ขอบคุณสำหรับคำอวยพรอีกครั้งนะคะ
)-------------------------------------------------------------------------
Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 24“ไม้ ไปทานอาหารได้แล้ว”
พี่เอเข้ามาสะกิดไหล่คุณไม้เบาๆ เหมือนต้องการให้รู้สึกตัว
คุณไม้หันไปมองเหมือนขัดใจ แต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดี
“นายนี่ขี้หึงกว่าที่คิดนะ”
“ยังไงก็ให้มันมีขอบเขตบ้างซี”
คุณลมและคุณไฟเข้ามากอดคอคุณไม้และพูดแหย่เหมือนจะยั่วโมโห ใช่ แบบนั้นต่างหากที่เขาเรียกว่าคำพูดยั่วโมโห แต่คุณไม้กลับเฉย ไม่โกรธสักนิด ก็แค่ทำหน้าบูดบึ้งเหมือนเด็กงอนพี่แค่นั้นเอง ทีกับผมล่ะโกรธได้โกรธเอา
แต่เมื่อกี้ผมได้ยินอะไรหึงๆ ใครหึงใคร ทำไมคนบ้านนี้ชอบพูดประโยคสั้นๆแบบเข้าใจได้เฉพาะกลุ่มตัวเองกันนักนะ แล้วแบบนี้ผมจะไปเข้าใจได้ไง หรือต้องการกันผมออกจากลุ่มไป ...ไม่ใช่สิ... ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มด้วยตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก แล้วผมจะมาอยู่ที่นี้ทำไม กลับไปในที่ของผมดีกว่า
“เอาล่ะ เราก็ไปบ้างเถอะ”
พี่เออ้อมตัวมาหลังผม และดันให้เดินตามพวกเขาไป
“แต่ว่า”
“คุณปามคงดีใจที่กลอนมากินข้าวด้วยวันนี้ เนอะ”
พี่เอพูดด้วยรอยยิ้มเบิกบานใจ ผมน่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางขัดได้ ผมไม่น่าพยายามเลย
...........................................
“อะไร ทำไมผมจะต้องไปนอนที่บ้านคุณด้วยล่ะ”
“ทำไม ที่บ้านฉันมันน่ารังเกียจนักรึไง”
“ผมไม่ได้ว่าอย่างนั้นสักหน่อย”
“งั้นนายโวยวายทำไม”
“ก็ผม...ไม่ชินที่”
“ก็ทำตัวให้ชินสิ”
“แต่ผมอยากกลับบ้าน”
“นายเข้าใจสถานการณ์บ้างรึเปล่า”
“...งั้นผมไปนอนกับปาม”
“จะไปนอนแทรกตรงกลางรึไง”
“เอ๋.................”
“นายไม้”
“คุณไม้ !”
ขออธิบายนิดนึงนะครับ ช่วงแรกเป็นการตะโกนใส่กันระหว่างผมกับคุณไม้ ถึงจะมีบางช่วงที่ผมตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ผมก็เถียงไม่แพ้แน่นอน จนกระทั้งประโยคสุดท้ายของคุณไม้นั่นล่ะแทรกตรงกลาง หมายความว่าไง คุณไม้กลัวว่าผมจะไปแทรกระหว่างปามกับตาหวานหรือ ถ้างั้นไม่เป็นไรผมนอนพื้นก็ได้ ว่าแต่ทำไมท่านประธานต้องส่งเสียงเหมือนปรามคุณไม้ แล้วทำไมปามต้องเรียกคุณไม้เสียงดังแถมยังทำหน้าแดงๆแบบนั้นด้วยล่ะ
“เอาน่าก็ให้เขานอนที่นี้ก็ได้นิ่”
เสียงสวรรค์จริงๆครับ ให้ท้ายครับว่าเสียงใคร ...เสียงคุณอมฤตนั่นเอง เป็นที่พึ่งได้เสมอจริงๆเลยคนๆนี้ คุณไม้น่ะถึงจะทำเก่งกับผมแค่ไหน แต่ก็ต้องเชื่อพี่อยู่ดีแหละน่า
“ถ้าหมอนี่นอนที่บ้านพี่ดิน ผมก็จะไปนอนบ้านพี่น้ำ”
พูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ อย่าไปยอมเขานะครับคุณอมฤต ผมส่งสายตาอ้อนวอนไปทางความหวังของผม แต่เจ้าตัวเขากลับยกกาแฟขึ้นมาจิบ ไม่ยอมสบสายตากับผมสักนิด ส่วนพี่ชายอีกสองคนของคุณไม้กับพี่เอก็เอาแต่นั่งหัวเราะคิกคักกันมาตั้งแต่ผมเริ่มเถียงกับคุณไม้แล้ว คงหวังพึ่งคนพวกนั้นไม่ได้หรอก
“นายมานี่เลย”
ว่าแล้วก็ดึงผมให้เดินตาม เอาอีกล่ะ ทำไมคนๆนี้ถึงชอบใช้กำลังกับผมจริง
“ปล่อยนะ”
ผมขืนตัวไว้เป็นระยะๆทำให้การเดินทางค่อนข้างล่าช้า
“นายกลัวอะไร ฮึ”
คุณไม้ถามทั้งที่ยังไม่หยุดเดิน ผมอยากตะโกนดังๆว่าไม่ได้กลัว แต่คุณไม้ก็พูดตัดขึ้นมาซะก่อน
“ฉันไม่ปล้ำนายหรอกน่า ถ้านายไม่ยั่วฉันน่ะนะ”
คนๆนี้ ...คนๆนี้...เขาใช้อะไรคิดกันนะ ใครที่ไหนมันจะบ้าไปยั่วเขาเล่า
“โอ๊ย!”
ผมเตะเข้าที่ขาคุณไม้ และมันก็ได้ผลเพราะคุณไม้ปล่อยมือจากผมทันที แต่มันคงไม่แรงพอ เพราะยังไม่ทันที่ผมจะได้หนีคุณไม้ก็ตั้งตัวได้ เขาคว้าผมไว้อย่างรวดเร็วและตวัดตัวผมขึ้นพาดบ่า
“ปล่อยนะ”
ผมพยายามดิ้นและทุบเพื่อให้เขาปล่อย แต่คุณไม้ก็ไม่สะทกสะท้าน เขาก้าวออกเดินอย่างมั่นคงตรงไปบ้านริมหลังสุดท้าย ทำไมต้องมาเจอเรื่องน่าอายแบบนี้ด้วยนะ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าจะคิดยังไง ผู้ชายแบกผู้ชายอีกคนไว้แบบนี้
“ถ้านายไม่ดื้อก็ได้เดินเองไปแล้ว”
เสียงถากถางเจือแววขุ่นเคืองลอยมาทำให้ผมยิ่งเจ็บใจ
“แล้วก็อย่ายุ่งกับพี่น้ำ เขามีคนรักอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ยุ่ง”
ผมตะโกนบอก เสียงเริ่มสั่น ต้องกลั้นน้ำตาไว้ อย่าร้องไห้ๆ ท่องเอาไว้ อย่าร้อง
“ไม่อะไร วันนี้นายส่งสายตาให้พี่น้ำสามครั้งเชียวนะ ยังจะมาปฏิเสธอีก”
ส่งสายตาบ้าอะไร ผมเปล่าสักหน่อย เขาไปเห็นตอนไหน
“ถ้าอยากได้คู่ก็บอก ฉันจะสนองให้ อย่าไปยุ่งกับคนมีเจ้าของ”
ได้คู่อะไร สนองอะไร ยุ่งกับคนมีเจ้าของที่ไหน ทำไมคนๆนี้ถึงได้ดูถูกผมมากนักนะ คุณไม้เดินมาจนถึงบ้าน ใช้มือข้างหนึ่งเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป โยนผมลงตรงโซฟาซึ่งไม่ได้นุ่มนักเพราะงั้น ผมถึงเจ็บ จากนั้นเขาก็ทับตัวลงมาคร่อมผมไว้ทันที
“คุณ อุ๊บ....”
ริมฝีปากถูกทาบปิดโดยไม่ทันรู้ตัว ลิ้นหนารุกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดดึงให้ผมส่งลิ้นตามไป อึก ฟันแข็งแรงกัดลงที่ปลายลิ้นถึงไม่แรงจนทำให้เกิดแผล..แต่ก็เจ็บ มือผมพยายามดันตัวเขาให้ออกห่าง ริมฝีปากตั้งใจจะเม้มปิด แต่ก็ไม่ทัน คุณไม้ขบเบาๆที่ริมฝีปากล่างไม่ยอมปล่อย บอกให้รู้ว่าถ้าเคลื่อนไหวเขาจะกัดลงมา
ผมนิ่ง กลั้นหายใจ น้ำตาใสๆไหลออกมาโดยที่ไม่สามารถห้ามไว้ได้อีกต่อไป มือที่หยุดดันผลักไส้ไปแล้วเปลี่ยนเป็นทุบอกเขาไปอย่างแรงด้วยความอัดอั้น และแน่นอนฟันคมๆนั้นกัดริมฝีปากล่างแบบไม่ยั้งเป็นการตอบแทน ลิ้นสัมผัสได้ถึงรสเค็มคาวของเลือดจากบาดแผล
คุณไม้ไม่ปราณีผมเลย ผมทำเขาเจ็บ และเขาตอบแทนมาด้วยการทำให้ผมเจ็บกว่า นั่นทำให้น้ำตาผมยิ่งไหล ใบหน้าคมเลื่อนลงต่ำสู่ลำคอและกัดกระชากราวกับจะฉีกเนื้อผมออก ผมทุบไหล่คุณไม้สุดแรง เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าแขนขาผมมันอ่อนเปลี้ยไปหมด เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ ผมรู้ว่าแรงแค่นี้ไม่ทำให้คุณไม้สะทกสะท้านได้ แต่ก็หวัง หวังว่ามันจะทำให้เขาหยุด หยุดทำร้ายผมเสียที
“หยุด ฮึก พอ ขอร้อง”
ผมร้องไห้พร้อมส่งเสียงอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำ ผมเหนื่อย ผมล้า เกินกว่าจะนึกถึงศักดิ์ศรี หรือทิฐิอะไรทั้งนั้น วันนี้ผมเจอเรื่องร้ายๆมามากพอแล้ว ผมไม่ต้องการโดนทำร้ายอีก โดยเฉพาะจากคนๆนี้ คนที่ผมรัก
“ขอร้อง อย่าทำผม”
ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้นทุกที
“อึก...ผมเจ็บ ขอร้องล่ะ”
ผมพร่ำรำพันไม่หยุด เบื้องหน้าพล่าเลือนราวกับเป็นอีกโลก สติสั่งการผมไม่ทำงาน คำพูดซ้ำๆถูกส่งออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำพูดที่บอกให้เขาหยุดทำร้ายผม ผมไม่รู้ว่าคุณไม้หยุดตอนไหน ผมไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนมาเป็นกอดปลอบประโลมผมเมื่อไหร่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองหยุดร้องไห้ได้ยังไง แต่ก่อนสติผมจะดับไป เสียงที่แว่วมาไกลๆซึ่งผมพอจับใจความได้ คือ ขอโทษ และ รัก เท่านั้นเอง
......TBC...........