...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 434873 ครั้ง)

ZecroS

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ชิพก็เหลือเกิน :เตะ1:

สงสารแดนจัง o7

ปล.เม้นเสดก็ไปนอนดีกว่า ง่วง :a12:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้จะพูดไรดีนอกจาก เฮ้อๆๆ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอตอนต่อไปนะครับ(ติดงอมเชียวเรา) o13

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ภายนอกอาจจะเข้มแข็ง

แต่จิงๆ แล้วแดนไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

เศร้าจัง   :sad2:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 20



       ไอ้หวานแอบหลบสายตาบรรดาเจ้านายเข้ามาคุยกับผม เสียงกระซิบกระซาบของมันฟังแล้วดูแปร่งๆ

       “แดน เรื่องของแกกับหนุ่มบอยอะไรนั่น ไปถึงไหนแล้วว่ะ?”

      “มึงว่าไงนะ?”

      “กรูถามว่า…” มันขยับตัวให้เข้าที่เข้าทาง “มึงลงเอยกับบอยหรือยัง”

      ผมนิ่งไปพัก ก่อนจะตอบเรียบๆ

       “ยัง”

       “ทำไมอ๊า~~~?”

       ชิ! ทำน้ำเสียงผิดหวังแทนกรูเชียะ น่าหมั่นไส้ \(-_-*)

      “อ้าวไอ้เชี้ยนี่? ก็มันเรื่องของกู แล้วมึงจาทำไมอ่ะ”

       “เออๆ ไม่ยุ่งด้วยก็ได้ ว่าแต่…คนอะไรแมร่งโคตรหล่อเลยเนอะ รีบๆเข้าล่ะ อีกิ๊บซี่มันจอง”

      ผมหันกลับไปทำงานต่อพร้อมๆกับที่ร่างระหงของมันรีบเดินกลับถิ่นไป แปลก…ก็จู่ๆไอ้หวานมาทำตัวเป็นแม่ชักแม่สื่อให้ผมกับบอย เออ…แปลกดีเจงๆง่ะ~((o_+))



       “แดน พี่โศเรียกน่ะ”

       อะไรนะ? ใครเรียกผม~~~พี่โศรยา(คนละเรื่องกันเลยกับจำเลยรักนะคร้าบ (-_-“)) เรียกผมยั่งงั้นเหรอ?

       ใจมันตกไปอยู่ตาตุ่มนู่น

       กลัว…กรูทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าว่ะ?

       ลุกขึ้นยืนด้วยแข้งขาที่ค่อนข้างสั่น ไม่มั่นคงนัก ฝ่ามือมีเหงื่อออกเต็มไปหมด รู้ตัวอีกทีก็เห็นมือตัวเองกำลังเคาะประตูห้องพี่โศอยู่ ก้าวเข้าไป…รังสีน่าอึดอัดแฝงตัวอยู่ทุกอณูบรรยากาศ ผมเห็นนังจุม ไอ้ออม แล้วก็นังกิ๊บซี่นั่งก้มหน้าอยู่ก่อนแล้ว ส่วนพี่โศขมวดคิ้วเปิดดูเอกสารไปมาเสียงดังกรอบแกรบ…

      “นายแดน…เธอเป็นคนดูแลเรื่องบัญชีซื้อขายของบริษัทคู่ค้าต่างประเทศใช่มั้ย?”

      พี่โศถามเสียงดุ ผมนั่งลง ตอบเสียงอ่อย

       “ชะ…ใช่ครับ”

       “ส่วนพวกเธออีกสามคน จุม เธอลงบัญชีเข้าระบบประจำวันใช่มั้ย?”

      “ใช่ค่ะ…”

      “แล้วกิ๊บซี่” พี่โศปรายตามองด้วยแววตาประหวาดแวบหนึ่ง…เหยียดๆ “เธอช่วยงานเอกสารสุริยา(พี่พนักงานประจำ) แล้วออมก็เป็นคนตรวจทานอีกที”

      ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน

      “นี่…ถ้าฉันไม่มาตรวจสอบเอง ฉันคงไม่รู้หรอกนะว่าพวกเธอทำงานผิดพลาดมากแค่ไหน”

      พวกเราทั้งสี่คนอึ้ง…

       “เธอ ไก่! ไม่ทราบว่าวันๆเอาแต่นั่งกินจนไม่สนใจอย่างอื่นเลยหรือไง? เมื่อวานเธอลืมลงบัญชีไปตั้งหนึ่งบัญชี รู้มั้ยว่ามันสำคัญมากแค่ไหนที่ต้องคอยดูแลให้ทั่วถึง ดูซิปล่อยตัวเองจนจะเป็นช้างอยู่แล้ว! กิ๊บซี่กับหนวดก็เหมือนกัน ทำไมคุณสุริยาถึงบอกกับชั้นว่าพวกเธอสองคนชอบจับกลุ่มคุยกันในเวลางานจนไม่สนใจ งานการไม่เป็นอันทำ นี่อย่าลืมนะว่าพวกเธอกำลังฝึกงานอยู่”

       “ส่วนเธอ…” พี่โศหันมาทางผม “เธอเป็นคนเดียวที่ทำผิดมหันต์ เธอลืมให้พี่เอกลงชื่อกำกับ มันสำคัญมาก ทุกขั้นตอน ทุกส่วน ทุกบัญชี! ฉันสามารถกล่าวหาว่าเธอมีเจตนาจะปลอมแปลงตัวเลขในบัญชีก็ได้เลยนะ ถ้าฉันต้องการ”

       เฮ้ย! กูลืมได้ไงฟ่ะ!!!~~~

       ใจผมเต้นตึกตัก ต้องเป็นเมื่อวานแน่…วันที่บอยมารับผม แล้วผมรีบออกจากออฟฟิศไปโดยลืมเอาสมุดให้พี่เอกเซ็นท์ ทั้งหมด…เป็นความผิดของผมเอง

      “ฮึ ไม่อยากเชื่อว่าพวกเธอมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เรื่องแค่นี้ยังรับผิดชอบกันไม่ได้…อย่าลืมว่าพวกเธอต้องได้รับการประเมินจากฉัน ต่อไปนี้ถ้าชั้นเห็นความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นอีก…คงได้เห็นดีกัน ทีนี้ออกไปได้แล้ว ฉันจะสะสางเงินที่พวกเธอทำชุ่ยๆไว้ต่อไป”

       พวกเราทั้งหมดถูกไล่ออกมาเหมือนยั่งกะหมูกะหมา…คำด่าของพี่โศทำเอาผมหน้าชา…ทำอะไรไม่ถูก ส่วนไก่นั้นนั่งร้องไห้ตั้งแต่เขาด่าว่ามันเป็นช้างแล้ว…

       “อีเลว…ด่าพวกกูอย่างกะขี้ข้า อี@#%++”

      จุมด่าลับหลังอย่างเผ็ดร้อน ผมเดินกลับโต๊ะทำงานซึ่งอยู่แยกกับพวกมันต่างหาก นั่งลงเหว๋อๆ…เพิ่งจะถูกด่าว่าอย่างไร้ศักดิ์ศรี จากคนที่เป็นแค่ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมาหยกๆรึนี่?

       ยัยป้าเหี่ยวเนี้ยขึ้นชื่อว่าชอบด่าคนไม่ดูหัวเรื่อง ถ้าทำผิดเรื่องงานแกก็จะโยงเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเอี่ยว ดูอย่างที่ด่าไก่เรื่องรูปร่างซิ แม้มันจะอ้วนแต่ก็ไม่เห็นผิดหรือเกี่ยวกับความสามารถตรงไหน แล้วยังสายตาที่มองนังกิ๊บอย่างเหยียดหยาม…ดีที่ผมไม่ถูกด่าเรื่องหน้าเหมือนฝรั่งรวมเข้าไปด้วยนะ เฮ้อ~~~ =_=”

       ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น ผมคงไม่ทนตั้งแต่สามนาทีแรก…แต่วินาทีนี้ไม่มีทางเลือก ผมต้องการงานนี้ เพื่อจะได้เรียบจบ หางานทำ มีเงินเดือนใช้ซักที…

      จำไว้…คุณเคยด่าว่า เคยดูถูกอะไรผมไว้บ้าง…

      ซักวัน ผมจะอยู่เหนือคุณให้จงได้!



      ก็เพราะว่าเพิ่งโดนเจ้านายด่าสาดเสียเทเสียมาอย่างแรง ผมจึงค่อยๆเดินเข้าบ้านด้วยอาการเหนื่อยล้า หงอยเหงา…รู้สึกท้อแท้ใจมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

       “แม่ แดนซื้อข้าวต้มหน้าปากซอยมาฝาก”

       แม้จะเหนื่อย(โคตร) แต่มันต้องผ่านร้านข้าวต้มของไอ้กอล์ฟ…ผมเลยแวะซื้อ มันไม่อยู่แฮะวันนี้ เห็นป๊ามันบอกว่าออกไปเที่ยวกับผู้หญิง เมียมันมั้ง…ช่างแมร่ง ไม่สนใจหรอก

       ผมเรียกแม่นานเท่าไรแม่ก็ไม่ออกมาสักที ผมย่องขึ้นไปที่ชั้นสอง…เห็นแม่แอบกระซิบอะไรอยู่ในโทรศัพท์…แม่กำของบางสิ่งไว้ในมือแน่นเชียว

      “ค่ะ…ค่ะ ดิฉันขอฝากสามีด้วย ขอบคุณค่ะ”

      แม่สนทนาเป็นภาษาอังกฤษ…กรี๊ก เสียงกระบอกโทรศัพท์ถูกวางลง ผมค่อยๆก้าวเข้าไป

      “นั่นแม่ถืออะไรอยู่?”

       แม่สะดุ้ง พลันทำให้เงินเป็นปึกที่แม่กำไว้อยู่ในมือหล่นลง กระจายออก…ผมยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น…เงินมากมายขนาดนี้ แม่ไปหามาจากไหนกัน?

      “แม่!”

      แม่รีบก้มลงเก็บเงิน กอดไว้แน่น…

       “แม่จะเอาเงินนั้นไปไหน แม่! บอกผมมาซิ แม่!”

      แม่ค่อยๆนั่งลงบนเตียง…เอาเงินมัดไว้แล้ววางข้างๆตัว แกเอามือกุมหน้า ร้องไห้ ร้องไห้อีกแล้วเหรอ? แม่เป็นอะไรกันแน่

       “…เงินนี้ ของพ่อ…ของพ่อเค้าแดน”

      เสียงอู้อี้ของแม่ทำให้ผมสะเทือนใจ…ผมอยากปลอบแม่ อยากให้แม่หยุดร้องไห้แบบนี้…แต่แม่ยิ่งร้องหนักเข้าไปใหญ่

      “พ่อป่วย…เป็นมะเร็ง ขั้นสุดท้ายแล้วลูก…”

      อะ…อะไรนะ?

      “แม่ว่ายังไงนะ?...”

      “…พ่อป่วย ที่พ่อกลับมาอยู่กับเราไม่ได้…เพราะว่าพ่อต้องใช้เงิน พ่อบอกว่าอย่าบอกแดน…เดี๋ยวแดนกลุ้มใจ”

       หา…       

       “แต่เค้าอยากมาหาเรามาก อยากเจอหน้าแดนมาก…”

      วินาทีที่ประโยคจากปากแม่แล่นผ่านเข้าหู ผมไม่อยากเชื่อ…ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อปรากฏขึ้น ความรู้สึกที่ผมเคยโกรธพ่อ สาปแช่งพ่อ…ก็หลั่งไหลเข้ามาท่วมตัวผม รู้สึกเหมือนคนจมน้ำ หายใจไม่ออก…พูดอะไรไม่ออก เหมือนโลกตรงหน้าพังครืนลงมาไม่เหลือชิ้นดี

       “แม่…ฮึก…แม่เก็บเงินก้อนนี้ส่งไปให้พ่อรักษาตัว และคงเป็นก้อนสุดท้าย…ฮึก…แดนบอกแม่มาซิลูกว่าแดนไม่โกรธแม่…ฮึก…ที่แม่ไม่ได้บอกแดน แต่เพราะพ่อกับแม่ตัดสินใจว่าให้แดนเรียนจบก่อน…พ่อเขาเป็นห่วงเรามาก บอกว่า…ฮึก…คิดถึงแดน อยากเจอแดน…อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับแดน”

      เสียงแม่อู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ประมาณนี้อ่ะ คือแม่สะอื้นด้วย…แต่เชื่อมั้ย ว่าอารมณ์ตอนนั้นมันประมาณว่า…นี่กรูทำผิดลงไปแล้วมากมายขนาดนั้นเชียวเหรอ?... การที่พ่อไม่เคยอยู่กับผม ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยรับผิดชอบ กลับกลายเป็นว่าเพราะพ่อป่วย ป่วยหนักจนถึงขั้นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วเหรอ?

      …น้ำตาที่ร้อนจัดเหมือนจะลวกตาของผม ความเจ็บจุกที่หน้าอกเหมือนจะฆ่าผมทั้งเป็น…ผมเก็บความช็อคนี้ไว้ พยายามไม่ร้องไห้ กลั้นเสียงแห่งความทุกข์นั้นไว้อยู่ในใจเพราะต้องเข้มแข็งเพื่อแม่…และเหลือเชื่อที่ผมทำได้เสียด้วย

       “แม่…บอกพ่อด้วยว่าผมขอโทษ แม่ลงมากินข้าวกับผมก่อนเถอะ ซื้อมาแล้ว”

      แม่พยักหน้าทั้งน้ำตา แต่ก็ลงมากินข้าวกับผมแต่โดยดี ข้าวต้มที่จัดเทใส่จานชามไว้นั้นเย็นลง ทว่าก็ไม่ได้พร่องลงเลยเพราะผมหรือแม้แต่แม่เองก็กินไม่ลง…ในที่สุดก็พาแม่ขึ้นบ้าน เอาแม่เข้านอน แล้วลงมาโทรศัพท์ขอเบอร์ชิพจากแอล โทรไป เสียงมันงัวเงียรับสาย

       “ชิพ…มาหากูที่บ้านหน่อยได้มั้ย?”

      วางสาย ผมนั่งเหม่อรอมันอยู่ไม่ถึงสิบห้านาที เสียงรถยนต์ก็จอดลงที่หน้าบ้าน ร่างสูงพรวดพราดเข้ามา กอดผมไว้

       “แดน!”

       “ชิพ…วันนี้กูขอไปนอนค้างบ้านมึงได้มั้ย?”

      ชิพมองตาลอยๆของผม…”ดะ…ได้ซิ”

      ผมเดินเคียงร่างสูงออกมา ทว่าพอสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มๆปอด ความเข้มแข็งทั้งหมดเหมือนจะพังทลายออกมา คราบน้ำตา และส่วนที่หายจากอาการช็อคทำให้ผมทรุดตัวลงไป หมดแรง เหมือนร่างกายจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆซะแบบนั้น…

      แปลกดีนะ เวลาที่สติแตกแบบนี้ ผมกลับขอความช่วยเหลือจากมัน…ไอ้ชิพ

       ไม่รู้อะไรดลใจ แต่ตอนนี้ผมแค่อยากเห็นหน้ามัน

      …กุมหัวเหมือนคนบ้า สายตาเหม่อลอย จะกรีดเสียงร้องก็ร้องไม่ออก…หาเสียงไม่เจอ แต่ยังดีที่มีชิพกอดตัวของผมไว้แน่น…หูไม่ได้ยินอะไรแล้ว…สมองอื้อไปหมด ตาเหมือนจะไม่ทำงานประสานกับสมองด้วย ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น…

        มีแต่น้ำตา ความเจ็บปวด…และความรู้สึกผิดหลั่งไหลเข้ามา มันต่างทรมานผม ผมทนรับมันไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วจริงๆ…

      “ชิพ…กูทนไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว…”

      แล้วชิพก็พาผมมุ่งตรงสู่คอนโดของมัน



       >>>>พรุ่งนี้จามาต่อเย็นๆนะคับ ^_^oo

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :เฮ้อ: อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12:

สะเทือนใจอะ...


มาเป็นกำลังใจให้แดนต่อละกัน..

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...

Sakura_kano

  • บุคคลทั่วไป
:L1:เป็นกำลังให้แดนครับผม.... :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






(^_^)Jawaa!!!

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12:สงสารแดนอ่ะ ฮึก ฮึก
 :o12:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตแดนน่าสงสารอ่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆๆ :o12:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แดนทำไมชีวิตรันทดแบบนี้อ่ะ  :sad2:

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารอย่างยิ่ง
รีบๆมาต่อนะคับ
รออยู่

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
แดน น่าสงสารมากเลยอ่ะ   :m15: :o12:

ขอให้เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปเร็วๆนะคะ สู้ๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะ  o12

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
แดนน่าสงสารจัง รันทดมาก ๆๆ  :m15:

เริ่มคืนดีกันแล้วใช่มั๊ย

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :m15: :m15: สู้ ๆนะครับ

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องจริงป่าวคับเนี่ย  :serius2: ทำไมมันถึงเศร้าได้ขนาดนี้น่ะชีวิตคนเรา พระเจ้ากลั่นแกล้งกันเกินไปแล้วน่ะ เป็นใครจะทนรับเรื่องราวที่แสนจะเจ็บปวดขนาดนี้ได้บ้าง :o12: :o12: :o12: :o12:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ไหวแร้ว จิงๆอ๊าาาาาาา :o8:


มาต่ออีกน๊า

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผมสงสารครอบครัวแดนจังครับ

ชิพต้องช่วยแดนได้แน่ครับผม

แต่คงช่วยพ่อแดนไม่ได้ครับผม

เป็นกำลังใจให้แดนกับชิพรักกัน คืนดีกันเร็วๆนะครับ

:impress: :impress: :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






snowman

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตแดนช่างดาวพระศุกร์เสียนี่กระไร ... เคราะห์ซ้ำกรรมซัด





ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารอะ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2: :sad2: :sad2:

ค้างครับ  :serius2:

พรุ่งนี้จะมาปูเสื่อรอครับ  o13

coloniser

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารแดน สู้ๆ :a2:

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
แดนน่าสงสารแล้วอ่ะ :sad2:  งานนี้


อย่าใจร้ายจนเกินปายนะ :o12:  อเล็กซ์



ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
โอยยย

อารายมานจะเศร้าได้ขนาดนี้เนี่ย

 :o12:

dekchin

  • บุคคลทั่วไป

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ดีคับ แหม วันนี้มาเร็ว กะจาแอบมาเซอร์ไพรส์ซะหน่อย ก็อย่างที่บอกอ่ะคับ ตอนนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่าสิบแปดปีอย่างแรง :m30: (ผมสิบแปดแล้ว >o<)

มีเรื่องมาบอกก็คือแต่งภาคสองเสร็จเเล้ว กำลังรีไรท์อยู่ ยังไงถ้าเรียบร้อยแแล้วจะไปแก้ตอนเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงให้ใหม่ แต่คงอีกนานอ่ะคับ :a3:

สำหรับแฟนคลับพี่มาร์ค เสียใจด้วยที่ภาคสองนี้กล่าวถึงน้อยเหลือเกิน :o จะไปพูดอีกทีก็ตอนหลังๆโน้น เเต่เชื่อเหอะคับว่ามีเรื่องอื่นให้โฟกัสกว่าเยอะ เมื่อวานโทรฯคุยกับเพื่อนที่แต่งนิยายด้วยกันมันก็บอกว่านิยายแกเศร้าว่ะ เหอะๆๆ :laugh:(แต่ภาคสามมีลุ้นนะจ๊ะ :o8:)

อ้อ ยังรับข้อเสนอเเนะทุกระดับนะคับ จะตำหนิติเตียนอะไรเชิญได้เลย แต่อย่าว่าผมแรงล่ะคับ ฮือๆ T_T ผมเพิ่งเป็นน้องใหม่ของบอร์ดนี้เอง ทำอะไรผิดพลาดไปก็ต้องขอขมาเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย  :m1: :m1: :m1:

ALeX


บทที่ 21



       ชิพพยุงร่างเกือบๆไร้วิญญาณของผมขึ้นไปถึงห้องชุดของมัน ตลอดทางที่ขับรถมา ผมทบทวนภาพเหตุการณ์ต่างๆในวัยเด็ก…ภาพที่พ่อเล่นฟุตบอลกับผม ภายในห้องครัวที่พ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนผมกำลังอ้อนพ่อให้อ่านให้ฟัง…ภาพของพ่อเกากีต้าร์ แปลเพลงภาษาอังกฤษให้ผมฟัง…ทุกอย่างยังคงจดจำขึ้นใจ แต่ว่าดูเหมือนมันนานแสนนานแล้วเหลือเกิน…

       ผม…โง่เหลือเกิน ที่ปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่หมดลงโดยไม่รู้ค่า…

       มันจะนานสักแค่ไหนเชียว? ผม…จะมีโอกาสได้เจอหน้าพ่ออีกสักครั้งมั้ยนะ?…

       ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมตอนนี้พ่อที่ผมออกจะเกลียดด้วยซ้ำ…ถึงทำให้ตัวตนของผมข้างในอบอุ่นได้มากมายขนาดนี้ ความทรงจำที่ดีๆดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น…จนผมลืมเรื่องราวร้ายๆทั้งหมดเกี่ยวกับตัวพ่อออกไป

       อยากตะโกนออกมาดังๆ!!!

       ชิพพาผมนั่งลงที่เตียงก่อน มันหายไปสักพัก กลับมาพร้อมกับช็อคโกแลตอุ่นๆ…ผมคว้าผ้าห่มนุ่มมากอดไว้ เอนตัวลง…สายน้ำตาไหลรินลงบนปลอกหมอน…กลิ่นอายของชิพที่ติดอยู่บนที่นอนเขย่าสติผม…นี่ ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงของชิพ ไม่เห็นว่ามันพูดอะไร

       ชิพนั่งลงถอดรองเท้าให้ ถุงเท้า เข็ดขัด คลายปกคอเสื้อให้ ก่อนจะทอดตัวลงมาเคียงข้างผม…กอดผมไว้จางทางด้านหลัง หลับตาลง…และเปิดรับความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอย่างเต็มที่…

      “เอาล่ะ ทีนี้จะเล่าให้ฟังได้หรือยัง ฮื้อ?”



      ผมพรั่งพรูทุกอย่างออกมาจากปาก ความในใจทั้งหมด ทั้งที่เกี่ยวกับมัน…และเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบอย ว่าผมอยากแลกตัวเองกับเงินของบอย ผมทำตัวเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีมากแค่ไหน 

       เรื่องที่ทำงาน…ผมโดนพี่โศด่าว่าเพียงเพราะผมลืมเอาเอกสารให้พี่เอกเซ็นท์แค่เล่มเดียว

       เรื่องเงิน…เงินที่ผมต้องช่วยแม่หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ไหนยังจะต้องค่ารักษาพยาบาลของพ่ออีก

       เรื่องของพ่อ…ว่าพ่อคนเดียวของผมป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และผมอาจจะไม่มีโอกาสได้อยู่กับพ่ออีก…ไม่มีเวลาชดเชยสิ่งที่ผมขาดหายไปตลอดช่วงเวลายี่สิบสองปี ทั้งชีวิตของผม…ที่เข้าใจผิดในตัวพ่อมาโดยตลอด บัดนี้ผมกำลังสูญเสียพ่อไป อย่างไม่มีวันกลับมา

       นอนพูดๆๆจนเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วไม่รู้ รู้สึกหนาว ห้องทั้งห้องแลดูมืดสนิท…

       “หนาวเหรอ?”

      มันกระชับอ้อมแขนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งห่มผ้า ผมพลิกตัวเข้าสู่อ้อมอกของมัน

       “นี่กี่โมงแล้ว?”

      “ตีสาม”

       ผมขยับตัว แต่ชิพไม่ให้ลุก ผมร้องประท้วงเบาๆ

       “ชิพ…กูจะกลับบ้าน”

      “แต่ไหนมึงบอกว่าจะขอค้างที่นี่ไง…”

      ภายในความมืด…ผมเงยหน้าขึ้นสบตามองมัน พอมองเห็นลางๆสลัวๆ ดวงใจของผมเริ่มเต้นตึกตัก…ดวงใจของมันภายใต้ฝ่ามือของผมก็ระรัวกลองเร็ว-ช้าเท่าๆกัน ผมเอื้อมมือขึ้นค่อยๆลูบใบหน้าของชิพ ผ่านดวงตา ผ่านสันจมูกโด่ง ผ่านริมฝีปากหยักอย่างคนดื้อรั้น…หยุดไว้ที่ปลายคาง

       “ขอบคุณนะ…”

       “ไม่เป็นไร”

      ชิพกระซิบแผ่ว…

      “ชิพ...กูไม่ต้องการเหตุผลของมึงอีกต่อไปแล้ว กูจะพยายามลืมเรื่องที่แล้วๆมาของเรานะ เพราะกูยังรักมึงอยู่ และมันเจ็บ...ถ้านี่คือเวลาที่เราสองคนควรคืนดีกัน…รับปากได้มั้ยว่าหลังจากนี้…จะไม่หนีไปไหนอีก”

      ใช่…เจ็บมาก ผมทรมานตัวเองมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา

       จู่ๆน้ำตาก็รื้นขึ้นมา…ชิพเองก็น้ำตาคลอหน่วย

       ตัดสินใจแล้ว…ไม่ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานแค่ไหน เป็นยังไงมาก็ตาม ผมพยายามจะลืม…ลืมความคั่งแค้นเหล่านั้นเพื่อมัน…อย่างน้อยก็คืนนี้

       “ได้ซิ…กูจะอยู่กับมึงจนถึงเช้า”

       “มึงบอกกู…ว่ามึงยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?”

      “…แดน กูรักมึง…จะนานแค่ไหน…ไม่ว่ามึงจะเป็นยังไง กูก็จะยังรักมึงตลอดไป”

      ผมค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าหามัน พบกันครึ่งทาง…รสจูบที่นุ่มนวล ความรู้สึกอิ่มเอมแตกซ่าออกเหมือนพลุ สัมผัสของมันเร่าร้อน…ผมคิดถึงมันมากมายเหลือเกิน

       ใจช้ำๆเต้นไม่เป็นจังหวะ ตึกตัก…ตึกตัก

       เหมือนโดนฉุดขึ้นสูง โบยบินในอากาศ...ตกลงมาช้าๆภายในอ้อมกอดมั่นคงอบอุ่น

       ในขณะหนึ่ง อารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าขึ้นเป็นเพราะหลังจากที่เจอเรื่องร้ายๆมาทั้งวัน ตอนนี้ผมต้องการปลดปล่อย…

       น่าตกใจ ที่ชิพทำให้ผมเกิดความต้องการได้รุนแรงขนาดนี้!

       มือของผมสอดเข้าไปในชุดเสื้อลำลองของมัน ริมฝีปากเริ่มรุนเร้ามากขึ้น ความรู้สึกที่อยากครอบครองมันทั้งกายและใจปะทุอย่างบ้าคลั่ง และผมก็ไม่สามารถระงับได้ ไม่ได้ในขณะที่เรากำลังจูบกันอยู่แบบนี้…

       ผมผลักมันออก สีหน้าผิดหวังสุดๆจนผมอดขำไม่ได้ แต่เพียงแค่ต้องการเอนร่างของมันให้นอนหงายสบายๆ…ผมปลดกระดุมกางเกงของชิพออก…

      ชิพมองด้วยสีหน้าครึ้มอกครึ้มใจ+หัวเราะเบาๆ ครั้นเมื่อผมแตะปลายลิ้นอุ่นร้อนลงไป…มันก็ครางกระหึมแทบจะทนไม่ไหว สั่นไปทั่วร่างกาย

       รู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเหมือนกันแหละที่ในที่สุด…ผมก็มีอำนาจเหนือมันสักที

       แลบลิ้นเลียปากช้าๆ แตะปลายลิ้นลงไป จูบส่วนยอดที่มีปฏิกิริยารุนแรงมากที่สุด…เชื่อมั้ยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การจ้องมองตาระหว่างเราสองคนตลอดเวลา และนั่นยิ่งเพิ่มความเร้าอารมณ์ขึ้นไปอีก ชิพยิ้มกริ่ม…ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นแหยเกขึ้นเรื่อยๆ ผมเฝ้ามองอากัปกิริยาของชิพที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ อืม…ดูเหมือนว่าเวลาที่ผ่านมาชิพได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างมาไม่น้อยเลยทีเดียว

       ชิพอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ผมลูบแผงอกกับหน้าท้องบนลำตัวยาวของมันแผ่วๆขณะกำลังปรนเปรอมันอยู่นั้น ชิพพยายามเคลื่อนสะโพกเข้าหาตัวผมด้วยแรงปรารถนา

       ฮึๆ…ไม่ใช่แค่นี้ ผมจับจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เปียกลื่นไปหมดแนบกับใบหน้า หลับตาลง ให้มันรู้สึกได้ถึงผิวอันร้อนผะผ่าวของผม

       “พะ…พอ พอก่อน”

      เอางั้นก็ได้…แต่ไม่จบแค่นี้หรอกนะ ละออกมาจากช่วงล่างของชิพแล้ว…ของเหลวบางส่วนก็ยืดติดปากผมมาด้วย ผมลุกขึ้นคร่อมตัวชิพเพื่อต้องการแบ่งปันรสชาตินี้กับมัน…จูบมันหนักหน่วงทีหนึ่ง เปลี่ยนเป็นหยอกเย้าแผ่วเบาอีกทีสลับสับเปลี่ยนกันไป ทำให้ชิพแทบจะต้องกัดยึดริมฝีปากของผมไว้เพื่อไม่ให้แกล้งทรมานมันอีก

       ชิพเอนหน้าเข้ามาอย่างไม่อยากอิ่มตอนนี้…แต่ผมหลบมัน และมุ่งตรงไปที่ยอดอกแข็งๆที่บัดนี้ ทั้งสองข้างนั้นเปียกลื่นเกร็งเขม็งเป็นที่เรียบร้อย

       อย่าให้ผมต้องอธิบายเลยว่าชิพครวญครางไม่เป็นศัพท์แค่ไหน…>///<

      แต่แล้วชั่วเวลาทีเผลอ ชิพที่สลัดเสื้อผ้าเหลือแต่ตัวเปล่าล่อนจ้อนตั้งกะตอนไหนไม่รู้ดึงผมขึ้นมากอดไว้ มือรนๆของมันพยายามหาทางปลดเสื้อผ้าของผมบ้าง ทว่า…

      มันกลับดึงทึ้ง ฉีกเสื้อของผมขาดดังแคว๊ก!!!

      “ชิพ!”

      “เดี๋ยวซื้อให้ใหม่ ไม่ต้องห่วง”

      ว่าแล้วมันก็ทำตามอำเภอใจต่อ แง T_T ไม่อยากได้เสื้อใหม่ง่ะ เสียดาย

       …>////////<!!!

      วินาทีที่ชิพค่อยๆประสานตัวเข้ามา ความเจ็บปล๊าบนั้นทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย…ชิพโน้มตัวลงมาจูบผม ไล้แก้มแดงๆ…ผมรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของของชีพจรชิพ ซึ่งอยู่ในตัวของผม…ตุบๆ…ตุบๆ…เหมือนเลือดจะพากันไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงแต่ตรงนั้น ทำให้ทุกอย่างช่าง…ใหญ่โต แทบสัมผัสได้ว่านี่คือความจริง…จริงแค่ไหน ไม่ใช่ฝัน

       เหมือนศูนย์กลางโลกทั้งใบอยู่ในตัวผมแล้ว ตอนนี้

        ชิพไถลตัวเข้ามาช้าๆ แค่ครึ่งทางเท่านั้นแหละ มันก็พรวดเข้ามาจนหมด จ๊ากส์!!!=_=”…ทำให้รู้สึกโหวงๆไปได้ชั่วขณะ แถมแล้วยังมาถอนหายใจหนักๆอยู่ข้างใบหูผมด้วยนะ -_-“

      จากนั้นชิพจึงเริ่มขยับกาย ขอร้องเถอะ…อย่าให้ผมต้องอธิบายไปมากกว่านี้เลย

      เอาเป็นว่าท่อนขาของผมชี้สะเปะสะปะไปหมดทุกๆจังหวะ

      “ชิพ…ชิพ…”

       “พูด พูดซิ…พูดซิว่ารักแค่ไหน”

       “กูรักมึงชิพ…รัก…รักมึงคนเดียว…”

       …ร้อน…ร้อนไปหมด คล้ายอยู่บนเตาถูกจุดไฟเผา…

      เสียงครวญครางของผมเรียกชื่อชิพกระเส่า…เหงื่อที่ปกคลุมใบหน้าชื้นระเหยออกไปอย่างรวดเร็วด้วยแอร์เย็นๆ ไอความร้อนที่ออกมาจากลมหายใจของชิพรินรดผิวกายของผม จนปลายประสาทและกล้ามเนื้อสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว

       ความอุ่นร้อนอย่างกับราดด้วยน้ำเดือดหลั่งไหล…จุดสุดยอดที่แตกซ่านเหมือนภูเขาไฟระเบิด อยู่ในตัวผม ไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน…ผมต้องกอดมันไว้ จิกแผ่นหลังมันเมื่อคลื่นความเสียวซ่านซัดกระแทก…หลังจากนั้นเราก็จ้องตากันด้วยความเหนื่อยอ่อน อย่างน้อยๆผมก็ขับเคลื่อนต่อไป…นับครั้งไม่ถ้วนเลยเท่าที่จำได้…



       สัมผัสอุ่นๆทำให้ผมลืมตาขึ้น อืม…ง่วงจังเลย~~~

       “ตื่นแล้วเหรอ?”

      เสียงใหญ่ที่ง่วงงัวเงียไม่แพ้กันดังขึ้น…ชิพกอดผมเอาไว้จากทางด้านหลังหลวมๆ…บนเตียงอุ่นหนา แผ่นหลังของผมแนบกับแผงอกกว้างของมัน จะว่าไปแล้วรูปร่างของชิพไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากห้าปีก่อนสักเท่าไร มันก็ยังคงหุ่นฟิตปั๋งเยี่ยงนักกีฬาไว้ ทว่าอายุที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้มันยิ่งดูเซ็กซี่ เสียงทุ้มๆที่กลายเป็นหนุ่มสมบรูณ์ก็ฟังแล้วอบอุ่น มั่นคงดีจัง…

       “…ชิพ ทำไมกูถึงคิดถึงมึงจัง”

      เอ่อ…เชี้ย!!!!...หลุดปากอีกแล้ว โธ่เว้ย>>>>ไอ้โรคปากมากจอมทรยศเนี้ยเมื่อไหรจะรักษาหายสักทีว่ะ =_=”***

       “กูก็อยู่นี่แล้วไง”

      ผมแอบยิ้มขำๆ(นอนหันหลังให้มัน) เออ จริงซิเนอะ ชิพกำลังนอนอยู่ข้างๆผมแล้ว…ดีใจจังที่มันไม่ใช่คนอื่น

       “แอบยิ้มอยู่เหรอ?”

      ชิพชะโงกหน้ามาดู ผมซ่อนยิ้มไว้ไม่ทันซะแล้ว >.<

      “มาจูบให้หายชื่นใจซะดีๆ”

       แล้วมันก็จูบผม…เป็นจูบที่งดงาม อ่อนหวาน จนน้ำตาแทบไหล TT_TT

       เราใช้ช่วงเช้าทั้งหมดเสียเปล่าไปกับการนอนก่ายกันบนเตียง มันเล่าเรื่องที่ไปเรียนอยู่อเมริกาให้ผมฟัง ในนิวยอร์คมีข้าเต่าเก่าเลี้ยงของย่ามันอาศัยอยู่ ซึ่งไว้วางใจได้และย่ามันมีพระคุณอยู่ท่วมหัว…ชิพเลยไปอาศัยอยู่ที่นั่น แล้วได้รู้จักกับแอล แต่ไอ้หมอนั่นมันขอร้องพ่อแม่ไปเรียนเอง พอจบไฮสคลูก็บินกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยของเมืองไทย งงเหมือนกันแหละ…แต่ไม่อยากซักถามเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม

       “นี่กี่โมงแล้วอ่ะ” ฮ้าววว…กรูอยากนอนต่อง่ะ เพลียจังเลย =_=

       “สิบโมงครึ่งแล้ว”

      “สายแล้วซิเนอะ…เฮ้ย!”

      ผมลุกพรวดรีบไปเกาะอยู่ตรงกระจกหน้าต่าง ถืองี้ครับ เตียงไอ้ชิพเป็นคล้ายๆกับฟูกที่อยู่บนยกพื้นทำจากไม้เล่นลูกเล่นต่างระดับ มีกระจกบานเบ่อเริ่มทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพฯรอบๆได้ชัดเจน ตายห่า~~~รถติดชิบหาย กว่าผมจะไปถึงที่ทำงานต้องสิบเอ็ดโมงกว่าแน่ๆ งานนี้นอกจากจะโดนด่าแล้ว…อาจมีสิทธิโดนประเมินไม่ผ่านแหงมๆเลย TT^TT…

       แต่ไอ้เวงชิพดันจับกดลงนอนต่อ คราวนี้มันไม่นอนเฉยๆแล้ว แต่หอมแก้มผมอย่างถือวิสาสะ มือใหญ่ป่ายเปะปะไปมา

       “ลุกไปแบบนั้น…กูมองเห็นวิวไม่ชัดเลยน๊า~~”

      ไอ้บ้า ไอ้ลามก…เห็น***(เซ็นเซอร์)กรูล่ะซิไม่ว่า

       “เฮ้ยชิพ~~~ปล่อยกู กูต้องไปทำงาน~~~”

      “อืม…บริษัทของกู มึงจาไปทำเมื่อไหร่ก็ได้”

      เอาอีกแล้วนะ ไอ้ชิพภาคเด็กดื้อเอาแต่ใจ…ผมถูกมันกอด ร่างเปลือยเปล่าของเราบดเบียดกันและถูไถไปมา ผิวมันแมร่งโคตรเรียบ~~~เย็นๆ…ผมหันกลับไปมองหน้าตาอิดโรยจากการอดหลับอดนอน เย้ย!!! แล้วมรึงยังหื่นได้อีกหรือว่ะไอ้ชิพ??? O[]O!!

       หื่นไม่หื่นไม่รู้อ่ะ…แต่ไอ้ชิพดันของแข็งๆเข้ามาจ่อรอเล่นซุกซนแบบเดิมอีกแล้ว…ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน โหยยยย แต่กรูเล่นกับมรึงไม่ไหวแล้วโว้ย!!!

       “แต่ชะ…ชิพ กูไม่สบาย”

      “ทำไม? ตัวร้อนเหรอ?”

      “อืม” น้ำเสียงของมันตกใจ และรีบเอามือเข้ามาอังหน้าผากของผมทันที มันจะรู้มั้ยนะว่าผมมีความสุข…สุขใจที่มันคอยห่วงใยผม

       “เป็นอะไรมากมั้ย?”

       เชรี่ย มันจูบหน้าผากเหมือนกะผมเป็นเด็กๆ o_O*

       “ไม่หรอก ก็เพราะเมื่อคืนเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนทั้งคืนน่ะซิ”

      ผมตอบอายๆ…ชิพทำหน้าถึงบางอ้อ ยิ้มพลางอุ้มตัวขึ้นไปวางบนตักมัน(<<<ท่าโปรดมันน่ะซิ =_=”)

       “เฮ้ย! อีก…อีกรอบเหรอ”

      ชิพหัวเราะ “อืม แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ?”

      “งานไง!”

       “ไหนบอกว่าไม่สบาย…คนป่วยจริงเดี๋ยวหมอชิพรักษาให้ รับรองเข็มเดียว…อยู่”

      ไอ้บ้า! (=U=) ที่กูป่วยน่ะเพราะว่าจะบ่ายเบี่ยงเอ็งต่างหาก…เฮ้อ ดันโดนไอ้ชิพดักทางเอาไว้ซะได้ ซวยแน่เลยตูงานเนี้ย -_-“…

      มันขบติ่งหูเบาๆ ก่อนจะรุกล้ำเข้ามาโดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว…อ๊ากกก%%~~~ชิพกลับหัวเราะชอบใจ แต่กรูไม่ชอบใจไปกับมรึงด้วยหรอกนะ!~~~…เสียงมันร้อง ‘อ๊าส์~~~’ โคตรหื่นได้ใจผมมาก เพราะรู้ว่าผมไม่เคยต้านทานมันได้นานเกินสิบนาที…มันยิ่งแกล้งผมโดยการดูดเบาๆที่ข้างลำคอ ส่วนตัวผมก็เบียดกับมันมากขึ้น มากขึ้น…เกลียดมันเจงๆนะเนี้ยเวลาชิพทำกับผมแบบนี้อ่ะ… เฮ้อ >///<

       





       โปรดติดตามตอนต่อไป


kalo_o_sm

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด