5.
น้ำมาที่ห้องของโชคดีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อปิดประตูได้ก็ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มจนเปียก แม้แต่ตอนนี้ร่างกายก็ยังสั่นอยู่แล้ว ร่างกายเบื้องล่างได้แผลอย่างไม่คาดคิด ทำให้เจ็บแสบไปหมด
“ น้ำไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของคุณเหนือนะครับ” น้ำไม่ได้บอกกับเจ้าตัว ได้แต่บอกกับตัวเองแบบนี้
“ ไม่ใช่ น้ำไม่ใช่!?”
“ ทำไมทำกับน้ำเหมือนน้ำไม่มีความรู้สึกแบบนี้ อึ้ก ฮือๆ” นธีพยายามแล้ว กลั้นแล้วที่จะไม่ร้องไห้แต่ทำไม่ได้ ความอั้นอัดในอกมันมากมายเหลือเกิน
ไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว แม่จะรู้ไหมว่าน้ำอยู่ที่นี่แบบไหน? ทำไมไม่มารับน้ำไปอยู่ด้วยสักที หรือแม่ลืมน้ำไปแล้วจริงๆ
************
นธียืนขึ้นเมื่อเห็นรถของธันวาขับเข้ามา หัวใจเหมือนได้เห็นความหวังเลือนลาง และทำให้เข้มแข็งขึ้นอย่างประหลาด เหมือนน้ำหยดเล็กๆที่หยดลงหญ้าบนดินที่แตกระแหง
“ สวัสดีครับ” นธียกมือไหวธันวาออกมาจากรถ ชายหนุ่มยังอยู่ในชุดนักศึกษา ส่วนเขาใส่เสื้อยืดแขนยาวปกปิดรอยช้ำ กับกางเกงขายาวสีน้ำตาล และรองเท้าหนังที่ใช้ใส่ไปเรียน
“ หวัดดี ขึ้นรถเลย” ธันวาว่า เขาเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง
“ น้ำกินข้าวหรือยัง ฉันเลิกเรียนก็มาที่นี่เลย หิวไส้จะขาดแล้ว” ธันวา เหลือบมองน้ำ เพราะเขายังขับรถอยู่
“ ครับกินมาแล้ว” กินแล้วก็กินยาแก้ปวดกับแกอักเสบตาม
“ ว้า~ไม่รอกินพร้อมกัน แต่ไปนั่งกินเป็นเพื่อนฉันหน่อยแล้วกัน” ฟอร์ว่า สังเกตเห็นว่าน้ำหน้าซีดกว่าที่เห็น ทั้งยังนิ่งกว่าทุกครั้ง
“ น้ำ อึดอัดเหรอที่มากับฉัน?” ฟอร์ถามเพราะเขาไม่ชอบมีอะไรให้ค้างคา พูดคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่ามานั่งคิดเองเออเอง
“ เปล่าครับ ไม่เลยครับ แต่ว่าวันนี้ …น้ำรู้สึกไม่สบาย”
“ อ้าว เหรอ ถ้างั้นกลับไหม?” ฟอร์เตรียมจะเลี้ยวรถกลับ
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร
!? น้ำไม่เป็นไรจริงๆครับ ไม่ต้องกลับหรอกครับ!?” น้ำพูดลิ้นแทบพันกันกว่าจะได้กลับจริงๆ เขาคงไม่มีโอกาสแบบนี้เป็นครั้งที่สองแน่
“ ไม่เป็นอะไรมากไหม? แล้วกินยามาหรือยัง?”
“ ครับ น้ำแค่ปวดหัวนิดหน่อย” ฟอร์หันไปมองน้ำด้วยความเป็นห่วง แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่เป็นไรคงไม่เป็นไรมาก
“ นี่น้ำอยากดูหนังเรื่องอะไร?” ฟอร์ถาม เพราะอีกคนเอาแต่นั่งเงียบ
“ น้ำไม่ค่อยรู้ว่าเขาฉายหนังเรื่องอะไร”
“ แล้วชอบดูแนวไหน?”
“ แนวไหนเหรอครับ?” น้ำนึกถึงหนังเรื่องสุดท้ายที่ดู เป็นหนังที่ฉายทางโทรทัศน์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานผิดฝาผิดตัว ตอนจบพระเอกนางเอกก็เข้าใจกัน ดูแล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“ …………………..น้ำดูได้หมดครับ”
“ ถ้างั้นฉันเลือกเองแล้วกันนะ” ธันวายิ้มกว้าง นธีผงกหัว ก่อนที่แอบมองคนที่ยิ้มแล้วโลกทั้งใบมีแต่เรื่องน่ายินดี เหมือนเขาตอนนี้
ถ้าได้อยู่แบบนี้ตลอดไปก็คงดี
น้ำรู้ว่าห้างสรรพสินค้าที่ตัวเองกำลังเดินอยู่ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากห้างสรรพสินที่เขาเคยไปซื้อของใช้ในบ้าน หรือวัตถุดิบเข้าครั้วเหมือนที่เคยไปกับคุณ นมหรือพี่แก้วพี่กระหล่ำ เพราะมันใหญ่กว่าหรูหรากว่า ธันวามองน้ำพอจะรู้ว่าน้ำไม่เคยมาแน่ เพราะเล่นจ้องนั่นจ้องนี่ตาไม่กระพริบ
“ น้ำ ร้านนี้ก็แล้วกัน” น้ำมองตามที่ฟอร์เดินเข้าไป ไม่ใช่ร้านอาหารแต่เป็นร้าน.. กาแฟ…??
ธันวาสั่งกาแฟกับแซนวิชชุดหนึ่งเขาถามน้ำว่าจะเอาอะไรไหม แน่นอนน้ำส่ายหน้าบอกว่าไม่เอา แต่ชายหนุ่มก็สั่งโกโก้ปั่นให้อยู่ดี
“ อร่อยจังครับ” น้ำว่าเมื่อได้ชิมโกโก้ที่ฟอร์สั่งให้
“ อร่อยก็กินให้หมด”
“ คุณฟอร์กินแค่นี้ จะอิ่มหรือครับ?” น้ำถามเป็นห่วงเพราะชายหนุ่มบอกก่อนหน้านี้ว่าหิวจนไส้จะขาด
“ กินรองท้องเฉยๆ เพราะเดี๋ยวดูหนังเสร็จ ค่อยไปหาอร่อยๆกินกันไง” ธันวาจ้องหน้าอีกฝ่าย ในใจก็ทายว่าน้ำจะทำยังไง คิดว่าต้องหลบตาแน่ แล้วก็จริงๆ น้ำแกล้งก้มดูดโกโก้ หน้านี้แดงเถือก
น่ารักดีแฮะ
ที่หน้าแดงนี่หมายความว่า เขินเขาใช่ไหม แล้วทำถึงเขินก็เพราะชอบเขาไงละ?
เข้าทางเขาใช่ไหมเนี่ย?
ธันวาลอบยิ้ม….ภูมิใจในตัวเองไม่น้อย
* *
เรียกได้มาได้เวลาเหมาะเจาะ เพราะเมื่อฟอร์กับน้ำมาซื้อตั๋วก็ได้รอบฉายอีก 10 นาทีเท่านั้น
ฟอร์ไปซื้อน้ำและขนมขบเคี้ยว ให้น้ำยืนรออยู่ น้ำมองไปรอบๆ ไม่คิดโรงหนังจะเป็นที่หรูหราขนาดนี้ มีโชฟาให้นั่งรอด้วย
“……………….” น้ำมองตั๋วหนังในมือ ก่อนที่จะหันไปมองฟอร์ที่ยังคุยกับพนักงานขาย
ตอนแรกเขาเหมือนจะทำตัวไม่ถูกที่ได้มากับคุณฟอร์แต่ตอนนี้ เขาไม่ได้เกร็งอย่างที่คิดเพราะคุณฟอร์เป็นกันเองไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด เวลาที่เขาเงียบคุณฟอร์ก็มักจะถามโน่นถามนี่ให้มีเรื่องคุยได้ตลอด จนบางครั้งเขาก็เผลอถามเรื่องของคุณฟอร์ไปเหมือนกัน อย่างเรื่องที่คุณฟอร์มาที่นี่บ่อยหรือเปล่าเพราะดูเหมือนคุณฟอร์จะรู้ว่า ตรงโน่นตรงนี่เป็นอะไรดีไปหมด
“ น้ำ ยืนเหม่อ อะไร?” ฟอร์ถามมือข้างหนึ่งถือน้ำอัดลมแก้วใหญ่ อีกมือถือป๊อปคอน
“ เปล่าครับ
! ” ตอบเสียงดังฟังชัด จนคนฟังอดที่จะยิ้มไม่ได้
“ เปล่าก็ไปกัน เขาเรียกแล้ว” ฟอร์บอกเดินนำหน้าน้ำไปยังพนักงานที่ยืนฉีกตัว พอฟอร์หยุดน้ำก็หยุดตาม พนักงานก็มองหน้านิ่ง
“……………………………..”
“……………………”
“ น้ำเอาตั๋วให้เขาสิ” ฟอบอก น้ำรีบยื่นตั๋วให้พนักงานทันที พนักงานรับตั๋วมองน้ำอย่างงงๆ จนเมื่อฉีกตั๋วแล้วจึงยื่นคืนให้
น้ำอายจนไม่กล้ามองหน้าฟอร์ เขาไม่เคยมาดูหนังในที่แบบนี้ เขาไม่รู้ว่าจะต้องมีการฉีกตั๋วแบบนี้ด้วย เขาคงทำให้คุณฟอร์อายไปด้วย
“ คุณฟอร์ครับ น้ำไม่เคยมา น้ำเลยไม่รู้ขอโทษด้วยนะครับ” น้ำว่า ฟอร์หันกลับมามาทันที
“ น้ำไม่เคยมา ดูหนัง?”
“ ครับน้ำไม่เคยมา”
“อ้าว แล้วทุกทีน้ำไปดูที่ไหน?” ฟอร์ถาม
“ น้ำดูในโทรทัศน์ หรือไม่ก็ดูจากแผ่นดีวีดีที่พี่กระหล่ำกับพี่แก้วซื้อมา”
“ หมายความน้ำไม่เคยเข้าโรงหนัง?” ฟอร์ถามเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่ายังมีคนที่ไม่เคยโรงหนังอยู่ และยิ่งเป็นน้ำที่อายุ17 ไม่ใช่ลุงอายุ50 60 ปี
“ ครับ” น้ำตอบ
“ ฉันรู้สึกดีใจนะที่ได้มาน้ำมา” ฟอร์ว่า ในอกวูบวาบในความแตกต่างระหว่างเขากับน้ำ ทั้งที่อายุห่างกันแค่2 ปี แต่ทำไมถึงได้ต่างกันถึงเพียงนี้…
“ น้ำก็ดีใจครับ” ดีใจมาก
“ ทำเป็นดีใจไปเถอะ ถ้าฉันชวนบ่อยๆแล้วจะเบื่อ” ฟอร์แกล้งหยอก
“ ไม่เบื่อหรอกครับ
! ” น้ำตอบจริงจังเหมือนเคย
มีแต่คุณฟอร์ที่จะเบื่อ..
สองชั่วโมงครึ่ง ฟอร์กับน้ำเดินตามคนอื่นๆออกมา เมื่อหนังจบลง
“ โอเคไหมน้ำ?” ฟอร์ถาม ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงหนัง เขาเห็นน้ำจ้องจอฯไม่วอกแวกสักนิดเดียว โดยไม่รู้ว่าส่วนหนึ่งนั้นมาจากน้ำเกรง ไม่ใช่สนใจหนังเพียงอย่างเดียว
“โอเค? หมายถึงหนังใช่ไหมครับ?
“ อืม”
“ ซึ้งมากเลยครับ น้ำลุ้นว่าตอนจบพระเอกกับนางเอกจะได้อยู่ด้วยกันไหม ดีนะครับที่นางเอกไม่ยอมแพ้ ไม่งั้นคงไม่ไม่ได้รักกับพระเอกแบบนี้”
“…………………….” น้ำเงยหน้ามองฟอร์ที่อยู่ก็เงียบไป
“……………..?.....” ฟอร์มองไปยังชายคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล คาดว่าน่าจะกำลังรอหนังเรื่องที่กำลังจะฉายโรงไหนโรงหนึ่ง
“ คุณฟอร์?” น้ำมองตามไป ชายสองคนรูปร่างสูงโปร่ง ชายหน้าสวยดูจะตัวบางกว่า ก่อนที่หันมาเจอสายตาที่กำลังมองเขาทั้งคู่
“ ฟอร์?” หนุ่มหน้าสวยว่า ฟอร์รู้สึกได้ถึงอารมร์บางอย่างของตัวเองที่กำลังกรุกรุ่นอยู่
“ น้ำ” ฟอร์ว่าแต่ไม่ได้หันมองคนที่โดนเรียก ก่อนที่เขาจะคว้าแขนน้ำให้เดินตามไป
“ รุจ” ฟอร์ว่า
“ ฟอร์…..มา ดูห นังเห มือนกันเหรอ?” รุจถามติดขัดไม่เป็นธรรมชาติ แล้วหันไปมองน้ำ ตามด้วยมือฟอร์ที่กุมมือน้ำอยู่
“ อืม ดูแล้วล่ะ ว่าจะไปหาอะไรกินต่อ เออ นี่รุจ น้ำแฟนฟอร์”
แฟนฟอร์!? เขานะเหรอเป็นแฟนคุณฟอร์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณฟอร์ทำไมถึงได้บอกคุณรุจไปแบบนั้น
“ น้ำ นี่รุจ เพื่อนที่มหาลัยพี่”
“ สวัสดีครับ” น้ำจะยกมือไหว้ แต่ฟอร์คว้ามือไว้เสียก่อน
“ ถ้างั้นเราไปก่อนนะ ดูหนังให้สนุก” ฟอร์ว่าก่อนที่ดึงแขนน้ำให้เดินตามออกไป
“ คุณฟอร์ครับ ทำไมบอกเพื่อนคุณฟอร์ไปแบบนั้นล่ะครับ!?” น้ำถามสงสัย
“……………….” ฟอร์ไม่ตอบ น้ำก็ไม่กล้าถามต่อปล่อยให้ฟอร์เดินจูงมือเขามาที่รถ โดยไม่สนใจว่าจะโดนมองยังไง
เมื่อเข้ามาในรถ ฟอร์ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะขับไปที่อื่นต่อ
“ เมื่อกี้แฟนเก่าฉัน” ฟอร์ว่า ก่อนที่จะหันหน้ามามองน้ำ
คนที่ทำให้คุณฟอร์เปลี่ยนไป ไม่ยิ้มหัวเราะเหมือนเดิม น้ำเข้าใจแล้วล่ะครับ เขาช่างแตกต่างจากน้ำลิบลับ คุณรุจทั้งหล่อทั้งดูดี เหมาะสมกับคุณฟอร์ แตกต่างจากเขา
“……………….” เพราะอย่างงั้นคุณฟอร์ก็เลยบอกว่าน้ำเป็นแฟนคุณฟอร์หรือครับ?
คุณฟอร์ยังรักเขาอยู่
“ คุณฟอร์ยังรักคุณรุจอยู่ใช่ไหมครับ?…”
“ ไม่รู้สิ คงใช่มั้ง แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมหรอก และตอนนี้ฉันก็มีน้ำ..” น้ำหันหน้าไปจ้องฟอร์ทันที
มีน้ำ“ มี น้ำ!?”
“ นี่น้ำไม่สงสัยเลยเหรอว่าทำไมฉันถึงได้น้ำมาดูหนังและยังจะพาไปกินข้าวอีก?”
“ เพราะคุณฟอร์สงสารน้ำ”
“ ถ้าแค่สงสาร ฉันไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ แต่ที่ฉันทำแบบนี้เพราะฉันสนใจน้ำ ชอบน้ำ”
“
ชอบน้ำ!? ” ตาเบิกโต หัวใจเต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
“ ใช่สิ และยิ่งเมื่อกี้ตอนที่เจอรุจ ฉันรู้สึกดีมากที่มือฉันกุมมือน้ำอยู่”
“
แล้ว……ยังไงครับ? ” เหมือนจะพูดไม่ออก ริมฝีปากมันเหมือนจะฉีกยิ้มออกมาให้ได้
“ ฉันชอบน้ำ” ฟอร์บอก จ้องน้ำที่ยังหน้าเหวอเหมือนโดนผีหลอก
“………………” จริงเหรอครับ คุณฟอร์ชอบน้ำจริงๆใช่ไหมครับ?
“ ท่าจะเข้าใจยากแฮะ” ฟอร์ว่ายิ้มเจ้าเหล์ ก่อน จูบริมฝีปากนิ่มแบบสายฟ้าแลบ
“ แบบนี้เข้าใจ๋” ฟอร์ว่ายักคิ้ว
แต่
คนโดนจูบน้ำตาร่วง
“
เอ้ยน้ำ ร้องไห้ทำไม!? ” ฟอร์ตกใจ คิดว่าเป็นเพราะเขาจูบน้ำเมื่อกี้ น้ำถึงได้ร้องไห้
“ น้ำ น้ำ อึ้ก ฮือๆ” เพราะคุณฟอร์บอกว่าชอบน้ำครับ
“ น้ำ อย่าร้อง อย่าร้อง ฉันขอโทษ!?” ฟอร์ว่าทำอะไรไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคนโดนจูบแล้วร้องไห้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะตกใจขนาดนี้
“ ตกใจมากเหรอที่โดนผู้ชายจูบ ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้!?” ฟอร์ว่าเงอะงะ เอาผ้าเช็ดน้ำตาให้น้ำ
“ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ครับ น้ำดีใจที่คุณฟอร์บอกว่าชอบน้ำ” น้ำบอกสะอื้น ริมฝีปากยิ้ม ก่อนที่มองหน้าอีกฝ่าย
“ ดีใจไม่ต้องร้องไห้ก็ได้” ฟอร์พอโล่งใจที่น้ำบอก
“ ก็น้ำดีใจ”
“ ที่ดีใจเนี่ยเพราะน้ำก็ชอบฉันเหมือนกันใช่ไหม?”
อยากจะตอบกลับไปวาใช่ครับ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าหงึกๆเท่านั้น
“ ไม่เป็นไร ฉันไม่เร่งรัด แค่น้ำไม่เกลียดฉันก็พอ”
“………………..” น้ำพนักหน้าตอบอีกครั้ง ฟอร์ลูบหัวน้ำปลอบให้หยุดร้องไห้แล้ว
น้ำเราน่ะน่ารักและไร้เดียงสามากเลยรู้ไหม? ฉันดีใจกับตัวเองจริงๆที่ชอบน้ำ
เมื่อกี้ตอนที่เจอรุจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงทนไม่ได้แบบนี้ แต่เพราะตอนนี้ความรู้สึกฉันเปลี่ยนฉันถึงได้สงบแบบนี้
*************
“ แค่นี้ก่อนครับ” ฟอร์ว่าปิดหนังสือเมนูอาหาร ก่อนที่จะมองไปรอบๆกินบรรยากาศร้าน ร้านตกแต่งแนวครอบครัว มีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกทำให้บรรยายดูเหมือนสวนหน้าบ้านมากกว่าจะเป็นร้านอาหารกางกรุง ก่อนที่จะหันมองหน้าน้ำที่นั่งตรงข้ามด้วยท่าทีทะเล้น
“ คุณฟอร์มองหน้าน้ำทำไมครับ?” ฝ่ายนี้ก็ถามเอาดื้อๆ
“ มองไม่ได้เหรอ?”
“ มองได้ครับ แต่น้ำลองถามดู”
“ ก็ถ้าเราชอบใคร เราก็ต้องอยากมองคนนั้นใช่ไหม? ฉันก็เลยมองหน้าน้ำ”
ตายแน่ไอ้น้ำ หน้าร้อนเหมือนจะเป็นไข้ น้ำคิดก่อนจะหันหน้าหลบไปอีกด้าน ก่อนที่นึกขึ้นได้ว่า ควรจะไปห้องน้ำ….
“ คุณฟอร์ครับ น้ำไปห้องน้ำก่อนนะครับ” น้ำว่าลุกขึ้น
“ รีบมานะไม่งั้น ฉันกินหมดไม่รู้ด้วย” ฟอร์ขู่หยอก ยิ้มร่า ทั้งที่ยังไม่มีอาหารมาเสริฟสักจาน
ในห้องน้ำ น้ำตรวจดูกางเกงในว่ามีเลือดซึมออกมาหรือเปล่า
“ ……………………” โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีเลือดซึมออกมา ก่อนหน้านี้ที่คุณฟอร์ดึงแขนให้เขาเดินตามก็ปวดจิ๊ดๆ แต่เพราะความสุขที่มีทำให้ไม่อยากสนใจมัน
คุณฟอร์บอกว่าชอบน้ำ?
พูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่ อย่างคุณฟอร์เหรอจะชอบน้ำ แต่เห็นคุณฟอร์กลับมายิ้มได้เหมือนเดิมน้ำก็ดีใจ พลอยมีความสุขไปด้วย
น้ำลวงกระเป๋าเอาตั๋วหนังสองใบออกมาดู ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข เขาจะเก็บตั๋วนี้ไว้อย่างดี เหมือนกับเก็บทุกความทรงจำในวันนี้ไว้ตลอดไป
“ น้ำ น้ำ!? ” เสียงฟอร์จากด้านนอกห้อง
“ครับคุณฟอร์?” น้ำตอบก่อนที่จะเก็บตั๋วไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม
“ เห็นว่านานเลยมาตาม กลัวจะเป็นลมเป็นแล้ง หน้ายิ่งซีดๆ” ฟอร์ว่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะน้ำซีดเหมือนคนไม่สบาย
“ น้ำไม่ ได้ เป็น อะ ไร” น้ำว่าเปิดประตูออกมา ก่อนที่ทำทีไปล้างมือ
“ น้ำพับแขนเสื้อขึ้นสิ ใส่เสื้อแขนแบบนี้ร้อนตาย”
“ไม่เป็นไรครับ น้ำไม่ร้อน” ถ้าพับแขนเสื้อขึ้นก็จะเห็นรอยซ้ำ พับขึ้นไม่ได้
“ พับขึ้นดี สบายกว่ากันเยอะมาฉันช่วย” ฟอร์ว่ายื่นมาพับแขนเสื้อน้ำ อีกฝ่ายดึงแขนกลับไปทันที
“ น้ำหนาว ไม่ต้องพับขึ้นหรอกครับ” น้ำว่าก้มมองพื้น เมื่อครู่แม้จะแป๊บเดียวแต่ฟอร์ก็มองเห็นรอยช้ำได้ทันที เพราะมันไม่ใช่รอยเล็กๆ แต่เป็นวงเขียวช้ำชัดเจน
ฟอร์ไม่รีรอที่จะถาม
“ น้ำเมื่อกี้รอยอะไร?”
“ ไม่มีรอยอะไรนี่ครับ”
“ น้ำอย่าโกหกฉัน เมื่อกี้ฉันเห็น” ฟอร์ว่าเสียงแข็งก่อนที่จะจับมือน้ำ น้ำสะบัดหลุดทันที
“ น้ำหิวข้าว น้ำจะออกไปรอคุณฟอร์นะครับ…” แค่น้ำก้าวขาก็โดนฟอร์จับแขนไว้แน่น
“
โอ๊ย!? ” น้ำร้องเพราะที่ฟอร์จับแขนนั้นโดนรอยช้ำพอดีเหมือนอีกฝ่ายตั้งใจ
“ แล้วยังจะบอกว่าไม่มีอะไรอีก” ฟอร์ว่าเหมือนดุ
“……………………..”
“ ทำไมน้ำ แค่นี้ก็ให้ดูไม่ได้เหรอ?”
น้ำเงียบ แต่ก็ปล่อยให้ฟอร์ดึงแขนเสื้อขึ้น จนเห็นรอยช้ำเป็นวงบนแขนผอม ที่ และข้างขวาอีก 2 ที่
น้ำใช้สมองคิดอย่างหนักว่าจะบอกคุณฟอร์ว่ายังไงดี
“ เมื่อเช้าน้ำรีบไปหน่อย เลยล้มตรงประตูครัว ..” น้ำบอกกลัวเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ ขณะที่ฟอร์พลิกดูแขนน้ำไปมา
“ เรื่องสำคัญแบบนี้จะปิดปังไปทำไม แล้วนี่ทาหรือยัง?!” ฟอร์ถามเหมือนดุแต่ระคนด้วยความห่วงใยชัดเจน
“ เมื่อเช้าทาแล้วครับ” น้ำบอก
“ แต่ตอนบ่ายยังใช่ไหม?”
“ ครับ” น้ำมองดูฟอร์พับแขนเสื้อให้อย่างตั้งใจ เขามักจะเป็นดูแลคนอื่นเสมอ แต่ถูกคนอื่นดูแลทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกันแบบนี้ไม่เคยเลย น้ำตามันเหมือนจะคลอต้องรีบเอามืออีกข้างมาเช็ค ฟอร์เข้าใจผิดคิดว่าน้ำเจ็บเสียอีก
“ เจ็บเหรอ?”
“ เปล่าครับ” ฟอร์ยิ้มในความตอบที่ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง ก่อนที่จะเดินจูงมือน้ำออกมา
อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าตัวเองถูกปกป้อง เหมือนกับว่าถ้ามีใครมาทำร้าย คุณฟอร์จะต้องเข้ามาช่วยอย่างแน่นอน
*************
“ น้ำกลับมาหรือยัง?” เป็นคำแรกที่เหนือพูดเมื่อมาถึงบ้าน
“ ยังค่ะ” แก้วตอบ เจ้านายที่หล่อเหลาชนิดหาตัวจับยาก แต่ตอนนี้กลับปั้นหน้ายักย์หน้ากลัว
“ โทรไปตาม” เหนือสั่ง
“ น้ำไม่มีโทรศัพท์ค่ะ” แก้วบอกกล้าๆกลัวๆ ว่าเธอจะโดนกินหัวไหมเนี่ย
“……………….” เหนือดูนาฬิกาข้อมือ หกโมง สิบ นาที ยังไม่กลับ นี่ไม่รู้ไปดูหนังถึงไหน คงไม่ใช่!!??
เว้ย!!? เหนือหงุดหงิด
หรือเขาจะต้องโทรไปหาฟอร์ แต่นั่นดูไม่เป็นธรรมชาติ เขาควรจะรอคอยเฉยๆ แล้วดูว่าสองคนนั้นจะกลับมาเมื่อไร
แต่ถ้า ฟอร์กับไอ้น้ำมีอะไรกันล่ะ? เขาคงทนไม่ได้!?
ยอมรับไม่ได้!?! นั่นมันของเขา
************
ขอบคุณเจ้าค่ะ