+++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

............................

รัฐกรณ์
14 (35%)
การุณ
8 (20%)
วสัน
2 (5%)
สรรพวุฒิ
3 (7.5%)
สาวิตรี
2 (5%)
วรวิทย์
0 (0%)
ภคดล
0 (0%)
กรรณิกา
0 (0%)
อาญา
9 (22.5%)
สิ่งลี้ลับอื่นๆ
2 (5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 28

ผู้เขียน หัวข้อ: +++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55  (อ่าน 74282 ครั้ง)

ออฟไลน์ DarknLight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
หลอนดีนะครับ
สรุปแล้วจะเหลือใครบ้าง ปมที่ผูกไว้จะคลายออกอย่างไร
น่าติดตาม

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
มาอัพในวัน 5555 นะคะ อ่านไปหัวเราะไปเน่อเจ้า





บทที่ 15 ในความมืด



     รัฐกรณ์ใช้ค้อนงัดแผ่นไม้ออกไปอย่างยากลำบาก จะขอให้การุณช่วยก็ใช่ที พอขอวสันก็ไม่ยอมท่าเดียว เป็นเหตุให้หนุ่มที่ตัวเล็กที่สุดต้องมาออกแรงงัดไม้อยู่นาน กว่าที่แผ่นไม้จะหลุดออกจนหมด เหงื่อก็โชกไปทั่วแผ่นหลัง รัฐกรณ์เปิดประตูออกไป

      ทันทีที่บานประตูเผยให้เห็นความดำมืดของราตรี สายลมเย็นก็วิ่งลอดผ่านเข้ากระทบกายของเด็กหนุ่มจนขนบริเวณแขนเขาตั้งชัน การุณส่งเสียห้ามอีกครั้ง แต่นั่นก็หาได้ทำลายความตั้งใจของรัฐกรณ์ ว่าที่หมอเดินย่างออกไปด้านนอกอย่างมุ่งมั่น กุญแจรถตู้อยู่ในมือของเขา เขากำมันไว้แน่นค่อยๆย่างก้าวไปอย่างระวัง

     แสงไฟจากไฟฉายกระบอกเล็กสาดส่องไปยังทางเดิน เสียงลมต้องใบไม้เกิดเสียงแผ่วเบาน่าวิตก หลายต่อหลายครั้งที่รัฐกรณ์ต้องส่องไฟฉายไปหาต้นเสียงที่เกิด แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า โชคดีที่วสันจอดรถไม่ไกลจากหน้าตึกเท่าไร

     รถตู้สีขาวจอดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม กุญแจอันนั้นค่อยๆแหย่ลงไปอย่างลำบากด้วยเพราะความมืด แต่เขากลับทำมันหล่นลงเพียงเพราะตกใจที่อยู่ๆก็มีลมพัดมากระทบ กุญแจตกกระเด็นเข้าใต้รถหายลับไป นั่นทำให้รัฐกรณ์อารมณ์เสียพอควรที่ตกใจไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

     ไฟฉายอันเล็กส่ายไปมาตรงช่องใต้รถ รัฐกรณ์คุกเข่ากับพื้นก้มหัวลง สอดส่องหาสิ่งที่ทำหล่น ไม่นานก็พบลูกกุญแจที่ตกอยู่ตรงกลางใต้รถตู้ รัฐกรณ์วางไฟฉายลงที่พื้นส่องไปยังเป้าหมาย เขาก้มลงต่ำกว่าเดิมแล้วลองยื่นมือเข้าไปดู แต่ระยะทางยังอีกไกล เขาตัดสินใจใช้ส่วยบนลอดเข้าไปใต้รถ แต่ก็เป็นไปอย่างลำบากในที่แคบและมืดแบบนี้

      แต่แล้วชายหนุ่มต้องใจเต้นรัว ทันทีที่เขาคว้าเอากุญแจได้ เสียงฝีเท้าดึงขึ้นมา เขาหยุดฟังครู่หนึ่งเพื่อยืนยันว่าไม่ได้หูฝาดไปเอง และถ้าเขาฟังไม่ผิด เสียงนั้นค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ รัฐกรณ์ใจสั่น ต่อให้เขาใจแข็งแค่ไหนแต่เหตุการณ์คืนนี้มันก็เกินกว่าที่จะรับไหว เขารีบคลายออกมาจากใต้รถ คว้าเข้ากับไฟฉายก่อนจะหันไปทางต้นเสียงที่ใกล้เข้ามา

“เห้ย ตกใจหมด” การุณส่งเสียงดังที่อยู่ๆรัฐกรณ์ก็ส่องไฟมาหา วสันที่อยู่ข้างๆก็ดูตกใจไม่แพ้กันแต่ก็ไม่ได้โวยวาย
“มาทำไม” รัฐกรณ์ถาม
“เป็นห่วง มันอันตรายนะ” การุณตอบ แต่ก็ไม่วายมองซ้ายขวาระวังตัวอยู่ตลอดราวกับอะไรจะโผล่ขึ้นมา
“อืม” รัฐกรณ์รับคำ เขาถอยรักษาระยะห่างจากทั้งสองคนไว้เล็กน้อย ก็คงจะไม่แปลกใจนักที่ในเวลาแบบนี้ คงไม่เป็นที่ปลอดภัยนักหากจะอยู่ใกล้กับคนอื่นที่ยังไม่รู้จักดีนัก เขาเองก็รู้สึกผิดกับทั้งการุณและวสันที่ต้องคิดใส่ร้ายว่าทั้งสองอาจเป็นคนที่ทำเรื่องทั้งหมดไป

แต่อีกส่วนหนึ่งของใจก็กลับรู้สึกดีที่อย่างน้อยก็มีคนมาสำรวจเป็นเพื่อนด้วย



      รัฐกรณ์ใช้กุญแจไขประตูอย่างบรรจง จัดแจงเปิดไฟในรถให้สว่างเป็นที่เรียบร้อย ประตูเลื่อนถูกเปิดออกมา กลิ่นคาวเลือดพุ่งออกมาตามทันทีทำเอาการุณปิดจมูกแล้วเลี่ยงออกไปทันที รัฐกรณ์ก้าวขึ้นไปค่อยๆเดินไปสู่หลังรถ ผ้าคลุมอันใหญ่บดบังร่างใหญ่ของวรวิทย์จนมิด ข้างๆนั้นมีห่อผ้าเล็กๆวางอยู่เช่นกัน วสันชำเลืองมองอยู่ตรงประตูอย่างหวาดกลัว ปล่อยให้การุณอาเจียนอยู่เพียงลำพังที่ด้านหน้าของรถ

     ทันทีที่เปิดผ้าออก กลิ่นควาเลือดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนรัฐกรณ์ต้องเอาแขนเสื้อขึ้นปิดจมูกไว้ ภาพที่เห็นน่าสะเทือนใจไม่เปลี่ยน ร่างของชายตัวใหญ่ไร้หัวเอนตัวอิงข้างผนังรถ มีคราบเลือดเปรอะไปทั่วทั้งเพดาน หน้าต่าง ไหลย้อยไปตามลำตัวรถด้านนอกผ่านทางหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้

     รอยแผลที่ลำคอของวรวิทย์ดูจะเรียบร้อยกว่าของภคดล ถึงแม้จะไม่ได้เรียบสนิทแต่ก็ถือได้ว่าค่อนข้างสวย ราวกับถูกตัดออกไปในครั้งเดียว ผิดกับภคดลที่มีรอยฟันอยู่หลายครั้ง การค้นพบนี้ยิ่งทำให้รัฐกรณ์ขนลุกกับความคิดของเขามากยิ่งขึ้น ใครกันจะมีแรงมหาศาลที่จะตัดคอชายหนุ่มให้ขาดออกได้ในพริบตา ใครกันที่จะลงมือได้บนสถานที่ปิดตาย


ถ้าไม่ใช่สิ่งลี้ลับ


ขนต้นคอของเขาลุกตั้งอย่างพร้อมเพรียง รัฐกรณ์รีบคลุมผ้าไว้ที่เดิม เขาเดินลงมาจากรถจัดแจงปิดไฟทุกอย่าเรียบร้อย
“กลับกันเถอะครับ” วสันที่ดูหวาดระแวง ชักชวนให้กลับไปในตัวอาคาร
“ครับ” รัฐกรณ์เห็นด้วย เขาส่องไฟฉายไปยังทางเดินกลับ และทั้งสามก็ค่อยๆกลับมายังห้องโถงชั้นหนึ่งอีกครั้ง
     ถึงแม้จะมีศพอยู่ในอาคารแต่ แต่ได้อยู่ในที่ที่มีแสงสว่างก็ทำให้อุ่นใจไม่น้อย วสันปลีกตัวนั่งตรงโซฟาเป็นคนแรก เหลือเพียงการุณและรัฐกรณ์ที่ยังยืนอยู่

     การุณดูแย่ ใบหน้าที่เคยมีสีเข้มนั้นกลับดูซีดเซียว เขาเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงไปนั่งที่เก้าอีกตัวที่ว่าง รัฐกรณ์มองตามอย่างเป็นห่วง คงเป็นเพราะตกใจกับการเสียไปของเพื่อนๆ ไหนจะอาเจียนเสียหลายครั้ง
“นายเป็นไงบ้าง” รัฐกรณ์เข้าไปถามไถ่
“…..” การุณส่ายหัว แต่ก็ดูไม่ดีนัก
“เดี๋ยวกินยาสักหน่อยดีกว่าไหม ยาอยู่ในกระเป๋า” รัฐกรณ์เสนอ แต่คนตัวใหญ่ก็บอกบัดอยู่ท่าเดียวจนต้องบังคับ
“เดี๋ยวมานะครับ” รัฐกรณ์บอก แต่อีกสองคนที่เหลือยืนยันว่าจะไปด้วยกัน รัฐกรณ์ก็เห็นดีด้วย เพราะจะได้ขึ้นไปดูคุณสาวิตรีและสรรพวุฒิด้วย


    ทางเดินแคบๆบนชั้นสองทอดยาวไป ทั้งสามเลี้ยวตรงหัวมุมเดินไปยังสุดปลายทาง ได้ยินเสียงอะอื้นของหญิงสาวเป็นระยะ ทำเอาใจฝ่อไป พอไปถึงก็พบว่าประตูห้องปิดไว้ด้วยกุญแจสีเหลืองอย่างแน่นหนา สรรพวุฒิกอดสาวิตรีไว้ในอ้อมอก
“มาทำไม” สรรพวุฒิตวาดเมื่อเห็นทั้งสามยืนอยู่หน้าห้อง
“ผมเป็นห่วงพวกคุณนะ” รัฐกรณ์อธิบาย แต่ไม่ว่าอย่างไรสรรพวุฒิก็ไม่ยอมเชื่อ เขาไล่ทั้งสามคนจนเสียงเริ่มจะแหบ การุณเห็นท่าไม่ดีจึงดึงรัฐกรณ์ออกมาเสีย

“เดี๋ยวใกล้เช้าเราค่อยมาตามก็ได้ครับ”






     ทั้งสามเดินมาจนถึงทางแยกอีกครั้ง ทางซ้ายเป็นทางไปยังห้องของการุณและรัฐกรณ์ ทาขาวมือเป็นห้องของวสัน และหากตรงไปจะเป็นห้องของภคดล ซึ่งทั้งสามเลี่ยงที่จะเดินไปทางนี้ แต่ก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องเหลือบตามองไปยังทางเดินที่ทอดยาวนั้น

     การุณทนมองต่อไม่ไหวเขาออกเดินนำหน้าห้ทั้งสองเดินตามไปตามทางโดยเร็วให้พ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่นานนักก็ถึงยังห้องของรัฐกรณ์ การุณค้นในถุงเก็บหลักฐานหาเอากุญแจมาไขอย่ารวดเร็ว
“โถ่เว้ย เป็นอะไรอีก” หนุ่มผิวเข้มหัวเสียเมื่อพบว่าไม่สามารถปลดล๊อกได้
“เอ่อ นาย” รัฐกรณ์ที่พึ่งเดินมาถึงทักเข้า เมื่อเห็นว่าลูกกุญแจที่การุณใช้นั้นเป็นสีส้ม ซึ่งเป็นของห้องวสัน
“เอ่อ” การุณรีบค้นหากุญแจสีเขียวอย่างเสียหน้า เขาคงกลัวมากไปหน่อยจึงไม่ทันดู นึกเสียใจที่ปล่อยไก่ต่อหน้ารัฐกรณ์หลายต่อหลายครั้ง ทั้งกลัวผี ทั้งซุ่มซ่าม

แบบนี้คงไม่มีหวังที่จะทำคะแนนได้เสียแล้ว

     เสียงโซ่กระทบกับเหล็กดังไปทั่วทางเดิน ทั้งการุณและวสันเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ รัฐกรณ์ยังยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง จนการุณต้องเรียกถึงสองสามครั้ง

“โทษที” รัฐกรณ์เข้ามาในห้องเปิดกระเป๋าของตนออก ซองยาหลายขนาดค่อยๆถูกวางลง ด้วยความที่เขามักจะต้องเป็นหน่วยพยาบาลตลอดเวลาที่ออกค่าย เขามักจะติดยาไว้ด้วยเผื่อฉุกเฉินแบบนี้เสมอ
“นี่ กินเลยนะ” รัฐกรณ์ยื่นมาเม็ดสีขาวขนาดเล็กให้การุณ พร้อมกับน้ำขวดหนึ่ง
“ไม่กินไม่ได้หรอ” คนตัวใหญ่อิดออด
“กินไปเหอะน่า”
“ครับๆ กินแล้วๆ” การุณรีบกลืนยาลงไปทันทีที่เห็นว่ารัฐกรณ์ไม่พอใจ นี่ถ้าให้รู้ว่าเขาเองไม่ชอบกินยาอีกคะแนนที่มีคงจะติดลบเสียจนไม่รู้จะลงไปเท่าไรแล้ว
“ไปกันเถอะ” รัฐกรณ์เดินนำออกไปนอกห้อง



“เห้ย”

      ทันใดนั้นเองหลอดไฟที่ส่องสว่างตามข้างผนังก็พร้อมใจกันดับวูบ ทั่วอาคารตกอยู่ในความมืดทันที เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วมาจากทศของห้องคู่สามีภรรยาจนรัฐกรณ์รู้สึกไม่ดี ตั้งสติเล้วออกวิ่งไปทางเสียงร้อง


แต่เพียงเริ่มก้าวเท้าได้เพียงสองก้าว ชายหนุ่มต้องถอยหลังกลับด้วยแรงบางอย่างที่กระทำ


เขารู้สึกเหมือมีคนดึงคอเสื้อของเขาไว้แน่น





เสียงกรีดร้องให้คืนอันมืดมิดยังดำเนินต่อไป…….เมื่อไรหนอที่แสงอาทิตย์แห่งวันใหม่จะพ้นขอบฟ้าเสียที



ปล มีของเเถมด้วยค่ะ http://news.mthai.com/general-news/164116.html

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
คนที่ดึงก็คงไม่ใช่ใคร... การุณนั่นเอง...

แบบว่า รัฐกรณ์ ตัวบางที่สุด แต่มีสติมั่นคงที่สุด และกล้าที่สุด
หุหุ การุณคงหาทางทำคะแนนยากจริงๆนั่นแหละ

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
 o22 ข่าวเข้ากับเนื้อเรื่องเลย

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
สั่นประสาทเสียจริง

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ง่ะ น่ากลัวโคตร
อ่านไปขนลุกไปด้วยเลยเนี่ย

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
แอร๊ก....เหมือนถูกดึงคอซะเอง...

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
เกิดอะไรขึ้น!! ตื่นเต้นๆ
อ้างถึง
“เอ่อ” การุณรีบค้นหากุญแจสีเขียวอย่างเสียหน้า เขาคงกลัวมากไปหน่อยจึงไม่ทันดู นึกเสียใจที่ปล่อยไก่ต่อหน้ารัฐกรณ์หลายต่อหลายครั้ง ทั้งกลัวผี ทั้งซุ่มซ่าม

แบบนี้คงไม่มีหวังที่จะทำคะแนนได้เสียแล้ว

หุๆ น่านดิ การุณเอ๊ย ไม่เห็นแววเล้ย

ป.ล. จากข่าว ร.พ.นี้ ต้องส่งรัฐกรณ์ไปสืบดูนะ เขากล้าจริง

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
โดนดึงแล้ว คอคงจะไม่ขาดหรอกนะ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ยิ่งอ่านยิ่งหลอนขึ้นเรื่อยๆ o21

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เรื่องก็น่ากลัวโคตรๆอยู่แล้วววว
ยังมามืดอีก  ไม่กล้าคิดภาพตามเลย 
กลัวนอนไม่หลับ  อิอิ
เอาใจช่วยรัฐตลอดเว

ออฟไลน์ lovely2min

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เงิ่มน่ากลัวได้อีก
พระเอกเรื่องนี้หมดหวังซะละมั้ง
ขี้กลัวจัง

Mademoiselle

  • บุคคลทั่วไป
- เรื่องนี้น่ากลัวอ่ะ แต่ก็ชอบ
อ่านแล้วเห็นภาพตามเลย
สุดท้ายจะเหลือใครบ้างเนี่ย
รอติดตามอยู่นะคะ ..

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
งงกับปริศนา

ใครทำอ่า เดาไม่ออกจริงๆ เฮ้อออ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
รายต่อไป เป็นใคร

ออฟไลน์ chin-ruyze

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-10
น่ากลัวมากๆ :z3: :z3:
ติดอ่ะๆ o13

ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตายเหี้ยนเตียนกันหมด เหอะ
รายต่อไปคงอีกสองคนที่อยู่ในห้องนั่นแน่เลย
แต่ถ้าตายแค่คนใดคนหนึ่งคงสยองน่าดู

Running

  • บุคคลทั่วไป
หลอนนได้ทุกตอน เรื่องยังคงไม่คลี่คลาย
ลุ้นๆว่าใครจะเป็นคนร้ายกันแน่ เดาไม่ถูกเลย
รึคนที่ไม่น่าสงสัยที่สุด เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุดกัน
รอลุ้นดีกว่าครับ บวก บวก ครับ รอตอนต่อไป :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
มาลุ้นกันต่อเลยนะคะ


บทที่ 16 สู่แสงสว่าง



“ปล่อย!” รัฐกรณ์พูดเสียงแข็งเมื่อไฟฉายของเขาส่องไปด้านหลังเจอเข้ากับการุณที่ทำหน้าซีดจับคอเสื้อของรัฐกรณ์ไว้แน่น
“อย่าวิ่งสิ” การุณค่อยๆปล่อยมือของตนออก นึกเสียใจที่ทำไม่เข้าท่าอีกแล้ว มันเหมือนควบคุมตัวไม่ได้พอไฟดับปุ๊บก็รู้เพียงแค่ต้องหาที่ยึดไว้แล้วคนที่น่าพึ่งพาที่สุดก็คงไม่พ้นรัฐกรณ์ แต่ในความจริงแล้วตัวเองควรจะเป็นคนที่ต้องปกป้องรัฐกรณ์ต่างหาก การุณทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเดินตามรัฐกรณ์ที่ฉายไฟส่องไปตามทาง
“เร็วสิ” เสียงกรีดร้องของสาวิตรียังดังไม่หยุดนั่นทำให้ทั้งสามคนยิ่งหวั่นใจเกรงจะเกิดเหตุอะไรอีกจึงออกวิ่งไปทันใด


“คุณสาวิตรี คุณสรรพวุฒิ” รัฐกรณ์ตะโกนไปตามทาง หวังว่าทั้งสองคงไม่เป็นไร
“อย่าเข้ามา” แต่ทันทีที่มาถึงหน้าห้อง สรรพวุฒที่กอดสาวิตรีไว้สั่งห้ามไม่ให้ทั้งสามเข้ามา
“พวกแกจะทำอะไรอีก” เขาเลื่อนตัวถอยเข้าไปยังมุมห้องอย่างระวัง การที่อยู่ๆไฟก็ดับลงคงเป็นผลดีนัก
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆไฟก็ดับไป” รัฐกรณ์พยายามอธิบาย แต่ดูสาวิตรีจะกลัวจนร้องไห้ไม่หยุด สรรพวุฒ์เองก็ได้เพียงปลอบภรรยาของตน
“ผมคิดว่าน้ำมันคงหมดครับ” วสันบอกความคิดของตน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนี้เขาเองยังไม่ได้ออกไปเติมน้ำมันให้เครื่องปั่นไฟเลย
“งั้นเราไปดูกัน” รัฐกรณ์บอกให้ทั้งสรรพวุฒิและสาวิตรีรออยู่ในห้อง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาทั้งสามเอง
วสันนำขบวนมาหยุดที่ห้องเก็บอุปกรณ์ชั้นหนึ่ง ถึงน้ำมันขนายย่อมวางเรียงกันอยู่ตรงมุมห้อง การุณรับหน้าที่แบกไว้สองถึงและวสันกับรัฐกรณ์อีกคนละถัง ซึ่ง ณ จุดนี้การุณหวังว่าคงพอได้คะแนนความแข็งแรงบ้างไม่มากก็น้อย

     แสงไฟฉายกระบอกน้อยสาดส่องไปมา เพื่อดูทางเดินที่อ้อมไปยังหลังอาคาร การุณเดินก้มหน้าก้มตาพยายามไม่มองไปรอบตัว จนพลาดท่าชนกับรัฐกรณ์เข้าอย่างจัง

     คนตัวเล็กกว่ามองอย่างไม่พอใจเท่าไรนัก ทำเอาการุณรีบขอโทษขอโพย รัฐกรณ์ถอนหายใจทำทีเป็นไม่สนเติมน้ำมันลงไปในเครื่องปั่นไฟจนครบ และทำการเดินเครื่องอีกครั้ง

     เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังก้องไปทั่วในบริเวณที่เงียบสงัด เสียงนกร้องด้วยความตกใจจากการถูกรบกวนดังแว่วจากในส่วนลึกของป่าที่ดำมืด

     รัฐกรณ์สาดส่องไฟไปทางนั้น แต่ยิ่งเพ่งก็ยิ่งพบแต่ความมืดที่ลึกเข้าไป การุณสะกิดแขนเบาๆให้รีบเข้าไปในอาคาร ซึ่งวสันเองก็เห็นด้วย ทุกคนจึงรีบเข้าไปยังอาคารอีกครั้ง



     ทันทีที่แสงไฟต้องกระทบผิวเนื้อที่ขาวซีดนั้น รอยแดงที่เกิดจากการกระชากเสื้อโดยการุณนั้นออกสีชัดเจนเป็นเส้นยาวพาดผ่านอกส่วนบนไปถึงลำคิด้านข้าง ทำเอาการุณรู้สึกผิดรีบขอโทษเสียยกใหญ่
“เจ็บไหมครับ ผมขอโทษจริงๆนะ” เขาก้มหัวพร้อมกับไหว้ซ้ำๆ จะรัฐกรณ์แอบหัวเราะไม่ได้ จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้เจ็บสักเท่าไรเพียงแค่ผิวของเขามันขาวกว่าชาวบ้านก็เลยเกิดรอยได้ง่ายกว่าก็เท่านั้น
“ไม่เป็นไรหรอก” รัฐกรณ์ว่าง่ายๆ เขาทิ้งตัวนั่งลงนั่งอย่างอ่อนล้า ทั้งวันนี้เขาใช้พลังงานไปเสียมากอีกทั้งยังไม่ได้พักผ่อน แน่นอนเขาเชื่อว่าอีกสองคนก็คงจะไม่แตกต่างกัน
รัฐกรณ์นั่งก้มลงมองรอยแดงบนเนื้อของตัวเองอย่างลำบาก จนการุณรู้สึกผิดรีบเอามือถือของตนถ่ายรูปให้ดู รัฐกรณ์กล่าวของใจก่อนที่จะหยิบมือถือรุ่นใหม่นั้นขึ้นมาดู

“หืม รอยชัดขนาดนี้เชียว” รัฐกรณ์บ่นเมื่อเห็นรอยแดงที่พาดผ่านต้นคอของตน
“ผมขอโทษ”
“พอแล้วน่า ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย แค่โดนกระชากเอง…….” รัฐกรณ์บอกให้อีกคนเลิกขอโทษเสียทีก่อนจะหยุดนิ่งนั่งลูบต้นคอของตนเองไปเงียบๆ
ไม่นานนักรัฐกรณ์ทำหน้าตื่นเด้งตัวลุกขึ้นฉับพลันทำเอาอีกสองคนที่เหลือตกใจไปตามๆกัน
“อยู่ที่นี่นะ ห้ามตามมา” รัฐกรณ์วิ่งพรวดออกไปจากอาคาร
“คุณวสัน ไฟฉายครับ” การุณเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบขอไฟฉายจากวสันแล้วพากันวิ่งตามไปทันที แต่พอถึงหน้าประตูก็ไม่เห็นรัฐกรณ์เสียแล้ว



“รัฐ!” การุณตะโกนเรียก พร้อมกับค่อยๆเดินออกไป แต่ยังไร้วี่แววเสียงตอบรับ นั่นทำให้เขาใจคอไม่ดี นึกโทษตัวเองหากรัฐกรณ์เป็นอะไรขึ้นมาอีกคน

“รัฐอยู่ไหน” การุณตะเบ็งสุดเสียง หัวคิ้วขมวดเข้ามาเป็นเส้นเดียว ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจเขาอีกครั้ง มันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเพียงแค่ต้องการมาเที่ยวในวันหยุดยาว มาเที่ยวกับเพื่อนอย่างสนุกแค่นั้น แต่ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย

“รัฐ” ครั้งนี้เขาตะโกนจนเสียงแหบแห้ง น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อาจห้ามได้อีกต่อไป ทั้งความกังวล ความกลัว ความเสียใจ ทุกอย่างมันประเคนเข้ามาให้เขาทั้งหมดพร้อมๆกัน

“รัฐอยู่ไหน”





“บอกแล้วไงว่าอย่าตามมา” เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น ทำเอาการุณใจชื้นขึ้นเมื่อเงยหน้าเจอเข้ากับคนที่เรียกหาค่อยๆเดินแหวกความมืดเข้ามา
“แย่เลยถ่านหมดพอดี” รัฐกรณ์โชว์ไฟฉายที่ดับสนิทของตนให้อีกสองคนดูแล้วหัวเราะน้อยๆ
“ไม่ตลกนะรัฐ ออกมาคนเดียวแบบนี้ได้ไง ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนแล้วจะทำยังไง” การุณไม่รู้สุกตลกไปด้วย เขาใส่อารมณ์ต่อว่าคนตัวซีดที่ทำอะไรโผงผาง ไม่ยอมบอกกล่าวกันก่อน และยังน้อยใจที่รัฐกรณ์เองไม่ยอมเชื่อใจพอที่ชวนเขาเองออกไปด้วย

“มีอะไรก็บอกกันสิ”

“ขอโทษที เรารีบไปหน่อย”

“อย่าทำอีกล่ะ สัญญานะ”

“อืม สัญญา เราเข้าตึกกันเหอะ” รัฐกรณ์เดินนำทุกคนเข้าไปยังอาคารพักผ่อน พอถึงที่เขาก็นั่งลงคิดอะไรอยู่เงียบๆเพียงคนเดียว
เด็กหนุ่มนั่งมองโต๊ะด้านหน้าอย่างเหม่อลอย แววตาของเขาฉายแววร้าวฉานออกมา ความหวั่นไหวในหัวใจมันส่องออกมาผ่านนัยน์ตาที่ไหวระริก เขาลองทบทวนความคิดตัวเองอีกครั้ง แต่คำตอบที่ได้มันก็เหมือนเคย ไม่ว่าจะคิดไปทางไหนมันก็ออกมาแบบเดิมเช่นเดียวกันทุกครั้ง

     อาการเช่นนี้ทำให้การุณไม่สบายใจไปตามกัน เขานั่งอยู่เยื้องกับรัฐกรณ์คอยสังเกตอาการเด็กหนุ่มตลอด ตั้งแต่เข้ามาครั้งนี้    รัฐกรณ์เงียบลงไปอย่างน่ากลัวเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว ชายหนุ่มรวบรวมความกล้าค่อยๆยื่นมือสีเข้มของเขาไปกุมมือนั้นไว้
รัฐกรณ์ดูตกใจที่อยู่ก็รู้สึกถึงแรงสัมผัส เขากำลังจะชักมือออกมา แต่เมื่อเห็นแววตาของการุณแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ

“ขอบใจนะ”



รัฐกรณ์ลุกขึ้นยืนสูดอาการเข้าเต็มอก

“เราไปหาสองคนข้งบนกันเถอะ” รัฐกรณ์ไม่รอช้าเดินนำทั้งสองขึ้นไปยังชั้นสองทันที เมื่อมาถึงห้องของสาวิตรี สรรพวุฒิก็ออกปากไล่เหมือนเคย
“ฟังผมก่อนครับ” รัฐกรณ์ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แต่สรรพวุฒิเองดูจะไม่ยอมแพ้
“ออกไปเลย”
“คุณครับ” รัฐกรณ์อ่อนใจไม่รู้จะทำยังไงให้ทั้งสองรับฟังตน
“กูบอกให้ออกไป” สรรพวุฒิตะโกนไล่

“เงียบ!” การุณตะคอก ทำเอาทุกคนนิ่งกันหมดอย่างแปลกใจ
“เราไม่ไป หุบปากแล้วฟัง” คนตัวใหญ่สั่งต่อ ก่อนจะยื่นโอกาสให้รัฐกรณ์ที่ดูจะชื่นชมกับการกระทำในครั้งนี้อยู่ไม่น้อย
“ใจเย็นๆนะครับคุณสรรพวุฒิ ผมคิดว่าผมรู้แล้วว่าในคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” รัฐกรณ์ค่อยๆเริ่มเรื่องราวที่ต้องการบอกอย่างช้าๆ สาวิตรีเริ่มที่จะร้องไห้อีกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องสยองขวัญที่เกิดขึ้น

“มันก็ฝีมือแกไม่ใช่หรือไงที่ฆ่าพวกนั้นแก้แค้นแทนแฟนแกน่ะ” สรรพวุฒิชี้นิ้วด่าไปยังรัฐกรณ์
“ฟังก่อนสิครับ ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง” รัฐกรณ์แก้ตัว
“ใครก็ทำไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ มันต้องเป็นผีแน่ๆ” การุณเริ่มตัวสั่น เขาแนบหลังเข้ากับผนังเมื่อคิดว่าอาจจะมีอะไรโผล่ขึ้นมาอีก
“เหลวไหล นี่มันยุคไหนกันแล้ว” รัฐกรณ์ว่าเข้าให้
“แต่นอกจากผีแล้วใครจะสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้กันครับ” วสันแสดงความเห็นไปเชิงเดียวกับการุณ
“ใจเย็นๆครับทุกคน ผมกำลังจะอธิบายนี่ล่ะ” รัฐกรณ์รู้สึกประหม่าเมื่อถูกทุกคนจ้องมอง แต่เขาคงต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปจนกว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลง


เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เพื่อไม่ให้มีใครสูญเสียมากไปกว่านี้





“คำตอบทั้งหมด ผมจะบอกให้ฟังเองครับ”

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เอาล่ะค่ะ เรื่องราวก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายของเรื่องเเล้วนะคะ ยังไงก็อยากจะให้ลองช่วยกันวิเคราะห์ ว่าสิ่งที่เกินนี้มันเกิดได้อย่างไรในความคิดของเเต่ละคน

ถ้าไม่อยากโพสในนี้ ส่งPM มาหาก็ได้นะคะ งานนี้ไม่มีต่อว่ากันค่ะ แต่อยากให้ลองตอบกัน เพราะว่าจะได้นำไปวิจัยต่อยอดว่า

การเขียนในครั้งนี้ดีหรือยัง ยากไป เขียนเเล้วงง หรือง่ายเกินไป ไม่สนุก

ขอความร่วมมือทุกคนเลยนะคะ


ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
 :z13:  :z13:  :z13:

คิดว่าเป็นฆาตกรรมอำพรางค่ะ โดยอาจจะใช้พวกลวดเป็นอาวุธ คือผูกไว้ที่ไหนสักแห่งจำพวกต้นไม้โยงไว้กับคอผู้ตาย แล้วใช้แรงกระชากจากรถยนต์เมื่อตัวรถออกตัว ก็มีผู้ตายรายแรก

 กรรณิการ์อาจจะง่ายหน่อยเพราะตายข้างนอกคงหาวิธีฆ่าไม่ยากนัก ใช้โอกาสตอนคนอื่นๆ หลับเคลื่อนย้ายศพได้ง่ายๆ  (ฆาตกรวางยานอนกลับให้ทุกคนกินนั่นเอง) ส่วนอีกคน (สารภาพว่า ณ ตอนนี้จำชื่อตัวละครไม่ได้แล้วค่ะ) ก็อาจจะใช้หลักการเดียวกัน แต่ก็ไม่รู้จะลงรายละเอียดยังไง ไม่แน่ใจว่าจะเป็นทริกฆ่าทั้งๆ ที่นอนข้างในหรือทริกล็อกกุญแจจากข้างนอดกันแน่ แต่คิดแค่ว่าคงต้องมีวิธีทำให้เป็นฆาตกรรมห้องปิดตายได้เนอะ คาดว่าตอนที่นายเอกของเราวิ่งออกไปคงไปเจอหลักฐานอะไรมาก็ได้

คือคิดมานานแล้วว่า ฆาตกรน่าจะเป็นสรรพวุฒิ  เหตุจูงใจคือแก้แค้นให้อาญาซึ่งเฉลยออกมาแล้วเป็น ฃลูกชาย  (หรือว่าจะเป็นวสันต์ดีล่ะ แต่นึกเชื่อมโยงที่มาที่ไปไม่ออกแฮะ)

อันนี้เดาเอานะคะ ผิดถูกยังไงคงไม่ว่ากัน แบบว่ามั่วๆ อ่ะ แบบเหมือนตอนอ่านโคนันก็เดาคนร้ายผิดประจำ ฮาๆ

รอฟังการไขคดีจาก ว่าที่คุณหมอยอดนักสืบนะคะ 

 :L2:  :L2:  :L2: 


ปล. คุณ tifa ชอบเขียนพระเอกที่ดูนุ่มนิ่มกว่านายเอกเนอะ แปลกดีเหมือนกัน...
แบบว่าการุณ ทั้งขี้กลัว พึ่งพาไม่ได้ แล้วอย่างนี้รัฐกรณ์จะชอบไหมเนี่ย?

 :pig4: :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 01:11:44 โดย ๛ナーリバス๛ »

Running

  • บุคคลทั่วไป
เฉลย ทริค สักทีเหอะ ลุ้นนตลอดเลย ฮ่าๆๆๆ
ไม่รุ้ว่าคนร้ายเป็นใครกันแน่ ทำเพื่ออะไร แก้แค้นเหรอ
ถ้าทำไปเพื่อเเก้แค้นให้อาญา คนๆนั้นก้อต้องเกี่ยวข้องกะอาญา แล้วมันใครกันล่ะ เฮ้อ
จะเป็นยังไงต่อไปล่ะ รัฐจะคลี่คลายคดีได้มั้ย
คนร้ายจะใช่คนเดียวกะที่คิดรึป่าว รอลุ้นครับบบ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
กระชากๆ...สงสัยวิธีการคงเกี่ยวอะไรกับการกระชากเเน่ๆ(มั้ง) :teach:
ตอนเเรกๆคิดว่าเป็นวสัน...อ่านๆไปหรือเป็นอาญา
คิดๆอีกทีหรือ สรรพวุฒิ-สาวิตรีเป็นพ่อเเม่อาญา
บางตอนก็เเอบคิดว่าเป็นการุณ
สรุปคือ..เดาไม่ถูก รอลุ้นเฉลยดีกว่า :m23:
เนื้อเรื่องสนุกดี ลุ้นได้ทุกตอน....ชอบบ :impress2:
 :pig4:

ออฟไลน์ lovely2min

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ใครคือคนร้าย
รึจะเป็น เจ๊ผู้หญิง แม่ของอาญาป่ะ
เดามั่ว 55

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เย่ๆๆ....ในที่สุดโคนันคุง...เอ๊ย! รัฐกร ก็สามารถไขปริศนาและรู้ตัวคนร้าย โดยการเอาชื่อปู่เป็นเดิมพัน!!!... มั่วจริงกู 555 ... สนุกแม้ก...ก....ก...

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
คิดว่าเป็นการใช้ลวดเหมือนกันค่ะ

เดาไม่ออกว่าใครเป็นคนทำ  แต่สงสัยวสัน ไม่รู้ทำไม

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
เดาไม่ถูกเหมือนกัน
แต่เห็นรัฐนึกอะไรได้จากการเห็นรอยแดงจากการกระชาก
แล้วออกไปดูข้างนอก
คงเป็นคีย์อันหนึ่งมั้ง

แอบขำการุณ หวังคะแนนจากการถือถังน้ำมัน
แต่เราว่าน่าจะได้จากคำว่า"เงียบ"เนอะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ก็ยังคงจะสงสัยวสันต์ค่ะ ดูเหมือนเจ้าตวจะไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ และดูมีสติกว่าใคร
ส่วนเรื่องการฆ่านั้นน่าจะเป็นกลไกอะไรสักอย่างค่ะ แบบพอเปิดประตูหัวก็ขาดอย่างตัวละครตัวหนึ่งที่ตายบนเตียงอ่ะค่ะ
แค่คิดเล่นๆว่าจะเป็นเช่นนั้น ส่วนคนหัวขาดคนแรกก็น่าจะเช่นเดียวกันค่ะ ส่วนผู้หญิงที่ตาย
น่าจะง่ายกว่าเพื่อนเพราะอยู่คนเดียวทำให้ง่ายมากต่อการถูกฆ่าค่ะ เนื้อเรื่องซับซ้อนดีค่ะ
ทำให้ลุ้นและสยองงงงมากอยู่ตลอดๆ  แต่ภาวนาไม่อยากให้การุณและรัฐเป็นคนฆ่าเลย

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
จากสภาพเเวดล้อม ที่เป็นเห็นให้คิด คนร้ายน่าจะเป็นวสันต์
โดนเริ่มเเรกจาก เเม่กุญแจที่ทุกคนได้รับ โดยปกติจะมีลูกกุญแจสำรองเเน่ๆ
ข้อที่สองคาดว่าเหตุการ์ที่จัดคอคนในรถ น่าจะมีลวดหรืออะไรสักอย่างเกี้ยวไว้ พอรถเบรคก็เป็นการจัดการได้
ข้อที่สาม คนทำอาหารที่ทำให้ทุกคนสลบ (น่าจะมีเพียงคนเดียว เพราะส่วนผสมคนเตรียมก็ไม่ใช่ใคร)
ข้อสุดท้าย มูลเหตุจูงใจ ไม่รู้จริงๆ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
คิดว่าน่าจะเป็นวสันนะ
้เพราะการนำทริปในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของเขา สถานที่ต่่างๆเขาก็เป็นคนที่จัดเตรียม
ก็น่าจะมีการวางเเผนกัน
เเต่ก็อาจจะเป็นสาวิตรีกับสรรพวุฒิเรื่องลูกเขาอ่ะน่ะ
เพราะคนที่ตายก็มีเเต่คนที่อยู่ตอนที่อาญาตายทั้งนั้นเลย
ส่วนการุณดูจะเป็นคนที่ขี้กลัวจนเกินไปสังเกตได้ตั้งเเต่เริ่มเรื่องที่คิดว่านายเอกเป็นผี
เป็นนิสัยของตัวเองที่ไม่เเสเเสร้งก็คิดว่าเรื่องน่ากลัวเเบบนี้ไม่น่าจะทำได้
ส่วนรัฐกรณ์นั้นดูกระตือรือร้นที่จะหาหลักฐานหรือเบาะเเสเหลือ ทำให้ตัวละครตัวนี้มีความน่าไว้วางใจ
เเต่ก็ไม่เเน่นะ ใครจะไปรู้ได้

เอาเป็นว่าใจตอนนี้ลงน้ำหนักไปที่วสันซะมากกว่า ดูชิวเเละสบายที่สุด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด