มาแล้วจ้าาาา วันนี้มีเรียน :really2:นั่งเบลอทั้งวันอ่ะ
--------------------------------------------------
Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 28ผมกลับมานั่งทำงานด้วยใจห่อเหี่ยว ความรู้สึกผิดมากมายเข้าเกาะกุมใจผม คุณไม้ที่ปกติต้องเรียกผมเข้าไปเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างน้อยๆชั่วโมงล่ะครั้ง ยังไม่เรียกผมเข้าไปเลย นี่มันจะเลิกงานแล้วนะ ผมนั่งกระสับกระส่าย การงานก็ช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย เพราะไม่มีเอกสารที่คุณไม้ต้องเซ็น คนมาขอเข้าพบ แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่ดังซักแอะ อย่างงี้ผมก็ไม่มีข้ออ้างจะคุยกับเขาน่ะสิ ไอ้จะให้เดินเข้าไปโต้งๆเลยก็ไม่กล้าซะด้วย
เวลายังคงเดินไป ในขณะที่ผมก็ยังนั่งหมุนเก้าอี้หมุนไปหมุนมา
หรือว่าคุณไม้เขาจะโกรธผมมาก จนไม่อยากจะเจอหน้าผมอีกแล้ว อาจจะไล่ผมออกด้วยซ้ำ ก็คนเขาทำดีด้วยดันไปว่าเขายุ่งซะนี้
ผมฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
แค่คิดว่าพอผมโดนไล่ออก ผมก็จะไม่ได้เจอคุณไม้อีก คราวนี้ไม่มีปามมาอยู่กับผม คุณไม้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะมาติดต่อกับผม ...หัวใจผมมันก็บีบแรง มันทรมาน ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย ไม่สิ ถ้ามันจะต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมก็ต้องรับให้ได้ แต่ถ้าจะจากไปผมก็ขอจากกับคุณไม้แบบที่ไม่มีอะไรติดค้างในใจดีกว่า เอาล่ะ ต้องกล้าๆ
ผมลุกขึ้นและตรงไปเคาะประตูห้องทำงานคุณไม้
ก๊อกๆ
“.....”
แต่ไม่มีเสียงตอบรับ หรือว่าคุณไม้โกรธผมมากเลยไม่ขาน
ก็อกๆ
ผมเลยเคาะอีกที แต่ข้างในก็ยังเงียบ หรือว่าที่จริงคุณไม้กลับไปแล้ว ผมเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเอง แต่ว่าคุณไม้ก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้น ก้มหน้าก้มตาอยู่ที่คอมพิวเตอร์ คุณไม้คงได้ยินเสียงประตูเปิดเลยหันมามอง แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น คุณไม้ก็ก้มหน้าลงไปยังคอมพิวเตอร์ต่อ
“คือ....”
“มีอะไร”
เสียงเข้ม บอกให้รู้ว่าเขาไม่พอใจที่ผมเข้ามา เอาแล้วไงผม เข้ามาโดยที่เจ้าของห้องไม่อนุญาตด้วย หรือว่าผมควรกลับออกไปดี ไม่ได้สิ ผมตั้งใจจะมาขอโทษเรื่องที่ไปว่าเขานิ่นา
“มีอะไร”
คุณไม้ถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังเห็นว่าผมเงียบ
“คือ เดี๋ยวผมไปเอากาแฟมาให้นะครับ”
แล้วผมก็รีบเดินออกมา ไม่รอให้คุณไม่ปฏิเสธหรอก ที่ผมออกมานี่ก็ไม่ได้หนีนะ แต่ขอออกมาหาเวลาทำใจ และนึกคำพูดดีๆซะก่อน
“คุณไม้ครับ ผมขอโทษครับ”ๆๆๆๆๆๆ
ผมเดินท่องมาเบาๆตลอดทาง พอมาถึงประตูห้องก็หยุดท่องอยู่ตรงนั้นอีกสองรอบ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เอาล่ะ เตรียมพร้อม ลุย!
“คุณไม้”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองผม แล้วไอ้ที่ผมท่องมามันก็กลืนหายลงไปในคอหมด สายตาตัดพ้อส่งตรงมาอย่างไม่ปิดบัง ผมรู้สึกว่าตอนนี้คำขอโทษของผมมันจะใช้ได้ผลหรือ ถ้าเกิดผมขอโทษไปแล้วไม่ได้รับการให้อภัยล่ะ เหมือนยายนรีนั่น แต่ว่าผมสำนึกผิดจริงๆนะ ผมรู้ว่าที่ผมทำไปมันไม่ถูก และยังทำให้คนที่ทำเพื่อผมเสียความรู้สึกอีกด้วย
“วางไว้แล้วออกไปซะ”
คุณไม้พูดก่อนจะก้มลงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
ผมนำกาแฟไปวางตามคำสั่ง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เรื่องอะไร ผมไม่ยอมออกไปจนกว่าผมจะได้ขอโทษหรอก แต่ปากเจ้ากรรมมันดันไม่ขยับเลย
คุณไม้เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ท่าทางเริ่มโกรธนิดๆที่ผมยังยืนอยู่ไม่ไปไหน ขัดคำสั่งของเขา
“มีอะไรอีกล่ะ”
น้ำเสียงที่ถามเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย คุณไม้เขาเหนื่อยหน่าย หรือว่าเขาเบื่อหน่ายผม หรือว่าทั้งสองอย่างบวกรำคาญเข้าไปด้วยก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องพูดขอโทษให้ได้
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
อ้าว แล้วไหงคำว่าขอโทษของผมมันกลายเป็นอย่างนั้นไปเล่า
คุณไม้เอียงคอนิดหน่อย คงแปลกใจที่อยู่ๆผมก็เอ่ยถาม ก็แน่สิ ขนาดผมยังแปลกใจกับคำพูดตัวเองเลย
“ไม่มี”
ตอบห้วนๆครับ แล้วจ้องหน้าผม ตอนนี้คุณไม้คงอยากรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ ส่วนผม ก็อึกอัก เอาแล้วไง พูดสิๆ พูดสิว่าขอโทษ แค่ขอโทษแค่นี้พูดยากนักรึไงนะ พูดง่ายๆ คุณไม้ ผมขอโทษ...
“กาแฟ ไม่ดื่มหน่อยหรือครับ”
ง่ะ แล้วทำไมพูดออกไปแบบนั้นเล่า คุณไม้ยกกาแฟขึ้นจิบแล้ววาง
“เอาล่ะ ดื่มแล้ว นายก็ออกไปได้แล้ว”
ไล่ผมอีกแล้วครับ แต่ขาผมมันก็ยังไม่ขยับไปไหนอยู่ดี ในใจก็คิดแต่ว่าต้องขอโทษให้ได้ ต้องขอโทษๆ ท่องในใจ เอาล่ะ พูดออกไปเลย
“เอ่อ เมื่อกี้พี่เอมานะครับ”
....ทำม๊ายยยยยยย... คำขอโทษมันถึงไม่หลุดออกไปจากปากผมสักทีเล่า คุณไม้ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัว
“ต้องการอะไรกันแน่”
“ผม...”
“...พอฉันถอยนายก็ตามมา ...พอฉันจับนายไว้นายก็ถอยหนี นายจะเอายังไงกันแน่”
“ผม...”
“พอแล้วฉันจะ...”
“ผมขอโทษ!”
.....
...
..
.
.
ทั้งห้องเงียบไปสามวินาที หลังจากที่ผมพูดแทรกคุณไม้ขึ้นมา ไม่รู้ล่ะว่าคุณไม้เขากำลังจะพูดอะไร แต่ผมไม่ขอทนฟังเขาต่อว่าอีก แต่คำขอโทษที่พูดออกไป ฟังดูไม่เหมือนคนสำนึกได้เอาซะเลยสินะ ผมย่นคอเมื่อนึกถึงน้ำเสียงตัวเองเมื่อครู่ ทั้งดังทั้งกระโชกโฮกฮาก ไม่รู้ว่าคุณไม้เขาจะคิดว่าผมพูดประชดรึเปล่า แต่นั้นผมพูดออกไปจากใจจริงนะ หมายถึงขอโทษจากใจจริง
ผมค่อยๆเหลือบตาขึ้นมองคุณไม้ เขามองมาที่ผมก่อนแล้ว พอผมเงยหน้าขึ้นมองเต็มตา ผมก็เห็นรอยยิ้มเล็กๆปรากฏที่มุมปากคุณไม้ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่มันจะกลายเป็นขึงขังเหมือนเก่า ผมเอียงคอด้วยความสงสัย หรือว่าผมคิดไปเอง
“ขอโทษ ขอโทษทำไม”
น้ำเสียงดุดันไม่ต่างจากก่อนหน้านี้เลย แสดงว่าอารมณ์คุณไม้ยังไม่เปลี่ยน งั้นรอยยิ้มนั่น ผมก็แค่คิดไปเองจริงๆด้วย
“เรื่อง...คุณนรี”
ผมพูดอึกๆอักๆ จะให้พูดว่ายังไงดีล่ะ ผมไม่ได้ต่อว่าอะไรเขานอกจากพูดจาประชดประชันไปนิดหน่อย แล้วพอถึงเวลาต้องมาอธิบายเนี่ย มันยากชะมัดเลย
“เรื่องนรี นายจะขอโทษทำไม นายยังไม่ได้ว่าอะไรฉันสักหน่อย”
เห็นมั้ยเล่า คุณไม้ตีตรงจุดเลยเชียว ผมไม่ได้ว่าอะไรเขาสักคำ แค่พูดทำนองว่าเรื่องของผมไม่ใช่เรื่องของคุณไม้ก็เท่านั้น แต่คุณไม้เองก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่หรือ ถ้าหากว่าเขาสามารถไม่พอใจผมได้ทั้งที่ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเขาไปเท่าไหร่ ก็แสดงว่าเขาเข้าใจความคิดของผม แล้วเขาจะมาถามแบบนั้นทำไม... อ้อ... เข้าใจล่ะ คุณไม้กำลังประชดผมอยู่แน่ๆเลย
“ผมขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ผมไม่น่าโกรธคุณ ไม่น่าพูดเหมือนคุณมายุ่งวุ่นวาย ขอโทษ! พอใจรึยังล่ะ”
ผมกระแทกเสียงนิดๆ เริ่มไม่พอใจ ผมตั้งใจจะมาพูดดีๆด้วยแท้ๆ ทำไมต้องมาประชดกันด้วย ไม่ได้เขากับหน้าตัวเองแท้ๆก็ยังทำ เอาะ..มันไม่เกี่ยวกันนิ่เนอะ ที่จริงต้องบอกว่ามันไม่ได้เข้ากับนิสัยของคุณไม้ถึงจะถูกกว่า
“ยัง”
เสียงคำตอบลอยๆ คำเดียว แต่ส่งผลให้ผมชะงักความคิดทั้งหมด ปากคอมันเริ่มสั่น เรื่องนี้มันหนักหนาขนาดที่คุณไม้จะไม่ยอมให้อภัยผมเชียวหรือ ผมก้มหน้าลง ไม่อยากรู้ไม่อยากมองมากไปกว่านี้
เสียงฝีเท้าเบาๆที่ใกล้เข้ามาทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คุณไม้เข้าประชิดก่อนจะผมจะตั้งตัวติด แขนแข็งแรงรวบเอวผมไว้ไม่ให้ถอยหนี ผมพยายามคิดว่าคุณไม้เขาจะทำอะไร แต่ก็เหมือนเคย ผมไม่มีทางเข้าใจความคิดของคุณไม้ได้ พอพยายามจะมองใบหน้าคมเพื่อค้นหาความรู้สึก มือคุณไม้ก็เลื่อนขึ้นมากดให้ใบหน้าแนบเข้ากับอกเขาไว้ ผมไม่รับรู้อะไรนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นแรง แต่...มันเป็นเสียงหัวใจของใครกันล่ะ ของผมหรือว่าของคุณไม้กันแน่
“นายนี่น้า ชอบทำให้โกรธอยู่เรื่อย”
ผมไม่ได้ตั้งใจให้เขาโกรธสักหน่อย อย่างน้อยๆก็คราวนี้ ไหล่ผมมันตั้งตรง บอกให้รู้ว่าเริ่มรู้สึกต่อต้านเมื่อได้ฟังที่คุณไม้พูด คุณไม้เลยยิ่งกอดผมแน่นขึ้น รัดจนแทบหายใจไม่ออกแล้วโยกตัวไปมาเหมือนจะแกล้ง ผมครางอู้อี้ประท้วงออกมาไม่เป็นคำ แต่คุณไม้ก็คลายอ้อมกอดออกเหมือนจะเข้าใจ
พอสามารถขยับตัวได้บ้าง ผมก็จ้องใบหน้าอีกฝ่ายทันที คุณไม้ยังตีหน้าขึงไม่เลิกถึงจะดูผ่อนคลายลงบ้าง แต่ก็รู้ได้ว่าเขายังไม่หายเคืองซะทีเดียว แล้วผมต้องทำยังไงเล่า ขอโทษก็ขอโทษไปแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก
“ผมขอโทษคุณแล้วนะ คุณก็เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ”
เอาแล้วสิ จากอารมณ์มาง้อคน ผมเริ่มมีอารมณ์จะโกรธคนบ้างเหมือนกันแล้วนะ
“อยากให้หายโกรธหรือ”
ผมพยักหน้าถี่ๆ แล้วมือหนาก็คลายออกข้างหนึ่ง ยกนิ้วมาแตะที่ปากผมแล้วไปแตะที่ริมฝีปากตัวเอง
“ทำได้ม่ะ”
หมายความว่าไง คุณไม้หมายถึงให้ผมจูบเขาหรือ ผมยู่หน้าด้วยความลำบากใจ แต่ถ้ามันทำแล้วคุณไม้จะหายโกรธ ผมก็จะทำ
ผมเขย่งตัวเข้าใกล้คุณไม้ แตะริมฝีปากไปเบาๆแล้วผละออก คุณไม้ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นอมยิ้มทันที
“แบบนั้นไม่ใช่จูบซักหน่อย”
พูดพร้อมกับใช้มือดึงเส้นผมเบาๆเพื่อให้ผมเงยหน้าขึ้น ใบหน้านั้นก้มต่ำลงมาและริมฝีปากก็แนบชิดอีกครั้ง แต่ก็อย่างที่รู้ มันต่างไป ลิ้นหนาช่างบังคับนั้นรุกเข้ามาทันทีที่มีโอกาส
ผมตื้อไปหมด สมองประมวลความคิดเริ่มไม่ทำงาน มือที่ปล่อยตกไว้ข้างตัวก็ยกขึ้นกำแขนเสื้อคุณไม้ไว้แน่นเพื่อเป็นหลักยึด ขาเริ่มไม่มีแรงจะยืน หากแต่แขนแข็งแรงไม่ประคองไว้คงล้มลงกองกับพื้นไปแล้ว
ผมคิดว่ากำลังจะหมดสติอยู่แล้ว ตอนที่คุณไม้ถอนริมฝีปากออกช้าๆ แต่ไม่วายหอมแก้มผมก่อนจะผละออกไป ผมหอบหายใจในขณะที่ใช้อกคุณไม้เป็นที่พิงเพื่อพยุงตัวไว้
“จูบน่ะ ต้องแบบนี้ต่างหาก”
ผมรับรู้ถึงกระแสเสียงช่างแกล้งในคำพูดนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมอง รอยยิ้มที่ส่งมาเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณไม้กำลังแกล้งผม ผมโดนคุณไม้แกล้งอีกแล้ว คนๆนี้ คนๆนี้ เขาเห็นผมเป็นของเล่นรึไง ผมหน้าม่อยลง ปล่อยแขนเสื้อคุณไม้แล้วผลักเขาออก คุณไม้ก็ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ
“ไปเก็บของ เดี๋ยวจะไปส่ง”
ผมเมินหน้าหนีหันหลังออกจากห้อง แต่เสียงหัวเราะในลำคอของคุณไม้มันก็ยังดังเข้าหูผมอยู่ดี
“ผมได้ยินนะ”
บ่นกับตัวเองเบาๆแล้วปิดประตูห้อง อยากปิดดังๆอยู่หรอก แต่ติดที่ประตูเป็นระบบปิดอัตโนมัติ พยายามผลักให้ตายมันก็ไม่ดัง! เชอะ! อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจซักอย่าง!
........TBC.........