รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับนายตาดุ9 แม็คร่างนุ่มนิ่มบนเตียงหลับตาพริ้มปากเริ่มระบายยิ้มน้อยๆหลังจากผมเช็ดตัวให้คงสบายตัวขึ้น ผมโล่งอกเริ่มสบายใจขึ้นที่เห็นเด็กดื้อของผมหลับสบายไปแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงคนเดียวกันนี้กลับทำให้ผมกระวนกระวายใจ เมื่อตื่นมากลางดึกพบว่านัทตัวรุมๆเหมือนมีไข้นอนกระสับกระส่ายอยู่ในอ้อมกอด ด้วยความทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจโทรหาพี่มิคกลางดึก และผมก็โดนดุไปตามระเบียบเมื่อพี่มิครู้ว่าผมเป็นต้นเหตุให้นัทไข้ขึ้น แต่ยังดีได้พี่ฟินมาช่วยชีวิตไว้และผมคงต้องยกตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้อีกตำแหน่งนอกจากตำแหน่งพี่เขย ก็พี่ท่านอธิบายมาซะละเอียดยิบว่าต้องทำอะไรบ้าง ตั้งแต่ตรวจดูร่องรอยที่ทำไว้ว่าฉกรรจ์ขนาดไหนถ้ามากต้องใช้ยาเหน็บแต่ดึกแล้วเอาไว้ก่อนพรุ่งนี้ก็ยังทัน ตามมาด้วยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดไข้ และจับกรอกยาทั้งแก้ไข้และแก้อักเสบ ซึ่งผมก็ทำตามจนครบทุกขั้นตอนแต่ดีหน่อยที่ช่องทางสีสวยไม่เสียหายมากนักแค่บวมแดง อดจะสงสารคนน่ารักไม่ได้ที่ต้องรองรับแม็คน้อยที่ไม่ได้น้อยสมชื่อของผมเข้า แต่ก่อนผมวางสายยังทันได้ยินเสียงพี่มิคโวยวายพี่ฟินใหญ่ว่ารู้ดี และพี่มิคคงเขินตัวแดงไปหมดแล้วมั้งครับแต่คงแกล้งเฉไฉต่อว่าพี่ฟินไปงั้นเอง คู่นี้เหมาะสมกันมากคนหนึ่งขี้อ้อนอีกคนก็ขี้เอาใจต่างมัดใจให้อีกฝ่ายไปไหนไม่รอด คงเหมือนคู่ผมที่คงทำให้มีใครอิจฉาได้บ้างไม่มากก็น้อย
ผิวแก้มใสปากแดงระเรื่อกว่าปกติทำให้เด็กดื้อของผมน่าฟัดกว่าเดิม จนผมอดใจไม่ไหวขโมยหอมแก้มเสียหนึ่งที ส่วนคนโดนขโมยก็ไม่รู้ตัวเพราะหลับลึกไปแล้ว แต่ก่อนผมก็รักเด็กดื้อของผมมากกว่าใครอยู่แล้วยิ่งมาตอนนี้ที่ผมกับนัทเราผูกพันทางกายกันลึกซึ้งซะขนาดนี้แล้วผมจะไปไหนรอด จะว่าผมติดใจผิวขาวเนียนละเอียดกรุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆของนัทก็ได้ อยากจะกอดทำรอบมากกว่านี้แต่ก็เห็นใจคนร่างบางที่ครั้งแรกต้องมาเจอศึกหนักกับแม็คที่ไม่น้อยของผมเข้าจึงข่มใจไว้ นี่แค่รอบเดียวไข้ยังพาลจะขึ้นเอาเลยครับ ต่อไปผมคงต้องฝึกปรือให้คนตัวเล็กชินกับผมมากขึ้นซะแล้วและคงต้องใช้ทฤษฎี ‘ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินไปเอง’ กับเค้าบ้างล่ะ ผมรวบร่างขาวเข้าแนบอกกดจูบที่กระหม่อมบางและเริ่มเคลิ้มหลับตาม
เช้ามาผมรีบลุกดูอาการคนในอ้อมกอดที่นอนขดตัวซุกหน้ากับอกผมเหมือนลูกแมวน้อยหาไออุ่น ในสายตาผมนัทช่างดูน่ารักซะจริงครับ ส่งมือลูบแตะหน้าผากเนียนก็โล่งอกที่อุณหภูมิปกติสงสัยเพราะยาดีจากพี่ฟินแน่ๆ จึงก้มจูบรับอรุณกับเด็กขี้เซาตัวขาว
“อื้อออ” เสียงขัดใจครางเล็ดลอดออกจากปากแดงน่ากัด มือขาวปัดไล่ใบหน้าผมออกเจ้าตัวเล็กคงรำคาญที่ผมไปขัดขวางการนอนของเค้าเข้า ผมจึงปล่อยให้นัทได้นอนสบายบนเตียงต่อไป
ส่วนตัวเองก็ลุกขึ้นมาเคลียร์เสื้อผ้าที่ทิ้งเกลื่อนกลาดบนพื้น เมื่อคืนอะไรที่ขัดขวางความสุขโดนผมโยนทิ้งกระจายอย่างไม่ไยดีทั้งนั้นแหละครับ จนมาสะดุดกับโทรศัพท์สีขาวเครื่องบางของคนขี้เซาที่กำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้ผมตกใจ ‘พี่ลูกพีช’ เป็นพี่สาวคนที่สองของนัทเองครับ ผมยังไม่เคยเห็นหน้าเคยแต่ฟังนัทเล่าว่านัทเป็นลูกคนเล็กมีพี่สองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อ ‘พี่กล้า’ แต่งงานแล้วและพี่สะใภ้ก็กำลังอุ้มท้องหลานตัวน้อยอยู่ พี่กล้าอายุห่างจากนัทมากทำให้ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่พี่ชายก็รักนัทมากมีอะไรก็จะคิดถึงนัทน้องคนเล็กก่อนใครเหมือนนัทเป็นลูกพี่กล้าก็ว่าได้ครับ ส่วนคนรองก็คือ ‘พี่ลูกพีช’ พี่สาวที่อายุห่างจากนัทเกือบห้าปี แต่นัทก็สนิทกับพี่ลูกพีชมากมีอะไรก็จะเล่าให้พี่สาวคนนี้รับรู้ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันที่สุดแล้ว เพราะพ่อแม่มีนัทตอนอายุเยอะแล้วเหมือนเป็นลูกหลง ท่านทั้งคู่ที่มีวัยห่างจากนัทมากไม่แปลกที่นัทจะสนิทกับพี่ลูกพีชกว่าใครในครอบครัว และเรื่องของผมนั้นนัทก็ไม่พลาดที่จะเล่าให้พี่ลูกพีชฟัง นัทยังเคยมาพูดกับผมเลยว่าพี่ลูกพีชอยากเจอแต่เป็นตัวนัทเองที่ยังไม่อยากพาผมไปพบ เพราะตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่าเราจะคบกันได้นานขนาดไหน
เครื่องหยุดสั่นแล้วสายคงถูกตัดไปเพราะผมมัวแต่ลังเลไม่แน่ใจว่าจะรับดีมั้ย และจากประวัติการโทรก็ยิ่งทำผมตกใจเพราะมีสายเข้ากว่าสามสิบสายเวลาที่โทรก็ตั้งแต่เมื่อคืน ผมลืมเรื่องที่ต้องโทรบอกทางบ้านเด็กดื้อไปเลยครับว่าขโมยลูกเค้ามานอนค้าง แถมไม่ได้ค้างอย่างเดียวซะด้วยสิงานนี้ผมจะเจออะไรบ้างครับเนี่ยไม่อยากจะคิดเลย โทรศัพท์สั่นอีกแล้วคราวนี้ผมตัดสินใจกดรับสาย
“นัทอยู่ที่ไหน ทำไมเพิ่งรับสายพี่แล้วเป็นอะไรรึเปล่า รู้มั้ยพี่ต้องโกหกพ่อกับแม่ว่านัทไปค้างกับเพื่อน นัทๆ” เอาล่ะสิครับงานนี้งานช้างเห็นๆ ทำพี่สาวนัทเป็นห่วงขนาดนี้ผมจะผ่านด่านพี่ลูกพีชได้ยังไง เริ่มแรกก็ไม่ประทับใจซะแล้ว
“เอ่อ คือ ผมแม็คเองครับพี่ลูกพีช” ตัดสินใจเอ่ยปากก่อนที่พี่ลูกพีชจะโมโหไปมากว่านี้ และเสียงพี่ลูกพีชก็เงียบไปนานจนผมเริ่มใจไม่ดี
“นัทอยู่กับผมครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้โทรไปบอก ขอโทษครับ” พยายามเอ่ยเสียงจริงใจที่สุดกับพี่ลูกพีชเผื่อโทษจะเบาบางลงบ้าง แต่ปลายสายก็ยังไม่มีสัญญาณตอบสนอง จนกระทั่งผมตัดสินใจเรียกชื่อพี่ลูกพีชอีกครั้ง และครั้งนี้ได้ผลพี่ลูกพีช ยอมคุยกับผมแล้ว
“แม็คแฟนนัทใช่มั้ย” เสียงหวานนิ่งเรียบจนผมหวั่นใจเดาทางไม่ถูก ก่อนเอ่ยปากรับคำและได้ยินเสียงถอนใจยาวจากอีกฝั่ง
“แล้วนัทไปไหนทำไมแม็คถึงรับแทน” เอาล่ะสิครับงานนี้คงต้องบอกตรงๆแล้วอะไรจะเกิดคงต้องเกิด
“น้องกำลังหลับอยู่ครับ เมื่อคืนมีไข้นิดหน่อยผมเลยยังไม่อยากปลุก” ผมรอฟังว่าพี่ลูกพีชจะว่ายังไงและจะตีความไปถึงไหนจะสงสัยมั้ยว่าทำไมนัทถึงมีไข้ ความคิดผมตีกันอยู่ในหัวกังวลว่าถ้าพี่ลูกพีชรู้จะมาต่อว่าน้องชายตัวเอง อาจถึงขั้นสั่งแยกผมกับนัทก็ได้
“ถ้านัทตื่นแล้วให้พากลับบ้านด้วยพี่จะรอ” พูดจบพี่ลูกพีชก็กดวางสายไปเลย สงสัยจะทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงนัทมากล่ะครับก็เล่นหายไปทั้งคืนและไม่ติดต่อกลับบ้านอีก วันนี้ผมคงต้องเข้าบ้านนัทเพื่อไปแสดงตัวและขอฝากตัวเป็นเขยอย่างเป็นทางการแล้วล่ะครับ
ผมหันหน้าไปมองคนขี้เซาที่ยังหลับไม่รู้เรื่องและให้สัญญากับตัวเองในใจว่าจะทำทุกทางให้มีกันและกันอยู่แบบนี้ ลงไปด้านล่างก็เจอโน้ตจากคุณแม่ว่าออกไปสมาคมกล้วยไม้กับคุณพ่อแล้ว ดูบนโต๊ะอาหารก็มีข้าวต้มทะเลหม้อใหญ่ควันกรุ่นวางอยู่แสดงว่าท่านทั้งสองเพิ่งออกไป ผมจึงตักใส่ชามสองใบเตรียมน้ำดื่มและถือขึ้นห้อง
“นัทครับเป็นยังไงบ้าง ตาแป๋วแบบนี้แสดงว่าตื่นนานแล้วสิ” เข้ามาก็เจอเด็กดื้อแก้มแดงมองตรงมาทางผมที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ก่อนหลบตาวูบเมื่อผมทักออกไป ‘ทำไมทำตัวน่ารักได้มากขนาดนี้นะ’ ผมวางทุกอย่างลงบนพื้นและนั่งลงกับพื้นข้างเตียงทำให้สายตาเราอยู่ระดับเดียวกัน ส่งยิ้มให้คนขี้อายที่ยังไม่ยอมพูดอะไรออกมาก่อนลูบแก้มแดงแผ่วเบา และผมก็ได้ยิ้มหวานทั้งปากทั้งตากลับมา ก้มจูบปากแดงเสียหนึ่งทีโทษฐานที่ยังไม่ยอมพูด
“ฮึๆ มาครับมาทานข้าวกัน อย่าเพิ่งงอนแม็ค” คนขี้อายเปลี่ยนเป็นคนขี้งอนหน้าบึ้งไปซะแล้ว แถมเอาหน้าซุกลงกับหมอนอีกต่างหาก ผมจึงแกล้งก้มกระซิบชิดใบหูแดงซะเลย
“อยากให้แม็คกินนัทแทนข้าวเช้าก็ไม่บอกกันดีๆ มามะ ฮึๆ” ได้ผลครับนัทหันหน้ามาทางผมและใช้มือดันจนหน้าหงาย
“ไอ้แม็คหื่น คิกๆๆ นัทจะกินข้าวแล้ว ช่วยหน่อยสิ” ถูกใจเค้าล่ะครับได้แกล้งผมคืนเนี่ย ยังมีการมาอ้อนชูมือให้อุ้มอีกเดี๋ยวก็จับกินก่อนกินข้าวเช้าซะเลย ผมเข้าประคองคนตัวเล็กให้ลุกนั่งพิงหัวเตียง และลูบผมยุ่งให้เข้าที่ก่อนขโมยหอมแก้มใสอีกที น้องนัทผู้มาดมั่นไม่มีแล้วครับเหลือแต่น้องนัทเด็กขี้อายแก้มแดงอยู่บนเตียง
“ไม่เอานัทกินเอง ไม่ต้องป้อน และก็เลิกส่งสายตาแบบนั้นได้แล้ว” มือขาวเอื้อมมาคว้าชามข้าวต้มไปกินเองและส่งค้อนมาให้ผมวงใหญ่ นี่คงเป็นอาการแก้เขินของเด็กดื้อเค้าล่ะครับ ผมเพียงแค่ส่งสายตาล้อเลียนให้นิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองไม่คิดว่านัทจะเขินขนาดนี้ ทำให้ผมนึกถึงนัทในวันแรกที่เจอกันไม่ออกเลยช่างต่างกันลิบลับ แต่ถึงยังไงผมก็ชอบทุกอย่างที่เป็นเด็กดื้อเพราะถ้าเราไม่ได้เจอกันในสภาพนั้นผมก็คงไม่คิดจะสนใจนัทอยู่แล้วครับ
เช้านี้นัทพูดน้อยกว่าปกติเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน พอผมเผลอเจ้าตัวดีก็แอบมองแต่พอผมมองกลับก็หลบสายตา นี่คงเพราะเรื่องเมื่อคืนแน่ๆที่เปลี่ยนเด็กดื้อของผมเป็นคนขี้อายไปได้ ผมวางชามลงบนพื้นและก้มหน้าชิดหน้าหวานโดยที่นัทไม่ทันรู้ตัว จังหวะที่นัทเงยหน้าขึ้นทำให้จมูกเราชนกันผมจึงถือโอกาสประกบจูบปากแดงซะเลย ไหนๆนัทก็อายแล้วเอาให้อายผมสุดๆไปเลยละกัน ไล่ต้อนลิ้นนิ่มจนเจอขณะที่เจ้าของไม่ทันระวังตัว เกี่ยวกระหวัดดูดกลืนจนลิ้นเล็กโต้ตอบ จูบหวานๆในโพรงปากอุ่นและผิวเนียนๆของแผ่นหลังของคนรักทำให้เพลินจนไม่รู้ว่ามีคนกำลังมาหน้าห้องจนกระทั่ง
“ผลัวะ อ๊ะ” เสียงเปิดประตูอย่างแรงและเสียงอุทานตกใจทำให้นัทผลักผมออก ตาหวานเบิกกว้างปากเจ่อเหวอค้างและหน้าขึ้นสีฉับพลัน
ผมหันหลังไปมองคนขัดจังหวะความหวาน ก็เจอพี่มิคของผมยืนหน้าแดงแปร๊ดตกใจตาโตไม่ต่างจากนัท ตอนนี้นัทเอาหน้าซุกอกและเกาะชายเสื้อของผมไว้แน่นด้วยอายจัด ผมจึงรวบร่างบางเข้ามาไว้กับตัว ส่วนพี่ฟินที่ยืนด้านหลังพี่มิคก็ส่ายหน้ายิ้มน้อยๆมาให้ ผมจึงเก๊กหน้านิ่งให้พี่ทั้งสองคนก่อนกระชับกอดร่างเล็กและก้มจูบผมนิ่มเป็นการปลอบโยน
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” คนขี้อายเงยหน้าสบตาน้ำตาคลอเม้มปากแน่นก่อนชะโงกตัวไปมองด้านหลังผม และรีบหดตัวกลับมาซุกอกดังเดิม ฮึม! ถ้าอยู่กันสองคนนี่ผมกดเด็กขี้อายแล้วนะครับเนี่ย
“พี่มิคพี่ฟินมาอ่ะ เพราะแม็คเลย” พูดจบก็ทุบเข้าที่อกผมดังตุ้บเล่นเอาจุกไปเหมือนกัน แต่ผมยังไม่ทันพูดอะไรที่นอนข้างตัวก็ยวบลง หันไปมองก็เจอพี่มิคส่งสายตาเขียวปั้ดมาให้ เด็กดื้อที่มองตามถึงกับสะดุ้งซุกหน้าเข้าหาผมอีกรอบ
“แม็ค! ทำไมทำกับน้องแบบนี้ ดีนะที่เป็นพี่ไม่ใช่พ่อหรือแม่มาเจอ แม็คจะโดนไม่น้อยเลยนะ พี่พูดด้วยยังทำหน้านิ่งอีก นี่แม็ค” มาเป็นชุดเลยครับพี่มิคผู้ใจดีของผมหายไปไหนแล้ว ถึงหน้าตาพี่ผมจะยังน่ารักเหมือนเดิมแต่ด้วยน้ำเสียงและแวว
ตาดุที่ใช้นั้น ผมไม่ได้เจอกับตัวมานานแล้วอดจะเกรงพี่มิคไม่ได้จริงๆครับ แต่ยังฝืนทำหน้านิ่งหลบตาดุแทน
“มิคครับ พอแล้วครับ ดูสิน้องนัทกลัวพี่มิคแล้วน้า ไม่สงสารน้องเหรอ” เสียงนุ่มเหมือนดังระฆังช่วยชีวิตจากพี่เขยทำให้ผมรอดตัว พี่มิคชะงักและส่งยิ้มแหยให้พี่ฟินก่อนหันกลับมามองผมและนัทอีกครั้ง
“เออ น้องนัท พี่มิคเสียงดังไปหน่อยพี่โมโหเจ้าแม็คคนเดียวไม่เกี่ยวกับน้องนัทน้า” เสียงหวานกลับมาแล้วครับ แต่พอผมส่งยิ้มให้ก็โดนถลึงตาใส่อย่างคาดโทษทำเอาหดคอหนีแทบไม่ทันเชียว แต่เสียงหวานๆก็ทำให้นัทเงยหน้าจากอกผมและส่งยิ้มแหยให้พี่ทั้งสองคนก่อนยกมือไหว้ พี่มิคยิ้มหวานตาปิดให้นัททันที ‘สองมาตรฐานชัดๆ’ ได้แต่คิดครับไม่กล้าพูด พี่มิคเวอร์ชั่นโหดผมไม่อยากแหยมเดี๋ยวยาวครับ ไม่ใช่อะไรเห็นแบบนี้พี่ผมง้อยากจะตายปล่อยให้พี่ฟินง้อไปคนเดียวดีกว่า เพราะผมมีคนที่ต้องง้อเป็นของตัวเองแล้ว
หลังจากนั้นผมก็โดนพี่มิคไล่ออกมาจากห้อง ใจจริงไม่อยากทิ้งนัทออกมาหรอกครับเป็นห่วงกลัวนัทลำบากใจ แต่นัทก็ส่งยิ้มกว้างและพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่าอยากตามใจพี่มิค ผมจึงโดนพี่ฟินลากออกมานอกห้องจนต้องมานั่งเผชิญหน้ากันสองคนข้างล่าง ไอ้พี่ฟินมันมองผมยิ้มๆด้วยสายตาเข้าอกเข้าใจ
“ฮึๆ มิคเป็นห่วงเราสองคนมาก ให้พี่พากลับบ้านแต่เช้า มาถึงเจอช็อตเด็ดอีกเลยเป็นอย่างที่เห็น” ผมก็ได้แต่พยักหน้าให้ไปเพราะเข้าใจว่าพี่มิครู้สึกยังไง ก็ผมเล่นโทรหากลางดึกแบบนั้นพี่มิคคงต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา
“เฮ้อออ ผมเข้าใจและต้องขอบคุณพี่ด้วยสำหรับเรื่องเมื่อคืน” ผมระบายยิ้มที่นานๆจะมีให้พี่เขยคนนี้สักที พี่ฟินพยักหน้าให้และตบบ่าก่อนบีบไหล่เบาๆแสดงอาการรับรู้ ผมจ้องตาพี่ฟินก็เจอแต่ความจริงใจและความหวังดีส่งมาให้จึงตัดสินใจปรึกษาพี่แกซะเลยครับ
“ผมมีเรื่องปรึกษา” หลังผมเอ่ยปากพี่ฟินก็เลิกคิ้วมองก่อนพยักหน้าให้เริ่ม ผมจึงเล่าเรื่องเมื่อเช้าที่พี่ลูกพีชโทรมาให้พี่ฟินฟังทั้งหมด ด้วยหวังว่าคนที่มีประสบการณ์แบบพี่แกน่าจะช่วยผมหาทางเข้าหาพี่ลูกพีชได้ เมื่อผมเล่าจบไอ้พี่เขยก็หัวเราะในคอได้กวนตีนมาก นี่ผมยังถือว่าเป็นพี่เขยนะครับไม่งั้นมีหวังผมต่อยให้ร่วงไปแล้ว
“ฮึๆ ตอนพี่จะเข้าบ้านแม็คครั้งแรกพี่ก็ไม่ต่างจากแม็คตอนนี้หรอก กังวลใช่มั้ยล่ะ ฮึๆ กลัวว่าครอบครัวของคนที่เรารักจะกีดกันด้วย พี่แนะนำเราได้อย่างเดียวคือใช้ความ ‘จริงใจ’ เข้าสู้ ไม่ว่าคนในครอบครัวน้องนัทจะว่ายังไง แม็คต้องแสดงให้เห็นว่าแม็คจริงใจและรักน้องนัทแค่ไหน ถึงแม้วันนี้ไม่เห็นแต่ต้องเห็นในสักวันนั่นแหละ แต่แม็คอย่าท้อซะก่อนล่ะ เข้าใจมั้ยไอ้น้องชาย” แรงตบบ่าให้กำลังใจจากพี่ฟินพร้อมรอยยิ้มจริงใจทำให้ผมยิ้มกว้างส่งคืนกลับไป ด้วยตอนนี้ผมมีกำลังใจขึ้นมากที่จะเข้าไปพบพี่ลูกพีชหรือแม้แต่คนในครอบครัวนัทคนไหนๆก็ตาม ผมไม่หวั่นแล้วครับเพราะผมถือว่าผมจริงใจและรักเด็กดื้อของผมจริงๆ
เรานั่งคุยกันอีกพักหนึ่งพี่มิคก็จูงนัทที่อาบน้ำแล้วและใส่เสื้อผ้าของพี่มิคลงมา ดูเผินๆเหมือนคู่แฝดเลยครับด้วยขนาดตัวและผิวขาวผ่องเหมือนกัน ผมกับพี่ฟินก็เดินไปรับคนของตัวเองที่หน้าบันได นัทส่งยิ้มหวานมาให้ผมก่อนผมจะจูงข้อมือเล็กพามานั่งที่โซฟา และผมก็โดนพี่มิคลากเข้าห้องครัวตามด้วยการบ่นอบรมผมอีกชุดใหญ่ จบด้วยประโยคที่ว่า
“ต่อไปต้องดูแลน้องนัทให้ดีๆ ให้ความรักความหวังน้องไปแล้วอย่าทำให้น้องเสียใจ เข้าใจมั้ยแม็ค” นี่ไงครับพี่ชายผู้น่ารักของผมที่สุดท้ายก็รักและเข้าใจน้องชายคนนี้เสมอ ผมจึงรับคำก่อนยกมือไหว้พี่มิคคนน่ารักและสวมกอดจนแน่น และต้องรีบปล่อยเพราะเจ้าของตัวจริงเดินเข้ามาโวยวาย ก่อนดึงพี่มิคเข้าไปรวบกอดไว้ซะเอง
“นี่คนรักของพี่ ส่วนของนายนั่งรออยู่โน่น ชะเง้อคอหาเป็นห่วงแย่แล้ว ไปไป๊” ไอ้พี่เขยมีการโบกมือไล่ผมด้วยพี่มิคที่อยู่ในอ้อมกอดก็ได้แต่ส่ายหน้าแต่แววตาระยับอย่างมีความสุข
ผมจึงส่งยิ้มให้พี่ชายของผมทั้งสองคนก่อนเดินไปหาเด็กดื้อผู้น่ารักที่นั่งรอตัวผ่องอยู่หน้าทีวี และผมสัญญาว่าจะต้องทำทุกวิถีทางให้รอยยิ้มหวานตรงหน้านี้ยังคงอยู่และส่งมาให้ผมคนนี้ตลอดไป
.........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
ตอนนี้แม็คอ่อนโยนจนลืมภาพไอ้ดุไปเลย ส่วนหนูนัทก็น่ารักซะ
ลืมหนูนัทจอมวีนไปเหมือนกันใช่ม้า หวานๆเบาๆ เนอะ ^^
และพาพี่มิคกับน้องฟินมาให้คนที่คิดถึงทั้งคู่ให้หายคิดถึงกันได้บ้างเนอะ
ตอนหน้าต้องมาเอาใจช่วยแม็คเข้าบ้านหาพี่ลูกพีชกันด้วยนะคะ
ท่าทางจะงานหินอ่ะ น่าจะมาอาทิตย์หน้าเหมือนเดิมค่ะ จะพยายาม
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์เหมือนเดิมค่ะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ^^
![:pig4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kapook_36568.1.gif)
ฝากข่าวเผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้มีเรื่องใหม่ของตี๋ธีและหมอภีมแล้วนะคะ ตามอ่านกันได้จ้าใน
เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก >O<http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0