CHAPTER 28
เวลาแม้จะผ่านไปยาวนาน ความทรงจำบางอย่างไม่ค่าและไม่ควรจะไปรื้อฟื้นมันอยู่ซ้ำๆ…
“คืนนี้แล้วนะวริณ นายยังจำอะไรไม่ได้เลย”ผมบ่นกับตัวเองขณะที่กำลังยืนชงกาแฟอยู่ในครัว ประตูบานใหญ่ถูกแง้มออก ผมวางถ้วยกาแฟร้อนๆลงบนโต๊ะทำงานที่เพล้นพล่านไปด้วยเอกสารกองโต คิ้วหนาขมวดกันเป็นปมในขณะที่มือแกร่งกำลังตวัดลายเซ็ฯลงบนเอกสาร
“คุณไฟคงลืมสัญญาไปแล้ว”ผมคิดร้องบอกในใจด้วยความปิติ แต่ในขณะหนึ่งผมก็แอบน้อยใจ ที่คุณเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจผมเลยตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ทั้งๆที่คำพูดมันต่างกับการกระทำแทบทุกอย่าง…
คุณไฟคอยแกล้งผมสารพัด หลังจากตะวันตกดินก็มักจะเข้ามาที่ห้องถามว่าผมเป็นอะไรไหม?
คุณไฟชอบพาคุณอริสาเข้ามาทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ แต่คุณไฟบอกว่าเธอเป็นแค่เลขาในบริษัท
คุณไฟชอบดุผมให้ตกใจอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นคุณไฟก็จะเข้ามาปลอบประโลม…
ผมไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายตรงหน้าเท่าไหร่นัก ยิ่งคิดก็เหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตอธิป หรือคุณไฟ ประธานบริษัทและธุรกิจโรงแรมที่ทำรายได้ให้มหาศาลนั้นจะมาตกหลุมรักผมเพียงแค่เด็กกำพร้าลูกติดคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรดีเลิศตรงไหนเลย หน้าผมก็แทบจะเรียกได้ว่าธรรมดา ออกจะค่อนผอมไปหน่อย นิสัยผมเองก็แทบจะจืดชืด เหมือนแกงต้มน้ำที่ลืมใส่เกลือ
“จะยืนจ้องหน้าผมตรงนี้อีกนานไหม?”เสียงทุ้มกล่าว พร้อมกับใบหน้าคมสันเงยขึ้น ผมสะดุ้งตื่จากภวังค์ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา ปากบอกว่า ‘ไม่มีอะไร’
“คืนนี้ผมต้องออกไปงานเลี้ยงข้างนอก นายต้องไปกับฉันด้วยเข้าใจนะ”
“ครับๆ”ผมรีบตอบรับ ก่อนจะเดินออกไป คุณไฟคงจะลืมเรื่องของผมจริงๆแล้ว เรื่องของผม ผู้ชายอย่างผมจะมีค่าสักเท่าไหร่เท่าไหร่ผู้ชายคนนั้นกันนะ…
“วันนี้พ่อดินแต่งตัวหล่อจังจะออกไปไหนเหรอฮ่ะ”น้ำเสียงใสแจ๋วของแซมหันมาถามผมจากโต๊ะการบ้านกองโต ผมล่ะสายตาจากกระจกก่อนจะหันไปตอบแซม
“ไปงานเลี้ยงกับคุณไฟน่ะ แต่แซม พ่อเห็นทำการบ้านอยู่หลายเที่ยวแล้ว ทำไมมันถึงยังไม่เสร็จสักทีล่ะ?”ผมถามด้วยความแปลกใจ ปกติแซมเป็นเด็กขยัน แต่ช่วงนี้คุณครูกลับเตือนเขาเรื่องการบ้านว่าแซมทำงานส่งไม่ตรงเวลา ทั้งๆที่หลังจากกลับมาจากโรงเรียนแซมก็มักวิ่งขึ้นห้องและรีบทำการบ้านทันที
“ก็…ก็การบ้ามันเยอะนี่ฮ่ะ อีกอย่างแซมก็ช่วยทำโจทย์ให้เพื่อนที่ไม่เข้าใจด้วย”แซมตอบยิ้มๆ ผมพยักหน้ารับรู้โดยที่ไม่ค่อยได้คิดอะไรมากนัก คุณไฟชอบดุว่าผมน่ะมันซื่อ มักจะเชื่อใครง่ายๆและครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่แซมโกหกผมโดยที่ผมไม่ได้เอะใจอะไรเลย…
“คุณไฟครับ…”
“อ้าวดิน มาช่วยฉันเลือกชุดหน่อยสิ”คุณไฟในชุดคลุมอาบน้ำกำลังยื่นเสื้อเชิ้ตเท่ส์ๆสองสามชุดให้ผม ก่อนจะยิ้มหน้าบาน
“สีชมพูอ่อนนี้เหมาะกับคุณไฟดีนะครับ”ผมส่งไม้แขวนเสื้อให้ คุณไฟยิ้มอีกครั้งก่อนจะยื่นมือรับ เรียวปากบางเอ่ยถามผมอย่างสนใจ
“สีชมพูอ่อนหวานแบบนี้เหรอเหมาะกับฉัน?”คุณไฟทำหน้าเหมือนไม่เชื่อแต่ก็กำลังปลดกระดุมมันขึ้นอย่างตั้งใจ
“ครับ เพราะคุณไฟหน้าดุๆ ใส่เสื้อผ้าแต่สีมนๆทำให้คุณไฟน่าเกรงขาม แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นสีสดใสบ้าง คุณไฟก็ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีนะครับ”ผมอธิบาย เมื่อเห็นคุณไฟในชุดเชิ้ตที่ชมพูอ่อนก็อดชื่นชมไม่ได้ ทำไมผู้ชายตรงหน้าถึงได้เกิดมาเพียบพร้อมขนาดนี้นะ
“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง แต่สาวๆในบริษัทเขามักจะชมว่าฉันน่ารักนะ”คุณไฟยิ้มมุมปาก ผมยิ้มรับน้อยๆ สาวๆสวยๆคงทำให้คุณไฟลืมผมคนนี้ไปซะแล้วมั้ง
“จะสายแล้วนี่ ไปกันดีกว่านะ”
“ครับ”ผมเดินตามไปโดยมีหนาๆของคุณไฟจูงผมไปด้วยตลอดทาง ผมนั่งอยู่ในรถคันหรูโดยมีคุณไฟเป็นคนขับ อากาศในรถเย็นเชียบ จนผมต้องกอดอกคลายความหนาว คุณไฟยิ้มในความมืดก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าพันคอสวมให้ผมขณะที่รถยังติดไฟแดง
“ขอโทษนะที่พานายออกมาตากแอร์ตอนดึกๆแบบนี้”คุณไฟบอก ทอดสายตาไปข้างหน้า ผมกำผ้าพันคอไว้อย่างหลวมๆ แม้จะเป็นแค่ผ้าผืนเล็กๆแต่ก็สามารถทำให้ผมอุ่นขึ้นมาได้อย่างประหลาด
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะความเปียกชื้นที่ริมฝีปาก คุณไฟกำลังปลุกผมด้วยรสจูบที่อ่อนโยน ก่อนจะหยุดลงและจ้องมองผม
“ดิน…”
ครืดดด…
“เสียงทะเล…ทะเลเหรอครับ?”ผมรีบลุกขึ้นจากเบาะนั่ง มองไปรอบๆ ทะเล…หาดทรายมีแสงไฟถูกปักไปล้อมรอบ ผมตื่นเต้นจนลืมจูบของคุณไฟที่มอบให้ผมชั่วครู่ คุณไฟจูงมือผมลงไปที่ชายหาด ผมเห็นโต๊ะอาหารตั้งอยู่พร้อมกับดอกไม้ช่อโต ผมหันไปมองคุณไฟอย่างประหลาด ก่อนจะตาโตเมื่อคุณไฟคุกเข่าลงต่อหน้าผม…
“ดิน คุณยังจำ 3 เดือนที่ผมเคยพูดกับคุณได้ไหม แม้มันจะเป็นการบังคับคุณก็ตาม ผมแกล้งคุณสารพัด เพื่อที่อยากจะให้คุณจำผมได้ แต่สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์เมื่อในหัวใจของคุณนั้นลืมผมไปแล้วจริงๆ”คุณไฟหยุดพูดก่อนจะจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง ผมก้มลงมองความแวววับในดวงตาของคนตรงหน้า คุณไฟจุมพิตเบาๆที่มือของผม ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับแหวนเพชรแบบผู้ชายเรียบๆสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายผมอย่างบรรจง ……………………………………………………………….
“เรามาแต่งงานกันเถอะนะวริณ…ตลอดเวลาที่ผ่านมา หัวใจของผมรู้แล้วว่ามีแต่คุณเท่านั้นที่เป็นเจ้าของหัวใจของผม ผมไม่สามารถใช้หัวใจของผมรักใครได้อีกนอกจากคุณ…”
“คุณไฟ”
“หืมม”
ครืดดดดด….
“พี่ไฟ…”
“คุณคือคนในความฝันของผมเหรอครับ?”ผมรู้สึกจุกในลำคอพร้อมกับความเอ่อล้นของขอบตา
คุณไฟดึงผมไปกอด ก่อนจะร้องไห้ ผมมองทะเล ที่นี่เป็นทะเลแรกในสายตาของผม และเป็นทะเลแห่งแรกที่ผมจำได้อีกครั้ง ผมกอดตอบคุณไฟ ผมจำพี่ชายในฝันของผมได้ตลอดทั้ง 1 ปี การเดินทางที่แสนยาวนานของผม พี่ชายที่ผมลืมไปเสียแล้วเมื่อวัยเด็ก เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมรัก และเป็นคนแรกที่ผมลืม สุดท้ายเมื่อผมตื่นจากฝัน คุณไฟก็ยังเป็นผู้ชายคนแรกที่ผม…
‘จะรัก’
ผม…อธิป วรโชติโภคิน
เติบโตมาครอบครัวของตระกูลที่ขึ้นชื่อว่า‘ร่ำรวย’
ผมเป็นลูกที่คนเดียวที่ขึ้นชื่อว่า ‘เอาแต่ใจ’
ผมมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวชื่อ ‘ไอ้กร’
ผู้หญิงที่ผมรักนอกจากแม่ คือ ‘มินตรา’ นางฟ้าในใจผม
เรารักและคบกันตั้งแต่ปีแรกที่ผมเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
ผมหลงระเริงกับความรักจนหลงลืม ‘เด็กขายพวงมาลัย’
มันชอบเรียกผมว่า ‘พี่ไฟ’
เด็กผู้ชายคนนั้นห่างหายจากผมไปตลอดกว่า 5 ปี ผมกลับมาจากต่างประเทศเพราะต้องมารับกิจการจากพ่อและแม่ที่ประสบอุบัติเหตุ และไม่นานผมก็เริ่มสนใจใน ‘พ่อบ้าน’ ของผม
‘พ่อบ้าน’หน้าตาซื่อๆบื่อๆทำให้ผมไม่สามารถละสายตาที่จะมองเขาไม่ได้ พ่อบ้านที่มีลูกติดเป็นเด็กชายตัวน้อยตาใสแจ๋ว สมกันดีที่เป็นพ่อลูกกัน ผมแอบทึ้งในความใจดีของพ่อบ้านผมไม่ได้ ที่อุสส่าห์แอบเด็กน้อยคนนั้นมาเลี้ยงทั้งๆที่ตนเองก็ลำบากจนแทบจะกัดก้อนเกลือกิน และพ่อบ้านคนนี้ ก็เป็นคนรักคนสุดท้ายของผมเสียด้วย พ่อบ้านกับเจ้าเด็กพวงมาลัย คนนั้นเหมือนแก้วที่บริสุทธิ์แม้เวลาจะนานผ่านพ้นไปสักกี่ปี เราทั้งสองก็เหมือนสิ่งที่คู่กัน แม้จะห่างกัน แต่โชคชะตาก็มักจะเล่นตลกกับเราจนไม่น่าเชื่อ…หัวใจน้อยๆของผม
ผมใช้แขนแกร่งของตัวเองกอดรัดคนที่ซุกตัวในอกด้วยความหมั่นเขี้ยว ผิวขาวมีรอยจ้ำแดงๆเพราะน้ำมือของผม ผมยิ้มกับตัวเองอีกครั้ง ที่สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดี ตอนนี้ดินเป็นคนรักของผมอย่างสมบูรณ์ ดินกลับมาจำผมได้อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เขาจำได้แค่บางเรื่องเท่านั้นเอง…
“Morning Kiss”ผมก้มลงจูบเบาๆลงบนริมฝีปากแดงจ้ำห่อเลือด ดินหน้างอ ก่อนจะผลักอกผมให้ออกห่าง
“คุณไฟ…ผมช้ำไปทั้งตัว”วริณดุผมด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พลางทรุดตัวโอดครวญกับเตียง ผมพลิกร่างบางของวริณให้นอนหงาย เพราะหายใจได้สะดวกกว่า แก้มนุ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกว้าง ผมลูบเส้นผมนุ่มอย่างหลงใหล ก่อนจะไล้ริมฝีปากลงมาถึงยอดอกสีสด เสียงครางกระเส่าเบาๆทำให้อารมณ์ผมกระเจิงอีกครั้ง ผมจูบหนักๆลงที่ท้องน้อยของวริณเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นสภาพของวริณตอนนี้แล้วก็อดสงสารไม่ได้ เมื่อผมก็ใจร้อนมากเกินไป ไม่ปล่อยให้วริณหยุดพักเลยสักนิด กว่าจะหยุดกิจกรรมก็แทบจะโต้รุ่ง หากลุยตอนเช้าอีกมีหวังผมต้องแบกวริณเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่หัววันเป็นแน่
“เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้ทานดีกว่านะ”ผมว่า พลางมองใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อชัดขึ้นเรื่อยๆ
“คุณไฟ…ผมไม่เป็นไรหรอก หากคุณใจเย็นลงสักนิด”วริณจ้องมองเป้ากางเกงที่นูนเด่นชัดของผม พลางหลบสายตา ผมขยี้หัววริณอย่างเอ็นดู ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากบางอีกครั้ง
“ไม่ไหวหรอก สภาพแบบนี้ !”ผมว่าล้อๆ ก่อนจะโดนตบลงบนไหล่ วริณยิ้ม ก่อนจะยกผ้าห่มคลุมโปงด้วยความอาย ร่างบางบิดไปมา ผมยิ้มย่อง ก่อนจะเลิกตาขึ้นและจัดการกับวริณอีกครั้ง…
ถ้าเธอเป็นดังพระจันทร์ที่ลอย อยู่บนท้องฟ้ากลางดาวดวงน้อยใหญ่
ที่ฉันนั้นยังไม่เคยเจอ แต่รู้แค่เพียงว่ามีเธอ
ค่ำคืนไหนที่ฉันต้องเข้านอน ตื่นมาตอนเช้าโดยไม่มีใคร
ก็รู้ว่าในช่วงกลางวัน ไม่ต้องมองเห็นพระจันทร์ก็ยังอยู่
ก็ถึงเรายังไม่พบกัน มีเธออยู่จริงเหมือนดังพระจันทร์ก็พอ
Morning moon
The end
…จบไม่บริบูรณ์…
....................
หายกันไปนานมากกกกกกกกกกกก ยังมีคนอ่านหลงเหลืออยู่ไหมเนี่ย คนอ่านที่รักค่ะ อ่านตอนนี้สุดท้ายที่ยังไม่บริบูรณ์นี้
ก็ช่วยเม้นหน่อยนะคะ เพราะแจงจะได้มีกำลังใจมานั่งอัพตอนพิเศษของเด็กๆให้เนอะ
