CHAPTER 18
You're the reason why I feel this way
Tear drops running still down my face
And I just wanted you to know that
You were my first love
you were my first love ♥ <<< กดฟัง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน สำหรับตอนนี้“ผู้ชายอย่างคุณ…ผมไม่ต้องสนใจหรอกจริงไหม?”
“ครับ…”
“ก็แค่ไว้บำเรอจริงไหม?”
“…ครับ”
“แค่นี้จะร้องไห้แล้วเหรอ?”
“ขอโทษครับ”
“นายนี่มันขี้แยจริงๆเลยนะ”
“…..”
“ให้ตายสิ วริณ!”
นานจนไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วที่คุณไฟกอดผมไว้แน่นแบบนี้ ผมซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างไม่กล้าเงยหน้าออกมา ก็น้ำตา
เจ้ากรรมน่ะสิครับ มันไหลออกมาเอง…
“คนดี เมื่อไหร่จะยอมเงยหน้าออกมา”ชายหนุ่มใช้มือลูบไปตามเส้นผมนุ่ม ก่อนจะแตะลงบนไหล่เบาๆ วริณฟูดจมูดเช็ดน้ำตา
ก่อนจะเงยหน้าผละออกจากวงแขนของอธิป…
“ผมขอโทษครับ ที่ทำให้เชิ๊ตคุณเปื้อน เดี๋ยวผมไปหาผ้ามาเช็ดให้นะครับ”วริณพูด สำเสียงฟังห่างเหิน ก่อนจะทำท่าราวกับลุกขึ้น
อธิปดึงข้อแขนกระดูกไว้ ฉุดชายหนุ่มให้นั่งลงบนตัก โอบแขนกอดเอวเล็กของคนขี้แย ที่นับวันก็ดูจะกินน้อยลงทุกวัน
“ทำไมถึงได้ผอมลงๆแบบนี้นะ”อธิปบ่น ลูบไปตามแผงท้องราบ
“ปกตินี่ครับ”วริณว่า ก่อนจะเอียงคอหลบเมื่อใบหน้าคมคายซอกซอนอยู่แถวซอกคอ
“ปกติที่ไหน ไม่รู้ตัวเลยเหรอไงว่าผอมลงไปกี่โลแล้ว”อธิปพูดก่อนจะจับลงบนเอวบางสองข้าง วริณขืนตัวเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้
อธิปจับดีๆ
“คงงั้นมั้งครับ ผมไม่รู้ตัวเลย”วริณตอบก่อนจะยิ้มบางๆ
“นอนด้วยกันเกือบทุกคืนทำไมผมจะไม่รู้”อธิปว่าก่อนจะฝังจมูกลงบนแผ่นหลัง วริณหลับตาพริ้มก่อนจะถูกคนตัวโตกว่าจับให้หัน
มาประกบปาก จูบจุมพิตกันเนิ่นนานจนวริณเริ่มหายใจไม่ทัน อธิปจึงละออก แล้วกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทน
“ขอโทษที่ทำให้คิดมากนะ…ต่อไปผมจะไม่บอกว่ารักแต่จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจดีไหม?”อธิปถามเอียงคอ วริณหันไป
สบตาก่อนจะหลุบตา
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ…แค่นี้คุณไฟก็ให้เรามามากมายแล้ว…ผมน่ะจะอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ ตามแต่คุณไฟจะต้องการ…
ไม่ต้องใส่ใจผมหรอกครับ…ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ”วริณกล่าว ก่อนจะยิ้มเศร้าๆ
“ไม่เป็นไรจริงเหรอ?...พูดตั้งขนาดนี้ผมควรทำตามคำแนะนำดีไหม๊?...แต่ไม่ดีกว่า กลัวคนแถวนี้จะมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง”อธิปแซว
ก่อนจะหยิกแก้มนุ่มเบาๆ
“มีเมียคิดมาก มันก็ต้องทำใจเนอะ”
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ”
“ทำไมก็อยากเรียก”
“แต่ผมเป็นผู้ชายจะไปเป็นเมียคุณไฟได้ไง”
“ก็เป็นอยู่ทุกคืน”
“คุณไฟ!”วริณเบื่อจะเถียงจึงลุกขึ้น เพราะนึกได้ว่าตนนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มนานแล้ว อธิปยังไม่วายฉุดมือบางให้นั่งลงตามเดิม
“จะไปไหน?”อธิปถาม แววตาเจ้าเล่ห์แสนซน บางครั้งก็ดุร้าย และในบางทีวริณเองก็ตามอารมณ์เขาไม่ทันเหมือนกัน
“ผมนั่งตักคนอยู่นานแล้ว เดี๋ยวก็เมื่อยหรอกครับ”
“ไม่เห็นเมื่อยเลย ก็คุณน่ะตัวเบา ผอมจะแย่อยู่แล้ว กลับบ้านไปต้องขุนให้อ้วน!”อธิปว่าก่อนจะกอดเอวบางไว้แน่น หอมกอดจน
ตนพอใจ วริณแอบยิ้ม แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจ
“คุณมิมเขาน่าเห็นใจนะครับ ท้องทั้งๆที่พ่อเด็กเขาเสียไปแล้ว”
“ผมว่าไม่ใช่ไอ้วัตรหรอกที่เป็นพ่อของเด็ก…ผมรู้จักมันดี”
“งั้นแสดงว่าคุณมิม…?”
“ไม่รู้สิ คนเราก็มีสิทธิไปหาความสุขจากที่อื่นนอกจากคนรักของตัวเองไม่ใช่เหรอ?”
“คงงั้นมั้งครับ แต่บางคนก็ยังรอคอยความรักจากคนที่ตนรัก”
“รออยู่งั้นสิ”อธิปก้มลงถามเสียงแหบพร่าที่ใบหู วริณหน้าแดง ก่อนจะพยักหน้างิกๆ
“รัก หลง หึง หวง หวงมาก จนไม่รู้จะบอกว่าไงแล้ว”อธิปบอกก่อนจะหอมแก้มนุ่มนั้นอีกครั้ง
.
.
.
.
“อาทิตย์หน้านี้โรงเรียนแซมจะปิดเทอญใหญ่แล้วใช่ไหม?”อธิปหันมาถาม พลางหมุนพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าไปในซอย
“ครับ อีกสองวันแซมก็จะสอบเลื่อนชั้นแล้วล่ะครับ”
“อืม งั้นดีเลย พอแซมสอบเสร็จเราก็จะได้ย้ายไปอยู่เกาะกันเลย”
“หา ! เกาะเหรอครับ”
“อื้ม ไปพักผ่อนแล้วก็ทำงานด้วย ตอนนี้บริษัทผมจะเปิดธุรกิจรีสอร์ทที่เกาะทางด้านอันดามัน”
“อ่อ แต่ถ้าผมกับแซมไปด้วย มันจะไม่เป็นการรบกวนงานของคุณเหรอครับ”วริณถาม
“ผมไม่ได้ไปควบคุมคนงานก่อสร้างนะดิน แค่ไปดูเนื้อที่กับทำเล งานไม่เยอะหรอก ผมอยากไปพักผ่อนมากกว่า เพื่อนๆพนักงาน
ก็ไปด้วยนะ เพราะทุกคนก็ล้วนทำงานหนักกันมากพอแล้วสำหรับปีนี้”
“ดีจังเลยครับ ถ้าแซมรู้คงดีใจมากแน่ๆ แกชอบทะเลมากเลยนะครับ”วริณยิ้ม ใบหน้ามีความสุข จนอธิปอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไป
ด้วย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับครอบครัวของเขา
ดินกับแซม ก็เหมือนคนในครอบครัวเขา…เป็นคนที่เขารัก…และอยากดูแลไปชั่วชีวิต…ไม่ต้องการใครอีกแล้ว…ไม่มีใครสามารถ
ทดแทนความรักของดินที่มีให้เขาได้อีกแล้ว
“คุณยิ้มอะไรเหรอครับ”วริณถามตาใส เมื่อเห็นชายหนุ่มยังยิ้ม แต่ไม่รู้ว่ามีความสุขอะไร
“อยากยิ้ม…ยิ้มไม่ได้เหรอไง?”อธิปถามตาเปล่งประกาย
“เปล่านะครับ…แต่ผมเห็นคุณยิ้มอยู่นานแล้วเลยถาม”วริณตอบซื่อๆ ยิ่งทำให้อธิปหลุดหัวเราะออกมา
“ยิ้มเพราะผมมีคุณ”
“…………”
“เขินอะดิ”
“เปล่านะครับ”
“เขินแล้วยังปฏิเสธอีก เป็นพวกปากแข็งเหรอไงคุณ แต่ผมว่า…ผมก็นุ่มดีนะ ฮ่าๆๆ”
“คุณไฟ! ทำไมชอบแหย่ผมอยู่เรื่อยเลย…”
แล้วทำไมชอบเอาเรื่องแบบนี้มาพูดนักไม่รู้…
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับ เดี๋ยวคุณไฟเลี้ยงหนมหนูดินจะกินอะไรดีจ๊ะ”
“ผมไม่ใช่เด็กนะ”
“เอาจริงเหรอ ? ก็เห็นชอบงอน”
“คุณไฟ!”วริณตะโกนลั่น ก่อนจะเม้มปากกัดกันแน่น อธิปหัวเราะกับท่าทีอีกฝ่ายก่อนจะหยุดรถ แล้วเอื้อมมือมาสะกิดริมฝีปากอีก
ฝ่ายเบาๆเป็นการหยอกล้อ
“เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วหน่า”
“คุณไฟชอบแกล้งผมอยู่เรื่อยเลย…”วริณกล่าวเสียงเบา ก่อนจะทำหน้างอโกรธอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
ปี๊ดดดดด !!!
“ตายแล้ว คุณไฟครับ”
“ไฟเขียวล่ะ มองคนน่ารักเพลิน”อธิปหันมายิ้มตาปิด ก่อนจะเร่งรถออก เสียงแตรข้างหลังโวย แต่ก็ต้องหยุดเมื่อรถเคลื่อนที่ออก
ไป
“แล้วนี่เรากำลังไปไหนกันเหรอครับ”
“อืมม…ว่างงานแล้วไปไหนดีล่ะ ผมก็ขับรถมาเรื่อยๆตกเย็นก็ค่อยไปรับแซมมาทานข้าวข้างนอกกันดีไหม?”
“แวะสวนใกล้ๆนี่ดีไหมครับ …ไปนั่งเล่นพลางดูดอากาศบริสุทธิ์ไปด้วย”วริณแสดงความเห็นก่อนจะยิ้มให้คนข้างกาย อธิปจะพยัก
หน้าเห็นด้วย ก่อนจะเลี้ยวรถไปอีกทาง…แล้วก็เลี้ยวเข้าไปในสวนที่วริณอยากไป
“คุณไฟอย่าแกล้งสิครับ นั้นมันอาหารปลานะครับ”วริณบุยหน้าหนีเมื่ออธิปพยายามป้อนชิ้นขนมปังให้ ชายหนุ่มหัวเราะลั่น ก่อนจะ
โยนขนมปังชิ้นนั้นลงให้ปลาในสระ
“ฮ่าๆ เห็นคนมีความสุขแล้วอยากแกล้ง”อธิปว่าก่อนจะอมยิ้ม
“คุณไฟก็มีความสุขเหมือนกันใช่ไหมครับ”ชายหนุ่มเอียงคอถาม ก่อนจะหยิบชิ้นขนมปังคลึงแล้วปล่อยลงสู่สระน้ำโดยมีปลา
มากมายคอยจะวนเวียนว่ายแย่งอาหารกัน
“อืม…มากที่สุดเลย…ดินคุณเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวผมได้เยอะเลยนะ”อธิปกล่าวก่อนจะหันไปมองแก้มขาวของอีกฝ่าย ว
ริณหันมาสบตาแล้วเอียงคอเชิงสงสัย
“อะไร…เหรอครับ”วริณสงสัยเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่จ้องและยิ้มอยู่อย่างนั้น
“คุณน่ะถูกชะตาตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรก…เห็นหน้าซื่อๆแล้วน่าแกล้ง”อธิปหยุดยิ้ม ก่อนจะโยนขนมปังลงไปต่อ
“แถมกาแฟของคุณผมว่ามันก็อร่อยดีนะ…บวกกับแววตาซื่อๆของคุณคล้ายจะร้องไห้ให้ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าผมแล้วตลกชะมัด”
“คุณไฟยังจำมันได้อีกเหรอครับ”วริณยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปทางอื่น กลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง
“จำได้สิ…อะไรที่เกี่ยวกับดินน่ะ…ไม่รู้สิ แต่ผมกลับจำมันได้แทบจะทุกเรื่อง”
“คุณคือเจ้านายที่แสนดีของผม”
“จริงสิ”
“จริงๆนะ…ผมน่ะไม่เคยเจอคนดีๆอย่างคุณเลยซักครั้ง ตั้งแต่ทำงานครั้งแรกแล้ว เจ้านายผมใจร้ายแทบจะทุกคน”
“ผมไม่ใช่คนดีหรอกดิน…ถ้าผมดีจริงมิมเขาคงไม่ทิ้งผมไปหรอก แต่นั้นก็ไม่สำคัญสำหรับผมหรอก เพราะตอนนี้ผมมีคุณ…เมื่อ
ก่อนผมเจ้าชู้มาก เพลย์บอยเลยก็ว่าได้ล่ะ ทำตัวเหลวแหลก จนพ่อกับแม่ต้องส่งไปเรียนถึงเมืองนอก ไปให้พ้นๆบ้าน เป็นการดัด
นิสัยน่ะ ผมเลยโตขึ้น และเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง แต่นิสัยเจ้าชู้ของผมก็แก้ไม่ตกจนมิมจับได้ ตอนนั้นผมรักเธอมากเลยนะ ถึงขั้น
อยากแต่งงาน พอเธอขอเลิกผมก็เสียใจ แต่ก็ยอมปล่อย แล้วกลับมาทำตัวไม่เอาถ่านอีกครั้ง จนคุณแม่ขอร้องไว้ คุณพ่อมีโรครุม
เร้า ความหวังสุดท้ายในการดูแลกิจการของทางบ้านจึงตกมาที่ผม ทุกอย่างดูเลวร้ายมากเลยนะ ผมอดทนมาได้จนวันสุดท้ายของ
การเรียน วันรับปริญญาที่พ่อกับแม่สัญญาจะมาหาผมที่นั้น แต่เพราะเกิดเหตุร้ายกะทันหันคุณพ่อคุณแม่ผมประสบอุบัติเหตุทาง
รถยนต์ และผมก็เพิ่งมารู้ข่าวเอาวันตอนเช้าวันรับปริญญา ทุกอย่างมันหดหู่ ผมกลับมาที่ประเทศไทย พร้อมกับทรัพย์สมบัติ
มากมายที่ผมต้องดูแล…”
“แต่คุณไฟก็สามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ไม่ใช่เหรอครับ…อดีตเก็บมันไว้เป็นบทเรียนก็พอแล้วครับ”วริณยิ้มก่อนจะเอื้อม
ไปจับมือชายหนุ่ม อธิปจับมือวริณขึ้นมาพร้อมกับกุมไว้แน่น จุมพิตที่หลังมือก่อนจะดึงมือร่างบางเข้ามาสวมกอดเบาๆ
“ขอบคุณนะดิน…ผมเพิ่งรู้จักคำว่ารักเมื่อได้พบกับคุณ”
‘ซื้อพวงมาลัยไหมครับ’
‘ไปให้ไกลๆหน่า ! น่ารำคาน!’
‘อุดหนุนเด็กเขาหน่อยเถอะ เท่าไหร่ครับน้อง’
‘พวงล่ะ 10 บาทครับ’
‘งั้นพี่เหมาหมดนะ’
‘เอาไปทำไมเยอะแยะเหรอครับ’
‘เอ๊ะ!มึงนี่ คนเขาอุดหนุนแล้วยังถามเยอะอีก’
‘ผมขอโทษครับพี่’
‘นี่ 500 บาทไม่ต้องถอน เอาไปหาข้าวกินซะ’
‘เร็วๆดิ ไฟเขียวแล้ว’
‘อะ อีก 1,000 เห็นว่ามึงน่ารักดี’
‘ไฟเขียวแล้วมึง!’
‘อะ ขอบคุณครับพี่ชาย!!!’
คุณคนรวยสองคนนั้น…ขอบคุณมากนะครับ
แล้วคุณคนนั้นเขาชมผมว่าน่ารัก…เด็กมอมๆอย่างผมน่ารักจริงเหรอ?
เขาใช้ส่วนไหนดูกันนะ…
You were my first love,
Love, love, love, love, love
You were my first love
Love, love, love, love, love
You were my first love…♥
+-++-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+--+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+ <
ทำยากมากอะตกลงรักใครกันแน่ไฟ?
จากเพลง As long as you love me คิดเข้าข้างตัวเองได้มั๊ยว่าสุดท้ายแล้ว ไฟเลือกดิน ?
เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมากๆเลยค่ะ ความหมายก็ดีมากๆที่เดียว ดีใจจังที่มีคนรู้จักด้วย

T: สำหรับตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ คือเห็นว่ามันเป็นตอนหวานๆสำหรับสองคน
เลยไม่ได้เอาใครเข้ามาในฉากด้วย เขียนตอนนี้แจงอมยิ้มไปเขียนไป ไม่รู้คนอ่านรู้สึกเหมือนกันรึเปล่านะค่ะ
สำหรับเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกค่ะ อาจทำให้หลายๆคนเบื่อที่จะอ่านไปบ้าง แล้วก็ไม่ใช่แนวที่แจงชอบเขียนด้วย
เป็นเรื่องแรกเลยค่ะที่เขียนแนวนี้ มันอาจทื่อๆไปหน่อย ฮ่าๆ แจงเลยพยายามมีอารมณ์ไปกับเพลงใน
การเขียนแต่ล่ะครั้ง หวังว่าคนอ่านจะชอบฉากนี้ ตอนนี้กันนะค่ะ เพลงนี้ที่แจงฟังอยุ่ ชอบมากค่ะ เพิ่งไปเจอมา
ถ้าใครรู้จัก หรือเคยฟัง และรู้จักคนร้อง ช่วยบอกหน่อยนะค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^_^
ปล. สำหรับมินตราแล้ว ถ้าเป็นผุ้หญิงไม่ดีจริงๆ คนอย่างอธิปจะรักจะหลงขนาดนี้เหรอค่ะ?
ตอนหน้าๆหลายๆตอน ใครคิดถึงสาวๆกันบ้างค่ะ อยากบอกว่าชะนีเรื่องนี้ร้ายแบ๋วนะค่ะ 5555
ขอบคุณ เพื่อน JC มากนะเว้ย ที่อุสส่าทำลิ้งภาพให้แต่มันไม่ขึ้น ก็ไม่เป็นไรเนอะ
