Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44  (อ่าน 249649 ครั้ง)

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ปริ้นซ์น่ารักจัง

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
มีความสุข แล้ว อจะ ลืมคิดถึง พี่นายหรือปล๊าว หน๊า  เมื่อรัย ซัน จะมีบทบาท ในชีวิต ต้อมซักที อ่ะ

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
พี่ปริ้นเฟี้ยวเงาะ มาก
ฮ่าๆๆ แสบสุดๆ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
งืมมมมม ไมเรารู้สึกแปลกๆกับมิเชลหว่า??

แปลกด้วยคน มันแปลกจริง ๆ นะ -*-
ตอนนี้ซันไม่มีบท โล่งตา เอ๊ย! ไม่ใช่ คงไปฉะกันตอนหน้าแหง ๆ
 :pig4:

Chinnosuke

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่อิ๊กมากกกกกค้าาา
หายนายมาก
เรื่องนี้มีตัวร้ายแรงๆไหมหนอ
รออยู่เชียว
ออิอิิอเค้าโรคจิตนิดๆชอบตัวร้ายพี่อะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนอื่นขอมอบ :L2:และ :กอด1:รับขวัญเรื่องใหม่ของน้องอิ๊กก่อนจ้ะ
มาเรื่องนี้ต้อมมันดูหล่อขึ้นกว่าเดิมเนอะ ราศีนักเรียนนอกคงเริ่มส่องประกายแระ
แต่มันดูเหวี่ยงๆใจร้อนบุ่มบ่ามไปรึเปล่า รึเป็นธรรมชาติของวัยนี้ บวกกับกำลังปรับตัวในที่ใหม่
แถมใจไม่อยู่กับตัวเต็มร้อยด้วย(เพราะมันดันอยู่ที่นายอีกเกินครึ่งมั้ง)
ซันนี่ก็ดูเหมือนจะจงใจส่งปาก-หะ-มา-ให้กับต้อมอยู่เรื่อย สองคนนี้เลยเหมือน "ขนมผสมน้ำยา"
ส่วนน้องมิเชลนี่ ดิฉันขอบอกว่า "น่ารัก"จัง เธอมีเลือดไทยในส่วนดีเยอะเชียวล่ะค่ะ
โดยเฉพาะ การประนีประนอมและการปรองดอง ตรงนี้ได้ใจดิฉันสุดๆค่ะ
ไอ้เบนหัวฟู ยังไม่ขอพูดถึงมัน ฝรั่งบางครั้งมันก็งี่เง่า(คือเข้าใจอะไรช้าน่ะ)กว่าคนไทยเรานะ
ส่วนความรู้สึกของต้อม ดิฉันว่าตอนนี้ยังไม่ชัดหรอกนะ ไม่ว่าจะกับนายหรือกับมิเชล
กับนายก็คงเป็นความชื่นชมศรัทธาที่มีเป็นทุนเดิม กับมิเชลก็คือความสวยน่ารัก ความแปลกใหม่และ
ความเป็นมิตรที่มิเชลมีให้ต้อม เป็นส่วนเติมเต็มความอ้างว้างในต่างถิ่น
ดังนั้นก็จะรออย่างใจเย็นค่ะน้องอิ๊ก รอดูพัฒนาการด้านต่างๆของต้อมมันต่อไป

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
กรี๊ดดดดดดดด
พี่ปริ๊นไปให้ชะนีนางอื่นจุ๊บได้ยังไง พี่ไม่ย้อมไม่ยอม

lovely1714

  • บุคคลทั่วไป
ชอบพี่ปริ๊นจังน่ารัก ขอจุ๊บทีหนึ่ง น่ารักน่าหยิกมากๆ

ออฟไลน์ CminLmin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ต้อมจะหวั่นไหวไหมเนี่ย ...
พี่ปริ๊นของเจ๊ มีแฟนซ่ะแล้ววว  o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ZuuZuu

  • บุคคลทั่วไป
มิเชลจะมีอะไรในกอไผ่มั้ยเนี่ย กลัวจังเลยอ่าค่ะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ไอแว่น แรงมากกก ออกตัวมากไปไหม เค้าไม่เอา มึงหรอกกกก หอยนิ

ส่วนคู่ต้อมดูไม่คืบหน้าเลยย

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
มิเชลหรือซันนี่หรือว่าน้องปริ้นซ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2011 16:30:36 โดย evilheart »

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
พี่ปริ๊นนนนนนน่าร๊ากจังเลย

ขอเป็นแฟนได้ม่ะ ห้าๆ

min_min

  • บุคคลทั่วไป
หง่ะ  ตั้ง 2 วันเลยเหรอ

แต่เค้ารอได้เสมอ 5555

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
มิเชลคิดอะไรกับต้อมอยู่หรือป่าว :m28:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
+1 ให้อิกกี้
ต้อมมาแล้ววววววว
ทำไมพี่ปริ้นท์ ต้อง 5 ขวบด้วย
โฮๆๆๆ โตไม่ทันพี่ต้องแน่เลยอ้ะ ,, อยากให้เป็น 2 คนนี้
ซันนี่ พูดจาไม่ดีกับต้อมเลย ... อิจฉาล่ะสิ ที่ต้อมมีคนคอยดูแล
เด็กขาดความอบอุ่น ป้ะเนี่ย ???
รอลุ้นต่อไปว่าจะยังไง!!!

ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
กด +1 แรงๆให้อิ๊กกี้   :z13:
ต้อมติสนะเนี้ยะ ตอนอ่านของนายรู้สึกว่ายังไม่ติสขนาดนี้เลย  รู้สึกจะใจร้อน+เหวี่ียง ขึ้นด้วย สงสัยเพราะไม่มีนายคอยบ่นมั้ง  ส่วนตาแว่นเบนจามินอย่าพึ่งไปว่าเค้าเลยบางทีนะบางที คนเราก็ตกใจบ้างอะไรบ้างคงต้องใช้เวลาทำใจอยู่บ้างเหมือนกัน ส่วนมิเชลก็ได่แต่หวังให้ชีดีตลอดลอดฝั่งหล่ะกันนะ 
ส่วนซันนี่ไม่รู้เรารู้สึกไปเองรึป่าว รู้สึกมาแนวเรียกร้องความสนใจจากต้อมมากกว่าตั้งใจชวนทะเลาะจิงจังนะ
ไม่แน่แอบปิ๊งต้อมตั้งแต่บนเครื่องรึป่าวเนี้ยะ  :laugh:

clubza

  • บุคคลทั่วไป

    สงสารต้อมจังรักนายเเบบถอนตัวไม่ขึ้น  สำหรับเรามิเชลก็ยังน่ารัก เราคิดว่าที่มิเลเเปลกๆก็คงไม่คิดว่าต้อมจะเป็นเกย์มั้ง

ออฟไลน์ cy55555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
สนุกสนานค่ะ ตกหลุมรักพี่ปริ๊นท์เข้าแล้ว
แล้วตกลงต้อมคิดไงกับมิเชลกันแน่
อย่าหวั่นไหวขอบอกๆ เพราะเชียร์ซันอยู่ ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
หนูมิ (มิเชล) ต้องได้คาแร็กเตอร์มาจาก น้องมิ แน่เลย เพราะคุณอิ๊กกี้พรรณนาภาพหนูมิไว้ซะสวยเหมือนน้องมิ :-[
(อนุญาตให้แฟนๆ เรื่องนี้อ้วกได้ค่ะ  :z1: )

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะคุณอิ๊กกี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2011 00:44:57 โดย なおみ™ »

ออฟไลน์ waan_warunee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มาตอนไหนหว่า??? ไม่ทันสังเกตนะเนี่ย

littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
+1 ให้อิ๊กกี้กับพี่ปริ๊น น่ารักจริงๆน้า อิอิ แต่ไม่ชอบตรงที่ต้อมตู่ว่านายเป็นแฟนเนี่ยแหละ อ่านทีไรสะดุดทุกที 555+

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
 o7 o7 o7 ได้อ่านสมใจแล้วววววววว

miniz

  • บุคคลทั่วไป
ต้อมเลิกรักคุณนายได้แล้วว  :เฮ้อ:

 :z6: ไอ้แว่น

มารอต่อค้า  :z1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Scene 4

“อะไรนะมิเชล เธอจะไปทำงานร้านอาหารไทยของไอ้”
“ซันนี่”
พอไปที่มหาฯลัยในวันต่อมาผมเดินเข้าไปตั้งใจจะไปหามิเชลล่ะครับ คุณแม่ผมฝากขนมถ้วยมาให้ หยุดกึกเลยนะพอได้ยินเสียงไอ้เชี่ยนั่น
“เอ่อ เธอจะไปทำจริงๆเหรอ แล้วที่ร้านเบเกอรี่ล่ะ”
“เมื่อวานเราบอกเขาแล้ว”
“มันไกลนะมิเชล เธอจะมาเรียนยังไง”
“ไม่ต้องห่วงหรอกซันนี่ เราคุยกับพ่อแล้ว พ่อจะให้รถมาใช้”
“ฮึ”
ผมมองอยู่ไกลๆครับ แต่หน้าตาสีหน้าของมันผมเห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่พอใจ สมน้ำหน้า สะใจโว้ย
“นายอยากไปทำด้วยกันไหมล่ะ คุณแม่บอกว่ายังมีพนักงานว่างอยู่นะ”
“ไม่เอาหรอก ไกล เราไม่อยากขับรถไกลๆ”
“อ้าวเหรอ ดีออก คุณแม่น่ารักมาก อ้าว ทอมมี่ มาเมื่อไหร่”
มิเชลหันมาเจอผมพอดีครับ ผมก็ยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปหา มีไอ้แว่นด้วยนะ มันมองมาทางผมแล้วหลบตา ไอ้ห่านี่อีกคน เดี๋ยวเถอะมึง
“แม่ฝากขนมมาให้น่ะ”
ผมยื่นถุงกระดาษของร้านให้มิเชล
“ตายจริง ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะทอมมี่ ขนมอะไรเหรอ”
“ขนมถ้วย”
“แหวะ”
“ซันนี่”
ผมหันขวับแล้วครับ แต่มันถอยออกไป คงจะไม่อยากกินอาหารเช้าเป็นฝ่าเท้าข้างขวาของผมอีก อย่าลืมสิว่าผมเป็นนักฟุตบอลเก่าถนัดขวา จะเตะมันให้น่วมเลยไหมวันนี้กวนประสาทอีกแล้ว
“ไหนๆ เราดูหน่อย”
ไอ้แว่นครับ ผมยืนมองอยู่ มันไม่กล้าหันมามองหน้าผมเลยนะ แต่คงอยากจะกิน
“น่ารักจัง อร่อยไหม”
“ลองชิมดูสิเบน ฝีมือคุณแม่อร่อยมากนะ เมื่อวานกินข้าวเหนียวมะม่วง อร่อยมาก”
“ไม่เห็นจะน่ากิน มิเชลรู้ไหมขนมแบบนี้ที่เมืองไทยถ้วยละเซ็นต์เองนะ”
“หา”
ผมกำหมัดแล้วครับ
“กูไม่ได้เอามาให้มึง อย่าเสือก ไม่แดกก็ไม่ต้องแดก”
อันนี้ภาษาไทยครับ จะด่าคนไทยถ้าจะพูดภาษาอังกฤษมันคงไม่ซึมเข้าสมองมันเท่าไหร่ ขอหน่อยเถอะ มันหันมามองหน้าผม จ้องหน้าด้วยนะ ผมยักไหล่ให้มัน รออยู่นะ มาเลยกูพร้อมแล้ว
“อะไรกันสองคนนี่ มาลองกินดูสิซันนี่”
“ไม่เอาหรอก”
“เราไปห้องสมุดนะ”
ผมพูดแล้วเดินหนีมาเลยครับ อยู่นานกว่านี้มีหวังได้ต่อยปากคนแน่ๆ วันนี้ผมตั้งใจจะจัดการไอ้เชี่ยนี่เสียที ปล่อยไว้นานไม่ได้แล้ว รกหูรกตาเต็มทน วันนี้เรียนสองวิชาครับ วิชาบ้าอะไรก็ไม่รู้ยากโครตๆ สูตรเอยอะไรเอย ผมจะตายเอา
“ไหวไหมทอมมี่ หน้าตาไม่ค่อยดีเลย”
มิเชลหันมาถามหลังจากที่อาจารย์ออกจากคลาสไป
“เราไม่เข้าใจเลย”
“ตรงไหน”
“ทุกตรง ฮ่าๆๆ เราไม่เก่งเรื่องคำนวณ”
“เดี๋ยวเราทวนให้”
เธอยื่นมือมาหยิบหนังสือของผมไป แล้วเอาดินสอขีดเส้นใต้ตรงที่สำคัญให้แล้วอธิบายไปเรื่อยๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะมัวแต่มองตอนที่เธอสอนให้นั่นล่ะครับ จะเรียนจบไหมเนี่ยกู สักพักเราก็ออกจากคลาสมาล่ะครับ
“วันนี้ทำงานวันแรก ตื่นเต้นจังเลยทอมมี่”
ตอนเดินออกมาจากรั้วมหาฯลัยมิเชลก็พูดขึ้นล่ะครับ รายทางนี่พวกฝรั่งหัวแดงแซวเธอเป็นแถบ ผมนี่ตัวลอยเลยนะเพราะคนอื่นเขามองว่าผมกับเธอเป็นแฟนกัน ฝรั่งไม่เห็นมีใครสวยเท่าเธอสักคนเลยนะเอาจริงๆเท่าที่เห็นมา
“เดี๋ยวก็ดีเองล่ะ แล้วเธอจะไปยังไง”
“เราขับรถมาเดี๋ยวจะขับตามทอมมี่ไป”
“อ้อ โอเค”
“เธอไม่เขินเหรอมิเชล ที่มีคนแซวเธอว่าเป็นแฟนเราน่ะ”
ผมอยากรู้ครับว่าเธอจะตอบว่ายังไง
“ไม่นี่ ดีออกจะได้ไม่มีคนมาวอแว เกลียดจริงๆนะพวกชอบเห่าเนี่ย”
“อ่า”
แรงเหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆ นึกว่าจะหวานๆ
“ทำไมเหรอทอมมี่ ทำหน้าซะตกใจ”
“เปล่า ไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้เป็นกับเขาด้วย”
“บ้านะ เราด่าเก่งจะตาย อยากลองไหมล่ะ”
“ไม่เอาหรอก ฮ่าๆ เราไม่อยากโดนคนสวยด่า”
“ฮ่าๆๆ นายนี่นะ”
“มิเชล จะกลับหอไหม มันอันตรายนะตอนดึกๆน่ะ”
ไอ้เชี่ยนั่นครับมันยืนดักรออยู่หน้ามหาฯลัยกับไอ้แว่น ผมตาขวางแล้ว
“อ้อ ไม่ต้องห่วงหรอกซันนี่ จะค้างที่โน่น”
“หา ค้างที่โน่น”
“อืม คุณแม่มีที่พักให้ วันไหนทำตอนเย็นก็ค้างได้”
มิเชลพูด แต่ไอ้เชี่ยนั่นทำหน้าหักครับ
“เราก็อยากไปนะมิเชล”
ไอ้แว่นครับ ไอ้ห่านี่มันเป็นอะไรของมัน เห็นแล้วรำคาญตาเป็นบ้า
“อยากไปก็ไปสิเบน”
“แต่”
“ไม่ต้องไปนั่นล่ะดีแล้ว ไปเถอะมิเชล”
ผมเอามือไปแตะหลังของเธออย่างสนิทสนม
“ฮึ ตกลงจะเอาประตุไหนแน่เนี่ย”
มันพูดเป็นภาษาไทยครับแล้วหันมามองผม
“จะทำไม กูมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่เรื่องของมึง”
“ไอ้ไส้เดือน”
“มึงว่าไงนะ”
ผมปรี่เข้าหามันครับกระชากคอเสื้อ
“ว้าย อย่านะทอมมี่ มีอะไรกัน”
ง้างมือแล้วนะครับ ดีนะที่มิเชลมาจับมือเอาไว้ ไอ้แว่นนี่ถอยไปสามเมตรเลยนะ
“มึงจะเอายังไงกับกู”
“อย่าทะเลาะกันเลยนะทอมมี่ พอเถอะ”
มันไม่ยอมตอบครับ แกะมือผมออกจากคอมันแล้วรีบเดินหนีไป ผมนี่แทบบ้าเลือดขึ้นหน้าแล้ว
“ใจเย็นหน่อยสิทอมมี่ ไม่ดีนะ”
มิเชลลากผมออกมาครับพูดหลายคำเหมือนกันล่ะแต่ผมไม่สนใจฟัง หูมันร้อนแล้ว
“เดี๋ยวเรามา”
ผมแกะมือเธอออกครับ อย่างที่บอกว่าผมจะต้องจัดการมันให้เด็ดขาดไปเลยภายในวันนี้ ผมเดินตามหลังมัน พอตามทันผมก็ลากคอเสื้อมันเข้าไปในซอยแรกทิ่ติดกับมหาฯลัยที่เป็นร้านกาแฟถัดลึกเข้าไปเป็นบ้านคน และเปลี่ยว
“โอ๊ย ปล่อยนะ มึงจะทำอะไร”
“ไม่อยากเจ็บตัวเดินไป”
“ไม่ ไอ้เชี่ย ปล่อยกูนะ”
มันพยายามขัดขืนครับ ผมเพิ่มแรงมือกดคอลากมันเข้าไป มิเชลก็วิ่งตามมา
“เราขอคุยกับมันสองคน มิเชล ขอร้อง”
ผมหันไปบอกเธอ ไม่รู้ว่าทำสีหน้ายังไงนะ แต่เธอหยุดกึกลงแล้วอ้าปาก มีไอ้แว่นยืนอยู่ข้างๆ
“ปล่อยกูนะ ปล่อย”
“สะดีดสะดิ้งหาพ่อมึงเหรอ กูไม่ฆ่ามึงหรอกน่า ปากดีอย่างมึงกลัวตายเป็นด้วยเหรอ”
“มึงจะทำอะไร ปล่อยกูนะ ปล่อย”
“พลั่ก โอ๊ย”
ผมเหวี่ยงร่างมันให้ลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นครับ แล้วก้าวเท้าไปยืนคร่อม ไม่กลัวมันเตะผ่าหมากหรอกนะ ตอนแรกว่าจะเหยียบอกมันนะ แต่มันคงจะเถื่อนไปหน่อย
“ตกลงมึงจะเอายังไงกับกู”
ผมกร้าวเสียงจ้องหน้ามัน
“ไม่เอาไง”
“โอ๊ย เจ็บนะ มึงเหยียบขากูทำไม”
“มึงอยากขาหักเหรอ ไอ้เชี่ย กูถามว่ามึงจะเอายังไง”
“อะไรของมึง”
“มึงทำไมชอบมาวุ่นวายกับกู มึงจะเอายังไง”
“กูไม่ชอบมึง”
มันยอมพูดออกมา ผมยิ้มที่มุมปาก
“กูก็เกลียดมึง จำไว้ อย่ามายุ่งกับกูอีก ไม่งั้นมึงเจ็บตัวกว่านี้แน่”
ผมเตะไปที่ก้นมันทีหนึ่ง มันก็ร้องล่ะครับ ภาพที่ผมทำ มีสายตาสองคู่เฝ้ามองดูอยู่ ผมไม่สนใจ เดินออกมา พอผมเดินออกมามิเชลก็วิ่งเข้าไปหามันล่ะครับ
“ทำไมใจร้ายแบบนี้ทอมมี่”
“ถามมันก่อนได้ไหมมิเชล ว่าทำไม”
เธออ้าปากค้าง ผมไม่สนใจครับ ชอบเธอมากนะ แต่ถ้าเธอไม่เข้าใจก็เรื่องของเธอ ผมทำแค่นี้ ไม่มีคนคบก็ไม่ต้องมี ผมเป็นใครมันเป็นใครผมต้องมาทนยอมรับคำถากถางของมันด้วยเหรอ เงินที่เรียนก็คุณแม่ส่งเสียทั้งนั้น ผมมาที่นี่เพื่อที่จะเรียนไม่ได้จะมาเจอคนอย่างมัน โว้ย โมโหโว้ย
“ว่าไงไอ้แว่น”
พอผมเดินจะผ่านไอ้แว่นผมก็พยักหน้าให้มัน ไอ้นี่ถอยหลังไปทันที
“อ่ะ อ่ะ ไม่มี”
กลัวกูล่ะสิมึง ดีจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวาย ผมเดินไปที่จอดรถล่ะครับ มิเชลเอคงจะไม่ไปด้วยหรอกวันนี้ เพราะสิ่งที่ผมทำมันก็รุนแรงเอาการอยู่ เธอเป็นผู้หญิงคงไม่นิยมความรุนแรงเท่าไหร่นัก
“เดี๋ยวก่อนทอมมี่”
เธอร้องเรียกครับ ผมก็ยอมหยุด จะว่าอะไรอีกวะ
“เดี๋ยวก่อน”
ผมหันกลับไป เธอพยุงไอ้เชี่ยนั่นลุกเดินตามมา สายตาแสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
“ทำไมรุนแรงกันจังเลย มีอะไรไม่ยอมคุยกันล่ะทอมมี่ แบบนี้ไม่ได้นะ”
“แล้วมันว่าไงล่ะ”
ผมสวนกลับไปแล้วมองหน้าไอ้สำออยนั่น
“เราคุยแล้วนะ เราไม่ได้อะไรกับมันนะมิเชล”
ผมทำท่าจะปรี่เข้าไปอีก แต่เอทำตาโตใส่ผมเลยนิ่งไว้ก่อน
“เราถามจริงๆเถอะนะซันนี่ เราเองก็มองมานาน นายมีอะไรกับทอมมี่หรือเปล่า ทำไมเวลาเจอต้องคอยพูดจาถากถางเขาตลอด ทอมมี่เองก็เหมือนกัน มีอะไรกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
“เราไม่มี เธอก็เห็น แต่เราจะไม่ทนหรอกนะถ้ามันพูดอะไรว่าเราอีก”
ผมพูดก่อนมันครับ ได้เปรียบ เธอหันมามองแล้วหันไปมองหน้ามัน
“เอ่อ เรา มะ ไม่”
“อย่าไม่มี นายมีอะไรซันนี่ เกลียดอะไรทอมมี่ เรารู้สึกได้นะ”
“ใช่ เราเกลียดมัน เราเกลียดมันมานานแล้ว”
“เพราะอะไร”
เธอไม่ยอมแพ้ครับ ผมเองก็อยากรู้ว่าผมไปทำอะไรให้มันตอนไหนวะ
“ไม่มีเหตุผล”
“ซันนี่ ไม่ได้นะ ไม่ใช่เด็กนะ จะเกลียดใครทำไมไม่มีเหตุผล”
“ก็มันกวนตีนเรา ตั้งแต่ตอนแรกที่เจอ มันมีแต่คนชอบ ทำอะไรก็ไม่ผิด”
อ้าวพูดแล้ววิ่งหนีไปเลยครับ แหมทำท่านางเอกวอนอยากรับประทานเท้า มิเชลยืนนิ่ง ไอ้แว่นก็ยืนนิ่ง
“อะไรของเขานะ”
ไอ้แว่นพูดขึ้นครับ คนแรก ผมไม่ได้สนใจหรอกนะ เหตุผลปัญญาอ่อน กูเด่นกว่าแล้วไงวะ อยากเด่นไม่เสือกหาอะไรทำเอง แล้วมาอิจฉาคนอื่น ปมด้อยเชี่ยอะไร ถ้าคิดแบบนี้ทุกคนในโลกก็ย่อมมีปมด้อยสิวะ ควายเอ้ย
“ไปกันเถะทอมมี่”
มิเชลเดินผ่านผมไปครับแล้วพูดขึ้น ท่าทางเย็นชามาก
“เรา”
“ไม่ต้องพูดหรอก เราไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าเราไม่อยากเห็นเธอสองคนทะเลาะกันอีกนะ ไม่ว่าจะยังไง ถ้านายยังอยากจะเป็นเพื่อนของเราอยู่”
อ้าวนะ ยื่นคำขาด ผมนี่ยืนนิ่งเลยนะ เธอก็เดินไปที่รถ ตอนแรกบอกจะขับตามผมไป แต่เอาไปเอามาผมซะอีกที่เป็นคนขับตามหลังเธอ โอ้แม่คุณ เหยียบแบบว่าผมเสียวสันหลังแทนเลยนะ จะรีบไปไหนๆ พอถึงที่ร้านเธอก็ลงไปหาคุณแม่เลยนะครับไม่รอกันเลย คงเคืองใจอยู่ไม่น้อย นี่ผมใจร้อนไปหรือเนี่ย
“พร้อมหรือยังจ๊ะหนูมิ”
“พร้อมค่ะ”
“เรามียูนิฟอร์มให้นะ เอานี่กุญแจล็อกเกอร์ ไปลองดูซิว่าใส่ได้พอดีไหม”
เธอรับกุญแจไปล่ะครับแล้วเดินไปเลย ผมได้แต่มองตาม
“ทำไมวันนี้ดูแปลกนะ มีอะไรกันหรือเปล่าลูกต้อม”
ซวยแล้วไหมล่ะครับ
“เอ่อ ไม่มีไรครับคุณแม่”
“อืม งั้นเราไปทำงานเถอะ เรียนเป็นไงบ้าง เดี๋ยวค่อยคุยกันที่บ้านนะ แขกเยอะแล้ว”
หลังจากทำงานที่ร้านอาหารเสร็จผมจะโดนเรียกคุยเกือบทุกวันล่ะครับ ไม่มีอะไรก็คุย คุณแม่เป็นห่วงผมมาก กลัวว่าจะเรียนไม่ทันหรือโดนฝรั่งหัวแดงแกล้งเอา หึหึ ไม่อยากจะบอกว่าผมนี่ล่ะที่แกล้งเขา
“มิเชล ผัดไทยนี่โต๊ะไหน”
พอทำงานเธอก็ทำมึนตึงใส่ผมล่ะครับ อยากจะง้อนะแต่คงยังโรธหรือเคืองใจอยู่
“โต๊ะ ๓”
“อ้อ ไม่เห็นเขียน”
“อ๊ะ ตายจริงขอโทษ เราลืมตื่นเต้นไปหน่อย”
เธอยิ้มออกมาแห้งๆคงเขินล่ะครับ การทำงานในร้านอาหารต่างจากร้านเบเกอรี่ที่เธอเคยทำนะผมว่า เพราะที่นี่ต้องเสิร์ฟอาหารด้วย จดรายการอาหารที่ลูกค้าสั่ง การทำงานในแต่ละขั้นตอนต้องสมบูรณ์เพราะเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆจะได้ไม่ต้องคอยถามว่าอะไร โต๊ะไหน หึหึ เธอยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ไหนดูซิว่าจะงอนผมไปได้สักกี่น้ำ
“ไม่เป็นไร แล้วเวลาจดรายการอาหารถ้าสั่งพร้อมกันสองโต๊ะ จดใส่แผ่นเดียวก็ได้นะ นี่แบบนี้ จะได้สะดวก”
ผมก็แนะนำเธอล่ะครับ เธอก็มองอยู่
“อ้อ ต้องแนะนำเราเยอะๆหน่อยนะ เรายังไม่คุ้น”
“ก็ไม่เห็นอยากคุยอะไรกับเรานี่นะ เราน่ะอยากจะคุยกับเธอจะตาย”
“อ่า ก็เรายังเคืองๆนายอยู่นี่”
“เรื่องอะไร”
เธอไม่ตอบครับ แต่ผมก็พอรู้ล่ะ
“เรื่องไอ้ซันน่ะเหรอ”
“อืม เราว่าเธอทำรุนแรงไป”
“แล้วถ้าเป็นเธอล่ะ เธอจะทำยังไง อย่าลืมสิมิเชล เราเป็นผู้ชายนะ เราไม่ค่อยทนให้ใครมาว่าเราทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไร เกลียดเราน่ะ เรารู้แต่เราก็ไม่เห็นต้องไปคอยแทะคอยกัดเขานี่ ต่างคนต่างอยู่ก็จบ”
“เอ่อ”
ผมพูดนิ่งๆล่ะครับ ไม่ได้ใส่อารมณ์ พอนานไปมันก็เย็นลงเอง
“งั้นเราขอโทษนะ เราไม่รู้นี่ว่าเธอสองคนเคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า เราเลยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเกลียดกันมากขนาดนี้”
“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนอยู่ที่โน่นเราไม่เคยเจอกับมันนะ เรียนก็คนละโรงเรียน ไม่เคยคุยกัน ไม่รู้จัก แต่ตอนมาที่นี่เราเจอกันบนเครื่อง แต่เราก็ไม่คิดว่านั่นจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้มันไม่ชอบหน้าเราขนาดนี้”
“อืม แล้วทอมมี่ล่ะ ไม่ชอบซันนี่เหมือนกันเหรอ”
“เราไม่ชอบที่มันมาคอยว่าเรา แค่นั้นเอง”
ผมก็ตอบไปล่ะครับ จะว่าไปแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ผมต้องเกลียดมันนอกจากเรื่องที่มันคอยมาว่า คอยมาแทะเท่านั้นเองนะ
“อืม เราพอเข้าใจ”
เธอทำท่าครุ่นคิดอยู่ เวลาทำงานเธอก็ตั้งใจทำงานดีนะ ไม่ได้เป็นคุณหนูจ๋าแตะนั่นไม่ได้ทำนี่ไม่ได้ ไม่เหมือนนักเรียนไทยบางคนที่เคยมาขอทำงานที่นี่กับคุณแม่ ก็เข้าใจล่ะครับ เพราะอยู่ที่เมืองไทยคงไม่เคยแตะเคยจับอะไรเลย มาให้ยกถาดก็หน้าบูดแล้ว ล้างนั่นไม่เป็น ทำนี่ไม่ได้ เยอะแยะไป แต่สำหรับเธอไม่เลย ผมก็เพลินตาดีนะเวลามองเธอเวลาทำงาน
“วันนี้นอนนี่ล่ะนะจ๊ะหนูมิ ชั้นบนเป็นห้องพัก มีครบทุกอย่าง ดึกแบบนี้อย่าขับรถกลับเลยมันอันตราย”
คุณแม่มาบอกตอนร้านปิดครับ เธอยังยิ้มได้อยู่
“ค่ะ สนุกจังนะคะคุณแม่”
“ไม่เหนื่อยเหรอจ๊ะ หนูเป็นคนแรกนะที่บอกว่าสนุก อย่างต้อมวันแรกยังหน้าซีดเลย”
อ้าว เผาผมซะงั้นคุณแม่
“ไม่หรอกค่ะ หนูสนุกมาก พรุ่งนี้หนูจะลองจัดจานนะคะคุณแม่ ได้ไหมคะ”
“เอาเลยจ๊ะ หนูเรียนรู้เร็ว แม่ก็หายห่วง ขึ้นไปพักเถอะ พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ ตอนเช้าเดี๋ยวต้อมมารับไปเรียนนะจ๊ะ หนูมิ ฝันดีจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ เช่นกันนะคะ”
เธอเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วครับ ผมอยู่ช่วยคุณแม่ปิดร้าน สักพักเราก็กลับ
“ไหน เล่าให้แม่ฟังหน่อยซิต้อม มีเรื่องอะไรกันกับคนชื่อซันนี่เหรอ”
ตอนขับรถกลับครับ ผมขับรถของเขานั่นล่ะ แต่คุณแม่ก็นั่งมาด้วยไม่ขับกลับเอง คงอยากจะถามผมเรื่องนี้
“เอ่อ คุณแม่รู้เหรอครับ”
“จ๊ะ แม่รู้”
อ้าวนะ มิเชลแน่ๆ เฮ้อ ไม่น่าเลย เรื่องแค่นี้ไม่อยากให้ระคายหูคุณแม่เลยนะ
“ไม่ต้องไปเคืองหนูมิเขาหรอกต้อม แม่เป็นห่วง ไม่สบายใจ ก็เลยเรียกหนูมิไปถาม”
“ครับคุณแม่”
ผมเงียบครับ แต่สายตาของคุณแม่ยังไม่วางตาจากผมเลยนะ อึดอัดขึ้นมาทันที
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่เรียกเขาไปคุยว่าทำไมถึงคอยมาว่าผม ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ผมไม่ชอบ”
ผมเล่าไปครับ ปิดไม่ได้จริงๆนะเรื่องอะไรก็ตาม เหมือนท่านรู้ตลอด นี่หน้าตาผมแสดงออกมากขนาดนั้นเลยเหรอว่ามีปัญหา
“เอ่อ”
คุณแม่ยังจ้องอยู่ครับ
“ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือเลยเหรอลูก”
“เอ่อ ผมโมโหน่ะครับคุณแม่”
“อืม แล้วทำอะไรเขามากไหม”
“ก็ต่อยไปทีหนึ่งครับ”
ผมโกหกล่ะครับ ไม่บอกด้วยว่าเตะไปด้วย ขืนบอกผมโดนแน่ๆ
“ใจร้อนนะเรา เหมือนนายไม่มีผิด นี่ไปติดนิสัยกันมาหรืเปล่า รายนั้นตอนเรียนแม่ก็ต้องวานน้าแซมให้เป็นธุระให้ตลอดเวลานะ เพราะขยันมีเรื่องมาก นายเขาก็ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก ใครว่าไม่ได้เดินเข้าชนทันที ไม่มีกลัว เฮ้อนะ”
คุณแม่ถอนหายใจออกมาครับ น้าแซมเป็นตำรวจครับ สนิทกับที่บ้านเพราะมาทานข้าวที่ร้านบ่อยๆ
“ต้อมลูก แม่ว่าเราเปลี่ยนไปนะ”
ผมหันขวับเลยครับ ตกใจนะที่ได้ยิน
“ครับคุณแม่”
เสียงสูงเลยครับไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณแม่กำลังพูด
“แม่ว่าเราเหมือนรอใครบางคนอยู่นะ ทำอะไรก็เหมือนไม่เต็มที่ เท่าที่แม่รู้เราจะเป็นคนกวนๆ อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี ไม่มีพิษมีภัยกับใคร แต่ตอนนี้เหมือนเรากำลังเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครบางคน อันนั้นแม่ไม่รู้นะต้อม แต่แม่เป็นห่วง แม่เฝ้าดูต้อมอยู่ตลอดเวลา บางทีเราก็เงียบไป บางทีก็ดูเครียดเกินไป มันไม่ดีหรอกนะลูก แม่อยากให้ต้อมเป็นต้อมคนเดิม คนเราถ้าจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครสักคน ถามตัวเองแล้วหรือยังว่าแท้จริงแล้วเราพอใจ หรือมีความสุขไหมที่จะทำ อีกอย่าง ถ้าหากว่าคนๆนั้นเขาพอใจกับคนใหม่ที่เรากำลังพยายามจะทำจะเปลี่ยนเพื่อเขา ก็แสดงว่าเขาไม่ได้รักได้ชอบในตัวตนของเราจริงๆหรอกนะลูกต้อม เป็นอย่างที่ต้อมเป็น แม่รักต้อมนะ”
เสียวสันหลังวาบๆ เหมือนท่านรู้อะไรบางอย่างระหว่างผมกับเขา ผมนี่สะอึกไปเลยครับ พูดไม่ออกได้แต่พยักหน้ามองถนนต่อไป
“กลับมาร่าเริงเหมือนเดินนะต้อม เรื่องเรียน เรื่องงานไม่ต้องเป็นกังวล ยังไงแม่ก็รักต้อมอยู่เหมือนเดิม”
“ครับคุณแม่”
“ส่วนเรื่องใจร้อน เบาๆหน่อยก็ดีนะ แม่ขี้เกียจจะขึ้นโรงพักแล้วนะ ฮ่าๆ”
คุณแม่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ผมนี่สิหนาวๆร้อนๆ นอนไม่หลับแน่ๆเลยผม
“พี่โทรฯกลับหน่อย”
พอถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก่อนอ่านหนังสือผมก็กดโทรศัพท์ไปหาเขานั่นล่ะครับ ผมพูดแค่นั้นเมื่อเขารับสาย ไม่ให้เขาพูดเพราะถ้าปล่อยให้เขาพูดคงไม่ได้โทรฯกลับกันพอดี ผมรออยู่สักพักล่ะครับ พี่ปริ๊นนอนไปแล้วคงจะเพลีย
“ว่าไงต้อม มีอะไรวะ”
“โหนะ มีดิพี่ถึงให้โทรฯกลับ”
“ไหนมีอะไร”
“เรื่องเราอ่ะพี่ เหมือนคุณแม่รู้นะ”
“ต๊าย นี่แกเพิ่งรู้เหรอ ชั้นบอกไปร้อยชาติแล้วแก”
“หา บอกไปแล้ว แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม”
ผมร้องออกมาครับ แต่ก็ต้องเบาเสียงลงเพราะกลัวว่าเจ้าตัวน้อยมันจะตื่น
“เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องบอกหรอกนะแก ถึงชั้นไม่บอก คุณนายเธอก็สืบเองจนรู้อยู่ดีล่ะ”
“ทำไมถึงบอกล่ะพี่”
“อ้าวไอ้นี่ ไม่มีเรื่องไหนที่ชั้นปิดคุณนายเธอได้หรอกนะ อะไรคุณนายไปถามแกเหรอ”
“เปล่าพี่ แต่คุณแม่พูดเปรยๆเหมือนว่ารู้ว่าเรารักกันเลยอ่ะ”
“แกไม่ใช่ชั้น อย่ามาเยอะ”
“จิ๊ นั่นล่ะเหมือนกัน”
“ไม่เหมือน ชั้นมีผัวแล้วนะต้อม อะไรไหนวันก่อนบอกว่าเจอสาวสวย อะไรเนี่ย”
“โหยพี่ สาวสวยก็สู้ตุ๊ดน่ารักไม่ได้หรอกน่า”
“ไอ้ต้อม”
ผมหัวเราะครับ พอได้หัวเราะก็รู้สึกไม่เครียด เออนะ แต่ก่อนผมกวนส้นเท้าออกจะตาย แล้วมันหายไปไหนวะ หรือว่าผมจะกวนแต่เฉพาะกับเขาเหรอ ไม่นะ กับเพื่อนผมก็กวน มันเปลี่ยนไปตอนไหนวะเนี่ย
“พี่บอกอะไรคุณแม่อีก”
“ไม่มีแล้ว แกไม่ต้องคิดมากหรอกต้อม คุณนายเธอไม่ว่าอะไรหรอก แต่แกก็อย่ายึดติดมาก อยู่ไปๆ คุณนายเธอก็จะสอนเองล่ะ”
“อืม”
“อืมอะไร เข้าใจไหมนี่พูดน่ะ”
“อืมก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้างนะพี่ ไม่เข้าใจเหรอ”
“ไอ้ต้อม”
หวีดเสียงขึ้นสูงครับ ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหู
“แค่นี้นะ ชั้นจะไปตัดดอกไม้”
“เดี๋ยวดิพี่ ไรวะ นานๆคุยกันที แล้วเดี๋ยวนี้พี่อยู่แต่ในสวนเหรอ ไม่เบื่อเหรอ”
“ไม่เบื่อ สนุกดีออก ไม่ต้องไปรบรากับใคร”
“หมายถึงพี่ไม่ดำแย่แล้วเหรอ หุหุ ดำแล้วไม่สวยนะพี่”
“แค่นี้นะไอ้ต้อม เดี๋ยวเถอะ”
วางสายไปแล้วครับ ผมก็ยิ้มออกมาได้ล่ะ เออนะ ความจริงผมก็กวนบาทาอยู่แล้วนะ หรือว่าผมเครียดเรื่องภาษาเหรอ เพราะภาษาอังกฤษกับภาษาไทยมันกวนได้ไม่เหมือนกัน แต่ไม่น่าจะเกี่ยว
“พี่ปริ๊นวันนี้เปิดเทอมนี่ ป่ะเดี๋ยวพี่ไปส่งที่โรงเรียน”
พอตื่นเช้ามาผมก็ให้เจ้าตัวเล็กขี่หลังลงมาจากชั้นบนล่ะครับ อาหารเช้าของเราส่วนมากจะเป็นข้าวต้ม มีนม มีอาหารฝรั่งแล้วแต่ใครชอบ ผมกินเยอะนะมาอยู่ที่นี่ น้ำหนักเริ่มขึ้นแล้ว เหมือนอืดๆ ฮ่าๆ ไม่ได้แล้วเดี๋ยวไม่หล่อ
“ทำไมพี่ต้อมกินแต่ผลไม้กับนมอ่ะ คาวจาตาย”
“กินนมเยอะๆดิพี่ปริ๊นจะได้สูงเหมือนพี่ต้อมเขา เราน่ะตัวแคระๆ หลงมาจากไหนก็ไม่รู้เนี่ย”
พี่แพทย์พูดครับแล้วหัวเราะ
“ไม่เข้าใจ ก็ปริ๊นยังเด็กอยู่นะ”
“อ้าวพี่ปริ๊น ไหนวันก่อนบอกเป็นหนุ่มแล้วไง”
ผมแหย่บ้างครับ
“นั่นมันวันก่อนนะ วันนี้เป็นเด็กไปก่อน อิอิ”
“นั่นแน่ พ่อตัวแสบ”
ผมเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงตามประสานั่นล่ะครับ
“ไม่ต้องไปส่งพี่ปริ๊นหรอกลูกต้อม วันนี้พ่อว่างเดี๋ยวพ่อไปส่งให้ เรารีบไปเรียนเถอะ ต้องไปรับหนูมิไม่ใช่เหรอ”
คุณพ่อเอ่ยขึ้นครับ ผมมองไปที่พี่ปริ๊น
“อ่า ไม่เอาอ่ะ ปริ๊นจะไปกับพี่ต้อมอ่ะคุณปู่”
“อ้าว ไปกับพี่ต้อมไม่ได้กันตั้มนะ”
“อ่ะ งั้นพี่ต้อมไปเถอะนะ ปริ๊นจะไปกับคุณปู่”
“ฮ่าๆ คนเรานะ เปลี่ยนใจง่ายเหลือเกินนะ”
ผมขยี้หัวเจ้าตัวน้อยแล้วนั่งลงกินสลัดผลไม้กับขนมปังอีกชิ้นเดียวครับ ไม่อยากกินเยอะไม่ได้ใช้พลังงานอะไรมาก เดี๋ยวอืด
“เป็นไงมิเชล หลับสบายไหม”
พอเจอหน้าผมก็ทักไปล่ะครับ เธอยิ้มหวานให้ เฮ้อนะ ตื่นเช้ามาเจอรอยยิ้มหวานๆแบบนี้ก็คงดีสินะ
“หลับเป็นตายเลย อิอิ คงเหนื่อย”
“กล้ามขึ้นป่ะเนี่ย”
“หือ”
“ก็มีกล้ามจะดูแข็งแรงไปนะ อิอิ เหมือนทอมบอย”
“ทอมมี่”
เธอมองผมแล้วร้องเรียกซะเสียงหลง
“บ้าเหรอ เขาเรียกออกกำลังกายบ้างจะได้ฟิตไง แล้วนี่ทำไมดูอารมณ์ดีจัง”
“หือ เราเหรอ เปล่านี่ กินไรยัง หิวไหม”
“เรากินข้าวต้มไปแล้ว เพิ่งจะเคยกิน ข้าวต้มใส่ปลา อร่อยมาก พี่มีมี่ทำเมื่อเช้า”
มีมี่นี่ที่จริงชื่อแมวนะครับ เป็นแม่ครัวอิมพอร์ตส่งตรงจากไทย แมวคงจะเรียกยากเลยเปลี่ยนซะหน่อย ให้มันทันสมัย
“เธอจะขับตามเราไปเหรอ”
“ใครตามใครกันแน่ อิอิ เมื่อวานนายตามเรานี่”
“เมื่อวานออมมือหรอกนะ ฮ่าๆ เอ๊ะ มิเชล อะไรติดหน้าน่ะ”
ผมทำหน้าสงสัย ขมวดคิ้วครับ เธอรีบเอามือลูบหน้าทันที
“อะไรเหรอ”
ผมยังไม่พูดครับ ปล่อยให้เธอลูบหน้าไปก่อน จนทนไม่ไหวแล้ววิ่งไปที่กระจกส่องท้ายของรถเธอเอง
“ไม่เห็นมี อะไรเหรอทอมมี่”
“น่ารักไง ความน่ารักมันติดอยู่บนหน้าของเธอน่ะ”
เสี่ยวมาก ผมรู้ตัวครับแต่เธอคงไม่เคยได้ยิน ผมเชื่อแบบนั้น ฮ่าๆๆ พูดเสร็จผมก็เดินขึ้นรถไป
“ตามให้ทันนะมิเชล”
ผมมองดูเธอที่หน้าแดงก่ำไปไม่ถูก เขินแล้วยิ่งน่ารักนะเนี่ย ได้กำไรแล้วกู เออ ลืมบอกไป ผมเล่าเกี่ยวกับอารมณ์ไม่ค่อยเก่งนะครับ เพราะฉะนั้นผมว่าผมให้พี่ชายผมเล่าแทนดีกว่า อิอิ ขี้เกียจเล่าแล้ว

เขียนโดย อิ๊กเก้ แหะๆ


ปล. มาแว้วววว เริ่มเบื่อวิธีการเขียนแบบนี้ล่ะ มันเหมือนสะท้อนอารมณืของตัวละครด้านเดียวยังไงไม่รู้ ไม่มันส์ 5555 ผมเปลี่ยนแนวเลยดีกว่า เอ๊ะ หรือจะสลับกันไปมา รั่วๆ มั่วๆ ตามแบบฉบับดีไหมคร้าบ พี่ร้าก จุ๊บๆๆ

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
^

^
^
^
^
^
^
^
^

จิ้มๆๆๆ



ชอบๆๆ มากๆๆ อ่ะ


ยังคงสงสัย ซัน



เค้าเคยรู้จัก ต้อม ตอนอยู่ ที่ไทย หรา คร๊

แล้ว ทำไมซัน ถึงดู ตุ๊งติ้ง จัง อ่ะ


ไม่แมนเลย ต้อมดูแรงๆๆ ซันน่าจะ ดื้อๆๆ มึนๆๆ กว่านี้น๊ะ




ป.ล.  ร๊ากพี่นาย กะ ต้อม มากๆๆ นะคร๊  อ๋อ เฮีย ด้วย

ออฟไลน์ memmory_far

  • ลมที่คอยโบกโบยแต่ไม่เห็นไม่เจอ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮ้อ.... ถ่ายทอดโดยต้อมเนี่ยไม่มันส์เลยอ่ะ
อยากให้ถ่ายทอดโดย ซันนี่จังเลย

ท่าจะมันส์กว่าา!! เลยไม่รู้เบื้องลึก ตื้น หนา ของซันนี่มาตั้งแต่อดีต
แบบเจอกันไรงี้... เอาแบบนั้นก็ได้นะครับพี่อิ๊กกกี้

แต่ก็สนุกน๊าา ๆๆ ๆ  เป็นกำลังใจให้ครับ   :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: Never last, Never end, รักสุดหัวใ
«ตอบ #118 เมื่อ29-04-2011 17:25:06 »

อ่านตอนต้นๆ ก็เครียดอยู่ พอคุณนายออกเท่านั้นแหละ ฮาปรี๊ดดดเลย

แล้วที่จะเปลี่ยนให้พี่ชายต้อมเล่าแทน..พี่ชายมันนี่ใครหว่า
อย่าบอกนะว่าเป็นพี่อิ๊กกี้น่ะ อ้าวไม่ได้เป็นลุงเหรอ!! หา~~~  :o
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2011 17:45:13 โดย ChCh13 »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
บอกเล่าอารมณ์ตัวละครแต่ละคนก็ดีเหมือนกัน


จะได้รู้ว่าตัวละครแต่ละคนคิดอย่างไรกันบ้าง :กอด1: :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด