12.
ตอนเก็บกวาดหลังอาหารมื้อใหญ่ เป็นหน้าที่ของหมอเนส แต่หมอปุ่นก็อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปช่วย กลัวว่ามันจะทำจาน ชาม ตกแตกอีกรอบ(หลังจากที่มันพยายามจะเผาบ้านพักหมอไปแล้วรอบหนึ่ง) คนหนึ่งล้าง อีกคนหนึ่งเก็บ ส่วนอีกคนที่เหลือ ถูกไล่ให้ไปรอข้างนอกอีกแล้ว
"เมื่อเช้าตอนออกเวรแล้ว ไปไหนมา..?" หมอเนสหันมาถามเพื่อนที่กำลังเช็ดจานเก็บ
"ไปรับชีต้าห์ไง" ก็..ไหน ๆ เจ้าของบ้านก็อุตส่าห์อนุญาตให้ไปได้ตามสะดวก เพราะงั้นวันนี้ว่างทั้งวัน ก็ขอให้ได้เห็นหน้าทั้งวันก็เแล้วกัน
"ปุ่น..!! เอาจริงเหรอวะ คนนี้..!!?" เฮ่ย!! ไอ้เพื่อนเลว มาถามตอนนี้ จานแทบหลุดมือกันเลยทีเดียว มันจะถามตรงไปไหน!! แต่ก็จำต้องพยักหน้าตอบรับไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะใครจะไปโกหกมันได้ กินนอนห้องเดียวกันมาตั้งหลายปี รู้นิสัยกันหมด
"โทษทีวะ ที่ไม่ได้บอกก่อน" หมอเนสเหล่มองเพื่อนด้วยหางตา ...แสดงออกนอกหน้าชัดเจนแบบนี้ คงไม่ต้องบอกแล้วมั่ง
"ไหนบอกไม่ชอบแบบนี้ไง ตอนไอ้กิมกับไอ้ใหญ่.." สองหนุ่มที่เข้ามาขายขนมจีบ จนต้องขอให้เพื่อนเนสมาเป็นไม้กันหมา แมวไปพักหนึ่ง จนมีแรงไล่เตะไอ้พวกนั้นได้เองนั่นแหละ
"มันไม่เหมือนกันว่ะ พอรู้ตัวมันก็...ถอนตัวไม่ขึ้น" วันไหนไม่ได้เห็นหน้า ก็หงุดหงิดเหมือนคนบ้า แต่ก็ต้องพยายามยิ้มรับแขกตอนเข้าเวร ...มันทนได้ซะที่ไหน
"เฮ่อ~~ ไปชอบเค้าเอง ว่างั้นเถอะ!!" หมอปุ่นแทบจะทิ้งจานในมือ แล้วเอาผ้าในมืออุดปากเพื่อน ไม่รู้ว่าจะพูดดังไปไหน
"ช่วยเบา ๆ หน่อยเหอะ เดี๋ยวก็ความแตกกันพอดี" แหม..ไอ้คุณเพื่อนครับ ไอ้ท่าทียักไหล่แบบกวนประสาทแบบนี้ กระผมละอยากจะชกซักที ติดที่มือมันไม่ว่างนี่แหละ
"เออ!! มัวแต่เก็บไว้ ไม่บอกแล้วน้องมันจะรู้ได้เองไหม ป๊อด!!นี่หว่า" ไม่ได้ป๊อดโว้ย!! แค่มันยังไม่ถึงเวลา ก็แค่ไม่อยากทำลาย สิ่งที่อุตส่าห์ก่อขึ้นมา แค่พลาดนิดเดียวมันอาจจะพังครืนลงมาก็ได้
"ความรู้สึกมันไม่ต้องบอกกันหรอกโว้ย มันรับรู้ได้ด้วยใจต่างหาก.." พูดออกไปแล้วก็อยากอ๊วกเอง เน่าสนิทอ่ะ
"ไม่จริงอ่ะ คนบางคนมันก็โง่!!" เวร..!! มันจะมาของขึ้นอะไรตอนนี้วะ แบบนี้มันต้องใช้วิชาชิ่งศาสตร์
"เสร็จพอดี ฝากเก็บด้วย.." หมอเนสรับผ้าเช็ดจานที่โดนยัดใส่มือเอาไว้ เหลือบมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่เดินห่างออกไป ถอนหายใจออกมายาวเหยียด หันไปเก็บกวาดต่อ
ไอ้เด็กแสบกำลังตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมอย่างเมามัน จากที่จะก้าวเข้าไปหา หมอปุ่นก็เลยหยุดฝีเท้า ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็บูดบึ้ง ซักพักก็หัวเราะ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ทำให้คนมองคลี่ยิ้มออกมาได้
"มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเล่นเกมเหรอ!!" ว่าแล้ว..ต้องโดนซักดอก คุณหมอที่โดนเหน็บแนมก็เลยต้องเดินเข้าไปใกล้ จากที่ตอนแรกเครื่องคอมฯ ถูกตั้งอยู่ในมุมของบ้าน แต่ตอนนี้ถูกย้ายมาตั้งไว้กลางบ้านแทน เพราะจะได้มีที่นั่ง โดยไม่ต้องแย่งกัน
"ถ้าบอกว่า...มองเพราะ อยากมองล่ะ!" คนที่กำลังเล่นเกมหันขวับมาสบตา ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นเหมือนตอนที่ตัวในเกมกำลังจะแพ้
"เพี้ยนป่ะ!! ? หรือว่าห่างจากแฟนมานาน" ชีต้าห์หันมาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่ก็เบือนหน้ากลับไปสนใจเกมต่อ
"แฟน!!? ไปเอามาจากไหน..หรือไอ้หมอเนสบอก..?" เผลอแป๊บเดียว ไปขุดคุ้ยเรื่องแฟนมาจากไหนหว่า ...ก็ตอนนี้ยังไม่มี แต่ถ้าเร็ว ๆ นี้ก็ไม่แน่
"เปล่า..! ผมเห็นมากับตาตัวเอง.." เห็นมากับตาอ่ะนะ....
"ที่ไหนล่ะ..." หมอปุ่นเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน แบบนี้คะแนนนิยมก็ร่วงนะซิ ไปมีแฟนตอนไหนวะเรา
"ก็นั่นไง น่ารักด้วย กอดกันซะแน่นขนาดนั้น" แล้วสิ่งที่ปิดบังมานานก็ถูกเปิดเผย เมื่อจู่ ๆ แฟนของผมก็ปรากฏกายออกมา น่ารักซะด้วย...เฮ่ย!!! ไม่ใช่แล้ว!! ที่อยู่ในภาพนั่นมันไอ้ตัวเล็ก ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว พี่ชายโอบรอบคอน้องชายจากด้านหลัง มันมองดูแปลกเรอะ!!
"คนนั้น น้องชายคนเล็ก ลองหยิบมาดูใกล้ ๆ ซิ หน้าคล้ายกันจะตาย" ชีต้าห์เลิกสนใจเกมที่เล่น หันมามองหน้าหมอปุ่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะวิ่งพรวดไปคว้ากรอบรูป เอามาเทียบกับใบหน้าคุณหมอให้เห็นกันชัด ๆ
"ไม่เห็นเหมือนเลย คนนี้ตัวเล็ก แล้วก็น่ารักด้วย ไม่เหมือน...." ดูมันทำ...อย่ามาใช้สายตาแบบนี้มองนะ เดี๋ยวก็โดนดีดกระโหลกอีกทีหรอก
"คิดมากนะเรา..." หมอปุ่นเอื้อมมือไปโยกหัวชีต้าห์เล่น ..คิดมากไม่เข้าเรื่อง แต่เดี๋ยวนะ คิดมากเรื่องนี้ ไอ้หมอปุ่นก็มีสิทธิ์ดิ!!
"อย่าเล่นหัวดิ ผมยุ่งหมด" ยิ่งห้ามก็เหมือนว่าคุณหมอก็ยิ่งแกล้งหนัก จากที่หงุดหงิดชีต้าห์ก็กลับหัวเราะออกมาแทน
"ไปข้างนอกกัน...!!" มือที่เล่นอยู่บนหัว เปลี่ยนตำแหน่งมาคว้าข้อมือของชีต้าห์ พร้อมกับออกแรงฉุดให้ตามมา
"ไม่เอา ผมเล่นเกมค้างอยู่ ไอ้พี่หมอบ้า..!!" ตะโกนไปก็เท่านั้น แกล้งทำเฉยซะก็หมดเรื่อง หมอปุ่นรั้งข้อมือของเด็กแสบให้ตามออกมาด้วยกันจนได้
----
แล้วในที่สุด ก็ออกมาสูดอากาศข้างนอก ตอนบ่าย 3 ได้อย่างใจไอ้พี่หมอปุ่น ก็ไหนว่าจะให้เล่นเกมไงเล่า!! ลากออกมาเดินตอนนี้เพื่ออะไรกัน ...อันที่จริงก็ทำเป็นปฏิเสธไปงั้น ถ้าผมไม่อยากมา ต่อให้เอาช้างมาลากก็จะยืนกรานไม่ไปเด็ดขาด แต่นี่คือคุณหมอปุ่น ไม่ใช่ช้างที่ไหน ก็เลยตามออกมาก็แค่นั้น
"ออกมาทำไม ร้อนจะตาย" แสร้งทำเป็นหงุดหงิด ไม่งั้นจะเสียฟอร์มได้
"ออกมาเดินเล่นไง กินอิ่ม ๆ ต้องเดินให้อาหารย่อยบ้าง ไม่ใช่มัวแต่นั่งเล่นเกม..." ก็รู้อยู่..ว่าหวังดีเหลือเกิน แต่มาเดินเล่นตอนบ่ายสาม แดดเปรี้ยงขนาดนี้ คิดได้ไง!!
"ใครบอกเหรอ..ว่าอยากมา!!" พอเจอคำถามนั้นเข้าไป คุณหมอก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ พร้อมกับยื่นมือมาบีบจมูกคนถามอย่างหมั่นไส้
"พี่หมออยากมา มีอะไรป่ะ!!" กวนประสาท!! เป็นคุณหมอที่กวนประสาทที่สุดในโลกเลยมั่ง
"อยากมาเอง...แล้วจะลากผมออกมาทำไม?" ปากก็ว่าไปแบบนั้น แต่ชีต้าห์ก็กำลังก้าวขา เดินตามหมอปุ่นไม่หยุด
"เดินคนเดียวมันเหงานะ ไม่มีคนคุยด้วย.." หมอปุ่นหันมาตอบเหมือนไม่สะทกสะท้าน กับแววตาเป็นประกายเคืองจัดของชีต้าห์
"แล้วทำไม ไม่ลากพี่หมอเนสออกมาล่ะ!!" เด็กแสบเจ้าปัญหายังคงไม่ลดละ จนคุณหมอที่เดินนำหน้า หยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองตรง ๆ
"ถ้าอยากมากับไอ้หมอเนส พี่หมอคงไม่ลากเราออกมาหรอก..." พอโดนสายตาคมจ้องมาตรง ๆ ชีต้าห์ก็เลยเป็นฝ่ายหลบเสียเอง ก็แล้วที่ลากคนอื่นเค้าออกมา ไม่คิดจะถามความคิดเห็นกันบ้างรึไง!
"ไม่เห็นจะถามซักคำ!!" เพราะมัวแต่ก้มหน้า ชีต้าห์ก็เลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่ระบายอยู่บนใบหน้าคุณหมอ
"ถ้าพี่ถาม เราก็ต้องปฏิเสธอยู่ดี"
"ใครบอก!!" กรรม!! อยากจะโทษความปากไวของตัวเอง ที่พูดออกไปก่อนที่สมองจะสั่งการอยู่เรื่อย
"งั้นก็แสดงว่า ชีต้าห์ก็อยากมาเดินเล่นกับพี่หมอ...ซินะ" คนที่เพิ่งจะพลาดไปเมื่อกี้ ไม่กล้าเงยหน้าไปสบตากับคุณหมอตรง ๆ กลัวว่าจะได้หลุดอะไรออกไปอีก หมอปุ่นสาวเท้าเข้าไปหาคนที่ยืนก้มหน้านิ่ง
"มั่ว!! คิดเองเออเองตลอด!!" ทั้งที่ตอบออกไปแบบนั้นเอง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากเข้าหากัน แถมไม่ได้รู้ตัวอีกว่าตัวเองกำลังทำสีหน้าแบบไหน
"แต่ก็คิดถูกประมาณ 99.99% เลยมั้ง.." ชีต้าห์ตวัดสายตามองได้ในที่สุด อยากจะถามจริง ว่าได้ความมั่นใจนั้นมาจากที่ไหน ..คนอะไรคิดเข้าข้างตัวเองตลอด
"นี่ก็มั่วอีก อ๊ะ....!!" ตกใจซิ..จู่ ๆ คุณหมอก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หัวใจมันเต้นรัวหนัก อยากจะถอยห่าง แต่ก็ทำไม่ได้ ขามันก้าวไม่ออก
"ชีต้าห์...ถ้าพี่หมอจะบอกว่าชอบ...."
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่กระเป๋าเสือหมอปุ่น สั่นขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
ชีต้าห์แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าคุณหมอล้วงโทรศัพท์ออกมากดรับ นึกว่าจะขาดอากาศหายใจไปซะแล้ว มันอะไรกันความรู้สึกแบบนี้ ตัวร้อนเหมือนจะเป็นไข้ หัวใจมันกำลังทำงานหนัก แล้วเมื่อกี้มันอะไรที่ค้างไว้'ชอบ...?' อะไร
"ไม่เป็นไรครับ , ได้ครับ!!"
"ชีต้าห์ คุณพ่อขอคุยด้วย..." หมอปุ่นเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ตรงหน้า คนที่กำลังมึน ยื่นมือออกรับมาแนบหูตัวเอง พร้อมกับหมุนตัวหันหลังให้คุณหมอ เพราะไม่งั้นคงไม่มีกระจิตกระใจจะฟังคนในโทรศัพท์พูด
"ครับพ่อ.." พอกรอกเสียงไปในโทรศัพท์ คนเป็นพ่อก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง
"มีนักท่องเที่ยวช็อคตอนดำน้ำลึก พี่เราก็เลยส่งตัวขึ้นฝั่งมา พ่อคงต้องไปดูอาการให้ ลูกอยู่ที่บ้านพักคุณหมอไปก่อน ไว้พ่อกลับแล้วจะไปรับ" ไม่รู้จะเรียกว่าสถานการณ์มันเป็นใจรึป่าว แต่ชีต้าห์กำลังสองจิตสองใจ ระหว่างกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านคนเดียว กับการอยู่กับคุณหมอ อะไรมันจะดีกว่ากัน
"ไว้เจอกันครับ..." สุดท้ายก็เผลอเลือกข้อสุดท้ายไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะกดปิดการสนทนาแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ
"ชีต้าห์..คือว่า..พี่หมอจะบอก..." ยังไม่ทันได้พูดประโยคที่ค้างออกไป หมอปุ่นก็ต้องหยุดอีกรอบ เพราะคนฟังยกมือขึ้นห้ามเอาไว้เสียก่อน
"ขอเวลานอก ผม...ยังไม่พร้อมฟัง!!" พอพูดจบ ชีต้าห์ก็ออกตัววิ่งมุ่งหน้ากลับมายังบ้านพักหมอทันที ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองดังหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง กลัวว่าจะตัวเองจะต้องเสียใจแน่ ไม่อยากรับฟังอะไร ๆ ในตอนที่ตัวเองยังสับสนแบบนี้
หมอปุ่นยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหลือบมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ของไอ้เด็กแสบ จนกระทั่งหายเข้าไปในบ้าน เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของไอ้สองคนนั่นตอนที่โดนคนที่ชอบวิ่งหนี ก็ตอนนี้เอง อยากจะยิ้มให้ตัวเอง แต่มันก็ยิ้มไม่ออก...
-------
“เฮ่ย!!” คนที่กำลังหลับหูหลับตาวิ่งขึ้นบ้าน ไม่ทันได้มองข้างหน้า เกือบจะร่วงจากบันไดลงไปกองกับพื้น ถ้าไม่ได้มือของคุณหมออีกคนรั้งเอาไว้
“วิ่งไม่ดูทาง ถ้าตกลงไปแขนหัก หัวแตกจะทำไง” หมอเนสบอกเสียงดุพร้อมกับรั้งให้อีกฝ่ายขึ้นมายืนได้
“ขอโทษ..คือผมอยากเข้าห้องน้ำ” ชีต้าห์แถไปเรื่อย พอแขนตัวเองเป็นอิสระ ก็รีบเบียดตัวเข้าไปในบ้านทันที
“แล้วไอ้หมอปุ่นล่ะ” หมอเนสตะโกนถามหาเพื่อนอย่างสงสัย ก็ตอนออกไปกันสองคน แล้วทำไมตอนกลับ มีคนเดียวที่วิ่งกลับมา
คนที่กำลังจะหนีเข้าไปหลบ สงบสติอารมณ์ในห้องน้ำชะงักฝีเท้า หันมามองหน้าคนถามในแววตาเหมือนคนกำลังสับสนอย่างหนัก พอเหลือบมองออกไปข้างนอก ตรงที่ตัวเองวิ่งหนีมา ใครบางคนยังยืนอยู่ที่เดิม
ชีต้าห์เผลอกัดปากตัวเองเข้าจนได้ ถ้า...เปลี่ยนคนที่เป็นฝ่ายเดินหนีเป็นหมอปุ่นล่ะ!? แค่คิดมันก็เจ็บในอก กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ตัวเองก้าวขาลงไปจากบ้านพัก เดินกลับไปทางเก่า ตรงที่ ๆ มีใครบางคนยืนอยู่
=================
โปรดติดตามตอนต่อไป คึคึ
ลองไปหารูปที่พอจะเป็นอิมเมจของตัวละครหลัีกมาให้ทุกคนได้ยลโฉม
ชีต้าห์ + หมอปุ่น
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
ว่าแล้วก็วิ่งกลับไปปั่นตอนต่อไป