CHAPER9“คุณไฟครับ มีแขกมาพอตื่นเถอะครับ”วริณอาสามาปลุกอธิปที่นอนไม่ยอมตื่นอยู่บนที่นอน ชายหนุ่มงัวเงียเล็กน้อยก่อนจะลุกนั่ง….
“แขกที่ไหนมาพอตอนเช้าๆหว่ะ คนจะนอน!”อธิปโวยวายตาปิดกวาดผ้าห่มลงบนพื้น อาการเมาคงค้างจากเมื่อคืน วริณเก็บผ้าห่มให้ พร้อมกับวางลงบนเตียง อธิปถอนหายใจพร้อมกับโงนเงนลุกจากเตียง โดยมีวริณค่อยประคองร่างชายหนุ่มไปที่ห้องน้ำ เพราะกลัวว่าอธิปจะล้มหัวฟาดเพราะความเมาไปเสียก่อน
“ใครมา”อธิปถามเสียงห้วนพร้อมกับถอดกางเกงนอนออกเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว เพราะเมื่อคืนอธิปไม่ได้นอนใส่เสื้อ
“คุณ กิตติกับคุณฟ้าใสครับ”วริณตอบ พร้อมหลุบตาต่ำ อธิปยิ้มอารมณ์ดีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ได้แกล้งวริณให้หน้าแดงก็อารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว
“สวัสดีครับคุณอา เอ่อแล้วก็คุณฟ้าใช่ไหมครับ”อธิปอยู่ในชุดสบายยกมือไหว้แขกทั้งสองพร้อมกับยิ้มต้อนรับ เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับบุคคลทั้งสองนัก แต่ก่อนลงมาจากห้องชายหนุ่มได้ซักจากป้าอรแล้วว่า คุณกิตติกับคุณฟ้าใสเป็นพ่อลูกที่มักจะมาเยี่ยมเยือนและทำธุรกิจกับทางบ้านเขาอีกด้วย
“สวัสดีจ๊ะ…สวัสดีค่ะ”ทั้งสองตอบไล่เลี่ยกัน อธิปมองหญิงสาวที่นั่งติดกับผู้เป็นพ่อ ทั้งสองมาทำไมกัน และก็มีธุระอะไร
“วันนี้อาต้องขอโทษด้วยนะที่มารบกวนหลานตั้งแต่เช้า กลับมาจากเมืองนอกเมืองนาคงจำอากับน้องไม่ได้แล้วหล่ะสิ”ชายวัยกลางคนกล่าว อธิปยิ้มพร้อมกับคิด คงเป็นญาติผู้ใหญ่ที่รู้จักเขาตั้งแต่เด็ก แต่โทษทีเขาจำไม่ได้หรอก แต่วริณหายไปไหนทำไมไม่ยอมมายืนคอยรับใช้เขาข้างๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมพอจำได้บ้าล่ะครับ น้องฟ้าใสโตขึ้นแล้วสวยกว่าตอนเด็กเลยนะครับ”อธิปกล่าวอารมณ์ดี ต้องเป็นอย่างนี้สิ ยังกับในหนัง หญิงสาวยิ้มตอบรับเขินอาย ….
“แล้ววันนี้คุณอามีธุระอะไรเหรอครับ”อธิปถามเมื่อแขกไม่มีทีท่าว่าจะคุยธุระสำคัญกันเสียที …
“ก็ไม่มีได้ธุระสำคัญไรมากหรอกอาก็แค่มาเยี่ยม และก็กำลังมาทวงสัญญาของอากับคุณพ่อหลาน”สัญญา? อะไรกัน สัญญากับคุณพ่อแล้วมาทวงอะไรกับเขาหล่ะ เขารู้สึกไม่ชอบใจพ่อลูกคู่นี้เลย ชายวัยกลางคนดูฉลาดและแฝงไปด้วยเล่ห์ ฟ้าใสเธอเองเช่นกัน ดูไม่ต่างกับพ่อของเธอเท่าไหร่เลย
“ทวงสัญญา?...สัญญาอะไรเหรอครับ”อธิปถาม กิตติยิ้ม พร้อมกับหันหน้าไปมองลูกสาว
“ตอนหลานเด็กๆอากับคุณพ่อของหลานทำสัญญากันว่าจะให้ลูกของเราแต่งงานกันเมื่อถึงโอกาสเหมาะสม อาว่ามันก็ถึงเวลาแล้ว อาอยากให้หลานกับน้อง เรียนรู้ซึ้งกันและกัน”แต่งงาน!? เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ และไม่อยากจะคิดด้วย สัญญาบ้าบออะไรกัน เขาไม่บ้าทำตามสัญญานั้นหรอก ชายหนุ่มคิด พลางเก็บอารมณ์ จะคลุมถุงชนเขาเหรอ ฝันไปเถอะ! อธิปฉุนเฉียวพร้อมกับสะดุดสายตากับวริณที่ยืนนิ่ง ในมือถือถาดน้ำส้มอยู่
“ผมยังไม่พร้อมครับ”อธิปตอบ พร้อมกับจ้องวริณ พ่อบ้านของเขากำลังเดินมาและวางน้ำส้มลงบนโต๊ะให้กิตติฟ้าใส และอธิป
“เหรอว่าพี่ไฟ จำฟ้าไม่ได้แล้วค่ะ”หญิงสาวท้วง น้ำเสียงฟังดูน้อยใจ ใบหน้าสวยๆงอลงเล็กน้อย
“ครับ พี่จำฟ้าไม่ได้ต้องขอโทษด้วยนะ เพราะเรื่องวัยเด็กของเรามันผ่านมานานละ”อธิปตอบ หญิงสาวและผู้เป็นพ่อหน้าเสีย ก่อนที่กิตติจะฉีกยิ้มให้อีกครั้ง
“อาไม่ได้ว่าอะไรหรอก หลานเองก็คงยังไม่เปิดใจ อาอยากให้ศึกษากันดูก่อน อีกอย่างฟ้าเองก็จบการบัญชีมา อาอยากให้ฟ้าไปทำงานกับหลานด้วยจะได้สนิทสนมกัน”
“อืม งั้นก็ได้ครับ”อธิปจำใจตอบรับ เพราะหากปฏิเสธจะเป็นการเสียมารยาท กิตติเองท่าทางจะมีหุ้นอยู่ในบริษัทไม่ใช่น้อย เพื่อธุรกิจของเขาที่กำลังฟื้นตัว ก็ต้องประคับประคองไปก่อน
“ขอบคุณนะค่ะ ที่ให้โอกาสเราได้ดูใจกัน แต่ตอนนี้ฟ้าหิวละค่ะ ยังไม่ได้กินอาหารเช้ามาเลย คุณพ่อก็เร่งฟ้าให้มาแต่เช้า”เช้าของหญิงสาวและอธิปไม่ได้เป็นเวลาเช้าอย่างที่คิด เพราะตอนนี้เวลาต่างร่วงเลยไปเกือบจะเที่ยวแล้ว อธิปเอ่ยปากชวนสองพ่อลูกไปร่วมโต๊ะด้วยกัน แต่กิตติปฏิเสธเสียก่อนเพราะอ้างว่ามีงานที่บริษัทของตนเข้ามา แต่ที่จริงนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้คุยกันสะดวกมากกว่า
“อาหารน่าทานจังเลยนะค่ะ วันหลังฟ้าต้องมาฝากท้องที่นี่บ่อยๆซะแล้ว”หญิงสาวว่าน้ำเสียงตื่นเต้น อธิปยิ้มๆก่อนจะจับมือวริณใต้โต๊ะดึงแขนให้นั่งลงบนเก้าอี้
“ทานอะไรรึยัง”
“ยังครับ”
“นั่งทานด้วยกันสิ”อธิปเอ่ยถามชายหนุ่ม วริณกังวลเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ อธิปบีบข้อมือแรงขึ้น จนชายหนุ่มยอมนั่งลงข้างๆ
ฟ้าใสแปลกใจกับชายหนุ่มตรงหน้าสองคนเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มที่เธอมั่นใจว่าสามารถมัดหัวใจของอธิปได้
“ใครเหรอค่ะ”ฟ้าใสถาม พิจารณามองวริณ หน้าตาหล่อเหลาเอาการ แต่ทำไมต้องยกอาหารมากับพวกคนใช้ ตอนแรกคิดว่าคนใช้ หรือว่าไม่ใช่
“วริณครับ”ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะก้มหน้าไม่มั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองโดนเปรียบเทียบ อธิปไม่ควรชวนเขามานั่งด้วยเลย
“น้องชายเหรอค่ะ ฟ้าไม่ยักรู้ว่าพี่อธิปจะมีญาติที่ไหนอีก”ฟ้าใสยังไม่ลดละ รู้สึกไม่ชอบใจวริณ เพราะท่าทางไม่ใช่คนมีฐานะหรือเพื่อนของอธิปแน่
“ไม่ใช่หรอก พี่กับวริณห่างกันแค่ปีเดียว เขาเป็นคนดูแลพี่น่ะ”อธิปตอบ หันไปสบตากับวริณ
“อ่อค่ะ ฟ้าว่าเราทานอาหารกันเถอะค่ะ”หญิงสาวยิ้มสดใส ลดถาวะตึงเครียดของโต๊ะอาหารลงไป เพราะไม่อยากให้อธิปไม่ถูกใจนิสัยอยากรู้อยากเห็นของเธอซะก่อน ฟ้าใสตักอาหารให้อธิป พร้อมกับอธิปที่ตักอาหารให้วริณ ทำให้หญิงสาวเริ่มไม่ชอบใจวริณและพฤติกรรมแปลกๆของอธิปมากขึ้น
ทานอาหารเสร็จ ฟ้าใสก็ชวนให้อธิปพาเธออวดบ้าน กินขนมและพูดคุยกัน ไม่ว่าฟ้าใสจะชวนอธิปทำอะไร ชายหนุ่มมักลากตัววริณเข้าไปร่วมด้วยทุกครั้ง
จะอะไรกันนักหนา !?
หญิงสาวคิด ไม่ว่าจะเล่ห์เหลี่ยมอะไร อธิปก็ไม่เห็นมีท่าทีพิศวาสอะไรในตัวของเธอเลย ทั้งๆที่ไม่ว่าเธอจะเดินไปไหนมักจะเป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในความน่ารักใสซื่อที่เธอแกล้งทำไว้เสมอ
“พี่ไฟค่ะ ไปส่งฟ้าที่บ้านหน่อยสิค่ะ”เมื่อเริ่มสนิทกันมากแล้ว หญิงสาวจึงเริ่มอ้อนให้ชายหนุ่มไปส่งที่บ้าน เผื่อระยะทางระหว่างถึงบ้าน เธอจะได้คุยกระหนุงกระหนิงกับอธิปไปด้วย ชายหนุ่มลังเล ก่อนจะพยักหน้ายิ้ม พร้อมกับดึงมือของวริณที่ยืนอยู่ห่างๆผลักเข้าไปในรถ พร้อมกับเปิดประตูรถห้เธอด้านหลัง หญิงสาวเบิกตาอึ้งปนหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะสะกดอารมณ์เข้าไปนั่งในรถ อธิปยิ้ม ก่อนจะเดินไปอ้อมรถเข้าไปในที่นั่งคนขับพร้อมออกรถอย่างเร็ว โดยมีวริณค่อยเหลือบมองอธิปอย่างงงๆ ไม่แพ้ฟ้าใสที่นั่งหน้าบึ้งไปตลอดทาง
คิดจะจับเขาต้องคิดใหม่ซะแล้ว…ยัยฟ้ามัวหมอง
“กลับบ้านดีๆนะค่ะ”ฟ้าใสโบกมือลาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในรถ ชายหนุ่มยิ้มรับพร้อมกับออกรถออกไป ฟ้าใสหน้างอ เสยผมพร้อมกับก้าวขาฉับๆเข้าบ้านด้วยความหงุดหงิด
“คุณฟ้าใสเธอสวยและเก่งเหมาะกับคุณไฟมากเลยนะครับ”วริณพูดแสดงความชื่นชม เพราะตอนที่ป้าอรให้เขายกเครื่องดื่มไปเสิร์ฟเขาได้ยินเรื่องการมาของแขกทั้งสองพอสมควร
“เหรอคิดว่างั้นสิ คงดีใจล่ะสิ ที่ผมมีคู่หมั้นแล้ว”อธิปถามประชด วริณก้มหน้าลงบีบนิ้วตัวเองคลายความกังวลที่เขาก็ไม่แน่ใจ เกิดเพราะสาเหตุอะไร
“คุณก็น่าจะดีใจไม่ใช่เหรอครับ คุณฟ้าเธอออกจะสวยผู้ชายที่ไหนเห็นก็คงจะชอบเธอ”วริณตอบ พร้อมกับยิ้มให้อธิป ยิ้มเศร้าๆ
“แค่สวยและมีฐานะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดทำให้ผมต้องรักใครได้ง่ายๆหรอกนะ คุณก็ควรรู้ไว้ด้วย วริณ!...”อธิปเร่งรถเร็วขึ้น รู้สึกเหมือนวริณกำลังดูถูกตัวเอง และไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น วริณมีอะไรที่พิเศษต่างจากคนอื่น ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เขายังจำได้
.
.
.
“ห้าง? คุณไฟจะแวะซื้ออะไรเหรอครับ”วริณถามพร้อมลงจากรถ อธิปไม่ได้ตอบอะไร เดินนำเข้าไปแทน
“คุณครับ…รอผมด้วย”วริณวิ่งเข้าไปใกล้ อธิปยิ้ม ก่อนจะกุมมือวริณเบาๆ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย พอเห็นหน้าดุๆของอธิปก็ยอมให้จับต่อไปโดยดี
“อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม?”อธิปถามชายหนุ่มข้างๆ วริณทำท่าคิด แต่ก็ไม่ได้อยากได้อะไร ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ครับ ผมไม่ได้อยากได้อะไร คุณก็ให้ผมเยอะแล้ว”
“ก็อยากให้อีก นานๆที่ผมจะออกมาช้อปปิ้งกับผู้ชายนะคุณ”อธิปยิ้มกวน
“ผมไม่อยากได้อะไรจริงๆครับ แล้วแต่คุณ”วริณตอบ ก่อนจะโดนอธิปฉุดตรงไปร้านตุ๊กตาตรงหน้า ในร้านมีตุ๊กตาหมีน่ารักเต็มไปหมด วริณลองแตะไปที่หมีตัวหนึ่ง ขนนุ่มน่ารักจนชายหนุ่มเผลอยิ้ม
“เมื่อวานแซมกลับมาจากตลาดพร้อมกับตุ๊กตาที่ป้าอรซื้อให้ ผมเลยอยากให้คุณเลือกตุ๊กตาให้แซมหน่อย”อธิปบอก พร้อมกับนึกถึงหน้าเด็กน้อย ป่านนี้คงสนุกกับการเล่นในสวนหลังบ้านละมั้ง
“ตุ๊กตาตัวนั้นแซมติดมากเลยครับ อวดแล้วอวดอีก”วริณพูดยิ้มๆ หยิบหมีตัวพอเหมาะขนสีขาวสะอาดขึ้นมาดู
“ตัวนี้นะ ผมว่าน่ารักดี”อธิปจ่ายตังค์พร้อมกับถุงตุ๊กตาหมีให้วริณถือ และตรงไปยังร้านเสื้อผ้าบุรุษ ชายหนุ่มอยากลองเลือกเสื้อผ้าให้วริณใส่ดูบ้าง
“ตัวนี้ดูดีจังเลยครับ”วริณหยิบเชิ้ตแขนยาวสายทางสีขาวขึ้นมาพร้อมกับทาบลงที่อกของอธิป
“จริงเหรอ แล้วผม ดูดีด้วยไหม?”อธิปถามหน้าซื่อพร้อมกับหยิบเสื้อในมือของวริณ ชายหนุ่มหน้าแดง ก่อนจะเดินหลีกไปตรงมุมอื่น
“วริณมานี่”อธิปเรียกชายหนุ่มที่กำลังยืนเหม่ออยู่ ก่อนจะเดินไปตามเสียงเรียกของเจ้านายที่กำลังเลือกเสื้ออยู่อย่างขมักเขม้น
“น่ารักไหม ผมว่าเหมาะกับคุณนะ สีสดใส ไม่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป”อธิปพูด พร้อมกับทาบเสื้อยืดสองสามตัวบนอกเขา วริณพยักหน้า ตามใจชายหนุ่มไป โดยไม่ได้สังเกตคนอื่นๆที่เริ่มหันมามองเขาสองคน
“คุณไฟ กลับบ้านเถอะครับ ผมเมื่อยขาจัง”วริณบ่นปนอ้อนเพราะเขาเหนื่อยกับการวิ่งเข้าร้านนู้นออกเข้าร้านนี้ของอธิปเต็มทน ชายหนุ่มก็ทำราวกับเขาเป็นเด็กผู้หญิงคอยซื้อของนู้นนี้เอาใจตลอดเวลา
“อืม กลับก็กลับแต่ก่อนกลับแวะซื้อขนมหน่อยละกัน ได้ออกมาเที่ยวเองแบบนี้ น่าจะซื้อขนมหวานให้พวกป้าๆเขานะ”อธิปว่าพร้อมกับเดินหันหลังไปที่ร้านเบเกอรี่ที่เขาเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อกี้
ถึงแม้เขาจะเป็นคุณหนูอย่างที่ใครว่า แต่พวกแม่บ้านแม่เรือนป้าๆที่คอยดูแลคุณพ่อคุณแม่และเขา ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะไม่เหลียวแล เพราะทุกคนก็เหมือนเป็นครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกับเขา และอยู่ด้วยกันมานาน ถึงแม้เขาจะคิดว่าเสมอว่าตัวเองคนเลวและไม่ดี และอธิปในสายตาของคนอื่นๆนั้นเขาเป็นคนที่น่าเกรงขามและอัธยาศัยดี
“ผมว่าป้าอร กับลุงชัยต้องชอบมากแน่ๆเพราะบ่นอยู่ทั้งวันเลยครับว่าอยากกินของหวานแต่ลืมซื้อมา”วริณว่า พร้อมกับยกถุงขนมหวานและอื่นๆที่ตนช่วยเลือกให้อธิปดู
“ก็ดีแล้ว วันนี้มากับคุณซื้อของพะรุงพะรังจนแทบจะถือกลับไม่ไหว”อธิปตอบ วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมากทีเดียว ได้มาซื้อของกับวริณ รู้สึกเหมือนเขาจะรู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น และรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับวริณ เหมือนเขาเป็นผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว มีวริณและแซมที่ต้องคอยดูแล…
“ป๊าาา!~ ครับ”ไม่ทันที่วริณจะได้ลงจากรถเด็กน้อยก็วิ่งตะโกนมาต่ไกล แซมโผงเข้าหาวริณจนตัวเซ
“ครับ”
“พ่อดินหายไปไหนมา ไม่บอกแซมเลย”
“พ่อไปส่งคุณฟ้าใสกับซื้อของมาครับ”วริณตอบพร้อมเอาของลงจากรถแซมช่วยขนถุงของอีกแรง อธิปหยิบถุงตุ๊กหมีตัวใหม่โชว์ให้แซมดู เด็กน้อยตาโตพร้อมกับโผงเข้ากอดขาอธิปทันที
“หมี…น่ารัก”แซมมองตาเป็นประกาย อธิปยื่นถุงหมีให้ แซมอ้ามือรับ พร้อมกับรัดแขนแน่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ขอบคุณฮ่ะ…พ่อไฟ?”เด็กชายพูดพลางเอียงคอ อธิปและแซมปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ต่างกับวริณที่อยากจะเข้าไปดุแซม ที่กล้าเรียกอธิปว่าพ่อ แต่เห็นท่าทีของชายหนุ่มแล้ว คงไม่ถือกับความไร้เดียงสาของแซม
“แซมอย่าไปเรียกคุณไฟเขามาพ่อสิ แซมมีพ่อดินแล้วไม่ใช่เหรอฮ่ะ”วริณก้มลงไปกระซิบกับแซม เด็กชายส่ายหน้าก่อนจะชี้มาที่วริณ
“พ่อดินน่ะ เป็นแม่ของแซมแล้ว…ส่วนคุณอาเป็นพ่อไฟ เมื่อวานพ่อไฟสอนแซมแบบนี้”
“……………………………….”
“ผมสอนแซมเองแหละ”อธิปบอกก่อนจะยิ้มเดินเล่นกับแซมเข้าไปในบ้าน ส่วนวริณก็ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
พ่อแม่ลูก…
ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดี…
หลังจากขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ วริณไม่ได้ไปช่วยป้าๆในครัวทำอาหารเพราะต่างก็ทำอาหารเตรียมไว้เสร็จแล้ว อธิปก็ยังชวนเขาและแซมทานข้าวด้วยอีกเช่นเคย เพราะเขาไม่ชอบการทานข้าวคนเดียว
“แซมอิ่มแล้วเหรอ กินผักเยอะๆจะได้สูงๆ”วริณเตือน ตักผัดผักใส่จานให้แซม ที่ไม่ยอมแตะต้องผักกับผลไม้เลยแม้แต่น้อย
“ครับ…”แซมเสียงอ่อย ตักผักขึ้นมากินหน้างอ โดนตามใจบ่อยเข้าจนเคยตัวแล้วเนี่ย ไม่ดีเลย วริณคิด เพราะแซมดูเหมือนจะเอาแต่ใจมากขึ้น
“ว่าแต่แซม คุณก็ควรทานข้าวเยอะๆ”อธิปดุบ้าง เพราะเขาเห็นคนตรงหน้ากินข้าวไม่กี่คำก็จะดื่มน้ำต่อทันที
“แม่ดินทานข้าวเยอะไม่ได้หรอกครับ ชอบบ่นว่าปวดท้อง”แซมว่าพลางเคี้ยวผักแก้มตุ่ย
แปะ
“เรียกแม่ได้ไงแซม พ่อเป็นผู้ชาย”วริณตบที่แขนแซมเบาๆ อธิปหัวเราะ แซมหน้างอ
“ก็พ่อไฟสอนแซมอะ”วริณหันไปมองอธิปที่หัวเราะกับแซม เข้าขากันดีเหลือเกิน ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเก็บจานชามเข้าครัว แซมกับอธิปก็พากันขึ้นห้อง คุยเล่นกันสนุกสนาน
แกรก
“เฮ้ยยย ว๊ากกกกกกก แบร่”
“…………………………”
“แฮ่กกกๆ พ่อดินช่วยแซมด้วย ว๊ากกกพ่อไฟ”วริณยืนอึ้งอยู่หน้าประตู แซมกับอธิปกำลังปะทะหมอนกันอย่างสนุกสนาน ข้าวของบนเตียงกระจุยกระจาย ทั้งสองนั่งพักหายใจอยู่บนเตียง สงบศึกกันเสร็จแล้ว แซมกับอธิปก็ลุกจากเตียงช่วยเก็บของ วริณไม่ได้ว่าอะไร แค่ตกใจที่เห็นมุมๆหนึ่งของอธิปที่เล่นอะไรเป็นเด็กๆ …
“พ่อไฟจะไปไหน…”แซมท้วงถามเมื่อเห็นอธิปกำลังจะเดินออกจากห้อง ชายหนุ่มเอียงคอพลางสงสัย
“พ่อดินฮ่ะ แซมอยากกอดพ่อไฟด้วย”แซมหันไปพูดกับวริณ ชายหนุ่มส่ายหน้า
“คุณอาเขาจะนอนกับเราได้ไงแซม ดื้อใหญ่แล้ว”วริณว่า ลูบหัวให้แซมนอน
“งั้นผมนอนด้วย…นอนคนเดียวเหงาจะตาย”อธิปยิ้ม เดินไปที่เตียงนอนขลุกกับแซม เด็กน้อยดีใจกอดอธิปแน่น วริณอึ้งไปซะพัก ก่อนจะปิดไฟที่หัวเตียง นอนลงข้างๆกับแซมอีกด้าน มือของอธิปที่กอดแซมไว้กำลังกุมมือเขาไปด้วย
“คุณ….”วริณเอ่ยเบาๆเพราะแซมกำลังจะหลับแล้ว ก่อนจะดึงมือออก แต่อธิปกลับกุมเอาไว้แน่น
“นอนน่ะ!...”อธิปทำเป็นไม่สนใจ กุมมือของวริณแน่นไว้ดังเดิม ไม่นานทั้งคู่ก็หลับกันไปพ่อลูก ส่วนอธิปลุกขึ้นนั่ง ขยับแซมให้นอนชิดผนังห้อง ส่วนตัวเองขยับวริณให้ชิดกับแซมแล้วนอนราบกอดวริณกลม แล้วก็หลับไปเหมือนกัน จนถึงเช้า…
ง่วงง = =
ช่วงนี้จะขยันอัพนิดนึงค่ะ จะได้จบก่อนตอนที่แจงจะเปิดเทอม และจะรีบเคลียร์ๆนิยายที่ค้างอีกเรื่องให้เสร็จ
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรียบๆหน่อย ค่อยเป็นค่อยไปละกัน อย่างเพิ่งเร่ง อย่าเพิ่งรีบ หายไปไหนกันซะก่อนนะ อิอิ
ขอบคุณสำหรับเม้นทุกเม้นเช่นเคยค่ะ ^^