CHAPTER 10
“พ่อดิน !!! พ่อไฟ !!! สายแล้วครับ !!!”เสียงใสๆของแซมปลุกอธิปกับพ่อของตนที่กอดกันแน่น ราวกับจะไม่จากกันไกล อธิปงัวเงียขึ้นมาก่อน ตามด้วยวริณที่ค่อยๆขยับตัว
“เอะอะอะไรแซม นอนๆๆ”อธิปบ่นอิดออด ก่อนจะงุดหน้าลงไปกับซอกคออุ่นของวริณ แขนแกร่งโอบรัดแน่นขึ้น
“พ่อไฟๆ แต่แซมต้องไปโรงเรียน แล้วพ่อไฟไม่ไปทำงานเหรอฮ่ะ”แซมถามหน้างอ มือเล็กๆพยายามแกะแขนอธิปให้ออกจากพ่อของตน
ทำงาน งาน งาน งาน…!? โรงเรียน อะไร?
อธิปใช้สมองประมวลอยู่ซักพักก่อนจะเด้งตัวลุกนั่งบนที่นอน หันไปมองแซมที่ทำตาปริ่มๆคล้ายจะร้องไห้ ส่วนวริณก็ยังหลับลึก ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆ
“แซมไปอาบน้ำเร็ว แล้วนี่กี่โมงแล้วเนี่ย”
“ครับ”แซมรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนอธิปก็ค่อยๆปลุกวริณให้ตื่น อีกอย่างวันนี้เขาก็มีประชุมเช้าด้วย ถึงจะเป็นท่านประธานก็เถอะ แต่ถ้าเป็นคนไม่รักษาเวลา พนักงานจะคิดว่าเขาเป็นคนเหราะเหละนะสิ
“คุณ…ตื่นๆๆ”อธิปเขย่าไหล่วริณเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่หู ถึงเวลานี้ก็เถอะ ชายหนุ่มก็มีอารมณ์อยากจะโรแมนติกกับเขาบ้างเหมือนกัน
“อื้ออ…ครับ”วริณขยับตัวก่อนจะลืมตาขึ้น ลมหายใจอุ่นๆของอธิปจ่ออยู่ที่ใบหน้าของเขา
“ไปอาบน้ำเถอะ…”
“…………”
“มันจะสายแล้วว !!!”อธิปรีบลุกขึ้นจากเตียง ตามด้วยวริณที่เด้งตัวขึ้นมาติดๆ เขาเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ และแสงแดดจากหน้าต่างบ่งบอกเวลาว่ากำลังจะสายแล้วด้วย
…..
ในเช้าวันใหม่นี้ดูเหมือนอะไรจะเร่งรีบและยุ่งยากไปเสียหมด แซมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อนใคร รอพ่อของเราทั้งสองคนอยู่บนโต๊ะอาหาร ป้าอรให้น้องแซมทานโจ๊กไปก่อน เพราะถ้ามัวแต่รออธิปและวริณก็สายจวนอดกินอยู่ดี
“คุณใจเย็นๆสิ!”วริณดุอธิป เมื่อชายหนุ่มทำท่าทางราวกับกำลังคลุ้มคลั่งยังไงอย่างนั้น พลางเอือมมือไปช่วยกลัดกระดุมเสื้อให้เจ้านายอย่างใจเย็น
“ก็ผมมีประชุมนี่!”อธิปขึ้นเสียงบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจ กลับยิ้มเสียอีก เมื่อเห็นวริณหยิบเนคไทขึ้นมาจะใส่ให้เขา
“มาผมช่วย”อธิปบอก เอือมมือไปช่วยกลัดกระดุมสองสามเม็ดที่เหลือค้างไว้ วริณมองหน้าเขานิ่งๆก่อนจะหลุบตาลงไป
“ไม่อายต้องหรอกหน่า” อธิปแกล้งแซว เมื่อเห็นแก้มขาวๆของวริณขึ้นสีเล็กน้อย
“เสร็จแล้ว”วริณจัดเนคไทให้ พลางตบอกชายหนุ่มเบาๆ อธิปพยักหน้า ก่อนจะออกจากห้องลงไปด้านล่างพร้อมกัน
“แซนวิชค่ะ เอาไว้ทานบนรถ คงไม่ทันแล้ว”ป้าอรยื่นกล่องแซนวิชให้วริณ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวดที่ป้าอรยื่นให้ ก่อนจะเข้าไปในรถที่กำลังจอดรออยู่
“แซมทานไรยังครับ”อธิปถามเด็กน้อยที่กำลังมองไฟอย่างใจจดใจจ่อ
“ทานแล้วครับ”แซมหันไปตอบ ก่อนจะหันหน้าไปมองถนนตามเดิม
“รถติดหนักเอาการเลยนะครับ”วริณเอ่ยอย่างกังวลเมื่อมองไปยังถนนข้างหน้าและ มีรถราผู้คนวุ่นวายกันไปหมด
“อืม นั้นสิ แซมหยิบแซนวิชป้อนให้พ่อหน่อยนะ”อธิปบอก วริณเปิดฝากล่องออก แซมที่นั่งอยู่ตรงกลางหยิบแซนวิชป้อนให้อธิปที่ขับรถอยู่พร้อมกับ หยิบอีกชิ้นหนึ่งให้พ่อดิน ส่วนอีกชิ้นก็หยิบเข้าปากตัวเอง“อร่อยแฮะๆ”แซมหัวเราะ วริณยิ้มก่อนขยีหัวแซมเบาๆ พร้อมกับแซนวิชอีกหนึ่งคนที่เด็กชายป้อนให้
“พ่อไฟ อ้าปากครับ”แซมหยิบแซนวิชอีกอัน จ่อที่ปากอธิป ชายหนุ่มอ้าปาก พร้อมกับแกล้งกัดนิ้วแซมเข้าไปนิ้วหนึ่ง
“โอ๊ย เจ็บฮ่ะ แซมไม่ป้อนแล้ว ให้พ่อดินป้อนให้พ่อไฟดีกว่า”แซมยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหยิบแซนวิซชิ้นสุดท้ายให้ว ริณ ชายหนุ่มรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนีก ก่อนจะเอื่อมมือไปจ่อที่ปากของอธิป
“อ้าปากสิครับ”อธิปค่อยๆอ้าปากพร้อมกับกัดแซนวิซลงไปสองสามคำพร้อมจับข้อมือของวริณ ลิ้นอุ่นๆไต่เลียนิ้วมือชายหนุ่มช้าๆ จนวริณหน้าแดงแล้วรีบชักมือกลับ
“ไฟเขียวแล้วครับ”แซมร้องทัก อธิปจึงได้สติ ออกเร่งรถ ส่วนวริณก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองไว้
“พ่อไฟกับพ่อดินครับ แซมไปก่อนนะ”แซมน้อย หอมแก้มพ่อทั้งสองของตนก่อนจะวิ่งเข้าไปในโรงเรียน วริณไม่ได้ไปส่งแซมที่หน้าประตูโรงเรียนเช่นเคยเพราะใกล้จะสายแล้วนั้นเอง
“วันนี้คุณไฟมีประชุมรึเปล่าครับ”วริณถาม เพราะไม่แน่ใจนักเมื่อเห็นความร้อนรนของอธิปตั้งแต่เช้า
“ประชุมงานสำคัญด้วย”อธิปตอบ น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูเครียดนัก สายตาของเขายังจับจ้องที่ถนน
“ผมลืมตั้งนาฬิกาปลุก”จู่ๆวริณก็เอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงราวกับคนสำนึกผิด จนชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ขำพรืดออกมา พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
“ถ้าไม่ตั้งแล้วคุณไม่ตื่นเหรอ”อธิปถามพลางหัวเราะ สบตากับวริณที่มองเขาอย่างค้อนๆ
“ถ้าวันไหนเหนื่อยมาก ผมก็จะหลับยาว ก็เลยต้องตั้งนาฬิกาปลุก ไม่งั้นแซมก็จะเป็นคนปลุกผมเองทุกครั้ง”
“อย่างนี้นี่เอง แต่ถ้าทางเมื่อคืนคุณหลับสบายนะ”เมื่อนึกถึงเมื่อคืนแล้วอดยิ้มไม่ได้ ชายหนุ่มกอดวริณไว้ทั้งคืน…
“ก็หลับสบายดีครับ แต่ผมรู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้ เหมือนมีอะไรมารัดๆไว้”
“งูรึเปล่าคุณ งูมารัดแสดงว่าเจอเนื้อคู่”
“งู !? ไม่หรอกครับ จะมีใครมาสนใจผู้ชายจนๆแถมมีลูกติดอย่างแซมอีก”วริณว่าปลงๆ จะมีผู้หญิงดีๆที่ไหนมาสนใจเขาละ อีกอย่างเขาคงไม่มีเงินไปเลี้ยงพวกเธอหรอก คงต้องอยู่กันสองคนพ่อลูกไปอีกนาน
“อ้าวเรอะ ดีละถ้าไม่มีคนสนใจ”อธิปหัวเราะหึหึในลำคอ ก่อนจะขับรถต่อไปอย่างสบายอารมณ์ ส่วนวริณก็หันไปมองอธิปที่ดูเหมือนจะอารมณ์ผิดปกติ ทั้งๆที่ไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาประชุมแล้ว
“สวัสดีค่ะ คุณอธิป สาโทรไปตั้งหลายครั้งทำไมไม่รับล่ะค่ะ ตอนนี้คุณเขากำลังรอคุณอยู่คนเดียวเลยนะค่ะ”อริสาเลขาสาวกล่าวตำหนิน้ำเสียงร้อนรน ก่อนจะยิ้มแฮะๆอย่างลืมตัวเพราะเธอกำลังต่อว่าท่านประธานบริษัทอยู่
“ครับ โทรศัพท์ผมลืมเอามาน่ะครับ”อธิปกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุม ส่วนวริณกับอริสาก็เดินกลับเข้าไปหน้าห้องของอธิป เพราะทั้งสอง ไม่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมครั้งนี้
“คุณอธิปจะโกรธฉันไหมนะ ก็คนมันเครียดนิ โดนคนใหญ่คนโต ตำหนิ แถมยังเหน็บแหนมใส่อีก”อริสานั่งลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่ค่อยสบายใจ จนใบหน้าสวยๆของเธอที่อุสส่าปั้นแต่งมาแต่เช้านั้นงอลงไป
“คุณอธิปไม่โกรธคุณอริสาหรอกครับ เขาเป็นคนมีเหตุผล”วริณบอก ในมือถือสูทที่อธิปถอดทิ้งไว้ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่วางไว้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของอริสา
“อืม ฉันก็คิดว่างั้น แล้วคุณไม่เข้าไปในห้องทำงานข้างในเหรอ”
“ข้างในไม่มีคนอยู่ น่าเบื่อดีครับ ขอผมนั่งคุยกับคุณแล้วกัน”วริณตอบอย่างซื่อๆ ทำให้ใบหน้าที่งอง้ำของอริสานั้นดูคลายอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ปากเรียวของเธอนั้นจะหาเรื่องนู้นเรื่องนี้นำมาเล่าและบ่นของวริณไม่ได้หยุดหย่อน ส่วนวริณเองก็สามารถทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดีคือ ยิ้มและหัวเราะไปกับเรื่องราวต่างๆในแง่มุมของผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกัน
“สวัสดีค่ะ”อริสา ตาโตรีบยกมือไหว้ท่านประธานที่เดินเข้ามาหน้าเครียดๆ
“อ้าวคุณไฟ เป็นไงบ้างครับ หน้าเครียดเชียว”วริณหันหลังกลับ ก่อนจะเห็นใบหน้าที่ดูเครียดๆด้วยความกังวล ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร กลับเดินเข้าไปในห้องทำงานแทน
“ผมขอตัวนะครับ”วริณเอ่ยลาหญิงสาว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ชายหนุ่มเห็นอธิปกำลังหันหลังให้กับเขาอยู่
“คุณไฟครับ”
“……”
“เป็นอะไรเหรอครับ”วริณค่อยๆเดินเข้าไปใกล้จนถึงโต๊ะทำงาน อธิปหมุนเก้าอี้หันมาช้าๆก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ได้เป็นอะไร ผมมีงานต้องทำ คุณกลับไปคุยกับอริสาต่อเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณดีกว่า”วริณว่า พลางนั่งลงบนโซฟาเล็กมุมของตนที่เคยนั่งประจำ อธิปคงไม่ชอบการอยู่คนเดียวนัก เขาคิดอย่างนั้น
แกรก…
เสียงเปิดประตูทำให้วริณและอธิปหันหน้าไปมองที่มายังเสียงพร้อมกับสาวสวยในชุดทำงานที่ยิ้มทักทายให้กับเขาสองคน
“สวัสดีค่ะ”
“………”
“สวัสดีครับ คุณฟ้า”วริณตอบรับคำทักทายของฟ้าใสแทน เมื่อเห็นอธิปก้มหน้าลงไปกับงานไม่ได้สนใจหญิงสาวนัก
“เที่ยงแล้ว ฟ้าจะมาชวนพี่ไฟไปทานข้าวด้านนอกกันน่ะค่ะ คุณวริณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมค่ะ”หญิงสาวว่าพลางเหลือบมองวริณนิดนึง ก่อนจะเดินเข้าไปหาอธิป
“ผมจะไปว่าอะไรได้ละครับ”วริณตอบ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจในท่าทีของฟ้าใสมากนัก
“ครับ”อธิปตอบรับ จัดแฟ้มเอกสารทั้งหมดให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปพร้อมฟ้าใส
วริณได้แต่นั่งนิ่ง แล้วมองทั้งคู่เดินออกไป…
“อ้าวคุณอริสายังไม่ได้ออกไปหาอะไรทานอีกเหรอครับ”วริณเอ่ยทักเมื่อเห็นหญิงสาวยังจมอยู่กับกองงานเอกสารต่างๆ
“ยังค่ะ ฉันมีงานยุ่งๆเข้ามาพอดี”อริสาเงยหน้าบอกก่อนจะก้มไปลงยุ่งๆกับงานของตนอีกครั้ง
“งานยุ่งแค่ไหนยังไงก็ควรพักนะครับ”
“อืม รอฉันด้วยนะ ขอเก็บเอกสารแปบนึง”ชายหนุ่มพยักหน้ารอ หญิงสาวเดินออกพลางส่งยิ้มเป็นมิตรให้ ทั้งสองเดินออกไปเช่นกัน แต่ในใจของวริณตอนนี้กลับวุ่นวาย ไม่ต่างกับอริสาที่ในใจเธอก็มีแต่คำถาม
“ดิน ! ยัยนั้นเป็นใครกันน่ะ”เมื่อทั้งคู่เริ่มสนิทกันแล้ว อริสาที่อยู่คราบคุณหนูต่างเปิดเผยความเป็นมิตรกับชายหนุ่มมากขึ้น คิ้วของชายหนุ่มขมวดกันเล็กน้อยบ่งบอกถึงความไม่แน่ใจในคำถาม
“ก็ยัยผู้หญิงคนนั้นไง ฉันไม่ชอบขี้หน้ายัยนั้นเลย ตอแหล!”เธอกำมือพร้อมกับทุบลงกับโต๊ะเสียงดังจนคนในร้านเริ่มหันมามอง
“คุณฟ้าใส?”
“อืม”
“ผมก็ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นคู่หมั้นของคุณไฟ”ชายหนุ่มตอบพร้อมกับ ข้าวผัดสองจานร้อนๆถูกวางลงตรงหน้า
“คู่หมั้น? แล้วนายกับคุณอธิปหล่ะ!?”อริสาพลางขมวดคิ้วกันแน่น เธอไม่ชอบใจหญิงสาวที่หลงตัวเองและมากจริตอย่างฟ้าใสเอาซะเลย
“ผมกับคุณ ก็นายจ้างกับลูกน้องไงครับ”
“แน่ใจ? ฉันว่านายกับท่านประธานดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้นนะ”อริสาคาดคะเนในสิ่งที่ตนสงสัย บางทีคุณอธิปของเธอกำลังสนใจวริณชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ก็ได้
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกับคุณไฟไม่มีอะไรมากกว่านั้น”วริณตอบเสียงแผ่วเบา ก้มหน้าก้มตากินต่อ หญิงสาวเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรต้องซักชายหนุ่ม เธอจึงกินข้าวผัดจานในร้านข้างถนนที่ชายหนุ่มชวน และรับประกันความอร่อย
“ขอบคุณมากนะครับ ที่เลี้ยงข้าวผม”
“ไม่เป็นไรก็นายเป็นเพื่อนเรานะ แถมร้านนั้นยังอร่อยมากๆด้วย”หญิงสาวยิ้ม ก่อนจะนั่งลงบนประจำโต๊ะทำงานของเธอ ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไป จึงพบว่าอธิปกำลังนั่งหน้าขรึมอยู่อย่างเงียบๆบนโต๊ะทำงานของเขา…
“ทานข้าวกับคุณฟ้าเป็นไงบ้างครับ”วริณเอ่ยทัก เพื่อทำลายความเงียบ แต่ดูเหมือนอธิปยังไม่อยากจะคุยกับเขา
“ก็ดี ทานข้าวกับสาเป็นไงบ้างหล่ะ”
“คุณอริสาเธอเป็นคนคุยเก่งครับ”วริณตอบยิ้มๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่เขาใช้นั่งรออธิปประจำ
“อืม”
บรรยากาศภายในห้องทำงานเงียบซะตัวเขาเองอึกอัด วริณไม่รู้ว่าอธิปเป็นอะไรอยู่ๆอารมณ์ถึงแปรปรวนขนาดนี้ ตอนเช้ายังอยู่ในห้อง โวยวาย ติดกระดุมให้เขา หัวเราะ ยิ้ม ไปกับเขาและแซม แต่ตอนนี้อธิปเป็นอะไร ถึงได้เฉยชากับเขานัก เขาทำอะไรให้พอใจอย่างนั้นเหรอ…
นอกจากเสียงลมหายใจแล้ว ห้องทำงานมันก็เงียบซะจนน่าอึดอัดใจ
.
.
.
“คุณไฟ”
“ผมหลับไปเหรอครับ”วริณค่อยๆลุกจากโซฟา โดยมีอธิปคอยพยุงให้ลุกขึ้น ชายหนุ่มมองท่านประธานของตนอย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มออกมา
“ยิ้มอะไร”อธิปถามเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็ยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณไฟหายโกรธผมแล้วเหรอครับ”
“รู้ได้ไงว่าโกรธ”อธิปย้อนถาม วริณส่ายหน้า เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
“หวง”
“อะไรนะครับ”
“ก็หวงไง”
“หวง…”วริณมองอธิปอย่างสงสัย ไม่ทันตั้งตัวใบหน้าของชายหนุ่มค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ วริณใช้มือทั้งสองข้างยันอกของอธิปไว้แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลนัก เมื่ออธิปช่างอ่อนโยน…
“ขอจูบหน่อย”
“จูบ..ทำไมครับ”วริณอึกอัก รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของร่างกาย อธิปค่อยเลื่อนตัวมาเรื่อยๆรู้ตัวอีกที แผ่นหลังของวริณก็ราบกับเบาะซะแล้ว
เสร็จแน่…
ริมฝีปากร้อนทาบลงไปบนเรียวปากบาง ลิ้นหนาเลียริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะประกบกันแน่น ลิ้นหนาเข้าไปสำรวจโพรงปากหวาน วริณอึดอัดเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกเหมือนโดนแย่งอากาศหายใจ
แกรก…
“คุณอธิปค่ะคะ…คือว่า เอ่อ สาออกไปก่อนดีกว่า กะกรี๊ดหัวใจจะวาย…”อริสาตาโตเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นบทรักที่กำลังเริ่มต้นของทั้งสอง วริณรีบหลบด้วยความอาย ส่วนอธิปถอนหายใจออกมาพรวดพร้อมกับลุกออกจากตัวของวริณ
“คุณสา…”วริณเอ่ยเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่ง จัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย …
“ทำไม”อธิปถามห้วนๆ สีหน้าไม่พอใจเมื่อวริณกำลังแสดงอาการว่าแคร์อริสามากมายนัก
“ผะ…ผมอาย”วริณก่อนจะก้มลงไป อธิปค่อยๆยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ไม่เห็นต้องอาย กลับบ้านไปเราค่อยทำกันเยอะกว่านี้ ดีไหม?”
“คะ…คุณครับ”
ชายหนุ่มหน้าแดงก่อนจะรีบงุดหน้าลงไปอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากลงบนแก้มขาวๆจนวริณโวยวายนักเข้าอีกรอบ เพราะอธิปกำลังตนให้ตนเขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า …
แล้วเมื่อไหร่วริณจะเสร็จอธิปกันเนออ…
ฟู่ววว!~
“กลับบ้านเถอะ”
“คะครับ…”
-----------------------------
ตอบเม้นนิดนึงนะค่ะ แซมไม่ได้เป็นลูกของคุณพ่อดินหรอกค่ะ แต่แซฒว่ายังไงนั้น ลองกลับไปอ่านรายละเอียดตอนที่ 1 ละกันนะ
ส่วนคำตอบคือ แซฒถูกคุณพ่อดินเก็บมาเลี้ยงนั้นเองค่ะ ^^
ตอนนี้อาจมีคำผิดโผล่ออกมาด้วยรึเปล่าไม่ได้ตรวจทานนะค่ะ ต้องขอโทษด้วย เพราะดึกมากแล้วคนเขียนก็ยัง
ยืนยันคำเดิมค่ะ แจงเบลอ = = เขียนฉากจูบสองบรรทัดเข้าไปแทยหมดแรง เพราะไม่ได้เขียนฉาก...มานานละเหมือนกัน

ยังไงก็ฝากเม้น ฝากติดตามกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
เรื่องราวยังดำเนินเรื่อยๆ โปรดติดตามตอนต่อไป 55555
ปล. ในเรื่องการทำงาน แจงไม่มีประสบการณ์เลย อาจจะเขียนอะไรเวอร์ ขาดเกินๆ งงๆไปบ้าง แต่พยายามคลำๆไปละกันค่ะ
เพราะไม่มีวัยวุฒิพอ เหตุการณ์บางครั้งก็เหมือนจะไม่สมจริงนักนะค่ะ
