ไอ้โซโล่มือจับผมไว้ตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงตะโกนข้างหลังอย่างโมโหสุดขีด หน้ามันซีดลงทันตาเห็น พี่เฮอร์มิตกับพี่โมโนกุมขมับกันคนละข้างเชียวแหละ ส่วนพ่อของไอ้โซโล่ก็ยังทำหน้างงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไอ้โซโล่มมันหันกลับไปเผชิญหน้ากับปาปี๊ของผมที่ย้ำเท้าเข้ามาด้วยความเร็วสูงจากนั้นจะจับตัวผมกระชากแต่ไอ้โซโล่มันคว้ามือของปาปี๊ของผมไว้ก่อนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าที่ตื่นๆ เมื่อกี้กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว โซโล่เท่มาก!
“ใจเย็นก่อนเถอะครับ กระชากไปแบบนี้พรีสต์จะเจ็บได้”
“เรื่องของกูโว้ย! มึงเป็นใครถึงได้มาสั่งกูวะ”
“ไม่ได้สั่งครับ แต่ขอร้องเบาเสียงหน่อยมันรบกวนลูกค้าคนอื่นๆ”ไอ้โซโล่มันเอ่ยแล้วมองไปที่ลูกค้าคนอื่นๆ กำลังเดินเข้ามามองพวกผมอย่างงุนงง ปาปี๊หันไปมองอย่างหงุดหงิดใจ
“นั้นสิครับคุณพ่อ เราไปคุยกันที่ห้องกันดีกว่านะครับ”พี่เฮอร์มิตเข้ามาแทรกระหว่างปาปี๊กับไอ้โซโล่เอ่ยไกล่เกลี่ยก่อนจะดึงปาปี๊ที่ยังจับมือของผมไว้แน่นไปใส่ชุด ครับๆ เดี๋ยวผมเดินตามปาปี๊ไปเองไม่ต้องจับเหมือนกลัวผมจะโดนข่มขืนแบบนั้นหรอกน่า พอเปลี่ยนชุดมาใส่ยูกาตะผมเดินตามปาปี๊ไปแล้วหันไปมองไอ้โซโล่ที่ถอนหายใจแล้วค่อยๆ เดินตามมาทีหลัง
“พรีสต์ หันไปมองอะไร!”
พ่อนี่ก็พาลเป็นบ้าเลยว่ะ พวกผมเดินมาที่ห้องพักของปาปี๊ รู้สึกว่าพวกผู้หญิงจะยังอาบน้ำไม่เสร็จตอนนี้ก็เลยเหลือแต่พวกผู้ชายนั่งกันอยู่ในห้อง ไอ้โซโล่มันนั่งเผชิญหน้ากับปาปี๊ที่จ้องมันอย่างเอาเรื่อง ส่วนพี่โมโนกับพี่เฮอร์มิตก็ไปนั่งข้างปาปี๊ซะเรียบร้อย ผมเดินเกาหัวแกรกๆ กับบรรยากาศตึงเครียด สงสารแต่พ่อของไอ้โซโล่ที่ดูเหมือนยังไม่รับรู้สถานการณ์นะครับ คุณพ่อท่านก็มานั่งข้างๆ ลูกชาคนเล็ก ส่วนผมที่นั่งเป็นคนสุดท้ายเหลือที่ว่างอยู่ตรงข้างๆ ไอ้โซโล่เท่านั้นครับผมกำลังจะนั่งลง ปาปี๊ก็ตบโต๊ะเสียงดัง
ปัง!
“พรีสต์! ไปนั่งทำไมตรงนั้น มานั่งข้างหลังพ่อนี่”
“ไม่ครับ พ่อโมโหอะไรอยู่ก็รีบๆ พูดมาเถอะครับ”ผมทำหน้าจริงจังบ้างแล้วเอื้อมมือไปจับมือของไอ้โซโล่แล้วบีบเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ ไอ้โซโล่มันเหลือบมองมา ผมก็ยิ้มให้มัน
“พรีสต์!!”ปาปี๊กรีดร้องอย่างไม่พอใจ ผมถอนหายใจ ขอโทษครับปาปี๊แต่นี่มันเป็นเรื่องจริงถ้าขืนปกปิดต่อไปมันก็ไม่ดีต่อตัวผมและปาปี๊เอง ยังไงก็ต้องรู้อยู่แล้วก็ให้มันรู้กันตอนนี้ไปเลยดีกว่า ปาปี๊จะได้ทำใจได้ง่ายกว่านี้ แต่ดูเหมือนปาปี๊ของผมก็โกรธมากกว่าเดิมอีก นั้นทำให้ผมใจแป๋วไปกว่าครึ่ง ตาของปาปี๊แดงก่ำตัวก็สั่นด้วยความโมโหพยายามข่มความรู้สึกเกรี้ยวกราด
“เรื่องมันเป็นยังไงอธิบายให้พ่อฟังสิพรีสต์”ปาปี๊กดเสียงต่ำลงแล้วค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ บรรยากาศน่ากลัวมากผมเพิ่งเคยเห็นปาปี๊เป็นแบบนี้ ผมตัวสั่นเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงมองตักของตัวเอง ทำไงดีดูเหมือนปาปี๊จะโกรธมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ตอนแรกที่คิดไว้มันไม่ใช่แบบนี้ ให้ตายสิ ผมเริ่มกลัวขึ้นมาบ้าง
“ขอโทษครับ อนุญาตให้ผมเล่าแทนพรีสต์เถอะครับ”ไอ้โซโล่มันพูดแทรกขึ้นมาระหว่างที่ผมเงียบ ปาปี๊หันไปมองมัน พี่เฮอร์มิตยิ้มออกมาส่วนพี่โมโนยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองข้างแถมยังพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘มึงเท่มากไอ้น้อง’ ผมรู้สึกโล่งขึ้นมาเยอะเพราะตอนนี้มือของเรากุมกันไว้แน่น นั้นสิตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่น่า
“ไม่เป็นไรหรอกน่า กูเล่าได้ ผมจะเล่าเองครับพ่อ”ผมพูดกับไอ้โซโล่ด้วยรอยยิ้มแล้วหันมาพูดกับปาปี๊ด้วยความมั่นใจเหมือนตอนแรก ปาปี๊ไม่ได้ตอบรับอะไรท่านนั่งทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ผมระบายยิ้มแล้วชี้นิ้วไปทางไอ้โซโล่
“ไอ้บ้านี่มันตามจีบผมตั้งแต่อยู่ปีสองแล้วครับแต่ผมก็ไม่รู้ตัวมาก่อน มันก็เลยแดกแห้วไปร้อยไร่ได้”ผมเล่าไปยิ้มล้อเลียนไอ้โซโล่ไปด้วย ไอ้คนแดกแห้วจนพุงกก้างหันขวับมาจ้องผมทันที อะไรกูพูดเรื่องจริงนะมึง พี่โมโนหลุดขำออกมาพร้อมกับคุณพ่อของไอ้โซโล่
“จากนั้นขึ้นปีสามผมกับมันก็ได้มาเจอกันเพราะพี่รหัสของเรารู้จักกัน พวกเราดวลเหล้ากันใครแพ้เป็นทาสคนชนะแล้วไอ้โซโล่มันชนะแต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ท้ามันเล่นไพ่ต่อพนันไว้เหมือนเดิมใครแพ้เป็นทาสคนชนะหนึ่งอาทิตย์ ผมแพ้มันสี่ตารวดจากหนึ่งอาทิตย์กลายเป็นห้าอาทิตย์แล้วผมก็ไปท้ามันอีกโดยพนันจากห้าอาทิตย์เป็นสามเดือน สุดท้ายผมก็แพ้มันอีก จากนั้น เอ่อ มันก็ได้ใกล้ชิดกันระดับหนึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่าชอบมันเข้าตอนไหน เอ่อ เล่าแค่นี้พอไหมครับ ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะครับ”
“...”
“ขอโทษนะครับพ่อ”เห็นปาปี๊นั่งเงียบผมก็พูดเสียงเบาๆ อย่างรู้สึกผิด ขอโทษนะครับผมชอบมันจริงๆ เพราะฉะนั้นอย่าขัดขวางเราเลยนะครับ
“อย่าโกรธพรีสต์เลยครับ มันเป็นเพราะผมที่ไปชอบเขาก่อนแต่ผมจะไม่ขอโทษคุณลุงหรอกนะครับ ถ้าผมขอโทษไปก็แสดงว่าผมเสียใจที่ตัดสินใจเลือกทางนี้ ผมได้เลือกทางนี้โดยจะไม่หันไปเสียใจกับมัน ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาสุดความสามารถที่ผมมี ให้ผมได้คบกับเขาเถอะครับ”ไอ้โซโล่ก้มหัวลงเพื่อขอร้องปาปี๊ที่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผมก็ก้มตัวลงเหมือนกัน
“พ่อครับ ขอร้องล่ะครับ”
“ยังเด็ก”
ผมกับไอ้โซโล่เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินปาปี๊พูดออกมาแบบนั้น ผมก็รู้ว่าท่านหมายถึงอะไร ผมกับไอ้โซโล่ยังอายุน้อยอย่างที่ปาปี๊พูดมาจริงๆ พวกเราเงียบไม่แย้งคำพูดนั้น ปาปี๊ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ผมมองปาปี๊แล้วเสียใจนิดๆ ที่ท่านไม่เห็นชอบด้วย
“สังคมของพวกเธอไม่ได้มีอยู่แค่นี้ ในอนาคตสังคมของพวกเธอจะขยายกว้างกว่าตอนนี้”
“พ่อ ทำไมต้องสนใจคนอื่นที่ไม่รู้จักเราว่าเขาจะคิดยังไงด้วยล่ะครับ ผมแคร์แต่คนที่ผมรู้จักคนที่ผมรักเท่านั้น”
“ก็ฉันนี่ไง! ถ้าแกแคร์ล่ะก็เลิกไปซะ!”
“พ่อ!”
“อารมณ์ความหลงใหลของวัยรุ่นมันเปลี่ยนไปได้ง่ายๆ ความสัมพันธ์นี้มันจะมั่นคงแค่ไหนกัน”ปาปี๊เอ่ยขึ้นด้วยความจริงจัง ผมเม้มปากแน่น ผมไม่รู้ว่ามันจะไปได้ไกลหรือนานแค่ไหนแต่ผมอยากจะทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด ในอนาคตผมอาจจะเลิกชอบมันแต่นั้นไม่สำคัญเท่าตอนนี้ที่ผมรักมัน!
“ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงแต่สิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำก็คือละทิ้งเขา”ไอ้โซโล่มันเอ่ยขึ้นเรียบๆ อย่างมั่นใจ ผมหันไปมองมันแล้วยิ้มให้มัน อ่า อนาคตเราไม่ต้องไปสนใจมันหรอกขอแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดอนาคตมันจะดีเองนั้นแหละ เหมือนที่ใครบางคนพูดไว้ว่าหากต้องการอนาคตที่ดีต้องเริ่มจากทำวันนี้ให้ดีที่สุด!
“อายุขนาดนี้ก็ไม่เด็กแล้วล่ะพุท ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็นายเองตอนอายุเท่านี้ก็ทำคริสท้องแล้วนี่น่า”คุณพ่อของไอ้โซโล่ที่นั่งเงียบไร้ตัวตนตั้งนานสองนานก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเข้าใจ ปาปี๊ของผมมีชื่อเล่นว่าพุทโธครับ พอคุณพ่อของไอ้โซโล่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นปาปี๊ก็หยุดชะงักแล้วหันไปถลึงตาใส่อีกฝ่ายที่จู่ๆ มาแฉความชั่วเมื่อกาลก่อน อ้อ เคยได้ยินเหมือนกันว่าตอนสมัยเรียนปอตรีมามี๊ต้องดร๊อปเรียนอยู่ครั้งหนึ่ง ดร๊อปไปคลอดลูกนี่เอง ปาปี๊แม่งร้ายว่ะ!
“อ่า นั้นสินะ เจ้าคนไม่มีความรับผิดชอบ!”
“...”
สถานการณ์ของปาปี๊เริ่มเลวร้ายเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงลอดเข้ามาเป็นส่วนเกิน พวกเราหกคนยังไม่มีใครพูดแต่เสียงนั้นโพล่งขึ้นมาได้จังหวะเหมาะเหม็ง คุณแม่หวานเดินขึ้นมาในห้องพร้อมกับยิ้มเยาะส่งไปให้กับปาปี๊ของผมอย่างเปิดเผย สองคนนี้ต้องไม่ถูกกันแน่เลยครับ ผมฟันธง! มามี๊เดินตามมาทีหลังแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิม
“คุณคะ ให้โอกาสเด็กๆ เขาหน่อยเถอะค่ะ”
“ใช่ๆ! คนเป็นพ่อแม่น่ะต้องหัดเชื่อมั่นในตัวลูก อีกอย่างแกต้องหลีกทางให้ลูกของฉันตอบแทนที่เมื่อสมัยก่อนฉันยังหลีกทางให้แกมาจีบคริสไงล่ะ!”
“เรื่องนั้นมันหายกันตั้งแต่ครั้งลูกชายคนโตของเธอมาจีบลูกสาวของฉันแล้ว ฮึ!”
“งั้นย้ายสิทธิ์มาให้โซโล่ล่ะกัน โมโนยกเลิก”
“...มันย้ายได้ซะที่ไหนเล่า!”ปาปี๊หันขวับไปตอบโต้กับคุณแม่หวาน
“เอาเป็นว่าแกน่ะแก่อยู่ส่วนแก่อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับลูกมัน”
“นี่มันลูกฉันไม่ใช่ลูกแกยัยหวาน”
“อ้าว นี่แกไม่รู้หรือไงว่าลูกคริสก็เหมือนลูกของฉัน”
“มั่วแล้ว!”ปาปี๊คิ้วกระตุกยิกๆ มองแม่ของไอ้โซโล่ที่ยังกวนไม่เลิก สองคนนี้โต้กันไปมาจนกระทั่งมามี๊เข้ามาแทรกก่อนที่สองคนนี้จะกระโจนกัดกันจริงๆ
“คุณคะ ได้เวลามื้อเย็นนานแล้วนะคะ เราจะไม่ไปทานกันเหรอ?”
“งั้นก็ไปกันเถอะ”ปาปี๊ลุกขึ้นแล้วเดินไปกับมามี๊ที่หันมาส่งยิ้มให้กับผม มามี๊~! รักมามี๊ที่สุดเลยคร้าบ!! ถ้ามามี๊พูดล่ะก็ปาปี๊ไม่เถียงหรอกแน่ๆ ผมรู้สึกดีจังที่มามี๊อยู่ข้างผม พี่ชายทั้งสองของพวกเราก็ลุกขึ้นเดินออกนำไป พี่โมโนพยุงคุณพ่อแล้วเดินออกไปด้วยกัน เหลือผมกับไอ้โซโล่ที่ยังนั่งอยู่ต่อ เหมือนพวกตัวประกอบจะรู้คิวว่าฉากนี้ต้องยกให้ตัวเอกแบบพวกผม หึๆ
“เฮ้อ~! โคตรอึดอัดเลยว่ะ”ไอ้โซโล่ถอนหายใจโล่งแล้วล้มตัวนอนลงบนพื้นเสื่อก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ผมก็ทิ้งตัวนอนลงบนตัวของไอ้โซโล่ โฮะๆ ในที่สุดแผนก็สำเร็จไปอย่างหน้าสิ่วหน้าขวาน เท่านี้ผมก็สวีตได้แล้วสินะ~ เย้! เที่ยวครั้งนี้เป็นการเดตแบบนอกประเทศครั้งแรก
“โซโล่ ถ้ามึงเลิกชอบกูแล้วไม่ต้องฝืนใจอยู่กับกูต่อนะ”ผมพูดไปด้วยใบหน้าจริงจัง หมดรักแล้วฝืนอยู่ด้วยกันก็รั้งจะทุกข์ทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ ผมรู้ว่ามันมีความรับผิดชอบสูงแต่เรื่องของจิตใจไม่ต้องรับผิดชอบขนาดนั้นก็ได้ ไอ้โซโล่มันลุกขึ้นแล้วจับตัวผมไว้ ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
“มึงบอกลากูไปซะ...”
“พรีสต์”
“กูจะได้ไปหาแฟนใหม่มาแทนไง ฮ่าๆๆๆ”
“พรีสต์”คราวนี้มันเรียกซะเสียงเข้มเชียว สงสัยผมจะเล่นมากไปล่ะมั้ง
“ล้อเล่นน่า”ผมยิ้มแล้วชกท้องของไอ้โซโล่ไปเบาๆ ไอ้โซโล่มันก็ไม่ได้พูดอะไรดึงผมเข้าไปกอดไว้ผมก็กอดมันตอบ
“อ้าวๆ กินข้าวก่อนนะครับคุณน้อง”เสียงเตือนดังเข้ามาในห้องพร้อมกับพี่เฮอร์มิตที่ชะโงกหน้าเข้ามา ผมกับไอ้โซโล่ถึงแยกกันแล้วเดินออกมาทานข้าว ปาปี๊เนี่ยจ้องเขม็งเชียว ไอย่า! เหลือที่นั่งอยู่ข้างๆ ปาปี๊เท่านั้นเอง โอ ใครจะไปนั่งล่ะเนี่ย
“แกน่ะมานี่”
ผมเหรอ?
“ไม่ใช่พรีสต์ แกนั่นแหละ!”ปาปี๊รีเคว้สต์ไอ้โซโล่ให้ไปนั่งข้างๆ อีแบบนี้ไม่พ้นต้องแกล้งมันแหงๆ เลยวะ ผมนั่งลงตรงกันข้ามกับไอ้โซโล่ พนักงานเดินยกชุดอาหารมาวางตรงหน้าพวกผม อ่า น่ากินสมกับเป็นอาหารญี่ปุ่นจริงๆ เมื่อได้ครบกันเรียบร้อยพวกเราก็ลงมือทานกันเงียบๆ
ผมแอบมองไอ้โซโล่กับปาปี๊ที่ดูเหมือนปาปี๊จะแย่งไอ้โซโล่กินของดีๆ ไปหมดเหลือแต่ของดองกับผักให้มัน ไอ้โซโล่มันก็ทำได้แต่เงียบบ่นอะไรมากไม่ได้ครับ ไม่นานพวกเราก็ทานเสร็จ พวกสาวๆ ย้ายกลับห้องไปเหลือพวกหนุ่มๆ ที่ชวนกันไปเล่นออกกำลังย่อยอาหารก่อนนอนครับ พวกเรามายืนกันที่โต๊ะปิงปองกีฬายอดฮิตที่ต้องเล่นในเรียวกัง
“มาแข่งกันแบบยากๆ เถอะ พวกเราเล่นพร้อมกันทั้งสี่คนต้องตีเฉียงไปหาอีกฝั่งพร้อมกับตอบคำถามที่ตั้งโจทย์เอาไว้ เช่น สมมติว่าคำถามตั้งว่าให้บอกชื่อประธานาธิบดี ก่อนจะตีลูกเราก็ต้องตอบชื่อของประธานาธิบดีแล้วค่อยตีเฉียงไปฝั่งตรงกันข้าม เข้าใจไหมครับ?”พี่เฮอร์มิตครีเอทเกมปิงปองให้ยากมากขึ้น เหล่าลูกผู้ชายก็ไฟลุกพรึบ ผมเป็นกรรมการนับแต้ม ส่วนคุณพ่อของไอ้โซโล่เป็นคนดู นักกีฬาแบ่งฝั่งกันอย่างรวดเร็ว พี่เฮอร์มิตกะปาปี๊ พี่โมโนกะไอ้โซโล่
“ใครแพ้สามครั้งก่อนจะต้องโดนลงโทษโดยคนแพ้ต้องออกเงินเลี้ยงคนที่เหลือตลอดทิปนี้”ปาปี๊เสนอบทลงโทษ ทุกคนก็รู้ทันทีว่าปาปี๊ของผมกำลังเล็งใครอยู่ ไอ้โซโล่มันก็นิ่งไม่สนใจคนอื่นๆ ก็รับข้อเสนอลงโทษนี้ไม่มีใครแย้ง เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแต่ละทีมก็เข้ามาประจำตำแหน่ง
“ไอ้เอกฝากตรวจสอบคำตอบด้วย ใครผิดก็สั่งให้หยุดทันทีนะ”ปาปี๊หันมาบอกพ่อของไอ้โซโล่ อ่า ท่านชื่อว่าเอกงั้นเหรอ? ความหมายไม่ได้ต่างจากลูกเล๊ย สมกับพ่อลูกกันล่ะนะ หน้าที่คิดคำถามเป็นผมเองครับ ทำไมถึงมอบหน้าที่ยากๆ ให้วะเนี่ย ผมคิดคำถามไว้ในหัวอยู่นาน
“ประเทศที่ธงมีจันทร์เสี้ยว เริ่มได้!”
“มาเลเซีย”พี่โมโนเป็นคนเริ่มเสิร์ฟก่อนครับ พี่โมโนซัดลูกไปหาปาปี๊
“ตุรกี”ปาปี๊ตอบแล้วซัดลูกไปหาไอ้โซโล่อย่างแรง ไอ้โซโล่ก็เอื้อมมือไปตบลูกแล้วตอบอย่างรวดเร็ว
“สิงคโปร์”
“ปากีสถาน”พี่เฮอร์มิตตอบแล้วตีกลับไปหาพี่โมโน เริ่มต้นตอบกันใหม่อีกครั้งครับ พี่โมโนนิ่งเงียบกว่าจะตอบก็เกือบจะทำให้ลูกเด้งสองครั้ง
“แอลจีเรีย!”พี่โมโนตบไปหาปาปี๊พี่แกรอดไปอย่างหวุดหวิด ป๊าด แอลจีเรียมันอยู่ที่ไหนวะเนี่ย? ผมไม่เคยได้ยินชื่อของประเทศนี้มาก่อนเลยแฮะ
“มอริเตเนีย”ปาปี๊ตอบรวดเร็วแล้วตบไปหาไอ้โซโล่ที่รอลูกอย่างชิวๆ ชื่อนี้ก็เหมือนกัน ตกลงมันมีประเทศอะไรนะเมื่อกี้เรียๆ กับอะไรเนียๆ เฮ้อ ยาวเกินไปผมจำมันไม่ได้อะ
“อาเซอร์ไบจาน”
ห๊า? มันที่ไหนวะนั้น!?
“มัลดีฟส์”พี่เฮอร์มิตตีกลับมาหาพี่โมโนที่ทำหน้าเครียดแล้วก็ปล่อยลูกตกพื้นไปเพราะไม่สามารถตอบคำถามได้ ผมว่าตอบกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเจ๋งโคตรๆ แล้วนะครับ พอพี่โมโนพลาดแต่ละคนเนี่ยถอดหายใจโล่งโดยเฉพาะปาปี๊ที่เป็นลำดับต่อไป
“ยังเหลือ คอโมโรส ไซปรัสเหนือ อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน”พ่อเอกเอ่ยออกมาอย่างเสียดาย อุบ๊ะ ประเทศพวกนั้นมันอยู่ไหนฟะ? แล้วเฮียแกดันไปรู้อีกแน่ะ! ขนาดอาเซอร์ไบจานของไอ้โซโล่ผมว่าเทพแล้วนะ มาเจอพ่อเอกเนี่ยเทพกว่าอีก! เกมแรกพี่โมโนก็แพ้ไปตามระเบียบครับ ต่อไปรอบที่สองผมมอบหน้าที่ให้พ่อเอกเป็นคนคิดคำถามครับ แฮะๆ อย่าให้ผมคิดเลยเสียเวลาเปล่าๆ
“บอกชื่อกษัตริย์ที่ครองราชย์ในปัจจุบันและชื่อประเทศ”
ยากโคตร!
“พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ไทย!”พี่โมโนเป็นคนแพ้ในรอบแรกก็เลยได้เป็นคนเปิดเกม แถมพี่แกก็ฉวยเอาคำตอบที่ใครๆ ก็คิดได้ไปซะแล้วครับ ปาปี๊ของผมก็รออตบแบบชิวๆ
“จักรพรรดิอากิฮิโตะ ญี่ปุ่น”ปาปี๊ตอบแล้วส่งไปให้ไอ้โซโล่
“พระราชาธิบดีจิกมี ภูฎาน”
“...”พี่เฮอร์มิตยืนบื้อเลยครับรอบนี้ แหงล่ะ เด็กนอกของพี่แกคงจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ อ่า! ทำไมพี่ไม่ตอบประเทศอังกฤษล่ะ ชื่ออะไร? อลิสเบธอ่ะเปล่า? พี่เฮอร์มิตถอนหายใจยอมแพ้ไป รอบที่สามเริ่มต้นอย่างรวดเร็วพี่เฮอร์มิตเป็นคนเปิดเกมก่อนครับ
“ชื่อการ์ตูนวอล์ทดิสนีย์คลาสสิก”
“สโนไวท์”พี่เฮอร์มิตตีไปให้พี่โมโน
“ซินเดอเรลล่า”
“ปีเตอร์แพน”ปาปี๊ก็ไม่ยอมแพ้ครับ แหม รู้จักการ์ตูนกับเขาด้วยแฮะ
“โฉมงามกับเจ้าชายอสูร”ไอ้โซโล่ก็ไม่ยอมแพ้ครับ ตีไปตีมาสุดท้ายคนอายุมากที่สุดก็พ่ายแพ้ไป ปะป๊าทำหน้าบึ้งเชียวเพราะไอ้โซโล่ยังไม่แพ้สักตานั้นแหละครับ ฮ่าๆ โซโล่สู้ๆ! เริ่มเล่นรอบที่สี่ตีกันมันหยดคนที่แพ้ก็คือปาปี๊อีกแล้วครับ เหลืออีกครั้งเดียวปาปี๊ก็จะเป็นผู้แพ้โดยสมบูรณ์แบบ หน้าตาปาปี๊เนี่ยดำมืดน่ากลัวเชียวครับ
“ภูเขาไฟในประเทศไทย”
“...สาดดด! กูจะไปรู้ไหมไอ้เวรเอก! ตั้งคำถามแม่งโคตรยากแล้วใครจะตอบได้ฟะ!? พวกมึงตอบได้ไหม!?”และแล้วปาปี๊ของผมก็สติแตกกับคำถามขั้นเทพของคุณพ่อเอกแล้วพาลไปถึงคนอื่นๆ
“ภูเขาหลวง สุโขทัย”
“ภูเขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์”
“ภูเขาพนมสวาย สุรินทร์”พวกสามหนุ่มสามมุมก็ตอบกันอย่างรวดเร็วทำเอาปาปี๊เซไปเลย แม้กระทั่งเรื่องภูเขาไฟพวกมันก็รู้อีก ยอมแพ้ซะเถอะปาปี๊ สู้ไม่ได้แล้วล่ะแบบนี้ พวกมันเก่งเกินไปแล้ว! ปาปี๊อารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิมวางไม้ปิงปองแล้วหันมามองไอ้โซโล่เขม็งพร้อมกับชี้หน้ามันอย่างเคืองสุดขีด
“ฉันยังไม่ยอมรับแกนะโว้ย!”จากนั้นปาปี๊ก็จรลีเดินทำหน้าหงิกออกไป พวกเรามองตามปะปี๊แล้วหันมามองกัน
“ตกลงที่พนันไว้ว่าใครแพ้จะเป็นคนออกเงินจะเอายังไง?”พี่โมโนหันไปถามอีกสองคนที่เหลือที่แทบจะยักไหล่พร้อมเพรียงกัน พวกเราเลิกเล่นปิงปองแล้วเดินเข้ามาในเรียวกัง เฮ้อ หนาวจะตายยังไปเล่นปิงปองข้างนอกอีก ให้ตายเถอะ
ระหว่างที่เดินกลับห้องไอ้โซโล่มันก็สะกิดผมแล้วเปลี่ยนเส้นทางจากห้องพักมาที่โซนร้านราเม็ง พอถามมันไปว่ามาทำไมมันก็บอกว่ามันหิว จะว่าไปแล้วมันโดนปาปี๊แย่งของกินไปหมดนี่น่า พวกผมสองคนก็นั่งกินราเม็งรอบดึกกัน กะจะล้อมันว่ากินแล้วจะอ้วนเอานะแต่พอเห็นหน้าที่หิวโซของมันผมก็ไม่กล้าพูดออกไปเลย
“รู้สึกสบายใจกว่าตอนแรกตั้งเยอะถึงคุณลุงพุทจะเหม็นขี้หน้ากูอยู่ก็เถอะ”
“พ่อไม่ได้เกลียดมึงหรอกแค่หมั่นไส้น่ะ”
ผมกับไอ้โซโล่เดินออกมาจากร้านราเม็งในเรียวกังกลับมาที่ห้องพักของตัวเอง ไอ้โซโล่ยกมือโอบไหล่มาตลอดทาง เป็นไงล่ะเพราะผมนั้นแหละถึงเป็นแบบนี้ได้ รีบบอกไปจะได้สบายใจแล้วก็ทำอะไรเปิดเผยได้ หึๆ พวกผมเดินมาถึงห้องพักของตัวเองเข้ามาจัดเตรียมฟูกนอน ข้างหนาวเป็นบ้าเลยว่ะ ไอ้โซโล่มันจัดฟูกนอนเสร็จผมก็กระโดดซุกตัวเข้าไปอยู่ข้างในอย่างรวดเร็ว อุ่นจริงๆ เลย
“แปรงฟันก่อนนอนสิเพิ่งกินราเม็งมานะ”
“คร้าบ”
ไอ้โซโล่เดินมาเตือนให้ผมแปรงฟัน มันเข้าไปในห้องน้ำแปรงก่อนเรียบร้อยแล้วเดินสวนทางกับผมออกมา ผมรีบแปรงฟันแล้วเดินมาที่ฟูกนอนกระโดดทับไอ้โซโล่ที่กำลังนอน ผมหัวเราะเบาๆ แล้วตะเกียกตะกายขึ้นมาบนที่นอนของตัวเองแต่โดนไอ้โซโล่จับล็อกคอเอาไว้ เดี๋ยวๆ ยังไม่ได้ตั้งตัวเลย นี่จับเฮดล็อกเลยเหรอ!?
“มือมึงๆ ไอ้โซโล่!”
จับล็อกไม่พอยังเอามือปลาหมึกมาลูบขากูอย่างเร็วอะ ไอ้โซโล่พลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้วปล่อยมือจากคอของผม มันก้มหน้าลงมาหาผมอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ จูบละเมียดมละไมอ่อนโยน อืม ทำไมผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติล่ะเนี่ย สงสัยเพราะห่างกันนานหรือว่ามันเป็นอินเดอะเรียวกังที่ไม่คุ้นเคย? ไอ้โซโล่ไล้ริมฝีปากคลอเคลียตามโครงหน้าแล้วจูบปลายคางแผ่วเบา ซุกไซ้ลำคอของผม มือของมันแหวกเข้าไปใต้ชุดยูกาตะแล้วลูบไล้โค่นขา มันจูบเม้มตามลำคอแล้วไล่มาตามไหล่และหน้าอก ดึงชุดยูกาตะแหวกออกกว้างขึ้น
“มึงใส่สีชมพูขึ้นนะ”ไอ้โซโล่มันมองผมแล้วเอ่ยขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อ่า สงสัยกูจะถูกโฉลกกับมันล่ะนะ แต่บอกไว้ก่อนว่ากูไม่ได้ชอบสีชมพูหรอกนะ!
“ดอกซากุระก็สีชมพูเหมือนกัน มันต้องเข้ากับมึงมากแน่ๆ เลยว่ะ”
“ปิดเทอมเดือนเมษาก็พากูมาอีกซี”
“อ่า นั้นสินะ ไว้เรามาด้วยกันอีกนะ”
TBC.
วันนี้มาซะดึก(?) อ่า ตั้งใจปั่นเต็มที่ ตอนนี้ง่วงมากแล้วล่ะ ไปนอนก่อนนะ~
ขออภัยเกี่ยวกับคำเรียกของพรีสต์ที่เรียกพ่อ ถ้าแม่เรียกว่ามามี๊ พ่อก็ต้องปาปี๊ ขออภัยอย่างสูง
** มีคนทักเรื่องตอบซินซ้ำต้องขอบพระคุณมากค่ะ ไม่ทันได้สังเกต