************************
บทที่ 42 เปิดเทอม....อยู่ปี 2 แล้วนะ
และแล้ววันนี้ก็มาถึงครับ วันเปิดเทอม วันที่แบ๊งค์จะกลับไปเจอหน้าใครบางคนอีกครั้ง ถ้าแบ๊งค์เจอเค้าแบ๊งค์จะหลบหรือว่า จะอยู่เผชิญหน้าดีนะ
“แบ๊งค์!!!!ไปสายพี่นุ่นไม่รู้ด้วยนะ พี่นุ่นไปก่อนล่ะ” พี่นุ่นมาตามแบ๊งค์ครับ
“เฮ้ย!!!!!!เดี๋ยวก่อนสิเจ้ รอแบ๊งค์ก่อน” แบ๊งค์รีบคว้ากระเป๋า แล้ววิ่งออกห้องตามพี่นุ่นไป พี่นุ่นก็รอกันหน่อยก็ไม่ได้
“จะไปสายตอนเปิดเรียนวันแรกตลอดหรอจ๊ะ” พี่นุ่นถาม
“โห....ยังไม่สายซะหน่อย พี่นุ่นออกเช้าเองตะหาก” แบ๊งค์เถียง
“ป่ะ ไปกันได้แล้ว” พี่นุ่นพูด แล้วแบ๊งค์ก็ขึ้นรถตามไป พี่นุ่นมาส่งแบ๊งค์ที่เดิมเลยครับ โต๊ะม้าหินอ่อนตัวเดิม ตัวประจำที่เราเคยนั่ง ๆ กันอยู่นั่นแหละ ตอนนี้มีคนมานั่งเต็มไปหมดเลย ก็มีพี่ปอย พี่ตี๋ พี่ตั้ม แล้วก็ไอ้กาว
“อ้าว..แบ๊งค์มาพอดี มานั่งสิ” พี่ตั้มเรียกครับ
“มากันเกือบครบ แล้วพี่โป้งกับแมคล่ะ” แบ๊งค์ถาม
“ไอ้โป้งมันไปซื้อของกินอยู่น่ะ เดี๋ยวอิ่มกันแน่ ๆ โต๊ะนี้” พี่ตี๋แซว
“เออ....ใช่ ลืมไปเลยนะเนี่ย ของฝากพี่ปอยกับพี่ตี๋อยู่ที่คอนโดแบ๊งค์น่ะ” แบ๊งค์บอก
“อ๋อค่ะ ไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังก็ได้ ขอบคุณนะคะ” พี่ปอยพูด
“เออ...ว่าแต่ลมอะไรหอบเอาพวกเมริงมานั่งนี่กันได้วะ”
“เมื่อก่อนเห็นชอบไปนั่งหลบมุมกันสองคน” พี่ตั้มแซว
“เฮ้ย!!! ไอ้ตั้มหยุด พูดดี ๆ เลย” พี่ปอยขู่ครับ
“คร้าบบบบ กลัวแล้วคร้าบบ” พี่ตั้มทำท่ากลัว พี่ปอย
“ที่หายไป ก็ไปช่วยพวกเด็กกิจกรรมปีหนึ่งปีที่แล้วไง แล้วที่วันนี้มาที่นี่ก็เพราะว่าจะมาช่วยรับน้องไง” พี่ตี๋อธิบาย ใช่สิ ต้องมีรับน้องด้วยนี่นา แบ๊งค์ลืมไปเลยนะเนี่ย เดี๋ยวก็ต้องมีน้องรหัสอีก วุ่นวายกันแน่ ๆ
“แล้วใครจะเป็นประธานว๊ากหรอครับ รุ่นผมน่ะ” กาวถาม
“นั่นไง ยืนอยู่นั่นไง” พี่ปอยบุ้ยปากไปอีกทางหนึ่ง ชี้ไปทางผิงนั่นเอง
“ผิง....แล้วค..ครีมล่ะครับ” แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง
“ครีมไทร์ออกไปแล้วนะ” กาวพูด เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลย
“ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเหมือนว่าครีมยังทำใจไม่ได้น่ะ ก็เลยขอไทร์ดีกว่า” กาวพูด
“.......................” แบ๊งค์ไม่ได้พูดอะไร
“อย่าเศร้าไปเลย ไอ้ตัวเล็ก ทำหน้าสดใสหน่อย เดี๋ยวน้องรหัสมันจะหดหู่นะ เห็นหน้าพี่รหัสเป็นแบบนี้น่ะ” พี่ตั้มแซว
“อืมครับ“ แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ สักพักพี่โป้งก็เดินถือของมาเต็มมือ กับแมคสองคน
“โห..ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย” พี่ปอยถาม
“ไม่ได้ซื้ออะไรมากหรอก ก็แค่แซนด์วิชกับนมกล่องก็เท่านั้นเอง” พี่โป้งพูด
“แล้วเมริงซื้อมาเลี้ยงใครเยอะแยะวะ” พี่ตี๋ถามขึ้นบ้าง
“ก็เอามาให้พวกเราไง รวมพวกสต๊าฟปีนี้ด้วย” พี่โป้งพูด
“งั้นเดี๋ยวผมไปเรียกสต๊าฟมารับไปทานนะครับ” กาวอาสา
“อืมไปสิ ทานกันไม่หมดหรอก” แมคพูด
“เป็นไงบ้าง นายหัวเหม่ง” แบ๊งค์แซวแมค
“อ่ะนะ อย่าแซวกันดิ เค้าไม่ได้เรียกหัวเหม่ง เค้าเรียก สกินเฮด” แมคพูด
“กรูส์ยังไม่กินอะไรก็จะอ้วกแต่เช้าแล้วว่ะ ปอยทำไงดีวะ” พี่ตั้มแกล้งทำท่าเหมือนจะอ้วก เพื่อแซวแมค พี่ปอยก็ได้แต่ยิ้ม ตอบไป
“โห.... พี่ขอผมเท่ซักวันไม่ได้หรอ” แมคพูด
“พอเหอะ อย่างเมริงไม่ได้ครึ่งของกรูส์หรอก” พี่ตั้มพูด เล่นเอาทุกคนทำหน้าแหย ๆ ไปหมดเลย
“อะไรว้า กรูส์พูดความจริง ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยอ่ะ” พี่ตั้มพูด
“เค้าคงรับไม่ได้กับความจริงน่ะครับ” ไอ้แมคสวนขึ้นครับ
“ไอ้แมค!!!!” พี่ตั้มทำเสียงขู่
“พอได้แล้วทั้งสองคนเลย รีบ ๆ ทานซะ จะได้ไปช่วยกันรับน้อง” พี่ปอยตัดบท ทั้งสองคนถึงได้หยุด พวกเราทานกันจนอิ่มเสร็จเรียบร้อยก็ไปช่วยกันรับน้อง ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่แนะนำอาคาร แนะนำชื่อรุ่นพี่แต่ละคน
ในกลุ่มน้องปีหนึ่ง มีอยู่คนหนึ่งแบ๊งค์รู้สึกคุ้นหน้าจัง เหมือนเคยเจอกันที่ไหนซักที่ ยังไม่ทันจะได้คิด แบ๊งค์ก็ถูกให้ไปช่วยเขียนป้ายแขวนคอน้องปีหนึ่งเพื่อที่จะเข้าฐาน แบ๊งค์ก็นั่งเขียนไปเรื่อย ๆ จนมีเสียงคุ้น ๆ ดังขึ้น
“ชื่อปรินซ์ครับ” เสียงนี้ใช่เลย แบ๊งค์เลยเงยหน้ามองไป จ๊ากกกกกกกกกกก(O_o) นายปรินซ์ที่แบ๊งค์เจอที่สวนจตุจักรเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เรียนที่เดียวกันหรอเนี่ย แบ๊งค์ค่อย ๆ เขียน แล้วยื่นให้ ไม่กล้ามองหน้าอ่ะ อายมุกมนุษย์ต่างดาวอ่ะ นายปรินซ์ก็รับไป แล้วยิ้ม ๆ
อายจังง่ะ ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้ เปิดเทอมใหม่นี่ มีอะไรมากกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย กรูส์ไม่น่าไปสร้างคดีไว้อีกเลยเศร้ามากมายแล้วเค้าก็จับน้อง ๆ มาแยะฐานกันครับ รุ่นพี่ก็แกล้งกันต่าง ๆ นานา แต่ปีนี้ไม่เห็นมีเหมือนรุ่นแบ๊งค์เลยอ่ะ รุ่นพี่ใจดีกันจัง ทำไมแบ๊งค์ถึงต้องโดนตะคอกนะ พอถามไปถามมา ที่แบ๊งค์โดนแบบนั้นเป็นเพราะ แบ๊งค์ไปเถียงรุ่นพี่ ( พี่ตั้ม ) ตั้งแต่วันแรกนั่นเอง แต่เด็กรุ่นนี้เป็นเด็กดี ไม่มีใครกล้าเถียงรุ่นพี่ซักคำ เฮ้อ~~ เด็กพวกนี้ ไม่รู้จักระบบประชาธิปไตยเอาซะเลย ยอมให้พวกเผด็จการกดขี่อยู่ได้
“แบ๊งค์ ๆๆ เราเห็นน้องคนนั้นมันมองแบ๊งค์มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” ไอ้กาวกระซิบมาครับ
“คนไหนหรอ” แบ๊งค์ถาม แล้วไอ้กาวก็บอกพิกัดตำแหน่งมาครับ กรรม....ไอ้น้องปรินซ์นั่นเอง หาใช่คนอื่นคนไกลไม่
“อืม...ช่างน้องเค้าเหอะ” แบ๊งค์พูด
“แต่เราว่า คงไม่ทันแล้วล่ะ พี่ตั้ม พี่โป้ง แล้วก็ไอ้แมค นั่งวางแผนแกล้งกันอยู่โน่นแล้ว” แล้วกาวก็บุ้ยปากไปทางกลุ่มสามทหารเสือเลยครับ แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา
“จะทำอะไรกันน่ะ อย่าคิดว่าแบ๊งค์ไม่รู้นะ” แบ๊งค์พูด
“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” พี่ตั้มปฏิเสธ
“จะไปแกล้งน้องเค้าทำไมล่ะ” แบ๊งค์ถาม
“ก็แบ๊งค์ดูดิ น้องเค้ามองแบ๊งค์ขนาดนั้น มันจะมองอะไรกันนักกันหนา” พี่โป้งพูดแบบไม่พอใจ
“ใช่ ๆ มองมากไปแล้วมั้ง” แมคช่วยเสริม
“ก็แค่มอง แบ๊งค์ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อย” แบ๊งค์พูดไป
“เออ...ว่ะ แต่ไม่รู้อ่ะ พี่ตั้มตัดสินแล้วว่ามันผิด มันก็ต้องผิด” ไอ้แมคพูด
“อ้าว....ไอ้ฟายพูดมาได้ไงฟระ” แบ๊งค์บ่น
“แบ๊งค์รู้จักมันหรอ” พี่โป้งถาม
“เคยเจอ เคยคุยกันที่จตุจักรน่ะ” แบ๊งค์บอก
“ไม่เห็นแบ๊งค์บอกพี่เลย ใช่สิ...พี่คงไม่สำคัญ” พี่โป้งทำท่าน้อยใจ
“ไม่ต้องเลยพี่โป้ง อย่ามาใช้มุกนี้นะ” แบ๊งค์ดักคอไว้
“ไม่รู้แหละ พี่จะแกล้งมัน เอาน่า ขำ ๆ แบ๊งค์” พี่โป้งพูด
“พี่โป้งง่ะ” แบ๊งค์ทำท่าอิดออด สรุปก็คือแบ๊งค์ห้ามทัพสามทหารเสือไม่ได้จริงด้วยครับ ตอนนี้เค้าลุยกันไปแล้ว แบ๊งค์ก็ได้แต่ยืนดู เอาเป็นว่าถ้ามันรุนแรงเดี๋ยวแบ๊งค์เข้าไปช่วยก็ได้
สามทหารเสือตั้งกติกามฤตยูขึ้นมาครับ คือให้แนะนำตัวทีละคน แล้วบอกเหตุผลที่มาเข้าคณะนี้ โดนที่เหตุผลของแต่ละคนห้ามซ้ำกัน ถ้าซ้ำกันมีความผิด และถ้าตอบภายใน 5 วินาทีไม่ได้ก็มีความผิด ต้องโดนสามทหารเสือบูชายัญเหมือนกันครับ
แบ๊งค์ว่านายปรินซ์ไม่รอดแน่ ๆ ก็เล่นนั่งหลังสุดซะขนาดนั้น ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหน้า ๆ เริ่มรอดตัวกันไปทีละคน คนไหนไม่ผ่านก็แยกไว้ เหตุผลต่าง ๆ ผ่านไปหมดแล้ว ทั้งพ่อบังคับ แฟนบังคับ เอนท์ไม่ติดคณะอื่น ฯลฯ จนตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุผลอะไรแล้ว คนที่อยู่ข้างหลัง ๆ ก็โดนต้อนไปอยู่เขตทำโทษจนเรียบ จนมาถึงนายปรินซ์ เหล่าสามทหารเสือต่างยิ้มอย่างผู้มีชัย
“ไหน น้องลองบอกมาซิว่าทำไมมาเข้าคณะนี้ ห้ามซ้ำนะ” ไอ้แมคทำเสียงดุตอนเน้นคำหลังครับ
“เริ่มจับเวลา” พี่โป้งเริ่มจับเวลาอย่างรวดเร็วครับ
“1..2..3..” พี่ตั้มนับครับ ดูเหมือนจะเร็วไปนิดนึงนะ
“เพราะผมชอบพี่คนนั้นครับ” นายปรินซ์ตอบแล้วชี้นิ้วมาทางแบ๊งค์ ทุกคนต่างนิ่งเงียบ แล้วมองมาที่แบ๊งค์ ซวยแล้วกรูส์ คนมองกันหมด
“อะไรนะ” ไอ้กาวถามซ้ำแทนทุก ๆ คน ( ซึ่งคงอยากถามอยู่ แต่พูดไม่ออก )
“ผมมาเข้าคณะนี้เพราะผมชอบพี่คนนี้ครับ เลยอยากมาอยู่ใกล้ ๆ” นายปรินซ์พูดไปยิ้มไป แต่ตอนนี้สามทหารเสือไม่ยิ้มกันแล้ว โดยเฉพาะพี่ตั้มกับพี่โป้งน่ะ หน้างอเป็นม้าหมากรุกเลย
“ไม่ผ่าน เหตุผลนี้ไม่ผ่าน” พี่โป้งพูดขึ้น
“ใช่ ๆ ไม่ผ่าน” พี่ตั้มกับไอ้แมคช่วยกันประสานเสียง จากนั้นก็มีเสียงฮือฮา กันใหญ่เลยครับ แบ๊งค์ก็งงเหมือนกัน ( อายด้วย ) ว่าทำไมไม่ผ่าน เพราะเหตุผลก็ไม่ซ้ำ
“ทำไมไม่ผ่านล่ะครับ เหตุผลของผมก็ไม่ซ้ำซะหน่อย ในกติกาก็ไม่ได้ห้าม” ปรินซ์เถียง
“ก็.... ก็.....ก็ไอ้แบ๊งค์เป็นของสูงประจำคณะเว้ย เป็นน้องของกรูส์ห้ามกล่าวถึงโดยไม่จำเป็น” พี่โป้งพูดออกมา เฮ้อ~~พูดมาได้ไงเนี่ย ของสูงประจำคณะ ตกลงกรูส์กลายเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรอเนี่ย
“ใช่ ๆๆ เพื่อนกรูส์ด้วย เค้าเป็นคนน่ารักกล่าวถึงลอย ๆ ไม่ได้” ไอ้แมคเสริมเข้าไปอีก ตกลงมันไม่มีเหตุผลอะไรกันอีกแล้วใช่มั้ย
“แต่พี่ไม่เห็นบอกไว้ก่อนเลยนะครับ” ปรินซ์ทำท่างง ๆ
“อีกอย่างเหตุผลเมริงเชื่อถือไม่ได้เฟ้ย โกหกรึเปล่า” พี่ตั้มพยายามหาเรื่องครับ
“ไม่นะครับ ผมกับพี่เค้าเคยเจอกันมาแล้วรอบหนึ่ง ผมชอบพี่เค้าจริง ๆ นะครับ” นายปรินซ์พยายามเถียง แต่เหล่าสามทหารเสือก็ยังหาเรื่องอยู่ดี
“พอ ๆๆๆๆๆ สรุปว่าชั้นให้ผ่าน เอาล่ะ ทำกิจกรรมอื่นต่อดีกว่า” พี่ปอยตัดบทครับ
“เฮ้ย !!!!ปอย ได้ไงวะ” พี่โป้งโวย
“ไม่จบใช่มั้ย” พี่ปอยทำเสียงดุครับ ทหารเสือหงอกันไปหมดเลย
“จบแล้วคร้าบบบบ” ทั้งสามคนประสานเสียง ตลกดีเหมือนกันนะเนี่ย เห็นหน้าทั้งสามคนเป็นแบบนี้ ในที่สุดเรื่องก็จบลงได้ นายปรินซ์ก็รอดตัวไป น้อง ๆ คนอื่นก็โดนทำโทษด้วยการเต้นไก่ย่างไปตามระเบียบ แต่ความจริงพวกสามทหารเสือคงอยากทำมากกว่านี้ แต่ในเมื่อนายปรินซ์รอดไป ก็เลยทำโทษแบบเบา ๆ ไป
และแล้วกิจกรรมช่วงเช้าก็เสร็จไป ตอนนี้ก็พักกลางวันแล้ว น้อง ๆ ก็แยกย้ายไปทานข้าวกันหมด แบ๊งค์ก็กำลังจะไปเหมือนกัน แต่ปวดฉี่ก็เลยขอแยกตัวออกไปก่อน
“เดี๋ยวแบ๊งค์ตามไปนะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” แบ๊งค์พูด
“เออ...รีบมานะเว้ย” พี่ตั้มพูดก่อนที่แบ๊งค์จะแยกออกมาเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเลย คงเพราะเค้าหนีไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้วมั้ง พอแบ๊งค์ทำธุระเสร็จก็ออกมาล้างมือ ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในห้องน้ำเลย ระหว่างที่กำลังจะเดินออกไป ก็มีคนเข้ามาคว้าแขนแบ๊งค์ แล้วดึงเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตู
“นายเป็นค.......” แบ๊งค์กำลังจะโวยวาย แต่ถูกใครบางคนเอามือปิดปากไว้ซะก่อน แบ๊งค์ต้องตกใจอีกรอบครับ คนที่จับแบ๊งค์ไว้แล้วเอามือปิดปาก คือนายปรินซ์นั่นเอง
“อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวคนก็เข้ามาเห็นหรอก” นายปรินซ์พูด แล้วค่อย ๆ เอามืออก
“นายจับเรามามีเรื่องอะไร” แบ๊งค์ถามไป
“แสบนักนะ นายตัวเล็ก” ปรินซ์พูดแล้วเอามือขยี้หัวแบ๊งค์
“ปล่อยนะ!!! เราเป็นรุ่นพี่นายนะ” แบ๊งค์พูดพลางเอามือปัดมือนายปรินซ์ออก
“รุ่นพี่หรอ ทำไมตัวเด็กจัง ตั้งแต่มุกมนุษย์ต่างดาวแล้ว” ปรินซ์พูด
“.............................” แบ๊งค์ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้อายหน้าแดงแล้ว (-//////-)
“ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเด็ก ม.ปลายที่ไหน ทำไมแสบซ่าได้ขนาดนั้น ที่แท้เป็นรุ่นพี่ปี 2นี่เอง ร้ายนักนะ วันนี้ต้องเอาเบอร์ให้
ได้” ปรินซ์ก้มหน้าพูด จนตอนนี้หน้านายปรินซ์จะติดหน้าแบ๊งค์อยู่แล้ว แบ๊งค์ก็ได้แต่ก้มหน้าหลบ
“.......................” แบ๊งค์หลับตาปี๋ ไม่อยากมองอะไรอีกแล้ว
“ฮะฮะฮะ” แล้วนายปรินซ์ก็ระเบิดหัวเราะออกมา อ้าว....หัวเราะอะไรวะ
“หัวเราะอะไรของนายน่ะ” แบ๊งค์ถาม
“ก็ดูดิ หลับตาปี๋ กลัวอะไรหรอ ฮะฮะฮะ” นายปรินซ์ยังหัวเราะต่อ
“บ้า!!!!!” แบ๊งค์พูดพร้อมกับผลักนายปรินซ์ออกไป แล้วแบ๊งค์ก็รีบวิ่งออกจากห้องน้ำไป พอไปถึงโรงอาหาร ก็เห็นคนอื่น ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว
“ทำอะไรมาวะช้าว่ะ แล้วนั่นเป็นอะไร หน้าดูซีด ๆ เหงื่อก็ออกเต็มไปหมด” พี่ตั้มทักขึ้น
“เออ....นั่นสิ ไปเจออะไรมาหรอ” ไอ้กาวถาม
“เปล่าหรอก อากาศมันร้อนน่ะ แบ๊งค์ก็เป็นแบบนี้แหละ” แบ๊งค์แก้ตัวไป
“เดี๋ยวถ้าทานข้าวเสร็จ ไปห้องพยาบาลก่อนมั้ยคะ สีหน้าดูไม่ดีเลย” พี่ปอยแนะนำ
“ใช่ ๆๆๆ ไปกันมั้ยครับน้องแบ๊งค์” พี่โป้งพูด
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เดี๋ยวแบ๊งค์ไปซื้อ ข้าวก่อนนะ” แบ๊งค์ก็ขอตัวไปซื้อข้าว
“ไม่ต้องหรอก ไอ้โป้งมันซื้อไว้ให้แล้ว” พี่ตี๋พูด แบ๊งค์เลยหันไปทางพี่โป้ง ใช่จริง ๆ ด้วย พี่โป้งซื้อวุ้นเส้นเย็นตาโฟ ของโปรดแบ๊งค์มาสองชาม ของพี่โป้งกับของแบ๊งค์
“วุ้นเส้นเย็นตาโฟน่ะครับ ทานได้รึเปล่า” พี่โป้งถาม
“ได้สิครับ” แบ๊งค์เลยเข้าไปนั่งข้างพี่โป้ง
“เอาใจกันจังเลยว่ะ เย็นตาโฟชามนี้รถขนน้ำตาลคว่ำแน่ ๆ” พี่ตั้มแซว
“พอ ๆๆๆ ทานได้แล้ว” แบ๊งค์พูด แล้วเราก็นั่งทานกัน ก็อร่อยดีนะ ดีเหมือนกันไม่ต้องไปต่อแถว เพราะตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้ว
“นี่มันจะไม่หยุดมองเลยใช่มั้ย” แมคพูดออกมา
“อะไรหรอแมค” แบ๊งค์เลยถามไป
“ก็ไอ้น้องที่มองแบ๊งค์ตั้งแต่เมื่อเช้าไง ชื่อ..ปิ่น ปิน” แมคพยายามพูดชื่อน้องคนนั้น
“ปรินซ์” ไอ้กาวช่วยครับ
“เออ....ใช่ นั่นแหละ ๆๆ ตอนนี้มันยังมองอยู่เลย” แมคพูด
“ไหน ๆๆ มันอยู่ไหน มองอะไรวะ” พี่ตั้มทำท่าจะลุกไปเอาเรื่อง แบ๊งค์เลยรีบเอามือกุม มือของพี่ตั้มเอาไว้
“พี่ตั้ม!!!!อย่าเลย” แบ๊งค์ขอพี่ตั้มเอาไว้
“นั่นสิ ปล่อยเด็กมันไปเหอะตั้ม” พี่ปอยช่วยเสริม
“แต่........” พี่ตั้มกำลังจะแย้ง แต่แบ๊งค์ขัดไว้
“ถือว่าแบ๊งค์ขอนะ น้องเค้าไม่ได้มาทำร้ายแบ๊งค์ซะหน่อย” แบ๊งค์ขอร้องพี่ตั้ม
“เออ.....ก็ได้วะ” พี่ตั้มทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย แต่เรื่องที่โรงอาหารก็จบไป
มาถึงกิจกรรมช่วงบ่าย ในตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่ก็ไปเน้นหนักที่ช่วงเช้า ที่สำคัญ ๆ ก็มีแค่จับคู่พี่รหัสน้องรหัสเนี่ยและ ตามที่หลาย ๆ คนคิดไว้นั่นแหละ แบ๊งค์ได้น้องรหัสเป็นนายปรินซ์ ( ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้ซาราห์ ---- เสียใจด้วยนะจอรจ์ )
พี่ตั้ม พี่โป้ง ไอ้กาว ไอ้แมค มองกันเป็นตาเดียวเลยครับ ส่วนนายปรินซ์ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ความตายจะมาเยือน แต่ยังกระดี๊กระด๊า ดีใจอยู่ได้ แล้วเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อมีกติกามาว่า น้องรหัสจะต้องจำเบอร์โทรพี่รหัสได้ โดยให้มาท่องกับพี่ว้าก แล้วจะนำคำตอบไปเทียบกับคำตอบที่เตรียมไว้ ถ้าไม่ตรง น้องรหัสกับพี่รหัสโดนทำโทษทั้งคู่ ในฐานะที่ไม่สามัคคีต่อกัน อุตส่าห์หนีวันนั้นมาได้แล้วแท้ ๆ
“ขอเบอร์ด้วยนะครับ....พี่แบ๊งค์” นายปรินซ์ทำหน้ากวน ๆ ใส่แบ๊งค์ครับ
“.............................” แบ๊งค์ไม่ตอบ ไม่อยากให้ไปเลยจริง ๆ ใครเป็นคนกำหนดกติกานี้ขึ้นมาฟระ อยากเห็นหน้าจริง ๆ เลย
“ถ้าไม่ให้เบอร์ผม เดี๋ยวผมโดนทำโทษนะครับ” นายปรินซ์ย้ำกติกา
“086-916xxxx” แบ๊งค์เลยต้องบอกไปอย่างเสียไม่ได้
“ครับผม แล้วถ้าว่าง ๆ ผมจะโทรไปปรึษาปัญหาหัวใจ เอ้ย!!! ปัญหาการเรียนนะครับ” นายปรินซ์ยิ้มอย่างผู้มีชัย ดูมันมีความสุขจริง ๆ เลยนะ แต่แบ๊งค์เนี่ยสิ ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
ปรินซ์กับแบ๊งค์ผ่านกิจกรรมนั้นมาได้แล้วครับ พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ไม่ค่อยชอบหน้านายปรินซ์มีเคืองอยู่บ้างเล็กน้อย ที่แบ๊งค์ให้เบอร์ปรินซ์ไป ก็ทำไงได้ล่ะ ไปโทษคนออกกติกาเลย กิจกรรมช่วงบ่ายก็หยุดอยู่แค่นั้นนั่นแหละครับ ก็ไม่มีอะไรมาก แล้วเค้าก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านครับ แบ๊งค์กะว่าจะเดินไป หาพี่นุ่นคณะ โดยมีกาวไปเป็นเพื่อนครับ แล้วก็มีเสียงตามหลังมา
“เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะครับ ระวังมนุษย์ต่างดาวด้วยนะ” นายปรินซ์นั่นเอง ตะโกนบอกแบ๊งค์ก่อนจะเดินไปอีกทาง ดันมาแซวมุกโบราณของแบ๊งค์อีก แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าอาย
“น้องคนนี้มนุษย์ต่างดาวอะไรหรอแบ๊งค์” กาวถาม
“เฮ้อ~~~~ อย่าไปสนใจเลยกาว มันเป็นความผิดกรูส์เองแหละ” แบ๊งค์บอกไป
“เรื่องอะไรหรอ บอกเราหน่อยนะ” กาวถามอีก แบ๊งค์ไม่อยากเล่าเลย แบ๊งค์เลยพยายามปฏิเสธมัน แต่มันก็ยังง้อต่อไป แบ๊งค์เลยใจอ่อนยอมเล่าให้มันฟัง
“กร้ากกกกกกกกกกกกกกก ทำไปได้นะเมริง” ไอ้กาวหัวเราะใหญ่เลยครับ
“อย่าหัวเราะดิ กรูส์อายนะเว้ย” แบ๊งค์พูด
“ก็คิดดูดิ เล่นไปได้ มุกมนุษย์ต่างดาว” กาวยังหัวเราะไม่เลิก
“พอ ๆๆ ไปหาพี่นุ่นดีกว่า” แล้วเราสองคนก็มาถึงคณะของพี่นุ่นแล้วครับ คนเยอะจัง น้อง ๆ นั่งกันเงียบกริบเลย
“น้อง!!!! ร้องเพลงน่ะ ร้องเป็นมั้ย ปากเอามามั้ย” มีผู้หญิงคนหนึ่งครับ คาดว่าน่าจะเป็นพี่ว้าก กำลังสั่งน้องอยู่ มองไป
มองมา อ้าว....พี่ว้ากคนนั้นคือพี่นุ่นนั่นเอง เล่นเอาแบ๊งค์กับกาวกลัวไปเลย เราทั้งสองต่างไม่มีใครกล้าทัก ได้แต่ยืนมองอยู่เฉย ๆ พอพี่นุ่นเห็นก็เลยเดินออกมา
“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ” พี่นุ่นถาม
“ก็ดูเจ้ดิ น่ากลัวแบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้” แบ๊งค์แซว
“ย่ะ เวลาอยู่หน้าน้อง ๆ ต้องดุ ๆ เข้าไว้สิ” พี่นุ่นบอก
“แต่พี่นุ่นน่ากลัวจริง ๆ นะ ผมกลัวมาก ๆ เลย” กาวเสริม
“จ้า ไม่ต้องกลัวหรอก มาหาพี่มีอะไรหรอ” พี่นุ่นพูดกับกาว แล้วหันมาถามแบ๊งค์
“ก็จะมาดูว่า เสร็จกันรึยัง ถ้ายังแบ๊งค์จะไปรอที่สนามบาสนะ” แบ๊งค์พูด
“อืม ๆๆ เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปหาเราที่สนามบาสก็แล้วกัน” พี่นุ่นพูด แล้วก็มีเสียงเพื่อนพี่นุ่นเรียกให้เข้าไปช่วยว้ากน้อง พี่นุ่นก็เลยขอตัวไปก่อนแบ๊งค์กับกาวก็ไปที่สนามบาส พอไปถึงก็ต้องตกใจเลยครับ พี่อาร์ท.....พี่อาร์ทกำลังเลี้ยงลูกอยู่ที่กลางสนาม
“พี่อาร์ท......” แบ๊งค์เผลอพูดออกมาเบา ๆ
“จะไปทักพี่เค้ามั้ยล่ะ” กาวพูด
“อ...เอ่อ...ไม่ต้องหรอก เราไปนั่งที่ข้างสนามดีกว่านะ” แบ๊งค์พูดแล้วรีบเดินไปนั่งข้างสนาม ตอนนี้เหมือนว่าพี่อาร์ทก็เห็นแบ๊งค์แล้วเหมือนกัน พี่เค้ามองมาที่แบ๊งค์ แล้วเราก็เผลอมองหน้ากัน แต่ก็หลบสายตากันไปในที่สุด
“อาร์ทมันกลับมาแล้วนะ ไม่ไปทักมันหน่อยหรอ” พี่โป้งเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พูดขึ้นทำให้แบ๊งค์หายเหม่อ
“ไม่ดีกว่านะ พี่โป้ง” แบ๊งค์ปฏิเสธไป
“พี่เค้าไม่เห็นมาเรียนเลยครับ” กาวถาม
“มันดรอปไว้ไม่กี่ตัวเองนี่นา มันคงจะมาเรียนเฉพาะตัวที่ดรอปไว้ แต่เห็นโค้ชบอกว่ามันจะมาซ้อมบาสทุกเย็นนะ” พี่โป้งบอก
ทุกเย็นอย่างนั้นหรอ.....หมายความว่า แบ๊งค์ต้องเจอหน้าเค้าทุก ๆ เย็นน่ะสิ ตอนนี้การหลบหน้าคงไม่มีประโยชน์ต่อไปอีกแล้วล่ะสิ แบ๊งค์คงต้องเผชิญหน้ากับพี่เค้าไปอย่างนี้ แบ๊งค์ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจริง ๆ
“ไอ้กาวป่ะ ไปซ้อมได้แล้ว” พี่โป้งเรียกกาว
“ค...ครับ” กาวรับคำแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือ กับกระเป๋าสตางค์ให้แบ๊งค์
“ฝากไว้หน่อยนะแบ๊งค์ ไปก่อนละ” แล้วกาวก็วิ่งตามพี่โป้งไป โค้ชเค้าเรียกไปวอร์ม แล้วก็หารือเรื่องที่พรุ่งนี้จะมีการรับสมาชิกใหม่เข้าชมรม แบ๊งค์ก็นั่งมองกลุ่มนักบาสไป และก็รู้สึกว่ามีสายบางคู่กำลังจับจ้องมาที่แบ๊งค์ ไม่ใช่สายตาใครหรอกครับ สายตาของพี่อาร์ทนั่นเอง แบ๊งค์เลยพยายามหลบสายตา
แบ๊งค์หยิบเครื่องเล่น MP3 มาเปิดฟังเบา ๆ แล้วนั่งก้มหน้าไป ไม่สนใจอะไร พยายามไม่คิดเรื่องอะไร วันนี้คงไม่มีอะไรมาก โค้ชเลยให้แบ่งทีมแล้วเล่นตามปกติ โดยโค้ชจะดูพัฒนาการ และจุดด้อยของแต่ละคน แล้วให้คำแนะนำ พี่อาร์ท พี่โป้ง และกาวได้อยู่ทีมเดียวกันด้วย การเล่นก็ไม่ได้รุนแรงอะไรหรอกนะ เล่นแบบสบาย ๆ แต่ทำมไหน้าตาทั้งสามคนดูเครียด ๆ ก็ไม่รู้สิ
“ไอ้ตัวเล็กนั่นน่ะ” โค้ชตะโกนเรียกออกมาครับ แบ๊งค์เลยหันไปมองข้าหลังเผื่อว่า มีคนอื่นนั่งอยู่
“ไม่ต้องมอง เรานั่นแหละมานี่หน่อย” โค้ชชี้มาที่ตัวแบ๊งค์ครับ แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา
“มีอะไรหรอครับ” แบ๊งค์ถามไป
“เดี๋ยวถ้าเค้าเล่นเสร็จ เอาน้ำไปเสิร์ฟนักกีฬาได้มั้ย” โค้ชถามมา
“ได้ครับ” แบ๊งค์เลยตอบไป จากนั้นโค้ช ก็ให้แบ๊งค์ไปเอาน้ำใส่แก้ววางในถาดเพื่อเตรียมเสิร์ฟ ไม่นาน โค้ชก็เป่านกหวีดให้หยุดพัก นักบาสทั้งหลายก็เลยค่อย ๆ ทยอยเดินกันเข้ามา แบ๊งค์เลยเอาน้ำไปเสิร์ฟ
“ขอบคุณนะ” ไอ้กาวรับน้ำไป แล้วพูดครับ แบ๊งค์ก็ยิ้มตอบไป
“ขยันทำงานหน่อย” พี่โป้งแซวครับ
“งั้นไม่ต้องดื่มเลยมั้ย” แบ๊งค์แกล้งพี่โป้งครับ
“โอ๋ ๆๆๆๆ ขอโทษนะครับ” พี่โป้งทำท่าง้อแบ๊งค์
“ล้อเล่นน่า เอาไปสิ” แล้วแบ๊งค์ก็ยื่นแก้วน้ำให้พี่โป้ง แบ๊งค์ก็เดินเสิร์ฟน้ำไปเรื่อย ๆ จนไปถึงที่นักกีฬาคนสุดท้าย พี่อาร์ทนั่นเอง
“..................” แบ๊งค์ไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตา แล้วยื่นแก้วน้ำให้
“ข...ขอบคุณนะครับ” พี่อาร์ทพูดก่อนจะรับแก้วน้ำไป พอพี่อาร์ทรับแก้วน้ำไปแล้ว แบ๊งค์เลยทำท่าว่าจะเดินกลับ
“เดี๋ยวก่อน...แบ๊งค์!!!” พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์ครับ แบ๊งค์เลยหันหน้ากลับมา
“ม..มีอะไรหรอครับ” แบ๊งค์ถามไป ตอนนี้เริ่มหน้าแดงแล้ว (-//////-)
“เอ่อ....คือ....คือ...พี่ขอน้ำอีกแก้วได้มั้ยครับ” นึกว่าจะพูดอะไรที่แท้ก็ขอน้ำนี่เอง แต่น้ำในมือพี่อาร์ท พี่อาร์ทยังไม่ได้ดื่มเลย สงสัยจะเหนื่อยมาก แบ๊งค์เลยยื่นให้อีกหนึ่งแก้ว ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกเหมือนพี่โป้ง กับกาวกำลังมองอยู่
“ขอบคุณนะครับ” พี่อาร์ทพูด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แบ๊งค์ก้มหน้าตอบไป
“เอ่อ.......” พี่อาร์ททำท่าเหมือนจะพูด แบ๊งค์เลยเงยหน้าขึ้นมามอง แต่พี่อาร์ทก็ยังไม่พูดอะไร
“วันนี้น้องแบ๊งค์กลับช้าหรอครับ” พี่อาร์ทถาม
“.................” แบ๊งค์ได้แต่พยักหน้าไป ไม่กล้าพูดเลยจริง ๆ
“อืม........แล้วยังใช้เบอร์เดิมอยู่รึเปล่าครับ” พี่อาร์ทถามมาอีก เฮ้อ~~~เป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมแบ๊งค์ถึงไม่ตอบไปนะ พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ
“ครับ....ยังใช้เบอร์เดิมอยู่” แบ๊งค์ตอบ
“แล้วแบ๊งค์กับแม......” ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้ถามอะไรจบ โทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้น พี่นุ่นโทรมานั่นเอง
“ฮัลโหลครับ” แบ๊งค์รับสาย
“แบ๊งค์หรอ กลับได้แล้วนะ พี่นุ่นขับรถมารอแล้ว” พี่นุ่นพูด
“ครับ เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” แบ๊งค์พูด จากนั้นพี่นุ่นก็วางสายไป
“แบ๊งค์คงต้อง.....ต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ” แบ๊งค์พูดกับพี่อาร์ท
“ไม่เป็นไรครับ ไว้คุยกันวันหลังก็ได้” พี่อาร์ทพูด แล้วแบ๊งค์ก็รีบเดินไปเอากระเป๋า แล้วยื่นของคืนให้กาว ทำไมกาวทำหน้าเศร้า ๆ แบบนั้นนะ พี่โป้งก็ไม่ต่างกัน แต่แบ๊งค์ไม่สนอะไรแล้วรีบวิ่งออกไปเลยนั่งในรถไปก็เหม่อไป คิดถึงวันพรุ่งนี้ ถ้าแบ๊งค์ได้เจอพี่อาร์ทอีก แล้วแบ๊งค์จะทำตัวยังไง โอยคิดไม่ออกเลยจริง ๆ
*******************************