“บริษัทเอ็ดเวิร์ดทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิยมสุดก็น่าจะเป็นไวน์กับบรั่นดี แล้ววันนี้ก็มีงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ที่เป็นแชมเปญและฉลองยอดขายที่ทะลุเป้า”
“แล้ว?”
“กูได้รับเชิญไปในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของแชมเปญตัวนี้”
“แล้ว?”
“ก็ไหนๆ มึงก็จะอยากไปงานนี้กูก็เลย...”
“เปล่า กูจะถามว่า...แล้วทำไมกูต้องอยู่ในสภาพบ้าบอแบบนี้ด้วย ห๊า!!?”ผมตบโต๊ะดังปังแล้วหันไปชี้หน้าไอ้ฮอยฮักที่นั่งอยู่อีกด้านอย่างไม่พอใจ ไอ้ฮอยฮักมันนั่งกอดอกทำหน้านิ่งไม่หวั่นไหวแม้แต่สักนิด
“ไม่ชอบชุด? นั้นสินะกูว่ามึงน่าจะเหมาะกับชุดกระโปรงริบบิ้นกะโบว์นั้นมากกว่าสูทตัวนี้”มันนิ่งไปแป๊บนึ่งแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างจริงจัง เชี่ย! ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นโว้ย!! ผมคิ้วกระตุก ไอ้บ้านี้มันโง่หรือกำลังกวนโอยอยู่วะเนี่ย ผมนั่งหน้าหงิก
“ทำไมกูต้องใส่ชุดนี้ด้วยวะ!?”
“งานเลี้ยงพวกไฮโซเขาก็ใส่สูทเป็นทางการอยู่แล้ว”
บ้าบอที่สุด!!!เพิ่งเคยใส่สูทซะเต็มยศแบบนี้แต่ใส่ออกมาแล้วเหมือนเด็กๆ ไม่ได้ใส่แล้วดูดีโฮกฮากแบบที่ควรจะเป็น ไม่อยากจะใส่ชุดสูทเลยโว้ย!! มองไอ้ฮักที่อยู่ในชุดฝรั่งเศส มองยังไงก็เป็นพระเจ้าหลุยส์ที่เท่ที่สุด!! มันบอกว่าคอนเซ็ปต์เป็นชุดสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เพราะแชมเปญเกิดขึ้นสมัยนั้นครับ มองมุมไหนก็ดูดี! ไม่เหมือนกับผมเลยสักนิด เชอะ!
“ว่าแต่ทำไมเขาเลือกมึงเป็นพรีเซ็นเตอร์วะ ทั้งๆ ที่มึงแตะแอลกอฮอล์ไม่ได้?”
“ตอนเลือกเขาไม่ได้ให้กินนี่”
จะบอกว่าเขาดูแต่หน้าตาแล้วให้ผ่านว่างั้น?
“แล้วนี่เขาเริ่มงานกันหรือยัง?”ผมชะโงกตัวออกไปดูหน้าประตู ตอนนี้ผมกับไอ้ฮอยฮักอยู่ที่ห้องพักด้านหลังเวทีในห้องโถงขนาดใหญ่ ตอนที่เข้าร้านนั้นสยองกล้าสุดยอดแต่ก็ออกมาดูดีอ่ะครับ แทบจะลืมตัวเองดูหล่อกว่าปกติแต่พอไอ้ฮอยฮักเดินมายืนอยู่ข้างๆ เท่านั้นแหละ รัศมีความหล่อถูกกลืนหายไปหมด ไม่รู้ว่ามันจะมายืนข้างผมทำไม เสียความมั่นใจหมด!
ไม่ใช่แค่นั้นน่ะครับ ร้านนี้แปลงโฉมทั้งผม ไอ้ฮอยฮักเสร็จตามมาด้วยท่านคิงที่ดูเป็นทางการมากกว่าเดิมอีก ปิดท้ายด้วยพี่ฮอยยิ้มที่มาสมทบทีหลัง แต่ละคนใส่สูทเนี๊ยบเท่ดูเป็นชายหนุ่มที่สมาร์ท ยิ่งผมยืนอยู่ในกลุ่มครอบครัวนี้ยิ่งรู้สึกเป็นปมด้อย
กูกลายเป็นคนแคระเลยเหอะ!! 
พวกเราทั้งหมดเดินทางมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วไอ้ฮอยฮักก็เดินแยกจากกลุ่มลากผมมาด้วย มันมาเตรียมตัวเปลี่ยนชุดจากสูทเป็นชุดตามคอนเซ็ปต์ พี่ฮอยยิ้มกับท่านคิงก็เดินเข้างานไป ไอ้ฮักบอกว่าพี่ฮอยยิ้มน่ะกำลังฝึกงานที่บริษัทของท่านคิงอยู่ครับ เวลาท่านคิงต้องออกงานพวกนี้ก็เลยต้องตามมาศึกษาด้วย
“เริ่มแล้วล่ะ แขกเริ่มเยอะแล้ว...”จู่ๆ ไอ้ฮอยฮักก็เงียบไปพูดต่อ ผมมองหน้าเพื่อนอย่างแปลกใจแล้วมองตามไปที่สายตาของอีกฝ่าย หนุ่มแว่นที่มีรอยยิ้มนุ่มละมุนที่คุ้นเคยเดินหอบช่อดอกไม้เข้ามาหาพวกผม เขายิ้มกว้างสว่างไสวให้กับไอ้ฮอยฮักก่อนจะเหลือบมาเห็นผมแล้วทำหน้าแปลกใจ
“อ้าว หมวย? มาได้ไง?”
พี่เฮอร์มิตตตตต!!!! 
“พี่ต่างหาก มาได้ไง!!?”
“อ้อ พี่มาร่วมงานเป็นตัวแทนพ่อน่ะ”
“ว่าไงนะ? พ่อเหรอ? พ่อมาเหรอ?”ผมทำตาโตรีบถามพี่ชายที่หัวเราะอย่างเข้าใจก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“พ่อไม่ได้มาหรอก มีพี่กับพี่เซนต์มาแทนน่ะ”
พี่เซนต์!!!? ยัยพี่ปีศาจนั้นก็มาด้วยเหรอเนี่ย เวรกรรม!!! ผมรีบทำหน้าเป็นกังวล ครุ่นคิดอย่างหนัก ไม่อยากจะเจอยัยพี่เซนต์เล๊ย ผมต้องโดนซักฟอกจนขาวแน่ๆ! พี่เฮอร์มิตมองผมแวบหนึ่งแล้วหันมาส่งยิ้มให้กับอีกคนที่นั่งเงียบพี่แกยิ้มแล้วส่งดอกไม้ไปให้
“ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของเอ็ดเวิร์ดเยี่ยมไปเลยนะฮัก”
“ขอบคุณครับ”ฮอยฮักรับดอกไม้แล้วเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งๆ ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ผมมองพี่เฮอร์มิตที่ยิ้มอย่างพอใจแปลกๆ อะไรกันหว่า ไอ้รอยยิ้มที่ดูเหมือนตัวร้ายนั้นน่ะ? พอพี่หันมามองผมก็หุบยิ้มแล้วเลิกคิ้วขึ้นเหมือนกำลังจะถาม
“ว่าแต่หมวยมาทำไมเหรอ?”
“เอ๋? ก็แค่มาดูเพื่อนทำงานไม่ได้หรือไงครับ?”ผมชะงักตัวเล็กน้อยแล้วตอบแบบเลี่ยงๆ ไป ใครมันจะไปบอกความจริงกันฟ่ะว่าตามสามีที่มีแววจะนอกใจกลับบ้าน พี่เฮอร์มิตทำหน้าสงสัย อย่ามาสงสัยอะไรตอนนี้ได้ไหมครับพี่!?
“เหรอ? แปลกนิดหน่อยนะ เพิ่งเห็นแกดูเนี่ยแหละ งานก่อนๆ ไม่เห็นจะมา”
“หือ? พี่พูดเหมือนไปทุกงานที่ไอ้ฮักไปทำงั้นเหรอ?”
“มันก็นิดหน่อยล่ะนะ”พี่เฮอร์มิตตอบกลับมาแล้วทำหน้าเขินๆ หลบสายตาอีกต่างหาก เวร! พี่ว่างขนาดนั้นเลยเหรอครับที่ไปทำตัวเป็นโรคจิตสโตกเกอร์ไล่ตามดาราแบบนั้นน่ะ!! ผมหันมามองไอ้ฮอยฮักที่ทำหน้านิ่งเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน
“อ๊ะ ลืมไปเลยแฮะ นี่~ วันนี้ไปเดินไปเจอเจ้าตัวนี้มาล่ะ ไงฮัก น่ารักไหม?”พี่เฮอร์มิตเดินมานั่งเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆ ไอ้ฮอยฮักแล้วล้วงตุ๊กตากระต่ายหูผูกโบว์ตัวเล็กน่ารักออกมาตัวหนึ่ง ชูขึ้นนำเสนอ แล้วไอ้คนที่ชอบอะไรเล็กๆ น่ารักๆ มันก็ติดกับหันไปมองปุ๊บพี่เฮอร์มิตก็ชวนคุยปั๊บ ปล่อยให้ผมนั่งเป็นตอส่วนเกินอยู่คนเดียว!
ผมมองพี่เฮอร์มิตคุยกับไอ้ฮัก จะว่าไงล่ะ ดูท่าทางเข้ากันดีเชียวล่ะครับ ช่วงนี้ไอ้ฮอยฮักมันก็ลดการ์ดที่ปกป้องตัวเองทำให้ดูซอล์ฟๆ ลง อ่า! อย่าบอกนะว่าไอ้ฮักมันเลิกชอบไอ้วินเซอร์แล้วมาตกลงโอเคกับพี่เฮอร์มิตแทน? แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะมั้ง? ระดับพี่เฮอร์มิตคงจะไม่ทำให้เพื่อนของผมต้องเสียใจแบบไอ้แมลงวันหัวขาวนั้นหรอก!
“อาทิตย์หน้านี้ไปเที่ยวบาหลีไหมฮัก? พ่อแม่ของพี่น่ะจะพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”
“ไปเที่ยวแบบครอบครัวผมคงไม่รบกวนดีกว่า”
“ไม่เป็นหรอก ยังไงในอนาคตฮักก็ต้องแต่งเข้าตระกูลพี่อยู่แล้ว อ๊ะ ล้อเล่น! ฮ่าฮ่าฮ่า!”น้ำเสียงเหมือนพูดเล่นแต่ไอ้ท่าทางน่ะเหมือนเอาจริงมากครับพี่! พี่เฮอร์มิตหัวเราะขำในขณะที่ไอ้ฮักไม่ขำสักนิด ว่าแต่ต้องไปเที่ยวบาหลีเหรอเนี่ย? เฮ้อ! จะไปเที่ยวฮันนีมูนก็เห็นต้องลากพวกลูกๆ ไปเลยนี่หว่า
“พอกลับมาจากเที่ยวบาหลีก็ต้องเตรียมงานแต่งของพี่นันต่อน่ะนะ ช่วงนี้มีงานเข้าเยอะแยะ...”พี่เฮอร์มิตพูดแบบน้ำไหลไฟไหม้สุดๆ อ่ะครับ ผมที่เป็นคนพูดมากแล้วน่ะต้องยอมแพ้ให้กับพี่เฮอร์มิตที่หาเรื่องมาชวนไอ้ฮักคุยด้วยจริงๆ ถ้าเป็นผมน่ะนะยกธงยอมแพ้ไปนานแล้วกับคู่สนทนาที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแบบไอ้ฮักเนี่ย ว่าแต่พี่นันแกจะแต่งงานงั้นเหรอ!!? แล้วไหงสมาชิกครอบครัวแบบผมถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยฟ่ะ!!? ผมมองพี่ชายของตัวเองอย่างสงสัยแล้วก็ทำตัวเป็นก้างเอ่ยขัดออกไป
“พี่นันจะแต่งงานงั้นเหรอครับพี่?”
“ใช่สิ พี่บอกแกไปแล้วนี่น่าหมวย หรือจำไม่ได้?”
บอกตอนไหนวะ? ผมนึกๆ ดูแล้วก็ยังนึกไม่ออก พี่เฮอร์มิตยิ้มอย่างอ่อนใจแล้วส่ายหน้าอย่างปลงๆ กับสมองปลาทองของผม ขอโทษฮะ เอาเป็นว่าวันงานผมไม่น่าจะลืมหรอก...ล่ะมั้ง ระหว่างที่พวกผมคุยหัวข้อการแต่งของพี่นัน ผู้จัดการของไอ้ฮักก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนใจดี พี่บอสนั้นเองครับ
“เลิฟ ได้เวลาแล้วล่ะ”
“ครับ งั้นกูไปทำงานก่อนนะ พี่เฮอร์มิตฝากพรีสต์ด้วยนะครับ”ไอ้ฮักมันมองพี่บอสแล้วพยักหน้ารับจากนั้นก็หันมาพูดกับผมก่อนจะหันไปเอ่ยฝากผมกับพี่ชายของผมเอง ผมก็พยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนพี่เฮอร์มิตก็ยิ้มรับเหมือนเคย
“ตั้งใจทำงานนะ”ไอ้ฮอยฮักที่ลุกขึ้นจะเดินออกไปกลับชะงักตัวแล้วหันมามองพี่เฮอร์มิตที่พูดแบบนั้นไป มันพยักหน้ารับแล้วรีบเดินตามพี่บอสไปทันที ผมแปลกใจในท่าทางของเพื่อนแต่ก็ไม่คิดอะไรมากหันกลับมามองพี่ของตัวเอง
“แล้วนี่พี่เซนต์ไปไหนล่ะครับ?”
“ก็คงจะไปหาหนุ่มเอ๊าะๆ เคี้ยวเล่นล่ะมั้ง”พี่เฮอร์มิตตอบกลับด้วยทีเล่นทีจริง ผมเชื่อสนิทใจเลยล่ะครับ ยัยพี่บ้านี่ต้องไปหาเหยื่อหนุ่มหล่อในงานอยู่แน่ๆ! พี่เฮอร์มิตลุกขึ้นแล้วหันมาพูดกับผม
“เราก็ออกไปในงานกันเถอะ เดี๋ยวพลาดการแสดง”พี่แกจับมือผมแล้วดึงให้ลุกขึ้นจากนั้นก็รีบลากออกไปทันที หว่า! ผมเดินเองได้น่าพี่เฮอร์มิต!! ผมถูกลากออกไปในงานเลี้ยง มองไปด้านไหนๆ ก็เห็นแต่พวกไฮโซที่ลงข่าวในหนังสือพิมพ์ของพวกไฮโซกันทั้งนั้นเลยครับ แถมแสงระยิบระยับจากเครื่องประดับบนคอเอย บนชุดเอยประกายแวบๆ ใส่ตาแทบจะบอดแน่ะ
พี่เฮอร์มิตพาผมมาหยุดยืนที่โต๊ะกลุ่มอาหาร มีแต่ของน่าอร่อยทั้งนั้นเลยแฮะ พี่เฮอร์มิตก็บริการตักมาให้ผมแบบเอาใจใส่เหมือนเดิม นี่แหละน่า พี่ชายที่แสนใจดีของผมเองแหละ!
ระหว่างกินผมก็มองหาต้นเหตุที่ทำให้ผมมายืนอยู่ในงานนี้ แต่มองเท่าไรก็ยังหาไม่เจอสักที มันยังไม่มาเหรอวะ? หรือว่ามันเปลี่ยนใจไม่มาแล้ว? ผมหยุดมองหาแล้วหันไปมองเวทีที่เริ่มการเปิดตัวของสินค้าใหม่ แน่นอนว่าต้องมีพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญออกมาพร้อมกับคำโฆษณาอันหรูเลิศ
( แชมเปญต้นตำรับ มีเฉพาะที่ตำบลแชมเปญแห่งประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น คุณจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติอันหอมหวาน นุ่มลิ้นขององุ่นที่คัดสรรเป็นอย่างดี ขอเชิญพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของบริษัทเอ็ดเวิร์ดที่จะพาคุณย้อนเวลาไปลิ้มรสความหรูหราประดุจอยู่ในยุคอันรุ่งเรืองของฝรั่งเศส! )
( เลิฟมี! )
ให้ตายสิ ผมยิ้มอย่างอ่อนใจ แค่ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ก็สะกดทุกสายตาด้วยหน้าหล่อไร้ที่ตินั้น เสียงตบมือดังก้องต้อนรับพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่อที่มาในชุดย้อนยุคพระเจ้าหลุยส์ ฮอยฮักยิ้มรับที่มุมปากแล้วเดินมาตรงมาที่หน้าเวทีด้วยท่วงท่าสง่างามที่ทำให้ทุกคนมองตามอย่างไม่ลดละสายตา ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
“ยอดเยี่ยมไร้ที่ติจริงๆ”เสียงชมเชยดังขึ้นข้างๆ ผมหันไปมองแล้วเจอเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงที่แย้มยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็พี่ฮอยยิ้มนั้นแหละ ใบหน้าหล่อของพี่แกดูเหมือนจะพึงพอใจและภูมิใจในตัวของน้องชายเสียมากมาย ข้างๆ พี่ยิ้มก็เป็นท่านคิงครับ หน้านิ่งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่ผมก็รับรู้ได้ว่าท่านภูมิใจในตัวลูกชายไม่แพ้พี่ยิ้มเท่าไรนักหรอก การมีเพื่อนที่ดูดีขนาดนี้ทำให้ผมอดรู้สึกยืดไม่ได้เลยแฮะ นี่เพื่อนกูอ่ะ!
“อ๊ะ โซโล่”ระหว่างที่ผมกำลังดูเพื่อนฮักอย่างเพลิดเพลินก็เหลือบไปเห็นไอ้โซโล่ที่ยืนอยู่กับสาวรุ่นใหญ่ที่สวยน่ะครับ นี่คู่หมั้นมึงเหรอวะ ทำไมเลือกคนอายุมากกว่าล่ะวะ!!? ผมขมวดคิ้วจ้องเขม็งเห็นไอ้โซโล่มันชี้ชวนให้อีกฝ่ายดูที่ดูแลแล้วหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี เอ๊ะ? อย่างไอ้โซโล่เนี่ยนะจะปั้นหน้ายิ้มหัวเราะแบบนั้นได้ ผมกระพริบตาปริบๆ แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายเพื่อจะดูให้มันชัดๆ
“หมวยจะไปไหนน่ะ?”พี่เฮอร์มิตดึงผมก่อนครับ ผมทำหน้าหงุดหงิด อุตส่าห์จะเดินไปพิสูจน์ให้มันชัดๆ ว่าใช่ไอ้โซโล่ไหมแล้วทำไมพี่ต้องมาถามอะไรตอนนี้ด้วยล่ะครับ!? ผมหันมาตอบพี่เฮอร์มิต
“ผมจะเดินไปทางนั้นหน่อย”
“แล้วรีบมาล่ะ อย่าเดินหลงไปไกลนักเดี๋ยวหาไม่เจอ”
“คร้าบ”
พี่ ผมไม่ได้เป็นเด็กขนาดนั้นนะ!! พี่เฮอร์มิตปล่อยแขนผมแล้วหันไปสนใจบนเวทีเหมือนเดิม ผมก็ได้โอกาสเดินไปสังเกตการณ์ใกล้ๆ บุคคลที่ยังหัวเราะแล้วพูดคุยกับคนอื่นไหลลื่น นั้นใช่ไอ้โซโล่แน่เหรอวะ? พอเดินเข้ามาใกล้พอสมควรผมก็ได้รู้คำตอบ ถอนหายใจอย่างโล่งอก นี่มันพี่โมโนครับ ไม่ใช่ไอ้โซโล่! มิน่าถึงยิ้มได้ขนาดนั้น ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ นั้นอาจจะเป็นแฟนของพี่โมโนล่ะมั้ง ว่าแต่ไอ้โซโล่มันอยู่ไหนซะล่ะ?
( เชิญชิมแชมเปญของเราที่บริกรนะครับ )
ผมเห็นหนุ่มบริกรที่ถือถาดแก้วแชมเปญผ่านหน้าก็ถือโอกาสลิ้มรสของไฮโซ อื้ม...กลิ่นหอมมากเลยอ่ะครับ สมแล้วที่เป็นของไฮคลาส ลองจิบดู รสชาติโอเคเลย ไม่หวานไปไม่เปรี้ยวไปแถมยังนุ่มลิ้นแบบสุดๆ ผมวางแก้วเปล่าทิ้งไว้แล้วเดินกลับมาหาพี่เฮอร์มิตเหมือนเดิม
“ชิมแชมเปญไหมหมวย?”
“ผมซดไปแก้วหนึ่งแล้ว”ผมยิ้มแฉ่งตอบไป
“เรื่องนี้ไวมากเลยนะ”พี่เฮอร์มิตส่ายหน้าไปมาในมือของพี่ถือแก้วไว้อยู่หนึ่ง
“แล้วนี่พี่ยิ้มไปไหนอ่ะครับ”
“อ้อ พี่ยิ้มน่ะเหรอ? นู้นไปกับพ่อเขาเหมือนจะไปทักทายคนรู้จักล่ะมั้ง เอ่อ เดี๋ยวพี่ก็จะไปทักทายเพื่อนแม่หน่อยนะ แกรอฮักอยู่ตรงนี้อย่าไปไหนซะล่ะ”พี่เฮอร์มิตจัดการกับแก้วในมือของวางไว้บนถาดแก้วว่างก่อนจะหันมาสั่งผม พูดเหมือนพาเด็กห้าขวบมางานด้วยเลยนะครับพี่ ผมดูแลตัวเองได้น่า!
พี่เฮอร์มิตก็เดินออกไปหาเพื่อนของแม่ ผมก็เดินมาหาอะไรกินสักพักไอ้ฮอยฮักก็เดินมาหาผม มันเปลี่ยนมาเป็นใส่สูทแล้วทำผมเรียบร้อยเชียวครับ สาวน้อยสาวใหญ่วงการไฮโซมองตามมันเป็นแถว ฮู้ว~! พ่อคนเสน่ห์แรง เอาเถอะก็มันหล่อนี่หว่า พอมันเดินมาหยุดที่ผม ผมก็ส่งจานขนมไปให้มัน
“ขอบใจ”
“เออ”กูรู้น่าว่ามึงชอบ
“เห็นโซโล่หรือยังล่ะ?”
“ยังไม่เห็นเลยวะ หรือว่ามันไม่มาแล้ววะ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ บางทีมันอาจจะไม่มาแล้วก็ได้มันก็บอกอยู่ว่าไม่เต็มใจจะมาแต่เพราะปฏิเสธไม่ได้ต่างหาก ผมอาจจะคิดมากไปเอง ถ้ามันไม่มาก็ดีแล้วล่ะ ผมรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย ไอ้ฮอยฮักพยักหน้าแล้วหันมองหา
“พ่อกับพี่ล่ะ?”
“เห็นพี่เฮอร์มิตบอกว่าไปทักทายคนรู้จักน่ะ”
“งั้นเหรอแล้วนี่โซโล่ไม่มาแล้วมึงจะกลับเลยไหม? เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกมึง อุตส่าห์มาแล้วอยู่ต่อนิดหน่อยก็ได้”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ นานๆ ทีจะได้มางานเลี้ยงไฮโซแบบนี้อยู่ต่อหน่อยก็ได้ ผมกับไอ้ฮักยืนคุยกันอยู่ไม่นานก็มีสาวๆ เข้ามาแนะนำตัวแล้วร่วมบทสนทนากับพวกผมด้วย ส่วนมากพวกเธอนั้นแหละครับที่จะเป็นคนพูดหรือถาม ไอ้ฮอยฮักประหยัดคำพูดมากครับมันยืนนิ่งๆ ปล่อยให้พวกสาวๆ มองตาเป็นประกาย
“ขอตัวก่อนนะครับ”ผมเอ่ยขอตัวออกมาแต่ถูกไอ้ฮักมันจิกตาใส่ ผมก็ต้องหัวเราะแห้งๆ แล้วกระซิบบอกมันว่าจะไปเข้าห้องน้ำ โด่! กูปวดเบาโว้ยไม่ได้จงใจจะทิ้งมึงไว้ในดงสาวๆ แบบนี้หรอกน่า พอบอกมันไปแบบนั้นถึงได้ออกมาจากดงสาวงามไฮโซทั้งหลาย ผมรีบเดินออกมาจากงานแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างหวุดหวิด
เฮ้อ ค่อยโล่งหน่อย!ผมจัดการทำความสะอาดแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วจะเดินเข้าไปในงานแต่ก็ต้องหาที่หลบอย่างรวดเร็วเมื่อพี่โมโนเดินออกมาจากงานแล้วโบกมือเรียกใครสักคน ผมมองตามไปแล้วทำหน้าบูด เวร! นึกว่ามันไม่มาแล้วซะอีกวะ แต่ที่ไหนได้มันเพิ่งจะโผล่หัวมานี่เอง ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็คนที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี้นั้นแหละ!
“เฮ้ย~! โซโล่! ทำอะไรอยู่วะทำไมมึงโผล่มาซะเลท คุณย่าบ่นหูชาแน่มึง!”
“กูมาก็ดีแค่ไหนแล้ว”ไอ้โซโล่มันตอบกลับด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าหล่อของมันเนี่ยมีเงาทะมึนสีดำ พี่โมโนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นคุณน้องชายโผล่หน้ามางานด้วยสภาพเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากขุมนรก
“เป็นอะไรวะ? เมียมึงหายหรือไง”
“...มึงมีตาทิพย์เหรอวะโม?”
“กูเดาถูกซะงั้น! เออๆ อย่าคิดมากเดี๋ยวกลับไปก็เจอเองแหละ รีบเข้าไปเถอะวะ เดี๋ยวเจอสาวๆ สวยๆ ก็เลิกคิดเองนั้นแหละวะ ไปๆ”
“กูซีเรียสอย่ามาเล่น”
“แล้วจะให้กูทำยังไงไอ้น้องเวร!”
“มึงบอกแม่ให้ทีว่ากูขอกลับก่อน มีธุระด่วน”
“เดี๋ยวๆ! มึงอุตส่าห์มาจะรีบไปทำไมวะ? เข้าไปหาแม่ก่อน”
“กูรีบไปหาเมียกู! ปล่อยสิวะไอ้เหี้ยโม! ถ้าเมียกูงอนหนีหายไปกูจะตามมากระทืบมึงคนแรก”
“เวรเหอะไอ้น้องเหี้ย! เดี๋ยวคุณย่าก็โกรธเอาหรอก”
ผมมองภาพพี่น้องหนุ่มหล่อยื้อแย่งกันไปมาไม่มีใครยอมมันดูตลกๆ ยังไงไม่รู้แฮะ ที่ไอ้โซโล่มันมาช้าก็เพราะรอผมอยู่ที่บ้านงั้นเหรอวะ? อืม ผมยิ้มออกมาอย่างปลาบปลื้ม ยังไงที่หนึ่งของไอ้โซโล่ก็คือผมอยู่แล้ว เฮ้อ! รู้แบบนี้ค่อยวางใจหน่อยล่ะครับ ผมเดินออกมายืนอยู่ข้างหลังของไอ้โซโล่ เอาล่ะ ไปจัดการปัญหาให้มันเสร็จๆ สักทีดีกว่า!
“โซโล่~!!”
“อะไรของมึงวะไอ้โม ปล่อยกู!”
“กูว่ามึงไม่ต้องไปหาเมียมึงแล้วล่ะวะ อยู่ข้างหลังมึงแล้วไง!”
“ห๊ะ?”ไอ้โซโล่ขมวดคิ้วแล้วหันตัวกลับมามอง ผมก็ฉีกยิ้มแฉ่งเป็นดวงตะวันทันที
“ไงวะ มึงมาสายนะไอ้โซโล่!”
“พรีสต์? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้?”ไอ้โซโล่มองผมอย่างงุนงงแล้วตั้งสติถามผมเสียงเครียดๆ ผมยักไหล่แล้วยิ้มตอบกลับไป
“มารอมึงไง”
“รอกู?”ไอ้โซโล่ยืนงงอยู่เหมือนเดิม ผมพยักหน้ารับแล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของมันกอดไว้แน่น
“ก็จะมาทำความรู้จักครอบครัวของแฟนตัวเอง ไม่ได้หรือไง?”
“...!”ไอ้โซโล่กับพี่โมโนอ้าปากเหวอพร้อมกันเมื่อผมพูดออกไปแบบนั้น ผมก็ยิ้มรับไม่พูดอะไรต่อ ทำไมล่ะ ก็แค่อยากจะมาแนะนำตัวทำความรู้จักมักจี้กับครอบครัวของแฟนมันจะเสียหายอะไรกัน! ผมรัดแขนไอ้โซโล่แน่น
“มัวทำอะไรอยู่วะ รีบเดินไปหาแม่มึงสิโซโล่”ผมพยายามดันไอ้โซโล่ให้เดินเข้าไปในงาน พี่โมโนดูงงๆ กับสถานการณ์แต่เมื่อผมยิ้มๆ ให้แล้วจิกตาให้พี่แกเดินนำไปว่าที่พี่เขยก็ยิ้มแห้งๆ แล้วเดินนำไปแต่โดยดี ไอ้โซโล่ก็ถูกผมลากเดินตามพี่โมโนมา ดูมันทำหน้าเข้าสิ! ไอ้ป๊อดเอ๊ย!! เรื่องนี้ผมตัดสินใจทำให้มันชัดเจนไปเลย ตายเป็นตายแต่ผมไม่ยอมยกแฟนตัวเองให้ใครแน่นอน!
“แม่ ไอ้โซโล่มาแล้ว”พี่โมโนเดินเข้ามาหาผู้หญิงที่ผมเห็นยืนกับพี่เขาตอนแรกนั้นแหละครับ แม่ไอ้โซโล่งั้นเหรอ!? ช่างเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวได้เปรี้ยวจี๊ดอย่างกับวัยรุ่นแน่ะ! แม่ของไอ้โซโล่มองลูกชายแล้วมองผมแล้วถาม
“โซโล่มาแล้วเหรอลูก? อ้าว แล้วนั้นใครล่ะ?”
เอาล่ะ! ไอ้พรีสต์สู้ๆ!!
“สวัสดีครับคุณแม่ ผมชื่อพรีสต์ เป็นเมีย เอ๊ย เป็นแฟนของโซโล่ครับ!”TBC.หายไปนานมากอยู่เหมือนกันแฮะ
ติดวิกฤตไฟนอลต่อด้วยวิกฤตวันพีช(?)
แล้วกลับบ้านไปก็เลยไม่ได้แต่งอะไรเลย
วันนี้ก็ขอกลับมาแต่งนิยายต่อล่ะกันนะ!
ตอนนี้เอาใจช่วยพรีสต์เขาไปล่ะกัน เหอะๆ