Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44  (อ่าน 253868 ครั้ง)

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
สงสารต้อมกับซัน :sad4:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
พี่ปริ๊นร้องไห้ไม่ค่อยสงสารอ่ะ รู้สึกว่ามันน่ารักดี ให้มันร้องเยอะๆ อิอิ
แต่ตอนพี่เจคร้องนี่สิ น้ำตารื้นขึ้นมาเลย โถพี่เจคคคคคคคคคคค

เสียวเรื่องร้านชินนาม่อนอ่ะ ก็ความจริงมันไม่ใช่ร้าน "ของเรา" นี่นา ฮืออออออออออ
ถ้าวันนึงซันรู้คงกินไม่ลงอ่ะ

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 o22หน้านายแบบ จะทำไงล่ะทีนี้ เหมือนให้ความหวังซันเลยอ่ะ
ต้อมอาจจะไม่คิดไกลแต่ซันออกนอกโลกแล้วรู้ป่าว

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
กรี๊ดดดดดด
หน้าเละเลยน้องต้อม ,,
(ทุกคนดูเป็นห่วงหน้า) ฮ่าๆๆๆ
อ่อยยย ไม่เป็นไรนะ  ฟาดเคราะห์ไปละกัน!!!
ตอนท้ายๆ เริ่มเห็นยใจกันแล้วนะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586


สถานที่ที่เราจะตามหาซันนี่ได้ในตอนนี้

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
 


ขอบคุณคุณอิ๊กกี้ครับ +1      :L2:               

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
รักกันนิดๆ แล้ว (หรือเปล่า)
แต่แลกมามาด้วยเลือดเชียวนะ
หายไวๆ นะต้อม

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ต้นรักค่อยๆเจริญเติบโต ><

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :m15:สงสารวันจังเลยครับ ซันพูดได้ใจมากๆเลย ขอให้ต้อมหันมารักซันบ้าง

อย่างน้องซันจะได้มีความหวัง หวังที่จะรักและหวังที่จะรอให้ใครซักคนนั้นหันมารัก

 :pig4: :L1: :3123: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
เค้าขอสารภาพ เค้าเพิ่งได้เข้ามาอ่านน้องต้อมอ่ะ  :3123:
น้องต้อมมาอยู่อเมริกาไม่เท่าไรก็เป็นนายแบบดังซะแล้ว แต่กับซันเน่น้องต้องสู้ๆ มีเทรนเนอร์ดีอย่างพี่นายต้อมน่ะเสร็จแน่ๆ

ออฟไลน์ meiji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อ่า แอบน้ำตาซึมด้วยคน
สงสารต้อมจัง แต่ก็ชอบตอนนี้ด้วย เหมือนได้รับรู้ว่ายังมีคนที่เป็นห่วงเรา
ขอบคุณนะคะ พี่อิ๊กกี้
:กอด1:

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
คุณแม่ขา  เห็นด้วยค่ะ  อย่าได้เอามันไว้น๊า :angry2:ไอ้ฝรั่งเฮงซวย

WhatLoveIs

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งจนน้ำตาซึมเลยง่ะ
โชคดีที่ยังไม่เป็นอะไรมาก ซันนี่ดูแลที่รักดีๆ นะจ้ะ ^^

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :sad4: :sad4:

ดีนะที่ซันไปเจอ

เห้ออออ

หวังว่าต้อมคงมองเห็นซันบ้างนะ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
เกือบไปแล้วซิต้อม...เมืองอันตรายเกลียดคนหัวดำ...
หัวทองมันจะวิเศษซักแค่ไหนเชียว...คิดแล้ว  :fire:
ซันเน่น่ารัก...น่าสงสาร...เกือบแล้วนู๋...อดทนหน่อยน้า... :กอด1:

 :L2: น้องอิ๊ก  :L1:


ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
 :o8:
ทำไมบรรยากาศชมพูฟุ้งแบบนี้เนี่ย :-[

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
น่าจะอีกไม่านเกินรอ :z1:
อยากอ่านจัง อิอิ

 :กอด1:

ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
ซึ้งอ่ะอิ๊กกี้ :monkeysad:
การที่มีคนรักเรา หรือเราได้รักใครนี้มันดีจริงๆมันทำให้คนธรรมดากลายเ็ป็นคนพิเศษขึ้นมาเลย 
ต้อมกับซันเน่ค่อยๆผูกพันกันทีละน้อย ไม่ใช่ความรักที่หวานซึ้ง แต่มันเป็นความรักที่ลึกซึ้ง :L2:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
2 ตอนรวดเลย
บอกได้คำเดียวว่าซึ้งมากๆ  ไม่เศร้าแต่ซึ้งจับจิต :o12:
ยิ่งตอนที่ต้อมโดนทำร้าย  แล้วซันบรรยายยิ่งซึ้งจริงๆ
ในที่สุดต้อมก็เริ่มเขวแล้ว  อิอิ  สู้ๆซันนี่อย่ายอมแพ้สู้ๆ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :t3:มารออ่านตอนต่อไปครับ เอาใจช่วยเสมอนะครับซันต้อม

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
น้องต้อมโดนขนาดนี้ยังหัวเราะอยู่ได้ดีจริงๆ
คุณแม่ก็สุดยอดมาก เอาพวกนั้นเข้าคุกไปเลย   :m31:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
เข้ามามีเรื่องจะสารภาพครับ

มีใครสังเกตไหมว่าพักหลังๆนี่ผมดูแปลกๆไป เอ๊ะ หรือว่าไม่ แหะๆ แต่ไม่รู้สิครับ บางคน เพื่อนๆคนอ่านเก่าๆ ที่เรื่องก่อนๆผมจะคอยตอบเมนต์แล้วเขียนหัวเขียนท้าย แต่พอมาเรื่องหลังๆไม่ค่อยมีโต้ตอบอะไรเลย อืม ผมรู้ตัวนะ แต่ว่าไม่ได้มีอะไรหรอกนะครับ ผมยังเหมือนเดิม แค่ช่วงนี้ผมย้ายบ้าน จาก อ่อนนุช ไปอยู่บางพลี เกือบถึงบางบ่อ แต่งานยังทำที่เดิม แว้กกก บ้าไปแล้ว
อยากจะตอบเมนต์นะ แต่พอเปิดดู ผมเหนื่อยมากๆ แต่ก่อนตอนตื่นจะเขียนได้เป็นตอนๆ แต่พักนี้ แค่ครึ่งตอนยังไม่ได้เลย

จะพยายามนะคร้าบ ไม่อยากให้เพื่อนๆคิดในแง่ที่ว่าพอผมมีคนรู้จักเยอะแล้วหยิ่งอะไรแบบนี้นะครับ
แว้กก ใครรู้จักผ๊มม ไม่มี๊ ยังเป็นคนเดิม เอ๋อๆ น่าร้ากๆ เหมือนเดิม อิอิ

ไม่มีไรมาก แค่แวะเข้ามาบอก

จุ๊บๆๆ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
สู้ๆนะพี่ เคยคิดมาตั้งนานแล้วล่ะว่าต้องอยู่แถวอ่อนนุชแน่ๆ บรรยายซะละเอียดยิบเลยอ่ะ 55+

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
เป็นห่วง
พักผ่อนเยอะๆ น่ะครับ
แต่อย่าพักเยอะเกิน ตื่นมาทำงานบ้างน่ะครับ อิอิ

รอนิยายต่อไป :z2:

 :กอด1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
S22

“ตายแล้ว หน้าทำไมบวมแบบนี้ ตายแล้วจะทำยังไงดี คุณพอลคะ เราจะทำยังไงดี”
เสียงคุณลิซล่ะครับ ผมนอนโรงพยาบาลแค่วันเดียว ความจริงมันไมได้เจ็บมากมายขนาดต้องนอนโรงพยาบาลนะ แต่คุณแม่ไม่ยอมครับ ผมเลยต้องตามใจ แต่วันนี้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ผมนั่งอยู่ที่โซฟาเอนหลังเต็มที่ครับ คุณลิซยืนหน้าซีดอยู่ ไม่ยอมนั่งส่วนคุณพอลแกมองหน้าผมแล้วคิดอยู่
“มีแผลแค่ที่คิ้วขวาใช่ไหมทอมมี่”
เขาถามผมขึ้นครับ ปวดปากมากๆจะให้ตอบอะไรวะเนี่ย
“ครับ”
“อืม น่าจะไม่มีอะไร แต่คุณลิซผมต้องมั่นใจนะว่ารอยช้ำๆพวกนี้มันจะหายจนไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ คุณจะทำยังไงก็ได้”
คุณพอลหันไปสั่งคุณลิซครับ หน้าตาแกนี่เหี้ยมมากเลยนะขอบอก
“ได้ค่ะคุณพอลไม่มีปัญหา เรื่องหน้าบวมคงแก้ไม่ยาก แจ่เรื่องแผลเป็นนี่เมื่อกี๊ลิซเพิ่งคุยกับหมอมา เขาบอกว่าพยายามเย็บให้ดีที่สุดแล้วแต่ชิ้นเนื้อมันหลุดออกไป ไม่แน่ใจว่าจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า ต้องรอตอนตัดไหมน่ะค่ะ”
“ผมไม่สนใจหรอกนะว่าหมอเขาจะทำได้แค่ไหน ศัลยกรรมได้ก็ทำ อะไรกันของดีๆแท้ๆ ไม่ได้หรอกนะผมไม่ยอมหรอกนะ รับงานโฆษณาของรถไว้แล้ว ต้องรีบแก้ไขให้เรียบร้อยนะคุณลิซ”
“ค่ะๆ คุณพอลลิซจะจัดการให้”
คุณลิซแกก็มาจับนั่นจับนี่ที่หน้าผมล่ะครับ คุณพอลแยกไปคุยกับคุณแม่กับคุณพ่อต่างหากที่ห้องรับแขก ผมรู้สึกง่วงมากๆครับเพราะเร่งกินยา พอกินยาแล้วมันเหมือนง่วงมากๆ
“มาเช็ดแผลก่อนต้อม”
ไอ้ซันมันเดินตามเข้ามาในห้องครับ พอผมคุยกับคุณลิซสักพักแกก็แยกไปคุยต่อกับคุณแม่และคุณพอล ผมตั้งใจจะขึ้นมางีบสักหน่อย เดินผ่านกระจก ตอนแรกว่าจะไม่มองแล้วนะ แต่อดไม่ได้ พอยืนมองดูหน้าตัวเอง แว้กก ทำไมหน้ากูปูดบวมแบบเน้
“ทำไมมันบวมน่าทุเรศจังวะมึง ห่าเอ้ย ช้ำเลือดช้ำหนองแบบนี้กูจะมีหน้าที่ไหนออกไปเจอคนวะ”
“เออน่าเดี๋ยวมันก็หาย มาเช็ดแผลก่อนดิ มันสกปรก”
“จิ๊ เชี่ยเอ้ย กูไม่น่าเอาหน้าไปรับหมัดมันเลยว่ะ”
“แหมมึง มันเกิดขึ้นแล้วนี่ ตอนนี้ทำได้แค่รักษาให้มันหาย รอยบวมพวกนี้เดี๋ยวก็ยุบ แต่”
“แผลที่คิ้วเนี่ยเหรอ นั่นดิวะ แม่งหมอบอกมันเอาชิ้นเนื้อหลุดออกไปด้วยนะ คงเพราะสนับมือของมันแน่ๆ”
ผมสบถออกมาล่ะครับ รู้สึกไม่พอใจเลยที่คราวนี้ผมเป็นฝ่ายที่โดนเอง
“มาๆ อย่าเพิ่งพูดเช็ดแผลก่อน”
ไอ้ซันมองหน้าผมล่ะครับแล้วหยิบเอาสำลีชุบยารอไว้แล้ว
“เบาๆนะมึง”
“เออน่า แหมทีไปโดนต่อยนี่ไม่เห็นกลัวนะ กะอีแค่สำลีชุบยาทำเป็นกลัว”
“อ้าวไอ้นี่ มันแสบนี่หว่า”
มันยิ้มล่ะครับ ผมก็ยอม จะว่าผมบ้าไหมเนี่ยเหมือนผมพยายามอ่านสายตาของมันเลยนะ อิอิ สายตาที่มันคอยจับจ้องมองหน้าผม ผมอยากรู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ สายตาที่เป็นแววประกายนั้น ข้างในมันคิดอะไรอยู่กันแน่
“เฮ้ย พี่นายโทรฯมา”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นล่ะครับ ผมผละออกจากการเช็ดแผลของมัน รีบลนลานไปคว้าเอาโทรศัพท์มากดรับสาย
“พี่”
“ต้อม เป็นยังไงบ้าง เห็นแม่บอกแกเข้าโรงบาลเหรอ เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้อม พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว แล้วแผลมันจะหายไหม ทำไมต้อม ทำไมไม่ยอมฟังพี่บ้างเลย รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง”
อ่านะ ผมแค่พูดไปคำเดียวเองนะ มาเป็นชุด ผมดีใจว่ะ ดีใจมากๆ
“โหยพี่ ก็ไอ้เชี่ยพวกนั้นมันมาดักอ่ะ ผมจะไปซื้อเกมให้พี่เจคอ่ะ รอไอ้ซันด้วย”
“เลวที่สุด หนอย แล้วบริษัทเขาว่ายังไง นี่มันทำอะไรเราบ้าง เล่ามาให้หมดนะ”
“ก็หน้าบวมอ่ะพี่ คิ้วแตกด้วยอ่ะ”
“ห๊า คิ้วแตก ได้ยังไง ไมได้นะต้อมแล้วงานนายแบบเราล่ะ จะทำยังไง ตายแล้วๆ”
“ยังพี่ ยังไม่ตาย”
“นี่ไอ้ต้อม ยังมีหน้ามาเล่นอีกนะแก ถ่ายรูปมาด่วน ตอนนี้”
เอ่อ นี่คือคำสั่งสินะครับ ผมก็เอาโทรศัพท์ออกจากหู
“มึงถ่ายรูปหน้าเชี่ยๆของกูให้หน่อยดิ”
ผมหันไปหาไอ้ซันครับ มันยืนมองอยู่
“พี่นายอยากดูเหรอ”
“เออดิ คงจะรอด่ากูอยู่เนี่ย”
ไอ้ซันมันเม้มปากครับ สายตาแปลกๆ แต่ก็เหมือนมันถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือผม
“แป๊บนะพี่นาย”
“อ้าว ซันเหรอ เออๆ ถ่ายๆมาเดี๋ยวคุยกับไอ้ต้อมเสร็จพี่จะคุยกับเรานะ”
“เปิดสปีกเกอร์เลยไหมอ่ะพี่”
“ไม่เป็นไรซัน รีบถ่ายมา พี่เปลืองเงินนะ ไม่ได้โทรฯไวเบอร์”
“อ้อ ครับๆ”
ไอ้ซันมันถ่ายรูปผมล่ะครับแล้วยื่นคืนให้ผม
“พี่ไม่โทรฯไวเบอร์อ่ะ จะได้ไม่เปลืองเงิน”
“ชั้นมีเงิน ไวบงไวเบอร์อะไรไม่สนใจ ส่งมาเร็ว”
อ่านะ ทีแบบนี้ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็ส่งรูปหน้าผมไปให้เขาดูล่ะครับ รอไม่นานมาก
“ต้อม ฮึกๆ ทำไม ทำไมพวกมันทำถึงขนาดนี้”
เอ่อ เขาร้องไห้ครับ ผมนี่พูดอะไรไม่ออกเลยนะ ใจหนึ่งก็ดีใจนะเพราะเหมือนว่าเขาเป็นห่วงผม อีกใจก็ไม่อยากให้เขาร้องไห้เพราะผมเลย
“ก็มันคงแค้นอ่ะพี่ ตอนนั้นที่เอามันเข้าคุก”
“เลวที่สุด แต่ก็โชคดีแล้วล่ะที่มันไม่มีปืน ฮือๆๆ”
อ้าวนะ พอพูดมาถึงคำว่าปืนก็ร้องไห้เสียงดังครับ เสียงดังลอดออกไปจนไอ้ซันมันเดินเข้ามาหาผม
“พี่นายโอเคไหมมึง”
“คงจะตกใจว่ะ”
“ใครตกใจ ชั้นช็อกต่างหาก นี่รู้ไหมว่านักเลงที่โน่นเขาพกปืนกันนะต้อม เขามีปืนกันนะ มันจะเป็นยังไงถ้าพวกมันมีปืน หา มันจะเป็นยังไง โอย ไม่อยากจะคิด”
เสียงสะอื้นขาดๆหายๆฟังไม่ค่อยถนัด ทำให้ผมใจกระตุกไปได้เหมือนกัน ไอ้ซันเองก็เหมือนมันจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดครับมันบีบบ่าผมเบาๆ ผมหันไปมองเห็นมันน้ำตาซึมแล้ว
“จำไว้ อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อย่าพยายามเป็นเป้าล่อให้พวกมัน คนพวกนี้มันคอยหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา เราอย่าได้เผลอ เพราะถ้าเผลอมันก็จะเป็นแบบนี้ คราวนี้นับว่าโชคดีมากแม้ว่าหน้าจะเยินขนาดนี้ก็เถอะ แต่คราวหน้าถ้าเกิดขึ้น โอ๊ยย อะไรเนี่ย หนอยอย่าให้ชั้นกลับไปนะ จะไปถล่มแม่งให้หมดเลย อารมณ์เสีย”
“ฮ่าๆๆ เอ้ย ลืมตัวพี่โทษทีๆ”
กร๊ากเลยสิครับ แหมนะ ตอนต้นประโยคไอ้เราก็คล้อยตามดีอยู่หรอกนะ แต่เอาไปเอามาไหงเป็นแบบนี้ไปได้
“นี่อย่ามาหัวเราะชั้นนะไอ้ต้อม ชั้นมีอิทธิพลพอตัวนะ แกไม่รู้เหรอ”
“คร้าบ รู้คร้าบ ผู้มีอิทธิพล ฟังแต่ชื่อก็น่ากลัวแล้วอ่ะพี่”
“เอ๊ะ นี่แกหมายความว่าไง อย่ามานะไอ้ต้อม เดี๋ยวเถอะ ชั้นจะบินไปจัดการ”
“โหยนะ สาธุ มาจริงๆเถอะ นั่งรอนอนรออยู่เนี่ย”
“หึ ต้อม ไปหาหมอนะ ให้คุณนายเธอพาไป เธอรู้จักร้านดีๆ แผลเป็นแค่นี้รักษาแป๊บเดียว แล้วก็ระวังตัวไว้ด้วย ถ้ามันจำเป็นจริงๆเดี๋ยวพี่ให้พี่แพทย์เอาปืนพกของพี่ให้เราพก”
“เฮ้ยพี่ นี่พี่มีปืนพกด้วยเหรอ”
“อ๊ะ แน่นอนชั้นเป็นใครล่ะ ใครมองหน้ายิงแม่งเลย อิอิ”
“เว้ย น่ากลัวว่ะพี่”
“ชั้นบอกแล้วนะว่าชั้นน่ะร้าย หนอยไอ้พวกนี้แค่จากมาไม่กี่ปีกำเริบเหรอ เดี๋ยวจะบินไปสยบให้หมดเลยนี่”
“โว๊ะ ตัวจริงเว้ยเฮ้ย”
“เออๆ ขอคุยกับซันหน่อยสิ”
“อ่ามีไรคุยกะมันอ่ะพี่ จีบมันเหรอ”
“อ๊ะแกไม่รู้เหรอ ชั้นจะเอามันเป็นน้อย”
“เว้ย ไม่ได้นะเว้ยพี่ น้อยเน้ยไรอ่ะ”
“เออน่า อย่าพูดมากเปลืองเงินชั้นนะแก”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะ ผมยิ้มตลอดเวลาเลยนะเวลาคุยกับเขาแม้ว่าหน้ามันจะตึงๆก็ตามที ผมมองไปยังไอ้ซันที่ยืนมองเราอยู่ ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันครับ
“อ่ะ พี่เขาจะคุยกับมึง”
“กูเหรอ”
“เออ มึงนั่นล่ะ”
มันทำหน้าปกตินะ ทำไมวะไม่ตื่นเต้นบ้างเลยเหรอ มันหยิบโทรศัพท์แล้วจะเดินออกจากห้องไป
“อ้าวไม่คุยในนี้วะ”
“ไม่เอา กูอยากคุยเป็นการส่วนตัว”
“เฮ้ยได้ไงวะ ทีกูกูยังคุยให้มึงได้ยินเลยนะ”
“ช่วยไมได้ เดี๋ยวมา”
มันเดินออกไปแล้วครับ อ้าวเว้ย นี่ผมเสียโง่ให้มันเหรอเนี่ย ไอ้นี่แสบจริงๆ ผมก็นอนกระดิกเท้ารอล่ะครับ วันนี้พี่ปริ๊นยังไม่กลับจากโรงเรียน ตอนแรกจะไม่ไปนะ แต่ผมก็ต้องลงไปหลอกล่อเอาถึงยอม ผมก็นอนกระดิกเท้ารอไอ้ซันมาเช็ดแผลให้บนเตียงล่ะครับ ไม่นานมันก็เดินกลับเข้ามา
“อ่ะพี่นายอยากจะคุยกับมึง”
มันยื่นโทรศัพท์ให้ผมอีกครั้งครับ ผมก็กระเด้งตัวขึ้นนั่งแล้วรับโทรศัพท์มารับ
“คร้าบ โหยคราวนี้คุยนานนะเนี่ยไม่กลัวเปลืองเหรอเพ่”
“อืมต้อม ซันน่ะมองมันบ้างก็ดีนะ”
อ้าว ทำไมเริ่มต้นแบบนี้วะเนี่ย
“ทำไมอ่ะพี่ มันบอกไรพี่”
“มันไม่ได้บอกอะไรทั้งนั้นล่ะ แค่คุยพี่ก็รู้แล้วว่ามันคิดยังไงกับเรา คนที่อยู่ใกล้น่ะคือคนที่เราจะเห็นความเคลื่อนไหวของเขาได้มากที่สุดนะต้อม ไอ้ซันมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายน่ารักดีออกพี่ว่านะ ไม่ชอบมันบ้างเลยเหรอ”
“เฮ้ยพี่ ผมรักเดียวใจเดียว”
“รักเหรอ คิดทบทวนดูดีๆต้อม คำว่ารักน่ะมันควรจะใช้กับใคร พี่ว่าเราโตพอแล้วนะที่จะลองคิดทบทวนอะไรได้เอง ผ่านอะไรมาก็พอสมควร บางทีรักในอุดมคติมันก็ไม่ได้สัมผัสได้เสมอไปหรอกนะ แล้วเราจะไปคิดเพ้อฝันอะไรกับมันอีก ทำไมเราไม่มองสิ่งที่มันสัมผัสได้จริง สิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา”
“นี่พี่พยายามจะพูดอะไร”
ผมเริ่มเสียงเครียดแล้วครับ ไอ้ซันเหมือนมันรู้มันเดินออกจากห้องไปแล้ว
“พยายามอะไร ชั้นไม่ได้พยายามอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้แกรู้จักใจตัวเองมากกว่าต้อม”
“ผมรู้ดีพี่ว่าใจผมต้องการอะไร ผมบอกพี่ไปล้านครั้งแล้ว”
“อืม ยังปักใจอยู่เหรอ”
“ผมไม่มีทางเปลี่ยนใจ”
“เอาเถอะต้อม ที่พี่โทรฯหาเราไม่ได้อยากจะเริ่มเรื่องนี้หรอกนะ พี่พอรู้ว่าเราเป็นคนยังไง แต่ที่สะกิดเรื่องไอ้ซันไม่ใช่ว่ามันพูดหรือมันบอกอะไร แต่พี่แค่รู้สึกได้ เพราะว่าเมื่อกี๊ที่พี่คุยกับมัน แค่น้ำเสียงของมันพี่ก็รู้แล้วว่ามันน่ะห่วงเรามากแค่ไหน มากกว่าพี่เสียด้วยซ้ำ มันบอกพี่ว่ามันอยากจะเจ็บแทนเรา ต้อม คนที่อยากจะเจ็บแทนเราน่ะมีแค่พ่อแม่แล้วก็คนๆนี้เท่านั้นนะ ถ้าให้พี่เจ็บแทนเราเหรอ เชอะ ฝันไปเถอะ ถ้าหน้าชั้นบวมแบบนั้นชั้นยอมตายดีกว่านะจะบอกให้”
ผมอึ้งครับ ไม่ได้อึ้งเรื่องไอ้ซันแต่อึ้งในสิ่งที่เขาพูดออกมา เจ็บแปลบเข้าไปในใจ
“พี่ไม่ห่วงผมแบบนั้นบ้างเลยเหรอ”
“แล้วคิดว่ายังไง ถ้าไม่ห่วงจะโทรฯมาแล้วร้องไห้ฟูมฟายไหม ห่วงน่ะห่วงมากด้วย แต่มันคนละอย่างกับที่ไอ้ซันมันห่วง”
“ทำไมพี่”
ผมเริ่มน้ำตาซึมแล้วครับ
“เหตุผลมันมีอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้วต้อม พี่มีผัวแล้ว จะให้ย้ำอีกกี่รอบว่าพี่มีผัวแล้ว เราเองก็รู้ดี รู้ดีกว่าใครเสียด้วยซ้ำ พี่ควรจะถามเรามากกว่าว่าทำไม”
“ผมอยากจะทำตามสัญญา ผมแค่รักพี่มันผิดด้วยเหรอ”
“ต้อม สัญญาน่ะดีนะพี่ก็เห็นด้วย แสดงว่าเราเป็นคนใช้ได้ทีเดียว คนที่รักษาสัญญาคือคนที่ดี แต่คนที่ทำตามสัญญาคือคนบ้า สมัยนี้ไม่มีใครเขาทำตามสัญญาหรอกนะต้อม โลกมันหมุนเร็วเกินไป เห็นแก่ตัวบ้างก็ได้พี่ไม่ว่า”
ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปดีครับ มันตื้อไปหมด ด้วยฤทธิ์ของยาด้วยอะไรหลายๆอย่าง เขาวางสายไปในที่สุด ผมนอนลงกับเตียงแหงนมองเพดาน ที่แห่งนี้คือที่ของเขา ที่แห่งนี้มันยังอบอวลไปด้วยมวลความรู้สึกต่างๆมากมาย ความรู้สึกของคนเรามันลบล้างง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าหากว่ามันง่ายทำไมผมยังคงคิดถึงแต่เขาอยู่ หันไปทางไหนในตอนนี้ผมก็คิดเห็นแต่หน้าของเขา คำพูดของเขา ทำไมวะ
“โอเคไหมมึง”
ไอ้ซันมันเดินเข้ามาครับ ผมไม่อยากจะเห็นหน้ามันแล้วในตอนนี้ ไม่รู้ดิ ผมไม่อยากจะคิดอะไร ใจมันสับสนไปหมดแล้ว มันไม่ผิด มันดีมากๆเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมผมถึงไม่อยากจะแม้แต่จะคุยกับมันนะในตอนนี้
“มึง มาเช็ดแผลก่อนเถอะ”
“เดี๋ยวกูทำเอง”
“เอ่อ มึงเป็นไรเปล่า”
“ไม่ มึงออกไปเถอะ กูอยากจะนอน”
ผมนอนตะแคงข้างให้มันครับ ไม่อยากเห็นน้ำตามันให้ตายซิ เดี๋ยมันก็ร้องไห้
“อย่าคิดมากเลยนะมึง เรื่องที่คุยกับพี่นาย แม้กูไม่รู้ว่ามึงคุยอะไรกัน แต่ถ้ามันเกี่ยวกับกู มึงอย่าได้คิดมากเลยนะ กูไม่ได้ขออะไรจากมึง ไม่เคยคิดจะขอ แค่วันนี้ให้กูเช็ดแผลให้เถอะนะ เดี๋ยวมันจะติดเชื้อ”
เห็นไหมครับ น้ำเสียงของมันนี่บาดใจดีเหลือเกิน โว้ย เชี่ยไรวะเนี่ย
“มึงอะไรของมึงวะไอ้ซัน เดี๋ยวกูทำเอง”
ผมหันไปตวาดใส่มันครับ แต่ก็ต้องลดเสียงลงทันที เพราะมันนั่งลงข้างๆเตียง สายตาของมันว่างเปล่าเหลือเกิน ว่างจนผมสะท้อนใจ
“เช็ดเสร็จ กูก็จะไป”
มันมองหน้าผมนะแต่ทำไมผมไม่เห็นประกายตาของมันเลย นัยน์ตาของมันแห้งผากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง
“เฮ้ย นี่มึงเป็นไรวะ”
“เป็นตัวประกอบไง เอาเถอะ อย่าคิดเรื่องของกูเลย กูโอเค”
เชี่ยเอ้ย ผมกัดฟันแน่นครับ เพิ่งเสียดใจเอามากๆก็ตอนนี้เอง
“ถ้ามึงตัวประกอบ กูเองก็ตัวประกอบเหมือนกันล่ะวะ ตัวประกอบที่ไม่มีบทพูดเลย”
มันหลุบสายตาลงแล้วหยิบสำลีขึ้นมาชุบน้ำยาแล้วค่อยๆเช็ดบนใบหน้าของผม สัมผัสที่แผ่วเบาเหลือเกินมันทำให้ใจของผมไหวติง ไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้ในใจมันคิดอะไรอยู่ เห็นหน้ามันแล้วก็อดที่จะสงสารไมได้ ไม่ใช่สิมันไม่ใช่สงสารน่าจะเรียกว่าสภาพของมันช่างเหมือนกับสภาพของผมเสียเหลือเกินนี่สิถึงจะถูก
“ซัน กูถามจริงๆนะ มึงรู้สึกยังไงวะตอนนี้น่ะ”
ผมพูดออกไปครับ มันเม้มปากเหมือนพยายามจะไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“ไม่รู้สิ มันว่างๆ โหวงๆ เหมือนตอนที่จะมาที่นี่ครั้งแรก”
“ทำไมวะ”
“ก็ความรู้สึกที่เหมือนว่ามีใครสักคน แต่เอาจริงๆก็ไม่มีใครเลยน่ะสิ ไม่มีเลยสักคน”
เอ่อ มันน้ำตาไหลลงมาแล้วครับ ผมสะอึกเลย
“ซัน”
ผมดึงตัวมันมากอด ไม่รู้สินะ ผมไม่ได้ทำเพราะสงสารมันหรอกนะครับ ผมทำไปเพราะสัญชาติญาณ ผมเห็นใจมัน ผมเข้าใจเลยคำๆนี้ มันตอกลึกเข้าไปในใจ
“กูขอโทษนะเว้ย”
“มึงไม่ผิดหรอก มึงไมได้ทำอะไร”
มันสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดผมครับ ผมเองก็สะท้อนใจไปไม่น้อยไปกว่ามัน
“มึงมีกูนี่ไง มึงอย่าคิดสิว่ามึงไม่มีใคร”
“อย่าพยายามเลยต้อม อย่าพยายามเลย อย่าฝืนใจตัวมึงเอง”
มันครางออกมาครับ
“กูไม่ได้ฝืนใจตัวเอง แต่มึงเข้าใจกูนะเว้ย ว่ากูเองก็ต้องใช้เวลา มึงให้เวลากูได้ไหม มึงรอกูได้ไหม”
ผมพูดออกไปแล้วครับ อย่างที่ใจมันคิด ช่างแม่งมันวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมมารู้สึกตอนนี้เองว่ากับมันเองผมก็รู้สึกดีๆกับมันเหมือนกันนะ ไม่ใช่อิฐใช่ปูนนะเว้ย คนดีๆที่เขาทำดีกับเราน่ะ ผมจะมองไม่เห็นบ้างเลยเหรอวะ ผมไม่ได้ตาบอดนะเว้ย อีกอย่างสิ่งที่มันบอกผมให้พูดแบบนี้ไม่ใช่สมองครับ มันคือหัวใจ สิ่งที่มันทำไม่ใช่แค่ร่างกายและความรู้สึกที่มันรับรู้ แต่มันคือหัวใจที่มันสัมผัสได้
“อ่า นี่มึง”
“ไม่ต้องพูดอะไร อยู่แบบนี้ล่ะสักพัก”
ผมกอดมันแล้วลูบตามหัวของมันไปพลางๆ ไม่รู้สิ ตอนนี้ไม่รู้สึกว่ารู้สึกตะขิดตะขวงใจในการกอดมัน แต่กอดมันเพราะอยากจะกอดมันจริงๆ จริงอยู่ว่าผมอาจจะรักเขาอยู่มาก แต่อย่างที่เขาบอกให้มาลองคิดทบทวนดีๆว่าแท้จริงแล้ว รัก น่ะมันใช่รักหรือเปล่า ที่ผ่านมาเขาเองก็ดีกับผมมาก ไม่มีใครในโลกนี้จะทำแบบนี้ให้กับผมอีกแล้ว อย่าเพิ่งถามเลยครับว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเองหยุดเดินก่อนสักพัก ลองหยุดแล้วหันมองรอบๆตัว บางทีคำว่า รัก ที่ผมอยากจะใช้กับเขา บางทีมันอาจจะเหมาะสมกว่ากับคนที่อยู่แค่ตรงนี้นี่เอง
“ทำไมวันนี้มึงพากูดราม่าจังวะไอ้ซัน เจ้าแม่ดราม่าเหรอมึงน่ะ”
พอกอดมันสักพักผมก็แหย่มันล่ะครับ ให้ตายซิผมไม่ชินเลยนะกับบรรยากาศอึมครึมมืดครึ้มแบบนี้น่ะ
“บ้า มึงนั่นล่ะเริ่ม”
“อ้าวนะ เว้ยมีแบบนี้ด้วย”
“อืม”
มันผละออกจากกอดของผมแล้วก้มหน้าลง
“อ้าวแล้วมึงจะไปไหน”
“ไปข้างล่าง”
“มึงเช็ดแผลให้กูเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม”
“เสร็จห่าไร ทาแป๊บๆ ยังไม่ได้ทายาเลยนะมึง”
“อ่า เออจริงสิ ต้องทายา”
“อ้าวไอ้นี่เอ๋อเว้ยเฮ้ย”
“ก็มึงอ่ะ”
“อ้าวกูอีกล่ะ เออๆ มาทาเร็วๆ กูง่วง”
มันก็หยิบหลอดยาที่เป็นเจลใสๆขึ้นมาล่ะครับ
“มึง”
“หือ ไรอ่ะ”
มันอายครับ ทำไมวะ ผมก็คุยปกตินะเนี่ย แค่ทำเสียงกระเส่าออกไปนิดหน่อยเองนะ
“ทำไมขี้แยจังวะ”
“บ้าเหรอ เขาเรียกการระบายออกเว้ย”
“อ่านะ มีแบบนี้ด้วย เออ ต้องกินยาด้วยนะ กูง่วง”
“เออๆ”
“พี่ต้อมๆ อยู่ไหนนะ”
อ้าว มาแล้วครับเทวดาตัวน้อยของผม
“อ๊ะ ทำไมพี่ซันอยู่บนเตียงนะ กอดกันเหรอ อิอิ”
“บ้าเหรอพี่ปริ๊น พี่ซันทายาให้พี่ต้อมไม่ได้กอด”
มันอายจนหน้าแดงเลยนะครับ ผมก็ลุกขึ้นครึ่งตัวผายมือให้เทวดาตัวน้อยของผมวิ่งเข้ามา กอดให้สมรักเสียหน่อย
“อ่า ทำไมหน้าแด๊งแดงนะ ไม่กอดหรือว่าจูจุ๊บ”
“นั่นแน่ ไปแอบรู้มาจากไหนพี่ปริ๊น จูจุ๊บอะไรน้า”
ผมล้อเลียนครับ เพราะคุณแม่ไม่ชอบให้พี่ปริ๊นหรือพี่เจคแก่แดด แต่เด็กฝรั่งนี่ไวเท่าๆเด็กบ้านเรานั่นล่ะครับ เดี๋ยวสักแปดเก้าขวบมันก็มีแฟนแล้วคอยดูเถอะ
“อิอิ ก็พอรู้นะ พี่ต้อมหายหน้าบวมยังอ่า”
“ยังเลยคร้าบ เนี่ยรอให้พี่ปริ๊นมาเป่าให้อยู่
“อ้อ เป่าแล้วหายเหรอ”
ทำหน้างงๆ ปากก็เหมือนเคี้ยวอะไรอยู่นะ
“จริงดิ เนี่ยลองมาเป่าให้พี่ต้อมดิ ไม่เชื่อพรุ่งนี้หายเลย”
“อ่า ได้นะ”
ว่าแล้วก็ปีนขึ้นเตียงมาล่ะครับ ผมก็กอดตัวของพี่ปริ๊นไว้ ตอนนั้นที่ผมบอกว่ารู้สึกแปลกๆที่เห็นพี่ปริ๊นร้องไห้ให้กับผม ที่แปลกเพราะใจมันหวิวๆไงครับ แปลกที่ผมคงไม่ได้คิดไปเองว่านี่คือคนในครอบครัวของผม แม้ผมจะเป็นแค่คนที่มาพึ่งบุญบารมีของเขา แต่สิ่งที่ทุกคนทำกับผมคือผมรู้สึกว่าผมเป็นคนๆหนึ่งในครอบครัวนี้ ความรู้สึกที่แปลกคือผมตื้นตันใจ และไม่อยากเลยที่จะเห็นใครคนไหนต้องห่างไป
“เป่ายังไงนะ”
พี่ปริ๊นมองหน้าผมครับแล้วเอามือน้อยๆมาแตะ
“ฟู่ๆ”
“ว๊ะ อิอิ ปริ๊นกินเวเฟอร์อยู่อ่ะ อิอิ”
เอ่อ นะครับ จะหายไหมเนี่ยกูลืมไปเลยว่าพี่ปริ๊นกำลังเคี้ยวอะไรอยู่ เต็มหน้าสิครับท่าน ทั้งไอ้ซันทั้งพี่ปริ๊นหัวเราะ ผมเอามือลูบๆหน้าตัวเองเบาๆก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เฮ้อนะ ชีวิตถ้ามันไม่มีมุมมืดบ้าง เราก็จะไม่เห็นค่าของด้านสว่าง คงจะใช้ชีวิตแบบล่องลอยไร้ค่าไปวันๆสินะครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนรู้ด้านมืด แม้จะรู้ว่ามันหนาวเหน็บเยือกเย็นสักเพียงไหน แต่อย่างน้อยผมก็พอเห็นแสงที่จะชี้นำทาง เอาวะ ลองสักตั้งจะเป็นไรไป

Written by eiky


Ps. ช้าหน่อยน้า อิอิ อยู่ในช่วงปรับตัว ไม่รู้ปรับตัวอะไร แต่เล้าใหม่สวยดีเนอะ ชอบๆ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
จุ๊บๆๆๆ :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ SataRu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

nok_aree

  • บุคคลทั่วไป
สงสารซันเน่ แต่ก็นะ  :เฮ้อ:
พี่ปริ้นน่ารักตลอดตลอดดดด

ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ค่ะ จะรอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อ่านตอนแรกเค้าสงสารซันนี่อ่ะ
คำพูดเสียดแทงใจมากอ่ะ

ออฟไลน์ CminLmin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เฮ้อ..... ซันเน่เหมือนจะดราม่าอีกรอบ  :sad4:
ต้อมน่ะต้อม เลือกสักทางสิย่ะ พ่อหล่อเลือกได้  :angry2:
สุดท้ายพี่ปริ๊นซ์..... ออกมาตบมุขใช่ไหมลูก กร๊ากกกก  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด