ดีคับ แหม วันนี้มาเร็ว กะจาแอบมาเซอร์ไพรส์ซะหน่อย ก็อย่างที่บอกอ่ะคับ ตอนนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่าสิบแปดปีอย่างแรง
(ผมสิบแปดแล้ว >o<)
มีเรื่องมาบอกก็คือแต่งภาคสองเสร็จเเล้ว กำลังรีไรท์อยู่ ยังไงถ้าเรียบร้อยแแล้วจะไปแก้ตอนเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงให้ใหม่ แต่คงอีกนานอ่ะคับ
สำหรับแฟนคลับพี่มาร์ค เสียใจด้วยที่ภาคสองนี้กล่าวถึงน้อยเหลือเกิน
จะไปพูดอีกทีก็ตอนหลังๆโน้น เเต่เชื่อเหอะคับว่ามีเรื่องอื่นให้โฟกัสกว่าเยอะ เมื่อวานโทรฯคุยกับเพื่อนที่แต่งนิยายด้วยกันมันก็บอกว่านิยายแกเศร้าว่ะ เหอะๆๆ
(แต่ภาคสามมีลุ้นนะจ๊ะ
)
อ้อ ยังรับข้อเสนอเเนะทุกระดับนะคับ จะตำหนิติเตียนอะไรเชิญได้เลย แต่อย่าว่าผมแรงล่ะคับ ฮือๆ T_T ผมเพิ่งเป็นน้องใหม่ของบอร์ดนี้เอง ทำอะไรผิดพลาดไปก็ต้องขอขมาเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ALeX
บทที่ 21
ชิพพยุงร่างเกือบๆไร้วิญญาณของผมขึ้นไปถึงห้องชุดของมัน ตลอดทางที่ขับรถมา ผมทบทวนภาพเหตุการณ์ต่างๆในวัยเด็ก…ภาพที่พ่อเล่นฟุตบอลกับผม ภายในห้องครัวที่พ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนผมกำลังอ้อนพ่อให้อ่านให้ฟัง…ภาพของพ่อเกากีต้าร์ แปลเพลงภาษาอังกฤษให้ผมฟัง…ทุกอย่างยังคงจดจำขึ้นใจ แต่ว่าดูเหมือนมันนานแสนนานแล้วเหลือเกิน…
ผม…โง่เหลือเกิน ที่ปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่หมดลงโดยไม่รู้ค่า…
มันจะนานสักแค่ไหนเชียว? ผม…จะมีโอกาสได้เจอหน้าพ่ออีกสักครั้งมั้ยนะ?…
ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมตอนนี้พ่อที่ผมออกจะเกลียดด้วยซ้ำ…ถึงทำให้ตัวตนของผมข้างในอบอุ่นได้มากมายขนาดนี้ ความทรงจำที่ดีๆดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น…จนผมลืมเรื่องราวร้ายๆทั้งหมดเกี่ยวกับตัวพ่อออกไป
อยากตะโกนออกมาดังๆ!!!
ชิพพาผมนั่งลงที่เตียงก่อน มันหายไปสักพัก กลับมาพร้อมกับช็อคโกแลตอุ่นๆ…ผมคว้าผ้าห่มนุ่มมากอดไว้ เอนตัวลง…สายน้ำตาไหลรินลงบนปลอกหมอน…กลิ่นอายของชิพที่ติดอยู่บนที่นอนเขย่าสติผม…นี่ ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงของชิพ ไม่เห็นว่ามันพูดอะไร
ชิพนั่งลงถอดรองเท้าให้ ถุงเท้า เข็ดขัด คลายปกคอเสื้อให้ ก่อนจะทอดตัวลงมาเคียงข้างผม…กอดผมไว้จางทางด้านหลัง หลับตาลง…และเปิดรับความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอย่างเต็มที่…
“เอาล่ะ ทีนี้จะเล่าให้ฟังได้หรือยัง ฮื้อ?”
ผมพรั่งพรูทุกอย่างออกมาจากปาก ความในใจทั้งหมด ทั้งที่เกี่ยวกับมัน…และเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบอย ว่าผมอยากแลกตัวเองกับเงินของบอย ผมทำตัวเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีมากแค่ไหน
เรื่องที่ทำงาน…ผมโดนพี่โศด่าว่าเพียงเพราะผมลืมเอาเอกสารให้พี่เอกเซ็นท์แค่เล่มเดียว
เรื่องเงิน…เงินที่ผมต้องช่วยแม่หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ไหนยังจะต้องค่ารักษาพยาบาลของพ่ออีก
เรื่องของพ่อ…ว่าพ่อคนเดียวของผมป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และผมอาจจะไม่มีโอกาสได้อยู่กับพ่ออีก…ไม่มีเวลาชดเชยสิ่งที่ผมขาดหายไปตลอดช่วงเวลายี่สิบสองปี ทั้งชีวิตของผม…ที่เข้าใจผิดในตัวพ่อมาโดยตลอด บัดนี้ผมกำลังสูญเสียพ่อไป อย่างไม่มีวันกลับมา
นอนพูดๆๆจนเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วไม่รู้ รู้สึกหนาว ห้องทั้งห้องแลดูมืดสนิท…
“หนาวเหรอ?”
มันกระชับอ้อมแขนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งห่มผ้า ผมพลิกตัวเข้าสู่อ้อมอกของมัน
“นี่กี่โมงแล้ว?”
“ตีสาม”
ผมขยับตัว แต่ชิพไม่ให้ลุก ผมร้องประท้วงเบาๆ
“ชิพ…กูจะกลับบ้าน”
“แต่ไหนมึงบอกว่าจะขอค้างที่นี่ไง…”
ภายในความมืด…ผมเงยหน้าขึ้นสบตามองมัน พอมองเห็นลางๆสลัวๆ ดวงใจของผมเริ่มเต้นตึกตัก…ดวงใจของมันภายใต้ฝ่ามือของผมก็ระรัวกลองเร็ว-ช้าเท่าๆกัน ผมเอื้อมมือขึ้นค่อยๆลูบใบหน้าของชิพ ผ่านดวงตา ผ่านสันจมูกโด่ง ผ่านริมฝีปากหยักอย่างคนดื้อรั้น…หยุดไว้ที่ปลายคาง
“ขอบคุณนะ…”
“ไม่เป็นไร”
ชิพกระซิบแผ่ว…
“ชิพ...กูไม่ต้องการเหตุผลของมึงอีกต่อไปแล้ว กูจะพยายามลืมเรื่องที่แล้วๆมาของเรานะ เพราะกูยังรักมึงอยู่ และมันเจ็บ...ถ้านี่คือเวลาที่เราสองคนควรคืนดีกัน…รับปากได้มั้ยว่าหลังจากนี้…จะไม่หนีไปไหนอีก”
ใช่…เจ็บมาก ผมทรมานตัวเองมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา
จู่ๆน้ำตาก็รื้นขึ้นมา…ชิพเองก็น้ำตาคลอหน่วย
ตัดสินใจแล้ว…ไม่ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานแค่ไหน เป็นยังไงมาก็ตาม ผมพยายามจะลืม…ลืมความคั่งแค้นเหล่านั้นเพื่อมัน…อย่างน้อยก็คืนนี้
“ได้ซิ…กูจะอยู่กับมึงจนถึงเช้า”
“มึงบอกกู…ว่ามึงยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?”
“…แดน กูรักมึง…จะนานแค่ไหน…ไม่ว่ามึงจะเป็นยังไง กูก็จะยังรักมึงตลอดไป”
ผมค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าหามัน พบกันครึ่งทาง…รสจูบที่นุ่มนวล ความรู้สึกอิ่มเอมแตกซ่าออกเหมือนพลุ สัมผัสของมันเร่าร้อน…ผมคิดถึงมันมากมายเหลือเกิน
ใจช้ำๆเต้นไม่เป็นจังหวะ ตึกตัก…ตึกตัก
เหมือนโดนฉุดขึ้นสูง โบยบินในอากาศ...ตกลงมาช้าๆภายในอ้อมกอดมั่นคงอบอุ่น
ในขณะหนึ่ง อารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าขึ้นเป็นเพราะหลังจากที่เจอเรื่องร้ายๆมาทั้งวัน ตอนนี้ผมต้องการปลดปล่อย…
น่าตกใจ ที่ชิพทำให้ผมเกิดความต้องการได้รุนแรงขนาดนี้!
มือของผมสอดเข้าไปในชุดเสื้อลำลองของมัน ริมฝีปากเริ่มรุนเร้ามากขึ้น ความรู้สึกที่อยากครอบครองมันทั้งกายและใจปะทุอย่างบ้าคลั่ง และผมก็ไม่สามารถระงับได้ ไม่ได้ในขณะที่เรากำลังจูบกันอยู่แบบนี้…
ผมผลักมันออก สีหน้าผิดหวังสุดๆจนผมอดขำไม่ได้ แต่เพียงแค่ต้องการเอนร่างของมันให้นอนหงายสบายๆ…ผมปลดกระดุมกางเกงของชิพออก…
ชิพมองด้วยสีหน้าครึ้มอกครึ้มใจ+หัวเราะเบาๆ ครั้นเมื่อผมแตะปลายลิ้นอุ่นร้อนลงไป…มันก็ครางกระหึมแทบจะทนไม่ไหว สั่นไปทั่วร่างกาย
รู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเหมือนกันแหละที่ในที่สุด…ผมก็มีอำนาจเหนือมันสักที
แลบลิ้นเลียปากช้าๆ แตะปลายลิ้นลงไป จูบส่วนยอดที่มีปฏิกิริยารุนแรงมากที่สุด…เชื่อมั้ยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การจ้องมองตาระหว่างเราสองคนตลอดเวลา และนั่นยิ่งเพิ่มความเร้าอารมณ์ขึ้นไปอีก ชิพยิ้มกริ่ม…ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นแหยเกขึ้นเรื่อยๆ ผมเฝ้ามองอากัปกิริยาของชิพที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ อืม…ดูเหมือนว่าเวลาที่ผ่านมาชิพได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างมาไม่น้อยเลยทีเดียว
ชิพอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ผมลูบแผงอกกับหน้าท้องบนลำตัวยาวของมันแผ่วๆขณะกำลังปรนเปรอมันอยู่นั้น ชิพพยายามเคลื่อนสะโพกเข้าหาตัวผมด้วยแรงปรารถนา
ฮึๆ…ไม่ใช่แค่นี้ ผมจับจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เปียกลื่นไปหมดแนบกับใบหน้า หลับตาลง ให้มันรู้สึกได้ถึงผิวอันร้อนผะผ่าวของผม
“พะ…พอ พอก่อน”
เอางั้นก็ได้…แต่ไม่จบแค่นี้หรอกนะ ละออกมาจากช่วงล่างของชิพแล้ว…ของเหลวบางส่วนก็ยืดติดปากผมมาด้วย ผมลุกขึ้นคร่อมตัวชิพเพื่อต้องการแบ่งปันรสชาตินี้กับมัน…จูบมันหนักหน่วงทีหนึ่ง เปลี่ยนเป็นหยอกเย้าแผ่วเบาอีกทีสลับสับเปลี่ยนกันไป ทำให้ชิพแทบจะต้องกัดยึดริมฝีปากของผมไว้เพื่อไม่ให้แกล้งทรมานมันอีก
ชิพเอนหน้าเข้ามาอย่างไม่อยากอิ่มตอนนี้…แต่ผมหลบมัน และมุ่งตรงไปที่ยอดอกแข็งๆที่บัดนี้ ทั้งสองข้างนั้นเปียกลื่นเกร็งเขม็งเป็นที่เรียบร้อย
อย่าให้ผมต้องอธิบายเลยว่าชิพครวญครางไม่เป็นศัพท์แค่ไหน…>///<
แต่แล้วชั่วเวลาทีเผลอ ชิพที่สลัดเสื้อผ้าเหลือแต่ตัวเปล่าล่อนจ้อนตั้งกะตอนไหนไม่รู้ดึงผมขึ้นมากอดไว้ มือรนๆของมันพยายามหาทางปลดเสื้อผ้าของผมบ้าง ทว่า…
มันกลับดึงทึ้ง ฉีกเสื้อของผมขาดดังแคว๊ก!!!
“ชิพ!”
“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่ ไม่ต้องห่วง”
ว่าแล้วมันก็ทำตามอำเภอใจต่อ แง T_T ไม่อยากได้เสื้อใหม่ง่ะ เสียดาย
…>////////<!!!
วินาทีที่ชิพค่อยๆประสานตัวเข้ามา ความเจ็บปล๊าบนั้นทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย…ชิพโน้มตัวลงมาจูบผม ไล้แก้มแดงๆ…ผมรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของของชีพจรชิพ ซึ่งอยู่ในตัวของผม…ตุบๆ…ตุบๆ…เหมือนเลือดจะพากันไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงแต่ตรงนั้น ทำให้ทุกอย่างช่าง…ใหญ่โต แทบสัมผัสได้ว่านี่คือความจริง…จริงแค่ไหน ไม่ใช่ฝัน
เหมือนศูนย์กลางโลกทั้งใบอยู่ในตัวผมแล้ว ตอนนี้
ชิพไถลตัวเข้ามาช้าๆ แค่ครึ่งทางเท่านั้นแหละ มันก็พรวดเข้ามาจนหมด จ๊ากส์!!!=_=”…ทำให้รู้สึกโหวงๆไปได้ชั่วขณะ แถมแล้วยังมาถอนหายใจหนักๆอยู่ข้างใบหูผมด้วยนะ -_-“
จากนั้นชิพจึงเริ่มขยับกาย ขอร้องเถอะ…อย่าให้ผมต้องอธิบายไปมากกว่านี้เลย
เอาเป็นว่าท่อนขาของผมชี้สะเปะสะปะไปหมดทุกๆจังหวะ
“ชิพ…ชิพ…”
“พูด พูดซิ…พูดซิว่ารักแค่ไหน”
“กูรักมึงชิพ…รัก…รักมึงคนเดียว…”
…ร้อน…ร้อนไปหมด คล้ายอยู่บนเตาถูกจุดไฟเผา…
เสียงครวญครางของผมเรียกชื่อชิพกระเส่า…เหงื่อที่ปกคลุมใบหน้าชื้นระเหยออกไปอย่างรวดเร็วด้วยแอร์เย็นๆ ไอความร้อนที่ออกมาจากลมหายใจของชิพรินรดผิวกายของผม จนปลายประสาทและกล้ามเนื้อสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
ความอุ่นร้อนอย่างกับราดด้วยน้ำเดือดหลั่งไหล…จุดสุดยอดที่แตกซ่านเหมือนภูเขาไฟระเบิด อยู่ในตัวผม ไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน…ผมต้องกอดมันไว้ จิกแผ่นหลังมันเมื่อคลื่นความเสียวซ่านซัดกระแทก…หลังจากนั้นเราก็จ้องตากันด้วยความเหนื่อยอ่อน อย่างน้อยๆผมก็ขับเคลื่อนต่อไป…นับครั้งไม่ถ้วนเลยเท่าที่จำได้…
สัมผัสอุ่นๆทำให้ผมลืมตาขึ้น อืม…ง่วงจังเลย~~~
“ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงใหญ่ที่ง่วงงัวเงียไม่แพ้กันดังขึ้น…ชิพกอดผมเอาไว้จากทางด้านหลังหลวมๆ…บนเตียงอุ่นหนา แผ่นหลังของผมแนบกับแผงอกกว้างของมัน จะว่าไปแล้วรูปร่างของชิพไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากห้าปีก่อนสักเท่าไร มันก็ยังคงหุ่นฟิตปั๋งเยี่ยงนักกีฬาไว้ ทว่าอายุที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้มันยิ่งดูเซ็กซี่ เสียงทุ้มๆที่กลายเป็นหนุ่มสมบรูณ์ก็ฟังแล้วอบอุ่น มั่นคงดีจัง…
“…ชิพ ทำไมกูถึงคิดถึงมึงจัง”
เอ่อ…เชี้ย!!!!...หลุดปากอีกแล้ว โธ่เว้ย>>>>ไอ้โรคปากมากจอมทรยศเนี้ยเมื่อไหรจะรักษาหายสักทีว่ะ =_=”***
“กูก็อยู่นี่แล้วไง”
ผมแอบยิ้มขำๆ(นอนหันหลังให้มัน) เออ จริงซิเนอะ ชิพกำลังนอนอยู่ข้างๆผมแล้ว…ดีใจจังที่มันไม่ใช่คนอื่น
“แอบยิ้มอยู่เหรอ?”
ชิพชะโงกหน้ามาดู ผมซ่อนยิ้มไว้ไม่ทันซะแล้ว >.<
“มาจูบให้หายชื่นใจซะดีๆ”
แล้วมันก็จูบผม…เป็นจูบที่งดงาม อ่อนหวาน จนน้ำตาแทบไหล TT_TT
เราใช้ช่วงเช้าทั้งหมดเสียเปล่าไปกับการนอนก่ายกันบนเตียง มันเล่าเรื่องที่ไปเรียนอยู่อเมริกาให้ผมฟัง ในนิวยอร์คมีข้าเต่าเก่าเลี้ยงของย่ามันอาศัยอยู่ ซึ่งไว้วางใจได้และย่ามันมีพระคุณอยู่ท่วมหัว…ชิพเลยไปอาศัยอยู่ที่นั่น แล้วได้รู้จักกับแอล แต่ไอ้หมอนั่นมันขอร้องพ่อแม่ไปเรียนเอง พอจบไฮสคลูก็บินกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยของเมืองไทย งงเหมือนกันแหละ…แต่ไม่อยากซักถามเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม
“นี่กี่โมงแล้วอ่ะ” ฮ้าววว…กรูอยากนอนต่อง่ะ เพลียจังเลย =_=
“สิบโมงครึ่งแล้ว”
“สายแล้วซิเนอะ…เฮ้ย!”
ผมลุกพรวดรีบไปเกาะอยู่ตรงกระจกหน้าต่าง ถืองี้ครับ เตียงไอ้ชิพเป็นคล้ายๆกับฟูกที่อยู่บนยกพื้นทำจากไม้เล่นลูกเล่นต่างระดับ มีกระจกบานเบ่อเริ่มทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพฯรอบๆได้ชัดเจน ตายห่า~~~รถติดชิบหาย กว่าผมจะไปถึงที่ทำงานต้องสิบเอ็ดโมงกว่าแน่ๆ งานนี้นอกจากจะโดนด่าแล้ว…อาจมีสิทธิโดนประเมินไม่ผ่านแหงมๆเลย TT^TT…
แต่ไอ้เวงชิพดันจับกดลงนอนต่อ คราวนี้มันไม่นอนเฉยๆแล้ว แต่หอมแก้มผมอย่างถือวิสาสะ มือใหญ่ป่ายเปะปะไปมา
“ลุกไปแบบนั้น…กูมองเห็นวิวไม่ชัดเลยน๊า~~”
ไอ้บ้า ไอ้ลามก…เห็น***(เซ็นเซอร์)กรูล่ะซิไม่ว่า
“เฮ้ยชิพ~~~ปล่อยกู กูต้องไปทำงาน~~~”
“อืม…บริษัทของกู มึงจาไปทำเมื่อไหร่ก็ได้”
เอาอีกแล้วนะ ไอ้ชิพภาคเด็กดื้อเอาแต่ใจ…ผมถูกมันกอด ร่างเปลือยเปล่าของเราบดเบียดกันและถูไถไปมา ผิวมันแมร่งโคตรเรียบ~~~เย็นๆ…ผมหันกลับไปมองหน้าตาอิดโรยจากการอดหลับอดนอน เย้ย!!! แล้วมรึงยังหื่นได้อีกหรือว่ะไอ้ชิพ??? O[]O!!
หื่นไม่หื่นไม่รู้อ่ะ…แต่ไอ้ชิพดันของแข็งๆเข้ามาจ่อรอเล่นซุกซนแบบเดิมอีกแล้ว…ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน โหยยยย แต่กรูเล่นกับมรึงไม่ไหวแล้วโว้ย!!!
“แต่ชะ…ชิพ กูไม่สบาย”
“ทำไม? ตัวร้อนเหรอ?”
“อืม” น้ำเสียงของมันตกใจ และรีบเอามือเข้ามาอังหน้าผากของผมทันที มันจะรู้มั้ยนะว่าผมมีความสุข…สุขใจที่มันคอยห่วงใยผม
“เป็นอะไรมากมั้ย?”
เชรี่ย มันจูบหน้าผากเหมือนกะผมเป็นเด็กๆ o_O*
“ไม่หรอก ก็เพราะเมื่อคืนเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนทั้งคืนน่ะซิ”
ผมตอบอายๆ…ชิพทำหน้าถึงบางอ้อ ยิ้มพลางอุ้มตัวขึ้นไปวางบนตักมัน(<<<ท่าโปรดมันน่ะซิ =_=”)
“เฮ้ย! อีก…อีกรอบเหรอ”
ชิพหัวเราะ “อืม แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ?”
“งานไง!”
“ไหนบอกว่าไม่สบาย…คนป่วยจริงเดี๋ยวหมอชิพรักษาให้ รับรองเข็มเดียว…อยู่”
ไอ้บ้า! (=U=) ที่กูป่วยน่ะเพราะว่าจะบ่ายเบี่ยงเอ็งต่างหาก…เฮ้อ ดันโดนไอ้ชิพดักทางเอาไว้ซะได้ ซวยแน่เลยตูงานเนี้ย -_-“…
มันขบติ่งหูเบาๆ ก่อนจะรุกล้ำเข้ามาโดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว…อ๊ากกก%%~~~ชิพกลับหัวเราะชอบใจ แต่กรูไม่ชอบใจไปกับมรึงด้วยหรอกนะ!~~~…เสียงมันร้อง ‘อ๊าส์~~~’ โคตรหื่นได้ใจผมมาก เพราะรู้ว่าผมไม่เคยต้านทานมันได้นานเกินสิบนาที…มันยิ่งแกล้งผมโดยการดูดเบาๆที่ข้างลำคอ ส่วนตัวผมก็เบียดกับมันมากขึ้น มากขึ้น…เกลียดมันเจงๆนะเนี้ยเวลาชิพทำกับผมแบบนี้อ่ะ… เฮ้อ >///<
โปรดติดตามตอนต่อไป