+++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

............................

รัฐกรณ์
14 (35%)
การุณ
8 (20%)
วสัน
2 (5%)
สรรพวุฒิ
3 (7.5%)
สาวิตรี
2 (5%)
วรวิทย์
0 (0%)
ภคดล
0 (0%)
กรรณิกา
0 (0%)
อาญา
9 (22.5%)
สิ่งลี้ลับอื่นๆ
2 (5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 28

ผู้เขียน หัวข้อ: +++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55  (อ่าน 74519 ครั้ง)

kimmy-g

  • บุคคลทั่วไป
งง อะ ใหนตอนแรกบอกเรื่องเกิดในอาคารเรียน  ไหงกลายมาเป็นเกิดเหตในห้างได้อะ  แล้วถ้านี่เป็นเหตการที่เกิดขึ้นจริง มันก็เป็นอุบัตเหตไม่ใช่เหรอ ทำไม พวกณิจะต้องกลัวความผิดขนาดนั้น ถึงอาญาจะตายเพราะเข้าไปช่วยก็เหอะ  ทีแรกเรานึกว่าเงื่อนงำมันต้องรุนแรงกว่านี้อะ แบบว่าพวกณิเป็นคนฆ่าอาญาแบบตั้งใจไรงี้อะ  คนเขียนกลับมาเฉลยด่วน  pleaseeeeeee :call:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
รู้สึกผิดที่หายไปเดือนกว่าๆ งานหนักมากเลยค่ะ ร่างกายเลยทรุดโทรม ขออภัยจริงๆนะคะ

ปล เรื่องเนื้อหา ต้องขออภัยจริงๆค่ะ เเต่งเเนวนี้ครั้งเเรก เนื้อหาอาจไม่สมเหตุสมผล พลาดตรงไหนไปขออภัยจริงๆนะคะ






บทที่ 19 ถลำลึก



“พี่ ถ้าผมเรียนจบแล้ว พี่ต้องพักบ้างนะ” อาญาเฝ้ามองพี่ที่นอนซมอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง เขาลาเรียน 1 วันเพื่อดูแลผู้เป็นพี่ที่โหมทำงานวันละกว่า 15 ชั่วโมง จนร่างกายทรุดลง

“แกหยุดเรียนทำไม พี่ไม่เป็นไร” วสันพยายามที่จะโบกมือไล่น้องชาย แต่พอจะพยุงตัวลุกขึ้นเท่านั้น เขาก็รู้สึกหน้ามืดทันที

“พี่!” อาญาตกใจรีบประครองวสันลงนอน จัดแจงดันหมอนให้รองต้นคออย่างพอดี

“พี่…..พี่เลิกทำงานรอบดึกเถอะ” ผู้เป็นน้องกล่าวพร้อมน้ำตาที่ปริ่มออกมา เอาเสียใจทุกครั้งที่เห็นพี่ของเขากลับบ้านดึกๆ อีกทั้งไม่ยอมให้เขาทำงานพิเศษอีก

“แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเรียน”

“ผมจะช่วยหา…..”

“พี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว” วสันตัดคำ เขาเองก็ยอมรับว่าเหนื่อยเหลือเกินกับการที่คนอายุยังไม่ถึง 30 อย่างเขาที่ต้องดูแลทั้งตนเองและน้องชายร่วมสายเลือด แต่ถึงจะเหนื่อยอย่างไรเขาก็ยอม เพียงแค่เห็นใบผลการเรียนของอาญาที่ได้ไม่ต่ำกว่า 3.50 อยู่เสมอ ทั้งพฤติกรรมที่นอบน้อม ชอบช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้วสันมั่นใจว่าน้องของตนต้องเป็นหมอที่ดีได้แน่
และคงจะสามารถดูแลตนเองให้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้

“พี่ครับ” อาญาเสียงสั่นน้ำตาที่ไหลลงมานั้นไม่สามารถกลั้นมันไว้อีกต่อไป เขาปล่อยให้มันหยดลงไปบนมือของผู้เป็นพี่

วสันหันหน้าหนีไปอีกทาง เขาไม่อยากที่จะใจอ่อนตอนนี้ ทนอีกเพียงไม่กี่ปี น้องของเขาก็จะจบแล้ว แต่จนแล้วจนรอดอาญาเองดูจะไม่หยุดร้อง น้ำอุ่นๆหยดลงที่มือของวสันอย่างต่อเนื่องจนวสันต้องยกแขนตนเองมาไว้อีกฟาก แต่นั่นก็ทำไห้เห็นว่าน้ำที่หยดใส่มือนั้นหาใช่น้ำตาอย่างที่คิด

“อาญา!” เขาหันกลับไปทางน้อง แต่อาญาได้หายไปแล้ว มีเพียงเสียงแว่วที่ยังดังก้องอยู่ในหัว

“พี่ครับ ผมขอโทษ”






“อาญา” เขาแผดเสียวเรียกดังลั่น มือทั้งสองพยายามจะควานหาร่างของน้อง แต่ก็ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา แสงไฟสว่างสีขาวช่างแสบตาจนวสันไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่

“อาญา”

“หมอคะ คนไข้รู้สึกตัวแล้วค่ะ” เสียงหญิงสาวดังขึ้นข้างๆตัวพร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้ามาที่ใบหน้า

“ไม่เป็นไรนะคะคุณ ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้วค่ะ” เสียงนั้นดังต่อเนื่อง ความเจ็บปวดยิ่งทวีมากขึ้น แต่วสันเลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน เขายังคงเรียกหาน้องของตน


“อาญา”


“คุณหมอคะ เร็วค่ะ” หญิงสาวในชุดขาวออกแรงกดแขนของชายหนุ่มไม่ให้ดิ้น เข็มเล่มใหญ่ปักเข้าที่เส้นเลือดตรงข้อพับ หมอหนุ่มฉีดยากล่อมประสาทเข้าไปจนหมดเข็ม ใช้เวลาอีกสักครู่วสันจึงสงบลง






เหตุการณ์สะเทือนใจผ่านพ้นไปได้สองวัน วสันจมอยู่กับโลกส่วนตัวของเขาเพียงลำพัง ไม่ว่าพยาบาลหรือหมอเขาก็ไม่เคยแม้จะปริปากสนทนา ข้าวปลาอาหารแทบจะไม่ได้สัมผัสเลย มีเพียงน้ำเกลือที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของเขาเอาไว้

ชีวิตของเขามีเพียงอาญาเท่านั้น น้องชายสุดที่รักที่เป็นแรงใจให้สู้ชีวิต ต้องคอยดูแล พาน้องคนนี้ให้เดินทางไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดมันไร้ความหมาย ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มที่คอยให้กำลังใจ ไม่มีอีกแล้วคนที่ต้องคอยดูแล ไม่มีอีกแล้วคนที่ต้องดุด่าไล่ให้ไปอ่านหนังสือ

ไม่มีอาญาอีกต่อไป




“ไม่เอาว่า นิ บอกแล้วไงว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดเรา” เสียงชายหนุ่มพูดดึงความสนใจของวสันที่กำลังนั่งรถเข็นเพื่อไปตรวจพิเศษที่ตึกฝั่งตรงข้าม เขาจำใบหน้าคนพวกนั้นได้ขึ้นใจ ชายหนุ่มร่างใหญ่คนนั้นที่นั่งอยู่กับหญิงสาวหน้าสวยที่ร้องไห้ กับชายหนุ่มร่างโปร่ง

“มันซวยเอง ช่วยไม่ได้หรอก” วรวิทย์ปลอบเพื่อนสาวที่ยังคงสะอึกสะอื้น

“ใช่ มันผิดเองที่มัวแต่ชักช้า ถ้าวิ่งไปแต่แรกก็ไม่ต้องตายหรอก” ภคดลเสริม


วสันหายใจแรง เพียงแค่ครู่เดียวที่พนักงานเวรเปลเข็นผ่านกลุ่มคนทั้งสาม บทสนทนาเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น ได้ปลุกความอยากมีชีวิตของวสันให้กลับมาอีกครั้ง

เขาต้องมีชีวิตต่อไป เพื่อแก้แค้น

ทำไมต้องเป็นอาญาที่ต้องจากไป ทำไมไม่ใช่พวกมัน







การุณก้าวเข้าไปใกล้กับรัฐกรณ์เมื่อเห็นวสันก้าวเข้ามา ทางสองสามีภรรยาก็ถอยหลบไปอีกทาง
“เอาเหอะ ยังไงเรื่องทุกอย่างก็จบลงแล้ว” วสันพูดพร้อมรอยยิ้ม เขาแก้แค้นแทนน้องได้แล้ว เรื่องราวทั้งหมดก็ควรจะจบลง ชีวิตของเขาไม่มีอะไรให้อยู่ทำต่อไป

“คุณไม่น่าทำแบบนี้เลย” รัฐกรณ์บอกเสียงเศร้า เขาก้าวเข้าใกล้พี่ชายของคนรัก แต่ถูกการุณห้ามไว้เสียก่อน

“ไม่เป็นไรหรอก”

“แต่” การุณไม่ไว้ใจคนที่ที่ฆ่าคนไปแล้วถึงสามคน เขาจึงเสนอให้มัดข้อมือทั้งสองไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืน

“ก่อนจะส่งตัวผมให้ตำรวจผมของไปเอารูปน้องชายที่ห้องก่อนได้ไหม” วสันร้องขอเป็นครั้งสุดท้าย




ทางเดินที่ทอดยาวนั้นเย็นยะเยือกราวกับจิตใจของวสันในตอนนี้ เขาก้าวไปพร้อมรอยยิ้มน้อยๆที่ผุดขึ้นเมื่อคิดได้ว่าอีกไม่นานจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น รัฐกรณืมองวสันอย่างเป็นห่วงการุณเองก็ตามประกบอยู่ไม่ห่าง รั้งท้ายด้วยสองสามีภรรยา

ประตูลูกกรงเปิดอ้าออก วสันเปิดกระเป๋าออกอย่างลำบากจากมือทั้งสองที่มัดไว้ รัฐกรณ์จึงอาสาเปิดให้ ข้างในนั้นเต็มไปด้วยรูปของอาญา วสันยิ้มให้กับรูปเหล่านั้น

“พี่กำลังจะไปหานะ”

ทุกอย่างมันเร็วจนการุณไม่ทันตั้งตัว มีดด้ามเล็กที่ถูกซ่อนเอาไว้ ใต้กองรูปถูกคว้ามาเป็นอาวุธ

“อย่าเข้ามานะ” วสันขู่เสียงแข็ง ชี้มีดไปด้านหน้า การุณเหงื่อตกเดินย่องไปด้านข้างอย่างระวังตัว

“หนีไม่พ้นหรอกน่า อย่าทำแบบนี้เลย” การุณพยายามเคลื่อนไหวให้ช้าที่สุดตาก็คอยจ้องหาจังหวะเข้าปะทะ แต่เหมือนวสันจะจับทางได้

“อย่าขวาง” วสันพุ่งตัวออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว

“ตามไปเร็ว” รัฐกรณ์ออกวิ่งตามวสันเป็นคนแรก ตามมาด้วยการุณและสองสามีภรรยา
แต่พอมาถึงชั้นล่างก็ต้องตกใจที่วสันเองไม่ได้หนีไปไหนเขายืนอยู่ตรงกลางโถง

“รีบออกไปซะ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะโยนไฟแชคในมือลงพื้นที่เอ่อนองไปด้วยน้ำมัน ไฟแห่งการจบสิ้นลุกพรึบในทันทีมันลากเป็นเส้นตีวงรอบๆตัวของวสันไว้

เสียงกรีดร้องของสาวิตรีดังขึ้นอีกครา รัฐกรณ์กัดฟันกรอด วิ่งไปอีกด้านของวงแหวนเพลิง ณ จุดที่เปลวไฟเบาบางที่สุด

“รัฐ อย่า” การุณห้ามเขาไม่ทันเสียแล้ว เมื่อรัฐกรณ์กระโจนเข้าไปในกองเพลิง

“นายเข้ามาทำไม” วสันมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“อย่าทำแบบนี้” รัฐกรณ์ยื่นมือเข้าไปหมายจะฉุดตัวของวสันออกมา แต่ก็ถูกปลายมีดแหลมๆตวัดเอาเป็นรอยแผลที่ปลายแขน

“รัฐ ออกมาเร็ว” การุณร้อนใจเดินวนหาช่องทางที่พอจะเข้าไปได้ แต่ตอนนี้ เปลวไฟได้ครอบคลุมทั้งหมดเสียแล้ว

“ออกไปเถอะ นายก็เห็นแล้วตัวอย่างของการช่วยเหลือคนอื่น สุดท้ายมันไม่ได้มีอะไรดีหรอก” วสันแค่นหัวเราะในสิ่งที่รัฐกรณ์พยายามจะช่วยตน มันเหมือนกับที่น้องโง่ๆของตนยิ่งนัก

จะช่วยไปทำไมกัน ในเมื่อทั้งชีวิตนี้ เขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

“คุณวสัน ออกมาตอนนี้ยังทันนะครับ” รัฐกรณ์กดมืออีกข้างที่บาดแผลเพื่อห้ามเลือดแต่กระนั้นก็ยังพูดกล่อมต่อ

“รัฐ ออกมาเร็ว” การุณเร่ง

“นายไปก่อน พาคุณสาวิตรีกับคุณสรรพวุฒิไปด้วย” รัฐกรณ์ตะโกนไล่

การุณลังเลเล็กน้อย แต่เปลวไฟที่ทวีความแรงขึ้นเร่งให้เขาพาสาวิตรีและสามีหนีออกไปด้านนอก

“เห็นไหม ใครๆเขาก็ต่างหนีเอาตัวรอดทั้งนั้น แล้วคุณยังจะอยู่ทำไม” วสันกล่าวอย่างหงุดหงิด

“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”

“ไม่ใช่ยังไง ขนาดคนที่ชอบนายอย่างการุณยังกลัวที่จะเข้ามาช่วยนาย ยังหนีออกไปโดยไม่สนใจได้เลย”

“……….” รัฐกรณ์มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่มีคำกล่าวใดๆอีกนอกจากความรู้สึกที่สงสารคนๆนี้เหลือเกิน ที่ต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ในชีวิต

“ทุกคนไม่ได้คิดแบบนั้นทุกคน”

“ใช่ พวกคนโง่ๆแบบนายกับอาญายังไง”

“ไม่ใช่”

“โง่ที่ห่วงคนอื่นแต่ตัวเองต้องมาตาย โง่ๆๆๆๆ”

“ไม่ใช่”

รัฐกรณ์ตวาดสุดเสียง วสันหยุดมองคนตัวเล็ก

“คุณไม่ได้รู้จัก พี่อาญาเลยสักนิด” น้ำตาแห่งความเสียใจหยดลงพื้นที่ร้อนผ่าว



หยดน้ำเล็กๆหยดนี้จะช่วยดับไฟอันร้อนแรงของวสันได้อย่างไรกัน

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ขอบใจจ้าที่คิดถึงคนอ่าน รอมาแสนนาน ในที่สุดฮีโร่ตัวจริง คือ น้องรัฐกรณ์

ออฟไลน์ lovely2min

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แล้วมันเป็นอย่างไรต่อ
ติดตามจ้า

การุณแกกลับมาเร็วๆเลย

Running

  • บุคคลทั่วไป
คลี่คลายทุกอย่างแล้ว ก้อไม่อยากให้ใครต้องมาตายอีก !!!!
ลุ้นๆครับ มาต่อนะ อยากอ่านต่อ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
เย้ มาต่อแล้ว

อ่านตอนนี้แล้วคิดถึงกาตูนญี่ปุ่น ที่ตัวโกงชอบพูดพล่าม แล้วนางเอกพยายามปฏิเสธแต่ก็พูดได้แค่

ไม่ใช่นะไปมา แล้วสุดท้ายก็ตะโกนออกไปทั้งน้ำตาราวกับสะเทือนใจ สงสารหนักหนาในความคิดแย่ๆของตัวโกง  อะไรประมาณนั้น

อยากอ่านว่ารัฐจะพล่ามอธิบายอะไร กล่อมยังไงให้วสันต์ รู้สึกตัวเลิกความคิดบ้าๆ ไม่งั้นช่วยไปช่วยมา เดี๋ยวรัฐตายด้วยอีกคนจะยุ่ง

(ที่จริงการุณคงอยากช่วยรัฐ แต่บางทีก็ไม่อยากให้เป็นตัวถ่วงก็ได้มั้ง เดี๋ยวรอหนีด้วยกัน อาจจะสะดุดล้มให้หนีช้าก็ได้ ฮ่าๆ)

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
งื้อ.... มัน!!!!.... ค้าง!!!!.... แต่ดีใจจังที่มาต่อคับ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
จะช่วยทันไหมมมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ว้าว มาแล้วๆ  :m4:
วสันคงคิดว่าแก้แค้นเสร็จ หมดห่วงแล้ว ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ตายดีกว่า
รัฐก็กล้าจริงๆเลย การุณกลับมาช่วยเร็วๆนะ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
บทนี่มีแก้ตัว อิอิ ช่วงนี้แอบว่าง เลยรีบมาลงให้ คิดว่าจะลงให้จบก่อนที่จะมีงานกระหน่ำอีกครั้งนะคะ


บทที่ 20 บทอำลา….ทั้งน้ำตา


      เปลวไฟที่โหมลุกลามตามรอยไหลของเชื้อเพลิงเหลวแผ่ความร้อนมากกว่าครึ่งห้อง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นตามร่างกายของคนทั้งสองที่ยังคงอยู่ในวงล้อมแห่งไฟที่แคบลงทุกขณะ
     ชายหนุ่มที่อายุมากกว่ามีท่าทีสงบนิ่ง เขากำลังจะได้ไปพบญาติของเขาเพียงหนึ่งเดียว คนที่เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวของเขา น้องชายผู้เสียสละตนให้กับความโง่เง่าและคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ควรค่ากับการมีชีวิตอยู่แม้แต่น้อย
     ตรงข้ามกับเด็กหนุ่มที่น้ำตาไหลเอ่อ ความเสียใจมันวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา คำอธิบายที่คิดไว้ในหัวไม่สามารถเอ่ยเป็นถ้อยคำใดๆพอที่จะให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจแม้สักนิด

“สายไปแล้วล่ะ ไฟลุกลามเกินกว่าที่จะออกไปได้แล้ว เธอมันโง่พอๆกับอาญาเลยจริงๆ” วสันส่ายหัวให้กับความดื้อของรัฐกรณ์ที่ยังไม่ยอมแพ้
“ผมเต็มใจช่วยคุณนะ ตอนนี้ยังทัน ยังพอหาทางออกได้”
“ไม่มีทางออกสำหรับฆาตกรอย่างผมหรอก” แววตาที่สงบนั้นแฝงไว้ด้วยความเศร้าหมอง
“ทุกอย่างมีทางแก้ไขเสมอน่า” รัฐกรณ์เริ่มสงบใจไม่ไหว เปลวไฟที่ร้อนแรงไล่บีบเข้ามาทุกขณะ เข้าก้าวเข้าไปให้ใกล้ขึ้น
“เชื่อผมนะ เราออกไปด้วยกัน” เด็กหนุ่มค่อยๆยื่นมือออกไปช้าๆเพื่อไม่ให้วสันเข้าใจว่าตนจะทำร้าย

“มันไม่มีทางสำหรับฉันหรอก” เสียงเรียบๆแต่เด็ดขาด วสันตวัดมือเพียงเบาๆก็เกิดรอยแผลที่สอง เลือดสายใหม่ไหลลงมายังพื้นที่ร้อนระอุ หยดแล้วหยดเล่า

“ได้โปรดเถอะ พี่อาญาไม่อยากให้คุณทำแบบนี้หรอก” รัฐกรณ์ใช้มืออีกข้างกุมบาดแผลไว้ ความเจ็บปวดแผ่ไปทั่วร่างกาย ความร้อนทำให้เขาอ่อนเพลีย ควันไฟที่เข้ามาแทนที่ออกซิเจนทำให้สมองเริ่มที่จะประมวลผลได้ช้าลง

วสันเงียบไปเมื่อได้ยินชื่ออาญา รัฐกรณ์จึงเร่งเร้าต่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป

“นะครับ เชื่อผมเราจะต้องรอดออกไปด้วยกัน”

“ขอโทษนะ ที่ต้องมาตายด้วยกันแบบนี้” วสันไม่สนใจ เขามองดูทางหนีที่ถูกปิดผนึกด้วยเปลวไฟ เขาตั้งใจส่งจดหมายชวนรัฐกรณ์มาในครั้งนี้ด้วยเพียงเพื่อทดสอบอะไรหลายๆอย่าง แต่รัฐกรณ์ผ่านบททดสอบเหล่านั้นได้อย่างสวยงาม เขาไม่แปลกใจ
นักที่น้องชายเขามักพูดให้ฟังเสมอ

“ถ้าพี่ได้รู้จัก รัฐ พี่ต้องชอบน้องเขาแน่ๆ”





“ทำไมกันนะ โลกนี้ถึงได้พรากคนดีๆให้ตายจากไปเร็วนัก” วสันบ่นพึมพำแข่งกับเสียวเปลวไฟที่ไหววูบ เขาไม่สนใจมีดในมืออีกต่อไป มีดด้ามสั้นนั้นถูกปล่อยตกไปแล้ว รัฐกรณ์จึงได้ทีเข้าไปดึงชายรุ่นพี่ไปยังทางที่เปลวไฟเบาบางที่สุด ถึงกระนั้นความร้อนของไฟก็ไม่ปราณีให้ทั้งสองผ่านไปได้

“เราต้องวิ่งออกไป คุณพร้อมนะ” เมื่อจวนตัว รัฐกรณ์เห็นเพียงทางรอดเดียวคือต้องวิ่งผ่านไป อาจจะได้รับรอยไหม้ แต่ก็คงดีกว่าต้องอยู่รอความตายแบบนี้

ติดแต่วสันเองยืนอยู่เฉยๆ เขาไม่คิดแม้แต่จะทำอะไรตามคำสั่งใครอีก ดวงตาที่เหม่อลอยนั้น ดูราบเรียบและว่างเปล่า

     รัฐกรณ์ไม่ยอมแพ้ พยายามคล้องแขนเข้ากับคนที่ตัวสูงกว่า กำลังออกแรงฉุดไปข้างหน้าแต่ก็ทำได้ช้าเหลือเกิน จนไอร้อนของไฟเผาเข้าที่แขน จนต้องผละออกมา รัฐกรณ์เจ็บเสียจนห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่ รอยแผลตอนนี้เริ่มบวมและแดง แต่หากยังอยู่ตรงนี้ต่อไปเขาคงไม่ได้มีเพียงแผลแค่นี้เป็นแน่

     ความพยายามครั้งที่สองก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า รัฐกรณ์ได้แผลมาอีกครั้งและดูน่ากลัวกว่าเดิม ควันไฟสีดำปกคลุมไปทั่วห้องรัฐกรณ์สำลักควันไอเสียยกใหญ่ ร่างกายที่เสียเลือดไปและยังไม่ได้พักผ่อนมาทั้งคืนทำให้เขาแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เขามองเปลวไฟที่บีบแคบเข้ามาอย่างช้าๆ ราวกับมัจจุราชที่ก้าวเข้ามาปลิดลมหายใจของเขา

“มาได้แค่นี้เอง”







ตุบ

     เสียงวัตถุตกลงด้านหลังเรียกสติที่เลือนรางของรัฐกรณ์ให้หันไปสนใจ เป็นก้อนผ้าเปียกน้ำขนาดใหญ่ที่มีไฟลุกติดเป็นบางจุด ทำทีที่ผ้านั้นคลี่ออก ชายที่อยู่ภายในก็รีบออกมา




“รัฐ!” การุณวิ่งออกมาด้วยตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำ ขากางเกงที่ติดไฟถูกสะบัดให้ดับไปในพริบตา

“นาย มาทำไม”

“มาช่วยไง ไม่มีเวลาแล้วไปกันเถอะ” การุณแบ่งผ้าที่พกมาเป็น 2 ผืนยื่นให้รัฐกรณ์

“ช่วยคุณวสันก่อน” รัฐกรณ์ส่ายหน้าชี้ไปชายผู้สิ้นหวังที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ
การุณรีบห่อผ้าให้วสัน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ให้ความร่วมมือดีนัก

“อย่าดิ้นน่า” การุณหมดความอดทน สวนหมัดเข้าที่ท้องวสันอย่างจัง ทำเอาร่างของผู้นำเที่ยว งอคู้ตัวด้วยความเจ็บ

“ช่วยกันหน่อยรัฐ” การุณวัดผ้าปกคลุมวสันคนหมดแล้วก็ออกแรงลากมายังจุดที่เขากระโจนเข้ามา แต่ครั้งนี้จำเป็นที่ต้องโยนคนออกไป คงไม่ง่ายนัก

“พร้อมนะ หนึ่ง สอง สาม!” ทั้งคู่ช่วยกันโยนวสันออกไปจากกองเพลิง ก้อนผ้านั้นลอยผ่านเปลวไฟไปได้อย่างน่าใจหาย แต่ก็มีบางส่วนที่ติดไฟขึ้นมา ทำเอารัฐกรณ์ใจเสีย

“เร็วเข้าเราต้องออกไปช่วย”

“ใจเย็นๆ รัฐ ไม่ได้มีแค่ผมที่อยู่ช่วย” การุณดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ พร้อมกับห่อมผ้าที่เหลือเพียงหนึ่งเดียว ปล่อยให้สรรพวุติลากวสันให้ออกห่างจากเปลวไฟและสาดน้ำที่เตรียมไว้จนไฟที่ลุกลามบนร่างนั้นดับสนิท


“พร้อมนะ” การุณกระชับร่างของรัฐกรณ์ไว้แน่น เขาเองก็หวั่นใจไม่น้อยที่ต้องพาคนอื่นกระโดดผ่านไปด้วยแบบนี้ อีกทั้งรัฐกรณ์
เองก็ไม่ได้เปียกน้ำแบบเขา โอกาสที่จะบาดเจ็บย่อมมีมากกว่า

“อืม”



     การุณบอกสัญญาณให้ถอยหลังออกไปเพื่อต้องการแรงส่งในการกระโดด ทั้งผ้าที่คลุมทับทำให้ลำบากในการเคลื่อนไหว

“ไป!” การุณออกวิ่งไปอย่างเร็วโดยมีอีกคนอยู่ข้างๆ มือหนึ่งจับรัฐกรณ์ไว้มั่นอีกมือก็คอยถือผ้าที่เปียกน้ำไว้ไม่ให้เลื่อนหลุดไป
แรงถีบตัวของการุณดูเหมือนจะเหนือกว่าคนตัวเล็ก การุณใจหายวาบเมื่อพบว่ารัฐกรณ์กระโดดพ้นเพียงแค่ไฟในช่วงแรกและมีแววว่าจะตกลงตรงใจกลางขุมนรกนั้น
     
     การุนปล่อยมือที่จับผ้าไว้ พร้อมกับออกแรงดึงรัฐกรณ์ให้ลอยข้ามไปได้ ร่างผอมแห้งนั้นลอยออกไปอีกไกลด้วยแรงแห่งความตกใจ เขากระแทกลงพื้นเสียงดัง เมื่อเห็นดังนั้นการุณก็คลายความกังวลได้ โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้น ส่งผลให้ตนเองต้องตกลงสู่ใจกลางแห่งเปลวเพลิง

การุณหลับตาลงไม่กล้าที่จะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงเมื่อตกลงไป เขาคงกลายเป็นหมูรมควันเป็นแน่แท้






“นาย ไม่เป็นอะไรนะ” เสียงเรียกพร้อมกับสายน้ำที่สาดเข้ามาทำให้การุณลืมตาขึ้น พบเจอใบหน้าที่ขาวซีดนั้นแสดงความกังวล กับสรรพวุติที่กำลังถือถังน้ำสาดลงไปที่กางเกงของเขาอีกครั้ง

“ทำอะไรโง่ๆ นายเกือบตายแล้วรู้ไหม” รัฐกรณ์ต่อว่าคนตัวใหญ่

“หึหึหึ เราก็งาพอกันนั่นล่ะ รัฐยังโง่ที่จะช่วยไอ้บ้านั่นเลย” การุณหัวเราะพร้อมกับชี้นิ้วไปหาคนที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้น น้ำตาไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง





“พวกคุณไม่เข้าใจ…..พวกคุณไม่เข้าใจ”

การุณลุกขึ้นเดินเข้าไปหาชายผู้สิ้นหวัง ก่อนจะบรรจงประทับรอยกำปั้นไว้ข้างๆแก้มด้านซ้าย

“ก็ไม่เข้าใจน่ะสิ ผมไม่ใช่คุณ ผมไม่เข้าใจหรอก”

หมัดอีกข้างกระแทกลงไปที่แก้มด้านขวา

“คุณยังไม่เข้าใจน้องของตัวเองเลย อย่าทำมาพูดดี”

การุณเงื้อมือหมายจะซัดคนตรงหน้าอีกสักทีสองที แต่ก็ถูกห้ามจากอีกสองคนที่เหลือเสียก่อน



“พอเถอะพ่อหนุ่ม” สรรพวุติลากตัวการุณออกไปข้างๆ ปล่อยให้รัฐกรณ์เฝ้าคนที่นอนแผ่อย่างหมดท่า

“บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกอย่างก็ได้ครับ” รัฐกรณ์ยื่นมือช่วยดึงวสันขึ้นมา พร้อมกับสอดแขนช่วยประคอง

“แค่เรารับรู้ถึงเจตนาที่อีกคนมอบให้มันก็พอแล้ว”

“ลองหลับตาแล้ว ฟังเสียงของพี่อาญาดูนะครับ”





     วสันหลับตาลงทั้งน้ำตา เสียงเปลวไฟลุกโหมนั้นค่อยๆเบาลง เหลือเพียงเสียงของสายลมที่พัดผ่านรอบกาย ราวกับมีใครมาสัมผัสโอบกอดเขาไว้

“อาญา”

     สายลมพัดผ่านเพียงครู่เดียว สัมผัสอันอบอุ่นที่ล้อมกายของผู้เป็นพี่ พร้อมกับเสียงกระซิบของพระพรายที่มีเพียงวสันเท่านั้นที่ได้ยิน






“หยุดเถอะครับ พี่”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ตอนหน้าก็คงจะเป็นตอนสุดท้ายเเล้วค่ะ พอมีหวังกับ นายการุณไหมคะ คริๆ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เข้าใจความรัก รักพี่ รักน้อง รักครอบครัว รักเพื่อน รักคนรัก รักๆๆๆๆๆ มั๊ย วสันโง่ๆๆๆๆๆ เฮ้อ
ถ้าไม่มีฉากน้องรัฐกรณ์ กับน้องการุณ แบบหวานแหวว ก็ไม่แคร์
เพราะเราชอบที่คนเขียน แนวนี้ ขอติดตามทุกตัวอักษร

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
โอ้เย้ การุณ นายมันคือม้ามืด นายทำคะแนนขึ้นมาแล้วสินะ หวังว่าความดีในครั้งนี้จะทำให้รัฐใจอ่อนได้ แต่ทำไงดีถ้าผีอาญายังวนเวียนใกล้ๆ แบบนี้

แหม ปูเป็นเรื่องน่ากลัวสยองขวัญมานาน  กว่าผีจะออกนี่ตอนจบเลยเนอะ ฮ่าๆ
หวังว่าหลังจากหมดห่วงเรื่องพี่ แล้วผีจะได้ไปเกิดนะ ปล่อยรัฐไปซะ ส่วนรัฐก็ลืมอาญาซะ แล้วมองหารักใหม่

เพราะว่า "รักฉัน อย่าคิดถึงฉัน" อิอิ



ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น่าเศร้ามากๆค่ะ สำหรับคนๆหนึ่งที่มาเจอเรื่องแบบนี้ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ว้าว การุณ นายแมนมาก!!
ช่วยทุกคนออกมาจนได้ o13
ตอนสุดท้าย อาญามาพูดกับวสัน ตามที่รัฐบอกให้ฟังจริงๆด้วย บรื๋อ~

++

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
สั้นอ่ะ

แต่การุณ เจ้าชายขี่ม้าขาวมากๆอ่ะ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
แกรสสสส เป็นลมนิยายสนุกมากกกก อ่านตอนแรกๆ หลอนมากกกกกก

ออฟไลน์ ott1212

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :o12:.........เศร้าจัง.....

เข้าใจ...ชีวิตที่ไม่เหลือใคร......

แต่ก็ต้องสู้ต่อไป...รัฐกำลังจะทำหน้าที่แทนอาญา...

ช่วยพี่ชายคนรักให้ได้นะ.......................... :กอด1:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ซีนพระเอก!!!!!.... หล่อมาก!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เอ๋ ไม่ทันไรเดือนกว่าเเล้วที่ไม่ได้เข้ามาทักทาย

เปลี่ยนงานครั้งนี้หนักหนาเเสนสาหัสจริงๆค่ะ

หนูสำนึกผิดจริงๆเลย ไม่ได้อยากดองเค็มขนาดนี้นะคะ

เเต่ก็ช่างเถอะ ในที่สุดก็ไหเเตกซักที

ขอบคุณที่ร่วมกัน เขย่าขวัญมาจนถึงบทสรุปนะคะ หวังว่าคงชอบใจกันไม่มากก็น้อย เชิญชมกันเลยค่ะ




บทส่งท้าย



เสียงล้อรถวิ่งบดถนนส่งเสียงหยุดกะทันหันเรียกความสนใจให้แก่พวกชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าตึกที่กำลังลุกติดด้วยเพลิงแห่งความโกรธแค้นของวสัน
“รออีกสักพัก เดี๋ยวมีคนมาช่วย” สาวิตรีวิ่งกระหืดกระหอบ หน้าตื่นรีบแจ้งข่าว
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เธอโผกอดเข้ากับชายหนุ่มผู้เป็นสามี และสาดส่องสายตาไปดูอาการของคนที่เหลือและต้องทำตาโตเมื่อเห็นว่ารัฐกรณ์มีเลือดไหลและรอยไหม้อยู่หลายจุด
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” รัฐกรณ์บอกพร้อมจัดแจงใช้น้ำที่การุณหิ้วมาล้างแผล ความแสบร้อนพุ่งพร่านไปทั้งแขนจนเด็กหนุ่มอดทำสีหน้าเสียไม่ได้
“อย่าดื้อน่า ถึงจะเป็นหมอแต่ถ้าเจ็บมาก็ต้องเป็นคนไข้อยู่ดี” สาวิตรี ถือโอกาสใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนซับเอาเลือดที่ไหลออกมาก่อนจะพันผ้ากดบาดแผลเอาไว้
“ขอบคุณครับ” รัฐกรณ์ดูแปลกใจไม่น้อยที่หญิงคนนี้พอจะรู้หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นบ้าง
“เมื่อก่อนทำให้เขาบ่อยน่ะ” สาวิตรีเหมือนจะรู้ เธอเลยชี้นิ้วไปทางสรรพวุฒิ ที่มักจะมีเรื่องชกต่อยกันเสมอจนมีแผลกลับบ้านมาประจำ

“แน่ใจนะว่าเขาไม่เป็นไร” การุณโพล่งถามขึ้นมา เขาลอบมองวสันที่นั่งก้มหน้าอยู่นิ่งแบบนั้นไม่ไหวติง สีหน้าที่ยากจะบอกว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ไม่เป็นไรหรอกทุกอย่างจบแล้ว” รัฐกรณ์มั่นใจ เขาเองก็สัมผัสได้เช่นกันถึงความรู้สึกลึกๆที่ค่อยๆเปลี่ยนไปของวสัน

ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้น คงเป็นกระแสลมที่อบอุ่น รัฐกรณ์สัมผัสได้ชั่วครู่นั่นเสียอีกที่ทำให้วสันนิ่งไป อีกทั้งสายลมที่พัดแรงตอนที่การุณตกลงในกองไฟนั่นอีก มันแรงเสียจนพัดไฟแถบนั้นให้เบาลง เจ้าตัวซวยเลยรอดจากการเป็นหมูปิ้งอย่างหวุดหวิด  จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายรัฐกรณ์ก็ทำได้เพียงอมยิ้ม แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆสีขาวนวลตัดกับผืนฟ้าคราม


“ขอบคุณครับ พี่อาญา”





ไม่นานนักหน่อยกู้ภัยก็พาบรรดาผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลายข้ามผ่านหน้าผามาได้อย่างปลอดภัย รัฐกรณ์หลับไปอย่างหมดแรง แผลที่แขนและขา ยังมีเลือดซึมเล็กน้อย ถึงแม้จะได้รับการปฐมพยาบาลจากเจ้าหน้าที่แล้วก็ตาม สาวิตรีเองก็นั่งซบสรรพวุติผู้เป็นสามี่คอยลูบหัวปลอบประโลม การุณเองก็เริ่มจะรู้สึกได้ถึงอาการปวดบวมที่ข้อเท้าของตน ที่ตอนนี้มันนูนเด่นออกมาอย่างชัดเจน หน่วยกู้ภัยได้ใช้น้ำแข็งประคบไว้ให้พอให้คลายความเจ็บปวดไปได้บ้าง เขามองไปยังรัฐกรณ์ที่หลับอย่างหมดท่าไม่เหลือมาดของนักศึกษาหมอหนุ่มไฟแรงที่กล้าแกร่งได้อย่างหน้าเหลือเชื่อ ใบหน้าขาวซีดนั้นนอนนิ่งไม่ไหวติงดูไร้พิษสง นึกไม่ถึงว่าคนตัวเล็กๆแบบนี้จะกล้าลุยเข้าไปในกองไฟแบบนั้น การุณเองนึกเสียใจที่ไม่กล้าพอที่จะวิ่งตามรัฐกรณ์ไปในตอนแรก ถ้าเขาตามไปเรื่องทุกอย่างคงจะจบลงง่ายกว่านี้ บาดแผลพวกนั้นคงจะลดน้อยลง คิดได้แบบนั้นก็เจ็บใจ อยากจะกระทืบไอ้โรคจิตวสันนั่นอีกสักที ว่าแล้วก็กระทืบเท้ากับพื้นอย่างแรง จนต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเพราะลืมไปว่าข้อเท้ายังไม่หายดี

“สมน้ำหน้า” รัฐกรณ์ที่ตกใจตื่นขึ้นมา แขวะเข้าให้ ก่อนจะเอนตัวนอนต่อ
“โหย ไม่เป็นห่วงกันเลย” การุณร้องโอดโอยไปเรื่อยๆ ทำเอาสาวิตรีอดหัวเราเสียไม่ได้
“โอ้ย เจ็บจังเลย หมอครับช่วยดูหน่อยนะครับ” การุณส่งเสียงร้องวอน
“…….” รัฐกรณ์นิ่งเฉย เขาเลือกที่จะไม่สนใจ นั่งหันหน้าไปอีกทาง แต่เสียงของเจ้าตัวใหญ่ไม่ยอมลดความพยายาม
“หนวกหู” เสียงแหบนั้นบ่นเบาๆ แต่ก็ทำให้เจ้าคนปากมากสงบลงไปได้ แต่พอรัฐกรณ์เห็นข้อเท้าที่บวมนั้นก็ใจอ่อน จับขาขึ้นมาพาดตรงหน้าขาของตนไว้
“หนักชะมัด” ถึงจะเป็นเพียงแค่คำบ่นแต่การุณเก็บเอาไปคิดเป็นที่เรียบร้อยว่า แค่ขายังหนัก ถ้าเขาทับไปทั้งตัว จะไหวไหมนะ
“โอ้ย” การุณร้องเสียงหลง เมื่อรัฐกรณ์กระชับผ้ายืดกับถุงน้ำแข็งให้แน่นขึ้น
“เบาๆสีคร้าบบบบบบ”
“แค่นี้ทำเป็นบ่น” ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่รัฐกรณ์ก็เบามือลง จนผ้าทั้งหมดถูกพันอย่างเรียบร้อย
“นวดให้หน่อยสิ”

“โอ้ย”






กว่าจะถึงโรงพยาบาล ข้อเท้าของการุณก็บวมเสียจนน่ากลัว จนแพทย์ต้องรีบเข็นเข้าห้องฉุกเฉินโดยด่วน

ทางด้านวสันถูกแยกไปยังอีกห้องที่มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมอย่างรัดกุม รัฐกรณ์มองเจ้าหน้าที่พาวสันเข้าไปจนลับตา แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ครั้งจะเข้าไปดูอาการก็ถูกพี่พยาบาลร่างใหญ่ดึงตัวไปทำแผลเสียก่อน

“ตายแล้ว ผิวเนียนๆเสียหมดเลย เจ็บนิดหน่อยนะคะ” เธอร้องออกมาอย่างเสียดายผิวที่เนียนเรียบ ค่อยๆบรรจงทายาทีละจุดอย่างเบามือ

“พี่พยาบาลครับ เบาๆนะครับเดี๋ยวรัฐเจ็บ” เจ้าตัวดีที่นอนทำแผลอยู่ตรงมุมห้องตะโกนออกมาเสียงดัง จนรัฐกรณ์อายแก้มออกสี

“น้องคะ ที่นี่โรงพยาบาลนะคะกรุณางดใช้เสียงด้วย” หัวหน้าพยาบาลต้องออกโรงส่งสายตาดุมาให้การุณ

“แฟนน้องนี่น่ารักดีนะคะ” พยาบาลร่างท้วมหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับหยอกล้อ รัฐกรณ์
“ไม่ใช่นะครับ”
“จ๊ะ ไม่ใช่ๆ เสร็จแล้วจ๊ะ เดี๋ยวคงต้องนอนพักดูอาการที่นี่สักพักนะ แผลค่อนข้างลึก” เธอปิดแผลด้วยผ้าเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเดินยิ้มกริ่มออกไป
“ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะครับ โถ่” รัฐกรณ์พยายามเป็นอย่างมากที่จะอธิบาย อนิจาที่พยาบาลสาวคนนั้นไม่คิดที่จะเปลี่ยนความคิดเสียด้วย

รัฐกรณ์ต้องอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลาราวสองวัน กว่าที่แพทย์จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนๆแวะมาเยี่ยมเยือน ไหนจะเป็นสองสามีภรรยาที่แวะมาหาทุกวัน และแน่นอนรวมถึงเจ้าคนที่พักอยู่ห้องข้างๆแต่ดันมาอาศัยอยู่ที่ห้องของรัฐกรณ์เสียนี่สิ

“กลับไปห้องนายได้แล้ว”
“โหย อยู่คนเดียวกลัวผี”

รัฐกรณ์รู้สึกโล่งใจอย่างที่สุดที่ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที อาการของเขาไม่หนักมาก แต่ก็ยังมีปวดบ้างเล็กน้อย รอยไหม้ยังมีให้เห็น พี่พยาบาลแนะนำยาชั้นดีให้ เธอบอกว่าใช้แล้วไม่เป็นแผลเป็นแน่นอน เขาได้แต่ขอบคุณแล้วเดินออกไป โบกแท๊กซี่กลับห้อง เขาได้ยินเสีงการุณเรียก แต่ก็หาได้สนใจเขารีบปิดประตูแล้ว

ข้าวของในกล่องถูกรื้ออีกครั้ง ฝุ่นปลิวคลุ่งไปทั่ว รัฐกรณ์ต้องกลั้นหายใจอยู่บ่อยครั้ง กว่าจะเจอของที่ต้องการก็ใช้เวลาสักพัก เขาหยิบกล่องสีแดงออกมา พร้อมกับเปิดดูข้างใน รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นเมื่อเห็นของที่อยู่ในนั้นอีกครา และรัฐกรณ์หวังว่ามันคงมอบรอยยิ้มให้อีกคนได้เช่นกัน




ไม่นานนักรัฐกรณ์ก็เดินทางมาถึงจุดหมาย เขาต่อรองกับเจ้าหน้าที่อยู่นานกว่าที่เจ้าหน้าที่จะยอม ถึงกระนั้นก็ต้องถูกตรวจค้นตัวอย่างเข้มงวด

รัฐกรณ์เดินผ่านลูกกรงนับไม่ถ้วนหวนให้คิดถึงโรงแรมที่พวกเขาได้ไปพัก ไม่นานเขาก็ได้เจอกับวสันที่นั่งพิงกำแพงสายตาเหม่อลอย

“คุณวสัน” รัฐกรณ์เอ่ยปากเรียกแต่ก็ไม่มีท่าทีที่เขาจะตอบรับ
“ไม่มีประโยชน์หรอกพ่อหนุ่ม ตั้งแต่เข้ามาก็นั่งนิ่งแบบนั้นล่ะ ข้าวปลาก็ไม่กิน” เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมบอกรัฐกรณ์

เด็กหนุ่มไม่ยอมแพ้พูดต่อไปเรื่อย จนเวลาล่วงไป เจ้าหน้าที่เรียกให้กลับออกไปแล้ว แต่วสันยังไม่มีท่าทีที่จะยอมคุยด้วย
“ถ้างั้นผมวางไว้ตรงนี้นะครับ เผื่อว่าจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น” รัฐกรณ์วางสิ่งของนั้นลงกับพื้น ก่อนจะเดินตามเจ้าหน้าที่ออกไป



เสียงปิดประตูดังลั่น ห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกกั้นด้วยซี่กรง วสันยังไม่มีท่าทีที่จะสนใจสิ่งของที่รัฐกรณ์หยิบยื่นให้ จนกระทั่งสายลมอ่อนๆพัดผ่านเขาอีกครั้ง วสันหันซ้ายขวาอย่างไม่เข้าใจ ในห้องปิดแบบนี้เกิดลมได้อย่างไร แต่เขาก็เลิกคิดเมื่อพบสิ่งที่รัฐกรณ์ได้วางไว้ตรงลูกกรง

ภาพของชายหนุ่มในเสื้อขาว กำลังติดพลาสเตอร์ให้กับเด็กหนุ่มอีกคน ใบหน้าของอาญานั้นเปี่ยมไปด้วยความอารี เขามองเด็กหนุ่มอีกคนที่กำลังทำหน้างอด้วยความเจ็บ มีหลายคนพูดไว้ว่า อาชีพหมอมีคนต้องการเรียนเป็นจำนวนมากเพียงเพราะได้เงินตอบแทนเยอะ

แต่นั่นไม่ใช่กับอาญา สายตาที่อ่อนโยนนั้นไม่สามารถโกหกได้ เขามีจิตใจที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มเปี่ยม แม้แต่แว่นตากรอบหนาสีดำนั้นก็ไม่อาจบดบังความตั้งใจอันแรงกล้านั้นไว้ได้

ที่มุมของรูปใบนั้น มีพลาสเตอร์เก่าๆอันหนึ่งติดอยู่ มีตัวหนังสือที่วสันจำได้คุ้นตาเขียนอยู่บนนั้นด้วย

“หายเร็วๆนะครับ”

น้ำตาค่อยๆไหลรินจากของตาของผู้เป็นพี่ลามมาถึงมุมปาก ที่ตอนนี้มันค่อยๆคลี่ออกเป็นรอยยิ้มน้อยๆ วสันกอดรูปนั้นไว้แนบกับตัว พลางปล่อยให้น้ำตาไหลออกไปอยู่อย่างนั้น





“ไปไหนมา ไม่รอกันเลย” ทันทีที่รัฐกรณ์มาถึงห้องได้ไม่ทันไร เจ้าตัวยุ่งก็ตามมาเคาะประตูถึงที่
“แล้วทำไมต้องรอนายด้วย”
“โหย ไม่ดูแลคนเจ็บเลยนะคุณหมอ” การุณพยายามจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง แต่รัฐกรณ์เองก็รู้ดี ยืนบังไว้ อีกทั้งการุณยังต้องใช้ไม้ค้ำยัง เดินเหินยังไม่สะดวกเท่าไร
“ผมปวดขา ขอนั่งพักหน่อยนะครับ” เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอม ก็ต้องใช้ลูกตื้อ เขาทำหน้าเจ็บ แกล้งอ้อนอีกนิด
“แล้วจะลงมาทำไม” ถึงรัฐกรณ์จะพูดแบบนั้นแต่ก็เลี่ยงตัว อนุญาตให้การุณเข้าไปในห้องของตน พร้อมจัดแจงเก้าอี้ให้นั่ง

“มองอะไร”
“มองคนน่ารัก” การุณตอบไปทันทีโดยไม่ยอมหลบตา เป็นรัฐกรณ์เสียอีกที่ต้องเบือนหน้าหนีเจ้าคนกะล่อน
“หายเจ็บขาก็กลับห้องไปได้แล้ว”
“ขออยู่ห้องนี้เลยไม่ได้หรอ”
“ไปได้แล้ว”

กว่าที่รัฐกรณ์จะไล่เจ้าตัวกะล่อนออกห้องได้ก็กินเวลาเป็นชั่วโมง การุณเองรู้สึกยังไม่อิ่มใจกับการจ้องหน้ารัฐกรณ์เสียเท่าไร แต่ก็ยอมออกมาโดยดีเพียงเพราะกลัวจะถูกหักคะแนนให้กลับไปติดลบอีกครั้ง

ถ้าเขาไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป เขาคิดว่าตอนนี้คะแนนคงจะเป็นค่าบวกแล้ว

“หลับฝันดีนะครับ” เขาหยอดคำหวาน ก่อนประตูนั้นจะปิดลง เขาค่อยๆเดินโดยใช้ไม้ค้ำยันไปช้าๆอย่างอารมณ์ดี เขาเดินขึ้นบันไดไป

“อ๊ะ นายๆ” การุณตะโกนเรียก นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่วิ่งสวนลงบันได ด้วยความไม่ระวังหนังสือเล่มเล็กหลุดออกมาจากกองหนังสือที่เขาถือไว้ และดูท่าทางว่าเขาจะไม่รู้ตัว

การุณมองชายเสื้อกาวน์สีขาวพลิ้วหายลับไปยังชั้นล่างๆ ครั้นจะวิ่งไปให้ก็คงจะไม่ไหวเพราะขายังเจ็บ เขาเก็บหนังสือขึ้นมาหมายจะดูชื่อ และคิดว่าคงจะฝากรัฐกรณ์ไปคืนได้

น่าเสียดายที่หน้าปกไม่ได้เขียนชื่อไว้ เขาเปิดไปอีกหน้าก็พบตัวหนังสือเขียนอยู่สั้นๆ
“อย่าทำให้รัฐเสียใจเด็ดขาด”

การุณมองตัวหนังสือเหล่านั้นอย่างไม่เข้าใจก่อนจะพลิกกระดาษไปหน้าถัดไป

พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตัวหนังสือเขียนไว้ที่มุมกระดาษ และนั่นทำให้เขาโยนหนังสือเล่มนั้นทิ้งไปรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองโดยไม่ได้ใช้ไม้ค้ำแม้แต่น้อย

หนังสือเล่นน้อยตกอยู่ตรงบันไดกางอยู่ตรงหน้าเดิมที่การุณเปิดไว้ มุมด้านบนของกระดาษมีข้อความเขียนไว้อย่างชัดเจนแสดงความเป็นเจ้าของ







“อาญา ณาศวานัย”

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
จบลงไปเเล้วนะคะ เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเรื่องเเนวเขย่าขวัญ สืบสวนสอบสวน พอไหวไหมคะกับเเนวนี้

ถ้าใครเคยอ่าน คินดะอิจิก็คงจะคุ้นเคยกันดี ใช่เเล้วค่ะ เรื่องนี้ได้รับอิทธิพลเต็มๆ

หวังว่าทุกคนคงจะชื่นชอบกันนะคะ

คาดว่า ทั้งการุณเเละรัฐกรณ์ อาจจะมีเวลา เข้ามาเเวะเวียนทุกคนอีกในเร็ววัน ขอบคุณที่ร่วมสืบสวนพร้อมกันนะคะ

Loveyoujung

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากค่ะ แล้วเราก็เป็นแฟนคินดะอิจิด้วยยย
สนุกมากเลยค่ะ แนวสืบสวนสอบสวน^^

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
อร๊ายยยยย พี่อาญามาหาอ่ะ    น่ากลัวบวกปลื้มสุดๆ    ชอบมากๆค่ะเรื่องนี้

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
โฮ่ รอตั้งนาน ในที่สุดก็มาต่อแล้ว

จบแบบว่ายังต้องรอลุ้นอีกแฮะ ....

กลัวผีมาตั้งนาน ผีเพิ่งโผล่เอาสองตอนสุดท้าย ฮ่าๆ

ขอตอนพิเศษอีกสักนิดก็ดีนะคะ

การุณ ทั้งขี้ขลาด แหย ขี้หลี ... เทียบกับอาญา ที่ทั้งหล่อ (บอกตอนไหนว่าหล่อแต่เราก็จิ้นว่าคงหล่ออ่ะแหละ) ทั้งใจดีแล้ว รัฐคงตัดใจยากอ่ะนะ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ขนาดตอนจบยังแอบหลอนเลย :laugh:

 :pig4: หวังว่าคงจะมีเรื่องดีๆมาให้อ่านอีกนะคะ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
จบลงด้วยดี (ยกเว้นสำหรับการุณ 555)
 :pig4:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จบแล้ว ดีใจที่สู้ด ที่คนเขียนไม่ลืม
การุณจะทำอย่างไรให้รัฐกรณ์ใจอ่อนน๊า
วิญญาณ ของอาญานี่ มาจริง ไม่ใช่วสันชิมิ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เดาถูกด้วยว่าเป็นวสันต์ สงสารการุณ ตกลงสองคนนี้จะได้เป็นอะไรกันมั๊ย พี่อาญาอุตส่าห์เปิดทางให้แล้ว

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านตอนการุณกุ๊กกิ๊กกับน้องกรณ์ของเราหน่อยอ่า

ดูน้องกรณ์จะเก๊กท่ากับการุณอยู่

เเต่อาญาเหี้ยนขนาดหนักเลยนะ

กลัวเเทนการุณ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด