รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับนายตาดุ7นัท“พ่อครับ แม่ครับ นี่นัทแฟนผม”
หลังเสียงห้าวดังขึ้นผู้ใหญ่สองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมกับไอ้เกรียนคนที่เพิ่งพูดจบก็เงยหน้ามามอง ท่านทั้งสองมองแม็คก่อนจะหันมามองสบตาผมด้วยแววตาตกใจ ที่อยู่ๆลูกชายคนเล็กก็พาแฟนที่เป็นผู้ชายเข้าบ้านและพามาแนะนำแบบไม่ได้บอกล่วงหน้ามาก่อน ผมมือเย็นเฉียบยกมือไหว้ท่านทั้งสองคนก่อนก้มหน้าหลบสายตา ยอมรับเลยครับว่าผมกลัวแม้จะมีไอ้ตัวใหญ่คนที่ได้ชื่อว่าแฟนยืนอยู่เคียงข้างๆก็ตาม มืออุ่นของแม็คยื่นมากุมมือผมไว้ทำให้ต้องหันไปมองก่อนจะพบรอยยิ้มอ่อนๆและแววตาอ่อนโยนที่ส่งกำลังใจมาให้ ผมรู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มของผมที่ยิ้มตอบแม็คนั้นแหยแค่ไหนและปากก็สั่นด้วยจนต้องพยายามเม้มปากไว้ ก่อนจะเหล่ตามามองผู้ใหญ่ทั้งสองคนว่ามีสีหน้าแบบไหน แต่ต้องรีบก้มหน้าลงอีกครั้งก็หน้าดุๆของคนต้นแบบแม็คนั้นก็ดุและนิ่งจนน่ากลัวไม่รู้ว่าคุณพ่อนั้นคิดอะไรอยู่ ส่วนคุณแม่คนสวยก็หน้านิ่งไม่มีแววใจดีอย่างที่แม็คเคยเล่าให้ผมฟังเลยครับ
“แล้วคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แม่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” เสียงเย็นจากคุณแม่ยังสาวเอ่ยขึ้นเรียบๆ ทำเอาผมอดสะดุ้งไม่ได้ เงยหน้ามองไอ้คนที่กุมมือผมอยู่ แม็คกระชับมือผมแน่นก่อนหันไปตอบคุณแม่
“สักสองเดือนแล้วครับ” แม็คตอบด้วยเสียงมั่นคงและมองไปที่บุพการีทั้งสองแน่วแน่ ใบหน้าท่านทั้งสองยังนิ่งเรียบไม่เปลี่ยน
“รักชอบกันจริงๆรึเปล่า หรือแค่แม็คเห็นว่าหนูคนนี้แปลกและท้าทายสำหรับลูกกันแน่” น้ำเสียงและสายตานิ่งดุถูกส่งตรงให้คนตัวโตอย่างต้องการคำตอบที่ไตร่ตรองแล้ว ผมแทบอยากจะยืนร้องไห้อยู่ตรงนี้เลยครับ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าครอบครัวแม็คไม่เห็นด้วยกับการที่แม็คจะคบกับผม จึงยิ่งก้มหน้าลงต่ำกลั้นน้ำตาสุดกำลัง
“แรกๆอาจจะใช่ครับแต่ตอนนี้ไม่ใช่” ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้คนตัวโตทันทีหลังได้ยินคำตอบของมัน น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้หยดไหลผ่านแก้มทันที ไอ้แม็คมันไม่ได้มองผมเพราะมองไปที่พ่อแม่ตัวเองอยู่ ผมอดน้อยใจมันไม่ได้ครับที่มันเห็นผมเป็นของแปลกและท้าทายสำหรับมัน อยากสะบัดมือใหญ่ที่กุมไว้ออกและวิ่งหนีออกจากบ้านหลังนี้เลย แต่อุ้งมืออุ่นก็กระชับมือผมไว้แน่นกว่าเดิมเหมือนรับรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“ตอนนี้ผมคิดว่าผมรักนัท แต่จริงๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าความรักมันเป็นยังไง ไอ้อาการยิ้มได้ของผมที่ได้เห็นหน้านัท หรือแม้แต่การที่ผมมีความสุขทุกครั้งเพียงแค่ได้ยินเสียงของนัท ทั้งรอยยิ้มและความสุขของผมที่เกิดจากนัทมันก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทุกวันหลังจากที่เราคบกัน แค่นี้มันจะเพียงพอมั้ยครับแม่ที่จะเรียกว่า ‘รัก’ ได้” น้ำเสียงหนักแน่นที่ใช้ถ่ายทอดความในใจของแม็คมันทำให้ผมตื้นตันและไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลได้อีกต่อไป ผมซบหน้าไปที่ไหลกว้างที่ๆผมใช้ซับน้ำตาตอนนี้มันช่างทำให้ผมอุ่นได้ไปทั้งหัวใจ
ผมร้องไห้น้ำตาไหลพรากแต่ไม่มีเสียงสะอื้นหลุดออกมามากนัก มือใหญ่ที่อบอุ่นยื่นมาโอบหลังผมและยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อปลอบโยน ไม่มีถ้อยคำเอ่ยปลอบใจให้ได้ยินแต่กิริยาอ่อนโยนของแม็คก็ทำให้ผมรู้ว่าแม็คกำลังปลอบผมอยู่ แม็คมันรักผมมันแคร์ผมและมันจริงใจกับผมถึงขนาดพาผมมาเจอพ่อแม่ของตัวเองได้ จะไม่ให้ผมรักมันตอบได้ยังไงกันครับ
“นั่งกันก่อนสิ แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว” เสียงหวานของผู้หญิงคนเดียวในบ้านดังขึ้น ทำเอาผมที่กำลังซาบซึ้งกับความรักที่แม็คมีให้ต้องรีบผละจากไหล่หนา และนั่งตามแรงประคองของคนที่กอดเอวผมอยู่
กระดาษทิชชู่แผ่นนุ่มถูกส่งมาเช็ดใบหน้าให้อย่างอ่อนโยนด้วยมือใหญ่ของแม็ค ผมจึงสบตามั่นคงคู่นั้นด้วยแววตาขอบคุณ แต่แอบเห็นแม็คเหลือบตาไปมองทางพ่อและแม่ตัวเองคิ้วขมวดมุ่นด้วยแววตาสงสัย จนผมต้องมองตามสายตาของแม็คไปที่ท่านทั้งสองคน และได้เห็นว่าคุณพ่อหน้าดุก็มองไปทางคุณแม่คนสวยด้วยสายตาไม่แน่ใจและกำลังสงสัยอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนคุณแม่ก็มองมาทางผมนิ่งๆไม่เปลี่ยน จนผมเริ่มจะใจเสียอีกรอบแล้วครับ
“แล้วเราล่ะชอบหรือรักแม็ครึเปล่า ถ้าจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ตามตาฟินอยู่ไม่ใช่รึเราน่ะ” คุณแม่คนสวยปล่อยคำถามด้วยเสียงนิ่งดังเดิม ส่วนคำถามทำเอาคนโดนถามแบบผมรู้สึกแย่จนอยากร้องไห้อีกรอบ ทำไมผมถึงน้ำตาแตกง่ายนักนะผมหันไปมองแม็คที่บีบมือผมแน่นส่งกำลังใจมาทางสายตา ทำให้ผมต้องเรียกกำลังใจตัวเองด้วยการสูดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนมองหน้าคุณแม่
“นัทเป็นเด็กเอาแต่ใจครับคุณแม่ตอนนั้นเห็นพี่ฟินก็แค่ถูกใจไม่ได้ชอบหรอกครับ ส่วนแม็คที่ลองคบด้วยแรกๆก็แค่อยากเอาชนะตามประสาเด็ก แต่พอได้คบไปความคิดนั้นมันหายไปตอนไหนไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าอยู่กับแม็คสบายใจมากเลยและแม็คก็ดีกับนัทมากด้วย จนนัทเริ่ม เอ่อ.....‘ชอบ’ มากขึ้นเรื่อยๆ อยากเจอแม็คทุกอาทิตย์ และก็ ‘หวง’ มากด้วยครับ เลยรู้สึกผิดมากที่เคยคิดอยากจะแย่งพี่ฟินมาจากพี่มิค เพราะได้รู้ว่าคนของใครใครก็หวง....ครับ”
ผมค่อยๆคิดค่อยๆพูดออกมาจากความรู้สึกซึ่งอาจจะดูสับสนและไม่ได้สละสลวยมากนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในใจที่ผมต้องการสื่อออกมาให้ผู้ใหญ่ท่านได้รู้ เมื่อพูดว่าชอบไปแล้วผมก็ได้เห็นแม็คยิ้มกว้างตาเยิ้มก่อนจะมีแววตาเจ้าเล่ห์ออกแนวล้อเลียนเมื่อผมพูดว่าหวง จนผมเผลอหลบตาคู่นั้นทันทีก่อนหันไปทางคุณพ่อที่แม้ไม่ยิ้มแต่แววตาก็อ่อนโยนขึ้นมาก ส่วนคุณแม่นั้นผมคงตาฝาดจริงๆครับที่เห็นรอยยิ้มของท่าน แต่พอจ้องจนแน่ใจถึงรู้ว่าตาฝาดจริงๆ เพราะรอยยิ้มหวานนั้นหายไปทันทีที่ผมกระพริบตา
“สรุปว่าใจตรงกันว่างั้นสินะ” เสียงหวานยังคงรักษาระดับความนิ่งได้อยู่ แต่เหมือนท่านต้องการประชดเลยนะครับเนี่ย ผมจะทำยังไงดีน้าให้ท่านยอมรับผมได้
“แม่ครับ แม่.....” แม็คที่ทำท่าจะอ้อนแม่ตัวเองต้องหยุดทันทีเมื่อคุณแม่แทรกขึ้นมาซะก่อน
“หยุดไม่ต้องพูดแม็ค แม่จะทำกับข้าวแล้ว ใครรู้ตัวว่าต้องไปช่วยก็ตามมา อืม แต่บอกไว้ก่อนครัวมันแคบรับผู้ช่วยแค่คนเดียว” ถึงแม้ท่านไม่ได้ระบุตัวว่าใครต้องเข้าไปช่วยแต่ความหมายนั้นเจาะจงต้องเป็นผมเท่านั้น
เมื่อคุณแม่ลุกขึ้นเข้าครัวไปแล้วผมที่มองตามหลังท่านอยู่ ก็รู้สึกว่ามีมือใหญ่มาลูบหัวหันไปมองเจ้าของมือก็พบรอยยิ้มอ่อนส่งมาให้กำลังใจกันอยู่
“นัทไม่ต้องเข้าไปช่วยหรอกเดี๋ยวแม็คไปเองนะครับ อยู่นี่ก่อนนะ” แม็คที่ทำท่าทางจะลุกไปตามที่พูดจนผมต้องรีบยึดข้อมือใหญ่เอาไว้ก่อน
“ไม่ นัทจะไปช่วยคุณแม่เอง แม็ครออยู่นี่แหละ” ผมตัดสินใจแล้วครับว่ายังไงวันนี้ก็ต้องทำให้คุณแม่คนสวยยอมรับผมให้ได้ครับ แต่ก่อนที่ผมจะเข้าครัวก็ได้ยินเสียงห้าวทุ้มดังขึ้นจนต้องหันกลับไปมอง
“ใช้สิ่งที่เรามีให้เป็นประโยชน์” สายตาอ่อนโยนบนหน้าดุทำเอาผมต้องยิ้มกว้างที่อย่างน้อยคุณพ่อกตก็ไม่รังเกียจผมแล้วครับ แต่สิ่งที่ผมมีคืออะไรล่ะครับที่จะทำให้คุณแม่ใจอ่อนกับผมได้น่ะ
เมื่อผมเข้ามาให้ครัวก็พบว่าคุณแม่กำลังซาวข้าวอยู่จึงรีบเข้าไปช่วย ท่านมองหน้าผมนิดหน่อยก่อนส่งหม้อข้าวที่มีข้าวสารและน้ำอยู่ในหม้อ ผมที่ไม่เคยเข้าครัวก็ยืนเก้ๆกังๆเอามือคนข้าวในหม้อและรินน้ำออกจากหม้อ แต่ทั้งข้าวและน้ำก็เทพรวดลงมาที่อ่างเกือบหมด ผมตกใจถือหม้อค้างไว้และหันไปมองคนที่อยู่ในครัวด้วยกัน ท่านก็มองผมนิ่งๆก่อนมองไปที่หมอข้าว จนผมต้องรีบโกยข้าวสารชุ่มน้ำกลับเข้าหม้อ ผมสาละวนอยู่พักหนึ่งจึงสำเร็จด้วยการถือหม้อข้าวที่มีข้าวสารและใส่น้ำพร้อมหุงแล้ว หันรีหันขวางก็เจอหม้อหุ้งข้าวผมตรงดิ่งไปเปิดฝาหม้อเตรียมหย่อนหมอข้าวลง แต่ต้องสะดุ้งเพราะเสียงหวานดังขึ้นข้างตัวแทรกความเงียบเข้ามา
“น้ำเยอะไป ทำแบบนี้ให้น้ำอยู่ระดับข้อนิ้วนี้พอไม่งั้นจะได้กินข้าวต้มแทนข้าวสวย และต้องเช็ดหม้อก่อนเดี๋ยวโดนไฟดูดเอา” คุณแม่ดาสอนผมว่าต้องใช้น้ำแค่ไหนในการหุงข้าวและต้องใช้ผ้าแห้งเช็ดก้นหม้อก่อนเอาลงหมอไฟฟ้า
ผมมองตามที่ท่านสอนและจำทุกอย่างไว้ ก่อนส่งยิ้มดีใจไปให้ท่านเมื่อได้กดปุ่มที่หม้อหุงข้าวแล้ว ท่านชะงักไปนิดเมื่อเห็นรอยยิ้มของผมแต่ก็รีบหันหลังให้ทันที ก่อนจะส่งชามและไข่ไก่สามฟองมาตรงหน้าให้ผมจัดการ ผมมองไข่ไก่บนโต๊ะอยู่พักนึงพลางนึกว่าเค้าตอกไข่กันยังไงไม่ให้แตกคามือ ก็ผมไม่เคยเข้าครัวนี่ครับแม้แต่รายการอาหารที่เค้าว่าง่ายอย่างไข่เจียวผมก็ไม่เคยทำเลย ‘เอาน่ะไม่ลองไม่รู้’ ขนาดเรื่องของแม็คกับผมยังออกมาดีเลยไม่ลองไม่รู้ว่าดีจริงๆครับ ไข่ไก่ใบแรกแตกคามือเมื่อผมใช้แรงตอกมากเกินไปจนต้องรีบหากระดาษมาเช็ดออก เหลือบมองเจ้าของไข่ไก่ท่านก็มองผมอยู่ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรท่านหันไปหั่นผักที่อยู่ตรงหน้าต่อ ผมจึงกลับมาสนใจกับการตอกไข่ต่อ ใบที่สองไข่ลงไปอยู่ในชามพร้อมเปลือกไข่ผมจึงต้องใช้ส้อมเขี่ยมันออก และตอกใบที่สามที่ดีกว่าเดิมเพราะมีเปลือกไข่นิดหน่อยที่ตกลงไปผมก็เขี่ยชิ้นเล็กนั้นออก ส่วนใบสุดท้ายถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยมือขาวของคุณแม่ ผมเอ่ยขอบคุณท่านอย่างเกร็งๆก่อนรับมาตอกไข่ลงชามและครั้งนี้มันประสบผลสำเร็จไข่ไก่สีส้มพร้อมวุ้นของไข่ขาวนั้นลงชามสมบูรณ์แบบไม่มีเปลือกไข่แถมลงไปเหมือนที่ผ่านมา
“ฮิๆๆ สำเร็จ เราก็เก่งเหมือนกันน้า” ผมเผลอหัวเราะอย่างดีใจเพราะลืมตัว นึกขึ้นได้ก็หันไปข้างตัวมองคุณแม่ที่เห็นท่านหันหน้าหนีผมทันที นี่ขนาดหน้าผมท่านยังไม่อยากมองเลยเหรอครับเนี่ย ‘เราต้องสู้ อย่าท้อ’ ผมได้แต่บอกตัวเองให้สู้ครับ ผมจัดการตีไข่ทั้งสามฟองด้วยส้อมจนขึ้นฟูและเดินเข้าหาคุณแม่ ท่านหันมามองไข่ในชามก่อนจะหั่นมะนาวและบีบลงไป ผมล่ะงงครับทำไมบ้านนี้เค้าชอบกินไข่เจียวรสเปรี้ยวกันเหรอครับถึงต้องบีบมะนาวลงไปด้วย หน้าตาผมคงบ่งบอกว่าสงสัยมากแน่ๆจนคุณแม่ต้องเอ่ยปากบอก
“ใส่มะนาวลงไป ตอนเจียวไข่ไข่เจียวจะฟูน่ากิน” พูดเสร็จท่านก็เดินไปตั้งกระทะเปิดไฟและเทน้ำมันลงไป ก่อนยื่น
ตะหลิวมาให้ผมถือ นี่หมายความว่าผมต้องเจียวไข่เองใช่มั้ยครับแล้วมันจะกินได้มั้ยอ่ะ
ผมรับตะหลิวมาอย่างไม่แน่ใจก่อนจะโดนท่านดันมาที่หน้าเตา และสั่งให้ผมค่อยๆเทไข่ไก่ที่ตีแล้วลงกระทะ มือผมสั่นแบบกล้าๆกลัวๆกลัวน้ำมันจะกระเด็นมาโดนมือ แต่ผมต้องหันไปมองเจ้าของมือนุ่มที่ยื่นมากุมทับมือผมไว้ และจับมือผมให้เทไข่ลงกระทะทำให้ผมไม่โดนน้ำมันกระเด็นใส่ ไข่ลงกระทะส่งกลิ่นหอมลอยฟุ้งกระตุ้นน้ำย่อยของผมชะมัดครับ ผมมองไข่เจียวสีเหลืองทองที่ฟูเต็มกระทะยิ้มๆ
“มัวแต่ยิ้มเดี๋ยวไข่ก็ไหม้หรอก ทำแบบนี้นะ” มือนุ่มข้างเดิมจับมือผมที่ถือตะหลิวไว้ให้พลิกไข่ในกระทะ สีเหลืองทองและกลิ่นหอมๆของไข่ทำเอาผมเผลอยิ้มกว้างอีกครั้ง ก่อนหันไปพูดกับคนที่อยู่ข้างกาย
“ทั้งหอมทั้งน่ากินจังเลยฮะ คุณแม่นี่เก่งจัง” ผมไม่ได้คิดประจบอะไรท่านนะครับก็แค่พูดตามสิ่งที่คิด และต้องตะลึงเมื่อเห็นท่านยิ้มสวยตาปิดมาให้ แต่เหมือนท่านเผลอตัวคุณแม่จึงหุบยิ้มทันทีที่เห็นผมจ้องตาโต ก่อนจะช่วยผมตักไข่เจียวใส่จาน
“ต่อไปจะทำผัดผักรวมมิตร เดี๋ยวแม่ทำเองคอยส่งเครื่องที่เตรียมไว้ให้ละกัน ดูตัวอย่างไปก่อนครั้งหน้าค่อยทำเอง” คุณแม่พูดกับผมอยู่หน้าเตาหลังผมเดินไปวางไข่เจียวไว้ที่โต๊ะแล้ว แต่ท้ายประโยคที่ท่านพูดก็ทำให้ผมดีใจจนต้องตอบรับเสียงดังด้วยรอยยิ้ม
“ฮะ” ผมมักลงท้ายคำพูดหรือรับคำกับผู้ใหญ่ด้วยคำนี้แทนคำว่าครับ เพราะรู้สึกว่าจะทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูตัวเองมากขึ้นก็ผมออกจะน่ารักนี่ครับ และดูท่าทางคุณแม่คงเริ่มใจอ่อนกับผมบ้างแล้วล่ะครับ จึงอยากอ้อนท่านอีกนิด
ผมยืนส่งผักที่มีน้ำมันหอย กระเทียม และพริกทุบนิดหน่อยอยู่ด้านบนพร้อมลงกระทะให้ท่าน เมื่อน้ำมันร้อนควันฉุยท่านก็เททั้งหมดลงกระทะเสียงฉ่าทำเอาผมผงะหนีนิดหน่อย ก่อนจะดูท่าทางกระฉับกระเฉงของคุณแม่ที่ไม่กลัวน้ำมันกระเด็นใส่ผัดผักในกระทะเพียงคู่ก็เรียกหาจานที่วางไว้จากผม อีกเมนูก็คือต้มจืดวุ้นเส้นหมูสับท่านก็ให้ผมตั้งหม้อใส่น้ำรอน้ำเดือดก็ส่งชามหมูสับที่ปรุงรสแล้วมาให้ ผมก็ใช้ช้อนตักหมูเต็มช้อนค่อยๆหย่อนลงไป แต่มันไมหลุดจากช้อนพยายามสลัดแต่ต้องชะงักกับเสียงห้ามซะก่อน
“เอ๊ะ เดี๋ยวนัท อย่าทำแบบนั้นลูกน้ำเดือดจะกระเด็นใส่มือ” มือนุ่มคว้ามือที่ผมจับช้อนไว้ได้ทันก่อนที่ไอ้หมูก้อนโตมันจะลงหม้อ ความตกใจทำให้ผมประมวลผลช้าไปหน่อย แต่พอได้รู้ว่าท่านพูดกับผมด้วยความเป็นห่วงก็ยิ้มหวานไปให้คุณแม่คนสวยทันที ท่านก็ยิ้มๆแกล้งมองผ่านไปครับ ผมรู้แล้วครับว่า ‘สิ่งดีที่ผมมี’ นั้นมันคืออะไร
“งั้นคุณแม่สอนนัทหน่อยนะฮะ นัทไม่เคยทำเลย” ผมส่งเสียงอ้อนพร้อมรอยยิ้มหวานไปให้ท่านทันที คราวนี้ท่านตกใจตาโตคงไม่นึกว่าผมจะกล้าคุยกับท่านด้วยรอยยิ้มแบบนี้ซินะครับ
เมื่อคุณแม่หายตะลึงก็หันมาสอนผมให้เอาช้อนจุ่มลงในน้ำเดือดก่อนใช้ปลายช้อนตักหมูสับในชามชิ้นไม่ใหญ่เอาแค่พอดีคำ และหมูสับก็ไม่ติดช้อนแล้วเพราะความร้อนจากน้ำเดือดหมูจึงล่อนลงหม้ออย่างสวยงาม หลังจากนั้นท่านก็ปล่อยให้ผมบรรจงตักหมูลงหม้อไปไม่ต่อว่าเรื่องชักช้า ผมรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องของท่านก็หันไปสบตาด้วยรอยยิ้ม คราวนี้คุณแม่คนสวยของผมก็ยิ้มกว้างตาปิดมาให้แบบไม่มีกั๊ก นี่ผมชนะใจท่านแล้วใช่มั้ยครับ
หลังจากการทำอาหารครั้งแรกของผมกับคุณแม่ดาแล้วก็ได้เวลาทานข้าว ทุกคนมานั่งที่โต๊ะที่ตั้งถัดออกมาจากส่วนปรุงอาหาร กับข้าวสามอย่างง่ายๆพร้อมข้าวสวยบนโต๊ะสำหรับผมมันน่ากินมากครับ ผมหันไปส่งยิ้มให้นายแม็คที่พอได้นั่งด้วยกันก็ยื่นมือมากุมมือผมใต้โต๊ะไว้แน่นเชียว แม็คก็ส่งรอยยิ้มกว้างตอบคืนกลับมา ผมจึงหันไปส่งยิ้มให้คุณพ่อกตก็พบว่าคราวนี้ท่านส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผมด้วยครับ ส่วนคุณแม่ดาคนสวยกลับนั่งหน้านิ่งอีกแล้ว ทำเอาผมงงเลยครับก็ตอนที่ทำอาหารด้วยกันท่านยังยิ้มให้ผมอยู่เลย ผมหน้าจ๋อยหันไปมองหน้าแม็คทันที มันก็กระชับมือผมแน่นและส่งยิ้มให้เหมือนเดิม
“อืม หน้าตาอาหารถือว่าผ่านนะ เรื่องรสชาติต้องอร่อยอยู่แล้วเพราะแม่เป็นคนปรุงเอง ผู้ช่วยที่ได้ไปแทบทำอะไรไม่เป็นเลย” เสียงนิ่งๆหน้าเรียบเฉยทำเอาผมอยากร้องไห้อีกแล้วครับ ทั้งหมดที่ผมทำไปไม่ได้ผลเลยเหรอครับเนี่ย
“แม่ครับ / ไม่เอาน่าคุณดาลูกจะร้องไห้อีกแล้วนะ เฮ้อออ เล่นอะไรเป็นเด็กเลย” เสียงแม็คดังขึ้นเรียกแม่ตัวเองอย่างตัดพ้อที่ดูก็รู้ว่าผมก้มหน้าเริ่มจะร้องไห้อีกแล้ว ส่วนคุณพ่อหน้าดุแต่ใจดีของผมก็ท้วงขึ้นเบาๆทำเอาผมต้องเงยหน้ามองท่านทั้งสองทันที น้ำตาที่จะไหลหยุดอย่างอัตโนมัติเลยครับ
“แหมคุณกตก็ แม่ก็แค่จะบอกว่าถ้านัททำครัวไม่เป็นแม่เต็มใจจะสอนให้เท่านั้นเองจ๊ะ ส่วนตาแม็คไม่ต้องทำหน้างอนแม่เลยนะ รู้มั้ยแม่โกรธแค่ไหนที่มีแฟนน่ารักๆแบบนี้แล้วไม่รีบพามาให้รู้จักเลย มัวแต่แอบคบกันได้ตั้งสองเดือนแน่ะ ดูสิแม่เหงาจะแย่ตั้งแต่มิคไม่อยู่ ถ้าได้หนูนัทมาเป็นสะใภ้แม่ถูกใจมากทั้งน่ารักทั้งขี้อ้อนแบบนี้นี่จ๊ะ แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็แค่ลงโทษเด็กดื้อสองคนเท่านั้นเอง ชิ” คุณแม่ยังสาวระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทั้งหมดด้วยอาการงอนแต่น่ารัก ส่วนคนที่ได้ฟังทั้งหมดกับมีแต่รอยยิ้มอยู่เต็มหน้า
ผมที่ได้ฟังสิ่งที่คุณแม่พูดแล้วอยากจะไชโยออกมาดังๆด้วยความดีใจที่คุณแม่ยอมรับเรื่องของผมกับแม็คแต่แรกแล้ว แต่สิ่งที่ท่านทำไปก็แค่บทลงโทษเท่านั้น ผมไม่โกรธท่านเลยครับและเลิกน้อยใจไปหมดแล้วด้วย ตอนนี้ทั้งคุณพ่อ แม็ค และผมต่างง้อผู้หญิงที่สวยที่สุดในบ้านกันใหญ่ ด้วยการตักอาหารให้และคอยเติมน้ำ ง้อด้วยคำพูดอ่อนหวานให้คนสวยหายงอนครับ และคนที่ไม่ได้งอนอะไรมากก็กลับมายิ้มกว้างตาปิดได้เหมือนเดิม
........................................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
คุณแม่ดาแกล้งร้ายแต่น่ารักแกล้งรับขวัญลูกสะใภ้แต่แรกเลยเนอะ
แต่ก็ดีที่หนูนัทไม่คิดจะเหวี่ยงตามนิสัย กลับอดทนและใช้เสน่ห์ที่มี
ทำให้คุณแม่และคุณพ่อยอมรับได้ในที่สุด
ตอนนี้เป็นบทพิสูจน์รักของแม็คนัทแบบเบาๆเนอะ อาจจะดูเรื่อยๆ
ไปหน่อยไม่ว่ากันนะคะ แหะๆ ส่วนตอนหน้าที่คิดไว้จะเป็นตอน
พิเศษสุดๆที่ท่านรอคอย 555 ขอเวลาพิมพ์ก่อนและจะแจ้งอีกทีค่ะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ^^

และ

ที่ติดตามกันค่ะ
ขอโปรโมทเรื่องใหม่คู่ธีภีมค่ะ "เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก"
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0ฝากติดตามคู่นี้ด้วยค่ะ >O<