ตอนที่ 5 กองถ่าย
ปลายฟ้าต้องเคลียร์งานทุกอย่างที่รับไว้ก่อนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะถึงคิวแสดงให้กับหนังของหม่อมเอียด เขาต้องการทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับหนังเรื่องนี้ เพราะมันอาจทำให้ได้รับรางวัลเกี่ยวกับการแสดงเลยก็ได้กับบทบาทนี้ และก็ไม่อยากถูกอเล็กซ์แสดงได้ดีกว่า เพราะบทบาทของทั้งสองมันโดดเด่นใกล้กันมาก
“ฟ้า ฟ้ารู้หรือยังครับว่าวันนี้ช่วงเย็นต้องเขาฉากกับไนท์” สายลมบอกคิดเมื่อขึ้นมานั่งบนรถตู้
“ไนท์!! เขาแสดงเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้มาก่อน” ปลายฟ้าทำหน้าแปลกใจ
“เข้าเพิ่งแจ้งมาทางเมลพี่เมื่อคืนนี้เอง พี่เห็นฟ้าหลับแล้วเลยรอบอกตอนเช้านี่เลยไง เขามาเป็นนักแสดงรับเชิญเข้าสองฉากก็ตายแล้ว” สายลมอธิบายพร้อมกับหยิบบทที่เพิ่มขึ้นมาส่งให้
“แล้วทำไมมันกะทันหันแบบนี้ละพี่ เขาไม่คิดบ้างหรือว่าผมจะเตรียมตัวไม่ทัน”
“คงเป็นฝีมือคุณเตกับท่านประธานน่ะ เพราะพี่เห็นคุณเตเขามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ไนท์อยู่ เขาคงต้องการดันไนท์ให้ดังกว่าเดิมแน่ ๆ”
“คุณเต ที่บอกว่าเป็นหลานท่านประธานใช่ไหมครับ” ปลายฟ้าพูดไปก้มหน้าอ่านบทที่ได้มาใหม่อย่างตั้งใจ
“ใช่ คนนั้นแหละ แต่เขาคิดยังไงถึงจะดันไนท์นะ คนที่เงียบขนาดนั้น”
“ก็คนบ้าเหมือนกันไงครับ เขาถึงเข้าใจกัน”
“ฟ้าอย่าไปพูดให้ใครได้ยินนะครับ มันไม่ดี” สายลมเตือน
“ครับ ผมจะกล้าไปพูดกับใครเล่าถ้าไม่ใช่พี่” ถึงจะสนทนาตอบโต้แต่สายตาเขาก็ยังไม่ละไปจากบทหนังในมือ
“คัท ไนท์ครับช่วยแสดงอารมณ์ออกมาหน่อยสิครับ ฉากนี้ต้องปะทะอารมณ์กับปลายฟ้า ไนท์ทำหน้าเฉยแบบนี้ ไม่ได้นะครับ เพราะไนท์ต้องเสียใจ” เสียงตะโกนบอกวิธีการแสดงดังขึ้นหลังเดินกล้องได้ไม่นาน
“แอคชั่น” คำสั่งเดินกล้องเกิดขึ้นอีกครั้งโดยไม่ต้องรอให้นักแสดงตั้งตัวก่อน
“นายไม่รู้เหรอว่าผมรักเธอ ผมรักทอฝัน แล้วผมจะดูแลทอฝันให้ดี ก้องถ้านายคิดว่าผมดูแลทอฝันได้ไม่ดีพอ” ปลายฟ้าแสดงสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมาก ทั้งทางสีหน้าและแววตา
“ดีพอ ความรัก ไม่มีอะไรดีพอ” เสียงของไนท์ดังมาแผ่วเบาแล้วขาดหายไป
“คัท” เสียงผู้กำกับสั่งหยุดการแสดงอีกครั้ง
“พอใช้ได้นะไนท์ แต่มันยังดูไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาเท่าไหร่ ไนท์ลองแสดงอารมณ์มากกว่านี้สิครับ”
“ขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้ทุกคนต้องเหนื่อย” เตชวัฒน์พูดเมื่อการถ่ายทำของวันนี้เสร็จสิ้น
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องธรรมดามันก็ต้องมีคัทกันบ้าง ผมยังเคยต้องกลับมาถ่ายซ่อมอยู่บ่อย ๆ” ปลายฟ้ายิ้มรับเมื่อเตชวัฒน์ ผู้จัดการส่วนตัวของไนท์เขามาพูด
“เดี๋ยวมีสัมภาษณ์นักข่าวด้วยกันนี่นา ไนท์เราเดินไปด้วยกันเลยดีกว่า”
ไนท์ยังคงนิ่งเงียบจนปลายฟ้าเดินมาโอบไหล่พาไปสัมภาษณ์นักข่าวด้วยกัน
กว่าจะจบการให้สัมภาษณ์ก็พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้ว ปลายฟ้ากำลังเดินกลับขึ้นรถตู้ที่ขับมาจอดรอข้างกองถ่าย
“คุณปลายฟ้าคะ มีคนฝากของพวกพวกนี้ไว้ให้ค่ะ” ทีมงานวิ่งหอบกล่องของขวัญห่อด้วยกระดาษอย่างดี ผูกโบว์ใหญ่สีน้ำเงินเข้มพร้อมการ์ดโทนสีเดียวกัน
“ใครฝากมาพอจะรู้ไหมครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้คนที่วิ่งเอาของมาส่งอย่างขอบคุณ
“ไม่ทราบเหมือนกันคะ รู้เพียงแต่ว่ามีคนเอามาฝากไว้ให้แต่เช้าแล้ว” ทีมงานแทบหายเหนื่อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของปลายฟ้า
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับที่เป็นธุระให้ ผมไปก่อนนะครับ” ก่อนปิดประตูรถปลายฟ้ายังไม่ลืมส่งยิ้มพิมพ์ใจให้อีกครั้ง ทำเอาทีมงานถึงกับยืนฝันกันที่ตรงนั้นเลยทีเดียว
ปลายฟ้าโยนกล่องของขวัญทั้งไปเบาะหลังอย่างไม่สนใจ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำปรับเบาะแอนตัวลงนอน
“คนอะไรวะ เล่นแข็งอย่างกับท่อนไม้ ทำให้คนอื่นเขาช้าไปกันหมดเลย” ปลายฟ้าเริ่มบ่นออกมาให้สายลมฟัง
“ฟ้าหมายถึงไนท์หรือเปล่าครับ”
“แล้วพี่จะให้ผมพูดถึงใครล่ะ ไอ้อเล็กซ์มันเล่นดีกว่าเป็นไหน ๆ ฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง ผมว่ามันแกล้งทำมากกว่า เรียกร้องหาจุดขายให้กับตัวเอง เพราะไม่งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้ว”
“ไนท์เขาอาจเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้นะฟ้า”
“ไม่จริงหรอกเชื่อผมสิ มันนะทำตีสองหน้า ระหว่างสัมภาษณ์มันยังหาทางแย่งซีนผมไปจนได้เลย หลานท่านประธานอะไรนั่นอีกคน คอยตามช่วยกันจนออกนอกหน้า สงสัยคงมีอะไรมาเกินกว่าผู้จัดการส่วนตัวแน่ ๆ”
คำพูดนี้ทำเอาสายลมถึงกับอึดอัดได้เหมือนกัน เพราะว่าเขาเองเข้ามาขอเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ปลายฟ้าก็เพราะว่าชอบในตัวปลายฟ้าเหมือนกัน
“อย่าไปพาลถึงคุณเตสิฟ้า ยังไงเขาก็เป็นหลานท่านประธานนะครับ” สายลมเตือน
“ครับ ขอให้พรุ่งนี้ไอ้เจ้าชายท่อนไม้มันจะเล่นได้ดีกว่านี้นะครับ ตอนเย็นเราติดงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ด้วยใช่ไหม” ปลายฟ้าทำหน้าเบื่อเมื่อคิดถึงวันพรุ่งนี้
“ใช่แล้ว เพราะงั้นคืนนี้ฟ้าต้องกลับไปพักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ”
“เขาเห็นผมเป็นเครื่องจักรหรือยังไงกัน ตารางงานแน่นจนแทบไม่มีเวลาจะหายใจอยู่แล้ว” ปลายฟ้าถอนหายใจเบา ๆ
สายลมก็ได้แต่มองอย่างช่วยอะไรมากไม่ได้ นอกจากเพียงการให้กำลังใจ และดูแลปลายฟ้าให้ดีที่สุดที่เขาจะทำได้
ปลายฟ้ามาถึงกองถ่ายแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้เป็นคิวบู๊ที่เขาต้องโดนจับตัวไว้ แล้วมีไนท์ที่เป็นเพื่อนมาช่วยไว้ แต่ฉากนี้มีอันตรายจนสามารถใช้ตัวแสดงแทนได้ แต่ปลายฟ้าไม่ยอมให้เพราะเขารู้ว่าไนท์เองก็ไม่ใช้เหมือนกัน
“น้องปลายฟ้า พี่ว่าใช้สแตนด์อินดีกว่านะคะ ฉากแบบนี้มันเสี่ยงไปนาพี่ว่า” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมจะระวังตัวเองให้มาก ๆ ผมอยากให้คนดูคุมค่ากับที่เสียเงินเข้ามาดูหนังที่ผมแสดงด้วยไงครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้แทนคำขอบคุณที่เป็นห่วง
“เพราะแบบนี้ไง แฟนคลับปลายฟ้าถึงมากขึ้นทุกวัน ๆ” ช่างแต่งหน้าชมกลับก่อนจะสนทนากันเรื่องอื่นจนแต่งหน้าเสร็จ
กระท่อมหลังใหญ่ถูกเซ็ตไว้ที่ชายป่า ปลายฟ้าถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ด้วยเชือกหลวม ๆ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้แก้เชือกหนีออกมาด้วยตัวเองได้ รอบ ๆ กระท่อมถูกสาดไว้ด้วยนำมันเบนซินจนกลิ่นฉุนจมูก เขาตื่นเต้นเมื่อเห็นทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เพราะถ้าพลาดเขาอาจบาดเจ็บพักงานไปหลายวันแน่ ๆ
“ตั้งใจนะครับ ถ่ายครั้งเดียวขอให้ผ่านนะครับ ทำตามที่ซ้อมเมื่อกี้ให้ดี” ผู้กำกับพูดผ่านโทรโข่งเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
“แอคชั่น!!”
สิ้นเสียงคำสั่งประตูกระท่อมก็ถูกพังเข้ามา ไนท์วิ่งเข้ามาหาปลายฟ้าที่กำลังดิ้นรนให้ตนเองพ้นจากพันธนาการ กระท่อมถูกเผาทันที
“แคก แคก หนีไป รีบหนีไปก่อนไม่ต้องห่วงผม” ปลายฟ้าแสดงตามบทได้อย่างราบรื่น แม้เปลวไฟจะโหมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เราต้องไปด้วยกัน” ไนท์สนทนาตอบตามบท พร้อมกับแก้เชือกให้ปลายฟ้า เขาเข้าไปพยุงปลายฟ้าไว้เพื่อจะพาหนีออกมาทางประตูตามบทที่ได้รับ
“แย่แล้วไฟลามเร็วเกินไป” เสียงทีมงานตะโกนบอกกันจ้าละหวั่น
สองนักแสดงยังติดอยู่ข้างใน ทางออกที่จะใช้หลบหนีถูกไฟล้อมไว้หมดแล้ว
“กรี๊ดดดด” เสียงร้องของทีมงาน ทั้งสาวแท้สาวเทียมดังระงมไปทั่วกองถ่าย
เปลวเพลิงโหมลุกลามอย่างรวดเร็วจนถึงหลังคา แบบนี้กระท่อมคงทานไว้ไม่ได้นาน คงต้องถล่มลงมาแน่นอน
“ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ไนท์ช่วยกันคิดหน่อย” ปลายฟ้ามันไปถามความเห็นของคนที่ติดอยู่ด้วยกัน
ความร้อนของพระเพลิงทำให้ทั้งสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ
โครม!!
ผนังด้านหนึ่งพังลงมาพร้อมกับร่างคนฝ่าเข้ามาด้านใน
“ฟ้าไนท์มาทางนี้เร็ว” สายลมจับมือทั้งสองคนไว้ ก่อนดึงให้มาอยู่ตรงทางที่เขาเข้ามา
“พี่นับถึงสามพุ่งออกไปพร้อมกันเลยนะ” สายลมหันไปบอกปลายฟ้ากับไนท์ เขาใช้ตัวเองโอบปลายฟ้าไว้เพื่อกันความร้อนจากเปลวไฟ
“หนึ่ง สอง สาม” สิ้นคำสายลมพุ่งตัวพาปลายฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่าเปลวเพลิงออกมาได้เขามองหน้าไนท์ทันที
“ไนท์ไม่ยอมออกมา รีบดับไปเร็วเข้ากระท่อมใกล้จะพังแล้ว” สายลมรีบตะโกนบอกทีมงานเมื่อมองไม่เห็นนักแสดงอีกคน
สิ้นเสียงตะโกนเขาเห็นร่างบางคนพุ่งเข้าไปในกระท่อมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีเวลาสนใจมากนัก เพราะเหมือนปลายฟ้าจะสำลักควันไฟเข้าไปเยอะพอสมควร เขารีบพาปลายฟ้ามาที่บนรถพยาบาล ที่ทางทีมงานติดต่อไว้อย่างรวดเร็ว
“ช่วยดูปลายฟ้าหน่อยครับ” สายลมโอบจนแทบจะอุ้มปลายฟ้ามานอนบนรถพยาบาล
พยาบาลรีบเข้ามาดูแลปลายฟ้าอย่างเร่งด่วน ตอนนี้มีรถพยาบาลตามาเสริมอีกคันเพื่อรับสถานการณ์ ปลายฟ้าไม่ได้เป็นอะไรมานอกเสียจากรอยขีดข่วนเล็กน้อยพร้อมกับอาการสำลักควัน เพียงครู่เดียวก็เป็นปกติ
ปลายฟ้าลุกขึ้นมามองสถานการณ์ข้างในที่ยังวุ่นวายกันอยู่ เขาเดินมาหาสายลมที่ยืนไม่เป็นสุขรอดูอาการเขาอยู่ที่ข้างรถพยาบาล
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ พี่สายลมสบายใจได้แล้วครับ” ปลายฟ้าเดินเข้ามาบอกพร้อมรอยยิ้มเพื่อให้คนที่เป็นห่วงสบายใจ
“ฟ้าพี่เป็นห่วงฟ้ามากเลยรู้ไหมครับ คราวหน้าพี่ไม่ให้ฟ้าเล่นเองแล้วฉากพวกนี้” สายลมพูดอย่างหัวเสีย กับการตัดสินใจของตัวเองที่ยอมให้ปลายฟ้าเล่นฉากเสี่ยงแบบนี้
“ไม่เกี่ยวกับพี่เลย พี่สายลมอย่าโทษตัวเองสิครับ” ปลายฟ้าเดินไปจับต้นแขนข้างขวาเบา ๆ
“โอ๊ยยย!!”
สายลมร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อปลายฟ้าสัมผัสโดนขาเขา
“พี่สายลมเป็นอะไรไปครับ” ปลายฟ้าตกใจ
สายลมจับแขนตัวเองค่อย ๆ ดู เห็นลิ่มไม้ขนาดใหญ่ปักอยู่ที่ท้องแขนด้านหลัง คงเพราะความเป็นห่วงปลายฟ้าเขาเลยไม่รู้สึกเจ็บก่อนหน้านี้ หลังจากที่ปลายฟ้าปลอดภัยมันถึงแสดงอาการออกมา ปลายฟ้าเองก็เห็นลิ่มไม้ขนาดไหญ๋นั่นพร้อมกัน
“พยาบาลครับ คุณพยาบาล ช่วยทางนี้ด้วยครับ” ปลายฟ้ารีบตะโกนเรียกพยาบาลที่ยืนรอดูเหตุการณ์อยู่แถวนั้น
หลังจากที่ขยับเมื่อครู่ทำให้เลือดไหลออกจากแผลของสายลมอย่างมาก พยาบาลรีบเข้ามาห้ามเลือดก่อนพาไปนั่งบนรถ คีมคีบถูกใช้ดึงเอาลิ่มไม้ขนาดใหญ่ออกจากต้นแขนของสายลม เลือดสีแดงไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้ายืนมองอย่างหวาดหวั่น เขารู้สึกกลัวถ้าสายลมต้องมาเป็นอะไรเพราะเขา
“แผลใหญ่มาก แต่โชคดีไม่โดนเส้นเลือด คงต้องเย็บสดทนเจ็บหน่อยนะคะ” พยาบาลสาวร่างเล็กพูดพร้อมหยิบอุปกรณ์มาไว้ในมือ
เข็มรูปตะขออันเล็กถูกร้อยด้วยด้ายสำหรับเย็บแผลถูกคีบขึ้นมา
“ทนเจ็บนิดเดียวนะคะ” พูดจบเธอฝังเข็มลงไปในเนื้อตรงปากแผลอย่างชำนาญ
“อึก อึก” สายลมกัดฟันตัวเองไว้แน่นจนเกิดเสียงเบา ๆ ออกมา
ปลายฟ้าเองก็ลุ้นสองมือบีบกำจนแน่นทั้งสองข้าง เขากลั้นใจไปกับสายลมทุกครั้งที่เข็มแทงผ่านเนื้อ
“เสร็จแล้วคะ อย่าลืมไปตรวจซ้ำอีกทีนะคะ แล้วอีกเจ็ดวันค่อยไปดูแผลตัดไหมที่โรงพยาบาล” พยาบาลบอกหลังจากเย็บและพันแผลเสร็จแล้ว
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีพวกคุณป่านนี้ผมคงทำอะไรไม่ถูกแล้ว” ปลายฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณพยาบาล พยาบาลเองรับไหว้พร้อมกับอาการขัดเขินเล็กน้อย
สายลมพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ต้นแขนขวาถูกพันไว้ด้วยผ้าก็อตสีขาวอย่างเป็นระเบียบ เห็นปลายฟ้ายืนทำหน้าเศร้ามองอยู่ข้างรถ เขาลุกเดินเข้าไปหา พอเดินเข้าไปใกล้ปลายฟ้ากโผกอดเขาไว้อย่างรวดเร็ว
“ผมนึกว่าพี่จะเป็นอะไรไปเสียแล้ว” ปลายฟ้าพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา
“พี่ไม่เป็นอะไรแล้วครับ แผลแค่นี้เองไกลหัวใจ” สายลมพูดปลอบโยนพร้อมลูบศีรษะคนที่กอดอยู่เบา ๆ
“ครับ ผมรู้แล้วแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ขอบคุณนะครับพี่ชาย” ปลายฟ้ากล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ
‘พี่ชาย’
คำลงท้ายที่ปลายฟ้าบอกกับเขาตอนนี้ มันเหมือนเป็นคำที่แสนดีแต่เขากลับรู้สึกแย่ลง ผลสุดท้ายเขาก็คงเป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้นเองใช่ไหม สายลมค่อยจับตัวปลายฟ้าออกจากตัวเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ปลายฟ้าแสดงความห่วงใหญ่เขามากขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องชาย” สายลมกัดฟันฝืนตอบออกไป
หลังเหตุการณ์สงบไนท์ถูกพาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการทันที ปลายฟ้าอยู่คอยดูทีมงานอีกพักใหญ่ อเล็กซ์ก็เดินทางมาถึงพร้อมกับหม่อมเอียดแล้วกนักข่าว
“คุณปลายฟ้าเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” อเล็กซ์รีบเข้ามาถาม พร้อมกับนักข่าวกลุ้มรุมเข้ามา
แสงแฟรตสว่างวูบวาบรัวถี่เมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากัน
“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ”
หลังจากที่ทั้งสองคนทักทายกันเสร็จนักข่าวก็เริ่มถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์หน้าตื่นเต้นมา แต่ปลายฟ้าก็ยังยิ้มแย้มทำให้ทุกคนสบายใจมากขึ้น
“ยกเลิกงานเปิดตัวสินค้าไหมครับ เดี๋ยวพี่จัดการให้” สายลมถามเมื่อทั้งสองกลับขึ้นมาบนรถตู้ของตัวเอง
“ไม่ต้องหรอกครับผมยังไหว ว่าแต่พี่เถอะไหวหรือเปล่า”
“พี่ไหวสิครับ พี่นั่นแหละไหวหรือเปล่า ยกเลิกก็ได้นะจะได้กลับห้องเลย” ปลายฟ้าแสดงความห่วงใย
“พี่ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อยทำไมจะไม่ไหวละครับ งั้นฟ้าพักผ่อนไปก่อนนะเดี๋ยวถึงแล้วพี่เรียกเอง”
“ครับ” ปลายฟ้าเอนเบาะนอนพักผ่อน เขาเหลือบไปเห็นกล่องของขวัญผูกโบว์สีน้ำเงินพร้อมการ์ดสีโทนเดียวกันวางไว้เบาะข้าง ๆ
“พี่สายลมครับ นี่ของเมื่อวานไม่ใช่หรือครับ” ปลายฟ้าถาม เพราะปกติสายลมน่าจะเก็บขึ้นห้องไปให้แล้ว
“ไม่ใช่นะครับ ทีมงานเขาฝากมาให้ตั้งแต่เช้าแล้วพี่ลืมบอก”
ปลายฟ้าหยิบของขึ้นมาดู ก่อนโยนลงไปเบาะหลังเหมือนแบบเมื่อวาน
=======> โปรดติดตามตอนต่อไป