
3.
ในครัวนธีและกระหล่ำนั่งกินขนมของธันวาอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนของขนมของศราวัฒน์ถูกเก็บใส่ตู้เรียบร้อย
“ นม ว่าไหมว่าคุณเหนือคุณฟอร์สมเป็นเพื่อนกันจริงๆ นอกจากจะหล่อลากเหมือนกันแล้ว ใจยังตรงกันอีก ไม่งั้นวันนี้จะซื้อขนมมาเหมือนกันเหรอ” กระหล่ำพูดพลางหยิบฝอยทองเข้าปาก
“ ไม่เห็นจะเกี่ยวกัน ว่าแต่จะกินอิ่มเมื่อไรจะ ให้ช่วยล้างผัก” นมก้านพูบอก แต่ไม่ได้เร่งเร้าแต่อย่างใด หญิงสูงวัยแค่บอกให้หญิงสาวรู้เท่านั้นว่าต้องทำอะไร
“ ให้น้ำล้างดินม หนูยังไม่ได้หมักเนื้อเลย” กระหล่ำอิดออด
“ เนื้อ ฉันบอกให้หมักตั้งแต่เช้า ยังกล้ามาบอกว่ายังไม่เสร็จ แกนี่มันใช้ไม่ได้เลยนะกระกล่ำ”
“ ก็งานมันยุ่งอะนม”
“ งานยุ่ง ข้าเห็นเอ็งนอนกลางวันตั้งแต่บ่าย” หญิงสูงวัยว่า กระหล่ำยักไหล่ ยังนั่งอยู่เหมือนเดิมและยังไม่คิดจะลุก น้ำเองที่เป็นฝ่ายเอาผักจากถุงมาล้าง กระกระหล่ำหัวเราะเสียงดังด้วยความพอใจ เพราะมีคนทำให้แล้ว
“ ใครได้เอ็งไปเป็นเมียน้า โชคร้ายๆจริงกระกล่ำเอย” แม่นมสูงวัยอ่อนใจ กระหล่ำเธอไม่ได้สนใจ ได้แหย่คนแก่เล่นเหมือนจะเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเธอไปเสียแล้ว
น้ำยังคงคิดถึงคำพูดของเหนือเมื่อครู่ เขาไม่ได้รู้สึกไปเอง คุณเหนือกำลังมีเรื่องไม่พอใจเขาอยู่แน่ๆ แต่น้ำคิดไม่ออกว่าเรื่องอะไร?
หากจะว่าเมื่อเช้า เขาก็ยอมให้คุณเหนือทำตามใจทุกอย่าง ก่อนที่คุณเหนือจะไปมหาลัยก็ยังอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ แล้วพอกลับมาทำไมหน้าบึ้ง หรือว่าเครียดเรื่องเรียน ถ้าเครียดเรื่องเรียนทำไมถึงจ้องเขาเขม็งแบบนั้นด้วย
น้ำพยายามคิดว่า เขาจะทำให้คุณเหนือไม่พอใจในเรื่องอะไรได้บ้าง? แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก คงต้องรอให้คุณเหนือพูดออกมาเอง
“ น้ำจะกินต่อไหม?” กระหล่ำถามยกจานขนมถาม เพราะเธออิ่มแล้ว
“ เก็บได้เลยครับพี่กระหล่ำ” น้ำบอก อดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงหน้าคนที่ซื้อมา
คุณฟอร์….แค่เดินเป็นเพื่อนแป๊บเดียวเองไม่เห็นต้องซื้อขนมมาให้เลย ทำแบบนี้รู้ไหมว่าน้ำดีใจมากแค่ไหน? เหมือนน้ำเป็นคนสำคัญ
“ น้ำ” กระหล่ำเรียก เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเหม่อ แล้วยังยิ้มหวานอยู่คนเดียว
“
น้ำ!? ” กระหล่ำตะโกน น้ำหลุดจากภวังค์ในทันที
“ พี่กระหล่ำ
!? ตะโกนทำไมครับ อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” น้ำว่า
“ ก็เรียกแล้วไม่ได้ยิน พี่เลยต้องตะโกนเรียกคนที่เอาแต่ยิ้มอยู่คนเดียว แถวบ้านพี่เขาเรียกคนที่ยิ้มได้เองคนเดียวว่าคนบ้า
! หรือไม่ก็…” กระหล่ำทำหน้าสงสัยทั้งที่เธอก็เตรียมคำพูดต่อจากนี้ไว้แล้ว
“ หรือไม่ก็อะไรพี่กระหล่ำ?” น้ำถามอยากรู้ ไม่ได้โกรธที่หญิงว่าก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
“ หรือไม่ก็มีความรักไงละ! เอ๊ะๆอย่าบอกว่าไปแอบปิ้งสาวที่ไหน สาวที่ศูนย์หรือเปล่า?” กระหล่ำว่าล้อเลียนคิดว่าน้ำคงไปชอบใครที่ศูนย์การศึกษาผู้ใหญ่ที่น้ำไปเรียน
“ สาวที่ไหนละพี่กระหล่ำ
!? ” น้ำปฎิเสธ แต่ใบหน้ากลับแดงกล่ำ นี่เมื่อกี้เขายิ้มเหรอ? นั่นเพรากำลังคิดถึงคุณฟอร์?
เขาแสดงออกทางสีหน้ามากขนาดที่พี่กระหล่ำคิดเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ เขาต้องเก็บอาการมากกว่านี้
“แล้วเอ็งหน้าแดงทำไม? ” กระหล่ำล้อไม่หยุด โดยส่วนตัวแล้วเธออยากจะให้น้ำคนที่เธอรักเหมือนน้องชายคนนี้มีแฟนเหมือนคนหนุ่มทั่วไป อายุก็ 17 18แล้ว ถ้าไม่มีคนที่ถูกใจเลยต่างหากที่น่าเป็นห่วง เห็นน้ำหน้าแดงพยายามกลบเกลื่อนแบบนี้ เธอค่อยสบายใจหน่อย เพราะถึงแม้น้ำจะกำพร้าพ่อแม่แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตแบบปกติให้ได้ ไม่อยากให้ปมด้อยทำให้แตกต่างจากคนอื่น
“ ไหนใครหน้าแดง มีเรื่องไรกัน?” แก้วที่เพิ่งเข้ามาถามอยากรู้อยากเห็นเต็มประดา แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรเลย
“ น้ำมีเรื่องอะไร?” แก้วถามแกมขู่กลายๆ ก็เพราะต่อมอยากรู้อยากเห็นของเธอทำลังทำงาน และยิ่งน้ำหน้าแดงไปถึงหูแบบนี้ คงต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับน้ำแน่ๆ
“ ไม่มีครับ” น้ำตอบ แต่กระหล่ำยิ้มบอกว่ามีอะไรแน่ๆ เมื่อไม่มีใครบอก แก้วจำต้องเงียบไว้ก่อน เพราะเธอจะถามนมพูก็กลัวจะโดนดุที่อยากรู้เรื่องชาวบ้าน เธอได้แต่บ่นอุบอิบว่าทีใครทีมันแล้วกัน
** **
เมื่อเห็นธันวาและดาวเหนือเดินออกมา นธีที่คอยจะขอบคุณนธีสำหรับขนมก็ชะงักฝีเท้า ก่อนที่จะเดินถอยหลังหลบมุม ไม่เข้าไปตอนที่มีศราวัฒน์อยู่ กลัวว่าจะถูกดูออกว่ารู้สึกยังไงกับธันวา
จากที่นธียืนอยู่ไกลพอที่จะไม่ได้ยินว่าศราวัฒน์และธันวาพูดคุยอะไรกันบ้าง
“ ก็อยากที่เราบอกนายเหนือ ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจเรื่องความรู้สึกของเรา เพราะฉะนั้นเราจะมาบ้านนายบ่อยๆ” ธันวาย้ำว่าบ่อยๆ ศราวัฒน์ยังคงหน้านิ่งไม่แสดงอาการ แต่ภายในกลับว้าวุ่นไปหมด
“ ตามใจ” ศราวัฒน์พูดสั้นๆ ขณะที่ธันวาหันซ้ายหันขวา ยังไม่กลับสักที เพราะยังอยากจะเห็นหน้านธีก่อนกลับ
“ มองหาอะไร?” ศราวัฒน์แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่า ฟอร์มองหาน้ำ
“ ตั้งแต่หัวค่ำยังไม่เห็นน้ำเลย” ธันวา อดที่จะเสียดายไม่ได้
“ เราให้คนไปตามให้ไหมละ?” พูดเหมือนอยากลองใจเพื่อน
“ อย่าเพิ่งเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็มา คงได้เจอกันแน่ๆ” ธันวาบอก เขาที่ยังลังเลในความรู้สึกของตัวเองไม่อยากจะทำให้อะไรให้ออกนอกหน้า อาการเขาตอนนี้ คิดกับน้ำไปไกลแล้วแน่ๆแต่ไม่อยากให้น้ำตกใจ
“ พรุ่งนี้ ?”
“ ใช่” ธันวาว่ายิ้มกริ่ม ก่อนที่จะตบไหล่เพื่อนเบาๆประมาณว่า เมื่อไรจะเข้าใจว่าเราจะมาจีบคนบ้านนาย
“ นี่นายเอาจริง ไหนว่า!?” ศราวัฒน์ไม่ทันได้พูดจบ ธันวาก็หนีเข้ารถและขับออกไปเสียแล้ว
“….” ดาวเหนือว้าวุ่นใจมากกว่าเดิมทั้งที่คิดว่า ธันวาไม่ได้จริงจังกับน้ำหรอกแค่เหงาเท่านั้น แต่ใจเขากลับไม่สงบ
เขาจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี…..ธันวาก็เพื่อน…
ในขณะเดียวกันนธียืนชะเง้กคอมองรถของธันวาที่วิ่งออกไป ได้แต่บอกขอบคุณอีกฝ่ายอยู่ในใจ
‘ขนมอร่อยมากครับคุณฟอร์ ขอบคุณมากๆครับ’
** **
หากฟอร์รู้ว่าน้ำไม่เล่นด้วยก็คงจะเลิกลาไปเอง ศราวัฒน์คิดแบบนั้นก็เรียกน้ำขึ้นมาหาทันที แม้จะ4ทุ่มแล้วก็ตาม
“ คุณเหนือมีอะไรหรือครับ?” นธีถามอีกฝ่ายที่นั่งไขว้ห้างกระดิกเท้าบนโชฟา ศราวัฒน์ยังคงนิ่งแต่คิ้วขมวดยุ่ง
“คุณเหนือครับ?” นธีพูดซ้ำ คิดว่าศราวัฒน์คงไม่ได้ยินที่เขาเรียกในครั้งแรก
“ น้ำ”
“ครับคุณเหนือ?”
“ ฉันสั่งห้ามแกคุยอะไรกับฟอร์เกินความจำเป็น”
“ ทำไมครับ?!” น้ำโพล่งถามทันที ตกใจที่ได้รับคำสั่งแบบนี้
ดาวเหนือหันหน้ามองนธีทันทีเช่นกัน
ทำไมต้องตกใจขนาดนี้ หรือว่ามีอะไร?
“ แกไม่จำเป็นต้องรู้”
“ แต่ ….ผมไม่เข้าใจ ผมอยากรู้ว่าทำไม?” ทั้งที่เขาพยายามที่หาทางพูดคุยกับคุณฟอร์ทุกครั้งที่มีโอกาสแท้ๆ
“ คุณเหนือผมทำอะไรผิด ให้….คุณฟอร์ไม่พอใจผมหรือครับ?” นธีถาม คิดไปต่างๆนานา คิดว่าตัวเองคงทำอะไรลงไปเสียแล้ว หรือว่าวันนี้ตอนอยู่ในรถกับคุณฟอร์ เขาพูดอะไรล่วงเกินคุณฟอร์ จนทำให้คุณฟอร์โกรธจนไม่อยากพูดกับเขา หรือเกลียดเขาไปแล้ว ในอกหัวใจวูบหายไม่เป็นจังหวะ
“
เอ๊ะ!? ทำไมถามเซ้าซี้ หรือว่าแกคิดอะไรกับฟอร์!?”
“
เปล่าครับ น้ำเปล่า น้ำไม่ได้คิดอะไรเลย! ” นธีรีบบอก ลิ้นพันกันพันลวัน พอถูกศราวัฒน์จ้องหน้าก็รีบหลบ กลัวจะถูกล่วงรู้ความรู้สึกที่ปกปิดเอาไว้
“ ผม ไม่ได้ คิดอะไรกับคุณฟอร์เลยครับ เพราะ ผมไม่กล้าเอื้อม คุณฟอร์คงไม่มองผมหรอก”
“ รู้ตัวก็ดีจะได้ไม่เสียใจภายหลัง”
“ ครับ” นธีก้มหน้ามองพื้น
“ แกจะต้องรู้ตัวว่าแก เป็นของใคร” ศราวัฒน์ว่าเอานิ้วเชยคางนธีให้เงยขึ้นมามองหน้าเขา
“………………….”
“ ถ้าแกกล้าคิดเมื่อไร …ได้เห็นดีกันแน่!” ดาวเหนือว่า ค่อยโน้มริมฝีปากประกบปากนิ่มของอีกฝ่าย รสสัมผัสหวานที่รับรู้ ทำให้เลือดในกายเริ่มอุ่น มือที่ว่างล้วงลูบก้นมนในกางเกง นธีสะดุ้งเพราะทันทีที่โดยสัมผัส นิ้วเรียวยาวก็มุ่งสู่ภายในร่างกายทันที
ก่อนที่ศราวัฒน์จะถอนริมฝีปากออก แล้วนั่งลงโชฟาเหมือนเดิม นธีรับรู้ว่าเขาต้องทำยังต่อจากนี้ เขาค่อยๆ ประคองพวงจุดศูนย์กลางร่างกายของศราวัฒน์อออกจากกางเกง ก่อนที่จะใช้ลิ้นสัมผัสตามที่อีกฝ่ายเคยบอก ลิ้นของนธีทำให้แท่งของศราวัฒน์ค่อยๆขยายตัวใหญ่ขึ้น …
“ แกขึ้นมานั่งได้แล้ว” ศราวัฒน์สั่ง นธีถอดกางเกงออกอย่างเคอะเขินไม่ยอมมองสิ่งใดนอกจากผนังพิงโชฟา
“ เร็ว ชักช้า!” ศราวัฒน์ว่าดึงแขนนธีเข้าไปหาแล้วจับให้นั่งลงบนแท่งร้อนของเขา
“ อ๊ะอ๊า!?” นธีสะดุ้งเฮือก ร่างกายเขารัดแน่นแท่งที่สอดแทรกในร่างกายจนเขาต้องๆผ่อนลมหายใจช้าๆ ทว่าอีกคนกลับไม่ได้สนใจว่านธีรู้สึกยังไง เขากดสะโพกบนตักจนผิวกายแนบสนิทกันและกัน
.
.
.
* ** ** *
“ นี่มันอะไร
?! ” ศราวัฒน์ขว้างเสื้อนักศึกษาของตัวเองลงพื้น หากว่านธีขยับช้ากว่านี้อีกนิดเดียวไม้แขวนเสื้อต้องโดนหน้าเขาอย่างแน่นอน
“ คือ อะไรครับ?” นธีว่าหยิบเสื้อขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าทำไมคุณเหนือถึงได้ไม่พอใจเสื้อตัวนี้ขนาดนี้
“
รอยยับเห็นไหม หรือว่าตาบอด!! ” ศราวัฒน์บอกคิ้วยุ่ง นธีมองรอยยับเล็กๆตรงปลายบแขนเสื้อ ซึ่งถ้าไม่สังเกตจริงๆไม่มีทางมองเห็น
“ ต่อไปผมจะระวังไม่มีให้แบบนี่อีก” นธีบอกทั้งที่เขาไม่ได้เป็นรีดก็ตาม แต่เขาก็เป็นคนเอามาจัดใส่ตู้เสื้อผ้า ถือเป็นคนรับผิดชอบ
“ ไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ ไม่ต้องทำเหมือนไม่ใส่ใจทำ
! ” ศราวัฒน์ว่าเกี้ยวกาจ สาเหตุเพราะข้อความจากธันวาต่างหากที่ทำให้อารมณ์เป็นแบบนี้ ข้อความของธันวาที่ว่าตอนนี้ กำลังเดินทางมาที่นี่ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาโมโห
“……………..” นธีนิ่งไม่โต้ตอบ
ศราวัฒน์เข้าไปกระชากแขนนธีรุนแรง
“คุณเหนือผมเจ็บ!”
“ อย่าลืมเรื่องที่บอกเมื่อคืน อย่าเสนอหน้ากับฟอร์ให้มากนัก ถ้าฉันรู้ว่าแกเที่ยวไปอ่อยใครต่อใครอีกล่ะก็ …”
“ ผมไม่ทำหรอกครับ” แม้เจ็บก็ไม่ตอบโต้
“ ให้มันจริงเถอะ!” ศราวัฒไม่เชื่อว่านธีจะทำตามที่บอกเขา
เขาระแวง จนกังวล
“ ………………………” นธีเงียบ
เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบโต้เขาจำต้องเชื่อแบบนี้ไปก่อนว่านธีจะไม่ไปมีใจให้ธันวา
“ ยืนนิ่งคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่หาเสื้อมาให้ฉัน”
“ ครับ” นธีเดินเลื่อนเปิดบานประตู แล้วเอาเสื้อเชิ๊ตนักศึกษาออกมา เขาตรวจดูความเรียบร้อยว่าไม่มีรอยยับจริงๆก่อนที่จะเอามาร่างสูงที่ยืนรออยู่
วันนี้นธีต้องทำทุกอย่างพิธีพิถันเป็นพิเศษ เพราะรู้ศราวัฒน์อารมณ์ไม่ดี ไม่งั้นแค่เสื้อยับแค่รอยเดียวจะต่อว่าเขาถึงขนาดนี้เหรอ
“วันนี้ขี้เกียจ ใส่ให้ด้วย” ศราวัฒน์สั่ง
“ครับ” นธีลงมือจับแขนคนตัวโตกว่าใส่แขนเสื้อเหมือนใส่เสื้อให้เด็ก
“…………………” ศราวัฒน์มองทุกการกระทำของน้ำอย่างละเอียด ในใจตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบสาเหตุที่ฟอร์สนใจน้ำ
หน้าตาดี? …หน้าตามันก็ใช้ได้ กระบนหน้ามันก็น่ามองอย่างประหลาด ปากมันก็นุ่มดีอยู่หรอก แต่อย่างฟอร์หาได้ดีกว่ามันเยอะ หรือว่ามันไปทำอะไรให้ฟอร์สนใจ เพราะเมื่อก่อนฟอร์ก็ไม่คิดจะสนใจมัน?
“ น้ำ” ศราวัฒน์เรียก
“ครับ” นธีว่ามือที่กำลังติดกระดุมเสื้อหยุดลงก่อนที่จะเงยหน้ามอง
“ แก……………………………. ...”
“ครับ?” นธีว่าสงสัยที่ศราวัฒน์ไม่พูดสักที
“ รีบติดกระดุมให้เสร็จ ยืนจนเมื่อยขาไม่หมแล้วเนี่ย” นธีพยักหน้าติดกระดุมเสื้อให้ศราวัฒน์ต่อ
“………………..” ขนตามันยาวกว่าผู้หญิงอีก ศราวัฒน์คิดเมื่อมองคนที่กำลังติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย
“ เรียบร้อยแล้วครับ” นธีถอยออกบอก
“ อืม” ศราวัฒน์เดินไปหยุดหน้ากระจกขนาด 2 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประตูตู้เสื้อผ้า เขามองสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกพอใจ มั่นใจกับหน้าตาตัวเองว่าแบบนี้ที่เขาเรียกว่า ‘หล่อ’ ใบหน้าได้รูป รับกับคิ้วเรียวเข้ม จมูกโด่งพอดับพอดี ริมฝีปากไม่เล็กไม่ใหญ่สีแดงระเรื่อโดยธรรมชาติ และผิวขาวสะอาด เรียกได้ว่าเขา
เพอร์เฟค
“ แกคิดว่าไง?” ศราวัฒน์ถามหันหน้ามาหานธีที่ยืนอยู่ เขามองนธีตั้งแต่หัวจรดเท้า เขารับรู้ถึงความเหนือกว่าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรืออย่างอื่น ร่างกายที่ผอมแห้ง ผิวเหลืองแบบเอเชียที่ตอนนี้คล้ำกว่าสีผิวจริง ใบหน้าได้รูปก็จริงแต่ก็เรียกได้ว่าธรรมดา
เขาคิดมากไปเอง ที่คิดว่าฟอร์จะชอบน้ำจริงๆ คงแค่สนใจของแปลก
“ หมายถึงเรื่องอะไรครับ?” นธีถาม เพราะยังงงกับคำถามของศราวัฒน์
“ หมายถึงฉัน เป็นไง?” นธีแม้จะงงๆกับคำถามกับเจ้านายแต่ก็ตอบในสิ่งที่เขาคิดว่า ศราวัฒน์ถาม
“ ดีครับ” นธีตอบ ศราวัฒน์เดินเข้ามา ก่อนจะเข้ามารวมเอวบางเข้าไปติดร่างกายเขาในทันที
“ เอ๊ะคุณเหนือ?!” นธีตั้งตัวไม่ทัน แทบจะผลักศราวัฒน์ออกไป
“ ไม่ใช่แค่ดี ต้องดีที่สุด”
“ ครับ” นธีตอบ ศราวัฒน์ยอมปล่อยให้นธีเดินถอยออกไป ตอนนี้เขาสบายใจขึ้นแล้ว อย่างน้ำคงไม่มีใครมาสนใจจริงๆหรอก ธันวาเองก็เหมือนกันตอนนี้ก็แค่เหงาเพราะไม่มีใคร เมื่อมีคนที่ดีกว่าเข้ามาก็คงเลิกสนใจน้ำไปเอง
“ ………………”
* ** ** *
ใต้ต้นมะม่วง นธีปูเสื่อนั่งอ่านหนังสือ เขาวางหนังสือที่จะอ่านสอบ ก่อนที่ตัวเองจะนอนแผ่ราบมองกิ่งก้านสาขาต้นไม้มะม่วง หวนให้เห็นภาพเมื่อครั้งยังเด็ก ตัวเขายืนบนกิ่งมะม่วงหมิดเหม่ กลัวก็กลัวว่ากิ่งมันจะหักเมื่อไร แต่ลงก็ลงไม่ได้ ได้แต่ยืนตัวเกร็ง
“คุณเหนือครับ น้ำเอื้อมไปไม่ถึง” เขายืนแขนไปจนสุด แต่ก็ไม่ไปไม่ถึงมะม่วงลูกที่คุณเหนือต้องการ คุณเหนือที่ยืนข้างล่างไม่ปริปากให้ลงไปแม้แต่น้อย
“ เหนือ ให้น้ำลงมาเถอะ ไปบอกนมเอาให้ดีกว่า เดี่ยวน้ำตกลงมา” คุณฟอร์บอก
“ ไม่! เราจะให้มันเอามาให้เรา” คุณเหนือว่า
“ น้ำไม่ต้องฟังเหนือ ลงมาเถอะ เดี๋ยวตกลงมา” คุณฟอร์บอก สีหน้าเป็นห่วงเขาจริงๆ เขาได้แต่ฝืมยิ้มให้คุณฟอร์เห็น
“ ถ้าแกลองลงมาโดยที่ไม่มีมะม่วงดูสิ ฉันจะให้คุณแม่ไล่แกออกจากบ้าน!”
“ คุณเหนืออย่านะครับ น้ำจะอยู่รอแม่ที่นี่” เพราะคิดว่าสักวันแม่ต้องกลับมารับแน่ หากว่าต้องไปจากบ้านหลังนี้ตอนที่แม่กลับมาก็จะไม่เจอเขา คิดแบบเด็กๆแต่ก็หล่อเลี้ยงชีวิตมาจนกระทั่งปัจจุบัน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังหวังว่าแม่จะกลับมารับไปอยู่ด้วยกัน
“ ถ้าแกอยากจะอยู่ที่นี่ ต้องทำตามที่ฉันสั่ง!” เพราะกลัวว่าจะโดนไล่ออกไป ขาที่เกร็งจนสั่นก็ค่อยๆก้าวเดินออกไปยังปลายกิ่ง จนมันทนรับน้ำหนักไม่ไหว ตัวเขาหล่นลงมา
โครม!? .
นธีหลับตาลงให้ภาพในอดีตหายไป
“………………..”ที่ต้องยอมเสมอมาก็เพราะไม่อยากไปจากที่นี่ อยากอยู่ที่นี่รอแม่ หรือว่าแม่จะลืมลูกชายคนนี้ไปแล้วจริงๆ ลืมไปแล้วว่ามีน้ำอยู่ที่นี่….
น้ำตาไหลอุ่นๆจากหางตาลงมา
“ น้ำ!?” เสียงเรียกชื่อ ทำให้นธีรีบเช็คน้ำตาและลุกขึ้นนั่ง
“คุณฟอร์!” ธันวาชะงักนิ่งเมื่อเห็นคราบน้ำตาของน้ำก่อนที่จะพยายามทำตัวเหมือนปกติเหมือนไม่เห็น
“ คุณฟอร์มีอะไรกับน้ำหรือครับ?”นธีเองก็เช่นกันพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด
“ พอดีจะมาถามเรื่อขนมเมื่อวานว่าอร่อยไหม? ฉันจะซื้อไปฝากผู้ใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้กินสักที เมื่อวานที่น้ำใส่จานมาให้ก็ไม่ได้กิน” ธันวาว่าแอบมองตาแดงๆของอีกฝ่าย นธีรู้สึกได้ว่าเขากำลังโดนมองแม้ว่าธันวาจะไม่อยากให้รู้ตัวก็ตาม
ต้องไม่ให้คุณฟอร์เข้าใจถูกว่าเมื่อครู่เขาร้องไห้
“ เจ็บตาจังเลยครับ เมื่อกี้ฝุ่นเข้าตา น้ำเลยขยี้ตาจนเจ็บไปหมด” น้ำเอามือขยี้ตาให้ธันวาเห็น แต่มีหรือธันวาจะไม่รู้ว่านธีพยายามทำอะไร มือของธันวาคว้ามือนธีไว้ทันที
“ น้ำอย่าขยี้เลย เดี๋ยวก็เจ็บตามากกว่าเดิม” ธันวา สบตากับนธีนิ่งงัน
“………………..” ต่างฝ่ายต่างมองตาซึ่งกันต่างเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะเอ่ยเป็นคำพูดได้
“………………………………………..”
นธีดึงมือตัวเองกลับ แม้ว่าอยากให้มืออบอุ่นจับมือเขาไว้ตลอดไปก็ตาม
“ เมื่อกี้คุณฟอร์ว่าอะไรนะครับ?……………..เรื่องขนมเมื่อวานหรือครับ? ………….. ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าขนมอร่อยมากเลยครับ คุณฟอร์ซื้อไปฝากคนที่นับถือได้เลยครับ” นธีบอกเพื่อหาทางเปลี่ยนเรื่อง โดยไม่รู้ว่าที่ธันวาบอกจะซื้อไปฝากผู้ใหญ่นั่นแค่ข้ออ้างที่จะหาเรื่องมาคุยด้วยเท่านั้นเอง
“ แล้วน้ำชอบไหม? ถ้าชอบฉันจะซื้อมาให้อีก”
นธีหันกลับมามองหน้าธันวาอีกครับ
ชอบครับ ผมชอบคุณฟอร์
“ ชอบครับ……………..แต่ไม่ต้องซื้อมาแล้วครับ น้ำเกรงใจ”
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะฉันก็อยากซื้อมา…” ธันวาบอก แฝงด้วยความหมายที่สื่อให้อีกคนรู้
“…………….”
“ อ่านหนังสืออยู่เหรอ?” ธันวาถามเมื่อมองเห็นหนังสือ3 4 เล่มวางซ้อนกันอยู่
“ครับ น้ำจะสอบแล้ว”
“ ตอนนี้อยู่ชั้นไหนแล้วล่ะ?” ธันวาถาม หยิบหนังสือของน้ำขึ้นมาเปิดดู
“สอบเดือนหน้านี้ก็จะจบมอหกครับ” นธีบอก เพราะการเรียนนอกโรงเรียนแบบเขาต่างจากการเรียนปกติทั่วไป
“ เหรอ แล้ว น้ำคิดจะเรียนต่ออะไร?” ธันวาถาม
“ น้ำคงไม่เรียนแล้วครับ แค่นี้น้ำก็เกรงใจคุณท่าน กับคุณหญิงมากแล้ว …”
กริ๊งๆ
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของธันวาดังแทรกขึ้นมา ทำให้น้ำเงียบไป
“ เดี๋ยวนะ” ธันวาหันไปบอกน้ำก่อนที่จะรับโทรศัพท์
“ เหนือมีอะไร?” ธันวาว่าลุกขึ้น
“ จะ8โมงแล้ว นายไม่ไปเรียนหรือไง?” ศราวัฒน์ถามเสียงห้วน ธันวายกแขนดูนาฬิกาอีก10 นาทีจะแปดโมงแล้ว เขามีเรียนชั่วโมงแรกตอน9 โมงต้องรีบแล้วไม่งั้นสายแน่
ธันวาเดินกลับมาหานธีเอามือป้องไม่ให้เสียงเข้าโทรศัพท์
“ น้ำเอาไว้เย็นค่อยคุยกันนะ ฉันต้องไปเรียนแล้ว”
“ครับ” นธีว่า ก่อนที่ธันวาจะเดินกลับไป
“………………..” นธีมองตามหลังธันวาอย่างอาวร
น้ำกับคุณฟอร์ไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆใช่ไหมครับ? คุณฟอร์ไม่มีทางมองน้ำ…
* ** ** *