The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 265854 ครั้ง)

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
«ตอบ #330 เมื่อ18-05-2011 22:10:13 »

สตรีสูงวัย เขาติดป้ายห้ามเข้าสถานที่แบบนี้เพียงลำพังนะคะ
 
เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ กร๊าาาาาาาาาาาากๆ
ว้าย..ในนี้มีสตรีสูงวัยด้วยเหรอคะคุณนี...ชิส์
 :o8: มันขนาดนี้เลยเหรอ
ขอบคุณ MonarcH ที่ทำให้โลกทัศน์ดิฉันกว้างขึ้น

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
โอ๋ยยย  ตรู  อ่านตอนกลางวันกับกลางคืนนี่  อารมณ์ต่างกันเลยแฮะ 
 :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ๊า นิยายสยองขวัญ
หนูกลัว อยู่บ้านคนเดียวด้วย

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
เง้อ เศร้าปนสยองอ่ะ
ตกลงหรั่งกลาบเป็นอมนุษย์เหรอเนี่ย  :serius2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอตอนที่10ด้วยคนจ้ะ

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
«ตอบ #335 เมื่อ18-05-2011 22:43:06 »

กริชจะรอดมั้ยละเนี่ย  :z1:

แรงเทียน

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาบอกว่า นี่ไม่แรงนะ อิอิ เบาที่สุด มันมียิ่งกว่านี้อีก แอ๊กกก

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
จริงอ่ะ รอดูต่อไป
ก็ของเค้าแรงจริงๆ

how to

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจังเด็กคนนี้  :impress2:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
คุณหนู ไม่ร้ายอย่างที่คิด
แต่ก็น่ารักๆๆๆ  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ภาพฝัน

  • บุคคลทั่วไป
   เตชวัฒน์รู้เลยว่าการเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้วริศรินทร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดนี่เป็นวันแรกที่เริ่มงานอีกฝ่ายก็ต้อนรับเขาด้วยการนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำซะแล้ว

   ร่างสูงของอีกฝ่ายเดินเข้าไปสำรวจในส่วนของครัว ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย สวยงามแสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับการใช้ราวกับว่านี่เป็นครัวที่เห็นได้ตามหนังสือนิตยสารทั่วไป เขาเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจดูภายใน ตู้เย็นเต็มไปด้วยอาหารสดและของแช่แข็ง แต่พอเขาหยบออกมา หลายอย่างที่หมดอายุและเสียไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถน้ำมาใช้ทานได้ เตชวัฒน์ขมวดคิ้วแล้วเดินไปหยิบถุงออกมาหยิบอาหารที่ใช้ไม่ได้ทิ้ง พอเขาทิ้งทุกอย่างที่หมดอายุออกไปแล้ว ภายในตู้เย็น เหลือเพียงไข่ไก่สด และนมที่ยังไม่หมดอายุอยู่ เขาหันไปอุ่นข้าวด้วยไมโครเวพ เวลาแบบนี้สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คงเป็นข้าวไข่เจียวที่สะดวกและรวดเร็ว

   “ยังดีนะที่เจียวไข่เป็น” เขาหัวเราะกับตัวเองที่พอทำอาหารเป็นบ้าง

   เตชวัฒน์จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วจัดการยกอาหารออกไปวางไว้ที่โต๊ะ เขาเทนมสดใส่แก้วและน้ำเปล่าไปวางไว้คู่กัน

   “ไนท์” เตชวัศน์เรียกวริศรินทร์เมื่อไม่มีเสียงขานตอนเขาจึงเดินเข้าไปข้างใน วริศรินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำใสชุดคลุมอาบน้ำ พอมาเห็นรูปร่างหน้าตาชัดๆ เขาพบว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าที่ซีดเซียว ผิวพรรณคล้ายจะเปล่งปลั่งแต่ถ้าเทียบกับดารารุ่นราวคราวเดียวกันถือว่าค่อนข้างซีดเลยทีเดียว

   เตชวัฒน์ชะงักเมื่อได้สบตากับวริศรินทร์ ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยมีเพียงดวงตาที่แสดงออกว่ารับรู้

   “พี่ทำอะไรง่ายๆ ให้กินแล้ว ไนท์ไปกินก่อนเถอะ หิวไม่ใช่เหรอ” เตชวัฒน์พยายามผูกสัมพันธ์กับเด็กหนุมรุ่นน้องที่เริ่มต้นทำงานด้วยกัน ไม่มีคำพูดตอบรับ แต่ร่างสูงโปร่งก็ยอมเดินออกไปจากห้องนอนไปที่โต๊ะ วริศรินทร์ไม่มีปฏิกิริยายกับอาหาร เพียงแต่เดินไปหยิบนมจืดที่วางไว้ในแก้วแล้วเดินไปที่โต๊ะใกล้เคียง เขาหยิบขวดยาต่างๆ ออกมา เปิดมันแล้วกลืนลงไป แล้วเดินกลับเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไร เตชวัฒน์มองอาการคนตรงหน้าแล้วได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า หรือว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังแสดงออกคืออาการต่อต้านเขา เขาเดินไปหยิบดูขวดยาที่ไนท์วางทิ้งไว้ ทั้งหมดคือวิตตามินและอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงร่างกาย แต่จำนวนมันมากเกินไปหรือเปล่าเขาได้แต่ครุ่นคิด

   “ไนท์” เตชวัฒน์ตัดสินใจเดินตามเข้าไปในห้องนอน เขารู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่เขาไม่รู้ว่าควรจำทำยังไงกับอีกฝ่าย ภาพที่เห็นทำให้เขาชะงัก วริศรินทร์กำลังสวมกางเกงยีนส์ขายาว แม้ว่าเจ้าตัวติดจะค่อนข้างผอมแต่ไม่ได้มีรูปร่างบอบบาง รูปร่างของอีกฝ่ายยังคงพอมีกล้ามเนื้อซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ของเพศชายและเพราะช่วงขาที่เรียวยาวทำให้ดูดีเมื่อได้ส่วมใส่ยีนส์ อีกฝ่ายติดกระดุมกางเกงยีนส์แล้วหันมามองหน้าเขา

   “มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” เตชวัฒน์ถามแก้เก้อ ไม่มีคำตอบจากวริศรินทร์ มีเพียงสายตาที่มองเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแต่ดูไม่ออกว่าเหม่อลอยหรือครุ่นคิด

   “เสื้อ” เสียงแหบแห้งที่พูดมาเพียวแผ่วเบากับร่างที่เดินผละออกมาไปนอนแผ่อยู่บนเตียง นี่เขาจะตีความหมายว่าไนท์ต้องการให้เขาเลือกเสื้อให้หรือเปล่า เตชวัฒน์มองเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้เป็นจำนวนมาก เขาไม่รู้ว่าไนท์ต้องการเสื้อผ้าแบบไหน และเขาเองก็ไม่ได้มีเซ้นท์เรื่องการแต่งตัวมากนัก เขามองเสื้อผ้าที่จัดไว้ในตู้เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แยกกันแม้กระทั่งสี

   “ไนท์อยากใส่สีอะไร” เขาลองเกริ่นถามอีกฝ่ายแต่ก็มีเพียงแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา เตชวัฒน์ถอนหายใจอีกครั้งอย่างหนักใจสุดท้ายเขาก็เลือกเสื้อยืดสีดำเรียบๆส่งให้ไนท์ เขาคิดว่าคงไม่เป็นอะไรถ้าไนท์จะแต่งตัวธรรมดาสักวัน แต่มันไม่ได้ดูธรรมดาอย่างที่คิด เขาเห็นแล้วยอมรับเลยว่า คนหล่อใส่อะไรก็ดูดีแม้จะอยู่ใส่สภาพแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ยังคงมีออร่าให้ดูโดดเด่น

   วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย แล้วเอื้อมมือรับเสื้อไปสวมใส่อย่างว่าง่าย ร่างโปร่งเดินไปหยิบไอแพดขึ้นมายื่นให้เขา

   เตชวัฒน์รับไอแพดมาจากนายแบบหนุ่ม สิ่งที่ไนท์ส่งให้คือตารางงานในแต่ละวันซึ่งเขาเห็นแล้ว อีกประมานสามชั่วโมงไนท์จะมีถ่ายแบบแต่ก่อนหน้านั้นไนท์ต้องไปเข้าสปาร์ก่อนตามตาราง

   วริศรินทร์รู้เวลาของตนเองดีทันทีที่ยืนตารางงานให้ผู้จัดการคนใหม่ ร่างโปร่งก็เดินตรงออกไปสวมรองเท้าทันที ฝ่ายเตชวัฒน์ยังไม่ทันคิดเรื่องการเดินทางเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนายแบบหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ เขารีบก้าวตามออกไป

   เตชวัฒน์ทำหน้าที่ขับรถให้วริศรินทร์ อีกฝ่ายนั่งอยู่บนรถเคียงคู่กับเขาแต่ก็มีเพียงความเงียบเท่านั้น เขาเหลือบมองอีกฝ่ายจึงเห็นว่าสายตาของไนท์เหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง

   “ไนท์ เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา” เตชวัฒน์ลองเลียบเคียงดูเขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงมีสติไหม ไม่มีคำพูดจากไนท์ มีเพียงนิ้วเรียวยาวที่ชี้ไปทางแยกด้านซ้ายมือ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็พอรู้ว่าไนท์ยังรับรู้ทุกอย่างเพียงแค่ไม่พูดหรือแสดงออกมาเท่านั้น

   ทันทีที่เดินลงมาจากรถพนักงานภายในร้านรีบกุลีกุจรออกมาต้อนรับไนท์ทันทีด้วยความเกรงอกเกรงใจ

   “สวัสดีค่ะ น้องไนท์วันนี้นวดเหมือนเดิมนะค่ะ แล้วคุณ” พนักงานต้อนรับมองมาที่เขา

   “เตชวัฒน์ครับ ผู้จัดการส่วนตัวคุณใหม่” ทันทีที่พูดจบท่าทีของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนไปทันที

   “สวัสดีค่ะ คุณเตชวัฒน์ ฉันขวัญฤดีค่ะ เป็นเจ้าของทีนี่ยินดีต้อนรับนะค่ะ เชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะ วันนี้มาที่นี่งานสินะค่ะ นวดเต็มคอร์สเหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ มีเวลาอีกกี่นาที หรือกี่ชมค่ะที่จะเริ่มงาน แล้วคุณเตชวัฒน์จะนวดด้วยไหม” เขาถูกพอไปต้อนรับนั่งรอในส่วนของVIP ที่เป็นส่วนตัวและมิดชิด

   “ไม่ครับ มีเวลาประมาน ชัวโมงหนึ่งครับ” เขายิ้มให้กับเจ้าของ เธอยิ้มแย้มต้อนรับ

   “ค่ะ งั้นพักผ่อนตามสบายนะค่ะ เดี๋ยวจะพาน้องไนท์ไปขัดตัว รับรองออกมาผิวเนียนเด้งเลยค่ะ” เธอยิ้มรับรอบสักพักหนึ่งแล้วหายเข้าไปด้านใน ทิ้งให้เตชวัฒน์อยู่ในห้องที่มีกลิ่นน้ำมันหอมละเอยลอยคลุ้ง

   “อา” เขาตัดสินใจโทรหาผู้เป็นอาทันที

   “อะไรอีกตาเต โทรหาฉันบ่อยจริงๆ” วุฒิพลพูดขำๆ เมื่อหลานชายตัวดีโทรหาเขาติดๆกันในรอบสองวัน

   “ผมงงครับ นี่ผมต้องทำอะไรบ้างเนี่ย มีมาสปาร์ก่อนไปทำงานอีก แล้วผมต้องเลือกเสื้อผ้าให้ไนท์ด้วยเหรอครับ แล้วยังอาหารเสริมเป็นกำๆอีก ตกลงไนท์กินข้าวกินปลาไหม ดารานายแบบเป็นแบบนี้ทุกคน” เขาถามทั้งหมดจากผู้เป็นอาเพราะคิดว่าไปถามไนทืก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะ

   “ตาเต แกคิดว่านายแบบถ้าไม่ดูแลตัวเองมันจะดูดีไหม อยู่เฉยๆ ไม่ทำให้มันหล่อขึ้นมาได้หรอก มันต้องประโคมดูแล ถ้าแกว่างก้ไปดุแลเรื่องอาหารให้ไนท์ด้วยก็ได้ ถ้ามีปัญหานัก ส่วยเรื่องเสื้อผ้าก็เป็นหน้าทีของผู้จัดการกับคอสตูม เอออย่าให้ไนท์แต่งตัวแย่ๆ หลุดออกมานะเสียชื่อหมด ตารางงานไนท์ก็มีแล้วไม่ใช่เหรอ มีปัยหาอะไรอีกไหมตาเต” วุฒิพลขำหลานชายของตนเองที่โทรหาเขาอย่างตื่นตระหนก เตชวัฒน์ยังใหม่อยู่สำหรับวงการบันเทิง จึงไม่แปลกที่จะงุนงงตกใจบ้าง

   “อ้อ ตาเต เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมแบบนี้นะ เสียมาดหมด จงสวมวิญญาณของมืออาชีพ” เตชวัฒน์รู้สึกเขินเมื่อเจอคำต่อว่าของผู้เป็นอา

   “วงการมายามีอีกเยอะ แค่เรื่องดูแลตัวเองนะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เออมีเบอร์ผู้จัดการคนเก่าแล้วนี่ มีปัญหาอะไรก็โทรไปถามเขาดู” เตชวัฒน์ถอนหายใจเล้กน้อยด้วยความโล่ง ถ้าเขาไม่มีวุฒืพลคอยช่วยเขาคงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆกับคนแบบไนท์ วุฒิพลแนะนำอะไรอีกเล้กน้อยแล้ววางสายไป เขาหยิบไอแพทที่ไนท์ยื่นมาให้ไล่ดูตารางงาน เใมื่อไม่มีอะไรอีกก็เลยเสริชดูพวกแฟชั่นนายแบบ เขานึกถึงตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์แต่งตัวของไนท์แล้วชักรู้สึกเครียดขึ้นมาที่ต้องเป็นคนจัดการเรื่องเหล่านั้น

   “แก่ป่านนี้แล้ว เพิ่งคิดจะมาตามแฟชั้น” เขาพูดกับตนเองขำๆ เมื่อต้องมาอัพเดทเสื้อผ้าแฟชั่นไวรุ่น

   “เสร็จแล้วค่ะ” เวลาผ่านไปนาน ขวัญฤดีพาไนท์ออกมา เตชวัฒน์ชะงัก เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องพาไนท์มาสปาก่อนการถ่ายแบบ ผิวที่ค่อนขาวซีดในตอนแรก ดูมีเลือดฝาด สีหน้าก็ดูสว่างสดใส ผิวพรรณก็เปล่งปลั่ง ยิ่งทำให้ไนท์ดูดียิ่งขึ้นไปอีกในเวลานี้ และโดยเฉพาะดวงตาสีดำที่ตอนนี้ดูมีพลังไม่เหนื่อยอ่อนเหมือนในทีแรก ไนท์เดินอกมาสบตาเขาแล้วเลยไปทานผลไม้ที่อยู่มนจานกับชากลิ่นมะลิที่วางไว้ที่โต๊ะรับแขก เตชวัฒน์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายเงียบอยู่แบบนี้ ขวัญฤดีออกไปแล้วเหลือเพียงเขาสองคนที่ยังอยู่ในห้อง

   เตชวัฒน์ยืนมองไนท์ที่จิ้มแอปเปิลเคี้ยงตุ้ยๆโดยไม่พูดไม่จา มือหยอบไอแพทที่วางไว้ข้างๆมากดเล่นเกมส์

   “ไนท์” เขาลองส่งเสียงเรียกอีกฝ่าย เหมือนเช่นเคยไม่มีเสียงตอบมีเพียงใบหน้าที่เงยขึ้นมามอง

   “ชอบผลไม้เหรอ” เขาถามแก้เก้อ

   “กินได้” แบบนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาไหมนะ เตชวัฒน์ไม่ได้พูดอะไรอีกเขานั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม นั่งมองใบหน้าที่ติดจะหล่อเหลานั่งเล่นเกมส์อยู่เงียบๆ คงามเงียบมันชวนอึดอัดในทีแรก อาจเพราะบรรยากาศของอีกฝ่ายที่เรียบเฉยไม่มีการคุกคามทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนแรกที่เจอ เวลาผ่านไปเมื่อไนท์ทานทุกอย่างจนหมด ร่างสูงโปร่งก็ลุกขึ้นยืนพร้อมส่งไอแพดคืนมา

   เมื่อเขามองทีไ่อแพดเขาพบว่าอีกฝ่ายเปิดไว้ที่หน้าตารางงาน ทำให้เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร เขาไม่ทันเอ่ย ขายาวๆของไนท์ก็ก้าวนำออกไป

   คราวนี้ไนท์นอนอยู่ที่เบาะหลังไม่ได้มานั่งคู่กันเหมือนเขาในทีแรก ถ่ายแบบคราวนี้ต้องถ่ายที่ริมหน้าผา เตชวัฒน์ขับรถกว่าสองชัวโมงถึงได้ถึงสถานที่ถ่ายทำ

   “สวัสดีครับคุณเต” วรุณ ผู้จัดการคนเก่าของไนท์ออกมาต้อนรับเพื่อพาเขาไปแนะนำให้คนอื่นๆรู้จัก

   “น้องไนท์ค่ะ มาทางนี้ค่า” สาวประเภทสองคนหนึ่งจีบปากจีบคอพูดกับนายแบบหนุ่ม หลายคนที่ทักทายเขาแต่ล้วนแต่ได้รับความเฉยเมย ตอบกลับไป

   “แบบนี้ยังมีงานทำนะครับ” เตชวัฒน์อดไม่ได้ที่จะเปรยกับวรุณผู้จัดการคนก่อนของไนท์

   “ถ้ามนุษยสัมพันธ์ดีกว่านี้ ก็คงดังกว่านี้นะครับ แต่เขาเป็นคนมีเสน่ห์นะครับ” วรุณยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

   “น้องไนท์นี่ผิวสวยจริงๆนะค่ะ ดูสิผิวเนี๊ยนเนียน หน้าตาก็หล่๊อหล่อ แต่ทำไมใจร้ายกับพี่มดดำจังเลย” เสียงสัพยอกหยอกเย้าจากช่างเเต่งหน้าดังขึ้นมา คนอื่นได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นว่าสาวใหญ่หยิกแก้มไนท์อย่างเอ็นดู แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่าย

   “เป็นแบบนี้เสมอเหรอครับ” เตชวัฒน์อดจะถามไม่ได้

   “ก็ไม่เคยเป็นแบบอื่นนี่ครับ” วรุณยิ้มให้เขาอย่างเห็นใจ เตชวัฒน์ได้รู้เรื่องการจัดเสื้อผ้า และรายละเอียดงานหลายๆอย่าง เท่าที่ฟังมาก็เหมือนเดิมไนท์ไม่มีปัญหาอะไรเลยเรื่องงานทำได้ทุกอย่าง จะมีก้แค่นิสัยกับการกระทำบางอย่างเท่านั้นที่จะเป็นปัยหา เตชวัฒน์เข้าใจกับคำว่าการกระทำบางอย่างที่วรุณพูดถึง

   “หล่อมากกกกกก” เสียงลากเสียงยาวจากบรรดาช่างแต่งหน้าและคอสตูมดังขึ้นมา เมื่อการถ่ายแบบเริ่มต้นขึ้น

   ไนท์ในกางเกงยีนส์สีศีดกับเสื้อลายสก๊อตตามแบบฉบับของคาวบอย ทั่วไปยีนอยู่ริมหน้าผาสูง ช่างภาพสั่งให้ไนท์เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เพื่อเทสแสง ร่างสูงเคลื่นไหวช้าๆ ในทีเเรกก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบทไปเรื่อยๆ

   “ไนท์ครับ มองกล้องครับ” ช่างภาพเตือนให้ไนทืมองกล้อง เขารู้แล้วว่าทำไมไนท์ถึงยังมีงานทำ ทันทีที่อยู่หน้ากล้อง ความเลื่อนลอยในดวงตาของเขาหายไป มันถูกแปรเกลี่ยนเป็นแรงดึงดูด

   “ไนท์ ยิ้มหน่อยครับ ลองยิ้มหน่อย” ตากล้องตะโกนบอก ไม่มีรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของไนท์

   “กรี๊ด” เสียงกรี๊ดร้องดังลั่นของบรรดาสาวประเภทสองดังกระหึ่ม เมื่อเสื้อเชิ้ต ลายสก๊อตถูกกระชากออกจนกระดุมหลุดไปทั้งแถบ เช่นเดียวกับช่างภาพที่กดชัดเตอร์ระรัว เสื้อโดนเหวี่ยงไปกองลงกับพื้น ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าที่มีกล้ามเนื้อสวยสมส่วน แม้มันจะไม่มากแต่ก็ทำให้ดูดี โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ยีนเอวต่ำที่ต่ำจนเห็นขอบกางเกงชั้นในอยู่เลือนลาง แสงแดดที่ส่องเข้ามาด้านหลัง กับจังหวะที่ไนท์เสยผมขึ้นมาแสดงความดิบเถื่อนแห่งเพศชาย

   “โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว กระเทยจะเป็นลม” เสียงกรีดร้องของเหล่าสาวแท้ สาวเทียมดังขึ้นมาไม่ขาดสาย แต่ละนางล้วนแล้วแต่บอกเล่าถึงความรู้สึกที่อยากจะครอบครองอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

   “เสียดายอะแก โอ๊ย อยากเข้าเข้าไปลูบไล้จริงๆ อยากคุยด้วยเยอะ อยากได้ไปเลี้ยงดู แต่น้องไนท์นะน้องไนท์ทำไมถึงได้เย็นชาเป็นเจ้าชายน้ำแข็งแบบนี้” เตชวัฒน์รู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าบรรดาสาวเทียม

   “หูย คิดดูสิ หล่อออกขนาดนี้  ลิซซ่านะอยากคุยด้วยใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้าอะ อยากรู้จริงๆเลยว่าถ้าเวลายิ้มออกมานะ จะหล่อขนาดไหน อยากจะลองลูบไล้จริงๆเลย ผิวก็เนียนสวย พอมีกล้ามเนื้อนิดหน่อย ติดจะผอมไปนิด แต่โดยรวมก็น่าหม่ำ” เสียงพูดคุยอย่างออกรสดังขึ้นมา เตชวัฒน์แยกออกมาเมื่อวรุณสะกิดเขา เมื่อไนท์เดินออกมาจากฉากแล้ว

   “ดูดีมากครับ น้องไนท์งานออกมาดีมาก” ช่างภาพชมเปาะอย่างถูกอกถูกใจ แต่เจ้าตัวกลับเมินหน้าหนีเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่สนใจ

   “ดังแล้วหยิ่ง” เขาได้ยินเสียงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ดังมาไม่ไกลแต่พอหันหลังกลับไปก็ไม่พบว่าเป็นเสียงใคร

   วรุณกลับไปแล้ว เหลือเขาที่รอไนท์เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ภาพในรถที่ถูกเตรียมไว้ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางหงุดหงิด

   “เสื้อที่ขาดจะทำยังไงค่ะ เราต้องชดใช้ค่าเสียหายนะค่ะเนี่ย” แม้เธอจะถามอย่างสุภาพแต่ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียง เธอยื่นเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตที่ขาดหวิ่นมาให้เขา เตชวัฒน์ยังไม่ทันจะพูดอะไร ประตูรถก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับขาเรียวยาวที่ก้าวออกมายืนเียงข้าง

   “น้องไนท์ค่ะเรื่องเสื้อตกลงจะเอายังไง ไม่งั้นพี่ก็ต้องรับผิดชอบเสื้อที่น้องทำขาด” เธอกระชากเสียงถาม ในทีแรกไนท์ยังคงทำเฉยมองเสื้องในมือของเธอ

   “น้องไนท์ค่ะ” เธอเริ่มถามอย่างร้อนใจ

   “ผมซื้อ” ไนท์พูดแค่นั้นแล้วเงียบมองเธอ ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทีโล่งใจ แล้วเรียกให้เตชวัฒน์ไปจัดการเรื่องค่าเสียหายที่ไนท์ทำ ส่วนไนท์เมื่อทุกอย่างจบแล้วก็เดินไปรอเขาที่รถอย่างเงียบๆ


.................................


เหนื่อย ชอบกันไหม >.< ไม่เคยเขียนแนวนี้มาก่อนเลย ไม่ถนัด อะไรเกี่ยวกับพวกดาราเลยอ่ะ แสดงความคิดเห็นกันหน่อยน้าา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2011 23:30:06 โดย ภาพฝัน »

OhJa

  • บุคคลทั่วไป

k_sleepless

  • บุคคลทั่วไป
กีสสสสสสสสสสสสสไนท์อ่ะ ...เท่ อร๊ายยยยยยยยยยยย ไนท์ก็ดูเป็นคนนิสัยดีนะคะ ไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แค่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์เท่านั้น ...แต่กับอาชีพดาราที่ต้องพบปะกับผู้คนนี่ก็ลำบากเหมือนกันน๊าาาาาาา

ปอลอลิง ถ้ากินวิตามินกับเข้าสปา แล้วก็หม่ำๆผลไม้ ผิวเค้าจะน่าลูบไล้เหมือนไนท์มั้ยน๊าาาาาาาาาา :-[

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เหนื่อยด้วยคน  กลั้นหายใจจนเหนื่อย  ไนท์เล่นไม่พูดอะไรเลยแบบนี้มันอึดอัดแฮะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้องไนท์ก็ออกจะนิสัยดี แค่ไม่ชอบพูด
แต่พี่เตก็ต้องเหนื่อยหน่อยละนะ กว่าจะจูนกันได้
แล้วเ่อ่อ สองคนนี้เป็นคู่กันรึเปล่าคะ อยากรู้

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านไปได้ 3 สี แต่คิดว่าต้องสนุกแน่นอน เวลาอ่านรวบพร้อมกันทีเดียว 3 เรื่อง เหมือนได้เล่นกระดานโต้คลื่นเลย ปรับอารมณ์ไม่ทัน 55  o13

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
นิดหน่อยเองครับ ดาราเชาก็ต้องมีการสร้างภาพกันบ้าง

ติดตามต่อนต่อไปได้แล้วครับ

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
   


ตอนที่ 3 เปิดกล้อง

                     เสียงกดชัตเตอร์เสียงสัมภาษณ์ดังอึงอลไปทั่วบริเวณหน้าบริษัทหนังยักษ์ใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันเปิดกล้องหนังเรื่องใหม่ของหม่อมเอียดที่ลงทุนหลักสิบล้าน และยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง ปลายฟ้า นวกมล รับบทพระเอกมีนักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอย่าง อเล็กซ์ นรลักษณ์ มารับบทรอง ทำให้มีการจับตาดูมากยิ่งขึ้นถึงการประชันฝีมือการแสดงของทั้งสองคนนี้
              “คุณปลายฟ้าครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ”
“คุณปลายฟ้าค่ะ”
เสียงเรียกชื่อปลายฟ้าดังขึ้นไม่ขาดระยะพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่รุมล้อมเข้ามาจำนวนมาก จนสายลมต้องเข้าไปกันกลุ่มนักข่าวให้
                “ขอโทษนะครับ ผมว่ารอสัมภาษณ์พร้อมกับทางทีมงานดีกว่านะครับ อีกสักพักก็คงได้เวลาแล้ว” สายลมพูดพร้อมแยกนักข่าวกลุ่มนั้นออกมา
                หลังจากที่สายลมกันนักข่าวออกจากปลายฟ้า ทางผู้จัดงานก็ประกาศให้นักข่าวไปนั่งยังที่ที่จัดไว้ให้ ก่อนมีคนมาเชิญปลายฟ้าให้ไปนั่งสัมภาษณ์รวมกับนักแสดงคนอื่น ๆ มีหม่อมเอียดนั่งอยู่ตรงกลาง ปลายฟ้านั่งทางขวามือ อเล็กซ์นั่งทางซ้ายมือ ตามด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่น ๆ ตามลำดับอีกสามสี่คน หม่อมเอียดพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังว่ามีความเป็นมาเป็นไปก่อนจะหันมาพูด ถึงนักแสดงที่ตนเลือกมาแบบรายบุคคล
   หลังจากที่มีการแถลงข่าวโดยรวมเสร็จแล้ว ก็ได้มีการเปิดให้สัมภาษณ์ดารานักแสดงแบบรายบุคคลได้ ปลายฟ้าโดนนักข่าวเกือบทุกสำนักพิมพ์กรูเข้ามาแย่งตัว
“ปลายฟ้าค่ะขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมค่ะ” เสียงนักข่าวรุมเร้าเรียกชื่อถามเจ้าละหวั่น
“ครับพี่ ๆ นักข่าวใจเย็น ๆ นะครับ ผมจะตอบทุกคำถามแน่นอนครับวันนี้” รอยยิ้มที่ชวนให้ชื่นใจถูกแจกออกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของปลายฟ้าให้กับนักข่าวทุกคน
“ผมว่าเราหลบไปนั่งแถวนั้นดีกว่านะครับ จะได้ไม่รบกวนพี่ ๆ นักแสดงคนอื่นเขาด้วย”
ปลายฟ้าเดินพานักข่าวไปนั่งสัมภาษณ์ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ทำให้บริเวณกลางห้องดูสงบลงไปบ้าง การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี นักข่าวต่างพอใจกับคำตอบและท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนของปลายฟ้า
“ฉันว่างานนี้ปลายฟ้าคงดังขึ้นไปอีกแน่ ๆ ฉันจะเขียนเชียร์ให้เต็มที่เลย” นักข่าวสาวดูปราดเปรียวคุยกับเพื่อนนักข่าวด้วยกันตอนพักทานของว่าง
“ฉันก็เหมือนกันคนอะไรหล่อแล้วยังจะนิสัยดีอีก ไม่เคยบ่นเลยเวลาโดนสัมภาษณ์ แถมยังอ่อนโยนกับพวกเราเสมอ ๆ เลยนะ โดยเฉพาะรอยยิ้มนั้นนะ ฉันเห็นใกล้ทีไรแล้วแทบละลายทุกครั้งเลยนะเธอ” เพื่อนสาวตอบกลับพร้อมกับทำหน้าชวนฝัน
“ฝันต่อไปเถอะยะ คนอย่างปลายฟ้าเขาจะมามองทำไมพวกเรา ไปเตรียมสัมภาษณ์อเล็กซ์ต่อกันเถอะ” ทั้งสองยกกาแฟที่ถืออยู่ในดื่มจนหมดก่อนไปสัมภาษณ์หาข่าวต่อไป

ปลายฟ้าถือโอกาสตอนว่างจากการสัมภาษณ์ทักทายนักแสดงรุ่นพี่คนอื่น ๆ โดยมีสายลมพาไปแนะนำเพราะสายลมรู้จักดาราเกือบทุกคน
“พี่ขวัญสวัสดีครับ ผมพาปลายฟ้ามาฝากดูแลด้วยนะครับ นี่เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขาอาจยังไม่รู้อะไรมากนัก” สายลมฝากปลายฟ้ากลับนักแสดงสาวใหญ่ที่ใคร ๆ ก็เกรงใจเธอ
ปลายฟ้าไหว้อย่างนอบน้อมพร้อมกับร้อยยิ้มที่ทำให้หลายคนใจละลาย แม้แต่ดาราสาวใหญ่อย่างขวัญชนกยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาได้
“ชื่อเสียงระดับปลายฟ้ายังต้องให้พี่แนะนำอีกเหรือจ๊ะ” ขวัญชนกยิ้มตอบ
“ไม่หรอกครับ ผมยังต้องเรียนรู้อีกมาก อยากทำให้คุณขวัญลำบากก็ได้นะครับ” สายลมทำท่าทางขวยเขินเล็กน้อย เพราะตัวเองยังอ่อนประสบการณ์ทางด้านภาพยนตร์จริง ๆ
“เรียกพี่ก็ได้จ๊ะจะได้คุ้นเคยกันดี”
“ครับพี่ขวัญ” ปลายฟ้าเปลี่ยนคำเรียกตามที่ดาราสาวใหญ่เรียกร้อง
ขวัญชนกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้ยินปลายฟ้าเรียกตัวเองว่าพี่ ทั้งสองคนคุยกันต่ออย่างสนิทสนมโดยมีสายลมเป็นตัวเชื่อม ภาพของดารารุ่นใหญ่อย่างขวัญชนกคุยสนิทสนมกับดารารุ่นน้องแบบนี้หายากนัก เพราะขวัญชนกของข้างถือตัวเลยทำให้คนรอบข้างแปลกใจนิดหน่อย
“คุณปลายฟ้าค่ะหม่อมให้มาเชิญตัวสักครู่คะ” ทีมงานเดินมาตามตัวปลายฟ้า
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่ขวัญ ไว้คราวหน้าพี่ขวัญเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ผมฟังอีกนะครับ” ปลายฟ้ายิ้มแย้มให้พร้อมกับก้มหัวขอตัวออกไป
“เป็นเด็กที่น่ารักมากเลยนะปลายฟ้าเนี่ย” ขวัญชนกบอกกับสายลมหลังจากปลายฟ้าเดินห่างไปแล้ว
“ครับ ปลายฟ้าเป็นเด็กดีตั้งใจทำงาน หวังว่าพี่ขวัญจะช่วยดันแกด้วยนะครับ” สายลมรีบฝากปลายฟ้ากับขวัญชนก
“แหม ไม่พลาดโอกาสเลยนะ พ่อผู้จัดการคนเก่ง สายลมออกปากขนาดนี้พี่จะช่วยอีกแรงก็ได้” ขวัญชนกยิ้มอย่างถูกใจ
“ขอบคุณครับ ผมขอตัวไปดูปลายฟ้าก่อนนะครับ”

ปลายฟ้าเดินมาหาหม่อมเอียดที่นั่งรออยู่ เขามาถึงอเล็กซ์ก็เดินมาถึงเหมือนกัน
“เอาทั้งสองคนนั่งลงก่อน” หม่อมออกคำสั่ง
“ที่ผมตามทั้งสองคนมาก็มีเรื่องจะคุยนิดหน่อย ผมอยากให้ทั้งสองคนทำความรู้จักกันไว้เยอะ เพราะว่าเราต้องถ่ายทำกันอีกหลายเดือน ปลายฟ้าก็ช่วยแนะนำอเล็กซ์บ้างนะ เพราะอเล็กซ์ถือว่าใหม่มากกับงานแบบนี้ ส่วนคุณเองผ่านงานละครมาเยอะพอสมควรแล้ว” หม่อมเอียดพักจิบน้ำชาในถ้วยทรงฝรั่งเคลือบอย่างดี
“ผมคงแนะนำอะไรมากไม่ได้หรอกครับหม่อม ผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากครับ” ปลายฟ้าตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“อย่าถ่อมตัวไปเลย ใคร ๆ ก็รู้ถึงฝีมือของปลายฟ้าเป็นอย่างดี ยังไงก็ฝากให้ช่วยสอนอเล็กซ์ด้วยแล้วกัน” หม่อมเอียดตบไหล่ปลายฟ้าเบา ๆ
“ถ้าเป็นความประสงค์ของหม่อม ผมก็ยินดีครับ” ปลายฟ้ายิ้มรับคำ
“งั้นผมก็สบายใจแล้ว คุณไปให้สัมภาษณ์ต่อเถอะ แต่อเล็กซ์อยู่คุยต่อก่อน” หม่อมเอียดพูดเสร็จหันกลับมาคุยกับอเล็กซ์โดยไม่สนใจปลายฟ้า
 

               “พี่สายลมผมไม่ให้สัมภาษณ์ต่อแล้วนะครับ ฝากบอกนักข่าวกับทีมงานด้วยว่าผมปวดหัวขอตัวกลับก่อน” ปลายฟ้าเดินมาบอกสายลมหลังจากที่กลับออกมาจากการพูดคุยกับหม่อมเอียด
                สายลมรับรู้ได้ว่าปลายฟ้าต้องไม่พอใจอะไรบางสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีเวลาสอบถามเพราะต้องรีบไปบอกทีมงานกับขอโทษนักข่าวที่นักแสดง ในการดูแลของเขาให้สัมภาษณ์ต่อไม่ได้ หลังจากบอกทุกฝ่ายเสร็จแล้วเขารีบตามขึ้นมาบนรถตู้ที่ติดเครื่องรออยู่ เมื่อขึ้นมาปลายฟ้าพิงตัวนอนใช้หนังสือปิดหน้าอยู่ที่ด้านหลังมุมประจำ และด้วยท่านี้ยิ่งทำให้มั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องกำลังไม่พอใจบางอย่างอย่างแน่นอน
 
                “โครม”
                “อเล็กซ์ อเล็กซ์ อะไร ๆ ก็พูดถึงไอ้อเล็กซ์ก่อนไปหมด นี่ตกลงหม่อมเอียดจะให้ใครเป็นพระเอกกันแน่เนี่ย” ปลายฟ้าระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อกลับเข้ามาที่ห้อง เก้าอี้นั่งกินข้าวโดนผลักจนล้มกลิ้งไปกลางห้อง
                “ใจเย็นๆ ก่อนสิฟ้า หม่อมเขาอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้นะครับ พี่ว่าฟ้านั่งสงบสติก่อนดีไหมครับ” สายลมจับไหล่ปลายฟ้าจากด้านหลังพร้อมพาเดินให้ไปนั่งที่โซฟากลางห้อง
                “จะใจเย็นได้ยังไงล่ะครับ ทำไมผมจะไม่รู้ความหมายเขาต้องการเอามาหักหน้าผมแน่ ๆ หวังว่าพี่คงยังไม่ลืมเรื่องที่เขาเคยมาติดต่อผมได้ใช่ไหม ผมว่าไอ้ตัวนั่นมันคงยอมเอาตัวเข้าแลกไปแล้วแน่ ๆ เขาถึงได้ทำแบบนี้”
                “ฟ้าอย่าพูดแบบนั้นให้ใครได้ยินนะครับ มันจะไม่เป็นผลดีต่อเรา พี่ว่าถ้าฟ้าแสดงดีเสียอย่างก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วล่ะ”
                “ทำไมผมจะพูดไม่ได้ล่ะครับ พี่ก็รู้ว่าไอ้อเล็กซ์นั่นมันทำอะไรมาก่อน เรื่องเอาตัวเข้าแลกมันคงทำได้ง่าย ๆ อยู่แล้วผมว่า”
                “พี่รู้ครับแต่เราจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะครับ เดี๋ยวทางต้นสังกัดนั่นเขาจะฟ้องทางเราเอาได้นะ”
                “ฟ้อง ก็มันเรื่องจริง มันจะกล้าฟ้องเราได้ไง”
                “ป่านนี้ทางนั้นเขาก็คงกลบข้อมูลเรียบร้อยหมดแล้วล่ะครับ เรื่องแค่นี้ทางนั้นเขาทำได้อยู่แล้ว ฟ้าอย่าลืมสิว่าฟ้าเองก็...” สายลมหยุดพูดทันที เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันกระทบกระเทือนจิตใจของปลายฟ้าอย่างมากถ้าเขาพูดออกไป
                “ฟ้าเองก็อะไรพี่สายลมพูดออกมาเลยสิครับ พี่จะหยุดไว้ทำไม ใช่สิผมมันก็แค่เด็กที่ไม่มีใครรักครอบครัวยังไม่ต้องการจนต้องหนีออกจากบ้าน เป็นคนที่แย่มาก ๆ เลยใช่ไหมครับ” หยดน้ำใสไหลรินจากสองตาผู้พูด
                “พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะฟ้า พี่แค่อธิบายให้ฟัง” สายลมรีบนั่งลงข้าง ๆ ร่างที่กำลังใช้มือปิดหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทา พร้อมกับใช้มือโอบไหล่ทั้งสองข้างไว้เพื่อปลอบใจ
                “พี่อย่ามายุ่งกับผมเลย ผมรู้พี่ก็ดูถูกผมใช่ไหมจริง ๆ แล้ว ผมมันก็แค่คนที่ไม่มีใครต้องการ” ปลายฟ้าแกะมือที่ปลอบใจเขาออก เพราะมันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย เขาลุกเดินเข้าห้องพร้อมล็อคประตู
                “ฟ้าครับ ออกมาคุยกับพี่ก่อน พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ ฟ้า ฟ้า” สายลมพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา เขาเลยมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง
                ตอนนี้เขาอยากจะต่อยปากตัวเองเสียกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมันทำให้คนที่ห่วงใยต้องเสียใจจนหลั่งน้ำตาออกมาต่อหน้า ตอนที่เห็นหยดน้ำตาไหลลงอาบสองแก้มจากคนตรงหน้า หัวใจเขาแทบสลายลงไปพร้อม ๆ กับหยดน้ำตานั่นเลยทีเดียว เขาอยากจะเข้าในห้องไปกอดปลอบใจ และบอกความในใจให้รู้ไปเลยว่า ปลายฟ้าเป็นคนที่เขาห่วงใยและรักมากขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่คิดด้วยกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันอีก เหมือนอย่างตอนนี้

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7

แรงเทียน

  • บุคคลทั่วไป
^
จริ้ม จิ้มๆ

อ่า โดนปาดหน้าเค้ก...............ไปฟ้องเทียนบุญดีกว่า อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
 
^
จริ้ม จิ้มๆ

อ่า โดนปาดหน้าเค้ก...............ไปฟ้องเทียนบุญดีกว่า อิอิ
:sad4: :sad4:
อย่านะคะ หนูผิดไปเเล้ว
หนูขอโต๊ดดดด(ตัวสั่นงันงก)

Mountain

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
โห คือยอมกระชากเสื้อแต่ไม่ยอมยิ้มเหรอ
แนวได้อีก เอาใจไปเลยเพ่(+1)
ปล. ในเจ็ดสีตัวเองมีคำผิดเยอะสุด กร๊ากกก

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
ปี๊สายลมโดนอีกแล้ว.... o9
นังสายฟ้าขาวีน...เอ้ย....ปลายฟ้า... :13223:
ปลายฟ้า...สีฟ้า...สีเดียวกะคนแต่งเลยยยย.... :m28:

อิ อิ สู้ตอไปนะ บูลเรนเจอร์ :a1:

ออฟไลน์ อนันตกาล

  • กาลเวลา ไม่อาจทำให้คนเปลี่ยน แต่ทำให้ความคิดเปลี่ยน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +931/-14
อยากให้เรื่องนี้ ตอนจบสายลมตายเพราะปกป้องปลายฟ้าเอาไว้
จะได้ได้รับบทพระเอกที่แสนดี

จบแบบเพอเฟ็คสุดๆ

โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ให้พระเอกตาย นายเอกก็เป็นหม้ายดิเพ่ ไม่อาว ๆ
น้องฟ้าขี้วีนจริง ๆ เลยนะ
รู้สึกว่านายเอกขบวนการสีรุ้งนี่ ชีวิตมีปุ่มมีปมกันเยอะจริง ๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ตามแสงสีฟ้า เข้ามากับเรื่องนี้
โลกแห่งมายา ..... แม้นจะดูน่ากลัวถ้าได้สัมผัส แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่อยากจะเข้า :z2:
+1 ให้กับสายรุ้งสีแห่งความสดใส แม้นแอบแฝงด้วยสีหม่น ๆ ปนมาบ้าง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ริษยากับอ่อนไหว  สำหรับปลายฟ้าแล้วมันใกล้กันนิดเดียว

Muzik

  • บุคคลทั่วไป
เจ้าชายน้ำแข็งของแท้ อยากรู้จังทำไมไนท์ถึงกลายมาเป็นคนแบบนี้ หรือเป็นมาตั้งแต่เกิด
ชอบจังค่ะสีคราม  :pig4:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
หุ้ยยยยย
ยกนิ้วให้กับความเย็นชาเป็นเจ้าชายน้ำแข็งจริงๆๆๆ
สงสารเตจริงๆ จะพังกำแพงน้ำแข็งได้ไหมน้า....
รอตอนต่อไปค่ะ
 :กอด1: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด