The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 265982 ครั้ง)

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แวะมาดูโปรเจคใหม่คร้าบ  o13

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
พี่สายลมจะต้องแอบรักอีกนานเท่าไหร่ :z3:

ภาพฝัน

  • บุคคลทั่วไป
   เตชวัฒน์ยืนอยู่หน้าห้องของวริศรินทร์นี่เป็นวันที่สองที่เขาจะได้ร่วมงานกับนายแบบหนุ่มผู้ไร้มนุษยสัมพันธ์ เขาเหลือบมองเวลา นี่เพิ่งจะ7โมงเช้า แต่วริศรินทร์มีงานถ่ายแบบเช้าในสตูดิโอตอน10โมง เขาเลยต้องมาก่อนเวลามากอยู่เพราะตอนเช้าๆ แบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในกรุงเทพรถมันติดขนาดไหน เขากดกริ่งหน้าประตูตามปกติ ไม่มีเสียงตอบรับอีกเหมือนเดิม เขาตัดสินใจไขกุญแจห้องเข้าไป เมือมองไปรอบๆ สายตาเขาไปปะทะกับร่างของไนท์ที่นั่งอยู่ที่ราวระเบียง แสงแดดยามเช้า

   วริศรินทร์สวมกางเกงยีนส์ตัวเดียวนั่งกอดพิงกำแพงอย่างหมิ่นเหม่ แสงแดดที่ส่องมาจางๆ ยิ่งทำให้คนตรงหน้าขาวซีดมากกว่าเก่า ดวงตาปิดสนิทเหมือนคนนอนหลับ เตชวัฒน์เดินเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขาไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้านอนหลับหรือเพียงนั่งหลับตา

   “ไนท์” เสียงเรียกที่ไม่ดังนักแต่กลับทำให้คนตรงหน้าสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ท่านั่งที่หมิ่นเหม่ทำให้ไนท์เสียหลังเหมือนจะตกลงไป เพียงเสี้ยงวินาที เตชวัฒน์คว้าตัวร่างโปร่งเข้าสู้อ้อมกอดได้ทันท่วงทีก่อนที่จะร่วงลงไป ร่างของเตชวัฒน์กอดวริศรินทร์แน่น เสียงหัวใจของเขาเต้นถี่ระรั่ว

   “พี่เต” เสียงแหบแห้งของวริศรินทร์ดังขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย อ้อมแขนแข็งแรงยึดร่างของเขาอาไว้จนไม่สามารถขยับได้



.......................................




เดี๋ยวมาต่อ ติดงานแป๊บ อิ ใครอ่านแล้วไม่เม้น ขอให้ลงพุง 

ส่วนที่บอกว่าเค้าพิมพ์ผิดเยอะที่สุด ขอโทษนะค้า ไม่มีเวลาเช็ค ยุ่งมากค่า เขียนนิยาย3เรื่องต่อวัน กับกำลังจัดหน้านิยายที่กำลังรวมเล่มอยู่ เหนื่อยมากกก

เดี๋ยวอีก70เปอเซ็นที่เหลือมาดึกๆ 
>><  ฝากหนูไนท์กับเหล่าบรรดานักอ่านด้วยนะค่ะ  เอ็นดุไนท์กันหน่อย

k_sleepless

  • บุคคลทั่วไป
กิสๆๆๆๆๆๆ...เริ่มหวานปะแล่มๆๆๆๆๆ...พี่เตนี่น๊าาาาาเหมือนเป็นผู้พิทักษ์ (ชีวิต)ประจำตัวไนท์เลย ช่วยชีวิตไว้ได้ตลอดดดดดดดดดด  :impress2:

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
เล่นแบบนี้เลยเหรอคะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
เทียนเหวี่ยงเก่งเหมือนใครเนี่ย o18

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ใจเต้นรัวๆๆๆๆ ตามเตไปอีกคน
หลงรักผู้ชายมืดมนซะแล้ว

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ขยันจริงอะไรจริงน๊อ อิอิ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกแย้วววนะ....ตาบูลเรนเจอร์ :m16:
ทำกับปี๋สายยมอีกแย้วววววววว :serius2:

ทำไมเหล่าเรนโบว์เรนเจอร์....ออกงานกันบ่อยจัง o16
อ่านไม่ทันแล้ว...
แต่ว่าดีนะ.....ชอบๆ :กอด1:

ภาพฝัน

  • บุคคลทั่วไป
   “พี่เต” เสียงแหบแห้งของวริศรินทร์ดังขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย อ้อมแขนแข็งแรงยึดร่างของเขาเอาไว้จนไม่สามารถขยับได้

   “ไนท์ทำอะไร” เตชวัฒน์ดึงร่างของนายแบบหนุ่มให้ลงมาจากราวระเบียง วริศรินทร์ลงมายืนทรงตัวอยู่กับพื้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เตชวัฒน์สัมผัสได้ถึงผิวกายที่เย็นเฉียบ เขาดึงร่างโปร่งให้เข้ามาในห้อง

   “ไนท์” เตชวัฒน์ส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายที่ยังคงทำหน้าเรียบเฉย เตชวัฒน์เดินเข้าไปใกล้และจับไหล่อีกฝ่ายให้หันหน้ามาประจันกัน

   “เราต้องคุยกันนะไนท์ ทำไมไนท์ไปนั่งอยู่แบบนั้นมันอันตรายรู้ไหม” เตชวัฒน์จำความรู้เมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี วินาทีที่ร่างของวริศรินทร์เสียหลักเหมือนจะร่วงลงไปถ้าเขาคว้าไว้ไม่ทัน แค่คิดเขาก็รู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว

   “ทำงาน” สิ่งทีไนท์พูดไม่ใช่การตอบคำถามแต่เป็นการเปลี่ยนเรื่อง เตชวัฒน์รู้ดีแต่เมื่อมองเวลาแล้วเขาก็พบว่าสมควรจะออกไปได้แล้ว วริศรินทร์เดินไปหยิบเสื้อในตู้เสื้อผ้าแล้วก้าวนำออกไป ปฏิกิริยาของอีกฝ่ายทำให้เขารู้ว่าไนท์คงไม่พูดอะไรกับเขามากไปว่านี้

   การที่วริศรินทร์เดินนั่งที่เบาะหลังแล้วใช้ผ้าห่มที่หยิบมาจากบนห้องล้มตัวลงนอนโดยไม่พูดกับเขาแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะตัดการสื่อสารของเขาออกแต่เตชวัฒน์ก้ไม่ได้ละความพยายาม

   “ไนท์พี่ซื้อแซนวิชมาให้ ทานรองท้องซะ เจ้านี้อร่อย ทุกอย่างเป็นโฮมเมดแล้วก็น้ำส้มคั้นทานรองท้องซะ” เตชวัฒน์ยื่นถุงแซนวิชที่อยู่ข้างๆให้กับไนท์  ไนท์ลุกขึ้นนั่งรับทั้งสองอย่าง ภาบในเป็นแซนวิชไข่ดาว และเนื้อหมูซ้อนกันเป็นชั้นๆสลับกับผักสด ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหาร สายตาเตชวัฒน์มองผ่านกระจกแล้วพบว่าไนท์มองแซนวิชในมือนิ่ง สักพักหนึ่งถึงวางลงแล้วหยิบน้ำส้มคั้นขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วล้มตัวนอน

   ตลอดเวลาสางชัวโมงกว่าบนท้องถนนในรถมีแต่ความเงียบ เขาขับรถไปเรื่อยๆ รู้สึกหงุดหงิดกับการเดินทางที่แสนติดขัด กับวริศรินทร์ที่เอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร เขาตัดสินใจเปิดเพลงเบาๆ เพื่อหวังจะคลายความเครียด

   “อยากให้สายลมช่วยกล่อมให้ฉันนอนตาหลับ ให้ฉันลืมหมดทุกๆ สิ่ง อยากจะฝันดี ไม่ตื่นมาพบความเป็นจริง ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่มีหัวใจ” เสียงเพลงที่ดังมาจากวิทยุ เพลงที่วริศรินทร์เคยร้องที่ระเบียงที่พวกเขาพบกันครั้งแรก

   “อยากให้สายลมช่วยกล่อม ให้ฉันนอนตาหลับ ให้ฉันลืมหมดทุกๆ สิ่ง” เสียงไนท์พึมพำในท่อนถัดมา เตชวัฒน์หันกลังกลับไปมอง วริศรินทร์ไม่ได้หลับเขาเพียงแค่นอนลงแต่ไม่ได้หลับตา

   “ชอบเพลงนี้เหรอ” เขาลองเลียบๆเคียงๆดู

   “อื้อ” เสียงตอบในลำคอ แม้จะไม่ได้พูดแต่อีกฝ่ายก็รับรู้ เสียงเพลงที่ดังขึ้นมาเบาๆ จากเพลงที่ได้ยิน เพลงนี้หมายถึงคนที่อยากตาย ถ้าไนท์ชอบเพลงนี้แสดงว่าไนท์อยากตายงั้นเหรอ

   “เลี้ยวซ้าย” เตชวัฒน์ที่กำลังเหม่อหลุดออกมาจากภวังค์เมื่อเขาพบว่าเขากำลังจะขับเลย ดีที่วริศรินทร์เตือนทันไม่งั้นเขาต้องอ้อมรถไปอีกไกลซึ่งมันทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก

   “ขอบคุณครับ” เขายิ้มให้กับนายแบบหนุ่ม แต่ก็เหมือนเดิมไร้การตอบสนอง เพียงแต่อีกฝ่ายลุกขึ้นมานั่งแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมแทน พวกเขามาก่อนเวลานัดประมานครึ่งชัวโมงแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา    

   วริศรินทร์เดินนำเตชวัฒน์เข้าไปภยใน ทันทีที่เปิดประตูทุกสายตาก็จ้องมายังพวกเขา แต่วริศรินทร์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย

   “สวัสดีครับ” เตชวัฒน์ก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวทักทาย

   “สวัสดีค่ะ คุณเต น้องไนท์มาไวจังเลยค่ะ มานั่งพักก่อนนะค่ะ เดี๋ยวทานอะไรรองท้องก่อนยังมีเวลาเหลือ เดี๋ยวให้วิกกี้มาแต่งหน้าให้นะค่ะ” สาวนางหนึ่งเข้ามาต้อนรับ ซึ่งเตชวัฒย์เองจำได้ว่าทำงานอยู่เบื้องหลังในวันที่วุฒิพลอาของเขามาแนะนำตัวแต่เขาจำไม่ได้ว่าอีกฝ่ายทำหน้าที่อะไร

   วริศรินทร์ไม่พูดอะไรเช่นปกติสายตาของเขามองผ่านเลยไป แล้วไปนั่งที่โต๊ะที่จัดไว้ให้ มีคนเอาน้ำกับอาหารมาให้

   “อันนี้  ทานนะค่ะ คัสตาร์สเค้กอร่อยมาก แล้วก็น้ำหวานค่ะ นี่ของคุณเตนะค่ะ เดี๋ยวอีก10นาทีจะให้ช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้ค่ะ” เธอแย้มยิ้มซึ่งเตชวัฒน์ก็ยิ้มตอบ วริศรินทร์อาหารตรงหน้าแล้วหยิบน้ำหวานขึ้นมาดื่มโดยไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย สายตาของวริศรินทร์มองไปเรื่อยๆ

   “ไม่ทานเหรอไนท์” เขาถามทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ตอบ เขาทานของว่างในส่วนของเขาจนหมด สักพักหนึ่งมีช่างแต่งหน้ามาจัดการแต่งหน้าให้กับไนท์

   “น้องไนท์นี่ผิวสวยนะค่ะ ไม่ค่อยโทรมเลย แบบนี้พวกพี่แต่งหน้าไม่ค่อยเหนื่อย” ช่างแต่งหน้าเหมือนพยายามจะชวนคุยด้วยแต่ก็มีแต่ความเงียบ

   “คุณเตเพิ่งมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้น้องไนท์เป็นไงค่ะ งานสนุกไหม” ช่างแต่งหน้าสาวเทียวจีบปากจีบคอคุยกับเตชวัฒน์อย่างสนิทสนม

   “ก็สนุกดีครับ เพิ่งเคยเห็นเบื้องหลังใกล้ชิด” เขายิ้มแล้วคุยกับคนอื่นๆแทนไนท์ที่ยังคงนั่งเงียบ

   “รู้หรือยังค่ะคุณเต ว่าวันนี้น้องไนท์ต้องเข้าฉากกับใคร แต่แหม๋น้องไนท์มาออกไว ส่วนอีกคนนะยังไมามาเลย ไม่รู้จะเลทไปไหน แบบนี้แหละค่ะพวกไฮโซชอบทำให้คนอื่นรอ ทั้งที่น่าจะมาได้แล้ว” สาวเทียมคนเก่ายังคงเม้ากับเพื่อนๆไม่หยุด เขาพอจับใจKามได้ว่าไนท์ต้องถ่ายแบบคู่กับระพีพัฒน์นายแบบหนุ่มไฮโซที่กำลังเป็นที่รู้จักของบรรดาสาวๆ ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาดี ฐานะทางบ้านก็ดี เนื่องจากเป็นลูกชายคนเล็กของเจ้าของธุรกิจส่งออกเฟอนิเจอร์รายใหญ่ของประเทศ เตชวัฒน์เหลือมองเวลานี่มันกินเวลามา10นาทีแล้วยังไม่มีการมาของอีกฝ่าย

   “น้องพีมาแล้ว จ้า” เสียงตะโกนอย่างสนุกสนานของสาวเทียมในกองถ่ายดังขึ้นมา เตชวัฒน์เห็นร่างสูงของระพีพัฒน์ ใบหน้าหล่อเหล่าที่เดินเข้ามาติดดูจะหยิ่งทะนงอยู่ในที

   “ขอโทษครับ บังเอิญรถติด” คำแก้ตัวพื้นๆ ที่ใครๆก็ใช้พูดกันถูกเอ่ยออกมาจากปากของนายแบบหนุ่ม

   “ไม่เป้นไรค่ะน้องพี มาค่ะ รีบมาแต่งหน้าไวๆ” เสียงเรียกจากช่างแต่งหน้าเรียกทำให้ระพีพัฒน์เดินไปนั่งข้างๆวริศรินทร์

   “สวัสดีครับไน์ เรียกแบบนี้คงได้” ระพีพัฒน์ขออนุญาติเจ้าตัวที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ข่างแต่งตัวกำลังจัดเสื้อผ้าให้ ไม่มีคำตอบมีเพียงสายตาที่มองมาอย่างนิ่งเฉยที่รับรู้ว่าเจ้าตัวฟังอยู่

   “ไนท์ครับ มาเทสแสงหน่อยครับ” เสียงเรียกจากช่างภาพทำให้ร่างโปร่งก้าวออกไป

   การถ่ายแบบเริ่มต้นขึ้น ไนท์ยังคงไม่มีรอยยิ้ม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเจ้าตัวล่วงรู้ว่าตัวเองควรเคลื่อนไหวเช่นไร

   “น้องไนท์สายตาแบบนั้นแหละครับเซ็กซี่มาก น้องพีครับ เงยหน้าขึ้นอึกนิดแล้วมองตรงมาครับ แบบนั้นแหละครับดีมาก” ช่างภาพบอกอย่างพออกพอใจ

   “ต่อไปถ่ายน้องพีอีกเซตครับนะครับ” ช่างภาพยิ้ม วริศรินทร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายเซตใหม่ ส่วนระพีพัฒน์ยังคงถ่ายต่ออีกสักพัก

   ระพีพัฒน์ถ่ายเสร็จก่อนวริศรินทร์ เขามองอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวตัวไปเรื่อยอย่างคล่องแคล่ว เขายอมรับความมีเสน่ห์ในตัวของอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกันกับการที่โดนเมินทุกครั้งที่ทักทาย

   การถ่ายแบบจบลงแล้ววริศรินทร์เดินกลับมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมเตชวัฒน์ เขาเห็นแล้วว่าระพีพัฒน์ยืนอยู่ที่มุมที่เขากำลังจะเดินผ่าน ทันทีที่สบตาระพีพัฒน์ยิ้มให้เขา เตชวัฒน์ยิ้มตอบ แต่ไนท์เดินผ่าน น้ำในมือของระพีพัฒน์ก็สาดลงไปที่หน้าของไนท์เต็มๆ

   “ตายแล้ว” เสียงร้องอย่างตกอกตกใจของคอร์สตูมที่เดินตามมากับผ้าที่รีบมาเช้ดหน้าเช้ดตาให้กับไนท์

   “ขอโทษครับ พอดีเสียหลัง” ระพีพัฒน์ขอโทษทัยทีแต่น้ำเสียงไม่ได้แสดงออกถึงความเสียใจติดจะสนุกเสียด้วยซ้ำ สายตาของเตชวัฒน์มองตรงไปที่เขา

   “เปียกหมดเลยไนท์ ผมขอโทษนะ” ไม่มีคำตอบจากร่างโปร่ง สายตาของไนท์ไม่ได้มองที่ระพีพัฒน ไนท์ยื่นมือมาแตะๆที่ใบหน้าตัวเอง รับผ้าขนหนูมาซับหน้าแล้วมองเลยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นก็สร้างความหงุดหงิดและไม่พอใจให้กับระพีพัฒน์มากกว่าเดิม

   “เปียกหมดเลย” เตชวัฒน์เอื้อมมือไปหยิบผ้าในมือมาเช็ดให้บนเส้นผมที่ยังชื้นอยู่

   เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เตชวัฒน์เป็นคนกล่าวลาทีมงาน ส่วนวริศรินทร์ยังคงเดินตามมาอย่างเงียบๆเช่นเดิม แม้จะได้เจอกับระพีพัฒน์อีกครั้งก็ไม่มีปฏกิริยาใดไกับร่างโปร่ง เหมือนเป็นจังหวะที่ไม่ดี เมื่อออกมาถึงปรากฏว่าลิฟท์ใช้งานได้เพียงตัวเดียว

   “เดินไหม” เตชวัฒน์ลองแหย่ดูเล่นๆ แทนคำตอบร่างของวริศรินทร์เดินตรงไปเพื่อลงบันไดทันที เเหลือเพียงชั้นเดียวเท่านั้น ร่างสูงโปรงก็ซวนเซเหมือนจะล้มลงไป เตชวัฒน์รวบตัวเอาไว้ก่อนที่ไนท์จะตกบันได

   “เป็นอะไรไหม” เขาถามด้วยความเป็นห่วง

   “หิว” เสียงไนท์ตอบกลับมา

   “เดินไหวไหม” เตชวัฒน์ถามอย่างอ่อนโยน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหมดแรงเพราะตั้งแต่ตื่นมาเขายังไม่เห็นวริศรินทร์ทานอะไรเลย แล้วตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้ว เตชวัฒน์ประคองวริศรินทร์ให้เดินลงมาบันไดช้า เขาเลื่อนรถมารับวริศรินทร์ที่หน้าตึก

   “ไปหาอะไรทานก่อนเนอะ” เขาชวนคุย ไนท์พยักหน้ารับ เขาเลือกเข้าโรงแรมไปทานอาหารในโรงแรมใกล้ๆ ไนท์เปิดดูเมนูอาหารไปเรื่อย เตชวัฒน์สั่งสปาเกตตี้ทะเล ส่วนไนท์ยังคงดูเมนูอาหารอยู่เงียบๆ

   “จะทานอะไรครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้ ซึ่งบริการเองก็ยิ้มตอบรับรออย่างใจเย็น ไม่มีคำตอบมีเพียงนิ้วที่ชี้ไปที่เมนู

   “ไนท์ทำไมปล่อยให้ตัวเองหิวจนเป็นลม” เตชวัฒน์ถามอีกฝ่ายที่ใบหน้าค่อนข้างซีดเซียวและเหนื่อยอ่อน

   “เมื่อเช้าพี่ให้กินแซนวิชก็ไม่กิน ที่กองเอาเค้กมาให้ทานรองท้องก็ไม่ทาน ทำแบบนี้เกิดล้มไปแบบเมื่อกี้จะทำยังไงครับ” เขาถามอีกฝ่ายอย่างใจเย็น แต่ก็ไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย

   “ไนท์พี่กับไนท์ต้องทำงานร่วมกัน มีอะไรบอกพี่สิครับพี่จะได้ช่วยได้ ถ้าไนท์เงียบพี่ก็ไม่รู้ พี่อยากให้เราทำงานร่วมกันอย่างสบายใจ พี่ไม่อยากให้ไนท์อึดอัด พี่ทำอะไรให้เราไม่พอใจหรือเปล่า” เขาชงัดเมื่ออาหารถูกยกมาเสริฟ แต่ไนท์คงเงียบ

   “เราเจอกันแค่สองวัน จะให้ไนท์พูดอะไรมากก็คงไม่ได้ แต่พี่จะพยายามเข้าใจไนท์นะ มีอะไรพี่อยากให้เราบอก แล้วพี่จะช่วยไนท์ทุกอย่าง” น้ำเสียงของเตชวัฒน์หนักแน่น สายตาของวริศรินทร์กึ่งนั่งกึ่งนองบนโซฟาแต่ตลอดเวลาที่ชายหนุ่มพูด นายแบบหนุ่มก็ไม่ได้ละสายตาออกจากใบหน้าของเขา

   “สเต็กเนื้อมาแล้วครับ”  บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟสต็กหอมฉุยกับน้ำสลัดครีมที่ราดออกมาจนนองฟัก แต่ทันทีที่เห็นไนกลับเบือนหน้าหนีเลื่อนจานอาหารออกไปทันที บริกรหน้าซีดเมื่อเห็นปฏิกิริยาของไนท์ เตชวัฒน์บอกให้บริกรไปก่อน

   “เป็นอะไรไนท์” เขามองสายตาของวริศรินทร์ที่มองอาหารในจาน

   “เป็นอะไร” เขาไม่เข้าใจอีกฝ่ายทั้งๆ ที่หิวจนเป็นลมแต่ก็ยังไม่ยอมกินอาหารที่ตัวเองสั่ง

   “ไนท์ครับเป็นอะไร บอกพี่เตสิ” เขาถามอย่างใจเย็นแม้จะยังไม่เข้าใจ

   “ผมแพ้ไข่” คำตอบของวริศรินทร์ทำให้เตชวัฒน์เข้าใจทุกอย่างทันที

   “ไนท์กินไข่ไม่ได้” แทนคำตอบคือการพยักหน้ารับ เตชวัฒน์เรียกบริการมาทันที ถึงได้รู้ว่าในน้ำสลัดครี่มใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ และน้ำสลัดที่ถูกราดมาจนนองมันไหลเลยไปถึงเนื้อสเต้ก

   “ไนท์จะสั่งใหม่ไหม หรือจะทานของพี่ก่อนถ้ารอไม่ไหว ไนท์ทานอาหารทะเลได้หรือเปล่า” วริศรินทร์ไม่ตอบแต่เลื่อนจานสปาเกตตี้ไปใกล้ตัวแล้วค่อยๆ ใช้ช้อนส้อมม้วนเส้นแล้วค่อยทานช้าๆ

   เตชวัฒน์ลอบถอนหายใจอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่กินอาหารที่เขานำมาให้ เพราะเมื่อวานเขาทำข้าวไข่เจียวให้อีกฝ่ายกิน และเมื่อเช้าเขาก็เอาแซนวิชไข่ให้ และของว่งที่กองถ่ายก็เป็นคัสตาร์สเค้ก ทุกอย่างล้วนมีส่วนผสมเกี่ยวกับไข่ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกินไม่ได้ เขามองอีกฝ่ายที่กินสปาเกตตี้อย่างเอร็ดอร่อย

   “ไนท์ทานข้าวเย็นหรือเปล่าเมื่อวาน” เขาลองเลียบเคียงๆ ถามดู  อีกฝ่ายส่ายหน้าช้าๆ

   “หรือทานแค่ผลไม้ที่สปา” ไม่มีคำตอบแต่เขาถือว่านั่นคือการตอบว่าใช่เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ส่ายหน้า

   “ทำไมล่ะครับ ทานแต่วิตตามินใช่ว่าจะดีนะ” เขาเตือนเพราะเดาว่าอีกฝ่ายคงกินแต่วิตตามินและอาหารเสริมแน่ๆ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไนท์แพ้ไข่ก็ใช่ว่าจะทานอะไรไม่ได้ เขายอมรับว่าถ้าแพ้ไข่แบบไนท์เท่ากับว่าการใช้ชีวิตในเรื่องของการกิน จะค่อนข้างยุ่งยากทีเดียวเพราะไข่ถือเป็นวัตถุดิบขั้นพื้นฐานของการใช้ชีวิตเลยทีเดียว  

   “ยุ่งยาก” ไนท์ตอบเขาแค่นั้นแล้วไม่พูดอะไรอีก เตชวัฒน์ได้แต่ลอบถอนหายใจ ท่าทางงานผู้จัดการของเขาคงหนักกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว
 



......................

ครบร้อยแล้ว ติชมกันได้น้าาา
อยากบอกว่าไนท์นี่เขียนยากที่สุดเท่าที่เคนเขียนมาเลยทีเดียว รู้สกึยังไงบอกกันได้นะค่ะ จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2011 00:28:44 โดย ภาพฝัน »

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
 o22 ผมไม่ได้ทำอะไรสายลมสักหน่อย

ในเมื่อเขาตัดสินในแบบนี้เอง เขาก็ต้องรับสภาพสิครับ  :o12:

งั้นต้องมาคอยเอาใจช่วยสายลมกันเยอะๆนะครับ

ว่าจะกล้าบอกปลายฟ้าเมื่อไหร่

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
มาดึกเราก็รอ
>__< รักไนท์กะพี่เตจังแฮะ

แพ้ไข่ แปลว่ากินอาหารทั่วไปไม่ได้
ขนมแทบทุกชนิดมีไข่เป็นส่วนผสม
โฮกกกกกกกกกกกกกกก โคตรซวยเลย

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
 :เฮ้อ: น่าสงสารสายลมจริง ๆ

ปลายฟ้าไม่สนใจ มาทางนี้ก็ได้นะ  :laugh:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
รู้สึกดีค่า^o^
ชอบอารมณ์ของเรื่อง
ชอบน้องไนท์ด้วย น่ารักเนอะ แพ้ไข่ หุๆ

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
เจ็บแปล๊บๆ
สะเทือนใจอ่ะ
ไม่รู้จะโทษใคร คนนึงก็ไม่รู้ อีกคนก็ไม่บอก
โทษคนแต่งละกัน

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
แป๊ะไว้หลายวันแล้วพึ่งได้อ่าน หุ หุ  :o8:

บรูโน่จับกดก็หมดเรื่อง :z1:
กลิ่นเด็กมันหอมน้า :laugh:

เรนเจอร์สีเหลือง เท่ากับ เจ้าชายรองเท้าแตะ
เจ้าชายรองเท้าแตะ เท่ากับ "สก๊อย" อิ อิ
ความรู้นี้ป๋มเอามาจากเรื่อง สุดเขตฯนะคับ :m26:
(ลบไปแย้ว ก้อดันใหม่ได้) :m4:

เรนเจอร์สีเหลือง....จงสู้ต่อไป :a9:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ชิ!
ยังไม่เห็นออร่าพระเอกจากทานเลยนับวันยิ่งตกต่ำลง
ขอเชียร์น้องกาฝากละกัน ฮุๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
 :laugh:มีแต่คนคิดว่านายธรมมทานอะไรนี่ไม่ใช่พระเอก  คิดเหมือนกันเลย



ส่วนตัวตอนนี้เชียร์เจ น้องชายเมย์  เพราะเมย์อาจจะให้น้องชายแกล้งมาจีบเทียน สุดท้ายนายเจกลายเป็นรักเทียนบุญจริงๆ :laugh: :laugh:


เป็นไง  ความคิดเค้าดูดี  มีเหตุผลป่ะ???? :z2: :z2:

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
ถ้ากาลเขียนนะ รับรองว่าสายลมนะ ตายชัว แล้วให้ปลายฟ้าช้ำใจกอดศพ แบบนั้นคงแฮปปี้สุดๆ   :laugh:

อยากจะบอกว่าอยากได้แบบนี้เหมือนกัน  เกลียดนักแหละพวกใกล้เกลือกินด่างนี่อ่ะ :angry2: :angry2:




เมื่อไหรพี่สายลมของเค้าจะมีความสุขซะทีล่ะ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป

 
บทที่ 7 "ฝัน"
แสงอาทิตย์แผดแรงทะลุม่านโปร่งเบาที่ปลิวไหวเพยิบตามแรงลม คนที่นอนหลับไม่ยอมตื่นต้องกระเถิบถอยหนีความร้อนที่รุกไล่พลางตวัดผ้าห่มมา คลุมหัวหูเสียจนมิดทั้งที่อากาศร้อนอบ อ้าวจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาบนผิวหน้า แต่เจ้าตัวก็ยังอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยด้วยรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่ต้องรีบลุก ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานเพราะเป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา ประกอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเย็นเล่นเอาหน่องกว่าจะได้หลับก็ค่อนคืนไปนานโข
"ก็อก ๆ" เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนดังขึ้นและหยุดไปก่อนที่เสียงสัญญาณสายเรียกเข้าจะดังขึ้นตามมาไล่เลี่ย
"ตรื๊ด ๆ  ตรื๊ด ๆ ตรื๊ด ๆ"
"ตื่นแล้วครับแม่ ประตูไม่ได้ล็อคครับ" หน่องตอบด้วยรู้ดีว่าจะคนที่มาเคาะเรียกคือมารดาของตน ก่อนจะหันไปหยิบเครื่องมือสื่อสารมากดรับแล้วยกขึ้นข้างหู
"สวัสดีครับ หน่องครับ" หน่องกรอกเสียงลงไปตามสาย
ประตูห้องนอนเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของแม่ที่เดิมมาหยุดนั่งลงริมที่นอนหนา พร้อมกับสายตาสงสัยใคร่รู้เมื่อสบดวงตาของลูกชายที่แดงก่ำช้ำบวม หล่อนเอานิ้วมือกรีดไล่คราบชื้นของน้ำบนหางตาทั้งสองข้างของลูกชายก่อนจะเอามือไปลูบเรือนผมนิ่มที่กระเซอะกระเซิงจับลูบให้เข้าที่เข้าทาง
"พี่จะชวนหน่องไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย หมวดเค้าอยากจะถามอะไรเพิ่มด้วย... อีกอย่างหมวดเค้าบอกว่าผลนิติเวชออกแล้ว..." อ๊อบแจ้งความประสงค์มาตามสาย
"ได้ครับพี่อ๊อบ วันนี้หน่องหยุดไม่ต้องไปทำงาน เดี๋ยวหน่องไปหา จะให้หน่องไปเจอพี่อ๊อบที่ไหนครับ" หน่องบอกรัวเร็ว
"ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ไปรับเอง หน่องแต่งตัวรอเถอะ พี่จวนจะถึงแล้ว ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเจอกันนะหน่อง" อ๊อบบอกก่อนวางสาย
 
"หน่องเป็นอะไรไปลูก เมื่อคืนก็กลับมาเสียดึกเลยนี่ แล้วร้องไห้จนตาบวมเลยนะครับ" คุณสุมาลีถามพลางลูบศีรษะของหน่องอย่างแผ่วเบา
"หรั่งตายแล้วครับแม่ เดี๋ยวพี่อ๊อบจะมารับหน่องไปข้างนอกนะครับ" หน่องบอกพลางซุกหน้าลงบนอกแม่
"ตายเมื่อไหร่ แล้วตายได้ยังไง" คุณสุมาลีถามอย่างตกใจ พลางกอดหน่องเข้ามาแนบอกขึ้นอีก
"รายละเอียดยังไม่ทราบครับ หน่องไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ" หน่องผละออกจากอ้อมอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปหอมแก้มมารดา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับภารกิจส่วนตัวแล้วลงไปรออ๊อบ ที่หน้าบ้าน
 
 
รถเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดรถหน้าสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หลังจากจอดรถก็พากันเดินขึ้นไปบนสถานี แต่ทั้งสองก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนายตำรวจหนุ่มที่นัดกันไว้ อ๊อบถามไถ่จากตำรวจนายอื่นแถวนั้นก่อนจะพาหน่องไปนั่งรอที่หน้าโต๊ะทำงานของ หมวดพชร
"อีกเดี๋ยวหมวดคงจะมา นั่งรอสักครู่นะครับ วันนี้แกไปทำคดีตั้งแต่เช้าแล้วครับ" นายดาบสูงวัยเอ่ยบอกกับทั้งสอง
"ขอบคุณมากครับ" หน่องตอบพลางผงกหัว
"อ้อ.. มาพอดีเลยครับ" ดาบบอกพลางหันไปทางประตูทางเข้า ทำให้หน่องต้องชำเลืองตามองตามไปด้วย
"ขอโทษที่มาช้านะครับ" ร.ต.ท.พชร เดินส่งยิ้มมาให้แต่ไกลก่อนจะเอ่ยปากบอก
"ไม่เป็นไรหมวด อ๊อบกับหน่องก็เพิ่งจะมาถึงได้สักครู่นี่เอง" อ๊อบบอกแทนเพื่ออีกคนพร้อมรอยยิ้มเซียว ๆ
"ผมเพิ่งได้รายงานชันสูตรก่อนจะโทรหาคุณอำนาจ คือจริง ๆ แล้ว..." ผู้หมวดพชร เอ่ยบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ก่อนจะถามคำถามที่สงสัยบางข้อกับทั้งสอง
"หมวดหมายความว่า อเล็กซ์ตายเพราะโดนถ่วงน้ำ..." อ๊อบหลุดพูดเสียงสูงพร้อมยกมือขึ้นทาบอกก่อนจะแผ่วเสียงเบาลงในตอนท้าย
"ใครทำ?" หน่องหลุดถามออกมา
"คำตอบนั้นผมก็อยากรู้เหมือนกัน เค้าเคยมีศัตรูหรือขัดแย้งกับใครรึเปล่า?" หมวดหนุ่มตอบพลางหันไปสบตากับหน่อง ก่อนจะเอ่ยถาม
"ไม่มีนะหมวด อเล็กซ์เพิ่งจะเข้าวงการได้ไม่นาน งานก็กำลังไปได้สวย แล้วหมวดเจออย่างอื่นอีกไหมในรายงานของหมวด" อ๊อบบอกพร้อมกับความงุนงงสงสัย
"ก็เจอยาหลายเม็ดที่ในกระเพาะอาหารกับหลอดลม เป็นพวกมีฤทธิ์กล่อมประสาท กับ..." หมวดพชร บอกก่อนจะกลืนประโยคท้ายเอาไว้
"หรั่งเล่นยาด้วยเหรอ แล้วอะไรอีกละหมวด" หน่องถามพลางหันไปมองทางอ๊อบ ก่อนจะหันกลับมาสบตานิ่งของนายตำรวจหนุ่ม
"ร่องรอยฉีกขาดของเนื้อเยื่อทางทวารหนัก กับสารคัดหลั่งจำนวนมากคาดว่าน่าจะมีเกินสองคน" หมวดหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมใบหน้านิ่ง
"ฮะ! หมวดจะบอกว่าอเล็กซ์โดนข่มขืนเหรอ... พระเจ้า... โอ้..." อ๊อบตกใจแทบจะลุกเต้นผาง ดีที่หน่องหันไปคว้าแขนให้นั่งลงได้เสียก่อน
"ไม่น่าจะใช่ เพราะหากโดนข่มขืนบาดแผลคงจะฉีกขาดมากกว่านี้อีกหลายเท่า แล้วตามตัวไม่มีร่องรอยการโดนทำร้ายสักแห่ง มีแค่รอยฟันกับรอยเม้มเท่านั้นเอง" หมวดหนุ่มยังคงตีสีหน้านิ่งในขณะที่พูด
"แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะนี่ทีนี้ เฮ้อ..." อ๊อบบอกพลางถอนหายใจยาว
"ผมขอให้คุณปิดข่าวเอาไว้ก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบสืบต่อ ยังไงถ้าพวกคุณเจอหรือนึกอะไรขึ้นได้ก็โทรหาผมได้ตลอดเวลานะครับ ผมจะรีบหาตัวคนผิดให้ได้เร็ว ๆ" หมวดหนุ่มบอกย้ำอีกครั้ง ทั้งสามใช้เวลาพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่หน่องและอ๊อบจะขอตัวแยกกลับไป
"หมวดครับท่านผู้กำกับขอเชิญที่ห้องครับ" นายดาบเดินมาบอกหลังจากที่อ๊อบกับหน่องคล้อยหลังจากไปแล้ว
"ขอบคุณครับดาบ ผมจะไปเดี๋ยวนี้" หมวดพชรบอกขอบคุณ
 
"ก๊อก ๆ ขออนุญาตครับท่าน" หมวดพชร ยกมือขึ้นเคาะประตูก่อนเอ่ยขออนุญาตกับคนในห้อง
"เชิญเข้ามาเลยหมวด" เสียคนในห้องเอ่ยเชิญ
"พอดีผมเพิ่งจะวางสายจากผู้ใหญ่เมื่อกี้นี่เอง ท่านขอให้ผมช่วยพูดกับคุณให้หน่อย จริง ๆ แล้วผมก็อึดอัดใจนะ แต่คนที่โทรมาน่ะ ระดับ รองผบ.เชียวนะ เฮ้อ..." ท่านผู้กำกับเอ่ยบอกด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนัก
"เรื่องอะไรครับท่าน" หมวดหนุ่มถามอย่างสงสัย
"ก็คดีที่คุณทำอยู่นะสิ ดาราที่มีคนพบศพในบึงนั่นแหละ เค้าบอกว่าให้คุณรีบ ๆ ปิดคดีสรุปสำนวนง่าย ๆ เร็ว ๆ ไม่ต้องสืบให้ลึกไปกว่านี้แล้ว ผมเข้าใจดีว่าคุณเป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน" ผู้กำกับบอกพร้อมสีหน้ากระอักกระอ่วน
"ครับ ผมเข้าใจท่านดี ถ้างั้นผมจะรีบทำคดีให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วกันครับท่าน ผมขอตัวก่อนครับ" ผู้หมวดหนุ่มกล่าวเสียงเรียบพลางเดินออกมาจากห้อง ทั้ง ๆ ที่ภายในใจกลับร้อนรุ่ม 'ทำไมถึงได้ยุ่งขนาดนี้... ถึงกับต้องให้รองผบ.โทรมา... แล้วไอ้ความถูกต้องกับความเป็นธรรม... คนตายจะไปเรียกร้องหาเอาจากที่ไหนได้ กฎหมายจะมีเอาไว้เพื่ออะไร'
 
 
ท้องฟ้าตอนบ่ายที่มืดสลัวราวกับเย็นค่ำ เมฆดำที่ลอยคล้อยต่ำ ลมกรรโชกพัดแรงกิ่งไม้ไหวเอนใบร่วงเกลื่อนกล่น บางส่วนปลิวตามลมเข้าไปในตัวบ้านทางประตูที่เปิดอ้าค้างเอาไว้ เสียงฟ้าคำรามลั่นมาเป็นระยะ  ๆ  ก่อนน้ำจากฟ้าจะกระหน่ำซัดสาดลงมาอย่างมากมาย
"ปัง!" เสียงประตูไม้ที่เปิดทิ้งเอาไว้กระแทกปิดเสียงดังสนั่น ทำลายความเงียบในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่
"เปรี้ยง! โครม!" อสนีบาตฟาดผ่าลงบนกิ่งของต้นมะม่วงใหญ่ที่ปลูกมานานลำต้นใหญ่หนาที่ยืนต้นตระหง่านสูงกว่าต้นไม้อื่นในสวนหลังบ้าน เปลวเพลิงไหวเต้นระริกวูบวาบอยู่บนส่วนแขนงที่ฉีกขาดของกิ่งที่มีขนาดใหญ่ ตามอายุของต้นก่อนจะจนร่วงหล่นลงมา เปลวไฟลุกโชนลามเลียตามกิ่งและใบด้วยเชื้อปะทุชั้นดีตามธรรมชาติยางไม้แห้ง สีน้ำตาลแข็งที่เกาะอยู่รอบ ๆ กิ่งที่ร่วงลงมาพาดคาอยู่ระหว่างพื้นและรถจักรยานยนต์ซึ่งล้มคว่ำตะแคง พื้นที่ใต้ต้นด้วยน้ำหนักของกิ่ง น้ำมันจากในถังเชื้อเพลิงไหลนองกระจายวงไปรอบ ๆ ไฟจากกิ่งมะม่วงค่อย ๆ ลามเลียไปยังส่วนเบาะที่ทำจากหนังเทียมหุ้มฟองน้ำ ความร้อนจากเปลวเพลิงทำให้เกิดควันสีดำส่งกลิ่นเหม็นไหม้ลอยคลุ้งขึ้นสูง
"ฉิบหาย!" เสียงสบถหลุดร้องออกมาจากปากซึ่งประดับด้วยเรียวหนวดเมื่อร่างกำยำที่อุดมด้วยมัดกล้ามหนาเปิดประตูหลังบ้านแล้ววิ่ง ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันเอวเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขาวิ่งไปที่รถพลางกระชากเอากิ่งที่เป็นเชื้อไฟนั้นออก ก่อนจะหันไปฉวยหยิบเอากิ่งไม้ใบหนาใกล้ ๆ เอามาฟาดลงไปยังรถที่เปลวไฟกำลังเริ่มลุกโชนขึ้น ด้วยหวังเพียงแต่จะดับไฟให้มอดลงโดยที่ไม่รู้ว่ากิ่งไม้ในมือนั้นถูกอาบเอา ไว้ด้วยน้ำมันเบนซินเสียจนชุ่ม ตอนที่เขาเงื้อขึ้นสูงละอองน้ำมันไหลหยดกระเด็นเปรอะเปื้อนเนื้อตัวและหัวหู
"เฮ้อ..." เสียงถอนหายใจ พร้อมกับเปลวเพลิงที่รถจักรยานยนต์มอดดับลง เขาพยายามยกรถที่ล้มตะแคงอยู่นั้นขึ้นมา
"โอ๊ย!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือของเขาคว้าจับไปโดนส่วนที่ไฟเพิ่งจะมอดดับลง ก่อนจะปล่อยมือสะบัดเร่า ๆ
"ร้อนฉิบหาย" เขาสบถบ่นอย่างหัวเสีย ก่อนจะกลับไปใช้ความพยายามก้มลงไปยกรถขึ้นมาอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นสายฝนก็กระหน่ำหนาหนักราวกับฟ้าถล่ม ก่อนสายฟ้าจะฟาดผ่าขึ้นอีกครั้งตรงกิ่งไม้ที่ใหญ่กว่าเดิม เปลวเพลิงลุกไหม้โชนก่อนจะร่วงหล่นลงมาใส่ศีรษะของคนข้างล่าง
"โอ๊ย! อ้า..." เปลวเพลิงลามเลียลุกไหม้ตั้งแต่ผมบนศีรษะและเนื้อตัวบริเวณที่เปรอะเปื้อน น้ำมันเชื้อเพลิง ส่งกลิ่นเนื้อเหม็นไหม้คละคลุ้ง สองมือพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดแต่น้ำหนักของกิ่งไม้ใหญ่กดทับให้ร่างหนา นอนก้มหน้าจนไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายหนีไปไหนได้ ร่างกำยำทำได้เพียงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด สองแขนที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ยื่นยกสูงออกไปสองมือพยายามไขว่คว้าจับได้ เพียงอากาศธาตุ
"โอ๊ย.. ช่วยด้วย... ช่วยด้วย..." เสียงโหยหวนสั่นประสาทกรีดร้องดังก้อง แต่ก็ไม่มีใครสักคนสามารถที่จะได้ยินเพราะเสียงฝนที่กระหน่ำเทลงมาดังกลบ เสียงร้องของเขาเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่รอบ ๆ บ้านมีเวรยามคอยตรวจตราอยู่หลายคนในยามปรกติ แต่วันนี้บางส่วนไปอยู่เสียที่วัดเพราะเป็นงานตั้งสวดพระอภิธรรมศพของว่าน เป็นคืนแรก และบางส่วนก็พากันหลบไปหาที่กำบังจากสายฝน บรรยากาศโดยรอบจึงแทบจะปราศจากผู้คน เสียงโอดโอยยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องพร้อมกลิ่นของเนื้อคนไหม้ไฟ และเปลวเพลิงที่ลุกโหมแรงขึ้น
"ช่วยด้วย... โอ๊ย... อ้า........................"  เสียงคร่ำครวญน่าเวทนาหยุดลงพร้อมกับร่างที่นอนแน่นิ่งและเปลวเพลิงที่ กำลังลุกท่วมร่าง เสียงปริแตกของกิ่งไม้ปะทุด้วยความร้อนแรงจากเปลวไฟที่ลุกโชน
ร่างโปร่งแลทะลุผ่านในอาภรณ์สีดำที่ห้อยหัวลงมาจากต้นมะม่วงสูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบดกหนาจนบดบังแรงฝนใต้ต้นเอาไว้ เสียมิด ทั้งที่รอบข้างพ้นใต้ร่มครึ้มดกหนาสายฝนกำลังกระหน่ำจนชุ่มโชกเจิ่งนอง  ใบหน้าสยองขาวซีด มีเพียงแสงไฟวูบวาบและร่างลุกไหม้สะท้อนออกมาจากหน่วยตาขาวขุ่นฝ้ามัว ที่แสยะยิ้มส่งให้อย่างพึงใจก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป
 
 
สายลมพัดกรูเกลียว ละอองน้ำเย็นของสายฝนที่กระหน่ำปลิวกระเด็นผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน
อุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากที่เคยร้อนอ้าวกลับเย็นยะเยือกราวกับอากาศในฤดูหนาว หน่องที่นอนกอดตุ๊กตาหมีโพลาสีขาวเอาไว้แนบอกเสียแน่น เสื้อยืดย้วย ๆ มอซอที่เจ้าตัวสวมใส่ คอกว้างไหลตกจากลาดไหล่ของร่างบางเผยให้เห็นลำคอที่สวมสายสร้อยเอาไว้ แสงสะท้อนแวมวาวของจี้เพชรสีชมพู ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาว หน่องคว้ามือป่ายปะก่อนจะตวัดผ้าห่มนวมที่เจ้าตัวเผลอถีบพ้นออกจากร่างเมื่อ หัวค่ำขึ้นมาห่อหัวหูจนมิดโพล่พ้นเพียงแค่ส่วนของวงหน้าขาวแสนหวานราวกับหนอนผีเสื้อตัวน้อยที่กำลังกลายเป็นดักแด้รอตื่นขึ้นมาโบยบินด้วยปีกกว้างใหญ่ที่สวยงามของตน
 
มือที่ใหญ่กว่ากางสายสร้อยที่ห้อยจี้เพชรสีชมพูเอาไว้ตรงหน้าก่อนจะยกลงแนบลำคอขาวของตนแล้วจึงติดตะขอสวมให้ที่ด้านหลัง ก่อนจะเอามือสองข้างนั้นโอบเอวกอดไว้พร้อมกับเอาคางมาเกยเอาไว้ที่ไหล่ของเขา
"หน่องชอบไหม หรั่งเลือกเองกับมือเลยนะ" เสียงจากคนที่อยู่ด้านหลังพูดกระซิบลงข้างหูของตน
"ชอบสิ แต่มันไม่แพงไปเหรอ...หน่องเกรงใจ..." เสียงยินดีที่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มสวยก่อนจะแผ่วลงในตอนท้ายของประโยค
"ตอนนี้หรั่งมีทุกอย่างที่อยากจะมีแล้ว ทั้งชื่อเสียงเงินทองที่กำลังไหลมาเทมา ไม่มีอะไรแพงเกินไปสำหรับของขวัญที่หรั่งอยากจะให้หน่องหรอก" เสียงนุ่มแผ่วเบาอีกครั้งที่ข้างหูซึ่งกำลังแดงระเรื่อ ก่อนจะจับคนตัวเล็กกว่าหมุนกลับมาสบตาหวานฉ่ำของตน
"หรั่งก็... ถ้ามีแล้วก็เก็บ ๆ เอาไว้สิจะได้มีเยอะ ๆ ไง" หน่องตอบพลางหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าจ้องมองสบตากับคนตรงหน้าเท่าไหร่
"หรั่งก็เก็บเอาไว้ให้หน่องแหละดีไหม" หรั่งพูดพร้อมยกยิ้มกว้างอย่างพึงใจเมื่อเห็นใบหน้าขาวของคนตรงหน้าขึ้นซับ สีระเรื่อ ก่อนจะสวมกอดเอาไว้อีกครั้งในอ้อมอกหนาของตน
"หรั่งก็มีหน่องคนเดียว หรั่งจะคอยเป็นกำลังใจ และจะคอยดูแลหน่องอยู่ข้าง ๆ ไม่หนีไปไหนดีไหม" เสียงนุ่มดังฟังชัดทุกคำ ทำเอาคนที่ซุกอยู่กับอกแทบจะมุดแทรกหน้าที่แดงกว่าเดิมพร้อมรอยยิ้มจนตามิด มุดเข้าไปซ่อนไว้ภายในอกแกร่งแน่นนั้น วงแขนยกขึ้นไปโอบเอวสวมกอดตอบแทนอ้อมกอดจากไออกอุ่นที่ได้รับ
"ก็ตามใจสิ ถ้าหรั่งไม่เบื่อไปเสียก่อนนะ.." เสียงกระซิบจากคนในอ้อมอกหนาแผ่วเบาแต่ได้ยินแจ่มชัด
"ก็หรั่งรักหน่องนี่นา จะให้รีบเบื่อเร็ว ๆ ไปได้ยังไง" หรั่งตอบพร้อมกับเอามือผลักหน่องให้ออกห่างจากอกก่อนจะใช้มือเชยคางของหน่อง ขึ้นมาพร้อมกับยื่นปลายจมูกโด่งสัมผัสผิวแก้มใสของหน่องแล้วสูดดมความหอมจากแก้มขาวนวล ก่อนจะรวบตัวไปกอดเอาไว้เสียแน่นอีกครั้ง
"หรั่งสัญญาว่าจะอยู่กับหน่องและจะไม่ทิ้งหน่องไปไหน จนกว่าหน่องจะไม่ต้องการหรั่งอีกแล้ว หรั่งสัญญา" เสียงนุ่มทุ้มที่แฝงความหนักแน่นอยู่ในที กระซิบลงที่ข้างหูของหน่องอีกครั้งพร้อมปลายจมูกที่ยื่นมาสูดดมความหอมจาก แก้มนวลอย่างพึงพอใจ
 

runynam

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วใจหายแว้บบบบบบบบ
อะไรจะร้อนแรงขนาดนี้ๆๆๆๆ :เฮ้อ:
เมย์ว่าแรง เทียนมาแรงกว่า
โอ้ยยยยยย ลุ้นตัวโก่งมากกกกกกก
เห็นด้วยกับพี่ๆที่ว่า ตา ธรรมทานอะไรนี่ไม่มีออร่าพระเอกสักนิด :m16:
เป็นตัวละครที่ตอนสุดท้าย ไม่มีใครเอา :laugh:(หรือเปล่า)
กำลังลุ้นว่าระหว่าง ทินกร กับ เจ ออกมาใหม่ ใครจะเป็นพระเอก
 :L2: :กอด1:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
สงสารสายลมจัง... :z3:
เฮ้ยยยย  อ่านแล้วปวดใจแปล๊บๆๆเลยย
ขอให้ปลายฟ้าไม่ได้คู่สายลม  :angry2:
เพราะหมั่นไส้ :beat:
รอตอนต่อไปคู่สู้ๆๆ :กอด1: :L2:

hahn

  • บุคคลทั่วไป

runynam

  • บุคคลทั่วไป
อุ้ยยยย ดอกพิกุลร่วงแล้วววว :mc4:
ลุ้นตั้งนานว่าจะพูดอะไรออกมาบ้างไหม
มิน่าละถึงไม่ค่อยกินอะไร เพราะแพ้ไข่นี่เอง
น่าสงสาร :m15: แต่ไม่เป็นไร
เดี๋ยวดูแลเอง :laugh: (เดี๋ยวพี่เตก็ดูแลนะ)
 :กอด1: :L2:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: :m15: :m15:
อึกๆๆ อ่านอีกรอบก็ยังปวดใจ
หรั่งไม่น่ารีบตายเลยยย
 :เฮ้อ:สงสารหน่อง
จะรอตอนต่อไปค่ะ
ปล. :freeze:ฉากถูกฆ่าก็ยังความทรมารใจมาให้ทุ้กกกกที

hahn

  • บุคคลทั่วไป
เมย์ก็ร้ายเทียนก็แรง ปะทะกันทีไม่มีใครยอมใครเลยนะ

ปล.เหมือนดูเรยากะเด่นจันทร์แต่เป็นวาย 555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด