## เรื่อง “ เรื่องของเค้ากะแก ” ๓๖ ##
มาต่อให้อีกตอนนึงแล้ว........
มาอ่านกันเลยเนอะ.............................

*********************************************************************
หลังที่เรากะภีมปรับความเข้าใจกันในคืนนั้น เราก็ได้คุยกันมากขึ้นกับเพื่อนๆในกลุ่มเก่าเราก็ด้วย แต่ก็แค่กลับมาคุยกันเหมือนเดิมเท่านั้นแหละ เพราะเราก็ไม่ได้ไปสุงสิงอะไรกับพวกมันมากนัก เวลาที่มันชวนเราไปไหนด้วยกันเราก็จะปฏิเสธไปตลอด เพราะเราไม่สะดวกใจที่จะไปไหนมาไหนกะพวกมัน ถึงยังไงในกลุ่มนั้นก็ยังมีพวกที่ไม่เข้าใจเราอยู่ ซึ่งยิ่งนับวันพวกมันก็ยิ่งตั้งแง่กับเรามกขึ้น บางทีพวกมันก็กัดเราบ้างหรือพูดกระแทกเราบ้างว่าภีมทำอย่างงั้นอย่างงี๊กะฝนเพื่อที่จะหวังให้เราโมโห ถึงมันจะทำแบบนั้นอยู่หงายครั้งแต่เราก็ไม่เอามาสนใจหรอก เพราะภีมก็บอกเราอยู่แทบจะทุกวันว่าไม่มีอะไรจริงๆ อ้อลืมบอกไปว่าหลังๆมานี้เรากะภีมก็กลับมาโทรคุยกันเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้โทรคุยกันทุกวันหรอกนะ เราทั้งคู่ก็พยายามรักษาระยะห่างของกันและกันให้หยุดอยู่แค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น
เรื่องทุกเรื่องที่เปลี่ยนไปทั้งระหว่างเรากะเพื่อนและเรากะภีมนั้น เราเล่าให้ป๊อบฟังทั้งหมดเลยรวมถึงในทุกๆครั้งที่เราคุยกะภีมเราก็จะเล่าให้ป๊อบฟังทั้งหมดเหมือนกัน (เราต้องรีบบอกไว้ก่อนเดี๋ยวคนอ่านจะหาว่าเราจับปลาสองมือ)
ในคืนหนึ่งหลังที่เราเพิ่งจะคุยกะภีมเสร็จ เราก็โทรไปหาป๊อบ
“ ว่าไงคร๊าบ.... ที่รัก ” ป๊อบรับโทรศัพท์ซะเสียงหวาน
“ คิดถึง.... เลยโทรมาหา ” เราก็ตอบกลับไปแบบเน่าๆบ้าง
“ โห........ ไมวันนี้ปากหวานจัง ” ป๊อบถาม
“ ไม่ชอบเหอ... งั้นไม่พูดแล้ว ” แกล้งงอนมันไปงั้นแหละ
“ แค่นี้งอน..... ป๊อบไม่ง้อหรอกนะ ” ป๊อบพูดกลับมาเสียงแข็ง เรานี่น้อยใจอ่ะ
“เออ.... ไม่ง้อก็ไม่ต้องง้อ...” แล้วเราก็กดตัดไปเลย แอบงอนมันนิดหน่อยเพราะก็สองจิตสองใจอยู่ว่ามันแกล้งรึป่าว พอเราวางสานได้แป๊ปเดียว ป๊อบมันก็โทรกลับมาเลย
“ ปอ.... ป๊อบขอโทษน๊า ป๊อบแค่....” ป๊อบพูดด้วยเสียงสำนึกผิด เราเลยแกล้งมันกลับไปว่า
“ ปอนอนแล้ว... ไม่รู้เป็นไร ร้องไห้ใหญ่เลย... สงสัยจะน้อยใจแฟน” ป๊อบมันรู้แหละว่าเราแกล้งมัน
“ แล้วนี่ใครเหรอคับ ” ดูมัน.... ยังเล่นต่ออีก
“ เราเป็นเพื่อนปอ พอดีมาค้างที่บ้านปอ นายมีไรป่าว... เดี๋ยวเราไปบอกปอให้...” เล่นกะมันต่อ
“ งั้นฝากบอกเค้าด้วยว่าผมขอโทษ เมื่อกี๊ผมแค่แกล้งเค้าเล่นเฉยๆ ผมอ่ะรักเค้าจะตาย” ป๊อบมันพูดเสียงกวนๆ
“งั้นเดี๋ยวเราบอกปอให้ก็แล้วกันนะ แค่นี้แหละ...” ป๊อบมันเลยพูดสวนกลับมาว่า
“ อย่าเพิ่งวางดิปอ ปอไม่โกรธป๊อบนะ” เราเลยตอบไปว่า
“ ไม่ได้โกรธ... แค่น้อยใจนิดนึง แต่ไม่ได้ไรแล้ว ” ป๊อบมันเลยถามเรากลับมาว่า
“ แล้วปอมีไรป่าว... โทรมาหาป๊อบซะดึกเชียว ”
“ อ๋อ.... เราจะโทรมาบอกว่าเมื่อก็เพิ่งคุยกะภีม ” เราตอบป๊อบไป
“ คุยไรบ้าง... ไหนเล่ามาดิ๊ ” มันทำเสียงซะดุเชียว เราก็เล่าที่คุยกะภีมให้ป๊อบฟังทั้งหมด จริงๆป๊อบมันก็ไม่ค่อยอยากให้เราคุยกะป๊อบหรอกมันบอกว่ากลัวถ่านไฟเก่า แต่มันก็ทนลูกอ้อนเราไม่ไหวเลยต้องยอมแต่เราแค่ต้องเล่าให้มันฟังทั้งหมดห้ามโกหก พอได้มาคบกะป๊อบเนี่ยถึงได้รู้ว่าป๊อบขี้หึงมาก ดุด้วย..... เราโดนบ่นประจำเลยแต่ป๊อบก็บอกว่าไม่รักก็คงไม่บ่นหรอก มันน่ารักขนาดนี้เราก็ต้องยอมดิ..... ทำไงได้
หลังจากคุยกันเสร็จเราก็แยกย้ายกันไปนอน
ตอนเช้าเราก็ยังลงไปข้างล่างกะป๊อบเหมือนเดิมเพราะป๊อบไม่ได้กินข้าวเช้ามา เราก็เลยจะไปนั่งเป็นเพื่อนส่วนตอนเที่ยงก็เหมือนเดิมเราก็ไปกินข้าวกะป๊อบ โดยบางวันป๊อบก็จะมารอที่หน้าห้องเราเลยก็มี หลายๆครั้งที่ภีมบังเอิญมาเห็นเราไปกะป๊อบ เราจะสังเกตเห็นสายตาที่ภีมมองกลับมา สายตานั้นเป็นเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เราก็ได้แต่หลบสายตานั้นเพื่อไม่ให้ความอ่อนไหวในใจที่มีต่อภีมมันออกมา
วันนึงหลังจากที่เรากลับเข้ามาในห้องหลังจากที่เพิ่งกินข้าวกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภีมก็เดินมานั่งลงข้างๆเราแล้วพูดว่า
“ ปอ...เค้ายังไม่ได้เขียนเฟรนด์ชิปให้ปอเลยอ่ะ ... วันนี้สมุดเฟรนด์ชิปว่างป่าว ”
“ ว่างๆ... จะเอาไปเขียนเลยป่ะ...” เราถามภีม
“ อืมเอามาดิ...” เราก็เลยยื่นมุดเฟรนด์ชิปให้ภีม
“ ปอ.... ป๊อบมันดูหวงปอเนอะ... สงสัยมันจะรักปอมาก” มันพูดแล้วทำหน้าเศร้าๆ
“ คงงั้นมั้ง ” เราตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าภีมเลย เราทนเห็นสายตาแบบนั้นของมันไม่ได้อ่ะ
“ ดีแล้วล่ะ.... ” เสียงภีมที่มันตอบกลับก็เศร้าพอๆกับหน้ามันแหละ
“ อืม...” เราก็ยังไม่หันไปมองหน้ามันเหมือนเดิม
“ งั้นเค้ากลับโต๊ะก่อนนะ..... เขียนเสร็จแล้วจะเอามาให้ ” ภีมพูดแล้วก็เดินไปเลย
หลังจากเลิกเรียนตอนเย็นเราก็เก็บของใส่เป้กำลังจะเดินออกไปจากห้อง เพราะตอนนั้นเพื่อนส่วนใหญ่ก็ออกไปกันเกือบหมดแล้ว ภีมก็ตะโกนมาจากหลังห้องว่า
“ เดี๋ยวก่อนปอ..... ” แล้วมันก็วิ่งที่เราพร้อมด้วยเฟรนด์ชิป 4 เล่ม มันยื่นมาให้เรา เราก็เลยถามกลับไปว่า
“ อะไรเหรอ.... ให้เค้าทำไม ” ภีมมันก็ตอบมาว่า
“ของสี่คนนั้นหนะ.... ยังไงก็เคยเป็นเพื่อนกัน ปอก็เขียนให้มันหน่อยนะ” เราเลยถามว่า
“ มันจะไม่ฉีกหน้าที่ปอเขียนออกเหรอ ” น้ำเสียงเรากวนๆนิดหน่อย
“ ไม่หรอกน่า.... เอาไปเขียนเหอะ... ถือซะว่าล่ำลากันครั้งสุดท้าย ” เราก็เลยรับมาแล้วก็เดินออกมาจากห้อง แล้วเดินไปหาป๊อบที่โรงอาหาร เรากะป๊อบก็นั่งกินหนมนั่งคุยกันที่โรงอาหารได้พักนึงป๊อบก็บอกว่าวันนี้ต้องรีบกลับบ้านเพราะมีธุระเรากะป๊อบก็เลยแยกกัน เราก็เลยเดินไปนั่งเล่นที่หลังห้องประชาสัมพันธ์ของรร. ซึ่งมันก็เป็นที่ที่เพื่อนห้องเราชอบไปนั่งเล่นกัน ตอนที่เรากำลังจะเดินไปถึงตรงนั้นเราก็ได้ยินเสียงนิดพูดขึ้นมา เราก็เลยหยุดฟัง
“ พวกแกก็พูดแบบนี้ทุกทีแหละ.... เค้าว่าปอมันงี่เง้าว่ะเรื่องภีมอ่ะ ”
“ เรื่องอะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยๆบ้างเหอะ.... ยังไงก็เป็นเพื่อนกันนะ” ต๊ะพยายามที่จะพูดไกล่เกลี่ย
“ เราว่าปอมันทำตัวเองว่ะ... ชอบคิดมาก อะไรๆมันถึงเป็นแบบนี้ไง ” นิดพูด
“ ก็ใครอ่ะ.... ที่ทำให้มันเป็นเรื่อง ” เจมส์พูด
“ นี่แกจะโทษเค้าเหรอเจมส์ ” นิดพูด
“ ก็หรือว่าไม่จริง” เจมส์พูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างโมโห
“ พอซะทีเหอะ.... ” หน่าพูด
“ นี่ตกลงจะให้อะไรๆมันค้างคาแบบนี้เหรอ ” ภีมพูด
“ เป็นอย่างงี๊ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ปอมันก็ดูมีความสุขดีออก ” นิดพูด
“ เลิกพูดเรื่องนี้ซะทีเหอะ ” บัวพูด
“ พวกแกคิดว่ามันไม่เสียใจเหรอ ที่อะไรๆมันกลายมาเป็นแบบนี้อ่ะ ลองคิดถึงใจมันบ้างดิ ” ต๊ะพูด
“ ก็แล้วไงอ่ะ.... แกบอกว่ามันเสียใจทั้งๆที่มันจะตบฝนเนี่ยนะ...” นิดพูด
“ เค้าบอกกี่ทีแล้ว..... ว่าปอไม่ใช่คนแบบนั้น ” ภีมพูด
“ ภีมแกก็เข้าข้างปอทุกทีอ่ะ.... ชอบปอมันอ่ะดิถึงเข้าข้างกันแบบนี้อ่ะ ” นิดพูด
“ งั้นก็แล้วแต่จะคิดเหอะ ” ภีมพูดด้วยน้ำเสียงประชด
“ เค้าก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีก.... เดี๋ยวจะทะเลาะกันป่าวๆ” ต๊ะพูด
“งั้นก็ดีแล้ว...” นิดพูด
พอมันหยุดพูดเรื่องเรากันเราก็เลยตัดสินใจขับรถกลับบ้านเลยดีกว่า.......
คืนนั้นเราก็โทรไปหาต๊ะเพื่อที่จะคุยเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แหละ เพราะเราไม่อยากให้พวกมันมาผิดใจกันเพราะเรื่องของเราอ่ะ ต๊ะก็พูดอย่างอ่อนใจว่าอย่าไปสนใจพวกมันเลยต่อให้พวกมันพูดกระแนะกระแหนไรเรามาแต่เราไม่สนใจมันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว และต๊ะก็ขอโทษเราเรื่องพวกนั้นด้วยที่มันไม่ยอมเข้าใจเราเสียทีเราก็เลยบอกต๊ะว่า
“ เสียแรงป่าวนะต๊ะ... ช่างพวกมันเหอะ เค้าไม่สนใจหรอก ”
“ อะไรๆมันไม่น่ามาเป็นแบบนี้เลยนะ.... เพื่อนต้องมาผิดใจกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแท้” ต๊ะพูด
“ ถ้าความเป็นเพื่อนที่เคยมีให้กันมามันไม่สามารถทำให้มันเข้าใจเค้าได้ก็ช่างมันเหอะ” เราบอกกับต๊ะ
“ ปอ... ส่วนเรื่องภีมหนะ.... ปออย่าไปโกรธมันเลยนะ เราอยากจะบอกปอว่าภีมมันไม่เคยคิดไรกะฝนเกินกว่าความเป็นเพื่อนเลย เพียงแต่ภายนอกอ่ะมันอาจจะดูสนิทกันมากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง ” ต๊ะพูด
“ เราก็อยากจะเชื่อนะ แต่หลายๆเหตุการณ์มันทำให้เค้าเชื่อยากอ่ะ มันเองก็ใช่ว่าจะไม่บอกเรานะว่าไม่มีอะไร แต่เค้าก็ไม่เคยเชื่อใจมันเลย ” เราพูด
“ แต่เรารู้นะว่าภีมอ่ะ.... มันแค้ปอมากๆ ตอนที่มันอยู่กะพวกเรานะมันจะคอยพูดแทนแกตลอดเลย จนไอ้พวกนั้นด่ามันประจำว่ามันอ่ะชอบเข้าข้างแก ” ต๊ะพูด
“ เค้าก็จะเชื่อนะถ้าแกบอกแบบนี้.... ” เราพูด
“ อะไรๆมันคงเหมือนเดิมไม่ได้แล้วใช่มั้ย... ทั้งเรื่องเพื่อนและเรื่องภีม” ต๊ะถาม
“ คงจะใช่อ่ะ.... ปัญหาที่มันเกิดขึ้นมันเลยเถิดมาจนไม่สามารถทำให้อะไรมันเหมือนเดิมได้แล้วแหละ กับภีมเค้ายอมรับนะว่ายังรักมันเหมือนเดิม แต่ก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกันนั่นแหละ” เราบอกกับต๊ะ
“ ปอแกมีไรก็คุยกะเค้านะ ส่วนใครที่มันยังติดใจเรื่องนั้นอยู่แกก็อย่าเอามาเป็นอารมณ์ล่ะ ” ต๊ะพูด นี่แหละเพื่อนแท้เราเลย
“ อืม.... เราดีใจนะที่แกเข้าใจเรา” เราพูดกับต๊ะ ตอนที่พูดกะมันอ่ะเราร้องไห้เลย ก็มีมัน หน่าแล้วก็พวกผู้ชายในกลุ่มเรานี่แหละที่เข้าใจเรา พวกมันทุกคนยังคงเหมือนเดิมยังคุยเล่นยังโทรหากันปกติ ก็มีแค่สี่คนนั้นที่มันยังคาใจเรื่องเราอยู่แต่เราก็ไม่สนหรอก ปล่อยๆพวกมันไป
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จเราก็มานั่งเขียนเฟรนด์ชิปให้พวกมันทั้งสี่คน เราก็ไม่ค่อยได้เขียนอะไรมากนักหรอกแต่ข้อความส่วนใหญ่ที่เขียนไปก็เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจในตอนนั้น
ก่อนนอนก็ไม่วายที่จะคิดเรื่องภีม.... ที่ต๊ะพูดมันคงเป็นเรื่องจริงนั่นแหละ เพราะต๊ะไม่เคยโกหกเรา มันทำให้เราเข้าใจภีมมากขึ้นประกอบกับที่ได้คุยกะมันครั้งก่อนด้วย เราก็พอจะรู้แล้วแหละว่าภีมมันแบกรับอะไรไว้บ้าง น่าสงสารมันเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่มันต้องเลือกต้องตัดสินใจเอาเอง เพราะทุกๆคนก็ย่อมมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน จนบางทีมันก็ทำให้มีปัญหากันหรือผิดใจกันบ้าง..... ก็ไอ้ข้อจำกัดเหล่านี้แหละที่มันทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการได้ทุกอย่าง การอยู่รวมกันในสังคมยังมีอะไรที่ต้องแคร์ต้องยอมรับอีกมาก เมื่อไหร่ที่เรายอมรับมันไม่ได้มันก็จะเจอปัญหาอย่างที่เราและภีมรวมถึงเพื่อนๆต้องเจอ
แต่ในเมื่ออะไรมันล่วงเลยมาขนาดนี้แล้วเราก็ต้องยอมรับกับเส้นทางที่เราเลือกและตั้งหน้าเดินต่อไป
####################################################################
จบอีกตอน..... ช่วงหลังๆมานี้อาจจะมีเรื่องเพื่อนเข้ามามากหน่อยนะ.... เพราะช่วงนั้นก็มีแต่เรื่องนี้แหละที่เข้ามาให้คิดอยู่ตลอด
หวังว่าคนอ่านคงเข้าใจภีมมันมากขึ้นนะ.... อย่าไปเกลียดมันเลย....

ตอนนี้ไว้แค่นี้ก่อน.... นี่เราแว๊ปเข้ามาพิมต่อให้เดี๋ยวต้องรีบไปปั่นงานก่อน ส่งตอนเก้าโมงเช้า

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะ
