Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44  (อ่าน 249684 ครั้ง)

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อืม..อยากรู้จักซันนี่บ้าง คุณอิ๊กพาไปรู้จักมั่งซิจ๊ะ
ต้อมอ่ะปล่อยมันปรับตัวปรับอารมณ์ปรับฮอร์โมนไปก่อนเหอะ

Chinnosuke

  • บุคคลทั่วไป
555 ไม่ชินกะความคิดแบบแมนๆอะดีพี่อิ๊ก
ไม่เป็นไรคร้าบบ เค้ารอแบบแซ่บๆอย่างที่พี่ถนัดอยู่น้าาา
รักนะจุ๊บๆๆ :กอด1: :กอด1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
หรือจะเอาสลับไปมา ทั้งสองคน

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
อ่านตอนต้นๆ ก็เครียดอยู่ พอคุณนายออกเท่านั้นแหละ ฮาปรี๊ดดดเลย

แล้วที่จะเปลี่ยนให้พี่ชายต้อมเล่าแทน..พี่ชายมันนี่ใครหว่า
อย่าบอกนะว่าเป็นพี่อิ๊กกี้น่ะ อ้าวไม่ได้เป็นลุงเหรอ!! หา~~~  :o

ป๊าดติโท่ หนูน้าใจร้ายน้า เฮียยังเอ๊าะๆอยุ่นะเนี่ย 555

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
คุณแม่ผู้รู้ทุกอย่าง  o13

ZuuZuu

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับหลายๆความเห็นนะคะพี่อิ๊ค
เขียนให้มีหลายๆความรู้สึกจากหลายๆคนก็ดีอ่าค่ะ
อ่านเพลินดี 555

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ซันนี่เกลียดต้อมเพราะไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองหรือเปล่านะ :laugh:
แบบ หลงรักแต่ไม่ยอมรับ ฮ้า~

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

เข้ามาติดตามด้วยคนคะ  :mc4:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
+1 ค่ะ
ก็ดีค่ะ
อยากได้กลิ่นไอแบบภาคพี่นายพล
ดูมีสันสันดี

ออฟไลน์ Pandoraheart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตาต้อมอารมณ์ร้ายอ่ะ!!

พี่ปริ๊น ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย!!! จู๊บบบบ!! >3<

ปล ซัีน หนูต้องการอะไรลูก??

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
สลับก็ดีค่ะจะได้รู้ความรู้สึกหลายๆด้าน
แต่ตอนนี้อยากรู้ความรู้สึกซันมากๆเลยค๊า

ออฟไลน์ cy55555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
เรื่องค่อยๆ มันส์ขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
และพอคุณนายออกโรงมาที ก็ฮาที ยังแรงดีไม่มีตกนิ

ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
เห็นด้วยกับพี่แก้วนะคะ พาซันนี่มาคุยกันบ้างนะคะ
จะได้รู้ว่าที่ด่าต้อมไปเพราะหึงต้อมที่ไปใกล้ชิดมิเชลรึเปล่า

ขอชมนะคะว่าอ่านมาสี่ตอนยังไม่เจอคำที่สะกดผิดเลย
 :จุ๊บๆ: +1 ค่ะ

miniz

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงคุณนายย  :laugh:

มารอต่อนะค้า น้อง้ตอมใจเย็นๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
คุณแม่น่ารักมาก ชอบคุณแม่อ่ะ  o13

คุณอิ๊กลองเขียนแบบที่อยากเขียนดูค่ะ
ถ้ามันไม่เวิร์คจริงๆ เดี๋ยวมาบอกว่ามันไม่เวิร์คนะ ^^

+ และ :กอด1:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ต้อมเอิ้ยอย่าโหดเหมือนเจ้เลยนะ  สงสารซันนี้มั่ง
พี่อิ๊กหวัดดีคับ

ออฟไลน์ Natavishi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
:laugh: :laugh:
                รอ ไป  ก่อน  น่ะ   ซันนี่   เดียว อะไร ๆ  ก็ จะ ดี เอง  ^^

ออฟไลน์ different

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1

Mileson

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วรู้สึกสงสารซันนี่..ต้องมีปมอะไรเกี่ยวกับชีวิตแน่..

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
ปวดเฮดกับต้อม
ขี้ตู่เกิ๊นน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ memmory_far

  • ลมที่คอยโบกโบยแต่ไม่เห็นไม่เจอ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กระทู้เป็นไรเนี่ยย??

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
  ในที่สุดพี่อิ๊กกี๊ก็มา  ตามมาอ่านต้อมแล้วนะคร๊า 
  อ่านแล้วรู้สึกว่าต้อมอารมณ์ร้ายมาก  เจอใครเป็นมีเรื่องกับเขาหมด 
  ว่าแตทำไมซันนี่ต้องด่าต้อมด้วยอ่ะ  มันแปลกๆนะเนี่ย
  รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จริงๆ ซันนี่เป็นไรกับต้อมมากเปล่าเนี่ย เจอทีไรหาเรื่องเจ็บตัวตลอด :เฮ้อ:

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ซันนี่ น่าหมั้นใส้มากกกกกกกกกกกกกกกก

ต้อมดูเครียด ดูพยายามโตเกินวัยไปหน่อย

อารมณ์จึงต่างจากเดิมมากกก

อิอิ

ปลคิดถึงคุณนายน้ะเนี้ยยย

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Scene 5

กลางเดือนกันยายนอากาศชื้นท้องฟ้าเบื้องบนขมุกขมัว ฝนสามารถโปรยปรายลงมาได้ทุกเมื่อ อุณหภูมิที่ไม่สูงมากทำให้ทุกคนสวมเสื้อผ้าหนาๆออกจากบ้าน อากาศภายในรถถูกปรับให้มีอุณภูมิที่อบอุ่นขึ้นด้วยฮีตเตอร์ เสียงเพลงบลูเบาๆคลอเคลียไประหว่างทาง รถมัสแตงสีแดงเลือดนกขับโฉบเฉี่ยวไม่เร็วมากนักเพราะถนนมันลื่น ส่วนรถอีกคันเป็นรถฟอร์ดกึ่งแวน อากาศภายในรถไม่แตกต่างกันแต่อุณหภูมิของคนขับมีดีกรีเพิ่มสูงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มเมื่อครู่ เขาดูร่าเริงจนผิดสังเกต รอยยิ้มที่พิมพ์ตาติดใจมันยังตรึงอยู่ ทำไมซันนี่ถึงไม่ชอบหน้าเขานะ คนอย่างต้อมใครเจอก็ต้องชอบเพราะด้วยรุปร่างหน้าตาและรอยยิ้มแล้ว ใครๆก็คงอยากจะรู้จัก มิเชลเปิดเพลงป๊อบฟังเพิ่มจังหวะขึ้นเมื่อคิดเลยไปไกลแสนไกล
“ท่าจะบ้า”
เธอเอ่ยขึ้นกับตัวเองแล้วเลือดก็สูบฉีดอัดขึ้นกระจายทั่วทั้งพวงแก้ม
“เราชนะ”
ต้อมลงจากรถแล้วควงกุญแจรถในมืออย่างอารมณ์ดี
“ก็นายขับเร็วนี่ ถนนลื่นจะตาย”
“ไม่รู้ล่ะ วันนี้เลี้ยงข้าวเราด้วยนะมิเชล ฮ่าๆ”
ต้อมพุดอย่าอารมณ์ดีแล้วเดินนำหน้า แต่หยุดกึกลงแล้วเดินกลับมาที่รถของฝ่ายหญิง
“หือ มีอะไร”
“ของเยอะนี่ มาเราช่วย”
“อ๊ะ มะ”
“เราเป็นสุภาพบุรุษนะครับ คุณสุภาพสตรี แต่คงไม่เป็นไรนะ ที่สุภาพสตรีจะเลี้ยงข้าวสุภาพบุรุษน่ะ”
ต้อมเปิดประตูท้ายรถแล้วหอบเอาหนังสือของมิเชลไปเต็มอก
“เล่มนั้นไม่เอา ไม่มีเรียน”
“เอาน่า หอบไปเยอะๆ เขาจะได้มองว่าเราสองคนเป็นเด็กเรียนไง”
“แล้วขากลับนายต้องหอบมาส่งเรานะ”
“ต้องขึ้นอยู่กับว่าเธอเลี้ยงข้าวอะไรเรานะ อิอิ”
“ทอมมี่”
ได้แต่ทำท่า แต่ก็ยิ้มออกมาหน้าแดง ต้อมยักคิ้วให้แล้วเดินนำหน้าไป ไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน เขามีเสน่ห์นะ แต่ไม่ได้หรอกเขาเป็นเกย์ ไม่มีทาง มิเชลบอกกับตัวเอง
“ไงแว่น รายงานแคลฯทำยัง ลอกหน่อยดิ”
พอเจอหน้าเบนจามินต้อมก็เอ่ยทักก่อน ทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไร รายที่ถุกทักหันมามองแล้วทำหน้างงๆ
“เอ่อ อ่า”
“ไหน เอามาลอกหน่อย”
“ใครเขาลอกรายงานกัน นายไม่ทำเองล่ะ”
“ทำแล้ว แต่อยากลอกนะ มีปัญหาเหรอ”
“อ่า”
ตอนแรกเบนจามินจะเดินหนี เพราะบางอย่างที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก โปรเตสแตนท์อย่างเขาเคร่งกับเรื่องแบบนี้
“มิเชล”
ซันร้องทักมิเชลที่กำลังเดินตามต้อมมา ทำท่าเป็นมองไม่เห็นคนที่เดินนำหน้า สายตาแวบหนึ่งที่มองเขามองด้วยความเคืองใจ
“อ้าวซันนี่ กินข้าวหรือยัง เรามีข้าวเหนียวกับหมูทอดนะ ลองกินไหม อร่อยมาก”
“หือ”
“แม่ครัวที่ร้านเขาทำให้น่ะ แต่เรากินข้าวต้มไปแล้ว เขาเลยห่อให้”
“เธอกินเป็นด้วยเหรอ”
“อ้าวซันนี่ อย่าลืมสิว่าเราก็เป็นคนไทยเหมือนกันนะ”
ต้อมยังคงคุยกับเบนจามินอยู่ ชวนคุยไปเรื่อยแม้อีกฝ่ายจะกระอักกระอ่วนในใจ แต่ดูท่าว่าเขาจะไม่ได้สนใจเท่าใดนัก สายตาของซันคอยเหลือบมองต้อมอยู่ ท่าทีของเขาไม่ได้สนใจมองเลยแม้แต่น้อย
“เข้าคลาสกันเถอะ”
มิเชลชวนแล้วเดินไปที่กองหนังสือ”
“อ้าวทอมมี่ ทำไมถือไปเล่มเดียวอ่ะ ไม่หอบให้เราล่ะ”
“ขี้เกียจแล้ว แว่น ช่วยคนสวยหน่อยดิ”
“อ่ะ ทำไมเรา”
“นายเป็นสุภาพบุรุษหรือเปล่าล่ะ เรามีแฟนเป็นเกย์นะอย่าลืม ไม่สุภาพบุรุษเต็มร้อยเหมือนนายนะ ต้องให้บอกด้วยเหรอวะ ฮ่าๆๆ”
คนฟังสะอึกพูดไม่ออก แม้เขาจะหัวเราะแต่มันร้าวลึกลงในใจ เบนจามินทำท่าจะเดินมาหอบหนังสือให้ แต่ช้าไปแล้ว
“ท่าทางนายไม่ค่อยแข็งแรงว่ะ เดี๋ยวล้ม เราเอง กินบ้างนะอาหารที่เป็นประโยชน์น่ะ อย่ามัวอ่านแต่หนังสือ”
ต้อมหอบหนังสือขึ้นอกไปแล้วเดินนำหน้าไม่ได้สนใจมอง เขาเองก็เคืองใจที่มีคนมองคนที่รักเพศเดียวกันเป็นเพศอื่นในสายตา เป็นส่วนเกินในสังคม ปากบอกว่าไม่มีอะไรแต่ในใจมันยังขัดเคืองอยู่ ไม่ผิดที่คนอื่นจะคิดเช่นนั้น ไม่ผิดที่เขาเองจะปกป้องในสิ่งที่เขาเป็น รับมันได้ไหมล่ะในสิ่งที่เขาเอ่ย ถ้ารับไม่ได้ย้อนกลับไปในวันที่แสดงทีท่าแบบนั้นกับเขา เข้าใจคนอื่นบ้างอย่างน้อยให้ได้สักครึ่งของที่เข้าใจตัวเองก็ยังดี
“มีอะไรเหรอทอมมี่”
“ที่นี่มีชมรมฯบอลด้วยเหรอ”
ระว่างโถงทางเดินเข้าคลาสต้อมหยุดอ่านประกาศของทางมหาฯลัยและทางชมรมต่างๆ
“มีสิ แต่ไม่ค่อยดังหรอกนะ ที่นี่เขาดังเรื่องเรียน”
“เราสนใจ”
“หือ ทอมมี่เล่นเป็นเหรอ”
“โหยมิเชล เราเป็นเด็กทุนนักกีฬานะ ฟุตบอลนี่ล่ะ”
“หาตายจริงเราไม่ยักรู้ ลองดูสิทอมมี่”
“นายเล่นบอลด้วยเหรอทอมมี่”
เบนจามินเดินตามมาเอ่ยขึ้น
“ใช่ นายอยากเล่นไหม ไปสมัครเข้าชมรมกับเราเอาไหม”
“เราเล่นไม่เป็น”
“ไม่เห็นยาก เราสอน ง่ายนิดเดียว หนุกนะเว้ย”
ทำท่าชวนไปอย่างนั้นเองแล้วเดินต่อไป ซันเดินตามมาไม่มีเสียงพูด ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ
“มิเชล เลิกเรียนแล้วไปไหน”
ต้อมเอ่ยขึ้นหลังจากจบคลาส การเรียนไม่ได้กระเตื้อง แต่โชคดีของต้อมที่มีมิเชลเพราะขอลอกเล็กเชอร์ของเธอได้เธอยินดีช่วย
“เราว่าจะกลับไปเอาของที่หอน่ะ ทอมมี่จะไปไหนไหม”
“เราจะไปชมรมบอล”
“เอาจริงเหรอ”
“เอาจริงดิ งั้นเสร็จแล้วเราโทรฯหา ไม่ต้องเอารถเธอไปนะ เปลืองน้ำมัน”
ต้อมบอกแล้วเดินไปหาเบนจามิน
“ว่าไงแว่น ตกลงไปไหม”
“เอ่อ ไม่เอาดีกว่า”
“โอเค งั้นเจอกัน บาย”
ต้อมเดินออกไปอย่างรีบเร่งตรงไปยังห้องขอชมรมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย
“ยังว่างอยู่ไหมครับ ผมอยากจะสมัคร”
พอเดินเข้าไปในชมรมมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วสามคนฝรั่งหัวแดงสองคนอีกคนเป็นคนผิวดำ ทั้งสามคนหันมามอง
“เอ้อ นายอยากเข้าขมรมเราเหรอ”
“นายเล่นเป็นไหม”
คำถามยิงมาทันที
“ผมเคยเป็นนักกีฬาโรงเรียน ได้แชมป์หลายปีซ้อน”
“ว้าว ดีจัง ชมรมเราไม่ค่อยมีคนอยากเข้า นายมากรอกใบสมัครตรงนี้ก่อน”
ท่าทางของสามคนดูยินดี เวลายืนขึ้นแล้วทั้งสามดูตัวเล็กบางกว่าต้อมมาก เว้นแต่คนผิวดำที่ตัวค่อนข้างไล่เลี่ยกัน
“เริ่มเล่นวันนี้เลยได้ไหม”
“อ่ะ ได้ๆ เรามีชุดให้”
“ผมต้อมนะ”
“ทอม ยินดีที่รู้จัก นี่คริสโตเฟอร์ แบรด แล้วก็ผมชื่อจอห์นนี่”
ชายผิวดำแนะนำ ทั้งสี่คนคุยกันอยู่สักพักก็เอากุญแจล็อกเกอร์ให้ต้อมเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า
“แต่รองเท้านายต้องหามาเองนะ”
“ไม่เป็นไร ผมใส่ผ้าใบเตะไปก่อน อยากเตะจะแย่อยู่แล้ว”
“แล้วเราจะเล่นกันสี่คนนี่หรือ”
แบรดถามขึ้น
“เดี๋ยวจะโทรฯตามสมาชิกในชมรมมา พวกนายไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป”
อีกคนเอ่ยขึ้นแล้วนั่งลงเปิดแฟ้ม ต้อมเดินตามจอห์นนี่ไปยังสนามข้างๆมหาฯลัย มีนักศึกษานั่งอยู่ตามสนามประปราย ด้วยความที่ชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ พอเห็นสนามต้อมก็ขอลูกบอลจากคริสโตเฟอร์วิ่งลงสนามไปคนแรก นักศึกษาที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองแล้วก็หันกลับไม่สนใจ แต่เวลาต้อมอยู่ในสนามเขาดูเป็นคนละคน ท่าท่างทะมัดทะแมงลีการการเลี้ยงหลบลูกไม่มีใครเกิน ทั้งสามเล่นไปสักพักเพื่อนๆในชมรมก็มาสมทบ แต่หามาได้เพิ่มแค่หกคน แบ่งเป็นทีมละห้า พอเริ่มเล่นก็เริ่มมีคนสนใจมอง และมีสายตาอีกคู่หนึ่งที่มองดูอยู่ตั้งแต่ต้น สายตาที่อ่านไม่ออกว่ามันอิจฉา ยินดี หรือว่าปลื้มใจ
“เฮ้ย ได้ออกกำลังบ้างมันก็รู้สึกดีแบบนี้นี่เอง”
พอเล่นเสร็จก็นอนแผ่ลงข้างๆสนามหญ้าเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงลมที่สูดเข้าปอด
“น้ำหน่อยไหม”
ต้อมผงกหัวขึ้น ลืมตามองตามเสียง
“ให้เราเหรอ”
“ใช่ ให้เธอนั่นล่ะ นายดูมีเสน่ห์มากนะในสนาม ดูเหมือนมีความสุขมากๆที่ได้เล่นฟุตบอล”
สาวผมบลอนด์หยิกเป็นลอน ร่างสูงโปร่งยิ้มหวานให้ ในมือถือขวดน้ำยื่นให้ ต้อมรับมาแบบงงๆ
“ขอบใจนะ”
“เราชื่อลิซ่านะ เป็นนักข่าวของมหาวิทยาลัย ยินดีที่ได้รู้จัก นายอยู่ปีหนึ่งใช่ไหม”
เธอแนะนำตัวใบหน้ายังยิ้มพราว ต้อมลุกขึ้นนั่งครึ่งตัวชันเข่าข้างเดียว
“เราชื่อต้อม เพิ่งเข้า ยินดีเช่นกัน”
“ทอมเหรอ นายดูแข็งแรงดีนะ ไปนั่งร้านกาแฟตรงนั้นไหม”
เธอเปิดฉาก สายตามองลงตรงขากางเกงฟุตบอลที่มันร่นลงไปถึงต้นขา มัดกล้ามที่แข็งแรงทำให้ใจเธอเต้นแรง
“ไม่ดีกว่า เรานัดเพื่อนเอาไว้ ขอบใจนะ เฮ้ จอห์นนี่ เราจะกลับแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
ต้อมลุกขึ้นยืน ไม่ได้สังเกตสายตาของหญิงสาว
“ไปแล้วเหรอทอม โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกัน เราสนุกมากวันนี้ ขอบใจนะ นายเยี่ยมไปเลย”
ต้อมยิ้มให้เพื่อนๆแล้วเดินไปกลับไปที่ชมรม
“เดี๋ยวสิทอม ไม่ไปด้วยจริงๆเหรอ เราอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้น่ะ”
หญิงสาวรั้งแขนของต้อมเอาไว้ เอาตัวเข้าประชิดทันที
“เอ่อ เรายังต้องเรียนอยู่ที่นี่อีกหลายปีนะ ถ้าจะรู้จักกัน วันหลังก็ได้”
ต้อมยิ้มให้เธอ ไม่ได้ถือตัวที่หญิงสาวเอาส่วนอกเบียดเข้ากับต้นแขน
“เสียดายจัง”
“บายนะลิซ่า”
วิธีบอกลาของต้อมคือการมองไปที่ต้นแขนของตัวเองแล้วยิ้ม เธอยอมปล่อยการเกาะกุมอย่างเสียไม่ได้
“เสร็จหรือยังมิเชล เราเล่นบอลเสร็จแล้วนะ”
ต้อมกดโทรศัพท์ไปหามิเชล หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
“ยังเลยอ่ะทอมมี่ พอดีเจอเพื่อน เดี๋ยวเราเสร็จแล้วเราโทรฯหานะ ทอมมี่ไปนั่งร้านเดิมก่อนได้ไหม”
“โอเคๆ อย่านานนักนะ เราหิวแล้ว”
“โอเค เดี๋ยวรีบไป”
พอวางสายจากมิเชลต้อมก็เดินไปที่รถ ขับรถออกไปรอมิเชลที่ร้านไอติม ระหว่างทางสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นกลุ่มคนสี่คนยืนล้อมวงใครสักคนอยู่ เป็นเรื่องปกติของคนที่นี่ ที่พวกนักเลงจะคอยดักเด็กนักศึกษาเพื่อรีดไถเงิน คุณยุพินกับคนในครอบครัวได้เตือนต้อมไว้แล้ว ว่าอย่าเดินคนเดียว หรืออย่าไปในที่เปลี่ยว บ้านเมืองมันอันตราย แต่เอ๊ะ ทำไมคนที่โดนล้อมมันหน้าคุ้นๆวะ
“เฮ้ย”
ต้อมร้องออกมาแล้วหาที่จอดรถในทันที พอจอดรถนิ่งแล้วก็หันกลับไปมองเพื่อความมั่นใจ เพราะคนที่กำลังโดนล้อมแล้วโดนต่อยเข้าที่ท้องมันคือคนที่เขาเกลียดนั่นเอง
“สม เก่งดีนัก โดนซะบางนะมึง”
เขาพูดออกมาแล้วหันกลับ แต่พอจะออกรถก็นิ่งคิดอยู่
“มีเท่าไหร่มึงเอามาให้หมด”
“ไม่มี กูไม่มีเงิน”
“ไม่ต้องมายึกยัก ไหนมันมีอะไรพอจะขายได้ไหม”
เสียงตะโกนด่าเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มบางตา ร้านรวงใกล้เคียงก็ไม่มีใครสนใจ เพราะมันเป็นซอกตึก คนที่ขับรถผ่านไปมาก็คงไมมีใครจะสอดส่ายสายตาเข้ามามอง ไม่ใช่เรื่องของเขา
“เฮ้ย นี่ตำรวจ”
ต้อมเอาโทรศัพท์มาเลื่อนอยู่ไม่นานก็เปิดเสียงเรียกเข้าที่เขามีให้ดังก้อง เสียงของไซเรน คนทั้งกลุ่มผงะแล้วหันมองหา ไม่มีใคร
“ใครวะ”
“ไม่อยากโดนจับรีบหนีไป”
ต้อมตะเบ็งเสียงให้ใหญ่และเข้มขึ้น เขาลงจากรถหลบอยู่มุมตึก ในมือถือไม้เบสบอลของเจคที่อยู่ท้ายรถของต้อม
“มึงเป็นใคร”
“ให้หนีดีๆไม่ยอมไปใช่ไหม”
รู้สึกรำคาญที่จะแกล้งทำเป็นตำรวจ คนพวกนี้ไม่ได้อยากแค่จะรีดไถธรรมดาเพราะหลอกล่อแค่นี้พวกมันไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ต้อมเดินออกไปยืนจังก้าอยู่
“มึงอยากโดนเหรอ ไอ้เหลือง”
“ใครจะโดน”
สิ้นเสียงคนตัวใหญ่ผิวสีก็ปรี่เข้าหา ต้อมง้างไม้เบสบอลไว้รอ หวดเข้าไปเต็มแรงที่บ่าด้านขวา ร่างนั้นฟุบลงร้องโอดครวญ อีกคนวิ่งเข้ามา อีกคนก็อ้อมไปด้านหลัง ชุลมุนกันอยู่สักพัก ต้อมโดนต่อยเข้าที่แก้มขวา เตะที่กลางหลัง แต่ทั้งสามคนโดนไปเยอะกว่าต้อมหลายเท่านัก
“มึงจำไว้ กูจะมาเอาคืน”
เสียงหนึ่งร้องขู่ขึ้นก่อนจะพยุงกันหนีไป
“โอย เชี่ยเอ้ย”
ต้อมสบถออกมาแล้วทิ้งไม้เบสบอลลงเดินไปหาซันที่นอนกลิ้งอยู่ หน้าตาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลซึมออกมาจากรอยแตกของใบหน้าและริมฝีปาก
“โอเคไหมมึง”
เขาถามออกไปแล้วนั่งยองๆลงข้างๆ แต่ซันสะบัดหน้าหนี
“ฮึ ตามใจ รู้งี้กูไม่น่ามาช่วยเลยนะ”
ต้อมส่ายหน้าแล้วทำท่าจะลุกขึ้น
“ขะ ขอบใจ”
ยอมพูดออกมาเม้มปากแน่น
“หอมึงอยู่ไหนเดี๋ยวกูไปส่ง จะไปโรงบาลก่อนไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปเอง”
“ฮึฮึ ตามใจ พวกมันวกกลับมาไม่มีใครช่วยมึงแล้วนะ”
ต้อมทำท่าเดินกลับไปที่รถ
“อยู่อัลบานี่”
คนฟังแสยะยิ้มออกมา นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน
“มาขึ้นรถดิ”
หันกลับไปออกคำสั่ง ร่างนั้นพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้น แต่
“โอ๊ย”
ทรุดร่างลงไปอีกครั้งพร้อมกับเอามือกุมไว้ที่ท้อง
“ไหวไหม มากูพยุง”
ต้อมปรี่เข้าไปช้อนแขนขวา ยกมันข้ามหัวแล้วค่อยๆดึงร่างของซันขึ้น ตอนแรกเขาเหมือนจะขัดขืนแต่ก็สู้แรงของคนที่ตัวใหญ่กว่าไม่ได้
“ไปเดินยังไงวะ ไม่ยอมดู มึงไม่รู้เหรอว่าไอ้พวกนี้มันคอยดักอยู่แถวนี้”
“ไม่ทันได้มอง”
“มัวแต่มองหาอะไรอยู่วะ เดี๋ยวตายไม่รู้ตัวหรอก”
“แล้วมึงมาช่วยกูทำไม กูไม่ได้ขอร้องนะ”
ต้อมบีบท่อนแขนแน่นหันไปจ้องหน้าคนที่เตี้ยกว่า จ้องหน้าแต่ยังไม่พูดอะไรออกมา สายตาที่มองส่อแววตำหนิอย่างชัดเจน
“เอาเป็นว่ากูเสือกเอง เห็นแก่ที่เป็นคนไทยด้วยกัน มึงจะเกลียดกูก็ตามใจ แต่นี่ไม่ใช่บุญคุณ จบตรงนี้”
เสียงที่นิ่งแข็งกร้าวทำให้อีกฝ่ายถึงกลับสะอึก ต้อมหันหน้ากลับแล้วลากร่างของซันไปที่รถ
“โอ๊ย เบาๆหน่อยสิ”
“ทำให้มึงเจ็บไง จะได้รู้ คนเก่งๆน่ะ มันก็เจ็บเป็นเหมือนคนธรรมดานะ มึงไม่รู้เหรอ”
“มึงจะว่ากูอีกนานไหม”
“กูก็ไม่ได้อยากจะคุยกับมึงหรอกนะ”
ต้อมปิดประตูรถเสียงดังแล้วดันร่างของซันเข้าไปในรถ
“โอ๊ย”
ซันครางตลอดทั้งทางเพราะแผลที่เลือดไหลไม่ยอมหยุดมันเริ่มตึงและร้าวมากกว่าเดิม แผลสดใหม่มันจะชาจนแทบบอกไม่ได้ว่ามันเจ็บสักแค่ไหน แต่พอผ่านไปสักพักความร้าวระบมของบาดแผลมันยิ่งสะท้อนให้เจ้าของร่างต้องกอดตัวเองอย่างทรมานจะเม้มปากกดเสียงคราวไว้ก็ไม่ได้เพราะปากก็เจ่อนองไปด้วยเลือด
“ไปหาหมอไหม”
“มะ ไม่ ไม่เป็นไร ไหว”
เขาส่ายหน้า ต้อมได้แต่มอง
“มิเชลเหรอ วันโดนทำร้าย”
ต้อมกดโทรศัพท์ไปหามิเชลหลังจากที่จอดรถใกล้หอพักของซัน เสียงของทางฝ่ายโน้นร้องเสียงหลัง คุยกับต้อมอยู่สักพักก็วางสายไป ต้อมหันมามองร่างของคนที่ชังน้ำหน้ากันที่ตอนนี้นอนนิ่งหลับตา
“ตายหรือเปล่าวะ”
ต้อมชะโงกหน้ามามอง แต่เห็นหน้าอกยังกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ค่อยโล่งใจ
“ถึงแล้ว เฮ้ยมึง ตื่น”
“อือ”
ท่าทางคงจะเจ็บอยู่ไม่น้อย เพราะแรงที่จะลืมตาหรืออ้าปากพูดยังไม่ได้
“ห้องไหน”
“อือ”
“อือ ห่าไรล่ะ มึงอยู่ห้องไหน”
ได้แต่ส่ายหัวไปมา เหมือนคนเพ้อเพราะพิษไข้
“เฮ้พี่ เพื่อนผมคนนี้อยู่ห้องไหนนะ เขาโดนทำร้าย”
ต้อมเองเดินลงจากรถไปแล้วถามคนเฝ้าตรงทางเข้า พอเขาชะโงกหน้ามาดูร่างที่ต้อมพยุงอยู่ก็บอกออกมา
“๓๔”
แค่นั้นแล้วชายร่างเล็กชระภาพนั้นก็หันกลับไปที่จอมอร์นิเตอร์ต่อ ไม่ได้สนใจ
“กูก็โดนทำไมกูไม่เป็นเหมือนมึงวะ”
ต้อมบ่นออกมาแล้วพยุงร่างนั้นขึ้นลิฟท์ไป ซันเองได้ยินทุกคำพูด เพียงแต่ไร้เรี่ยวแรงที่จะเอ่ยออกมา ในใจมันเต้นรุนแรง กลิ่นสบู่อ่อนๆของต้อมทำให้เขารู้สึกประหลาด ทั้งเจ็บปวดในตัว ทั้งร้อนรนในใจ
“ตายแล้ว ซันนี่ ทำไมไม่ไปหาหมอ”
มิเชลเองก็อยู่หอข้างๆ เธอมายืนรอหน้าห้องแล้ว พอเห็นก็ร้องออกมาปรี่เข้ามาช่วยต้อมพยุง
“บอกกันเองนะ เราบอกแล้ว”
“ไหวไหม ท่าทางจะเจ็บมาก ซันนี่ โอเคไหม ไปแจ้งความกัน”
ได้แต่ส่ายหน้า มิเชลเองก็หันมามองต้อม
“ต้อมเองก็เจ็บนี่ เกิดอะไรขึ้น”
ต้อมเล่าเรื่องเท่าที่ตนรับรู้ให้ฟัง มิลก็พยักหน้า
“เราว่าพาซันนี่ไปหาหมอเถอะทอมมี่ ท่าทางไม่น้อยนะ เดี๋ยวมันจะอันตราย”
ต้อมยักไหล่
“เราโอเค”
ยอมพูดออกมาจนได้
“ไม่ได้นะซันนี่ มันอันตราย ไปให้หมอเขาทำแผลดีกว่า ไปเถอะทอมมี่ นายจะได้ให้หมอทำแผลให้ด้วย”
มิเชลไม่ฟังเสียงคัดค้านของซัน เอพยักหน้าให้ต้อมพยุงร่างของซันกลับลงไป
“ขอโทษนะครับคุณแม่”
ต้อมโทรศัพท์ไปบอกคุณยุพินว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นธรรมดาของคุณยุพินที่จะร้อนใจ
“ดีแล้วลูกต้อมที่ช่วยเหลือเพื่อน ไม่ต้องห่วง คราวนี้แม่เห็นชอบด้วย รออยู่ที่โรงพยาบาลนั่นล่ะ เดี๋ยวแม่ให้น้าแซมไปหา”
พอวางสายจากคุณยุพินเสร็จก็กลับเข้าห้องไปให้หมอเขาทำแผลให้ ส่วนซันนอนอยู่บนเตียง
“เราต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้ทางตำรวจนะ ขอบใจมากทอม สามคนนี้มีคดีอยู่ ทางน้ากำลังตามตัว ช่วงนี้ระวังตัวหน่อยนะ เดี๋ยวน้าจะให้สายตรวจออกมาคอยดูที่มหาฯลัย”
แซมยืนอยู่ข้างๆต้อม ในมือก็ถือสมุดจดอยู่ ตำรวจอีกคนก็เข้าไปดูอาการของซัน อาการไม่น่าเป็นห่วงมากเพียงแต่ฟกช้ำและกระดูกซี่โครงขวาร้าวไปแค่นั้นเอง ต้องนอนโรงพยาบาล
“เอาไงดีคืนนี้ทอมมี่ เราไม่อยากทิ้งซันไปเลย”
“ไม่เป็นไร งั้นเธอเฝ้าเขาก็ได้ เราจะกลับไปทำงานให้เอง”
“ฝากขอโทษคุณแม่ด้วยนะทอมมี่ ไม่น่าเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก คุณแม่เรารู้เรื่องแล้ว งั้นเรากลับก่อนนะ”
“ทอมมี่ เดี๋ยว ขอบใจนะที่ช่วยซันนี่ ขอบใจมาก”
“ไม่เป็นไร คนไทยด้วยกัน”
ต้อมยิ้มแห้งๆแล้วเดินกลับไปที่รถ มิเชลเองก็กลับเข้าไปในห้องพักฟื้นของผู้ป่วย
“ป้าจะมาไหมซันนี่”
“อืม กำลังมา”
ตอบออกมาแต่สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง น้ำตาไหลออกมา
“ซันนี่เป็นอะไร เจ็บตรงไหน เดี๋ยวเราเรียกหมอให้นะ”
“ไม่ ไม่เป็นไร เราไม่เป็นไร”
ร้องห้ามเอาไว้
“ซันนี่”
มิเชลร้องออกมาโผเข้ากุมมือเพื่อนเอาไว้ เพราะตอนนี้ซันเองร้องไห้ออกมา เสียงสะอื้นที่เหมือนเจ้าตัวจะพยายามกลืนมันให้หายลงไปในคอภาพที่เห็นมันสะท้อนใจเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรนะวันนี่เราอยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ”
กอดปลอบโยนเพื่อนเอาไว้ น้ำตาซึมออกมาเช่นกัน เนิ่นนานกว่าที่ซันจะยอมหยุด
“ป้าต้องว่าเราแน่ๆเลย”
“หือ ว่าเรื่องอะไร”
“ไม่มีอะไร คอยดูเองเถอะ”
เบนหน้าหนีไปทางอื่น ความในใจที่มีมากมายมันอัดแน่นคับเต็มอก สภาพแวดล้อมที่คิดว่ามันด้อยกว่าคนอื่น สภาพของครอบครัวที่ร้าวลึกมันทำให้ได้แต่กลืนกินความเจ็บช้ำเหล่านี้ลงไป ให้มันจมไปในใจของตัวเอง
“รู้ไหม ทำไมเราถึงคอยถากถางเขา”
พอนิ่งอยู่นานก็เอ่ยขึ้น มิเชลสะดุ้งลุกขึ้นเดินมายืนที่ริมเตียง มือกุมมือของเพื่อนไว้แล้วบีบเบาๆแทนคำตอบว่าอยากรู้
“เราไม่ได้เกลียดเขาหรอกนะมิเชล เราแค่อิจฉาเขา”
หยุดเพราะกระพริบตาไล่ม่านน้ำตาออกไป ความอ่อนไหวมันวิ่งเข้ามาในใจ
“เราอิจฉาที่ใครๆก็สนใจเขา เราอิจฉาที่ใครๆก็รักเขา เขาเป็นเด็กนักเรียนทุน จนกว่าเรา แต่เขาได้ความรักจากคนรอบข้าง โดยไม่ต้องแลกมันมากับอะไรเลย ไม่เหมือนเรา”
“ซันนี่”
ครางออกมาจ้องมองเพื่อนอย่างเวทนา
“รู้ไหมแม้แต่ตอนเรียน ถ้ามีคนพูดชื่อเขากับชื่อโรงเรียน แม้จะไม่เคยเจอ แต่ทุกๆคนในโรงเรียนเรารู้จักเขา ทุกๆคนพูดถึงเขาแต่เรื่องดีๆ เราอิจฉา”
น้ำตาไหลออกมา มิเชลเอากระดาษซับน้ำตาให้ เอามือลูบหน้าผากของเพื่อนที่ห่อหุ้มไปด้วยผ้าพันแฟลอย่างแผ่วเบา
“เขาเจอแต่คนดีๆ แม้แต่พี่นาย เขาโชคดี เราจึงไม่ค่อยชอบหน้าเขา แต่เราไม่ได้เกลียดเขานะมิเชล เราแค่รู้สึกว่าทำไมเราถึงไม่ได้อย่างเขา เราผิดใช่ไหม เราผิดใช่ไหมที่เกิดมาแล้วไม่มีเหมือนเขา เราผิดเหรอมิเชลที่เราเป็นลูกเมียน้อย ไม่เคยเห็นอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เราพยายามทำทุกอย่างให้มีคนหันมามอง แค่หันมามองเราบ้าง ทำไมมิเชล ทำไม”
เสียงสะอื้นที่ตอนนี้ถูกปลดปล่อยออกมามันดังก้องไปทั้งห้อง เตียงของคนไข้รายอื่นๆหันมามองแต่จะสนใจอยู่หรือในเมื่อใจมันเต็มไปด้วยหนองของความทรมาน
“ไม่เป็นไรนะซันนี่ มันผ่านมาแล้ว เธอผ่านมันมาแล้ว เรามาเริ่มต้นใหม่ ตอนนี้เธอมีเรานะ เราสนใจในตัวเอเสมอ เรารักเธอนะเพื่อน”
“ขอบใจนะมิเชล ขอบใจ”

Written by eiky


ปล. เขียนรีบๆนะครับ ยังไม่ได้ตรวจ จะรีบกลับบ้านแว้ววว บ้านไกลนะเนี่ย เดี๋ยวตกรถ แหะๆ
จุ๊บๆน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2011 21:32:09 โดย eiky »

ออฟไลน์ Isomer005

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เจอมาม่าห่อเล็กรสเผ็ดเข้าไป น้ำตาซึมเลยเรา
ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าซันเขาไม่ได้เกลียดต้อมหรอก เพียงแต่อิจฉาในสิ่งที่ตัวเองไม่มี
เป็นแค่เด็กขี้อิจฉาทั่วไปเท่านั้น  แต่ว่า มันอันตรายทุกซอกตึกเลยหรือนี่ บรื๋ออออ
แล้วจะมีการทวงคืนไหมนี่ หวั่นแทนน้องต้อม
 o13

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แอบมาม่าจนได้ อิอิ

เดี๋ยวคงได้มีคนเศร้่าไปตามๆกันนะ

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3

BlackSCar

  • บุคคลทั่วไป
เจอจนได้ :) สนุกมากก ไมมันอาภัพจังวะพี่ ฮาๆ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เฮ้อ!!! ซันเอ้ย ถ้ามั่วแต่เอาปมตรงนั้นของตัวเองมาคิดอยู่อย่างนี้  ชีวิตก็ไม่มีความสุขหรอก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด