(เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT  (อ่าน 313764 ครั้ง)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
คิดถึงคุณเอ้จัง  ยิ่งอ่านแล้วยิ่งคิดถึงอ่ะ

ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงมั่ง

 :m13: :m13:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
อิอิอิ....จะเลือกใครกานน้อ.... :m17:

ลุ้นๆๆๆ   :m3: :m3:

รอติดตามนะจ้า   :m11:

sun

  • บุคคลทั่วไป
:m18:  ยิ่งอ่าน ยิ่งคิดตึ๋ง นะเนี่ย..เนอะ   :m18:

ป่านนี้..เป็นยังไงบ้างน๊า... จะยุ่งๆอยู่งานเหมือนเดิมอ๊ะป่ะ   :m26:

  :m1:   แวะเข้ามา ทักทาย ชาวเล้า เป็ด บ้างนะคะ   :m1:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

วุธหรือโยดีหนอ

เลือกไม่ถอกเลย

รออ่านต่อไปครับ

 :a3:

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
มารอ ยังไม่รีบมาต่ออีกอ่ะครับ รอๆๆนะ :m17:

pseudoboy

  • บุคคลทั่วไป
เคยอ่านแต่ตอนหลัง ๆ 

ดีเจง ๆ ที่ได้อ่านตอนแรก  ตามหามาตั้งนาน    :m4:

ขอบคุณหลายเด้อ   o14

จะรอต่อไปนะก๊าบ    นะโม  จงมาเร็ว ๆ :amen:

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
อ่านมาตลอดเลย

แง่มๆ

ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อวานงานเยอะเลยไม่ได้ต่อเลย
วันนี้จะลงให้ 2 ตอนเลยอิอิ

4 WHAT THE HELL I WAS THINKING ABOUT THAT NIGHT?
ระหว่างทางบนรถเมล์ที่เบียดเสียดยัดเยียดตอนเกือบ ๆ ห้าโมงเย็นวันนั้น ผมรู้สึกเหงาอย่างประหลาด มองดูเพื่อน ๆ คุยกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงฤ 24 ชั่วโมงแล้วสังหรณ์ใจอยู่ลึก ๆ เลยว่าพวกมันจะต้องเข้ามาวนเวียนในชีวิตผมและเพื่อนไปอีกนานแน่ ๆ

"เดี๋ยวแวะบ้านไอ้ตั้มก่อนนะ ไปหาอะไรกินกัน" ไอ้นพชวน

"อยู่แถวไหนล่ะ…ไกลปะ" อีตูนถาม

"ซอย xxxxx เอง ไม่ไกลหรอก" คนชื่อตั้มบอก ไม่ไกลเลย…แต่สำหรับผมคนเดียวนะ เพราะซอยที่ว่าน่ะมันแค่ประมาณ 3 ป้ายรถเมล์จากบ้านผม

"อ้าวแล้วพ่อกับแม่ตั้มล่ะ"

"บ้านเราไม่มีคนอยู่หรอก พ่อไปทำงานที่ชลบุรี ส่วนแม่ตามไปเฝ้าพ่อ" ตั้มพูดขำ ๆ

"ดีจัง ไปเหอะ….อีเอ้มึงน่ะไปด้วยเลย" อีตาลคนที่ทำท่าจะปิ๊งกับตั้มเจ้าของบ้านหันมาดักคอผม เพราะมันเห็นผมเฉยผิดปกติ

"ไม่มีผู้ใหญ่อยู่…มันจะดีเหรอ" ผมพูดเสียงจริงจัง พวกผมถึงจะแรดยังไง ห้าคนในหกก็ยังซิงอยู่นะครับ ส่วนอีคนที่ชวนน่ะ ผ่านมาหลายแล้ว

"กลัวเหรอ…พวกเราไม่ทำอะไรหรอก" ไอ้วุธทำหน้ากวน ๆ

"ทำไม่กลัว…กลัวไม่ทำน่ะสิ" ผมย้อน

"ปากดีอย่างนี้ต้องโดนซักทีจะพูดไม่ออก"

"ก็อยากโดนอยู่…แต่ไปหาเพื่อนมาอีก เจ็ดแปดคนนะ คนเดียวไม่พอมือเราหรอก" ผมพูดขำ ๆ ยิ่งเห็นหน้าวุธมันอึ้งที่ได้ยินผมย้อนยิ่งอยากแกล้งมันอีก ลืมไปเลยว่าตอนนี้อยู่บนรถเมล์ ผมยิ่งพูดดังขึ้น

"ว่าง ๆ ก็ขอยืม…." ผมมองไปที่เป้ากางเกงมัน "…ไปแคะฟันหน่อยนะ ไม้จิ้มฟันมันใหญ่ไปเดี๋ยวฟันห่าง" ได้ผลครับ ไอ้วุธหน้าแดงจ้องผมแบบจะกินเลือดกินเนื้อ พวกเพื่อนมันกับเพื่อนผมหัวเราะกันเสียงดังจนคนหันมามองทั้งคันรถ จากนั้นตลอดทางผมก็ไม่ได้ยินเสียงวุธอีกเลย แต่ผมกับเพื่อน ๆ ของมันเริ่มคุยถูกคอกันแล้ว

เกือบชั่วโมงบนรถเมล์ และรถสองแถวเข้าบ้านไอ้ตั้มอีก ในที่สุดก็ถึงซะที มองนาฬิกาเกือบหกโมงเย็นแล้ว หิวด้วย เหนื่อยด้วย บ้านไอ้ตั้มมันน่ารักดีนะครับ ไม่ใหญ่มาก สองชั้น มีสองห้องนอนสามห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นห้องรับแขกกับครัว มีโต๊ะหินอ่อนที่ระเบียงหน้าบ้านด้วย ตอนแรกก็สงสัยว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ทำไมดูเรียบร้อยสะอาดดีจัง ไอ้ตั้มบอกว่าพ่อกับแม่จ้างคนมาทำความสะอาดตอนครึ่งวันเช้าทุกวัน เป็นคนละแวกนั้นน่ะแหละไว้ใจได้

"กินอะไรกันดี จะซื้อกินหรือจะทำกินเอง" ไอ้ตั้มถาม

"มีอะไรให้กินมั่งอ่ะ แต่เราว่าทำเองดีกว่าไม่เปลืองด้วย" อีนัทพูด

"แหม…อีแม่ศรีเรือน ทำกับข้าวเป็นเหรอมึงน่ะ" อีอ๋ากัด

"กูไม่ได้ทำเองซะหน่อย…โน้นอีเอ้ไง" ผมเงยหน้าจากน้องหมาชิสุของตั้ม ที่ผมจับมันขึ้นมาเล่นบนตักผม

"โอ๊ย กว่าจะทำกว่าจะได้กินก็สี่ห้าทุ่มพอดี ซื้อเอาแหละง่ายดี" ผมตอบปัด ๆ

"พวกกูไม่มีตังค์แล้ว" อีตูนพูดบ้าง มันหันไปหาทุกคน ก็พยักหน้ากันหงึก ๆ

"เออ ๆ มีอะไรในตู้เย็นมั่งอ่ะ ต่อ" ผมถามเจ้าของบ้าน

"ไปดูด้วยกันดิ ไม่รู้พี่เค้าจะซื้ออะไรติดตู้เย็นบ้าง" ตั้มเดินนำผมไปในครัว ปล่อยให้ผู้หญิงแท้ ๆ นั่งเล่นกันหน้าบ้าน ไม่มีใครตามมาสักตัว

"อยากทำอะไรก็ทำได้เลย ทุกอย่างกินได้หมด จะกินแค่ไหนก็เอาออกมา บ้านนี้ไม่หวงของกินครับ" ตั้มพูดยิ้ม ๆ เหมือนเดิม

"ไม่ต้องหุงข้าวแล้วกัน ช้า กินมาม่าดีกว่า" ผมเห็นของในครัวมันแล้วก็มีไอเดียในการทำกับข้าวง่าย ๆ ทันที

"หา ! มาม่าเนี่ยนะ ไอ้พวกนั้นมันเบื่อตายเลย มาทีไรก็ต้มกินทุกครั้ง" ไอ้ตั้มบ่น

"คราวนี้ไม่ใช่มาม่าต้มโว้ย" ผมบอก

"แล้วอะไรล่ะ"

"เออน่า เดี๋ยวเสร็จก็รู้เองแหละ" ตั้มยิ้ม แล้วเดินออกไปข้างนอก ผมล้างมือที่ซิงค์เสร็จกำลังหยิบหม้อใบใหญ่ที่สุดรองน้ำมาต้มมาม่าต้มยำกุ้ง 11 ห่อ หันไปหน้าประตูอีกทีไอ้พวกนั้นมันก็แห่เข้ามาทำท่าเหมือนจะช่วย (ช่วยทำให้ยุ่งน่ะสิ)

"มา กูช่วย" แจนพูดพร้อมช่วยฉีกซองมาม่าที่เหลือ

"ไม่เป็นไรกูทำเอง พวกมึงไปรอข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวผมเหม็นนะมึง"

"เออ กูลืม มึงทำคนเดียวได้นะ" อีแจนตาโต วางมาม่าทันที

"สบายมากเพื่อน…พวกมึงด้วย กูทำคนเดียวเร็วกว่า"

"กูไม่ได้มาช่วยซักหน่อย มาดูเฉย ๆ ทำเร็ว ๆ นะยะนังแจ๋ว ชั้นหิวจนไส้กระดิกแล้ว" อีนัททำท่าเหมือนคุณนาย

"เจ้าค่ะ"…" อีดอก" คำหลังผมพูดแบบไม่ออกเสียง อีพวกนั้นขำกันใหญ่

"ไอ้วุธมึงอยู่ช่วยเอ้ในนี้แหละ จะได้เสร็จเร็ว ๆ" ไอ้นพพูดพลางขยิบตาให้วุธ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่….

"เค้าอยากทำคนเดียวมึงไม่ได้ยินเหรอ" วุธพูดเสียงเรียบ ๆ

"เอ้ ให้วุธมันช่วยเหอะ บ้านมันขายกับข้าวมันคล่องนะ" นพพูดแล้วขยิบตาอีก แต่คราวนี้ชี้ไปทางแจนด้วย ผมรู้แล้วว่าทำไม ก็ไอ้นพมันจะกันวุธไม่ให้อยู่ใกล้แจนที่มันกำลังจีบอยู่น่ะดิ พวกนั้นเดินออกไปหมดแล้ว วุธหันมามองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว

"ตกลงให้ช่วยปะ" วุธถาม

"ถ้าอยากช่วยก็ตามใจ" ผมเน้นคำว่า "ช่วย" เพื่อให้มันคิดว่าที่ช่วยเนี่ย ไม่ได้ช่วยผมนะ แต่ช่วยเพื่อนมันมากกว่า

"จะให้ทำอะไรล่ะ"

"คอยคนเส้นในหม้อละกัน ระวังอย่าให้เละนะ" ผมพูดแบบไม่มองหน้า ก้มหน้าก้มตาล้างผักคะน้าที่เกือบจะเหี่ยวกำนั้น

"เอาขึ้นได้ยัง" มันถามเสียงแข็งเชียว ผมเดินไปดูแล้วพยักหน้า วุธยกหม้อมาที่ซิงค์ส่วนผมเอากระชอนมารอรับเส้น

"เบา ๆ ร้อนนะโว้ย" ผมโวยวาย เมื่อน้ำที่มันเทกระเด็นมาโดนมือผม

"โทษ ๆ " ปากขอโทษแต่มันหัวเราะเบา ๆ ผมค่อย ๆ แบ่งเส้นออกใส่กะละมัง

"เอาเครื่องปรุงในซองเทใส่เส้น แล้วคลุกให้ทั่ว" ผมสั่ง

"โห แล้วจะกินได้เหรอ" วุธบ่น แต่ก็ทำ

"ยังไม่เสร็จ" ผมค้อนนิดนึง ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เตรียมหมูที่หั่นแล้วล้างรอไว้

"หั่นผักด้วย" ผมสั่งอีกครั้ง

"ไหนบอกทำคนเดียวได้ไง" มันย้อน

"เออ…งั้นไม่ต้อง" ผมเดินไปแทรกระหว่างตัวมันกับเขียงที่หั่นผัก เหมือนจะกระแทกให้ตัวมันออกไปห่าง ๆ ที่ไหนได้มันคว้ามือผมที่จับมีดเตรียมหั่นผักกองนั้น ผมชะงักมองหน้ามัน เพิ่งรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมาก และความสูงที่ใกล้เคียงกัน ดูคล้ายกับว่ามันกอดผมอยู่ด้วยซ้ำ

"พูดเล่น มา…ทำให้" ผมยังไม่ปล่อยมีด "เร็วดิ น้ำมันร้อนแล้วนะ" ผมตกใจหันไปมองชิบหายแล้ว ควันเต็มกระทะเลย

"ปล่อยสิ" ผมบอก มันมองที่มือผมแล้วปล่อยทันที

ผัดมาม่าของผมต้องแยกทำเป็นสามกระทะใหญ่ ๆ ใส่หมู ใส่ไข่ ใส่เส้น แล้วค่อยใส่ผักเป็นลำดับสุดท้าย ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม ไม่ต้องชิมด้วย ผัดเสร็จผมก็เอาใส่ในกะละมังเหมือนเดิม ก็ไม่รู้นี่น่าว่าใครจะกินมากกินน้อยแค่ไหน

"เพิ่งรู้ว่ามาม่าก็เอามาผัดได้" วุธพูดลอย ๆ "แต่ไม่รู้กินได้รึเปล่า"

"ไม่ต้องลองก็ได้นะ" ผมประชด

"ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ…ทำไมกลัวไม่อร่อยงั้นดิ"

"ถ้าทำมาม่าไม่อร่อยก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้วหละ" ผมอดไม่ได้ที่จะค้อนมัน

"ไม่ต้อง…เรายกให้" มันแย่งผมยกกะละมังมาม่า "เธอเอาจานกับช้อนไปละกัน ไอ้นี่มันหนัก…ร้อนด้วย" เรากำลังจะอ้าปากขอบใจ แต่ต้องเงียบ "เดี๋ยวมือด้านหมด เวลาไอ้เด็กมอปลายคนนั้นมันจับมือจะได้นิ่ม ๆ ไง"

"อะไรนะ"

"อะไรล่ะ ก็แฟนเธอไง เห็นจับมือจับแก้มกันไม่อายคนอื่นบ้าง" มันทิ้งระเบิดไว้แล้วเดินออกจากครัวไป

"เพื่อนโว้ย ไม่ใช่แฟน" ผมแหกปาก หน้าชาอีกรอบแล้ว มันไม่ยอมหยุดฟังผมอธิบาย "ช่างแม่ง" ผมพูดคนเดียวเบา ๆ

หลังจากกินเสร็จ เพื่อน ๆ ผมก็ช่วยกันเก็บจานชามกะละมังไปล้าง พวกผู้ชายก็จะเข้าไปช่วยแต่อีอ๋ามันบอกว่าแค่มาอาศัยกินก็เกรงใจแย่แล้ว พวกนี้ขอล้างเองดีกว่า คนอื่นก็เห็นด้วย วันนั้นมาม่าผัดฝีมือผมหมดเกลี้ยง แถมยังชมอีก ผมไม่รู้ว่าจะดีใจดีหรือเปล่าที่ทำมาม่าอร่อย ผมว่าพวกมันหิวมากกว่า แต่ที่แน่ ๆ ตั้มเจ้าของบ้านชวนผมให้มาเที่ยวบ้านบ่อย ๆ ด้วย แต่ความหมายโดยนัยคือให้ตาลเพื่อนผมมาด้วยนั่นแหละ

"บ๊าย บาย เจอกันพรุ่งนี้นะโว้ย" ผมร่ำลาเพื่อนผมซึ่งไม่มีใครกลับทางเดียวกันเลย ก่อนจะหันไปโบกมือให้เด็กช่างเพื่อนใหม่

"เฮ้ย ไอ้วุธมึงกลับทางเดียวกับเอ้ไม่ใช่เหรอ" นพถาม วุธพยักหน้ารับ "นี่ไงมีเพื่อนกลับแล้ว" นพบอกผม

"ไม่เป็นไรเรากลับเองได้ แค่นี้เอง อย่าลืมดิว่าเราคนในพื้นที่" เรารีบพูดสวน

"มืดแล้ว…อันตราย" วุธพูดเสียงเรียบ ๆ

"ใครจะทำอะไรเรา เราผู้ชายนะเว้ย"

"ผู้ชาย หึ..หึ แน่ใจ?" มันพูดยิ้ม ๆ

"แน่ใจดิ แถมหล่อกว่านายด้วย" เสียงเพื่อน ๆ ผมโห่ทันที

"หยุด ๆ โน่นสองแถวมาแล้ว" ไอ้ตั้มเบรก

ในที่สุดผมก็ต้องขึ้นรถคนเดียวกันกับวุธ ขนาดมืดแล้วคนยังแน่นอยู่เลย วุธยืนอยู่ข้างหน้าผม เพราะตอนแรกผมไม่ยอมขึ้นรถคนเดียวกับมัน แต่เพื่อน ๆ ผมมันร้องเสียงดังไล่ผมให้ขึ้นรถ คนขับก็รอ คนบนรถก็มองลงมาที่ผม ผมก็เลยต้องขึ้นไปอย่างเสียไม่ได้

"บ้านอยู่ไหนนะ" มันพูดลอย ๆ
"แถวนี้แหละ" ผมตอบแบบขอไปที

"ซอยไหนล่ะ"

"ซอยยิก ๆ มั้ง" ผมกวน มันหันมายิ้ม

"ถามจริง" หน้าตามันอยากรู้มาก ผมก็เลยต้องบอก แต่บอกแค่ชื่อซอยนะครับ

"เข้าไปลึกปะ"

"ถามทำไม…จะไปส่งเหรอ"

"อยากให้ไปมั๊ยล่ะ" วุธหันมาถามผม คนก็แน่นขึ้นตัวผมแทบจะแนบกับมัน

"ไม่ต้องอ่ะ แล้วบ้านวุธล่ะ…อยู่ไหน?" มันบอกชื่อซอยมาเหมือนกัน ถัดจากซอยบ้านผมไปป้ายรถเมล์เดียว แต่อยู่คนละฝั่งกับของผม ซอยนั้นมันลึกมากเป็นซอยใหญ่เป็นทางลัดไปได้หลายซอย ผมก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไรอีก ซักพักรถสองแถวก็ถึงถนนใหญ่ ผมต้องต่อรถเมล์ไปอีกสามป้ายทางเดียวกับวุธนั่นแหละ แต่ผมไม่อยากขึ้นรถคนเดียวกับมันอีก

"ขอบใจที่สอนเล่นไอซ์นะ วันหลังเจอกันใหม่" ผมพูดกับวุธทันทีที่ลงจากสองแถว

"อ้าว…ไปไหนล่ะ ไม่กลับด้วยกันเหรอ" วุธงง

"ไม่อ่ะ เดี๋ยวแวะซื้อของก่อน" วุธมองหน้าผมแบบจับผิด ผมหลบตาวูบ

"เออ ไม่เป็นไร กลับบ้านดี ๆ ละกัน" ผมอยากจะบอกมันเหลือเกินว่าผมกับมันอายุไม่ได้ต่างกันเกินปีหรอก มันพูดกับผมเหมือนผมเป็นเด็กหกขวบไปได้ รถเมล์มาพอดีมันก็ขึ้นรถไปแบบไม่หันมามองผมอีกเลย

บนถนนตอนมืด ๆ แบบนี้รถไม่ติดเท่าไหร่ สักพักรถเมล์คันใหม่ก็มาพอดีผมกระโดดขึ้นรถทันที จ่างตังค์ยังไม่ทันจะได้ตั๋วก็ถึงป้ายที่ต้องลงแล้ว ผมก้มหน้าก้มตาเดินไปขึ้นมอไซค์รับจ้างเข้าซอย

"ซื้อของไวจังนะ" ผมหันขวับไปตามเสียง

"เฮ้ย…วุธ…ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ" ผมตกใจ

"ก็มารอดูหน้าคนโกหกไง" ผมอึ้ง "ไม่อยากกลับด้วยกันบอกตรง ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องโกหกเลย"

"ไม่ได้โกหกซะหน่อย…ก็…ก็ลืมไปว่าตังค์หมด" ผมแก้ตัวตะกุกตะกัก วุธมองหน้าผมแบบไม่เชื่อที่ผมพูด

"อ้อ…ลืมบอก…พรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วเราจะไปรอหน้าโรงเรียนนะ" อยู่ ๆ วุธก็พูดขึ้นมา

"หา…ไปทำไม…รอใคร" ผมใจเต้นโครมคราม

"รอแจนไง เลิกสองโมงครึ่งใช่ปะ ฝากบอกแจนด้วยล่ะกัน" แป่ว…ผมผยักหน้าช้า ๆ แล้วหันหลังกลับไปที่วินมอไซค์โดยไม่ได้ร่ำลาวุธอีก

คืนนั้นทั้งคืนผมนอนกระสับกระส่าย ทำไมก็ไม่รู้พอหลับตาลงทีไรหน้าของวุธก็ลอยมา พอเคลิ้ม ๆ คำพูดบางคำของวุธก็ทำให้ผมยิ้ม และสุดท้ายผมก็ต้องลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อสมองผมทวนคำพูดที่ว่าพรุ่งนี้วุธจะไปรับแจนที่หน้าโรงเรียน เสียใจเหรอ…ผิดหวังเหรอ…อิจฉาเพื่อนเหรอ ไม่สิ ไปไหนมาไหนอีแจนก็มีคนมาจีบเป็นเรื่องปกติของคนสวย แต่กับคนนี้มันรู้สึกแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าวุธมันดีกับผมมั้ง สอนเล่นไอซ์ ผมทำแขนมันเป็นแผลก็ไม่โกรธ คำพูดที่ดูเหมือนเป็นห่วงตอนเราจะกลับบ้าน ที่สำคัญมันเข้าสเปกเราอย่างจังไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตา การแต่งตัว ดูเถื่อนแบบเทห์ ๆ ไม่ซกมกเพราะตัวมันหอมมาก ขนาดออกไปตะลอนทั้งวัน ผมยังจำกลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของมันได้ตอนที่เราต้องอยู่ใกล้กันมาก ๆ บนรถสองแถวเมื่อเย็นนี้ นาน ๆ จะได้เจอคนแบบนี้ซักที คิดไปคิดมาก็นึกถึงไอ้โยอีกคน ไอ้นี่ก็พูดจาแปลก ๆ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับโยนัก (เด็กมัธยมปลายไม่ใช่สเปกผมนี่นา)

************************************************************************


lanlan

  • บุคคลทั่วไป
อีก 1ตอน  :a3:
5 ALL BY MYSELF (DON'T WANNA BE)

"อีเอ้เป็นไรวะมึง…หน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไปทำอะไรมา" อีนัททัก หลังวิชาแรกจบลง

"เปล่า…กูก็นอนสบายดีนี่…แค่เมื่อยขานิดหน่อยว่ะ" ผมโกหก ก็เมื่อคืนกว่าจะหลับก็เกือบตีสอง ตีห้าตื่นมาโรงเรียน

"ตอแหล….ขอบตาคล้ำขนาดนี้บอกนอนสบายดี…มัวแต่คุยกับผู้ชายอยู่ละซิมึง" อีตูนสาวนักกีฬาดูออก แต่มันพูดเรื่องอะไรกันผมงง อีอ๋าเดินเข้ามาพอดีทำให้ผมถึงบางอ้อ

"ก็คุยโทรศัพท์กับโยสุดหล่อนั่นไงล่ะมึง" อีอ๋าพูดเองเออเอง

"เป็นไงมึง…กูเห็นครั้งแรกก็รู้แล้วว่าเค้าชอบมึง" อีนัทพูดอีกคน

"เค้าถามถึงกูมั่งปะ" อีอ๋าสอด

"อีดอก…ถามสิ…เค้าถามว่ามึงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหรือสัตว์ป่าสงวน เหลืออีกกี่ตัวในเมืองไทย" ผมเล่นมุขเรื่องสัตว์ป่าประเภทต่าง ๆ ที่เพิ่งเรียนเมื่อตะกี้

"อีเหี้ยเอ้…กูถามจริง ๆ " อีอ๋าโมโห

"ถามKอะไรล่ะ…กูไม่ได้คุยกับใครซักหน่อย ไอ้โยก็ไม่ได้โทรมา"

"อ้าว…แล้วที่เค้าขอเบอร์มึงไปอ่ะ" อีนัทสงสัย "หรือว่ามึงไปต่อที่อื่นกับวุธวะ" ทำไมก็ไม่รู้หน้าผมแดงจนเพื่อนสังเกตุเห็น

"กูว่าแล้ว…ไม่น่าฝากปลาย่างไว้กับแมวเลย" อีแจนมาจากไหนไม่รู้ดีนะว่ามันพูดยิ้ม ๆ

"บ้าเหรอ กูไม่ได้ไปไหน ไม่ได้คุยกับใครทั้งนั้นแหละ ถึงบ้านก็อาบน้ำ แดกข้าว นอน แต่มันนอนไม่ค่อยหลับ ปวดขาจะตาย พวกมึงไม่ปวดกันมั่งเหรอ"

"ไม่เห็นปวดอะไรเลย พวกมึงล่ะ" อีตูนหันไปถามเพื่อน ๆ ทุกคนส่ายหัว "วันนี้เลิกเรียนแล้วไปไหนต่อดีวะ" อีนัทหันมาถามผม

"ไปไหนก็ไปกันเหอะ แต่กูไม่ไปนะโว้ย" ผมบอก "เดี๋ยวก่อน…เมื่อวานก่อนแยกกับไอ้วุธมันบอกว่าวันนี้เลิกเรียนมันจะมารับมึงอ่ะอีแจน" เสียงเพื่อน ๆ ผมกรี๊ดกร๊าดทันทีที่ผมพูดจบ

"งั้นเลิกเรียนแล้วรีบออกเลยนะโว้ย เดี๋ยวไอ้พวกเด็กXXXXแม่งมา" อีตูนพูดชื่อโรงเรียนช่างกลอีกที่นึงซึ่งไม่ค่อยกินเส้นกับโรงเรียนพวกวุธมัน

ก็ตามประสาเด็กช่างแหละครับผิดกลิ่นกันหน่อยก็ตีกันแล้ว หน้าโรงเรียนผมตอนเลิกเรียนก็มีผู้ชายหลากหลายวัย หลายโรงเรียนมาคอยรับแฟนกัน แต่วุธบอกเมื่อวานว่าจะมาตอนโรงเรียนมันเลิกก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะคนยังไม่เยอะ

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่อีพวกชะนีรอคอย ทุกนางเตรียมพร้อมที่จะไปหาผู้ชายแล้ว อีนัท อีอ๋า อีตาล อีแจน แอบแต่งหน้าตอนอาจารย์เผลอ ส่วนอีตูนมันต้องซ้อมวอลเลย์ก็เลยอดไป แต่มันก็ไม่ได้อยากไปสักเท่าไหร่ เพราะผู้ชายในกลุ่มนั้นไม่เข้าสเปกมันซักคน มันชอบผู้ชายแมน ๆ แบบนักกีฬามากกว่า ส่วนผมก็เก็บสมบัติเตรียมตัวกลับบ้านให้พ่อกับแม่เซอร์ไพร้ส์ที่กลับบ้านก่อนหกโมง พวกเราเดินมาถึงหน้าโรงเรียนด้วยกันผมหันไปเห็นพวกวุธ กำลังเดินมาทางเราพอดี ผมรีบร่ำลาเพื่อน ๆ โบกมือให้ไอ้พวกนั้นนิดนึง ผมข้ามถนนเดินจ้ำแบบไม่หันกลับไปมองเพื่อน ๆ อีกเลย ระหว่างนั่งรถกลับบ้านก็รู้สึกเหงา ๆ เหมือนกัน คนไม่เคยกลับบ้านเร็ว เทอมก่อนเลิกเรียนก็มีงานทำ เทอมนี้เลิกเรียนก็ไปเที่ยว ไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนทุกเย็น มีกิจกรรมให้ทำร่วมกันตลอด แต่วันนี้เราต้องกลับบ้านคนเดียวเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาของวุธที่แย่งกันจีบอีแจนเพื่อนรัก ตอนบ่าย ๆ อย่างนี้รถก็ไม่ค่อยติดไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถึงปากซอยบ้าน ไม่รู้จะทำอะไรก็เข้าไปซื้อน้ำแล้วนั่งเล่นอยู่หน้าเซเว่น คิดมากขนาดโกรธตัวเองที่ทำไมไม่เกิดเป็นผู้หญิงจริง ๆ เค้าจะได้สนใจ แปลกเหมือนกันเมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ เคยแอบชอบคนมาก็มาก แต่ไม่มีใครทำให้เราหวั่นไหวได้ขนาดนี้

วันนี้ผมกลับถึงบ้านก่อนทุกคน ขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจะไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าวให้ทุกคนกินกัน แต่พอลงมาข้างล่างปรากฎว่าพ่อกับแม่กลับมาพร้อมกัน สรุปว่ารอน้องชายทั้งสองคน…ไม่ถึงสิบนาทีพวกมันก็มา แล้วเราก็ออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกกันพร้อมหน้าโดยที่ไม่ใช่วันอาทิตย์เป็นครั้งแรกในรอบปี เราไปกินที่ร้านอาหารเจ้าประจำที่บรรยากาศดีมาก ๆ มีมุมให้อาหารปลา มีมุมเด็กเล่น ซึ่งครอบครัวผมมากทานที่นี่กันตั้งแต่ผมยังเด็ก และปัจจุบันร้านนี้ก็ยังอยู่นะครับ (ใกล้กับห้างที่เคยได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในประเทศ ผมเห็นตั้งแต่ที่ดินตรงนั้นยังเป็นทุ่งนาอยู่เลย) อาหารอร่อยเหมือนเดิม สักพักพ่อผมก็เริ่มคุยเรื่องอนาคตของผม

"จบปวช. แล้วจะเรียนอะไรต่อ"

"ก็มหา'ลัยดิพ่อ" ผมตอบแบบไม่คิด

"ไม่ต่อปวส. เหรอ"

"ไม่อ่ะครับ อยากเรียนที่เดียวยาว ๆ เลย"

"แล้วหนูดูไว้รึยังว่าจะเรียนที่ไหน" แม่ผมถามบ้าง

"ยังไม่รู้เลยครับ…อีกตั้งนาน"

"อีกนานอะไร แค่ปีกว่า ๆ เอง เตรียมตัวอะไรมั่งยัง" พ่อถามเสียงจริงจังจนผมต้องวางมือจากการแกะเนื้อปูผัดผงกะหรี่

"ต้องเตรียมตัวอะไรด้วยเหรอ" ผมสงสัยมองหน้าพ่อกับแม่สลับกัน

"อ้าวก็ต้องเรียนพิเศษเพิ่มสิ เราเรียนพาณิชย์มาเรื่องคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษน่ะสู้เด็กสายสามัญได้ที่ไหน" แม่ตอบ

"โห…จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนอ่ะครับ" ผมเกลียดการเรียนพิเศษที่สุด เพราะผมโดนบังคับให้เรียนตั้งแต่เด็ก ๆ (มารู้ตอนโตว่ามันสำคัญมาก)

"ก็ปิดเทอมนี้ไม่ต้องไปทำงานไง…เรียนพิเศษอย่างเดียว" พ่อพูดดักคอผม

"แล้วเอ้จะเอาเงินที่ไหนซื้อขนมล่ะ" ผมอ้อน

"พ่อก็ให้ตามปกติ…ไม่พอใช้ก็บอกแต่ห้ามฟุ่มเฟือย โอเคมั๊ย"

"ขอคิดดูก่อนล่ะกันนะครับ" ผมต่อรอง

"ตามใจ เพราะถ้าจะดื้อไปทำงานตลอดปิดเทอมนี่พ่อก็จะไม่ให้เงินซักบาท…" พ่อพูดเรียบ ๆ แต่ผมรู้ว่าพ่อทำจริง
*
*
*

หลังอาหารเย็น พวกเรากลับถึงบ้านประมาณสองทุ่ม ผมอาบน้ำอีกรอบ นั่งคิดเรื่องที่พ่อพูดเมื่อเย็นก็เครียด คิดถึงเพื่อน ๆ ว่าป่านนี้พวกมันทำอะไรกันอยู่ก็เครียดอีก อยู่คนเดียวเหงามาก ๆ หันซ้ายก็เจอกำแพง…หันขวาก็เจอกำแพง ผมเดินไปที่ระเบียงนั่งคิดอะไรเรื่อยเปี่อย ลมข้างนอกเย็นสบายแต่ผมกลับร้อนรุ่มในใจ ผมตัดสินใจเดินเข้าห้องลากสายโทรศัพท์ออกมาที่ระเบียง (ตอนนั้นยังไม่มีไร้สายอ่ะคับ) กดเบอร์เพื่อนทีละคนยังไม่มีใครถึงบ้านเลยซักคน "นี่มันเกือบสามทุ่มแล้วนะโว้ย…ไปถึงไหนกันวะแม่ง" ผมบ่นในใจ ก่อนที่ผมจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้ผมก็เลยเดินไปเปิดวิทยุฟังดัดจริตฟังเพลงฝรั่งด้วยนะครับเพราะผมรู้ตัวเองดีว่าฟังเพลงไทยแล้วมันจะอินง่ายกว่า ถ้าดีเจดันเปิดเพลงเหงา ๆ เศร้า ๆ ขึ้นมาผมต้องก็อกแตกแน่ ๆ เอาเพลงฝรั่งนี่แหละวะ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็ยังดีกว่านั่งเงียบ ๆ คนเดียว เปิดเสียงดังเลยหล่ะ นั่งตรงระเบียงกลัวไม่ได้ยิน

When I was young
I never needed anyone
And making love was just for fun
Those days are gone

Livin' alone
I think of all the friends I've known
When I dial the telephone
Nobody's home

All by myself
Don't wanna be
All by myself
Anymore

Hard to be sure
Sometimes I feel so insecure
And loves so distant and obscure
Remains the cure

All by myself
Don't wanna be
All by myself
Anymore
All by myself
Don't wanna live
All by myself
Anymore

ตอนนั้นยังแปลไม่ค่อยออก แต่ก็จับใจความได้เป็นระยะ บวกกับเสียงร้องที่เข้าถึงอารมณ์คนเหงา ๆ น้ำตาผมก็ไหลแบบไม่รู้ตัว โชคดีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความเศร้าที่ผมสร้างขึ้นเองแท้ ๆ

"สวัสดีครับ" ผมรับทันทีเพราะโทรศัพท์ยังอยู่บนตักผม

"สวัสดีครับ ขอสายเอ้ครับ"

"เดี๋ยวนะ…เอ้รับแล้ว…ข้างล่างวางก่อน" ผมบอกกับคนในบ้านซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร เพราะโทรศัพท์มันเป็นแบบพ่วง เครื่องข้างล่างสามารถยกหูรับได้น่ะครับ

"เอ้พูดอยู่ครับ…ใครอ่ะ" ผมพูดเสียงอู้อี้ (ก็คนกำลังร้องไห้อยู่อ่ะนะ)

"เป็นอะไร เสียงไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายเหรอ"

"เปล่า…" ผมตอบเบา ๆ

"ทำไรอยู่"

"เปล่า…"

"โทรมารบกวนปะเนี่ย" เสียงปลายสายเหมือนจะกังวล

"เปล่า…"

"พูดเป็นแต่เปล่าเหรอ"

"เปล่า….เอ๊ยไม่ใช่…โยเหรอ?"

"อืม…เราเอง" " มันตอบหลังจากเงียบไปแป๊บนึง

"เป็นไงมั่ง…ยังไม่นอนเหรอ" เราเริ่มคุย

"ทำไม…ถึงคิดว่าเป็นเราล่ะ" นอกจากไม่ตอบแล้วยังถามกูกลับอีก แปลกว่ะ ผมคิด

"ก็เพื่อนผู้ชายที่มีเบอร์เราน่ะ…มีไม่กี่คนหรอก"

"อืม…วันนี้ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอ"

"ไม่อ่ะ…"

"ทำไมล่ะ" มันถาม…ก็แล้วทำไมกูต้องบอกมันด้วยล่ะ ผมคิดในใจ

"ไม่อยากไป" ผมตอบสั้น ๆ "กินข้าวยัง" ผมเปลี่ยนเรื่อง

"กินแล้ว….รู้ปะนี่นานมาก…นานจนเราจำครั้งสุดท้ายไม่ได้เลยว่าใครถามเราอย่างนี้" มันพูดเหมือนซาบซึ้งมาก แต่ผมแค่ถามตามมารยาท แบบไม่มีเรื่องจะคุยอ่ะ

"หาแฟนดิ จะได้มีคนถามบ่อย ๆ ไง"

"ก็หาอยู่…"

"หล่อ ๆ ขนาดนี้หาไม่ยากหรอก…แต่เอ่อ…อยู่โรงเรียนชายล้วนก็ใช้เวลานิดนึงนะ"

"จริง ๆ แล้วก็เจออยู่คนนึง…แต่เค้าคงไม่ชอบเราหรอก" โยพูดเสียงเศร้า ๆ

"ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ"

"เพิ่งรู้จักกันไง แต่เค้าจะคอยหลบหน้า เหมือนไม่อยากเจออ่ะ" พูดจบก็เงียบ ผมก็เงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ และแล้วโยมันก็หัวเราะเสียงดัง

"หัวเราะอะไรวะ" ผมงง

"จำไม่ได้จริง ๆ เหรอ" มันย้อนถามผมอีกแล้ว

"จำอะไรวะ"

"โอเค โอเค ไม่มีอะไรหรอก พูดเล่น… เมื่อวานกลับบ้านแล้วปวดขาป่ะ"

"ปวดดิ แทบไม่อยากไปโรงเรียน"

"แล้วก็ไม่อยากไปเที่ยวต่อตอนเย็นด้วยใช่มะ" มันพูดต่อให้

"ถ้าอยากไปก็ไป…ปวดขาแค่นี้หยุดเราไม่ได้หรอก"

"นี่แสดงว่าไม่อยากไปจริง ๆ มีอะไรเหรอ" เสียงมันอยากรู้มาก

"ไม่อยากเห็นหน้าคนบางคน"

"ใครอ่ะ…" มันเงียบพักนึง "ไอ้คนที่ชื่อวุธเหรอ"

"คงงั้นมั้ง" ผมตอบส่ง ๆ "เพื่อน ๆ เป็นไงกันบ้าง ได้ข่าวใครมั่งมั๊ย" ผมเปลี่ยนเรื่อง

"ไม่มีอ่ะ ไม่ได้ติดต่อใครเลย"

"เหรอ…แล้วมึงเรียนเป็นไงมั่งล่ะ ยากปะ กูเรียนพาณิชย์นี่โครตสนุกเลย" ต่อมเม้าธ์เริ่มทำงานแล้วครับ

"ทำไมพูดกูมึง กับเราล่ะ" มันถามเสียงเรียบ เล่นเอาผมงง

"เมื่อวานกูกะมึงก็พูดอย่างนี้นี่หว่า" ผมขำ ๆ ยังคิดว่ามันเล่นมุข

"แต่ตอนนี้และต่อไปไม่พูดได้มั๊ยครับ" เสียงจริงจังมาก

"ไม่ต้องมาอำเลย เป็นอะไร…มึงอ่ะ"

"ไม่ได้อำ พูดจริง ๆ ต่อไปเราพูดกันดี ๆ นะครับ"

"ได้สิคร้าบบบ…โยอยากให้ทำอะไร เป็นอะไร พูดยังไงก็ได้คร้าบบบ อยากได้อะไรเพิ่มอีกมั๊ยคร้าบบบ" ผมแกล้งล้อมัน

"อยากได้หัวใจเอ้อ่ะ…จะให้ได้ปะล่ะ"

"เป็นผีดิบเหรอคร้าบบบ…เอาปอด เอาตับไตไส้พุงไปด้วยมั๊ยคร้าบบบบ" มันขำกับเสียงสั่น ๆ ของเรา

"ไม่เล่นแล้ว…โอเค พูดกันดี ๆ ก็ได้ ทำการบ้านยัง" เราหยุดล้อเล่นแล้ว

"โห…ถามแต่เรื่องเรียนเนอะ"

"แล้วจะให้คุยเรื่องอะไรล่ะ ตอนเรียนมอต้นด้วยกันไม่เห็นอยากจะคุยกับเราเลยนี่…เมื่อวานยังงงอยู่เลย ทำไมเดินเข้ามาทักเราวะ" มันเงียบไปนิดนึง

"ก็ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าอ่ะ เออ…ไม่ได้เจอกันนาน เราเปลี่ยนไปมั่งปะ" ผมนึกหน้ามันระหว่างตอนเรียนมอต้นกับที่เจอกันเมื่อวาน

"เปลี่ยนดิ ตอนมอต้นโยเตี้ยกว่าเราอีก ไปทำอะไรมาวะสูงขึ้นตั้งเยอะ"

"แล้วหล่อปะล่ะ" ผมอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง ก็มันหล่ออ่ะ แต่ไม่อยากชมมัน

"หล่อก็ได้…หล่ออย่างนี้ไม่มีน้องสาวที่โรงเรียนมาจีบมั่งเหรอ" มันหัวเราะ ก็น้องสาวที่ผมพูดหมายถึงน่ะน้องกะเทยสาวที่สิงอยู่ในโรงเรียนชายล้วนนั่นแหละ

"ที่โรงเรียนไม่มีหรอก มีแต่แถวบ้าน" เป็นไปได้ไงหน้าตาอย่างนี้ไม่มีสาว ๆ ในโรงเรียนมาชอบ แต่ก็ช่างมันเหอะ

"อย่าลองเชียวนะ…เดี๋ยวติดใจ" ผมเตือน

"ไม่ต้องห่วง…ถ้าจะลองก็ขอลองกับ เอ้….เอ่อ…เพื่อนล่ะกัน"

"อุบาศว์" ผมด่ามันแก้เขิน เดินลากสายโทรศัพท์เข้าบ้าน แล้วหรี่เสียงเพลงลง ปิดไฟทุกดวง เปิดแค่ไฟหัวเตียงไว้ บรรยากาศค่อยดีขึ้นมาหน่อย
*
*
*

ผมคุยกับโยนานมาก กลิ้งตัวไปมาบนเตียง คุยเรื่องไร้สาระบ้างเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของโยหลายอย่างเลยครับ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เริ่มจาก โยไม่ชอบดูฟุตบอล…..แต่ตอนเรียนมอต้นผมเห็นมันเล่นบอลทุกเย็นเลย…ศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่มันเก่งจะตายไม่งั้นจะสอบเข้าโรงเรียนนั้นได้ยังไง แต่ผมคิดว่าบางทีอาจจะลืมก็ได้ ผมยังเป็นบ่อย ๆ…..มันชอบถามเรื่องตอนมอต้น หลายเหตุการณ์ที่ผมเล่ามันก็เออออไปตามเรื่อง เหมือนมันจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง…..มันชอบวกเข้าเรื่องส่วนตัวของผม…ซึ่งผมก็เต็มใจเล่าอย่างไม่ปิดบัง เราคุยกันจนแทบไม่มีเรื่องคุยแล้ว นี่ก็เกือบเที่ยงคืนผมรู้สึกไม่ไหวแล้ว เมื่อคืนวานก็นอนนิดเดียว

"อืม…โย ปกติเราไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกนะ แต่วันนี้ง่วงมากเลยอะ" ผมหาช่องทางพูดเพื่อจะวางหู

"โทดที…ลืมไป นี่กี่โมงแล้วอะคับ"

"ที่บ้านไม่มีนาฬิกาเหรอ" ผมกัด

"มีแต่มองไม่เห็น ตอนนี้เราปิดไฟหมดเลย"

"อีกสิบนาทีเที่ยงคืน โอเคปะ"

"งั้นเอ้ไปนอนเถอะ…รบกวนแค่นี้ละกัน…ฝันดีนะครับ" ผมอึ้ง ไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับผมมาก่อนเลย

"ครับ…ฝันดีเช่นกันนะครับ Goodnight ครับ" ผมตอบกลับ

"เดี๋ยว…อย่าเพิ่งวาง อย่าลืมฝันถึงเรานะ" โยหยอด

"ถ้าอย่างนั้นคงฝันร้ายแล้วหล่ะ" ผมพูดขำ ๆ

"ไม่เป็นไร…งั้นเราจะฝันถึงเอ้ฝ่ายเดียวละกัน" มันทำผมอึ้งอีกแล้ว หลายครั้งแล้วนะวันนี้ ผมไม่เข้าใจมันจริง ๆ ว่าพูดอย่างนี้เพื่ออะไร ผมได้แต่ก็คิดในใจว่ามันคงพูดเล่นมั้ง

"จ้า…จะฝันถึงใครอะไรยังไงก็ตามสบายเถอะ…ระวังฝันเปียกล่ะ" ผมขำ

"ไม่มีทาง…วันนี้เรียบร้อยแล้ว" มันย้อน

"ทะลึ่งว่ะ…โอเค…แค่นี้นะ" ผมจะวางหู

"ครับ…พรุ่งนี้โทรมาหาใหม่ได้ปะคับ" มันถามเสียงอ้อนเชียว

"Why not?" ผมดัดจริตพูดภาษาอังกฤษ

"วาย น็อต เซเว่นเหรอ เกี่ยวอะไรด้วยอ่ะ"

"เออ เออ ไม่มีอะไร ถ้าจะโทรก็หลังสามทุ่มละกัน" ผมพูดแบบปลง ๆ มันเล่นมุขจนประโยคสุดท้ายเลยเหรอเนี่ย ผมเงียบแต่ยังไม่วางหู

"วางซะทีสิ" ผมเห็นว่านานแล้วมันก็ยังไม่วาง

"เอ้วางก่อนดิ"

"ตามมารยาท…คนที่โทรมาต้องเป็นฝ่ายวางก่อน" ผมบอก

"แต่เรายังไม่อยากวาง เอ้จะนอนก็วางสิ" มันท้า

"เออ งั้นแค่นี้นะ หวัดดี" ผมวางหูจริง ๆ พอง่วงแล้วมันหงุดหงิดไง
*
*
*

ผมหลับไม่รู้เรื่องเลยคืนนั้น พอวางหูก็หลับไปเลย ไฟหัวเตียงยังไม่ได้ปิดด้วยซ้ำ แต่ที่สำคัญ นาฬิกาปลุกยังไม่ได้ตั้ง ผมต้องตื่นเพราะเสียงแม่เคาะประตูหลายปังเลยครับ ผมเดินสะลึมสะลือไปเปิดประตู แม่ผมหน้าตาตื่นคิดว่าผมเป็นอะไรไป แต่ผมสิตื่นกว่าเพราะมองออกไปแดดจ้าเลย หันกลับมามองนาฬิกา ชิบหาย แปดโมงกว่าแล้วไอ้เอ้ ผมวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ไม่สนใจกับเสียงแม่ที่บอกให้ระวังพื้นลื่นเลย



--------------------tbc--------------------------------

2  ตอนรวด อ่านอย่างจุใจ ฟิ้วววววววววววววววววว
ไปและขอบคุณพี่เอ้มากมายคับ

ออฟไลน์ คุณหนูไฉไล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แหม..คุยผิดเป็นชั่วโมง

ทำไปได้นะคุณเอ้ อิอิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านต่อจ้า ลุ้นๆ  :m11:  :m11:

min_min

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ  ใช่โยโทรมาจิงๆเหรอ   สงสัยอ่ะ  อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม 
รีบๆมาต่อไวๆนะคับอยากรู้แล้วว่าจะเป็นไงต่ออ่ะ


 :m28: :m28: :m28:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักดีอ่ะ เรื่องนี้ ติดตาม ติดตาม  :m13: :m13: :m13:
 :m21: ยังเลือกไม่ถูกจะเชียร์ใครดี ระหว่าง วุธ กับ โย  :m28:

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ  โยหรือวุธ ดี เลือกมะได้แบ่งมาคนนึงก็ได้นะครับ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รุ้ใจตัวเอง

วุธรึโย ดีหนอ อุ๊บส์ๆๆๆๆ

แต่มาต่ออีกนะ กำลังสนุกเลย :a4:

napho

  • บุคคลทั่วไป
            :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
สนุกมาก ๆ รีบมาต่อนะครับ
         :m18: :m18: :m18: :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เลือกเชียร์ไม่ถูก ทำไงดี

หนักใจจังเลย o7 เลือกไม่ถูก

esabella

  • บุคคลทั่วไป
หนุกจัง... :a1:      แอบเชียร์วุธดีก่า...อิ..ๆ.. :a9:

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :m18:ไม่ได้อ่านตั้งหลายวันคิดตึ๋งจริงๆเยย.. :m18:
มาเม้นให้กำลังใจก่อนนะ..ตอนค่ำๆค่อยมาอ่าน..
 :impress:แล้วมาต่อบ่อยๆนะก้าบบบบ.. :impress:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

แปดโมงนี่มันหมดคาบแรกไปแล้วนะเนี่ย

จะไปถึงโรงเรียนกันกี่โมงหว่า

 :a11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






niph

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:
ต้องไม่ใช่โยแน่ ๆ
 :m26:
ต้องเป็นวุธชัวร์

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
 :m5:  มารอแระครับ อิอิ มายังอ่ะ

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
เอจะเป็นโยหรือวุธดีล่ะเหอๆๆๆๆ นั่นดิเนอะ
แล้วคนที่โทรเนี่ยมานใช่โยป่าวหว่า  :m28: :m28:
ไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ


6 WAS HE TRYING TO BE NICE OR WHAT ELSE?

ไม่อยากทำก็ต้องทำ ผมเอาสติ๊กเกอร์ที่เคยเตรียมไว้มาแปะที่หน้าอก ทำเป็นเครื่องหมายของเด็กรอบบ่าย พอถึงโรงเรียนก็แกล้งเดินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยามก็มอง ๆ เหมือนกัน แต่พอเห็นเครื่องหมายของเด็กรอบบ่ายก็คิดว่าคงเป็นเด็กรอบบ่ายมามาเรียนรีเกรดตอนเช้ามั่ง แต่ผมก็กลัวอยู่ว่ายามจะจำผมได้แล้วจับผมไปห้องปกครอง พอพ้นป้อมยามผมก็ค่อย ๆ เร่งสปีดจนกลายเป็นวิ่งเข้าห้องเรียน ดีนะว่าเป็นวิชาการจัดตู้แสดงสินค้า ไม่ต้องนั่งอยู่กับที่ ผมเดินเข้าไปเนียน ๆ อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าผมมาสาย

"อีเอ้ ไปแรดไหนมา อีดอก" เป็นคำทักทายที่เพราะที่สุดของอีนัท

"ไปหาครูXXXX แม่มึงมาไง อีเหี้ย" ผมล้อชื่อแม่มัน

"อีเวร เล่นหิ้งนะมึง เดี๋ยวกูเรียกแม่กูมาตีตูดลายเลยนี่" อีนัทขำ

"อย่านะมึง เครื่องมือทำมาหากินของกู ห้ามแตะ" ผมลากอีนัทไปหาเพื่อน ๆ ที่นั่งตัดกระดาษเตรียมทำงานจัดตู้อยู่

"อะไรเนี่ย…มาผิดห้อง ผิดรอบป่าวเธออ่ะ" อีแจนหันมาเห็นผมก่อน

"อะไรวะ" ผมมองตามสายตาอีแจนก็เห็นว่าสติ๊กเกอร์รอบบ่ายยังอยู่ ผมรีบแกะมันออก

"ทำไมมาสายวะ" อีตาลเงยหน้ามาถาม

"ตื่นสายวะ ลืมตั้งนาฬิกาปลุก…คุยโทรศัพท์ดึกไปหน่อยด้วย" ผมวางระเบิด ได้ผลทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว

"คุยกะใคร" ถามพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตอนนี้อาจารย์ไม่อยู่ในห้องแล้วครับ

"คุยกับผู้ชาย" ผมพูดยิ้ม ๆ ทำหน้าเหมือนมีความสุขมาก "ก็พวกมึงอะไปไหนกันมา ไม่มีใครอยู่บ้านซักตัว กลับกันกี่โมงล่ะเมื่อวานน่ะ อีช้างลาก..สามทุ่มแล้วยังไม่มีใครถึงบ้าน…ดีนะว่ามีผู้ชายโทรมาคุยแก้เหงา" ผมทำท่าเขิน ๆ

"เมื่อวานพวกกูไปเดินเล่นที่XXXXX (ห้างใกล้ ๆ ที่พวกผมไปกันประจำนั่นแหละ) แล้วก็ไปบ้านไอ้ตั้มมันต่อ ออกจากบ้านมันก็สองทุ่มครึ่งได้ กูโทรไปหามึงแล้วนะ แต่สายแม่งไม่ว่างเลย" อีอ๋าบอก "คุยกับใครวะมึง….โยใช่ปะ" ต่อมเสือกอีอ๋าทำงาน ผมพยักหน้าเบา ๆ ทำท่าเขินกว่าเดิม บิดไปบิดมา ( OVER ACT ) นิดนึง ทุกคนกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ก็เพื่อน ๆ ผมมันเชียร์ให้ผมมีแฟนมาตั้งนานแล้ว

"ตกลงเป็นแฟนกันแล้วเหรอ" อีแจนถาม

"ยังแค่ดู ๆ กันอยู่…แหมมึง…เพิ่งจะคุยกันแค่วันเดียว" ผมตอบ

"เสียดายว่ะอีเหี้ย….ผู้ชายหล่อ ๆ ทำไมต้องเป็นเกย์เป็นตุ๊ดกันหมดวะ" อีนัทพล่าม

"ก็ผู้หญิงเป็นอย่างมึงไง ผู้ชายเค้าถึงไปชอบผู้ชายด้วยกัน" อีตาลคู่หูกัด

"อ้าว…อีห่า…กัดกันเองอีกไง" อีนัทค้อน "ดีนะที่วุธสุดหล่อของกูไม่เป็นเกย์ไปอีกคน" อีนัทเพ้อต่อ ผมมองหน้ามันแล้วกัดมันว่า

"เต็มปากเต็มคำเชียวนะมึง วุธของกู วุธมันชอบอีแจนไม่ใช่เหรอ"

"ว้าย อีเอ้ อีเสร่อ ตกข่าว" อีนัทมันทำท่าเหมือนผมพูดอะไรผิดอย่างแรง "วุธน่ะมันไม่ได้ชอบอีแจนซักหน่อย มันแค่เป็นพ่อสื่อให้ไอ้นพมัน ตัวมันยังโสดยังซิง ไอ้ห่าแม่งเลือกมาก นี่ดีนะว่าหล่อก็เลยเลือกได้ ไอ้ตั้มมันเล่าให้ฟังว่ามีคนชอบมันตั้งเยอะ แต่มันไม่เอาซักคน นี่ก็มีกะเทยแถวบ้านมาชอบอีก อีนี่แรงมากขอบอก บุกถึงบ้าน ก็บ้านไอ้วุธมันขายของไง อีเหี้ยมันไม่ยอมซื้อกับใครเลยนะมึง รอไอ้วุธมาขายคนเดียว" อีนัทเม้าธ์ยาว

"จริงดิ" ผมถามได้แค่นั้น อีแจนก็พูดต่อ

"เออ…ไอ้ห่า ตอนแรกกูก็นึกว่าไอ้วุธมันชอบกู กูก็ไม่ได้สนใจไอ้นพเลย เนี่ยเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองเหมือนกัน ที่จริงไอ้นพมันก็ใช้ได้ ตามใจกูดี เดี๋ยวเสาร์นี้กูจะพามันไปสวน (สวนจตุจักร) พาแม่งไปเปลี่ยนลุคซักหน่อย แต่ยังไงกูก็ว่าไอ้วุธเนี่ยโอเคที่สุด เสื้อผ้าหน้าผม ไม่ต้องโมดิฟายใหม่เลย เสียดายเหมือนกัน…แต่ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันดีกว่าท่าจะคบกันได้ยาว…เฮ้ย…แต่ถ้าไอ้วุธมันเสร็จอีกะเทยแถวบ้านนี่กูไม่ยอมนะโว้ย" อีแจนเม้าธ์บ้าง "ถ้าเสร็จอีเอ้ยังว่าไปอย่าง…มึงไม่ลองรับไอ้วุธไว้พิจารณามั่งเหรอ" อีแจนถามผมขำ ๆ

"มึงจะบ้าเหรอ…มันไม่ได้มีทีท่าอะไรว่าจะเป็นเกย์เลยนะมึง อีกอย่างถ้ามันเป็นมันก็ไม่เอากูหรอก ไอ้โยอีกคน เมื่อวานก็พูดแปลก ๆ ทีเมื่อก่อนเรียนด้วยกันทุกวันก็ไม่เห็นเข้ามาพูดกับกูเลย ขนาดในวงไพ่นะมึงนับคำได้ นี่กูยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามันจะเอายังไงกับกู" ผมพูดเสียงเรียบ ๆ

"ไม่เอาก็ควายแล้ว กูว่ามึงก็หน้าตาดีออก โสด ซิง หาได้ที่ไหนกะเทยอย่างมึงอ่ะ" อีตูนแทรกบ้าง "ไอ้พวกนักกีฬาเทคนิคXXXXที่มันเคยเห็นมึงไปซ้อมกับกูยังจ้องจะเอามึงตั้งหลายคน"

"แต่ตอนนี้กูว่าขอไอ้โยก่อนดีกว่า" ผมแกล้งทำท่าเขินอีกครั้ง ผมเอาไอ้โยมาเป็นไม้กันหมา ทั้ง ๆ ที่คุยกันเมื่อคืนถึงจะรู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดบางคำของโยก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไอ้โยมันชอบผมนี่นา

"หมั่นไส้คนมีความรักโว้ย" อีอ๋าสอด

"อีเอ๋อ ไม่ต้องเลยมึง แหม..เมื่อวานเห็นระริกระรี้กับไอ้แม็กอยู่ตั้งนาน" อีนัทด่า

"ก็แหม…นะ…มันครบคู่พอดีเลยนี่หว่า" อีอ๋าพูดอาย ๆ

สรุปเช้านั้นผมได้รู้อะไรอีกหลายอย่าง ถ้าผมไปกับพวกมันเมื่อวานก็คงไม่ตกข่าวคนเดียวอย่างนี้ ขนาดอีตูนไม่ได้ไปด้วยยังรู้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะอีแจนโทรไปเล่าให้ฟัง ส่วนกะเทยที่มาชอบวุธผมก็ฟังเรื่องนั้นผ่าน ๆ จับใจความว่าเป็นนักเรียนพาณิชย์เอกชนที่ได้ชื่อว่าแรดที่สุดในกรุงเทพฯ (จากการให้ข้อมูลของเด็กช่าง) มีประโยคที่ว่า "งมเข็มในมหาสมุทร ยังง่ายกว่าหาหญิง(รวมทั้งกะเทย)บริสุทธิ์ที่โรงเรียนนี้" เป็นเครื่องการันตีความแรด โรงเรียนของอีมิ้นท์ (ชื่อในวงการครับ ชื่อจริง ๆ ว่าแมน) อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนผมนัก มันเรียนปีสองเท่ากัน แต่อายุมากกว่าเพราะโดนรีไทร์จากที่อื่นมาก่อน ได้ข่าวว่าหน้าตาดีเหมือนกัน แถมแอ๊บแมนได้เนียนมาก เนียนขนาดทางบ้านไอ้วุธยังไม่รู้เลยว่าเป็นสาว อีมิ้นท์เพิ่งย้ายมาเช่าบ้านอยู่กับพี่สาวในซอยบ้านวุธและเป็นลูกค้าประจำของวุธขนาดที่ว่าพ่อกับแม่ต้องเรียกวุธให้ลงมาขายของให้อีนี่
*
*
*
"เฮ้ย…ไปไหนดีวะวันนี้" ผมร้องถามเพื่อน ๆ ขณะจะเดินออกจากโรงเรียน จะว่าแปลกก็แปลกนะ เพราะปกติพวกผมจะต้องแพลนเรื่องเที่ยวหลังเลิกเรียนตั้งแต่เช้า วันนี้ไม่มีใครพูดถึงเลยแฮะ

"เดี๋ยวถามนพก่อน" อีแจนหันมาตอบ

"อะไรนะ…พวกมันไปด้วยเหรอ" ถึงจะรู้ว่าวุธไม่ได้ชอบแจนแต่ก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้ที่ต้องเจอวุธวันนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

"ช่าย…ไปกันหมดเลย ไปกันเป็นคู่ ๆ ส่วนมึง….ไปตามโยมาดิ" อีอ๋าลอยหน้าลอยตาพูด

"ไม่ตามหรอก เดี่ยวคืนนี้ก็คุยกันอีก" ผมกลบเกลื่อนความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินด้วยการพูดเชิด ๆ แต่จริง ๆ แล้วเบอร์โทรไอ้โยผมยังไม่มีเลย

"จ้า…ขอให้รักกันตลอดรอดฝั่งนะคะ…กะเทย" อีอ๋ากัด

"ขอบคุณที่อวยพรนะคะ…กะหรี่" ผมกัดมันเสียงดังกว่า เพื่อน ๆ ผมขำกันใหญ่

"อีดอก…เบา ๆ สิอีนี่กูอายนะโว้ย" อีอ๋าทำหน้างอ เราล้อเล่นกันอย่างนี้ทุกวันไม่มีใครโกรธใครอยู่แล้วครับ

"เฮ้ย ๆ ไอ้พวกนั้นรออยู่ตรงโน้นแล้วโว้ย" อีนัทโบกมือให้พวกผู้ชาย อีพวกเพื่อนผมกระดี้กระด้าสุดฤทธิ์ ส่วนผมได้แต่เดินช้า ๆ ตามหลังไป

"รถใครอ่ะ" อีตาลถามตั้มที่ตอนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว

"รถไอ้วุธมัน" ตั้มตอบ

"รถหลวงพี่กู เดี๋ยวพอสึกกูก็ไม่มีใช้แล้ว" วุธชี้แจงใหม่

"โห…รถแต่งด้วย สวยว่ะ" อีอ๋าเดินวนรอบรถกระบะมีแคปสีบล็อนด์เงาวับคันนั้น

"ไปไหนกันดีครับ" ไอ้นพพูดเพราะเชียว

"ถามคนขับดีกว่า" แจนตอบแต่หันไปถามวุธแทน

"ไม่รู้ดิ…ไปไหนดีล่ะ" เงียบ…ไม่มีใครตอบ

"อีเอ้…เป็นเหี้ยอะไรมึงยืนเหม่ออยู่ได้ วุธมันถามไมได้ยินเหรอ ไปไหนดีอีดอก" อีนัทมันตบไหล่ผม ผมสะดุ้งตกใจ ก็หลังจากที่ทักทายกันแล้วผมก็ยืนมองไปทางอื่นไม่ได้สนใจเพื่อนอีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้วุธพูดกับผม

"อ้าว…ถามกูเหรอ…ไปไหนก็ได้เอาใกล้ ๆ แล้วกัน" ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้าวุธ

"ทำไม…รีบกลับเหรอ…นัดใครไว้ล่ะ" ผมหันขวับ

"ที่อยากให้ไปใกล้ ๆ ก็เพราะว่านายจะขับรถไปไง มีใบขับขี่ยัง ขับแข็งหรือเปล่าก็ไม่รู้" มันจะมีใบขับขี่ได้ยังไง ก็อายุมันเท่ากับผม

"ใบขับขี่ไม่มี ขับแข็งไม่แข็งไม่รู้ แต่ขับมาตั้งแต่อยู่ม. 1 อะ ไม่กล้านั่งไปด้วยกันเหรอ" ผมกำลังจะอ้าปากเถียง อีอ๋าดันปล่อยมุขแป๊ก ๆ ออกมาซะก่อน

"พูดอะไรกัน ใครขี่ อะไรแข็งเหรอ เยาวชนอย่างหนูไม่เข้าใจ"

"ขับไม่แข็งไม่เป็นไร ค่อย ๆ ไปก็ได้ แต่อย่างอื่นอย่าแข็งละกันเดี๋ยวอึดอัดแย่เลย" อีตาลแซว ไอ้วุธอายหน้าแดงรีบต้อนพวกผมขึ้นรถ

มีปัญหาซะแล้ว ก็อีพวกข้าวใหม่ปลามันไม่อยากจะห่างกัน นี่แค่ไม่ถึงสิบห้านาทีจากโรงเรียนผมถึงห้างประจำที่จะไปกัน พวกมันยอมนั่งกระบะหลังกันหมดแปดคน ที่เต็มครับ ให้แบ่งมานั่งแคปกันก็ไม่เอา สุดท้ายผมต้องไปนั่งหน้าคู่กับคนขับ ก็ไอ้วุธนั่นแหละ พอนั่งปุ๊บก็คว้าเข็มขัดมาใส่ มองออกไปด้านข้างอย่างเดียวไม่หันมาทางมันเลย ในใจก็โมโหเพื่อนที่ทิ้งกัน ผมนั่งหน้างออยู่ไอ้วุธมันก็เอาแอร์มาจ่อหน้าผมแถมเร่งให้แรงที่สุดด้วย ได้ผล…ผมต้องหันไปมองหน้ามัน มันเลยหรี่แอร์ให้

"เป็นอะไร…หน้าหงิกเชียว" มันถามยิ้ม ๆ

"เปล่า"

"ไม่ต้องเกร็งก็ได้ เราขับไม่เร็วหรอก" ผมเงียบ "ฟังเพลงมั๊ย" ผมเงียบอีก

"ไม่อยากไปเหรอ" มันถามลอย ๆ แต่น้ำเสียงของมันเศร้า ๆ ยังไงไม่รู้

"อยากไปดิ แต่โมโหอีพวกนั้น เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน" ผมหันหลังไปมองค้อนอีอ๋าที่อยู่ใกล้ที่สุด อีอ๋าดันแลบลิ้นให้ผมอีก วุธที่มองกระจกหลังอยู่ขำ

"วุธ เราว่าไปทางซอย XXXX ดีกว่า"

"ทำไมล่ะ…มันอ้อมนะ พอออกถนนใหญ่รถติดด้วย" วุธสงสัย

"เออน่า" วุธตามใจผมเลี้ยวเข้าซอยข้างหน้า เสียงพวกข้างหลังโวยวายดังเข้ามา จะไม่ให้มันโวยวายได้ไง ก็ซอยที่ผมพาเข้าไปมันเป็นทางลัดในหมู่บ้าน หลังเต่าลูกระนาดก็เยอะ ไอ้พวกข้างหลังก็กระเด้งกันตลอดทาง ยิ่งตอนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาบ่อย ๆ ก็แทบจะเทไปทางเดียวกัน ตอนนี้วุธคงเข้าใจผมแล้วว่าทำไม ผมเห็นมันอมยิ้ม แถมยังแกล้งขับตามอย่างที่ผมคิดไว้เลย พอถึงถนนใหญ่เสียงพวกข้างหลังก็ยังด่าผมกับวุธอยู่ เราหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันเป็นครั้งแรก

"ทำไมเธอไม่ยิ้มบ่อย ๆ ล่ะ เราว่าเธอยิ้มแล้ว…เอ่อ…ดูดีนะ" อยู่ ๆ วุธก็พูดกับผม

"ไม่ใช่คนบ้านี่…จะได้นั่งยิ้มทั้งวัน" ผมกวน

"ไม่ได้หมายความอย่างนั้น หมายถึงทำไมต้องเก๊กเวลาเจอเราด้วยอ่ะ"

"เก๊กอะไร…เราก็เป็นของเราอย่างนี้แหละ" ผมแก้ตัว

"ไม่จริงอ่ะ…พวกเพื่อนเธอก็บอกว่าเธอดูแปลกไป…ทำไมกลัวว่าจะชอบเราเหรอ" ผมอึ้ง…หน้าชาเลย

"โห….คิดได้ไงอ่ะ หลงตัวเองว่ะ ไม่มีทางซะหรอก อีกอย่างเราก็มีแฟนแล้ว นายไม่ได้ครึ่งของเค้าด้วย" เคยเป็นกันมั๊ยครับอารมณ์แบบนี้ เอาคนอีกคนมาเกทับทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ขอหน่อยละกัน แก้อาย

"ใคร…ไอ้เด็กมอปลายคนนั้นน่ะเหรอ…มีดีตรงไหนวะ" มันพูดขำ ๆ

"มีดีก็แล้วกัน" ผมตอบได้แค่นี้ ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่หว่าว่ามันมีดีอะไรบ้าง เสียงเคาะกระจกดังมาจากข้างหลัง ทำให้ผมและวุธต้องหันไปมอง ตายแล้วมัวแต่เถียงกับไอ้นี่อยู่ลืมเพื่อนไปเลย ตอนนี้พวกมันต้องเอาสมุดหนังสือมาบังแดดกันใหญ่ ผมเห็นหน้าอีแจนที่ทำปากขมุบขมิบว่าร้อนชิบหายแล้วผมอดหัวเราะออกมาดัง ๆ ไม่ได้ ก็มันห่วงสวยซะขนาดนั้นโดนแดดตอนเกือบ ๆ สี่โมงเย็นเข้าไปหน้าแดงโดยไม่ต้องใช้บลัชออนเลย

"นิสัยไม่ดี แกล้งเพื่อน" วุธว่าผมแต่มันก็หัวเราะเหมือนกัน

"นายนั่นแหละแกล้งเพื่อน เลนขวาว่าง ๆ ก็ไม่ไป รถยิ่งติด ๆ อยู่เนี่ย" ผมเถียงมัน

"แล้วใครเป็นคนบอกให้มาทางนี้ล่ะ…อ้าว ๆ เพื่อนเรียกอีกแล้ว" อีอ๋าเคาะกระจกอีก

"อะไรของมันวะ" ผมหันไปมันทำท่าพัดแล้วชี้ให้ไปเร็ว ๆ อีนี่อีกไม่ถึงร้อยเมตรก็เข้าห้างแล้ว ผมก็เลยแกล้งมันต่อ ล้วงกระเป๋าเอาลูกอม (ฮาร์ทบีทรสลิ้นจี่ผมจำได้) ผมแกะออกจากห่อแล้วทำท่าป้อนให้วุธซึ่งมันก็รับมุขผมดีมาก ดีเกินไปด้วยซ้ำเพราะปากมันโดนปลายนิ้วของผมด้วย ดีนะว่าผมล้างมือก่อนออกจากโรงเรียน ยังไม่พอ ผมทำท่าเหมือนจะจับแก้มวุธซึ่งถ้ามองจากข้างหลังต้องคิดว่าผมจับจริงแน่ ๆ ส่วนวุธก็ละมือจากเกียร์กระปุกมาโอบเบาะที่ผมนั่งแล้วหันไปยักคิ้วให้เพื่อน ผมได้ยินเสียงโห่เสียงกรี๊ดจากข้างหลัง ดังจนรถข้าง ๆ หันมามอง วุธต้องรีบลดมือลงทันที
*
*
*

ถึงห้างโดยสวัสดิภาพ ไอ้พวกผู้ชายกระโดดลงทันทีที่วุธถอยเข้าซองเรียบร้อย ไอ้นพอ้าแขนแทบจะอุ้มอีแจนลงมาจากรถ พอผมลงยังไม่ทันได้ปิดประตู หูก็แทบอื้อ ก็อีพวกเพื่อนผมด่ากระหน่ำซะ ไอ้พวกผู้ชายก็ขำกันใหญ่ ผมพูดขอโทษแต่หน้าผมไม่ใช่อย่างนั้น พวกมันก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมว่าต้องมีอะไรตามมาแน่ ๆ

เราเดินเล่นดูโน่นดูนี่ พวกนั้นก็เดินกันเป็นคู่ ๆ เหลือผมกับวุธอีกแล้วที่ต้องเดินด้วยกัน ผมก็กลัววุธมันจะอายที่ต้องเดินกับผู้ชายด้วยกัน แถมเป็นเด็กพาณิชย์ด้วย ผมก็เลยสะพายกระเป๋าแล้วเอาสายกระเป๋ามาปิดหน้าอกตรงที่ปักชื่อโรงเรียน แค่นี้ผมก็ดูเหมือนเด็กช่างคนนึงแล้ว ไอ้พวกที่เดินเป็นคู่ ๆ ก็ไม่มีใครสนใจใคร วุธมันแวะเข้าร้านแมงป่อง (สมัยนั้นดังนะครับ ของแพงด้วย) ผมก็ยืนรออยู่หน้าร้าน วุธมันหันมาเห็นผมยืนรอมันก็พยักหน้าเรียกผมเข้าไปด้วย ผมก็ต้องจำใจเดินเข้าไป ในใจก็ไม่รู้จะซื้ออะไรไอ้วุธก็เลือกเทปแบบไม่สนใจผมเลย ผมก็แอบแวบออกมาหาไอ้พวกนั้น เห็นมันยืนหน้าเหรอหรา มองหาผมอยู่เหมือนกัน ผมเดินไปบอกว่าอยู่ร้านเทป ไอ้วุธจะซื้อของ พวกมันก็ไม่ว่าอะไร แต่บอกว่าเดี๋ยวจะไปกินพิซซ่ากัน ซื้อเสร็จให้ไปเจอกันที่ร้านได้เลย ผมตกลงแล้วเดินไปหาวุธต่อ ตอนนี้มันเลือกได้แล้วว่าจะซื้ออะไร ในมือมันมีเทปโลโซที่เพิ่งออกมาใหม่เป็นอัลบั้มแรก อีกอันไม่รู้ว่าวงอะไร

"เอาอะไรมั๊ย…" วุธถาม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

"เอาเหอะ…ซื้อให้" มันคะยั้นคะยอ

"ไม่เอา…เปลือง…ซื้อให้ทำไม….เนื่องในโอกาสอะไร" ผมถามกวน ๆ

"ก็อยากซื้อให้อ่ะ…เวลาคุยโทรศัพท์กับผู้ชายจะได้มีเพลงฟังด้วยไง โรแมนติกจะตาย" มันพูดเหมือนกัดผม แต่เอ๊ะ…มันรู้ได้ไงว่าผมคุยโทรศัพท์กับผู้ชาย

"คุยกับใคร…อะไร…"

"ก็คุยกับไอ้เด็กมอปลายนั่นไง"

"นี่…เลิกเรียกเค้าว่าเด็กมอปลายได้ปะ เค้ามีชื่อนะโว้ย"

"เออ ๆ นั่นแหละ เอาอันไหน…เร็ว…หิวแล้วนะ" มันเร่งผม

"ก็บอกแล้วไง…ไม่เอา" ผมหันหลังจะเดินหนี

"เอาอันนี้ล่ะกัน…ฃื่ออะไรก็ไม่รู้…อ่านไม่ออก" ผมหันขวับ ในมือมันมีเทปอยู่อันนึง ก็อันที่ผมเพิ่งหยิบดูเมื่อกี้…ตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าชีดังแค่ไหน ผมรู้แค่ว่าสถานีวิทยุ RADIO VOTE หรือ E F.M. ในสมัยนี้ เปิดเพลงของนักร้องคนนี้ (สมัยโน้นเพลงฝรั่งที่ได้เปิดในคลื่นเพลงไทยต้องดังมาก ๆ และ มาลีวัลย์ก็เอาเพลงนี้มาคัฟเวอร์ด้วย) ผมหยิบมาดูเฉย ๆ เพราะปกสวยดี เป็นขาวดำ อีกอย่างอัลบั้มนี้ก็ถูกแนะนำในหนังสือนิตยสารเธอกับฉันที่ผมติดมากในสมัยนั้น

"ไม่เอา…จริง ๆ " ผมเห็นมันถือรวมกับไปเทปของมันแล้วต้องเดินตามไป แต่ไม่ทันแล้วครับ มันรีบจ่ายเงินแถมยังเอาตัวมันกันตัวผมเอาไว้ พนักงานก็ไวชิบเป๋ง ใส่ถุงเรียบร้อยเลย ผมเดินหนีมันออกมาเดินลิ่วไปร้านพิซซ่าทันที

"รอด้วยดิ…จะรีบไปไหนวะ" มันวิ่งกระหืดกระหอบตามมา

"กิน…หิวไม่ใช่เหรอ" ผมตอบห้วน ๆ

"เป็นไร…โกรธเหรอ" มันพูดเสียงอ่อน

"โกรธเรื่องอะไร…ซื้อมาแล้วนี่…เอาไปคืนได้ปะล่ะ" ผมหันไปพูดกับมัน

"โห….ก็อยากให้อ่ะ"

"เออ…เอาก็ได้…แต่เดี๋ยวเราเลี้ยงพิซซ่าก็แล้วกัน…ถือว่าตอบแทน…จะได้ไม่ต้องติดค้างกัน" ผมหงุดหงิด อยู่ดี ๆ ต้องเสียเงิน เทปเพลงฝรั่งสมัยนั้นก็ตั้งร้อยกว่าบาทแน่ะ

"ขนาดนั้นเชียว" เสียงมันสลดลงกว่าเดิมอีก ผมเกือบใจอ่อน แต่ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร ถ้าเป็นเพื่อนสนิทให้กันก็ว่าไปอย่าง

"อืม…แล้วไม่ต้องบอกใครล่ะ" ผมพูด ที่จริงประโยคนี้มันต้องเป็นฝ่ายพูดนี่หว่า แต่ผมพูดออกไปแล้วนี่ วุธก็หน้าเหวอ ๆ เหมือนกัน

ผมไปรวมตัวกับเพื่อน ๆ ที่นั่งกางเมนูกันอยู่ในร้านพิซซ่า สั่งพิซซ่ามาสองถาด ใหญ่กับเล็ก กลัวไม่อิ่ม สั่งสลัดมาด้วย ถ้วยสลัดก็มาก่อนเลย (ต้องใช้คำว่าถ้วย เพราะมันเล็กกว่าชาม) ทุกคนรู้กันว่าเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องไปตัก เพราะผมมีความสามาถในการตักสลัดใใส่ชามใบจิ๋วห้ได้เยอะที่สุด ตอนแรก ๆ ก็อายเหมือนกัน แต่…ต้องเอาให้คุ้ม ผมเดินไปตักคนเดียว อย่างที่บอกแหละครับ…พวกมันเป็นข้าวใหม่ปลามัน แทบไม่อยากจะแยกกัน

"มา…ช่วยถือ" อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงมาข้างหลัง ผมตกใจถ้วยแทบหลุดมือ ก็กำลังใช้สมาธิในการเรียงสลัดอยู่อ่ะ

"ไม่ต้อง…เราถือเองดีกว่า…" ผมหมายความอย่างนั้นจริง ๆ แต่พอเห็นคิ้ววุธขมวดแล้วรู้สึกผิด

"นายจะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวตักให้…ถ้านายถือแล้วเรากะน้ำหนักไม่ได้…เดี๋ยวหอคอยล้ม" ผมพูดขำ ๆ สีหน้าวุธค่อยดีขึ้นมาหน่อย มันชี้นู่นชี้นั่นเหมือนแกล้งผม แต่ผมก็ยังอุตส่าห์ตักได้อีก จนไม่ไหวแล้วนั่นแหละ ผมถึงค่อย ๆ ประคองถ้วยเดินกลับโต๊ะ ทุกคนมองผมแบบลุ้น ๆ ว่าจะถึงโต๊ะหรือไม่

"อ่ะ…เป็นไงมึง ฝีมือยังไม่ตกเนอะ…นี่ขนาดไม่ได้เข้าร้านพิซซ่ามานานแล้วนะเนี่ย" ผมโม้

"จ้า…ทั้งสวยทั้งเก่ง"

"อืม…สวยอย่างมีคุณค่า…แต่ราคาบาทเดียว" อีนัทกับอีตาลกัดผม จริง ๆ ผมไม่ชอบให้ใครมาชมผมสวยเลยจริง ๆ ก็ผมอยู่ในลุคผู้ชายอ่ะ

"ยังมึง..ยัง…อีเอ้มันสวยอีกอย่าง ใครเจอมันต้องบอกว่า สวยหัวเคียว" อีอ๋าปล่อยมุขอีก ทุกคนขำ แต่ไอ้พวกผู้ชายนั่งงง

"อะไรวะ…สวยหัวเคียว" ไอ้ตั้มถามอีตาลแฟนมัน

"โห…สวยหัวเคียวก็เสียวหัวค-ยไง" อีตาลตอบ ไอ้พวกผู้ชายนั่งอมยิ้มกันใหญ่ ส่วนผมที่ปกติไม่ค่อยอาย แต่พอเห็นหน้าวุธมองผมยิ้ม ๆ เแล้วอายชิบหาย พอดีที่พนักงานเอาพิซซ่ามาเซิร์ฟ ทุกคนสนใจแต่ของกิน ผมก็เลยไม่โดนกัดต่อ
*
*
*
"คิดเงินครับ" ไอ้นพเรียกพนักงาน สักพักพนักงานก็มาพร้อมใบเสร็จราคาที่ต้องจ่าย

"เอาของกูไปก่อน" วุธยื่นเงินให้พนักงาน ระหว่างรอเงินทอน พวกผมก็ควักเงินมาหารกัน แต่บรรดาแฟนเพื่อนผมบอกไม่ต้อง อีพวกนั้นก็ยิ้มกันใหญ่ ผมยื่นเงินให้วุธรวมทั้งส่วนของมันด้วย แต่มันกลับบอกว่า

"ไม่ต้อง…เอามาให้ทำไม ก็ค่าเทปที่เราขอยืมเมื่อกี้ไง" ผมงง กำลังจะอ้าปากถาม แต่วุธมันทำท่าบุ้ยใบ้ไปที่เพื่อนผม ผมกลัวเพื่อนรู้ ก็เลยเก็บเงินใส่กระเป๋าเหมือนเดิม มันยิ้มแฉ่งเลยครับ ผมมองหน้ามันแบบฝากไว้ก่อนเถอะ

"โอ๊ย…อิ่มว่ะ" อีอ๋าขณะเดินออกมาจากร้าน

"ชอบสิมึง…อิ่มจังตังค์อยู่ครบเนี่ย" อีแจนกัด

"แหม…ยังกะมึงไม่ชอบ"

"เอาเป็นว่าวันหลังให้พวกเราเลี้ยงมั่งละกันนะ" อีแจนบอกกับทุกคน

*
*
*
"กลับบ้านกันยัง" ผมถามเพื่อน ๆ ขณะเดินเล่นหลังอาหารสักพัก

"อีนี่เป็นไรวะ…แต่ก่อนไม่เคยชวนกลับ" อีตาลหันมาถามผมแต่อีอ๋าดันตอบแทนซะก่อน

"ก็มันรอรับโทรศัพท์อยู่ไง…เห็นใจคนกำลังมีความรักมั่งเว้ย"

"แต่กูยังไม่อยากกลับอ่ะ ขอเดินย่อยก่อนได้ปะ" อีแจนพูด เพื่อน ๆ มองผมเป็นตาเดียว

"เออ…พวกมึงเดินเล่นต่อเหอะ เดี๋ยวกูกลับก่อนละกัน…ยังไงก็ไม่ได้กลับทางเดียวกันอยู่แล้วนี่" ผมมองไปที่พวกผู้ชาย "ฝากดูแลเพื่อนเราด้วยนะ…อย่าให้มันไปกัดใครล่ะ"

"อีเหี้ย…กูไม่ใช่หมา…มึงกลับดี ๆ ล่ะ ระวังโดนฉุดนะโว้ย"

"ไม่ต้องฉุดกูหรอก…นำทางอย่างเดียว…เดี๋ยวกูเดินตามไป" ผมพูดขำ ๆ แล้โบกมือให้ทุกคน

"ไอ้นพ…เดี๋ยวกูกลับเลยดีกว่า…ลืมไปว่าพ่อกูให้กูปิดร้านวันนี้" ผมหันกลับมามอง

"อะไรวะ…ไอ้ห่า…นี่มันเพิ่งจะหกโมงครึ่งเองนะโว้ย" ไอ้นพโวย

"รีบไปขายของให้พี่มิ้นท์ขาหรือเปล่าไอ้วุธ…ไม่ต้องกลัวพี่เค้าหิวหรอก…ยังไงเค้าก็รอมึงได้" ไอ้ตั้มแซว วุธหันมามองผมแวบนึง

"ไอ้สัตว์…กูรีบไปปิดร้านจริง ๆ ตอนนี้รถติดด้วย กว่าจะถึงบ้านก็ทุ่มกว่า ต้องรีบปิดเดี๋ยวอีพี่มิ้นท์มาเจอกู" วุธแก้ตัว

"เออ ๆ ไปเหอะมึง ขับรถดี ๆ ล่ะ" ไอ้นพบอก วุธรับคำเพื่อน ส่วนผมเดินลิ่ว ๆ ไปแล้ว

"อีเอ้" เสียงอีแจนตะโกนเรียกผม

"อะไรของมึงวะ" ผมเดินกลับมา

"กลับด้วยกันมั๊ย" วุธถาม

"ไม่อ่ะ…ขอบใจ" ผมปฎิเสธ

"ทำไมวะ…นัดใครไว้แถวนี้หรือเปล่า" อีนัทสงสัย

"ไม่มีโว้ย…กูจะแวะซื้อของอีกนิดนึง" ผมได้ยินเสียงวุธหัวเราะหึ ๆ ผมหันไปมองหน้ามัน เห็นมันหรี่ตามองผมเหมือนรู้ว่าผมโกหก

"เออ…ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เราไม่ได้กลับทางนั้นเหมือนกัน" วุธพูด

"อ้าวเมื่อกี้บอกว่าต้องผ่านบ้านเอ้มันนี่นา" อีนัทถามงง ๆ

"ที่จริงไปทางนั้นก็ได้ แต่มันอ้อมไง…ก็นึกว่าเค้าจะกลับด้วยจะได้แวะไปส่ง…เรากลับเลยล่ะกัน ไว้เจอกันใหม่นะ" มันพูดจบก็เดินไปทางลานจอดรถ ส่วนผมบ๊ายบายเพื่อนอีกทีแล้วเดินไปทางหน้าห้างรอรถเมล์ตามเดิม

----------------------------tbc---------------------------------

แล้วเจอกันครับป๋มไปละ ฟิ้วววววววววววววววววว


ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

เมื่อไหร่จะรักกันเนี่ย

รออ่านต่อไปนะครับ

 :a3:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o17 o17  เพิ่งได้อ่านตอนต้นของเรื่องก็คราวนี้เองนะครับ  เคยแต่อ่านตอนจบ  :m23: :m23:

ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่เอาเรื่องนี้มาโพสต์ให้นะครับ :m4: :m4:

+1ให้แล้วครับผม

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้น่ารักจังเลยอ่ะ ชอบ ๆๆๆๆๆๆๆ :m3: :m3: :m3: (ปาก) แข็งกันทั้งคู่  หึหึ :m29:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
คู่นี้ ปากไม่ตรงกับใจกันจริงๆ  :เฮ้อ:  แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่คนอ่านจะได้กรี้ดล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ว้า นึกว่าจาไปด้วยกัน รอลุ้นต่อ  :m18:  :m18:

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
เข้ามาให้กำลังใจ...คนโพสต์และ คุณเอ้

ชอบๆๆเรืองนี้อ่ะ..ชอบบบบบบบบบบ :m3:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
เรื่องนี้ถ้าได้ทำเป็นหนังสือก็คงจะดีเนอะ

อยากให้เป็นหนังสือจังอ่ะ

จะเป็นไปได้ไหมหนอคุณเอ้ :m13: :m13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด