CHAPTER 8
“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่อยากดูแล”
วริณเหมือนหูจะอื้อไป ตะกี้เขาเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า คำเมื่อกี้ยังแว่วอยู่ในหู
“คุณไฟ แล้วแซมกับป้าอรยังไม่กลับจากตลาดเหรอครับ”วริณถามเมื่อออกมาจากครัวกับอธิปเขายังไม่เห็นหน้าลูกเลย
“รถเสียอยู่ที่ตลาดนู้นแหนะ อีกซักพักบ่ายแก่ๆก็คงกลับ”อธิปตอบ นั่งลงเปิดทีวีดู
“แล้วเป็นอะไรกันมากไหมครับ”วริณถามร้อนรน กลัวว่าแซมจะงอแงกวนป้าๆ
“ไม่หรอก คงเที่ยวกับสนุกละมั้ง น้ำเสียงป้าอรดูสดใสดี”อธิปบอก พลางดึงมือคนที่ยืนค้ำหัวอยู่นั่งลงบนตัก
“คุณ!!?”วริณโวยวาย แขนแกร่งโอบเอวเขาแน่น อธิปยิ้มหน้าหื่น ถ้าใครมาเห็นเข้าจะหาว่าเราทำอะไรวิปริตกันได้ ผู้ชายกับผู้ชายนั่งตักกันน่าเกลียดจะตายไป
“โวยวายแต่ไม่ดิ้น แถมแก้มยังแดง มันหมายความว่าไงกันคุณ!?”อธิปล้อเลียนก่อนจะฝันจมูกลงกับแผ่นหลังของวริณ
“ปล่อย ! นะคุณ”วริณดิ้นสีหน้าไม่ค่อยพอใจจนอธิปยอมปล่อย วริณยืนขึ้นก่อนจะเดินหนี อธิปยิ้ม ก่อนจะดูทีวีของตนต่อ
อดใจไม่ไหว…เมื่อได้พบหน้า
ยิ่งเธอส่งยิ้มคืนมา…ยิ่งหวั่นไหว
เพลงก็เปิดได้บรรยากาศพอดี ‘หวั่นไหว’อธิปลอบมองคนที่ยืนไม่ใกล้ไม่ไกลในสายตาเขานัก
วริณยิ้ม มันทำให้เขาหวั่นไหวกับรอยยิ้มประหลาดนั้น ถึงแม้ว่าวริณอาจจะยิ้มให้กับตู้โชว์ที่อยู่ตรงหน้าของตนก็ได้ แต่อธิปก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี ว่าคนแก้มเนียนนั้นกำลังคิดถึงเขาอยู่
บ้าไปแล้ว !
เฮ้อ ! เขากำลังตกหลุมรักผู้ชายจนๆมีลูกติดคนหนึ่งเหรอ?
เขาไม่ใช่วัยรุ่นที่จะมีรักครั้งแรกเมื่อพบสบตานะ…
อายุก็ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว แต่ทำไมหัวใจของเขากระชุ่มกระชวยผิดปกติ
เพราะผู้ชายคนนั้นเหรอไง?
“สวัสดีครับ คุณอา”เสียงใสของแซมทักทาย ชายหนุ่มที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่หน้าจอทีวี อธิปส่ายหัวเบาๆไล่ความมึนงง ก่อนจะหัวแซมขยี้เบาๆ
“เสียงหวานมาเชียวนะ”ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเอ็นดู
“ฮ่ะ วันนี้ไปตลาดซื้อของกินมาเยอะแยะเลย ป้าอรก็ซื้อของเล่นให้ด้วย แซมสนุกมากเลยครับ”แซมเล่า ยกตุ๊กตาหมีสองสามตัวในถุงให้อวดอธิปดู
“ตุ๊กตา? นั้นมันของเล่นของเด็กผู้หญิงนะแซม”อธิปว่า แซมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“แซมเป็นผู้ชายจะเล่นไม่ได้เหรอฮ่ะ เวลากอดมันก็อุ่นดี แล้วป้ายมันก็ไม่ได้บอกว่าห้ามผู้ชายเล่นด้วย”แซมเถียงอย่างเอ็นดู มือเล็กๆกอดน้องหมีของตนแน่น จนอธิปยอมส่ายหัวให้กับความน่ารักของแซม
“อาก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”
“ครับ แซมขึ้นไปบนห้องก่อนนะครับ ออ แซมขอบคุณคุณอามากครับ ที่ดีกับพ่อและแซมมากๆเลย”แด็กชายบอกด้วยรอยยิ้มสดใส วริณมักสอนแซมอยู่บ่อยๆเมื่อใครดีกับเรา เขาก็ควรได้รับคำขอบคุณ
“เดี๋ยวแซม อาไม่ชอบให้แซมเรียกอาว่าอาเลย”อธิปบ่นทำหน้าน้อยใจ
“แล้วให้เรียกว่าอะไรเหรอครับ”เด็กชายถาม
“เรียกพ่อไฟไง”
“อา ได้ไงแซมมีพ่อดินแล้ว”แซมเถียงอีก อธิปหน้ามุ้ย
“งั้นก็เรียกอาว่าพ่อ เรียกพ่อดินว่าแม่เป็นไง”อธิปหลอกล่อ แซมคิดก่อนจะพยักหน้ายิ้ม
“ดีเหมือนกันครับ แซมจะได้มีทั้งพ่อและแม่ด้วย เวลาไปโรงเรียนแซมจะได้ไปอวดเพื่อนว่าแซมมีพ่อมีแม่แล้ว”
“ดีมาก”อธิปดึงแก้มแซมสองข้างก่อนจะปล่อยให้ขึ้นห้องไป คิดแล้ว แซมก็น่าสงสารไม่ต่างกับวริณ คำถามที่ชายกนุ่มค้างคามาตลอด คือ แซมเป็นลูกของใคร เพราะอธิปไม่ปักใจเชื่อนักว่าวริณจะเคยมีภรรยามาก่อน
…
คืนนี้มีนัด อธิปแต่งตัวสวยสูทธรรมดา แต่เมื่อได้อยู่บนเรือนร่างชายหนุ่มแล้วไม่ว่าชุดไหนก็ทำให้เขาดูดีไปซะหมด ชายหนุ่มยืนดูตัวเอง ก่อนจะปลดกระดุมลงสองสามเม็ดเผยให้เห็นอกขาวเนียนไม่ว่าใครก็ร้องเรียกหาที่จะซบ วันนี้อธิปไม่ได้เรียกให้วริณเข้ามาดูแล เพราะเมื่อเช้าแกล้งเขาไว้เยอะ อยากแกล้งต่อเมื่อไหร่ค่อยเรียกมาละกันมีเรื่องสนุกๆให้ทำอีกเยอะ
แปะ
เสียงกระทบของฝ่ามือชายหนุ่มสองคน อธิปยิ้มให้กับภัทรกรหรือกรเพื่อนสมัยมัธยมของเขา นับว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันเลยก็ได้ เพราะตอนอยู่เมืองไทยก็มีภัทรกรนี่แหละ เพื่อนก๊วนชวนไปซ่าส์ท้าบาทากันอยู่บ่อยๆนั้นก็เรื่องเมื่อนานมาแล้ว เขาสองคนมักทำอะไรท้าทายกันอยู่เสมอ ก่อนจะแยกย้ายกันไปเมื่ออธิปต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนภัทรกรก็เรียนไปด้วยช่วยพ่อกับแม่จัดการเกี่ยวกับธุรกิจของทางบ้านไปด้วย
“ วันนั้นมึงผิดนัดกู”ภัทรกรเอ่ยก่อนจะกระดกไวน์จนหมดแก้ว วันนั้นของภัทรกรก็คือวันเดียวกับวันที่เขาเกือบขับรถชนวริณ
“กูมีธุระกะทันหันนิดหน่อย มึงเข้าใจกูใช่ไหม”อธิปว่า นั่งไข่วห้างพร้อมกับใช้สายตาโลมเลียกับผู้หญิงโต๊ะตรงข้ามที่เริ่มสนใจมองเขา
“เออ ก็มึงปล่อยให้กูรอตั้งนาน กลับมาก็ไม่บอกกูซักคำเลวว่ะ”กรเอ่ย แสร้งน้ำเสียงน้อยใจ ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่ ไม่นานนักโต๊ะของเขาทั้งสองก็มีผู้หญิงมานั่งเป็นตุ๊กตาในอ้อมกอด พร้อมกับคุยเรื่องชีวิตในช่วงที่ไม่ได้เจอกันมานาน อธิปและภัทรกรต่างคนต่างดื่มไม่มากนัก ให้พอกรุ่มกริ่มเพราะต้องมีภารกิจกับผู้หญิงที่ทั้งสองเลือกมาต่อจากนั้น ครอบครัวก็ยังไม่มี อิสระด้วยกันทั้งคู่ ไม่แปลกที่ผู้ชายอย่างเราๆก็ต้องการปลดปล่อยกันบ้างเป็นธรรมดา
“กร กูเบื่อ”อธิปบอกพร้อมทำหน้าเซ็ง
“เบื่ออะไรของมึง กูก็เห็นมึงมีความสุขดี เรียนจบนอก ทรัพย์สินมีมั่งคั่ง ฐานะมั่นคง รูปร่าง หน้าตาดี มึงมีไรให้เซ็งกับเครียดอีกว่ะ”กรบ่น ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“กูเบื่อที่จะต้องแสร้งทำ กูต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง กูยังไม่พร้อม ที่จะกลับมาดูแลกิจการของพ่อกับแม่กู กูยังรักสนุก แล้วยังต้องใส่หน้ากากเขาหาใครหลายๆคน”อธิปพูดความในใจ เขาเป็นคนใจร้อน แต่ต้องแสร้งทำเป็นสุขุมอย่างที่พ่อของเขาได้สอนไว้ จะให้คนมานับถือเรานั้นเราต้องเป็นคนรอบคอบและใจเย็นคิดตัดสินต้องคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า
“พูดยังกับมึงเป็นคนเลว แกล้งทำความดีอย่างนั้นแหละ”
“ก็กูมันเลวจริงๆนี่หว่า เพราะกูไม่ใช่เหรอผมให้พ่อกับแม่กูต้อง….”
“หยุดพูดเหอะ เรื่องผ่านไปแล้ว มึงก็ปรับตัวแล้ว กูชวนมึงมาดื่ม มาดูสาวๆกลับมาดราม่าใส่กูเพื่อ”กรแกล้งให้เพื่อนยิ้ม อธิปยิ้มเหมือนจะสมเพชชีวิตตัวเองก่อนจะกระดกไวน์ไปอีกแก้ว เพื่อลืมเรื่องเจ็บปวดในอดีต
อธิปวางเงินไว้สี่ห้าพันก่อนจะแต่งตัวออกจากคอนโดผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ที่เขาโดนหิ้วมาพร้อมกับความเต็มใจ ชายหนุ่มมึนหัวเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่ดื่มมาพอสมควร อธิปออกรถอย่างเร็ว เพราะตอนนี้เขากลับรู้สึกอะไรบางอย่างที่ผิดเพี้ยน เขากำลังคิดถึงใครบางคน…
ครืดด
เสียงรถที่กำลังจอดอยู่หน้าบ้านทำให้วริณต้องหันหน้ากลับไปมองยังที่มาของเสียง และร่างของอธิปที่แต่งกายไม่ค่อยเรียบร้อยนัก อธิปหันกลับไปมองสายที่กำลังจ้องเขาอยู่ วริณรีบหลบสายตาก่อนจะงุดหน้าลงแทนการเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตนตั้งใจ
กึก กึก…
“มาตากน้ำค้างอยู่ทำไม?”อธิปถามเสียงขุ่นเมื่อคนตรงหน้าทำอะไรไม่เข้าเรื่อง เพิ่งสร่างไข้ ริจะหาเรื่องป่วย
“…..”เงียบ วริณเลือกที่จะเงียบและไม่สนใจอธิปแทน เขาไม่ชอบคนไม่มีเหตุผลและตอนนี้อธิปกำลังระเบิดอารมณ์ใส่เขาอยู่
“ลุกเข้าไปในบ้าน”อธิปขึ้นเสียงดุอีกครั้ง วริณก็ยังนิ่ง นึกบ้าอะไรขัดใจเขาขึ้นมาในวันนี้ด้วยโอ๊ย ปวดหัว !
“ผมว่าคุณกำลังเมาแล้วนะ เข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ”วริณบอกอย่างห่วงใย และไม่ชอบใจ ถึงอธิปจะเป็นเจ้านายของเขา แต่เขาก็ไม่ชอบท่าทางของคนเมาตรงหน้าเลย
“คุณมีสิทธิไรมาสั่ง ! ผมบอกให้คุณลุกก็ลุก หรืออยากให้ฉุดหรืออุ้มไป”อธิประเบิดอีกครั้ง รั้งแขนคนดื้อไม่เข้าที่เข้าเวลาขึ้น วริณลุกตามแรงกระชาก อธิปขมวดคิ้วกันแน่น ก่อนจะหลับตาถอนหายใจ นับ 1-10 ในใจ แล้วปล่อยมือจากแขนของวริณ
“โทษทีผมปวดหัว เข้าไปนอนด้วยกันเถอะ ดึกแล้ว มัวแต่ตากน้ำค้างเดี๋ยวก็ไม่สบาย”อธิปพูดอย่างใจเย็น วริณพยักหน้าหวาดระเวง ก่อนจะเดินตามหลังอธิปเข้าไปในบ้าน
ไม่ได้อยากออกมาตากน้ำค้าง…แต่อยากดูดาว
แต่ที่อยากรู้จริงกว่านั้น…เมื่อไหร่คนตรงหน้าจะกลับมามากกว่า
เพราะเขาเป็นห่วง เฮ้อ…
“คุณไฟหายไปไหนมาเหรอครับ”วริณถาม เมื่อบรรยากาศระหว่างทางขึ้นห้องมันน่าอึดอัดเกินไป
“ก็เห็นอยู่ว่าเมา ก็ต้องไปดื่มมาสิ”ตอบดีๆไม่เป็นเหรอไง วริณคิด และเลือกที่จะเงียบต่อไปดีกว่า
“ปวดหัว ไม่สบาย เช็ดตัวให้หน่อย”วริณฟังคล้ายเหมือนอธิปกำลังจะอ้อนเขา วริณพยักหน้า พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องของอธิป ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้ออกอย่างไม่ใยดี แล้วก็ส่งเสียงหงุดหงิดในลำคอ จนวริณต้องเอือมมือไปปลดกระดุมให้แทน อธิปก็จ้องหน้าเขาจนชายหนุ่มหน้าแดง
ฟุบ
อธิปทุ่มกายลงบนเตียง วริณเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับกะละลังและผ้าผืนเล็กบิดน้ำหมาดๆเช็ดไปตามแผ่นหลังของอธิป
“คุณนอนหงายสิ ผมจะได้เช็ดด้านหน้าให้”วริณบอก ชายหนุ่มพลิกตัวอย่างเร็วพร้อมกับจ้องหน้าคนสั่งจนทำอะไรไม่ถูก วริณใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กลูบไปตามอกกว้างที่แดงขึ้นเล็กน้อย ที่ไหล่เหมือนมีรอยเล็บข่วน และที่คอ รอยจูบ แดงๆ
“คิดอะไร”อธิปถามเมื่อคนตรงหน้านิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิด
“ป่าว”วริณตอบพร้อมกับลุกจากเตียงนำกะละมังไปเก็บเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีก็เห็นว่าอธิปนอนหลับไปแล้ว ชายหนุ่มห่มผ้าให้ ก่อนจะจ้องใบหน้าของอธิปที่กำลังหลับอย่างสงบ เสียงลมหายใจค่อยๆแผ่วออก วริณปิดไฟที่หัวเตียงพร้อมกับเดินออกจากห้องด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนัก
‘ราตรีสวัสดิ์ครับ’
---------------------------------------------
ตอนนี้แจงก็เบลอๆ(ไม่ใช่เบล่อนะ555)อีกตามเคย อิอิ เพราะง่วงนอนมากนั้นเอง เลยไม่ได้ตรวจทานอะไร พิมเสร็จก็รีบอัพทันที
ยังไงก็ช่วยๆกันดูได้นะ
โม้นิดนึง
วันนี้เพิ่งไปรับผลสอบมา ปรากฎว่าได้ 3.98 ช็อคกันทั้งพ่อทั้งลูก จากเดิม 3.67 อัพพุ่งพรวด เพราะความตั้งใจและเหนื่อยมาก
อยากจะพูดว่า ถึงแม้ว่าแจงจะมีนิยาย บ้านักร้องซะหน่อยแต่ก็ไม่เคยทิ้งการเรียน และก็เคยมีคนสบประมาทไว้ว่า
เพราะมั่วแต่แต่งนิยายเกย์ไง เลยไม่มีเวลาทำการบ้าน ! ซึ่งเราทำการบ้านส่งครูตรงเวลาทุกครั้ง และพิสูจน์ได้ว่า
งานอดิเรกไม่ค่อยส่งผลประทบต่อการเรียนของแจงเลย ฉะนั้นคนที่เคยดูถูกคนอื่นนะ เลิกซะเถอะแล้วหันไปเตือนตัวเอง
ขอบ่นนิดนึงละกันนะ อย่าใส่ใจ 555 ขอให้ความสุขกับการอ่านและวันพรุ่งนี้ต่อๆไปมากๆนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้แจงมีความสุขมากค่ะ เพราะความฝันเมื่อนานมาแล้วเราอยากแต่งนิยาย ตอนนี้ก็ได้ทำสมใจอยากแล้ว
ขอบคุณมากค่ะ ^^