## เรื่อง “ เรื่องของเค้ากะแก ” ๓๓ ##
มีต่อให้แล้ว....
โทษทีที่หายไปซะสองวัน... มันเหนื่อยจริงๆ เลย....
แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงกันนะ .............................................
*********************************************************************
หลังจากที่เราคบกะป๊อบแล้ว จะบอกว่าป๊อบน่ารักขึ้นอีกเป็นกองเลย เรากะป๊อบอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลาที่อยู่รร. เว้นแต่ช่วงที่เรียนเท่านั้นแหละที่เราจะห่างจากกัน ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ป๊อบก็จะชวนเราไปนั่นไปนี่อยู่ตลอด บางที่ก็ไปดูหนัง ไปกินข้าว มีบ้างบางทีที่ขับรถไปเที่ยวกันสองคน ซึ่งทุกๆอย่างที่มันป๊อบทำให้เรามันเท่าให้เรารู้สึกดีขึ้นมากทีเดียวถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าในใจเราลึกๆยังมีภีมอยู่ก็ตาม การที่เราตัดสินใจคบกะป๊อบส่วนหนึ่งเรายอมรับว่าในตอนนั้นเราต้องการกำลังและต้องการใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยให้เรารู้สึกดีๆ และช่วยให้เราผ่านเรื่องร้ายๆหล่านั้นไปได้ เรารู้ตัวเองว่าเราไม่ได้ใช้ความรักและความหวังดีของใครมาช่วยรักษาแผลใจตัวเอง เพราะในตอนนั้นเราก็รู้สึกดีกับป๊อบจริงๆและเราหวังว่าความรู้สึกดีๆที่เรามีให้ป๊อบมันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนกระทั่งเรารักป๊อบได้ในที่สุด เพราะเราเลือกที่จะรักและตอบแทนคนที่เค้ารักเราดีกว่าการที่จะไปวิ่งคนที่เรารักซึ่งเค้าไม่เคยเห็นค่าของเราเลย
คนอ่านอาจจะคิดนะว่าทั้งๆที่ภีมทำกับเรามากขนาดนั้นแต่ทำไมในใจเราก็ยังรักภีมอยู่ เรื่องนี้มันก็พูดยากนะถ้าคุณเคยแอบรักใครมานานถึงสามปี คุณอยากจะพูดอยากจะคุยกับเค้าแต่คุณก็ไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น จนมาวันนึงคุณได้มีโอกาสพูดคุยกับเค้า คุณได้รักและได้ดูแลเค้า ให้กำลังใจเค้าอยู่ข้างๆเค้า จนเหมือนกับว่าคุณก็ได้รับรักตอบจากเค้าด้วย คุณคงจะเข้าใจว่าความรักที่เริ่มจากความรู้สึกที่แอบรักมาสามปีจนได้มารักเค้าอย่างที่เค้ารับรู้มาอีกสามนั้นมันจะมากมายขนาดไหนกัน มันจึงยากมากที่เราจะเอาภีมออกไปจากใจได้ ที่เราพูดถึงเรื่องเวลาขึ้นมาไม่ใช่ว่าเราเอาเวลามาอ้างหรอกนะ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ไม่ใช่เหรอว่าเวลามันทำให้ก่อเกิดความสัมพันธ์และความผูกพันมากมายที่ยากจะลืมทั้งๆที่เราอยากจะลืมอยากจะเอามันออกไปจากใจแต่เราก็ทำไม่ได้
“ การที่เราจะรักหรือเลิกรักใครสักคนมันเป็นเรื่องยากมากนะ..... ”
อย่างที่เราบอกไปว่าเรากะป๊อบแทบจะตัวติดกันตลอด ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนสงสัยถึงความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคน ไม่เว้นแม้แต่ภีม
ช่วงพักกลางวันของวันหนึ่ง เราจะบอกก่อนว่าช่วงพักกลางวันหลังจากที่กินข้าวเสร็จ ห้องสมุดก็เป็นอีกที่นึงที่เรากะป๊อบมักจะไปนั่งหาหนังสืออ่านเล่นกัน แต่วันนี้มันต่างไปตรงที่เรามาคนเดียวเพราะป๊อบไม่ได้มาเรียน
วันนี้เราจึงมานั่งเล่นคนเดียวที่ห้องสมุดซึ่งเราเลือกที่นั่งที่อยู่ด้านในสุด เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว จู่ๆก็มีเสียงของใครคนนึงที่คุ้นเคยถามเราขึ้นมาว่า...
“ ทำไมวันนี้มานั่งคนเดียวได้ล่ะ... ” ภีมนั่นเอง... แม้เพียงได้ยินเสียงก็ทำให้ใจเราเต้นรัวไม่เป็นจังหวะได้แล้ว เราหันกลับไปมองหน้าภีมแล้วก็หันกลับมาอ่านหนังสือเหมือนเดิม เราทำเหมือนว่าภีมไม่ได้พูดกับเรา
“ เค้าถาม... ไม่ได้ยินรึไง ” เสียงภีมเริ่มดูมีอารมณ์มากขึ้น แต่มันคงพยายามข่มอารมณ์ตัวเองอยู่ เรายังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ตอนนั้นใจเราเต้นแรงมาก.... เราก็ได้แต่คิดในใจว่า... ไปไหนก็ไป.. อย่ามายุ่งกะกรู ไปอยู่กะยัยฝนไป...
“ นี่ชาตินี้เราจะไม่คุยกันแล้วใช่มั้ย ” เสียงภีมอ่อยลงกว่าเดิม เราก็เลยพูดกลับออกไปว่า
“ มันก็ดีแล้วไง... ต่างคนต่างอยู่ ดีที่สุดแล้ว ” เสียงที่เราพูดออกไปค่อนข้างจะประชดประชัน
“ แต่เค้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หนิ ” ภีมพูดแล้วลงนั่งข้างๆเรา
“ แล้วใครกันหละ... ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ” เราพูดสวนกลับไปในทันที
“ เค้าขอโทษนะ... เรื่องวันนั้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด แกก็รู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกะฝนเกินเพื่อนเลยนะ ”
“ ใช่เค้ารู้.... แต่คงรู้น้อยไปหน่อย เลยต้องกลายเป็นคนโง่ไง” เราจงใจที่จะพูดประชดประชัน
“ แกอย่าเพิ่งใช้อารมณ์ดิ... ” ภีมพูดพร้อมกับเอามือมาจับที่มือเรา
“ แล้วไง... จะให้เค้าฟังคำแก้ตัวว่าไรอีกล่ะ ” เราพูดแล้วหันมามองหน้าภีม
ก่อนที่เราจะพูดโทรศัพท์เราก็ดังขึ้น ป๊อบนั่นเองที่โทรมา เราก็เลยกดรับ
ป็อบโทรมาถามเราว่ากินข้าวรึยัง กินกับใคร เราก็ตอบไป พอคุยเสร็จจะวาง ป๊อบก็ถามเราว่าคิดถึงป๊อบบ้างรึป่าว... ซึ่งในใจเราลึกๆก็ไม่ได้คิดถึงมากหรอกนะ แต่เพราะภีมนั่งอยู่ด้วยเราก็เลยตอบไปซะหวานหยด....... แล้วป๊อบก็บอกว่าตอนเย็นจะเข้ามาหาที่รร. แล้วก็วางสายกันไป พอวางสายไปภีมก็ถามขึ้นมาทันทีเลยว่า....
“ แหม... กับคนอื่นนี่พูดซะเพราะเชียวนะ ” น้ำเสียงนี่ประชดสุดๆ
“ ได้ไงล่ะ.. แฟนทั้งคน จะไม่หวานได้ไง ” ทันทีที่เราพูดจบ... เราก็เห็นว่าสายตาประชดประชันเมื่อครู่มันหายไปหมด หลงเหลือแต่สายตาเศร้าๆที่ทำให้เรารู้สึกใจหายพิลึก แล้วภีมก็พูดประชดเราว่า
“ อย่างนี้นี่เอง... เค้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว ” น้ำเสียงและสายตาที่มองเราอย่างตัดพ้อ มันทำให้เรารู้สึกใจหายได้ไม่ยากเลย
“ ที่เข้าใจหนะ... เข้าใจว่าอะไร ” เราอดที่จะถามกลับไปไม่ได้
“ แกคงหมดรักเค้าแล้วนะสิ ” แล้วภีมก็ลุกขึ้นเดินออกไปเลย เรามองตามหลังนั้นไปในใจอยากจะวิ่งตามไปแต่แล้วก็ตัดสินใจว่านั่งอยู่ตรงนั้นดีกว่า ถึงยังไงอะไรๆมันก็ไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้เรารู้ตัวเองเลยว่าในใจเรายังมีภีมอยู่และยังรักภีมมากทีเดียว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรากำลังเก็บมันและพยายามจะลืมมันทั้งที่ในใจลึกๆก็รู้อยู่ว่าทำไม่ได้ ทำไมกันนะทั้งๆที่เค้าที่กับเราขนาดนั้นแต่เราก็เลิกรักเค้าไม่ได้สักที... นี่คือคำถามที่เราถามตัวเองในตอนนั้น ซึ่งคำตอบก็คือ... ความรักนั่นเอง ซึ่งมันเป็นความรักในแบบที่เราเอาอารมณ์ขึ้นมาตัดสินมากกว่าจะใช้เหตุผล ดังนั้นในตอนนั้นเราจึงยังรักภีมอยู่
“ อ้าวปอ.... ไมมานั่งคนเดียวอ่ะ ” โบ้ทถามเราด้วยความแปลกใจ ทำให้เราหลุดออกจากภวังค์ เราก็เงยหน้าไปมองคนที่ถาม ซึ่งก็เห็นโบ้ทและเพื่อนๆโบ้ทอีก สี่คน (บอกก่อนว่าเราหนะเป็นคณะกรรมการนร.ด้วยตอนที่เรียนม.ปลายอ่ะ แต่ไม่บอกนะว่าทำหน้าที่ไร ไม่งั้นเดี๋ยวจะเจอคนรู้จัก.... เราก็เลยได้รู้จักเพื่อนๆน้องๆอีกหลายคน ซึ่งโบ้ทและเพื่อนโบ้ทก็เป็นหนึ่งในนี้ เรากะโบ้ทรวมถึงเพื่อนโบ้ทก็ค่อนข้างสนิทกันมากทีเดียว)
“ ช่วงนี้อยากอยู่คนเดียวอ่ะ... สบายใจดี ” เราตอบไปพร้อมกับพยายามยิ้มให้ดูน่าเชื่อมากที่สุด
“ อย่ามาทำเป็นพูดดีเลย... ทำไมกูจะไม่รู้ว่าเมิงอ่ะ ไม่ชอบไปไหนคนเดียว ขนาดไปกินข้าวเมิงยังไม่กล้าไปกินคนเดียวเลย ” โบ้ทพูดเหมือนกับรู้ว่ามันมีไรเกิดขึ้นงั้นแหละ
“ ก็ไม่ได้มีไรซะหน่อย...” เราตอบเลี่ยงมันไป ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนจับผิดอยู่
“ กูก็เพื่อนเมิงนะ... ถึงจะเพิ่งมาสนิทกันก็เหอะ...” มันพูดแล้วก็ลงนั่งด้วยกันทั้งกลุ่มเลย
“ เออ...กูรู้ ” โบ้ทก็เลยพูดว่า
“ เมิงเป็นไรกะพวกต๊ะมันอ่ะ... มีไรไหนเล่ามาดิ๊ ” โบ้ทถามด้วยความเป็นห่วง เราก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง. สรุปแล้วคาบแรกของช่วงบ่ายเราก็เลยโดดเรียน ซึ่งบ็ทกะเพื่อนก็โดดเหมือนกัน
“ อย่างงี๊นี่เอง... มันก็น่าอยู่นะ แต่กูว่าเรื่องที่ไปลอยกระทงอ่ะ... มันต้องมีไรมากกว่านี้” โบ้ทพูด
“ หมายความว่าไง...” เราถามไปเพราะงงกับสิ่งที่มันพูด
“ กูว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิด เพราะเมิงคิดดู ถ้าสองคนนั้นมันจะแอบกิ๊กกันจริงๆ คนอื่นในกลุ่มเมิงก็ไม่น่าจะเห็นดีด้วยถึงขนาดรวมหัวกันโกหกเมิงหรอก ” เราก็คิดตามที่โบ้ทมันพูด แล้วมันก็พูดต่อว่า
“ อย่างต๊ะงี๊ หน่า ไอ้โอ๊ต หรือคนอื่นอีกอ่ะ ก็ไม่น่าจะหักหลังเมิงนะ... ยิ่งต๊ะด้วยแล้วยังไม่มีทาง ” โบ้ทพูดด้วยความแน่ใจ ด้วยเพราะว่ามันเคยอยู่ห้องเดียวกับต๊ะตอนมอต้นมาด้วย แล้วมันสองคนก็สนิทกัน มันเลยมั่นใจอย่างที่พูดมามาก ซึ่งมันก็น่าคิดนะ
*********************************************************************
ตอนเย็นป๊อบก็มาหาเราที่รร. เราก็ไปเดินเล่นกันที่ห้างโรบินสัน... ตอนแรกว่าจะดูหนังแต่ก็ยังไม่มีเรื่องใหม่เข้าเลย เพราะเรื่องที่มีอยู่เรากะป๊อบก็มาดูด้วยกันจนหมดแล้ว เราก็เลยเดินเล่นเรื่อยเปื่อยจนชวนกันออกมาเดินตลาดจตุจักรที่อยู่ข้างๆห้างโรบินสันกัน ป๊อบก็ให้เราช่วยเลือกเสื้อให้ เราก็เลือกให้ไปสองตัว ดูท่าทางป๊อบจะมีความสุขจังที่เราเลือกให้เห็นเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ เราเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ เดินไปเดินมากันจนค่ำเราก็เลยไปกินนมกันต่อ
“ ป๊อบดีใจจัง.... ที่ปอยอมเป็นแฟนกับป๊อบ ” ป๊อบพูดแล้วก็ยิ้มอายๆ ไม่ได้เข้ากะหน้าเถื่อนๆนั่นเลย...
“ เวอร์แล้ว ” เราก็พูดไปยิ้มๆ
“ ก็จริงหนิ... เราเห็นว่าปอรักไอ้ภีมจะตาย ไม่คิดว่าเราจะมีโอกาส ” เราได้ยินป๊อบพูดแบบนี้ก็รู้สึกหน้าชายังไงไม่รู้....
“ ทำไมป๊อบถึงชอบเราอ่ะ... ผู้หญิงน่ารักๆเยอะแยะ หน้าตาแบบป๊อบไม่น่าจะหายากนะ หรือว่าหน้าเถื่อนไปผู้หญิงเลยหนีหมด ” เราพยายามพูดเล่นเพื่อให้กลับมาเป็นปกติไม่แสดงอาการหวั่นไหวในใจอกมา
“ ทำเป็นพูดดีนะ... อยากให้ป๊อบมีแฟนเป็นผู้หญิงมากนักรึไง ” ป๊อบพูดยิ้มๆ... นี่มันจะเอาจริงป่าวเนี่ย
“ ก็ป่าว.... แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆมันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ ” ประโยคนี้ดูเป็นนางเอกเนอะ.... แต่ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆนะ อยากจะลองใจป๊อบดูด้วยแหละ
“ ปออ่ะ... ชอบไล่ให้ป๊อบมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่เรื่อยเลย.... นี่ไม่รักกันเลยใช่มั้ยเนี่ย..” ป๊อบน้อยใจจนได้ แต่ก็จริงนะ เรารักป๊อบรึป่าว.... แต่เราก็รักป๊อบนะ เพียงแต่ในใจเราก็ยังมีภีมอยู่ด้วยอ่ะ (เกลียดตัวเองจัง)
“ จะว่ารักก็รักนะ.... แต่ก็......... ไม่รู้ดิ” สับสนๆ ไม่รู้จะพูดไงดี... เราก็เลยบอกไปแบบนั้น
“ ปอยังรักไอ้นั่นอยู่ด้วยใช่มั้ย ” ป๊อบถามเราด้วยน่าเศร้าๆ
“ ถ้าจะให้ตอบจริงๆก็........... ใช่ ” ป๊อบนิ่งไปเลยอ่ะ
“ มันก็ต้องใช้เวลาหน่อยดิ..... คนเราจะเลิกรักใครไม่ใช่ง่ายๆนะ นี่ก็เพิ่งผ่านมาแค่สองเดือนเดียวเองนะ ” เราพยายามอธิบายให้ป๊อบเข้าใจ
“ ป๊อบเข้าใจ... แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้หนิ ” ป๊อบพูด
“ น่านะ..... อย่าน้อยใจดิ ” เราพูดพร้อมกับจิ้มขนมปังป้อนให้ป๊อบ ซึ่งป๊อบก็เอาปากงับไปกินแต่โดยดี แล้วเราก้พูดต่อว่า
“ เราดีใจนะ..... ในตอนที่เรามีปัญหาอ่ะ เรามีป๊อบอยู่ข้างๆเราตลอดเลย ” เราพูดแล้วก็มองหน้าป๊อบ ป๊อบเริ่มยิ้มที่มุมปาก
“ เราขอโทษนะที่ในใจเรายังมีภีมอยู่... แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันอ่ะคือคนนี้ ” เราพูดแล้วกี้นิ้วไปที่ป๊อบ คราวนี้หละ... ยิ้มหน้าบานเลย
พอกินนมเสร็จป๊อบก็มาส่งเราเอารถที่หน้ารร. พอเราจะลงรถ เอาอีกแล้วไม่ให้เราลง
“ อย่าเพิ่งดิ... หันหน้ามานี่ก่อน ” ป๊อบพูด
“ หืม.... มะ...มี” เราถามยังไม่ทันจบก็ได้รับคำตอบซะแล้ว.... ตอบด้วยปากกระชากด้วยลิ้น... เราก็เคลิ้มเลยดิ วิ๊งๆๆๆ เลย.... รู้สึกว่าจะเริ่มเลยเถิด เพราะไม่ใช่แค่จูบแล้ว ป๊อบเริ่มไซร้มาที่คอเราส่วนมือก็ลูบเข้าไปในเสื้อนร.เราเรียบร้อยพร้อมกับมืออีกข้างที่จับมือเราให้เข้าไปหาส่วนของร่างกายที่มันกำลังขยายตัวอยู่ของป๊อบ
ติ๊ด..... ติง..... ติ๋ว..... แต้ว...... ติ้ว...... เสียงโทรศัพท์เราหนะเอง.... มันร้องเสียงดังและสั่นหงืดๆอยู่ในกางเกงนร. ทำให้จิตที่มันเตลิดไปไกลกลับมาเป็นปกติ เราเลยล้วงมือจะหยิบโทรศัพท์ ป๊อบก็จับมือเราไว้พร้อมกับพูดว่า..
“ อย่ารับเลยนะ...” หน้าตาเว้าวอนมากมาย... เกือบเคลิ้มอีกรอบ แต่ก็มีสติแล้วเลยพูดกลับไปว่า
“ นี่มันหน้ารร.นะป๊อบ” เท่านั้นแหละ ป๊อบก็คงจะรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมก็เลยหยุดทุกอย่าง เราก็เลยรับโทรศัพท์ซึ่งเป็นน้องสาวเรานั่นเอง มันโทรมาบอกว่าให้แวะซื้อของให้หน่อย พอวางไปเราก็ถอนหายใจออกมาฟอดใหญ่ เกือบไปเลยไง.... ไม่น่าเลย....
เราหันไปมองป๊อบก็เห็นป๊อบทำหน้าเซ็งๆ สงสัยจะหงุดหงิด เราเลยพูดขึ้นมาว่า
“ โกรธเหรอ.... ”
“.......................................” ป๊อบเงียบ
“ ก็นี่มันหน้ารร. ทำไรแบบนี้ได้ไงมันไม่เหมาะสม ” เราพูด
“ ถ้าเป็นที่อื่นปอคงไม่ขัดขืนล่ะสิ ใช่มั้ย ??? ” ป๊อบถามเราด้วยหน้าระรื่น (ไม่น่าไปสงสารมันเลย)
“ บ้าดิ...” เราพูดแล้วก็เปิดประตูรถออกไปเลย
ขับรถออกมาได้สักพัก... ก็นึกโมโหตัวเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจเลยเชียว เพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าเราจะถึงขนาดมีอะไรกับป๊อบทั้งๆที่ในใจเรายังมีภีมอยู่ด้วย คราวหน้าคราวหลังต้องมีสติกว่านี้......
งิด... งิ่ว..... ง๊า..... แง๊ว...... เสียงข้อความเข้า .... ป๊อบส่งมา.....
อย่ามัวแต่เคลิ้มซะจนลืมมองถนนล่ะ...... ขับรถดีๆนะ ถึงแล้วโทรมาด้วย....
ยังจะส่งข้อความมาแกล้งอีก...... เฮ้อออ...
ตกลงจะยังไงกันแน่เนี่ยเรา...... พอขับรถไปได้สักพัก เรื่องที่โบ้ทพูดก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง..........
############################################################
มาต่อแล้วน๊า................... โทษทีที่ให้รอนาน...

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักและน่ารักขึ้นทุกๆวัน

ไปนอนดีก่ะ.... ตาจะปิดแล้ว....
