
2.
“ คุณ เหนืออย่าครับ อย่า! ” พยายามปัดป้องอย่าเต็มที แต่ไม่ได้ช่วยเลย ไม่คิดว่าแรงคนเมาจะเยอะขนาดนี้ เสื้อผ้าที่เคยใส่อยู่ตอนนี้ กลายเป็นเศษผ้าไม่มีทางได้ใส่อีก
“ ……!?……….คุณเหนือ อย่า อ๊ะ! น้ำเจ็บ!” ร่างกายถูกบุกรุกเข้ามาเหมือนโดนแทง..เจ็บปวดจนน้ำตาไหล ริมฝีปากถูกปิดแน่นด้วยมือใหญ่ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ร่างกายสั่นสะท้านด้วยหวาดกลัว
ได้โปรด หยุดเถอะครับ! ได้โปรดหยุด น้ำขอ น้ำขอร้อง
….ทำไมทำแบบนี้
.
.
.
. นธีลืมตาขึ้นในห้องนอนของตัวอย่างที่สว่างขาวเพราะไฟยังเปิดทิ้งไว้ เขานอนนิ่งบนเตียง ภายใต้ผ้าห่มสีเขียวใบตอง หัวใจเต้นระรัวกับความฝันที่เหมือนมันกำลังเกิดขึ้น ครั้งแรกที่มันก็ผ่าน2ปีแล้ว แต่เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบัน ทั้งที่ในตอนแรกคิดว่าเพราะคุณเหนือเมา คงจำไม่ได้ และเขาก็จะลืมและคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
แต่ก็มีครั้งต่อมา เรื่อยๆจนเข้าใจได้เอง ว่า
‘ถ้าเขาจะเอา เราต้องยอม
ถ้าเขาต้องการ เราต้องให้’
“……………………….”
นธีกวาดตามองไปรอบๆห้องที่เงียบงัน เห็นว่าศราวัฒน์กลับไปแล้ว ก่อนที่สายตาจะจับจ้องที่นาฬิกาทรงกลมสีเหลืองนวล…ตี่สี่ครึ่ง…
ตีห้าครึ่งต้องตื่นไปตลาดกับคุณนม แต่ตอนนี้เหนื่อยล้าไปทั้งตัว คอก็แห้งจนเจ็บ เขาคงจะเป็นไข้เสียแล้ว นธีเอามือดันพยุงร่างกายลุกขึ้น ยิ่งทำให้เวียนศรีษะที่หนักอึ้งเหมือนหินวางทับไว้
หิวน้ำ…..
“………………..” แต่ทว่าร่างกายที่ป่วยจนตาแทบลืมไม่ขึ้นไม่ไหวแล้ว นธีเอนตัวลงนอนเหมือนเดิม เขาอยากให้ร่างกายได้หลับพักผ่อนมากกว่าที่จะลุกขึ้นไปกินน้ำ
นธีหลับในห้วงนิทราทันทีที่หัวถึงหมอน น้ำตาใสไหลซึมผ่านหางตาไม่ทราบสาเหตุ เจ้าตัวที่หลับไหลก็ไม่รู้เช่นกัน
แม่นมก้านพูเห็นว่าเลยเวลามานานแล้วแต่ไม่เห็นนธีมาสักที เลยไปเคาะประตูที่ห้อง เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มเป็นคนตรงเวลา โดยปกติแล้วมักจะมานั่งคอยหล่อนด้วยซ้ำ
ก็อกๆ
“ น้ำ น้ำ” เธอเรียก นธีที่ยังหลับอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา และทันทีเขารับรู้ถึงลมหายใจที่ร้อนเกินปกติของตัวเอง
“ น้ำ น้ำ” ก้านพูเรียกอีกครั้ง นธีค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง เดินไปเปิดประตู
“ นม?”
หญิงสูงวัยมองเด็กหนุ่มที่ผมยุ่ง ใบหน้าซีด ริมฝีปากแห้งเธอก็เข้าใจถึงสาเหตุที่เด็กหนุ่มยังนอนอยู่ ทั้งที่ถึงเวลาต้องไปตลาดเช้า
“ เออ นมขอโทษครับ ผมเพิ่งตื่น เดี๋ยวผม…” เวลาพูดก็เจ็บคอไปด้วย
“ ไม่ต้องหรอกน้ำ นมจะไปกับกระหล่ำ น้ำไปนอนเถอะ นี่คงจะไม่สบายเพราะคุณเหนือผลักตกสระเมื่อคืนใช่ไหม?” เธอว่าด้วยความเป็นหวง มือจับหน้าผากนธีที่ร้อนเป็นไฟ
“ ไม่เกี่ยวกับคุณเหนือหรอกครับ” นธีว่าพร้อมหลบสายตา หญิงสูงวัยส่ายหน้าด้วยความเห็นระคนสงสารที่เด็กหนุ่มเป็นขนาดนี้กลับไม่โทษเจ้านายผู้เป็นต้นเหตุเลยสักนิด
“ ไปนอนเถอะ เดี๋ยวสายๆหน่อย จะให้แก้วมันมาดู”
“ ก็ ได้ ..ครับ” นธีพยักหน้าหงึกๆเข้าใจ ก่อนที่หญิงสูงวัยจะเดินกลับไป
“……………….” แม้อีกฝ่ายจะเดินจากไปนานแล้ว แต่นธีก็ยังยืนอยู่ เขารู้สึกถึงความห่วงใยที่หญิงสูงวัยมีให้ ทำให้นึกถึงผู้ให้กำเนิดขึ้นมา
แม่ ของเขาจะเป็นห่วงเขาแบบนี้ไหม? แล้วทำไมถึงทิ้งเขาไว้ที่นี่? เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มานาน แต่คงเพราะเขาไม่สบายเขาถึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะร่างกายเขาอ่อนแอ เขาถึงต้องการที่พักพิง เขามีคำถามที่หาคำตอบไม่เจอ..
เกือบเที่ยงวันศราวัฒน์น์ตื่นขึ้น อันเป็นเวลาปกติหากเป็นวันไม่มีเรียน หรือต้องไปที่ไหน? เขานอนพลิกไปมาอยู่บนเตียงหลายครั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งงัวเงี่ย แล้วก็ตามด้วยเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูดังพร้อมๆกับที่ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ใคร?” ศราวัฒน์ถามเสียงห้วน
“ คุณแม่เองจ้ะเหนือ” เสียงอ่อนโยนของคุณหญิงทัดพวงเอ่ย ก่อนที่ลูกชายจะเดินไปเปิดประตู
“ คุณแม่กลับมาตั้งแต่เมื่อไรครับ?” ศราวัฒน์ถาม เข้าไปสวมกอดมารดาทั้งที่ตัวยังเปียกอยู่
“ เมื่อเช้า พร้อมคุณพ่อนั่นแหละ แต่ตอนนี้ไปทำงานแล้ว” ทัดพวงบอก เพราะถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์แต่สามีของเธอก็ไปทำงาน เพราะต้องหยุด 3 วันไปเที่ยวอังกฤษกับเธอ
“ เหรอครับ? แล้วคุณแม่เจอฟอร์ หรือยัง?” ศราวัฒน์ถามถึงเพื่อนที่คิดว่าตอนนี้คงจะตื่นแล้ว
“ เจอแล้วจ้ะ และออกไปแล้วด้วย”
“ ออกไปแล้ว?” ศราวัฒน์ทำหน้าฉงน เขาไม่ยักรู้ว่าฟอร์จะกลับไปแล้ว นี่ว่าจะชวนออกไปหาอะไรกินข้างนอก
“ ใช่จ้ะ ฟอร์ฝากบอกคุณแม่ว่า ต้องรีบกลับเพราะต้องไปเรียนงานกับคุณสมชัยที่โรงแรม” ทัดพวงศราวัฒน์เลยนึกขึ้นได้ว่าธันวาเคยบอกไว้เหมือนกันว่าต้องไปเรียนงานกับคุณพ่ออาทิตย์ละ 1 วัน
ศราวัฒน์รู้สึกตัวเองโชคดีที่ครอบครัวยังปล่อยให้สนุกกับชีวิตจนกว่าจะเรียนจบแล้วค่อยว่ากัน ถ้าเขาต้องเรียนด้วย เรียนรู้ธุรกิจห้างสรรพสินค้าของครอบครัวไปด้วย คงไม่ดีแน่ และตอนนี้เขาก็ไม่มาอารมณ์แบบนั้นด้วย
“ จะเที่ยงแล้ว รีบแต่งตัวลงไปกินข้าวเถอะ” ทัดพวงบอกลูกชายที่กำลังเลือกเสื้อสักตัวในตู้ด้านใน
“ บอกให้นมทำข้าวผัดกุ้งให้เหนือหน่อยสิครับ” ศราวัฒน์บอก สายตายังคงหาเสื้อยืดสีฟ้ตัวที่ชอบใส่อยู่แต่ไม่ยักเจอ
ไอ้น้ำมันเอาไปไว้ไหน?!
“ เออ คุณแม่ครับ เรียกน้ำให้เหนือด้วย เหนือหาเสื้อไม่เจอ”
“ น้ำ ไม่สบาย เหนือจะหาเสื้อตัวไหน คุณแม่จะหาช่วย” ทัดพวงว่าพูดจะลุกขึ้น
“ ไม่เป็นไรครับ คุณแม่ไปบอกนมเรื่องข้าวผัดของเหนือก็พอ”
ไม่สบาย?
ไม่สบาย ศราวัฒน์หวนนึกเรื่องเมื่อคืน ก่อนที่เขาจะออกมจากห้องก็พอรู้ว่า น้ำตัวร้อน แต่ไม่นึกว่าจะถึงขั้นไม่สบาย
“…………..” นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาผลักน้ำตกลงไปในสระ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้ไม่สบาย…
เพราะเขาเหรอ?
ใช่ซะที่ไหน? ศราวัฒน์ปฎิเสธ ที่มันป่วยก็เพราะว่ามันไปยืนน้ำค้างเป็นนานสองนานกับเพื่อนขงเขาต่างหาก ทั้งที่รู้ว่าตัวเองอาจจะไม่สบาย
สมแล้วไม่ล่ะ? อยากจะเสียตัวออกนอกหน้าขนาดนั้น เมื่อนึกถึงสายตาขอน้ำที่มองฟอร์ ศราวัฒน์ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ
ไม่เจียมตัว…ศราวัฒน์ต่อว่านธีอยู่ในใจ
แม้จะยังเคืองเมื่อที่นธีออกไปเดินเล่นกับธันวาเมื่อคืนแต่ศราวัฒน์ก็อดเป็นห่วงนธีไม่ได้ จนต้องเดินมายังห้องพักคนใช้
“ คุณเหนือมีอะไรหรือเปล่าคะ?” แก้วสาวใช้ตัวผอมคล้ำถาม เมื่อเห็นคุณหนูของบ้านเดินหน้านิ่งมา
“ น้ำไปไหน ฉันไม่เห็นตั้งแต่เช้า?” ศราวัฒน์ถาม ทั้งตัวเขาก็ทราบดีว่านธีไม่สบายนอนอยู่ในห้อง แต่เพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นห่วงนธีจนต้องมาที่นี่
“ น้ำไม่สบายค่ะ นี่แก้วเพิ่งเอาข้าวเอายาไปให้กิน” แก้วบอก มือยังถือชามใส่ข้าวต้มออกมาจากห้องนธี
“… . เหรอ.. …” ดาวเหนือว่า เหมือนไม่ใช่ใจ
“ ค่ะ” แก้วว่า งงงันกับท่าทีเจ้านายที่ดูเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด
“……… …แล้ว ..เป็นอะไรมากไหม?”
“ ไม่เป็นอะไรมากค่ะ กินข้าวกินยา นอนพักเยอะๆ พรุ่งนี้ก็คงหาย” แก้วบอก
“เรอะ…. เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูหน่อย ไหนๆก็มาแล้ว” ศราวัฒน์บอก เดินผ่านแก้วไปยังห้องด้านใน
“……………..” แก้วมองตามหลังศราวัฒน์ไปอย่างงงๆสุดท้ายแล้วเธอก็ยังไม่รู้ว่าคุณเหนือมาทำอะไรที่นี่ สงสัยจะมาหาน้ำมั้ง แก้วคิด ก่อนที่จะเดินไปยังครัว และไม่วายเล่าท่าทีแปลกๆของเจ้านายให้กระหล่ำเพื่อนสาวใช้อีกคนฟัง
ศราวัฒน์จับลูกบิดเปิดประตูเข้าห้องนธีเข้าไปโดยไม่คิดจะเคาะก่อน
นธีนอนอยู่บนเตียง แม้จะง่วงแต่ก็ยังไม่หลับ
“คุณเหนือ?” นธีว่าจะลุกขึ้น ตกใจเหมือนกันที่เห็นศราวัฒน์เข้ามา
“ ป่วยก็นอนไปเถอะ” ศราวัฒน์ว่า มองไปรอบๆห้องข้าวของน้อยชิ้น มีเพียงแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าไม่นับเมื่อคืนเขาไม่ได้เข้าห้องนี้มาหลายปีแล้ว เขามักจะให้น้ำขึ้นไปหาเขาบนห้องมากกว่า สายตาเขาไปหยุดที่ขวดน้ำเปล่ากับแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยๆข้างเตียง ก่อนที่หันไปมองหน้าคนที่นอนบนเตียง
ใบหน้าซีด เหมือนคนไม่สบายจริงๆนั่นแหละ
“ คุณเหนือมีอะไรหรือเปล่าครับ?” นธีถามแม้จะเจ็บคอ
“ ก็..เดินมาเรื่อยๆ เห็นว่าแกไม่สบายก็เลยเข้ามาดูว่าป่วยจริง หรือจะป่วยการเมืองอู้งาน” ศราวัฒน์ว่านั่งบนเตียงข้างคนที่นอนอยู่
“ ผมไม่สบาย แต่พรุ่งนี้ก็คงหาย” นธีบอกไม่ใช่ใจกับคำพูดร้ายกาจของอีกฝ่าย หนังตาของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ อยากจะนอนเต็มที
“………. ก็ไม่ได้ว่า อะไร…ไม่สบายก็ นอน พัก ไป” ศราวัฒน์ว่า แต่คนที่ฟังหลับไปแล้ว
“………………..”ศราวัฒน์มองคนป่วยนิ่ง ก่อนที่มือจะจับที่ผ้าเปียกที่หน้าผากนธี แม้ผ้าจะเปียกแต่ก็อุ่นเพราะอุณหภูมิจากความร้อนจากร่างคนป่วย
“ ฉันไม่ได้ทำให้แกไม่สบายสักหน่อย แกอยากไปนั่งตากน้ำค้างเองทำไม” ศราวัฒน์พูดขึ้นลอยๆ ราวกับรู้สึกผิด
ดวงตาคมค่อยๆอ่อนโยนขึ้น
*******
รุ่งเช้านธีก็หายเป็นปกติอย่างที่แก้วว่า นธีเริ่มทำหน้าที่ของตนเหมือนอย่างเคย คือตีห้าครึ่งไปตลาดเช้ากับคุณนม เจ็ดโมงเช้าขึ้นไปปลุกคุณเหนือให้ลุกขึ้นมาทานข้าวเช้า เพื่อเตรียมตัวไปมหาลัย
ก็อกๆ
นธีเคาะประตูหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบ เลยต้องไขกุญแจเข้าไป บนเตียงศราวัฒน์ยังนอนอยู่บนเตียงอย่างที่นธีคิดไม่มีผิด
“คุณเหนือ คุณเหนือครับ เช้าแล้วครับ” นธีเรียก แต่ชายหนุ่มยังไม่ไหวติ่ง จนนธีต้องเขย่าตัวพร้อมเรียกอีกครั้ง
“ คุณเหนือ คุณเหนือ!?”
“…………อื?” ศราวัฒน์ครางจากลำคอก่อนที่ลืมตามอง
“น้ำ?”
“ ครับคุณเหนือ เช้าแล้ว”
“ หายแล้วเหรอ?”
“ครับ”
“……………..” ศราวัฒน์มองนธีนิ่งก่อนที่จะดึงอีกฝ่ายให้ลงมานอนบนเตียงแล้วเขาก็คร่อมร่างผอมเอาไว้
“คุณเหนือจะทำอะไรครับ?!” นธีถามด้วยความตกใจ
“ ทาสีบ้านมั้ง ท่าเนี่ย” ศราวัฒน์ว่า มองหน้านธีด้วยความคึกคะนอง ร่างกายชายหนุ่มยามนี้ มันกำลังต้องการปลดปล่อย เพราะไม่งั้นมันคงไม่ตั้งชันแบบนี้หรอก
“ คุณเหนือ?” สายตาของนธีสังเกตเห็นสิ่งที่แข็งขืนภายในกางเกงของศราวัฒน์ก่อนที่จะหันหน้าหนีเหมือนไม่รับรู้
“ รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?” ดาวเหนือถาม ไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยังไง
“ ครับ เดี๋ยวผมจะใช้ปาก…”
“ ไม่เอาปาก” ดาวเหนือว่า ดึงกางเกงนธีลงไปขาเรียว แม้เจ้าตัวจะดึงไว้ก็ไม่ทันแล้ว
“ คุณเหนือครับ อย่าดีกว่าครับ เจ็ดโมงกว่าแล้ว รีบไปอาบน้ำเถอะ” นธีพยายามหาเหตุผลมาอ้าง
“ จะสายก็เพราะแกทำอิดออดนี่แหละ” ศราวัฒน์ว่า พลิกตัวนธีนอนคว่ำ ดึงกางเกงในอีกฝ่ายออก เผยให้สะโพกเนียนกลม เขายกสะโพกนั้นขึ้นก่อนที่บีบนวดเหมือนให้อีกฝ่ายไม่เกร็งแล้วก็แทรกร่างกายเข้าไปอย่างที่ต้องการ ซึ่งแทบจะไม่การเล้าโลมอย่างที่ควรจะเป็น
“ อึก?!” นธีกัดฟันแน่น ดวงตาหลับแน่นไม่ต่างกัน พยายามหายใจเข้าลึกๆ เตรียมตัวเมื่อร่างกายถูกแทรกเข้ามามากกว่านี้
“ แก อย่าเกร็งดิ มันเข้าไปไม่ได้” นธีพยายามผ่อนลมหายใจหนักๆตามที่ชายหนุ่มเคยบอก
“ เออ อย่างงี้แหละ” ศราวัฒน์บอก พอใจกับร่างกายที่ตอบสนองเขาจนรู้สึกเสียวไปหมด ยิ่งภายในตอดรัดเขามากเพียงใดเขาก็ยิ่งพอใจ โดยไม่ได้สนใจร่างกายที่กำลังสั่นสะท้านเพราะความเจ็บเพราะร่างกายไม่พร้อม
“ คุ ณเหนือ ครับ?” นธีว่เสียงแผ่ว ศราวัฒน์จึงเอามือลูบไหล้ร่างกายให้อีกฝ่ายรู้สึกตามไปด้วย ก่อนที่จะทะยานเข้าออกด้วยกำลังหนุ่มอย่างเต็มที่
แม้ในเริ่มต้นนธีจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมแต่เมื่อถูกมือและการกระทำที่ชำนาญชักจูงเขาเองก็รู้สึกสุขสมไม่ต่างกัน ไม่ว่า จะถูกทำอย่างไรเขาไม่ขัดขืน เพราะถ้ายิ่งขัดขืนเหมือนเมื่อก่อนเขามีแต่จะเจ็บตัว แบบนี้ดีกว่า เมื่อคุณเหนือได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้ว เขาก็จะไม่โดนแกล้ง หรือโดนคุณเหนือใช้งานหนักจนร่างกายเกินจะรับไหว
“………….”
“ อะ อ๊า ”
ศราวัฒน์ปลดปล่อยน้ำแห่งกามอารมณ์ในร่างกายของอีกฝ่ายอย่างสมใจ ร่างกายเขารู้สึกสดชื่นขึ้น ก่อนที่จะผละจากร่างกายของนธีที่นอนราบกับเตียง
“ ………….” นธีค่อยๆลุกขึ้น มองหากางเกงของตน
“ เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำก่อน เดี๋ยวแกค่อยไปล้างตัวทีหลัง” ศราวัฒน์บอก รู้สึกแปลกประหลาดในอกขณะที่กำลังมองนธีที่มองกางเกงของตัวเอง
“ครับ เดี๋ยวผมจะเก็บเตียงรอ” นธีว่าไม่ได้มองดาวเหนือแต่อย่างใด เขาใส่เกงเกงในที่ถูกดึงร่นไปที่ขาก่อนที่หยิบกางเกงขึ้นมาใส่ดังเดิม ศราวัฒน์เบือนหน้าหนีก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำหายไปจากสายตาของนธี
“………………..” เด็กหนุ่มบนเตียงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไกลไปยังท้องฟ้าสีฟ้าขาวที่อยู่ห่างออกไป และน้ำตาก็เอ่อล้นออกมาไม่รู้ตัวเขารีบเช็ดออก
“ จะร้องทำไม?! น้ำจะร้องทำไม เขาไม่ทุบตีให้เจ็บสักหน่อย เรื่องแค่นี้เอง ผู้หญิงก็ไม่ใช่ที่จะกังวลว่าท้อง ยอมไปเถอะ ไม่นานเขาก็เบื่อเองแหละ จะมาคิดอะไร” นธีบอกตัวเอง
แต่รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คน รู้สึกเหมือนอะไรก็ไม่รู้ที่เอาไว้ระบายความใคร่….
ศราวัฒน์ขับรถย้อนกลับมาเมื่อคิดว่าถ้า เขาซื้อขนมชั้นของโปรดนธีกลับไปให้ เจ้าตัวคงจะดีใจไม่น้อย เขาเองช่วงนี้ก็ใช้อารมณ์กับน้ำมากไปหน่อย ซื้อไปให้ก็แล้วกัน คิดแบบนั้นแล้วก็ต้องย้อนรถกลับมาซื้อ แม้ต้องต่อคิวยาวเหยียดกับลูกค้าคนอื่นๆแต่ไม่เป็นไร นานๆทีไม่เสียหาย
15 นาทที่ต้องยืนต่อคิวซื้อขนมชั้น ไม่ได้ทำให้ศราวัฒน์หงุดหงิด เพราะอย่างน้อยก็ได้ขนมชั้นมา3ถาด และที่สำคัญอยากรู้ว่านธีจะทำยังไงเมื่อรู้ว่าเขาซื้อมาให้ แน่นอนต้องทำหน้าดีใจ เพราะนธีชอบขนมชั้น…
กริ๊งๆ เสียงโทรศัพท์สายเข้า ศราวัฒน์มองหน้าจอปรากฎชื่อคนที่โทรมา
‘FOR’?
เพื่อนสนิทคนเดียวที่พ่วงตำแหน่งญาติฝ่ายแม่ไปด้วย
“………..”ศราวัฒน์เอาสมอทอร์ลใส่หูเพราะกำลังขับรถ
“ ว่าไง ฟอร์?”
“ เหนือ ตอนนี้เราจะถึงบ้านนายแล้วนะ ว่าจะขอไปกินข้าวบ้าน” ตอนเที่ยงที่มหาลัยไม่ยักบอกว่าจะมากินข้าวที่บ้าน
“ กินข้าวบ้านเรา? มีอะไรหรือเปล่า?” ศราวัฒน์มองกล่องขนมชั้นที่เขาวางไว้เบาะข้างคนขับ
“ เปล่า แค่อยากไป” เสียงธันวาตอบกลับ น้ำเสียงบอกว่าแค่อยากกินข้าวไม่มีมากกว่านี้
“ มาแปลกนะนายน่ะ”
“ ทำไม หรือว่า ข้าวบ้านนายต้องมีอะไรก่อนถึงไปกินได้ แต่คุณน้าบอกให้เราไปกินข้าวบ่อยๆเท่าที่จะไปได้” ธันวาว่า เหมือนเล่นมุก
คุณน้าที่ธันวาพูดถึงคือ มารดาของศราวัฒน์นั่นเอง
“ เปล่า อยากมากินก็มา” ดาวเหนือว่า นึกสังหรณ์ใจประหลาด….
นธีขณะกำลังรดน้ำต้นไม้ เห็นรถที่ปีบแตรอยู่หน้าบ้าน ริมฝีปากก็ยิ้มกว้างก่อนที่วางสายยางแล้วิ่งไปเปิดประตูให้รถของธันวาเข้ามา รถของชายหนุ่มไม่ได้วิ่งเข้าไปในบ้าน แต่พอพ้นประตูรั้วเข้ามาก็จอดนิ่งก่อนที่จะเปิดประตูรถออกมา
“ คุณฟอร์?” นธีสงสัย แต่แอบใจเต้นเมื่อเห็นหน้าเปื้อนยิ้มของอีกฝ่าย
“ น้ำ เดี๋ยวมานั่งรถเข้าไปด้วยกันหน่อย ฉันมีของให้ช่วยถือ” ธันวาบอก
“ไม่เป็นไรครับ น้ำวิ่งตามไป” นธีบอก ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องนั่งรถไปกับธันวา เพราะไม่ได้ไกลขนาดนั้นแม้สวนหน้าบ้านจะกว้างก็ตาม
“ เร็วๆ อย่าดื้อสิ” พูดจบธันวาก็กลับเข้าไปนั่งในรถ และไม่ยอมขับรถไปต่อ เหมือนเป็นการบังคับกลายๆ นธีจำต้องเข้าไปนั่งตัวเกร็งในรถข้างๆ
ธันวาอมยิ้มในท่าทีของอีกฝ่าย แต่ก็พยายามสงวนท่าทีเพราะไม่อยากให้นธีเกร็งไปมากกว่านี้
“ คุณฟอร์จะให้น้ำถืออะไรหรือครับ?” นธีถามทำร้ายความเงียบ
“ มองไปข้างหลังสิ” ธันวาว่า นธีหันมองไปยังเบาะหลัง ถึงพลาสติกสีขาว 4 ถุงวางอยู่
‘ขนมคุณทวด’? นธีอ่านตัวหนังสือที่ถุงในใจ
“ซื้อขนมมาฝาก เลยจะให้ช่วยถือ” ธันวาบอก
“ ซื้อมาฝากคุณหญิงหรือครับ?”
“ อืม ให้คุณน้า2 อีก2 ซื้อมาฝากเราทุกๆคน และที่สำคัญซื้อขนมชั้น2ถาด มาฝากน้ำโดยเฉพาะ”
เขารู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่าน้ำชอบขนมชั้นมาก
“ น้ำ?” นธีว่า หัวใจเขาเต้นแรงมากแต่เขาไม่รู้สึก เพราะมัวแต่มองหน้าธันวาที่กำลังยิ้ม จนเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังจ้องหน้าอีกฝ่ายอีก จึงรีบหันหน้าหลบ หัวใจเขากำลังมีกลองตีระรัวอยู่
“ ใช่แล้ว อยากขอบคุณน้ำที่วันก่อนออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉัน” ธันวาว่า เขารู้ว่ามันไม่สมเหตุสมผลเท่าไร แต่เพราะอยากรู้จักน้ำให้มากกว่านี้ เขาเลยคิดใช้มันมาเป็นข้ออ้าง
“ ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”นธีบอก มือที่กุมอยู่รู้สึกว่ามันเกะกะเพราะไม่รู้ว่าจะวางมันไว้ตรงไหนดี
“ เผื่อวันหลังมีเรื่องให้ช่วยอีก ถือว่าเป็นน้ำใจก็แล้วกัน”
“ครับ! ถ้าคุณฟอร์มีอะไรให้ช่วยก็บอกผมได้!” นธีรีบบอกจนแทบสำลัก และดังเกินกว่าที่จะพูดกันแค่2คน แม้แต่ธันวายังตกใจที่อยู่ๆนธีก็พูดโพล่งขึ้นมา จนเขานิ่งไป ก่อนที่หัวเราะเมื่อคิดว่า ตลกดี
เวลาเขาอยู่กับน้ำ เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่แปลกเลยที่คืนนั้นหลังจากที่เขาได้พูดกับน้ำ เขารู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดจากการโดนหักอก มันบรรเทาลงอย่างไม่น่าเชื่อ
“ …………ขอโทษครับ” นธีก้มหน้างุดลง รู้แล้วว่าตัวเองทำอะไรที่มันน่าอายออกไปซ่ะแล้ว
ไม่รู้คุณฟอร์จะคิดว่ายังไง?!
“ จะขอโทษทำไม? น่า….” น่ารักดีออก
น่ารัก ธันวานึกตกใจตัวเองที่คิดแบบนี้ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นเขาอยู่ในช่วงทำใจแต่กลับกำลังหัวเราะ กับท่าทีของนธี
ตัวเขาเองนี่น่ากลัวจริงๆ
“ คุณฟอร์ครับ ผมออกไม่ได้?” นธีว่าเพราะธันวาจอดรถสักพักแล้วแต่ยังไม่ปลดล็อกเปิดประตูให้เขา
“ อ้าวเหรอ?” ธันวารีบปลดล็อกให้นธี
นี่เขาเหม่อ?????!!!!!
ธันวามองดูนธีที่หิวถุงเข้าไปในตัวบ้าน และรถของดาวเหนือก็แล่นเข้ามาจอดต่อท้าย เขายืนรอเพื่อนเจ้าของบ้านอย่างใจเย็น
“ นายออกมาก่อนเราไม่ใช่เหรอ ทำไมเพิ่งมาถึง?” ธันวาถาม
“ พอดีมีธุระ” ดาวเหนือบอก ธันวาไม่มีทางเดาออกแน่ๆว่าธุระที่ว่านั้นคือ ต่อแถวซื้อขนม ธันวามองถุงที่กลับขับเข้าหิ้วออกมาจากรถ
‘ขนมชั้นยอด’
ไม่นึกว่าจะใจตรงกันซื้อขนมไทยเหมือนกัน
“ นายก็ซื้อขนมไทยมาเหมือนกัน วันนี้เราสองคนใจตรงกันนะเนี่ย” ธันวาว่าพลางอารมณ์ดี แต่กลับขับเข้ากำลังจะอารมณ์เสียสุดๆ
“ นายก็ซื้อขนมชั้นมาเหรอ?” กลับขับเข้าพยายามอย่างมากที่จะทำตัวให้ปกติที่สุด
“ อืม เราซื้อขนมชั้น และขนมไทยมาอีกมาหลายอย่าง แต่ขนมชั้นนี่เยอะเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าคนบ้านนี้ชอบกิน” ธันวาว่าเดินเข้ามาภายในพร้อมกับเพื่อนเจ้าของบ้าน
“ ฉันก็ไม่ชอบ คุณแม่คุณพ่อเราก็ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ แล้วใครชอบ?”
“ ซื้อมาฝากน้ำ เพราะเรามีเรื่องที่อยากขอบคุณน้ำ พอรู้ว่าเราซื้อขนมชั้นมาฝากยิ้มใหญ่ คงจะชอบจริงๆ”กลับขับเข้าแทบอยากจะโยนขนมชั้นที่อยู่ในมือทิ้งเต็มแก่ พอแก้วเดินออกมารับของจากมือ ชายหนุ่มแทบจะโยนให้
“ เบาๆดิเหนือ เดี๋ยวขนมก็แหละหมด” ธันวาว่า
“ ช่างมัน!” ศราวัฒน์ตอบ เขานึกแค้นใจที่ตัวเองไปยืนต่อแถวซื้อขนมชั้นบ้าๆบอๆ และยิ่งเห็นน้ำยกแก้วน้ำและขนมของธันวาที่แบ่งใส่จานออกมา เขายิ่งโมโห
“ น้ำ กินขนมหรือยัง? อร่อยไหม?” ธันวาถาม
“ ครับยังครับ ผมยกออกมาให้คุณฟอร์ก่อน” นธีบอก รู้สึกว่าตัวเขาโดนจับจ้องเมื่อมองไปยังศราวัฒน์ก็เห็นสายตาคมจับจ้องอยู่จริงๆ แม้แต่ธันวาเองก็รู้สึก
“ เหนือ เหนือ” ธันวาเรียกเพื่อน ก่อนที่ศราวัฒน์จะหันหน้าไป
“ ไร?”
“ นายมองน้ำจนเขาทะลุแล้ว เรื่องอะไรกับน้ำหรือเปล่า?”
“ มี!” ดาวเหนือตอบเสียงเข้ม นธีขนลุกซู่ไม่กล้ามองหน้าคนตอบ
“ มีอะไร อย่าไปแกล้งน้ำมากดิ เดี๋ยวเขากลัวนาย หนีไปจะไม่มีคนให้แกล้ง” ธันวาแกล้งหยอกเพื่อนเล่น
“ ใช่ไหมน้ำ”
“ เออ ผมขอตัวนะครับ มีงานในครัวต้องทำ” นธีว่าถอยออกมา แม้อยากจะอยู่ต่อเพื่อมองหน้าธันวาก็ตาม
“ อ้อ ไปสิ บอกนมด้วยนะว่าวันนี้ ฉันขอกินข้าวด้วย”
“ ครับ” นธีว่าพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกไป
“ ฟอร์เราถามนายจริงๆ นายชอบไอ้น้ำเหรอ?” ดาวเหนือถามเพื่อนจริงจัง คนโดนถามขมวดคิ้วสงสัยระคนตกใจ
“ เราเนี่ยนะ?!” ธันวาครันหัวเราะด้วยความขบขันแต่กลับลังเล เพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจ
“ ก็มีที่ไหนซื้อขนมมาฝากคนใช้”
“ ก็ไม่เห็นเป็นไร พวกเรากับน้ำอายุห่างกันไม่กี่ปี เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก น้ำก็คือเพื่อนคนหนึ่งของเราสองคนไม่ใช่หรือไง?” ธันวาว่า เหมือนคำแก้ตัวก็ตามแต่
“ ฟอร์ เราสองคนเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งญาติ เราพอดูนายออกว่า นายสนใจน้ำ”
“………………” ธันวาเงียบ เขาก็คิดเหมือนเหนือ ว่าเขาคงจะสนใจน้ำเข้าให้แล้ว อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังอกหักก็เป็นได้ เขาถึงได้รู้สึกแบบนี้ รู้สึกว่าอยู่กับน้ำแล้วสบายใจ
“ คิดดีๆนะฟอร์ เรื่องน้ำ นายมีผู้หญิงผู้ชายประทังมาให้เลือก กับแค่อกหักครั้งเดียว นายไม่จำเป็นต้องลดค่าตัวเองลงมาขนาดนี้”
“ เหนือ นายไม่น่าพูดแบบนี้ มันผิดหลายอย่าง” ธันวาจ้องหน้าเพื่อนจริงจัง
“……………..” (ศราวัฒน์)
“ หนึ่งเราไม่ได้ลดค่าตัวเองลง สองน้ำก็เป็นคนเหมือนพวกเราไม่จำเป็นที่ถ้าเราสนใจน้ำจริงๆแล้วเราต้องลดตัวลงไปหาน้ำ สำหรับชอบก็คือชอบ รักก็คือรัก ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร จะเหมาะสมกับเราหรือเปล่า แค่เรารักเขา และเขารักเราก็พอ”
“ นี่นาย ชอบน้ำจริงๆ” ศราวัฒน์ถามย้ำ
“ ตอนนี้เราไม่แน่ใจ แต่คิดว่าคงไม่นาน เราจะรู้ว่าเราชอบน้ำจริงๆไหม? นายไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำให้น้ำเสียใจ นายก็รู้จักเราดี ว่าถึงเราจะเจ้าชู้จีบม้อไปทั่ว แต่ถ้าเรามีรักใคร ถ้าเรามีแฟนแล้ว เราหยุด เลิกให้เกียรติคนที่เรารัก”
“………………..”ศราวัฒน์จุกพูดไม่ออก และสิ่งที่เขากังวลก็ไม่ใช่เรื่องที่ฟอรจะทำให้น้ำเสียเสียใจ แต่เป็นเรื่องอื่น…
* * *
