โจ้-แซม
ร้ายนัก แต่รักนะ 1
จุ๊บบ บ,,,
หืมม ม,,,
“คุณไฟ พอเถอะครับ ผมครั้นเนื้อครั้นตัวไปหมดแล้ว…”เสียงโอดครวญส่งเสียงเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากหมอนใบหน้า พลิกตัว
ขึ้นจ้องเจ้าของใบหน้าคมที่ตื่นอยู่ก่อนแล้วไม่นาน
ฟอดดด,,,
“ก็คุณน่ารักซะขนาดนี้หนิ วันนี้เป็นวันหยุดนะ เราน่าจะเต็มอิ่มกับ…”พูดไม่ทันจบริมฝีปากหนาก็ลอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ กับคนตรง
หน้าที่เริ่มจะอายม้วน
“ตาแก่บ้ากาม!”
“ดินคุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ ในฐานะที่ผมเป็นเจ้านาย ผมจะขอลงโทษคุณในฐานทำให้ผมไม่พอใจ กับหยุดยาวแบบนี้”
“งั้นในฐานะคนรัก ผมจะลงโทษคุณ งดเรื่องอย่างว่าวันหนึ่ง ในฐานคุณทำให้ผมเจ็บระบบไปทั้งคืน!”
“โถ่ วริณณณ ไม่เอาอย่างนี้นะ ผมล้อเล่นนะ”คนตัวโตพูดอย่างเง้างอน ก่อนจะไซร้จมูกโด่งๆคลอเคลียกับลำคอขาวนวล
“ไม่รู้แหละ ก็ผมสั่งให้หยุดคุณก็ไม่หยุด…”ทำหน้างอนแล้วก็พลิกตัวกลับไปฟุบกับหมอนต่อ
“ไม่เอานะ!!! วริณณณณ ผมขอโทษษ …อย่าทำแบบนี้กับผมนะ”
“เสียงเอะอะโวยวายดังลงมาถึงชั้นล่าง ไม่รู้ว่าคุณดินงอนอะไรคุณไฟอีกนะคะเนี่ย”ยายชรายิ้มแป้น ก่อนจะรินน้ำลงในแก้ว
“ยายอรครับ ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวไปสบายๆเปล่า”เด็กหนุ่มลุกขึ้น พยุงร่างที่เหี่ยวย้นไปตามกาลเวลาให้นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง
ตน
“ยายเต็มใจค่ะ เห็นทุกคนในบ้านมีความสุข ยายก็มีความสุข ตายไปก็คงหลับสบายหายห่วง”
“ไม่พูดแบบนี้สิครับ ยายอรนะต้องอยู่กับผมไปนานๆนะ ไม่พูดล่ะงั้นทานโจ๊กเป็นเพื่อนแซมนะครับ พ่อดินกับพ่อไฟคงจู๋จี๋กันบน
ห้องไม่เสร็จ…ชิ”
“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าไปสนใจเรื่องของผู้ใหญ่เลยคะ คุณไฟกับคุณดินคงทำธุระกันอยู่ด้านบน”ยายอรพูดอย่างปิดไม่มิด
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ เรื่องแบบนี้น่ะ เฮ้อ”เด็กหนุ่มวัย 17 เบ้ปาก ทุกคนในงานทำเหมือนเขาเป็นหนูแซมตัวเล็กๆตลอดเลย
“ค่ะๆ แล้ววันนี้คุณแซมลงมาแต่เช้าแบบนี้ มีธุระอะไรเหรอเปล่าค่ะ”
“อ่อ ผมนัดกับเพื่อนไว้น่ะครับ เดี๋ยวเขามารับ บ้านอยู่ห่างออกไปไม่ไกล สัก 2 กิโล ได้มั้งครับ”
“อ่อค่ะๆ งั้นยายขอตัวไปดูความเรียบร้อยในครัวก่อนนะคะ นั่งแจ๋วมันทำอะไรไม่รู้ เสียงดังลั่นออกมาจากครัว”
“อ่า ครับๆ”
-RT-
“มารออยู่หน้ารั้วประตูบ้านเนี่ย ออกมาเร็วๆเลยนะ รออยู่…”
ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดๆ
ตัดสายไปแล้วซะงั้น…
ผมรีบเก็บจาน ชาม เข้าครัว โดยมียายอรกำลังบ่นแจ๋วที่ซุ่มซ่ามทำข้าวของแตกจนหูชา ผมหยิบลูกบาส วิ่งไปที่รั้ว ลุงชัยเปิด
ประตูให้ ผมไม่ได้ตอบคำถามของลุงชัย รีบวิ่งขึ้นไปบนรถคันหรูที่เปิดอ้ารอผมอยู่เท่านั้น…
“มาช้านะมึง วันนี้มึงต้องซ้อมบาสให้กูนะ ถ้ากูยังไม่เทพเท่ามึง กูนี่แหละจะอัดมึงให้เละเลย”
“อืมๆ”นิสัยเดิมไม่เปลี่ยน ตั้งแต่เด็กยันโต ผมนั่งเอนตัวสบายๆบนเบาะนั่ง ส่วนไอ้โจ้ขาโฉดกำลังเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อย่าง
เมามัน วันนี้เป็นวันหยุดที่ผมน่าจะออกไปเดตกับหวานตามนัด แต่ก็ต้องปลีกตัวมาซ้อมบาสให้ไอ้โจ้มันอีก ก็มันน่ะตกพละ พอเล่น
ได้นิดๆหน่อยๆ ก็พาลโกรธผมอีก ก็ผมน่ะดีกรีนักบาสของโรงเรียน รุ่นพี่เขาชวนให้เล่นผมก็เล่นตามประสาจนเก่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วน
มันไม่รู้หายหน้าไปไหนเกือบเดือน กลับมาอีกทีก็มีจ้ำแดงๆเต็มไปทั้งตัว ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ พูดแต่เรื่องที่ไม่เข้าหูผม
ทุกที…
“น่าเบื่อว่ะ! เออแล้วโครงงานที่กูฝากทำน่ะ ทำให้ยัง”มันหันมาทางผม ก่อนจะจ้องผมตาเขียว
“ยัง ว่าจะทำคืนนี้”ผมตอบเสียงห้วน
“เออ เอาให้ทันนะมึง ถ้างานกูไม่เสร็จล่ะก็…”
“เจอดีแน่!”ผมพูดดักอย่างรู้ทัน มันหน้ามุ้ยไปทางอื่น พลางยกเท้าขึ้น เขี่ยตัวผม
“เมื่อยอะ นวดให้หน่อย”ไอ้โจ้ทำหน้าทะเล้น กระดิกเท้าไปมาอย่างเอาแต่ใจ
“เออ”สุดท้ายผมก็ต้องนวดขามันให้อย่างจำยอม…
“นี่! วิ่งๆๆ วิ่งให้มันทะมัดทะแมงหน่อย เป็นผู้ชายนะ เหยาะแหยะไปได้ จะไปผ่านได้ไงอะ ไอ้วิชาพละน่ะ”
“โอ๊ยย! กูร้อนจะตายอยู่แล้วไอ้เหี้ยแซม มึงมาวิ่งเป็นเพื่อนกูดิ จะได้รู้ว่ากูเหนื่อยแค่ไหน!?”มันโค้งตัวจับเข่า ตะโกนเสียงดังมา
ทางอีกข้างของสนาม
“ถ้ากูไปวิ่งกับมึงด้วย จะรู้ได้ไงเล่า ว่ามึงมีจุดด้อยลงไหน”ผมตะโกนตอบ ก่อนจะสั่งให้มันวิ่งต้องกับเดาะลูกบาสต่อไป
โครมม!!!
“โอ๊ยยย”
“เฮ้ยย”ผมร้องเสียงหลงขณะที่กำลังนั่งอยู่ขอบสนาม ก่อนวิ่งออกไปจับแขนของไอ้โจ้ที่กำลังกุมเข่าตัวเองด้วยความเจ็บ ผมส่ง
ผ้าเช็ดตัวขนาดกลางให้มันได้เช็ดหน้าเช็ดตา พลางช่วยมันพยุงออกไปยังขอบสนามร่มๆ ขนาดแค่เดาะลูกบาสเฉยๆมันยังสะดุด
ล้มไม่เป็นท่าขนาดนี้ได้ แล้วจะไม่ให้ตกบาสวิชาพละได้ไงล่ะไอ้โจ้เอ้ยย
“อ้าากกก มีเลือดออกด้วยว่ะ ไอ้แซมมึงต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวเจอกูแตะ มึงแกล้งกูใช่ไหม! แกล้งให้กูเจ็บใช่ไหมว่ะ!”
“เอ้ย! กูเกี่ยวไรว่ะ มึงซุ่มซ่ามของมึงเองอะ”ผมว่า ก่อนจะจับมือมันที่กำลังตบไหล่ผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่พอแถมยังมีเท้า
เข้ามาด้วย จุกนะเว้ย
“ไม่ซ้อมแหละ กูเหนื่อย! ผิวกูไหม้แดดหมดแล้ว”มันลุกขึ้น เดินกะเผลก เสื้อกล้ามแขนกุดคอกว้างเผยให้เห็นผิวแดงๆที่แสบร้อน
เป็นอย่างดี
“สำอาง…”
“ว่าไรนะ”หันขวับมองผม
“เปล่าๆ ไม่ได้ว่าอะไร อยากกินลำไยอะ น้ำลำไย เย็นๆ”
“บ้าป่าว มึง”
“ฮี่ๆ”
“โอ๊ยย แม่งขากูแพลง !!!”
“….”
“ไอ้แซม ! ยืนบื้ออยู่ได้มาดูขากูสิว่ะ!!!”
“อืมๆ”ผมวิ่งไปดูข้อเท้าไอ้โจ้ที่บวมและแดงขึ้นมานิดหน่อย ดูท่ามันจะเจ็บมาก แต่ก็ยังเก๊กกัดฟันไม่ยอมร้องสักแอ่ะ ผมเลยลอง
กดข้อเท้าที่บวมเป่งนั้นดู
“ไอ้เชี่ยแซม! ทำไรว่ะ กูเจ็บนะเนี่ย”มันร้องหน้า พลางลูบเท้าปอยๆ ผมลอบยิ้ม เห็นมันเจ็บบ้างก็ดี ชอบแกล้งคนอื่นนัก ปาก
แดงๆนั้นก็เหมือนกัน คำพูดแต่ล่ะคำช่างบาดหูคนฟังเหลือเกิน
สุดท้ายการซ้อมไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันยกเลิก ผมเดินเตร่อยู่ในศูนย์กีฬา ขณะที่มันยังเดินกะเผลกอยู่ข้างหลัง
“เฮ้ย! ไอ้แซม มาได้ไงว่ะ”
“พี่ปอนด์ ผมมาซ้อมบาสกับเพื่อนครับ พี่อะ”
“อ่อ กับโจ้เหรอ พี่มาเล่นบาสอะ ขาดอีก สองคน มาเล่นกับพวกพี่หน่อยดิ โจ้ด้วย จะได้ครบทีม นะๆ”พี่ปอนด์เร่งเสียงอ้อน ผม
เหลือบไปมองไอ้โจ้นิดๆ
อยากเล่นบาสกับพี่ปอนด์ แต่ตัวปัญหามันอยู่ที่ไอ้โจ้น่ะสิ
“โจ้ เล่นกับพวกพี่หน่อยๆนะ นะครับคนดีของพี่ นะๆๆ”
“ผมไม่ใช่ตุ๊ดนะ พูดกับผมแบบนี้ได้ไง!”
“ฮ่าๆ งั้นเป็นการตกลงนะ”พี่ปอนด์ยิ้มแป้นหน้าบาน ผมกับไอ้โจ้เดินกลับไปที่สนามบาสใหม่อีกครั้ง
เ่ป่า ยิ้ง ฉุบ !
เป่า ยิ้ง ฉุบ !
ผมอยู่ทีมเดียวกับพี่ปอนด์ส่วนไอ้โจ้อยู่กับอีกทีมเป็นพี่ๆต่างโรงเรียน ผมแอบเป็นห่วงมันนิดหน่อย เพราะไอ้โจ้ก็เล่นได้นิดหน่อย
อีกอย่างพวกนี้ก็เทพๆทั้งนั้น ตัวก็ล่ำๆ คงเล่นหนักกันพอดู…
“ไอ้โจ้ส่งลูกมาให้กู!!!”พี่คนหนึ่งของทีมตรงข้าม ตะโกนออกมาอย่างขัดใจ มันอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่ลูกในมือจะถูกแย่งไปโดยทีม
ของผม
หมับ!!!
ชู๊ดดด!!!
ลูกลงห่วงอย่างสวยงาม…
“มึงหลีกไปดิ”
“หลีกได้ไง กูจะแย่งลูกจากมือมึง”
“แซม! เร็วๆดิ”พี่ปอนด์ตะโกน
ฉับๆๆ
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชายสองสามคนกำลังเข้ามาแย่งลูกบาสในมือไอ้โจ้อย่างรุนแรง เกมส์ก็ต้องเป็นเกมส์ ไอ้โจ้ถูกกระแทกจาก
ข้างหลังโดยมีพี่คนหนึ่งกำลังหกล้มแล้วเผลอชนกับผมเข้าอย่างจัง ผมเซล้มลงไปกับสนามโดยมีไอ้โจ้ล้มตามลงไปติดๆ
เอี๊ยดด…
“เล่นแรงไปนะพวกมึง”พี่ปอนด์ว่าขุ่นๆ
“โทษๆ น้องสอคนเป็นอะไรรึเปล่าพี่ขอโทษ”
“ปะ…เปล่าครับ”ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หันไปมองคนที่นอนอยู่บนสนามบาสติดๆ สัมผัสนุ่มๆยังคงติดอยู่ที่จมูกของผม
“น้องโจ้ ลุกขึ้นมาสิครับ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ผมเจ็บขาอะ ลุกไม่ได้”ไอ้โจ้ตอบ ผมเลยหันไปดู ข้อเท้าที่บวมเป่ง
“เท้าบวมเลยว่ะ ทำไงเนี่ย ไหวเปล่า พักก่อนดีกว่านะพี่ว่า”พี่คนหนึ่งในทีมพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร ผมเหนื่อยแล้ว จะกลับบ้าน”มันว่า พลางลุกขึ้น เซนิดหน่อย ก้มลงเก็บขวดน้ำ ทำท่าจะลากขาเดินออกไป
“ขายังเจ็บอยู่เลยนะ กว่าจะเดินออกไปก็ตั้งไกล”ศุนย์กีฬาที่มันใหญ่มากน่ะครับ
“ไอ้แซม มาช่วยพยุงกูออกไปสิ”ชี้นิ้วออกคำสั่ง พี่ๆเริ่มมองมาที่ผม ผมยิ้มแหยะๆ ก่อนจะประกบด้านหลังโอบเอวมันพยุงเดิน แต่
จะว่าไป ตัวมันก็บางกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย
“ปะ…ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับพี่กลับก่อนล่ะ”
“เออๆ กลับบ้านๆดีๆกันนะพวกมึง”พี่ปอนด์ยิ้มตอบ ผมหันหลังกลับพยุงมันออกไปอย่างช้าๆ คนก็เริ่มหันมามองแล้วยิ้มๆ ผมอาย
นิดๆ แต่ก็ชินแล้ว ก็พ่อดินกับพ่อไฟก็เผลอๆจีบกันให้ผมเห็นไม่เว้นแต่ละวัน
“มองไรหนักหนาว่ะ กูเจ็บขจะตายแล้วเนี่ย โว๊ยย!”มันสบถเสียงดัง คนก็เริ่มหันมามองมากขึ้น ผมก้มลงไปกระซิบ ก่อนจะโอบเอว
แล้วยกข้างมันขึ้นแบบอุ้มเจ้าสาวเข้าหอเหมือนในหนัง
“อยู่นิ่งๆนะมึง…”
TO BE CON,
นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
ใครเคะ ใครเมะ ล่ะเนี่ย ฮ่าๆๆ เวอร์ชั่นเด็กๆตอนหนุ่มไม่รู้จะถูกใจกันรึเปล่าเน้อ