ก่อนอื่นใด เสียบทุกคนให้ทะลุ ไปถึงคนแรก 555 เสียบ ๆ
เสร็จแล้วกอดแน่น ๆ อีกที อึบ ๆ
ไปอ่านตอนที่ 14 กันเร็ว!!!!
=======================
14
เย็นวันนั้น กว่าจะเสร็จเรื่อง ก็เลยกลายเป็นว่าชีต้าห์ต้องนอนค้างที่บ้านพักคุณหมอหนึ่งคืน เพราะคุณพ่อที่สัญญาไว้ว่าจะมารับ กลับติดธุระ ต้องขึ้นกรุงเทพฯอีกต่อหนึ่ง
"พ่อขับรถดี ๆ นะ ไม่ต้องรับด้วย ต้าห์อยู่ได้ ไม่ต้องห่วงเลย.." โทรศัพท์ของหมอปุ่นที่ถูกยืมมาใช้งานร่วมครึ่งชั่วโมง เพราะไหนจะคุณพ่อที่โทรมา คุณพี่ชายที่ห่วงซะเหลือเกิน แต่ดันฝากให้น้องชายนอนที่บ้านคนอื่นซะอย่างงั้น
"อย่าซนนักนะเรา เกรงใจคุณหมอเค้า" พ่อผม..คิดว่าทิ้งลูกชายอายุ 7 ขวบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เอาไว้ที่บ้านคนเดียวรึไง แล้วที่สั่งนั่น เอาไว้สำหรับสั่งเด็กไม่ใช่รึ
"ซนที่ไหนต้าห์เป็นเด็กดีจะตาย..." พอพูดจบ สายตาก็เหลือบไปเห็นว่าคุณหมอเจ้าของบ้านทั้งสองคนส่ายหน้ารัว จนชีต้าห์อดไม่ไหวต้องแยกเขี้ยวใส่
"แล้วพ่อจะรีบกลับ ตอนสาย ๆ พี่เต้คงมารับเราก่อน" คงมาได้หรอก พี่เต้มีทัวร์สงสัยพ่อจะลืมแน่ ๆ
"พ่อขับรถต่อเถอะ แล้วเจอกันครับ.." ต้องรีบชิงวางสายก่อน แม้ว่ามันจะดูใจร้ายไปนิด แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น มีหวังพ่อได้จอดรถคุยอีกเป็นเรื่องเป็นราว ห่วงโน่นนี่ไม่เลิกซักที
สายตาเหลือบไปเห็นสองคุณหมอ ที่กำลังนั่งรวมหัวกันหัวเราะ.. มันจะอะไรกันนักหนา เดี๋ยวก็ลอง'ซน'อย่างที่พ่อห้ามซะหรอก คงได้สนุกกันทั้งคืนล่ะ ไม่รู้ฤทธิ์ชีต้าห์ซะแล้ว
"อะแฮ่ม!! ผมนั่งอยู่นี่ ยังจะกล้ามานินทา.." ที่จริงเพิ่งจะหย่อนก้นลงมานั่งที่เก้าอี้ตัวยาว ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กล้ามองหน้าหมอปุ่นตรง ๆ ทั้งที่เมื่อตอนเย็นแกล้งเค้าไปซะเยอะ ยังมีหน้ามายิ้มให้อีก
"ไปอาบน้ำซะก่อน เดี๋ยวพี่หมอไปหยิบเสื้อผ้าให้.." หมอปุ่นเอามือโยกหัวไอ้เด็กแสบเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว ยิ่งเห็นว่าเจ้าตัวทำหน้าย่นใส่เหมือนจะงับ ก็ยิ่งสนุก
"แล้วคืนนี้..ชีต้าห์นอนห้องไหน..!?" คำถามธรรมดาของหมอเนส ทำเอาสองคนที่กำลังเล่นกันชะงัก... ก่อนจะหันมาสบตากัน ฝ่ายไอ้เด็กแสบก็ซุกหน้าลงไปบนเข่าตัวเองพร้อมกับส่ายหัว
นั่นซิ..จะนอนที่ไหน 'ห้องหมอปุ่น' เหรอ? ทั้งที่เพิ่งจะรู้ใจกันเมื่อกลางวัน อะไรมันจะรวดเร็วปานนั้น ไม่ทันไรก็ต้องร่วมห้องกันเสียแล้ว(แค่นอนค้างนะ) หน้ายังไม่กล้ามองตรง ๆ ตายังไม่กล้าสบด้วย แล้ว..จะต้องนอนใกล้กัน คงได้หลับหรอกคืนนี้ แต่จะให้ไปนอนห้องหมอเนสรึก็ไม่ได้อยู่ดี
"นอนห้องฉันไง ไม่น่าถาม!!" หมอปุ่นหันไปบอกไอ้คุณเพื่อนตัวดี ที่อุตส่าห์ทำให้เสือตื่นได้แต่หัววัน
"อ้อ..เหรอ!!?" หมอเนสแกล้งทำเป็นลากเสียงยาว ทั้งที่จริงก็มองออกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัวสองคนนั่นมันเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับเข้ามาเมื่อตอนเย็น
"ที่จริง..ให้ผมนอนข้างนอก ตรงนี้ก็ได้นะ" เสียงพึมพำของชีต้าห์ เพราะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากขาตัวเอง แต่ก็โดนสองคุณหมอปฏิเสธทันที
"ตรงนี้มันหนาว ยุงเยอะด้วย ถ้าดูแลไม่ดีเดี๋ยวคุณพ่อกับพี่เต้จะว่าเอาได้" เหตุผลสองข้อแรก ก็ดูเหมือนว่าเป็นห่วงดีหรอก แต่สองข้อหลังที่ยกมาอ้างนี่ซิ..
"เอาไงก็ได้ ผมไม่มีทางเลือก..." ชีต้าห์สถานะภาพเท่ากับผู้อาศัย จากเสือร้าย ก็เลยกลายเป็นแมวหงอย ๆ นั่งกอดเข่าตัวเองซะอย่างงั้น หมอเนสเหลือบมองไอ้คุณเพื่อน สลับกับไอ้เด็กแสบไปมา เหมือนจะคิดอะไรออก..
"ความจริง..ชีต้าห์นอนห้องพี่ก็ได้นะ ปลอดภัย 100%" หมอปุ่นแทบจะถลา เข้าไปประเคนฝ่าเท้าใส่ปากเพื่อน เป็นรางวัลสำหรับ เพื่อนผู้หวังดียอดเยี่ยมอวอร์ดในปีนี้ (ในตอนที่ไม่ต้องการโว้ย!!)
"ปลอดภัยมาก.. กองหนังสือแทบจะล้นออกมาหน้าประตู จะแหวก ๆ หาที่นอนเหรอ ถามหน่อย!!"
"เออ!! ก็แค่เสนอโว้ย เผื่อว่าใครบางคนแถวนี้ มันคิดไม่ซื่อ!!" เมื่อต้องมาโดนเผากลางบ้าน มีรึที่หมอเนสจะไม่เอาคืนบ้าง แต่ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวทะลุหมอไปจนถึงไอ้เสือที่นั่งกอดเข่าตัวเองอยู่นั่น ได้หน้าแดงกันถ้วนหน้าเลยงานนี้
ก่อนที่จะโดนพาดพิงให้ต้องอับอายไปมากกว่านี้ ชีต้าห์ก็เลยรีบลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวขายาว ๆ ไปยังห้องพักของคุณหมอ ไม่สนใจเสียงเรียกตามหลัง ก่อนจะกระชากประตูห้องเปิดออกอย่างมั่นใจ แล้วก็ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้อง....
"คือ..ผมคิดว่าเข้าห้องผิด!!" เมื่อเปิดประตูเข้าไป แล้วก็พบกองหนังสือที่ไล่ไปตั้งแต่หน้าประตู ไปจนถึงเตียงนอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าห้องของใคร..
"ก็นั่นแหละที่จะบอกเมื่อกี้..ฮ่า ๆ" ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ เมื่อคุณหมอทั้งสองเริ่มระเบิดหัวเราะพร้อมกันอีกรอบ ก่อนจะกระแทกฝ่าเท้าเปิดประตูห้องที่อยู่ถัดไป เพราะคราวนี้คงไม่ผิดแน่
"น่ารักว่ะ!!" หมอปุ่นตบไหล่เพื่อนซี้เบา ๆ แล้วมันก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะกำลังพยายามสุดกำลังที่จะกลั้นหัวเราะให้ได้
"เออ!! ไม่เถียง ๆ ถ้าไม่ติดว่ามีเจ้าของแล้วนะ..!!" หมอเนสแกล้งทำตาระยิบระยับ จ้องไปที่ประตูห้องของไอ้คนที่นั่งข้าง ๆ ก่อนที่จะโดนมันตบกบาลไปที
"ไม่ได้โว้ย!! คนนี้เจ้าของโคตรหวง..ว่าแต่..เปลี่ยนใจมาชอบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ!!" หมอปุ่นแกล้งเอาศอกสะกิดแขนเพื่อน เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา นอกจากตอนที่ใช้มันเป็นหมอกันหมา ก็ไม่เห็นว่ามันจะสนใจ'ผู้ชาย'ซักที ก็เห็นอยู่ว่าออกจะป๊อปในหมู่สาว ๆ
"ไม่ได้เปลี่ยน ชอบแบบนี้มานานแล้ว ไม่รู้ตัวเอง...." คนที่หลุดปากพูดออกไป กัดริมฝีปากตัวเองแน่น หวังว่ามันคงจะไม่ได้คิดอะไรเหมือนที่ผ่านมา
"ไอ้เนส!! อย่ามาล้อเล่น!!?"
"เออ!! ก็หมายถึงว่า แก...ไม่รู้เองว่าฉันชอบแบบนี้ ก็ไม่เคยถามนี่หว่า..แล้วตอนนั้นแกก็เกลียดไอ้สองคนนั่นจะตาย" หมอเนส เพิ่งจะมานึกขอบคุณสองคนนั้น ก็ตอนที่มันมีประโยคนี่แหละ
"ไอ้หมอเนส!! มีเรื่องอื่นอีกรึป่าว.." ด้วยความที่อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกันมานาน ถึงได้รู้นิสัยกันดี ยิ่งเวลาที่ไม่กล้าสบตาแบบนี้ ก็ยิ่งน่าสงสัย
แกร๊ก!!
"พี่หมอปุ่น ไหนล่ะเสื้อผ้า ไม่งั้นผมจะนอนมันทั้งชุดนี้แหละ!!" ประตูห้องหมอปุ่นเปิดออกมา พร้อมกับใบหน้าของไอ้เด็กแสบที่บูดบึ้ง เพราะเข้าไปนั่งรออยู่นาน เจ้าของห้องก็ยังไม่ตามเข้ามาเสียที
"ครับ ๆ คุณชาย จะไปรับใช้เดี๋ยวนี้เลยครับ!!" คำพูดประชดที่ทำเอาอารมณ์หงุดหงิดของชีต้าห์หายไปหมด แต่ก็ยังคงเก๊กหน้าขรึม แล้วปิดประตูห้องตามเดิม
"รีบไปดิ คุณชายเรียกแล้วนั่น!!" หมอเนสรีบยุส่ง เพราะเห็นทางรอดของตัวเอง
"เออ!! ถ้าไม่ลืม จะกลับมาเอาคำตอบ.." ก่อนไปยังไม่วายทิ้งระเบิดเอาไว้ลูกใหญ่ ปล่อยให้หมอเนสนั่งถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตัวเอง...
หมอปุ่นหรี่ตามองเข้าไปในห้อง ทั้งที่มีคนอยู่ข้างใน แต่ทั้งห้องกลับมืดสนิท ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใด ๆ พอเปิดไฟสว่างก็ยังเหมือนเดิม.. ไม่รู้ว่าหายไปซ่อนที่ไหน ไอ้เสือตัวแสบหน้าบูด จับตัวมาลงโทษซักทีดีไหม
"แฮ่!!!"
"เฮ่ย!!!" เสียงหมอปุ่นตะโกนลั่น จะอะไรซะอีก ก็ไอ้ผีข้างตู้ตัวแสบ จู่ ๆ มันก็กระโดดออกมาจากที่ซ่อน ถ้าเป็นแค่มุกเดิม ๆ ก็คงจะไม่ร้องเสียงหลงขนาดนั้น แต่นี่มัน..ไอ้ผีโรคจิตที่มาเปิดผ้าโชว์ของดี
"ฮ่า ๆ ตลกอ่ะ" ไอ้เด็กแสบยืนกุมท้องหัวเราะเสียงดังลั่นบ้านได้เลยมั่ง เพราะแผนการหลอกผู้ใหญ่สำเร็จซินะ
จะบอกความจริงไปดีไหม ว่าไม่ได้กลัวผี แต่...ไอ้ที่ตกใจ มันคือตอนที่ไอ้เด็กแสบมันเปิดผ้าขนหนูที่พันเอวตัวเองออก ทั้งที่ท่อนบนมันก็ไม่ได้ใส่เสื้อ ..แล้วข้างใน ดันมีบ๊อกเซอร์ ปั้ดโธ่!! ไม่ลงทุนหมดตัวไปเลยเล่า!! ไอ้เสือ!
"แกล้งคนอื่นได้ มีความสุขซินะ.." หมอปุ่นยืนเอามือกอดอกตัวเอง เหลือบมองคนที่ยังยืนหัวเราะพยักหน้าหงึก ๆ โดยไม่รู้ตัว ว่ากำลังจะโดนเอาคืน
"ฮ่า ๆ พี่หมอหน้าตาตลก หมออะไรกลัวผี...เฮ่ย!!!...อุ๊บ!!" ชีต้าห์แทบจะสำลักลมหายใจตัวเอง
ไม่ได้โดนพาดบ่า แล้วฟาดก้นเหมือนเคย แต่ชีต้าห์กลับโดนคุณหมอ ดันไปข้างหลังจนตัวติดกับผนังห้อง ก่อนที่..ใบหน้าจะก้มลงมาจนชิด มาหยุดนิ่งสบตา ตอนที่ปลายจมูกจะชนกัน ตอนแรกกะว่าจะแค่แกล้งเล่น แล้วหยุดอยู่แค่นั้น แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เมื่อของหวานวางอยู่ตรงหน้า เหมือนกับรอให้ลิ้มชิมรส
ความรู้สึกแปลก ๆ แผ่ไปทั้งตัว เมื่อริมฝีปากแตะกัน ทุกสิ่งรอบกาย ดูเหมือนจะหยุดนิ่งลง มีเพียงแค่สองคนที่ต่างก็จ้องตากันไม่ยอมหลบ ริมฝีปากบางเผลอเปิดรับให้อีกคนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ครั้งแล้วครั้งเล่า จนอีกฝ่ายตักตวงความหอมหวานจนพอใจ ถึงได้ผละออกมา ทั้งที่สายตาเหมือนกับว่าเสียดายเหลือเกิน
"พี่ขอโทษ.." ทั้งที่ปากบอกไปแบบนั้น แต่ปลายนิ้วของหมอปุ่น ยังเกลี่ยอยู่บนริมฝีปากบางที่บัดนี้ขึ้นสีจัด แข่งกับใบหน้าเจ้าของ
"...." ไม่มีเสียงตอบรับ หรือคำต่อว่า ชีต้าห์ได้แต่ส่ายหน้าไปมา เม้มริมฝีปากตัวเองเข้าหากันแน่น
"ทำแบบนี้อีกแล้ว จะเป็นแผลเอานะ รู้ไหม..?" กลัวว่าจะโดนเด็กโกรธ หมอปุ่นถึงได้ก้มหน้าลงไปมอง ใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ บนริมฝีปากบางนั่น
"เพราะ..ใครกันล่ะ ไม่ใช่ผมทำซักหน่อย.." ถึงตอนนี้ก็ยังมีแรงเถียงให้คุณหมอคลี่ยิ้มออกมาได้
"ไว้..คราวหน้าพี่จะทำเบา ๆ นะ" เสียงทุ้มกระซิบบอกที่ข้างหู ทำเอาคนฟังเคลิ้ม เผลอพยักหน้าหงึก ๆ รับคำ ก่อนจะมาคิดได้อีกที ก็ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา แล้วเห็นหมอปุ่นกำลังกลั้นหัวเราะ
"ไอ้พี่หมอบ้า!! เล่นทีเผลอนี่หว่า ไม่คุยด้วยแล้ว!!" ชีต้าห์แลบลิ้นใส่เจ้าของห้อง ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ ไปเรียกสติตัวเองให้กลับมา ก่อนที่เสียเปรียบไปมากกว่านี้
หมอปุ่นยืนอมยิ้มมองประตูห้องน้ำบ้านตัวเอง รสสัมผัสเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ในความรู้สึก ทั้งหอมหวาน นุ่มละมุน น่าหลงใหล ก่อนที่จะสะบัดหัวตัวเองไปมา ไล่ความคิดฟุ้งซ่านให้หลุดออกไปจากหัว เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตัวเอง เลือกออกมาสองสามชุด
"เสื้อกับกางเกง พี่วางไว้หน้าห้องน้ำนะ" เสียงคุณหมอที่ตะโกนเข้ามา ทำเอาคนที่กำลังยืนคลำริมฝีปากตัวเองสะดุ้ง ยกมือยีหัวตัวเองจนยุ่งเหยิง ก่อนจะอาบน้ำสระผม หวังว่าตัวเองจะลืม ๆ มันได้บ้าง
หมอปุ่นเข้าไปอาบต่อ หลังจากที่ไอ้เด็กแสบออกมานอนกระดิกเท้า ในสภาพเรียบร้อยอยู่บนเตียง แต่..ที่เซอร์ไพร์ส(อีกแล้ว) ก็ตอนที่ออกมา มีที่นอนปิกนิกชุดหนึ่งปูอยู่บนพื้น จำได้ว่ามันอยู่ในห้องไอ้หมอเนส ..แล้วทำไมมันมาอยู่ตรงนี้ ในสภาพพร้อมนอนได้
"อย่าบอกนะ....?"
"ที่นอนพี่หมอ ถูกเผง!!" ชีต้าห์ชิงตอบก่อนที่คุณหมอเจ้าของห้องจะเดาออก
"ได้ไง!!? ให้พี่นอนพื้น!!?" เจ้าของห้องเริ่มโวยวาย เพราะอุตส่าห์วาดแผนการตั้งมากมายเอาไว้
"ก็นี่มันเตียงเดี่ยว จะมานอนเบียดกันได้ไง" ไอ้เด็กแสบทำเป็นนอนแผ่ลงไปบนเตียง ยืนยันคำพูดของตัวเอง
"แต่ว่า....!!" หมอปุ่นยังไม่ยอม แต่ก็แพ้สายตาแบบนั้นทุกที
"งั้น..ผมลงไปนอนเองก็ได้ รู้งี้เชื่อพี่หมอเนส ไปนอนห้องโน้นก็ดีหรอก.." ชีต้าห์แกล้งตีหน้าศร้า ค่อย ๆ คลานลงมาจากเตียงราวกับว่าอาลัยมันนักหนา
"โอเค ๆ พี่นอนพื้นเอง!!" เจ้าของห้องจำต้องยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้ ก็นะ..ยังดีที่อุตส่าห์ไปแบกที่นอนมาปูให้ ไม่ใจร้ายให้นอนพื้นเปล่า ๆ ก็บุญเท่าไรแล้วไอ้หมอปุ่น!!
ชีต้าห์หันมาฉีกยิ้มให้คุณหมอจนตาปิด ก่อนจะเด้งตัวขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างเริงร่า หึ หึ ในที่สุดก็หาวิธีนอนอย่างสงบได้ซะที...
"ชีต้าห์..." เสียงเรียกโหยหวนชวนสยอง ดังมาจากข้างล่างเตียง ทำเอาคนที่นอนอยู่ข้างบนต้องพลิกตัวกลับมามอง
"ผมจะนอนแล้ว เรียกทำไม!!?" หมอปุ่นกวักมือเรียกให้คนที่อยู่บนเตียง ขยับเข้ามาใกล้ ๆ
"พี่มีความจริง ที่จะต้องบอกชีต้าห์ก่อน ว่าเตียงที่เรานอนอยู่ เมื่อก่อนมันเป็นเตียงของคนไข้ในโรงพยาบาล.." เสียงหมอปุ่นกระซิบบอกในความมืด ยิ่งเห็นว่าไอ้เด็กแสบมันเริ่มนอนนิ่งฟังความ ฝ่ายคุณหมอก็คลี่ยิ้มออกมา
"ละ..แล้วไง.." เสียงที่ถามกลับมาสั่นจนคนฟังรู้สึกได้
"แล้วก็มีคนไข้คนหนึ่ง เสียชีวิต.. บนเตียงนี่แหละ!!!"
"ว้ากกกกก!!!" หมอปุ่นแกล้งทำเสียงตะคอก เหมือนเวลาที่ถึงจุดไคล์แมกซ์ของหนังผี แล้วไอ้เสือที่นอนอยู่บนเตียง ก็กระโดดพรวดลงมาเข้าสู่อ้อมแขนที่รอรับอยู่แล้ว
"หึ หึ ไม่ต้องกลัวหรอก คนไข้ที่เสียชีวิตเค้าอายุเยอะแล้ว ไม่ทำอะไรเราหรอก ก็แค่..."
"ไม่เอา ๆ ไม่ฟังแล้ว ไอ้พี่หมอหยุดเล่าซักทีซิโว้ย!!" ชีต้าห์ตะโกนลั่น พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาหมอปุ่นอย่างลืมตัว
"โอเค ๆ ไม่เล่าแล้ว..." หมอปุ่นคลี่ยิ้มกับตัวเองในความมืด ใช้สองแขนโอบไอ้เสือร้ายเข้ามาในอ้อมแขน
...เตียงคนไข้ในโรงพยาบาลที่ไหน ไปซื้อมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ในตัวเมืองกับไอ้หมอเนสตอนที่มาอยู่ใหม่ๆ คืนนี้คงต้องปล่อยให้เตียงว่างไปแบบนั้น เพราะทั้งเจ้าของเตียงและแขกตัวแสบลงมานอนกอดกันกลมอยู่บนพื้น...
===========================
ตอนนี้จะถือว่าเสมอกันรึป่าวไม่รู้ หลอกกันไปหลอกกันมา
(สุดท้ายชีต้าห์ก็งานเข้า !! 555)
แล้วก็...ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่านอย่างเป็นทางการอีกที
อาจจะไม่ได้ตอบเม้นท์เป็นรายคน ก็ต้องขออภัย
รวบกอดทีเดียวยกก๊วนแสบนี่แหละเนอะ
ว่าแล้วก็วิ่งไปปั่นต่อ..(เดี๋ยวจะหมดมุกซะก่อน )
ขอบคุณผู้อ่านที่มีอุปการะคุณทุกท่าน(อีกที) ป้อล้อ.. แถมท้ายด้วยประโยคนี้
‘Eu já gostou de você.’ ใครอยากรู้ว่าหมายความว่าอะไรตามไปดูได้ -->
"Ana Julia"