CHAPTER 20
“ขายรึเปล่า?”ชายหนุ่มเสียงทุ้มเอ่ยทัก เด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าผับชื่อดังของตน ปกติเขาก็ไม่ได้พิสมัยกับผู้ชายเท่าไหร่
หรอกนอกจากเหตุการณ์ที่ผ่านไปไม่กี่เดือนกับลีลาเด็กขายที่เร้าร้อนจนทำให้เขาต้องติดใจ แต่ทำได้พียงเป็นคู่นอนชั่วข้ามคืน
เท่านั้น อาชีพแบบนี้เขาไม่สมควรไปเกลือกกลั้วด้วย…
“เอ่อ…ถ้าคุณซื้อผมก็ขาย”เด็กหนุ่มตอบซื่อๆ ตาใสแป๋วมีท่าทีโลเล กล้าๆกลัวๆ สำหรับชายหนุ่มแล้วท่าทางแบบนี้เป็นการเรียก
ลูกค้าประเภทหนึ่งเท่านั้นไม่ได้ติดใจ เพราะคู่นอนของเขาก็มักจะทำท่าทีใสซื่ออ่อนต่อโลกให้เห็นจนประปราย ไม่ว่าจะหญิงหรือ
ชาย เมื่ออยู่บนเตียงแล้วก็มักร้อนแรงจนไร้คราบ
“เดินตามมาสิ”ชายหนุ่มออกคำสั่ง เด็กหนุ่มเดินตามเข้าไป ใจหนึ่งก็กลัว แต่ก็ต้องทำใจ ขายร่างกายเพื่อแลกกับเงิน แถมผู้ชาย
คนนี้ถึงแม้ท่าทางจะดุร้าย แต่ก็หล่อเหล่าเอาการ คงจะรู้สึกดีกว่าการนอนกับพวกเสี่ยแก่ๆเป็นไหนๆ…
“นั่งนี่สิ”ชายหนุ่มตบเบาะที่นั่งเบาๆ เด็กหนุ่มนั่งลงตัวเกร็งก่อนจะถูกแขนใหญ่โอบไหล่ไว้
“เสือไบเหรอมึง”เสียงทักทายของผู้ชายร่างสูงหนา ก่อนจะนั่งลงและกระตุกแขนให้ชายหนุ่มที่ดูเก้ๆกังๆนั่งลงด้วย
“สนุกๆนะมึง น้องเขาเป็นเด็กขาย กูก็แค่ช่วยอุดหนุน”ชายหนุ่มตอบก่อนจะยิ้มเยาะและเริ่มสนทนากับผู้ชายสองคนที่มาใหม่โดย
ไม่ได้สนใจเด็กหนุ่มตัวเล็กในอ้อมกอดมากนัก
หลังจากที่ชายหนุ่มสองคนได้กลับกันไปแล้ว ชายหนุ่มจึงสั่งให้คนตัวเล็กลุกขึ้น และเดินตามออกมา เด็กหนุ่มรู้ดี ถึงแม้ว่าจะกลัว
อยู่มากก็ตาม แต่ไม่เป็นไร…ไม่เป็นไรหรอก…
“โห รถคุณเหรอครับ”เด็กหนุ่มโตตาเมื่อเห็นรถหรูของคนที่ซื้อเขามา ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มเยาะเป็นคำตอบ ก่อนจะเข้าไปนั่งในส่วน
ของคนขับ
เขาคงจะรวยมากๆ
เด็กหนุ่มคิด ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป…
เสียงเพลงสากลฟังสบายๆเปิดไปตลอดทาง แอร์เย็นช่ำในรถหรูกับคนขับหน้าตาดีไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้น…ตรงข้ามเขา
กลับกลัวมากขึ้น…ครั้งแรกของเขากับคนที่ไม่ได้รักและไม่รู้จักแม้แต่น้อย…
“ตื่นเต้นเหรอ?”ชายหนุ่มถาม พลางหันมองคนข้างกาย ท่าทางร้อนรน…
“นิดหน่อยครับ”เด็กหนุ่มตอบ
“งั้นเหรอ…?”
“ครับ”เด็กหนุ่มตอบก่อนจะเอียงคอหันหน้าไปทางอื่น…ไม่อยากสบตาดุๆนั้นเลย…เห็นแล้วน่ากลัวชะมัด…
.
.
.
“ลงมาสิ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มเดินลงมาก่อนจะปิดประตูรถ เดินตามชายหนุ่ม…เขาเงยหน้าขึ้น…คอนโดหรู…
ปัง !
“ไวน์หน่อยไหม?”ชายหนุ่มถามก่อนจะรินไวน์ใส่แก้วยื่นให้เด็กหนุ่ม
“ไม่ดีกว่าครับ”เด็กหนุ่มปฏิเสธ ก่อนจะหย่อนก้มลงบนเตียงกว้าง และกวาดสายตามองรอบห้อง
“ก็ดีนี่”เขาวางแก้วไวน์ลงบนหัวเตียง ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เด็กหนุ่มหน้าซื่อที่เล่นละครได้เสมอต้นเสมอปลายดี เด็กหนุ่มตกใจและ
จะยกมือปราม แต่ก็ต้องชักมือกลับและค่อยๆเอนตัวลงไปนอนราบกับเตียงแทน
หลับตาปี๋…
ทำอะไรน่ะ…ชายหนุ่มคิด ก่อนจะยิ้มขำๆกับเด็กตรงหน้า ซื่อจริงเหรอ…คิดว่าจะร้อนแรงเหมือนคนที่ผ่านมาซะอีก
“ลืมตาแล้วมองฉัน”
“….คะ…ครับ…”เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆก้มลงมา ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเขาอย่างช้าๆ
“เธอชื่ออะไร?”
“ต้น…ต้นข้าวครับ”
“ชื่อน่ารักดีนี่”
“ครับ…แล้วคุณ”
“ภัทรกร…กรน่ะ”
“ครับ…คุณภัทรกร”
“เวลาใกล้จะเสร็จ…ให้ครางเรียกชื่อฉันหวานๆด้วยนะ แล้วจะเพิ่มเงินให้”ภัทรกรยิ้มเยาะกับท่าทางคล้ายกับลูกแกะน้อยในอุ้งมือ
ของหมาป่า
.
.
.
“อ๊ะ…อึกกก ฮืออๆ”เสียงครางปนสะอื้นดังกระหึ่มไปทั้งห้อง ภัทรกรที่อยู่บนตัวของเด็กหนุ่มนั้นหงุดหงิดใจเล็กน้อย กับคู่นอน
เด็กของตนที่ไร้ประสีประสา เอาแต่ร้องห่มร้องไห้เป็นเด็กๆ ค่ำคืนที่ต้องการปลดปล่อยอย่างเร่าร้อน กลายเป็นเขาคนเดียวที่ใช้
ร่างกายที่ซื้อมาบำบัดความใคร่ของตน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพอใจ…
“หยุดร้องไห้ซะที !”ชายหนุ่มเผลอตวาดลั่น เมื่อคนที่นอนสะอึกอยู่นั้นไม่ยอมหยุดสำออยลงง่ายๆ หลังจากเสร็จกิจกรรมรอบที่นับ
ไม่ถ้วนแล้ว ชายหนุ่มก็ล้มตัวลงบนร่างผอมบางความร้อนรุ่มยังฝังอยู่ในร่างของเด็กหนุ่ม ภัทรกรหลับตาลงด้วยความล้า และเสียง
สะอื้นนั้นก็ค่อยๆเงียบหายไปเช่นกัน…
“นี่เงินของเธอ แล้วก็ไสหัวกลับไปซะ”ภัทรกรหว่านเงินก้อนหนึ่งลงบนเตียงกว้าง เด็กหนุ่มที่เพิ่งตื่นขยับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเงย
มองเขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
“ขะ..ขอบคุณครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างช้าๆ ก่อนจะดันตัวขึ้นเก็บเงินก้อนนั้นที่ดูเหมือนจะไร้ค่าในสายตาของภัทรกร ลุกขึ้นจากเตียง
เข้าห้องน้ำและแต่งตัว…
เอาไม่ถึงใจแล้วยังสำออยเก่ง…
ชายหนุ่มคำรามในใจ ก่อนจะจิ๊บกาแฟตรงโซฟาหน้าทีวี เด็กหนุ่มหน้าตาหมองหม่นโค้งให้เขา ก่อนจะเดินออกไป ภัทรกรมองเห็น
ได้ถึงดวงตาที่ปูดโปน ปากแดงช่ำ ลำคอที่เขี้ยวห่อเลือด และท่าเดินที่ดูเจ็บปวด
“สวัสดีครับแม่”
“ข้าว…แม่ขอบใจมากที่ลูกช่วยชีวิตตาแก่ขี้เมา”เสียงหญิงสาวผู้เป็นแม่เอ่ยสะอื้น ตาแก่ขี้เมานั้นก็หมายถึงพ่อของเขานั้นเอง เงิน
ที่เขาหาได้จากการขายตัวในคืนนั้น เด็กหนุ่มโอนให้ผู้เป็นแม่รักษาโรคตับที่เป็นเรื้อรังมาตลอดหลายปี
“พ่อเป็นไงบ้างครับแม่”
“ตาแก่อยู่โรงพยาบาลจ๊ะ ตอนนี้คุณหมอบอกว่าอาการแย่ลงจากเดิมมาก จากการไม่ยอมเลิกดื่มสุราให้สิ้นสุดซะที”พ่อของเขา
เป็นคนติดสุรามาก มากจนทำให้ตัวเองป่วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมเลิกมันเสียที เพื่อนบ้านต่างคอยด่าตราหน้าว่าเป็นพวกขี้เมา
แต่เด็กหนุ่มก็ยังรักและเคารพบิดาผู้ทำให้ตนกำเนิดอยู่เสมอ
“ข้าวฝากดูแลพ่อด้วยนะแม่”
“อืม ข้าวก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะลูก อยู่ที่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง”ผู้เป็นแม่ถามด้วยความกังวล
“ข้าวสบายดีจ๊ะแม่”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะข้าว แม่ต้องไปเช็ดตัวให้พ่อแล้ว”
“ครับ”เด็กหนุ่มกดวางสาย ก่อนจะล้มตัวนอนบนเบาะนอนเก่าๆในห้องเช่าราคาถูก เหนื่อยเหลือเกินกับการดิ้นร้น อีกทั้งไม่กี่เดือน
มหาลัยก็จะเปิดแล้วด้วย เด็กหนุ่มคิดไม่ตกเลยว่าจะหาเงินที่ไหนส่งตัวเองเรียนดี…
“มาแล้วเหรอ เมื่อคืนลางานไม่เห็นบอกพี่เลย แขกเขารอฟังเพลงจากนายอยู่นะ”เสียงทุ้มใหญ่ของชายหนุ่มทักทาย เมื่อเห็นหน้า
เด็กหนุ่มขอโทษขอโพยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะไม่มาทำงาน เจ้าของร้านก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเดินออกไป เด็กหนุ่มขึ้นไปบน
เวที พร้อมกับเสียงตบมือของแขกในร้านอาหาร เด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆ มือบางดีดสายกีฬาไปตามทำนอง ริมฝีปากที่ยังบวมจ่ออ้า
อย่างช้าๆพร้อมกับบทเพลงเศร้าๆที่เขาเอ่ยร้องในค่ำคืนนั้น…
“จะว่าอะไรไหม ถ้าคืนนี้ผมจะ…ขอให้คุณไปค้างด้วยกัน”ผู้ชายคนหนึ่งรอดักรอเด็กหนุ่มหลังเลิกงาน เด็กหนุ่มลังเล ก่อนจะตอบ
ตกลงหน้าเศร้าด้วยความจำเป็น
.
.
.
“จะซื้ออะไรเหรอครับ”เด็กหนุ่มถามด้วยความสงสัย เมื่อชายแปลกหน้าแวะข้างทางข้างร้านเซเว่น
“ถุงยาง”
“งั้นผมไปซื้อให้ก็ได้ครับ”เด็กหนุ่มบอก ก่อนจะรับแบงก์พันที่เขาให้ ก่อนจะลงจากเข้าไปในร้านเซเว่น เด็กหนุ่มหยิบมาคงคิดว่า
ยี่ห้อไหนก็คงใช้ได้เหมือนกัน ก่อนจะยืนต่อแถวจ่ายตังค์
“ต้องทำงานอีกแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มหูที่คุ้นเคย เด็กหนุ่มหันขวับ พร้อมกับจ้องนัยน์ตาดุอย่างจัง
“คุณ … สวัสดีครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนจะรีบก้มหน้าและจ่ายตังค์
“เดี๋ยว ! เงินที่ฉันให้คืนนั้นมันเยอะไม่พอเลี้ยงปากท้องของเธอเหรอไง !?”ชายหนุ่มกระซิบถามมือหนายังคงบีบข้อมือเล็กๆไว้
“ปล่อยผมเถอะครับ”
“ไม่ ! คืนนี้ฉันขอ…”
“ไม่ได้หรอกครับ”
“ฉันจ่ายให้เป็นสองเท่ามากับฉัน !”
“เดี๋ยว …ครับ”
“อะไรอีก!”
“ผมต้องเอาตังค์ทอนไปคืนเขา”เด็กหนุ่มชี้ไปที่รถเก๋งที่จอดรออยู่ ชายหนุ่มดึงกล่องถุงยางและเงินในมือเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดิน
เข้าไปเปิดประตูรถคันนั้นแหละตั้งเศษเงินนั้นไว้ที่เบาะนั่ง
“ขอโทษนะครับคุณลูกค้า พอดีน้องคนนั้นเด็กผม”
“ปล่อยมือเถอะครับ ผมเดินเองได้”ร่างเล็กพยายามสลัดมือหนาที่แขนให้หลุดออก เขาโดนชายหนุ่มตรงหน้าฉุดกระชากลากถูไป
ตลอดทาง ทำราวกับว่าเขาจะหนีไปอย่างนั้น
“ใจง่ายดีนะ…เธอนี่มันหน้าเงินจริงๆ”เสียงทุ้มเอ่ยเยาะ เมื่อนั่งลงบนเบาะคนขับแล้วออกรถ เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ได้เถียงอะไร และ
ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาทนฟังคำเย้ยเยาะของคนที่ไม่รู้อะไรอย่าง ภัทรกร…
เงินล่ะมั้ง…คือตัวแปรของทุกอย่าง…
“ลีลาก็ห่วยไร้ประสีประสา ยังมีหน้าไปเสนอขายคนอื่นอีก”ภัทรกรเอ่ยเยาะหลังจากที่พาเด็กหนุ่มขึ้นมาบนคอนโดของตนเองได้
แล้ว
“ผมไม่ได้ไปเสนอตัวให้ใครนะ”ต้นข้าวเถียงกลับ ก่อนจะหลบตาต่ำ
“แค่ทำหน้าซื่อๆ ใครๆก็อยากจะจูงเธอออกไปไหนด้วยแล้วใช่ไหม”ภัทรกรเอ่ยวาจาถากถางก่อนจะค่อยๆปลดเข็มขัดออกและ
ผลักเด็กหนุ่มให้นอนลง
“หยุดดูถูกผมซะที ! ผมก็ไม่ได้อยากทำหรอก!”ต้นข้าวผลักไหล่หนาออก ก่อนจะเบียนหน้าไปทางอื่น เมื่อรับรู้ถึงน้ำตาที่ไหล
ออกมาโดยไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ได้ ภัทรกรชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเกลี่ยน้ำตาให้แก้มใส
“อยากได้เท่าไหร่ล่ะ ฉันจะให้ แลกกับการทำงานให้ฉัน”
“ทำงานอะไร”
“แม่บ้าน คนใช้ บำเรอ งานทั่วๆไป แล้วแต่ฉันอยากจะสั่งให้ทำ”
“ก็ได้…ผมตกลง”ภัทรกรเหยียดยิ้มอย่างพอใจในคำตอบ ก่อนจะก้มลงไปประทับจูบกับเด็กหนุ่มตรงหน้า
ทำงานเหรอ…งี่เง่าสิ้นดี…
ผมก็แค่อยากเก็บเด็กนี่ไว้เท่านั้นเอง…
x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x--x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x--x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x--x-x-x-x-x-x-x-x-x-x-x
ง่วงมากแต่ต้องบ่น 555+ สำหรับตอนนี้เป็นตอนพิเศษนะค่ะ พอรู้ที่มาที่ไปของพี่และน้องเนอะ
ส่วนเรื่องเด็กขายพวงมาลัย มีคนแอบเข้าใจผิดมาว่าเป็นต้นข้าวกับพี่กร แจงอ่านแล้วเพลียอย่างแรง 555
ต้องมาเฉลยๆ คุณไฟกับดินนั้นเองจ้า ไปมาอย่างไรนั้น ติดตามต่อไปจ้า พรมลิขิตแท้ๆ (มุงนั้นแหละลิขิตเอง ฮา)
ต้นข้าวกับภัทรกร เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนชีวิตในอีกแง่ของตัวหลัก ยังไงก็ฝากติดตามกันเรื่อยๆนะค่ะ
ง่วงมากแล้วค่ะ ดูแฮร์รี่ไปพิมพ์ ไปตกไม่ได้เซฟพิมพ์อยู่หลายรอบ เพลียมาก เอิ๊ก ขอกำลังใจโดยการเม้นกันหน่อยนะค่ะ
ขอบคุณมากมายค่ะ
