B5
กลับไปถึงบ้านผมก็รีบเตรียมรื้ออุปกรณ์วาดสีน้ำซะยกใหญ่เลย ฮ่าๆ จะได้ติวกะคนเทพๆอย่างนั้นรับรองรุ่งแน่กู ตื่นเต้นเลยเว้ย ไหนวะจานสีกู กระดานรองเขียน แล้วก็พู่กัน โอเค... ยังขาดอะไรอีกป่าวเนี่ย เอ... สีที่มีตอนนี้มันมีแค่นี้เอง มันต้องใช้สีอะไรเพิ่มอีกมั๊ยวะ พรุ่งนี้จะได้ไปซื้อ
" ฮัทครับ... ทำอะไรอยู่ครับ ให้อาเข้าไปหน่อยสิ" เสียงอาวดีเคาะประตูห้องผม
" ครับๆ เข้ามาเลยครับ"
" ทำอะไรอยู่ลูก หือ.... รื้อของออกมาเต็มเลย"
" ผมจะเอาอุปกรณ์วาดรูปน่ะครับ จะไปให้เพื่อนมันสอนวาดสีน้ำที่รร.ครับ"
" อ้อ... เหรอจ๊ะ อืม... ก็ดีแหละนะ เอ้อ... นี่อาจะมาถามเราน่ะ เห็นว่าพ่อเค้ายังยืนยันจะให้เราเข้าทีมสโมสรของลุงไกรเค้าเหรอ"
" เอ้อ... ครับ ก็เห็นพ่อเค้าว่ายังงั้น ผมก็ไม่อยากขัด"
" แล้วเรื่องเรียนต่อล่ะลูก เราจะว่าไง เห็นพ่อเค้าอยากจะให้ไปเรียนเศรษฐศาสตร์นี่ เราอยากเรียนเหรอ"
" ก็ที่จริงผมก็ไม่อยากหรอก บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ผมสนใจอยากเรียนศิลป์ต่อมากกว่าอีกครับเพราะผมชอบ แต่ก็ไม่อยากไปขัดใจพ่อเค้าไง"
" เฮ้อ... แล้วยังงี้มันจะดีเหรอลูก ตามใจพ่อเค้าไปยังงี้น่ะ อาไม่ค่อยเห็นด้วยเลยนะ ลองคุยกับพ่อเค้าดูก่อนเถอะเพราะนั่นมันอนาคตเราทั้งชีวิตเลยนะ"
" จะดีเหรอครับ ผมกลัวเค้าจะโกรธอาละวาดอีก"
" ไม่ต้องกลัวหรอก พ่อน่ะเค้าต้องเข้าใจ สิ่งไหนที่ฮัทรักและชอบน่ะเราก็ควรจะได้ทำอย่างนั้น ไม่ใช่มามัวแต่ฝืนทำไปเพื่อพ่อเค้าแบบนี้ เข้าใจมั๊ยลูก แล้วอาจะช่วยพูดอีกแรงนึงนะ"
" ขอบคุณนะครับอา แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อนนะครับ แล้วผมจะหาโอกาสเหมาะๆตอนเค้าอารมณ์ดีๆก่อนละกันค่อยเข้าไปคุย แล้วก็ขอบคุณอามากๆเลยนะครับที่เป็นห่วง ผมรักอาที่สุดเลยครับ" ผมบอกแล้วก็กอดอาวดีไว้แน่น อาเค้าก็ลูบหัวผมเบาๆ อยากบอกว่าผมดีใจนะ ว่าถึงผมไม่มีแม่แต่ผมก็มีอาวดีนี่แหละที่เป็นยิ่งกว่าแม่ผมซะอีก แค่นี้ผมก็พอใจล่ะที่ไม่ต้องรู้สึกเหงาเพราะไม่มีแม่อย่างคนอื่นๆเค้า
*
*
วันต่อมาผมลองชวนไอ้ป่านไอ้วินให้ไปช่วยกันล่ารายชื่อคนที่อยากเข้าชมรมศิลปะ จะได้ลองเอารายชื่อไปเสนอผอ.ให้ท่านอนุมัติเรื่องตั้งชมรม ก็แค่หวังๆไปครับว่าอยากได้คนสัก 20 คนก็น่าจะโอเค
" เฮ้ย... แล้วมันจะมีคนอยากเข้าชมรมศิลป์เหรอว้า ดูๆมันไม่ค่อยน่าดึงดูดใจเลยว่ะ กิจกรรมของชมรมก็คงมีแค่วาดรูปกันอย่างเดียว ไม่มันส์เล้ย ขนาดกูเองยังไม่คิดจะอยากเข้าเลย แล้วนี่กูจะหาเหตุผลอะไรไปชวนคนอื่นให้เค้าอยากมาเข้าล่ะวะ" ไอ้ป่านบ่น
" ใช่ว่ะ มึงคิดว่ามันมีจุดขายอะไรมั่งวะ ไหนลองว่ามาดิ๊ จะได้เอาไปโน้มน้าวคนอื่นเค้าได้" ไอ้วินมันก็เห็นด้วย เฮ้อ... มันว่ามานี่ก็จริงของมันทั้งคู่อ่ะนะ
" เออๆ มันก็ต้องมีจุดขายล่ะน่า แต่มันก็ต้องสำหรับคนที่เค้าชอบวาดรูปชอบงานศิลปะอยู่แล้วด้วยไง แล้วกิจกรรมอ่ะ มันก็ไม่ได้มีแต่วาดรูปแค่อย่างเดียวนะเว้ย ยังมีอย่างอื่นด้วย"
" อย่างอื่น... อะไรล่ะวะ"
" ก็... อย่างเช่นงานปั้นไง แล้วก็มี... เอ่อ... " อะไรอีกดีวะ นึกไม่ออก
" เอ้อ... ก็งานถ่ายภาพไง โฟโต้อาร์ทน่ะ ใช่ๆ งานถนัดกูเลยนะนั่น" ใช่ครับ ความจริงผมก็ชอบถ่ายรูปมากๆเหมือนกัน ผมชอบเวลาที่เราจับภาพมาไว้เป็นภาพนิ่ง ภาพที่ออกมามันจะสื่อความหมายและอารมณ์บางอย่างได้ ยิ่งถ้าเป็นภาพขาวดำหรือโทนสีน้ำตาลแบบเก่าเนี่ย มันดูเป็นศิลปะอย่างมาก
" อืม ก็น่าจะดีนะ" ไอ้สองตัวมันเริ่มเห็นด้วยละครับ
" นี่แหละเว้ย มึง จุดขายของชมรมไง เราก็จะมีจัดวาดภาพหรือไม่ก็ถ่ายภาพกันนอกสถานที่ แล้วก็อาจจะให้มีส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นครั้งๆไปก็ได้ แล้วก็จะมีการสอนทักษะให้ด้วยไง แค่นี้กูว่าคนที่มันสนใจงานแบบนี้อยู่แล้ว ก็คงอยากมาสมัครล่ะน่า"
" เออ... เว้ยเฮ้ย นึกๆไปแล้วก็เท่แน่ๆเลยว่ะมึง หากล้องที่ดูโปรๆมาใช้ แล้วก็ถ่ายรูปหญิงแจ่มๆไว้เยอะๆอ่ะ เจ๋งว่ะ" ไอ้วินมันตบเข่าดังป้าบเลย แสดงว่ามันก็คงเห็นด้วยเต็มที่ แต่รู้สึกว่าจะผิดจุดประสงค์ไปหน่อยมั๊ยวะ ไอ้นี่
" เฮ้ยว่าแต่ กูนึกขึ้นมาได้ว่ะ ก็ให้มีแบบนี้ดิวะ จ้างนางแบบมาให้วาดรูปนู้ด กูว่านะ คนแม่งแห่มาสมัครกันเพียบแน่ ก๊ากกๆๆ" ดูไอ้ป่านมันคิดดิ จัญไรได้อีก
" เออเว้ย... เจ๋งๆๆ กูเอาด้วยๆ ฮ่าๆๆ"
" พอเลยสัด พวกมึงนี่ อย่ามาชักใบให้เรือเสีย แม่ง... อนาจารฉิบหาย" ผมต้องปรามพวกมัน นอกเรื่องกันดีนัก
" อะไรว้า ไอ้ฮัท มันอนาจารที่ไหน มันเป็นศิลปะเว้ย ศิลปะ มึงนี่มันไม่เข้าใจอะไรเล้ย" ไอ้วินมันยักไหล่แล้วส่ายหน้าทำเหมือนกะว่าผมนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราว จนอยากถีบมันสักทีจริงๆ
" ช่าย... นั่นน่ะมันเป็นศิลปะเว้ย เนอะๆ งั้นเอาเลยเดี๋ยวเราเตรียมตัวไปเรียกคนกันเลยเว้ย ฮ่าๆ" ไอ้ป่านมันก็ทำท่าตื่นเต้นขึ้นมาอีกคน จากนั้นพวกเราก็ไปหาอ.สุพจน์ที่ห้องศิลปะแล้วก็ขอให้แกช่วยทำป้ายประกาศลงชื่อให้
ตอนนี้ผมกับไอ้ป่านไอ้วินเอาโต๊ะมานั่งรอรับลงชื่ออยู่หน้าห้องศิลปะแหละครับ ไอ้พวกนี้มันก็เริ่มเรียกผู้คนที่เดินผ่านไปมา
" น้องครับๆ ไม่ทราบว่า สวยๆยังงี้นี่ สนใจอยากจะเข้าชมรมศิลปะมั่งมั๊ยคร้าบ" โดนไอ้วินชมไปน้องเค้ายิ้มแก้มปริเลยว่ะ
" แหม... ก็เฉยๆนะพี่ แต่หนูไม่มีหัวศิลป์หรอก วาดรูปก็ห่วยๆ"
" ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ก็ไม่ได้เก่งหรอก แต่ว่าถ้ามาอยู่ชมรมเราเนี่ย จะมีคนเก่งๆคอยสอนให้เรา รับรองคร้าบ ทีนี้เราจะฝีมือดีขึ้นได้แน่ๆ สนใจมั๊ยคร้าบ"
" อืม... ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีอยู่ชมรมอื่นแล้ว" เพล้ง.... เสียงหน้าไอ้วินว่ะ พลาดล่ะสิมึง
" เอ่อ... ไม่เป็นไรครับน้อง ขอบคุณมาก พอดีทางพวกพี่ๆเนี่ยต้องการรายชื่อคนที่อยากให้มีชมรมศิลปะน่ะครับ แต่ถ้าน้องไม่ได้สนใจจริงๆก็ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ" ผมลุกขึ้นยืนพูดกับน้องเค้าไป ก็เห็นเค้าทำท่าทางเขินผมซะ
" แหม... ที่แท้พี่ฮัทอยากตั้งชมรมเหรอคะ น่าจะบอกก่อน งั้นหนูขอลงชื่อสนับสนุนด้วยนะคะ" อ้าวเฮ้ย... ไหงเปลี่ยนใจซะงั้นล่ะ
งงเลยว่ะ ไอ้ป่านไอ้วินก็พอกันครับ หันมามองกันเลิ่กลั่กแต่น้องคนนั้นก็เซ็นให้เรียบร้อยแถมยังบอกอีกว่าเดี๋ยวจะไปตามเพื่อนๆมาเซ็นให้
" เฮ้ย... ไอ้ฮัท กูว่ามันยังไงๆอยู่ว่ะ น้องนั่นเค้าอยากเข้าชมรมจริงเหรอวะ ไม่ใช่เพราะว่าเค้าอยากเข้าเพราะมึงนะ" ไอ้ป่านหันมาบอก
" ก็ไม่แน่ใจว่ะ แต่ถ้าเค้าอยากจะเข้าชมรมนี้เพราะกูก็ซวยเลยนะ เพราะกูไม่ได้อยู่ชมรมนี้ด้วย แล้วถ้าเค้ารู้ทีหลังคงด่ากูแน่เลยเนี่ย คงหาว่าหลอกเค้าแหง"
" นั่นไง ฉิบหายแล้ว งั้นทีนี้จะเอาไง"
" งั้นก็ต้องย้ำเค้าว่านี่กูแค่มาขอรายชื่อแต่กูไม่ได้อยู่ชมรมด้วยน่ะสิ เฮ้อ... " อ่อนใจเลยว่ะผม นั่นไง โห... ไปลากเพื่อนมาอีกเป็นขโยงเลยครับ ผมเลยต้องอธิบายไปว่าตัวผมไม่ได้อยู่ชมรมด้วยหรอก น้องๆเค้าเลยผิดหวังกันไป
" ซวยเลยว่ะ อุตส่าห์นึกว่าจะได้คนแล้วเชียว หายากจริงๆด้วยว่ะ คนที่จะเข้าชมรมศิลป์เนี่ย" ผมบ่นกับไอ้สองคนนั้น
" เออ... งั้นเอางี้ดิวะ เปลี่ยนแผนๆ มานั่งเรียกคนเฉยๆยังงี้มันคงไม่เวิร์คว่ะ เราก็พรีเซนต์แผนงานและกิจกรรมของชมรมซะด้วยดิวะ เอาอย่างที่มึงว่าเมื่อกี๊ก็ได้ ว่าจะมีจัดไปเพ้นท์หรือถ่ายรูปนอกสถานที่นั่นน่ะ"
" เหรอวะ อืม... ก็น่าจะดีนะ" ผมเห็นด้วยกะมัน
" เฮ้ย... แล้วเรื่องคอร์สวาดภาพนู้ดที่กูเสนออ่ะ เอามานำเสนอด้วยดิวะ รับรองคนตรึมแน่ ฮ่าๆ" ไอ้ป่านยังไม่ล้มเลิกความคิดจัญไรของมัน ผมเลยหันไปตบกบาลมันหนึ่งที
" สัดนี่... ยังไม่เลิกนะมึง อาจารย์เค้าจะได้ด่ากูกันดิ ทีนี้อ่ะชมรมได้โดนยุบตลอดกาลแน่มึงโทษฐานส่งเสริมกจกรรมลามกอนาจารอ่ะ"
" โธ่... ไรว้า มึงนี่ วัยรุ่นเซ็งเลย ก็บอกแล้วมันเป็นศิลปะ ไม่ใช่ลามกอนาจารซะหน่อย เนอะๆ" หันไปพยักเพยิดกับไอ้วินอีกแล้วครับ ผมล่ะขำในความกวนตีนของมันจริงๆ
จากนั้นเราก็เรียกคนกันต่อโดยที่พูดถึงกิจกรรมของชมรมไปด้วย คราวนี้เริ่มได้ผลแฮะ มีคนมายืนฟังอย่างสนใจมากขึ้นจนตอนนี้ก็มีคนมาลงชื่อสมัครห้าคนละครับ ซึ่งผมก็ย้ำแล้วว่าต้องให้เค้าเต็มใจสมัครเพราะสนใจจริงๆ พวกนั้นเค้าก็ว่าสนใจอยู่เพราะอยากเรียนต่อทางนี้ แล้วนี่ก็หาที่ติวศิลปะอยู่เหมือนผมเลยว่ะ
" นี่ฮัท ลงทุนจังเลยนะ ตกลงเอาจริงๆเหรอเนี่ย เรื่องล่ารายชื่อคนน่ะ" อยู่ๆแหวนก็โผล่มาจากไหนไม่รู้
" ก็จริงอ่ะดิ แต่เพิ่งได้ห้าคนเอง นี่เลยกำลังคิดว่าเดี๋ยวคงต้องออกไปถามกันเป็นรายๆคนไปเลยดีกว่า นั่งรอดักคนอยู่ตรงนี้แค่นี้คงไม่เวิร์คแล้ว"
" โอ๊ย... แหม... ทุ่มเทจริงๆเลยนะ หวังว่าคงไม่ได้ทำเพื่อใครเป็นพิเศษหรอกนะ ฮึ..."
" หือ... เพื่อใครเป็นพิเศษงั้นเหรอ แล้วมันใครล่ะที่ว่าเนี่ย" งงว่ะ แหวนพูดงี้หมายความว่าไงแน่
" อ๊ะๆ หรือว่าแหวนรู้ซะแล้ว ว่าที่ฮัททำไปนั่น ฮัททำเพื่อ..." ไอ้ป่านมันทำกวนตีนขึ้นมาทันที แล้วมันก็แกล้งดัดเสียงเป็นผู้หญิงเอามือประสานกันทำตาปิ๊งๆ หันไปทางไอ้วินเหมือนเล่นละคร
" พี่ฮัทคะ ขอบคุณนะคะที่ตั้งชมรมนี้เพื่อน้องตามที่น้องได้ขอร้องไว้" มันแกล้งทำมุขกวนตีนน่ะครับ คงทำเหมือนว่าผมเนี่ยมีผู้หญิงรุ่นน้องมาขอให้ตั้งชมรมนี้ให้มั๊ง
" ไม่เป็นไรครับผม พี่ฮัทยินดีช่วยน้องเสมออยู่แล้ว" ไอ้วินมันรับมุขทันทีครับ แกล้งทำว่ามันน่ะคือผมและทำเสียงหล่อซะน่าถีบ
" ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ ดีใจจังเลยค่ะพี่ น้องรักพี่ฮัทที่สุดเลย" ไอ้ป่านมันแรดจริงๆครับ เพราะมันแกล้งทำตาซึ้งแล้วกอดกะไอ้วินกลมเลย ส่วนแหวนเหรอครับ ก็ยืนดูควันออกหูอยู่นี่ไง โคตรจะฮา
" นี่... ตกลงมันยังไงแน่ ฮัททำยังงี้เพราะมีคนขอร้องจริงเหรอ" แหวนหันมาทางผมตาเขียวเลย เอ้า... ดันเชื่อซะอีกว่ะ ผมเลยยิ่งขำหัวเราะออกมาเลย
" โอ๊ย... นี่ก็ไปเชื่อพวกมันได้ พวกมันกวนตีนตะหาก"
" จริงๆเหรอ แน่ใจนะ" แหวนยังคาดคั้นผมต่อ แล้วก็หันไปทางไอ้ป่านไอ้วินที่ยังหัวเราะกันอยู่อย่างสะใจ
" นี่แน่ะ กวนประสาทดีนัก" โดนเข้าให้ละครับคนละป้าบ ฝ่ามืออรหันต์ มันสองคนร้องลั่นเลยแต่ก่อนที่แหวนจะลงมือต่อพวกมันก็โดดแผล็วหนีไปเรียบร้อย แหวนก็วิ่งตามไปติดๆเหมือนเคย
" อ้าว... อะไรเนี่ยดาวซัลโวของรร.ทำไมมานั่งรับลงชื่อชมรมศิลปะล่ะเนี่ย เปลี่ยนชมรมซะแล้วเหรอวะ" เสียงห้าวๆออกแนวเยาะเย้ยเอ่ยขึ้นผมเลยหันไปก็เห็นว่าเป็นไอ้พวกรุ่นพี่ม.6ชมรมบาสที่ไม่ค่อยถูกกะพวกผมนี่เอง รู้สึกว่าไอ้คนที่พูดอยู่นี่จะชื่อเก้มั๊ง อีกคนก็ชื่อหมูรึไงนี่แหละ
" อ๋อ... ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่มารับลงชื่อให้อ.สุพจน์เฉยๆเอง พอดีจะเอาไปให้ผอ.พิจารณาอนุมัติให้ตั้งชมรมน่ะครับ" ผมก็อธิบายมันไปงั้นๆแหละ รู้ดีอยู่แล้วว่าพวกมันไม่ได้สนใจหรอก
" แหมๆ เป็นเด็กดีช่วยเหลืออาจารย์ว่างั้น ก็ดีนะ แล้วนี่หาคนได้เพียบยังล่ะ สงสัยคนเค้าแห่มาลงชื่อกันจนล้นแล้วมั๊งโดยเฉพาะสาวๆน่ะ"
" ไม่หรอกพี่ เรารับแค่คนที่สนใจอยากเข้าชมรมจริงๆ นี่ก็มาลงชื่ออยู่ไม่กี่คนหรอก"
" ว้า... งั้นยังงี้ก็แย่ดิ แต่ก็นั่นแหละใครจะมาสมัครวะชมรมน่าเบื่อๆยังงี้อ่ะ ใช่มั๊ยวะพวกเรา" มันแกล้งว่าผมแล้วหันไปเออออกันเอง แต่อยู่ๆอ.สุพจน์ก็โผล่มายืนหลังผมตอนไหนไม่รู้ครับ
" ก็เพราะว่าเป็นชมรมน่าเบื่อไงเราถึงต้องปรับปรุง เทอมนี้ครูก็ว่าจะเพิ่มกิจกรรมสนุกๆให้นักเรียนที่เป็นสมาชิกชมรมเราให้เยอะๆเลย รับรองว่าทีนี้ไม่น่าเบื่อแน่ๆ พวกเธอไม่ต้องห่วงหรอก ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์นะ" เจออ.สุพจน์เข้าไปพวกมันหน้าเสียกันไปเลยครับ ปากดีกันนักพวกมึง เป็นไงล่ะ
" เอ่อ... ครับๆ ก็ดีนะครับอาจารย์ งั้นพวกผมขอตัวก่อนครับ" ชิ่งทันทีเลยเว้ย ขำว่ะ หันไปอ.สุพจน์ก็ยิ้มให้ผม
" ก็ยังงี้ล่ะนะ คนอื่นๆเค้าก็ไม่ค่อยเห็นความสำคัญอะไรของชมรมนี้กันหรอก เพราะงั้นเทอมนี้ครูก็คงต้องปรับปรุงกิจกรรมให้มันน่าสนใจมากๆหน่อย คนจะได้สนใจมาสมัครเยอะขึ้น"
" ครับผม นี่ผมก็บอกเค้าไปแล้วครับว่าจะเสนอให้อาจารย์มีกิจกรรมออกไปเพ้นท์หรือไม่ก็ถ่ายภาพกันนอกสถานที่ด้วย แล้วก็จัดงานประกวดผลงานกับช่วยติวศิลปะ"
" อืม... ก็น่าสนใจดี เธอคิดเหมือนครูแหละ กิจกรรมพวกนี้มันน่าสนุกจริงๆ ไว้แล้วครูจะค่อยเสนอผอ.ท่านอีกทีนึงนะ เอ้อ... แล้วเป็นไงบ้างล่ะ มีคนมาลงชื่อกี่คนแล้ว"
" เอ่อ... เพิ่งได้แค่ 5 คนเองครับอาจารย์ แต่พวกนี้ผมดูแล้วว่าเป็นคนที่อยากเข้าชมรมจริงๆ"
" หึๆ ดีแล้ว นี่ครูยังไม่นึกเลยนะว่าจะได้ตั้ง 5 คน แค่นี้ก็ถือว่าเยอะแล้วล่ะ ขอบใจมาก" อ.สุพจน์ตบบ่าผมเบาๆแล้วก็กลับเข้าห้องไป แค่ฟังๆนี่ผมก็รู้สึกสนุกแล้วว่ะ โดยเฉพาะกิจกรรมนอกสถานที่น่ะ อยากไปจังเลยเว้ย ฮ่าๆ รับรองว่าถ้าได้จัดขึ้นมาจริงๆผมไม่พลาดแน่
*
*
เย็นวันนั้นผมมีซ้อมบอลต่อเพราะนี่ก็ใกล้กำหนดที่จะต้องไปแข่งกับทีมรร.อื่นระดับอำเภอ เห็นอ.ธเนศโค้ชเราแกบอกว่าปีนี้มีแต่ทีมแข็งๆทั้งนั้น กว่าจะชนะได้พวกเราต้องหืดขึ้นคอแน่ ฟังแล้วก็หวั่นๆอยู่บ้างแต่ผมไม่กลัวว่ะ จะเก่งแค่ไหนกันเชียวขอลองดูสักตั้งวะ
" โอย... โคตรเหนื่อยเลยว่ะวันนี้" ไอ้วินบอกแล้วก็นอนแผ่ไปกะพื้นหญ้าข้างสนาม
" เออว่ะ... แต่ก็ต้องซ้อมให้หนักหน่อย กูเองช่วงนี้ก็ต้องฝึกลูกโค้งให้ดีกว่าเก่า นี่ยังไม่ค่อยชำนาญเลย"
" เฮ้ย... ยังไม่ชำนาญอีกเหรอวะมึงนั่นน่ะ อย่างมึงนี่มันขั้นเทพแล้วนะเว้ย"
" มึงก็พูดไป เวลาเราไปเจอไอ้พวกรร.อื่นน่ะ แม่งก็คัดมาแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้นอ่ะ ต้องฝึกให้ชัวร์ที่สุดเท่านั้นว่ะ ไม่งั้นสู้พวกมันไม่ได้หรอก"
" ก็จริงของมึงว่ะ อย่างคราวก่อนน่ะ ไอ้รร.อะไรวะที่มันอยู่หินกองน่ะ กูเห็นไอ้คนที่เป็นศูนย์หน้านั่นน่ะเล่นเหมายิงคนเดียวตั้งห้าลูกเลย แม่ง... เทพสัดๆ ลีลามันก็ดร็อคบามาเองเลย"
" อ๋อ... คงจะเป็นไอ้โด่งสิท่า ไอ้คนที่ดำๆตัวใหญ่ๆเล่นอย่างพริ้วนั่นใช่มั๊ย"
" อืม... ก็น่าจะใช่มั๊ง เอ๊ะ... มึงรู้จักมันเหรอวะ"
" ก็รู้จักดิ รู้จักดีเลยด้วย เมื่อก่อนมันก็อยู่ข้างๆบ้านกูนี่แหละ แล้วก็เคยเรียนที่นี่ด้วยนะมึง แต่มันย้ายตามพ่อมันไปอยู่หินกองไงตั้งแต่ป.5นั่นล่ะ นี่ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว ไปเจออีกทีก็เมื่อคราวก่อนที่รร.เราไปแข่งนั่นแหละ"
" เหรอวะ เออ... นั่นน่ะ แม่งโคตรเทพเลย ก็ดีนะมันรู้จักกะมึงด้วย นึกถึงตอนนั้นแล้วก็ยังหวั่นๆอยู่เลยว่ะ แต่พอดีรร.เราดันตกรอบซะก่อนเลยไม่ได้ไปเจอรร.มัน ไม่งั้นพวกเราจะเป็นไงวะนั่น"
" ก็นั่นดินะ อาจจะโดนมันถล่มเละเลยก็ได้" ผมพูดไปตามที่คาดเดาเพราะคนอย่างไอ้โด่งเท่าที่ผมเห็นฟอร์มการเล่นของมันตอนนั้น รู้เลยว่ามันน่ากลัวที่สุดแล้วเท่าที่ผมเคยเจอมา
ผมยังจำตอนเด็กๆได้ดี บ้านมันอยู่ข้างบ้านผมและเราก็สนิทกันดี มีผม แหวนแล้วก็ตัวมันที่เล่นอยู่ด้วยกันมาตลอด พ่อมันน่ะเป็นตำรวจแต่รู้สึกว่าจะมือไม่ค่อยสะอาดนัก อันนี้ผมก็ไม่รู้แน่ชัดว่าความจริงมันเป็นยังไงแค่เห็นคนเค้าว่ากันมายังงี้ พอผมกะมันอยู่ป.5พ่อมันก็มีอันต้องย้ายไปอยู่ที่หินกองมันก็ต้องย้ายตามไปด้วย และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย
ไม่นึกว่าพอผมมาเจอมันอีกมันจะเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่แค่ว่ามันโตขึ้นหรอก แต่เป็นทุกๆอย่างที่เป็นตัวมันเลยล่ะที่เปลี่ยน ฟอร์มการเล่นของมันพริ้วไหวและรวดเร็วแต่ดุดันไร้ปรานีจนน่ากลัว นั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่ามันไม่ใช่ไอ้โด่งเพื่อนผมคนเดิมซะแล้ว
" เฮ้ย... ไอ้ฮัท เฮ่ย... เหม่ออะไรวะมึง" ไอ้วินเอามือสะกิดผมจนผมสะดุ้งเพราะมัวคิดเรื่องเก่าเพลิน
" เออ... กูคิดอะไรเพลินไปหน่อยว่ะ"
" หือ... คิดอะไรวะ หึๆ แอบนอกใจแหวนมันเหรอ ฮ่าๆๆ"
" คนละเรื่องเลยมึง ไปเลย เดี๋ยวกลับบ้านกันได้แล้ว เออ... ไอ้ป่านกะแหวนมาโน่นแล้ว" ผมบอกแล้วก็ลุกเดินไปหาสองคนนั้น จากนั้นก็กลับบ้านกันไป แหวนก็ซ้อนท้ายผมกลับบ้านเหมือนเคย ระหว่างทางที่ขับกลับไปด้วยกันนั้นอยู่ๆแหวนก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
" เนี่ยฮัทน่ะคงยังไม่รู้ เดี๋ยวนี้ใครๆก็ชอบฮัทกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่กะเทยในรร.เรา ซึ่งก็มีแต่พวกหน้าเงือกๆทุเรศๆกันทั้งนั้น แหวนล่ะเบื่อจริงๆ"
" เอ้า... นี่ก็... ไปว่าเค้าอีก ก็ช่างเค้าปะไรล่ะ ไม่เห็นต้องไปด่าว่าเค้าขนาดนั้นเลย"
" ก็ไม่รู้แหละ แหวนถือว่าพวกมันไม่เจียมตัวที่บังอาจมาชอบฮัท เราน่ะมันคนละชั้นกับอีพวกนั้นนะ โดยเฉพาะอีแอบบางคนน่ะ ฮัทพยายามอย่าไปยุ่งเด็ดขาดเลยนะ" แหวนพูดเป็นนัยๆแปลกๆอีกแล้วครับ
" อะไรของแหวนเนี่ย พูดอะไรก็ไม่รู้ เออ... ว่าแต่เรื่องลงคัดตัวดรัมเมเยอร์อ่ะ ไปถึงไหนแล้วล่ะ" ผมงงและเซ็งๆกับแหวนก็เลยเปลี่ยนเรื่องซะ
" ก็ดีนะเรามีโอกาสได้เป็นสูงมากกว่าคนอื่นๆอยู่แหละตอนนี้ ดีใจจังเลย"
" ก็ขอให้สมใจละกันนะ เพราะคงไม่มีใครมาชิงตำแหน่งกะแหวนแล้วล่ะ สวยสุดในรร.แล้วนี่ ฮ่าๆๆ"
" นี่ไม่ต้องมาพูดประชดเลยนะ ปีก่อนน่ะอีนังแจงอะไรนั่นมันได้เป็นดรัมเมเยอร์แหวนยังเสียดายจะแย่ ถ้าตอนนั้นแหวนไม่เจ็บขาซะก่อนนะ มันไม่มีทางได้เป็นหรอก"
" เอาน่า ก็ถือว่าดวงมันจะไม่ได้จริงๆแล้วกัน"
" เอ๊ะ ฮัท... พูดยังงี้ยังกะว่าเหมือนแหวนไม่มีบุญจะได้เป็นดรัมเมเยอร์รึไง"
" เอ๊า.... ไปกันใหญ่ละ เราไม่ได้ว่ายังงั้นเลยนะ"
" แล้วที่ว่านี่หมายความว่ายังไงล่ะ"
" เฮ้อ... ก็เอาเป็นว่างั้นเราเชียร์ให้ปีนี้ได้ตำแหน่งชัวร์ๆละกัน สู้ๆนะ" ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องอีกรอบครับ ผมขี้เกียจทะเลาะกะแหวนว่ะ ยิ่งขับๆรถอยู่ยังงี้ด้วย ไม่งั้นคงได้ไปนอนข้างทางแน่
เขียนโดย เพื่อนของอิ๊กกี้
ปล. มาแว้วว ร้อนๆเลยคร้าบ มาเสริ์ฟร้อนๆ อิอิ เพื่อนเพิ่งส่งตรงมาจากฝั่งธน แว้กก
P.s. ลืมบอกสำหรับใครๆที่มีเฟสบุ้ค ประกาศในนี้ได้ไหมเนี่ยอิอิ แอดผมไปได้นะคร้าบ Eiky Thaiboyslove ไว้ติดต่อสื่อสารกันแบบเน้