ตอนที่ 4 ท้องฟ้าสีน้ำเงิน
“พี่สายลม พี่สายลมครับ”
เสียงนุ่มๆ ปลุกเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดยามเช้าที่สดใส สายลมขยี้ตาเล็กน้อยมองใบหน้าที่ยิ้มละมุนมาให้
“ฟ้าตื่นแล้วหรือครับ แล้วนี่กี่โมงแล้ว”
“จะแปดโมงแล้วครับ พี่รีบไปแต่งตัวเถอะเดี๋ยวสาย แต่ทำไมพี่มานอนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ”
“ก็พี่รอฟ้าออกมานะสิ พี่อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อคืน”
“เรื่องนั้นผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ ผมใช้แต่อารมณ์มากไปหน่อยพี่สายลมคงไม่โกรธผมนะครับ” ปลายฟ้าทำหน้าสำนึกผิด พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ
“พี่ไม่โกรธหรอกครับ แค่ฟ้าเข้าใจว่าพี่หวังดีกับฟ้าแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ว่าให้พี่รีบแต่งตัวจะไปไหนหรือครับ วันนี้คิวฟ้าว่างทั้งวันนี่นา” สายลมคลายความกังวลลงเมื่อรู้ว่าปลายฟ้ากลับเป็นปกติแล้ว
“ไปทะเลไงครับ พี่สายลมพาฟ้าไปหน่อยนะครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว” ปลายฟ้าจับมือสายลมเพื่อขอร้อง
“ไม่ได้นะครับ ฟ้าต้องเก็บตัวก่อนช่วงนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าฉากวันแรกจะดูไม่ดีนะครับ”
“นะครับพี่สายลม ไปทะเลใกล้ ๆ ก็ได้ตอนเย็นเราก็กลับนะครับ” ปลายฟ้าบีบมือสายลมเบา ๆ เป็นการขอร้อง
สายลมรู้สึกร้อนวูบจากมือที่ได้รับการสัมผัสจากคนที่แอบรัก เขารู้ว่าปลายฟ้าชอบไปทะเลมากที่สุด ปลายฟ้าชอบนั่งมองท้องฟ้าสีน้ำเงินใส กับท้องทะเลสีน้ำเงินเข้มหลังจากกลับมาจากทะเลปลายฟ้าจะดูมีความสุขทุกครั้ง
“แต่ว่า.....” นิ้วชี้กับนิ้วกลางอันนุ่มนิ่มของปลายฟ้าแต่เข้าที่ปากของสายลมจนเขาไม่อาจพูดต่อได้
“ไม่แต่นะครับพี่สายลม พาผมไปนะครับแล้วผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานมากกว่านี้” ใบหน้าคนขอร้องยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะได้อย่างที่ขอ
สายลมรู้สึกหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทีละน้อย หน้าของสายลมที่อยู่ใกล้เขาเพียงไม่กี่นิ้ว นิ้วมือที่สัมผัสอยู่ที่ริมฝีปาก และรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ถ้าเขาปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ปลายฟ้าอาจสังเกตออกก็ได้ว่าเขาคิดยังไงกับปลายฟ้า
“ครับ ครับ ไปก็ได้ แต่ว่ารีบไปรีบกลับนะครับ” สายลมจับมือปลายฟ้าออก แล้วรับครับก่อนที่จะควบคุมตัวเองต่อไปไม่ได้
“เย่!! พี่สายลมใจดีที่สุดเลยครับ”
ปลายฟ้าสวมกอดสายลมไว้ด้วยความดีใจ สายลมยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ หมายจะกอดตอบ
‘ไม่สิทำแบบนี้ไม่ได้’
เสียงในใจของสายลมร้องเตือนตัวเอง เขารีบเปลี่ยนท่าทีจากที่จะกอดเป็นจับตัวปลายฟ้าออก
“พี่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ เราจะได้รีบไปกันเลย” สายลงรีบลุกเดินเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าวจนเป็นสีแดงระเรื่อไว้ไม่ให้ปลายฟ้าเห็น
สายลมขับรถพาปลายฟ้ามาทะเลอย่างที่สัญญาไว้ ทะเลจังหวัดระยองเป็นเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด และหาที่เงียบ ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านได้ง่ายที่สุด สายลมจอดรถแถว ๆ บริเวณหาดสวนสนที่ร่มรื่น วันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้บริเวณที่จอดรถไม่มีคนอยู่เลย
ปลายฟ้าถอดรองเท้าไว้ในรถ ก่อนที่จะเดินเท้าเปล่าย่ำทรายเม็ดละเอียดลงไปชายทะเล วันนี้ท้องฟ้าสดใสมองไปเห็นท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินกว้าง แต้มลายด้วยก้อนเมฆสีขาวราวกับปุยฝ้ายลอยอยู่ แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม สะท้อนแสงวิบวับสวยงามอย่างลงตัว สายลมเย็นพัดขึ้นมาจากชายทะเลพร้อมกับกลิ่นไอของเกลือจาง ๆ ทำให้คลายความร้อนลงไปมาก
สายลมยืนมองภาพเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปี ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่ชายทะเลอย่างมีความสุข เด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี สวมเสื้อกล้ามสีขาว คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายตารางสีฟ้าจาง ๆ เนื้อผ้าบางเบา กับกางเกงขาสั้นสีดำ ใบหน้าตอนนี้มีความสุขอย่างที่ไร้มารยาแอบแฝง
เด็กหนุ่มด้วยวัยเพียงเท่านี้กลับเจอเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย พอผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ก็ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง ชีวิตในวัยรุ่นแทบจะไม่ได้ใช้ออกมาเลยเมื่อเข้าวงการ ปลายฟ้าเกือบจะไม่เคยได้เดินเที่ยวเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่น ๆ ได้เดิน เขาไม่เคยได้ดูหนังในโรงเหมือนที่คนอื่น ๆ ได้ดู ทำอะไรทุกอย่างต้องคอยระวังตัวไม่ให้เกิดข่าวไม่ดีขึ้น ทุกอย่างต้องทำตามที่บริษัทสั่งมา
คงมีแต่ตอนที่มาทะเลนี่เท่านั้น ที่เขาสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ใบหน้าที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน ความสุข ในแบบที่จริงใจไม่เหมือนทุกครั้งมักจะได้เห็นทุกครั้งที่เขาอยู่ทะเล
“พี่สายลมครับ มานี่หน่อยสิครับ” ปลายฟ้าตะโกนเรียกสายลม ทำให้เขาหลุดจากห้วงความคิด
“ครับ ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” สายลมรีบวิ่งมาหาที่ชายทะเล
“นี่แหนะ!!!” น้ำทะเลถูกสองมือเรียวยาววักสาดเข้าใส่คนที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“ฟ้าครับ อย่าเล่นแบบนี้สิครับ” สายลมพยายามหลบน้ำที่สาดเข้ามา
“มาทะเลก็ต้องเล่นสิครับ ไปยืนอยู่แบบนั้นทำไม นี่แหนะ!!” ปลายฟ้าไม่หยุดวักนักเข้าใส่สายลม
“พอแล้วฟ้า พี่เปียกหมดแล้ว” สายลมหลบไปบอกไป แต่ตามตัวก็เริ่มเปียกมากขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มีแต่เสียงหัวเราะอย่างชอบใจกลับมาเท่านั้น แต่มือยังคงไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดพี่ไม่ยอมแล้วนะฟ้า” สายลมเลิกหลบกลับก้มตัวใช้สองมือวักน้ำใส่ปลายฟ้ากลับคืน
“พี่สายลมเล่นแบนี้หรือครับ” ปลายฟ้าเปียกเพราะโดนน้ำสาดคืนหยุดแล้วยิ้มอย่างมีแผน
“ก็ฟ้าไม่หยุดก่อนนะครับ นี่เอาไปอีกที” สายลมวักน้ำใส่ปลายฟ้าจนเปียกทั้งตัวแล้วคราวนี้
“ได้เลยครับ เล่นแบบนี้ใช่ไหม” ปลายฟ้าวิ่งเข้าหาสายลม ก่อนอ้อมกระโดดขึ้นไปขี่หลังสายลมไว้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่สายลมเป็นม้าให้ผมแล้ว วิ่งไปเลยครับ” ปลายฟ้าออกคำสั่ง
สายลมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าโน้มตัวกอดคอไว้จนแน่น สายลมวิ่งวนไปมาในน้ำอยู่หลายรอบ
ตูม!!
เขาทิ้งตัวลงผืนน้ำทะเล ทั้งสองคนจมลงไปในน้ำก่อนลุกขึ้นมานั่งมองหน้ากัน ปลายฟ้าผมเปียกน้ำลู่ติดหัวจนมาปิดตาทั้งสองข้างไว้ สายลมเองก็แทบไม่ต่างกันเพียงแต่เพราะผมสั้นกว่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อต่างคนต่างมองหน้ากันเอง
หลังจากที่เล่นกันต่อสักพักใหญ่ ทั้งสองคนก็ขึ้นมานั่งพักใต้ต้นสนขนาดใหญ่ ร่มเงาของต้นสนให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวพี่ไปซื่อน้ำกับของกินมาให้นะครับ” สายลมพูดหลังจากที่ตัวเริ่มแห้งจากการนั่งตากลมมาครู่ใหญ่
“ครับ ผมขอไอติมด้วยนะ” ปลายฟ้ายิ้มให้ก่อนหันกลับไปนั่งมองท้องฟ้าและน้ำทะเลอีกครั้ง
สายลมเลือกซื้อน้ำและขนม เขาเลือกเอาเฉพาะอย่างที่ปลายฟ้าชอบกินเท่านั้น
“ไอติม ไอติม” สายลมมองหาตู้ไอศกรีม
“ป้าครับ ไม่มีไอติมขายเหรอครับ” สายลมถามเมื่อมองจนทั่วแล้วยังไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
“ร้านป้าไม่มีหรอกจ๊ะ คนมาน้อยแถวนี้ลงไว้ก็ขายไม่ค่อยออก ป้าเลยคืนตู่เขาไปแล้วจ๊ะ” เจ้าของร้านบอก
“แล้วแถวนี้ร้านไหนมีไหมครับป้า”
“ก็ต้องเลยไปหน่อยนะพ่อหนุ่ม แต่เดินไปคงไม่ไหวหรอกมั้งป้าว่า”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองเดินดู มันไปทางไหนครับป้า”
“เดินขึ้นไปทางนั้นเลยจ๊ะ แต่มันไกลอยู่นะ ป้าว่าเอาจักรยานป้าปั่นไปดีกว่านะ”
“ป้าไม่กลัวผมขโมยจักรยานหรือครับ”
“จะเอาก็เอาไปเถอะ มันจะขายได้กี่ตังค์กันเชียว แล้วหน้าตาอย่างพ่อหนุ่มบ่งบอกว่าใช่โจรที่ไหนกัน” ป้ายิ้มให้อย่าเป็นมิตรและมั่นใจในสายตาตัวเองที่มองสายลมแบบนั้น
“ขอบคุณครับ งั้นผมรบกวนฝากของไว้ก่อนนะครับ”
สายลมเดินออกมานอกร้านเห็นจักรยานคันเก่า สีลอกสนิมเกาะตามซี่ลาดล้อทั้งสองข้าง เบาะขาดจนเห็นเนื้อข้างในว่าทำจากวัสดุอะไร แต่ถึงจะเก่าก็ยังดีกว่าต้องเดินเอาแล้วกัน สายลมปั่นจักรยานไปตามทางที่ป้าเจ้าของร้านบอก
สายลมหายไปพักใหญ่ก็กลับมาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางชุ่มไปตัวเหงื่อ เพราะร้านที่ขายไอศกรีมอยู่ห่างไปหลายกิโลได้ จนเขาแอบคิดในใจว่าทำไมไม่เอารถยนต์ออกมาตั้งแต่แรก พอถึงร้านก็รีบเข้าไปเอาของพร้อมกับขอบคุณป้าเจ้าของร้าน ก่อนจะรีบวิ่งกลับมายังที่ปลายฟ้ารออยู่
สายลมถือไอศกรีมมาอย่างดีใจ เพราะมันคงทำให้ปลายฟ้ายิ้มออกมาได้อีกครั้ง แต่พอกลับมาถึงที่ปลายฟ้าไม่ได้นั่งรออยู่ตรงนั้นแล้ว หรือว่าจะลงไปเล่นน้ำอีกรอบ สายลมรีบมองหาไปตามชายทะเล ก็ว่างเปล่าไร้ร่างชองเด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีอยู่ในบริเวณนั้น หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับปลายฟ้า คงเพราะเขาปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป
ความร้อนใจพุ่งพล่านขึ้นมาทันที เขารีบเดินหาบริเวณรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เดินหาจนทั่วริมชายหาดแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอปลายฟ้า หรืออาจเห็นว่านานแล้วไปรอที่รถก็ได้ เมื่อคิดได้ก็รีบกลับไปที่รถด้วยความร้อนใจ
เมื่อเดินมาถึงมองเห็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ในรถ สายลมเริ่มคลายความร้อนใจลงไปบ้าง แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ทำให้เขาแปลกใจ เพราะเขาเห็นเงาอีกคนอยู่ในรถด้วย เงาอีกร่างกำลังเคลื่อนที่เข้าหาอีกร่างช้า ๆ สายลมกำมือจนแน่นกับภาพที่เห็นจนไอศกรีมในมือเละ สองกำมือบีบกำแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา
ความรู้สึกเจ็บแปรบเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายอย่างกะทันหัน ความรู้สึกเหมือนโดนเข็มเล่มเล็ก ๆ นับหมื่นนับพันทิ่มแทงมันอยู่ ก่อนที่เข็มเหล่านั้นจะเคลื่อนที่ไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความเจ็บปวดจากภาพที่ได้เห็มมันยากเกินกว่าที่จะบรรยายได้ ภาพของคนที่ตัวเองแอบรักกำลังถูกคนอื่นจูบอยู่ตรงหน้า
“ปลายฟ้ามาอยู่นี่เองหรือครับ” สายลมสงบสติอารมณ์แล้วเปร่งเสียงที่สั่นเล็กน้อยออกมาทัก เพื่อหยุดการกระทำของคนทั้งสอง
ทั้งสองคนรีบขยับตัวออกจากันอย่างรวดเร็ว
“พี่สายลม ตอนไหนครับผมนั่งรอตั้งนานได้อะไรมาบ้าง” ปลายฟ้าหันมาทักตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สายลมหันไปมองหน้าอีกคนให้แน่ใจว่าเป็นใคร ก่อนหันกลับมาตอบคำถาม
“เพิ่งมาถึงก็เรียกปลายฟ้าเลยนี่แหละ แล้วคุณก้องมาได้ยังไงครับ” สายลมทักเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับคุณสายลม พอดีปลายฟ้าเขาโทรมาบอกตั้งแต่เช้า ผมเพิ่งว่างก็เลยเพิ่งตามมาครับ” ก้องเกียรติ ดารารุ่นพี่ที่กำลังตกเป็นข่าวยิ้มให้
“อ๋อ ครับ แต่ว่าอีกสักพักพวกเราก็คงกลับแล้ว เพราะพรุ่งนี้ปลายฟ้าต้องไปถ่ายหนังแต่เช้า” สายลมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บแปลก ๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายอยู่ตลอดเวลา
“ครับไม่เป็นไรครับ ผมได้เจอปลายฟ้าแค่นี้ก็หายคิดถึงไปเยอะแล้ว” ก้องเกียรติไม่ลืมหยอดคำหวานให้คนที่นั่งข้าง ๆ
“พี่ก้องก็ไม่ต้องมาหวานให้ผมเลย คนอย่างพี่มีคนอื่นให้คิดถึงเยอะแยะไป” ถึงปากต่อทำเหมือนต่อว่าแต่ปลายฟ้าก็หน้าแดงระเรื่อเพราะความอาย
“เอาเถอะครับ ผมให้เวลาอีก 20 นาที แล้วผมจะกลับมาใหม่” สายลมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้
“นี่ขนมที่พี่ไปซื้อมา ปลายฟ้าเอาไปกินกับคุณก้องแล้วกันนะ” สายลมส่งเพียงถุงขนมให้ โดยซ่อนมือที่กำไอศกรีมจนเละไว้ข้างหลัง
“ขอบคุณครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้
สายลมเดินกลับออกมาที่ชายทะเลด้วยอาการชาด้านไปทั้งตัว ภาพที่เขาเห็นมันยากเกินกว่าที่จะตั้งรับได้ในตอนนี้ มือยังกำไอศกรีมที่ตั้งใจหาซื้อไว้แน่น หลังจากคิดว่าปลายฟ้าไม่มีทางเห็นแล้วแน่นอน สายลมวิ่งลงทะเลไปอย่างคนบ้าคลั่ง
‘ว๊ากกกกกกกกกกก ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก’
สายลมก้มหน้าดำน้ำลงไปพร้อมกับตะโกนออกมาสุดเสียง นี่เป็นทางเดียวที่เขาจะระบายความอึดอัดที่มีอยู่ทั้งหมดตอนนี้ออกมาได้ สองมือต่อยลงผืนทรายใต้น้ำจนสุดแรงที่มี ภาพที่เห็นไม่ต่างจากคนสติไม่ดีที่กำลังทะเลาะกับท้องทะเลสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่ สายลมเงยหน้าขึ้นมาหายใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะทำแบบเดิมอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ แต่กับสายลมเหมือนเวลาผ่านมาหลายชั่วโมง เขากลับขึ้นมานั่งมองท้องฟ้ายามเย็น ที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินไป แสงสีแดงเรื่อสาดกลืนกินน้ำทะเลสีน้ำเงินตรงปลายฟ้าเป็นวงกว้าง ถึงภาพที่เห็นตรงหน้าจะดูสวยงามแค่ไหน แต่ความรู้สึกเขากลับไม่ดีขึ้นมาเลย
“ปลายฟ้า พี่อยากเป็นดั่งดวงอาทิตย์จริง ๆ เพราะอย่างน้อยมันก็ยังได้สัมผัสกับปลายฟ้า แม้จะเพียงแค่ช่วงเวลาเดียวก็ตาม” สายลมพูดกับตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า ความคิดนี้ทำให้เขาสงบสติอารมณ์ทั้งหมดลงได้ ก่อนที่จะเดินกลับไปหาปลายฟ้าที่รถ
สายลมขับรถพาปลายฟ้ากลับที่พัก ปลายฟ้านั่งหลับอย่างสบายใจอยู่ด้านข้าง ใบหน้ายามหลับยังคงดูไร้เดียงสาเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เจือนไว้ด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ
“วันนี้คงมีความสุขมากสินะฟ้า พี่อยากให้ฟ้ามีความสุขแบบนี้ทุกวันจริง ๆ” สายลมใช้มือเสยผมที่ตกปิดหน้าปลายฟ้าออกอย่างแผ่วเบา
========> โปรดติดตามตอนต่อไป