รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับยานตาดุ6แม็ค“นัทกำลังเข้าใจผิดอยู่รู้มั้ย”
ไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดคนในอ้อมกอดเค้าจะรับรู้มันรึเปล่าเพราะมัวแต่ร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน หรืออาจจะได้ยินแต่ไม่อยากรับรู้ก็เป็นได้ ผมจึงกอดปลอบเด็กดื้อตัวแสบไว้เต็มอ้อมแขนและโยกตัวเบาๆให้คลายอาการสะอื้นไห้ อยากให้นัทอารมณ์เย็นลงแล้วมาฟังเรื่องที่ผมจะพูดมากกว่าต้องคุยกันด้วยอารมณ์ไม่ปกติแบบนี้ ผมเพิ่งเคยเห็นนัทร้องไห้หนักน้ำตาไหลพรากแบบนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เราคบกันมาถ้านัทไม่พอใจก็แค่โวยวายเสียงดังแบบเด็กไม่ได้ดั่งใจแต่ไม่เคยร้องไห้แบบนี้มาก่อนเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าคนมั่นใจในตัวเองอย่างนัทจะร้องไห้ได้มากขนาดนี้ และสาเหตุมันก็เกิดมาจากผมด้วยยิ่งทำให้รู้สึกผิดและอดใจหายไม่ได้กับหน้าแดงๆ ตาบวมเป่ง ปากซีดเม้มแน่นอย่างคนพยายามกลั้นเสียงสะอื้น คิ้วขมวดชนกันมุ่นไปหมด
“หยุดร้องก่อนนะครับ ตาบวมไม่น่ารักแล้ว” ผมส่งยิ้มให้เด็กดื้อและยื่นมือไปลูบไล้แก้มเนียนเพื่อเช็ดคราบน้ำตา และคลายหัวคิ้วที่ขมวดยุ่งออก
“ใครสน ฮึกๆ ใครใช้ให้มารักล่ะ ฮึก ไปเลยไปรักคนที่เค้า ฮือออ น่ารักซิ ฮือออ” คนปากเก่งพูดไปร้องไห้ไป
ผมก็ทั้งสงสารทั้งหมั่นเขี้ยวกับเจ้าของปากซีดสั่นที่ขยับไม่หยุดเพื่อไล่ผมไปกับคนอื่น จึงก้มปิดปากช่างต่อว่านั่นซะเลยไม่อยากได้ยินว่าไล่กันอยู่แบบนี้ เพราะผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจะอยู่กับเด็กดื้อตัวแสบคนนี้นี่แหละ ผมตั้งใจกระแทกปากเราเข้าด้วยกันและดูดริมฝีปากล่างของเด็กดื้อแรงๆให้เจ้าของหยุดพูดถ้อยคำที่ไม่อยากได้ยิน และดูเหมือนว่าจะทำให้นัทดิ้นรนพยายามผลักผมออก ผมจึงฉวยโอกาสฉกลิ้นเข้าปากหวานของคนที่จะตะโกนต่อว่า เอาลิ้นไปควานหาลิ้นนุ่มจนเจอก่อนจะดูดแรงๆและค่อยคลึงเคล้าให้เจ้าของเคลิบเคลิ้มและหยุดพยศ ความหวานจากรสจูบของเด็กแสบทำเอาผมหลงวนเฝ้าจูบดูดกลืนลิ้นนิ่มอยู่นาน แต่ต้องผละออกเพราะแรงทุบหลังจากมือเล็กๆของเจ้าของปากเจ่อๆตรงหน้าที่กำลังจะหมดลมหายใจ ให้ได้มีโอกาสสูดอากาศเข้าปอดอยู่ตอนนี้ ผมลูบไล้เรียวปากแดงชื้นไปมาอย่างเผลอตัวเพราะยังนึกถึงจูบหวานๆที่จำใจผละออก
“นัท” ผมเรียกชื่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดและเชยคางขึ้นเพื่อสบตา
แววตาที่เคยมีแต่ความมั่นใจปนดื้อดึงอยู่เป็นนิจนั้น ตอนนี้มีแต่แววตัดพ้อเสียใจอยู่แทนที่ ผมเห็นแล้วก็ใจหายจนต้องก้มจูบที่เปลือกตาคู่นี้เพื่อต้องการลบรอยนั้นออกให้หมด ก่อนประคองใบหน้าหวานไว้ทั้งสองมือ
“อย่าไล่กันง่ายๆอีก แม็คไม่ได้รักคนน่ารักคนไหนเลย มีแต่คนนี้ เด็กดื้อคนนี้ต่างหากที่แม็ครัก” สายตาเศร้าหมองเปลี่ยนเป็นตกตะลึงฉับพลันหลังที่ได้ฟังคำรัก แต่พักเดียวก็มีแววไม่เชื่อถือฉายชัดออกมา
“วันนี้แม็คโดนเฮียเรียกตัวออกมาจริงๆ แต่พอมาถึงก็เจอเฮียกับอาซ้อ แฟนเฮียน่ะ อืม และก็ขิมน้องสาวซ้อก็มาด้วย เฮียมาแอบกระซิบกับแม็คว่าที่ให้มาเจอวันนี้เพราะอยากให้ช่วยเดินเป็นเพื่อนขิมเพื่อเลือกของขวัญวันเกิดให้อาซ้อหน่อย ระหว่างนั้นเฮียจะพาแฟนเข้าไปดูหนัง อยากให้แม็คกับขิมไปกันสองคนและเก็บของขวัญไว้เซอร์ไพรส์แฟนเฮียเค้าน่ะ ทีนี้แม็คเลยต้องเดินกับขิมสองคนก็เท่านั้น”
“ฮึ ก็เท่านั้นเหรอ นัทเห็นแม็คยิ้มให้นังนั่นด้วยทั้งๆที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงที่ไหน แถมตอนเดินก็แทบจะประคองทำไมไม่กอดกันเลยล่ะ ฮ้า ไม่ต้องมายิ้มเลย และไอ้ที่จูบกันในร้านนาฬิกานั่นอีกล่ะ ฮึก ฮือออ ใครจะทนไหวกัน”
คนเก่งพูดต่อว่าเสียงดังตาวาวอยู่ไม่เท่าไหร่ก็ปล่อยโฮออกมาอีก ผมจึงได้แต่เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายให้และกอดปลอบกันอีกรอบ จนเด็กแสบหยุดร้องไห้จึงมีโอกาสอธิบายกันต่อ
“แสดงว่าเห็นแต่แรกเลยซิเรา ไม่เอาครับไม่ร้องแล้วนะ ขิมกับแม็คเคยเจอกันมาก่อนสนิทกันเหมือนพี่น้อง แม็คไม่ได้คิดอะไรด้วยเลยจริงๆ ส่วนที่ว่าจูบน่ะนัทคงเข้าใจผิดแล้วความจริงมันไม่มีเลยนะ อาจจะเป็นมุมที่นัทเห็นก็ได้ที่ทำให้เห็นไปแบบนั้น แต่แม็คยืนยันว่าไม่มีจริงๆครับ”
นัทมองมาตาไม่กระพริบจ้องจับผิดผมก็ได้แต่ส่งยิ้มจริงใจไปให้ มันไม่มีอะไรจริงๆผมไม่ได้จูบกับขิมนะครับ แต่ยอมรับว่าในร้านเราใกล้ชิดกันมากและผมก็ไม่ได้ระวังตัวว่าความใกล้ชิดระหว่างผมกับขิมนั้นนัทจะมาเห็นและเข้าใจผิดแบบนี้
“แม็คไม่คิด แต่ยัยเด็กขิมนั่นคิดแน่ๆเหอะ มองตาก็รู้แล้ว” คนขี้แงเปลี่ยนมาเป็นขี้งอนแทนแล้วครับ
ผมมองเด็กขี้งอนคิ้วขมวดปากยื่นอย่างโล่งใจ ดูท่าทางนัทจะเริ่มเข้าใจผมขึ้นบ้างแล้ว แต่คงยังไม่เชื่อใจผมทั้งหมดแน่ๆ สายตาตวัดค้อนมองเมินไปหน้ารถยังไม่ยอมมองหน้าผมเลยครับ อดไม่ได้ต้องเอามือลูบผมนิ่มเบาๆและโยกหัวทุยไปมา
“นัทมองแค่แม็คตัดสินที่ตัวแม็คได้มั้ย คนอื่นจะคิดยังไงกับแม็คอย่าไปสนใจ ขอแค่ให้นัทรู้ว่าแม็คไม่เคยจริงจังกับใครเท่าคนนี้ เด็กดื้อตัวแสบที่นั่งข้างกันนี่ต่างหากที่ทำให้แม็คไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ ‘คนนี้เท่านั้น’ เชื่อกันได้มั้ย”
ผมจ้องสบตานัทที่หันมามองผมตั้งแต่คำว่า ‘เด็กดื้อ’ ที่ผมเอ่ย สายตาของนัทที่มีแววดื้อดึงไม่เชื่อเริ่มอ่อนลง และเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง แต่ในดวงตาคู่นี้ก็มีแววเชื่อใจกลับคืนมา ก่อนที่เจ้าตัวดีจะโผมาซบอกผมเองและกอดรอบคอไว้แน่น
“แม็ครู้มั้ย นัทเสียใจแค่ไหนที่รู้ว่าแม็คโกหกนัทและออกมากับคนอื่นอ่ะ นึกว่าเบื่อกันซะแล้ว”
เสียงแผ่วอย่างคนไม่มั่นใจดังขึ้นที่ซอกคอ ผมพยายามดันตัวนัทออกเพื่อมองหน้า แต่เจ้าตัวไม่ยอมกลับกอดคอผมไว้แน่นผมจึงต้องปล่อยให้เด็กขี้แงเค้าได้อยู่ในท่าที่ต้องการ ได้แต่ลูบผมลูบหลังปลอบใจ
“แล้วใครกันที่บอกเลิกและยกแม็คให้คนอื่นน่ะ หืม” ผมล่ะอดแหย่คนในอ้อมกอดไม่ได้ และเพราะตอนที่โดนพูดใส่หน้าผมก็ใจหายอยู่เหมือนกันนะครับ เลยอยากจะรู้ว่าเด็กดื้อมันคิดยังไงถึงยอมยกผมให้คนอื่นง่ายๆแบบนั้น
“ก็ถ้าเบื่อกันแล้ว นัทก็ไม่อยากฝืนใจใครหรอก ใครอยากได้ก็เอาไปเลยและนัทก็ตั้งใจจะหาคนใหม่ให้ดีกว่าแม็คด้วย โอ้ยยย อ๊อก อา ออด แอ่น อิ (อย่ากอดแน่นซิ) ปล่อยยย แฮ่กๆ” ผมได้ฟังความคิดของไอ้เด็กแสบก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เลยออกแรงรัดตัวรัดคอเป็นการลงโทษ ข้อหาคิดจะหาผู้ชายคนอื่นมาแทนที่ผม เจ้าตัวแสบหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่หลังจากขาดอากาศจากแรงรัดของผม
“ใครจะยอมปล่อย ‘คนที่รัก’ ไปง่ายๆกัน หึ” จบคำผมคนที่ผมเอ่ยว่าเป็น ‘คนที่รัก’ ก็เงยหน้ามาจ้องตาแป๋ว ใบหน้าค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นสีแต่ยังส่งยิ้มสู้สายตามาให้ผมอยู่ได้
“หลงรักเค้าแล้วล่ะซิ รู้ป่ะคืนแรกที่แม็คโทรมาให้ลองคบดูน่ะ นัทตั้งใจว่าจะทำให้หลงแล้วเขี่ยทิ้งซะเลย โทษฐานทำตัวน่าหมั่นไส้ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งโมโห หน้าบึ้งหมดหล่อแล้วน้า แต่รู้ป่ะตอนนี้พอได้ฟังแล้วนัทเปลี่ยนใจแล้ว และให้จำไว้ว่าวันนี้แม็คเป็นคนบอกรักนัทก่อน ไม่มีสิทธิ์มาบอกเลิกนัททีหลังด้วย เพราะนัทเท่านั้นที่มีสิทธิ์บอกเลิกแม็ค แต่จะไม่มีวันนั้นถ้าแม็คไม่ทำให้นัทเสียใจ เข้าใจมั้ย แม็คคคค ยิ้มอยู่ได้เป็นอะไรมากป่ะเนี่ย”
ถ้าผมยิ้มได้กว้างกว่านี้ผมก็จะฉีกยิ้มให้มากกว่านี้ครับ เพราะไอ้ประโยคยาวๆที่ออกมาจากปากแดงๆนั่นมันไม่ผิดจากคำสารภาพรัก แต่มันเป็นคำรักในแบบฉบับของเด็กดื้อปากแข็งคนน่ารักของผมคนนี้
“ก็ยิ้มให้คนรักอยู่ไงครับ แม็คยืนยันกับนัทเลยว่าจะไม่ได้ยินคำว่าเลิกจากปากแม็คก่อนแน่ๆ ก็เหลือแต่นัทนั่นแหละอย่าใจร้ายกับแม็คบอกเลิกกันก็แล้วกัน ฮึๆๆ”
“ไม่มีวันซะล่ะ คิกๆ” นัทสะบัดหน้าหนีแบบหยิ่งๆก่อนจะหัวเราะคิกคักให้ได้ยิน
ผมจึงคว้าตัวไอ้เด็กแสบมาไว้ในอ้อมกอดและรัดแน่นๆอย่างหมั่นเขี้ยว นัทก็ส่งเสียงโวยวายเล็กๆออกมาแต่ก็ยอมอยู่ในอ้อมกอดผมนิ่งๆและเอามือมากอดเอวผมไว้หลวมๆ หัวทุยที่มีผมเส้นเล็กนุ่มนิ่มระมาเคลียแก้มพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆทำเอาผมอดใจไม่อยู่ต้องกดจมูกสูดกลิ่นหอมจากหัวเด็กดื้อเต็มปอด และยกมือมาลูบผมนิ่มวางคางเกยบนกระหม่อมเล็กไว้
“ไปบ้านแม็คกัน”
ตาโตๆบนหน้าหวานของเด็กดื้อมันช่างน่าเอ็นดูนักในสายตาผม อดใจไม่ไหวขอกัดแก้มใสสักทีเหอะครับ เจ้าของแก้มปัดป้องและเอามือเช็ดแก้มตัวเองแรงๆบ่นใหญ่ว่าสกปรก ผมล่ะขำแล้วไอ้ที่ทำมากกว่านั้นไม่เห็นบ่นเพราะก่อนหน้าเราก็แลกเอ็นไซม์กันจนหมดตัวไปแล้วมั้งครับ ผมขับรถออกมาจากห้างตรงกลับบ้านส่วนนัทที่นั่งอยู่ข้างๆก็มองมาที่ผมสลับกับถนนตรงหน้าตลอด ผมแอบเห็นว่าปากแดงๆนั่นอ้าจะพูดอะไรออกมาแต่ก็หุบลงเหมือนเดิมเป็นสลับกันอยู่หลายครั้งแล้ว เห็นแล้วก็ขำครับแต่อยากแกล้งเด็กแสบดูบ้าง นัทคงสงสัยล่ะครับที่อยู่ๆผมก็จะพาเค้าเข้าบ้านเพราะตลอดเวลาที่เราคบกันผมยังไม่เคยพานัทไปบ้านเลย ส่วนผมก็ยังไม่เคยเข้าบ้านนัทเหมือนกันได้แต่ไปรับไปส่งที่หน้าบ้าน นี่คงถึงเวลาแล้วที่ผมจะพาไอ้เด็กดื้อของผมไปทำความรู้จักกับครอบครัวตัวเองซะที เพราะผมมั่นใจแล้วว่าผมรักนัทผู้ชายคนที่นั่งข้างผมตอนนี้มากพอที่จะเปิดตัวกับครอบครัวของผม จนรถมาจอดที่หน้ารั้วไม้ของบ้านไม้สองชั้นแล้วผมจึงหันไปมองหน้าใสของคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
“ทำไมนัททำหน้าแบบนั้นล่ะ แม็คพานัทมาบ้านแม็คนะ อยากให้รู้จักคนในครอบครัวแม็คอย่างเป็นทางการในฐานะ ‘ว่าที่สะใภ้’ ไง” นัททำตาโตตกใจทันทีก่อนจะฟาดฝ่ามือมาเต็มแรงที่ต้นแขนของผม
“โอ้ยยย เจ็บนะคนเราทำร้ายแฟนตัวเองก็ได้ด้วย เขินเหรอครับน้องนัท ฮ่าๆๆ” ยิ่งเห็นใบหน้าใสที่เริ่มเหวี่ยงหันหน้าหนีแต่ใบหูกลับแดงก่ำอย่างเห็นชัด แสดงว่าลงมือแก้เขินครับ ผมเปิดประตูลงรถก่อนจะเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านเพื่อขับรถเข้าไปจอดที่โรงจอดด้านใน
“มีอะไรนัท ทำไมยังโกรธแม็คเหรอ” ผมมองหน้าเจ้าของมือที่กำแน่นที่ชายเสื้อของผม นัทคิ้วขมวดมุ่นปากเม้มเป็นเส้นตรงแววตาขาดความมั่นใจอย่างเห็นชัด
“พ่อแม่แม็คจะไม่ว่าเราเหรอ ที่รู้ว่าลูกชายมาคบกับผู้ชายน่ะ” เสียงใสเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก สายตาจ้องเขม็งมาที่ผมอย่างต้องการคำตอบและคงต้องการกำลังใจด้วย ผมจึงคว้ามือที่กำเสื้อผมอยู่ออกและกุมไว้ด้วยมือตัวเอง
“แม็คก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไง แต่นัทไม่ต้องกลัวมีแม็คอยู่ทั้งคนแถมแฟนแม็คก็ออกจะน่ารัก เชื่อได้ว่าพ่อกับแม่ต้องเอ็นดูนัทแน่นอนเลย” ผมยิ้มกว้างและกระชับมือนุ่มให้กำลังใจไอ้เด็กแสบ แต่ลึกๆนั้นออกจะมั่นใจว่าพ่อกับแม่จะรับเรื่องของเราได้ครับ เพราะถึงยังไงพี่มิคก็มีพี่ฟินเป็นแฟนอยู่แล้ว และดูท่าคงโดนขโมยตัวไปอยู่บ้านพี่ฟินอย่างถาวร ถ้าได้ไอ้ดื้อของผมที่น่ารักไม่แพ้พี่มิคมาแทนเชื่อเถอะว่าพ่อแม่ผมต้องเต็มใจ และต้องถูกใจในตัวคนของผมได้ไม่ยาก
“นัทผู้มั่นใจจงกลับมา โอมเพี้ยง!? ยิ้มให้แม็คหน่อยเร็ว นั่นแหละยิ้มหวานๆแบบนี้พ่อกับแม่แม็คต้องเอ็นดูนัทไม่แพ้แม็คหรอกครับ” ผมเห็นรอยยิ้มสว่างของคนรักก็เบาใจว่าทำให้หายเครียดได้แล้ว แม้มันจะมาจากผมส่วนหนึ่งที่อยากแกล้งนัทก็ตาม ก็คนมันน่าแกล้งนี่ครับ นัททำหน้าได้หลายแบบหลากอารมณ์ดีผมชอบดูครับ
“เราคบกันจริงจังแล้วแม็คอยากให้คนในครอบครัวแม็ครับรู้ และนัทจะได้มั่นใจในรักของแม็คด้วยไง เข้าใจมั้ยครับเลิกกังวลนะ ยิ้มหวานเข้าไว้ว่าที่พ่อแม่สามีจะได้เอ็นดู ฮึๆๆ”
“แม็คอ่ะ เอาใหญ่เลยนะแซวได้แซวดี ถ้าถึงเวลาไปบ้านนัทเมื่อไหร่นะจะไม่สนใจเลยจะปล่อยให้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ตามลำพัง และไอ้หน้าดุๆแบบแม็คเนี่ยอย่าหวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะเอ็นดูง่ายๆนะ ชิ” เอาล่ะซิครับไอ้ที่อยากแกล้งล้อเลียนเด็กแสบดันพลิกคดีเหมือนงานจะเข้าตัวซะแล้ว
“ครับ ไม่แกล้งแล้วลงรถกันเถอะไปพร้อมกันนะนัท” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีและดูจะได้ผล เพราะนัทชะงักหันกลับมาทางผมและจ้องตานิ่งก่อนสูดหายใจลึกๆเต็มปอด ก่อนส่งยิ้มหวานโชว์เขี้ยวเสน่ห์มุมปากมาให้ ผมตาพร่าอีกแล้วครับจะละลายให้ได้ทุกทีเมื่อเจอยิ้มพิฆาตของเด็กแสบเข้า
“ฮึๆ ไปครับไป”
ผมเดินมาเปิดประตูฝั่งนัทและจูงมือนุ่มเข้าบ้านก่อนเข้าประตูเราต่างหันมามอบรอยยิ้มให้กันและกันเพื่อเป็นกำลังใจส่งถึงกัน และผมก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวแฟนผู้ทั้งน่ารักและแสบซนคนนี้กับครอบครัวที่ผมรัก
........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
คนที่งอนหายงอนนะคะเราเอาแม็คนัทมาให้อ่านไถ่โทษแล้ว
และน้องแม็คก็มีเหตุผลดีพอให้น้องนัทยกโทษให้ แถมโดน
พาไปแนะนำเปิดตัวกับพ่อแม่ที่บ้านอีกด้วย คงต้องตามลุ้น
กันต่อในอาทิตย์หน้าน้า จะแจ้งวันให้ทราบอีกทีค่ะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ^^
![:pig4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kapook_36568.1.gif)
แอบขอพื้นที่เล็กๆโฆษณา ธีภีม ค่ะ "เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก"
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0