ตอนที่ 18 ค่ำคืนนี้มีแต่...สองเรา (ครึ่งหลัง)
น้ำยืนเหม่อมอง.........สายน้ำที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้าแล้วกระจายตัวย้อนกลับลงมาเป็นชั้นๆ
ตามขั้นบันไดของมันอย่างชื่นชม...มีแสงไฟซ่อนอยู่ใต้น้ำพุนั่นแถมยังส่องแสงสลับสี
เปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ รับกับบรรยากาศกลางคืนแบบนี้ยิ่งนัก
ดาว...........ของท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ก็พร่างพราย หากแต่ว่าแสงไฟประดับมากมาย
ที่ส่องประกายก็สวยพรายระยับไม่แพ้กัน.... ฉากหลังของม่านสายน้ำตรงหน้าเขา
ยังถูกประดับประดาไว้ด้วยดวงไฟแสงสี ที่ติดให้ห้อยย้อยลงมาเป็นเส้นสาย
มีสีเขียวสวยสะท้อนกับหยดน้ำที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และดูระยิบระยับจับตาขึ้นไปอีก
ด้วยไฟรูปหยดน้ำที่ต่อพาดเกาะเกี่ยวอยู่ตามกิ่งไม้รอบข้าง
แต่ว่า.......สิ่งที่ดึงดูดสายตาคู่สวยของหนุ่มน่ารักให้หยุดมองราวกับถูกตรึง
คือ...ต้นไม้สีชมพู............
มันเป็นต้นไม้ปลอมที่ใช้เสาตั้งขึ้น มีกิ่งก้านสาขาแผ่ขยายออกไปราวกับต้นไม้จริงและตามกิ่งของมัน
ไร้ซึ่งใบ ดอก หรือผล ไม่มีอะไรนอกจากจะถูกติดด้วยดวงไฟประดับดวงเล็กๆสีชมพูเต็มต้น...
แสงสีชมพูนั้นส่องกระทบกันระยิบระยับสวยจนแทบละสายตาไปไม่ได้
คนน่ารักคงจะยืนเหม่อมองความงดงามเหมือนฝันตรงหน้านั้นอีกนาน ถ้าไม่ใช่เพราะ
สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือที่เข้ามาสอดประสานนิ้วจับกันไว้ ทำให้เขารู้สึกตัว
แล้วละสายตาก้มลงมองที่มือตัวเอง..... ก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าคนที่ก้าวเข้ามายืนข้างๆ
จับมือเขาแน่นทำเป็นเนียน แหงนหน้ามองดูต้นไม้สีชมพูที่มีหลายสิบต้นเรียงราย
ต่อหน้าพวกเขา คนหน้าหล่อหันมากระพริบตาข้างหนึ่งให้เขาแล้วยักคิ้วไปมายิ้มยั่ว
น้ำสะดุ้ง “เฮ้ย!////”
“อะไร~?” เอสทำเป็นเลิกคิ้วสูงถามเสียงงงๆ
“เฮ้ยยยย~!!” ยกมือที่ถูกจับขึ้นให้เอสดู ขมวดคิ้วเหมือนเป็นเชิงถามว่า
มาจับมือเขาทำไมฟะ แต่คนหล่อยังทำเฉไฉ ถามด้วยหน้างงๆอีกรอบ
“อื๊อ?...อะร้ายยย!?”
“คุณ!//////ถ้าใครมาเห็นเข้าจะทำยังไง ปล่อย!”
“.................ไม่ปล่อย..........ก็อยากจับ...มีไรมั้ย!//////”
“แนะ!!//////*//”
น้ำหันรีหันขวางมองไปรอบตัว กลัวคนจะผ่านมาเห็นมีหวังได้เป็นข่าวแน่.....
แต่.........นอกจากพวกเขาสองคนก็ยังไม่เห็นใครแถวนั้นเลยแม้แต่คนเดียว...
เอสอมยิ้มกลั้นขำ มองน้ำที่อยู่ไม่สุขมองซ้ายมองขวาตลอดเวลา......
“โธ่น้ำ คุณอยู่นิ่งๆบ้างเถอะ เป็นลูกลิงรึไง55 มาถ่ายรูปกันดีกว่าน่านะ”
ดาราหนุ่มจูงมือคนน่ารักของเขาที่ทำหน้าบูดกัดปากล่างอย่างขัดเขิน
ให้เดินตามเขาไปนั่งหน้าลานน้ำพุสวย แล้วเขาก็หยิบกล้องขนาดเล็กที่พกใส่
กระเป๋าเสื้อออกมาเตรียมถ่ายรูปให้ ชายหนุ่มค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังไป
“เอ้าคุณ! ยิ้มหน่อยซี่ ทำหน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่ได้ฮะฮะฮะ”
ผลที่ได้คือ....ทุกรูปถ้าน้ำไม่แลบลิ้นใส่ก็แยกเขี้ยวใส่เขาตลอด บางรูปน้ำก็ทำหน้าประหลาด
แหย่รูจมูกบ้างปลิ้นตาบ้าง พาให้คนคอยถ่ายรูปหลุดฮาจนท้องแข็ง
“คุณๆ!ไปถ่ายรูปตรงม้านั่งนั่นดีกว่า น่าจะมองเห็นต้นไม้สีชมพูข้างหลังด้วย
มันสวยดี ผมชอบ!/////นะนะนะ”
“คร้าบบบบ...หึ..”
พอเปลี่ยนที่น้ำจึงค่อยยิ้มหวานชูนิ้วสามนิ้วให้กล้องได้
เอสอดยิ้มตามไม่ได้ถามอย่างแปลกใจ
“เฮ่ ปกติไอ้ท่ายอดฮิตนี่เขาต้องชูกันสองนิ้วไม่ใช่เหรอคุณ?”
“ชูสองนิ้วก็เหมือนคนอื่นดิ ชูสามนิ้วตำรวจไม่จับหรอกน่า”
ตอบพลางหรี่ตามองนิ้วตัวเอง คนถามหายสงสัยได้แต่หัวเราะขำบอกว่าแล้วเขาจะจำไว้
“เอ้ามานั่งนี่มา! เดี๋ยวผมจะถ่ายให้คุณบ้างแล้วกัน” น้ำใช้มือตบตรงที่นั่งเบาๆ
ให้เอสทำตามที่เขาบอก แต่ดาราหนุ่มของเรากลับยืนอ้ำอึ้งคิด....
“.......................ขอผมถ่ายรูปคู่กับคุณไม่ได้เหรอ....น้ำ..///////”
“เอ๋......... เอ่อ...........................////////”
คำขอนี้ทำให้คนน่ารักอ้ำอึ้งเช่นกันเอาแต่ทำตาล่อกแล่ก หลบสายตาหวานๆที่ส่งมาหา
ก่อนจะเอามือลูบท้ายทอย...ก้มหน้าลงมองรองเท้าตัวเองที่เขี่ยพื้นไปมา
ได้สักพัก... เสียงหวานก็เอ่ยตอบอ้อมแอ้มเบาๆ “...ก็.......ได้....มาดิ... ////////”
เอสยิ้มกว้างอย่างดีใจ รีบเข้าไปนั่งข้างน้ำ ยื่นมือชูกล้องขึ้นไปข้างหน้า
เพื่อถ่ายรูปคู่ของพวกเขา.. แต่แทนที่ทั้งสองจะมองกล้อง.........
ต่างฝ่ายต่างก็แอบเหล่มองหน้าคนข้างๆ จนจ๊ะเอ๋กันซะได้..... ตกใจกันเองนิดๆ
สะดุ้งเพราะไม่คิดว่าอีกคนก็จะมองมาเหมือนกัน มือของดาราหนุ่มก็ดันพลั้ง
กดชัตเตอร์ไปแล้วเสียด้วย เลยกลายเป็นว่าไอ้รูปเมื่อกี้คงไม่มีใครมองกล้องทัน...
เอสขอน้ำถ่ายใหม่อีกรอบ............ ทั้งสองคนต่างยิ้มกลบเกลื่อนแก้เขินกันไปมา
แล้วหันไปมองกล้องใหม่อีกครั้ง คราวนี้คนหน้าหล่อเขยิบไปนั่งใกล้น้ำมากขึ้นเสียจนตัวติดกัน
เลยถือโอกาสยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาโอบไหล่บางเอาไว้....
“คุณใกล้ไปแล้ว~//////มากไปละมากไป!”
“อื้อ~~นี่แหละกำลังดีแล้ว หน้าผมใหญ่ เดี๋ยวมันเข้ากล้องไม่หมด
คุณก็เขยิบให้หน้าเข้ามาชิดๆกันหน่อยซี่~!”
“ไอ้บ้า!...หึ หน้าคุณไม่ได้ใหญ่ตรงไหนเลยไม่ต้องมาอ้าง
เอาไว้ให้ใหญ่เท่ากะละมังซักผ้าก่อน ค่อยมาหลอกผมเหอะ”
แต่เอสก็ยังดื้อจับหัวน้ำให้มาชนกับหัวของเขา แล้วบอกให้น้ำมองกล้อง
รีบมัดมือชกถ่ายรูปนั้นอย่างเร็วทั้งที่อีกฝ่ายยังเหวอๆงงๆตามเขาไม่ทันอยู่
คนหล่อกดย้อนดูรูปที่ถ่ายไปแล้วหัวเราะชอบใจใหญ่ น้ำชักสงสัยจึงคว้าแย่งกล้อง
มาไล่กดดูรูปบ้าง...........เมื่อเห็นสภาพตัวเองในนั้นก็โวยวายทันที
“โหย~! ทำไมมีแต่รูปน่าเกลียดๆของผมเต็มไปหมดเลย!//////*//ไม่เอาแล้ว!ไม่ถ่ายแล้ว!”
คนน่ารักงอนแก้มป่อง ขมวดคิ้วลุกเดินอย่างหงุดหงิดจะกลับไปขึ้นรถเดี๋ยวนั้น
แต่ก็ต้องสะดุดเพราะถูกมือคนที่ตามมาข้างหลังฉุดไว้ก่อนอย่างร้อนใจ
เอสจับไหล่น้ำให้หมุนหันหน้ามาหาเขา
“ผมไม่ได้แกล้งคุณนะ ก็คุณไม่ยอมทำท่าดีๆนี่นา ไม่โกรธน่า~นะยิ้มหน่อยสิครับ”
พูดง้อเสร็จก็ดึงแก้มทั้งสองข้างของคนหน้าบึ้งเล่นแล้วหัวเราะออกมาน้อยๆ
น้ำยกมือขึ้นปัดมือของเอสออกจากแก้มเขาแล้วว่า
“ไม่ต้องมาทำพูดดีด้วยเลย ผมง่วงแล้ว~!/////*//”
“อืม.....งั้นกลับกันดีกว่าเนอะ ว่าแต่แล้วคุณหายโกรธผมรึยังครับ?..”
เอสเลื่อนมือมากุมมือคนน่ารักของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย เหมือนจะบอกให้รู้
ว่าถ้าไม่ตอบเขา ก็จะยังไม่ยอมให้ไปไหนทั้งนั้น...........
น้ำจึงทำมองเมินไปทางอื่นแกล้งพูด “ .....ถ้าคุณ อยากให้ผมหายโกรธ....
คุณก็ขโมยไอ้ต้นนี่กลับบ้านให้ผมหน่อยสิ....” ทำสายตามองไปยังต้นไม้สีชมพู
ที่ตั้งตระหง่านต่อหน้า แล้วปรายตากลับมามองดาราหน้าหล่อที่ยืนเหงื่อตก..............
“...........อ่า...แล้วผมจะขนกลับบ้านให้ยังไงอ่ะ!!?..|||||||||||||||”
“หึ...จะไปรู้เหรอ.......................งั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน!”
น้ำลอบอมยิ้มขำ ที่เอสทำหน้าบอกไม่ถูกเอามือท้าวเอวข้าง เกาหัวข้างยิกๆ
อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี...หนุ่มสุดหล่อเริ่มเดินทำหน้านิ่วคิ้วขมวด วนเวียนรอบ
ต้นไม้ปลอมประดับดวงไฟสีชมพูสวยเต็มต้นที่น้ำชอบ...ทำท่าอย่างกับจะหาทาง
ขโมยเอากลับบ้านไปจริงๆ ที่สุด..น้ำก็ทนไม่ไหวปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากออกมา
ทันทีที่ได้เห็นเอสเข้าไปกอดต้นเสา แล้วดึงขึ้นใหญ่ออกแรงจนหน้าบูดหน้าเบี้ยว
แต่ไอ้ต้นนี้เขายึดเสามันไว้อย่างแน่นหนา ฝังลงไปกับพื้นแบบนี้ไม่มีวันหลุดลอยออกมาง่ายๆแน่
ยิ่งเอสพยายามจะเอาออกมาให้ได้ น้ำที่ดูการกระทำของเขาอยู่ก็ยิ่งขำเสียจนน้ำตาเล็ด...
“คุณ!555พอได้แล้ว จะบ้าเหรอไม่ต้องเอามาจริงๆหรอกน่า! 555เดี๋ยวก็ไฟดูดตายกันพอดีไอ้บ้า55
นี่ถ้าคุณโดนตำรวจจับได้ ลงหน้าหนึ่งข้อหาพยายามขโมยเสาไฟเขา ผมได้ขำตายแน่!55555//////”
พอเห็นคนน่ารักของเขาขำจะเป็นจะตาย ดาราหนุ่มจึงเลิกดึงหันมายืนท้าวเอวทั้งสองข้าง
แล้วหายใจหอบเพราะเหนื่อยที่ใช้แรงไปเยอะ เขาอมยิ้มมองหน้าที่หัวเราะร่าของน้ำ
จากนั้นจึงค่อยๆเดินกลับมานั่งพักที่ม้านั่งยาวสีขาวตัวเดิม...
หนุ่มน่ารักเดินกลับมานั่งข้างๆ แต่ยังหัวเราะให้กับความบ้าของเอสไม่หยุด
จนเจ้าตัวพลอยขำตามไปด้วย........
และเมื่อเสียงหัวเราะเริ่มแผ่วลง...
ทั้งคู่ก็ได้แต่อมยิ้มมองหน้ากันไปมา... ในเวลาที่ไม่มีเสียงบทสนทนาใดดังเช่นนี้
รอบบริเวณนั้นมันช่างเงียบดีเหลือเกิน จะได้ยินก็แต่เพียงเสียงของน้ำพุที่ดังกลบ
เสียงหัวใจเต้นของพวกเขาเท่านั้น....
“ถ้า......... เอากลับบ้านได้จริงๆก็ดีเนอะ...”
น้ำเปรยออกมาก่อนหันไปมองต้นไม้สีชมพูที่ส่องแสงระยับเรียงรายทางด้านหลัง
คนหน้าหล่อได้แต่ยิ้ม........มองใบหน้าหวานที่พูดจาน่ารักเหลือทน..
“เอส...ขโมยให้หน่อยสิ..”
นี่น้ำกำลังอ้อนเขาหรือ...........////////
อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเนียนตรงหน้า...
หนุ่มน่ารักสะดุ้งนิดๆ ใจเขายิ่งเต้นแรงขึ้นเมื่อโดนคนรูปหล่อลูบแก้มเบาๆ
แล้วประคองใบหน้าของเขาไว้ก่อนคลื่อนตัวเข้ามาใกล้...
ร่างบางที่นั่งหน้าแดงต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะจมูกโด่งๆของอีกฝ่ายที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ยิ่งกว่า
กำลังค่อยๆกดฝังลงไปบนแก้มนุ่มของเขาเนิ่น....นาน....
เอสฝังจมูกตัวเองกับแก้มของคนน่ารัก หอมชื่นใจอยู่นาน...
เมื่อถอนจมูกออกมาเขาก็ยังคลอเคลียไม่ห่าง... ริมฝีปากของคนทั้งคู่
อยู่ใกล้กันมากจนแทบจะสัมผัสกันได้...เรียกลมหายใจที่ร้อนผ่าวให้เป่ารด
ปลายจมูกของกันและกัน... เปลือกตาคู่สวยที่ล้อมด้วยแพขนตายาวหลุบมองต่ำ
จดจ่อสายตาหวานไปยังริมฝีปากหยักได้รูปสวยของอีกฝ่าย....และ
เมื่อได้เห็นมันกำลังจะเผยอออก ปากบางของเขาก็ทำท่าเผยอออกตาม
ให้ริมฝีปากทั้งสองนั้น ค่อยๆขยับเข้าหากันทีละนิดๆ.....แตะ...กัน...
“เคร้งง!! เคร้งง!!”
ชายหนุ่มทั้งสองสะดุ้งตัวเฮือก!ที่กำลังคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง
ก็ถึงกับกระเด้งตัวออกจากกันทันทีทันใด ไถลก้นไปนั่งเสียห่างกันไกล
จนอยู่คนละมุมหัวท้ายของม้านั่งตัวยาวแบบอัตโนมัติ…
ไอ้เสียงดังก้องกังวานแปลกปลอมบ้านี่มันอะไรกันวะ!
มาดังขัดจังหวะพวกเขาได้พอดิบพอดีอะไรอย่างนี้~~///////*//!!!!
คนหน้าหล่อนั่งหัวเสีย ขยี้หัวตัวเองอย่างขัดใจที่ถูกทำลายบรรยากาศดีๆ
ระหว่างเขากับน้ำจนอารมณ์ค้างสุดๆ...
ด้านคนน่ารักเองก็ยกขาขึ้นมานั่งกอดเข่าอยู่บนม้านั่ง เม้มปากตัวเองพลางถอนใจ
สีแก้มของใบหน้าหวานที่ดูเขินอายนั้นแดงระเรื่อ หันมองซ้ายขวา หามองไปรอบตัว
หาต้นตอที่มาของเสียงดังสนั่นเมื่อครู่.............. แล้วก็เจอ...
ยามขี่มอเตอร์ไซค์มาตีระฆังบอกเวลาตีสอง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากลานหน้าน้ำพุนัก...
แล้วลุงยามคนนั้นก็ขี่รถผ่านหน้าพวกเขาไปอย่างไม่ใส่ใจ หรือสังเกตเห็น
ชายหนุ่มทั้งสองที่นั่งตัวแข็งห่างกันเป็นวาเลยสักนิด...
โดนขัดจังหวะอย่างนี้ เล่นเอาคนทั้งคู่ต้องเก้อเขินอ้ำอึ้งจะแย่
ไปไม่เป็นทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่เลยทีเดียว...
เอสแสนเสียดายโอกาสที่เพิ่งหลุดลอยไป จนนึกพาลให้โมโหลุงยามคนนั้นอย่างไม่มีเหตุผล...
ก็อีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น นิดเดียวจริงๆ น้ำก็จะยอมจูบกับเขาแล้ว!
...............แต่เมื่อเขาคิดดีๆ...ก็สุดแสนจะดีใจยิ่งกว่า
อันที่จริง... มันอาจจะกลายเป็นจูบครั้งที่เท่าไหร่ของพวกเขาแล้วก็ไม่รู้...
แต่ครั้งนี้ มันจะเป็นครั้งแรก..ที่น้ำตั้งใจจะจูบกับเขาด้วยตัวเอง...////////
ไม่ว่าจะเพราะบรรยากาศเป็นใจหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ มันทำให้
เขาได้รู้ว่า ความพยายามตลอดมาของเขา ไม่ได้สูญเปล่าไปไหนแล้ว
คนทั้งสองยังนั่งก้มหน้าปล่อยให้ความเงียบเป็นใหญ่ได้สักพัก เสียงนุ่มก็เอ่ย
“..เอ่อ.........มันดึกมากแล้ว... เรา...กลับกันมั้ย....” ชำเลืองหางตาคู่คมมองคนข้างๆ
ที่นั่งเอาคางเกยหัวเข่าตัวเองไม่ยอมมองหน้าเขา
“........อื้ม//////” เสียงหวานตอบออกมาสั้นๆแล้วรีบผลุดผลัดลุกเดินนำหน้าไปก่อน
ดาราหนุ่มเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปบ้าง “น้ำ~!เดินเร็วจัง รอผมด้วยซี่~~//////”
.....................................
*************
หลังกลับมาถึงห้องพักในโรงแรมหรู....
หนุ่มน่ารักเฝ้าถามตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำอย่างสับสน
“นี่....................มึงเกือบจะจูบปากกับ........ เขา... ///////.งั้นเหรอไอ้น้ำ~~”
ถามตัวเองเสร็จก็พาให้นึกย้อนไปถึงตอนนั้น อดกัดปากตัวเองด้วยความเขินไม่ได้
อีกนิดเดียว..............เขาเกือบจะจูบกับไอ้ดาราโรคจิตไปแล้ว...
มันไม่ใช่ครั้งแรก...แต่ที่ต้องเขินขนาดนี้เป็นเพราะครั้งนี้เขาเต็มใจที่จะจูบด้วย...
ทั้งๆที่เขาเกลียดผู้ชายที่เข้ามาจีบทุกคนแท้ๆ..... แต่ไม่รู้ทำไมกับผู้ชายคนนี้เท่านั้น
ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะรู้สึกรังเกียจ ทุกสัมผัสที่เอสหยิบยื่นให้มา....มันทำให้
เขาเคลิ้มจนตัวลอยได้เสมอ........../////////
นึกๆไปจูบแรกกับเอส พวกเขาก็จูบกันท่ามกลางแสงไฟประดับระยิบระยับจับตา
หนนี้พวกเขาก็เกือบจะจูบกันท่ามกลางความสวยงามของดวงไฟพร่างพรายมากมาย
..........เขาแพ้แสงสวยๆจากหลอดไฟหรือ?
.....ไม่รู้ว่าแพ้ไฟ...หรือแพ้ใจใครกันแน่...
..มัน........... เพราะอะไรกันนะ...///////
...............................
.....................
......
แต่งตัวเสร็จ น้ำก็ค่อยๆแง้มประตูออกมาเห็นเพียงแสงสว่างจากโคมไฟตรงหัวเตียง
และเอสที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดขา อ่านบทละครอยู่บนเตียงนอนกว้างของโรงแรม....
ทำไมดึกป่านนี้ยังไม่ยอมนอนเสียทีนะ.... คนน่ารักค่อยๆย่อง....
ค่อยๆย่อง....จะออกไปจากห้องนอนเพื่อไปนอนที่โซฟาข้างนอก.......
“อ่ะแฮ่ม! อ่ะแฮ่มแฮ่ม!!”
ได้ยินเสียงกระแอมทักน้ำก็ต้องสะดุดเท้าตัวเองกึก!
พอหันกลับมามองต้นเสียง เขาก็ต้องถอยตัวไปยืนเสียติดผนังห้องเมื่อเห็น
คนหน้าหล่อลดบทละครตรงหน้าลง แล้วนั่งยิ้มมองเขา เอามือตบฟูกที่ว่างข้างตัว
เป็นเชิงเรียกให้เข้าไปหา....... “อยากให้ผมอุ้มใช่มั้ย?..”
ได้ยินคำขู่เข้า......น้ำก็ต้องเดินคอตกปาดเหงื่ออย่างใจเต้น กลับมาขึ้นเตียงแต่โดยดี...
เมื่อเอสเห็นว่าน้ำยอมมานอนที่เตียงดีๆแล้วเขาจึงเอื้อมมือไปปิดโคมไฟ
เอนหลังลงนอนอยู่ข้างๆกัน แต่.....ตาของสองหนุ่มกลับไม่ยอมหลับเสียนี่
ทั้งที่เข้ายามวิกาลดึกสงัดเช่นนี้แล้ว..... พวกเขาต่างก็นอนไม่หลับ
พลิกตัวไปมากระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่ หันไปหันมาก็เจอหน้ากัน..........
จนเอสทนไม่ไหวเอ่ยออกมาก่อน
“คุณ!...ผมว่า ............... ตอนนี้คงไม่มีใครผ่านมาอีกแล้วล่ะ..”
น้ำสะดุ้งโหยงตาโต กำผ้าห่มดึงขึ้นมาปิดปากที่เม้มแน่น
“อะอะอะไรของคุณ!//////นี่ยังจะคิดอะไรอยู่อีก นอนได้แล้ว!”
พูดไปก็คอยดันไหล่ขยับตัวให้ถอยห่างคนหน้าหล่อข้างๆอย่างระแวง
“......เฮ้อ~////// ก็ผมนอนไม่หลับนี่..........รึคุณหลับลง..”
เอสนอนหงายเอามือก่ายหน้าผากแล้วชำเลืองตาไปมองน้ำที่โผล่หน้าออกมา
จากผ้าห่มหนาแค่ครึ่งเดียว...
“อึก...ผมน่ะจะหลับแล้ว.....เพราะคุณพูดขึ้นมาแหละ..เลย.. //////.ยังนอนไม่หลับ..”
..................................ดาราหนุ่มและคนน่ารักของเขาค่อยๆหันมาสบตากัน...
ท่ามกลางความมืดนั้น มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาให้พวกเขาได้เห็นแววตาของกันและกัน..
...... ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ยออกมาอีก...
น้ำได้แต่นอนมองสายตาคู่คมที่สื่อความเสน่หาส่งมาให้
เคล้ากับเสียงจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวของตนเองอยู่นาน....
เอสค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสเบาๆที่ข้างแก้มของน้ำ ผลส่งให้พวงแก้มใสอมชมพูนั้น
เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ...ชายหนุ่มรับรู้ได้แม้มีแค่แสงสลัวจากดวงจันทร์พอให้มองเห็น
ใบหน้าหวานที่เขาลุ่มหลงได้เท่านั้น ขยับตัวลุกนั่งทั้งที่ยังมองคนน่ารักของเขาไม่วางตา.....
เอสยิ้มน้อยๆ...ใช้หลังมือเคลียแก้มใสของน้ำเล่น
แล้วเอ่ยด้วยเสียงนุ่มเบาๆ แต่ดังก้องในหัวใจของคนที่ได้ฟังเหลือเกิน
“ผมรักคุณจัง.....น้ำ..”
คนน่ารักไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต.........ว่าจะมีวันที่เขาต้องเขินให้กับคำบอกรัก
ของผู้ชาย.............
หากเป็นเหมือนก่อนมา ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม ลองกล้าดีมาพูดคำคำนี้กับเขาดู
คงได้เลือดกบปากเป็นแน่.....แต่แล้ววันนี้มันอะไรกัน.......................ไม่มีความคิดที่จะ
ทำร้ายคนตรงหน้าที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้เขาเลยแม้สักนิด...
มือเหมือนจะเย็นเฉียบขึ้นมาเสียดื้อๆ............. ใจมันล่องลอยชอบกล
ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าลุกขึ้นมานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วสัมผัสอ่อนโยนกับรสหวานๆ
ที่แทรกเข้ามาภายในปากของเขานี่มันอะไรกันนะ.........
........................................
....................
...........
เมื่อปรือตาคู่สวยขึ้นมอง ก็เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับตาอยู่ติดกับหน้าของเขา
ได้คำตอบแล้ว....................
เปลือกตาสวยนั้นจึงหลับลงอีกครั้ง...........
.....อ๋อ....................มิน่าล่ะ............
จูบของเอสนี่เอง...
ทั้งสองนั่งอยู่กลางเตียงนอนนุ่ม ถ่ายทอดความหวานจากริมฝีปากให้กันและกันเนิ่นนาน......
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดเข้ามากระทบให้เห็นใบหน้างามของพวกเขา
กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความเสน่หา...
............................
...............
เมื่อค่อยๆถอนริมฝีปากที่ยังอ้อยอิ่งหากันออกมา ประโยคแรกที่ได้ยินจากปากของคนหน้าหล่อ
ทำเอาหนุ่มน่ารักที่ยังเบลอกับรสจูบดูดดื่มเมื่อครู่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“น้ำ.........เป็นแฟนกับผมเถอะนะ”
แล้วเขาควรจะตอบว่าอย่างไร................ น้ำยังมองหน้าเอสนิ่ง…
มันทำให้ใจของคนที่รอฟังต้องลุ้นแทบลืมหายใจ…
“................ เอ่อ..ม.”
tsktonight.. TBC. *** ว้าวๆๆ/////ดีใจที่มีคอมเม้นต์เพิ่มขึ้น555 แล้วก็ดีใจที่ทุกคนอ่านแล้ว
มีความสุขไปกับความน่ารักของ ขอโทษครับผมเผลอ คิกคักๆขอบคุณมากจ้า
ปล. เรื่องนี้ยาววววววนะเออ....
![:z2:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/05.gif)
เจ้านิกกี้จะคืนดีกับแบงค์สำเร็จหรือไม่ แล้วคนไม่เคยมีความรักแบบน้ำ
จะตอบนายเอสว่ายังไง มาลุ้นด้วยกันนะคะ!
![impress2 :impress2:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/impress2.gif)