[novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ  (อ่าน 287610 ครั้ง)

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :teach:

คุณ  pajaa   หายไปไหนหนอ

มาต่อไว ๆ นะคับ รออ่านอยู่

 o15

wareehero

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไว ๆ นะคับ รออ่านอยู่ o21

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
.....คิดถึงพี่อาร์ท
.....คิดถึงแบงค์
.....คิดถึงกาว
.....คิดถึงปริ้นซ์

.....คิดถึงพี่โป้ง

:o12:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
 :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:

หายไปหนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
แอบแวะมาคับ
ขอบ่นได้มั้ย เกรงใจพี่ ๆ นะแต่ขอเหอะ อกจะแตกตาย

เสียงสั่น ๆ กับคำพูดที่ว่า “จา ใจร้ายกับพี่มากเลยรู้มั้ย” เพียงเพราะเราบอกเค้าขอให้คิดกับเราแค่น้องชาย ใจร้ายตรงไหนกัน กินเหล้า คิดมากแล้วก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ ขาหักเข้าเฝือก แขนก็เข้าเฝือก ไหล่ก็หลุด  :serius2:

ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่...ยังบอกจะรอ รออะไร??? รอให้ผมเป็น..ยังงั้นรึ  มันเครียดนะ ทำไมการที่ผมเข้าบอร์ดแบบนี้ ผมชอบอ่าน ผมสนใจ ผมชื่นชม ชื่นชอบชีวิตของพวกเค้า มันสามารถซึมซับกันได้ด้วยหรือ หรือผมรู้เรื่องของพวกเค้ามากเกินไป หลายครั้งที่ผมโดนหยอดทำนองนั้นจาก VENDOR ที่ผมติดต่องานด้วย ผมไม่ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้อะไรเลยนะ แต่เพราะอะไรล่ะ หรือว่าต่อไปผมจะเลิกเข้าบอร์ดดี แต่ผมคงทนไม่ได้มันเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว ผมขอลาออกจากงานเพื่อจะได้ไม่เจอเค้า.... มีอำนาจขนาดสั่งไม่อนุมัตข้ามแผนกได้ด้วยรึ

OK เข้าใจเป็นห่วงเรา อายุ 19 เรียนด้วยมันลำบาก เห็นด้วยก็ได้ แต่สั่งห้ามเล่นเน็ต (ฆ่ากันเลย..ดีไหม)ที่ทำงานโดนตัดเน็ตไปแล้วเรียบร้อย อยากจะบ้า แล้วยังให้ไปนอนเฝ้าที่โรงบาล...ได้ ถือว่ารับผิดชอบ ไม่พอให้ไปดูแลที่บ้านจนกว่าจะหายอีก จะเป็นปาท่องโก๋กันอยู่แล้ว อะไรมันจะนักหนา เงินก็แยะ คนอยากไปเฝ้าก็เยอะ  :m8:พี่ชายอารายเรื่องมากฉิบเป๋ง....เหนื่อย เบื่อ เซง จะมีใครเข้าใจผมมั้ยเนี่ย

บ้างครั้งผมเห็นหน้าพี่เค้าผมก็ทุกข์ใจนะ ก็ผมเองไม่ใช่คนดี และผมก็ไม่ใช่.......ผมเป็นแบบนี้ผมผิดมากใช่มั้ย

ขอร้องเข้าใจผมหน่อยนะ  :m5:ปล่อยผมไปเถอะ ถ้าผมเป็น..เมื่อไหร่ผมจะบอก นะคับ
.
.
อย่าเพิ่งเกลียดผมกันนะคับ พี่ๆ  :impress:

**********************

บทที่ 54  วันหยุด

ช่วงเวลาปิดเทอมยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ   ตอนนี้แบ๊งค์ได้กลับมาเป็นแบ๊งค์คงเดิมแล้ว  เป็นนายเด็กดื้อ  ไอ้ตัวเล็ก  จอมซนประจำกลุ่มเหมือนเดิมแล้ว  เรื่องของพี่โป้งน่ะหรอ  แบ๊งค์ไม่มีวันลืมหรอกนะ  ยังคงจำได้เสมอแหละ  พี่เค้ายังอยู่ในใจแบ๊งค์ตลอด

วันนี้พี่อาร์ทมารับแบ๊งค์ที่คอนโดครับ  บอกว่าอยากไปเที่ยว  ก็เลยโทรมาบอกให้แบ๊งค์แต่งตัวรอไว้ ตอนเย็น ๆ จะมารับ   แบ๊งค์ก็ไปจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้แบ๊งค์กำลังตรวจดูความเรียบร้อยขั้นสุดท้าย  สายตาก็เหลือบไปเห็นพวงกุญแจตุ๊กตาโอชาเคนที่แปะติดอยู่ที่กระจก

“เดี๋ยวแบ๊งค์จะออกไปเที่ยวแล้วนะ”

“เฝ้าห้องให้แบ๊งค์ด้วยล่ะ”    แบ๊งค์มักจะพูดแบบนี้กับ  เจ้าตุ๊กตาโอชาเคนเสมอ  เปรียบเสมือนว่าเจ้าตุ๊กตาตัวนี้เป็นพี่โป้งนั่นเอง  แล้วแบ๊งค์ก้มลงไปยิ้มให้ตุ๊กตาตัวนั้น  ก่อนจะเดินออกนอกห้องไป

“อ้าวพี่นุ่นจะไปไหนน่ะ  แต่งตัวซะสวยเลย”   แบ๊งค์ทักขึ้น

“ทีแบ๊งค์ยังออกไปเที่ยวได้ เจ้ก็ขอไปแดนซ์บ้างสิจ๊ะ”   พี่นุ่นตอบกลับมา

“อ่านะ  แล้วจะกลับกี่โมงเนี่ย”    แบ๊งค์ถามบ้าง

“ไม่รู้สิ  แต่ไม่ต้องห่วงหรอก แล้วแบ๊งค์ไม่กลับใช่มั้ยคืนนี้”   พี่นุ่นถามกลับ

“หา.....แบ๊งค์หรอ  กลับดิ”    แบ๊งค์ทำหน้างง ๆ

“ไม่ต้องเลย  เห็นพูดแบบนี้ก็ไม่กลับทุกที”    พี่นุ่นพูด

“ง่า......ก็พูดจริง ๆ นะ”    แบ๊งค์แย้งกลับ  ซักพักก็มีเสียงคนมากดกริ่งที่หน้าประตู  แบ๊งค์กับพี่นุ่น  เลยเดินไปใส่รองเท้าแล้วเดินเปิดประตูออกไป

“กะแล้วว่าต้องเป็นพี่อาร์ท”   แบ๊งค์พูด

“แล้วจะออกไปไหนกันหรอครับเนี่ย”   พี่อาร์ทถามแบ๊งค์กับพี่นุ่นครับ

“เจ้น่ะออกไปเที่ยวส่วนตัว  ไม่ได้ไปเป็นก้างอาร์ทหรอกค่ะ”   พี่นุ่นตอบไปครับ  เล่นเอาพี่อาร์ทเขินจนหน้าแดงไปเหมือนกัน

“อ่ะ.....ครับ”   พี่อาร์ทรับคำไปอย่างสั้น ๆ

“คืนนี้เอาเจ้าแบ๊งค์ไปฝากไว้ที่บ้านอาร์ทด้วยนะคะ ไม่ต้องปล่อยกลับมานะคะ  เจ้ขี้เกียดดูแล”    พี่นุ่นพูด

“อ้าว.......ได้ไงล่ะ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“ไม่เป็นไรครับ  นอนบ้านผมก่อนก็ได้”  พี่อาร์ทพูด

“ค่ะโอเคค่ะ   ไปก่อนนะคะ”   แล้วพี่นุ่นก็เดินออกไป

“เที่ยวให้สนุกนะครับ”   พี่อาร์ทตะโกนตามหลังไป   พอเห็นว่าพี่นุ่นลงลิฟต์ไปแล้ว  แบ๊งค์เลยเอาศอกกระทุ้งท้องพี่อาร์ทเบา ๆ ถึงจะแบบนั้นก็เหอะ  ก็คงจุกไปเหมือนกัน

“อุ๊ก.......แบ๊งค์ทำอะไรน่ะ”   พี่อาร์ทเอามือกุมท้องเอาไว้

“ก็ไปรับปากพี่นุ่นทำไมล่ะ  แบ๊งค์ไม่ค้างบ้านพี่อาร์ทหรอกนะ”   แบ๊งค์พูด

“ก็รับปากนุ่นไปแล้วอ่ะ  ทำไงดีล่ะ”   พี่อาร์ททำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“..........................”    แบ๊งค์ทำท่างอนไม่พูดไม่จา    แล้วพี่อาร์ทก็เปิดประตูห้องเข้าไป  โดยที่ไม่รอแบ๊งค์เลยครับ

“จะเข้าไปทำอะไรน่ะ   จะปิดห้องแล้วนะ”   แบ๊งค์รีบถาม

“ก็เข้ามาเอาชุดนอน  กับของใช้ส่วนตัวของแบ๊งค์น่ะสิ”   พี่อาร์ทพูด   ตอนนี้พี่อาร์ทเข้าไปอยู่ในห้องแบ๊งค์แล้ว  พลางจัดแจงเก็บข้าวของอย่างคล่องแคล่ว

“จะเอาไปทำไม”   แบ๊งค์รีบวิ่งตามเข้ามาในห้อง  แล้วพูด

“ก็จะไปค้างบ้านพี่ไง”  พี่อาร์ทหันมาตอบ

“ไม่เอา  แบ๊งค์ไม่ค้างนะ”   แบ๊งค์ยังดื้อต่อไป

“ดื้อจริง ๆ เลย  ค้างหน่อยนะ พ่อกับแม่พี่บ่นคิดถึงน่ะ”    พี่อาร์ทพูดครับ

“............................”    แบ๊งค์ไม่ตอบอะไรเมื่อได้ยินเหตุผล

“สรุปว่าค้างใช่มั้ย”   พี่อาร์ทหันมาทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่

“ก็ทำไงได้ล่ะ   คุณลุงกับคุณป้าพูดแบบนั้นก็”    แบ๊งค์ตอบไป

“เรียกพ่อกับแม่ได้แล้ว   เดี๋ยวท่านได้ยินก็โกรธหรอก”    พี่อาร์ทพูด   แล้วพี่อาร์ทก็จัดเก็บของจนเสร็จ  พี่อาร์ทเลือกมาหมดเลยครับ  ทั้งชุดนอน  และชุดที่จะใส่พรุ่งนี้  พี่อาร์ทเลือกเสื้อที่เป็นลาย Astroboy ที่แบ๊งค์ไปซื้อที่จตุจักรมาด้วย

“เสื้อลายน่ารักดีนี่   ซื้อที่ไหนหรอ”    พี่อาร์ทถาม

“ซื้อที่จตุจักรน่ะ  จริง ๆ มีสองตัวนะ”

“แต่อีกตัวมันใหญ่ไป”    แบ๊งค์ตอบ

“อ๋อ......จำได้แล้ว”    แล้วพี่อาร์ทก็นึกถึงเหตุการณ์ในครั้งก่อน  ที่ไปคลาดกันที่จตุจักร จนพี่อาร์ทนั่งร้องไห้ต่อหน้าน้องแทม   อาร์ทเลยได้แต่ยิ้ม ๆ ออกมา

“จำอะไรได้น่ะ  แล้วยิ้มทำไม”    แบ๊งค์ถาม

“เปล่า  ก็แค่อารมณ์ดี”   พี่อาร์ทหันมายิ้มยั่วแบ๊งค์ครับ   แล้วสายตาของพี่อาร์ทก็เหลือบไปเห็นตุ๊กตาโอชาเคนที่แบ๊งค์แปะไว้ที่กระจก

“จะเอาเจ้าตัวนี้ไปรึเปล่าครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่ต้องหรอก  ให้เฝ้าห้องแบบนี้นี่แหละ”  แบ๊งค์หันไปพูดกับตุ๊กตา

“เดี๋ยวเค้าก็เหงาหรอก”  พี่อาร์ทพูด

“ไม่หรอก  เค้าอยู่กับแบ๊งค์เสมอแหละ  อยู่ในใจแบ๊งค์ไง”    หันไปบอกกับพี่อาร์ท

“อืม.........งั้นไปก่อนนะ”  พี่อาร์ทหันไปพูดกับเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นบ้าง

“ไปแล้วนะ บาย”   แบ๊งค์บอกลากก่อนที่จะเดินออกห้องไป  แล้วเราสองคนก็ไปยังรถกันครับ  พี่อาร์ทเอาข้าวของเครื่องใช้แบ๊งค์เก็บไว้ที่ท้ายรถ  แล้วเราก็ขึ้นรถไปกัน

“จะพาแบ๊งค์ไปไหนหรอ คงไม่ได้กลับบ้านก่อนแน่ ๆ”    แบ๊งค์ถาม

“มารู้ทันพี่อีกนะ  เดี๋ยวไปถึงก็รู้เอง”   พี่อาร์ทพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นครับ   สรุปแล้วพี่อาร์ทพาแบ๊งค์มาเยาวราชครับ

“พาแบ๊งค์มาที่นี่ทำไมอ่ะ”   แบ๊งค์ถามแบบงง ๆ

“ก็พามาหาอะไรทาน  อีกอย่าง”

“พามารำลึกความหลังสมัยโน้นน่ะ”   พี่อาร์ทพูดลากเสียงยาว   จริงด้วยสินะ  แบ๊งค์เคยมาเยาวราชกับพี่อาร์ทแล้วครั้งหนึ่ง  พี่อาร์ทนี่ความจำแม่นจริง ๆ

“คราวที่แล้วแบ๊งค์เป็นคนนำพี่เที่ยว คราวนี้นี้คิวพี่แล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดพลางหันมายักคิ้วให้ทีหนึ่ง

“ก็แน่นอนสิ  ลองให้แบ๊งค์พาเที่ยวอีกครั้งสิ แบ๊งค์ไม่ทำหรอก”   แบ๊งค์ทำท่ากวน ๆ

“พอได้แล้ว  พูดมากเดี๋ยวก็ไม่ได้ทานกันพอดี”   แล้วพี่อาร์ทก็จับมือแบ๊งค์แล้วเดินตามกันไปครับ   เราจูงมือกันไปวิ่งบ้าง  เดินบ้าง  สลับกันไป  ก็สนุกดีนะ  ได้ทานของอร่อยเพียบเลย   มาย่านนี้ไม่ผิดหวังจริง ๆ มาคราวนี้เราไปนั่งทานติ่มซำกัน  เค้าบอกว่าเป็นติ่มซำฮ่องกง  ไอ้เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันแตกต่างกันยังไง   แต่ก็อร่อยอ่ะ  รู้แค่นั้นแหละ

มีบางช่วงนะ  ที่คนมันเยอะไปอ่ะ  เราสองคนก็เลยลงไปเดินตรงขอบ ๆ ถนน  ก็น่ากลัวเหมือนกันนะ  รถเยอะมากมาย  แต่พี่อาร์ทนี่สิ  จับมือแบ๊งค์แน่นเลย  อย่างกับกลัวว่าจะหลุดไปซะอย่างนั้น  ก็ได้แต่เดินไปยิ้มไป  ตอนนี้แบ๊งค์ไม่กลัวอะไรแล้วล่ะ  แค่ได้มีพี่อาร์ทอยู่เคียงข้างก็เพียงพอแล้ว

พอเราหาอะไรทานกันเสร็จก็ตามเดิมแหละครับ  ตอนแรกเราก็คิดว่าจะไปเดินสะพานพุทธกัน  แต่แบ๊งค์ไม่อยากเดินแล้ว  เพราะเหนื่อยจริง ๆ คงเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

“แบ๊งค์ว่ากลับเหอะ  พีอาร์ท  แบ๊งค์เหนื่อยแล้ว”    แบ๊งค์พูด

“งั้นขี่หลังพี่ไปก็ได้นี่นา”   พี่อาร์ท อาสา

“จะบ้าหรอ”   แบ๊งค์มาพูดอย่างตกใจ

“ฮะฮะฮะ  ก็ดูเหมือนพี่น้องให้ขี่หลังไง  น่ารักดีออก”   พี่อาร์ทพูดไปหัวเราะไป

“พี่น้องอะไรล่ะ  คนหนึ่งก็หุ่นนักกีฬา  อีกคนก็ผอมเก้งก้าง มาขี่หลังกัน  คนก็มองกันหมดน่ะสิ”   แบ๊งค์พูดแบบอาย ๆ

“ล้อเล่นน่า   พี่ไม่ทำหรอก  พี่รู้”   พี่อาร์ทพูดพลางเอามือ  มาลูบหัวแบ๊งค์

“งั้นเรากลับกันเถอะนะ”    พี่อาร์ทพูด   แบ๊งค์เลยได้แต่  พยักหน้าแทนคำตอบ  แล้วเราสองคนก็กลับไปที่รถครับ  แบ๊งค์ยังคงนั่งที่เดิม  คอยมองสิ่งต่าง ๆ สองข้างทางไปเรื่อย ๆ

“ไม่เปลี่ยนเลยนะ  แบ๊งค์น่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ทำไมหรอ  ไม่เปลี่ยนยังไง”   แบ๊งค์หันมาถามพี่อาร์แบบงง ๆ

“ก็เหมือนเด็กไม่เปลี่ยนแปลงไงล่ะ  มองทุกอย่างรอบ ๆ ตัวอย่างน่าสนใจ”

“เหมือนกับว่าอยากรู้  อยากเห็นไปทุกเรื่อง  ดูน่ารักใส ๆ ดี  เนี่ยแหละ  เหตุผลที่พี่ชอบแบ๊งค์”   พี่อาร์ทยิ้มไปด้วย

“...................................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ได้แต่หันกลับไปมองข้างทางเหมือนเดิม  เพราะตอนนี้น่ะ  อายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว (-////-)  แล้งอยู่ ๆ ในรถก็มีเพลงดังขึ้น  แบ๊งค์คาดว่าพี่อาร์ทคงเป็นคนเปิดน่ะ 

บอกรัก ทำเป็นไม่รู้ ฉันบอกนก
เธอบอกว่าไม้ ฉันเลือกซ้าย
เธอว่าทางขวา ดีกว่าไหม
บอกร้อน เธอบอกว่าหนาว
ฉันตื่นสาย เธอให้ตื่นเช้า
ฉันหยุดแล้ว เธอหละ จะรีบไปไหน

รู้อยู่ว่าใจนะใจไม่เคยเหนื่อย ใจนะใจไม่เคยเบื่อกัน
เราบางทีแม้จะต่าง เราจูงมือไม่เคยห่าง เรามีเราแค่เธอกับฉัน

ต่างแค่ไหนสองใจก็ อยู่ข้างกัน
เรายังไปด้วยกัน แม้วันคืนจะหมุนไป
นานแค่ไหนสองเราก็อยู่ข้างกัน
เรายังไปด้วยกัน ก็เพราะว่าเรา...ต่างใจเดียว

“แบ๊งค์.....พี่ยังไม่กลับบ้านน่ะ  ไม่กลับได้มั้ย”   พี่อาร์ทถาม

“อืม....ได้สิ  จะไปไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ไปหัวหินกันนะ”   พี่อาร์ทพูด

“เย้ยยยย”    แบ๊งค์อุทานออกมาเสียงดัง

“ฮะฮะฮะ  ล้อเล่นน่า  ใครจะไปกันล่ะ”    พี่อาร์ทหัวเราะร่วน

“ตกใจหมด   ไอ้เราก็นึกว่าจะไปจริง ๆ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“อยากไปมั้ยล่ะ  พี่พาไปได้นะ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่ต้องหรอก  แบ๊งค์ยังไม่อยากไปตอนนี้หรอก”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“งั้น summer นี้เราไปกันนะ”  พี่อาร์ทพูด

“อืม.....ได้สิ”    แบ๊งค์พยักหน้าไป

“แล้วที่ว่าจะยังไม่เข้าบ้านน่ะ  รู้รึยังว่าจะไปไหน”  แบ๊งค์ถามกลับ

“ไปถนนแห่งความทรงจำของเราไง”   พี่อาร์ทพูด   ถึงพี่อาร์ทจะพูดแค่นั้น  แบ๊งค์ก็รู้แล้วว่า  สถานที่ที่เราจะไปนั้นเป็นที่ไหน   ถนนอักษะนั่นเอง  ทำไมไม่รู้สินะ  เราสองคนถึงได้ชอบถนนนี้มากมาย  พี่อาร์ทชอบพาแบ๊งค์นั่งรถเล่นที่นี่บ่อย ๆ แต่แบ๊งค์กลับไม่เคยเบื่อซักครั้ง

ตอนนี้เราขับรถจนมาถึงถนนอักษะกันแล้ว   ไฟสีเหลืองนวล  ยังคงส่องสว่างตลอดเส้นทาง  จะว่าไปก็เป็นภาพที่สวยงามติดตาดีนะ  ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม  กับแสงไฟบนถนนอักษะ

“มาบ่อย ๆ แบบนี้ไม่ช่วยชาติเลยนะ”   แบ๊งค์หันไปว่าให้พี่อาร์ท

“ไม่ช่วยชาติยังไงหรอ”    พี่อาร์ทถามกลับแบบงง ๆ

“ก็มาซะไกลเลย  เปลืองน้ำมันมากเลยรู้มั้ย”    แบงค์ตอบไป

“เรื่องแค่นี้เอง  ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปซักเท่าไหร่ แลกกับการที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับแบ๊งค์  พี่ยอมหมดแหละ”   พี่อาร์ทตอบกลับมา   ประโยคสั้น ๆ เพียงแค่นั้น  หลายคนฟังแล้วอาจดูน้ำเน่า   แต่สำหรับแบ๊งค์มันได้ทำให้หัวใจที่มีอยู่ดวงนี้ พองโตและรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด

“เป็นอะไรไปน่ะ  นั่งยิ้มอยู่ได้  เขินใช่มั้ยล่ะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซวครับ

“ใครเขิน ไม่เห็นมีเลย”  แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พี่อาร์ทก็เลยได้แต่หัวเราะออกมาเบา ๆ

“พี่อาร์ท  เอากระจกลงได้มั้ยอ่ะ”   แบ๊งค์หันมาพูดกับพี่อาร์ท

“อืมได้สิ”    แล้วพี่อาร์ทก็กดกระจกลง  ทำให้ตอนนี้  ลมเข้ามาในรถอย่างเต็มที่  ดีนะที่พี่อาร์ทไม่เอาพวกเอกสารวางไว้ในรถไม่อย่างนั้นปลิวไปหมดแน่ ๆ

แบ๊งค์เอาแขนทั้งสองข้าง  ไปวางเท้ากันไว้ที่ขอบกระจก  แล้วค่อย ๆ วางหน้าลงกับแขน  พร้อมกับหลับตา รับสายลมที่พัดเข้ามา  ช่วงเวลานี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริง ๆ

“แบ๊งค์  ลืมตาได้แล้ว”   พี่อาร์ทเรียกครับ

“ทำไมหรอ”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ลืมตามอง   สวยจัง  บรรยกาศยามเช้า  ที่แสนสดชื่น  บวกกับขอบฟ้าสีทอง  ที่มีพระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า   และท้องฟ้าอีกฟากหนึ่ง  ที่ยังคงเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่   พร้อมด้วยดวงดาว  ที่เริ่มอ่อนแสงลงเพราะแสงจสกพระอาทิตย์   แบ๊งค์ได้แต่นั่งมอง  แล้วยิ้มตามไป

“พี่จะปิดกระจกแล้วนะ  นอนพักได้แล้ว”   พี่อาร์ทพูดครับ   แบ๊งค์เลยเปลี่ยนมาเอนตัวลงนอน  แล้วเผลอหลับกับบรรยกาศของเช้าวันใหม่ไปในที่สุด มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีแสงอาทิตย์สาดเข้ามาในห้องนั่นแหละครับ  แบ๊งค์มาหลับอยู่ในห้องพี่อาร์ทตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

“ตื่นแล้วหรอครับ”   พี่อาร์ทเดินเข้ามาทักมาย

“พี่อาร์ทเอาแบ๊งค์มานอนให้ห้องหรอ”  แบ๊งค์ถามไป

“ครับ....เดี๋ยวนี้ไปทานอะไรมาน่ะ  ตัวหนักจัง”   พี่อาร์ทแซว

“เฮ้ย...จริงหรอ  เดี๋ยวต้องลดน้ำหนักซะแล้ว”   แบ๊งค์พูด

“ล้อเล่นน่ะครับ   ไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดได้แล้ว  จะได้ลงไปทานข้าวกัน”   พี่อาร์ทพูด   แล้วสายตาแบ๊งค์ก็ไปสะดุดเอากับเสื้อยืดของพี่อาร์ท  มันเป็นลาย Astroboy ที่ขายคู่กันกับเสื้อที่แบ๊งค์ซื้อมานี่  เพียงแต่ว่ามันเป็นละไซส์  คนละสีก็เท่านั้น

“เสื้อนี่มัน........”   แบ๊งค์จับที่เสื้อพี่อาร์ท

“แปลกใจล่ะสิ   บอกแล้ว  เพราะเราน่ะคู่กัน”   พี่อาร์ทยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“โหย   มามุกเน่าแต่เช้าเลยนะ”    แบ๊งค์ทำท่าทางกวน ๆ ใส่พี่อาร์ท

“ไปอาบน้ำได้แล้ว”    พี่อาร์ทพูด  แล้วผลักแบ๊งค์เข้าห้องน้ำไป  แต่ก็ยังไม่วายตีก้นแบ๊งค์ไปหนึ่งที  ทำให้แบ๊งค์ที่เข้าในห้องน้ำแล้ว  เอามือกุมไว้แล้วหันมาโวย

“พี่อาร์ทน่ะ  งอนแล้ว”   จากนั้นแบ๊งค์ก็ปิดประตูไป  พี่อาร์ทเลยลงมารอข้างล่าง  ที่ห้องนั่งเล่น  ซึ่งมีพอ่กับแม่พี่อาร์ทนั่งคอยอยู่แล้ว

“น้องตื่นแล้วหรอลูก”   แม่พี่อาร์ทถาม

“ครับ   ตื่นแล้วครับ  กำลังอาบน้ำอยู่”   พี่อาร์ทตอบไป

“แล้วเมื่อคืนไปไหนกันมา  กลับซะเช้าเลย”

“เดี๋ยวน้องก็ไม่สบายหรอก”   พ่อพี่อาร์ทเตือนครับ

“รายนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับ  แข็งแรงจะตาย”   พี่อาร์ทตอบ

“หรอ   แต่แม่ว่าดูบอบบางล่ะไม่ว่า  ตัวเล็กกว่าเราตั้งเยอะ”    แม่พี่อาร์ทพูด

“นั่นสิ  ดูแลน้องเค้าดี ๆ ล่ะ  อย่าเอาน้องเค้าไปทรมานให้มากนักรู้มั้ย”   พ่อพี่อาร์ทพูด  แล้วเขกหัวพี่อาร์ทไปเบา ๆ หนึ่งที  พี่อาร์ทเลยเข้าไปกอดเอวพ่อคืน

“เดี๋ยวนี้รักแบ๊งค์มากกว่าอาร์ทอีกนะครับ  อาร์ทงอนแล้ว”   พี่อาร์ททำท่าเป็นเด็ก ๆ

“ก็แบ๊งค์เค้าน่ารักนี่   ไม่ได้ถือตัว  แม่บ้านในครัวก็ชอบกันใหญ่”   แม่พี่อาร์พูด

“ใช่ ๆๆ  แล้วก็เลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้ว  อ้อนไปก็ไม่น่ารักเท่าแบ๊งค์หรอก”   พ่อพี่อาร์ทพูด แล้วทั้งพ่อ  และแม่ก็หัวเราะออกมากันยกใหญ่

“นั่นสิเดี๋ยวน้องมาเห็น  จะอายน้องเปล่า ๆ นะลูก”   แม่พี่อาร์ท แล้วเอามือ ตบที่ขาพี่อาร์ทเบา ๆ

“ครับผม!!!”   พี่อาร์ทเลยลุกขึ้นมา ทำท่าตะเบ๊ะ  เป็นทหาร  ทั้งพ่อและแม่ก็เลยได้หัวเราะกันอีกรอบ   อีกซักพัก แบ๊งค์ก็เดินลงมา  แล้วเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”   แบ๊งค์เดินเข้าไปไหว้  แล้วนั่งที่โซฟาตัวข้าง ๆ

“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะลูก  เรียกพ่อกับแม่ได้แล้ว”   แม่พี่อาร์ททักขึ้น

“ครับคุณป้....เอ้ย  คุณแม่”   แบ๊งค์ตอบกลับไปแบบอาย ๆ

“พาน้องไปทานข้าวเช้าได้แล้วป่ะ”   พ่อพี่อาร์ทพูดครับ  พี่อาร์ทเลยค่อย ๆ เดินก้มตัวผ่านหน้าคุณแม่มาจูงมือแบ๊งค์ไปห้องทานอาหาร   พอไปถึงเราก็ไม่เห็นใครอยู่ซักคน

“สงสัยมาช้าไปน่ะ  แม่บ้านคงเก็บไปแล้ว”   พี่อาร์ทพูด

“อืม....งั้นเราก็ไปทำมาทานเองสิ”    แบ๊งค์เสนอความคิด

“ก็ได้   ดีเหมือนกัน  จะได้ทำอะไรทานเพิ่มด้วย”  พี่อาร์ทก็เห็นด้วยครับ  เราสองคนก็เลยเดินไปที่ห้องครัวครับ   ไม่มีคนอยู่ซักคนเลย  พี่อาร์ทบอกว่า  เป็นช่วงเวลาสาย ๆ คนงานของบ้านนี้เค้าไปพักกันน่ะครับ  อาจไปนั่งดูทีวี  หรือนั่งคุยกันที่เรือนเล็ก   แบ๊งค์ก็เลยคิดว่าปล่อยเค้าไปดีกว่า  ไม่อยากไปกวนเวลาพักผ่อน  แล้วเราสองคนก็เลยช่วยกันทำอาหารครับ

“แบ๊งค์อยากทานอะไรล่ะ”  พี่อาร์ทถาม

“ไม่รู้สิ  ดูวัตถุดิบก่อนดีกว่า  จะได้คิดออก”   แบ๊งค์กับพี่อาร์ก็เลยเดินไปดูของในตู้เย็นกันครับ  ในตู้เย็นก็มีของสดครบเลยครับ   ทั้งผัก  ทั้งเนื้อ  แล้วเราสองคนจะทำอะไรทานดีล่ะเนี่ย

“มีของเต็มไปหมดเลย  ทำอะไรดีล่ะ”  พี่อาร์ทถาม

“อืม......ทำผัดมาม่าดีกว่า”   แบ๊งค์พูด

“ได้เลย ดี ๆๆ อยากทานพอดีเลย”   พี่อาร์ทตอบตกลง  เราสองคนคนก็เลยเตรียมการครับ  เอามาม่าไปลวก  พี่อาร์ทบอกอยากทานเยอะ ๆ  เลยลวกไปซะ 4 ซอง  ของแบ๊งค์หนึ่ง  ที่เหลือน่ะของพี่อาร์ท   โดยมีพี่อาร์ททำหน้าที่ลวกเส้น

เสร็จแล้วแบ๊งค์ก็หั่นผักส่งให้  แบ๊งค์อยากทานผักบุ้งน่ะครับ  ก็เลยหันผักบุ้งส่งไป  จนโดนพี่อาร์ทบ่นกลับมา  ก็เลยต้องหั่นแครอทเพิ่มแล้วส่งให้พี่อาร์ทลวกต่อ   

แล้วเราก็ลวกของทั้งหมดพอสุก  แบบไม่ต้องสุกมากอ่ะ  แล้วก็มาถึงขึ้นตอนสำคัญครับ  ขั้นตอนการผัดนั่นเอง เราสองคนต่างยืนเก้ ๆ กัง ๆ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไม่เคยทำ  เราเริ่มจากใส่เนื้อลงไปผัดกับน้ำมันก่อน  จากนั้นก็ค่อยเทผักลงไป  สงสัยผักที่ลวกคงมีน้ำติดไปน่ะครับ  น้ำมันเลยกระเด็นซะยกใหญ่เลยหลบกันแทบไม่ทัน

จากนั้นก็ใส่เส้น  ใส่ไข่  แล้วก็ปรุงเครื่องปรุง  เราสองคนช่วยกันชิมจนรสชาติเป็นที่น่าพอใจ  ก็เลยตักใส่จาน  แล้วเราทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน  พอเป็นแบบนั้นเราก็ได้แต่หัวเราะครับ

“ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าจะทำได้”    แบ๊งค์พูด

“นั่นสิ  พี่ขอตั้งชื่อว่า”

“ผัดบะหมี่คู่รัก  ลำดับที่ 56 ก็แล้วกัน”  พี่อาร์ทพูด

“อ้าว  แล้วลำดับที่ 1- 55 ล่ะ”   แบ๊งค์ถามไปแบบงง ๆ

“อ๋อไม่มีหรอก  เห็นศิลปินเวลาวาดภาพชอบตั้งชื่อแบบนี้แล้วมันเท่ดี”

“ก็เลยทำตามน่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ไปนั่งทานที่ไหนดีล่ะ”   พี่อาร์ทถามครับ

“นั่งโต๊ะนั่นก็ได้  ป่ะไปกัน”   แล้วเราก็ไปนั่งทานที่โต๊ะ  ที่คนงานชอบมานั่งทานข้าวกันน่ะครับ  พอนั่งทานไปได้ซักพัก  ก็ได้ยินเสียงแม่บ้านของพี่อาร์ทบ่นมาแต่ไกล

“ได้ยินเสียงตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว  ตอนนี้ได้กลิ่นอีก”

“ใครมาทำอะไรทานน่ะ”   แม่บ้านบ่นเมื่อเข้ามาถึงครัวครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ท  ก็เลยหันไปมองในขณะที่เส้นยังคงคาปากอยู่

“อ้าว!!!น้องแบ๊งค์  คุณอาร์ท  มาทำอะไรทานกันคะ”   แม่บ้านทักขึ้น

“ผมหิวน่ะครับ  เลยมาทำผัดมาม่าทานกับน้องเค้า”   พี่อาร์ทพูดครับ

“โอ้ย.....ป้าขอโทษนะคะ  ลืมตั้งสำรับไว้ให้ทั้งสองคน”    ป้าแม่บ้านรีบขอโทษครับ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ททำทานกันเสร็จพอดีเลยครับ”   แบ๊งค์บอกไป

“งั้นเดี๋ยวป้าไปล้างกระทะ  ล้างจานให้นะคะ”    ป้าแม่บ้านอาสาครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเลยรียวางจาน  แล้ววิ่งไปขวาง

“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมกับแบ๊งค์ทำเองครับ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“นั่นสิครับ  แบ๊งค์ทำเอง เดี๋ยวแบ๊งค์ล้างเองได้ครับ”

“ป้าไปพักผ่อนเถอะนะครับ  ทำงานมาเหนื่อย ๆ”     แบ๊งค์พูด  แล้วพี่อาร์ทก็พยักหน้าเห็นด้วย  ป้าเค้าก็เลยได้แต่ยิ้ม

“ก็ได้ค่ะ  ดื้อจริง ๆ เลยคู่นี้”   ป้าพูดแซวเราสองคนครับ

“งั้นป้าไปก่อนนะคะ”    แล้วป้าก็เดินไปเรือนเล็กเพื่อพักผ่อนเหมือนเดิมครับ  เราสองคนก็เลยมานั่งทานกันต่อ  พอทานเสร็จก็เข้าไปช่วยกันล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ  จะว่าไป ทำกับข้าวทานเองก็สนุกเหมือนกันนะเนี่ย

ขณะที่กำลังคิดเพลิน ๆ พี่อาร์ท ก็เอาน้ำมาสลัดใส่แบ๊งค์ครับ

“พี่อาร์ท!!!!เล่นอะไรเนี่ย”    แบ๊งค์โวยครับ  แต่ไม่ทันหรอก  พี่อาร์ทวิ่งหนีเข้าบ้านไปแล้ว  แบ๊งค์เลยวิ่งตาม  วันนั้นเราเล่นกันอย่างสนุกสนานเลยครับ  คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่อาร์ท  และคนงานต่าง ๆ ในบ้าน ก็ได้แต่มองแล้วยิ้ม ไปตาม ๆ กัน
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2007 23:08:04 โดย pajaa »

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
บทที่ 55 นายคือใครกันแน่

แบ๊งค์อยู่บ้านพี่อาร์ทต่ออีกหนึ่งวันครับ  จากนั้นก็ค่อยกลับคอนโด  พอกลับมาถึงก็โดนพี่นุ่นแซวซะยกใหญ่เลย

“เป็นไงบ้าง แอบหนีไปหวานกันอยู่ 2 คน”  พี่นุ่นแซวครับ

“แอบหนีอะไรล่ะ  ใครกันแน่ที่หนีไปอ่า”  แบ๊งค์ตอบแบบมีงอน

“อ่านะ  อ่ะล้อเล่งงง”    พี่นุ่นตอบกลับมา

“เดี๋ยวแบ๊งค์ขอเข้าไปในห้องหน่อยนะ กะว่าจะไปเชคเมลล์อ่า”    แบ๊งค์บอก

“อ่ะจ้า ตามบายนะ”   พี่นุ่นพูด   จากนั้นแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้องไป  พอไปถึงก็ตรงดิ่งไปที่คอมพิวเตอร์ในทันใดเลย  แบ๊งค์เปิด MSN ขึ้นมา  แต่ออนแบบ Appear Offline ไว้  คือตอนนี้อยากเชคเมลล์ก่อน  มี forward mail มาหาแบ๊งค์หลายฉบับเลย  ที่พวกความเชื่ออะไรก็ไม่รู้  แต่บางอันก็เป็นรูปภาพแปลก ๆ จากต่างประเทศ  แล้วก็มี e-mail จากนายโต้ส่งมาด้วย  แบ๊งค์เลยลองเปิดดู


ผู้ส่ง   ??????? < stra………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ৠৠ   ঔঔঔঔ     20xx   15:34:58
ผู้รับ  bro……..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

เป็นไงบ้าง หายไปเลยนะ  ช่วงนี้นายคงยุ่ง ๆ ล่ะสิ  ถึงไม่ค่อยได้มาออนเอ็มซักเท่าไหร่  ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ  ก็ส่งมาเล่น ๆ น่ะ  ไว้ว่าง ๆ ถ้าเจอกันก็ทักมาและกันนะ


นั่นสิ คิดไป คิดมา  นานเท่าไหร่แล้วเนี่ยที่แบ๊งค์ไม่ได้คุยกับนายโต้เลย  แบ๊งค์นี่แย่จริง ๆ เลย  ลืมเพื่อนซะได้  ว่าแล้วก็กะจะเล่น MSN คุยกับนายโต้ซักหน่อย   แต่พอ Oline ไป  นายโต้ก็ยังไม่ออนซักที   แบ๊งค์เลยลองโทรหา   พอโทรไปก็เป็นผู้หญิงรับ  แล้วบอกให้ฝากข้อความซะงั้น  แฟนนายโต้แน่ ๆ เลย ( อิอิ แอบมีมุก )  แบ๊งค์ก็เลยออนรอไปเรื่อย ๆ ซักพัก  เหมือนฟ้าเป็นใจ  นายโต้ออนมาพอดีเลย

badboy_be_sadboy   say:
ดี ๆๆๆ

คนแปลกหน้า    say:
อืม

badboy_be_sadboy   say:
โทดทีนะ  ที่เราหายไปนานเลย

คนแปลกหน้า    say:
ไม่เป็นไรหรอก

คนแปลกหน้า    say:
เราก็ยุ่ง ๆ อยู่เหมือนกัน

badboy_be_sadboy   say:
แล้วเป็นไงมั่งบายดีป่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ก็เรื่อย ๆ อ่านะ

คนแปลกหน้า    say:
ตามประสาคนแอบรัก

badboy_be_sadboy   say:
โห.....นี่ยังไม่บอกเค้าอีกหรอ  เด๋วก็แห้วซะหรอก

คนแปลกหน้า    say:
อ่านะ....สายไปซะแล้วล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทำไมล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
อย่าพูดเลยดีกว่า

คนแปลกหน้า    say:
พูดแล้วเดี๋ยวเศร้ากันไปหมด

badboy_be_sadboy   say:
อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:
ช่วงนี้เป็นไง  ได้ไปเที่ยวที่ไหนมั่งป่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ก้อไม่ค่อยได้ออกไปไหนหรอก

badboy_be_sadboy   say:
แต่วันก่อนไปเยาวราชกับสะพานพุทธมา

คนแปลกหน้า    say:
เป็นไงบ้างล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทั้งสนุก ทั้งอิ่มเลยล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ไม่ได้ไปซะนาน

badboy_be_sadboy   say:
แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมนะ

คนแปลกหน้า    say:
งืม ๆ ช่าย ๆ

คนแปลกหน้า    say:
ว่าแต่.....นายไปกะใครหรอ

badboy_be_sadboy   say:
(-////////-)

คนแปลกหน้า    say:
กับแฟนอ่าดิ

badboy_be_sadboy   say:
ประมาณนั้นแหละ อิอ

คนแปลกหน้า    say:
อิจฉาจัง  มีแต่คนมีคู่

badboy_be_sadboy   say:
เอาน่า เดี๋ยวซักวันก็มีมาเองแหละ

คนแปลกหน้า    say:
ขอให้สมพรปากก็แล้วกันนะ

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะจร้า

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายล่ะ  ไม่คิดจะไปไหนบ้างเลยหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ก้ออยากนะ

คนแปลกหน้า    say:
อยากไปสวยสนุกน่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทำไมล่ะ
 
คนแปลกหน้า    say:
ที่นั่นน่ะ  มีความทรงจำอะไรหลาย ๆ อย่าง

badboy_be_sadboy   say:
ไปแอบตีหัวใครที่นั่นหรอ

badboy_be_sadboy   say:
vbvbvbv

badboy_be_sadboy   say:
*อิอิอิอิ

คนแปลกหน้า    say:
เฮ้ยยยย บ้าหรอ

badboy_be_sadboy   say:
ล้อเล่นน่า  งิงิ

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายมีอะไรผูกพันกับสวนสนุกหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่รู้สิ  บอกไม่ถูกอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
มันมีเหตการ์ณหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เราประทับใจ

badboy_be_sadboy   say:
อย่างเช่นอะไรอ่า  บอกได้ป่าว

คนแปลกหน้า    say:
อืม....เช่นได้แอบอยู่ใกล้ ๆ เค้า  แอบจับมือเค้า

คนแปลกหน้า    say:
โดยที่เค้าไม่รู้ตัวมั้ง

badboy_be_sadboy   say:
ฮั่นแน่ ๆ ๆๆ

badboy_be_sadboy   say:
ที่แท้ก็ไปกับเพื่อนคนนั้นใช่มั้ยล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
...................(-///////-)...................

คนแปลกหน้า    say:
อืม...ประมาณนั้นแหละ

คนแปลกหน้า    say:
แต่ถึงยังไง เราก็ทำได้แค่นั้นแหละ

คนแปลกหน้า    say:
เค้าไม่เลือกเราหรอก

badboy_be_sadboy   say:
เอาอีกแระ  มาแนวเศร้าตลอดเรย

badboy_be_sadboy   say:
คิดมากน่า

คนแปลกหน้า    say:
งืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแบ๊งค์ไม่อยากไปไหนอีกหรอ

badboy_be_sadboy   say:
อยากดิ   อยากไปทะเลน่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่บอกพี่อาร์ทให้พาไปล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
บอกแล้ว  แต่เอาไว้ตอน Summer ดีก่าน่ะ

คนแปลกหน้า    say:
อืม ๆ

badboy_be_sadboy   say:
เฮ้ยยยยยย  เด๋วก่อน

badboy_be_sadboy   say:
นายรู้หรอว่าอาร์ทเปงคราย

คนแปลกหน้า    say:
ก็แฟนแบ๊งค์ไม่ใช่หรอ

badboy_be_sadboy   say:
ก็ใช่แต่เฮ้ยยยย

badboy_be_sadboy   say:
เราไม่เคยบอกนายนะ

badboy_be_sadboy   say:
นายรู้ได้ไงน่ะ

badboy_be_sadboy   say:
นายเปงครายกานแน่

ตอนนี้นายโต้เริ่มเงียบไปซะแล้ว  แบ๊งค์เริ่มสงสัยครับ  สงสัยแบบมาก ๆ ด้วย  ว่านายโต้เป็นใครกันแน่  ทำไมถึงมารู้เรื่องของแบ๊งค์ได้   แล้วเรื่องนายโต้บอกว่าแบ๊งค์เคยบอกไปน่ะ   แบ๊งค์ว่าไม่ใช่หรอกนะ  เท่าที่แบ๊งค์จำได้   แบ๊งค์ไม่เคยเล่าเรื่องของพี่อาร์ทให้โต้ฟังนะ  แล้วทุก ๆ ครั้งที่แบ๊งค์มีเรื่องไปเล่าให้นายโต้ฟัง   แบ๊งค์ไม่เคยอ้างอิงถึงชื่อใครเลย

badboy_be_sadboy   say:
นี่นาย

badboy_be_sadboy   say:
ยังอยู่รึเปล่า

แบ๊งค์ถามได้แค่นั้น  แล้วนายโต้ก็ offline ไปเลย  สงสัยจริง ๆ นายคนนี้เป็นใครกันแน่นะ  กลัวว่าจะมาแบบพี่โป้งคราวที่แล้วน่ะสิ    แต่ตอนนั้นน่ะ  พี่โป้งเค้าเปิดเผย   แต่นายโต้นี่สิเป็นใครกันแน่   ทำไมรู้เรื่องของแบ๊งค์หมดทุกอย่าง

แบ๊งค์พยายามโทรไปหานายโต้นะ  รอบแรกติด  แต่ไม่มีคนรับสาย  แล้วก็เหมือนว่าตัดสายทิ้ง  จากนั้นก็ปิดเครื่องไปเลย  แบ๊งค์โทรอยู่หลายรอบ ก็ไม่ติด  ลองเปลี่ยนเบอร์ที่ใช้โทรไปก็เหมือน ๆ เดิม  แสดงว่านายโต้คนนี้ต้องไม่ได้ใช้แค่เบอร์เดียวแน่ ๆ แล้วเค้าเป็นใครกันนะ   ขอให้ครั้งนี้เค้ามาดี ๆ อย่ามาทำร้ายอะไรแบ๊งค์อีกเลย


ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
บทที่ 56  วันที่อากาศเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ก็เปิดเทอม ( อีกแล้ว )  แบ๊งค์ก็ยังคงเก็บความสงสัยเรื่องนายโต้ไว้ในใจ  โดยที่ไม่บอกใครเหมือนเดิม  คือกลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตน่ะ  ก็เลยไม่อยากพูดอะไรมาก  แต่ก็จะพยายามระวังตัวเอาไว้ให้มากกว่าเดิม

วันนี้เป็นวันแรกของเทอมที่สองครับ  แบ๊งค์มีเรียนช่วงบ่ายแค่ตัวเดียว  ก็เลยขอตื่นสายหน่อย  ส่วนพี่นุ่นอ่ะ  วันนี้มีเรียนเช้า  ออกไปนานแล้วล่ะ   แบ๊งค์ก็เลยนอนต่อไป  ซักพักก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์ดังขึ้นมาครับ

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“เฮ้ยย...ยังไม่ตื่นอีกหรอวะ”  ไอ้กาวนั่นเอง  โทรมาปลุกเลยหรอเนี่ย

“ตื่นแล้ว  ก็ตื่นมารับสายเมริงนี่ไง”   แบ๊งค์ตอบไป

“ยังจะแถอยู่อีกนะ  ตื่นได้แล้ว”   กาวพูด

“เออ ๆๆ  เดี่ยวกรูส์ก็ตื่นแล้ว  เมริงมีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามกลับไป

“เมริงไปมหาลัยยังวะ  วันนี้”   กาวถามกลับครับ

“ก็กะว่าจะขึ้นรถเมล์ไปเองอ่า”   แบ๊งค์ตอบกลับไปเสียงงัวเงีย

“งั้นเดี๋ยวกรูส์ไปหาเมริงที่คอนโด”

“แล้วเราค่อยออกไปขึ้นรถ ด้วยกันโอเคป่ะ”   กาวเสนอมาครับ

“อืม ๆ เอาดิ”  แบ๊งค์ตอบกลับไปครับ

“ตื่นได้แล้วเว้ย  แค่นี้นะ”   แล้วไอ้กาวมันก็วางสายไป  แบ๊งค์เลยต้องจำใจตื่นขึ้นมา  มองดูนาฬิกา เป็นเวลาเก้าโมงกว่า ๆ แล้ว  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เดินเข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เรียนร้อย  จนจัดแจงแต่งตัวเสร็จ  ก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น

“มาได้จังหวะเลยนะเมริง”  แบ๊งค์เปิดประตูออกแล้วทักมันครับ

“เออดิ  ป่ะไปได้แล้ว”   กาวพูดขณะเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ประตู

“จะไม่หาอะไรแดซก่อนหรอวะ”   แบ๊งค์ถาม

“ไปหากินเอาข้างนอกก็ได้นี่นา  ป่ะไปกันเหอะ”   กาวเรียกครับ

“อะเช ๆๆๆ  ( โอเค )  ไปก็ไป”   ว่าแล้วแบ๊งค์ก็รีบใส่รองเท้า  แล้วปิดล๊อคห้องเดินตามกาวไปครับ   

ตอนนี้เรามารอรถเมล์อยู่ที่หน้าคอนโดครับ  อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวครับ  สงสัยจะมีฝนตกแน่ ๆ เลย  แบ๊งค์มองดูนาฬิกา  ตอนนี้ก็เพิ่ง 10 โมงกว่า ๆ เอง  แต่ทำไมรถติดจังก็ไม่รู้  ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนอะไร

“รถไม่ค่อยมีเลยเนอะแบ๊งค์”   กาวหันมาพูดกับแบ๊งค์ครับ

“อืม...นั่นดิ”   แบ๊งค์ตอบไป  แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกหน้ามืด ๆ จนตัวเซ ๆ ไป

“เฮ้ย ๆๆ เป็นไรไปวะ”   กาวรีบเข้ามาพยุงแบ๊งค์เอาไว้ครับ

“ไม่เป็นไรว่ะ  หน้ามืดนิดหน่อย”

“สงสัยจะไม่ได้กินข้าวเช้า  ฮะฮะฮะ “   แบ๊งค์หัวเราะเบา ๆ เพื่อที่จะให้ไอ้กาวมันสบายใจ

“เดี๋ยวไปถึงมหาลัย  ไปอะไรแดซก่อนเลยดีกว่านะ”   กาวพูด

“อ่ะ......อืม”   แบ๊งค์พยักหน้า

“อ้าวววว  เป็นอะไรไปอีกเนี่ย”   กาวร้องออกมาอย่างตกใจ 

“...................”    แบ๊งค์เลยทำหน้างง ๆ

“เลือดกำเดาไหลด้วยหรอเนี่ย”   ไอ้กาวพูดครับ  แบ๊งค์เลยเอามือแตะ ๆ ดูที่ปลายจมูก  จริง ๆ ด้วย  มีเลือดออกมาจริง ๆ ด้วย  ทำไมแบ๊งค์ไม่รู้ตัวเลยนะ

“มา....เดี๋ยวกรูส์เช็ดให้”   ไอ้กาวล้วงไปเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาทำท่าจะเช็ดให้แบ๊งค์ครับ

“กาว....อย่า   เดี๋ยวผ้านายเปื้อน”    แบ๊งค์ปฏิเสธไป

“อย่าดื้อดิเมริง  ผ้ามันมีไว้เช็ด เปื้อนเลือดเพื่อนกรูส์แค่นี้คงไม่เป็นอะไรหรอก”  แล้วกาวก็ค่อย ๆ เอาผ้าเช็ดเลือดที่ออกมาจากจมูกแบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยืนจ้องมัน  ไอ้กาวเนี่ย  เป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ เลย ระหว่างที่กำลังมองมันไปเพลิน ๆ อยู่ดี ๆ มันก็พูดขึ้น  ทำให้แบ๊งค์ตื่นจากภวังค์

“ไปหาหมอดีมั้ยวะแบ๊งค์   กรูส์ว่าอาการมันแปลก ๆ”   กาวพูด

“จะแปลกอะไรล่ะ  ที่หน้ามือก็เพราะไม่ได้กินข้าว”

“ที่เลือดกำไหล ก็เพราะอากาศมันร้อนน่ะ  อย่ากลัวไปเลย  แบ๊งค์เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนอยู่เชียงใหม่แล้ว”   แบ๊งค์พูดไป

“หรอ....ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน  กรูส์เป็นห่วงนะเว้ย”   กาวพูด

“อืม...ขอบใจนายนะ”   ระหว่างที่กำลังพูดกันไป  รถเมล์ก็มาพอดี  เราสองคนเลยรีบขึ้นไป  วันนี้รถติดมากน่ะครับ  แต่คนก็ไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่  รถค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดก็มาถึงมหาวิทยาลัย  เป็นเวลา 11 โมงครึ่งพอดี  โชคดีนะเนี่ย  ที่คอนโดกับมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ห่างกันซักเท่าไหร่

เราสองคนก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยกันครับ  ก็กะว่าจะไปโรงอาหารก่อนน่ะ  เพราะอยากไปหาอะไรทาน  เดี๋ยวจะเป็นลมไปอีก  ระหว่างที่เดินไป  อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวมากครับ  และท้องฟ้าก็มืดมาก ๆ ในไม่ช้า ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาครับ

“เฮ้ยยยยฝนตก”   แบ๊งค์ร้องขึ้น  ตอนที่ฝนเริ่มโรยลงมา

“ทำไงดีวะ  ร่มก็ไม่มี”   กาวพูดขึ้นครับ

“กรูส์ว่าเรารีบวิ่งไปดีกว่านะ  เอากระเป๋าบัง ๆ ไปก่อน”

“หนังสือคงไม่เปียกหรอก”   แบ๊งค์เสนอครับ

“อืม...เอางั้นก็ได้”    กาวเห็นด้วยครับ  เราทั้งสองคนก็เลยเอากระเป๋าขึ้นป้องหัว   แล้วรีบวิ่งไปโรงอาหาร  ระหว่างที่วิ่งไป  แบ๊งค์รู้สึกเหมือนกาว  เอามือโอบเอวแบ๊งค์ไว้อยู่   มันคงกลัวแบ๊งค์วิ่งไม่ทันหรอกมั้ง  ช่างเหอะ  ตอนนี้รีบวิ่งให้ถึงโรงอาหารก่อนดีกว่า

ในที่สุดเราก็มาถึงเรงอาหารจนได้ครับ  เหนื่อยเหมือนกัน  ก็มีนักศึกษาอยู่หลายคนนะ  ที่วิ่งลุยฝนมาเหมือนเราสองคน  พอเราถึงโรงอาหาร  ฝนก็เทลงมาอย่างหนักเลยครับ  ดีนะเนี่ยทิ่วิ่งมา  ถึงจะกระนั้น  สายฝนปรอย ๆ เพียงเมื่อครู่ที่ผ่านมา ก็ทำให้เสื้อผ้าบางส่วนของแบ๊งค์และกาว  เปียกไปเหมือนกัน

เราแยกย้ายกันไปซื้ออาหารทานกันครับ  เมื่อแบ๊งค์กลับมาที่โต๊ะ ก็เจอแมคกับปรินซ์นั่งอยู่กับกาวแล้ว

“ไง  กินอะไรไปละยังล่ะ”   แบ๊งค์ทักแมคกับปรินซ์ครับ

“ก็กินขนมกันไปแล้วล่ะ”   แมคตอบครับ

“ว่าแต่  ไปทำไงกันมาเนี่ย ถึงได้เปียกกันขนาดนี้”    แมคถามครับ

“ก็ฝนน่ะดิ  อยู่ ๆ ก็ตกมาจนได้”   กาวตอบแทนครับ

“นั่นสิ  อยู่ดี ๆ ก็ตกลงมาเฉยเลย มิน่าล่ะ  ตอนเช้าดูร้อนอบอ้าว”    แบ๊งค์พูด

“ไงก็รักษาสุขภาพกันหน่อยนะ”   ปรินซ์พูดครับ

“ขอบคุณนะ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“แล้วพวกพี่ ๆ เค้าหายกันไปไหนหมดอ่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“พี่ตั้มไม่มีเรียนน่ะวันนี้”   แมคตอบ

“ส่วนพี่อาร์ท  รู้สึกว่าจะไม่ได้ลงเรียนวิชาในวันนี้นะ”   กาวตอบอีกคน

“อืม....”  แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ

“พี่กาว  วันนี้ต้องซ้อมเลยป่าว”  ปรินซ์ถามขึ้น  คงถามเกี่ยวกับเรื่องซ้อมบาสของชมรมในตอนเย็น ๆ น่ะ

“ไม่หรอก  วันนี้ยัง  คงเริ่มประมาณวันมะรืนน่ะ”   กาวตอบ พอเราทานข้าวเที่ยงเสร็จ  ก็แยกย้ายกันไปครับ  เจ้าปรินซ์น่ะ  ไม่มีเรียนแล้ว  เลยขอตัวกลับบ้าน  ส่วนแบ๊งค์ แมค  กาว ก็ไปรอเข้าคลาสกัน  ถึงตอนนี้ฝนก็ยังไม่หนุดตกเลย

ระหว่างที่รอ  แบ๊งค์ไม่มีอะไรทำ  ก็เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่อาร์ท

“สวัสดีครับ”   เสียงจากปลายสายตอบมา

“พี่อาร์ทหรอ  บายดีป่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“ทำอย่างกับคนไม่ได้เจอกันไปได้นะแบ๊งค์”   พี่อาร์ทแซวกลับมา

“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา”   แบ๊งค์ตอบ

“แล้วนี่อยู่ไหนกันล่ะ”   พี่อาร์ทถาม

“ก็รอเข้าคลาสอ่ะ  อาจารย์ยังไม่มาเลย”   แบ๊งค์ตอบไป

“ที่นั่นฝนตกป่าว”   พี่อาร์ทถามอีก

“ตกดิ  เนี่ยเกือบได้ตากฝนมาเรียนแล้วนะเนี่ย”  แบ๊งค์พูด

“รักษาสุขภาพหน่อยนะครับ  เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”  พี่อาร์ทเตือนมาครับ   ระหว่างที่กำลังคุยกัน  อาจารย์ก็มาพอดี  แบ๊งค์เลยต้องบอกลาแล้ววางสายพี่อาร์ทไป

ระหว่างที่เรียนไป  แบ๊งค์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลก ๆ สงสัยจะเป็นหวัดน่ะ  เรียนไปก็ไม่มีอะไรมากอ่า  อาจารย์มาพูดถึงเนื้อหาในเทอมนี้ซะเป็นส่วนใหญ่

“แบ๊งค์  ตัวนั้นอ่านว่าอะไรวะ”  กาวซึ่งนั่งข้าง ๆ หันมาถาม  เมื่ออ่านลายมือหวัด ๆ ของอาจารย์บนจอสไลด์ไม่ออก

“นี่ไง  ดูที่สมุดกรูส์ก็ได้”   แบ๊งค์เลื่อนสมุดไปให้มันดู

“อืม ๆ”   กาวตอบสั้น   แล้วก็จดต่อไป  เราเรียนกันต่อไป  ในที่สุดก็เลิกซะที  ช่างเป็นวิชาที่ดูยาวนานซะเหลือเกิน

“แบ๊งค์เดี๋ยวเรากลับก่อนนะ”  แมคบอกลา

“อืม..บาย”    แบ๊งค์เลยตอบกลับไป

“เฮ้ย!!!!แบ๊งค์เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ”

“หน้าตาดูไม่ดีเลยว่ะ”   แมคร้องทักขึ้น  ทำให้กาวก็หันมามองเหมือนกัน

“นั่นดิ  เมื่อกี้ดูดี ๆ อยู่เลย”

“ทำไมหน้าดูซีด ๆ แบบนั้นวะ”   กาวพูดบ้าง

“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”   แบ๊งค์ตอบปฏิเสธไป

“ไหนดูซิ”   แล้วไอ้กาวก็ไม่พูดเปล่า  เอามือมาแตะที่หน้าผากของแบ๊งค์

“ตัวร้อนมากเลยนะเว้ย  เป็นไข้รึเปล่าวะ”   กาวถาม

“นั่นสิ  แบ๊งค์ไปหาหมอ  ก่อนมั้ย”   แมคถาม

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปหายากินซะ”

“แปปเดียว  เดี๋ยวก็หายน่า”   แบ๊งค์ตอบไป

“แบ๊งค์อย่าดื้อน่ะ  ไปหาหมอดีกว่า”

“เราว่าคงเป็นเพราะเดินตากฝนนั่นแหละ”   กาวพูด

“ไปนะ   เดี๋ยวเราไปส่ง”   แมคขันอาสา

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเราก็ไปหาพี่นุ่นแล้ว”

“ให้พี่นุ่นพาไปก็ได้  แมครีบกลับไปเหอะ  เราไม่เป็นไรหรอกน่า”   แบ๊งค์ตอบอกไปพร้อมกับส่องรอยยิ้มไปให้แมค

“อืม....เอางั้นแน่นะ”   แมคถามอีกครั้ง แบ๊งค์เลยพยักหน้าแทนคำตอบออกไป

“ไอ้กาว   กรูส์ฝากด้วยนะเว้ย”   แล้วแมคก็ออกไป

“ป่ะแบ๊งค์   ไปหาพี่นุ่นกัน  จะได้รีบไปหาหมอ”   กาวพูด  แล้วแบ๊งค์กับกาวก็เดินไปหาพี่นุ่นที่หน้าตึก  แบ๊งค์นั่งรออยู่ที่หน้าตึกเรียนของพี่นุ่น  สงสัยพี่นุ่นคงจะต้องเลิกช้าแน่ ๆ เลย  นั่งไปได้พักใหญ่ ๆ ก็มีโทรศัพท์มา  พี่นุ่นนั่นเอง

“แบ๊งค์หรอ  อยู่ไหนเนี่ย”   พี่นุ่นถามทันทีเมื่อแบ๊งค์รับสาย

“ก็อยู่หน้าตึกของพี่นุ่นนั่นแหละ”   แบ๊งค์ตอบไป

“หรอ...แบ๊งค์    แบ๊งค์กลับก่อนได้มั้ย”   พี่นุ่นถามกลับมา

“อืมได้สิ  ไม่เป็นไรหรอก”   แบ๊งค์พูด

“พอดีพี่ยุ่ง ๆ น่ะ”

“อะไรก็ไม่รู้  เปิดมาวันแรก มันก็ให้ทำแลปเลย  เล่นเอางงกันไปหมด”  พี่นุ่นอธิบาย

“อืม ๆ งั้นแบ๊งค์กลับก่อนนะ”   แบ๊งค์ลาพี่นุ่น

“เจอกันที่คอนโดนะ”   พี่นุ่นพูด  แล้วก็วางสายไป  พอแบ๊งค์วางสาย  ก็เห็นสายตาไอ้กาวที่นั่งรอเป็นเพื่อนมองมา

“กลับเองใช่มั้ยล่ะ”   กาวถาม

“อืม....”  แบ๊งค์ตอบไปเสียงแผ่วเบา

“เราว่าไปหาหมอก่อนดีกว่านะ  ไปตรวจร่างกายเลยดีกว่า”   กาวแนะ

“ไม่เอาหรอกกาว  เดี๋ยวกินยาเข้าไปก็หายแล้ว”   แบ๊งค์ยังคงปฏิเสธ

“ดื้อจริง ๆ เลยว่ะ  เพื่อนกรูส์คนนี้ ไปหน่อยเหอะ  อย่าทำให้กรูส์เป็นห่วงมากกว่านี้เลย”   กาวตะคอกออกมาครับ  มันทำให้แบ๊งค์กลัวเหมือนกันนะ  แต่พอลองนึก ๆ ดูอีกทีแล้ว  เสียงที่ตะคอกออกมาน่ะ  มันดูเต็มไปด้วยความห่วงใย  แบ๊งค์ก็เลยคิดว่า ไม่ปฏิเสธจะดีกว่า

“อืม.....ไปก็ได้”   แบ๊งค์ตอบออกไป

“ป่ะ  งั้นไปได้แล้ว ทิ้งไว้นาน ๆ เดี๋ยวอาการไม่ดี”   กาวพูด  พร้อมกับจูงมือแบ๊งค์ออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่หน้ามหาวิทยาลัย   ตอนแรกแบ๊งค์บอกให้ขึ้นรถเมล์ไปจะได้ไม่เปลืองเงิน  แต่กาวมันไม่ยอม  มันบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงเลิกงาน  รถเต็ม  แล้วถ้าแบ๊งค์ยังฝืนขึ้นไปอีก  เดี๋ยวจะเป็นหนักกว่าเก่า  แบ๊งค์เลยต้องยอมทำตามมันไป

ไม่นานนักเราก็มาถึงโรงพยาบาล   กาวแยกไปทำประวัติคนป่วยให้แบ๊งค์  ส่วนแบ๊งค์ก็ไปนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ   แล้วก็มีพยาบาลมารับตัวแบ๊งค์ไปชั่งน้ำหนัง  แล้วพาไปตรวจร่างกาย  คือ  ไอ้กาวเห็นว่าแบ๊งค์ค่อนข้างดูอ่อนแอน่ะครับ  ก็เลยให้มาตรวจสุขภาพยกใหญ่เลย

แบ๊งค์ใช้เวลาตรวจสุขภาพค่อนข้างนานครับ   จนที่สุดแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องจากห้องตรวจ

“แบ๊งค์เป็นไงบ้าง  หมอบอกว่าเป็นอะไรมั้ย”   กาวเข้ามาถามครับ

“อะ..เอ่อ   ไม่เป็นอะไรมากหรอก  เป็นแค่หวัดเล็กน้อยน่ะ”

“คงเพราะตากฝนตอนกลางวันน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“หรอ....เราขอโทษนะ  เป็นเพราะเราแท้ ๆ”   กาวพูดดูเศร้า ๆ

“เฮ้ย!! อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ไม่ใช่เพราะกาวหรอก”

“ป่ะ  กลับกันเหอะ”    แบ๊งคพูด

“อ้าววว  แล้วยาล่ะ  หมอไม่ได้ให้ยาหรอ”   กาวถาม

“อ...อืม.....ไม่ได้ให้น่ะ”

“แบ๊งค์ลองถามดูว่ายาที่คอนโดแบ๊งค์ใช้ได้ป่าว  หมอเค้าก็บอกได้  แบ๊งค์เลยไม่ได้ขอยาไว้น่ะ”   แบ๊งค์ตอบกาวออกไป

“อ่อ....งั้นกลับกันเลยนะ”   กาวพูด

“อืม....กลับได้แล้ว  แบ๊งค์อยากนอนแล้ว”   แบ๊งค์พูดพร้อมกับดันกาวให้เดินออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ
“แต่ก่อนนอน ต้องกินยารู้มั้ย”   ป่ะรีบไปกันเหอะ  แล้วแบ๊งค์ก็จูงมือกาว  ไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าโรงพยาบาล 

“ดูเหมือนจะมีพยาบาลวิ่งตามนะแบ๊งค์”   กาวพูด

“เฮ้ย!!!บ้าหรอ  ไหนดูซิ”   แบ๊งค์เลยหันไปมอง   แล้วพยาบาลคนนั้นก็ไปพูดคุยอะไรซักอย่างกับบุรุษพยาบาล  ที่นั่งอยู่หน้าโรงพยาบาลนั่นเอง

“เค้ามาคุยกับเพื่อนเค้าหรอก คิดมากน่า”   แบ๊งค์พูด

“เออ   จริง ๆ ด้วย  คงเป็นเรื่องด่วนอ่านะ  เห็นรีบวิ่งมา”   กาวพูด

“อืม  คงงั้นแหละ”   แบ๊งค์ตอบไป

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
บทที่ 57 ฝัน

หลังจากกลับจากโรงพยาบาล  แบ๊งค์กับกาวก็ไปหาอะไรกินกันแถว ๆ คอนโด  จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปครับ  แน่นอนครับ  แบ๊งค์ไม่ลืมที่จะทานยาก่อนเข้านอน  ไม่อย่างนั้นวันพรุ่งนี้ไม่มีแรงที่จะลุกไปเรียนแน่ ๆ  พอทานยาไปได้ซักพัก คงเพราะฤทธิ์ยามั้งครับ  แบ๊งค์ก็เลยหลับไป

แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึเหมือนมีแสงแดดสาดเข้ามาในห้อง  แบ๊งค์เลยตื่นขึ้น   นี่มันเช้าแล้วหรอเนี่ย   หลับไปนานเลย  ดีนะที่ตื่นทัน  แบ๊งค์มองนาฬิกา  เป็นเวลาเกือบ ๆ จะเจ็ดโมงแล้วครับ  แบ๊งค์เลยลุกไปอาบน้ำแต่งตัว   

พอออกมานอกห้องกะว่าจะไปเรียกพี่นุ่น  ปรากฏว่า  พอเปิดประตูออกมา  มันกลายเป็นอีกมิติหนึ่ง  มีแต่ความมืดมิด   แบ๊งค์มองไม่เห็นอะไรเลย  พอจะหันหลังกลับเข้าห้องไป   ประตูที่เปิดออกมาก็กลับหายไป    ตอนนี้แบ๊งค์ไม่รู้จะไปทางไหนดี

“มีใครอยู่มั้ย”   แบ๊งค์ลองถามออกไป  แต่ก้ไม่มีเสียงตอบกลับ   แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เดินไปอย่างไร้ทิศทาง  และไร้จุดหมาย

“ใครก็ได้    ใครก็ได้ช่วยแบ๊งค์ที”

“แบ๊งค์กลัวนะ   ใครก็ได้.....”    แบ๊งค์เริ่มกลัวมาก  ตอนนี้แบ๊งค์หยุดเดินแล้ว  และทรุดตัวลงนั่งร้องไห้   โดยที่ร้องไห้ไปพร้อมกับ  ร้องขอความช่วยเหลือ  แต่ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา  ยังคงมีความเงียบ  และความมืดมิด

“แบ๊งค์.....มานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย”   มีเสียง ๆ หนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นครับ   แบ๊งค์เลยลืมตาไปมอง  เป็นพี่โป้งนั่นเอง   แล้วพอมองไปรอบ ๆ ตัว  มันกลับกลายเป็นว่า   ตอนนี้แบ๊งค์อยู่ที่มหาวิทยาลัย   แล้วก็มีสายตาคนอื่นมองมาเต็มไปหมด

“....................”    แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ยังคงงงอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ตอบพี่ได้ละยังครับ  ว่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ ก็นึกว่าเด็กที่ไหนมานั่งร้องไห้”    พี่โป้งค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ แบ๊งค์    โดยที่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร  แบ๊งค์ก็โผเข้ากอดพี่โป้งในทันที

“พี่โป้ง.....พี่โป้งอย่าทิ้งแบ๊งค์ไปนะ”   แบ๊งค์พูดไปพร้อมกับร้องไห้

“ครับ ๆๆๆ พี่ไม่ทิ้งแบ๊งค์หรอก  เลิกร้องไห้ได้แล้วนะ”    พี่โป้งกอดรัดแบ๊งค์ตอบครับ   นี่ไม่ใช่ฝันแน่ ๆ แบ๊งค์ได้รับไออุ่นจากตัวพี่โป้ง  และรู้สึกว่าพี่โป้งกอดแบ๊งค์จริง ๆ

“แล้วคนอื่น ๆ เค้าหายไปไหนกันหรอครับ”   แบ๊งค์ผละออก  แล้วถามพี่โป้ง

“ไม่รู้สิ  พี่ยังไม่เจอพวกเค้าเหมือนกัน”   พี่โป้งตอบ

“งั้นเราไปหาพวกเค้ากันนะครับ”    แบ๊งค์รีบเช็ดน้ำตา  แล้วเดินจูงมือพี่โป้งไป  เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน   นี่ไม่ใช่ฝันจริง ๆ แบ๊งค์รู้สึกดีมาก  ที่ได้อยู่กับพี่โป้งอีกครั้ง  การจากไปครั้งก่อนของพี่โป้ง มันเป็นแค่ฝันร้าย  ตอนนี้แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาแล้ว

“นั่นไง  พวกเพื่อน ๆ แบ๊งค์อยู่นั่นไง”   พี่โป้งบอกครับ  แบ๊งค์เลยหันไปมอง  ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน  มีทั้ง พี่อาร์ท พี่ตั้ม  พี่ตี๋ พี่ปอย แมค  กาว และปรินซ์

“เข้าไปหาเค้ากันดีกว่านะพี่โป้ง”    แบ๊งค์จุงมือพี่โป้งไป  แต่พี่โป้งหยุด  ไม่ยอมเดินตามแบ๊งค์

“ทำไมล่ะ  ไม่เข้าไปหาพี่อาร์ทหรอ”   แบ๊งค์ถาม

“แบ๊งค์.......มีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียวนะ”

“ทุก ๆ คนรักและเป็นห่วงแบ๊งค์เสมอ”   พี่โป้งพูดครับ

“หมายความว่ายังไงน่ะพี่โป้ง   แบ๊งค์งงนะ”   แบ๊งค์พูดไปตามความคิดครับ  พี่โป้งหมายถึงอะไรกันแน่

“แบ๊งค์อย่าทำอย่างนี้เลย  มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก”

“เลิกทำนิสัยที่ชอบเก็บอะไรไว้คนเดียวได้แล้วนะ”   พี่โป้งพูด

“........................”   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร

“พี่มาเพื่อจะบอกแค่นี้ล่ะ  ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของพี่แล้ว”

“พี่ไปก่อนนะ”   พี่โป้งลาครับ  และปล่อยมือแบ๊งค์ออก

“พี่โป้งจะไปไหนน่ะ  เดี๋ยวก่อน”   แล้วก็เหมือนว่า  พี่โป้งจะค่อย ๆ ลอยหายไปในอากาศ

“ไม่นะพี่โป้ง  รอแบ๊งค์ก่อน  พี่โป้ง !!!!!!!!!!!”    แบ๊งค์เรียกได้แค่นั้น  แล้วแบ๊งค์ก็สดุ้งตื่นขึ้นมา   นี่เป็นแค่ความฝันหรอกหรอ   ทำไมนะ  แม้กระทั่งความฝัน  พี่โป้งยังทิ้งแบ๊งค์ไป  แบ๊งค์เริ่มน้อยใจ  จนร้องไห้ออกมา   พอมองนาฬิกา  ก็เป็นเวลาเกือบ ๆ จะ 6 โมงเช้าแล้ว  แบ๊งค์เลยไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย

แบ๊งค์ยืนอยู่หน้ากระจก ทบทวนเหตุการณ์ในความฝัน   รวมถึงคำพูดของพี่โป้ง ‘มีอะไร  อย่าเก็บไว้คนเดียว’ ‘ ทุกคนเป็นห่วงเสมอ’ ‘เลิกทำนิสัยแบบนี้ได้แล้วนะ’ คำทุกคำดังอยู่ในหัวสมองของแบ๊งค์   พี่โป้งจะไปรู้อะไรล่ะ  แค่ทุกวันนี้แบ๊งค์ก็ทำให้ทุกคนห่วงมามากพอแล้ว    เพราะฉะนั้นแบ๊งค์จะไม่ทำตัวให้ใครต้องห่วงอีก

แบ๊งค์มองตัวเองที่ในกระจก  แล้วมองไปที่ตุ๊กตาโอชาเคน  ที่เป็นเสมือนตัวแทนของพี่โป้ง  อยู่ดี ๆ ก็เหมือนว่าน้ำตาของแบ๊งค์จะไหลออกมาอีกแล้ว  แบ๊งค์เลยรีบออกจากห้องไป  ตอนนี้พี่นุ่นคงจะยังไม่ตื่น  แบ๊งค์เลยเขียนโน้ต แปะไว้ที่ตู้เย็น  ว่าแบ๊งค์ขอออกไปมหาวิทยาลัยก่อน  เดี๋ยวตอนเย็น ๆ จะโทรหาอีกที

แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินลงมาที่ป้ายรถเมลล์  ถึงจะเช้าขนาดนี้  รถบางคันคนก็เยอะอยู่เหมือนกัน   โชคดีที่รถคันที่ผ่านมหาวิทยาลัยแบ๊งค์คนไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่   แบ๊งค์นั่งเหม่อไปเรื่อย ๆ มองดูสองข้างทาง  จนนั่งเลยไปหนึ่งป้าย   เฮ้อ~~~นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย  เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก  แบ๊งค์ได้แต่พูดกับตัวเอง 

แบ๊งค์ตัดสินใจค่อย ๆ เดินย้อนป้ายกลับมาทางมหาวิทยาลัย  อาจจะเหนื่อยหน่อย  แต่มันก็คงทำให้แบ๊งค์ได้คิดอะไรไปเพลิน ๆ เหมือนกัน   แบ๊งค์เดินจนมาถึงเซเว่น  ก็เลยแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องซะหน่อย  เมื่ออิ่มแล้วแบ๊งค์ก็เดินต่อไปจนถึงมหาวิทยาลัย  โดยแบ๊งค์เข้าไปนั่งที่เดิม

“มาแต่เช้าเลยหรอวะ  ไอ้เด็กดื้อ”   พี่ตั้มทักขึ้น

“.....................”   แบ๊งค์ไม่ได้ตอบอะไร  ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยิน

“ไอ้แบ๊งค์!!!!!!!”    พี่ตั้มตะโกนที่ข้าง ๆ หูครับ  มันเลยทำให้แบ๊งค์สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากอาการเหม่อ

“อ่ะ.......อะไรหรอ”    แบ๊งค์ถามไปเสียงเรียบ ๆ

“เป็นอะไรไปรึเปล่าวะ  ท่าทางซึม ๆ”   พี่ตั้มถาม

“ไม่หรอก คิดอะไรเพลิน ๆ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ได้ข่าวว่าเป็นหวัดนี่นาเมื่อวานน่ะ”

“ไหนดูหน่อยซิ  หายละยัง”   แล้วพี่ตั้มก็เอามือมาแตะ ๆ ที่หน้าผากของแบ๊งค์ครับ

“.........................”  แบ๊งค์นั่งนิ่ง ๆ เหมือนเดิม

“ตัวก็ไม่ร้อนแล้วนี่นา  เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ”   พี่ตั้มถาม

“ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ “   แบ๊งค์ย้ำออกไป

“ไหน ๆ ก็ยังไม่มีใครมา  ไปหาอะไรกินกันป่ะ”   พี่ตั้มชวนครับ

“แต่แบ๊งค์กินมาแล้วนะ”   แบ๊งค์พูด

“ไปเหอะน่า  จะนั่งอยู่คนเดียวหรือไง”   พี่ตั้มพูด  แบ๊งค์ก็เลยต้องจำใจไปกัยพี่ตั้มครับ   พี่ตั้มพาแบ๊งค์ไปทานโจ๊กข้างมหาวิทยาลัย  ซึ่งคงเป็นเจ้าประจำของพี่ตั้มเค้าล่ะ  เห็นคุยกันถูกอกถูกคอกับเจ้าของร้านใหญ่เลย

“แบ๊งค์เอาอะไรล่ะ  เดี๋ยวพี่เลี้ยง”  พี่ตั้มถาม

“แบ๊งค์เอา โจ๊ก ไม่หมู  ไม่ผักครับ”   แบ๊งค์สั่งไป

“เฮ้ย!!!!บ้าหรอ  กินแต่โจ๊กเปล่า ๆ เนี่ยนะ”   พี่ตั้มถามกลับครับ

“ก็กินกับปาท่องโก๋ไง”   แบ๊งค์ตอบไป

“กินแปลกว่ะ  ไม่ใส่ไข่ซะหน่อยหรอ”  พี่ตั้งยังคงถามย้ำอีกทีครับ

“ไม่เอาหรอก  แบ๊งค์กินแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”   แบ๊งค์ตอบไปอีกครั้ง

“เออ ๆๆ ก็ได้ ๆๆ ตามใจนะเว้ย”  พี่ตั้มพูด  แล้วหันไปสั่งโจ๊กกับเจ้าของร้านครับ

“โจ๊กไม่หมูไม่ผักหนึ่ง  แล้วก็พิเศษใส่ไข่หนึ่งครับ  เอาปาท่องโก๋ด้วยนะครับ”   พี่ตั้มตะโกนสั่งไป   แล้วไม่นานของที่เราสั่งก็มาถึงโต๊ะ  แบ๊งค์ก็ตั้งหน้าตั้งตาทานไปเรื่อย ๆ

“เป็นอะไรไปวะ  เห็นซึม ๆ แบบนี้กรูส์ไม่ค่อยสบายใจนะเว้ย”   พี่ตั้มพูด

“ไม่เป็นไรจริง ๆ พี่ตั้มไม่ต้องห่วงหรอก  คงเพราะตื่นเช้ามั้ง”   แบ๊งค์ตอบพร้อมกับยิ้มแหย ๆ ไปให้พี่ตั้ม

“อ่ะนะ  ดูยิ้มเข้าสิ”   พี่ตั้มเอื้อมมือมาลูบแก้มแบ๊งค์ครับ  มือพี่ตั้มอบอุ่นจัง   พี่ตั้มลูบแก้มแบ๊งค์แล้วหัวเราะเบา ๆ ครับ  จากนั้นเราสองคนก็ทานกันต่อ  จนเสร็จเรียบร้อยครับ

“เป็นไงอร่อยมั้ยโจ๊กเปล่า ๆ น่ะ”   พี่ตั้มแซว

“อืมอร่อยดิ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“เดี๋ยว ๆๆ อยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะ”  พี่ตั้มพูดครับ   แบ๊งค์ก็เลยนั่งอยู่นิ่ง ๆ พี่ตั้มก็เอื้อมไปเอากระดาษทิชชู่  แล้วโน้มตัวมาเช็ด แถว ๆ มุมปากเยื้อง ๆ ไปทางแก้มของแบ๊งค์ ตอนนี้หน้าของเราสองคนใกล้กันมาก  จนจะเรียกว่าหายใจรดกันก็ได้

แบ๊งค์แอบจ้องมองดูแววตาของพี่ตั้ม  ดูเหมือนพี่ชายที่เป็นห่วงน้องชายตัวเล็ก ๆ เลย  ตัวพี่ตั้มหอมจัง  ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นของน้ำหอมยี่ห้อไหนนะ  แต่หอมได้ใจจริง ๆ

“อ่ะ  เสร็จแล้ว “

“กินยังไงวะ  ไปเลอะเอาที่แก้มจนได้”   พี่ตั้มพูด  แบ๊งค์เลยตื่นจากภวังค์

“ใครจะไปรู้ล่ะ  คงเพราะอร่อยมั้ง”  แบ๊งค์แกล้งตอบกลับไป

“ทีหลังก็มากินอีกสิ  ถ้าอร่อยนะ”  พี่ตั้มพูด

“อืม......พี่ตั้มพาแบ๊งค์มาอีกก็แล้วกันนะ”   แบ๊งค์พูดไป 

“...............อืม..”   พี่ตั้มนิ่งไปซักพักก่อนจะตอบออกมา  แววตาดูเป็นประกาย  น่ารักดีจัง
“ไปจ่ายเงินกันได้แล้ว  เดี๋ยวเพื่อน ๆ คงมากันแล้วล่ะ”   แบ๊งค์พูด  พี่ตั้มก็เลยออกไปจ่ายเงินค่าโจ๊กให้   แล้วเราสองคนก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยกัน

“พี่ตั้มนี่หาของอร่อย ๆ เก่งจังนะ”

“แบ๊งค์ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่ามีของอร่อย ๆ แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ”   แบ๊งค์พูด

“ก็ไม่รู้สิ  พี่ชอบเดินเล่นไปเรื่อย ๆ น่ะ  ก็เลยมาเจอ”  พี่ตั้มพูด 

“อ่ะนั่น  ลูกหมาเกิดใหม่แน่ ๆ เลย”  แบ๊งค์ทำท่าจะวิ่งเข้าไปเล่นครับ  แต่โดนพี่ตั้มดึงมือแบ๊งค์เอาไว้

“อย่าเข้าไปแบ๊งค์  แม่มันคงหวง”

“เดี๋ยวโดนกัดเอา”    พี่ตั้มพูดอธิบายครับ

“อืม.....ก็ได้”   แล้วแบ๊งค์ก็เดินกับพี่ตั้มไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เริ่มมีคนมามหาวิทยาลัยกันบ้างแล้ว  แต่มีนักศึกษาบางคนมองมาที่แบ๊งค์กับพี่ตั้มแบบแปลก ๆ เอ...เค้ามองอะไรกัน  แบ๊งค์เลยหันมามองดูตัวเอง (o_O)แว๊กกกกกก   แบ๊งค์จับมือกับพี่ตั้มอยู่

แบ๊งค์ก็เลยรีบชักมือออก  พี่ตั้มก็เลยหันมาเหมือนว่าพี่เค้าจะตกใจน่ะ

“เป็นอะไรหรอ”   พี่ตั้มถามอย่างตกใจ

“ก็พี่ตั้มน่ะดิ  จับมือแบ๊งค์อยู่ได้  คนอื่นเค้ามองกันหมดแล้ว”   แบ๊งค์ตอบไปแบบอาย ๆ

“อ่ะ...เอ่อ   จริง ๆ ด้วยพี่ขอโทษ”   พี่เค้าก็เหมือนจะตกใจเหมือนกัน  พอแบ๊งค์แอบมองหน้าพี่ตั้มอีกที  ก็เหมือนพี่ตั้มจะอาย ๆ หน้าดูแดง ๆ

แล้วเราก็มาถึงที่โต๊ะกันครับ  ซึ่งมีกาวกับปรินซ์มานั่งรออยู่แล้ว

“แอบหนีไปไหนกันมาน่ะ”   ปรินซ์โวยขึ้นครับ

“ก็แค่ไปหาอะไรกินกันน่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ไปไม่ชวนกันเลยอ่ะ  งอนแล้ว”   ปรินซ์ทำท่างอน ๆ ครับ

“ไม่ต้องมาโวยวายเลยเดี๋ยวปั๊ด....”    พี่ตั้มโวยคืนบ้างครับ  คราวนี้ปรินซ์เงียบไปเลย

“เป็นไงบ้างแบ๊งค์รู้สึกดีขึ้นละยัง”   กาวถามถึงอาการหวัดจากเมื่อวานครับ

“ไม่เป็นไรแล้ว  เราดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป
“แล้วไอ้แมคล่ะ”   พี่ตั้มถาม

“เดี๋ยวก็คงมาน่ะครับ”  กาวตอบไป   แล้วเราก็นั่งคุยกันเหมือนปกติ  ไม่นานแมคก็มา  ตามด้วยพี่อาร์ท  ทุกคนถามแบ๊งค์เป็นเรื่องเดียวกันเลย  เรื่องอาการหวัดเมื่อวานนั่นแหละ  แบ๊งค์ก็ได้แต่ตอบไปว่าไม่เป็นอะไร ทุกคนดูเป็นห่วงแบ๊งค์จัง  เลิกห่วงกันได้แล้วนะ  ต่อไปนี้  แบ๊งค์จะไม่ทำให้ทุกคนต้องมาเป็นกังวล  หรือต้องมาห่วงแบ๊งค์อีกต่อไปแล้ว

**********************************
ไม่รู้จะได้เจอกันอีกครั้งเมื่อไหร่นะคับ คิดถึงเพื่อน ๆพี่ๆ ในบอร์ดทุกคนเลยอ่ะ
ไว้มีโอกาสเข้ามาอีกคับ ...แอบให้กินยานอนหลับไปเม็ดนึงคับ อยากให้พี่เค้าพักผ่อนเยอะ ๆ :haun5:
เดี๋ยวรีบไป Print เรื่องอื่นนี้กะเรื่องอื่น ไปนอนอ่านดีก่า ฮิฮิ
 :bye2: คับ



Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากนะครับจา คราวนี้เอามาลงให้จุใจเลยทีเดียว

 o14 o15

=====================================
ที่น้องจาแอบบ่นในตอนแรกเนี่ย บ่นด้วยความรักหรือเปล่าคับ
อ่านไปอ่านมาชักไม่แน่ใจและ อาจเป็นคู่กันอย่างกับคุณรอยกับพี่สามก็ได้นะ แอบลุ้นอยู่นะคับ 
:m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อิอิ และแล้วนายโตก็ฟามลับแตก
 :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เอาใจช่วยน้องpajaa นะ  :m1:


ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :teach:

เอาใจช่วยคุณจาเช่นเดียวกันครับ

ผ่านมันไปให้ได้นะ

ยังไงก็รออ่านต่อไปครับ

 :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เอาใจช่วยนะครับ

น้องจาอย่าวู่วามนะครับ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ

ปัญหาทุกอย่างมีทางออกครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้จุใจเลย  ขอบคุณค้าบบ  :m4:


ส่วนน้องจา  พี่ก็ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีทุกฝ่ายนะคับ... เอาใจช่วยครับ  :teach:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เอาใจช่วยนะ  ขอให้มั่นคงกับความรู้สึกตัวเองนะ ให้เวลาพิสูจน์ความจริงนะ

ขอบคุณมากที่ลงเรื่องให้อ่านต่อ  พี่ตามเรื่องนี้มาตลอด เป็นกำลังใจให้นะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
แบงค์มีความลับอะไรเนี่ย คงไม่เศร้านะ  :m15:  :m15:  :m15:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
หรือว่าแบ๊งค์จะป่วยเป็นอะไรสักอย่าง แต่ไม่ยอมบอกใคร
 :sad3: :sad3:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
กลัวว่าแบงค์จะเป็นอะไรไปอีกคนจังง่ะ   อย่าเลยนะ    :m5: :m5: :m5:

ม่ะอยากให้พี่อาร์ทช้ำไปกว่านี้แระ   :m15:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
หวัดดีคับ หนีกลับมาแล้วคับ เบื่อๆ
เค้า.....เหลือแขนกับขาอย่างละข้าง(ใส่เฝือก)ยังฤทธิ์มากยิ่งกะเด็ก ๆ
เรียกอยู่ได้ ทำยังกับผมเป็นนังแจ๋ว เซง...โครต

อ้อ!!! ไม่ต้องลุ้นหรอกคับ  o21เรื่องของผมลุ้นไม่ขึ้นหรอก ถ้าแตะถ่วง(น้ำ)น่ะพอว่าคับ  เนอะ

อ่านต่อดีก่าคับ นึกถึงแล้วรมณ์เสีย
************************************

บทที่ 58  รักพี่อาร์ทจังเลย

วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อย ๆ ครับ  ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ  ไม่เรื่องอะไรเกิดขึ้นกับแบ๊งค์  เรื่องวุ่นวายทั้งหลายมันคงจะจบลงซักที  เว้นแค่.....

“ไงไอ้ตัวเล็ก  นั่งฟังเพลงเพลินเลย”   พี่ตั้มข้ามาทักแบ๊งค์ครับ

“จะฟังด้วยกันมั้ยล่ะ  อ่ะ”   แบ๊งค์ยื่นหูฟังอีกข้างไปให้พี่ตั้ม

“สายสั้นแค่นั้นมันจะถึงมั้ยล่ะ”  แล้วพี่ตั้มก็มานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ

“แมคไม่มาด้วยหรอ”  แบ๊งค์ถามไป

“ไม่อ่ะ  มีนหายไปไหนก็ไม่รู้ดิ”

“ว่าแต่เราเหอะ  เย็น ๆ แบบนี้ทำไมมานั่งหลบมุมอยู่คนเดียวล่ะ”   พี่ตั้มถามครับ

“ก็รอพี่อาร์ทมารับไปดูหนังน่ะ”  แบ๊งค์ไป

“อืม.......ไม่เหงาหรอ”   พี่ตั้มถาม  น้ำเสียงพี่ตั้มตอนนี้  ฟังดูแล้วเต็มไปด้วยความห่วงใย

“ไม่หรอก  แบ๊งค์อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กแล้ว”   แบ๊งค์ตอบแบยิ้ม ๆ  เราก็นั่งฟังเพลงกันไปเรื่อย ๆ ไม่นานพี่อาร์ทก็โทรมาบอกแบ๊งค์ให้ไปหาครับ  แบ๊งค์เลยบอกลาพี่ตั้มไป

“ไปก่อนนครับ”  แบ๊งค์ลา

“อ่ะ...อืม   เที่ยวให้สนุกนะ”  พี่ตั้มตะโกนตามท้ายแบ๊งค์มา
.
.
.
“เป็นไง  วันนี้จะดูหนังเรื่องอะไร”   พี่อาร์ทถามเมื่อแบ๊งค์ขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว

“ไม่รู้สิ   พี่อาร์ทจะดูหนังเรื่องอะไรล่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“พี่อยากดูหนังผีอ่ะ  กล้าดูมั้ยล่ะ”   พี่อาร์ทถามกลับ

“ก็ได้นะ  แบ๊งค์อ่ะยังไงก็ได้อยู่แล้ว”    แบ๊งค์ตอบไป   วันนี้เป็นวันศุกร์ครับ  มีหนังใหม่เข้าเยอะแยะไปหมดเลย  แล้วเราก็เลือกที่จะดูหนังผีครับ  แต่คราวนี้ไม่ได้ดูหนังผีเอเชียแบบเมื่อก่อนแล้ว  ข้ามฝั่งไปดูหนังผีฝรั่งบ้างดีกว่า  จะว่าไปแบ๊งค์ไม่ได้ดูหนังฝรั่งมานานแล้วนะเนี่ย  มัวแต่ไปคลั่งกระแสเอเชีย  วันนี้ก็เลยขอกลับมาดูหนังฝรั่งหน่อยก็แล้วกัน

“แบ๊งค์จะเอาอะไรไปกินในโรงหนังมั้ยล่ะครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่เอาอ่ะ  แบ๊งค์ขอแค่น้ำแก้วเดียวดีกว่านะ”   แบ๊งค์ตอบไป  แล้วพี่อาร์ทก็ไปเข้าคิวซื้อน้ำให้แบ๊งค์  ในระหว่างนั้นโทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้น....
.
.
.
“ครับแค่นี้นะครับ”    แบ๊งค์พูดก่อนจะวางสายไป

“คุยกับใครหรอ  ท่าทางเคร่งเครียดเชียว”  พี่อาร์ทถามครับ

“ไม่มีอะไรหรอก  แค่เค้าโทรมาผิดน่ะ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“ป่ะไปกันเหอะ  หนังจะเข้าแล้ว”    จากนั้นเราทั้งสองคนก็เดินเข้าโรงหนังไปกันครับ  หนังรอบนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่เลย  น่าแปลกจัง  ทั้ง ๆ ที่เป็นวันศุกร์   สงสัยกระแสเรื่องนี้คงไม่ดีมั้ง   แล้วแบ๊งค์ก็นั่งข้าง ๆ พี่อาร์ทครับ  ระหว่างที่กำลังดู ๆ ไป  แบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เอนหัวลงไปซบไหล่พี่ของอาร์ท

“เป็นอะไรไปรึเหล่าครับ”  พี่อาร์ทถาม

“เปล่าหรอก”   แบ๊งค์ตอบไปอย่างแผ่วเบา

“หรอ...แต่ปกติ  แบ๊งค์ไม่ชอบมาซบพี่แบบนี้นี่นา”   พี่อาร์ทถามด้วยความแปลกใจ

“เอาเหอะน่า  ก็วันนี้แบ๊งค์อยากซบพี่อาร์ทนี่นา”

“ขอซบหน่อยไม่ได้หรอ”   แบ๊งค์ทำท่าอ้อน ๆ

“ก็ได้ ๆ จะว่าไปก็ดีเหมือนนะเนี่ย”   พี่อาร์ทพูดแล้วยิ้ม ๆ

“พอได้แล้ว  อย่าพูดมากดูหนังต่อไปดีกว่า”   แบ๊งค์บอก   เราทั้งสองคนก็เลยเงียบ  แล้วดูหนังต่อไป  มีอยู่หลายฉากที่มีสิ่งต่าง ๆ โผล่มาทำให้ตกใจ  แบ๊งค์ก็เลยเอามือไปคว้าต้นแขนพี่อาร์ท  แล้วเอาหน้าซบไป

“อ๊ะ.........”     แบ๊งค์เกิดอาการตกใจครับ

“กลัวมากหรอ”   พี่อาร์ทกระซิบถามครับ

“อืม.....”    แบ๊งค์ตอบพร้อมพยักหน้า  พี่อาร์ทก็เลยดึงตัวแบ๊งค์เข้าไปกอดครับ  ตอนนี้หน้าแบ๊งค์ซบอยู่ที่อกของพี่อาร์ท  มันใกล้มากจนได้ยินเสียงจากหัวใจของพี่อาร์ท   แบ๊งค์เอาหน้าซบมันอยู่อย่างนั้น  พี่อาร์ทก็เอามืออีกข้างค่อย ๆ ลูบหัวแบ๊งค์เบา ๆ
เราดูหนังต่อไป  จนเหมือนว่ามันกำลังดำเนินมาท้าย ๆ เรื่องแล้ว  เนื้อเรื่องก้กระชากอารมณ์มากมาย

“เป็นอะไรไปน่ะครับ  ร้องไห้หรอ”   พี่อาร์ทถามครับ

“ครับ.....”   แบ๊งค์ตอบไป  แต่หน้ายังคงซบอยู่บนอกของพี่อาร์ท

“อย่าร้องไห้เลยนะคนดีของพี่อาร์ท”   พี่อาร์ทเอามือลูบหัวแล้วพูดเบา ๆ ครับ  การกระทำของพี่อาร์ทมันก็ทำให้แบ๊งค์หายเศร้าได้เหมือนกัน  แบ๊งค์เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ

ในที่สุดหนังก็จบพอดี  เราเดินออกมานอกโรงด้วยกัน

“พี่อาร์ท.....”   แบ๊งค์เรียกออกไป

“มีอะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทหันกลับมามองแบ๊งค์ด้วยท่าทาง งง ๆ

“พี่อาร์ทจับมือแบ๊งค์ได้มั้ย”    แบ๊งค์พูดพร้อมกับยื่นมือไปให้พี่อาร์ท

“ได้สิครับ  ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”   พี่อาร์ทยิ้มก่อนที่จะพูด  จากนั้นก็ยื่นมือมาจับมือของแบ๊งค์เอาไว้   แล้วเราก็เดินออกจากโรงหนังมาด้วยกัน

“พี่อาร์ทไม่อายสายตาคนมองหรอ”

“ที่มาจับมือแบ๊งค์อย่างนี้”   แบ๊งค์ถามไป

“ไม่หรอกครับ  ทำไมต้องอายล่ะครับ  ก็เรารักกันนี่นา”

“อีกอย่างนะครับ  เราก็ไม่ได้ไปทำให้เค้าเดือดร้อนนี่นา”   พี่อาร์ทพูด  ตอนนี้เราเดินมาถึงที่ลานจอดรถ  แล้วกำลังเข้าไปในรถแล้ว

“เดือดร้อนสิ”  แบ๊งค์พูด

“หรอ.....เราไปทำให้เค้าเดือดร้อนยังไงล่ะ”  พี่อาร์ทถามกลับด้วยท่าทาง งง ๆ เหมือนเดิม

“ก็เรารักกันจนเค้าหมั่นไส้ไงล่ะ”   แบ๊งค์พูดจบก็ยักคิ้วให้พี่อาร์ท

“ช่างพูดจริง ๆ นะเราน่ะ”   พี่อาร์ทพูดจบก็เอา  หน้าจมูกมาชนกับจมูกของแบ๊งค์  ล้วส่ายไปมา  ทำเหมือนกับเล่นกับแมวน่ะ

“ไม่เอาแล้ว  กลับกันได้แล้ว”    แบ๊งค์พูด

“จะไม่หาอะไรทานกันหน่อยหรอครับ”    พี่อาร์ทถาม

“แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่กินในห้างล่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“บรรยกาศไม่ค่อยดีน่ะ  ไปหาอะไรกินที่ข้างนอกดีกว่า”   พี่อาร์ทพูด

“อืม......เอางั้นก็ได้  ไปกันเหอะ  แบ๊งค์หิวจนไส้จะขาดแล้ว”   แบ๊งค์พูด 

“ครับ ๆๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ  เจ้าชายยย”  พี่อาร์ทแกล้งลากเสียงยาว ๆ  แล้วก็ขับรถออกไป  พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปที่สวนลุมไนท์บาซาร์ครับ   โดยเราไปนั่งทานอาหารที่ร้านอาหารในนั้นนั่งเอง

“คิดยังไงพาแบ๊งค์มาที่นี่เนี่ย”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็เผื่อกินเสร็จ  แบ๊งค์จะได้ไปเดินดูของ”

“เป็นการเผาผลาญพลังงานไปในตัวไงครับ”  พี่อาร์พูด

“รู้ดีจังนะ”  แบ๊งค์จิ้มที่ แก้มพี่อาร์ทเบา ๆ

“ก็พี่เป็นแฟนแบ๊งค์ยังไงล่ะครับ”

“จะไม่ให้รู้ใจกันได้ยังไงล่ะ”    พี่อาร์ทพูด  แล้วเราก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดของร้าน

“ถ้ารู้ใจ งั้นช่วยสั่งแทนแบ๊งค์หน่อยก็แล้วกัน”

“รู้แล้วนี่ว่าชอบอะไร”   แบ๊งค์พูดแบบยิ้ม ๆ

“ได้สิ”     พี่อาร์ทรับคำ  ไม่นาน  พนักงานเสิร์ฟ  ก็เข้ามารับรายการอาหารที่เราทั้งคู่จะสั่ง

“ขอเป็นทอดมันกุ้ง  ปอเปี๊ยะทอด  แล้วก็น้ำมะนาวครับ”   พี่อาร์ทสั่ง  แล้วหันมายักคิ้วให้แบ๊งค์ซึ่งตอนนี้ทำท่างอน ๆ ไปแล้ว  ทำไมน่ะหรอ  ก็ของที่พี่อาร์ทสั่งน่ะ  เป็นของโปรดแบ๊งค์ทั้งนั้นเลย  จากนั้นพี่อาร์ทก็สั่งรายการอาหารของตัวเองบ้าง  จนได้ครบทั้งสองคน

“เป็นไงล่ะ   อึ้งล่ะสิที่พี่รู้ใจเรา”   พี่อาร์ทพูด  เมื่อพนักงานเดินจากไปแล้ว

“ก็ของแค่นี้เอง  ใคร ๆ ก็จำได้หรอก”  แบ๊งค์พูด

“ทีแบ๊งค์ยังไม่เห็นจำของที่พี่ชอบได้เลย”  พี่อาร์ทพูด   แต่คำพูดของพี่อาร์ทมันทำให้แบ๊งค์ต้องสะดุด   นั่นสินะ  แบ๊งค์ไม่เคยรู้เลย  ว่าพี่อาร์ทชอบอะไร  ไม่เคยเอาใจพี่อาร์ทเลยซักครั้ง

“แบ๊งค์.......เป็นอะไรไปน่ะ  ทำไมเงียบไป”

“พี่พูดอะไรผิดไปรึเปล่า”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่หรอก  พี่อาร์ทพูดถูกทุกอย่างแหละ”

“แบ๊งค์ไม่เคยรู้ใจพี่อาร์ทจริง ๆ แบ๊งค์นี่แย่จริง ๆ เลย”   แบ๊งค์ค่อย ๆ เงยหน้ามานิ้มให้พี่อาร์ท   ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา

“แบ๊งค์......เอาอีกแล้วนะ”   พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์ออกมา

“อย่าร้องไห้นะ  พี่ขอโทษนะครับ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วก็ลุกเดินมานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  โดยเอานิ้วปาดน้ำตาที่กำลังไหลนอหน้าแบ๊งค์ไปด้วย

“ไม่เป็นไรหรอก  อย่าขอโทษเลย”

“แบ๊งค์ตะหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”    แบ๊งค์พูด

“ไม่เอาน่าแบ๊งค์  อย่าพูดแบบนี้นะ  แล้วก็อย่าคิดมากด้วย”   พี่อาร์ทพูด

“ถึงแบ๊งค์จะไม่รู้ว่าพี่ชอบอะไร  มันจำเป็นหรอก”

“เราไม่ได้คบกันเพราะว่าเรารู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบอะไร  แต่เราอยู่ด้วยกันเพราะเรารักกัน   แค่แบ๊งค์รักพี่  แค่นี้พี่ก็ไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะ”  พี่อาร์ทพูด

“.........................”   แบ๊งค์เงียบ  ไม่ตอบอะไร

“หรือว่าแบ๊งค์ไม่รักพี่ล่ะ”   พี่อาร์ทเริ่มทำเสียงเข้ม

“เปล่านะ   แบ๊งค์น่ะ  รักพี่อาร์ทเสมอแหละ”   แบ๊งค์รีบตอบออกไป

“ถ้ารักพี่  งั้นก็กินเยอะ ๆ แล้วเลิกคิดมาก หยุดร้องไห้ได้แล้ว”   พี่อาร์ทพูด  จากนั้น ของที่เราสั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะ  จนเต็มไปหมด 

“กินเยอะ ๆ นะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“พี่อาร์ทก็กินด้วยกันนะครับ”    แบ๊งค์ชวน

“ก็ได้ครับ  แต่แบ๊งค์ต้องป้อนพี่นะ”    พี่อาร์ททำสายตาเจ้าเล่ห์มาครับ

“ก็ได้ครับ  ลองทอดมันกุ้งดูนะ อร่อยมากมาย”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ตัดทอดมันกุ้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ  แล้วป้อนเข้าปากพี่อาร์ทไป

“วันนี้มาแปลกเนอะ”  พี่อาร์ทพูดเมื่อทานทอดมันกุ้งเข้าไปแล้ว

“แปลกยังไงหรอ  อากาศก็ปกตินี่นา”   แบ๊งค์ถามไปแบบ งง ๆ

“ก็แบ๊งค์นั่นแหละที่มาแปลก”    พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์เนี่ยนะ”    แบ๊งค์ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“ก็ใช่น่ะสิ  วันนี้ไม่ดื้อเลย  สั่งอะไรทำหมด”   พี่อาร์ทพูด

“แล้วไม่ดีหรือไงล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ดีสิ  แบ๊งค์ไม่ดื้อแบบนี้น่ารักที่สุดเลยล่ะ”    พี่พูดแล้วก้มมาหอมแก้มแบ๊งค์ไปหนึ่งฟอด

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท  กินกันก่อนดีกว่า”    แบ๊งค์ไม่รู้ทำไงก็เลยได้แต่อายหน้าแดง   ส่วนพี่อาร์ทก็หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างมีความสุข

พอเราทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ  เราก็ไปเดินเล่น ๆ ดูของไปเรื่อย ๆ  ไปทั้งร้านที่ขายเสื้อผ้า  ขายของแต่งบ้าน  แต่แบ๊งค์ก็ไม่ซื้ออะไร

“แบ๊งค์ไม่ซื้ออะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่อ่ะครับ ไม่มีตัง”   แบ๊งค์แกล้งตอบไป

“เดี๋ยวพี่ออกให้ก่อนก็ได้  ของแค่นี้พี่ซื้อให้แฟนพี่ได้ครับ”   พี่อาร์ทอาสา

“ล้อเล่นน่ะ พี่อาร์ท”

“แบ๊งค์ยังไม่อยากได้อะไรหรอก  แต่ตอนนี้แบ๊งค์ขออะไรพี่อาร์ทอย่างหนึ่งได้มั้ย”   แบ๊งค์พูดแล้วหันมาทางพี่อาร์ท

“อะไรหรอครับ  ถ้าพี่ทำให้แบ๊งค์ได้  พี่ก็จะทำ”   พี่อาร์ทตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปที่ที่หนึ่งได้มั้ยครับ”   แบ๊งค์พูด

****************




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
บทที่ 59  ไปทะเลกันนะ

“แบ๊งค์จะพี่พาไปที่ไหนหรอครับ”   พี่อาร์ทถามด้วยท่าทางงง ๆ

“พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปทะเลได้มั้ยล่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ทะเล?....”    พี่อาร์ทย้ำคำพูดของแบ๊งค์

“อืม.....ไปแค่พัทยา-บางแสนนี่ก็ได้”   แบ๊งค์พูด

“มันไม่ใช่ใกล้ ๆ นะครับน้องแบ๊งค์”   

“เอาไว้ค่อยไปหัวหินตอนซัมเมอร์ก็ได้นี่ครับ”  พี่อาร์ทแย้งกลับมา

“พี่อาร์ท...พาแบ๊งค์ไปเถอะนะ”

“ถือว่าแบ๊งค์ขอร้อง”     แบ๊งค์พูดเสียงสั่นเครือ  เหมือนคนกำลังจะร้องไห้

“อ่ะ.....อืม  ก็ได้ครับ”   พี่อาร์ทรับคำไปอย่างปฏิเสธไม่ได้   แล้วแบ๊งค์ก็ขอตัวไปโทรบอกพี่นุ่นก่อนเพื่อที่พี่นุ่นจะได้ไม่เป็นห่วง

“พี่นุ่น...คืนนี้แบ๊งค์ไม่กลับคอนโดนะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม...ไม่เป็นไรจ๊ะ   ไปอยู่กับพี่อาร์ทอีกล่ะสิ”   พี่นุ่นแซวกลับมา

“อืม.....อยู่คนเดียวได้นะ”    แบ๊งค์ทำท่าเป็นห่วง

“ชั้นโตแล้วยะ  เธอนั่นแหละ”

“อยู่กับพี่อาร์ทก็อย่าดื้ออย่าซนให้มากนักล่ะ”   พี่นุ่นสั่งมา

“อืม....งั้นแค่นี้นะ”     แบ๊งค์พูดแล้ววางสายไป   จากนั้นแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เดินไปขึ้นรถกัน  ระหว่างทางแบ๊งค์ไม่ได้พูดอะไร  ได้แต่นั่งเหม่อ  มองสองข้างทาง

“แบ๊งค์เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”   พี่อาร์ทพูด  เสียงของพี่อาร์ททำหแบ๊งค์สะดุ้งออกจากอาการเหม่อลอย

“หืม.....”  แบ๊งค์หันหน้าไปทำท่าสงสัยใส่พี่อาร์ท

“ก็วันนี้น่ะ  แบ๊งค์ดูแปลก ๆ ดูเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้”

“ดูไม่เหมือนคนเก่า  พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย”    พี่อาร์ททำท่ากังวล

“คิดมากน่าพี่อาร์ท “    แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

“มีอะไรก็เล่าให้พี่ฟังได้นะครับ”   พี่อาร์ทถามกลับด้วยควมห่วงใย

“ไม่มีอะไรหรอก  ก็แค่คิดเรื่องเรียนน่ะ”

“ช่วงนี้มันเรียนยาก ๆ อ่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“อย่าคิดมากนะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“อืม.......”    แบ๊งค์ตอบสั้น ๆ   ตอนนี้ถนนไม่ค่อยที่จะมีรถมากเท่าไหร่แล้ว  คงเพราะดึกแล้วด้วยมั้ง  รถก็เลยไม่ค่อยติดเหมือนตอนกลางวัน

“พี่อาร์ทไม่เหนื่อยนะที่ขับรถไกล ๆ แบบนี้”   แบ๊งค์ถามไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  แค่นี้เองสบายมาก”

“แบ๊งค์คงไม่รู้สินะ  ว่าตัวเองมีแฟนเป็นยอดมนุษย์”     พี่อาร์ทพูดเล่นครับ

“...................”   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะเบา ๆ

“พี่อาร์ทครับ   แบ๊งค์ขอนอนก่อนได้มั้ย”   แบ๊งค์ขอ

“ได้สิครับ  นอนให้สบายเหอะ  เดี๋ยวถ้าถึงแล้วพี่จะปลุกนะ”   พี่อาร์ทพูด

“พี่อาร์ท.....พี่อาร์ทขับรถมือเดียวถนัดมั้ย”   แบ๊งค์ถามครับ

“ก็ได้นะ  รถมันเป็นออโต้อยู่แล้วนี่ทำไมหรอ”   พี่อาร์ททำท่างง ๆ

“แบ๊งค์ขอมือพี่อาร์ทหน่อยนะ”   แล้วแบ๊งค์ก็เอื้อมมือไปคว้ามือพี่อาร์ทมากุมไว้   แล้วก้หลับไป  อยาก.....อยากที่จะจับมือพี่อาร์ทแบบนี้ตลอดไปจัง

แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นมาเมื่อได้ยินเสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าสู่ฝั่ง  และได้กลิ่นเกลือ  มาถึงทะเลแล้วหรอเนี่ย   ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย  ดูท่าทางจะเป็นค่อนสว่างมากกว่านะ  เพราะท้องฟ้าอีกฟากหนึ่งกำลังเจิดจรัสด้วยประกายสีทองจากด้วงอาทิตย์  ส่วนอีกฟากหนึ่งยังคงมีดวงดาวประปรายที่ส่องแสงสุกสกาวอยู่

แบ๊งค์ค่อย ๆ ขยับตัวครับ  เมื่อหันไปด้านข้างก็พบพี่อาร์ทนอนอยู่  โดยที่มือของเราทั้งสองคนยังจับกันเอาไว้

“พี่อาร์ท........พี่อาร์ท”    แบ๊งค์เรียกอย่างแผ่วเบา

“....หือ..........”   

“อ่ะ.....อ้าว   ตื่นแล้วหรอครับ  เด็กดื้อ”    พี่อาร์ทค่อย ๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาครับ

“ป่ะ.....ไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายยามเช้ากัน”     แบ๊งค์ชวน

“ครับ....ก็ได้ครับ”     พี่อาร์ทรับคำ   แล้วเราสองคนก็ถอดถุงเท้า  รองเท้า และพับกางเกงนักศึกษาขึ้นมา   แล้วลงไปเดินเล่นริมชายหาดด้วยกันครับ

“พี่อาร์ท.....อย่าปล่อยมือแบ๊งค์สิ”   แบ๊งค์ท้วงขึ้น  เมื่อพี่อาร์ทไม่ยอมจับมือแบ๊งค์

“ครับ ๆๆๆ  ดุจังนะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซวครับ  แต่ก็จับมือของแบ๊งค์เอาไว้

“ดูสิ  ท้องฟ้าสวยดีนะ”

“มีสองสี  ดูเมือนไม่ค่อยจะเข้ากัน  แต่ก็อยู่ด้วยกันได้”   แบ๊งค์ชี้ชวนให้พี่อาร์ทมองขึ้นไปยังท้องฟ้า  ซึ่งตอนนี้เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีทองของยามเช้าแล้ว

“นั่นสินะ  มันดูต่างกันมากแต่ก็อยู่ด้วยกันได้”   พี่อาร์ทเห็นด้วย

“ก็เหมือนคนเราเนี่ยแหละ  ถึงจะต่างกันแค่ไหนก็อยู่ด้วยกันได้ ถ้าเข้าใจกัน”   พอแบ๊งค์พูดจบ  พี่อาร์ทก็หันมามองหน้าแบ๊งค์แบบแปลก ๆ

“ทำไมหรอ  หรือว่าแบ๊งค์พูดอะไรผิดล่ะ”  แบ๊งค์ถามกลับ

“ไม่หรอกครับ  ไม่ได้พูดอะไรผิด”

“แต่จะว่าไปแบ๊งค์เนี่ย  ก็น้ำเน่าเป็นเหมือนกันเนอะ”   พี่อาร์ทแซว

“โหยยยยย  กะจะบิวท์อารมณ์ซักหน่อย เซ็งเลย”   แบ๊งคทำท่างอน ๆ ครับ

“โอ๋ ๆๆๆๆ  ล้อเล่นน่ะ  อย่างอนสิครับคนดี”   พี่อาร์ททำท่าง้อครับ

“พี่อาร์ท....ลงเดินใกล้ ๆ น้ำได้มั้ย”   แบ๊งค์ชวน

“เดี๋ยวกางเกงก็เปียกหรอกครับ”    พี่อาร์ทเตือน

“เอาน่า  นาน ๆ ทีจะได้มาซักครั้ง”    แบ๊งค์พูด  แล้วก็จูงมือพี่อาร์ทไปเดินบริเวณที่คลื่นสาดเข้าถึง 

“น้ำเย็นสบายดีจังเนอะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม....อากาศก็สดชื่นดีด้วย”   พี่อาร์ทพูดพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ

“พี่อาร์ทหยุดก่อน”   แบ๊งค์เรียก

“ทำไมหรอครับ “   พี่อาร์ททำท่างง ๆ

“ก็ดูนั่นสิ”   แบ๊งค์ชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังโผล่พ้นขอบฟ้า    แล้วพี่อาร์ทก็เอามือมาโอบรอบเอวแบ๊งค์    แบ๊งค์ก็เลยซบไปบนอกของพี่อาร์ท   เราทั้งสองคนหยุดยืนอยู่อย่างนั้น  มองพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันสองคน

เมื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ  เราก็มานั่งเล่นที่กระโปรงหน้ารถกัน   ก้ไม่มีอะไรหรอกครับ  ก็พูดคุยกันไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ

“พี่อาร์ท.....”   อยู่ ๆ แบ๊งค์ก็เรียกชื่อพี่อาร์ทขึ้นมาครับ

“อะไร......”  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้ตอบ  แบ๊งค์ก็ประกบปากไปที่ยังปากพี่อาร์ททันที  แล้วถอนออก  ทำเหมือนว่าแค่จุ๊บเฉย ๆ น่ะ

“.....................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ตอนนี้ก็ยืนอมยิ้มอายหน้าแดงไปแล้ว (-/////-)   ซึ่งพี่อาร์ทก็เหมือนกัน  ยืนงงเป็นไก่ตาแตก  ทำอะไรไม่ถูก  และเหมือนว่าพี่เค้าก็จะอาย ๆ เหมือนกัน

“พี่อาร์ท.......แบ๊งค์รักพี่อาร์ทนะ”   แบ๊งค์พูดออกมาครับ  โดยที่ยังก้มหน้าอาย ๆ อยู่

“พี่ก็รักแบ๊งค์เหมือนกันครับ”   พอพูดจบพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ ๆ แบ๊งค์ จากนั้นก็ค่อย ๆ เอามือเชยคางแบ๊งค์ขึ้น   แล้วก็ค่อย ๆ บรรจงประกบริมฝีปากลงมาที่ปากของแบ๊งค์

พี่อาร์ทค่อย ๆ สอดลิ้นอุ่น ๆ ผ่านริมฝีปากของแบ๊งค์ซึ่งกำลังเผยอรับรสจูบของพี่อาร์ทอยู่  ตอนนี้ราวกับว่าโลกหยุดหมุน  และเหลือเพียงแค่สองเราเท่านั้นที่ยืนอยู่บนโลกนี้  เราจูบกันอยู่ค่อนข้างนาน  แล้วก็ค่อยผละออกจากกัน

“ปากเหม็นนะเนี่ยเราน่ะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซว  ซึ่งเหมือนกับว่า พี่เค้าทำเพื่อแก้เขิน

“พี่อาร์ทนั่นแหละ  เหม็นกว่าแบ๊งค์อีก”   แบ๊งค์เลยแซวกลับไปบ้าง   แล้วเราทั้งสองคนก็หัวเราอย่างสนุกสนาน

“พี่อาร์ท...พี่อาร์ทอยู่กับแบ๊งค์ตลอดไปนะ”   แบ๊งค์พูด

“ครับ....พี่จะอยู่กับแบ๊งค์ตลอดไป”   พี่อาร์ทหันมาพูดกับแบ๊งค์ครับ

“ป่ะกลับกันดีกว่า”    พี่อาร์ทชวนครับ

“อืม....กลับกันได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด  แล้วเรามั้งสองคน  ก็กลับเข้าไปในรถกัน  ตอนนี้พี่อาร์ทขับรถออกมาห่างจากทะเลมากแล้ว

“พี่อาร์ทเดี๋ยวไปนอนพักที่คอนโดของแบ๊งค์นะ”   แบ๊งค์ชวน

“เอางั้นก็ได้ครับ “

“แล้วแบ๊งค์จะหาอะไรกินก่อนมั้ย”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่แล้วล่ะ  ตอนนี้อิ่มมามากพอแล้ว”   แบ๊งค์พูดแล้วยิ้มให้พี่อาร์ท     แล้วเราก็กลับไปยังคอนโด ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเป็นช่วงสาย ๆ แล้ว  พี่นุ่นคงตื่นแล้วล่ะสิ

ระหว่างทางจนถึงห้อง  เราคุยกันอย่างสนุกสนานเลยครับ  ก็มีทั้งคุยเล่น  แซวกันบ้าง  และแน่นอนเราทั้งสองคนจับมือกันตลอดเวลา  ตอนนี้เรามาถึงที่หน้าห้องแล้ว   

ป๊อป่อง~~~------ปิ๊งป่อง~~~-------แบ๊งค์กดกริ่งที่หน้าประตูครับ

“เข้ามาก่อนสิ  กลับมาซะเช้าเลยนะ” 

“อ้าวอาร์ทสวัสดีค่ะ”  พี่นุ่นพูดครับ

“สวัสดีครับ”   พี่อาร์ททักตอบ  แล้วเราก็เดินตามกันเข้าไป

“ตอนนี้มันเช้าซะที่ไหนล่ะ สายแล้วตะหาก”   แบ๊งค์แซวกลับไป

“แล้วเมื่อคืนไปไหนมากันเนี่ย  ดูท่าทางจะไม่ได้ไปค้างบ้านพี่อาร์ทนะ”  พี่นุ่นถาม

“ไปทะเลมาน่ะ”   แบ๊งค์ตอบแล้วยักคิ้วให้พี่นุ่น  ก่อนจะเดินไปหาน้ำดื่มที่ในครัว

“ทะเล....นี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปไกลขนาดนั้นเลยหรอ”   พี่นุ่นดูท่าทางตกใจมาก

“ครับ   ก็แบ๊งค์บอกว่าอยากไป”

“ผมก็เลยพาไป”   พี่อาร์ทพูด

“แล้วนี่กินอะไรกันมาละยังเนี่ย”  พี่นุ่นถามครับ

“ไม่อ่ะ  ไม่ค่อยหิว”

“เดี๋ยวกะว่าจะอาบน้ำแล้วนอนพักซะหน่อย  เหนื่อยมากมาย”   แบ๊งค์พูด

“อืม......เอางั้นก็ได้”

“แต่จะนอนพักกันแน่นะ  ไม่ใช่ว่าทำอย่างอื่นล่ะ”  พี่นุ่นแซวครับ  พี่อาร์ทมองมาทางแบ๊งค์ครับ   ดูเหมือนพี่อาร์จะอายหน้าด้วย
“บ้าสิเจ้  ไม่มีแรงแล้ว”

“ป่ะพี่อาร์ทไปได้แล้ว”    แบ๊งค์พูดแล้วคว้าแขนพี่อาร์ทแล้วพาเข้าห้องไป  ตอนนี้เราอสองคนอยู่ในห้องแล้ว

“มองอะไรน่ะพี่อาร์ท   เลิกมองได้แล้ว”   แบ๊งค์พูดเมื่อเห็นว่าพี่อาร์ทจ้องมองอยู่

“แบ๊งค์เขินหรอที่พี่นุ่นแซวเมื่อกี้”  พี่อาร์ทถามครับ

“ก็เขินน่ะสิ  หรือพี่อาร์ทไม่เขินล่ะ  เห็นนั่งหน้าแดงอยู่”   แบ๊งค์พูดครับ  ตอนนี้เริ่มเขิน +อายมากกว่าเก่าอีกนะเนี่ย

“ฮะฮะฮะ  แบ๊งค์ยิ่งเขินเนี่ยยิ่งดูน่ารักนะ”  พี่อาร์ทพูดครับ

“พอ ๆๆๆ พอได้แล้ว  ไปอาบน้ำได้แล้ว”   แบ๊งค์พูดครับ   แล้วพี่อาร์ทก็เดินเข้ามากอดแบ๊งค์เอาไว้ครับ

“ไปอาบน้ำด้วยกันนะครับ  เด็กดื้อตัวน้อยของพี่”  พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ทปล่อยนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว“

“อีกอย่างแบ๊งค์ก็ไม่ได้ตัวเล็กซะหน่อย  ตัวโตกว่าพี่นุ่นอีก  แบ๊งค์น่ะสูงกว่าแม่กว่ายายอีก”  แบ๊งค์แย้งไปครับ

“แต่ก็ไม่ได้สูงไปกว่าพวกพี่ซะหน่อย”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ก็พวกพี่น่ะ  เกิดตอนน้ำท่วมกันนี่นา  เลยสูงกันซะขนาดนั้น”   แบ๊งค์ยังคงเถียงไปครับ

“พอได้แล้วน่า  นะ ๆๆ ไปอาบน้ำกับพี่นะครับ”  พี่อาร์ทยังคงอ้อน  แต่พี่อาร์ทไปพูดเปล่าตอนนี้  พี่อาร์ทเอาจมูกมาไซร้แถวซอกคอแบ๊งค์แล้ว

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท  มันจั๊กจี๋น่ะ”  แบ๊งค์พูด  แล้วพี่อาร์ทก็เลื่อนปาก  มาประกบจูบกับแบ๊งค์อีกครั้ง  จูบของพี่อาร์ทนี่  ไม่กี่ครั้งก็ยังหอมหวานและอบอุ่นเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลายเลยจริง ๆ

“ไปอาบน้ำกับพี่นะครับ”  พี่อาร์ทถามเสียงกระเส่า  แบ๊งค์ก็ได้  แต่นิ่งไปแทนคำตอบ  แล้วเสื้อผ้าก็ค่อย ๆ ถูกปลดเปลื้องออกจากตัวของเราทั้งสองคน

ตอนนี้เราทั้งสองคนอยู่ภายใต้สายน้ำจากฝักบัว  ที่ค่อย ๆ รินรดผ่านร่างกายของเราลงมา  พี่อาร์ทประกบจูบกับแบ๊งค์อีกครั้ง

“พอได้แล้วพี่อาร์ท  เดี๋ยวปากก็ช้ำหรอก จูบกันอยู่ได้”   แบ๊งค์ผละออกแล้วพูด

“งั้นเรามาทำอย่างอื่นกันมั้ยครับ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วกอดรัดแบ๊งค์ให้แน่นกว่าเดิม  พร้อมกับซุกไซร้ไปตามซอกคอของแบ๊งค์

“ไม่เอาน่า  เดี๋ยวพี่นุ่นก็ได้ยินหรอก”  แบ๊งค์พูด

“ไม่เห็นต้องอายเลย  นุ่นก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”   พี่อาร์ทเลื่อนตัวลงมา  เลียที่ยอดอกของแบ๊งค์ครับ

“พี่อาร์ทไม่เอาน่า  ถือว่าแบ๊งค์ขอนะครับ”   แบ๊งค์พูดครับ   พี่อาร์ทเลยหันมามองตาแบ๊งค์   เหมือนว่าจะได้ผลครับ  พี่อาร์ทหยุด  แล้วเราก็อาบน้ำกันตามปกติ   แบ๊งค์สระผมให้พี่อาร์ทด้วยล่ะ  แต่ก็ลำบากเหมือนกัน   เพราะพี่อาร์ทน่ะ  หุ่นนักบาส ก็เลยค่อนข้างสูง  แบ๊งค์ก็ว่าตัวเองสูงแล้วนะ  แต่ก็ยังไม่ถนัดอยู่ดี   เหมือนพี่อาร์ทเค้าจงใจจะแกล้งแบ๊งค์น่ะ  เค้าเลยเขย่งขา  ทำให้สูงขึ้นไปอีก

“พี่อาร์ทน่ะ  อย่าแกล้งแบ๊งค์สิ”    แบ๊งค์พูดแล้ว ตบไปเบา ๆ ที่อกของพี่อาร์ท

“ไม่รู้แหละ  ถือเป็นการทำโทษ”

“ที่แบ๊งค์ขัดใจพี่เมื่อกี้”    พี่อาร์ททำท่างอน ๆ เหมือนที่แบ๊งค์เคยทำบ่อย ๆ ครับ

“งั้นก็สระเองก็แล้วกัน”    แบ๊งค์ก็เลยทำท่างอนกลับ แล้วหันไปสระผมตัวเองบ้าง

“ขี้งอนจังนะเราน่ะ”   พี่อาร์ทเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังครับ   แล้วอีกมือหนึ่งของพี่อาร์ท  ก็เอื้อมไปเปิดฝักบัว  ให้สายน้ำค่อย ๆ ไหลลงมาชำระฟองจากแชมพู  ออกไป

“ปล่อยได้แล้ว  ฟองเข้าตาแบ๊งค์หมดแล้วเนี่ย”    แล้วเราก็ล้างฟองออกจนหมดครับ

ตอนนี้เราอาบน้ำเสร็จแล้วครับ   เฮ้อ~~~กว่าจะอาบน้ำเสร็จ  มัวแต่เล่นกันซะ

“พี่อาร์ทน่ะ  นิสัยไม่ดี  ชอบแกล้งแบ๊งค์”    แบ๊งค์โวยขึ้นครับ  หลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้ว  โดยมีพี่อาร์ทเดินตามมา

“ก็แบ๊งค์ขัดใจพี่นี่นา”    พี่อาร์ทแย้งครับ

“ไม่รู้แหละ  อ่ะ.....ไปหาเสื้อผ้าใส่ได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด  แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า  หวังจะหาชุดมาใส่ครับ   อยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็วิ่งมากระตูกผ้าเช็ดตัวแบ๊งค์ออก   แล้วอุ้มแบ๊งค์ขึ้นเหวี่ยงไปมาครับ

“พี่อาร์ท  ไม่เอานะ  แบ๊งค์กลัวตก”   แบ๊งค์พูดครับ

“แฟนผมล่อนจ้อน ๆๆ “  พี่อาร์ทพูดครับ   ดูพี่อาร์ทจะสนุกนะที่ได้แกล้งแบ๊งค์ใครั้งนี้  แล้วพี่อาร์ทก็เหวี่ยงแบ๊งค์ลงบนเตียงครับ

“พี่อาร์ทน่ะ  งอนแล้วนะ”    แบ๊งค์ทำท่าไม่พอใจครับ

“โอ๋ ๆๆๆ ขอเล่นหน่อยนะ”

“ก็วันนี้แบ๊งค์น่ารักกว่าทุกวันนี่นา”  พี่อาร์ทพูดครับ   พร้อมกับเอามือมาลูกแก้มแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหลุดหัวเราะออกมา

“ไม่เอาแล้วจั๊กจี๋น่ะ”   แบ๊งค์พูด   แล้วเราสองคนก็ไปใส่เสื้อผ้ากันครับ   ชุดพี่อาร์ทน่ะหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก  พี่เค้าเคยทิ้งชุดไว้ที่นี่อยู่หลายชุดน่ะ  ก็เลยมีชุดใส่อยู่

ตอนนี้เรานอนอยู่บนเตียงแล้วครับ   เราทั้งคู่นอนหงาย  โดนจับมือกันเอาไว้

“พี่อยากอยู่กับแบ๊งค์อย่างนี้ตลอดไปจัง”  พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์ก็อยากอยู่กับพี่อาร์ทแบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน”  แบ๊งค์พูดบ้าง  แล้วเราก็พลิกตัว นอนหันหน้าหากัน

“พี่รักแบ๊งค์นะครับ / แบ๊งค์รักพี่อาร์ทนะ”   เราทั้งสองคนพูดพร้อมกัน   เมื่อได้ยินแบบนั้น  เราก็เลยระเบิดหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่

“นอนซะนะคนดีของพี่”  พี่อาร์ทพูดครับ

“พี่อาร์ทก็เหมือนกันนะ  นอนได้แล้ว”

“เมื่อคืนยิ่งขับรถไกล ๆ อยู่ด้วย”   แบ๊งค์พูด

“ไม่เป็นไรหรอก  ก็พี่บอกแล้วไง”

“ว่าพี่เป็นยอดมนุษย์”   พี่อาร์ทพูดครับ   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่หัวเราะออกมาเบา ๆ   แบ๊งค์ค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ พี่อาร์ทครับ

“พี่อาร์ทต้องนอนกอดแบ๊งค์นะ”   แบ๊งค์พูด

“แน่นอนอยู่แล้ว”   พี่อาร์ทพูดแล้ว  จูบที่หน้าผากแบ๊งค์หนึ่งทีครับ  รู้สึกอบอุ่นดีจัง  แล้วด้วยความเหนื่อย  ความอ่อนเพลีย  แบ๊งค์และพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ หลับไปในความอบอุ่นของอ้อมแขนของกันและกัน
****************************
ของเก่าของใหม่แปะไปผมยังไม่ได้อ่านเลยคับ
ของพี่คนอื่น ๆก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน จะคลั่งแล้วเนี่ย
อยากอ่านแต่ไม่ไหวหล่ะ :onion_asleep: ไปเติมพลังก่อนล่ะคับ
 :bye2:คับ


ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เป็นกำลังใจให้คุณจานะ สู้ สู้ เคยได้ยินว่า ความใกล้ชิด---> ความผูกพันธ์---> ความรักหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องดูกันไป  :interest:

ขอบคุณที่มาลงให้อ่านต่อ  ติดตามอยู่ตลอดนะ :impress2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
แบ๊งค์เป็นอะไรรึป่าวเนี่ย ดูเหม่อๆ แปลกๆ :confuse:

แล้วโทรศัพท์ลึกลับนั่นของใคร ไม่น่าจะเป็นคนโทรมาผิดนะ :confuse: :confuse:

เอ๊ะ หรือเราจะระแวงมากเกินไป :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ลางสังหอนมะค่อยดีเลย  o12

อย่าให้เกิดเรื่องร้ายอีกเลยนะ   :m5:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ทั้งสองคนมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ใช่มั๊ยครับ
 :m15:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
หวานกันจางเยย
แล้วจะต้องการไขว่คว้าไปอีกทำไม
 :m7: :m7: :m7:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

ตามอ่านอยู่นะครับ

เป็นกำลังใจให้คุณจาเหมือนเดิมน๊า.......

สู้ ๆ

 :teach:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ลางร้ายมาอีกแล้ว ขอเศร้าล่วงหน้าเลยได้มะ  :m15:  :m15:  :m15:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
ม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นเลย   :amen: :amen:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปก็ดีนะ หวานแหววกันดีจังเลย  :m4:

แต่มันก็มีสัญญาณของเรื่องอะไรบางอย่างมาตลอดนะนี่ ขอให้ไม่มีไรร้ายแรงเลยนะ  :m5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด