Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 30... แต่คนเมาที่เหมือนไม่มีสติเท่าไหร่เกาะผมไว้แน่น ขนาดคนรถมารับก็ยังเอาผมไปนั่งซ้อนตักหน้าตาเฉย แล้วคนเมา ยิ่งเมายิ่งแรงเยอะรึไงนะ ผมดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด หรือเพราะพักนี้ผมมัวแต่ยุ่งๆกับปัญหาชีวิต ไม่ค่อยได้ออกกำลังหรือฝึกซ้อม ร่างกายมันเลยฝืดๆหรือเปล่านะ
รถมาจอดที่หน้าบ้านคุณไม้ คนที่นั่งอยู่ข้างหลังผมนั่งนิ่ง เขาไม่ได้หลับผมแน่ใจ แต่ทำไมเขาถึงเงียบไปล่ะ
คนขับรถมาเปิดประตูให้ ผมก้าวลงไปก่อนแล้วคุณไม้ก็ก้าวตามลงมา โดยไม่มีคำพูดใดๆ คุณไม้ช้อนตัวผมขึ้นและอุ้มเข้าบ้านทันที
“เฮ้ย!ปล่อยนะ”
ผมพยายามดิ้นให้เขาปล่อย แต่ก็ต้องเกาะไว้ด้วยเพราะกลัวตกลงไป คุณไม้ตรงไปยังโซฟาที่เคยนั่งทำงานด้วยกัน วางผมลงและคร่อมตัวลงมาทับผมไว้ทันที
“ฮื้อ ปล่อยนะ”
ผมใช้มือยันตัวเขาให้ออกห่าง แต่คุณไม้ไม่สะทกสะท้าน มือข้างหนึ่งกดมือผมที่พยายามผลักไส้ไว้ อีกข้างก็สอดเข้าใต้เสื้อและลูบไปตามผิวหนัง
“อย่า...”
ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ คุณไม้เปลี่ยนท่าเป็นนั่งทับผมเบาๆที่ท้องน้อย และเริ่มลงมือดึงเสื้อผมออก ...กระดุมเม็ดแล้วเม็ดเล่าหลุดออกตามแรงกระชาก ไม่ว่าผมจะขัดขืนยังไงก็ดูเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรคุณไม้ได้ แรงผมคงจะหมดเพราะเหล้าสามสี่แก้วที่ดื่มเข้าไปแน่ๆ ถึงหลังๆผมจะดื่มแต่นำอัดลม แต่สติผมมันก็เชื่องช้าลงไปมาก
ทันทีที่กระดุมถูกดึงออกจนหมด สาบเสื้อก็ถูกแยกออกจากกัน แผ่นอกเปล่าเปลือยจึงปรากฏแก่สายตา มือหน้าเข้าลูบไล้ไปทั่วทุกบริเวณ ผมอายจนไม่รู้จะทำยังไง แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ใช้มือสองข้างที่ไม่เป็นประโยชน์ในการดิ้นรนปิดบังใบหน้าไว้ อย่างน้อยๆผมก็ไม่ต้องมองเห็นมัน
แต่แล้วเสียงซิบถูกรูดลงก็ทำให้ผมต้องเปิดหน้าขึ้นมา กางเกงทั้งชั้นนอกชั้นในถูกดึงลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่ผมโดนจับพลิกให้หันหลัง
มือหนาเลือนเข้ากุมแก่นกลางลำตัวผมไว้แล้วรูดรั้งให้มันตอบรับสัมผัส อีกมือก็วนเวียนอยู่ไม่ไกลทางเข้าด้านหลัง
“อย่านะ”
ไม่มีการฟังเสียงใดๆ นิ้วมือของคุณไม้ถูกส่งเข้าสำรวจภายในโดยไม่สนใจคำประท้วงของผม น้ำตาเริ่มซึมออกมา หัวตาร้อนผ่าว
“อย่าทำ ขอร้องล่ะ”
คำร้องขออู้อี้ พูดซ้ำไปซ้ำมา พร้อมๆกับน้ำตาที่เริ่มรินไหล คราวที่แล้วคุณไม้ก็หยุด เพราะผมในสภาพนี้ แต่ครั้งนี้คนตัวโตกว่าเขาก็ไม่รับฟัง นิ้วมือที่รุกรานเข้ามาเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ด้านหน้ายังคงถูกกระตุ้นให้มีความรู้สึกมากขึ้นๆ
“อ๊ะ....ปล่อย”
ยิ่งโดนกระตุ้นก็ยิ่งรู้สึกหน้ามืดตามัว สำนึกคิดเริ่มหมดไปจากสมอง เหลือเพียงแค่อารมณ์ร้อนที่กำลังกรุ่นอยู่ในกาย และใกล้จะระเบิดออกมาทุกที ร่างข้างบนที่เหมือนจะรับรู้ก็ยิ่งเร่งจังหวะให้กระชั้นขึ้น
“ อ๊ะ....อ๊า......”
ในที่สุดผมไม่สามารถทนได้อีกต่อไป หยาดน้ำขุ่นถูกปล่อยออกมา เปรอะไปทั่วทั้งโซฟา หน้าขา และมือคุณไม้
“อึก…เฮ้ออออ...”
นิ้วมือถูกถอนออกไป ผมปล่อยตัวทิ้งลงกับเบาะนุ่มและถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดว่าคงจะจบแค่นี้ เหมือนคราวที่แล้ว แต่...ก็ไม่ใช่
“อะ....อึก...อย่า...อย่า”
สะโพกผมถูกดึงให้ลอยสูงขึ้นอีกครั้ง แล้วสิ่งที่ใหญ่โตกว่านิ้วมือก็แทรกเข้ามา ผมกัดริมฝีปากแน่นเพราะความเจ็บ ทั้งเจ็บทั้งอึดอัด คุณไม้ค่อยๆแทรกกายเข้ามาช้าๆ หยุดค้างเป็นบางช่วงเหมือนต้องการให้ผมผ่อนคลายลง ปากผมคงจะเป็นแผลเพราะลิ้นรับรสคาวของเลือดได้
“อึก....อึก”
แต่แทนที่ผมจะคลายฟันที่ขบแน่นบนริมฝีปากออก กลับยิ่งกัดมันแรงขึ้น ผมคิดอะไรโง่ๆอย่างถ้าเจ็บตรงริมฝีปากนี้ อาจจะลดทอนความเจ็บจากการถูกรุกรานไปได้บ้าง
“พอคุณไม้ ขอร้อง”
คุณไม้ดันกายเข้ามาจนสุด และหยุดพักอีกครั้ง เขาก้มตัวลงมากอดผมไว้จากด้านหลัง แผ่นหลังเปลือยของผมก็สัมผัสเข้ากับความเย็นของเนื้อผ้า สติที่เหลืออยู่น้อยนิดตื่นขึ้นมาด้วยความอับอาย... ในขณะที่ผมไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น คุณไม้กลับยังใส่เสื้อผ้าครบ
“อ๊ะ....อะ..หยุด”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ สติก็ถูกดึงให้จมหายไปในห้วงอารมณ์อีกครั้งเมื่อคุณไม้เริ่มขยับสะโพก
ผมรับรู้ได้ว่า สิ่งที่แทรกเข้ามามันช่างใหญ่โตและรุ่มร้อน เมื่อถูกเสียดสีด้วยสิ่งนั้น ส่วนที่ไม่ได้ถูกออกแบบไว้เพื่อให้ทำเรื่องแบบนี้ ยังคลายออกให้อีกฝ่ายทำได้ตามใจ ความเจ็บและอึดอัดในทีแรกเริ่มหายไป แล้วความรู้สึกวาบหวาม รัญจวน ก็เข้ามาแทนที่
“.....อา........”
เสียงร้องประท้วงเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครวญคราง ผมทนฟังเสียงน่าอายของตัวเองแทบไม่ได้จึงกดหน้าลงกับเบาะโซฟา ปิดเสียงตัวเองไว้ แต่เมื่อเสียงจากลำคอผมเงียบลง เสียงเนื้อกระทบกัน และเสียงเฉอะแฉะจากการสอดแทรกก็ดังชัดเจนยิ่งขึ้น
คุณไม้ขยับ พร้อมกับที่ดึงสะโพกผมให้รับตามจังหวะนั้น แก่นกลางลำตัวของผมที่เพิ่งปล่อยความต้องการออกไปเริ่มขยายตัวขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ยังไม่ได้โดนสัมผัสสักนิด ผมที่รับรู้ถึงปฏิกิริยาน่าอายของร่างกายตัวเองอยากแทรกแผ่นดินหนี ให้หายไปจากตรงนี้เสียจริงๆ
หากแต่คุณไม้ไม่ปล่อยให้ผมคิดฟุ้งซ่านนานนัก จังหวะถาโถมถี่แรงขึ้นตามอารมณ์ที่ใกล้ไปถึงขีดสุดทุกที มือหนาอ้อมมาจับแก่นกลางลำตัวผมเพื่อกระตุ้นให้ไปพร้อมกัน ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่า ร่างกายผมขยับรับจังหวะตามแรงดึงของคุณไม้ หรือเป็นการขยับด้วยตัวผมเอง
“อึก....อาาาา...”
เสียงเข้มครางฮึ่ม ก่อนที่ความอุ่นวาบจะถูกฉีดลึกเข้าไปในร่างผม พร้อมๆกับที่ผมปลดปล่อยความต้องการออกมาอีกครั้ง
ผมทรุดตัวลงกับเบาะโซฟาทันทีที่คุณไม้ปล่อยมือจากสะโพก เขาเองก็ทิ้งตัวลงมาบนตัวผม เราสองคนนอนหอบหายใจ โกยอากาศเข้าปอด ผมเหนื่อยแทบขาดใจ และแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง
แต่คนที่ทาบทับบนตัวผมกลับต่างไป ผมยังไม่ทันจะหายเหนื่อย มือหน้าก็เริ่มลูบไล้ ฟ่อนเฟ้นร่างกายผม แก่นกลางลำตัวที่ยังแทรกค้างอยู่ในกายเริ่มขยายใหญ่ขึ้นบอกให้รู้ถึงความต้องการอีกครั้ง
“อย่า.....พอแล้ว...อะ”
คำประท้วงหายไป เมื่อคุณไม้จับตัวผมให้พลิกหงายขึ้น แล้วริมฝีปากก็แนบชิดลงมา ผมพยายามใช้มือที่มีแรงเพียงน้อยนิด ผลักร่างใหญ่โตตรงหน้าออกไป แต่ก็เหมือนเดิมไม่ได้อะไรขึ้นมานอกจากสร้างความรำคาญให้คนตรงหน้าได้นิดหน่อย คุณไม้กดมือผมทั้งสองข้างลงกับโซฟา แล้วเริ่มขยับร่างกาย ริมฝีปากยังคงพรมจูบไปทั่วใบหน้า และหยุดที่หางตาเพื่อจูบซับเอาน้ำตาผมออกไว้
“กลอน...กลอน”
เสียงต่ำเรียกชื่อผมเบาๆ ซ้ำๆ ทำให้สติที่เหมือจะกลับมาของผม ลอยหายไปในทะเลอารมณ์อีกครั้ง คุณไม้ก็เรียกชื่อผม ...ชื่อผมไม่ใช่ชื่อคนอื่น ...อย่างน้อยๆคุณไม้ก็รู้ตัวว่ากำลังกอดผม และคุณไม้ก็ต้องการกอดผม เพียงแค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว
ผมหยุดขัดขืน และปล่อยให้คุณไม้ทำตามใจ พร้อมๆกับสนองตอบไปเท่าที่จะสามารถทำได้ และดูคุณไม้จะพอใจ ถ้าผมดิ้นรน คุณไม้จะรุนแรง แต่ถ้าผมโอนอ่อน คุณไม้จะอ่อนโยน แม้ร่างกายจะคล้อยตาม แม้จะบอกตัวเองว่าแค่นี้ก็ดีถมไป แต่ไม่รู้ทำไม น้ำตาถึงยังไม่หยุดไหล และหัวใจยังคงเจ็บอยู่เหมือนเดิม
ค่ำคืนที่ยาวนาน แรงร้อนยังคงดำเนินต่อไป ผมไม่รู้ตัวว่าสถานที่เปลี่ยนจากบนโซฟากลางห้องรับแขก มาเป็นบนเตียงนอนของคุณไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณไม้ถอดเสื้อผ้าออกตอนไหน และค่ำคืนที่ยาวนานนี้สิ้นสุดลงยังไง สิ่งสุดท้ายที่รับรู้คือจังหวะการขยับกาย และการปลดปล่อยที่ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไรของผม แทบไม่มีอะไรหลงเหลือในการมาถึงขีดสุดครั้งนี้ แล้วสติน้อยนิดที่มีก็ดับวูบไป
...........................
.............TBC...............-------------------------------------------------------------
มาก่อนเวลาเล็กน้อย
ไม่กล้านานกว่านี้ล่พ เดี๋ยวแถวนี้เค้าไปเตรียมทิชชู่กันมาเยอะไปอีก
เค้ากลัว