดคงจะยาก สร้างมันขึ้นมาเองซะเลย (ออกจะชั่วร้ายไปหน่อย แต่ก็...) ผู้ชายแท้ๆทุกคน ย่อมแสวงหาผู้หญิงน่ารักๆสักคนมาเป็นแฟน (อย่าพยายามหาผู้หญิงมาให้เค้าโดยเตี๊ยมไว้กับฝ่ายหญิง เพราะถ้าเค้าจับได้จะซวยมาก อีกอย่างแผนนี้ต้องใช้เวลานานพอควร ดังนั้นคงไม่มีผู้หญิงคนไหนมาเสียเวลาช่วยง่ายๆ) เมื่อเป้าหมายของเราเจอคนที่ถูกใจ จงส่งเสริมเค้า หาทางช่วยให้เค้าคบกัน (และค่อยๆยุให้แตกแยกไปด้วย) เมื่อไหร่ที่เห็นว่า เค้าเริ่มที่จะชอบผู้หญิงคนนั้นเข้าขั้นจริงจังแล้วล่ะก็ เริ่มดำเนินการได้เลย (ควรมีเพื่อนชายแท้สำรองไว้หลายๆคนเพื่อการนี้) แนะนำเพื่อนชายแท้ที่ดีกว่าเป้าหมายของเรา ให้เข้าไปจีบผู้หญิงคนนั้นซะ ระหว่างนั้นก็แอบยุแยงไปด้วย แต่อย่าบอกตรงๆ เช่น

"เมื่อวานมึงไปเที่ยวกับแฟนมึงมาเหรอ" (ทั้งที่เรารู้ว่าไม่ได้ไป และแฟนมันไปกับคนอื่น)
"เปล่านี่ ทำไมเหรอวะ"
"เอ๊ะแล้วที่กูเห็นมันใครวะ" (ทำให้ดูน่าสงสัยเข้าไว้)
"เห็นใคร อะไรวะ"
"กูคงเข้าใจผิด ไม่มีอะไรหรอก แต่กูคิดว่ากูเจอแฟนมึงนะ ไปดูหนังเมื่อวาน" แล้วก็ปล่อยให้มันไปเคลียร์กันเอง

อย่าลืมเน้นย้ำให้ชายแท้เบอร์2 ที่เราส่งไปจีบแฟนมันขยันทำคะแนนต่อไป แล้วเราก็ยุยงทางฝ่ายคนของเราต่อไป

ผู้ชายนี่ก็แปลก เฮฮาก็กินเหล้า เศร้าก็กินเหล้า แต่เหล้านี่ล่ะ ช่วยได้เยอะมากๆเลย เมื่อมันอกหักดังเป๊าะ มันจะต้องนึกถึงคนที่สนิทกับมันที่สุดก่อน แน่นอน ความสัมพันธ์ที่เราอุตส่าสร้างมาจะมีประโยชน์ก็คราวนี้แหละ ดังนั้นจงใจเย็นๆ และแน่ใจว่า เป้าหมาย เห็นเราเป็น "เพื่อนคนสำคัญ" รึยัง

ทีนี้เราก็เริ่มแผนมอมเหล้า จะให้ดีควรเป็นที่บ้านของเรา ไม่ใช่บ้านของเค้า เมื่อเค้าเริ่มเมาจนสติรับรู้เริ่มพร่า แต่ยังพอรับรู้ได้ ให้บอกเค้าไปเลยว่าเรารู้สึกยังไงกับเค้า บอกไปด้วยว่า แอบชอบเค้ามานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกความรู้สึก กลัวว่าถ้าบอกไปแล้วเค้าจะเกลียดเรา เมื่อเค้าเมาจนไม่รับรู้แล้ว จงพาเค้าไปนอน เช็ดตัวให้ (อย่าทำอะไรมากกว่านั้น) ให้เค้านอนบนเตียง โดยที่เรานอนอยู่ข้างๆเตียง (อย่านอนบนเตียง) กะว่าพอเค้าตื่นมา ให้เค้ารู้ว่าเราทำอะไรให้เค้าไปบ้าง (ถ้าคุณตื่นก่อน จงแกล้งทำเป็นหลับจนกว่าเค้าจะเรียก) เมื่อเค้าตื่นแล้ว ให้ถามเค้าว่า จำได้บ้างไม๊ ว่าเมื่อคืนเราพูดอะไรออกไป ถ้าเค้าไม่ตอบ ไม่พูดอะไรเลย ให้พูดย้ำไปว่า เราเป็นเพื่อนกันใช่ไม๊

ทีนี้ก็รอดูผลตอบรับ ว่าเค้ามองเราในมุมที่เปลี่ยนไปไม๊ ถ้ามันจะเปลี่ยนก็ตอนนี้แหละ รอลุ้นเอา


อันนี้เป็นแค่หนึ่งในหนทางพิชิตใจชายแท้เท่านั้น มีภาค 2 ต่อให้อ่าน

-------------------------------------------------------------

ต่อจากภาคแรก

ถ้าเป้าหมายของคุณไม่กินเหล้าล่ะ! จะทำยังไงดีล่ะทีนี้

เค้าไม่เมา เราเมาเองก็ได้ (เมาดิบก็พอไหว) แต่ต้องทำหลังจากที่ความสำพันธ์ดำเนินไปได้จุดหนึ่ง และต้องสนิทกันมากพอสมควร เรียกได้ว่า มาหาเราที่บ้านบ่อยๆ เวลาไม่มีอะไรทำก็มาหา

เริ่มแผนกันดีกว่า

หากเป้าหมายสนิทกันขนาดอยู่บ้านเราได้ในขณะที่เราออกไปข้างนอกล่ะก็ แกล้งทำเป็นขอตัวออกไปข้างนอกซักแปบ ให้ช่วยเฝ้าบ้านให้ที เดี๋ยวซักพักจะเดี๋ยวซักพักจะกลับ แล้วก็ออกไปข้างนอกซักราวๆ 2-3 ชั่วโมง (ต้องแน่ใจว่าเค้าจะไม่เผ่นกลับบ้านไปซะก่อน) ก่อนเข้าบ้าน แวะเซเว่นซักนิด แวะซื้อเบียร์ซักกระป๋อง แล้วเอามาพรมตามตัว ถูให้กลิ่นเบียร์ติดตามซอกคอ ดื่มซักนิดให้มีกลิ่นเบียร์ติดในลมหายใจ แล้วทำฟอร์มเมาดิบกลับเข้าบ้าน แกล้งโวยวายซักนิดให้เค้าพอรู้ว่าเรากลับมาแล้ว ถ้าสนิทกันมากพอควร เค้าต้องเข้ามาช่วยประคองเรา แล้วพาเราไปนอน (จะให้ทีแกล้งทำฟอร์มว่ามึนๆ ดูทางไม่ค่อยถนัด)

พอเค้าพาเราไปที่เตียง ให้บ่นไว้ว่าร้อน แล้วทำท่าพยายามถอดเสื้อ ถ้าเหยื่อเอ้ย เป้าหมาย ใส่ใจเราบ้างก็จะช่วยถอดเสื้อให้ แล้วให้บ่นว่าร้อนต่อไปอีกนิด (ทางที่ดี ควรมีห้องที่ไม่มีแอร์ เดี๋ยวเป้าหมายเดินไปเปิดแอร์ให้ล่ะจบกันเลย) หลังจากบ่นร้องมาซักพักลองอ้อนขอให้เค้าช่วยเช็ดตัวให้หน่อย ประมาณว่าร้อน หาอะไรเย็นๆมาเช็ดตัวให้ที พอเค้าเริ่มเช็ดตัวให้ ให้จับมือเค้าเบาๆแล้วดึงมากอดอย่างรวดเร็ว อย่าให้ตั้งตัวได้ กะจังหวะให้ดี แน่นอนว่าผู้ชายปรกติต้องตกใจแล้วผละออก ให้แกล้งละเมอถึงชื่อใครก็ได้ แกล้งเพ้อก็ได้ว่า อย่าเลิกกันเลยนะ ทำฟอร์มว่าอกหักมา ถ้าเค้าเช็ดตัวให้เราต่อ ให้ปล่อยให้เช็ดไป เค้าจะพูดอะไรมาให้ทำเป็นไม่สนใจ แต่ถ้าเค้าบอกว่าจะกลับเมื่อไหร่ ให้ทำเป็นเหมือนสลืมสลือ แล้วบอกว่าช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่อยได้ไม๊คืนนี้ พยายามหว่านล้อมอย่าให้เค้ากลับบ้าน ตัดพ้อไปก็ได้ว่าเราไม่เหลือใครแล้ว แม้แต่เพื่อนก็ยังจะทิ้งกันเหรอ คืนนั้น ให้แกล้งทำเป็นละเมอกอดเค้าไว้ แต่อย่าทำอะไรมากกว่านั้น คราวนี้เค้าน่าจะยอมให้กอดดีๆ

ตื่นมาตอนเช้า ให้ขอบคุณที่เค้าช่วยเช็ดตัวให้ และอยู่เป็นเพื่อนเรา

แผนขั้นต่อไป หาอะไรทำสองต่อสองให้บ่อยขึ้น เช่นไปดูหนัง เน้นดราม่าคอมเมดี้เข้าไว้ ติดตลกนิดหน่อย แต่ต้องมีฉากซึ้งๆ ตัวอย่างที่เหมาะมากๆคือ 50 First Date (หาหนังที่เค้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเอาเอง) ชวนเค้าไปซื้อของ ซื้อกับข้าวมาทำกินเอง (ควรมีฝีมือซักหน่อย) ทำบ่อยๆเข้า ยังไงมันก็ต้องเคลิ้มมั่งล่ะน่า

แต่...เมื่อไหร่คือเวลาที่ควรเผด็จศึก!

เมื่อความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปจนถึงระดับที่เรียกว่า เราเริ่มรู้สึกแล้วว่าเค้าเริ่มเอนเอียงมาหาเราบ้าง หรือเค้าไม่คิดจะเริ่มความสัมพันธ์กับหญิงใดเลย ลองถามเค้าดูก็ได้ ว่าพักนี้ไม่จีบผู้หญิงที่ไหนเลยเหรอ ถ้าเค้าตอบแนวๆว่า ยังไม่อยากมีล่ะก็ ก็เตรียมเผด็จศึกได้เลย

เริ่มต้นเผด็จศึก!

ถ้าคุณค่อนข้างแน่ใจแล้ว ว่าเค้าไม่มีใคร และก็มีใจให้คุณอยู่บ้าง เรามีวิธีสองวิธีให้คุณเลือก คือ

1. บุกกันดื้อๆ
เมื่อเค้ามาค้างบ้านเรา ให้รอเค้าหลับก่อน แล้วบุกไปที่ไอ้หนูเค้าเลย ค่อยๆทำอย่างละมุนละม่อม อย่าใจร้อน จับน้องชายเค้าเบาๆ พอให้มันงัวเงียตื่นขึ้นมา แล้วทำการ BLOW JOB ลงไปเลย ถ้าเค้าตื่นขึ้นมาแล้วขัดขืน ให้กดเค้าลงไป แล้วดำเนินการด้วยเทคนิกที่มีทั้งหมด เมื่อความ Horny เข้าครอบงำ มันจะหยุดขัดขืนเอง จงทำให้เค้าเสร็จ แต่เราจงอย่าทำของเราต่อ (อดทนไว้ โอกาสหน้ายังมี) แน่นอนว่าบางคนอาจจะแกล้งหลับ อันนี้ยิ่งสบายใหญ่เลย คืนนั้น เค้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เค้าจะถามอีกทีเมื่อถึงเวลาเช้า แต่ถ้าเค้าไม่พูด ให้ถามเค้าไปเลยว่า "รู้ไม๊ว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น" และตอนนี้ให้เราสารภาพความรู้สึกไปเลย และขอร้องเค้าว่าอย่าเกลียดเราเลย (ถ้าไม่สำเร็จก็มองหน้ากันไม่ติดไปเลยล่ะทีนี้) ถ้าเค้ามีใจเอนเอียงอยู่บ้าง เค้าคงไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์แน่นอน

2. ใช้ความโรแมนติกเข้าแลก
หากหน้าบางเกินกว่าจะใช้วิธีแรกล่ะก็ ลองใช้วิธี ค่อยๆเผยความรู้สึกให้เค้ารู้ เช่น บอกเค้าว่า "รู้อะไรไม๊ ช่วงเวลาที่กูอยู่กับมึง กูมีความสุขที่สุด" แน่นอนว่าชายแท้ๆต้องทำหน้าเอ๋อ และสับสนกับคำพูดของเรา แล้วทำตามสเต็ปต่อไปนี้ "กูไม่รู้ว่าถ้ากูพูดออกไปแล้ว จะทำให้ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไปรึเปล่า" แล้วนิ่งซักนิด รอให้เค้าพูดก่อน แน่นอน เค้าต้องพอเดาได้ ให้รีบพูดกับเค้าว่า "กูไม่อยากให้มึงเกลียดกู กูเองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเหมือนกัน แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว และกูก็ไม่รู้จะทำยังไง ใจนึงกูก็กลัว แต่ใจนึงกูก็อยากให้มึงรู้" ถ้าเค้าเอนเอียงมาหาเราบ้าง เค้าต้องพูดว่า เค้าจะไม่มีทางเกลียดเราเด็ดขาด ถ้าเค้าพูดแบบนี้ ให้บุกไปเลย! "กูรักมึงนะ" มันต้องหวั่นไหวกันบ้างล่ะน่า แต่ถ้าไม่สำเร็จ อย่างน้อยน่าจะพอได้ความเป็นเพื่อนกลับมาบ้าง แต่อย่างน้อยเป้าหมายก็รู้แล้วว่าเราคิดอย่างไร ในกรณีชายแท้ มีแค่ 2 อย่างคือ ทำตัวออกห่าง ให้เราเลิกคิดเรื่องนี้ กับอีกอย่างคือ เค้ากำลังสับสน และพยายามที่จะยอมรับอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างที่สอง ให้ปฏิบัติต่อเค้าเหมือนเช่นเดิม จนกว่าเค้าจะยอมรับว่า เค้าก็ชอบเราเช่นกัน

อย่างที่เตือนกันไปแล้ว ว่าไม่รับประกันผลที่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าสำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าไม่สำเร็จก็เกลียดกันไปเลย อยากเสี่ยงหรือไม่ ลองคิดดูเอาเอง

-----------------------------------------------------------

จะได้ผลเร้อออออ เรื่องมันคล้ายๆกับเรื่องเสียวๆตามเว็บเกย์ทั่วไปเรยอ่ะ

THX :: FWD Mail & MCThailand.com

ที่มา http://www.forwardmag.com/webboard/topic-33370.html?sid=2f9c581fb93bf11a2bdb5b0cf3495f57

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม แล้วไม่วิ่งไปกอดเลยอะครับผม

ว่าแต่พี่ มาร์ค กับ พี่เมฆ เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆๆเหรอครับ

สงสัยๆๆ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าพี่ มาร์ค หรือ ชิพ พระเอกของเรา

ยังมีใจห่วงหา อาลัย อาวร แดน นายเอกของเราอยู่ อิอิ

เอาใจช่วยแดนนะครับ ดีกันเร็วๆๆนะครับผม

:impress: :impress: :impress:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ถ้านับถึงตอนนี้ คนที่เจ็บที่สุดคงเป็นแดนล่ะ

เพราะในตอนนี้ เสียทั้งแฟน(พี่มาร์ค) และ เพื่อน(ว่าที่แฟน) ชิพ

น่าเห็นใจจริง ๆ  :m15:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ผมแวะเข้ามาเพราะยังไม่นอน เลยเข้ามาตอบเม้นท์พลางๆ...

กำลังอ่านนิยายเรื่อง "ต้องชดใช้ด้วยรัก" นี้อยู่...รู้มั้ย ผมร้องไห้น้ำตาไหลพรากรอบที่ล้านแล้ว อ่านมาสองชั่วโมงตาบวมหมดแล้วด้วย บีบหัวใจมากๆๆๆๆ  :m15: :m15: :m15:

ส่วนเรื่องของผม คงเศร้าแบบปวดๆใจได้ไม่เท่า เอ๊ะ หรือคนละแบบคับ>?(พยายามไม่หลงตัวเองแล้วนะเนี้ย???)
 :เฮ้อ:

ตอนสุดท้ายแดนจะต้องเลือกสักคน และรับรองว่าทุกๆคนที่ติดตามนิยายเรื่องนี้มาด้วยความน่ารักต้องอึ้งแน่ๆ...จะสมหวังใครบ้างหรือเปล่าต้องคอยอ่านดูนะครับ แต่ผมใบ้ว่าไอ้เราก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องบรรยายฉาก...อื้อฮื้อๆสักเท่าไร...แต่พยายามลองอ่านของชาวบ้านเค้าดูแล้วลองมาปรงเเต่งเองดู เหอะๆ...นายแดนได้น่วมแน่ ส่วนพระเอกคือxxx(เซ็นเซอร์)ก็ร้ายใช่เล่นเหมือนกัน

แต่ภาคสองกำลังแต่งๆอยู่ แมร่ง กรูโคตรเกลียดไอ้แดนเลยคับ...ถ้ามีชีวิตจริงๆก็ชีช้ำยิ่งกว่าละครเรื่องสงครามนางฟ้าอีก ไม่ได้โม้นะ แค่มันยังไม่ลงตัวเท่านั้นเอง(หมายถึงภาค2) แต่แดนจะแสดงถึงคนที่มีความรักแบบเห็นแก่ตัวมากๆ ผลมาจากภาคหนึ่ง ใครสร้างแผลใจนี้ไว้ ต้องติดตามนะคร้าบ~~~~

@~ขอบคุณทุกกำลังใจ ถ้าไม่มีคุณ...วันนี้คงไม่มีผม~๑

ALex

artkung

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยว่าไอ้พี่มาร์คกับไอ้พี่เมฆเนี่ย จะไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดาซะล่ะมั้ง

น่าสงสารแดนนะ (สมควรเหรอ???)  :m12:

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
ยังไงก็เชียร์ชิพอ่ะ  o12

ชิพ ถ้าเป็นอย่างงี้ละก้อ

วิธีเดียวที่จะทำให้เค้าเป็นของเราได้ก้อคือข่มขืนนนเลย 555  :m4:

กล้ามะๆๆๆ  :m12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด