ตอนที่ 3 เปิดกล้อง
เสียงกดชัตเตอร์เสียงสัมภาษณ์ดังอึงอลไปทั่วบริเวณหน้าบริษัทหนังยักษ์ใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันเปิดกล้องหนังเรื่องใหม่ของหม่อมเอียดที่ลงทุนหลักสิบล้าน และยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง ปลายฟ้า นวกมล รับบทพระเอกมีนักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอย่าง อเล็กซ์ นรลักษณ์ มารับบทรอง ทำให้มีการจับตาดูมากยิ่งขึ้นถึงการประชันฝีมือการแสดงของทั้งสองคนนี้
“คุณปลายฟ้าครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ”
“คุณปลายฟ้าค่ะ”
เสียงเรียกชื่อปลายฟ้าดังขึ้นไม่ขาดระยะพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่รุมล้อมเข้ามาจำนวนมาก จนสายลมต้องเข้าไปกันกลุ่มนักข่าวให้
“ขอโทษนะครับ ผมว่ารอสัมภาษณ์พร้อมกับทางทีมงานดีกว่านะครับ อีกสักพักก็คงได้เวลาแล้ว” สายลมพูดพร้อมแยกนักข่าวกลุ่มนั้นออกมา
หลังจากที่สายลมกันนักข่าวออกจากปลายฟ้า ทางผู้จัดงานก็ประกาศให้นักข่าวไปนั่งยังที่ที่จัดไว้ให้ ก่อนมีคนมาเชิญปลายฟ้าให้ไปนั่งสัมภาษณ์รวมกับนักแสดงคนอื่น ๆ มีหม่อมเอียดนั่งอยู่ตรงกลาง ปลายฟ้านั่งทางขวามือ อเล็กซ์นั่งทางซ้ายมือ ตามด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่น ๆ ตามลำดับอีกสามสี่คน หม่อมเอียดพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังว่ามีความเป็นมาเป็นไปก่อนจะหันมาพูด ถึงนักแสดงที่ตนเลือกมาแบบรายบุคคล
หลังจากที่มีการแถลงข่าวโดยรวมเสร็จแล้ว ก็ได้มีการเปิดให้สัมภาษณ์ดารานักแสดงแบบรายบุคคลได้ ปลายฟ้าโดนนักข่าวเกือบทุกสำนักพิมพ์กรูเข้ามาแย่งตัว
“ปลายฟ้าค่ะขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมค่ะ” เสียงนักข่าวรุมเร้าเรียกชื่อถามเจ้าละหวั่น
“ครับพี่ ๆ นักข่าวใจเย็น ๆ นะครับ ผมจะตอบทุกคำถามแน่นอนครับวันนี้” รอยยิ้มที่ชวนให้ชื่นใจถูกแจกออกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของปลายฟ้าให้กับนักข่าวทุกคน
“ผมว่าเราหลบไปนั่งแถวนั้นดีกว่านะครับ จะได้ไม่รบกวนพี่ ๆ นักแสดงคนอื่นเขาด้วย”
ปลายฟ้าเดินพานักข่าวไปนั่งสัมภาษณ์ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ทำให้บริเวณกลางห้องดูสงบลงไปบ้าง การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี นักข่าวต่างพอใจกับคำตอบและท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนของปลายฟ้า
“ฉันว่างานนี้ปลายฟ้าคงดังขึ้นไปอีกแน่ ๆ ฉันจะเขียนเชียร์ให้เต็มที่เลย” นักข่าวสาวดูปราดเปรียวคุยกับเพื่อนนักข่าวด้วยกันตอนพักทานของว่าง
“ฉันก็เหมือนกันคนอะไรหล่อแล้วยังจะนิสัยดีอีก ไม่เคยบ่นเลยเวลาโดนสัมภาษณ์ แถมยังอ่อนโยนกับพวกเราเสมอ ๆ เลยนะ โดยเฉพาะรอยยิ้มนั้นนะ ฉันเห็นใกล้ทีไรแล้วแทบละลายทุกครั้งเลยนะเธอ” เพื่อนสาวตอบกลับพร้อมกับทำหน้าชวนฝัน
“ฝันต่อไปเถอะยะ คนอย่างปลายฟ้าเขาจะมามองทำไมพวกเรา ไปเตรียมสัมภาษณ์อเล็กซ์ต่อกันเถอะ” ทั้งสองยกกาแฟที่ถืออยู่ในดื่มจนหมดก่อนไปสัมภาษณ์หาข่าวต่อไป
ปลายฟ้าถือโอกาสตอนว่างจากการสัมภาษณ์ทักทายนักแสดงรุ่นพี่คนอื่น ๆ โดยมีสายลมพาไปแนะนำเพราะสายลมรู้จักดาราเกือบทุกคน
“พี่ขวัญสวัสดีครับ ผมพาปลายฟ้ามาฝากดูแลด้วยนะครับ นี่เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขาอาจยังไม่รู้อะไรมากนัก” สายลมฝากปลายฟ้ากลับนักแสดงสาวใหญ่ที่ใคร ๆ ก็เกรงใจเธอ
ปลายฟ้าไหว้อย่างนอบน้อมพร้อมกับร้อยยิ้มที่ทำให้หลายคนใจละลาย แม้แต่ดาราสาวใหญ่อย่างขวัญชนกยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาได้
“ชื่อเสียงระดับปลายฟ้ายังต้องให้พี่แนะนำอีกเหรือจ๊ะ” ขวัญชนกยิ้มตอบ
“ไม่หรอกครับ ผมยังต้องเรียนรู้อีกมาก อยากทำให้คุณขวัญลำบากก็ได้นะครับ” สายลมทำท่าทางขวยเขินเล็กน้อย เพราะตัวเองยังอ่อนประสบการณ์ทางด้านภาพยนตร์จริง ๆ
“เรียกพี่ก็ได้จ๊ะจะได้คุ้นเคยกันดี”
“ครับพี่ขวัญ” ปลายฟ้าเปลี่ยนคำเรียกตามที่ดาราสาวใหญ่เรียกร้อง
ขวัญชนกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้ยินปลายฟ้าเรียกตัวเองว่าพี่ ทั้งสองคนคุยกันต่ออย่างสนิทสนมโดยมีสายลมเป็นตัวเชื่อม ภาพของดารารุ่นใหญ่อย่างขวัญชนกคุยสนิทสนมกับดารารุ่นน้องแบบนี้หายากนัก เพราะขวัญชนกของข้างถือตัวเลยทำให้คนรอบข้างแปลกใจนิดหน่อย
“คุณปลายฟ้าค่ะหม่อมให้มาเชิญตัวสักครู่คะ” ทีมงานเดินมาตามตัวปลายฟ้า
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่ขวัญ ไว้คราวหน้าพี่ขวัญเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ผมฟังอีกนะครับ” ปลายฟ้ายิ้มแย้มให้พร้อมกับก้มหัวขอตัวออกไป
“เป็นเด็กที่น่ารักมากเลยนะปลายฟ้าเนี่ย” ขวัญชนกบอกกับสายลมหลังจากปลายฟ้าเดินห่างไปแล้ว
“ครับ ปลายฟ้าเป็นเด็กดีตั้งใจทำงาน หวังว่าพี่ขวัญจะช่วยดันแกด้วยนะครับ” สายลมรีบฝากปลายฟ้ากับขวัญชนก
“แหม ไม่พลาดโอกาสเลยนะ พ่อผู้จัดการคนเก่ง สายลมออกปากขนาดนี้พี่จะช่วยอีกแรงก็ได้” ขวัญชนกยิ้มอย่างถูกใจ
“ขอบคุณครับ ผมขอตัวไปดูปลายฟ้าก่อนนะครับ”
ปลายฟ้าเดินมาหาหม่อมเอียดที่นั่งรออยู่ เขามาถึงอเล็กซ์ก็เดินมาถึงเหมือนกัน
“เอาทั้งสองคนนั่งลงก่อน” หม่อมออกคำสั่ง
“ที่ผมตามทั้งสองคนมาก็มีเรื่องจะคุยนิดหน่อย ผมอยากให้ทั้งสองคนทำความรู้จักกันไว้เยอะ เพราะว่าเราต้องถ่ายทำกันอีกหลายเดือน ปลายฟ้าก็ช่วยแนะนำอเล็กซ์บ้างนะ เพราะอเล็กซ์ถือว่าใหม่มากกับงานแบบนี้ ส่วนคุณเองผ่านงานละครมาเยอะพอสมควรแล้ว” หม่อมเอียดพักจิบน้ำชาในถ้วยทรงฝรั่งเคลือบอย่างดี
“ผมคงแนะนำอะไรมากไม่ได้หรอกครับหม่อม ผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากครับ” ปลายฟ้าตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“อย่าถ่อมตัวไปเลย ใคร ๆ ก็รู้ถึงฝีมือของปลายฟ้าเป็นอย่างดี ยังไงก็ฝากให้ช่วยสอนอเล็กซ์ด้วยแล้วกัน” หม่อมเอียดตบไหล่ปลายฟ้าเบา ๆ
“ถ้าเป็นความประสงค์ของหม่อม ผมก็ยินดีครับ” ปลายฟ้ายิ้มรับคำ
“งั้นผมก็สบายใจแล้ว คุณไปให้สัมภาษณ์ต่อเถอะ แต่อเล็กซ์อยู่คุยต่อก่อน” หม่อมเอียดพูดเสร็จหันกลับมาคุยกับอเล็กซ์โดยไม่สนใจปลายฟ้า
“พี่สายลมผมไม่ให้สัมภาษณ์ต่อแล้วนะครับ ฝากบอกนักข่าวกับทีมงานด้วยว่าผมปวดหัวขอตัวกลับก่อน” ปลายฟ้าเดินมาบอกสายลมหลังจากที่กลับออกมาจากการพูดคุยกับหม่อมเอียด
สายลมรับรู้ได้ว่าปลายฟ้าต้องไม่พอใจอะไรบางสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีเวลาสอบถามเพราะต้องรีบไปบอกทีมงานกับขอโทษนักข่าวที่นักแสดง ในการดูแลของเขาให้สัมภาษณ์ต่อไม่ได้ หลังจากบอกทุกฝ่ายเสร็จแล้วเขารีบตามขึ้นมาบนรถตู้ที่ติดเครื่องรออยู่ เมื่อขึ้นมาปลายฟ้าพิงตัวนอนใช้หนังสือปิดหน้าอยู่ที่ด้านหลังมุมประจำ และด้วยท่านี้ยิ่งทำให้มั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องกำลังไม่พอใจบางอย่างอย่างแน่นอน
“โครม”
“อเล็กซ์ อเล็กซ์ อะไร ๆ ก็พูดถึงไอ้อเล็กซ์ก่อนไปหมด นี่ตกลงหม่อมเอียดจะให้ใครเป็นพระเอกกันแน่เนี่ย” ปลายฟ้าระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อกลับเข้ามาที่ห้อง เก้าอี้นั่งกินข้าวโดนผลักจนล้มกลิ้งไปกลางห้อง
“ใจเย็นๆ ก่อนสิฟ้า หม่อมเขาอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้นะครับ พี่ว่าฟ้านั่งสงบสติก่อนดีไหมครับ” สายลมจับไหล่ปลายฟ้าจากด้านหลังพร้อมพาเดินให้ไปนั่งที่โซฟากลางห้อง
“จะใจเย็นได้ยังไงล่ะครับ ทำไมผมจะไม่รู้ความหมายเขาต้องการเอามาหักหน้าผมแน่ ๆ หวังว่าพี่คงยังไม่ลืมเรื่องที่เขาเคยมาติดต่อผมได้ใช่ไหม ผมว่าไอ้ตัวนั่นมันคงยอมเอาตัวเข้าแลกไปแล้วแน่ ๆ เขาถึงได้ทำแบบนี้”
“ฟ้าอย่าพูดแบบนั้นให้ใครได้ยินนะครับ มันจะไม่เป็นผลดีต่อเรา พี่ว่าถ้าฟ้าแสดงดีเสียอย่างก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วล่ะ”
“ทำไมผมจะพูดไม่ได้ล่ะครับ พี่ก็รู้ว่าไอ้อเล็กซ์นั่นมันทำอะไรมาก่อน เรื่องเอาตัวเข้าแลกมันคงทำได้ง่าย ๆ อยู่แล้วผมว่า”
“พี่รู้ครับแต่เราจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะครับ เดี๋ยวทางต้นสังกัดนั่นเขาจะฟ้องทางเราเอาได้นะ”
“ฟ้อง ก็มันเรื่องจริง มันจะกล้าฟ้องเราได้ไง”
“ป่านนี้ทางนั้นเขาก็คงกลบข้อมูลเรียบร้อยหมดแล้วล่ะครับ เรื่องแค่นี้ทางนั้นเขาทำได้อยู่แล้ว ฟ้าอย่าลืมสิว่าฟ้าเองก็...” สายลมหยุดพูดทันที เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันกระทบกระเทือนจิตใจของปลายฟ้าอย่างมากถ้าเขาพูดออกไป
“ฟ้าเองก็อะไรพี่สายลมพูดออกมาเลยสิครับ พี่จะหยุดไว้ทำไม ใช่สิผมมันก็แค่เด็กที่ไม่มีใครรักครอบครัวยังไม่ต้องการจนต้องหนีออกจากบ้าน เป็นคนที่แย่มาก ๆ เลยใช่ไหมครับ” หยดน้ำใสไหลรินจากสองตาผู้พูด
“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะฟ้า พี่แค่อธิบายให้ฟัง” สายลมรีบนั่งลงข้าง ๆ ร่างที่กำลังใช้มือปิดหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทา พร้อมกับใช้มือโอบไหล่ทั้งสองข้างไว้เพื่อปลอบใจ
“พี่อย่ามายุ่งกับผมเลย ผมรู้พี่ก็ดูถูกผมใช่ไหมจริง ๆ แล้ว ผมมันก็แค่คนที่ไม่มีใครต้องการ” ปลายฟ้าแกะมือที่ปลอบใจเขาออก เพราะมันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย เขาลุกเดินเข้าห้องพร้อมล็อคประตู
“ฟ้าครับ ออกมาคุยกับพี่ก่อน พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ ฟ้า ฟ้า” สายลมพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา เขาเลยมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง
ตอนนี้เขาอยากจะต่อยปากตัวเองเสียกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมันทำให้คนที่ห่วงใยต้องเสียใจจนหลั่งน้ำตาออกมาต่อหน้า ตอนที่เห็นหยดน้ำตาไหลลงอาบสองแก้มจากคนตรงหน้า หัวใจเขาแทบสลายลงไปพร้อม ๆ กับหยดน้ำตานั่นเลยทีเดียว เขาอยากจะเข้าในห้องไปกอดปลอบใจ และบอกความในใจให้รู้ไปเลยว่า ปลายฟ้าเป็นคนที่เขาห่วงใยและรักมากขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่คิดด้วยกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันอีก เหมือนอย่างตอนนี้