ตอนที่ 46ภายในสวนหน้าบ้านหลังใหญ่ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เลี้ยงฉลองงานแต่งงานที่จัดไม่ใหญ่นัก โดยเชิญแค่บรรดาญาติและคนสนิทเท่านั้น บรรยากาศชื่นมื่นอบอวลด้วยความสุขของทุกคนในงานนั้นสังเกตได้จากรอยยิ้มและแววตาที่เปล่งประกายระยับ รวมถึงคนข้างกายผมด้วยที่ยิ้มกว้างยืนมองคู่แต่งงานใหม่อยู่ตรงหน้า
“มิคดีใจกับกัสและวินด้วยน้า” เสียงใสมาพร้อมรอยยิ้มหวานก่อนเจ้าของรอยยิ้มจะเข้าไปสวมกอดเพื่อนสนิทของตัวเอง
“กูดีใจกับมึงด้วยไอ้วิน” ผมตบบ่ากว้างภายใต้ชุดสูทขาวและส่งมือให้ไอ้วินจับ
คู่แต่งงานเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มแววตาเปล่งประกายแห่งความสุข ยิ่งสายตาไอ้วินเพื่อนสนิทของผมมันไม่ละสายตาไปจากกัสคนรักของมันเลยครับ ผมดีใจกับทั้งคู่จริงๆเพราะกว่าจะมีวันนี้ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ เมื่อเช้าทั้งคู่ก็ผ่านพิธีทางศาสนาโดยมีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายดำเนินการจัดการให้ทำบุญรับศีลรับพรจากพระสงฆ์ที่นิมนต์มาประกอบพิธี ส่วนตอนเย็นเป็นงานเลี้ยงฉลองแต่งงานเล็กๆให้เฉพาะคนที่สนิทกับคู่แต่งงานได้ร่วมยินดีด้วยเท่านั้น ซึ่งทั้งกลุ่มเพื่อนผมและเพื่อนมิคก็มากันครบ พวกเราร่วมยินดีกับทั้งคู่โดยตอนนี้ยืนกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่อยู่ภายในงาน
“มิคแหวนนี่มาจากไหนทำไมมายเพิ่งเห็นล่ะจ๊ะ” สาวน้อยน่ารักจับมือเพื่อนสนิทขึ้นมาดู มิคหันมามองผมแวบเดียวและไม่ได้ตอบคำถามของมายที่ส่งมาให้ คนตั้งคำถามเงยหน้ามองมิคก่อนหันมามองหน้าผมและคลี่ยิ้มอ่อนหวานออกมา
“มายต้องเตรียมตัวไปงานมิคต่อจากกัสรึเปล่าน้า” เสียงหวานเอ่ยหยอกเย้าคนน่ารักของผมที่ผิวแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีอมชมพูระเรื่ออย่างน่าฟัด
“มายเดียร์!!” มิคเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง ก่อนเพื่อนทุกคนจะหัวเราะเอ็นดูให้กับคนขี้อาย
ไอ้วินกับไอ้ปรัชตบหลังชกไหล่ผมอย่างหยอกล้อส่งยิ้มกว้างอย่างยินดีมาให้ ผมก็ได้แต่ยิ้มให้พวกมันก่อนหันกลับมามองหน้ามิคที่เริ่มงอนย่นจมูกส่งให้เพื่อนสาวคนสนิท ผมยกมือลูบหัวทุยอย่างเอ็นดูทำให้มิคเงยหน้ามาสบตา ผมจึงส่งยิ้มปลอบประโลมไปให้คนโดนเพื่อนแกล้ง คนน่ารักก็ส่งยิ้มหวานตอบกลับมาจนอดใจไม่ไหวก้มหอมแก้มใสทำหวานเกินหน้าคู่แต่งงานซะเลยครับ
“วี้ดดด วิ้ววว / ฮิๆๆ / ไอ้ฟินมึงแน่มาก ฮ่าๆๆ” เสียงเป่าปากเสียงแซวดังขึ้นทันทีที่ผมหมอแก้มใสฟอดใหญ่
คนน่ารักที่โดนขโมยแก้มถองศอกเข้าเต็มท้องผมเลยครับทำเอาจุก หน้าตาเหยเก มิคเห็นความเจ็บปวดของผมเข้าก็หัวเราะอย่างสะใจ สะบัดหน้าหวานหันไปคุยกับกัสและมายแทน
“ฟิน มึงแต่งเมื่อไหร่วะ” สาวมนอารมณ์ดียืนส่งยิ้มมาพร้อมคำถาม
“ฮึๆ ยังว่ะรอเด็กเรียนจบก่อน กูมีแฟนเด็กก็เงี้ย ฮ่าๆๆ”
“ทำเป็นพูดดีนะมึง ปลอบใจตัวเองอยู่ป่ะวะ ฮึๆๆ” เสียงคนขี้เล่นประจำกลุ่มที่เงียบไปนานได้ฤกษ์เปิดปากแซว
“เอ่อ กูปลอบใจตัวเองแต่ดีกว่าคนหลอกตัวเองว่ะ มึงว่ามั้ยไอ้ธี ฮึๆๆ” ผมจ้องหน้าไอ้ธียิ้มๆหลังหลอกด่ามันไป
ไอ้ธีมันทำหน้างงซักพักก่อนจะทำตาโตเท่าที่ตาตี่ๆของมันจะโตได้ ก่อนส่งค้อนวงโตมาให้พวกผมที่ยืนหัวเราะมันเพราะรู้ความนัยสิ่งที่ผมพูด เอ่อแฮะ ตั้งแต่มีสามีเป็นตัวเป็นตนมันรู้จักค้อนทำสาวแตกได้ด้วยครับ เรื่องของคู่นี้ก็วุ่นวายจนเพื่อนปวดหัวแทนคนหนึ่งพยายามตามจีบเท่าที่จะมีเวลาอันน้อยนิดที่ว่างจากงาน ส่วนอีกคนได้แต่ปากแข็งไม่ยอมรับความจริงคงต้องให้เวลาเพื่อนผมมันได้รู้ใจตัวเองแหละครับ และวันนี้ผมไม่ยักเห็นหมอภีมมาตามติดมันสงสัยงานที่โรงพยาบาลจะยุ่งจนมาไม่ได้ แต่ผมก็ต้องแปลกใจครับที่อยู่ๆไอ้ธีมันก็เงียบหน้าบึ้งมองตรงไปด้านหน้า เรียกสายตาเราทุกคนให้หันตามสายตามัน หมอภีมผู้ชายหน้าตี๋ใส่แว่นตัวสูงกำลังยืนคุยยิ้มแย้มกับสาวน่ารักคนหนึ่งที่คงเป็นแขกในงานนี้
“นั่น ยัยนิสาลูกพี่ลูกน้องกูเอง รู้จักกับพี่ภีมได้ยังไงวะ” ไอ้วินไขข้อข้องใจของพวกเรา ผมหันกลับมามองไอ้ธีมันหันหน้าหนีจากทั้งคู่แล้วครับและทำเป็นไม่สนใจซะอย่างนั้น
“อ้าว มึง ผัวมีกิ๊กยืนนิ่งอยู่ได้เข้าไปลุยซิวะ” สาวเท่ห์เอ่ยกระเซ้ายิ้มๆ และได้ผลครับไอ้ธีเรียกชื่อมนซะดังลั่นหน้าแดงคงทั้งโกรธทั้งอายล่ะงานนี้
พวกผมก็ได้แต่ยิ้มมองไอ้ธีอย่างสนุกที่เห็นมันโดนแกล้ง เคยแต่โดนมันป่วนให้มันโดนป่วนบ้างก็สนุกดีครับ
“ฟิน หมอภีมมาด้วยแล้วทำไมถึงคุยกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ ธีโดนทิ้งแล้วเหรอ” เสียงกระซิบที่ไม่ได้เบานักของมิคทำเอาทั้งกลุ่มฮาครืนอีกรอบ มิคตกใจทันทีเลยครับที่อยู่ๆทุกคนก็หัวเราะขึ้นมา ผมจับหัวทุยให้ซบแนบอกแน่นไม่ปล่อยทำให้มิคโวยวายดิ้นไปมากับอกแกร่งของผม
“สวัสดีครับทุกคน” เสียงนุ่มของหมอหน้าหล่อดังแทรกเสียงหัวเราะของผมและเสียงโวยวายของมิคขึ้นมา
ทุกคนหันไปทักทายหมอภีมยกเว้นก็แต่ไอ้ธีที่ไม่หันมามองและทำท่าเดินหนีออกนอกวง หมอภีมที่จ้องไอ้ธีไม่วางตาตั้งแต่เดินมาถึงก็รีบสาวเท้าตามไปทันที ผมก็ได้แต่มองตามยิ้มๆและคงต้องปล่อยทั้งคู่เค้าเคลียร์กันเอง ถ้าผมเดาไม่ผิดไอ้ธีมันคงหึงพี่เค้าล่ะครับ
“คู่นี้จะกอดกันอีกนานมั้ย ขโมยซีนกัสกับวินเลยนะเนี่ย” เสียงหวานคนของไอ้วินดังขึ้น
ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่ากอดมิคไว้ก็ก้มหน้ามองคนในอ้อมกอดก่อนคลายแรงกอดเหลือเพียงโอบเอวบางไว้ มิคก็ได้แต่ยืนนิ่งหน้าแดงอยู่ข้างๆกัน หลังจากนั้นเราก็พากันไปนั่งโต๊ะดื่มไปคุยไปเหมือนไม่ใช่งานแต่งงานแต่เป็นงานเลี้ยงฉลองระหว่างเพื่อนธรรมดามากกว่า สักพักคุณแม่ก็มาตามกัสและวินให้ไปนั่งคุยกับคุณตาคุณยายคู่แต่งงานจึงขอตัวออกไป สองคนออกไปอีกสองคนที่เค้าคงง้อกันเสร็จแล้วก็เข้ามานั่งแทน ผมว่าไอ้ธีมันเงียบกว่าปกติแถมหน้ามันแดงนิดๆปากเจ่อหน่อยๆ สงสัยพี่หมอเค้าจะง้อรุนแรงไปหน่อยนะผมว่า แต่ก็ไม่มีใครแซวมันคงเกรงใจพี่หมอภีมล่ะครับ แต่คนที่เก็บอาการไม่อยู่ก็คือมิคที่จ้องธีตาโตบีบมือผมแน่นและหน้าก็เริ่มแดงตาม ก่อนมิคจะหันไปมองมายที่นั่งข้างกันอาการหน้าแดงคงเป็นโรคติดต่อมั้งครับเพราะหมอมายก็ก้มหน้าแดงๆหนีสายตาแวววาวของไอ้ปรัชซะงั้น เฮ้อ งานนี้ผมว่าไอ้ธีไม่รอดมือพี่หมอภีมแล้วล่ะครับ
“ฟิน เพื่อนฟินคงไม่รอดมือหมอภีมแน่ๆไม่น่าเชื่อเนอะ” เสียงกระซิบข้างหูทำเอาผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่ยิ้มเจ้าเล่ห์แต่หน้ายังแดงระเรื่อ
ผมก็พยักหน้ายิ้มๆส่งไปให้เค้าว่ากันว่าคนที่รักกันมักจะใจตรงกันนั้นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ผมมองเพื่อนๆที่อยู่รอบตัวดูท่าทางทุกคนมีความสุขมากครับ แม้แต่ไอ้คนหน้านิ่งอย่างไอ้ปรัชยังยิ้มมากกว่าทุกวันยิ่งมีคนรู้ใจอยู่ข้างๆแบบมายด้วยแล้ว ส่วนไอ้ธีแม้จะเงียบกว่าปกติแต่สายตายามเผลอของมันมักจะจับจ้องไปที่หมอร่างใหญ่พร้อมรอยยิ้มมุมปาก คนสุดท้ายสาวเดียวในกลุ่มที่ยังโสดก็ยังวางมาดเท่ห์ให้ชายแท้แบบผมส่งค้อนได้ง่ายๆ และไม่รู้ว่าจะมีใครคู่ควรมาปราบพยศลงได้ผมคงต้องรอดูคู่ของมันต่อไปครับ แต่อยู่ๆมนก็ลุกขึ้นเดินออกไปคุยโทรศัพท์ไอ้ผมและเพื่อนๆก็ไม่ได้สนใจอะไรจนมนกลับมาและนั่งยิ้มอารมณ์ดี ทำให้ไอ้ธีตัวแสบที่เป็นคู่ซี้ทักขึ้นเหมือนรู้อะไรอยู่บ้าง
“มน อย่าบอกนะคนที่โทรมาน่ะคือเฮียติณห์” ไอ้ธีมันคิ้วขมวดจ้องหน้าสาวอารมณ์ดีนิ่งอย่างรอคำตอบ แต่ดูเหมือนสิ่งที่รอจะไม่ได้ผลครับ
“ฮึๆ ขอแน่ใจก่อน” แค่นั้นครับจากปากของสาวเท่ห์ มนไม่ได้ตอบคำถามว่าใช่หรือไม่ แต่ก็ทำให้พวกเรามั่นใจว่าคนโสดเค้าคงโสดอีกไม่นานแล้วครับ
ผมมั่นใจว่ามนไม่คิดจะปิดเพื่อนหรอกแต่ขอเวลาอีกนิดเท่านั้น และสำหรับมนผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไอ้ธีหรอกครับ พวกผมจึงไม่คิดจะเอาคำตอบจากมนตอนนี้ ส่วนไอ้คู่ซี้ของมนก็ได้แต่จิ๊ปากทำอะไรมนไม่ได้ก็หันไปเหวี่ยงคนข้างตัวแทน ผมเห็นแล้วขำครับส่วนมิคที่อยู่ข้างผมนี่ขำกิ๊กออกมาเลย
แล้วเวลาส่งตัวคู่บ่าวสาวก็มาถึงผมและเพื่อนต่างเข้าไปกอดไอ้วินแสดงความยินดีที่มันจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนซะที ส่วนกัสก็โดนทั้งมิคและมายกอดกลมเป็นก้อนเดียวกันไปแล้วครับ พวกเราต่างอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขกับชีวิตคู่ และปล่อยตัววินและกัสให้เข้าหอซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ต่อไป
“มิคครับเราก็กลับไปเข้าหอกันมั่งเนอะ ฟินอยากเข้าหอแบบไอ้วินมั่งอ่ะ” ผมก้มหน้าชิดใบหน้าหวานของมิคพูดเสียงอ้อน
“ฟินทะลึ่ง ไอ้หื่นเอ้ย” มิคหน้าแดงส่งตาดุมาให้
ผมไม่รอช้าคว้าข้อมือบางมากอบกุมก่อนเอ่ยลาเพื่อนๆที่เตรียมตัวกลับกันอยู่แล้ว พามิคขึ้นรถขับกลับบ้านเพื่อจะได้เข้าห้องหอตามอย่างไอ้วินมัน ก็แหมเราเพื่อนรักกันนี่ครับทำอะไรก็ย่อมอยากทำเหมือนกันล่ะครับ
...................................................................
ความเย้ายวนตรงหน้าทำเอาผมลุ่มหลงจนต้องลิ้มลอง แท่งร้อนสีฉ่ำแดงและช่องทางสีพีชถูกผมลงลิ้นและกอบกุมไว้เพื่อปรนเปรอให้ร่างบางที่คร่อมอยู่บนตัวผม ให้สมกับที่คนรักของผมเค้ายอมตามใจและปรนเปรอให้ผมมาไม่ต่างจากที่ผมทำให้ ส่วนล่างของผมที่โดนลิ้นนุ่มและโพรงปากอุ่นครอบครองอยู่ส่งผลให้ผมแทบปลดปล่อย
“ซี้ดดด ที่รัก พอก่อนครับมิค”
ผมจับร่างบางลงจากตัวก่อนที่จะทำขายหน้าปล่อยอารมณ์ก่อนเวลาที่ควร ปากแดงเจ่อของมิคที่ผ่านการจูบดูดดื่มจากผมและผ่านการปฏิบัติภารกิจตามใจคนเอาแต่ใจของผมเมื่อครู่ มันดึงดูดให้ผมเข้าหากัดเน้นเบาๆที่กลีบปากล่างอย่างหมั่นเขี้ยว
“อื้อออ” เสียงหวานประท้วงเบาเพราะความเจ็บมาพร้อมแรงทุบที่ไหล่
ผมจูบปิดปากสอดลิ้นเกี่ยวลิ้นเล็กให้ตอบโต้ มือคว้าแท่งร้อนที่ดุนดันอยู่ที่หน้าท้องมากอบกุมและรูดรั้งเพิ่มขีดอารมณ์ของคนบนตักให้สูงขึ้น มือบีบยอดอกที่แข็งเป็นไตก่อนลูบไล้ฝ่ามือผ่านผิวนุ่มมาที่ช่องทางสีพรีชที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว
“มิคพร้อมนะครับ ฟินอยากรักมิคแล้วนะ”
ผมผละจูบจ้องหน้าหวานที่ตาฉ่ำเยิ้มจากแรงอารมณ์ มิคโอบแขนรอบคอซุกหน้ากับซอกคอผมและดูดดึงผิวที่ต้นคอก่อนกัดทำเอาเจ้าของต้นคอแบบผมต้องสูดปากเพราะความเสียวซ่านปนเจ็บนิดๆ
“ซี้ดดด อืมมม”
ผมยกสะโพกกลมขึ้นและจ่อแท่งร้อนเข้าสู่ความอบอุ่นที่รัดแน่น มิคครางหวานและขบกัดซอกคอผมเพื่อระบายความเจ็บ ผมกัดฟัดกรอดเคลื่อนตัวอย่างช้าๆกลัวคนข้างบนเจ็บมากกว่านี้
“อืมมม มิคผ่อนแรงครับ ซี้ดดดด กดตัวลงมาที่รัก อืมมม อย่างนั้น อ๊าๆๆ”
“อึก อืมมมมม”
เสียงหอบหายใจแรงข้างหูพาให้ขนลุกทั้งตัวและความอบอุ่นที่รัดแน่นก็ครอบครองผมไว้แล้วทั้งหมด ผมจูบที่ขมับชื้นเหงื่อก่อนเชิดคางมนให้เงยสบและจูบแรงๆที่ปากแดง
“มิคขยับเองนะครับ”
ผมนั่งพิงหลังกับหัวเตียงประคองสะโพกกลมด้วยมือ กระตุ้นคนรักด้วยการบีบก้นกลมทั้งสองข้าง มิคก้มมองร่างกายที่เชื่อมต่อของเราหน้าแดงแปร๊ด ผมก็คว้าแท่งร้อนสีสวยมากอบกุมและรูดรั้งก่อนจูบที่แผ่นอกขาวประทับตราจอง คนข้างบนเริ่มขยับตัวตามจังหวะมือที่ผมปรนเปรอให้ทางด้านหน้า หน้าหวานเชิดขึ้นครางกระเส่า ผิวขาวกลายเป็นสีแดงทั้งร่าง
“อืมมมม”
ภาพยั่วยวนแสนเซ็กซี่ของมิคทำเอาเลือดในกายผมเดือดปุดเผลอส่งสะโพกเข้าหาเมื่อมิคกดตัวลงมา และคว้าคอมิคให้ก้มลงรับจูบดูดดื่ม อารมณ์ร้อนแรงส่งผลให้เราเร่งจังหวะขึ้นเพื่อให้พบกับความสุขที่ต้องการ
“มิค ครับ เร่งหน่อยที่รัก ซี้ดดดด”
ผมคว้าเอวบางจับยกขึ้นและกระแทกลงอย่างแรงมิคกรีดร้องยาวเมื่อแท่งร้อนผมเข้าไปสุดลึก ผมเร่งจังหวะเร็วแรงอยู่ไม่กี่ครั้งมิคก็ครางหวานเกร็งกระตุกปล่อยธารรักสีขาวพวยพุ่งเต็มหน้าท้องเราสองคน
“อึก อืมมม อ๊าๆๆๆ ฟินนนน”
แรงตอดรัดจากมิคทำให้ผมเกือบไปจึงพลิกร่างบางลงก่อนถอดถอนกายออกมาและพลิกร่างขาวคว่ำหน้ายกสะโพกมนขึ้น สอดใส่ทีเดียวจนสุดเร่งสะโพกกระแทกรัวจนถึงจุดหมายแห่งความสุขสม
“ซี้ดดดดด มิค มิคครับ อ๊าๆๆๆๆๆๆ”
หมดแรงซบหน้ากับแผ่นหลังเนียนที่เจ้าของยังหอบตัวโยน ผมตะแคงตัวกอดร่างบางจากด้านหลังจนลมหายใจกลับมาปกติ จึงถอดถอนตัวตนออกจากความอุ่นนุ่มอย่างตัดใจ และอุ้มร่างคนรักที่นอนระทวยเข้าห้องน้ำจัดการชำระล้างให้สะอาดจะได้หลับสบาย เพราะเจ้าของร่างเค้าไม่มีแรงพยุงตัวเองด้วยซ้ำไปครับ ก็คืนนี้ผมจัดแบบเต็มไปสองรอบรวด และผมก็คงมีความสุขไม่ต่างจากไอ้วินที่เป็นเจ้าบ่าวในคืนนี้หรอกมั้งครับ การร่วมรักกับคนที่รักมันช่างอิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจจริงๆ
.....................................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
ตามสัญญาค่ะตอนนี้ก็รวมคู่รักมางานแต่งหมอกัสกับวิน
ให้หายคิดถึงกันเนอะ แถมฉากเรียกเลือดกันไปเบาๆ ?? 555
เรื่องคู่สาวมนก็เฉลยออกมาให้ได้รู้กันแล้ว ส่วนคนที่ชื่อ
ติณห์เป็นใครคงต้องติดตามกันต่อไปนะคะ เค้าจะมาอีกในเรื่องนี้
และมาเต็มๆในเรื่องหน้าค่ะ
ตอนหน้าเมื่อมิคไม่มีเรียนแล้วฟินชวนไปบริษัทด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ติดตามต่อวันพุธค่ะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

รวบ
