“สวัสดีครับคุณแม่ ผมชื่อพรีสต์ เป็นเมีย เอ๊ย เป็นแฟนของโซโล่ครับ!”
“...”
ก่อนที่ไอ้โซโล่มันจะพูดอะไรคุณแม่ที่อยู่นิ่งมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก็เอ่ยตัด
“หือ? แฟนโซโล่? อ่า น่ารักดีนะ ผู้ชาย?”
“ผู้ชายตั้งแต่เกิดเลยครับ”ผมหัวเราะเสียงเบาแล้วตอบกลับไป คุณแม่ยิ้มรับแล้วพยักหน้า สีหน้าของพี่โมโนมันเลวร้ายดิ่งลงเหวพอๆ กับไอ้โซโล่เลยครับ คุณแม่หันไปมองไอ้โซโล่
“มีแฟนแล้วทำไมไม่บอกย่าล่ะโซ ท่านยิ่งมุ่งมั่นหาคู่ให้ลูกอยู่ บอกไปตรงๆ ท่านก็ไม่ว่าอะไรหรอก”คุณแม่คนสวยพูดอย่างใจเย็นเข้าใจลูกชายม๊ากมาก ผมเนี่ยยังแปลกใจเลยครับ นึกว่าจะต้องมีการฉะสักรอบสองรอบอุตส่าห์เตรียมใจมาแล้วน่ะเนี่ย แต่คนที่อาการเอ๋อมากกว่าผมนั้นก็คือไอ้โซโล่ครับ
“...เอ่อ นั้นสินะครับ”ไอ้โซโล่พยักหน้ารับไป
“แม้แฟนลูกน่ารักจะตายนะ ก็แค่...”คุณแม่หัวเราะเสียงเบาแล้วหันมามองผม
“เป็นผู้ชาย...หือ? ผู้ชาย? ผู้ชาย!!?”คิ้วของคุณแม่กระตุกแล้วหันไปถามพี่โมโนที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่โมโนก็พยักหน้ายืนยันแบบไร้เสียงแต่เป็นคำตอบที่หนักแน่น คุณแม่เบิกตากว้างอ้าปากเหวอแบบไม่รักษาภาพพจน์แล้วกรีดร้องเสียงแหลม
“ผู้ชายยย!!!” 
“โซโล่!!! นี่มันหมายความว่ายังไง!!?”คุณแม่แทบจะตะโกนเสียงดังลั่นงานเลี้ยงเลยครับ ไอ้โซโล่เนี่ยสะดุ้งตัวเฮือก ผมมองคุณแม่อย่างสงสัย คุณแม่ช่างเป็นคนที่มีความรู้สึกช้ามากเลยนะครับ เหอะๆ คุณแม่จ้องไอ้โซโล่เขม็งเสียน่ากลัวซะ
“คุณแม่ครับ คือ...”ไอ้โซโล่มันกำลังอธิบายแต่ก็ถูกเสียงโคตรดังของคุณแม่กลบไปหมด
“ไอ้ลูกบ้า!! แล้วน้องหมวยที่แม่อุตส่าห์นัดให้แกล่ะ!? โอ๊ย!! ให้ตายสิ! แบบนี้แม่จะไปพูดกับเพื่อนได้ยังไง!? แม่สัญญาไปแล้วด้วย!”
“นั้นก็เรื่องของคุณแม่สิครับ คุณแม่ทำอะไรไม่เห็นจะปรึกษาผมก่อน เรื่องนี้ผมช่วยอะไรคุณแม่ไม่ได้หรอกครับ”ไอ้โซโล่ถอนหายใจแล้วเอ่ยเสียงเรียบๆ คุณแม่จิกตาใส่มันอย่างไม่ยอมแพ้ ไอ้โซโล่มันส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเบื่อหน่ายที่สุดแล้วคว้ามือของผมดึงเดินออกไป
“โซโล่!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“คุณแม่ครับ ผมไม่จำเป็นต้องเจอกับเด็กที่แม่อยากให้ผมหมั้นด้วยแล้วเพราะยังไงผมก็...หมั้นไม่ได้ ถ้าผมจะหมั้นผมก็จะหมั้นกับคนที่ผมรักเท่านั้น และนั้นก็คือเจ้าบ้านี้เท่านั้น”ไอ้โซโล่หันไปพูดกับคุณแม่ที่ร้องเรียกให้มันเดินกลับไป
เสียงพูดคุยของพวกเราเริ่มทำให้แขกคนอื่นๆ ในงานสอดส่องสายตามาเมี่ยงมองอย่างสนใจ แต่ผมไม่สนใจหรอกนะเพราะตอนนี้กำลังปลื้มกับสามีอยู่ มึงแมนมากโซโล่!! แต่ถ้าตัดคำว่าไอ้บ้าออกกูจะปลื้มกว่านี้นะ!! คุณแม่ทำหน้าเครียดเลยครับ ก่อนที่อะไรจะเริ่มเลวร้ายไปมากกว่านั้นพี่เฮอร์มิตก็เดินชิวๆ เข้ามาหาผม
“หมวย แกอยู่ที่นี้เองเหรอ? พี่เดินหาตั้งนานแน่ะ เออนี่ เพื่อนของแม่อยากจะเจอแกแน่ะ”
“อ๊ะ คุณน้าพริ้มครับ นี่ไงครับ น้องของผม หมวย เอ๊ย พรีสต์ไงครับ!”พี่เฮอร์มิตยิ้มกว้างแล้วคว้าตัวผมมาจากไอ้โซโล่แล้วเดินเข้ามาหาคุณแม่ของไอ้โซโล่ที่ยังทำหน้าเหวอไม่เข้าใจสถานการณ์เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ยังดูเหมือนจะงงๆ แต่มีแค่พี่เฮอร์มิตนั้นแหละครับที่หัวเราะเสียงใส
“หนูหมวย?”
“อ่า ใช่แล้วล่ะครับ หมวยน่ะผมเป็นคนเรียกเองล่ะครับแต่จริงๆ แล้วหมอนี้ชื่อพรีสต์น่ะครับแล้วไหนล่ะครับว่าที่น้องเขยของผม หุๆ”พี่เฮอร์มิตอธิบายให้คุณแม่ฟังแล้วเอ่ยถามคำถามที่ผมกับคนอื่นๆ ต้องทำหน้างงเต็ก คุณแม่ก็ยังทำหน้าเอ๋อๆ อยู่ครับมองหน้าผมตาไม่กะพริบเชียวล่ะ ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้
“พี่! นี่มันอะไรกันเนี่ย พี่ไปรู้จักแม่ของไอ้โซโล่มันได้ยังไงกัน!”ผมทนบรรยากาศนี้ไม่ไหวต้องดึงคอพี่ชายมากระซิบถามซีเรียส พี่เฮอร์มิตทำหน้าเฉยยกมือขยับแว่นแล้วเอ่ย
“ก็คุณน้าพริ้มเขาเป็นเพื่อนของแม่ไงล่ะ”
ห๊ะ!!? มามี้เป็นเพื่อนกับแม่ไอ้โซโล่!? ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยแฮะเรื่องนี้
“เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณน้าพริ้มไปบ้านเราแล้วเกิดนึกถึงแกตอนเด็กๆ ที่น่ารักๆ น่ะได้ก็เลยอยากจะจองไว้เป็นคู่ลูกชาย”
เอ๊ะ ผมเคยเจอแม่ของไอ้โซโล่ตอนเด็กๆ งั้นเหรอ? แล้วนั่นอะไรวะ!? จองไว้ให้ลูกชายเหรอ บ้าไปแล้ววะ! มีแม่ที่ไหนเขาไปจองผู้ชายให้ลูกกันฟ่ะ!? พี่เฮอร์มิตมองผมที่ขมวดคิ้วมุ่นแล้วหัวเราะ
“คุณน้าพริ้มเข้าใจว่าแกน่ะเป็นผู้หญิงน่ะ คุณแม่ก็พยายามจะบอกว่าแกเป็นผู้ชายอยู่น่ะแต่พี่น่ะพูดแทรกตัดบทแล้วรวบรัดตกลงแทนไปแล้ว ยังไงแกก็หลงผิดไปแล้วพี่ก็จะไปห้ามก็ไม่ได้ก็เลยทำให้มันชัดเจนมั่นใจไปเลยดีกว่า”
“พี่รู้ว่าลูกชายที่ว่านั้นคือไอ้โซโล่?”
“ก็บังเอิญรู้น่ะ พี่ไปสืบประวัติหมอนั้นมานิดหน่อย เห็นแบบนี้พี่ก็ห่วงแกอยู่ล่ะนะ”พี่เฮอร์มิตพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ผมมองพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ
พี่เฮอร์มิตตต!!! สุดยอดเลยวะ
ผมรักพี่ที่สุดเลย!!! 
“โอ๊ะ เฮอร์มิต น้องของนายคือพรีสต์เหรอ?”พี่โมโนถามขึ้นมาหลังจากที่ไม่มีใครพูดอะไรใดๆ ดูเหมือนพี่เขาจะแปลกใจมากอยู่น่ะครับ แหงล่ะ! ผมออกจะแนวลูกครึ่งขนาดนี้แต่พี่เฮอร์มิตกลับไม่ค่อยเหมือนลูกครึ่งเท่าไรเลยนี่น่า ผมกับพี่กลับมาสู่โลกปัจจุบัน
“ใช่แล้วครับพี่โมโน”พี่เฮอร์มิตหันไปตอบรับแล้วพยักหน้า
“อ้อ~ มิน่าล่ะ”พี่โมโนลากเสียงยาวเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วพยักหน้า ส่วนคุณแม่กับไอ้โซโล่ก็ยังเงียบกริบเป็นป่าช้าไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับทั้งสิ้น เวรล่ะ! อย่าบอกนะว่าคุณแม่น่ะช็อกมากจนหัวใจวายไปแล้วน่ะ! พี่โมโนสนใจแม่พี่หน่อยสิครับ ยังหายใจอยู่หรือเปล่า!!? ผมเริ่มสงสารแม่ของไอ้โซโล่ตงิดๆ
ลูกชายดันมาหลงผิด เอ๊ย! ลูกชายดันมาติดผมซึ่ง...อยากบอกว่าผมต้องเป็นลูกสะใภ้ที่ทำให้แม่สามีต้องกุมขมับแน่ๆ! แถมครอบครัวของผมก็มีแต่คนแปลกๆ ยกตัวอย่างเช่น เจ้าพี่แว่นเนี่ยแหละ ห่วงใยน้องชายจนต้องไปสืบประวัติแฟนผมเลยทีเดียว!
“คุณน้าพริ้มครับ?”
“ล้อเล่นใช่ไหม? ล้อกันเล่นใช่ไหมเฮอร์มิต?”คุณแม่ของไอ้โซโล่เริ่มหาเสียงของตัวเองเจอก็เอ่ยถามพี่เฮอร์มิตเบาๆ เหมือนคนกำลังละเมอ พี่เฮอร์มิตยิ้มๆ
“เจ้านี้เป็นน้องของผมจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ”
“เข้าใจล่ะ”คุณแม่พยักหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ เหมือนจะปลงตกกับโชคชะตาของตัวเอง คุณแม่หันขวับมามองผมพร้อมกับดวงตาอันคมกริบที่เหมือนไอ้โซโล่จ้องเขม็งผม ไอ้โซโล่มันก็เดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังของผมเหมือนจะคอยสกัดไม่ให้คุณแม่โดดมากัดผม
“เชอะ ฉันไม่กัดแฟนแกหรอกน่า”คุณแม่สะบัดหน้าแล้วทำหน้าบึ้งก่อนจะเหลือบสายตามามองผมอีกครั้งเหมือนจะสำรวจตรวจตราอย่างละเอียดยิบ คุณแม่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคลายมองผมนิ่ง
“ดูไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆ เลยนะ...”
“...งั้นเหรอครับ”
“หน้าตุ๊ดเหมือนเดิม”
“...”ผมยิ้มค้าง คิ้วกระตุกยิกๆ ยิ่งได้ยินหัวเราะที่ไม่เกรงใจของพี่เฮอร์มิตและเสียงเหมือนกลั้นหัวเราะของคนข้างหลัง ผมอดกลั้นอารมณ์แล้วยิ้มรับเงียบๆ กูมันหน้าตุ๊ด! แต่ลูกชายของคุณแม่ก็มาชอบคนหน้าตุ๊ดแบบผมเนี่ยแหละ!!
“เห็นแก่หน้าสวยๆ ของยัยคริสฉันจะไม่ขัดขวางก็ได้ นางยักษ์ไม่ใช่สไตล์ของฉันอ่ะนะ เฮ้อ! เลี้ยงมาจนโตแต่ลูกชายดันมาเป็นเกย์ซะงั้น ถึงฉันจะชอบแอบอ่านนิยายเกย์ก็เถอะ!! ไม่คิดเลยว่าลูกจะได้รับอิทธิพลแบบนี้ เฮ้อ~”
“...”

ผมว่าผมต้องมองแม่ของไอ้โซโล่ใหม่แล้วล่ะครับ ไม่ใช่แค่การแต่งตัวที่ดูเปรี้ยวจี๊ดแม้แต่นิสัยยังจี๊ดไม่แพ้กันเลย! พวกแปลกๆ เขาจะคบกันสินะ ต้องขอบคุณมามี้หรือเปล่าที่มีนิสัยแปลกๆ แล้วยังมีเพื่อนนิสัยแปลกๆ แบบนี้ด้วย ให้ตายสิ!
“มันเป็นเรื่องปกตินะครับคุณน้า แม่เป็นยังไงลูกก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละครับ เขาเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”พี่เฮอร์มิตรับมุกแล้วเอ่ยตอบกลับเหมือนไม่ได้แปลกใจอะไรมากมาย แต่ดูเหมือนไอ้โซโล่กับพี่โมโนจะช็อกที่แม่มาเปิดเผยความลับนี้มาหน้าตาเฉย
“อ๊ะ จริงๆ เลย ลืมไปซะได้! มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของเจ้าลูกบ้า เมื่อกี้มิสเตอร์เฟยหลงแวบๆ หายไปไหนแล้วเนี่ย?”คุณแม่อุทานออกมาเมื่อคิดได้แล้วก็หันมองไปมาเพื่อหาใครสักคนอย่างหัวเสียก่อนจะรีบเดินออกไป ผมตกใจกับท่าทางมาเร็วไปเร็วของแม่ไอ้โซโล่มากๆ เดี๋ยวก่อนครับ!! ผมวิ่งมาเรียกตัวแม่ของไอ้โซโล่เอาไว้
“อะไร?”แม่ของไอ้โซโล่หันมาถามเสียงห้วนๆ อั๊ยยะ!! ความกล้าหดหาย!!!
“ต้องขอโทษที่เสียมารยาทในตอนแรกด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณคุณน้ามากครับ”ผมก้มตัวแล้วเอ่ยขอโทษที่มีท่าทางไม่ดีในตอนแรก คุณแม่ของไอ้โซโล่มองผมนิ่งไม่พูดอะไรเธอหันกลับไปไม่มองผม ผมก็ใจเสียนิดๆ เอาเถอะ ผมเสียมารยาทก่อนเองนี่น่า ช่วยไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะไม่ชอบขี้หน้าผม
“ต้องคุณแม่สิ ไม่ใช่คุณน้า!”
“หือ? อ่า ขอโทษครับคุณแม่”
“ไม่เป็นไรจ้ะ! สู้ๆ ล่ะกัน ดูท่าทางตัวปัญหาใหญ่น่ะจะเป็นคุณพ่อของเธอนั้นแหละนะ!”คุณแม่ยิ้มแบบสาวมั่นก่อนจะขยิบส่งวิ้งมาให้กับผม เธอก็เดินออกไปด้วยท่วงท่านางพญาแบบสุดๆ ผมมองตามหลังของเล็กๆ นั้นไปอย่างแปลกใจสุดขีด ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของไอ้โซโล่จริงเหรอวะ? คนๆ นี้คลอดไอ้โซโล่มาจริงๆ เหรอวะ!!!?
“ดีจังเลยนะที่คุณน้าไม่ว่าอะไร เอาล่ะ! เรื่องนี้ก็เรียบร้อยแล้ว พี่ขอตัวไปหาฮักก่อนล่ะกัน!”พี่เฮอร์มิตเดินมาตบไหล่ของผมแล้วเอ่ยยิ้มๆ ไป ผมรู้สึกโล่งนิดๆ แต่ก็แอบหนักใจอยู่หน่อยๆ พ่องั้นเหรอ? เหอะๆ แค่ลองนึกเล่นๆ ดูผมก็เหงื่อแตกแล้วล่ะครับ คิดได้แต่ภาพไอ้โซโล่โดนไล่ยิงเท่านั้นแหละ!! พี่เฮอร์มิตตบไหล่ปลอบผม
“เอาน่า มีเฮียอยู่ทั้งคน เดี๋ยวเฮียช่วยแกเอง ไม่ต้องกลัว”พี่เฮอร์มิตเอ่ยอย่างใจดีแล้วเดินโบกมือออกไป พี่โมโนก็เดินตามคุณแม่ไปแล้วครับเหลือแต่ผมกับไอ้โซโล่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมหันไปมองไอ้โซโล่ มันยืนกอดอกทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ผมค่อยๆ คลี่ยิ้ม
“ไม่ต้องมายิ้มงี่เง่าให้เห็น”
ผมรีบหุบยิ้มทันที
“ไมล่ะ! หรือว่าไม่พอใจที่ว่าที่คู่หมั้นกลายเป็นกู”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง จู่ๆ ก็มาที่นี้แล้วยังไปพูดแบบนั้นกับคุณแม่อีก”ไอ้โซโล่มันพูดแบบโกรธๆ ครับ ผมเนี่ยไม่พอใจมันปี๊ดขึ้นทันที อะไรวะ!? เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วไม่เห็นต้องรื้อออกมาพูดอีกนี่หว่า อีกอย่างคุณแม่ไม่ว่าอะไรมันไม่ดีใจหรือไง ยังจะมาทำหน้าเครียดใส่อีก!
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย มันก็ผ่านไปด้วยดีแล้วไง”
“แล้วถ้ามันไม่เป็นแบบนี้ล่ะ!”
“ถ้าเกิดแม่ไม่ชอบมึงล่ะ!”
“ทำไมมึงไม่คิดก่อน ทำไมมึงใจเย็นไม่ได้!”
ผมหยุดชะงัก เม้มปาก นี่มึงโกรธอะไรวะ? ตะคอกกูอยู่นั้นแหละ มีแต่มึงหรือไงที่กลัว กูก็กลัวเหมือนกันโว้ย! กลัวมึงจะทิ้งกูไปไง! กลัวมึงจะทำตามคำสั่งของแม่แล้วไม่สนใจกูไง! ให้กูใจเย็นแบบมึง เหอะ แบบนั้นกูโดนคนอื่นแย่งแฟนไปแล้วโว้ย อีกอย่างมึงจะทำอะไรมึงก็ไม่เคยบอกกูสักครั้งเลยนี่น่า กูจะไปรู้หรือไงว่าจะต้องทำยังไง!!?
“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้ เข้าใจไหม?”ไอ้โซโล่เห็นผมทำหน้าไม่ค่อยดีมันก็ผ่อนเสียงลงกลายเป็นเรียบๆ แบบเดิม ไม่มีเค้าความขุ่นเคือง ผมยืนเงียบไม่ตอบรับอะไรใดๆ ไอ้โซโล่มันก็ถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาใกล้แล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดไว้หลวมๆ
“อย่าทำให้เป็นห่วงนักสิเจ้าบ้า”
“ขอโทษ”ผมกะพริบตาปริบๆ เอ๋? ไอ้ที่ตะคอกคอแทบแตกนั่นก็เพราะว่ามันเป็นห่วงผมงั้นเหรอ? ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วซุกตัวเข้าหาอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยเสียงเบา ไอ้โซโล่ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
“แต่ว่ามึงก็ผิดเหมือนกันนั้นแหละ! จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะไปดูตัว บ้าหรือไง!? จะทำอะไรก็บอกบ้างสิวะ”ผมดันไอ้โซโล่ออกแล้วยกนิ้วชี้ต่อว่าทันที ไอ้โซโล่พยักหน้ารับ
“โอเคๆ ขอโทษ คราวนี้จะบอกไว้เนิ่นๆ ล่ะกัน”
“ห้ามเลย! ถึงใครจะให้มึงไปเจอผู้หญิงคนไหนก็ปฏิเสธให้หมด เข้าใจไหม?”
“เออๆ ว่าแต่ถ้าเป็นผู้ชายไม่ต้องปฏิเสธ?”
“อยากใช้ชีวิตไร้น้องชายข้างกายก็ลองตอบรับดู”ผมขู่มันเสียงเข้ม ไอ้โซโล่มันเลิกคิ้วแล้วยิ้มๆ
“โหดจริงวะ”
“ว่าแต่มึงมาที่นี้ได้ยังไง มากับพี่?”ไอ้โซโล่ดึงผมเดินมาที่โต๊ะของกิน มันหยิบนั้นหยิบนี้ใส่จานแล้วตักกิน ทำอย่างกับมึงหิวตายมาจากไหนเลยนะ ผมมองมันแล้วตอบออกไป
“เปล่า มากับไอ้ฮัก”
“ฮัก? ไอ้ฮอยฮักนั้นมันมาทำอะไร?”ไอ้โซโล่เลิกคิ้วแล้วทำเสียงไม่พอใจถามออกมา ผมยิ้มอย่างรู้ทัน ไอ้บ้าโซโล่มึงยังจะมาหึงบ้าอะไรวะ มึงก็รู้ว่าไอ้ฮักมันไม่เหลียวมองกูหรอก ทั้งตัวทั้งใจมันยกให้เพื่อนหัวขาวมึงไปหมดแล้วขนาดนั้นน่ะ!! ผมอยากจะหัวเราะจริงๆ นะทั้งๆ ที่มันก็รู้ดีแต่ไม่วายจะหวงบ้าบอของมันอีก ตลกวะ!
“มันเป็นพรีเซ็นเตอร์แชมเปญตัวใหม่ของบริษัทเอ็ดเวิร์ด”
“เหอะ ไอ้คนที่แดกเหล้าแก้วเดียวก็อาละวาดน่ะนะ”ไอ้โซโล่มันพูดเสียงขึ้นจมูกแบบดูถูกดูแคลน
“ขอโทษทีที่แตะเหล้าไม่ได้”เสียงเย็นๆ ดังขึ้นจากข้างหลังทำเอาผมสะดุ้งโหยง ผมกับไอ้โซโล่หันไปมองไอ้ฮอยฮักที่ไม่รู้มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร มาก็ไม่ให้สุ่มให้เสียงแถมยังทำหน้าตายซะ ไอ้โซโล่มองคนเข้ามาใหม่มันยักไหล่ไม่สนหันไปสนใจพวกอาหารบนโต๊ะแทน มีแต่ผมที่ยิ้มส่งให้เพื่อนรัก
“มีอะไรวะฮัก?”
“...เปล่า”
หือ? แล้วไอ้จุดๆ ก่อนเปล่าของมึงน่ะมันหมายความว่ายังไงวะฮัก? ผมมองไอ้ฮอยฮักที่มองหน้าผมนิ่งแล้วเอ่ยปฏิเสธหน้าตาย บางทีมันอาจจะเป็นห่วงผมแล้วตามมาดูล่ะมั้ง แต่พอมาเจอผมอยู่กับไอ้โซโล่ตามปกติสุขก็คงจะรู้ว่าผมกับไอ้โซโล่เคลียร์ปัญหาแมลงหวี่มากวนใจเสร็จแล้ว
“นี่มึงหนีดงผู้ดีมาได้ยังไงวะ?”
“...”ไอ้อาการเหลือบตามามองด้วยสายตาทิ่มแทงแบบนั้นคงจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากมันด่าผมทางสายตา คงจะไม่ใช่ว่ามันกำลังชมผมอยู่แน่ๆ ล่ะ เอ่อ ขอโทษโว้ย! พอเข้าห้องน้ำกูก็บังเอิญเจอกับไอ้โซโล่แล้วก็เลยลืมมึงไว้กับดงคุณหนูไฮโซทั้งหลาย ผมคิดได้ก็หัวเราะแหะๆ รู้สึกว่าอันตรายเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าฟ่ะ
“วันนี้ขอบใจวะ ถ้าไม่ได้มึงกูคงไม่ได้มางานนี้แล้ว”
“ไม่เป็นไร”ไอ้ฮอยฮักยิ้มนิดๆ ให้กับผม โอ๊ยยยย!!! รอยยิ้มล้านดอลล่าร์!! เล่นเอาผมยิ้มเคลิ้มตามถ้าไม่ใช่ไอ้โซโล่มันยกจานขนมมาแทบจะกระแทกหน้าผมก็เกือบๆ จะกระโดดฟัดเพื่อนให้มันรู้แล้วรู้รอด เฮ้อ! เสียดายของวะ ไอ้วินเซอร์ไม่น่าได้ไปเล๊ย!!
“จะกินไหม?”
“มึงไม่เอามันยัดเข้าปากกูเลยล่ะ!”หันมาด่ามันสักหน่อย หนอย! ถึงอยากจะขัดขวางกูกับไอ้ฮักก็เถอะแต่มึงเล่นเอาจานมากระแทกหน้ากูแบบนี้ยัดเข้าปากกูดีกว่าไหม!? ไอ้โซโล่ทำหน้ากวนๆ แล้วหันไปแดกต่อ ไอ้บ้านี่มันขัดชาร์ตชาวบ้านเขาจริงๆ ด้วยวะ โธ่เอ๊ย!!
“มึงไปตายอดตายอยากมาจากไหนวะ?”
“จากบ้าน! ไม่รู้ว่าใครทำให้กูต้องรออยู่ตั้งหลายชั่วโมง”
“ใครอ่ะ? หล่อๆ คนนั้นหรือเปล่า?”
“หล่อไม่ได้เสี้ยวกูหรอก”
“ถุย! ไอ้หล่อ ไอ้โคตรหล่อ!”
“กูรู้น่า ไม่ต้องชมขนาดนั้นก็ได้”
ผมเคยเถียงชนะไอ้บ้าโซโล่มันบ้างไหมเนี่ย!!!? ผมทำหน้าบึ้งสะบัดตัวมาคุยกับไอ้ฮอยฮักดีกว่า แต่แล้วไอ้อาการสะบัดสะดิ้งที่มีมากเกินไปของผมมันก็ทำให้แขนเหวี่ยงไปฟาดใครเข้าไม่รู้ครับ แต่ให้ตายเถอะ แทนที่คนถูกฟาดจะเจ็บแต่ผมกลับเป็นคนเจ็บแทน เชี่ยยยย!! แขนกูกระดูกมันจะร้าวไหมฟ่ะเนี่ย!? ผมเบ้หน้าน้ำตาคลอเบ้า
“เฮ้ย พรีสต์เป็นไรไหม?”ไอ้โซโล่รีบเข้ามาดูอาการของผมแล้วเงยหน้าขอโทษแทนผมแต่แล้วมันก็ชะงักไป โคตรเจ็บจริงๆ นะครับ แขนกูไปฟาดเข้ากับคนเหล็กหรือไงฟ่ะ? เงยหน้ามองคนที่ยืนเป็นเสาผมก้าวถอยหลังไปอย่างลืมตัว สายตาที่เหลือบมองมาทั้งเย็นเฉียบและว่างเปล่ามันทำให้ผมรู้สึกกลัว หนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อนิ่งอย่างกับรูปปั้นแถมยังแผ่รังสีอันตรายทะมึนไปทั่ว
“วินเซอร์ อย่าทำให้ปู่เสียเวลา”
เสียงเรียกจากหนุ่มต่างชาติในชุดโค้ทสีดำทำให้เขาขยับตัวแล้วเดินจากไป เมื่อกี้ภาษาอังกฤษหรือเปล่าหว่า? สกิลภาษาปะกิดของผมก็ค่อนข้างดีอยู่นะ เมื่อกี้เหมือนจะได้ยินว่าวินเซอร์ด้วยแฮะ? ผมมองตามแผ่นหลังนั้นไปอย่างสงสัย แล้วหันมามองไอ้โซโล่ที่ดูแขนของผมอย่างเป็นห่วง
“เมื่อกี้ไอ้วินเซอร์เหรอวะ?”
“อืม”ไอ้โซโล่พยักหน้ารับเฉยๆ ไม่พูดอะไรต่อ ผมหันไปมองไอ้ฮอยฮักที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รายนั้นยิ่งนิ่งไม่รู้ว่ารู้สึกหรือคิดอะไรอยู่ ผมหันกลับมามองไอ้โซโล่ นั้นไอ้วินเซอร์จริงๆ งั้นเหรอ? ทำไมมันเหมือนเป็นคนละคนแบบนั้นล่ะ!! สีผมจากหัวขาวๆ กลายเป็นสีดำเข้ม แถมยังทำแต่ปล่อยออร่าสีดำทะมึนแบบนั้นด้วย!
“กลับไปกินยาเผื่อไว้คงจะไม่เป็นอะไรมาก”
“โซโล่ ทำไมไอ้วินเซอร์ถึงกลายเป็นแบบนั้น สีผม...”
“สีผมของมันจริงๆ แล้วเป็นสีดำน่ะ”ไอ้โซโล่มันเอ่ยขึ้นมาแล้วถอนหายใจก่อนจะส่งยิ้มให้กับผมแล้วยกมือลูบหัวผมเบาๆ ดวงตาครุ่นคิดและกังวลใจ ขนาดผมไม่ใช่เพื่อนสนิทของไอ้วินเซอร์ยังรู้สึกแปลกใจ ไอ้โซโล่คงจะเป็นห่วงเพื่อนมันล่ะนะ
“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้วินเซอร์มันก็แค่ถอยหลังลงคลองกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นแหละ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?”ผมรู้สึกว่ามันน่าเป็นห่วงและที่สำคัญไอ้ฮอยฮักต่างหาก
“น่าจะ”
“พรีสต์ กูไปหาพ่อก่อนนะ”ไอ้ฮอยฮักเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบนิ่งแล้วเดินออกไปไม่พูดอะไรนอกเหนือจากนั้น ผมมองเพื่อนที่เดินออกไปอย่างเป็นห่วง หันมามองไอ้โซโล่ที่กลับมากินต่อ ไอ้เวรนี้ยังกินไม่อิ่มอีกเหรอวะ!!?
“โซโล่โว้ย!! รีบแดกแล้วรีบเดินมาได้แล้ว!”
“อะไรของมึง?”มันยังทำหน้ามึนถามกลับแบบไร้อารมณ์ ไอ้สีหน้าเป็นห่วงเพื่อนเมื่อกี้มันเป็นภาพลวงตาหรือไงวะ? มันเสแสร้งแกล้งเป็นห่วงไอ้วินเซอร์เมื่อกี้นี้!! ระหว่างข้าวกับเพื่อนมึงเลือกข้าวเหรอเนี่ย!! ผมรีบฉุดไอ้โซโล่เดินตามไอ้ฮอยฮักไป ไอ้โซโล่มันก็ยังบ่นพึมพำแบบไม่พอใจ เพราะมึงนั้นแหละไอ้บ้าโซโล่ เห็นไหม!? กูไม่เห็นไอ้ฮักมันแล้วเนี่ย! หายไปไหนวะ? เดินเร็วเป็นบ้าเลยวะ!
“อ๊ะ หมวยทางนี้”ผมเห็นพี่เฮอร์มิตยกมือกวักเรียกผมให้เข้าไป ผมก็ลากไอ้โซโล่เปลี่ยนทิศทางเดินไปหาพี่เฮอร์มิตแทนแต่พอเดินเข้าไปใกล้ผมก็ค่อยๆ หยุดชะงัก พระเจ้า!! มุมตรงนี้มันฮาเร็มหนุ่มหล่อหรือยังไงวะ!!? ก็ดูสิครับ แต่ละคนเทพๆ กันทั้งนั้น!!!
พี่เฮอร์มิตหนุ่มหล่อแว่นที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่เป็นนิตย์ ถัดมาเป็นพี่ฮอยยิ้มดีกรีนายแบบสุดฮอต ท่านคิงอธิการสุดหล่อเงียบขรึมดูจริงจัง ไอ้เพื่อนรักของผมที่ขนาดยืนกับพวกหล่อเทพก็ยังโดดเด่นกว่าใครเป็นใครเป็นไปไม่ได้ครับนอกจากไอ้ฮอยฮักนั้นเอง ถัดมาก็เป็นหนุ่มผมน้ำตาลทองที่ใส่ชุดโค้ทถือไม้เท้าหล่ออย่างกับหลุดออกมาจากหนังฮอลลีวู้ด ปิดท้ายด้วยหนุ่มผมดำใบหน้าเย็นชาที่ยืนเป็นรูปปั้นเทพบุตร ไอ้นิววินเซอร์นั้นเอง!! พอไอ้โซโล่เดินเข้ามารวมอยู่ด้วยยิ่งทำให้กลุ่มเปล่งประกายเป็นก๊กหนุ่มหล่อโฮกน่ากินทั้งนั้น!!! แล้วมองดูตัวเองแล้วอยากจะร้องไห้
นี่มันคนแคระกับหนุ่มหล่อทั้งเจ็ดชัดๆ!!!
TBC.หายไปอาทิตย์กว่าๆ ทำไมรู้สึกว่ามันนานแสนนานแบบนี้น่า
เฮ้อ ทั้งๆ ที่มีเวลาแต่งก็เยอะอยู่แต่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยมีอารมณ์
ไม่มีพลังจินตนาการสักเท่าไร ไปสนอย่างอื่นแทนซะงั้น!
ต้องขอโทษทุกๆ คนที่รออยู่นะจ้ะ จะมีใครรอไหมเนี่ย?
ต่อไปนี้ก็เป็นตาของโซโล่ล่ะนะที่ต้องเผชิญกับพ่อตาสุดโหด
โซโล่ไฟท์ติ้ง!!!