พิมพ์หน้านี้ - [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: pajaa ที่ 11-04-2007 23:19:59

หัวข้อ: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 11-04-2007 23:19:59
ขอบคุณ BrOwNiE (ผู้เขียน) ด้วยนะคับที่อนุญาตให้ลง novel เรื่องนี้มาให้เพื่อน ๆได้อ่านกัน :impress:
ขอบคุณ [K]il[L] Jupiter ด้วยนะคับ  :loveu:

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

******************************************************
บทที่ 1 วันแรกแสนวุ่นวาย

   “นี่แบ๊งค์  เร็วๆดิ ไปมหาลัยสายแต่วันแรกเลยนะ” พี่นุ่นในชุดนักศึกษาตะโกนเรียกใครบางคน  ซึ่งกำลังอยู่ในห้อง

   “มาแล้วๆ พี่นุ่นอ่ะเร่งกันจัง” แบ๊งค์ในชุดนักศึกษาเดินออกมาจากในห้อง พร้อมกับบ่นเล็กน้อย

   “ไปสายชั้นไม่รู้ด้วยนะ  ป่ะไปกันเหอะ” นุ่นรีบตัดบท

   “อือ ก้อวันแรกนี่นาขอดูดีหน่อยจิ” แบ๊งค์แย้งขึ้นบ้างพร้อมกับเดินพี่นุ่นในชุดนักศึกษาออกจากห้องไป

   ทั้งสองอาศัยอยู่ในคอนโด ย่านรังสิต  ทั้งคู่เป็นเด็กจากจังหวัดเชียงใหม่ที่มาเรียนในกรุงเทพฯ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิตนั่นเอง

   “ไม่ลืมอะไรแล้วนะ” นุ่นทักขึ้น

   “ไม่อ่ะ  ไม่มีแล้ว” แบ๊งค์ตอบ

   จากนั้นทั้งคู่ก้อขึ้นรถเก๋งส่วนตัว โดยมีนุ่นเป็นคนขับ  ออกจากคอนโดไปยังมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่

   ทั้งคู่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้นุ่นมีอายุมากกว่าแบ๊งค์แต่เนื่องจากมีปัญหานิดหน่อย  ทำให้ต้องดรอปเรียนในชั้น ม.6 แล้วมาจบรุ่นเดียวกันกับแบ๊งค์  นุ่นเรียนในคณะวิทยาศาสตร์  ส่วนแบ๊งค์เรียนคณะรัฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

   “เลิกแล้วโทรหาพี่นะ” นุ่นพูดขึ้นตอนที่ส่งแบ๊งค์หน้าคณะรัฐศาสตร์

   “อืม  ค้าบรู้แล้ว  ป้าก็อย่าไปเผลอเคี้ยวหมากให้ใครเห็นล่ะ” แบ๊งค์แหย่เล่น

   “ยะ ชั้นรู้หรอกน่า” นุ่นพูดก่อนขับรถออกไปยังคณะที่ตนเองเรียนอยู่

   แบ๊งค์เดินมานั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ  กรูส์โดนรุ่นพี่ว๊ากแรงมั้ยเนี่ย แบ๊งค์คิดในใจ ซักพักก็เริ่มมีคนทยอยกันมา  แบ๊งค์มองนาฬิกาเป็นเวลา 8.15น.  มีเสียงรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นบริเวณอีกฟากหนึ่งของตึก

   “น้องคนไหนที่เรียนคณะxyaaaa  มารวมตัวกันทางนี้ด้วยค่ะ”  พี่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น  แล้วนักศึกษาปีหนึ่งของคณะรัฐศาสตร์ทั้งหมด ก็ทยอยกันเดินไปหาพี่สาวคนนั้น   เมื่อนักศึกษามากันพร้อมหมดแล้ว  พี่เค้าก็แนะนำตัวเองว่าชื่อ ปอย เป็นรุ่นพี่ของคณะนี้  แล้วพี่ปอยก็ค่อยแนะนำตัว รุ่นพี่คนอื่น ๆ จนหมด  หนึ่งในนั้นมีพี่คนหนึ่งชื่อ พี่ ตั้ม  เป็นพี่ว๊ากที่ดุมาก  เสียงดังขี้โวยวาย
เห็นหน้าแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เลย  แต่ก็ช่างเหอะถ้าเราไม่ไปทำอะไรผิดก็คงไม่โดนว๊ากหรอกมั้ง

   “นี่ ๆ นายชื่ออะไรอ่ะ  เราชื่อแมคนะ“ คนข้าง ๆ ผมถามขึ้น

   “เอ่อ...เราชื่อ....”

   “ไอ้สองคนนั้นทำอะไร  คุยอะไรกันมากมาย  วันนี้เพิ่งวันแรกนะเว้ย พูดอยู่ได้”
ยังไม่ทันได้ตอบ อยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็เห็นพอดีเลยด่าซะยกใหญ่   ยอมได้ซะที่ไหนล่ะคับ แบ๊งค์อ่ะยอมใครเป็นซะที่ไหนล่ะ  แหงล่ะก็ลูกคนเดียวนี่นา และนี่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อยมาว่ากันได้ยังไง  เลยสวนออกไป   

“ผมก็แค่พูดคุยแนะนำตัวเฉย ๆ อ่ะ ยังไม่ทันตอบด้วยซ้ำ  ไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย” ทั้งนักศึกษาใหม่ และรุ่นพี่ต่างอึ้งที่เห็นว่า แบ๊งค์กล้าเถียงกับพี่ตั้ม ว๊ากเกอร์สุดโหด

“อ้าว!!!ไอ้นี่  มาวันแรกก็ปีนเกลียวกูเลยหรอมึง”  พี่ตั้มโกรธจัดเมื่อเห็นแบ๊งค์แย้งออกไป

“ไม่ได้ปีนเกลียวซะหน่อย  แค่อธิบายตามความจริงเฉย ๆ “

“ต่อปากต่อคำเก่งนักนะมึง ออกมาข้างหน้าดิ” พี่ตั้มเรียกแบ๊งค์ออกไป  กลัวซะที่ไหนล่ะคับ  อยากทำอะไรก็เชิญ แบ๊งค์ก็เดินออกมาข้างหน้าตามคำสั่ง

“ตัวเล็ก แต่แสบจริงนักนะมึง  ไอ้พริกขี้หนู” พี่ตั้มพูดขึ้นหลังจากเห็นแบ๊งค์เดินออกมาจากที่นั่งในแถว  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่ได้ตัวเล็กเท่าไหรหรอก สูง 170 แต่ที่พี่ตั้มเห็นแบบนั้นก็เพราะว่าในคณะนี้มีแต่คนตัวสูง ๆ รวมถึงพี่ตั้มด้วยที่น่าจะสูง ซัก 185 มั้ง

“ไหนลองแนะนำตัวดิ ว่าชื่ออะไร มาจากไหน” พี่ตั้มสั่ง

“ชื่อชัชพงศ์  ชื่อเล่นแบ๊งค์ มาจากโรงเรียน........จังหวัดเชียงใหม่” แบ๊งค์แนะนำตัว

“มาไกลนักนะมึง  แต่ซ่าไม่เลือกถิ่นเลยวะ” พี่ตั้มเหน็บแนม

“แบ๊งค์ยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย!!” แบ๊งค์แย้งขึ้น

“เออๆๆๆ กุขี้เกียจเถียงมึงแล้ว  เด็กอะไร เถียงคำไม่ตกฟาก” พี่ตั้มยังคงว่าแบ๊งค์ต่อไป  แต่แบ๊งค์อ่ะสิ  ตอนนี้แก้มป่อง  ทำหน้าไม่พอใจไปแล้ว

“แน่ะ!! ไอ้เด็กนี่ยังทำหน้าไม่พอใจอีก กลับไปนั่งที่เลยมึง เดี๊ยะกูโบกให้” พี่ตั้มขู่  แบ๊งค์ก็เลยเดินกลับไปนั่งยังที่ของตัวเอง  โดยที่นักศึกษาใหม่และรุ่นพี่ทุกคนมองเป็นตาเดียว  จากนั้นรุ่นพี่ก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพัก  ก่อนจะรวมตัวทำกิจกรรมอีกครั้ง

“เราขอโทษนะ  ที่ทำให้นายต้องลำบาก  แล้วยังโดนรุ่นพี่เขม่นอีก”  แมคเดินเข้ามาแล้วพูดกับแบ๊งค์ที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าตึก

“ช่างเหอะ ไม่ต้องสนใจหรอกเราก็งี้แหละ ไม่ค่อยยอมใคร  ไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก”  แบ๊งค์พูด  จากนั้นเพื่อน ๆ นักศึกษาปีหนึ่งทั้งหลายก็ต่างแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่กันยกใหญ่  แล้วรุ่นพี่ก็เรียกรวม  โดยจะให้แบ่งกลุ่ม  กลุ่มละ 5 คน แยกกันไปเข้าฐานที่รุ่นพี่จัดไว้ให้  โดยกลุ่มของแบ๊งค์จะมี  แบ๊งค์  แมค  กาวและอีกสองสาวชื่อ  ครีมกับผิง

เราก็เดินยกกลุ่มกันไปเข้าฐานต่าง ๆ ที่มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย  จนมาถึงฐานหนึ่งซึ่งมีพี่ตั้มและเพื่อนของเขาเป็นคนคุม  กรูส์จะโดนอะไรอีกมั้ยเนี่ย  แบ๊งค์คิดในใจ 

“ฐานนี้เป็นฐานตอบคำถาม  ไม่ต้องห่วงนะเป็นคำถามง่าย ๆ “ พี่ตั้มพูดขึ้น

“โดยที่พี่พี่จะเลือกคน 1 คนจากในกลุ่ม มาตอบคำถามพี่ 1 คำถาม  ถ้าตอบไม่ได้ก็โดนลงโทษยกกลุ่มละกัน”  พอพูดจบเพื่อน ๆ ของพี่ตั้มต่างทำตาค้าง แบบอึ้งอะไรบางอย่าง ฐานนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะสิ

“เอ่อ.......ผมว่ากติกามันแปลก ๆ ไปนะเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังใช้อำนาจเผด็จการแก้ไขมันอยู่นะ” แบ๊งค์ก็แย้งไปสิครับ มันดูแปลก ๆ ตั้งแต่กติกาแล้วดูเอาเปรียบยังไงก็ไม่รู้

“ก็กูจะเอาของกูแบบนี้อ่ะ มึงจะทำไม  หรือว่ากลัว  ไม่กล้า” พี่ตั้มท้า  โหยยยยยยยย  ใครจะไปยอมล่ะคับ ท้ากันถึงขนาดนี้

“งั้นก็ตามใจ  มีอะไรก็ว่ามาก็แล้วกัน” แบ๊งค์ตอบเนือย ๆ

“งั้นกูเอามึงเนี่ยแหละมาตอบคำถาม  พูดมากดีนัก”

“ได้ไงอ่ะ  เล่นแบบนี้ซะงั้น”

“ทำไม!!!มึกกลัวหรอ”

“ก็ได้!!!!!!!!!!!!!!!!!!ถามมาดิ” แบ๊งค์ตอบพี่ตั้มออกไป

“งั้นกูให้มึงอธิบายดีกว่าพูดมากดีนัก”

“.......(o_O)......” อ้าวเวรเปลี่ยนซะงั้น เผด็จการเต็มขั้นเลยว่ะ

“มึงลองเล่าประวัติโดราเอมอนให้กูฟังดิ  ดูเหมาะกับมึงดี กูอยากฟัง ห้ามผิดนะเว้ย” พี่ตั้มขู่ไม่เลิก  ในใจคงคิดว่าจะเอาชนะได้ ( มารู้ทีหลังคับ พี่เค้าเป็นแฟนพันธ์แท้โดราเอมอน )

“ก็ได้.......โดราเอมอนเกิดที่โรงงานหุ่นยนต์มาซุชิบ้า  เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ.2112  โดยความจริงแล้วโดราเอมอนมีสีเหลือง  แต่หนูกัดหูก็เลยร้องให้ 3 วัน จนกระทั่งสีเหลืองที่เคลือบหลุดออกมาจนเหลือเป็นสีฟ้าซึ่งเป็นสีของตัวโดราเอมอนจริง...................”

แบ๊งค์ก็เล่าไปนานมาก หันไปดูพี่ตั้มอีกที  พี่เค้าทำหน้าอึ้งคับ  ไม่รู้ล่ะสิผมก็แฟนพันธุ์แท้โดราเอมอนเหมือนกัน  พี่เค้าเลยหาทางเล่นงานแบ๊งค์ไม่ได้  เลยปล่อยออกฐานมาโดยทำหน้าเสียดาย  คิดจะเล่นงานแบ๊งค์หรอ  หุหุ.....ไม่มีทาง  แล้วกลุ่มเราก็เดินออกฐานมาคับ

“แบ๊งค์เก่งจังอ่ะ  รู้ประวัติโดราเอมอนด้วย  เราว่าเรารู้ทุกอย่างแล้วนะ เจอแบ๊งค์เข้าไป  ขอคารวะเลย” ครีมพูดขึ้น

“ช่ายๆๆๆ” ทุกคนในกลุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“แหะ ๆ  (-  -") ก็นิดหน่อยอ่ะ” ไม่รู้จะตอบยังไงคับ

และแล้วครึ่งวันแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพื่อน ๆเค้าออกไปทานข้าวกลางวันนอกมหาวิทยาลัยกันคับ  แต่แบ๊งค์อ่ะไม่อยากไปไหน  ก็เลยไปซื้อขนมกับนมมานั่งกินที่หน้าตึกนั่นเอง กินเสร็จก็นั่งเปิดดูมือถือคับ  กะว่าจะโทรหาเพื่อนที่เชียงใหม่  ได้ข่าวว่าอยู่คณะเดียวกันยกแก๊งค์  ทำเอาครูที่โรงเรียนถึงกับอึ้งว่าติดได้ยังไง  กำลังจะกดเบอร์คับ แต่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

*****************************
มีใครเอาเรื่องนี้มาลงรึยังคับ ผมลองหาดูแล้วไม่เจอคับ
 :bye2: คับ

 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 11-04-2007 23:31:18
โย่ววว ดีจัง มีเรื่องใหม่อ่านกันอีกแล้วววว   :myeye: :myeye:

ขอบคุณ pajaa มากมายที่มาโพสให้อ่านกัน

ว่าแต่ว่า ทำไมตัดจบตอนกำลังลุ้นห๊า  :serius2: :serius2: :serius2:

 :monkeycry4: :monkeycry4: :monkeycry4:

ประวัติโดเรมอนเหรอ เหอเหอ  :kikkik: :kikkik:

ไม่เคยรู้เลย  :pandalaugh: :pandalaugh:

ติดตามกันต่อไป  :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 11-04-2007 23:39:47
อ่านแล้วมึนมั้ยคับ :really2:

copy มางัยแปะงั้นเลยอ่ะคับ
 
คราวหน้าจะจัดระเบียบก่อนแปะล่ะกันเนอะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 12-04-2007 00:24:21
แหะๆ จะว่าไปก็มึนนิดๆ นะ  :really2: :really2:

มันติดกันอ่า ถ้ายังไงก็รบกวน pajaa ด้วยละกันเนอะ  :myeye: :myeye:

สู้ๆน๊า :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-04-2007 00:38:48
มาให้กำลังใจจ้า  :yeb:

ท่าจะสนุกอีกเรื่อง  :เชิป2: :เชิป2: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 12-04-2007 01:19:24
เรื่องนี้ยางมะมีคนอาวมาลงจ้าน้องนินจา  :yeb: ขยันจริงๆเล๊ยยย  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 12-04-2007 07:23:33
เย้เรื่องนี้มาลงละดีจังให้กำลังใจคนลงด้วยครับเหอๆ  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tamjai_sengped ที่ 12-04-2007 13:40:15
อ่านนนนนนนนน เรื่องใหม่  :จ้อบจัง1:





ติดตามตอนต่อไป :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 12-04-2007 21:43:19
***************************
“กินน้อยแค่นี้ล่ะสิ  ตัวถึงได้เล็กเป็นนายพริกขี้หนูแบบนี้” พี่ตั้มคับ เดินมากับเพื่อนอีกสองคน พี่ปอยคับ

( ยังจำได้ป่าว คนที่ประกาศเรียกเด็กมาอ่ะคับ )  และก็พี่ตี๋  พี่คนนี้ตี๋สมชื่อจริง ๆ คับตาเป็นเส้นเดียวเลย

“ให้พวกกูนั่งกะมึงได้ป่าว” โห....มาขอนั่งด้วยนะเนี่ย  พูดซะเพราะโคตรพ่อเรย

“ก็นั่งไปสิคับ  ไม่ได้มีป้ายห้ามซะหน่อย”  แบ๊งค์เริ่มปะทะคารม

“อ้าว!!ไอ้นี่  กวนตีนกูอีกแระ” พี่ตั้มโวย

“พอแล้วตั้ม  หาเรื่องน้องเค้าอยู่ได้” เหมือนนางฟ้ามาโปรดคับ พี่ปอยช่วยแย้ง

“ก็.........”

“เฮ้ย....พอเหอะวะเรามาขอน้องเค้านั่งด้วยนะเว้ย”

พี่คนที่ชื่อตี๋เสริมขึ้นบ้าง  หุหุมีความสุขครับ
มีคนเข้าข้างมากมายขนาดนี้  แบ๊งค์มองหน้าพี่ตั้มซึ่งมองหน้าแบ๊งค์อยู่ก่อนแล้ว
โดยสายตาของพี่ตั้มบอกประมาณว่า ฝากไว้ก่อนเหอะ  ผมก็เลยจ้องกลับบ้างพร้อมกับส่งสายตาไป
บอกประมาณว่า กลัวซะที่ไหนล่ะ  พี่ตั้มมันก็ยิ่งไม่พอใจดิคับ

 “น้องเป็นคนเชียงใหม่หรอคะ”  พี่ปอยถามแบ๊งค์คับ

 “คับ”  แบ๊งค์ตอบพร้อมกับผงกหัวงึก ๆ

 “อืม........นี่น้องเป็นเด็กปีหนึ่งจริง ๆ หรอ” พี่ตี๋ถามบ้างคับ

 “ใช่คับ  มีอะไรรึเปล่าคับ”  แบ๊งค์งงนิหน่อยอ่ะ  ถามแปลก ๆ

 “ก็น้องอ่ะตัวเล็กนิดเดียว  ผอมซะ อย่างกะเด็ก ม.ต้น”

 “ แหะ ๆ (- -‘) หรอคับ” งงดิคับ นี่เราดูตัวเล็กขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย

 “นี่นายเล่นกีอะไรมั่งรึป่าว” พี่ตั้มถามคับ

 “ไม่อ่ะ....ไม่เล่นซักอย่าง”

 “ถึงว่าล่ะสิ  ตัวถึงได้ผอมแห้งขนาดนี้อ่ะ” พี่ตั้มพูด

  “แล้วเอาเวลาไปทำอะไรหมดล่ะ  เวลาที่ว่างๆอ่ะค่ะ” พี่ปอยถาม

 “คือ.......เอาไปเล่นเกมกะเอมเอสเอนอ่ะคับ”ไม่รู้ทำไงคับ  เลยตอบไปตามความจริง

 “แค่สองเองอ่ะหรอ  แล้วเล่นกี่ชั่วโมงเนี่ย” พี่ตี๋ถาม

 “คับ ถ้าวันปกติ ก้อแค่ช่วงเลิกเรียนอ่ะคับประมาณ 16.30-21.30น.  ถ้าวันหยุดก็........13.30-04.00น.คับ.....”   

ทุกคนต่างอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของแบ๊งค์  ไม่คิดว่าจะเล่นได้ขนาดนั้น

“โห!!!!!!!น้องเล่นหนักขนาดนี้เลยหรอคะ”  พี่ปอยทำท่าตกใจ

 “ไม่น่าล่ะถึงได้ดูผอม ไม่มีแรงแบบนี้อ่ะ” พี่ตั้มพูด

 “พยายามลดลงหน่อยนะคับน้อง รักษาสุกขภาพด้วย” พี่ตี๋พูดบ้าง

“ค้าบบบบ(-‘-)!!!!” โดนรัวเป็นชุดเรยแฮะ 

เรานั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ คับ รู้สึกว่าคุยกับพี่ ๆกลุ่มนี้แล้วสนุกดีอ่ะคับ
พี่ปอยก็สวย ใจดี  พี่ตี๋ก็คุยสนุก พี่ตั้มอ่ะหรอ ก็ดีนะ  ถ้าลดความห่าม เถื่อนลงมาอีกนิด หุหุ 
พอถึงเวลาประมาณ 13.30 น. พวกพี่ ๆ เค้าก็พาผมไปรอเพื่อน ๆ คนอื่นที่ลานกิจกรรมข้าง ๆ
ตึกคับ ไม่มีอะไรหรอกคับ ก็แค่ให้มานั่งร้องเพลงกันเฉย ๆ

แล้วก็ถึงเวลาเลิกแล้วคับ  อยากกลับบ้าน (คอนโดนั่นแหละ)จัง  อยากนอน ไม่จิ   อยากออนเอม
เล่นเกมแล้วแหละคับ สงสัยคงเลิกไม่ได้จริง ๆ

โทรหาพี่นุ่นแล้วคับเดี๋ยวก็คงมารับ   พอขึ้นรถอ่ะคับพี่นุ่น ก็รีบแจ้งเหตุยกใหญ่รัวเป็นชุดเลยคับ 
ว่าที่คณะของเค้าเป็นยังไงบ้างฟังแล้วก็อิจฉาครับรุ่นพี่ใจดีทั้งนั้นเลย
พอมาถึงห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า   กินอะไรจนเรียบร้อย  ก็ไม่ไหวแล้วคับขอตัวไปหลับอย่างแรง
จากที่กะไว้ว่าจะไปเล่นเกม  ออนเอม  ไม่ได้ทำหรอกคับ  เหนื่อยมาก  ไม่รู้เหนื่อยอะไรหลับไปไม่รู้ตัวเลยคับ
******************************
:bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 12-04-2007 22:18:28
นอนดึกบ่อยไม่ดีๆนะครับเเบงค์ อิๆ :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-04-2007 09:19:17
มารออ่านต่อ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 13-04-2007 10:05:46
นอนดึกบ่อยๆแล้วมานจาม่ายคึกนะจ๊ะ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-04-2007 10:49:51
หุหุ ตามมาอ่านเรื่องใหม่  :110011:  :110011:  :เชิป2:  :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 13-04-2007 13:17:19
มาแร้วๆ เรื่องนี้ กรี๊ดๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 13-04-2007 20:39:15
จัดระเบียบตัวเองว่ายากแล้วนะ จัดระเบียบตัวหนังสือยากกว่าอีกแฮะ  : 222222:
ทำได้ยังเงี้ยมึนมั้ยคับ แนะนำได้นะฮะยังงัยผมต้องทำทั้งเรื่อง
*************************
บทที่ 2  จุดเริ่มต้นของการอยู่คนเดียว

   ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์แล้วคับ  กับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของแบ๊งค์   ก็ไม่อะไรหวือหวามากมายหรอกคับ
 พี่ ๆ ใจดีกันทั้งนั้น  ไอ้คุณพี่ตั้มก็ดีขึ้นเยอะ ไม่โววาย ไม่ปากเสียเหมือนแต่ก่อน  ทำเอารุ่นน้องปี 1
สาว ๆ หลาย ๆคนเริ่มพากันกรี๊ดพี่ตั้มซะงั้น  อืม....ลืมบอกไปตอนนี้มีการแบ่งพี่รหัส  น้องรหัสแล้วนะคับ 
บางคนได้พี่รูปหล่อ บางคนได้พี่สุดสวยก็ดีใจกันไป  ของแบ๊งค์อ่ะหรอ ชื่อพี่อาร์ทคับ  เป็นนักบาส สาว ๆ
รุมกรี๊ดกันเป็นแถว  ไม่รู้ว่ากรี๊ดอะไรกัน แบ๊งค์ก็เห็นว่าพี่เค้าดูเฉย ๆ นะไม่ถึงกับหล่อมากมายแต่ไม่รู้ทำไมสาวกรี๊ดกันนัก

 “ นี่แบ๊งค์ ออนคุยกะใครอยู่หรอ”  พี่นุ่นถาม

 “ จิมมี่ไง  ไม่ได้คุยกันนานแล้ว”  แบ๊งค์ตอบออกไป

 “ อืมฝากทักทายมันด้วยล่ะ  เดี๋ยวพี่ไปเก็บของก่อนนะ”

 “ คับป๋ม”  ว่าแล้วพี่นุ่นก็เดินไปเก็บเสื้อผ้า ข้าวของต่าง ๆ ใส่กระเป๋า  ดีจังอ่ะ  คณะพี่นุ่นคับมีกิจกรรม
รับน้องที่หัวหิน  พี่นุ่นก็เลยต้องไป ดูท่าทางน่าสนุกจัง

 “ เออ!!!นี่ลืมไป   พรุ่งนี้พี่ไม่ได้เอารถไปนะ  เดี๋ยวเพื่อนพี่ที่ชื่ออ้อมอ่ะ  จะมารับ”  พี่นุ่นหันมาพูดก่อนจะ
เดินพ้นห้อง

 “ เราจะไปมหาลัยยังไงอ่ะ  เอารถพี่ไปมั้ยอ่ะ” พี่นุ่นถามขึ้น

 “ อือ ไม่อ่ะแบ๊งค์ขับรถไม่แข็ง  เดี๋ยวเอารถป้าไปชน”

 “ ไม่เป็นไร  เดี๋ยวแบ๊งค์นั่งรถเมล์ รถ แท็กซี่ไปเองก็ได้ ไม่ต้องห่วง”  แบ๊งค์ตอบ

 “ งั้นเอาแบบนี้  เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปด้วยกันนี่แหละ  แล้วตอนกลับเราค่อยกลับเองเอานะ” พี่นุ่นเสนอทางออกให้

 “ อืม  เอางั้นก็ได้คับ”  แบ๊งค์ตอบพร้อมผงกหัวงึก ๆ พี่นุ่นก็เดินออกห้องไปยังห้องของเธอเองเพื่อจัดกระเป๋า
เดินทางให้เรียบร้อย แบ๊งค์ก็เลยเล่น MSN คุยกะเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่ชื่อจิมมี่ต่อไป

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:    ดีแบง

badboy_be_sadboy   say:   คับ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   เปนไงบ้างที่โน่นอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   ก้อดีอ่ะเรื่อย ๆ แล้วที่นั่นอ่ะเปนไง เบนซ์ไปต่อยรุ่นพี่คนไหนอ่ะป่ะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อะนะ  ไม่มีหรอก  มีแต่รุ่นพี่ใจดี

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   มีแต่คนมาจีบล่ะไม่ว่า

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อิอิ

badboy_be_sadboy   say:   ไรว้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

badboy_be_sadboy   say:   กรูส์อยู่ที่นี่ไม่เหงมีใครมาจีบเรย

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   แล้วนุ่นควันไฟล่ะเปนไง ( ฉายยาของพี่นุ่นเค้าคับไว้วันหลังจะเล่าที่มาให้ฟัง )

badboy_be_sadboy   say:   ก้อดีอ่ะ เนี่ยเพิ่งออกไปเก็บของ

badboy_be_sadboy   say:   ป้าแกมีรับน้องที่หัวหินพรุ่งนี้อ่ะ  อิดฉาว่ะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   แล้วแบ๊งค์ไม่ไปหรอ

badboy_be_sadboy   say:   อือ.........ไม่ได้ไปว่ะ

badboy_be_sadboy   say:   เด๋วพุ่งนี้ ก้อคงต้องไปมหาลัยเองว่ะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   พี่นุ่นไปกี่วันอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:  7 วันอ่ะ  ไปโคตรนาน ทิ้งน้องแสนน่ารักอย่างกรูส์อยู่คนเดียว

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   แหวะ.........ทำไปได้

badboy_be_sadboy   say:   อิอิ...........ขอหน่อยน่า

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:  จ้าพ่อหนุ่มหล่อ

badboy_be_sadboy   say:   สู้หนุ่มฮอทไม่ได้หรอก

badboy_be_sadboy   say:   เปนไงบ้าง อยู่ที่โน่น

badboy_be_sadboy   say:   แต่ละคน  HOT ป่าว

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อืมก้อดีนะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   ยิ่งไอ้เบนซ์  กะหญิงดิ

badboy_be_sadboy   say:   ไมหรอ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   โคตรป็อปเลย  มีแต่คนมาจีบ

badboy_be_sadboy   say:   เพื่อนกรูส์ขายออกซะทีนะ

badboy_be_sadboy   say:   แระเมริงอ่ะ  เปนไงห้ามตอบว่าไม่มี

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   ก้อมีบ้างอ่ะ  แต่ไม่เท่าสองคนนั้นหรอก

badboy_be_sadboy   say:   ให้มานเจงเหอะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อิอิ

badboy_be_sadboy   say:   หุหุ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   แล้วแบงอ่ะ  เปนไง

badboy_be_sadboy   say:   ของกรูส์เงียบ ๆ ว่ะ ไม่มีใครเลย

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   ถุย!!!!!!!.ให้มันจิงเหอะ

badboy_be_sadboy   say:   กรูส์พูดจิงนะเว้ย  ไม่มีจิง

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   แล้วคนใน เอมล่ะ เมื่อก่อนเหนเจอแต่เด็ก กทม.

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   ไม่เจอกันบ้างหรอ

badboy_be_sadboy   say:   ไม่เลยว่ะ  กรูส์ยุ่ง ๆ อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   กลับถึงคอนโดก็หมดแรงว่ะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อืม

badboy_be_sadboy   say:   คิดถึงพวกเมริงว่ะ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อืมกรูส์ก้อคิดถึงเมริงเหมือนกัน

badboy_be_sadboy   say:   ฝากบอกเพื่อน ๆ ด้วยนะ

badboy_be_sadboy   say:   ว่ากรูส์ กะเพ่นุ่นคิดถึง

badboy_be_sadboy   say:   แล้วบอกพวกมันด้วยว่าตั้งใจเรียน

badboy_be_sadboy   say:   อย่าเกเรให้มากนัก

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   ค้าบ....................พ่อ

badboy_be_sadboy   say:   ดีมากลูก

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   อิอิ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   หุหุ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   เด๋วกรูส์ไปก่อนนะเว้ย

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   พรุ่งนี้มีกิจกรรมแต่เช้า

badboy_be_sadboy   say:   อืม...............บายคับ

kondeeplus__คนดีที่โลกรอหมอโฮจิม   say:   บาย
*****************************
จบตอน 2 แล้วคับ
 :bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-04-2007 22:38:57
เหอะๆ เสน่ห์แรงแบบไม่รู้ตัวป่าว
 :รักจัง11: :รักจัง11: :รักจัง11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 14-04-2007 00:40:25
สเน่ห์เเรงมักๆ  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-04-2007 03:18:54
หุหุ อยู่คนเดียว ระวังมีใครตามมาอยู่เป็นเพื่อนนะ  :kikkik:  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 14-04-2007 23:05:07
*******************************
บทที่ 3 เจ็ดวันอันตราย ..........รึป่าวนะ (-' -)ตอนที่ 1

   “ตื่น ๆๆๆๆๆ ตื่นได้แล้ว"   พี่นุ่นปลุกแบ๊งค์

   “ ถ้าไม่ตื่น  ไปมหาลัยเองละกัน  แล้วถ้าสายขึ้นมาอย่ามาว่าชั้นล่ะ”

   “ค้าบบบบบบ”  แบ๊งค์ตอบพร้อมกับรีบวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัว    เมื่อแบ๊งค์ออกมานอกห้องก็เห็นพี่นุ่นซึ่งถือกระเป๋าพะรุงพะรังเต็มไปหมด

   “นี่ป้า!!!!!! จะย้ายบ้านหรอ  ขนไปซะ”  แบ๊งค์แซวเมื่อเห็นของเหล่านั้น

   “ ก็ไปตั้ง 1 อาทิตย์นี่นา  ก็ต้องเตรียมไว้ คนสวยก็งี้แหละ”  พี่นุ่นพูด

   “อ่ะจ้า  แม่สาวฮอทเชียงใหม่ อย่าไปทำน้ำหมากหกใส่ใครอีกก็แล้วกัน”  แบ๊งค์แซวไม่เลิก

   “ยะ  ไปได้แล้วเดี๋ยวอ้อม จะมาแล้ว”  แล้วแบ๊งค์ก็ช่วยถือกระเป๋าเดินทางของพี่นุ่นไปยังลานจอดรถหน้าคอนโด  ไม่รู้ป้าแกจะไปสวยอะไรกันนักกันหนา กระเป๋าหนักซะ นี่ยังมีกระเป๋าถือที่ข้างในมีเครื่องสำอาง ของแกอีกนะ  งานนี้ดูท่าพี่นุ่นเกิดแน่ ๆ  มาถึงหน้าคอนโด รถของเพื่อนพี่นุ่นมาพอดี 

   “อ้าวอ้อม   มาพอดีเลยนะ”  พี่นุ่นทักขึ้น

   “อ้อม  นี่แบ๊งค์ นายเกย์น้อยที่ติดตามชั้นมาจากเชียงใหม่อ่ะ”  พี่นุ่นแนะนำ

   “หวัดดีคับ”  แบ๊งค์ทักทาย

   “หวัดดีค่ะ  รีบขึ้นรถซิคะ”  อ้อมพูด

   “เดี๋ยวไปส่งแบ๊งค์ที่คณะรัฐศาสตร์หน่อยนะ”  พี่นุ่นพูดขึ้นบ้าง

   “อืมได้สิ”  อ้ออมตอบ

   ระหว่างทางบนรถ  เราก็คุยกันต่าง ๆ นานา  เรื่องเรียนบ้าง  เรื่องส่วนตัวบ้างจนทำให้แบ๊งค์ได้รู้ว่าอ้อมเนี่ย  เป็นเด็กซิ่ลมาก่อน  คือปีที่แล้วเข้าคณะบริหารไปแล้วไม่ชอบ  ก็เลยเอนท์ใหม่ในคณะนี้  พอเข้าคณะนี้แล้วชอบมาก ไม่น่าไปเอนท์บริหารเลย พี่อ้อมพูดแบบเสียดายนิด ๆ

   “ถึงแล้วเกย์น้อย  นี่วันนี้กลับบ้านเองก็ระวังตัวด้วยรู้มั้ย”  พี่นุ่นสั่ง

   “ค้าบ  จะไม่คุยกับคนแปลกหน้าและหน้าด้วยเลยอ่ะ”  แบ๊งค์รับปากพร้อมเหน็บแนม

   “มีอะไรก็โทรหาพี่นะจ๊ะ  แล้วจะซื้อขงฝากมาให้  บายจ๊ะ  จุ๊บๆ ” 

พี่นุ่นบอกก่อนที่จะไปยังคณะวิทยาศาสตร์ซึ่งตอนนี้คนคงเต็มไปหมดแล้ว  เสียดายจังทำไมคณะเราไม่มีแบบนี้บ้างอ่ะ   แบ๊งค์คิดในใจ  แล้วก็เดินไปนั่นที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะที่เดิม

 ช่วงนี้เป็นช่วงที่เพิ่งเปิดเทอมก็เลยยังไม่มีการเรียนการสอนอะไรมากมายหรอกคับ  ส่วนมากจะเป็นกิจกรรมที่พวกรุ่นพี่ทั้งหลายจัดขึ้นมาแทนการเรียนมากกว่า   

   “มานั่งคนเดียวอีกแล้วนะ ”  กาวทักพร้อมเดินมาแมค

   “อืม........ตามปกติอ่ะไม่รู้ไปไหน”  แบ๊งค์ตอบ

   “นั่งด้วยได้ป่ะล่ะ” แมคถาม

   “อ้าว!!!ก็นั่งไปจิ  ไม่ได้ห้ามซะหน่อย” แบ๊งค์ตอบไป

   “เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ตั้มถึงได้เรียกว่านายพริกขี้หนู” แมคพูดแล้วหัวเราะหึหึ

   “ซะงั้น  เราก็ตอบตามความจริงนี่นา  ก็เราเป็นคนแบบนี้อ่ะ”  แบ๊งค์ตอบแบบมีงอน

   “อ่ะนะ  อย่าทะเลาะกันเลย” กาวตัดบทหลังจากดูสถานการณ์ไม่ดี

   วันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอกคับ  ได้เรียนไม่กี่ชั่วโมง  เน้นไปที่การนั่งร้องเพลงทำกิจกรรมมากกว่า  วันนี้มีเลือกเข้าชมรมด้วยคับ  ไอ้กาวอ่ะไปเข้าชมรมบาส  ที่พี่อาร์ทพี่รหัสแบ๊งค์คุมอยู่อ่ะคับ  แมคไปเข้าชมรมนันทนาการที่พี่ตั้มคุมอยู่ ( ไปอยู่กันได้ไงวะ น่าอยู่ซะ.....)  สองสาวครีมกับผิงเลือกชมรมเทนนิสครับ ( นักกีฬาว่ะ )  แบ๊งค์หรอคับไม่รู้จะอยู่ไหน กีฬาก็ไม่ชอบเล่น  นันทนาการก็เดี๋ยวไปทะเลาะกะไอ้พี่ตั้มอีก  เลยไปอยู่ชมรมรักการอ่านของฝ่ายหอสมุดอ่ะคับ  ( ไปหลับอย่างเดียวแน่ ๆ กรูส์ )

   “ไอ้ตัวเล็ก  อยู่ชมรมไรงะมึงอ่ะ”  พี่ตั้มคับเดินเข้าทัก เดี๋ยวนี้ขยันหาคำมาผมจัง ตั้งแต่ไอ้พริกขี้หนูแล้ว  ตอนนี้ก็มาไอ้ตัวเล็กอีก

   “อยู่ชมรมรักการอ่านอ่ะไมหรอ”  แบ๊งค์ตอบไปทำท่ากวน ๆ นิด ๆ

   “หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ  นี่หัดไปทำอะไรให้ร่างกายแข็งแรงบ้างดิวะ พวกชมรมกีฬาทั้งหลายอ่ะทำไมไม่ไปเข้า  ไม่ก็ชมรมกูก็ได้” พี่ตั้มพูดซะยาวเหยียด

   “ก็ไม่ชอบอ่ะ  อยากอยู่ชมรมนี่อ่ะ ใครจะทำไม”  แบ๊งค์ตอบแบบกวน ๆ

   “มิน่าล่ะ  ตัวถึงได้เล็กแบบนี้ ไม่โตซะทีนะไอ้ตัวเล็ก”  พูดจบพี่ตั้มก็หัวเราะใหญ่

   “นี่พี่ แบ๊งค์อายุ 18 แล้วนะถึงจะสูงแค่ 170 ก็เหอะแต่มันก็สูงกว่าใครหลาย ๆ คนในมหาวิทยาลัยนี้ เลิกเรียกผม ไอ้ตัวเล็กซะที”  แบ๊งค์ตอบแบบมีน้ำโห

   “เดี๋ยวนี้ดุจังนะ  แซวนิดเดียวทำเป็นโกรธ”  พี่ตั้มพูดขึ้น แล้วก็เดินจากออกไปคับ  สงสัยงอนมั้ง ช่างเหอะไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกันอยู่แล้ว  ตอนนี้ก็เลิกเรียนมานานแล้วคับ  กำลังคิดครับจะกลับยังไงดี  จะนั่งรถเมล์ หรือรถแท็กซี่ดี ระหว่างที่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์ก็มีเสียงทักขึ้น

   “อ้าวแบ๊งค์!!!!ทำไมมานั่งรอรถอยู่นี่ล่ะ เพื่อนนายคนนั้นล่ะ” กาวทักขึ้นครับ

   “อืม ก็เค้าไปรับน้องที่หัวหินอ่ะดิ เลยต้องกลับเอง” แบ๊งค์ตอบ

   “แล้วจะขึ้นรถสายอะไรกลับล่ะ”  กาวถามครับ

   “ไม่รู้ดิ น่าจะเป็นสาย aaa มั้งเห็นผ่านหน้าคอนโดบ่อย ๆ”
 
   “อ้าว  มาอยู่นี่ไม่ได้สำรวจอะไรเลยหรอ”  กาวทำหน้าตกใจ

   “อืม  ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้นี่นา”  แบ๊งค์ก้มหน้าตอบ  แบบอายนิดๆ

   “งั้นนายอยู่คอนโดชื่ออะไรล่ะ”  กาวถาม

   “OOOOคอนโดอ่ะ รู้จักหรอ”  แบ๊งค์ถามกลับ

   “งั้นก็ดีล่ะ  ขึ้นรถเมล์สายเดียวกับเราก็ได้ นั่นไง!!!!รถมาแล้ว!!!”  จะรออะไรอีกล่ะครับ 
วิ่งสิครับ เดี๋ยวรถเมล์ไปก่อนต้องรออีกนาน ตอนนี้ก็เริ่มเย็นมากแล้วด้วย  กาวมันก็สอนครับว่าต้องขึ้นรถสายอะไร ถึงจะมาโรงเรียนได้ แล้วมีรถสายอะไรไปไหนบ้างที่ผ่านคอนโดแบ๊งค์  แล้วก็มาถึงคอนโดครับ

   “เราไปก่อนนะ  วันนี้เราขอบคุณนายมากด้วยละกัน บาย”

พูดจบก็ลงรีบรถไปเลยครับลงช้าเดี๋ยวกระเป๋ารถด่า  เดินมาที่หน้าคอนโดซื้อบะหมี่หมูแดงไปกินด้วยครับ 
ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้ว ตอนที่กำลัง เปิดประตูเข้าไปในห้องนั่นเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น  ใครซะอีกล่ะคับ ป้านุ่นนั่นเอง

   “แบ๊งค์อยู่ไหนแล้ว “ พี่นุ่นถาม

   “กำลังถึงห้องเนี่ย”  แบ๊งค์ตอบไป

   “ตอนนี้พี่กำลังกินซีฟู๊ดอยู่  อร่อยมากกกกกกกกกกกกก ตอนที่มาถึงนะได้เล่นน้ำด้วย รุ่นพี่เค้าใจดีมากเลยอ่ะแบ๊งค์”  พี่นุ่นบรรยายถึงบรรยกาศที่นั่น

   “โห.......ป้าอิจฉาว่ะ เนี่ยอยู่คนเดียวอีก  กินแต่บะหมี่หมูแดงเนี่ย”  แบ๊งค์บ่นอุบอิบ

   “อ่ะจ้า  ยังไงก็ทนหน่อยนะ 7 วันเอง อิอิ แล้วนี่จะทำอะไรต่อไปอ่ะ” พี่นุ่นถาม

   “เดี๋ยวกินข้าว  อาบน้ำเสร็จ ก็คงไปเล่นเกมต่ออ่ะ กะจะอัพเลเวลวันนี้เลยอ่ะ”

   “อย่านอนดึกให้มากนักล่ะ  เดี๋ยวไปเรียนสายและเสียสุขภาพอีก” พี่นุ่นพูดเชิงเป็นห่วง

   “คับ ซัก 5 ทุ่มกว่า ๆ ก็คงนอนอ่ะ” แบ๊งค์ตอบไป

   “ดีมาก!!!งั้นแค่นี้ก่อนนะ บายจ๊ะ”

 พี่นุ่นตัดสายไปแล้วคับ  ตอนนี้ผมก็จัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคับ กินข้าว  อาบน้ำ  ในที่สุดก็ได้เล่นซะที  เล่นเกมสนุกมากเลยคับ  วันนี้ทำคะแนนได้อยู่อันดับต้นตลอด  ไม่มีพลาดเลยคับ  เล่นเพลินมากจนในที่สุด เหลือบไปมองนาฬิกา อ่ะจ๊ากกกก(o_O)นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วหรอเนี่ย  รีบปิดคอมแล้วเข้านอนเลยคับ  เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนสาย 

 ปิ๊ป ๆๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกครับ  ดังอีกแล้ว เลยเอื้อมมือไปปิดคับ แล้วนอนต่อ (-“-)

รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมองนาฬิกานั่นแหละครับเลยเวลาปลุกมาเกือบชั่งโมง  ตอนนั้นลนลานมากคับทำอะไรไม่ถูก รีบอาบน้ำแต่งตัว แล้ววิ่งสุดแรงเกิดเลยคับมารอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าคอนโด  วันนี้เป็นอะไรไม่รู้คับ รถคันไหน ๆ ก็เต็มขึ้นไม่ได้เลย สงสัยคนตื่นสายกันหมด ( หรือว่าแบ๊งค์ไม่ชินเองกับการขึ้นรถเมล์ )  ไม่รู้จะไปไงคับ จะขึ้นแท็กซี่  รถแท็กซี่เจ้ากรรมก็ดันหาย  บางคันก็มีลูกค้า วันนี้ต้องไปสายแน่เลยคับ คิดแล้วก็นั่งปลงตกที่ ป้ายรถเมล์อยู่คนเดียว  แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีรถสปอร์ต สีดำติดฟิล์มทึบเข้ามาจอดหน้าป้ายรถเมลล์คับ  จากนั้นกระจกก็ค่อย ๆ เลื่อนลง

   “นี่ ๆ น้องคนนั้นอ่ะ ชื่อแบ๊งค์ที่เป็นน้องรหัสพี่ใช่มั้ย”  แบ๊งค์ก็เลยหันไปมองต้นเสียงคับ  พี่อาร์ทคับ คนขับรถคันนั้นคือพี่อาร์ทพี่รหัสของแบ๊งค์เอง

   “ค...คับ....”  แบ๊งค์ตอบ

   “ขึ้นมาเร็วเดี๋ยวพี่ไปส่ง”  พี่อาร์ทเรียก แต่แบ๊งค์ยังคงเงอะงะอย

  “ขึ้นมาเหอะ สายขนาดนี้อ่ะรถหมดแล้ว” พี่อาร์ทเร่ง แบ๊งค์เลยขึ้นรถพี่อาร์ทไป ระหว่างทางบนรถนั้นมีแต่ความเงียบ พี่อาร์ทคงสังเกตเห็นว่าแบ๊งค์นั่งเกร็ง ๆ ก็เลยพูดขึ้นมา

   “ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้  ว่าแต่...เราไม่ใช่คนกรุงเทพฯใช่มั้ย”  พี่อาร์ทถาม

   “ค...คับ...เป็นคนเชียงใหม่”  แบ๊งค์ยังคงเกร็งอยู่

   “ก็ว่า....สายขนาดนี้ยังมานั่งรอรถอีก  คนกรุงเทพฯอ่ะเค้าไม่มานั่งรอกันแล้วเวลาขนาดนี้อ่ะ

   “พี่อาร์ทพูดแล้วหัวเราะแหะ ๆ

   “คับ.....พอดีขึ้นรถเมล์คนเดียวไม่เป็นอ่ะคับ มีคนพาขึ้นตลอด”  แบ๊งค์ตอบไป

   “แล้วปกติมามหาลัยยังไงล่ะ?”  พี่อาร์ทถาม

   “มีเพื่อนมาส่งครับ  แต่ตอนนี้เค้าไปรับน้องคณะวิทย์อ่ะคับ”

 แบ๊งค์อธิบายไป  พี่อาร์ทก็ผงกหัวงึก ๆ รับคำตอบไป  แบ๊งค์ยังคงเกร็งต่อไป  ก็แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเคยคุยซะที่ไหนล่ะ เดินสวนกันยังไม่ทักกันเลยต่างฝ่ายต่างไม่ยอมทักไม่รู้เป็นอะไร  ไม่เหมือนพี่รหัส-น้องรหัสคู่อื่น ๆ แค่เจอหน้ากันระยะ 100 เมตร ต่างฝ่ายก็ต่างเดินเข้าหา ถามกันต่าง ๆ นานา  คงเป็นเพราะแบ๊งค์ไม่ค่อยไปไหนด้วยมั้ง  ว่าง ๆ ก็เอาแต่นั่งหน้าตึก ส่วนพี่อาร์ทก็เอาแต่เล่นบาส ต่างฝ่ายต่างทำกิจกรรมของตัวเองไป เลยไม่ค่อยได้เจอและสนิทกันเหมือนพี่รหัส-น้องรหัสคู่อื่น ๆ

   “ขอบคุณมากนะคับ” แบ๊งค์พูดหลังจากที่รถของพี่อาร์ทเข้าจอดที่ลานจอดรถ

   “อืม ไม่เป็นไร ทีหลังอย่านอนตื่นสายอีกล่ะ” พี่อาร์ทพูดและยิ้มให้ก่อนแบ๊งค์จะลงจากรถ 

เมื่อลงจากรถก็ได้เรื่องเลยคับ คิดไว้อยู่แล้ว มีสายตาจากคนรอบข้างมองมาที่แบ๊งค์เป็นตาเดียว ยิ่งสายตาของพวกผู้หญิงที่จ้องมานะ ประมาณแกเป็นใคร?  มากับพี่อาร์ทได้ยังไง? เห็นแล้วน่ากลัวจัง เห็นแค่นั้นก็รีบเลยคับ ไปนั่งที่เดิมด่วน ไม่สนใจใครแล้ว

   “มาสายนะไอ้ตัวเล็ก” พี่ตั้มครับนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวประจำของแบ๊งค์แล้วทักขึ้น ผมก็เดินเข้าไปนั่งดิคับ โต๊ะตัวอื่นมีคนนั่งหมดแล้ว

   “นี่ ๆๆ มีมารยาทหน่อยดิ คนอื่นเค้านั่งอยู่ จะขอซักคำมีมั้ยอ่ะ”  พี่ตั้มพูดขึ้นมา

   “ก็แบ๊งค์เห็นว่า ที่โต๊ะตรงนี้มีแค่นาย...เอ้ยพี่ตั้มนั่งอยู่คนเดียวไม่เห็นมีคนอื่นมานั่ง”

    ในเมื่อมันว่างอยู่ แบ๊งค์ก็มีสิทธิ์นั่ง หรือว่ามันจะมีใครบางคนจะใช้อำนาจเผด็จการ และไร้ซึ่งน้ำใจไม่ให้แบ๊งค์นั่งหรอคับ” แบ๊งค์แย้งออกไป  ทำเอาพี่ตั้มทำหน้าแหยเก

   “เออ ๆๆๆ  มึงอยากนั่งก็นั่ง”  พี่ตั้มพูดดูท่าไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่

   วันนั้นก็ผ่านมาได้โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกคับ ตอนเย็นแบ๊งค์ยังคงกลับบ้านกับนายกาวเหมือนเดิมเพราะยังไม่ค่อยชินในการขึ้นรถเมล์เท่าไหร่  กาวมันก็เลยอาสา กลายเป็นว่าตลอด 7 วันนี้แบ๊งค์ต้องกลับบ้านกับนายกาวทุกวัน โดยที่กาวจะพาขึ้นรถและสอนเส้นทางต่าง ๆ ที่จำเป็นให้ นี่ถ้าเป็นเชียงใหม่นะแบ๊งค์คงไม่ต้องลำบากเพื่อนขนาดนี้หรอก  โบกรถได้อย่างเซียนต่อรถไปได้ทั่วเชียงใหม่

แต่พอมากรุงเทพฯแล้ว เอ๋อ.. รับประทานเลยคับ สายไหนเป็นสายไหนไม่รู้จริง ๆ  วันนี้ยังคงเล่นเกมเหมือนเดิมครับ  แต่ไม่เล่นเหมือนเมื่อวานอีกแล้วนะ  เข็ดแล้วเดี๋ยวไปเรียนสายอีก มันคงไม่โชคดีแบบนี้ทุกวันหรอก

วันนี้ตื่นเช้าครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะไปสายอีก  ตอนนี้กำลังจะไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ครับ คนเยอะกันจริง ๆ  ระหว่างที่กำลังเดินก็มีรถคันหนึ่งบีบแตรขึ้นมาครับ เล่นเอาตกใจเลยก็เลยหันไปมองว่าเกิดอะไร

   “แบ๊งค์ !!!แบ๊งค์จริง ๆ ด้วย”  แมคครับ ไอ้คนที่มันถามชื่อแบ๊งค์ในวันแรก จนทำให้แบ๊งค์
ต้องทะเลาะกับพี่ตั้มอ่ะคับ มันพูดตอนที่แบ๊งค์หันไปพอดี

   “ขึ้นมาดิ เดี๋ยวเราไปส่ง” แมคชวน

   “อือ  ไม่อ่ะไม่เป็นไรเดี๋ยวรถก็มาแล้ว”  แบ๊งค์ปฏิเสธ  นายแมคก็เลยทำหน้าเจื่อน ๆ

   “ไปด้วยกันเหอะ ทางเดียวกันประหยัดเงิน ประหยัดน้ำมันนะเว้ย”  แมคอ้าง

   “เร็ว ๆ ดิ เดี๋ยวกูโดนรถเมล์บีบแตรไล่นะเว้ย มาจอดขวางป้ายเค้าอ่ะ” 

ไม่รู้จะทำยังไงครับก็เลยรีบขึ้นรถเจ้าแมคไป  แมคชวนคุยต่าง ๆ นานา แบ๊งค์ก็ไม่ได้ตอบอะไร  พอดีวันนั้นง่วง ๆ อ่ะคับ เลยไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่  เผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  มารู้ตัวอีกทีตอนที่แมคเรียก

   “แบ๊งค์  แบ๊งค์ตื่นได้แล้ว  ถึงมหาวอทยาลัยแล้ว” สะดุ้งสิคับ

หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยก้อเลยขอบคุณแมคไป แมคมันก็ยิ้ม ๆ  แบ๊งค์ก็คิดในใจ มันยิ้มอะไรของมันวะ หรือว่าตอนนอนกรูส์หลับไปทำอะไรปัญญาอ่อนป่าววะ ( เช่น นอนน้ำลายไหล ) เออช่างเหอะลงไปเรียนดีกว่า เดินมานั่งที่เดิมเลยคับ  โดยมีเจ้าแมคนั่นแหละเดินตามมานั่งด้วยกัน  มันยังคงยิ้มอยู่ ทนไม่ไหวแล้วคับ

   “นี่แมค มีอะไรรึป่าวเห็นยิ้ม ๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ มีอะไรก็บอกมาดิ ทำแบบนี้เราไม่ชอบนะ”

ก็จริงนี่คับทำแบบนี้มันดูเสีย self ยังไงก็ไม่รู้ แมคมันก็หัวเราะออกมาเลยคับ  ยิ่งทำเราเสีย self เข้าไปใหญ่ นี่กรูส์ทำอะไรที่มันเปิ่นขนาดนั้นเลยหรอวะ  คิดในใจคับแต่หน้ายังป่องเป็นปลาทองแสนงอนต่อไป

   “ป่าว ๆๆๆ ไม่มีอะไร  แค่เห็นหน้านายตอนหลับแล้วมันน่ารักดี  บอกไม่ถูกว่ะ คิดอะไรเพลิน ๆ
เลยหัวเราะออกมา”  แมคมันกลั้นหัวเราะพูดออกมาแล้วก็กลับไปหัวเราะอีก

   “อะไรเนี่ย ดูตอนไหนไม่ดู มาดูคนตอนหลับ”  แบ๊งค์ยังทำหน้าตาปลาทองต่อไป

   “หัวเราะอะไรกันเนี่ย  ดังเชียว”

พี่ตั้มเข้ามาทักครับแต่ไม่มีใครยอมตอบ  นายแมคก็เอาแต่หัวเราะ ส่วนแบ๊งค์ก็ยังทำหน้างอนอยู่  แล้วแมคมันก็ดึงพี่ตั้มไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ พอกลับมาทั้งคู่ก็เอาแต่หัวเราะ  วันนั้นทั้งวันแบ๊งค์รู้สึกไม่ชอบเลยอ่ะคับ สองคนนั้นเอาแต่ยิ้ม สลับกับหัวเราะตลอดเวลาที่เจอหน้าแบ๊งค์   ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยทำหน้างอนอย่างเดียว

วันนี้แบ๊งค์ต้องกลับบ้านกับนายกาวตามปกติครับ แต่ที่ไม่ปกติคือ วันนี้ต้องกลับเย็นกว่าเดิม เพราะชมรมบาสที่นายกาวอยู่เรียกพบสมาชิกวันนี้แบ๊งค์เลยต้องไปนั่งรอนายกาว ซ้อมบาสที่สนามบาสครับ
*******************************
 :bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-04-2007 00:22:05
เรื่องนี้ใครน้าจะพิชิตใจแบงค์  :give2:

รออ่านต่อ  :loveu:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 15-04-2007 23:49:29
****************************
บทที่ 4 เจ็ดวันอันตราย ..........รึป่าวนะ (-‘-)ตอนที่ 2

   “นั่นน้องแบ๊งค์รึป่าวคับ”  เสียงคุ้น ๆ หูทักขึ้นข้างหลังแบ๊งค์

   “คั...คับ”  แบ๊งค์ตอบออกไป พี่อาร์ทเองครับ

   “มาทำอะไรที่นี่ล่ะคับ” พี่อาร์ทถาม

   “มารอเพื่อนอ่ะครับ ต้องกลับด้วยกัน ไม่งั้นแบ๊งค์จะหลงกรุงเทพฯ”  แบ๊งค์ตอบไปตามความจริง พี่อาร์ทก็หัวเราะ หึ หึ

   “งั้นให้พี่ไปส่งเราเอามั้ยล่ะ ทางผ่านบ้านพี่อยู่แล้ว”  พี่อาร์ทถาม

   “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ  ลำบากเปล่า ๆ ”  แบ๊งค์ตอบออกไปด้วยความเกรงใจ  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้พูดต่อเพื่อนพี่อาร์ทก็เรียกให้ไปซ้อม

   “พี่ไปซ้อมบาสก่อนนะครับ ไว้วันหลังเราค่อยมานั่งคุยกันใหม่” แบ๊งค์ผงกหัวเป็นการรับคำ

วันนี้ไม่มีอะไรหรอกคับ  แค่แนะนำประธานชมรมอะไรประมาณนี้อ่ะ  แล้วก็ให้ทำความคุ้นเคยกับลูกบาสด้วยการฝึกทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วเค้าก็ปล่อยเด็กใหม่กลับ  เหลือแต่พวกนักกีฬาเอาไว้

   “ป่ะกลับกันเหอะแบ๊งค์” กาวเรียก  แบ๊งค์ก็เลยค่อย ๆ เดินตามกาวไป  เพื่อไปรอรถกลับบ้านด้วยกันที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย แล้วอยู่ ๆ  ก็มีรถเก๋งสีขาวคุ้น ๆ ตามาจอดหน้าพวกเราสองคน รถของแมคนั่นเอง

   “แบ๊งค์ให้เราไปส่งมั้ย”   แมคถาม

   “ถ้าจะให้ดี  นายช่วยไปส่งกาวด้วยได้ป่ะล่ะ” เ แบ๊งค์ถามย้อน

   “ไม่ต้องหรอกแบ๊งค์  ไปเหอะเดี๋ยวเรากลับเองได้”   อ้าว ไอ้กาวไมพูดงั้นล่ะ แบ๊งค์ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่คับ เลยทำหน้างอน ๆ ไป

   “ไม่รู้แหละ บ้านกาวอยู่แถว ๆ OOO นายไปส่งได้ป่าวล่ะ  เราทิ้งเพื่อนไปกับนายไม่ได้หรอกมันดูเป็นการเอาเปรียบกันเกินไป”   แบ๊งค์แย้งออกไป

   “อืมก็ได้  บ้านเราก็อยู่เลยบ้านกาวไปหน่อยเดียวเอง”  แมคพูดพร้อมผงกหัว

   “ป่ะกาว รีบขึ้นรถเหอะ เดี๋ยวกลับบ้านดึก”  แบ๊งค์ลากกาวขึ้นรถ โดยผลักกาวให้นั่นที่นั่งข้างคนขับ  กาวกับแมคทำหน้างง  แบ๊งค์เลยตอบออกไป

   “ก็คอนโดแบ๊งค์ถึงก่อน ถ้านั่งหน้าเดี๋ยวที่นั่งมันว่างแล้วแมคก็กลายเป็นคนขับรถอ่ะดิ อีกอย่างถ้าจะให้สลับกันไปสลับกันมาก็วุ่นวายป่าว”  ทั้งคู่ไม่พูดอะไรได้แต่ผงกหัวงึก ๆ รับคำไป

   “นี่แบ๊งค์ วันนี้เป็นอะไรรึเปล่า ทำหน้าแปลก”   แมคถามโดยมองผ่านกระจกหลัง

   “ไม่อะไร สบายดี  กินข้าวแล้ว”  แบ๊งค์ตอบแบบกวน ๆ

   “เนี่ยนะไม่มีอะไร  กาวช่วยเราหน่อยดิ แบ๊งค์มันงอนอะไรก็ไม่รู้”  แมคหันไปหากาวให้กาวช่วยถามว่าแบ๊งค์เป็นอะไร

   “อืม.....นั่นดิเห็นทำหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว งอนใครหรอ”  กาวถามขึ้นบ้าง

   “แบ๊งค์ก็เป็นแบบนี้อ่ะใครจะทำไมล่ะ  สนใจด้วยเหรอ”   ตอบแบบมีงอน

   “เรื่องที่เราหัวเราะนายกับพี่ตั้มเมื่อเช้าใช่มั้ยล่ะ”  แมครู้ตัวครับ

   “รู้ตัวแล้วหรอ  ไม่รออาทิตย์หน้าล่ะค่อยรู้ตัว”   แบ๊งค์ตอบไป

   “เมื่อเช้ามีอะไรกันหรอ”   กาวถามแบบงง ๆ

   “ก็เมื่อเช้าอ่ะดิ  แมคมันรับแบ๊งค์มามหาลัย พอถึงมหาลัยมันก็เอาแต่ยิ้ม กับหัวเราะแล้วยังมีหน้าไปชวนไอ้พี่ตั้มหัวเราะแบ๊งค์อีก แบ๊งค์ไม่ชอบอ่ะเข้าใจป่ะ ถามอะไรก็ไม่ยอมบอก”

    “เราก็ไม่ได้ว่าอะไรแบ๊งค์ซะหน่อย แค่บอกพี่ตั้มว่าแบ๊งค์น่ารักดีตอนหลับ แต่ทำไมตอนตื่นถึงได้ดุได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้ คนละแบบเลยอ่ะตอนนอนกับตอนตื่น   ตอนหลับอย่างกะแมว  ตอนตื่นอย่างกะเสือ  สงสัยถ้าจะแกล้งต้องแกล้วตอนหลับ ก็เท่านั้นเอง”   พูดจบไอ้กาวก็หัวเราะ หึหึ  ออกมาเบา ๆ อ้าวไอ้นี่เป็นไปกับเค้าอีกคนหนึ่งแล้ว แบ๊งค์เลยยิ่งไม่พอใจ ไม่ยอมพูดกับใคร

   “โอ๋ ๆๆๆๆ อย่างอนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเลี้ยงข้าวอ่ะ” แมคเสนอ

   “อืม  นั่นดิแบ๊งค์อย่างอนเลย ว่าแต่ก็อยากเห็นแบ๊งค์ตอนนอนเหมือนกันนะ”  กาวพูด

   “ไม่ต้องหลอกอะไรเราเลย ไม่เชื่อใครแล้ว”  แบ๊งค์บ่นอุบอิบ

   “ทำตัวเหมือนเด็กอีกแล้วนะ  ไม่น่าพี่ตั้มถึงเรียก ไอ้ตัวเล็ก” แมคพูด

   “ ........................ ”

    “พอเหอะ ๆ ๆ แมคแบ๊งค์มันงอนใหญ่แล้ว” กาวตัดบท แต่ก็หัวเราะเบา ๆ ไปด้วย  มาถึงคอนโดแล้วคับ  วันนี้ไม่อยากกินอะไร งอนใครหลาย ๆ คน เลยรีบขึ้นไปบนห้องกะว่าจะไปเล่นเกม แล้วพี่นุ่นก็โทรมาคับ

    “ว่าไงจ๊ะ  เกย์น้อย” พี่นุ่นทัก

    “ก้อเรื่อย ๆ อ่ะป้า” แบ๊งค์ตอบเสียงเนือย

    “เป็นอะไรป่าวเสียงดูแปลก  โดนใครแกล้ง บอกเจ้มา เดี๋ยวจัดการให้”  พี่นุ่นลุกลี้ลุกลน

    “ช่างเหอะป้า  ตอนนี้กำลังจะเซง เครียด Audition  เซง  เครียด ON MSN อยู่เนี่ย เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง ป้าอ่ะอยู่ไหน”  แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

    “ตอนนี้พี่กำลังจะเข้านอนอ่ะ วันนี้ไปเที่ยวมาทั้งวันเลย หนุกมากมาย” พี่นุ่นบรรยาย

    “อืม  ระวังนะมัวแต่เที่ยวเดี๋ยวอดกินผู้ชายนะ อิอิ” แบ๊งค์แซว

    “อ่ะ จ้า  ไม่มีอะไรละ โทรมาถามความปลอดภัยเฉย ๆ จ๊ะ”

    “คับป๋ม วันนี้ไม่ได้กัดใครเรย”   ...........หรอ.............

    “อืมดีแล้ว  และอย่าเล่นดึกมากนักล่ะเดี๋ยวไปไม่ทัน”

    “คับผม”   แล้วพี่นุ่นก็ตัดสายไป 

แบ๊งค์ก็เลยมานั่งเล่นเกม  และออนเอ็มต่อที่หน้าคอม วันนี้ไม่ค่อยมีใครออนเลย  ไม่รู้จะคุยกับใครเลยไปเล่นเกมแทน  วันนี้ทำได้ไม่ดีเลย  อยู่อันดับท้าย ๆ ตลอด  เซ็งมากเลยคับ นอนดีกว่าไม่มีอารมณ์จะเล่นแล้ว  ว่าแล้วก็ปิดคอมแล้วเข้าห้องกลับไปเลยคับ เดี๋ยวไปมหาวิทยาลัยสายอีก

วันนี้ตื่นเช้าตามเคยครับ  ออกมารอรถเหมือนเดิม  คนเยอะตามปกติ  ในใจก็คิดว่าวันนี้จะมีใครมารับอีกมั้ย  แปลกดีนะครับ มีแต่คนอาศัยอยู่ย่านเดียวกันกับแบ๊งค์ทั้งนั้นเลย  นั่งไปก็หาวไปครับ แบ๊งค์เป็นแบบนี้แหละ ตื่นเช้าตื่นสายแค่ไหนก็ตาม อ๊อกซิเจนในหัวไม่เคยเพียงพอซะที  ต้องหาวเอาอ๊อกซิเจนเข้าไปตลอด  คนแยะแบบเดิมเลยแฮะวันนี้ไม่มีคนมารับครับ  ได้ลองขึ้นรถเมล์ในชั่วโมงเร่งด่วนซะทีคับ  รถแน่นใช้ได้ หนุกดีครับ ไม่เคยขึ้นรถที่คนแน่นแบบนี้เลย มาถึงมหาวิทยาลัยแล้วรู้สึกตัวลอยเลย ตอนนี้ก็มานั่งที่เก่าที่เดิมครับ

    “แบ๊งค์มายังไงอ่ะ เราผ่านหน้าคอนโดก็ไม่เห็น”  แมคเข้ามาทักคนแรกครับ

    “วันนี้ขึ้นรถเมล์มาอ่ะ คนแน่นหนุกดี........อิอิ”  แบ๊งค์ตอบทำหน้ากวน

    “งั้นเอางี้  พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้เราไปรับ-ไปส่งมั้ย”  อยู่ดี ๆ แมคก็เสนอความคิดขึ้นมา

    “แหะ ๆ (- -’) ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ ขึ้นรถเมล์ก็หนุกดีออก”  แบ๊งค์เริ่มหาข้ออ้าง

    “ไม่ได้นะเว้ย อึดอัดจะตาย อาจโดนล้วงกระเป๋าหรือไม่ก็โดนลวนลามนะเว้ย”  อะไรมันจะขนาดนั้นเลยหรอ แล้วเมริงมาห่วงอะไรกรูส์เนี่ย หน้าอย่างกรูส์คงมีหรอกนะคนมาลวนลาม คิดมากว่ะ  แบ๊งค์คิดในใจ  ก่อนจะพูดออกไปว่า

    “ไม่ต้องห่วงหรอก อีกแค่ 3 วันเอง เดี๋ยวพี่นุ่นก็กลับมาแล้ว”

    “อีกอย่างแค่รถแน่นไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ มันแน่นแค่ตอนเช้าเฉย ๆ แล้วตอนเย็นเรากลับกะกาวตลอด ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วงอย่างที่นายคิดซะหน่อย”   แบ๊งค์แย้งออกไป แมคทำหน้าเจื่อน ๆ แล้วอยู่ดี ๆ แมคก็ตะคอกออกมา

    “ฟังเราหน่อย  เราเป็นห่วงนะแบ๊งค์” อึ้งดิคับ ต่างคนต่างอึ้ง อึ้งกิมกี่ไปทั้งคูเลย แมคก็อึ้งที่พูดออกมา แบ๊งค์ดิคับยิ่งอึ้ง ทึ่ง เสียว อันหลังนี่ไม่เกี่ยวกันครับ อึ้งที่แมคมันพูดออก ได้คำว่าเป็นห่วงนั่นแหละคับ  มันดูส่อแววอะไรบางอย่าง  ท่าทางไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะ

    “อ้าว  คุยอะไรกันอยู่วะ” กาวครับ รักมันตายเลยเข้ามาได้จังหวะชะมัด

    “ไม่มีอะไรหรอก  สัพเพเหระอ่ะ เพิ่งมาหรอ” แบ๊งค์ตอบบ้าง

    “อืม แล้วเป็นไงบ้างวันนี้ขึ้นรถมาเอง” กาวถาม

    “ก็ดีอ่ะคนแน่นดี  อิอิ” แบ๊งค์ตอบ

 ตอนนั้นก็แอบมองไปที่แมคนะครับ มันก็มองแบ๊งค์อยู่แล้ว แต่พอแบ๊งค์หันไปมันก็หลบสายตาไปมองอย่างอื่น  เป็นแบบนี้ทั้งวันเลยครับ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมพูดอะไร  กาวมันก็ถามแต่แบ๊งค์ก็บอกไม่มีอะไร ก็อึดอัดนะครับได้แต่มองกันไปมองกันมา  ไม่มีใครยอมพูดอะไรซักคำ  แบ๊งค์ก็เฉย ๆ ไปครับ วันนี้แบ๊งค์ต้องไปนั่งเฝ้านายกาวอีกแล้วครับ  ไม่เป็นไร ๆ ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ระหว่างที่นั่งรอก็อ่านหนังสือ แล้วฟังเพลงไปด้วยครับ ดีนะเนี่ยที่พกเครื่อง MP3 มาด้วยจะได้ไม่เบื่อ

   “น้องแบ๊งค์ช่วยอะไรพี่หน่อยได้มั้ยครับ”  พี่อาร์ทครับ อยู่ดี ๆ ก็เรียกแบ๊งค์ซะงั้น

   “อะไรหรอคับ”  แบ๊งค์ตอบไป

   “ไปช่วยพี่ขนชุดนักกีฬาที่รถพี่หน่อย ได้มั้ยครับ”  แบ๊งค์ก็เลยผงกหัวงึก ๆ แล้วลุกเดินตามพี่เค้าไปที่รถ พี่อาร์ทก็เปิดกระโปรงหลังรถออกมา  ในนั้นก็มีชุดนักบาสประมาณ 7-8 ชุด ดูแล้วพี่อาร์ทก็น่าจะขนคนเดียวหมด แล้วทำไมต้องเอากรูส์มาด้วยวะ แบ๊งค์คิด

    “น้องแบ๊งค์อาจคิดนะครับว่า ชุดแค่ไม่ชุดแค่นี้ทำไมต้องเอาน้องแบ๊งค์มาช่วยด้วย” ( แน่ะแอบรู้ทันแบ๊งค์อีก ) พี่อาร์ทพูดพร้อมกับส่งชุดมาให้ สามชุด

    “พี่ไม่อยากเดินคนเดียวอ่ะ มันโหวง ๆ  อ่ะครับ ไม่โกรธพี่นะ” พี่อาร์ทพูดแล้วยิ้มไปด้วย

    “แบ๊งค์จะโกรธทำไมล่ะครับ แบ๊งค์เข้าใจเพราะแบ๊งค์ก็เคยเป็น”  แบ๊งค์ตอบ พี่อาร์ทก็ยิ้ม ๆ ตอบ แล้วเราก็พากันไปเอาชุดให้โค้ชทีมบาส  โค้ชก็แจกเสื้อให้นักกีฬาครับ แล้วให้นักกีฬาเอาไปเปลี่ยน  ส่วนเด็กใหม่โค้ชเค้าก็เอาเสื้อกั๊กสีเขียวมาให้ใส่ทับเสื้ออีกทีครับ เพื่อแบ่งทีมเล่น

   “น้องแบ๊งค์ครับ  ฝากของหน่อยนะ“”พี่อาร์ทมาอีกแล้วครับ  มาไม่ได้มาเปล่า ๆ เอาของมาฝากกันอีก มีกระเป๋าสตางค์ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ของแต่ละอย่างดูแพง ๆ ทั้งนั้นเลย

    “จะดีเหรอคับ แบ๊งค์ไม่กล้ารับไว้หรอก ถ้าทำหายขึ้นมาขายบ้านแล้ว  ยังหาเงินมาซื้อคืนได้พอละป่าวก็ไม่รู้”
 แบ๊งค์ตอบตามความรู้สึก  พี่อาร์ทก็ยิ้มครับ

    “ไม่เป็นไรหรอก พี่เชื่อนะว่าแบ๊งค์รักษาของ  ของพี่ได้” แล้วพี่เค้าก็ยื่นของให้แบ๊งค์แล้วรีบวิ่งไปเข้าทีมบาส  กลัวดิคับ ของแพงขนาดนี้ ถ้าหายขึ้นมาตายแน่ ๆ ตอนนี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว  นั่งเฝ้าของ ของพี่อาร์ทอย่างเดียว เกร็งมากเลยครับ พี่อาร์ทก็คงสังเกตได้ เมื่อถึงเวลาพักเบรก พี่อาร์ทก็เดินเข้ามาหา
 
    “ไม่ต้องระวังขนาดนั้นก็ได้ ถึงมันหายก็ไม่เป็นไร  พี่ทำหายบ่อยจนชินแล้ว”  พี่อาร์ทพูด

    “โห!!!!!!พี่ถ้าหายบ่อยยิ่งต้องระวัง ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย” แบ๊งค์ทักท้วง

    “อ่ะคับ ๆๆ แล้วพี่จะระวังนะ”  พี่อาร์ทรับปากแล้วยิ้ม ๆ  แล้วไปเล่นบาสต่อ

   วันนี้ซ้อมเสร็จค่อนข้างเย็นครับ  ทุกคนดูเหนื่อย ๆ จังเหงื่อออกเต็มตัวเลย เห็นแล้วเหนื่อยแทน  กาวมันขอตัวไปอาบน้ำครับ  เหงื่อมันออกแยะมากมายเลย ระหว่างที่รอครับแบ๊งค์ก็มองหาพี่อาร์ทแต่ไม่เจอครับ หายไปไหนก็ไม่รู้ แล้วยังทิ้งของราคาแสนแพงไว้อีก มองซ้ายมองขวาก็ไม่มี

    “มองหาใครอยู่หรอครับ น้องแบ๊งค์”   พี่อาร์ทเดินมาจากข้างหลังครับ พี่เค้าไปอาบน้ำมานี่เอง นึกว่าหายไปไหน

    “หาพี่อาร์ทนั่นแหละครับ จะเอาของมาคืน”  แบ๊งค์ยื่นของทั้งหมดออกไปให้พี่อาร์ท

    “กลัวพี่จะหาว่าแบ๊งค์เป็นขโมยขนาดนั้นเลยหรอคับ”  ( แอบรู้ทันอีกแล้ว )

    “ปะ..ป่าวคับ ”  แบ๊งค์ตอบไปแบบอาย ๆ ที่ถูกรู้ทัน

    “น้องครับ  ทุก ๆ คนเลยวันนี้ไปกินหมูกระทะกันนะครับ พวกพี่หิวมากเลย อยากชวนน้องไป ไปกันให้ได้นะครับ ไม่ไปมีเคือง” (  โห...........แนวเผด็จการอีกแระ ) พี่ประธานชมรมพูดขึ้น แล้วกาวล่ะ กาวก็ต้องไปด้วยอ่ะดิ แล้วเราก็ต้องกลับบ้านเอง แล้วกรูส์มานั่งรอหาพระแสงดาบของ้าวอะไรเนี่ยตั้งหลายชั่วโมง แบ๊งค์คิดแล้วทำหน้าวิตกกังวล พี่อาร์ทคงสังเกตเห็น

    “เป็นอะไรรึเปล่าครับ น้องแบ๊งค์หน้าตาไม่สู้ดีเลย”พี่อาร์ทถาม ไอ้กาวครับ มันคงรู้มันเลยเดินมาหาแบ๊งค์แล้วยิ้มแหย ๆ ประมาณว่าขอโทษ

    “เราขอโทษว่ะ วันนี้แบ๊งค์คงต้องกลับเองง่ะ เราไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะขอโทษด้วยที่ทำให้รอ”  นั่นไง ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะ

    “ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเรากลับเองก็ได้ เราเริ่มขึ้นรถเป็นแล้ว” แบ๊งค์ตอบไป

   “ทำไมน้องแบ๊งค์ต้องกลับกับน้องกาวล่ะครับ”  พี่อาร์ทสงสัย

   “คือ......แบ๊งค์มันขึ้นรถไม่เป็นอ่ะครับ ผมเลยต้องพามันไปส่งทุกวัน”  อ้าวไปบอกเค้าทำไม กรูส์อายนะเฟ้ย

    “อ้าว......หรอนึกว่าขึ้นเป็นแล้วซะอีก”พี่อาร์ททำหน้าสงสัยมองมาที่แบ๊งค์ซึ่งยิ้มแหย ๆ ให้

    “งั้นเอาแบบนี้ น้องแบ๊งค์ก็ไปกินหมูกระทะด้วยกันซิครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงก็ได้”  พี่อาร์ทแนะ

    “ไม่ได้หรอกคับ นี่เป็นการไปของชมรม แบ๊งค์ไม่ได้อยู่ชมรมนี้ซะหน่อย” แบ๊งค์ปฏิเสธ

    “ไปเหอะแบ๊งค์ ไปด้วยกัน กลับคนเดียวเดี๋ยวไปฉุดใครเข้า  อิอิ”  ไอ้กาวแซว

    “อ้าว!!!!!!!!!!!!!!!!!!ไอ้นี่ the peach band ( วอน ) ”  แบ๊งค์แย้งขึ้น

    “น้องแบ๊งค์ก็เป็นน้องรหัสพี่ ไปด้วยกันไม่เห็นจะเสียหายนี่ครับ”  พี่อาร์ทยังคงพยายาม

    “เฮ้ย!!!!!!!!!!ไอ้โป้ง กูพาน้องรหัสกู ไปด้วยได้มั้ยวะ”  พี่อาร์ทตะโกนถามพี่ประธานชมรม

    “เออ!!!มึงก็เอาไปดิ กินหลาย ๆ คนอร่อยดี”  อ้าว.........อนุญาตซะงั้น  แล้วแบ๊งค์ก็เลยต้องจำยอมไปกินหมูกระทะกับ
ชมรมบาส  โดยที่แบ๊งค์ต้องนั่งรถพี่อาร์ทไป ( อีกแล้วหรอ ) เพราะไอ้กาวมันจะไปกับเพื่อนมันที่อยู่คณะบริหาร ชื่อ เก่ง อะไรเนี่ยแหละ  และแล้วความเงียบ บวกกับความเกร็งก็กลับมาเยือนอีกครั้ง

    “พี่ดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ” อยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็พูดขึ้น

    “คับ ? ” แบ๊งค์ทำหน้างง

    “ก็น้องแบ๊งค์ชอบทำท่าเกร็ง ๆ เวลาอยู่กับพี่ แล้วไม่เห็นยอมพูดอะไรเลย”  พี่อาร์ททำท่าน้อยใจ

    “คะ..คือแบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะคับ” แบ๊งค์ตอบไปเสียงกระท่อนกระแท่น

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-04-2007 00:51:03
ลุ้นๆ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-04-2007 04:54:55
หุหุ แม็ค กับ อาร์ท อาจจะมีตั้มเป็นตัวแปร  :kikkik:  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 16-04-2007 11:40:52
 : 222222: มีเรื่องใหม่มาให้อ่านกันอีกแล้ว.. ตามลุ้นแบงค์จะตกลงปลงใจกะใคร  :laugh5:
ท่าทาง ตัวเลือก เยอะ กร๊ากกก :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MiNuluuvZ ที่ 17-04-2007 00:32:00
นายแบงค์เสน่ห์แรงใช่เล่น  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-04-2007 11:58:46
 :yeb: มาลงชื่อลุ้น ว่า จะแมค หรือพี่อาร์ท อิอิ แต่มีแววทั้งคู่เรยยย  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-04-2007 17:08:06
ว้าๆๆๆ ท่าทางจะเกิดเรื่องยุ่ง เพราะความที่ไม่ใส่ใจ ความรู้สึกคนรอบข้างหรือป่าว
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 18-04-2007 00:54:31
*************************
บทที่ 5 เจ็ดวันอันตราย..........รึเปล่านะ(-_-')ตอนที่3

แล้วเสียงโทรศัพท์ของแบ๊งค์ก็ดังขึ้น  เสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลพี่นุ่นนั้นเองแบ๊งค์หันไปยิ้มแหย ๆ ให้พี่อาร์ทซึ่งยิ้มอยู่แล้ว  ก่อนจะรับโทรศัพท์

   “ฮัลโหลครับ”

   “แบ๊งค์หรอ อยู่ไหนเนี่ย”
 
   “บนรถพี่อาร์ทอ่ะ จะไปกินหมูกระทะ”

   “อ่ะหรอ  พี่อาร์ทคนที่เป็นพี่รหัสเราอ่ะนะ”

   “คับ”

   “แล้วไปกินในโอกาสไรอ่ะ”

   “พอดีแบ๊งค์รอกลับพร้อมกาว  แต่วันนี้เค้าเรียกให้นักบาสไปกินหมูกระทะด้วยกัน แบ๊งค์ก็เลยตกกระไดพลอยโจนไปด้วย แล้วป้าล่ะ อยู่ไหน”

   “อ่ะหรอ ตอนนี้อ่ะกำลังทำกิจกรรมอยู่เลย รุ่นพี่กำลังเล่นละครเวทีให้ดู ฮามาก”

   “อ่ะครับ”

   “แล้วเรากลับไงล่ะ”

   “คงกลับกะกาวมั้ง”

   “อืมงั้นป้าไม่มีอะไรแระ โทรมาหาเฉย ๆ กลับดึกอย่าไปฉุดใครนะ” (-_-')

   “อ่ะครับ” แล้วพี่นุ่นก็ตัดสายไป

   “ถ้าน้องแบ๊งค์ พูดกับพี่เหมือนที่พูดกับเพื่อนเมื่อกี้ก็ดีสิครับ”  อยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็พูดขึ้น

   “ทำไมหรอคับ”  แบ๊งค์ทำหน้าสงสัย

   “มันจะได้ดูสนิทกว่านี้ไง”

พี่อาร์ทหันมายิ้มให้แบบแปลก ๆ  หุหุ  รู้สึกไม่ดีเลยครับ แล้วเราก็มาถึงร้านหมูกระทะ  แบ๊งค์ไม่รู้จักใครเลย ก็เลยถูกขนาบข้างโดยยายกาว และพี่อาร์ท ทุกคนกินกันไปแยะมากมายเลย เห็นแล้วยังอึ้ง ต่างจากแบ๊งค์ที่กินเรื่อย ๆ ไม่เยอะมากมาย

   “ไม่อร่อยหรอครับ”  พี่อาร์ทถามขึ้น

   “ปะ...เปล่าคับ  แบ๊งค์ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่อ่ะครับ”  แบ๊งค์ตอบไป

พวกเราก็กินกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง 4 ทุ่มกว่า ๆ ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันไปแต่พี่โป้งพูดขึ้นก่อน

   “เดี๋ยวเราไปต่อที่คาราโอเกะกันมั้ย ใครไปได้ก็ไป ใครไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

แบ๊งค์รับหันไปมองหน้ากาวครับ  มันก็หัวเราะแหะ ๆ เป็นอันรู้กันว่ามันไปแน่ ๆ

     “น้องแบ๊งค์จะไปต่อกับพวกพี่มั้ยครับ”  พี่อาร์ทถาม

   “อือ..คงไม่ล่ะครับแบ๊งค์ง่วงนอน”   แบ๊งค์ตอบพร้อมส่ายหัว

   “แล้วนี่จะกลับบ้านยังไงอ่ะครับ”  พี่อาร์ทยังคงเป็นห่วง

   “เดี๋ยวคงถามสายรถเมล์จากกาว แล้วไปรอที่ป้ายอ่ะครับ”  แบ๊งค์ตอบไปเสียงเบา

   “งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปส่ง  พี่ไม่อยากไปต่อแล้วเหมือนกัน”  พี่อาร์ทแนะ

   “ไม่รบกวนดีกว่านะครับ”  แบ๊งค์ปฏิเสธ

   “ห้ามปฏิเสธสิครับ  พี่เป็นคนพาน้องแบ๊งค์มาลำบากนะ พี่ต้องรับผิดชอบสิครับ”

พี่อาร์ทแย้งกลับบ้าง แบ๊งค์ก็เลยผงกหัวรับหงึก ๆ ตามเคย  ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว บางคนก็กลับบ้าน  บางคนก็ไปต่อกับพี่โป้ง  ตอนนี้แบ๊งค์อยู่ในรถพี่อาร์ทเรียบร้อยแล้ว ง่วงด้วยครับ

   “หนาวหรอครับ”  พี่อาร์ทถามหลังเห็นแบ๊งค์นั่งกอดอกแน่นไม่พูดไม่จา

   “ครับ นิดหน่อย”

พอพี่อาร์ทได้ยินแบบนั้นก็เอื้อมมือไปเอาเสื้อกันหนาวที่หลังรถมาคลุมให้แบ๊งค์เลยตอบขอบคุณไป แล้วใบหน้าก็แดงเพราะเขิน  แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ( อีกแล้ว )  มารู้สึกตัวตอนที่พี่อาร์ทเรียก

   “น้องแบ๊งค์ครับ ตื่นได้แล้ว ถึงแล้วครับ”  พี่อาร์ทเรียกด้วยเสียงนุ่ม

   “อ่ะครับ ขอบคุณครับ”  ขณะกำลังจะปิดประตูรถ พี่อาร์ทก็เรียก

   “เดี๋ยวครับน้องแบ๊งค์!!!” 

   “อะไรหรอคับ”

   “คือ........พี่ขอเบอร์โทรน้องแบ๊งค์หน่อยได้มั้ยครับ”

(o_O) อึ้งดิครับ วันนี้มันอะไรเนี่ย มีแต่คนทำท่าแปลก ๆ แต่แบ๊งค์ก็ให้เบอร์พี่อาร์ทไปนะครับ  พี่อาร์ทเค้าบอกว่าอยากได้เบอร์แบ๊งค์เพราะแบ๊งค์เป็นน้องรหัสของพี่เค้า  แต่พี่เค้ายังไม่มีเบอร์ และเผื่อมีอะไรให้ช่วย (แล้วกรูส์จะช่วยอะไรเค้าได้เนี่ย ) จะได้โทรหาได้สะดวก แล้วแบ๊งค์ก็เดินงัวเงียขึ้นไปที่ห้อง  วันนี้ซกมกครับไม่อาบน้ำ  พอถึงห้องหลับเป็นตายกลายเป็นศพเลย

    ~ U~u..uu  แน่ใจแล้วหรอ ที่คิดจะมาคบคบกัน จั๊ดจั๊ดจาดีดาดา~

เสียงโทรศัพท์แบ๊งค์เองครับ  เสียงนี้แสดงว่ามีเบอร์แปลกโทรมา ไม่ได้อยู่ใน contact ของแบ๊งค์ แล้วใครเนี่ยโทรมาแต่เช้าเลย

   “ฮัล~โหล~ค้าบบบบ”   แบ๊งค์รับเสียงงัวเงีย

   “ตื่นได้แล้วครับ น้องแบ๊งค์”  พี่อาร์ทครับ พี่อาร์ทโทรมา ตาสว่างเลยครับ

   “มีอะไรรึเปล่าครับ พี่อาร์ท” 

   “อ่ะครับ คือวันนี้ น้องแบ๊งค์ยังต้องขึ้นรถเมล์ไปมหาลัยอยู่ใช่มั้ยครับ”

   “อ่ะครับ ใช่ครับ”  แบ๊งค์งง ๆ แต่ก็ตอบไป

   “งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ ห้ามปฏิเสธพี่ด้วย ถึงแล้วจะโทรหานะครับ....ตื้ด...ตื้ด...”  อ้าว

   “เดี๋ยวสิครับ พี่อาร์ท  พี่อาร์ท”

แค่นั้นแหละครับนักวิ่งทีมชาติก็ทีมชาติเหอะ เจอแบ๊งค์เข้าไปคงชิดซ้าย ตอนนี้แบ๊งค์รีบอาบน้ำแต่งตัวใหญ่เลยครับ อาบน้ำนี่อาจนานหน่อยเพราะ กำลังเช็คบิลเบ็ตเสร็จรวมของที่หมักหมมไว้เมื่อคืนด้วย แต่ก็ทำอย่างสะอาดเรียบร้อยนะครับ จนออกมาเป็นแบ๊งค์คนเดิม  ที่ดูสะอาดเรียบร้อยไม่เปลี่ยนแปลง  07.15 น. พี่อาร์ทโทรมาแล้วครับบอกว่าอยู่หน้าคอนโด แบ๊งค์ก็เลยลงไปหา แล้วก็ไปมหาวิทยาลัยครับ พี่อาร์ทก็ยังคงชวนคุยไปเรื่อยนะครับ ระหว่างทางที่อยู่บนรถ แบ๊งค์ก็เริ่มหายเกร็งลงมาบ้าง  แต่ก็ยังเกร็งอยู่นะครับไม่มากเหมือนครั้งก่อน ๆ เฉย ๆ พี่อาร์ทบอกครับวันนี้  อาจมีการไปกินกันอีกเพราะวันศุกร์แล้ว  พี่อาร์ทเค้ากลัว    แบ๊งค์กลับไม่ได้ ( เหมือนกรูส์เป็นภาระเรยฟ่ะ ) พี่เค้าเลยขออาสาพากลับบ้านอีก แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ แต่พี่อาร์ทก็หาเหตุผลมาอ้าง จนในที่สุดแบ๊งค์ก็ต้องยอมให้พี่อาร์ทมาส่งอีกครั้ง

ตอนนี้มาถึงมหาวิทยาลัยแล้วครับ  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะไปสิงสถิตที่ไหน  ที่เก่าเจ้าประจำแหละครับ  ม้าหินอ่อนหน้าคณะ

   “แบ๊งค์วันนี้ มายังไง” แมคครับ มันเข้ามาทักอีกแล้ว

    “พี่อาร์ทไปรับมาอ่ะ  มากะพี่อาร์ท”  แบ๊งค์ก็ตอบออกไป

   “แล้วพี่เค้าไปรับได้ยังไง”  แมคเริ่มซักครับ

   “พี่เค้าโทรหาเราตอนเช้า แล้วบอกว่าจะมารับอ่ะ”  แบ๊งค์เริ่มทำหน้าไม่พอใจที่ถูกถาม

   “พี่เค้ามีเบอร์แบ๊งค์ด้วยหรอ เอาไปได้ยังไง”  มันยังซักต่อ ไม่มองหน้ากรูส์เรย  ตอนนี้หงิกยิ่งกว่าม้าหมากรุกไปแล้ว  เลยโดนระเบิดลงไป 1 ลูก

    “เราให้พี่เค้าไปเองแหละ แล้วก็เลิกถามเราซะที ทำอย่างกะเราเป็นนักโทษไปได้ จะรู้ไปทำไมมากมาย แม่เราก็ไม่ใช่ ขนาดแม่เรายังไม่เคยถามอะไรเราแบบนี้เลย พอได้แล้ว น่ารำคาญ”  จบสิครับ แมคหน้าถอดสีแบบเห็นได้ชัด

   “ระ....ระ...เราขอโทษ  เราแค่เป็นห่วง”  เห็นหน้าแมคก็สงสารครับแต่ก็ยังโกรธอยู่

   “เรารู้ว่านายเป็นห่วง แต่พี่เค้าก็ไม่ใช่คนอื่นไกล พี่รหัสแบ๊งค์เองใคร ๆ ก็รู้จักขอบคุณนายด้วยละกันที่เป็นห่วงเราขนาดนี้”  แบ๊งค์เริ่มเสียงค่อยลง แมคเลยเริ่มยิ้มออกได้

   “ทีหลังก็อย่าซักเราแบบนี้อีกล่ะ เราไม่ใช่นักโทษ ไม่ปลื้ม!!!”  แบ๊งค์พูดออกไป

   “อืม....เราไม่ทำอีกแล้ว  เราสัญญา”  แหะ ๆ (- -')ทำไมมันดูแปลก ๆ วะทำหน้าระรื่นพิกล

   “อ้าว!!!!!ไอ้ตัวเล็กมานั่งที่เดิมเลยนะ”  พี่ตั้มเข้าทักอีกแล้วครับ

   “หวัดดีค่ะน้อง”  พี่ปอยก็มาด้วยครับ

   “ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะไอ้ตัวแสบ”  พี่ตั้มพูดพร้อมจ้องหน้า ยอมซะที่ไหนล่ะครับจ้องมา ก็จ้องตอบดิ กลัวอะไร แล้วพูดออกไปว่า

   “พอดีไม่อยากเจออ่ะครับ กลัวว่าถ้าเจอเดี๋ยวมีเฮ”

    “กลัวซะที่ไหนล่ะ” พี่ตั้มย้อนครับ

   “นี่พอได้แล้ว หยุดทั้งสองคนเลย ทั้งไอ้ตัวเล็ก ไอ้ตัวใหญ่  อะไรกันนี่กะจะฟัดกันแต่เช้าเลยหรอ”  พี่ปอยตัดบท

   “โห...ปอยก็น้องเค้า..”

   “หยุด!!!!!!ปอยไม่ปลื้มนะจบ!!!!”

พี่ปอยตัดบทพี่ตั้มครับ ตอนนี้พี่ตั้มทำหน้างอนไปแล้ว อิอิ สมน้ำหน้า ตอนนี้เลยเปลี่ยนมาสู้กันทางสายตาแทน

   “เออนี่ น้องแบ๊งค์ได้เจอ ครีมกับผิงบ้างมั้ยคะ”

   “ทำไมหรอคับ” แบ๊งค์สงสัย

   “คือพี่อยากให้เค้ามาช่วยเรื่องกีฬามหาวิทยาลัยอ่ะค่ะ  อยากให้เป็นหลีดคณะ”

   “อ่ะครับ แบ๊งค์ไม่ค่อยได้เจอเท่าไหรนะ ก็เจอกันเฉพาะตอนเรียน  สองคนนี้ตอนนี้กำลังหลงรุ่นพี่ในชมรมเทนนิสครับ ว่างทีไรอยู่ชมรมตลอด” แบ๊งค์อธิบาย

   “ถ้าเจอ ช่วยบอกให้เค้ามาคุยกับพี่ด้วยนะคะ”

   “ได้ครับ”  แบ๊งค์รับปาก   

วันนี้ไอ้กาวไม่มาครับ สงสัยแฮงค์จากเมื่อคืนแน่ ๆ ครับ แล้วตอนกลางวันแบ๊งค์ก็ได้เจอกับ 2 สาวนักกีฬาพอดี  ..ใครล่ะครับ ก็ครีมกับผิงไง แบ๊งค์เลยบอกเรื่องที่พี่ปอยฝากมาบอกให้สองคนนั้นฟัง สองคนนั้นก็ทำท่าคิดอยู่พักใหญ่ แบ๊งค์ก็เลยแกล้งบอกไป ว่าถ้าเป็นหลีดอาจจะป็อปขึ้นมาได้ ไม่แน่อาจใครบางคนอาจหันมาสนใจก็ได้ คนเป็นหลีดเกิดทุกราย แค่นั้นแหละครับ สองสาวนักกีฬาก็รีบไปหาพี่ปอยทันที แหะ ๆ ตลกดีครับ

มาถึงตอนเลิกเรียน พี่อาร์ทโทรมาอีกแล้วครับถามว่าอยู่ไหน พอบอกว่ากำลังจะออกไปขึ้นรถเมล์เท่านั้นแหละ พี่แกวางสายแล้ววิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ มาดึงแขนแบ๊งค์ไว้ คนแถวนั้นมองเป็นตาเดียวเลย พี่อาร์มเห็นแบบนั้นก็เลยปล่อย

   “มีอะไรรึป่าวครับ รีบเชียว”  แบ๊งค์ถาม
   “ยังไม่ต้องรีบกลับนะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”  พี่อาร์ทพูดไปหอบไป

   “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปแล้ว”  แบ๊งค์ตอบแบบยิ้ม ๆ   

รถมาพอดีครับ  แบ๊งค์เลยรีบวิ่งไปขึ้นรถโดยไม่ได้ล่ำลา  ปล่อยให้พี่อาร์ทยืนงงอยู่คนเดียว  พอนั่งรถไปได้ซักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้นครับ  พี่อาร์ทนั่นเอง โทรมา ไม่รู้มีอะไรรึเปล่า แบ๊งค์ก็เลยรับสายไป

   “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”  พี่อาร์ทพูดขึ้นมาซะงั้น

   “อะไรหรอครับ” แบ๊งค์ยังงอยู่

   “ก็น้องแบ๊งค์อ่ะครับ  ดื้อจัง พี่บอกจะไปส่งก็ไม่ยอม แถมยังวิ่งหนีพี่ไปขึ้นรถจนได้ ทีหลังห้ามทำแบบนี้นะครับ ดื้อจัง ไม่น่ารักเอาซะเลย อีกอย่างพี่เป็นห่วงนะครับ”  พี่อาร์ทพูดซะยาวเลย

   “อ่ะครับ คือแบ๊งค์ไม่อยากทำให้พี่อาร์ทลำบากอ่ะครับ  แล้ววันนี้พี่อาร์ทจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ในชมรมด้วยไม่ต้องห่วงแบ๊งค์หรอกคับ”  แบ๊งค์อธิบาย

   “ถึงจะอย่างนั้นก็เหอะครับ สัญญากับพี่ได้มั้ยครับว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก”  อ้าว!!!!!ซะงั้น

   “.........เออ..........ก็ได้ครับ”  แบ๊งค์รับปาก

   “ดีมากครับ  เด็กดื้อ แค่นี้นะครับ”

พี่อาร์ทวางสายไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ หึหึเบา ๆ

วันนี้ถึงคอนโดเร็วครับ วันศุกร์อีกซะด้วย พี่นุ่นก็จะมาวันอาทิตย์  ไม่รู้จะทำอะไรครับ เลยทำความสะอาดห้องซะเลย  ก็ปัดกวาดเช็ดถูหมดแหละครับ เว้นห้องพี่นุ่นเท่านั้น  เดี๋ยวป้าแกจะไม่ปลื้ม เพราะว่าไปยุ่มย่ามกับของ ๆ แก  เสร็จแล้วครับ กว่าจะเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเลยนะเนี่ย  พอแบ๊งค์ทำงานทุกอย่างเสร็จก็ไปอาบน้ำครับ แล้วก็กะว่าจะออกมานั่งเล่น MSN ต่อ พอเปิด MSN ก็มีเมลล์ใหม่แอดมาครับ คนแปลกหน้าครับ เค้าใช้ชื่อแบบนั้นจริง ๆ


คนแปลกหน้า    say:   ดีคับ

badboy_be_sadboy   say:   ครับ

คนแปลกหน้า    say:    ชื่อไรอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   แบ๊งค์  แล้วนายอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   ไม่บอกได้มั้ยครับ

badboy_be_sadboy   say:   ซะงั้นอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   โทดทีนะเราแค่อยากมาคุยกับแบ๊งค์เฉย ๆ

คนแปลกหน้า    say:    แต่แบ๊งค์ไม่ต้องรู้หรอกว่าเราเป็นใคร

badboy_be_sadboy   say:   ซะงั้นอ่ะ  แล้วเราจะเรียกนายว่าอ่ะไรดีอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   อืม.........โต้ก็ได้อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   โต้นี่ไม่ใช่ชื่อนายจริง ๆ ใช่มะ

คนแปลกหน้า    say:   อืม

badboy_be_sadboy   say:   อืมก็ได้ ๆๆ เรียกนายว่าโต้ละกัน

คนแปลกหน้า    say:   ครับ

คนแปลกหน้า    say:   แบ๊งค์เรียนที่ไหนหรอ

badboy_be_sadboy   say:   มหาวิทยาลัย.........................อ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   อ่ะครับ

badboy_be_sadboy   say:   นายอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   ไม่บอกได้มั้ยครับ

badboy_be_sadboy   say:   อารายฟะ

badboy_be_sadboy   say:   นั่นก้อไม่บอก นี่ก้อไม่บอก

badboy_be_sadboy   say:   แบ๊งค์ชักไม่ปลื้มแล้วนะ

คนแปลกหน้า    say:    ขอโทดครับ

badboy_be_sadboy   say:   อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:    เราแค่อยากมารู้จักแบ๊งค์เฉย ๆ

คนแปลกหน้า    say:    แบ๊งค์..........อย/สส/นน  เท่าไหร่คับ

badboy_be_sadboy   say:   18/170/53 นายอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:    18/178/60 ครับ

badboy_be_sadboy   say:   อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:    ที่ดิสรูปแบ๊งค์หรอครับ

badboy_be_sadboy   say:   อืมช่าย

คนแปลกหน้า    say:    น่ารักดีนะ

badboy_be_sadboy   say:   แหะ ๆ ถ้าบอกว่าหน้าลาวจะดีใจกว่านี้นะ

คนแปลกหน้า    say:    ซะงั้นอ่ะครับ

badboy_be_sadboy   say:   จริง ๆ นะ

****************************
อารายเนี้ยตัดจบตอนเฉย > > >พรุ่งมาต่อให้คับ
 :bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 18-04-2007 02:23:38
กำลังมันเยย  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 18-04-2007 02:57:23
โฮ่...ครายหนอ คนแปลกหน้าาเนี่ย  มาจีบแบ๊งค์แหงเลย  :haun5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-04-2007 11:24:45
ว๊า  จบเอาดื้อๆเลย กำลังสนุก กะเรื่องวุ่นๆของเด็กดื้อ อิอิ

แบงค์นี่ฮอทจริงๆ ไหนจะพี่อาร์ท แมค พี่ตั้งนี่ก็น่าจะมีแวว หุหุ..... คนแปลกหน้าในเอ็มนี่เดาว่าไม่พี่ตั้ง ก็แมคแน่ๆเรยย อิอิ....หรือว่าเป็นคนอื่อีก จะฮอทเกินไปแระนะ ชิชิ  :interest:


มาต่อไวๆนะคร๊าบบบ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-04-2007 19:07:14
หุหุ คนแปลกหน้าที่ไหน  :kikkik:
ให้เดา ก็เดาว่าเป็นคนแถว ๆ นั้นแหละ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 19-04-2007 00:28:00
************************
บทที่6 เจ็ดวันอันตราย.....รึป่าวนะ (-_-') ตอนที่ 4

คนแปลกหน้า    say:   ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ

badboy_be_sadboy   say:   อ่ะนะ

คนแปลกหน้า    say:  แบ๊งค์เป็นกทม. รึป่าวคับ

badboy_be_sadboy   say:  ไม่อ่ะ  เป็นคนเชียงใหม่

คนแปลกหน้า    say: งั้นหรอครับ

คนแปลกหน้า    say: เป็นไงบ้างครับเปิดเทอมใหม่

badboy_be_sadboy   say:  ก็หนุกดีอ่ะ บางทีก็น่าเบื่อ

คนแปลกหน้า    say: รุ่นพี่ดุหรอครับ

badboy_be_sadboy   say:  ปามานนั้นอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:  เด๋วดีเด๋วร้าย เดาใจยากส์

คนแปลกหน้า    say: อ่ะครับ

คนแปลกหน้า    say: แล้ววันนี้จะนอนกี่โมงเนี่ย

badboy_be_sadboy   say:  ไม่รู้ดิ คืนวันศุกร์ด้วย

badboy_be_sadboy   say:  กะว่าจะเล่นเกม/เอมไปเรื่อย ๆ อ่ะ

คนแปลกหน้า    say:  แบ๊งค์เล่นเอมทุกวันหรอครับ

badboy_be_sadboy   say: โดยรวมก้อทุกวันนะ มีไรหรอ

คนแปลกหน้า    say: ป่าวครับ จะได้เข้ามาคุย

badboy_be_sadboy   say:  อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say: คืนนี้อย่านอนดึกได้มั้ยครับ

badboy_be_sadboy   say:  ทะมายล่ะ

คนแปลกหน้า    say: เด๋วเสียสุขภาพ ผมเป็นห่วงนะครับ

badboy_be_sadboy   say:  เหอ ๆ ซะงั้น

คนแปลกหน้า    say: นะครับ

badboy_be_sadboy   say:  อืม ๆ วันนี้ไม่โต้รุ่งกะด้าย

badboy_be_sadboy   say:  ซัก เที่ยงคืนฝ่า ๆ ค่อยนอนละกาน

คนแปลกหน้า    say: ครับ

คนแปลกหน้า    say: เด๋วผมไปก่อนนะ

badboy_be_sadboy   say:  อืม บายคับ

คนแปลกหน้า    say: บายครับ

คนแปลกหน้า    say: หลับฝันดีนะครับ

badboy_be_sadboy   say:  ฝานเดเช่นกาน

ไปแล้วนายโต้คนแปลกหน้า หึหึ ตลกดีนะครับอยู่ดี ๆ ก็มาเป็นห่วง เค้าเป็นใครเราก็ยังไม่รู้เลย แต่คืนนั้นแบ๊งค์ก็นอนตอนเที่ยงคืนจริง ไม่รู้ทำไมต้องไปทำตามที่นายโต้บอกด้วยก็ไม่รู้ เนี่ยแหละครับข้อเสียร้ายแรงของแบ๊งค์ เชื่อคนง่ายมากส์ถึงมากที่สุด   เผลอหลับไปแล้วครับ คงเพราะเหนื่อยจากการทำงานบ้านด้วยแหละ คืนนี้หลับสบายจริง ๆ............

แล้ววันนี้แบ๊งค์ก็ตื่นมาประมาณ 12.30น. ครับ วันเสาร์อีกแล้ว ได้ตื่นสาย ( บ่าย ) ตามเคย สบายจริง ๆ  โทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้วครับ พี่นุ่นนั่นเองโทรมาหาแต่เช้าเลยนะ ( บ่ายแล้วตะหากเฟ้ย ) ก็รับสายไปครับ เสียงป้าแก ร่าเริงมากส์ ไปกินอะไรมาเนี่ย

   “แบ๊งค์!!!!!~ตอนนี้พี่กำลังซื้อของฝากอยู่อ่ะ แบ๊งค์อยากได้อะไร” พี่นุ่นถามครับ

   “ของที่ระทึก เอ้ย! ระลึกอ่ะไม่เอานะ ขอเป็นขนมดีกว่า  พวกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทะเลอ่ะป้า ปลาหมึก ปลาเส้นอารายประมาณนี้อ่ะ”  แบ๊งค์แนะ

   “เอางั้นหรอ อืมได้เดี๋ยวป้าจัดให้!!!!! ”  พี่นุ่นพูดเน้นเสียง

   “อ่ะครับ ขอบคุณค้าบ” แบ๊งค์ขอบคุณไป

   “อ่ะจ้า ไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้น้า บายจ้า”  พี่นุ่นวางสายไปแล้วดูมีความสุขจัง

 แล้วแบ๊งค์ก็กลับมาทำกิจกรรมที่ชอบที่สุด นั่นคือเล่นเกมนั่นเอง เล่นไปได้อยู่หลายชั่วโมงแล้วครับ หิวจังมองนาฬิกาอีกที อ่ะ..จ๊ากกกก(o_O)ห้าโมงกว่าแล้ว ตื่นมาตั้งแต่บ่ายยังไม่ได้กินอะไรเลย กำลังจะไปคว้ากระเป๋าสตางค์ลงไปซื้อข้าว โทรศัพท์ก็ดังขึ้นครับ พี่อาร์ท โทรมาอีกแล้ว

   “น้องแบ๊งค์อยู่ไหนครับเนี่ย”  พี่อาร์ทถาม

   “อยู่คอนโดครับ กำลังจะไปซื้อข้าวกิน”  แบ๊งค์ตอบไป

  “หรอ งั้นดีเลยเดี๋ยวพี่ไปรับแล้วเราไปหาอะไรกินกันนะ” พี่อาร์ททำเสียงดีใจ

  “ ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวแบ๊งค์ไปกินเองดีกว่า”  แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

  “ ไหนว่าจะไม่ดื้อกับพี่ไงครับ” พี่อาร์ททำเสียงเศร้า

พอได้ยินแบบนั้น ประกอบกับพี่อาร์ทหาเหตุผลต่าง ๆ นานา แบ๊งค์ก็เลยใจอ่อน ยอมไปกินข้าวกับพี่เค้าอีกจนได้ โดยที่พี่เค้าจะมารับแบ๊งค์ตอน 6 โมงเย็น แบ๊งค์เลยไปแต่งตัวรอ ก็ไม่ได้แต่งเวอร์อะไรหรอกคับ แค่เปลี่ยนจากกางเกงขาสั้น มาเป็นกางเกงยีนส์สีเข้มให้ดูดีขึ้น  ส่วนเสื้อก็ยังเป็นเสื้อยืดตัวเดิมแหละครับ พอถึงเวลา 6 โมงเย็นพี่อาร์ทก็โทรมาเลยครับ ตรงเวลาจัง แฮะ แบ๊งค์ก็เลยลงไปหา

  “ มาตรงเวลาจังนะครับ”  แบ๊งค์ทักขึ้นเมื่อขึ้นรถ

  “  อ่ะครับ  ไปกินไหนกันดีเอ่ย”  พี่อาร์ทถาม

  “ แล้วแต่สิครับ  แบ๊งค์ไม่เสนอความเห็นอะไร

  “ งั้นไปที่นี่ดีกว่า  อาหารอร่อยมากเลยครับ”  พี่อาร์ทพูดแล้วยิ้มมุมปาก

เอ....รู้สึกว่ามันจะยังไง ๆ แล้วนะเนี่ย พอไปถึงร้านครับแทบไม่กล้าลงจากรถเลย พี่อาร์ตพามากินที่ร้านอาหาร ไม่สิ น่าจะเป็นภัตตราคารกึ่งผับมากกว่า เพราะมันค่อนข้างหรูหรา ไฮโซ  ใหญ่โต โอ้โหแฮะ ( เวอร์ไปป่าวเนี่ยครับ ) ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อครับ  แบ๊งค์ไม่กล้าลงรถหรอกครับในร้านมีแต่คนแต่งตัวดี ๆ ไฮโซ ๆ ทั้งนั้น พี่อาร์ทก็ใช่ย่อยแต่งดัวดูคุณหนูซะ แต่แบ๊งค์อ่ะจิเด็กบ้านนอกชัด ๆ แร้นกรูส์จะโดนยามจับโยนออกมามั้ยเนี่ย   แบ๊งค์คิดในใจ

   “ลงรถสิครับ น้องแบ๊งค์ เป็นอะไรรึเปล่าหน้าตาดูไม่ดีเลย”  พี่อาร์ทสังเกตเห็นแล้วครับ

   “ค...คือ  แบ๊งค์ว่ามันหรูไปสำหรับแบ๊งค์อ่ะครับ”  แบ๊งค์ตอบหน้าแหย ๆ

   “พี่อาร์ทน่าจะบอกก่อนนะครับ แบ๊งค์จะได้แต่งตัวให้ดีกว่านี้”  แบ๊งค์พูดเสียงเบาลง ๆ

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องแบ๊งค์แต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีออกนี่ครับ”  พี่อาร์ทพูดปลอบ

   “เข้าไปกันเถอะ พี่หิวแย่แล้วครับ”  พี่อาร์ทพูดพร้อมลากแบ๊งค์ลงรถจนได้ในที่สุด  ในร้านดูมีแต่พี่ไฮน้องไฮ ( ไฮโซอ่ะครับ ) ทั้งนั้นเลยครับ  ทำตัวไม่ถูกเลย  ได้แต่เดินก้มหน้าตามพี่อาร์ท อย่างเดียว รู้สึกว่าจะมีคนรู้จักพี่อาร์ทเยอะเหมือนกัน นะครับแต่แบ๊งค์ไม่ค่อยได้สนใจมองใครเท่าไหร่ ก้มหน้าอย่างเดียวเลย พี่อาร์ทคงรู้ว่าแบ๊งค์เขิน ๆ เลยเลือกโต๊ะที่อยู่ข้างในสุด ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านให้  พนักงานเสิร์ฟเอาเมนูมาให้ครับ  จ๊ากกกกกก(o_O)มีแต่ของแพง ๆ ทั้งนั้น เกิดมากรูส์ยังไม่เคยกินเลยนะเนี่ย ไม่รู้จะสั่งอะไรเลยครับ

  “กินอะไรดีครับ น้องแบ๊งค์” พี่อาร์ทถาม

  “ ตามใจพี่อาร์ทแล้วกันครับ”  หน้าเริ่มซีดแล้วครับ  แล้วพี่อาร์ทก็สั่งเป็น ทีโบนสเต็กมา      2 ที่ครับ พอพนักงานเดินออกจากโต๊ะไป แบ๊งค์ก็รีบพูดกับพี่อาร์ทเลยครับ

  “ พี่อาร์ท แบ๊งค์กินไม่เป็นหรอกนะ ของพวกนี้อ่ะ ” แบ๊งค์ทำหน้าตาตื่น

  “ อีกอย่าง......แบ๊งค์คงมีเงินไม่พอไปแชร์กับพี่อาร์ทด้วย”  แบ๊งค์เริ่มเศร้าครับ แต่พี่อาร์ทสิ หัวเราะยกใหญ่เลยแล้วพูดครับ

   “ไม่ต้องกลัวหรอก ก็แค่หั่น ๆ เอาใส่ปากแล้วเคี้ยวเท่นั้นเอง”  พี่อาร์ทพูดติดตลก

  “ แล้วเรื่องเงินอ่ะไม่ต้องกังวล เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง พี่เป็นคนพาเรามานะ”

  “  แต่แบ๊.......”

  “ ห้ามพูดว่าเกรงใจ เรานี่ขี้เกรงใจจังนะ แม่คงสอนมาแบบนี้ล่ะสิ ” พี่อาร์ททำเสียงเข้ม

  “ ความเกรงใจอ่ะมีไว้มันก็ดีนะ แต่เราอ่ะมีมากไปป่าว” พี่อาร์ทจ้องหน้าแบ๊งค์ครับ

  “ ค...คับ ”  แบ๊งค์นั่งก้มหน้า ตอนนี้เหมือนครูปกครองกับเด็กที่ทำผิดระเบียบเลย พี่อาร์ทคงสังเกตได้ พออาหารมาเสิร์ฟ พี่อาร์ทก็เลยชวนแบ๊งค์กินยกใหญ่ แบ๊งค์ก็กินไปแบบเงียบ ๆ พี่อาร์ทเห็นแบบนั้นก็เลยยื่น  ส้อมที่มีสเต็กติดอยู่มาให้

  “อ่ะ  กินซะเดี๋ยวพี่ป้อนเอง” พี่อาร์ทคะยั้นคะยอป้อนให้ได้

  “ เอ่อ  ไม่เป็นไรหรอกครับ”  แบ๊งค์ส่ายหัว

  “ ไหนว่าจะไม่ดื้อไง ไม่กินพี่งอนจริง ๆ ด้วย”  แบ๊งค์ก็เลยต้องยอมให้พี่อาร์ทป้อนครับ  แล้วพี่อาร์ทก็กลับมายิ้ม ทำหน้าตามีความสุขเหมือนเดิม  พอกินเสร็จพี่อาร์ทก็สั่งไอศกรีม มาเลี้ยงแบ๊งค์ครับเป็นไอศกรีม รสชอคโกแลตของโปรดเลย แบ๊งค์เลยกินไปแบบลืมตัว อร่อยมากครับ มารู้ตัวตอนที่พี่อาร์ทหัวเราะหึหึ เบา ๆ นั่นแหละ อายหน้าแดงเลยครับ ก็เลยหยุดกินไว้ก่อน

   “ไอศกรีมไม่อร่อยหรอ อยุ่ ๆ ก็ไม่กิน” พี่อาร์ทแปลกใจ

  “เปล่าครับ พอดีลืมตัว” แบ๊งค์ตอบเสียงค่อย

  “ ฮะฮะ ไม่เป็นไรหรอก พี่ว่าน่ารักดีออก ดูเป็นกันเองดี”  พี่อาร์ทพูดไปหัวเราเบา ๆ ไป แบ๊งค์ก็เลยกินต่อครับ แต่ไม่เหมือนเมื่อกี้นะ  คราวนี้ค่อย ๆ ละเลียดทานเข้าไปรักษามารยาทให้พี่เค้าหน่อย ( ซึ่งความจริงแบ๊งค์ไม่ค่อยมีมารยาทซักเท่าไหร่หรอก..อิอิ ) พอทานเสร็จพี่อาร์ทก็สั่งคิดเงินแล้วเราก็มาที่รถครับ  พอแบ๊งค์ขึ้นรถก็เอาอีกแล้วครับ  ทำไมแอร์รถพี่อาร์ทเนี่ยเย็นจังหนาวอีกแล้ว เป็นไปตาม step เดิมครับพี่อาร์ทก็เอาเสื้อกันหนาวมาคลุมให้  แล้วแบ๊งค์ก็เข้า step หนังท้องตึงหนังตาหย่อนครับ หลับไปตามระเบียบ  รู้สึกอุ่นดีจัง

  “น้องแบ๊งค์ครับ  น้องแบ๊งค์ตื่นมาดูหน่อยสิครับ” พี่อาร์ทปลุกครับ

  “ ถึงแล้วหรอครับ”  แบ๊งค์งัวเงียขึ้นมา คิดว่าถึงคอนโดครับ นี่เราหลับไปนานเท่าไหร่เนี่ย พอมองออกไปก็ต้องตะลึงครับ  ไม่ใช่คอนโดครับ  ตอนนี้เรากำลังอยู่บนถนนอักษะ ทางไปพุทธมณฑลอ่ะครับ เป็นถนนที่สวยมาก

   “คือพี่เห็นน้องแบ๊งค์หลับอยู่  แล้ว....พี่ยังไม่อยากกลับบ้านเลยพาน้องแบ๊งค์มานั่งรถเล่นดูอะไรสวย ๆ อ่ะครับ  ไม่โกรธพี่นะ  แบ๊งค์ก็ส่ายหัวครับ  ก็สวยจริง ๆ ครับถนนอักษะ ตอนกลางคืนไม่ค่อยมีรถหนาแน่น ถนนโล่ง ๆ กับไฟกิ่งสีส้มสวยงามที่อยู่บนรูปปั้นกินรีที่หัวเสา  บรรยากาศสวยมากเลยครับ โรแมนติกด้วย ไม่เคยเจอสถานที่แบบนี้มาก่อนเลยครับ แล้วพี่อาร์ทก็จอดรถเข้าข้างทางครับ  ไม่รู้ว่ามีอะไรรึเปล่าแบ๊งค์เลยถาม

  “ จอดทำไมหรอครับ รถเป็นอะไรรึเปล่า”

  “ ไม่มีอะไรหรอกครับ  พี่แค่อยากจอดคุยกับแบ๊งค์” พี่อาร์ทพูด

  “ เรื่องอะไรหรอครับ” แบ๊งค์ยังคงสงสัย

  “น้องแบ๊งค์รู้มั้ยครับ  พี่กำลังคิดว่าพี่......พี่เป็นเกย์”  (o_O) เอาเข้าให้แล้วไงอึ้งไปเลยครับ

  “ แล้วพี่ก็คิดว่า.....พี่.......”  ไม่นะอย่าเป็นแบบนั้นนะ  แบ๊งค์คิดในใจ

  “ พี่ชอบน้องแบ๊งค์ครับ”  ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก(o_O) พูดไม่ออกเลยกรูส์

  “ พี่รู้ว่ามันอาจปุบปับเล็กน้อย เพราะเราเพิ่งได้คุยกันไม่กี่วัน แต่พี่มั่นใจนะครับว่าพี่ชอบน้องแบ๊งค์จริง ๆ นะครับ หวังว่าน้องแบ๊งค์คงไม่รังเกียจพี่หรอกนะครับ”   พี่อาร์ททำเสียงจริงจัง
*************************
รู้สึกเหมือนอ่านบทละครเลยแฮะ หึหึ  :laugh3:
 :bye2:คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-04-2007 12:39:33
 :-[ พี่อาร์ทน่ารักจางงงง....

ว่าแล้วคนที่หนึ่งก้เปิดเผยตัวออกมา ยังเหลืออีกกี่คนน๊า อิอิ...อิจฉาแบงค์

อยากมีคนมาบอกร๊ากกกก :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-04-2007 13:46:08
อย่าบอกนะว่า รถเบรคแล้วสะดุ้งตื่น
 :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-04-2007 14:08:49
โดนบอกรักแล้ว :-[

ทำงัยดี จะตอบงัยดี  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 19-04-2007 19:33:55

..........โดนบอกรักกันโต้งๆซะงั้น......จะทำไงหว่า.... :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-04-2007 19:49:26
ท่าทางแบงค์ยังไม่ชอบใคร
เพราะงั้น ใครบอกก่อนก็ได้เปรียบ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 25-04-2007 08:56:45
รออ่านนะคับ รอนานแล้วด้วยนะคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 25-04-2007 13:57:51
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกมากเลย  เคยอ่านมาจากอีที่นึงอ่ะคับ    จะมารออ่านจากบอร์ดนี้อีกรอบนะคับ อิอิ   

 :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 25-04-2007 23:13:50
******************************
บทที่ 7 เจ็ดวันอันตราย.........รึป่าวนะ(-_-') ตอนที่5 (ตอนจบ)

   “ไม่หรอกครับ ไม่รังเกียจหรอก” แบ๊งค์ตอบไป

   “ถ้าน้องแบ๊งค์ไม่รังเกียจ งั้น.......คบกับพี่ได้มั้ยครับ” ว๊ากกกกกกกกกกก(o_O)

   “เอ่อ.....มันจะดีหรอครับ”  แบ๊งค์ยังคงกล้า ๆ กลัว ๆ

   “ดีสิครับ  น้องแบ๊งค์กลัวอะไรหรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

   “พี่อาร์ทเป็นถึงนักกีฬา ที่เป็นที่จับตามองนะครับ แล้วยิ่งมาเป็นแบบนี้.......ถ้าใครรู้มันจะส่งผลเสียต่อตัวพี่อาร์ทและครอบครัวนะครับ แบ๊งค์ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” แบ๊งค์อธิบาย

   “แต่พี่พร้อมนะครับ พร้อมยอมรับทุกอย่าง แต่ถ้าน้องแบ๊งค์เห็นว่าแบบนั้นเราก็แอบคบ ๆ กันไปก่อนก็ได้นี่ครับ ยังไม่ต้องบอกใครหรือเปิดเผยให้ใครรู้”  พี่อาร์ทพยายามหาหนทาง

   “เอ่อ............. ” ยังไม่ทันที่แบ๊งค์จะได้ตอบ

   “นะครับ  ถือว่าพี่ขอร้อง  พี่อยากคบน้องแบ๊งค์ด้วยใจจริง ” พี่อาร์ททำตาอ้อน
วอน  แบ๊งค์ก็ทนอะไรแบบนี้ไม่ได้ซะด้วยสิ ก็เลยผงกหัวยอม ๆ พี่อาร์ทไป  พี่เค้าก็ดีใจยกใหญ่

   “แบ๊งค์เป็นแฟนพี่แล้วต้องเชื่อฟังพี่นะครับ  ห้ามดื้ออีก” แบ๊งค์ก็ผงกหัวตามเคย

 ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วครับ อายหน้าแดงไปหมดแล้ว  ซักพักพี่อาร์ทก็ขับรถออกไป  บอกว่าจะไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด แล้วแบ๊งค์ก็หลับไปตามเคย  ตื่นมาอีกทีงงมากเลยครับ ตอนนี้เช้าแล้ว แต่แบ๊งค์อยู่ที่ไหนเนี่ย ไม่ใช่ห้องที่คอนโดแบ๊งค์ซะหน่อย  แล้วนี่ชุดนอนใครอ่ะ ตัวใหญ่ว่ะ แบ๊งค์รีบสำรวจความเสียหายเลยครับ ชุดตัวเองหายไปขนาดนี้ เฮ้อ.....โล่งอกไม่มีร่องรอยการบุบสลาย แหะ ๆ  อยู่ ๆ ประตูก็เปิดขึ้น ตึก ๆๆๆๆๆ ใครวะมันจะเป็นใคร

   “อ้าวตื่นแล้วหรอครับ น้องแบ๊งค์”  พี่อาร์ทเองครับ

   “หลับสบายมั้ย”  พี่อาร์ทถาม

   “ก็ดีครับ ว่าแต่แบ๊งค์มาที่นี่ได้ยังไง”  แบ๊งค์ยังงงอยู่

   “พอดีเมื่อคืนพี่เห็นว่าน้องแบ๊งค์กำลังหลับสบาย ๆ  เลยไม่อยากปลุก เลยพามานอนที่บ้านพี่นี่แหละครับ น้องแบ๊งค์คงไม่ว่าพี่หรอกนะ” พี่อาร์ทยิ้มครับตอนที่แบ๊งค์ส่ายหัว

   “แล้ว.......ช...ชุดล่ะครับ”  พี่อาร์ทเขินครับก่อนตอบออกไป

   “พี่เห็นว่าชุดที่น้องแบ๊งค์ใส่มา มันดูอึดอัดอ่ะครับ พี่เลย...เปลี่ยนเป็นชุดนอนของพี่ให้แทน แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรน้องแบ๊งค์เลยนะครับ”  แบ๊งค์เริ่มอายบ้างดิครับ โดนคนอื่นจับแก้ผ้า ถึงจะเหลือกางเกงในไว้ 1 ตัวก็เหอะ แม่ยังไม่เคยเห็นขนาดนี้เลย

   “แล้วนี่กี่โมงแล้วครับ”  แบ๊งค์รีบถามนึกขึ้นได้ว่าวันนี้พี่นุ่นจะกลับมาพอดี

   “ก็ 10 โมงกว่า ๆ จะ 11 โมงแล้วคับ”พี่อาร์ทตอบ

   “อึ๋ย!!!พี่อาร์ทรีบไปส่งแบ๊งค์ได้รึเปล่าครับ เดี๋ยวพี่นุ่นจะกลับมาแล้วอ่ะครับ”  แบ๊งค์บอกก่อนรีบไปแต่งตัวเป็นชุดเดิม เพื่อให้พี่อาร์ทไปส่งที่คอนโด

   “คับ ๆ ๆ ชุดอยู่ในห้องน้ำนะ พี่เตรียมไว้ให้แล้ว” พี่อาร์ทพูด 

เมื่อแต่งตัวเสร็จก็รีบไปที่รถเลยครับ บ้านพี่อาร์ทนี่หลังใหญ่จัง พี่อาร์ทก็เลยเล่าเรื่องครอบครัวของเค้าให้ฟัง ที่แท้พ่อพี่อาร์ทเป็นผู้จัดการระดับสูงของธนาคารแห่งหนึ่ง มิน่าล่ะถึงได้รวยจัง แบ๊งค์กำลังจะโทรไปถามพี่นุ่นครับ ว่าจะมาถึงกี่โมง 

อ่ะจ๊ากกกกกกกกกกกกกก(o_O) มือถือแบ๊งค์แบตฯหมดครับ  หมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย โดนพี่นุ่นเฉ่งแน่กรูส์ พี่อาร์ทเห็นแบ๊งค์ทำหน้าตาไม่ดีก็เลย

   “เป็นอะไรครับ ทำไมไม่โทรล่ะ”  เดี๋ยวเพื่อนเป็นห่วงนะ

   “มือถือแบ๊งค์แบตฯหมดอ่ะครับ” แบ๊งค์ยิ้มแห้ง ๆ

   “เอามือถือพี่ไปก่อนก็ได้” พี่อาร์ทพูดพร้อมยื่นมือถือให้ครับ

   “แหะ ๆ แบ๊งค์จำเบอร์พี่นุ่นไม่ได้ครับ”  ไม่น่าเกิดมาเป็นปลาทองเลยกรูส์

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่แก้ตัวกับเพื่อนให้ก็ได้”  พี่อาร์ทอาสา

   “ไม่เป็นไรครับ แบ๊งค์คุยได้” ยังจะอวดเก่งอีกนะ กลัวจิครับ ป้านุ่นแกอ่ะถ้าได้วีนทีนึง เอาช้าง 10 เชือกมาฉุดก็เอาไม่อยู่หรอกครับ วีนรุนแรงมากส์ นึกแล้วสยองครับ

ในที่สุดก็มาถึงคอนโดครับ ตึก ๆๆๆๆ นี่กรูส์จะโดนปาดคอมั้ยเนี่ย  ฮือ ๆ กลัวง่ะ พี่อาร์ทไม่ยอมกลับครับบอกจะไปส่งแบ๊งค์ แล้วคุยกับพี่นุ่นให้ได้ ไม่รู้จะห้ามยังไงครับ เลยปล่อยเลยตามเลย มาถึงหน้าห้อง ประตูไม่ได้ใส่กุญแจ ตายแน่ ๆ กรูส์ พี่นุ่นกลับมาแล้ว

   ปิ๊งป่อง~~~~~ปิ๊งป่อง~~~~~กริ่งหน้าประตูครับ  แล้วพี่นุ่นก็มาเปิดประตูครับ โอ้โห!!!!!!(o_O)สายตาเจ้แก ดูต้อนรับมาก เหมือนจะกินตับกันซะงั้น แล้วแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เดินเข้าในห้องครับ พี่นุ่นก็นั่งจ้องหน้าแบ๊งค์เลย

   “ไป-ไหน-มา!!!” พี่นุ่นถาม

   “ไปนอนบ้านพี่อาร์ทมาอ่ะ” แบ๊งค์ก้มหน้าตอบ บรรยกาศเครียดสุดตรีนเรยอ่ะ

   “ทำ-ไม-ปิด-เครื่อง”  พี่นุ่นยังคงเน้นคำ และยังคงเก็บอารมณ์โกรธอยู่

   “แหะ (-_-') แบตฯหมด” แบ๊งค์ยิ้มแหย ๆ แล้วอยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็พูดขึ้น

   “แบ๊งค์ ไปหาน้ำให้พี่ดื่มหน่อยสิหิวจัง เดี๋ยวพี่คุยกับพี่นุ่นเอง”  โห!!!!!ช่างกล้าพูด

 พี่นุ่นเปลี่ยนสายตาอมหิตไปจับจ้องยังพี่อาร์ทในทันใดครับ แล้วแบ๊งค์ก็เดินเข้าไปเอาน้ำให้พี่อาร์ท แอบมองดูพี่นุ่นกับพี่อาร์ท คุยกันครับ คุยกะไรกันนะอยากรู้จัง ซักพักพี่นุ่นก็เริ่มคลายสีหน้าอมหิตลง แล้วทั้งคู่ก็เริ่มยิ้มแล้วครับ  แบ๊งค์ก็เลยเอาน้ำเข้าไปให้พี่อาร์ท พี่นุ่นก็มองหน้าแบ๊งค์แล้วก็มองกลับไปที่พี่อาร์ท แล้วยิ้ม ๆ ครับ สองคนนี้แอบคุยอะไรกันง่ะ อยากรู้จัง พี่อาร์ทกลับไปแล้วครับ

   “บุรุษรูปงามนายนี้เป็นใครเอ่ย  อิอิ” พี่นุ่นเริ่มแซว

   “พี่นุ่นคุยอะไรกับพี่อาร์ทหรอ บอกแบ๊งค์หน่อยจิ” แบ๊งค์ถามบ้าง

   “เปล้า~~~~ไม่มีอะไรสบายดี กินข้าวแล้ว” อันนี้เป็นมุกที่เราชอบใช้กันบ่อย ๆ ครับ เวลาอย่างเบี่ยงประเด็นที่กำลังพูดอยู่

   “ง้า.......พี่นุ่นอ่ะ”  แบ๊งค์ทำท่างอแง

   “อ่ะนะ นู่นไปนู่นเลยซื้อขนมมาฝากเต็มเลยไปกินซะ”  พี่นุ่นพาไปดูของที่ซื้อมาฝากครับ วันนี้พี่นุ่นเป็นอะไรก็ไม่รู้  ตั้งแต่คุยกับพี่อาร์ทไป ก็เอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่มได้ทั้งวัน สองคนต้องมีลับลมคนในอะไรกันแน่ ๆ 

พอตกเย็นเราก็นั่งประจำที่ ที่ใครที่มันครับ  จะอะไรซะอีกล่ะครับ ก็เกมกับ MSN ไงครับ คือเราสองคนจะมี Note คนละตัวเอาไว้เล่นเกม เนท แชท ของใครของมันครับ บางทีอยู่ข้าง ๆ ห้องกันแท้ ๆ ยังอุตสาห์แชทคุยกันเลยครับ  แล้วก็กำลังเปิด MSN  มีคนเข้ามาทักเลยครับ ใครล่ะ นายโต้คนแปลกหน้านั่นเอง

คนแปลกหน้า    say:   ดีแบ๊งค์

badboy_be_sadboy   say:   อืมคับ

คนแปลกหน้า    say:   เมื่อวานหายไปไหนมาอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   เราอุตสาห์มารอ ไหนว่าเล่นทุกวันไง

badboy_be_sadboy   say:   แบ๊งค์มีธุระนิดหน่อยครับ

badboy_be_sadboy   say:   ขอโทดทีนะ  ที่ทำให้โต้ต้องมารอ

badboy_be_sadboy   say:   มีอะไรป่าว   

คนแปลกหน้า    say:   ป่าว  เราแค่เปนห่วง

badboy_be_sadboy   say:   อืมค้าบ  ผิดไปแล้วค้าบ (-_-')

คนแปลกหน้า    say:   แล้วนี่กินอะไรไปรึยัง

badboy_be_sadboy   say:   กินแล้ว พี่นุ่นทำให้กินตั้งนานแล้ว

คนแปลกหน้า    say:   อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:   วันนี้จะนอนกี่โมงหรอ

คนแปลกหน้า    say:   อย่านอนดึกนะ  เด๋วไปเรียนสาย

badboy_be_sadboy   say:   อ่ะค้าบ

badboy_be_sadboy   say:    เด๋วก็คงเข้านอนแล้วแหละ

badboy_be_sadboy   say:   อีกอย่างไม่ต้องกลัวสายหรอ เด๋วพี่นุ่นก็มาปลุก

คนแปลกหน้า    say:   อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:   นี่แบ๊งค์

badboy_be_sadboy   say:   อารายหรอ

คนแปลกหน้า    say:   เราขอเบอร์แบ๊งค์ได้ป่ะ

badboy_be_sadboy   say:   งืม ๆ ได้จิ แต่บอกก่อน

badboy_be_sadboy   say:   เอาไปทะมาย

คนแปลกหน้า    say:   โห.....ได้เบอร์มาคงเอามาบูชามั้ง

badboy_be_sadboy   say:   อิอิ..นึกว่าเอาไปแทงหวย

คนแปลกหน้า    say:   อ่านะ....แล้วขอได้ป่ะล่ะ

badboy_be_sadboy   say:   อ่ะเอาปาย 06-916XXXX

คนแปลกหน้า    say:   ขอบคุณคับ

badboy_be_sadboy   say:   เรื่องเล็กน้อยล่ะ

คนแปลกหน้า    say:   อืมคับ

คนแปลกหน้า    say:   แล้วเราจะโทรหานะ

badboy_be_sadboy   say:   งืม

คนแปลกหน้า    say:   วันนี้ไปก่อนล่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า


badboy_be_sadboy   say:   อืมเช่นกัน เราก้อคงต้องไปแระ

คนแปลกหน้า    say:   บายครับ

คนแปลกหน้า    say:   ฝันดีนะ

badboy_be_sadboy   say:   บายครับ

badboy_be_sadboy   say:   ฝันเปียกเอ้ยฝันดีนะ......อิอิ

คนแปลกหน้า    say:   ซะงั้น

คนแปลกหน้า    say:   ไปแล้วครับ

badboy_be_sadboy   say:   อืม


   พอคุยเสร็จแบ๊งค์ก็ปิดคอมแล้วเข้านอนเลยครับ พรุ่งนี้จะได้กลับภาวะปกติซะที ไม่ต้องไปขึ้นรถเมล์อีกแล้ว และก็ไม่ต้องไปลำบากใครให้มารับมาส่งอีก ไม่อยากเป็นภาระอ่ะครับ คิดแล้วก็เผลอหลับไปเลยครับ ง่วงมาก

 “   ตื่นได้แล้วจ๊ะ เกย์น้อย” พี่นุ่นครับมาปลุกไปมหาวิทยาลัย

 “   อือ....อืม”  แบ๊งค์ก็ลุกไปทำภารกิจส่วนตัวจนเรียบร้อย  แล้วออกมาครับ พี่นุ่นรออยู่แล้ว

  “ ไปกันเหอะ ป่ะ”  แบ๊งค์ก็เดินตามพี่นุ่นไปครับ ในที่สุดเราก็ได้ไปมหาวิทยาลัยด้วยกันเหมือนเดิม  พี่นุ่นมาส่งแบ๊งค์ตรงที่ประจำที่เดิมครับ แบ๊งค์ก็เลยไปนั่งที่ประจำซึ่งวันนี้มีพี่ตั้มนั่งเฝ้าอยู่ กับนายกาว

   “ไง  ไอ้ตัวเล็กกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้วนะ” พี่ตั้มแซวแต่เช้าเลย

   “อืมค้าบ ” ไม่อยากเถียงมากครับ  วันนี้ง่วง

   “เอาแต่เล่นเกมเล่น M จนดึก อะดิ ง่วงมาเชียว” พี่ตั้มยังแหย่เล่น

   “พี่ตั้ม อย่าไปแหย่แบ๊งค์เลยครับ ให้นอนแบบนี้แหละ เดี๋ยวตื่นมาจะแว้งกัดอีก” ไอ้กาวพูดครับแล้วก็หัวเราะกับพี่ตั้ม สองคน

   “อ้าว.....ไอ้นี่”  แบ๊งค์พูดได้แค่นั้นครับ แล้วก็หลับไปเลย  มารู้สึกตัวตอนที่ได้ยินเสียง
แช๊ะ ๆๆๆ  ใกล้ ๆ หูก็ลืมตามองดิครับ  อ้าว....ไอ้คุณพี่ตั้มกับไอ้คุณกาว แอบเอามือถือมาถ่ายรูปแบ๊งค์ตอนหลับซะงั้น

   “อ้าว....เฮ้ยทำอะไรกันน่ะ”  แบ๊งค์ไม่ยอมครับวิ่งไล่จะเอามือถือคืนให้ได้
สภาพตอนนี้เราทั้งสามเหมือนเด็กประถมกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันเลยครับ  คนมองทั้งคณะเลยแต่ไม่อายหรอกครับกำลังสนุก วิ่งกันใหญ่จนพี่ปอยเห็นเข้า

   “นี่!!!!!!ระวัง ๆๆๆ หยุดกันได้แล้ว ถ้าชนชั้นขึ้นมาเดี๋ยวแม่ไม่ปลื้มนะ”  พี่ปอยตะโกน เล่นเอาเราทั้งสามต้องหยุดชั่วคราวแล้วมานั่งกันที่โต๊ะ ตามเดิม โดยมีพี่ปอย ครีมและผิงตามมานั่งด้วย แล้วเราก็นั่งคุยกันครับ

   “พี่ปอยคะ ทำไงดีอ่ะ ตอนนี้อ่ะหลีดคณะขาดคนอ่ะค่ะ” ผิงเริ่มถาม

   “อ้าวแล้วคนเก่า ๆ ล่ะคะ”  พี่ปอยถามย้อน

   “เค้าบอกว่าเค้าซ้อมไม่ไหว เลยลาออกกันไปน่ะค่ะ ”ครีมเสริม

   “แล้วขาดใครบ้างล่ะ ” พี่ปอยถามต่อ

   “ผู้หญิงก็ขาด 1 ส่วนผู้ชายก็ขาด 3 อ่ะค่ะ” ครีมทำหน้าเซง ๆ

   “ขาดเยอะนะ จะไปหาที่ไหนดีอ่ะ ” พี่ปอยทำหน้าครุ่นคิด

   “พี่ปอยมาเป็นได้มั้ยคะ” ผิงเสนอ

   “ส่วนผู้ชาย ก็เอาหนุ่มจอมพลังแถวนี้นี่แหละง่ายดี” ผิงพูดจบก้มองหน้าครีม ทั้งสองยิ้มให้กัน แล้วผงกหัว เข้ากันดีจริง ๆ แม่ลาล่าลูลู่

แต่ความซวยก็ตกที่พวกเราอ่ะสิ พี่ปอยก็ลังเลไม่ยอมเป็น พวกแบ๊งค์ก็ไม่มีใครยอมเป็น ไอ้กาวมันบอกมันติดซ้อมบาส ส่วนแบ๊งค์ก็บอกว่าต้องกลับบ้านกับเพื่อนอยู่ดึกไม่ได้ พี่ตั้มก็อึกอักไม่ตอบซะที สองสาวก็ยังพยายามใช้ลูกตื้อต่อไป แล้วก็มีผู้เคราะห์ร้ายเดินมาหาเราพอดีเลยครับ พี่ตี๋กับแมค สองสาวก็เลยใช้มนต์ดำหว่านล้อมจนในที่สุดสองคนนั้นก็ต้องยอมเป็น แล้วพี่ตี๋กับแมคยังช่วยกัน กล่อมพี่ปอยกับพี่ตั้มด้วยนะ

   “ตั้มแกเอาไง”  พี่ปอยถาม

   “ถ้าแกเป็น เรายอมเป็นก็ได้”  พี่ตั้มตอบ

   “เพื่อคณะนะคะ ท่องไว้” ผิงพูดแทรกทำเอาพี่ ๆ ทั้งสองเหงื่อตกเลย

   “ก็ได้ พี่ยอมเป็น” พี่ปอยยอมแล้วครับ ทุกคนเลยหันไปมองหน้าพี่ตั้มว่าจะเอายังไง  พี่ตั้มก็ผงกหัวรับปากไป  สองสาวดีใจใหญ่ที่ทีมครบ

   “อยากเห็นจัง พี่ตั้มจอมโหด กลายเป็นหลีด อิอิ”  แบ๊งค์ได้ทีก็แซวเลยครับ

   โป๊ก!!!!!!   “   โอ้ย....พี่ตั้มเขกหัวแบ๊งค์ทำไม” แบ๊งค์โดนเขกหัวครับ

   “แล้วคิดอะไรอยู่ล่ะ กูรู้นะมึง” พี่ตั้มดักคอครับ แบ๊งค์เลยทำหน้างอนเป็นปลาทองอีกตามเคย ทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่ครับ 

โดยการซ้อมจะเริ่มจากวันนี้ตอนเลิกเรียนเป็นต้นไป  แบ๊งค์ได้ไปดูด้วยครับ เพราะว่าพี่นุ่นเลิกเรียนช้ากว่าแบ๊งค์  ไอ้กาวก็มาครับมันมีซ้อมตอนเย็น ๆ ก็เลยมานั่งดูพวกเพื่อน ๆ พี่ซ้อมหลีดกัน ทุกคนก็ทำได้ดีนะครับ มีแต่พี่ตั้มนั่นแหละเก้ ๆ กัง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ดูแล้วหลุดขำกร้ากออกมากับไอ้กาวเลยครับ

    “เออ...ฝากไว้ก่อนนะไอ้สองคนที่หัวเราะอ่ะ”  พี่ตั้มขู่ครับ แต่เรายังหัวเราะมาสังเกตดูอีกทีแต่ละคนดูดีทั้งนั้นเลยครับสาว ๆ ทั้งหลายสูงกัน 170 อัพทั้งนั้น ( สูงกว่าแบ๊งค์อีก ) ผู้ชายก็สูง 178 ขึ้นทั้งนั้น  เรียกว่าหุ่นนายแบบ-นางแบบทั้งนั้น  หน้าตาก็ใช่ย่อยนะเนี่ย แบ๊งค์ชอบมองคู่ของพี่ปอยกับพี่ตี๋อ่ะครับ ทั้งคู่หลีดได้สวยดีเป็นระบบระเบียบพร้อมกัน ขนาดมาวันแรกนะเนี่ย พี่ปอยยิ้มสวยมากเลยครับ นี่ถ้าไม่เป็นเกย์นะอาจจีบพี่ปอยแล้วก็ได้ อยู่ ๆโทรศัพท์ก็ดังครับ  พี่นุ่นโทรมาตามกลับบ้าน ก็เลยลาทุก ๆ คนแล้ว ไปหาพี่นุ่นเลยคับ
************************
 :bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 26-04-2007 03:35:12
พี่อาร์ทนี่รุกเร็วจริงๆเลย ขอเป็นแฟนซะล่ะ.. :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-04-2007 19:34:46
ตั้มนี่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนใน m นะ  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-04-2007 19:50:09
ตั้มนี่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนใน m นะ  :laugh3:  :laugh3:

เห็นด้วย :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 26-04-2007 22:40:28
******************************
บทที่ 8 เราคบกันแล้วนะ

   วันนั้นพอกลับถึงคอนโด ก็นึกถึงแต่พี่ตั้มตอนเป็นหลีด ขำดีอ่ะทำอะไรก็ขำจนพี่นุ่นทักขึ้น เราสองคนแยกประจำตำแหน่งอีกแล้วครับ วันนี้ไม่ค่อยมีคนออน นายคนแปลกหน้าคนนั้นก็ไม่ออน  แบ๊งค์เลยหันไปเล่นเกมแทนครับแอบไปแข่งกับป้านุ่นด้วย แต่นั่นเค้าไปสู่ระดับเทพแล้วครับชนะตลอด บางครั้งอยู่รั้งท้ายแท้ ๆ พอจบเพลงเด้งขึ้นมาที่ 1 ซะงั้น มีแต่คนงง แบ๊งค์อ่ะชินแล้วครับป้าแกมาแนวนี้ตลอด เล่นไปจนถึง 5 ทุ่มกว่าป้าแกก็ทักขึ้นในเกมนั่นแหละครับว่าให้ไปนอน ( ความจริงตะโกนบอก หรือเดินมาบอกกันก็ได้อยู่ห้องข้าง ๆ กันแท้ ๆ )  แบ๊งค์เลยปิดคอมกำลังจะนอน แล้วก็มีเสียง Message ดังขึ้นเลยไปเปิดดูครับ  นายโต้คนแปลกหน้าส่งมานั่นเอง

“วันนี้ไม่ได้ออนขอโทดด้วยนะครับพอดียุ่ง ๆ อยู่อ่ะครับ”
โต้.......คนแปลกหน้า

อ่ะนะ แบ๊งค์อ่านแล้วก็เลยโทรกลับ  แต่โต้ไม่รับสายครับ สงสัยยุ่งอยู่มั้ง พอโทรกลับไปอีกรอบ  อ้าวปิดเครื่องซะงั้น ก็ไม่ได้สนใจครับ กะว่าจะนอนโทรศัพท์ดังอีกแล้วครับ ( มันจะได้นอนมั้ยเนี่ย ) เป็นคนโทรมาครับ พี่อาร์ทนั่นเอง

“ไงครับ เด็กดื้อ จะนอนละยัง” พี่อาร์ทถาม

“จะนอนแล้วครับ พี่อาร์ทล่ะ” แบ๊งค์ถามกลับบ้าง

“พี่ก็กำลังจะนอนเหมือนกันครับ ขอโทษด้วยนะครับ ที่วันนี้พี่ไม่ไปหาน้องแบ๊งค์เลย  ชมรมซ้อมหนักอ่ะครับ เตรียมตัวไปแข่งอ่ะครับ”  พี่อาร์ทพูดเสียงเนิบ ๆ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แบ๊งค์เข้าใจ ตอนนี้กิจกรรมค่อนข้างเยอะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“งั้นพรุ่งนี้เที่ยงน้องแบ๊งค์มากินข้าวกับพี่ได้รึเปล่าคับ”  พี่อาร์ทถาม

“ที่มหาวิทยาลัยเนี่ยนะครับ”  แบ๊งค์ตกใจ

“อืมครับ   ทำไมหรอ อายหรอ ” พี่อาร์ททำเสียงน้อยใจ

“เปล่า ๆ เปล่าคับแล้วพี่อาร์ทไม่กลัวคนอื่นมองหรอ”  แบ๊งค์ถามกลับ

“งั้นถ้าใครถาม เราก็บอกไปสิครับว่าเป็นพี่รหัส-น้องรหัสกัน แค่นั้นแหละครับ ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเค้าเหอะครับ นะครับน้องแบ๊งค์” พี่อาร์ทหันมาทำเสียงอ้อน

“ก็ได้ครับ ” แบ๊งค์รับปาก

“งั้นพรุ่งนี้เที่ยงพี่ไปรอที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกนะครับ” พี่อาร์ทกำชับ

“ค้าบ”  แล้วเราทั้งคู่ก็วางสายไป ในใจแบ๊งค์กลัวจัง  ว่าพรุ่งนี้แบ๊งค์จะโดนสายตาคนในมหาวิทยาลัยมองแบบไหนบ้าง ถ้าแบ๊งค์ไปเดินข้างพี่อาร์ท แบ๊งค์กลัวจัง กลัวไปทำพี่อาร์ทเสื่อมเสีย คิดแล้วก็เครียดเล็กน้อยครับ หลับไปซะงั้น

มาถึงเช้าวันใหม่ครับ วันนี้แล้วสินะ กลัวจังรู้สึกเหมือนเป็นวันสอบวิชาอะไรซักอย่างที่มันยากมาก ๆ อ่ะครับ โหวง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แบ๊งค์ไม่พูด ไม่หือ  ไม่อือ อะไรกับใครเลยครับ พี่ตั้มแซวมาก็ไม่ตอบนั่งคิดหนัก คือไม่ได้ฟังหรอกครับที่แซว ๆ มา พี่ตั้มก็เลยถาม

“ไอ้ตัวเล็ก เป็นอะไรไปวะ ทำหน้าซะ” พี่ตั้มถาม

“ค....ค...คับ....” แบ๊งค์ตอบไปไม่รู้หรอกครับว่าพี่ตั้มพูดว่าอะไร

“เครียดอะไรป่าววะ”  พี่ตั้มถาม

“ใช่ ๆๆๆ ทำหน้า แบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว”  แมคมันก็สงสัย

“อืม นั่นดิ ไม่สบายป่าววะ ” กาวถามขึ้นบ้าง

“ไม่เป็นไรหรอก แค่คิดอะไรเพลิน ๆ ”แบ๊งค์ตอบไป  ตอนนั้นจิดใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหรอกคับ สรุปว่าเช้านั้นเรียนไม่รู้เรื่องเลย อะไร ๆ ก็ไม่เข้าหัวซักอย่าง  และแล้วตอนนี้เวลาก็มาถึง 12.00 น.แล้วครับ  พี่อาร์ทมานั่งรอที่หน้าตึกจริง ๆ ไม่อยากลงไปเลย

“มาแล้วหรอครับ ป่ะไปกันเหอะ” พี่อาร์ททักขึ้นเมื่อเห็นแบ๊งค์  แบ๊งค์ก็ได้แต่ผงกหัวแล้วเดินก้มหน้าตามพี่อาร์ทไป 

ตอนนี้สายหลายคู่จับจ้องมาที่แบ๊งค์และพี่อาร์ท โดยส่วนใหญ่จะเป็นสายตาพวกสาว ๆ ที่หมายปองพี่อาร์ท พี่อาร์ทก็ช่างเป็นทองไม่รู้ร้อนซะเลย พยยามชวนแบ๊งค์พูดไม่ได้มองคนรอบข้างเลย แล้วในที่สุดก็มาถึงโรงอาหารครับ พอมาถึงแบ๊งค์โล่งใจขึ้นเยอะเลยครับ ทำไมอ่ะหรอก็พี่โป้งไง พี่อาร์ทเค้าชวนมากินข้าวด้วยกัน แค่นี้ก็ไม่ต้องนั่งกันสองต่อสองให้คนอื่นมองเป็นเป้าสายตาแล้ว พี่อาร์ทมากระซิบที่ข้างหูแบ๊งค์ครับ

“พี่รู้ว่า ถ้าเรามากันสองคนน้องแบ๊งค์ต้องไม่สบายใจแน่ ๆ พี่เลยชวนพี่โป้งมากินด้วยกัน ไม่โกรธพี่นะครับ เด็กดื้อ”” พี่อาร์ทพูดด้วยเสียงนุ่มนวล  แบ๊งค์ก็เริ่มยิ้มออกสิครับ

ในที่สุดเราก็ผ่านกลางวันนั้นมาได้ สนุกดีครับ พี่โป้งคุยเก่งดี สบายใจด้วยอ่ะครับ  ตอนนี้ก็ไม่เครียดอะไรแล้ว เหมือนยกภูเขาออกจากอกไปเลยครับ

หลังจากวันนั้นมาแบ๊งค์กับพี่อาร์ท เราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ไปไหนด้วยกันมากขึ้น พี่นุ่นก็เปิดทาง ( ปกติจะค่อนข้างหวงนะ )ทุกอย่างค่อนข้างลงตัวครับ การเรียนก็ผ่านไปได้ด้วยดี ช่วงนี้มีแต่เรื่องดี ๆ ครับ แล้ววันนี้เป็นวันหยุดครับ แบ๊งค์กำลังนอนเพลิน ๆ เลย พี่นุ่นก็เข้ามาเรียก

“เกย์น้อย ตื่นได้แล้ว ”

“วันนี้วันหยุดนะป้า รีบไปไหน ” แบ๊งค์ทำเสียงงัวเงีย

“ตื่นมาช่วยชั้น ทำกับข้าวหน่อย จะกินมั้ยอ่ะ ข้าวเช้า”  พี่นุ่นยังคงพยายาม ดึงแบ๊งค์ให้ลุกจากที่นอนให้ได้ มีรึจะสู้แรงแบ๊งค์ได้ ป้าเค้าก็เลยตบหัวเบา ๆ  พร้อมพูด

“ตื่น ๆๆๆๆๆๆๆๆ ตื่นได้แล้ว ” ป้าแกตบไปพูดไป แบ๊งค์เลยต้องตื่นครับสภาพนี่ดูไม่ได้เลย ผมเป็นทรงรังนกเลย ป้าก็หัวเราะ คงตลกในทรงผมและภูมิใจมั้งครับ ที่ลากแบ๊งคืออกจากที่นอนได้ ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 11 โมงกว่า ๆ ครับ

“โห.....ป้าไหนว่าข้าวเช้า นี่มันจะข้าวที่ยงแล้วนะ ”  แบ๊งค์พูดแล้วเดินนำหน้าป้า ออกมานอกห้อง 

(o_O)อึ้งดิครับพี่อาร์ท  พี่อาร์ทมานั่งอยู่ที่โซฟา แบ๊งค์รีบขยี้ตาครับ

 “surprice จ๊ะหลานเกย์  อิอิ”  ป้าพูดแล้วหัวเราะครับ  อย่างนี้นี่เองมิน่า ทะมายมาปลุกกัน นึกขึ้นได้ครับว่าสภาพตอนนี้ยังไม่พร้อมเจอหน้าใครทั้งนั้น แบ๊งค์แทบอยากวิ่งกลับเข้าห้อง แต่ป้าแกฉุดไว้ซะก่อน แล้วผลักให้มานั่งใกล้ ๆ พี่อาร์ท

“พี่อาร์ท เค้ามาขออนุญาตพี่นุ่น พาแบ๊งค์ไปดูหนัง พี่อนุญาตแล้ว รีบไปแต่งตัวเลยป่ะ”  อ้าวป้ายังไม่ทันได้ถามแบ๊งค์เลยอนุญาตซะงั้น

“แบ๊งค์ตอนตื่นนอนนี่น่ารักดีนะครับ” พี่อาร์ทพูด น่ารักตรงไหนวะหน้าอย่างกะศพเนี่ยนะ  แบ๊งค์เลยหันไปมองหน้าป้า ซึ่งป้าได้ทำท่าอ้วกไปแล้ว ประมาณว่า  เน่าว่ะ (-_-')

“แบ๊งค์มันแต่งตัวช้าอ่ะค่ะ  พี่อาร์ทไปช่วยคงจะเร็วขึ้นนะคะ”  อ้าวป้าไหงพูดงั้นล่ะ

“ได้ครับป่ะแบ๊งค์ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน”  พี่อาร์ทก็รับมุกซะงั้น  แล้วพี่อาร์ทก็เดินโอบเอวแบ๊งค์เข้าไปยังห้องนอน โดยที่แบ๊งค์หันหน้าไปมองป้า แล้วส่งสายตาไปบอกว่า ฝากไว้ก่อนเหอะป้า  แล้วพี่นุ่นก็ส่งสายตามาประมาณว่า สมน้ำหน้ากร้าก!!!  พี่นุ่นนะพี่นุ่นทำกันได้

“ห้องน้องแบ๊งค์เป็นระเบียบดีนะครับ” พี่อาร์ทพูดเมื่อเข้าไปนั่งบนเตียงในห้องแบ๊งค์

“แต่ไม่สวยเท่าห้องพี่อาร์ทหรอกครับ” แบ๊งค์เหน็บแนม

“อ่ะครับ นั่นใช้ตู้เสื้อผ้าใช่มั้ยครับ มาเดี๋ยวพี่เลือกชุดให้” พี่อาร์ทเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแบ๊งค์เลือกเองได้” แบ๊งค์มาขวางเอาไว้

“ดื้ออีกแล้วนะเรา  เดี๋ยวจับตีก้นเลย สัญญากับพี่ว่าอะไรครับ” แค่นั้นแหละครับ ก็ต้อง
“ดื้ออีกแล้วนะเรา  เดี๋ยวจับตีก้นเลย สัญญากับพี่ว่าอะไรครับ”

 แค่นั้นแหละครับ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย พี่อาร์ทก็เลือกชุดมาให้  เป็นเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายธรรมดาแหละคับ ( แบ๊งค์มีแต่เสื้อแบบนี้เท่านั้นแหละทั้งตู้ ) กับกางเกงยีนส์สีซีด ๆ แต่ไม่ขาดนะครับ

“ใส่แบบนี้ละกัน พี่ชอบ”  พี่อาร์ทส่งชุดให้แบ๊งค์

“ก็ได้ครับ” แบ๊งค์รับชุดแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

“เออ!  เดี๋ยวครับ พี่เปิดเพลงฟังจาก Note น้องแบ๊งค์ได้มั้ยครับ”  พี่อาร์ทขอ

“ได้สิครับ ตอนนี้ต่อลำโพงเรียบร้อยแล้วนะครับ ”  แล้วแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้องน้ำไปทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยครับ  ระหว่างที่อาบน้ำได้ยินเสียงเพลงแล้วครับ พี่อาร์ทคงเปิดเพลงฟัง แต่ไม่คุ้นหูเลยอ่ะ มีแต่เพลงรักทั้งนั้น ( แบ๊งค์ชอบฟังเพลงเศร้า-อกหักครับ ) เมื่อแต่งตัวอะไรเรียบร้อยแล้วแบ๊งค์ก็ออกมาจาห้องน้ำครับ แล้วก็ได้รู้ครับว่าเพลงเหล่านั้นมาจากไหน

“พี่เห็นว่าเพลงเพราะดีอ่ะครับ อยากให้น้องแบ๊งค์ได้ฟังบ้าง เลยเอาใส่ handy drive มาให้ครับ”  พี่อาร์ทอธิบายให้ฟัง

“ขะ...ขอบคุณครับ” แบ๊งค์ขอบคุณไปแล็วอยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็เดินมาหยิบผ้าเช็ดตัว จากมือแบ๊งค์มาเช็ดหัวให้ รู้สึกแปลก ๆ จังเกิดมายังไม่ใครเคยทำแบบนี้ให้เลย แบ๊งค์อยู่ใกล้พี่อาร์ทมากเลยครับ ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่พี่อาร์ทใส่มา กำลังเพลินเลยครับ

“อ่ะเสร็จแล้ว เด็กน้อยจอมดื้อ”  พี่อาร์ทยิ้มให้ครับ แล้วแบ๊งค์ก็รับผ้าเช็ดตัวจากมือพี่อาร์ท ไปพาดไว้ที่ราวแขวนเสื้อในห้อง แล้วเราก็เดินออกห้องไปด้วยกัน

“ดูหนังให้สนุกนะจ๊ะเกย์น้อย  ฝากด้วยนะคะคุณพี่อาร์ท ” พี่นุ่นมาส่งก่อนออกห้อง

“จะดูแลให้อย่างดีเลยครับ” พี่อาร์ทรับคำพี่นุ่นแล้วเราก็ลงมาที่ลานจอดรถ พอขึ้นรถไปอยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

“มีอะไรรึเปล่าครับพี่อาร์ท  แบ๊งค์ทำอะไรตลกหรอ”  แบ๊งค์เริ่มเสีย self

“เปล่า ๆ พี่ชอบที่พี่นุ่นเรียกเราอ่ะ น่ารักดี.........เกย์น้อย”  พี่อาร์ทยิ้ม ๆ ครับ แบ๊งค์ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง เพราะแบ๊งค์ชินแล้วแหละที่พี่นุ่นเรียกแบบนี้ จะว่าไปมันก็น่ารักดีเหมือนกันนะ  เกย์น้อย..................หึหึ
*************************
:bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 28-04-2007 22:53:34
**********************
บทที่ 9 ไปดูหนังกันนะ

เราไปดูหนังที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวครับ เพราะว่าแบ๊งค์อยากไปเดินเล่นดู ของต่าง ๆ ไปด้วย อีกอย่างมันก็ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ด้วย  พี่อาร์ทก็เลยตามใจครับ ( ใจดีจัง ) เราได้หนังรอบประมาณ 14.10น. ครับ ( เป็นโรง VIP ซะด้วย ) ตอนนี้เพิ่ง เที่ยงกว่า ๆ ก็เลยพอมีเวลาเหลือครับ

“กินอะไรมั้ยแบ๊งค์ เพิ่งตื่นมายังไม่ได้ทานอะไรเลย” พี่อาร์ทถาม

“อืม....นั่นดิครับ”  แบ๊งค์เห็นด้วย เพราะตอนนี้เริ่มหิวแล้ว

“จะกินอะไรดีล่ะ ห้ามบอกว่าตามใจพี่นะ”  โดนดักซะแล้วคับ

“งั้นไป Chester Grill ก็ได้ครับ”  แบ๊งค์เลยเสนอร้านโปรดไป

“อืมไปกันเหอะ” ว่าแล้วพี่อาร์ทก็ลากแบ๊งค์ไปครับ  พอไปถึงแบ๊งค์ก็สั่งเลยครับ แต่พี่อาร์ทอ่ะไม่ยอมสั่งอะไรเลย สั่งน้ำไปดื่มแก้วเดียว พอแบ๊งค์จะเอากระเป๋าสตางค์เอามาเพื่อจ่ายเงิน พี่อาร์ทไวกว่าครับ รีบจ่ายเงินแทน

“ให้พี่เลี้ยงนะครับ เด็กดื้อ”  พี่อาร์ทพูดไปยิ้มไปครับ สรุปมื้อนี้พี่อาร์ทก็เลี้ยงอีกตามเคย พี่อาร์ทไม่ยอมทานอะไรเลยครับ เฟรท์ฟรายที่สั่งมาก็ไม่ยอมทาน นั่งมองแต่แบ๊งค์

“พี่อาร์ทครับ ทานหน่อยจิ นั่งมองแบ๊งค์กินอยู่ได้”  แบ๊งค์ทำหน้างอน ๆ ครับ

“งั้นน้องแบ๊งค์ป้อนพี่ได้ละป่าวครับ”  อึ้งสิครับ

“นี่มันในห้างนะพี่อาร์ท”  แบ๊งค์กระซิบกระซาบ

“ไม่เอาง่ะ  ไม่งั้นพี่งอนจริง ๆ ด้วย”  พี่อาร์ทเริ่มทำหน้างอนบ้างครับ  แต่แบ๊งค์อ่ะตอนนี้ทำหน้าแหย ๆ ไปแล้ว ดูท่าพี่อาร์ทจะงอนจริง ๆ ครับ แบ๊งค์หยิบเฟรท์ฟราย มาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นไปใกล้ ๆ ปากของพี่อาร์ท  พี่อาร์ทก็เลยหันหน้ามามอง

“อ่ะคับ กินนะครับแบ๊งค์ป้อนแล้ว” พี่อาร์ททำหน้ายิ้ม ๆ ครับ แล้วก็กินเฟรท์ฟรายที่อยู่ในมือแบ๊งค์นั่นแหละครับ ตอนนี้รู้สึกว่า คนในร้านรวมถึงพนักงานแอบมองอยู่นะครับ แต่ละคนอมยิ้มกันใหญ่ อายดิครับตอนนี้หน้าแดงหมดแล้ว พี่อาร์ทก็ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่สนใจต่อไป

“เวลาแบ๊งค์เขิน หรืออายนี่ น่ารักดีนะ” พี่อาร์ทชมอีกละ ( น่ารักตรงไหนวะ )  พอทานเสร็จพี่อาร์ทก็พาแบ๊งค์ดูเสื้อผ้า ใน shop ของแบรนด์ดังต่าง ๆ พี่อาร์ทพยายามเลือกเสื้อผ้าให้แบ๊งค์หลายตัวมาก แต่แบ๊งค์ก็พยายามจะปฏิเสธ พี่อาร์ทก็ทำหน้างอน

“คือพวกแบ๊งค์ถืออะครับ  คนเป็นแฟนกันถ้าซื้อเสื้อผ้าให้กัน เดี๋ยวจะเกลียดกัน” พี่อาร์ทได้ฟังแล้วก็ยิ้ม ๆ แบ๊งค์เลยถามไปว่ายิ้มอะไร

“ที่ยิ้มก็เพราะดีใจไงครับ  น้องแบ๊งค์ยอมรับพี่เป็นแฟนแล้ว แถมยังไม่อยากให้พี่เกลียดอีก พี่ดีใจนะครับที่ได้ยินแบบนั้น”  นี่กรูส์พูดอะไรออกไปเนี่ย   อายเลยครับ ไม่รู้จะทำยังไง

“งั้นเอาแบบนี้พี่ขอตังแบ๊งค์  20 ละกันจะถือว่าเป็นการซื้อจากพี่ไม่ได้ให้ฟรี ๆ ” พี่อาร์ทหาหนทางที่จะซื้อเสื้อผ้าให้แบ๊งค์ให้ได้

“โหยไม่ได้หรอก เสื้อผ้าแต่ละตัวแพง ๆ ทั้งนั้นนะครับ” แบ๊งค์แย้งขึ้นบ้าง

“งั้นเอา 100 นึงก้อได้”  พี่อาร์ทโต้กลับ

“ไม่ไหวหรอกพี่อาร์ท  แบ๊งค์ว่าไม่ต้องซื้อเลยดีกว่านะ” แบ๊งค์ตัดบท

“ไม่รู้แหละ พี่จะเอาเงินจากแบ๊งค์ตอนนี้อ่ะ แล้วแบ๊งค์ก็ต้องเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปใส่ด้วย” ไม่พูดเปล่าพี่อาร์ทเดินเข้ามาหาแบ๊งค์ แล้วกอดแบ๊งค์เอาไว้ จากนั้นก็เอามือล้วงไปที่กระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์  เพราะแบ๊งค์เก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในนั้นไงครับ ตอนนี้ก็เลยดูเหมือนว่าพี่อาร์ทกำลังกอดแบ๊งค์อยู่

“พี่อาร์ท ปล่อยแบ๊งค์นะครับ ตอนนี้คนมองเต็มร้านแล้ว”  จริง ๆ นะครับ ทั้งลูกค้าที่มาเลือกเสื้อผ้า และพนักงานในร้านมองเป็นตาเดียวเลย อายจัง  -////-

“ก็ไม่ยอมเอาเงินให้พี่ง่าย ๆ พี่ก็ต้องทำแบบนี้แหละ”  แล้วพี่อาร์ทก็เอาเงินไปได้สมใจ ตอนนั้นในกระเป๋ามีแต่แบงก์ร้อยครับ  พี่อาร์ทเลยเอาไป 1 ใบ กว่าพี่อาร์ทจะปล่อยแบ๊งค์ออกจากอ้อมกอดของพี่แกได้ ก็นานพอสมควร ตอนนี้แบ๊งค์ไม่พูดอะไรแล้ว อายครับ คนมองกันทั้งร้านเลย แล้วพี่อาร์ทก็จ่ายเงินค่าเสื้อผ้าไปครับ พนักงานคนที่รับเงิน  ก็มองหน้าพวกเราสองคนแล้วอมยิ้มไปครับ  อายจังคนตั้งกี่คนเนี่ย

ตอนนี้ 14.00น. แล้วหนังใกล้เข้าแล้วเราก็เลยไปที่หน้าโรงหนังกัน พี่อาร์ทเอาถุงเสื้อผ้าที่ถือมากันพะรุงพะรังฝากพนักงานที่หน้าโรงไว้ครับ แล้วเราก็เข้าไปดูหนังด้วยกัน  ระหว่างดูหนังไปพี่อาร์ทก็กระซิบมาครับ

“ขอพี่จับมือเราหน่อยได้มั้ย ” แบ๊งค์มองหน้าสิครับ

“ถ้าแบ๊งค์ไม่ให้ล่ะ”  พี่อาร์ททำหน้างอนครับ แต่มืออ่ะคว้ามือแบ๊งค์ไปจับเรียบร้อยแล้ว

“ก็จะจับอ่ะจะทำไม...ทำไมมือเราเย็นจังหนาวหรอ” คือแบ๊งค์จะเป็นแบบนี้แหละครับ ไม่ได้หนาวนะ แต่ถ้าที่ไหนที่มีอากาศเย็น ๆ มือแบ๊งค์จะเย็นตามไปด้วย เย็นจริง ๆ นะครับ เคยมีเพื่อนตกใจด้วย บอกว่ามือเราเย็นมากเป็นไข้เป็นอะไรรึป่าว คิดแล้วก็ขำครับ

“ไม่ได้หนาวซะหน่อย  มือแบ๊งค์ก็เย็นแบบนี้แหละเรื่องปกติ”  แบ๊งค์ตอบไปเสียงเบา

“ไม่ได้นะต้องทำร่างกายให้อุ่นเข้าไว้” แล้วพี่อาร์ทก็ดึงแบ๊งค์ไปซบไหล่ครับ  แล้วก็เอาแขนโอบหลังแบ๊งค์ไว้ ดีนะที่คนไม่เยอะเท่าไหร่

“พี่อาร์ทปล่อยแบ๊งค์นะ” แบ๊งค์พยายามพูดให้เบาที่สุด

“อย่าดิ้นน่า รบกวนคนอื่นเค้าดูหนัง อีกอย่างในโรงหนังคนก็น้อย มืดก็มืด ไม่ต้องอายใครหรอกครับ”  แบ๊งค์กลัวว่าจะไปทำความรำคาญให้คนอื่น ๆ จริง ๆ ก็เลยต้องยอมซบไหล่พี่อาร์ทต่อไป อุ่นดีจังครับ หอมน้ำหอมของพี่อาร์ทด้วย  พอหนังจบเราก็คิดไว้จะกลับเลย  พี่อาร์ทมาส่งแบ๊งค์ที่คอนโดครับ ถือของมาเยอะแยะเลย พี่นุ่นเลยตกใจ

“นี่ขนาดไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงนะเนี่ย”  พี่นุ่นประชดครับ

“เออ.....นี่พี่อาร์ทคะเย็นนี้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิคะ” พี่นุ่นชวนครับ

“จะไหวเหรอป้า  เดี๋ยวพี่อาร์ทก็ท้องเสียหรอก”  ขอเอาคืนหน่อยครับ

“ยะ แล้วอย่ามาขอชั้นกินล่ะ” พี่นุ่นมีงอน

“โอ๋ ๆๆๆ อย่าโกรธนะ พี่อาร์ทคงไม่ว่างหรอก ใช่มั้ยครับ” แบ๊งค์หันไปถามพี่อาร์ท

“ไม่นี่ครับ พี่ไม่ได้ไปไหน อยู่ทานได้ครับ ” (O_O) จ๊ากกกกกกกกก

“เห็นมะ  เค้าอยู่ได้เดี๋ยวนุ่นจะทำให้สุดฝีมือเลยนะคะ”  พี่นุ่นพูด
“เอ่อ....ขออะไรอีกอย่างได้มั้ยครับ” พี่อาร์ทขอ
“อะไรหรอคะ” พี่นุ่นเริ่มสงสัย  แบ๊งค์ก็ด้วย

“ขอค้างที่นี่ได้มั้ยครับ” เอาแล้วไงล่ะแบ๊งค์รีบหันไปมองหน้าพี่นุ่นเลยครับ เจ้แกก็ทำหน้าแบบไม่รู้จะทำไง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดเลยครับ

“คือพ่อ-แม่พี่อ่ะครับไปดูงานที่ต่างประเทศกันหมด พี่ไม่อยากอยู่คนเดียวอ่ะครับ  มันเหงาเลยมาขอนอนที่คอนโดแบ๊งค์ได้มั้ยครับ”  พี่อาร์ทพูดเสียงเบา

“ได้สิคะ!!!!!!!ทำไมจะไม่ได้”  อ้าว.......อยู่ดี ๆ พี่นุ่นก็พูดขึ้น

“แล้วจะให้พี่เค้านอนไหนอ่ะป้า”  แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

“พี่นอนที่โซฟาก็ได้ครับ”  พี่อาร์ทเสนอ

“ไม่ต้องนอนหรอกค่ะ ที่โซฟา ไปนอนเตียงเจ้าเกย์น้อยโน่น เตียงออกจะใหญ่ มีคนมานอนเพิ่มอีกซักคนคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ”  อ้าวป้าไหงพูดแบบนั้นล่ะ

“แต่.......”ยังไม่ทันพูดครับ

“เงียบไปเลยเกย์น้อย  มีน้ำใจหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าคนเชียงหใม่แล้งน้ำใจนะ” เจอมุกนี้เข้าไป พูดไม่ออกแล้วครับ ก็เลยผงกหัวไป พี่อาร์ทกับพี่นุ่นก็เลยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 

อาหารเย็นวันนั้นก็อร่อยดีนะครับ ฝีมือป้านี่ไม่ผิดหวังจริง ๆ พี่อาร์ทยังออกปากชมกันยกใหญ่ พอทานเสร็จ พี่อาร์ทก็อาสาไปล้างจาน พี่นุ่นก็เลยไปหาแปรงสีฟันที่เคยซื้อไว้มาให้พี่อาร์ท พร้อมกับสั่งแบ๊งค์ให้เตรียมชุดนอน กับผ้าเช็ดตัวของพี่อาร์ทให้เรีบยร้อย แบ๊งค์ก็รับแปรงสีฟันจากพี่นุ่น แล้วก็ไปเตรียมผ้าขนหนู แต่ชุดนอนเนี่ยสิ พี่อาร์ทจะใส่ได้รึเปล่าเนี่ยมีแต่ตัวเล็ก ๆ ทั้งนั้นเลย ก็แบ๊งค์สูงแค่ 170 แต่พี่อาร์ทสูงเกือบ ๆ 180 โน่นแหละมั้งอาจเกินด้วยซ้ำ พี่นุ่นเห็นแบ๊งค์ทำหน้าเครียดก็เลยเข้ามาทัก

“มีปัญหาอะไรหรอแบ๊งค์ ”

“ก็ชุดนอนอ่ะ ของแบ๊งค์มีแต่ตัวเล็ก ๆ พี่อาร์ทใส่ไม่ได้แน่ ๆ เลย”  แบ๊งค์ทำท่ากลุ้มใจ

“ในห้องพี่มีตัวนึงอ่ะ น่าจะใส่ได้นะ” พี่นุ่นพูด

“หา......ชุดนอนพี่นุ่นเนี่ยนะ”  แบ๊งค์แปลกใจ

“บ้า...ชุดนอนแบ๊งค์นั่นแหละ พี่กะว่าจะเอาให้ แต่ซื้อมาผิดไซส์ก็เลยไม่ได้เอาให้” พี่นุ่นอธิบาย แล้วแบ๊งค์ก็เดินตามพี่นุ่นไปเอาชุดนอนมาไว้รวมกับผ้าขนหนูที่ห้องแบ๊งค์แล้วเราสามคนก็ออกมานั่งดู TV ด้วยกันพอซัก 3 ทุ่มต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันไปนอน

“ป้าไปนอนก่อนนะ  ง่วงแล้ว”  พี่นุ่นพูดไปหาวไป

“อย่าทำอะไรเสียงดังล่ะ  อิอิ”  พี่นุ่นอ่ะพูดอะไรเนี่ย แล้วพี่นุ่นก็เดินเข้าห้องล็อคประตูไป แบ๊งค์หันไปมองพี่อาร์ทซึ่งตอนนี้หัวเราะกับคำพูดพี่นุ่นอยู่

“หัวเราะทำไม คิดอะไรอยู่”   แบ๊งค์ถาม

“ไม่มีอะไรหรอก”  พี่อาร์ทพูดพร้อมดันเอวแบ๊งค์เดินเข้าในห้อง  แล้วแบ๊งค์ก็ยื่นแปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว และชุดนอนให้พี่อาร์ทไป  พี่อาร์ทจ้องมองชุดนอนแล้วถามว่าของใคร แบ๊งค์ก็เลยอธิบายไป ว่าเป็นชุดที่พี่นุ่นซื้อผิด

“นึกว่าแบ๊งค์แอบมีคนอื่นซะอีก โล่งอกไปที”  พี่อาร์ทถอนหายใจ

“ไป ๆๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว”  แบ๊งค์ดันหลังพี่อาร์ท

“ม่ายอาว........แบ๊งค์อาบก่อน”  พี่อาร์ททำท่างอแง

“อะไรอ่ะ พี่อาร์ทนั่นแหละอาบก่อน” แบ๊งค์แย้ง

“ถ้าจะให้พี่อาบก่อน งั้นแบ๊งค์ต้องมาช่วยพี่อาบนะ” พี่อาร์ทงอแงไม่เลิก

“ได้ไงล่ะ โต ๆ กันแล้วก็อาบเองดิ”  แบ๊งค์ไม่ยอม

“พี่มีให้เลือก 2 ทางคือ ให้แบ๊งค์ไปอาบก่อน  กับให้พี่อาบก่อนแล้วแบ๊งค์ต้องช่วย เอาอันไหนเลือกมา ไม่งั้นพี่ไม่ยอมจริงนะ”  พี่อาร์ททำเสียงเข้ม  แบ๊งค์ก็เลยต้องอาบก่อนไปโดยปริยาย ไม่มีทางหรอกที่แบ๊งค์จะอาบน้ำให้พี่อาร์ท อายเป็นเหมือนกันนะครับ  พอแบ๊งค์อาบน้ำเสร็จก็ตกใจสิครับ พี่อาร์ทมายืนเฝ้าหน้าห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  แล้วอยู่ ๆ ก็พุ่งกรวดเข้ากอดแล้วหอมแก้มแบ๊งค์ด้วย

“พี่อาร์ททำอะไรน่ะ ปล่อยแบ๊งค์นะครับ” แบ๊งค์พยายามดิ้นแต่ก็ดิ้นไม่ได้

“หอมจังเลย  เด้กดื้อของพี่ มะขอหอมอีกหน่อยเร็ว”  ไม่พูดเปล่าพี่อาร์ทเอาแต่หอม จนตอนนี้แก้มแบ๊งค์ ทั้งข้างซ้ายและขวา ช้ำไปหมดแล้ว

“พอแล้วพี่อาร์ท ไปอาบน้ำได้แล้ว ถ้ายังดื้อ แบ๊งค์ไม่ปลื้มนะรู้มั้ย”  พี่อาร์ทเลยต้องยอมปล่อยครับ แบ๊งค์ทำหน้างอนแก้มป่องเป็นปลาทองไปแล้ว แต่พี่อาร์ทน่ะสิเอาแต่หัวเราะคิก ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แบ๊งค์ก็จัดแจงที่นอนให้เรียบร้อยครับ เอาหมอนข้างมาคั่นกลางแล้วก็นอนไปเลยครับ กำลังจะเคลิ้มหลับ พี่อาร์ทออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ก้ไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่อาร์ทขึ้นคร่อมอยู่บนตัวแบ๊งค์แล้วครับ

“พี่อาร์ท  ทำอะไรน่ะ”  แบ๊งค์พูดแบบตกใจ

“ก็เราอ่ะใจร้าย เอาหมอนข้ามาคั่นกลาง พี่ดูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ”  พี่อาร์ทน้อยใจ

“เปล่า ๆ ครับงั้นเอาออกก็ได้”  เจอแบบนั้นเข้าไปใจอ่อนเลยครับ

“พี่ขอนอนกอดแบ๊งค์ได้มั้ย”  อยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็ขอขึ้นมา ดูดิได้คืบจะเอาศอก

“ไม่เอาอ่ะ แบ๊งค์นอนดิ้นใครกอดไม่ได้หรอก”  แบ๊งค์พยายามหาเหตุผล

“ถ้าไม่ให้กอด พี่ทำอย่างอื่นไม่รู้ด้วยนะ” พี่อาร์ทยิ้มเจ้าเล่ห์ครับ

“ถ้าให้กอดอย่าทำอย่างอื่นละกัน กอดอย่างเดียวนะ”  จำใจครับ

“ครับกอดอย่างเดียว ไม่ทำอย่างอื่น” พี่อาร์ททำท่าดีใจเหมือนเด็ก  สรุปแล้วคืนนั้น แบ๊งค์ก็เลยต้องนอนอยู่ในอ้อมกอดขอพี่อาร์ทครับ แต่แบ๊งค์หันหลังให้

“หันหน้ามาหาพี่หน่อยดิ ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ด้วยนะ หันหลังให้แบบนี้” แบ๊งค์รีบพลิกตัวมาหันหน้าเข้าพี่อาร์ทเลยครับ

“บ้าพูดอะไรน่ะ”  แบ๊งค์พูดแบบงอน ๆ

“พี่รักแบ๊งค์รู้มั้ยขอพี่กอดหน่อยนะ” แล้วพี่อาร์ทก็กอดแน่นขึ้น แต่ไม่อึดอัดหรอกนะครับ รู้สึกอบอุ่นมากว่า ไม่รู้ว่าเพราะอ้อมกอดพี่อาร์ท หรือว่าเพราะผ้าห่มกันแน่ ไม่รู้นะครับ รู้อย่างเดียวว่าอุ่นดีครับ แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป ในอ้อมกอดพี่อาร์ทนั่นเอง มีความสุขจัง

“ตื่นแล้วหรอ เด็กดื้อ” พี่อาร์ททักขึ้นครับ ตอนที่แบ๊งค์กำลังตื่น

“ครับ  นี่พี่อาร์ทกอดแบ๊งค์ทั้งคืนเลยหรอ” เพราะตอนนี้พี่อาร์ทยังกอดแบ๊งค์ไว้อยู่เลย

“ครับ หน้าตาแบ๊งค์ตอนหลับน่ารักดีนะ มีแอบยิ้มด้วย” นี่กรูส์แอบยิ้มตอนหลับด้วยหรอ

“งั้นหรอครับ” แบ๊งค์ยิ้มแบบแห้ง ๆ ไป

“ตื่นกันเถอะครับ พี่อาร์ท” แบ๊งค์เรียกพี่อาร์ทให้ลุกขึ้น

“ไม่เอาครับ ให้พี่ได้กอดแบ๊งค์ไปแบบนี้นะครับ”  พี่อาร์ททำเสียงอ้อน  แล้วกอดแบ๊งค์แน่นกว่าเดิม พร้อมกับแอบหอมแก้มแบ๊งค์ด้วย

“ อึ๋ย!!!!ทำอะไรอ่ะครับ” แบ๊งค์ตกใจ

“หึหึ ขอพี่หอมหน่อยนะเด็กดื้อ” แล้วเราก็นอนกอดกันแบบนั้นนั่นแหละครับ จนมารู้ตัวอีกที ก็ประมาณ 11 โมงกว่าจะเที่ยงแล้ว ถึงได้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวกัน แล้วก็ออกมานอกห้องพี่อาร์ทขอตัวกลับเลยครับแบ๊งค์ก็ไม่ได้ว่าอะไร  พี่นุ่นก็แซวครับตอนพี่อาร์ทกลับไปแล้ว

“ยิ้มอะไรหรอจ๊ะ มีความสุขจังนะ” พี่นุ่นแซว

-///////-  ไม่พูดครับได้แต่อาย แล้วเดินเข้าห้องไป เขินจังเลย
****************************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 29-04-2007 22:31:32
**************************
บทที่ 10 คนแปลกหน้าที่น่าสงสาร

ระหว่างที่แบ๊งค์กับพี่อาร์ทคบกัน แบ๊งค์ยังคงคุยกับนายโต้คนแปลกหน้านะครับ ก็แบ๊งค์ไม่ได้หยุดเล่นเอมหรือเกมซะ
หน่อย ยังคงเล่นทุกวัน ( ถ้าว่าง ) คนแปลกหน้าคนนี้ก็ยังคงติดต่อกันอยู่เรื่อย แต่มาพักหลัง ๆ เค้าไม่ค่อยได้ออนซักเท่า
ไหร่ มีแต่ส่ง Message มาเท่านั้น ก็ไม่มีอะไรหรอกคับ ส่งมาประมาณว่าเป็นห่วง  ดูแลสุขภาพ หรือไม่ก็ส่งบอกสาเหตุที่
ไม่ได้ออน  วันนี้เค้ากลับมาออนแล้วครับหลังจากหายหน้าไปประมาณ อาทิตย์กว่า ๆ


คนแปลกหน้า    say:   ดีครับ

badboy_be_sadboy   say:   ดีค้าบ

badboy_be_sadboy   say:   หายไปนานเลยนะ

คนแปลกหน้า    say:   อืม.......เรายุ่ง ๆ อ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   โทดทีนะ

badboy_be_sadboy   say:   ไม่เปนรายหรอก

คนแปลกหน้า    say:   แล้วนายอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   แล้วนายล่ะเปนไงมั่ง

badboy_be_sadboy   say:   ก้อเรื่อย ๆ อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   มีความสุขดี

คนแปลกหน้า    say:   ตั้งใจเรียนบ้างนะ

badboy_be_sadboy   say:   เราตั้งใจอยู่แล้วน่า

คนแปลกหน้า    say:   งืม

badboy_be_sadboy   say:   นายอยู่ไหนเนี่ย

คนแปลกหน้า    say:   อยู่ร้านอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   ไม่กลับบ้านอีก

badboy_be_sadboy   say:   เด๋วพ่อแม่เปงห่วงน้า

คนแปลกหน้า    say:   อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:   แบ๊งค์ล่ะอยู่ไหน

badboy_be_sadboy   say:   อยู่คอนโด ไม่ได้ไปไหนเลย

badboy_be_sadboy   say:   ช่วงนี้

คนแปลกหน้า    say:   อืม เหมือนกัน

badboy_be_sadboy   say:   เรามีกีฬามหาลัยอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   ต้องไปช่วยรุ่นพี่

คนแปลกหน้า    say:   อืม

คนแปลกหน้า    say:   เราก็ยุ่ง ๆ เรื่องเรียนอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   อย่าเครียดมากนะเด๋วแก่เร็ว

คนแปลกหน้า    say:   อืม


แล้วคืนนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกมาก เพราะแบ๊งค์อยากเข้านอนเร็ว ๆ  จะได้ไป
มหาวิทยาลัยแต่เช้า  แล้วเราก็ลากันไป

เช้าวันนี้แบ๊งค์มานั่งที่เดิมตามเคย  ที่โต๊ะมี พี่ตั้ม แมค กาวนั่งคัยกันอยู่

“ไงตัวเล็ก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเลยนะ” พี่ตั้มทัก

ก็จริงครับ แบ๊งค์ไม่ค่อยได้อยู่กับเพื่อน ๆ เท่าไหร่ช่วงนี้เพราะทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกันไป
กาวกำลังจะได้เข้าร่าวทีมบาสมหวิทยาลัย  ส่วน พี่ตั้ม แมค พี่ตี๋ พี่ปอย ครีมและผิง ก็เอาแต่ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์เพื่อวันงาน
กีฬามหาวิทยาลัย ส่วนแบ๊งค์ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบอะไร ก็เลยเอาแต่นั่งฟังเพลงรอพี่นุ่นที่หน้าตึก ไม่ค่อยได้ไปดูพวก
เพื่อน ๆ ทำกิจกรรมซักเท่าไหร่

“นั่นดิ ไม่ค่อยมาเจอกันเลย ลืมหน้าเพื่อนไปแล้วมั้ง”  แมคมันตัดพ้อครับ

“ขอโทษทีนะทีเราไม่ค่อยได้อยู่กับนายซักเท่าไหร่” แบ๊งค์ขอโทษ

“ก็เราเห็นว่าพวกนายต่างยุ่งอยู่กับหน้าที่ ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ เราก็เลยไม่อยากยุ่ง” แบ๊งค์อธิบาย

“ไม่ยุ่งเท่าไหร่หรอก ทีหลังก็มาเยี่ยมกันบ้างก็ได้ ที่สนามบาสแบ๊งค์ก็รู้จักรุ่นพี่หลายคนไม่ใช่หรอ” กาวพูดครับ

“แล้วที่ที่ซ้อมหลีด ก็มีแต่เพื่อนเราทั้งนั้น มาหากันบ้างสิ ไอ้ตัวเล็ก” พี่ตั้มพูดขึ้นบ้าง

“นี่รู้มั้ย เราไม่ยอมไป มีหลีดบางคนขาดกำลังใจ” พี่ตั้มพูดเหมือนแซวใครซักคน

“ใครหรอพี่ตั้ม” แบ๊งค์ถามแบบสงสัย แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็ทำหน้าถอดสีจากที่กำลังทำหน้าทะเล้น ไม่รู้ไปเจออะไรเข้า

“ก็คนในหลีดนั่นแหละ ไปดูเองเหอะ”  พี่ตั้มพูดเสียงค่อย ๆ เป็นปริศนาอีกแล้ว

เย็นวันนั้นพี่นุ่นติดธุระครับ จะมารับแบ๊งค์ช้าหน่อย แบ๊งค์เลยได้มีโอกาสได้ไปดูพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ซ้อมหลีด พอแบ๊งค์ไป
ถึงก็มีแต่คนทัก ว่าหายหน้าไปนาน  แบ๊งค์ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ครับ   

“เฮ้ย ๆๆ กำลังใจสำคัญมาแล้วว่ะ วันนี้หลีดดีแน่ ๆ เลย” พี่ตั้มพูดแปลก ๆ อีกแล้ว

“มีอะไรกันแน่อ่ะ พี่ตั้มบอกมาดีกว่าแบ๊งค์ขี้เกียจเดา” แบ๊งค์ตะโกนถามพี่ตั้ม

“แบ๊งค์ไม่ต้องรู้หรอก ค่อย ๆ ดู ไปละกัน”  พี่ตั้มพูดแล้วหัวเราะ 

วันนี้เหมือนหลีดจะดีขึ้นจริง ๆ ครับ เพราะมีแต่คนพูด หลีดเองก็พูดเหมือนกันว่าวันนี้ดีขึ้น นี่เรามาแล้วมันช่วยได้ขนาดนี้
เลยหรอ  แบ๊งค์คิดในใจพอดูเพื่อน ๆ พี่ ๆ ซ้อมเสร็จแบ๊งค์ก็ไปสนามบาสครับ กะว่าจะไปดูไอ้กาวมัน และจะได้แวบ ๆ ไป
ดูพี่อาร์ทด้วย

“น้องแบ๊งค์มาพอดี ช่วยอะไรหน่อยสิครับ”  พี่โป้งขอ

“อะไรหรอครับ”  แบ๊งค์งง ๆ

“ช่วยเสิร์ฟน้ำให้นักกีฬาหน่อยจิ เอาน้ำใส่แก้วเรียง ๆ ไว้อ่ะครับ” พี่โป้งอธิบาย

“อืม  ได้สิครับ” แล้วแบ๊งค์ก็เอาน้ำใส่แก้วแล้ววางเรียงกันไว้ในถาด พอถึงช่วงเบรกทีนึง แบ๊งค์ก็ยกถาดไปเสิร์ฟให้นัก
กีฬา  ทุกคนก็รับแก้วไปดื่มเสร็จ ก็วางงคืนที่เดิม มาถึงที่พี่อาร์ท

“ดื่มน้ำแก้วนี้แล้วสดชื่นจัง มาเสิร์ฟบ่อย ๆ นะ”  พี่อาร์ทกระซิบ แบ๊งค์ก็เอาแต่ผงกหัว ไม่กล้าพูดอะไรมาก เดี๋ยวคนแถว
นั้นจับพิรุธได้ พี่อาร์ทจะลำบาก  แบ๊งค์ก็นั่งข้างสนามไปเรื่อย ๆ ครับพี่นุ่นไม่มาซะที โทรศัพท์ดังครับ ของใครก็ไม่รู้
แบ๊งค์เลยตะโกนถาม

“โทรศัพท์ของใครดังอ่ะ มารับด้วย”  แบ๊งค์ถามไปครับ

“ของเราเอง แบ๊งค์รับไปก่อนนะ บอกว่าเดี๋ยวเราโทรกลับ” อ๋อ....ของไอ้กาวครับ

แบ๊งค์ก็ทำตามคำสั่ง รับสายไปครับแล้วบอกว่าเดี๋ยวกาวโทรกลับ ปลายสายก็วางไป ระหว่างที่แบ๊งค์จะเอาโทรศัพท์
วางกลับที่เดิม สายตาแบ๊งค์ก็ไปสังเกต รูป Wallpaper เครื่องไอ้กาวมันคุ้น ๆ ครับ รูปแบ๊งค์นี่นา เป็นรูปแบ๊งค์ตอนหลับ
ครับ เอามาตอนไหนเนี่ย  นึก ๆๆ อ๋อจำได้แล้วครับ ก็วันที่ไอ้กาวกับพี่ตั้มแอบถ่ายรูปตอนแบ๊งค์หลับวันนั้นไง แต่ประเด็น
สำคัญคือแล้วทำไมมันต้องเอามาเป็น Wallpaper  เครื่องมันด้วยเนี่ย แบ๊งค์สงสัยมากครับ พอมันมาก็เลยถาม

“กาว ๆ ทำไมภาพ Wallpaper มันเป็นรูปแบ๊งค์อ่ะ” ถามไปตรง ๆ ครับมันก็ทำหน้าตื่น ๆ

“ก็เราชอบอ่ะ หน้าแบ๊งค์ตอนหลับมันตลกดี”  ไอ้กาวหัวเราะครับ

“ซะงั้นอ่ะ ลบได้ป่ะเราอาย”  แบ๊งค์ขอร้อง

“ไม่ได้อ่ะ ก็เราชอบ”  อ้าวไอ้นี่กวน 

กำลังจะเดินไปตบหัวมัน พี่นุ่นก็โทรมาตามซะก่อนครับ ฝากไว้ก่อนนะ ไอ้กาว

แล้วคืนนั้นแบ๊งค์ก็ได้คุยกับนายโต้ คนแปลกหน้าอีกแล้วครับ

 
คนแปลกหน้า    say:   ไง

badboy_be_sadboy   say:   คับ

คนแปลกหน้า    say:   หนุกป่ะวันนี้ที่มหาลัย

badboy_be_sadboy   say:   อืม หนุกจิ

badboy_be_sadboy   say:   เออ.........นี่

คนแปลกหน้า    say:   อะไร

badboy_be_sadboy   say:   เราก็คุยกับนายมานานแล้ว

badboy_be_sadboy   say:   ได้เกือบจะ 2 เดือนแล้วนะ

คนแปลกหน้า    say:   อืม

badboy_be_sadboy   say:   นายไม่คิดจะบอกจริง ๆ หรอ

badboy_be_sadboy   say:   ว่าความจริงแล้วนายเป็นใคร

คนแปลกหน้า    say:   เราบอกไม่ได้จริง ๆ โทดที

badboy_be_sadboy   say:   ม่ายเปงไร ๆ

คนแปลกหน้า    say:   แบ๊งค์

badboy_be_sadboy   say:   อาราย

คนแปลกหน้า    say:   เรามีเรื่องจะปรึกษา

badboy_be_sadboy   say:   ว่า

คนแปลกหน้า    say:   คือเรามีเพื่อนคนหนึ่ง

คนแปลกหน้า    say:   เราว่าเราชอบเค้าอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   ก้อไปบอกเค้าจิ

badboy_be_sadboy   say:   บอกช้าไปเด๋วคนอื่นมาตัดหน้านะ

คนแปลกหน้า    say:   เราไม่กล้าหรอก

คนแปลกหน้า    say:   แต่ตอนนี้เค้าคงเริ่มสงสัยแล้วนะ

badboy_be_sadboy   say:   ก้อดีดิ นายก็บอกเค้าไปเลย

คนแปลกหน้า    say:   ไม่ได้หรอก

badboy_be_sadboy   say:   ทะมายอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:   เราว่าเค้าคงมีแฟนแล้ว

badboy_be_sadboy   say:   ทะมายคิดแบบนั้นล่ะ

คนแปลกหน้า    say:   เราเห็นเค้ากะรุ่นพี่คนนี้

คนแปลกหน้า    say:   ชอบส่งสายตาให้กันบ่อย ๆ

badboy_be_sadboy   say:   อาจไม่ใช่ก็ได้มั้ง

badboy_be_sadboy   say:   คิดมากป่าว

คนแปลกหน้า    say:   จิง ๆ นะ เราว่าน่าจะใช่

badboy_be_sadboy   say:   แล้วถ้าเปนแบบนั้นนายจะทำยังไง

คนแปลกหน้า    say:   เราก็จะรอเค้าต่อไป

badboy_be_sadboy   say:   แล้วนายจะบอกเค้าคนนั้นมั้ยล่ะ

คนแปลกหน้า    say:   คงไม่อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:   อ้าว แล้วเค้าคนนั้นจะรู้หรอ

badboy_be_sadboy   say:   อย่างน้อยไปบอกเค้าว่าเรายังรอก้อยังดีนะ

badboy_be_sadboy   say:   ดีกว่าเก็บไว้ให้อึดอัดแบบนี้

คนแปลกหน้า    say:   เราจะลองพยายามดูนะ

badboy_be_sadboy   say:   สู้ ๆๆ นะ เป็นกำลังใจให้คับ

คนแปลกหน้า    say:   ขอบคุณครับ


ฟังเรื่องของนายโต้ คนแปลกหน้าคนนี้แล้วสงสารจัง แอบรักเค้าข้างเดียว  และตัวเองก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองอีก น่าสงสาร
จัง อยากขอพรให้คนที่นายโต้ชอบไม่ได้มีแฟนอย่างที่นายโต้คิดเลย นายโต้จะได้สมหวัง แต่ยังไงก็อยากให้นายโต้มี
ความกล้าในการสารภาพรักด้วยเหมือนกัน

**********************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-04-2007 23:28:48
เป็นกาวแน่เลยหนุ่มใน m  :เฮ้อ:

ช้าไปแล้วน้องกาว  :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 29-04-2007 23:45:51
กาว ชัวร์ๆเลย 100 เปอไปเลยคับ อิอิ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-04-2007 21:58:40
เหอ เหอ อุตส่าห์คิดว่าเป็นตั้ม กลับกลายเป็นกาวซะงั้น  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-05-2007 22:23:32
ตามมาทันแระ

น้องแบ็งค์เสน่ห์แรงจิงๆ

เป็นกำลังใจให้นะค้าบบบบบบ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-05-2007 00:15:07
ผมขอโทษนะคับที่ไม่ตอบ re :monkeysad: ผมพูดไม่เก่งเขียนก็จบไม่เป็น แซวก็นะ..ให้อ่านหรือฟังแล้วขำเอิ๊ก ๆ
 อย่างเดียวดีก่าประมาณ น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งต้นเดียวอ่ะคับ เพราะงั้นขอแปะอย่างเดียวนะคับ
.
.
ผมอยากจะบอกว่าบทนี้ผมอยากจะตัดออกเสียจริง เพราะอะไร...ลองอ่านดูสิคับ
*********************************
บทที่ 11  ความรักของคนรอบข้าง

   ในช่วงที่แบ๊งค์คบกับพี่อาร์ท คนอื่น ๆ รอบ ๆ ตัวแบ๊งค์ย่อยซะที่ไหนกันล่ะ แอบมีเหมือนกัน ขอเริ่มที่บุคคลสำคัญท่านนี้
ก่อนละกัน ใครอีกล่ะ พี่นุ่นหรือป้านุ่นนั่นเอง  จำกันได้มั้ยครับว่าพี่นุ่นมีพี่รหัส เป็นเดือนคณะ ป้าแกเลยกลายเป็นที่จับตา
มองไปด้วย  นี่แหละเป็นจุดพลิกผัน  ดูเหมือนระดับดีกรีความ HOT ของป้าแกจะเพิ่มขึ้นทุกวันนะ แล้วโดยเฉพาะไอ้คุณ
พี่รหัสของป้าแกนี่ดิ ดูท่าแปลก ๆ แบ๊งค์ว่ามันแอบชอบพี่นุ่นอยู่แน่ ๆ เลย  อืม......ทำไมถึงเรียกว่า ไอ้คุณอ่ะหรอ  มีที่มา
ครับ คือวันนั้นแบ๊งค์นั่งดู TV อยู่แล้วพี่นุ่นก็ทิ้งมือถือไว้ที่โซฟา ตอนเข้าเข้าห้องน้ำ  อยู่ ๆ มือถือ ก็ดังขึ้นครับ แบ๊งค์ก็
ตะโกนบอกพี่นุ่น แต่พี่นุ่นบอกว่าให้แบ๊งค์รับไปก่อน ก็เลยรับไป

“ฮัลโหลครับ” แบ๊งค์รับสาย

“ขอสายนุ่นครับ”  ปลายสายเป็นผู้ชายครับ  เสียงหล่อดีอ่ะ

“พี่นุ่นเข้าห้องน้ำอยู่ครับ”  แบ๊งค์ตอบไปตามความจริง

“แล้วนั่นใครอะครับ”ปลายสายย้อนถาม

“แบ๊งค์ครับ” แบ๊งค์ตอบไป

“แบ๊งค์ไหนอ่ะ  นุ่นไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย” ปลายสายทำท่าสงสัย

“เป็นน้องพี่นุ่นครับ มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ” แบ๊งค์ยังคงตอบออกไป

“นุ่นเป็นลูกคนเล็กไม่ใช่หรอ จะมีน้องได้ยังไง นายเป็นใครกันแน่” ปลายสายเริ่มตะคอก

“”นายเป็นอะไรกับนุ่นกันแน่” ตะคอกหนักกว่าเดิมอีกครับ

“เป็นน้องพี่นุ่นจริง ๆ ครับ”  แบ๊งค์พยายามเก็บอารมณ์ครับ แล้วพี่นุ่นก็ออกมาจากห้องน้ำ

“ใครโทรมาอ่ะแบ๊งค์”  พี่นุ่นถาม

“ผู้ชายงี่เง่าที่ไหนก็ไม่รู้”  แบ๊งค์เริ่มทนไม่ได้ แล้วยื่นโทรศัพท์คืนพี่นุ่นไป

“ฮัลโหลค่ะ.........”  แล้วพี่นุ่น เดินไปหามุมสงบคุยโทรศัพท์  แบ๊งค์ก็ไม่สนใจนั่งดู TV ต่อไปแล้วพี่นุ่นก็เดินกลับมาหน้าตายิ้ม ๆ

“ไอ้งี่เง่าคนไหนอ่ะพี่นุ่น”  แบ๊งค์ถามแบบเซง ๆ

“พี่รหัสของพี่เองชื่อ  บอม”  พี่นุ่นตอบ

“อือ.....”  แบ๊งค์หน้าเซงต่อไปครับ

หลังเหตุการณ์วันนั้นได้ไม่นาน  ก็เป็นวันปกติอ่ะครับ แบ๊งค์ต้องกลับกับพี่นุ่น  แต่วันนี้พี่นุ่นมีเรื่องนิดหน่อย คือแกโทรมาบอกว่าแกต้องขนหนังสือกลับไปทำรายงานที่บ้านหลายเล่ม อยากขอให้แบ๊งค์มาช่วยหน่อย แบ๊งค์ก็ไปรอแกที่หน้าคณะวิทย์ครับ

“แบ๊งค์มาแล้วหรอ”  พี่นุ่นทักเมื่อเห็นแบ๊งค์

“ไหนล่ะหนังสือ” แบ๊งค์ถาม

“อ๋อ นี่ไงพี่บอมขนมาให้แล้ว” แบ๊งค์มองไปยังผู้ชายคนที่เดินตามพี่นุ่นมา อ๋อ....ไอ้งี่เง่าคนนี้นี่เองที่โทรมากวนคราวที่แล้ว

“พี่บอมคะ  นี่แบ๊งค์คนที่คุยกับพี่บอมคราวที่แล้วอ่ะค่ะ”  พี่นุ่นแนะนำ

“อ๋อ   น้องเองหรอครับพี่ขอโทษด้วยนะเรื่องวันนั้น”  พี่บอมทำหน้าสำนึกผิด

“ไม่เป็นไร กองไว้ตรงนั้นแหละ”  แบ๊งค์ตอบคืน

“แบ๊งค์!!!!!!!!!!~”  พี่นุ่นรีบตะคอกแบ๊งค์ ส่วนพี่บอม หน้าจ๋อยไปแล้ว

“ล้อเล่นน่าป้า เครียดอารายมากมาย แล้วพี่อ่ะที่หลังก็หัดฟังคนอื่นบ้างนะครับ”  พี่นุ่นกับพี่บอมเริ่มยิ้มออก แล้วแบ๊งค์กับพี่
นุ่นก็ขึ้นรถ ขับกลับคอนโดกัน

“จีบป้าแน่เลยอ่ะ  เสน่ห์แรงนักนะ”  แบ๊งค์แซว

“บ้าหรอ แค่พี่รหัสเฉย ๆ” พี่นุ่นแย้ง

“โห...........ป้าแค่นี้ใคร ๆ ก็ดูออก อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย ตัวเองเป็นคนเอาน้ำหมากไปป้ายเค้าเองแท้ ๆ เค้าถึงได้มา
หลงป้าขนาดนี้”  แบ๊งค์แซวต่อ

“อ่ะจ้า.......” พี่นุ่นรับมุก

นี่เป็นแค่เหตุการณ์ใหญ่ ๆ นะครับยังไม่นับรวมเหตุการณ์ย่อย ๆ ที่มีอีกล้านแปด เช่น บางวันที่แบ๊งค์พักกลางวันพร้อมพี่
นุ่น  เราก็เลยไปทานข้าวด้วยกันก็เดินไปปกติอ่ะครับ  คุยกันแบบกระหนุงหระหนิง แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีรุ่นพี่ผู้ชายของพี่นุ่นคน
หนึ่งเดินเข้ามาเลยครับ มาขอไปทานข้าวด้วย  พอเค้าเห็นหน้าแบ๊งค์ก็มองแบ๊งค์ด้วยสายตาอมหิต ยอมได้ซะที่ไหนมอง
มาก็มองตอบสิครับมันไม่เลิก

“นี่พี่ มองหน้าผมมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มีปัญหาอะไรรึป่าว” แบ๊งค์เปิดประเด็นเลยครับ

“แบ๊งค์!!!!!!!!”   พี่นุ่นรีบทัก

“แล้วทำไมล่ะ อยู่คณะไหนเนี่ยมาเดินกับเด็กคณะพี่ทำไม พี่ไม่ชอบ”  อ๋อ..ที่แท้หึงพี่นุ่นครับ นึกว่าอะไรแค่นี้เอง

“ผมเป็นน้องพี่นุ่น  อยู่คอนโดเดียวกัน  เรียนด้วยกันมาตอนม.6 แค่นี้มันพอที่จะทำให้ผมเดินข้างพี่นุ่นได้รึป่าวคับ” แบ๊งค์
ยกเหตุผลมาอ้าง

“จริงหรอนุ่นเป็น น้องนุ่นจริง  ๆ หรอ” พี่เค้าเริ่มเสียงเบาลง

“ค่ะน้องคนนี้แหละ   ที่ตามกันมาตั้งแต่เชียงใหม่”  พี่นุ่นตอบ  พี่คนนั้นหน้าเริ่มซีดครับ

“ข...ขอโทษครับน้อง”  พี่เค้าก้มหน้าแล้วตอนนี้  ได้ทีล่ะครับ

“นี่!!!พี่!!!ทีหลังก็หัดดูคนซะบ้างนะ  ไม่ใช่หาเรื่องพร่ำเพรื่อแบบนี้  ถ้าไปเจอคนอื่นที่ไม่ใช่แบ๊งค์เรื่องมันอาจไม่จบแค่นี้นะ
พี่ รู้ไว้ด้วย”  พี่เค้าตอนนี้คงรู้ตัวว่าผิดเลยรีบขอตัวไปทันที

นี่ก็เป็นแค่กรณี ตัวอย่างของพี่นุ่นเฉย ๆ นะเนี่ย ความจริงมีอีกแยะ ไม่อยากเล่าเดี๋ยวกินเนื้อที่คนอื่นหมด แค่นี้ก็คงรู้แล้ว
สินะว่าป้า HOT ขนาดไหน

มาดูที่พวกรุ่นพี่ของแบ๊งค์ดีกว่า ตอนนี้พัมนาการไปกันใหญ่แล้ว  พี่ตี๋อ่ะกลายเป็นแฟนกับพี่ปอยซะงั้น  เอาทุกคนงงไปตาม ๆ กันก็ว่าทำไมเวลาหลีดเข้าคู่กันแล้ว ถึงได้ดูสามัคคีกันจัง เรื่องมันมีอยู่ว่าวันนั้นเค้าซ้อมหลีดดึกครับทุกคนกลับกันหมดแล้วเหลือพี่ปอยอยู่คนเดียว แล้วพี่ปอยตอนแรกกะว่าจะให้พี่สาวมารับ แต่พี่สาวดันติดธุระด่วน พี่ปอยก็เลยต้องนั่งรออยู่คนเดียว  แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตี๋ก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ปอย

“อ้าว นายกลับไปแล้วไม่ใช่หรอ” พี่ปอยแปลกใจ

“อืม  ใช่แต่นึกขึ้นได้ว่ายังมีใครบางคนยังกลับไม่ได้ ต้องรอทางบ้านมารับ เราก็เลยจะมารอเป็นเพื่อน”  พี่ปอยได้ยินแบบ
นั้นก็เริ่มประทับใจพี่ตี๋เลยครับ แล้วคืนนั้น พี่ตี๋ก็นั่งคุยกับพี่ปอยไปเรื่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องต่าง เรื่องการเรียน ครอบครัว ทำ
ให้ทั้งสองยิ่งสนิทกัน จนกระทั่งพี่สาวพี่ปอย มารับตอน 5 ทุ่มกว่า พี่ปอยเลยประทับใจพี่ตี๋มากที่มาอยู่เป็นเพื่อนกัน
ส่วนพี่ตี๋ประทับใจพี่ปอย ที่ว่าพี่ปอยสวย น่ารัก แล้ววันนั้นมันเพลง ๆ หนึ่งที่พี่ตี๋หลีดไม่ได้ซะที  พี่ตี๋เลยแอบหลบมุมไปซ้อม
คนเดียว แต่ก็ยังทไม่ได้  อยู่ดี ๆ พี่ปอยก็เดินเข้ามาหา

“นี่ นายอ่ะพยายามอีกหน่อยสิ เดี๋ยวก็ทำได้แล้ว มา...เดี๋ยวเราสอนให้” พี่ปอยพูดครับ แล้วพี่ปอยก็สอนเพลงนี้ให้พี่ตี๋  แต่พี่ตี๋ก็ยังทำไม่ได้ซะที สอนไปสอนมาหลายรอบมาก พี่ตี๋ก็ยังทำไม่ได้ พี่ปอยก็เลยจับพี่ตี๋มานั่งร้องเพลงเพื่อจับจังหวะ

.......เดิน เดินเถิดเรา เถิดชาวประชาเพื่อมานำชัย
เดิน เดินเถิดหนา เพื่อนำชัยมา เพื่อมานำชัย.......

พี่ตี๋ก็ร้องตามพี่ปอยครับ ในที่สุดพี่ตี๋ก็หลีดเพลงนี้ได้  ต่างฝ่ายก็ต่างประทับใจกันแหละครับ ประทับใจกันไปประทับใจกันมา ผลสุดท้ายเป็นแฟนกันซะงั้น

มาที่พี่ตั้ม  คนนี้ไม่ค่อยจะได้รู้เรื่องซักเท่าไหร่  เพราะพี่เค้าอ่ะไปมีแฟนอยู่คณะบริหาร อีกมหาลัยโน่น เรื่องมันก็ประมาณว่า สาวคนนี้อ่ะมาหาเพื่อน ที่มหาวิทยาลัยเราครับ ระหว่างที่รอก็เห็นพี่ตั้มยืนกินข้าวเหนี่ยวหมูปิ้งอยู่  แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็แบ่งหมูปิ้งครึ่งหนึ่ง  ป้อนให้สุนัขจรจัดแถวนั้น อย่างไม่รังเกียจ สาวเจ้าก็เลยประทับใจพี่ตั้มมากบอกว่าเป็นคน ที่ดูโรแมนติกมาก ( แหะ ๆ ตรงไหนว่ะ ออกจะเถื่อนขนาดนั้น )แล้วยังมีอีกเรื่องครับ  สาวเจ้ามาติดฝนที่มหาวิทยาลัยเรา  ติดฝนที่เดียวกับพี่ตั้มด้วย เธอก็พยายามมองพี่ตั้มนะ  แล้วพี่ตั้มกำลังจะกางร่ม อยู่ ๆ สายตาก็ไปมองเจอกับรุ่นน้อง สองคนถือรายงานอยู่ในมือ

“เฮ้ย! แก จะไปส่งทันมั้ยวะ” รุ่นน้องคนที่ 1 พูด

“ไม่รู้ดิ นี่ก็ใกล้เวลากำหนดส่งแล้ว จะยังไงเนี่ย รายงานเปียกแน่ ๆ เลย” รุ่นน้องคนที่ 2 พูด

“เอาร่มพี่ไปก่อนมั้ย พี่ไม่ได้มีเหตุจำเป็นเท่าน้องหรอกนะ”  พี่ตั้มพูดแทรก

“แล้วพี่ตั้มล่ะคะ” รุ่นน้องคนที่ 2 พูด

“ไม่เป็นไรหรอก น้องต้องรีบไปส่งงานไม่ใช่หรอ ไปได้แล้ว” พี่ตั้มรีบยื่นร่มให้

“ค่ะ ๆๆ ขอบคุณนะคะพี่ตั้ม” รุ่นน้องทั้งสองขอบคุณแล้วกางร่มฝ่าฝนออกไป ส่วนพี่ตั้มก็ยอมเดินตากฝนไปยังโรงอาหาร สาวต่างมหาลัยได้เห็นดังนั้นก็ยิ่งปลื้มพี่ตั้มเข้าไปใหญ่ แล้วสองคนนี้ก็ได้คุยกัน แล้วก็ได้เป็นแฟนกันเลย ( เออ..ง่ายดีแท้น้อ )

มาที่สองสาวนักกิจกรรมครับ  ไม่ได้หวือหวาอะไรหรอก ก็เหมือนพี่ตั้มนั่นแหละ แนวไปแอบปลื้มเค้ามกกว่า แล้วเค้าก็ตกลงลองคบอะไรประมาณนี้อ่ะ สองคนนี้เป็นบุคคลปริศนาครับ ไม่ค่อยมีใครได้รู้เรื่องพวกเธอเท่าไหร่ รู้อีกทีก็ขายออกกันไปซะแล้ว ออกเป็นแพคคู่ตามเคย

มาที่สองหนุ่มกันบ้าง นายแมค กับ นายกาวนั่นเองสองคนนี้เป็นแนวแอบรักอีกแล้วครับ น่าสงสารจัง ทำไมนะ เค้าคนนั้นถึงไม่เคยสนใจเลย

เริ่มที่แมคครับ แมคมันเล่าว่า มันกำลังแอบชอบคน ๆ หนึ่งเป็นคนที่มีนิสัยไม่ค่อยยอมใคร แต่คน ๆ นี้ก็มีมุมน่ารักเหมือนกัน ซึ่งแมคแอบไปเห็นมา เขาน่ารักมากในมุมนี้  แมคบอกว่าพอเห็นก็ตกหลุมรักเลย และมีครั้งหนึ่งที่แมคเผลอตัว บอกเค้าออกไป  ถึงความรู้สึกที่แท้จริง แต่เค้ากลับไม่สนใจ  แต่แมคก็ไม่ยอมท้อถอยนะ  แมคมันบอกว่าซักวันมันจะทำให้ คน ๆ นี้รู้ให้ได้

“อืม รีบ ๆ บอกเค้าไปล่ะ” แบ๊งค์พูด

“ถ้าบอกช้า เค้าไม่รู้เดี๋ยวเราจะกลับมาเสียใจเองนะ” แบ๊งค์ยังคงปลอบใจแมค

“เราว่าเราบอกเค้าไปแล้วนะ  แต่เค้าคงยังไม่รู้ตัวหรอก”  แมคหันมายิ้มให้นัยน์ตาเศร้า

“เฮ้ย! อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ เป็นอะไรมากเปล่า” แบ๊งค์ตกใจ

“เรารักเค้าจริง ๆ นะแต่เค้ามองข้ามเราตลอดเลย” เสียงมันสั่น ๆ แล้วมันก็ปล่อนโฮออกมาไม่อายใครเลยครับ ดีนะที่
ตอนเย็นแบบนี้ที่หน้าคณะ ไม่มีคนแล้ว แบ๊งค์เลยดึงมันมากอด ไม่รู้สิครับ เห็นมันร้องไห้แบบนี้แล้วอยากกอดมันครับ
เผื่อจะทำให้มันรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างก็ยังดี  แมคมันเอาแต่ร้องไห้ครับ เราก็อยากจะร้องไห้ตามไปด้วย อยากรู้จังคน ๆ นั้น
มันเป็นใครดีแค่ไหนเชียว  ทำไมแมคถึงต้องยอมเสียน้ำตาให้ด้วย คอนดูนะครับซักวันแบ๊งค์จะหลอกถามจากแมค
แล้วจะไปเอาเรื่องมันให้ได้คอยดู

มาที่เรื่องของ กาวบ้าง มาแนวเดียวกันเลย แอบรับอีกแล้ว  อะไรกันเนี่ย เป็นแฟชั่นใหม่รึไง  ตั้งแต่นายโต้คนแปลกหน้าแล้ว มาที่แมค แล้วก็นายกาวอีก

“เราไม่รู้หรอกนะ ว่าเค้าคิดกับเรายังไง” กาวก้มหน้าพูด

“เราแค่อยากให้เค้ารู้บ้างเฉย ๆ ว่าเรารักและเป็นห่วงเค้า ถึงแม้ว่าเค้าจะมีใครก็ตาม เราก็ไม่สนหรอก ขอแค่ได้รักก็พอ
ใจแล้ว”  แววตาของกาวดูเป็นประกายขึ้นมา

“อ้าว!!!รักเค้าแต่ไม่อยากเป็นแฟนกะเค้าเนี่ยนะ  จะดีหรอ”  แบ๊งค์ถามกาว

“ไม่เป็นไรหรอก ก็บอกแล้วเห็นเค้ามีความสุข เราก็พอใจแล้ว”  กาวยิ้มไป

“แล้วถ้านายอยากรู้ ทำไมไม่ถามเค้าล่ะ ถามอ้อม ๆ ก็ได้” แบ๊งค์เสนอแนวทาง

“เราลองทำแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัวเลย สงสัยเราคงอ้อมไกลไปมั้ง”  กาวพูดแล้วหัวเราะ

“อ่ะนะ...เราว่าคน ๆ นั้นก็ต้องโง่ด้วยแหละ กาวอุตสาห์บอกไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีก” แบ๊งค์พูดแล้วหัวเราะตาม

“อย่าไปว่าเค้าเลย  เราว่าที่เค้าไม่รู้ก็คงเพราะเค้ายังไร้เดียงสาอยู่อ่ะ” กาวแก้ตัว

“อานะ...นี่ขนาดแอบรักนะเนี่ย ยังแก้ตัวแทนกันเลย ใครได้กาวเป็นแฟน คงโชคดีตายเลยนะเนี่ย” แบ๊งค์พูดยิ้ม ๆ

“ไม่ถึงขนาดนั้นหหรอก เรมันก็แค่คนธรรมดาอ่ะนะ” กาวพูดเสียงเรียบ ๆ

“อีกอย่าง ตอนนี้เค้าคงมีคนอื่นไปแล้วแหละ เราคงไม่มีสิทธิ์แล้วล่ะ”  กาวมองเหม่อ

“อ้าว....ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ นายไปบอกเค้าช้าไปหรอ” แบ๊งค์ถาม

“อืม คงเป็นแบบนั้นแหละ มีคนมาตัดหน้าเรา แล้วเค้าก็เลยหลุดมือเราไป” กาวซึมลง

“แล้วนายไม่มีโอกาสพูดเลยหรอ ก่อนที่เค้าคนนั้นจะถูกอีกคนมาตัดหน้าเอาไปอ่ะ”

“มีก็มีนะ ถือว่าบ่อยด้วย แต่เราไม่บอกเค้าเองแหละ” กาวยังคงเหม่อ

“อ้าว แล้วทำไมไม่บอกล่ะ เห็นมั้ยโดนชิ่งเลย” แบ๊งค์บอกให้กาว

“เราว่าเราขอเก็บเค้าไว้ในความทรงจำดีกว่านะ”  กาวยิ้ม

“ให้เค้าเป็นแบบนี้แหละ เราพอที่จะเห็นเค้าจากตรงนี้แหละ”  กาวเริ่มหลับตา

“เค้าดูสวยงาม ร่าเริง เสมอแหละในใจเรา”

“แค่เรามีเค้าให้นึกถึงเราก็พอใจแล้ว”

นายกาวเนี่ยดูเป็นคนที่เสียสละจัง  คิดแล้วก็สงสาร นี่แหละครับ ความรักของคนที่อยู่รอบ ๆ  ตัวแบ๊งค์มีทั้งสมหวัง ผิดหวัง
อมทุกข์ แบ๊งค์ได้เห็นความเป็นไปในความรักของคนหลาย ๆ คน และหลาย ๆ คู่ ซึ่งแบ๊งค์ก็จะพยายามเอามาปรับใช้กับ
คู่ของแบ๊งค์กับพี่อาร์ทให้มากที่สุด ไม่รู้สิครับ แบ๊งค์เริ่มกลัวแล้ว  กลัวที่จะเสียพี่อาร์ทไป นี่คงเรียกว่ารักได้แล้วมั้ง......
*************************
ขอนู๋ลุ้นนาน ๆหน่อยก็ไม่ได้  :myeye: เหมือนรู้ตัวว่าจะโดนหักอกเลยคับ... พี่คนเขียนอ่ะ
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 02-05-2007 00:39:29
ง่ะ..  :เฮ้อ: แอบรักเค้าข้างเดียว มานเปลี่ยนหัวจาย  :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-05-2007 04:00:55
 :เฮ้อ: น่างสงสารคนแอบรักจัง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-05-2007 09:37:20
คนเรามักจะพูดเสมอว่าเลือกคนผิด
อย่าไปคิดงั้นเลย คนเรามีโอกาสที่จะมีความสุขมัน ตอนนั้นก็จงทำมันให้ดีที่สุดดีกว่า
 :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-05-2007 11:13:36
ตกลงว่าคนแปลกหน้าในเอ็มต้องเป็นกาวแน่ๆเลย ตอนแรกนึกว่าพี่ตั๊ม อิอิ

ว่าแต่ทั้งแมค ทั้ง กาว น่าสงสารนะนี่  เจ้าตัวก้ยังไม่รู้ตัวอีก เฮ้อ แบงค์เอ๋ยยย  :kikkik:

พี่อาร์ทโชคดีนะนี่ที่รีบชิงบอกความในใจไปก่อน หุหุ จะจำไว้ว่า รู้สึกไรกะใครจะรีบบอกออกปายย เหอๆๆ

มาต่ออีกไวๆนะคร๊าบบ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-05-2007 15:02:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-05-2007 19:30:12
แมคกับกาว นี่แอบรักแบงค์ทั้งคู่เลยเหรอ  :kikkik: เสน่ห์แรงจริงนะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-05-2007 22:00:03
นิดนึงส์คับ
*****************************
บทที่ 12 กันและกัน


“ แบ๊งค์วันนี้พี่ไม่กลับคอนโดนะ “ พี่นุ่นพูดตอนอยู่บนรถด้วยกัน

“อ้าว ทำไมหล่ะ” แบ๊งค์ถาม

“ก็พี่มีทำวิจัยอ่ะ กะว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน แล้วช่วยกันทำ”  พี่นุ่นอธิบาย

“อืม ก็ได้ ๆ ใช่สิ แบ๊งค์มันไม่สำคัญอยู่แล้วนี่นา” แบ๊งค์แกล้งตัดพ้อ

“อานะ โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนนะ” พี่นุ่นปลอบ

“แล้วแบ๊งค์จะกลับยังไงอ่ะ”  พี่นุ่นถามขึ้นบ้าง

“คงขึ้นรถเมล์ กลับอ่ะไม่เป็นไรหรอก”  แบ๊งค์ตอบ  แล้วพี่นุ่นก็ส่งแบ๊งค์ที่เดิม หน้าคณะนั่นเอง ตอนนี้เพื่อน ๆ ของแบ๊งค์
นั่งกันเต็มไปหมด ทั้งหมดคุยกันแต่เรื่องของกีฬามหาลิทยาลัยที่ใกล้เข้ามา ดูทุกคนตื่นเต้นกันจัง

“อีกไม่เท่าไหร่แล้วนะ ก็จะถึงกีฬามหาลัยแล้ว”  กาวพูด

“อืม  ตื่นเต้นว่ะ เกิดมายังไม่เคยเป็นหลีดเลย”  แมคพูดอาย ๆ

“อืม กูก็ด้วย ไม่เคยเลย”  พี่ตั้มพูดขึ้นบ้าง

“อยากให้ถึงเร็ว ๆ จัง อยากเห็นตัวประหลาดเต้นอยู่กลางสนาม  อิอิ”  แบ๊งค์แซวแล้วหันหน้าไปทางพี่ตั้ม พี่ตั้มก็จ้องกลับ

“ระวังไว้นะ มึง!!!!!”  พี่ตั้มทำหน้าโกรธ แล้วก็ลุกขึ้นจะตีหัวแบ๊งค์  แบ๊งค์ก็เลยวิ่งหนี  ตอนนี้เรากลับกลายไปเป็นเด็ก
ประถมกันอีกแล้ว คนที่โต๊ะเลยหัวเราะกันใหญ่

ตกเย็น ขณะที่แบ๊งค์กำลังจะไปรอรถเมล์กลับคอนโด  พี่อาร์ทก็โทรหาแบ๊งค์

“น้องแบ๊งค์อยู่ไหนแล้วครับ”  พี่อาร์ทถาม

“กำลังจะกลับคอนโดครับ” แบ๊งค์ตอบ

“เดี๋ยวพี่ไปส่งเอามั้ยครับ” พี่อาร์ทเสนอทาง

“พี่อาร์ทซ้อมบาสไปเถอะครับ  อ๊ะ!!!รถมาแล้วไปก่อนนะครับ  บายครับ”  แล้วแบ๊งค์ก็รีบวางสายแล้วขึ้นรถไป รถเมล์ใน
ช่วงเวลานี้กำลังดีเลยครับ ใครไม่ค่อยแยะมากมาย นั่งได้สบาย พอมาถึงที่คอนโด   พี่นุ่นก็โทรเข้ามาหาครับ

“แบ๊งค์ พี่ข่าวร้ายมาบอกอ่ะ”  พี่นุ่นทำเสียงเศร้า

“อารายอีกล่ะป้า”  แบ๊งค์ถาม

“พี่ว่า พี่คงต้องได้ค้าง ซัก 2 วันอ่ะ”  พี่นุ่นทำเสียงเศร้าต่อไป

“ไรว้า.....ทิ้งน้องอีกแระ”   แบ๊งค์ตัดพ้อ

“ไม่ต้องห่วง  พี่ส่งองครักษ์  ไปให้แล้ว  อิอิ”  พี่นุ่นพูดแปลก ๆ

“หา......อะไรนะ”  แบ๊งค์ถามย้ำงง ๆ

“ไม่มีอะไร  สบายดี  กินข้าวแล้ว แค่นี้นะ”  แล้วเจ้แกก็วางสายไปเลย  ไรว้า..ซะงั้น   แล้วก็มาถึงบางอ้อครับ ตอนที่มีเสียง
กริ่งหน้าประตูดังขึ้น   พี่อาร์ทมาครับ ถือของพะรุงพะรังเลย  คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ  พี่อาร์ทเล่าให้ฟังว่า พี่นุ่นเป็นห่วง
ว่าแบ๊งค์อยู่คนเดียวก็เลยโทรไปหาพี่อาร์ท  ขอให้พี่อาร์ทมาอยู่เป็นเพื่อนแบ๊งค์ ( มันจะปลอดภัยมากกว่าเดิมมั้ยเนี่ย ) 
ประกอบกับพี่อาร์ทก็เป็นห่วงแบ๊งค์เหมือนกัน ก็เลยยินดีที่มาอยู่เป็นเพื่อน

“แล้วขนอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะเนี่ย จะอยู่เป็นปีเลยหรอไง”  แบ๊งค์พูดเมื่อเห็นข้าวของที่พี่อาร์ทนำมาด้วย

“ก็คิดไว้แบบนั้นนะ  แล้วแบ๊งค์จะให้พี่อยู่ด้วยรึเปล่าล่ะ”  พี่อาร์ททำหน้าทะเล้น

“.........................”  แบ๊งค์ไม่พูดทำท่าค้อนกลับไป

“คือพี่คิดไว้ว่า  จะเอาของบางส่วนมาฝากไว้ที่ห้องแบ๊งค์อ่ะ”   พี่อาร์ทพูดขณะจัดแจงของ

“เอามาไว้ทำไม  บ้านพี่อาร์ทก็มีไม่ใช่หรอ”  แบ๊งค์พูดประชด

“ก็ใช่นะ  แต่เผื่อเอาไว้ถ้าพี่ได้มาค้างอีกไง”  พี่อาร์ท พูดเสียงนุ่ม

“ไม่หรอก  คงไม่มีวันนั้นหรอก “  แบ๊งค์ทำเสียงประชดอีกตามเคย

“ป่ะพี่ง่วงนอนแล้ว  ไปจัดที่นอนก่อนป่ะ” พี่อาร์ทพูดพร้อมดันเอวแบ๊งค์ให้เข้าไปในห้องนอน

“อะไร ๆๆ วันนี้ไม่ต้องเลย พี่นุ่นไม่อยู่ไม่ต้องหากำลังมาเสริม  นอนที่โซฟานั่นแหละ”  แบ๊งค์พูดเยาะเย้ย

“ได้ไงล่ะ  อุตสาห์มาอยู่เป็นเพื่อน จะให้นอนข้างนอกซะงั้น แบ๊งค์ไม่สงสารพี่หรอครับ” พี่อาร์ททำหน้าน้อยใจ

“อือใช่  แบ๊งค์เป็นพวกใจร้ายอ่ะ  ทำไมหรอ”  แบ๊งค์ทำหน้าทะเล้น

“งั้นพี่จะไปฟ้องพี่นุ่น  แล้วจะบอกคนอื่น ๆ ว่าคนเชียงใหม่ใจร้าย”  พี่อาร์ททำเสียงงอน

“อ้าว   ได้ไงล่ะ”  แบ๊งค์เริ่มไม่พอใจ

“งั้นต้องให้พี่นอนในห้องด้วย ไม่งั้นพี่ไม่ยอม”  พี่อาร์ททำตัวเป็นเด็กไปแล้ว (-“-)

“ก็ได้ ๆๆ เข้ามาดิ”  แบ๊งค์จำยอม  แล้วพี่อาร์ทก็ทำท่าดีใจยกใหญ่  ที่ได้เข้ามานอนในห้องนอนของแบ๊งค์อีกครั้ง  แล้ว
แบ๊งค์ก็เข้าไปอาบน้ำก่อนแบบจำใจ  เพราะเหตุผลเดียวกับ คราวที่แล้ว  แต่วันนี้ในจังหวะที่แบ๊งค์จะเปิดประตูห้องน้ำ
แบ๊งค์เริ่มระวังตัวมากขึ้นกลัวว่า จะมีตัวอะไรพุ่งพรวดมาเหมือนคราวที่แล้วอีก  แบ๊งค์หลบอยู่อีกฟากของประตู  แล้วค่อย
ๆ เดินย่องออกมาจากห้องน้ำ   อ้าว.......พี่อาร์ทหายไปไหนเนี่ย  บนเตียงก็ไม่มี  ไปไหนอ่ะ  ขณะที่กำลังเดิน ออกมาจะ
สำรวจห้อง พี่อาร์ทก็พุ่งมาจากไหนไม่รู้ มาทำแบบเดิมเลยครับ

“หอมจังเลย เด็กดื้อ....อื้อ...”  พี่อาร์ทพูดแล้วหอมแก้มครับ

“พี่อาร์ทปล่อยแบ๊งค์นะ  แล้วก็ไปอาบน้ำได้แล้ว”  แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่พี่อาร์ทกอดแน่นขึ้น แล้วเอาแต่หอมแก้ม

“ถ้าพี่อาร์ทไม่ปล่อย  แบ๊งค์งอนจริง ๆ ด้วย” ต้องใช้มุกนี้ครับ  แล้วก็ได้ผล พี่อาร์ทหยุดแล้วยอมไปอาบน้ำแต่โดยดี  แบ๊งค์
ก็เลยเช็ดผมให้แห้ง  แล้วไปนั่งอ่านหนังสือบนเตียง  ตอนนี้เสียงฝักบัวในห้องน้ำเงียบไปแล้ว พี่อาร์ท  คงอาบน้ำเสร็จแล้ว
 แบ๊งค์ก็ยังคงอ่านหนังสือต่อไป  ประตูห้องน้ำเปิดแล้ว  แต่พี่อาร์ทยังไม่ยอมออกมา  จะเล่นแผนไหนเนี่ย   แบ๊งค์ค่อย ๆ
ชะเง้อมอง  พอเห็นว่ายังไม่ออกมาแบ๊งค์ก็เลยไม่สนใจ  แล้วพี่อาร์ทก็มายืนปลายเตียง โดยมีผ้าขนหนูคลุมหัว  แบ๊งค์ค่อย
ๆ เงยหน้ามอง  อยู่พี่อาร์ทก็พุ่งตัวขึ้นมาบนเตียง ขึ้นคร่อมแบ๊งค์  เอามือจี้เอวแบ๊งค์

“พี่อาร์ทไม่เอา ไม่เล่นเดี๋ยวแบ๊งค์ฉี่ราดนะ”  แบ๊งค์ดิ้นไปมา

“อิอิ  งั้นเช็ดหัวให้พี่หน่อย”  พี่อาร์ทพูดแต่ยังไม่หยุด  ยังเอามือจี้เอวแบ๊งค์อยู่

“มีมือก็เช็ดเองดิ”  แบ๊งค์พูดประชด

“โห.......พูดแบบนี้ใช่มั้ย”   พี่อาร์ทเอามือจี้เอวต่อไป  แล้วหอมแก้มแบ๊งค์ไปด้วย

“ยอมมั้ย......ยอมมั้ย”  พี่อาร์ทขู่

“โอย....ไม่ไหวแล้ว   ยอมก็ได้”   แบ๊งค์เลยต้องจำยอม  เช็ดหัวให้พี่อาร์ท  พี่อาร์ทดูไปดูมาก็ไม่น่าเชื่อ  ว่าจะทำตัวเด็ก
ได้ขนาดนี้  จากวันแรก ๆ ที่แบ๊งค์รู้จัก พี่อาร์ทดูขรึมมาก  เล่นเอาแบ๊งค์ไม่กล้าที่จะเข้าไปพูดด้วย  จากที่แบ๊งค์เกร็ง ๆ เวลาเจอพี่อาร์ท แต่ตอนนี้คนที่แสนเคร่งขรึมคนนั้น  กลับกลายมาเป็นเด็กเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้า แล้วให้แบ๊งค์เช็ดหัว  ไม่น่า
เชื่อเลยว่าเราจะสนิทกันได้ขนาดนี้

แล้วเราสองคนก็นอนด้วยกัน  โดยที่แบ๊งค์อยู่ในอ้อมกอดของพี่อาร์ทเหมือนดิม  เราไม่ได้หลับหรอกนะ  นอนคุยกันอยู่ คุย
กันเรื่องต่าง ๆ นานา

“พี่อยากอยู่ใกล้ ๆ แบ๊งค์แบบนี้ตลอดไปจัง”  พี่อาร์ทพูดโดยมองหน้าแบ๊งค์

“........................”  แบ๊งค์มองหน้าพี่อาร์ทแต่ไม่พูดอะไร

“แบ๊งค์.................”  พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์แต่ไม่พูดอะไร

“มีอะไรหรอครับ”  แบ๊งค์ถามออกไป

“พี่รักแบ๊งค์มากนะ.........”  พี่อาร์ทพูดแล้วเงียบอีกละ

“ครับแบ๊งค์รู้   มีอะไรรึเปล่าครับ”  แบ๊งค์ยังคงสงสัยในคำพูด

“คืนนี้..........แบ๊งค์เป็นของพี่นะ”  พี่อาร์ทมองหน้าจริงจัง (o_O)ว๊ากกกกกก  นี่มันอะไรกันเนี่ย  แบ๊งค์คิดในใจ  ตอนนี้ทำ
อะไรไม่ถูกเลย  จะยอมหรือไม่ยอมดี  โอยทำไงดีเนี่ย 

“พี่รู้นะ  ว่ามันอาจปุบปับสำหรับแบ๊งค์”  พี่อาร์ทำเสียงเข้มต่อไป

“พี่ขอให้แบ๊งค์เชื่อใจพี่นะ  พี่รักแบ๊งค์จริง ๆ “  พี่อาร์ทมองหน้าทำสายตาอ้อนวอน

“..........................”  แบ๊งค์เงียบดิครับ ไม่รู้จะทำตัวยังไง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย  ทำตัวไม่ถูกเลย  ไอ้ความทะลึ่ง
ทะเล้นหายไปหมด  แล้วแบ๊งค์ก็เลยตัดสินใจ  พยักหน้าออกไป

“พี่ดีใจจังเลยครับ  พี่รักแบ๊งค์นะ”  พี่อาร์ทยิ้มแล้วหอมแก้มแบ๊งค์  แล้วก้มลงมาจูบแบ๊งค์  เป็นจูบแรกของแบ๊งค์เลยครับ
  พี่อาร์ทค่อย ๆ สอดลิ้นอุ่น ๆ เข้ามาในปาก  แบ๊งค์จึงค่อย ๆ เผยอปากรับรสจูบของพี่อาร์ท เป็นจูบที่หอมหวานจริง ๆ 
จากนั้นก็เริ่มไซร้ลงมายังซอกคอ  พี่อาร์ทปลดกระดุมชุดนอนแบ๊งค์  แล้วไซร้ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงยอดอก แล้วพี่อาร์ทก็เลีย
ที่หัวนมของแบ๊งค์  รู้สึกเสียวมากครับ ได้แต่กลั้นเสียง  ไม่กล้าร้องครับ

“กลั้นไว้ทำไมล่ะครับ  เสียดายออก ร้องออกมาเลย”  พี่อาร์ทพูดเสียงกระเส่า แล้วยิ้มครับ

“อะ.....อะ...อื้อ”  แบ๊งค์เริ่มคราง  ตอนนี้พี่อาร์ทถอดเสื้อของพี่เค้าออกแล้วครับ  หุ่นพี่อาร์ทดูดีมาก คงเป็นผลมาการที่เล่น
บาสอ่ะครับ หุ่นเลยดีขนาดนี้ ผิวขาวเนียน กล้ามท้องเป็นลอน  แล้วพี่อาร์ทก็ถอดเสื้อให้แบ๊งค์บ้าง พี่อาร์ทเลียต่ำลงไป
เรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้อง  จากนั้นพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ดึงกางเกงนอนแบ๊งค์ออก  เผยให้เห็นเจ้าน้องชายที่กำลังตื่นตัวอยู่ ( คือ
เวลานอนแบ๊งค์จะไม่ใส่กางเกงในอ่ะครับ  ปล่อยให้โอโบ๊ะจามะอยู่สบาย ๆ ไม่อึดอัด )  พี่อาร์ทจับมันรูดขึ้นลง  เล่นเอา
แบ๊งค์ทนไม่ไหวจนต้องร้องครางออกมา  พี่อาร์ทหัวเราะหึหึ เบา ๆ  ดูพี่อาร์ทมีความสุขจังเวลาที่ได้เห็นหน้าแบ๊งค์ตอน
ครางออกมา  แล้วพี่อาร์ทก็ครอบปากลงไปที่น้องชายของแบ๊งค์  ทำเอาแบ๊งค์อึ้งไปเหมือนกัน ที่พี่อาร์ททำแบบนั้น

“อะ...พี่อา...อาร์ท ท..ทำแบบนี้จะ..ดีหรอครับ....อะ”   แบ๊งค์พูดไปครางไป

“ดีสิครับ  เพราะพี่รักแบ๊งค์ไง”   พี่อาร์ทเงยหน้าขึ้นมาพูดก่อนที่จะ ครอบปากที่น้องชายของแบ๊งค์ต่อ  พี่อาร์ทดูดแล้วเลีย
วน ๆ ที่ยอด  เล่นเอาแบ๊งค์เสียวมากเลยครับ  พี่อาร์ทยังคงครอบปากต่อไป  แล้วไม่นานแบ๊งค์ก็พุ่งน้ำรักออกไปเต็มปากพี่อาร์ท

“ขะ.....ขอโทษครับ”   แบ๊งค์รู้สึกผิด

“เสร็จแล้วหรอ  เร็วจังนะ”  พี่อาร์ทยิ้ม

“........(-//////-)........”   อายหน้าแดงเลยครับ   ก็คนมันไม่เคยนี่นา  แล้วพี่อาร์ทก็ลุกขึ้นถอดกางเกงลงบ้างครับ  ท่อนเนื้อ
ของพี่อาร์ทใหญ่  และดูแข็งแรงมากครับ  ถ้ากรูส์โดนเข้าไปจะตายมั้ยเนี่ย  แบ๊งค์คิดในใจ   มันดูใหญ่มากเลยครับ

“กลัวหรอครับ  น้องแบ๊งค์”  พี่อาร์ทถาม  แบ๊งค์ได้แต่ผงกหัวไป

“อย่ากลัวน่า  ทำให้พี่หน่อยนะครับ  เด็กดื้อ”   พูดเสร็จแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ครอบปากไปที่ท่อนเนื้อของพี่อาร์ท  ไม่รู้ทำไงครับ 
ก็เลยรูดขึ้นลงแบบที่พี่อาร์ททำให้เมื่อกี้นั่นแหละ  พี่อาร์ทก็ครางเบา ๆ ฟังแล้วเสียวจังอ่ะ (>_<”)  ทำแบบนี้ไปได้ซักพัก 
พี่อาร์ทก็บอกแบ๊งค์ว่าพอก่อนจากนั้นก็ ผลักแบ๊งค์ลงนอน โดยที่พี่อาร์ทคร่อมตัวแบ๊งค์ไว้อยู่  พี่อาร์ทประกบจูบกับแบ๊งค์
พี่อาร์ทลุกขึ้นนั่งอยู่ที่หว่างขาแบ๊งค์  โดยที่ขาแบ๊งค์พาดอยู่บนตักของพี่อาร์ท  นี่เราจะโดนอัดถั่วแร้นหรอเนี่ย  จะตายมั้ย
วะ  แบ๊งค์คิดในใจ  อยู่ ๆ พี่อาร์ทก็เอื้อมมาหยิบ  ของบางอย่างที่หัวเตียงของแบ๊งค์  เจลหล่อลื่นนั่นเอง  เฮ้ย.......กรูส์มี
ของแบบนี้ด้วยหรอ   แบ๊งค์คิดในใจ

“พี่เอามาเตรียมไว้ตอนที่น้องแบ๊งค์อาบน้ำอ่ะครับ”  พี่อาร์ทอธิบาย   นี่กะว่าคืนนี้ต้องได้แน่ ๆ ใช่มั้ยเนี่ย ถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้

“ไม่ต้องกลัวนะครับ  ทำตัวสบาย ๆ ”  พี่อาร์ทพูดขณะที่เห็นว่าแบ๊งค์ทำท่าเกร็ง ๆ จากนั้นพี่อาร์ทก็บีบเจลใส่มือแล้วทาที่
ท่อนเนื้อของพี่อาร์ท  แล้วจากนั้นก็ทาที่ประตูหลังของแบ๊งค์  มันรู้สึกเย็น ๆ ครับ เล่นเอาซะเสียวเลย

“ไม่ต้องกลัวนะ”  พี่อาร์ทพูดก่อนจะจับท่อนเนื้อของพี่เค้ายัดเข้าไปที่ประตูหลัง  ซึ่งตอนนี้เข้าได้ทั้งหัวแล้ว  เจ็บมากครับ

“อะ....อ๊า....”  แบ๊งค์ เผลอครางออกมา  จากนั้นพี่อาร์ทก็ดันเข้าไปจน มิดท่อนเนื้อเลยครับ  ตอนนั้นเจ็บมากจนต้องร้อง
ดัง ๆ ออกมาหนึ่งที  รู้สึกจุก ๆ แน่น ๆ ยังไงไม่รู้ครับ แล้วพี่อาร์ทก็เริ่มซอยเข้า-ออก  ตอนนี้ยิ่งจุกกว่าเดิมครับ

“อ๊า ๆๆๆๆๆ”  แบ๊งค์คราง

“ทนหน่อยนะครับ  เด็กดื้อของพี่”   พี่อาร์ทพูดเสียงกระเส่า  แล้วก็เร่งจังหวะการซอยขึ้นเรื่อย ๆ  แบ๊งค์ก้ได้แต่ร้องครางออกมา

“พี่ขอปล่อยในตัวแบ๊งค์นะครับ”  แบ๊งค์พยักหน้า จากนั้นก็รู้สึกว่า ท่อนเนื้อของพี่อาร์ทกระตุกฉีดน้ำรักเข้าไปที่ประตูหลัง
ของแบ๊งค์  แต่พี่อาร์ทยังคงปล่อยให้ท่อนเนื้อค้างอยู่อย่างนั้น  แต่คราวนี้   พี่อาร์พลิกตัวให้แบ๊งค์ขึ้นมาอยู่ข้างบน

“ แบ๊งค์ช่วย ขย่มพี่หน่อยดิครับ  พี่หมดแรงแล้ว”  พี่อาร์ททำหน้าทะเล้น

“หมดแรงแล้วก็พอดิ  แบ๊งค์ทำไม่เป็นหรอก”  แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

“ไม่เอาอ่ะ  แบ๊งค์ทำให้หน่อย  แบ๊งค์ไม่รักพี่อาร์ทหรอครับ”  พี่อาร์ททำท่าเหมือนจะงอน

“.......................”  แบ๊งค์เงียบ

จากนั้นพี่อาร์ทก็เด้งเอว  แบ๊งค์ก็เลยขย่มตามจังหวะเอวของพี่อาร์ท  พี่อาร์ทดึงตัวแบ๊งค์ลงมาจูบแล้วเร่งจังหวะการซอย 
พี่อาร์ทจับน้องชายของแบ๊งค์รูดขึ้นลงตามไปด้วย  ยิ่งพี่อาร์ทเร่งจังหวะการรูดขึ้น-ลง  แบ๊งค์ก็ยิ่งเร่งจังหวะการขย่ม  แล้ว
แบ๊งค์ก็พุ่งน้ำรักอีกรอบเต็มหน้าท้องพี่อาร์ท  จากนั้นพี่อาร์ทฉีดน้ำรักเต็มประตูหลังของแบ๊งค์อีกรอบเช่นกัน  แบ๊งค์ลงไป
ซบที่อกของพี่อาร์ท นอนหอบแฮก ๆ พี่อาร์ทก็หัวเราะออกมา

“เป็นยังไงล่ะ  เหนื่อยล่ะสิ”  แบ๊งค์พยักหน้าไป

“แล้วสนุกมั้ยล่ะครับ”  พี่อาร์ทถาม  แบ๊งค์อายหน้าแดงแล้วพยักหน้าไป

“ถ้าสนุก งั้นทีหลังเรามาสนุกกันอีกนะ”  พี่อาร์ททำหน้าทะเล้น

“ไม่นะ  ไม่เอาแล้ว”   แบ๊งค์พูดขึ้นบ้าง  แล้วรีบส่ายหัว  พี่อาร์ทหัวเราะเบา ๆ

จากนั้นพี่อาร์ทก็อุ้มแบ๊งค์เข้าไปในห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำชำระล้างร่ายกาย  ที่โซมไปด้วยเหงื่อ  รู้สึกแปลก ๆ นะครับ อาบน้ำ
กับคนอื่น  เกิดมาอาบคนเดียวตลอด ไม่เคยมีใครมาอาบด้วยเลย  เมื่ออาบเสร็จเราใส่ชุดนอน  แล้วช่วยกันจัดผ้าปูที่นอนยุ่งไปหมดแล้ว  จากนั้นเราก็เข้านอนกันตามปกติ โดยที่แบ๊งค์ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของพี่อาร์ทเช่นเดิม  อบอุ่นจังครับ
 ในใจก็คิดว่าถ้าเมื่อกี้  พี่นุ่นนอนอยู่ห้องข้าง ๆ พี่นุ่นจะได้ยินเสียงมั้ยนะ  แล้วถ้าเกิดคราวหน้าแล้วเรามีอะไรกันอีกล่ะ  ถ้า
พี่นุ่นอยู่ด้วยคงอายหน้าดู  แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป
*********************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 02-05-2007 22:24:30

มาต่อไวไวน้า...
เป็นกำลังใจให้ค้าบ.....
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 02-05-2007 22:44:22
 :-[ เป็นของกันและกันไปซะแล้ว..
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-05-2007 05:57:29
วายยยยยยยยย  :haun1:

เสร็จพี่อาร์ทซะและรอบเดียวเอง  :kikkik:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 03-05-2007 09:37:31
อืมพี่อาร์ทน่ารักดีครับ อิอิ :haun1:  มาต่อไวๆนะครับ  :loveu:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-05-2007 13:09:07
อิอิ  เพิ่งรู้ว่าพี่อารืทเป็นประเภท น้องพลับของสองด้วย อิอิ  :haun4:


เป็นของกันและกันแบบนี้แล้วก้ยิ่งผุกพันกานจิ แล้วงี้นายแมคกะกาว จะทามงายนี่ หุหุ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-05-2007 13:53:28
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-05-2007 19:23:00
หุหุ อาร์ทเตรียมของมาพร้อมสรรพขนาดนี้  o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 03-05-2007 21:43:28
เรื่องนี้มีพี่ ๆ บางคนอ่านไปแล้วนิคับ  ...จุ๊ จุ๊ นะคับ  :3067:
ผมก็โพสท์ไปอ่านไปพร้อมกับพี่ ๆในนี้แหล่ะคับ
*********************
บทที่ 13  ป่วย


วันนี้พี่นุ่นยังไม่กลับหรอกครับ  ป้าแกบอกว่าจะมากลับประมาณพรุ่งนี้เช้า  แบ๊งค์ก็เลยต้องไปมหาวิทยาลัยเองอีกตามเคย 
แต่วันนี้ไม่ต้องขึ้นรถเมล์นะครับ เพราะพี่อาร์ทมาส่ง แบ๊งค์รู้สึกไม่ค่อยสบายอ่ะครับไม่รู้เป็นอะไร ( นี่กรูส์โดนXXXครั้ง
แรกจนไข้ขึ้นเลยหรอเนี่ย ) พี่อาร์ทเค้าเป็นห่วงแบ๊งค์มากไม่อยากให้แบ๊งค์มาเรียน  แต่แบ๊งค์เห็นว่าวันนี้ก็เป็นวันศุกร์
แล้ว  ขอมาเรียนให้ครบสัปดาห์ก่อนละกัน  ถ้าเป็นอะไรหนักขึ้นมาจริง ๆ พรุ่งนี้วันเสาร์ก็ได้พักผ่อนแล้ว  แต่พี่อาร์ทก็ยังคง
อดห่วงไม่ได้  พยายามสั่งแบ๊งค์หลายอย่าง

“ถ้าไม่ไหวจริง ๆ โทรหาพี่นะครับ แล้วพี่จะพากลับคอนโด”  พี่อาร์ทสั่ง

“ครับ  แต่แบ๊งค์คงไม่เป็นอะไรหรอก”  แบ๊งค์ตอบไปเสียงแห้ง ๆ

“แล้วตอนกลางวันทานข้าวกับพี่นะครับ  พี่จะได้ดูแล”  พี่อาร์ทสั่งอีก

“ครับ  แล้วเดี๋ยวตอนกลางวันแบ๊งค์จะโทรหานะครับ”  แบ๊งค์พยายามตัดบท  แล้วพี่อาร์ทก็แยกไปยังห้องของพี่อาร์ทเอง 
แบ๊งค์ก็มานั่งที่เดิมครับ  กำลังนั่งฟัง MP3 อยู่ แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“แบ๊งค์เป็นอะไรมากรึเปล่า”  พี่นุ่นดูเหมือนไม่สบายใจ

“ก็แค่ตัวร้อนนิดหน่อยเองป้า”  แบ๊งค์ตอบไป

“แล้วป้ารู้ได้ไงอ่ะ”  แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

“ก็พี่อาร์ทโทรมา บอกว่าแบ๊งค์ไม่สบาย  พี่นุ่นเป็นห่วงมากรู้มั้ย”  พี่นุ่นพูด

“ครับ  เดี๋ยวแบ๊งค์กินยาก็หายแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“อืม  พี่คงจะกลับประมาณพรุ่งนี้สาย ๆ นะรักษาสุขภาพด้วย”  พี่นุ่นพูดก่อนจะวางสายไป  แบ๊งค์ก็เลยนั่งฟังเพลงต่อ  วันนี้
แบ๊งค์มีเรียนตอนสาย ๆ ครับ  แล้วพวกเพื่อน ๆ ก็เข้ามาครับ

“เฮ้ย  ไอ้ตัวเล็กเป็นอะไรมากรึเปล่าวะ  หน้าซีด ๆ “  พี่ตั้มเข้ามาทัก

“หน้าแบ๊งค์ดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ พี่ตั้ม”  แบ๊งค์เริ่มสงสัย

“จริง ๆ นะไหนดูหน่อยดิ ตัวร้อนเปล่า”  กาวครับ   ถามพร้อมเอามือมาแตะหน้าผากแบ๊งค์ 

“โห...ตัวร้อนว่ะ  กลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ”  กาวพูด

“แบ๊งค์เราว่านายกลับไปพักผ่อนดีกว่านะ  เดี๋ยวเราแลคเชอร์ไว้ให้”  แมคอาสาครับ

“ไม่เป็นไรหรอก  เราเป็นหวัดแบบนี้มาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว   ทานยาแปปเดียว ก็หายแล้ว  ไม่ต้องห่วงหรอก”   แบ๊งค์
พยายามตอบให้ทุกคนสบายใจ

“พี่ไปก่อนนะ พี่มีเรียนเช้าอ่ะ”  พี่ตั้มพูดขึ้น

“ครับ”  เรา 3 คนตอบพร้อมกัน

“แล้วไอ้ตัวเล็กน่ะ  ดูแลตัวเองด้วยนะ”  พี่ตั้มพูดก่อนจะเดินออกไป

“ค้าบบบบบบบบบบบบ”   แบ๊งค์ลากเสียงยาว 

 วันนั้นก็มึน ๆ นิดหน่อยครับ  แต่ก็พอเรียนรู้เรื่องครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก  แล้วก็พักกลางวัน  แบ๊งค์โทรหาพี่อาร์ทแล้วไป
รอที่โรงอาหารครับ  ช่วงนี้เราสองคนเริ่มเปิดเผยมากขึ้นแล้วครับ  เริ่มไปไหนด้วยกันในมหาวิทยาลัย  แต่ถ้าใครถามว่า
เป็นอะไรกัน เราก็ยังคงตอบเหมือนเดิมครับว่าเป็นพี่รหัสกันเท่านั้น

“แบ๊งค์เป็นไงบ้างไหวมั้ย”  พี่อาร์ทถามแล้วทำท่าจะเอามือมาแตะหน้าผากแบ๊งค์

“อย่า....พี่อาร์ทเดี๋ยวคนสังเกต”  แบ๊งค์รีบห้าม

“ช่างเค้าสิแบ๊งค์  เราไม่สบายอยู่นะ  พี่ไม่สนใจใครแล้ว”  พี่อาร์ททำท่าไม่พอใจเล็กน้อย

“ช่างเหอะพี่อาร์ท  แบ๊งค์ไม่เป็นไรแล้ว”  แบ๊งค์พยายามตอบไป  กลางวันนั้นเราก็ทานข้าวด้วยกันครับ  พี่อาร์ทพยายามซื้อ
แต่อาหารที่ดูให้พลังงาน  โดยบอกว่าตอนนี้ร่างกายแบ๊งค์อ่อนแอ  ต้องการพลังงานเยอะ แบ๊งค์ก็รับคำครับ   

“แบ๊งค์....พี่ว่าแบ๊งค์กลับคอนโดก่อนมั้ย”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่อ่ะ  เรียนอีกแปปเดียวก็เสร็จแล้ว คงไม่มีอะไรหรอก”  แบ๊งค์ตอบไป

“พี่ว่าแบ๊งค์ดูไม่ดีขึ้นเลย เดี๋ยวเป็นลมล้มหัวฟาดพื้นไปจะทำไง”  พี่อาร์ทดูกังวล

“แบ๊งค์ไม่เป็นลมหรอก  ตั้งแต่เกิดมานะ  ต่อให้ป่วยหนักขนาดไหน แบ๊งค์ก็ยังไม่เคยเป็นลมเลย  ไม่ต้องห่วงหรอกนะ
สบายมาก”   แบ๊งค์ยิ้มให้แบบแห้ง ๆ   

ตกบ่ายแบ๊งค์ก็เข้าเรียนตามปกติ ก็เหมือนจะดีขึ้นแล้วครับ คงไม่อะไรแล้วแหละ  วันนี้เลิกเร็วครับ  แบ๊งค์ก็เลยจะไปรอพี
อาร์ทที่สนามบาส  ไม่รู้ว่าพี่อาร์ทจะมาซ้อมรึยัง  วันนี้อากาศร้อนมากครับ  อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกเวียนหัว จนเริ่มเดินเซ  แล้ว
รู้สึกเหมือนมีคนมาพยุงตัวไว้  จากนั้นแบ๊งค์ก็ไม่รู้สึกตัวอีก

“แบ๊งค์....ฟื้นแล้วหรอ  แบ๊งค์ฟื้นแล้ว”  กาวพูดขึ้นครับ  แล้วแบ๊งค์อยู่ที่ไหนเนี่ย  ตอนนี้มีคนยืนรอบตัวแบ๊งค์อยู่ 3 คน กาว
 แมค และพี่ตั้มนั่นเอง  ที่นี่ก็คือห้องพยาบาล ไม่น่าเชื่อเลยครับ  เกิดมา 18 ปีไม่เคยเป็นลมมาก่อน  แต่มาเป็นเอาครั้งนี้
จนได้  คิดแล้วก็ขำตัวเองดีเหมือนกัน

“แบ๊งค์  แบ๊งค์เป็นไงบ้าง”  พี่อาร์ทรีบวิ่งเข้ามาหาแบ๊งค์  โดยที่ทุกคนต่างมองกันใหญ่

“พี่ไปรอแบ๊งค์ที่สนามบาส เห็นแบ๊งค์ไม่มาซักที  พอโทรหา กาวก็บอกว่า แบ๊งค์เป็นลม  พี่เป็นห่วงมากเลยรู้มั้ย”  พี่อาร์ทดูท่าทางเป็นห่วงมากจริง ๆ

“แบ๊งค์ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เอง  แบ๊งค์ว่าเรากลับกันดีกว่านะ”  แบ๊งค์พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงในห้องพยาบาล

“จะดีหรอแบ๊งค์  นอนพักก่อนดีกว่ามั้ย”  พี่อาร์ทแนะ  แต่แบ๊งค์ไม่ฟังพยายามจะกลับให้ได้  ไม่มีอะไรหรอกครับ 

คือตอนนี้สายตาทั้ง 3 คนเริ่มมองแบ๊งค์กับพี่อาร์ทแปลก ๆ แล้ว แบ๊งค์ยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใครทั้งนั้น  เลยขอกลับ
ดีกว่าพอจะกลับจริง ๆ พี่อาร์ทไม่ยอมกลับครับ  พาแบ๊งค์ไปโรงพยาบาลซะงั้น  แบ๊งค์ก็เลยต้องโดนตรวจร่างกายวะยก
ใหญ่  ตามใจพี่อาร์ทเค้า  เพราะตอนนี้แบ๊งค์คงไม่มีแรงไปดื้อกับพี่เค้าแล้ว  พอตรวจร่างกายเสร็จ แบ๊งค์ได้ยาไปทานแยะ
มากมายเลยครับ กลายเป็นมนุษย์ยาไปแล้ว

“เดี๋ยวทานข้าวทานยาเสร็จ  พี่จะเช็ดตัวให้นะครับ”  พี่อาร์ทพูดไปยิ้มไป

“ไม่ดีกว่านะครับ  แบ๊งค์เช็ดเองได้”  แบ๊งค์รีบปฏิเสธ

“ไม่ได้นะครับ  เป้นหวัดแล้วยังจะดื้ออีกนะ”  พี่อาร์ททำหน้างอน ๆ แล้วไปล้างจาน  ส่วนแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้องกะว่าจะอาบ
น้ำ เพื่อตัดหน้าพี่อาร์ท  รู้สึกเพลีย ๆ ครับ ก็เลยนั่งพักบนเตียง แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป  มารู้สึกตัวอีกที รู้สึกว่าหนาว ๆ
แล้วมีอะไรอุ่น ๆ กำลังลูบไล้ร่างกาย     แบ๊งค์อยู่  รับตื่นเลยครับ พี่อาร์ทนั่นเองกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวแบ๊งค์อยู่  แต่
ทำไมต้องถอดเสื้อผ้ากันหมดด้วยเนี่ย (o_O) แบ๊งค์เลยลุกพรวดขึ้นมา

“พี่อาร์ททำอะไรน่ะ!!!”  แบ๊งค์พูดไปเสียงดัง  พร้อมดึงผ้าห่มมาบังตัว

“ก็พี่กำลังเช็ดตัวให้แบ๊งค์ไงครับ”  พี่อาร์ทอธิบาย

“แล็วทำไมต้องถอดเสื้อผ้าหมดด้วยล่ะ”  แบ๊งค์เริ่มโกรธ

“อายทำไมล่ะครับ  ไหน ๆ เราก็เคยXXXกันแล้ว”  พี่อาร์ทตอบ

“ก็แบ๊งค์ไม่ชอบให้ใครรุ่มร่ามกับร่างกายแบ๊งค์นี่!!!”  แบ๊งค์ตะคอกออกไป

“........................”  พี่อาร์ทเงียบ  หน้าเสีย

“ถ้าแบ๊งค์ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวพี่ไปก่อนละกัน  ขอโทษด้วยนะครับ”  พี่อาร์ทดูหน้าเสียจริง ๆ ครั้งนี้คงไม่ได้เล่น
แล้วล่ะมั้ง  พี่เค้าคงหวังดีจริง ๆ ไม่ได้หลอกแต๊ะอั๋งหรอก  แบ๊งค์คิดในใจ ระหว่างที่พี่อาร์ทกำลังจะยกกะละมังน้ำออกไป
 แบ๊งค์สังเกตเห็นว่าที่ตาของพี่อาร์ทมีน้ำตาซึม ๆ อยู่  เหมือนว่าจะใกล้จะไหลเต็มที  แต่ถูกกลั้นไว้อยู่

“พี่อาร์ท  เดี๋ยวก่อน”   แบ๊งค์เรียกพี่อาร์ท  พี่อาร์ทหยุดแต่ไม่หันมา

“พี่อาร์ทร้องไห้หรอ”  แบ๊งค์ถาม

“...ปะ....เปล่าครับ”   พี่อาร์ทตอบเสียงสั่น  แบ๊งค์รีบลุกไปจากเตียง  ตอนนั้นไม่สนเสื้อผ้าอะไรแล้ว  แบ๊งค์ไปยืนอยู่หน้าพี่
อาร์ท   แต่พี่อาร์ทพยายามก้มหน้า  แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  แบ๊งค์ก็ยังคงสังเกตได้ว่าที่แก้มของพี่อาร์ท  มีรอยน้ำตาไหลยาวเป็นทาง

“แบ๊งค์ขอโทษนะครับ”  แบ๊งค์พูดแล้วเอามือไปเช็ดน้ำตาให้พี่อาร์ท  จนพี่อาร์เค้าค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น

“ขอโทษทำไมครับ  แบ๊งค์ไม่ผิดหรอก  พี่ตะหากที่ผิดเอง”  พี่อาร์ทยังคงโทษตัวเอง

“ไม่หรอก  แบ๊งค์เนี่ยแหละที่ผิด  มองข้ามความหวังดีของพี่อาร์ทไป”  แบ๊งค์ยิ้มให้

“แบ๊งค์ไม่โกรธพี่แล้วหรอครับ”  พี่อาร์ทพูดเสียงเบา

“อือ...ไม่โกรธแล้ว”  แบ๊งค์ส่ายหัว

“พี่ว่าแบ๊งค์รีบใส่เสื้อผ้าก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่สบายอีก”  พี่อาร์ททำท่าเป็นห่วงอีกครั้ง

“ไม่ได้หรอก  ยังไม่ได้เช็ดตัวเลย จะใส่เสื้อผ้าได้ไง  พี่อาร์ทเช็ดตัวให้แบ๊งค์ก่อนสิครับ”  แบ๊งค์ตอบออกไป

“จริง ๆ นะครับ “   แบ๊งค์พยักหน้า   ในที่สุดพี่อาร์ท ก็ยิ้มออก  แล้วพี่อาร์ทก็กลับมาเช็ดตัวให้แบ๊งค์อีกครั้ง  พี่อาร์ทค่อย ๆ
บรรจงเช็ดไปที่ละส่วน  รู้สึกแปลก ๆ ดีเหมือนกันนะครับ เกิดมายังไม่เคยมีคนเช็ดตัวให้เลย  รู้สึกว่าพี่อาร์ทเนี่ยจะมอบ
อะไรหลาย ๆ อย่างที่เป็นครั้งแรกให้แบ๊งค์เยอะเหลือเกินนะครับ 

จนในที่สุดมาถึงบริเวณนั้น  พี่อาร์ทมองหน้าแบ๊งค์เหมือนเป็นการขออนุญาต  แล้วแบ๊งค์ก็เลยพยักหน้าเป็นการอนุญาตไป
 พี่อาร์ทค่อย ๆ เช็ด  แล้วเจ้าน้องชายของแบ๊งค์ก็ตืนขึ้นมาทักทาย กับมือของพี่อาร์ทตามธรรมชาติครับ   แบ๊งค์พยายามหลบหน้าไม่กล้ามองพี่หน้าพี่อาร์ทครับ  ตอนนั้นอายมาก (-/////-)  พี่อาร์ทก็เลยหัวเราะหึหึ ออกมาเบา ๆ  จากนั้นพี่อาร์ทก็
ครอบปากลงไป  แบ๊งค์อึ้งเลยครับ

“พี่อาร์ท........ทำแบบนี้จะดีหรอ”  แบ๊งค์ถามไปแบบอึ้ง ๆ

“พี่ขอนะครับ”  พี่อาร์ททำเสียงนุ่ม  ได้ยินเสียงพี่อาร์ทแบบนี้แทบจะละลายไปเลยครับ  มีหรือจะไม่ยอม  แบ๊งค์ก็เลยต้อง
จะยอมให้พี่อาร์ท ครอบปากรูดขึ้น-ลงอยู่แบบนั้น  แบ๊งค์ทนไม่ไหวจนต้องครางออกมาเบา ๆ พี่อาร์ทยังไม่ยอมหยุด  แต่
กลับเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก  ในที่สุดแบ๊งค์ก็ทนไม่ไหวปล่อยน้ำรักออกมาจนเต็มปากพี่อาร์ท  แล้วพี่อาร์ทก็กลืนลงไป

“พี่อาร์ทกลืนไปทำไม  ไม่ดีนะ”  แบ๊งค์รีบร้องขึ้นเมื่อเห็นพี่อาร์ททำแบบนั้น

“คายออกก็เสียดายสิครับ  ยิ่งเป็นของจาตัวน้องแบ๊งค์คนที่พี่รักอีก เสียดายแย่เลย”        พี่อาร์ทพูดยิ้ม ๆ เล่นเอาแบ๊งค์ยิ่ง
อายกันเข้าไปใหญ่เลยครับ  แล้วพี่อาร์ทก็ไปเอาชุดนอนมาใส่ให้แบ๊งค์  จากนั้นพี่เค้าก็ขอตัวไปอาบน้ำ  แบ๊งค์ก็เคลิ้มหลับ
ไป  จนกระทั่งพี่อาร์ทขึ้นมานอนด้วย แบ๊งค์เลยสะดุ้งตื่นอีกที

“พี่ทำน้องแบ๊งค์ตื่นหรอเนี่ย  ขอโทษนะครับ”  พี่อาร์ทพูด

“ไม่เป็นไรหรอก  แบ๊งค์หลับง่ายเดี๋ยวก็หลับแล้ว”  แบ๊งค์บอกไป  ตอนนี้ แบ๊งค์พลิกตัวหันหน้ามาหาพี่อาร์ทแล้ว

“หรอครับ  แต่พี่เป็นคนหลับยาก  ต้องได้นอนกอดแบ๊งค์ก่อนถึงจะหลับได้  มามะให้พี่กอดหน่อยนะครับเด็กดื้อ”  พี่อาร์ทรีบโอบตัวแบ๊งค์ไว้

“แผนสูงนักนะ  นี่ขนาดแบ๊งค์ป่วยอยู่นะเนี่ย”  แบ๊งค์พูดประชดขึ้นบ้าง  พี่อาร์ทเลยหัวเราะออกมา เบา ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูแบ๊งค์

“อยากให้แบ๊งค์ป่วยทุกวันจัง  จะได้เป็นเด็กดีไม่ดื้อกับพี่แบบนี้”  พี่อาร์ทกระซิบเบา ๆ

“ถ้าป่วยขึ้นมาอย่ามีใคร  มานั่งโวยวายที่ห้องพยาบาลแบบวันนี้ละกัน”  แบ๊งค์ประชด

“ปากดีจังนะ  อย่างนี้ต้องโดนทำโทษนะ”  แล้วพี่อาร์ทก็จูบที่หน้าผากจากนั้น ก็ลงมาหอมแก้ม  จากนั้นก็จูบปาก  แบ๊งค์ไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย  ไม่อยากขัดพี่อาร์ทหรอก  แบบนี้ก็รู้สึกอบอุ่นดีเหมือนกันนะ  จากนั้นทั้งแบ๊งค์และพี่อาร์ทก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน  อบอุ่นจังเลย ไม่อยากช่วงเวลานี้ผ่านไปเลยจริง ๆ
*********************
:bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-05-2007 21:53:38
สงสารอาร์ทจัง โดนแบงค์ตะคอกใส่  :monkeysad:   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 03-05-2007 21:54:58
ตอนแรกสงสานอาร์ท แต่พอมาตอนหลังได้...น้องแบ๊งค์ หายขึ้นมาทันที  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 04-05-2007 00:14:13
 :fox2: ม่ายสบายกานเลยเหรอ..
ถ้าพี่อาร์ทติดไข้จากแบ๊งค์ แบ๊งค์จะดูแลดีอย่างงี้ป่าวเนี่ย  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-05-2007 00:19:49
เดี๋ยวก็ติดไข้ ได้ผลัดกันดูแลแน่เรย  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BrOwNiE ที่ 04-05-2007 00:39:59
แหะ ๆ แวะเข้ามาดูตามที่ส่ง PM

ไปแจ้งอ่าคัฟ  ขอบคุณน้อง pajaa มาก ๆ ด้วย

ที่มาโพสให้ที่บอร์ดนี้   ตอนนี้ที่บอร์ดอีกบอร์ดหนึ่ง ( บอร์ดที่ลงเปงที่แรก )

โพสไปจนจบแร้น   อาจจะยาวไปซีกหน่อย

ไงก้อขอให้ทุก ๆ คน ช่วยติดตามหน่อยนะคัฟ

เพราะเปงเรื่องแรกที่แต่ง ( ตั้งแต่เคยไปอ่านของคนอื่น ๆ มา )

แระก้อขอให้ทุก ๆ คน เปงกำลังใจให้ pajaa ในการโพสด้วยนะคัฟ

( มีอะไรติชม  ด่า  ว่า ก้อตามสบายนะคัฟ  ขอโทษไว้ก่อนด้วย  ถ้าแต่งไม่ถุกใจเท่าไหร่ )
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-05-2007 12:40:06
เวลาไม่สบายมีคนที่เรารักมาดูแลนี่มันยาขนานเอกเลยนะ... :impress3:


สงสารพี่อาร์ทตอนโดนตะคอกใส่ไป แต่ก็ดีนะที่แบงค์รู้ตัวแล้วขอโทษ....น่ารักมากคับ :-[


 :call: เพี้ยงง ขอให้ผมสุขภาพแข็งแรง อย่าไม่สบายไปนะ เพราะตอนนี้ม่ะมีคนดูแล เช็ดตัวให้แบบแบงค์ อิอิ  :kikkik:


มาลงต่อเรื่อยๆนะค้าบบบ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 04-05-2007 18:17:54
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 04-05-2007 23:15:47
หวัดดีคับ พี่ BrOwNiE ขอบคุณนะคับ ไว้มาเที่ยวบ่อย ๆนะคับ
************************
บทที่ 14 ปิดเทอม

ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง  ปิดเทอมนั่นเอง ในที่สุดก็ได้พักซะที  จะได้ตื่นสาย ๆ ไม่ต้องไปเรียน  เล่น MSN เล่นเกมดึก ๆ
ได้ สบายจัง   อืม......ลืมบอกไป  ตอนนี้พี่อาร์ทมาอยู่กับแบ๊งค์แล้วนะแต่ไม่ได้มาอยู่ถาวรหรอก  มาอยู่แค่วันศุกร์-เสาร์
เท่านั้น  วันนอกเหนือจากนั้นพี่อาร์ทก็กลับไปอยู่บ้าน  ความจริงแบ๊งค์ไม่เห็นด้วยหรอกที่พี่อาร์ทจะมาอยู่ด้วยกันอ่ะ  แต่
มตินี้พี่นุ่นเป็นคนเปิดไฟเขียวอนุญาต ( ซะงั้น ) พี่อาร์ทเลยมีสิทธิ์มาอยู่ด้วยกันกับแบ๊งค์เต็มที่

วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วของเทอม 1 เฮ้อ~ผ่านไปได้ซะทีกับชีวิตในรั้วมหาลัย   ดูเป็นชีวิตที่มีความสุขจัง  วันนี้มี
เซอร์ไพรส์ด้วย  คือทางบ้านพี่อาร์ทอ่ะ พ่อกะแม่พี่อาร์ทจะไปฮันนีมูนรอบสองกันที่แถวยุโรปนู่น  พี่อาร์ทเค้าไม่อยากไป
ขัดจังหวะความหวานของพ่อแม่ ก็เลยไม่ไป แล้วอยู่ ๆ ก็จะขอย้ายมาอยู่กับแบ๊งค์ในช่วงปิดเทอมซะงั้น  มีเหรอพี่นุ่นจะ
ไม่อนุญาต เพราะเจ้แกจะหนีทิ้งน้องน่ารักคนนี้ไปอีกแล้ว  ป้าแกจะกลับเชียงใหม่ไปเยี่ยมพ่อกับแม่เจ้แกอ่ะ  อีกอย่างแก
คงคิดถึงใครบางคนที่เชียงใหม่ด้วยมั้ง  มีกำหนดการไปตั้ง 2 อาทิตย์แน่ะ ส่วนแบ๊งค์ทำไมไม่ไปน่ะหรอ  แบ๊งค์ยังไม่
อยากกลับอ่ะ  ยังหลงแสงสีของกรุงเทพฯอยู่ ( หุหุ )  อ่ะล้อเล่น  คือแม่แบ๊งค์กับโอโต้ซัง ( พ่อเลี้ยงแบ๊งค์เอง ) เค้า 2 คน
จะกลับบ้านที่นาริตะเหมือนกัน  แบ๊งค์เลยคิดเอาไว้ว่าค่อยกลับไปตอนซัมเมอร์เลยดีกว่าจะได้อยู่ยาวไปเลย  แบ๊งค์ก็เลย
ถูกทิ้งให้อยู่ สองต่อสองกับพี่อาร์ท  จะปลอดภัยมั้ยเนี่ย(- -“)

และแล้วตอนนี้แบ๊งค์ก็อยู่คนเดียว เพราะเจ้เค้ากลับไปแล้ว ส่วนพี่อาร์ทก็จะมาพรุ่งนี้สาย ๆ ไม่มีอะไรทำครับ  เลยทำสิ่งที่เป็นกิจวัตรประจำวัน  เล่น MSN นั่นเอง


badboy_be_sadboy   say:
ไง   เจอกันอีกแล้วนะ

คนแปลกหน้า    say:
อืม  ครับ

badboy_be_sadboy   say:
นายปิดเทอมยังอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ปิดแล้ว   นายล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ปิดแล้วเหมือนกัน

คนแปลกหน้า    say:
ไม่ไปไหนหรอ

badboy_be_sadboy   say:
จะให้ไปเที่ยวไหนล่ะ
 
คนแปลกหน้า    say:
ก้อพวกต่างจังหวัด  อะไรแบบนี้อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ไม่ไปหรอก  เราก็เด็กต่างจังหวัด

badboy_be_sadboy   say:
อยู่จนเบื่อแล้ว

badboy_be_sadboy   say:
ตอนนี้กำลังหลงแสงสี กทม.อยู่

badboy_be_sadboy   say:
อิอิ

คนแปลกหน้า    say:
อ่ะนะ

badboy_be_sadboy   say:
นายล่ะไม่ไปไหนหรอ

คนแปลกหน้า    say:
เราไม่ไปไหนหรอก

คนแปลกหน้า    say:
มีกิจกรรมของมหาลัยนิดหน่อยอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายกับคนนั้นล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
เปนไงบ้าง

คนแปลกหน้า    say:
ก้อเหมือนเดิมอ่ะ  เปนเพื่อนเหมือนเดิม

badboy_be_sadboy   say:
(-“-)  น่าสงสารจัง

คนแปลกหน้า    say:
ไม่เปนไหรหรอก  ให้เปนแบบนี้แหละ

คนแปลกหน้า    say:
เราขออยู่ตรงนี้แหละ  พอใจแล้ว

badboy_be_sadboy   say:
ซึ้งจังน้ำตาจะไหลเลยอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
อ่ะ ครับ

badboy_be_sadboy   say:
ยังไงเราก้อเปนกะลังใจให้นะ

คนแปลกหน้า    say:
ขอบคุณครับ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแบ๊งค์เปนไงบ้าง

คนแปลกหน้า    say:
กับแฟนนายอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
รู้ได้ไงอ่ะ ว่าเรามีแฟน

คนแปลกหน้า    say:
ก้อดูคำพูดแบ๊งค์เหมือนคนมีแฟนไง

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะหรอ

คนแปลกหน้า    say:
อีกอย่างนะ

คนแปลกหน้า    say:
เราเหนรูปแบ็งค์

คนแปลกหน้า    say:
นายออกจะน่ารัก  ไม่มีแฟนก้อเวอร์แล้ว

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะคับ  ขอบคุณคับ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแบ๊งค์มีแฟนจิงป่ะล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
อืม ช่ายมีแร้น

คนแปลกหน้า    say:
รักเค้าคนนั้นให้มาก ๆ นะ

badboy_be_sadboy   say:
อืม ครับ

คนแปลกหน้า    say:
อิดฉานายคนนั้นจัง

badboy_be_sadboy   say:
ทะมายล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ก้อเค้าได้แบ๊งค์เปนแฟนไง

badboy_be_sadboy   say:
5555555555

badboy_be_sadboy   say:
มีแฟนแบบแบ๊งค์โชคร้ายจะตาย

คนแปลกหน้า    say:
ทำไมล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
แบ๊งค์อ่ะทั้งแรด  ร่าน  หน้าด้าน  ตอแหล

badboy_be_sadboy   say:
หุหุ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่เชื่อหรอก  แบ๊งค์โกหกแระ

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะนะ

badboy_be_sadboy   say:
กร้ากกกกกกกกก


คืนนั้นเราคุยกันนานมาก  ไม่รู้สิครับคุยกับนายโต้คนแปลกหน้านี่  สบายใจจัง  เคยคิดนะครับว่านายคนแปลกหน้าคนนี้น่ะ 
เป็นพวกเพื่อน ๆ ของแบ๊งค์ปลอมตัวมา  แบ๊งค์ก็พยายามสืบนะครับ  แต่ไม่มีคนใช้เมลล์นี้เลย  หาจนเกือบครบทั้งคณะละ 
ก็ไม่มีจริง ๆ สงสัยเค้าคนนี้จะเป็นคนแปลกหน้าสมชื่อจริง ๆ  คุยไปคุยมา  มองนาฬิกาครับ  โห......นี่เช้าแล้วหรอ  ยังไม่
ได้นอนเลยนายโต้ก็อึดจริง ๆ ไม่นอนเหมือนกัน  แบ๊งค์เลยรีบลานายโต้ไป จะได้ไปนอนเอาแรง  อีกอย่างตอนที่คุยกัน
นายโต้บอกว่า  เล่นที่ร้านเนทตอนนี้คงเสียเงินไปหลายตังแล้วสิ  พอแบ๊งค์ลาเสร็จแล้ว  ก็รีบนอนเลยครับเดี๋ยวพี่อาร์ทจะมา

หลับมาได้ซักพัก  กริ่งที่หน้าประตูก็ดัง  สงสังจะเป็นพี่อาร์ทแน่ ๆ แล้วก็ใช่จริง ๆ ด้วยครับ หอบข้าวของมาเต็มมืออีกแล้ว

“หอบอะไรมาเยอะแยะครับ”  แบ๊งค์ถาม

“ก็ของกินของใช้นั่นแหละ”  พี่อาร์ทวางของที่ในครัว  โดยที่แบ๊งค์เดินหาวตามไปติด ๆ

“นี่อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้นอน”  พี่อาร์ททำเสียงเข้มแล้ว

“นอนแล้ว พอพี่อาร์ทมาก็ตื่นนี่ไง”  แบ๊งค์พยายามแก้ตัว

“งั้นบอกพี่มาทีสิครับ  ว่าเรานอนตอนกี่โมง  ห้ามโกหกนะ  ถ้าโกหกรู้ใช่มั้ยจะโดนอะไร”  โดนมุกนี้อีกแล้ว พี่อาร์ทเป็นคนที่จับโกหกแบ๊งค์ได้เนียนมากครับ  พอจับได้การทำโทษก็คือการหอมแก้มหลาย ๆ ที จนแก้มช้ำเลยครับ บางครั้งอาจถึงขั้นXXX เลยก็ได้ น่ากลัวจัง

“นอนตอนตี 5 อ่ะ”  แบ๊งค์ตอบตามความจริง เพราะกลัวโดนทำโทษ

“โห......อยู่ได้ไงอ่ะเรา ไม่หลับไม่นอน”  พี่อาร์ทตกใจ

“ไหน ๆ ก็ปิดเทอมแล้วนี่นา  เมื่อตอน ม.6 แบ๊งค์ก็ทำบ่อย ๆ”  แบ๊งค์แย้งขึ้น

“ถึงจะอย่างนั้นก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”  พี่อาร์ทเตือนด้วยความเป็นห่วง  แล้วพี่อาร์ทก็ดันเอวแบ๊งค์กลับเข้าในห้อง
นอน  เพื่อให้พักผ่อนอีกครั้ง  โดยมีพี่อาร์ทนอนอยู่ข้าง ๆ

“แบ๊งค์นอนไม่พอคนเดียว แล้วทำไมพี่อาร์ทต้องมานอนด้วยล่ะ”  แบ๊งค์แกล้งแหย่

“พี่ก็ง่วงเหมือนกันนี่ครับ  ขอพี่นอนด้วยนะครับ”  แล้วเราทั้งคู่ก็หลับไปด้วยกันครับ  แบ๊งค์ตื่นมาตอน บ่ายสองกว่า ๆ แต่พี่
อาร์ทไม่อยู่ข้าง ๆ ครับ เลยเดินออกมาดู  พี่อาร์ทกำลังนั่งเล่นเกม playstation ที่เอาติดตัวมาจากบ้านครับ

“ตื่นแล้วหรอเด็กดื้อ”  พี่อาร์ททักขึ้น

“อืม ครับพี่อาร์ททานอะไรไปรึยังครับ”  แบ๊งค์ถาม

“ก็มีขนมนิดหน่อยอ่ะครับ  ตอนนี้ก็หิว ๆ  แล้ว”  พี่อาร์ทเอามือลูบท้อง

“เดี๋ยวเราออกไปหาอะทานกันนะครับ”  พี่อาร์ทถาม ตอนแรกแบ๊งค์กะว่าจะปฏิเสธ  แต่แล้วก็นึกอะไรดี ๆ ขึ้นได้

“ได้ครับ  แต่พี่อาร์ทต้องไปตามใจแบ๊งค์นะ”  แบ๊งค์ยิ้มแบบมีเสศนัย

“ได้ครับ  พี่ตามใจแบ๊งค์อยู่แล้ว”  พี่อาร์ทรับคำ  จากนั้นแบ๊งค์ก็ไปอาบน้ำแต่งตัว  แล้วเราก็ออกไปหาอะไรทานกันครับ
แบ๊งค์ให้พี่อาร์ทไปที่เยาวราชครับ  พี่อาร์ททำหน้างง  แต่ก็ยอมไปโดยดี นี่แหละครับสิ่งดี ๆ ที่แบ๊งค์นึกขึ้นได้  แบ๊งค์
อยากให้พี่อาร์ทได้ลองทานอาหารพื้น ๆ บ้าง เห็นทานแต่อาหารหรู ๆ แบ๊งค์อธิบายให้พี่อาร์ฟังถึงเหตุผลครับ  พี่อาร์ทก็
เข้าใจแล้วก็ยิ้ม ๆ  ในความคิดของแบ๊งค์  เราจอดรถทิ้งไว้ครับ  แล้วตระเวนเดินหาของทานกัน  ไปนั่งทานผัดหมี่  รังนก
อร่อยมากเลยครับ  ดูพี่อาร์ทเองก็มีความสุขมากเลยครับ  ไม่ได้รังเกียจอาหารข้างถนน ( ก็ของเค้าอร่อยนี่นา )  แล้วเรา
ก็ซื้อเกาลัดมานั่งทานกันครับ  ป้อนกันไปป้อนกันมา ตอนนี้ไม่ค่อยจะสนใจสายตาใครแล้ว

“พี่อาร์ทนั่งรอแบ๊งค์ที่ตรงนี้แปปนึงนะครับ”  แบ๊งค์บอกพี่อาร์ท

“แบ๊งค์จะไปไหนหรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

“รอเถอะครับ  เดี๋ยวแบ๊งค์มา”  แล้วแบ๊งค์ก็วิ่งหนีหายไปพักใหญ่ โดยกลับมาพร้อมถุงยา “แบ๊งค์เป็นอะไรรึเปล่า  ซื้อยา
มาทำไมครับ”  พี่อาร์ทถาม

“เปล่าหรอกครับ ของพี่อาร์ทตะหาก”  แบ๊งค์ยื่นถุงยาให้พี่อาร์ท

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ทานยาทำไมครับ”  พี่อาร์ทยังคง งง ๆ

 “ตอนนี้ยังปกติ  แต่เดี๋ยวอาจมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้  แบ๊งค์รู้นะครับว่าพี่อาร์ทไม่เคยมาทานอาหารในที่แบบนี้  ทานยาไว้ก่อน
เถอะครับ  เดี๋ยวท้องเสียขึ้นมามันจะไม่คุ้มนะครับ”  แบ๊งค์เลยยื่นถุงยาไปให้พี่อาร์ท  พี่อาร์ทก็รับไปแล้วทานเข้าไป

“พี่ดีใจนะครับ  ที่แบ๊งค์เป็นห่วงพี่ขนาดนี้”  พี่อาร์ทยิ้มให้แบ๊งค์  เป็นยิ้มที่ดูอบอุ่นจัง

“ป่ะ......แล้วเราจะกลับคอนโดได้รึยังครับ”  พี่อาร์ทถาม

“จะรีบกลับไปไหนครับพี่อาร์ท  คืนนี้ยังอีกยาวนานนะรู้มั้ย”  พี่อาร์ททำหน้างงเมื่อได้ยินที่แบ๊งค์พูด

“แล้วจะไปไหนต่อล่ะครับ”  พี่อาร์ทถาม

“ไปตามที่แบ๊งค์บอกก็พอครับ”  แบ๊งค์ยิ้มแบบมีเลศนัยตามเคย
**********************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 04-05-2007 23:30:12
"ไปตามที่แบ๊งค์บอกก็พอครับ”  แบ๊งค์ยิ้มแบบมีเลศนัยตามเคย

 :o9: ที่ไหนหว่า?? น่าจาบอกว่า"ไปตามที่หัวใจแบ๊งค์บอกก็พอ" มากว่านะ ฮ่าๆๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-05-2007 10:32:58
เหอ เหอ ไปเดทกันที่เยาวราช น่าอิจฉาเนอะ  :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-05-2007 14:05:58
ไปไหนหวาาาา

หรือจะไป ...

 :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-05-2007 14:43:21
แล้วเค้าจาไปไหนกัน :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 05-05-2007 20:51:05
 :o11:
**********************
บทที่ 15 อยู่ด้วยกันแล้วนะ


แล้วแบ๊งค์ก็พาพี่อาร์ทมาเดินที่สะพานพุทธ  ตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้ว  แบ๊งค์เลยบอกให้พี่อาร์ทพยายามระวังกระเป๋าสตางค์ไว้

“น้องแบ๊งค์พาพี่มาที่ทำไมหรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

“ไม่รู้สิครับ  แบ๊งค์อยากมาเดิน  อยากให้พี่อาร์ทได้เห็นบ้างว่าแบ๊งค์ ชอบอะไรยังไง ก็เหมือนกับที่พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไป
ทานข้าวในร้านหรู ๆ เพื่อรู้จักสังคมของพี่อาร์ทนั่นแหละครับ”  แบ๊งค์พูดแล้วก็จูงมือพี่อาร์ทไปดูของแต่งบ้านที่วาง
ขายอยู่  พอรู้สึกตัวอีกทีแบ๊งค์ก็จับมือพี่อาร์ไปแล้ว  แบ๊งค์เลยรีบปล่อยมือ

“ปล่อยมือทำไมครับ  รังเกียจพี่หรอ”  พี่อาร์ททำท่างอน ๆ

“ไม่หรอก  เดี๋ยวฟ้าผ่าน่ะ”  แบ๊งค์หยอกเล่น

“ผ่าก็ผ่าสิ  จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปไง”  พี่อาร์ทพูด   แล้วก็คว้ามือแบ๊งค์ไปจับไว้เหมือนเดิม   แล้วคืนนั้นเราก้จับมือกัน
เดินสะพานพุทธทั้งคืน  ที่นี่มีของมากมายเลยครับ ของ

เก่า ๆ  สวย ๆ ก็เยอะ  บางอย่างก็ต้องดูดี ๆ ครับ แบ๊งค์ชอบไปดุเสื้อยืดครับ  ชอบที่มีลายสกรีนสวย ๆ  แล้วก็ไปเจอตัว
หนึ่งเป็นลายสกรีนธรรมดานี่แหละครับ แบ๊งค์เห็นว่าลายน่ารักดี  ก็เลยซื้อให้พี่อาร์ทไป  พี่อาร์ทคงคิดนะว่าจะเหมาะกับ
เค้ารึเปล่า  แต่ก็ช่างเหอะซื้อให้แล้วนี่นา  ตอนแรกพี่อาร์ทจะออกเงินให้อีกแล้วครับ แต่พอเห็นแบ๊งค์ทำหน้าไม่พอใจ  ก็
เลยยอมให้แบ๊งค์จ่ายเอง

แล้วแบ๊งค์ก็เดินไปเจอร้านขายพวกสร้อยข้อ  สร้อยข้อเท้าอ่ะครับ  เป็นเชือกถัก ๆ มาเป็นสร้อยติดกระดิ่ง  ความจริงของ
แบบนี้แบ๊งค์เคยมีนะครับ  ใส่ไปโรงเรียนตลอด  พักหลัง ๆ ไม่ได้ใส่แล้วครับก็เลยทิ้งไว้ที่เชียงใหม่  แบ๊งค์เลยซื้อสร้อย
ข้อมือให้พี่อาร์ทไป 3 เส้น เลือกแต่เส้นที่มีกระดิ่งนะครับ แต่เอาที่มันไม่ดังมาก  เดี๋ยวจะไปรำคาญคนอื่น
ที่สะพานพุทธนี่  มีของที่รับมาจากเชียงใหม่เยอะเลยครับ  แต่ราคาสูงกว่าเชียงใหม่มาก แล้วแบ๊งค์ก็ไปเจอตุ๊กตาเชือก
อ่ะคับ  เป็นตุ๊กตาที่เค้าใช้ลวงเป็นแกน แล้วเอาเชือกมาพัน ๆ จนกลายเป็นรูปคน ( เหมือนตุ๊กตาวูดู ) มีอันกหนึ่งเป็นรูป
นักมวย  เห็นว่าน่ารักดีครับเลยซื้อเอาให้พี่อาร์ทใส่เป็นพวงกุญแจรถ  ส่วนแบ๊งค์ก็เลือกอันที่เป็นเงาะป่า เอาไว้ใส่กุญแจ
บ้าน  ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วครับ  ได้ของมาก็เยอะแล้ว  แบ๊งค์เลยบอกให้พี่อาร์ทพากลับคอนโด  แล้วแบ๊งค์ก็หลับไปในรถ

“แบ๊งค์ครับ  ถึงแล้วครับ”  พี่อาร์ทปลุก

“อือ.....อ้าวที่นี่ไม่ใช่คอนโดนี่นา”  ครับไม่ใช่ที่คอนโด  แต่เป็นถนนอักษะนั่นเอง  ที่นี่ยังคงสวยงามเหมือนเดิม  ดูอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่อเลย

“พี่อาร์ททำไมมาไกลจังครับ  คอนโดแบ๊งค์อยู่รังสิตนะ ส่วนที่นี่ก็พุทธมณฑล  ถึงแบ๊งค์จะเป็นเด็กเชียงใหม่  แบ๊งค์ก็รู้นะ
ครับว่ามันไกลกันมาก”  แบ๊งค์โวยนิด ๆ

“ทีน้องแบ๊งค์ยังพาพี่ไป  ตั้งหลายที่ ถือว่าชดเชยกันนะครับ”  พี่อาร์ทแย้งคืน

“อีกอย่างถนนสายนี้........น้องแบ๊งค์จำได้มั้ยครับ  ที่พี่มาบอกรักน้องแบ๊งค์ครั้งแรก”  พี่อาร์ทยิ้มอย่างมีความสุข

“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะครับ  จำได้ดีเลยด้วย”  แบ๊งค์ยิ้มบ้าง

“พี่รักน้องแบ๊งค์นะครับ  รักมากด้วย  เป็นของพี่ตลอดไปนะ”

“ครับ”   แล้วพี่อาร์ทก็ก้มลงจูบหน้าผากแบ๊งค์  จากนั้นก็เลื่อนลงมาจูบปาก  ช่างเป็นการจูบที่โรแมนติกจัง  แสงไปสีส้ม
ของถนนอักษะ  ที่มีทิวทัศน์สวยงาม  กับคนรสจูบของคนที่เรารัก  มีความสุขอะไรอย่างนี้เนี่ย

แล้วเราก็ขับรถเล่นซักพัก ก่อนจะกลับไปยังคอนโด พอไปถึงง่วงมากเลยครับ  แต่ยังไม่อยากซกมก  เลยขอตัวพี่อาร์ทไป
อาบน้ำ  แต่พี่อาร์ทไม่ยอม  ผลสุดท้ายก็ต้องไปอาบด้วยกัน  นั่นแหละครับ  แล้วแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็XXXกันในห้องน้ำไป
ซะ 1 รอบ  ตื่นเลยครับจากที่กำลังง่วง ๆ อยู่ พออาบน้ำ  แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเราก็ล้มตัวลงนอนบนที่นอนเลยครับ วันนี้
ไปมาซะทั่วกรุงเทพฯเลย  อยู่ ๆ พี่อาร์ทก็ขึ้นคร่อมแบ๊งค์อีกแล้วครับ

“พี่อาร์ท  ไม่เอาแล้วนะ  แบ๊งค์ง่วงแล้ว”  แบ๊งค์รู้จุดประสงค์เลยพูดออกไป

“นะครับ   อีกซักหน่อยนะ  โอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันมีไม่มากนะครับ  ยิ่งพี่นุ่นไม่อยู่ด้วย  หาโอกาสแบบนี้ยากนะครับ ขอพี่
เหอะนะ เด็กดื้อ”   พี่อาร์ททำเสียงอ้อน
 มีหรือครับที่แบ๊งค์จะไม่หลงเสน่ห์ขี้อ้อนแบบนี้  ก็เลยต้องยอม ๆ ไป แล้วเราก็XXXกันอีกรอบจนได้  พอเสร็จภารกิจกัน
แล้ว เราทั้งสองก็หลับไปด้วยความเหนื่อย

ผ่านมาแล้วครับคืนแรก  ของการที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง  เหนื่อยมากเลยครับ ตื่นมาอีกที  10 โมงกว่าแล้ว  พี่อาร์ท
ไม่ได้อยู่ในห้องครับ คงออกไปหาอะไรกิน  หรือไม่ก็เล่นเกมอยู่มั้ง  แบ๊งค์ไม่ได้สนใจครับก็เลย  ไปอาบน้ำแต่งตัวให้
เรียบร้อย  แล้วจึงออกมาจากห้อง

“ออกมาแล้วหรอ  มาช่วยกันเร็ว”  พี่อาร์ทอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน  กำลังทำอาหารเช้า อึ้งดิครับ  พี่อาร์ทออกมาทำอาหารเช้า

“พี่อาร์ททำเป็นด้วยหรอครับ.........ไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย”  แบ๊งค์แกล้งแซวออกไป

“งั้นน้องแบ๊งค์ไม่ต้องทานก็ได้นะครับ ไม่เป็นไร”  พี่อาร์ททำหน้าจ๋อย  พอแบ๊งค์เห็นแบบนั้น แบ๊งค์ก็เลยรู้สึกผิด

“ล้อเล่นน่า   อะไรที่พี่อาร์ททำแบ๊งค์ทานหมดแหละ”  แบ๊งค์ทำหน้าอ้อน ๆ

“แต่แบ๊งค์มาช่วยพี่ทำหน่อย ก็จะดีนะครับ พี่ว่าถ้าให้พี่ทำคนเดียว เดี๋ยวทานไม่ได้  จะเสียของเปล่า ๆ “  พี่อาร์ทส่งสายตาวิงวอนมา

“อืมค้าบ  ก็ได้ ๆ”   แล้วแบ๊งค์ก็ช่วยพี่อาร์ทำ  อาหารเช้าวันนั้นไม่ได้พิเศษอะไรมากมายหรอกคับ  ก็เป็นแค่ข้าวต้มไก่
ธรรมดา  อาจไม่ได้อร่อยเท่าไร  แต่ทานเข้าไปก็มีความสุขครับ

“วันนี้แบ๊งค์อยากไปไหนมั้ยครับ”  พี่อาร์ทถาม

“ไม่หรอกครับ  เมื่อคืนไปมาแล้ว  วันนี้พักบ้างนะ”  แบ๊งค์บอกออกไป

“ก็ได้ครับ  แต่แบ๊งค์ต้องอยู่ข้าง ๆ พี่นะครับ”  พี่อาร์ทอ้อน  เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าพี่อาร์ทเค้าเป็นอะไรครับ  ชอบอ้อนจังเลย 
แบ๊งค์ก็ต้องใจอ่อนตามพี่เค้าไป  วันนี้เราไม่ได้ไปไหนครับ  พี่อาร์ทก็เลยเอาแต่นั่งเล่นเกม  โดยที่แบ๊งค์ต้องนั่งอยู่ข้าง ๆ
 บางเกมแบ๊งค์ก็โดนพี่อาร์ทบังคับให้เล่นด้วย  ก็สนุกดีครับ  แต่แบ๊งค์รู้สึกเพลีย ๆ มากกว่า ไม่รู้ว่าเพลียเพราะไปเดิน
เที่ยว หรือว่าเพลียเพราะโดนXXXกันแน่ ( หุหุ ) ง่วงมากเลยครับก็เลยนอนไป  โดยหนุนตักพี่อาร์ท  ก่อนจะเคลิ้มหลับไป
แบ๊งค์ก็มองหน้าพี่อาร์ทแบบว่าจะขออนุญาตอ่ะครับ  เรามองหน้ากัน  พี่อาร์ทยิ้มให้แบ๊งค์ รู้สึกมีความสุขจังเลยครับ  ไม่
อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเลย  แล้วแบ๊งค์ก็หลับไป

“แบ๊งค์....แบ๊งค์....ตื่นได้แล้วครับ”  พี่อาร์ทปลุกครับ

“อือ.....มีอะไรหรอครับ”  แบ๊งค์ลุกขึ้นมาแบบงัวเงีย

“ไปทานข้าวกันครับ”  พี่อาร์ทจะพาแบ๊งค์ไปทานอาหารกันครับ

“ไปข้างนอกอีกแล้วหรอ  เปลืองเงินนะครับ”  แบ๊งค์แย้งขึ้นมา

“อย่าดื้อสิครับ  ไปทานข้างนอกกันเถอะครับ”  แล้วพี่อาร์ทก็อุ้มแบ๊งค์ขึ้น

“พี่อาร์ท!!!!!จะทำอะไรน่ะครับ”  แบ๊งค์ตกใจ

“ก็พี่ว่าน้องแบ๊งค์ต้องไม่ยอมไปดี ๆ แน่พี่อุ้มไปดีกว่า”  แล้วพี่อาร์ทก็พาแบ๊งค์เข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนชุด  พี่อาร์ท
เลือกชุดให้แบ๊งค์อีกแล้วครับ  รู้สึกว่าตอนนี้แบ๊งค์เหมือนเด็กอนุบาลเลยครับ  ต้องมีคนจัดชุดให้คอยแต่งตัวให้

“มาครับ  เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้”  พี่อาร์ททำท่าจะแต่งตัวให้

“ไม่นะพี่อาร์ท  แบ๊งค์โตแล้วไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”   แบ๊งค์รีบปฏิเสธ

“ไม่นะครับ  อย่าดื้อสิ  เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้”  แล้วพี่อาร์ทก็พยายามจะจับแบ๊งค์แต่งตัวให้ได้  แบ๊งค์ก็เลยพยายามวิ่งหนี  เรา
สองคนเลยได้เล่นวิ่งไล่จับกันในห้องนอน  แบ๊งค์พยายามจะวิ่งไปที่ประตู  แต่พี่อาร์ทมาขวางเอาไว้เลยไปไม่ได้  ในที่สุด
แบ๊งค์ก็หมดแรง  ต้องยอมให้พี่อาร์ทแต่งตัวให้

วันนี้พี่อาร์ทพาแบ๊งค์มาทานอาหารญี่ปุ่นในห้างครับ  แบ๊งค์ไม่ค่อยอยากมาหรอกครับ  เพราะว่าแบ๊งค์ไม่ค่อยชอบ สถาน
ที่ที่มีคนพลุกพล่าน  มันดูไม่เป็นส่วนตัว  อีกอย่างเดี๋ยวมีคนเห็นเราสองคน  จะพาลไม่ดีต่อชื่อเสียงของพี่อาร์ท  แต่ก็ต้อง
จำใจยอมมาเพราะ พี่อาร์ทบังคับ

“แบ๊งค์จะทานอะไรดีครับ”  พี่อาร์ทถาม

“อะ..อะไรก็ได้ครับ”  แบ๊งค์ตอบในขณะที่เอาเมนูบังหน้าตัวเองอยู่

“เป็นอะไรรึเปล่าแบ๊งค์  ทำไมก้มหน้าก้มตาแบบนั้น”  พี่อาร์ทเริ่มสงสัย

“เปล่าครับ”  แบ๊งค์ค่อย ๆ โผล่หน้าออกมา แล้วสั่งอาหาร  เมื่อพนักงานเสิร์ฟรับรายการอาหารไป แบ๊งค์ก็ยิ่งทำท่าลุกลี้
ลุกลนใหญ่  มองซ้ายทีมองขวาที  พออาหารมาเสิร์ฟแบ๊งค์ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน  ไม่พูดไม่จา

“แบ๊งค์!!!!!ถ้ามากับพี่แล้วไม่มีความสุขก็บอกพี่ได้นะครับ  ไม่ใช่มาทำอะไรแบบนี้” พี่อาร์ท วางตะเกียบ แล้วตะคอก
แบ๊งค์  ทำเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ

“เป็นอะไรกันนักหนา กลัวใครเห็นขนาดนั้นเลยหรอครับ  ถ้าเป็นแบบนี้ทีหลังไม่ต้องมาก็ได้นะ  พี่ไม่ได้บังคับ”  พี่อาร์ทดู
โกรธมากเลยครับ

“...........................”  แบ๊งค์รู้สึกผิดครับ  แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกว่า มีน้ำใส ๆ กำลังจะไหลออกมาจากดวงตา  แบ๊งค์
พยายามกลั้นมันครับ  แต่ตอนนี้แบ๊งค์ก้มหน้าอยู่  น้ำตามันก็เลยไหลตามแรงโน้มถ่วงลงไปหยดแหมะอยู่บนตัก  แต่พี่
อาร์ทไม่เห็นนะครับ

“ถ้ามากับพี่แล้วมันน่าอายมากก็บอกมาเลยดีกว่า  อย่าเงียบอยู่แบบนี้”  พี่อาร์ทยังคงตะคอกต่อไป  โดยที่แบ๊งค์ก้มหน้าอยู่

“เงยหน้ามาพูดกับพี่สิครับ  ไม่ใช่มานั่งเงียบแบบนี้”  พี่อาร์ททำเสียงดุ 

“แบ๊งค์.....แบ๊งค์.....เป็นอะไรไปน่ะ”  พี่อาร์ทเริ่มพูดเสียงเบาลง

“ปะ .....เปล่า..ค...ครับ”  แบ๊งค์ตอบเสียงสั่นเพราะตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่

“แบ๊งค์.......พี่....พี่ขอโทษนะครับ”  แล้วพี่อาร์ทก็มานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  แล้วใช้นิ้วมือของพี่เค้า ค่อย ๆ เช็ดคราบน้ำตา

“แบ๊งค์ขอโทษนะครับ  ที่ทำให้พี่อาร์ทไม่สบายใจ”  แบ๊งค์เงยหน้าขึ้นพูด และร้องไห้ไปด้วย

“แบ๊งค์แค่กลัวว่า  ถ้ามีคนเห็นเค้าจะเอาไปพูดถึงพี่อาร์ทในด้านที่ไม่ดี ก็เท่านั้นเองครับ”  แบ๊งค์อธิบายเสียงสั่น

“ช่างคนพวกนั้นเถอะครับ  แค่พี่มีแบ๊งค์ที่เข้าใจพี่คนเดียว  พี่ก็ไม่สนคำพูด  หรือสายตาใคร ๆ แล้วครับ”  พอพี่อาร์ทพูด
เสร็จ  ก็ก้มหัวลงมาจูบที่หน้าผากของแบ๊งค์  แล้วพี่อาร์ทก็นั่งข้าง ๆ แบ๊งค์โดยไม่ย้ายกลับที่เดิม  แต่แบ๊งค์ก็ยังคงไม่พูด
ไม่จา  พี่อาร์ทเลยทำท่าจะป้อนแบ๊งค์ 

“ไม่เอานะครับ”  แบ๊งค์ส่ายหน้า

“เอาเหอะน่า  พี่อุตสาห์ป้อนแล้วนะ  จะไม่กินหรอ”  พี่อาร์ททำท่าเสียใจ

“ก็ได้ครับ”  แล้วแบ๊งค์ก็ต้องยอมให้พี่อาร์ทป้อน

“อย่างนี้สิครับ  เด็กดื้อของพี่อาร์ท”  พอพี่อาร์ทพูดเสร็จ  ก็หอมแก้มแบ๊งค์ไปหนึ่งฟอด

“พี่อาร์ท !!!!”   แบ๊งค์ตกใจมาก

“ฮะฮะฮะ  หน้าแบ๊งค์ตอนตกใจตลกดีจัง”  พี่อาร์ทพูดไปหัวเราะไป  แล้วแบ๊งค์ก็เริ่มยิ้มออก  ด้วยความอาย

“รู้มั้ย  แบ๊งค์ตอนยิ้มอ่ะ  น่ารักกว่าตอนร้องไห้อีก”  พี่อาร์ทก้มลงมากระซิบที่ข้างหู แล้วก็หอมแก้มแบ๊งค์ไปอีกที

“พี่อาร์ท  พอแล้วครับหอมมาก ๆ เดี๋ยวแก้มได้ช้ำกันพอดี”  แบ๊งค์เอียงตัวหลบ

“ก็ได้ครับ  แต่แบ๊งค์ต้องเป็นเด็กดี ห้ามดื้อ  ห้ามขี้แยนะ”  พี่อาร์ทสั่ง

“ครับ  ก็ได้”  แบ๊งค์ตอบออกไป  แล้วเราก็นั่งทานอาหารญี่ปุ่นกันต่อ  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มไม่เกร็ง  หรือกลัวสายตาแล้วครับ
พยายามทำตัวให้เหมือนพี่อาร์ท   ในเมื่อพี่อาร์ทยังไม่กลัว  และพร้อมที่จะยอมรับในตัวเรา  แล้วทำไมเราต้องกลัวด้วย 
พอคิดได้แบบนั้น แบ๊งค์ก็เริ่มที่จะกล้าขึ้นมาแล้วครับ 

ช่วงนี้แบ๊งค์ไม่ค่อยได้ออน  MSN เลยครับ  เอาเวลาไปอยู่กับพี่อาร์ทซะส่วนใหญ่  เราไปเที่ยวด้วยกันตลอด  วันไหนถ้า
ไม่ได้เที่ยวก็นั่งเล่นเกมอยู่ที่คอนโดด้วยกัน  บางครั้งพี่อาร์ทก็XXXกับแบ๊งค์แบบไม่ได้ตั้งตัว   ทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาได้
มาวนเวียนอยู่หน้าคอมฯ อย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก  ตอนนี้ก็ผ่านมาได้อาทิตย์กว่า ๆ แล้วที่แบ๊งค์กับพี่อาร์ทอยู่ด้วยกัน
แล้วแบ๊งค์ก็ไม่ได้ออน MSN มาอาทิตย์กว่า ๆ เช่นกัน  คนในนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ  แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียง Message ดังขึ้น


หายไปนานเลยนะ
ทำอะไรอยู่หรอ
คิดถึงนะรู้มั้ยย


Message จากนายโต้คนแปลกหน้าครับ  แบ๊งค์ไม่ได้คุยกับเค้ามาอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว  ไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นยังไงบ้าง  ตอน
นี้พี่อาร์ทก็กำลังสนุกอยู่กับเกม  แบ๊งค์เลยจะออน MSN ครับ

“พี่อาร์ท  แบ๊งค์จะเล่น MSN นะครับ”  แบ๊งค์พูดออกไป

“ก็เล่นไปสิครับ  มาขอพี่ทำไม  พี่ไม่ได้ห้ามนี่ครับ”  พี่อาร์ทพูดแบบงง ๆ   

“ก็แบ๊งค์กลัวพี่อาร์ทหึงนี่ครับ  ที่ไปคุยกับคนอื่น”  แบ๊งค์แย้งไป

“ไม่หรอกครับ  เค้าทำได้ก็แค่คุย  แต่พี่ได้ทำมากกว่านั้น”  พี่อาร์ททำสายตาเจ้าเลห์

“พี่อาร์ทอ่ะ บ้า  ลามก”  แบ๊งค์เดินสะบัดหน้าเข้าไปในห้อง  โดยที่มีพี่อาร์ทนั่งหัวเราะอยู่

พอแบ๊งค์เปิดคอมฯได้ ก็รีบออน MSN เลยครับ  มี e-mail ใหม่มาด้วย  เป็น e-mail  จากเพื่อน ๆ ที่เชียงใหม่อ่ะครับ 
เค้าไปเที่ยวกัน  เลยส่งรูปมาให้ดู  น่าสนุกจังเลยไปเที่ยวแบบผจญภัยในป่ากันแบบนั้น  แล้วก็เสียงคน  Sign In ครับ 
นายโต้นั่นเอง   แบ๊งค์เลยรีบทักไป


badboy_be_sadboy   say:
ไง

คนแปลกหน้า    say:
อืมก้อดีครับ

คนแปลกหน้า    say:
หายไปนานเลยนะ

คนแปลกหน้า    say:
อืม

badboy_be_sadboy   say:
เปนไรป่าว ท่าทางเงียบๆ

คนแปลกหน้า    say:
อึ้งอยู่อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
อึ้งอะไรหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ก้อแบ๊งค์มาทักเราไง

badboy_be_sadboy   say:
น่าแปลกตรงไหน  เราดูหยิ่งขนาดนั้นหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ป่าว ๆ  เราแค่คิดว่าแบ๊งค์อาจยุ่ง ๆ อยู่

คนแปลกหน้า    say:
ไม่มีเวลาทักเราหรอก  ประมาณนี้อ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
เราไม่ยุ่งหรอก  ปิดเทอมแล้วนะ

badboy_be_sadboy   say:
นายล่ะ  กิจิรรมมหาลัยอ่ะเป็นไงบ้าง

คนแปลกหน้า    say:
ก้อไปซ้อมทุกวันอ่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ไปซ้อม?

badboy_be_sadboy   say:
นายเปนนักกีฬาหรอ

................................................................( โต้เงียบไป )

badboy_be_sadboy   say:
นี่ ๆ เปนไรป่าว  ตอบดิ

คนแปลกหน้า    say:
อืมครับ  เราเปนนักกีฬา

badboy_be_sadboy   say:
เล่นกีฬาอะไรล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ว่ายน้ำอ่ะครับ

badboy_be_sadboy   say:
หรอ........นึกว่านายเล่นบาสซะอีก

คนแปลกหน้า    say:
ทำไมหรอ แฟนแบ๊งค์เล่นบาสหรอ

badboy_be_sadboy   say:
อืมช่าย  ทั้งเพื่อนทั้งแฟนเลย

คนแปลกหน้า    say:
อืมครับ

คนแปลกหน้า    say:
แบ๊งค์เปนไงบ้างหรอครับ

badboy_be_sadboy   say:
อะไรหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ก้อช่วงนี้อ่ะเป็นไงบ้าง

badboy_be_sadboy   say:
ก็สบายดีอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
คงมีความสุขอ่ะดิ

badboy_be_sadboy   say:
ช่ายมีความสุขมาก ๆ เลย

คนแปลกหน้า    say:
อยู่กับแฟนหรอ

badboy_be_sadboy   say:
อืม  รู้ได้ไงอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ก้อลองทายดูไง

คนแปลกหน้า    say:
มีความสุขก็ต้องอยู่กับแฟนดิ

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะนะ บางคนอยู่กับแฟนแล้วไม่มีความสุขก้อมีนะ

คนแปลกหน้า    say:
คน ๆ นั้นคงไม่ใช่แบ๊งค์กับแฟนหรอก

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะนะ   ทะมายคิดงั้นล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
เราว่าแบ๊งค์เปนคนที่มีเสน่ห์  ใครอยู่ด้วยไม่มีทางเบื่อหรอก

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแฟนแบ๊งค์อ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
แบ๊งค์ก้อต้องเลือกคนที่ทำให้แบ๊งค์มีความสุขอยู่แล้ว

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะนะ  แบ๊งค์เนี่ยนะมีเสน่ห์

badboy_be_sadboy   say:
กร้ากกกกกกกกกกกกก

คนแปลกหน้า    say:
จริง ๆ นะ
   

แล้วแบ๊งค์กับนายโต้ก็คุยกันจนเพลิน  แบ๊งค์มองดูนาฬิกาอีกที  2 ทุ่มแล้ว  พี่อาร์ทจะหิวอะไรมั้ยเนี่ย  แบ๊งค์เลยรีบลานาย
โต้ แล้วไปหาพี่อาร์ท

“เสร็จแล้วหรอครับ  ป่ะไปทานข้าวกัน”  พี่อาร์ทชวน

“พี่อาร์ททำไมไม่เรียกแบ๊งค์ล่ะครับ  นั่งหิวอยู่ได้”  แบ๊งค์ถามไป

“ไม่ได้หิวซะหน่อย  พี่เพิ่งเล่นเกมเสร็จครับ  อีกอย่างพี่ไม่อยากกวนแบ๊งค์”  พี่อาร์ทแก้ตัว

“กวนอะไรกันล่ะ  เป็นแฟนกัน  ไม่มีคำว่ารบกวนหรอก  นี่...แล้วที่บอกว่าไม่หิวอ่ะไม่เชื่อหรอกนะ  ถ้าวันไหนเป็นโรค
กระเพาะขึ้นมาไม่ต้องมาอ้อนแบ๊งค์นะ”  แบ๊งค์ดุไป

“โห......ไปทานอะไรมาเนี่ยวันนี้เด็กดื้อของพี่  ดุจังเลย”  พี่อาร์ทแซว

“ป่ะไปทานข้าวกันได้แล้ว  เดี๋ยวจะมีคนมาว่า”  แบ๊งค์พูด

“ว่า....ว่าอะไรหรอครับ”  พี่อาร์ทงง

“ก็มาว่า  ว่าแบ๊งค์เอพี่อาร์ทมาแล้วเลี้ยงไม่ดีอะดิ”  แบ๊งค์ตอบไป

“คร้าบบบบบบ  นายเด็กดื้อ”   พี่อาร์ททำเสียงยาว  แล้วเราก็ไปทานอาหารตามสั่งกันที่  ชั้นล่างของคอนโดครับ  แบ๊งค์สั่ง
ผัดกระเพราไป  ส่วนพี่อารืทขอข้าวผัดปูธรรมดา

“พี่อาร์ท  ทานได้แน่ ๆ นะครับอาหารง่าย ๆ แบบนี้”   แบ๊งค์ถามไปแบบหวั่น ๆ

“ได้สิครับ  อาหารแบบนี้ก็อร่อยดีออก  ถึงมันจะเป็นแค่อาหารพื้น ๆ แต่ได้มาทานกับคนที่พี่รักที่สุด อาหารเลิสหรูแค่ไหน
ก็สู้ไม่ได้หรอกครับ”   พี่อาร์ทพูด  เล่นเอาแบ๊งค์อายหน้าแดงไปเลยครับ  คนอะไรก้ไม่รู้โรแมนติกได้ไม่เลือกที่เลือก
เวลา  แล้วเราก็ทานข้าวกันครับ  อาจไม่ใช่อาหารในร้านหรู  แต่แบ๊งค์รู้สึกว่ามื้อนี้  เป็นมื้อที่อร่อย และพิเศษอีกมื้อหนึ่งเลยครับ

แล้วเราก็อยู่กันแบบนี้แหละครับ  ไปทานอาหารข้างนอกกันบ้าง  ทำทานเองบ้าง  ไปซื้ออาหารพื้น ๆ ง่าย ๆ มาทานกัน
บ้าง  ถึงจะเป็นแบบนั้น  แต่แบ๊งค์ก็คิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขนะครับ  เราได้ทำอะไรด้วยกันหลาย ๆ อย่างสอง
คน   มันเป็นช่วงเวลา 2 อาทิตย์ที่มีความสุขจริง ๆ เลยครับ 
**************************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 05-05-2007 22:42:21
แหม... ท่าทางมีความสุขกันจังเลย  :like6:
คนโพสสู้ๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-05-2007 15:09:02
สองตอนนี้ ความสุขของแบงค์ล้นออกมานอกจอคอมเลยค้าบบ  :give2:

น่าร๊ากกันทั้งคู่เลย  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-05-2007 20:24:36
น่ารักจิง ๆ ทั้งแบงค์ทั้งอาร์ท  :like6:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 06-05-2007 21:38:39
 o1
******************
บทที่ 16 คนแปลกหน้าคนที่ 2

และแล้วสองอาทิตย์แห่งความสุขก็ได้ผ่านไปแล้วครับ  พี่อาร์ทกลับไปแล้ว  และตอนนี้พี่นุ่นก็กลับมาอยู่กับแบ๊งค์แล้ว  พี่นุ่น
ซื้อของฝากมาเต็มเลยครับ  ไม่รู้จะซื้อมาทำไม  บางอย่างแบ๊งค์กินที่เชียงใหม่จนเบื่อแล้วครับ   พอบอกป้าแกไป  ป้าแกก็
บอกว่าเผื่อแบ๊งค์คิดถึงบ้านเลยเอามาฝาก  เราก็เลยรับ ๆ ไว้  นองจากของกินแล้ว  ยังมีสร้อยข้อมืออีกครับ  ก็อันที่คล้าย ๆ
กับที่แบ๊งค์ซื้อให้พี่อาร์ทนั่นแหละ  ชอบมากเลยครับ เป็นกระดิ่งที่ดังได้ใจมาก พี่นุ่นซื้อของมาฝากพี่อาร์ทด้วย  เป็นเสื้อ
ผ้าฝ้ายอ่ะครับ สกรีนลายเป็นตัวหนังสือล้านนา

แบ๊งค์ก็โทรไปเรียกพี่อาร์ทให้มาเอาครับ  แต่พี่อาร์ทบอกว่าตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงเปิดเทอม คงจะไม่ว่างแล้วเพราะ
โค้ชทีมบาส  เรียกตัวซ้อมเพื่อจะคัดนักกีฬาไปแข่งให้ในนามตัวแทนของมหาวิทยาลัย  แบ๊งค์ก็เลยต้องรอครับ ก็ไม่ค่อย
ได้ทำอะไรเลยช่วงนี้

มีอยู่วันหนึ่งแบ๊งค์ไปเปิด MSN กะว่าจะคุยกับเพื่อน ๆ อ่ะครับ แต่มันค่อนข้างดึกมากแล้ว เพื่อน ๆ ทั้งหลายก็เลยไปนอน
กันหมด อยู่ ๆ ก็มีเมลล์ ๆ หนึ่งซึ่งแบ๊งค์ไม่คุ้นเลยเข้ามาทัก
 

กรูส์เกียดเมริง    say :
มาได้แล้วหรอเมริง

badboy_be_sadboy   say:
คับ  แล้วนั่นใครอ่ะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงไม่ต้องมาสู่รู้

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงแค่รู้เอาไว้ก้อพอว่ากรูส์เกียดเมริง

badboy_be_sadboy   say:
แล้วผมไปทำอะไรให้คุณเกียดล่ะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงคบกะไอ้อาร์ทใช่มะ

badboy_be_sadboy   say:
รู้ได้ไง

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์รู้ของกรูส์ละกัน

กรูส์เกียดเมริง    say :
และนี่เปนคำสั่ง

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์ขอให้เมริงเลิกยุ่งกะอาร์ท

badboy_be_sadboy   say:
มีเหตุผลอะไรที่กรูส์ต้องทำตาม.....................................( แบ๊งค์เริ่มโกรธครับ )

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงอยากรู้ใช่ป่ะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงรอกรูส์แปป
   

   แล้วก็มี e-mail เข้ามาครับ  มาจากไอ้คนแปลกหน้าคนนี้นี่แหละ  พอเปิดดูแล้วอึ้งเลยครับ เป็นรูปแบ๊งค์กับพี่อาร์ท ใน
หลาย ๆ อิริยาบถ ทั้งในชุดนักศึกษา และชุดนอก   โดยมีภาพบางภาพเป็นภาพที่แบ๊งค์กับพี่อาร์ทไปเที่ยวด้วยกัน  แล้ว
เผลอจับมือกัน  บางภาพร้ายกว่านั้น เป็นภาพที่แบ๊งค์จูบกับพี่อาร์ท  หรือเป็นภาพที่เราหอมแก้มกัน
 

กรูส์เกียดเมริง    say :
ไง  อึ้งเลยดิเมริง

badboy_be_sadboy   say:
เมริงทำแบบนี้ทะมาย

badboy_be_sadboy   say:
เมริงต้องการอะไร

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์อยากให้เมริงเลิกยุ่งกับอาร์ท

badboy_be_sadboy   say:
ถ้ากรูส์ไม่ยอมล่ะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์จะเอาเรื่องนี้ไปบอกที่มหาลัย

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงลองคิดดูให้ดีนะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
ตอนนี้อาร์ทกำลังจะคัดเลือกนักกีฬา

กรูส์เกียดเมริง    say :
ถ้าโค้ชรู้เรื่องนี้  ไอ้อาร์ทคงต้องอดไป

กรูส์เกียดเมริง    say :
แล้วคนในมหาลัยก้อจะมองไอ้อาร์ทยังไง

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงคงรู้นะ

badboy_be_sadboy   say:
เมริงชอบพี่อาร์ทใช่มะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
ไม่มีเหตุผลที่กรูส์จะตอบ

badboy_be_sadboy   say:
ถ้ากรูส์ยอมเลิก เมริงจะทำอะไร

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์จะเอาภาพของแท้ทั้งหมด

กรูส์เกียดเมริง    say :
คืนให้เมริง

badboy_be_sadboy   say:
กรูส์จะแน่ใจได้ยังไง

กรูส์เกียดเมริง    say :
กรูส์จะเอาเมมการ์ดให้เมริง

badboy_be_sadboy   say:
กรูส์จะเอาเมมการ์ดมาได้ยังไง

กรูส์เกียดเมริง    say :
เมริงมาเจอกรูส์

badboy_be_sadboy   say:
ที่ไหน

กรูส์เกียดเมริง    say :
เซ็นทรัล ลาดพร้าว

badboy_be_sadboy   say:
เวลาล่ะ

กรูส์เกียดเมริง    say :
พรุ่งนี้ 13.00 ห้ามพาใครมานะเมริง

กรูส์เกียดเมริง    say :
ไม่งั้นไอ้อาร์ทไม่ตายดีแน่


แล้วมันก็ออกเอมไปเลยครับ  งงเหมือนกันเบอร์โทรแบ๊งค์มันก็ยังไม่ได้เอาไป  แล้วจะไปเจอกันได้ยังไงเนี่ย  เครียดมาก
เลยครับ มันต้องการอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้ทำแบบนี้  นอนคิดไปคิดมา  จนปวดหัวครับ  แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป

วันนี้แบ๊งค์ตื่นมารู้สึกไม่ค่อยดีเลยครับ  ไม่อยากไปเลย  ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น  ไม่สบายใจจริง ๆ  ไม่ไปก็ไม่ได้  กลัวจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพี่อาร์ท

“แบ๊งค์จะไปไหนน่ะ”   พี่นุ่นถามครับ

“ไปเที่ยวนิดหน่อยน่ะพี่นุ่น”  แบ๊งค์ตอบ

“ไปคนเดียวเนี่ยนะ”  พี่นุ่นแปลกใจ

“อืม  ว่าจะดูของนิดหน่อยน่ะ”  แบ๊งค์แกล้งโกหกไป

“งั้นอย่ากลับให้ดึกนะ”  พี่นุ่นสั่งไว้ แล้วแบ๊งค์ก็ออกมาขึ้นรถเมลล์ไป เซ็นทรัลลาดพร้าว  ตอนนี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เลยครับ  คิดไปต่าง ๆ นานา  แบ๊งค์ไม่อยากเลิกกับพี่อาร์ทเลย  และแล้วก็มาถึงแล้วครับ  เซ็นทรัลลาดพร้าว  แบ๊งค์มาถึง
ตอน 12.50  มาก่อนเวลา 10 นาทีครับ ในใจก็คิดครับ ว่าไอ้คนแปลกหน้าคนนี้มันจะมาตามนัดรึเปล่า  มันต้องการอะไร
คิดไปหัวจะระเบิดครับ  พอถึงบ่ายโมง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นครับ

“มึงมาถึงรึยังวะ”  มันโทรมาแล้วครับ  เสียงมันดูคุ้น ๆ มาก

“ถึงแล้ว มึงล่ะอยู่ไหน”  แบ๊งค์ตอบไปแบบไม่สบอารมณ์

“มึงไปรอกูที่หน้าร้าน  black canyon “  มันสั่งครับ

“ได้มึงรีบมาก็แล้วกัน”  แบ๊งค์เริ่มจะอารมณ์เสียแล้วครับ  แล้วแบ๊งค์ก็ไปรอมันที่หน้าร้าน black canyon  ตามที่มันสั่ง
ในใจก็ยังสงสัยว่ามันเป็นใครกันแน่ ทำไมมันรู้เรื่องของแบ๊งค์กับพี่อาร์ท  แล้วยังรู้เบอร์โทรศัพท์ และ e-mail
address ของแบ๊งค์อีก

“มาแล้วหรอแฟนไอ้อาร์ท “เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังแบ๊งค์   พอหันไปแทบช็อคครับ เพราะคนที่ยืนอยู่คือ พี่โป้ง ประธาน
ของชมรมบาสที่มหาวิทยาลัย  ซึ่งเป็นเพื่อนพี่อาร์ท

“อึ้งอะไรหรอ  เราเข้าไปหาน้ำหาท่าดื่มข้างในดีกว่านะ”  พี่โป้งพูดพร้อมพยายามดันตัวแบ๊งค์ให้เข้าไปในร้าน   แบ๊งค์
พยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงพี่โป้งไว้ไม่ไหว  เลยต้องยอมเข้าไป  พี่โป้งสั่งกาแฟเย็น  แล้วสั่งชามะนาวมาให้แบ๊งค์  ดูเหมือน
พี่เค้าจะไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“พี่โป้งทำแบบนี้ ต้องการอะไรครับ”  แบ๊งค์ถามออกไป

“ก่อนอื่น พี่ต้องขอโทษน้องแบ๊งค์ด้วยนะครับ ที่พูดไม่เพราะไปเมื่อคืน”  พี่โป้งขอโทษ

“.......................”  แบ๊งค์ยังไม่พูดอะไร

“น้องแบ๊งค์อย่าเพิ่งขัดอะไรนะครับ  ฟังพี่ก่อน”   พี่โป้งพูดนำ

“คือ  พี่ชอบน้องแบ๊งค์มานานแล้ว  ตั้งแต่ตอนที่น้องแบ๊งค์มานั่งเฝ้าเพื่อนที่สนามบาสแล้วครับ  พี่ก็พยายามหาทุกวิถีทาง
นะครับที่จะได้เข้าไปรู้จักน้องแบ๊งค์  ไปค้นหา e-mail address เบอร์โทรศัพท์มือถือ  ตอนแรกก็กะว่าจะเข้าไปจีบ แต่ก็
มีสิ่ง ๆ หนึ่งที่ทำให้พี่ต้องหยุดไปก่อน”  พี่โป้งนิ่งไปครับ  แล้วถอนหายใจก่อนจะเล่าต่อว่า

“พี่ไปรู้มาว่าน้องแบ๊งค์  กลายเป็นแฟนกับไอ้อาร์ทเรีบยร้อยแล้ว  พี่เจ็บใจมาก พี่เลยพยายามคิดหาหนทางที่จะเอาน้อง
แบ๊งค์คืนมาให้ได้  จนได้เจอทาง ๆ นี้”  พี่โป้งพูด

“แล้วพี่โป้งไม่คิดบ้างหรอครับ ว่านี่มันเป็นทางที่ผิด”  แบ๊งค์พูดแบบไม่สบอารมณ์

“ตอนนี้แบ๊งค์รักพี่อาร์ทมาก  พี่โป้งก็น่าจะรู้ แต่ทำไมพี่โป้งกลับจะมาใช้แบ๊งค์เป็นเครื่องมือทำลายพี่อาร์ทแบบนี้หรอครับ” 
ตอนนี้แบ๊งค์ทนไม่ไหวแล้ว

“อีกอย่างแบ๊งค์ไม่ได้รักพี่โป้ง”  แบ๊งค์ตัดสินใจปล่อยประโยคเด็ดออกไป

“พี่รู้ครับ  แต่พี่คิดว่าถ้าน้องแบ๊งค์ได้ลองเลิกกับไอ้อาร์ท  น้องแบ๊งค์อาจจะได้มองคนหลาย ๆ คนที่น้องแบ๊งค์ได้มองข้ามไป
แล้วน้องแบ๊งค์จะได้เห็นว่าเค้าเหล่านั้นรักน้องแบ๊งค์มากแค่ไหน”  พี่โป้งพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“น้องแบ๊งค์จะยอมมั้ยล่ะครับ  เลิกกับอาร์ทเพื่อที่จะให้อาร์ทได้ทำฝันให้เป็นจริง”  พี่โป้งมองหน้าแบ๊งค์ 

“ถ้าน้องแบ๊งค์ไม่ยอม  พี่ก็คงต้องเปิดเผยเรื่องทั้งหมด” 

ตอนนี้แบ๊งค์สับสนมาก  ไม่รู้จะทำยังไง  ปวดหัวมากเลยครับ  แบ๊งค์นั่งนิ่งเงียบอยู่นาน  ชามะนาวที่สั่งมาค่อย ๆ ละลายลง
จนกลายเป็นน้ำที่แยกสีกันอย่างชัดเจน  พี่โป้งก็เหมือนจะเข้าใจ เราทั้งสองเลยได้แต่นั่งเงียบ ๆ ไม่มีใครยอมพูดอะไร 
แล้วน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกจากตาของแบ๊งค์  ลองมาคิดดูอีกที่ ถ้าแบ๊งค์ไม่ยอมเลิกกับพี่อาร์ท  ยอมที่จะมีความสุขกัน
สองคน  แล้วคนที่มหาวิทยาลัยล่ะ  จะมองเราแบบไหน  พี่อาร์ทไม่ได้เป็นคนธรรมดา  แต่เป็นถึงคนดังมีชื่อเสียงเป็นที่
รู้จัก ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้พี่อาร์ท ต้องเสียหายเป็นอย่างมากแน่นอน  เมื่อคิดได้แบบนั้นแบ๊งค์ก็เลยเงยหน้าขึ้น  มอง
หน้าพี่โป้งซึ่งมองแบ๊งค์อยู่แล้ว 

“แบ๊งค์ตกลง......แบ๊งค์จะเลิกกับพี่อาร์ท”  แล้วแบ๊งค์ก็ปล่อยโฮออกมาไม่อายสายตาใคร

“ดีแล้วครับที่คิดได้แบบนี้”  พี่โป้งพูดแล้วลุกเดินมานั่งที่ข้าง ๆ แบ๊งค์  จากนั้นก็โอบกอดแบ๊งค์ไว้  แบ๊งค์พยายามขัดขืนแต่
ก็สู้แรงพี่โป้งไม่ได้  พี่โป้งเลยจูบไปที่หน้าผากของแบ๊งค์  จากนั้นพี่โป้งก็ยื่นเมมการ์ดที่คาดว่าน่าจะเป็นรูปทั้งหมดให้แบ๊งค์

แบ๊งค์ลองเอาเมมการ์ดใส่ในมือถือตัวเอง  เมื่อเปิดพบรูปทั้งหมดแล้ว  แบ๊งค์ก็ถอดเมมการ์ดนั้นออก  แล้วหักมันทิ้งไปต่อ
หน้าพี่โป้ง  พี่โป้งดูตกใจเล็กน้อย   จากนั้นแบ๊งค์ก็เอาแต่ร้องไห้ตลอด แบ๊งค์ไม่อยากทำแบบนี้เลย  วันนั้นแบ๊งค์นั่งร้องไห้
อยู่นานมาก จนเริ่มเย็น

“กลับกันเถอะครับน้องแบ๊งค์”  พี่โป้งดึงแขนแบ๊งค์ให้ลุกขึ้น แล้วเราก็พากันไปที่ลานจอดรถ   ระหว่างทางบนรถ  แบ๊งค์ไม่
ยอมพูดอะไรซักอย่าง เอาแต่ร้องไห้  พี่โป้งจึงขับรถไปอีกเส้นทางหนึ่ง  เมื่อแบ๊งค์เห็นก็เลยถามออกไป

“พี่โป้งจะพาแบ๊งค์ไปไหนน่ะ”  พี่โป้งไม่ยอมตอบ แต่ขับรถไปเรื่อย  ๆ จนถึงคอนโดแห่งหนึ่ง  พี่โป้งก็ขับเข้าไปจอดในลานจอดรถ

“ตามพี่มา!!!!”  พี่โป้งกระชากตัวแบ๊งค์ออกจากรถ

“พี่โป้ง!!!!!ปล่อยแบ๊งค์นะ..แบ๊งค์เจ็บ”  แบ๊งค์พยายามร้องขอพี่โป้ง  แต่ไม่สำเร็จ พี่โป้งลากแบ๊งค์เข้าไปในคอนโดแห่งนั้น
ไปยังห้อง ๆ หนึ่งซึ่งอยู่บนชั้น 18  ห้องนี้ตกแต่งได้หรูหรามาก  แบ๊งค์ว่าราคาต้องหลายล้านแน่นอน  พอเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว
พี่โป้งก็อุ้มแบ๊งค์ขึ้น  แบ๊งค์พยายามดิ้นแต่ไม่สำเร็จ  พี่โป้งอุ้มแบ๊งค์เข้าในห้องนอน  แล้วโยนลงบนที่นอน 
*********************
งั้ย ทำงั้นอ่ะพี่โป้ง  :sad4:
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-05-2007 01:01:11
จะมีใครมาช่วยแบงค์ได้บ้างนะ  :serius2:

เกลียดโป้ง ไปตายซะ :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-05-2007 06:44:18
เฮ้ย  :serius2:  :serius2: ไหงเป็นงี้ล่ะ  :serius2: ใครมาช่วยแบงค์ที  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 07-05-2007 16:57:05
เกลียดจังคนใช้วิธีนี้   :angry2:


แล้วนี่จะมีใครมาช่วยแบงค์ทันม่ะ หวังว่าคงไม่โดนทำอะไรไปซะก่อนน๊า  o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 08-05-2007 00:27:54
********************
บทที่ 17 ขอเราอยู่คนเดียวนะ…แต่นายยังมีเพื่อนอยู่นะ


“พี่โป้งจะทำอะไรน่ะ  ปล่อยแบ๊งค์ไปนะ  แบ๊งค์จะกลับบ้าน”  แบ๊งค์ทำท่าจะวิ่งหนี แต่ถูกพี่โป้งผลัก จนกระเด็นไปล้มอยู่บนที่นอน

“แบ๊งค์.....ลองมองดูรอบข้างแบ๊งค์ก่อนสิครับ”  แบ๊งค์นิ่งลงแล้วลองมองดูรอบ ๆ ห้องตามที่พี่โป้งบอก 

ห้องนี้มีแต่รูปแบ๊งค์ครับ  ที่หัวเตียงมีรูปแบ๊งค์วางอยู่  ที่ฝาผนังก็มีรูปแบ๊งค์ใส่กรอบติดอยู่  และยังมีรูปที่ไม่ได้ใส่กรอบแปะ
อยู่รอบ ๆ ด้วยเต็มไปหมด  รู้สึกเหมือนห้องของอาจารย์เทชิงาวาระ ที่แอบชอบอาจารย์อาซึสะ ในเรื่อง GTO เลย แต่กลับ
กันที่ว่าห้องของพี่โป้งเต็มไปด้วยรูปของแบ๊งค์แทน  รูปเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นรูป ที่เหมือนว่าไปแอบถ่ายแบ๊งค์มา
มากกว่า  เป็นรูปที่แบ๊งค์อยู่กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เล่นกล้อง

“ดูสิครับ  ว่าพี่รักแบ๊งค์มากแค่ไหน”  พี่โป้งดูภาคภูมิใจที่ได้พูดคำนี้

“แต่แบ๊งค์ไม่ได้รักพี่โป้ง!!!ได้ยินมั้นแบ๊งค์ไม่ได้รักพี่โป้ง!!!!”  แบ๊งค์ตะโกนออกไป แล้วอยู่ ๆ พี่โป้งก็เข้ามาชกที่ท้องของ
แบ๊งค์อย่างแรง  จุกมากเลยครับ พูดอะไรไม่ออก

“พี่ไม่อยากทำร้ายน้องแบ๊งค์นะครับ  เพราะฉะนั้นอย่าดื้อกับพี่เลยนะ”  พูดจบพี่โป้งก็เข้ามาไซร้ที่ซอกคอ  แบ๊งค์พยายาม
ดิ้นหนี  ปากก็พยายามตะโกนร้อง แต่เพราะโดนชกเมื่อกี้  ทำให้ทั้งแรงทั้งเสียงหายไปหมดเลยครับ  พอพี่โป้งเห็นว่า
แบ๊งค์ไม่ยอมแล้วแน่ ๆ พี่โป้งก็เลยเอาผ้าเช็ดหน้า  ที่แบ๊งค์คาดว่าโปะยาสลบไว้มาปิดหน้าแบ๊งค์  แล้วแบ๊งค์ก็หลับไปตอน
ที่รู้สึกว่า  พี่นุ่นกำลังโทรศัพท์เข้ามือถือแบ๊งค์   ...........พี่นุ่น......ช่วยแบ๊งค์ด้วย.........

แบ๊งค์รู้สึกตัวอีกที  ตอนที่เหมือนมีอะไรเย็น ๆ  มาวนเวียนแถว ๆ ยอดอก

“ตื่นแล้วหรอครับ”  พี่โป้งนั่นเองครับ ตอนนี้พี่โป้งนอนคร่อมแบ๊งค์  และกำลังเลียวนที่หัวนมอยู่   ตอนนี้มือทั้งสองข้างของ
แบ๊งค์ถูกมัดรวมกันไว้ที่หัวเตียง

“พี่โป้งปล่อยแบ๊งค์นะครับ”  แบ๊งค์พยายามดิ้นหนี  แต่พี่โป้งกลับเลียไล่ต่ำลงไป  จนถึงเจ้าน้องชายของแบ๊งค์  ซึ่งตอนนี้มัน
ตื่นเต็มที่เพราะความเสียวซ่าน  พี่โป้งก็เลยครอบปากลงไป  แบ๊งค์ยังคงออกปากร้องห้าม  แต่มันไม่มีเสียง  คงเพราะ
หมัดที่โดนไป  แบ๊งค์จำอะไรไม่ได้เลย  แบ๊งค์เลยเริ่มร้องไห้ออกมา  แต่พี่โป้งยังไม่หยุด  ยังคงลากลิ้นเลียไปทั่วตัวแบ๊งค์

“พี่โป้งพอเถอะครับ”   แบ๊งค์ร้องไห้ไป  ตอนนี้น้ำตาได้ไหลอาบหน้าไปแล้ว

“แบ๊งค์เป็นของพี่นะครับ”  พี่โป้งพูด

“พี่จะทำให้น้องแบ๊งค์ลืมไอ้อาร์ทไปเอง”  พี่โป้งไม่ฟังคำร้องขอ   

จากนั้นพี่โป้งก็สอดใส่ท่อนเนื้อของพี่เค้าเข้ามาในร่างกายแบ๊งค์   จุกมากเลยครับ  แบ๊งค์ยังคงร้องไห้ต่อไป  ตอนนี้ร่าง
กาย  ซึ่งแบ๊งค์อยากเก็บมันไว้ให้พี่อาร์ทเพียงคนเดียว กำลังถูกคนอื่นย่ำยี   แบ๊งค์เสียใจมาก  ที่ไม่สามารถรักษาความรัก
ที่พี่อาร์ทมีไว้ให้ได้  พีโป้งค่อย ๆ ซอยท่อนเนื้อเข้า-ออก  แบ๊งค์เจ็บมาก  ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจ  ยิ่งคิดคิดก็ยิ่งร้องไห้  ในที่
สุดแบ๊งค์ก็สลบไปอีกครั้ง

“แบ๊งค์......แบ๊งค์ครับตื่นได้แล้วครับ”  พี่โป้งปลุกแบ๊งค์

“................................”  แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาแต่ไม่พูดอะไร

“ไปอาบน้ำกันนะครับ  เดี๋ยวพี่ไปส่งที่คอนโด”   แล้วพี่โป้งอุ้มแบ๊งค์ไป 

ครั้งนี้แบ๊งค์ไม่ได้ขัดขืน   ตอนนี้แบ๊งค์กลายเป็นร่างที่ไร้ความรู้สึกไปแล้ว   พี่โป้งค่อย  ๆ วางแบ๊งค์อย่างทะนุถนอมลงใน
อ่างซึ่งมีน้ำอุ่นอยู่ภายใน  แล้วพี่โป้งก็ตามลงมา  พี่โป้งขัดถูร่างกายของแบ๊งค์อย่างเบา ๆ

“พี่ขอโทษนะครับ  ที่ทำรุนแรงกับน้องแบ๊งค์”  พี่โป้งค่อย ๆ ก้มหน้ามาไซร้ซอกคอแบ๊งค์อีกรอบ  แบ๊งค์ยังคงไม่ขัดขืน

ในเมื่อร่างกายของแบ๊งค์  ไม่ได้เป็นของพี่อาร์ทเพียงคนเดียวต่อไป  แบ๊งค์คงไม่มีสิทธิ์กลับไปหาพี่อาร์ทอีกแล้วครับ และ
คงไม่จำเป็นอีกต่อไปที่จะรักษามันไว้เพื่อใคร   จากนั้นแบ๊งค์และพี่โป้งก็XXXกันอีกรอบ  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกว่าเลือดเริ่ม
ออก  พี่โป้งจึงหยุด

พี่โป้งขับรถมาส่งแบ๊งค์ที่คอนโด  แบ๊งค์ยังคงไม่พูดเหมือนเดิม  อาจพูดบ้างแต่ก็เป็นแค่การถามคำ  ตอบคำไปก็เท่านั้น   
เมื่อถึงคอนโดแบ๊งค์ค่อย ๆ เดินไปจนถึงห้อง แล้วเข้าไป

“แบ๊งค์...เป็นไงบ้าง  พี่เป็นห่วงนะรู้มั้ย “   พี่นุ่นรีบเข้ามาถาม

“เมื่อคืนพี่โทรหา  แต่คนที่ชื่อโป้งรับ  บอกว่าแบ๊งค์จะค้างบ้านเค้า  พี่ไม่รู้ทำไงก็เลยปล่อยไป  นี่เล่ามาดิ  ไปเจอเค้าได้ยัง
ไง”   พี่นุ่นพยายามซักแบ๊งค์  แต่แบ๊งค์เดินเข้าห้องไปแล้วล็อคห้อง  จากนั้นก็ปล่อยออกมาโฮใหญ่   เหมือนว่าแบ๊งค์จะ
ร้องไห้ดังมาก  พี่นุ่นเลยรีบมาเคาะประตูเรียก

“แบ๊งค์!!!เป็นอะไรไปน่ะ  เปิดประตูให้พี่เข้าไปนะ”   พี่นุ่นพูดพลางเคาะประตู

“แบ๊งค์!!!เปิดออกสิ...แบ๊งค์”   พี่นุ่นพยายามย้ำ

“พี่นุ่น.....แบ๊งค์ขออยู่คนเดียวนะครับ”  แบ๊งค์พูดออกไป  พี่นุ่นจึงหยุด  แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปอาบน้ำอีกรอบ  โดยพยายามจะ
ขัดเอาความรู้สึกเมื่อคืนออกไป  อยากจะเอาคราบมลทินของพี่โป้งออกจากตัวให้หมด  แต่ก็ทำไม่ได้  แบ๊งค์จึงได้แต่ร้องไห้

ตกเย็นพี่นุ่นมาเรียกแบ๊งค์ออกไปทานข้าว  แบ๊งค์เช็ดคราบน้ำตาแล้วก็ออกไป  ไม่อยากให้พี่นุ่นเป็นห่วงน่ะครับ  พอออก
ห้องมา  พี่นุ่นก็เข้ามาสวมกอด  เล่นเอาแบ๊งค์ทนไม่ได้ต้องปล่อยโฮออกมาอีกรอบ

“มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ  แต่ถ้ายังไม่พร้อมพี่ก็ไม่บังคับ”  พี่นุ่นกอดแบ๊งค์แล้วพูด

“ฮือ.........คั....คับ”   แบ๊งค์กอดพี่นุ่นพูด  แล้วพยักหน้า   เย็นวันนั้นแบ๊งค์นั่งทานข้าวกับพี่นุ่น  โดยทำทุกอย่างให้เป็นปกติ  พี่นุ่นคงเข้าใจว่าแบ๊งค์อยากที่จะลืมเหตุการณ์บางอย่าง  พี่นุ่นเลยเลือกที่จะไม่พูดถึงมัน  เราสองคนทานข้าวอย่าง
เอร็ดอร่อย  ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นั้นยังติดอยู่ในใจแบ๊งค์ก็ตาม    ตกดึกก่อนนอน  พี่นุ่นเข้าส่งแบ๊งค์นอนในห้อง  แล้วห่มผ้า
ให้จากนั้นก็ปิดไฟ  แล้วเดินออกจากห้องไป  เมื่อพี่นุ่นออกจากห้องไป  แบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมาอีก  ทำไมนะ  แบ๊งค์ถึงทำ
ตัวให้เข้มแข็งกว่านี้ไม่ได้  นึกเสียใจที่เกิดมาอ่อนแอ  แบ๊งค์ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วจึงหลับไป

แล้วเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านไปได้ประมาณ  3 วันโดยที่แบ๊งค์ยังคงนิ่งเงียบ  ไม่พูดจาอะไรกับใคร นอกจากพี่นุ่น  แบ๊งค์ยัง
คงนอนร้องไห้ตลอดมา  เช้าวันหนึ่งแบ๊งค์นั่งทานข้าวกับพี่นุ่น   เราก็นั่งทานข้าวไป  ความจริงมันก็ไม่ได้เป็นเวลาที่เช้า
มากซักเท่าไหร่ 9 โมงกว่า ๆ แล้ว  มีเสียงโทรศัพท์หนึ่งดังขึ้น  เป็นเสียงโทรศัพท์ของพี่อาร์ทนั่นเอง   แบ๊งค์หยุดทาน
ข้าว  หันมาจ้องมองที่โทรศัพท์  จนโทรศัพท์เงียบไป  แล้วมันดังขึ้นอีกครั้ง

“ไม่รับหรอแบ๊งค์  พี่อาร์ทเค้าอาจมีเรื่องจะคุยนะ”  พี่นุ่นถาม  จากนั้นน้ำใส ๆ ก็ไหลออกมาจากตาของแบ๊งค์อีกครั้ง  แล้ว
แบ๊งค์ก็คว้าโทรศัพท์มาปิดเครื่อง

“พี่นุ่นถ้าใครโทรเข้าคอนโด  หรือโทรเข้ามือถือพี่นุ่นให้บอกว่าแบ๊งค์ไม่อยู่นะ  บอกว่า    แบ๊งค์กลับเชียงใหม่ก็ได้”  แบ๊งค์
ขอร้องพี่นุ่นในขณะที่ตนเองมีน้ำตาอาบเต็มหน้า

“อืม............ได้”  พอพี่นุ่นรับปาก  แบ๊งค์ก็ขอตัวพี่นุ่นเดินเข้าห้องไป  ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นผ่านมา  ดูพี่นุ่นเป็นห่วงแบ๊งค์
ขึ้นมาก  เอาเวลาว่างที่มีอยู่  มาอยู่กับแบ๊งค์มากขึ้น  แต่แบ๊งค์ก็ยังคงไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังอยู่ดี  พอตกเย็น  พี่นุ่นก็
เดินเข้ามาหาแบ๊งค์

“พี่ทำตามแบ๊งค์สั่งแล้วนะ”  พี่นุ่นพูด

“เมื่อกี้พี่อาร์ทโทรมาหา  พี่ก็บอกไปแล้วว่าแบ๊งค์กลับเชียงใหม่  แล้วก็...”  พี่นุ่นเงียบไป

“อะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถาม

“มีคนชื่อโป้งโทรมาหาเหมือนกัน   แต่โทรเข้าเบอร์คอนโดอ่ะ”   พอได้ยินชื่อนี้  แบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง  คราวนี้ร้องไห้หนักกว่าเดิม

“แบ๊งค์...................”  พี่นุ่นเรียก   แบ๊งค์เลยไปสบตาพี่นุ่น

“เราไปมีเรื่องกับคนที่ชื่อโป้งมาใช่มั้ย   พี่สังเกตตั้งแต่วันที่เราหายไปกับไอ้หมอนั่นแล้ว”   พี่นุ่นถามเหมือนจะรู้ทัน 
แบ๊งค์ก็เลยพยักหน้ายอมรับไปทั้งน้ำตา  พี่นุ่นเลยเข้ามากอดแบ๊งค์

“ถ้ามันเลวร้ายก็อย่าไปคิดถึงมันนะ”  แล้วพี่นุ่นก็ทำท่าจะเดินออกไป

“พี่นุ่น!!!!เดี๋ยวก่อน”   แบ๊งค์เรียก  พี่นุ่นเลยเดินกลับมานั่งบนเตียงข้าง ๆ แบ๊งค์

“มีอะไรหรอ”   พี่นุ่นถาม

“ถ้าแบ๊งค์เล่าไป  ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ หรือคนสำคัญแค่ไหนถาม  พี่นุ่นก็ห้ามบอกเค้านะ”   แบ๊งค์ขอคำสัญญา    พี่นุ่นเลย
พยักหน้า  แล้วแบ๊งค์ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งน้ำตา  เริ่มตั้งแต่ที่แบ๊งค์โดนพี่โป้งแอดเมลล์มาด่า  ไปจนถึงเรื่องที่พี่โป้ง
ขืนใจแบ๊งค์  พี่นุ่นทำท่าตกใจเมื่อได้ยินได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด

“แบ๊งค์!!!ยอมไม่ได้นะ.... พี่จะไปเอาเรื่องมัน”  พี่นุ่นทำท่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“พี่นุ่นอย่า...แบ๊งค์ขอร้อง”   แบ๊งค์อ้อนวอนทั้งน้ำตา  พี่นุ่นเลยนั่งลง

“แล้วเราจะเลิกกับพี่อาร์ทจริง ๆ หรอ”  พี่นุ่นถาม  แบ๊งค์เลยพยักหน้าออกไป

“เราไม่กลัวว่าจะเจ็บทีหลังหรอ”   พี่นุ่นพูด  คำ ๆ นี้เสียดแทงเข้าไปถึงหัวใจของแบ๊งค์

“ไหน ๆ มันก็เจ็บไปแล้ว  อีกอย่างแบ๊งค์ไม่อยากไปขัดขวางหนทางของพี่เค้า  แบ๊งค์อยากให้พี่เค้าได้ไปตามฝัน  แค่นี้ไม่
เป็นไรหรอกสำหรับแบ๊งค์”  แบ๊งค์พูด  แล้วพี่นุ่นก็เข้ามากอดแบ๊งค์  จากนั้นก็ส่งแบ๊งค์เข้านอน  โดยที่แบ๊งค์หลับไปทั้ง
น้ำตาอีกตามเคย

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง  วันเปิดเทอม  วันที่แบ๊งค์ไม่อยากให้มันมาถึงที่สุด  พี่นุ่นมาส่งแบ๊งค์ที่หน้าคณะตามปกติครับ

“ทำตัวให้สบาย ๆ นะอะไรหลบได้ก็ให้หลบไป”  พี่นุ่นพูด

“ถ้าต้องเจอกันก็ให้นิ่ง ๆ ไว้นะ”   พี่นุ่นสั่งครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปยังคณะของตอนเอง  แล้วแบ๊งค์ก็เดินมานั่งที่เดิม   

“เป็นไงบ้างแบ๊งค์  ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ”  แมคเข้ามาทักครับ  ก็จริงของมันแบ๊งค์ไม่ได้คุยกับพวกเพื่อน ๆ เลยตลอดปิดเทอม

“ก็ดีอ่ะ นายล่ะซ้อมเชียร์หลีดเดอร์เป็นไงบ้าง”  แบ๊งค์ถามออกไปเสียงเบา ๆ

“ก็ดีอ่ะ  เดี๋ยวก็จะแข่งแล้วนะ”  สายตาของแมคดูมุ่งมั่น

“ไงไอ้ตัวเล็ก  ไปไหนมาบ้างล่ะ”  พี่ตั้มเดินเข้าทักอีกคนครับ

“ไม่ได้ไปไหนหรอครับ”  พอตอบเสร็จแบ๊งค์ก็ยิ้มแห้ง ๆ

“แบ๊งค์!! เป็นอะไรบอกพี่ได้นะ”   อยู่ ๆ พี่ตั้มก็พูดขึ้น

“แบ๊งค์ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ”  แบ๊งค์โกหกออกไป

“อย่านะแบ๊งค์  ปกติเราไม่ใช่แบบนี้  พี่ยอมรับนะว่าอาจไม่สนิทกับเราเท่าไหร่  แต่แบ๊งค์วันนี้กับวันก่อน ๆ มันคนละคนกันนะ”  พี่ตั้มแย้งออกมา

“ร้องไห้เรื่องอะไร”  แบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ กับคำถามของพี่ตั้มที่มองแบ๊งค์ออก

“ใช่จริง ๆ ด้วยตาแบ๊งค์บวม ๆ เหมือนคนที่ร้องไห้หนัก ๆ มา”  แมคเริ่มหันมามองหน้าแบ๊งค์     แบ๊งค์ก็เลยยิ้มให้

“ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”  พอตอบออกไป อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ให้ตายสิ  จะไหลทำไมตอนนี้นะ  เรานี่อ่อนแอจริง ๆ
แบ๊งค์คิดในใจ  แล้วแบ๊งค์ก็กลั้นไว้ไม่อยู่  จนร้องไห้ออกมา

“เฮ้ย!!!แบ๊งค์  อย่าร้องไห้นะ”  พี่ตั้มรีบพูดขึ้น

“แบ๊งค์...เอาไปอ่ะ” 

แมคยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้   แบ๊งค์ก็รับมาเช็ดน้ำตา   แต่ดูเหมือนมันยังคงไม่พอที่ซับน้ำตาที่ไหลออกมาได้  แมคเลยโอบ
หัวแบ๊งค์ให้มาซบที่ไหล่   จากนั้นทั้งโต๊ะก็เงียบไม่มีเสียงพูดอะไร  มีแต่เสียงร้องไห้ของแบ๊งค์  คนที่ผ่านไปมาต่างมองมา
ที่พวกเรา  แต่เหมือนว่าไม่มีใครสนใจ  ทุกคนยังสงสัยในการเปลี่ยนไปของแบ๊งค์

พอถึงเวลาเรียน  พี่ตั้มก็ขอแยกตัวออกไป  แบ๊งค์เลยไปเข้าเรียนกับแมค  วันนี้แมคย้ายที่นั่งมานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  โดยอ้าง
ว่าไม่อยากให้แบ๊งค์ต้องอยู่โดดเดี่ยวคนเดียว  จากนั้นกาวก็ตามเข้ามาในห้อง  กาวมาสายครับ  พอเห็นแมคมานั่งข้างแบ๊งค์
กาวก็เลยมานั่งตาม  ตอนแรกเหมือนกาวจะทักทายอะไรกับแบ๊งค์  แต่เหมือนว่ากาวสังเกตได้ถึงคราบน้ำตา  และความ
เงียบของแมค  กาวเลยไม่พูดอะไร  แบ๊งค์พยายามลืมเรื่องทั้งหมด  แล้วตั้งใจเรียน  มันอาจเข้าหัวบ้าง  ไม่เข้าบ้าง  แต่
ตอนนี้แบ๊งค์ก็พยายามที่จะบังคับตัวเองอยู่

พอตกบ่าย ๆ พวกเราไม่มีเรียนกันแล้วครับ  แบ๊งค์มานั่งรอพี่นุ่น  เพราะพี่นุ่นจะเลิกอีกที 4 โมงกว่า ๆ  ตอนนี้แมคกับกาว
มาอยู่กับแบ๊งค์  ติดกันเป็นตังเมเลยครับ

“แบ๊งค์ถามไรหน่อยดิ “  กาวขอถามครับ 

“อืม.......ได้สิ”  แบ๊งค์เริ่มดีขึ้นแล้วครับ  แต่แมคทำท่าไม่พอใจกลัวว่าคำถามของกาว  จะทำให้แบ๊งค์ร้องไห้ออกมาอีกรอบ

“แบ๊งค์ชอบเล่นเกมอะไรหรอ”   พอสิ้นคำถามแมคก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“เราหรอ Audition มั้ง”  แบ๊งค์เลยตอบออกไป

“อืมหรอ  เราชอบเล่นปังย่าอ่ะ”  กาวพูด

“เหมือนเราเลย”  แมคพูดขึ้นบ้าง

“แบ๊งค์ไม่ลองหัดเล่นบ้างหรอ”  กาวชวน

“ไม่หรอก  เราเล่นแค่นี้ก็จะไม่ไหวแล้ว  เราชอบเล่นเอมไปด้วย  เล่นเกมไปด้วยอ่ะ”  แบ๊งค์ตอบออกไป

“อ่ะหรอ  นี่เรายังไม่มีเมลล์แบ๊งค์เลยนะ”  แมคขอ

“อืมเอาไปดิ  bro.......อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com”  แบ๊งค์ให้ไป

“เราขอด้วยนะ”  กาวขอบ้าง

“แบ๊งค์เล่นบ่อยป่ะ”  แมคถาม

“เมื่อก่อนก็บ่อยนะ  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว”   แบ๊งค์พูด

“ทำไมล่ะ  เอาแต่เล่นเกมหรอ”  กาวถามขึ้นอีก

“เปล่า ๆ เราไม่ค่อยมีเวลาน่ะ  อยากอยู่คนเดียว”  แบ๊งค์ตอบตามตรง

“นี่แบ๊งค์...มีอะไรที่เราพอจะช่วยได้ก็บอกนะ”  แมคพูดพร้อมเอามือมาวางทาบมือแบ๊งค์

“อืม...ใช่  มีอะไรที่ไม่สบายใจ  มาระบายให้เราฟังก็ได้  เดี๋ยวเราจะยอมเป็นส้วมให้นายระบายเอง”   กาวพูดติดตลกขึ้นมา

“บ้าน่า!!!!”   แบ๊งค์ตอบไป  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มยิ้มได้แล้ว  สีหน้าทุกคนดูดีขึ้นเมื่อเห็นว่าแบ๊งค์ยิ้มออกมาจนได้

“เอานี่แบ๊งค์เอาไปกิน”  พี่ตั้มครับ  มาถึงก็หอบอะไรก็ไม่รู้มากองไว้ที่ตรงหน้าแบ๊งค์  นมเปรี้ยวหลายกล่อง  ช็อคโกแลตอีกหลายแท่ง

“อะไรเนี่ยพี่ตั้ม”  แบ๊งค์แปลกใจ

“โห....วันนี้พี่ตั้มใจดีว่ะ  กินกันเร็ว”  กาวทำท่าจะทาน

“ไม่ต้องเลยมึง  ทั้งหมดเนี่ยของไอ้ตัวเล็กนู่น”  พี่ตั้มบุ้ยปากมาทางแบ๊งค์

“ของแบ๊งค์หรอ?  ทำไมแบ๊งค์ต้องทานล่ะ”  แบ๊งค์ งง ๆ

“ก็แบ๊งค์อ่ะดูมีความทุกข์  ต้องทานของพวกนี้เข้าไป  พี่ไปถามเด็กคณะแพทย์มา เค้าบอกว่าของพวกนี้จะทำให้อารมณ์ดี
ได้รู้มั้ย”  อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง

“แล้วถ้าแบ๊งค์สิวขึ้นล่ะครับ  พี่ตั้มต้องพาไปรักษาด้วย”  แบ๊งค์แซว

“เออ....เดี๋ยวกูพาไปเอง  แต่ขอให้มึงกลับมาเป็นคนดิมก่อนละกัน”  รู้สึกดีใจจัง  ที่มีรุ่นพี่  และเพื่อน ๆ ที่ใส่ใจเราขนาด
นี้  แบ๊งค์เลยได้แต่ยิ้มอย่างเดียว  รู้สึกดีจังที่ได้เจอคนเหล่านี้

วันนั้นแบ๊งค์กลับคอนโดแบบมีความสุขครับ  พี่นุ่นก็ทักว่าไปทำอะไรมา  ยิ้มอยู่ได้ แต่ก็ดูพี่นุ่นมีความสุขมากขึ้นนะครับ
แล้วคืนนี้แบ๊งค์ก็หลับไปพร้อมรอยยิ้ม  ไม่ต้องหลับไปพร้อมน้ำตาเหมือนคืนก่อน ๆ ที่ผ่านมา
************
อ่ะฮึก ๆ โธ่เอ้ย เกย์น้อยไม่ทันซะแร้วววว :dont2:

 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BrOwNiE ที่ 08-05-2007 02:32:27
โอ๊ะโอ   โพสเร็วเหมือนกานนะเนี่ย

แวะมาให้กะลังจายคัฟป๋ม

สู้ต่อไปนะน้อง pajaa  อิอิ

 o13  :teach:


ปล.  ได้อ่าน  ได้โพสกานนานแน่ เอิ๊กส์ ๆ

 :laugh3:  o8  :haun5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-05-2007 11:16:48
สงสารน้องแบงค์จังอ่ะ ต้องมามีตราบาป จากไอ้พี่โป้งง เลวจริงๆ :angry2: o12

ความรักที่ทำท่าจะดีกับพี่อาร์ทกลับต้องมามีอุปสรรค  :o12:

ปล.เป็นกำลังใจให้น้อง pajaa ด้วยคับ มาโพสได้ทันใจมั่ก อิอิ o15 o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-05-2007 19:26:27
จะเลิกกันนี่ อาร์ทรับรู้แล้วเหรอ  :try2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 08-05-2007 22:02:10
 :serius2: วุ่นวายจริงๆเลย
สงสารแบ๊งค์อ่ะ  :sad2: ไม่น่าต้องมาพบเจอคนเลวๆอย่างไอ้คุณพี่โป้งเลย  :angry2: โรคจิต
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 09-05-2007 00:11:56

ขอบคุณสำหรับ reply นะคับ
แหะ แหะ... :o11:
*******************
บทที่ 18 การหลบหน้า

เปิดเทอมมาได้ 3-4 วันแล้วครับ  ตอนนี้แบ๊งค์พยายามอย่างมากที่จะลืมเรื่องร้าย ๆ ทุกอย่างที่ได้ไปพบเจอมาตอนปิด
เทอมให้หมด  แบ๊งค์พยายามหลบหน้าพี่อาร์ทและพี่โป้ง  บางครั้งแบ๊งค์ก็แอบไปมองดูพี่อาร์ทที่สนามบาสอยู่ห่าง ๆ ไม่
กล้าเข้าไป  ไม่อยากตอบคำถามของพี่อาร์ท  และไม่อยากให้พี่โป้งเห็น เดี๋ยวเรื่องมันจะใหญ่โตไปกว่านี้  ช่วงนี้แบ๊งค์จะ
ไม่ค่อยได้เปิดโทรศัพท์มือถือซะเท่าไหร่  ปิดไว้ตลอด  พอเปิดมาแบ๊งค์ก็จะเจอกับข้อมความของคน 3 คนที่แบ๊งค์ค่อน
ข้างคุ้นเคย  และเจอเป็นประจำ  คือพี่อาร์ท  พี่โป้งและนายโต้คนแปลกหน้า  ข้อความส่วนมากจะเป็นข้อความจากศูนย์ที่
ส่งมาบอกว่าเบอร์อะไรโทรหาเราประมาณนี้มากกว่า  แต่บางครั้งก็มีข้อความหลาย ๆ ข้อความที่แบ๊งค์อ่านแล้วรู้สึกอยาก
ร้องไห้เหมือนกัน


“ ตอนนี้อยู่ไหนหรอครับ?


ปิดเครื่องทำไม เป็นห่วงนะครับ
............อาร์ท”



“พี่รักแบ๊งค์จริง ๆ นะ
........โป้ง”


“ไม่ค่อยออนเอมเลยนะ
มีปัญหาอะไรรึป่าว
บอกได้นะ
.......คนแปลกหน้า”


ข้อความเหล่านั้นที่แบ๊งค์ได้อ่าน  มันยิ่งทำให้แบ๊งค์รู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไร  แบ๊งค์ไม่กล้าที่จะบอกเลิกพี่อาร์ท  ไม่
กล้าที่จะไปคบกับพี่โป้ง  ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง  ตอนนี้ในหัวของแบ๊งค์มีแต่คำว่า ไม่กล้า.........ไม่กล้า...........และก็ไม่กล้าเท่านั้น  ทำไมนะแบ๊งค์ถึงได้เกิดมาอ่อนแอได้ขนาดนี้  ในระยะหลังตั้งแต่เกิดเรื่อง ดูเหมือนแมคจะค่อนข้าง
ใส่ใจแบ๊งค์มากขึ้น ไม่เคยเลยที่แมคจะปล่อยแบ๊งค์ให้อยู่คนเดียว  ถึงแม้ว่าบางครั้งแมคอาจจะมีธุระที่ต้องไปทำ  แต่แมค
ก็เลือกที่จะอยู่กับแบ๊งค์  ทำให้แบ๊งค์ยิ่งรู้สึกเกรงใจ  จนต้องไล่แมคให้ไปทำธุระต่าง ๆ ให้เสร็จ  หรือไม่แบ๊งค์ก็ต้งไปทำ
ธุระกับแมค  เพื่อให้แมคสบายใจว่าไม่ได้ทิ้งแบ๊งค์ และนี่คงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราสองคนสนิทกันมากขึ้น 

แมคเริ่มมาหาแบ๊งค์ที่คอนโด  พี่นุ่นก็เริ่มรู้จักแมค แต่แบ๊งค์คงยังไม่อยากคบแมคเป็นแฟนหรอกนะ   ตอนนี้แบ๊งค์ยังไม่
พร้อมที่จะคบใครจริง ๆ แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งพี่อาร์ทก็มาหาแบ๊งค์ที่คอนโด  แบ๊งค์ตกใจมาก  เลยแอบไปหลบอยู่หลังโซฟา
แอบฟังพี่นุ่นคุยกับพี่อาร์ท

“พี่นุ่นครับแบ๊งค์อยู่มั้ย”  พี่อาร์ทถาม

“แบ๊งค์ไม่อยู่หรอก  ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอ่ะ”  พี่นุ่นช่วยแบ๊งค์โกหก

“แล้วทำไมแบ๊งค์ปิดเครื่องล่ะครับ”   พี่อาร์ทยังคงถามต่อ

“พี่ก็ไม่รู้นะ  เค้าคงไม่อยากให้ใครมารบกวนมั้ง”  พอพี่นุ่นพูดเสร็จ  พี่อาร์ทก็หน้าถอดสี  แบ๊งค์สังเกตเห็นได้ว่า  พี่อาร์ทดู
ซึมไปถนัดตา  พอแบ๊งค์เห็นแบบนั้น  มันยิ่งทำให้แบ๊งค์ปวดใจจนผลสุดท้ายต้องร้องไห้ออกมา

“ทำแบบนี้มันดีแล้วหรอแบ๊งค์”   พี่นุ่นถาม

“แบ๊งค์ไม่รู้จะทำยังไงนี่”  แบ๊งค์ที่ร้องไห้อยู่ตอบ

“บอกเค้าไปตรง ๆ ดีกว่านะ  อย่าค้างคาแบบนี้เลย  มันเป็นผลเสียทั้งสองฝ่ายนะ”  พี่นุ่นพยายามที่จะให้แบ๊งค์บอกเลิกพี่อาร์ทไป

“ขอเวลาแบ๊งค์ทำใจก่อนนะ”  แบ๊งค์ยังคงก้มหน้าร้องไห้ต่อไป  ไม่ได้มีแค่พี่อาร์ทเพียงคนเดียวหรอกครับ  ที่พยายามมา
ตามหาแบ๊งค์  รวมถึงพี่โป้งด้วย  แต่นายคนนี้มักจะได้การต้อนรับที่ไม่ดีจากพี่นุ่นซักเท่าไหร่   เพราะพี่นุ่นเป็นอีกหนึ่งคนที่
รู้เรื่องเหตุการณ์ทั้งหมด  พี่นุ่นเลยไม่ชอบขี้หน้าพี่โป้ง  บุคคลซึ่งมาย่ำยีน้องชายของพี่นุ่นคนนี้ซักเท่าไร  แล้วแบ๊งค์ก็ยังคง
หลบหน้าพวกคนเหล่านั้นไปเรื่อย ๆ

จนมาวันหนึ่ง  คือเรื่องมันมีอยู่ว่าวันนั้นพี่นุ่นจะขอกลับบ้านดึก  เพราะมีทำแล็ป  แบ๊งค์เลยเลือกที่จะรอ   โดยมีแมคนั่งรอ
เป็นเพื่อนเหมือนเดิม  แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึงประมาณ 1 ทุ่ม  แบ๊งค์อยากเข้าห้องน้ำ  ก็เลยขอตัวแมคไปเข้าห้องน้ำ
 ระหว่างทางต้องผ่านสนามบาสด้วย  แบ๊งค์เลยรีบวิ่งผ่านไป  ไม่อยากให้ใครสังเกตเห็น   พอแบ๊งค์ทำธุระส่วนตัวเสร็จ  ก็
เดินออกมา  สวนกับบุคคลคนหนึ่ง  ซึ่งตัวใหญ่กว่าแบ๊งค์มาก  แบ๊งค์ไม่ทันระวังก็เลยชนเค้าเข้าไปเต็ม ๆ  คน ๆ นี้มีกลิ่น
ที่แบ๊งค์ค่อนข้างคุ้นเคย  เมื่อแบ๊งค์มองหน้าไปก็อึ้งเลยครับ  พี่อาร์ทนั่นเอง

“ขะ...ขอโทษนะครับน้อง  พี่ไม่ทันระ....”  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะพูดจบ  พี่อาร์ทก็มองหน้าแบ๊งค์  แล้วทำท่าทางดีใจที่ได้เจอกัน

“........................”   แบ๊งค์เงียบรออยู่ก่อนแล้ว

“แบ๊งค์!!!แบ๊งค์จริง ๆ ด้วย”   พี่อาร์ทโอบแบ๊งค์ไว้ในอ้อมกอด  รู้สึกดีจังอยากให้อยู่อย่างนี้ไปนาน ๆ ไม่อยากจะจากไปเลย
จริง  ๆ แต่พอคิดไปคิดมา ก็นึกถึงคำพูดของพี่โป้ง  แบ๊งค์เลยรีบผลักพี่อาร์ทออกไปให้พ้นตัว  ด้วยกลัวว่าพี่โป้งจะมาเห็น

“ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ”  แบ๊งค์พูดออกไป

“แบ๊งค์......แบ๊งค์เป็นอะไรน่ะ  พี่คิดถึงเรามากเลยรู้มั้ย”  พี่อาร์ทพูดด้วยความคิดถึง

“แต่ทำแบบนี้มันไม่ดีนะครับ”  แบ๊งค์พยายามเถียงออกไปด้วยประโยคเดิม ๆ ตอนนี้ในหัวคิดคำพูดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ

“ตอนนี้พี่ไม่สนสายตาใครแล้ว  แบ๊งค์รู้มั้ย ช่วงที่พี่ไม่ได้เจอเรามันทรมานแค่ไหน” พี่อาร์ท พูดเสียงสั่นเครือ เหมือนคนที่
กำลังจะร้องไห้  แบ๊งค์ก็ใกล้จะร้องไห้ตามเช่นกัน

“มันไม่ใช่แบบนั้น!!!!!”  แบ๊งค์ตะคอกออกไป

“พี่อาร์ท...ตอนนี้เราคงกลับไปเป็นเหมือนเก่าไม่ได้แล้วล่ะ”  แบ๊งค์ตัดสินใจพูดออกไป  มันเป็นคำที่เปรียบเสมือนมีดคม

ที่ค่อย ๆ กรีดหัวใจของแบ๊งค์

“หมะ......หมายความ...วะ...ว่าไง”   พี่อาร์ทดูอึ้ง ๆ ไป

“กลับไปไม่ได้   นี่มันหมายความว่ายังไง  มันคืออะไร  แล้วทำไม  แบ๊งค์ช่วยอธิบายให้พี่เข้าใจด้วย  ตอนนี้พี่งงไปหมด
แล้ว”   พี่อาร์ทเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาแล้วครับ

“เราอย่ารักกันเลยนะ  เราคงไม่เหมาะกันหรอก”  แบ๊งค์พยายามหาเหตุผลมาอ้าง  ในขณะที่ตัวเองก็ร้องไห้ไปด้วย

“แบ๊งค์.....แบ๊งค์มีเหตุผลแค่นี้เองหรอ   ไม่นะ  พี่ไม่ยอม”  พี่อาร์ทร้องไห้ไปด้วย

“ไม่หรอก  มันมีเหตุผลที่มากว่านั้น  แต่ตอนนี้แบ๊งค์ยังบอกไม่ได้”  ตอนนี้เราทั้งคู่  ต่างฝ่ายต่างก็มีน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม

“ทำไมหล่ะ  ทำไม  แบ๊งค์บอกพีมาสิครับ”  พี่อาร์ทจับตัวแบ๊งค์เขย่า ๆ

“ปล่อยนะพี่อาร์ท!!!”  แล้วแบ๊งค์ก็สะบัดตัวหลุด  จากนั้นแบ๊งค์ก็ตบหน้าพี่อาร์ทไปอย่างแรงหนึ่งฉาด  พี่อาร์ทเงียบแบ๊งค์ก็
อึ้งที่ทำแบบนั้นลงไป

“ซะ...ซัก...วันพี่อาร์ทจะเข้าใจมันเอง”   แบ๊งค์พูดเสียงสั่น

“..........................”  พี่อาร์ทยังคงเงียบต่อไป

“แบ๊งค์!!!แบ๊งค์เป็นอะไรไปน่ะ”   แมควิ่งเข้ามาโอบเอวแบ๊งค์ครับ

“เราเห็นแบ๊งค์ออกมาเข้าห้องน้ำนานแล้วไม่ยอมกลับซะที  เลยเป็นห่วง  แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นหรอ”  แมคถามด้วยความเป็น
ห่วง  ตอนนี้พี่อาร์ทมองหน้าของแบ๊งค์กับแมคสลับกันไปมา

“อย่างนี้นี่เอง”   แล้วพี่อาร์ทก็พูดขึ้นมา

“นี่สินะ......เหตุผลของแบ๊งค์”   พี่อาร์ทมองด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไม่ใช่นะพี่อาร์ท”  แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

“ไม่ต้องหรอกแบ๊งค์  พี่เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว  ขอให้มีความสุขนะ”  แล้วพี่อาร์ทก็เดินจากไป  แบ๊งค์เลยหันไปซบไหล่
แมค  แล้วร้องไห้ออกมาโฮใหญ่ ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกเจ็บปวดมาก  นี่สินะที่เค้าเรียกว่าอกจะระเบิด  แบ๊งค์เพิ่งเข้าใจวันนี้
เอง   แมคโอบกอดแบ๊งค์ไว้

“แบ๊งค์....เราไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรมาหรอกนะ  แต่ขอให้แบ๊งค์รู้ไว้  ว่าเราจะไม่ทิ้งแบ๊งค์ไปแน่นอน”  แมคพูดพร้อมกอดรัดแบ๊งค์  ให้แน่นขึ้น

“แมค....นายต้องอยู่กับเรานะ”  อยู่ ๆ แบ๊งค์ก็เผลอพูดออกไป  โดยไม่รู้ว่ามันเป็นการให้ความหวังแมครึเปล่า  แต่แบ๊งค์ก็
พูดออกไปแล้ว  คืนนั้นแบ๊งค์กลับคอนโดทั้งน้ำตาครับ  พี่นุ่นก็สังเกตเห็น  แต่ยังคงไม่ได้ถามอะไรเหมือนรอให้แบ๊งค์
พร้อมที่จะเป็นฝ่ายเล่าเองมากกว่า   พอถึงคอนโด  แบ๊งค์อึดอัดมากเลยครับ  ก็เลยเล่าให้พี่นุ่นฟังไป  พี่นุ่นก็พยายาม
ปลอบแบ๊งค์   แล้วคืนนั้นก็เป็นอีกคืนครับ  ที่แบ๊งค์ต้องหลับทั้งน้ำตา

พอมาอีกวันหนึ่ง  แบ๊งค์ก็ไปเรียนตามปกติ  ระหว่างที่จะเดินเปลี่ยนตึกเรียน  ต้องเดินผ่านหลังตึกใหญ่ครับ  ที่เลือกเดิน
ทางนี้เพราะมันไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน  แต่มันก็ดูเปลี่ยว ๆ เหมือนกัน  แล้วอยู่ ๆ ก็มีคนดึงแขนแบ๊งค์ไปครับโดยเอามือ
ปิดปากด้วย  แบ๊งค์กำลังจะร้องแต่พอเห็นหน้าเท่านั้นแบ๊งค์ก็เลยหยุดไป  พี่โป้งนั่นเองครับ

“เงียบ ๆ ไว้นะพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”  พี่โป้งกระซิบกระซาบ

“มะ..มีอะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถามออกไป

“เมื่อวานอ่ะ  พี่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างนะ  ที่หน้าห้องน้ำอ่ะ”  พี่โป้งพูด

“..........................”   อึ้งเลยครับ   แล้วพี่โป้งมันจะหาเรื่องแบ๊งค์อีกมั้ยเนี่ย

“ทำได้ดีมากนะ  ที่บอกเลิกไอ้อาร์ทไป  แบ๊งค์ทำถูกแล้วล่ะ”   พี่โป้งยิ้ม ๆ

 “แต่พี่ไม่ชอบอยู่อย่างหนึ่ง..........”  พี่โป้งเริ่มกลับมาทำหน้าดุอีกครั้ง

“เรื่องอะไรอีกล่ะ”   แบ๊งค์เริ่มไม่พอใจ

“พี่ให้เราเลิกกับไอ้อาร์ท  แล้วมาคบพี่  ไม่ได้ให้ไปคบไอ้แมคนั่น”  พี่โป้งดูท่าทางโกรธมาก

“พี่โป้งไม่ได้บอกแบ๊งค์ตั้งแต่แรกซะหน่อย   พี่โป้งบอกแค่ว่าให้เลิกกับพี่อาร์ทเท่านั้น”  แบ๊งค์แย้งออกไป

“นี่เราคิดจะลองดีกับพีใช่มั้ย”   พี่โป้งขู่

“แล้วจะทำไมล่ะ  จะเอารูปแบ๊งค์กับใครไปเบลคเมลล์อีกล่ะ”  พอแบ๊งค์พูดออกไป  พี่โป้งก็ทำท่าตกใจ  ที่ได้ยินแบบนั้น

“พี่ไม่ทำแบบนั้นอีกหรอก  พี่รักเรารู้มั้ย”  แล้วพี่โป้งก็เริ่มไซร้ซอกคอของแบ๊งค์ 

“พี่โป้งที่นี่มันเป็นมหาวิทยาลัยนะ  อย่าทำแบบนี้”   แบ๊งค์พยายามขัดขืน

“ห้ามไปคบกับนายแมคอีกนะ  ถือว่าพี่ขอร้อง”   พี่โป้งทำท่าอ้อน

“แบ๊งค์คงทำให้ไม่ได้หรอก  ตอนนี้พี่โป้งอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ  แบ๊งค์ไม่อยากที่จะสนใจใครอีกแล้ว”  พูดแล้ว
แบ๊งค์ก็สะบัดแขนหลุดออกจากอ้อมกอดของพี่โป้ง  แล้วรีบวิ่งหนีไป 

สรุปแล้วคาบบ่ายวันนั้นแบ๊งค์ไม่ได้เข้าเรียนหรอกครับ  แบ๊งค์โดเรียนไปอยู่ที่หอสมุด  ไปอยู่ในมุมหนังสือเก่า ๆ ที่ไม่มี
ใครมาหยิบไปอ่าน  เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว  มือถือที่ปิดเสียงไว้ก็โชว์เบอร์แมค ที่พยายามโทรมาหาแบ๊งค์อยู่เรื่อย
 ๆ  แต่แบ๊งค์ก็ไม่ได้รับสาย  แบ๊งค์กำลังคิดว่าแบ๊งค์จะทำอย่างไรต่อไป  แล้วแบ๊งค์ก็คิดได้  แบ๊งค์เลือกที่จะลองคบแมคดู
โดยไม่สนใจคำพูดของพี่โป้ง  เพราะถึงยังไงถ้าเราไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อเหมือนเมื่อก่อน  เราก็คงไม่เดือดร้อนอะไร 

แล้วแบ๊งค์ก็โทรศัพท์ไปหาแมคเรียกแมคมาพบที่หอสมุด

“แบ๊งค์  เป็นอะไรไปรึเปล่าทำไมไม่รับโทรศัพท์”  แมคดูเป็นห่วงแบ๊งค์มากเลยครับ

“เราไม่เป็นอะไรหรอก ”

“แมค........เราถามอะไรนายอย่างดิ”  แบ๊งค์ถามออกไป

“อะไรหรอกพูดมาสิ”   แมคมองหน้าแบ๊งค์

“นายรักเรามั้ย”  แบ๊งค์พูดออกไป

“..............................”  แมคเงียบครับ

“รักที่ไม่ใช่รักแบบเพื่อน ๆ อ่ะ”  แบ๊งค์ย้ำจุดประสงค์อีกครั้ง

“อืม..........เรารักแบ๊งค์มาก...มากเกินกว่าที่เราจะยอมเป็นเพื่อนแบ๊งค์ได้”  แมคสารภาพออกมา  แล้วแมคก็ก้มหน้าลง

“แมค.....เราขอลองคบกับนายได้มั้ย”  แบ๊งค์พูดออกไปแบบไม่คิด

“จริงหรอแบ๊งค์!!!!”  แมคดูดีใจเป็นอย่างมาก

“แค่ลองคบกันไปก่อนนะ”  แบ๊งค์ทวนซ้ำ

“อืม..ได้แค่เราได้ลองคบแบ๊งค์  แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว”  พูดจบแมคก็เข้ามาสวมกอดให้กับแบ๊งค์ แมคดูมีความสุข
จริง ๆ  หลายคนอาจมองว่าแบ๊งค์คบกับแมคเพื่อประชดชีวิต  หรือประชดใครบางคน  แบ๊งค์ก็ขอยอมรับนะครับ  ว่าอาจ
เป็นไปได้  แต่ถ้าเอาตามความคิดจริง ๆ ของแบ๊งค์  ที่แบ๊งค์ทำไปก็เพราะ  แบ๊งค์อยากทำให้ใครก็ได้  ได้มีความสุขจาก
ความรักที่แบ๊งค์ให้ไปบ้าง  เป็นความรักที่ไม่ต้องไปทำร้ายใครอีก  เผื่อว่ามันจะสามารถไถ่โทษที่เคยทำเอาไว้ได้บ้าง
****************************
:bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-05-2007 01:41:57
พี่อาร์ทผิดอะไรเหรอ ทำไมแบงค์ไม่พูดไม่บอกไปเผื่อบางทีอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ สงสารพี่อาร์ท  :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-05-2007 16:14:25
เหอเหอ

อ่านแล้วเครียดจัง

 :serius2:

สู้ๆ คร้าบ แบงค์
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-05-2007 16:38:14
 :serius2: โอ้ยไมมันวุ่นวายอย่างนี้ สมชื่อเรื่องจริงๆๆ

แบงคืไม่น่าดึงแมคมาเกี่ยวด้วยเลย ต่อไปจะเปนไงน๊า ในเมื่อใจจริงๆของแบงค์ยังรักพี่อาร์ท  :onion_asleep:

แล้วพี่อาร์ทก็มีสิทธิที่จะรู้ความจริงนะ แงๆๆ :sad4:


ความรักนี่มันยุ่งยากจังเนอะ ...นี่แหละมั้ง รักออกแบบไม่ได้...  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-05-2007 20:02:28
สงสารอาร์ท สงสารแบงค์  :sad4:  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 12-05-2007 00:25:34
นิดนึงนะคับ จะเป็นไรมั้ยเนี้ย... :try2:
****************************
บทที่ 19 การเริ่มต้นใหม่

ตอนนี้แบ๊งค์คบกับแมคอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ  เราคบกันค่อนข้างที่จะเปิดเผยแต่ไม่ได้ประเจิดประเจ้ออะไร  คน
ในกลุ่มของเรารับรู้กันหมดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน   พี่โป้งก็รับรู้นะครับ  หลายครั้งที่แบ๊งค์เดินจับมือแมคผ่านหน้าพี่โป้ง
ไป  พี่เค้าก็ได้แต่มองแบบไม่พอใจ  ตอนนี้พี่เค้าทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอกครับ  เพราะเราสองคนไม่ได้มีพันธะ  หรือชื่อ
เสียงอะไร  ที่จะทำให้ต้องเสื่อมเสียถ้าเรามาคบกัน  แล้วมีอยู่วันหนึ่งครับ  แบ๊งค์ได้ทำรายงานคู่กับกาว  เราสองคนเลยไป
หอสมุดกัน  ระหว่างที่กำลังเลือกหนังสือ  กาวมันก็ถามครับ

“แบ๊งค์เราถามอะไรหน่อยดิ ”   กาวขอ

“อืม....ว่ามาดิ ”    แบ๊งค์อนุญาต

“ถ้าเราถามแล้วแบ๊งค์ห้ามโกรธ  ห้ามร้องไห้นะ ”   กาวมันพูดแปลก ๆ

“อืม...ถามมาเหอะ  ถ้าเราร้องไห้ก็ช่างเหอะ ”   แบ๊งค์พยักหน้าไป

“เมื่อก่อนแบ๊งค์เคยคบพี่อาร์ทใช่มั้ย ”   กาวยิงคำถามาครับ  เป็นคำถามที่ทำเอาอึ้งไปเลย

“อืม.......ใช่ทำไมหรอ ”    แบ๊งค์เริ่มเสียงเบาลง

“แล้วแบ๊งค์เลิกกับพี่อาร์ทำไมหรอ ”    กาวถามต่อ

“เราไม่ตอบได้มั้ย ”   ตอนนี้สายตาแบ๊งค์เหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว

“อืมก็ได้  เราไม่ได้มีอะไรหรอก  แค่อยากมาบอก ”   กาวพูดค้างไว้

“มีอะไรก็พูดมาสิ ”  แบ๊งค์ถามกลับไปบ้าง

“ตอนนี้อ่ะ   พี่อาร์ทไม่เป็นอันซ้อมเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ   เหมือนว่าโค้ชก็จะตัดพี่เค้าออกจากรายชื่อนักกีฬาด้วย ”   
 คำพูดของกาวเล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ

“ตอนนี้พี่อาร์ทเปลี่ยนไปแล้วนะ  เอาแต่เที่ยวกลางคืน  ดื่มเหล้า  ไม่ยอมเข้าเรียน หรือมาซ้อมบาสเหมือนแต่ก่อน ” 
กาวเล่าต่อ  ตอนนี้น้ำใส ๆ มันไหลออกมาจากดวงตาแบ๊งค์อีกแล้วครับ  นี่เราไปทำลายอนาคตพี่อาร์ทอีกแล้วหรอ  ทำไม
นะพอเลิกกันแล้วมันไม่เห็นดีขึ้นเลย

“หมายความว่า  พี่อาร์ทจะไม่ได้เป็นนักกีฬาตัวแทนมหาลัยใช่มั้ย ”   แบ๊งค์ถามบ้าง

“อืม...ใช่  เราไม่ได้โทษแบ๊งค์นะ  เราแค่อยากให้แบ๊งค์ไปพูดกับพี่อาร์ท  ให้พี่อาร์ทกลับมาเป็นคนเดิม  ตอนนี้ทีมขาดพี่
อาร์ทไป  ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว ”   กาวพูดเสียงเศร้า

“เราคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ”   แบ๊งค์ก้มหน้าพูด

“ทำไมล่ะ ”   กาวสงสัย

“เราคงไปสู้หน้าพี่เค้าไม่ได้หรอก ”   แบ๊งค์เริ่มร้องไห้  กาวก็ไม่ถามต่อแล้วครับ

จากนั้นเราก็ช่วยกันทำรายงานไปจนเสร็จ   แบ๊งค์รู้สึกเครียดมาก   ไม่อยากให้พี่อาร์ทำแบบนี้  ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ พอ
ถึงคอนโด  แบ๊งค์ก็นั่งจ้องโทรศัพท์มือถือ  ไม่รู้ว่าจะโทรไปดีรึเปล่า  จนเวลาล่วงเลยมาถึง เที่ยงคืน  แบ๊งค์เลยกดเบอร์ออกไป

“ฮัลโหลค้าบ ”   เสียงปลายสายเหมือนคนที่กำลังเมาไม่ได้สติ  อยู่ในสถานบันเทิงที่ไหนซักแห่ง เพราะตอนนี้เสียงมันดังมาก

“พี่อาร์ทหรอ  ไปหาที่เงียบ ๆ คุยได้มั้ย ”    แบ๊งค์ถามไป

“แบ๊งค์?  แบ๊งค์โทรมาหาพี่ ”    เสียงพี่อาร์ทดูแปลกใจที่แบ๊งค์โทรมา  แล้วเสียงที่ปลายสายก็เงียบลง  เหมือนว่าพี่อาร์ทออก
จากสถานบันเทิงนั้นแล้ว

“มีอะไรจะพูดกับพี่หรือครับ ”   พี่อาร์ทถาม

“พี่อาร์ทดื่มเหล้าใช่มั้ย ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“....ค...ครับ ”   พี่อาร์ทยอมรับ

“พี่อาร์ททำแบบนี้ทำไม  มันไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย ”   แบ๊งค์ว่าพี่อาร์ท

“แบ๊งค์ห่วงพี่ด้วยหรอครับ  แปลกดีจังนะ ”   พี่อาร์ทพูดประชด

“พี่อาร์ท....ที่แบ๊งค์โทรมาเนี่ย  ไม่ได้มาชวนทะเลาะนะ ”   แบ๊งค์เริ่มร้องไห้

“แบ๊งค์ไม่อยากให้พี่อาร์ททำแบบนี้  ตอนนี้พี่อาร์ทกลายเป็นคนอีกคนไปแล้ว  กลายเป็นคนที่แบ๊งค์ไม่รู้จัก  แบ๊งค์ไม่อยาก
ให้มันเป็นแบบนี้เลย ”   แบ๊งค์ร้องไห้ไม่หยุด

“ในเมื่อแบ๊งค์ไม่รักพี่แล้ว มันจะมีค่าอะไรล่ะครับ  พี่รู้อย่างเดียวตอนนี้  พี่ยังรักแบ๊งค์อยู่  เรากลับมาได้มั้ยครับ ”  พี่อาร์ทขอร้อง

“พี่อาร์ทถึงแบ๊งค์จะไปได้รักพี่อาร์ทแล้ว  แต่พ่อกับแม่ของพี่อาร์ทล่ะ  ทำไมไม่คิดถึงท่านบ้าง  ว่าท่านจะรู้สึกอย่างไร ”   แบ๊งค์ต่อว่าพี่อาร์ท

“และถ้าพี่อาร์ทรักแบ๊งค์จริงพี่อาร์ทต้องรอ  ซักวันเราอาจจะได้กลับมารักกันอีก ”

“จริงหรอครับ  พี่จะรอนะ ”    พี่อาร์ทดูสดใสขึ้น

“แต่ก่อนอื่น  พี่อาร์ททำอะไรให้แบ๊งค์ก่อนได้มั้ย ”   แบ๊งค์ขอ

“อะไรล่ะ  ถ้ามันทำให้พี่มีโอกาสกลับไปหาแบ๊งค์พี่ยอมทำ ”   พี่อาร์ทลุกลี้ลุกลน

“กลับมาเป็นพี่อาร์ทคนเดิม  แล้วไปคว้าเหรียญทองมาฝากแบ๊งค์ให้ได้ ”   เมื่อแบ๊งค์พูดจบ  พี่อาร์ทก็ดูอึ้งไป  ก่อนจะยอมรับปากแบ๊งค์

แล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์   ตอนนี้พี่อาร์ทกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว  พี่อาร์ทมุ่งมั่นกับการเรียนมาก  รวมถึงเรื่องการซ้อม
บาสด้วย  พี่อาร์ทดูทุ่มเทกว่าปกติ  แบ๊งค์เห็นแล้วก็ดีใจ  แต่ก็เสียใจอยู่อย่างหนึ่งที่ว่า  พี่อาร์ทไม่ยอมไปสุงสิงกับใครอีก
เลย   เอาแต่เก็บตัวเคร่งเรียนเคร่งกีฬาอยู่คนเดียว  พี่อาร์ทคนที่สดใสร่าเริงหายไปแล้ว

ตอนนี้แบ๊งค์กับแมค  เราเริ่มไปเที่ยวด้วยกันแล้ว  เราสนิทกันมากขึ้น  แบ๊งค์มักจะไปนั่งเฝ้าแมคซ้อมเชียร์หลีดเดอร์
เสมอ  ตอนนี้กีฬามหาวิทยาลัยก็ใกล้เข้ามาทุกที  ทุกคนซ้อมหนักขึ้น  จนไม่ค่อยได้มีเวลามาพูดคุยกันเหมือนเมื่อก่อน  ที่จะมีก็แค่พี่ตั้มนี่ยแหละ  ที่ชอบโดดมาคุยกับแบ๊งค์  ที่โต๊ะม้าหินอ่อน แล้ววันก็ล่วงเลยผ่านไป  ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อย

และแล้ววันนี้ก็มาถึง  กีฬาสีภายในมหาวิทยาลัยนั่นเอง  แบ๊งค์ทำหน้าที่เป้นช่างภาพ เก็บภาพพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ กันเต็ม
ที่  กองเชียร์ร้องเพลงกันดังสนั่น แข่งกับหลาย ๆ คณะ สนุกมาจริง ๆ ดีนะที่แบ๊งค์ใช้เส้นเด็กพี่ตั้ม  ทำให้ไม่ต้องมานั่งร้อง
เพลง  เชียร์หลีดเดอร์วันนี้ก็สวย ๆ หล่อ ๆ กันทั้งนั้น  ทุกคนดุไม่เหมือนตอนที่แบ๊งค์เคยเจอเลย  เปลี่ยนไปเป้นคนละคน
แล้วผลประกาศก้ออกมา  ตอนนี้คณะเราลุ้นกันมาก  ในที่สุดความพยายามก็เห็นผลเราได้รางวัลชนะเลิศประเภทกอง
เชียร์และเชียร์หลีดเดอร์   พี่ ๆ หลายคนดีใจกันกระโดตัวลอย   พวกเราดีใจกันมาก 

แล้วเราก็นัดกันว่าจะไปเลี้ยงหมูกระทะ  โดยที่แบ๊งค์จะไปด้วย  และคาดว่าน่าจะค้างที่บ้านแมค  แบ๊งค์ก็โทรไปขอ
อนุญาต พี่นุ่น ๆ ก็อนุญาตกลับมา  คืนนั้นเราสนุกกันมาก  หมูกระทะก็อร่อย  แมคดูแลแบ๊งค์เป็นอย่างดี  ทำเอาแบ๊งค์
โดนพวกพี่ ๆ แซวไปเป็นแถวว่า  แบ๊งค์เป็นเจ้าชาย ที่มีแฟนเป็นทาสรับใช้  แบ๊งค์กับแมคก็เลยได้แต่อาย ๆ   คืนนั้นเลิก
ประมาณตี 1 กว่า ๆ ครับต่างฝ่ายก็แยกย้ายกลับบ้านเลย   แบ๊งค์ก็กลับกับแมค

พอมาถึงบ้านแมค  แมคก็พาแบ๊งค์ขึ้นไปที่ห้องนอน  พอถึงห้องเท่านั้นแหละครับ  แมคก็กอดจูบแบ๊งค์เต็มที่  เล่นเอา
แบ๊งค์ไม่ทันตั้งตัวเลยครับ

“แมคจะทำอะไรน่ะ ”   แบ๊งค์พยายามดิ้น

“ขอรางวัลจากแบ๊งค์หน่อยนะ ”   แมคอ้อนไปขณะที่กำลังไซร้คอแบ๊งค์อยู่

“ขอไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนได้ป่าว ”   แบ๊งค์ห้ามไว้ก่อน

“งั้นไปอาบพร้อมกันเลย ”   แล้วแมคก็อุ้มแบ๊งค์เข้าในห้องน้ำ   เมื่อแมควางแบ๊งค์ลง  แมคก็ค่อย ๆ ถอดเสื้อให้แบ๊งค์ 
จากนั้นก็ถอดกางเกงให้  ตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าแมค  มีแค่ร่างกายที่เปลือยเปล่าของแบ๊งค์เท่านั้น  แมคค่อย ๆ มองดูร่างนั้น

“มองอะไรน่ะ  เราอายเป็นนะ ”   ตอนนี้แบ๊งค์จนหน้าแดงไปแล้ว

“เราไม่อยากเชื่อน่ะ  ว่าเราจะได้เป็นเจ้าของร่างกายนี้ ”    แมคพูดเสร็จก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกบ้าง

ไม่น่าเชื่อเลยว่าแมคจะมีร่างกายที่ดูดีได้ขนาดนี้   กล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวเป็นลอน  กล้ามหน้าอกที่สวยงาม  แล้วยังรวม
ไปถึงท่อนเนื้อของแมคอีก  มันเป็นท่อนเนื้อที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่  แต่ดูสมส่วน  ตั้งตรงปลายหัวเป็นสีชมพูสวยงาม
แล้วแมคก็อุ้มแบ๊งค์ขึ้นนั่งบนอ่างล้างหน้า  จากนั้นก็จูบปากแบ๊งค์  แล้วเลื่อนมายังซอกคอ  แมคค่อย ๆ ลากลิ้นต่ำลงไป
เรื่อย ๆ จนถึงที่น้องชายของแบ๊งค์  ซึ่งตอนนี้มันกำลังตื่นตัวเต็มที่ 

“ให้เราช่วยนะแบ๊งค์ ”    แมคขอ

“อืม....... ”    แบ๊งค์พยักหน้าไป  เมื่อแมคเห็นว่าแบ๊งค์อนุญาต  แมคก็ครอบปากลงไป  แล้วรูดขึ้นลงอย่างทะนุถนอม 
ดูแมคมีความสุขมากที่ได้ทำแบบนี้   แมครูดขึ้น-ลง ซักพักแบ๊งค์ก็เริ่มทนไม่ไหว  เลยต้องร้องออกมา

“แมคพอเถอะ...เราไม่ไหวแล้ว ”    แบ๊งค์เอามือดันไหล่แมคให้ออกไป  แต่แมคขืนไว้

“แบ๊งค์ปล่อยออกมาเลย  เราจะรอรับไว้เอง ”   แมคเงยหน้ามาพูดก่อนจะลงไป  ครอบปากที่เจ้าน้องชายของแบ๊งค์อีก
ครั้ง  แต่คราวนี้แมคเริ่มเร่งจัวหวะให้เร็วขึ้น

“แมค!!!!แบ๊งค์ไม่ไหวแล้ว ”   สิ้นเสียง  แบ๊งค์ก็พุ่งน้ำรักออกไปจนเต็มปากของแมค  แล้วแมคก็กลืนกินเข้าไป  ทำเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลย

“ทำแบบนี้จะดีเหรอแมค ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็เพราะเรารักแบ๊งค์ไง  แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ”   แมคยิ้มให้  แล้วเราสองคนก็อาบน้ำด้วยกัน

แมคทำให้แบ๊งค์ทุกอย่างเลย  ทั้งสระผม ถูสบู่  พอแบ๊งค์จะทำคืนให้บ้าง แมคก็ไม่ยอม  ตอนนี้แบ๊งค์ก็เลยกลายเป็น
เหมือนเด็ก  ที่มีผู้ปกครองมานั่นอาบน้ำให้  พออาบเสร็จแบ๊งค์ก็ยังอยู่เฉย ๆ อยู่ดี  เพราะแมคเข้ามาเช็ดตัวให้  ไม่น่าเชื่อ
เลยนะเนี่ยว่าตอนนี้แบ๊งค์จะอายุ 18 แล้ว ทำไมนะยังต้องมีคนมาอาบน้ำ เช็ดตัวให้อีกเนี่ย

“เสร็จแล้ว  เด็กน้อย ”    แมคพูดตอนที่เช็ตัวให้แบ๊งค์เสร็จ

“อ่ะนะ   เราอายุ 18 แล้วไม่ใช่เด็กซะหน่อย ”  แบ๊งค์แย้งออกไป  แล้วอยู่ ๆ แมคก็อุ้มแบ๊งค์อีกครั้ง  คราวนี้จับแบ๊งค์โยน
ลงบนที่นอน  แล้วนอนทับแบ๊งค์ไว้ด้วย  จากนั้นแมคก็เปลี่ยนมานอนคร่อมแบ๊งค์ไว้แทน

“แบ๊งค์  วันนี้เราขอนะ ”    แมคเอ่ยปากออกมา

“อืม........ก็ได้ ”    ถึงขั้นนี้แล้ว  ถ้าไม่ให้ก็กระไรอยู่นะ

“แบ๊งค์   เป็นแฟนเราต้องเชื่อฟังห้ามดื้อนะ ”   ประโยคนี้ปังแล้วรู้สึกคุ้นหูจัง

ใช่แล้วมันคือคำพูดของพี่อาร์ทที่เคยพูดกับแบ๊งค์บ่อย ๆ ทำไมนะแบ๊งค์ต้องนึกถึงพี่อาร์ทด้วย  แบ๊งค์ไปทำลายชีวิตเค้ามา
มากพอแล้ว  ตอนนี้แบ๊งค์กำลังอยู่กับแมค  คนจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน  อย่ากลับไปนึกถึงเรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมาจะดีกว่า

“แบ๊งค์........แบ๊งค์....เป็นอะไรน่ะเงียบไป ”    แมคทักขึ้น

“ห...หา.......อะไรนะเมื่อกี้พูดอะไรนะ ”    แบ๊งค์ถามไป

“เราบอกว่า   แบ๊งค์ต้องห้ามดื้อกับเรานะ ”   แมคทวนซ้ำ

“ทำไมต้องว่าเราดื้อด้วยอ่ะ  เราออกจะเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ”   แบ๊งค์แย้ง

“เด็กดี  เชื่อฟัง   ฮะฮะ....มามหาลัยวันแรกก็เถียงพี่ว้ากเนี่ยนะ   อย่างนี้ไม่เรียกว่าดื้อ  แล้วแบบไหนล่ะคือเด็กดื้อ  ”   แมคหัวเราะเบา ๆ ออกมา

“............................... ”    แบ๊งค์อายหน้าแดงไปแล้ว

“แบ๊งค์ !!!!!!!! ”   อยู่ ๆ แมคก็เรียกขึ้นมา

“อะไรหรอ ”    แบ๊งค์ขานรับ

“เป็นของเรานะ”    แมคพูดเสียงกระเส่า

“อะ....อืม.... ”    แบ๊งค์ค่อย ๆ ตอบออกไป  จากนั้น แมคก็โน้มตัวลงมาจูบปากแบ๊งค์  เป็นจูบที่นิ่มนวล   

นานเท่าไหร่แล้วนะที่แบ๊งค์ไม่ได้สัมผัสกับรสจูบแบบนี้  ตอนนี้แมคเริ่มที่จะพยายามดันลิ้นเข้ามา   แบ๊งค์ก็ค่อยเผยอ
ปากรับมัน  เป็นลิ้นที่อบอุ่นหอมหวานเสียจริง ๆ แล้วแมคก็เลื่อนตัวต่ำลงมา  พร้อมกับค่อย ๆ เลียวนที่หัวนม  ความเสียว
ซ่านเกิดขึ้นกับแบ๊งค์อีกครั้ง  ตอนนี้ทั้งน้องชายของแบ๊งค์และท่อนลำของแมคต่างตื่นตัวขึ้นมาเต็มที่  แมคแยกขาแบ๊งค์
ออกให้กว้างมากขึ้น  จากนั้นก็ค่อย ๆ สอดใส่ท่อนลำเข้าไป  แบ๊งค์รู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังมาจ่อที่ปากทางเข้า  จากนั้น
แมคก็ดันท่อนลำเข้าไปหมดทั้งท่อนในรวดเดียว   แบ๊งค์จุกมากจริง ๆ เลยร้องออกมา

“..อะ...อ๊า.... ”   แบ๊งค์ร้อง

“ทนหน่อยนะแบ๊งค์  เราจะได้มีความสุขร่วมกัน ”   แมคพูด  แล้วจากนั้นแมคก็ค่อย ๆ ซอยท่อนเนื้อเข้าออก เป็นจังหวะ
ช้า ๆ แบ๊งค์รู้สึกเจ็บ  เลยเอามือจิกผ้าปูที่นอนจนยับเป็นรอย  แมคก็เลยแกะมือนั้นออก   แล้วเอามือของตนเองประสานเข้าไปแทน

“จับมือเราไว้นะ ”   แมคพูด

“..อะ...อะ...อืม ”    แบ๊งค์พยายามตอบออกมา 

ในขณะที่กำลังครางไม่เป็นภาษา  แล็วแมคก็เริ่มเร่งจังหวะการซอย ให้เร็วขึ้น   เร็วขึ้นเรื่อย ๆมาตอนนี้แบ๊งค์ก็ครางไม่
หยุดแล้ว  เหลือบไปมองหน้าแมค  แมคก็แอบครางเบา ๆ เหมือนกัน  แต่ใบหน้านั้นฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุข  พอ
เห็นหน้าแบ๊งค์แบบนี้  มันยิ่งทำให้แบ๊งค์รู้สึกดีไปด้วย  แล้วแมคก็ยังคงซอยต่อไป

“ขอปล่อยข้างในนะแบ๊งค์ ”   แมคพูดเสียงเหนื่อย ๆ

“อืม ”   แบ๊งค์พยักหน้า  แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกว่า  ท่อนลำของแมคกระตุก  และฉีดพุ่งเอาน้ำรักของแมค  เข้ามาเต็มประตูหลัง

“...อา.......... ”   แมคครางออกมา

“.................... ”    แบ๊งค์เงียบไป  แต่ก็ยังคงหอบเพราะความเหนื่อย

“แบ๊งค์......... ”  แมคเรียก

“อะไรอีกหรอ ”    แบ๊งค์ถาม

“เราขออีกรอบได้มั้ย ”   แมคดูอาย ๆ

“.................... ”      แต่แบ๊งค์อายยิ่งกว่า  หน้าแดงไปหมดแล้ว(-//////-)

“เราอยากทำกับแบ๊งค์ให้สมกับที่เรารอแบ๊งค์มานานอ่ะ ”    แมคอธิบาย

“ขอเราเถอะนะ ”    แล้วแมคก็พูดจุดประสงค์ออกมา

“..................  ”   ไม่ตอบครับแต่ผงกหัวให้แทน   แค่นั้นแหละครับ   แมคก็เริ่มภารกิจต่ออีกครั้ง  สรุปว่าคืนนั้นไม่ได้แค่
สองครั้งหรอกคับ   แต่แมคเล่นทั้งคืนเลยอ่ะ  แบ๊งค์หมดแรงหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
*****************************
:bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-05-2007 07:55:45
 :เฮ้อ: สงสารพี่อาร์ทสุดใจ

แบงค์เป็นไรเนี๋ย  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-05-2007 08:40:56
สงสารอาร์ท  :sad4:  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 12-05-2007 23:37:38
*****************
บทที่ 20 พี่อาร์ทกับการแข่งบาส

แบ๊งค์กับแมคยังคบกันต่อไปอย่างมีความสุข  พี่นุ่นก็เหมือนว่าจะเห็นด้วยที่เราสองคนมาคบกัน  ตอนนี้แบ๊งค์กำลังจะลืม
ทุกสิ่งที่เลวร้ายไปแล้ว  จนวันหนึ่งกาวเรียกแบ๊งค์ไปคุย

“มีอะไรหรอ”  แบ๊งค์ถาม

“แบ๊งค์รู้ป่าว  ว่าวันอาทิตย์นี้พี่อาร์ทมีแข่งบาสนัดชิงชนะเลิศนะ”  กาวพูด

“อืม...แล้วทำไมหรอ”   แบ๊งค์แกล้งถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้ว

“เราอยากให้แบ๊งค์ไปดู  พี่อาร์ทแข่งได้ป่าว”   กาวขอ

“ทำไมแบ๊งค์ต้องไปด้วยล่ะ  ”  แบ๊งค์ทำท่าปฏิเสธออกไป

“แบ๊งค์.........ถือว่าเราขอร้องนะ”   กาวขอร้อง แบ๊งค์เลยปฏิเสธไม่ลง

“ก็ได้  นายมารอเราที่คอนโดนะแล้วค่อยไปพร้อมกัน”   แบ๊งค์บอกกาวไป

“ได้ ๆๆๆ  แล้วเราจะไปหานะ”    กาวทำท่าดีใจเอามาก ๆ แต่แบ๊งค์รู้สึกหดหู่ใจ ยังไงบอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยากจะไปใจ
หนึ่งก็ไม่อยากไป

แล้ววันอาทิตย์ก็มาถึง  กาวมารับแบ๊งค์ที่คอนโด ตามเวลาที่นัดไว้  แต่แบ๊งค์ยังแต่งตัวไม่เสร็จ  กาวเลยมานั่นรอที่ห้องรับ
แขก  โดยมีพี่นุ่นชวนคุย  แล้วแบ๊งค์ก็ออกมา

“แต่งตัวช้าจังนะ  เพื่อนมารอจนรากงอกแล้ว”   พี่นุ่นแซว

“นั่นดิ  นี่นึกว่าต้องหลับรอแล้วนะเนี่ย”   กาวพูด  อ้าว!!!สองคนนี้  เข้ากันได้ซะงั้น

“ก็ขอเวลาหน่อย  เห็นใจกันบ้างกว่าแบ๊งค์จะดูดีได้อ่ะนะ”   แบ๊งค์แก้ตัว

“ไปกันได้แล้ว  เดี๋ยวไม่ทันแข่งนะ”   พี่นุ่นบอกครับ  แล้วเราสองคนก็ลาพี่นุ่นออกมา ขึ้นรอรถกัน  วันนี้ไม่ได้ขึ้นรถเมล์
ครับ   กาวบอกว่าเดี๋ยวจะไม่ทัน  อีกอย่างไม่อยากให้แบ๊งค์อึดอัด ก็เลยขึ้นรถแท็กซี่แทน แล้วเราก็อยู่บนรถแล้วครับ

“งั้นเดี๋ยวแบ๊งค์ออกค่ารถให้นะ”    แบ๊งค์อาสา

“ไม่ต้องหรอก  เราเป็นคนพามาเราก็ต้องเป็นคนจ่ายสิ”   กาวไม่ยอม

“ไม่ได้นะ ที่กาวพูดมาเหมือนว่าแบ๊งค์เป็นเหตุผล ที่ทำให้เราต้องมานั่งแท็กซี่  แบ๊งค์ก็ต้องเป็นคนจ่าย”    แบ๊งค์แย้ง

“ไม่เอาหรอก  แบ๊งค์อย่าดื้อสิ”   กาวยังถียงต่อ

“ไม่เอา!!!!! ”    แบ๊งค์เริ่มทำหน้างอนขึ้นมาจริง ๆ  กาวเลยต้องยอมให้แบ๊งค์เป็นคนออกค่ารถ  แล้วพี่คนขับแท็กซี่ซึ่งเห็นเราเถียงกันอยู่นาน ก็หัวเราะออกมา

“ใครจ่ายก็ได้ทั้งนั้นแหละครับน้อง”   พี่คนขับพูด  เล่นเอาเราทั้งสองคนอายกันไปเลย  เถียงกันเป็นเด็กอยู่ได้  แล้วรถก็มา
ถึงสนามแข่งครับ  แบ๊งค์ก็เป็นคนจ่ายเงิน

“น้องสองคนนี่น่ารักดีกันจังนะครับ  มิน่าถึงได้เป็นแฟนกัน”   พี่คนขับรับเงินไปแล้วพูด ทั้งแบ๊งค์และกาว  ต่างทำตาโตและมองหน้ากัน

“ไม่ใช่นะครับ!!!!”    เราเผลอพูดออกมาพร้อมกัน

“ไม่เป็นไรครับ ๆ  ตอนนี้ยังอาย ๆ กันอยู่พี่เข้าใจ”   พี่คนขับพูดแล้วยิ้ม ๆ ไปก่อนที่เราจะลงรถ

ตอนนี้เราทั้งคู่หน้าแดงจนกลายเป็นคู่หูลูกตำลึงไปแล้ว  แบ๊งค์และกาวไม่ยอมพูดอะไรกันเลย  ก้มหน้าก้มตาเดินอย่าง
เดียว มีครั้งหนึ่งที่แบ๊งค์มือไปโดนมือของกาว  แล้วกาวเผลอจับ  เราทั้งสองรีบปล่อยมือกันทันที   ไม่น่า!!!!!เรากับกาวเป็น
แค่เพื่อน  อย่าคิดไปมากกว่านี้เลย อีกอย่างตอนนี้เราก็คบแมคอยู่ด้วย  แบ๊งค์คิดในใจ

“นั่นไงไอ้กาวมาแล้ว ”  เพื่อนกาวที่อยู่ในทีมบาสทักขึ้น

“มาช้าจังนะ  ไปรีบไปเปลี่ยนชุดซะ  จะได้วอร์มร่างกาย”   โค้ชพูดขึ้น

 แล้วกาวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด ทิ้งแบ๊งค์เอาไว้  ตอนนี้แบ๊งค์กำลังประจันหน้ากับพี่อาร์ท  และถูกจ้องมองมา
ด้วยสายตาของพี่โป้ง  แบ๊งค์เลยเดินหนีมานั่งตรงที่นั่งพักของโค้ชและนักกีฬาโดยไม่พูดอะไร แล้วอยู่ ๆ พี่อาร์ทก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ

“พี่คิดว่าแบ๊งค์จะไม่มาดูแล้วซะอีก ”    พี่อาร์ทเริ่มต้นพูด

“แล้วทำไมแบ๊งค์ต้องไม่มาด้วยล่ะครับ”   แบ๊งค์ตอบไป  พร้อมส่งยิ้มอย่างจริงใจ

“พี่ดีใจนะ  พี่จะพยายามให้ได้ ”  พี่อาร์ทพูด  ดูสดใสจัง  แววตาพี่อาร์ทดูมุ่งมั่น

“สู้ ๆ นะครับ แบ๊งค์จะคอยเชียร์อยู่ ”   เมื่อพูดเสร็จ  พี่อาร์ทก็ยิ้มให้แบ๊งค์  มันเป็นรอยยิ้มที่แบ๊งค์ไม่ได้เห็นมานานแล้ว 
เป็นยิ้มที่อบอุ่น  ดูมีความหวัง  แล้วพี่อาร์ทก็ไปวอร์มร่างกาย  จากนั้นพี่โป้งก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ  แบ๊งค์ก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน

“คุยอะไรกัน หวานชื่นจังนะ  ”  พี่โป้งประชด

“แค่คุยธรรมดานั่นแหละ”   แบ๊งค์ตอบ

“มีไอ้แมคนั่นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว  ยังจะกลับมาคบแฟนเก่าอีก  ไม่ร่านไปหน่อยหรอ”   พี่โป้งต่อว่า    แบ๊งค์ค่อนข้างไม่
พอใจนะครับ   เลยย้อนกลับไป

“ครับ   แบ๊งค์มันก็ร่านแบบนี้แหละ  หลังจากที่ร่างกายแบ๊งค์ต้องแปดเปื้อนมลทินจากใครบางคน  จะร่านอีกซักหน่อย 
มันก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร”   แบ๊งค์ย้อนไป  พี่โป้งทำตาโต  แล้วคว้าแขนแบ๊งค์ไว้

“แบ๊งค์!!!!!  ”   เราจ้องหน้ากันครับ  พี่โป้งจับแขนแบ๊งค์แรงมาก  ค่อนข้างเจ็บครับ  แต่ก็ทนเอาไว้ ไม่อยากให้พี่โป้งเห็นว่า แบ๊งค์อ่อนแอ

“แบ๊งค์   ฝากของหน่อยดิ   ”  กาวเดินเอาของมาฝากครับ  พี่โป้งเลยรีบปล่อยแขน  แล้วเดินไปวอร์มร่างกายกับพวกเพื่อน ๆ

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าแบ๊งค์”   กาวกระซิบถาม

“ไม่หรอก  กาวไปวอร์มเหอะ ”   แบ๊งค์ตอบไป

“แขนแบ๊งค์แดงเป็นรอยเลยนะ  เจ็บเปล่า”   กาวทำท่าเป็นห่วง

“บอกว่าไม่เป็นไรไง  ไปวอร์มได้แล้ว  เดี๋ยวโค้ชว่านะ”   แล้วแบ๊งค์ก็ผลักเอวกาวไป  แล้วนักกีฬาทั้งหมดก็มาวอร์มกัน 
ทำความคุ้นเคยกับลูก  เป็นการวอร์มปกตินั่นแหละครับ

ในที่สุดการแข่งขันก็มาถึง  วันนี้เป็นการแข่งของมหาวิทยาลัยของแบ๊งค์กับ  มหาวิทยาลัยHHH  มีคนมาดูเยอะพอ
สมควร  ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงนะ  คือแบ๊งค์คิดว่าเค้าคงจะมาดูหนุ่ม ๆ นักบาสขวัญใจพวกเค้าเป็นแน่  แล้วการแข่งขันก็เริ่มขึ้นครับ

การแข่งขันเริ่มขึ้นโดยที่  มหาวิทยาลัยของแบ๊งค์เป็นฝ่ายนำ  เปิดเกมรุกเข้าหาฝ่ายตรงข้าม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามยังคงตั้ง
รับไม่ทัน  แล้วมหาวิทยาลัยของแบ๊งค์ก็เอาแต่บุกเข้าไปชู้ต  จนแต้มเริ่มนำห่าง มีอยู่ลูกหนึ่งที่พี่อาร์ทชู้ตสามแต้ม  เป็น
ภาพสวยงามมากจริง ๆ ตอนนั้นแบ๊งค์ลุ้นมากว่าจะลงหรือไม่   พอลงเท่านั้นแหละครับดีใจมากเลย  พี่อาร์ทหันมาทาง
แบ๊งค์ครับ  เรายิ้มให้กัน  ดูเหมือนพี่อาร์ทจะมีพลังขึ้นแยะเลย 

เกมดำเนินต่อไป  แล้วอยู่ ๆ กาวก็โดนผลักครับ  อึ้งเลย  มีโกงกันด้วย  แต่ก็ได้ชู้ตจุดโทษครับ  แต่ไม่ลงเสียดายจัง  ดู
เหมือนว่าอีกมหาวิทยาลัยจะเน้นความรุนแรงนะครับ  พอพักครึ่งดูทุกคนเหนือยอ่อนกันมาก  แต่ก็ยังดีที่มหาวิทยาลัยเรา
ได้แต้มนำ  37-32  แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี

“นี่ ๆ ไอ้ตัวเล็กนั่นน่ะ”   โค้ชเรียกแบ๊งค์ครับ

“มีอะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถาม

“เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นักกีฬาด้วยนะ ช่วยหน่อย ”   โค้ชขอความช่วยเหลือ

“ได้ครับ”   แบ๊งค์รับคำ  แล้วแบ๊งค์ก็เอาถาดใส่แก้วน้ำมาเสิร์ฟให้กับนักกีฬาที่กำลังเดินเข้ามา  สงสารจังอ่ะแต่ละคนดู
อ่วมไปหมด  ทีมของอีกมหาวิทยาลัยคงเล่นหนักหน้าดู  แบ๊งค์เลยรีบเอาน้ำไปเสิร์ฟ
“ขอบใจนะ”   กาวบอกขอบคุณ  พร้อมกับรับน้ำไป

“เป็นไงบ้าง  เจ็บมากมั้ย”    แบ๊งค์ถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอก  แค่นี้สบายอยู่แล้ว”   กาวพูด

“รักษาตัวด้วยนะ”   แบ๊งค์พูดก่อนที่กาวจะเดินไป  แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินเอาน้ำไปให้นักกีฬาทีละคนจนถึงพี่อาร์ท

“ขอบคุณนะครับ   เด็กดื้อ”    พี่อาร์ทยิ้มให้

“สดชื่นจังได้ดื่มน้ำแก้วนี้  เพราะอะไรน้า”   พี่อาร์ทแกล้งถามแบ๊งค์

“เพราะว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ นำเข้าจากฮ่องกงมั้ง ”   แบ๊งค์แกล้งแซว  พี่อาร์ทก็เลยหัวเราะไป  แล้วก็มาถึงพี่โป้ง  แบ๊งค์เอา
น้ำให้แล้วจะเดินผ่านไปเงียบ ๆ แต่พี่โป้งทักขึ้น

“จะไม่พูดอะไรกับพี่หน่อยหรอ     พี่โป้งทักก่อนแบ๊งค์จะเดินผ่าน

“ก็ไม่มีอะไรจะพูดนี่ครับ”    แบ๊งค์ตอบไปไม่มองหน้า

“ไม่เป็นห่วงพี่เหรอครับ”   พี่โป้งพูดออกมา  ดีนะที่พี่อาร์ทไม่ได้ยิน  แบ๊งค์ไม่อยากพูดมากก็เลยเดินออกไป   โค้ชก็เรียก
นักกีฬาไปรวมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการเล่นในครึ่งหลัง  ทุกคนต่างดูเคร่งเครียด  บางคนก็ดูอิดโรย เห็นแล้วเครียดไปด้วยเลย

ครึ่งหลังเริ่มขึ้นแล้ว  ตอนนี้อีกฝ่ายดูจะบุกหนักขึ้น  และยังยังบวกด้วยความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอีก  มีหลายครั้งที่แบ๊งค์แอบ
เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามแอบโกงโดยใช้ความรุนแรง  เช่นใช้ศอกกระทุ้ง  แต่ดูไม่ค่อยแรงนะครับ  กรรมการก็มองไม่เห็น 
แบ๊งค์ก็ไม่รู้จะบอกกรรมการได้อย่างไร  ได้แต่นั่งลุ้นอยู่ข้างสนาม  ทีมฝ่ายตรงข้ามเริ่มบุกทำคะแนนจนเข้ามาตีเสมอทีม
ของมหาวิทยาลัยเรา แล้วสุดท้ายเราก็กลายมาเป็นฝ่ายตาม  ถึงแต้มจะดูไม่ห่างกันเท่าไหร่  แต่สภาพของนักกีฬาตอนนี้ ต่างหมดสภาพที่จะสู้ต่อ  โค้ชเลยต้องขอเวลานอกมาปรับแผน  แบ๊งค์เห็นหลาย ๆ คนสีหน้าตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีเลย  แล้วอยู่
ๆ พี่อาร์ทก็หันมามองพร้อมส่งยิ้มให้ครับ   แบ๊งค์ก็เลยรีบยิ้มตอบพร้อมพูดออกไป ( ไม่มีเสียงหรอกครับให้พี่เค้าอ่านปากเอา )

“สู้ ๆ นะแบ๊งค์เชียร์อยู่  ”  เพียงแค่นี้แหละครับ  พี่อาร์ทก็ยิ้มแก้มแทบปริเลย  จากนั้นกรรมการก็เรียกให้นักกีฬาลง
สนาม  มหาวิทยาลัยของเรากลับขึ้นมาตั้งรับ  และบุกไปทำคะแนนฝ่ายตรงข้ามได้อีกครั้ง  ตอนนี้ผลัดกันนำผลัดกันตาม
ลุ้นมากเลยครับ

แล้วก็มาถึงนาทีสุดท้าย  ตอนนี้คะแนนเป็น 72 70 โดยที่มหาวิทยาลัยของแบ๊งค์เป็นฝ่ายตาม   ห่างกันแค่ลูกเดียวเอง 
แบ๊งค์ลุ้นจนต้องยืนดูเลยครับ  ก็ยืนพร้อม ๆ กับโค้ชนั่นแหละ  ลุ้นกันตัวโก่งตัวงอ  ตอนนี้ทีมเราได้เป็นฝ่ายครองลูก  แต่
เวลาเหลือแค่ 10 วินาทีแล้ว  พี่อาร์ทซึ่งกำลังเลี้ยงลูกอยู่ในมือ  ก็พยายามจะเลี้ยงลูกไปชู้ตให้ได้  แต่ถูกอีกมหาวิทยาลัยสกัดเอาไว้  เวลาเริ่มนับถอยหลังไปเรื่อย ๆ พี่อาร์ทก็เลยตัดสินใจชู้ตนอกจุดโทษไป  หวังทำ 3 แต้ม ลูกบาสลอยข้ามไปยัง
ห่วง  แล้วก็อยู่หมุนไปอยู่รอบ ๆ ขอบห่วง  ทุกคนต่างลุ้นว่าจะลงหรือไม่ 

แล้วลูกบาสก็หลุดจากห่วงตกลงมา  กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน    เมื่อสิ้นเสียงนกหวีด   ทีมที่ชนะก็ต่างโห่
ร้องดีใจ  แต่ทีมของมหาวิทยาลัยของแบ๊งค์  กลับเดินมาหาโค้ชด้วยสีหน้าเศร้า  หลายคนคอตก  มีน้ำตาไหลออกมา 
แบ๊งค์หันไปมองพี่อาร์ท  ตอนนั้นพอพี่เค้ารู้ว่าไม่ลง  พี่อาร์ทก็ทรุดตัวลงบนพื้น แล้วร้องไห้ออกมา

“แบ๊งค์.....จะไม่เข้าไปหาพี่เค้าหน่อยหรอ”   กาวเข้ามาพูดกับแบ๊งค์

“จะดีหรอกาว”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ตอนนี้พี่เค้าต้องการกำลังใจจากนายนะ”   แล้วกาวก็ผลักแบ๊งค์เข้าไปหาพี่อาร์ทที่นั่งร้องไห้อยู่กลางสนาม

“ร้องไห้แบบนี้ไม่หล่อเอาซะเลยนะ”   ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงครับ

“พี่ไม่ดีพอ  ทีมเลยแพ้”   พี่อาร์ทเอาแต่ร้องไห้

“แพ้แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก  ไม่เห็นต้องโทษตัวเองเลย  วันหน้าเราก็กลับมาใหม่ได้”   แบ๊งค์ปลอบใจ  แล้วค่อย ๆ นั่งลงข้างพี่อาร์ท

“เลิกร้องไห้ได้แล้วนะ”   แบ๊งค์พยายามเอามือไปเช็ดน้ำตาให้พี่อาร์ท  แล้วพี่อาร์ทก็คว้ามือแบ๊งค์ไว้ พร้อมกับมองหน้าแบ๊งค์

“แบ๊งค์”   พี่อาร์ทเรียก

“ครับ  มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามไป

“เราจะกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้วใช่มั้ย”   พอได้ยินประโยคนี้แบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ

“พี่ไม่สามารถเอาเหรียญทอง มาให้น้องแบ๊งค์ได้ตามที่เคยรับปาก  ”  พี่อาร์ทมองหน้าแบ๊งค์   ซึ่งตอนนี้ยังคงพูดไม่ออก 
แล้วแบ๊งค์ก็ชักมือกลับ

“ใช่มั้ยครับ........เรากลับมาไม่ได้แล้วใช่มั้ยครับ”   พี่อาร์ทพยายามขอคำตอบจากแบ๊งค์

“พี่อาร์ท.........เราคงกลับไปไม่ได้หรอกนะ”    แบ๊งค์เริ่มที่ร้องไห้ขึ้นมาบ้าง

“ถึงพี่อาร์ทจะชนะได้เหรียญทองมา  เราก็กลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้  เราคงเป็นได้แค่พี่น้อง  พี่อาร์ททำใจเถอะนะ”
แบ๊งค์กลายเป็นฝ่ายที่ร้องไห้แทนครับ  ถ้าเอาตามใจจริงแบ๊งค์ก็อยากลับไปคบพี่อาร์ทนะครับ   แต่ติดที่ว่าตอนนี้แบ๊งค์ไป
คบแมคแล้ว  ไหนยังจะมีพี่โป้งอีกล่ะ  ถ้าพี่โป้งรู้ว่าแบ๊งค์กลับมาคบพี่อาร์ท  พี่เค้าจะทำอะไรต่อไปอีกก็ไม่รู้  แบ๊งค์เลยไม่
อยากกลับไปเพื่อทำร้ายใครอีก

“ทำไมล่ะ”    พี่อาร์ทของเหตุผล

“...แบ๊งค์......แบ๊งค์บอกพี่อาร์ทตอนนี้ยังไม่ได้หรอก”   แบ๊งค์พยายามเลี่ยงที่จะเล่าเรื่องทั้งหมด

“หรือว่า  เพราะแบ๊งค์ไปคบกับคนที่ชื่อแมค”   พี่อาร์ทจ้องหน้าแบ๊งค์

“น...น..นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง”   แบ๊งค์ตอบออกไปเสียงสั่น

“แบ๊งค์!!!!อยู่ที่นี่เองหาตั้งนาน”   แมคครับ  มันมาได้ไงเนี่ย  แล้วมันรู้ได้ไงฟะ

“เราไปหาแบ๊งค์ที่คอนโดแล้วพี่นุ่นบอกว่าแบ๊งค์อยู่ที่นี่ เราก็เลยมาหา จะพาไปทานข้าวอ่ะ”   แมคอธิบายถึงเหตุผลที่มาหา
แบ๊งค์  แล้วแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็ลุกขึ้นยืน

“ป่ะไปเหอะ  เราหิวแล้ว  ”  แมคบอก  แล้วแบ๊งค์ก็เดินไปลากาวที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่

“เราไปก่อนนะ  บาย”   ดูกาวมันอึ้ง ๆ ครับที่เห็นแมคมาหาแบ๊งค์ 

“ขอให้อร่อยนะ  แล้วรักกันให้มาก ๆ แมคก็ดูแลแบ๊งค์นะ”   อยู่ ๆ พี่อาร์ทก็เดินเข้ามาพูด

“ครับ ผมจะดูแลแบ๊งค์อย่างดีเลยครับ”   แมครับปาก คิดไปคิดมา  ทำไมพี่อาร์ทพูด
แปลก ๆ จัง

“กินกันให้อร่อยนะ ”   พี่โป้งตะโกนมาครับ  ดูเป็นเหมือนการแซวกันเฉย ๆ นะ  แต่พอ    แบ๊งค์มองไป พี่โป้งกลับทำหน้า
เหมือนจะกินเลือดกันซะงั้น  เราสองคนก็เลยรีบเดินครับ

แมคก็พาแบ๊งค์มาทานข้าวในร้านอาหารธรรมดานี่แหละครับ  แมคบอกว่าคิดถึงอยากเจอแบ๊งค์ก็เลยมารับ  เราก็ทานกัน
ไปครับ  แต่ในใจแบ๊งค์ก็ยังนึกถึงพี่อาร์ทอยู่  ไม่นะ ๆๆๆ ตอนนี้เราอยู่กับแมคแล้ว  ทำไมต้องนึกถึงคนอื่นด้วย  นึกถึงใจ
ของแมคบ้างถ้าแมคได้รู้เรื่องนี้ พอนึกได้แบบนั้นแบ๊งค์ก็หันมาพูดคุยกับแมคครับ  ในเมื่อแบ๊งค์คบกับแมคแล้ว  แบ๊งค์จะ
ไม่ยอมเสียแมคไปอีก  จะดูแลรักนี้ให้มันดีกว่าเดิม  ตอนนี้อุปสรรคต่าง ๆ คงไม่มีมาขัดขวางแล้ว  พอทานเสร็จแมคก็มา
ส่งแบ๊งค์ที่คอนโดครับ 

แล้วเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาได้ซักเกือบ ๆ อาทิตย์  วันนี้เป็นวันหยุดครับ  กำลังนอนสบาย ๆ เลย  แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ค้าบบบบบบบ”   แบ๊งค์รับด้วยเสียงงัวเงีย

“แบ๊งค์หรอ  เรากาวนะ มีเรื่องด่วนจะบอก”   กาวทำเสียงลุกลี้ลุกลน

“อะไรล่ะ ”   แบ๊งค์ถามไป

“พี่อาร์ท...พี่อาร์ทจะไปอังกฤษเย็นนี้  ”  กาวบอกออกมา  แบ๊งค์ตื่นเต็มตาทันทีครับ

“อะไรนะ  พี่อาร์ทจะไปไหน”   แบ๊งค์ทวนนคำพูดอีกครั้ง

“พี่อาร์ทจะไปอังกฤษ  วันนี้ตอนเย็น ”   กาวพูดออกมา

“ไปทำไมล่ะ  แล้วเรื่องเรียนล่ะ”    คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวแบ๊งค์

“มีคนบอกว่าพี่เค้าเสียใจเรื่องอะไรไม่รู้  เลยอยากไปพักผ่อน  และอาจหาที่เรียนที่โน่นไปด้วยเลย”   กาวบอก  ตอนนี้เริ่มมี
น้ำใส ๆ ออกมาจาตาของแบ๊งค์แล้ว

“แบ๊งค์...ไปส่งพี่อาร์ทนะ”   กาวพูด

“ไปสิ.....แบ๊งค์ต้องไป”   แบ๊งค์พูดเสียงสั่นเพราะกำลังร้องไห้หนัก

“เดี๋ยวเย็นนี้เราไปหาที่คอนโดนะ  จะได้ไปด้วยกัน”   กาวพูดแล้ววางสายไป  แบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม  เสียงดัง
จนกระทั่งพี่นุ่นต้องเข้ามา
*********************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-05-2007 23:58:02
ไม่นะ  :sad5: อุตส่าห์รอลุ้นให้อาร์ทรีเทิร์น  o9  o9 ทำไมจะไปง่าย ๆ แบบนี้    :dont2: 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 13-05-2007 22:02:01
รอดูกันต่อไปคับเรื่องนี้ยังอีกยาวววววว... :teach:
********************
บทที่ 21 ลาจาก

“แบ๊งค์!!!เป็นอะไรไปน่ะ”  พี่นุ่นรีบเปิดประตูวิ่งเข้ามาถาม  หลังจากที่ได้ยินเสียงแบ๊งค์ร้องไห้ดัง

“พี่นุ่น...... ”     สิ้นเสียงแบ๊งค์ก็โผเข้ากอดพี่นุ่น

“ไหนเป็นอะไรบอกมาสิ”  พี่นุ่นถาม

“พี่อาร์ทเค้าจะไปแล้วพี่นุ่น  แบ๊งค์มันเลวเอง”  แล้วแบ๊งค์ก็ก้มหน้าร้องไห้ต่อ 

พี่นุ่นก็พยายามถามให้รู้เรื่องเมื่อแบ๊งค์พอที่จะหยุดร้องได้  แบ๊งค์ก็เล่าให้พี่นุ่นฟัง เรื่องที่พี่อาร์ทจะไปอังกฤษ เย็นนี้

“งั้น ไปเตรียมตัวให้พร้อม  เดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปส่งเราเอง”  พี่นุ่นพูด

แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปอาบน้ำ  ระหว่างที่อาบไปก็ร้องไห้ไปด้วย  คิดถึงแต่พี่อาร์ท  ไม่อยากให้พี่อาร์ทไป  แต่ก็คงขวางไว้ไม่
ได้  เรามันคงเป็นคนไม่ดีจริง ๆ พออาบเสร็จก็แต่งตัวออกมาให้เรียบร้อยครับ  มานั่งรอกาว  ว่าเมื่อไหร่กาวจะมาหาซักที
จนในที่สุด กาวก็มา

“ขอโทษครับที่ทำให้รอ”  กาวมาพร้อมคำขอโทษ

“ป่ะไปกัน  เดี๋ยวพี่นุ่นไปส่งเราเอง”  พี่นุ่นคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกไป  ตามด้วยแบ๊งค์ที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกแล้ว

“แบ๊งค์  อย่าร้องไห้ให้พี่อาร์ทเห็นนะ  เดี๋ยวพี่เค้าก็ไม่สบายใจหรอก”   พี่นุ่นพูด  แบ๊งค์เลยรีบเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าออก
ให้หมด  แล้วก็ไปขึ้นรถ  แบ๊งค์ให้กาวนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ
 
“ทำไมไม่นั่นข้างพี่นุ่นล่ะ แบ๊งค์”   กาวถาม

“แบ๊งค์ไม่อยากนั่งหน้าอ่ะ   แบ๊งค์ขอนอนข้างหลังนะ“  แบ๊งค์เปิดประตูรถแล้วแทรกตัวเข้าไปนอนที่เบาะหลัง  กาวก็คง
ไม่อยากขัดใจ  พี่นุ่นเริ่มขับรถออกไป  ทั้งรถมีแต่ความเงียบ  ยิ่งใกล้สนามบินเข้าไปมากเท่าไหร่  แบ๊งค์ก็เหมือนจะขาด
ใจตาย  แบ๊งค์เลยร้องไห้ออกมา  ทั้งกาวและพี่นุ่นก็ยังคงไม่กล้าที่จะพูดอะไร 

“ แบ๊งค์!!!ถึงแล้ว”   พี่นุ่นหันมาบอกกับแบ๊งค์

“ลงรถกันเถอะแบ๊งค์”  กาวก็เรียก  แบ๊งค์ก็เลยค่อย ๆ ลงจากรถ  สนามบินสุวรรณภูมิดูใหญ่โตและสวยงามจริง ๆ  แต่วัน
นี้แบ๊งค์คงไม่มีอารมณ์ที่จะมองดูอะไรแล้ว  แบ๊งค์ให้กาวเดินนำเพื่อให้พาไปหาพี่อาร์ท  แบ๊งค์รู้สึกไม่กล้าที่จะเข้าไป   
แบ๊งค์ก็เลยหยุด

“เป็นอะไรไปแบ๊งค์”   พี่นุ่นถาม

“ไม่เข้าไปหรอ”  กาวพูดขึ้นบ้าง

“ แบ๊งค์ไม่เข้าไปแล้วได้มั้ย”   แบ๊งค์หยุดยืนแล้วพูดออกมา

“ พี่อาร์ทจะไปแล้วนะแบ๊งค์”   กาวย้ำ

“ แบ๊งค์...ถ้าไม่ไปวันนี้  แบ๊งค์จะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วนะ”   พี่นุ่นย้ำ  แบ๊งค์เลยต้องยอมเดินตามเข้าไป  คนค่อนข้างจะ
พลุ่กพล่าน  แบ๊งค์ก็ได้แต่มองหาพี่อาร์ท  แล้วกาวก็เดินนำไป จนในที่สุดไปถึงประตูของผู้โดยสารขาออก  แต่ก็ยังไม่เจอ
กับพี่อาร์ทอยู่ดี   

“ นั่นไงแบ๊งค์”   กาวรีบชี้มือไป  พี่อาร์ทกำลังเดินจะเข้าไปยังห้องรับรองผู้โดยสาร

“ แบ๊งค์เข้าไปเร็ว”   พี่นุ่นรีบผลักเอวแบ๊งค์ไป  แต่แบ๊งค์ก็ได้แต่เดิน ๆ ไป  จนเริ่มเห็นว่าพี่อาร์ทจะเดินเข้าไปแล้วแบ๊งค์เลยเรียกออกไป

“ พี่อาร์ท!!!!!!!”    แบ๊งค์ตะโกน พี่อาร์ทหยุดแล้วหันมามอง  ฝูงชนค่อย ๆ บางตาจนเราทั้งสองคนเริ่มมองเห็นกัน
และกัน   พี่อาร์ทดูอึ้ง ๆ เมื่อมองเห็นแบ๊งค์   แล้วน้ำตาของแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ไหลออกมา   พี่อาร์ทค่อย ๆ เดินมาหาแบ๊งค์ 
แต่แบ๊งค์ไม่รอให้พี่อาร์ทเข้ามาหรอก  แบ๊งค์วิ่งเข้าไปหาแล้วกระโดดกอดพี่อาร์ทในทันที  พี่อาร์ทก็โอบกอดแบ๊งค์ไว้ 
ตอนนี้แบ๊งค์ไม่สนใจสายตาของใครแล้ว

“ พี่อาร์ท..........”    แบ๊งค์เรียกพี่อาร์ทด้วยเสียงสั่นเครือ

“ แบ๊งค์.....พี่ไม่นึกเลยว่าแบ๊งค์จะมาส่งพี่ได้”  พี่อาร์ทดูแปลกใจ

“ ทำไมพี่อาร์ทไม่ยอมบอกแบ๊งค์  ว่าพี่อาร์ทจะไปอังกฤษวันนี้  ถ้ากาวไม่มาบอก  แบ๊งค์คงไม่ทางรู้เลยใช่มั้ย”  แบ๊งค์ตัดพ้อ

“ พี่ขอโทษ   พี่ไม่อยากให้แบ๊งค์มาเห็น  พี่กลัวทำใจไม่ได้”   พี่อาร์ทเริ่มร้องไห้ออกมาบ้าง

“ ทำไมไม่นึกถึงใจแบ๊งค์บ้างล่ะ”   แบ๊งค์ยังคงต่อว่าต่อไป

“ ในเมื่อแบ๊งค์กลับมาไม่ได้แล้ว มันก็ไม่มีค่าอะไร ”   พี่อาร์ททำเสียงเศร้า

“ เราก็กลับไปเป็นพี่น้องกันไงครับ”   แบ๊งค์พูด

“ ไม่ได้หรอก  พี่คงทำใจไม่ได้   พี่คงไม่กล้ามองแบ๊งค์ได้”   พี่อาร์ทกลับมากอดแบ๊งค์อีกครั้ง

“ ให้พี่กอดแบ๊งค์ให้แน่น ๆ ก่อนไปนะครับ”   แบ๊งค์ผงกหัวแล้วเราก็กอดกัน  อาจมีสายตาหลายคู่ที่จ้องมองเราอยู่  แต่ตอน
นี้เราทั้งคู่ไม่สนใจใครอีกต่อไปแล้ว  อยากกอดกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้  พี่นุ่นกับกาวก็ค่อย ๆ เดินเข้ามา  พี่อาร์ท
เลยค่อย ๆ ปล่อยแบ๊งค์ออกจากอ้อมกอด เราทั้งคู่ต่างเอามือเช็ดคราบน้ำตา

“ ขอบคุณนะที่มาส่งพี่”   พี่อาร์ทพูดกับกาวและพี่นุ่น

“ พี่อาร์ทจะไปจริง ๆ หรอครับ ”  กาวถาม

“ อืม.....มาถึงขนาดนี้คงกลับไม่ได้แล้วล่ะ”   พี่อาร์ทตอบ

“ แล้วพี่อาร์ทจะทิ้งนายเด็กดื้อไว้แบบนี้หรอคะ”   พี่นุ่นถามไปครับ  แบ๊งค์อึ้งเลยครับ

“ เรื่องนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะครับ  น้องแบ๊งค์มีคนที่เค้ารักมากที่สุดคอยดูแลแล้วล่ะครับ”   พี่อาร์ทพูดแล้วมองหน้าแบ๊งค์ 
ซึ่งตอนนี้กำลังนิ่งอยู่

“ พี่ขอตัวไปก่อนนะ ”   พี่อาร์ทพูดเสร็จก็เดินจากไป  โดยมีแบ๊งค์ยืนมองอยู่

“ พี่อาร์ท.......”   แบ๊งค์เรียกออกมาเสียงแผ่วเบา   แล้วอยู่ ๆ พี่อาร์ทก็หันกลับมาอีกครั้ง แล้วเดินเข้าประกบจูบแบ๊งค์ต่อ
หน้าพี่นุ่นและกาว  เป็นจูบที่อบอุ่นและหอมหวาน  เป็นจูบที่แบ๊งค์โหยหามานาน  เราจูบกันนานพอสมควร แล้วพี่อาร์ทก็
ถอนปากออก เราไม่ได้พูดอะไรกัน แล้วพี่อาร์ทก็เดินเข้าทางเข้าผู้โดยสารขาออกไป แบ๊งค์มองพี่อาร์จนหายลับตาไป

แล้วเราสามคนก็เดินกลับไปยังลานจอดรถเพื่อขึ้นรถกลับคอนโดกัน โดยที่แบ๊งค์ยังคงนั่งที่เดิมคือ เบาะหลัง   เมื่อเข้าไป
ถึงแบ๊งค์ก็นอนลงตามเดิม ไม่มีใครคิดที่จะพูดอะไร รถแล่นออกไปด้วยความเงียบ  แล้วแบ๊งค์ก็คิดถึงพี่อาร์ทขึ้นมา  คิด
ถึงวันดี ๆ ที่เคยผ่านมาร่วมกัน  ยิ่งคิดแบ๊งค์ก็ยิ่งร้องไห้  แบ๊งค์เอาแต่นอนร้องไห้อยู่ที่เบาะหลังไม่พูดจากับใครซักคน  พี่
นุ่นก็ขับรถไปเรื่อย ๆ จนถึงคอนโด  ทุกคนกำลังจะลงจากรถ

“ อย่าเพิ่งลงไปกันได้มั้ย”  แบ๊งค์พูดขึ้น ทุกคนก็เลยหยุด

“ มีอะไรหรอแบ๊งค์”   พี่นุ่นถาม

“ อย่าบอกเรื่องนี้ให้แมครู้ได้มั้ย แบ๊งค์ไม่อยากให้แมคไม่สบายใจ”   แบ๊งค์ขอร้อง

“ อืม....ได้สิ เรื่องนี้เราไม่บอกใครอยู่แล้ว”  กาวรับปาก

“ อืม...พี่ก็ไม่ได้อยากบอกใครซะหน่อย  ลงรถกันได้แล้ว”   พี่นุ่น แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ขยังตัวลงจากรถ  ตอนนี้ตาของแบ๊งค์
ทั้งแดงและทั้งบวม  เพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก  กาวเห็นมันก็เลยหัวเราะ  ตอนนั้นแบ๊งค์ยังไม่รู้หรอกครับ

“หัวเราะอะไรน่ะกาว”  แบ๊งค์ถาม

“ ก็ดูหน้านายดิ  ตอนนี้ตลกว่ะ  ตาบวม ๆ ”  แล้วกาวก็หัวเราต่อ  แบ๊งค์เลยเดินไปส่องดูที่กระจก ตาบวมจริง ๆ ครับ แต่
ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์จะมาเล่นอะไรก็เลยไม่ได้เถียง

“นี่กาวจะกลับเลยหรอ”   พี่นุ่นถาม

“คงเป็นแบบนั้นแหละครับ  เดี๋ยวกะว่าจะไปรอรถเมล์แล้วล่ะครับ  ลาเลยก็แล้วกัน”   กาวพูดก่อนทำท่าว่าจะเดินไปที่ป้าย
รถเมล์ แต่พุ่นพูดขึ้นก่อน

“ อย่าเพิ่งไปเลย อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ”   พี่นุ่นเรียกกาว   ตอนแรกกาวก็ไม่คิดจะอยู่ทานข้าวหรอกครับ ทำท่าจะไป
ให้ได้ แบ๊งค์กับพี่นุ่นก็เลยช่วยกันขอร้อง กาวมันก็เลยยอมที่จะอยู่ทานข้าวด้วยกัน เราก็พูดคุยกันเรื่องต่าง ๆ นานา  ตอนนี้
แบ๊งค์เริ่มปริปากพูดขึ้นแล้ว  คือแบ๊งค์ไม่อยากทำให้คนอื่นไม่สบายใจอ่ะครับ แต่ในใจก็ยังคิดถึงพี่อาร์ทอยู่  อีกใจก็นึกถึง
แมค  ถ้าแมคได้รู้เรื่องนี้ แมคจะรู้สึกยังไง  พอทานข้าวเสร็จ  เราก็มานั่งคุยกันถึงเรื่องต่าง  ๆ สัพเพเหระ มองดูนาฬิกา
อีกทีเกือบจะ 3 ทุ่มแล้ว อยู่ ๆ มือถือของกาวก็ดังขึ้น กาวรีบรับโทรศัพท์นั้นอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปคุยโทรศัพท์นั้นเพียง
ลำพัง  พอคุยเสร็จกาวก็เดินกลับมา

“ เอ่อ.......เราคงต้องมีเรื่องรบกวนแบ๊งค์แล้วล่ะ”   กาวพูดเสียงเบา ๆ

“ อะไรหรอ   พูดมาดิ”   แบ๊งค์ถาม

“ คือเราอยู่บ้านกับพี่แค่ 2 คนใช่มะ แต่วันนี้พี่มันออกไปข้างนอก แล้วเอากุญแจไปด้วย  เมื่อกี้พี่เราโทรมาบอกว่า คงไม่
ได้กลับคืนนี้  เราก็เลย... ”  กาวเงียบไป

“ ก็ค้างไปสิ ห้องแบ๊งค์กว้างออก”  ยังไม่ทันที่กาวจะขอ พี่นุ่นก็อนุญาตไปซะแล้ว พี่สาวคนนี้ไวได้ใจจริง ๆ เลย

“ อ้าว ไหงมาโยนให้แบ๊งค์อีกล่ะ”   แบ๊งค์ทำท่าโวยวาย

“ จะให้นอนห้องชั้นรึไง บ้า!!!! ”   พี่นุ่นแย้งกลับ

“ เดี๋ยวผมนอนที่โซฟาก็ได้ครับ  ไม่เป็นไร”  กาวตอบแบบยิ้ม ๆ ไม่ได้สนใจอะไร

“ ไม่ได้นะกาว  จะนอนที่นี่ได้ไง  ห้องเจ้าแบ๊งค์ก็ออกจะกว้าง  นี่อย่าใจแคบไปหน่อยเลย ไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลซะ
หน่อยเพื่อนเรานะ”   พี่นุ่นหันมาว่าให้แบ๊งค์

“ อืม ๆ นอนก็นอนไปจิ แกล้งเล่นเฉย ๆ โวยวายกันไปได้”   แบ๊งค์ตอบไป

“ อืม......จ้า”   พี่นุ่นลากเสียง   พอซัก 3 ทุ่มกว่า ๆ จะ 4 ทุ่มเราก็แยกย้ายกันไปยังห้องของแต่ละคน  กาวเดินตามแบ๊งค์
เข้ามาในห้อง รู้สึกแปลก ๆ จัง

“ แบ๊งค์..... ”   กาวเรียกเมื่อเข้ามาถึงในห้อง

“ มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถาม

“ คืนนี้แบ๊งค์ห้ามข่มขืนเรานะ”   กาวพูดแล้วหัวเราะ

“ บ้า....งั้นคืนนี้ออกไปนอนข้างนอกเลยป่ะ”   แบ๊งค์ทำท่าไล่กาว

“ โอ๋ ๆๆๆๆ ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง”   กาวมาง้อครับ

“ แล้วเราจะเอาอะไรใส่นอนล่ะ”   กาวถาม

“ ใส่ทำไมก็แก้ผ้าดิ”   แบ๊งค์แกล้งแซว

“ เฮ้ย!!!!!!!”   กาวตกใจบ้าง

“ ล้อเล่น...จะเอาชุดนอนให้เนี่ยไง”   แล้วแบ๊งค์ก็เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนู และหาชุดนอนมาให้กาว เมื่อแบ๊งค์เห็นของสองชิ้นนี้  แบ๊งค์ถึงกับอึ้งอีกครั้ง  มันคือชุดและข้าวของที่พี่อาร์ทเคยเอามาทิ้งไว้ตอนที่อยู่กับแบ๊งค์ด้วยเหตุผลที่ว่า จะได้กลับมาอยู่กับแบ๊งค์ที่คอนโดแห่งนี้อีก  แบ๊งค์นิ่งไป  ภาพวันคืนเก่า ๆ วนเวียนเข้ามาในหัว  น้ำตาของแบ๊งค์เริ่มไหลออกมาอีกแล้ว  แบ๊งค์พยายามกลั้นมันไว้แต่ก็ทำไม่ได้  เลยยืนก้มหน้า

“ แบ๊งค์.....”   กาวเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา

“ เป็นอะไรไปน่ะ  บอกเราได้นะ ”  กาวพูด

“ อืม....ไม่เป็นอะไรหรอก”  แบ๊งค์เงยหน้าขึ้นมาพูด  ทั้ง ๆ ที่แก้มอาบไปด้วยน้ำตา

“ ร้องไห้แบบนี้ไม่เหมือนแบ๊งค์เลยนะ  พี่ตั้มเห็นคงแซวแย่เลย”  กาวแกล้งแหย่

“ อืม นั่นดิ  อายพี่ตั้มแย่เลย”   แบ๊งค์เล่นกลับ

“ เราไปอาบน้ำก่อนนะ  อย่าแอบร้องไห้ล่ะ”  กาวพูดก่อนจะเดินไปอาบน้ำ  พอแบ๊งค์เห็นว่ากาวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว น้ำตา
มันก็ไหลออกมาอีกครั้ง  อะไรกันเนี่ย  ทำไมนะคิดไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดอยู่ได้ แบ๊งค์พยายามไม่นึก
ถึงเรื่องเก่า ๆ พยายามลืม แต่มันก็ยังนึกถึงอยู่ได้ เกลียดตัวเองที่สุดเลย แบ๊งค์ล้มตัวลงบนที่นอนแล้วร้องไห้ ในที่สุดกาวก็
อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา  แบ๊งค์เลยรีบลุกขึ้นนั่ง แล้วกาวก็เข้ามากอดแบ๊งค์

“ ไหนบอกว่าจะไม่แอบร้องไห้ไง ดื้อจังเลยนะ”   กาวกอดแบ๊งค์แล้วลูบหัวไปด้วย  แต่แบ๊งค์ต้องรีบผลักกาวให้ออกไปจากตัว  ทำไมน่ะหรอครับ ก็กาวมันไม่ได้ใส่อะไรน่ะสิ  พันมาแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว

“ เป็นอะไรไปหรอแบ๊งค์”   กาวถามแบบงง ๆ

“ แล้วทำไมนายไม่ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนล่ะ”   แบ๊งค์พยายามก้มหน้า เพื่อที่จะไม่มองร่างกายของกาว แต่ตอนนี้แบ๊งค์ไม่ร้องไห้แล้วนะ อารมณ์ตกใจมากกว่า

“ ถ้าไม่ทำแบบนี้แบ๊งค์ก็ไม่หยุดร้องไห้อ่ะดิ”   กาวพูดแล้วหัวเราะ

“ เฮ้ย!!!!บ้าแล้ว”     แบ๊งค์ยังพยายามมองไปทางอื่น

“ ล้อเล่น  เราจะออกมาถามว่ามีแป้งเด็กมั้ย  เราชอบทาแป้งเด็กตอนก่อนนอนอ่ะ”   กาวมันถามครับ แต่ห้องแบ๊งค์ไม่มีแป้งหรอก  เพราะแบ๊งค์ไม่ชอบใช้  แบ๊งค์ก็เลยต้องไปขอแป้งจากห้องพี่นุ่นมา นี่ขนาดมันมาเป็นผู้อาศัยนะเนี่ย ถ้ากรูส์ไปค้างบ้านมัน กรูส์ไม่ต้องกลายเป็นทาสหรอเนี่ย แบ๊งค์คิดในใจ

“อ่ะ เอาไป แล้วรับไปใสเสื้อผ้าซะ”   แบ๊งค์ยื่นกระป๋องแป้งให้กาว

“ไม่อยากดูหุ่นเราหรอ  หุ่นนักกีฬาดูดีนะเว้ย”   กาวยังอวดร่างกายต่อไป

“อือ ๆๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว”   แบ๊งค์ก็ดึงกาวให้ลุกขึ้นแล้วผลักเข้าห้องน้ำไป ซักพักมันก็เดินออกมา 

“ สดชื่นจัง  อิอิ”   มันทำหน้าทะเล้น

“ อืม....งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ ” แบ๊งค์พูดขึ้น

“ ให้เราไปช่วยป่ะ”   กาวถาม

“ ตลกแระ  ไอ้กาว”   แบ๊งค์หันไปว่ามัน

“ ตลกอะไรไม่ใช่หม่ำ จ๊กม๊ก  ไรว้า.......แหย่แค่นี้ก็โกรธกันด้วย”   กาวมันเล่นมุกก่อนทำท่าน้อยใจครับ

 “ เดี๋ยวเราไปแอบดูแบ๊งค์อาบน้ำซะนี่ ”  กาวมันพูดท่าทีดูเอาจริงครับ

“ เฮ้ย!!!!อย่าเข้ามานะเว้ย ไม่งั้นกรูส์ถีบไม่ยั้งแน่”  แบ๊งค์ขู่ไป  ตกลงคืนนั้นกว่าจะได้อาบน้ำก็นานอยู่เหมือนกันครับ  เถียงกับไอ้กาวเนี่ยแหละ พออาบเสร็จเดินออกมา

 “ ไง เจ้าชายน้อยจอมดื้อ”  กาวทักครับ

“ เออ  สบายดี กินข้าวแล้ว”  แบ๊งค์ตอบไปมั่ว ๆ

“ อ่ะนะเล่นกรูส์งงเลยว่ะ ”   ไอ้กาวต่อมุกแบ๊งค์ไม่ได้หรอกครับ ( สมน้ำหน้า )  แล้วแบ๊งค์ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงครับ  โดยเอาหมอนข้างมาคั่นกลางไว้

“ อะไรว้า  กรูส์ไม่ปล้ำมึงหรอก”   กาวบ่นอุบอิบ

“ ไม่ปล้ำก็ไม่ปล้ำดิ เอากั้นไว้เฉย ๆ  ”  แบ๊งค์ตอบแบบกวน ๆ

“ ก็ผ้าห่มมันผืนเล็กอ่ะ  แบ๊งค์ห่มคนเดียวเกือบหมด  แล้วยังติดหมอนข้างอีก เราก็ไม่ได้ห่มอ่ะดิ เกิดเป็นหวัดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบเนี่ย”   กาวบ่นไม่เลิก

“ เออ ๆๆ เอาออกก็ได้วะ บ่นเป็นแม่ไปได้นะเมริง”   แบ๊งค์เลยเอาหมอนข้างออกไป

“ ห้ามปล้ำกรูส์นะเว้ย”   แบ๊งค์พูด แต่กาวหัวเราะเบา  ๆ

“ อย่างนี้สิ ค่อยสมเป็นแบ๊งค์ขึ้นมาหน่อย”   กาวมันพูดครับ ตอนนี้แบ๊งค์ก็เงียบแล้วมองหน้ามัน

“ แบ๊งค์ตอนร้องไห้อ่ะ  น่าสงสารจริง ๆ นะเราเห็นแล้วเศร้าตามไปด้วยเลย ”   กาวพูด

“ อ่ะนะ  เราก็เป็นแบบนี้แหละ”   แบ๊งค์พูดขึ้นบ้าง

“ สัญญากับกรูส์นะเว้ย  ว่าจะไม่ร้องไห้อีก  เวลาเมริงร้องไห้อ่ะ น่าเกลียดชะมัดยากว่ะ  อย่างเมริงอ่ะต้องเป็นไอ้ตัวเล็ก ไอ้พริกขี้หนู เด็กดื้อจอมแสบเท่านั้นนะเว้ย ถึงจะเหมาะ”  ไอ้กาวบรรยายซะยกใหญ่เลยครับ จนแบ๊งค์เริ่มง่วง

“ อืม..กรูส์จะพยายาม”   แบ๊งค์ตาเริ่มปิดแล้ว

“ ลืมทุกอย่างที่มันเลวร้ายไปนะแบ๊งค์”   ยังไม่ทันที่กาวจะได้พูดจบหรอกครับ แบ๊งค์หลับไปแล้ว  อาจจะเป็นว่าเพราะร้องไห้หนักเกินไปมั้งครับ  เลยเผลอหลับไปไม่รู้ตัว

---------------------------------------------------------------------

      ตอนนี้แบ๊งค์หลับไปแล้วครับ ดูเหมือนเด็กจริง ๆ เลย ทั้งท่าทางคำพูด ดูสิครับยังไม่ทันได้พูดจบ หลับไปซะแล้ว

     “  แบ๊งค์......แบ๊งค์.....แบ๊งค์ ”   ผมลองกระซิบที่ข้างหูแบ๊งค์เบา ๆ แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับครับ ผมเลยค่อย ๆ เอามือลูบหัวแบ๊งค์  ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะครับว่าจะได้อยู่ใกล้กับแบ๊งค์ขนาดนี้   ผมก้มลงจูบที่หน้าผากแบ๊งค์อย่างแผ่วเบา ( กลัวแบ๊งค์ตื่นอ่ะครับ ) อดใจไม่ไหวจริง  แล้วผมก็เอามือโอบแบ๊งค์มาไว้ในอ้อมกอด แล้วหลับไป
****************************
 :bye2: คับ


หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 14-05-2007 00:51:32
 :dont2: สงสารพี่อาร์ท
ทำไมมานเศร้างี้อ่า  รักกันแต่ก็ม่ายมีความสุข  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-05-2007 04:07:52
สงสารพี่อาร์ทจิงจิง  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-05-2007 19:32:36
อาร์ทไปซะแระ   :sad4: หวังว่าเรื่องนี้คงจะยาวนาน พอที่จะรอให้อาร์ทกลับมาน้า  :undecided:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 15-05-2007 00:48:26
******************
บทที่ 22 แบ๊งค์กับแมค

เช้าแล้วครับแบ๊งค์ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาแต่ลุกไม่ได้ อ้าว!!!!(-_-')ไอ้กาว ทำไมมากอดแบ๊งค์ไว้แบบนี้ล่ะ ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ หนักจัง ทำไงดีเนี่ยกรูส์จะออกไปยังไงวะ

      "กาว......กาว.......ไอ้กาวโว้ย ตอนแรกก็กะเรียกมันดี ๆ หรอกครับ  แต่มันไม่ตื่นซักที

       "ฮืม...อือ...อะไรหรอ"    มันตื่นแล้วครับ

       "กรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยนะครับ คุณอรรณพ ( ชื่อจริงไอ้กาวครับ ) ตอนนี้ผมรู้สึกอึดอัดมากแล้วครับ"     แบ๊งค์แกล้งพูดประชดมัน

       "เออ ๆๆๆ โทษทีว่ะ  เราติดหมอนข้างอ่ะ"    กาวแก้ตัว

       "แต่กรูส์ไม่ใช่หมอนข้างนะเว้ย"     แบ๊งค์แย้ง

       "เออ ๆๆๆ โทษทีแค่นี้ทำโกรธไปได้"    กาวทำท่าเศร้า ๆ ครับ

       "ไป ๆๆๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปทานข้าวเช้ากัน"    แบ๊งค์ไล่ครับ กาวก็ยอมไปแต่โดยดี  จะว่าไปไอ้กาวนี่มันก็เป็นคนที่ดีจริง ๆ ช่วยเหลือแบ๊งค์ได้ทุกอย่าง  มันแคร์ความรู้สึกแบ๊งค์เกือบทุกอย่าง  แล้วมันก็ยังช่วยทำให้แบ๊งค์ลืมเรื่องร้าย ๆ หลาย ๆ เรื่องไปได้อีกด้วย  คิดไปเพลิน ๆ ไอ้กาวก็ออกจากห้องน้ำแล้วครับ อาบน้ำเร็วจัง

       "อาบน้ำเร็วจังว่ะ สะอาดเปล่าเนี่ย"    แบ๊งค์แซวมันไป

       "จะลองดมมั้ยล่ะ"    กาวเดินเข้ามาครับ

       "พอ ๆๆๆ"      แบ๊งค์เอามือยันมันไว้

       "นายออกไปรอข้งนอกก่อนป่ะ  ไปช่วยพี่นุ่นทำกับข้าวก่อนเดี๋ยวเราตามไป"    แล้วกาวมันก็เดินออกไปครับ แบ๊งค์ก็เลยจัดแจงแต่งตัวให้เรียบร้อย  แล้วออกมา เจอพี่นุ่นกับกาวช่วยกันตั้งโต๊ะอาหารแล้ว  วันนี้เป็นข้าวต้มปลาครับ

       "มาแล้วหรอเจ้าชายน้อย"    กาวแซว

       "มา ๆ มาทานกันได้แล้ว"    แล้วเราสามคนก็ทานข้าวต้มด้วยกันครับ พอทานเสร็จได้ซักพัก แบ๊งค์ก็เดินออกไป ส่งกาวที่ป้ายรถเมล์ครับ

       "ความจริง ไม่ต้องเดินมาส่งเราก็ได้นะ ไม่ทีใครมาฉุดหรอก"    กาวพูด

       "เออเรารู้  แค่อยากออกมาเดินเล่นก็เท่านั้นอ่ะ"    แบ๊งค์บอก

       "เอาไว้วันหลังมาค้างบ้านเรามั่งนะ"    กาวชวน

       "เออ...ถ้ามีโอกาสเราไปแน่  ไม่ต้องได้ชวนหรอก เตรียมตัวไว้บ้างก็แล้วกัน"    แบ๊งค์พูด

       "อืม...พร้อมเสมอ"    แล้วรถสายที่ผ่านบ้านกาวก็มาพอดี   เราสองคนก็เลยลากันแค่นั้น แล้วแบ๊งค์ก็เดินกลับไปที่คอนโด

               .............................................................

      มาดูที่ฝ่ายของแมคกันบ้าง หลังจากที่เหตุการณ์รื่องของพี่อาร์ทผ่านไปได้ซักพัก แบ๊งค์ก็ใช้เวลาอยู่กับแมคให้มากขึ้น พยายามลืมเรื่องทั้งหมดที่ผ่าน  แบ๊งค์ไม่อยากให้แมคต้องมาเป็นตัวแทนของใคร พยายามใช้ใจมองดูการกระทำ และความดีของแมค จะว่าไปแมคก็เป็นคนดีใช้ได้เลยนะ เอาใจใส่แบ๊งค์ตลอด ไม่เคยขาด เสมอต้นเสมอปลายเอามั่กมากส์ แต่ติดที่ตรงอย่างหนึ่ง  แมคดูจะคุณหนูไปหน่อยก็เท่านั้นเอง

       "แบ๊งค์วันนี้ไปดูหนังกับเรานะ"    แมคชวนไปดูหนังอีกแล้วครับ   ช่วงนี้เราไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมาก ทั้งทานข้าว ดูหนัง ฯลฯ

       "ไปอีกแล้วหรอ สัปดาห์นี้เรื่องที่ 3 แล้วนะแมค"     แบ๊งค์บ่นอุบ

       "ไม่ต้องบ่นหรอก เรื่องนี้น่าดูมากเลยนะแบ๊งค์  ไปดูเป็นเพื่อนกันหน่อยนะครับ"    แมคอ้อนแบ๊งค์ โดนอย่างนี้ใครจะไม่ใจอ่อนล่ะครับ   แต่ขอแกล้งหน่อยละกัน

       "ไปดูเป็นเพื่อนหรอ...อืมก็ได้งั้นแสดงว่าเราก็เป็นเพื่อนกันเท่านั้นนะ"    โดนเข้าไป

       "โห....ไรอ่ะแบ๊งค์ งั้นเปลี่ยนเป็นไปดูเป็นแฟนได้เปล่า"    แมคทำท่างอน ๆ

       "อ่ะนะ  ไปก็ไปดิ ล้อเล่นเฉย ๆ"    แล้วเราก็ไปดูหนังกันครับ  ไปซื้อตั๋วจนคนขายจำหน้าได้แล้วมั้งเนี่ย คนไม่ค่อยเยอะหรอกครับ เพราะเป็นวันธรรมดา  แมคเลือกที่นั่ง VIP อีกแล้ว พอได้ตั๋วมาแบ๊งค์ก็เลยเริ่มบ่นครับ

       "ซื้อตั๋ว VIP อีกแล้วนะ เปลืองเงินจะตาย"    แบ๊งค์บ่น

       "น่า.....นาน ๆ ทีมาดูกัน"     แมคอ้าง

       "นานหรอ นี่เรื่องที่ 3 ของสัปดาห์นี้แล้วนะ"    แบ๊งค์ยังคงบ่นต่อไป

       "บ่นอะไรอ่ะแบ๊งค์..ไม่ได้ออกเงินซะหน่อย"    แมคสวนกลับ

       "ก็เพราะไม่ได้ออกเงินนะสิถึงบ่น เปลืองเงินแมคตลอด แบ๊งค์ะจ่ายบ้างก็ไม่ยอม  แล้วก็มาว่าอีก  ว่าแบ๊งค์เป็นเด็กดื้อ"    แบ๊งค์เริ่มทำท่างอน ๆ

       "โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนนะ ป่ะกว่าหนังจะเข้าอีกนาน ไปหาอะไรทานกันดีกว่า"    แมคกับแบ๊งค์เลยพากันไปหาอะไรทาน ไปทานกันที่ food center นั่นแหละครัยบ คราวนี้แบ๊งค์เป็นคนกำหนดเพราะไม่อยากให้แมคเปลืองเงินอีก ถ้าไปทาน fast food  เมื่อทานเสร็จเราก็ไปดูหนังกันครับ

      หนังก็เป็นหนังรักโรแมนติกธรรมดานี่แหละครับ  กำลังนั่งดูอยู่แมคเอามือมาวางทาบมือแบ๊งค์อีกแล้วครับ  แมคทำแบบนี้ประจำเลยเวลาที่เรามาดูหนังด้วยกัน  อยู่ ๆ แมคก็ดึงแบ๊งค์ไปซบไหล่ครับ  อันนี้แคไม่เคยทำมาก่อนเลยนะ เป็นครั้งแรกเลย แบ๊งค์ก็ไม่อยากขัดขืนอะไร เลยซบไป ตัวแมคหอมจังเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบผู้ชาย ๆ อ่ะ   แล้วแมคก็ปล่อยมือที่จับแบ๊งค์อยู่ แต่เปลี่ยนมาโอบไว้แทน เรานั่งกันแบบนั้นจนหนังจบ  แล้วแมคก็ไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด

       "แบ๊งค์.........."    แมคเรียกแล้วเงียบ แสดงว่าต้องมีอะไรแน่เลยอ่ะ

       "มีอะไรหรอ"    แบ๊งค์ถามไป

       "แบ๊งค์ย้ายมาอยู่กับเราได้มั้ย"    แมคพูดออกมาโดยที่ทำหน้าตาเฉย

       "ไปอยู่กับแมคที่บ้านแมคน่ะหรอ"    แบ๊งค์ทวนซ้ำ

       "อืมใช่....นะไปอยู่กับเราเถอะนะ"     แมคขอร้องมา

       "ทำไมล่ะ  เราอยู่กับพี่นุ่นก็สุขสบายดีแล้ว"     แบ๊งค์อ้างเหตุผล

       "เราอยากดูแลแบ๊งค์ให้มากกว่านี้"    แมคเอาเหตุผลมาอ้าง

       "แต่เราคงทิ้งพี่นุ่นไว้ไม่ได้หรอก"     แบ๊งค์อ้างเหตุผลของตัวเองบ้าง

       "อืม.....งั้นหรอ"    แล้วเราก็เงียบไปซักพัก  ในที่สุดเราก็มาถึงคอนโด แมคเดินไปส่งแบ๊งค์ที่ห้อง ตามมารยาท ( ซึ่งมีน้อยนิดในตัวแบ๊งค์ )  ก็เลยชวนแมคเข้ามาให้ห้อง  มาทำความรู้จักกับพี่นุ่น  เราก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แล้วแมคก็พูดขึ้นว่า

       "พี่นุ่นครับ  ผมขอย้ายมาอยู่กับแบ๊งค์ได้มั้ย"     แบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ พี่นุ่นก็อึ้งไม่แพ้กัน

       "ผมอยากมาอยู่ ใกล้ ๆ แบ๊งค์น่ะครับ"      แมคอธิบาย

       "แล้วกับแม่เราไม่ว่าอะไรหรอก แยกมาอยู่แบบนี้"     พอพี่นุ่นพูดจบ  แมคก็นิ่งเงียบไป เหมือนครุ่นคิดอะไรซักอย่าง

       "ผมคงมาอยู่ไม่ได้จริง ๆ แล้วสิครับ"    แมคทำหน้าเศร้า

       "ไม่เห็นเป็นไรเลย เราก็เจอที่มหาวิทยาลัยทุกวันอยู่แล้ว"    แบ๊งค์พูด

       "เอางี้ดิ ก็มาค้างบ่างตามโอกาสก็ได้ พี่นุ่นไม่ห้ามอยู่แล้ว"   อ้าว!!!!ป้านุ่น  ไปพูดแบบนั้นทำไม  พอเจ้าแมคได้ยิน หน้าบานเป็นจานเชิงเลยนะเมริง

       "จริง ๆ นะคับ มาค้างได้นะคับ"    แมคย้ำ

       "อืม...ก็เอาสิ"     พี่นุ่นอนุญาต นี่...ตกลงว่าจะไม่มีใครมาปรึกษากรูส์ก่อนเลยหรอฟะ  แล้วแมคมันก็กลับบ้านไปด้วยหน้าระรื่น  ก็แหงล่ะได้รับการอนุญาตแล้วนี่  มันยิ้มซะแบ๊งค์กลัวมากเลยครับ กลัวแก้มมันจะปริอ่ะครับ

      แล้วก็ผ่านมาได้ซักอาทิตย์ครับ เราทั้งคู่ก็ยังหวานกันเหมือนเดิม  วันนี้ตอนเช้าแบ๊งค์มานั่งที่เดิมครับ  แมคก็เดินมากอดแบ๊งค์ข้างหลังครับ   ตกใจมากเลยนะเนี่ย

       "มาแต่เช้าเลยนะ นายตัวเล็ก"    แมคแซวครับ

       "แมค!!!ปล่อยนะ  เดี๋ยวคนอื่นก็มาเห็นหรอก"     แบ๊งค์พยายามห้ามแมค

       "อายทำไมล่ะ ดีซะอีกเค้าจะได้รู้ว่าเรารักแบ๊งค์แค่ไหน"    แมคพูด

       "ไม่กลัวฟ้า กลัวดินเลยนะ"    พี่ตั้มพูดแซวขึ้นมาตอนที่เห็ว่าแมคกำลังกอดแบ๊งค์อยู่

       "เห็นมั้ยพี่ตั้มแซวแบ๊งค์แล้วเนี่ย"    แบ๊งค์รีบผลักแมคออก

       "ก็คนคุ้นเคยกันเองทั้งนั้น  ไม่ต้องอายหรอกแบ๊งค์"    แมคพูด

       "อืมนั่นดิ ไม่ต้องอายหรอก เอ.......แต่แบ๊งค์ยังต้องอายอีกหรอ"    พี่ตั้มแอบหลอกด่าแบ๊งค์อีกแล้ว    มีหรอแบ๊งค์จะยอม

       "สงสัยพี่ตั้มคงไม่ได้ทานอะไรมาตอนเช้าใช่มั้ยครับ"    แบ๊งค์แกล้งถามไป

       "ทำไมหรอ"    พี่ตั้มถามลับ

       "ก็ถึงได้ มาหาโอวัลตีนนน  ทานแถวนี้แต่เช้า"    แบ๊งค์ปล่อยระเบิดไปครับ

       "อ้าว............ไอ้นี่วอนโดนโอวัลตีนคืนซะละ"    พี่ตั้มสวนคืน

       "พอแล้ว ๆ ทะเลาะกันอีกแล้วนะ"    แมครีบห้าม เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ชักจะไม่ดี

       "อ่ะนะ ป้องกันจังเลยนะ เมริงสองคนอ่ะหวานกันจัง"   พี่ตั้มแซว  จากที่แบ๊งค์กำลังโกรธ ๆ อยู่กลายเป็นอายแทนเลยครับ ก็เลยไม่พูดอะไรต่อ  นั่งก้มหน้าเอาอย่างเดียว  แล้วการเรียนช่วงเช้าก็ผ่านไปด้วยดีครับ  ตอนนี้ก็พักทานข้าวกลางวันแล้ว แบ๊งค์กับแมคก็เลยจะไปหาอะไรทานกัน  โดยมีกาวไปเป็นเพื่อนด้วย

       "กินอะไรกันดีล่ะ"    กาวถาม

       "แบ๊งค์อยากกินเส้นเล็กโฟอ่ะ"    แบ๊งค์บอก

       "อ่ะหรอ แต่เราขอไปกินข้าวราดแกงแทนละกันนะ"    แมคขอตัวไป

       "งั้นเดี๋ยวเราไปซื้อ ผัดไทละกัน เดี๋ยวมาเจอกันที่ตรงนี้นะ"    แล้วเราก็แยกย้ายกันไป ซื้ออาหารของแต่ละคน แล้วก็มารวมที่เดิมโดยที่แบ๊งค์มาถึงก่อน

      "มาแล้วหรอ  งั้นเดี๋ยวเราไปซื้อน้ำให้นะ"    กาวตามมาครับ  แต่ออกไปซื้อน้ำแล้ว

       "กาวมาแล้วหรอ"    แมคถาม  แบ๊งค์ก็เลยพยักหน้าไป ไม่นานกาวก็กลับมา

       "มาแล้ว ๆ อ่ะเอาไป"    กาวยื่นน้ำเปล่าให้เราคนละขวด  แล้วเราก็นั่งทานข้าวด้วยกัน

       "นี่ ๆ ไม่ต้องนั่งติดกันขนาดนั้นก็ได้"    กาวแซวครับ

       "อ่ะนะ"    แบ๊งค์พูดคำติดปากออกไป   แล้วแบ๊งค์กับแมคก็ค่อยขยับห่างออกจากกัน

       "เป็นไง ข้าวหวานกันมั้ยวะ"    กาวแซวไม่เลิก

       "......................................"   แมคเงียบ

       "ของกรูส์อ่ะ  หว้านหวาน สงสัยรถขนน้ำตาลหกใส่"    กาวแซว

       "เดี๋ยวเมริงก็ได้กินข้าวกับเลือดหรอกไอ้กาว"    แบ๊งค์ย้อนมัน

       "โห....ค้าบกรูส์กลัวพวกเมริงแล้วจะไม่ยุ่งอีกแล้ว"    กาวพูด  แล้วเราก็หัวเราะกันใหญ่ พอเราทานข้าวเสร็จก็กะว่าจะไปนั่งที่ประจำครับ  ที่โต๊ะหน้าตึก  ระหว่างทางไม่รู้เป็นอะไร  วันนี้อากาศร้อนมาก  แค่จะเดินไปตึกอีกฝั่งผิดแทบไหม้ ระหว่างเดินไปเราก็คุยกันครับ  แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกเหมือนมีน้ำมูกไหลที่จมูก  กาวมันก็หันมาพอดี

       "เฮ้ย.....แบ๊งค์เป็นอะไรไปวะ"    มันทำท่าตกใจ  แล้วแมคก็หันมามอง

       "แบ๊งค์!!!!!เลือดกำเดาแบ๊งค์ไหล"   พอแมคพูด  แบ๊งค์ก็ลองเอามือเช็ดจมูกดูครับ เลือดกำเดาจริง ๆ ด้วย

       "แมค  เดี๋ยวพาแบ๊งค์ไปนั่งโต๊ะก่อนนะ  เราจะไปหาน้ำแข็งมาให้"    แล้วกาวก็รีบวิ่งไปเลยครับ แมคเลยพาแบ๊งค์มานั่งที่โต๊ะ

       "เงยหน้าไว้นะแบ๊งค์"    แมคพูด

       "อืม...ก็เงยหน้าอยู่นี่ไง"    แบ๊งค์บอก แล้วกาวก็วิ่งมาถึงพอดี  เจ้านี่วิ่งไวดีจังนะ

       "อ่ะนี่กระดาษทิชชู่เอาเช็ดเลือดก่อน แล้วนี่น้ำแข็งเอาไปประคบจมูก"    แล้วกาวก็ยื่นทั้งสองสิ่งให้โดยแมคเป็นคนรับไว้ เพราะแบ๊งค์คงมองไม่เห็นหรอก ก้มหน้าลงมาไม่ได้  เดี๋ยวเลือดหยด  แมคก็เอาทิชชู่เช็ดแล้วปิดจมูกแบ๊งค์ไว้  จากนั้นก็เอาถุงน้ำแข็งมาประคบให้

       "ขอบใจนายสองคนมากเลยนะ  ที่ช่วย"    แบ๊งค์พูดขอบคุณ

       "อืมไม่เป็นไรหรอก"    แมคตอบ

       "อืม....แต่เมื่อกี้อ่ะโคตรตกใจเลยว่ะ   อยู่ดี ๆ เลือดไหลย้อยลงมาจากจมูก"   กาวพูด

       "นั่งคุยอะไรกันอยู่วะ ไอ้แก็งค์เด็กน้อย"     พี่ตั้มเดินเข้ามากับพี่ตี๋และพี่ปอยครับ

       "อ้าว....นั่นน้องแบ๊งค์ไปโดนอะไรมาคะ"    พี่ปอยถาม

       "อ๋อ..เลือดกำเดาแบ๊งค์ไหลครับ ไม่มีอะไรมาก"    แบ๊งค์ตอบไป

       "อากาศร้อนนะสิ  ถึงได้เป็นแบบนี้"    พี่ปอยพูด

       "อย่าไปสนใจมันเลย ไอ้เด็กแสบแบบนี้"    พี่ตั้มพูด

       "ตั้ม!!!!น้องเค้าเจ็บอยู่นะ"    พี่ตี๋ช่วยครับ

       "โห...มีแต่คนเอาใจมันว่ะ  นี่ไงแฟนมันก็นั่งอยู่ มันมีคนดูแลอยู่แล้ว ไม่ตั้องห่วงมันหรอก"    พี่ตั้มพูดแบบงอน ๆ แล้วชี้ไปที่แมค ซึ่งตอนนี้อายจนแก้มแดงหูแดงไปแล้ว

       "อ่ะนะ  ก็แบบนี้แหละคนมันนิสัยดี  ไม่เหมือนใครบางคน ไม่มีใครคบ  อิอิ"    แบ๊งค์พูดแหย่พี่ตั้ม ทั้งที่ตัวเองกำลังเอาถุงน้ำแข็งประคบจมูกอยู่

       "โห...ไอ้นี่ขนาดเมริงเจ็บอยู่นะ ถ้าเมริงไม่เป็นแบบนี้กรูส์ซัดเมริงไปแล้ว"    พี่ตั้มทำท่าเจ็บใจ  แล้วเราก็มานั่งจับกลุ่มคุยกันครับ  ก็ไม่ได้มีอะไร  ส่วนมากจะคุยกันเรื่องที่เป็นห่วงตัวแบ๊งค์มากกว่า  บอกว่าดูเหมือนร่างกายแบ๊งค์จะไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายอยู่บ่อย ๆ ทุกคนก็เลยอยากให้รักษาสุขภาพ  แต่พอแบ๊งค์แย้งออกไปว่าแบ๊งค์ไม่เป็นไร  ก็โดนทุกคนว่ากลับมากันใหญ่  ว่าดื้อบ้างล่ะ  ทำตัวเป็นเด็กบ้างล่ะ  แบ๊งค์เลยต้องยอมรับฟังคำแนะนำจากทุกคนครับ

      จะว่าไปมันก็ดีนะครับ ที่ได้เห็นว่ามีคนเป็นห่วงเรามากมายแค่ไหน ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวเพียงลำพังบนโลกใบนี้ รู้สึกดีจังที่ได้รู้จักกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ กลุ่มนี้
***********************
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 15-05-2007 00:50:04
เซ็งเลยหลุดไปแบบนั้นอีกหล่ะ โทดทีนะคับ o1
^
^
^
ok แก้ล่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-05-2007 02:53:51
รออ่านต่อนะจ๊ะ :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-05-2007 15:09:24
ว๊าาา พี่อาร์ทไปอังกฤษซะแล้ว สงสารพี่อาร์ทจัง  :dont2:

แมคก็ดูรักและดุแลแบงค์ดีเหมือนกันนะนี่  o18

แล้วกาวหล่ะ หุหุ มีแววแอบชอบแบงค์อยู่แน่ๆเลยยย  (ฮอทจะงนั นายเด็กดื้อ) :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-05-2007 17:31:16
สงสารพี่อาร์ทอะ

 :confuse:



ลุ้นนายกาวดีฟ่าาาาา


เชียร์กาว เชียร์กาว

 :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-05-2007 18:37:55
รู้สึกว่าแมคจะแสดงออกมากไปนิดนะ ระวังจะผิดใจกันน้า  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 17-05-2007 01:24:37
หวัดดีคับ ผมเนี้ยชอบหายไปแบบไม่บอกอยู่เรื่อยเลยเนอะ :-[

...ช่วงนี้ผมยุ่งม๊ากกกกกมาก คับ ต้องทำรายงานส่ง อ. กะอ่านหนังสือสอบวันเสาร์นี้อ่ะคับเหนื่อยโครต ๆ o2
คือผมทำงานจันทร์-เสาร์ (เสาร์เว้นเสาร์) กะเรียนเสาร์-อาทิตย์คับ  วันทำงานวันเสาร์เลยต้องชดเชยหลังเลิกงานให้ได้อาทิตย์ละ 8 ชั่วโมงแน่ะ มันก็เลย.....

วันนี้ก็เลยน๊อก กลางอากาศ ผมนั่งจิ้มคีย์บอร์ดอยู่แล้วได้ยินเสียงดัง โป๊ก!!  :o สนั่นห้องเลยคับ
งง?? คับเสียงอะไร ก็เงยหน้าจากคีย์บอร์ดถามพี่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามโต้ะติดกัน

"เสียงไรอ่ะพี่  :confuse:ได้ยินแล้วเสียวหัวกะบาลเลย"

พี่เค้าทำหน้าเหวอ ๆงงๆ พักนึงอ่ะคับ แล้วอยู่ๆ ก็หัวเราะเอิ๊ก ๆ จนตาแดงเลยคับ พี่ที่นั่งรอบ ๆ หันมองกันใหญ่ หล่ะก็เอากระจกให้ผมคับ

"อ่ะ ลองดูดิ มีไรติดหน้ามึงว่ะ" ผมก็เง๊งอีก... รัยว้า ถามเรื่องเสียงดันให้ส่องกระจก ก็ส่องคับ

"เฮ้ย! พี่ ไหงหน้าผากผมเป็นเงี้ยอ่ะ" แกก็หัวเราะใหญ่

ผมล่ะเซงคับ... หน้าผากด้านซ้ายผมมันแดงคับแดงมากเหมือนปานเลยวงขนาดสองนิ้วมือคับ เจ็บด้วยคับ
กำลังจะถึงบางอ้อ ก็เงยหน้ามองพี่เค้าอีกทีแบบเหลือบ ๆ อ่ะคับ เกือบจะอายแล้วคับตอนนั้น

"พี่ว่ามึงพักบางเถอะว้า ไอ pajaa.... "  พี่เค้าเริ่มจะเทศนาแล้วคับ... ไม่ช่าย จะเล่าแล้วคับ

แต่ผม "หยุดเลยพี่ไม่ต้องพูดแล้ว ผมเข้าใจหล่ะ ไม่ต้องพูดนะ  :serius2:ขอร้องขายหน้าเค้า" ตอนนั้นผมโดนรุมแทงด้วยสายตาคับไม่เจ็บแต่อายคับ อาย

"เอ้า มึงไม่อยากรู้ไง หน้ามึงโดนอะไรถึงได้แดงขนาดนั้น" พี่เค้าก็อยากบอกคับคนข้างๆผมก็ซักกันใหญ่ ก็นะไม่มีใครเห็นคับได้ยินแต่เสียง

แกก็ว่า "ก็พี่กำลังอ้าปากจะเรียกมึง แม่งยังไม่ทันเรียกเลย เสือกทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ แล้วเอาหัวโขกหน้าจอซะงั้น ดังลั่นเลยมึงแล้วยังทำหน้าเอ๋อ ๆ ถามเสียงอะไรอีก โครตขำเลยว่ะ 555+++"  :laugh5:พี่เค้าพูดแค่เนี้ยผมไม่เห็นว่าจะน่าขำตรงไหน แต่คนอื่นแม่งหัวเราะกันใหญ่ เออ! เห็นผมเป็นตัวตลกใช่มั้ย เซ็งคับเซ็ง

แล้วก็จับกล่มวิเคราะห์กันใหญ่  (บ้าจริง)
-ผมนั่งคีย์ข้อมูลอยู่คับ มือยังจิ้มตัวเลขอยู่เลย
-ผมเห็นตัวเลขที่ผมคีย์ ผมลืมตาอยู่คับ
-จอคอมผมจะตั้งเอียงซ้ายคับ เวลานั่งทำงานก็จะเอียงซ้ายนิด ๆ คับ
-ผมนั่งห่างจอคอม ฟุตกว่า ๆ แล้วทำไม....
-ผมจะลุกยืนทำไม

พวกเค้าสรุปว่าผมหลับนัย o19 มันวูบไปแบบไม่รู้ตัว แต่ทำไมจะต้องทำท่าจะยืนเพื่อเอาหัวไปโขกกับจอเนี่ย สงสัย????

พอหล่ะ
v
v

***************************
บทที่ 23 ความเปลี่ยนแปลง ตอนที่ 1

       ช่วงนี้แบ๊งค์กับนายโต้คนแปลกหน้าไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่เลยครับ เพราะส่วนมากแบ๊งค์จะไปเที่ยวกับแมคซะส่วนใหญ่  แล้วเหมือนนายโต้ก็จะหายไปด้วย Message ที่เคยส่งหาแบ๊งค์บ่อย ๆ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีเลย แบ๊งค์ก็เป็นห่วงเค้าเหมือนกันนะครับ ก็เลยส่ง Message ไปหานายโต้บ้าง   แต่ก็ไม่เคยเห็นนายโต้ส่งกลับมา   ช่วงนี้เค้าหายไปจริง  บางครั้งแบ๊งค์ก็โทรศัพท์ไปหาเค้านะครับ  แต่ไม่เคยเจอเค้าเลย โต้มักจะปิดเครื่องตลอด  บางครั้งโทรติดแต่ก็ไม่มีคนรับสาย  แล้วอยู่ ๆ ก็ปิดเครื่องไป  ไม่รู้จริง ๆ ครับว่าเค้าเป็นอะไร

      จนในที่สุดวันนี้แบ๊งค์ ได้มีโอกาสออน M ไปเจอนายโต้พอดีก็เลยรีบเข้าไปทัก   


      badboy_be_sadboy  say :
      ไงหายไปนายเลยนะ

      คนแปลกหน้า say:
      อืม

      badboy_be_sadboy  say :
      เป็นอะไรป่าว

      คนแปลกหน้า say:
      ป่าวววววว

      badboy_be_sadboy  say :
      แล้วนายหายไปไหนมาอ่ะ

      badboy_be_sadboy  say :
      เรามาออนก้อไม่เคยเจอนาย

      badboy_be_sadboy  say :
      โทรไปหานายก้อไม่รับ/ปิดเครื่อง

      คนแปลกหน้า say:
       เราขอโทดละกัน

      badboy_be_sadboy  say :
      นายเปนอะไรไปน่ะ

      คนแปลกหน้า say:
      ป่าว เราก้อปกติดี

      badboy_be_sadboy  say :
      ไม่อ่ะ  โต้ไม่เคยเป็นแบบนี้

      คนแปลกหน้า say:
      เราเปลี่ยนไปขนาดนั้นเลยหรอ

      badboy_be_sadboy  say :
     ใช่สิ  นายไม่เหมือนเก่า

      badboy_be_sadboy  say :
      เรื่องเค้าคนนั้นใช่มะ

      badboy_be_sadboy  say :
      เล่าให้เราฟังได้นะ

      คนแปลกหน้า say:
      อืม  ไม่เปนไรหรอก

      badboy_be_sadboy say :
      นี่....นายยังมีเพื่อนนะ

      คนแปลกหน้า say:
      อืม

      badboy_be_sadboy  say :
      ไหนมีอะไรลองพูดมาดิ

      คนแปลกหน้า say:
      ช่างเหอะ เราเปนแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

      คนแปลกหน้า say:
      อย่าสนใจเราเลย

      badboy_be_sadboy  say :
      อย่าคิดมากเลยนะ

      คนแปลกหน้า say:
      อืม

      badboy_be_sadboy  say :
      แล้วเราโทรไปนายทำไมไม่รับ

      badboy_be_sadboy  say :
      บางครั้งก็ปิดเครื่อง

      คนแปลกหน้า say:
      เราไม่ค่อยใช่ทอสับอ่ะ

      badboy_be_sadboy  say :
      แล้วที่เราโทรไปเนี่ยรู้บ้างมั้ย

      คนแปลกหน้า say:
      อืมรู้ดิ

      badboy_be_sadboy  say :
      แล้วทำไมไม่โทรกลับ

      คนแปลกหน้า say:
      ตังเราหมดอ่ะโทดทีนะ

      badboy_be_sadboy  say :
      อืม  ม่ายเปนไร

      คนแปลกหน้า say:
      ทานไรยังอ่ะ

      badboy_be_sadboy  say :
      ยังหรอก

      คนแปลกหน้า say:
      นายกับแฟนเปนไงบ้าง

      คนแปลกหน้า say:
      คนที่เปนนักบาสอ่ะ

      .........................................................................(  แบ๊งค์เงียบ )

      คนแปลกหน้า say:
      เงียบ   ยังอยู่ป่ะ

       badboy_be_sadboy  say :
       อืม....อยู่

       คนแปลกหน้า say:
       ทะเลาะกับแฟนหรอ

        badboy_be_sadboy  say :
        ป่าว

        คนแปลกหน้า say:
        แล้วเค้าเปนไงบ้าง

        badboy_be_sadboy  say :
        เราเลิกกันไปแล้ว

        badboy_be_sadboy  say :
        ตอนนี้พี่ไปอยู่อังกฤษแล้ว

        คนแปลกหน้า say:
        เราขอโทดนะ

        badboy_be_sadboy  say :
       ขอโทดเรื่องอารายหรอ

        คนแปลกหน้า say:
        ที่ถามเรื่องแฟนนายไง

         badboy_be_sadboy  say :
        ไม่เป็นไรหรอก  เราทำใจได้แล้ว

         คนแปลกหน้า say:
         ถามไรได้ป่ะ

         badboy_be_sadboy  say :
         อะไรล่ะ

         คนแปลกหน้า say:
         ทำไมถึงเลิกกันอ่ะ  บอกหน่อยได้มะ

         badboy_be_sadboy  say :
         อืม..............

         คนแปลกหน้า say:
         ยังไม่พร้อมก้อไม่ต้องฝืนนะ

         badboy_be_sadboy  say :
         มันเปนเหตผลที่เราไม่อยากบอกใครอ่ะ

         badboy_be_sadboy  say :
         มันเกี่ยวพันถึงคนหลาย ๆ คน

         badboy_be_sadboy  say :
         มันไม่ค่อยเปนเรื่องที่ดีอ่ะ

         badboy_be_sadboy  say :
         ขอโทดนะ

         คนแปลกหน้า say:
         ไม่เปนไร

         คนแปลกหน้า say:
         นี่ ๆ

         badboy_be_sadboy  say :
         อารายหรอ

         คนแปลกหน้า say:
         นายเล่นเกมอะไรนะ

         badboy_be_sadboy  say :
         Audition  อ่ะทะมายหรอ

         คนแปลกหน้า say:
         เราก้อเล่น...ไปเล่นด้วยกันนะ

         badboy_be_sadboy  say :
         อืม....ห้องไหนว่ามา

         คนแปลกหน้า say:
         อืม....ฟรี 2 ชา 3นะ

         badboy_be_sadboy  say :
         ใครตั้งห้องอ่ะ

         คนแปลกหน้า say:
         เราตั้งเอง

         คนแปลกหน้า say:
         ชื่อห้อง คนแปลกหน้านะ

         badboy_be_sadboy  say :
         อืม  เด๋วเจอกัน

         คนแปลกหน้า say:
         คับ
 


           แล้วหลังจากนั้นเราก็ไปเล่นเกมด้วยกัน  โต้เล่นค่อนข้างเก่งนะครับ แต่ก็มีบ้างที่ดูตะกุกตะกัก  โต้บอกว่าเห็นเพื่อนเล่น ก็เลยอยากเล่นบ้าง แบ๊งค์ก็เล่นไปตามปกติครับ ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันนี้แบ๊งค์เล่นตัวผู้หญิงครับ  เลยได้คู่กับโต้ พอโต้เล่นเสร็จ  เอาเดนให้แบ๊งค์หมดเลย แบ๊งค์ก็เอาเดนคืนโต้บ้าง  แต่โต้ก็บอกว่าไม่เอาจะให้แบ๊งค์อย่างเดียว แบ๊งค์เลยไม่ยอมต้องงัดไม่ตายออกไป ว่าถ้าโต้ยังเอาเดนให้แบ๊งค์อยู่ แบ๊งค์จะออกจากเกมแล้วไม่ยอมมาคุยกับโต้อีก โต้ก็เลยยอมให้แบ๊งค์ยกเดนให้ตามเดิม

           มาถึงเรื่องที่มหาวิทยาลัยบ้าง  ตอนนี้แบ๊งค์กับแมคก็ยังคงเหมือน ๆ เดิม  อาจจะไปเที่ยวด้วยกันน้อยลงเพราะเราต่างคนต่างมีงานที่ต้องรับผิดชอบ ก็เลยได้เจอกันเฉพาะเวลาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น พอเลิกเรียนแมคก็จะกลับบ้านทันที แต่เราก็ยังเหมือนเดิมนะ ใครที่คิดว่าเรารักกันน้อยลงอ่ะ  คิดผิดแล้ว  เรายังคงโทรคุยกันทุกวัน ทานข้าวด้วยกันทุกวัน  ก็แค่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ เหมือนแต่ก่อนก็เท่านั้น

           ที่บ้านแมคเป็นบริษัทส่งออกพวกเทียนหอม  กับของตกแต่งบ้านโอทอป คือตอนนี้ทางบ้านแมคมีปัญหานิดหน่อยที่ว่า มีออร์เดอร์จากต่างประเทศสนใจที่จะสั่งสินค้าเข้ามาค่อนข้างเยอะ แมคเห็นว่าหลาย ๆ คนในบ้านทั้งพ่อ แม่ พี่ ๆ กำลังยุ่ง ๆ ก็ไม่อยากเอาเปรียบ  เพราะเงินที่แมคมีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มาจากธุรกิจนี้ทั้งนั้น    เลยเข้าไปช่วยกิจการของทางบ้านซึ่งแบ๊งค์ก็เข้าใจดี ไม่ได้ว่าอะไร

           ในเมื่อตอนเย็นแมคไม่อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว  แบ๊งค์ก็เลยต้องไปอยู่กับนายกาว   เพราะพี่นุ่นค่อนข้างจะเลิกเรียนช้ากว่าแบ๊งค์  ไม่รู้จะอยู่ไหนอ่ะครับ  หอสมุดก็เบื่อแล้ว ยิ่งช่วงนี้เพิ่งผ่านช่วงที่ทำรายงานมาอีกด้วย  คือตอนนั้นแบ๊งค์เข้าไปค้นข้อมูลในหอสมุดทุกวัน ทำให้แบ๊งค์เบื่อหอสมุดไปอีกนาน  ไม่อยากเข้าไปอีก  ก็เลยมานั่งดูไอ้กาวเล่นบาสดีกว่า

          สนามบาสก็ยังคงเหมือน ๆ เดิม  ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยแปลงไปเลย   ( แร้นเมริงจะให้มันกลายเป็นลานไอซ์สเก็ตรึไง )  แต่ที่เปลี่ยนไปคือ  ที่นี่ไม่มีอีกแล้วเค้าคนนั้น  จะใครซะอีกล่ะ พี่อาร์ทไงครับ  ตอนนี้เค้าไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว  ตั้งแต่วันที่สุวรรณภูมิเป็นต้นมา  เราสองคนก็ขาดกันติดต่อกันไปโดยสิ้นเชิง  แบ๊งค์ก็อยากรู้นะว่าตอนนี้  เค้าอยู่ที่โน่นเป็นยังไงบ้าง  บางทีเค้าอาจจะได้คนดี ๆ มาคอยดูแลหัวใจแล้วก็ได้ แบ๊งค์ก็ได้แต่คิดไปต่าง ๆ นานา  แล้วก็มีเสียงทักขึ้น

          "มาได้ไงครับเนี่ย เด็กน้อย"     พี่โป้งทักขึ้น  แล้วยิ้มให้แบ๊งค์ จะว่าไปตอนพี่โป้งยิ้มเนี่ยก็น่ารักดีนะ  ถ้าไม่ติดว่าเคยทำไม่ดีกับแบ๊งค์ไว้  แบ๊งค์อาจยิ้มตอบก็ได้ แล้วพี่โป้งก็นั่งลงตรงข้าง ๆ แบ๊งค์  โดยที่แบ๊งค์ก็เขยิบออกเหมือนกัน ซึ่งเหมือนว่าพี่โป้งจะสังเกตได้
********************
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 17-05-2007 03:50:18
พักผ่อนบ้างนะจ๊ะน้องนินจา ดีนะที่วูบที่ทำงานน่ะ ถ้าวูบกลางถนนหรือว่าที่อื่นที่มานอันตรายจะแย่เอานะจ๊ะ
ชีวิตเราไม่ได้มีเพียงชีวิตเดียวนะจ๊ะ ยังแถมพ่วงด้วยชีวิตคนที่เรารักและรักเรารออยู่อีก


 o4
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-05-2007 13:09:49
อ่าส์  เองหยุดชะงัก งึกๆๆ มาต่อไวๆนะค้าบบบ

ว่าแต่ยังไงก้พักผ่อนด้วยนะค้าบบบ ขนาดหลับในหน้าโขกจอเลยเหรอ หุหุ  :teach:


เป็นกำลังใจให้ค้าบบบ 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: RoosT ที่ 17-05-2007 16:15:42
พึ่งมีเวลาได้เข้ามา อ่านนิยาย

เป็นกำลังใจให้คนโพสต์นะค๊าบบบบบบบ

อย่าหักโหมจนทรุดแบบนี้อีกน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-05-2007 19:08:47
คนโพสต์ดูแลสุขภาพดี ๆ น้า เป็นห่วง  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-05-2007 23:58:01
เป็นกำลังใจให้นะค้าบบบบบบ

 o13
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-05-2007 03:05:40
รอลุ้นต่อ  o15

คนโพสก็ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 18-05-2007 04:38:25
สงสารอาร์ทที่สุดขอให้ตอนสุดท้ายกลับมาได้กับอาร์ทสาธุ  o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-05-2007 13:02:29
ไม่ชอบเลยกับการกลัว กลัวนู้นกลัวนี่ สุดท้ายคนรอบตัวเจ็บไปกันหมด
ไม่มีไรจะเสีย หรอกถ้าเรากล้าเผชิญกับความจริง
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 20-05-2007 22:36:46
\\\ บทที่ 24 ความเปลี่ยนแปลง ตอนที่ 2 ///

     แบ๊งค์นั่งเฝ้าของให้กาว  แล้วก็มองกาวเล่นบาสไปด้วยแต่แบ๊งค์ไม่ได้มองกาวคนเดียวหรอกนะ มองพี่โป้งไปด้วย  วันนี้พี่โป้งดูแปลกผิดปกติ  ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่เคยทำร้ายจิตใจและร่างกายแบ๊งค์  คนที่เคยห่าม ๆ เถื่อน ๆ จะสุภาพเรียบร้อยได้ขนาดนี้ จะว่าไปพี่โป้งทำแบบนี้ก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน เพราะพี่โป้งก็ไม่ใช่คนที่หน้าตาดูแย่อะไร  กลับตรงข้ามกัน  พี่โป้งก็เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกันกับพี่อาร์ท  เป็นทั้งนักกีฬา  ฐานะทางบ้านก็ดี แล้วยังหน้าตาดีอีก  สาว ๆ ที่ไหนจะไม่มองล่ะ

     ระหว่างที่แบ๊งค์กำลังมองพี่โป้ง  และคิดอะไรไปเพลิน ๆ อยู่นั้น  พี่โป้งก็หันมาสบตาแบ๊งค์พอดี  เมื่อพี่โป้งเห็นว่าแบ๊งค์มองอยู่  พี่เค้าก็เลยส่งยิ้มมาให้  เป็นยิ้มที่ดูดีจัง.....เฮ้ย!!!!นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย  ไม่ ๆๆๆๆๆ เรามีแฟนแล้วชื่อแมค แล้วไอ้พี่คนนี้ก็เป็นคนที่เราเกลียดที่สุด ไม่ ๆๆ เราจะไม่สนใจมองเค้าอีก  แบ๊งค์พยายามที่จะคิดเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกี่ยวกับตัวพี่โป้งออกมา ถึงแม้มันอาจทำให้แบ๊งค์เจ็บ แต่มันก็ยังดีกว่าให้แบ๊งค์ต้องหลงกลไปอยู่ในวังวนของพี่โป้งอีกรอบแหละน่า แบ๊งค์พยายามข่มใจตัวเอง

ตอนนี้แบ๊งค์เป็นอะไรไปเนี่ย.....ฮือ ๆๆ ไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ  ตอนนี้ก็เลยมองไปหลบสายตาไป  ห้ามใจไม่ได้จริง ๆ ในที่สุดนักบาสก็ได้พักครับ  พี่โป้งก็เลยเดินเข้ามาทักแบ๊งค์

     " เป็นอะไรไปรึเปล่าคับ"   พูดซะเพราะเลยนะ...ไม่ ๆๆๆ ห้ามพูดเพราะ

     " ก็เฉย ๆ อ่ะ ทำไมล่ะ"   นั่นแหละ  ตอบแบบนั้น

     " ก็เห็นแบ๊งค์มองพี่อยู่ตั้งหลายครั้ง  พอพี่ยิ้มให้เราก็หลบตา"   แน่ะรู้ทันกรูส์อีก

     " ไม่ใช่แล้วแหละ ทำไมแบ๊งค์ต้องมองพี่โป้งด้วยล่ะ  เรื่องที่พี่โป้งเคยทำไว้กับแบ๊งค์อ่ะ แบ๊งค์ไม่มีวันที่จะลืมมันไปง่าย ๆ หรอกนะ"   แบ๊งค์พูดคำที่คาดว่าพี่โป้งน่าจะสะเทือนใจออกไป แล้วก็ได้ผลครับ พี่โป้งหน้าถอดสี  ดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด  ช่วยไม่ได้มาทำให้แบ๊งค์เจ็บใจทำไม

     " พี่...พี่...ขอโทษครับ"   พี่โป้งพูดมาด้วยเสียงสั่นเครือ

     " เก็บคำขอโทษของพี่โป้งไว้ใช้กับคนอื่นเถอะ"   อืม....นั่นแหละ  พูดแรง ๆ ไปเลย กับคนแบบนี้เราอย่าได้ไปไว้ใจเค้าอีก ก่อนที่พี่โป้งจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีก โทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้นครับ พี่นุ่นโทรมาพอดี  เรียกตัวแบ๊งค์กลับคอนโด แบ๊งค์เลยรีบวิ่งไปหากาวแล้วคืนของที่กาวฝากไว้ จากนั้นก็รีบเดินออกจากสนามบาสเลยครับ  แบ๊งค์แอบหันกลับไปมองอยู่แวบหนึ่ง เห็นพี่โป้งยืนมองแบ๊งค์อยู่ครับ แต่ไม่ได้มองด้วยสายตาเคียดแค้นเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่าน ๆ มา  กลับมองแบ๊งค์ด้วยนัยน์ตาเศร้า ๆ เหมือนคนกำลังจะร้องไห้

     ช่วงนี้อะไร ๆ ดูเปลี่ยนไปจริง ๆ แบ๊งค์รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ค่อยเหมือนเดิม  เหมือนเป็นช่วงมรสุมเรยเว้ย ความรู้สึกมันแปลก ๆ อยู่ตลอดเวลายากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้  ช่วงนี้แมคเปลี่ยนไป ไม่ค่อยมาหาแบ๊งค์เหมือนแต่ก่อน จากที่เมื่อก่อนแมคจะมาค้างที่คอนโดของแบ๊งค์ทุกวันศุกร์- เสาร์ แมคก็ไม่มาอีก อยู่มหาวิทยาลัยก็เหมือนแมคจะพยายามหลบหน้าแบ๊งค์ ไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้แมคเป็นอะไรไป  แบ๊งค์โทรไปหา แมคก็ไม่ยอมรับสาย บางครั้งก็ปิดเครื่องใส่แบ๊งค์ไปเลย  งงจริง ๆ เลยช่วงนี้  ไอ้เจ้ากาวก็อีกคน ทำท่าเหมือนมีอะไรปิดบัง คือมันอ่ะชอบมองแบ๊งค์ แล้วทำตาเศร้า ๆ พอถามไป มันก็บอกว่าไม่มีอะไร  เป็นห่วง  ตกลงมันมีอะไรกันแน่ฟะ แล้วเรื่องที่กาวเป็นห่วงจะเกี่ยวกับแมคมั้ยเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว จะทำไงดีเนี่ย

     แล้ววันนี้พี่นุ่นก็เลิกช้าอีกตามเคย  จะมีซักครั้งมั้ยเนี่ย ที่เราสองคนจะเลิกเรียนพร้อม ๆ กัน แบ๊งค์เลยต้องมานั่งรอที่สนามบาสกับนายกาวตามเคย  ไม่อยากไปไหนอ่ะ ไปคนเดียวตลอดเลย พอกาวไปเปลี่ยนชุด ตามเสต็ปเดิมคับ พี่โป้งเดินเข้ามานั่งข้างแบ๊งค์อีกแล้ว

     " มารอเพื่อนอีกแล้วหรอคับ"   พี่โป้งถาม

     " ครับ"   แบ๊งค์ตอบออกไปสั้น ๆ

     " กับแฟนช่วงนี้เป็นยังไงบ้างหรอ"   พี่โป้งถามมาอีกครับ

     " ไม่รู้สิครับ ห่าง ๆ กันไปเค้าคงยุ่ง ๆ อยู่"    แบ๊งค์ตอบไปตามความจริง เพราะคงไม่มีอะไรต้องปิดบังหรอก 

     " อืม...งั้นหรอ"   พี่โป้งพยักหน้า

     " มีอะไรเกี่ยวกับเราสองคนรึเปล่าครับ"   แบ๊งค์ถามกลับบ้าง

     " ปะ...เปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอก"   พี่โป้งรีบตอบ คนอะไรฟะจับพิรุธ  ง้ายง่าย

     " ถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ"   พี่พูดขึ้น หลังจากที่เห็นแบ๊งค์พยายามจับพิรุธ

     " ก็ถามมาสิครับ  ถ้าแบ๊งค์อยากตอบเดี๋ยวแบ๊งค์ก็ตอบเอง"   แบ๊งค์พูดไปตามอารมณ์

     " น้องแบ๊งค์รักน้องแมครึเปล่าครับ"   โห(o_O)อึ้งดิ อยู่ ๆ ก็ถามแบบนี้

     " รักสิครับ มีอะไรรึเปล่า"   แบ๊งค์ตอบ

     " แล้วน้องแบ๊งค์คิดว่า แมคอ่ะ  รักแบ๊งค์รึเปล่า"    ถามแปลก ๆ อีกแล้ว

     " น่าจะรักนะครับ มีอะไรรึเปล่า"   แบ๊งค์ว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ในคำถาม ที่พี่โป้งถามมาแน่ ๆ   ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มไม่มั่นใจในตัวพี่โป้งขึ้นมาอีกแล้ว

     " พี่โป้ง!!!มีอะไรกันแน่ บอกมานะครับ พี่โป้งต้องการอะไรกันแน่"   แบ๊งค์เริ่มทำท่าโวยวายใส่พี่โป้ง และกำลังพยายามจะเค้นเอาคำตอบให้ได้ พี่โป้งเริ่มหน้าเสีย  แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบเจ้ากาวก็เข้ามาทัก

     " หวัดดีครับพี่โป้ง  คุยอะไรกันอยู่หรอดูท่าทางเครียด ๆ จัง"   เข้ามาได้จังหวะจังนะเมริง

     " ไม่มีอะไรหรอก  อ่ะเตรียมตัวได้แล้ว จะได้ไปวอร์มร่างกายกัน"   พี่โป้งถือโอกาสนี้ หนีไปเฉยเลย กาวนะกาวทำกันได้  แบ๊งค์เลยเริ่มทำหน้างอน ๆ

     " อ้าวเป็นอะไรไปอีกน่ะแบ๊งค์ ไม่พอใจใครหรอ"   กาวสังเกตได้ก็เลยถาม

     " ไม่รู้ ไม่ชี้ สบายดี กินข้าวแล้วเว้ย"  แบ๊งค์ตอบไปแบบไม่พอใจ

     " อ้าว..ซะงั้นอ่ะ"   ยังไม่ทันที่กาวจะได้ง้อหรอกครับ โค้ชกับพี่โป้งก็เรียกรวม  แบ๊งค์ก็เลยนั่งปั้นหน้างอนอยู่คนเดียว จนในที่สุดพี่นุ่นก็มารับแบ๊งค์กลับคอนโด

     ช่วงนี้ไม่ค่อยจะสบายใจเลยอ่ะ มันหวั่น ๆ ใจยังไงก็ไม่รู้ กำลังเครียดอยู่แท้ ๆ ไอ้พี่โป้งก็ยิ่งมาพูดทำให้เครียดอีก เซงอย่างแรง  ตอนนี้คิดไปคิดมาจนเริ่มจะปวดหัวแล้วเนี่ย  เลยต้องหาอะไรทำ ตามเคยอ่ะครับ เล่น MSN จะกับใครซะอีกล่ะ ( ไม่ต้องบอกหรอก เค้าทายถูกกันหมดแล้ว ) นายโต้คนแปลกหน้าคนเดิมนั่นแหละครับ


     badboy_be_sadboy say:
     ดี ๆ

     คนแปลกหน้า say:
     อืม

     badboy_be_sadboy say:
     ทำไรอยู่อ่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     มารอแบ๊งค์นั่นแหละ

     badboy_be_sadboy say:
     รอ

     badboy_be_sadboy say:
     รอทะมายอ่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     คือเราเปงห่วงนายอ่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ห่วงอารายพูดแปลก ๆ

     badboy_be_sadboy say:
     ห่วงอารายพูดแปลก ๆ

     คนแปลกหน้า say:
     ช่างเหอะๆ

     คนแปลกหน้า say:
     แร้นสบายดีมั้ย

     badboy_be_sadboy say:
     ก้อเรื่อย ๆ อ่ะ ออกแนวเบื่อ ๆ

     คนแปลกหน้า say:
     ทำไมล่ะ   เรื่องแฟนหรอ

     badboy_be_sadboy say:
     อืม ประมาณนั้น

     badboy_be_sadboy say:
     รู้ได้ไงอ่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     ก้อลองเดาดูอ่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     อ่ะนะ

     คนแปลกหน้า say:
     แร้นใช่ป่ะล่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ก้อน่าจาช่าย

     คนแปลกหน้า say:
     ทะเลาะกันหรอ

     badboy_be_sadboy say:
     ป่าว

     badboy_be_sadboy say:
     เหมือนจาห่าง ๆ กันไป

     badboy_be_sadboy say:
     คงเบื่อหน้าเรามั้ง

     คนแปลกหน้า say:
     ไปทำอะไรให้เค้าโกดล่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ไม่นะ

     badboy_be_sadboy say:
     เราโทไปหาเค้าก้อไม่รับสาย

     badboy_be_sadboy say:
     มะรุเปงไร

     คนแปลกหน้า say:
     น่าฉงฉาน

     badboy_be_sadboy say:
     อ่ะนะ

     คนแปลกหน้า say:
     นายคิดว่าเค้ารักนายจิงป่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     อาจจะมั้ง

     badboy_be_sadboy say:
     เมื่อก่อนเค้าเคยรักเรา

     badboy_be_sadboy say:
     แต่เด๋วนี้เค้าคงเบี่อเราแล้วล่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     ไม่หรอก

     คนแปลกหน้า say:
     อย่าคิดมากดิ

     badboy_be_sadboy say:
     อ่ะนะ

     badboy_be_sadboy say:
     แต่เราว่า  เราคงน่าเบื่อจริง ๆ

     คนแปลกหน้า say:
     ไม่ต้องคิดมากหรอก

     คนแปลกหน้า say:
     นายยังมีคนชอบอีกแยะ

     badboy_be_sadboy say:
     พูดเหมือนรู้

     badboy_be_sadboy say:
     กร้ากกกกกกกกกกกก

     คนแปลกหน้า say:
     สบายใจได้แล้วนะ

     badboy_be_sadboy say:
     อืม

     badboy_be_sadboy say:
     แร้นนายล่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     กับคนที่ชอบเปงไงบ้าง

     คนแปลกหน้า say:
     ก้อเปงเพื่อนกันเหมือนเดิม

     คนแปลกหน้า say:
     แต่เราสงสารเค้าอ่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ทะมายล่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     ก้อคือเราไปเหนแฟนเค้า

     คนแปลกหน้า say:
     ไปเที่ยวกะอีกคน

     คนแปลกหน้า say:
     ประมาณว่ามีกิ๊กอ่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     โห...............ไรฟะ

     badboy_be_sadboy say:
     แร้นนายบอกเค้าคนนั้นล่ะป่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ว่าแฟนเค้าแอบไปมีกิ๊ก

     คนแปลกหน้า say:
     ไม่อ่ะ  เราไม่กล้า

     badboy_be_sadboy say:
     นายต้องบอกนะ

     badboy_be_sadboy say:
     ถ้านายรักเค้าจิง  ๆ

     badboy_be_sadboy say:
     ไม่งั้นเค้าคนนั้นอาจจะเจ็บไปกว่านี้นะ

     คนแปลกหน้า say:
     เรากัวเค้าเสียใจ

     คนแปลกหน้า say:
     แต่เราก้อพยายามบอกเค้าอ้อม ๆ ไปนะ

     คนแปลกหน้า say:
     ไม่รู้ว่าเค้าจะรู้ตัวล่ะป่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ไม่ลองบอกตรง ๆ ไปล่ะ

     คนแปลกหน้า say:
     อืมจาพยายาม

     badboy_be_sadboy say:
     แต่เราว่านายน่าจะรีบบอกนะ

     คนแปลกหน้า say:
     ทำไมล่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ก้อมานเปงโอกาสดี

     badboy_be_sadboy say:
     ที่นายจะได้ทำคะแนน

     badboy_be_sadboy say:
     แล้วบอกความจริงใจให้เค้ารู้ไง

     คนแปลกหน้า say:
     อ่ะนะ

     badboy_be_sadboy say:
     จิง ๆ นะลองทำดู

     คนแปลกหน้า say:
     ค้าฟ

     คนแปลกหน้า say:
     เด๋วเราไปก่อนนะ

     คนแปลกหน้า say:
     เราเล่นร้านอ่ะ

     badboy_be_sadboy say:
     ยังไงก้อสู้ ๆ นะ

     คนแปลกหน้า say:
     บายคัฟ
     badboy_be_sadboy say:
     บาย


     แล้วนายโต้ก็ออกไป  แบ๊งค์ก็เลยนั่งเล่นเกมต่อ  คิดไปคิดมาตอนนี้แบ๊งค์ไม่สบายใจเลยจริง ๆ ที่แมคหายหน้าไปแบบนี้   ตอนแรกที่พูดกับโต้ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก  แต่พอลองทบทวนดูอีกที  แมคอาจจะเบื่อแบ๊งค์จริง ๆ เพราะตอนนี้แมคไม่มาหาแบ๊งค์เหมือนเมื่อก่อน  แม้กระทั่งเวลาเรียน จากที่เคยนั่งข้างกัน  แมคก็ย้ายไปนั่นที่อื่น  ที่ไกลแบ๊งค์ออกไป แบ๊งค์โทรหาหลายครั้ง ก็ได้ฟังแต่เสียงให้ฝากข้อความ 
ทั้ง ๆ ที่เราก็อยู่ใกล้กันแท้ ๆ แต่ตอนนี้มันเหมือนกับว่า  เราอยู่ห่างกันออกไปทุกที ๆ แมคไม่มาค้างที่คอนโดแบ๊งค์เหมือนแต่ก่อน  จากเมื่อก่อนที่แมคจะมาค้างทุกศุกร์-เสาร์  ก็กลายเป็นสัปดาห์เว้นสัปดาห์  และตอนนี้แมคก็ไม่มาอีกเลย  แม้กระทั่งข้าวของที่เคยเอามาเก็บไว้ที่คอนโดแบ๊งค์  แมคก็ขนกลับไปหมด  แบ๊งค์ไม่รู้จริง ๆ ว่าแมคเป็นอะไรไป  แบ๊งค์ไปทำอะไรให้แมคโกรธรึเปล่า แบ๊งค์ก็ไม่สามารถรู้ได้  ตอนนี้แบ๊งค์ไม่สบายใจเลยจริง ๆ ที่แมคเปลี่ยนไปแบบนี้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 20-05-2007 23:14:52
***********************
บทที่ 25 ความจริงที่ซ่อนอยู่

แบ๊งค์กับแมคยังคงห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มที่จะทำใจแล้วครับ  ได้แต่รออย่างเดียว  รอเวลาที่แมคจะเข้ามาบอกคำว่า 'จบกัน'  แบ๊งค์คิดไว้นะครับ ในเมื่อมันเคยเจ็บมาแล้ว  ถ้ามันจะเจ็บอีกซักครั้งมันคงไม่เป็นอะไรมากหรอก  เมื่อคิดได้แบบนั้นแบ๊งค์ก็เลยไม่สนใจอะไรแล้วครับ  แมคอยากทำอะไรก็ปล่อยเค้าไป  วันนี้มีเรียนแค่ภาคเช้าครับ  พอเลิกเสร็จแบ๊งค์ก็ไปนั่งที่สนามบาสกับนายกาวตามเคย แมคอ่ะหรอไปไหนไม่รู้ ตั้งแต่ตอนเลิกเรียนแล้ว

" มานั่งที่นี่อีกแล้วนะครับ"   พี่โป้งทักเราสองคน

" หวัดดีครับพี่โป้ง"   กาวทักทายพี่โป้ง  แต่แบ๊งค์ก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม

" น้องแบ๊งค์เป็นอะไรไปรึเปล่าครับ ดูเงียบ ๆ "   พี่โป้งทักขึ้น

" ไม่เป็นไรหรอกครับ"   แบ๊งค์ตอบ

" แล้วนี่ไม่มีเรียนกันหรอ"   พี่โป้งถาม

" หมดแล้วอ่ะครับ  แต่ยังไม่อยากกลับบ้าน"   กาวตอบแทนแบ๊งค์

" แล้วพี่โป้งล่ะครับ"   กาวถามคืน

" ก็มีนะ  แต่พี่ไม่อยากเข้าอ่ะ  วิชานี้น่าเบื่อ"   พี่โป้งตอบออกมาแล้วหัวเราะ

" แล้วมีแผนจะไปไหนรึเปล่า  เราสองคนอ่ะ"   พี่โป้งถาม  แบ๊งค์กับกาวเลยส่ายหน้าแทนคำตอบ

" งั้น  ไปสยามมั้ย"   พี่โป้งชวน

" สยาม? "   กาวทวนคำพูด

" อืม  ทำไมหรอ"   พี่โป้งถาม

" ค..คือผมว่าเราไปที่อื่นดีกว่านะ"   กาวเสนอ

" แต่พี่ว่าไปเที่ยวที่นั่นแหละ  พี่ไม่รู้จะไปไหนอ่ะ"   พี่โป้งพูด

" ผมว่าไปที่อื่นไม่ดีกว่าหรอครับ  ที่นั่นไม่ค่อยมีอะไร"   กาวแย้ง

" แล้วแบ๊งค์ล่ะอยากไปไหน"  พี่โป้งถาม  แต่แบ๊งค์นึกอะไรไม่ออก ก็เลย

" ไปสยามก็ได้  เดี๋ยวกะว่าจะไปดูของที่มาบุญครองด้วย"   แบ๊งค์ตอบไป

" อืม  ตกลงเราไปสยามกันนะ"   พี่โป้งสรุป

" ครับ"   กาวตอบเสียงเบา ๆ ดูหน้าเจื่อน ๆ 

     จากนั้นเราทั้งสามคนก็ไปเดินสยามกัน  พี่โป้งก็เดินนำไปดูเสื้อผ้า ข้าวของต่าง ๆ  แบ๊งค์ก็ยังคงเฉย  ๆ แต่ไอ้กาวอ่ะ ไม่รู้เป็นอะไร ดูท่าทางแปลก เหมือนกลัวใครเห็น แต่ก็ช่างมันเหอะ เรื่องของมันชีวิตของมัน  พี่โป้งก็ยังคงดูเสื้อผ้าต่อไป ดูอารมณ์ดีจัง พี่โป้งก็ซื้อเสื้อไปสองสามตัว  แล้วหันมาทำท่าว่าจะซื้อให้เราสองคนบ้าง  แบ๊งค์และกาวเลยรีบปฏิเสธไป แต่พี่โป้งก็ไม่ยอม  ผลสุดท้ายเราสองคนก็เลยได้เสื้อมาคนละ 1 ตัว

แล้วแบ๊งค์ก็เลยขอพี่โป้ง กับกาวไปเดินฝั่งมาบุญครองบ้าง  เพราะอยากไปดูของ พวกมือถืออะไรประมาณนี้อ่ะ  เดินในมาบุญครองได้ซักพัก พี่โป้งก็บ่นหิว  เราสามคนก็เลยไปนั่งทาน Mc'donald  พี่โป้งก็สั่งมาเยอะอีกตามเคย กาวเลยทักขึ้น ตอนที่เรายกถาดอาหารมานั่งที่โต๊ะแล้ว โดยที่แบ๊งค์นั่งข้างกาว แล้วพี่โป้งอยู่ฝั่งตรงข้าม

" สั่งมาเยอะขนาดนี้  เดี๋ยวก็ทานไม่หมดหรอกครับ"   กาวทัก

" ไม่เป็นไรหรอกครับ วันนี้พี่มีความสุข ทานไปเหอะครับ"   พี่โป้งดูมีความสุขจริง ๆ

" มีความสุขเรื่องอะไรหรอครับ"  แบ๊งค์ถามขึ้นบ้างหลังจากปิดปากเงียบมานาน

" ก็น้องแบ๊งค์ยอมมมาเที่ยวกับพี่ไงครับ"   พี่โป้งหันมายิ้มให้แบ๊งค์  แบ๊งค์กับกาวเลยมองหน้าพี่โป้งแบบงง ๆ

" ก็เรื่องที่พี่เคยทำไม่ดีกับน้องแบ๊งค์ไว้ไงครับ  พี่ขอโทษนะ"   พี่โป้งพูด

".........................."   แบ๊งค์เงียบ

" พี่กลัวว่าแบ๊งค์จะเกลียดไม่ยอมอภัยให้พี่  แต่พอน้องแบ๊งค์ยอมมาเที่ยวกับพี่วันนี้  พี่ก็เลยรู้ครับว่าน้องแบ๊งค์คงไม่ได้
เกลียดพี่แล้ว"   พี่โป้งพูดออมาอย่างสบายใจ

"........................."  แบ๊งค์เงียบต่อไป

" โกรธกันเรื่องอะไรหรอวะ"   กาวกระซิบถามแบ๊งค์ ตอนที่พี่โป้งเผลอ

" ไม่มีอะไรหรอก"  แบ๊งค์กระซิบตอบไป  แล้วเราสามคนก็ทานอาหารกัน ต่อเมื่อทานเสร็จพี่โป้งก็ชวนเราไปดูหนัง  แต่กาวทำท่าไม่อยากไปขึ้นมา

" ไม่ไปได้มั้ยครับ"   กาวพูด

" ทำไมล่ะครับ  หนังใหม่เพิ่งเข้าน่าสนุกดีออก"   พี่โป้งพูด

" คือ..... "   กาวไม่พูด

" ไปดูด้วยกันนะ  ป่ะไปเหอะ"   แบ๊งค์รีบดึงกาวให้เดินมาด้วยกันครับ แล้วเราก็เดินไปดูว่า  วันนี้มีหนังอะไรมาใหม่ และดูรอบที่ฉาย  เมื่อเลือกรอบได้แล้วเราสามคนก็กำลังจะไปซื้อตั๋วครับ อยู่ ๆ กาวมันก็รีบดันเอวแบ๊งค์  ให้รีบเดิน

" ป่ะ ๆๆ ไปซื้อตั๋วกัน"   ไอ้นี่แปลกว่ะ  เมื่อกี้ยังบอกไม่อยากดู แล้วอยู่ดี ๆ ก็มาบอกให้รีบ  แบ๊งค์ก็เลยหันไม่มองหน้ามัน แต่สายตาของแบ๊งค์ก็ไปสะดุดกับคน ๆ คู่หนึ่ง

ไม่ใช่ใครหรอกครับ  แมคนั่นเอง เดินมากับครีม ดูท่าทางสนิทกันจัง  ตอนนี้แบ๊งค์หยุดยืนดูเค้าทั้งคู่ที่กำลังเดินควงกัน  กาวมันทำท่าตกใจเมื่อเห็นว่าแบ๊งค์ได้เห็นแมค  แบ๊งค์ยังคงยืนนิ่ง ๆ ตอนนี้แบ๊งค์พูดอะไรไม่ออกจริง ๆ ครับ แล้วเหมือนว่าครีมจะเห็นแบ๊งค์ก็เลยเดินเข้ามาทักทาย  ตอนนี้แมคหน้าซีดไปแล้วครับ

" อ้าว  แบ๊งค์  กาวมาดูหนังหรอ"   ครีมถาม

" อืมใช่"   แบ๊งค์ตอบ

" แล้วนั่นใครอีกคนล่ะ"  ครีมถาม

" พี่โป้ง  พี่ที่ชมรมเราเอง"  กาวแนะนำ

" สวัสดีค่ะ พี่โป้ง"  ครีมทักทายพี่โป้ง

" ครับ"   พี่โป้งรับคำ

" ดูหนังกันเสร็จแล้วหรอ"   แบ๊งค์ถามครีมบ้าง  แต่ตอนนี้แบ๊งค์ยังคงจ้องมองแมคด้วยสายตาเคียดแค้นอยู่เหมือนเดิม

" อืม...ใช่ เนี่ยกะว่าจะไปทานข้าวกันต่อ"   ครีมพูด

" มีหนังอะไรน่าดูบ้างล่ะ  แนะนำเราหน่อยสิ"   แบ๊งค์แกล้งถาม

" อืม ไม่รู้สิ เรื่องppppp ก็สนุกนะ เราเพิ่งมาดูอาทิตย์ที่แล้วเอง"  ครีมบอก

" หรอ อืมก็น่าสนนะ แล้วนี่มาดูหนังกันบ่อยมั้ยล่ะ"   แบ๊งค์ถาม แมคจ้องหน้าแบ๊งค์ทันที ที่แบ๊งค์ถาม

" ก็บ่อยนะ  แมคชอบพาเรามาบ่อย ๆ อ่ะ"   ในที่สุดแบ๊งค์ก็ได้คำตอบซะที  แบ๊งค์เลยหันไปยิ้มให้แมค

" อืม  เดี๋ยวเราไปซื้อตั๋วหนังก่อนนะ"   แบ๊งค์ตัดบท รีบลาคนทั้งสองแล้วเดินไปหน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋ว แล้วหยุดยืน เมื่อเห็นว่าคนทั้งคู่เดินไปจนพ้นสายตาของแบ๊งค์แล้ว

" แบ๊งค์......... "   กาวเรียกแบ๊งค์เสียงเบา  น้ำตาของแบ๊งค์เริ่มไหลออกมาแล้วครับ

" พี่ว่ารออีกซักแปป ให้เค้าเดินไปก่อนนะ แล้วเราค่อยกลับกัน"   พี่โป้งพูด แบ๊งค์เลยพยักหน้าตอบไป  แล้วแบ๊งค์ก็ยืนแบบนั้นอยู่ซักพัก  เราทั้งสามจึงกลับกัน  เมื่อขึ้นรถได้แบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมา  ทั้ง ๆ ที่คิดว่าทำใจได้แล้วแต่ทำไมถึงยังร้องไห้อีกก็ไม่รู้

" แบ๊งค์.....เราขอโทษ"   กาวพูดขึ้น

" ขอโทษเรื่องอะไรหรอ"   แบ๊งค์ถามไป ขณะทีร้องไห้ไปด้วย

" คือ....เรารู้เรื่องนี้มานานแล้วล่ะ  แต่เราไม่กล้าบอก"   กาวอธิบาย

" ไม่เป็นไรหรอก  เราทำใจแล้ว"   แบ๊งค์ตอบออกไป

" ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  พี่ขอสารภาพเหมือนกันนะครับ"   พี่โป้งพูดขึ้นบ้าง เราทั้งสองคนเลยหันไปมองพี่โป้ง

" ความจริงพี่ก็เคยเห็นสองคนนี้ไปไหนด้วยกันตั้งหลายครั้งแล้วล่ะครับ  แล้วที่พี่ชวนน้องแบ๊งค์มาวันนี้ก็เพราะว่าพี่ไปได้ยินมา ว่าสองคนนี้จะมาเที่ยวทีนี่ด้วยกันวันนี้"   พี่โป้งพูดโดยที่เราสองคนต่างตั้งใจฟัง  และแบ๊งค์ก็ยังคงร้องไห้

" ตอนแรกพี่อยากให้แบ๊งค์รู้มากเลยรู้มั้ยครับ  แต่พอได้มาเที่ยวกับน้องแบ๊งคื  แล้วเห็นแบ๊งค์เศร้า ๆ พี่ก็ไม่อยากให้แบ๊งค์รู้ ก็เลยกะว่าจะพาแบ๊งค์ไปดูหนัง  เพื่อที่ว่าจะได้อยู่ในโรง ไม่ต้องออกมาเจอสองคนนั่น  แต่ที่ไหนได้...... "    แล้วพี่โป้งก็เงียบไป

" ไม่เป็นไรหรอกครับ แบ๊งค์ไม่เป็นอะไรมากแล้ว"   แบ๊งค์พูด

" ที่เสียใจก็เพราะว่า  ทำไมเค้าไม่มาบอกแบ๊งค์ตรง ๆ ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้  ถ้าเค้ามาบอกแบ๊งค์เอง  แบ๊งค์คงจะไม่เสียใจแบบนี้หรอกครับ"   แล้วแบ๊งค์ก็ร้องไห้ต่อ 

    พี่โป้งเลยขับรถไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด  แต่แบ๊งค์ไม่ให้ทั้งสองคนตามไปส่งที่ห้อง ตอนนี้พี่นุ่นกลับมาแล้ว  แบ๊งค์ก็เลยเข้าไปนอนในห้อง  ไม่ออกมาทำอะไรอีก  พี่นุ่นเห็นว่าท่าทางแบ๊งค์เปลี่ยนไปก็เลยพยายามที่จะเข้ามาถาม แต่แบ๊งค์ล็อคห้อง พี่นุ่นเลยเข้ามาไม่ได้  พี่นุ่นก็เลยหยุดความพยายามไป  จากนั้นแบ๊งค์ก็รู้สึกง่วง ๆ เพลีย ๆ เลยหลับไป
แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกว่าแสงแดดส่องเข้ามาในห้อง  ตอนนี้เช้าแล้วครับ ไม่สิ  เหลือบมองดูนาฬิกาอีกทีตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงกว่า ๆ แล้ว แบ๊งค์เผลอหลับไปตอนไหนยังไม่รู้เรื่องเลย  ดีนะเนี่ยที่วันนี้เป็นวันหยุดไม่งั้นต้องไปมหาวิทยาลัยสายแน่ ๆ  แบ๊งค์ก็เลยเข้าอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน  พอมองกระจกตกใจมากเลยครับ  ตาแบ๊งค์ดูบวม ๆ คงเป็นเพราะเมื่อวานนอนร้องไห้ แน่ ๆ  พออกห้องมาก็ต้องตกใจครับ  กาวนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา

" ออกมาได้แล้วหรอ"   พี่นุ่นทัก

" นึกว่าแบ๊งค์เป็นอะไรไปแล้วซะอีก"   กาวพูด

" ยังไม่ตายหรอกน่า"   แบ๊งค์ตอบไป

" พี่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ  อย่าคิดมากเลย ชีวิตก็แบบนี้แหละ"   พี่นุ่นพูดปลอบใจ

" ไม่เป็นไรแล้วล่ะ  แบ๊งค์ทำใจตั้งแต่ตอนที่เค้าหายไปแล้วละ"   แบ๊งค์บอก

" มา ๆๆ มาทานข้าวเช้ากันได้แล้ว"   พี่นุ่นเรียกเราทั้งสองคนมาทานข้าว  แล้วเราสามคนก็มานั่งทานข้าวด้วยกันครับ  โดยไม่มีใครคิดที่จะพูดถึงเรื่องนายแมคอีก  คงเป็นเพราะไม่มีใครอยากให้แบ๊งค์ไปจมอยู่กับเรื่องนี้ล่ะมั้ง  ระหว่างที่ทานข้าวมือถือแบ๊งค์ก็ดังขึ้นครับ  แมคโทรมา  เมื่อแบ๊งค์เห็นว่าเป็นเบอร์แมค  แบ๊งค์เลยกดไม่รับแล้วปิดเครื่องไปเลย  ทุกคนเหมือนจะเข้าใจ ก็เลยไม่มีใครพูดอะไรออกมา เราพยายามไม่พูดถึงเรื่องแมคกัน

แล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่แบ๊งค์ต้องไปมหาวิทยาลัย  วันที่จะได้พบกับใครบางคนที่แบ๊งค์ไม่อยากเจอ  แบ๊งค์ยังคงนั่งที่โต๊ะตัวเดิม  แล้วพี่ตั้มก็เข้ามาทัก

" ไง ไอ้ตัวเล็ก ไม่เจอกันนานเลยนะ"   พี่ตั้มทักทายครับ

" อืม...... "   แบ๊งค์ตอบออกไปสั้น ๆ

" เป็นไรไปวะ  เลิกกับแฟนรึไง  ทำท่าเหมือนจะตาย"   พี่ตั้มแซวมาครับ  พี่ตั้มอาจแค่แซวแบ๊งค์เล่น  แต่แบ๊งค์ทำท่าจริงจังแล้วพยักหน้า พี่ตั้มเลยทำท่าตกใจ

" แบ๊งค์เลิกกับแมคแล้วจริง ๆ หรอ"   พี่ตั้มถาม  แบ๊งค์เลยพยักหน้าไปอีกครั้ง

" ทะเลาะกันหรอ"   พี่ตั้มถามอีกครั้ง

" ไม่ใช่หรอก  แค่แบ๊งค์ไปเห็นเค้าอยู่กับคนอื่นก็เท่านั้นเอง"   แบ๊งค์ตอบไปตามความจริง

" มันทำแบบนี้ได้ไง  เดี๋ยวพี่จะไปเอาเรื่องมัน"   พี่ตั้มทำท่าเหมือนจะไปเอาเรื่องแมค  แบ๊งค์เลยรีบห้ามปรามไว้

" พี่ตั้ม!!!อย่าไปยุ่งกับเค้าอีกเลย  แบ๊งค์ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับเค้าอีกแล้ว"   แบ๊งค์พูด

" ตามใจแบ๊งค์แล้วกัน"   พี่ตั้มค่อย ๆ สงบลง

" พี่....พี่ขอโทษนะแบ๊งค์"   อยู่ ๆ พี่ตั้มก็ขอโทษแบ๊งค์

" ขอโทษ?  ขอโทษเรื่องอะไรหรอ"   แบ๊งค์ถามกลับไปแบบงง ๆ

" ก็เรื่องที่แบ๊งค์คบกับแมคพี่ก็มีส่วน  พี่ไม่น่าช่วยมันเลย"   พี่ตั้มดูท่าทางเสียใจมาก

" ตอนแรกมันมาบอกกับพี่ว่า  มันแอบชอบแบ๊งค์  แต่ไม่รู้จะคุยกับแบ๊งค์ได้ยังไง  พี่ก็ช่วยมันต่าง ๆ นานา  จนแบ๊งค์ได้เป็นแฟนมัน  ถ้าพี่รู้แบบนี้  พี่คงไม่ช่วยมันหรอก"   พี่ตั้มพูด

" ช่างมันเหอะพี่ตั้ม  เรื่องมันผ่านไปแล้ว"   แล้วแบ๊งค์กับพี่ตั้มก็นั่งคุยกัน  ไม่ได้คุยเรื่องแมคหรอก  ก็คุยกันเรื่องทั่วไปอ่ะ  จนแมคเดินเข้ามา

" แบ๊งค์  เรามีเรื่องจะคุยด้วย มากับเราหน่อย"   แมคพูด

" แบ๊งค์คงไม่มีอะไรจะพูดกะเมริงหรอก  ไปซะไม่ต้องมาอยู่แถวนี้"   พี่ตั้มไล่แมคครับ

" พี่ตั้ม!!! "    แบ๊งค์ดึงแขนพี่ตั้มไว้  เพราะพี่ตั้มทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นชกแมค

" แมค  มีอะไรก็พูดมาตรงนี้นี่แหละ  ไม่ต้องไปไหนไกล"   แบ๊งค์หันไปพูดกับแมค

" ก็ได้  เราพูดตรงนี้ก็ได้"   แมคพูด

" แบ๊งค์เราขอโทษ   คือตอนนี้เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเรารักใคร  แบ๊งค์คือคนที่เราอยากรัก  แต่ครีมคือคนที่ดีกับเรา  เราไม่รู้จะเลือกใครจริง"  แมคพูดออกมา

" ไม่เป็นไรหรอก  แมคไปคบกับครีมเถอะ  ปล่อยเราไว้เหอะนะ"   แบ๊งค์พูดขึ้นบ้าง

" แบ๊งค์ไม่โกรธเรานะ  เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ"   แมคพูด

" ไม่ได้หรอกแมค  เราคงกลับไปเป็นเพื่อนนายเหมือนเดิมไม่ได้หรอก"   แบ๊งค์พูด

" ทำไมล่ะ ทำไมกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้"   แมคถามกลับ

" ไหนแบ๊งค์ไม่โกรธเราแล้วไง"   แมคดูเศร้า  ๆ

" แบ๊งค์คงทำใจไม่ได้หรอก  ความจริงถ้าแมคมาบอกแบ๊งค์ตรง ๆ ว่าชอบครีม เราสองคนอาจจะยังเป็นเพื่อนกันได้  แต่แมคมาทำแบบนี้....... "   แบ๊งค์หยุดพูด

" แบ๊งค์ทำใจไม่ได้จริง ๆ เราพอแค่นี้เหอะ  จบกันไปเถอะนะ"   แบ๊งค์เริ่มร้องไห้

" แต่แบ๊งค์......... "   ยังไม่ทันที่แมคจะพูด  พี่ตั้มก็ไล่

" ออกไปเลย  เมริงไม่ได้ยินที่แบ๊งค์พูดหรอ  จบไปได้แล้ว  กรูส์ไม่น่าช่วยเมริงเลย  เมริงไปนั่งที่อื่นแล้วไม่ต้องมานั่งแถวนี้เลยนะ  ไม่งั้นอย่าหาว่ากรูส์ไม่เตือน"   สิ้นเสียงพี่ตั้ม  แมคก็เดินออกไปครับ  แมคก็ดูเสียใจไม่น้อยไปกว่าแบ๊งค์เลยครับ

" แบ๊งค์.....ไม่ต้องไปสนใจมันนะ  ในเมื่อมันไม่ดี  เราก็อย่าไปคบมัน"   พอพี่ตั้มพูดเสร็จ  แบ๊งค์ก็ก้มหัวลงไปซบไหล่พี่ตั้มร้องไห้

" มีอะไรกันหรอ"   กาวเดินเข้ามาถาม

" ไม่มีอะไรมากหรอก"   พี่ตั้มพูดไป  แล้วค่อย ๆ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กาวฟัง 

" ปล่อยให้มันผ่านไปเหอะนะ"   กาวช่วยปลอบ

" อืม..ตอนนี้แบ๊งค์ไม่เป็นไรแล้วล่ะ"    แบ๊งค์เงยหน้าขึ้นมาแล้วตอบไป  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึก ตัน ๆ จมูกอีกแล้ว

" เฮ้ย!!!!แบ๊งค์ เลือดกำเดาไหลว่ะ"   กาวทักขึ้น  แบ๊งค์เลยเอามือมาปาดจมูกดู  มีเลือดติด จริง ๆ ด้วย

" อืม...เลือดกำเดาไหลจริง ๆ ด้วย"   แบ๊งค์ยังคงนิ่งเฉย

" อ้าว...ไอ้นี่ตกใจบ้างก็ได้นะ  มา ๆๆ เงยหน้าขึ้น"   พี่ตั้มพูดแล้วจับแบ๊งค์เงยหน้าขึ้น

" กาว  ไปหาน้ำแข็งมาป่ะ  เดี๋ยวทางนี้พี่จัดการให้"   พี่ตั้มพูด

" ครับ"  แล้วกาวก็วิ่งไปหาน้ำแข็งมาประคบจมูกแบ๊งค์

" ไง....มาซบแค่นี้  ได้กลิ่นกรูส์นิดเดียว ถึงกับเลือดกำเดาไหลเลยหรอ"   พี่ตั้มแซว

" บ้าละ  พี่ตั้ม"   แบ๊งค์พูดกลับ

" หรือว่าแบ๊งค์คิดอะไรกับพี่ตั้มอ่ะ  เลือดกำเดาไหลเลย"    กาวแซวอีกคน

" เออ   เป็นพวกกันให้หมด"    แบ๊งค์แย้งกลับ

" โอ๋ ๆๆๆ  อย่างอนดิ"   พี่ตั้มทำเป็นง้อครับ  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกว่าเริ่มดีขึ้นแล้ว  ทั้งเรื่องที่เลือดกำเดาไหล  และเรื่องของแมค   ที่แบ๊งค์รู้สึกดีอาจเป็นเพราะว่า แบ๊งค์เคยผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้มาแล้วมั้ง  พอเสียใจแค่นี้ มันก็เลยทำใจได้
************************
     พี่แน๋ว  p'MyLoveMyBabe  p'RoosT  p'shell  p'หมูพูห์ (กระผมเหมาเรียกพี่หมดเลย โฮะ โฮะ) ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคับ อาการนี้คงเป็นไม่นานหรอกคับเดี๋ยวก็ชิน :onion_asleep: ผมเพิ่งเรียนปี 1 เองยังอีกหลายปีกว่าจะได้พักเต็ม ๆ :sad2: แค่คิดก็เหนื่อยหล่ะ แต่ไม่ท้อนะคร้าบ :yeb: :yeb:

     meeza31 อย่าเพิ่งเศร้าไปคับ ยังมีอะไรอีกเยอะค้าบ

     o13 ช่ายคับพี่เรย์  กระผมเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางทีมันก็น่ากลัวนะคับ ...ม่ายอาว...ม่ายกล้า แบบเนี้ย :serius2:

 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-05-2007 14:47:15
เรื่องมัรนวุ่นวายสมชื่อเจงๆๆ เลย  แมคนะ นึกว่าจะมาทำให้แบงคืดีขึ้นแล้ว ที่ไหนได้ มันน่านัก o2

แต่หัวใจมันพูดกันอยากนะ  ดีแล้วที่เลิกไปซะก่อนจผูกพันมากกว่านี้ แงๆๆ  :sad4: (คิดถึงเรื่องตัวเอง) :o12:

ต้องสู้ต่อไป หึหึ  o7


ว่าแต่คนแปลกหน้านี่กาว หรือพี่โป้งนะนี่ มีคนมาให้สงสัยเพิ่มแระ

พี่โป้งก็ดูทำตัวดีขึ้นนะ ตอนแรกอาจเพราะชั่ววูบ  แต่ยังไงเค้าก็รักแบงคือยู่เป็นพื้นฐาน เพียงแต่วิธีจะให้ได้ใจแบงค์มามันม่ะถูก :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-05-2007 16:03:59
เหวออออ

ทำไมช่วงนี้นิยายมีแต่เรื่องเศร้าหวา

 :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-05-2007 18:51:44
เห็นด้วยกับแบงค์นะ ถ้าบอกกันตรง ๆ ก็ยังจะพอเป็นเพื่อนกันต่อไปได้  :sad2:
แต่มาทำแบบนี้ คำว่าเพื่อนก็ให้ไม่ได้  :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-05-2007 19:47:18
แล้วใครกันนะพระเอกตัวจิง  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 21-05-2007 22:56:20
********************
บทที่ 26 ปีใหม่คนใหม่

แบ๊งค์เลิกกับแมคไปแล้ว  ตอนนี้เรากลายเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน เวลาเรียนเราก็จะพยายามไม่มองกัน  เวลาที่แบ๊งค์นั่งหน้าตึกพี่ตั้มก็จะคอยกันแมคไว้ให้  ถ้าเป็นสนามบาสก็จะมีกาวกับพี่โป้งคอยช่วยเหลืออยู่  แบ๊งค์กับแมคก็เลยห่างกันออกไปเรื่อย ๆ  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ที่เราคบกัน  แต่สิ่งที่แมคทำมันยากเกินกว่าที่แบ๊งค์จะรับมันไหว  เพราะฉะนั้นแบ๊งค์ขอเลือกที่จะไม่รู้จักกันแบบนี้ดีกว่า

ตั้งแต่ที่พี่โป้งรู้ว่าแบ๊งค์เลิกกับแมคอย่าเป็นทางการแล้ว ( ตลกตายล่ะเมริง )  พี่โป้งก็พยายามจะมาเอาใจแบ๊งค์มากขึ้น  ถึงขั้นที่แทบเรียกได้เลยว่า  มีแบ๊งค์ที่ไหนมีพี่โป้งที่นั่น  มีอยู่ครั้งหนึ่งแบ๊งค์อยากรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของพี่โป้งก็เลยหลุดปาก

" พี่โป้ง!!!ที่มาทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่"   แบ๊งค์พูดแบบไม่สบอารมณ์

" พี่ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นครับ  พี่ทำด้วยความเต็มใจ"   พี่โป้งแก้ตัว

" ไม่จริงหรอก  พี่โป้งพูดความจริงมาเหอะ  ถือว่าแบ๊งค์ขอร้อง"   แบ๊งค์ย้ำ

" ก....ก็ได้ครับ  พี่ยอมพูดก็ได้"   แล้วพี่โป้งก็เริ่มเล่าถึงเหตุผลที่มาเอาใจแบ๊งค์

" คือพี่ต้องการที่จะไถ่โทษความผิดที่เคยทำไว้กับแบ๊งค์อ่ะครับ  ที่พี่เคยทำร้ายแบ๊งค์  ขืนใจแบ๊งค์  และเรื่องที่ร้ายที่สุดคือ  พี่ทำให้แบ๊งค์กับไอ้อาร์ทต้องเลิกกัน"   นัยน์ตาพี่โป้งดูเศร้า

" พี่มาคิดดูแล้ว  พี่ทำผิดไปมากจริง ๆ มันเกิดจาการที่พี่เป็นคนเอาแต่ใจ จะว่าพี่เลวก็ได้นะครับ  แต่ถ้าจะให้แก้ไข พี่คงทำไม่ได้  มันกลายเป็นสันดานไปแล้วแหละครับ"   พี่โป้งตอบออกมา  ถึงแม้ว่าพี่โป้งจะยิ้มให้แบ๊งค์  แต่แบ๊งค์ก็รับรู้ได้ถึงความเศร้าที่อยู่ในใจพี่โป้ง

" แบ๊งค์ให้พี่คอยดูแลแบ๊งค์นะครับ  ถือว่าไถ่โทษ"   พี่โป้งทำท่าอ้อนวอน

" อะ...อืมเอางั้นก็ได้"   แบ๊งค์เลยต้องยอม ๆ ไป

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพี่โป้งก็เปลี่ยนไปจนใครหลาย ๆ คนต้องแปลกใจ  เพราะจากที่ปกติพี่โป้งจะเอาแต่ใจ  ใจร้อน ขี้หงุดหงิด  ก็กลายมาเป็นคนใจเย็น  จากที่เมื่อก่อนที่เคยโกรธเวลาแบ๊งค์ไปพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น  ก็กลายเป็นว่านิ่งเฉยไปซะ ดูพี่เค้าดีขึ้นแล้วจริง ๆ

พี่โป้งทำดีจนกระทั่ง  พี่นุ่นซึ่งรับรู้เรื่องทั้งหมดที่พี่โป้งเคยทำไว้กับแบ๊งค์  จากที่เคยเกลียด ก็เริ่มที่จะลดความเกลียดลง  เริ่มที่จะอนุญาตให้แบ๊งค์ไปไหนมาไหนกับพี่โป้งได้มากขึ้น  แต่แบ๊งค์กับพี่โป้งก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกนะ  แบ๊งค์ยังไม่พร้อมที่จะคบใครหรอก  และก็เหมือนว่าพี่โป้งก็จะเข้าใจในความคิดของแบ๊งค์  แต่ถึงยังไงก็ตามพี่โป้งก็ยังจะขอตามเอาใจแบ๊งค์อยู่ดี

แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ในขณะที่แบ๊งค์กำลังเล่น MSN ปรากฏว่า มีe-mail ใหม่เข้ามา 1 ฉบับแบ๊งค์ก็เลยลองเปิดอ่านดู  ไม่น่าเชื่อเลยครับ  เมลล์จากพี่อาร์ท  หลังจาที่พี่อาร์ทหนีไปอยู่อังกฤษตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว  แบ๊งค์ไม่เคยติดต่อพี่อาร์ทได้แม้แต่ครั้งเดียว  แต่วันนี้พี่อาร์ทกลับส่งเมลล์มาหาแบ๊งค์


ผู้ส่ง     ? < ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   আআ   ঘঘঘঘঘ     20xx   03:12:56
ผู้รับ   br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

เป็นไงบ้างครับ   สบายดีรึเปล่า  พี่อยู่ที่นี่อากาศเย็นมากเลยครับ  ได้หัดทำอาหารทานเองด้วยครับ ตอนนี้พี่ก็กำลังหาที่เรียนไปด้วยครับ  ไม่รู้ว่าจะโอนย้ายหน่วยกิตมาได้รึเปล่า  พี่คิดถึงน้องแบ๊งค์นะครับ  ตลอดเวลา 2 เดือนพี่พยายามที่จะลองลืมแบ๊งค์ แต่ก็ทำไม่ได้  ที่พี่ส่งเมลล์มานี่  พี่ไม่ได้ต้องกาที่จะให้แบ๊งค์เลิกกับแฟนแล้วกลับมาหาพี่หรอกนะครับ  พี่แค่อยากรู้ความเป็นไปของน้องแบ๊งค์บ้างก็เท่านั้น ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ  คิดถึงนะครับ



พอแบ๊งค์ได้อ่านข้อความเท่านั้นแหละครับ  แบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมาเลย  ตกลงพี่อาร์ทจะหนีไปเรียนที่อังกฤษจริง ๆ ใช่มั้ย  เราสองคนคงไม่มีวันที่จะกลับไปเป็นอย่างเดิมแล้วสินะ  ความจริงแบ๊งค์ก็อยากกลับไปเหมือนกัน  แต่แบ๊งค์ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มไม่มั่นใจในตัวเองอีกแล้ว  พี่อาร์ทที่ยังคงอยู่ในหัวใจ  กับพี่โป้งคนใหม่ที่แบ๊งค์เริ่มที่จะรัก  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ แบ๊งค์ก็เลยส่ง e-mail กลับไป


ผู้ส่ง     ? < br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ঔঔ   ঘঘঘঘঘ     20xx   13:01:32
ผู้รับ  ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

แบ๊งค์ก็สบายดีครับ  พี่อาร์ทก็ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ  ทางนี้ก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ  ทุกคนอยู่กันอย่างสบายดี แบ๊งค์คิดถึงพี่อาร์ทเหมือนกันครับ



แบ๊งค์ไม่รู้จะพิมพ์ตอบกลับไปว่าอย่างไรดีครับ  ก็พิมพ์ไปเท่านั้น  ใจจริงอยากจะขอให้พี่อาร์ทกลับมาเป็นอย่างเดิม  แต่ลองอ่าน e-mail พี่อาร์ทดูอีกครั้ง แบ๊งค์คิดว่าไหน ๆ พี่อาร์ทก็มีความตั้งใจจะไปเรียนที่อังกฤษแล้ว  แบ๊งค์อย่าไปขวางความก้าวหน้าของเค้าเลยจะดีกว่านะครับ   แบ๊งค์ควรจะปล่อยเค้าไปเจอสิ่งใหม่ ๆ สิ่งที่ดีกว่านี้  จะดีกว่านะครับ  อย่าให้เค้าต้องมาจมปรักอยู่กับแบ๊งค์อีกเลย

เรื่อง e-mail จากพี่อาร์ทไม่มีใครรู้เรื่องหรอกครับ  แม้กระทั่งพี่นุ่น  แบ๊งค์ไม่อยากให้ใครรู้ว่าแบ๊งค์ยังตัดใจจากพี่อาร์ทไม่ได้  เดี๋ยวทุกคนจะมาเป็นห่วงแบ๊งค์อีก  โดยเฉพาะพี่โป้งที่กำลังแสนดีในขณะนี้  ถ้าเกิดพี่โป้งรู้ว่าแบ๊งค์ยังติดต่อกับพี่อาร์ทอีกจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะครับ  เพราะตอนนี้ไม่มีใครรู้แน่หรอกครับ  ว่าพี่โป้งจะเป็นคนดีอย่างนี้ได้ไปถึงเมื่อไหร่
พี่โป้งคอยเอาใจแบ๊งค์ตลอดเวลา  นับตั้งแต่วันที่พี่เค้ารู้เรื่องที่แบ๊งค์เลิกกับแมค  พี่โป้งทำดีกับแบ๊งค์ตลอด  เสมอต้นเสมอปลาย  จากที่พี่โป้งเคยทำร้ายแบ๊งค์ทุกทาง ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ตอนนี้พี่โป้งกลับมาให้เกียรติแบ๊งค์  ถ้าแบ๊งค์ไม่ชอบอะไร  พี่โป้งก็จะไม่ทำ พี่โป้งกลายเป็นคนที่ตามใจแบ๊งค์ทุกอย่าง  สำหรับพี่โป้งถ้าอะไรที่แบ๊งค์ต้องการไม่มีคำว่าไม่ได้  แต่แบ๊งค์ก็ไม่เคยขออะไรเค้าหรอกนะครับ  ส่วนมากพี่เค้าจะหามาให้เอง  มีหลายครั้งเหมือนกันที่แบ๊งค์ถึงขั้นต้องตะคอกแรง ๆ หรือดุด่าพี่โป้งไม่ให้หามาให้แบ๊งค์อีก  พี่โป้งก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อย ๆ

พี่โป้งก็เอาใจแบ๊งค์นานอยู่เหมือนกัน จนวันนี้ซึ่งเป็นสุดท้ายของปี  แบ๊งค์ก็มาเที่ยวกับพี่โป้งที่แยกราชประสงค์  ตอนแรกแบ๊งค์ก็ชวนกาวมันมาด้วยแต่มันบอกขออยู่กับพ่อ-แม่มันแทน     ( เป็นลูกกตัญญูจริง ๆ )  ส่วนพี่นุ่นเค้าไปเที่ยวกับหมู่เพื่อน ๆ สาวสวยของเค้านู่น ไม่มาสนใจน้องคนนี้หรอก ( แอบน้อยใจ )  แบ๊งค์ก็เลยต้องมาเดินเที่ยวกับพี่โป้งที่ราชประสงค์  แบ๊งค์ไม่ค่อยอยากที่จะเข้าไปในที่ที่มีคนเยอะอ่ะครับ  ก็เลยเดินอยู่ข้างนอกดีกว่า  ที่ถนนเค้ามีการประดับดวงไฟด้วยครับ  มีต้นคริตส์มาสที่ประดับดวงไฟเหมือนกัน เวลาตอนกลางคืนแบบนี้ดูสวยดีจัง ( พอดีเป็นเด็กบ้านนอกอ่ะเลยไม่เคยเห็น )   ไม่มีอะไรทำอ่ะครับ ก็เดินไป พักไป ได้ยินเสียงมาจากเวทีที่เค้าจัดงาน ดูท่าทางคนต้องเยอะแน่ ๆ เลย
เดินมาได้พักใหญ่ ๆ แบ๊งค์เริ่มเหนื่อยแล้วครับ  ก็เลยมานั่งพัก  พี่โป้งก็นั่งข้าง ๆ นี่แหละครับ  แล้วพี่โป้งก็เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ

" อีกแค่ 5 นาที ก็จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงปีใหม่แล้วนะครับ"   พี่โป้งพูด

" อืม....นั่นสิครับ  ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลามันจะผ่านไปเร็วขนาดนี้"   แบ๊งค์พูดแบบอมยิ้ม

" ไม่น่าเชื่อเลยจริง  ว่าแบ๊งค์จะผ่านมาได้  เพียงแค่ไม่กี่เดือน แบ๊งค์ก็ได้เจอกับอะไรมากมาย ทั้งดีที่สุดและร้ายที่สุด  ทุกอย่างมันคงจะช่วยหล่อหลอมให้แบ๊งค์ดูเหมือนว่าเข้มแข็งขึ้น  แต่ความจริงแบ๊งค์ก็ยังคงมีจิตใจที่อ่อนไหว  อ่อนแอ  และโลเลอยู่ภายใน"   แบ๊งค์ภอนหายใจออกมาหนึ่งครั้งก่อนที่จะเริ่มพูดต่อ

" คนอย่างแบ๊งค์มันก็เป็นแค่คนใจง่าย ที่ไม่มีค่าอะไร"   แบ๊งค์ก้มหน้าลง

" แต่แบ๊งค์ก็มีค่าสำหรับพี่นะครับ"   พี่โป้งพูดขึ้นมา แบ๊งค์เลยเงยหน้าขึ้นมาฟังพี่โป้ง

" พี่รู้  พี่อาจเป็นคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันวุ่นวาย   พี่อยากกลับไปแก้ไข แต่มันก็ทำไม่ได้ พี่รู้ว่าคำขอโทษคงจะไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้น"   พี่โป้งดูเศร้าลง

" พี่ทำร้ายแบ๊งค์ไปมาก  เพราะฉะนั้นพี่ก็เลยอยากที่จะขอทำความดีไถ่โทษ  ด้วยการดูน้องแบ๊งค์นี่ไงครับ"   พี่โป้งมองหน้าแบ๊งค์  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่แบ๊งค์หันมามองหน้าพี่โป้ง เสียงคนนับถอยหลังเข้าสู้ปีใหม่เริ่มขึ้นแล้ว  เราสองคนยังคงมองหน้ากันอยู่ 

5..........4..........3..........2..........1

สิ้นเสียงคนนับถอยหลัง  พี่โป้งก็เข้ามาประกบปากจูบกับแบ๊งค์  โดยที่แบ๊งค์ไม่ทันตั้งตัว ขณะที่แบ๊งค์กำลังจะเคลิ้มไปกับจูบแรกของปีใหม่นั้น   พร้อมกับพลุที่ถูกจุดนับร้อยนับพันลูก แบ๊งค์ก็เลยรู้สึกตัวซะก่อน  และรีบผลักพี่โป้งออกไปซะเต็มแรง  จนพี่โป้งเกือบตกม้านั่ง  พี่โป้งมองหน้าแบ๊งค์เหมือนจะทำท่าขอโทษ

" พ....พี่ขอโทษนะครับน้องแบ๊งค์"   พี่โป้งขอโทษ

"..............................."   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร ได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่รู้สิครับ  ทำไมนะตอนนี้แบ๊งค์ไม่รู้สึกโกรธพี่โป้งเลย  คน ๆ นี้เคยเป็นคนที่แบ๊งค์เกลียดมากไม่ใช่หรอ  แต่ทำไมวันนี้.....ทั้ง ๆ ที่เค้ามาทำรุ่มร่ามกับแบ๊งค์ขนาดนี้  ทำไมแบ๊งค์ถึงไม่โกรธเค้านะ

" น้องแบ๊งค์....เป็นอะไรรึเปล่าครับ  พี่ขอโทษจริง ๆ นะ"   พี่โป้งยังขอโทษ

" ช่างมันเหอะครับ"   แบ๊งค์ตอบออกไป   แล้วเราสองคนก็นั่งนิ่งกันอยู่นานพอสมควร  ตอนนี้งานรับปีใหม่ได้สิ้นสุดลงแล้ว  คนเริ่มทยอยกันกลับ  ตอนนี้คงเยอะมาก  แบ๊งค์เลยยังไม่อยากลุกไปไหน  ก็ได้แต่นั่งเฉย ๆ แบ๊งค์กับพี่โป้งยังคงเงียบกันอยู่

พอคนเริ่มซา  พี่โป้งก็หันมาหาแบ๊งค์  แล้วคว้ามือแบ๊งค์ไปจับ  แล้วจูงมือแบ๊งค์ไปยังลานจอดรถที่เราจอดรถทิ้งไว้  น่าแปลกนะ  ถ้าเป็นเมื่อก่อน  พี่โป้งคงจะโดนแบ๊งค์ด่าแหลกไปแล้ว  แต่คราวนี้ แบ๊งค์กลับนิ่งเฉย   แล้วเราก็ขึ้นรถกัน  ในรถยังคงมีแต่ความเงียบ  พี่โป้งเริ่มขับรถไปในเส้นทางที่แบ๊งค์ไม่ค่อยคุ้น  แบ๊งค์เริ่มออกอาการวิตกเล็กน้อย  และเหมือนว่าพี่โป้งจะสังเกตได้ พี่โป้งก็เลยพูดขึ้น

" ไม่ต้องกลัวหรอกนะครับ  พี่ไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว"   รู้ได้ไงเนี่ยว่าแบ๊งค์คิดอะไร

" พี่รู้นะว่าแบ๊งค์ยังคงไม่แน่ใจในตัวพี่  แต่ตอนนี้พี่ขอรับรองว่าพี่กลับตัวแล้ว  พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ"    พี่โป้งดูจริงจังมาก  แบ๊งค์เลยนั่งเฉย ๆ ไปตลอดทาง

แล้วเราก็มาถึงที่หมายแล้วครับ  เป็นใต้สะพานพระราม 8 นั่นเอง คนก็ยังพอมีนะครับ  เพราะเมื่อซักครู่ที่ผ่านมา  สถานที่ตรงนี้ก็ถูกใช้จัดงานต้อนรับปีใหม่เหมือนกัน  ลมพัดค่อนข้างแรงครับ  จนแบ๊งค์เริ่มที่จะรู้สึกหนาวนิด ๆ เลยเอามือมากอดอก
 
" เดี๋ยวพี่มานะครับ  รอพี่ตรงนี้นะ"   แล้วพี่โป้งก็วิ่งกลับไปที่รถ  แล้วกลับมาหาแบ๊งค์พร้อมกับเสื้อกันหนาวสีดำตัวหนึ่ง

" ใส่ซะนะครับ  เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"   แล้วพี่โป้งก็เอาเสื้อกันหนาวมาคลุมไหล่ให้แบ๊งค์  แล้วแบ๊งค์ก็เลยค่อย ๆ สอดแขนเข้าไปในแขนเสื้อ

เรานั่งกันอยู่ที่ริมน้ำครับ  ไม่มีใครยอมพูดอะไรเลย  แบ๊งค์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่โป้งพาแบ๊งค์มาที่นี่เพราะอะไร  และต้องการจะพูดอะไรกับแบ๊งค์  ตอนนี้เราทั้งสองคนได้แต่นั่งมอง บรรยากาศของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน  ของวันขึ้นปีใหม่  ลำน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาสะท้อนสีของแสงไฟเมืองกรุงเทพฯ  ดูสวยแปลกตาดีเหมือนกัน  ไม่น่าเชื่อเลยว่ากรุงเทพจะมีมุมสวยขนาดนี้

" น้องแบ๊งคครับ"    อยู่ ๆ พี่โป้งก็เรียกแบ๊งค์ขึ้น  ในขณะที่แบ๊งค์กำลังเหม่อมองสายน้ำ

" ค..ครับ"    แบ๊งค์ขานรับ

" สวยดีใช่มั้ยครับ  บรรยากาศกรุงเทพฯ  ในตอนนี้"   พี่โป้งหามาพูดและยิ้มให้กับแบ๊งค์

" ครับ"     แบ๊งค์ตอบออกไปสั้น ๆ

" พี่ว่าเรามาคุยเรื่องของเราดีกว่านะ"   เรื่องของเรา?  หมายความว่าอะไรน่ะ

" ร..เรื่องของเรา? "    แบ๊งค์ย้ำคำพูดของพี่โป้งอีกรอบ

" ข....ขอโทษครับ  ไม่สินะ  พี่ควรใช้คำว่าเรื่องของพี่ดีกว่านะ"   พี่โป้งยังคงยิ้มอยู่

" พี่คิดว่าแบ๊งค์คงรู้นะ  จากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทั้งดีและร้ายที่พี่เคยได้กระทำไปกับแบ๊งค์   พี่ว่าแบ๊งค์คงรู้นะครับว่าพี่ยังไงกับแบ๊งค์"    พี่โป้งหันมามองหน้าแบ๊งค์อีกครั้ง

"............................"   แบ๊งค์ได้แต่พยักหน้า

" ก็อย่างที่พี่บอกนั่นแหละครับ  พี่อยากดูแลน้องแบ๊งค์เพื่อเป็นการไถ่โทษ"     พี่โป้งพูดโดยที่สายตามองออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา

" พี่อยากเป็นแฟนกับแบ๊งค์มาก  และพี่ก็รู้ด้วยว่าตอนนี้แบ๊งค์คงยังไม่อยากที่จะคบใคร"

"........................"     แบ๊งค์ยังคงนิ่ง

" และพี่ก็ยังรู้อีกด้วยว่า  แบ๊งค์ยังคงไม่ไว้ใจพี่มากเท่าไหร่"   พี่โป้งก้มหน้ายิ้ม

" การที่พูดในวันนี้  ไม่ได้เป็นการมาเร่งรัดให้น้องแบ๊งค์ตัดสินใจหรอกนะครับ   พี่เพียงแค่อยากให้น้องแบ๊งค์รู้ไว้เฉย ๆ ว่าพี่มีเจตนาที่ดีจริง ๆ นะครับ"   พี่โป้งหันมามองแบ๊งค์อีกครั้ง

" แล้วถ้าแบ๊งค์บอกว่าไม่ล่ะครับ"    แบ๊งค์เริ่มพูดขึ้น

" ไม่เป็นไรหรอกครับ  ก็ที่พี่พูดไปเมื่อกี้ไงครับ  พี่ไม่ได้มาเร่งรัดน้องแบ๊งค์หรอก  เพียงแค่ว่าพี่ต้องการให้น้องแบ๊งค์รู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของพี่ก็เท่านั้น"     

" พี่รู้ครับ  ว่าแบ๊งค์ยังรักไอ้อาร์ทอยู่  และแบ๊งค์ก็เพิ่งเจ็บจากการที่ใช้แมคเป็นเครื่องมือแทนอาร์ท  แล้วผลสุดท้ายก็มาเจ็บเอง"    คำพูดประโยคนี้เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลยครับ

" พ.....พี่โป้งรู้"    แบ๊งค์ถามออกไป  แล้วพี่โป้งก็พยักหน้า

" ที่น้องแบ๊งค์ให้แมคมันไม่ใช่ความรักแบบแฟนหรอกครับ"

" ที่น้องแบ๊งค์ทำไปตอนนั้น  เป็นเพียงแค่การกระทำเพื่อประชดพี่  หรือเพื่อเป็นการกันไม่ให้พี่มายุ่งกับน้องแบ๊งค์อีกก็เท่านั้น  ใช่มั้ยล่ะครับ"    พี่โป้งถาม  แล้วแบ๊งค์ก็พยักหน้า

" อีกอย่าง................. "    พี่โป้งเงียบไป   แบ๊งค์เลยหันไปมองหน้าพี่โป้ง

" ที่น้องแบ๊งค์ไปคบแมค  ก็เพราะว่าน้องแบ๊งค์ลืมอาร์ทไม่ได้  เลยต้องหาคนมาแทนไอ้อาร์ทเพื่อที่ว่าแบ๊งค์จะได้ไม่เหงา และลืมเรื่องที่เกียวกับอาร์ทไปใช่มั้ยครับ"     จบคำพูดของพี่โป้งแบ๊งค์ก็ยังนิ่งเหมือนเดิม  แล้วจู่ ๆ น้ำตาแบ๊งค์ก็ไหลออกมา  เราทั้งสองยังคงนิ่งต่อไป

" ในเมื่อพี่โป้งรู้ว่า  แบ๊งค์คบคนอื่น ๆ ไปเพื่อให้เค้ามาแทนพี่อาร์ทเท่านั้น  ทำไมพี่โป้งถึงยังอยากจะคบแบ๊งค์อีกล่ะครับ"    แบ๊งค์ถามไป

" ครับ  ที่พี่ทำไปก็เพื่อไถ่โทษไงครับ  และเพื่อให้น้องแบ๊งค์รู้ไว้ว่าพี่รักน้องแบ๊งค์จริง ๆ ตอนนี้พี่ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

" ตอนนี้พี่จะรอครับ  รอซักวันที่น้องแบ๊งค์จะยอมเปิดใจ  และยอมมองมาที่พี่บ้าง"

" พี่รอน้องแบ๊งค์อยู่เสมอครับ  ไม่ว่าน้องแบ๊งค์จะเป็นยังไง"   พี่โป้งพูด

" ถ้าพี่อาร์ทกลับมา  แล้วแบ๊งค์กลับไปหาพี่อาร์ทล่ะ"    แบ๊งค์ถามไป

" ถ้าตอนนั้นเรายังคงเป็นแบบนี้กันอยู่ ไม่ใช่แฟน  พี่ก็ยินดีครับ"    พี่โป้งยังคงยิ้มตามเคย

" ถ้าแบ๊งค์ได้เป็นแฟนพี่โป้งแล้วล่ะ"   แบ๊งค์ถามอีกครั้ง

" พี่คงไม่ยอมแน่ ๆ ถ้าแบ๊งค์จะกลับไปหาอาร์ทโดยที่ยังคงคบกับพี่อยู่"    พี่โป้งพูดด้วยเสียงที่ดูจริงจัง  แบ๊งค์ก็เลยนิ่ง

" พี่ขอนะครับ  ให้พี่คอยดูแลน้องแบ๊งค์แบบนี้ต่อไปนะครับ"   พี่โป้งส่งสายตาอ้อนวอน

"........................."    แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ  แล้วเราก็นั่งอยู่ที่ใต้สะพานพระราม 8 ต่อไปจนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า  พี่โป้งจึงพาแบ๊งค์ไปส่งที่คอนโด  ระหว่างทางกลับคอนโด  เราทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมพูดอะไรเลย  นิ่งเงียบทั้งคู่

เมื่อมาถึงคอนโด  พี่โป้งส่งแบ๊งค์แค่หน้าคอนโดแล้วขอตัวกลับก่อน  เช้าวันนั้นแบ๊งค์ได้แต่นั่งทบทวนคำพูดของพี่โป้ง  และลองถามหัวใจตัวเองว่าคิดยังไง  ตอนนี้เหมือนว่าแบ๊งค์กลายเป็นคนหลายใจไปแล้ว ( หรือว่าเป็นตั้งแต่แรกแล้วหว่า )  แบ๊งค์ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร  อยากกลับไปหาพี่อาร์ท  แต่ก็ไม่มีความกล้าพอ  จะคบพี่โป้งก็ยังไม่มั่นใจ  ไม่รู้ทำไง  ไหนจะเรื่องเรียนอีก  คิดไปคิดมาก็เลยเผลอหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว
*******************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 21-05-2007 23:10:42
 o18  ไม่ต้องเลือกใครเลย เลือกเรียนดีกว่า..  :laugh:  :laugh3:  :laugh3: แต่แบ๊งค์อาจจะไม่มีสมาธิในการเรียนเพราะยังหาทางออกให้กับหัวใจตัวเองยังมะได้   :amen:





หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-05-2007 00:26:14
เห็นด้วยกับแน๋วนะ เรียนก่อนดีกว่า แล้วก็ใช้เวลาสักหน่อยในการพิสูจน์ใจคน

มันช่วยได้จริง นอกจากพิสูจน์ใจคนอื่นแล้ว ยังช่วยพิสูจน์ใจตัวเองด้วย
จะได้ไม่ทำพลาดแล้วพลาดอีก
 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-05-2007 13:15:28
อืมๆๆ พี่โป้งก้ดูดีขึ้นนะนี่

เอ แล้งแบงคืจะทำงายหล่ะนี่  ยังไงก็สู้ต่อปายนะค้าบบ   เรื่องเรียนสำคัญสุดนะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-05-2007 19:15:57
อยากให้กลับไปหาอาร์ทง่ะ  o8 ยังไงอาร์ทก็จริงใจนะ  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 22-05-2007 22:48:07
เฮ้อ เพ่งอ่านจบอ่ะคับ
ยังลุ้นแบงค์กับอาร์ทนะครับ
ยังไงก็ยังทำใจรับโป้งไม่ได้

ให้กำลังใจคนโพสด้วยครับ
รักษาสุขภาพ พักผ่อนเยอะๆ นะครับ.

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 22-05-2007 23:12:13
********************
บทที่ 27 คนใหม่คนเดิม

วันนี้เป็นวันเปิดเรียนครับ  หลังจากที่หยุดยาวไปในช่วงปีใหม่  แบ๊งค์แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ  เตรียมตัวที่จะไปมหาวิทยาลัย  ตอนนี้แบ๊งค์ยืนอยู่หน้ากระจก  มองดูตัวเองเพื่อเช็คดูความเรีบยร้อยก่อนออกจากห้อง  ในเมื่อวันนี้เป็นวันแรก  ของปีแล้ว  แบ๊งค์ก็ได้ตัดสินใจที่จะกลับมาเป็นแบ๊งค์คนเดิม  คนที่สดใสร่าเริง  ไม่ยอมใครเหมือนตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ๆ

เรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมา  แบ๊งค์จะทิ้งมันไว้เป็นบทเรียน  และจะค่อย ๆ พยายามลืมมันไป ตอนนี้สิ่งที่แบ๊งค์จะทุ่มเทมีอย่างเดียวคือการเรียน  ถ้าถามถึงเรื่องความรัก  แบ๊งค์ก็คงอาจมีการมอง ๆ ไว้บ้าง  แต่ตอนนี้แบ๊งค์คงไม่เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปทุ่มไว้ให้กับความรักอีกต่อไปแล้ว

แบ๊งค์มาถึงมหาวิทยาลัยแล้วมานั่งฟังเพลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่เดิม   ระหว่างที่กำลังฟังเพลงเพลิน  ไอ้กาวก็เข้ามาทัก  แล้วนั่งตรงข้ามแบ๊งค์ครับ

 "ไงแบ๊งค์  มาแต่เช้าเลยนะ "  กาวทัก

"อืม  แน่นอนอยู่แล้ว "  แบ๊งค์พูด

"ไป count down ที่ไหนมาล่ะ " กาวถาม

"ราชประสงค์อ่ะ  นายอ่ะพ่อลูกกตัญญู "   แบ๊งค์แซวกลับ

"โห......แค่นี้ทำแซวนะ "   แล้วกาวก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

"เออ...ฟังอะไรอยู่หรอ "   กาวถามแบ๊งค์ที่กำลังฟังเพลงอยู่

"อ๋อ ฟัง mp3 อ่ะพอดีเอาเพิ่งเอาเพลงลงอ่ะ "   แบ๊งค์บอก

"เพลงอะไรหรอ "   กาวถามโดยทำหน้าตื่นเต้น

"ไม่ใช่เพลงใหม่เป็นเพลงเก่า ๆ ที่เพราะ ๆ อ่ะ "  แบ๊งค์อธิบาย

"ไหนขอฟังหน่อยดิ "   กาวพูด  แล้วแบ๊งค์ก็ถอดหูฟังส่งให้กาวข้างหนึ่ง   แต่สายมันสั้นไปอ่ะครับ  กาวก็เลยย้ายที่มานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  พอกาวมานั่งข้าง ๆ เท่านั้นแหละไม่รู้ว่าแบ๊งค์เป็นอะไร  อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเขิน ๆ อาย ๆ ขึ้นมาซะงั้น  กาวนั่งค่อนข้างที่จะใกล้แบ๊งค์  เพราะตอนนี้แบ๊งค์ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมที่กาวใส่มา ขณะที่แบ๊งค์กำลังเคลิ้ม ๆ กาวก็พูดขึ้น

"ลงเพลงอะไรมามั่งหรอ "  กาวถาม  แบ๊งค์เลยได้สติขึ้นมา

"ก็เพลงเก่า ๆ ของ bakery , dojo อ่ะ "  แบ๊งค์ตอบ

"มีเพลงความลับมั้ย "   กาวถาม

"มีดิ  แต่เป็นเวอร์ชั่น dojo นะ "  แบ๊งค์บอก

"อืมไม่เป็นไรหรอก  เราฟังได้ทุกเวอร์ชั่นอ่ะ ถ้าเป็นเพลงนี้ "  กาวพูด

"ชอบเพลงนี้หรอ "  แบ๊งค์ถาม

"อืม........ "  กาวตอบพร้อมกับยิ้ม

"จะเอาไว้ให้ใครป่าว "   แบ๊งค์เริ่มแซว

".................. "   ไอ้กาวไม่ตอบครับ  แต่ตอนนี้หน้ามันแดงมากเลยอ่ะ

"จะฟังความลับใช่ป่ะ "   แบ๊งค์ถามกาว  มันก็ได้แต่ผงกหัว  แล้วแบ๊งค์ก็เลื่อนหาเพลงความลับให้มันฟัง

"อ่ะเจอแล้ว  ฟังซะ "  แล้วเราสองคนก็นั่งฟังเพลงอย่างเงียบ ๆ


มอง.....มองเธอมาแสนนาน 
ฉันไม่กล้า.......ต้องคอยหลบตาเธอเสมอ
กลัวสักวัหกนึ่งถ้าเธอ  รู้ว่าฉัน....ปิดบังความจริงอะไรเอาไว้
ความลับที่ฉันซ่อนไว้...ไม่เคยบอกใคร จนอดใจไม่ไหว


 ตอนนี้เหมือนแบ๊งค์จะได้ยินกาว  ฮัมนี้เพลงอยู่เบา ๆ แล้ว  ไอ้กาวมุมนี้ดูดีจัง  มันนั่งยิ้ม ๆ มองต้นไม้มองฟ้า  ทำท่าเขิน  แล้วฮัมเพลงเบา ๆ เหมือนพระเอกมิวสิกเลย

"ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่  ยิ่งอยากจะเผยใจ.... "   แล้วไอ้กาว  มันก็เริ่มร้องเพลงนี้ออกมาครับ  ไม่ดังหรอกนะ แต่ก็พอได้ยินเสียงมันอ่ะ  เสียงมันก็นุ่มใช้ได้เลย  ถ้าได้เป็นนักร้องต้องรุ่งแน่ ๆ มันดูมีความสุขจังที่ได้ฟังเพลง ๆ นี้  แล้วอยู่ ๆ ก็มีคนมาทำลายความสงบบริเวณนั้นลงครับ

"โห...มานั่งหวานกันตั้งแต่เช้า วันแรกของปีใหม่เลยนะเมริง "   พี่ตั้มครับ  มาถึงก็แซวกันเลย ปีใหม่ปีนี้จะดีขึ้นมั้ยเนี่ย  เจอแบบนี้ตั้งแต่วันแรกเลย

"ไม่ได้นั่งหวานกันซะหน่อยครับ  ผมแค่มาฟังเพลงกันเฉย ๆ "    กาวเริ่มแก้ตัว

"แล้วทำไมต้องใกล้กันขนาดนั้นล่ะ "   พี่ตั้มแซวไม่เลิก

"ก็สายหูฟังมันสั้นนี่ครับ "  กาวแก้ตัวอีก

"แก้ตัวกันใหญ่  แต่แปลกนะ  วันนี้น้องแบ๊งค์ตัวแสบไม่เห็นแผลงฤทธิ์ออกมาเลย "  พี่ตั้มเริ่มเบนการจู่โจมมาทางแบ๊งค์แล้วครับ

"สงสัยได้นั่งข้างหนุ่มหล่อคนนี้ใช่เปล่า  ก็เลยแผลงฤทธิ์ไม่ออก "  ยังแซวไม่เลิกครับ

"พี่ตั้ม!!!!!แบ๊งค์ขอเถอะนะ  ไปโรงพยาบาลซักทีเถอะ "   แบ๊งค์เริ่มติดเครื่องแล้วครับ  ตอนนี้ทุกคนกำลังงง ในสิ่งที่แบ๊งค์พูด

"โรงพยาบาล?  ไปทำไมวะ "   พี่ตั้มงงแล้วครับ  หุหุ....ในที่สุดก็ติดกับ

"ก็ไปผ่าเอาหมาออกจากปากไงล่ะ "  แบ๊งค์หย่อนระเบิดไปแล้วครับ  หนึ่งลูก

"ไอ้แบ๊งค์!!!!! "   พี่ตั้มดูโกรธมากเลยครับ  ทำท่าจะกระโดดตะครุบตัวแบ๊งค์  มีเหรอครับที่แบ๊งค์จะอยู่เฉย ๆ แบ๊งค์ก็เลยรีบถอดหูฟังแล้วกระโดดหนี  พี่ตั้มก็ไม่ยอมลดละ เราสองคนคนก็เลยวิ่งไล่กันไปมา  โดยที่ไอ้กาวได้แต่นั่งหัวเราะเบา ๆ ( ไม่ช่วยกรูส์เลยนะเมริง )

แล้วแบ๊งค์ก็วิ่งวนไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด  จนกระทั่งแบ๊งค์มาเห็น  แมคกับครีมเดินด้วยกัน เหมือนว่าทั้งคู่จะไปทางโรงอาหารนะครับ  ท่าทางของทั้งคู่ดูสนิทกันมากเลยครับ  แบ๊งค์เลยหยุดยืนดู  เหมือนว่าทั้งคู่จะมองไม่เห็นแบ๊งค์

"จับได้แล้ว  ไอ้ตัวแสบ "  พี่ตั้มเข้ามาล็อคคอแบ๊งค์   แล้วเขกหัว  แต่แบ๊งค์ยังยืนอยู่นิ่ง ๆ

"เป็นอะไรไปรึเปล่าแบ๊งค์ "    พี่ตั้มปล่อยแขนที่ล็อคคอแบ๊งค์  แล้วถามอย่างเป็นห่วง  แต่แบ๊งค์ยังคงไม่ตอบ  พี่ตั้มเลยมองตามสายตาของแบ๊งค์  จนไปเห็นแมคกับครีม

"ทำใจได้แล้วใช่มั้ย "  พี่ตั้มถามด้วยเสียงที่นุ่มนวล

"อืม…….. "  แบ๊งค์ตอบไปสั้น

"ไม่เป็นอะไรแล้วแน่ ๆ นะ ไอ้ตัวเล็ก "    พี่ตั้มถามอีก  แบ๊งค์เลยหันมามองหน้าพี่ตั้ม  พร้อมกับยิ้มให้

"ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก นายหมีฟาย "   แบ๊งค์ตอบไปแบบติดตลก

"ไอ้ตัวเล็ก!!! "  พอสิ้นเสียงพี่ตั้ม  แบ๊งค์ก็ทำท่าจะวิ่งหนี   แต่ไม่ทันครับพี่ตั้มก็รับคว้าแบ๊งค์ไว้ก่อน  แล้วเอามือเขกหัวแบ๊งค์ไปหลายที

"โอ้ย ๆๆๆๆ  พี่ตั้มอ่ะ  แบ๊งค์เจ็บนะ "  แบ๊งค์พูดแต่พี่ตั้มไม่ฟัง  แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็แบกแบ๊งค์พาดไหล่ซะงั้น  ยังไม่พอ  ยังแอบตีก้นแบ๊งค์อีก   แบ๊งค์ตกใจมากก็เลยโวยวายออกมา

"พี่ตั้มปล่อยแบ๊งค์นะ!!!! แบ๊งค์อายเค้า!!!! ดูดิคนมองกันเต็มไปหมดแล้ว "   แบ๊งค์พูดไปดิ้นไป  พยายามจะที่จะหลุดออกจากอ้อมแขนพี่ตั้มให้ได้  แต่ไม่เป็นผลครับ พี่ตั้มรัดแบ๊งค์ไว้แน่นมาก ดิ้นไม่หลุดเลยจริง ๆ

"ถ้าไม่อยากให้คนมอง  ก็ยู่นิ่ง ๆ ดิ "    พี่ตั้มพูด

"อยู่นิ่ง ๆ คนก็ยิ่งมองอ่ะดิ  คนเค้ามองตั้งแต่ตอนที่พี่ตั้มอุ้มแบ๊งค์แล้ว "  แบ๊งค์โวยวาย

"ในเมื่อคนเค้ามองตั้งแต่แรกแล้ว  จะไปสนทำไม "    พี่ตั้มยังคงเล่นต่อไป  แล้วพี่ตั้มก็พาแบ๊งค์มาส่งที่โต๊ะ

"เป็นไง  โดนเล่นงานซะ "    กาวถาม

"แค่หนีไม่ทันเท่านั้นเอง  ถ้าเร็วกว่านี้ก็รอดไปแล้ว "   แบ๊งค์ยังคงไม่ยอม

"ไม่ต้องพูดเลยไอ้ตัวเล็ก  เดี๋ยวก็โดนเล่นงานอีกหรอก "   พี่ตั้มทำเป็นขู่

"คิดว่ากลัวหรอ  ไม่มีทาง "   แบ๊งค์เล่นหูเล่นตา

"ฝากไว้ก่อนนะ  ดีนะที่ตอนนี้มีเรียนไม่งั้น  ตายแน่ไอ้เด็กดื้อ "   พี่ตั้มพูด

"พี่ไปก่อนนะ  ไปล่ะ "  แล้วพี่ตั้มก็ลาเราสองคนไปเข้าชั้นเรียน   เราสองคนก็ยังนั่งฟังเพลงอยู่เหมือนเดิม  จนกระทั่งถึงเวลาเรียนนั่นแหละ  ถึงได้ไปเข้าเรียนด้วยกัน  ตอนนี้แบ๊งค์ยอมรับเลยนะว่าเหลือเพื่อนแค่คนเดียวเท่านั้น  ก็เจ้ากาวเนี่ยแหละ  มันไม่เคยทำแบ๊งค์เสียใจเลย

เราเรียนกันไปจนถึงเวลาพัก   แบ๊งค์ก็กะว่าจะไปทานข้าวกลางวันกับกาว  แต่ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น  พี่โป้งโทรมาครับ

"แบ๊งค์อยู่ไหนแล้วหรอครับ "   พี่โป้งถาม

"กำลังจะไปทานข้าวกับกาวอ่ะครับ "  แบ๊งค์ตอบ

"พี่ไปทานด้วยได้มั้ยครับ "   พี่โป้งถาม

"เออ.....ก็ได้ครับ "   แบ๊งค์ตอบไป   แล้วพี่โป้งก็วางสายไปเลยครับ

"พี่โป้งจะมาทานข้าวกลางวันด้วยใช่มั้ยล่ะ "   ไอ้กาวถามครับ  รู้ทันทุกเรื่องเลยนะเมริง

"อืม....แล้วให้เค้ามาทานด้วยได้ป่ะล่ะ "   แบ๊งค์ย้อนถาม

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ  เราไม่ใช่แฟนแบ๊งค์ซะหน่อย  จะบังคับอะไรได้ "  ตอนที่กาวพูดประโยคนี้ แบ๊งค์รู้สึกเหมือนกับว่ากาวดูน้อยใจยังไงก็ไม่รู้  แบ๊งค์คงคิดไปเองมั้ง  แล้วเราก็เดินมาที่โรงอาหาร   พอไปถึงก็ยิ่งประหลาดใจเพราะพี่โป้งไม่ได้มานั่งรอแค่คนเดียว  แต่มากับพี่ตั้ม

"โห.........กว่าจะมานึกว่าจะได้กินพรุ่งนี้ซะอีก "    พี่ตั้มหาเรื่องอีกแล้ว

"ถ้าหิว  ไปซื้ออะไรมาทานก่อนก็ได้นี่  ไม่ได้ขอให้อยู่รอซะหน่อย  นายหมีฟาย "   แบ๊งค์ย้อนพี่ตั้มกลับไป  ดูเหมือนพี่ตั้มจะเดือดได้ที่แล้วสิ

"เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะนะ  ไอ้ตัวเล็ก  จอมดื้อ "   พี่ตั้มเริ่มแยกเขี้ยวใส่แบ๊งค์แล้ว  มีหรอที่แบ๊งค์จะยอม  แบ๊งค์ก็จ้องหน้า  กลับไปดิ

"พอได้แล้วทั้งสองคน  เดี๋ยวก็ไม่ได้ทานข้าวกันพอดี "  กาวห้ามไว้ครับ

"อืม  นั่นดิ เล่นกันเป็นเด็กอนุบาลเลย "  พี่โป้งเสริมครับ  เราสองคนก็เลยสงบศึกชั่วคราว แล้วแยกย้ายกันไปซื้ออาหารของแต่ละคนมาทาน  กาวกับพี่โป้งไปซื้อข้าวราดแกงมาทาน  แบ๊งค์ทานบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง  พี่ตั้มทานเส้นเล็ก
เย็นตาโฟ    แล้วเราก็มานั่งทานด้วยกัน  แบ๊งค์นั่งข้างกาว ปล่อยให้พี่โป้งนั่งข้างพี่ตั้มไป  เราก็นั่งทานกันไปเรื่อย ๆ  แบ๊งค์ไม่มีอะไรทำอ่ะครับ  แบ๊งค์ก็เลยใช้ตะเกียบไปคีบลูกชิ้นในชามพี่ตั้มมาทาน

"เฮ้ย!!!!ไอ้ตัวแสบ "   พี่ตั้มโวยวาย

"อืม~~~~อร่อยจัง  อิอิ "   แบ๊งค์ทำท่ายั่วโมโห

"เอามาคืนเลย "   พูดจบพี่ตั้มก็รีบใช้ตะเกียบ  มาคีบเอาเกี๊ยวพร้อมหมูแดงไปอย่างรวดเร็ว  โดยที่แบ๊งค์ยังไม่ทันตั้งตัว

"อ๊า~~~~~~พี่ตั้มอ่ะ  แย่งของแบ๊งค์ "   แบ๊งค์โวยบ้าง

"ไม่รู้แหละ  ก็มาแย่งลูกชิ้นพี่อ่ะ "    พี่ตั้มทำท่ายั่วโมโหแบ๊งค์

"แต่แบ๊งค์เอามาลูกเดียว  แต่พี่ตั้มเอาไปตั้ง 2 อย่าง "   แบ๊งค์โวยวายไม่หยุด

"ไม่รู้ล่ะ  ก็มันติดมาเอง  ไม่สนแล้วลงท้องไปแล้ว "   พี่ตั้มทำหน้าตาทะเล้น แบ๊งค์ก็ยังคงโวยวาย พอเห็นท่าว่าสู้ไม่ได้  แบ๊งค์ก็เลยทำหน้างอน  เป็นปลาทองแก้มป่องไป  กาวกับพี่โป้งเห็นแบบนั้นก้อได้แต่หัวเราะ หึหึ ออกมาเบา ๆ
วันนี้ช่วงบ่าย  แบ๊งค์กับกาวไม่มีเรียนครับ  เราสองคนก็เลยมานั่งเล่นที่สนามบาส  ตอนแรกกาวกะว่าจะเล่นบาส  แต่กาวไม่มีเพื่อน  ก็เลยต้องมานั่งฟังเพลงกับแบ๊งค์เหมือนเดิม  วันนี้รู้สึกแปลก ๆ ทั้งวันเลยอ่ะ  กาวมานั่งข้าง ๆ แล้วรู้สึกยังไงก็ไม่รู้


.....ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ  แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท  ยิ่งไม่มีสิทธ์จะบอกไป
ว่ารักเธอ.....


พอเพลงนี้ออก  อยู่ดี ๆ กาวก็เงียบไปเลย  มันไปแอบรักใครหรอเนี่ย  คงไม่ใช่แบ๊งค์หรอก  เพราะแบ๊งค์ไม่เคยเห็นมันแสดงอาการอะไรที่บ่งบอกเลยว่ามันรักแบ๊งค์  แล้วมันก็ลุกออกไปไหนก็ไม่รู้  แบ๊งค์ยังไม่ทันจะถามเลย  จากนั้นกาวก็กลับมาพร้อมกับลูกบาสหนึ่งลูก  แบ๊งค์ก็นั่งดูมันเล่นไป  มันก็ชู๊ตลงบ้างไม่ลงบ้าง  เราสองคนก็ยังคงเงียบ ๆ ไม่พูดะไรกัน  แบ๊งค์ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอะไร  แต่ปล่อยให้มันอยู่เงียบ ๆ แบบนี้จะดีกว่านะ  แล้วอยู่ ๆ มันก็เดินเข้ามา

"แบ๊งค์.....ไปเล่นบาสกันป่ะ "  กาวชวน

"ไม่อ่ะแบ๊งค์เล่นไม่เป้น  ไม่ได้เล่นนานแล้ว "  แบ๊งค์บอก

"ไม่เป็นไร  เดี๋ยวเราสอนให้ "   แล้วกาวก็ลากแบ๊งค์ลงมากลางสนามจนได้

"ลองจับลูกแบบนี้นะ  แล้วเล็งไปที่แป้น "  กาวมันสอนแบ๊งค์ครับ  โดยที่มันมายืนอยู่ข้างหลังแบ๊งค์  แล้วเอามือประกบมือแบ๊งค์จับลูกไว้   จากนั้นก็ค่อย ๆ ชู๊ตไป  แล้วลูกก็ลงห่วง

"เห็นมั้ย  ถ้าตั้งใจเดี๋ยวเราก็ทำได้เองแหละ "  กาวพูด

"อือ... "  แบ๊งค์ตอบสั้น ๆ แล้วรีบเดินกลับมานั่งที่เดิม  ไม่รู้สิครับ  มันรู้สึกอาย ๆ ยังไงก็ไม่รู้ที่กาวมาทำแบบนี้  เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไร  พออยู่ใกล้กาวทีไรแป็นแบบนี้ทุกที

"แบ๊งค์เป็นอะไร  ไม่ชอบหรอ "  กาวถาม

"ไม่อ่ะ  มันร้อนอ่ะ  เราไม่อยากออกแดด "   แบ๊งค์แกล้งตอบไป

"อืม...นั่นดิ  ถึงว่าหน้าดูแดง ๆ  สงสัยคงร้อนมากนะ "  กาวพูด  นี่เราหน้าแดงขนาดนี้เลยหรอ  กาวมันจะรู้มั้ยเนี่ยว่ากรูส์เขินมัน  ว่าแต่กรูส์เขินมันทำไมวะ  โอยวันนี้เป็นอะไรมากมายเนี่ย  แบ๊งค์เลยรีบกลับบ้านเลยไม่รอแล้วพี่นุ่น  ก็กลับโดยที่มีกาวไปส่งเหมือนเดิมนั่นแหละ

พอมาถึงคอนโดก็โทรไปบอกพี่นุ่นว่ากลับมาแล้ว  จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาเปิดคอม  หลังจากที่ห่างหายไปเกือบ ๆ เดือนนับตั้งแต่วันที่พี่อาร์ทส่ง e-mail มาหาแบ๊งค์วันนั้น  แล้วหลังจากนั้นแบ๊งค์ก็ไม่ได้เข้าไปเชคเมลล์หรือเปิดคอมอีกเลย

พอเปิดคอมเข้าไปเชคเมลล์  โห!!!!!ได้เรื่องเลยครับ  มีแต่คนส่งเมลล์มา  ก็แหงล่ะ ช่วงปีใหม่นี่นาเมลล์ก็เลยมาเต็มไปหมด  เชคไปเชคมามีเมลล์พี่อาร์ทด้วยครับ  แบ๊งค์ข้ามไปอ่านเมลล์อื่น ๆ ก่อน  แล้วค่อยมาอ่านเมลล์พี่อาร์ทเป็นเมลล์ฉบับท้าย ๆ  พี่อาร์ทส่งมาให้แบ๊งค์  2-3 เมลล์เห็นจะได้

ผู้ส่ง     ? < ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ২২   ঢ়ঢ়ঢ়ঢ়    20xx   22:45:31
ผู้รับ   br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

พี่ได้รับเมลล์จากน้องแบ๊งค์แล้วนะครับขอบคุณที่น้องแบ๊งค์เป็นห่วง  พี่ก็สบายดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร  ตอนนี้ก็กำลังดำเนินเรื่องที่จะสมัครมหาวิทยาลัยใหม่อยู่ครับ  คนที่นี่น่ารักมาเลย มีแต่คนใจดีทั้งนั้น  พี่อยากให้น้องแบ๊งค์มาอยู่ด้วยกันจัง  คิดถึงนะครับ รักกันกับแฟนให้มาก ๆ นะ อย่าทำตัวเหลวไหล  เอาแต่ใจนะ

ผู้ส่ง     ? < ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ল  ঊঊঊ     20xx   09:58:23
ผู้รับ   br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

ตอนนี้ก็ใกล้คริตส์มาสแล้วอย่าลืม ทำตัวดี ๆ ห้ามดื้อนะครับ ซานต้าจะได้เอาของขวัญมาให้ ที่นี่หนาวขึ้นทุกวันเลยครับ  หิมะเริ่มตกมาบ้างแล้ว  พี่ดูข่าวมาอากาศที่กรุงเทพฯ ก็ค่อนข้างจะแปรปรวนน้องแบ๊งค์ก็รักษาสุขภาพของตัวเองด้วยนะครับ  พี่เป็นห่วงนะ  ชอคโกแลตก็อย่าทานมากนะครับเดี๋ยวสิวขึ้น  กับแฟนก็อย่าเอาแต่ใจนะเดี๋ยวไม่น่ารัก  แฟนจะไม่พอใจ พี่ไปทำธุระก่อนนะครับ บายครับ

ผู้ส่ง     ? < ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ট   জজজজ   20xy   00:02:30
ผู้รับ   br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

ตอนนี้ที่นั่นก็คงขึ้นปีใหม่ไปแล้วสินะ  ของพี่ยังต้องรออีกซักแปปอ่ะครับ  เป็นยังไงบ้างไปเที่ยวไหนมารึเปล่าครับ พี่คงไม่ได้ไปไหนหรอกครับ  เดี๋ยวพ่อกับแม่พี่ก็จะมาแล้วล่ะครับ  คงจะอยู่กับครอบครัวอ่ะครับ  ขอให้น้องแบ๊งค์กับแฟนมีความสุขมาก ๆ ในปีใหม่นี้นะครับ เป็นห่วงเสมอ
จากพี่ชายที่แสนดี


แล้วแบ๊งค์ก็ต้องร้องไห้อีกครั้งครับ  ในเมลล์ทุกฉบับ  พี่อาร์ทมักจะย้ำถึงแบ๊งค์กับแมคเสมอ   พี่อาร์ทคคงยังไม่รู้หรอกว่าแบ๊งค์ได้เลิกกับแมคไปแล้ว  และแมคทำร้ายแบ๊งค์อย่างไรบ้าง  เมลล์แต่ละฉบับดูแสดงถึงความเป็นห่วงของพี่อาร์ท  แบ๊งค์ยอมรับว่าแบ๊งค์อยากลับไปคบกับพี่อาร์ทอีกครั้ง  แบ๊งค์ตัดสินใจที่จะเล่าทุกอย่างให้พี่อาร์ทฟัง  แต่ก่อนที่แบ๊งค์จะเขียนเมลล์ถึงพี่อาร์ทมันยังเหลือเมลล์อีกหนึ่งฉบับ  แบ๊งค์เลยเปิดดู

ไม่รู้จะพูดอะไรเลยครับ สำหรับเมลล์ฉบับนี้  ในเมลล์ฉบับนี้มีแต่รูปครับ  เป็นรูปสถานที่ และวิวสวย ๆ ในอังกฤษ  จนมาถึงรูปหลัง ๆ แบ๊งค์คาดว่าเป็นงานปาร์ตี้ฉลองคริตสมาสหรือปีใหม่เนี่ยแหละ มีรูปอยุ่หลายรุปที่พี่อาร์ทถ่ายคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง  หน้าตาดูไทย  ๆ แต่เธอคนนี้ดูสวยน่ารักมาก ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูที่ดูน่าทะนุถนอมอีกด้วย  แบ๊งค์เลื่อนมาจนถึงรูปสุดท้าย มันเป็นรูปที่ทำให้แบ๊งค์อึ้งมากที่สุด  มันเป็นรูปของผู้หญิงคนนี้ที่กำลังประกบปากจูบกับพี่อาร์ท
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้แบ๊งค์ไม่อยากเขียนเมลล์ไปเล่าความจริงอะไรทั้งนั้น  ตอนนี้พี่อาร์ทพบคนใหม่ที่ถูกใจแล้ว  แบ๊งค์ไม่ควรไปขวางความสุขของเค้าทั้งสองคน แบ๊งค์ควรปล่อยพี่อาร์ทไป  เมื่อดูเมลล์นี้เสร็จ  แบ๊งค์ก็เลยตัดสินใจส่งอีกเมลล์ไปแทน  แบ๊งค์จะไม่ขอให้พี่อาร์ทกลับมาอีกแล้ว  แบ๊งค์รู้มันอาจจะทำใจยาก  แต่แบ๊งค์ก็ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้  ในเมื่อสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะเป็นคนใหม่  แบ๊งค์ก็ต้องทำมันให้ได้  แบ๊งค์เลยส่งเมลล์ไป


ผู้ส่ง     ? < br………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ত    ঢঢঢঢঢ    20xy    18:35:42
ผู้รับ  ooooooooooอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

ทางนี้ก็สบายดีครับ  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ  แบ๊งค์กับแมคยังคงรักกันอยู่ พี่อาร์ทไม่ต้องเป็นห่วงแบ๊งค์หรอกนะครับ  รักษาสุขภาพเหมือนกัน


เมื่อส่งเมลล์เสร็จแบ๊งค์ก็ปิดคอมแล้วนอนทันที  เหมือนพี่นุ่นจะกลับมาแล้วแต่แบ๊งค์ก็ไม่ออกไป  น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง  ทำไมนะแบ๊งค์ถึงเข้มแข็งไม่ได้ซักที

"แบ๊งค์!!!ออกมาทานข้าวได้แล้ว "  พี่นุ่นเรียกครับ

"ไม่อ่ะพี่นุ่น  แบ๊งค์ไม่หิว "   แบ๊งค์แกล้งตอบ

"งั้นพี่ทานก่อนนะ "    แล้วพี่นุ่นก็เงียบไป  พร้อมกันกับที่แบ๊งค์ร้องไห้จนเผลอหลับไป
***************
 :bye2: คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-05-2007 00:28:57
มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แบงค์คิดก็ได้  o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-05-2007 09:18:24
เริ่มดีแล้วหล่ะ ไม่ต้องรีบ ความรักต้องใช้เวลาเรียนรู้
 o13
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 23-05-2007 09:21:55
ซึ้งมากมาย เกือบห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่แหน่ะ
 o7

แต่ดูไปดูมาแบ๊งค์ก็เป็นคนเจ้าชู้เหมือนกันนะเนี่ย
 :haun5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-05-2007 10:17:41
o18  ไม่ต้องเลือกใครเลย เลือกเรียนดีกว่า..  :laugh:  :laugh3:  :laugh3: แต่แบ๊งค์อาจจะไม่มีสมาธิในการเรียนเพราะยังหาทางออกให้กับหัวใจตัวเองยังมะได้   :amen:







เห็นด้วยกับแน๋วนะ เรียนก่อนดีกว่า แล้วก็ใช้เวลาสักหน่อยในการพิสูจน์ใจคน

มันช่วยได้จริง นอกจากพิสูจน์ใจคนอื่นแล้ว ยังช่วยพิสูจน์ใจตัวเองด้วย
จะได้ไม่ทำพลาดแล้วพลาดอีก
 o14 o14 o14

แต่พี่คะ หนูว่า เรียนไปปวดหัว มีปั่วดีกว่าคร้าาาาาาาาาาาาาาาาา

เอิ๊กเอิ๊ก

 :laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 23-05-2007 15:55:00
เง้อออออ แบงค์จะได้ลงเอยกะครายนะนี่ :confuse:


พี่ตั้มก็น่ารักดีเนอะ เล่นกันเหมืนเด็กเลย อิอิ มีจับพาดบ่าได้ด้วย   นึกแล้วอายแทนแบงค์อ่า  :-[

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-05-2007 19:12:55
 :freeze: อาร์ทไปมีแฟนใหม่แล้วเหรอ อุตส่าห์ลุ้นให้รีเทิร์นง่ะ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 23-05-2007 23:46:59
บทที่ 28 Art's Diary……ไดอารี่แห่งความคิดถึง

ตอนนี้ผมอยู่บนเครื่องแล้ว  รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องจากคนที่ผมรักมากที่สุดไป  ถึงแม้ว่าตอนนี้เค้าอาจจะไม่รักผมแล้วก็ตาม  จูบสุดท้ายก่อนที่เราจะจากกันเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา  มันช่างเป็นจูบที่หอมหวานจริง ๆ ผมจะจดจำมันตลอดไป  ผมตัดสินใจที่เขียนไดอารี่ถึงเขา ผมเพียงแค่อยากให้เค้าได้รับรู้บ้างว่าผมเป็นอย่างไรในตอนนี้

 ঊঊ   ককককক  20xx   
   ตอนนี้พี่มาถึงอังกฤษแล้วนะ  ตื่นเต้นจังจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้  พี่จะมาอยู่กับคุณป้าอ่ะครับ พอดีคุณป้าของพี่มาเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นี่  บ้านพักของคุณป้าใหญ่มาก ๆ เลย  ดูใหญ่กว่าคนไทยในแถวนั้นอีก   คุณป้าของพี่อาศัยอยู่กับสามีและลูกสาว  พี่ค่อนข้างสนิทกับครอบครัวนี้นะครับ  โดยเฉพาะน้องแทม ( ลูกสาวของคุณป้าน่ะครับ )  เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก  แต่ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วน่ารักมากเลยครับ  อืม....ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วครับ  แค่นี้ก่อนละกัน

    ผมไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะอธิบาย  ให้น้องแบ๊งค์ได้รู้  ว่าผมคิดถึงและรักเค้ามากมายขนาดไหน  ผมเลยต้องถ่ายทอดมันออกมาเป็นตัวอักษร  เพื่อหวังไว้ว่าซักวันผมจะได้มอบให้เค้าได้อ่าน    ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ตาม

ঊ   টটটট  20xx
   วันนี้คุณป้าพาพี่ไปดูมหาวิทยาลัยมาครับ  คือคุณป้าอยากให้พี่เรียนต่อที่นี่  อาจใช้วิธีโอนหน่วยกิตมา  หรือไม่ก็สมัครเป็นนักศึกษาใหม่ไปเลย  พี่ไม่อยากเรียนที่นี่เลย  อยากกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม แต่พี่คงไม่กล้าไปสู้หน้าน้องแบ๊งค์  พี่ไม่กล้าพอ...พอที่จะทนเห็นน้องแบ๊งค์เดินควงกับคนอื่น  ความจริงที่พี่มาอังกฤษ  ไม่ได้มาเพราะหาที่เรียนหนอกครับ  พี่แค่อยากมาพักผ่อน  มาทำใจ  เพื่อที่จะกลับไปกลับไปคุยกับแบ๊งค์ได้อย่างสบายใจก็เท่านั้น แต่พ่อกับแม่ของพี่อยากให้พี่มาเรียนต่อที่นี่นานแล้ว  พอได้โอกาส   ท่านทั้งสองก็เลยพยายามจะให้พี่เรียนที่นี่ให้ได้ ถึงจะยังไง ซักวันหนึ่งพี่ก็จะกลับไปหาน้องแบ๊งค์นะครับ

আআ   ঘঘঘঘঘ     20xx   
   พี่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรอกนะครับ  เรื่องที่จะเรียนต่อที่นี่  ตอนนี้ที่อังกฤษหนาวมากครับ  อยากจะนอนกอดน้องแบ๊งค์จัง  ผ้าห่มกี่ร้อยผืน ฮีทเตอร์กี่ร้อยเครื่องก็ยังไม่อุ่นเท่ากับอ้อมกอดของแบ๊งค์เลยรู้มั้ย  “นายเด็กดื้อ”  ตอนนี้อากาศที่นั่นจะเป็นยังไงนะอยากรู้จัง  แล้วน้องแบ๊งค์กับแฟนจะรักกันดีอยู่รึเปล่านะ  พี่อดใจไม่ไหวครับอยากรู้เรื่องของน้องแบ๊งค์จริง ๆ ก็เลยต้องส่ง e-mail ไปหา  อ้อ!!!ลืมไป  พี่เปลี่ยน mail  ใหม่แล้วนะ    mail เก่ามันมีปัญหานิดหน่อยครับ ไม่รู้ว่าน้องแบ๊งค์จะตอบกลับรึเปล่า  พี่รอ mail  ตอบกลับของน้องแบ๊งค์เสมอนะครับ

ঞঞ   ঘঘঘঘঘ  20xx
   ผ่านมา 3 วันแล้วนะครับ  ยังไม่เห็นมี mail น้องแบ๊งค์ตอบกลับมาเลย   ไม่รู้น้องแบ๊งค์เป็นอะไรรึเปล่านะ  พี่รอน้องแบ๊งค์อยู่นะครับ คิดถึงมากเลยด้วย  วันนี้พี่ไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยของคุณป้ามาครับ พี่ไม่อยากอยู่เฉย ๆ อ่ะ ก็เลยไปช่วยคุณป้าทำงาน  วันนี้พี่เริ่มงานเป็นเด็กเสิร์ฟครับ  สนุกดีจังได้ฝึกภาษาไปด้วย  ถ้าน้องแบ๊งค์ได้ทาทำงานที่นี่น้องแบ๊งค์ต้องสนุกแน่ ๆ เลย  เพราะน้องแบ๊งค์พูดเก่งมากเลย  ลูกค้าคงติดกันเป็นแถว   เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะครับแล้วจะมาเขียนเล่าให้อ่านอีก

৮৮    ৡৡৡৡৡ   20xx
   ตอนนี้ก็อาทิตย์กว่า ๆ แล้วนะครับที่พี่ส่ง mail ไปหาน้องแบ๊งค์  แต่น้องแบ๊งค์ก็ยังคงไม่ตอบกลับมาเหมือนเคย  น้องแบ๊งค์คงลืมพี่ไปแล้วจริง ๆ พี่ก็คงทำได้แค่ขอให้น้องแบ๊งค์มีความสุขกับแฟนให้มาก ๆ ละกันครับ  แต่พี่จะไม่หยุดเขียน Diary นะ  พี่ยังคงจะเขียนมันไปเรื่อย ๆ พี่อยากให้แบ๊งค์ได้รู้ว่าพี่อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง  ความจริง พี่อยากให้น้องแบ๊งค์มาอยู่ด้วยกัน  แต่มันก็คงทำได้แค่ในความฝันเท่านั้น  เพราะตอนนี้น้องแบ๊งค์ก็กำลังมีความสุขอยู่กับแฟนน้องแบ๊งค์ไปแล้ว  ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะ  คิดถึง + เป็นห่วงเสมอ

ঔঔ   ঠঠঠঠঠঠ   20xx
   วันนี้คนที่ร้านอาหารไม่ค่อยเยอะครับ  พี่เลยมีเวลามานั่งเขียน Diary ถึงน้องแบ๊งค์ได้ วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่  พี่เลยมีโอกาสได้ลองเข้าไปดูในครัวครับ  คุณป้าพี่ให้พ่อครัวสอนพี่ทำอาหารไทยด้วย คุณป้าบอกว่า เผื่อว่าวันใดต้องอยู่คนเดียวจะได้ทำทานเป็น แต่ถ้าเอาจริง ๆ พี่งคงไม่ทำทานเองหรอกครับ  พี่จะทำให้น้องแบ๊งค์ทานมากกว่า พ่อครัวสอนพี่ทำ ผัดไท กับต้มยำกุ้งครับ เป็นอาหารเอกลักษณ์ของประเทศไทยเลย  ช่วงแรก ๆ จะหยิบจะจับอะไรก็ค่อนข้างลำบากครับ ดีนะที่พ่อครัวที่นี่ช่วยไว้ได้ทัน  ไม่งั้นออกมาทานไม่ได้แน่ ๆ คุณป้ายังบอกอีกว่าเอาไว้วันหลังถ้าไม่ยุ่งจะให้พ่อครัวสอนทำให้อีก  แล้วคราวหน้าพี่จะตั้งใจให้มากกว่านี้นะครับ ถ้าพี่ทำเป็นแล้วพี่จะได้กลับไปทำให้น้องแบ๊งค์ทานไง

ঔঔ   শশশশশ    20xx
   พี่ยังคงรอ mail  น้องแบ๊งค์อยู่นะครับ  เมื่อไหร่นะที่น้องแบ๊งค์จะส่งกลับมา  ตอนนี้พี่ก็ยังทำงานที่ร้านอาหารของคุณป้าอยู่นะครับ  ตอนนี้พี่ทำมาเกือบครบทุกฝ่ายแล้วนะครับ ผ่านมาหมดแล้วทั้งเหนื่อยทั้งสบาย  ทำตั้งแต่ถูพื้น  เสิร์ฟอาหาร  คิดเงิน ล้างจานไปจนถึงทำอาหาร  ตอนนี้พี่เริ่มทำเป็นหลายอย่างแล้วนะครับ  พ่อครัวเองยังชมเลยว่าพี่ทำอร่อยมาก    โดยเฉพาะผัดไท และแกงเขียวหวานไก่  พี่ดีใจจัง  อยากกลับไปเจอหน้าน้องแบ๊งค์เร็ว ๆ จะได้ทำให้ทานซักที  อยากรู้จังว่าจะอร่อยถูกใจน้องแบ๊งค์รึเปล่า  แต่ตอนนี้น้องแบ๊งค์ก็คงทานฝีมือของแฟนตัวเองอยู่ใช่มั้ยครับ  พี่ไม่คิดไปเทียบกับเค้าหรอกนะ  แต่พี่ก็แค่อยากให้น้องแบ๊งค์ได้ทานอาหารที่พี่ตั้งใจทำเพื่อแบ๊งค์บ้างก็เท่านั้น

ত    শশশশশ   20xx
   วันนี้คุณป้าให้พี่หยุดทำงานครับ  พี่ก็เลยมาเปิด mail ดู  ดีใจจังน้องแบ๊งค์ตอบกลับมาแล้ว  นึกว่าน้องแบ๊งค์จะไม่ยอมคุยกับพี่ซะแล้ว  มันอาจจะเป็นแค่ข้อความสั้น ๆ แต่มันก็เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยต่อชีวิตให้พี่เลยนะครับ  ยิ่งมาอ่านดูประโยคสุดท้าย ที่บอกว่า “แบ๊งค์ก็คิดถึงพี่อาร์เหมือนกันครับ”  มันยิ่งทำให้พี่รู้สึกอยากอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปพี่นั่งอ่าน mail ของน้องแบ๊งค์ซ้ำไปซ้ำมา  วันนี้ช่างเป็นวันที่พี่มีควาสุขจริง ๆ

      ระหว่างที่ผมกำลังเขียนไดอารี่ และตอบกลับเมลล์ของน้องแบ๊งค์ อยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่นั้น   ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น  น้องแทมนั่นเอง

" พี่อาร์ทคะ  แทมขอเข้าไปหน่อยนะคะ "    น้องแทมขออนุญาต

" เข้ามาได้เลยครับ  พี่ไม่ได้ล็อคประตู "    ผมอนุญาตเธอ

" พี่อาร์ททำอะไรอยู่หรอคะ  ขอแทมดูหน่อยได้มั้ย "    แล้วแทมก็เดินเข้ามาดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม

" พี่เชคเมลล์อยู่นะครับ  ไม่มีอะไรหรอก "    ผมบอกเธอไป

" เมลล์ของแฟนที่อยู่เมืองไทยใช่มั้ยคะ "   น้องแทมถาม

" .............................. "   ผมนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร  ตอนนี้ผมอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว

" ว่าแต่น้องแทมมาหาพี่มีอะไรหรอครับ "   ผมถามกลับไปบ้างครับ

" เอ้อ.....เกือบลืมไปค่ะ "   เธออุทานออกมา

" แทมจะมาชวนพี่อาร์ทซื้อของขวัญให้เพื่อนแทมหน่อยนะค่ะ "   เธอพูดแล้วก้มหน้าลง  ผทพอเดาได้ว่าคงเป็นคนพิเศษของเธอเป็นแน่

" ซื้อให้เพื่อนที่รู้ใจหรอกครับ "     ผมแกล้งแหย่เธอไป

" พี่อาร์ทอ่ะ "    เธอเรียกชื่อผม  ประมาณว่าอยากให้หยุดแซว  เพราะตอนนี้เธอหน้าแดงมากเลยครับ

" งั้นไปกันเถอะครับ "   แล้วเราสองคนก็ออกจากบ้านไปยังห้างสรรพสินค้า  ชื่อห้างอะไรผมก็ไม่รู้จักหรอกครับ  เพราะน้องแทมเป็นคนนำมา  เราขึ้นรถไฟใต้ดินมากันครับ

แล้วเราก็มาถึง  ห้างนี้ค่อนข้างใหญ่ครับ  คนค่อนข้างที่จะเยอะครับ  ผมถามเธอไปว่าจะซื้ออะไรให้  น้องแทมอยากได้น้ำหอม  หรือไม่ก็เนคไทครับ  แต่ผมเห็นว่าคนที่เธอชอบยังเด็กอยู่เนคไทก็คงไม่ได้ใช้เพราะใช้ของโรงเรียนอยู่  ผมเลยแนะนำให้ซื้อน้ำหอมให้แทน

แล้วเราก็ไปเลือกน้ำหอมกัน  น้องแทมเลือกมาหลายกลิ่นครับ  บางกลิ่นดมเข้าไปแล้วฉุนมากเลยครับ  พอน้องแทมเห็นว่าผมทำหน้าแหย ๆ เธอก็เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ  แล้วเราก็เลือกได้มา 1 ขวดครับ  เป็นน้ำหอมกลิ่นสำหรับนักกีฬาอ่ะครับ  ซึ่งผมก็คาดว่าน่าจะเหมาะกับคนพิเศษของน้องแทม  พอเราซื้อเสร็จเราก็ไปนั่งทานสเต๊กกันก่อนที่จะเข้าบ้านครับ
ผมล้มตัวลงบนที่นอน คิดถึงน้องแบ๊งค์มากเลยครับ  ยิ่งวันนี้ผมได้ไปเที่ยวกับน้องแทมมา  มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงน้องแบ๊งค์มากขึ้น  อยากที่จะให้แบ๊งค์ได้มาเที่ยวด้วยกัน  จะว่าไปจากการที่ผมได้ไปเที่ยวกับน้องแทมมันก็ทำให้ผมได้สังเกตว่า  น้องแทมมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับนายแบ๊งค์เด็กดื้อของผม

ทั้งสองมีความสดใสร่าเริงที่ซ่อนอยู่ภายในหน้าตาตลอดเวลา  มีความเป็นเด็กค่อนข้างสูง  ถึงแม้ว่าจะโตแล้วก็ตาม  เค้าก็ยังแสดงอะไรที่ดูเป็นเด็ก ๆ ออกมาได้อย่างไม่น่าเกลียด  ยิ่งผมคิดแบบนี้  ผมก็ยิ่งคิดถึงแบ๊งค์  แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้แบ๊งค์มีคนอื่นมาคอยดูแลแบ๊งค์แล้ว  ผมยังไม่หยุดรักเค้าหรอกนะ  ผมจะรักเค้ตลอดไป  แล้วอยู่ ๆ ผมก็หลับไป

    ที่นี่ดูเป็นที่ ๆ ผมคุ้นเคยครับ  มันคือมหาวิทยาลัยของผมนั่นเอง  แต่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมอยู่ที่อังกฤษอยู่ไม่ใช่หรอ   แล้วที่น่าแปลกคือ  ทำไมวันนี้มหาวิทยาลัยดูเงียบ ๆ ไป  ไม่มีคนเดินผ่านไปซักคนเดียว

" ฮือ ๆๆๆ "    ผมได้ยินเสียงคนร้องไห้ครับ  มันเป็นเสียงที่ดูคุ้นเคย  เสียงแบ๊งค์นั่นเอง  แล้วตอนนี้แบ๊งค์อยู่ไหน  แบ๊งค์เป็นอะไรถึงได้ร้องไห้  ผมเป็นห่วงมากเลยครับ

" แบ๊งค์!!!!! แบ๊งค์อยู่ไหนน่ะนี่พี่อาร์ทเองนะครับ "    ผมตะโกนเรียกออกไป

" พี่อาร์ท........ "    เสียงของน้องแบ๊งค์ตอบกลับมาจากทางสนามบาสครับ  แล้วอยู่ ๆ เสียงทั้งหมดก็เงียบหายไป  ผมเลยรีบวิ่งไปยังสนามบาส

" แบ๊งค์!!!!แบ๊งค์อยู่ไหนน่ะ "   ผมมาถึงสนามบาสแล้วครับ  ผมมองหาน้องแบ๊งค์ทั่วบริเวณ  แล้วผมก็เห็นน้องแบ๊งค์นอนสลบอยู่ที่ใต้แป้นบาส

" แบ๊งค์!!!!แบ๊งค์เป็นอะไรไปน่ะ "    ผมรีบวิ่งไปหาน้องแบ๊งค์  แล้วช้อนตัวน้องแบ๊งค์เอาไว้ในอ้อมแขน  น้องแบ๊งค์ยังคงสลบอยู่ครับ  ที่หน้าก็ยังคงมีรอยคราบน้ำตาอยู่

" น้องแบ๊งค์ครับ!!!น้องแบ๊งค์ "   ผมเรียกน้องแบ๊งค์ครับ

" พ....พี่อาร์ท "    แบ๊งค์เรียกผมอย่างแผ่วเบา

" แบ๊งค์เป็นอะไร  บอกพี่สิครับ "    ผมถาม

" พี่อาร์ท!!!! "    แล้วแบ๊งค์ก็กอดรัดผมเอาไว้อย่างแน่นหนา  ผมก็ตอบรับอ้อมกอดนั้นด้วยอ้อมแขนผมเหมือนกัน  แล้วน้องแบ๊งค์ก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

" ไหนเป็นอะไร  เล่าให้พี่ฟังสิครับ "   ผมถาม

" แบ๊งค์ไม่เหลือใครแล้ว  ฮือ ๆๆ "    แบ๊งค์ยังคคงร้องไห้ต่อ

" แบ๊งค์....ตั้งสติดี ๆ แล้วค่อย ๆ เล่าให้พี่ฟังนะครับ "    ผมค่อย ๆ พูด

" ทุกคน.......ทุกคนทิ้งแบ๊งค์ไปแล้ว "    น้องแบ๊งค์พูดด้วยเสียงสั่นเครือ

" แบ๊งค์ไม่มีใครแล้ว  แบ๊งค์ไม่เหลือใครแล้ว "    ท่าทางของแบ๊งค์ดูหวาดกลัวบางสิ่ง

" พี่ไงครับ   พี่อาร์ทยังอยู่กับแบ๊งค์นะครับ "   ผมบอก

" พี่อาร์ทจะอยู่กับแบ๊งค์จริง ๆ นะ "    แบ๊งค์หันมาถามผม

" ครับ.... "    แล้วเราก็กอดกันอีกครั้ง


แล้วอยู่ ๆ ผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา   นี่ผมฝันไปหรอเนี่ย  ไม่อยากเชื่อเลย  ผมเป็นห่วงน้องแบ๊งค์มากเลยครับ  ในความฝันนั้นย้องแบ๊งค์ดูน่าสงสารมาก  ความฝันครั้งนี้มันเป็นความฝันที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตผมเลย  ความจริงที่นี่อากาศค่อนข้างหนาวนะครับ  แต่คงเป็นเพราะฝันร้ายเมื่อซักครู่  ตอนนี้ร่างกายผมมีแต่เหงื่อที่เปียกชุ่ม   ผมไปอาบน้ำ  ตอนนี้ที่อังกฤษเป็นเวลา ตี 2 กว่า ๆ แล้ว  ผมหลับไปตั้งแต่เย็นเลยหรอเนี่ย   

พออาบน้ำเสร็จผมก็ไม่นอนหลับแล้วครับ  ตอนนี้เป็นห่วงน้องแบ๊งค์มากจริง ๆ  ไม่อยากนอนแล้ว  กลัวมาก ๆ กลัวว่าน้องแบ๊งค์จะเป็นอะไรไปรึเปล่า  ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่จนถึงเช้า  คุณป้าก็มาเรียกผมไปทานอาหารเช้า  ผมก็เลยเล่าเรื่องฝันร้ายให้คุณป้าฟัง   คุณป้าก็บอกให้ผมไม่ต้องคิดมาก  แต่ดูเหมือนว่าคุณป้าจะสังเกตได้ว่าผมดูวิตกมาก  คุณป้าเลยให้ผมหยุดงานอีก 1 วัน และแนะนำให้ผมไปทำบุญที่วัดไทยในเมืองนี้

คุณป้ามาช่วยผมทำอาหารคาว-หวานเพื่อที่จะไปทำบุญครับ  เมื่อทำเสร็จผมก็ขอตัวไปในทันที   วัดไทยที่นี่มีพระอยู่ไม่กี่รูปหรอกครับ  ผมก็มาถวายอาหารคาว-หวาน  บริจาคจัตุปัจจัย  แล้วก็กรวดน้ำ  ในใจก็ขอให้น้องแบ๊งค์อย่าเป็นอะไรไปเลย  เมื่อทำบุญเสร็จมันก็ทำให้ผมสบายใจไปได้อีกขั้นหนึ่ง

ตอนนี้ก็ใกล้คริตส์มาสแล้ว  ความเป็นห่วงที่ผมมีให้น้องแบ๊งค์ยังคงมีอยู่  ผมก็เลยส่ง  e-mail ไปหาน้องแบ๊งค์  ผมเป็นห่วงน้องเค้ามาก  แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร  ผมไม่กล้าที่บอกเค้าไปตรง ๆ หรอกว่าเป็นห่วง  กลัวว่าจะไปทำให้เค้ากับแฟนมีปัญหา  ผมก็เลยแสดงความเป็นห่วงในเรื่องอื่น ๆ แทน  ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเค้าจะรับรู้ได้รึเปล่าว่าผมเป็นห่วงขนาดไหน

৩৩   ৰ ঊঊঊ   20xx
   ช่วงนี้เป็นห่วงน้องแบ๊งค์มากเลยครับ  ตั้งแต่ครั้งที่ฝันร้ายแล้ว ไม่รู้ว่าน้องแบ๊งค์จะเป็นอะไรไปรึเปล่า ใกล้จะปีใหม่แล้วด้วย  อากาศที่นั่นก็คงจะเย็นลงมาบ้าง  ไม่รู้น้องแบ๊งค์จะปรับตัวทันรึเปล่า  อยากให้น้องแบ๊งค์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

য়ঞ   ঊঊঊ  20xx
   ตอนนี้ที่นั่นคงขึ้นปีใหม่กันไปเรียบร้อยแล้วสิครับ  อยากรู้จังน้องแบ๊งค์จะไปเที่ยวไหน ก็เลยส่ง e-mail ไปหา  สงสัยที่นั่นคงจะยุ่งน่าดู  เพราะไม่เห็นน้องแบ๊งค์มาตอบเมลล์พี่เลย  ยิ่งน้องแบ๊งค์เงียบไปแบบนี้พี่ก็ยิ่งอดห่วงไม่ได้  พ่อกับแม่พี่กำลังเดินทางมาจากสนามบินครับ เดี๋ยวก็คงมาถึง  แล้วเราก็คงได้ฉลองปีใหม่ด้วยกัน  พี่อยากให้แบ๊งค์อยู่อีกคน  ทุกคนจะได้เห็นว่าน้องแบ๊งค์น่ารักน่าเอ็นดูขนาดไหน  อีกอย่างพี่ว่าถ้าแบ๊งค์ได้มาอยู่ที่นี่น้องแบ๊งค์ต้องชอบน้องแทมแน่ ๆ เพราะนิสัยเหมือนกันเลย

৮  জজজজ  20xy
ที่นี่ฉลองปีใหม่แล้วนะครับ  สนุกมากเลย  คุณป้าจัดงานเป็นแบบปาร์ตี้ครับ  มีเพื่อนบ้านมากันเต็มไปหมด  ทุกสนุกกันมากเลย  ถ่ายรูปไว้เต็มไปหมด  อาหารก็อร่อย  รู้มั้ยครับว่าอาหารมื้อนี้มีฝีมือของพี่อยู่ด้วย  มีแต่คนชมครับว่าอร่อย แหะ ๆ  (-“-)  อืมรูปถ่ายอ่ะครับมีรูปที่พี่จูบกับ    น้องแทมด้วย อย่าคิดมากนะครับ  เราเป็นพี่น้องกันจริง ๆ น้องแทมเค้าจะถ่ายเอาไปแกล้งเพื่อนน่ะครับ พี่ว่าน้องแบ๊งค์ต้องอยากเห็นรูปงานปาร์ตี้แน่ ๆ เอาไว้วันหลังพี่จะส่งไปให้ดูนะครับ


ผมยังคงเขียนไดอารี่ถึงแบ๊งค์ต่อไป    น้องแบ๊งค์หายไปไหนนะ e-mail ก็ไม่ยอมตอบกลับ  ผมก็ได้แต่เขียนไดอารี่ไปเองฝ่ายเดียวแบบนี้  น้องเค้าจะรับรู้ได้บ้างมั้ยเนี่ยว่าผมคิดถึงขนาดไหน ทำไมนะเค้าถึงไม่ยอมตอบกลับเมลล์ผมบ้างเลย  น้องเค้าคงลืมผมไปแล้วแน่ ๆ หรือไม่ก็คงเบื่อที่พูดคุยกับผม  ตอนนี้ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของผม  บางทีเค้าอาจจะทะเลาะกับแฟน ผมไม่น่าส่ง e-mail ไปหาเค้าเลย  เราน่าจะห่างกันไปอย่างเดิมนะดีแล้ว  ไม่น่ามารื้อฟื้นเลย
ผมตัดสินใจส่ง e-mail  ที่เป็นรูปงานปาร์ตี้ไปให้ น้องแบ๊งค์  โดยที่รูปสุดท้ายเป็นรูปที่ผมจูบกับน้องแทม  โดยที่ผมไม่ได้เขียนข้อความหรืออะไรใด ๆ ทั้งสิ้น   ผมส่งไปเพราะต้องการให้เค้าคิดว่าผมมีแฟนแล้ว  เพื่อที่น้องแบ๊งค์จะได้ไม่มีปัญหากับแฟนของเค้าอีก



৺৺   জজজজ  20xy
พี่ไม่รู้หรอกนะครับ  ว่าแบ๊งค์เป็นอะไรไป  ทำไมนะน้องแบ๊งค์ถึงไม่ยอมตอบกลับ e-mail ของพี่เลย    รูปที่น้องแบ๊งค์ได้ไม่ใช่แฟนพี่หรอกนะ  เป้นน้องสาวตะหาก  น้องแทมไง  ขอโทษด้วยที่พี่ไม่ได้เขียนบอกอะไรไป  แต่น้องแบ๊งค์ไม่ต้องรู้ความจริงนั่นแหละ  ดีแล้วครับ  เราอยู่กันห่าง ๆ แบบนี้จะดีกว่านะครับ  แต่ขออะไรซักอย่างได้มั้ยครับ  ขอให้พี่รักแบ๊งค์แบบนี้ต่อไป

   ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  เมื่อเขียนไดอารี่ของวันนี้เสร็จ  น้องเค้าคงเกลียดผมจริง ๆ แล้วสินะผมก็คงทำได้แค่รักเค้าอยู่ห่าง ๆ แบบนี้
   วันนี้น้องแบ๊งค์ส่งเมลล์กลับมาครับ  ผมดีใจมากที่เค้ายังไม่ลืมผม  เค้าส่งมาสั้น ๆ เหมือนเดิม  แต่ผมก็ยิ่งสบายใจขึ้นเมื่อได้เห็นคำว่า  เค้ากับแฟนยังคงรักกันอยู่เหมือนเดิม  ความสุขของผมมีเพียงเท่านี้แหละครับ  ผมต้องการให้น้องเค้ามีความสุข  เพียงแค่ผมก็พอใจแล้ว

********************
:bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-05-2007 00:06:28
แล้วคู่นี้จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกมั้ยนะ :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-05-2007 09:48:33
สงสารพี่อาร์ทจังเลยครับ

สู้ๆ ครับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-05-2007 12:44:14
 o9  ต่างคนต่างไม่ยอมพูดความจริงกันแบบนี้ ก้แย่หล่ะซิ เมื่อไหร่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันน๊า

ยังเชียร์พี่อาร์ทอยู่น๊า  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 24-05-2007 17:47:40
เศร้า ทำไมเรื่องมันเศร้าอย่างนี้อ่ะ
 :sad2:

จิงโจ้น้อยทำใจไม่ได้
 :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-05-2007 18:44:34
เรื่องมันเศร้าจริง ๆ  :sad2: ต่างคนก็ต่างอยากให้อีกคนมีความสุข ทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังทุกข์  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 24-05-2007 21:17:35
 :teach: เวลา  คือ  เครื่องพิสูจน์  :teach:

 :impress:  คู่กันแล้วไม่แคล้วกันแน่น่อน  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 27-05-2007 00:35:05
 o1 o1 >>>o19
********************
บทที่ 29 แบ๊งค์  แบ๊งค์  แบ๊งค์

หลังจากวันที่แบ๊งค์ได้รับ e-mail  จากพี่อาร์ทวันนั้น  แบ๊งค์ก็เริ่มที่จะทำใจแล้วล่ะครับ  แบ๊งค์ควรที่จะยินดีกับพี่อาร์ทมากกว่าที่จะมานั่งเสียใจ   วันนี้แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าครับ  ทำเหมือนวันแรกที่ไปเรียนนั่นแหละครับ  แต่งตัวให้เรียบร้อย  แล้วยืนพิจารณาตัวเองอยู่ที่หน้ากระจก

แบ๊งค์คนเดิมควรที่จะกลับมาได้แล้ว  การที่แบ๊งค์เศร้าแบบนี้  มันคงไม่เป็นผลดีต่อแบ๊งค์และคนรอบข้างแน่ ๆ  เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาแล้วที่แบ๊งค์จะกลับมาเป็นแบบเดิมซะที

แบ๊งค์มาถึงมหาวิทยาลัยตามปกติครับ  ก็มานั่งฟังเพลงอยี่ที่เดิมนั่นแหละ  แล้วก็ตามคิว  ไอ้กาวก็ตามมา

" ไงแบ๊งค์  ฟังเพลงอีกแล้วนะ "  กาวทัก

" อืม....ก็ไม่มีอะไรทำนี่นา "   แบ๊งค์ตอบไป

" มา ๆ ตามหน้าที่  แบ่งให้เราฟังด้วยเลย "  กาวพูดเสร็จมันก็เดินมานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์ก็เลยขยับที่ให้มัน  แล้วเราก็นั่งฟังเพลงกันครับ  ในใจแบ๊งค์ก็คิดว่าเดี๋ยวจะต้องมีเสียงเรียกจากนรกของนายหมีฟายดังขึ้นมาแน่ ๆ

" โอ้โห........... "  มาแล้วครับ  มาตามคำเรียกร้องจริง ๆ ด้วย

" ถึงว่า  ทำไมเดี๋ยวนี้มดขึ้นเต็มคณะ  ที่แท้ก็เพราะไอ้สองคนนี้นี่เอง "   พี่ตั้มแซวแต่เช้าอีกแล้ว  ถ้าไม่ได้แซวสงสัยนอนไม่หลับแน่ ๆ

" แล้วไอ้โป้งยังไม่มาหรอ "   พี่ตั้มถาม

" พี่โป้ง?  พี่โป้งจะมาทำไมหรอ "  แบ๊งค์ถามด้วยความสงสัย

" ก็มันบอกว่าจะมาหาที่นี่ตอนเช้า  คือมันจะซื้อของกินมาฝากอ่ะ "   พี่ตั้มพูด

" ของฟรีนี่ไม่เคยพลาดเลยนะพี่ตั้ม "  กาวแซว

" เออดิ....ของอย่างนี้ใครจะพลาด "  พี่ตั้มตอบอย่างหน้าตาเฉย

" ก็ถึงว่า  ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่เศษเกลือหล่นอยู่เต็มคณะ  ที่แท้ก็เพราะพี่ตั้มนี่เอง "  แบ๊งค์แอบเอาคืนครับ

" ไอ้แบ๊งค์!!!!! "    พี่ตั้มแยกเขี้ยวอีกแล้ว  มีหรอที่แบ๊งค์จะอยู่ให้โง่  ก็วิ่งหนีสิครับ  หนีอย่างรวดเร็วและปราดเปรียว ( หุหุ ) พี่ตั้มก็ไล่ตามมาติด ๆ ครับ  แต่ด้วยความที่พี่ตั้มเค้าสูง   ช่วงขาก็เลยยาว วิ่งไม่กี่ก้าวก็จับแบ๊งค์ได้ซะแล้ว ( ไม่น่าเกิดมาเตี้ยเรยกรูส์ )

เมื่อพี่ตั้มคว้าตัวแบ๊งค์ได้ก็ตามขั้นตอนเดิมครับ  เอาแบ๊งค์พาดไหล่ แล้วจับตีก้นเหมือนเดิม

" พี่ตั้ม!!!!ไม่เอาแล้ว  แบ๊งค์อายนะ "   แบ๊งค์ดิ้นไม่หยุด

" ก็มาแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ "  พี่ตั้มพูด

" ค้าบ.......แบ๊งค์ขอโทษ  ปล่อยแบ๊งค์เถอะนะพี่ตั้มคนดี "   แบ๊งค์พยายามพูดดี ๆ

" ไม่เอาหรอก  พอปล่อยเรา ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า  พี่ไม่เอาหรอก "  พี่ตั้มพูด

" พี่ตั้มง่ะ "   แบ๊งค์ทำหน้างอน  แล้วพี่ตั้มก็เอาแบ๊งค์มาวางไว้ที่โต๊ะตามเดิม  แต่แบ๊งค์ทำหน้างอนอีกแล้ว

" แบ๊งค์งอนอีกแล้ว  ขี้งอนจริง ๆ เลยเด็กคนนี้ "  กาวพูด

" แบ๊งค์ก็อายุเท่ากาวนะ  ไม่ได้เด็กกว่าซะหน่อย "  แบ๊งค์พูด

" ยังจะเถียงอีกไอ้เด็กดื้อ "   พี่ตั้มดุ แบ๊งค์ก็ยิ่งทำหน้างอนสิครับ   แล้วพี่โป้งก็มาถึงครับ

" อ่ะมาทานกันเร็ว "   พี่โป้งชวน   พี่โป้งซื้อของกินมาเต็มไปหมดเลยครับ  มีขนมปัง  นมสด   แซนด์วิช  แล้วก็ขนมถุงอีกเยอะแยะเลยครับ

" พี่โป้งซื้อมาทำไมเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย "    กาวถาม

" ก็ไม่รู้สิครับ  อยากให้ทุกคนได้ทานอะไรกันบ้าง  ก็เลยซื้อมาแต่กลัวไม่ถูกใจ  ก็เลยซื้อมาเยอะไปหน่อย "   พี่โป้งอธิบาย
" ถ้าซื้อมาแยะขนาดนี้อ่ะ  ยกพวกไปทานโจ๊กที่ร้านไม่ถูกกว่าหรอ "   แบ๊งค์พูดประชด

" อืม...นั่นสิ  ไปกันมั้ยล่ะ  เดี๋ยวพี่พาไปเอง "   พี่โป้งพูด  ช่างไม่รู้เรื่องเลยนะพี่คนนี้

" ไม่ต้องหรอก  ไอ้เด็กดื้อ  เด็กเปรตนี่พูดไปแบบนั้นแหละ  ไม่ต้องสนใจ "   พี่ตั้มพูด

" กินเข้าไปแล้วไม่ต้องพูดเลยนะ "  แบ๊งค์จับขนมปังยัดปากพี่ตั้มเข้าไปอีก

" แล้วสองคนนี่โกรธอะไรกันอีกเนี่ย "   พี่โป้งถาม   กาวเลยเอี้ยวตัวไปกระซิบบอกพี่โป้ง  พอพี่โป้งได้ฟังก็หัวเราะเบา ๆ

" หัวเราะอะไรอ่ะ  ไม่ใช่เรื่องตลกนะ "  แบ๊งค์ทำท่าไม่พอใจ

" สองคนนี้ ก็ไม่ยอมโตกันซักทีนะ  ทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้ "  พี่โป้งพูด

" นั่นดิ  จะจบไปอีกปีแล้วนะ "  กาวช่วยเสริม 

" เข้าข้างกันจังนะ "  แบ๊งค์พูดแบบงอน ๆ

" ใช่ ๆๆๆๆ อยู่ฝ่ายเดียวกันหมด  งั้นแบ๊งค์กับพี่ ก็มาอยู่ฝ่ายเดียวกันนะ "   พี่ตั้มพูด

" อี๋.............ใครอยากอยู่กับพี่ตั้ม  เชิญอยู่คนเดียวไปเหอะ "  แบ๊งค์ทำท่ารังเกียจ

" เออ จำไว้ ทีหลังถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ไม่ต้องมาหาพี่ก็แล้วกัน "    พี่ตั้มงอน

" ไม่ง้อหรอก  แบ๊งค์ช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว "   แบ๊งค์ตอบไป

" ช่วยตัวเองได้ด้วยหรอ  พี่นึกว่าจะรอคนอื่นมาช่วยอย่างเดียวซะอีก "  พี่โป้งแซว

" พี่โป้งอ่ะ......... "   แบ๊งค์เงียบไปเลยคับ  อายหน้าแดงด้วย (-/////-)  แล้วทั้งโต๊ะก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน  แล้วจากนั่งก็นั่งทาน ของที่พี่โป้งซื้อมากันต่อ  ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนในช่วงเช้า  แบ๊งค์กับกาวมีเรียนประวัติศาสตร์โลก  ส่วนพี่ตั้มกับพี่โป้งมีเรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น  เราก็เลยต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปเรียน

จนมาถึงช่วงพักกลางวันครับ  เราก็มาทานข้าวด้วยกันอีกครับ  ตอนนี้เรากลายเป็นแกงค์เฮฮากันไปแล้ว  มีกันอยู่แค่ 4 คนนี่แหละครับ  อยู่ด้วยกันตลอด จนกลายเป็นว่า ถ้าเห็นคนใดคนหนึ่งในแกงค์นี้  ก็จะต้องเห็น 3 คนที่เหลือตามไปด้วย  จะว่าไปเราก็ค่อนข้างที่จะสนิทกันนะครับ  ทุกคนเป็นคนที่แบ๊งค์จะไม่ลืมเลยจริง ๆ

ถึงแม้ว่าในตอนนี้พี่โป้งจะรอคำตอบจากแบ๊งค์อยู่  แต่แบ๊งค์ก็ไม่เคยเห็นพี่เค้ามาทวงคำตอบจากแบ๊งค์เลยซักครั้ง  มันเลยทำให้เราอยู่ด้วยกันได้อย่างสบายใจมากขึ้น  ตอนนี้แบ๊งค์คงยังไม่พร้อมที่จะคบใครหรอกครับ  อยากใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่าก่อนดีกว่า  ไม่อยากเอาตัวไปเจ็บอีก  อยู่แบบนี้แหละครับดีแล้ว  มัวแต่ขลุกอยู่กับความรัก เดี๋ยวการเรียนจะเสีย

เรื่องของพี่อาร์ทหรอ  อืม....แบ๊งค์ไม่ได้ลืมเค้าหรอกนะ  แต่เหมือนพักหลัง ๆ เราจะขาดการติดต่อกันไปแล้วอ่ะ  นายโต้ก็ด้วย  หายไปทั้งคู่เลย  ก็เหงา ๆ บ้างเหมือนกันนะ  แต่ทำไงได้ล่ะ  เราไม่มีข้อมูลอะไรของเค้าเลย  ก็ได้แต่นั่งทำใจยอมรับความเหงาไปเนี่ยแหละ ช่างมันเหอะ

วันนี้ตอนเย็น  พี่นุ่นเลิกช้าอีกแล้ว  ไม่รู้เป็นไร  ช่วงนี้ป้าแก เลิกช้าทุกวัน  แบ๊งค์ก็เลยมานั่งดูไอ้กาวซ้อมบาสทุกวัน  ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ครับ  หิวตลอดเวลา  ก็เลยซื้อขนมมานั่งทานรอไอ้กาวทุกวัน  สงสัยน้ำหนักต้องขึ้นแน่ ๆ เฮ้อ~~~คิดแล้วกลุ้มใจ  นั่งทานต่อไปดีกว่า ( อ้าว !!! )

" แบ๊งค์ไม่ลองมาเล่นด้วยกันหรอ "  กาวชวนครับ

" นั่นสิ  มาเล่นด้วยกันนะ "   พี่โป้งเสริม  เข้ากันได้ดีจริง ๆ เลยนะคู่นี้

" ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจอ่ะ "   แบ๊งค์พูด

" เอาแต่กินเดี๋ยวอ้วนนะเว้ย "  กาวพูด

" นั่นสิ  เอาแต่ทานไม่ยอมออกกำลังกายเลย เดี๋ยวอ้วนนะ "   พี่โป้ง ทักขึ้นครับ  มาพูดกันแบบนี้แบ๊งค์ถึงกับนิ่งไปเลยครับ  หยุดทุกสิ่งทุกอย่างเลย

" เออ  เล่นก็เล่น "   แล้วแบ๊งค์ก็ลงไปเล่นบาสในสนาม

" ทำยังไงอ่ะ "   แบ๊งค์ถาม

" ลองยืนตรงนี้ก่อนนะ "  พี่โป้งลากแบ๊งค์มายืนที่ตรงหน้าแป้นบาส

" แล้วเล็งดู  ที่กรอบสี่เหลี่ยมที่แป้นอ่ะ  เห็นมั้ย "  พี่โป้งอธิบาย

" อืม.......เห็นแล้ว  ทำไมหรอ "   แบ๊งค์ถามกลับ

" ชู๊ตให้มันโดนตรงนั้น เดี๋ยวมันจะสะท้อนกลับลงห่วงเองแหละ "   พี่โป้งบอก

" จริงง่ะ  มันจะลงจริง ๆ หรอ "  แบ๊งค์ทำท่าแปลกใจ

" อืม.......ไม่เชื่อก็ลองดูสิ "   ไอ้กาวช่วยเสริมครับ  แล้วแบ๊งค์ก็ลองชู๊ตดูครับ แต่ไม่ลง ก็คนมันไม่เคยเล่นกีฬานี่นา  จะให้เป็นเลยได้ไง

" ไม่เป็นไร ๆ ลองชู๊ตดูอีกทีนะ  เล็งให้โดนล่ะ "   พี่โป้งพูด  แล้วแบ๊งค์ก็ลองตั้งสมาธิ    แล้วชู๊ตลูกไป  คราวนี้ลูกลงห่วงอย่างไม่น่าเชื่อครับ  ดีใจจัง

" เห็นมั้ยถ้าแบ๊งค์  คิดจะทำ หรือตั้งใจจริง ๆ แบ๊งค์ก็ทำได้ "  กาวพูด

" อ่ะนะ   แต่กว่าจะได้ ก็เกือบไปเหมือนกัน "  แบ๊งค์บอก

" มาเล่นด้วยดีกว่านะ  แย่งลูกจากพี่ให้ได้ก็แล้วกัน "   พี่โป้งท้าแบ๊งค์ครับ  มีหรอที่แบ๊งค์จะยอม  เรื่องแบบนี้มาท้ากันได้ซะที่ไหน

" แล้วถ้าแบ๊งค์แย่งลูก มาได้จะอะไรแบ๊งค์ล่ะ "   แบ๊งค์ถาม

" เอางี้  ถ้าใครชู๊ตเข้าห่วงก่อน   แล้วต้องการอะไรอีกฝ่ายก็ต้องทำให้ โอเคมะ "   พี่โป้งอธิบาย

" โอเช  งั้นมาเริ่มกันเลย "  พอแบ๊งค์พูดจบ  เราก็เข้าประจำตำแหน่ง  โดยที่กาวเป็นผู้ตัดสิน  เริ่มเกม  เหมือนพี่โป้งจะยอมให้  แบ๊งค์เลยเป็นฝ่ายครองลูก  ในขณะที่กำลังจะเอาลูกไปชู๊ตนั่นเอง  กาวมันก็เป่านกหวีด 

" มีอะไรหรอ "  แบ๊งค์ถามกาว   แต่กำมือทั้งสองข้างหมุนเป็นวงกลม  แบ๊งค์ก็ยังคงงงอยู่ดี

" ก็วอล์คกิ้งไง ไอ้เด็กดื้อ "   แล้วพี่โป้งก็หัวเราะ  ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ ทำหน้างออีกแล้ว  ช่วยไม่ได้อ่ะ ก็คนมันไม่เคยเล่นนี่นา

จากนั้นเกมก็ยังดำเนินต่อไป  แต่คราวนี้ พี่โป้งแย่งชิง ลูกบาสไปจากมือแบ๊งค์อย่างรวดเร็ว  แบ๊งค์ก็พยายามวิ่งตามนะ  แต่ไม่ทันซะแล้ว  พี่โป้งชู๊ตลงไปแล้ว  ไม่ลง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ( แบ๊งค์คิดในใจ ) และแล้วลูกก็ไม่ลง

" โสน้าน่า "   แบ๊งค์แกล้งพูดไม่ชัดออกไป

" เออ....เดี๋ยวโดนเอาคืนแน่ "   พี่โป้งทำท่าขู่ครับ  เกมก็เริ่มขึ้นอีกหนึ่งครั้ง  แบ๊งค์แย่งลูกมาได้แล้วครับ  เลี้ยงไปด้วยความปราดเปรียวและสง่างาม ( อิอิ แอบชมตัวเอง ) แล้วก็   แล้วก็  แล้วก็ ( พอ!!!!! ) ชู๊ตบาสไปแล้วครับ  ลง ๆๆๆๆๆๆ แล้วก็  ม่ายลง ฮือ ๆๆๆ (T_T)

" อิอิ  โสน้าน่า "   พี่โป้งล้อแบ๊งค์กลับมาครับ  มีหรอจะยอมคราวนี้ไม่ให้รอดแน่ ๆ คอยดู  แล้วเราก็ยังคงเล่นต่อไปครับ  ตอนนี้เหมือนพี่โป้งจะได้เปรียบในการครองลูก ( ก็พี่เค้าเป็นนักกีฬาบาสนี่เนอะ )  แบ๊งค์แย่งเท่าไหร่ก็ไม่ได้  แล้วพี่โป้งก็ชู๊ตอีกครั้ง  ไม่ลง ๆๆๆๆๆๆๆ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก (o_O)  ลูกลงจนได้  จากนั้นแค่แปปเดียว  ไอ้กาวก็เป่านกหวีดหมดเวลา

" เฮ้ย  หมดเวลาแล้วหรอ  โกงกันป่าววะ "   แบ๊งค์ถาม

" อืม  หมดแล้วจริง ๆ "  กาวตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ

" ฮ่า ๆๆๆๆ อย่าลืมสัญญานะครับผม "   พี่โป้งทวน

" อืม...รู้แล้วน่า  แต่เอากาวไปด้วยได้ป่ะ "   แบ๊งค์ขอ

" ก็เอาไปสิ  พี่ก็กะว่าจะชวนกาวอู่เหมือนกัน "   พี่โป้งพูด

" ไม่หรอกครับ  ผมไม่ไปหรอก  ไปกันสองคนเถอะ "   กาวปฏิเสธ

" ไรว้า........ไปด้วยกันหน่อยดิ "  แบ๊งค์พยายามขอ

" นั่นสิ  ไปด้วยกันเถอะนะ ไปเยอะ ๆ สนุกดี "   พี่โป้งพูด

"....................... "  กาวไม่ตอบ

" ถ้าไม่ไป........โกรธ "   แบ๊งค์เริ่มทำหน้างออีกครั้ง

"......................... "    กาวเงียบอยู่ซักพัก

" อืม  ไปก็ไป "    แล้วเราทั้งหมดก็ไปที่รถของพี่โป้งครับ  แบ๊งค์ไล่ให้กาวไปตรงที่นั่งข้างคนขับ   ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ  พอขึ้นรถได้ ก็ถลาตัวเข้าไปนอนทันที ( ทำยังกะเป็นรถตัวเองงั้นแหละ ) แล้วจากนั้นก็กดโทรศัพท์ไปบอกพี่นุ่นก่อน  เดี๋ยวพี่นุ่นจะเป็นห่วง  ส่วนกาวก็โทรไปบอกทางบ้านเหมือนกัน แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป

" แบ๊งค์....แบ๊งค์.....แบ๊งค์ "   เสียงพี่โป้งครับ

" ถึงแล้ว  ลงรถไปกันเหอะ "  กาวพูด  วันนี้พี่โป้งพามาทานอาหารญี่ปุ่นครับ  เป็นร้านอาหารในห้างเนี่ยแหละ   คนดูพลุกพล่านจัง

แล้วเราทั้งสามก็ไปนั่งทานอาหารญี่ปุ่นกัน  พี่โป้งนั่งตรงข้ามกับแบ๊งค์   ส่วนกาวก็นั่งข้าง ๆ แบ๊งค์เนี่ยแหละครับ  แบ๊งค์สั่งอะไรไม่ค่อยเยอะหรอก  คงเพราะเพิ่งตื่นมั้ง  ส่วนกาวกับพี่โป้งดิ  รัวไปเป็นชุด สงสัยคงหิวมาจากที่เล่นบาสเมื่อกี้

" สั่งมาแยะ  จะทานหมดหรอ "   แบ๊งค์ถาม

" อ่ะน่า  ไม่ต้องห่วง  มีพี่กับกาว  แค่นี้ก็สบายแล้ว "  พี่โป้งพูด   แล้วอาหารก็มาเสิร์ฟ  แบ๊งค์ทานไม่ค่อยเยอะหรอกครับ  คงเพราะเพิ่งตื่นบวกกับ ที่ทานขนมไปตอนเย็นแล้ว  ก็เลยทานไม่ได้เยอะเท่าไหร่  แต่กาวกับพี่โป้งดิ  ซัดเอา ๆ  เห็นแล้วอึ้ง

พอทานข้าวเสร็จก็ไม่ได้ไปไหนแล้วครับ  เพราะค่อนข้างดึกแล้ว

" นอนค้างที่คอนโดพี่มั้ยวันนี้ "   พี่โป้งชวนครับ

"................................ "    แบ๊งค์กับกาวเงียบ   มองหน้ากัน

" ชวนทั้งสองคนนั่นแหละ "   พี่โป้งพูดเมื่อเห็นว่าเราสองคน ทำท่างง ๆ

" ไปเถอะนะ  พี่เหงา ไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ "  พี่โป้งทำเสียงเศร้า ๆ ครับ  เหมือนคนจะร้องไห้เลยอ่ะ  แบ๊งค์กับกาวก็เลยทนแรงสงสารไม่ได้  ต้องโทรไปบอกทางบ้านอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะค้างที่คอนโดพี่โป้ง
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 27-05-2007 00:47:54
บทที่ 30 พี่โป้ง

แล้วเราก็มาถึงคอนโดของพี่โป้งครับ  คอนโดสุดหรู  ห้องของพี่โป้งอยู่ชั้นที่ 18  จำได้มั้ยครับว่าที่นี่คือที่ไหน   มันคือที่ที่พี่โป้งเคยจับตัวแบ๊งค์  แล้วพามาขืนใจที่นี่  แต่บรรยากาศวันนั้นกับวันนี้มันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ

วันนั้นแบ๊งค์ถูกบังคับมา  ไม่สิต้องเรียกว่าถูกจับมาถึงจะถูก  แต่วันนี้แบ๊งค์มาด้วยความเต็มใจ  มันเป็นความรู้สึกที่ต่างกันจริง ๆ เลยครับ วันนี้คอนโดแห่งนี้ดูหรูหราสวยประทับใจแบ๊งค์จริง ๆ  และเหมือนว่าพี่โป้งก็หวั่น ๆ ว่าแบ๊งค์จะกลับไปนึกถึงพี่โป้งคนเก่า  ท่าทางของพี่เค้าเลยดูเป็นกังวลเล็กน้อย  แบ๊งค์ก็เลยพูดขึ้น

" ไม่ต้องห่วงหรอกนะ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  ก็ขอให้มันจบดีกว่า "   แบ๊งค์พูดให้พี่โป้งได้ยิน  แต่ไอ้กาวดิ  มันไม่รู้เรื่องมันก็เลยดูงง ๆ

" ครับ   ขอบคุณมากนะครับน้องแบ๊งค์ "   พี่โป้งตอบกลับ  ไอ้กาวมันก็เลยงงเป็นสองเท่าสิครับ  หน้าตามันตอนงง  หรือประหลาดใจเนี่ย  ตลกดีจัง

" เฮ้ย ๆ เรื่องอะไรกันวะ "   กาวกระซิบถามแบ๊งค์

" เออน่า  แล้วซักวันเมริงจะรู้เอง "  แบ๊งค์ก็กระซิบตอบ

" แล้ววันไหนวะ "   กาวถามอีก   ไอ้นี่เรื่องมากจริงวุ้ย

" วันนี้มั้ง "   แบ๊งค์ตอบไปแล้วทำหน้าทะเล้น

ในที่สุดเราก็มาถึงห้องพี่โป้งซักที  ห้องพี่โป้งยังคงตกแต่งเหมือนเดิม  เป็นสไตล์ที่ดูหรูหราไฮโซ เหมาะสมกับท่าทางที่ดูคุณหนูของพี่เค้านั่นแหละ

" เข้ามานั่งก่อนสิ  เดี๋ยวพี่จะไปหาข้าวของเครื่องใช้มาให้ "   พี่โป้งพูดตอนที่พาเรามาที่โซฟาหน้าทีวี  แล้วพี่เค้าก็หายไปในห้องนอนของตัวเอง  ในขณะที่ไอ้กาวกำลังจะนั่ง  แบ๊งค์ก็นึกแผนแกล้งมันได้ อิอิ

" เฮ้ย ๆๆๆๆ กาวเมริงจะทำไรวะ "    แบ๊งคืโวยวาย

" ก็จะนั่งไง  พี่เค้าให้นั่งแล้ว "   กาวอธิบาย

" ก็นั่นแหละ  ตรงนั้นมันที่นั่งของนาย  บ่าวรับใช้อย่างเมริงก็นั่งพื้นไปดิ "   แบ๊งค์ทำหน้าทะเล้นใส่ไอ้กาว

" ไอ้แบ๊งค์!!! "   แล้วกาวก็เขกหัวแบ๊งค์มาหนึ่งที

" โอ้ย !!!  เจ็บนะเฟ้ย "   แบ๊งค์พูด แล้วพี่โป้งก็เดินออกมาพอดี  ทันที่จะเห็นภาพที่เราเล่นกัน  พี่เค้าก็เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ  จากนั้นพี่โป้งก็อธิบายถึงแผนผังของห้องพี่โป้ง ( ห้องมานใหญ่จริง ๆ นะ ) แล้วเราก็แยกย้ายไปอาบน้ำกัน
เมื่ออาบน้ำเสร็จเราก็ออกมานั่งหน้าทีวี  ทุกคนมาในชุดนอนปกติ  แต่แบ๊งค์เนี่ยสิ  ทำไมนะต้องเป็นชุดนอนลายหมีสีชมพูด้วยก็ไม่รู้  ทั้ง ๆ ที่กาวกับพี่โป้งก็ใส่ชุดนอนลายทางธรรมดา

" พี่โป้ง ๆ ทำไมแบ๊งค์ถึงได้ใส่ชุดนอนตัวนี้อ่ะ "   แบ๊งค์ถาม

" ทำไมหรอกน่ารักดีออก "  พี่โป้งยังคงทำท่าเฉย ๆ

" ก็ทีกาวยังได้ใส่ชุดนอนแบบพี่โป้งเลย "  แบ๊งค์ชี้ไปทางกาว

" มันเป็นชุดของญาติพี่น่ะ  พี่เห็นว่าตัวเล็กดีแบ๊งค์คงใส่ได้ "

" ถ้าแบ๊งค์เอาชุดพี่ไปใส่ สงสัยคงใส่ไม่ได้.......อีกอย่าง "    แล้วพี่โป้งก็เงียบไป
" แล้วอะไรหรอ.... "   แบ๊งค์ถามย้อนคืน

" ก็แบ๊งค์ดูเหมือนเด็กไง  พี่เลยให้ใส่ชุดนี้  แล้วแบ๊งค์ก็ออกมาดูเด็กจริง ๆ ด้วย "   พี่โป้งพูดแบบอมยิ้ม  แล้วหัวเราะเบา ๆ

" พี่โป้งง่ะ "    แบ๊งค์ทำท่างอนอีกแล้ว

" ไม่เอา ๆๆ แบ๊งค์ไม่ใส่แล้วจะถอดตรงนี้แหละ "   แบ๊งค์โวยวาย

" เฮ้ย ๆๆๆๆ อย่านะเว้ย "   กาวทักขึ้น

" นั่นสิ  ถ้าพี่อดใจไม่ไหว  จับแบ๊งค์ปล้ำไม่รู้ด้วย "    พี่โป้งทำแซว 

" งั้นไม่ถอดก็ได้ "     แบ๊งค์หยุดไป  แล้วไปนั่งหน้าทีวีแทน    เราเปิดดูหนังกันครับ  เป็นหนังในช่องของ ยูบีซีนั่นแหละ  ไม่รู้เป็นอะไรมีแต่หนังผี   พวกเราก็เลยจำยอมต้องดูหนังผีกัน

แบ๊งค์ให้พี่โป้งนั่งข้างขวา  ส่วนกาวนั่งข้างซ้าย แล้วแบ๊งค์นั่งตรงกลาง ( ถ้ามันว่าง ๆ มันจะโหวง ๆ อ่ะ )    น่ากลัวมากครับ  วันนี้เป็นเรื่อง  The Exorcist  น่ากลัวมาก ๆ เลยครับ  พอจะเข้านอน  เราก็แยกเข้าห้องของแต่ละคนไป  แบ๊งค์นอนห้องเดียวกับกาวครับ  แต่ไม่ได้นอนเตียงเดียวกันหรอกนะ   แบ๊งค์ยังคงติดตาอยู่กับ  หนังที่เพิ่งดูจบไป

" กาว.........กาว "   แบ๊งค์เรียก

" อะไรหรอ "   กาวถามกลับ

" ยังไม่นอนใช่ป่ะ "   แบ๊งค์ถามอีก

" อืม...กำลังจะนอนอ่ะ "   กาวบอก  เสียงของมันก็เหมือนคนจะหลับจริง ๆ แหละครับ

" มานอนข้างเราได้ป่ะ "   แบ๊งค์เสนอความคิดเห็นไป

" ทำไมหรอ "   กาวดูงง ๆ

" ก็กรูส์กลัวผีอ่ะ   นะนะนะ "  แบ๊งค์พูด

" แล้วจะนอนกันยังไง  เตียงเล็กนิดเดียว "   กาวยังถามต่อ

" เออน่า  กรูส์ตัวเล็ก  เบียด ๆ กันก็ได้ "   แบ๊งค์พูดไป

" ไม่เอาหรอกกรูส์ไม่ชอบนอนเบียดใคร  อีกอย่างเดี๋ยวเมริงปล้ำกรูส์ทำไงล่ะ "  กาวแย้ง

" โห...ทำอย่างกะเมริงน่าเอายังงั้นแหละ นะนะนะ  นอนข้างกรูส์นะ  แบ๊งค์แย้งกลับ

" งั้นก็หนีไปนอนห้องพี่โป้งดิ "  กาวพูด

" ก็ได้  แต่เมริงต้องไปด้วยนะ "   แบ๊งค์ ยังรบเร้าต่อ

" ทำไมกรูส์ต้องไปเป็นเพื่อนเมริงด้วยวะ "   กาวเริ่มรำคาญครับ

" ก็กรูส์กลัวพี่โป้งปล้ำนี่หว่า  อีกอย่างเมริงก็เป็นเพื่อนกรูส์  ทำให้แค่นี้ไม่ได้หรอวะ "  แบ๊งค์เริ่มน้อยใจบ้างครับ

" แล้วเมริงไม่กลัวพี่โป้งกับกรูส์รุมโทรมเมริงหรอ "   ไอ้กาวทำเสียงทะเล้นครับ

" ถ้าพวกเมริงกล้าทำแบบนั้นกันจริง ๆ  กรูส์ก็คงปล่อยเลยตามเลยว่ะ "  แบ๊งค์พูด

" โอ๋ ๆๆๆๆๆ ล้อเล่นน่ะ  ป่ะ!!ไปนอนห้องพี่โป้งกันเหอะ "  แล้วกาวก็ลุกขึ้นไปเปิดไฟ  แล้วขนเอาหมอนและผ้าห่มประจำกายแต่ละคน เข้าไปหาพี่โป้ง

ก๊อก ๆๆ ก๊อก ๆๆ ( เสียงแบ๊งค์เคาะประตูห้องพี่โป้งครับ )

" มีอะไรกันหรอ "   พอพี่โป้งเปิดประตูมาเห็นพวกเรา  ที่หอบข้าวของมากันพะรุงพะรังก็เลยทำหน้างง ๆ

" คือไอ้แบ๊งค์มันกลัวผี  จากหนังที่ดูเมื่อกี้อ่ะครับ  มันก็เลยขอมานอนห้องพี่โป้ง  โดยจะให้ผมกับพี่เป็นองครักษ์พิทักษ์มันจากผีอ่ะครับ "   กาวอธิบายยาวเหยียด

" อ๋อ...อืม เข้าสิ "   แล้วพี่โป้งก็ให้เราเข้าไปข้างใน  จำกันได้มั้ยครับ  ห้องนี้เคยเป็นห้องที่แบ๊งค์กับพี่โป้งเคยมีความหลังที่ไม่ดีต่อกันในห้องแห่งนี้  แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว  มันถูกตกแต่งอย่างสวยงาม  ไม่มีคราบของไอ้คนโรคจิตน่ากลัวแบบนั้นอีก

" วุ่นวายจริง ๆ นะ ไอ้ตัวเล็ก "   กาวแอบบ่น

" ไรวะ  ก็คนมันกลัวนี่นา "   แบ๊งค์แย้งกลับ

" นี่ไปรบกวนกาวเค้ามาใช่มั้ย  ดูหน้ากาวสิ "   พี่โป้งพูด  แล้วแบ๊งค์ก็หันไปมองหน้าไอ้กาว  หน้ามันบอกบุญไม่รับจริง ๆ แหะ ๆ โทดทีว่ะเพื่อน

" ใช่แล้วล่ะครับ  คนกำลังจะนอน ปลุกขึ้นมาซะงั้น "   กาวพูดแบบเคือง ๆ

" อ่ะน้า  ไม่สงสารเด็กน้อยคนนี้หรอ "  แบ๊งค์ทำหน้าตาอ้อน ๆ

" เออ ๆๆๆ พอแล้วไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นแล้ว "  กาวพูด 

แล้วเราทั้งสามคนก็ล้มตัวลงบนที่นอน   เตียงของพี่โป้งเป็นเตียงคู่ที่ค่อนข้างใหญ่เราก็เลยนอนกันอย่างสบาย  แบ๊งค์นอนตรงกลาง กาวอยู่ทางขวา  พี่โป้งอยู่ทางซ้าย  สบายใจจัง  ไม่ต้องหวั่น ๆ กลัวผีอีกแล้ว  แล้วแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป
แบ๊งค์หลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ครับ  จนมารู้สึกตัวอีกที  ที่มีแสงแดดสาดเข้ามาโดนหน้า  ตอนนี้กี่โมงแล้วเนี่ย  แบ๊งค์เลยเหลือบไปมองดูนาฬิกาครับ  โห!!!! 10 โมงกว่าแล้ว  ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด  ว่าแต่สองหนุ่มหายไปไหนกันหมดเนี่ย
แบ๊งค์เดินออกไปข้างนอกห้องนอนพี่โป้ง  ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัว ก็เลยเดินไปดู  ที่แท้ก็เป็นพี่โป้งกับนายกาวนี่เอง   แอบมาช่วยกันทำกับข้าวไม่ยอมบอกกันเลย  แบ๊งค์เลยทักออกไป

" แอบตื่นมาไม่ยอมปลุกกันเลยนะ "   แบ๊งค์ทักไป  แล้วทุกคนก็มองมาที่แบ๊งค์

" ตื่นแล้วหรอ  เดี๋ยวก็จะเสร็จแล้วครับ  รอแปปนะครับ "   พี่โป้งพูด

" ตื่นสายจังนะ  คุณชายตัวเล็ก "   กาวแซวครับ

" แซวกันแต่เช้าเลยนะ "  แบ๊งค์พูด

" ไปอาบก่อนเถอะครับ  เดี๋ยวพี่กับกาวจะช่วยกันทำอาหารเอง "   พี่โป้งพูด

" อืมช่าย  ไปเหอะ  ตอนนี้เริ่มเหม็นปากแบ๊งค์แล้วอ่ะ  ตื่นมายังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลย  อี๋....ไป ๆๆๆ "   ไอ้กาวไล่ครับ

" เออ ๆๆๆๆ กรูส์ไปก็ได้ "   แล้วแบ๊งค์ก็เดินไปอาบน้ำ   ล้างหน้าแปรงฟัน  ทำทุกอย่างจนเรียบร้อย  รวมถึงเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย  จากนั้นจึงออกมาที่โต๊ะอาหาร  ซึ่งกาวกับพี่โป้งกำลังวุ่นวายอยู่กัยการจัดโต๊ะ

" ทำอะไรทานมั่งเนี่ย "   แบ๊งค์ถาม  แล้วเดินเข้าไปช่วยทั้งสองคน หยิบจานมาช่วยจัดโต๊ะ

" ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ  มีแต่อาหารง่าย ๆ พื้น ๆ น่ะ "  พี่โป้งพูด

" ก็มีไข่เจียว  ต้มจืด  หมูกระเทียม  แล้วก็ผัดผักรวม  แล้วก็ผัดผักบุ้งอ่ะ "   กาวอธิบาย

" นี่ทำกันเองหมดเลยหรอ "   แบ๊งค์ถามอย่างประหลาดใจ

" อืมใช่  เราทำแค่ผัดผักบุ้งกับ  ต้มจืด  ที่เหลือฝีมือพี่โป้งอ่ะ "   กาวบอก

" ใช่แล้วครับ  รู้มั้ยพี่กับโป้งไปช่วยกันเลือกซื้อเนื้อกับผัก  ที่ตลาดแต่เช้าเลยนะ "  พี่โป้งพูด

" ไปตลาดกันมาหรอเนี่ย "   แบ๊งค์ถามอีกครั้ง

" อืมใช่  คนเยอะมากด้วย "   กาวพูด   แล้วเราก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน

" ไปตลาดไม่เห็นชวนกัน "  แบ๊งค์พูดแบบงอน ๆ

ตอนแรกพี่โป้งก็จะชวนแล้ว  แต่เห็นเจ้าชายน้อย  กำลังหลับสบายก็เลยไม่ได้ปลุก   กลัวเจ้าชายจะอารมณ์เสียอ่ะ "   กาวอธิบาย

" ไม่หรอก  ปลุกเหอะ ทิ้งแบ๊งค์ไว้คนเดียวได้ไงอ่ะ งอน "    แบ๊งค์ทำท่างอนอีกครั้งหนึ่ง

" มีหรอจะไม่ได้ปลุก  พี่โป้งอ่ะไม่ปลุก  แต่กรูส์เนี่ยแหละเป็นคนปลุก  แต่เจ้าชายไม่ตื่นเอง  ถ้าไม่เกรงใจพี่โป้ง  เจ้าชายโดนถีบไปแร้น "   กาวพูด

" อ้าว!!!หรอ  โทษที แต่ทำไมวันนี้ดุจังวะ  แล้วไอ้เจ้าชายน้อยเนี่ย  ทำไมต้องเป็นกรูส์อ่ะ "   แบ๊งค์ถามไปแบบงง ๆ

" คงมาจากเรื่องเมื่อคืนอ่ะครับ  ที่น้องแบ๊งค์กลัวผีแล้วมานอนห้องพี่ "   พี่โป้งอธิบาย

" แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเนี่ย "    แบ๊งค์คงคงงต่อไป

" ก็น้องแบ๊งค์ให้พี่กับ  กาวเป็นองครักษ์  งั้นน้องแบ๊งค์ก็ต้องเป็นเจ้าชายสิครับ "   พี่โป้งอธิบาย

" แล้วเมริงอ่ะก็ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ก็เลยต้องเป็นเจ้าชายน้อยไง "   กาวช่วยเสริม

" ไรวะ  หาว่ากรูส์ตัวเล็กอีกละ "   แบ๊งค์ทำท่าเคือง ๆ

" ถ้าไม่อยากตัวเล็ก ก็ทานเยอะ ๆ สิครับ  จะได้โตไวไว "  พี่โป้งพูดด้วยความอ่อนโยน

" อืมใช่  วัน ๆ ทานแต่อะไรก็ไม่รู้  ทานของที่มีประโยชน์บ้างนะ อ่ะ "   พูดแล้วกาวก็ตักผัดผักมาใส่ที่จานของแบ๊งค์

" คัฟป๋ม  ท่านองครัษ์ทั้งสอง  เดี๋ยวชายน้อยจะทานให้เยอะ ๆ เลย "   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นเจ้าชาย  แล้วเราก็ทานข้าวกันจนเสร็จไปอีก หนึ่งมื้อ

จากนั้นเราก็มานั่งเล่นกันที่ระเบียงของห้องพี่โป้งครับ  อากาศค่อนข้างสบายครับ  มีลมพัดโชยมาตลอด คงเพราะห้องของพี่โป้งอยู่ชั้นที่ 18 ล่ะมั้ง  เราก็นั่งคุยกันไปต่าง ๆ นานา

" ทำไมพี่โป้งถึงแยกมาอยู่คนเดียวล่ะครับ  ไม่เหงาหรอ "  อยู่ ๆ กาวก็ถามขึ้น

" นั่นสิ  พี่โป้งมีพี่ชายอีกคนไม่ใช่หรอ "   กาวถามต่อ

" คือว่า  พ่อพี่ต้องไปเป็นฑูตประจำอยู่ที่ต่างประเทศน่ะครับ   พี่ก็เลยต้องอยู่กับยายและพี่ชาย  แต่พี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ "
 
" พี่ก็เลยขอแยกออกมาอยู่คนเดียว  แล้วให้พี่ชายดูแลยายต่อไป "   พี่โป้งพูด

" แล้วไม่คิดถึงครอบครัวหรอ "   แบ๊งค์ถาม

" ก็คิดถึงนะครับ  ใจจริงก็อยากกลับไปอยู่ด้วยเหมือนกัน "  พี่โป้งพูดต่อ

" แล้วทำไมไม่กลับไปล่ะครับ "   กาวถามแบบงง ๆ

" บ้านพี่กับมหาวิทยาลัยมันไกลกันน่ะครับ   พี่เลยมาอยู่ที่นี่ มันสะดวกกว่า "  พี่โป้งบอกถึงเหตุผล  แล้วเราก็คุยกันต่อจนได้รู้ว่า  พี่ชายของพี่โป้งเป็นหมอ  ทุกวันนี้พี่ชายของพี่โป้งจะอาศัยอยู่กับยายที่บ้านอีกหลังหนึ่ง  ตามปกติพี่โป้งจะกลับไปบ้าน  ทุก ๆ วันศุกร์   แต่ช่วงนี้พี่โป้งค่อนข้างจะยุ่ง ๆ ก็เลยจะกลับเดือนละครั้งแทน

จากที่ฟัง ๆ พี่โป้งเล่ามา  ค่อนข้างสงสารนะครับ  ความจริงแล้วตอนเด็ก ๆ พี่โป้งต้องอยู่กับคุณยายและพี่ชาย  เพราะพ่อกับแม่ของพี่โป้งไปจะไปประจำอยู่ที่ต่างประเทศ  พี่โป้งก็ค่อนข้างที่จะเหงา  เพราะพี่ชายของพี่โป้งก็เอาแต่ขยันอ่าหนังสือเรียน  เพื่อที่จะสอบเป็นหมอ  พี่โป้งก็เลยโตมาแบบเหงา ๆ เพราะไม่มีเพื่อนเล่น  พอโตขึ้นพี่ชายของพี่โป้งก็สอบเอนท์ติดแพทย์  พี่โป้งก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งความหวัง   แต่พี่โป้งไม่ชอบ  และพยายามหาเหตุผลบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนในที่สุด พี่โป้งก็ไม่ต้องเรียนแพทย์

 และนี่ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่โป้งมีพฤติกรรมที่ดูก้าวร้าว   พอคิดดูอีกทีก็สงสารพี่โป้งเหมือนกันนะครับ  อยากอยู่กับพ่อกับแม่  แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ต้องอยู่กับความเหงามาตั้งแต่เด็ก

พี่โป้งถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าอะไรที่อยากได้  ก็ต้องได้  มันก็เลยแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมก้าวร้าวแบบที่พี่โป้งเคยทำไว้กับแบ๊งค์  แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่โป้งจะเปลี่ยนไปมาก  แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  แบ๊งค์ก็รู้สึกดีใจนะ  ที่พี่เค้าเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้******************
 :bye2: คับ

 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-05-2007 06:32:48
รอลุ้นต้อจ้า o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-05-2007 08:28:42
หุหุ ทำไมโป้งกลายเป็นคนน่าสงสารไปได้ละนี่  o18
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-05-2007 13:48:21
ทำไมเรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสารหง่ะ

แงแง

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 27-05-2007 15:11:37
ทุกอย่างมันมีที่มาจริงๆนะนี่ สาเหตุที่พี่โป้งมีนิสัยแบบนั้นก็มรจากเรื่องคราบครัว  :undecided:

เรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสารจิงๆด้วย ได้มีความสุขหวานแหว๋วกันไม่นานเลย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 27-05-2007 21:44:19
อ่านทันแร้ววววว :laugh3: :laugh3:

สมกับชื่อเรื่องจริงๆ "รักวุ่นวาย(มากกกก)"

มีแต่คนน่าสงสาร
โดยเฉพาะพี่อาร์ทอ่ะ น่าสงสารมากมาย :sad4:

แต่ยังไงๆ ก็รัก(พี่อาร์ท)ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 27-05-2007 22:10:57
เหงา :undecided: เศร้า :sad2: รัก :give2:


เป็นกำลังใจให้เจ้าชายน้อยและองครักษ์ทั้งสอง  o13

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 27-05-2007 22:46:12
***********************
บทที่ 31 กลับมา......

วันนี้แบ๊งค์ก็ไปเรียนตามปกติครับ  ไม่สิไม่ปกติดีกว่า  เพราะวันนี้แบ๊งค์มาถึงค่อนข้างสาย  พอมาถึงที่โต๊ะประจำก็เลยเห็นสามหน่อนั่งอยู่ครบเลย  พี่โป้ง  พี่ตั้ม  และก็กาว  วันนี้พี่โป้งซื้อของกินมาอีกแล้ว  เป็นซาลาเปา  กับโอวัลตินครับ นั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเลย  วันนี้ก็ไม่มีอะไรครับ  แปลกดีจัง  วันนี้แบ๊งค์ไม่กัดกับพี่ตั้ม  สงสัยคงเป็นเพราะพี่ตั้มกำลังมีความสุขอยู่กับรสชาติซาลาเปามั้ง  ก็เลยไม่มีเวลาว่างพอทีจะมาหาเรื่องแบ๊งค์  แล้วเราก็แยกย้ายกันไปเข้าชั้นเรียนครับ
พอถึงช่วงพักกลางวัน แบ๊งค์ก็มาทานข้าวกับกาวครับ  พี่ ๆ สองคนนั้นเค้ามีธุระนิดหน่อยก็เลยไม่ได้มาทานข้าวด้วยกัน 

ในขณะที่กำลังจะเดินไปโรงอาหาร  กาวก็ปวดฉี่ขึ้นมาครับ  แบ๊งค์เลยต้องไปรอมันที่หน้าห้องน้ำ   ห้องน้ำตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเข้าครับ  เพราะมันอยู่ข้างหลังตึก  แถวนี้ค่อนข้างที่จะเปลี่ยวไม่ค่อยมีคนเดินผ่านเท่าไหร่ 
อยู่ ๆ แบ๊งค์ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังมาจากอีกฟาก  เสียงนั้นฟังดูคุ้นหูแบ๊งค์จัง  ด้วยความอยากรู้  แบ๊งค์ก็เลยเดินย่อง ๆ เข้าไปแอบฟัง  พอแอบมองดูได้ ก็อึ้งนิดหน่อยครับ  แมคกับครีมนั่นเอง  ว่าแต่เค้าทะเลาะกันเรื่องอะไรนะ

" ทำไมเดี๋ยวนี้หายหน้าไปล่ะ  โทรไปก็ไม่รับสาย "   ครีมถามแบบโวยวาย

" ก็คนมันไม่ว่างที่จะรับสาย เข้าใจมั้ยว่ามีงานอ่ะ  ไม่ได้ว่างงานนี่ "   แมคตอบแบบไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่

" งานหรอ!!!แล้ววันก่อนที่เราไปเห็นเมคเดินเล่นคนเดียวที่ เกสรฯล่ะ หมายความว่ายังไง "  ดูท่าทางครีมจะโกรธมากเลยนะครับ

" ครีมเห็น............ "  แมคเงียบ

" ก็ใช่น่ะสิมันหมายความว่ายังไง "   ครีมพูด  แต่แมคยังเงียบอ  แล้วก็ดูเหมือนว่าไอ้กาวจะเสร็จธุระของมันแล้ว  มันก็เลยเดินออกมา

" ป่ะแบ๊งค์  ไปกันเหอะ "   กาวเรียก  แต่แบ๊งค์รีบหันไปแล้วเอามือปิดปากกาว  พร้อมกับชี้ให้กาวดู แมคกับครีม

" สองคนนั้นเค้าทะเลาะกันว่ะ  ไม่รู้เรื่องอะไร "   แบ๊งค์บอก

" แล้วจะไปเจือกเรื่องของเค้าทำไมล่ะ "   กาวพูด

" อ้าว!!!!ไอ้นี่   ว่ากรูส์เฉยเลย "   แบ๊งค์หันไปมองมันแบบเคือง ๆ

" ไปเหอะ  จะไปยุ่งกับเค้าทำไม จำไม่ได้แล้วหรอ  ว่าสองคนนั้นเคยทำอะไรเมริงไว้"   กาวพูดออกมาครับ  มันช่างเป็นคำพูดที่สะกิดรอยร้าวอะไรเช่นนี้  แต่ก็ช่างเหอะ  เพราะตอนนี้รอยร้าวมันถูกประสานแล้ว  มันคงจะไม่มีวันร้าวเพราะเรื่องเดิม ๆ อีกเป็นอันขาด

" ป่ะ ไปได้แล้ว "   กาวคว้าแขนแบ๊งค์แล้วทำท่าจูงมือแบ๊งค์ไปให้ได้

" ไม่ได้เฟ้ย  เรื่องของชาวบ้านคืองานของเรา "    แบ๊งค์รีบจูงมือกาวกลับมาซุ่มอยู่ที่เดิม เพื่อดูแมคกับครีมต่อไป

" ทำไม  พูดไม่ออกล่ะสิ  ที่โดนคนอื่นจับได้ "  ครีมพูด

" แล้วจะทำไมล่ะ  เราจะไปเที่ยวคนเดียวมั่งไม่ได้หรอ "   แมคแย้งออกไป

" แต่วันนั้นครีมขอให้แมคไปดูหนังด้วยกันนะ  แล้วทำไมต้องไปคนเดียวด้วย  ทั้ง ๆ ที่ครีมก็ชวนแมคแล้ว "  ครีมพูดออกมา  ตอนนี้เหมือนครีมจะร้องไห้เลย

" แมค   แมคเป็นอะไรไปน่ะ  แมคเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ "  ครีมเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาแล้วครับ  น่าสงสารจังอ่ะ

" ครีม......เราอย่าเจอกันอีกเลยนะ... "  พอสิ้งคำพูดของแมคทุกอย่างก็เงียบลง

" ทำไมล่ะ  เราทำอะไรไม่ดีหรอ....แมค!!!  แมคบอกเราสิ  เราจะปรับปรุง นะแมคบอกเรามาเหอะ "  ครีมคว้าแขนแมคไว้

" พอเหอะครีม  วันนี้เราไม่อยากคุยอะไรแล้ว  เราไปก่อนนะ "  แมคสะบัดแขนของครีมทิ้งอย่างไม่ใยดี  แล้วเดินตรงเข้ามาทางห้องน้ำ

ห้องน้ำ.....ว๊ากกกกกกกกกกก(O_O)  มันกำลังเดินเข้ามาในที่  ที่กรูส์อยู่นี่หว่า  ถ้ามันรู้จะเป็นยังไงเนี่ย  ว่าแล้วแบ๊งค์ก็รีบดึงแขนกาว  แล้ววิ่งเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำเดียวกันครับ  แมคเดินเข้ามาแล้ว   แบ๊งค์หลบอยู่ในห้องน้ำกับกาวครับ  ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมห้องน้ำหลังตึกถึงไม่ค่อยมีคนเข้า  ก็เพราะห้องน้ำมันแคบอย่างนี้นี่เอง 

แบ๊งค์ยืนค่อนข้างติดกับกาวครับ  ไม่สิ...ติดกันเลยตะหาก  เพิ่งสังเกตนะเนี่ยว่าไอ้กาวมันสูงขนาดนี้  แบ๊งค์สูงแค่อกมันเอง  ตอนนี้เราหายใจรดต้นคอกันแล้ว  แบ๊งค์หายใจโดนอกของกาว  ส่วนกาวก็หายใจรดหัวแบ๊งค์
แบ๊งค์เงยหน้าไปมองกาว  ในขณะที่กาวก็กำลังก้มลงมามองหน้าแบ๊งค์เหมือนกัน  แล้วตาสองตาก็มาประสาน  ( โอ๊ะโอ๋  จูบเลย ๆๆๆๆๆ )  เราทั้งสองคนก็อายกันจนหน้าแดง(-/////-)   เลยต้องเปลี่ยนสายตาไปมองที่อื่น
แบ๊งค์กับไปมองแมคอีกครั้ง  โดยมองผ่านช่องประตู  แมคยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้า  หน้าตาดูเศร้า ๆ เครียด ๆ ยังไงก็ไม่รู้  น่าสงสารมันเหมือนกันนะ

" สงสารไอ้แมคหรอ "    อยู่ดี ๆ กาวก็กระซิบถามขึ้นมา  รู้ทันกรูส์จริง ๆ นะ

" อืม....ก็ดูสิ  ท่าทางเครียดมากเลยอ่ะ "   แบ๊งค์กระซิบตอบ

" อย่าไปสนใจมันเลย  ดีแล้วล่ะ  มันคงเป็นผลจากที่มันเคยมาทำให้แบ๊งค์เสียใจมั้ง "   กาวพูด  ตอนที่กาวพูดแบบนี้ดูจริงจังมาก ๆ เลย  แล้วแมคก็เดินออกจากห้องน้ำไป  แต่แบ๊งค์กับกาวยังคงยืนอยู่ในห้องน้ำต่อ

" เอ่อ.....เราจะยืนอยู่ในนี้กันอีกนานป่ะ "   แบ๊งค์ถาม

" เออ....นั่นดิ  ลืมไปเลยว่าหิวข้าว "   ไอ้กาวก็นึกขึ้นได้

" ป่ะ ๆๆๆ ไปกันได้แล้ว "   แล้วแบ๊งค์กับกาวก็เดินไปโรงอาหาร ไปซื้อข้าวมาทานกัน  แบ๊งค์ทานเย็นตาโฟ  ส่วนไอ้กาวทานเล็กต้มยำ   พอนั่งทานด้วยกันกาวมันก็ถามขึ้นมา

" แบ๊งค์.....แบ๊งค์ยังรักไอ้แมคอยู่เปล่า "   กาวถามหน้าตาเฉย

" ทำไมถามแบบนั้นล่ะ "   แบ๊งค์ตอบกลับหน้าตางง ๆ

" ก็จากเหตุการณ์ เมื่อกี้เหมือนว่าแบ๊งค์จะยังรักมันอยู่นะ "   กาวพูดต่อ

" ไม่หรอก  เราไม่คิดอะไรกับมันแล้วจริงๆ "  แบ๊งค์ตอบกลับไป

" พยายามควบคุมใจตัวเองให้ได้ก็แล้วกัน  เจ็บแล้วต้องจำนะแบ๊งค์ "   กาวย้ำ

" อืม....รู้แล้วน่า  จะพูดเรื่องนี้ทำไมก็ไม่รู้เครียดเปล่า ๆ "   แบ๊งค์พูด

" ก็มันจริงนี่นา  จำไว้บ้างนะแบ๊งค์ "   กาวยังคงพูดต่อ

" เครียดนักใช่ป่ะ  นี่แน่ะเอามาเลย  หนึ่งลูก "  แบ๊งค์พูดพร้อมกับคีบลูกชิ้นในชามของกาวเข้าปาก  แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

" เฮ้ย!!!!ไอ้แบ๊งค์  ลูกชิ้นกรูส์!!!! "    ไอ้กาวโวยวายครับ

" อร่อยว่ะ  ขอบใจนะ "   แบ๊งค์ทำหน้าทะเล้น 

" ฝากไว้ก่อนนะเมริง "   ไอ้กาวพูดทิ้งท้าย  ดีนะที่แบ๊งค์ทานจนหมดแล้ว  ในชามก็เลยไม่เหลืออะไรที่ไอ้กาวพอจะขโมยกลับได้  หุหุ  อร่อยจัง

แล้วเหตุการณ์ในวันนั้นก็ผ่านมาประมาณซัก  อาทิตย์กว่า ๆ ในขณะที่แบ๊งค์กำลังอ่านหนังสือ อยู่ในห้อง  โทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์ก็ดังขึ้น  แมคโทรมา... ไม่รู้หรอกครับว่ามันมีธุระอะไร  ตอนแรกก็กะว่าจะไม่รับ  แต่ในเมื่อมันอุตสาห์โทรมา  แบ๊งค์ก็เลยรับสาย

" ฮัลโหลครับ "   แบ๊งค์รับสาย

" แบ๊งค์หรอ  นี่เราแมคนะ "   แมคพูด

" อืม...รู้แล้ว  ว่าแต่โทรมา  มีอะไรหรอ "  แบ๊งค์ถาม

" แบ๊งค์ออกไปกับเราหน่อยได้มั้ย  ตอนนี้เราอยู่ที่หน้าคอนโดแบ๊งค์แล้ว "   แมคพูด

" อ้าว!!!  อยู่ที่หน้าคอนโดหรอ  แล้วจะพาแบ๊งค์ไปไหนล่ะ "    แบ๊งค์ถาม

" ................................... "   แบ๊งค์เงียบไม่ตอบ  ( ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก )

" แบ๊งค์.....ขอร้องเถอะนะ "   อ้าว.....อยู่ดี ๆ ไอ้แมคก็ร้องไห้ครับ  แบ๊งค์ยิ่งเป็นโรคแพ้น้ำตาซะด้วยสิ  เอาไงดีหว่า

" แบ๊งค์.......มาหาเราเถอะนะ "   แมคพูดไปร้องไห้ไปครับ

" อืม  ก็ได้เดี๋ยวเราลงไปหานะ " ไม่รู้เพราะอะไรครับ  แบ๊งค์เลยตัดสินใจ ตกลงยอมไปกับแมค  เฮ้อ!!!!ไม่น่าเกิดมาเป็น  คนใจอ่อนเลยเรา  คิดแล้วเศร้า 

" ครับ  แล้วเราจะรอนะ "   แมคพูด 

พอแมควางสายไป  แบ๊ค์ก็จัดแจงแต่งตัวใหม่ให้ดูดี  เรียบร้อย ไม่เป็นศพเหมือนตอนที่อยู่คอนโดเฉย ๆ  แล้วเดินออกห้องมา

" จะไปไหนหรอ  แต่งตัวซะดิบดีเลยเรา "   พี่นุ่นถาม

" แบ๊งค์จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนนิดหน่อยน่ะ พี่นุ่น "   แบ๊งค์ตอบไป  ไม่อยากให้พี่นุ่นรู้หรอกครับ ว่าแอบไปกับแมค  ถ้าพี่นุ่นรู้มีหวังโดนเทศนายาว ไปจนปลายปีหน้าแน่ ๆ

" แล้วจะกลับกี่โมงล่ะ "  พี่นุ่นถามอีกครับ

" ไม่แน่ใจอ่ะ  อาจกลับดึก ๆ หรือไม่ก็ค้างบ้านเพื่อนไปเลย "   แบ๊งค์ตอบ  ค้างหรอ?  ทำไมแบ๊งค์ถึงคิดคำพูดนี้ขึ้นมาได้นะ  นี่แบ๊งค์คิดว่าจะคุยกับแมคนานจนกระทั่งต้องค้างด้วยกันเลยหรอ แปลกใจตัวเองจริง ๆ ที่พูดคำ ๆ นี้ออกไป

" อืม  งั้นก็บอกเพื่อนให้ขับรถระวัง ๆ บ้างนะ "  พี่นุ่นพูดทิ้งท้าย  แล้วแบ๊งค์ก็ลงมาหาแมคที่ลานจอดรถหน้าคอนโด  แบ๊งค์ยังคงจำรถของแมคได้ดีครับ  แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปนั่งในรถ

" มาแล้วหรอแบ๊งค์ "   แมคพูดทักทาย

" อืม   รอนานมั้ยล่ะ "   แบ๊งค์ถามกลับ

" ไม่นานหรอก  สำหรับแบ๊งค์เรารอได้เสมอแหละ "    แมคพูด  มันเป็นอะไรวะเนี่ย  หรือว่าทะเลาะกับครีมจนเพี้ยนไปแล้ว

" กรรม  พูดอะไรเนี่ย  เสี่ยวรับประทานว่ะ "    แบ๊งค์พูดแก้เขิน

" เราพูดจริง ๆ นะแบ๊งค์ "    อยู่ดี ๆ แมคมันก็ทำเสียงจริงจังครับ

" ว่าแต่มีอะไรหรอ   รีบ ๆ พูดมาสิ "   แบ๊งค์รีบตัดบทครับ

" อืม  งั้นไปหาอะไรทานกันก่อนดีกว่านะ "   แมคพูด

จากนั้นแมคก็ขับรถออกจากคอนโดแบ๊งค์ไปครับ   แมคมันเปิดเพลงฟังเบา ๆ ด้วย  รู้มั้ยครับว่ามันเป็นเพลงอะไร  มันคือเพลง  กลับมา  ของ ทูเดย์อะโกคิดส์ครับ  มันไม่ได้เปิดฟังอย่างเดียวนะ  เจ้าแมคมันยังฮัมเพลงตามไปด้วย  แค่นั้นยังไม่พออีก ( อะไรกันนักกันหราฟะ ) ยังมีบางช่วงทีมันแอบหันมามองแบ๊งค์โดยเฉพาะ ช่วงที่เป็นท่อนฮุคอ่ะครับ

กลับมาได้หรือเปล่า
กลับมาหาฉันทีได้ไหม คนดี
หากว่าใจของเธอไม่ได้เปลี่ยนไป
ก็ให้โอกาสฉันอีก จะได้ไหม
ได้โปรดอย่าทิ้งรักไปเลย

   พอมันมองมาที่แบ๊งค์  จะทำยังไงล่ะครับก็เลยต้องหันหน้าไปมองทางอื่น หลบสายตาของมัน  ไม่งั้นมีหวังต้องเผลอยิ้มออกมาแน่ ๆ  เกิดมายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับแบ๊งค์เลยครับ  แล้วเพลงนี้ก็จบไป  แต่เพลงใหม่นี่สิครับ หนักกว่าเดิมอีก  เพลงยังรักเธอ ของโหน่งพิมพ์ลักษณ์  โอย...มันไปหาเพลงพวกนี้มาจากไหนเนี่ย  แล้วทำไมต้องเปิดวันนี้ด้วยฟะ

เลิกกันไปนานแล้ว  นับตั้งแต่วันนั้น
ฉันไม่เคยได้ข่าว ไม่เคยจะได้พบเจอ
เธอสบายดีมั้ย  ใจก็ยังอยากรู้
ก็มันยังคงคิดถึงยังผูกพัน

ที่โทรมาวันนี้  มีเรื่องจะปรึกษา
ไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่า  แต่ฟังไว้แล้วกัน
วันที่ผ่านมานั้น มันช่างเหงาจับใจ
จะยังพอมีหนทางบ้างไหม
ให้รักกันเหมือนเดิม
   
แมคเริ่มมองหน้าแบ๊งค์อีกแล้วครับ  และแล้วแมคก็เริ่มร้องเพลงอีกครั้งคราวนี้แมคเริ่มที่จะหันมามองหน้าแบ๊งค์บ่อยขึ้น  มันยังคงร้องต่อไป

เธอมีใครรึยัง  เป็นอย่างฉันรึเปล่า
อยู่มันไปเพียงวัน ๆ อยู่มันไปกับความเหงา
ไม่มีใจ จะรักใครได้เลย

ให้เวลาเธอคิด เอากลับไปนอนคิด
คิดยังไงก็บอกออกมาจากหัวใจ
จะไม่มีปัญหา  จะไม่มีเงื่อนไข
ตั้งใจแค่เพียงให้เธอได้รู้
ว่าฉันยังรักเธอ........


พอสิ้นสุดคำนี้แมคมันก็เอื้อมมือมาจับมือแบ๊งค์ครับ  ตกใจอย่างแรงเลย  แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร  กลัวมันเสียใจ  ดีนะที่ว่าถึงร้านพอดี  แบ๊งค์เลยรีบชักมือออก  แล้วรีบเปิดประตูลงรถไปเลย  แล้วแมคมันก็ลงตามมาครับ

" ป่ะ  เราเข้าไปกันเถอะ  ตอนนี้เราหิวแล้ว "  แมคพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

" อืมเข้าไปสิ  เราก็หิวแล้วเหมือนกัน "   แล้วเราสองคนก็เดินเข้าไปในร้าน  แมคเลือกโต๊ะที่อยู่ข้างใน  ที่ค่อนข้างจะไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน

" เรารู้นะ  ว่าแบ๊งค์ไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนพลุกพล่าน "  แมคพูด  ไม่น่าเชื่อว่าแมคจะรู้เรื่องนี้ด้วย  เพราะแบ๊งค์ไม่ค่อยได้บอกใครซักเท่าไหร่  แล้วเราก็สั่งอาหารมาทานกัน  แบ๊งค์ก็ไม่ได้สั่งอะไรเยอะหรอกครับ  แค่สเต็กปลาจานเดียวเท่านั้น  ส่วนแมคนะหรอสั่งอะไรไม่รู้มาเต็มไปหมด  ที่สำคัญสั่งเบียร์มาด้วย

" แมค  นี่นายดื่มเหล้าด้วยหรอ "  แบ๊งค์ถามแมค เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินไปแล้ว

" ไม่ได้ดื่มเหล้าซะหน่อย  แค่ดื่มเบียร์เอง "

" ก็นั่นแหละ  ยังไงก็แอลกอฮอล์เหมือนกัน "  แบ๊งค์พูด

" อืม..น่า  ดื่มนิดหน่อยเอง "   แมคพูด 

แล้วอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ก็นั่งทานกันไปเรื่อย ๆ แมคก็ทานอาหารพวกของทานเล่น สลับกับดื่มเบียร์ไป  แล้วอยู่ ๆ แมคก็พูดขึ้น

" แบ๊งค์...มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่านะ "  แมคพูด  เออ..ใช่สิเราออกมาเพราะมีเรื่องจะคุยกับแมคนี่นา ลืมไปเลย มันแต่กินอยู่ได้  ไม่น่าตะกละเลยกรูส์

" อืมใช่...มีอะไรหรอ  พูดมาสิ "   แบ๊งค์บอกออกไป

" เราอยากคุยกับแบ๊งค์มาก  ตั้งแต่วันนั้น  เราไม่เคยได้มีโอกาสได้อธิบายอะไรให้แบ๊งค์ได้ฟังเลย"

" แบ๊งค์  เราขอโทษ  ยกโทษให้เรานะ "  แมคจ้องหน้าแบ๊งค์

"....................... "    แบ๊งค์เงียบ

" ยกโทษให้เรานะ "   แมคเอามือมากุมมือแบ๊งค์ไว้

" อืม   เราไม่โกรธนายแล้วล่ะ  ลืมมันไปเถอะนะ "   แบ๊งค์พูด  ในขณะที่แมคยังคงจับมือแบ๊งค์ไว้อยู่   จากนั้นอยู่ดี ๆ นักร้องที่ร้าน  ก็ร้องเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง ( อีกแล้ว )


ตั้งแต่ครั้งนั้น  ที่เธอไม่อยู่  ชีวิตดูเปลี่ยนไป
ยังอ้างว้าง  และยังเสียใจ
เหลือ...เป็นเพียงความเงียบ
ยังคิดถึง   วันที่ผ่าน  วันที่มีแต่เรา
แต่วันนี้มันว่างเปล่า  เหงาจับใจ
คิดถึงเธอ รู้มั้ย....
คิดถึงเธอทุกที   ที่อยู่คนเดียว....

ทำไมนะ  วันนี้มันช่างเปิดเพลงได้เพราะจับใจขนาดนี้  ไปที่ไหนก็ได้ยิน  มีแต่เพลงความหมายเดิม ๆ ให้มันได้แบบนี้สิ  เฮ้อ~~

" ดีใจจัง  แบ๊งค์ไม่โกรธแมคแล้วใช่มั้ยครับ "  แมคถามซ้ำ

" อืม  ไม่โกรธแล้ว "   แบ๊งค์พูด  ตอนนี้แบ๊งค์ค่อย ๆ ดึงมือตัวเองออกจากมือของแมค  แต่ไม่อยากให้แมคคิดว่าแบ๊งค์รังเกียจ  แบ๊งค์ก็เลยหันมาทานสเต๊กต่อ  จากนั้นแมคก็เรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งเหล้าต่ออีกที

" แมค!!!นั่นนายยังจะดื่มเหล้าอีกหรอ "    แบ๊งค์ถามอย่างตกใจ

" ก็เบียร์หมดอ่ะ  จะให้ดื่มอะไรล่ะ "  แมคพูดแบบเฉย ๆ

" ดื่มน้ำผลไม้  หรือจะสั่งเบียร์มาอีกก็ได้  สั่งเหล้ามา  เดี๋ยวก็กลับไม่ได้หรอก "  แบ๊งค์บ่นยาวเหยียด

" ขอหน่อยน่า  ถ้าเราดื่มเราจะได้มีความกล้า  ที่จะพูดอีกเรื่องกับแบ๊งค์ "   แมคอ้างเหตุผล

" เรื่องอะไรหรอ "  แบ๊งค์ถามอย่างงง  ๆ

" ขอเราดื่มก่อนนะ "  แล้วเด็กเสิร์ฟ   ก็เอาเหล้ามาเสิร์ฟพอดี   แบ๊งค์ก็นั่งฟังเพลงไป  สลับกับมองแมคไป  ไอ้เจ้าแมคก็เอาแต่ดื่ม  ไม่ยอมพูดอะไรซักที  แบ๊งค์ก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว
 
" แมค!!!พอได้แล้วนะ!! "  แบ๊งค์ดึงแก้วออกจากมือแมค

" อื่มมากไปแล้วนะ  เดี๋ยวก็กลับกันไม่ได้หรอก "  แบ๊งค์บ่นอุบอิบ

" น่า.....ให้เราดื่มอีกนิดนะ "  แมคขอดื่มต่อ

" มีเรื่องอะไรก็พูดมาซักทีสิ   ถ้ายังไม่หยุดดื่ม  แบ๊งค์กลับเองก็ได้ "   พูดจบ  แบ๊งค์ก็เดินออกจากโต๊ะ  แต่แมคคว้าแขนของแบ๊งค์ไว้ก่อน  แบ๊งค์เลยกลับมานั่งที่เดิม

" มีอะไร  พูดมาได้แล้ว "  แบ๊งค์พูดแบบไม่พอใจ

" เราขอโทษนะ  คือเราไม่กล้าน่ะ   แต่ก็จะขอพูดเลยก็แล้วกัน"  แมคเริ่มนิ่ง

"................................ "   แบ๊งค์ยังคงไม่พูดอะไร

" ตอนนี้เราเลิกกับครีมแล้วนะ "   แมคพูดสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้แบ๊งค์ถึงกับอึ้งไปเลยเหมือนกัน

" ความจริงเราไม่ได้รักครีม  มันเป็นแค่ความร้สึกชั่ววูบเท่านั้น"  แล้วแมคก็นิ่งไป

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 28-05-2007 13:19:01
ไมมันจบแบบห้วนๆอ่า คับ เหมือนลงไม่ครบอ่า

ว่าแต่แมคไม่น่าเล้ย ไมคิดว่าทำแบบนั้นแล้วแบงคืจะกลับไปคืนดี.... ทำอย่างกับว่าพอได้xxแล้วเค้าจะรักงั้นแหละ  o21
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-05-2007 20:28:49
ไม่น้า ไม่เอาแม็ครีเทิร์น   o22 จะเอาอาร์ทรีเทิร์น  o9  o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 28-05-2007 22:17:59
อ่านไปตั้งแต่เมื่อคืนแต่ไม่กล้ารีฯ เพราะกลัวปาด
แบบว่าดูท่าทางจะยังลงไม่หมด
แต่ตกลงหมดแล้วใช่ป่ะเนี่ย
...
...
ไม่เอาแม็คอ่ะ
จะเอาพี่อาร์ท o9 o9 o9 o9

แต่ตอนนี้ท่าทางกาวมาแรงง่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 28-05-2007 23:32:26
 :oประทานโทดคับ สงสัยจะยาวไป :try2: post ไม่ได้ดูเร้ย
v
v
ไม่ช่าย ๆ พลาดคับ ดันลงควบคับ เกือบ 2 ตอนเลยยาวไปนิ้ดส์ :o11:
***************************
บทที่ 32 อีกแล้ว


" เรารักแบ๊งค์นะ  ตอนที่แบ๊งค์จากไปวันนั้น  มันยิ่งทำให้เรารู้ว่า  เราขาดแบ๊งค์ไม่ได้"  แมคพูดต่อ

" แบ๊งค์!!!!  กลับมาหาเราเถอะนะ "  แมคร้องไห้ออกมาอีก  จากนั้นแมคก็จับมือแบ๊งค์เอาไว้อีกครั้ง

" แมค...ตอนนี้นายเมามากแล้วนะ  กลับบ้านกันเถอะ "   แบ๊งค์สลัดมือแมคออก

" ไม่!!!  เราจะดื่มต่อ "   แล้วแมคก็ยกแก้วดื่มอีก

" พอได้แล้ว!!!  พี่ครับเก็บเงินด้วยครับ "    แบ๊งค์ลุกขึ้นยืน  แล้วกระชากแก้วเหล้าออกจากมือแมค  พร้อมกับตะโกนเรียกพนักงานให้มาเก็บเงิน  แมคก็นั่งจ้องหน้าแบ๊งค์ซึ่งกำลังยืนอยู่   ท่าทางแมคก็คงจะตกใจกับท่าทีของแบ๊งค์ในครั้งนี้เหมือนกัน  พอเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน  แมคก็จ่ายไป ( ออกเองไม่ไหวอ่ะ  ตังค์มีไม่พอ )  จากนั้นเราก็เดินไปที่รถกัน  แมคเดินเซเล็กน้อย  แบ๊งค์เลยเข้าไปพยุง กลัวว่าแมคจะล้ม

" นายยังขับรถไหวป่ะ  จอดทิ้งไว้แล้วขึ้นแท็กซี่กลับเอามั้ย "   แบ๊งค์ถามเมื่อมาถึงรถแล้ว

" ไหวน่ะ.....ไม่ต้องเป็นห่วง "    แมคโบกมือให้แบ๊งค์  ประมาณว่าไม่เป็นไร

" แมคขับรถดี ๆ นะ  ตอนนี้ชีวิตเราฝากไว้ที่นายนะ "   ไม่รู้ว่าอะไรทำให้แบ๊งค์พูดแบบนั้น  แต่มันก็ทำให้แมคเหมือนจะตั้งสติขึ้นมาได้นิดหน่อย   แบ๊งค์เลยค่อยวางใจขึ้นมาบ้าง

แมคขับรถไม่ค่อยเร็วหรอกครับ   แมคคงจะรู้  ว่าแบ๊งค์กลัว  แมคเลยขับอย่างระมัดระวัง  แต่ท่าทางของแมคก็ยังเหมือนึนเมาอยู่  ภายในรถมีแต่ความเงียบ  จนกระทั่งแบ๊งค์เห็นว่าเส้นทางเปลี่ยนไป  เพราะทางที่แมคขับรถไป  ไม่ใช่ทางที่จะกลับคอนโดแบ๊งค์  แต่เป็นทางไปบ้านของแมค  แบ๊งค์ก็เลยถาม

" แมค!!!  จะไปไหนน่ะ "  แบ๊งค์ถาม

" ไปบ้านเราไง   คืนนี้ค้างบ้านเรานะ "   แมคพูด

" แต่มันยังไม่ดึกเลยนะ  ไปส่งแบ๊งค์กลับคอนโดเถอะนะ "  แบ๊งค์ขอร้อง

" แบ๊งค์....อยู่กับเราเถอะนะ  ตอนนี้เราไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ "    แมคร้องไห้ ( อีกแล้ว )

" อืม....ก็ได้ ๆ เลิกร้องไห้ได้แล้ว  บ่อน้ำตาตื้นจังนะ "   กรูส์ก็ดันแพ้น้ำตาซะด้วย

" ครับ... "   แมครับคำ แล้วก็เงียบไปจนกระทั่งถึงบ้านของแมค  พอเปิดประตู  ไอ้แมคก็เซถลาไปหาถังขยะเลย

" แหวะ....... "     อี๋!!!!!  อ้วกออกมาเต็มเลยว่ะ

" เป็นไงบ้าง  ดีขึ้นบ้างมั้ย "  แบ๊งค์พูดหร้อมกับเอามือลูบหลังแมคไปด้วย

" อื้อ ๆๆๆ ขึ้นไปข้างบนกันเหอะ "   แล้วแบ๊งค์ก็พยุงแมคเดินเข้าห้องไป   เมื่อกี้ก็ไม่ได้ทานอะไรเยอะแยะ  ทำไมตัวหนักอย่างนี้ฟะ

ในที่สุดเราก็มาถึงบนห้อง   พอถึงเตียง แบ๊งค์ก็ปล่อยแมคลงบนเตียงทันที  คนอะไรฟะ หนักสุดตรีน เมื่อกี้ยังทำเป็นเก่งอยู่เลย แต่ดูตอนนี้สิเมาหลับไปแล้ว  แบ๊งค์เลยเปิดตู้เสื้อผ้า  เอาขนหนูไปชุบน้ำอุ่น  ไปเช็ดตัวแมค เฮ้อ~~ชาติที่แล้วกรูส์ไปทำอะไรมันไว้ฟะ  ทำไมกรูส์ต้องมาลำบากแบบนี้ด้วย  ในขณะที่กำลังเช็ดตัวแมค อยู่ดี ๆ แมคมันก็ละเมอออกมา

" แบ๊งค์!!!  แบ๊งค์อย่าทิ้งเราไปนะ "    แมคละเมอออกมา  แล้วจับมือแบ๊งค์เอาไว้ด้วย

" แมค !!! แมคปล่อยนะ   แบ๊งค์เช็ดตัวไม่ถนัด "  แบ๊งค์พยายามแกะมือของแมคออก  ในที่สุดแมคก็สงบลง  แบ๊งค์เลยเอาผ้าไปตากในห้องน้ำ  พอออกมาก็ไม่เห็นแมคนอนอยู่บนเตียง
 
" แมค....แมคไปไหน "  แบ๊งค์เรียกหาแมค

" อยู่นี่ไง "   แล้วแมคก็โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้  เข้ามาโอบกอดแบ๊งค์จากทางด้านหลัง

" เฮ้ย!!!! แมค  ปล่อยเรานะ "  แบ๊งค์พยายามดิ้นให้หลุด  แต่แมคกลับกอดให้แน่นขึ้น

" ไม่ปล่อยหรอก อยากอยู่อย่างนี้ไปนาน ๆ จัง "   แมคกอดแบ๊งค์เอาไว้

" แมค!!นี่นายไม่ได้เมาใช่มั้ย   นายทำแบบนี้ทำไม "  แบ๊งค์ถามแมคไป

" อืม   เราไม่ได้เมาหรอก "  แมคเริ่มไซร้ซอกคอแบ๊งค์

" แมค!!!! "   แบ๊งค์ตะคอกออกมาค่อนข้างจะดัง   แต่แมคก็ยังไม่ยอมหยุด ตรงกันข้าม แมคชกท้องแบ๊งค์  แล้วผลักแบ๊งค์  จนแบ๊งค์ล้มลงบนที่นอน  แล้วแมคก็นอนคว่ำทับแบ๊งค์  แล้วจูบและไซร้ซอกคอแบ๊งค์

" แมค...พอได้แล้ว "  น้ำตาแบ๊งค์เริ่มไหลออกมา  ทำไมนะทั้ง ๆ ที่เราอุตสาห์ไว้ใจ  ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ เมื่อกี้ยังเป็นคนดี แต่ทำไมตอนนี้มันกลับตรงกันข้าม

" เราคิดถึงร่างกายของแบ๊งค์มากเลยรู้มั้ย "  แมคยังไซร้คอแบ๊งค์ต่อไป

" แมค   เราขอร้อง  พอเถอะนะ "  แบ๊งค์เริ่มไม่มีแรงที่จะขัดขืนหรือร้องไห้แล้ว

" เรากลับไปเป็นอย่างเดิมเถอะนะ "  แล้วแมคก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าของตัวเอง  จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของแบ๊งค์ออกบ้าง  แบ๊งค์ก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วจริง ๆ ครับ 

แมคประกบจูบกับแบ๊งค์ในขณะที่แบ๊งค์กำลังร้องไห้   แมคค่อย ๆ เลื่อนลงมาไซร้ซอกคอ  จากนั้นก็ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงยอดอก แล้วแมคก็หยุดไป

" แบ๊งค์ ......เรารู้นะว่าถ้าเราทำแบบนี้มันผิด   เราขอโทษ  เราอดใจไม่ไหวจริง ๆ " 
 
" กลับมาเป็นของเราเถอะนะ "  แล้วแมคก็จับแบ๊งค์ถ่างขาออกมา  จากนั้นแมคก็สอดใส่ท่อนเนื้อของแมค เข้าสู่ร่างกายของแบ๊งค์  แล้วแบ๊งค์ก็สลบไป  มันเป็นการมีอะไรกันอีกครั้ง  หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน
เช้าวันรุ่งขึ้นแบ๊งค์ก็ตื่นขึ้นมา  แต่ไม่เจอแมคครับไม่รู้แมคไปไหน  ตอนนี้แบ๊งค์ใส่ชุดนอนของแมคอยู่  แมคเอามาใส่ให้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  แบ๊งค์ก็เลยออกมาข้างนอกห้อง  ลงไปตามบันได  ได้ยินเสียงคนอยู่ในครัว  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปดู 

" ตื่นแล้วหรอครับที่รัก "   แมคหันมาทักทายตอนเช้า
 " แมคทำกับเราแบบนี้ได้ยังไง "  แบ๊งค์เริ่มโวยวาย

" เราสู้อุตสาห์ไว้ใจนาย  แต่นายกลับมาทำกับเราแบบนี้หรอ "    แบ๊งค์เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง  แมคก็ยืนนิ่งไป

" เรา.....เราขอโทษ "   แมคพูดเสียงเศร้า ๆ

" เราเมา   เราไม่รู้ตัว  เราคุมตัวเองไม่ได้จริง ๆ "    แมคดูเหมือนน้ำตาจะไหล

" ขอโทษหรอ  คำขอโทษมันจะมีค่ามากกว่านี้นะ  ถ้านายคิดก่อนที่จะทำอ่ะ "  แบ๊งค์พูดไปร้องไห้ไป

" ก็เรารักแบ๊งค์จริง ๆ นะ เรากลัวไม่ได้กลับไปคบกับแบ๊งค์อีก  เราถึงต้องใช้วิธีนี้ "  แมคอธิบายมา

" กลับไปคบหรอ? แมค...มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก "   แบ๊งค์พูด

" ทำไมล่ะแบ๊งค์  แบ๊งค์รังเกียจเราหรอ "  แมคมองหน้าแบ๊งค์   ตอนนี้แมคก็เริ่มที่จะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน

" ไม่หรอกเราไม่เคยรังเกียจแมคเลย  แต่เราคงกลับไปคบแมคแบบเดิมไม่ได้"

" เราให้แมคได้อย่างมากก็แค่เพื่อน   และถ้าแมคอยากกลับมาคุยกับเรา  มันก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้นี่  ทำไมแมคต้องมาทำร้ายจิตใจเราแบบนี้ด้วย "   แบ๊งค์พูด

" เรา................. "  แมคยังไม่ทันที่จะได้พูด

" ไม่ต้องพูดหรอก  คำว่าขอโทษน่ะ  เก็บคำ ๆ นี้ไว้แล้วกลับไปปรับปรุงตัวจะดีกว่านะ"  แบ๊งค์พูด  แมคก็ได้แต่เงียบ

" แบ๊งค์.......เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ย "  แมคถาม

" แมค.....สำหรับการกระทำเมื่อคืน  เราจะไม่โกรธแมคหรอกนะ  เราจะให้โอกาสแมคอีกครั้งหนึ่ง  แต่แมคก็ต้องรู้ไว้ด้วยว่า  ระหว่างเราสองคน  เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น "   แบ๊งค์พูดยาวเหยียดในขณะที่ยัง ร้องไห้ไปด้วย

" อืม...เราผิดไปแล้วจริง ๆ "   แล้วแมคก็เดินเข้ามาสวมกอดแบ๊งค์ไว้   และแบ๊งค์ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร  แบ๊งค์อยากที่จะลองให้โอกาสแมคอีกครั้ง  ถึงแม้มันจะทำให้แบ๊งค์เจ็บก็ตาม

" ไปทานข้าวเช้ากันนะ "   แมคจูงมือแบ๊งค์ไปนั่งที่โต๊ะอาหาร  แล้วเราก็ทานข้าวเช้าด้วยกัน  บรรยกาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเงียบ  ไม่มีใครยอมพูดอะไรทั้งแมคและแบ๊งค์

บ้านแมคดูเงียบ ๆ ครับ  เพราะคนที่บ้านไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมด  มิน่าล่ะ  ถึงได้กล้าที่จะพาแบ๊งค์มาทำอะไรแบบนั้นที่นี่   เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จแบ๊งค์ก็ดลับขึ้นไปอาบน้ำข้างบน

" จะไปไหนหรอ "   แมคถาม

" เราจะไปอาบน้ำ  จะได้กลับคอนโดซะที "   แบ๊งค์พูด   แล้วแบ๊งค์ก็ขึ้นไปอาบน้ำ
พอออกมาจากห้องน้ำ  ก็เห็นเสื้อผ้าชุดที่แบ๊งค์ใส่มาเมื่อคืนวางอยู่บนเตียง  แบ๊งค์ก็เลยใส่ชุดนั้นแล้วเดินลงไปชั้นล่าง  ก็เห็นแมคนั่งดูทีวีรออยู่แล้ว

" มาแล้วหรอ  ป่ะเดี๋ยวเราไปส่ง "   แบ๊งค์ก็เดินตามแมคไปขึ้นรถ  แล้วแมคขับรถออกจากบ้าน แมคขับรถอย่างระมัดระวัง  ภายในรถยังคงมีแต่ความเงียบ  ขับไปได้ซักพักอยู่ดี ๆ แมคก็เปลี่ยนเส้นทางเลี้ยวเข้าไปสวนเบญจกิตติซะงั้น

" แมค  จะไปไหนน่ะ "   แบ๊งค์ถาม

" เราเห็นว่าแบ๊งค์ยังซึม ๆ อยู่  เราเลยอยากให้แบ๊งค์ผ่อนคลาย  ลงไปเดินเล่นกันนะ "  แล้วเราทั้งสองคนก็ไปเดินเล่นด้วยกัน  แมคเดินข้าง ๆ แบ๊งค์   เราอยู่ค่อนข้างจะห่างจากกัน

" แบ๊งค์  เราขอโทษนะ "   อยู่ดี ๆ แมคก็พูดขึ้นมา  แบ๊งค์เลยหันไปมองหน้าแมค

"........................... "   แบ๊งค์เงียบ  ไม่มีเสียงตอบรับอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

" เรารู้   แบ๊งค์ยังไม่หายโกรธเราจริง ๆ หรอก "   แมครู้ทันแฮะ

" เราขอโทษ  เราผิดเองที่คิดว่าถ้าใช้วิธีนั้น  แล้วแบ๊งค์จะยอมกลับมา "   แมคพูด

"......................... "    แบ๊งค์ยังคงเงียบ

" แต่ผลสุดท้ายมันก็ทำให้แบ๊งค์เกลียดเรามากขึ้น "   เสียงของแมคดูเศร้าลง

" เราขอฟังจากปากแบ๊งค์เป็นครั้งสุดท้ายนะ   ว่าแบ๊งค์เกลียดเรา  แล้วเราจะไม่มาให้แบ๊งค์เห็นหน้าอีกตลอดไป "   แมคพูด  เหมือนน้ำตามันจะไหลอีกแล้ว ( อะไรวะผู้ชายอะไร  บ่อน้ำตาตื้นสุดตรีน  แค่นี้ก็ร้องแระ )

" แมค...เรายอมรับนะว่าเรายังโกรธนายอยู่ "   แบ๊งค์พูดขึ้นบ้าง

" ก็เพราะการกระทำที่นายได้ทำลงไปเมื่อคืน  มันผิดมากจริง ๆ  นายก็คงรู้นะ "

" แต่เราไม่เกลียดนายหรอก  ครั้งนี้เราจะให้อภัยนาย  แต่นายก็ต้องรับรู้ไว้อย่างหนึ่ง "   แล้วแบ๊งค์ก็เงียบไป

" อะไรหรอ "    แมคถาม

" เราคงกลับไปเป็นแฟนนายไม่ได้  เราสองคนจะเป็นได้อย่างมากที่สุดก็แค่เพื่อนกัน"

" เราให้นายได้แค่นี้จริง ๆ "   แล้วแบ๊งค์ก็เงียบไปอีกครั้ง

" อืม...เราเข้าใจ "   แมคผงกหัว

" ตอนนี้เราขอแค่แบ๊งค์ไม่โกรธเราก็พอแล้ว "   แมคพูด  จากนั้นอีกซักพัก   แมคก็ไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด

" กลับมาแล้วหรอ "  พี่นุ่นทัก

" อืม ช่าย "   แบ๊งค์พยายามทำตัวให้เป็นปกติ

" ไปทำอะไรมาอ่ะ  ตาแดง ๆ ร้องไห้มาหรอ "   พี่นุ่นถาม

" จะบ้าหรอ  ใครจะร้องไห้   ที่ตาแดงคงเพราะ  กำลังจะกลายพันธุ์เป็นปีศาจมั้ง "   แบ๊งค์พูดติดตลก  เพื่อหลบเลี่ยงการจับผิดของพี่นุ่น

" อ่ะจ้า   จะเข้าห้องเลยหรอ "   พี่นุ่นตอบกลับ

" อืม  คงจะนั่งเล่นเกมซักพักอ่ะ "   แบ๊งค์บอก

" งั้น  เดี๋ยวซักบ่าย ๆ เราไปหาอะไรทานกันนะ "   พี่นุ่นชวน

" อืม...เอาดิ  แล้วเข้ามาเรียกนะ "   แบ๊งค์พูด   จากนั้นแบ๊งค์ก็เข้าห้องไป



เมื่อถึงในห้อง  แบ๊งค์ก็ตรงเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์   ตอนนี้มันก็มีฝุ่นเริ่มที่จะมาเกาะบ้าง  ใช่สิ....แบ๊งค์ลืมไปเลยนะเนี่ย    ว่าแบ๊งค์ไม่ได้แตะคอมพิวเตอร์มานานเท่าไหร่แล้ว   ช่วงนี้แบ๊งค์มัวอยู่กับเพื่อน  ก็เลยไม่ค่อยที่จะได้  เข้ามาเปิดเล่นซักเท่าไหร่  เพื่อน?......ลืมไปเลยอ่ะ  นายโต้!!!!แบ๊งค์ไม่ได้ติดต่อกับนายโต้ซะนานเลย   นายโต้หายไปไหนนะ  Message  ก็ไม่ได้ส่งมาเหมือนเมื่อก่อน  พอลองโทรไปหา  ก็ปิดเครื่อง  สงสัยมันคงจะเจอคนใหม่ที่ถูกใจแล้วมั้ง  แบ๊งค์เลยลองเปิด MSN ดูว่ามันจะออนรึเปล่า   มันออนด้วยครับแบ๊งค์เลยรีบเข้าไปทัก

badboy_be_sadboy  say :
ดีคับ

คนแปลกหน้า say:
คัฟป๋ม

badboy_be_sadboy  say :
ไม่ได้เจอกันนานเรยนะ

คนแปลกหน้า say:
อืม ใช่

badboy_be_sadboy  say :
โทดทีนะช่วงนี้เราอยู่กับเพื่อนมากไปหน่อยอ่ะ

คนแปลกหน้า say:
อืม  ไม่เป็นไรหรอก

คนแปลกหน้า say:
เราก็อยู่กับเพื่อนเหมือนกัน

คนแปลกหน้า say:
ช่วงนี้เราก็ไม่ได้มาเล่นบ่อย ๆ เหมือนกัน

badboy_be_sadboy  say :
เป็นไงบ้างเรื่องนายกับคน ๆ คนนั้นอ่ะ

คนแปลกหน้า say:
ก้อดีอ่ะ   แอบรักเหมือนเดิม

badboy_be_sadboy  say :
กำ....ซะงั้น

คนแปลกหน้า say:
ตอนนี้เค้าเลิกกับแฟนของเค้าแล้วนะ

badboy_be_sadboy  say :
งั้นก้อดีสิ 

badboy_be_sadboy  say :
ตอนนี้ก้อเปนโอกาสที่ดีเลยนะที่นายจะได้บอกออกไปซะที

คนแปลกหน้า say:
เราไม่กล้าหรอก

คนแปลกหน้า say:
อยู่กันแบบนี้แหละ  เราชอบแบบนี้อ่ะ

badboy_be_sadboy  say :
ไม่อึดอัดแย่หรอ

คนแปลกหน้า say:
ไม่หรอก  ตอนนี้อ่ะ  เค้าดูสดใสมาก ๆ เลย

badboy_be_sadboy  say :
อ้าว  เค้าเลิกกับแฟนไม่ใช่หรอ

badboy_be_sadboy  say :
ทำไมยังสดใสร่าเริงล่ะ

คนแปลกหน้า say:
ไม่รู้สิ  แต่เราว่าเค้าคงทำใจได้อ่ะ

คนแปลกหน้า say:
ตอนที่เค้าสดใสแบบนี้อ่ะ  น่ารักมากมายเลย

badboy_be_sadboy  say :
อืม   ก้อดีแล้ว

badboy_be_sadboy  say :
ตกลงนายจะไม่บอกเค้าจริง ๆ อ่ะ

คนแปลกหน้า say:
อืม  ไม่บอกหรอก

badboy_be_sadboy  say :
ตกลงนายจะไม่บอกเค้าจริง ๆ อ่ะ

คนแปลกหน้า say:
อืม  ไม่บอกหรอก

badboy_be_sadboy  say :
น่าสงสารจัง

badboy_be_sadboy  say :
สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อแล้วมั้ง

คนแปลกหน้า say:
เปลี่ยนชื่ออะไรหรอ

badboy_be_sadboy  say :
ก้อเปลี่ยนจากคนแปลกหน้า  เป็นคนขี้อายแทนไง

คนแปลกหน้า say:
อ้าว   ซะงั้น

badboy_be_sadboy  say :
คนขี้อาย  ต๊ายตายเท่จัง

badboy_be_sadboy  say :
คนขี้อายที่ฉันไฝ่ฝัน   คนขี้อายช่างน่ารักจัง

badboy_be_sadboy  say :
ฉันนั้นอยาก.....อยากจะกอดเธอนั้นเป็นที่สุด

badboy_be_sadboy  say :
อิอิ    เคยฟังป่าว

คนแปลกหน้า say:
เคยดิ   ของ TK  ป่ะ

badboy_be_sadboy  say :
อืม  ตรงกะนายเลยนะ

badboy_be_sadboy  say :
มอบเพลงนี้ให้นายเลย   หุหุ

คนแปลกหน้า say:
ซะงั้น

คนแปลกหน้า say:
งั้นก้อแสดงว่าแบ๊งค์ก้ออยากกอดเราอ่ะดิ

badboy_be_sadboy  say :
บร้า

badboy_be_sadboy  say :
(-////////-)

คนแปลกหน้า say:
ฮะฮะฮะ

badboy_be_sadboy  say :
พอแร้น   อายนะเฟ้ย

คนแปลกหน้า say:
ค้าฟป๋ม   ไม่แซวแร้น

คนแปลกหน้า say:
แบ๊งค์อ่ะเปนไงบ้าง

badboy_be_sadboy  say :
ก้อมีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ

badboy_be_sadboy  say :
สำหรับึนอื่นมันอาจเปนเรื่องใหญ่นะ

badboy_be_sadboy  say :
แต่เราชินแล้วล่ะ  ที่จะมีคนมาทำอะไรเราแบบนี้

คนแปลกหน้า say:
เรื่องอะไรหรอ  บอกเราได้ป่าว

badboy_be_sadboy  say :
ขอโทดนะ  เราคงบอกนายไม่ได้หรอก

คนแปลกหน้า say:
ไม่เปนไร ๆ แต่ก้ออย่าคิดมากนะ

badboy_be_sadboy  say :
อืมคัฟป๋ม

badboy_be_sadboy  say :
เปลี่ยนเรื่อง ๆๆๆๆๆๆ คุยเรื่องนี้แร้นเครียด

badboy_be_sadboy  say :
เครียด  เงี่ยน  ชักว่าว

คนแปลกหน้า say:
เฮ้ย!!!!

badboy_be_sadboy  say :
อ่ะ  ล้อเล่นนนน

คนแปลกหน้า say:
กำ

badboy_be_sadboy  say :
หุหุ

คนแปลกหน้า say:
อิอิ


แล้วแบ๊งค์กับโต้ก็คุยกันต่อไปเรื่อย ๆ ครับ   รู้สึกสบายใจจังเวลาคุยกับนายโต้  โชคดีจังที่โต้ไม่โกรธแบ๊งค์   ที่แบ๊งค์หายไปนานซะขนาดนั้น 

" แบ๊งค์ไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ "  พี่นุ่นตะโกนเข้ามาในห้องครับ

" ครับบ  เดี๋ยวแบ๊งค์จะออกไปนะ "   แบ๊งค์ขานตอบ

แล้วแบ๊งค์ก็ขอลานายโต้ออกมาทานข้าวกลางวันก่อน   โดยนัดกันว่าจะกลับมาเจอกันอีกตอนดึก ๆ ( เพราะเดี๋ยวแบ๊งค์จะหลับเอาแรง )  พอลาเสร็จแบ๊งค์ก็ลงมาทานอาหารตามสั่งกับพี่นุ่นที่ชั้นล่างของคอนโด  อยู่ดี ๆ เสียง Message ก็ดังขึ้น


ทานให้อร่อย  แล้วก็ทานให้เยอะ ๆ นะ
จะได้โตกะเค้าบ้างซะที
>>>>>โต้เองครับ<<<<<


   พอแบ๊งค์เห็นข้อความก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ครับ  ไม่รู้สิ รู้สึกดีจังที่ได้รับข้อความนี้  ไม่รู้เป็นอะไร  เหมือนว่าการที่แบ๊งค์ได้คุยกับนายโต้มันช่วยทำให้แบ๊งค์  ลืมสิ่งร้าย ๆ ออกไปได้  พี่นุ่นเริ่มสังเกตได้  เจ้ก็เลยแซว

" ยิ้มใหญ่เชียว   สงสัยผัดซีอิ๊วจานนี้คงไม่ต้องเติมน้ำตาลซะแล้วมั้ง "   พี่นุ่นแซว

" โห....เจ้   ไม่ต้องมาแซวเลย "     แบ๊งค์อายจนหน้าแดงแล้วครับ

" อะไรเนี่ย  ทำไมผัดไท จานของชั้นมันหวานเหมือนรถน้ำตาลไปคว่ำ  อยู่เลยเนี่ย "   พี่นุ่นยังแซวไม่เลิก

" เพราะเธอนั่นแหละ   ตาแบ๊งค์ "   พี่นุ่นโบ้ยมาซะงั้น

" อ้าวเจ้   เกี่ยวกันป่ะเนี่ย " "   แบ๊งค์ทำท่างง ๆ

" ก็เล่นหวานซะขนาดนั้น  ไอความหวานมันก็แผ่มาถึงจานชั้นน่ะสิ "   เจ้ยังเล่นต่อ

" เฮ้อ~~ เจ้กรูส์  ทำไปได้.. "    แล้วเราก็ทานอาหารมื้อนั้นอย่างสนุกสนาน  และเอร็ดอร่อย  พอตกกลางคืนแบ๊งค์ก็ยังคงมาเล่นเอ็มอีก  ก็นัดนายโต้ไว้นี่นา  เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิมนะครับ  ไม่รู้สิ  พอคุยกันทีไร มีเรื่องผุดมาให้คุยกันใหญ่  แบ๊งค์เลยชวนนายโต้ไปเล่น Audition  ด้วยกัน  สรุปว่าคืนนั้นแบ๊งค์นอนเกือบ ๆ ตี 3 ดีนะที่วันรุ่งขึ้นไม่มีเรียน  ไม่งั้นต้องตายแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 29-05-2007 00:15:28
บทที่ 33  อะไรกันเนี่ย

วันนี้แบ๊งค์ไปสายอีกแล้วครับ  เมื่อคืนไปซื้อหนังมาดู  เลยดูเพลินไปหน่อย  วันนี้เลยตื่นสายจนได้  แล้วป้านุ่นก็เป็นไข้ซะงั้นอีก  แบ๊งค์เลยต้องขึ้นรถเมลล์มามหาวิทยาลัยเอง  ก็เลยมาสายจนได้  พอไปถึงที่โต๊ะประจำ  ก็เจอพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ นั่งอยู่กันครบเลยครับ

"เสด็จมาแล้วหรอพะยะค่ะ  เจ้าชายน้อยแสนดื้อ "   พี่ตั้มแซวครับ

"เฮ้ย!!!รู้ได้ไงอ่ะ   พี่โป้ง!กาว! "  แบ๊งค์หันไปหาคนที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุ 

"ไม่รู้นะ "   พี่โป้งรีบส่ายหัว

"มะรุมะชิ "   ไอ้กาวทำเป็นมองไปทางอื่น

"เออ ๆๆ ช่างเหอะ  ฝากไว้ก่อนนะ พวกองครักษ์ทั้งหลาย "   แบ๊งค์พูดประชดไป

"ทานอะไรก่อนดีกว่ามั้ยครับน้องแบ๊งค์ "  แล้งพี่โป้งก็ยื่น  แซนวิชกับนม 1 กล่องให้แบ๊งค์

"ขอบคุณครับ "   แบ๊งค์ขอบคุณไป

ขณะที่แบ๊งค์กำลังจะแกะห่อแซนวิช  อยู่ดี ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา  แบ๊งค์เลยเอาทรศัพท์ออกมาดู  แมคโทรมาหาครับ

"สวัสดีครับ "   แบ๊งค์รับโทรศัพท์

"แบ๊งค์หรอ  ตอนนี้ตอนอยู่ไหนอ่ะ "  แมคถาม

"ก็โต๊ะประจำ  ที่เก่านั่นแหละ "   แบ๊งค์ตอบ

"เราไปหาได้มั้ย "   แมคพูดเสียงเบา ๆ

"อืม   ก็มาสิ "  แบ๊งค์ตอบ

"เดี๋ยวเราไปหานะ "   แล้วแมคก็วางสายไป   แล้วแบ๊งค์ก็นั่งทานแซนวิชต่อไป    แล้วแมคก็เดินเข้ามาแล้วนั่งใกล้ ๆ กับแบ๊งค์

"หวัดดีตอนเช้าครับทุก ๆ คน "   แมคทักทาย

"เมริงมาที่ทำไม  กรูส์บอกแล้วใช่มั้ย... "  พี่ตั้มกระชากคอเสื้อแมคแล้วโวยวาย  ทำท่าเหมือนจะชก  แต่แบ๊งค์ห้ามไว้ก่อน

"พี่ตั้มอย่านะ!!!!  แบ๊งค์เรียกเค้ามาเอง "   แบ๊งค์พูด  พี่ตั้มเลยสลบลง

"แบ๊งค์!!!เรียกมันมาทำไม  จำไม่ได้หรอว่ามันทำอะไรกับแบ๊งค์บ้าง "   พี่ตั้มทำท่ากระฟัดกระเฟียดเวลามองไปทางแมค

"ตั้ม....ฟังน้องอธิบายก่อนดีกว่ามั้ย "   พี่โป้งพูดครับ  ดูเป็นคนใจเย็นจังเลยนะ

"นั่นสิครับ  เราลองมาฟังแบ๊งค์กับแมคก่อนดีมั้ย  อย่าเพิ่งทำอะไรเลย  ดูดิแมคมันกลัวไปหมดแล้ว "   กาวพูด  แล้วทุกคนก็หันไปมองแมค   จริง ๆ ด้วยแมคดูหวาดกลัวพี่ตั้มอย่างเห็นได้ชัด

"แบ๊งค์เรียกอนุญาตให้เค้ามาเองแหละ  ตอนนี้แบ๊งค์กับแมคเป็นเพื่อนกัน.......เหมือนเดิมแล้ว "  แบ๊งค์พูด

"เหมือนเดิมหรอ  งั้นแสดงว่าแบ๊งค์จะกลับไปคบมันให้มันทำร้ายจิตใจอีกหรอ "   พี่ตั้มโวยวายอีก

"ไม่ใช่!!!!!พี่ตั้มอ่ะ  คิดไปไกลแล้ว   แบ๊งค์กับกลับมาในฐานะเพื่อนเท่านั้น  ไม่คิดอะไรกันจริง ๆ "   แบ๊งค์รีบแก้ตัว

"ถึงแบ๊งค์ไม่คิด  แล้วถ้ามันคิดแล้วจับแบ๊งค์ไปปล้ำล่ะ "  พี่ตั้มยังโวยวายต่อ   แต่คำพูดคำนี้ของพี่ตั้มเล่นเอาคนนิ่งไปถึง 3 คน  ปล้ำหรอ......พอได้ยินคำ ๆ นี้   พี่โป้ง  และแมคต่างมองมาทางแบ๊งค์  เหมือนว่าจะบอกอะไรซักอย่าง 

"เออ....ไม่มีทางหรอก  มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน  ใช่มั้ยแมค "   แบ๊งค์หันไปทางแมค

"ค...ค...ครับไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน "    แมคพูด

"แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจนี่นา  คนเราทำไปแล้วครั้งหนึ่งจะให้ไว้ใจอีกมันก็ยากอ่ะนะ  ใช่มั้ยโป้ง "   พี่ตั้มหันไปถามพี่โป้ง

"......................... "   พี่โป้งนิ่งเงียบ  เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างกับคำพูดของพี่ตั้ม

"ใช่มั้ยโป้ง!!!!!!!! "     พี่ตั้มย้ำ

"อ....อ..เออใช่ "   พี่โป้งตอบตะกุตะกัก

"เห็นมั้ย   ไม่มีคนไว้ใจหรอกแบ๊งค์  คนมันเคยผิด  มันจะสำนึกได้หรอ "   พี่ตั้มยังคงพยายามที่จะให้แบ๊งค์เปลี่ยนใจในการให้อภัยแมค

"ไม่หรอก  เราต้องให้โอกาสเค้าสิพี่ตั้ม   คนเรามันก็เคยผิดกันทั้งนั้น "  แบ๊งค์พูด

"ใช่ครับ  ผมว่าพี่ตั้มลองให้โอกาสแมคหน่อยนะ   ถ้ามันยังทำผิดกับแบ๊งค์อีก  ทีนี้เราก็ค่อยมาว่ากันอีกที "     กาวช่วยเสริมครับ   มีดีเหมือนกันนะเพื่อนคนนี้

"แต่ต้องให้แบ๊งค์  ไปทนให้มันทำผิดอีกรอบก่อนนะหรอ  กรูส์รับไม่ได้ว่ะ  น้องกรูส์นะเว้ย "  พี่ตั้มยังทำท่าไม่พอใจต่อไป

"พี่ตั้ม   พอได้แล้วน่า   แบ๊งค์ไม่เป็นอะไรหรอก  แบ๊งค์จะพยายามป้องกันตัวเองนะ "  แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอย่างไร

"เมริงก็ระวังตัวไว้นะ  ถ้าเมริงมาทำให้น้องกรูส์ต้องเจ็บอีกรอบ  เมริงไม่ได้ตายดีแน่ ๆ "   พี่ตั้มก้มหน้าลงไปพูดกับแมคซึ่งตอนนี้ท่าทางดูหวาดกลัวอย่างมาก

"เข้าใจมั้ย "   พี่ตั้มเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ แมค

"ค...ครับ "    แมคตอบรับพี่ตั้มไป

"พี่ตั้มพอได้แล้ว   แมคกลัวหมดแล้ว "   พูดจบ  แบ๊งค์ ก็ดึงพี่ตั้มออกมาให้กลับไปนั่งที่เดิม

"แบ๊งค์ก็ด้วย  ดื้อจริง ๆ เลยนะเจ้าชายแสนซนองค์นี้ "    พี่ตั้มแซว  ( แต่ก็ยังไม่พอใจ )

"น่า ๆๆๆ อย่างอนนะ  เดี๋ยวให้รางวัล "   แล้วแบ๊งค์ก็ก้มหน้าไปใกล้ ๆ หน้าพี่ตั้ม แล้วสูดหายใจสั้น ๆ ให้มีเสียง ( ประมาณว่าคล้าย ๆ หอมแก้มอ่ะ

"เฮ้ย!!!!! "    พี่ตั้มตกใจ  ความจริงไม่ใช่แค่พี่ตั้มหรอก  ทั้งพี่โป้ง  กาว และแมคก็ดูท่าทางตกใจไปไม่น้อยไปกว่ากัน  คงตกใจไม่คิดว่าแบ๊งค์จะกล้าทำแบบนี้มั้ง   ความจริงมันก็ไม่เห็นเป็นไรซักหน่อย  เพราะไม่ได้หอมแก้มกันจริง ๆ ซะหน่อย

"ฮะฮะฮะ "    แบ๊งค์กหัวเราะ

"ไม่ต้องมาเล่นเลยนะ   อย่าคิดนะว่าทำแบบนี้จะหายโกรธอ่ะ "   พี่ตั้มพูดในท่าทางไม่พอใจ  แต่ทำไมหน้าแดง ๆ ก็ไม่รู้ 

"ถ้าจะหัวเราะก็หัวเราะออกมาเลย  ไม่ต้องกลั้นไว้  ดูดิหน้าแดงหมดแล้ว "  แบ๊งค์แซว

"อะไร ๆๆ ใครหน้าแดง  ไม่มีเว้ย  ป่ะไอ้โป้งไปเรียนกันดีกว่า "   แล้วพี่ตั้มก็ชวนพี่โป้งไปเรียน  แต่แปลกอ่ะ  ชวนพี่โป้งแท้ ๆ แต่ตัวเองกลับไม่รอ เดินดุ่ม ๆ ไปซะงั้น

"พี่ไปก่อนนะครับน้องแบ๊งค์ "   พี่โป้งลา

"ครับผม "  แบ๊งค์ตอบกลับไป

"อย่าดื้อให้มากนักล่ะ "   พี่โป้งกำชับครั้งสุดท้าย

"อ่ะนะ  ไม่ดื้อแล้ว "   แบ๊งค์ตอบ

"เฮ้ยไอ้โป้ง  มาได้แล้วกรูส์อยากไปเรียนแล้วเว้ย "   พี่ตั้มตะโกนมา

"เออ ๆๆๆ กรูส์กำลังจะไปแล้วนี่ไง "    แล้วพี่โป้งก็วิ่งตามพี่ตั้มไป

"อ่ะนี่  ของกินแยะเลย  ช่วย ๆ กันทานสิ "   แบ๊งค์บอกแมคกับกาว

"อืมก็ทานอยู่นี่ไง "   กาวพูดเสร็จก็ทานแซนวิชต่อ

"ปวดฉี่จัง  เดี๋ยวเรามานะ  แวบไปก่อน "   แบ๊งค์พูด

"อืม ไปสิ  เดี๋ยวเรานั่งอยู่ที่นี่รอกับกาวนะ "   แมคพูด  จากนั้นแบ๊งค์ก็รีบวิ่งไปห้องน้ำปล่อยให้ สองคนนั้น  นั่งกินนั่งพูดกันต่อไป  ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันซะนาน  สงสัยจะคุยกันไม่หยุดแน่ ๆ

"เมริงกลับมาทำไมวะ "   กาวพูดกับแมค

"ทำไมหรอ "   แมคทำหน้าสงสัย

"เมริงทำแบ๊งค์เจ็บขนาดนั้น  แล้วเมริงยังกล้ากลับมาอีกหรอ "   แมคพูดแบบไม่พอใจ

"ก็แบ๊งค์ให้อภัยกรูส์แล้วไง   เมริงไม่ได้ยินหรอเมื่อกี้อ่ะ "   แมคพูด

"แบ๊งค์อุตสาห์จะลืมเมริง  ลืมเรื่องร้าย ๆ ไปได้แล้วแท้ ๆ เมริงจะกลับมาทำไม "   กาวยังทำท่าไม่พอใจเหมือนเดิม

"เฮ้ย!!!เมริงเป็นอะไรไปวะเนี่ย "    แมคพูด  และทำท่าเหมือนว่าจะเอามือตบไหล่กาว  แต่กาวปัดมือออกกอย่างรวดเร็ว

"เมริงไม่ต้องมาแตะต้องตัวกรูส์  เอามือสกปรก ๆ ของเมริงที่เคยทำผิดต่อแบ๊งค์ออกไป "   กาวดูท่าทางโกรธมาก

"โอเค ๆๆ กรูส์รู้นะว่าเมริงคงไม่พอใจกับการกระทำของกรูส์ในคราวก่อนมาก "

"แต่กรูส์ขอโทษ   ขอโทษจริง ๆ คือตอนนั้นกรูส์ไม่รู้ใจตัวเอง  ว่ากรูส์ชอบแบบไหน " แมคพูด  เหมือนว่าแมคพยายามจะพูดให้กาวเย็นลง

"เมริงก็เลยใช้แบ๊งค์เป็นเครื่องทดสอบอย่างนั้นหรอ "   กาวถาม

"ไม่ใช่นะเว้ย!!!!กาวฟังกรูส์ก่อนดิ "    แมคพยายามเกลี้ยกล่อมกาวให้ยอมฟัง

"เออ....เมริงมีอะไรจะพูดอีก  ว่ามา "   กาวบอกให้แมคพูดต่อ

"แต่ตอนนี้กรูส์รู้แล้ว   ว่ากรูส์ชอบแบ๊งค์   แต่มันก็คงสายไปแล้วว่ะ  แบ๊งค์เค้าไม่ได้รักกรูส์แล้ว  กรูส์เป็นได้แค่เพื่อนของเค้าแล้วในตอนนี้ "   แมคพูดเสียงเศร้า ๆ 

"เมริงไม่ต้องห่วงนะ  ว่ากรูส์จะไปทำอะไรให้แบ๊งค์เจ็บอีก  กรูส์สัญญาเว้ย "   แมคพูด

"อืม.............. "    กาวดูเย็นลงกว่าเมื่อกี้มาก

"กรูส์ขอโทษ   เมริงยกโทษให้กรูส์นะเว้ย  ตอนนี้กรูส์ไม่มีใครแล้วจริง ๆ "   แมคพูด

"เออ....ในเมื่อแบ๊งค์ให้อภัยเมริงแล้ว   กรูส์ก็ต้องให้อภัยเมริงมั่งดิวะ "   กาวพูด

"ขอบใจเมริงมาก ๆ เลยว่ะ "   แมคหัยไปมองกาวอย่างจริงจัง

"แต่เมริงก็ระวังไว้อย่างหนึ่งด้วย "   กาวเตือน

"อะไรวะ "   แมคถาม

"พี่ตั้มไง   เค้าคงไม่ไว้ใจเมริงอีกต่อไปแล้วล่ะ "   กาวพูด

"นั่นดิ   พี่เค้าคงเกลียดกรูส์มากจริง ๆ "    แมคพูด  ดูแมคจะเหนื่อยใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน

"เอาไว้ถ้ากรูส์มีโอกาส  กรูส์จะช่วยพูดกับพี่ตั้มให้เองนะเว้ย "   กาวพูด

"จริง ๆ นะเว้ย  ขอบใจเมริงว่ะ "   แมคจับมือกาว  ท่าทีของแมคดูสดใสขึ้น

"คุยอะไรกันหนุ่ม ๆ ดูท่าทางสนุกสนานเลยนะ "   แบ๊งค์กลับมาจากห้องน้ำแล้ว

"ไม่มีอะไรหรอก  ก็เรื่องทั่วไป   ไม่มีอะไรมากหรอก "   แมคพูด

"ไปเข้าห้องน้ำมา  ล้างมือป่าวเนี่ย "   กาวถาม

"ล้างดิ  เนี่ยออกจะห้อมหอม "   แบ๊งค์เอามือขึ้นมาดม  ก็มันหอมจริง ๆ นี่นา

"ไม่เชื่อหรอก  อี๋.......เหมือนจะตา "     กาวยังแซวไม่เลิก

"ไม่เชื่อก็ดมดูดิ  อ่ะ ๆๆๆ "  แบ๊งค์เอามือยื่นไปใกล้จมูกกาว  แต่กาวมันก็พยายามหลบ

"ไม่เอาเว้ย   เหม็น ๆๆ "   กาวยังไม่ยอม

"แมคจับหัวกาวไว้ดิ "   แบ๊งค์สั่ง

"ได้เลย!!!! "    แล้วแมคก็ลอคคอกาวเอาไว้   

"เฮ้ย!!!! ขี้โกงว่ะ "    กาวโวยวาย   แล้วแบ๊งค์ก็เอามือบี้ ๆๆ ที่หน้าของกาว

"เป็นไง ๆๆ หอมป่ะ  ๆๆๆ "   แบ๊งค์ถาม

"เออ ๆๆๆๆ หอมเว้ย "   กาวตอบ  แล้วแมคก็ปล่อยกาวออก

"จำไว้นะพวกเมริง "   กาวขู่ครับ   แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจ  แบ๊งค์กับแมคเอาแต่หัวเราะกันใหญ่

ตอนกลางวันเราก็ไปทานข้าวด้วยกันครับ  ตามคาดเลย  พี่ตั้ยังคงทำท่าไม่พอใจอยู่เหมือนเดิมที่เห็นแมคมาด้วย  ครั้งนี้พี่แกก็เลยมานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ซะเลย  สรุปว่า  แบ๊งค์ถูกขนาบข้างด้วยพี่โป้งและพี่ตั้ม   ส่วนแมคก็ไปนั่งกับกาว  ที่ฝั่งตรงข้ามของแบ๊งค์   ตอนนี้แบ๊งค์ทานไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่  เพราะพี่ตั้มมานั่งติดกับแบ๊งค์  จนแบ๊งค์แทบจะกางศอกไม่ได้

"พี่ตั้ม  ขยับไปหน่อยได้ป่ะ  แบ๊งค์ทานไม่ถนัด "   แบ๊งค์บ่น

"ไม่ต้องบ่น  ทานไป "    พี่ตั้มทำเสียงดุ

"อะไรกันเนี่ย  ทำไมต้องมานั่งข้างแบ๊งค์ด้วยอ่ะ "   แบ๊งคโวย

"อย่าไปบ่นพี่เค้าเลย  พี่ตั้มเค้าเป็นห่วงเราน่ะ "   พี่โป้งพูด

"ห่วงอะไรล่ะ  ไม่ได้มีคนจะมาลักพาตัวแบ๊งค์ซะหน่อย "   แบ๊งค์พูด

"เออ....น่า  ปล่อยพี่เค้าไปเถอะแบ๊งค์ "   กาวช่วยเสริมอีกที  พี่ตั้มก็เหลือเกินนะ  เป็นอะไรก็ไม่รู้ทำท่าอย่างกะว่าแบ๊งค์จะมีใครมาปองร้าย  นั่งทำหน้าโหด  แยกเขี้ยวขู่แฮ่ ๆๆๆ อยู่ได้   ไอ้แมคก็เอาแต่กิน ๆๆๆ ไม่พูดอะไร เหมือนว่าตัวเองกลัวอะไรซักอย่างอยู่นั่นแหละ เฮ้อ~~เป็นอะไรกันฟะเนี่ย

พอทานข้าวเสร็จ  แบ๊งค์กำลังจะเดินไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด  ก็เดินไปกันทั้งกลุ่มก้อนนั่นแหละครับ   อยู่ดี ๆ ก็มึนหัวขึ้นมาซะงั้น

"ใช่มั้ยแบ๊งค์ "   แมคหันมาหาแบ๊งค์  ไม่ได้ยินหรอกครับ  ว่าเค้าพูดอะไรกันอยู่

"เฮ้ย!!!! ไอ้แบ๊งค์เลือดกำเดาไหลว่ะ "   กาวทักขึ้น  แบ๊งค์ก็เลยเอามือ แตะ ๆ ที่จมูก  แล้วเอามาดู  เลือด.....เลือดกำเดาไหลจริง ๆ ด้ว "ยครับ

"แบ๊งค์ เงยหน้าไว้นะ "   พี่โป้งพูดครับ  และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายที่แบ๊งค์ได้ยิน  ก่อนที่แบ๊งค์จะไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

"แบ๊งค์.....แบ๊งค์......แบ๊งค์ "   มีเสียงเรียกชื่อแบ๊งค์ครับ  น่าจะเป็นเสียงของกาวนะ   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดู

"แบ๊งค์ตื่นแล้ว!!! ทุกคน  แบ๊งค์ตื่นแล้ว "   กาวพูด  แล้วจากนั้นพี่ตั้ม  พี่โป้ง  และแมคก็เดินเข้ามายืนรอบ ๆ เตียงของแบ๊งค์


"มีอะไรกันหรอ "  แบ๊งค์ถามด้วยเสียงแผ่วเบา

"ก็แบ๊งค์เลือดกำเดาไหล  แล้วอยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไป "  แมคพูด

"ดีนะที่ตั้มมันพามาส่งที่ห้องพยาบาล "    พี่โป้งพูด

"เล่นเอาพวกกรูส์ตกใจกันหมดเลยนะเมริง "   พี่ตั้มพูดติดตลก

"อืม  แบ๊งค์ขอโทษนะ "   แบ๊งค์พูด

"ไม่ต้องพูดมากหรอก  หลับไปเหอะ  พักผ่อนมาก ๆ นะเว้ย ยิ่งไม่สบายอยู่ "  พี่ตั้มพูด  แล้วแบ๊งค์ก็หลับไป  เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้สิครับ  จนตื่นขึ้นมาอีกที  ทุกคนก็ยังอยู่เหมือนเดิม

"ยังไม่กลับกันอีกหรอ "   แบ๊งค์ถาม

"แบ๊งค์เมื่อกี้เราลองจับแขนแบ๊งค์ดู  ตัวแบ๊งค์ยังร้อนอยู่เลยนะ "  กาวพูด

"ไปหาหมอก่อนมั้ยแบ๊งค์   ดูท่าทางจะเป็นหนักนะ "   พี่โป้งแสดงความเป็นห่วง

"นั่นดิ  ถ้าเป็นหนักจะได้ป้องกันไว้ก่อน "   พี่ตั้มพูดขึ้นบ้าง

"ไม่เป็นไรหรอก แบ๊งค์แค่ติดพี่นุ่นมา  เดี๋ยวแบ๊งค์ขอกลับบ้านก่อนนะ "  แบ๊งค์พูด

"แล้ววันนี้แบ๊งค์กลับยังไงอ่ะ "  แมคถาม

"อ๋อ...เดี๋ยวคงขึ้นรถเมลล์กลับน่ะ "   แบ๊งค์ตอบ

"รถเมลล์!!!!!!! "   ทุกคนพูดพร้อมกัน

"อืม....ทำไมหรอ "  แบ๊งค์พูดอย่างหน้าตาเฉย

"เนี่ย  กะว่าจะให้กาวไปส่งซะหน่อย "   แบ๊งค์หันไปหากาว

"ไม่นะแบ๊งค์  ถ้าแบ๊งค์อยู่ในสภาพนี้เราไม่ไปส่งเด็ดขาด "   กาวพูด

"ทำไมล่ะ  แบ๊งค์ดูโทรมไปหรอ "   แบ๊งค์ถาม

"ไม่ใช่หรอก  แบ๊งค์ดูอ่อนเพลียมาก  เราไม่อยากให้ขึ้นรถเมลล์ "   กาวพูด

"งั้นเราไปส่งเอามั้ย "  แมคอาสา

"ไม่ต้อง!!!! "   พี่ตั้มขัดแมคไว้

"พี่อยากไปส่งแบ๊งค์นะ  แต่วันนี้พี่มีธุระจริง ๆ  เป็นห่วงแบ๊งค์จัง "  พี่โป้งพูด

"พี่เองก็ไม่มีรถด้วยดิ  ขอโทษนะ "  พี่ตั้มพูดตาม

"ไม่เป็นไรหรอก  แบ๊งค์กลับเองได้น่ะ  ไม่ต้องห่วง "   แบ๊งค์พูด

"งั้นไปรถเราก็แล้วกันนะ "   แมคคงยังจะรับอาสา

"ไม่ต้อง  นายน่ะเงียบไปเลย "   พี่ตั้มตะคอกแมคออกมา  ทำให้แมคดูซึมไป

"เอางี้ดีดว่า   เดี๋ยวพี่เรียกแท็กซี่ให้  แล้วกาวก็ไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด   เรื่องค่าแท็กซี่เดี๋ยวพี่จะออกให้เองนะ "  พี่ตั้มพูด

"ไม่ต้องลำบากก็ได้ครับพี่ตั้ม  เดี๋ยวผมออกก็ได้ "  กาวบอก

"ไม่ต้องหรอก  เดี๋ยวเราออกเอง "    แมครับอาสาอีกคน

"ไม่ต้อง  กรูส์เอง "   พี่ตั้มขัด  ตกลงวันนี้แบ๊งค์จะได้กลับคอนโดมั้ยเนี่ย

"พอได้แล้ว!!!!!ใครจะออกก็บอกมาซักคนดิ  หรือไม่ก็หารกันก็ได้  ตอนนี้แบ๊งค์อยากกลับคอนโดไปพักผ่อนแล้วนะ " 
 แบ๊งค์เริ่มไม่มีแรงแล้ว  ผลสุดท้ายก็เลยตกลงกันว่า ให้แบ๊งค์กลับคอนโดกับกาวด้วยแท็กซี่  โดยที่ทุกคนจะช่วยกันแชร์ค่าแท็กซี่ให้  แบ๊งค์ถึงได้กลับซะที

แล้วพี่ตั้มก็ไปเรียกแท็กซี่มาให้  กาวค่อย ๆ พยุงแบ๊งค์เข้าไปในรถ  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะ  ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยนะ  ตอนแรกพี่ตั้มกะว่าจะอุ้มแบ๊งค์ไปส่งที่รถด้วยซ้ำ  แต่ดีนะที่แบ๊งค์ ห้ามเอาไว้ก่อน  ไม่งั้นได้อายคนทั้งมหาวิทยาลัยแน่ ๆ

"พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ "    พี่โป้งลาแบ๊งค์   แล้วรถก็ออกไป   โดยที่แบ๊งค์หลับอยู่บนตักของกาว   อบอุ่นดีจัง  จนกระทั่งรถมาถึงที่คอนโดนั่นแหละครับ  กาวมันถึงได้เรียกแบ๊งค์ให้ตื่นขึ้นมา  แล้วมันก็ค่อย ๆ พยุงแบ๊งค์ขึ้นไปที่ห้อง

"กลับมาแล้วหรอ....อ้าวเป็นอะไรไปน่ะ "  พี่นุ่นทัก  แต่ก็ต้องตกใจ

"แบ๊งค์ไม่ค่อยสบายนิดหน่อยน่ะครับ "   กาวช่วยพูดแทน  เพราะตอนนี้แบ๊งค์ไม่มีแรงแล้ว

"อืม  เข้ามา ๆๆๆ "    แล้วพี่นุ่น  ก็ช่วยเปิดประตูให้กาวเอาแบ๊งค์เข้ามาวางไว้ที่เตียงในห้อง

"จะทานอะไรก่อนมั้ยแบ๊งค์  จะได้ทานยา "  พี่นุ่นถาม

"อืมนั่นสิ  แบ๊งค์ยังไม่ได้ทานยาเลยนะ "  กาวทักขึ้น

"อืม  เอาอะไรก็ได้ "  แบ๊งค์ตอบไป  แล้วก็เผลอหลับไปอีก   วันนี้รู้สึกเพลียมากจริง ๆ ครับ จนในที่สุดกาวมันก็ยกข้าวต้มมาให้  จากนั้นพี่นุ่นก็เอายามาให้อีก  พอแบ๊งค์ทานเสร็จ  ก็หลับไปเลย  น้ำก็ไม่ได้อาบ  หน้าก็ไม่ได้ล้าง  ฟันก็ไม่ได้แปรง  วันนั้นซกมกที่สุดแล้วครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
 วันนี้ตกใจมากครับ  ทำไมนะ  แบ๊งค์ถึงได้ยอมให้อภัยแมคได้ง่าย ๆ แบบนี้  ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ รู้สึกเป็นห่วงแบ๊งค์อย่างบอกไม่ถูก 
แล้วอยู่ดี ๆ ก็มาเป็นลมไปอีก  ตกใจมากเลยครับ  ตอนที่จับตัวแบ๊งค์รู้สึกว่าแบ๊งค์ตัวร้อนเอามาก ๆ กลัวแบ๊งค์จะเป็นหนักมาก  ไม่รู้จะทำยังไง  ทำได้ดีที่สุดก็แค่พามาส่งที่คอนโดเนี่ยและครับ  ตอนที่แบ๊งค์นอนหลับ ดูน่ารักมาก ๆ เลยครับ  เหมือนเจ้าชายน้อยแสนซนจริง ๆ  แต่ก็กลัวนะครับ  ก็อยู่ดี ๆ น้องชายผมก็ดันตื่นตัวขึ้นมา  แบ๊งค์ก็ขยับไปมา ไปโดนมันตั้งหลายครั้ง  ดีนะที่แบ๊งค์หลับอยู่  ก็เลยไม่มีอะไร 
ตอนนี้ผมกำลังกลับบ้าน  ในใจก็ขอให้แบ๊งค์อย่าเป็นอะไรไปเลย  ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วล่ะครับว่าผมรักเค้ามากจริง ๆ
********************
 :bye2: คับ ไม่หวายแร้ว......ง่วง

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-05-2007 02:59:18
รออ่านต่อนะ  o15

ฝันดีนะน้องpajaa  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 29-05-2007 12:48:43
นายกาวขี้อาจ กล้าๆบอกไปเลยค้าบบบ ว่ารักเค้าหน่ะ เอาใจช่วย  :teach:


พี่ตั้มนี่ก็ดีจางเลย  อยากมีพี่แบบนี้มั้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-05-2007 16:08:48
จะกล้าบอกความจริง เพราะน้องชายนี่แหละ
 o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-05-2007 16:16:29
เชียร์กาว ๆๆๆๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 16:19:32
เชียร์กาววววววววววววววววววววววววววววววววววว

แต่แอบปันใจให้พี่อาท

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-05-2007 19:56:05
ยังเชียร์อาร์ทอยู่  o7 แต่ก็แอบชอบกาวแล้วล่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 29-05-2007 23:19:00
 :o11: :o11: o21 อยากคุยด้วยจังแต่ มายอาวดีก่า เนอะ :sad2:

****************************
บทที่ 34 จบไปอีก 1 เทอมแล้วนะ ( วุ่นวายจัง )

การเรียนช่วงนี้ค่อนข้างเคร่งเครียดครับ เพราะจะปิดเทอมแล้ว  เลยต้องเร่งทำคะแนนกันหน่อย  เรื่องแมคก็ยังคงเหมือนเดิมครับ  พี่ตั้มยังคงทำหน้าที่องครักษ์  ปกป้องเจ้าชายน้อยคนนี้อย่างเต็มที่  กาวกับพี่โป้งก็เคยเข้าไปพูดกับพี่ตั้มหลายครั้ง  แต่พี่ตั้มก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจ  ยังคิดกับแมคแบบเดิม ๆ ตอนนี้ชีวิตของแบ๊งค์กำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว  ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรหวือหวามากมาย ขาดก็แต่เพียงพี่อาร์ทก็เท่านั้น

ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมาเราก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย  ตอนนี้พี่เค้าคงมีความสุขไปแล้วล่ะ  ส่วนแบ๊งค์ก็คงต้องสู้ต่อไป กับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย  เฮ้อ~~~ช่วงนี้น่าเบื่อจัง  วัน ๆ ก็ได้แต่อ่านหนังสือ อยากเปิดคอมฯ เล่นเกม เล่นMSN ใจจะขาดแต่ก็ต้องตัดใจ  เพราะถ้าคะแนนไม่ดีมีหวัง  ไม่ได้เล่นไปอีกนาน  ( แม่ฆ่ากรูส์แน่ ๆ )  ไม่เอาแล้ว  มัวแต่คิดอะไรก็ไม่รู้  อ่านหนังสือดีกว่า

แล้ววันนี้ก็มาถึง  วันสอบวันสุดท้ายแล้ว  ทั้งน่ากลัวและดีใจเลยอ่ะ  ดีใจที่ปิดซะที  และก็กลัวกับการทำข้อสอบ  แบ๊งค์ทำข้อสอบด้วยความเคร่วเครียด ( ที่จริงอ่ะ  เดาอย่างเคร่งเครียดตะหาก ) 

เวลาคืบคลานไปอย่างช้า ๆ  ช้า ๆ และช้า ๆ  และในที่สุด ในที่สุด  อ๊ากกกกกกกก (o_O)  จบแล้ววววววว   การสอบที่เคร่งเครียด   วันนี้มีสอบแค่ช่วงเช้าครับ  ตอนนี้เป็นช่วงบ่าย   ไม่มีอะไรทำเลยอ่ะ ก็เลยไปนั่งเล่น ๆ แถวสนามบาส
วันนี้พี่ตั้มก็ไม่มา  พี่โป้งก็ไม่มา  คงเป็นช่วงสอบด้วยมั้ง  สนามบาสก็เลยดูเงียบ ๆ ไป  มีแค่กาวคนเดียวเท่านั้น  ที่เล่นบาสอยู่ที่กลางสนาม  ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ  ก็นั่งฟังเพลงตามแบบที่เคยทำนั่นแหละ   วันนี้แมคมันคงดีใจมั้งที่พี่ตั้มไม่มา  ซื้อขนมมาเอาใจแบ๊งค์ซะยกใหญ่  ก็นั่งกินด้วยกันเนี่ยแหละ  พอนั่งไปซักพัก  กำลังจะเคลิ้มหลับอ่ะ  โทรศัพท์มือถือของแมคก็ดังขึ้น  เล่นเอาซะตื่นเลย  แมคก็วิ่งไปรับโทรศัพท์  ที่ไหนก็ไม่รู้อ่ะ  สงสัยจะเป็นคนสำคัญ
แบ๊งค์ก็เลยนั่งกินขนมต่อไป   สายลมพัดมาเอื่อย ๆ เย็นสบายดีจัง  อยากลับบ้าน ๆ  พี่นุ่นนี่สอบช้าจัง  จะเสร็จเมื่อไหร่เนี่ย  เฮ้อ~~~~  ง่วงนอนจัง    ปวดฉี่ด้วย  ว่าแล้วก็ไปฉี่ดีกว่า

"กาว   กาว  แบ๊งค์ไปฉี่แปปนะ "    แบ๊งค์ตะโกนบอกกาว

"อืม  ไปสิ  เดี๋ยวเรานั่งเฝ้าของให้เอง "   กาวพูด   แล้วแบ๊งค์ก็เดินออกมาจากสนามบาส

อืม...ไปที่ไหนดีนะ   ห้องน้ำที่โรงอาหาร?  ไม่เอาไกลไป   ห้องน้ำที่คณะบนตึก?  คนแยะไป  ไปห้องน้ำที่หลังตึกดีกว่า  จำได้มั้ยครับ  ห้องน้ำนี้จะอยู่หลังตึก  ไม่ค่อยมีคนมาเข้าเท่าไหร่  เพราะทางมันค่อนข้างเปลี่ยว   แต่จะกลัวกันทำไมก็ไม่รู้  ตอนกลางวันกันอยู่แท้ ๆ

พอเข้าห้องน้ำเสร็จ  ก็เลยจะออกมาล้างมือ  ก็ได้ยินเสียงครับ  เสียงคนทะเลาะกัน  เอ....ใครกันนะ  มาทะเลาะกันที่มหาวิทยาลัยแบบนี้   พอมองออกไปก็ตกใจมากเลยครับ  แมคทะเลาะกับครีมอีกแล้ว   ที่เก่าเลยนะ  สองคนนี้จะเปลี่ยนที่ทะเลาะกันไม่ได้เลยหรอ

"ก็เราบอกแล้วไง  ว่าเราสองคนคงกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว "  แมคตะคอกออกมา

"ทำไมล่ะ  เราเคยรักกันมากนะแมค  จำไม่ได้หรอ "   ครีมพูดเสียงสั่น ๆ

"ใช่!!!  เมื่อก่อน  เรารักกันมาก "   แมคพูดแล้วหยุดไป   ครีมก็เริ่มที่จะยิ้มออกเหมือนกัน

"แต่ตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น....... "

"และตอนนี้..เรารู้แล้วว่าเราชอบอะไร "   แมคพูด

"หมายความว่ายังไง   แมค....ตอนนี้ครีมงงไปหมดแล้ว "   ครีมเริ่มร้องไห้

"ครีม......เราเป็นเกย์   เราชอบผู้ชาย "   แมคพูดมันออกมาอย่างเบา ๆ แต่ก็พอที่แบ๊งค์จะสามารถได้ยินว่าพูดอะไร  ครีมดูอึ้งไปเหมือนกันครับ  ไม่ต่างจากแบ๊งค์หรอก  ไม่ได้คิดไว้หรอกนะ  ว่าแมคจะพูดคำ ๆ นี้ออกมา   ครีมนิ่งไปพักใหญ่   แมคก็เงียบไปเหมือนกัน

"แมค  บอกครีมมาใหม่ได้มั้ย   มันเป็นเรื่องโกหก  มันไม่จริงใช่มั้ย "   ครีมเข้าไปจับมือแมค

"ครีม  เชื่อเราเถอะ  เราไม่ได้ชอบผู้หญิง  ที่ผ่านมา...มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกวูบหนึ่งเท่านั้น "  แมคพูด  มันกลับยิ่งทำให้ครีมร้องไห้หนักขึ้น  ระหว่างที่แบ๊งค์กำลังแอบดูอย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้น  ก็มีมือลึกลับเข้าปิดปากแบ๊งค์จากทางด้านหลัง

"อ้ากกกก  อึงเองไอ  อาอับอูอะมาย "   ( ว๊ากกกก เมริงเป็นใคร  มาจับกรูส์ทำไม)   แบ๊งค์พุดออกมาเสียงอู้อี้

"อย่าดิ้นดิ  นี่เราเอง "   ไอ้กาวนั่นเองครับ  มาซะ  ทำเอากรูส์ตกใจหมด

"แล้วมาทำไมที่นี่ล่ะ "   แบ๊งค์ถาม

"ก็เห็นเมริงมาเข้าห้องน้ำนานแล้ว  ไม่ยอมกลับซะที  กรูส์ก็เป็นห่วง  กลัวว่าเมริงจะเป็นลมไปอีก  เลยเข้ามาตาม "   กาวพูด   ดูท่าทางมันก็เป็นห่วงจริง ๆ นะ

"อ่ะเหรอ.....เมริงเป็นห่วงกรูส์ด้วย   จริงป่าว "    แบ๊งค์แกล้งแซวมัน

"....................................... "    ไอ้กาวไม่ตอบครับ  มันได้แต่ทำหน้าแดง (-/////-)

"ตลกว่ะ  อายอะไรฟะ "   แบ๊งค์หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ก็มันตลกจริง ๆ นี่นา  หน้ามันตอนอายอ่ะ  จะว่าน่ารักก็น่ารักนะ  แต่ออกไปทางตลกมากกว่า  โอย...บอกไม่ถูก

"เออ ๆๆๆ ช่างมันเหอะ  แล้วนี่  เมริงมาเจือกเรื่องอะไรของชาวบ้านเค้าอีกล่ะ "   ไอ้กาวพูดครับ  โห...พูดซะเพราะเลย

"เจือกอะไรล่ะ  กรูส์ก็แค่ผ่านมาได้ยินเฉย ๆ "    แบ๊งค์แก้ตัวไป

"พอผ่านมาก็เลยหยุดดู  ว่างั้น "    ไอ้กาวทำท่าจะแซว

"เออ ๆๆๆ พอได้แล้ว  ไปดูต่อ  เดี๋ยวเรื่องไม่ continue "  แล้วแบ๊งค์ก็กลับไปแอบดูอีก

"ครีม.......ตัดใจจากเราเถอะนะ "   แมคพูดครับ

"ไปได้แล้ว..... "   แล้วไอ้กาวมันก็ดึงแบ๊งค์ไปครับ   ไอ้นี่.....ตัวขวางความสุขจริง ๆ เลย

"ขอดูอีกหน่อยนะ นะ นะ "   แบ๊งค์ขอร้อง

"พอได้แล้ว  ไม่ไปดี ๆ ใช่มั้ย "   แล้วกาวก็อุ้มแบ๊งค์พาดบ่าครับ  ทำเหมือนที่พี่ตั้มเคยทำบ่อย ๆ เลย

"เฮ้ย!!!!!!  กาว...ปล่อยนะเว้ย "   แบ๊งค์พยายามที่จะดิ้น

"เงียบ ๆ ดิวะ เดี๋ยวไอ้แมคกับครีมก็รู้หรอก  ว่าเมริงมาแอบดูพวกมันอยู่ "   พอกาวพูดแบบนี้แบ๊งค์ก็เลยต้องนิ่งไป    พอหลุดออกมาจากห้องน้ำนั้นได้  มีหรอแบ๊งค์จะอยู่เฉย ๆ  แบ๊งค์ก็ดิ้นเต็มเหนี่ยวสิครับ  จนไอ้กาวมันยอมแพ้ไป  แล้วปล่อยแบ๊งค์ลงในที่สุด

"เล่นบ้า ๆ เหมือนไอ้พี่ตั้มอีกละ "   แบ๊งค์บ่น

"ก็จะดื้อทำไมล่ะครับ  เจ้าชายน้อยจอมซน "   กาวแซวครับ

"ไม่ได้ดื้อซักหน่อย  อีกอย่าง....โตแล้ว   ไม่ใช่เจ้าชายน้อยแล้ว "   แบ๊งค์บ่นไม่เลิก

"ฮะ  ฮะ  ฮะ "   กาวหัวเราะ

"หัวเราะอะไรฟะ "   แบ๊งค์ทำท่าหาเรื่อง

"อย่างนี้เค้าเรียกว่าโตหรอ    เด็กแถวบ้านเราอายุ 15 ยังสูงกว่าแบ๊งค์เลย "   กาวยังหัวเราะไม่เลิก

"อะไรวะ  นี่น้ำหนักกรูส์ก็ขึ้นมาแล้วนะ  คอยดูนะ  ถ้ากรูส์หนักแล้วอย่ามาว่าก็แล้วกัน "   แบ๊งค์พูดต่อ

"อ่ะนะ   จะหนักซักเท่าไหร่เชียว  เมื่อกี้ยกซะเต็มแรง  ที่ไหนได้เบาอย่างกะตุ๊กตา "   กาวมันยังไม่ยอมหยุดแซว

"พอได้แล้ว  อายนะเฟ้ย "   แบ๊งค์พูด   
แล้วเราสองคนก็กลับมานั่งที่เดิมตรงสนามบาส    ซักพักแมคก็เดินออกมา  ดูท่าทางแมคเศร้า ๆ นะ ไม่รู้เป็นอะไรมากรึเปล่า  แบ๊งค์เลยถามออกไป

"แมค  เป็นอะไรรึเปล่า  ดูเศร้า ๆ นะ "  แบ๊งค์ถาม

"อ่ะหรอ...ไม่เป็นไรหรอก  สงสัยจะกลุ้มใจเรื่องประจำเดือนไม่มาน่ะ  ฮะฮะฮะ "   เหมือนว่าแมคจะพยายามหลอกตบตาพวกเรา   แต่มุกเด็ก ๆ แบบนี้อ่ะหลอกแบ๊งค์ไม่ได้หรอก

"อะไรก็มาเล่าให้ฟังได้นะ  เราพร้อมที่จะรับฟังแมคเสมอ "   แบ๊งค์เอามือตบเบา ๆ ที่ไหล่ของแมค  แมคหันมามองหน้าแบ๊งค์

"อืม...ใช่  ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นา  มีอะไรก็บอกกันได้นะ "   กาวพูดขึ้นบ้าง

"ขอบคุณพวกนายมากเลยนะ "   แมคเงยหน้าไปมองกาว  เหมือนว่าแมคกำลังจะร้องไห้แล้ว  แต่แมคพยายามจะข่มมันไว้

"แมค....บางครั้งการร้องไห้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรอกนะ "

"ตรงกันข้าม  มันอาจช่วยทำให้เราลืมเรื่องร้าย ๆ แล้วผลักดันให้เราก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งนะ "  แบ๊งค์พูดไป   เท่านั้นเอง  แมคก็หันมาซบไหลแบ๊งค์ร้องไห้   เล่นเอาเซไปเหมือนกัน    ( หนักใช่เล่นนะเนี่ย )    แบ๊งค์มองหน้ากาว  ประมาณว่าจะทำยังไงต่อดี  กาวมันก็ส่งสายตามาประมาณว่า  ลูบหัวมันดิ  มันจะได้รู้สึกดีขึ้น  แบ๊งค์ก็เลยเอามือลูบหัวมันเบา ๆ จนในที่สุดมันก็เงียบไป

ตกเย็นแล้วครับ  เราทั้ง 3 คนก็กำลังจะเดินไปที่หน้ามหาวิทยาลัยกัน  แต่ไอ้กาวมันปวดฉี่  แบ๊งค์ก็เลยต้องเดินไปกับแมค 2 คน    ตอนนี้คนในมหาวิทยาลัยก็เริ่มที่จะน้อยลงแล้ว  คงเพราะเป็นช่วงสอบด้วยล่ะมั้ง  ระหว่างที่กำลังเดิน ๆ อยู่ก็มีคนมาสะกิดที่ข้างหลัง  แบ๊งค์ก็เลยหันไปดู  พอหันไปเท่านั้นแหละครับ   

เพี๊ย!!!!!!!!   เสียบตบหน้าครับ    ครีมนั่นเอง  อยู่ ๆ ก็เข้ามาตบหน้าแบ๊งค์  เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย  แบ๊งค์ยุดยืนนิ่ง ๆ แล้วเอามือทาบแก้มไว้ครับ

"เฮ้ย !!!!!!  ครีม  ทำอะไรลงไปน่ะ "   แมครีบเข้าไปคว้ามือครีมเอาไว้  หลังจากที่ครีมทำท่าว่าจะ ตบแบ๊งค์อีกที

"ไม่นึกเลยนะแบ๊งค์  ว่านายนั่นเอง  ที่เป็นคนแย่งแมคไปจากเรา  นายนี่มัน.... "   ครีมหยุดไป  ดูท่าทางครีมจะโกรธจริง ๆ

"ครีม!!!!  เราไม่ได้คิดอะไรกับแมคเลยนะ  เรากับแมคเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น "   แบ๊งค์รู้สึกโกรธมาก  แต่ก็พยายามอธิบาย

"เพื่อนงั้นหรอ   เดินด้วยกันอย่างกับแฟน   แล้วเดี๋ยวนี้แมคก็อยู่กับแบ๊งค์บ่อยขึ้น  ดูแมคพยายามที่จะเอาใจแบ๊งค์  เนี่ยน่ะหรอเพื่อน "   ครีมโวยวาย  แต่แมคพยายามจับครีมไว้

"มีอะไรกันหรอ!!!! "   ไอ้กาวรีบวิ่งมาครับ

"ก็ครีมน่ะสิ   มาหาว่าเราไปแย่งแมคมาจากครีม "   แบ๊งค์บอกกาว

"หรือไม่จริงล่ะ   อีพวกเกย์ตอแหล   กาวมาก็ดีแล้ว "

"ช่วยดูแลเพื่อนของนายด้วยนะ  ทีหลังจะได้ไม่ไปแย่งผัวของชาวบ้านอีก "   พอเห็นครีมพูดแบบนี้แบ๊งค์รู้สึกไม่ดีเลย  ความจริงครีมเป็นคนที่ดูน่ารัก  อ่อนโยน  แต่ทำไมวันนี้  ครีมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ

"ครีมอยู่นิ่ง ๆ นะ "   แมคพยายามจับครีมไว้

"ครีม!!!ถ้าไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า  คือความจริง..... "    แบ๊งค์รีบดึงแขนกาวไว้ แล้วส่ายหน้า  หลังที่จากเห็นว่ากาวทำท่าเหมือนจะพูดความจริงเรื่องแบ๊งค์กับแมค

"แมค!!!! ปล่อยครีมนะ   ครีมจะไปจัดการกับอีพวกตอแหละ  แอบกินของชาวบ้านแล้วไม่ยอมรับ "  ครีมพยายามดิ้น

"ครีม!!!!!!  พอได้แล้ว "    แมคตะคอกออกมาค่อนข้างดัง  จนในที่สุดทุกคนก็ดูสงบลง

"ครีม  ฟังแมคนะ  ความจริงแล้วแบ๊งค์ไม่ได้เป็นคนแย่งแมคไปจากครีมหรอก "

"แต่เป็นตัวครีมตะหาก  ที่ไปแย่งแมคมาจากแบ๊งค์ "  แมคพูด  ครีมทำตาโต

"ม..ม..แมค  อย่าบอกนะว่า "   ครีมดูอึ้ง ๆ ไป

"ความจริงแล้วเราคบกับแบ๊งค์มานานแล้ว  คบมาก่อนทีจะคบครีมด้วย "   แมคพูด  แล้วก้ค่อย ๆ ปล่อยมือครีมมออก

"เราเลิกกับแบ๊งค์ไปตอนที่คบกับครีม "

"และตอนนี้ที่เราพยายามเอาใจแบ๊งค์ก็เพราะ  เราอยากกลับไปคบกับแบ๊งค์อีกครั้ง "  แมคพูดซะยาวเหยียด   แล้วน้ำตาของครีมก็ค่อย ๆ ไหลออกมานองหน้า

"มันไม่จริงใช่มั้ย   ทุกคนโกหก  เรื่องนี้มันไม่จริงใช่มั้ย "   ครีมเข้าไปเขย่าตัวแมค  แต่แมคก็ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง ๆ เหมือนแมคก็สำนึกผิดอยู่เหมือนกัน

"แบ๊งค์!!!  แบ๊งค์บอกเรามาได้มั้ย  ว่าแมคมันแค่โกหก  แมคทำเพื่อปกป้องแบ๊งค์เท่านั้น "   ครีมหันมาเขย่าตัวแบ๊งค์บ้าง  แต่แบ๊งค์ไม่ตอบ

"ครีม  ที่ครีมได้ฟังมาน่ะ  มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด "

"แบ๊งค์กับแมคเคยคบกันมานานแล้ว  ครีมนั่นแหละคือคนที่มาทีหลัง  แล้วก็เป็นคนที่แย่งแมคไปจากแบ๊งค์ "   กาวพูด  ครีมดูนิ่งไป  แต่น้ำตาก็ยังไหลอยู่   แล้วอยู่ ๆ ครีมก็เป็นลม  ล้มพับไปต่อหน้าพวกเราเลยครับ

"เฮ้ย!!!! "   แมครีบเข้าไปรับไว้

"ครีม  ครีม  ครีม  ฟื้นสิ "   แบ๊งค์เรียก

"เอาไงดีล่ะ  เราว่าพาไปหาหมอดีกว่านะ "  กาวพูด

"อืม.....งั้นไปที่รถเรานะ "  แมคพูด   แล้วกาวก็อุ้มครีม   แล้วพวกเราก็พากันยกขโยงไปที่รถของแมคกัน   เราพาครีมไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ  หมอบอกว่าครีมไม่เป็นอะไรมา  ร่างกายแค่อ่อนเพลียเท่านั้น  นอนพักเติมน้ำเกลือซัก 1 คืนก็คงหายเป็นปกติ 

แล้วแมคก็โทรเรียกพ่อกันแม่ของครีมมายังโรงพยายบาล   พ่อกับแม่ของครีมบอกว่า  ช่วงนี้ครีมเอาเซื่องซึม  ไม่ยอมทานอะไรเลย  ไม่รู้ไปเจอปัญหาอะไรมา  เราทั้งสามคนเลือกที่จะไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงแก่พวกเค้า  ปล่อยให้ท่านทั้งสองเข้าใจต่อไปว่าลูกสาวเค้าเป็นลมจากการที่ไม่ได้ทานอะไรมาเป็นเวลาหลายวันก็เท่านั้น  แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับ  แมคขอตัวอยู่เฝ้าครีมเพื่อปรับความเข้าใจ  แบ๊งค์กับกาวก็เลยขอกลับก่อน

"แบ๊งค์....เจ็บมากมั้ย  ดูดิแดงเป็นรอยเลย "   กาวถาม

"ไม่เป็นไรหรอก  แค่นี้เอง "   แบ๊งค์ตอบไป

"อย่าไปโกรธครีมเลยนะ "   กาวพูด

"อืม...เราไม่โกรธหรอก  ครีมเค้าแค่ลืมตัวไปน่ะ "   แบ๊งค์พูด

"อืม….. "  กาวตอบสั้น ๆ   แล้วแบ๊งค์ก็ลงรถที่ป้ายหน้าคอนโด  แล้วเราก็จากกันแค่นั้น  เฮ้อ~~~~ขนาดนี่ยังไม่ปิดเทอมนะ  ยังวุ่นวายได้ขนาดนี้  แล้วปิดเทอมไปกรูส์จะเจออะไรอีกมั้ยเนี่ย  สู้ต่อไปแบ๊งค์เคชิ!!!!!!
************************
:bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 30-05-2007 00:01:20
 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9
จาเอาพี่อาร์ทอ่า...
จาเอาๆๆๆๆ o9
 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9

ส่วนนายกาวขอเก็บไว้เป็นกิ๊กแล้วกันนะ o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 30-05-2007 01:35:06
คนที่เข้าใจและปกป้อง
มองความรักเป็นความรักที่แท้จริง
เห็นจะมีกาวคนเดียวเท่านั้น
 :like6: :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 30-05-2007 12:40:17
เอ่อ ครีม ใช้คำว่าแย่งผัวเลยเหรอ  หมดกันภาพของสาวสวยน่ารัก  o21


ว่าแต่จะเชียร์ครายดีนะนี่ พี่อาร์ท ที่ต่างฝ่ายก้ยังรักกันอยู่  กับกาวที่แอบชอบมาก่อนใครๆ แต่ไม่กล้าบอกความรู้สึก ...  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 30-05-2007 13:52:24
อ่านมาจนถึงบัดนี้...มันวุ่นวายสมชื่อจริงๆ กร๊ากกกกก  :laugh:
ไม่รู้จาเชียร์ใครดี เพราะเชียร์คนไหนมันเลิกแล้วทุกราย -*-
แต่ตอนนี้แอบเชียร์กาวแฮะ หุหุ ท่าทางจริงใจสุดๆแล้วอะ  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 30-05-2007 20:15:33
คุณกาวค๊าบบบบบบบบ ผมไหว้ละค๊าบบบบบบ  ช่วยสารภาพรักกับแบงค์ซะทีเถอะค๊าบบบบบ o9 :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 31-05-2007 00:44:34
*******************
บทที่ 35  My Summer
 
ตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้วครับ   แบ๊งค์ก็เลยจะกลับบ้านที่เชียงใหม่  ไม่ได้กลับไปซะนานเลย  ส่วนพี่นุ่นน่ะหรอ  อีกตั้งอาทิตย์กว่า ๆ โน่นกว่าพี่เค้าจะกลับ  แบ๊งค์อดทนคิดถึงบ้านไม่ไหว  ก็เลยขอกลับก่อน  ตอนนี้แบ๊งค์เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วครับ  พี่นุ่นก็เข้ามาพอดี

"เสร็จรึยังเกย์น้อย"   พี่นุ่นถาม

"ก็เสร็จพอดีอ่ะ  จะไปรึยังล่ะ"   แบ๊งค์ถาม

"อืม....งั้นก็ไปกันได้แล้ว  เดี๋ยวตกรถไม่รู้ด้วย"   พี่นุ่นพูด  แล้วแบ๊งค์ก็ขนสัมภาระทั้งหมดไปยังลานจอดรถ  เพื่อที่จะได้ออกเดินทางกันซะที

"ไม่ลืมอะไรแล้วนะ"   พี่นุ่นถาม

"ไม่ลืมแล้ว  ถ้าลืมจริง  เอาไว้ค่อยโทรบอกพี่นุ่นแล้ว  ให้พี่นุ่นเอาไปให้ที่เชียงใหม่ก็ได้"  แบ๊งค์พูด   

"อ่ะจ้า   ป่ะไปกันได้แล้ว"   พี่นุ่นบอก  แล้วเราก็ขับรถออกจากคอนโด  เพื่อไปยังสุวรรณหมอชิต ( งงอ่ะดิ  ขนส่งหมอชิตนั่นแหละ )  ระหว่างเราก็คุยกันไปเรื่อย ๆ นั่นแหละครับ

"เจ้.....ไม่กลับด้วยกันจริง ๆ หรอ"   แบ๊งค์ถาม

"อืม... ไม่อ่ะ  ยังมีเรื่องต้องสะสางอีกเป็นร้อย"   พี่นุ่นพูด

"เรื่องที่ไปแย่งแฟนชาวบ้าน  แล้วเค้าตามมาเจอ  กับเรื่องที่ไปล้มแชร์น่ะหรอ"   แบ๊งค์แกล้งแหย่

"อืม....ใช่   อ่ะเย้ยยยยย จะบ้าหรอ"   พี่นุ่นแกล้งรับมุก

"จะกลับมั้ยเชียงใหม่เนี่ย "     พี่นุ่นแกล้งขู่

"อ่ะค้าบบ   กลัวแล้วค้าบบบบ"    พี่ยังหยอกล้อต่อไป   ซักพักโทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์ก็ดังขึ้น  เบอร์พี่โป้งนั่นเอง

"ฮัลโหลครับ"   แบ๊งค์พูด

"แบ๊งค์    ตอนนี้แบ๊งค์อยู่ไหนน่ะ"   พี่โป้งถาม

"อยู่บนรถ  กำลังจะไปหมอชิตอ่ะ"   แบ๊งค์ตอบ

"อ่ะหรอ "   พี่โป้งพูด  แล้วก้อวางสายไปซะงั้น

"ใครหรอแบ๊งค์"   พี่นุ่นถาม

"พี่โป้งอ่ะ "   แบ๊งค์บอก

"ต๊ายยยยย  เสน่ห์แรงไม่เลิกนะ"   พี่นุ่นแซว

"อ่ะนะ ........ "   แบ๊งค์ตอบออกไปสั้น ๆ 

"เออ....นี่ถามไรหน่อย"   พี่นุ่นพูดขึ้นมา

"อะไรล่ะ  ว่ามา"   แบ๊งค์บอก

"ทำไมไม่ขึ้นเครื่องบินเอาอ่ะ   มาทำไมหมอชิต"   พี่นุ่นถาม

"ก็อยากขึ้นหรอก   แต่ที่ไปเนี่ยกะว่าจะไปเซอร์ไพรซ์แม่ไง"

"ก็เลยต้องเอาเงินตัวเองออกก่อน  แล้วพอดี  เงินมันมีไม่มาก  ต้องเก็บไว้ทำอย่างอื่นอีกล้านแปด  ก็เลยต้องกลับด้วยวิธีนี้นี่แหละ"   แบ๊งค์บอก

"อืม ๆๆๆๆ"   พี่นุ่นได้แต่พยักหน้า

"จะกลับวิธีไหน  มันก็ถึงเชียงใหม่เหมือนกันนั่นแหละ"  แบ๊งค์พูด

"ชั้นก็นึกว่า เธอกลัวเครื่องบินซะอีก"   พี่นุ่นพูด

"โห...เจ้   เค้าไม่ได้บ้านนอกขนาดนั้นซะหน่อย  ไม่กลัวหรอก  แต่ถ้าเห่าเครื่องบินอ่ะ  ทำบ่อยแล้ว"   แบ๊งค์พูด

"อ่ะจ้า"   พี่นุ่นตอบออกมาสั้น ๆ  แล้วในที่สุดก็มาถึงสถานนีขนส่งหมอชิตซะที  คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอกครับ   คงเพราะยังไม่ถึงช่วงเทศกาลมั้งครับ  คนเลยดูไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่  พอไปถึงแบ๊งค์ก็ตรงดิ่งไปซื้อตั๋วรถเลย  กลัวไม่มีรถกลับอ่ะ  ได้รอบ 2 ทุ่ม  แต่ตอนนี้เพิ่ง 6 โมงเอง  แบ๊งค์เลยชวนเจ้ไปหาอะไรกินดีกว่า  แล้วโทรศัพท์มือถือ ของแบ๊งค์ก็ดังขึ้นครับ  ไอ้กาวโทรมา

"ฮัลโหลครับ"  แบ๊งค์รับสาย

"แบ๊งค์หรอ  ตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ"  กาวถาม

"ตอนนี้อยู่ที่ ศูนย์อาหารในหมอชิตเนี่ยแหละ "  แบ๊งค์บอก

"งั้นเดี๋ยวเราไปหานะ"   กาวพูด

"อืม....มาสิ"  แบ๊งค์พูด

"แค่นี้นะ"   แล้วกาวก็วางสายไป  จากนั้นอีกซักพัก  กาวก็มาหาแบ๊งค์  แต่ไม่ได้มาคนเดียวหรอกนะ  มีพี่ตั้ม  กับแมคมาด้วย

"อ้าว...แล้วพี่โป้งล่ะ"   แบ๊งค์ถาม

"ไม่รู้สิ  เห็นบอกว่าจะมาเองอ่ะ  เพราะติดธุระ"    แมคพูด

"สงสัยทำใจมาส่งแบ๊งค์ไม่ได้มั้ง "   พี่ตั้มพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ

"แบ๊งค์ไม่ได้ไปเมืองนอกซะหน่อย  อีกอย่างไปแค่ไม่กี่อาทิตย์เอง"   แบ๊งค์พูด

"อยากไปด้วยจัง"   กาวพูดแบบเสียดาย

"อืม...ใช่  ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ  ไปทั้งหมดเนี่ยแหละ"   แบ๊งค์พูด

"พี่มีงานต้องทำอะ  ช่วยงานของทางบ้าน"  พี่ตั้มทำท่าเสียดาย

"เราก็ต้องไปเที่ยวกับครอบครัวอ่ะ"    กาวพูด

"อ่ะนะ  พ่อลูกกตัญญู   แล้วแมคล่ะ"   แบ๊งค์พูดกับกาว  แล้วหันไปพูดกับแมค

"เราน่ะหรอ   เราจะไปบวชน่ะ"   พอแมคพูดจบทุกคนถึงกับอื้งไปเลย   ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

"แมคจะบวชหรอ"   แบ๊งค์ถามอีกครั้ง

"ตอนแรกเราก็จะขอให้แบ๊งค์มาร่วมงาน  แต่ชวนไม่ทัน  แบ๊งค์ตัดสินใจกลับซะก่อน  เราก็เลยไม่ได้บอก"   แมคพูด

"แล้วนายทำไมไม่บอก  เดี๋ยวเราเลื่อนออกไปก่อนก็ได้"  แบ๊งค์พูด

"ไม่เป็นไรหรอก  เราไม่รบกวนแบ๊งค์หรอก"   แมคพูด

"แมค...ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ  จำไว้นะว่านายก็คือเพื่อนของเรา  มีอะไรพูดกันได้"   แบ๊งค์กุมมือแมคเอาไว้แล้วพูด  แมคมองหน้าแบ๊งค์

"เราขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยก็แล้วกัน"   แบ๊งค์พูด

"เดี๋ยวพี่นุ่นก็จะไปช่วยงานนะจ๊ะ"   พี่นุ่นพูด

"พี่ก็ขออนุโมทนาด้วยคนนะ"  พี่ตั้มพูดครับ  มหัศจรรย์  เป็นไปได้ไงเนี่ย  พี่ตั้มที่เคยเกลียดแมค  พูดดีกับแมคซะงั้น

"อืม...ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะเว้ย  เมริงยังมีเพื่อนอีกเยอะ"  กาวพูด

"กรูส์ขอโทษ  กรูส์ไม่น่าลืมเพื่อนแบบพวกเมริงไปเลย"   แมคพูด  ในระหว่างที่ทุกคนกำลังทำอารมณ์ซึ้งอยู่นั่นเอง  โทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์ก็ดังขึ้น  พี่โป้งโทรมานั่นเองครับ

"ฮัลโหลครับ"  แบ๊งค์รับสาย

"แบ๊งค์หรอ  อยู่ไหนแล้วครับ"   พี่โป้งถาม

"อยู่ที่ศูนย์อาหารอ่ะครับ"   แบ๊งค์ตอบไป

"เดี๋ยวพี่ไปหานะครับ"   พี่โป้งพูด

"ครับผม"   แล้วพี่โป้งก็วางสายไป  จากนั้นเราทุกคนก้ต้องได้อึ้งกิมกี่กันอีกครั้ง  เมื่อพี่โป้งปรากฏตัวกับ กระเป๋าสัมภาระใบใหญ่

"เอ้ย!!!  เมริงจะย้ายบ้านไปไหนวะ"   พี่ตั้มพูด

"เปล่าหรอก  กรูส์ก็แค่จะตามน้องแบ๊งค์ไปเชียงใหม่ด้วยก็เท่านั้น"  พี่โป้งพุด

"เชียงใหม่!!!!!!!! "   ทุกคนพูดพร้อมกัน

"พี่โป้งจะตามแบ๊งค์ไปทำไมอ่ะ"   แบ๊งค์ถาม

"ก็พี่อยากไปเที่ยวนี่ครับ"   พี่โป้งพูด

"แล้วเมริงไม่มีงานทำหรอ"  พี่ตั้มถาม

"ไม่นี่  ปิดเทอมกรูส์ก็อยู่เฉย ๆ กรูส์เลยไปเที่ยวดีกว่า"  พี่โป้งพูด

"อยากไปมั่งจัง"   กาวพูด

"แล้วพี่โป้งมีตั๋วรถรึยังครับ"   แมคถามขึ้นบ้าง

"เออ...ยังไม่มีเลยนี่นา"   พี่โป้งพูด

"อ้าว....แบ๊งค์มันจองตั๋วไว้แล้วนะ  เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปด้วยหันหรอก"  พี่นุ่นพูด

"ไม่เป็นไรหรอก  ขอแค่ถึงเชียงใหม่กับแบ๊งค์ก็พอใจแล้ว"  พี่โป้งพูดยิ้ม ๆ

"อ่ะนะ  เสน่ห์แรงจริง ๆ นายเกย์น้อย"  พี่นุ่นหันมาทางแบ๊งค์แล้วพูด

"รีบไปจองตั๋วกันก่อนดีมั้ยครับ  เผื่อว่าจะมีที่ว่างอยู่"  กาวพูด  แล้วจากนั้น เราก็ขนขโยง  ไปส่งพี่โป้งจองตั๋วรถ  โชคยังดีครับที่รถแบ๊งค์ยังพอมีที่ว่าง  แล้วโชคก็ยังดีอีก  ที่ว่า พี่โป้งได้นั่งข้างแบ๊งค์ครับ  คงเป็นเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลมั้งครับ  ที่นั่งก็เลยว่าง ๆ

แล้วก็มาถึงเวลาที่เราต้องขึ้นรถแล้วครับ  เฮ้อ~~ไม่อยากจากเพื่อน ๆ ไปเลยจริง  อยากให้ไปเที่ยวด้วยกัน  แต่ทำไงได้ล่ะ  ก็เค้ามีงานนี่นา

"เอาไว้ถ้าพี่นุ่น  เคลียร์อะไรเรีบยร้อยแล้ว  พี่จะตามขึ้นไปหานะ"  พี่นุ่นพูด

"รักษาสุขภาพนะ  เรื่องานบวชไอ้แมคน่ะ  เดี๋ยวเราถ่ายรูปส่งไปให้"   กาวพูด

"อืม...ดูแลตัวเองดี ๆ นะแบ๊งค์"   แมคพูด

"อืมรู้แล้ว  แมค...นายก็อย่าคิดมากนะ  มีอะไรอยากระบาย  ก็ไปซ้อมไอ้กาวนะ"  แบ๊งค์พูดติดตลก

"เฮ้ยยย  ไม่เกี่ยวกันเว้ย"  ไอ้กาวพูด

"เร่งทำคะแนนใหญ่เลยนะเมริง"  พี่ตั้มพูดกับพี่โป้ง

"เออ   โอกาสแบบนี้มียาก  ปล่อยไปไม่ได้หรอก"  พี่โป้งพูด

"อย่าให้ถึงทีกรูส์บ้างก็แล้วกัน"   พี่ตั้มพูด 

"คะแนนอะไรหรอ"   แบ๊งค์ถาม

"ไม่มีอะไรหรอก  ไอ้ตั้มมันบ้าน่ะแบ๊งค์"    พี่โป้งพูด

"เออ  จำไว้นะเมริง"   พี่ตั้มพูดทิ้งท้าย    แล้วแบ๊งค์กับพี่โป้งก็ขึ้นไปนั่งบนรถกันครับ  รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากชานชลา   เราสองคนมองดูเพื่อน ๆ ที่มาส่งจนลับตาไป

รถเคลื่อนตัวออกไป  อย่างช้า ๆ  แบ๊งค์กับพี่โป้งปรับเบาะให้เอนลง  เพื่อที่จะนอน  สำหรับแบ๊งค์ก็นอนลงได้ปกติครับ  แต่พี่โป้งอ่ะดิ  ดิ้นไปดิ้นมา  แบ๊งค์ว่าพี่เค้าคงไม่ชินแน่ ๆ เลย แบ๊งคเลยกระซิบคุยกับพี่โป้งเบา ๆ

"ขึ้นรถครั้งแรกน่ะสิ"   แบ๊งค์พูด

"อ..อืมครับ   แบ๊งค์รู้ได้ไงครับ"   พี่โป้งถามกลับ

"ก็ดูสิ  ท่าทางดูไม่ชิน"

"ความจริงไม่ต้องมานั่งรถไปกับแบ๊งค์ก็ได้นะ  พี่โป้งน่าจะขึ้นเครื่องไปเอง  ทำแบบนี้ลำบากตัวเองเปล่า ๆ"   แบ๊งค์พูดตัดพ้อ

"ไม่เป็นไรหรอก  ลำบากแค่ไหน  ขอแค่มีแบ๊งค์อยู่ด้วยก้อพอแล้วครับ"   พี่โป้งพูด

"โห......เสี่ยวไปเปล่าพี่โป้ง  น้ำเน่าอย่างแรงอ่ะ"  แบ๊งค์พูด

"ไม่เป็นไรหรอกครับ  ที่ผ่านมาแบ๊งค์คงจะลำบากกว่าพี่อีก"

"แบ๊งค์คงลำบากมากมาย  จากการกระทำของพี่  เรื่องแค่นี้พี่ทนได้ครับ"   พี่โป้งพูดแล้วยิ้ม ๆ พอได้ยินพี่โป้งมาพูดแบบนี้  ก็อายสิครับ ไม่ร้จะทำไงก็เลยต้องแกล้งหลับ ๆ ไป  แล้วเราสองคนก็หลับไปในที่สุด  บรรยกาศเงียบ ๆ เย็น ๆ หลับสบายดีจัง

ในที่สุดก็มาถึงเวลาตีสอง  รถมาจอดพักทานข้าวต้มที่ จ.นครสวรรค์ครับ   แบ๊งค์เลยปลุกพี่โป้งขึ้นมา

"พี่โป้ง   พี่โป้ง  ตื่นได้แล้วครับ"   แบ๊งค์เขย่าตัวพี่โป้งเบา ๆ

"ค....ครับ  ถึงแล้วหรอ"   พี่โป้งถาม

"เปล่าหรอก  อีกตั้งไกลกว่าจะถึง"   แบ๊งค์บอก

"อ้าว   แล้วปลุกพี่ขึ้นมาทำไมหรอกครับ"     พี่โป้งถามแบบงง ๆ

"ไปทานข้าวต้มกัน  ป่ะไปกัน"  แบ๊งค์ชวน

"อะไรนะ  ข้าวต้ม"  พี่โป้งยังทำท่างง ๆ

"อืม...ใช่แล้ว ไปทานกันเหอะ  หิวแล้ว"   แล้วแบ๊งค์ก็ดึงพี่โป้งลุกออกมาจาก  ที่นั่งอย่างทุลักทุเล  แล้วพามานั่งทานข้าวต้มด้วยกัน

"เป็นกับข้าวพื้น ๆ นะ  ทานได้เปล่าครับ"   แบ๊งค์ถาม

"อืม  ทานได้สิ  ไม่เป็นไรหรอก"   พี่โป้งพูด  แล้วเราก็นั่งทานข้าวต้มด้วยกันครับ  พี่โป้งก็ทานไป  ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าพี่โป้งจะทานของพื้น ๆ แบบนี้ได้  มองพี่โป้งแล้วนึกถึงพี่อาร์ทเลยครับ  นึกถึงตอนที่ไปเที่ยวหาของกินที่เยาวราชด้วยกัน เฮ้อ~~~เมื่อไหร่พี่อาร์ทจะกลับมานะ


พอทานเสร็จเราก็พากันไปเข้าห้องน้ำครับ ( แยกคนละห้องนะ  อย่าคิดมาก )  พอทำธุระเสณ้จก็กลับมาขึ้นรถเนี่ยแหละครับ

"เป็นไง  นั่งรถทัวร์ครั้งแรก"  แบ๊งค์ถาม

"อืม   ก็แปลกไปอีกแบบ"  พี่โป้งพูด

"นอนได้แล้ว  เดี๋ยวนอนไม่พอหรอก"  แบ๊งค์พูด

"นอนไม่ถนัดอ่ะ  หมอนมันไม่นุ่ม"   พี่โป้งพูด

"เอาหมอนอีกใบมั้ยเดี๋ยวแบ๊งค์ขอให้"   แบ๊งค์ถาม

"ไม่เป็นหรอก  ขอเป็นนอนหนุนตักแบ๊งค์ได้มั้ยครับ"   พี่โป้งขอ

".............................."   แบ๊งค์ไม่ตอบ  (-//////-)

"ไม่ตอบงั้นพี่นอนแล้วนะ"   ยังไม่ทันจะพูดอะไรหรอกครับ  พี่โป้งแกก็นอนบนตักแบ๊งค์เรียบร้อยแล้ว  ไม่ยอมลุกง่าย ๆ ด้วย  แบ๊งค์ก็เลยต้องปล่อยไปแบบนั้น  จนกระทั่งถึงเชียงใหม่  พนักงานบนรถต้องเดินมาปลุก  อายจัง  คนมองกันทั้งคันเลย  แต่พี่โป้งเนี่ยสิไม่ยอมลุก

"พี่โป้ง  พี่โป้ง  ถึงแล้ว"   แบ๊งค์บอกไปเบา ๆ

"ไม่เอาอ่ะ  พี่ยังอยากนอนอยู่เลย"   พี่โป้งทำท่างอแง

"ถ้าไม่ตื่น  งั้นหาที่อยู่เอาเองนะ  ไม่ต้องเที่ยวด้วยกันด้วย"  แบ๊งค์ใช้วิธีขู่ครับ  ไม่อย่างนั้นพี่โป้งไม่ยอมตื่นหรอก

"อืม ๆๆ ตื่นก็ได้"   ในทีสุดพี่โป้งก็ยอมตื่นครับ  พอลงมาถึงอาเขตเชียงใหม่  แบ๊งค์ก็ไปเหมารถสองแถวเข้าบ้านครับ  สัมภาระพี่โป้งนี่ดูวุ่นวายจัง  ขนอะไรมากันนักกันหนาก็ไม่รู้   มันดูเทอะทะมาก  จนลุงคนขับรถต้องได้มาช่วยขนครับ  แล้วเราก็นั่งรถกลับกันครับ

ในที่สุดก็มาถึงบ้านแบ๊งค์ซะที  ตอนนี้ก็เป็นเวลา 7.00 น. แล้วไม่รู้ม่จะตื่นรึยัง  แบ๊งค์เข้าไปกดกริ่งที่หน้าบ้านครับ  ซักพักแม่ก็เดินออกมา

"อ้าว   มาได้ไวเนี่ย!!!! "    แม่พูดแบบตกใจ

"หวัดดีครับ"   พี่โป้งเข้าไปไหวแม่ครับ   ( เร็วจริง ๆ  พี่คนนี้ )

"นี่พี่โป้ง  เป็นรุ่นพี่แบ๊งค์  จะมาเที่ยวเชียงใหม่  เลยจะมาอยู่ด้วย"   แบ๊งค์บอกแม่ไป

"อืมจ๊ะ ๆ เข้ามากันก่อนสิลูก"   แล้วแม่ก็พาพวกเราเข้าไปในบ้าน

"วันนี้โอโต้ซัง  ออกไปออกรอบกับเพื่อนของเค้าตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ"   แม่บอก

"แม่ .....เดี๋ยวแบ๊งค์กับพี่โป้งเอาของไปเก็บก่อนนะ"   แบ๊งค์บอกแม่

"อืม....แล้วเดี๋ยวลงมาทานข้าวเช้ากันด้วยล่ะ"   แม่พูด

"ครับ"   แบ๊งค์ไม่ต้องตอบหรอกครับ  พี่โป้งตอบแทนไปเรีบยร้อยแล้ว

พอมาถึงบนห้อง  แบ๊งค์ก้จัดแจงเก็บเสื้อผ้าข้าวของเข้าในตู้ครับ  แล้วแบ๊งค์ก็เอาไม่แขวนมาเผื่อพี่โป้งด้วย พอยื่นให้พี่โป้ง   พี่โป้งก็ทำหน้างง ๆ

"เอาไปใส่เสื้อผ้า   อย่าบอกว่าทำไม่เป็น"  แบ๊งค์พูด

"เปล่าหรอก  เอาเก็บไว้ในกระเป๋าเนี่ยแหละ"  พี่โป้งพูด

"โห...คิดมาได้ไงน่ะ  มาอยู่นานนะ   ไม่ใช่วันสองวัน  เอาเก็บไว้ในตู้เดียวกับแบ๊งค์เนี่ยแหละ"  แบ๊งค์บอก

"ครับผม  จะทำตามคำสั่งเจ้าชายเดี๋ยวนี้แหละครับ"   พี่โป้งทำท่าจะล้อแบ๊งค์

"แบ๊งค์ไปอาบน้ำก่อนนะ"  แบ๊งค์พูด

"ไปด้วยได้มั้ยอ่ะ"   พี่โป้งแซว

"บ้าหรอ..... "   แบ๊งค์ตอกกลับไป   แล้วแบ๊งค์ก็เข้าอาบน้ำ  เมื่ออกมาก็เห็นพี่โป้งนั่งจัดแจงเสื้อผ้าใหญ่เลย  ไม่รู้ขนมาเพราะคิดว่าจะอยู่กี่ปีเนี่ย

"ไปอาบน้ำได้แล้ว  ทิ้งไว้แบบนี้ก่อนก็ได้"   แบ๊งค์พูด

"อืมครับ  เกะกะหน่อยนะ"   พี่โป้งพูดก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ    พอแบ๊งค์แต่งตัวเสร็จ ก็มานั่งจัดแจงเก็บข้าวของให้พี่โป้งจนเสร็จเรียบร้อยครับ    ในที่สุดพี่โป้งก้ออกมาจากห้องน้ำ

"ป่ะ ไปทานข้าวเช้ากัน"   แบ๊งค์ชวนพี่โป้ง

"อ้าว  แล้วข้าวของของพี่ล่ะ"  พี่โป้งถาม

"แบ๊งค์เอาไปเก็บให้แล้วล่ะ  ไม่ต้องห่วง"  แบ๊งค์พูด

"แบ๊งค์ทำทำไมครับ  น่าจะปล่อยให้พี่ทำเอง"  พี่โป้งพูดแบบงอน ๆ

"ถ้าให้พี่โป้งทำเอง  วันนี้แบ๊งค์คงไม่ได้ไปทานข้าวเช้าแน่"   แบ๊งค์พูด

"แหะ ๆ"  พี่โป้งหัวเราเบา ๆ

"ป่ะ  ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ"   แล้วแบ๊งค็ลากพี่โป้งมาทานข้าวเช้าด้วยกัน  เฮ้อ~~~ในที่สุดก็มาถึงเชียงใหม่แล้วนะ  จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย  สู้ต่อไปนะทาเคชิ
*****************
:bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 31-05-2007 01:05:12
รอลุ้นต่อเรื่องนี้ใครจาเป็นพระเอก  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-05-2007 07:41:23
หุหุ โป้งกำลังทำคะแนนอยู่  o8 แต่ยังไงก็ไม่เชียร์  :laugh3:
เชียร์อาร์ท เชียร์อาร์ท  :give2:  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 31-05-2007 08:50:52
นั่นสิ เอาพี่อาร์ทกลับมาได้แล้วคร้าบ  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 31-05-2007 09:21:00
เมื่อไรพี่อาร์ทจะกลับมาสักที
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
เค้าคิดถึงพี่อาร์ทอ่า
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

จาเอาพี่อาร์ท จาเอาอ่า จาเอา
 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 31-05-2007 23:44:37
 o12 :laugh:เดี๋ยวก็คงมามั้งพี่อาร์ทอ่ะ 
ผมก็อยากให้พี่อาร์ทกลับมาเหมือนกัน  :sad2: เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เนอะ
กระผมก็อ่านพร้อมกะตอนเอามาแปะเหมือนกันอ่ะคับ  ก็เลย o16

....แอบเชียร์พี่โป้ง แหะ :haun5:
********************
บทที่ 36  My  Summer  in  Chiang Mai ( ฤดูร้อนฤดูรัก....รึเปล่านะ )

แบ๊งค์กับพี่โป้งมาอยู่เชียงใหม่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้วครับ  แต่ยังไม่ได้ไปไหนเลยอ่ะ ก็อยู่แถว ๆ หมู่บ้านนั่นแหละ  คือกำลังวางแผนกันอยู่ว่าจะไปที่ไหนก่อน  แล้วก็มาลงตัวที่วันนี้ครับ  เราสองคนจะไปไหว้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย   แล้วก็ขึ้นไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสุดเทพครับ  แบ๊งค์ขอยืมเอารถแม่ออกไปใช้โดยให้พี่โป้งเป็นคนขับ ( ความจริงก้อขับเป็นนะ  แต่ไม่คล่องอ่ะ )  แล้วแบ๊งค์ก็จะทำหน้าที่บอกทาง

" พร้อมรึยังครับ  เด็กน้อย "    พี่โป้งถาม

" พร้อมตั้งนานแล้ว  แต่ไอ้เด็กน้อยเนี่ย  ไม่ต้องเรียกได้เปล่า "    แบ๊งค์พูดแบบเคือง

" ทำไมล่ะครับ   น่ารักดีออก แบ๊งค์เด็กน้อย "    พี่โป้งพูดยิ้ม ๆ

" งั้นแบ๊งค์ไม่ไปแล้ว "    แล้วแบ๊งค์ก็ทำท่าจะลงจากรถ

"โอ๋ ๆๆๆ ไม่เรียกแล้วก็ได้  อย่างอนนะครับแบ๊งค์ "    พี่โป้งรีบคว้าแขนแบ๊งค์ไว้

" ก็ได้  กลัวว่าจะหลงเชียงใหม่หรอกนะ  อย่าคิดเป็นอย่างอื่นล่ะ "   แบ๊งค์พูด

" ครับผม "    พี่โป้งรับคำ   แล้วเราก็ขับรถออกจากหมู่บ้านไปกัน  โดยที่แบ๊งค์ก็ทำหน้าที่บอกทางไปเรื่อย ๆ เราขับรถไปตามถนนเส้นเลียบคลองชลประทาน ( เพราะมันจะเร็วอ่ะ )  พี่โป้งก็พูดไปเรื่อย ๆ ชมนู่นชมนี่ตลอดเวลา  ทำเหมือนคนไม่เคยเห็นไปได้  แบ๊งค์ว่าน่าเบื่อออก  แล้วเราก็มาออกไปที่ถนนเส้นที่ตัดผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรอ่ะ )  แล้วก็ผ่านสวนสัตว์  แล้วก็มาถึงอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยในที่สุด

" ถึงซะทีนะครับ "   พี่โป้งพูด

" นั่นสิ  นึกว่าจะหลงซะแล้ว "   แบ๊งค์แซว

" มีคนบอกทางดีและน่ารัก  ก็ดีแบบนี้แหละครับ  มาถึงโดยปลอดภัย "    พี่โป้งพูด

" ......................... "    ไม่ตอบครับอาย   (-////-)

" ไปซื้อพวงมาลัยไปไหว้ครูบาฯกันดีกว่านะ "   แบ๊งค์พูดแก้เขิน   แล้วเดินนำพี่โป้งไปยังแผงขายพวงมาลัย

" กี่ชุดดีคะหนู "    เสียงแม่ค้าถาม

" เอาสองชุดครับ  สำหรับผมกับแฟน "   พี่โป้งแย่งตอบ แล้วยิ้ม ๆ ครับ

" พี่โป้ง!!!! "    แบ๊งค์หันไปทำหน้าดุ  ใส่พี่โป้ง  แต่พี่โป้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

" เอาสองชุดครับ  แต่ผมกับพี่เค้าไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ "   แบ๊งค์รีบปฏิเสธไป

" จ้า  สองชุดนะ "    แม่ค้าก็ทำหน้ายิ้ม ๆ  ก่อนที่จะยื่นของที่จะไหว้มาสองชุดใหพี่โป้ง  แล้วแบ๊งค์ก็จ่ายเงิน  พี่โป้งทำหน้าเคือง ๆ ครับ   

" แบ๊งค์จ่ายทำไมครับ  เดี๋ยวพี่ออกให้ดีกว่านะ "    พี่โป้งอาสา

" ไม่ต้องหรอก  ก็จ่ายไปแล้วอ่ะ "    แบ๊งค์ตอบไป

" แบ๊งค์เนี่ย   ดื้อจังเลยนะครับ "     พี่โป้งตัดพ้อแบ๊งค์

" รักกันนาน ๆ นะสองหนุ่ม "    แม่ค้าพูดครับ  เล่นเอาแบ๊งค์อายหน้าแดงไปอีกรอบ (-////-)  แล้วแบ๊งค์ก็เอาของที่จะไหว้มาชุดหนึ่งครับ  ของที่เค้าขายเป็นหนึ่งชุดก็จะมี  ธูป  เทียน  ดอกบัว  พวงมาลัย  แผ่นทองคำเปลว  และก็กระเทียมครับ   พี่โป้งมองดูของไหว้อย่างงง ๆ

" เป็นอะไรหรอ "    แบ๊งค์ถาม

" ก็ของที่จะไหว้นะสิครับ  มันแปลก ๆ "   พี่โป้งพูด

" แปลกยังไงหรอ "    แบ๊งค์ถามอีกครั้ง

" อันอื่น ๆ ก็ไม่งงหรอกครับ  แต่กระเทียมเนี่ยน่ะสิ  เอามาทำไมหรอครับ "   พี่โป้งยังทำหน้างง ๆ ก็นึกว่างงอะไร  ที่แท้ก็กระเทียมนี่เอง

" อ๋อ  เค้าเอาไว้ถูที่องค์พระก่อนจะปิดแผ่นทองคำเปลวน่ะ "    แบ๊งค์อธิบายไป

" หรอครับ  เอาถูแล้วทองคำมันจะติดหรอครับ "    พี่โป้งถามต่อ

" ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ  แบ๊งค์ก็ไม่รู้นะ "

" ก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว  ทองคำก็ติดจริง ๆ นะ "    แบ๊งค์พูด

" อ๋อครับ "    พี่โป้งทำท่าเข้าใจ

" ป่ะ  ไปไหว้พระได้แล้ว  เดี๋ยวแดดร้อนนะ "   แบ๊งค์รีบเร่งพี่โป้งแล้วเราก็ไปไหว้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยกัน  คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ  เราเอาธูปกับเทียนไปจุดให้ติดไฟ  แล้วมานั่งไหว้กัน  แบ๊งค์ก็ไหว้ไปตามปกตินะ  แต่พี่โป้งนี่สิ  ไม่รู้ว่าขออะไร  นั่งซะนานเลย  แบ๊งค์เลยได้แต่นั้งรอ  พอพี่โป้งทำท่าเหมือนจะอธิฐานเสร็จ  แบ๊งค์ก็เลยแซวไป

" ขออะไรน่ะ  นานจังเลยนะ "    แบ๊งค์แซว

" ไม่บอกหรอกครับ  เดี๋ยวมันไม่เป็นจริง "    พี่โป้งพูด

แล้วเราก็เดินอ้อมเอาธูปไปปัก   จุดเทียนที่หน้าองค์พระ  เอาดอกบัวใส่กระถางอกบัว   เอาพวงมาลัยไปคล้อยที่องค์ครูบาฯ   จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนที่พี่โป้งสงสัยแล้วครับ  การปิดทองนั่นเอง  แบ๊งค์เข้าถูบริเวณที่แบ๊งค์จะปิดทอง   พี่โป้งก็ทำตามครับ  ตลกดีจัง  เหมือนสมัยตอนแบ๊งค์เด็ก ๆ เลย  ที่ทำตามแม่   เมื่อถูจนได้ที่แล้วก็เอาแผ่นทองคำเปลวค่อย ๆ ติดครับ  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย  จากนั้นเราก็มากราบลา  ก่อนที่จะขึ้นรถเพื่อขับขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพต่อ

" เป็นไง  สบายใจเปล่า "   แบ๊งค์ถาม

" อืมครับ   สนุกด้วย "   พี่โป้งพูด

" ถ้าใครมาเชียงใหม่  แล้วไม่ได้ขึ้นมาไหว้องค์ครูบาฯ  กับไม่ได้ขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพ  เค้าถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่รู้มั้ย "    แบ๊งค์บอกไป

" หรอครับ  พี่ไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย "    พี่โป้งพูด

" มีคนเค้าพูดแบบนั้นกันน่ะ "    แบ๊งค์พูด  แล้วพี่โป้งก็ขับรถต่อไป

" แบ๊งค์ ๆ ที่เชียงใหม่  แบ๊งค์ชอบฟังวิทยุคลื่นไหนหรอ "

" มันเงียบ ๆ อ่ะ จะเปิดซีดีก็ลืมเอา  เปิดวิทยุเอานะ "    พี่โป้งพูด

" อืม...แบ๊งค์ชอบฟัง 105.75 อ่ะ เปิดดิ "    แบ๊งค์บอกไป  แล้วพี่โป้งก็เปิดวิทยุครับ


จะไม่มีวันรักใคร และจะไม่มีวันไปไหน
ฉันสัญญาว่าฉันจะ จะรักกับเธอเป็นคนสุดท้าย

แค่เธอก็พอ ฉันไม่ขอมากกว่านี้
แค่เธอก็พอ ฉันจะไม่ขออะไรอีก
แค่เธอก็พอ ชีวิตฉันเพียงพอแล้วแค่คนนี้
   

ทำไมนะ  พอเปิดเพลงทีไร  มันต้องได้จังหวะทุกที  เพลงนี้ก็เหมือนกัน  ดูเหมือนพี่โป้งจะชอบนะ นั่งฮัมเพลงใหญ่เรย  ดีเจที่นี่ก็ช่างเปิดเพลงได้ตรงจังหวะซะเหลือเกิน ( กรูส์ล่ะเซงกับชีวิต )  แต่บรรยกาศรอบข้างก็สวยดีนะ  ต้นไม้ปกคลุมถนน  ทำให้ดูไม่ร้อนมาก  สบายตาดีจัง  น่านอนซะจริง ๆ แล้วแบ๊งค์ก็หลับไป ( อีกแล้ว...ขี้เซาว่ะ   เดี๊ยะโดนลักหลับแน่ )

" แบ๊งค์  แบ๊งค์   ตื่นได้แล้วนะครับ "    พี่โป้งปลุกแบ๊งค์

" อ้าว....ถึงแล้วหรอ "    แบ๊งค์ถาม

" ครับ  ถึงแล้ว"  พี่โป้งตอบ

" มาถึงได้ไงเนี่ย  ยังไม่ได้บอกทางเลย  เก่งจังนะ "    แบ๊งค์แซว

" ตอนแรกก็เกือบมาไม่ถูกหรอกครับ  แต่ขับรถตาม ๆ เค้ามาเรื่อย ๆ นะครับ  เลยมาถูก "   พี่โป้งอธิบาย

" ซะงั้นน่ะ  เราก็นึกว่าจะเก่ง  อิอิ "    แบ๊งค์แซวต่อ

" ครับ  พี่ไม่เก่งหรอก "   พี่โป้งทำหน้าเศร้า ๆ

" เฮ้ย!!!!  อย่าทำหน้าแบบนี้ดิ  ล้อเล่นน่า "   แบ๊งค์พูดปลอบ

" ครับ  เราไปไหว้พระกันนะครับ "   พี่โป้งชวน

" อืม ๆ ไปกันสิ "    แล้วแบ๊งค์ก็ลงรถเดินนำพี่โป้งไป  แบ๊งค์เดินไปทางที่เป็นซุ้มประตู  ที่จะเป็นทางขึ้นไปสู่บันไดนาค

" น้องแบ๊งค์จะไปไหนครับ "    พี่โป้งเรียกแบ๊งค์

" ก็จะขึ้นไปดอยสุเทพไง "    แบ๊งค์บอก

" แต่ทางที่จะไปซื้อตั๋ว แล้วขึ้นกระเช้าไฟฟ้าอยู่ตรงนี้นะครับ "   พี่โป้งพูด

" แล้วใครบอกจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าล่ะ "    แบ๊งค์พูดแล้วยิ้ม ๆ

" .................... "    พี่โป้งไปไม่พูดอะไร  ได้แต่ทำหน้างง ๆ

" เดินขึ้นไปอ่ะ  ได้อารมณ์มากกว่าขึ้นกระเช้าอีก "    แบ๊งค์พูดไปยิ้มไป

" จะเดินขึ้นจริง ๆ หรอครับน้องแบ๊งค์พี่ว่า..... "    ยังไม่ทันที่พี่โป้งจะพูด  ก็โดนแบ๊งค์แทรกขึ้นมาก่อน

" ตัวเองยังไม่ทันจะแก่ซะหน่อยทำกลัวไปได้ "

" แบ๊งค์อ่ะเคยขึ้นกระเช้าแค่ตอน 6 ขวบเท่านั้นนะ  นอกนั้นก็เดินขึ้นอย่างเดียว  เป็นนักกีฬาซะเปล่า  แข็งแรงหน่อยสิ "     แบ๊งค์ร่ายยาวไปเป็นชุด

" ค...ครับ "    พี่โป้งรับคำแต่โดยดี

" เอาน่า   ทำหน้าเศร้าอีกแล้ว  มาทำบุญนะ  ยิ้มหน่อย "   แบ๊งค์พูด  แล้วพี่โป้งก็ฉีกยิ้ม แหย ๆ แห้ง ๆ ให้แบ๊งค์ดู

" อืม   งั้นเราไปกันได้แล้ว "    แบ๊งค์พูด  แล้วจูงมือพี่โป้งวิ่งเข้าซุ้มประตู ที่จะขึ้นบันไดนาคไป  พอมาถึงหน้าบันไดนาค  พี่โป้งก็มองดูด้วยความเหนื่อยอ่อน

" แค่นี้เอง  ขำ ๆ น่ะ "    แบ๊งค์พูด

" ครับผม!!  พี่จะพยายามนะ "   พี่โป้งทำท่าฮึดฮัดขึ้นมา

" งั้น.....ตามแบ๊งค์มาให้ทันนะ "   แบ๊งค์ยักคิ้วให้หนึ่งที  ก่อนจะวิ่งหนีพี่โป้งขึ้นบันไดนาคไป

" ด...เดี๋ยวก่อนสิครับ... "    ไม่ทันที่พี่โป้งจะได้เรียกแบ๊งค์หรอกครับ   แบ๊งค์วิ่งนำไปไม่รู้กี่ขั้นแล้ว  สนุกดีนะครับ  วิ่งขึ้นบันไดนาค   มันทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ๆ  แบ๊งค์วิ่งขึ้นไปเรื่อย  ๆ ครับ สนุกดีจัง  ถึงจะเหนื่อย ๆ ก็เหอะ  ซักพักแบ๊งค์ก็หยุด  หันไปดูพี่โป้ง  ขึ้นมาช้าจังครับ  แบ๊งค์ก็เลยนั่งรอ  จนพี่เค้าเดินขึ้นมาทันแบ๊งค์

" ขึ้นมาช้าจัง   แค่นี้ทำเหนื่อยหรอ "     แบ๊งค์แกล้งแซว

" พี่ไม่ได้บ้าพลัง  วิ่งขึ้นมาเหมือนแบ๊งค์นี่ครับ  พี่ก็ค่อย ๆ เดินขึ้นมาตามปกติ "    พี่โป้งบ่น

" ไม่ต้องพูดเลย  วิ่งขึ้นไปด้วยกันเลย "    แล้งแบ๊งค์ก็รีบดึงมือพี่โป้ง วิ่งขึ้นไปด้วยกัน  สนุกดีจัง  ได้แกล้งพี่โป้งด้วย  พี่เค้าก็ได้แต่ทำหน้าเหวอ ๆ ตลกดีจัง

แล้วเราก็มาถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพจนได้   คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากเท่าไหร่

" ขอพี่นั่งพักก่อนได้มั้ยครับ "    พี่โป้งพูดไป  หอบไป

" เอางั้นก็ได้  น่าสงสารจริง ๆ "    แบ๊งค์แซวไปอีก  แล้วเราก็ไปหาที่นั่ง  เพื่อนั่งพักกัน  พี่โป้งก็เลยถามแบ๊งค์ออกมา

" แบ๊งค์ไม่เหนื่อยมั่งหรอครับ "   พี่โป้งถาม

" ก็เหนื่อยนะ  แต่สนุกมากกว่าอ่ะ "    แบ๊งค์ตอบไป

" พี่อ่ะ  เหนื่อยมากเลยครับ "    พี่โป้งบ่น

" ทีตอนเล่นบาส  วิ่งตามลูก  ไม่เห็นเหนื่อยเลย "   แบ๊งค์ถาม

" ไม่รู้สิครับ  พี่ก็ยังงง ๆ ว่าทำไมตอนนั้นมันไม่เหนื่อย "    พี่โป้งตอบกลับมา

" คงเพราะเราสนุกกับมันมั้ง  มันก็เลยไม่เหนื่อย "    แบ๊งค์พูดไป

" นั่นสิครับ  พี่ว่าก็คงเป็นแบบนั้นแหละ " 

" แบ๊งค์ตอนที่เป็นแบบนี้น่ารักจังนะครับ "    อยู่ดี ๆ พี่โป้งก็ชมออกมาซะงั้น

" ........................ "     แบ๊งค์ไม่พูด  แต่ทำหน้าสงสัยแทน

" จริง ๆ นะ  ภาพแบ๊งค์ที่พี่เห็นตอนนี้ "

" ไม่ใช่แบ๊งค์ที่อยู่ในชุดนักศึกษาอายุ 18  แต่เป็นเด็กตัวน้อย ๆ ที่สนุกสนานตะหาก "   พี่โป้งพูดยิ้ม ๆ ดูเหมือนพี่เค้าจะมีความสุขนะ ( ถึงจะเหนื่อย ๆ ก็เหอะ )

" ไปไหว้พระกันเหอะ  พักนานแล้ว "    แบ๊งค์ลุกขึ้นยืนแล้วพูด

" ไม่พักอีกหน่อยหรอครับ "    พี่โป้งทำท่าอิดออด   แบ๊งค์ก็เลยดึงพี่โป้งขึ้นไปที่วิหาร  วัดพระธาตุดอยสุเทพ   แบ๊งค์ก็พาพี่โป้งทัวร์เลยครับ   เดินวนรอบระเบียงวิหาร  แล้วก็ไปไหว้เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  จากนั้นก็เข้าไปหว้พระในอุโบสถ 

รู้สึกดีจัง  ทำบุญแล้วดีแบบนี้นี่เอง  แล้วเราก็เดินออกมากันครับ

" จะไปไหนต่อครับ  กลับเลยรึเปล่า "    พี่โป้งถาม

" จะรีบกลับไปไหนล่ะ  ที่นี่ยังมีอะไรให้ดูอีกแยะ "   แบ๊งค์พูด  แล้วแบ๊งค์ก็พาพี่โป้งไปเดินเล่นดูรอบ ๆ ผ่านไปที่หอไตร  มีรูปปั้นสัตว์แปลก ๆ ด้วย  พี่โป้งก็เลยถาม

" แบ๊งค์ครับ  นี่ตัวอะไรหรอครับ  ปกติต้องเป็นพญานาคไม่ใช่หรอ "    พี่โป้งสงสัย

" ตัวนี้อ่ะ  เค้าเรียกม่อน "

" เป็นลูกผสมระหว่างสัตว์หลายพันธุ์อ่ะ  แบ๊งค์จำไม่ค่อยได้หรอก "    แบ๊งค์พูด

" อ๋อครับ  แปลก แต่ก็ดูสวยดีนะ "    พี่โป้งพูดขณะที่กำลังมองอย่างใจจดใจจ่อ

" นี่ไง  มาที่นี่ดีกว่า จุดเด่นเลย "    แล้วแบ๊งค์ก็ลากพี่โป้งมาที่จุดชมวิว

" เป็นไงสวยมั้ย   อยู่ตรงนี้นะ  มองเห็นจังหวัดเชียงใหม่  เกือบทั้งหมดเลยนะ "   แบ๊งค์พูด

" ครับ  สวยจริง ๆ ด้วย "    พี่โป้งมองทัศนียภาพทั้งหมดอย่างพึงพอใจ  แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร  คือไม่อยากกวนเค้าอ่ะครับ  ปล่อยให้เค้ามีความสุขแบบนี้ดีกว่า  จะว่าไป  พี่โป้งตอนยิ้มก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย  อิอิ
***********************
 :o7: :o7: อยากไปเที่ยวมั่งจังเลยคร้าบ แต่ว่าเอากระเทียมไปถูองค์พระแบบนี้ ท่านก็เหม็นแย่เลยดิคับ

 :bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 07:16:54
เหอ เหอ เมื่อไหร่อาร์ทจะมาละเนี่ย  o9 เอ จะมาหรือเปล่าหว่า หรือหายไปเลย  o22
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-06-2007 11:10:14
เหอเหอ

พี่โป้งทำคะแนนใหญ่เชียว

กาวคร้าบบบบ ตามมาด่วนนนนนน

เดี๋ยว มคปด หนา

  o12
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 01-06-2007 13:17:54
มารอลุ้นเจ้าชายน้อยกับองครักษ์ผู้พิทักษ์นะครับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-06-2007 18:50:29

"เร่งทำคะแนนใหญ่เลยนะเมริง"  พี่ตั้มพูดกับพี่โป้ง

"เออ   โอกาสแบบนี้มียาก  ปล่อยไปไม่ได้หรอก"  พี่โป้งพูด

"อย่าให้ถึงทีกรูส์บ้างก็แล้วกัน"   พี่ตั้มพูด 

"คะแนนอะไรหรอ"   แบ๊งค์ถาม

"ไม่มีอะไรหรอก  ไอ้ตั้มมันบ้าน่ะแบ๊งค์"    พี่โป้งพูด



พี่ตั้มพูดแบบนี้หมายความว่างายอ่า  พี่ตั้มคิดไรกะแบงค์ด้วยเหรอออ :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-06-2007 19:37:24
สงสัยทำบุญน้อยไป ได้ความรู้ใหม่กะเทียมกับม่อน
 :o8:
แต่ดอยสุเทพนี่ก็ไปมาสองครั้งแล้วนะ ไยไม่เห็น
 o22
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 01-06-2007 21:29:25
 :serius2: :serius2: :serius2:
ช่วงนี้เป็นช่วงโปรโมชั่นของพี่โป้งเหรอเนี่ย
เร่งทำคะแนนใหญ่เลยนะ

ปล.ไอ้ทากระเทียมนี่รู้อยู่นะ แต่ม่อนนี่นึกไม่ออกง่ะ :confuse:

ปล.2 นึกถึงตอนที่ไปเที่ยวดอยสุเทพบ่อยๆ ก็ไม่เคยนั่งกระเช้าเหมือนกัน ชอบวิ่งนับขั้นบันได แต่ปรากฎว่านับไม่เคยได้เท่ากันเลยสักรอบ  :try2: :try2:

ปล.3 ช่วงนี้เรื่องเกี่ยวกับทางเหนือๆ เยอะจัง อ่านแล้วอยากกลับบ้านมากมาย :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-06-2007 21:34:59
หวัดดีคับ แวะมาแปะให้คับ โดนสั่งห้ามเล่นเน็ตเกิน 22.00 น.คับ
ตามใจหญิงแม่หน่อยคับ.... วันนึง จุ๊ จุ๊ นะฮะ

**********************
บทที่ 37  สงกรานต์ (สองต่อสอง )

หลังจากวันที่ไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ  เราสองคนก็ไม่ค่อยได้ไหนหรอกครับ  ส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวไปดูหนังที่ห้างกันมากกว่า

( ที่ กทม. ก็มี  แล้วมันจะมาทำไมที่เชียงใหม่ฟระ ) ช่วงนี้ใกล้สงกรานต์มาแล้วครับ  น่าตื่นเต้นดีจัง  สงกรานต์กับเชียงใหม่ช่างเป็นอะไรที่คู่กันเหลือเกิน   แบ๊งค์กับพี่โป้งเห่อกันมากเลย ( โป้งเห่อนี่ก็พอว่า แต่ไอ้แบ๊งค์เนี่ยสิ  จะเห่อทำไมฟระ  อยู่มาตั้งแต่เด็ก  เออ  งงว่ะ ) ไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เตรียมต้อนรับสงกรานต์กันใหญ่

วันนี้เป็นวันที่ 12 เมษายน  แล้วครับ  ที่เชียงใหม่ก็เริ่มเล่นสงกรานต์กันแล้ว  เพราะว่าตอนนี้ที่เชียงใหม่อากาศร้อนมากเลยครับ  เค้าก็เลยเริ่มเล่นน้ำกันเร็วกว่าที่อื่น ๆ  ไม่เฉพาะในเมืองหรอกนะ แถวบ้านแบ๊งค์ก็เหมือนกัน    วันนี้แบ๊งค์กับพี่โป้งออกมาที่ตลาดแถวบ้านครับ

"จะซื้ออะไรไปทานล่ะ "   แบ๊งค์ถาม

"ไม่รู้สิครับ  น้องแบ๊งค์อยากทานอะไรล่ะ "   พี่โป้งถามกลับ

"ตับห่านฝรั่งเศสอ่ะ  มีเปล่า "    แบ๊งค์แกล้งตอบไป

"อยากทานตับห่าน  แล้วมาที่เนี่ยนะ "   พี่โป้งทำท่างง ๆ

"ล้อเล่นน่า  คิดมากไปได้ "   แบ๊งค์หัวเราะออกมาเบา ๆ

"แล้วจะทานอะไรล่ะครับ "  พี่โป้งถามครับ

"ส้มตำมั้ยล่ะ "  แบ๊งค์ถามความคิดเห็นครับ

"ครับ  เอาตามนั้นก็ได้ "    พี่โป้งตามใจแบ๊งค์อีกแล้วครับ  ไม่เคยเลยนะ  แล้วเราก็ไปซื้อส้มตำมาทานกันครับ  นอกจากนั้นยังมีของกินอีกเยอะเลย  ทั้งไก่ย่าง  น้ำพริกหนุ่ม  หมูน้ำตก ไส้กรอกอิสาน ฯลฯ ( จะกินล้างโคตรกันหรือไงฟระ )

พอซื้อได้ทั้งหมดแล้วเราก็กลับมาที่บ้านครับ  วันนี้แม่กับโอโต้ซังไม่อยู่บ้าน  ออกไปเที่ยวข้างนอกกันตั้งแต่เช้าแล้ว  เราก็เลยมานั่งทานกันสองคน

"ซื้อมาเยอะขนาดนี้จะทานหมดมั้ยเนี่ย "   แบ๊งค์บ่น

"ก็ใครซื้อมาล่ะครับ "   พี่โป้งพูดประชดครับ

"แล้วทำไมไม่ท้วงบ้างล่ะ  พอถามอะไรก็บอกเอาหมดนี่นา "  แบ๊งค์ตอกกลับบ้าง

"อ่ะครับ  ทาน ๆ ไปเหอะครับ  เดี๋ยวก็หมดเอง ถ้าไม่หมดเอาให้แมวก็ได้"   พี่โป้งพูด

"มีอาน่ะหรอ  มันไม่กินหรอก "  แบ๊งค์พูด

"ลูก ๆ มันล่ะ  ไม่มีตัวไหนชอบกินของพวกนี้เลยหรอ "  พี่โป้งถาม

"แมวนะพี่โป้ง  ไม่ใช่หมาจะได้กินทุกอย่าง  พวกนี้มันเลือกจะตาย "  แบ๊งค์พูด ( บ้านแบ๊งค์เลี้ยงแมว 5 ตัวครับ มีตัวแม่คือ มีอา  ลูกอีก 4 ตัวคือ ยองฮัน ซังกวา มาจุน และก็ซองมี ครับ )

"ครับผม  งั้นเรามาช่วยกันทานดีกว่านะครับ จะได้หมด ๆ "  พี่โป้งพูด   แล้วเราก็ช่วยกันทานครับ  อร่อยจังอาหารวันนี้  ทานเข้าไปซะพุงกางเลย  พี่โป้งก็ทานเข้าไปเยอะเหมือนกันครับ 

พอทานเสร็จ  ล้างจานทำอะไรเสร็จเราก็มานั่งเล่นคอมพิวเตอร์  และก็ดูทีวีไปด้วยกันครับ  พร้อมกับวางแผนเรื่องที่จะไปเล่นน้ำสงกรานต์วันพรุ่งนี้ครับ  คิดแล้วตื่นเต้นจังเลย จะได้เล่นน้ำสงกรานต์อีกแล้ว  จะได้ไปเชคเรทติ้ง  ว่าปีนี้จะมีคนสาดเยอะเหมือนปีที่แล้วรึเปล่า

แล้วคืนนั้นก็ได้เรื่องเลยครับ  จากผลพวงที่ทานไปเมื่อตอนกลางวันอ่ะครับ  แบ๊งค์เข้าห้องน้ำเกือบทั้งคืน  วิ่งเข้า  วิ่งออกจนเหนื่อยเลยครับ

"แบ๊งค์  เป็นอะไรมากมั้ย  พี่ว่าไปหาหมอจะดีกว่านะ "   พี่โป้งพูดด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นหรอก  เมื่อกี้แบ๊งค์ก็กินยาแก้ท้องเสียไปแล้ว "  แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินมานั่งที่โซฟา

"แม่กับโอโต้ซังยังไม่มาอีกหรอ "  แบ๊งค์ถาม

"ยังหรอก  เมื่อกี๊แม่น้องแบ๊งค์โทรมาบอกว่าจะกลับดึก  ๆ อ่ะครับ "  พี่โป้งบอก

"อืม ๆ งั้น.... "   ยังไม่ทันที่แบ๊งค์จะได้ตอบ   แบ๊งค์ก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลยครับ  แล้วพอออกมาอีกที  ก็เห็นพี่โป้งยืนคอยอยู่แล้ว

"ไปโรงพยาบาลดีกว่านะครับ  พี่ว่ามันหนักเกินไปแล้ว "   พี่โป้งพูด

"อืม....แบ๊งค์ก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน.. "    แบ๊งค์พูดอย่างหมดแรง  แล้วก็เหมือนว่าจะเสียการทรงตัวไป  แต่พี่โป้งรับทัน
"แบ๊งค์!!!!  เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย "   พี่โป้งพูด

"ไม่เป็นไร   พาแบ๊งค์ไปหาหมอเถอะ "   แบ๊งค์พูด   ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มไม่มีแรงแล้วจริง ๆ แบ๊งค์พยายามบอกทางให้พี่โป้งขับรถไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด 

พอมาถึงโรงพยาบาล  แบ๊งค์ก็ไม่รู้สึกตัวอีกแล้วครับ  หมดแรงจริง ๆ   พอมารู้ตัวอีกที  ก็เหมือนว่าจะเช้าแล้ว  แบ๊งค์เห็นพี่โป้งนอนฟุบอยู่ข้าง ๆ เตียงครับ

"พี่โป้ง  พี่โป้ง"  แบ๊งค์เรียกพี่โป้ง  อย่างแผ่วเบา

"ค..ครับ   น้องแบ๊งค์ตื่นแล้วหรอ "    พี่โป้งรีบถาม

"อืม   แบ๊งค์คงไม่เป็นอะไรมากแล้วแหละ "

"แล้วตกลงว่า  แบ๊งค์เป็นอะไรหรอ "   แบ๊งค์ถามพี่โป้ง

"น้องแบ๊งค์มีอาการอาหารเป็นพิษ  กับอาการท้องเสียครับ"  พี่โป้งตอบ

"แล้วจะออกโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่หรอ"  แบ๊งค์ถาม

"พี่ว่าอย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลยจะดีกว่านะ  รักษาสุขภาพตัวเองจะดีว่า"  พี่โป้งพูด

"แต่แบ๊งค์อยากไปเที่ยวนี่นา  พี่โป้งก็อุตสาห์มาเชียงใหม่แล้วนี่นา"   แบ๊งค์พูดแบบเสียดาย

"นะครับ  อยู่รักษาตัวก่อนดีกว่า"  พี่โป้งพูด   แล้วผ่านไปซักพัก  แม่กับโอโต้ซักก็มาเยี่ยมแบ๊งค์ที่โรงพยาบาล

"เป็นอะไรมากมั้ยลูก"   แม่เข้ามาถามด้วยความห่วงใย

"ไม่เป็นไรหรอกแม่  พักไม่กี่วันก็คงกลับบ้านแล้ว"   แบ๊งค์พูด

"แม่....แบ๊งค์ขอออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ได้มั้ย"   แบ๊งค์พยายามขอแม่

"ไม่ได้หนา  อันตารัยหนา "   เสียงจากโอโต้ซังที่พยายามพูดภาษาไทยเตือนมาครับ

"นั่นสิลูก  ร่างกายก็ยังไม่ค่อยแข็งแรงนะ  น่าจะพักอีกซักหน่อย "   แม่เตือนครับ

"พี่ว่าปีนี้เรางดไปซักปีคงไม่เป็นอะไรหรอกนะครับ "   พี่โป้งช่วยเสริมอีกราย

"ก็แบ๊งค์อยากไปนี่นา "  แบ๊งค์พูดแบบเสียดาย

สรุปว่าแบ๊งค์จะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดช่วงสงกรานต์  เพราะว่าแม่ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าแบ๊งค์จะหายดี   และก็กลัวว่าแบ๊งค์จะแอบหนีไปเล่นน้ำสงกรานต์  แม่ก็เลยให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ดีกว่า  เฮ้อ~~~อุตสาห์ได้มาเที่ยวแล้วแท้ ๆ   อดอีกจนได้

แม่กับโอโต้ซังจะไปเที่ยวบ้านยายครับ  เพราะฉะนั้นตลอด 3 วันนี้แบ๊งค์จะมีพี่โป้งมาคอยดูแล  คอยเฝ้าไข้ให้  สงสารพี่เค้าเหมือนกันนะ  ดั้นด้นมาถึงเชียงใหม่แต่ไม่ได้เที่ยวซะงั้น

"พี่โป้ง......... "

"ไม่ไปเล่นน้ำหรอ "   แบ๊งค์ถามไป

"ไม่หรอกครับ  พี่ไม่รู้จะไปกับใคร "  พี่โป้งตอบ

"ไปกับพี่นุ่นมั้ยล่ะ  ตอนนี้พี่นุ่นกลับมาจากกรุงเทพฯ  แล้วนะ "   แบ๊งค์บอก

"ไม่เอาหรอก  จะให้พี่ทิ้งแบ๊งค์แล้วหนีไปเที่ยวหรอครับ "  พี่โป้งมองหน้าแบ๊งค์

"แบ๊งค์ขอโทษ  แบ๊งค์ไม่น่ามาเป็นตัวถ่วงเลย "   แบ๊งค์พูด

"อย่าพูดแบบนั้นเลย  พี่ยังไม่ได้ทันว่าอะไรเลย "

"พี่ว่าดูแลน้องแบ๊งค์ยังสนุกกว่าเล่นสงกรานต์อีก "  พี่โป้งพูด

"อ่ะนะ....ทำไมล่ะ "    แบ๊งค์งง ๆ

"หายากออก  ช่วงเวลาที่ไอ้เด็กดื้อจะหมดลายแบบนี้ "   พี่โป้งพูดติดตลก

"ซะงั้นอ่ะ  ฝากไว้ก่อนละกัน "     แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ   วันนี้เป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ครับ   ข่าวกี่ช่อง ๆ ก็ออกแต่เรื่องนี้  และเจาะจงโดยเฉพาะที่เชียงใหม่   น่าเสียดายจัง ปกติก็แข็งแรงดี  ทำไมต้องเลือกช่วงอ่อนแอมาเป็นช่วงนี้ด้วยก็ไม่รู้   

"อย่าไปสนเลยครับ   ปีหน้าก็มีอีก "   พี่โป้งพูด

"อืม....รอปีหน้าก็ได้ "   แบ๊งค์พูด  ซักพักก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาครับ  พี่นุ่นนั่นเอง

"ฮัลโหลครับ "   แบ๊งคืรับสาย

"แบ๊งค์หรอ  ตอนนี้อยู่แถวไหนน่ะ "   พี่นุ่นถาม

"อยู่โรงพยาบาลอ่ะเจ้ "  แบ๊งค์ตอบไปแบบเบื่อ ๆ

"อ้าว   เป็นอะไรหรอ  เล่าให้เจ้ฟังดิ "    พี่นุ่นดูท่าทางตกใจ   แบ๊งค์ก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง  พี่นุ่นก็เลยหัวเราะออกมา

"หัวเราะอะไรอ่ะ   เซ็งอยู่นะเนี่ย "   แบ๊งค์พูด

"อ่ะนะ  ก็มันน่าขำมั้ยล่ะ "

"กินเยอะเอง  ผลสุดท้ายก็ต้องเข้าโรงพยาบาล "   พี่นุ่นยังหัวเราะไม่เลิก

พี่นุ่นอ่ะโป้งแล้ว   โทรมามีอะไรหรอ "   แบ๊งค์ถามออกไป

"อ๋อ....พี่คิดว่าเรามาเล่นน้ำ  ก็จะโทรมาบอกว่า "

"พี่นุ่นขายของอยู่ในเมืองนะ  แวะมาหากันก็ได้ "   พี่นุ่นพูด

"คงไปไม่ได้แล้วแหละ  ก็คงรู้นะ "   แบ๊งค์แบบเบื่อเต็มที่ 

"จ้า  หายเร็ว ๆ ก็แล้วกัน  มีบุรุษพยาบาลดีนี่น "   พี่นุ่นแซวก่อนวางสายไปครับ  เฮ้อ~~~ ทำไมสงกรานต์ปีนี้มันน่าเบื่อแบบนี้นะ

"นุ่นโทรมาหรอ "  พี่โป้งถามครับ

"อืม  พี่เค้าขายของอยู่ที่ในเมืองอ่ะ "   แบ๊งค์พูด

"เอาน่า  อย่าเสียดายไปเลย  สงกรานต์ไม่ได้มีแค่ปีนี้นี่นา "  พี่โป้งพยายามพูดปลอบใจแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์ก็ได้แต่พยักหน้า  วันนี้พี่โป้งเอาหนังสือมาให้แบ๊งค์อ่านครับ  ความจริงก็เพราะแบ๊งค์นี่แหละสั่งพี่โป้งให้เอามาจากบ้าน

"น้องแบ๊งค์ชอบเรื่องนี้หรอครับ "   พี่โป้งถาม

"อืม...อ่านแล้วเพลินดีออก  ลุ้นดี "   แบ๊งค์ตอบขณะที่รับหนังสือจากมือพี่โป้ง

"มิน่าล่ะ..... "   แล้วพี่โป้งก็เงียบไป

"มิน่าล่ะ  อะไรพูดมา ๆ "   แบ๊งค์เค้นเอาคำตอบจากพี่โป้ง

"ไม่มีอะหรอกครับ  อย่าไปสนใจเลย "   พี่โป้งพยายามบ่ายเบี่ยง

"จะพูดดี ๆ หรือว่าจะพูดด้วยน้ำตา "   แบ๊งค์เริ่มขู่ครับ

"เหมือนจริง ๆ  เลย "   พี่โป้งพูดยิ้ม ๆ แล้วส่ายหัว

"พี่โป้ง!!!! "   แบ๊งค์เริ่มทำท่าไม่พอใจแล้วครับ

"ก็ได้ครับ ๆ พี่พูดก็ได้  คือ  พี่ไม่สงสัยเลยว่าทำไมน้องแบ๊งค์ถึงได้  ซน  ซ่า  กล้า บ้าบิ่นได้ขนาดนี้ "   พี่โป้งยอมพูดแล้วครับ

"แล้วทำไมถึงไม่สงสัยล่ะ "   แบ๊งค์ยังคงงง ๆ ในคำพูดของพี่โป้ง

"ก็ดูหนังสือที่น้องแบ๊งค์ชอบอ่านสิครับ  ตำนาน นักเรียน นักเลง  สมชื่อจริง  ๆ "   พี่โป้งพูดแล้วส่ายหน้า

"ซะงั้นอ่ะ  แบ๊งค์ไม่ใช่นักเลงขนาดนั้นซะหน่อย "

"แล้วหนังสือเล่มนี้ก็เป็นแค่นิยายเฉย ๆ  ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย "   แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับ  พี่ก็ไม่แปลกใจเลยจริง ๆ ""   พี่โป้งยังยืนยันคำเดิม

"พี่โป้งอ่ะ  ไม่เอาแล้วอ่านหนังสือดีกว่า "   แล้วแบ๊งค์ก็นั่งอ่านหนังสือไปเงียบ ๆ  ซักพักหนึ่งก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นครับ

"แบ๊งค์หรอ  นี่หญิงนะ  เป็นอะไรมากรึเปล่า "   เสียงเพื่อนเก่ามาทักทายครับ

"ไม่แล้วล่ะ  รู้ได้ไง "  แบ๊งค์ถาม

"ก็เมื่อกี้ไปเจอพี่นุ่นมา  พี่นุ่นเลยบอก "  หญิงพูด

"อ่ะนะ ก็ขอบคุณด้วยก็แล้วกัน  แต่ไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ "  แบ๊งค์พูดไป

"รีบหายไว ๆ นะ บายจ๊ะ "  แล้วหญิงก็วางสายไป  จากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกหลายสาย  ทั้ง จิมมี่  บิ๊ก  ว่าน  เบนซ์  น้องฝน น้องต้น ฯลฯ  ทุกคนต่างรู้ข่าวมากจากพี่นุ่น  และต่างก็โทรมาอวยพรให้หายดี  สรุปแล้ววันนั้นแบ๊งค์ได้อ่านหนังสือไปไม่กี่หน้าเพราะว่า  มัวแต่รับโทรศัพท์ จนพี่โป้งทนไม่ไหวต้องออกปากแซว

"ฮอทจังนะ นายตัวเล็ก "  พี่โป้งแซว

"อะไรง่ะ  ไม่ได้ฮอทซะหน่อย  และก็ไม่ได้ตัวเล็กด้วย "   แบ๊งค์ไม่ยอมหรอกครับ  พอพี่โป้งเห็นแบ๊งค์ตั้งท่าจะเถียงต่อ  พี่โป้งก็เลยหยุดการสทนาไปแค่นั้น  แบ๊งค์อ่านหนังสือได้สักพักก็เริ่มง่วงครับ  มองไปทางพี่โป้ง  อ้าว.....ชิ่งหลับไปก่อนกรูส์อีก  ว่าแล้วก็หลับบ้างดีกว่า

แบ๊งค์ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา  พอมองไปรอบ ๆ ห้อง  อ้าว......ไอ้คุณพี่โป้งหายไปไหนน่ะ  ตอนก่อนที่จะเผลอหลับไปยังเห็นหลับอยู่เลย  ตื่นมาก็ทิ้งกันอีก  คอยดูนะถ้ากลับมาจะ....

"อ้าวตื่นแล้วหรอครับ "   พี่โป้งเปิดประตูห้องเข้ามาพอดีครับ  พร้อมกับของกินเต็มไม้เต็มมือเลย  ไม่รู้ไปซื้อมาจากไหน

"ไปไหนมาอ่ะ  ทิ้งแบ๊งค์ให้อยู่คนเดียวนะ  ดัดขนตา "   แบ๊งค์แกล้งต่อว่าพี่โป้งแล้วปล่อยมุกไปครับ

"พี่แค่ไปหาอะไรมาให้น้องแบ๊งค์ทานน่ะครับ "

"แล้วไอ้ดัดขนตา  นี่มันคืออะไรหรอครับ "   พี่โป้งยังคงงในมุกที่แสนแป๊กของแบ๊งค์

"ดัดขนตาก็ งอนไง "   แบ๊งค์อธิบายให้ฟัง

"โห...จะงอนแล้วยังมีมุก "   พี่โป้งแซว

"แล้วมีอะไรทานบ้างล่ะ "  แบ๊งค์ถาม

"อ่ะนะ  หายงอนแล้วหรอ "   พี่โป้งแซวกลับ

"งั้นไม่ทานก็ได้ "   แบ๊งค์กลับไปนอนที่เดิม

"โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนดิ  มาทานด้วยกันนะ "   พี่โป้งตามมาง้อครับ

"อืม  เอางั้นก็ได้ "    แบ๊งค์พูด

"แล้วของพวกนี้แบ๊งค์จะทานได้หรอ   มันไม่แสลงท้องหรอ  เดี๋ยวก็เป็นหนักกว่าเดิมอีกหรอก "   แบ๊งค์ยังคงหวั่น  ๆ อยู่
"ไม่เป็นไรหรอกครับ  พี่ไปถามหมอมาให้แล้ว "

"ของพวกนี้ทานได้ครับ  ไม่มีอะไรมาก "   พี่โป้งพูด   จากนั้นแบ๊งค์กับพี่โป้งก็นั่งทานของที่ซื้อมาด้วยกัน  คราวนี้แบ๊งค์ระวังในการกินมากขึ้นแล้วครับ  ไม่อยากเป็นแบบเดิมแล้ว  เข็ดจริง ๆ

พอทานเสร็จ  แปรงฟัน ทำอะไรเสร็จเรียบร้อย  เราก็มานั่งดูทีวีด้วยกันครับ  มีแต่ข่าวสงกรานต์ทั้งนั้นเลย   แบ๊งค์เริ่มปลงแล้วล่ะครับ  เอาไว้เที่ยวปีหน้าก็แล้วกัน  จากนั้นซักพักแบ๊งค์ก็หลับไป

ตลอดสองวันที่ผ่านมา  พี่โป้งดูแลแบ๊งค์ดีมากเลยนะครับ   เอาใจทุกอย่าง  ไม่เคยขัดใจแบ๊งค์เลย  จนมาถึงวันนี้ ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วที่แบ๊งค์จะอยู่โรงพยาบาล  ดีใจจัง  ได้กลับบ้านซะที  ถึงจะไม่ได้เที่ยวสงกรานต์ก็เหอะ  ขอกลับบ้านดีกว่า  อยู่โรงพยาบาลแล้วไม่ชิน

"จะได้กลับบ้านแล้วนะครับ "   พี่โป้งหันมาพูดกับแบ๊งค์  ซึ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่

"อืมนั่นสิ  ดีใจจัง "   แบ๊งค์ปิดหนังสือแล้วพูดกับพี่โป้ง

"เดี๋ยวพี่ไปจ่ายเงินก่อนนะครับ  จะได้ออกไปกันเลย "   พี่โป้งพูด

"รอแม่แบ๊งค์มาจ่ายให้ก็ได้  ไม่ต้องรีบหรอก "  แบ๊งค์รีบขัด

"ไม่เป็นหรอก  เดี๋ยวพี่มานะ "   ไม่ทันซะแล้ว  พี่โป้งออกไปซะก่อน  ดื้อจริง ๆ เลย  แล้วยังมีหน้ามาว่าคนอื่นดื้ออีกนะ  ใครกันแน่ที่ดื้อ  แล้วแบ๊งค์ก้นึกอะไรแผลง ๆ ได้  แบ๊งค์หยิบแก้วน้ำที่มีหลอดคาอยู่ขึ้นมา
แบ๊งค์กดปลายหลอดอีกด้านไว้  ทำให้น้ำค้างอยู่ในหลอด  ตอนนี้ก็รอแค่พี่โป้งอย่างเดียว

"มาแล้วววว "  พี่โป้งเปิดประตูเข้ามาพอดี  แบ๊งค์ก็เลยสะบัดน้ำในหลอดออกไป โดนหน้าพี่โป้ง

"เฮ้ย !!!! อะไรเนี่ย "   พี่โป้งทำท่าตกใจ

"ฉลองสงกรานต์ไง  และก็ทำโทษที่ดื้อ ไปจ่ายเงินก่อน "   แบ๊งค์พูด

"อ๋อเล่นแบบนี้ใช่มั้ย "  แล้วพี่โป้งก็วิ่งไปคว้าขวดน้ำ  เทน้ำใส่ฝาขวด  แล้วสาดใส่แบ๊งค์คืน

"จะเล่นหรอ "  แบ๊งค์ท้า   แล้วสงครามหยดน้ำก็เกิดขึ้น  เราสาดน้ำ ( อันเล็กน้อย ) ใส่กัน  แล้วแบ๊งค์ก็ต้องหยุด  เพราะตอนนี้  น้ำในแก้วของแบ๊งค์เริ่มหมดแล้ว

"น้ำหมดแล้วหรอ  อย่างนี้จับมาทำโทษดีกว่า "   พี่พูดเสร็จก็วางขวดน้ำ  แล้วตรงเข้ามาทำท่าจะจับแบ๊งค์  แบ๊งค์ก็วิ่งหนีสิครับ

"ไม่เอานะ ๆ พอแล้ว ๆ พี่โป้ง "   แบ๊งค์วิ่งหนี วนไปมารอบห้อง  จนในที่สุดแบ๊งค์ก็ไปลื่นกับน้ำที่หกอยู่บนพื้นจากการเล่นเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

"เหวออออ "   แบ๊งค์ร้องออกมา  ดีนะที่พี่โป้งรับไว้ทัน  ตอนนี้แบ๊งค์เลยล้มอยู่ในอ้อมกอดของพี่โป้ง ( เหมือนในละครเลยว่ะ ) เราสองคนมองหน้า  จ้องตากัน  แล้วอยู่ ๆ เพราะด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบ  แบ๊งค์ก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

"เป็นอะไรหรอ "   พี่โป้งถาม และทำหน้างง ๆ

"เปล่า ๆๆๆ "   แบ๊งค์ยังคงหัวเราะต่อไป  แล้วจากนั้นแบ๊งค์ก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะกลับบ้าน  นึกแล้วก็ตลกนะ  กำลังจะซึ้ง  แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้แบ๊งค์ก็หลุดหัวเราะออกมาซะงั้นอ่ะ   พอจะกลับบ้านก็รู้สึกผิดนะ ที่เล่นสงกรานต์ในห้อง  สงสารแม่บ้านจัง คงทำงานหนักแน่ ๆ เลย  ขอโทษด้วยนะครับ  ก็คนมันไม่ค่อยได้นอนโรงพยาบาลนี่นา ขอเล่นหน่อยนะ.....หุหุ
*********************
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-06-2007 07:28:32
เมื่อไหร่จามีบทพี่อาร์ทบ้างน๊า  :o11:

แตแมวของแบงค์ชื่อออกโซนเกาหลีทั้งนั้นเลย  :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-06-2007 10:35:00
กาวหายหัวไปไหนเนี่ย ปล่อยให้พี่โป้งทำคะแนน เดี๋ยวแห้วแล้วจาหาว่าไม่เตือน o16 o16 o16
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 03-06-2007 12:27:55
 :o10:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-06-2007 12:40:01
เหอ เหอ สงสัยอาร์ทจะอยู่ไกลไป  :sad2: โป้งทำคะแนนลิ่ว ๆ เลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 03-06-2007 17:46:37
คิดถึงพี่อาร์ทอ่ะ :sad2: :sad2:
ช่วงนี้ไม่มีบทบาทเลย :sad4: :sad4:
พี่โป้งทำคะแนนนำโด่งเลยเนี่ย o6 o6 o6 o6 o6
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 03-06-2007 21:55:53
************************
บทพิเศษ การกลับมาของพี่อาร์ท

"อาร์ท  เก็บของเสร็จรึยังลูก "  เสียงคุณป้าของผม ถามไถ่ขึ้นมา

" ใกล้จะเสร็จแล้วครับ "  ผมตะโกนบอกไป  แล้วผมก็รีบปิดกระเป๋า  จากนั้นก็ขนกระเป๋าลงมาข้างล่างครับ

"ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก "  คุณป้าถาม

"ครับ  ไม่ลืมแล้ว "  ผมตอบคุณป้าเราเดินทางไปสนามบิน  เพื่อบินกลับประเทศไทยกัน   คุณป้าและครอบครัวก็จะกลับไปเที่ยวเมืองไทยเหมือนกัน  เพราะใกล้สงกรานต์แล้ว 

วันนี้แล้วสินะ  ที่ผมจะกลับไป  กลับไปหาคนที่ผมรักและคิดถึงที่สุด  ตอนนี้เค้าคงกำลังมีความสุขอยู่รึเปล่าผมก็ไม่อาจที่จะรู้ได้  แต่ถ้าเค้ากำลังทุกข์ผมก็อยากจะขอให้ผมได้กลับไปปลอบเค้าเป็นคนแรก

ในที่สุดตอนนี้ผมก็มาถึงเมืองไทยแล้วครับ  สนามบินสุวรรณภูมิ ความภาคภูมิใจของคนไทย  คนก็ยังพลุกพล่านตามเคย  ดูน้องแทมจะตื่นเต้นมาก  เพราะในสนามบิน มีประติมากรรม และอะไรต่าง ๆ ที่ดูเป็นวัฒนธรรมของไทยมากมาย

"นั่นอะไรหรอคะ "

"ทำมาจากอะไรน่ะ สวยจัง "

มีคำถามมากมายที่ผุดออกมา  ดูน้องแทมสดใสร่าเริงดีจังดูแล้วก็นึกถึงใครบางคน  คนที่สดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา  คนที่แสนดื้อ  แสนซน  คิดถึงเด็กคนนั้นจัง

"แทม   มาได้แล้วลูกคุณน้ามากันแล้ว "  เสียงคุณป้าเรียกน้องแทม  พอผมหันไปก็เจอ  พ่อกับแม่ผมพอดี  ผมก็เลยยกมือไหว้ท่าน

"มานานรึยังครับ พี่ "   พ่อผมถามไถ่คุณป้า

"ไม่นานหรอกจ๊ะ  เพิ่งมาถึง ก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ น่ะ "  คุณป้าตอบไป  ขณะที่ท่านทั้งสองกำลังคุยกัน  แม่ก็เดินเข้ามาทักทายผม

"เป็นไงบ้าง  อยากไปเรียนที่นั่นมั้ย "  แม่ถามครับ

"ไม่หรอกครับ  ผมอยากเรียนที่นี่มากกว่า "

"ที่นั่นไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ "   ผมตอบแม่ไป

"หรอ   งั้นไม่เป็นไร  เรากลับบ้านกันดีกว่านะ "   แล้วเราทั้งหมดก็กลับไปพักที่บ้านของผมครับ  ความจริงเหตุผลที่ผมตอบแม่ไปมันไม่จริงหรอกครับ  ที่ผมอยากเรียนที่นี่ก็เพราะ ผมอยากอยู่ใกล้ใครบางคน ก็เท่านั้น

เราทั้งหมดกลับมาถึงบ้าน     ผมเดินเข้าไปในห้อง  พอเข้าไปถึง  มันทำให้ผมนึกถึงสิ่งต่าง ๆ มากมาย ความทรงจำที่แสนจะหอมหวาน ระหว่างผมกับ......    ทำไมนะ  ผมถึงลืมเค้าไม่ได้ซะที   ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เค้าคงไปมีคนอื่นแล้ว   ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นครับ   ทำให้ผมตื่นขึ้นจากภวังค์

"เข้ามาได้เลยครับ "   ผมตอบออกไป

"ขอมาสำรวจห้องชายหนุ่มหน่อยได้มั้ยคะ "  น้องแทมนั่นเองครับ

"อืมเข้ามาสิ  พี่ไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว "    ผมพูด

"ห้องพี่อาร์ทตกแต่งสวยจัง  ดูเป็นระเบียบดีด้วย "   น้องแทมชมครับ

" ไม่หรอก  คือพี่ไม่ได้อยู่นานน่ะ  แม่บ้านเค้าก็มาทำความสะอาดให้  มันเลยดูเป็นระเบียบ "   ผมอธิบายให้เธอฟัง  น้องแทมก็เดินเล่น ๆ วนไปมาในห้อง

"พี่อาร์ทคะ แทมถามอะไรซักอย่างได้มั้ย "   น้องแทมถามมาครับ

"ได้สิครับ  ถามมาสิ "  ผมอนุญาตเธอไป

"คนในรูปนี้เป็นใครหรอคะ "   น้องแทมยกกรอบรูป  ที่วางอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมขึ้นมาแล้วถามครับ   มันไม่ใช่รูปใครหรอกครับ  เป็นรูปคู่ของผมกับ....กับน้องแบ๊งค์นั่นเอง

"........................ "    ผมเงียบไม่ตอบอะไรครับ

"บอกแทมมาเถอะค่ะ  แฟนพี่อาร์ทใช่มั้ยคะ "   พอน้องแทมพูดออกมา  ผมถึงกับอึ้ง

"ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ  แทมรับได้  เพื่อนแทมเป็นเกย์ก็มีเยอะแยะ "   น้องแทมพูด  ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับ  อายเหมือนกันนะครับ ที่มีคนรู้แบบนี้  ถึงที่บ้านผมจะรู้ว่าผมเป็นแบบนี้ก็เถอะ  แต่ก็ไม่เคยมีใครมาพูดกับผมตรง ๆ แบบนี้

"น่ารักดีจังนะคะ  เล่าเรื่องของเค้าให้ฟังหน่อยสิคะ "   น้องแทมดูท่าทางตื่นเต้น

"อย่าเลย  ตอนนี้ พี่กับเค้าไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วล่ะ "   ผมบอกแทมไปตามตรง

"อ้าวทำไมล่ะคะ "  แทมดูท่าทางเสียดาย 

"เค้าบอกเลิกพี่ไปตั้งนานแล้วล่ะ "    ผมพูด

"อืม....แต่ดูท่าทางพี่อาร์ทจะรักเค้ามากเลยนะ  เล่าให้แทมฟังหน่อยนะ "   น้องแทมทำท่าอ้อน ๆ ครับ  เหมือนแบ๊งค์จังเลยท่านี้

"................................ "  ผมยังไม่ตอบ

"นะนะนะนะนะนะนะ "    น้องแทมยังอ้อน

"ค.....ครับ  ก็ได้ "   ผมทนไม่ไหวหรอกครับ  โดนอ้อนขนาดนี้

"เค้าเป็นคนที่พี่รักที่สุด   เค้าเป็นคนที่สดใสร่าเริง  ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ .... "

"ดื้อ    ซน    อ่อนไหว  ทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่ในตัวของเค้า.................. "   

แล้วผมก็เล่าทุกอย่างให้น้องแทมฟัง  ทั้งลักษณะ   นิสัย  พฤติกรรมของแบ๊งค์   

ให้น้องแทมฟัง   รวมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่ผมและแบ๊งค์ได้ทำร่วมกัน   
ผมเล่าไปจนถึงวันสุดท้าย.....ที่เราจากกันที่สนามบิน  พอผมเล่าจบ 
ผมก็หันไปทางน้องแทม  ปรากฏว่าน้องเค้ามีน้ำตาคลออยู่ครับ

"แทม.....เป็นอะไรรึเปล่า "    ผมถาม

"ไม่หรอกค่ะ   แทมแค่สงสารพี่อาร์ท "   น้องแทมพูด  พลางเช็ดน้ำตา

"เวลาที่พี่อาร์ทพูดถึงเค้า  ดูพี่อาร์ทมีความสุขจังนะคะ "   น้องแทมพูด

"อ....อืม...ครับ "   ผมพยักหน้าไป ในใจก็อาย ๆ เหมือนกัน

"เค้าดูน่ารักดีนะคะ  ไม่เหมือนเด็กมหาวิทยาลัยเลย  เหมือนเด็กมัธยมมากกว่า "   น้องแทมพูดแล้วยิ้ม ๆ

"ครับ   เค้าเป็นคนที่เหมือนเด็กตลอดเวลาแบบนี้แหละครับ "   ผมพูด

"พี่อาร์ทบอกว่าเค้าเหมือนแทมหรอคะ "    แทมถาม

"อืม...ครับ   ท่าทางเค้าเหมือนน้องแทมมากเลยนะรู้มั้ย "   ผมบอก

"อยากเจอเค้าตัวจริง ๆ จัง "   น้องแทมพูด

"เราจะได้เจอกันอีกรึเปล่าก็ไม่รู้หรอกนะครับ "   ผมพูดด้วยเสียงเศร้า ๆ

"ต้องได้เจอสิคะ   พี่อาร์ทก็อยากเจอเค้าไม่ใช่หรอกคะ "   น้องแทมถาม

"พี่อยากเจอเค้า  แต่เค้าคงไม่อยากเจอพี่หรอกครับ "   ผมพูด

"ไม่แน่หรอกนะคะ  ใครจะไปรู้ "   น้องแทมทำหน้าทะเล้น

"ก็เค้าเป็นคนขอเลิกกับพี่เอง  เค้าจะอยากเจอพี่ไปทำไมล่ะครับ "   ผมพูดไปตามจิง

"จากที่แทมฟังมา  แทมว่าเค้าก็รักพี่อาร์ทนะคะ "  พอแทมพูดแบบนี้ผมก็ได้แต่ทำหน้างง ๆ

"แทมว่าเค้าต้องมีอะไรซักอย่าง   ที่เป็นสาเหตุ ทำให้เค้ามาบอกเลิกพี่อร์ทแน่ ๆ "

"เพราะพี่อาร์ทก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เค้าโกรธ หรือไม่พอใจ "    น้องแทมพูด

"เค้าอาจจะเบื่อพี่ก็ได้นะครับ "   ผมบอกไปตามที่คิด

"ไม่หรอกค่ะ  พี่อาร์ทไม่ต้องห่วงนะ  แทมยังอยู่ที่เมืองไทยอีกตั้งนาน 

" เดี๋ยวแทมจะช่วยพี่อาร์ทเอาเค้าคนนั้นกลับมาเอง "   ดูท่าทางน้องแทมมุ่งมั่นมากเลยนะครับ     

จากนั้นแม่ผมก็มาเรียกเราสองคนไปทานข้าว  ผมก็ลงไปพร้อมกับน้องแทมนี่แหละ  ดูสายตาน้องเค้ามุ่งมั่นดีจัง
เมื่อทานข้าวเสร็จผมก็กลับขึ้นมายืนที่ระเบียงห้อง   ผมสูดหายใจลึก  ๆ แล้วผ่อนมันออกมา 
มันคงเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งสินะ   ผมพูดกับตัวเอง
*******************
พี่อาร์ทกลับมาแล้วนิ จะเป็นยังงัยต่อไปน๊า....
แอบไปอ่านล่วงหน้าดีก่า.....เอ๊ะ! ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวจะไม่ลุ้น o18
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 03-06-2007 22:54:58
ดีใจจังอาร์ทกลับมาแล้ว
 :dont2: :o7: o7 :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-06-2007 23:13:01
ถึงพี่อาร์ทจากลับมา ผมก็ยังเชียร์กาวครับ  o11 o11 o11 o11
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 03-06-2007 23:30:42
ในที่สุดพี่อาร์ทก็กลับมาแล้ว
 o7 o7 o7 o7 o7 o7
ทีนี้ก็ต้องมาลุ้นกันล่ะ ว่าจะวุ่นวายแค่ไหน
 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-06-2007 13:32:50
 :like6:  พี่อารืทกลับมาแล้ว   กลับมาเอาหัวใจกลับมาให้ได้นะค้าบบ มีผู้ช่วยมาด้วย สู้ๆ  :teach:


แล้วงี้ พี่โป้ง อ่ะ กำลังทำคะแนนอยู่เลย ..แบงค์เทใจไปให้แค่ไหนหรือเปล่าไม่รู้

กาวอีกอ่า เง้ออ  เรื่องยังวุ่นวายไม่หยุดง่ายๆ แน่นายเด้กดื้อ อิอิ o3
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 04-06-2007 16:01:04
เข้ามาตามอ่านแล้วนะ  แต่ยังไม่ทันเลย

วันนี้ขอตัวไปแรดก่อนนะเคอะ

แล้วจะตามมาเม้นต์ให้แสบทรวงเลยที่เดียว

แล้วเจอกันนะเคอะ อิอิ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 17:28:45
พี่อาทมาแว้ววววววว

สงสารกาวจัง คู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกแล้วววว

 :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 19:56:37
ว้าว อาร์ทกลับมาแล้ว  :interest: ลุ้นให้รีเทิร์น  o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-06-2007 00:34:55
พี่อาร์ทกลับมาแล้วแบงค์จะว่างัยน๊า   :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 05-06-2007 18:32:31
เย้ เย้ เย้ พี่อาร์ทกลับมาแล้ว
  :impress2:

แต่เอ๊ะ  :o แล้วพี่โป้งจะทำไงอ่ะ

เฮ้อ ... เลือกเชียร์ไม่ถูกเลยเรา

 :-[
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 05-06-2007 19:35:19
เย่ๆ พี่อาร์ท  :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 05-06-2007 22:41:40
เรทติ้งดีไม่มีตก

10 เม้นท์แว้วเด้อ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 05-06-2007 22:47:23
หวัดดีคับ ขอโทดทีคับ เมื่อวานผมหลงไปทู้ของพี่ซัมซิกอ่ะ :serius2:แล้วแบบ :like6: :like6:หาทางออกไม่เจอก็เลย....ไม่น่าเชื่อทำไมผมไม่เคยเข้าไปเลย พลาดอย่างแรง

เอ่อ...คุณพี่เจ๊สองคับ ผมขอแค่บางๆนะคับ :try2:  :impress:........ :sad5: o17

*************************
บทที่ 38 กลับสู่กรุงเทพฯ


หลังจากวันที่แบ๊งค์ออกโรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็ถึงกำหนดที่เราจะกลับกรุงเทพฯ กันแล้วครับ  จะว่าไปเราก็มาอยู่นานเหมือนกันนะครับ  เดือนกว่า ๆ เห็นจะได้มั้ง  ไหน ๆ ก็จะกลับแล้ว แบ๊งค์ก็เลยชวนพี่โป้งไปซื้อของฝากให้เพื่อน ๆ ทั้งหลาย

แม่แนะนำให้ไปซื้อที่ตลาดวโรรส ( กาดหลวง ) ถ้าจะซื้อเป็นอาหารครับ  ส่วนของทั่วไป  หรือของตกแต่งบ้าน แบ๊งค์ว่าไปที่ถนนคนเดินดีกว่านะ  เมื่อได้ความคิดดังนั้นแล้ว   แบ๊งค์กับพี่โป้งก็เลยได้ฤกษ์ ออกไปซื้อของฝากให้เพื่อน ๆ กันครับ  โดยวันนี้เราจะไปซื้อของฝาก  ประเภทของตกแต่งบ้าน  หรือเครื่องประดับกันที่ถนนคนเดินครับ
เราออกจากบ้านในเวลาค่อนข้างเย็น  พอไปถึงก็พอดีเลยครับ  อากาศไม่ค่อยร้อนมาก  คนก็ยังไม่ค่อยหนาตาเท่าไหร่  อย่างนี้สิ ค่อยน่าเดินหน่อย

"ที่นี่มีของขายเยอะเลยนะครับ"   พี่โป้งพูดขึ้น

"ครับ  มีแต่ของสวย ๆ น่าซื้อเต็มไปหมด"   แบ๊งค์เสริม

"แล้วแบ๊งค์จะซื้ออะไรไปฝากพวกเพื่อน ๆ ล่ะครับ"    พี่โป้งถาม

"อืม...ลองไปดูที่นี่ก่อนดีกว่านะ  แบ๊งค์ว่านะจะถูกใจ"   แบ๊งค์ยิ้มอย่างมีเลศนัย

"ที่ไหนหรอครับ"   พี่โป้งทำหน้างง ๆ

"ตามแบ๊งค์มาเหอะน่า"   แล้วแบ๊งค์ก็ลากพี่โป้งเดินตาม  จนมาถึงบริเวณที่ใกล้ ๆ กับโรงพักกองเมือง ( ชื่อเต็มอะไรไม่รู้ล่ะ  จำไม่ได้ )    ซึ่งจะมีร้าน ๆ อยู่ร้านหนึ่งขายเสื้อยืด โดยส่วนมากจะเป็นเสื้อยืดที่สกรีนคำว่า เชียงใหม่  ในตัวหนังสือที่มีลักษณะแตกต่างกันไป

"เป็นไง  ร้านนี้นะจะถูกใจนะ"   แบ๊งค์พูดกับพี่โป้ง

"อืมครับ  มีแต่เสื้อสวย ๆ ทั้งนั้น"    พี่โป้งพูด   

ดูท่าทางพี่โป้งจะพอใจกับเสื้อของร้านนี้มาก  เราก็เลยซื้อมา 3 ตัวสำหรับ พี่ตั้ม แมค และกาว  จากนั้นเราก็เดินต่อไปกันเรื่อย ๆ  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มหิวแล้วล่ะสิ  เดินผ่านร้านของกินมาตั้งเยอะแล้ว  แวะซื้ออะไรทานมั่งดีกว่า

"พี่โป้ง   แบ๊งค์เริ่มหิวแล้วอ่ะ"  แบ๊งค์พูด

"ซื้ออะไรไปทานกันก่อนมั้ยล่ะครับ"  พี่โป้งถาม

"อืม...เอาสิ  ซื้อ ๆ ไปก่อน เดี๋ยวไปทานที่ลานหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์กัน"  แบ๊งค์เสนอความคิดออกไป

"ก็ได้ครับ"  พี่โป้งนี่ช่างดีซะเหลือเกิน  ไม่เคยขัดใจแบ๊งค์เลย  เราก็ซื้อของกินไปตลอดทางครับ  มีแต่ของน่าทานทั้งนั้นเลย  พี่โป้งไปสดุดกับสิ่ง ๆ หนึ่งครับ  ที่นี่เค้าเรียกไข่ป่าม  เป็นลักษณะคล้าย ๆ ไข่ตุ๋นน่ะครับ  แต่เราเอาไปใส่กระทงใบตองแล้วย่างแทน

"ไม่เคยเห็นล่ะสิ"   แบ๊งค์แซวไป

"ครับ  รสชาติเหมือนไข่ตุ๋นรึเปล่าครับ"   พี่โป้งถาม

"ไม่รู้สิ  เกิดมาแบ๊งค์ก็ไม่เคยกิน  เคยแต่เห็นเนี่ยแหละ"   แบ๊งค์พูดไปตามความจริง

"อ้าว....ซะงั้นอ่ะน้องแบ๊งค์"   พี่โป้งทำท่างง ๆ

"ก็จริง ๆ นี่นา  แบ๊งค์ไม่เคยทานจริง ๆ นะ"  แบ๊งค์บอก

"งั้นเราซื้อไปทานกันนะ" พูดเสร็จพี่โป้งก็ซื้อมาครับ  เราก็เดินซื้อไปเรื่อย ๆ  เดินวนไปวนมานั่นแหละ  เพราะของอร่อย ๆ จะอยู่กระจัดกระจาย ( เหนื่อยว่ะ )  เราเดินจนไปถึงที่หน้าศูนย์โทรศัพท์ดีแทค  ที่นั่นจะมียำมะม่วงอยู่หนึ่งเจ้า  เป็นที่กล่าวขวัญกันมากว่าอร่อย ( ก็อร่อยจริง ๆ อ่ะ )  คนค่อนข้างเยอะเหมือนกัน 
แล้วเราสองคนก็เดินไปเรื่อย ๆ จากที่กะว่าจะไปทานกันที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์  ก็ยกเลิกไป  เพราะเราเดินมาไกลไปหน่อย หุหุ  ก็เลยเข้าไปทานในวัดพันอ้นแทน  เพราะที่วัดนี้เค้าจะมีที่นั่งจัดไว้ให้

"ในวัดนี้ก็มีของให้ทานเยอะเหมือนกันนะครับ"  พี่โป้งพูด

"ออกไปข้างนอก  ตรงข้ามเป็นวัดสำเภา  ของกินในวัดนั้นก็เยอะเหมือนกันนะ"  แบ๊งค์พูด

"เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำก่อนนะครับ"   แล้วพี่โป้งก็เดินออกไปซื้อน้ำ  แบ๊งค์ก็เลยลองแกะดูว่าซื้ออะไรมามั่ง  มีแต่ของกินเต็มไปหมด  ทั้งไข่ป่าม   ข้าวจี่  ไส้กรอกอิสาน ( มันเกี่ยวอะไรกับเชียงใหม่วะเนี่ย )   เฉาก๊วยโบราณ   ยำมะม่วง  แล้วพี่โป้งก็เดินกลับมาพร้อมด้วยน้ำสองขวดและ หอยทอดหนึ่งจาน  อะไรกันเนี่ย  ซื้อมาเต็มไปหมด

"ซื้ออะไรมานักหนาเนี่ย  พี่โป้ง"  แบ๊งค์ถาม

"ก็ซื้อมาทานกับแบ๊งค์ไงครับ"   พี่โป้งพูด

"เดี๋ยวยังต้องเดินอีก  ซื้อมาทานมาก ๆ เดี๋ยวก็ท้องอืดหรอก"   แบ๊งค์บอก

"อ่ะครับ  ทาน ๆ ไปเหอะครับ  จะได้โตเร็ว ๆ"   พี่โป้งพูดแซว

"อ่ะนะ  งั้นมาก็เอามาเลย"   แล้วแบ๊งค์ก็ดึงจานหอยทอดมาวางไว้ที่หน้าตัวเอง  แล้วเราสองคน  ก็นั่งเติมพลังด้วยของที่เพิ่งซื้อมาเนี่ยแหละครับ  พอทานอะไรเสร็จเรียบร้อย  คราวนี้ก็ได้เวลาเดินทางไปหาซื้อของฝากให้เพื่อน ๆ ต่อแล้วครับ
แบ๊งค์เดินจนไปเจอกับตะเกียงเซรามิค  สำหรับจุดพวกธูปหอมอ่ะครับ  ก็เลยซื้อมา คิดว่าจะเอาไปฝากพี่ปอยน่ะครับ  ส่วนพี่ตี๋น่ะหรอ  อืม....เอาอะไรดีนะ  นั่นไง  เอาเป็นโคมไปกระดาษสาดีกว่า  สวยดีด้วย   จากนั้นเราก็เดินดูของต่อเรื่อย ๆ เผื่อว่าจะมีของไปฝากพวกเพื่อน ๆ อีก

แล้วเราก็เดินมาจนเจอกับร้าน ๆ หนึ่ง  เป็นร้านที่ขายพวกสร้อยข้อมือ กับสร้อยข้อเท้า  โดยสร้อยพวกนี้จะเป็นเชือกถัก ๆ แล้วเอากระดิ่งหรือกระพรวนเล็ก ๆ มาห้อยไว้   คล้ายกับ....ของที่แบ๊งค์ซื้อให้พี่อาร์ทที่สะพานพุทธ   แบ๊งค์หยิบมันขึ้นมาดู  เห็นแล้วก็นึกถึงวันคืนเก่า ๆ นะครับ

แบ๊งค์เลยซื้อไปอีกสองเส้น  พี่โป้งคงสังเกตได้  ว่าสร้อยพวกนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับแบ๊งค์แน่ ๆ แต่พี่เค้าก็ยังไม่ถามอะไรครับ
แบ๊งค์ยังคงปล่อยให้พี่โป้งสงสัยไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็เดินต่อจนไปถึงร้านพวงกุญแจ

"น้องแบ๊งค์ดูนี่สิครับ  น่ารักดีจัง"   พี่โป้งชี้ชวนแบ๊งค์ดู

"อ...อ่ะครับ"    แบ๊งค์เดินเข้าไปแบบอึ้ง ๆ เพราะพวงกุญแจร้านนี้จะเป็น ตุ๊กตาเชื่อที่ถัก ๆ พันกันจากแกนจนออกมาเป็นรูปร่าง   มันเป็นสิ่งที่แบ๊งค์เอาไปร้อยกับกุญแจรถของพี่อาร์ท   แบ๊งค์ค่อย ๆ หยิบมันขึ้นมาดู  ทีละตัว ทีละตัว

"แบ๊งค์...... "   พี่โป้งเรียกแบ๊งค์อย่างแผ่วเบา

"ค...ครับ"   แบ๊งค์สะดุ้ง  ก่อนจะหันไปหาพี่โป้ง

"มีอะไรหรอครับ"   แบ๊งค์ถาม

"สร้อยข้อมือร้านเมื่อกี้  กับพวงกุญแจตุ๊กตาที่ร้านนี้"

"มันเกี่ยวข้องอะไรกับอาร์ทใช่มั้ยครับ"   พี่โป้งถามมา   มะนทำให้แบ๊งค์อึ้งเล็กน้อย

"ครับ..... "   แบ๊งค์ตอบออกไป  พอตอบไป  พี่โป้งก็ยืนขึ้น แบ๊งค์เลยยืนขึ้นตามบ้าง

"เราไปหาของฝากให้อาร์ทบ้างดีกว่านะ"  พี่โป้งพูดแล้วยิ้ม ๆ

"แบ๊งค์....ข..ขอ"    ยังไม่ทันที่แบ๊งค์จะได้พูด  พี่โป้งก็จูงมือแบ๊งค์เดินตามไปเรื่อย ๆ แบ๊งค์สังเกตที่ดวงตาของพี่โป้ง  ตอนนี้เหมือนมันจะเริ่มมีน้ำใส ๆ ปริ่ม ๆ อยู่ที่ขอบตาแล้ว 

"เอาอะไรดีล่ะ  แบ๊งค์ว่าอาร์ทมันจะชอบอะไร" 

"เอาของร้านนันดีมั้ย  หรือจะเป็นของร้านนี้ดี"   พี่โป้งพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

"........................"   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร  แต่ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มที่จะร้องไห้แล้ว  แบ๊งค์เลยสะบัดมือพี่โป้งออก  แล้วเดินกลับไปที่รถ  อย่างไม่สนใจอะไร  แบ๊งค์นั่งร้องไห้ที่ข้าง ๆ รถ  มีคนมองมาเยอะเหมือนกันนะครับ  แต่แบ๊งค์ไม่สนอะไรแล้ว 
ซักพักก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมายืนข้าง ๆ  พอแบ๊งค์แหงนหน้ามอง   ไม่ใช่ใครหรอกครับ  พี่โป้งนั่นเอง

"พี่ขอโทษครับ"    พี่โป้งพูดออกมาสั้น ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ แบ๊งค์

"......................."    แบ๊งค์ก็ยังคงไม่พูดอะไร

"พี่ขอโทษ   พี่เพียงแค่อิจฉาไอ้อาร์ทก็เท่านั้น"

"อิจฉา....ที่มันมีคนที่รักมันมากขนาดนี้   อิจฉาที่มันได้หัวใจแบ๊งค์ไปครอง  ซึ่งไม่ว่าพี่จะทำดีกับแบ๊งค์อย่างไร  พี่ก็คงไม่มีวัน....ไม่มีวันที่จะได้เป็นแบบมัน"    พี่โป้งเริ่มร้องไห้ออกมา

"พอเถอะพี่โป้ง.......ถือว่าแบ๊งค์ขอร้อง"     แบ๊งค์พูด

"มันจบแล้ว  ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว!!!! "   แบ๊งค์ตะคอกออกมา

"พี่ผิ...... "     พี่โป้งกำลังจะพูด   แต่แบ๊งค์สวนขึ้นมาก่อน

"ไม่มีใครผิดหรอก  แบ๊งค์เนี่ยแหละที่ผิดเอง"

"ผิดที่เกิดมาอ่อนแอ   ผิดที่เอาแต่นึกถึงเรื่องเก่า ๆ  ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีสันที่เค้าจะกลับมาอีกต่อไปแล้ว"   แบ๊งค์ร้องไห้ไม่หยุด  แล้วพี่โป้งก็ดึงแบ๊งค์เข้าไปกอดไว้

"ไม่หรอก  แบ๊งค์ไม่ได้อ่อนแอ  พี่ไม่โทษอะไรแบ๊งค์ทั้งนั้นนะ"

"ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว  เราก็อย่าไปสนใจมันเลย"   พี่โป้งกอดแบ๊งค์แล้วพูด

"เรากลับบ้านกันดีกว่านะ  ได้ของครบแล้วนี่"   พี่โป้งพูด  แบ๊งค์ก็ได้แต่พยักหน้ารับคำ

เรากลับมาถึงบ้านค่อนข้างดึก  แม่กับโอโต้ซังหลับไปหมดแล้ว  ดีแล้วล่ะ  ขืนมาเห็นรอยน้ำตาแบ๊งค์ จะได้แย่ไปกว่านี้อ่ะสิ   พอไปถึงแบ๊งค์ก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเลยไม่พูดอะไรกับพี่โป้งอีกจนกระทั่งถึงตอนเช้า  ที่พี่โป้งมาปลุก

"แบ๊งค์  แบ๊งค์"   พี่โป้งเขย่าตัวแบ๊งค์ครับ

"อะไรหรอ..... "   แบ๊งค์ตื่นมาอย่างงัวเงีย

"ไปซื้อของกินไปฝากเพื่อน ๆ กันได้แล้ว"   พี่โป้งพูด

"เออ...ใช่  แบ๊งค์ยังเก็บกระเป๋าไม่เสร็จด้วย"    พูดเสร็จ แบ๊งค์ก็กระโดดลงจากที่นอน แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที  พอออกมาก็เจอพี่โป้งกำลังจัดกระเป๋าของแบ๊งค์อยู่

"ทำอะไรน่ะ"   แบ๊งค์ถามไป  พี่โป้งสะดุ้งเล็กน้อย

"ก็จะช่วยน้องแบ๊งค์จัดกระเป๋าไงครับ"   พี่โป้งอธิบาย

"ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้  แบ๊งค์ก็เหลืออะไรไม่มาก  เดี๋ยวก็เสร็จแล้วครับ"   แบ๊งค์พูด

"ครับ ๆ เอางั้นก็ได้"   แล้วพี่โป้งก็เดินออกนอกห้องไป  คงลงไปรอแบ๊งค์ข้างล่างล่ะมั้ง   แบ๊งค์เลยจัดกระเป๋าต่อให้เสร็จ แล้วลงไป

"มาแล้วหรอลูก  ปล่อยให้พี่เค้ารออยู่ตั้งนาน"   แม่บ่นมาอันดับแรกเลย

"ก็จัดกระเป๋าอยู่อ่ะ  ป่ะไปกันเหอะ"   แบ๊งค์เรียกพี่โป้ง

"ครับ  ไปก็ไป"   พี่โป้งก็เลยขอกุญแจรถจากแม่แบ๊งค์  แล้วไปทำหน้าที่สารถี  ขับรถให้แบ๊งค์ตามเดิม  ขับไปได้ไม่นานหรอกครับ  เราก็ถึงที่หมาย ตลาดวโรรส  หรือที่คนเชียงใหม่เรียกว่า กาดหลวงนั่นเอง  คนจ๊อกแจ๊ก จอแจ ทุกวันเลย  ถ้าเปรียบเทียบก็คงคล้าย ๆ สำเพ็งนั่นแหละ  เพียงแค่ว่าที่นี่ ถ้าเข้าไปในตัวตลาดจริง ๆ จะมีของฝากขายอยู่ด้วยก็เท่านั้น

"คนเยอะจังนะครับ"   พี่โป้งพูด

"ก็เป็นแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ  บางวันเยอะกว่านี้อีก   อุ้ย...ขอโทษครับ"   ยังไม่ทันจะขาดคำ  แบ๊งค์ก็เดินชนซะแล้ว   ที่นี่คนเยอะแบบนี้แหละครับ  เยอะทุกวัน  ไม่รู้มาจากไหนกันนักกันหนา  และแล้วในที่สุดเราก็หลุดมาถึงในตลาดซะที

"เฮ้อ~~~~  นึกว่าจะมาไม่ถึงซะแล้ว  คนเยอะจริง ๆ"   แบ๊งค์พูด

"นั่นสิครับ  คนเยอะจริง ๆ ด้วย  แล้วเราจะซื้ออะไรหรอครับ"   พี่โป้งถาม

"ไปซื้อนี่ก่อนดีกว่า"   แล้วแบ๊งค์ก็ดึงพี่โป้งไปที่ร้านขายกาละแม   แบ๊งค์ก็ไม่รู้หรอกนะ  ว่ากาละแมมันเกี่ยวอะไรกับเชียงใหม่  รู้แค่ว่ามันอร่อย  และคนก็มาซื้อเยอะมาก ๆ  กาละแมที่นี่จะทำเป็นรูป สามเหลี่ยมเล็ก ๆ มีหลายรส หลายกลิ่น 

จากนั้นเราก็เดินวน ๆ กันไปต่อ  จนไปเจอกับแคบหมูไร้มัน  ของดีของขึ้นชื่อเมืองเชียงใหม่ ( รึเปล่าวะ ) นอกจากร้านนี้จะมีแคบหมูไร้มันแล้วยังขายน้ำพริกตาแดง  กับน้ำพริกหนุ่มอีกด้วย  เราก็เลยซื้อไปตามระเบียบ หุหุ
พอเราซื้อของเสร็จ  ก็กลับบ้านเลยครับ  ร้อนมาก ๆ  พอไปถึงก็ไปจัดแจงของให้เรียบร้อยเข้าที่อีกทีหนึ่ง  ก่อนจะออกจากบ้าน เพื่อไปยังสนามบิน ( ขากลับได้เงินจากแม่ เลยกลับเครื่องบิน หุหุ )  แม่เป็นคนขับรถไปส่งแบ๊งค์กับพี่โป้งครับ  รู้สึกใจหายเหมือนกัน  จะต้องจากแม่ไปอีกแล้ว  ดูท่าทางแม่ก็เศร้า ๆ เหมือนกันครับ  เพื่อไม่ให้บรรยกาศเศร้าไปกว่านี้  แบ๊งค์ก็เลยรีบลาแล้วเข้าห้องพักผู้โดยสารไป  ต้องไปสู้ชิวิตคนเดียวอีกแล้วสินะ
.
.
.
แล้วเราก็มาถึงสุวรรณภูมิแล้วครับ  ในขณะที่แบ๊งค์กำลังจะไปเรียกรถแท็กซี่  พี่โป้งก็รีบคว้าแขนแบ๊งค์ไว้  บอกว่าโทรไปบอกที่บ้านแล้ว  เดี๋ยวจะมีคนขับรถมารับ ( คุณหนูว่ะ )  แบ๊งค์กับพี่โป้งก็เลยรอรถ  ไม่นานรถจากบ้านพี่โป้งก็มาถึง 
พี่โป้งไปส่งแบ๊งค์ที่คอนโด  ตอนแรกพี่จะขึ้นไปส่งที่ห้อง  แต่แบ๊งค์ห้ามเอาไว้ก่อน   แบ๊งค์เลยต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปอย่างทุลักทุเล ( รู้งี้บอกให้มาช่วยขนกระเป๋าก่อนก็ดีว่ะ )  ห้องยังคงสภาพเดิม  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  อีกสองอาทิตย์มั้ง  กว่าพี่นุ่นจะกลับมา  ช่วงนี้แบ๊งค์ก็คงต้องอยู่คนเดียวไปก่อน  พอแบ๊งค์เก็บข้าวของ  และโทรศัพท์ไปหาเพื่อน ๆ เสร็จแล้วก็เผลอหลับไปเลย  เหนื่อยจริง ๆ วันนี้
************************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 06-06-2007 00:53:34
เฮ้อ ลำบากใจแทน หยั่งกะเรื่องของตัวเองเลยอ่ะ
พี่อาร์ทก้อยังรัก พี่โป้งตอนนี้ก็แสนดี
แถมยังมีเพื่อนกาวที่ทำให้ใจสั่นเวลาได้อยู่ใกล้อีก
 o7

ขอบคุณ pajaa นะครับ มาลงต่อให้เร็วทันใจ  o1

กำลังจะไปอ่านกาทู้ของคุณซัมเหมือนกัน คาดว่าไม่ได้นอนอีกแว้ว  :sad4:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-06-2007 05:39:44
เมื่อไหร่อาร์ทกะแบงค์จามาเจอกันนะ  :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-06-2007 12:55:17
ลุ้นๆ ให้พี่อาร์ทกะแบงคืมาเจอกันซักที....แล้วก็ปรับความเข้าจายยกานนะ ยังไงก็เชียรืพี่อาร์ทอ่ะ :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-06-2007 17:51:35
ใกล้จะเจอพี่อาทแล้วแน่ๆ เลย

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-06-2007 18:56:59
หุหุ สงสัยรถไฟจะชนกันเร็ว ๆ นี้ รึเปล่า  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 06-06-2007 19:07:52
เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น  โฮะๆๆๆๆ น่าลุ้นๆๆๆๆ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 06-06-2007 22:06:18
หวังว่าอีกไม่นานคงได้เจอกับพี่อาร์ท
รอ ร้อ รอ
 o14 o14 o14 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 06-06-2007 23:14:21
ใกล้แล้วคับใกล้จะได้เจอกันหล่ะ อีกนิด
***********************
บทที่ 39  รวมตัวฉลองเปิดเทอม!!!!

แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมละลือ    พอมองไปที่นาฬิกา  เฮ้ย!!!! 10 โมงกว่าจะ 11 โมงแล้ว  เดี๋ยวพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ กรูส์จะมาตอนเที่ยง  รีบตื่นดีกว่ากรูส์ ไม่งั้นไม่ทันแน่ ๆ  พอคิดได้แบ๊งค์ก็รีบอาบน้ำล้างหน้า แปรงฟันเลยครับ   กลัวไม่ทันจริง ๆ พออาบเสร็จ ก็มานั่งเล่นเกมในคอมฯ รอไปครับ    พอถึงเวลา 12.00 น. ตรงเป๊ะ ก็มีสายด่วนสายแรกโทรเข้ามาเลยครับ

"ฮัลโหลครับ "   แบ๊งค์รับสาย

"แบ๊งค์หรอ  กรูส์อยู่หน้าคอนโดแล้วนะเว้ย "   ไอ้กาวส่งเสียงมาทักทายอย่างสุภาพ ( ตรงไหนฟระ )

"เมริงก็เข้ามาสิ  หรือจะรอให้กรูส์จุดธูปอันเชิญก่อน  เมริงถึงจะเข้ามาได้ "   แบ๊งค์ตอบแบกวน ๆ

"เออ ๆๆๆ งั้นเดี๋ยวกรูส์เข้าไปละ  เมริงโดนดีแน่ ๆ "   ไอ้กาวขู่ทิ้งท้ายก่อนจะวางสายครับ

คนที่หนึ่งมารายงานตัวแล้ว  ตอนนี้ก็รอคนต่อ ๆ ไป   และแล้วตามที่ทุกคนคิดไว้ ( รึเปล่านะ ) ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกหนึ่งสาย 

"ไง  ไอ้ตัวเล็ก "   พี่ตั้มเริ่มแซวมาเลยครับ

"ก็ดี  ว่าแต่...มีอะไรหรอ "   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

"อ้าว ไอ้เวร  ก็เมื่อวานเมริงโทรเรียกกรูส์มาเองนี่หว่า "   พี่ตั้มพูดแบบงง ๆ

"ล้อเล่น....มาถึงแล้วใช่มั้ย  ถ้างั้นก็เอารถจอดไว้  แล้วขึ้นรถเมล์กลับบ้านซะนะ "  แบ๊งค์พูดให้งงเข้าไปอีก

"อ้าววว  ซะงั้น  พอ ๆๆ กรูส์งงเว้ย "   พี่ตั้มคงจะงงจริง ๆ นั่นแหละ

"ถ้าไม่กลับก็ขึ้นมาก็แล้วกัน "    แบ๊งค์พูด

"เออ ๆๆ วันนี้เมริงโดนแน่ ๆ ขอหากวนตรีนแต่เช้า "   พี่ตั้มพูดครับ

"อะไรว้า   ซะงั้นอ่ะ "   แบ๊งค์ลากเสียงยาว ๆ ก่อนที่พี่ตั้มจะวางสายไป
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ( เปิดประตู เปิดออกดู ว่าใครมา----  เก่าไปป่าววะเนี่ย )  มีคนมาแล้วครับ  แบ๊งค์ก็เลยไปเปิดประตู  ไอ้กาวนั่นเอง  ขณะกำลังจะปิดประตู  ไอ้คุณพี่ตั้มก็มาพอดีเลยครับ  มาได้จังหวะเหลือเกินนะ

"พี่ตั้มอ่ะ  จะมาทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้ "   แบ๊งค์แกล้งทำท่าไม่พอใจออกไป

"ทำไมวะ  กรูส์มาแล้วทำไม "   พี่ตั้มก็ทำท่าไม่พอใจมั่ง

"ก็แบ๊งค์กะว่าจะหลอก แดซไอ้กาวซะหน่อย  เสียแผนหมด "   แบ๊งค์พูดไป

"เย้ยยย "   ไอ้กาวร้องเสียงหลงออกมา  ดูท่าทางมันตกใจเหมือนกันนะเนี่ย

"อ้าววว   งั้นกรูส์กลับก็ได้ "  พี่ตั้มทำท่าน้อยใจ  จะเดินออกนอกห้อง

"จะไปไหน  คนเค้าแซวเล่นนิดเดียว ทำน้อยใจไปได้  หัวก็ไม่ได้ล้านซะหน่อย "    แบ๊งค์ดึงแขนพี่ตั้มเอาไว้

"หายงอนนะ ๆๆ "   แบ๊งค์ปลอบพี่ตั้มแบบที่ผู้ใหญ่คอยปลอบเด็กเล็ก ๆ

"ได้แต่ต้องทำแบบนี้ก่อน "   แล้วพี่ตั้มก็เขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที 

"โอ้ย!!! เจ็บนะ  เขกหัวแบ๊งค์ทำไมอ่ะ "  แบ๊งค์เอามือกุมหัวตัวเองไว้

"ก็เมริงเล่นมากวนตรีนแต่เช้าทำไมล่ะ "   พี่ตั้มพูด

"ใช่ ๆ ตั้งแต่กลับมานี่  กวนขึ้นเยอะเลยนะ โดนบ้างซะก็ดี "  ไอ้กาวช่วยเสริมครับ

"เป็นพวกกันหมดซะงั้น  แบ๊งค์ไม่ได้กวนตรีนแต่เช้าซะหน่อย "

"ตอนนี้มันเที่ยงจนจะบ่ายแล้วตะหาก "   แบ๊งค์พูด

"เอาอีกทีดีมั้ยเนี่ย "   คราวนี้ไอ้กาวทำท่าจะเขกหัวบ้างครับ

"อย่านะ!!!! "    แบ๊งค์รีบห้ามเอาไว้ก่อน

"แล้วนี่ไอ้โป้งยังไม่มาอีกหรอ "   พี่ตั้มถามครับ

"อืม  นั่นดิไม่เห็นโทรมาเลย "  แบ๊งค์พูด

"เดี๋ยวก็คงมามั้ง  เพราะเมื่อกี้เราโทรหาแล้ว  เห็นบอกว่าใกล้จะถึงแล้วนี่นา "   ไอ้กาวพูดครับ   แล้วเราก็มาจัดแจง  จำหน่ายจ่ายแจก  ของฝากทั้งหลายครับ 

"เออแล้วแมคจะสึกเมื่อไหร่น่ะ "   แบ๊งค์ถามครับ

"คงจะใกล้ ๆ เปิดเทอมน่ะ "   กาวพูด

"ไม่รู้ว่าแมคจะเป็นยังไงบ้างเนอะ "   แบ๊งค์พูด

"ไม่ต้องห่วงหรอก  แมคสบายดี  เมื่อวานพี่กับไอ้กาวก็เพิ่งไปหามา "   พี่ตั้มพูดครับ

"อ้าววว  ไปไม่ชวนกันเลย "   แบ๊งค์ทำท่าน้อยใจ

"ก็เจ้าชายแบ๊งค์อยู่ให้ชวนมั้ยล่ะครับ "   ไอ้กาวพูดประชดมั่งครับ

"เออ  กรูส์ผิดเอง "   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก  มีคนมาเคาะประตูอีกแล้วครับ  พี่โป้งแน่ ๆ เลย  แบ๊งค์เลยวิ่งไปเปิดประตู  พอเปิดไปก็อึ้งสิครับ มีทั้งเลือด  ตับ  ไต ไส้ กองอยู่บนพื้น  ไม่ใช่!!!!!!!!!!! ( โทดที  คนแต่งเบลอ ) พี่โป้งซื้อของกินมาเพียบเลยครับ

"พี่โป้ง!!!!!  ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย "   แบ๊งค์พูด

"ก็พี่รู้ว่า  เดี๋ยวพวกเราจะมา  คิดว่าคงไม่มีอะไรทาน  พี่เลยซื้อติดมือมาน่ะครับ "   พี่โป้งพูดแบบยิ้ม ๆ

"แบบนี้ที่บ้านพี่โป้งเรียกซื้อติดมือหรอ  ไม่เยอะไปหน่อยมั้ง "   แบ๊งค์แกล้งแซว

" ไอ้คุณกาว  ไอ้คุณพี่ตั้ม  ถ้าอยากทานก็มาช่วยกันแกะใส่จานหน่อยสิครับ "   แบ๊งค์ขอกำลังเสริมไป

"คร้าบบบบบ  ไอ้คุณน้องแบ๊งค์ที่แสนดื้อ  แสนซน "   พี่ตั้มตอบกลับมาครับ  ไอ้กาวก็เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ

"ดีจังที่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงไป "   ไอ้กาวพูดครับ

"ของฟรีไม่มีพลาดนะเมริง "   แบ๊งค์แซว

"ของมันแน่อยู่แล้ว "  ไอ้กาวพูดครับ   แล้วเราก็นั่งทานข้าวเที่ยงด้วยกันครับ  มื้อนี้สบายกระเป๋าหน่อย  เพราะมีป๋าโป้งเลี้ยง  เราก็เลยอิ่มจังตังอยู่ครบไปตามระเบียบ หุหุ ( ^ ^ )

พอทานเสร็จล้างจาน  เก็บกวาดอะไรเสร็จเรียบร้อย  ไอ้กาวมันก็พูดขึ้นมาครับ.

"เออ....ใช่  ลืมไปเลยนะเนี่ย "   มันอุทานออกมา  อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ

"ลืมอะไรหรอกาว "   พี่โป้งถาม

"เออ นั่นดิ   เล่นเอากรูส์ตกใจหมด "    พี่ตั้มเสริมออกมาอีกที

"พอดี  ช่วงปิดที่ผ่านมา  ผมไปเที่ยวปักกิ่งกับที่บ้านน่ะครับ "  กาวพูด

"ไปไกลนะเมริง  ไม่เห็นกรูส์รู้เรื่องเลย "   พี่ตั้มพูด

"นั่นสิ  ไปไหนไม่เคยบอกนะ "   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นน้อยใจ

"ขอโทษ ๆๆ พอดีตอนจะไปก็เพิ่งรู้เหมือนกัน  ตอนแรกคิดว่าจะไปแค่ต่างจังหวัด  แต่ไปต่างประเทศซะงั้น "  กาวพูด

"ผมก็เลยซื้อของฝากมาให้ทุก ๆ คนด้วย "  กาวพูดทิ้งท้าย  แล้วยิ้ม ๆ

"ไหน ๆๆๆ เอามาดิ "   พี่ตั้มตรงไปเข้าหากาวเป็นคนแรกเลยครับ

"มากไปป่าว  พี่ "   แบ๊งค์แกล้งแซว

"เห็นของฝาก  ของฟรีเป็นไม่ได้นะเมริง "  พี่โป้งช่วยซ้ำครับ

"เออ....เอาเข้าไป  เข้ากันใหญ่เลยนะ  ไอ้สองคนนี้ "    พอพี่ตั้มพูดแซวเสร็จ  แบ๊งค์กับพี่โป้งก็หันหน้ามามองกันพอดีครับ  แล้วก็หลบตากัน  ได้แต่ก้มหน้ายิ้ม

"เอาน่า  อย่าทะเลาะกัน "   แล้วไอ้กาวก็เอากระเป่ามันมาตั้งบนโต๊ะแล้วเปิดออกครับ  ของฝากเยอะเหมือนกันนะเนี่ย  ส่วนใหญ่เป็นขนมนะครับ

"อันนี้เป็นตุ๊กตาหินอ่ะ  เค้าว่ากันว่าเป็นตุ๊กตานำโชคนะ "

"ผมก็ไม่รู้หรอก  แต่ซื้อมาให้ทุก  ๆ คนเลย "   แล้วกาวก็ยื่นให้พวกเราคนละตัว

"นายคงไม่ลืมของแมคหรอกนะ "  แบ๊งค์พูด

"ไม่หรอก  ของแมคน่ะ  เราเก็บไว้ที่บ้านน่ะ  ไม่ต้องห่วงหรอก  เราแบ่งไว้เป็นส่วน ๆ แล้ว "   กาวพูด

"ขนมนี่อร่อยดีนะ  มา ๆ มากินด้วยกัน "   พี่ตั้มกินใหญ่เลยครับ  ไม่รอใคร

"อ่ะนะ  เฮ้ย!!! อย่ากินหมดสิ  เหลือไว้ให้แบ๊งค์บ้าง "   แบ๊งค์พูด  แล้วรีบเข้าไปแย่งขนมมาทานบ้าง 

"อ้าว!!!แย่งกันทำไม  เอามานี่ "   แล้วพี่โป้งก็เอาขนมไปบ้างครับ

"พี่โป้งอ่ะ  เอามานะ "   แบ๊งค์จะแย่งคืน  แต่พี่โป้งไม่ให้ครับ

"แย่งกันทำไมหรอ  มีอีกตั้งหลายถุง "   กาวพูด  แค่นั้นแหละครับ  เราก็ตรงเข้าไปที่กาวทันที  โดยที่แบ๊งค์กับพี่ตั้ม พยายามแย่งกันด้วยความเร็วสูง

"เฮ้ย!!!!!  สองคนนี้  จะแย่งกันทำไมเนี่ย "   ไอ้กาวพูดครับ  แต่ไม่มีใครหยุอหรอก  แย่งกันไปแย่งกันมาไม่จบซะที   กว่าจะได้นั่งทานดี ๆ ก็อิ่มกันพอดีเลย 

พอเราแย่งขนมกันเป็นอันเสร็จพิธีแล้วเราก็มานั่ง ๆ นอน ๆ กองรวมกันที่หน้าทีวีครับ แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็พูดขึ้นมา

"เออ.....นี่  แบ๊งค์รู้รึยัง  ไอ้อาร์ทมันกลับมาแล้วนะ "   สิ้นเสียงของพี่ตั้ม  ทุกคนที่เหลือรวมทั้งแบ๊งค์ต่างทำหน้า  ตกใจ   พี่โป้งมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด   ส่วนไอ้กาว  ก็นิ่งไปซักพักเหมือนกัน

"พี่อาร์ทกลับมา...ตั้งแต่.....เมื่อไหร่หรอ "   แบ๊งค์ค่อย ๆ พูด

"ได้ซักสองอาทิตย์แล้วล่ะ  แต่พี่ก็เพิ่งรู้ "   พี่ตั้มพูด

"แล้วเมริงรู้ได้ไงวะ "   

"ก็เมื่อวานมันโทรมาหากรูส์ กรูส์ก็ตกใจเหมือนกัน  มันมาเล่นไม่บอกอะไรกรูส์เลย "   พี่ตั้มพูด

"พี่เค้ากลับมา  จะมาเรียนต่อรึเปล่าครับ "   กาวถามขึ้นบ้าง

"อืม.... มันคงจะมาอ่ะ  เพราะมันแค่ดรอปไว้นี่นา "  พี่ตั้มพูดไปแบบไม่ได้สนใจอะไร  แต่ดูพวกเราสามคนจะวิตกกังวลกันมาก  แบ๊งค์กับพี่โป้งเนี่ยไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก  แต่ทำไมไอ้กาวต้องตกใจแบบนั้นด้วยนะ  เป็นอะไรของมันเนี่ย  แปลกจัง

"เปิดเทอมก็คงจะได้เจอกับมันเองแหละ  มีอะไรก็ไปถามมันเองนะ "   พี่ตั้มพูดไว้แค่นั้น   แล้วบรรยกาศภายในห้องก็เงียบ   ไม่มีใครพูดอะไร  มีแค่เสียงจากทีวีเท่านั้น

แบ๊งค์พยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก   แต่มันก็นึกถึงจนได้   คิดถึงวันเปิดเรียน  วันที่แบ๊งค์จะไปเผชิญหน้ากับพี่อาร์ทอีกครั้ง  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำอย่างไร  แบ๊งค์กับพี่เค้าจะมองหน้ากันได้เหมือนเมื่อก่อนมั้ย    แบ๊งค์กลัว   กลัวไปหมดทุกอย่าง  แบ๊งค์ค่อนข้างเครียด  ก็เลยชวนทุกคนไปเที่ยวเล่นกัน

"เย็นนี้ทุกคนว่างกันป่ะ "   แบ๊งค์ถามขึ้นมา

"อืม...พี่ว่างทำไมหรอ "    พี่โป้งตอบมาคนแรก

"เราก็ว่าง "   กาวตอบบ้าง

"อืม  กรูส์ก็ว่าง "   ตามมาด้วยพี่ตั้มคนสุดท้าย

"แบ๊งค์ว่า  เราไปเที่ยวเล่นกันมั้ย "   แบ๊งค์เสนอความคิดเห็นไป

"จะไปไหนล่ะแบ๊งค์  เย็น ๆ แบบนี้ "   กาวถาม

"นั่นสิ  ไปไหนดีอ่ะ.......แบ๊งค์อยากไปสะพานพุทธอ่ะ "   แบ๊งค์พูด

"โห......กว่าสะพานพุทธจะเปิด  คุณน้องไม่รอจนเหงือกแห้งหรอครับ ใช้อะไรคิดเนี่ย "   พี่ตั้มแซวมา  ( เหมือนหลอกด่ากรูส์เลยอ่ะ )

"งั้นไม่ไป  ก็ได้  ไม่อยากไปแล้ว "   แล้วแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้อง  แล้วล็อคประตูไปเลย

"เฮ้ย !!!! แบ๊งค์เป็นอะไรวะ   อย่างอนดิ "    ไอ้กาวพูดครับ

"น้องแบ๊งค์   ออกมาพูดกันดี ๆ จะดีกว่านะครับ "    พี่โป้งกล่อมอีกคน

"ไม่เอา  แบ๊งค์จะนอนแล้ว  ถ้าออกไปกันแล้วก็ช่วยล็อคประตูด้วยนะ "    แบ๊งค์นั่งอยู่บนเตียงแล้วตะโกนออกไป

"แบ๊งค์!!!! จะเปิดประตูมั้ย "    พี่ตั้มทำเสียงขู่ครับ

"ทำไม  จะเผาห้องแบ๊งค์รึไง  ก็เอาสิ  กลัวซะที่ไหนล่ะ "   แบ๊งค์ยังคงงอน

" แบ๊งค์!!!!งั้นพี่จะใช้วิธีสุดท้ายแล้วนะ "   พี่โป้งขู่มาอีกครับ

"ไม่เอา ๆๆๆๆ ไม่เปิด ๆๆๆๆ "    แบ๊งค์ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ   แต่ตอนนี้แบ๊งค์ยืนอยู่หน้าประตูแล้ว  กลัวเหมือนกันนะครับ  ที่กลัวน่ะไม่ใช่อะไรหรอก  กลัวพี่ตั้มจะพังประตูเข้ามา  ประตูแค่นี้  กับแรงหมีฟายอย่างพี่ตั้ม  เค้าพังเข้ามาได้ง่าย ๆ แน่  แบ๊งค์กลัวมันจะเสียงดังไปถึงห้องข้าง ๆ น่ะ

"ไม่เปิดใช่มั้ย!!!! "   พี่ตั้มพูดครั้งที่สุดท้าย

"เฮ้ย!!! อย่านะเว้ยไอ้ตั้ม "   เสียงพี่โป้งครับ

"อย่าทำรุนแรงเลยนะครับ  พี่ตั้ม "    ไอ้กาวก็คงช่วยกล่อมอีกคน

"แบ๊งค์!!!!!!! "  คราวนี้  พี่โป้งเสียงดังกว่าเดิมครับ  แบ๊งค์เลยรีบเปิดประตูออกไป  เป็นจังหวะที่พี่ตั้มคุกเข่านั่งอยู่หน้าห้องแบ๊งค์พอดี

"พี่ผิดไปแล้ว   อภัยให้พี่นะครับ  อย่าทำแบบนี้เลย  อย่าโกรธพี่นะ....... "    พี่โป้งพล่ามอะไรก็ไม่รู้ออกมาเต็มไปหมด  แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแบ๊งค์   ทุกคนต่างหัวเราะออกมาเบา ๆ

"ออกมาก็ไม่บอก  เซ็งว่ะ "    พี่ตั้มทำท่าไม่พอใจ  แล้วลุกขึ้นพูดโดยกันหน้าไปทางอื่น  แต่หน้าพี่ตั้มสิ แดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว (-///////-)

"ถ้าบอกก่อน  จะได้เห็นของดีแบบนี้หรอ  นายหมีฟายยย "   แบ๊งค์กระโดกอดพี่ตั้มจากทางด้านหลัง  แล้วเอามือขยี้หัวเบา ๆ

"นี่เล่นหัวหรอ  เดี๊ยะปั๊ดเหนี่ยวววว "   พี่ตั้มสะบัดแบ๊งค์ลงจากหลัง  แล้วโวยวายครับ  แต่หน้าพี่ตั้มก็ยังคงแดงเหมือนเดิม  ไม่สิ  แดงมากกว่าเดิมอีก (-/////////-)

"หายงอน  หายโกรธกันแล้ว  งั้นก็ไปกันเถอะ "   พี่โป้งพูดครับ

"จะไปไหนหรอกครับ  สะพานพุทธมันยังไม่เปิดนะตอนนี้ "   ไอ้กาวพูดครับ

"อืม....แบ๊งค์ว่า  เราไม่ต้องไปกันแล้วดีกว่า สะพานพุทธน่ะ " 

"ไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ  คงสนุกกว่าตั้งแยะ "   แบ๊งค์เสนอความคิดไป

"อ้าวว.....แล้วที่กรูส์นั่งง้อ  นั่งขอโทษเรื่องสะพานพุทธเมื่อกี้ล่ะ  สูญเปล่าหรอวะ "   พี่ตั้มทำท่างง ๆ

"เออดิ   แต่ตอนที่เมริงนั่งขอโทษ  น่ารักดีนะเว้ย "

"ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ทำท่าเหมือนเด็ก ๆ "   พี่โป้งแซวไป  หัวเราะไป

"อะไรวะ  รู้งี้กรูส์ไม่ทำก็ดีอะ สะพานพุทธก็ไม่ได้ไป  แถมขายหน้าเพื่อนอีก "   พี่ตั้มทำท่าเซ็งมากมาย

"แบ๊งค์ไม่ได้ขอให้ทำซะหน่อย  ทำเองนะช่วยไม่ได้ "    แบ๊งค์ทำท่ายั่วโมโหพี่ตั้มอีก

"ก็เพราะใครล่ะ หา..... "    พี่ตั้มล็อคคอแบ๊งค์เอาไว้  แล้วเอามือขยี้หัวแบ๊งค์

"ปล่อยนะ  เดี๋ยวผมเสียทรง "   แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่พี่ตั้มไม่ยอมปล่อย

"พอได้แล้ว  สองคนนี่  จะไปกันมั้ยเนี่ย "    ไอ้กาวบ่นแล้วครับ  เราก็เลยหยุด  แล้วขนโขยงออกจากห้องไปลานจอดรถกัน   เราตกลงว่าจะเอารถพี่โป้งไปครับ  แน่นอน  แบ๊งค์ไม่นั่งคู่คนขับหรอก  แบ๊งค์ชิ่งหนีไปนั่งข้างไอ้กาวนู่น  ปล่อยให้พี่โป้งกับพี่ตั้มนั่งหน้าไป 

"จะทานอะไรกันหรอครับ "   พี่โป้งถาม

"กาว  เมริงอยากกินอะไรล่ะ "   แบ๊งค์หันไปถามไอ้กาว

"ไม่รู้สิ  ตามใจแบ๊งค์ก็แล้วกัน "   ไอ้กาวพูดครับ

"งั้นไปกินเอ็มเคกัน "   แบ๊งค์หันไปพูดกับพี่โป้ง

"อ้าวววว   แล้วไม่คิดจะถามกรูส์บ้างเลยหรอ "  พี่ตั้มโวยวาย

"ถามไปทำไม  พี่ตั้มทานได้ทุกอย่างแหละ "   แบ๊งค์พูด

"เออ... จำไว้นะเมริง   เดี๋ยวกรูส์จะแย่งเมริงแดซให้หมดเลย "   พี่ตั้มขู่อีกแล้วครับ

"ไม่กลัว ๆๆๆ "    แบ๊งค์ยังคงยั่วโมโหต่อไป

"พอได้แล้ว "   ไอ้กาวพูดเบา ๆ แล้วดึงแบ๊งค์มานั่งนิ่ง ๆ ครับ

สรุปแล้วเราก็ไปกินเอ็มเคกัน  ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ( อีกแล้ว.....ก็มันใกล้นี่ฝ่า )  เย็น ๆ แบบนี้คนค่อนข้างเยอะครับ    ต้องไปยืนรอโต๊ะอยู่นานเหมือนกัน  พอไปถึงไอ้คุณพี่ตั้มก็ประเดิมสั่งเอา  เห็นปืนกลเลยครับ

"อ้าววว  ไม่สั่งอะไรกันหรอ "   พี่ตั้มถามครับ

"คงไม่ต้องแล้วล่ะ  ขอบคุณนะครับ  เดี๋ยวจะสั่งเพิ่ทีหลังนะครับ "   แบ๊งค์หันไปพูดกับพนักงานที่ยืนจดรายการอาหารครับ

"ทำไมไม่สั่งล่ะแบ๊งค์ "   พี่โป้งถามขึ้นบ้าง

"ยังจะสั่งอีกหรอ   แค่ที่ไอ้พี่ตั้มสั่งมา  ก็พอสำหรับคนสี่คนแล้วนะ "    แบ๊งค์พูด

"เออ...จริงด้วย  จะว่าไปมันก็ครบแล้วนี่หว่า "    ไอ้กาวเสริม

"เออ ๆๆ  กรูส์ขอโทษ ๆๆ ก็กรูส์เคยมากับครอบครัวนี่หว่า "

"ครอบครัวกรูส์  ครอบครัวใหญ่เว้ย  เวลาสั่งต้องสั่งเยอะ ๆ "   พี่ตั้มอธิบาย

"เออ ๆๆ  พอได้แล้ว  ไม่เถียงแล้ว "   แบ๊งค์พูด   เรานั่งรอซักพัก  อาหารที่สั่งก็มาอยู่ตรงหน้าพอดี   เราทั้งสี่คนก็เลยจัดการกันอย่างรวดเร็วครับ  อร่อยดีจัง  ถึงจะได้กินน้อยก็เหอะ   แต่ยังไงกินกันแยะ ๆ แบบนี้แบ๊งค์ว่ามันอร่อยกว่ากินคนเดียวอีกนะ

************************
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 07-06-2007 11:54:12
นึกภาพหมีฟาย นั่งเจื๋ยมเจี้ยมคุกเข่าขอโทา 55+  คงขำน่าดู  o17
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-06-2007 12:50:03
ใกล้จาได้เจอพี่อาร์ทแล้ว   แบงค์เอ๋ย   โฮะๆๆๆๆ :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 07-06-2007 14:27:59
อ่านเรื่องนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย

รอพี่อาร์ทเช่นกาน

 :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BrOwNiE ที่ 07-06-2007 14:35:49
ลงไปได้แยะเหมือนกันแระนะเนี่ย

ไม่รู้ว่าน้อง pajaa ได้ไฟล์ที่พี่ส่งให้อ่ะป่ะนะคัฟ

คือตอนนี้พี่อยู่หอในอ่า  ยังไม่มีคอม ( เศร้ามากกก )

ก้อเรยไม่ค่อยได้มาเชคเมลล์เท่าไหร่
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-06-2007 14:45:00
รอลุ้น  o15

อยากให้แบงค์กะพี่อาร์ทมาคบกันเหมือนเดิม  :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-06-2007 16:10:48
รอพี่อาทต่อไป











แต่เชียร์กาวเหมือนเดิมครับ

 :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: picuzz ที่ 07-06-2007 17:29:05
จะได้เจอพี่อาร์ทแล้ว ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-06-2007 19:45:43
ลุ้นให้เจออาร์ทไวไว  o15  o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 07-06-2007 21:17:40
ขอให้ได้เจอกับพี่อาร์ทเร็วๆ ทีเถอะ
 :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 07-06-2007 23:21:36
ยังคับ ยังไม่ให้เจอพี่อาร์ทหรอก o3
เมื่อไหร่จะได้เจอกันซะทีนะ o9 อยากอ่านตอนนั้นเหมือนกานนิคับ
*********************
บทที่ 40  คืนของนายกาว

หลังจากที่เรากินอะไรกันเรียบร้อยก็ไม่มีอะไรมากมาย   ก็แยกย้ายกันกลับครับ  พี่โป้งขับรถมาส่งพวกเราที่คอนโดของแบ๊งค์   พี่ตั้มก็ขับรถกลับ  ส่วนนายกาวก็ไปรอรถเมล์ที่หน้าคอนโด  แบ๊งค์ก็เลยขึ้นไปที่ห้องกะว่าจะอาบน้ำ  เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วครับ

ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก  เสียงคนมาเคาะประตูครับ   ใครกันนะ  มาเคาะประตูซะดึกดื่นเลย  แบ๊งค์ก็เลยไปเปิดประตู  อยากรู้ว่าเป็นใคร

"อ้าว...กาว   ทำไมไม่กลับอีกล่ะ "   แบ๊งค์แปลกใจมากครับที่เจอกาว 

"พอดีเราลืมเอาของให้แบ๊งค์น่ะ "    กาวพูด

"อะไรหรอ "   แบ๊งค์ทำท่างง ๆ

"แบมือมาสิ "   กาวยิ้ม ๆ  แบ๊งค์ก็เลยยื่นมือออกไป  แล้วกาวก็เอาอะไรซักอย่างมาใส่ไว้ที่มือแบ๊งค์  พอแบ๊งค์แบมืออกก็พบว่า  เป็นยันต์จีนสีเหลืองที่พับเป็นสามเหลี่ยม  กับสร้อยหิน DZI แบ๊งค์ก็เลยถามไป

"อะไรน่ะกาว "   แบ๊งค์ยังคงงง ๆ

"ก็ตอนที่เราไปปักกิ่งมาน่ะ เราได้ไปไหว้พระมาด้วย "   
 
"แล้วเราก็เลยได้ยันต์นี้มา  เราเลยเอามาให้แบ๊งค์ "   กาวยิ้มอย่างมีความสุข  โหยยย  น่ารักว่ะ  ทำไมกรูส์ไม่เคยสังเกตวะ   ไม่ ๆๆๆๆ   

"แล้วของนายล่ะ "    แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

"ขอเราก็มี  ไม่ต้องห่วงหรอก "   กาวพูด

"แล้วไอ้สร้อยหิน DZI นี่คงไม่ได้มาจากเมืองจีนหรอกนะ "   แบ๊งค์ถามไป

"อืม...พอดีวันก่อน  เราไปเดินจตุจักรมา  ก็เลยซื้อมาฝาก "  กาวบอก

"จะซื้อมาให้ทำไมก็ไม่รู้  เดี๋ยวเราไปซื้อเองก็ได้  ลำบากนายเปล่า ๆ "   แบ๊งค์พูด

"เอาเหอะน่า  เราอยากให้แบ๊งค์จริง ๆ นะ "   กาวพูด

"อืม...ก็ได้ ๆๆๆ "   แล้วแบ๊งค์ก็ทำท่าว่าจะใส่สร้อยข้อมือที่กาวให้  แต่ใส่ไม่ถนัด  เพราะแบ๊งค์จะใส่ที่ข้อมือขวา

"มา ๆๆ เดี๋ยวเราใส่ให้ "   แล้วกาวก็เข้ามาช่วยแบ๊งค์ใส่สร้อยข้อมือครับ

"ทำไมถึงใส่ไว้ที่ข้อมือขวาล่ะ "   กาวถาม

"ก็มือซ้ายเอาไว้ใส่นาฬิกาไงล่ะ "   แบ๊งค์อธิบาย

"อืม ๆๆ  อ่ะเสร็จแล้ว "    กาวพูดเมื่อใส่สร้อยข้อมือให้แบ๊งค์เสร็จ

"ขอบคุณคับ "   แบ๊งค์ขอบคุณกาวไป

"งั้นเรากลับก่อนนะ "   กาวพูด  แล้วทำท่าว่าจะเดินออกไป

"เดี๋ยวก่อนสิ  รอเราก่อน "   แบ๊งค์เรียกกาวไว้   แล้วรีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งตามไป

"แบ๊งค์จะไปไหนหรอ "   กาวถาม

"ก็จะไปส่งนายขึ้นรถกลับบ้านไง "   แบ๊งค์ตอบ

"ไม่ต้องหรอก  เราโตแล้วนะ  ไม่ต้องห่วง "   กาวพยายามปฏิเสธ

"ไม่ได้นะ ถ้ามีคนมาฉุดนายจะทำยังไง  เรายอมไม่ได้หรอกนะ"     แบ๊งค์ทำท่าจริงจัง

"เป็นห่วงเราด้วยหรอ"     กาวถาม

"เปล่าหรอก  กรูส์จะถ่ายคลิป"    แบ๊งค์ตอบแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ

"นี่แน่ะ  กรูส์ก็นึกว่าจะห่วงกรูส์"    กาวเขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที

"โอ้ย !!!  เจ็บนะ  ล้อเล่นน่ะ  เป็นห่วงดิ  ไม่งั้นไม่มาส่งหรอก"    แบ๊งค์ตอบออกไป  ไอ้กาวก็ได้แต่ยิ้มครับ

เรารอรถเมล์กันอยู่นานเหมือนกัน  แต่น่าแปลกนะ  ที่วันนี้ไม่มีรถผ่านมาซักคันเลย  เราก็ได้แต่นั่งรอแล้วรออีก  จนเวลาผ่านไปเกือบ ๆ จะห้าทุ่มแล้ว

"กาว  แบ๊งค์ว่าคงไม่มีรถแล้วล่ะ "   แบ๊งค์พูด

"ไม่เป็นไร  เดี๋ยวก็มี  แบ๊งค์กลับห้องไปก่อนเถอะ "   กาวพูด

ไม่หรอก  เราว่าไม่ต้องรอแล้ว "   แบ๊งค์พูด

"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า "   กาวพูด

"กาว......คืนนี้นอนห้องเราก่อนก็ได้ "   แบ๊งค์ตัดสินใจชวนกาวออกไปครับ

"................... "   กาวไม่ตอบอะไร  แต่หันมามองหน้าแบ๊งค์แทน

"มันดึกมากแล้ว  ไม่ต้องเกรงใจหรอก  พี่นุ่นก็ไม่อยู่  นายจะได้อยู่เป็นเพื่อนเราไง "  แบ๊งค์อธิบายไป

"แต่...... "    กาวกำลังจะพูด  แต่แบ๊งค์สวนขึ้นมาก่อน

"ไม่ต้องพูดแล้ว  ตอนนี้ดึกแล้วนะ  อากาศก็เย็น  แบ๊งค์หนาวแล้ว "   แบ๊งค์เริ่มโวยวาย

"อืม....เอางั้นก็ได้ "    กาวตอบตกลง   แล้วเราสองคนก็พากันขึ้นห้องไป  พอถึงห้องแบ๊งค์ก็ไปค้น ๆ เอาพวกชุดนอน  กับผ้าขนหนูมาให้กาวครับ

"อ่ะ...เอาไป  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปอาบน้ำก่อนนะ "   แบ๊งค์พูด  ก่อนจะหายตัวเข้าไป สะสางตัวเองจนเรียบร้อย

"ถึงคิวนายแล้วไปอาบสิ "   แบ๊งค์ไล่กาวให้ไปอาบน้ำครับ

"อืม... จะไปเดี๋ยวนี้แหละ "    แล้วกาวก็เข้าไปอาบน้ำครับ  แบ๊งค์ก็เลยออกไปนั่งดูทีวีอยู่ข้างนอก  เพื่อรอไอ้กาว

พอไอ้กาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมันก็เดินออกมาครับ   ตอนที่มันเดินออกมา  แบ๊งค์สังเกตที่คอมัน มีรอยดูดด้วยครับ  เย้ยยยยย  ไม่ใช่ ๆๆๆ มีสร้อยหิน DZI ด้วยครับ  ลายเดียวกับที่มันเอาให้แบ๊งค์ที่เป็นสร้อยข้อมือเลย

"เดี๋ยวคืนนี้  กาวนอนห้องแบ๊งค์นะ   เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปนอนห้องพี่นุ่นเอง"   แบ๊งค์พูด

"จะดีหรอแบ๊งค์  เข้าไปยุ่มย่ามในห้องพี่นุ่น "

"แบ๊งค์นอนห้องแบ๊งค์นั่นแหละ  เดี๋ยวเรานอนข้างนอกเอง "  กาวพูด

"ไม่ได้นะกาว  มานอนคอนโดเราทั้งที  ก็น่าจะได้นอนสบาย ๆ นะ "

"เราไปนอนคืนเดียว  พี่นุ่นไม่รู้หรอก "    แล้วแบ๊งค์ก็ไปเปิดประตูห้องพี่นุ่น 

แกร็ก แกร็ก (O_o)  กรรม....ประตูเปิดไม่ออก  เจ้ล็อคห้องไว้หรอเนี่ย

“พี่นุ่นล็อคห้องไว้ใช่มั้ย”   กาวถามครับ  แบ๊งค์ก็เลยหันไปพยักหน้าแทนคำตอบ

“เดี๋ยวเรานอนข้างนอกเอง  ไม่เป็นไรหรอก”   กาวงพูดแล้ว  ท่าเหมือนว่าจะเข้าไปเอาหมอนในห้องแบ๊งค์มานอนข้างนอก

“ไม่ต้องหรอก  นอนด้วยกันก็ได้”   แบ๊งค์ เผลอพูดออก  แต่ทำไงได้ก็พูดไปแล้วนี่นา

“...จริงหรอ”    กาวถามครับ  เหมือนมันก็ไม่แน่ใจในคำตอบของแบ๊งค์เหมือนกัน

“................”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ

“ลำบากใจ ไม่ต้องก็ได้นะ”    กาวทำท่าเศร้า

“บ้าหรอกาว  ลำบากใจเรื่องอะไร  นายเป็นเพื่อนเรานะ”   แบ๊งค์ทำท่าไม่พอใจ

“เรา...ข..ขอโทษ”    กาวเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“ช่างเหอะ  ทีหลังก็อย่าทำอีกนะ  นายคือเพื่อนที่เราสนิทที่สุด  อย่าพูดแบบนั้นอีกล่ะ”   แบ๊งค์พูดก่อนที่เราทั้งสองคนจะเข้านอน  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกาวหรอกนะ  แค่เขิน ๆ น่ะ ไม่รู้สิ  อยู่ใกล้  ๆ ไอ้กาวทีไร  บอกไม่ถูกทุกที
แสงอาทิตย์ตอนสาย ๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา  นี่เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  แล้วตอนนี้กาวมันอยู่ไหนเนี่ย   แบ๊งค์เดินออกจากห้องไป  ที่หน้าทีวี กาวก็ไม่อยู่  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปในครัว  เห็นโจ๊กแกะใส่ถ้วยวางไว้อยู่  โจ๊กยังร้อน ๆ อยู่  แสดงว่ากาวเพิ่งไม่นาน   ข้าง ๆ ชามโจ๊ก  มีกระดาษพร้อมข้อความที่เป็นลายมือกาววางอยู่


ตื่นมาแล้วทานโจ๊กซะนะ
เราออกไปซื้อมาให้เองแหละ
เราคงต้องรีบกลับก่อน
แล้วจะโทรหาทีหลังนะ
...กาว...

เพื่อนคนนี้ก็เหลือเกินนะ  แทนที่จะอยู่ทานโจ๊กด้วยกัน  หนีกลับบ้านไปซะงั้น  จะทำตัวเป็นคนขี้เกรงใจไปถึงไหนกันนะ  แบ๊งค์ก็เลยได้แต่นั่งทานโจ๊กไป   ยิ้มไป
-------------------------------------------------------------------

วันนี้ผมจะไปเจอกับแบ๊งค์ครับ  ดีใจจัง  แบ๊งค์กลับมาจากเชียงใหม่ซะที   ผมเองก็มีของอยากจะให้แบ๊งค์เหมือนกัน  พอผมมาถึงที่หน้าคอนโดผมก็โทรหาแบ๊งค์เลย

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ  กรูส์อยู่หน้าคอนโดแล้วนะเว้ย”  ผมบอกไป

“เมริงก็เข้ามาสิ  หรือจะรอให้กรูส์จุดธูปอันเชิญก่อน  เมริงถึงจะเข้ามาได้”  แบ๊งค์นี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ  กวนตรีนได้ตลอดเวลา  แต่นั่นคงเป็นเสน่ห์ของเค้ามั้งครับ

“เออ ๆๆๆ งั้นเดี๋ยวกรูส์เข้าไปละ  เมริงโดนดีแน่ ๆ”     ผมแกล้งขู่ไป  แล้วผมก็เดินเข้าไปในคอนโดของแบ๊งค์   อยากเจอแบ๊งค์เร็ว ๆ จัง  พอผมมาถึงที่หน้าก็เคาะประตูเลยครับ  แล้วแบ๊งค์ก็เปิดประตูออกมา  เหมือนจะยังไม่มีใครมา 

แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ครับ    เฮ้อ~~~ ไม่เป็นไร  เอาไว้คุยกับแบ๊งค์ทีหลังก็ได้  แล้วผมก็เดินเข้าห้องไป

“พี่ตั้มอ่ะ  จะมาทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้”  อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็พูดขึ้นครับ

“ทำไมวะ  กรูส์มาแล้วทำไม”   พี่ตั้มก็งง ๆ

“ก็แบ๊งค์กะว่าจะหลอก แดซไอ้กาวซะหน่อย  เสียแผนหมด”   แบ๊งค์ออกมาเล่นเอาผมตกใจไปเหมือนกัน

“เย้ยยย”   ผมลืมตัวเผลอร้องออกไป

“อ้าววว   งั้นกรูส์กลับก็ได้”  พี่ตั้มทำท่าน้อยใจ  จะเดินออกนอกห้อง

“จะไปไหน  คนเค้าแซวเล่นนิดเดียว ทำน้อยใจไปได้  หัวก็ไม่ได้ล้านซะหน่อย”    แบ๊งค์ดึงแขนพี่ตั้มเอาไว้

“หายงอนนะ ๆๆ “   แบ๊งค์ปลอบพี่ตั้มแบบที่ผู้ใหญ่คอยปลอบเด็กเล็ก ๆ

“ได้แต่ต้องทำแบบนี้ก่อน”   แล้วพี่ตั้มก็เขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที 

“โอ้ย!!! เจ็บนะ  เขกหัวแบ๊งค์ทำไมอ่ะ”  แบ๊งค์เอามือกุมหัวตัวเองไว้

“ก็เมริงเล่นมากวนตรีนแต่เช้าทำไมล่ะ”   พี่ตั้มพูด

“ใช่ ๆ ตั้งแต่กลับมานี่  กวนขึ้นเยอะเลยนะ โดนบ้างซะก็ดี”  ผมช่วยเสริมครับ  แต่แบ๊งคืก็ยังกวนไม่เลิก 

ตั้งแต่แบ๊งค์กลับมาจากเชียงใหม่นี่  ดูสดใสขึ้นเยอะเลยนะครับ   ไม่รู้สิครับ  ผมชอบเวลาที่แบ๊งค์เป็นแบบนี้ที่สุดเลย 
แล้วเราก็มานั่งคุยกันครับ แบ๊งค์ก็ถามถึงเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของแมค   อีกซักพักน่ะครับ  ตอนนี้แมคมันกำลังเข้าสู่ทางสงบ  เปิดเทอมก็คงจะได้เจอมัน  อีกซักพัก  พี่โป้งก็มาครับ  พี่ชายคนนี้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง มาพร้อมกับของกินตลอด 

เราก็จัดการกับของที่ติดมือพี่โป้งมาสิครับ  อิ่มมากมายเลย  พอทานเสร็จ  ผมก็นึกขึ้นได้ว่าจะคุยกับแบ๊งค์  แต่ดันเผลอลืมตัว  อุทานออกมา  ทุกคนก็เลยหันมามองผมกันหมด  ผมก็เลยต้องแก้เขินด้วยของฝากเนี่ยแหละ  ดีนะที่มีของฝากมาด้วย  ไม่งั้นผมต้องตายแน่ ๆ เลย

แล้วเราก็มานั่งคุยกันครับ  บรรยกาศก็ปกติดีนะ  สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก  แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็พูดขึ้นมาว่า  พี่อาร์ทกลับมาแล้ว  เล่นเอาผมอึ้งไปเหมือนกันครับ  ฝ่ายพี่โป้งกับแบ๊งค์ก็ดูอึ้งไปเหมือนกัน  พอได้ยินแค่นั้นแหละครับ  บรรยกาศภายในห้องเปลี่ยนไปทันที  ทุกคนเงียบ  ไม่พูดไม่จา คิดอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ 

แต่สำหรับผม....ผมบอกไม่ถูกหรอกครับ  ว่าคิดอะไร  ใจหนึ่งผมก็ดีใจ ที่แบ๊งค์กับพี่อาร์ทจะได้มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิม  อีกใจหนึ่งผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น   คิดแล้วก็อิจฉานะครับ  อยากเป็นพี่อาร์ทบ้าง  อย่างได้รับความรักจากแบ๊งค์บ้าง  ความรัก...ที่มากกว่าคำว่าเพื่อน

แล้วแบ๊งค์ก็พูดตัดบทขึ้นมาว่าอยากไปสะพานพุทธ  แต่ก็โดนพี่ตั้มแซว  แล้วงอนจนได้  แบ๊งค์หนีเข้าห้องไปเลยครับ  ใครไปง้อก็ไม่ยอม  พี่ตั้มเลยดูเหมือนไม่พอใจ  ท่าทางน่ากลัวมากเลยครับ 

สังสัยพี่ตั้มต้องพังประตูเข้าไปแน่ ๆ  ผมกับพี่โป้งเลยพยายามห้าม  แต่พี่ตั้มไม่ฟังเลยครับ แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็ทรุดตัวคุกเข่าขอโทษแบ๊งค์ซะงั้น  เป็นจังหวะเดียวกับที่แบ๊งค์เปิดประตูมาเหมือนกัน  ผมกับพี่โป้งก็เลยหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
สรุปว่าวันนี้เราไม่ไปสะพานพุทธกันหรอกครับ  แต่ไปกินเอ็มเคสุกี้แทน  ตอนที่ขึ้นรถอยู่ดี ๆ  แบ๊งค์ก็วิ่งมานั่งกับผมซะงั้น  นึกว่าจะนั่งข้างหน้าซะอีก  แล้วแบ๊งค์กับพี่ตั้มก็เปิดศึกกันในรถอีกแล้วครับ  ผมเลยต้องดึงแบ๊งค์ให้ลงมานั่งเฉย
สองคนนี้ไม่รู้เป็นอะไรกันนักหนา  กัดกันอยู่ได้ตลอดเวลา  หาเรื่องโกรธ  เรื่องงอน กันอยู่ได้ เหมือนเด็ก ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ก็โต ๆ กันแล้วทั้งสองฝ่าย

พอไปถึงเอ็มเค  พี่ตั้มก็เอาแต่สั่ง ๆ ครับ  ไม่มีใครสั่งทันซักคน  สงสัยพี่เค้าจะมาบ่อยแน่ ๆ  แบ๊งค์ก็เลยพูดไประชดไป  พี่ตั้มก็เลยอธิบายมาว่า พี่เค้าชอบมากับครอบครัว เวลาสั่งก็จะสั่งกันเยอะ ๆ เป็นธรรมดา
เอ็มเควันนี้ดูอบอุ่นเป็นพิเศษนะครับ  อาหารก็ดูอร่อยกว่าครั้งก่อน ๆ ที่ผมเคยมาทาน  คงเป็นเพราะวันนี้  ผมได้มาทานกับคนที่ผม...ชอบ ( อยากพูดว่ารักแต่ไม่กล้า )  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากันสองต่อสองก็เหอะ

ขากลับ  พี่โป้งมาส่งเราที่คอนโดครับผม  แล้วเราก็แยกย้ายกันไป  ตอนนี้ผมนั่งรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายครับ  อะ...นั่นไง  รถมาแล้ว  แต่....เฮ้ยยยยย ลืมเอาให้แบ๊งค์  ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปในคอนโดครับ   ตอนนี้ผมก็หยุดอยู่หน้าห้องของแบ๊งค์แล้ว
ผมพยายามหายใจลึก ๆ เพื่อไม่ให้แบ๊งค์เห็นว่าผมเหนื่อย  แล้วผมก็เคาะประตูห้องไป  แบ๊งค์มาเปิดประตูให้ครับ  ดูท่าทางคงกำลังจะอาบน้ำ   แบ๊งค์เค้าก็งงนะครับ  ว่าผมมาทำไม  ผมก็เลยบอกว่ามีของจะให้  แล้วยื่นของให้แบ๊งค์ไป  มันเป็นแค่ยันต์ที่ผมได้มาจากวัดที่ปักกิ่ง  กับสร้อยหิน DZI ที่ไปซื้อมาจากจตุจักร   ไม่รู้ว่าแบ๊งค์จะถูกใจรึเปล่า
แบ๊งค์ก็รับไปนะครับ  แต่ก็บ่น ๆ อยู่เหมือนกัน  ว่าจะซื้อมาให้ทำไม  ก็คนมันอยากให้นี่นา  และสิ่งที่ทำให้ผมดีใจก็คือ  พอแบ๊งค์ได้สร้อยขอมือไป  แบ๊งค์ก็ใส่มันทันที   แต่เหมือนว่าจะใส่ไม่ถนัด  ผมเลยเข้าไปช่วย
แบ๊งค์ใส่สร้อยที่ข้อมือขวาครับ  ใจจริงผมอยากให้แบ๊งค์ใส่ที่ข้อมือขวามากกว่า  เพราะมันเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้ฝั่งของหัวใจมากที่สุด  แต่ก็ช่างเถอะครับแค่แบ๊งค์ยอมใส่ผมก็ดีใจแล้ว

จากนั้นผมก็ทำท่าว่าจะกลับ  แต่แบ๊งค์วิ่งตามมาบอกว่าจะไปส่งผม  แล้วก็มีแซวผมอีกว่า  ถ้าผมโดนฉุดจะถ่ายคลิป  ทะลึ่งจริง ๆ เลยเพื่อนคนนี้   ยิ่งผมได้เดินใกล้ ๆ เค้าขนาดนี้มันยิ่งทำให้ผมรู้สึก  รู้สึกว่าเค้าดูน่ารักเกินกว่าจะเป็นว่าที่เด็กปี 2   แบ๊งค์ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูง  ผมอยากให้เค้ามาเป็นน้องของผมจัง  ผมจะดูแลให้อย่างดีเลย
ผมกับแบ๊งค์มารอรถเมล์กันครับ  น่าแปลกที่รถไม่มาซะที  หายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้  ผมสังเกตเห็นว่าแบ๊งค์เริ่มที่จะหนาวแล้ว  คงเพราะลมที่พัดผ่านล่ะมั้ง  น่าสงสารจัง  รถก็ไม่ยอมมาซะที  ผมไล่ให้แบ๊งค์กลับห้อง  แต่แบ๊งค์ก็ไม่ยอมไป  สงสัยแบ๊งค์จะหนาวมากเลยนะ

แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็ชวนให้ผมค้างเป็นเพื่อนเค้า  พอสิ้นสุดประโยคนั้น มันเหมือนว่าทุกอย่างหยุดไปเลยครับ  จากเสียงรถราที่วิ่งไปมาบนท้องถนน  มันเงียบไปหมด  ผมได้ยินแค่เสียงของแบ๊งค์เท่านั้น  ตอนแรกผมกะว่าจะปฏิเสธ  แต่ผลสุดท้ายก็โดนแบ๊งค์บังคับอีกจนได้

แบ๊งค์เอาชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวมาให้ผม  แล้วเข้าไปอาบน้ำ  ผมเลยเอาช่วงเวลานี้โทรบอกทางบ้าน  เพื่อที่เค้าจะได้ไม่เป็นห่วง  จากนั้นแบ๊งค์ก็ออกมา  พร้อมกับไล่ผมไปอาบน้ำครับ  เหมือนผู้ปกครองเลยนะเนี่ย ผมเลยต้องทำตาม
พออกมาก็ไม่เห็นแบ๊งค์อยู่ในห้องนอน  ที่แท้ก็ไปนั่งดูทีวีอยู่นี่เอง  แล้วแบ๊งค์ก็บอกให้ผมไปนอนในห้องของเค้า  โดยที่แบ๊งค์จะนอนห้องพี่นุ่น   แต่ปรากฏว่าห้องพี่นุ่นเปิดไม่ออกครับ  ตอนนี้ดูท่าทางเหมือนแบ๊งค์รังเกียจผมเลย   ผมเลยบอกเค้าไปว่าเดี๋ยวผมจะออกมานอนข้างนอกเอง  แล้วผมก็หลุดปากไป  พูดประมาณว่า  แบ๊งค์รังเกียจผม
แค่นั้นแหละครับ  แบ๊งค์วีนขึ้นมาทันทีเลย   หาว่าผมคิดมาก ไปต่าง ๆ นานา  ผมก็เลยได้แต่เศร้าไปตามระเบียบ แล้วเราก็ได้มานอนเตียงเดียวกันจนได้  เหมือนตอนที่ผมมาค้างที่นี่ครั้งแรกเลย  ผมนอนไม่หลับหรอกครับ ใจมันเต้นแรงมาก  แรงจนผมไม่รู้ว่า แบ๊งค์จะได้ยินรึเปล่า

ซักพักเสียงลมหายใจของแบ๊งค์เริ่มนิ่งลง  คงกหลับไปแล้วสินะ  ผมทำเหมือนครั้งแรกครับ  ผมนอนจ้องหน้าแบ๊งค์  อีกมือหนึ่งก็ค่อย ๆ ลูบหน้า  แล้วจากนั้นผมก็จูบที่หน้าผาก  แล้วหอมแก้มแบ๊งค์ไปหนึ่งที   ขอโทษด้วยนะแบ๊งค์ที่เราต้องทำแบบนี้  ถ้าเราไม่ทำ  เราคงนอนไม่หลับแน่ ๆ แล้วผมก็หลับไป

แดดเริ่มสาดเข้ามาในห้องแล้วครับ  ผมตื่นขึ้นมา  แต่แบ๊งค์ยังคงหลับอยู่  ผมเลยอาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อย  แล้วลงไปซื้อโจ๊กมาใส่ชามทิ้งไว้ให้แบ๊งค์ พร้อมกับเขียนโน้ตเล็กน้อย  ผมหวังว่าเค้าคงจะตื่นมาทานทัน ในขณะที่มันยังร้อน ๆ อยู่นะ
ผมเดินออกจากคอนโดมาด้วยความสุข  อย่างผมก็คงทำได้แค่นี้แหละครับ  ถึงจะทำได้แค่นี้  ผมก็มีความสุขแล้ว  เพราะความสุขของผมไม่ได้อยู่ที่การครอบครอง  แต่มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่ได้ทำอะไรดี ๆ เพื่อคนที่เรารักตะหาก...

******************
เออหนอ สงสารกาวจังเลยเนอะคับ :sad4:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2007 04:30:00
กาวน่าสงสาร  :o11:



แต่เชียร์พี่อาร์ท  o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 08-06-2007 08:24:25
กาวอย่าถอดใจดิ    เชียร์กาวอยู่น้า        o15 o15 o15 o15 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-06-2007 12:19:54
สงสารกาวเป็นที่สุด

เชียร์กาว เพราะกาวน่ารักค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-06-2007 13:14:50
เป็นตอนของกาวจริงๆเลย ...  กาวเป้นเพื่อนที่น่ารักมากเหือนกานเลยนะนี่

เฮ้อ...แต่น่าสงสารจัง จิงอยุ่รักไม่ใช่การครอบครอง แต่ถ้าเราได้ทั้งใจและตัวเค้าด้วย มันจะดีมากๆเลยนิ  :undecided:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 08-06-2007 13:44:28
ซึ้ง

 o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-06-2007 19:21:11
ยกให้กาวเป็นพระเอกซักตอนก็ได้  :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 08-06-2007 23:51:55
************************
บทที่ 41 จตุจักร

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ   ไม่รู้จะไปไหนเลย  ทั้ง ๆ ที่กรุงเทพฯ ก็มีที่ให้ไปออกจะแยะ แต่ทำไมคิดไม่ออกนะ อืม...ไปจตุจักรดีกว่า   แต่จะไปกับใครล่ะ........ ไปคนเดียวก็ได้ฟระ

และแล้วแบ๊งค์ก็ออกไปเที่ยวจตุจักรคนเดียวครับ  นานมากแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้ไปไหนคนเดียว จะว่าไปอยู่คนเดียวก็สนุกเหมือนกันนะ  พอแบ๊งค์จัดแจงแต่งตัวเสร็จ  ก็ออกมายืนรอรถเมล์ที่หน้าคอนโดครับ
สงสัยเพราะเป็นวันหยุด  หรือเพราะเหตุใดก็ไม่รู้  วันนี้รถเมลสายที่ไปจตุจักร คนเยอะจัง  แต่แบ๊งค์ไม่หวั่นหรอก  หนุกดีออก  ไม่ได้ขึ้นรถเมล์แน่น ๆ แบบนี้มานานแล้ว

 แล้วในที่สุดแบ๊งค์ก็ไปถึงจตุจักรซะที

“เฮ้อ~~~ไปเที่ยวกันดีกว่านะ”   แบ๊งค์บ่นกับตัวเองเบา ๆ  คนเยอะจังเลยครับ ( เอ....หรือว่ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้วอ่ะ  ไม่เคยมา )  มีแต่ของน่าสนใจทั้งนั้นเลย เสื้อผ้าก็น่าซื้อ  ของแต่งบ้านก็น่าสน  แล้วแบ๊งค์จะซื้ออะไรดีเนี่ย แต่ก่อนอื่นขอซื้อน้ำดีกว่า  คอแห้งเป็นผงแล้ว

ฮ้า~~~~ชื่นใจ สดใส อะไรเช่นนี้   ได้ดื่มทีไรมีความสดชื่นขึ้นมาทุกที  ไอ้ชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวเนี่ย  ดื่มจนจะติดไปแล้ว 

แบ๊งค์เดินดูไปเรื่อย ๆ ครับ  ไปเจอร้านขายเสื้อยืดร้านหนึ่ง  สวยดีอ่ะ  ยิ่งแบ๊งค์เป็นพวกบ้าเสื้อยืดอยู่ด้วย  ก็เลยอดที่จะเข้าไปดูไม่ได้  ร้านนี้มีเสื้อหลายสีหลายลายให้เลือกเยอะแยะมากมายเลยครับ   เสื้อลายนั้นก็ดี  ลายนี้ก็สวย  บายลาย...เอ่อ....มันอ่านว่าอะไรอ่ะ  ภาษาเกาหลีอ่านไม่ออก  แต่ช่างมันเหอะ เอาสวยเป็นพอ

แว้บบบบบบบบ    เหมือนมีอะไรมาสะดุดตาแบ๊งค์อย่างแรง   แบ๊งค์เลยหันไปมองอย่างช้า ๆ  เสื้อตัวนั้น สกรีนลายเป็น astroboy ด้วย  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้หรอกนะ  เกิดไม่ทันอ่ะ  แต่ชอบมากมาย น่ารักดีอ่ะ
แบ๊งค์เดินเข้าไปคว้ามาชื่นชมอย่างไม่สนใจใคร มันเป็นเสื้อสีขาว ที่คอกับแขนเสื้อขลิปเป็นสีส้มอ่อน ๆ  อีกตัวเป็นเสื้อสีน้ำตาล ขลิบเหลือง  ตรงกลางของทั้งสองตัว  เป็นลาย astroboy นั่นเอง  โดนใจแบบนี้มีหรอที่แบ๊งค์จะไม่ซื้อ

“มีสองตัว สองแบบเองนะคะน้อง”   เจ้าของร้านบอกมาครับ

“มีไซส์อะไรมั่งหรอครับ”    แบ๊งค์ถามไป

“มีไซส์...รู้สึกสีน้ำตาล M สีขาว L น่ะค่ะ”   เจ้าของร้านบอก   แล้วแบ๊งค์ก็ยืนพิจารณา  ดูว่าจะใส่ไซส์ไหนดี  คือแบ๊งค์เป็นคนหุ่นไม่มาตฐานน่ะ  บางทีตัวพอดีแต่แขนสั้นไป  บางทีแขนพอดีแต่ตัวยาวไป  แล้วลายมันก็ไม่เหมือนกัน  ก็เลยต้องพิจารณาดูเป็นพิเศษ

“พี่ว่าน้องใส่ไซส์ M ก็คงได้มั้งคะ”

“ไซส์ L  เหมือนจะยาวไปน่ะค่ะ  อีกอย่างพี่ว่าสีน้ำตาลจะเหมาะกว่านะคะ”   เจ้าของร้านบอกมาครับ

“อืม.....งั้นเอาตัวนี้แหละครับ”   แล้วแบ๊งค์ก็ยื่น เสื้อ ให้เจ้าของร้านไปพร้อมกับเงินครับ

“ขอบคุณค่ะ”    เจ้าของร้านยื่นเงินทอนพร้อมถุงเสื้อ คืนมาให้แบ๊งค์  แบ๊งค์ก็รับมาครับ  ในที่สุดการออกมาข้างนอกครั้งนี้  แบ๊งค์ก็ไม่กลับไปมือเปล่า หุหุ 

พอเดินถัดไปอีกไม่กี่ร้าน  แบ๊งค์ก็ต้องสดุดตาอีกครั้ง  กับนาฬิกาลาย astroboy วันนี้มันช่างเป็นวันที่วิเศษอะไรเช่นนี้ซาราห์ ( ใช่แล้วจอร์จ )   แบ๊งค์เลยถอยมาหนึ่งเรือน  ตัวเรือนสีขาวหน้าปัดสีดำครับ  ข้างในเป็นลาย astroboy ของโปรดแบ๊งค์นั่นเอง

แบ๊งค์เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนผ่านไปที่โซนสัตว์เลี้ยง  มีตัวอะไรก็ไม่รู้  ทั้งที่แบ๊งค์รู้จักและก็ไม่รู้จักเต็มไปหมดเลย  มีลูกหมาน่ารัก ๆ ด้วย  แต่เสียดาย  ซื้อไปเลี้ยงที่คอนโดไม่ได้  ก็เลยได้แต่ดูผ่าน ๆ  มีลูกหมาตัวหนึ่ง รู้สึกจะเป็นพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้มั้งครับ

น่ารักจังเลยอ่ะ  มันมองแบ๊งค์ด้วย   แบ๊งค์ก้มลงไปเล่นกับมัน  แล้วเจ้าของก็เดินออกมา  หุหุ  เจ้าของร้านก็น่ารักเหมือนกัน  เหมือนว่าอายุจะไม่ห่างจากแบ๊งค์เท่าไหร่นะ แล้วก็เหมือนว่าเค้าจะเป็น.....ด้วย

“ชอบหรอครับ”   เจ้าของร้านหน้าใสทักขึ้น

“ค...ครับ”   แบ๊งค์ตอบไป  ในใจก็กลัวว่าเค้าจะมาว่าอะไร  ที่แบ๊งค์ไปเล่นหมาเค้ารึเปล่า

“ไม่ซื้อไปเลี้ยงล่ะครับ เดี๋ยวผมลดให้ก็ได้”   เจ้าของร้านเสนอขายให้กับแบ๊งค์

“ไม่หรอกครับ  คือแบ๊งค์อยู่คอนโดน่ะ  คงเลี้ยงไม่ได้หรอกครับ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ชื่อแบ๊งค์หรอครับ”   เจ้าของร้านถามกลับ กรรม......เพราะความเคยชิน  กรูส์เผลอเปิดเผยชื่อไปซะงั้น   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยอมรับความผิดพลาด  ด้วยการพยักหน้าไป

“ผมปรินซ์นะครับ”   หนุ่มหน้าใสคนนั้นแนะนำมา

“อ๋อปรินท์เตอร์น่ะหรอ  งืม ๆ ชื่อแปลกดีนะ”  แบ๊งค์แกล้วแซวไป

“เย้ยยย   ไม่ใช่ปรินท์เตอร์  ปรินซ์ที่แปลว่าเจ้าชายน่ะ”  นายปรินซ์  อธิบาย

“ก็ถึงว่า คนอะไรชื่อปรินท์เตอร์  สงสัยพี่ชายคงชื่อ คอมพิวเตอร์มั้ง”   แบ๊งค์ยังคงแซวต่อ  แล้วเราทั้งสองก็หัวเราะไปด้วยกัน

“เจ้าตัวนี้ชื่ออะไรหรอ โจบิรึเปล่า”   แบ๊งค์ถามไป

“รู้ได้ไงเนี่ย  วันนี้มีคนทายถูกสองคนแล้วนะ”   ปรินซ์บอก

“หรอ  ก็ทายตามชื่อในซีรีย์ญี่ปุ่นน่ะ”   แบ๊งค์อธิบาย

“อืม......แล้วแบ๊งค์มาเที่ยวคนเดียวหรอ”  ปรินซ์ถาม

“อืม...พอดีไม่มีอะไรทำน่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“ให้เราไปเที่ยวเป็นเพื่อนมั้ย”    ปรินซ์อาสา   อะไรวะ  มาแนวไหนเนี่ย เจอหน้ากันครั้งแรกก็จะไปเที่ยวด้วยกันซะแล้ว  คนกรุงเทพฯ ไวไฟกันจัง  ไม่ได้ ๆๆ แม่แบ๊งค์สอนมาดี ว่าถ้าเจอคนแปลกหน้าให้วิ่งตาม เย้ยยยย ไม่ใช่  ถ้าเจอคนแปลกหน้าอย่าเพิ่งไว้ใจ  ไปดีกว่ากรูส์

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเราไปก่อนนะ”  แบ๊งค์รีบถอนตัวกลับ  โดยปฏิเสธไป

“เดี๋ยวก่อนสิ  เรายังไม่มีเบอร์แบ๊งค์เลย”   ปรินซ์รีบถาม

“อย่าเลย  เราไม่มีโทรศัพท์หรอก”   แบ๊งค์ปฏิเสธไป  นายปรินซ์ก็เลยได้แต่ทำหน้าเศร้า ๆ  แล้วอยู่ ๆ โทรศัพท์มือถือแบ๊งค์ก็ดังขึ้น ( ใครโทรมาฟระ......)

“อ้าว...ห”   ปรินซ์ทำท่างง ๆ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ตัวแบ๊งค์  ก่อนที่ปรินซ์จะได้อ้าปากถามอะไร  เจอมุกแป๊กของแบ๊งค์ไปก่อนก็แล้วกัน

“อ่ะ.....นั่น....มนุษย์ต่างดาว”    แบ๊งค์ชี้ไปทางข้างหลังของปรินซ์  แล้วมันก็ได้ผลครับ  นายปรินซ์หันตาม  แค่นั้นแหละ  มีหรอที่แบ๊งค์จะปล่อยให้เวลาแบบนี้ผ่านไปได้ง่าย ๆ พอได้ทีเผลอแบ๊งค์ก็วิ่งสุดแรงเกิด  ออกไปโดยทันที ( โดยที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน )

แฮ่ก ๆๆๆ เหนื่อยว่ะ  ทำอย่างกับกรูส์ไปขโมยอะไรมาอย่างนั้นแหละ  ออกมาได้ก็ดีแล้ว  ไปหาซื้อของต่อดีกว่าว่ะ  แล้วใครโทรมาฟระ  เจ้นุ่นนั่นเอง

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ   อยู่ไหนเนี่ย”   พี่นุ่นถาม

“อยู่จตุจักรอ่ะ  มาเที่ยวเล่น”   แบ๊งค์บอก

“อืม ๆ ไม่มีอะไรหรอก  แค่จะมาบอกว่า”

“พี่นุ่นจะกลับไปวันพุธนะ”    พี่นุ่นบอก

“แล้วจะกลับมากี่โมงล่ะ”   แบ๊งค์ถามพี่นุ่น

“ยังไม่รู้เลย  เดี๋ยวพี่โทรบอกอีกทีนะ”   พี่นุ่นพูด

“อ้าว.......”    แบ๊งค์ อุทานออกมา

“เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ พี่ยุ่งอยู่  บายจ้า”   แล้วพี่นุ่นก็วางสายไปโดยที่  แบ๊งค์ยังไม่ทันได้พูดอะไร   นี่กรูส์วิ่งหนีแทบตาย  เพื่อมารับโทรศัพท์แค่นี้เองน่ะหรอ  กรรม เซงจิต

แล้วแบ๊งค์ก็เดินต่อไป  ตอนนี้เริ่มปวดฉี่ซะแล้วสิ   ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า  พอแบ๊งค์ทำธุระส่วนตัวเสร็จ   ตอนที่แบ๊งค์ออกมาหน้าห้องน้ำ  แบ๊งค์เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางคุ้น ๆ หน้าเหมือนเคยเห็นเลยครับ 
เรามองหน้ากัน กะว่าจะถามไปว่าเคยเจอกันรึเปล่าก็ไม่กล้า  ก็เลยปล่อยไว้อย่างนั้น  แล้วแบ๊งค์ก็เดินออกไป  แบ๊งค์เดินไปดูของแต่งบ้านต่อครับ  ส่วนใหญ่จะเป็นรูปภาพ  แบ๊งค์เลยไม่รู้จะเอาอะไรไปแต่งห้อง  เลือกไม่เป็นน่ะ 

เริ่มเหนื่อยซะแล้ว  ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเป็นเวลาเย็นแล้ว  ไปเดินเล่นที่สวนรถไฟข้าง ๆ ดีกว่า  จะได้บริหารกล้ามเนื้อ   แล้วได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปด้วย  ตอนนี้ที่สวนรถไฟคนก็เริ่มมาออกกำลังกายกันบ้างแล้วครับ

บางคนก็ปั่นจักรยาน  บางคนก็วิ่ง  บางคนก็กำลังวอร์มร่างกายเลย  บางคนก็มากับเพื่อน  เห็นแล้วคิดถึงเพื่อน ๆ จัง  ถ้ามาด้วยกันคงสนุกกว่านี้  แต่....วันนี้กรูส์ตั้งใจมาเที่ยวคนเดียวนี่หว่า ช่างเหอะ  แค่คิดถึงก็พอแล้ว

ตอนนี้ก็ใกล้ที่จะมืดเข้ามาทุกทีแล้ว  แบ๊งค์กลับคอนโดดีกว่าสรุปว่าวันนี้แบ๊งค์ได้ของกลับไปกี่อย่างเองเนี่ย  เสื้อหนึ่งตัว  กับนาฬิกาอีกหนึ่งเรือน  แบ๊งค์ดูนาฬิกาสีขาวที่ข้อมือตัวเอง  เข็มนาฬิกาอยู่ที่ 18.05 น.  คงได้เวลากลับซะทีสินะ  แบ๊งค์ออกไปยืนรอรถเมลล์ซักพัก  แล้วรถก็มาพอดี  แบ๊งค์เลยขึ้นรถกลับคอนโดไป

..............................

“พี่อาร์ทคะ  แทมขอเข้าไปได้มั้ย”   แทมขอผม

“เข้ามาสิครับ”   ผมอนุญาตไป    แล้วน้องแทมก็เข้ามาในห้องผมครับ  ความจริงน้องเค้าไม่ต้องเคาะประตูก็ได้นะ  เพราะผมสนิทกับน้องแทมมากแล้ว

“มีอะไรหรอครับ มาหาพี่แต่เช้าเลย”  ผมถามเธอไป

“พี่อาร์ทรู้จักสวนจตุจักรมั้ยคะ”   แทมถามครับ

“รู้จักสิครับ  ทำไมหรอ .......อยากไปล่ะสิ”    ผมตอบเธอไป  น้องแทมก็ได้แต่ทำหน้าเขินอาย  ที่ผมรู้ทัน

“ค่ะ....แทมอยากไป  พี่อาร์ทไปกับแทมนะคะ”  น้องแทมขอครับ

“ก็ได้ครับ  แต่พี่คงไม่เอารถไปหรอกนะ  ให้คนขับรถไปส่งเราดีกว่า”   ผมเสนอไป  คือผมอยากพักผ่อนน่ะครับ

“ก็ได้ค่ะ  ขอแค่ไปถึงที่นั่นก็พอ”   แทมพูด  แล้วเราสองคนก็ให้คนขับรถไปส่งที่จตุจักรกันครับ  คนเยอะเหมือนกันนะวันนี้  คงเป็นเพราะว่าเป็นวันอาทิตย์แน่ ๆ เลย

“อยากไปดูอะไรก่อนหรอครับ”   ผมถามน้องแทมไป

“ไม่รู้สิคะ  พี่อาร์ทนำดีกว่า”   น้องแทมเสนอมาครับ

“พี่ก็ไม่ค่อยได้มาหรอกนะ  ไปดูโซนสัตว์เลี้ยงดีกว่านะ”   ผมชวนน้องแทมไปกันครับ

“ก็ได้ค่ะ   อยากลองหาไปเลี้ยงที่บ้านเหมือนกัน”   น้องแทมพูด

“จะซื้อไปน่ะ ขอคุณลุงกับคุณป้ารึยังครับ”    ผมแซวไป

“หะหะ ล้อเล่นค่ะ  ไม่ซื้อหรอก  ขืนซื้อไป แม่แทมได้ดุกันแน่ ๆ “   แทมทำท่ากลัว ๆ

เราเดินมาจนถึงร้านหนึ่งครับ  คนเต็มร้านเลย  คงเพราะสุนัขจากร้านนี้เป็น  พันธุ์แท้และมีหลายพันธุ์ให้เลือกมั้งครับ  คนเลยเต็มร้านไปหมด

“อุ้ย!!! พี่อาร์ทดูนั่นสิคะ”   น้องแทมทำท่าตกใจครับ  แล้วรีบวิ่งไป ที่กรงของสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้  น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย  สุนัขพันธุ์นี้

“ไหนขอดูหน่อยซิ”   ผมตามเธอเข้าไปครับ  ยิ่งดูใกล้ ๆ ก็ยิ่งน่ารักนะครับ สุนัขพันธุ์นี้

“ชอบหรอครับ  เหลือตัวสุดท้ายแล้วนะครับ”   มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น  ดูเหมือนว่าเค้าจะเป็นเจ้าของร้าน

“หรอคะ....น่าสงสารจังนะ  เพื่อน ๆ หายไปกันหมดเลย”   น้องแทมหันไปพูดกับสุนัขตัวนั้นต่อ

“ชื่ออะไรหรอครับ  โจบิ รึเปล่า”    ผมถามไป  เพราะผมเห็นสุนัขพันธุ์นี้ส่วนใหญ่ จะชื่อนี้กันทั้งนั้น  คงเป็นเพราะซีรีย์ญี่ปุ่นที่เคยเอาฉายในบ้างเราแหละมั้ง  เลยจุดกระแสให้ชื่อนี้ดังขึ้น

“ค..ครับผม  ชื่อโจบิ”  เด็กหนุ่มหน้าใสคนนั้นตอบกลับมา

“เดี๋ยวพวกเราขอตัวกันก่อนนะครับ “

“แทมป่ะ  ไปโซนอื่นกันเหอะ”  ผมพูดกับเด็กหนุ่มคนนั้น  แล้วหันไปพูดกับน้องแทม

“ค่ะ  ไปก่อนนะ โจบิ  บาย..”   แทมรับคำผมแล้วกันไป ลาเจ้าโจบิครับ    เราสองคนเดินกันมาเรื่อย ๆ   แวะไปทุกโซนนั่นแหละครับ  น้องแทมดูเค้าตื่นเต้นมากเลยนะเนี่ย   เห็นอะไรก็ชมไปซะทุกอย่าง 

“พี่อาร์ทดูเสื้อร้านนั้นสิคะ  น่าจะเหมาะกับพี่อาร์ทนะ”   น้องแทมไม่ชี้เปล่าหรอกครับ  แต่กลับลากผมตามไปด้วย  ผมวิ่งตามแทบไม่ทัน

“ครับ ๆๆ ช้าก็ได้ครับ  พี่วิ่งตามไม่ทัน”  ผมพูด

“ไปดูก่อนค่ะ  เดี๋ยวลายสวย ๆ โดนแย่งไปนะคะ”  น้องแทมพูดครับ  แล้วผมก็ตามไปเป้นหุ่น  ยืนให้น้องแทมเอาเสื้อหลากสี หลายตัวผลัดเวียนกันมาเทียบที่ตัวผม  เพื่อดูว่าตัวไหนถึงจะเหมาะ  ความจริงผมไม่เหมาะกับเสื้อลายแบบนี้หรอกครับ  มันเหมาะกับแบ๊งคืมากกว่า  ถ้าแบ๊งค์ได้มาเดินด้วย คงได้ไปซักตัวแล้วล่ะ

“เอาลายนี้ดีมั้ยคะ  พี่อาร์ท astroboy ด้วยนะ”   น้องแทมเลือกมาได้แล้วหนึ่งดัวครับ

“จะเหมาะกับพี่หรอครับ”  ผมถามอย่างงง ๆ

“ไม่รู้สิคะ  แทมว่าแทมมีเซนส์นะ  เสื้อตัวนี้ต้องมีความสัมพันธ์กับพี่อาร์ทแน่ ๆ”       น้องแทมพูดแล้วหันมาทางผม

“เพี้ยนมากไปรึเปล่าแทม”   ผมพูดติดตลก

“เอาตัวนี้แหละค่ะ”   แทมยื่นเสื้อตัวนั้นให้เจ้าของร้านไป

“ตัวเล็กแบบนี้พี่จะใส่ได้หรอ  มีไซส์อื่นมั้ยครับ”   ผมถามไป

“ลายแบบนี้ที่เอามาก็มีสองสีน่ะค่ะ”

“สีขาวกับสีน้ำตาล  แต่สีน้ำตาลไซส์ M มีคนเอาไปแล้วเมื่อเช้าน่ะค่ะ  ตัวนี้ไซส์ L น้องน่าจะใส่ได้นะคะ”  เจ้าของร้านบอกมาครับ

ผมก็ได้แต่ผงกหัว   แล้วจ่ายเงินไป   เสื้อตัวนี้มันจะเหมาะกับผมจริง ๆ หรอเนี่ย  ผมมองดูเสื้อแปลก ๆ สลับกับมองหน้าแทม

“น่ารักดีออก  มีคนซื้อไปตัวหนึ่งแล้วเห็นมั้ย”  น้องแทมพูด

“คนที่มาซื้ออาจจะเป็นเด็กม.ปลายก็ได้”  ผมแย้งไป

“ไม่หรอกค่ะ  น่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยนะคะ  เพราะผมยาว  แต่ดูหน้าเด็กหน่อยนะคะ”   เจ้าของร้านช่วยเสริม   เด็กมหาวิทยาลัยแต่หน้าเด็กหรอ  คำ ๆ นี้ทำให้ผมนึกถึงคน ๆ นั้นอีกแล้ว วันนี้ผมรู้สึกแปลกจัง  รู้สึกเหมือนว่ามีเค้าอยู่ใกล้ ๆ  ตลอดเวลา

“คิดอะไรอยู่อ่ะ  เงียบไปเลย”  น้องแทมพูดขึ้น ผมถึงได้ตื่นออกจากภวังค์

“อ๋อ  กำลังคิดเรื่องเซนส์ของน้องแทมไง  ว่าจะเชื่อได้รึเปล่า”  ผมแกล้งแซวเธอไป

“โห....ไม่เชื่อใจกันเลยนะ  งอนแล้ว”   น้องแทมทำท่างอน ๆ ครับ ผมเลยต้องรีบง้อเธอ

“โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนพี่นะ  เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรทานก็ได้”   ผมเสนอไป

“จริง ๆ นะ”   แทมหันมาในทันที  น้องผมคนนี้เห็นแก่กินเหลือเกิน

“อืม....ตามมาก็แล้วกัน” ผมพูดแล้วปล่อยให้เธอเดินตาม  จนร้าอาหารที่เราจะทานกัน  มันก็ไม่ได้เป็นร้านหรูอะไรหรอกครับ

“พอทานได้นะ”  ผมกระซิบบอกน้องแทม

“ได้สิคะ  แทมไม่หวั่นอยู่แล้ว”    น้องแทมพูดแบบนี้ผมค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย   แล้วเราก็สั่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทานกัน ไม่อยากทานมากเพราะเดี๋ยวคงจะเดินต่ออีกซักนิด  พอทานเสร็จเราก็นั่งกันซักพัก เพื่อวางแผนว่าจะไปที่ไหนต่อ

“แทมอยากไปที่เค้าขายของตกแต่งบ้านน่ะค่ะ”   น้องแทมพูด

“ก็ได้ครับ  แต่เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ยครับ”   ผมพูด

“ถ้าแทมบอกว่าไม่ได้ล่ะคะ”   น้องแทมแกล้งผมครับ

“โห...น้องแทมครับ  พี่ปวดจริง ๆ นะ”   ผมแกล้งทำเป็นอ้อนวอนเธอ

“ล้อเล่นค่ะ  ไปก็ไปสิคะ เดี๋ยวแทมรอที่หน้าห้องน้ำนะคะ”    แล้วผมก็จ่ายเงินค่าอาหาร  จากนั้นเราทั้งคู่ก็แยกกันไปเข้าห้องน้ำ  พอออกมาก็เห็นน้องแทมทำท่าครุ่นคิดอะไรก็ไม่รู้

“คิดอะไรอยู่หรอแทม”   ผมถามไป

“เมื่อกี้แทมเจอหน้าผู้ชายคนหนึ่ง  หน้าคุ้น ๆ น่ะค่ะ”   แทมพูด

“หรอ...เคยเจอที่อังกฤษหรอ”  ผมถามไป

“ไม่รู้สิคะ  แต่แทมว่าไม่ใช่นะ”   แทมยังคงพยายามคิดหาคำตอบต่อไป

“หน้าตาเค้าเป็นยังไงล่ะ”   ผมถามอีก

“ก็หน้าตาน่ารักนะคะ  ดูเด็ก ๆ ดี”    แทมพูด

“อย่าไปสนใจเลยน่ะ  สงสัยเค้าคงหน้าโหลมั้ง”

“พี่ว่าเราไปซื้อของต่อเหอะ”    จากนั้นเราสองคนก็ไปซื้อของมาอีกมากมายเลยครับ  น้องแทมได้โคมไฟไปแต่งบ้าน  จากนั้นยังไปเดินผ่านพวกงานศิลปะ  ก็เลยซื้อกลับไปอีก  น้องคนนี้ช้อปเก่งจริง ๆ

ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว ข้าวของก็พะรุงพะรังเล็กน้อย  ผมเลยรีบโทรไปหาคนขับรถรีบมารับ  จากนั้นเราก็ไปรอรถที่ใกล้ ๆ กับป้ายรถเมล์ครับ  ตอนนี้เวลา 18.08  น.  รถเมล์สายนี้....สายที่ผ่านคอนโดของแบ๊งค์น่ะครับ  ผ่านไปพอดี   แล้วคนขับรถมาพอดีครับ  เราเลยรีบขนของใส่ท้ายรถ  แล้วรีบขึ้นรถไป

“นี่ครับ  ของที่น้องอาร์ทสั่ง”  พี่คนขับรถ ยื่นซองยามาให้ผมครับ

“อ่ะ  ทานซะจะได้ไม่เป็นอะไรมาก”   ผมยื่นซองยาต่อไปให้น้องแทมครับ

“อะไรคะ”    น้องแทมถามสั้น ๆ

“ยาแก้ท้องเสียน่ะ  เมื่อกี้ทานเข้าไป แสลงท้องเรารึเปล่าก็ไม่รู้”   ผมยื่นซองยา  แล้วเอาขวดน้ำยื่นตามให้ครับ

“ขอบคุณค่ะ  พี่อาร์ทละเอียดอ่อนจังนะคะ”  น้องแทมพูดก่อนทานยา

“ไม่ใช่พี่หรอกครับ มีคนเคยทำให้พี่แบบนี้มาก่อน”   ผมบอกไป

“คงจะเป็นแบ๊งค์ คนเดิมอีกใช่มั้ยคะ”   น้องแทมทานยาเสร็จแล้วพูดครับ

“.......................”  ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“อ่ะ!!!!!!!”    น้องแทมอุทานออกมาเสียงดัง

“อะไรหรอแทม  ร้องออกมาซะดังเลย”  ผมถามเธอ

“พี่อาร์ท ๆๆๆ จำตอนที่แทม ที่แทม  บอกว่าเจอคนหน้าคุ้น ๆ ได้มั้ย”    น้องแทมตกใจจนพูดติดอ่างเลยครับ

“อ๋อ..ครับ  จำได้สิ ทำไมหรอ”   ผมตอบไป

“แทมจำได้แล้วค่ะว่าเป็นใคร  เค้าคือแบ๊งค์  คนที่อยู่ในรูปในห้องนอนพี่อาร์ทไงคะ”   พอน้องแทมพูดจบ  ผมอึ้งไปเลย

“ช....ช...ใช่หรอแทม”   ผมถามย้ำเธออีกครั้ง

“ใช่ค่ะ  แทมจำได้ จำได้จริง ๆ”   แทมย้ำอีกครั้ง

“พี่ครับวนรถกลับไปจตุจักรด้วยครับ”   ผมรีบบอกให้พี่คนขับรถวกรถกลับไปยังจตุจักรอีกครั้งหนึ่ง

พอไปถึงที่จตุจักร  ผมวิ่งลงไปด้วยความรวดเร็ว  ผมมองหาในสถานที่ ที่ผมคิดว่าเค้าจะไป  โดยมีน้องแทมวิ่งตามมาติด ๆ   ผมไปหาแบ๊งค์แถวบริเวณหน้าห้องน้ำ   ไปโซนสัตว์เลี้ยง  ไปโซนหนังสือ ไปโซนต้นไม้  แต่ก็หาไม่เจอ  ตอนนี้ผมเริ่มเหนื่อยแล้วน้องแทมเองก็เหมือนกัน  เราสองคนมานั่งพักด้วยกัน

“แฮ่ก ๆๆๆ เหนื่อยจังเลยค่ะพี่อาร์ท”  น้องแทมบ่น

“แทม....แทมมั่นใจหรอว่าเป็นแบ๊งค์”   ผมถามกลับไปอีกที

“ค่ะ  แทมมั่นใจจริง ๆ นะคะ”    น้องแทมย้ำ   แล้วผมก็นึกถึงคำพูดของ เจ้าของร้านขายเสื้อที่พูดว่า ‘น่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยนะคะ  เพราะผมยาว  แต่ดูหน้าเด็กหน่อยนะคะ’  แบ๊งค์….ต้องเป็นแบ๊งค์แน่ ๆ ที่ไปซื้อเสื้อ  เพราะแบ๊งค์ชอบใส่เสื้อแบบนี้

“แทม  ไปกับพี่หน่อย  ที่สุดท้ายแล้ว”   ผมบอกแทม

“ไปไหนอีกหรอคะ”  ผมไม่ตอบแทม  แต่ตอนนี้ลากตัวแทมตามมาแล้ว  จนเราไปถึงร้านขายเสื้อร้านเดิม

“มาที่นี่ทำไมหรอคะพี่อาร์ท”   น้องแทมถาม  แต่ผมไม่ตอบ น้องแทมก็เลยนั่งลง ข้าง ๆ ผม

“อ้าว...กลับมามีอะไรหรอคะ  หรือว่าเสื้อใส่ไม่ได้”   เจ้าของร้านเสื้อถามมาครับ

“เปล่าหรอกครับ  เอ่อ...คือพี่บอกว่าเสื้อมีสองตัวใช่มั้ยครับ”

“แล้วมีคนมาซื้อไปก่อนผมตัวหนึ่ง  คนที่ซื้อไปใช่คน ๆ นี้รึเปล่าครับ”  ผมเปิดรูปแบ๊งค์ที่อยู่ในมือถือให้เจ้าของร้านขายเสื้อดู

“อืม......ใช่แล้วค่ะ  เด็กคนนี้แหละ  ”  เจ้าของร้านขายเสื้อถาม

“แล้วเค้ามากับใครหรอครับ”  ผมถามต่อ

“มาคนเดียวนะคะ รู้จักกันด้วยหรอคะ”     เจ้าของร้านเสื้อถามต่อ

“ครับ...ผมอยากเจอเค้ามาก  แต่ไม่รู้จะหาโอกาสไปยังไง”   ผมบอกไป

“ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ  เดี๋ยวก็คงได้เจอกัน  เพราะเมื่อกี้ตอนที่พี่ไปหาเพื่อน”

“เหมือนจะเห็นน้องเค้าออกไปรอรถเมล์อยู่น่ะค่ะ”    เจ้าของร้านขายเสื้อบอก

“จริงหรอครับ  ขอบคุณมาก ๆ นะครับ”   ผมขอบคุณเจ้าของร้านไป

“ป่ะแทม  ไปได้แล้ว”   แล้วผมก็ลากแทมวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์

“พี่อาร์ท  แทมจะไม่ไหวแล้วนะ  จบวันนี้แทมผอมกันพอดี”   น้องแทมบ่นอิดออด  แต่ผมก็ยังคงหาแบ๊งค์ต่อไป  คนที่ป้ายรถเมลล์มีไม่มาก  แต่ไม่มีแบ๊งค์อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นเลย  ผมก้มมองดูนาฬิกา 19.10 น. แล้ว  เวลา...ตอน หกโมงกว่า ๆ ผมเห็นรถเมล์สายประจำคอนโดแบ๊งค์  นี่ผมช้าไปไม่กี่นาทีเองหรอเนี่ย  ทำไมนะทั้ง ๆ ที่ผมจะได้เจอแบ๊งค์อยู่แล้ว  เจอกันในวันที่ผมมีความกล้า  เจอกับแบ๊งค์ในวันที่เป็นส่วนตัว   ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ผมนั่งลงริมฟุตบาท แล้วเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร

“พี่อาร์ท......”    น้องแทมเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วเอามือวางบนบ่าของผม

“พี่ช้าไป  ช้าไปแค่เสี้ยวนาที  ทำไม  ทำไมสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งพี่แบบนี้ด้วย”   ผมพูดไปร้องไห้ไป

“ไม่เจอวันนี้  แต่วันอื่นก็ยังมีนี่คะ”  แทมพยายามปลอบใจผม

“มันไม่เหมือนกันหรอกแทม  วันนี้เค้ามาคนเดียว  แต่วันอื่น ๆ เค้าก็อยู่กับแฟนเค้าสิ  พี่ไม่กล้าบากหน้าเข้าไปหาเค้าหรอก”   ผมก้มหน้าร้องไห้ต่อไป

“อย่าเศร้าไปเลยค่ะ  แทมว่าเรากลับบ้านก่อนจะดีกว่านะคะ”  แล้วแทมก็พาผมขึ้นรถกลับบ้านไป  ตลอดทางกลับบ้าน  ผมร้องไห้มาตลอด  ผมหวังว่ามันคงจะมีโอกาสอีกสักครั้ง  โอกาสที่ผมจะได้อยู่กับเค้าตามลำพังเพื่อที่จะได้บอกความรู้สึกทุกอย่างไป  ผมจะรอวันนั้น..
**********************
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-06-2007 03:08:43
คนเราถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 09-06-2007 07:22:14
พยายามเข้าน้า o8 o8 o8 o8 o8 o8
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-06-2007 07:40:59
เหอ เหอ คลาดกันไป คลาดกันมา  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-06-2007 10:35:41
พรหมลิขิตหรือเปล่านะ





แต่เชียร์กาวเหมือมเดิมครับ

  :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 09-06-2007 14:03:23
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-06-2007 15:22:54
คลาดกันไป คลาดกันมา เกือบจะเจอกันอยู่แล้ววว  o9

ใจเย็นๆ น๊า  คู่กันยังไงก็ต้องได้เจอกานนน  เชื่อมั่นเข้าไว้น๊า    :impress:

เชียร์พี่อาร์ททมากกว่าคนอื่นๆเลย หุหุ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 10-06-2007 01:08:15
กำ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
แล้วอยากนี้จะได้เจอกันเมื่อไรล่ะเนี่ย
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: picuzz ที่ 11-06-2007 19:30:07
ลุ้นๆๆ ให้เจอกันซะที :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 11-06-2007 20:51:19
************************
บทที่ 42 เปิดเทอม....อยู่ปี 2 แล้วนะ


และแล้ววันนี้ก็มาถึงครับ  วันเปิดเทอม  วันที่แบ๊งค์จะกลับไปเจอหน้าใครบางคนอีกครั้ง  ถ้าแบ๊งค์เจอเค้าแบ๊งค์จะหลบหรือว่า จะอยู่เผชิญหน้าดีนะ

“แบ๊งค์!!!!ไปสายพี่นุ่นไม่รู้ด้วยนะ  พี่นุ่นไปก่อนล่ะ”   พี่นุ่นมาตามแบ๊งค์ครับ

“เฮ้ย!!!!!!เดี๋ยวก่อนสิเจ้  รอแบ๊งค์ก่อน”   แบ๊งค์รีบคว้ากระเป๋า   แล้ววิ่งออกห้องตามพี่นุ่นไป   พี่นุ่นก็รอกันหน่อยก็ไม่ได้

“จะไปสายตอนเปิดเรียนวันแรกตลอดหรอจ๊ะ”   พี่นุ่นถาม

“โห....ยังไม่สายซะหน่อย  พี่นุ่นออกเช้าเองตะหาก”  แบ๊งค์เถียง

“ป่ะ  ไปกันได้แล้ว”   พี่นุ่นพูด  แล้วแบ๊งค์ก็ขึ้นรถตามไป  พี่นุ่นมาส่งแบ๊งค์ที่เดิมเลยครับ โต๊ะม้าหินอ่อนตัวเดิม   ตัวประจำที่เราเคยนั่ง ๆ กันอยู่นั่นแหละ  ตอนนี้มีคนมานั่งเต็มไปหมดเลย  ก็มีพี่ปอย  พี่ตี๋  พี่ตั้ม แล้วก็ไอ้กาว

“อ้าว..แบ๊งค์มาพอดี  มานั่งสิ”   พี่ตั้มเรียกครับ

“มากันเกือบครบ  แล้วพี่โป้งกับแมคล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ไอ้โป้งมันไปซื้อของกินอยู่น่ะ  เดี๋ยวอิ่มกันแน่ ๆ โต๊ะนี้”   พี่ตี๋แซว

“เออ....ใช่  ลืมไปเลยนะเนี่ย  ของฝากพี่ปอยกับพี่ตี๋อยู่ที่คอนโดแบ๊งค์น่ะ”  แบ๊งค์บอก

“อ๋อค่ะ  ไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังก็ได้  ขอบคุณนะคะ”   พี่ปอยพูด

“เออ...ว่าแต่ลมอะไรหอบเอาพวกเมริงมานั่งนี่กันได้วะ”

“เมื่อก่อนเห็นชอบไปนั่งหลบมุมกันสองคน”   พี่ตั้มแซว

“เฮ้ย!!! ไอ้ตั้มหยุด  พูดดี ๆ เลย”  พี่ปอยขู่ครับ

“คร้าบบบบ  กลัวแล้วคร้าบบ”    พี่ตั้มทำท่ากลัว พี่ปอย

“ที่หายไป  ก็ไปช่วยพวกเด็กกิจกรรมปีหนึ่งปีที่แล้วไง  แล้วที่วันนี้มาที่นี่ก็เพราะว่าจะมาช่วยรับน้องไง”   พี่ตี๋อธิบาย  ใช่สิ  ต้องมีรับน้องด้วยนี่นา  แบ๊งค์ลืมไปเลยนะเนี่ย  เดี๋ยวก็ต้องมีน้องรหัสอีก  วุ่นวายกันแน่ ๆ

“แล้วใครจะเป็นประธานว๊ากหรอครับ  รุ่นผมน่ะ”   กาวถาม

“นั่นไง  ยืนอยู่นั่นไง”  พี่ปอยบุ้ยปากไปอีกทางหนึ่ง  ชี้ไปทางผิงนั่นเอง

“ผิง....แล้วค..ครีมล่ะครับ”   แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

“ครีมไทร์ออกไปแล้วนะ”  กาวพูด   เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลย

“ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเหมือนว่าครีมยังทำใจไม่ได้น่ะ  ก็เลยขอไทร์ดีกว่า”  กาวพูด

“.......................”   แบ๊งค์ไม่ได้พูดอะไร

“อย่าเศร้าไปเลย  ไอ้ตัวเล็ก  ทำหน้าสดใสหน่อย  เดี๋ยวน้องรหัสมันจะหดหู่นะ เห็นหน้าพี่รหัสเป็นแบบนี้น่ะ”   พี่ตั้มแซว

“อืมครับ“ แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ   สักพักพี่โป้งก็เดินถือของมาเต็มมือ  กับแมคสองคน

“โห..ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย”   พี่ปอยถาม

“ไม่ได้ซื้ออะไรมากหรอก  ก็แค่แซนด์วิชกับนมกล่องก็เท่านั้นเอง”   พี่โป้งพูด

“แล้วเมริงซื้อมาเลี้ยงใครเยอะแยะวะ”   พี่ตี๋ถามขึ้นบ้าง

“ก็เอามาให้พวกเราไง  รวมพวกสต๊าฟปีนี้ด้วย”   พี่โป้งพูด

“งั้นเดี๋ยวผมไปเรียกสต๊าฟมารับไปทานนะครับ”   กาวอาสา

“อืมไปสิ  ทานกันไม่หมดหรอก”  แมคพูด

“เป็นไงบ้าง  นายหัวเหม่ง”   แบ๊งค์แซวแมค

“อ่ะนะ  อย่าแซวกันดิ  เค้าไม่ได้เรียกหัวเหม่ง  เค้าเรียก สกินเฮด”    แมคพูด

“กรูส์ยังไม่กินอะไรก็จะอ้วกแต่เช้าแล้วว่ะ  ปอยทำไงดีวะ”   พี่ตั้มแกล้งทำท่าเหมือนจะอ้วก  เพื่อแซวแมค  พี่ปอยก็ได้แต่ยิ้ม ตอบไป

“โห....  พี่ขอผมเท่ซักวันไม่ได้หรอ”   แมคพูด

“พอเหอะ  อย่างเมริงไม่ได้ครึ่งของกรูส์หรอก”  พี่ตั้มพูด  เล่นเอาทุกคนทำหน้าแหย ๆ ไปหมดเลย

“อะไรว้า  กรูส์พูดความจริง ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยอ่ะ”   พี่ตั้มพูด

“เค้าคงรับไม่ได้กับความจริงน่ะครับ”   ไอ้แมคสวนขึ้นครับ

“ไอ้แมค!!!!”   พี่ตั้มทำเสียงขู่

“พอได้แล้วทั้งสองคนเลย  รีบ ๆ ทานซะ จะได้ไปช่วยกันรับน้อง”   พี่ปอยตัดบท  ทั้งสองคนถึงได้หยุด  พวกเราทานกันจนอิ่มเสร็จเรียบร้อยก็ไปช่วยกันรับน้อง  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ  แค่แนะนำอาคาร  แนะนำชื่อรุ่นพี่แต่ละคน

ในกลุ่มน้องปีหนึ่ง  มีอยู่คนหนึ่งแบ๊งค์รู้สึกคุ้นหน้าจัง  เหมือนเคยเจอกันที่ไหนซักที่   ยังไม่ทันจะได้คิด  แบ๊งค์ก็ถูกให้ไปช่วยเขียนป้ายแขวนคอน้องปีหนึ่งเพื่อที่จะเข้าฐาน  แบ๊งค์ก็นั่งเขียนไปเรื่อย ๆ จนมีเสียงคุ้น ๆ ดังขึ้น

“ชื่อปรินซ์ครับ”    เสียงนี้ใช่เลย  แบ๊งค์เลยเงยหน้ามองไป  จ๊ากกกกกกกกกกก(O_o)  นายปรินซ์ที่แบ๊งค์เจอที่สวนจตุจักรเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว  เรียนที่เดียวกันหรอเนี่ย   แบ๊งค์ค่อย ๆ เขียน  แล้วยื่นให้   ไม่กล้ามองหน้าอ่ะ  อายมุกมนุษย์ต่างดาวอ่ะ  นายปรินซ์ก็รับไป  แล้วยิ้ม ๆ

อายจังง่ะ  ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้  เปิดเทอมใหม่นี่  มีอะไรมากกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย  กรูส์ไม่น่าไปสร้างคดีไว้อีกเลยเศร้ามากมายแล้วเค้าก็จับน้อง ๆ มาแยะฐานกันครับ  รุ่นพี่ก็แกล้งกันต่าง ๆ นานา  แต่ปีนี้ไม่เห็นมีเหมือนรุ่นแบ๊งค์เลยอ่ะ  รุ่นพี่ใจดีกันจัง  ทำไมแบ๊งค์ถึงต้องโดนตะคอกนะ  พอถามไปถามมา  ที่แบ๊งค์โดนแบบนั้นเป็นเพราะ แบ๊งค์ไปเถียงรุ่นพี่ ( พี่ตั้ม ) ตั้งแต่วันแรกนั่นเอง แต่เด็กรุ่นนี้เป็นเด็กดี ไม่มีใครกล้าเถียงรุ่นพี่ซักคำ   เฮ้อ~~ เด็กพวกนี้  ไม่รู้จักระบบประชาธิปไตยเอาซะเลย ยอมให้พวกเผด็จการกดขี่อยู่ได้

“แบ๊งค์ ๆๆ เราเห็นน้องคนนั้นมันมองแบ๊งค์มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”   ไอ้กาวกระซิบมาครับ

“คนไหนหรอ”  แบ๊งค์ถาม   แล้วไอ้กาวก็บอกพิกัดตำแหน่งมาครับ  กรรม....ไอ้น้องปรินซ์นั่นเอง หาใช่คนอื่นคนไกลไม่

“อืม...ช่างน้องเค้าเหอะ”    แบ๊งค์พูด

“แต่เราว่า  คงไม่ทันแล้วล่ะ  พี่ตั้ม  พี่โป้ง แล้วก็ไอ้แมค  นั่งวางแผนแกล้งกันอยู่โน่นแล้ว”   แล้วกาวก็บุ้ยปากไปทางกลุ่มสามทหารเสือเลยครับ  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา

“จะทำอะไรกันน่ะ  อย่าคิดว่าแบ๊งค์ไม่รู้นะ”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย”   พี่ตั้มปฏิเสธ

“จะไปแกล้งน้องเค้าทำไมล่ะ”  แบ๊งค์ถาม

“ก็แบ๊งค์ดูดิ  น้องเค้ามองแบ๊งค์ขนาดนั้น  มันจะมองอะไรกันนักกันหนา”  พี่โป้งพูดแบบไม่พอใจ

“ใช่ ๆ มองมากไปแล้วมั้ง”   แมคช่วยเสริม

“ก็แค่มอง  แบ๊งค์ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อย”   แบ๊งค์พูดไป

“เออ...ว่ะ    แต่ไม่รู้อ่ะ  พี่ตั้มตัดสินแล้วว่ามันผิด  มันก็ต้องผิด”   ไอ้แมคพูด

“อ้าว....ไอ้ฟายพูดมาได้ไงฟระ”     แบ๊งค์บ่น

“แบ๊งค์รู้จักมันหรอ”   พี่โป้งถาม

“เคยเจอ  เคยคุยกันที่จตุจักรน่ะ”   แบ๊งค์บอก

“ไม่เห็นแบ๊งค์บอกพี่เลย  ใช่สิ...พี่คงไม่สำคัญ”   พี่โป้งทำท่าน้อยใจ

“ไม่ต้องเลยพี่โป้ง  อย่ามาใช้มุกนี้นะ”   แบ๊งค์ดักคอไว้

“ไม่รู้แหละ  พี่จะแกล้งมัน เอาน่า ขำ ๆ แบ๊งค์”    พี่โป้งพูด

“พี่โป้งง่ะ”   แบ๊งค์ทำท่าอิดออด   สรุปก็คือแบ๊งค์ห้ามทัพสามทหารเสือไม่ได้จริงด้วยครับ  ตอนนี้เค้าลุยกันไปแล้ว  แบ๊งค์ก็ได้แต่ยืนดู  เอาเป็นว่าถ้ามันรุนแรงเดี๋ยวแบ๊งค์เข้าไปช่วยก็ได้

สามทหารเสือตั้งกติกามฤตยูขึ้นมาครับ  คือให้แนะนำตัวทีละคน  แล้วบอกเหตุผลที่มาเข้าคณะนี้  โดนที่เหตุผลของแต่ละคนห้ามซ้ำกัน  ถ้าซ้ำกันมีความผิด  และถ้าตอบภายใน 5 วินาทีไม่ได้ก็มีความผิด  ต้องโดนสามทหารเสือบูชายัญเหมือนกันครับ

แบ๊งค์ว่านายปรินซ์ไม่รอดแน่ ๆ ก็เล่นนั่งหลังสุดซะขนาดนั้น  ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหน้า ๆ เริ่มรอดตัวกันไปทีละคน  คนไหนไม่ผ่านก็แยกไว้  เหตุผลต่าง ๆ ผ่านไปหมดแล้ว  ทั้งพ่อบังคับ  แฟนบังคับ  เอนท์ไม่ติดคณะอื่น  ฯลฯ จนตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุผลอะไรแล้ว  คนที่อยู่ข้างหลัง ๆ ก็โดนต้อนไปอยู่เขตทำโทษจนเรียบ จนมาถึงนายปรินซ์   เหล่าสามทหารเสือต่างยิ้มอย่างผู้มีชัย

“ไหน น้องลองบอกมาซิว่าทำไมมาเข้าคณะนี้  ห้ามซ้ำนะ”   ไอ้แมคทำเสียงดุตอนเน้นคำหลังครับ

“เริ่มจับเวลา”   พี่โป้งเริ่มจับเวลาอย่างรวดเร็วครับ

“1..2..3..”  พี่ตั้มนับครับ  ดูเหมือนจะเร็วไปนิดนึงนะ

“เพราะผมชอบพี่คนนั้นครับ”   นายปรินซ์ตอบแล้วชี้นิ้วมาทางแบ๊งค์  ทุกคนต่างนิ่งเงียบ  แล้วมองมาที่แบ๊งค์  ซวยแล้วกรูส์  คนมองกันหมด

“อะไรนะ”   ไอ้กาวถามซ้ำแทนทุก ๆ คน ( ซึ่งคงอยากถามอยู่ แต่พูดไม่ออก )

“ผมมาเข้าคณะนี้เพราะผมชอบพี่คนนี้ครับ  เลยอยากมาอยู่ใกล้ ๆ”   นายปรินซ์พูดไปยิ้มไป  แต่ตอนนี้สามทหารเสือไม่ยิ้มกันแล้ว  โดยเฉพาะพี่ตั้มกับพี่โป้งน่ะ  หน้างอเป็นม้าหมากรุกเลย

“ไม่ผ่าน  เหตุผลนี้ไม่ผ่าน”   พี่โป้งพูดขึ้น

“ใช่ ๆ ไม่ผ่าน”   พี่ตั้มกับไอ้แมคช่วยกันประสานเสียง  จากนั้นก็มีเสียงฮือฮา   กันใหญ่เลยครับ  แบ๊งค์ก็งงเหมือนกัน ( อายด้วย ) ว่าทำไมไม่ผ่าน  เพราะเหตุผลก็ไม่ซ้ำ

“ทำไมไม่ผ่านล่ะครับ  เหตุผลของผมก็ไม่ซ้ำซะหน่อย  ในกติกาก็ไม่ได้ห้าม”   ปรินซ์เถียง

“ก็.... ก็.....ก็ไอ้แบ๊งค์เป็นของสูงประจำคณะเว้ย  เป็นน้องของกรูส์ห้ามกล่าวถึงโดยไม่จำเป็น”   พี่โป้งพูดออกมา  เฮ้อ~~พูดมาได้ไงเนี่ย  ของสูงประจำคณะ  ตกลงกรูส์กลายเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรอเนี่ย

“ใช่ ๆๆ เพื่อนกรูส์ด้วย  เค้าเป็นคนน่ารักกล่าวถึงลอย ๆ ไม่ได้”   ไอ้แมคเสริมเข้าไปอีก  ตกลงมันไม่มีเหตุผลอะไรกันอีกแล้วใช่มั้ย

“แต่พี่ไม่เห็นบอกไว้ก่อนเลยนะครับ”   ปรินซ์ทำท่างง ๆ

“อีกอย่างเหตุผลเมริงเชื่อถือไม่ได้เฟ้ย  โกหกรึเปล่า”    พี่ตั้มพยายามหาเรื่องครับ

“ไม่นะครับ  ผมกับพี่เค้าเคยเจอกันมาแล้วรอบหนึ่ง  ผมชอบพี่เค้าจริง ๆ นะครับ”  นายปรินซ์พยายามเถียง  แต่เหล่าสามทหารเสือก็ยังหาเรื่องอยู่ดี

“พอ ๆๆๆๆๆ  สรุปว่าชั้นให้ผ่าน  เอาล่ะ  ทำกิจกรรมอื่นต่อดีกว่า”   พี่ปอยตัดบทครับ

“เฮ้ย !!!!ปอย  ได้ไงวะ”    พี่โป้งโวย

“ไม่จบใช่มั้ย”   พี่ปอยทำเสียงดุครับ  ทหารเสือหงอกันไปหมดเลย

“จบแล้วคร้าบบบบ”   ทั้งสามคนประสานเสียง ตลกดีเหมือนกันนะเนี่ย  เห็นหน้าทั้งสามคนเป็นแบบนี้  ในที่สุดเรื่องก็จบลงได้ นายปรินซ์ก็รอดตัวไป  น้อง ๆ คนอื่นก็โดนทำโทษด้วยการเต้นไก่ย่างไปตามระเบียบ  แต่ความจริงพวกสามทหารเสือคงอยากทำมากกว่านี้  แต่ในเมื่อนายปรินซ์รอดไป  ก็เลยทำโทษแบบเบา ๆ ไป
และแล้วกิจกรรมช่วงเช้าก็เสร็จไป  ตอนนี้ก็พักกลางวันแล้ว น้อง ๆ ก็แยกย้ายไปทานข้าวกันหมด  แบ๊งค์ก็กำลังจะไปเหมือนกัน  แต่ปวดฉี่ก็เลยขอแยกตัวออกไปก่อน

“เดี๋ยวแบ๊งค์ตามไปนะ  ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”   แบ๊งค์พูด

“เออ...รีบมานะเว้ย”   พี่ตั้มพูดก่อนที่แบ๊งค์จะแยกออกมาเข้าห้องน้ำ   ห้องน้ำตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเลย  คงเพราะเค้าหนีไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้วมั้ง  พอแบ๊งค์ทำธุระเสร็จก็ออกมาล้างมือ  ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในห้องน้ำเลย  ระหว่างที่กำลังจะเดินออกไป  ก็มีคนเข้ามาคว้าแขนแบ๊งค์  แล้วดึงเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตู

“นายเป็นค.......”   แบ๊งค์กำลังจะโวยวาย  แต่ถูกใครบางคนเอามือปิดปากไว้ซะก่อน  แบ๊งค์ต้องตกใจอีกรอบครับ  คนที่จับแบ๊งค์ไว้แล้วเอามือปิดปาก  คือนายปรินซ์นั่นเอง

“อย่าเสียงดังไป  เดี๋ยวคนก็เข้ามาเห็นหรอก”    นายปรินซ์พูด  แล้วค่อย ๆ เอามืออก

“นายจับเรามามีเรื่องอะไร”  แบ๊งค์ถามไป

“แสบนักนะ  นายตัวเล็ก”  ปรินซ์พูดแล้วเอามือขยี้หัวแบ๊งค์

“ปล่อยนะ!!! เราเป็นรุ่นพี่นายนะ”   แบ๊งค์พูดพลางเอามือปัดมือนายปรินซ์ออก

“รุ่นพี่หรอ  ทำไมตัวเด็กจัง  ตั้งแต่มุกมนุษย์ต่างดาวแล้ว”   ปรินซ์พูด

“.............................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้อายหน้าแดงแล้ว (-//////-)

“ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเด็ก ม.ปลายที่ไหน ทำไมแสบซ่าได้ขนาดนั้น  ที่แท้เป็นรุ่นพี่ปี 2นี่เอง ร้ายนักนะ วันนี้ต้องเอาเบอร์ให้

ได้”   ปรินซ์ก้มหน้าพูด  จนตอนนี้หน้านายปรินซ์จะติดหน้าแบ๊งค์อยู่แล้ว   แบ๊งค์ก็ได้แต่ก้มหน้าหลบ

“.......................”     แบ๊งค์หลับตาปี๋  ไม่อยากมองอะไรอีกแล้ว

“ฮะฮะฮะ”    แล้วนายปรินซ์ก็ระเบิดหัวเราะออกมา  อ้าว....หัวเราะอะไรวะ

“หัวเราะอะไรของนายน่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็ดูดิ  หลับตาปี๋  กลัวอะไรหรอ ฮะฮะฮะ”   นายปรินซ์ยังหัวเราะต่อ

“บ้า!!!!!”    แบ๊งค์พูดพร้อมกับผลักนายปรินซ์ออกไป  แล้วแบ๊งค์ก็รีบวิ่งออกจากห้องน้ำไป  พอไปถึงโรงอาหาร  ก็เห็นคนอื่น ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว

“ทำอะไรมาวะช้าว่ะ  แล้วนั่นเป็นอะไร  หน้าดูซีด ๆ เหงื่อก็ออกเต็มไปหมด”  พี่ตั้มทักขึ้น

“เออ....นั่นสิ   ไปเจออะไรมาหรอ”   ไอ้กาวถาม

“เปล่าหรอก  อากาศมันร้อนน่ะ  แบ๊งค์ก็เป็นแบบนี้แหละ”   แบ๊งค์แก้ตัวไป

“เดี๋ยวถ้าทานข้าวเสร็จ  ไปห้องพยาบาลก่อนมั้ยคะ  สีหน้าดูไม่ดีเลย”   พี่ปอยแนะนำ

“ใช่  ๆๆๆ ไปกันมั้ยครับน้องแบ๊งค์”   พี่โป้งพูด

“ไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่เดี๋ยวแบ๊งค์ไปซื้อ ข้าวก่อนนะ”   แบ๊งค์ก็ขอตัวไปซื้อข้าว

“ไม่ต้องหรอก  ไอ้โป้งมันซื้อไว้ให้แล้ว”    พี่ตี๋พูด  แบ๊งค์เลยหันไปทางพี่โป้ง  ใช่จริง ๆ ด้วย พี่โป้งซื้อวุ้นเส้นเย็นตาโฟ ของโปรดแบ๊งค์มาสองชาม  ของพี่โป้งกับของแบ๊งค์

“วุ้นเส้นเย็นตาโฟน่ะครับ  ทานได้รึเปล่า”   พี่โป้งถาม

“ได้สิครับ”   แบ๊งค์เลยเข้าไปนั่งข้างพี่โป้ง

“เอาใจกันจังเลยว่ะ   เย็นตาโฟชามนี้รถขนน้ำตาลคว่ำแน่ ๆ”   พี่ตั้มแซว

“พอ ๆๆๆ  ทานได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด    แล้วเราก็นั่งทานกัน  ก็อร่อยดีนะ  ดีเหมือนกันไม่ต้องไปต่อแถว  เพราะตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้ว

“นี่มันจะไม่หยุดมองเลยใช่มั้ย”   แมคพูดออกมา

“อะไรหรอแมค”   แบ๊งค์เลยถามไป

“ก็ไอ้น้องที่มองแบ๊งค์ตั้งแต่เมื่อเช้าไง ชื่อ..ปิ่น  ปิน”    แมคพยายามพูดชื่อน้องคนนั้น

“ปรินซ์”   ไอ้กาวช่วยครับ

“เออ....ใช่  นั่นแหละ ๆๆ ตอนนี้มันยังมองอยู่เลย”   แมคพูด

“ไหน ๆๆ มันอยู่ไหน  มองอะไรวะ”   พี่ตั้มทำท่าจะลุกไปเอาเรื่อง  แบ๊งค์เลยรีบเอามือกุม มือของพี่ตั้มเอาไว้

“พี่ตั้ม!!!!อย่าเลย”   แบ๊งค์ขอพี่ตั้มเอาไว้

“นั่นสิ   ปล่อยเด็กมันไปเหอะตั้ม”   พี่ปอยช่วยเสริม

“แต่........”   พี่ตั้มกำลังจะแย้ง  แต่แบ๊งค์ขัดไว้

“ถือว่าแบ๊งค์ขอนะ   น้องเค้าไม่ได้มาทำร้ายแบ๊งค์ซะหน่อย”    แบ๊งค์ขอร้องพี่ตั้ม

“เออ.....ก็ได้วะ”   พี่ตั้มทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย  แต่เรื่องที่โรงอาหารก็จบไป

มาถึงกิจกรรมช่วงบ่าย  ในตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ  เพราะส่วนใหญ่ก็ไปเน้นหนักที่ช่วงเช้า  ที่สำคัญ ๆ ก็มีแค่จับคู่พี่รหัสน้องรหัสเนี่ยและ  ตามที่หลาย ๆ คนคิดไว้นั่นแหละ  แบ๊งค์ได้น้องรหัสเป็นนายปรินซ์   ( ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้ซาราห์ ----  เสียใจด้วยนะจอรจ์ )

พี่ตั้ม  พี่โป้ง ไอ้กาว  ไอ้แมค  มองกันเป็นตาเดียวเลยครับ  ส่วนนายปรินซ์ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย  ความตายจะมาเยือน  แต่ยังกระดี๊กระด๊า   ดีใจอยู่ได้   แล้วเวลาสำคัญก็มาถึง  เมื่อมีกติกามาว่า น้องรหัสจะต้องจำเบอร์โทรพี่รหัสได้   โดยให้มาท่องกับพี่ว้าก  แล้วจะนำคำตอบไปเทียบกับคำตอบที่เตรียมไว้  ถ้าไม่ตรง  น้องรหัสกับพี่รหัสโดนทำโทษทั้งคู่  ในฐานะที่ไม่สามัคคีต่อกัน   อุตส่าห์หนีวันนั้นมาได้แล้วแท้ ๆ

“ขอเบอร์ด้วยนะครับ....พี่แบ๊งค์”   นายปรินซ์ทำหน้ากวน ๆ ใส่แบ๊งค์ครับ

“.............................”  แบ๊งค์ไม่ตอบ  ไม่อยากให้ไปเลยจริง ๆ  ใครเป็นคนกำหนดกติกานี้ขึ้นมาฟระ  อยากเห็นหน้าจริง ๆ เลย

“ถ้าไม่ให้เบอร์ผม  เดี๋ยวผมโดนทำโทษนะครับ”    นายปรินซ์ย้ำกติกา

“086-916xxxx”    แบ๊งค์เลยต้องบอกไปอย่างเสียไม่ได้

“ครับผม  แล้วถ้าว่าง ๆ ผมจะโทรไปปรึษาปัญหาหัวใจ  เอ้ย!!! ปัญหาการเรียนนะครับ”   นายปรินซ์ยิ้มอย่างผู้มีชัย  ดูมันมีความสุขจริง ๆ เลยนะ  แต่แบ๊งค์เนี่ยสิ  ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว 

ปรินซ์กับแบ๊งค์ผ่านกิจกรรมนั้นมาได้แล้วครับ  พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ไม่ค่อยชอบหน้านายปรินซ์มีเคืองอยู่บ้างเล็กน้อย  ที่แบ๊งค์ให้เบอร์ปรินซ์ไป  ก็ทำไงได้ล่ะ  ไปโทษคนออกกติกาเลย  กิจกรรมช่วงบ่ายก็หยุดอยู่แค่นั้นนั่นแหละครับ  ก็ไม่มีอะไรมาก  แล้วเค้าก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านครับ  แบ๊งค์กะว่าจะเดินไป หาพี่นุ่นคณะ โดยมีกาวไปเป็นเพื่อนครับ  แล้วก็มีเสียงตามหลังมา

“เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะครับ  ระวังมนุษย์ต่างดาวด้วยนะ”    นายปรินซ์นั่นเอง  ตะโกนบอกแบ๊งค์ก่อนจะเดินไปอีกทาง  ดันมาแซวมุกโบราณของแบ๊งค์อีก   แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร  ได้แต่ก้มหน้าอาย

“น้องคนนี้มนุษย์ต่างดาวอะไรหรอแบ๊งค์”   กาวถาม

“เฮ้อ~~~~ อย่าไปสนใจเลยกาว  มันเป็นความผิดกรูส์เองแหละ”  แบ๊งค์บอกไป

“เรื่องอะไรหรอ  บอกเราหน่อยนะ”   กาวถามอีก  แบ๊งค์ไม่อยากเล่าเลย  แบ๊งค์เลยพยายามปฏิเสธมัน  แต่มันก็ยังง้อต่อไป  แบ๊งค์เลยใจอ่อนยอมเล่าให้มันฟัง

“กร้ากกกกกกกกกกกกกกก  ทำไปได้นะเมริง”   ไอ้กาวหัวเราะใหญ่เลยครับ

“อย่าหัวเราะดิ  กรูส์อายนะเว้ย”    แบ๊งค์พูด

“ก็คิดดูดิ  เล่นไปได้  มุกมนุษย์ต่างดาว”   กาวยังหัวเราะไม่เลิก

“พอ ๆๆ ไปหาพี่นุ่นดีกว่า”   แล้วเราสองคนก็มาถึงคณะของพี่นุ่นแล้วครับ คนเยอะจัง  น้อง ๆ นั่งกันเงียบกริบเลย

“น้อง!!!! ร้องเพลงน่ะ  ร้องเป็นมั้ย  ปากเอามามั้ย”   มีผู้หญิงคนหนึ่งครับ  คาดว่าน่าจะเป็นพี่ว้าก  กำลังสั่งน้องอยู่  มองไป
มองมา  อ้าว....พี่ว้ากคนนั้นคือพี่นุ่นนั่นเอง  เล่นเอาแบ๊งค์กับกาวกลัวไปเลย   เราทั้งสองต่างไม่มีใครกล้าทัก  ได้แต่ยืนมองอยู่เฉย ๆ พอพี่นุ่นเห็นก็เลยเดินออกมา

“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”   พี่นุ่นถาม

“ก็ดูเจ้ดิ  น่ากลัวแบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้”   แบ๊งค์แซว

“ย่ะ  เวลาอยู่หน้าน้อง ๆ ต้องดุ ๆ เข้าไว้สิ”   พี่นุ่นบอก

“แต่พี่นุ่นน่ากลัวจริง ๆ นะ  ผมกลัวมาก ๆ เลย”   กาวเสริม

“จ้า  ไม่ต้องกลัวหรอก มาหาพี่มีอะไรหรอ”   พี่นุ่นพูดกับกาว  แล้วหันมาถามแบ๊งค์

“ก็จะมาดูว่า  เสร็จกันรึยัง  ถ้ายังแบ๊งค์จะไปรอที่สนามบาสนะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม ๆๆ เอางั้นก็ได้  เดี๋ยวพี่ไปหาเราที่สนามบาสก็แล้วกัน”  พี่นุ่นพูด  แล้วก็มีเสียงเพื่อนพี่นุ่นเรียกให้เข้าไปช่วยว้ากน้อง  พี่นุ่นก็เลยขอตัวไปก่อนแบ๊งค์กับกาวก็ไปที่สนามบาส  พอไปถึงก็ต้องตกใจเลยครับ  พี่อาร์ท.....พี่อาร์ทกำลังเลี้ยงลูกอยู่ที่กลางสนาม

“พี่อาร์ท......”   แบ๊งค์เผลอพูดออกมาเบา ๆ

“จะไปทักพี่เค้ามั้ยล่ะ”   กาวพูด

“อ...เอ่อ...ไม่ต้องหรอก  เราไปนั่งที่ข้างสนามดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูดแล้วรีบเดินไปนั่งข้างสนาม   ตอนนี้เหมือนว่าพี่อาร์ทก็เห็นแบ๊งค์แล้วเหมือนกัน  พี่เค้ามองมาที่แบ๊งค์  แล้วเราก็เผลอมองหน้ากัน  แต่ก็หลบสายตากันไปในที่สุด

“อาร์ทมันกลับมาแล้วนะ  ไม่ไปทักมันหน่อยหรอ”   พี่โป้งเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  พูดขึ้นทำให้แบ๊งค์หายเหม่อ

“ไม่ดีกว่านะ พี่โป้ง”   แบ๊งค์ปฏิเสธไป

“พี่เค้าไม่เห็นมาเรียนเลยครับ”   กาวถาม

“มันดรอปไว้ไม่กี่ตัวเองนี่นา  มันคงจะมาเรียนเฉพาะตัวที่ดรอปไว้  แต่เห็นโค้ชบอกว่ามันจะมาซ้อมบาสทุกเย็นนะ”   พี่โป้งบอก

ทุกเย็นอย่างนั้นหรอ.....หมายความว่า  แบ๊งค์ต้องเจอหน้าเค้าทุก ๆ เย็นน่ะสิ  ตอนนี้การหลบหน้าคงไม่มีประโยชน์ต่อไปอีกแล้วล่ะสิ  แบ๊งค์คงต้องเผชิญหน้ากับพี่เค้าไปอย่างนี้  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจริง ๆ

“ไอ้กาวป่ะ  ไปซ้อมได้แล้ว”   พี่โป้งเรียกกาว

“ค...ครับ”   กาวรับคำแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือ กับกระเป๋าสตางค์ให้แบ๊งค์

“ฝากไว้หน่อยนะแบ๊งค์  ไปก่อนละ”   แล้วกาวก็วิ่งตามพี่โป้งไป   โค้ชเค้าเรียกไปวอร์ม  แล้วก็หารือเรื่องที่พรุ่งนี้จะมีการรับสมาชิกใหม่เข้าชมรม  แบ๊งค์ก็นั่งมองกลุ่มนักบาสไป  และก็รู้สึกว่ามีสายบางคู่กำลังจับจ้องมาที่แบ๊งค์  ไม่ใช่สายตาใครหรอกครับ  สายตาของพี่อาร์ทนั่นเอง   แบ๊งค์เลยพยายามหลบสายตา

แบ๊งค์หยิบเครื่องเล่น MP3 มาเปิดฟังเบา  ๆ  แล้วนั่งก้มหน้าไป  ไม่สนใจอะไร   พยายามไม่คิดเรื่องอะไร  วันนี้คงไม่มีอะไรมาก  โค้ชเลยให้แบ่งทีมแล้วเล่นตามปกติ  โดยโค้ชจะดูพัฒนาการ  และจุดด้อยของแต่ละคน  แล้วให้คำแนะนำ  พี่อาร์ท  พี่โป้ง  และกาวได้อยู่ทีมเดียวกันด้วย  การเล่นก็ไม่ได้รุนแรงอะไรหรอกนะ  เล่นแบบสบาย ๆ แต่ทำมไหน้าตาทั้งสามคนดูเครียด ๆ ก็ไม่รู้สิ

“ไอ้ตัวเล็กนั่นน่ะ”  โค้ชตะโกนเรียกออกมาครับ   แบ๊งค์เลยหันไปมองข้าหลังเผื่อว่า มีคนอื่นนั่งอยู่

“ไม่ต้องมอง  เรานั่นแหละมานี่หน่อย”   โค้ชชี้มาที่ตัวแบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา

“มีอะไรหรอครับ”  แบ๊งค์ถามไป

“เดี๋ยวถ้าเค้าเล่นเสร็จ  เอาน้ำไปเสิร์ฟนักกีฬาได้มั้ย”   โค้ชถามมา

“ได้ครับ”   แบ๊งค์เลยตอบไป  จากนั้นโค้ช  ก็ให้แบ๊งค์ไปเอาน้ำใส่แก้ววางในถาดเพื่อเตรียมเสิร์ฟ   ไม่นาน โค้ชก็เป่านกหวีดให้หยุดพัก   นักบาสทั้งหลายก็เลยค่อย ๆ ทยอยเดินกันเข้ามา   แบ๊งค์เลยเอาน้ำไปเสิร์ฟ

“ขอบคุณนะ”   ไอ้กาวรับน้ำไป  แล้วพูดครับ  แบ๊งค์ก็ยิ้มตอบไป

“ขยันทำงานหน่อย”   พี่โป้งแซวครับ

“งั้นไม่ต้องดื่มเลยมั้ย”   แบ๊งค์แกล้งพี่โป้งครับ

“โอ๋ ๆๆๆๆ ขอโทษนะครับ”   พี่โป้งทำท่าง้อแบ๊งค์

“ล้อเล่นน่า  เอาไปสิ”   แล้วแบ๊งค์ก็ยื่นแก้วน้ำให้พี่โป้ง  แบ๊งค์ก็เดินเสิร์ฟน้ำไปเรื่อย ๆ จนไปถึงที่นักกีฬาคนสุดท้าย  พี่อาร์ทนั่นเอง

“..................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ได้แต่ก้มหน้าก้มตา  แล้วยื่นแก้วน้ำให้

“ข...ขอบคุณนะครับ”   พี่อาร์ทพูดก่อนจะรับแก้วน้ำไป  พอพี่อาร์ทรับแก้วน้ำไปแล้ว  แบ๊งค์เลยทำท่าว่าจะเดินกลับ

“เดี๋ยวก่อน...แบ๊งค์!!!”   พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหันหน้ากลับมา

“ม..มีอะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถามไป  ตอนนี้เริ่มหน้าแดงแล้ว (-//////-)

“เอ่อ....คือ....คือ...พี่ขอน้ำอีกแก้วได้มั้ยครับ”   นึกว่าจะพูดอะไรที่แท้ก็ขอน้ำนี่เอง   แต่น้ำในมือพี่อาร์ท  พี่อาร์ทยังไม่ได้ดื่มเลย  สงสัยจะเหนื่อยมาก   แบ๊งค์เลยยื่นให้อีกหนึ่งแก้ว  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกเหมือนพี่โป้ง  กับกาวกำลังมองอยู่

“ขอบคุณนะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”   แบ๊งค์ก้มหน้าตอบไป

“เอ่อ.......”   พี่อาร์ททำท่าเหมือนจะพูด  แบ๊งค์เลยเงยหน้าขึ้นมามอง  แต่พี่อาร์ทก็ยังไม่พูดอะไร

“วันนี้น้องแบ๊งค์กลับช้าหรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

“.................”   แบ๊งค์ได้แต่พยักหน้าไป  ไม่กล้าพูดเลยจริง ๆ

“อืม........แล้วยังใช้เบอร์เดิมอยู่รึเปล่าครับ”    พี่อาร์ทถามมาอีก เฮ้อ~~~เป็นอะไรไปเนี่ย  ทำไมแบ๊งค์ถึงไม่ตอบไปนะ  พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ

“ครับ....ยังใช้เบอร์เดิมอยู่”  แบ๊งค์ตอบ

“แล้วแบ๊งค์กับแม......”  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้ถามอะไรจบ  โทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้น  พี่นุ่นโทรมานั่นเอง

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ  กลับได้แล้วนะ พี่นุ่นขับรถมารอแล้ว”   พี่นุ่นพูด

“ครับ  เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  แบ๊งค์พูด จากนั้นพี่นุ่นก็วางสายไป

“แบ๊งค์คงต้อง.....ต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”   แบ๊งค์พูดกับพี่อาร์ท

“ไม่เป็นไรครับ   ไว้คุยกันวันหลังก็ได้”   พี่อาร์ทพูด  แล้วแบ๊งค์ก็รีบเดินไปเอากระเป๋า   แล้วยื่นของคืนให้กาว  ทำไมกาวทำหน้าเศร้า ๆ แบบนั้นนะ  พี่โป้งก็ไม่ต่างกัน  แต่แบ๊งค์ไม่สนอะไรแล้วรีบวิ่งออกไปเลยนั่งในรถไปก็เหม่อไป  คิดถึงวันพรุ่งนี้  ถ้าแบ๊งค์ได้เจอพี่อาร์ทอีก  แล้วแบ๊งค์จะทำตัวยังไง โอยคิดไม่ออกเลยจริง ๆ
*******************************
 :bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-06-2007 21:01:54
เจอกันแล้ว  :impress: แต่ดูท่ายังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่เลย  :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 11-06-2007 21:07:28
ถ้าเปลี่ยนจากเชียร์กาว มาเชียร์น้องปริ้นซ์จาทันป่าวหว่า   รักเด็กคับ รักเด็ก
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-06-2007 21:15:10
 :serius2: :serius2: :serius2:
เจ๊นุ่นมาขัดจังหวะซะงั้นน่ะ

เฮ้อออออออออออ
เมื่อไรจะได้คุยกันยาวๆ สักที

เมื่อไรจะกลับมาเหมือนเดิม
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 12-06-2007 00:47:54
ปริ๊นซ์ก้อน่ารักเนอะ เด็กกล้าแสดงออกอย่างเงี้ยอ่ะชอบ อิอิ  :o9:

แต่รักพี่อาร์ทนะครับ เชียร์สุดใจ จิงโจ้น้อย  o13
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-06-2007 01:10:18
ลุ้น ลุ้น   o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 12-06-2007 11:03:41
ถ่านไฟเก่าจะคุมั้ยเนี้ยะ คนใหม่ก็ดีคนเก่าก็เริ่ดเอาหมดเลยแบ็งค์คืนละคน :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-06-2007 13:18:00
^
^
^
คืนละคน แบงค์จะไหวเหรอค้าบบบ  แบ่งมาทางนี้ก็ได้ อิอิ  o3

ว่าแต่แบงค์นี้ เค้า HOT เจงๆ  มีน้องปริ๊นเพิ่มมาอีกนึง ดูๆเด็กๆกล้าๆแบบนี้น่ารักจางง ดูกระชุ่มกระชวย หุหุ :like6:


แต่ยังไงก็เชียร์พี่อาร์ทนะค้าบบ  o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-06-2007 17:48:14
เชียร์กาวคร้าบบบบบ





แต่น้องปริ้นท์ก็กวนๆ น่ารักดีอะ


ว้อยยยย เลือกไม่ถูกอะ

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 12-06-2007 23:28:13
******************
บทที่ 43 กลับมา ( อีกครั้ง )


วันนี้ก็เป็นวันที่สองของการเปิดภาคเรียนแล้วครับ  วันนี้แบ๊งค์ไม่อยากเจอหน้านายปรินซ์  แบ๊งค์เลยขอโดดกิจกรรมรับน้อง โดยอ้างว่าปวดหัวนิดหน่อย  และก็เหมือนว่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งหลายจะรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริง  ก็เลยอนุญาตให้แบ๊งค์ไม่ต้องเข้าร่วมได้

แบ๊งค์ไม่รู้จะไปไหนหรอกครับ  ก็โดด ๆ ออกมาแบบไม่มีแผนจริง ๆ เลยตัดสินใจว่า ไปหาหนังสืออ่านในห้องสมุดดีกว่าน่ะครับ   ห้องสมุดไม่ค่อยมีคนมากเท่าไหร่  คงเป็นเพราะเค้ามัวไปวุ่นวายกับกิจกรรมนับน้องล่ะมั้ง  ดีเหมือนกัน จะได้แอบหลับโดยไม่น่าเกลียด (- -")

แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินดู เดินเลือกหนังสือไป  ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไรดี  วรรณกรรมเยาวชนหรอ.... ไม่เอาอ่ะกรูส์แก่แล้ว   หนังสือคู่มือการสอบหรอ......ไม่เอาเดี๋ยวกรูส์เครียด    อืม...หนังสือประวัติศาสตร์.....ก็น่าสนนะ  เหมาะกับหน้าแก่ ๆ แบบกรูส์หน่อย  เอาประวัติศาสตร์เรื่องอะไรดีนะ  พงศาวคารไทย....ไม่เอาอ่ะยาวไปรึเปล่าวะ   ประวัติศาสตร์จีน....อันนี้ก็เยอะ  ประวัตจิศาสตร์ญี่ปุ่น...เอาอันนี้แหละ  ขณะที่แบ๊งค์กำลังจะเอื้อมเอาหนังสือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น  ก็มีคนเดินเข้ามาชนแบ๊งค์เต็ม ๆ เลยครับ

“แอ๊กกกกกกกกก”   เสียงแบ๊งค์ร้องออกมา ( ร้องออกมาประหลาดว่ะ )

“ขอโทษครับ  เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”  เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่ฟังแล้วคุ้นหู  กล่าวขอโทษแบ๊งค์   ตอนนี้หนังสือมากมายกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น  และตัวของแบ๊งค์

“ไม่เป็นอะไรหรอกครั......”     แบ๊งค์พูดแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายคนนั้น  พี่อาร์ท...คนที่เข้ามาชนแบ๊งค์คือพี่อาร์ทนั่นเองครับ

“บ..บ..แบ๊งค์”    พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์ออกมาเบา ๆ แล้วเราสองคนก็มองหน้ากัน

“ป..ป..เป็นอะไรมากมั้ยครับ   พี่ขอโทษนะ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วลุกขึ้นพลางยื่นมือมาให้แบ๊งค์  คงจะทำประมาณว่าช่วยดึงแบ๊งค์ขึ้นไปยืนล่ะมั้ง   แบ๊งค์ค่อย ๆ ยื่นมือไปจับมือของพี่อาร์ท  มือของพี่อาร์ทยังอบอุ่นอยู่เสมอ  ไม่แปรเปลี่ยนเลย

“ขอบคุณครับ”   แบ๊งค์พูดขอบคุณไปเมื่อยืนขึ้นแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก  พี่ขอโทษนะที่ไม่ระวัง”   พอพี่อาร์พูดเสร็จก็ก้มลงไป เก็บหนังสือ เก็บเอกสารที่หล่นอยู่เต็มพื้น   แบ๊งค์ก้มลงไปช่วยเก็บบ้าง

“พี่อาร์ท....จะเอาเนื้อหาพวกนี้ไปทำอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามไป

“คือพี่จะเอาไปทำรายงานส่ง  อาจารย์วิชาที่ดรอปไปน่ะครับ”   พี่อาร์ทตอบ

“เอ่อ.......”    แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไร

“มีอะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทถามกลับมา

“ให้แบ๊งค์ช่วยมั้ยครับ”   แบ๊งค์ถามออกไป  ตอนนี้หน้าเริ่มแดงออกมาอีกแล้ว (-////-)

“เอ่อ......ก็ได้ครับ”    พี่อาร์ทพูด  เหมือนพี่อาร์ทเองก็อาย ๆ เหมือนกัน  เอาน่า....ยังไงก็เคยรู้จักกัน  นี่คงเป็นการเริ่มต้นกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งสินะ พี่เค้าคงไม่รังเกียจอะไรเราหรอกน่า

แบ๊งค์ช่วยพี่อาร์ทขนหนังสือไปวางไว้ที่โต๊ะ  แล้วแบ๊งค์ก็นั่งลงข้าง ๆ พี่อาร์ท  แบ๊งค์นั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไป  ส่วนพี่อาร์ทก็หาข้อมูลทำรายงานกัน  เรานั่งข้าง ๆ กันก็จริงอยู่  แต่กลับไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของเราทั้งคู่เลย  บรรยกาศเงียบมากมาย  แบ๊งค์ก็อ่านไปเรื่อย ๆ ความจริงมันก็อ่านไม่รู้เรื่องหรอก  คือกำลังรอให้พี่อาร์ทชวนคุยน่ะ  แต่พี่เค้าก็ไม่ยอมพูดซะที  จนเวลาผ่านไป.....ผ่านไป....
.
“น้องแบ๊งค์ครับ...น้องแบ๊งค์”   พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์เบา ๆ พร้อมกับเขย่าตัวแบ๊งค์

“ครับ....มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์งัวเงียตื่นขึ้นมา

“พักกลางวันแล้วครับ  ไปหาอะไรทานกันนะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“หรอครับ  แล้วที่นี่มัน...................”     แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตาเลยครับ  นี่กรูส์หลับในห้องสมุดหรอเนี่ย  แล้วยังหลับต่อหน้าพี่อาร์ทอีก  เสีย picture หมดแล้วกรูส์

“ไม่ต้องตกใจนะ  เมื่อกี้อาจารย์บรรณารักษ์ก็เข้ามาถาม”

“แต่พี่บอกว่าน้องแบ๊งค์ไม่สบายนิดหน่อย  แล้วจะมาเฝ้าพี่  อาจารย์เค้าก็เลยไม่ว่าอะไร”   พี่อาร์ทพูด  กรรม...นี่กรูส์หลับถึงขั้น ที่อาจารย์บรรณารักษ์เดินมาดูเลยหรอเนี่ย

“ขอบคุณครับ”   แบ๊งค์ขอบคุณพี่อาร์ทไป

“ไปหาอะไรทานกันนะ”  พี่อาร์ทพูด

“..................”   แบ๊งค์ก็เลยพยักหน้า  แล้วเดินตามพี่อาร์ทไป  พอเดินผ่านอาจารย์บรรณารักษ์  อาจารย์ก็พูดขึ้น

“รักษาสุขภาพหน่อยนะหนู  เดี๋ยวนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย ๆ”  อาจารย์พูดด้วยความหวังดี

“ค..ครับ”   แบ๊งค์เลยรับคำอาจารย์  แล้วเราสองคนก็เดินออกจาหห้องสมุดครับ

“พี่ขอไปทานด้วยนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ  แบ๊งค์ก็ได้แต่พยักหน้าไป    พอไปถึงโรงอาหารก็เห็นพี่ตั้ม  พี่โป้ง  แมค  และกาว  นั่งเรียงกันอยู่แล้ว  ทั้งหมดดูตกใจเหมือนกันที่แบ๊งค์เดินมากับพี่อาร์ท

“ม...มานั่งกันก่อนสิ”   พี่ตั้มพูดครับ  แบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เลยนั่งลงข้าง ๆ กัน

“เมริงมาได้ไงวะ”   พี่โป้งถามพี่อาร์ท  แต่เสียงดูสั่น ๆ ยังไงก็ไม่รู้

“กรูส์มาทำรายงานน่ะ  เดี๋ยวตอนเย็นก็จะอยู่ซ้อมบาสกับพวกเมริงต่อ”   พี่อาร์ทตอบ

“ไม่ไปหาอะไรทานก่อนเหรอ  เดี๋ยวคนเยอะนะ”  กาวพูดครับ  แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเลยลุกไปซื้อข้าว กับน้ำมากัน

“ไม่ได้เจอนานเลยนะครับ”   แมคพูดขึ้น เมื่อเรามาถึงที่โต๊ะ

“ครับ  แล้วน้องแมคล่ะ....อยู่กับแบ๊งค์เป็นไงบ้าง”   พี่อาร์ทถามขึ้น  คำถามนี้เล่นเอาทุกคนหยุดทานไปชั่วขณะ  พี่โป้งช้อนตก  ไอ้กาวนิ่งไป ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ

“อ่ะ...แค่ก ๆๆๆ “   สำลักข้าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ  เลยต้องหาน้ำมาด่วน

“............อะไรนะครับ.........”    แมคเงียบก่อนจะถามซ้ำ

“ก็น้องแมคกับแบ๊งค์ยังไงล่ะครับ   ดูแลกันดีรึเปล่า   อย่าทำให้แบ๊งค์เสียใจนะ”   ตอนที่พี่อาร์ทพูด  ดูเหมือนน้ำตาจะปริ่ม ๆ อยู่ที่ขอบตาเลย

“ผม....ผมคงดูแลแบ๊งค์ได้ไม่ดีหรอกครับ”   แมคพูดแล้วก้มหน้าลง

“อ้าว...ทำไมหรอครับ”   พี่อาร์ทก็ดูงง ๆ ในคำพูดของแมค

“อาร์ท......แบ๊งค์กับแมคมันเลิกกันไปตั้งนานแล้ว”   พี่ตั้มช่วยตอบแทนแมคครับ

“.........................”   พี่อาร์ทดูอึ้ง ๆ ไป  แล้วหันมามองหน้าแบ๊งค์  ซึ่งตอนนี้ก็ก้มหน้าเหมือนกัน

“ตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ”    พี่อาร์ทถาม 

“ก็หลังจากนายไปอังกฤษได้ซัก เดือนกว่า ๆ มั้ง”   พี่โป้งตอบบ้าง

“พอเถอะ  ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว  รู้แค่ว่าตอนนี้แบ๊งค์กับแมคเป็นเพื่อนกันก็พอแล้ว”   แบ๊งค์พูดตัดบท  พี่อาร์ทก็ยังคงมองหน้าแบ๊งค์อยู่เหมือนกัน  หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก

พอทานข้าวกลางวันเสร็จแบ๊งค์ก็ขอแยกตัวออกมาครับ  โดยอ้างว่าปวดหัว  แต่คราวนี้แบ๊งค์เริ่มปวดหัวจริง ๆ ซะแล้ว  พี่ ๆ ก็ไม่ว่าอะไร

“เดี๋ยวแบ๊งค์ไปก่อนนะ”   แบ๊งค์ลาทุกคนครับ

“เดี๋ยวก่อนครับน้องแบ๊งค์”   พี่อาร์ทเรียกครับ  แบ๊งค์เลยหันไป

“มีอะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถามไป

“เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่านะ  เรายิ่งอ่อนแออยู่ด้วย  ถ้าเป็นลมไปใครจะช่วย”   พี่อาร์ทพูด

“ก็ได้ครับ”   แล้วพี่อาร์ทก็เข้ามาพยุงแบ๊งค์เดินไป  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้นซะหน่อย  แบ๊งค์เหลือบไปมองพี่โป้งครับ  หน้าตาพี่เค้าดูเศร้ามาก ๆ เลย  สงสารจัง   แบ๊งค์ยอมรับนะ ว่าแบ๊งค์ก็ชอบพี่โป้งอยู่เหมือนกัน  แต่แบ๊งค์คงให้ได้แค่พี่ชายเท่านั้น

พอมาถึงห้องพยาบาล  แบ๊งค์ก็ยามาทานเลยครับ  พอทานเสร็จอาจารย์พยาบาลก็ไม่ยอมปล่อยให้กลับครับ  ขอตรวจดูเล็กน้อย

“ตัวร้อนเล็กน้อยแล้วนะลูก  พักก่อนดีมั้ย”   อาจารย์แนะนำ

“ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมไปช่วยเพื่อน ๆ รับน้องก่อน”  แบ๊งค์พูด

“ไม่ต้องหรอกครับ  พี่ว่า  พักก่อนนะ”   พี่อาร์ทเสนอ

“แต่.....”    แบ๊งค์กำลังคิดเหตุผลครับ

“หน้าก็ดูซีด ๆ ครูว่าไปหาหมอ  หรือไม่ก็กลับไปนอนที่บ้านดีกว่านะ”   อาจารย์พยาบาลแนะนำอีก

“เดี๋ยวพี่ไปส่งกลับคอนโดดีกว่านะครับ”   พี่อาร์ทอาสา

“แต่แบ๊งค์ว่า.....”  ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยค

“อย่าดื้อสิครับ  แบ๊งค์เนี่ยดื้อไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”   พี่อาร์ทพูด  เล่นเอาแบ๊งค์อายไปเลย  แล้วก็สรุปว่า  พี่อาร์ทจะไปส่งแบ๊งค์กลับคอนโดครับ  แบ๊งค์เลยต้องโทรไปบอกพี่นุ่นก่อน

“เป็นอะไรมากรึเปล่า”   พี่นุ่นถามเมื่อได้รู้ว่าแบ๊งค์ไม่สบาย

“ไม่เป็นไรแล้ว  เดี๋ยวก็จะกลับคอนโดไปนอนพักน่ะ”   แบ๊งค์บอกไป

“อืม ๆ แล้วจะกลับยังไงล่ะ”  พี่นุ่นถาม

“พี่อาร์ทจะไปส่ง”    แบ๊งค์พูด

“อะไรนะ......กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”     พี่นุ่นอุทานออกมาเสียงดังมาก  จนแบ๊งค์ต้องเอามือถืออกจากหูซักพัก

“อะไรหรอเจ้  ร้องซะเสียงดังเลย”    แบ๊งค์ถาม

“ไม่ต้องห่วงนะ  เดี๋ยววันนี้พี่กลับเย็น  ไม่ต้องห่วง”

“อยู่กันตามสบายนะจ๊ะ  เกย์น้อย”   พี่นุ่นพูด  ก่อนจะวางสายไป โดยที่แบ๊งค์ยังไม่ทันตอบอะไร   พอวางสายเสร็จก็ต้องตกใจ  หันมาเจอพี่อาร์ทพอดี

“อะไรครับ  ขวัญอ่อนจริง ๆ เลยนะ”

“ป่ะ  กลับกันได้แล้ว”   พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์ว่าแบ๊งค์ขึ้นรถเมล์กลับเองได้นะครับ”   แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

“ดื้ออีกแล้วนะ    เดี๋ยวจับตีก้นซะเลย”   พี่อาร์ทพูด  แบ๊งค์ก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ไป  แบ๊งค์เลยต้องให้พี่อาร์ทไปส่งที่คอนโดอย่างเลี่ยงไม่ได้ครับ

ระหว่างทางพี่อาร์ทเปิดเพลงฟังไปด้วยครับ  แต่เพลงที่พี่อาร์ฟังเนี่ยสิ  เล่นเอาแบ๊งค์หน้าแดงไปเลย

กลับมาได้หรือเปล่า
กลับมาหาฉันทีได้ไหม คนดี
หากว่าใจของเธอไม่ได้เปลี่ยนไป
ก็ให้โอกาสฉันอีก จะได้ไหม
ได้โปรดอย่าทิ้งรักไปเลย

ทำไมนะ  พี่อาร์ทถึงฟังเพลงแบบนี้  มีความหมายอะไรรึเปล่านะ  ไม่หรอก  พี่เค้ามีเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้วนี่นา  เพลงนี้จะมีความหมายอะไร

“หนาวมั้ยครับ  เดี๋ยวพี่ลดแอร์ให้นะ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วลดให้โดยที่แบ๊งค์ยังไม่ได้ทันตอบอะไร

“ขอบคุณครับ”   แบ๊งค์พูดขอบคุณไป  จากนั้นแบ๊งค์ก็รู้สึกง่วง  คงเป็นเพราะฤทธิ์ของยาที่เพิ่งทานเข้าไปแบ๊งค์เลยหาวออกมา

“ง่วงหรอครับ   คงเป็นเพราะยาแน่ ๆ เลย”  พี่อาร์ทพูด

“หลับไปเถอะครับ  เดี๋ยวถ้าถึงแล้ว  พี่จะปลุกนะ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ตาของแบ๊งค์จะปิดลง

“แบ๊งค์  น้องแบ๊งค์ครับ”   เสียงพี่อาร์ทเรียกอย่างแผ่วเบา

“ค..ครับ  มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามไป

“ไปทานข้าวดีกว่านะ  จะได้ทานยา”  พี่อาร์ทพูด

“ครับ.........”   แบ๊งค์รับคำ  แล้วลุกขึ้นจากที่นอน   ที่นอน?  เฮ้ย!!! นี่มันห้องกรูส์นี่หว่า  กรูส์มาอยู่ได้ยังไงเนี่ย  เมื่อกี้กรูส์ยังอยู่ในรถพี่อาร์ทอยู่เลย  ชุดก็เปลี่ยนเป็นชุดนอน  หรือว่ากรูส์ฝันไปวะ  แบ๊งค์เอามือตบที่หน้าเบา ๆ เฮ้ย!!! ไม่ได้ฝันนี่หว่า

“แปลกใจหรอ”    พี่อาร์ทถาม  เมื่อเห็นว่าแบ๊งค์ยืนทำท่างง ๆ

“ค..ครับ   แบ๊งค์มาอยู่นี่ได้ไง  แล้วชุด.....”   แบ๊งค์เอามือชี้ที่ตัวเอง

“พี่เห็นว่าแบ๊งค์หลับอยู่  ก็เลยไม่อยากปลุก”   

“ก็อุ้มแบ๊งค์ขึ้นมาในห้องเนี่ยแหละครับ   ส่วนชุดนั่น....พี่ขอโทษนะครับ  พี่เปลี่ยนให้เอง”    พี่อาร์ทพูด   แบ๊งค์จะทำอะไรได้ล่ะครับ  ก็ได้แต่อายกันไปตามระเบียบ

“อย่าโกรธพี่นะครับ  คือพี่เห็นว่าชุดนักศึกษามันอึดอัดน่ะ  เลยเปลี่ยนให้”    พี่อาร์ทบอก

“แล้วมีอะไรให้ทานมั่งครับเนี่ย”   แบ๊งค์แกล้งเปลี่ยนเรื่องไป

“ก็มีแค่ต้มจืด  กับไข่เจียวน่ะครับ   คงทานได้นะ”   พี่อาร์ทพูดแบบอาย ๆ

“ทำเองล่ะสิ    ไม่เป็นไรแบ๊งค์ทานได้หมดแหละ”   แบ๊งค์พูด  แล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร  ถึงมันจะเป็นอาหารพื้น ๆ แค่สองอย่าง  แต่แบ๊งค์ว่า  วันนี้มันดูน่าทานมากเลยนะครับ คงเป็นเพราะใครบางคนทำให้เราทานด้วยใจล่ะมั้ง

“พี่อาร์ทไม่ทานหรอครับ”   แบ๊งค์พูดหลังจากเห็นพี่อาร์ทนั่งฝั่งตรงข้าม  แต่ไม่ทำอะไร

“ไม่หรอกครับ  พี่นั่งดูน้องแบ๊งค์ทานดีกว่า”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่เอาน่ะ  ทานด้วยกันนะ  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปเอาจาน  กับช้อน ส้อมมาให้”   แบ๊งค์พูดแล้วทำท่าวะจะลุกไปเอาของดังกล่าว

“ไม่ต้องหรอกครับ  พี่ทานจานเดียวกับแบ๊งค์ก็ได้”

“ช้อนส้อมก็ใช้คู่เดียวกันนี่แหละ  เพราะพี่จะให้แบ๊งค์ป้อนอยู่แล้ว”   พี่อาร์ทพูด  เล่นเอาแบ๊งค์อายหน้าแดงไปอีกรอบเลย (-////-) 

“ทำไมหรอ  รังเกียจพี่หรอครับ  งั้นไม่ทานก็ได้นะ”   พี่อาร์ททำท่าน้อยใจ

“เปล่า ๆๆๆ ครับ  แบ๊งค์แค่กลัวพี่อาร์ทจะติดหวัดจากแบ๊งค์”    แบ๊งค์พูด

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  หวัดจากแบ๊งค์.....พี่ยอม”    พอได้ยินคำ ๆ นี้มันยิ่งทำให้แบ๊งค์เขินเป็นสองเท่าตัว   รู้สึกหน้าร้อนผ่าว เหมือนจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ 

แบ๊งค์ต้องมานั่งทานข้าวโดยมีพี่อาร์ทนั่งจ้องหน้า  คำแรกเข้าไป ค่อย ๆ เคี้ยว แล้วกลืนลงไป อึก...พี่อาร์ทยังคงมองหน้าอยู่

“ไม่ทานหรอครับ”  แบ๊งค์ชวน

“พี่อยากทานไข่เจียวน่ะ  ตักให้พี่หน่อย”   พี่อาร์ทพูด   แบ๊งค์ก็ตักไข่เจียวมาโปะข้าว ทำเป็นคำเล็ก ๆ แล้วยื่นไป....ไปหาปากพี่อาร์ท  ไม่ ๆๆ  น่าเกลียด  จะใช้ช้อนเดียวกันเนี่ยนะ  ไม่ได้ ๆน่าเกลียดตายเลย  อีกอย่างเดี๋ยวพี่เค้าติดหวัด  แต่พี่เค้าบอกไม่เป็นไรนี่  โอย...ทำยังไงดีเนี่ยกรูส์  บ้าไปแล้วว

ระหว่างที่แบ๊งค์ปล่อยให้มือค้างอยู่  และกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีนั้น  พี่อาร์ทก็เอามือมาจับมือแบ๊งค์ ( ข้างที่ถือช้อน )   แล้วเอาปากงับช้อนไปซะงั้น  ทำเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลย พี่อาร์ทเคี้ยว ๆ แล้วกลืนลงไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“น้องแบ๊งค์น่ะ  มัวคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ไม่ป้อนพี่ซักที”   

“มานี่มา  เดี๋ยวพี่ป้อนเองซะเลย”   พี่อาร์ทบ่น ๆ แล้วก็ดึงช้อนกับส้อมไป   จากนั้นพี่อาร์ทก็ตักข้าว มาป้อนแบ๊งค์คืนบ้าง  แบ๊งค์ก็ไม่กล้าทานหรอก  อายง่ะ (-////-)

“ไม่ทานหรอ  รังเกียจพี่น่ะสิ”   พี่อาร์ททำท่างอน ๆ  แบ๊งค์เลยต้องทานเข้า  พอทานเข้าไป พี่อาร์ทก็ทำท่าดีใจ  ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่  พี่อาร์ทก็นั่งทาน  นั่งป้อนสลับกันไปจนข้าวหมดจาน

“เพิ่มอีกซักจานมั้ยครับน้องแบ๊งค์”   พี่อาร์ทถาม  ระหว่างที่ไปล้านจาน

“ไม่ดีกว่านะ  แบ๊งค์ขอทานยาเลยดีกว่า”  แล้วพี่อาร์ทก็ยื่นยามาให้แบ๊งค์ทานเข้าไป

“น้องแบ๊งค์จะเข้านอนเลยรึเปล่า”  พี่อาร์ทถาม

“ครับ.....อยากนอนแล้วเหมือนกัน”   แบ๊งค์พูด   แล้วพี่อาร์ทก็พาแบ๊งค์ไปส่งที่ห้องนอน   แบ๊งค์นอนลง  โดยที่พี่อาร์ทห่มผ้าห่มให้ 

“นอนซะนะ  จะได้หายซะที”   พี่อาร์ทพูด

“ครับ... “   แบ๊งค์รับคำ

“เดี๋ยวพี่ไปเปิดเพลงคลอเบา ๆ นะ  จะได้หลับง่าย ๆ”   พี่อาร์ทพูด  แบ๊งค์เลยหยักหน้าไป  พี่อาร์ทจึงไปเปิดคอม  แล้วเปิดเพลงให้แบ๊งค์ฟัง

“ลองฟังเพลงนี้นะครับ  เมื่อกี้พี่โหลดไว้ให้น้องแบ๊งค์ฟังน่ะครับ”   พี่อาร์ทพูด

วันเวลาที่เรานั้นลึกซึ้ง
ก็เวียนมาถึงกันอีกครั้ง
นั่งทวนดูก็มีเรื่องราวมากมาย
จนนั่งแทบไม่ทัน


เพลงอะไรน่ะ   ฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูซักเท่าไหร่เลย  แต่ก็เพราะดีนะ  แบ๊งค์เลยถามพี่อาร์ทไป

“เพลงของใครหรอครับ”   แบ๊งค์ถาม

“เพลง จะกลับมาบอกอีกครั้ง  ของนภ พรชำนิน่ะครับ”     พี่อาร์ทบอก   แบ๊งค์ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ จนมาถึงท่อนที่ว่า

เราจะเปิดหัวใจเพื่อบอกอีกครั้ง
ฉันจะไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าวันพรุ่งนี้หรือว่าวันไหน
ไม่จำเป็นว่าจะไกลหรือใกล้
วันนี้ไม่ว่าจะปีไหน
เราจะเปิดหัวใจไม่ปิดเลย

พอถึงช่วงนี้ พี่อาร์ทนั่งลงที่ข้าง ๆ เตียง  พร้อมกับร้องเพลงนี้เบา ๆ  เราทั้งสองคนมองหน้าตา  จ้องตากัน  แบ๊งค์เริ่มเขินแล้วสิ  อีกอย่างก็คงเพราะฤทธิ์ของยาที่ทานไป  ก็เลยเริ่มเคลิ้ม ๆ ที่จะหลับไป    อยู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  พี่อาร์ทคงคิดว่าแบ๊งค์หลับแล้วเลยเดินออกไปรับที่ระเบียงห้อง

“ครับผม  เดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว”   

.......

“พี่อยู่บ้านเพื่อนน่ะครับ” 

.......

“ครับ อยากทานอะไรล่ะ”

.......

“ได้ครับ  รอพี่หน่อยนะครับน้องแทม เดี๋ยวพี่จะซื้อเข้าไปให้”   แล้วพี่อาร์ทก็วางสายไปครับ  แล้วกลับมานั่งที่เดิม
แทม....ชื่อนี้  ชื่อใครกันนะ  คงเป็นชื่อของเด็กผู้หญิงที่อยู่ในรูปที่พี่อาร์ทส่งให้เมื่อปีใหม่แน่ ๆ เลย  ใช่สิ  ลืมผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว  เรานี่มันโง่จริง ๆ เลย  พี่อาร์ทเค้ามีคนรักอยู่แล้ว  เค้าจะมาคิดอะไรกับเราล่ะ  โง่ที่สุด
ซักพักพี่อาร์ทก็ออจากห้องไป  ก่อนออกห้องพี่อาร์ท  ก้มหน้ามาจูบที่หน้าผากแบ๊งค์เบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า

“หายเร็ว ๆ นะครับ เด็กดื้อของพี่”   จากนั้นพี่อาร์ทก็ออกห้องไป

พี่อาร์ททำแบบนี้ทำไมนะ  ตัวเองมีน้องแทมนั่นอยู่แล้วแท้ ๆ  มาทำแบบนี้กับเราทำไม  ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ  แล้วน้ำใส ๆ ก็ค่อยไหลออกจากตาของแบ๊งค์  เพลงที่พี่อาร์ทเปิดไว้เปลี่ยนเป็นอีกเพลง  ซึ่งพอฟังแล้วมันยิ่งทำให้แบ๊งค์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่


บอกฉันสักหน่อย  ตอบฉันสักหน่อย
ถ้าหากคอยเธออย่างนี้
หากฉันไม่เหนื่อย ไม่ท้อซะที
แล้วเธอจะกลับมามั้ย
อยากให้รัก...ของเรากลับมาเริ่มต้นใหม่
ขอ...ให้เรากลับมาเข้าใจ
ฉันรอได้ไหม
ช่วยตอบฉันที..........

แล้วคืนนั้นก็เป็นอีกคืน  ที่แบ๊งค์ต้องหลับไปพร้อมกับน้ำตา.......

**********************************************
:bye2:คับ









หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-06-2007 23:56:07
แบงค์เข้าใจผิดน๊า   o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 08:54:47
แล้วกาวอ่า   เฮ้อ สงสัยจาลุ้นไม่ขึ้นซะและ    :amen: :amen: :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:


 :o11: :o11: :o11: :o11: :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-06-2007 11:30:17
เรื่องราวดูทำท่าจะดีขึ้นแระ  แต่เด่วก่อนยังมีเรื่องน้องแทมมาให้เข้าใจผิดอีก :sad4:

คืนดีกานเรวๆนะค้าบบบ  เชียร์พี่อาร์ทสุดตัว :-[
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 13:38:00
วุ่นวายจริงหนอ

 :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 13-06-2007 21:17:07
 o15 o15 o15
***************************
บทที่ 44 ทำไงดี

เรื่องราวในมหาวิทยาลัย   ยังคงดำเนินไปตามปกติครับ   เว้นแต่ว่า......ตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องแบ๊งค์วันนั้นเป็นต้นมา  แบ๊งค์ก็ไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับพี่อาร์ทอีก   ทำไมน่ะหรอ  แบ๊งค์อยากควบคุมตัวเองไง  ถ้าแบ๊งค์ยังอยู่ใกล้กับพี่อาร์ท  แบ๊งค์คงคิดไปไกลกว่านี้แน่ ๆ แบ๊งค์เลยขอแยกตัวออกมาดีกว่า

  ช่วงนี้แบ๊งค์พยายามหลบหน้าพี่อาร์ทให้ได้มากที่สุด   ถ้าจำเป็นต้องเผชิญหน้ากัน  แบ๊งค์ก็เลี่ยงที่จะไม่พูดอะไรมากนัก  และก็มีหลายครั้งที่เหมือนว่าพี่อาร์ทจะสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง  และในวันนี้  แบ๊งค์ได้มาทำรายงานกับกาวที่ห้องสมุด  พี่อาร์ทก็เลยฝากกาวมาถาม

“แบ๊งค์   กรูส์ถามอะไรเมริงหน่อยดิ”   กาวเปิดเรื่องขึ้น

“ใครฝากมาอีกล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“รู้ได้ไงวะ  รู้ทันกรูส์ตลอดนะเมริง”   กาวพูด

“มีอะไรว่ามา”   แบ๊งค์พูด

“พี่อาร์ทฝากมาถามว่าเมริงเป็นอะไร”   กาวถามมา

“ไม่นี่   กรูส์ก็ปกติดีทุกอย่าง”    แบ๊งค์ตอบ

“ไม่จริงหรอก  กรูส์ก็สังเกตเหมือนกันนะ”

“ตอนนี้เหมือนกับว่าเมริงพยายามหลบหน้าพี่เค้าอยู่”  กาวทำท่าสงสัย

“น่า.....อย่าไปสนใจเลย  เอาเป็นว่ากรูส์ไม่อยากเจอเค้าก็แล้วกัน”    แบ๊งค์รีบตัดบท

“เมริงไม่รักพี่เค้าแล้วหรอ”     กาวถาม

“.............................”   แบ๊งค์ถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ  ไม่รู้จะตอบยังไง


“เมริงยังรักพี่เค้าอยู่ใช่มั้ย”    กาวย้ำ

“บ้า.....บ้าแล้วเมริง  กรูส์จะไปรักพี่เค้าอยู่ทำไม”

“ตอนนี้กรูส์ขอใช้ชีวิตคนโสดไปดีกว่า  สนุกดีออก”   แบ๊งค์พูดกลบเกลื่อน  แล้วโทรศัพท์ของแบ๊งค์ก็ดังขึ้น   กดรับแทบไม่ทันน่ะ  ดีนะที่ไม่ได้เปิดเสียงดังไว้  ไม่งั้นอาจารย์บรรณารักษ์ได้เข้ามาร่ายยาวแน่ ๆ

“ฮัลโหลครับ”    แบ๊งค์รับสาย
 
“แบ๊งค์หรอ  เราปรินซ์นะ”   ปรินซ์โทรมาครับ  เรียกซะ   ทำอย่างกับกรูส์เป็นเพื่อนมันเลย

“นายเองหรอ  มีอะไรล่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“วันนี้เราอยากไปเที่ยว  ไปกับเรานะ”   อ้าว....แล้วทำไมต้องเป็นกรูส์ด้วยอ่ะ

“อ้าว.....ทำไมพี่ต้องไปกับเราด้วยล่ะ”   แบ๊งค์ยังคงงง ๆ

“ก็คนอื่นมันไม่ว่าง”   ปรินซ์ตอบมา

“แล้วไม่คิดบ้างหรอ  ว่าพี่ก็อาจไม่ว่าง”   แบ๊งค์พยายามอ้างเหตุผล

“ไม่หรอก  แบ๊งค์ว่างเสมอแหละ”   อ้าว....ไอ้นี่  คิดได้แค่นี้หรอฟระ

“แต่พี่ต้องทำรายงานนะ”   แบ๊งค์แย้งกลับไป

“รายงานหรอ  เสร็จแล้วนี่  เหลือแค่จัดเรียงเนื้อหา  แล้วก็เข้าเล่ม”   ทำไมเสียงมันใกล้ ๆ วะ  แล้วใครมายืนหลังกรูส์วะ  ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก(O_o)  มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

“มาได้ไงเนี่ย”    แบ๊งค์ถาม

“ก็เดินมา  ไม่เห็นยากเลย”   ปรินซ์ตอบแล้วทำท่ากวนตรีน

“กวนตรีนนักนะเมริง”  กาวจัดไป หนึ่งดอก หุหุ

“ป่ะไปเที่ยวกัน”   ปรินซ์ทำเป็นหูทวนลม  ไม่สนใจกับคำพูดของกาว

“จะบ้าหรอขอทำงานก่อนสิ”   แบ๊งค์แย้ง

“ก็งานเสร็จแล้วนี่นา  ไปกันเหอะ”   ปรินซ์ทำท่าเป็นเด็กงอแง

“น้องครับ  เพื่อนพี่เค้าจะทำงาน  น้องก็หัดฟังมั่งสิครับ”  กาวแย้งไป

“มันไม่ใช่เรื่องอะไรของพี่ซักหน่อย”   ปรินซ์ตอบไป  แค่นั้นแหละไอ้กาวขึ้นเลยครับ ทำท่าจะเอาเรื่องไอ้ปรินซ์ให้ได้  แบ๊งค์เลยรีบขวางไว้ก่อน

“กาว....อย่า !!!! นี่มันในห้องสมุดนะ”   แบ๊งค์พยายามดันกาวไว้ ตอนนี้อาจารย์บรรณารักษ์และคนในห้องสมุด เริ่มมองกันแล้ว

“เก็บของเถอะ”   แบ๊งค์รีบเก็บของ  แล้วจูงมือกาว  รีบเดินออกจากห้องสมุดไป   
 
“แบ๊งค์...ไอ้แบ๊งค์”   ไอ้กาวเรียกชื่อแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหยุด

“อะไรหรอ”   แบ๊งค์หันมาถามมัน

“เดินช้า ๆ ก็ได้  จะรีบไปตามควายหรอวะ”    ไอ้กาวแซวครับ

“เออดิ  ทำไมล่ะ”    แบ๊งค์รับมุกมันไป

“แต่ก่อนอื่นปล่อยมือกรูส์ก่อนเถอะ   จับซะแน่นเลย”    อูยยยย  จริง ๆ ด้วย  นี่กรูส์จับมือมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฟระเนี่ย  แบ๊งค์เลยรีบปล่อยมือมันครับ  จากนั้นน้องปรินซ์  ก็วิ่งตามมาติด ๆ

“รีบไปไหนกันหรอ  ไม่รอกันเลย”   ปรินซ์พูดไปหอบไป

“เมริงจะมาทำไมอีก”    ไอ้กาวทำท่าจะหาเรื่องปรินซ์ครับ

“กาว!!!! อย่า”    แบ๊งค์ห้ามมันไว้ครับ

“แล้วน้องตามพี่มา  มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามปรินซ์ครับ

“ไปเที่ยวกับผมเถอะนะ  วันนี้ผมไม่อยากกลับบ้าน”   ปรินซ์พูด

“ไม่ได้หรอก  พี่จะไปรอเพื่อนพี่ซ้อมบาสอยู่  วันนี้พี่จะกลับกับเพื่อน”   แบ๊งค์บอกไป

“อืม.....งั้นผมไปอยู่เป็นเพื่อนแบ๊งค์ก็ได้”    ปรินซ์เปลี่ยนโปรแกรมซะงั้น

“ตามใจนายก็แล้วกันนะ”  แบ๊งค์เริ่มหมดหนทางแล้ว

“จะดีหรอแบ๊งค์”   กาวกระซิบมาครับ

“กรูส์ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่  ช่วยกรูส์หน่อยนะ”   แบ๊งค์กระซิบกลับไป  กาวก็พยักหน้า  เราสามคนก็เลยขนโขยง  มากันที่สนามบาสครับ  ตามคาด  อันดับหนึ่ง  พี่อาร์ทอยู่ที่นั่น  อันดับสอง  พี่โป้งทำหน้าไม่พอใจอย่างแรง  ที่เห็นนายปรินซ์มาด้วย

ซักพักไอ้กาวก็ไป บอกถึงเหตุผลที่แท้จริงกับพี่โป้งครับ  พี่เค้าก็เลยคลายสีหน้าลงมาบ้าง  แบ๊งค์ไม่ค่อยอยากจะพูดกับน้องเค้าซักเท่าไหร่  แบ๊งค์เลยหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน  พยายามไม่พูดกับใคร   แต่นายปรินซ์นี่สิ   ขยับเข้าใกล้ ๆ  แบ๊งค์ก็ขยับหนี  นายปรินซ์ก็ขยับตาม

“เอ่อ....น้องครับ   นั่งห่าง ๆ พี่ก็ได้นะ”   แบ๊งค์พูดไป

“ทำไมล่ะ  ก็เราอยากนั่งใกล้ ๆ แบ๊งค์นี่นา”

“อีกอย่าง  ไม่ต้องเรียกเราน้องด้วย  มันดูห่างเหินน่ะ”   ปรินซ์พูดครับ  ซักพัก ก็มีลูกบาส กระเด็นมาครับ  เกือบโดนนายปรินซ์เหมือนกัน   แต่เราทั้งคู่หลบทันซะก่อน

“น้องครับ   โทษทีนะ  เก็บให้พี่หน่อยสิ”   พี่โป้งนั่นเอง  แต่พอแบ๊งค์หันไปอีกทีก็เห็นกาวทำท่าเหมือนกับบอกว่า  ที่ลูกบาสกระเด็นไปเมื่อกี้น่ะ  ฝีมือพี่โป้งนั่นเอง 

ปรินซ์ก็เก็บลูกแล้วโยนให้พี่โป้งไป  จากนั้นก็มานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ต่อ  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มสังเกตสีหน้าของพี่อาร์ทบ้าง  ทำไมดูเศร้า ๆ จัง  คงทะเลาะกับแฟนมั้ง

“แบ๊งค์เป็นคนเชียงใหม่หรอ”   ปรินซ์ถามครับ

“...........................”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ  แล้วเราก็คุยกันไปต่าง ๆ นานา  ทั้งเรื่องการเรียน  เรื่องส่วนตัว  จนแบ๊งค์ได้รู้ว่า  ร้านขายสุนัขที่จตุจักรวันนั้น  ไม่ใช่ของปรินซ์หรอกครับ  แต่เป็นร้านของเพื่อน  แล้ววันนั้น  ไปช่วยเพื่อนขายพอดี

ปรินซ์เป็นลูกคนเดียวครับ  เนื่องจากแม่ปรินซ์เป็นคนมีลูกยาก  มดลูกไม่แข็งแรง  เคยแท้งไปหลายครั้ง  พอมีปรินซ์ได้  พ่อกับแม่จึงรักปรินซ์ มาก  เลยตั้งชื่อลูกให้มีความหมายว่าเจ้าชาย  เพราะพ่อกับแม่ของปรินซ์  อยากให้ปรินซ์เป็นเจ้าชายของพวกเค้านั่นเอง

“ไอ้น้องผู้ชายคนนั้นนน่ะ”   พี่โป้งเรียกครับ  ซึ่งหมายถึงปรินซ์

“ครับ.....มีอะไรหรอครับ”   ปรินซ์ถามไป

“โค้ชเค้าใช้ไป  ขนน้ำมาให้นักกีฬาหน่อยน่ะ”  พี่โป้งพูด  แล้วยักคิ้วหนึ่งที   แบ๊งค์รู้แน่ ๆ ว่าโค้ชไม่ได้ใช้หรอก  แต่พี่โป้งจงใจแกล้งตะหาก  ความจริงหน้าที่นี้มันเป็นหน้าที่ของพี่สองคนในกลุ่มนักบาสนะ  ชื่ออะไรแบ๊งค์ก็จำไม่ได้แล้ว

“ไปกันทั้งสองคนเลยดีกว่า  คนเดียวคงไม่ไหวหรอก”   อยู่ดี ๆ โค้ชก็พูดขึ้นครับ ซึ่งโค้ชหมายความว่าให้แบ๊งค์กับปรินซ์ไปช่วยกันขนน้ำ พี่โป้งได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดเลยครับ  คือเค้าตั้งใจจะใช้ปรินซ์  แต่พาลมาโดนแบ๊งค์ด้วยซะงั้น

“โค้ชครับ.....”   พี่โป้งกำลังจะแย้งโค้ช

“เอาล่ะ  ซ้อมต่อไป”   โค้ชออกคำสั่งซะงั้น   พี่โป้งก็เลยทำท่าเซ็ง ๆ ที่ปล่อยโอกาสให้ปรินซ์อยู่กับแบ๊งค์สองคนจนได้

“ป่ะ  แบ๊งค์ไปกันเถอะ”     แล้วแบ๊งค์กับปรินซ์ก็ช่วยกันขนถังน้ำไปเติมน้ำดื่ม  มาให้นักกีฬา  ระหว่างทางปรินซ์ก็ยังคงคุยเรื่องต่าง ๆ นานา  เด็กคนนี้  พูดเก่งซะเหลือเกิน   แต่นี่มันคงเป็นจุดเด่นของลูกคนเดียวล่ะมั้ง  ก็ไม่มีคนให้พูดด้วยนี่นา  พอมีเพื่อน  ก็ต้องระบายกันหน่อย

เราเอาถังไปเติมน้ำแล้วช่วยกันขนกลับมาครับ  จากนั้นแบ๊งค์ก็ทำหน้าที่เดิมเลย  เสิร์ฟน้ำนั่นเอง   ตอนนี้นายปรินซ์เข้าไปคุยอะไรกับโค้ชก็ไม่รู้   แบ๊งค์ก็ไม่ได้สนใจได้แต่เสิร์ฟน้ำไป   พอมาถึงที่......พี่อาร์ท  แบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ยื่นแก้วน้ำให้   ไม่อยากมองหน้าพี่เค้าเลยจริง ๆ กลัวมองแล้วจะนึกถึงวันคืนเก่า ๆ ไม่ ๆๆๆๆ มันกลับมาไม่ได้แล้ว  ท่องไว้ ๆๆๆ น้องแทม ๆๆๆๆๆ

“ขอบคุณครับ”   พี่อาร์ทรับแก้วน้ำไป  จากนั้นแบ๊งค์ก็ทำท่าจะเดินหนี

“เดี๋ยวก่อนสิแบ๊งค์   จะไปไหนน่ะ”   พี่อาร์ทเอามือคว้าต้นแขนแบ๊งค์ไว้  ตอนนี้พี่โป้งก็มองอยู่ครับ  หน้าเศร้าอีกแล้ว

“ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ”

“พี่ทำอะไรให้แบ๊งค์ไม่พอใจหรอ”    พี่อาร์ทถามครับ

“ไม่มีอะไรหรอก  แบ๊งค์ยุ่ง ๆ น่ะ”   แบ๊งค์พูด

“ไม่จริง!!! แบ๊งค์....แค่พี่มองตาแบ๊งค์  พี่ก็รู้แล้ว”

“ก็เราเคย.........”   พี่อาร์ทเงียบไป   แบ๊งค์เลยจ้องหน้าพี่อาร์ท

“เคยเป็นแฟนกันมาก่อน  ทำไมพี่จะไม่รู้”   พี่อาร์ทพูดออกมาแล้วครับ  คำพูดเพียงนั้นมันก็ทำให้หัวใจแบ๊งค์พองโตขึ้นมาได้มากอยู่เหมือนกัน   แต่พอแบ๊งค์กลับมาคิดอีกที  พี่อาร์ทมีน้องแทมอยู่แล้วนี่นา  อย่าไปสนใจในคำพูดของพี่เค้าเลย

“ขอบคุณนะครับ  ที่ยังจำมันได้”    แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากพี่อาร์ท

เย็นวันนั้นแบ๊งค์กลับบ้านไปด้วยความสับสนครับ  ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ การกระทำของพี่อาร์ทหลาย ๆ อย่างมันดูขัดกันไปหมด  พี่เค้ามีน้องแทมอยู่แล้ว  แต่ทำไมยังมาทำแบบนี้กับแบ๊งค์อีก  ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แบ๊งค์เลยเปิด MSN เล่นดีว่า

โชคดีครับ   แบ๊งค์พอจะหาทางออกได้แล้ว  มีที่ปรึกษามาแล้ว  นายโต้นั่นเอง    นายคนนี้ไม่รู้เป็นอะไร  หายไปนานมาก   ตั้งแต่ช่วงก่อนปิดเทอมแล้ว   จนเปิดเทอมเนี่ยแบ๊งค์เพิ่งมาเจอ

badboy_be_sadboy   say:
ดี ๆๆๆ

คนแปลกหน้า    say:
ครับ

badboy_be_sadboy   say:
หายไปนานเลยนะ

คนแปลกหน้า    say:
โทดทีนะ

badboy_be_sadboy   say:
หายไปไหนมาหรอ

คนแปลกหน้า    say:
พอดีเรามีธุระนิดหน่อยน่ะ

badboy_be_sadboy   say:
อืม.....ไม่เป็นไร  ไม่ว่ากัน

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายกับเค้าคนนั้นเป็นไงบ้าง

คนแปลกหน้า    say:
ก้อดีครับ   สนิทกันมากขึ้นเยอะเลย

badboy_be_sadboy   say:
ดีใจด้วยนะ (>_<”)

คนแปลกหน้า    say:
ขอบคุณครับ   แต่ช้าไปแล้วล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
อ้าว.....ทำไมล่ะ  เกิดอะไรขึ้นหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ตั้งแต่เปิดเทอมมา  เค้าดูน่ารักขึ้นมั้ง

badboy_be_sadboy   say:
ก็ดีแล้วไง   น่ารัก....แปลกตรงไหน

คนแปลกหน้า    say:
ก็มีคนมาจีบเค้าเพิ่มอีกหนึ่งคนน่ะสิ

คนแปลกหน้า    say:
แล้ว  แฟนเก่า  คนที่เค้ารักก็กลับมาแล้วด้วย

พอมาถึงช่วงนี้  แบ๊งค์รู้สึกคุ้น ๆ อ่ะ  มันคล้าย ๆ กับ......กับเรื่องของแบ๊งค์เลย  คิดมากไปรึเปล่าเนี่ยกรูส์  สงสัยบ้าไปแล้ว

badboy_be_sadboy   say:
อย่างนี้ต้องรีบทำคะแนนนะ

คนแปลกหน้า    say:
ครับก็พยายามอยู่

คนแปลกหน้า    say:
แบ๊งค์ล่ะ  เป็นไงบ้าง

badboy_be_sadboy   say:
ก็ดีอ่ะ  แต่วุ่นวายนิดหน่อย

คนแปลกหน้า    say:
มีอะไรหรอ

badboy_be_sadboy   say:
เรื่องมันเป็นแบบนี้  คือมีคน ๆ หนึ่ง

badboy_be_sadboy   say:
เราก็เคยรักเค้าอ่ะนะ   แต่เลิกกันไปแล้ว

badboy_be_sadboy   say:
และก็เหมือนว่าเค้าจะมีคนใหม่แล้วเหมือนกัน

badboy_be_sadboy   say:
แต่ไม่รู้ทำไม........เค้ายังทำเหมือนกับว่า

คนแปลกหน้า    say:
ว่า....

badboy_be_sadboy   say:
อยากให้เรากลับไปคบกับเค้าอีก

คนแปลกหน้า    say:
เป็นอย่างนี้นี่เอง

badboy_be_sadboy   say:
อะไรหรอ (-..-)

คนแปลกหน้า    say:
เปล่า ๆ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแบ๊งค์มั่นใจหรอ  ว่าคนนั้นเป็นคนใหม่จริง ๆ

badboy_be_sadboy   say:
แน่ใจสิ   เอาอกเอาใจกันซะขนาดนั้น

คนแปลกหน้า    say:
ไม่ลองถามเค้าไปตรง ๆ ล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ใครจะไปกล้า   แค่มองหน้ายังไม่กล้าเลย

คนแปลกหน้า    say:
ซะงั้น (- -")

badboy_be_sadboy   say:
ก็เราไม่อยาก  คิดกับเค้าไปไกลกว่านี้

badboy_be_sadboy   say:
เรากลัวว่า  ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้

badboy_be_sadboy   say:
เราจะเศร้าหนักอ่ะดิ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่เป็นไรหรอก  ลองดู

badboy_be_sadboy   say:
อืม ๆ จะพยายามนะ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วเป็นไงบ้างที่มหาลัย

badboy_be_sadboy   say:
ก็หนุกดีอ่ะ  มีเด็กใหม่มาเต็มเลย

คนแปลกหน้า    say:
มีคนมาจีบ  หรือไปจีบใครรึเปล่า

badboy_be_sadboy   say:
ไม่มีหรอก 555+

แล้วคืนนั้นเราสองคนก็คุยกันต่อไป  แบ๊งค์ยอมรับนะว่ารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย  ที่ได้คุยกับนายโต้   ที่แท้นายโต้ไปต่างจังหวัดนี่เอง  ก็เลยไม่ได้ออน MSN คุยกัน  อีกอย่างก็มัวไปทำคะแนน  อันนี้ก็ไม่ว่ากัน หุหุ
********************************
 :bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 21:53:50
 :o11: สงสารพี่อาร์ท  :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-06-2007 22:11:24
 :sad5: :sad5: :sad5:
ทำร้ายจิตใจอ่ะ
สงสารพี่อาร์ทมากๆ เลย :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 13-06-2007 23:41:03
พี่อาร์ททททท 
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 23:47:35
กาวนี่เป็นคนดีจังเนอะ

เฮ้อ เป็นคนดีแล้วมันไม่มีใคร  เซงงงงงงงงงงงงง  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-06-2007 17:53:00
ว๊า  เมื่อไรห่จะเข้าใจกันนะ แบบนี้ต้องการผู้ช่วยซะแล้วววว  :o10:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-06-2007 19:53:00
อาร์ท  :o7:  :o7:  :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 14-06-2007 23:27:39
********************************
บทที่ 45 แล้วเราจะทำยังไงต่อไป

ตอนนี้ก็ผ่านมาได้สามอาทิตย์กว่า ๆ แล้วกับการเปิดภาคเรียน  อืม...นายปรินซ์เข้าไปอยู่ชมรมบาสแล้วนะ   ก็วันที่นายปรินซ์เข้าไปคุยกับโค้ชวันนั้นไง   ไอ้เราก็นึกว่าไปคุยเรื่องอะไร  ที่ไหนได้ไปคุยเรื่องย้ายชมรมนั่นเอง  แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกนะ  ว่าที่ย้ายก็เพราะว่าเห็นแบ๊งค์ชอบมานั่งสนามบาส  จะได้อยู่ใกล้ ๆ แบ๊งค์   เฮ้อ~~~~ทุ่มทุนสร้างจริง ๆ เลยเด็กคนนี้

วันนี้แบ๊งค์เบื่อ ๆ ครับ  เลยขอพี่นุ่นว่าจะกลับเอง   แล้วก็แยกตัวมาเดินห้างคนเดียว  แบ๊งค์มาเดินสยามครับ   ก็กะว่าอีกซักพักจะข้ามไปฝั่งมาบุญครอง  กะว่าจะไปดูโทรศัพท์มือถือซะหน่อย  แบ๊งค์ก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ นั่นแหละครับ  ระหว่างที่ดูของอยู่เพลิน ๆ นั้น  ด้วยความซุ่มซ่าม ( ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด )    แบ๊งค์ก็เดินไปชนเข้ากับใครบางคนครับ

“ขอโทษครับ   เจ็บมากมั้ยครับ”   แบ๊งค์รีบขอโทษ

“ทำตัวเป็นเด็ก  แล้วยังจะซุ่มซ่ามเป็นเด็ก ๆ อีกนะ”   เสียงคุ้น ๆ หู พูดขึ้น ว้ากกกกกกกกกกก (o_O)   นายปรินซ์มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย

“น...นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็มาเดินเล่นนั่นแหละ   แล้วเด็กน้อยซุ่มซ่ามคนนี้ล่ะ  มาทำอะไร”   ปรินซ์ถามกลับครับ

“ก็มาเดินเล่นเหมือนกัน”   แบ๊งค์ตอบไป

“หรอ...งั้นไปเดินด้วยกันดีกว่า”  พูดไม่พูดเปล่าครับ  นายปรินซ์มาจับมือแบ๊งค์  แล้วเดินจูงไปซะงั้น

“นี่นาย   ปล่อยนะ”    แบ๊งค์พยายามสะบัดมือออก

“อย่าดื้อไปเลยน่ะ   แค่จับมือเอง  อย่าหวงตัวไปเลย”   นายปรินซ์พูด


“ไม่ได้หวงตัว  แต่แม่สอนมาดีเฟ้ย   ปล่อยนะคนมองกันหมดแล้ว”    ตอนนี้คนที่เดินสวนไปสวนมาต่างมองกันเป็นตาเดียว

“อ๋อหรอ.....ไม่มีอะไรครับ  ไม่ต้องสนใจ  ผมแค่มีปัญหากับแฟนนิดหน่อย”   นายปรินซ์พูดครับ  เมื่อเห็นว่ามีคนมอง   คนที่มองก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ไป  แต่แบ๊งค์สิอายไปหมดแล้ว  (-///-)

ตอนนี้แบ๊งค์เลยได้แต่ทำหน้างอเป็นม้าหมากรุก  นายปรินซ์สังเกตเห็น  ก็เลยยอมปล่อยมือแบ๊งค์ครับ

“อย่างอนนะ   อยากทานอะไร  เดี๋ยวเราเลี้ยง”   ปรินซ์พูด

“ไม่จำเป็น”   แบ๊งค์ตอบอย่างไม่ใยดี  แล้วเดินหนีไป   แต่นายปรินซ์คว้ามือแบ๊งค์  แล้วดึงอย่างแรง    จนแบ๊งค์โผเข้าไปอยู่ในห้อมกอดของนายปรินซ์

“นี่นาย!!!!!ปล่อยนะ”   แบ๊งค์พยายามดิ้น

“ไปดูหนังกับเรานะ”    ปรินซ์กระซิบข้าง ๆ หู  ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย  ตอนนี้คนมองกันใหญ่แล้ว

“ไม่!!!! ปล่อยนะ”    แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่ก็ดิ้นไม่หลุด

“ยอมไปดูหนังกับเราก่อน    แล้วเราจะปล่อย”  ปรินซ์ต่อรอง

“ก็ได้ ๆๆๆๆ ไปก็ได้”    แบ๊งค์ตอบไปอย่างเลี่ยงไม่ได้  เพราะตอนนี้คนมองกันเต็มไปหมด   แล้วนายปรินซ์ก็ลากแบ๊งค์วิ่งตามไป  จนถึงโรงหนังลิโด้

“แฮ่ก ๆๆๆๆ นายจะรีบวิ่งไปตามฟายหรอ”    แบ๊งค์บ่น

“แค่นี้ทำเป็นเหนื่อยนะ”   ปรินซ์แซว   แล้วนายปรินซ์ก็ไปซื้อตั๋วหนังเอามาให้แบ๊งค์  จากนั้นก็ชวนแบ๊งค์ไปซื้อป๊อปคอร์น  เพื่อเข้าไปทานในโรงหนัง

หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกาหลีครับ  เนื่อหาก็ไม่มีอะไรมาก  เป็นหนังรัก  แนวตลกนั่นแหละ   แบ๊งค์ก็นั่งดูไป  ซักพักอยู่ดี ๆ นายปรินซ์ก็เอาหัวมาซบที่บ่าของแบ๊งค์ครับ

“นายทำอะไรน่ะ   หนักนะ”   แบ๊งค์แกล้งแหย่ไป

“ไม่เอาอ่ะ  ก็จะหนุน”    ปรินซ์ทำท่าเป็นเด็ก ๆ  จะว่าไป  นายปรินซ์ก็มีอะไรที่คล้าย ๆ แบ๊งค์หลายอย่าง  ทั้งเรื่องกวนตรีนเป็นที่หนึ่ง  ชอบทำตัวเป็นเด็กอีก ฯลฯ   เด็กคนนี้เหมือนแบ๊งค์มากจริง ๆ  เราดูหนังเสร็จประมาณ ทุ่มครึ่งครับ

“พี่กลับก่อนนะ”   แบ๊งค์พูด

“ห้ามเรียกพี่นะ  และก็เดี๋ยวก่อน”    นายปรินซ์ทักขึ้นครับ

“มีอะไรหรอ”    แบ๊งค์ถามไป

“หิวอ่ะ”   นายปรินซ์  เอามือชี้ท้องตัวเอง

“อย่าบอกนะ  ว่าจะให้เราเลี้ยงนายน่ะ   ฝันไปเถอะ”    แบ๊งค์แกล้งพูดไป

“ใครบอกจะให้เลี้ยง  ไปนั่งทานเป็นเพื่อนหน่อย”    แล้วนายปรินซ์  ก็จูงมือแบ๊งค์ ( อีกแล้ว )  แล้วพาไปนั่งที่แมคโดนัลด์  ที่มาบุญครอง
 
นายปรินซ์สั่งอะไรก็ไม่รู้มาทานเต็มไปหมด   แบ๊งค์น่ะหรอ  ก็ทานแค่เฟรนฟราย  จิ้มซอสแค่นั้นเอง   คือไม่หิวอ่ะ  นั่งทานไปจนของที่สั่งมาค่อย ๆ หมดไป  แล้วเราสองคนก็เริ่มอิ่ม

“แบ๊งค์.....รู้มั้ยวันนี้  ปรินซ์สนุกที่สุดเลยนะ”    ปรินซ์พูดขึ้นครับ

“อ่ะนะ  ทำไมล่ะ”    แบ๊งค์ถามไปทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าจะปรินซ์จะตอบว่าอะไร

“ก็เพราะเราได้มาเที่ยวกับแบ๊งค์ยังไงล่ะ”    นั่นไง  ตามที่คิดเป๊ะ  ทำไมกรูส์ไม่ซื้อหวยถูกกับเค้าบ้างวะ

“แบ๊งค์....เราอาจจะพูดมันไปหลายครั้งแล้วนะ”

“แต่เราก็จะพูดอีก......เราชอบแบ๊งค์นะ”   ปรินซ์พูด

“ปรินซ์......เราขอบคุณนะ  ที่นายรู้สึกดี ๆ กับเรา”    แบ๊งค์พูดขึ้นบ้าง

“แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก   เราคงให้นายได้แค่น้องชายเท่านั้น”    แบ๊งค์บอกไป  นายปรินซ์ก็ได้แต่ทำหน้าเศร้า ๆ

“นั่นสินะ   ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้อยู่แล้ว  ว่าแบ๊งค์ต้องตอบออกมาแบบนี้”

“แต่ทำไมเรา  ยังรู้สึกโหวง ๆ นะ  ฮะฮะฮะ ไม่เข้าใจเลย”   ปรินซ์หัวเราะข่ม

“ปรินซ์......เราขอโทษ.....”    คงไม่มีอะไรอะจะดีไปเกินกว่าคำนี้อีกแล้ว

“ขอโทษทำไม  เราไม่คิดมากหรอกน่า”

“แต่เราได้รู้จักแบ๊งค์  แค่นี้ก็ดีแล้ว”  ปรินซ์พูด

“อ่ะนะ  น่ารักจริง ๆ เลยน้องคนนี้”    แบ๊งค์พูด  แล้วเอามือขยี้หัวปรินซ์เบา ๆ

“น่ารัก  แล้วทำไมไม่รักล่ะ”    ปรินซ์แซวกลับมา

“พี่ไม่ชอบเด็กน่ะสิ”    แบ๊งค์ตอบกลับไป

“โห.....อะไรเนี่ย  ไม่เด็กแล้วนะ  ใครกันแน่ที่เด็ก”   ปรินซ์แย้งกลับมา  แล้วเราสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

“นี่สินะ  คงเป็นเสน่ห์ของแบ๊งค์”    ปรินซ์พูด

“หืม.....อะไรหรอ”   แบ๊งค์งงในคำพูดของปรินซ์

“ก็เพราะแบ๊งค์เป็นแบบนี้ไง  ถึงไม่มีใครกล้าโกรธ  มีแต่รักมากกว่า”   ปรินซ์พูดแปลก ๆ

“ตลกแล้ว  ไปฟังใครมาเนี่ย”   แบ๊งค์ถามอีก

“ก็เป็นซะแบบนี้แหละน้า  เลยไม่รู้ซักทีว่าตัวเองไปทำอะไรไว้”   นายปรินซ์พูด

“อะไรน่ะ  เราไปทำอะไรไว้หรอ”    แบ๊งค์งงเข้าไปกันใหญ่

“รู้มั้ยว่าตอนนี้น่ะ  มีคนที่ชอบตัวเองกี่คน”   ปรินซ์ถามกลับมา

“คนที่มาชอบเราน่ะหรอ..........มีด้วยหรอ”    แบ๊งค์ทำท่างง ๆ

“หึหึ......ไม่รู้จริง ๆ ด้วย”

“สังเกตเอาเองนะ  ตอนนี้มีคนชอบแบ๊งค์มากว่าสองคนแล้ว”   ปรินซ์พูด

“เฮ้ย!!!!!!~(O_O)  จริงหรอเนี่ย”   แบ๊งค์อุทานออกมา

“ก็จริงน่ะสิ   ไม่ได้สังเกตอะไรเลย”   ปรินซ์ส่ายหน้า

“ใครมั่งล่ะ  บอกหน่อยดิ”    แบ๊งค์ขอให้ปรินซ์บอก

“ที่รู้ ๆ ก็มีพี่อาร์ท  กับพี่โป้ง  อีกคนยังไม่แน่ใจ”

“ไม่สิ   ไม่ใช่อีกคน  สองคนตะหาก”   ปรินซ์พูด  ว้ากกกกกกกก(o_O)  นี่มันอะไรกันเนี่ย

“พูดเป็นเล่นน่า”   แบ๊งค์เริ่งมึนจริง ๆ แล้วครับ

“สังเกตเอาเองละกันนะ  ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมาบอกเอง”   ปรินซ์ทิ้งท้ายเรื่องนี้ไว้แค่นั้น   แล้วก็ไปส่งแบ๊งค์กลับคอนโด 

คืนนั้นเล่นเอาแบ๊งค์นอนไม่หลับเลย นอนคิดทั้งคืน  ว่าอีกสองคนที่เหลือจะเป็นใคร เพราะตอนนี้ เท่าที่รู้ ( รู้ตัว ) ก็มีแค่พี่โป้งกับพี่อาร์ทเท่านั้น

ช่วงนี้แบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม  คือแบ๊งค์ยังคงหลบหน้าพี่เค้าอยู่เหมือนเดิม ไม่รู้สิ  ไม่มีอะไรจะพูดกับพี่เค้าจริง ๆ   เหมือนกับวันนี้ที่แบ๊งค์รู้ว่าพี่อาร์ทมาติดต่องานกับอาจารย์  แบ๊งค์เลยหลบไปนั่งหลังตึกอยู่คนเดียว

“ว่าไงเจ้าชายจอมซน”   พี่โป้งนั่นเองครับ

“อ้าว....พี่โป้ง  นั่งก่อนสิ”   แบ๊งค์ชวนให้พี่โป้งนั่ง    แล้วพี่โป้งก็นั่งลงข้าง ๆ แบ๊งค์

“...........................”    แล้วแบ๊งค์ก็เงียบไปอีก

“เป็นอะไรมากรึเปล่า”   พี่โป้งถาม

“อะไร  ใครเป็นอะไรหรอ”   แบ๊งค์ทำเป็นไม่รู้กลบเกลื่อน

“คิดถึงมันมากไม่ใช่หรอ”   พี่โป้งพูด  แล้วนิ่งไป

“ใครหรอ  พี่โป้งหมายถึงใครหรอ”   แบ๊งค์ทำเป็นไม่รู้ต่อไป

“แบ๊งค์.....อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ  ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ”  พี่โป้งพูดขึ้นมา  มันทำให้แบ๊งค์เริ่มร้องไห้อีกครั้ง ( อ่อนแอว่ะ )

“คิดถึงเค้ามาก  ลืมเค้าไม่ได้  แต่ทำไมพอเจอกันกลับทำแบบนี้ล่ะ”   พี่โป้งถาม

“แบ๊งค์ไม่อยากไปยุ่งกับเค้าหรอก  เค้ามีแฟนอยู่แล้วนี่นา”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ใช่หรอก  คิดมากไปรึเปล่า  เราชอบคิดไปเองอยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่หรอ”   พี่โป้งพูด

“แต่คราวนี้มันอาจจะจริงก็ได้นะ”  แบ๊งค์แย้งออกไป

“พี่ไม่น่าไปทำแบบนั้นเลย”   พี่โป้งพูดด้วยเสียงเศร้า ๆ

“อะไรหรอ”  แบ๊งค์งง ๆ

“ก็พี่ไม่น่าไปแยกแบ๊งค์กับอาร์ทเลยน่ะสิ”

“ผลสุดท้าย  พี่ก็เป็นได้แค่พี่ชาย....เท่านั้น”    พี่โป้งค่อย ๆ เงยหน้ามองฟ้า  เหมือนกับว่า พี่โป้งจะพยายามข่มน้ำตาอยู่เหมือนกัน

“อย่าไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ เลย  มันผ่านมาแล้วนะ”   แบ๊งค์ปลอบพี่โป้ง

“ไม่หรอก  ถ้าหากพี่บอกความจริงไป  อาร์ทมันคงจะดีกว่านี้”   พี่โป้งพูด

“ไม่นะ!!!! มันจะดีขึ้นได้ยังไงล่ะพี่โป้ง”    แบ๊งค์ถามไป

“ก็อาร์ทมันจะได้รู้ไง  ว่าแบ๊งค์รักมันขนาดไหน  และก็ไม่เคยมีใครมาแทนที่มันเลย”   พี่โป้งพูดแล้วหันหน้ามามองแบ๊งค์

“ไม่นะ  พี่โป้งอย่าทำแบบนั้นนะ”   แบ๊งค์ขัดพี่โป้งไว้

“ถ้าพี่โป้งบอกไป  แล้วพี่โป้งจะยังเป็นเพื่อนกับพี่อาร์ทได้หรอ”   แบ๊งค์ถามอีก

“ไม่รู้สิ  ช่างมันเถอะ  พี่ขอแค่ได้เห็นน้องของพี่ได้กลับไปอยู่กับคนที่เค้ารัก  พี่ก็พอใจแล้ว”   พี่โป้งโปรยยิ้มมาให้กับแบ๊งค์

“พี่โป้ง”   แล้วแบ๊งค์ก็ก้มลงซบที่บ่าของพี่โป้ง  แบ๊งค์นั่งอยู่แบบนั้นจนกระทั่งช่วงบ่ายผ่านไป  แบ๊งค์กับพี่โป้งก็เลยพากันไปที่สนามบาส  ตอนนี้นักบาสก็เริ่มมาซ้อมกันบ้างแล้ว แต่พี่อาร์ท  กาว  และปรินซ์ยังไม่มา   พี่โป้งก็เลยเปลี่ยนชุดลงสนามซ้อมไปก่อนผ่านไปซักพักปรินซ์ก็ตามมา  แต่ไม่ยอมลงสนาม  มัวแต่นั่งคุยกับแบ๊งค์  พี่โป้งเลยเข้ามาเรียก

“ไอ้ปรินซ์  ไปซ้อมได้แล้ว”    พี่โป้งเรียก  ทำเสียงเข้ม

“โห...พี่  ขอผมอยู่กับพี่ผมซักแปปนะ”   ปรินซ์พูด

“พี่......”    พี่โป้งได้แต่ทำหน้างง ๆ

“ครับ  ผมขออ้อนพี่ของผมคนนี้หน่อยนะ”   แล้วปรินซ์ก็นอนหนุนตักแบ๊งค์เฉยเลย

“เฮ้ย!!!!   ลุกเลย ๆๆ “   พี่โป้งทำท่าเหมือนจะหึงเลยอ่ะ

“ไม่ต้องเลยรู้นะคิดอะไรอยู่  เอาพี่มาอ้างแต๊ะอั๋ง ล่ะสิ”   พี่โป้งดึงเจ้าปรินซ์ไป

“เป็นพี่น้องกันจริง ๆ ครับพี่โป้ง”    แบ๊งค์บอกไป  โป้งก็เลยดูอึ้ง ๆ เล็กน้อย

“ความจรงผมก็อยากเป็นแฟนแต่พี่เค้าไม่ยอมอ่ะ  พี่โป้งช่วยผมหน่อยสิ”    ปรินซ์หันไปอ้อนพี่โป้งบ้างครับ

“เฮ้ย!!!!เรื่องของนายดิ   มาให้พี่ช่วยได้ไง “

“แล้วก็ไปเปลี่ยนชุด  ซ้อมได้แล้ว”    พี่โป้งผลักปรินซ์ให้ไปเปลี่ยนชุด

“ครับ ๆๆๆ เดี๋ยวมานะ”  แล้วปรินซ์ก็ไปเปลี่ยนชุดครับ  แบ๊งค์ก็เลยยืนคุยกับพี่โป้งเรื่องนายปรินซ์เนี่ยแหละ  จนพี่อาร์ทเข้ามา

พี่อาร์ททำท่าแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้  วันนี้ไม่ค่อยทักใครเลย  สงสัยจะอารมณ์เสีย  เออ....วันนี้กาวลาครับ  เพราะติดธุระกับทางบ้าน  แบ๊งค์ก็เลยนั่งดูนายปรินซ์  พี่โป้ง  และพี่อาร์ทซ้อมกันไป   นายปรินซ์ก็เล่นแบบเด็ก ๆ วิ่งไปวิ่งมาซนเหลือเกิน  พี่โป้งยังอดหัวเราะไม่ได้เลย  แต่พี่อาร์ทนี่สิ  หัวเสียจากไหนมาก็ไม่รู้  ดูเคร่งเครียดจังวันนี้

พอโค้ชสั่งพัก  นายปรินซ์กับพี่โป้งก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  เหมือนเดิมแหละครับ  นายปรินซ์พอมาถึง  ก็นอนตักแบ๊งค์เลย  ส่วนพี่โป้งก็พยายามจะแกล้งปรินซ์เอาห้ได้   ตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเราเริ่มเข้ากับนายปรินซ์ได้แล้วนะ

พอเหลือบไปมองดูพี่อาร์ทอีกที  ตอนนี้พี่อาร์ทหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้  พอถามคนอื่น ๆ ก็เห็นบอกว่าอารมณ์เสียเรื่องอะไรก็ไม่รู้ขับรถออกไปแล้ว  เป็นห่วงจัง  แต่แบ๊งค์คงทำได้แค่เป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ เนี่ยแหละ
*************************************
 :bye2:คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 00:44:35
พี่อาร์ทคงงอนแลงค์ไปแล้ว   :o12:

แบงค์ทำไมชอบทำร้ายหัวใจตัวเองน๊าา   o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-06-2007 10:32:54
พี่อาร์ทต้องเห็นตอนที่ แบงค์ ซบพี่โป้งแน่เลย   o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-06-2007 13:22:47
ไม่เห็นตอนซบพี่โป้ง  ก็ตอนปริ๊นซ์มานอนตักนี่แหละ เหอๆๆ  งอนกันไปมา

ไม่ได้คุยเปิดใจกันวักที  แบบนี้ขอผุ้ช่วยโดยด่วน  o8
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 15-06-2007 13:29:53
พี่อาร์ททททททททททททททท
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-06-2007 15:06:31
ยืนยันคำเดิม

เชียร์กาวคร้าบบบบ

 :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-06-2007 19:32:45
เชียร์อาร์ทค๊าบบบบบบบบบ   :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 15-06-2007 21:35:38
ไม่รู้จะเชียร์ใครอ่ะ o16 เชียร์ทุกคนล่ะกันคับ :laugh3: เหอะ เหอะ

*******************************
บทที่ 46 สารภาพ

ช่วงหลัง ๆ มาแบ๊งค์ค่อนข้างสนิทกับพี่โป้งเป็นพิเศษครับ  เพราะพี่โป้งรู้ว่าจะชอบหลบหน้าพี่อาร์ทมานั่งที่หลังตึก  พี่โป้งก็มักจะมานั่งเป็นเพื่อน ไอ้กาวน่ะหรอ  เดี๋ยวนี้ยุ่งจังอ่ะ  ก็เพราะมันมัวแต่เล่นบาสนั่นแหละ  เลยลืมทำงานส่งอาจารย์  ตอนนี้ก็เลยเอาแต่ขลุกอยู่ห้องสมุด  ปั่นรายงานอย่างเดียว  น่าสงสารจริง ๆ เลย

“น้องแบ๊งค์ไม่เบื่อมั่งหรอ  มานั่งที่นี่ตลอดเลย”   พี่โป้งถามขึ้นมา  ตอนที่เรานั่งอยู่หลังตึก

“ไม่หรอก  เงียบดีออก  ดูเป็นส่วนตัวดี”   แบ๊งค์พูด

“โลกส่วนตัวสูงจังนะ  ไอ้ตัวเล็ก”   พี่โป้งพูดแล้วเอามือลูบหัวแบ๊งค์

“พี่โป้งล่ะ  ไม่เบื่อหรอ  มานั่งกับแบ๊งค์แบบนี้”   แบ๊งค์ถามกลับบ้าง

“ไม่หรอก  พี่อยากดูแลเราน่ะ”    พี่โป้งพูด

“ดูแลทำไม  แบ๊งค์โตแล้วนะ”   แบ๊งค์แย้งกลับไป

“อืมครับ....โตก็โต  ไม่เถียงแล้ว”    แล้วเราสองคนก็ได้แต่ยิ้ม ๆ

“มาแอบสวีท  หวานแว๋วกันอยู่ตรงนี้นี่เอง”    พี่ตั้มครับ  โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้

“อ้าว....มาไม่ให้ซุ่มเสียงเลยนะ  ตกใจหมด”    แบ๊งค์พูด

“ถ้ามาแบบมีเสียงจะได้เห็น คู่รักคู่ใหม่หรอ”   พี่ตั้มแซว

“ไม่ใช่เว้ย   กรูส์กับน้องไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย”     พี่โป้งรีบแก้ตัว

“อิอิ  ป่ะ  ไปดูหนังดีกว่า”    พี่ตั้มพูด

“มาชวนกันแบบซื่อ ๆ แบบนี้เนี่ยนะ”    แบ๊งค์ถามไป

“อ้าว...หรือจะให้เอากระสอบมาคลุม   แล้วพาไปล่ะ”    พี่โป้งทำท่ากวน ๆ

“ชิส์    จะไปไหนก็ไปเลย”    แบ๊งค์ทำเป็นงอน

“ไม่ได้ชวนซะหน่อย  ป่ะโป้ง  ไปกันเหอะ”    พี่ตั้มหันไปพูดกับพี่โป้งครับ

“ไม่อ่ะ   ถ้าน้องเค้าไม่ไปกรูส์ก็ไม่ไป”   พี่โป้งพูด

“โห.....รักกันยืนยงนะพวกเมริง”    พี่ตั้มทำท่าเซ็ง ๆ

“ตกลงจะชวนแบ๊งค์มั้ยล่ะ”    แบ๊งค์ยิ้มยั่วพี่ตั้ม

“เออ ๆๆ   จะไปมั้ยล่ะ”     พี่ตั้มตอบแบบไม่ค่อยพอใจ

“พูดไม่เพราะเลยอ่ะ   พี่โป้งแบ๊งค์ไม่ไปแล้วนะ”    แบ๊งค์แกล้งพี่ตั้มครับ

“ก็ได้ ๆๆๆ  ไปดูหนังนะครับ  เจ้าชายน้อยแสนน่ารัก”    พี่ตั้มพูดลากเสียงยาว

“ก็ได้  นี่เห็นแก่พี่โป้งหรอกนะ”    แบ๊งค์แกล้งพี่ตั้ม
 
“นี่แหนะ  หมั่นไส้นัก”   พี่ตั้มเขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที

“เจ็บนะ   เดี๋ยวก็ไม่ไปซะเลย”    แบ๊งค์เอามือกุมหัวแล้วพูด

“พอแล้ว ๆๆ ไม่เล่นแล้วไปได้แล้ว”    แล้วพี่ตั้มก็ล็อคคอแบ๊งค์ให้เดินตามครับ

“พี่โป้ง ๆๆๆ  ช่วยแบ๊งค์ด้วย”    ผมเรียกพี่โป้งครับ

“เลิกเล่นเป็นเด็ก ๆ กันได้แล้วทั้งสองคนนั้นแหละ”    พี่โป้งพูดไปยิ้มไป

เราไปดูหนังกันที่เมเจอร์รัชโยธินครับ    พี่ตั้มเป็นคนเลือกหนัง ที่จะดู    เพราะแบ๊งค์กับพี่โป้งไม่รู้จะดูเรื่องอะไร  ก็เลยให้สิทธิคนพามา  เป็นคนเลือก

พี่ตั้มเลือกหนังมา  เป็นหนังผีของเกาหลีครับ   น่ากลัวจัง  แต่ก็ช่างเหอะไหน ๆ พี่เค้าก็เลือกมาแล้วดูก็ดู   คนในโรงมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ  คงเพราะว่ามันยังไม่เย็นมากมั้ง  อีกอย่างก็เป็นวันธรรมดาด้วย   แบ๊งค์นั่งตรงกลางครับ  พี่ตั้มอยู่ฝั่งซ้าย  ส่วนพี่โป้งอยู่ฝั่งขวา   เนื้อเรื่องน่ากลัวมา  ดูหลอน ๆ แบ๊งค์นั่งเอามือปิดตา ตลอดเลย  พี่ตั้มก็ช่างแกล้งจริง ๆ พอเห็นแบ๊งค์กลัวแล้วเอามือปิดตา  ก็แอบมาจับขาแบ๊งค์เล่นเอาตกใจไปเลย  ดีนะที่ไม่ร้องออกมา  แบ๊งค์เลยทำท่างอนไปตามระเบียบ   พี่โป้งก็ได้แต่กหัวเราะออกมาเบา ๆ

พวกเราดูหนังกันเสร็จแล้วครับ  ก็กะว่าจะไปหาอะไรทานกันต่อ  แต่ยังเลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานอะไรดี

“น้องแบ๊งค์อยากทานอะไรหรอครับ”   พี่โป้งถาม

“ไม่รู้สิ  ยังไม่ค่อยหิวน่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“อย่างแบ๊งค์แค่ข้าวแกง  ป้าเอิบตามข้างถนนก็พอแล้ว”    พี่ตั้มแซว

“ใช่สิ  แบ๊งค์มันต่ำต้อย ติดดิน  ไม่ได้สูงส่งเหมือนเจ้าคุณตั้มนี่ ฮือ ๆๆๆ”     แล้วแบ๊งค์ก็แกล้งไปซบอกพี่โป้งครับ

“พอ ๆๆๆ มากไปแล้ว   เวอร์ซะ  เอาตุ๊กตาทองเลยมั้ย”    พี่ตั้มแซวกลับ

“ไม่ต้องหรอก  มีเต็มตู้แล้ว”   แบ๊งค์ย้อนมุกไป พี่ตั้มเลยเขกหัวแบ๊งค์เบา ๆ ไปอีก หนึ่งที  พี่โป้งก็ได้แต่เดินตามแล้วหัวเราะเบา ๆ  ระหว่างที่เรากำลังเดินกันเพลิน ๆ นั้น  พี่ตั้มก็เลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง


“เฮ้ย!!!!นั่นไอ้อาร์ทรึเปล่าวะ”    พี่ตั้มพูดแล้วชี้ไป    ใช่.......ใช่พี่อาร์ทจริง ๆ ด้วย  มากับผู้หญิงอีกหนึ่งคน   เหมือนพี่โป้งจะรู้  พี่โป้งเลยเอาศอกมาสะกิดที่แขนแบ๊งค์    แบ๊งค์เลยหันหน้าไปมองพี่โป้ง    พี่โป้งฉีกยิ้มให้แบ๊งค์เห็น  ประมาณจะบอกว่าให้ยิ้มไว้   แบ๊งค์ยิ้มตอบไป

แล้วก็เหมือนว่าพี่อาร์ทจะเห็นพวกเรา  พี่ตั้มก็เลยตะโกนทักไป ( จะทักทำพระแสงดาบของ้าวรึไงฟระ ) เราทั้งสองกลุ่ม  ก็เลยค่อย ๆ เดินเข้ามาหากัน  แบ๊งค์รู้สึกกลัวจังเลย  ไม่อยากสู้หน้าพี่อาร์ทเลย   แบ๊งค์เลยคว้ามือพี่โป้งเอาไว้  แล้วพยายามยืนหลังพี่โป้งอีกที

“มาได้ไงวะ  แล้วพาใครมาเนี่ย”    พี่ตั้มถามไป

“ก็พาน้องเค้ามาเที่ยวว่ะ”    พี่อาร์ทพูด

“ชื่อแทมนะคะ  ยินดีที่ได้รู้จัก”   น้องแทมพูดแล้วยิ้มครับ   ดูน่ารักจริง ๆ  ไม่แปลกหรอก ที่พี่อาร์ทจะชอบ  ก็ทั้งสวย  ทั้งน่ารัก  และดูดีขนาดนี้  ขนาดแบ๊งค์เห็นแบ๊งค์ยังชอบเลย

“แทม   นี่พี่ตั้ม  แล้วนั่นก็พี่โป้งและก็.....แบ๊งค์   เพื่อนพี่เอง”    พี่อาร์ทพูด  ตอนก่อนที่พี่อาร์ทจะพูดชื่อแบ๊งค์  เหมือนว่าพี่อาร์ทจ้องมาที่แบ๊งค์  แบ๊งค์เลยบีบมือพี่โป้งแน่นขึ้น

“ยินดีที่ได้รู้จักทุก ๆ คนนะคะ”   น้องแทมพูดมาครับ  แล้วเราก็คุยกันอีกซักพัก  ก็แยกย้ายไปจากกัน   พี่อาร์ททำหน้าตาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่   แบ๊งค์ก็ไม่รู้สาเหตุหรอกนะ  คงหึงแฟนเค้ามั้ง  ส่วนน้องแทม  อันนี้แบ๊งค์ก็ไม่รู้ว่าคิดมากไปรึเปล่า   เหมือนเค้าจะมองมาที่แบ๊งค์ตลอดเลย 

หรือว่าเค้ารู้เรื่องของแบ๊งค์กับพี่อาร์ทแล้ว ไม่น่า.....แต่เค้ารู้  ก็นับว่าเป็นคนที่ใจกว้างมากเลย  ไม่รังเกียจที่พี่อาร์ทเคยคบผู้ชายมาก่อน   ผู้หญิงแบบนี้แหละ  ที่เหมาะสมกับพี่อาร์ทแล้ว
สรุปว่าหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ทานอะไรต่อครับ   แบ๊งค์อ้างว่าปวดหัวนิดหน่อย อยากขอกลับก่อน   พี่โป้งก็ไม่ขัด  พี่ตั้มก็เลยต้องกลับด้วยแต่โดยดี

จากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านมาเกือบ ๆ อาทิตย์ครับ   ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว   แบ๊งค์เพิ่งไปส่งงานอาจารย์มาครับ  ก็เลยเดินออกมาคนเดียว  แล้วสิ่งที่แบ๊งค์พยายามหลบมาตลอด  ก็มาเจอกันพอดี   พี่อาร์ทนั่นเองครับ  กำลังจะเดินสวนกับแบ๊งค์    พี่เค้ามองหน้ากรูส์ด้วย  ไม่ ๆๆๆๆ กรูส์ต้องไม่ไปสร้างความร้าวฉาน กับแฟนเค้า  ไม่ได้ ๆๆ เดินผ่านไป ๆๆ

“แบ๊งค์.....จะไม่คุยกับพี่หน่อยหรอ”    พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์ครับ (O_o) 

“เอ่อ.......”    แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไร

“แบ๊งค์เป็นอะไรรึเปล่า    ตอนแรกก็เหมือนเราจะได้พูดกัน”

“แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็หลบหน้าพี่ไป   พี่ทำอะไรให้ไม่พอใจหรอครับ”    พี่อาร์ทถามมา  เวรแล้วสิ   แล้วกรูส์จะตอบยังไงเนี่ย

“ไม่หรอกครับ  พี่อาร์ทไม่ผิดอะไร”     แบ๊งค์พูด

“แล้วเป็นอะไรไปล่ะ   แบ๊งค์ทำตัวแปลกไปนะครับ”

“ตั้งแต่เรื่องที่ปิดบังพี่ว่าเลิกกับแมคไปแล้ว   ทำไมไม่บอกพี่ล่ะครับ”    พี่อาร์ทถามอีก

“.......................”    แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ได้แต่ก้มหน้า

“หรือว่า  แบ๊งค์เกลียดพี่”

“แบ๊งค์ไม่อยากกลับมาคบกับพี่อีกใช่มั้ย”    พี่อาร์ทพูดแล้วเงียบไป    ประโยคนี้มันทำให้
แบ๊งค์ตื่นตัวเลยครับ  อึ้งสิ  แบ๊งค์ไม่เคยคิดแบบนั้นซะหน่อย

“ไม่นะพี่อาร์ท  แบ๊งค์ไม่เคยคิดแบบนั้นซะหน่อย”   แบ๊งค์พูดออกมา

“แล้วเพราะอะไรล่ะ”  พี่อาร์ทถามมา  แต่แบ๊งค์ยังไม่กล้าตอบ

“แบ๊งค์อยู่นี่เอง......”    พี่โป้งทักขึ้นครับ  ตอนที่เดินมากับไอ้กาว  แบ๊งค์กับพี่อาร์ท  เลยหันไปมองพี่โป้งด้วยกัน

“อ๋อ   ใช่....พี่ลืมไปเลย  ว่าเหตุผลอยู่ตรงนี้นี่เอง”    พี่อาร์ทมองพี่โป้งแล้วหันมาพูดกับแบ๊งค์

“พี่อาร์ทมันไม่ใช่แบบนั้นนะ”   แบ๊งค์เอาจับมือพี่อาร์ทเอาไว้

“ความจริงคือ.............”   แบ๊งค์กำลังจะบอกเหตุผลไป

“ความจริงคือ  แบ๊งค์รักพี่โป้งใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วก็กลัวว่า  พี่กับไอ้โป้งจะทะเลาะกัน  ก็เลยเอาแมคมาเป็นข้อบังหน้า”

“แล้วจากนั้น  พอพี่ไป  ก็ทิ้งไอ้แมคมาคบกับไอ้โป้ง”    พี่อาร์ทพูดครับ  มันเล่นเอาแบ๊งค์ อึ้งไปเลย  ทำไมพี่อาร์ทถึงคิดแบบนี้นะ

“ไอ้อาร์ท!!!!!”    แล้วพี่โป้งก็เข้ามาชกพี่อาร์ท  จนพี่อาร์ทล้มไป

“พี่โป้งอย่านะ!!!! “    แบ๊งค์เข้าไปดึงพี่โป้งออกมา

“กรูส์พูด  แทงใจดำล่ะสิ   บอกไว้เลยนะกรูส์ไม่โกรธพวกเมริงสองคนหรอก  เชิญพวกเมริง  อยู่กันอย่างมีความสุขนะ”    พี่อาร์ทพูด  แล้วทำท่าจะเดินไป

“เดี๋ยวอาร์ท......กรูส์มีเรื่องจะพูดกับเมริง”    พี่โป้งเรียกครับ  พี่อาร์ทเลยหยุด  แล้วหันมา

“ไม่นะพี่โป้ง”    แบ๊งค์บีบต้นแขนพี่โป้งแน่นมาก   เพราะแบ๊งค์รู้ว่าพี่โป้งจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่อาร์ทฟัง

“กาว...ช่วยจับแบ๊งค์ไว้หน่อยนะ   อย่าปล่อยแบ๊งค์จนกว่าพี่จะสั่ง   หรือกาวจะพอใจ”  พี่โป้งพูด  ไอ้กาวก็ได้แต่ทำท่างง ๆ

“ทำไมหรอครับ”   กาวถาม

“กรูส์ขอร้อง  เมริงจับไว้ให้แน่นที่สุดก็แล้วกัน”     แล้วพี่โป้งก็ค่อย ๆ แกะมือแบ๊งค์ออก  ไอ้กาวก็เข้ามาจับแบ๊งค์ไว้ครับ

“ไม่นะ  พี่โป้ง!!!!!”    แบ๊งค์เรียกพี่โป้ง

“กาว  ปล่อยเรานะ  เราขอร้อง”    แบ๊งค์พูดไป  น้ำตาก็เริ่มไหล

“ไม่ได้นะแบ๊งค์  เราว่า  พี่เค้าคงมีเหตุผลที่ทำแบบนี้”    กาวพูด

“แล้วนายก็จะได้รู้”   แบ๊งค์พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น
 
“เมริงมีอะไรจะพูดกับกรูส์  ว่ามา”    พี่อาร์ทพูด  พลาดเอามือ  เช็ดเลือด  ที่ออกจากการที่ถูกพี่โป้งต่อยไปเมื่อกี้

“กรูส์จะพูดความจริงให้เมริงฟัง   เมริงจะได้รู้อะไร ๆ ซะที”    พี่โป้งพูด   แบ๊งค์พยายามดิ้น   แต่ไอ้กาวก็จับแบ๊งค์เอาไว้แน่นมากครับ   

“เรื่องมันเกิดจากตัวกรูส์................”    แล้วพี่โป้งก็เล่าทุก ๆ อย่าง   ตั้งแต่ตอนที่เค้าเห็นแบ๊งค์แล้วเริ่มชอบ  จนกระทั่งตอนที่ส่งอีเมลล์ไปขู่ แบ๊งค์  จนทำให้แบ๊งค์กับพี่อาร์ต้องเลิกกัน    พี่โป้งเล่าทุก ๆ อย่าง  พี่อาร์ทดูอึ้งไปเหมือนกัน   พี่อาร์ทได้แต่ยืนทำตาโต  กำมือแน่น   ไอ้กาวก็เหมือนกัน  มันเงียบไป   แต่มันก็ยังจับแบ๊งค์ไว้เหมือนเดิม  แบ๊งค์เริ่มร้องไห้หนักกว่าเดิม

“น้องเค้าไม่เคยเอาใครมาแทนที่เมริง   และกรูส์ก็ไม่มีวันแทนที่เมริงได้เหมือนกัน”

“กรูส์.............ขอโทษ”    พอพี่โป้งพูดคำนี้จบ   พี่อาร์ทก็ตรงเข้าไปชกพี่โป้ง   จนพี่โป้งล้มลงไปนอนกับพื้น

“ไอ้โป้ง  ไอ้เลว  เมริงทำอย่างนี้ได้ไง”   พี่อาร์ทขึ้นคร่อมตัวพี่โป้งแล้วชกไม่ยั้ง   แต่พี่โป้งไม่ตอบโต้อะไรมาเลย

“พี่อาร์ท!!!!! อย่านะ!!!!! “    แบ๊งค์ตะโกนร้องบอก  พลางพยายามดิ้นให้หลุด

“กาว!!!! ปล่อยแบ๊งค์นะ   ไม่เห็นหรอ  พี่โป้งโดนชกอยู่นะ”    แบ๊งค์หันมาบอกกาว

“ไม่!!!!  พี่เค้าสมควรที่จะได้รับการลงโทษแบบนั้นแหละ  ถูกแล้ว”    ไอ้กาวพูดเสียงเรียบ ๆ เหมือนมันไม่รู้สึกอะไร

“ปล่อยสิ!!!! พี่อาร์ท    พอได้แล้ว”    แบ๊งค์พยายามดิ้น  พลางตะโกนบอกพี่อาร์ทให้หยุด

“ไอ้โป้ง เมริงย่ำยีแฟนกรูส์   เมริงหักหลังกรูส์”    พี่อาร์ทชกชนพอใจ  แล้วเปลี่ยน มาเป็นเตะพี่โป้งแทน

“อ่ะ....เมริง...ทำ...จนพอ...ใจเลย”   พี่โป้งพูดออกมาไม่เป็นภาษา  เพราะพี่อาร์ท เอาแต่เตะไม่ยั้ง  ตอนนี้หน้าพี่โป้ง มีแต่เลือดไหลออกมา

“กรูส์เอาเมริงตายแน่  วันนี้กรูส์ไม่ปล่อยเมริงหรอก”

“ให้สมกับที่กรูส์ต้องทนทุกข์ที่เสียแบ๊งค์ไป”    พี่อาร์หยุดพูด  แล้วทำท่าจะชกพี่โป้งต่อ

“ปล่อยนะ!!!!”    แบ๊งค์ดิ้นจนหลุดแล้วครับ    แบ๊งค์เลยวิ่งไปคว้าแขนพี่อาร์ทเอาไว้

“พี่อาร์....พอได้แล้ว  พี่โป้งเค้าเจ็บมากแล้วนะ”    แบ๊งค์พูด พลางดึงแขนพี่อาร์ทเอาไว้

“แบ๊งค์...ไม่ต้องมาห้ามพี่  วันนี้พี่จะฆ่ามัน”    แล้วพี่อาร์ทก็เหวี่ยงแบ๊งค์ออกอย่างแรง  เพื่อที่จะให้แบ๊งค์หลุดออก

“โอ๊ย!!!!!”    แบ๊งค์หลุดออกจากแขนพี่อาร์ทครับ   แต่จากแรงเหวี่ยงทำให้หัวแบ๊งค์ไปชนขอบประตู    แบ๊งค์ค่อย ๆ เอามือคลำที่หัว   รู้สึกมีอะไรแฉะ ๆ ครับ แบ๊งค์เอามือมาดู  มันคือ  เลือดครับ   แบ๊งค์หัวแตก

“เฮ้ย!!!!! แบ๊งค์เป็นอะไรมากมั้ยวะ”   ไอ้กาววิ่งเข้ามาดูเป็นคนแรกครับ 

“เมริงหัวแตกนี่หว่า”    ไอ้กาวพูด  จากเสียงของกาว  มันทำให้พี่อาร์ทหยุด  แล้วหันมาทางแบ๊งค์

“แบ๊งค์!!!!! แบ๊งค์เป็นอะไรมากมั้ย”   พี่อาร์ทวิ่งเข้ามาหาครับ

“ป่ะ  ไปโรงพยาบาล  เดี๋ยวพี่พาไป”   พี่อาร์ททำท่าจะพยุงแบ๊งค์ครับ  แต่สะบัดตัวออก  แล้วคลานเข้าไปหาพี่โป้งแทน

“พี่โป้ง....เป็นอะไรมากมั้ย”    แบ๊งค์ช้อนพี่โป้งไว้ในอ้อมแขน

“พอใจแล้วใช่มั้ยพี่อาร์ท   ได้ทำคนอื่นเจ็บจนพอใจแล้วใช่มั้ย”    แบ๊งค์ตะโกนออกไปใส่หน้าพี่อาร์ท

“โธ่เว้ย!!!!!!”     พี่อาร์ททำท่าไม่พอใจ  เตะประตู  แล้วเดินจากไป

“กาว....ช่วยแบ๊งค์พยุงพี่โป้งหน่อย”   แบ๊งค์เรียกให้กาวมาช่วยครับ   กาวมันก็เดินเข้ามาช่วยพยุงพี่โป้ง   จนพี่โป้งพอจะยืนขึ้นมาได้   แล้วมันก็ชกพี่โป้งไหนึ่งหมัด  จนแบ๊งค์และพี่โป้งล้มลง  พร้อม ๆ กัน

“กาว!!!!!  นายทำอะไรน่ะ  พี่เค้าเจ็บอยู่นะ”   แบ๊งค์พูด

“ความจริงแค่นี้  มันยังไม่สาสมหรอก   กับสิ่งที่พี่เค้าทำไว้”

“แล้วแบ๊งค์ก็ควรที่จะเลิกสนใจพี่เค้าได้แล้ว    ไปสนใจพี่อาร์ทจะดีกว่านะ”    กาวพูด  แล้วเดินจากไป

“ไอ้กาว!!!!ทำไมเมริงพูดแบบนี้  กรูส์เกลียดเมริง “

“แล้วเมริงไม่ต้องมายุ่งกับกรูส์อีก”   แบ๊งค์ไล่ไอ้กาวไปครับ   ตอนนี้มหาวิทยาลัยก็เริ่มเย็นแล้ว  คนก็ไม่ค่อยมี  โทรศัพท์มือถือแบ๊งค์ก็ตังค์หมด  ของพี่โป้งก็แบตฯ หมด   มันจะซวยอะไรขนาดนี้เนี่ย

“จ...เจ็บ....มากมั้ย....ค..ครับ”   พี่โป้งพูดออกมาตอนที่แบ๊งค์พยายามพยุงพี่โป้งเดินออกไปหน้ามหาวิทยาลัย

“พี่โป้งอย่าพูดอะไรนะ   แบ๊งค์จะช่วยพี่โป้งเอง”   แบ๊งค์พูด   แล้วยิ้มให้พี่โป้ง

“อ้าวเฮ้ย!!!!  น้องไปโดนอะไรมาครับ”   

“ไปช่วยน้องเค้าหน่อยเร็ว”    มีพี่ผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินมาเห็นพอดี   เค้าเลยช่วยพยุง พี่โป้งให้ครับ

“พี่ครับ  ช่วยพี่ผมหน่อยนะครับ”   แบ๊งค์พูดไปร้องไห้ไป

“น้องก็หัวแตกนี่นา  อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะ”   พี่คนหนึ่งพูดขึ้นครับ

“เฮ้ย ...เมริงไปเรียกแท็กซี่มาดิ”    พี่เค้าตะโกนบอกเพื่อนอีกหนึ่งคนให้ไปเรียกรถ    แล้วไม่นาน  รถแท็กซี่ก็มาถึงครับ    รถแท็กซี่พาเราไปส่งยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด
พอไปถึงบุรุษพยาบาล  และพยาบาลรีบมาช่วยกันพยุงพี่โป้งออกจากรถ   แบ๊งค์ควักเงินจ่ายให้คนขับแท็กซี่   แต่เค้าบอกไม่รับ  แบ๊งค์เลยขอบคุณเค้าไป  แล้วก็มีบุรุษพยาบาลอีกคนมาพยุงแบ๊งค์ออกจากรถไป

“น้องหัวแตกนี่นา  ไปทำแผลก่อนนะครับ”   บุรุษพยาบาลคนนั้นพูด

“ไม่ครับ  ผมจะไปหาพี่ของผม”    แบ๊งค์พยายามขัด    แต่ก็โดนบุรุษพยาบาลพาไปห้องทำแผลจนได้  ภาพสุดท้ายที่แบ๊งค์เห็นก็คือ   เตียงของพี่โป้ง ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป   แล้วแบ๊งค์ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
****************************
 :bye2:คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 21:51:39
พี่โป้งก็น่าสงสาร

กาวก็น่าสงสาร

แบงค์ก็น่าสงสาร

แต่สงสารพี่อาร์ทมากกว่า
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-06-2007 22:09:57
อาร์ทน่าสงสาร  :sad2:  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 15-06-2007 23:02:42
แต่ละคน  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-06-2007 23:19:03
เลือดสาดกระจาย
 :sad5: :sad5: :sad5: :sad5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 16-06-2007 07:40:10
กาวก้อน่าสงสารครับ

 :o12: :o12: :o12: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

กำลังเข้มข้นเลยครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 16-06-2007 08:55:44
 :serius2: :serius2: :serius2:โมโหมากไอ้น้องแบ็งค์นี้มันอย่างไรเนี้ยะทำตัวน่า.....มากตอนโดนเค้ารังแกทำจะเป็นจะตายพอเค้าดีด้วยหน่อยก็ใจอ่อนแบบนี้มันน่าปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ต้องให้คนอื่นมาสนใจน่ะ :laugh: :laugh:กาวตั้มอาร์ทไม่ต้องไปสนใจมันปล่อยมันไปเอาให้ช้ำใจตายไปเลย o17 o17 o17ไม่สงสารเจ้าแบ็งค์แล้วโมโห o20
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 16-06-2007 10:53:04
พี่อาร์ท  :o7:
กาว  :dont2:
พี่โป้ง  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-06-2007 11:56:36
วุ่นวายจิงหนอ

สับสนจิงหนอ

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-06-2007 15:43:24
วุ่นวายจางเล้ยยย

แต่ผมว่าผมเข้าใจแบงค์นะ ที่ทำไป ไม่ใช่ไม่รักพี่อาร์ท
แต่พี่โป้งก็โดนทำ โดยไม่ตอบโต้ (เพราะสำนึกผิด)  แบงค์ก็อดเห้นใจและสงสารไมได้
รวมทั้งยังมีเรื่องน้องแทม ที่แบงค์ยังไม่รู้ความจริง คาใจอยู่อีก

เฮ้อออ  เมื่อไหร่จะลงเอยกันน๊า  เชียร์พี่อาร์ทเหมือนเดิม มะเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 17-06-2007 01:16:48

ขอเชียร์พี่อาร์ทด้วยคนคร้าบบ....
ตามอ่านตลอดครับ.....ชอบมากมายอ่ะคร้าบ.............
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BrOwNiE ที่ 17-06-2007 17:21:02
มาให้กำลังใจน้อง pajaa ในการโพสคัฟป๋ม

โพสมาได้แยะพอสมควรแร้นนะเนี่ย  สู้ ๆ คัฟ

อีกซักพัก ( ไม่นานมากส์ ) ก้อคงจบแร้นจิ หุหุ




ปล.มีปัญหาอะไรก้อ เมลล์มาหานะคัฟ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 17-06-2007 21:12:38
    :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

เข้ามาอ่านรวดเด๋วเลย  แซดมากๆๆๆๆ   เมื่อไหร่จะได้กลับมาอยู่กะพี่อาร์ทล่ะ :o7: :o7: :o7:

อยากให้คู่กะพี่อาร์ท  ส่วนกาย....เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :interest:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 17-06-2007 23:12:43
ขอบคุณนะคับพี่ BrOwNiE
ขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆด้วยนะคับ ที่ติดตามอ่านกัน กระผมก็ยังขออนุญาต :o11: เหมือนเดิมค้าบ
ลงเองแต่ก็  :o11: :sad4:

หล่ะ คุณMyLoveMyBabe  คราวหน้าถ้าเค้าคนนั้นเดินผ่านอีกรีบเรียกเค้าเลยนะคับ อุตส่าห์เดินผ่านให้เรียกตั้งหลายรอบ ก็ไม่ยอมควักมือเสียที แหม!!! เสียดาย  o7  เบอร์โทรอ่ะอย่าลืมๆ ยัดเยียดให้ไปเลย เชียร์อยู่นะคับ: 222222:

**********************************
บทที่ 47 ความรู้สึกดี ๆ ( ทำแบบนี้เพื่ออะไร )

ตอนนี้แบ๊งค์   ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ  ก็แค่ทำแผลที่หัวก็เท่านั้น  ส่วนพี่โป้งที่โดนซ้อมอย่างสะบัดสบอม   หมอบอกว่าไม่มีอะไรมาก  แค่ฟกช้ำเฉย ๆ นอนพักที่โรงพยาบาลซักสองวันก็คงกลับออกไปได้

ทุกคนที่รู้เรื่องต่างพากันมาเยี่ยม  ถามไถ่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น   แต่แบ๊งค์กับพี่โป้งได้ตกลงกันแล้วว่าจะปกปิดเรื่องนี้เอาไว้  เราอ้างว่าถูกนักเลงที่ผ่านมาแถวนั้นหาเรื่อง   ก็เลยพยายามป้องกันตัวไป   แต่เราไม่ได้ติดใจเอาความอะไร  พี่โป้งก็แกล้งทำเป็นจำหน้าคนร้ายไม่ได้   แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร  พวกเพื่อน ๆ ของพวกเราก็เลยไม่ไปแจ้งความ

พี่อาร์ท กับกาวก็ยังคงไม่มาเยี่ยม   คงเพราะพวกเค้ายังโกรธพี่โป้งอยู่มั้ง  แต่ก็ช่างเค้าเถอะ  แบ๊งค์ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับสองคนนั้นแล้ว  วันนี้แบ๊งค์มานอนเฝ้าพี่โป้งที่โรงพยาบาลครับ
“น้องแบ๊งค์ไม่น่าลำบากเลย”   พี่โป้งพูด

“ไม่เป็นไรหรอก   แค่นี้ไม่หนักเกินไปสำหรับแบ๊งค์หรอก”   แบ๊งค์พูด

“แค่คืนเดียวเอง  เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็ออกโรงพยาบาลแล้ว”   พี่โป้งพยายามจะให้แบ๊งค์กลับไปคับ

“พี่โป้ง......ตอนนั้นที่แบ๊งค์เข้าโรงพยาบาล  พี่โป้งยังไปเฝ้าแบ๊งค์เลย”

“ให้แบ๊งค์ได้ตอบแทนพี่โป้งบ้างนะ”    แบ๊งค์นั่งลงที่ข้าง ๆ เตียงของพี่โป้งแล้วพูด

“ขอบคุณนะ.........”   พี่โป้งกล่าวขอบคุณออกมา  มันอาจเป็นคำพูดง่าย ๆ ที่ฟังแล้วธรรมดา  แต่วันนี้แบ๊งค์ว่ามันฟังแล้วดูอบอุ่นที่สุดเลย

“กินขนมมั้ย   แบ๊งค์ขนมาเต็มไปหมดเลยนะเนี่ย”   แบ๊งค์เปลี่ยนเรื่องพูด

“พี่จะทานเข้าไปได้ไงล่ะครับ  ต้องใช้ปากขบเคี้ยวทั้งนั้น”

“พี่ยังเจ็บปากอยู่นะครับ”   พี่โป้งพูดพลางเอามือกุมแก้มไว้

“จะให้แบ๊งค์เคี้ยวให้  แล้วคายมาป้อนพี่โป้งแบบที่แม่ทำให้ลูกมั้ยล่ะ”    แบ๊งค์แซว
 
“นี่แน่ะ!!  มาแซวพี่ได้”    พี่โป้งเขกหัวแบ๊งค์เบา ๆ ครับ

“โอ๊ย!!!เจ็บนะ   หัวแตกอ่ะรู้มั้ย”   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นเจ็บครับ

“ขอโทษครับ ๆๆ น้องแบ๊งค์เป็นอะไรมากมั้ย”    พี่โป้งรีบขอโทษ

“ล้อเล่นน่า  แผลแบ๊งค์เดี๋ยวก็หายแล้ว”    แบ๊งค์บอกไป

“หลอกพี่นักนะ   เดี๋ยวพี่ก็ทำให้เจ็บจริง ๆ ซะเลย”   พี่โป้งขู่ครับ

“พอแล้ว ๆๆ มาทานขนมดีกว่านะ”    แบ๊งค์พูดแล้วยื่นชาเขียวให้พี่โป้งดื่มครับ   คนนั้นเราก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก  ก็แค่ดูหนังเท่านั้นเอง
แบ๊งค์มารู้สึกตัวตอนที่รู้สึกอุ่น ๆ เหมือนมีผ้ามาห่มไว้  แบ๊งค์เลยลืมตาขึ้นมาดู

“อ้าว...พี่โป้งลุกมาเดินทำไมครับ”    แบ๊งค์รีบลุกขึ้นไปพยุงพี่โป้ง

“ไม่ต้องหรอกครับ   พี่พอเดินได้น่ะ”

“พี่เห็นน้องแบ๊งค์หนาวเลยเอาผ้ามาห่มให้”   พี่โป้งพูด

“ไม่เป็นไรหรอก  ไม่น่าลุกมาเลย”   แบ๊งค์ทำท่าไม่ค่อยพอใจ   แล้วพยุงพาพี่โป้งนอนที่เดิม  จากนั้นแบ๊งค์ก็นั่งลงข้าง ๆ เตียง

“แบ๊งค์ไม่หนาวมากหรอก ผ้าห่มแบ๊งค์ก็มีอยู่แล้ว  ไม่เห็นต้องเอาผ้าห่มพี่โป้งมาเพิ่มเลย”    แบ๊งค์พูด

“แต่อากาศก็เย็นนะครับ  ผ้าผืนแค่นั้นจะไปกันอะไรได้”   พี่โป้งพูด

“ขนาดผืนเดียวมันยังกันหนาวไม่ได้  แล้วพี่โป้งไม่มีซักผืน”

“มันจะไม่ยิ่งหนาวไปกว่าหรอครับ”     แบ๊งค์แย้งกลับไป

“............................”    พี่โป้งนิ่งไม่ตอบอะไร

“ห่วงสุขภาพตัวเองดีกว่านะครับ”    แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์ไม่น่าทำแบบนี้เลย  พี่มันเป็นคนไม่ดี”

“แบ๊งค์ควรจะไปอยู่ดูแลอา.............”     ยังไม่ทันที่พี่โป้งจะพูดจบ

“หยุด!!!! พี่โป้งอย่าพูดชื่อนั้นอีก   เราอยู่ของเราดีกว่านะ”

“เค้าทำกับเราขนาดนี้  เรายังจะไปสนใจเค้าอีกทำไม”    แบ๊งค์พูดขัดพี่โป้งแล้ว  ก็เอาผ้ากลับมาห่มให้พี่โป้ง

“น้องแบ๊งค์ก็หนาวน่ะสิครับ  พี่ว่า.........”     พี่โป้งพูดแล้วหยุดไป

“อะไรหรอ”     แบ๊งค์ทำหน้างง ๆ

“ขึ้นมานอนกับพี่ดีมั้ยครับ”     พี่โป้งพูดแล้วทำท่าอาย ๆ

“...........................”   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร

“ไม่ต้องก็ได้นะครับ   พี่แค่พูดไปเล่น ๆ เท่านั้น”    พี่โป้งรีบแก้ตัวออกมา

“ฮะฮะฮะ   ไม่ต้องร้อนตัวหรอก”   แบ๊งค์หัวเราะออกมา  มันยิ่งทำให้พี่โป้งอาย จนหน้าแดงมากขึ้นกว่าเก่า  (-//////-)    แล้วแบ๊งค์ก็ไปหยิบผ้าห่มของตัวเอง   จากนั้นก็ถอดรองเท้า  แล้วนั่งที่เตียงของพี่โป้ง
“น้องแบ๊งค์จะทำอะไรหรอ”   พี่โป้งถามครับ

“ก็จะนอนไง  เป็นคนชวนเองแท้ ๆ หรือว่าจะไม่ให้นอน”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ครับ ๆๆๆ นอบได้ครับ”   พี่โป้งพูด  แล้วแบ๊งค์ก็เอาผ้าห่มมาซ้อนกันสองผืน  แล้วห่มไปที่ตัวเราทั้งคู่  แบ๊งค์นอนหันหน้าเข้าหาพี่โป้ง

“น้องแบ๊งค์ไม่รังเกียจพี่หรอ”    พี่โป้งถาม

“ทำไมต้องรังเกียจล่ะ”    แบ๊งค์ถามกลับ

“ก็พี่เคย.........”   พี่โป้งทำท่าเหมือนไม่กล้าพูดต่อ

“อดีตน่ะ  บางทีมันก็ไม่ได้มีไว้ให้จำหรอกนะ”   แบ๊งค์พูด

“หลับได้แล้ว”    แบ๊งค์พูดก่อนจะหลับตาลง   แล้วก็รู้สึกเหมือนว่าพี่โป้งเอามือมาโอบตัวแบ๊งค์ไว้   แต่แบ๊งค์ไม่ขัดขืนหรอก  ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา

“หลับกันนะครับ  เจ้าชายตัวน้อย”   พี่โป้งพูด  และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้าย ที่แบ๊งค์ได้ยินก่อนจะหลับไปในคืนนั้น
.
.
หลังจากนั้นเราก็กลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตาปกติครับ  พี่โป้งขอถอนตัวออกจากการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลแล้วนะครับ  โดยอ้างเหตุผลกับโค้ชว่า  ร่างกายยังไม่พร้อม  ซึ่งแบ๊งค์ก็รู้เหตุผลนะครับ  ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น   พี่โป้งไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่อาร์ทมากกว่า
ส่วนแบ๊งค์กับกาวน่ะหรอ  ก็ยังไม่พูดกันเหมือนเดิม    จากที่เค้ากลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแบ๊งค์  ตอนนี้เค้ากลับทำให้แบ๊งค์เกลียดเค้ามากที่สุดเหมือนกัน

“มีใครเห็นหน้าไอ้กาวมั่งวะ”    พี่ตั้มถามขึ้นในขณะที่เราอยู่ที่โต๊ะประจำครับ

“ไม่รู้สิพี่  ไม่เห็นมันมานั่งที่โต๊ะนี้ตั้งหลายวันแล้ว”    แมคพูด

“มันไปไหนวะ   แบ๊งค์รู้มั้ยว่ามันไปไหน”      พี่ตั้มหันมาถามแบ๊งค์ครับ

“ไม่รู้สิ  ไม่ได้สนใจ  ช่างหัวมันเหอะ”    แบ๊งค์พูดแบบไม่สนใจ

“อะไรวะ  เมื่อก่อนเห็นอยู่ด้วยกันตลอด  ตัวติดกันอย่างกับ ปาท่องโก๋”   พี่ตั้ม  ทำท่าแปลกใจที่เห็นแบ๊งค์พูดแบบนั้น

“ผมเห็นพี่เค้าชอบไปนั่งอยู่คนเดียวแถวสนามบาสอ่ะครับ”  ปรินซ์พูดขึ้น  ลืมบอกไป  ตอนนี้ปรินซ์เป็นสมาชิกใหม่ประจำโต๊ะนะครับ  คือเค้าเอาแต่ตามติดแบ๊งค์  ผลสุดท้ายก็ต้องมานั่งด้วยกัน  แรก ๆ พี่ตั้มกับแมคก็ไม่ค่อยชอบหรอก  แต่ช่วงหลัง ๆ มาพี่เค้าก็คงเริ่มชินแล้วมั้ง  ก็มีบ้างที่กัดกันตามประสา

“กรูส์ไม่ได้ถามเมริง  เงียบไปเลยไอ้เด็กใหม่”    พี่ตั้มตะคอกใส่ปรินซ์ครับ

“ง้า......ผมผิดอีกแล้วหรอ   แบ๊งค์~~~~~~”  ปรินซ์ทำท่าน้อยใจ  แล้วหันมาซบแบ๊งค์

“เฮ้ย!!!!  ปล่อยเพื่อนกรูส์”    ไอ้แมค รีบจับหัวมันออกครับ

“เอามันมาให้กรูส์กินเลือดซะดี ๆ “   พี่ตั้มทำท่าหักนิ้วครับ

“ไม่นะ ๆๆๆ  แบ๊งค์ช่วยปรินซ์ด้วย”     ปรินซ์เรียกครับ  แบ๊งค์ก็ได้แต่หัวเราะไป  ตอนนี้เหมือนว่า  ทุกคนจะเข้ากับปรินซ์ได้แล้วสินะ   ดีเหมือนกัน  แบ๊งค์ไม่อยากให้มีปัญหาไปมากกว่านี้แล้ว  พอซะทีไอ้เรื่องยุ่ง ๆ  ทั้งหมด

แบ๊งค์เดินมากับปรินซ์ครับ  คือแบ๊งค์จะไปหาพี่โป้งน่ะ  มันต้องเดินผ่านทางเชื่อมระหว่างตึก  แล้วปรินซ์จะไปตึกนั้นพอดี  ก็เลยเดินไปด้วยกัน

“แบ๊งค์....เราปวดฉี่อ่ะ   ไปก่อนนะ”    แล้วปรินซ์ก็วิ่งไปเลยครับ  ไม่รออะไรเลย

“เสร็จแล้วตามมาก็แล้วกัน”    แบ๊งค์ตะโกนตามหลังปรินซ์ไป   แล้วแบ๊งค์ก็เดิน  ไปตามทางเดินคนเดียวครับ  ทางเดินโล่งมากครับ  ไม่มีคนเดินเลย  มันโล่งจนมองเห็นคนที่กำลังเดินได้ชัดเต็มตาว่าเป็นใคร    กาวนั่นเองครับ  นี่คงเป็นครั้งแรกที่แบ๊งค์ได้เห็นหน้ามัน  นับตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง

แบ๊งค์ก้มหน้าเดินต่อไปไม่สนอะไร  กาวก็ทำเหมือนกันครับ  เราเดินเข้าไปใกล้กันเรื่อย ๆ จนกระทั่งเราเดินสวนกัน  และก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แบ๊งค์..........”   กาวเรียกครับ  แบ๊งค์เลยหยุด  เรายืนหันหลังให้กันครับ

“............................”    แบ๊งค์ไม่พูดอะไร

“ตกลงเราจะไม่พูดกันอีกใช่มั้ย”    กาวถามมาครับ

“แล้วเราสองคน  มีอะไรต้องพูดกันอีกล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“เราไม่ได้ทำอะไรผิด  ทำไมแบ๊งค์ต้องทำกับเราแบบนี้”   กาวแย้งมาครับ

“แล้วทำไมล่ะ  แบ๊งค์จะทำอะไรก็เรื่องของแบ๊งค์”

“ถึงแม้ว่าการกระทำของแบ๊งค์มันอาจจะดูโง่ งี่เง่าในสายตาคนอื่น  แบ๊งค์ก็จะทำ   เพราะแบ๊งค์ได้ตัดสินใจทำมันลงไปแล้ว”    แบ๊งค์พูด

“เราขอโทษ.........”    กาวพูด

“ถ้านายจะขอโทษ  เราว่านายคิดที่จะไม่ทำดีกว่านะ”

“อีกอย่างนายอย่าขอโทษเลย  นายไม่ได้ผิดอะไร  คนที่ผิดมันคือพี่โป้งโน่น”    แบ๊งค์พูดประชดไอ้กาวครับ

“............................”     ไอ้กาวไม่พูดอะไร

“ไม่มีอะไรแล้ว  งั้นเราไปก่อนนะ”   แบ๊งค์พูดเสร็จก็เดินผ่านไปครับ   แต่ไอ้กาวมันหันมาคว้าต้นแขนแบ๊งค์แล้วดึง เข้าไปหามัน  ตอนนี้แบ๊งค์เลยอยู่ในอ้อมกอดมัน

“กาว  ทำอะไรน่ะ!!!! ปล่อยนะ”    แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่กาวกอดไว้แน่นมากครับ

“เราทำอะไรผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรอ  แบ๊งค์ถึงได้โกรธเราขนาดนี้”    กาวพยายามมองตาแบ๊งค์  แต่แบ๊งค์ก็หลบสายตามันครับ

“ปล่อยนะกาว  นายบ้าไปแล้วหรอ”   แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่ดิ้นไม่หลุดครับ

“ขนาดพี่โป้งทำผิดขนาดนั้น  แบ๊งค์ยังรักได้ขนาดนี้”

“งั้นเราก็ขอทำมั่งละกัน  เผื่อว่าแบ๊งค์จะได้หายโกรธเราบ้าง”    พอกาวพูดจบ  ก็พยายามไซร้คอแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์ก็เลยเริ่มร้องไห้ออกมา

“กาว!!!นายมันบ้าไปแล้ว  ปล่อยนะ”   แบ๊งค์พยายามดิ้น  เท่าที่ตัวเองจะทำได้

“ใช่สิ เรามันบ้า”    กาวหยุดพูดจากนั้นกาวก็..........กาวก็ประทับรอยจูบลงที่ริมฝีปากของแบ๊งค์ครับ  กาวเริ่มคลายมือที่จับแบ๊งค์เอาไว้  แบ๊งค์เลยดิ้นจนหลุด

“ไอ้กาว!!!! กรูส์เกลียดเมริง”   พูดจบแบ๊งค์ก็ตบหน้ามันไปหนึ่งที   แล้ววิ่งหนีไปจากตรงนั้นโดยไม่หันกลับมามองมันอีก

ทำไมมันต้องทำแบบนี้ด้วยนะ   แบ๊งค์ถูกย่ำยีไม่พออีกหรือไง  ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้กับแบ๊งค์    แบ๊งค์คงเลวมากสินะ  เลยได้รับการกระทำกลับมาแบบนี้   วันนั้นแบ๊งค์โทรไปหาพี่โป้ง  เพื่อบอกว่าแบ๊งค์ไม่ไปหาแล้ว  แบ๊งค์พยายามข่มเสียงตัวเอง   เช็ดน้ำตาแล้ว  กลับหาพี่นุ่นแล้วกลับบ้าน  ระหว่างทางพี่นุ่นก็ถามมาว่าตาแดง ๆ ไปโดนอะไรมา  แบ๊งค์ก็ได้แต่หลอก ๆ ไปว่า  แสบตานิดหน่อย  เพราะอ่านหนังสือเยอะไป

คืนนั้นแบ๊งค์ไม่รู้จะทำยังไงเลย  คิดมากไปต่าง ๆ นานา   จนในที่สุดก็เผลอหลับไปเอง

-----------------------------------------------------------------------------------------

“ไอ้กาว!!!! กรูส์เกลียดเมริง”    พอแบ๊งค์พูดจบ  ก็ตบหน้าผมมาหนึ่งทีครับ  แล้วเค้าก็วิ่งหายไป   นี่ผมทำอะไรลงไป  ทำไมผมไม่ห้ามใจไว้นะ   แล้วแบบนี้ผมจะกลับไปมองหน้าแบ๊งค์แบบนี้ได้ยังไง  ผมได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ครับ

“เจ็บมากมั้ยครับพี่กาว”   ปรินซ์พูดขึ้น  นายปรินซ์มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  แล้วเค้าจะเห็นสิ่งที่ผมทำกับแบ๊งค์เมื่อกี้มั้ย

“ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นหรอกครับ  ผมไม่บอกใครหรอก”   ปรินซ์พูด   แล้วผมกับปรินซ์ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึก

“นายเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหรอ”   ผมถาม

“.......................”   ปรินซ์พยักหน้าแทนคำตอบ

“ที่แท้พี่สองคนก็ทะเลาะกันนี่เอง   ผมก็ว่าทำไมดูแปลก ๆ ไป”   ปรินซ์พูด

“นายรู้หรอ”   ผมรู้สึกประหลาดใจมาก  ที่เด็กคนนี้สังเกตได้  เพราะแม้กระทั่ง ไอ้แมค หรือ  พี่ตั้มก็ยังสังเกตไม่ออก

“พี่กาวชอบแบ๊งค์ใช่มั้ยครับ”    ปรินซ์ถามมา  มันทำให้ผมอึ้งจนนิ่งไป

“ผมรู้นะครับ  ผมเห็นแววตาพี่เวลามองแบ๊งค์”

“มันไม่ใช่สายตาของเพื่อนหรอก”   ปรินซ์ถามย้ำอีกครับ

“.............................”    ผมพยักหน้า  พูดอะไรไม่ออกจริง ๆ

“เฮ้อ~~~นี่แหละนะ  เพื่อนรัก ที่รักเพื่อน”   ปรินซ์พูด

“แต่ตอนนี้พี่คงกลับไปมองหน้าแบ๊งค์ไม่ได้อีกแล้วล่ะ”   ผมพูด

“อย่าเศร้าไปเลยครับ  มันต้องมีวิธีที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมสิครับ”   ปรินซ์พูด

“วิธีไหนล่ะ”   ผมถามไป

“ยังไม่ได้คิดอ่ะ  โทษที”   ปรินซ์พูด

“นี่แน่ะ   แล้วจะพูดทำไม”   ผมเขกหัวปรินซ์ไปหนึ่งที

“โอ้ย....เจ็บนะพี่กาว  ก็พูดไว้ก่อนน่ะ”

“แต่มันก็คงจะมีวิธีจริง  ๆ นะ  เดี๋ยวผมจะช่วยพี่เอง”   ปรินซ์พูด

“จะมาช่วยทำมละ   ปล่อยไว้แบบนี้แหละ”

“ยังไงมันก็ไม่มีทางหรอกน่า”    ผมพูดไปตามที่คิด

“เอาน่า ๆ สู้ต่อไปนะ”   ปรินซ์พูด   ผมก็ได้แต่เออออ ตามไป  เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ ผมทำขนาดนั้นแล้ว  แบ๊งค์คงจะโกรธเกลียดผมไปอีกนาน  ตอนนี้ไม่ว่าวิธีไหนผมก็ยอมทำหมด  ผมขอแค่ผมกับแบ๊งค์ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิม

****************************
กาวน่าสงสารจังเลย แบงค์อ่ะใจร้าย o9 o9
 :bye2: คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 17-06-2007 23:30:34
ฝากบอกกาว

ว่าเลิกรักคนโง่ ๆ อย่างแบ๊งค์เหอะ

รำคาญ เห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปได้   :undecided:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-06-2007 12:54:25
คุณMyLoveMyBabe  คราวหน้าถ้าเค้าคนนั้นเดินผ่านอีกรีบเรียกเค้าเลยนะคับ อุตส่าห์เดินผ่านให้เรียกตั้งหลายรอบ ก็ไม่ยอมควักมือเสียที แหม!!! เสียดาย  o7  เบอร์โทรอ่ะอย่าลืมๆ ยัดเยียดให้ไปเลย เชียร์อยู่นะคับ: 222222:

อ่า ไปอ่านที่ผมโพสท์ไว้ด้วยเหรอ เหอๆๆ  ขอบคุณครับที่เชียร์อยู่ หุหุ     วันนี้ไปฟิตเนส จะรวบรวมความกล้าขอเบอร์มาให้ได้   :o11:


ส่วนเรื่องแบงค์นี่ มันช่างวุ่นวายสมชื่อเรื่องจริงๆเล้ยยยย  รู้สึกตอนนี้อะไรจะประดังประเดเข้ามาทุกอย่างเลย  สงสารทุกๆคนเลย....โทษแบงค์คนเดียว  น่ารักดีนัก เหอๆๆ  :o9:

เชียร์ให้คืนดีกะพี่อาร์ทนะคร๊าบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 18-06-2007 15:44:08
ถามหน่อยดิแบ็งค์อยู่แถวไหนน่ะจะให้เพื่อนไปฉุดซะหน่อย :impress2: :impress2:
แบ็งค์ใจดีสงสัยต้องโดยลงแขกคงไม่โกรธมั้ง เล่นตัวชะมัดอ่านแล้วเลยพาลเกลียดเลย
 :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o
 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-06-2007 17:59:13
เหอเหอ

ใจเย็นๆ ค้าบบบบบ

ทุกคนต่างมีวิถีทางของตัวนะครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-06-2007 20:42:15
 แบ๊งค์ถูกย่ำยีไม่พออีกหรือไง  ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้กับแบ๊งค์    :sad4:
อ่านแล้วสงสารแบ๊งค์ บางทีการเป็นคนดี ก็น่าสงสารเนอะ  :impress:
เชียร์อาร์ทดีกว่า  :give2:  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-06-2007 21:10:25
 :เฮ้อ: สงสารพี่อาร์ท
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 18-06-2007 21:14:03
   วุ่นวายดีจังเลยนะครับ...

   ไม่รู้จะอะรายกาน มีแต่ปังหา หุหุ

    o12   o12   o12   o12
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 18-06-2007 22:09:43
ความรัก บางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักก็ได้ใช่มั้ยคับ

เอ่อ...อย่าเกลียดแบงค์เลยนะค้าบ เพราะเค้าเป็นแบบนี้งัยใคร ๆถึงได้รัก เนอะ

****************************
บทที่ 48 คืนดีกัน ( เถอะนะ )

หลังจากวันนั้นแบ๊งค์ยังคงทำตัวปกติ   ไม่อยากคิดอะไรมาก  ตอนนี้กาวกลับมานั่งที่โต๊ะเดิมแล้ว  แต่แบ๊งค์ก็ยังคงไม่พูดกับกาว   ทำตัวไม่ถูกเลยจริง ๆ  บางครั้งเรานั่งใกล้กัน  แต่ในความรู้สึกมันเหมือนห่างกันไกลมาก 

“หิวน้ำว่ะ  ไอ้ปรินซ์ไปซื้อทีดิ”    พี่ตั้มใช้ปรินซ์ครับ

“ไม่เอาอ่ะ  ขี้เกียจเดิน”   ปรินซ์ทำท่าอิดออดไปอยากไป

“อ้าว....ไอ้นี่  แข็งข้อหรอ  เดียะปั๊ดเหนี่ยวว”    พี่ตั้มขู่ครับ

“ไม่ต้องทะเลาะกัน  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปซื้อเอง”   แบ๊งค์อาสาไปเองครับ  ความจริง  คือแบ๊งค์อยากหาเหตุผลออกไปจากโต๊ะมากกว่า   อยู่ใกล้กาวแล้วทำตัวไม่ถูกเลยจริง ๆ

“ไม่ต้องหรอก  เดี๋ยวใช้น้องไปเนี่ยแหละ”   แมคพูดครับ

“ไม่เป็นไร  แบ๊งค์อยากไปเดินยืดเส้น ยืดสายด้วย เดี๋ยวมานะ”   แล้วแบ๊งค์ก็รีบเดินออกมาทันทีเลยครับ

พอออกมาพ้นจากโต๊ะนั้นได้  แบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดิน  อยากให้เวลามันผ่านไปช้า ๆ เพราะแบ๊งค์ไม่อยากนั่งที่โต๊ะนั้นอีก

แบ๊งค์เข้าไปซื้อน้ำ  และขนมที่ร้านขายของครับ  ก็ได้มาเยอะพอสมควร  จะได้มีข้ออ้างในการมานาน ๆ  พอกำลังจะจ่ายเงิน  แบ๊งค์ก็ล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกง  แบ๊งค์ลืมเอากระเป๋าเงินมาครับ  ทำไงดีล่ะเนี่ย  ตอนนี้เจ้าของร้านก็มองหน้าแบ๊งค์แล้ว

“อ่ะนี่ครับ  ค่าขนมของเพื่อนผม”   มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ายืนข้าง ๆ แล้วจ่ายเงินค่าขนมแทนแบ๊งค์ไม่ใช่ใครหรอกครับ  ไอ้กาวนั่นเอง


“กะแล้วว่าต้องลืมกระเป๋าสตางค์   เห็นรีบลุกออกมาซะขนาดนั้น  แล้วก็ชอบทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ในกระเป๋านี่นา”   กาวพูด

“ขอบใจนายด้วยละกัน   เดี๋ยวไปที่โต๊ะแล้วจะคืนให้”    แบ๊งค์ตอบกลับไป

“ไม่ต้องหรอก  ขนมนี่เดี๋ยวเราก็ต้องทานด้วยอยู่แล้ว”  กาวพูด

“ให้เราช่วยถือมั้ย  ตัวเล็กแค่นี้จะถือไหวหรอ”   กาวเข้ามาแย่งแบ๊งค์ถือครับ

“ไม่ต้องหรอก  เราถือได้”   แบ๊งค์พยายามแย่งคืน

“ดื้อไม่เปลี่ยนเลยนะ”   แล้วกาวก็แย่งไปได้ในที่สุดครับ   ดูกาวมันพูดเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  มันคิดอะไรของมันกันแน่  แต่ถึงมันจะทำอย่างนั้นแบ๊งค์ก็ยังคงหวั่น ๆ ใจในการกระทำของมันอยู่

ช่วงนี้พี่โป้งยุ่ง ๆ ครับ  เพราะตอนนี้พี่โป้งหันกลับมาทุ่มเทให้กับการเรียน  ไม่ได้สนใจด้านกีฬาแล้ว  แบ๊งค์กับพี่โป้งก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันซักเท่าไหร่  ตัวแบ๊งค์เองก็เหมือนกัน  ช่วงนี้เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องซักเท่าไหร่  เลยต้องมาหาหนังสืออ่านเพิ่มที่หอสมุดบ่อย ๆ  วันนี้ก็เหมือนกันครับ

“ขยันจังเลยนะคะ”   เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งทักขึ้นครับ  แบ๊งค์เลยเงยหน้าขึ้นไปมอง  น้องแทมนั่นเอง  มาได้ไงเนี่ย

“อ้าว.....น้องแทม  มาได้ไงครับ”    แบ๊งค์ทักตอบไป   พลางกวาดสายตามองพี่อาร์ท

“พี่อาร์ทไม่มาหรอกค่ะ  มีอะไรรึเปล่าคะ”   น้องแทมพูดเหมือนจะรู้ทันครับ

“เปล่าครับ  ไม่มาน่ะดีแล้ว”    แบ๊งค์พูด

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ  พี่อาร์ทได้ยินคงเสียใจแน่ ๆ เลย”  น้องแทมพูดแล้วนั่งลงตรง  ทำไมน้องแทมพูดแปลก ๆ จัง

“ช่วงนี้พี่แบ๊งค์มีเรื่องกับพี่อาร์ทหรอคะ”   น้องแทมถามมาครับ  แบ๊งค์ตกใจอยู่เหมือนกันว่าน้องแทมรู้ได้ไง  หรือว่าพี่อาร์ทเล่าให้ฟัง  ถ้าเป็นอย่างนั้นน้องแทมก็ต้องรู้เรื่องของแบ๊งค์กับพี่โป้ง  แล้วล่ะสิ

“ใช่ครับ  เรามีปัญหากันนิดหน่อย”   แบ๊งค์ตอบไป  ( เล็กน้อยหรอวะ )

“ช่วงนี้พี่อาร์ททำตัวไม่ดีเลย  กลับบ้านดึกทุกวัน”

“เอาแต่ดื่มเหล้า กับเที่ยวไม่ค่อยสนใจอะไรเลยค่ะ”   น้องแทมพูด

“หรอครับ  แล้วจะให้พี่ช่วยอะไรหรอครับ”  แบ๊งค์ตัดสินใจถามไป  เพราะรู้แน่ ๆ ว่าแทมต้องมาขอความช่วยเหลือ

“พี่แบ๊งค์ช่วยเข้าไปคุยกับพี่อาร์ทหน่อยจะได้มั้ยคะ”   น้องแทมขอร้องแบ๊งค์

“ไม่ดีกว่านะครับ  พี่ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของคนสองคนน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“คนสองคน.......พี่แบ๊งค์คงไม่คิดว่าแทมกับพี่อาร์ทเป็นแฟนกันหรอกนะคะ”  น้องแทมทำท่าทางประหลาดใจ เมื่อได้ยินแบ๊งค์พูดแบบนั้น

“ก็น้องแทมกับพี่อาร์ท.....”   แบ๊งค์เริ่มนิ่งแล้วครับ  เพราะรู้แน่ ๆ ว่า ตอนนี้กรูส์ปล่อยไก่ตัวเบอเร้อ  แล้วยังหน้าแตกเป็นล้าน ๆ ชิ้น

“ไม่ใช่หรอกค่ะ  แทมกับพี่อาร์ทเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”   น้องแทมพูดแล้วหัวเราะ เบา ๆ

“ก็ในรูปวันปีใหม่...........”   แบ๊งค์พูดออกมาเบา ๆ ก็เพราะรูปวันปีใหม่เนี่ยแหละ  ที่ทำให้แบ๊งค์คิดไปไกล

“รูปปีใหม่......อ๋อ  รูปที่แทมจูบกับพี่อาร์ทน่ะหรอคะ”  น้องแทมถาม  แบ๊งค์เลยได้แต่พยักหน้าไป

“แทมถ่ายเล่น ๆ กับพี่อาร์ทน่ะค่ะ  ไม่ได้คิดอะไร”

“ก็จูบกันแบบพี่น้องไงคะ  แบ๊งค์คงไม่เอาไปคิดมาหรอกนะ”  น้องแทมถามกลับ  แหะ ๆ ช้าไปแล้วครับน้อง  พี่คิดไปถึงดาวเสาร์แล้ว  ตกลงนี่กรูส์เข้าใจผิดมาตลอดเลยใช่มั้ยเนี่ย 

“................................”     แบ๊งค์นิ่งไปครับ  ยังทำใจไม่ได้

“พี่แบ๊งค์ช่วยไปพูดกับพี่อาร์ทหน่อยนะคะ”

“ถือว่าแทมขอร้อง”  น้องแทมพยายามขอร้องแบ๊งค์ครับ  ทำไงดีล่ะ  ไม่อยากไปสู้หน้าพี่เค้าเลย  ก็เล่นทำไปซะขนาดนั้นคงจะกล้าคุยกันหรอกนะ

“อ้าว...น้องแทมมาเที่ยวหรอครับ”   พี่โป้งเดินเข้ามาพอดีครับ

“ค่ะ......จริง ๆ ก็ไม่ได้มาเที่ยวหรอก  มาขอร้องแบ๊งค์ให้ช่วยน่ะค่ะ”   น้องแทมตอบไป

“ช่วย..........ช่วยเรื่องอะไรหรอ”    พี่โป้งทำท่างง ๆ ครับ  น้องแทมเลยเล่าเรื่องของพี่อาร์ทให้ฟัง  แล้วก็ขอให้พี่โป้งช่วยกล่อมแบ๊งค์ให้ไปช่วยพูดกับพี่อาร์ทอีกแรง

“อืม......แบ๊งค์   ไปหน่อยก็ดีนะ”    พี่โป้งพูดครับ   ( เห็นด้วยซะงั้น )

“แต่พี่โป้ง..............”    แบ๊งค์ทำท่าอิดออด

“ถือว่าพี่ขอร้องอีกคนนะ  ทำอะไรให้อาร์ทหน่อยเถอะ  เพื่อไถ่โทษให้พี่อีกทาง”   พี่โป้งพูด

“........................”   เงียบสิครับ  จะพูดอะไรออกล่ะ  เล่นพูด เล่นขอร้องกันแบบนี้  แบ๊งค์ก็ยิ่งคิดหนัก   ถ้าแบ๊งค์ไปก็คงจะช่วยปรับความเข้าใจระหว่าพี่อาร์ทกับพี่โป้งได้  ทุก ๆ อย่างก็คงจะดีขึ้นกว่านี้  ยังไงมิตรภาพของพี่เค้าทั้งสองคนก็สำคัญ  จะมาพังเพราะแบ๊งค์ไม่ได้   แบ๊งค์เลยพยักหน้าแทนคำตอบ

“งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยนะคะ  รถมาจอดรออยู่แล้ว”    น้องแทมดูท่าทางดีใจมากเลยครับ
   

“เดี๋ยวแบ๊งค์ขอโทรไปบอกพี่นุ่นก่อนได้ป่ะ”   แบ๊งค์กันไปทางพี่โป้ง

“ไม่ต้องหรอกครับ  เมื่อกี้พี่เห็นพี่นุ่นอยู่ห้องแล็ป   เดี๋ยวพี่ไปบอกให้ก็ได้”   แล้วพี่โป้งก็ไปส่งแบ๊งค์ที่รถน้องแทม  ซึ่งมีคนขับรถรออยู่แล้ว

“พี่ว่าคืนนี้แบ๊งค์ค้างที่นั่นเลยดีกว่านะ”   พี่โป้งพูด

“ได้ไงล่ะ  ชุดแบ๊งค์ไม่มีนะ”    แบ๊งค์แย้งไป

“ไม่เป็นไรค่ะ   เดี๋ยวเอาชุดพี่อาร์ทก็ได้  ค้างเถอะนะคะ”    น้องแทมขอร้อง

“ตกลงค้างนะ  พี่จะไปบอกพี่นุ่นเดี๋ยวนี้แหละ”  แล้วพี่โป้งก็รีบเดินจากไป  โดยที่แบ๊งค์ยังไม่ทันได้ตอบอะไร

ระหว่างทาง บนรถ น้องแทมพยายามชวนแบ๊งค์คุยถึงเรื่องต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเรื่องของแบ๊งค์กับพี่อาร์ทนี่แหละครับ   พี่อาร์ทไม่เคยลืมแบ๊งค์ได้จริง ๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกผิดครับ  ผิดที่ทิ้งพี่อาร์ท ผิดที่ทำให้พี่อาร์ทเสียใจ

เรามาถึงบ้านพี่อาร์ทแล้วครับ  มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย  จากวันที่แบ๊งค์มาครั้งแรก  วันที่แบ๊งค์เผลอหลับไปบนรถ  แล้วพี่อาร์ทไม่กล้าปลุก  เลยพามานอนที่บ้านหลังนี้  นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น  แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ครับ

น้องแทมพาแบ๊งค์เดินไปทางห้องรับแขก  เหมือนว่าจะมีคนนั่งอยู่นะครับ พอเข้าไปถึงมีคนนั่งอยู่ สี่คน  คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของพี่อาร์ท  และพ่อแม่ของน้องแทมนะครับ

“สองคนนี้เป็นพ่อ  กับแม่ของแทมค่ะ”   น้องแทมแนะนำ

“สวัสดีครับ”   แบ๊งค์ไหว้ไปครับ

“แล้วส่วนคุณลุงกับคุณป้า อีกสองคนก็พ่อกับแม่พี่อาร์ทค่ะ”   น้องแทมแนะนำอีกที

“สวัสดีครับ”   แบ๊งค์ไหว้อีกที

“นั่งก่อนสิลูก”  แม่น้องแทมพูดครับ  แล้วแบ๊งค์กับน้องแทมก็ เลยไปนั่งที่โซฟาอีกฝั่ง

“นึกว่าหนูแทมจะพามาไม่ได้ซะแล้ว”   พ่อพี่อาร์ทพูดครับ   นี่ตกลงการมาของแบ๊งค์เป็นที่รับรู้ของทั้งบ้านเลยนะเนี่ย

“ช่วยแม่ด้วยนะลูก”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ

“อะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถามกลับไป

“ก็ตอนนี้อาร์ทเปลี่ยนไป  เอาแต่นั่งเศร้า  ดื่มเหล้าแล้วเมากลับบ้านดึกตลอดเลย”  แม่พี่อาร์ทพูด ดูท่าทางเศร้ามากจริง ๆ

“ไม่รู้ว่าไปเจอปัญหาอะไรมา  ทำไมถึงได้เป็นแบนี้ก็ไม่รู้”   พ่อน้องแทมพูดขึ้นบ้างครับ  แหะ ๆ ไม่อยากบอกคุณลุงเลย  ว่าเหตุผลก็เพราะแบ๊งค์นี่แหละ

“พวกเรารู้นะลูก  ว่าหนูเป็น.......เอ่อเรียกอะไรดีล่ะ”    แม่น้องแทมทำท่าคิด

“คนพิเศษของพี่อาร์ทค่ะ”   น้องแทมช่วยเสริมครับ

“เออ...นั่นแหละ ๆ  พวกป้าก็เลยอยากให้หนูช่วย”   แม่น้องแทมพูดครับ  (O_o)  แบ๊งค์อึ้งสิครับ  นี่เค้ารู้กันหมดบ้านแล้วหรอ ว่าแบ๊งค์กับพี่อาร์ทเป็น..........เอ่อ.........คนพิเศษกัน ( นั่นแหละ ๆ )   แล้วแบ๊งค์จะกล้ามองหน้าพ่อกับแม่พี่อาร์ทมั้ยเนี่ย  ไปทำลูกชายเค้าเสียเนี่ย

“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  หนูช่วยพ่อหน่อยนะลูก”    พ่อพี่อาร์ทพูดครับ

“.........................................”   แบ๊งค์ยังคงเงียบต่อไป

“แม่กับพ่อไม่รู้จะทำยังไงแล้วลูก  เตือนไปเค้าก็ไม่ฟัง”    แม่พี่อาร์ทพูดครับ  ตอนนี้แม่เริ่มมีน้ำมาปริ่ม ๆ อยู่ขอบตาแล้ว  ยิ่งแบ๊งค์เห็นแบบนั้น แบ๊งค์ก็ยิ่งรู้สึกผิดครับ

“มีลูกคนเดียวเท่านั้นแหละ  ที่อาร์ทจะฟังในตอนนี้”   แม่น้องแทมพูดครับ

“พี่แบ๊งค์ช่วยพวกเราให้ได้นะคะ”   น้องแทมพูด

“เอ่อ......แบ๊งค์คงทำอะไรมากไม่ได้นะครับ”

“ก็จะทำเท่าที่ทำได้  แต่แบ๊งค์ไม่รับปากนะครับ  ว่าแบ๊งค์จะทำให้พี่อาร์ทกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้รึเปล่า”   แบ๊งค์พูดไป

“ไม่เป็นไรลูก  แค่พ่อได้ยินว่าลูกจะช่วย  พอก็ดีใจแล้ว”    ทุกคนต่างมีสีหน้าที่ดีขึ้นเมื่อได้ยินแบ๊งค์พูดแบบนั้น

“ห้องพี่อาร์ท  พี่แบ๊งค์คงรู้อยู่แล้วแทมขอไม่ไปส่งนะคะ”   น้องแทมพูดแล้วยิ้มให้ครับ

“ให้แบ๊งค์ขึ้นไปคนเดียวจะดีหรอครับ”    แบ๊งค์ยังหวั่น ๆ ใจอยู่

“ขึ้นไปเถอะลูก  แม่ไม่ว่าอะไรหรอก”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ

“ต้องการอะไรก็โทรลงมาสั่งได้นะลูกนะ”    พ่อพี่อาร์ทพูดบ้างครับ

“งั้นแบ๊งค์ขอตัวนะครับ”    แล้วแบ๊งค์ก็ค่อยก้มตัวเดินออกจากห้องนั่งเล่น   แล้วเดินขึ้นไปตามบันได  แบ๊งค์ยังจำได้ดี ถึงแม้ว่าจะเคยมาแค่ไม่กี่ครั้ง  ตอนนี้แบ๊งค์ยืนอยู่ที่หน้าห้องพี่อาร์ทแล้ว  แบ๊งค์หลับตานิ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

แบ๊งค์ค่อย ๆ บิดลูกบิดเบา ๆ เพื่อไม่ให้คนในห้องรู้ตัว   สภาพห้องเปลี่ยนไปมาก  มีกองหนังสือวางระเกะระกะไปหมด   เสื้อผ้าที่ดูเหมือนว่าจะผ่านการใช้งานมาแล้วกองอยู่บนพื้น เต็มไปหมด  แบ๊งค์ค่อย ๆ ไล่สายตาไปจนเจอกับ......พี่อาร์ท

พี่อาร์ทนอนหลับอยู่บนเตียง  ในสภาพชุดที่เหมือนว่าไปเที่ยวมา  กลิ่นส่าเหล้ายังคงติดตัวอยู่   แบ๊งค์เลยยังไม่อยากกวน   แบ๊งค์เอากระเป๋าวางไว้ข้าง ๆ พี่อาร์ท  แล้วค่อย ๆ จัดแจงเก็บของที่รกอยู่เต็มห้อง  ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

แบ๊งค์เก็บเสื้อผ้าทั้งหมดใส่ตะกร้า   ซึ่งตอนนี้เสื้อผ้าเหล่านั้นล้นออกมาเป็นภูเขาแล้ว   จากนั้นแบ๊งค์ก็เก็บหนังสือ  และเอกสารที่หล่นอยู่เต็มห้อง  จัดเป็นหมวดหมู่  แล้วไปวางที่โต๊ะทำงาน  ที่โต๊ะทำงานมีกรอบรูปวางคว่ำหน้าอยู่   แบ๊งค์เลยจับหงายขึ้น  อ้าววว   รูปแบ๊งค์เองนี่นา  ถ่ายคู่ไว้กับพี่อาร์ท  ตั้งแต่ตอนที่คบกันใหม่ ๆ พี่เค้ายังเก็บไว้อีกหรอเนี่ย

แบ๊งค์ค่อย ๆ ขนตะกร้าเสื้อผ้าของพี่อาร์ทลงมาให้แม่บ้านครับ  ทุลักทุเลอยู่เหมือนกัน  แล้วแบ๊งค์ก็ขอให้ป้าแม่ครัวทำต้มโคล้งให้ครับ  เพราะตอนนี้พี่อาร์ทตื่นมาคงไม่สร่างเมาแน่ ๆ ให้ทานต้มโคล้งร้อน ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน

แล้วแบ๊งค์ก็เอาอ่างใบเล็ก ๆ ขึ้นไปหนึ่งใบครับ  เอาไปใส่น้ำอุ่นจะเช็ดตัวให้พี่อาร์ทน่ะ   แบ๊งค์เอาอ่างไปวาง   แล้วมานั่งข้างพี่อาร์ทครับ  เฮ้อ~~~~ไม่อยากทำแบบนี้เลย  แต่ขอโทษนะพี่อาร์ท  แบ๊งค์รำพึงในใจครับ  แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อพี่อาร์ทออกทีละเม็ด  จนหมด  หุ่นพี่อาร์ทยังดีเหมือนเดิมครับ

แบ๊งค์เอาผ้าที่ชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ ค่อย ๆ เช็ดที่หน้าพี่อาร์ทก่อนครับ   จากนั้นก็ค่อย ๆ เช็ดไล่ไปตามตัวของพี่อาร์ทครับ แล้วก็เหมือนพี่อาร์ทจะรู้สึกตัวแล้ว  แบ๊งค์เลยรีบชักมือกลับ  แต่ไม่ทันครับ  พี่อาร์ทคว้ามือแบ๊งค์เอาไว้

“ทำอาราย......”   พี่อาร์ทโวยวาย  เสียงงัวเงียครับ  แต่มือของพี่อาร์ทยังจับมือแบ๊งค์เอาไว้อยู่  แบ๊งค์ก็ได้แต่นั่งเฉย ๆ ไม่พูดอะไรครับ

“บ.....แบ๊งค์.........”    พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์ออกมาเบา ๆ ครับ  เมื่อพี่เค้าได้ตื่นขึ้นมาเต็มตา  แบ๊งค์ก็นั่งเฉย ๆ ไม่ตอบอะไรต่อไป

“มาได้ไงครับเนี่ย  ห้องพี่รกหน่อยนะ........ทำไมเป็นแบบนี้ได้เนี่ย”    พี่อาร์ทดูประหลาดใจ  ที่ห้องของตัวเองเป็นระเบียบ  ไม่รกเหมือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้

“ทีหลังทำอะไรหัดมีระเบียบซะมั่งนะ”   แบ๊งค์พูดแกมประชด

“แบ๊งค์ทำเองหมดเลยหรอ”   พี่อาร์ทถาม 

“อืม........ปล่อยมือแบ๊งค์ก่อนได้มั้ย”    แบ๊งค์พูด  พี่อาร์ทเลยรีบปล่อยมือออก

“ขอโทษครับ”   พี่อาร์ทกล่าวขอโทษออกมา

“อ่ะ.......ตื่นแล้วก็อาบน้ำเลยจะดีกว่านะ”    แบ๊งค์ เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วยื่นให้พี่อาร์ท

“.....................”   พี่อาร์ทไม่พูดอะไร  ได้แต่มองผ้าขนหนูที่แบ๊งค์หยิบมาให้  จากนั้นพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ยื่นมือมาเอาผ้าขนหนูจากมือแบ๊งค์   แล้วอยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็จับมือแบ๊งค์อีกครั้ง

“อึ้ย!!!!!  ทำอะไรน่ะ  ปล่อยนะพี่อาร์ท”   แบ๊งค์พยายามแกะมือพี่อาร์ออกครับ

“ขอพี่จับมือของแบ๊งค์หน่อยนะ  นี่พี่คงไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย”   พี่อาร์ทพูด  แล้วเอามือแบ๊งค์ไป แนบที่แก้มพี่อาร์ท   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยืนเฉย ๆ  พี่อาร์ทค่อย ๆ เงยหน้ามามองแบ๊งค์  แล้วเราก็ยืนจ้องตากันอยู่อย่างนั้น  จนกระทั่งมีคนมาเคาะประตูห้อง  พี่อาร์ทเลยปล่อยมือแบ๊งค์

แบ๊งค์ไปเปิดประตู   แม่บ้านเอาต้มโคล้งที่แบ๊งค์สั่งมาให้น่ะครับ   แบ๊งค์เลยยกเข้ามาวางที่โต๊ะทำงาน

“อ่ะ....ทานซะสิ  จะได้สร่างเมา”   แบ๊งค์พูด

“น้องแบ๊งค์....................ป้อนพี่ไม่ได้หรอครับ”    พี่อาร์ทค่อย ๆ พูดออกมาเหมือนจะไม่กล้าเท่าไหร่

“ทำไมล่ะ  ทานเองสิ”   แบ๊งค์แกล้งปฏิเสธไป

“ก็ทีตอนที่แบ๊งค์ป่วยวันนั้น  พี่ยังป้อนข้าวแบ๊งค์เลย”   พี่อาร์ทอ้างครับ

“แต่วันนั้นแบ๊งค์ไม่ได้ขอนะ  พี่อาร์ทอาสาเองนี่”    แบ๊งค์พูด

“ป้อนพี่หน่อยไม่ได้หรอครับ”    พี่อาร์ททำหน้าอ้อน ๆ ครับ   แบ๊งค์ก็เลยใจอ่อน  ยอมป้อนพี่อาร์ท  แบ๊งค์ตักน้ำแกงแล้วค่อย ๆ ยื่นช้อนไปหาพี่อาร์ท

“มันร้อนน่ะครับ  เป่าให้หน่อยสิ”    พี่อาร์ททำท่าอ้อน

“ก็ได้ ๆๆ “   แบ๊งค์ก็เลยต้องเป่า   ก่อนจะป้อนพี่อาร์ทครับ  พี่อาร์ทดูมีรอยยิ้มขึ้น  ตอนที่แบ๊งค์นั่งป้อนไป  พี่เค้าคงอาการดีขึ้นแล้วล่ะสิ   แบ๊งค์ก็นั่งป้อนพี่อาร์ทไป  จนพี่อาร์ทบอกว่าพอนั่นแหละครับ

“ตอบพี่ก่อนสิครับ  ว่ามาได้ยังไง”   พี่อาร์ทถาม

“ก็น้องแทมไปหาแบ๊งค์ที่มหาวิทยาลัย”

“บอกว่ามีคนทำตัวเสเพล   อยากให้แบ๊งค์ช่วยมาดูให้หน่อย”   แบ๊งค์บ่นไป ขณะที่เอาชามต้มโคล้งมาวางที่โต๊ะ

“ดูแล้วเป็นยังไงบ้างครับ   เริ่มรักพี่มากขึ้นมั้ย”   พี่อาร์ทเดินเข้ามกอดแบ๊งค์จากข้างหลังครับ  เล่นเอาแบ๊งค์ตกใจไปเหมือนกัน

“พี่อาร์ทปล่อยนะ  มากอดอะไรตอนนี้ล่ะ”    แบ๊งค์บ่น

“ให้พี่กอดหน่อยนะ  พี่คิดถึงตัวนิ่ม ๆ ของแบ๊งค์มากเลยรู้มั้ย”    พี่อาร์ทไม่พูดเปล่าครับ  หอมแก้มแบ๊งค์ไปอีกหนึ่งที

“พี่อาร์ท.....ไม่เอานะ   ไปอาบน้ำได้แล้ว”    แบ๊งค์พูด

“งั้นเดี๋ยวพี่มานะ”   แล้วพี่อาร์ทก็เข้าไปอาบน้ำครับ   แบ๊งค์เลยยกชามต้มโคล้งมาเก็บข้างล่าง  ตอนแรกแบ๊งค์ก็กะว่าจะล้างเองหรอก  แต่แม่บ้านน่ะสิ  ไม่ยอมแย่งแบ๊งค์ทำจนได้  แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ขอบคุณเค้าไป

แล้วแบ๊งค์ก็เดินไปเอากระเป๋าบนห้องพี่อาร์ทครับ  ดูเหมือนพี่เค้าจะยังอาบน้ำไม่เสร็จนะ  แบ๊งค์คว้ากระเป๋าแล้วเดินลงบันไดมา  เจอกับพวกคุณลุงคุณป้า  และน้องแทมพอดีครับ

“อ้าวแบ๊งค์  จะไปไหนหรอลูก”   แม่พี่อาร์ทถามครับ

“ตอนนี้  พี่อาร์ทอาบน้ำอยู่นะครับ”

“คงหมดหน้าที่แบ๊งค์แล้ว   ต้องขอตัวนะครับ”   แบ๊งค์กล่าวลา

“ไม่ได้นะคะ  พี่แบ๊งค์”

“ก็ไหนว่าจะค้างแล้วไง   แทมไม่ปล่อยให้กลับบ้านหรอกนะคะ”   น้องแทมทำท่างอน ๆ
“นั่นสิลูก  อยู่ทานข้าวก็ยังดีนะ”   แม่น้องแทมพูดครับ

“ไม่ได้หรอกครับคุณพี่   ผมว่าให้ลูกเค้าค้างด้วยเลยดีกว่านะ”   พ่อพี่อาร์ทพูดแย้งครับ

“ค้างเถอะลูก   อย่าขัดใจคนแก่เลย”   พ่อน้องแทมพูดขึ้นบ้างครับ

“..............................”    แบ๊งค์กำลังคิดอยู่ครับ  ว่าจะค้างดีรึเปล่า

“อ้าว....แบ๊งค์  จะไปไหนน่ะ”    พี่อาร์ทรีบวิ่งลงบันไดมาครับ

“แบ๊งค์เค้าจะกลับน่ะลูก  ตอนนี้แม่ก็พยายามขอให้เค้าค้างที่นี่อยู่”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่ได้นะ  มาแล้วก็ต้องค้าง  พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปเรียนอยู่แล้ว”   พี่อาร์ทพูดครับ

“นะคะ  พี่แบ๊งค์”   น้องแทมขออีกคนครับ

“ก.......ก็ได้ครับ”    แบ๊งค์ตอบไปแบบปฏิเสธไม่ลง

“แล้วนี่จะไปไหนหรอครับ”   พี่อาร์ทหันไปถาม พวกคุณลุงคุณป้าน่ะครับ

“จะไปทานข้าวเย็นน่ะลูก  มาก็ดีแล้ว  ทานด้วยกันเลย”   แม่น้องแทมพูดชวนครับ   แล้วเราก็ไปทานข้าวเย็นด้วยกันครับ   มื้อนี้เป็นมื้อใหญ่เลย  มีอาหารเต็มไปหมด  พี่อาร์ทก็เอาใจแบ๊งค์ใหญ่ตักโน่น ตักนี่ให้แบ๊งค์ตลอด  คุณลุงคุณป้า  ก็ได้แต่มองแล้วแอบยิ้ม  น้องแทมก็เลยแกล้งทำเป็นแซวพี่อาร์ทประมาณว่า  เอาใจแต่แบ๊งค์ ไม่เอาใจแทมเลย  เล่นเอาแบ๊งค์อายไปเลยครับ

พอทานข้าวเสร็จ  พี่อาร์ทก็ขอตัวผู้ใหญ่  พาแบ๊งค์ขึ้นไปบนห้อง  โดยบอกว่ามีเรื่องจะคุย  พอถึงห้องแบ๊งค์ก็ถามพี่อาร์ทครับ

“มีอะไรจะคุยหรอ”   แบ๊งค์ถามไป

“มาให้พี่กอดให้หนำใจก่อนนะ”   แล้วพี่อาร์ทก็เข้ามากอด  มาหอมแบ๊งค์ใหญ่เลยครับ

“พี่อาร์ท  ไม่เอานะ”   แบ๊งค์พยายามดิ้นครับ

“ขอพี่หน่อยนะ  คิดถึงจัดเลยไม่ได้หอมแบ๊งค์ซะตั้งนาน”    แล้วพี่อาร์ทก็เปลี่ยนมาเป็นกอดแบ๊งค์แทนครับ  เรามทั้งคู่ยืนนิ่ง ๆ

“ยิ่งคิด  พี่ก็ยิ่งเสียใจ”

“พี่ทั้งโกรธ  ทั้งเกลียดไอ้โป้งเลย”   พี่อาร์ทพูด  น้ำเสียงไม่พอใจครับ

“พี่อาร์ท....................ฟังแบ๊งค์นะ”   แบ๊งค์ผละออกจากพี่อาร์ท  แล้วจับมือของพี่อาร์เอาไว้ครับ

“อย่าโกรธพี่โป้งเลย   ตอนนี้เค้าสำนึกผิดทุกอย่างแล้ว”

“สิ่งที่เค้าสมควรจะได้รับจากการกระทำของเค้า   เค้าก็ได้รับไปอย่างสาสมแล้ว” แบ๊งค์พูด

“แต่พี่ว่ามันยังน้อยไป  มันต้องโดนมากกว่านี้อีกเป็นล้านเท่า”   พี่อาร์ทยังคงไม่พอใจ

“ตอนแรกแบ๊งค์ไม่ได้อยากมาหรอกนะ”

“แต่เพราะพี่โป้งขอหรอก  แบ๊งค์เลยมา”  แบ๊งค์พูดตามความจริง

“อ๋อ.....ที่มานี่เพราะไอ้โป้งใช่มั้ย  ถ้ามันไม่ขอแบ๊งค์คงไม่มาหรอกใช่มั้ย”

“พี่ต้องไปขอบคุณมันมั้ย   แบ๊งค์ถึงจะพอใจ”   พี่อาร์ทเริ่มโวยวายขึ้นมาอีก  ตอนนี้พี่อาร์ทปล่อยมือแบ๊งค์แล้ว

“พี่อาร์ทฟังแบ๊งค์ก่อนสิ  มันไม่ใช่แบบนั้น”   แบ๊งค์พยายามอธิบาย

“แบ๊งค์คงรักมันมากสินะ  ไปเถอะ  แบ๊งค์กลับไปหามันเถอะ”

“อย่ามาสนใจคนอย่างพี่เลย”   พี่อาร์ทพูดแบบน้อยใจ

“ทำไมล่ะ  จะกลับไปเสเพล อีกอย่างนั้นน่ะหรอ”   แบ๊งค์เริ่มไม่พอใจเหมือนกันนะครับ

“เอาสิ  ทำเลย  ถ้าทำแล้วมันสบายใจ”

“สนุกนักใช่มั้ยที่ตัวเองเสเพล  แล้วคุณป้าต้องนั่งร้องไห้  สนุกนักใช่มั้ย ที่ทำให้คนรอบข้างต้องเป็นห่วง”  แบ๊งค์พูดไป

“......................”   พี่อาร์ทนิ่งไป

“แล้วก็รู้ไว้ด้วยนะ  ว่าแบ๊งค์กับพี่โป้ง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน  นอกจากพี่น้อง”

“ใช่......เราอาจจะมีอะไรกัน  แต่มันก็เป็นแค่คืนนั้นคืนเดียว”   แบ๊งค์อธิบาย

“แล้วที่แบ๊งค์พูดถึงพี่โป้งเมื่อกี้น่ะ”

“แบ๊งค์ไม่ได้พูดให้พี่อาร์ทหึงหรือไม่พอใจหรอกนะ”

“แบ๊งค์ต้องการให้พี่อาร์ทเห็น   เห็นว่าพี่โป้งเป็นห่วงพี่อาร์ทมากมายแค่ไหน”    แบ๊งค์พูด

“แต่ยังไงมันก็หักหลังพี่นะแบ๊งค์  มันแย่งแบ๊งค์ไปจากพี่”   พี่อาร์ทพูดแล้วเดินไปที่ระเบียง
“แล้วเค้าแย่งไปได้มั้ยล่ะ   เค้าอาจได้ร่างกายแบ๊งค์ไปนะ แต่ผลสุดท้าย  เค้าก็เป็นได้แค่พี่ชาย  เค้าเทียบอะไรกับพี่อาร์ทได้บ้างล่ะ”    แบ๊งค์พูด

“แต่............”   พี่อาร์ทกำลังจะพูด

“แบ๊งค์ไม่ยอมหรอกนะ  ถ้าแบ๊งค์จะต้องเป็นชนวนที่ทำให้  มิตรภาพระหว่างพี่อาร์ทกับพี่โป้งต้องพังทลายลง”   แบ๊งค์พูด

“พี่อาร์ท....อดีตที่มันขมขื่นน่ะ  เราปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ  อย่าไปจดจำมันเลย”   แบ๊งค์เดินเข้าไปยืนข้าง ๆ พี่อาร์ทแล้วพูด

“บางทีอดีตที่ขมขื่นอาจให้อะไรดี ๆ กับเราภายหลังก็ได้”

“อย่างแบ๊งค์   ตอนนี้แบ๊งค์ได้พี่ชายที่ดีที่สุดมาหนึ่งคนไง”    แบ๊งค์พูด  แล้วเราก็หันหน้ามามองกัน

“แบ๊งค์กับโป้งเป็นพี่น้องกันจริง ๆ หรอ”   พี่อาร์ทถามครับ

“อืม.....เราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยต่อกันแล้ว”

“เชื่อแบ๊งค์เถอะ”   แบ๊งค์พูด

“ครับ........พี่รักแบ๊งค์นะ”   แล้วพี่อาร์ทก็โอบเอวแบ๊งค์ไว้ครับ   แล้วเราสองคนก็ยืนดูดาวด้วยกัน  แบ๊งค์รู้สึกอบอุ่นจังเลย  ที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของพี่อาร์ทแบบนี้  อ้อมแขนที่แบ๊งค์ไม่ได้สัมผัสมันมานานแสนนาน
**********************************
จบ
.
.
.
.
.
.
.
ซะเมื่อไหร่  :o10:
อยากหยุดแค่ตรงนี้จังเลยคับ.......  :o11:หยุดได้มั้ย...ได้มั้ย  แต่อย่าเลยเอาให้จบเถอะเนอะ
:bye2:คับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 18-06-2007 23:20:10
ตกลงยังไม่จบใช่ป่ะ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แต่จบก็ดีนะ
อยากให้คู่กะพี่อาร์ทนี่นา

กลัวว่าต่อไปมันจะไม่ใช่อย่างงี้อ่ะดิ่
 :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 18-06-2007 23:27:37
ถ้าจบมีโกรธ  o12

ยังมะเคลียร์กะกาวเลย  :serius2:

แล้วพี่ตั้ม(แอบชอบ) กับปริ้นซ์(ชอบแบบไม่แอบ) หล่ะ  :haun5:

BrOwNiE แต่งเก่งนะคับเนี่ย พี่โป้งได้ใจไปเต็มๆ เลยตอนนี้ (จากตอนแรกไม่ชอบอย่างแรง)  o13

ยินดีกับแบงค์และพี่อาร์ทด้วยนะคับ (ครอบครัวเป็นใจหมดเลย ดีจัง หุหุ)  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 19-06-2007 04:16:54
   นั่งเด็ดดอกกุหลาบ...

   จบ  ไม่จบ  จบ ไม่จบ  จบ  ไม่จบ...

   เง้อว..ตกลงจบป่าวงะคับ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-06-2007 13:37:32
ที่จิงก็อยากให้จบแบบนี้ กลัวต่อไปมันจะเศร้า  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 19-06-2007 13:58:42
ลำบากใจจริงๆเอาอย่างนี้น่ะ o1 o1 o1
วันจันทร์ไปนอนกับพี่โป้ง :teach: :teach:
วันอังคารนอนกับแมค o19 o19
วันพุธนอนกับปริ้นซ์ :m14: :m14:
วันพฤหัสนอนกับตั้ม :m3: :m3:
วันศุกร์นอนกับกาว :m1: :m1:
วันเสาร์นอนกับพี่แบ็งค์   :m4: :m4:
ส่วนวันอาทิตย์ตัวละครหมดเพิ่มอีกตัวนอนกับภูผาละกัน :laugh3:  :laugh3: ตัวเอกโผล่ตอนจบ
ครบอาทิตย์พอดีเดือนเดียวบา...................................5555
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-06-2007 17:10:02
จบแล้วจิงๆ เหรอ

มันค้างคาหนา

 :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-06-2007 19:04:40
จบเถอะ จบแล้วละ จบแบบนี้ดีแล้ว  :m5:  :m5:
เพราะถ้ายังไม่จบนี่ อาจมีเศร้า  :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 19-06-2007 20:42:57
 :m13:
**********************************
บทที่ 49 อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ตลอดไป


แล้วก็มาถึงตอนเข้านอนครับ  พี่อาร์ทยิ้มอย่างมีเลศนัย  เอ.......หรือว่ายิ้มอย่างมีความสุขกันแน่ฟระ  ดูไม่ออกเลยจริง ๆ

“ยิ้มอะไรพี่อาร์ท “   แบ๊งค์ถาม

“ก็มีความสุขยิ้มไม่ได้หรอครับ”   พี่อาร์ทตอบกลับมา

“ไหน ๆ แบ๊งค์ก็อุตส่าห์มาบ้านพี่อาร์ททั้งทีแล้วนะ”   

“เพราะฉะนั้น  แบ๊งค์ขอนอนบนเตียง”   แบ๊งค์พูด

“ได้สิครับ  ยังไงแบ๊งค์ก็ต้องนอนบนเตียงกับพี่อยู่แล้ว”   พี่อาร์ทพูดแล้วยิ้มตามเดิม

“ใครบอกว่าแบ๊งค์จะนอนกับพี่อาร์ท”

“แบ๊งค์ต้องนอนบนเตียง  พี่อาร์ทน่ะลงไปนอนกับพื้นเลย”    แบ๊งค์พูด

“อะไรน่ะ  นี่ห้องพี่นะครับ”   พี่อาร์ทพูดแบบงอน ๆ

“งั้นแบ๊งค์กลับไปนอนคอนโดก็ได้ ไปล่ะ”    แบ๊งค์ทำท่าจะเดินหนี

“ก็ได้ครับ ๆ  น้องแบ๊งค์นอนเตียงพี่นี่แหละ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ดีมาก  อ่ะหมอนเอาไปนอนบนพื้นซะนะ”   แบ๊งค์พูดพลางยืนหมอนให้พี่อาร์ทครับ

“ครับ.............”   พี่อาร์ททำท่าเศร้า ๆ แต่ก็รับหมอน  แล้วไปนอนบนพื้นแต่โดยดี  แล้วแบ๊งค์ก็นอนบนที่นอนนุ่มสบาย  แล้วเราก็ปิดไปนอนกัน  ความจริงแบ๊งค์ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกนะ  แค่แกล้งพี่เค้าเล่น ๆ ก็เท่านั้น
พอผ่านไปซักพัก  เมื่อแบ๊งค์แน่ใจว่าพี่อาร์ทหลับไปแล้วแบ๊งค์ลงไปนอนข้าง ๆ พี่อาร์ท แล้วห่มผ้าห่มผืนเดียวกัน  แบ๊งค์พยายามเข้าไปใกล้ ๆ พี่อาร์ทครับ  แล้วอยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็กอดแบ๊งค์ครับ   

“ลงมานอนกับพี่ทำไมครับ”   พี่อาร์ทลืมตาถาม

“แกล้งหลับหรอ  รู้งี้ไม่ลงมาดีกว่า”   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“ถ้าไม่แกล้งจะได้นอนกับแบ๊งค์หรอ”   พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์ขอโทษนะ  ปวดหลังมากมั้ย”   แบ๊งค์ถามพี่อาร์ทไปครับ

“ไม่เป็นไรหรอก  ถึงจะปวดหลัง  แต่ได้นอนอยู่ข้าง ๆ แบ๊งค์พี่ก็ยอม”    พี่อาร์ทพูดครับ

“เลิกน้ำเน่าได้แล้ว”    แบ๊งค์พูด

“น้ำเน่าแล้วยิ้มทำไม  ถึงจะมืดแต่พี่ก็เห็นนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“............................”    แบ๊งค์เลยไม่ตอบอะไร

“แบ๊งค์...................คืนนี้พี่ขอนะครับ”   พี่อาร์ทพูด แล้วจูบที่หน้าผากแบ๊งค์

“ขออะไรหรอ”    แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้

“นี่แน่ะ   ทำเป็นเด็กไร้เดียงสาไปได้นะ”   พี่อาร์ทเขกหัวแบ๊งค์เบา ๆ ไปหนึ่งทีครับ

“เจ็บนะ  พี่อาร์ทอ่ะ”   แบ๊งค์พูดทำเสียงงอแง

“อย่างนี้ต้องโดนทำโทษ”   แล้วพี่อาร์ทก็อุ้มแบ๊งค์ไปวางบนเตียง   จากนั้นพี่อาร์ทก็เริ่มประกบจูบกับแบ๊งค์    แล้วพี่อาร์ทก็ค่อนเลื่อนลงมาไซร้ซอกคอแบ๊งค์   โดยที่แบ๊งค์ไม่ขัดขืนอะไร
พี่อาร์ทถอดชุดนอนของตัวเองออก  จากนั้นก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนของแบ๊งค์ทีละเม็ด ๆ จนหมด   แล้วพี่อาร์ทก็เลียวน ๆ ที่ยอดอกของแบ๊งค์

“อ๊า...........”   แบ๊งค์ร้องออกมาด้วยความเสียว

“พี่คิดถึงแบ๊งค์มากนะครับ”   พี่อาร์ทพูด  จากนั้นก็ค่อย ๆ ถอดกางเกงนอนของแบ๊งค์ออกไป  จนตอนนี้เราทั้งคู่เปลือยเปล่า    แล้วพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ดันท่อนเนื้อของพี่อาร์ทผ่านแทรกเข้ามาในร่างกายแบ๊งค์   มันจุกมากเลยครับ  ทั้งจุกทั้งเจ็บ

“ทนหน่อยนะแบ๊งค์”  พี่อาร์ทพูดครับ

“อือ...............”    แบ๊งค์ตอบออกมา   แล้วพี่อาร์ทก็เริ่มซอยเบา ๆ ทั้งแบ๊งค์และพี่อาร์ทต่างครางกระเส่าไม่เป็นภาษา  พี่อาร์ทเริ่มซอยแรงขึ้นเรื่อย ๆ แบ๊งค์รู้สึกเจ็บ และเสียวปนกันไป จนทนไม่ไหว เอามือจับต้นแขนพี่อาร์ทไว้ โดยที่พี่อาร์ทก็ยังคงซอยต่อไป  จนในที่สุด พี่อาร์ทก็เสร็จในตัวแบ๊งค์

“พี่รักแบ๊งค์มากรู้มั้ยครับ”   พี่อาร์ทก้มลงมากระซิบที่ข้างหูแบ๊งค์  จากนั้นพี่อาร์ทก็จูบแบ๊งค์ไปอีกหนึ่งที ก่อนที่เราจะหมดแรง เผลอหลับไปด้วยกัน

แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นมาด้วยความอ่อนเพลียครับ   พี่อาร์ทหายไปไหนนะ  ไม่ได้นอนอยู่ข้าง ๆ แบ๊งค์นี่นา  สงสัยคงลงไปหาอะไรทานแล้วล่ะมั้ง   แบ๊งค์เลยไปอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยเตรียมที่จะกลับคอนโดครับ   
พอจัดแจงแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยก็ออกห้องมาเลยครับ  กะว่าจะลงไปข้างล่าง จะได้กลับบ้านซักที  พอเดินลงมาตามบันไดก็ได้ยินเสียงเปียโนดังขึ้นครับ  เหมือนว่าจะมีคนร้องเพลงคลอเสียงเปียโนไปด้วยนะ  แบ๊งค์เลยเดินตามเสียงไปเรื่อย ๆ
จนแบ๊งค์ไปหยุดที่โถงรับแขก  ซึ่งตรงกลางโถงจะมีเปียโนตั้งอยู่  พวกคุณลุงคุณป้าและน้องแทมนั่งอยู่ที่โซฟาอีกฝั่ง  และพี่อาร์ท........กำลังนั่นเปียโนอยู่  พี่อาร์ทร้องเพลงคลอไปด้วย  แล้วมองมาที่แบ๊งค์


บทเพลงเพลงนี้ถ่ายทอดจากความรู้สึก
ส่วนลึกข้างในจิตใจที่เขามีให้
และเขานั้นไม่เคยให้ใคร ความจริงที่เก็บซ่อนภายใน
วันนี้เขาขอได้ไหมสักครั้ง

ได้ไหม ให้เขานั้นระบายความรักเป็นเพลงให้ฟัง
ให้หัวใจของเขาอย่างน้อยได้มีความหวัง
ว่าคนที่เขานั้นแอบรักจะได้ฟังสักที
ถึงแม้จะฟังแล้วไม่สนใจ ก็ยังดี


แบ๊งค์หยุดยืนฟังที่ประตูจนกระทั่งพี่อาร์ทเล่นไปจนจบ  แล้วพวกคุณลุงคุณป้าปรบมือนั่นแหละ  แบ๊งค์ถึงได้รู้สึกตัว

“ตื่นแล้วหรอลูก   มานั่งฟังพี่เค้าเล่นเปียโนกันก่อนป่ะ”   แม่พี่อาร์ทชวนครับ

“ไม่เป็นไรครับ  แบ๊งค์มาลาน่ะครับ”

“จะขอตัวกลับก่อน”    แบ๊งค์พูด

“นั่งฟังพี่เค้าเล่นอีกซักเพลงนะลูก  เดี๋ยวค่อยให้พี่เค้าไปส่ง”   พ่อพี่อาร์ทพูดบ้างครับ

“ไม่อยากฟังพี่เล่นเปียโนหรอ”   พี่อาร์ททำท่างอน ๆ

“เปล่า ๆๆ ไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย”   แบ๊งค์พูด

“งั้นก็มานั่งกับแทมนะคะ”    แล้วน้องแทมก็วิ่งมา ลากแบ๊งค์ไปนั่งข้าง ๆ กันครับ

“พี่อาร์ทเค้าอารมณ์ดี  นั่งเล่นเปียโนตั้งแต่เช้าแล้วรู้มั้ย”   น้องแทมกระซิบมาครับ

“หรอ  ก็ว่าไม่เห็นอยู่บนห้อง ตอนที่พี่ตื่น”   แบ๊งค์กระซิบกลับ

“เพลงนี้ให้เด็กดื้อบางคนก็แล้วกันนะ  ฟังล่ะ”   พี่อาร์ทพูดครับ  แค่นั้นแหละ คุณลุงคุณป้าทั้งหลาย หันมามองหน้าแบ๊งค์กันใหญ่  แบ๊งค์เลยได้แต่อายนั่งก้มหน้า (-//////-)


มีคนๆหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อมทุกอย่าง และยังเป็นคนไม่ค่อยน่าสนใจ
เขาไม่ได้ทำอะไรที่ดูมีความหมาย เป็นแค่คนหนึ่งคน

หน้าตาก็ธรรมดาค่อนข้างไม่พิเศษ ไม่ค่อยสวยงามอย่างคนไหน
และยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ไม่ๆซักอย่าง

แต่ที่คนนี้เขามีคือความรัก ความรักที่ยิ่งใหญ่
ถ้าหากว่าเขามอบให้กับใคร เขาให้ตลอดกาล

คำถามก็คือเธออยากชอบคนไม่พิเศษ ไม่ค่อยสวยงามอยู่บ้างไหม
เพราะคนๆหนึ่งที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ หลงรักเธอมานานแล้ว


พี่อาร์ทเปลี่ยนเพลงแล้วครับ  ยิ่งฟังก็ยิ่งอาย  คุณลุงคุณป้า ต่างก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“เพลงนี้เพราะจังนะคะ  พี่แบ๊งค์ว่ามั้ย”    น้องแทมแกล้งหันมาถามครับ

“ขอบคุณมากนะลูก  ที่ทำให้อาร์ทกลับมาเป็นคนเดิม”   พ่อพี่อาร์ทพูดขึ้น

“นั่นสิ.....แม่ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีแล้ว”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่ต้องถึงกับตอบแทนหรอกครับ  แค่เมื่อคืน  คุณลุงคุณป้าให้ที่พักแบ๊งค์”

“แบ๊งค์ก็ขอบคุณ คุณลุงคุณป้ามากแล้วครับ”   แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์พูดไม่เพราะเลยนะลูก”   แม่น้องแทมพูดขึ้นครับ  เอ....แบ๊งค์พูดผิดตรงไหนเนี่ย

“พี่แบ๊งค์พูดไม่เพราะตรงไหนหรอคะ”   น้องแทมก็งง ๆ เหมือนกันกับแบ๊งค์

“ก็เรียกคุณลุงคุณป้าอยู่ได้  ไม่เพราะเลยนะลูก”

“เรียกคุณพ่อ คุณแม่จะดีกว่านะ”    แม่น้องแทมพูดแล้วอมยิ้มครับ

“ใช่จริง ๆ ด้วยค่ะ  เรียกคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว”   น้องแทมเห็นด้วยซะงั้นน่ะ

“...........................”   แบ๊งค์ได้แต่อายครับไม่พูดอะไร พี่อาร์ทเล่นเปียโนไปเรื่อย ๆ จนมาถึงท่อนสุดท้าย

ถ้ามีคนหนึ่งที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจ มาขอรักเธอจะยอมไหม

แล้วพี่อาร์ทก็หยุดหันมาทางแบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์ก็เลยนั่งอายต่อไป  พี่อาร์ทก็เล่นท่อนนี้ซ้ำอีก  แบ๊งค์ก็ยังคงเงียบ พี่อาร์ทก็เลยเล่นซ้ำต่อ

“เล่นซ้ำทำไมหรอลูก”   พ่อน้องแทมถามครับ

“ก็ผมกำลังถามใครบางคนอยู่  แต่เค้าไม่ยอมตอบน่ะครับ”

“ผมเลยต้องถามซ้ำ”   พี่อาร์ทอธิบายครับ   ทุกคนเลยหันหน้ามามองแบ๊งค์กันหมด

“ตอบไปเลยค่ะพี่แบ๊งค์”  น้องแทมเชียร์ครับ

ถ้ามีคนหนึ่งที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจ มาขอรักเธอจะยอมไหม

พี่อาร์ทเลยเล่นซ้ำอีกรอบครับ  คราวนี้ทุกคนหันมาจ้องแบ๊งค์อีกรอบ  เหมือนจะรอคำตอบจากปากของแบ๊งค์

“ตอบไปเลยลูก”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ
“ยอม.........ครับ”    แบ๊งค์ก็เลยต้องตอบ แล้วทุกคนก็ยิ้มกันใหญ่  แล้วปรบมือ  เล่นเอาแบ๊งค์อายหน้าแดงจนจะระเบิดเลย

แล้วพี่อาร์ท  ก็ขับรถมาส่งแบ๊งค์ครับ  ระหว่างทางแบ๊งค์ก็นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไร  พอดีคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ

“เป็นอะไรรึเปล่า  นั่งเหม่ออยู่ได้”   พี่อาร์ท

“เปล่า  คิดอะไรไปเรื่อย ๆ น่ะ”  แบ๊งค์พูด

“กลับมาคบกับพี่อีกครั้งนะ แบ๊งค์”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่เอาหรอก   แบ๊งค์ไปหาคนใหม่ดีกว่า”   แบ๊งค์แกล้งพูดครับ

“ไม่ยอมหรอก  งั้นพี่ไม่สน แบ๊งค์เป็นแฟนพี่แล้ว  ไม่ว่ากรณีใด ๆ”  พี่อาร์ทพูดครับ

“เผด็จการน่ะ  พี่อาร์ท”   แบ๊งค์แกล้งโวยวาย

“เผด็จการอะไร  ประชาธิปไตยตะหาก”  พี่อาร์ทแย้งมา

“ประชาธิปไตยตรงไหน”    แบ๊งค์ยังงง ๆ ในคำพูดพี่อาร์ท

“ไม่เชื่อก็ไปถามคนอื่นดูสิ”

“ว่าเค้าอยากให้เรากลับมาคบกันรึเปล่า  พี่ทำตามเสียงข้างมากแล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่เอาแล้ว  ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว”  แบ๊งค์ทำเป็นงอนครับ  ไม่ใช่อะไรหรอก อายน่ะ   แล้วพี่อาร์ทก็ขับรถมาส่งแบ๊งค์ที่คอนโดครับ  ตอนแรกพี่อาร์ทจะไปส่งบนห้อง  แต่แบ๊งค์บอกไม่เป็นไร  แต่กว่าจะกล่อมพี่เค้าได้ก็นานอยู่เหมือนกัน

“งั้นแบ๊งค์ไปก่อนนะพี่อาร์ท”   แบ๊งค์พูด

“เดี๋ยว...อย่าเพิ่งไป”   พี่อาร์ทพูด พร้อมกับดึงแขนแบ๊งค์เอาไว้

“มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถาม  แล้วพี่อาร์ทก็ดึงตัวแบ๊งค์เข้าไป  จากนั้นพี่อาร์ทก็ประกบจูบลงที่หน้าผากของแบ๊งค์

“แค่นี้แหละ   แล้วเอาไว้เจอกันนะ”   พี่อาร์ทพูด  แบ๊งค์เลยลงรถมาแบบอาย ๆ แล้วเดินกลับห้องไป  พอเข้าห้องพี่นุ่นก้แซวเลยครับ

“เป็นไงบ้างจ๊ะ เกย์น้อย”

“หายไปทั้งคืน  คงมีอะไรคืบหน้าบ้างนะ”   พี่นุ่นแกล้งถามครับ

“อะไรหรอ  มีอะไร”   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“อ่ะนะ  ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”   พี่นุ่นแซวต่อ

“หิวน้ำจัง  ไปดื่มน้ำดีกว่า”   แบ๊งค์เลยเดินเข้าในครัว  เปิดตู้เย็นแล้วเอาน้ำออกมาดื่ม

“เสียน้ำไปเยอะรึไงจ๊ะ”  พี่นุ่นแซวมา  เล่นเอาแบ๊งค์แทบจะสำลักน้ำ

“บ้าน่ะเจ้  พูดอะไรเนี่ย”  แบ๊งค์ดื่มน้ำเสร็จแล้วรีบเข้าห้องไปเลย   ในใจก็นึกขำในคำพูดของพี่นุ่น อ่ะนะ สงสัยเสียน้ำไปเยอะอย่างที่ว่าแน่ ๆ เลย ( หุหุ )   ตอนนี้แบ๊งค์เลยรู้สึกง่วง ๆ ก็เลยเข้านอนไป

มาถึงแล้วครับเช้าวันใหม่  ที่แบ๊งค์ต้องไปเรียนตามปกติ  วันนี้แบ๊งค์ก็มานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมครับ  ที่โต๊ะยังไม่มีใครมาซักคนเลย  ซักพักก็มีคนเดินเข้ามา  ไม่ใช่ใครหรอก กาวนั่นเอง

“มาแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะ”   กาวทักขึ้นครับ

“อืม.......”   แบ๊งค์ตอบไปสั้น  นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ทางเดินบนตึกมา  แบ๊งค์ได้คุยกับกาวแค่ที่ร้านขายขนมเท่านั้น  นอกจากนั้นเราก็ไม่เคยได้คุยกันอีกเลย

มันเป็นอารมณ์ที่บอกไม่ถูกอ่ะครับ  ไม่รู้จะโกรธหรือไม่โกรธดี  ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปคุยกับมัน  แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกแปลก ๆ จากการกระทำของมันในครั้งนั้น   ไม่รู้จริง ๆ ว่ามันทำไปเพื่ออะไร

“ทานอะไรเปล่าเดี๋ยวเราจะไปซื้อขนม”   กาวถามมาครับ

“ไม่ล่ะ เราไม่หิว”   แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ   แล้วเราก็ยังคงไม่พูดกันเหมือนเดิม  แต่ช่วงนี้กาวมันมีอะไรแปลก ๆ ไปหลายอย่างเลยนะ  ไม่รู้มันทำไปทำไม   แล้วปรินซ์ก็ดูเหมือนจะไปติดกาวซะงั้น  กลายเป็นคู่หูกันไปเลย
เดี๋ยวนี้แบ๊งค์ไม่ค่อยเจอพี่โป้งเลยครับ  หายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว  คงเป็นเพราะแบ๊งค์อยู่กับพี่อาร์ทล่ะมั้ง  พี่โป้งเลยไม่กล้าเข้าไปหา  ตอนนี้แบ๊งค์จะไปดูหนังกับพี่อาร์ทครับ  เราก็เลยกำลังจะเดินไปลานจอดรถครับ

“ช่วงนี้พี่อาร์ทได้เจอพี่โป้งรึเปล่าครับ”  แบ๊งค์ถามไป

“ไม่อ่ะ  พี่ก็ตามหามันอยู่เหมือนกัน”  พี่อาร์ทพูด

“หายไปไหนไม่รู้เลยจริง ๆ”   แบ๊งค์ได้แต่ทำหน้าเศร้า ๆ แล้วขณะที่เราเดินไปเกือบจะถึงรถแล้วนั้น  สายตาแบ๊งค์ก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง  ผู้ชายคนที่แบ๊งค์ต้องการเจอในขณะนี้  พี่โป้งนั่นเอง

“พี่อาร์ทนั่นพี่โป้งนี่”   แบ๊งค์รีบเรียกให้พี่อาร์ทดู

“ใช่  ไอ้โป้งจริง ๆ ด้วย  ไปหามันกันเหอะ”   แล้วเราสองคนก็รีบเดินเข้าไปหาครับ  แต่เหมือนว่าพี่โป้งหันมาเห็นเราทั้งคู่พอดี  ก็เลยรีบเดินหนีไป  มีหรอแบ๊งค์จะยอม  แบ๊งค์เลยรีบวิ่งไปคว้ามือพี่โป้งไว้

“พี่โป้ง  จะไปไหนน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์รีบปล่อยมือพี่เถอะครับ   เดี๋ยวไอ้อาร์ทมันจะหึง”   พี่โป้งพูด

“หึงอะไรวะ  เมริงก็เพื่อนกรูส์นะเว้ย”  พี่อาร์ทที่วิ่งตามมาพูดขึ้น

“ไอ้อาร์ท..............เมริงไม่โกรธกรูส์แล้วหรอ”   พี่โป้งถามพี่อาร์ทไปแบบหวั่น ๆ

“กรูส์ไม่โกรธเมริงแล้วล่ะ  วันนั้นกรูส์เอาคืนไปแล้ว”  พี่อาร์ทพูดแล้วยักคิ้วให้พี่โป้งไปหนึ่งที  พี่โป้งก็ได้แต่มองหน้าแบ๊งค์กับพี่อาร์ทสลับกันไปมา

“ขอบใจเมริงนะไอ้อาร์ท”  พี่โป้งพูดเสียงสั่น ๆ

“ไม่เป็นไร  ก็เมริงเป็นเพื่อนกรูส์นี่”   พี่อาร์ทโผเข้ากอด  ก่อนจะพูดขึ้น  แล้วเอามือตบบ่าพี่โป้งเบา ๆ  ดูเหมือนพี่โป้งจะมีน้ำปริ่มอยู่ที่ขอบตานะ พอพี่อาร์ทผละออกมาก็เห็นเหมือนกัน

“อะไรวะ  แค่นี้ร้องไห้เลยหรอ ทำตัวเป็นไอ้แบ๊งค์ไปได้”    พี่อาร์ทแซวครับ พี่โป้งเลยรีบเช็ดน้ำตาที่กำลังจะไหล

“อะไรง่ะ  เกี่ยวอะไรกับแบ๊งค์น่ะ”    แบ๊งค์โวยเล็กน้อยครับ

“ก็จริงมั้ยล่ะ ฮะฮะฮะ”   พี่อาร์ทหัวเราะออกมาเบา ๆ ครับ

“ไม่เอาแล้ว   พี่โป้งไปดูหนังด้วยกันนะ”   แบ๊งค์พูดกับพี่อาร์ท  แล้วหันไปชวนพี่โป้งครับ

“จะดีหรอครับ  ก็แบ๊งค์จะไปกับอาร์ท”   พี่โป้งพูดเสียงเบา ๆ

“เฮ้ย...ไปหลาย ๆ คนนั่นแหละสนุกดี”

“ไปกับกรูส์นะเว้ย”   พี่อาร์ทชวนครับ

“ไม่ต้องตอบแล้ว  ไปกันเถอะ ป่ะพี่อาร์ท”   แล้วแบ๊งค์ก็ลากพี่โป้งไปครับ

“ชักช้าเสียเวลากันพอดี  ไปก็ไป”   แล้วพี่อาร์ทก็เดินไปด้วยกันครับ  แล้วเราก็ไปดูหนังด้วยกัน  จากนั้นก็ไปทานข้าวด้วยกันอีก   แบ๊งค์ดีใจจัง  ที่ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว คงไม่มีอะไรอีกแล้วนะ  ทุกอย่างคงจะดีแบบนี้ตลอดไป
**********************************************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-06-2007 20:48:23
เคยอ่านเรื่องนี้จากอีกบอร์ดมา เป็นเรื่องที่ทำให้หันมาอ่านนิยายแนวนี้เลย

อ่านแล้วร้องไห้ ดีใจ ปนกันไปตลอดเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 19-06-2007 20:59:26
จุ๊..จุ๊ นะค้าบ o15 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-06-2007 21:07:01
จุ๊..จุ๊ นะค้าบ o15 o15

จุ๊..จุ๊ โอเคค้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 19-06-2007 21:14:06
กาว กาว กาว   เราไปนั่งกินแห้วด้วยกันดีกว่า  แปะๆๆๆ ไปกัน

แฮะๆๆๆๆ  มีเรื่องส่วนตัวมาปนในเมนต์นิดหน่อย


 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-06-2007 23:40:01
แบ๊งค์ดีใจจัง  ที่ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว คงไม่มีอะไรอีกแล้วนะ  ทุกอย่างคงจะดีแบบนี้ตลอดไป

ไอ้ลงท้ายไว้อย่างงี้อ่ะแหละน่ากลัวว่ามันจะมีอะไร
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-06-2007 02:14:29
หวังว่าเรื่องนี้คงไม่เศร้านะ  :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 20-06-2007 15:12:46
จะมีอะไรร้ายแรงอีกป่าวน่ะ :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-06-2007 15:34:14
ยังวุ่นวายไม่เลิก

แต่สงสัย กาวคงได้กะปริ้นซ์

ชิชิ

 o9 o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 20-06-2007 18:52:48
ดีใจมากมายมาคืนดีกันแว้ว  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-06-2007 19:59:48
อย่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย  :m5:  :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 20-06-2007 21:12:46
มันต้องมีเรื่องร้ายแน่นอนครับ

เพราะสุดท้ายแล้ว แบงค์ต้องรักกับกาว   (เชียร์กาวออกนอกหน้าไปมั้ยเนี่ย    เฮ้อ! หวังลมๆ แล้งๆ)


 :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 20-06-2007 23:26:09
ผมทำให้กังวลกันรึเปล่าคับเนี้ย ไม่มีอะไรหรอกม๊างง ผมแค่เห็นว่ามันเหมือนว่าน่าจะจบ (ถึงจะค้างใจเพื่อนแบงค์ก็เถอะน่า)
ก็เลยหยอดไปแบบนั้นอ่ะ :m7: โทดทีค้าบ
******************************
บทที่ 50 ปฏิบัติการขอคืนดีของนายกาว


“เฮ้อ~~~”   ผมถอนหายใจออกมา

“เป็นอะไรไปพี่ถอนหายใจซะ”   ปรินซ์เข้ามาถามครับ

“ก็พี่ยังไม่ค่อยจะได้คุยกับแบ๊งค์เลยน่ะสิ”    ผมบอก

“อ้าว....ยังไม่ได้คุยกันอีกหรอ”    ปรินซ์ถาม

“ก็คุยนะ  แต่ไม่ได้คุยกันเหมือนเดิมน่ะ”   ผมบอกไป

“ยังไงหรอ”   ปรินซ์ทำท่าทางงง ๆ

“ก็ปกติเราพูดกันมากกว่านี้  แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าถามคำตอบคำ”   ผมตอบออกไป

“งั้นผมพี่ว่าเรามาเริ่มปฏิบัติการกันเถอะ”   ปรินซ์ลุกขึ้นแล้วพูดครับ

“ปฏิบัติการอะไรวะ”   ผมถาม
 
“ปฏิบัติการขอคืนดีไงล่ะครับ”   ปรินซ์พูดแล้วยิ้มแบบมีเลศนัยครับ   เฮ้อ~~~ เอาวะ ทำก็ทำ  ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่หว่า

ปฏิบัติการที่ 1 ลอกล่อด้วยของ
“พี่รู้รึเปล่า  ว่าแบ๊งค์ชอบกินขนมอะไร”   ปรินซ์ถามผม

“รู้สิ  ก็ขนมพวกชอคโกแลตไง”   ผมตอบไป

“งั้นไปซื้อมา  เอาแบบเยอะ ๆ เลยนะพี่”   ปรินซ์พูด

“ทำไมต้องซื้อมาเยอะ  ๆ ด้วยวะ”   ผมถามแบบงง ๆ

“เอาน่า  ซื้อมาเยอะ ๆ ก็แล้วกัน”   ปรินซ์พูด  แล้วผมก้ทำตามครับ  ไปซื้อมาแทบทุกอย่าง  ที่มีชอโกแลตปะปน  แล้วปรินซ์มันก็ให้ผมเขียนจดหมายลงไปด้วยครับ

“ทำไมกรูส์ต้องเขียนด้วยวะ”   ผมโวยวายไป

“อ้าว....ถ้าไม่เขียนเค้าจะรู้มั้ยล่ะว่าเป็นของพี่กาว”   ปรินซ์พูด

“แต่กรูส์เขียนไปม่เป็นนี่หว่า”   ผมบอกไปตามจริง

“งั้นเขียนตามที่ผมพูดก็แล้วกัน”    แล้วผมก็เขียนตามที่มันพูดครับ  แต่ไม่ได้เขียนฉบับเดียวหรอกนะ  แก้อยู่หลายแผ่นเหมือนกัน  ก็บางคำ ไม่รู้เจ้าปรินซ์ไปเสาะแสวงหามาจากไหน น้ำเน่ามาก ๆ  ผมก็เขียนออกมาจนได้ฉบับที่ผมคิดว่าดีที่สุด ( สำหรับผมนะ )

ถึง............แบ๊งค์
   เราขอโทษในทุกสิ่งที่ทำไป  มันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบของเรา
อารมณ์ของพวกที่โง่เขลา  หวังว่าแบ๊งค์คงไม่โกรธเราหรอกนะ  กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ
จาก.....กาว


นั่นแหละครับ  เป็นจดหมายที่ผมเขียนไป  คิดไม่ออกจริง ๆ แต่ยังไงก็ยังดีกว่าคำน้ำเน่าไอ้เจ้าปรินซ์มันคิดมาให้ผมซะอีก

“แล้วทำไงต่อล่ะ”    ผมถามเจ้าปรินซ์
 
“พับเป็นรูปหัวใจแล้วใส่ไว้ที่ก้นถุงสิ”

“เดี๋ยวพอแบ๊งค์ทานหมดจะได้เห็นไง”    ปรินซ์แนะนำมาครับ

“อืม....ได้ ๆๆๆ แต่ว่า  รูปหัวใจเค้าพับยังไงอ่ะ”   ผมพูดไป

“กรรม ...............มา ๆๆ เดี๋ยวพับให้”   แล้วเจ้าปรินซ์ก็จัดการพับให้   แล้วหย่อนไปก้นถุงครับจากนั้นเราก็ไปตามหาแบ๊งค์กัน   นั่นไงเป้าหมายของเรา  นั่งฟังเพลงอยู่คนเดียวซะด้วย

“ป่ะ   เอาไปให้แบ๊งค์กัน”   ผมทำท่าจะเดินเข้าไป

“เดี๋ยว  จะไปไหน”   ปรินซ์รีบดึงผมกลับครับ

“ทำไมล่ะ  ก็แบ๊งค์อยู่นั่นไง  เอาไปให้สิ”   ผมพูด

“แล้วใครบอกว่าจะเอาไปให้ด้วยตัวเองล่ะ”  ปรินซ์พูด

“แล้วจะให้ใครเอาไปให้ล่ะ”   ผมถาม   แล้วตอนนี้ก็มีเด็กปีหนึ่งเดินมาหนึ่งคนครับ  ปรินซ์มันก็เลยเรียกเข้ามาหา

“เอาไปให้พี่นั่งโต๊ะนั้นให้หน่อย  อย่าบอกนะเว้ยว่าใครให้”   ปรินซ์พูดกับน้องปีหนึ่งคนนั้นครับ  แล้วเราสองคนก็แอบอยู่อีกมุมหนึ่งคอยสังเกตการณ์  แล้วน้องคนนั้นก็เดินถือถุงขนมไปให้แบ๊งค์ครับ


“พี่ครับ ๆ มีคนฝากมาให้ครับ”   น้องคนนั้นพูด

“ขอบคุณนะ  ว่าแต่เค้าเป็นใครหรอ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“เค้าไม่ให้บอกครับ  ผมไปก่อนนะ”    แล้วน้องคนนั้นก็เดินไป  สำเร็จไปหนึ่งขั้น  ทีนี้ก็เหลือแค่  ให้แบ๊งค์ทานขนมจนหมดเท่านั้น  แต่ทำไมแบ๊งค์ไม่ทานซะทีอ่ะ  นั่งจ้องอยู่ได้  หรือว่าเป็นของคนแปลกหน้าเลยไม่ยอมทาน  เรายังนั่งสังเกตการณ์ต่อไปครับ

“แบ๊งค์จะยอมกินจริง ๆ หรอปรินซ์”   ผมถามไป
“กินดิพี่  ของชอบขนาดนั้น”   ปรินซ์ตอบกลับมา  แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มกับแมคก็เดินเข้ามาหาแบ๊งค์ครับ

“เฮ้ยแบ๊งค์  จะซื้อขนมไปอาบรึไงวะ เยอะแยะไปหมด”   พี่ตั้มถามครับ

“ไม่ได้ซื้อ  ใครก็ไม่รู้เอามาให้”   แบ๊งค์พูด

“เสน่ห์แรงนะเมริง”    พี่ตั้มแซวแบ๊งค์ครับ

“ไม่หรอก   หน้าแบบนี้เนี่ยนะ”    แบ๊งค์พูด

“แล้วไม่กินหรอ  นั่งจ้องอยู่ได้ของโปรดนี่”    แมคถามครับ

“ก็อยากอยู่หรอกนะ  แต่ดูนี่ดิ  สิวขึ้นเต็มเลยอ่ะ”

“มาจากชอคโกแลตเมื่อวันก่อนแน่ ๆ เลยไม่อยากกิน”   แบ๊งค์พูด  (O_o)  ผมไม่ได้สังเกตเลยว่าแบ๊งค์เป็นสิว   ถ้าแบ๊งค์ไม่กินงั้นก็.............หมายความว่า........

“งั้นพี่ขอละกันนะ”   พี่ตั้มขอครับ

“เอาไปสิ  แบ๊งค์คงต้องงดไปก่อนน่ะ”  แบ๊งค์พูด

“ป่ะไอ้แมค  ไป หาเจ้ปอยกัน  ป่านนี้รอแล้ว”     พี่ตั้มเรียกแมคครับ

“เราไปก่อนนะ”   แมคลาแบ๊งค์   แล้วทั้งสองคนนั่นก็เดินจากไป  พร้อมกับถุงขนมของผม

ภารกิจที่ 1 ล้มเหลว
“พี่แบ๊งค์เป็นสิวนั่นเอง”   ไอ้ปรินซ์พูด
“แล้วเอาไงต่อดีเนี่ย  ไม่น่าเลย”
“เสียตังค์ไปฟรี ๆ ขนมก็ไม่ได้กิน โอ้วซาร่าห์”   ผมทำท่าหมดหวัง ( อย่าเศร้าเลยจอร์จ )
“ไปแผนที่สองดีกว่านะ”   ปรินซ์พูด
“ยังจะมีแผนสองอีกหรอ”   ผมถามไป
“..................................”  ปรินซ์พยักหน้าแทนคำตอบ


ปฏิบัติการที่ 2 เสียงเพลงแทนคำพูด
“แบ๊งค์เค้าชอบฟังเพลงรึเปล่า”   ปรินซ์ถามมา

“ชอบสิ  ก็เห็นนั่งฟัง MP3 อยู่บ่อย ๆ”   ผมตอบไป

“แล้วพี่แบ๊งค์ชอบเพลงแนวไหนล่ะ”   ปรินซ์ถามอีก

“ก็เห็นฟังได้ทุกแนวแหละ”    ผมตอบไปตามความคิด

“งั้นเอางี้  ที่บ้านพี่มีกีตาร์รึเปล่า”   ปรินซ์ถามกลับมาอีกรอบ

“กีตาร์หรอ     อืม.......ของพี่ชายพี่มีนะ”   ผมตอบไป

“งั้นไปเอามา.........แล้วพี่กาวชอบเพลงอะไร”    ปรินซ์ถาม

“พี่หรอ  พี่ชอบความลับ  ของพอสน่ะ”   ผมตอบ

“ได้ ๆๆ เดี๋ยวหาเนื้อเพลงมาละกัน”    แล้วเราก็แยกย้ายกันไปครับ  ปรินซ์ไปหาเนื้อเพลง  ส่วนผม  ต้องไปขอยืมกีตาร์มาจากพี่ก้อง ( พี่ชายผมเอง ) ซึ่งพี่ก้องก็ยอมให้แต่โดยดี  พอดีพี่เค้าไม่ค่อยได้เล่นน่ะครับ  ใกล้จะจบแล้ว  ฟิตเรียนใหญ่เลย
รุ่งขึ้นของอีกวัน  ผมมาเจอกับปรินซ์ที่ประตูหลังของมหาวิทยาลัยครับ 

“ได้เนื้อเพลงมามั้ย”    ผมถาม

“ได้สิพี่  แต่ได้กีตาร์มานี่ไม่เบาเลยนะ “    ปรินซ์พูดแซวครับ

“แน่นอน  มือระดับนี้หาได้อยู่แล้ว”    ผมตอบไปอย่างภาคภูมิใจ  แล้วเราก็ไปเข้าเรียนกันก่อนครับ  ผมฝากกีตาร์ไว้ที่รถของเพื่อนปรินซ์   เพราะแผนของเราจะเริ่มตอนกลางวันครับ  งานนี้ไม่มีพลาดแน่ ๆ

แล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึงครับ  ผมมาเอากีตาร์และเนื้อเพลงที่ปรินซ์  แล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะด้วยกัน  ตอนนี้ที่โต๊ะมีแบ๊งค์  แมค  และพี่ตั้มนั่งอยู่

“อ้าว  ไอ้กาว  ไปเอากีตาร์ใครมาวะ”   พี่ตั้มถามครับ

“อ๋อ  กีตาร์เพื่อนปรินซ์มันน่ะ  เอามาฝากไว้”    ผมแกล้งตอบไป  แก้เขินน่ะครับ

“นี่ ๆ พี่มีเนื้อเพลงด้วยนะ”   ปรินซ์หยิบเนื้อเพลง  กับหนังสือเพลงออกมาวางครับ  เหมือนขั้นแรกจะสำเร็จแล้วนะครับ  แบ๊งค์เริ่มหันมาสนใจแล้ว

“อ่ะพี่กาว ลองเล่นเพลงนี้ดูนะ “   ปรินซ์หันมาทางผมครับ

“พี่หรอ.....พี่เล่นไม่เป็น  เราก็เล่นสิ”   ผมงงมาก   ผมก็นึกว่าปรินซ์มันจะเล่นซะอีก

“อ้าว....พี่กาวเล่นไม่เป็นหรอ  ผมก็เล่นไม่เป็น”   ปรินซ์พูดครับ

“เอ๊ะ  สองคนนี่ยังไง  เล่นไม่เป็นทั้งคู่เกี่ยงกันเล่นอยู่ได้”    แมคพูดครับ

“เดี๋ยวกรูส์เล่นก็ได้  เลือกเพลงก่อนดีกว่า”    พี่ตั้มพูดครับ  ผมเลยได้แต่วางกีตาร์ไว้บนโต๊ะ  แบ๊งค์ยังคงเฉยเมย   

“ไอ้ปรินซ์  เล่นไม่เป็นทำไมไม่บอกวะ”    ผมกระซิบด่าครับ

“ผมก็นึกว่า พี่เล่นเป็นซะอีก”  ปรินซ์แย้งกลับ

“กรูส์น่าแตกเลยเห็นมั้ย”   ผมบ่นครับ   แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงกีตาร์ดังขึ้นครับ  พอผมกันไปดูถึงกับอึ้งเลยครับ   แบ๊งค์นั่งเล่นกีตาร์อยู่   ดูเหมือนทุกคนที่นั่งอยู่ก็อึ้งไม่ต่างจากผม


หากคืนนี้ มีดาวอยู่ล้านดวง
ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่ง ช่วยฟังฉันที
เพราะว่าคืนนี้ ฉันมีเรื่องร้อนใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้ ช่วยฉันสักที

เนื่องจากตอนนี้ ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว
อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง จากคำพูดวันนี้
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ

เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก.... ที


พอแบ๊งค์เล่นจบ  ทุกคนต่างอึ้งไปตาม ๆ กันเลยครับ  ไม่คิดมาก่อนเลยว่าแบ๊งค์จะเล่นกีตาร์เป็น  เพราะแม้กระทั่งผม  ยังเล่นไม่เป็นเลย

“แบ๊งค์เล่นเป็นด้วยหรอวะ”    พี่ตั้มถามครับ

“นั่นสิ  ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย”  แมคเสริมอีกคนครับ

“อืม.....เล่นเป็นไม่กี่เพลงหรอก  ก็ถนัดเพลงนี้เพลงเดียวเนี่ยแหละ”    แบ๊งค์ตอบออกมา   น่าอายมั้ยล่ะครับ  จะเล่นเพลงขอโทษเค้าแท้ ๆ แต่เค้ากลับเล่นเป็น

“เล่นเป็นได้ไงวะ”   ผมได้ยินเสียงปรินซ์พูดเบา ๆ ครับ  แต่ตอนนี้มันนั่งตาค้างไปแล้ว เฮ้อ~~~แล้วมันจะไปรอดมั้ยเนี่ย   สรุปวันนั้นเราก็เลยนั่งร้องเพลงกันต่อ  โดยมีพี่ตั้มเล่นกีตาร์ให้ครับ  เพลงส่วนใหญ่มีแต่อกหักทั้งนั้น  เนื้อเพลงของผม  ก็ถูกมองข้ามไปโดยปริยาย

แต่ก็ช่างมันเถอะครับ  แค่ผมได้ฟังแบ๊งค์ร้องเพลง   ผมก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว

ภารกิจที่ 2 ล้มเหลว
จากนั้นผมและเจ้าปรินซ์ก็พยายามใช้อีกหลายแผนครับ  แต่ก็ไม่เป็นผลซะที  ทำไมนะ  การขอคืนดีกับแบ๊งค์มันช่างยากเย็นอะไรขนาดนี้เนี่ย  ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกแล้ว

“เหลือทางสุดท้ายแล้วพี่”   ปรินซ์พูดครับ

“ยังมีแผนอีกหรอ”   ผมพูด

“ไม่ใช่แผนแล้วครั้งนี้”   ปรินซ์ตอบกลับมาครับ

“อะไรล่ะ”   ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ

“ไปขอโทษตรง ๆ แบบลูกผู้ชายเลยพี่”   ปรินซ์บอก   ใช่.........นั่นสิ   ทำไมผมไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก  มัวแต่ไปทำตามแผนบ้า ๆ ของไอ้ปรินซ์อยู่ได้ตั้งหลายครั้ง

“นี่แน่ะ.....หลอกกรูส์ทำอะไรบ้า ๆ อยู่ได้ตั้งหลายครั้ง”   ผมเขกหัวมันไปหนึ่งทีครับ

“ก็ตอนนั้นคิดไม่ออกจริง ๆ นี่นา”   ปรินซ์แย้งกลับมาครับ 

ผมไปรอแบ๊งค์ที่หน้าตึกครับ  ตอนนี้แบ๊งค์เดินออกมาแล้ว  มาคนเดียวด้วย   ผมสูดหายใจลึก ๆ   หลับตาทำสมาธิ

“สู้ ๆ นะพี่  ผมเชียร์อยู่”  ปรินซ์พูดให้กำลังใจครับ  แล้วผมก็เดินเข้าหาแบ๊งค์เลยครับ   ผมเดินจนไปหยุดอยู่ตรงหน้าแบ๊งค์พอดี   แบ๊งค์ก็เลยเงยหน้ามามองหน้าผมครับ

“..............................”   ผมไม่พูดอะไร

“..............................”   แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร   เรายืนจ้องหน้ากันครับ  แล้วในที่สุดผมก็บอกไปว่า

“ยืมสมุดวิชาอารยธรรมโลกหน่อยดิ  เราจดไม่ทัน”    แหะ ๆ ไม่กล้าน่ะครับ   แบ๊งค์ก็หยิบสมุดยื่นให้นะครับ  แล้วก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

“ทำอะไรน่ะพี่ โอยยยย  อุตส่าห์เตรียมใจไว้อย่างดี”     ปรินซ์ทำท่าผิดหวังครับ

“ก็กรูส์ไม่กล้านี่หว่า   ตอนมองหน้ากันนะ  แทบจะละลายแล้ว”   ผมตอบไป

แล้วก็มาถึงวันที่สอง    แบ๊งค์เดินไปส่งงานครับ  หอบเอกสารเต็มไปหมดเลย

“นั่นไงพี่   ไปช่วยถือแล้วพูดขอโทษไปเลย”  ปรินซ์บอกครับ

“จะดีหรอวะ”  ผมยังหวั่น ๆ ใจอยู่

“ไปได้แล้ว”   แล้วเจ้าปรินซ์มันก็ผลักผมออกไปครับ  ผมเลยค่อย ๆ เดนตามแบ๊งค์ไป  ในใจก็ทำสมาธิไปด้วย  ผมหันไปมองข้างหลังเป็นครั้งคราว  พอหันไปก็เจอเจ้าปรินซ์  ทำท่าทางภาษามือ  บอกประมาณว่า  เข้าไปได้แล้ว 
ผมหลับตาสูดลมหายใจให้ลึกที่สุด  เท่าที่จะทำได้   แล้วเดินเข้าไปครับ

“พี่ครับเดี๋นยวผมช่วยถือนะครับ”   นักศึกษาหน้าใสปีหนึ่งคนหนึ่งพูดขึ้น

“ขอบคุณครับน้อง”   แบ๊งค์กล่าวขอบคุณไป  ผมหยุดอยู่แค่นั้นแหละครับ   มีคนมาช่วยแบ๊งค์ถือเอกสารไปซะงั้น  ผมค่อย ๆ หันหลังไปมองเจ้าปรินซ์  ซึ่งตอนนี้มันนั่งเอามือกุมหน้าผากแล้ว  ผมก็ได้แต่พูดในใจ   ‘ ปรินซ์ กรูส์ขอโทษ กรูส์ทำไปไม่ทันว่ะ ‘


แล้ววันที่สามก็มาถึงครับ  วันนี้ไอ้เจ้าปรินซ์หายไปไหนก็ไม่รู้  แล้วผมจะพึ่งพาใครดีเนี่ย  เอาว่ะ  กรูส์พึ่งตัวเองก็ได้  ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ( พูดมาได้ว่าไม่กลัว  ชิส์ )
นั่นไงครับ  แบ๊งค์ออกจากห้องสมุดมาแล้ว   มากับพี่โป้งด้วย  ทำไงดี ๆๆ  เอาวะ  เข้าไปขอโทษต่อหน้าพี่โป้งเลยดีกว่า  จะได้ถือเป็นการแสดงความจริงใจด้วย  ผมเดินเข้าไปจนหยุดอยู่หน้าคนทั้งคู่   ดูเหมือนแบ๊งค์ก็ตกใจเหมือนกัน

“แบ๊งค์..................”   ผมเรียกชื่อเค้าครับ

“..........................”     เค้าไม่ตอบอะไร

“เรา......เราขอโทษ   ที่เราทำไป  มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ  อย่าโกรธเรานะ”    ผมพูด

“..........................”    แบ๊งค์ยังคงนิ่งเงียบ

“ถ้าแบ๊งค์ไม่ให้อภัยเรา  เราจะ.....เราจะ....เราจะนั่งอยู่ตรงนี้แหละ”   คิดอะไรไม่ออกแล้วครับ   เคยดูในหนังจีน  ขอลองทำดูหน่อยละกัน  ผมคุกเข่าลงหน้าแบ๊งค์ครับ

“ทำอะไรของนายน่ะ   ลุกขึ้น  อายคนอื่นเค้าบ้างสิ”    แบ๊งค์พูดครับ  พี่โป้งก็ได้แต่ยิ้ม

“ไม่  เราจะไม่ลุกจนกว่าแบ๊งค์จะให้อภัย”    ผมพูด

“พอได้แล้ว....แค่นายมาบอกขอโทษเราดี ๆ เราก็ให้อภัยแล้ว”   แบ๊งค์พูดครับ

“หา...............”   ผมอึ้งไปเลยครับ  อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นวะ   แล้วแบ๊งค์ก็เข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้นครับ

“แบ๊งค์เค้าเป็นคนโกรธง่าย  หายเร็วน่ะ  ขอโทษเค้าดี ๆ”

“พูดจากใจที่สำนึกผิด  เค้าก็ให้อภัยแล้ว”    พี่โป้งพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ ครับ

“นั่นสิ  ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย    ตั้งแต่เรื่องขนม กับกีตาร์แล้ว”    แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์รู้ด้วยหรอ”    ผมประหลาดใจมาก

“ก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นั่นแหละ   จากนกพิราบสื่อสารตัวนั้นไง”    แล้วแบ๊งค์ก็เอียงตัว   เผยให้เห็นนายปรินซ์ที่เดินตามมาข้างหลังครับ   อ้าว...........มาบอกแบ๊งค์แล้ว  แต่ไม่บอกกรูส์ซะงั้น  ปล่อยให้กรูส์ทำอะน่าอายอยู่ได้

“อีกอย่าง   ถ้าจะขอโทษไปขอโทษพี่โป้งจะดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูด


“ไม่ต้องหรอก ๆๆ  พี่มันไม่ดี  โดนแบบนั้นยังไม่สาสมด้วยซ้ำ”    พี่โป้งรีบปฏิเสธครับ

“เอ่อ......ถึงยังไง  ผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”    ผมยกมือไหว้ขอโทษพี่โป้งไป

“ไม่ต้องหรอกกาว   พี่ไม่ถือ  พี่ขอโทษเราด้วยละกัน”

“ที่ไปทำแบบนั้นกับเพื่อนเราไว้”     พี่โป้งพูดครับ

“คืนดีกันซะทีนะ  ไปหาอะไรกินเถอะ  หิวแล้ว”    นายปรินซ์พูดครับ

“นี่แน่ะ  ทำกรูส์ขายหน้า”   ผมเขกหัวมันไปหนึ่งทีครับ  โทษฐาน  ไม่บอกกันก่อน  ว่ามาสารภาพความผิดแล้ว    จากนั้นเราก็ไปหาอะไรทานด้วยกันครับ   ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไปถูกเลย   ที่ผมกับแบ๊งค์ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม   
****************************
 :bye2:คับ  ง่วงมั่ก มาก

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BrOwNiE ที่ 21-06-2007 00:51:48
จุ๊..จุ๊ นะค้าบ o15 o15

จุ๊..จุ๊ โอเคค้าบบบบบบบบบ


โอ๊ะโอ...มีแฟนคลับจาบอร์ดเก่าด้วย งิงิ

 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-06-2007 02:30:51
รออ่านต่อจ้า  :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 21-06-2007 10:37:16
เช่นกันรออ่านตอนต่อไป :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 21-06-2007 11:00:46
มีตอนพิเศษมาลงด้วย ดีใจ

ความสัมพันธ์ของกาวกับปริ้นซ์เริ่มแนบแน่น หุหุ

 :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-06-2007 16:56:25
เชียร์กาวเหมือนเดิมครับ

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-06-2007 08:38:20
เชียร์อาร์ทเหมือนเดิม  :m4:  :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 24-06-2007 09:20:24
เชียรทั้งอาร์ท เชียร์ทั้งกาว :m4:


เชียร์อาร์ทให้คู่แบ๊งค์
เชียร์กาวให้คู่ปริ้นซ์
 :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 24-06-2007 12:49:58
เห็นด้วยกับรีบน :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-06-2007 15:42:19
หุหุ  เหตุการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแระ  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 24-06-2007 18:46:37
 o15

เชียร์อาร์ทอ่ะ

แต่ติดกาวทำไงดี

 :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 24-06-2007 22:43:59
หวัดดีคับ ผมลงวันนี้แล้วคงจะหายไปสักพักนะคับ

เมื่อต้นเดือนผมได้ตัดสินใจทำอะไรบ้างอย่างไป แล้วคิดว่ามันจะดีที่สุด
แต่มันไม่ใช่....มันกลับแย่กว่าที่ผมคิดไว้เยอะ และผมจะต้องรับผิดชอบ(แม้จะเล็กน้อย)ที่ทำให้เกิด.....

ทั้งที่ผมทำเหมือนจะเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง แต่พอเกิดกับตัวเอง....ผมไม่เข้าใจอะไรเลย
ผมพยายามหลีกหนี เข้าบอร์ดบ่อยขึ้น reply มากขึ้นแต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย 

ขอโทดคับบ่นอะไรไม่รู้
**********************
บทที่ 51 ไม่นะ...มันต้องไม่เป็นแบบนี้

เรื่องทุกอย่างเหมือนว่าจะเริ่มเป็นปกติแล้วนะครับ   ไม่มีเรื่องอะไรวุ่นวายแล้ว  ไม่มีใครโกรธหรือเกลียดกันอีกต่อไปแล้ว  ตอนนี้ทุกคนเข้าใจกันดี  แบ๊งค์เห็นแล้วก็สบายใจจัง

“นี่.....เป็นไงน่ารักมั้ย”    พี่อาร์ทชูพวงกุญแจ ที่เป็นตุ๊กตาโอชาเคนให้แบ๊งค์ดูครับ

“เอามาจากไหนน่ะ  น่ารักจัง”   แบ๊งค์พูด

“ไอ้โป้งมันเอาให้”   พี่อาร์ทพูด

“เอาให้เนื่องในโอกาสอะไรหรอ”    แบ๊งค์ถาม

“มันบอกว่า  ให้ในโอกาสฉลองการกลับมาเป็นแฟนกันของเราสองคนไง”    พี่อาร์ทตอบ

“.........................”    แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร  ได้แต่อาย (-//////-)

“พี่ว่าจะเอาไปห้อยเป็นกุญแจรถน่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่เอานะ   เอาให้แบ๊งค์เหอะ  กุญแจรถพี่อาร์ทมีตุ๊กตาเชือกอยู่แล้วนี่”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ให้หรอก  เอาห้อยรวมกันก็ได้”  พี่อาร์ทพูด

“ก็แบ๊งค์อยากได้นี่นา”   แบ๊งค์แย้ง

“ไปขอไอ้โป้งเองละกัน  โน่นเดินมานั่นแล้ว”   พี่อาร์ทพูด  แล้วแบ๊งค์ก็หันไปตามครับ  พี่โป้งเดินมากับกาวครับ

“ทำอะไรกันอยู่หรอ”   พี่โป้งถามครับ

“รักกันอยู่ไงพี่ ฮะฮะฮะ”   กาวพูด

“เงียบไปเลยกาว”    แบ๊งค์พูด

“แล้วนี่งอนอะไรกันอีกล่ะ  ผมเลยโดนลูกหลงเนี่ย”   กาวพูดครับ

“ก็แบ๊งค์จะเอาพวงกุญแจ  แต่พี่ไม่ให้ไง”    พี่อาร์ทอธิบาย

“อ๋อ  พวงกุญนี้น่ะหรอ”    พี่โป้งพูดเมื่อเห็นพวงกุญแจครับ

“พี่โป้งซื้อให้แบ๊งค์อีกตัวนะ ๆๆๆๆๆ “   แบ๊งค์อ้อนพี่โป้งครับ

“ก็ได้ครับ  เดี๋ยวถ้าพี่ว่าง ๆ จะไปซื้อมาให้อีกตัวนะ”   พี่โป้งพูดครับ

“ขอบคุณครับ   เห็นมะ  ไม่เห็นต้องง้อพี่อาร์ทเลย”    แบ๊งค์ขอบคุณพี่โป้งแล้วหันไปพูดกับพี่อาร์ทครับ

“นี่แน่ะ  ไอ้โป้งก็เหมือนกัน  ไปตามใจมันอยู่ได้”    พี่อาร์ทเขกหัวแบ๊งค์แล้วหันไปพูดกับพี่โป้งครับ

“โอ๊ย  เจ็บนะ”   แบ๊งค์บ่นออกมา

“ช่างเถอะ  ของเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ”    พี่โป้งพูด

“พี่ครับ ๆ ผมหิวอ่ะ  ไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ”    แล้วกาวก็พูดตัดบทขึ้นมาครับ

“อืม....นั่นสิ  พี่ก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน  ป่ะไปกันเถอะ”    พี่อาร์ทพูด  แล้วพวกเราก็ไปหาอะไรทานกันครับ

วันนี้น้องแทมกับครอบครัว  จะกลับอังกฤษกันแล้วครับ   พี่อาร์ท พี่โป้ง พี่ตั้ม และแบ๊งค์ก็เลยพากันมาส่ง  น้องแทมก็ดูประหลาดใจอยู่เหมือนกัน ที่มากันเยอะขนาดนี้

“พากันมาเยอะจัง  ทำอย่างกับแทมเป็นดาราเลย”   น้องแทมพูด

“น้องจะกลับทั้งที  จะไม่มาส่งได้ไงล่ะครับ”   พี่ตั้มพูดครับ

“กลับไปก็ตั้งใจเรียนด้วยนะครับ”   พี่โป้งพูดครับ

“ค่ะ   แล้วแทมจะตั้งใจเรียนเอาเกรดสวย ๆ มาฝากนะ”   น้องแทมพูดครับ

“เสียดายจัง  เจอกันช้าไปหน่อยนะ”   แบ๊งค์พูด

“นั่นสิคะ  ไม่อย่างนั้นเราคงได้ไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ”   น้องแทมทำท่าเสียดายเหมือนกัน

“เดี๋ยวปีหน้าก็มาอีกก็ได้นี่นา  ไม่ต้องห่วงหรอก”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ค่ะ  ปีหน้าแทมต้องกลับมาแน่ ๆ”   น้องแทมพูดครับ

“แทม  ลูกไปกันได้แล้ว”  คุณป้าเรียกแล้ว

“แทมไปก่อนนะคะ  บายค่ะ”   แล้วน้องแทมก็เดินไปหาคุณป้า

“ป้าไปก่อนนะ  ลูกเดี๋ยวปีหน้าจะมาใหม่”    คุณป้าพูดครับ   แล้วพวกเราก็ยกมือไหว้คุณป้ากัน  จากนั้นคุณลุกคุณป้า  ก็เดินเข้าไปยังห้องพักผู้โดยสาร

“เสียดายจังเลยเนอะ”    แบ๊งค์พูดออกมา

“เสียดายอะไรหรอ”   พี่อาร์ทถาม

“ก็เสียดายที่รู้จักแทมช้าไปไง”   แบ๊งค์พูด

“ก็ใครมัวแต่เข้าใจผิดล่ะ”    พี่อาร์ทแซว

“เออ ๆๆๆ แบ๊งค์ผิดเอง  แล้วใครใช้ให้ส่งรูปนั้นมาล่ะ”   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“ช่วยไม่ได้  ใครไม่ยอมบอกความจริงตั้งแต่แรกเอง”   พี่อาร์ทย้อนกลับมาครับ

“พอ ๆๆๆ เราผิดเองแหละ”   แล้วพี่โป้งก็ทำหน้าเศร้า

“พอทั้งสามคนนั่นแหละ  เถียงกันเป็นเด็กอยู่ได้   แล้วช่วยเถียงเรื่องอะไรที่กรูส์รูเรื่องหน่อยดิ  พูดอะไรกันวะ”    พี่ตั้มบ่นใหญ่เลย  เราก็เลยหลุดหัวเราะออกมากันทุกคน
.
.
.
.
น้องแทมก็กลับไปแล้ว  เฮ้อ~~~เสียดายจัง  เพิ่งรู้จักกันเอง  ยังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย ช่างเหอะ  เอาไว้ปีหน้าก็แล้วกันนะ  แบ๊งค์นั่งคิดอะไรไปเพลิน ๆ ครับ

“พี่อาร์ทกี่โมงแล้วอ่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็สี่โมงแล้วล่ะ”  พี่อาร์ทพูด

“หรอ......ป่ะไปส่งแบ๊งค์หน่อย”    แบ๊งค์พูด

“ไปไหนหรอ”   พี่อาร์ทถาม

“ก็นี่ไง  รายงานอ่ะ  ยังไม่ได้เข้าเล่มเลย”   แบ๊งค์ชี้ให้ดู ปึกกระดาษ ที่อยู่ในมือ

“อืม ๆ ไปสิป่ะไปกันเถอะ”   แล้วแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็พากันเดิน  เพื่อที่จะเอารายงานไปเข้าเล่มครับ  เดินไปแบ๊งค์ก็บ่นไป

“เดี๋ยวนี้  ทำรายงานยากจังอ่ะ  อาจารย์เคี่ยวคะแนนมากมายเลย”   แบ๊งค์บ่น

“อดทนหน่อยน่า  ตั้งใจเรียนเกรดจะได้ออกมาดี ๆ”   พี่อาร์ทพูด

“อืม...รู้แล้วน่า”  แบ๊งค์พูด

“อ้าว.....นั่นมันไอ้โป้งนี่”  พี่อาร์ทชี้ไปอีกฝั่งของถนนครับ

“พี่โป้ง........”  แบ๊งค์ตะโกนเรียกไปครับ  พี่โป้งก็เลยหยุดแล้วหันมายิ้มให้ครับ

“อ๊ะ!!!!!!!”    ลมพัดมาพอดีครับ   มันพัดเอารายงานของแบ๊งค์ปลิวไปด้วย    แบ๊งค์เลยวิ่งตามไปเก็บ

ปี๊น......ปี๊น .......ปี๊นปี๊นปี๊นนนนน   เสียงแตรรถดังมาครับ  แบ๊งค์เลยหันไปดู   มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาด้วยความเร็ว  กำลังพุ่งเข้ามาหาแบ๊งค์

“แบ๊งค์!!!!!!!!!”   พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์ครับ

“แบ๊งค์!!!!!ระวัง!!!!!”    พี่โป้งตะโกนมาครับ   แล้วกระโดด  ผลักแบ๊งค์ไปอีกทาง

โครมมมม!!!!!!!!!!!!!!.........................................เสียงค่อนข้างดังครับ   แบ๊งค์ค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นมา  แล้วค่อย ๆ มองไปข้างหน้าครับ

“พี่โป้ง!!!!!!!!!!!!!!!”    แบ๊งค์ตะโกนเรียกออกมา  ก่อนจะวิ่งไปที่หน้ารถคันนั้น  ซึ่งมีร่างที่โชก  ไปด้วยเลือดของพี่โป้งนอนอยู่

“ไอ้โป้ง!!!!!!!!! “    พี่อาร์ทรีบวิ่งตามเข้ามาครับ

“พี่โป้ง.........พี่โป้งต้องไม่เป็นอะไรนะ”   แบ๊งค์เข้าไปช้อนร่างของพี่โป้งไว้ในอ้อมแขน

“พี่อาร์ทเรียกรถพยาบาลสิ”    แบ๊งค์หันไปพูดกับพี่อาร์ท

“ครับ ๆๆๆๆๆ  “   ตอนนี้ดูพี่อาร์ทก็ตกใจไม่แพ้กัน  พี่อาร์ทรีบกดโทรศัพท์ไปเรียกรถพยาบาล

“ใครก็ได้  ช่วยพี่โป้งด้วย........ใครก็ได้ช่วยที”    แบ๊งค์ตะโกนเรียกไป  ร้องไห้ไป  แล้วพี่โป้งก็ค่อย ๆ เอามือจับแขนแบ๊งค์ไว้ครับ

“พี่โป้งต้องไม่เป็นอะไรนะ   พี่โป้ง”   แบ๊งค์เอามือกุมมือพี่โป้งไว้อีกที   แล้วนั่งร้องไห้  แล้วอีกไม่นาน  รถพยาบาลก็มาถึง  เจ้าหน้าที่ช่วยกัน  นำร่างของพี่โป้งใส่เข้าไปในรถ  แบ๊งค์ไม่รอช้ารีบขึ้นไปตาม  โดยมีพี่อาร์ทขึ้นไปด้วย

“พี่โป้ง......พี่โป้งต้องไม่เป็นอะไรนะ”

“พี่โป้งต้องอยู่คอยคุ้มครองแบ๊งค์นะ”    แบ๊งค์นั่งข้าง ๆ จับมือพี่โป้ง  แล้วพูดออกมาทั้งน้ำตา

“เมริงต้องอยู่เที่ยวกับกรูส์นะเว้ย”

“เมริงยังต้องช่วยกรูส์ดูแลไอ้แบ๊งค์นะเว้ย”   พี่อาร์ทพูดครับ   แล้วพี่โป้งก็ยื่นอีกมือหนึ่งมาจับมือพี่อาร์ทเอาไว้

“เมริงต้องช่วยกรูส์ดูแลแบ๊งค์นะเว้ย  เมริงสัญญากับกรูส์ดิ”   พี่อาร์ทเริ่มร้องไห้ออกมาเหมือนกันครับ   พี่โป้งก็พยักหน้าเบา ๆ รับคำพี่อาร์ทครับ

จากนั้นพี่โป้งก็ปล่อยมือแบ๊งค์   แล้วเอามือไปล้วงของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง  แล้วเอามาวางไว้ในมือแบ๊งค์ 

แบ๊งค์ค่อย ๆ กางมือออกดูครับ   มันคือพวงกุญแจโอชาเคน  พวงกุญแจที่แบ๊งค์เคยขอพี่โป้งเอาไว้   แล้วพี่โป้งก็สัญญาว่าจะซื้อมาให้

“พี่โป้ง!!!!!!”    แบ๊งค์ก้มหน้าซบลงบนอกพี่โป้งแล้วร้องไห้ครับ

“ถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะ  ช่วยหลีกทางหน่อยนะคะ”

“จะนำผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ”   นางพยาบาลที่อยู่ในรถพูดขึ้น   แล้วเค้าก็เอาพี่โป้งวางบนเตียง  แล้วเข็นเข้าไปในโรงพยาบาล  โดยที่แบ๊งค์และพี่อาร์ทวิ่งตามไปด้วย

“พี่โป้ง.....เดี๋ยวพี่โป้งต้องหายนะ”

“พี่โป้งต้องกลับไปเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่กับแบ๊งค์อีกนะ”   แบ๊งค์จับมือพี่โป้งเอาไว้ตลอดเวลา  จนกระทั่งเตียงของพี่โป้งถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป

“ไม่ได้นะคะ  เข้าไม่ได้ค่ะ”   พยาบาลในห้องนั้นกั้นเราเอาไว้   แล้วปิดประตู   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเลยได้แต่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน  จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมา  ไม่ใช่ใครหรอกครับ  พี่ปอย  พี่ตี๋  พี่ตั้ม  แมค  กาว และปรินซ์นั่นเอง

“โป้งมันเป็นไงบ้าง  มันไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย”   พี่ปอยรีบเข้ามาถามครับ

“ไม่รู้.........มันยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลย”   พี่อาร์ทตอบไป  พี่ปอยเลยหันไปซบพี่ตี๋แล้วร้องไห้ออกมา

“แล้วนี่  มันเกิดขึ้นได้ยังไง  มันเกิดอะไรกันแน่”   พี่ตั้มบ่นออกมา

“มันเป็นเพราะแบ๊งค์เองแหละ  แบ๊งค์เป็นคนฆ่าพี่โป้ง”    แบ๊งค์นั่งก้มหน้า  ในมือถือพวงกุณแจตุ๊กตาที่พี่โป้งเอาให้ไว้อย่างแน่นหนา  ทุกคนเลยหันมามองแบ๊งค์

“ไม่หรอก    แบ๊งค์ไม่ได้ฆ่าพี่โป้ง  มันเป็นอุบัติเหตุนะ”    แมคพูดครับ

“ใช่.....แบ๊งค์ไม่ผิดหรอกนะ  พี่โป้งเค้าทำเพื่อปกป้องแบ๊งค์ไง”  ปรินซ์พูดครับ

“ถ้าเราไม่มัวห่วงรายงาน  พี่โป้งก็คงไม่...........”    แบ๊งค์เงียบไป

“แบ๊งค์.............”   กาวมานั่งข้างหน้าแบ๊งค์แล้วพูดครับ   แบ๊งค์เลยเข้าไปซบไหล่กาวแล้วร้องไห้ออกมา   อีกซักพักประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกมา  ทุกคนเลยกรูเข้าไปหา

“เป็นไงบ้างครับ  ไอ้โป้งมันไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยครับ”   พี่ตี๋ถามหมอครับ

“เอ่อ...........”   หมอยังไม่ตอบอะไรครับ

“ตอบมาสิครับ  เพื่อนผมเป็นยังไงบ้าง”   พี่อาร์ทพูดครับ  ตอนนี้ทุกคนเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาแล้ว

“หมอพยายามทำถึงที่สุดแล้วนะครับ”

“แต่เพื่อนคุณบาดเจ็บหนักมาก   เสียใจด้วยนะครับ”   หมอพูดแล้วเดินจากไป   เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนถึงกับอึ้งไปตาม ๆ กัน  แบ๊งค์ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม  พี่อาร์ทยืนพิงกำแพง  ทำท่าหมดหวัง  ส่วนพี่ปอยก็ร้องไห้จนเป็นลมไปในอ้อมกอดของพี่ตี๋

นี่พี่โป้งจากเราไปแล้วจริง ๆ หรอ  ไม่น่า  มันเป็นแค่ความฝัน  มันเป็นแค่ฝันร้ายที่จะผ่านพ้นไปในเวลาแค่หนึ่งคืน   แล้วพรุ่งนี้.....พี่โป้งจะกลับมา   กลับมาอยู่กับเราอีกครั้ง   แบ๊งค์พยายามคิดแบบนั้น  แต่จะทำยังไงก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี

งานศพของพี่โป้งเต็มไปด้วยความเศร้า  มีเพื่อนที่มหาวิทยาลัย  และเพื่อน ๆ จากทีมบาสมากันเต็มไปหมด  พ่อกับแม่ของพี่โป้งก็ดูเศร้าไม่แพ้กัน  พวกเราไปช่วยกันทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำ  และจุดธูป ในงาน   ส่วนแบ๊งค์......ไม่ยอมทำอะไร   ได้แต่นั่งเหม่อ  ในมือ ก็กำตุ๊กตาโอชาเคน  สิ่งสุดท้ายที่พี่โป้งให้ไว้

บอกตรง ๆ ตอนนี้แบ๊งค์ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีแล้วแท้ ๆ ทำไมเหตุการณ์ร้าย ๆ มันถึงได้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง
แล้วก็มาถึงวันนี้  วันที่พวกเรามาลอยอังคารของพี่โป้ง  บรรยกาศยังคงเต็มไปด้วยความเศร้า  แม่พี่โป้งค่อย ๆ หย่อนห่อผ้าสีขาว  ที่บรรจุกระดูกของพี่โป้งลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา  ตอนนี้พี่โป้งได้จากเราไปแล้ว  พี่โป้งไปรอเราอยู่ที่ไหนซักที่  ขอให้พี่โป้งมีความสุขมาก ๆ นะครับ  แล้วซักวัน...........แบ๊งค์จะตามไปเจอพี่โป้งเอง
******************************
อารายเนี้ย เกิดอะไรขึ้น ไหงเป็นเงี้ย  :serius2: :serius2:ไม่ยอม
พี่ BrOwNiE ใจร้ายอ่ะ :m15:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 24-06-2007 22:46:09
บทที่ 52 นายกาวผู้หวังดี

   หลังจากงานศพของพี่โป้งเสร็จสิ้นไปแล้ว   แบ๊งค์ก็ยังคงเอาแต่เศร้าไม่พูดไม่จา มือก็ถือแต่ตุ๊กตาที่พี่โป้งให้ไว้ก่อนจะจากไป  วันนี้ก็อีกเหมือนกัน  แบ๊งค์แอบเลี่ยงมานั่งอยู่ที่หลังตึก  ตรงที่ประจำที่แบ๊งค์กับพี่โป้งชอบมานั่งด้วยกัน  เมื่อครั้งที่พี่โป้งโดนพี่อาร์ทโกรธ  จนมองหน้ากันไม่ติด  วันนี้แบ๊งค์ก็มานั่งเหมือนเดิม  แต่แตกต่างกันตรงที่....วันนี้  แบ๊งค์นั่งอยู่คนเดียว  เพราะตอนนี้คนข้าง ๆ ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว

   แบ๊งค์นั่งอยู่คนเดียว  มองท้องฟ้าอย่างเดียวดาย  แล้วอยู่ ๆ ก็มีน้ำใส ๆ ค่อยไหลริน  ออกมาจากนัยน์ตาของแบ๊งค์   เหมือนแบ๊งค์พยายามจะหลับตากลั้นมันไว้  แต่ก็ไม่สำเร็จ  มันยังคงไหล  ออกมาไม่หยุด

“แบ๊งค์........”    เสียงของพี่อาร์ทดังขึ้นข้างหลังแบ๊งค์

“................”    แบ๊งค์ค่อย ๆ หันมามอง  จากนั้นก็ส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา  พี่อาร์ทเลยรีบโผ  เข้ากอดแบ๊งค์เอาไว้ในอ้อมแขน

“โป้งมันไปดีแล้ว   อย่าเสียใจเลยนะ”

“พี่จะปกป้องแบ๊งค์เอง”   พี่อาร์ทพูดพลางกอดแบ๊งค์ให้แน่นขึ้น  ตอนนี้ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของแบ๊งค์ทั้งนั้น  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงใด ๆ เลย  มีเพียงแค่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

แบ๊งค์กลับเข้าเรียนในภาคบ่าย  ด้วยสภาพตาแดง ๆ  เหมือนทุกคนจะรู้ว่าแบ๊งค์ยังคงเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่  เลยไม่มีใครถามอะไร  แบ๊งค์เองก็พยายามทำตัวปกติ   นั่งเรียนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ถึงแม้ว่าภายในใจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ตาม  ทุกอย่างเป็นแบบนั้นไปจนเลิกเรียน

“แบ๊งค์...........”    กาวเรียนขึ้น  ทำให้แบ๊งค์หันไปมอง

“....................”    ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของแบ๊งค์  มีเพียงแค่สายตาเท่านั้นที่ทำหน้าที่  ส่งคำพูด  ไปถามกาวว่า  มีอะไรหรอ

“เรามีเรื่องจะคุยกับแบ๊งค์  ไปกับเราซักแปปนะ”   กาวพูด 

“...................”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ

แล้วแบ๊งค์ก็เดินตามกาวไปเรื่อย ๆ เหมือนไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน  เดินจนไปหยุดอยู่ที่ตึกไหนซักที่เนี่ยแหละ   แบ๊งค์ก้ไม่ได้สนใจเหมือนกัน   รู้เพียงแค่ว่าที่นี่เงียบมากก็เท่านั้น

“แบ๊งค์....ตกลงนายจะไม่ยอมพูดอะไรเลยใช่มั้ย”   กาวหันมาแล้วระเบิดคำพูดใส่แบ๊งค์

“.....................”    แบ๊งค์ค่อย ๆ ก้มหน้า  และยังคงนิ่งเงียบ

“นายเป็นอะไรไปน่ะ  คนอื่นเค้าเป็นห่วงเมริงมากรู้มั้ย”    กาวเข้ามายืนข้างหน้าแบ๊งค์  พร้อมกับเอามือจับไหล่แบ๊งค์แล้วเขย่าเบา ๆ

“เมริงอย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย   นายอย่าลืมสิ”

“เมริงยังมีคนที่รักเมริง  เป็นห่วงเมริงอยู่อีกเยอะนะ”   กาวพูดเสียงสั่น ๆ เหมือนคนกำลังจะร้องไห้

“มองหน้าเราสิแบ๊งค์   ก้มหน้าทำไมล่ะ มองหน้าเราสิ”   กาวตะคอกอีก   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เงยหน้ามามองกาว  ตอนนี้ที่นัยน์ตาของกาว  เหมือนมีน้ำใส ๆ กำลังเคลือบดวงตาอยู่  และมันก็กำลังที่จะไหลรินออกมา   แต่แบ๊งค์เหมือนจะไวกว่า  เพราะเพียงแค่แบ๊งค์มองเห็นเพียงเท่านั้น  น้ำตาของแบ๊งค์ก็ไหลออกมาอีกรอบ

“เรา....เราขอโทษ”   แบ๊งค์พูดออกมาอย่างแผ่วเบา   กาวปล่อยมือออก  แล้วเอามือมาปาดน้ำตาตัวเองที่กำลังจะไหล

“ไม่ต้องขอโทษหรอก  เราไม่อยากได้ยินคำนั้น”   

“ที่เราอยากได้ยิน  คือเสียงแบ๊งค์คนเดิม  คนที่เป็นเด็กน้อย เด็กดื้อแสนซน  ไม่ใช่คน ๆ นี้  คนที่เอาแต่ร้องไห้  ไม่พูดไม่จากับใคร”   กาวพูด   แล้วลากแบ๊งค์ไปนั่งที่หน้าตึก   เราสองคนไม่พูดอะไร  ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว  ทุกอย่างค่อย ๆ มืดลง

มีโทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้ง  เป็นสายของพี่อาร์ทกับพี่นุ่น  ที่โทรเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง  แบ๊งค์ก็ได้แต่ตอบไปว่า  ขอไปเดินเล่นแล้วจะกลับเอง
 
“เราก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอกนะ”    แบ๊งค์เริ่มพูดออกมา

“ใจจริงเราก็อยากจะกลับไปเป็นคน ๆ เดิมนะ  แต่เราทำไม่ได้”    แบ๊งค์พูดเสียงเศร้า

“แบ๊งค์รู้ได้ยังไงล่ะ   เคยลองทำแล้วหรอ”   กาวถามกลับ

“อืม...เราลองพยายามแล้ว   พยายามที่จะไม่คิดถึงพี่โป้ง”

“พยายามที่จะลืมพี่โป้งออกไปจากหัวให้ได้   แต่เรา.....เราก็ทำไม่ได้อยู่ดี”   แบ๊งค์ตอบ

“ไม่หรอกแบ๊งค์   ไม่ใช่ทำไม่ได้   แต่แบ๊งค์ยังปิดกั้นตัวเองตะหาก”  กาวพูด

“แบ๊งค์นั่นแหละที่เอาตัวเอง  ไปจมอยู่กับอดีต”

“ทั้ง ๆ ที่แบ๊งค์เลือกที่จะหลุดออกมาจากมันได้  แต่แบ๊งค์ไม่ทำเอง”   กาวพูด

“...........................”    แบ๊งค์เงียบตามเคย

“เลิกได้แล้วนะ  ไอ้นิสัยที่ชอบเงียบแบบนี้น่ะ”

“มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอก”    กาวพูด

“อืม....เราจะพยายามนะ”   แบ๊งค์ตอบไป

“อย่าใช้คำว่าพยายามสิ   ต้องพูดว่าทำให้ได้”   กาวหันมาตะคอก

“อืม..............”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ

“แบ๊งค์รู้มั้ยว่าการที่แบ๊งค์กลายเป็นแบบนี้   คนรอบข้างเค้าเป็นห่วงแค่ไหน”   กาวพูด

“พี่อาร์ท  พี่ตั้ม  พี่นุ่น  พี่ปอย  พี่ตี๋ ไหนจะ ไอ้แมค  ไอ้ปรินซ์อีกล่ะ   ทุกคนเค้าเป็นห่วงแบ๊งค์มากรู้มั้ย”   กาวพูด

“อืม....เราจะกลับไปเป็นคนเดิมให้ได้นะ”   แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์......”    กาวพูดพลางเอามือมาวางบนบ่าของแบ๊งค์

“อย่าปิดตัวเองอีกเลยนะ  ทุกคนรอที่ช่วยแบ๊งค์อยู่”

“รอที่จะช่วยดึงแบ๊งค์ออกมาจากอดีต   อย่าปฏิเสธความช่วยเหลือจากพวกเค้าเหล่านั้นอีกเลยนะ”   กาวพูด

“กาว...........”

“ขอบคุณนะ”   แบ๊งค์ยิ้มออกมาเล็กน้อย  ก่อนจะโผเข้ากอดกาว   ตอนแรก ๆ ก็ดูเหมือนกาวจะตกใจอยู่เหมือนกัน  ที่แบ๊งค์โผเข้ากอด   แต่แล้วกาวก็ค่อย ๆ กอดแบ๊งค์เข้าไว้ในอ้อมแขน  จะว่าไปตัวนายกาวนี่ก็หอมดีเหมือนกันนะ  เป็นกลิ่นที่ดมแล้วรู้สึกอบอุ่นดีจังเลย   แล้วนายกาวเป็นอะไรไปเนี่ย  ทำไมเสียงหัวใจดูเต้นรัว ๆ  แต่ยังไม่ทันที่แบ๊งค์จะได้ถามอะไรมากไปกว่านี้  กาวก็ผละตัวออกจากแบ๊งค์

“เราว่าไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ  ตอนนี้มันก็เริ่มเย็นแล้ว”   กาวพูด

“อืม...ไปก็ไปสิ”    แบ๊งค์ตอบออกไป  พร้อมกับรอยยิ้มแห้ง ๆ  เราสองคนเดินออกไปหาอะไรทานกันที่หน้ามหาวิทยาลัย   ก็ไม่ได้ทานอะไรมากหรอกครับ   แบ๊งค์ยังไม่หิวอะไรจริง ๆ แต่กาวสิ คะยั้นคะยอให้แบ๊งค์ทานให้ได้   จนแบ๊งค์ต้องพูดว่าอิ่มจริง ๆ นั่นแหละ กาจึงได้หยุด

ระหว่างที่นั่งมองนายกาวกินข้าวไป  แบ๊งค์ก็คิดอะไรเพลิน ๆ แบ๊งค์คงนิสัยไม่ดีมากใช่มั้ยเนี่ย  แบ๊งค์ทำให้คนรอบข้างต้องเป็นห่วงมากมายขนาดนี้   เฮ้อ~~~ถ้าแบ๊งค์เข้มแข้งได้มากกว่านี้อีกซักนิดก็คงดีสินะ  จะได้ไม่ต้องมาทำให้ใครเป็นห่วงอย่างนี้อีก   ยังไงแบ๊งค์ก็ต้องทำให้ได้  แบ๊งค์ต้องกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้

“เป็นอะไรไปน่ะแบ๊งค์   นั่งเหม่ออยู่ได้”   กาวเรียก  ทำให้แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาจากความคิดของตนเอง

“ไม่มีอะไรหรอก  คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“พอได้แล้ว  เลิกเหม่อ  เลิกเศร้า  เลิกเงียบได้แล้วนะ”   กาวพูดพลางเอามือลูบหัวแบ๊งค์เบา ๆ  แบ๊งค์ก็ได้แต่ยิ้มตอบไป

วันนี้เรานั่งรถเมล์กลับด้วยกันครับ  นานแล้วสินะ  ที่แบ๊งค์ไม่ได้กลับบ้านด้วยรถเมล์กับนายกาวแบบนี้  มันทำให้แบ๊งค์นึกถึงช่วงสัปดาห์แรก  ที่พี่นุ่นต้องไปรับน้องแล้วแบ๊งค์ต้องอยู่คนเดียว   ช่วงนั้นแบ๊งค์กลับบ้านกับนายกาวแทบทุกวันเลย 

วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร  มองออกไปนอกหน้าต่างของรถเมล์  เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกแสง  จากไฟกิ่งที่เกาะกลางของถนน ดูสวยไปหมด  แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกเคลิ้ม ๆ ไป  แล้วก็.........

“แบ๊งค์.....แบ๊งค์.....”   กาวเรียกอย่างแผ่วเบา  แบ๊งค์เลยสะดุ้งตื่นขึ้นมา  มันทำให้แบ๊งค์รู้ว่า  แบ๊งค์หลับไปโดยซบอยู่กับไหล่ของนายกาว

“ขี้เซาไม่เลิกนะ  จะถึงคอนโดแบ๊งค์แล้ว”   กาวบอก

“อ่ะ....อืม   ขอบคุณนายมากนะ  ไปก่อนล่ะ”   แล้วแบ๊งค์ก็เดินลงรถไป    แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินเข้าไปยังคอนโด  พอเข้าไปถึงในห้อง  ก็เห็นว่าพี่นุ่นเข้าไปอยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว  ไม่รู้ว่าจะหลับรึยัง  แต่ก็ช่างเหอะ  แบ๊งค์เข้าห้องตัวเองบ้างดีกว่า 

ที่ประตูมีกระดาษโน้ตของพี่นุ่นแปะไว้   เป็นข้อความที่ให้กำลังใจ  แสดงถึงความห่วงใยของเค้านั่นแหละ   แบ๊งค์เดินเข้าไปในห้องน้ำ  เพื่อเตรียมที่จะอาบน้ำ

แบ๊งค์จ้องมองตัวเองที่อยู่ในกระจก   ถึงเวลาแล้วสินะ  ที่แบ๊งค์จะต้องกลับมาเป็นคนเดิมได้แล้ว  การที่เราเศร้าแบบนี้มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นจริง ๆ ด้วย   แบ๊งค์ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะทำได้ดีแค่ไหน  แต่แบ๊งค์ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด  มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย  แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ  รอกันหน่อยนะทุก ๆ คน  แบ๊งค์ต้องกลับมาเป็นแบ๊งค์คนเดิมให้ได้  แบ๊งค์สัญญา......


-------------------------------------------------------------------------------


พักนี้แบ๊งค์ไม่ค่อยพูดจาอะไรเลย   ผมเป็นห่วงเค้าจัง  ช่วงตอนเช้า  กับช่วงพักกลางวัน  แบ๊งค์ก็ไม่มานั่งที่โต๊ะเหมือนปกติ  ไปตามหาที่หอสมุดก็ไม่เจอ  ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน

“มีใครเห็นแบ๊งค์มั่งอ่ะครับ”   ปรินซ์ถามขึ้น

“นั่นสิ  พักนี้ไม่เห็นหน้าเลยนะ  เจอกันใน class ก็แทบจะไม่ได้ทักกันเลย”   แมคบ่น

“พี่ว่าเราอย่าเพิ่งเข้าไปกวนเค้าดีกว่านะ”   พี่ปอยพูด

“อ้าว  ทำไมล่ะ”   แมคถาม

“พี่ว่าแบ๊งค์คงยังเศร้าอยู่กับ เรื่องของโป้งน่ะ”   พี่ปอยพูดเสียงเศร้า ๆ

“อืม...ก็น่าจะใช่นะ   เป็นใครก็ต้องเศร้ากันทั้งนั้นแหละ”   พี่ตั้มพูดเสริม

“แต่แบ๊งค์ก็ไม่น่าทำแบบนี้นะครับ”   ผมพูดออกไป

“ก็เข้าใจนะว่าแบ๊งค์เศร้าอยู่   แต่แบ๊งค์ก็ไม่ควรมานั่งจมอยู่กับอดีตแบบนี้  มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย”   ผมโพล่งออกไป

“พี่เข้าใจในความเป็นห่วงของเรานะกาว   แต่เราคงทำอะไรไม่ได้หรอก”   พี่ตี๋พูด

“ตอนนี้ที่เราทำได้ก็มีแค่รอ...รอให้เวลามันผ่านไป   จนในที่สุดแบ๊งค์เค้าลืมมันไปเอง”   พี่ตี๋พูด

“ครับ.......”   ผมได้รับคำไป    วันนี้ในช่วงบ่าย   แบ๊งค์มาเข้าเรียนตามปกตินะครับ  แต่ตาของแบ๊งค์ดูแดง ๆ คงแอบหนีไปร้องไห้มาอีกแล้วล่ะสิ   ผมจะทำยังไงดีนะ  ที่จะให้แบ๊งค์เลิกนิสัยแบบนี้ซะที

ไอ้นิสัยที่เวลามีเรื่องอะไรแล้ว  ชอบเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ยอมบอกใคร   บอกตามตรงนะครับ  ในวิชานั้น  ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรเลย   เอาแต่คิด   คิดว่าจะทำยังไงที่จะให้แบ๊งค์กลับมาเป็นคนเดิม  จนในที่สุดผมก็ต้องเรียกแบ๊งค์ไปคุยกันสองคน

แบ๊งค์เอาแต่เงียบ  และร้องไห้  ผมไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงให้แบ๊งค์กลับมาเป็นอย่างเดิม ผมรู้สึกไม่สบายใจมาก  รู้สึกเครียดจนผมเกือบจะร้องไห้ออกมา  แต่ก็กลั้นมันเอาไว้ได้  แบ๊งค์ก็อาจจะเห็นมันนะ แต่ช่างเหอะ  ถ้าเค้าเห็นก็ดี เค้าจะได้รู้ว่าผมเป็นห่วงเค้ามากแค่ไหน

เราปรับความเข้าใจกัน  มันทำให้ผมรู้ว่าแบ๊งค์ก็กำลังพยายามเปลี่ยนตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ทำไม่ได้  ผมอยากเข้าไปช่วยเค้าจริง ๆ แต่เหมือนกับว่าเค้าต้องการเวลา  ผมก็เลยขออาสาช่วยเค้า  แบ๊งค์ก็ตอบตกลงมา  แล้วอยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็เข้ามาโผกอดผม  เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ

จากนั้นเราก็ไปหาอะไรทานกัน  ตอนนี้เหมือนกับว่าแบ๊งค์จะเริ่มผ่อนคลายบ้างแล้ว  ผมเลยพาเค้าไปหาอะไรทานกัน   ตอนนี้พอผมได้เห็นเค้าสบายใจขึ้น ผมก็สบายใจขึ้นเหมือนกัน  วันนี้เราตกลงจะนั่งรถเมล์กลับด้วยกัน ระหว่างทางขณะที่เราอยู่บนรถ  คงเป็นเพราะว่าเรากลับดึกล่ะมั้งครับ  คนเลยไม่ค่อยมี  ผมเลยนั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  ซักพักก็เหมือนเดิมแหละครับ  แบ๊งค์หลับไปอีกแล้ว  ผมเลยค่อย ๆ เอาหัวผมไปซบที่หัวแบ๊งค์บ้าง   กลิ่มผมแบ๊งค์หอมดีจัง 

ตัวผมเองก็คงทำได้แค่นี้แหละครับ   ได้แค่แอบหาเศษหาเลย  ไปเรื่อย ๆ ได้เป็แค่นี้ผมก็พอใจแล้วล่ะครับ  พอใกล้จะถึงคอนโดผมก็ปลุกให้แบ๊งค์ตื่นขึ้นมา  เค้าก็งัวเงียตามประสานั่นแหละครับ  เหมือนเด็กอีกตามเคย  นี่คงเป็นสเน่ห์ที่ทำให้ใครต่างหลงรักเค้าล่ะมั้ง

ตอนนี้แบ๊งค์ลงจากรถไปแล้ว  ผมมองตามเค้าจนสุดสายตา  แบ๊งค์.........เรารักแบ๊งค์นะ    นี่คงเป็นคำที่ผมต้องเก็บไว้ตลอดไปสินะ 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 24-06-2007 22:54:10
บทที่ 53 สวนสนุก

หลังจากวันที่แบ๊งค์ได้ปรับความเข้าใจกับนายกาวแล้ว   แบ๊งค์ก็ยังคงไปมหาวิทยาลัยตามปกติ  แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือ  แบ๊งค์ไม่เอาแต่นั่งเหม่อ  นั่งเศร้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  แบ๊งค์กลับมาเป็นแบ๊งค์คนเดิม  คนที่มีแต่ความสดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน

ความจริงแล้ว  แบ๊งค์ก็ยังคงคิดถึงพี่โป้งอยู่เสมอ  แบ๊งค์ยังคงคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพี่โป้ง   แต่แบ๊งค์ไม่อยากทำให้ใครต้องมาเป็นห่วง  หรือไม่สบายใจเกี่ยวกับตัวแบ๊งค์อีก แบ๊งค์เลยต้องทำตัวปกติออกไป  หลายคนอาจมองว่าแบ๊งค์เล่นละครตบตา  มันอาจเป็นอย่างนั้นก็ได้  แต่ถ้าแบ๊งค์ทำแบบนั้นแล้วทุกคนสบายใจแบ๊งค์ก็ยอมทำ

จนในที่สุดก็มาถึงช่วงปิดเทอม  ช่วงนี้แบ๊งค์ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอก  เพราะพี่อาร์ทก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่   แบ๊งค์ก็เลยอยู่แต่ที่คอนโด  นั่งเล่นเกมส์  ฟังเพลงไปวัน ๆ แน่ล่ะว่าแบ๊งค์ต้องนั่งถือเจ้าตุ๊กตาโอชาเคนไว้ในมือด้วย  ไม่รู้สิ  ว่าทำไมแบ๊งค์ต้องถือมันไว้  แต่เวลาที่แบ๊งค์ถือมันไว้ในมือ แบ๊งค์จะรู้สึกสบายใจ  รู้สึกอบอุ่นเหมือนมีพี่โป้งคอยมาอยู่ข้าง ๆ

“แบ๊งค์!! กาวมาหาน่ะ “   พี่นุ่นตะโกนเรียกออกมาจากข้างนอกห้อง

“อืม....เข้ามาสิ”    แบ๊งค์ตอบกลับไป  พร้อมกับรับซ่อนเจ้าตุ๊กตาโอชาเคนเอาไว้  ไม่อยากให้ใครเห็น  เพราะเดี๋ยวเค้าเอาไปคิดว่าแบ๊งค์ยังไม่ลืมพี่โป้ง  แล้วจะมาไม่สบายใจกันอีก  ซักพักประตูห้องก็เปิดออก  พร้อมกับนายกาว

“ว่าไง  เอาแต่นอนอยู่ในห้องอย่างเดียวเลยนะ”   กาวทักขึ้น

“ก็จะเราไปไหนล่ะ  อยู่ในห้องเนี่ยแหละ สบายสุดแล้ว”   แบ๊งค์พูด

“พูดเข้าไปนั่น  เดี๋ยวก็เป็นง่อยกันพอดี ไม่ยอมออกไปเปิดหูเปิดตา”   กาวแย้งกลับมา

“อ่านะ  แล้ววันนี้มามีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็จะมาพาแบ๊งค์ออกไปเปิดหูเปิดตาน่ะสิ”   กาวพูด  มันทำให้แบ๊งค์งง ๆ อยู่เหมือนกัน

“ไปไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับไป

“ไม่บอกหรอก  อยากรู้ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ  ออกไปสภาพนี้ไม่ไหวแน่ ๆ ว่ะ”   กาวพูด

“งั้นกรูส์ไม่ไปก็ได้”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“เฮ้ย ๆๆๆ กรูส์อุตส่าห์มาชวนแล้วนะเว้ย”    กาวทำท่าไม่พอใจบ้าง

“ไม่รู้ล่ะ  ต้องไปถ้าไม่ไปกรูส์จะ......”    กาวทำท่าคิดอยู่ซักพัก  แล้วเข้ามาจี้เอวแบ๊งค์

“เฮ้ย ๆๆ  พอ ๆๆ กรูส์ยอมไปก็ได้  พอได้แล้ว”    แบ๊งค์ต้องยอมไปครับ  มามุกนี้ไม่ไหวจริง ๆ  แล้วกาวก็ออกไปรอแบ๊งค์ข้างนอกห้อง   แบ๊งค์ก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเรียบร้อย   แล้วออกไปหากาว  ก่อนที่จะออกไป  แบ๊งค์ไม่ลืมที่จะบอกลาเจ้าโอชาเคนที่เป็นเสมือนตัวแทนของพี่โป้งหรอ

“ฝากดูแลห้องด้วยนะ  อย่าแอบเหงาล่ะ”   แบ๊งค์พูดกับเจ้าตุ๊กตาตัวน้อย  แล้วเดินออกไปหากาว  จากนั้นเราทั้งสองคนก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปด้วยกัน   

“กาว   ตกลงจะบอกเราได้ละยัง  ว่าจะพาเราไปไหน”   แบ๊งค์ถาม

“เอาไปขายไง”   กาวพูด

“อ้าว...ไอ้เวร   เอากูมาขายซะงั้น  กูขอ70-30นะเว้ย”   แบ๊งค์แกล้งรับมุก

“อ้าว....ไอ้นี่  มีรับมุก”    กาวตอบกลับมา

“ตกลงบอกได้ละยังล่ะ  ว่าจะพาไปไหน”   แบ๊งค์ถามกลับอีก

“เดี๋ยวก็รู้น่า”    กาวยังคงไม่ตอบครับ  จนในที่สุดก็มาถึงจุดหมายครับ   เป็นสวนสนุกนั่นเอง

“สรุปที่เมริงไปลากกรูส์ออกมาจากห้อง  เพื่อมาสวนสนุกเนี่ยนะ”  แบ๊งค์ถามย้ำ

“ก็ใช่ไง  พามาเที่ยวสวนสนุก”

“อย่าพูดมากน่า  เข้าไปได้แล้ว”    กาวมันพูดตัดบท  แล้วดันแบ๊งค์ไปซื้อตั๋ว  แล้วเข้าไปในสวนสนุกกันครับ

อย่างแรกที่กาวพาแบ๊งค์ไปเล่นในวันนี้คือ รถไฟเหาะ (o_O)

“เฮ้ย...เมริงจะเล่นไอ้นี่เป็นอย่างแรกจริง ๆ หรอ”  แบ๊งค์ถามกาวไป

“ก็เออน่ะดิ  กรูส์พาเมริงมาที่รถไฟเหาะ”

“กรูส์คงจะพาเมริงมาเล่นรถแข่งมั้ง”    กาวพูดประชดครับ

“อ้าวไอ้นี่  อุตส่าห์พูดดี ๆ นะเฟร้ย”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“งอน  ๆๆ เมริงจะงอนชิงแชมป์โลกหรือไงฟระ” กาวแซวครับ

“ก็....”   ยังไม่ทันจะได้แย้งคืนหรอกครับ  ไอ้กาวดันเอวแบ๊งค์เข้าไปเรียบร้อย   ตอนนี้เราก็นั่งอยู่บนรถไฟเหาะแล้ว  ก่อนรถไฟเหาะจะออกตัวไอ้กาวหันมายักคิ้วให้หนึ่งทีครับ  เหมือนมันจะสบายมากเลยนะ  แต่แบ๊งค์นี่สิ....จะไหวป่าวเนี่ย

ออกตัวไปแล้วครับ.....แว๊กกกกกกก (O-O)  อะไรกันเนี่ย    แบ๊งค์ส่งเสียงออกมาตลอดเวลาเลยครับ   ไอ้กาวน่ะหรอ  ก็ร้องบ้างไม่ร้องบ้าง   เอาแต่หัวเราะเป็นซะส่วนใหญ่  แบ๊งค์นะลุ้นนแทบตายกว่ามันจะหยุด  พอเล่นเสร็จเท่านั้นแหละ  แบ๊งค์รีบวิ่งออกมาเลย

“เป็นไรไปวะ  รีบออกมาเลย”   กาวที่วิ่งตามมาถามขึ้นครับ

“กาว...เมริงจะฆ่ากรูส์หรอไงวะ”

“เปิดประเดิมด้วย  รถไฟเหาะเนี่ยนะ”    แบ๊งค์ที่นั่งลง  เพราะรู้สึกมึน ๆ กับรถไฟเหาะ พูดขึ้น

“อะไรวะ  แค่นี้เอง  มีอะไรให้เล่นอีกตั้งแยะ  ไปกันเหอะ”   กาวไม่พูดเปล่าครับ  จูงมือแบ๊งค์ไปอีก   แบ๊งคยังไม่ทันจะตั้งตัวเลย 

กาวมันพาแบ๊งค์ไปต่อที่บ้านผีสิงครับ    สรุปว่าวันนี้แบ๊งค์ต้องตาย ตั้งแต่ตอนเริ่มเลยหรอเนี่ย  ดูแต่อย่างที่กาวมันพาไปเล่นดิ   มันน่าจะเก็บไว้เป็นอย่างสุดท้ายมากกว่านะ
ตอนที่อยู่ในบ้านผีสิง  ยอมรับเลยครับ  ว่าแบ๊งค์กลัวมาก  เดินติดกับกาวเลย  กลัวมันจะทิ้งไป  จับมือมันแน่นมาก ๆ แล้วไอ้กาวก็เป็นอะไรไม่รู้  ไม่พูดอะไร  แบ๊งค์ก็เลยยิ่งจับมือมันแน่นยิ่งกว่าเดิม

“กาว...เป็นอะไรไปวะ”

“คุยกับกรูส์หน่อยดิ  เงียบแบบนี้  กรูส์กลัวนะเว้ย”   แบ๊งค์พูดครับ

“อ....อืม    เมริงกลัวมากเลยหรอ”   กาวถามครับ

“ก็เออดิ......ว๊ากกกกก”    ตอบได้แปปเดียว  อยู่ดี ๆ ตัวอะไรก็ไม่รู้ครับ  พุ่งขึ้นมา  แบ๊งค์เลยเผลอกอดไอ้กาวเข้าไป  แล้วแบ๊งค์ก็หยุดยืนอยู่แบบนั้น    มารู้ตัวอีกทีตอนไอ้กาว  มันกอดแบ๊งค์ตอบนั่นแหละ  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาแล้วผละออก   จากนั้นก็เดินต่อไปอีก

ไม่รู้ทำไมนะ  ตั้งแต่มีเรื่องที่ทางเชื่อมตึกวันนั้น เป็นต้นมา  เดี๋ยวนี้เวลาแบ๊งค์อยู่ใกล้กาวบ่อย ๆ มันทำให้แบ๊งค์รู้สึกแปลก ๆ   กาวเองก็เหมือนกัน  ดูแปลก ๆ ไป  เหมือนกับคิดอะไรอยู่  ชอบเหม่อ  แล้วเงียบไป  มีหลายครั้งนะที่แบ๊งค์บังเอิญไปอยู่ ใกล้กับมัน  แบบว่า ๆ ใกล้มาก ๆ น่ะ มักจะได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นรัว ๆ  ไม่รู้สิ  ว่าคิดมากไปรึเปล่า

ในที่สุดก็ออกมาจากบ้านผีสิงจนได้   น่ากลัวจริง ๆ เลย  ถึงจะไม่ใช่ของจริงก็เหอะนะ จเอแบบนี้แล้วไม่ไหวจริง ๆ

“เป็นไง  กลัวมากมั้ย”  ไอ้กาวมันพูดด้วยเสียงนุ่ม ๆ ครับ

“อืม...ก็กลัวดิ  แต่กาว....”    แบ๊งค์หยุดพูด   กาวมันเลยหันมามองหน้า

“ทำไมหรอ”   กาวทำท่างง ๆ ครับ

“ทำไมต้องทำเสียงนุ่ม ๆ ฟังดูอ่อนโยนแบบนั้นด้วยวะ”    แบ๊งค์ถามไปครับ   ก็จริงนี่นา  ปกติมันไม่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้นี่นา

“อ่า..เอ่ออ  แล้วแบ๊งค์ไม่ชอบหรอ”   มันยังคงพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดิม

“ก็ฟังดูดีนะ   แต่แบบเก่าดีกว่านะ  ดูเป็นกาวคนที่เป็นเพื่อนแบ๊งค์มากกว่าน่ะ”  แบ๊งค์พูด

“อืม.....เพื่อน......”   กาวพูดด้วยเสียงเบา ๆ

“เฮ้ย....เป็นอะไรไปวะ  มาเที่ยวสวนสนุกนะเว้ย  ยิ้มหน่อย”    แบ๊งค์กำลังจะเอามือไปขยี้หัวมันครับ   แต่พอยกมือขึ้นมา   อ้าว.....แบ๊งค์จับมือกาวอยู่ตลอดเวลาเลยหรอเนี่ย  แบ๊งค์เลยรีบปล่อยมือออกครับ  ไอ้กาวก็ดูเหมือนจะอาย ๆ มันก็เลยรีบชักมือออกมาเหมือนกัน

“เอ่อ.....แบ๊งค์ว่าเราไปเล่นไอ้นั่นดีกว่านะ”    แล้วแบ๊งค์ก็รีบเดินนำหน้าไป  โดยมีกาวเดินตามหลัง  เราก็เล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ไปอีกซักพักแหละครับ  จนเริ่มรู้สึกเหนื่อย ๆ ก็เลยมานั่งพัก

“กาว....หิวน้ำมั้ยเดี๋ยวเราไปซื้อให้”   แบ๊งค์ถามครับ

“อ...อืม  ก็ได้”    กาวเหม่อลอยอีกแล้ว

“ไอ้กาว!!!!! “   แบ๊งค์ผลักหัวมันไปเบา ๆ ครับ

“เฮ้ย!!! อะไรวะ”    กาวมันรีบแย้งขึ้นมา

“นี่สิ  ค่อยสมเป็นไอ้กาวหน่อย”    แบ๊งค์พูด

“เป็นอะไรวะ  เห็นเหม่อมาตั้งนานแล้ว   คิดอะไรอยู่  คิดจะหลอกกรูส์ไปปล้ำหรือไง”    แบ๊งค์แกล้งแซวครับ

“เฮ้ย!!! บ้าดิ  ใครจะไปคิดแบบนั้น”    กาวพูด

“งั้นก็เลิกคิดมากได้แล้ว   เมริงเป็นคนพากรูส์มานะเว้ย”

“มานั่งอมทุกข์แบบนี้  มันก็ไม่สนุกดิวะ”   แบ๊งค์ตัดพ้อ

“เออ......กรูส์ไม่เป็นไรแล้ว”   กาวตัดบทไป

“ไหนลองยิ้มหน่อยเร็ว”   แบ๊งค์เอามือทั้งสองข้างช้อนหน้าของกาวขึ้นมา  เพื่อให้กาวมันยิ้มครับ  มันก็เลยยิ้มแหย ๆ ออกมา

“อะเช   ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อย”

“ป่ะ  ไปหาน้ำแดซกัน”    แบ๊งค์ชวนมันครับ

“อ้าว....ไหนเมื่อกี้บอกว่าจะไปคนเดียว   แล้วจะซื้อมาให้เราไง”   กาวพูด

“ไม่เอาแล้ว  ไปด้วยกันนี่แหละ”

“ไปคนเดียวเดี๋ยวกรูส์โดนฉุดไป  เมริงจะว่าไง”    แบ๊งค์แกล้งพูดไป

“เออ ๆๆ  ป่ะ ไปกันเหอะ”   แล้วกาวก็ยอมเดินไปเป็นเพื่อนแบ๊งค์ครับ   พอไปหาน้ำดื่มกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว   เราก็ไปทัวร์เครื่องเล่นกันต่อเลยครับ   สนุกมากเลยอ่ะ  นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้สินะ  ที่แบ๊งค์ไม่เคยมาสวนสนุก  และก็นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้  ที่แบ๊งค์ไม่ได้สนุกแบบนี้

เล่นมาจนเริ่มจะเย็นแล้วครับ  ตอนนี้ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว   หิวด้วยแบ๊งค์ก็เลยชวนกาวไปหาอะไรทานกัน

“กาว  เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันมั้ย”   แบ๊งค์ชวน

“เออน่า....เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก”   กาวพูดครับ

“อืม ๆ งั้นกรูส์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“พอออกมาจะไปกันเลย”   แบ๊งค์พูด

“กรูส์รออยู่ตรงนี้นะเว้ย”   กาวพูด  แบ๊งค์เลยพยักหน้าตอบกลับไป   แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำจนเสร็จเรียบร้อย  พอออกมาก็เห็นไอ้กาวนั่งคุยโทรศัพท์อยู่   พอแบ๊งค์ไปถึง  มันก็วางสายพอดี   จริง ๆ ก็อยากรู้นะ ว่ามันคุยกะใคร  แต่ไม่เอาดีกว่า  เดี๋ยวจะเป็นการลุกส้ำความเป็นส่วนตัว

“ป่ะ  ไปกันละยัง”   กาวถามขึ้น

“อืม....แล้วเมริงจะไปกินที่ไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ตามกรูส์มาก็พอเว้ย”     แล้วกาวก็เดินนำหน้าไปอีกเลย

“อีกแล้วหรอ.....สรุปวันนี้เมริงพากรูส์ไปไหน  เมริงจะไม่บอกอะไรกรูส์เลยใช่มั้ย”    แบ๊งค์บ่นอุบอิบ  ตอนที่เดินตามมัน

“อ่ะนะ  ไม่ต้องกลัวว่ากรูส์จะพาเมริงไปขายหรอกน่า”   กาวแซว

“ใครจะไปรู้ล่ะ  เกิดแบบว่า  เมริงไม่มีเงิน  จับกรูส์ไปขายเอาเงินจะว่าไง”   แบ๊งค์ต่อมุก

“ถุย!!!!  อย่างเมริงเนี่ยนะ   กรูส์ไปขายเองยังจะได้ราคาดีกว่าอีก”   ไอ้กาวแกล้งพูดครับ

“ไอ้กาว!!!!”   แบ๊งค์ทำท่าวิ่งไล่มันครับ  มันก็เลยวิ่งหนีไป

“พอแล้ว ๆๆ เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปหาอะไรกินกันหรอก”   ไอ้กาวพูดครับ  แบ๊งค์เลยหยุด   มันไปเรียกแท็กซี่ครับ  โดยให้แบ๊งค์ยืนรอ  ประมาณกลัวว่าแบ๊งค์จะรู้ว่าจะพาไปที่ไหน  พอมันตกลงเลือกรถได้แล้ว  มันก็กวักมือเรียกแบ๊งค์ไปครับ

“สรุปจะไปที่ไหนกันเนี่ย”   แบ๊งค์ถามไป

“อย่าถามมากน่า  เดี๋ยวถึงแล้วก็รู้เอง”   ไอ้กาวพูด   เล่นพูดมาซะแบบนี้  แบ๊งค์ก็เงียบสิครับ   ไม่รู้เพราะแอร์ในรถมันเย็น  หรือเพราะว่าแบ๊งค์เหนื่อยจากการที่เที่ยวเล่นมาก็ไม่รู้  พอรถแล่นไปได้ซักพัก  แบ๊งค์ก็เริ่มที่จะง่วงซะแล้วสิ

“แบ๊งค์.....แบ๊งค์.....”

“ตื่นได้แล้วเว้ย  เมริงจะหลับง่ายดายอะไรขนาดนี้วะ”   เสียงไอ้กาวครับ  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา  จ๊ากกกก(o_O)  แบ๊งค์กำลังซบอกมันอยู่หรอเนี่ย  แบ๊งค์รีบลุกขึ้นมาเลยครับ

“เป็นไรไปวะ  ตกใจหมด  อยู่ดี ๆ ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา”   ไอ้กาวพูดครับ

“ก็.......”   แบ๊งค์ไม่รู้จะตอบว่ายังไงครับ  เลยนิ่ง ๆ ไป

“ลงไปได้แล้ว ถึงแล้วเว้ย”   ไอ้กาวพูด  พร้อมกับดันแบ๊งค์ให้ลงไปจากรถครับ  โดยมีกาวตามลงมา  พอลงมาก็อึ้งสิครับ  ไอ้เราก็นึกว่าจะไปนั่งกินตามข้างทาง  มันพามาห้างเฉยเลย

“เฮ้ย...พากรูส์มาห้างทำไมฟระ”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็มาหาอะไรแดซไงเมริง”   ไอ้กาวตอบ

“กรูส์ก็นึกว่าเมริงจะพากรูส์ไปกินตามข้างทาง”   แบ๊งค์พูดไป

“ไปได้แล้ว  คนอื่นเค้ารอแล้ว”   กาวพูด

“คนอื่น...มีใครอีกวะ”    แบ๊งค์งงในคำพูดของมันก็เลยถามออกไป

“วันนี้เมริงเป็นอะไรวะ  เป็นเจ้าหนูจำไมหรอ ถามอยู่ได้ไปได้แล้ว”   แล้วไอ้กาวก็จูงมือแบ๊งค์เข้าห้องไปครับ  ทิ้งให้แบ๊งค์งงอยู่อย่างนั้น   มันบอว่าวันนี้มันจะพาแบ๊งค์มากินเอ็มเค  พอไปถึงหน้าเอ็มเคก็ถึงบางอ้อครับ  ไอ้คนอื่นที่มันพูดเมื่อกี้น่ะ  ก็พวก พี่ตั้ม  พี่อาร์ท แมค  แล้วก็เจ้าปรินซ์ไง

“มากันได้ไงเนี่ย”   แบ๊งค์พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ก็พี่ตั้มกับพี่แมคโทรมาชวน  เราก็เลยออกมา”   ปรินซ์ตอบ

“พอดีพี่อยู่กับไอ้แมคน่ะ  พอกาวโทรมาชวนก็เลยโทรไปชวน เจ้าปรินซ์ กับไอ้อาร์ทให้ออกมาด้วยกัน”    พี่ตั้มอธิบาย

“แล้วพี่อาร์ทล่ะ  ยุ่งอยู่ไม่ใช่หรอครับ”  แบ๊งค์ถามพี่อาร์ทไป

“พี่เคลียร์ทุกอย่างเสร็จแล้วล่ะ  พอตั้มโทรมาชวนก็เลยรีบมา”   พี่อาร์ทพูด

“ป่ะเข้าไปกินกันได้แล้ว  ยืนรอจนไส้จะกิ่วอยู่แล้ว”    ไอ้กาวพูดครับ  แล้วเราก็เลยขนโขยงกันเข้าเอ็มเคไป   พอไปถึงพี่ตั้ม  แมค และก็ปรินซ์  กระหน่ำสั่งกันเลยครับ  ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน   คนที่เหลือก็เลยไม่ต้องสั่งอะไร  เพราะ 3 คนนั้นน่ะ สั่งไปให้เรียบร้อยแล้ว  พอพนักงานเสิร์ฟรับออร์เดอร์ไปแล้ว  แบ๊งค์ก็เลยแซว 3 คนนั้นไป

“ใครสั่งเยอะที่สุดคนนั้นเป็นเจ้ามือนะ”   แบ๊งค์แซว

“เออช่าย ๆๆ พี่ตั้มอ่ะ สั่งแยะสุด”   แมคโบ้ยครับ

“อ้าว....เวร  มาลงที่กรูส์ซะงั้น”   พี่ตั้มโวยครับ

“ไม่ต้องโวยเลยพี่ตั้ม   เป็นเจ้ามือเลย”    ปรินซ์พูดครับ

“ไม่ ๆๆๆ  เฮ้ย...ว่าแต่  มื้อนี้ใครเลี้ยงวะ”   พี่ตั้มถาม

“นั่นดิ.....ใครจะเป็นคนเลี้ยงอ่า”    กาวทวนคำถามครับ

“อ้าว....เมริงเป็นคนชวนนะเว้ย”   แบ๊งค์เอามือผลักหัวมันเบา ๆ ครับ

“กรูส์ไม่ล้างจานนะเว้ย”   แมคพูดครับ

“เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองก็ได้ครับ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ดีจัง  วันนี้มีป๋ามาด้วย”   พี่ตั้มแกล้งแซว

“แบ๊งค์ช่วยออกก็ได้นะพี่อาร์ท”    แบ๊งค์อาสาไป

“ไม่ต้องหรอกครับ  พี่เลี้ยงเอง”

“นาน ๆ ทีพี่จะได้เลี้ยงเพื่อน ๆ กับน้อง ๆ”   พี่อาร์ทพูด

“งั้นสั่งเต็มที่นะครับ”   แมคพูด

“ก็ได้ครับ  ยังไงก็ได้”   พี่อาร์ทพูด  ช่างเป็นคนที่ใจดีไม่มีเปลี่ยนแปลงเลยนะ  พี่อาร์ทคนนี้   แล้วพนักงานก็ทยอยเอาของที่สั่งไปมาเสิร์ฟ  รู้สึกว่าตอนนี้มันจะเริ่มล้น ๆ โต๊ะซะแล้วสิ 

“เฮ้ย!!!นั่น!!!!เป้ย  ปานวาด”   แบ๊งค์พูดขึ้นครับ

“ไหน ๆๆๆ “   พี่ตั้มหันไปมองตามครับ  แบ๊งค์เลยขโมยลูกชิ้นปลาของพี่ตั้มมาครับ

“อืม....อร่อย”   แบ๊งค์คีบเข้าปากแล้วพูดครับ

“อ้าว....ไอ้แบ๊งค์”   พี่ตั้มเขกหัวแบ๊งค์เอาไปหนึ่งทีครับ

“เล่นกันเป็นเด็ก ๆ อีกแล้วสองคนนี้”   ปรินซ์พูดครับ

“ทำเป็นคนแก่ไปได้นะไอ้เจ้าปรินซ์”    แมคแซวครับ รู้สึกดีจังที่ได้มากับทุกคนแบบนี้  รู้สึกสบายใจที่มีทุกคนเป็นเพื่อน  อยากให้ทุกคนอยู่กับแบ๊งค์ตลอดไปจัง
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 24-06-2007 23:29:49
พี่โป้งงง
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:

============================

เป็นกำลังใจให้คุณ pajaa ด้วยนะครับ
ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ
 o14 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-06-2007 00:01:24
 :sad4: :sad4: :sad4:
โธ่...พี่โป้งไม่น่าเลย



ความจริงแบ๊งค์ไม่จำเป็นต้องลืมพี่โป้งหรือลืมเหตุการณ์ในวันนั้นก็ได้
แต่แค่เก็บพี่โป้งเอาไว้ในความทรงจำ
และไม่เอาเหตุการณ์นั้นมาโทษตัวเองก็พอแล้ว
เพราะยังไงพี่โป้งก็คงจะอยู่ในใจทุกคนตลอดไป:m2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 25-06-2007 00:55:06
สงสารพี่โป้งจัง  :m15:




เป็นกำลังใจให้น้องpajaaนะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี  :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 25-06-2007 08:42:22
 :-[

หวังว่าคงไม่มีเรื่องเศร้าอีกแล้วนะครับ

เป็นกำลังใจให้น๊า...........

 :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 25-06-2007 11:08:11
หวังเช่นเดียวกันกับรีบนครับ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-06-2007 15:36:52
 :m15: พี่โป้งอ่า  ไมเป็นไปแบบนี้นะนี่

แบงคืก็ดูสดใสขึ้นแล้วนะนี่  ว่าแต่กาวอ่ะ ยังน่าสงสารเหมือนเดิม แอบรักเค้า อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ


ว่าแต่ม่ะได้มีฉากกุ๊กกิ๊กกะพี่อาร์ทเลยยย  รู้สึกกาวจะมีบทเยอะมาก เหอๆๆ


เอ.... เรื่องต่อไปจะยังไงนะ :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-06-2007 16:13:34
พี่โป้งงงงงงงงงงงงงงงงงง

ม่ายจริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:








ลป.

เป็นกำลังใจให้ pajaa คร้าบบบบบ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-06-2007 18:02:43
ขอให้พี่โป้งไปดีนะ
 :m2:

เสน่ห์แรงไปถึงไหนกันนะแบ๊งค์
 :เฮ้อ:

สงสารกาวจัง
 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 25-06-2007 18:33:07
เป็นกำลังใจให้คุณ  pajaa   ครับ

เฮ้อ พี่โป้ง  ......  หลับให้สบายนะครับ     :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:


สุดท้ายก้อ  กาวสู้ๆๆ ครับ พิชิตใจแบงค์ให้ได้  นะครับ   :m5: :m5: :m5:

 :m1: :m1: :m1: :m1:   :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-06-2007 18:52:56
หลับให้สบายนะพี่โป้งงงง  :m2:  :m2:

เป็นกำลังใจให้น้อง pajaa 8jk  :m9:  :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-06-2007 12:08:42
 :teach:

คุณ  pajaa   หายไปไหนหนอ

มาต่อไว ๆ นะคับ รออ่านอยู่

 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: wareehero ที่ 29-06-2007 23:26:17
มาต่อไว ๆ นะคับ รออ่านอยู่ o21
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 02-07-2007 00:16:50
.....คิดถึงพี่อาร์ท
.....คิดถึงแบงค์
.....คิดถึงกาว
.....คิดถึงปริ้นซ์

.....คิดถึงพี่โป้ง

 :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-07-2007 13:21:49
 o17
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-07-2007 15:32:07
 :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:

หายไปหนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-07-2007 22:55:30
แอบแวะมาคับ
ขอบ่นได้มั้ย เกรงใจพี่ ๆ นะแต่ขอเหอะ อกจะแตกตาย

เสียงสั่น ๆ กับคำพูดที่ว่า “จา ใจร้ายกับพี่มากเลยรู้มั้ย” เพียงเพราะเราบอกเค้าขอให้คิดกับเราแค่น้องชาย ใจร้ายตรงไหนกัน กินเหล้า คิดมากแล้วก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ ขาหักเข้าเฝือก แขนก็เข้าเฝือก ไหล่ก็หลุด  :serius2:

ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่...ยังบอกจะรอ รออะไร??? รอให้ผมเป็น..ยังงั้นรึ  มันเครียดนะ ทำไมการที่ผมเข้าบอร์ดแบบนี้ ผมชอบอ่าน ผมสนใจ ผมชื่นชม ชื่นชอบชีวิตของพวกเค้า มันสามารถซึมซับกันได้ด้วยหรือ หรือผมรู้เรื่องของพวกเค้ามากเกินไป หลายครั้งที่ผมโดนหยอดทำนองนั้นจาก VENDOR ที่ผมติดต่องานด้วย ผมไม่ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้อะไรเลยนะ แต่เพราะอะไรล่ะ หรือว่าต่อไปผมจะเลิกเข้าบอร์ดดี แต่ผมคงทนไม่ได้มันเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว ผมขอลาออกจากงานเพื่อจะได้ไม่เจอเค้า.... มีอำนาจขนาดสั่งไม่อนุมัตข้ามแผนกได้ด้วยรึ

OK เข้าใจเป็นห่วงเรา อายุ 19 เรียนด้วยมันลำบาก เห็นด้วยก็ได้ แต่สั่งห้ามเล่นเน็ต (ฆ่ากันเลย..ดีไหม)ที่ทำงานโดนตัดเน็ตไปแล้วเรียบร้อย อยากจะบ้า แล้วยังให้ไปนอนเฝ้าที่โรงบาล...ได้ ถือว่ารับผิดชอบ ไม่พอให้ไปดูแลที่บ้านจนกว่าจะหายอีก จะเป็นปาท่องโก๋กันอยู่แล้ว อะไรมันจะนักหนา เงินก็แยะ คนอยากไปเฝ้าก็เยอะ  :m8:พี่ชายอารายเรื่องมากฉิบเป๋ง....เหนื่อย เบื่อ เซง จะมีใครเข้าใจผมมั้ยเนี่ย

บ้างครั้งผมเห็นหน้าพี่เค้าผมก็ทุกข์ใจนะ ก็ผมเองไม่ใช่คนดี และผมก็ไม่ใช่.......ผมเป็นแบบนี้ผมผิดมากใช่มั้ย

ขอร้องเข้าใจผมหน่อยนะ  :m5:ปล่อยผมไปเถอะ ถ้าผมเป็น..เมื่อไหร่ผมจะบอก นะคับ
.
.
อย่าเพิ่งเกลียดผมกันนะคับ พี่ๆ  :impress:

**********************

บทที่ 54  วันหยุด

ช่วงเวลาปิดเทอมยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ   ตอนนี้แบ๊งค์ได้กลับมาเป็นแบ๊งค์คงเดิมแล้ว  เป็นนายเด็กดื้อ  ไอ้ตัวเล็ก  จอมซนประจำกลุ่มเหมือนเดิมแล้ว  เรื่องของพี่โป้งน่ะหรอ  แบ๊งค์ไม่มีวันลืมหรอกนะ  ยังคงจำได้เสมอแหละ  พี่เค้ายังอยู่ในใจแบ๊งค์ตลอด

วันนี้พี่อาร์ทมารับแบ๊งค์ที่คอนโดครับ  บอกว่าอยากไปเที่ยว  ก็เลยโทรมาบอกให้แบ๊งค์แต่งตัวรอไว้ ตอนเย็น ๆ จะมารับ   แบ๊งค์ก็ไปจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้แบ๊งค์กำลังตรวจดูความเรียบร้อยขั้นสุดท้าย  สายตาก็เหลือบไปเห็นพวงกุญแจตุ๊กตาโอชาเคนที่แปะติดอยู่ที่กระจก

“เดี๋ยวแบ๊งค์จะออกไปเที่ยวแล้วนะ”

“เฝ้าห้องให้แบ๊งค์ด้วยล่ะ”    แบ๊งค์มักจะพูดแบบนี้กับ  เจ้าตุ๊กตาโอชาเคนเสมอ  เปรียบเสมือนว่าเจ้าตุ๊กตาตัวนี้เป็นพี่โป้งนั่นเอง  แล้วแบ๊งค์ก้มลงไปยิ้มให้ตุ๊กตาตัวนั้น  ก่อนจะเดินออกนอกห้องไป

“อ้าวพี่นุ่นจะไปไหนน่ะ  แต่งตัวซะสวยเลย”   แบ๊งค์ทักขึ้น

“ทีแบ๊งค์ยังออกไปเที่ยวได้ เจ้ก็ขอไปแดนซ์บ้างสิจ๊ะ”   พี่นุ่นตอบกลับมา

“อ่านะ  แล้วจะกลับกี่โมงเนี่ย”    แบ๊งค์ถามบ้าง

“ไม่รู้สิ  แต่ไม่ต้องห่วงหรอก แล้วแบ๊งค์ไม่กลับใช่มั้ยคืนนี้”   พี่นุ่นถามกลับ

“หา.....แบ๊งค์หรอ  กลับดิ”    แบ๊งค์ทำหน้างง ๆ

“ไม่ต้องเลย  เห็นพูดแบบนี้ก็ไม่กลับทุกที”    พี่นุ่นพูด

“ง่า......ก็พูดจริง ๆ นะ”    แบ๊งค์แย้งกลับ  ซักพักก็มีเสียงคนมากดกริ่งที่หน้าประตู  แบ๊งค์กับพี่นุ่น  เลยเดินไปใส่รองเท้าแล้วเดินเปิดประตูออกไป

“กะแล้วว่าต้องเป็นพี่อาร์ท”   แบ๊งค์พูด

“แล้วจะออกไปไหนกันหรอครับเนี่ย”   พี่อาร์ทถามแบ๊งค์กับพี่นุ่นครับ

“เจ้น่ะออกไปเที่ยวส่วนตัว  ไม่ได้ไปเป็นก้างอาร์ทหรอกค่ะ”   พี่นุ่นตอบไปครับ  เล่นเอาพี่อาร์ทเขินจนหน้าแดงไปเหมือนกัน

“อ่ะ.....ครับ”   พี่อาร์ทรับคำไปอย่างสั้น ๆ

“คืนนี้เอาเจ้าแบ๊งค์ไปฝากไว้ที่บ้านอาร์ทด้วยนะคะ ไม่ต้องปล่อยกลับมานะคะ  เจ้ขี้เกียดดูแล”    พี่นุ่นพูด

“อ้าว.......ได้ไงล่ะ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“ไม่เป็นไรครับ  นอนบ้านผมก่อนก็ได้”  พี่อาร์ทพูด

“ค่ะโอเคค่ะ   ไปก่อนนะคะ”   แล้วพี่นุ่นก็เดินออกไป

“เที่ยวให้สนุกนะครับ”   พี่อาร์ทตะโกนตามหลังไป   พอเห็นว่าพี่นุ่นลงลิฟต์ไปแล้ว  แบ๊งค์เลยเอาศอกกระทุ้งท้องพี่อาร์ทเบา ๆ ถึงจะแบบนั้นก็เหอะ  ก็คงจุกไปเหมือนกัน

“อุ๊ก.......แบ๊งค์ทำอะไรน่ะ”   พี่อาร์ทเอามือกุมท้องเอาไว้

“ก็ไปรับปากพี่นุ่นทำไมล่ะ  แบ๊งค์ไม่ค้างบ้านพี่อาร์ทหรอกนะ”   แบ๊งค์พูด

“ก็รับปากนุ่นไปแล้วอ่ะ  ทำไงดีล่ะ”   พี่อาร์ททำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“..........................”    แบ๊งค์ทำท่างอนไม่พูดไม่จา    แล้วพี่อาร์ทก็เปิดประตูห้องเข้าไป  โดยที่ไม่รอแบ๊งค์เลยครับ

“จะเข้าไปทำอะไรน่ะ   จะปิดห้องแล้วนะ”   แบ๊งค์รีบถาม

“ก็เข้ามาเอาชุดนอน  กับของใช้ส่วนตัวของแบ๊งค์น่ะสิ”   พี่อาร์ทพูด   ตอนนี้พี่อาร์ทเข้าไปอยู่ในห้องแบ๊งค์แล้ว  พลางจัดแจงเก็บข้าวของอย่างคล่องแคล่ว

“จะเอาไปทำไม”   แบ๊งค์รีบวิ่งตามเข้ามาในห้อง  แล้วพูด

“ก็จะไปค้างบ้านพี่ไง”  พี่อาร์ทหันมาตอบ

“ไม่เอา  แบ๊งค์ไม่ค้างนะ”   แบ๊งค์ยังดื้อต่อไป

“ดื้อจริง ๆ เลย  ค้างหน่อยนะ พ่อกับแม่พี่บ่นคิดถึงน่ะ”    พี่อาร์ทพูดครับ

“............................”    แบ๊งค์ไม่ตอบอะไรเมื่อได้ยินเหตุผล

“สรุปว่าค้างใช่มั้ย”   พี่อาร์ทหันมาทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่

“ก็ทำไงได้ล่ะ   คุณลุงกับคุณป้าพูดแบบนั้นก็”    แบ๊งค์ตอบไป

“เรียกพ่อกับแม่ได้แล้ว   เดี๋ยวท่านได้ยินก็โกรธหรอก”    พี่อาร์ทพูด   แล้วพี่อาร์ทก็จัดเก็บของจนเสร็จ  พี่อาร์ทเลือกมาหมดเลยครับ  ทั้งชุดนอน  และชุดที่จะใส่พรุ่งนี้  พี่อาร์ทเลือกเสื้อที่เป็นลาย Astroboy ที่แบ๊งค์ไปซื้อที่จตุจักรมาด้วย

“เสื้อลายน่ารักดีนี่   ซื้อที่ไหนหรอ”    พี่อาร์ทถาม

“ซื้อที่จตุจักรน่ะ  จริง ๆ มีสองตัวนะ”

“แต่อีกตัวมันใหญ่ไป”    แบ๊งค์ตอบ

“อ๋อ......จำได้แล้ว”    แล้วพี่อาร์ทก็นึกถึงเหตุการณ์ในครั้งก่อน  ที่ไปคลาดกันที่จตุจักร จนพี่อาร์ทนั่งร้องไห้ต่อหน้าน้องแทม   อาร์ทเลยได้แต่ยิ้ม ๆ ออกมา

“จำอะไรได้น่ะ  แล้วยิ้มทำไม”    แบ๊งค์ถาม

“เปล่า  ก็แค่อารมณ์ดี”   พี่อาร์ทหันมายิ้มยั่วแบ๊งค์ครับ   แล้วสายตาของพี่อาร์ทก็เหลือบไปเห็นตุ๊กตาโอชาเคนที่แบ๊งค์แปะไว้ที่กระจก

“จะเอาเจ้าตัวนี้ไปรึเปล่าครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่ต้องหรอก  ให้เฝ้าห้องแบบนี้นี่แหละ”  แบ๊งค์หันไปพูดกับตุ๊กตา

“เดี๋ยวเค้าก็เหงาหรอก”  พี่อาร์ทพูด

“ไม่หรอก  เค้าอยู่กับแบ๊งค์เสมอแหละ  อยู่ในใจแบ๊งค์ไง”    หันไปบอกกับพี่อาร์ท

“อืม.........งั้นไปก่อนนะ”  พี่อาร์ทหันไปพูดกับเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นบ้าง

“ไปแล้วนะ บาย”   แบ๊งค์บอกลากก่อนที่จะเดินออกห้องไป  แล้วเราสองคนก็ไปยังรถกันครับ  พี่อาร์ทเอาข้าวของเครื่องใช้แบ๊งค์เก็บไว้ที่ท้ายรถ  แล้วเราก็ขึ้นรถไปกัน

“จะพาแบ๊งค์ไปไหนหรอ คงไม่ได้กลับบ้านก่อนแน่ ๆ”    แบ๊งค์ถาม

“มารู้ทันพี่อีกนะ  เดี๋ยวไปถึงก็รู้เอง”   พี่อาร์ทพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นครับ   สรุปแล้วพี่อาร์ทพาแบ๊งค์มาเยาวราชครับ

“พาแบ๊งค์มาที่นี่ทำไมอ่ะ”   แบ๊งค์ถามแบบงง ๆ

“ก็พามาหาอะไรทาน  อีกอย่าง”

“พามารำลึกความหลังสมัยโน้นน่ะ”   พี่อาร์ทพูดลากเสียงยาว   จริงด้วยสินะ  แบ๊งค์เคยมาเยาวราชกับพี่อาร์ทแล้วครั้งหนึ่ง  พี่อาร์ทนี่ความจำแม่นจริง ๆ

“คราวที่แล้วแบ๊งค์เป็นคนนำพี่เที่ยว คราวนี้นี้คิวพี่แล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดพลางหันมายักคิ้วให้ทีหนึ่ง

“ก็แน่นอนสิ  ลองให้แบ๊งค์พาเที่ยวอีกครั้งสิ แบ๊งค์ไม่ทำหรอก”   แบ๊งค์ทำท่ากวน ๆ

“พอได้แล้ว  พูดมากเดี๋ยวก็ไม่ได้ทานกันพอดี”   แล้วพี่อาร์ทก็จับมือแบ๊งค์แล้วเดินตามกันไปครับ   เราจูงมือกันไปวิ่งบ้าง  เดินบ้าง  สลับกันไป  ก็สนุกดีนะ  ได้ทานของอร่อยเพียบเลย   มาย่านนี้ไม่ผิดหวังจริง ๆ มาคราวนี้เราไปนั่งทานติ่มซำกัน  เค้าบอกว่าเป็นติ่มซำฮ่องกง  ไอ้เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันแตกต่างกันยังไง   แต่ก็อร่อยอ่ะ  รู้แค่นั้นแหละ

มีบางช่วงนะ  ที่คนมันเยอะไปอ่ะ  เราสองคนก็เลยลงไปเดินตรงขอบ ๆ ถนน  ก็น่ากลัวเหมือนกันนะ  รถเยอะมากมาย  แต่พี่อาร์ทนี่สิ  จับมือแบ๊งค์แน่นเลย  อย่างกับกลัวว่าจะหลุดไปซะอย่างนั้น  ก็ได้แต่เดินไปยิ้มไป  ตอนนี้แบ๊งค์ไม่กลัวอะไรแล้วล่ะ  แค่ได้มีพี่อาร์ทอยู่เคียงข้างก็เพียงพอแล้ว

พอเราหาอะไรทานกันเสร็จก็ตามเดิมแหละครับ  ตอนแรกเราก็คิดว่าจะไปเดินสะพานพุทธกัน  แต่แบ๊งค์ไม่อยากเดินแล้ว  เพราะเหนื่อยจริง ๆ คงเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

“แบ๊งค์ว่ากลับเหอะ  พีอาร์ท  แบ๊งค์เหนื่อยแล้ว”    แบ๊งค์พูด

“งั้นขี่หลังพี่ไปก็ได้นี่นา”   พี่อาร์ท อาสา

“จะบ้าหรอ”   แบ๊งค์มาพูดอย่างตกใจ

“ฮะฮะฮะ  ก็ดูเหมือนพี่น้องให้ขี่หลังไง  น่ารักดีออก”   พี่อาร์ทพูดไปหัวเราะไป

“พี่น้องอะไรล่ะ  คนหนึ่งก็หุ่นนักกีฬา  อีกคนก็ผอมเก้งก้าง มาขี่หลังกัน  คนก็มองกันหมดน่ะสิ”   แบ๊งค์พูดแบบอาย ๆ

“ล้อเล่นน่า   พี่ไม่ทำหรอก  พี่รู้”   พี่อาร์ทพูดพลางเอามือ  มาลูบหัวแบ๊งค์

“งั้นเรากลับกันเถอะนะ”    พี่อาร์ทพูด   แบ๊งค์เลยได้แต่  พยักหน้าแทนคำตอบ  แล้วเราสองคนก็กลับไปที่รถครับ  แบ๊งค์ยังคงนั่งที่เดิม  คอยมองสิ่งต่าง ๆ สองข้างทางไปเรื่อย ๆ

“ไม่เปลี่ยนเลยนะ  แบ๊งค์น่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ทำไมหรอ  ไม่เปลี่ยนยังไง”   แบ๊งค์หันมาถามพี่อาร์แบบงง ๆ

“ก็เหมือนเด็กไม่เปลี่ยนแปลงไงล่ะ  มองทุกอย่างรอบ ๆ ตัวอย่างน่าสนใจ”

“เหมือนกับว่าอยากรู้  อยากเห็นไปทุกเรื่อง  ดูน่ารักใส ๆ ดี  เนี่ยแหละ  เหตุผลที่พี่ชอบแบ๊งค์”   พี่อาร์ทยิ้มไปด้วย

“...................................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ได้แต่หันกลับไปมองข้างทางเหมือนเดิม  เพราะตอนนี้น่ะ  อายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว (-////-)  แล้งอยู่ ๆ ในรถก็มีเพลงดังขึ้น  แบ๊งค์คาดว่าพี่อาร์ทคงเป็นคนเปิดน่ะ 

บอกรัก ทำเป็นไม่รู้ ฉันบอกนก
เธอบอกว่าไม้ ฉันเลือกซ้าย
เธอว่าทางขวา ดีกว่าไหม
บอกร้อน เธอบอกว่าหนาว
ฉันตื่นสาย เธอให้ตื่นเช้า
ฉันหยุดแล้ว เธอหละ จะรีบไปไหน

รู้อยู่ว่าใจนะใจไม่เคยเหนื่อย ใจนะใจไม่เคยเบื่อกัน
เราบางทีแม้จะต่าง เราจูงมือไม่เคยห่าง เรามีเราแค่เธอกับฉัน

ต่างแค่ไหนสองใจก็ อยู่ข้างกัน
เรายังไปด้วยกัน แม้วันคืนจะหมุนไป
นานแค่ไหนสองเราก็อยู่ข้างกัน
เรายังไปด้วยกัน ก็เพราะว่าเรา...ต่างใจเดียว

“แบ๊งค์.....พี่ยังไม่กลับบ้านน่ะ  ไม่กลับได้มั้ย”   พี่อาร์ทถาม

“อืม....ได้สิ  จะไปไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ไปหัวหินกันนะ”   พี่อาร์ทพูด

“เย้ยยยย”    แบ๊งค์อุทานออกมาเสียงดัง

“ฮะฮะฮะ  ล้อเล่นน่า  ใครจะไปกันล่ะ”    พี่อาร์ทหัวเราะร่วน

“ตกใจหมด   ไอ้เราก็นึกว่าจะไปจริง ๆ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“อยากไปมั้ยล่ะ  พี่พาไปได้นะ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่ต้องหรอก  แบ๊งค์ยังไม่อยากไปตอนนี้หรอก”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“งั้น summer นี้เราไปกันนะ”  พี่อาร์ทพูด

“อืม.....ได้สิ”    แบ๊งค์พยักหน้าไป

“แล้วที่ว่าจะยังไม่เข้าบ้านน่ะ  รู้รึยังว่าจะไปไหน”  แบ๊งค์ถามกลับ

“ไปถนนแห่งความทรงจำของเราไง”   พี่อาร์ทพูด   ถึงพี่อาร์ทจะพูดแค่นั้น  แบ๊งค์ก็รู้แล้วว่า  สถานที่ที่เราจะไปนั้นเป็นที่ไหน   ถนนอักษะนั่นเอง  ทำไมไม่รู้สินะ  เราสองคนถึงได้ชอบถนนนี้มากมาย  พี่อาร์ทชอบพาแบ๊งค์นั่งรถเล่นที่นี่บ่อย ๆ แต่แบ๊งค์กลับไม่เคยเบื่อซักครั้ง

ตอนนี้เราขับรถจนมาถึงถนนอักษะกันแล้ว   ไฟสีเหลืองนวล  ยังคงส่องสว่างตลอดเส้นทาง  จะว่าไปก็เป็นภาพที่สวยงามติดตาดีนะ  ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม  กับแสงไฟบนถนนอักษะ

“มาบ่อย ๆ แบบนี้ไม่ช่วยชาติเลยนะ”   แบ๊งค์หันไปว่าให้พี่อาร์ท

“ไม่ช่วยชาติยังไงหรอ”    พี่อาร์ทถามกลับแบบงง ๆ

“ก็มาซะไกลเลย  เปลืองน้ำมันมากเลยรู้มั้ย”    แบงค์ตอบไป

“เรื่องแค่นี้เอง  ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปซักเท่าไหร่ แลกกับการที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับแบ๊งค์  พี่ยอมหมดแหละ”   พี่อาร์ทตอบกลับมา   ประโยคสั้น ๆ เพียงแค่นั้น  หลายคนฟังแล้วอาจดูน้ำเน่า   แต่สำหรับแบ๊งค์มันได้ทำให้หัวใจที่มีอยู่ดวงนี้ พองโตและรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด

“เป็นอะไรไปน่ะ  นั่งยิ้มอยู่ได้  เขินใช่มั้ยล่ะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซวครับ

“ใครเขิน ไม่เห็นมีเลย”  แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พี่อาร์ทก็เลยได้แต่หัวเราะออกมาเบา ๆ

“พี่อาร์ท  เอากระจกลงได้มั้ยอ่ะ”   แบ๊งค์หันมาพูดกับพี่อาร์ท

“อืมได้สิ”    แล้วพี่อาร์ทก็กดกระจกลง  ทำให้ตอนนี้  ลมเข้ามาในรถอย่างเต็มที่  ดีนะที่พี่อาร์ทไม่เอาพวกเอกสารวางไว้ในรถไม่อย่างนั้นปลิวไปหมดแน่ ๆ

แบ๊งค์เอาแขนทั้งสองข้าง  ไปวางเท้ากันไว้ที่ขอบกระจก  แล้วค่อย ๆ วางหน้าลงกับแขน  พร้อมกับหลับตา รับสายลมที่พัดเข้ามา  ช่วงเวลานี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริง ๆ

“แบ๊งค์  ลืมตาได้แล้ว”   พี่อาร์ทเรียกครับ

“ทำไมหรอ”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ลืมตามอง   สวยจัง  บรรยกาศยามเช้า  ที่แสนสดชื่น  บวกกับขอบฟ้าสีทอง  ที่มีพระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า   และท้องฟ้าอีกฟากหนึ่ง  ที่ยังคงเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่   พร้อมด้วยดวงดาว  ที่เริ่มอ่อนแสงลงเพราะแสงจสกพระอาทิตย์   แบ๊งค์ได้แต่นั่งมอง  แล้วยิ้มตามไป

“พี่จะปิดกระจกแล้วนะ  นอนพักได้แล้ว”   พี่อาร์ทพูดครับ   แบ๊งค์เลยเปลี่ยนมาเอนตัวลงนอน  แล้วเผลอหลับกับบรรยกาศของเช้าวันใหม่ไปในที่สุด มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีแสงอาทิตย์สาดเข้ามาในห้องนั่นแหละครับ  แบ๊งค์มาหลับอยู่ในห้องพี่อาร์ทตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

“ตื่นแล้วหรอครับ”   พี่อาร์ทเดินเข้ามาทักมาย

“พี่อาร์ทเอาแบ๊งค์มานอนให้ห้องหรอ”  แบ๊งค์ถามไป

“ครับ....เดี๋ยวนี้ไปทานอะไรมาน่ะ  ตัวหนักจัง”   พี่อาร์ทแซว

“เฮ้ย...จริงหรอ  เดี๋ยวต้องลดน้ำหนักซะแล้ว”   แบ๊งค์พูด

“ล้อเล่นน่ะครับ   ไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดได้แล้ว  จะได้ลงไปทานข้าวกัน”   พี่อาร์ทพูด   แล้วสายตาแบ๊งค์ก็ไปสะดุดเอากับเสื้อยืดของพี่อาร์ท  มันเป็นลาย Astroboy ที่ขายคู่กันกับเสื้อที่แบ๊งค์ซื้อมานี่  เพียงแต่ว่ามันเป็นละไซส์  คนละสีก็เท่านั้น

“เสื้อนี่มัน........”   แบ๊งค์จับที่เสื้อพี่อาร์ท

“แปลกใจล่ะสิ   บอกแล้ว  เพราะเราน่ะคู่กัน”   พี่อาร์ทยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“โหย   มามุกเน่าแต่เช้าเลยนะ”    แบ๊งค์ทำท่าทางกวน ๆ ใส่พี่อาร์ท

“ไปอาบน้ำได้แล้ว”    พี่อาร์ทพูด  แล้วผลักแบ๊งค์เข้าห้องน้ำไป  แต่ก็ยังไม่วายตีก้นแบ๊งค์ไปหนึ่งที  ทำให้แบ๊งค์ที่เข้าในห้องน้ำแล้ว  เอามือกุมไว้แล้วหันมาโวย

“พี่อาร์ทน่ะ  งอนแล้ว”   จากนั้นแบ๊งค์ก็ปิดประตูไป  พี่อาร์ทเลยลงมารอข้างล่าง  ที่ห้องนั่งเล่น  ซึ่งมีพอ่กับแม่พี่อาร์ทนั่งคอยอยู่แล้ว

“น้องตื่นแล้วหรอลูก”   แม่พี่อาร์ทถาม

“ครับ   ตื่นแล้วครับ  กำลังอาบน้ำอยู่”   พี่อาร์ทตอบไป

“แล้วเมื่อคืนไปไหนกันมา  กลับซะเช้าเลย”

“เดี๋ยวน้องก็ไม่สบายหรอก”   พ่อพี่อาร์ทเตือนครับ

“รายนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับ  แข็งแรงจะตาย”   พี่อาร์ทตอบ

“หรอ   แต่แม่ว่าดูบอบบางล่ะไม่ว่า  ตัวเล็กกว่าเราตั้งเยอะ”    แม่พี่อาร์ทพูด

“นั่นสิ  ดูแลน้องเค้าดี ๆ ล่ะ  อย่าเอาน้องเค้าไปทรมานให้มากนักรู้มั้ย”   พ่อพี่อาร์ทพูด  แล้วเขกหัวพี่อาร์ทไปเบา ๆ หนึ่งที  พี่อาร์ทเลยเข้าไปกอดเอวพ่อคืน

“เดี๋ยวนี้รักแบ๊งค์มากกว่าอาร์ทอีกนะครับ  อาร์ทงอนแล้ว”   พี่อาร์ททำท่าเป็นเด็ก ๆ

“ก็แบ๊งค์เค้าน่ารักนี่   ไม่ได้ถือตัว  แม่บ้านในครัวก็ชอบกันใหญ่”   แม่พี่อาร์พูด

“ใช่ ๆๆ  แล้วก็เลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้ว  อ้อนไปก็ไม่น่ารักเท่าแบ๊งค์หรอก”   พ่อพี่อาร์ทพูด แล้วทั้งพ่อ  และแม่ก็หัวเราะออกมากันยกใหญ่

“นั่นสิเดี๋ยวน้องมาเห็น  จะอายน้องเปล่า ๆ นะลูก”   แม่พี่อาร์ท แล้วเอามือ ตบที่ขาพี่อาร์ทเบา ๆ

“ครับผม!!!”   พี่อาร์ทเลยลุกขึ้นมา ทำท่าตะเบ๊ะ  เป็นทหาร  ทั้งพ่อและแม่ก็เลยได้หัวเราะกันอีกรอบ   อีกซักพัก แบ๊งค์ก็เดินลงมา  แล้วเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”   แบ๊งค์เดินเข้าไปไหว้  แล้วนั่งที่โซฟาตัวข้าง ๆ

“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะลูก  เรียกพ่อกับแม่ได้แล้ว”   แม่พี่อาร์ททักขึ้น

“ครับคุณป้....เอ้ย  คุณแม่”   แบ๊งค์ตอบกลับไปแบบอาย ๆ

“พาน้องไปทานข้าวเช้าได้แล้วป่ะ”   พ่อพี่อาร์ทพูดครับ  พี่อาร์ทเลยค่อย ๆ เดินก้มตัวผ่านหน้าคุณแม่มาจูงมือแบ๊งค์ไปห้องทานอาหาร   พอไปถึงเราก็ไม่เห็นใครอยู่ซักคน

“สงสัยมาช้าไปน่ะ  แม่บ้านคงเก็บไปแล้ว”   พี่อาร์ทพูด

“อืม....งั้นเราก็ไปทำมาทานเองสิ”    แบ๊งค์เสนอความคิด

“ก็ได้   ดีเหมือนกัน  จะได้ทำอะไรทานเพิ่มด้วย”  พี่อาร์ทก็เห็นด้วยครับ  เราสองคนก็เลยเดินไปที่ห้องครัวครับ   ไม่มีคนอยู่ซักคนเลย  พี่อาร์ทบอกว่า  เป็นช่วงเวลาสาย ๆ คนงานของบ้านนี้เค้าไปพักกันน่ะครับ  อาจไปนั่งดูทีวี  หรือนั่งคุยกันที่เรือนเล็ก   แบ๊งค์ก็เลยคิดว่าปล่อยเค้าไปดีกว่า  ไม่อยากไปกวนเวลาพักผ่อน  แล้วเราสองคนก็เลยช่วยกันทำอาหารครับ

“แบ๊งค์อยากทานอะไรล่ะ”  พี่อาร์ทถาม

“ไม่รู้สิ  ดูวัตถุดิบก่อนดีกว่า  จะได้คิดออก”   แบ๊งค์กับพี่อาร์ก็เลยเดินไปดูของในตู้เย็นกันครับ  ในตู้เย็นก็มีของสดครบเลยครับ   ทั้งผัก  ทั้งเนื้อ  แล้วเราสองคนจะทำอะไรทานดีล่ะเนี่ย

“มีของเต็มไปหมดเลย  ทำอะไรดีล่ะ”  พี่อาร์ทถาม

“อืม......ทำผัดมาม่าดีกว่า”   แบ๊งค์พูด

“ได้เลย ดี ๆๆ อยากทานพอดีเลย”   พี่อาร์ทตอบตกลง  เราสองคนคนก็เลยเตรียมการครับ  เอามาม่าไปลวก  พี่อาร์ทบอกอยากทานเยอะ ๆ  เลยลวกไปซะ 4 ซอง  ของแบ๊งค์หนึ่ง  ที่เหลือน่ะของพี่อาร์ท   โดยมีพี่อาร์ททำหน้าที่ลวกเส้น

เสร็จแล้วแบ๊งค์ก็หั่นผักส่งให้  แบ๊งค์อยากทานผักบุ้งน่ะครับ  ก็เลยหันผักบุ้งส่งไป  จนโดนพี่อาร์ทบ่นกลับมา  ก็เลยต้องหั่นแครอทเพิ่มแล้วส่งให้พี่อาร์ทลวกต่อ   

แล้วเราก็ลวกของทั้งหมดพอสุก  แบบไม่ต้องสุกมากอ่ะ  แล้วก็มาถึงขึ้นตอนสำคัญครับ  ขั้นตอนการผัดนั่นเอง เราสองคนต่างยืนเก้ ๆ กัง ๆ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไม่เคยทำ  เราเริ่มจากใส่เนื้อลงไปผัดกับน้ำมันก่อน  จากนั้นก็ค่อยเทผักลงไป  สงสัยผักที่ลวกคงมีน้ำติดไปน่ะครับ  น้ำมันเลยกระเด็นซะยกใหญ่เลยหลบกันแทบไม่ทัน

จากนั้นก็ใส่เส้น  ใส่ไข่  แล้วก็ปรุงเครื่องปรุง  เราสองคนช่วยกันชิมจนรสชาติเป็นที่น่าพอใจ  ก็เลยตักใส่จาน  แล้วเราทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน  พอเป็นแบบนั้นเราก็ได้แต่หัวเราะครับ

“ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าจะทำได้”    แบ๊งค์พูด

“นั่นสิ  พี่ขอตั้งชื่อว่า”

“ผัดบะหมี่คู่รัก  ลำดับที่ 56 ก็แล้วกัน”  พี่อาร์ทพูด

“อ้าว  แล้วลำดับที่ 1- 55 ล่ะ”   แบ๊งค์ถามไปแบบงง ๆ

“อ๋อไม่มีหรอก  เห็นศิลปินเวลาวาดภาพชอบตั้งชื่อแบบนี้แล้วมันเท่ดี”

“ก็เลยทำตามน่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ไปนั่งทานที่ไหนดีล่ะ”   พี่อาร์ทถามครับ

“นั่งโต๊ะนั่นก็ได้  ป่ะไปกัน”   แล้วเราก็ไปนั่งทานที่โต๊ะ  ที่คนงานชอบมานั่งทานข้าวกันน่ะครับ  พอนั่งทานไปได้ซักพัก  ก็ได้ยินเสียงแม่บ้านของพี่อาร์ทบ่นมาแต่ไกล

“ได้ยินเสียงตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว  ตอนนี้ได้กลิ่นอีก”

“ใครมาทำอะไรทานน่ะ”   แม่บ้านบ่นเมื่อเข้ามาถึงครัวครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ท  ก็เลยหันไปมองในขณะที่เส้นยังคงคาปากอยู่

“อ้าว!!!น้องแบ๊งค์  คุณอาร์ท  มาทำอะไรทานกันคะ”   แม่บ้านทักขึ้น

“ผมหิวน่ะครับ  เลยมาทำผัดมาม่าทานกับน้องเค้า”   พี่อาร์ทพูดครับ

“โอ้ย.....ป้าขอโทษนะคะ  ลืมตั้งสำรับไว้ให้ทั้งสองคน”    ป้าแม่บ้านรีบขอโทษครับ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ททำทานกันเสร็จพอดีเลยครับ”   แบ๊งค์บอกไป

“งั้นเดี๋ยวป้าไปล้างกระทะ  ล้างจานให้นะคะ”    ป้าแม่บ้านอาสาครับ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเลยรียวางจาน  แล้ววิ่งไปขวาง

“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมกับแบ๊งค์ทำเองครับ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“นั่นสิครับ  แบ๊งค์ทำเอง เดี๋ยวแบ๊งค์ล้างเองได้ครับ”

“ป้าไปพักผ่อนเถอะนะครับ  ทำงานมาเหนื่อย ๆ”     แบ๊งค์พูด  แล้วพี่อาร์ทก็พยักหน้าเห็นด้วย  ป้าเค้าก็เลยได้แต่ยิ้ม

“ก็ได้ค่ะ  ดื้อจริง ๆ เลยคู่นี้”   ป้าพูดแซวเราสองคนครับ

“งั้นป้าไปก่อนนะคะ”    แล้วป้าก็เดินไปเรือนเล็กเพื่อพักผ่อนเหมือนเดิมครับ  เราสองคนก็เลยมานั่งทานกันต่อ  พอทานเสร็จก็เข้าไปช่วยกันล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ  จะว่าไป ทำกับข้าวทานเองก็สนุกเหมือนกันนะเนี่ย

ขณะที่กำลังคิดเพลิน ๆ พี่อาร์ท ก็เอาน้ำมาสลัดใส่แบ๊งค์ครับ

“พี่อาร์ท!!!!เล่นอะไรเนี่ย”    แบ๊งค์โวยครับ  แต่ไม่ทันหรอก  พี่อาร์ทวิ่งหนีเข้าบ้านไปแล้ว  แบ๊งค์เลยวิ่งตาม  วันนั้นเราเล่นกันอย่างสนุกสนานเลยครับ  คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่อาร์ท  และคนงานต่าง ๆ ในบ้าน ก็ได้แต่มองแล้วยิ้ม ไปตาม ๆ กัน
 
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-07-2007 22:56:35
บทที่ 55 นายคือใครกันแน่

แบ๊งค์อยู่บ้านพี่อาร์ทต่ออีกหนึ่งวันครับ  จากนั้นก็ค่อยกลับคอนโด  พอกลับมาถึงก็โดนพี่นุ่นแซวซะยกใหญ่เลย

“เป็นไงบ้าง แอบหนีไปหวานกันอยู่ 2 คน”  พี่นุ่นแซวครับ

“แอบหนีอะไรล่ะ  ใครกันแน่ที่หนีไปอ่า”  แบ๊งค์ตอบแบบมีงอน

“อ่านะ  อ่ะล้อเล่งงง”    พี่นุ่นตอบกลับมา

“เดี๋ยวแบ๊งค์ขอเข้าไปในห้องหน่อยนะ กะว่าจะไปเชคเมลล์อ่า”    แบ๊งค์บอก

“อ่ะจ้า ตามบายนะ”   พี่นุ่นพูด   จากนั้นแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้องไป  พอไปถึงก็ตรงดิ่งไปที่คอมพิวเตอร์ในทันใดเลย  แบ๊งค์เปิด MSN ขึ้นมา  แต่ออนแบบ Appear Offline ไว้  คือตอนนี้อยากเชคเมลล์ก่อน  มี forward mail มาหาแบ๊งค์หลายฉบับเลย  ที่พวกความเชื่ออะไรก็ไม่รู้  แต่บางอันก็เป็นรูปภาพแปลก ๆ จากต่างประเทศ  แล้วก็มี e-mail จากนายโต้ส่งมาด้วย  แบ๊งค์เลยลองเปิดดู


ผู้ส่ง   ??????? < stra………..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >
ส่งเมื่อ   ৠৠ   ঔঔঔঔ     20xx   15:34:58
ผู้รับ  bro……..อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
เรื่อง .........................................

เป็นไงบ้าง หายไปเลยนะ  ช่วงนี้นายคงยุ่ง ๆ ล่ะสิ  ถึงไม่ค่อยได้มาออนเอ็มซักเท่าไหร่  ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ  ก็ส่งมาเล่น ๆ น่ะ  ไว้ว่าง ๆ ถ้าเจอกันก็ทักมาและกันนะ


นั่นสิ คิดไป คิดมา  นานเท่าไหร่แล้วเนี่ยที่แบ๊งค์ไม่ได้คุยกับนายโต้เลย  แบ๊งค์นี่แย่จริง ๆ เลย  ลืมเพื่อนซะได้  ว่าแล้วก็กะจะเล่น MSN คุยกับนายโต้ซักหน่อย   แต่พอ Oline ไป  นายโต้ก็ยังไม่ออนซักที   แบ๊งค์เลยลองโทรหา   พอโทรไปก็เป็นผู้หญิงรับ  แล้วบอกให้ฝากข้อความซะงั้น  แฟนนายโต้แน่ ๆ เลย ( อิอิ แอบมีมุก )  แบ๊งค์ก็เลยออนรอไปเรื่อย ๆ ซักพัก  เหมือนฟ้าเป็นใจ  นายโต้ออนมาพอดีเลย

badboy_be_sadboy   say:
ดี ๆๆๆ

คนแปลกหน้า    say:
อืม

badboy_be_sadboy   say:
โทดทีนะ  ที่เราหายไปนานเลย

คนแปลกหน้า    say:
ไม่เป็นไรหรอก

คนแปลกหน้า    say:
เราก็ยุ่ง ๆ อยู่เหมือนกัน

badboy_be_sadboy   say:
แล้วเป็นไงมั่งบายดีป่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ก็เรื่อย ๆ อ่านะ

คนแปลกหน้า    say:
ตามประสาคนแอบรัก

badboy_be_sadboy   say:
โห.....นี่ยังไม่บอกเค้าอีกหรอ  เด๋วก็แห้วซะหรอก

คนแปลกหน้า    say:
อ่านะ....สายไปซะแล้วล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทำไมล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
อย่าพูดเลยดีกว่า

คนแปลกหน้า    say:
พูดแล้วเดี๋ยวเศร้ากันไปหมด

badboy_be_sadboy   say:
อืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:
ช่วงนี้เป็นไง  ได้ไปเที่ยวที่ไหนมั่งป่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ก้อไม่ค่อยได้ออกไปไหนหรอก

badboy_be_sadboy   say:
แต่วันก่อนไปเยาวราชกับสะพานพุทธมา

คนแปลกหน้า    say:
เป็นไงบ้างล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทั้งสนุก ทั้งอิ่มเลยล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ไม่ได้ไปซะนาน

badboy_be_sadboy   say:
แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมนะ

คนแปลกหน้า    say:
งืม ๆ ช่าย ๆ

คนแปลกหน้า    say:
ว่าแต่.....นายไปกะใครหรอ

badboy_be_sadboy   say:
(-////////-)

คนแปลกหน้า    say:
กับแฟนอ่าดิ

badboy_be_sadboy   say:
ประมาณนั้นแหละ อิอ

คนแปลกหน้า    say:
อิจฉาจัง  มีแต่คนมีคู่

badboy_be_sadboy   say:
เอาน่า เดี๋ยวซักวันก็มีมาเองแหละ

คนแปลกหน้า    say:
ขอให้สมพรปากก็แล้วกันนะ

badboy_be_sadboy   say:
อ่ะจร้า

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายล่ะ  ไม่คิดจะไปไหนบ้างเลยหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ก้ออยากนะ

คนแปลกหน้า    say:
อยากไปสวยสนุกน่ะ

badboy_be_sadboy   say:
ทำไมล่ะ
 
คนแปลกหน้า    say:
ที่นั่นน่ะ  มีความทรงจำอะไรหลาย ๆ อย่าง

badboy_be_sadboy   say:
ไปแอบตีหัวใครที่นั่นหรอ

badboy_be_sadboy   say:
vbvbvbv

badboy_be_sadboy   say:
*อิอิอิอิ

คนแปลกหน้า    say:
เฮ้ยยยย บ้าหรอ

badboy_be_sadboy   say:
ล้อเล่นน่า  งิงิ

badboy_be_sadboy   say:
แล้วนายมีอะไรผูกพันกับสวนสนุกหรอ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่รู้สิ  บอกไม่ถูกอ่ะ

คนแปลกหน้า    say:
มันมีเหตการ์ณหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เราประทับใจ

badboy_be_sadboy   say:
อย่างเช่นอะไรอ่า  บอกได้ป่าว

คนแปลกหน้า    say:
อืม....เช่นได้แอบอยู่ใกล้ ๆ เค้า  แอบจับมือเค้า

คนแปลกหน้า    say:
โดยที่เค้าไม่รู้ตัวมั้ง

badboy_be_sadboy   say:
ฮั่นแน่ ๆ ๆๆ

badboy_be_sadboy   say:
ที่แท้ก็ไปกับเพื่อนคนนั้นใช่มั้ยล่ะ

คนแปลกหน้า    say:
...................(-///////-)...................

คนแปลกหน้า    say:
อืม...ประมาณนั้นแหละ

คนแปลกหน้า    say:
แต่ถึงยังไง เราก็ทำได้แค่นั้นแหละ

คนแปลกหน้า    say:
เค้าไม่เลือกเราหรอก

badboy_be_sadboy   say:
เอาอีกแระ  มาแนวเศร้าตลอดเรย

badboy_be_sadboy   say:
คิดมากน่า

คนแปลกหน้า    say:
งืม ๆ

คนแปลกหน้า    say:
แล้วแบ๊งค์ไม่อยากไปไหนอีกหรอ

badboy_be_sadboy   say:
อยากดิ   อยากไปทะเลน่ะ

คนแปลกหน้า    say:
ไม่บอกพี่อาร์ทให้พาไปล่ะ

badboy_be_sadboy   say:
บอกแล้ว  แต่เอาไว้ตอน Summer ดีก่าน่ะ

คนแปลกหน้า    say:
อืม ๆ

badboy_be_sadboy   say:
เฮ้ยยยยยย  เด๋วก่อน

badboy_be_sadboy   say:
นายรู้หรอว่าอาร์ทเปงคราย

คนแปลกหน้า    say:
ก็แฟนแบ๊งค์ไม่ใช่หรอ

badboy_be_sadboy   say:
ก็ใช่แต่เฮ้ยยยย

badboy_be_sadboy   say:
เราไม่เคยบอกนายนะ

badboy_be_sadboy   say:
นายรู้ได้ไงน่ะ

badboy_be_sadboy   say:
นายเปงครายกานแน่

ตอนนี้นายโต้เริ่มเงียบไปซะแล้ว  แบ๊งค์เริ่มสงสัยครับ  สงสัยแบบมาก ๆ ด้วย  ว่านายโต้เป็นใครกันแน่  ทำไมถึงมารู้เรื่องของแบ๊งค์ได้   แล้วเรื่องนายโต้บอกว่าแบ๊งค์เคยบอกไปน่ะ   แบ๊งค์ว่าไม่ใช่หรอกนะ  เท่าที่แบ๊งค์จำได้   แบ๊งค์ไม่เคยเล่าเรื่องของพี่อาร์ทให้โต้ฟังนะ  แล้วทุก ๆ ครั้งที่แบ๊งค์มีเรื่องไปเล่าให้นายโต้ฟัง   แบ๊งค์ไม่เคยอ้างอิงถึงชื่อใครเลย

badboy_be_sadboy   say:
นี่นาย

badboy_be_sadboy   say:
ยังอยู่รึเปล่า

แบ๊งค์ถามได้แค่นั้น  แล้วนายโต้ก็ offline ไปเลย  สงสัยจริง ๆ นายคนนี้เป็นใครกันแน่นะ  กลัวว่าจะมาแบบพี่โป้งคราวที่แล้วน่ะสิ    แต่ตอนนั้นน่ะ  พี่โป้งเค้าเปิดเผย   แต่นายโต้นี่สิเป็นใครกันแน่   ทำไมรู้เรื่องของแบ๊งค์หมดทุกอย่าง

แบ๊งค์พยายามโทรไปหานายโต้นะ  รอบแรกติด  แต่ไม่มีคนรับสาย  แล้วก็เหมือนว่าตัดสายทิ้ง  จากนั้นก็ปิดเครื่องไปเลย  แบ๊งค์โทรอยู่หลายรอบ ก็ไม่ติด  ลองเปลี่ยนเบอร์ที่ใช้โทรไปก็เหมือน ๆ เดิม  แสดงว่านายโต้คนนี้ต้องไม่ได้ใช้แค่เบอร์เดียวแน่ ๆ แล้วเค้าเป็นใครกันนะ   ขอให้ครั้งนี้เค้ามาดี ๆ อย่ามาทำร้ายอะไรแบ๊งค์อีกเลย

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-07-2007 22:58:03
บทที่ 56  วันที่อากาศเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ก็เปิดเทอม ( อีกแล้ว )  แบ๊งค์ก็ยังคงเก็บความสงสัยเรื่องนายโต้ไว้ในใจ  โดยที่ไม่บอกใครเหมือนเดิม  คือกลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตน่ะ  ก็เลยไม่อยากพูดอะไรมาก  แต่ก็จะพยายามระวังตัวเอาไว้ให้มากกว่าเดิม

วันนี้เป็นวันแรกของเทอมที่สองครับ  แบ๊งค์มีเรียนช่วงบ่ายแค่ตัวเดียว  ก็เลยขอตื่นสายหน่อย  ส่วนพี่นุ่นอ่ะ  วันนี้มีเรียนเช้า  ออกไปนานแล้วล่ะ   แบ๊งค์ก็เลยนอนต่อไป  ซักพักก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์ดังขึ้นมาครับ

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“เฮ้ยย...ยังไม่ตื่นอีกหรอวะ”  ไอ้กาวนั่นเอง  โทรมาปลุกเลยหรอเนี่ย

“ตื่นแล้ว  ก็ตื่นมารับสายเมริงนี่ไง”   แบ๊งค์ตอบไป

“ยังจะแถอยู่อีกนะ  ตื่นได้แล้ว”   กาวพูด

“เออ ๆๆ  เดี่ยวกรูส์ก็ตื่นแล้ว  เมริงมีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามกลับไป

“เมริงไปมหาลัยยังวะ  วันนี้”   กาวถามกลับครับ

“ก็กะว่าจะขึ้นรถเมล์ไปเองอ่า”   แบ๊งค์ตอบกลับไปเสียงงัวเงีย

“งั้นเดี๋ยวกรูส์ไปหาเมริงที่คอนโด”

“แล้วเราค่อยออกไปขึ้นรถ ด้วยกันโอเคป่ะ”   กาวเสนอมาครับ

“อืม ๆ เอาดิ”  แบ๊งค์ตอบกลับไปครับ

“ตื่นได้แล้วเว้ย  แค่นี้นะ”   แล้วไอ้กาวมันก็วางสายไป  แบ๊งค์เลยต้องจำใจตื่นขึ้นมา  มองดูนาฬิกา เป็นเวลาเก้าโมงกว่า ๆ แล้ว  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เดินเข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เรียนร้อย  จนจัดแจงแต่งตัวเสร็จ  ก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น

“มาได้จังหวะเลยนะเมริง”  แบ๊งค์เปิดประตูออกแล้วทักมันครับ

“เออดิ  ป่ะไปได้แล้ว”   กาวพูดขณะเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ประตู

“จะไม่หาอะไรแดซก่อนหรอวะ”   แบ๊งค์ถาม

“ไปหากินเอาข้างนอกก็ได้นี่นา  ป่ะไปกันเหอะ”   กาวเรียกครับ

“อะเช ๆๆๆ  ( โอเค )  ไปก็ไป”   ว่าแล้วแบ๊งค์ก็รีบใส่รองเท้า  แล้วปิดล๊อคห้องเดินตามกาวไปครับ   

ตอนนี้เรามารอรถเมล์อยู่ที่หน้าคอนโดครับ  อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวครับ  สงสัยจะมีฝนตกแน่ ๆ เลย  แบ๊งค์มองดูนาฬิกา  ตอนนี้ก็เพิ่ง 10 โมงกว่า ๆ เอง  แต่ทำไมรถติดจังก็ไม่รู้  ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนอะไร

“รถไม่ค่อยมีเลยเนอะแบ๊งค์”   กาวหันมาพูดกับแบ๊งค์ครับ

“อืม...นั่นดิ”   แบ๊งค์ตอบไป  แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกหน้ามืด ๆ จนตัวเซ ๆ ไป

“เฮ้ย ๆๆ เป็นไรไปวะ”   กาวรีบเข้ามาพยุงแบ๊งค์เอาไว้ครับ

“ไม่เป็นไรว่ะ  หน้ามืดนิดหน่อย”

“สงสัยจะไม่ได้กินข้าวเช้า  ฮะฮะฮะ “   แบ๊งค์หัวเราะเบา ๆ เพื่อที่จะให้ไอ้กาวมันสบายใจ

“เดี๋ยวไปถึงมหาลัย  ไปอะไรแดซก่อนเลยดีกว่านะ”   กาวพูด

“อ่ะ......อืม”   แบ๊งค์พยักหน้า

“อ้าวววว  เป็นอะไรไปอีกเนี่ย”   กาวร้องออกมาอย่างตกใจ 

“...................”    แบ๊งค์เลยทำหน้างง ๆ

“เลือดกำเดาไหลด้วยหรอเนี่ย”   ไอ้กาวพูดครับ  แบ๊งค์เลยเอามือแตะ ๆ ดูที่ปลายจมูก  จริง ๆ ด้วย  มีเลือดออกมาจริง ๆ ด้วย  ทำไมแบ๊งค์ไม่รู้ตัวเลยนะ

“มา....เดี๋ยวกรูส์เช็ดให้”   ไอ้กาวล้วงไปเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาทำท่าจะเช็ดให้แบ๊งค์ครับ

“กาว....อย่า   เดี๋ยวผ้านายเปื้อน”    แบ๊งค์ปฏิเสธไป

“อย่าดื้อดิเมริง  ผ้ามันมีไว้เช็ด เปื้อนเลือดเพื่อนกรูส์แค่นี้คงไม่เป็นอะไรหรอก”  แล้วกาวก็ค่อย ๆ เอาผ้าเช็ดเลือดที่ออกมาจากจมูกแบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยืนจ้องมัน  ไอ้กาวเนี่ย  เป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ เลย ระหว่างที่กำลังมองมันไปเพลิน ๆ อยู่ดี ๆ มันก็พูดขึ้น  ทำให้แบ๊งค์ตื่นจากภวังค์

“ไปหาหมอดีมั้ยวะแบ๊งค์   กรูส์ว่าอาการมันแปลก ๆ”   กาวพูด

“จะแปลกอะไรล่ะ  ที่หน้ามือก็เพราะไม่ได้กินข้าว”

“ที่เลือดกำไหล ก็เพราะอากาศมันร้อนน่ะ  อย่ากลัวไปเลย  แบ๊งค์เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนอยู่เชียงใหม่แล้ว”   แบ๊งค์พูดไป

“หรอ....ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน  กรูส์เป็นห่วงนะเว้ย”   กาวพูด

“อืม...ขอบใจนายนะ”   ระหว่างที่กำลังพูดกันไป  รถเมล์ก็มาพอดี  เราสองคนเลยรีบขึ้นไป  วันนี้รถติดมากน่ะครับ  แต่คนก็ไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่  รถค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดก็มาถึงมหาวิทยาลัย  เป็นเวลา 11 โมงครึ่งพอดี  โชคดีนะเนี่ย  ที่คอนโดกับมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ห่างกันซักเท่าไหร่

เราสองคนก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยกันครับ  ก็กะว่าจะไปโรงอาหารก่อนน่ะ  เพราะอยากไปหาอะไรทาน  เดี๋ยวจะเป็นลมไปอีก  ระหว่างที่เดินไป  อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวมากครับ  และท้องฟ้าก็มืดมาก ๆ ในไม่ช้า ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาครับ

“เฮ้ยยยยฝนตก”   แบ๊งค์ร้องขึ้น  ตอนที่ฝนเริ่มโรยลงมา

“ทำไงดีวะ  ร่มก็ไม่มี”   กาวพูดขึ้นครับ

“กรูส์ว่าเรารีบวิ่งไปดีกว่านะ  เอากระเป๋าบัง ๆ ไปก่อน”

“หนังสือคงไม่เปียกหรอก”   แบ๊งค์เสนอครับ

“อืม...เอางั้นก็ได้”    กาวเห็นด้วยครับ  เราทั้งสองคนก็เลยเอากระเป๋าขึ้นป้องหัว   แล้วรีบวิ่งไปโรงอาหาร  ระหว่างที่วิ่งไป  แบ๊งค์รู้สึกเหมือนกาว  เอามือโอบเอวแบ๊งค์ไว้อยู่   มันคงกลัวแบ๊งค์วิ่งไม่ทันหรอกมั้ง  ช่างเหอะ  ตอนนี้รีบวิ่งให้ถึงโรงอาหารก่อนดีกว่า

ในที่สุดเราก็มาถึงเรงอาหารจนได้ครับ  เหนื่อยเหมือนกัน  ก็มีนักศึกษาอยู่หลายคนนะ  ที่วิ่งลุยฝนมาเหมือนเราสองคน  พอเราถึงโรงอาหาร  ฝนก็เทลงมาอย่างหนักเลยครับ  ดีนะเนี่ยทิ่วิ่งมา  ถึงจะกระนั้น  สายฝนปรอย ๆ เพียงเมื่อครู่ที่ผ่านมา ก็ทำให้เสื้อผ้าบางส่วนของแบ๊งค์และกาว  เปียกไปเหมือนกัน

เราแยกย้ายกันไปซื้ออาหารทานกันครับ  เมื่อแบ๊งค์กลับมาที่โต๊ะ ก็เจอแมคกับปรินซ์นั่งอยู่กับกาวแล้ว

“ไง  กินอะไรไปละยังล่ะ”   แบ๊งค์ทักแมคกับปรินซ์ครับ

“ก็กินขนมกันไปแล้วล่ะ”   แมคตอบครับ

“ว่าแต่  ไปทำไงกันมาเนี่ย ถึงได้เปียกกันขนาดนี้”    แมคถามครับ

“ก็ฝนน่ะดิ  อยู่ ๆ ก็ตกมาจนได้”   กาวตอบแทนครับ

“นั่นสิ  อยู่ดี ๆ ก็ตกลงมาเฉยเลย มิน่าล่ะ  ตอนเช้าดูร้อนอบอ้าว”    แบ๊งค์พูด

“ไงก็รักษาสุขภาพกันหน่อยนะ”   ปรินซ์พูดครับ

“ขอบคุณนะ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“แล้วพวกพี่ ๆ เค้าหายกันไปไหนหมดอ่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“พี่ตั้มไม่มีเรียนน่ะวันนี้”   แมคตอบ

“ส่วนพี่อาร์ท  รู้สึกว่าจะไม่ได้ลงเรียนวิชาในวันนี้นะ”   กาวตอบอีกคน

“อืม....”  แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ

“พี่กาว  วันนี้ต้องซ้อมเลยป่าว”  ปรินซ์ถามขึ้น  คงถามเกี่ยวกับเรื่องซ้อมบาสของชมรมในตอนเย็น ๆ น่ะ

“ไม่หรอก  วันนี้ยัง  คงเริ่มประมาณวันมะรืนน่ะ”   กาวตอบ พอเราทานข้าวเที่ยงเสร็จ  ก็แยกย้ายกันไปครับ  เจ้าปรินซ์น่ะ  ไม่มีเรียนแล้ว  เลยขอตัวกลับบ้าน  ส่วนแบ๊งค์ แมค  กาว ก็ไปรอเข้าคลาสกัน  ถึงตอนนี้ฝนก็ยังไม่หนุดตกเลย

ระหว่างที่รอ  แบ๊งค์ไม่มีอะไรทำ  ก็เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่อาร์ท

“สวัสดีครับ”   เสียงจากปลายสายตอบมา

“พี่อาร์ทหรอ  บายดีป่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“ทำอย่างกับคนไม่ได้เจอกันไปได้นะแบ๊งค์”   พี่อาร์ทแซวกลับมา

“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา”   แบ๊งค์ตอบ

“แล้วนี่อยู่ไหนกันล่ะ”   พี่อาร์ทถาม

“ก็รอเข้าคลาสอ่ะ  อาจารย์ยังไม่มาเลย”   แบ๊งค์ตอบไป

“ที่นั่นฝนตกป่าว”   พี่อาร์ทถามอีก

“ตกดิ  เนี่ยเกือบได้ตากฝนมาเรียนแล้วนะเนี่ย”  แบ๊งค์พูด

“รักษาสุขภาพหน่อยนะครับ  เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”  พี่อาร์ทเตือนมาครับ   ระหว่างที่กำลังคุยกัน  อาจารย์ก็มาพอดี  แบ๊งค์เลยต้องบอกลาแล้ววางสายพี่อาร์ทไป

ระหว่างที่เรียนไป  แบ๊งค์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลก ๆ สงสัยจะเป็นหวัดน่ะ  เรียนไปก็ไม่มีอะไรมากอ่า  อาจารย์มาพูดถึงเนื้อหาในเทอมนี้ซะเป็นส่วนใหญ่

“แบ๊งค์  ตัวนั้นอ่านว่าอะไรวะ”  กาวซึ่งนั่งข้าง ๆ หันมาถาม  เมื่ออ่านลายมือหวัด ๆ ของอาจารย์บนจอสไลด์ไม่ออก

“นี่ไง  ดูที่สมุดกรูส์ก็ได้”   แบ๊งค์เลื่อนสมุดไปให้มันดู

“อืม ๆ”   กาวตอบสั้น   แล้วก็จดต่อไป  เราเรียนกันต่อไป  ในที่สุดก็เลิกซะที  ช่างเป็นวิชาที่ดูยาวนานซะเหลือเกิน

“แบ๊งค์เดี๋ยวเรากลับก่อนนะ”  แมคบอกลา

“อืม..บาย”    แบ๊งค์เลยตอบกลับไป

“เฮ้ย!!!!แบ๊งค์เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ”

“หน้าตาดูไม่ดีเลยว่ะ”   แมคร้องทักขึ้น  ทำให้กาวก็หันมามองเหมือนกัน

“นั่นดิ  เมื่อกี้ดูดี ๆ อยู่เลย”

“ทำไมหน้าดูซีด ๆ แบบนั้นวะ”   กาวพูดบ้าง

“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”   แบ๊งค์ตอบปฏิเสธไป

“ไหนดูซิ”   แล้วไอ้กาวก็ไม่พูดเปล่า  เอามือมาแตะที่หน้าผากของแบ๊งค์

“ตัวร้อนมากเลยนะเว้ย  เป็นไข้รึเปล่าวะ”   กาวถาม

“นั่นสิ  แบ๊งค์ไปหาหมอ  ก่อนมั้ย”   แมคถาม

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปหายากินซะ”

“แปปเดียว  เดี๋ยวก็หายน่า”   แบ๊งค์ตอบไป

“แบ๊งค์อย่าดื้อน่ะ  ไปหาหมอดีกว่า”

“เราว่าคงเป็นเพราะเดินตากฝนนั่นแหละ”   กาวพูด

“ไปนะ   เดี๋ยวเราไปส่ง”   แมคขันอาสา

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเราก็ไปหาพี่นุ่นแล้ว”

“ให้พี่นุ่นพาไปก็ได้  แมครีบกลับไปเหอะ  เราไม่เป็นไรหรอกน่า”   แบ๊งค์ตอบอกไปพร้อมกับส่องรอยยิ้มไปให้แมค

“อืม....เอางั้นแน่นะ”   แมคถามอีกครั้ง แบ๊งค์เลยพยักหน้าแทนคำตอบออกไป

“ไอ้กาว   กรูส์ฝากด้วยนะเว้ย”   แล้วแมคก็ออกไป

“ป่ะแบ๊งค์   ไปหาพี่นุ่นกัน  จะได้รีบไปหาหมอ”   กาวพูด  แล้วแบ๊งค์กับกาวก็เดินไปหาพี่นุ่นที่หน้าตึก  แบ๊งค์นั่งรออยู่ที่หน้าตึกเรียนของพี่นุ่น  สงสัยพี่นุ่นคงจะต้องเลิกช้าแน่ ๆ เลย  นั่งไปได้พักใหญ่ ๆ ก็มีโทรศัพท์มา  พี่นุ่นนั่นเอง

“แบ๊งค์หรอ  อยู่ไหนเนี่ย”   พี่นุ่นถามทันทีเมื่อแบ๊งค์รับสาย

“ก็อยู่หน้าตึกของพี่นุ่นนั่นแหละ”   แบ๊งค์ตอบไป

“หรอ...แบ๊งค์    แบ๊งค์กลับก่อนได้มั้ย”   พี่นุ่นถามกลับมา

“อืมได้สิ  ไม่เป็นไรหรอก”   แบ๊งค์พูด

“พอดีพี่ยุ่ง ๆ น่ะ”

“อะไรก็ไม่รู้  เปิดมาวันแรก มันก็ให้ทำแลปเลย  เล่นเอางงกันไปหมด”  พี่นุ่นอธิบาย

“อืม ๆ งั้นแบ๊งค์กลับก่อนนะ”   แบ๊งค์ลาพี่นุ่น

“เจอกันที่คอนโดนะ”   พี่นุ่นพูด  แล้วก็วางสายไป  พอแบ๊งค์วางสาย  ก็เห็นสายตาไอ้กาวที่นั่งรอเป็นเพื่อนมองมา

“กลับเองใช่มั้ยล่ะ”   กาวถาม

“อืม....”  แบ๊งค์ตอบไปเสียงแผ่วเบา

“เราว่าไปหาหมอก่อนดีกว่านะ  ไปตรวจร่างกายเลยดีกว่า”   กาวแนะ

“ไม่เอาหรอกกาว  เดี๋ยวกินยาเข้าไปก็หายแล้ว”   แบ๊งค์ยังคงปฏิเสธ

“ดื้อจริง ๆ เลยว่ะ  เพื่อนกรูส์คนนี้ ไปหน่อยเหอะ  อย่าทำให้กรูส์เป็นห่วงมากกว่านี้เลย”   กาวตะคอกออกมาครับ  มันทำให้แบ๊งค์กลัวเหมือนกันนะ  แต่พอลองนึก ๆ ดูอีกทีแล้ว  เสียงที่ตะคอกออกมาน่ะ  มันดูเต็มไปด้วยความห่วงใย  แบ๊งค์ก็เลยคิดว่า ไม่ปฏิเสธจะดีกว่า

“อืม.....ไปก็ได้”   แบ๊งค์ตอบออกไป

“ป่ะ  งั้นไปได้แล้ว ทิ้งไว้นาน ๆ เดี๋ยวอาการไม่ดี”   กาวพูด  พร้อมกับจูงมือแบ๊งค์ออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่หน้ามหาวิทยาลัย   ตอนแรกแบ๊งค์บอกให้ขึ้นรถเมล์ไปจะได้ไม่เปลืองเงิน  แต่กาวมันไม่ยอม  มันบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงเลิกงาน  รถเต็ม  แล้วถ้าแบ๊งค์ยังฝืนขึ้นไปอีก  เดี๋ยวจะเป็นหนักกว่าเก่า  แบ๊งค์เลยต้องยอมทำตามมันไป

ไม่นานนักเราก็มาถึงโรงพยาบาล   กาวแยกไปทำประวัติคนป่วยให้แบ๊งค์  ส่วนแบ๊งค์ก็ไปนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ   แล้วก็มีพยาบาลมารับตัวแบ๊งค์ไปชั่งน้ำหนัง  แล้วพาไปตรวจร่างกาย  คือ  ไอ้กาวเห็นว่าแบ๊งค์ค่อนข้างดูอ่อนแอน่ะครับ  ก็เลยให้มาตรวจสุขภาพยกใหญ่เลย

แบ๊งค์ใช้เวลาตรวจสุขภาพค่อนข้างนานครับ   จนที่สุดแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องจากห้องตรวจ

“แบ๊งค์เป็นไงบ้าง  หมอบอกว่าเป็นอะไรมั้ย”   กาวเข้ามาถามครับ

“อะ..เอ่อ   ไม่เป็นอะไรมากหรอก  เป็นแค่หวัดเล็กน้อยน่ะ”

“คงเพราะตากฝนตอนกลางวันน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“หรอ....เราขอโทษนะ  เป็นเพราะเราแท้ ๆ”   กาวพูดดูเศร้า ๆ

“เฮ้ย!! อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ไม่ใช่เพราะกาวหรอก”

“ป่ะ  กลับกันเหอะ”    แบ๊งคพูด

“อ้าววว  แล้วยาล่ะ  หมอไม่ได้ให้ยาหรอ”   กาวถาม

“อ...อืม.....ไม่ได้ให้น่ะ”

“แบ๊งค์ลองถามดูว่ายาที่คอนโดแบ๊งค์ใช้ได้ป่าว  หมอเค้าก็บอกได้  แบ๊งค์เลยไม่ได้ขอยาไว้น่ะ”   แบ๊งค์ตอบกาวออกไป

“อ่อ....งั้นกลับกันเลยนะ”   กาวพูด

“อืม....กลับได้แล้ว  แบ๊งค์อยากนอนแล้ว”   แบ๊งค์พูดพร้อมกับดันกาวให้เดินออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ
“แต่ก่อนนอน ต้องกินยารู้มั้ย”   ป่ะรีบไปกันเหอะ  แล้วแบ๊งค์ก็จูงมือกาว  ไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าโรงพยาบาล 

“ดูเหมือนจะมีพยาบาลวิ่งตามนะแบ๊งค์”   กาวพูด

“เฮ้ย!!!บ้าหรอ  ไหนดูซิ”   แบ๊งค์เลยหันไปมอง   แล้วพยาบาลคนนั้นก็ไปพูดคุยอะไรซักอย่างกับบุรุษพยาบาล  ที่นั่งอยู่หน้าโรงพยาบาลนั่นเอง

“เค้ามาคุยกับเพื่อนเค้าหรอก คิดมากน่า”   แบ๊งค์พูด

“เออ   จริง ๆ ด้วย  คงเป็นเรื่องด่วนอ่านะ  เห็นรีบวิ่งมา”   กาวพูด

“อืม  คงงั้นแหละ”   แบ๊งค์ตอบไป
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 02-07-2007 23:04:49
บทที่ 57 ฝัน

หลังจากกลับจากโรงพยาบาล  แบ๊งค์กับกาวก็ไปหาอะไรกินกันแถว ๆ คอนโด  จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปครับ  แน่นอนครับ  แบ๊งค์ไม่ลืมที่จะทานยาก่อนเข้านอน  ไม่อย่างนั้นวันพรุ่งนี้ไม่มีแรงที่จะลุกไปเรียนแน่ ๆ  พอทานยาไปได้ซักพัก คงเพราะฤทธิ์ยามั้งครับ  แบ๊งค์ก็เลยหลับไป

แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึเหมือนมีแสงแดดสาดเข้ามาในห้อง  แบ๊งค์เลยตื่นขึ้น   นี่มันเช้าแล้วหรอเนี่ย   หลับไปนานเลย  ดีนะที่ตื่นทัน  แบ๊งค์มองนาฬิกา  เป็นเวลาเกือบ ๆ จะเจ็ดโมงแล้วครับ  แบ๊งค์เลยลุกไปอาบน้ำแต่งตัว   

พอออกมานอกห้องกะว่าจะไปเรียกพี่นุ่น  ปรากฏว่า  พอเปิดประตูออกมา  มันกลายเป็นอีกมิติหนึ่ง  มีแต่ความมืดมิด   แบ๊งค์มองไม่เห็นอะไรเลย  พอจะหันหลังกลับเข้าห้องไป   ประตูที่เปิดออกมาก็กลับหายไป    ตอนนี้แบ๊งค์ไม่รู้จะไปทางไหนดี

“มีใครอยู่มั้ย”   แบ๊งค์ลองถามออกไป  แต่ก้ไม่มีเสียงตอบกลับ   แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เดินไปอย่างไร้ทิศทาง  และไร้จุดหมาย

“ใครก็ได้    ใครก็ได้ช่วยแบ๊งค์ที”

“แบ๊งค์กลัวนะ   ใครก็ได้.....”    แบ๊งค์เริ่มกลัวมาก  ตอนนี้แบ๊งค์หยุดเดินแล้ว  และทรุดตัวลงนั่งร้องไห้   โดยที่ร้องไห้ไปพร้อมกับ  ร้องขอความช่วยเหลือ  แต่ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา  ยังคงมีความเงียบ  และความมืดมิด

“แบ๊งค์.....มานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย”   มีเสียง ๆ หนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นครับ   แบ๊งค์เลยลืมตาไปมอง  เป็นพี่โป้งนั่นเอง   แล้วพอมองไปรอบ ๆ ตัว  มันกลับกลายเป็นว่า   ตอนนี้แบ๊งค์อยู่ที่มหาวิทยาลัย   แล้วก็มีสายตาคนอื่นมองมาเต็มไปหมด

“....................”    แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ยังคงงงอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ตอบพี่ได้ละยังครับ  ว่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ ก็นึกว่าเด็กที่ไหนมานั่งร้องไห้”    พี่โป้งค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ แบ๊งค์    โดยที่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร  แบ๊งค์ก็โผเข้ากอดพี่โป้งในทันที

“พี่โป้ง.....พี่โป้งอย่าทิ้งแบ๊งค์ไปนะ”   แบ๊งค์พูดไปพร้อมกับร้องไห้

“ครับ ๆๆๆ พี่ไม่ทิ้งแบ๊งค์หรอก  เลิกร้องไห้ได้แล้วนะ”    พี่โป้งกอดรัดแบ๊งค์ตอบครับ   นี่ไม่ใช่ฝันแน่ ๆ แบ๊งค์ได้รับไออุ่นจากตัวพี่โป้ง  และรู้สึกว่าพี่โป้งกอดแบ๊งค์จริง ๆ

“แล้วคนอื่น ๆ เค้าหายไปไหนกันหรอครับ”   แบ๊งค์ผละออก  แล้วถามพี่โป้ง

“ไม่รู้สิ  พี่ยังไม่เจอพวกเค้าเหมือนกัน”   พี่โป้งตอบ

“งั้นเราไปหาพวกเค้ากันนะครับ”    แบ๊งค์รีบเช็ดน้ำตา  แล้วเดินจูงมือพี่โป้งไป  เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน   นี่ไม่ใช่ฝันจริง ๆ แบ๊งค์รู้สึกดีมาก  ที่ได้อยู่กับพี่โป้งอีกครั้ง  การจากไปครั้งก่อนของพี่โป้ง มันเป็นแค่ฝันร้าย  ตอนนี้แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาแล้ว

“นั่นไง  พวกเพื่อน ๆ แบ๊งค์อยู่นั่นไง”   พี่โป้งบอกครับ  แบ๊งค์เลยหันไปมอง  ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน  มีทั้ง พี่อาร์ท พี่ตั้ม  พี่ตี๋ พี่ปอย แมค  กาว และปรินซ์

“เข้าไปหาเค้ากันดีกว่านะพี่โป้ง”    แบ๊งค์จุงมือพี่โป้งไป  แต่พี่โป้งหยุด  ไม่ยอมเดินตามแบ๊งค์

“ทำไมล่ะ  ไม่เข้าไปหาพี่อาร์ทหรอ”   แบ๊งค์ถาม

“แบ๊งค์.......มีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียวนะ”

“ทุก ๆ คนรักและเป็นห่วงแบ๊งค์เสมอ”   พี่โป้งพูดครับ

“หมายความว่ายังไงน่ะพี่โป้ง   แบ๊งค์งงนะ”   แบ๊งค์พูดไปตามความคิดครับ  พี่โป้งหมายถึงอะไรกันแน่

“แบ๊งค์อย่าทำอย่างนี้เลย  มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก”

“เลิกทำนิสัยที่ชอบเก็บอะไรไว้คนเดียวได้แล้วนะ”   พี่โป้งพูด

“........................”   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไร

“พี่มาเพื่อจะบอกแค่นี้ล่ะ  ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของพี่แล้ว”

“พี่ไปก่อนนะ”   พี่โป้งลาครับ  และปล่อยมือแบ๊งค์ออก

“พี่โป้งจะไปไหนน่ะ  เดี๋ยวก่อน”   แล้วก็เหมือนว่า  พี่โป้งจะค่อย ๆ ลอยหายไปในอากาศ

“ไม่นะพี่โป้ง  รอแบ๊งค์ก่อน  พี่โป้ง !!!!!!!!!!!”    แบ๊งค์เรียกได้แค่นั้น  แล้วแบ๊งค์ก็สดุ้งตื่นขึ้นมา   นี่เป็นแค่ความฝันหรอกหรอ   ทำไมนะ  แม้กระทั่งความฝัน  พี่โป้งยังทิ้งแบ๊งค์ไป  แบ๊งค์เริ่มน้อยใจ  จนร้องไห้ออกมา   พอมองนาฬิกา  ก็เป็นเวลาเกือบ ๆ จะ 6 โมงเช้าแล้ว  แบ๊งค์เลยไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย

แบ๊งค์ยืนอยู่หน้ากระจก ทบทวนเหตุการณ์ในความฝัน   รวมถึงคำพูดของพี่โป้ง ‘มีอะไร  อย่าเก็บไว้คนเดียว’ ‘ ทุกคนเป็นห่วงเสมอ’ ‘เลิกทำนิสัยแบบนี้ได้แล้วนะ’ คำทุกคำดังอยู่ในหัวสมองของแบ๊งค์   พี่โป้งจะไปรู้อะไรล่ะ  แค่ทุกวันนี้แบ๊งค์ก็ทำให้ทุกคนห่วงมามากพอแล้ว    เพราะฉะนั้นแบ๊งค์จะไม่ทำตัวให้ใครต้องห่วงอีก

แบ๊งค์มองตัวเองที่ในกระจก  แล้วมองไปที่ตุ๊กตาโอชาเคน  ที่เป็นเสมือนตัวแทนของพี่โป้ง  อยู่ดี ๆ ก็เหมือนว่าน้ำตาของแบ๊งค์จะไหลออกมาอีกแล้ว  แบ๊งค์เลยรีบออกจากห้องไป  ตอนนี้พี่นุ่นคงจะยังไม่ตื่น  แบ๊งค์เลยเขียนโน้ต แปะไว้ที่ตู้เย็น  ว่าแบ๊งค์ขอออกไปมหาวิทยาลัยก่อน  เดี๋ยวตอนเย็น ๆ จะโทรหาอีกที

แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินลงมาที่ป้ายรถเมลล์  ถึงจะเช้าขนาดนี้  รถบางคันคนก็เยอะอยู่เหมือนกัน   โชคดีที่รถคันที่ผ่านมหาวิทยาลัยแบ๊งค์คนไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่   แบ๊งค์นั่งเหม่อไปเรื่อย ๆ มองดูสองข้างทาง  จนนั่งเลยไปหนึ่งป้าย   เฮ้อ~~~นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย  เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก  แบ๊งค์ได้แต่พูดกับตัวเอง 

แบ๊งค์ตัดสินใจค่อย ๆ เดินย้อนป้ายกลับมาทางมหาวิทยาลัย  อาจจะเหนื่อยหน่อย  แต่มันก็คงทำให้แบ๊งค์ได้คิดอะไรไปเพลิน ๆ เหมือนกัน   แบ๊งค์เดินจนมาถึงเซเว่น  ก็เลยแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องซะหน่อย  เมื่ออิ่มแล้วแบ๊งค์ก็เดินต่อไปจนถึงมหาวิทยาลัย  โดยแบ๊งค์เข้าไปนั่งที่เดิม

“มาแต่เช้าเลยหรอวะ  ไอ้เด็กดื้อ”   พี่ตั้มทักขึ้น

“.....................”   แบ๊งค์ไม่ได้ตอบอะไร  ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยิน

“ไอ้แบ๊งค์!!!!!!!”    พี่ตั้มตะโกนที่ข้าง ๆ หูครับ  มันเลยทำให้แบ๊งค์สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากอาการเหม่อ

“อ่ะ.......อะไรหรอ”    แบ๊งค์ถามไปเสียงเรียบ ๆ

“เป็นอะไรไปรึเปล่าวะ  ท่าทางซึม ๆ”   พี่ตั้มถาม

“ไม่หรอก คิดอะไรเพลิน ๆ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ได้ข่าวว่าเป็นหวัดนี่นาเมื่อวานน่ะ”

“ไหนดูหน่อยซิ  หายละยัง”   แล้วพี่ตั้มก็เอามือมาแตะ ๆ ที่หน้าผากของแบ๊งค์ครับ

“.........................”  แบ๊งค์นั่งนิ่ง ๆ เหมือนเดิม

“ตัวก็ไม่ร้อนแล้วนี่นา  เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ”   พี่ตั้มถาม

“ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ “   แบ๊งค์ย้ำออกไป

“ไหน ๆ ก็ยังไม่มีใครมา  ไปหาอะไรกินกันป่ะ”   พี่ตั้มชวนครับ

“แต่แบ๊งค์กินมาแล้วนะ”   แบ๊งค์พูด

“ไปเหอะน่า  จะนั่งอยู่คนเดียวหรือไง”   พี่ตั้มพูด  แบ๊งค์ก็เลยต้องจำใจไปกัยพี่ตั้มครับ   พี่ตั้มพาแบ๊งค์ไปทานโจ๊กข้างมหาวิทยาลัย  ซึ่งคงเป็นเจ้าประจำของพี่ตั้มเค้าล่ะ  เห็นคุยกันถูกอกถูกคอกับเจ้าของร้านใหญ่เลย

“แบ๊งค์เอาอะไรล่ะ  เดี๋ยวพี่เลี้ยง”  พี่ตั้มถาม

“แบ๊งค์เอา โจ๊ก ไม่หมู  ไม่ผักครับ”   แบ๊งค์สั่งไป

“เฮ้ย!!!!บ้าหรอ  กินแต่โจ๊กเปล่า ๆ เนี่ยนะ”   พี่ตั้มถามกลับครับ

“ก็กินกับปาท่องโก๋ไง”   แบ๊งค์ตอบไป

“กินแปลกว่ะ  ไม่ใส่ไข่ซะหน่อยหรอ”  พี่ตั้งยังคงถามย้ำอีกทีครับ

“ไม่เอาหรอก  แบ๊งค์กินแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”   แบ๊งค์ตอบไปอีกครั้ง

“เออ ๆๆ ก็ได้ ๆๆ ตามใจนะเว้ย”  พี่ตั้มพูด  แล้วหันไปสั่งโจ๊กกับเจ้าของร้านครับ

“โจ๊กไม่หมูไม่ผักหนึ่ง  แล้วก็พิเศษใส่ไข่หนึ่งครับ  เอาปาท่องโก๋ด้วยนะครับ”   พี่ตั้มตะโกนสั่งไป   แล้วไม่นานของที่เราสั่งก็มาถึงโต๊ะ  แบ๊งค์ก็ตั้งหน้าตั้งตาทานไปเรื่อย ๆ

“เป็นอะไรไปวะ  เห็นซึม ๆ แบบนี้กรูส์ไม่ค่อยสบายใจนะเว้ย”   พี่ตั้มพูด

“ไม่เป็นไรจริง ๆ พี่ตั้มไม่ต้องห่วงหรอก  คงเพราะตื่นเช้ามั้ง”   แบ๊งค์ตอบพร้อมกับยิ้มแหย ๆ ไปให้พี่ตั้ม

“อ่ะนะ  ดูยิ้มเข้าสิ”   พี่ตั้มเอื้อมมือมาลูบแก้มแบ๊งค์ครับ  มือพี่ตั้มอบอุ่นจัง   พี่ตั้มลูบแก้มแบ๊งค์แล้วหัวเราะเบา ๆ ครับ  จากนั้นเราสองคนก็ทานกันต่อ  จนเสร็จเรียบร้อยครับ

“เป็นไงอร่อยมั้ยโจ๊กเปล่า ๆ น่ะ”   พี่ตั้มแซว

“อืมอร่อยดิ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“เดี๋ยว ๆๆ อยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะ”  พี่ตั้มพูดครับ   แบ๊งค์ก็เลยนั่งอยู่นิ่ง ๆ พี่ตั้มก็เอื้อมไปเอากระดาษทิชชู่  แล้วโน้มตัวมาเช็ด แถว ๆ มุมปากเยื้อง ๆ ไปทางแก้มของแบ๊งค์ ตอนนี้หน้าของเราสองคนใกล้กันมาก  จนจะเรียกว่าหายใจรดกันก็ได้

แบ๊งค์แอบจ้องมองดูแววตาของพี่ตั้ม  ดูเหมือนพี่ชายที่เป็นห่วงน้องชายตัวเล็ก ๆ เลย  ตัวพี่ตั้มหอมจัง  ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นของน้ำหอมยี่ห้อไหนนะ  แต่หอมได้ใจจริง ๆ

“อ่ะ  เสร็จแล้ว “

“กินยังไงวะ  ไปเลอะเอาที่แก้มจนได้”   พี่ตั้มพูด  แบ๊งค์เลยตื่นจากภวังค์

“ใครจะไปรู้ล่ะ  คงเพราะอร่อยมั้ง”  แบ๊งค์แกล้งตอบกลับไป

“ทีหลังก็มากินอีกสิ  ถ้าอร่อยนะ”  พี่ตั้มพูด

“อืม......พี่ตั้มพาแบ๊งค์มาอีกก็แล้วกันนะ”   แบ๊งค์พูดไป 

“...............อืม..”   พี่ตั้มนิ่งไปซักพักก่อนจะตอบออกมา  แววตาดูเป็นประกาย  น่ารักดีจัง
“ไปจ่ายเงินกันได้แล้ว  เดี๋ยวเพื่อน ๆ คงมากันแล้วล่ะ”   แบ๊งค์พูด  พี่ตั้มก็เลยออกไปจ่ายเงินค่าโจ๊กให้   แล้วเราสองคนก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยกัน

“พี่ตั้มนี่หาของอร่อย ๆ เก่งจังนะ”

“แบ๊งค์ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่ามีของอร่อย ๆ แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ”   แบ๊งค์พูด

“ก็ไม่รู้สิ  พี่ชอบเดินเล่นไปเรื่อย ๆ น่ะ  ก็เลยมาเจอ”  พี่ตั้มพูด 

“อ่ะนั่น  ลูกหมาเกิดใหม่แน่ ๆ เลย”  แบ๊งค์ทำท่าจะวิ่งเข้าไปเล่นครับ  แต่โดนพี่ตั้มดึงมือแบ๊งค์เอาไว้

“อย่าเข้าไปแบ๊งค์  แม่มันคงหวง”

“เดี๋ยวโดนกัดเอา”    พี่ตั้มพูดอธิบายครับ

“อืม.....ก็ได้”   แล้วแบ๊งค์ก็เดินกับพี่ตั้มไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เริ่มมีคนมามหาวิทยาลัยกันบ้างแล้ว  แต่มีนักศึกษาบางคนมองมาที่แบ๊งค์กับพี่ตั้มแบบแปลก ๆ เอ...เค้ามองอะไรกัน  แบ๊งค์เลยหันมามองดูตัวเอง (o_O)แว๊กกกกกก   แบ๊งค์จับมือกับพี่ตั้มอยู่

แบ๊งค์ก็เลยรีบชักมือออก  พี่ตั้มก็เลยหันมาเหมือนว่าพี่เค้าจะตกใจน่ะ

“เป็นอะไรหรอ”   พี่ตั้มถามอย่างตกใจ

“ก็พี่ตั้มน่ะดิ  จับมือแบ๊งค์อยู่ได้  คนอื่นเค้ามองกันหมดแล้ว”   แบ๊งค์ตอบไปแบบอาย ๆ

“อ่ะ...เอ่อ   จริง ๆ ด้วยพี่ขอโทษ”   พี่เค้าก็เหมือนจะตกใจเหมือนกัน  พอแบ๊งค์แอบมองหน้าพี่ตั้มอีกที  ก็เหมือนพี่ตั้มจะอาย ๆ หน้าดูแดง ๆ

แล้วเราก็มาถึงที่โต๊ะกันครับ  ซึ่งมีกาวกับปรินซ์มานั่งรออยู่แล้ว

“แอบหนีไปไหนกันมาน่ะ”   ปรินซ์โวยขึ้นครับ

“ก็แค่ไปหาอะไรกินกันน่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ไปไม่ชวนกันเลยอ่ะ  งอนแล้ว”   ปรินซ์ทำท่างอน ๆ ครับ

“ไม่ต้องมาโวยวายเลยเดี๋ยวปั๊ด....”    พี่ตั้มโวยคืนบ้างครับ  คราวนี้ปรินซ์เงียบไปเลย

“เป็นไงบ้างแบ๊งค์รู้สึกดีขึ้นละยัง”   กาวถามถึงอาการหวัดจากเมื่อวานครับ

“ไม่เป็นไรแล้ว  เราดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป
“แล้วไอ้แมคล่ะ”   พี่ตั้มถาม

“เดี๋ยวก็คงมาน่ะครับ”  กาวตอบไป   แล้วเราก็นั่งคุยกันเหมือนปกติ  ไม่นานแมคก็มา  ตามด้วยพี่อาร์ท  ทุกคนถามแบ๊งค์เป็นเรื่องเดียวกันเลย  เรื่องอาการหวัดเมื่อวานนั่นแหละ  แบ๊งค์ก็ได้แต่ตอบไปว่าไม่เป็นอะไร ทุกคนดูเป็นห่วงแบ๊งค์จัง  เลิกห่วงกันได้แล้วนะ  ต่อไปนี้  แบ๊งค์จะไม่ทำให้ทุกคนต้องมาเป็นกังวล  หรือต้องมาห่วงแบ๊งค์อีกต่อไปแล้ว

**********************************
ไม่รู้จะได้เจอกันอีกครั้งเมื่อไหร่นะคับ คิดถึงเพื่อน ๆพี่ๆ ในบอร์ดทุกคนเลยอ่ะ
ไว้มีโอกาสเข้ามาอีกคับ ...แอบให้กินยานอนหลับไปเม็ดนึงคับ อยากให้พี่เค้าพักผ่อนเยอะ ๆ :haun5:
เดี๋ยวรีบไป Print เรื่องอื่นนี้กะเรื่องอื่น ไปนอนอ่านดีก่า ฮิฮิ
 :bye2: คับ


หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 02-07-2007 23:28:51
ขอบคุณมากนะครับจา คราวนี้เอามาลงให้จุใจเลยทีเดียว

 o14 o15

=====================================
ที่น้องจาแอบบ่นในตอนแรกเนี่ย บ่นด้วยความรักหรือเปล่าคับ
อ่านไปอ่านมาชักไม่แน่ใจและ อาจเป็นคู่กันอย่างกับคุณรอยกับพี่สามก็ได้นะ แอบลุ้นอยู่นะคับ 
:m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-07-2007 23:38:51
อิอิ และแล้วนายโตก็ฟามลับแตก
 :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-07-2007 00:04:28
เอาใจช่วยน้องpajaa นะ  :m1:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-07-2007 13:02:06
 :teach:

เอาใจช่วยคุณจาเช่นเดียวกันครับ

ผ่านมันไปให้ได้นะ

ยังไงก็รออ่านต่อไปครับ

 :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-07-2007 14:37:31
เอาใจช่วยนะครับ

น้องจาอย่าวู่วามนะครับ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ

ปัญหาทุกอย่างมีทางออกครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-07-2007 14:48:27
มาต่อให้จุใจเลย  ขอบคุณค้าบบ  :m4:


ส่วนน้องจา  พี่ก็ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีทุกฝ่ายนะคับ... เอาใจช่วยครับ  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 03-07-2007 17:52:23
เอาใจช่วยนะ  ขอให้มั่นคงกับความรู้สึกตัวเองนะ ให้เวลาพิสูจน์ความจริงนะ

ขอบคุณมากที่ลงเรื่องให้อ่านต่อ  พี่ตามเรื่องนี้มาตลอด เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-07-2007 19:27:38
แบงค์มีความลับอะไรเนี่ย คงไม่เศร้านะ  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 03-07-2007 22:17:04
หรือว่าแบ๊งค์จะป่วยเป็นอะไรสักอย่าง แต่ไม่ยอมบอกใคร
 :sad3: :sad3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 04-07-2007 00:43:01
กลัวว่าแบงค์จะเป็นอะไรไปอีกคนจังง่ะ   อย่าเลยนะ    :m5: :m5: :m5:

ม่ะอยากให้พี่อาร์ทช้ำไปกว่านี้แระ   :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 07-07-2007 23:02:09
หวัดดีคับ หนีกลับมาแล้วคับ เบื่อๆ
เค้า.....เหลือแขนกับขาอย่างละข้าง(ใส่เฝือก)ยังฤทธิ์มากยิ่งกะเด็ก ๆ
เรียกอยู่ได้ ทำยังกับผมเป็นนังแจ๋ว เซง...โครต

อ้อ!!! ไม่ต้องลุ้นหรอกคับ  o21เรื่องของผมลุ้นไม่ขึ้นหรอก ถ้าแตะถ่วง(น้ำ)น่ะพอว่าคับ  เนอะ

อ่านต่อดีก่าคับ นึกถึงแล้วรมณ์เสีย
************************************

บทที่ 58  รักพี่อาร์ทจังเลย

วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อย ๆ ครับ  ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ  ไม่เรื่องอะไรเกิดขึ้นกับแบ๊งค์  เรื่องวุ่นวายทั้งหลายมันคงจะจบลงซักที  เว้นแค่.....

“ไงไอ้ตัวเล็ก  นั่งฟังเพลงเพลินเลย”   พี่ตั้มข้ามาทักแบ๊งค์ครับ

“จะฟังด้วยกันมั้ยล่ะ  อ่ะ”   แบ๊งค์ยื่นหูฟังอีกข้างไปให้พี่ตั้ม

“สายสั้นแค่นั้นมันจะถึงมั้ยล่ะ”  แล้วพี่ตั้มก็มานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ

“แมคไม่มาด้วยหรอ”  แบ๊งค์ถามไป

“ไม่อ่ะ  มีนหายไปไหนก็ไม่รู้ดิ”

“ว่าแต่เราเหอะ  เย็น ๆ แบบนี้ทำไมมานั่งหลบมุมอยู่คนเดียวล่ะ”   พี่ตั้มถามครับ

“ก็รอพี่อาร์ทมารับไปดูหนังน่ะ”  แบ๊งค์ไป

“อืม.......ไม่เหงาหรอ”   พี่ตั้มถาม  น้ำเสียงพี่ตั้มตอนนี้  ฟังดูแล้วเต็มไปด้วยความห่วงใย

“ไม่หรอก  แบ๊งค์อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กแล้ว”   แบ๊งค์ตอบแบยิ้ม ๆ  เราก็นั่งฟังเพลงกันไปเรื่อย ๆ ไม่นานพี่อาร์ทก็โทรมาบอกแบ๊งค์ให้ไปหาครับ  แบ๊งค์เลยบอกลาพี่ตั้มไป

“ไปก่อนนครับ”  แบ๊งค์ลา

“อ่ะ...อืม   เที่ยวให้สนุกนะ”  พี่ตั้มตะโกนตามท้ายแบ๊งค์มา
.
.
.
“เป็นไง  วันนี้จะดูหนังเรื่องอะไร”   พี่อาร์ทถามเมื่อแบ๊งค์ขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว

“ไม่รู้สิ   พี่อาร์ทจะดูหนังเรื่องอะไรล่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“พี่อยากดูหนังผีอ่ะ  กล้าดูมั้ยล่ะ”   พี่อาร์ทถามกลับ

“ก็ได้นะ  แบ๊งค์อ่ะยังไงก็ได้อยู่แล้ว”    แบ๊งค์ตอบไป   วันนี้เป็นวันศุกร์ครับ  มีหนังใหม่เข้าเยอะแยะไปหมดเลย  แล้วเราก็เลือกที่จะดูหนังผีครับ  แต่คราวนี้ไม่ได้ดูหนังผีเอเชียแบบเมื่อก่อนแล้ว  ข้ามฝั่งไปดูหนังผีฝรั่งบ้างดีกว่า  จะว่าไปแบ๊งค์ไม่ได้ดูหนังฝรั่งมานานแล้วนะเนี่ย  มัวแต่ไปคลั่งกระแสเอเชีย  วันนี้ก็เลยขอกลับมาดูหนังฝรั่งหน่อยก็แล้วกัน

“แบ๊งค์จะเอาอะไรไปกินในโรงหนังมั้ยล่ะครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่เอาอ่ะ  แบ๊งค์ขอแค่น้ำแก้วเดียวดีกว่านะ”   แบ๊งค์ตอบไป  แล้วพี่อาร์ทก็ไปเข้าคิวซื้อน้ำให้แบ๊งค์  ในระหว่างนั้นโทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้น....
.
.
.
“ครับแค่นี้นะครับ”    แบ๊งค์พูดก่อนจะวางสายไป

“คุยกับใครหรอ  ท่าทางเคร่งเครียดเชียว”  พี่อาร์ทถามครับ

“ไม่มีอะไรหรอก  แค่เค้าโทรมาผิดน่ะ”   แบ๊งค์ตอบกลับไป

“ป่ะไปกันเหอะ  หนังจะเข้าแล้ว”    จากนั้นเราทั้งสองคนก็เดินเข้าโรงหนังไปกันครับ  หนังรอบนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่เลย  น่าแปลกจัง  ทั้ง ๆ ที่เป็นวันศุกร์   สงสัยกระแสเรื่องนี้คงไม่ดีมั้ง   แล้วแบ๊งค์ก็นั่งข้าง ๆ พี่อาร์ทครับ  ระหว่างที่กำลังดู ๆ ไป  แบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เอนหัวลงไปซบไหล่พี่ของอาร์ท

“เป็นอะไรไปรึเหล่าครับ”  พี่อาร์ทถาม

“เปล่าหรอก”   แบ๊งค์ตอบไปอย่างแผ่วเบา

“หรอ...แต่ปกติ  แบ๊งค์ไม่ชอบมาซบพี่แบบนี้นี่นา”   พี่อาร์ทถามด้วยความแปลกใจ

“เอาเหอะน่า  ก็วันนี้แบ๊งค์อยากซบพี่อาร์ทนี่นา”

“ขอซบหน่อยไม่ได้หรอ”   แบ๊งค์ทำท่าอ้อน ๆ

“ก็ได้ ๆ จะว่าไปก็ดีเหมือนนะเนี่ย”   พี่อาร์ทพูดแล้วยิ้ม ๆ

“พอได้แล้ว  อย่าพูดมากดูหนังต่อไปดีกว่า”   แบ๊งค์บอก   เราทั้งสองคนก็เลยเงียบ  แล้วดูหนังต่อไป  มีอยู่หลายฉากที่มีสิ่งต่าง ๆ โผล่มาทำให้ตกใจ  แบ๊งค์ก็เลยเอามือไปคว้าต้นแขนพี่อาร์ท  แล้วเอาหน้าซบไป

“อ๊ะ.........”     แบ๊งค์เกิดอาการตกใจครับ

“กลัวมากหรอ”   พี่อาร์ทกระซิบถามครับ

“อืม.....”    แบ๊งค์ตอบพร้อมพยักหน้า  พี่อาร์ทก็เลยดึงตัวแบ๊งค์เข้าไปกอดครับ  ตอนนี้หน้าแบ๊งค์ซบอยู่ที่อกของพี่อาร์ท  มันใกล้มากจนได้ยินเสียงจากหัวใจของพี่อาร์ท   แบ๊งค์เอาหน้าซบมันอยู่อย่างนั้น  พี่อาร์ทก็เอามืออีกข้างค่อย ๆ ลูบหัวแบ๊งค์เบา ๆ
เราดูหนังต่อไป  จนเหมือนว่ามันกำลังดำเนินมาท้าย ๆ เรื่องแล้ว  เนื้อเรื่องก้กระชากอารมณ์มากมาย

“เป็นอะไรไปน่ะครับ  ร้องไห้หรอ”   พี่อาร์ทถามครับ

“ครับ.....”   แบ๊งค์ตอบไป  แต่หน้ายังคงซบอยู่บนอกของพี่อาร์ท

“อย่าร้องไห้เลยนะคนดีของพี่อาร์ท”   พี่อาร์ทเอามือลูบหัวแล้วพูดเบา ๆ ครับ  การกระทำของพี่อาร์ทมันก็ทำให้แบ๊งค์หายเศร้าได้เหมือนกัน  แบ๊งค์เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ

ในที่สุดหนังก็จบพอดี  เราเดินออกมานอกโรงด้วยกัน

“พี่อาร์ท.....”   แบ๊งค์เรียกออกไป

“มีอะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทหันกลับมามองแบ๊งค์ด้วยท่าทาง งง ๆ

“พี่อาร์ทจับมือแบ๊งค์ได้มั้ย”    แบ๊งค์พูดพร้อมกับยื่นมือไปให้พี่อาร์ท

“ได้สิครับ  ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”   พี่อาร์ทยิ้มก่อนที่จะพูด  จากนั้นก็ยื่นมือมาจับมือของแบ๊งค์เอาไว้   แล้วเราก็เดินออกจากโรงหนังมาด้วยกัน

“พี่อาร์ทไม่อายสายตาคนมองหรอ”

“ที่มาจับมือแบ๊งค์อย่างนี้”   แบ๊งค์ถามไป

“ไม่หรอกครับ  ทำไมต้องอายล่ะครับ  ก็เรารักกันนี่นา”

“อีกอย่างนะครับ  เราก็ไม่ได้ไปทำให้เค้าเดือดร้อนนี่นา”   พี่อาร์ทพูด  ตอนนี้เราเดินมาถึงที่ลานจอดรถ  แล้วกำลังเข้าไปในรถแล้ว

“เดือดร้อนสิ”  แบ๊งค์พูด

“หรอ.....เราไปทำให้เค้าเดือดร้อนยังไงล่ะ”  พี่อาร์ทถามกลับด้วยท่าทาง งง ๆ เหมือนเดิม

“ก็เรารักกันจนเค้าหมั่นไส้ไงล่ะ”   แบ๊งค์พูดจบก็ยักคิ้วให้พี่อาร์ท

“ช่างพูดจริง ๆ นะเราน่ะ”   พี่อาร์ทพูดจบก็เอา  หน้าจมูกมาชนกับจมูกของแบ๊งค์  ล้วส่ายไปมา  ทำเหมือนกับเล่นกับแมวน่ะ

“ไม่เอาแล้ว  กลับกันได้แล้ว”    แบ๊งค์พูด

“จะไม่หาอะไรทานกันหน่อยหรอครับ”    พี่อาร์ทถาม

“แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่กินในห้างล่ะ”   แบ๊งค์ถามไป

“บรรยกาศไม่ค่อยดีน่ะ  ไปหาอะไรกินที่ข้างนอกดีกว่า”   พี่อาร์ทพูด

“อืม......เอางั้นก็ได้  ไปกันเหอะ  แบ๊งค์หิวจนไส้จะขาดแล้ว”   แบ๊งค์พูด 

“ครับ ๆๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ  เจ้าชายยย”  พี่อาร์ทแกล้งลากเสียงยาว ๆ  แล้วก็ขับรถออกไป  พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปที่สวนลุมไนท์บาซาร์ครับ   โดยเราไปนั่งทานอาหารที่ร้านอาหารในนั้นนั่งเอง

“คิดยังไงพาแบ๊งค์มาที่นี่เนี่ย”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็เผื่อกินเสร็จ  แบ๊งค์จะได้ไปเดินดูของ”

“เป็นการเผาผลาญพลังงานไปในตัวไงครับ”  พี่อาร์พูด

“รู้ดีจังนะ”  แบ๊งค์จิ้มที่ แก้มพี่อาร์ทเบา ๆ

“ก็พี่เป็นแฟนแบ๊งค์ยังไงล่ะครับ”

“จะไม่ให้รู้ใจกันได้ยังไงล่ะ”    พี่อาร์ทพูด  แล้วเราก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดของร้าน

“ถ้ารู้ใจ งั้นช่วยสั่งแทนแบ๊งค์หน่อยก็แล้วกัน”

“รู้แล้วนี่ว่าชอบอะไร”   แบ๊งค์พูดแบบยิ้ม ๆ

“ได้สิ”     พี่อาร์ทรับคำ  ไม่นาน  พนักงานเสิร์ฟ  ก็เข้ามารับรายการอาหารที่เราทั้งคู่จะสั่ง

“ขอเป็นทอดมันกุ้ง  ปอเปี๊ยะทอด  แล้วก็น้ำมะนาวครับ”   พี่อาร์ทสั่ง  แล้วหันมายักคิ้วให้แบ๊งค์ซึ่งตอนนี้ทำท่างอน ๆ ไปแล้ว  ทำไมน่ะหรอ  ก็ของที่พี่อาร์ทสั่งน่ะ  เป็นของโปรดแบ๊งค์ทั้งนั้นเลย  จากนั้นพี่อาร์ทก็สั่งรายการอาหารของตัวเองบ้าง  จนได้ครบทั้งสองคน

“เป็นไงล่ะ   อึ้งล่ะสิที่พี่รู้ใจเรา”   พี่อาร์ทพูด  เมื่อพนักงานเดินจากไปแล้ว

“ก็ของแค่นี้เอง  ใคร ๆ ก็จำได้หรอก”  แบ๊งค์พูด

“ทีแบ๊งค์ยังไม่เห็นจำของที่พี่ชอบได้เลย”  พี่อาร์ทพูด   แต่คำพูดของพี่อาร์ทมันทำให้แบ๊งค์ต้องสะดุด   นั่นสินะ  แบ๊งค์ไม่เคยรู้เลย  ว่าพี่อาร์ทชอบอะไร  ไม่เคยเอาใจพี่อาร์ทเลยซักครั้ง

“แบ๊งค์.......เป็นอะไรไปน่ะ  ทำไมเงียบไป”

“พี่พูดอะไรผิดไปรึเปล่า”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่หรอก  พี่อาร์ทพูดถูกทุกอย่างแหละ”

“แบ๊งค์ไม่เคยรู้ใจพี่อาร์ทจริง ๆ แบ๊งค์นี่แย่จริง ๆ เลย”   แบ๊งค์ค่อย ๆ เงยหน้ามานิ้มให้พี่อาร์ท   ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา

“แบ๊งค์......เอาอีกแล้วนะ”   พี่อาร์ทเรียกชื่อแบ๊งค์ออกมา

“อย่าร้องไห้นะ  พี่ขอโทษนะครับ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วก็ลุกเดินมานั่งข้าง ๆ แบ๊งค์  โดยเอานิ้วปาดน้ำตาที่กำลังไหลนอหน้าแบ๊งค์ไปด้วย

“ไม่เป็นไรหรอก  อย่าขอโทษเลย”

“แบ๊งค์ตะหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”    แบ๊งค์พูด

“ไม่เอาน่าแบ๊งค์  อย่าพูดแบบนี้นะ  แล้วก็อย่าคิดมากด้วย”   พี่อาร์ทพูด

“ถึงแบ๊งค์จะไม่รู้ว่าพี่ชอบอะไร  มันจำเป็นหรอก”

“เราไม่ได้คบกันเพราะว่าเรารู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบอะไร  แต่เราอยู่ด้วยกันเพราะเรารักกัน   แค่แบ๊งค์รักพี่  แค่นี้พี่ก็ไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะ”  พี่อาร์ทพูด

“.........................”   แบ๊งค์เงียบ  ไม่ตอบอะไร

“หรือว่าแบ๊งค์ไม่รักพี่ล่ะ”   พี่อาร์ทเริ่มทำเสียงเข้ม

“เปล่านะ   แบ๊งค์น่ะ  รักพี่อาร์ทเสมอแหละ”   แบ๊งค์รีบตอบออกไป

“ถ้ารักพี่  งั้นก็กินเยอะ ๆ แล้วเลิกคิดมาก หยุดร้องไห้ได้แล้ว”   พี่อาร์ทพูด  จากนั้น ของที่เราสั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะ  จนเต็มไปหมด 

“กินเยอะ ๆ นะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“พี่อาร์ทก็กินด้วยกันนะครับ”    แบ๊งค์ชวน

“ก็ได้ครับ  แต่แบ๊งค์ต้องป้อนพี่นะ”    พี่อาร์ททำสายตาเจ้าเล่ห์มาครับ

“ก็ได้ครับ  ลองทอดมันกุ้งดูนะ อร่อยมากมาย”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ตัดทอดมันกุ้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ  แล้วป้อนเข้าปากพี่อาร์ทไป

“วันนี้มาแปลกเนอะ”  พี่อาร์ทพูดเมื่อทานทอดมันกุ้งเข้าไปแล้ว

“แปลกยังไงหรอ  อากาศก็ปกตินี่นา”   แบ๊งค์ถามไปแบบ งง ๆ

“ก็แบ๊งค์นั่นแหละที่มาแปลก”    พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์เนี่ยนะ”    แบ๊งค์ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“ก็ใช่น่ะสิ  วันนี้ไม่ดื้อเลย  สั่งอะไรทำหมด”   พี่อาร์ทพูด

“แล้วไม่ดีหรือไงล่ะ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“ดีสิ  แบ๊งค์ไม่ดื้อแบบนี้น่ารักที่สุดเลยล่ะ”    พี่พูดแล้วก้มมาหอมแก้มแบ๊งค์ไปหนึ่งฟอด

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท  กินกันก่อนดีกว่า”    แบ๊งค์ไม่รู้ทำไงก็เลยได้แต่อายหน้าแดง   ส่วนพี่อาร์ทก็หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างมีความสุข

พอเราทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ  เราก็ไปเดินเล่น ๆ ดูของไปเรื่อย ๆ  ไปทั้งร้านที่ขายเสื้อผ้า  ขายของแต่งบ้าน  แต่แบ๊งค์ก็ไม่ซื้ออะไร

“แบ๊งค์ไม่ซื้ออะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่อ่ะครับ ไม่มีตัง”   แบ๊งค์แกล้งตอบไป

“เดี๋ยวพี่ออกให้ก่อนก็ได้  ของแค่นี้พี่ซื้อให้แฟนพี่ได้ครับ”   พี่อาร์ทอาสา

“ล้อเล่นน่ะ พี่อาร์ท”

“แบ๊งค์ยังไม่อยากได้อะไรหรอก  แต่ตอนนี้แบ๊งค์ขออะไรพี่อาร์ทอย่างหนึ่งได้มั้ย”   แบ๊งค์พูดแล้วหันมาทางพี่อาร์ท

“อะไรหรอครับ  ถ้าพี่ทำให้แบ๊งค์ได้  พี่ก็จะทำ”   พี่อาร์ทตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปที่ที่หนึ่งได้มั้ยครับ”   แบ๊งค์พูด

****************



หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 07-07-2007 23:11:34
บทที่ 59  ไปทะเลกันนะ

“แบ๊งค์จะพี่พาไปที่ไหนหรอครับ”   พี่อาร์ทถามด้วยท่าทางงง ๆ

“พี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปทะเลได้มั้ยล่ะ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ทะเล?....”    พี่อาร์ทย้ำคำพูดของแบ๊งค์

“อืม.....ไปแค่พัทยา-บางแสนนี่ก็ได้”   แบ๊งค์พูด

“มันไม่ใช่ใกล้ ๆ นะครับน้องแบ๊งค์”   

“เอาไว้ค่อยไปหัวหินตอนซัมเมอร์ก็ได้นี่ครับ”  พี่อาร์ทแย้งกลับมา

“พี่อาร์ท...พาแบ๊งค์ไปเถอะนะ”

“ถือว่าแบ๊งค์ขอร้อง”     แบ๊งค์พูดเสียงสั่นเครือ  เหมือนคนกำลังจะร้องไห้

“อ่ะ.....อืม  ก็ได้ครับ”   พี่อาร์ทรับคำไปอย่างปฏิเสธไม่ได้   แล้วแบ๊งค์ก็ขอตัวไปโทรบอกพี่นุ่นก่อนเพื่อที่พี่นุ่นจะได้ไม่เป็นห่วง

“พี่นุ่น...คืนนี้แบ๊งค์ไม่กลับคอนโดนะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม...ไม่เป็นไรจ๊ะ   ไปอยู่กับพี่อาร์ทอีกล่ะสิ”   พี่นุ่นแซวกลับมา

“อืม.....อยู่คนเดียวได้นะ”    แบ๊งค์ทำท่าเป็นห่วง

“ชั้นโตแล้วยะ  เธอนั่นแหละ”

“อยู่กับพี่อาร์ทก็อย่าดื้ออย่าซนให้มากนักล่ะ”   พี่นุ่นสั่งมา

“อืม....งั้นแค่นี้นะ”     แบ๊งค์พูดแล้ววางสายไป   จากนั้นแบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เดินไปขึ้นรถกัน  ระหว่างทางแบ๊งค์ไม่ได้พูดอะไร  ได้แต่นั่งเหม่อ  มองสองข้างทาง

“แบ๊งค์เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”   พี่อาร์ทพูด  เสียงของพี่อาร์ททำหแบ๊งค์สะดุ้งออกจากอาการเหม่อลอย

“หืม.....”  แบ๊งค์หันหน้าไปทำท่าสงสัยใส่พี่อาร์ท

“ก็วันนี้น่ะ  แบ๊งค์ดูแปลก ๆ ดูเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้”

“ดูไม่เหมือนคนเก่า  พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย”    พี่อาร์ททำท่ากังวล

“คิดมากน่าพี่อาร์ท “    แบ๊งค์พยายามปฏิเสธ

“มีอะไรก็เล่าให้พี่ฟังได้นะครับ”   พี่อาร์ทถามกลับด้วยควมห่วงใย

“ไม่มีอะไรหรอก  ก็แค่คิดเรื่องเรียนน่ะ”

“ช่วงนี้มันเรียนยาก ๆ อ่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“อย่าคิดมากนะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“อืม.......”    แบ๊งค์ตอบสั้น ๆ   ตอนนี้ถนนไม่ค่อยที่จะมีรถมากเท่าไหร่แล้ว  คงเพราะดึกแล้วด้วยมั้ง  รถก็เลยไม่ค่อยติดเหมือนตอนกลางวัน

“พี่อาร์ทไม่เหนื่อยนะที่ขับรถไกล ๆ แบบนี้”   แบ๊งค์ถามไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  แค่นี้เองสบายมาก”

“แบ๊งค์คงไม่รู้สินะ  ว่าตัวเองมีแฟนเป็นยอดมนุษย์”     พี่อาร์ทพูดเล่นครับ

“...................”   แบ๊งค์ไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะเบา ๆ

“พี่อาร์ทครับ   แบ๊งค์ขอนอนก่อนได้มั้ย”   แบ๊งค์ขอ

“ได้สิครับ  นอนให้สบายเหอะ  เดี๋ยวถ้าถึงแล้วพี่จะปลุกนะ”   พี่อาร์ทพูด

“พี่อาร์ท.....พี่อาร์ทขับรถมือเดียวถนัดมั้ย”   แบ๊งค์ถามครับ

“ก็ได้นะ  รถมันเป็นออโต้อยู่แล้วนี่ทำไมหรอ”   พี่อาร์ททำท่างง ๆ

“แบ๊งค์ขอมือพี่อาร์ทหน่อยนะ”   แล้วแบ๊งค์ก็เอื้อมมือไปคว้ามือพี่อาร์ทมากุมไว้   แล้วก้หลับไป  อยาก.....อยากที่จะจับมือพี่อาร์ทแบบนี้ตลอดไปจัง

แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นมาเมื่อได้ยินเสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าสู่ฝั่ง  และได้กลิ่นเกลือ  มาถึงทะเลแล้วหรอเนี่ย   ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย  ดูท่าทางจะเป็นค่อนสว่างมากกว่านะ  เพราะท้องฟ้าอีกฟากหนึ่งกำลังเจิดจรัสด้วยประกายสีทองจากด้วงอาทิตย์  ส่วนอีกฟากหนึ่งยังคงมีดวงดาวประปรายที่ส่องแสงสุกสกาวอยู่

แบ๊งค์ค่อย ๆ ขยับตัวครับ  เมื่อหันไปด้านข้างก็พบพี่อาร์ทนอนอยู่  โดยที่มือของเราทั้งสองคนยังจับกันเอาไว้

“พี่อาร์ท........พี่อาร์ท”    แบ๊งค์เรียกอย่างแผ่วเบา

“....หือ..........”   

“อ่ะ.....อ้าว   ตื่นแล้วหรอครับ  เด็กดื้อ”    พี่อาร์ทค่อย ๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาครับ

“ป่ะ.....ไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายยามเช้ากัน”     แบ๊งค์ชวน

“ครับ....ก็ได้ครับ”     พี่อาร์ทรับคำ   แล้วเราสองคนก็ถอดถุงเท้า  รองเท้า และพับกางเกงนักศึกษาขึ้นมา   แล้วลงไปเดินเล่นริมชายหาดด้วยกันครับ

“พี่อาร์ท.....อย่าปล่อยมือแบ๊งค์สิ”   แบ๊งค์ท้วงขึ้น  เมื่อพี่อาร์ทไม่ยอมจับมือแบ๊งค์

“ครับ ๆๆๆ  ดุจังนะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซวครับ  แต่ก็จับมือของแบ๊งค์เอาไว้

“ดูสิ  ท้องฟ้าสวยดีนะ”

“มีสองสี  ดูเมือนไม่ค่อยจะเข้ากัน  แต่ก็อยู่ด้วยกันได้”   แบ๊งค์ชี้ชวนให้พี่อาร์ทมองขึ้นไปยังท้องฟ้า  ซึ่งตอนนี้เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีทองของยามเช้าแล้ว

“นั่นสินะ  มันดูต่างกันมากแต่ก็อยู่ด้วยกันได้”   พี่อาร์ทเห็นด้วย

“ก็เหมือนคนเราเนี่ยแหละ  ถึงจะต่างกันแค่ไหนก็อยู่ด้วยกันได้ ถ้าเข้าใจกัน”   พอแบ๊งค์พูดจบ  พี่อาร์ทก็หันมามองหน้าแบ๊งค์แบบแปลก ๆ

“ทำไมหรอ  หรือว่าแบ๊งค์พูดอะไรผิดล่ะ”  แบ๊งค์ถามกลับ

“ไม่หรอกครับ  ไม่ได้พูดอะไรผิด”

“แต่จะว่าไปแบ๊งค์เนี่ย  ก็น้ำเน่าเป็นเหมือนกันเนอะ”   พี่อาร์ทแซว

“โหยยยยย  กะจะบิวท์อารมณ์ซักหน่อย เซ็งเลย”   แบ๊งคทำท่างอน ๆ ครับ

“โอ๋ ๆๆๆๆ  ล้อเล่นน่ะ  อย่างอนสิครับคนดี”   พี่อาร์ททำท่าง้อครับ

“พี่อาร์ท....ลงเดินใกล้ ๆ น้ำได้มั้ย”   แบ๊งค์ชวน

“เดี๋ยวกางเกงก็เปียกหรอกครับ”    พี่อาร์ทเตือน

“เอาน่า  นาน ๆ ทีจะได้มาซักครั้ง”    แบ๊งค์พูด  แล้วก็จูงมือพี่อาร์ทไปเดินบริเวณที่คลื่นสาดเข้าถึง 

“น้ำเย็นสบายดีจังเนอะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม....อากาศก็สดชื่นดีด้วย”   พี่อาร์ทพูดพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ

“พี่อาร์ทหยุดก่อน”   แบ๊งค์เรียก

“ทำไมหรอครับ “   พี่อาร์ททำท่างง ๆ

“ก็ดูนั่นสิ”   แบ๊งค์ชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังโผล่พ้นขอบฟ้า    แล้วพี่อาร์ทก็เอามือมาโอบรอบเอวแบ๊งค์    แบ๊งค์ก็เลยซบไปบนอกของพี่อาร์ท   เราทั้งสองคนหยุดยืนอยู่อย่างนั้น  มองพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันสองคน

เมื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ  เราก็มานั่งเล่นที่กระโปรงหน้ารถกัน   ก้ไม่มีอะไรหรอกครับ  ก็พูดคุยกันไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ

“พี่อาร์ท.....”   อยู่ ๆ แบ๊งค์ก็เรียกชื่อพี่อาร์ทขึ้นมาครับ

“อะไร......”  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้ตอบ  แบ๊งค์ก็ประกบปากไปที่ยังปากพี่อาร์ททันที  แล้วถอนออก  ทำเหมือนว่าแค่จุ๊บเฉย ๆ น่ะ

“.....................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ตอนนี้ก็ยืนอมยิ้มอายหน้าแดงไปแล้ว (-/////-)   ซึ่งพี่อาร์ทก็เหมือนกัน  ยืนงงเป็นไก่ตาแตก  ทำอะไรไม่ถูก  และเหมือนว่าพี่เค้าก็จะอาย ๆ เหมือนกัน

“พี่อาร์ท.......แบ๊งค์รักพี่อาร์ทนะ”   แบ๊งค์พูดออกมาครับ  โดยที่ยังก้มหน้าอาย ๆ อยู่

“พี่ก็รักแบ๊งค์เหมือนกันครับ”   พอพูดจบพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ ๆ แบ๊งค์ จากนั้นก็ค่อย ๆ เอามือเชยคางแบ๊งค์ขึ้น   แล้วก็ค่อย ๆ บรรจงประกบริมฝีปากลงมาที่ปากของแบ๊งค์

พี่อาร์ทค่อย ๆ สอดลิ้นอุ่น ๆ ผ่านริมฝีปากของแบ๊งค์ซึ่งกำลังเผยอรับรสจูบของพี่อาร์ทอยู่  ตอนนี้ราวกับว่าโลกหยุดหมุน  และเหลือเพียงแค่สองเราเท่านั้นที่ยืนอยู่บนโลกนี้  เราจูบกันอยู่ค่อนข้างนาน  แล้วก็ค่อยผละออกจากกัน

“ปากเหม็นนะเนี่ยเราน่ะ”   พี่อาร์ทแกล้งแซว  ซึ่งเหมือนกับว่า พี่เค้าทำเพื่อแก้เขิน

“พี่อาร์ทนั่นแหละ  เหม็นกว่าแบ๊งค์อีก”   แบ๊งค์เลยแซวกลับไปบ้าง   แล้วเราทั้งสองคนก็หัวเราอย่างสนุกสนาน

“พี่อาร์ท...พี่อาร์ทอยู่กับแบ๊งค์ตลอดไปนะ”   แบ๊งค์พูด

“ครับ....พี่จะอยู่กับแบ๊งค์ตลอดไป”   พี่อาร์ทหันมาพูดกับแบ๊งค์ครับ

“ป่ะกลับกันดีกว่า”    พี่อาร์ทชวนครับ

“อืม....กลับกันได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด  แล้วเรามั้งสองคน  ก็กลับเข้าไปในรถกัน  ตอนนี้พี่อาร์ทขับรถออกมาห่างจากทะเลมากแล้ว

“พี่อาร์ทเดี๋ยวไปนอนพักที่คอนโดของแบ๊งค์นะ”   แบ๊งค์ชวน

“เอางั้นก็ได้ครับ “

“แล้วแบ๊งค์จะหาอะไรกินก่อนมั้ย”   พี่อาร์ทถาม

“ไม่แล้วล่ะ  ตอนนี้อิ่มมามากพอแล้ว”   แบ๊งค์พูดแล้วยิ้มให้พี่อาร์ท     แล้วเราก็กลับไปยังคอนโด ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเป็นช่วงสาย ๆ แล้ว  พี่นุ่นคงตื่นแล้วล่ะสิ

ระหว่างทางจนถึงห้อง  เราคุยกันอย่างสนุกสนานเลยครับ  ก็มีทั้งคุยเล่น  แซวกันบ้าง  และแน่นอนเราทั้งสองคนจับมือกันตลอดเวลา  ตอนนี้เรามาถึงที่หน้าห้องแล้ว   

ป๊อป่อง~~~------ปิ๊งป่อง~~~-------แบ๊งค์กดกริ่งที่หน้าประตูครับ

“เข้ามาก่อนสิ  กลับมาซะเช้าเลยนะ” 

“อ้าวอาร์ทสวัสดีค่ะ”  พี่นุ่นพูดครับ

“สวัสดีครับ”   พี่อาร์ททักตอบ  แล้วเราก็เดินตามกันเข้าไป

“ตอนนี้มันเช้าซะที่ไหนล่ะ สายแล้วตะหาก”   แบ๊งค์แซวกลับไป

“แล้วเมื่อคืนไปไหนมากันเนี่ย  ดูท่าทางจะไม่ได้ไปค้างบ้านพี่อาร์ทนะ”  พี่นุ่นถาม

“ไปทะเลมาน่ะ”   แบ๊งค์ตอบแล้วยักคิ้วให้พี่นุ่น  ก่อนจะเดินไปหาน้ำดื่มที่ในครัว

“ทะเล....นี่อาร์ทพาแบ๊งค์ไปไกลขนาดนั้นเลยหรอ”   พี่นุ่นดูท่าทางตกใจมาก

“ครับ   ก็แบ๊งค์บอกว่าอยากไป”

“ผมก็เลยพาไป”   พี่อาร์ทพูด

“แล้วนี่กินอะไรกันมาละยังเนี่ย”  พี่นุ่นถามครับ

“ไม่อ่ะ  ไม่ค่อยหิว”

“เดี๋ยวกะว่าจะอาบน้ำแล้วนอนพักซะหน่อย  เหนื่อยมากมาย”   แบ๊งค์พูด

“อืม......เอางั้นก็ได้”

“แต่จะนอนพักกันแน่นะ  ไม่ใช่ว่าทำอย่างอื่นล่ะ”  พี่นุ่นแซวครับ  พี่อาร์ทมองมาทางแบ๊งค์ครับ   ดูเหมือนพี่อาร์จะอายหน้าด้วย
“บ้าสิเจ้  ไม่มีแรงแล้ว”

“ป่ะพี่อาร์ทไปได้แล้ว”    แบ๊งค์พูดแล้วคว้าแขนพี่อาร์ทแล้วพาเข้าห้องไป  ตอนนี้เราอสองคนอยู่ในห้องแล้ว

“มองอะไรน่ะพี่อาร์ท   เลิกมองได้แล้ว”   แบ๊งค์พูดเมื่อเห็นว่าพี่อาร์ทจ้องมองอยู่

“แบ๊งค์เขินหรอที่พี่นุ่นแซวเมื่อกี้”  พี่อาร์ทถามครับ

“ก็เขินน่ะสิ  หรือพี่อาร์ทไม่เขินล่ะ  เห็นนั่งหน้าแดงอยู่”   แบ๊งค์พูดครับ  ตอนนี้เริ่มเขิน +อายมากกว่าเก่าอีกนะเนี่ย

“ฮะฮะฮะ  แบ๊งค์ยิ่งเขินเนี่ยยิ่งดูน่ารักนะ”  พี่อาร์ทพูดครับ

“พอ ๆๆๆ พอได้แล้ว  ไปอาบน้ำได้แล้ว”   แบ๊งค์พูดครับ   แล้วพี่อาร์ทก็เดินเข้ามากอดแบ๊งค์เอาไว้ครับ

“ไปอาบน้ำด้วยกันนะครับ  เด็กดื้อตัวน้อยของพี่”  พี่อาร์ทพูดครับ

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ทปล่อยนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว“

“อีกอย่างแบ๊งค์ก็ไม่ได้ตัวเล็กซะหน่อย  ตัวโตกว่าพี่นุ่นอีก  แบ๊งค์น่ะสูงกว่าแม่กว่ายายอีก”  แบ๊งค์แย้งไปครับ

“แต่ก็ไม่ได้สูงไปกว่าพวกพี่ซะหน่อย”   พี่อาร์ทพูดครับ

“ก็พวกพี่น่ะ  เกิดตอนน้ำท่วมกันนี่นา  เลยสูงกันซะขนาดนั้น”   แบ๊งค์ยังคงเถียงไปครับ

“พอได้แล้วน่า  นะ ๆๆ ไปอาบน้ำกับพี่นะครับ”  พี่อาร์ทยังคงอ้อน  แต่พี่อาร์ทไปพูดเปล่าตอนนี้  พี่อาร์ทเอาจมูกมาไซร้แถวซอกคอแบ๊งค์แล้ว

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท  มันจั๊กจี๋น่ะ”  แบ๊งค์พูด  แล้วพี่อาร์ทก็เลื่อนปาก  มาประกบจูบกับแบ๊งค์อีกครั้ง  จูบของพี่อาร์ทนี่  ไม่กี่ครั้งก็ยังหอมหวานและอบอุ่นเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลายเลยจริง ๆ

“ไปอาบน้ำกับพี่นะครับ”  พี่อาร์ทถามเสียงกระเส่า  แบ๊งค์ก็ได้  แต่นิ่งไปแทนคำตอบ  แล้วเสื้อผ้าก็ค่อย ๆ ถูกปลดเปลื้องออกจากตัวของเราทั้งสองคน

ตอนนี้เราทั้งสองคนอยู่ภายใต้สายน้ำจากฝักบัว  ที่ค่อย ๆ รินรดผ่านร่างกายของเราลงมา  พี่อาร์ทประกบจูบกับแบ๊งค์อีกครั้ง

“พอได้แล้วพี่อาร์ท  เดี๋ยวปากก็ช้ำหรอก จูบกันอยู่ได้”   แบ๊งค์ผละออกแล้วพูด

“งั้นเรามาทำอย่างอื่นกันมั้ยครับ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วกอดรัดแบ๊งค์ให้แน่นกว่าเดิม  พร้อมกับซุกไซร้ไปตามซอกคอของแบ๊งค์

“ไม่เอาน่า  เดี๋ยวพี่นุ่นก็ได้ยินหรอก”  แบ๊งค์พูด

“ไม่เห็นต้องอายเลย  นุ่นก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”   พี่อาร์ทเลื่อนตัวลงมา  เลียที่ยอดอกของแบ๊งค์ครับ

“พี่อาร์ทไม่เอาน่า  ถือว่าแบ๊งค์ขอนะครับ”   แบ๊งค์พูดครับ   พี่อาร์ทเลยหันมามองตาแบ๊งค์   เหมือนว่าจะได้ผลครับ  พี่อาร์ทหยุด  แล้วเราก็อาบน้ำกันตามปกติ   แบ๊งค์สระผมให้พี่อาร์ทด้วยล่ะ  แต่ก็ลำบากเหมือนกัน   เพราะพี่อาร์ทน่ะ  หุ่นนักบาส ก็เลยค่อนข้างสูง  แบ๊งค์ก็ว่าตัวเองสูงแล้วนะ  แต่ก็ยังไม่ถนัดอยู่ดี   เหมือนพี่อาร์ทเค้าจงใจจะแกล้งแบ๊งค์น่ะ  เค้าเลยเขย่งขา  ทำให้สูงขึ้นไปอีก

“พี่อาร์ทน่ะ  อย่าแกล้งแบ๊งค์สิ”    แบ๊งค์พูดแล้ว ตบไปเบา ๆ ที่อกของพี่อาร์ท

“ไม่รู้แหละ  ถือเป็นการทำโทษ”

“ที่แบ๊งค์ขัดใจพี่เมื่อกี้”    พี่อาร์ททำท่างอน ๆ เหมือนที่แบ๊งค์เคยทำบ่อย ๆ ครับ

“งั้นก็สระเองก็แล้วกัน”    แบ๊งค์ก็เลยทำท่างอนกลับ แล้วหันไปสระผมตัวเองบ้าง

“ขี้งอนจังนะเราน่ะ”   พี่อาร์ทเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังครับ   แล้วอีกมือหนึ่งของพี่อาร์ท  ก็เอื้อมไปเปิดฝักบัว  ให้สายน้ำค่อย ๆ ไหลลงมาชำระฟองจากแชมพู  ออกไป

“ปล่อยได้แล้ว  ฟองเข้าตาแบ๊งค์หมดแล้วเนี่ย”    แล้วเราก็ล้างฟองออกจนหมดครับ

ตอนนี้เราอาบน้ำเสร็จแล้วครับ   เฮ้อ~~~กว่าจะอาบน้ำเสร็จ  มัวแต่เล่นกันซะ

“พี่อาร์ทน่ะ  นิสัยไม่ดี  ชอบแกล้งแบ๊งค์”    แบ๊งค์โวยขึ้นครับ  หลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้ว  โดยมีพี่อาร์ทเดินตามมา

“ก็แบ๊งค์ขัดใจพี่นี่นา”    พี่อาร์ทแย้งครับ

“ไม่รู้แหละ  อ่ะ.....ไปหาเสื้อผ้าใส่ได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด  แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า  หวังจะหาชุดมาใส่ครับ   อยู่ดี ๆ พี่อาร์ทก็วิ่งมากระตูกผ้าเช็ดตัวแบ๊งค์ออก   แล้วอุ้มแบ๊งค์ขึ้นเหวี่ยงไปมาครับ

“พี่อาร์ท  ไม่เอานะ  แบ๊งค์กลัวตก”   แบ๊งค์พูดครับ

“แฟนผมล่อนจ้อน ๆๆ “  พี่อาร์ทพูดครับ   ดูพี่อาร์ทจะสนุกนะที่ได้แกล้งแบ๊งค์ใครั้งนี้  แล้วพี่อาร์ทก็เหวี่ยงแบ๊งค์ลงบนเตียงครับ

“พี่อาร์ทน่ะ  งอนแล้วนะ”    แบ๊งค์ทำท่าไม่พอใจครับ

“โอ๋ ๆๆๆ ขอเล่นหน่อยนะ”

“ก็วันนี้แบ๊งค์น่ารักกว่าทุกวันนี่นา”  พี่อาร์ทพูดครับ   พร้อมกับเอามือมาลูกแก้มแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหลุดหัวเราะออกมา

“ไม่เอาแล้วจั๊กจี๋น่ะ”   แบ๊งค์พูด   แล้วเราสองคนก็ไปใส่เสื้อผ้ากันครับ   ชุดพี่อาร์ทน่ะหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก  พี่เค้าเคยทิ้งชุดไว้ที่นี่อยู่หลายชุดน่ะ  ก็เลยมีชุดใส่อยู่

ตอนนี้เรานอนอยู่บนเตียงแล้วครับ   เราทั้งคู่นอนหงาย  โดนจับมือกันเอาไว้

“พี่อยากอยู่กับแบ๊งค์อย่างนี้ตลอดไปจัง”  พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์ก็อยากอยู่กับพี่อาร์ทแบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน”  แบ๊งค์พูดบ้าง  แล้วเราก็พลิกตัว นอนหันหน้าหากัน

“พี่รักแบ๊งค์นะครับ / แบ๊งค์รักพี่อาร์ทนะ”   เราทั้งสองคนพูดพร้อมกัน   เมื่อได้ยินแบบนั้น  เราก็เลยระเบิดหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่

“นอนซะนะคนดีของพี่”  พี่อาร์ทพูดครับ

“พี่อาร์ทก็เหมือนกันนะ  นอนได้แล้ว”

“เมื่อคืนยิ่งขับรถไกล ๆ อยู่ด้วย”   แบ๊งค์พูด

“ไม่เป็นไรหรอก  ก็พี่บอกแล้วไง”

“ว่าพี่เป็นยอดมนุษย์”   พี่อาร์ทพูดครับ   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่หัวเราะออกมาเบา ๆ   แบ๊งค์ค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ พี่อาร์ทครับ

“พี่อาร์ทต้องนอนกอดแบ๊งค์นะ”   แบ๊งค์พูด

“แน่นอนอยู่แล้ว”   พี่อาร์ทพูดแล้ว  จูบที่หน้าผากแบ๊งค์หนึ่งทีครับ  รู้สึกอบอุ่นดีจัง  แล้วด้วยความเหนื่อย  ความอ่อนเพลีย  แบ๊งค์และพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ หลับไปในความอบอุ่นของอ้อมแขนของกันและกัน
****************************
ของเก่าของใหม่แปะไปผมยังไม่ได้อ่านเลยคับ
ของพี่คนอื่น ๆก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน จะคลั่งแล้วเนี่ย
อยากอ่านแต่ไม่ไหวหล่ะ :onion_asleep: ไปเติมพลังก่อนล่ะคับ
 :bye2:คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 07-07-2007 23:17:14
เป็นกำลังใจให้คุณจานะ สู้ สู้ เคยได้ยินว่า ความใกล้ชิด---> ความผูกพันธ์---> ความรักหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องดูกันไป  :interest:

ขอบคุณที่มาลงให้อ่านต่อ  ติดตามอยู่ตลอดนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 07-07-2007 23:47:41
แบ๊งค์เป็นอะไรรึป่าวเนี่ย ดูเหม่อๆ แปลกๆ :confuse:

แล้วโทรศัพท์ลึกลับนั่นของใคร ไม่น่าจะเป็นคนโทรมาผิดนะ :confuse: :confuse:

เอ๊ะ หรือเราจะระแวงมากเกินไป :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-07-2007 00:03:38
ลางสังหอนมะค่อยดีเลย  o12

อย่าให้เกิดเรื่องร้ายอีกเลยนะ   :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 08-07-2007 00:26:34
อยากให้ทั้งสองคนมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ใช่มั๊ยครับ
 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-07-2007 01:56:01
หวานกันจางเยย
แล้วจะต้องการไขว่คว้าไปอีกทำไม
 :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 08-07-2007 14:24:55
 :impress:

ตามอ่านอยู่นะครับ

เป็นกำลังใจให้คุณจาเหมือนเดิมน๊า.......

สู้ ๆ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-07-2007 15:20:01
ลางร้ายมาอีกแล้ว ขอเศร้าล่วงหน้าเลยได้มะ  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 08-07-2007 19:12:05
ม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นเลย   :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-07-2007 15:34:26
อ่านไปก็ดีนะ หวานแหววกันดีจังเลย  :m4:

แต่มันก็มีสัญญาณของเรื่องอะไรบางอย่างมาตลอดนะนี่ ขอให้ไม่มีไรร้ายแรงเลยนะ  :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 09-07-2007 20:43:53
ลางสังหรณ์อะไรกันรึคับ :confuse:
ยังไม่ได้อ่านเลย  :m7:คงอีกซักพักหญ่าย ๆ แปะโป้งไว้ก่อน o13
************************
บทที่ 60 พี่ตั้ม

ช่วงนี้แบ๊งค์เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับ   ชอบสะดุ้งตื่นตอนเช้าตลอด    แบ๊งค์ก็เลยไม่ค่อยไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับพี่นุ่นซักเท่าไหร่  แต่ก็ยังกลับด้วยกันเหมือนปกตินั่นแหละ

“ช่วงนี้บ้าพลังอะไรขึ้นมาล่ะ”

“ตื่นเช้าทุกวันเลย”   พี่นุ่นถามครับ

“ไม่รู้สิอยู่ดี ๆ มันก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง”   แบ๊งค์ตอบไป

“แล้วนี่สรุป  จะไม่ไปมหาลัยพร้อมพี่แล้วใช่มั้ยอ่ะ”   พี่นุ่นถามอีก

“ก็คงงั้นและ  นั่งรถเมล์ก็หนุกดีอ่า”   แบ๊งค์พูด

“งั้นก็ตามใจแล้วกันระวัง ๆ ตัวหน่อยก็แล้วกันนะ”   พี่นุ่นพูด

“คับป๋ม”   แบ๊งค์แกล้งตอบไป โดยทำเสียงเลียนแบบเด็ก ๆ

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งเหมือนกัน ที่แบ๊งค์เกิดอาการบ้าพลัง   ตื่นเช้าอีกครั้ง  แน่นอนแหละว่า  แบ๊งค์นั่งรถเมล์มามหาวิทยาลัยเอง    และทุกครั้งที่แบ๊งค์มามหาวิทยาลัยแต่เช้าแบบนี้  แบ๊งค์ก็ต้องมาเจอพี่ตั้มทุกครั้ง  วันนี้ก็เช่นเดียวกัน

“มมาช้าไปนะเนี่ยวันนี้”   พี่ตั้มพูดขึ้นเมื่อเห็นแบ๊งค์เดินเข้ามา

“จะให้ตื่นเช้าแค่ไหนล่ะ แบ๊งค์ไม่ได้ถึกเหมือนพี่ตั้มซะหน่อย ที่จะได้ตื่นเช้าขนาดนั้น”   แบ๊งค์พูด

“เลิกบ่นได้แล้ว  ป่ะไปหาอะไรกินกัน”   แล้วพี่ตั้มก็พาแบ๊งค์มานั่งที่ร้านโจ๊กเจ้าประจำครับ   อ่ะ...ลืมบอกไป   ตั้งแต่แบ๊งค์ตื่นเช้าน่ะ  แบ๊งค์มาทานโจ๊กที่นี่เป็นประจำเลย

จนตอนนี้ก็สนิทกับเจ้าของร้านเหมือนพี่ตั้มไปซะแล้ว 

“โจ๊กพิเศษใส่ไข่  ไม่หมูไม่ผัก  กับปาท่องโก๋”   พี่ตั้มตะโกนสั่งไปครับ

“เอาอีกแล้วหรอเนี่ย”

“ตกลงแบ๊งค์จะไม่กินโจ๊กอย่างอื่นเลยหรอ”   เจ้าของร้านทักขึ้นครับ เมื่อเห็นว่าแบ๊งค์ชอบทานแต่โจ๊กเปล่า ๆ

“ผมก็บอกให้มันกินอย่างอื่นแล้วนะ  แต่มันไม่ยอม”   พี่ตั้มช่วยเสริมครับ

“ก็แบ๊งค์ชอบกินแบบนี้นี่นา”    แบ๊งค์แก้ตัวไป

“ไม่รู้แหละ  วันนี้พี่ไม่ขายโจ๊กเปล่า ๆ หรอก”

“แบ๊งค์ต้องกินให้เหมือนเจ้าตั้ม  และต้องกินให้หมดด้วย”    พี่เจ้าของร้านพูดครับ

“ไม่ไหวนะ  กินเยอะ ๆ แบบพี่ตั้มแบ๊งค์ก็ท้องแตกตายอ่ะดิ”   แบ๊งค์พูดครับ

“ไม่ต้องเลย  กินแต่โจ๊กเปล่า ๆ มันจะไปได้ประโยชน์อะไร”  พี่ตั้มพูดครับ   แล้วอีกไม่นาน  เจ้าของร้านก็นำโจ๊กที่พวกเราสั่งมาเสิร์ฟให้ถึงที่โต๊ะ  โดยเป็นโจ๊กใส่ไข่พิเศษ 2 ที่กับปาท่องโก่ อีกหนึ่งจาน

“แบ๊งค์จะกินหมดมั้ยเนี่ย”   แบ๊งค์บ่นขึ้นครับ  เมื่อเห็นว่าโจ๊กมันเยอะมาก

“ไม่รู้แหละ   ถ้ากินหมดไม่คิดตัง”

“แต่ถ้าไม่หมด  ปรับสิบเท่า”    เจ้าของร้านพูดครับ

“ให้หมดนะเว้ย   มื้อนี้กรูส์ไม่เลี้ยงนะ”   พี่ตั้มช่วยเสริมอีกแรงครับ 

“โหยยยย  บังคับกันเห็น ๆ อ่ะ”    แบ๊งค์บ่นไปครับ  แล้วก็ต้องจำใจค่อย ๆ กินโจ๊กไป   ในสุดก็ทานจนหมด  แต่กว่าจะหมดได้  ก็เล่นเอาเกือบตายไปเหมือนกัน

“เห็นมั้ย  ก็กินได้ตั้งแยะนี่นา”   พี่ตั้มพูดครับ  แล้วแบ๊งค์กับพี่ตั้มก็ลุกไปจ่ายเลินกันครับ

“ค่าอะไร  บอกแล้วถ้าเจ้าแบ๊งค์มันกินหมด ไม่เก็บตัง”   เจ้าของร้านพูดครับ

“ไม่ได้นะครับ  ของซื้อของขายน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“ใช่ครับ  ไม่ดีหรอกนะครับ”   พี่ตั้มช่วยพูดอีกแรง

“ไม่เอาหรอก  ถือว่าเลี้ยงซักมื้อก็แล้วกัน”

“ถ้าจ่ายตังวันนี้นะ  พรุ่งนี้ไม่ต้องมาอีกเลยก็แล้วกัน”   เจ้าของร้านทำท่าเหมือนจะโกรธ ๆ ถ้าเรายังดื้อที่จ่ายเงิน  เราก็เลยได้แต่ขอบคุณเค้า  แล้วเดินเข้ามหาวิทยาลัยไป

แบ๊งค์กับพี่ตั้มเดี๋ยวนี้เราคุยกันถูกคอมากขึ้น  พี่ตั้มก็ไม่แกล้งแบ๊งค์แล้วด้วย  ก็เลยดูเหมือนเราสนิทกันมากขึ้น   เหตุผลอีกอย่างคงเป็นเพราะการที่ไปกินโจ๊กด้วยกันทุก ๆ เช้าด้วยแหละมั้ง

“นั่นไง  กรูส์บอกแล้วว่าแอบไปกินโจ๊กด้วยกัน”   ไอ้แมคพูดขึ้นเมื่อเห็นแบ๊งค์กับพี่ตั้มเดินเข้าไปที่โต๊ะครับ

“ไปไม่มีชวนกันเลยนะ”   ปรินซ์บ่นครับ

“ก็หัดตื่นเช้า ๆ แล้วก็มาเช้า ๆ สิจะได้ไปกินด้วยกัน”   แบ๊งค์พูด

“ใครจะไปบ้าพลังขนาดนั้นล่ะ  ตื่นกันได้ไงก็ไม่รู้”  กาวพูดครับ

“หัดตื่นเช้าซะมั่งนะเว้ยมันดีต่อสุขภาพ”    พี่ตั้มพูดครับ

“ใช่ ๆ แล้วก็จะได้มากินของอร่อย ๆ ด้วยกันไง”    แบ๊งค์ช่วยเสริม   ทุกคนก็เลยได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยไป.
.
.
วันนี้เป็นวันหยุคครับ  แบ๊งค์ไม่มีนัดที่ไหนด้วย  สบายจริง ๆ ขอนอนข้ามวันข้ามคืนเลยก็แล้วกัน   แต่แล้วแบ๊งค์ก็รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งที่ปลายเตียง 

ใครกันเนี่ย  หรือว่าจะเป็นพี่โป้ง ถอดจิตรมาหา  หรือจะเป็นผี..... แต่เฮ้ย!!!!นี่มานสายแล้วนี่ว่า  ใครกันแน่นะ   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ หรี่ตาดู  ทีละน้อย  อ้าว......พี่ตั้มนั่นเอง

“พี่ตั้ม!!!!”   แบ๊งค์ลุกขึ้นมานั่งแล้ว  เรียกออกไป

“เหวอ.....  เสียงดังทำไมตกใจหมด”    พี่ตั้มทำท่าตกใจครับ

“มาได้ไงเนี่ย”    แบ๊งค์ถามไป

“อ๋อ....พอดีเจอเรมอนเลยยืมคอปเตอร์ไม้ไผ่มา”   พี่ตั้มตอบ

“กวนนักนะ  เดี๋ยวก็ถีบให้ซะเลย”   แบ๊งค์ขู่ครับ พี่ตั้มเลยจับขาแบ๊งค์เอาไว้

“ไม่ให้ถีบง่าย ๆ หรอกแล้วก็ตื่นได้แล้ว”  พี่ตั้มพูด  แล้วดึงขาแบ๊งค์ขึ้นครับ  ตอนนี้เลยเหมือนแบ๊งค์นอนห้อยหัวอยู่  โดยที่ขาข้างหนึ่งถูกพี่ตั้มจับชูเอาไว้

“พี่ตั้มปล่อยแบ๊งค์ก่อน แล้วมาที่นี่มีธุระอะไรเปล่าเนี่ย”   แบ๊งค์โวยวายแล้วถามขึ้นครับ

“ก็จะพาไปเที่ยวไง  ถามได้”   พี่ตั้มพูดครับ

“ไปเที่ยว......ไม่เห็นนัดแบ๊งค์มาก่อนเลย”   แบ๊งค์พูด

“ก็เซอร์ไพรซ์ไง  ป่ะไปอาบน้ำได้แล้ว”     พูดเสร็จพี่ตั้มก็ปล่อยขาแบ๊งค์ลงในทันทีเลยครับ   เล่นเอาแบ๊งค์ไม่ทันตั้งตัวเลย

“โอ้ยยย   ปล่อยเบา ๆ หน่อยดิ”    แบ๊งค์พูด

“ไปได้แล้ว......”   แล้วพี่ตั้มก็ผลักแบ๊งค์เข้าห้องน้ำไปครับ   ก่อนที่แบ๊งค์จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ  รู้สึกเหมือนพี่ตั้มแอบตบก้นแบ๊งค์ด้วย

“พี่ตั้ม !!!!!”    แบ๊งค์โวยขึ้นครับเมื่อรู้แน่ ๆ ว่าพี่ตั้มแอบแต๊ะอั๋ง

“ก้นแฟบนะเราน่ะ  อิอิ”   พี่ตั้มแซวครับ

“ชิส์”    แล้วแบ๊งค์ก็เข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวครับ   ก็อาบน้ำล้างหน้า  แปรงฟันนั่นและ  พอทำจนเสร็จ  กำลังจะออกจากห้องน้ำก็นึกขึ้นได้  ว่าตอนนี้มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันตัวอยู่

แบ๊งค์ก็เลยค่อย ๆ แง้มประตูออกมาดูพี่ตั้มครับ  อ้าว...พี่เค้าหายไปไหนแล้วเนี่ย  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เดินออกมา

“จับได้แล้ว  นี่แน่ะ”   พี่ตั้มเค้ามาคว้าตัวแบ๊งค์เอาไว้  แล้วจี้ที่เอวครับ 

“ไม่เอานะพี่ตั้ม  เดี๋ยวผ้าหลุด”    แบ๊งค์โวยครับ  แล้วพี่ตั้มก็หยุดไป  เค้าคงนึกได้มั้ง ว่าตอนนี้แบ๊งค์แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว  พี่ตั้มเลยผละออกไป

“แบ๊งค์ไม่ได้เปลี่ยนชุดในห้องน้ำหรอ”   พี่ตั้มถาม

“ก็ใครล่ะ  รีบไล่แบ๊งค์เข้าไป”

“เลยไม่ได้คว้าชุดอะไรซักอย่าง”    แบ๊งค์พูด

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอกนะ”   เหมือนพี่ตั้มจะอาย ๆ นะ  รีบเดินออกห้องไปเลย  แบ๊งค์ก็เลยจัดแจงแต่งตัวจนเรียบร้อยก่อนที่จะเดินออกไปนอกห้อง

“อ้าว....แล้วพี่นุ่นล่ะ”   แบ๊งค์ถามพี่ตั้มครับ  เมื่อเห็นว่าพี่ตั้มน่งอยู่คนเดียว

“เห็นบอกว่าเพื่อนโทรมาตามตัวด่วนน่ะก็เลยรีบออกไปน่ะ  ฝากบอกว่าอาจจะกลับดึก ๆ  แล้วลอคห้องด้วย”   พี่ตั้มพูดครับ

“อืม.....แล้วจะไปรึยังล่ะ”  แบ๊งค์ถามไป

“อ่ะ.....อืมไปสิ”   พี่ตั้มพูดแล้วเดินออกไปครับ  แบ๊งค์เลยเดินตาม  เหมือนพี่เค้าจะยังเขิน ๆ อยู่นะ   รู้สึกอึดอัดยังไงก็ไม่รู้สิ

“นี่ ๆ  เป็นอะไรมากเปล่า  นิ่งเลย”   แบ๊งค์ถามไปครับ

“ป.....เปล่า  ไม่นี่”   พี่เค้ายังคงตอบแบบนิ่ง ๆ

“ชอบล่ะสิ  ได้แอบแต๊ะอั๋งแบ๊งค์เป็นไงตัวแบ๊งค์หอมเปล่า  นุ่มเปล่า”  แบ๊งค์วิ่งเข้าไปเกาะแขนพี่ตั้ม  จากนั้นก็เงยหน้ามองพี่ตั้มแล้วพูด

“อ่ะ....ไม่วักนิดเลย  ปล่อยได้แล้ว”  พี่ตั้มเขินครับ  ตลกดีจัง  เหมือนพี่เค้ากลั้นยิ้มด้วยอ่า

“ชอบล่ะสิ  พูดมาเหอะ”   แบ๊งค์แซวไม่เลิกครับ

“พอได้แล้ว  เดี๋ยวก็ถีบให้หรอก”   พี่ตั้มพูดครับ  แบ๊งค์เลยรีบปล่อยแขนแล้ววิ่งหนีไป  โดยมีพี่ตั้มไล่ตามมา

“แบ๊งค์จะไปไหนน่ะ”   พี่ตั้มตะโกนถาม

“ก็ไปรอรถเมล์ไง”   แบ๊งค์หยุดแล้วพูด   พี่ตั้มเลยเดินเข้ามาดึงแขนแบ๊งค์ให้เดินตาม  แล้วเขกหัวไปหนึ่งที

“ดูถูกมากเลยนะ  นี่แหนะ”

“พี่พามาเที่ยวทั้งที  ก็ต้องเอารถมาเองสิ”   พี่ตั้มพูดครับ

“โอ้ยยย  ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าจะเอารถมา”   แบ๊งค์พูด พลางเอามือกุมหัวไป   แล้วพี่ตั้มก็พามาที่ลานจอดรถครับ  โหหหหห  รถที่พี่ตั้มเอามาน่ะ  เป็นรถเบนซ์   คันใหญ่มากเลย

“ไปกันกี่คนเนี่ย”   แบ๊งค์ถาม

“ก็มีพี่กับเรานั่นแหละ”  พี่ตั้มตอบ

“แล้วเอารถคันใหญ่ขนาดนี้เนี่ยนะมารับ”   แบ๊งค์ทำท่าตกใจ

“ก็มันไม่มีรถว่างแล้วนี่หว่า   แล้วจะไปมั้ย”   พี่ตั้มทำท่าดุ ๆ ครับ

“คร้าบบบบ  ไปก็ไป”   แบ๊งค์พูด  แล้วยอมเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดี   ระหว่างทางเราก็คุยกันไปเรื่อย ๆ น่ะครับ   คือวันนี้พี่ตั้มเค้าว่างก็เลยมารับแบ๊งค์ไปเที่ยว  เพราะว่าที่บ้านไม่มีใครว่างเลย   แล้วได้ที่เข้าไปในห้องของแบ๊งค์เงียบ ๆ น่ะ   เป็นความต้องการของพี่เค้าเองแหละครับ 

พี่ตั้มบอกว่าอยากเห็นแบ๊งค์ตอนนอน   อยากจะรู้ว่าตอนนอนจะทโมนเหมือนตอนที่ตื่น  ๆ อยู่รึเปล่า  ก็เลยเข้าไปนั่งเงียบ ๆ แล้วแบ๊งค์ก็สะดุ้งตื่นแค่นั้นแหละ

วันนี้เรามาที่เซ็นทรัลเวิร์ลครับ  พี่ตั้มพาแบ๊งค์ไปเที่ยวห้างอีกแล้ว  เฮ้อ~~ที่กรุงเทพฯ  คงไม่มีอะไรน่าเที่ยวไปมากกว่าห้างสรรพสินค้าแล้วใช่มั้ยเนี่ย

“เที่ยวห้างอีกแล้วหรอเนี่ย”    แบ๊งค์บ่น

“เอาน่า....ไปเดินซื้อของดีกว่าตอนนี้เค้ามีลดราคารับคริตสมาสด้วยนะ”    พี่ตั้มพูดครับ   นั่นสินะ ตอนนี้ก็คริตสมาสแล้ว  อีกไม่นานก็ปีใหม่  เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ  ผ่านไปเร็วมากจนแทบตั้งตัวไม่ทันกับเรื่องที่ผ่านเข้ามา

“คิดอะไรอยู่น่ะ  ป่ะไปกันได้แล้ว”    พี่ตั้มพูดแล้วดันแบ๊งค์ให้เดินเข้าห้างไปครับ  ที่แท้พี่ตั้มชวนแบ๊งค์มาเลือกซื้อของขวัญให้คนที่บ้าน  กับเพื่อน ๆ นั่นเอง   ก็สนุกดีนะ  เดินเลือกดูของไปเรื่อย ๆ  พอซื้อเสร็จก็แทบเหนื่อยเหมือนกัน  ก็ของที่ซื้อน่ะสิ  มันเยอะจนแทบจะขนไม่ไหว  ที่แท้เพราะแบบนี้นี่เองถึงได้เอาแบ๊งค์มาด้วย

“พี่ตั้มอ่ะ  เอาแบ๊งค์มาทรมานอีกแล้ว”    แบ๊งค์บ่น ๆ ไปครับ

“เอาน่า  ช่วย ๆ กันหน่อยนะ”   พี่ตั้มพูดครับ   แล้วเราก็เอาของไปเก็บที่รถกัน

“เก็บของเสร็จแล้วพาแบ๊งค์ไปเติมพลังเลย”    แบ๊งค์พูด

“ก็ได้ ๆ  อยากกินอะไรล่ะวันนี้เดี๋ยวป๋าเลี้ยง”   พี่ตั้มพูดแล้วทำท่ายืด ๆ เหมือนภูมิใจครับ

“จะล่อให้หมดกระเป๋าเลยคอยดู”   แบ๊งค์ทำท่าขู่ครับ

“เฮ้ย ๆๆ  เกรงใจหน่อยก็ดีนะ”    พี่ตั้มเตือนครับ

“กินแค่ fastfood ธรรมดาก็ได้แล้วน่า”   แบ๊งค์พูด

“อืมก็ได้ ๆ “   แล้วเราก็ไปหาอะไรทานกันครับ  เมื่อเราจัดการเติมพลังกันเสร็จแล้ว  ก็ไปเดินเล่นต่ออีกซักพัก  ก็เดินดูของต่อไปนั่นแหละ  มีแต่ของลดราคาทั้งนั้นเลย  สงสัยว่าง ๆ ต้องแอบมาเดินช้อปซะหน่อยแล้ว  แบ๊งค์คิดในใจ

“แบ๊งค์....เดี๋ยวนั่งรอพี่ซักแปปนะครับ”  พี่ตั้มพูด

“อ้าว...จะไปไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็จะไปห้องน้ำน่ะครับ  เดี๋ยวมานะ”   แล้วพี่ตั้มก็วิ่งหายไปเลย   แบ๊งค์ก็เลยนั่งรอคนเดียวต่อไป  ซักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้นครับ  แบ๊งค์ก็เลยรับสายไป

“ฮัลโหลครับ”  แบ๊งค์รับสาย
.
.
.
.
.
“เอ่อ...แค่นี้ก่อนนะครับ  ผมมีธุระจริง ๆ”    แล้วแบ๊งค์ก็วางสายไป

“รอนานมั้ย  ไอ้ตัวเล็ก”   พี่ตั้มพูดครับ

“เรียกแบบนี้อีกแล้วไปทำอะไรมาน่ะ นานจัง  นึกว่าไปทำห้องน้ำเพิ่มซะอีก”   แบ๊งค์แซวไป

“แซวนะ ๆ “      พี่ตั้มเลยเอามือเขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งทีครับ

“โอยยยย.....พอได้แล้ว  ไปเดินต่อกันเหอะ”   แบ๊งค์พูด

“จะไปเดินดุอะไรอีกล่ะ”   พี่ตั้มพูด

“ไม่รู้สิ  เดินไปเรื่อย ๆ”

“เผื่อคราวหน้าจะได้มาซื้อ”   แบ๊งค์พูด

“พี่ซื้อให้เอามั้ยล่ะ”    พี่ตั้มอาสา

“ไม่ต้องหรอก  เอาไว้เลี้ยงข้าวแบ๊งค์บ่อย ๆ ดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม ๆ เอางั้นแน่นะ”    พี่ตั้มถามย้ำ

“อืม....อย่าพูดมากน่า”    แล้วเราก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ ครับ  จนตอนนี้เริ่มเย็นแล้วล่ะสิ   แบ๊งค์ก็เลยเดินออกมาข้างนอกครับ  เพราะเห็นว่าเค้ามีการประดับดวงไฟเต็มไปหมดเลย

“สวยดีเหมือนกันเนอะถ้ามีหิมะตก ก็คงได้อารมณ์ไปอีกแบบ”   แบ๊งค์พูด

“อืม....นั่นสินะ”   พี่ตั้มตอบ  แล้วเราก็เดินดูดวงไฟไปเรื่อย ๆ  มีทั้งแบบที่ทำเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ หรือคำภาษาอังกฤษ    แล้วยังมีต้นคริตสมาสด้วย    มีหลายคนนะ  ที่เอากล้องมาถ่ายรูปทั้งชาวไทย  และชาวต่างชาติ 

“แบ๊งค์...ถ่ายรูปมั้ย”   อยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็เสนอมาครับ

“แล้วจะเอากล้องมาจากไหนล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“เอามือถือไปก่อนก็ได้  มือถือพี่มีแฟลช”   พี่ตั้มตอบครับ

“ไม่เอาหรอก  แบ๊งค์อายน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ต้องมาอายเลย ปกติเห็นบ้ากล้องอายมาก ๆ เดี๋ยวกรูส์เตะนะเว้ย”   พี่ตั้มขู่ครับ

“ไม่ต้องมาขู่เลย  ดุจังนะถ่ายก็ได้”   ว่าแล้วแบ๊งค์ก็ไปแอคท่าทางต่าง ๆ ให้พี่ตั้มถ่ยรูปไป  สรุปได้ที่ว่าอาย ๆ น่ะ  ถ่ายไปได้ตั้งหลายสิบรูป เหอะ ๆ  แล้วเราก็กลับกันครับ

ระหว่างทางที่กลับ  คงเป็นเพราะแอร์ในรถพี่ตั้มเย็น  และก็การที่นอนไม่พอเพราะพี่ตั้มมาปลุกตอนเช้าด้วยมั้ง  แบ๊งค์ก็เลยเผลอหลับไปอีกแล้ว

“แบ๊งค์ตื่นได้แล้ว  ถึงแล้ว”   เสียงพี่ตั้มเรียก  พร้อมกับเขย่าตัวแบ๊งค์เบา ๆ ครับ

“อือ.....ถึงแล้วหรอ”  แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาครับ  ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคอนโด  แต่ที่ไหนได้  กลายเป็นร้านอาหารซะงั้น

“ป่ะลงไปหาอะไรกินกัน”  พี่ตั้มชวนครับ 

“อ่ะ....”    แล้วแบ๊งค์ก็ทำท่าจะลุกตามครับ  แต่เมื่อมอง ดูอีกที  ที่ตัวของแบ๊งค์มีเสื้อกันหนาวคลุมอยู่  แล้วที่ข้อมือ......มาไงเนี่ย  นาฬิกาของ ODM หนึ่งเรือน

“พี่ตั้ม  นี่อะไรเนี่ย”   แบ๊งค์ถามอย่างตกใจครับ

“ก็พี่เห็นว่าแบ๊งค์หนาวไง  ก็เลยเอาเสื้อมาคลุมให้”   พี่ตั้มตอบ

“อืม...ก็ขอบคุณนะ  แต่นาฬิกาเนี่ยสิ”    แบ๊งค์ถามกลับ

“ก็พี่ไปเข้าห้องน้ำแล้วเห็นว่าน่ารักดีคงเหมาะกับแบ๊งค์”    พี่ตั้มพูดครับ

“แต่มันก็แพงนะพี่ตั้ม  ซื้อมาให้ได้ไงเนี่ย”   แบ๊งค์โวยไม่เลิก

“ไม่รู้ล่ะ  พี่ให้ไปแล้วแล้วก็ลงไปได้แล้ว  พี่หิวจะแย่แล้ว”   พี่ตั้มพูดครับ  แล้วเราก็ลงไปด้วยกันครับ ร้านนี้ค่อนข้างหรูนะเนี่ย  ไม่นึกเลยว่าพี่ตั้มจะมีรสนิยมแบบนี้เหมือนกัน   แล้วเราก็มานั่งที่ดต๊ะกันครับ

“เอาอะไรล่ะแบ๊งค์”  พี่ตั้มถามครับ  ในขณะที่แบ๊งค์กำลังเปิดดูเมนู

“ขอเป็นสปาเก็ตตี้ศอสเบคอน  กับน้ำมะนาวก็แล้วกันครับ”    แบ๊งค์หันไปสั่งพนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ครับ

“ส่วนผมเอาเป็น สเต็กเนื้อ  กับเบียร์ขวดหนึ่งครับ”   พี่ตั้มสั่ง  โห....สั่งเบียร์ด้วยหรอ

“พี่ตั้มดื่มเบียร์ด้วยหรอ  เดี๋ยวต้องขับรถนะ”   แบ๊งค์พูดขึ้นเมื่อพนักงานเสิร์ฟเดินไปจากโต๊ะแล้ว
 
“ก็นิดหน่อยน่า  แค่ขวดเดียว”   พี่ตั้มพูดครับ

“แล้วพามาที่แบบนี้  ไม่แพงไปหรอ”    แบ๊งค์พูด

“ไม่ต้องห่วงหรอก นาน ๆ ทีพี่จะได้เลี้ยงเราว่าแต่จะมาเกรงใจทำไม  เมื่อกี้เห็นสั่งเอา ๆ”   พี่ตั้มแซวครับ

“ก็อ่านะ  เผื่อว่าให้ช่วยออกไง”    แบ๊งค์พูด

“อย่าคิดมากน่า  ไอ้ตัวเล็ก”   แล้วพี่ตั้มก็ยื่นมือมาขยี้หัวแบ๊งค์ครับ  อีกไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็ทยอยเอาอาหารที่เราสั่งไปมาเสิร์ฟที่โต๊ะ  ดูน่าทานดีจัง

เราก็นั่งทานกันไปสองคนนั่นแหละครับ   พอานจนอิ่มแล้ว  อยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็สั่งไอศกรีมชอคโกแลตของโปรดแบ๊งค์มาให้ซะงั้น  แล้วยังบังคับแบ๊งค์ให้กินด้วยนะ  เฮ้อ~~ถ้าอยู่กับพี่ตั้มทุกวันมีหวังอ้วนเป็นหมูแน่ ๆ เลย
**************************
 :bye2:คับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-07-2007 21:01:58
โทรศัพท์ลึกลับนั่นใครหว่า  :o10:  :o10:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-07-2007 22:27:49
ใครโทรมานะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 09-07-2007 23:32:49
พี่ตั้มก็น่ารักเนอะ
อิจฉาออฟ...เอ้ยแบงค์จัง
 :m12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 09-07-2007 23:45:22
แบ๊งค์คุยโทสับกะใคร :confuse:



แล้วพี่ตั้มนี่ยังไง :confuse:



เอ๊ะ อะไร :confuse:



เริ่มงง?? :confuse: :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 09-07-2007 23:49:45
ขอบคุณมากนะที่มาต่อให้  มาเฝ้าทุกวันละ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 10-07-2007 00:12:56
สงสัยพี่ตั้มจะเริ่มรุกบ้างแล้ว
 :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-07-2007 13:08:51
เอ๊ะ พี่ตั้ม ชักยังไงๆ  :m12:

แล้วโทรศัพท์ลึกลับนั้นอีกหล่ะ   มีไรน๊า  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 10-07-2007 14:02:01
 :confuse:

โทรศัพท์นั้น??? ใครโทรมา

พี่ตั้มล่ะ

แล้วพี่อาร์ทหายไปไหนอ่ะ????

งง

 o2
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 11-07-2007 00:09:56
*******************
บทที่ 61 พี่รักแบ๊งค์นะ

พอทานเสร็จเราก็ออกมา  เพื่อที่จะกลับบ้านกันครับ  ดูเหมือนพี่ตั้มจะมีความสุขนะเนี่ย  ยิ้มซะหน้าบานเลย  ไม่รู้พี่เค้าคิดยังไงนะเนี่ยซื้อนาฬิกาให้แบ๊งค์  พอบอกจะไม่รับ  ก็ทำท่าโกรธอีก  สงสัยต้องใส่ไปมหาลัยทุกวันแล้ว  พี่เค้าจะได้ดีใจ ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็หันมาครับ

“แบ๊งค์พี่ว่า.....”   ยังไม่ทันที่พี่ตั้มจะได้พูดจบหรอก  แบ๊งค์ชนพี่เค้าเข้าอย่างจังเลย   ดีนะที่พี่ตั้มรับทัน  ไม่อย่างนั้นแบ๊งค์ได้ล้มก้นจ้ำเบ้าแน่ ๆ เลย  แล้วแบ๊งค์ก็ค่อยเงยหน้าไปมองครับ  ซึ่งตอนนี้พี่ตั้มจ้องหน้าแบ๊งค์อยู่แล้ว

“เอ่อ....พี่ตั้มครับ  ปล่อยแบ๊งค์ดีกว่ามั้ย”

“เดี๋ยวมีคนมาเห็นมันจะไม่ดีนะ”  พอแบ๊งค์พูดจบ  พี่ตั้มก็เลยพยุงแบ๊งค์ยืนขึ้น  แล้วก็ค่อย ๆ ปล่อยแบ๊งค์ออกจากอ้อมแขน

“พี่ขอโทษนะครับ  เจ็บมากมั้ย”   พี่ตั้มถาม

“ไม่เป็นไรครับ  เรากลับดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูด  แล้วเราก็ขึ้นรถไปเลยครับ  ระหว่างทางเราก็พูดกันไปตามปกตินั่นแหละ  เฮ้อ~อิ่มจัง  เริ่มง่วงซะแล้วสิ   แบ๊งค์เนี่ยไม่ไหวเลย  กินแล้วก็นอน งานนี้มีอ้วนแน่ ๆ  แต่ในระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับ  อยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็ร้องขึ้นครับ

“เฮ้ย!!!!  แบ๊งค์  เลือดกำเดาไหลน่ะ”   พี่ตั้มพูดครับ   แบ๊งค์เลยเอามือไปแตะ ๆ ดู  ใช่จริง ๆ ด้วย  นี่แบ๊งค์เลือดกำเดาไหลอีกแล้วหรอกเนี่ย

“เดี๋ยวพี่ขับเข้าเซเว่นไปซื้อน้ำแข็งให้นะ”    ว่าแล้วพี่ตั้มก็รีบเลี้ยวแวะเข้าเซเว่นที่อยู่ตรงหน้าไปซื้อน้ำแข็งมาทำการปฐมพยาบาลครับ

“พี่ขอโทษนะครับ  คงเป็นเพราะที่ชนพี่เมื่อกี้แน่ ๆ เลย”   พี่ตั้มพูด

“ไม่เป็นไรหรอก  แค่นี้เองอย่าคิดมากน่า”   แบ๊งค์ซึ่งเงยหน้าอยู่  พูดโดยมีถุงน้ำแข็งประคบอยู่ที่ดั้งจมูก   เรานั่งปฐมพยาบาลกันอยู่ซักพัก  แล้วเราก็ขึ้นรถกันครับ   คราวนี้คงกลับคอนโดได้ซักทีนะ

“น้องแบ๊งค์นอนไปนะครับเอาไว้ถึงคอนโดแล้วพี่จะปลุก”   ว่าแล้วพี่ตั้มก็เอาเสื้อกันหนาวมาคลุมให้แบ๊งค์

“อ่ะ.....อืม”    แบ๊งค์ตอบก่อนจะหลับไปอีกครั้ง.
.
.
.
.
แบ๊งค์รู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่น ๆ กำลังสอดเข้ามาในปากแบ๊งค์  รู้สึกเหมือนมันมีกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ ติดมาด้วย  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
ปรากฏว่าเป็นพี่ตั้มครับ  ตอนนี้พี่ตั้มกำลังปประกบปากจูบกับแบ๊งค์   เมื่อแบ๊งค์ได้สติ  ก็เลยรีบผลักพี่เค้าออกไป  เหมือนพี่เค้าก็ตกใจเหมือนกัน

“พี่ตั้มทำอะไรน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“พี่....เอ่อ....พี่”    พี่ตั้มพูดตะกุกตะกัก  ตอนนี้รถของพี่ตั้มจอดอยู่ที่ลานจอดรถของคอนโดแบ๊งค์แล้ว   แบ๊งค์ก็เลยรีบเปิดประตูรถ  แล้ววิ่งออกไป  โดยมีพี่ตั้มวิ่งตามมาคว้าแขนแบ๊งค์เอาไว้

“แบ๊งค์.....เอ่อ”    พี่ตั้มยังคงพูดอะไรไม่ออก

“แบ๊งค์ขอบคุณพี่ตั้มมากนะครับ  สำหรับวันนี้แบ๊งค์ขอตัวก่อนนะครับ”   แล้วแบ๊งค์ก็สะบัดแขน   แล้วรีบวิ่งเข้าคอนโดไป   ตอนนี้ที่ห้องพี่นุ่นยังไม่กลับมาเลย   แบ๊งค์เลยเปิดประตูแล้วรีบเข้าห้องไป  พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดไปเมื่อครู่

นี่มันอะไรกันนะ  มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม....ทำไมพี่ตั้มถึงทำแบบนี้    หรือว่าพี่ตั้มชอบแบ๊งค์  ไม่นะ...ไม่มีทาง   ความคิดมากมายหลายอย่าง  ผุดขึ้นมาในหัวสมองของแบ๊งค์  ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกจริง ๆ  ตกใจมากกับสิ่งที่พี่ตั้มทำ
แบ๊งค์เครียดมาก  จนไปนึกถึงเรื่องของนายโต้  หรือว่าพี่ตั้มจะเป็นนายโต้  โอยยย   นี่มันอะไรกันเนี่ย  ทำไมเรื่องที่สับสนวุ่นวายแบบนี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นกับแบ๊งค์เนี่ย  แล้วแบ๊งค์ก็ไปนึกถึงคำพูดของนายปรินซ์ครับ  ที่เคยถามแบ๊งค์ไป  ถึงเรื่องที่มีคนมาชอบแบ๊งค์  ซึ่งนายปรินซ์เคยบอกว่ามีอีก 2 คน  ซึ่งเค้ายังไม่แน่ใน
นี่พี่ตั้มเป็นหนึ่งในสองคนนั้นหรอเนี่ย   พี่ตั้มเค้าเคยมีแฟนอยู่ต่างมหาวิทยาลัยไม่ใช่หรอ  เค้าจะมาชอบแบ๊งค์ได้ไง  ระหว่างที่คิดอะไรไม่ออก  และกำลังตัน ๆ อยู่นั้นแบ๊งค์ก็เผลอหลับไป
แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่แบ๊งค์สะดุ้งตื่นในตอนเช้า  แน่นอนล่ะว่าแบ๊งค์ต้องไปมหาวิทยาลัยก่อนพี่นุ่น  ตอนนี้แบ๊งค์หยุดยืนที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยแล้ว   ไม่อยากเข้าไปเลยจริง ๆ  แบ๊งค์ยังคงใส่นาฬิกา ODM ที่พี่ตั้มซื้อให้นะครับ  ถึงจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นก็เหอะ  แต่พี่เค้าก็อุตส่าห์ซื้อมาให้แล้ว
ของก็ไม่ใช่ถูก ๆ ถ้าไม่ใส่ก็จะเสียน้ำใจเค้าเปล่า ๆ  แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินเข้ามหาวิทยาลัยไปครับ  สายตาก็สอดส่องมองหาพี่ตั้ม    ใจจริงก็ไม่อยากเจอหรอกนะ   ไม่รู้ว่าถ้าเจอแล้วจะทำท่ายังไง  กลัวจังกลัวที่จะเจอพี่ตั้ม

วันนี้แบ๊งค์ไม่ไปร้านโจ๊กครับ  เพราะกลัวว่าจะเจอพี่ตั้มที่นั่น  แบ๊งค์ก็เลยนั่งทนหิวอยู่คนเดียวที่หน้าตึก

“ไงแบ๊งค์  มาเช้าไม่เลิกนะ”   ปรินซ์ทักขึ้นครับ

“อ้าวปรินซ์  ทำไมมาเช้าได้ล่ะวันนี้”   แบ๊งค์ถามไป

“ก็วันนี้วันเกิดยายเราน่ะ  ก็เลยต้องตื่นแต่เช้าเลย”   ปรินซ์พูดครับ

“อืม....ฝากอวยพรให้คุณยายแข็งแรงด้วยนะ”   แบ๊งค์พูด

“อ่ะอืม...ขอบใจนะแล้ววันนี้ไม่ไปกินโจ๊กกับพี่ตั้มหรอ”   ปรินซ์ทักขึ้นครับ  เล่นเอาแบ๊งค์ตอบไม่ถูกเลย

“คือ......เรายังไม่เห็นพี่เค้าน่ะก็เลยมานั่งที่นี่แหละ”  แบ๊งค์พูดครับ   แล้วเจ้าปรินซ์มันคงเห็นว่าแบ๊งค์หิว ( มันก็คงหิว )  นายปรินซ์ก็เลยไปซื้อพวกขนมปัง แซนวิช  นมกล่อง  มากินกับแบ๊งค์ที่โต๊ะครับ  แล้วเราก็นั่งกันต่อไปเรื่อย ๆ จนแมค และกาวเข้ามา  โดยไม่เห็นแม้แต่วี่แววของพี่ตั้ม  พี่เค้าไปไหนนะ

ตอนบ่าย ๆ แบ๊งค์ไปเข้าหอสมุดครับ  ก็กะว่าจะหาหนังสือไปอ่านเพิ่มเติมนั่นแหละ  และก็จะหาไปเป็นข้อมูลช่วยปรินซ์ทำรายงานด้วย  เห็นนายปรินซ์บ่นอยู่ว่าหาข้อมูลไม่ค่อยได้  ไหน ๆ ก็ว่างแล้ว  ก็เลยมาช่วยหน่อยดีกว่า
ระหว่างที่กำลังหาหนังสือไปนั้น  สายตาแบ๊งค์ก็ไปสะดูดกับบุคคลหนึ่ง  ไม่ใช่ใครหรอกครับ  พี่ตั้มนั่นเอง  ดีนะที่เค้ามองไม่เห็นแบ๊งค์  ว่าแล้วก็ถอยทัพดีกว่า  ระหว่างที่กำลังย่อง ๆ ออกไปอยู่นั้น   คงเป็นเพราะว่าแบ๊งค์มัวแต่มองพี่ตั้มมั้ง  ก็เลยไปสะดุดขาเก้าอี้เข้า

“โอยยยย....”   แบ๊งค์ร้องออกมาเบา ๆ

“เป็นอะไรมากมั้ยครับน้อง.....”    พี่ตั้มหยุดเรียกชื่อไปเมื่อเห็นว่าเป็นแบ๊งค์

“เอ่อ....ขอบคุณนะครับ”     แบ๊งค์พูดแค่นั่นแล้ววิ่งหนีอกไปเลย  สรุปเนื้อหารายงานของปรินซ์ก็ดองไว้ก่อนก็แล้วกันนะ
.
.
.
ตอนนี้ก็เป็นเวลา 3 วันแล้วที่แบ๊งค์เอาแต่หลบหน้าพี่ตั้ม  ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมแบ๊ค์ต้องทำแบบนี้   แต่ทุกครั้งที่เจอพี่ตั้ม  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำหน้ายังไงจริง ๆ ไม่อยากรู้ว่าพี่เค้าคิดอะไรกับแบ๊งค์

“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่ตั้มเลยเนอะ”  ไอ้เจ้าปรินซ์มันพูดขึ้นครับ

“พี่เค้าบอกว่ายุ่ง ๆ น่ะเรื่องกิจกรมมตอนวันปีใหม่”   แมคตอบครับ

“อืม....สงสัยคงยุ่งมากเลยล่ะสิเราไปช่วยพี่เค้ากันหน่อยดีมั้ยแบ๊งค์”    กาวหันมาพูดกับแบ๊งค์ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งเหม่ออยู่

“แบ๊งค์.....”    กาวเรียกอีกครั้งครับ

“หา....อะไร  ใคร ๆ”    แบ๊งค์สะดุ้งขึ้นมาครับ  ทุกคนก็เลยเอาแต่หัวเราะ 

“เป็นอะไรไปวะ  ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้แล้วเดี๋ยวนี้เป็นอะไรไปวะ  ทำท่าเหมือนหลบหน้าใครได้”   กาวพูดครับ

“ป่ะ....เปล่านะ  ไม่ได้หลบใครซะหน่อย”  แบ๊งค์พูด  แล้วเย็นวันนั้นแบ๊งค์ก็กลับคอนโดกับพี่อาร์ทครับ

“แบ๊งค์   เดี๋ยวนี้ไม่สบายรึเปล่าเห็นเราชอบนั่งเหม่อ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“เปล่าหรอกพี่อาร์ท  คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ”   แบ๊งค์พูด

“คิดเรื่องอะไรหรอ  ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเราน่ะพี่ไม่ยอมรู้มั้ย”   พี่อาร์ทพูดครับ

“พี่อาร์ทน่ะ  พูดเป็นเล่นไปได้”    แบ๊งค์ก็แย้งกลับครับ  แล้ววันนั้นก็ไม่มีอะไร.
.
.
.
แล้วในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันสิ้นปี  หรือวันปีใหม่นั่นเอง   คงไม่มีกิจกรรมอะไรมากหรอก  เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ก็กลับบ้านกันไปหมด   ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ  วันนี้มาส่งงานนิดหน่อยครับ  ก็เลยมาเอง  มาตอนสาย ๆ น่ะ

ระหว่างที่กำลังกลับจากไปส่งงาน  แบ๊งค์ก็ไปเจอกับพี่ตั้มพอดีครับ  แบ๊งค์เลยหยุดยืน  พี่เค้าก็หยุดเหมือนกันนะ   ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เราทั้งสองคนมองหน้ากัน 

“แบ๊งค์มากับพี่หน่อย”    แล้วพี่ตั้มก็ลากแขนแบ๊งค์เข้าไปในห้องเรียน  แล้วปิดประตูครับ

“พี่ตั้มจะทำอะไรน่ะ”   แบ๊งค์พูด

“พี่อยากจะเคลียร์กับเราให้รู้เรื่อง”   พี่ตั้มพูด

“แต่แบ๊งค์......”    แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไรครับ

“แบ๊งค์.........พี่ขอโทษ  พี่ขอโทษกับเรื่องในคืนนั้น”   พี่ตั้มพูดขอโทษออกมาครับ

“พี่ลืมตัว  พี่ลืมไปว่าเรา.....เราเป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้น”   พี่ตั้มเหมือนจะมีน้ำตาปริ่ม ๆ อยู่ที่ขอบตา  เป็นการยากนะ  ที่จะได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาในแต่ละครั้ง  แสดงว่าเค้าคงทุกข์ใจมากจริง ๆ

“พี่ตั้มคงไม่บอกแบ๊งค์หรอกนะว่า....”   ขออย่าให้มันเป็นอย่างที่แบ๊งค์คิดเอาไว้เลย

“พี่รักแบ๊งค์”    พอพี่ตั้มพูดแค่นั้นแหละ   รู้สึกโหวง ๆ บอกไม่ถูก  ทั้ง ๆ ที่เคยโดนใครต่อใครสารภาพรักมาแล้วก็ตั้งหลายรอบ  แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย  คงป็นเพราะเราไม่เคยมองเห็นพี่เค้าล่ะมั้ง  มองข้ามมาตลอด  ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ได้ 

“พี่ก็ไม่รู้หรอกนะ  ว่าพี่ชอบเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่และก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่ไปเกิดอารมณ์แบบนั้นกับเราได้ยังไง”   พี่ตั้มพูดครับ  อตนนี้น้ำตามพี่ตั้มเริ่มไหลแล้ว  พี่เค้าก็ได้แต่เอามือปาดออกไป

“แต่พี่ตั้ม.....เอ่อ....มีแฟนแล้วไม่ใช่หรอ”   แบ๊งค์ถามไปครับ  เพราะนึกขึ้นได้  ว่าพี่ตั้มเคยมีผู้หญิงต่างมหาลัยมาชอบ

“ใช่.....แต่นั่นมันก็เป็นช่วงหนึ่งเท่านั้น  เป็นเพราะตอนนั้นพี่พยายามไม่คิดกับแบ๊งค์ไปมากเกินกว่าคำว่าน้องพี่เลยลองคบกับเค้าไป  แต่พี่ก็ทำไม่ได้  มีหลายครั้งที่พี่เห็นคนอื่นได้อยู่ใกล้แบ๊งค์แล้วรู้สึกอิจฉา”และตอนนี้  พี่ก็รู้ใจตัวเองแล้ว  ว่าพี่.....รักแบ๊งค์จริง ๆ”    พอพี่ตั้มพูดจบ  พี่ตั้มก็ค่อย ๆ ส่งยิ้มมาให้แบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เดินเข้าไปหาพี่ตั้ม

“แบ๊งค์เข้าใจความรู้สึกของพี่ตั้มนะใจจริงแบ๊งค์ก็อยากรับความรู้สึกดี ๆ นี้ไว้”   แบ๊งค์พูดพร้อมกับค่อย ๆ เอามือเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าของพี่ตั้ม  แล้วพี่ตั้มก็คว้ามือของแบ๊งค์เอาไว้

“แต่แบ๊งค์ก็รับมันไว้ไม่ได้  เพราะแบ๊งค์มีอาร์ทอยู่ใช่มั้ย”   พี่ตั้มพูดครับ

“.................”    แบ๊งค์เลยได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบไป

“ขอโทษนะพี่ตั้ม   แต่เราก็ยังเป็นพี่น้องกันได้นะ”   แบ๊งค์พูด

“ขอบคุณนะ  ที่แบ๊งค์ไม่โกรธพี่”   พี่ตั้มตอบ

“แบ๊งค์ดีใจนะ  ที่ได้เจอ  ได้รู้จักกับคนดี ๆ อย่างพี่ตั้มอย่าให้ความรู้สึกดี ๆ ที่แบ๊งค์มีให้พี่ตั้มมันต้องพังทลายลงเลยนะ”    แบ๊งค์พูด

“ อืม....ขอบคุณนะ  ขอบคุณจริง ๆ”    แล้วพี่ตั้มก็เอาแต่ร้องไห้  แบ๊งค์ก็เลยต้องปลอบพี่ตั้มไป  เราทั้งสองคนอยู่ในห้องนั้น  จนกระทั่งถึงเวลาช่วงบ่าย ๆ

ตอนนี้เราก็เริ่มเข้าใจกันดีแล้ว   พี่ตั้มกลายเป็นพี่ชาย....พี่ชายที่ดีที่สุดอีกคนสำหรับแบ๊งค์ ต่อจากพี่โป้ง  ส่วนแบ๊งค์ก็กลายเป็นความทรงจำ  เป็นน้องคนที่พี่ตั้มรักที่สุดเหมือนกัน  ตอนนี้เราคงเป็นได้แค่นี้......แค่เท่านี้จริง ๆ
*******************************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 11-07-2007 00:21:23
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-07-2007 00:23:00
แบงค์เนื้อหอมจิงๆ  :m11:  :m11:  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-07-2007 06:35:19
น่าสงสารพี่ตั้มเหมือนกันนา

แต่ยังไงก็เชียร์พี่อาร์ทอยู่ดี

ในที่สุดพี่อาร์ทก็โผล่มาสักที

แม้จะมีอยู่จึ๋งเดียว

ก็รู้สึกว่าช่วงหลังๆ มานี่พี่อาร์ทไม่ค่อยมีบทบาทเลยง่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 11-07-2007 08:13:30
 :confuse:โทรศัพท์ลึกลับนั่น คงไม่ใช่หมอหรอกนะ แบงค์ :confuse:
 :m15: กลัวอ่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 11-07-2007 11:05:10
แล้วกาวอ่า

หายไปเลยยยยย 

เชียร์กาวๆๆๆๆๆๆๆ    :m14: :m14: :m14: :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-07-2007 11:41:16
ช่างวุ่นวายจริงๆ
 :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-07-2007 12:59:36
Hot ไม่เลิกนะแบงค์นี่  :m14:  ชิๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 11-07-2007 13:03:18
 :impress:

อ้าว พี่ตั้ม ทำไมทำงั้นอ่ะ

แล้วแบงค์จะใจอ่อนหรือเปล่าน๊า....

มาต่อไว ๆ นะ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-07-2007 17:30:21
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 11-07-2007 18:21:47
 :เฮ้อ: สมชื่อ "เรื่องวุ่นวายของนายเด็กดื้อ" วุ่นจริงๆด้วย  :interest:   
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-07-2007 18:48:04
ในกลุ่มนั้น ยังมีใครที่ไม่ชอบแบ็งค์อีกมั๊ยเนี่ย  :m11:  :m11:  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 11-07-2007 22:21:12
*******************************
บทที่ 62 ปีนี้เราต้องอยู่ด้วยกันนะ

แล้วพอคุยปรับความเข้าใจกับพี่ตั้มเสร็จแล้ว  ในเย็นวันนั้น  แบ๊งค์ก็ไปเที่ยวต่อกับพี่อาร์ทครับ 

“แบ๊งค์ยิ้มอะไรหรอครับอารมณ์ดีอะไรรึเปล่า  บอกพี่ได้มั้ยครับ”   พี่อาร์ทถาม

“เปล่าหรอก  แค่โล่งใจอะไรบางอย่างก็เท่านั้น”    แบ๊งค์ตอบไป

“เอ่อ....คือพี่ว่าจะถามเราหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมนาฬิกานั่นไปซื้อมาใหม่หรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

“เนี่ยน่ะหรอ  พี่ชายที่ดีที่สุดอีกหนึ่งคนของแบ๊งค์”เค้าซื้อให้น่ะ  สวยมั้ย”   แบ๊งค์ตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม

“อืม....สวยสิว่าแต่เค้าเป็นใครหรอ”    พี่อาร์ทถามครับ

“พี่ตั้มไงล่ะ   เค้าเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดเลยล่ะ”    แบ๊งค์ตอบออกไป

“อืม....หรอ   แล้วพี่ล่ะให้พี่เป็นอะไร   เป็นแฟนที่ดีที่สุดเอามั้ย”    พี่อาร์ททำท่าทางเจ้าเล่ห์ครับ

“ไม่ต้องมาพูดเลย  ขับรถไปเรื่อย ๆ เลย”    แบ๊งค์พูด  แล้วพี่อาร์ทก็หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ครับ 

วันนี้เราไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารที่ทองหล่อกัน  ก็ร้านที่พี่อาร์ทเคยพาแบ๊งค์มาทานด้วยกันครั้งแรกนั่นแหละ    คนเยอะมากเลยครับ  ดีนะที่พี่อาร์ทจองโต๊ะเอาไว้แล้ว

“เป็นไง  จำได้รึเปล่า”  พี่อาร์ทถามครับ

“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ  จะให้สั่งเมนูเดิมเลยมั้ยล่ะ”   พี่ตอบกลับไปครับ

“ก็ได้ครับ  เอาสิ”   พี่อาร์ทรับคำท้าครับ

“ขอทีโบนสเต็ก 2 ที่ครับ”   แบ๊งค์สั่งพนักงานเสิร์ฟไป

“ความจำดีจังนะเราน่ะ”   พี่อาร์ทชมครับ

“แน่นอนอยู่แล้ว   แบ๊งค์จำเหตุการณ์ของเราสองคนได้หมดแหละถึงแม้จะจำเรื่องราวเกี่ยวกะพี่อาร์ทไม่ได้ก็เหอะ”   แบ๊งค์เริ่มทำหน้าเศร้า  จำได้มั้ยล่ะ  ว่าคราวที่แล้ว พี่อาร์ทเค้าจำได้หมดทุกอย่างว่าแบ๊งค์ชอบอะไร  แต่แบ๊งค์น่ะสิจำอะไรที่เกี่ยวกับพี่อาร์ทไม่ได้เลย

“นี่แน่ะ  อย่าคิดมากน่า”  พี่อาร์ทเอาส้อมมาเคาะหัวแบ๊งค์เบา ๆ ไปหนึ่งทีครับ

“โอ้ยยย เจ็บนะพี่อาร์ท”   แบ๊งค์โวย

“ไม่ต้องสนใจอะไรเกี่ยวกับตัวพี่หรอกพี่อยากให้เราจำเกี่ยวกับเรื่องราวของเราสองคนมากกว่า  เข้าใจนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ  แบ๊งค์ก็เลยได้แต่  พยักหน้าไป

พอพนักงานมาเสิร์ฟ  เราสองคนก็ลงมือทานกันเลยครับ  พี่อาร์ทน่ะ  ชอบอ้อนจัง  ให้แบ๊งค์ป้อนให้อีกแล้ว   แบ๊งค์ก็เลยจำใจป้อนให้ไป    นั่งทานกันอยู่ซักพัก   จนมาต่อกันที่ของหวาน  ในที่สุดก็ถึงเวลาที่รอคอย   
5.........4..........3..........2.........1...........0
แล้วเสียงไชโยโห่ร้องก็ดังกึกก้องไปทั่วร้านเลยครับ   ในที่สุดก็เข้าสู่ปีใหม่ซะที 

“แบ๊งค์....”  พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์ครับ  ในขณะที่แบ๊งค์กำลังมองดูคนอื่นอย่างเพลิน ๆ  แล้วแบ๊งค์ก็หันมา  ปรากฏง่าพี่อาร์ทประกบปากกับแบ๊งค์ทันทีครับ   แล้วพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ สอดลิ้นเข้ามาในปากของแบ๊งค์   ช่างเป็นจูบแรกของปีที่หอมหวานซะเหลือเกิน

“เป็นไงบ้าง  จูบแรกของปี”   พี่อาร์ทพูดแล้วยักคิ้วให้แบ๊งค์ครับ

“บ้าน่ะ  ชอบขโมยจูบอยู่เรื่อย”    แบ๊งค์ตบไปที่อกของพี่อาร์ทเบา ๆ  แล้วหลังจากนั้นเราทั้งสอง  ก็ออกจากร้านอาหารไปครับ

“พี่อาร์ท  ไปที่ ๆ หนึ่งก่อนได้มั้ย”   แบ๊งค์หันไปพูดกับพี่อาร์ท

“ที่ไหนล่ะครับ  คงไม่ใช่ทะเลแบบคราวที่แล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดติดตลกครับ

“บ้าหรอ  ไม่ไกลขนาดนั้น  ไปใต้สะพานพระราม 8 น่ะ”    แบ๊งค์พูด

“อืม.....ครับ  ก็ได้ครับตามใจแบ๊งค์ก็แล้วกันนะ”   พี่อาร์ทพูด    แล้วในที่สุด  เราก็มาถึงบริเวณใต้สะพานพระราม 8 กัน  ก็ยังพอมีคนอยู่ประปราย  มีทั้งคู่รัก  ทั้งพวกคนขี้เมา  มองแล้วก็แปลกไปอีกแบบ

“บอกพี่ได้รึเปล่าครับ  ว่าพามาที่นี่ทำไม”   พี่อาร์ทถามครับ

“ถ้าแบ๊งค์บอกแล้วห้ามโกรธนะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม.....พี่ไม่โกรธแบ๊งค์หรอกครับ”  พี่อาร์ทตอบ

“แบ๊งค์มารำลึกถึงพี่โป้งน่ะ   ที่ตรงนี้ในเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วแบ๊งค์กับพี่โป้งมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน  มันเป็นที่ ๆ พี่โป้งมาเปิดใจคุยกับแบ๊งค์เป็นที่ ๆ ทำให้พี่โป้งได้รู้ว่า ไม่มีใครสามารถมาแทนพี่อาร์ทในใจบองแบ๊งค์ได้และเป็นที่ ๆ พี่โป้งสัญญาว่าจะดูแลแบ๊งค์ให้ได้ดีเท่ากับพี่อาร์ทเคยทำ”    แบ๊งค์พูดยาวเหยียด  แล้วหันไปมองพี่อาร์ท

“อืม....ถ้าไอ้โป้งมันยังอยู่  วันนี้เรา 3 คนก็คงได้ฉลองด้วยกันสินะ”   พี่อาร์ทพูด

“พี่ขอบคุณนะครับแบ๊งค์”    พี่อาร์ทหันมาพูดกับแบ๊งค์

“ขอบคุณเรื่องอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามกลับไป

“ขอบคุณที่แบ๊งค์รักพี่อย่างมั่นคงไงล่ะแม้กระทั่งไอ้โป้งมันทำดีขนานั้นแล้ว  แบ๊งค์ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ”    พี่อาร์ทเอามือมาโอบเอวแบ๊งค์ไว้ครับ

“พี่อาร์ทกอกแบ๊งค์แน่น ๆ นะ ลมมันแรงน่ะ  หนาวจัง”   แบ๊งค์แกล้งพูดไป

“ไม่ต้องหรอก   อยากให้พี่กอดเราก็พูดมาเหอะ  ไม่ต้องอ้างลมหรอก”   พี่อาร์ทรู้ทันครับ

“งั้นไม่ต้องกอดก็ได้  ป่ะกลับกันเหอะ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ จะเดินหนี    แต่พี่อารฺทก็ดึงเข้ามาไว้ในอ้อมกอด    เราสองคนเลยมองหน้ากัน   แล้วพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ บรรจงประกบริมฝีปากลงอีกครั้ง   เรายืนจูบกันอยู่นานเหมือนกัน

“อุ๊แหวะ.....แค๊ก ๆๆ คากกกกถุ้ยยยยยย”      มีเสียงตาแก่ขี้เมาที่ไหนไม่รู้ครับ  มาดังขึ้นใกล้ ๆ เราสองคน   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เลยรีบผละออกจากกัน    แล้วอยู่ดี ๆ เราสองคนก็หัวเราะออกมาครับ

แล้วเราสองคนก็กลับบ้านกันครับ  คืนนี้แบ๊งค์กะว่าจะนอนค้างบ้านพี่อาร์ทน่ะ  คงไม่กลับคอนโดแล้วล่ะ  พี่อาร์ทก็เห็นด้วย

“พี่ว่าเราไปเที่ยวถนนแห่งความทรงจำกันดีกว่ามั้ย”  พี่อาร์ทชวนครับ

“จะไปอีกหรอพี่อาร์ท  แบ๊งค์ไม่ไหวแล้วเอาไว้วันหลังดีกว่านะ  วันนี้เรากลับไปนอนดีกว่านะ”   แบ๊งค์ทำท่าอ้อน ๆ ครับ

“ครับ ๆ เอางั้นก็ได้ครับ  วันนี้พี่ตามใจแบ๊งค์ที่สุดเลยนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ  แล้วเราก็กลับมาถึงบ้านพี่อาร์ทกันครับ   ตอนนี้เราต้องค่อย ๆ ย่องขึ้นไปบนห้องพี่อาร์ท  เพราะกลัวว่าจะทำให้ทุกคนตื่นถ้าเราเสียงดัง  พอถึงห้องเราทั้งสองคนก็ระเบิดหัวเราะออกมาเลยครับ

“แบ๊งค์ครับ  เดี๋ยวอาบน้ำกับพี่นะครับ”   พี่อาร์ทชวนครับ

“แต่.............”   แบ๊งค์ทำท่าอาย ๆ  ตอนนี้คาดว่าหน้าคงจะแดงด้วย (-////-)

“เอาน่าไม่ต้องอายแล้ว  พี่น่ะเห็นของเราไปจนจะถึงม้ามแล้ว”  พี่อาร์ทแซวครับ

“พี่อาร์ทอ่ะ”   แบ๊งค์พูดแล้ว  ตบที่ต้นแขนพี่อาร์ทเบา ๆ ครับ

“อ้าว  หรือไม่จริงล่ะ  อกอย่างนะเราก็เห็นของพี่ไปตั้งเยอะแล้วเหมือนกัน”   พี่อาร์ทแย้งกลับมาครับ

“ไม่เอาแล้ว  ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว “    แล้วแบ๊งค์ก็หนีไปนั่งบนเตียงครับ

“จะหนีไปไหน  ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องไปอาบน้ำด้วยกันเลย”   พี่อาร์ทเข้ามาดึงแบ๊งค์ให้ลุกขึ้นครับ

“พี่อาร์ทไปอาบคนเดียวสิ “   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“แบ๊งค์อ่ะ  วันนี้พี่ตามใจเราแล้วนะตามใจพี่บ้างสิครับ”   พี่อาร์ททำท่าน้อยใจ

“ก็ได้ ๆ อาบก็อาบ”   แบ๊งค์ก็เลยต้องจำใจยอม ๆ ไป  พอตอบไปแบบนั้นพี่อาร์ทก็เข้ามาอุ้มแบ๊งค์เข้าไปในห้องน้ำเลยครับ

“พี่อาร์ท!!!!  ทำอะไรเนี่ย”   แบ๊งค์รีบเกาะพี่อาร์ทไว้เพราะกลัวตกครับ

“อิอิ  แกล้งเด็กดื้อน่ะ”   พี่อาร์ทพูดครับ   แล้วก็วางแบ๊งค์ลงที่ในห้องน้ำ  ตอนนี้พี่อาร์ทลอคประตูห้องน้ำแล้ว

“เดี๋ยวพี่ถอดให้นะครับ”   พี่อาร์ทเข้ามาปลดกระดุมทีละเม็ด ๆ ให้กับแบ๊งค์  ถึงแม้ว่าจะอายมากแค่ไหน  แต่แบ๊งค์ก็ไม่อยากที่จะขัดขืน  อยากทำให้พี่อาร์ทพอใจ   

แล้วในที่สุดร่างกายของเราทั้งสองก็เปลือยเปล่า  ไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มเอาไว้เลย   พี่อาร์ทมองร่างกายอันเปลือยเปล่าของแบ๊งค์อย่างพิจารณา  ก่อนจะค่อย ๆ ใช้จมูกโด่ง ๆไซร้ไปตามใบหู  แล้วค่อย ๆ เลื่อนลงมายังซอกคอ

“อา...........หอมจังเลยครับ”   พี่อาร์ทพูดเสียงกระเส่า

“อ๊ะ......อืม...........”    ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มที่จะครางออกมาแล้ว

พี่อาร์ทยังคงไซร้ต่อไปเรื่อย ๆ    แล้วพี่อาร์ทก็หยุด    แล้วจูบลงปากของแบ๊งค์   พร้อมกับดันลิ้น ๆ อุ่น ๆ ผ่านเข้าช่องปากของแบ๊งค์ที่ตอนนี้มันเผยอรอรับอยู่แล้ว    เราทั้งสองคนยืนจูบกันอยู่นานมาก  จนแบ๊งค์นึกขึ้นได้ว่า  กำลังจะมาอาบน้ำ  แบ๊งค์จึงค่อย ๆ ผละออกจากพี่อาร์ท

“แบ๊งค์ว่าเราอาบน้ำกันก่อนนะครับ”    แบ๊งค์พูด

“อ่ะ.....ก็ได้ครับ”    พี่อาร์ทยิ้มให้  ก่อนที่จะเข้าไปเปิดฝักบัว  ให้สายน้ำอุ่นค่อย ๆ ไหลรินลงมา   จากนั้นเราทั้งสองก็ค่อย ๆ เข้าไปอยู่ใต้ สายน้ำนั้น  พี่อาร์ทเริ่มไซร์ซอกคอแบ๊งค์อีกครั้ง   ตอนนี้พี่อาร์ทเริ่มดูดบริเวณ คอแบ๊งค์   ยอมรับว่ามันเจ็บ   แต่แบ๊งค์ก็ปล่อยมันไป  เพราะมีความเสียวซ่านเข้ามาแทน

จากนั้นพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมา  แล้วเลียวน ๆ พร้อมทั้งดูด  บริเวณยอดอกของแบ๊งค์   มันเสียวเกินกว่าแบ๊งค์จะทนได้

“อา....พี่อาร์ท......”    แบ๊งค์เผลอครางออกมา  มือทั้งสอง  ก็กำต้นแขนของพี่อาร์ทเอาไว้อย่างแน่นหนา    ประหนึ่งจะบอกให้อีกฝ่ายหยุดทำ    แต่พี่อาร์ทไม่ได้สนใจ  กลับทำต่อไป 

“ร้องออกมาดัง ๆ เลยนะครับ “   พี่อาร์ทพูดกับแบ๊งค์

“ไม่ได้หรอก  เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก”    แบ๊งค์ปฏิเสธ

“ไม่ต้องกลัวหรอก  บ้านหลังออกจะใหญ่ห้องห่างกันจะตาย  ไม่ต้องกลัวใครได้ยินหรอกนะ”   พี่อาร์ทพูด  จากนั้นพี่อาร์ทนั่งคุกเข่าลง   แล้วครอบปากลงไปบนน้องชายของแบ๊งค์

“พี่อาร์ทอย่า.....”    ยังไม่ทันที่จะห้าม  พี่อาร์ทก็ครอบปากเข้าไปเรียบร้อย  ตอนนี้น้องชายของแบ๊งค์กำลังตื่นตัว  และสู้อยู่กับลิ้นของพี่อาร์ทที่กำลังมอบความเสียวซ่านให้ร่างกายแบ๊งค์อยู่

“พิ......อา.........”   ใจแบ๊งค์อยากจะร้องเรียกพี่อาร์ท  แต่ด้วยความเสียว  ทำให้แบ๊งค์ร้องออกมาอย่างไปเป็นภาษา       แล้วในที่สุด   แบ๊งค์ก็เกินจะทนไหวต่อการรุกเร้าของพี่อาร์ท  ทำให้แบ๊งค์เสณ้จไปในปากของพี่อาร์ทนั่นเอง

“น่ารักจัง  แฟนใครเนี่ย”    พี่อาร์ทพูด  ก่อนจะเข้ามาหอมแก้มแบ๊งค์อีกรอบ    แล้วเราก็อาบน้ำล้างคราบต่าง ๆ ออกจากร่างกาย   เมื่ออาบเสร็จ  พี่อาร์ทก็เข้ามาเช็ดตัวให้แบ๊งคืพร้อมกับกระซิบที่ข้าง ๆ หู

“เดี๋ยวเราไปต่อกันอีกนะครับ”  พี่อาร์ทกระซิบด้วยเสียงกระเส่า  แล้วขบที่ใบหูเบา ๆ ก่อนจะเลียซ้ำอีกที

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท”   แบ๊งค์ปฏิเสธออกไป 

“ไม่รู้แหละครับ    ยังไงก็ต้องต่อ”   พี่อาร์ทพูด   เมื่อเห็นว่าเราทั้งสองคนเช็ดตัวจนเสร็จแล้ว  พี่อาร์ทก็อุ้มแบ๊งค์ออกจากห้องน้ำ    แล้วนำไปวางบนเตียงอย่างทะนุถนอม 

จากนั้นพี่อาร์ทก็ขึ้นมานั่งคร่อมบนอกแบ๊งค์  โดยมีอาวุธอนันใหญ่ชี้หน้าของแบ๊งค์อยู่

“มันไม่ยอมนิ่งซะทีน่ะครับ   แบ๊งค์ช่วยหน่อยนะ”   พี่อาร์ทพูดเสร็จก็ยิ้ม ๆ พลางดันสิ่งนั้นให้เข้ามาใกล้ ๆ ปาก   ซึ่งแบ๊งค์ก็ค่อยอ้าปาก รับสิ่งนั้นเข้าไป  พี่อาร์ทค่อย ๆ ซอยเจ้าอาวุธเข้าออกอย่างช้า ๆ  และแบ๊งค์ก็พยายามจะไม่ให้มันมากระทบกันฟัน
เราอยู่ท่านั้นกันซักพัก   แล้วพี่อาร์ทถอนอาวุธ   โดยเปลี่ยนมานั่งอยู่ระหว่างขาของแบ๊งค์แทน  พี่อาร์ทเอื้มไปหยิบเจลหล่อลื่นมาทาที่อาวุธขนาดใหญ่นั่น  และทาเข้าไปที่คูหาสวรรค์ของแบ๊งค์

จากนั้นพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ดันอาวุธเข้าไป   ตอนนี้มันเข้าไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว

“พี่...อาร์ท.....แบ๊งค์เจ็บ”     แบ๊งค์ร้องออกมา

“ทนหน่อยนะครับ”   พี่อาร์ทพุด  แล้วค่อย ๆ ดันมันเข้าไปอีกครั้ง  ซึ่งตอนนี้มันได้เข้าไปจนหมดลำแล้ว   แบ๊งค์รู้สึกเหมือนร่างกายจะแยกออกจากกัน  ทั้งเจ็บทั้งจุก  จนบอกอาการไม่ถูก

“อ๊ะ.....อ๊า”     แบ๊งค์ร้องออกมา  เมื่อพี่อาร์ทดันมันเข้าไปจนสุด  แล้วพี่อาร์ท  ก็โน้นตัวลงมาคร่อมแบ๊งค์

“ทนหน่อยนะครับ  เด็กดื้อของพี่”   พี่อาร์ทพูด  แล้วค่อย ๆ ดันเจ้าอาวุธนั้นเข้าออกอย่างช้า ๆ  ถึงจะทำไปช้า ๆ แต่มันก็ทำให้แบ๊งค์ร้องออกมาด้วยความเจ็บได้เหมือนกัน

พี่อาร์ทเริ่มเร่งจัวหวะให้เร็วขึ้น   พร้อมกับประกบปากจูบแบ๊งค์  เพื่อกลบเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมา   ตอนนี้แบ๊งค์ไม่ไหวแล้ว  ทั้งเจ็บทั้งเสียวปนกันไหมด  มือก็จิกหลังพี่อาร์ทเอาไว้  ไม่รู้ว่าหลังพี่เค้าเป็นแผลไปแล้วหรือยัง 
ไปอาร์ทเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ  จนในที่สุดพี่เค้าก็เสียวสุดเกินจะทนไหว    ปล่อยให้น้ำรักพุ่งออกมาในตัวแบ๊งค์นั่นเอง   เราทั้งสองคนหอบก้วยความเหนื่อย

“พี่รักแบ๊งค์นะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“แบ๊งค์ก็รักพี่อาร์ทเหมือนกัน”    แบ๊งค์ตอบกลับไป

“ปีนี้  อย่าทิ้งพี่ให้อยู่คนเดียว  อย่าหนีพี่ไปไหนอีกนะครับ”   พี่อาร์ทพุด  แล้วประกบจูบแบ๊งค์อีกครั้ง   แล้วเราทั้งสองคนก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน  ด้วยความอ่อนเพลีย 
***********************
เรื่องนี้ใกล้จะจบหล่ะนะคับ อีกซัก 8 ตอนมั้ง
และข้าเจ้าก็ยังไม่ได้อ่านอีกตามเคย :m7:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 11-07-2007 23:05:28
So Sweet  :o8: :m10:

น่ารักจริงๆๆๆๆ  มีแอบอิจฉาด้วยอ่ะ  :interest:

ดูแลร่างกายและหัวใจตัวเองดีนะคุณจา  สู้ สู้ :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 11-07-2007 23:08:45
 :impress:

รออ่านอย่างใจจดจ่อครับ

จะจบแล้วหรือเนี่ย ใจหายจัง

หวังว่าคง happy ending นะ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 11-07-2007 23:39:19
พี่อาร์ทต้องบอกว่า "ปีนี้และตลอดไป" ดิ่
 :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 11-07-2007 23:59:49
เห็นด้วยค้าบบบ
 :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-07-2007 00:31:03
อ่ะ ปีใหม่ที่ซึ้งจางเลย
 :m1: :m1: :m1: :m1:

แถมจุดพลุกันด้วย ตูมๆๆ
 :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-07-2007 16:41:08
 :m10:  อะฮุ  ดูมีความสุขดีจังเลย

ปีใหม่ปี 51 ที่จะถึง (อีกตั้งหลายเดือน  เหอๆ)  ขอหวานๆ หวิวๆ แบบนี้บ้างน๊า  คิกๆๆๆ  :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 12-07-2007 23:19:36
บทที่ 63 วันเกิด

แล้ววันนี้ก็มาถึงครับ  วันเกิดแบ๊งค์นั่นเอง  ความจริงแบ๊งค์ก็ได้ใส่ใจอะไรมากมายกับในเกิดหรอกนะครับ  อย่างปีที่แล้วน่ะ  แบ๊งค์ม่ได้บอกใครเลยว่าเกิดวันไหน   พอทุกคนรู้ก็โวยวายกันยกใหญ่  ว่าทำไมแบ๊งค์ไม่ยอมบอก
แบ๊งค์ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะครับ  ไม่ยอมบอกใคร  ทำตัวปกติทุกอย่าง  กว่าใคร ๆ จะรู้  บางทีเลยมาเป็นเดือน  แบ๊งค์ก็ไม่รู้หรอกนะ  เค้าจะไปใส่ใจกันวันเกิดทำไม  ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นวันปกติเหมือนทุก ๆ วัน  ต่างกันแค่ว่าวันนี้จะเป็นวันครบรอบอายุอีกหนึ่งปีเท่านั้น

“ตื่นแล้วหรอ  Happy Birthday จร้า”   พี่นุ่นพูดขึ้นเมื่อแบ๊งค์เปิดประตูห้องออกมา

“อ่ะนะ  จำได้ด้วยหรอ”   แบ๊งค์ถามอย่างแปลกใจครับ

“จำได้ซิ  อยู่ด้วยกันตั้งนาน”   พี่นุ่นพูดครับ  แล้วเราก็ไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน   ตอนนี้แบ๊งค์พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด

“ไงไอ้ตัวเล็ก  มาสายนะวันนี้”   พี่ตั้มทักขึ้นครับ  ตอนนี้เรากลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว  พูดคุยกัน ทักกันในลักษณะที่เหมือนเดิมทุกอย่าง  พี่เค้าคงไม่คิดอะไรกับแบ๊งค์แล้วจริง ๆ

“ก็สานนิดสายหน่อยทำเป็นว่าไปได้น่า”  แบ๊งค์พูด  แล้วเราก็นั่งคุยที่โต๊ะประจำกันเหมือนปกติ   วันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว   คงไม่มีใครรู้หรือจำได้เลยสินะ  แต่ก็ดีแล้วล่ะ    เพราะถึงยังไงแบ๊งค์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายอยู่แล้ว

“เดี๋ยวเราต้องกลับก่อนนะแบ๊งค์ที่บ้านโทรมาตามน่ะ”   ไอ้แมคพูดตอนที่เรากำลังเลิกเรียนน่ะครับ

“อืม....ไงก็ขับรถระวัง ๆ หน่อยนะ”    แบ๊งค์พูด  แล้วตอนนี้ก็เหลือแค่แบ๊งค์กับกาวเดินไปด้วยกัน

“เมริง  เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันมั้ยวะ”   กาวชวนครับ

“จะกินอะไรล่ะ”    แบ๊งค์ถามไป

“ก็ไปหาขนม   ของจุดจิกกินไปเรื่อย ๆ น่ะแล้วเราก็ค่อยไปสนามบาสกัน”      กาวบอกครับ  แบ๊งค์ก็ตอบตกลงไป   แล้วเราก้ไปซื้อขนมมากินกันครับ   ก็ซื้อมาเยอะพอสมควรน่ะ   แล้วก็เดินไปสนามบาสกันครับ  ระหว่างทางก็เจอพี่ตั้มกับปรินซ์พอดีเลย
“อ้าว...ปรินซ์  ไม่ไปซ้อมบาสหรอ”   แบ๊งค์ถาม

“ไม่เอาอ่ะ  วันนี้ขอดดวันหนึ่งนะพี่กาว”    ปรินซ์ตอบแบ๊งค์  แล้วหันไปพูดกับกาว

“แล้วจะไปไหนกันหรอครับ”   กาวถามกลับไปที่พี่ตั้มบ้าง

“ก็กะว่าจะไปดูหนัง  ไปเดินห้างเล่น ๆ น่ะแต่ไอ้แมคนั่นดิ  หนีกลับไปก่อน  ก็เลยมาชวนไอ้ปรินซ์นี่แหละ”   พี่ตั้มตอบ

“ทำปรินซ์เสียคนนะพี่ตั้ม”    แบ๊งค์พูด

“พูดเป็นคนแก่ไปได้นะเมริง”   พี่ตั้มเอามือขยี้หัวแบ๊งค์เบา ๆ  แบ๊งค์มองดูสายตาของพี่ตั้ม  มันเป็นสายตาที่อ่อนโยน  แบ๊งค์เลยยิ้มตอบไป

“ช่วยหน่อยนะพี่กาว  บอกว่าแม่ผมโทรตามก็แล้วกัน”    ปรินซ์ขอร้องให้กาวช่วยครับ

“เออ ๆๆ  แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะเว้ย”   กาวพูดครับ   แล้วปรินซ์กับพี่ตั้มก็รีบวิ่งออกไปทางหน้ามหาวิทยาลัย  ดูเค้าสนุกกันจังนะเนี่ย 

แล้วแบ๊งค์กับกาวก็เดินมาถึงสนามบาสครับ   กาวมันฝากของแบ๊งค์  แล้วก็ไปเปลี่ยนชุด  แบ๊งค์เลยนั่งอยู่คนเดียว   แล้วพี่อาร์ทก็เดินเข้ามาหาครับ

“ว่าไง  นั่งคนเดียวไม่เหงาหรอ”   พี่อาร์ททักครับ

“พูดอย่างกับเพิ่งรู้จักกันไปได้แบ๊งค์นั่งอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ไหน  แต่ไรแล้ว”    แบ๊งค์ตอบ

“ปากดีจังนะ  เดี๋ยวก็จับจูบให้ซะหรอก”   พี่อาร์ทพูดครับ

“เย้ยยย  ไม่เอานะพี่อาร์ทอายเค้า”    แบ๊งค์ร้องออกมา  ตอนนี้เริ่มรู้สึกอายเหมือนว่าหน้าจะแดง ๆ ด้วย (-/////-)

“ฮะฮะฮะ  ล้อเล่นน่าใครจะไปทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนั้นล่ะ”   พี่อาร์ทพูด

“ชิส์   ไปซ้อมเลยป่ะ  คนเริ่มมากันแล้ว”    แบ๊งค์เลยไล่พี่อาร์ทไปคุมนักกีฬาที่กำลังทยอยกันเข้ามาซ้อมครับ   แล้วไอ้กาวก็วิ่งเข้ามาเอาชุดมาเก็บ

“ฝากหน่อยนะแบ๊งค์”    กาวพูด

“อืม ๆ  ตั้งใจซ้อมนะ”    แบ๊งค์ตะโกนตามหลังมันไป     แล้วแบ๊งค์ก็นั่งกินขนมไป  นั่งฟังเพลงจากมือถือไป  แล้วอยู่ ๆ ก็มีสายเข้าครับ   พี่นุ่นนั่นเอง

พี่นุ่นโทรมาบอกว่าวันนี้ให้กลับเอง  เพราะพี่นุ่นมีธุระต้องไปส่งเพื่อน   แบ๊งค์ก็เลยตอบไปว่าไม่เป็นไร  เฮ้อ~~~วันนี้ทำไมมันน่าเบื่อจัง   ทั้ง ๆ ที่ก็เหมือนปกติ  เดิม ๆ มาโดยตลอด

แบ๊งค์ก็นั่งคิดอะไรไปเพลิน ๆ ครับ  แล้วก็มีสายเข้าอีกแล้ว   เบอร์ ๆ นี้แบ๊งค์ได้จัดเก็บไว้เรียบร้อย   เป็นเบอร์ที่แบ๊งค์ไม่อยากรับสายเลยจริง ๆ
.
.
.
“ครับ ๆ แล้วผมจะไปนะครับ”    แบ๊งค์ตอบออกไป  ก่อนจะวางสาย  เฮ้อ~~นี่มันอะไรกันอีกเนี่ย  ทุกอย่างกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ แท้ ๆ   ช่างเหอะ  ไม่อยากคิดอะไรแล้ว

“ไอ้ตัวเล็ก  มานี่หน่อยดิ”    โค้ชเรียกแบ๊งค์เข้าไปหาครับ   ซึ่งแน่นอนว่า  โค้ชจะให้แบ๊งค์  ไปช่วยเสิร์ฟน้ำให้นักกีฬาอีกแน่ ๆ ก็เล่นทำเป็นประจำจนเป็นอาชีพแล้วนี่  แบ๊งค์เลยเดินลงไปหาโค้ชครับ

“คงรู้นะ  ว่าดค้ชจะให้ทำอะไร”   โค้ชพูดแล้วยิ้ม ๆ ครับ

“ครับผม  เดี๋ยวแบ๊งค์เอาแก้วไปใส่น้ำก่อนนะครับ”    แบ๊งค์พูด

“ขอบคุณนะไอ้ตัวเล็ก”     โค้ชพูดครับ   แล้วแบ๊งค์ก็ทำตามหน้าที่เดิมเลยครับ  น้ำน้ำใส่แก้วไว้หลาย ๆ ใบ  แล้ววางบนถาด   ตอนนี้โค้ชสั่งพักแล้วครับ  แบ๊งค์ก็เลยเดินเอาน้ำเข้าไปเสิร์ฟ  พวกนักกีฬาก็หยิบ ๆ กันไป  เหมือนว่าจะมีรุ่นน้องอีกหนึ่งคนนะ  ที่เดินตามแบ๊งค์  แต่ว่าเค้ามีหน้าที่แจกผ้าไว้ซับเหงื่อน่ะ  เราก็ทำหน้าที่ของเราไป

“ว่าไงเด็กเสิร์ฟน้ำ”   ไอ้กาวแซวครับ

“งั้นเมริงไม่ต้องกินเลยมะ”    แบ๊งค์ทำท่างอน  ๆ ครับ

“เฮ้ย !!!!!  เดี๋ยว ๆอย่าแกล้งแบบนี้ดิ  กรูส์เหนื่อยนะเว้ย”    ไอ้กาวเดินตามมาเอาน้ำครับ

“อ่ะเอาไป   นี่เห็นว่าเหนื่อยหรอกนะเนี่ย”   แบ๊งค์แกล้งพูดไปครับ  ไอ้กาวก็รับน้ำแล้วเดินไปหาโค้ชไป

“ช่วยเสิร์ฟทางนี้ด้วยได้มั้ยครับ”   พี่อาร์ทพูดครับ  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา  แล้วยื่นแก้วให้

“เหนื่อยมากมั้ยเนี่ย”     แบ๊งค์ถามพลางยื่นแก้วให้

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก  แค่เหงื่ออกเต็มตัวก็เท่านั้นเอง”   พี่อาร์ทรับแก้วน้ำไป  แล้วพูดครับ

“อุตส่าห์เป็นห่วง  เข้ามาถามดี ๆ นะ”    แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ  แล้วจะเดินหนีไปครับ  แต่พี่อาร์ทคว้าแขนแบ๊งค์เอาไว้

“แฟนใครเนี่ย  ขี้งอนจังเลยนะ”    พี่อาร์ทพูด  แล้วเอามือลูบหัวแบ๊งค์เบา ๆ

“นี่ ๆ ไอ้ตรงนั้นน่ะ  ไอ้ประธานชมรมกับเด็กเสิร์ฟน้ำน่ะ  เลิกหวานกันได้แล้ว”   มีเสียงเพื่อนพี่อาร์ทแซวมาครับ  นักกีฬาทั้งหลายก็เลยโห่กันใหญ่เลยครับ

“พี่อาร์ทน่ะ  เห็นมั้ยโดนล้อเลย”    แบ๊งค์เอามือตบไปที่อกของพี่อาร์ทเบา ๆ

“อ่านะอย่าเพิ่งไปสิ”   พี่อาร์ทคว้าแขนแบ๊งค์ไว้อีกรอบ  เมื่อเห็นว่าแบ๊งค์จะเดินหนี

“ไม่เอาน่าพี่อาร์ท”   แล้วแบ๊งค์ก็รีบสะบัดแขน  แล้ววิ่งกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง  พวกเพื่อน ๆ พี่อาร์ทก็เลยได้โห่กันอีกรอบ   พี่อาร์ทเองก็ดูจะไม่ค่อยเขินเท่าไหร่  ยืนหัวเราะอยู่ได้

แล้วโค้ชก็เรียกนักกีฬาเข้าไปประชุมครับ  คุยเรื่องอะไรก็ไม่รู้  ปรับแผนการเล่น   หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ  อบ๊งค์เองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับเค้าเท่าไหร่หรอก  แล้วโค้ชก็ปล่อยให้ซ้อมกันอีกซักพัก  แล้วก็ปล่อยให้ทุกคนไปอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล  แล้วกลับบ้านได้  แบ๊งค์เหลือบมองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เป็นเวลาทุ่มกว่า ๆ ซะแล้วสิ

“แบ๊งค์  พี่นุ่นยังไม่มาอีกหรอ”   กาวซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้ว  เดินเข้ามาทักครับ

“พี่นุ่นไม่ว่างน่ะ  ก็เลยต้องกลับเอง”   แบ๊งค์พูด

“แล้วพี่อาร์ทล่ะ  ไม่ให้เค้าไปส่งหรอ”   กาวถามอีก

“ไม่รู้สิ  ไม่อยากรบกวนพี่เค้าน่ะ ป่ะ  เราไปกันดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูด

“เดี๋ยวสิ  เราว่าไปบอกพี่อาร์ทก่อนก็ดีนะ”    กาวพูดครับ  แล้วจูงแบ๊งค์เข้าไปหาพี่อาร์ท

“อ้าว  สองคนว่าไง”   พี่อาร์ททักขึ้น

“พี่อาร์ทครับ  คือแบ๊งค์มันกลับคอนโดไม่ได้น่ะ พี่นุ่นไม่ว่างไปส่ง  พี่อาร์ทไปส่งได้มั้ยครับ”   กาวพูด

“ไม่เป็นไรหรอกพี่อาร์ท  แบ๊งค์กลับเองได้”   แบ๊งค์พูด

“อืม.....พี่ก็อยากไปส่งนะครับ  แต่วันนี้พี่มีนัดน่ะสิ ไม่โกรธพี่นะครับ”   พี่อาร์ทพูด  แล้วเอามือลูบหัวแบ๊งค์

“ไม่หรอก  พี่อาร์ทรีบไปเหอะ  เดี๋ยวผิดนัดเค้าจะไม่ดีเปล่า ๆ นะ”   แบ๊งค์พูด

“พี่ไปก่อนนะครับ “   แล้วพี่อาร์ทก็รีบขับรถออกไป

“เห็นมั้ย  ไม่ต้องไปกวนพี่เค้าหรอกเรากลับเองก็ได้น่า”   แบ๊งค์หันไปพูดกับกาว

“อืม....ดูท่าทางแบ๊งค์จะรักพี่อาร์ทมากเลยเนอะ”   กาวพูด

“ใช่สิ  รักมากเลยล่ะเวลาเราอยู่ใกล้ ๆ เค้าแล้วเรามีความสุขมากเลย”

“อยากให้ช่วงเวลานี้อยู่ไปอีกนาน ๆ จัง”   แบ๊งค์พูด   แต่อยู่ดี ๆ ไอ้กาวก็เงียบไป  มันเดินก้มหน้า  เหมือนคิดอะไรอยู่  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปตบหัวมันเบา ๆ

“โอ้ยย  อะไรน่ะแบ๊งค์เราเจ็บนะ”   กาวโวยวายครับ

“ก็เมริงอ่ะ  มัวแต่คิดอะไรอยู่ได้ปล่อยให้กรูส์พูดคนเดียว”    แบ๊งค์พูด

“ก็คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะอย่าสนใจเลยไปรอรถกันเหอะ”   กาวพูดแล้วรีบเดินนำหน้าแบ๊งค์ไปเลยครับ   เล่นเอาแบ๊งค์วิ่งตามแทบไม่ทัน

“รีบไปไหนวะ  แฮ่ก ๆ”    แบ๊งค์พูดไปหอบไป

“กรูส์อยากรู้ไง  ว่าเมริงจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน”   สรุปว่ามันแกล้งกันหรอกหรอเนี่ย  เล่นเอากรูส์ซะเหนื่อยเลย  แล้วอีกซักพักใหญ่ ๆ รถก็มาพอดีครับ

“แบ๊งค์  เดี๋ยวกรูส์ขอเข้าไปก็อปเพลงในคอมเมริงหน่อยนะ”   กาวพูดตอนที่เราอยู่บนรถครับ

“อืม.....ได้สิ”   แบ๊งค์ตอบไป  พอถึงป้ายที่หน้าคอนโดของแบ๊งค์เราก็ลงรถไปด้วยกันครับ ดูเหมือนพี่นุ่นจะยังไม่กลับมานะเนี่ย  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ไขกุญแจเข้าไป  ภายในห้องมีแต่ความมืดมิด  แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนมีแสงแทนส่องมาครับ

“Happy Birthday to you”    เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นครับ  เหมือนจะไม่ได้มีแค่เสียงของคน ๆ เดียวนะเนี่ย  แต่เสียงเหล่านั้นฟังดูคุ้น ๆ ทั้งนั้นเลย   แสงเทียนที่ปักอยู่บนเค้ก ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้ามาหาแบ๊งค์  เมื่อจบเพลงแบ๊งค์ก็เป่าเทียนไป  แล้วแสงไฟก็สว่างขึ้น

พอไปเปิดขึ้นเท่านั้นแหละ  ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมากันเยอะได้ขนาดนี้  คนที่ถือเค้กมาให้แบ๊งค์คือพี่อาร์ทนั่นเอง  ส่วนคนที่คอยร้องเพลงก็คือ  พี่ตั้ม พี่ตี๋  พี่ปอย  พี่นุ่น  แมค  และก็ปรินซ์  เล่นเอาแบ๊งค์ตื้นตันจนน้ำตาไหลเลย

“ขี้แยอีกแล้วนะไอ้ตัวเล็ก”   พี่ตั้มเข้ามาเอามือขยี้หัวแบ๊งค์ครับ

“ไม่ยอมบอกกันเลยนะ  ว่าวันนี้เป็นวันเกิด”   พี่ปอยเข้ามาพูดบ้างครับ

“นั่นสิ  ถ้าเจ้าอาร์ทไม่บอกพวกเราก็คงไม่รู้ใช่มั้ยเนี่ย”   พี่ตี๋พูดขึ้นครับ   ที่แท้งานทั้งหมดนี้  พี่อาร์ทเป็นคนเตรียมการไว้ให้หรอกเนี่ย   มันยิ่งทำให้แบ๊งค์รู้สึกรักพี่อาร์ทมากขึ้นเลยล่ะ

“สุขสันต์วันเกิดนะขอให้มีความสุขมาก ๆ ล่ะขอให้เรียนเก่ง ๆ แล้วก็อย่าดื้อให้มันมากนักล่ะ”   คำอวพรพร้อมด้วย ของขวัญมากมาย  ทยอยเข้ามามอบให้แบ๊งค์   วันนี้เป็นวันที่แบ๊งค์รู้สึกดีอีกวันหนึ่งเลยจริง ๆ

“นายก็รับรู้กับแผนการนี้ด้วยใช่มั้ย”    แบ๊งค์เข้าไปกระซิบกับกาวครับ

“ไม่รู้สิ  เฮ้ยนั่น!!! น่ากินจัง”    ไอ้กาวทำไม่รู้ไม่ชี้  แล้วเปลี่ยนเรื่องไปหาของกินแทนครับ   ที่แท้ที่คุนทำเป็นไม่ว่าง  ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง  ทุกคนปลีกตัวมาช่วยจัดงานวันเกิดให้แบ๊งค์  รู้สึกดีจังที่ได้รู้จักกับทุก ๆ คน  มันยิ่งทำให้แบ๊งค์อยากอยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกนาน ๆ
.
.
.
แบ๊งค์ค่อย ๆ เดินออกไป  เพื่อที่จะกลับบ้าน   แต่สายตาก็ไปเจอกับครอบครัว ๆ หนึ่ง  ซึ่งแบ๊งค์คุ้นเคยดี

“อ้าว...แบ๊งค์  เป็นอะไรรึเปล่าลูกถึงได้มาที่นี่”   แม่ของพี่อาร์ททัก

“นั่นสิครับ  อาการหนักรึเปล่าดูหน้าซีด ๆ นะ”   พี่อาร์ททักขึ้นครับ

“ป่ะ....เปล่าครับ  แบ๊งค์แค่มาเยี่ยมเพื่อนน่ะครับ”   แบ๊งค์ตอบไป

“เพื่อนคนไหนน่ะ  พี่รู้จักรึเปล่าครับ”    พี่อาร์ทถาม

“ไม่หรอก  เป็นเพื่อนเก่าน่ะ  ที่ย้ายมาเรียนในกรุงเทพฯ เหมือนกัน”   แบ๊งค์ตอบออกไป

“แล้วนี่จะไปไหนหรอลูก”   พ่อพี่อาร์ทถามขึ้นบ้าง

“ก็จะกลับแล้วล่ะครับ”   แบ๊งค์พูด   

“อย่าเพิ่งกลับเลยดีกว่านะลุก  อยู่เป็นเพื่อนแม่ก่อน”  แม่ของพี่อาร์ทขอร้องครับ

“เอ่อ........”    แบ๊งค์ไม่รู้จะตอบอย่างไร

“พอดีวันนี้พ่อกับแม่มาตรวจสุขภาพประจำปีน่ะลูก”

“อยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่หน่อยนะ  อย่าขัดใจคนแก่เลย”    พ่อพี่อาร์ทพูดครับ

“ค.....ครับ”   แบ๊งค์เลยต้องจำใจอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้

“น้องแบ๊งค์ไม่เป็นอะไรแน่ ๆ นะครับ  หน้าตาดูซีด ๆ”   พี่อาร์ททักขึ้นครับ

“ไม่หรอก  หน้าแบ๊งค์ซีดขนาดนั้นเลยหรอ”  แบ๊งค์ถามกลับไป

“นั่นสิลูก  สงสัยอาร์ทเลี้ยงไม่ดีแน่ ๆ เลย มาอยู่กับแม่ดีกว่านะ”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ  แล้วเราก็หัวเราะด้วยกัน  ตอนนี้คุณลุงกับคุณป้าเข้าห้องตรวจไปแล้ว   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทก็เลยนั่งรออยู่ข้างหน้าห้องตรวจนั่นเอง

“รู้มั้ยครับเมื่อกี้พี่ตกใจมากเลย”  พี่อาร์ทพูด

“ตกใจ.....ตกใจเรื่องอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็เห็นแบ๊งค์อยู่ในโรงพยาบาลแถมยังหน้าซีด ๆ อีก”

“พี่ก็นึกว่าเราเป็นอะไรขึ้นมาน่ะสิ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่หรอกน่า  อย่าคิดมาก แบ๊งค์น่ะแข็งแรงอยู่แล้ว  เพราะแบ๊งค์มีแฟนเป็นยอดมนุษย์ไง”   แบ๊งค์ตอบไปโดยใช้คำพุดที่พี่อาร์ทชอบพูดบ่อย ๆ

“ขโมยมุกพี่ไปเล่นนะ”   พี่อาร์ทเอามือขยี้หัวแบ๊งค์เอา ๆ ครับ   เฮ้อ~~~ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ เลย  ยิ่งเห็นทุกคนดีกับแบ๊งค์แบบนี้  ก็ยิ่งไม่อยากทำให้ใครเป็นห่วงอีก   

แบ๊งค์ค่อย ๆ เอนหัวลงไปซบที่ไหล่ของพี่อาร์ท    พี่อาร์ทก็เลยเอามือมาโอบเอวแบ๊งค์เอาไว้   อยากอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ จัง
***********************************
อารายอ่ะ ชักแม่ง ๆแฮะ คิดไรแปลกๆงั้นนายแบงค์ ไม่ถูกใจอย่างแรง o9
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 12-07-2007 23:58:43
อยากให้เรื่องนี้ไม่มีเรื่องร้าย
 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-07-2007 00:17:15
แบ๊งค์ต้องป่วยเป็นอะไรสักอย่างแน่เลยอ่ะ
เริ่มพูดเป็นลางๆ แล้วเนี่ย  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-07-2007 03:07:52
ไม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลย  o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 13-07-2007 08:40:03
 :impress:

แบ็งค์อย่าเป็นไรไปนะ

ไม่งั้นพี่อาร์ทตายแน่เลย

ขอบคุณที่มาต่อ และจะรออ่านต่อไป

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-07-2007 09:53:15
แบงค์เป็นไรอ่ะ

หายไวๆๆ  น้า

ปล. ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆ อีกเลย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 13-07-2007 12:42:48
 :amen:อย่าบอกนะว่าแบงค์เป็นเนื้องอกในสมอง   :amen:

สุดท้ายเรื่องนี้จะจบลงด้วยความเศร้ารึป่าวเนี่ย

 :m15:กลัวจัง :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-07-2007 19:37:56
ลางร้ายมาอีกแล้ววววว  :m2:  :m2:  :m2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 13-07-2007 21:47:23
 :m7: :m7:
*******************************
บทที่ 64 คนแปลกหน้า...นายเองหรอ

ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ความสัมพันธ์ของแบ๊งค์กับคนรอบข้างเริ่มแน่นแฟ้นกันมากขึ้น  เราเข้าใจกันในหลาย ๆ เรื่อง  แบ๊งค์ไม่อยากละทิ้งความรู้สึกดี ๆ นี้ไปเลยจริง ๆ

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้แบ๊งค์ยังคาใจอยู่  นั่นคือนายโต้เป็นใคร  แบ๊งค์ยังคงไม่ลืมเรื่องนี้  ยังพยายามที่จะหาคำตอบให้ได้  ว่านายโต้เป็นใคร  แล้วที่เค้าเข้ามาคุยกับแบ๊งค์นั้นเค้าทำเพื่ออะไร   แต่ยิ่งค้นหา  ก็เหมือนยิ่งไกลออกไป 
ตอนนี้แบ๊งค์ไม่ได้ติดต่อกับนายโต้แล้ว  MSN นายโต้ก็ไม่ยอมออน  โทรศัพท์มือถือก็ไม่ยอมเปิด   แบ๊งค์ลองหลอกถามหลาย ๆ คน  ว่ามีใครที่ชื่อโต้หรือไม่   ทั้ง ๆ ที่รู้นะว่าชื่อนั้นมันไม่ใช่ชื่อของเค้าจริง ๆ ก็ตาม   อยากรู้จริง ๆ ว่าเค้าเป็นใคร
.
.
.
วันนี้แบ๊งค์มานั่งเล่นที่ข้างสนามบาสเหมือนเดิมครับ  วันนี้คนมาซ้อมไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่  คงเป็นเพราะใกล้สอบแล้ว   โค้ชก็ไม่ได้เคร่งอะไรมากมายด้วย  แบ๊งค์ก็เลยมานั่งเล่นเพลิน ๆ ไป  ก็มานั่งกับนายกาวนายปรินซ์นั่นแหละ   แต่ว่าตอนนี้ทั้งสองคนน่ะ วิ่งไล่ตามลูกบาสอยู่ในสนามกับพวกพี่อาร์ทโน่น
แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศีพท์ดังขึ้นครับ  แบ๊งค์ก็มองหาล่ะสิ  ว่าต้นเสียงมันมาจากไหน  อ๋อ...ที่แท้ก็มาจากกระเป๋านายกาวนั่นเอง

“กาว!!!!โทรศัพท์น่ะ”   แบ๊งค์ตะโกนไปบอกนายกาวที่อยู่ในสนาม

“รับไปก่อน  บอกว่าเราไม่ว่างนะ”   กาวตะโกนตอบกลับมาครับ  แบ๊งค์ก็เลยเอาโทรศัพท์มันออกมาแล้วรับสายไป

“ฮัลโหลครับ”    แบ๊งค์พูด

“อ่ะ....นั่นใครน่ะ”    ปลายสายถาม

“แบ๊งค์ครับ  เป็นเพื่อนกับกาวคือกาวเค้าไม่ว่างน่ะครับ  มีอะไรจะฝากบอกมั้ยครับ”    แบ๊งค์ถามกลับไป

“อ่อ...แบ๊งค์เองหรอ นี่พี่ก้องเองนะเป็นพี่ชายของกาว”   พี่ก้องแนะนำตัวครับ

“อ่ะ..ครับ ๆ”   แบ๊งค์ตอบ

“บอกกาวด้วยแล้วกัน  ว่าให้โทรกลับหาพี่แค่นี้นะ”   แล้วพี่ก้องก็วางสายไปครับ    เพิ่งรู้นะเนี่ย  ว่านายกาวน่ะมีพี่ชายกับเค้าด้วย  เอ...ว่าแต่ไอ้ประโยค ‘แบ๊งค์เองหรอ’  ที่พี่ก้องพูด  นี่มันหมายความว่ายังไงน่ะ  หรือว่าพี่ก้องรู้จักแบ๊งค์  ไม่นะ  ก็แบ๊งค์ไม่เคยเจอหน้าพี่ก้องนี่นา   

แล้วตอนที่กำลังจะเก็บโทรศัพท์นายกาวเข้าที่เดิมครับ  แบ๊งค์ก็เห็นภาพ wallpaper ของมันสวยดี ก็กะว่าจะขโมยน่ะ  เลยบอกมันไปก่อน

“กาว !!!!  แบ๊งค์ขอ Bluetooth รูปหน่อยนะ”     แบ๊งค์ขอมันครับ

“อืมเอาสิ”    ไอ้กาวอนุญาตแล้ว    มันพูดโดยไม่มองแบ๊งค์ด้วยนะ  ห่วงแต่เล่นบาสจริง ๆ นะนายคนนี้   แบ๊งค์ก็เลยนั่งเปิดดูรูปในเครื่องมันไปเรื่อย ๆ ครับ  เผื่อว่าเจอรูปสวย ๆ หรือเจอรูปตอนไอ้กาวมันรั่ว ๆ น่ะ  จะได้เอาไปประจานซะหน่อย
มีรูปรวมครอบครัวมันด้วย  พ่อกับแม่มันดูดีมาก ๆ เลยล่ะ   เพิ่งรู้นะเนี่ย  ว่ากาวมีพี่น้อง 3 คน  ดูท่าทางกาวจะเป็นคนกลางนะ  ก็ดูผู้ชายอีกคนดูเด็ก ๆ อยู่  ท่าทางจะเป็นน้องคนเล็กน่ะ  ส่วนอีกคน.....อืม  คงเป็นพี่ก้องคนที่โทรมาเมื่อกี้แน่ ๆ เลย  หล่อดีเหมือนกันนะเนี่ย  อิอิ

แล้วแบ๊งค์ก็ส่ง Bluetooth ภาพจนได้ครบตามที่ต้องการครับ   แบ๊งค์ก็เหลือบไปเห็น ชื่อเครือข่ายมือถือที่หน้าจอของมัน   ปกติกาวมันใช้ซิม AAA ค่ายเดียวกับแบ๊งค์นี่นา  ทำไมวันนี้เป็น XYZ ล่ะ  เปลี่ยนเบอร์หรอ  ไม่หรอกมั้ง  เพราะเมื่อวาน แบ๊งค์ยังโทรคุยกับมันที่เบอร์ของ AAA อยู่เลย  แอบใช้ 2 ซิมแน่ ๆ

อย่างนี้ต้องเก็บเบอร์นี้ไว้ซะหน่อยครับ   เอาไว้เวลาโทรจิกมันไม่ได้  แบ๊งค์จะได้โทรเข้าเบอร์นี้  ให้มันตกใจเล่น ๆ  ว่าแล้วแบ๊งค์ก็ทำการกดยิงเข้าเบอร์แบ๊งค์ทันทีครับ

แต่แล้วแบ๊งค์ก็ต้องตกใจอีกครั้ง  ตกใจมากถึงมากที่สุดด้วย  ก็เบอร์ที่กำลังโทรเข้าเครื่องแบ๊งค์ตอนนี้น่ะ  มันได้ถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องแบ๊งค์เรียบร้อยแล้ว   โดยไม่ได้จัดเก็บชื่อใครหรอก เป็นชื่อนายโต้นั่นเอง

นี่สรุปว่า  นายโต้เป็นกาวหรอกหรอเนี่ย  ความผูกพัน  ความหวังดี  ที่นายโต้มีให้แบ๊งค์เสมอมา  มันมาจากใจของกาวหรอเนี่ย   แล้วเรื่องที่นายโต้แอบรักเพื่อน........หรือว่ากาวจะแอบรักแบ๊งค์อีกคน  ไม่จริงหรอก....กาวคงไม่คิดกับมากเกินกว่าคำว่าเพื่อนแน่ ๆ

แต่พอแบ๊งค์ทบทวนดูเรื่องที่นายโต้เล่าให้ฟังในแต่ละครั้ง    จากเรื่องที่แบ๊งค์เคยมองว่าเป็นเรื่องของคนแปลกหน้า  ที่ไกลตัวเอามาก ๆ ก็กลับคืบคลานเข้ามาใกล้แบ๊งค์ไปเรื่อย ๆ  แล้วไหนยังจะมีเรื่องที่ทางเชื่อมตึกวันนั้นอีกล่ะ  นี่สรุปว่า  กาวคือคนแปลกหน้าคนนั้นจริง ๆ หรอเนี่ย  ไม่อยากเชื่อเลย

แบ๊งค์ตัดสินใจแล้วว่า  วันนี้แบ๊งค์กับกาวจะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง  แบ๊งค์ต้องรู้ให้ได้ว่ากาวทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร  แบ๊งค์เลยโทรไปบอกพี่นุ่นว่าแบ๊งค์จะไม่กลับด้วย  โดยอ้างว่าวันนี้มีธุระนัดกับเพื่อนเอาไว้

ตอนนี้แบ๊งค์นั่งเหม่อลอย  สายตาก็จับจ้องแต่นายกาว  ในหัวก็นึกถึงการกระทำของกาว  กับนายโต้สลับกันไปมา   แล้วยังนึกคำพูดที่จะใช้พูดกับนายกาวในอีกไม่ช้านี้อีกด้วย   ในที่สุดพวกนักกีฬาก็เลิกซ้อมกันแล้ว  ทุก ๆ คนทยอยกันไปอาบน้ำ   
ตอนนี้พี่อาร์ทอาบเสร็จแล้ว  นายกาวกับนายปรินซ์ก็ด้วย   แต่สองคนนั่นยืนคุยกันอยู่

“แบ๊งค์กลับคอนโดยังไงหรอครับวันนี้”    พี่อาร์ทถาม

“ก็คงกลับเองน่ะครับ”   แบ๊งค์ตอบไป แต่สายตาก็ยังคงเหลือบมองนายกาว

“กลับกับพี่มั้ยครับ  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”   พี่อาร์ทอาสาจะไปส่งครับ

“ไม่ต้องหรอกครับ  คือแบ๊งค์มีธุระนิดหน่อยน่ะ”   แบ๊งค์แกล้งตอบแล้วส่งยิ้มให้พี่อาร์ทไป  พี่อาร์ทก็เลย กลับไปขึ้นรถ  แล้วขับออกไป   ตอนนี้แบ๊งค์ยังคงจับจ้องอยู่ที่นายกาวและนายปรินซ์

“นั่นไง  แบ๊งค์อยู่นี่ ๆ เองผมกลับก่อนนะพี่กาว  หวัดดีครับ”   ปรินซ์บอกลากาว

“ระวัง ๆ ตัวด้วยนะ”   กาวพูดครับ

“เราไปก่อนนะแบ๊งค์”   แล้วปรินซ์ก็หันมาลาแบ๊งค์ครับ   แล้วนายปรินซ์ก็วิ่งออกไปอีกทาง  ตอนนี้ก็เหลือแบ๊งค์กับกาวสองคนแล้ว

“ป่ะแบ๊งค์กลับกันดีกว่านะ”   กาวพูดครับ  มันพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย

“กาว........เรามีเรื่องจะคุยกับนาย”   แบ๊งค์พูดออกไป

“เอาไว้คุยพรุ่งนี้ดีกว่านะ  ตอนนี้ดึกแล้ว”    กาวพูดครับ พร้อมกับเอามือมาโอบไหล่แบ๊งค์เอาไว้  แต่แบ๊งค์รีบสะบัดออก

“นายทำแบบนี้ทำไม”   แบ๊งค์พูด

“เราทำอะไรหรอ”   กาวคงยังไม่เข้าใจในสิ่งที่แบ๊งค์พูด

“นายคือคนแปลกหน้าใช่มั้ยกาว”    แบ๊งค์หันมาพูดกับกาวครับ   มันก็นิ่งไปซักพัก

“อ....อะไรกัน  คนแปลกหน้าอะไรหรอเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย”    กาวพยายามปฏิเสธ

“พอเถอะกาว  เรารู้หมดแล้วนายคงลืมเปลี่ยนซิมไปสินะ”    แบ๊งค์พูดครับ   แค่นั้นแหละ  ไอ้กาวมันก็รีบล้วงมือถือขึ้นมา  พอมันเห็นหน้าจอของมันเท่านั้นแหละ  มันก็ทำท่าตกใจ

“นายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร  นายบอกเราสิ”    แบ๊งค์ถามย้ำอีกครั้ง

“...............................”   ไอ้กาวเริ่มก้มหน้าลง  มันนิ่งเงียบไปครับ

“ทำไมนายไม่แสดงตัวออกมาล่ะแสดงตัวว่านายเป็นใคร”   แบ๊งค์ตะคอกออกไป

“แบ๊งค์จะให้เราบอกว่าเรารักแบ๊งค์ทั้ง ๆ ที่แบ๊งค์มีพี่อาร์ทอยู่อย่างนั้นน่ะหรอ”   กาวมันพูดตอบกลับมาครับ  เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเหมือนกัน    ไอ้กาวแองก็ดูตกใจกับคำพูดที่มันพูดออกมาเหมือนกัน

“ฮะฮะฮะ   ในที่สุดก็หลุดปากออกไปจนได้”   กาวพูดครับ  ตอนนี้น้ำตามันค่อย  ๆ ไหลออกมาแล้ว

“ทั้ง ๆ ที่เคยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่บอกแล้วแท้ ๆเรานี่มันไม่ได้เรื่องเลย”     กาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้น  แล้วค่อย ๆ ร้องไห้ออกมาครับ

“กาว...........”   แบ๊งค์เรียกชื่อมันเบา ๆ

“ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ทำไมนะ  ทำไมใจมันก็ยังฝืน   ทำไมเราถึงห้ามใจไม่ได้”   กาวพล่ามออกมา

“......................”   แบ๊งค์ได้แต่เงียบครับ

“อุตส่าห์ได้มีความสุข  กับการมองแบ๊งค์อยู่ห่าง ๆอุตส่าห์ได้เป็นนายโต้  คนที่ไม่มีตัวตนแล้วแท้ ๆแต่ผลสุดท้ายก็ล้มเหลว  ถูกเปิดเผยจนได้  เรานี่มันบ้าจริง ๆ”  เมื่อพูดจบ  กาวก็เงียบลงอีกครั้ง

“กาว.........”    แบ๊งค์ค่อย ๆ  ลงไปนั่งอยู่หน้ามัน  แล้วเอามือแตะที่ไหล่มัน  แต่ก็ถูกมันปัดออกครับ

“แบ๊งค์เข้าใจมั้ย ว่าเรารักแบ๊งค์  เรารักแบ๊งค์รักมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน  รัก ๆๆๆ  รักทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้”   มันตะโกนออกมาครับ  แล้วก็วิ่งหนีไปทางหน้ามหาวิทยาลัยครับ

“กาวเดี๋ยวก่อน!!!!!”    แบ๊งค์พยายามวิ่งตามมันไปครับ  แต่มันวิ่งเร็วมากเลย  คงเพราะว่าเป็นนักกีฬาด้วยล่ะมั้ง  แล้วมันก็ขึ้นแท็กซี่หนีออกไปเลย

“กาว................”  แบ๊งค์เรียกชื่อมัน  พลางยืนหอบอยู่หน้ามหาวิทยาลัย
.
.
.
ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ ๆ 1 อาทิตย์แล้วจากเหตุการณ์ในวันนั้น  และก็เป็นเวลาเกือบ ๆ 1 อาทิตย์เหมือนกันที่กาวหายหน้าไปจากมหาวิทยาลัย

“มีใครรู้มั่งน่ะ  ว่าพี่กาวหายไปไหน”   ปรินซ์ถามขึ้นครับ

“ไม่รู้สิ  ไม่เจอหน้ามันเป็นอาทิตย์แล้ว  โทรไปมันก็ไม่รับสาย”   แมคบ่นครับ

“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าแบ๊งค์”   พี่ตั้มหันมาถาม

“ม.....ไม่รู้สิ  ก็เห็นมันปกตินะ”    แบ๊งค์พูด

“เฮ้อ~~~มันหายไปไหนของมันนะ  ใกล้จะสอบแล้วด้วยสิ”   แมคบ่นครับ   ใช่สิ  ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบแล้ว  ถ้าขืนกาวยังขาดอยู่อย่างนี้มีหวัง  ได้ F แน่ ๆ ทำไงดีนะ

“นี่ ๆ มีใครรู้จักบ้านไอ้กาวมั่งอ่ะ”   แบ๊งค์ถามไปครับ

“ก็รู้จักนะ  แต่ไม่เคยไปน่ะ”   ปรินซ์พูดครับ    แล้วเจ้าปรินซ์มันก็อธิบายทางไปบ้านกาวให้แบ๊งค์ฟัง  จนแบ๊งค์เข้าใจน่ะแหละ

“แบ๊งค์ถามไปทำไมหรอ”   พี่ตั้มถามครับ

“ก็เผื่อถ้าแบ๊งค์ว่าง ๆ แบ๊งค์จะได้ไปตามมันไง”    แบ๊งค์ตอบ

“อืม....ไงก็ฝากด้วยนะแบ๊งค์เพราะแบ๊งค์น่ะ  สนิทกับมันที่สุดแล้ว”   แมคพูด  สนิทหรอ   เพื่อสนิท....คำ ๆ นี้สินะ  ที่แบ๊งค์มอบให้กาว  และเป็นคำที่คอยทิ่มแทงทำร้ายจิตใจกาวตลอดมา
.
.
.
วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดครับ   แบ๊งค์เลยตัดสินใจ  ไปบ้านนายกาว  ตามทางที่นายปรินซ์เล่าให้ฟัง    แบ๊งค์ออกจากคอนโดตั้งแต่ 8 โมงกว่า ๆ ครับ  เพราะรู้แน่ ๆ ว่าต้องหลง  แล้วก็เป็นจริง ๆ อย่างที่คิดไว้นั่นแหละ   ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว   แบ๊งค์ยังหาบ้านนายกาวไม่เจอเลย เฮ้อ~~ทำไมบ้านหายากแบบนี้นะ   ตอนนี้แบ๊งค์แวะซื้อชาเขียวดื่มเติมพลังที่เซเว่นครับ

“ครับพี่ก้อง  เดี๋ยวกายก็กลับแล้วล่ะครับตอนนี้ก็ซื้อของเพิ่งเสร็จน่ะครับ”   เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ท่าทางคุ้น ๆ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ

“แล้วพี่กาวล่ะ  เป็นไงบ้างเฮ้อ~~~เป็นห่วงจังไม่รู้ไปเจอปัญหาอะไร”   เด็กผู้ชายคนนั้นพูดชื่อกาวครับ   แค่นั้นแหละ  แบ๊งค์ก็นึกขึ้นได้  ว่าเด็กผู้ชายคนนี้  คือคนที่อยู่ในรูปรวมครอบครัว  ที่อยู่ในโทรศัพท์ของไอ้กาว  เป็นน้องชายของกาวแน่ ๆ  พอน้องเค้าวางสายไป  แบ๊งค์ก็รีบเข้าไปเลยครับ

“เอ่อ.....น้องครับ”  แบ๊งค์พูด

“ครับ......”    น้องเค้าหันมาตอบกับแบ๊งค์พลางมองหน้าแบ๊งค์

“คือพี่เป็นเพื่อนของกาวนะ  คือพี่......”    แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไร

“พี่แบ๊งค์    พี่แบ๊งค์เพื่อนพี่กาวใช่มั้ยครับกายเคยเห็นรูปในมือถือพี่กาว”     น้องกายทักแบ๊งค์ขึ้นครับ  แบ๊งค์เลยได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบไป    แล้วเราก็ได้คุยกันครับ  คือน้องเค้าเพิ่งกลับจากบ้านเพื่อนน่ะ  ก็เลยมาแวะซื้อของ 
ส่วนที่จำแบ๊งค์ได้  ก็เป็นเพราะว่า   น้องกายชอบยืมมือถือกาวไปเล่น  แล้วเห็นรูปแบ๊งค์   แล้วในคอมของไอ้กาวก็มีรูปแบ๊งค์อยู่ด้วย   กายก็เลยถามกาวไปว่าเป็นใคร   ก็เลยรู้จักแบ๊งค์  ส่วนเรื่องอาการของไอ้กาวตอนนี้น่ะหรอ  กายบอกว่า กาวเป็นอะไรก็ไม่รู้  ไม่ยอมทานข้าว  ไม่ยอมพูดอะไรกับใคร   และก็ไม่ยอมไปเรียนด้วย

น้องกายบอกครับ  ว่าพ่อกับแม่ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด   พี่ก้อง  กาว และก็น้องกาย  เลยต้องอยู่กันเอง 3 พี่น้อง    แล้วในที่สุดก็มาถึงบ้านไอ้กาวซักที  แบ๊งค์รู้สึกเหมือนว่าแบ๊งค์จะเคยเดินผ่านบ้านหลังนี้ไปแล้วนะ  หุหุ   หลงจนได้นะกรูส์

“พี่ก้องครับ  กายกลับมาแล้ว”   น้องกายตะโกนบอกพี่ก้องครับ

“อืม....กลับมาแล้วหรอ อ้าว......แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ  เพื่อนคนไหนอีก ไม่เคยเห็นหน้า”  พี่ก้องพูดครับ  แบ๊งค์เลยยกมือไหว้พี่ก้องไป

“เพื่อนน่ะใช่ครับ  แต่เพื่อนพี่กาวเค้าหรอก”   น้องกายแนะนำครับ

“แบ๊งค์เองครับ”   แบ๊งค์แนะนำตัวไป

“อ่อแบ๊งค์เองหรอ  เห็นตัวเล็ก ๆ  นึกว่าเพื่อนกายเค้าน่ะ”   พี่ก้องแซวมาครับ เราก็เลยหัวเรากัน  จะว่าไปก็จริง ๆ นะ  เด็กสมัยนี้โตไวโคตร ๆ  ดูอย่างน้องกายนี่สิ  เห็นว่าอยู่แค่ ม.4 เอง  ตัวสูงกว่าแบ๊งค์ไปตั้งแยะ   เฮ้อ~~~ความสูงของชั้น  ได้แค่นี้เองหรอเนี่ย

“ขึ้นไปดูกาวมันหน่อยป่ะ  อยู่ข้างบนน่ะ”    พี่ก้องบอกครับ   แบ๊งค์ก็เลยขออนุญาตเดินขึ้นไปดูกาวที่ข้างบนห้องครับ   

ชั้นบนของบ้านกาวมีอยู่ 5 ห้องครับ  เป็นห้องอะไรบ้างแบ๊งค์ก็ไม่รู้หรอกนะ  แต่มีอยู่ 3 ห้องที่มีป้ายชื่อแขวนอยู่  ห้องแรก  ห้องพี่ก้อง   ห้องที่สอง มีรูปติดอยู่ด้วย  ห้องน้องกายนั่นเองแล้วก็ห้องที่ 3  ไม่ใช่ห้องใครอื่นหรอกครับ  ห้องนายกาวนั่นเอง

แบ๊งค์ค่อย ๆ บิดลูกปิดประตูเข้าไป  ดูเหมือนห้องมันจะไม่ได้ลอคนะ   แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปครับ  ภายในห้องมันน่ะหรอ  มือมากมายเลย  คงเพราะมันเอาผ้าม่านลงด้วยมั้ง

“พี่ก้องหรือกายล่ะบอกแล้วว่าไม่หิว  ไม่ต้องขึ้นมาตามหรอก”   ไอ้กาวครับ  มันนอนอยู่บนที่นอน  เอาผ้าห่มคลุมโปงอยู่   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ปิดประตู  แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ มัน

“ไม่เอาน่า  บอกแล้วว่าไม่หิวจริง ๆ “    แล้วไอ้กาวก็โผ ลุกขึ้นมานั่งครับ  พอมันเห็นหน้าแบ๊งค์เท่านั้นแหละ  มันตกใจใหญ่เลย

“แบ๊งค์!!!!  มาได้ไงน่ะ”    กาวพูดครับ

“กรูส์คงใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่มามั้ง”    แบ๊งค์ตอบไป  หากเป็นเมื่อก่อน  เราสองคนคงจะหัวเราะด้วยกัน  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่  กาวนั่งก้มหน้านิ่ง ๆ เงียบ ๆ

“กาว....เป็นอะไรไปน่ะทำไมไม่ไปเรียน   กรูส์เป็นห่วงมากรู้มั้ย”    แบ๊งค์พูดครับ

“แบ๊งค์อย่ามาห่วงเราเลย  ไปห่วงคนอื่นที่แบ๊งค์รักดีกว่านะ”   กาวพูดครับ

“กาว....ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ  กรูส์เป็นห่วงเมริงจริง ๆ นะเว้ย”    แบ๊งค์พูดกับมัน

“เราไม่กล้าน่ะ  ไม่กล้าที่จะสู้หน้าแบ๊งค์”   กาวพูดครับ

“แล้วไงล่ะ   ตอนนี้เราก็อยู่หน้ากาวแล้วไงเราก็ยังพูดคุยกันได้เหมือนเมื่อก่อน”       แบ๊งค์พูด

“ไม่หรอกแบ๊งค์  การกระทำมันเหมือนเมื่อก่อนก็จริง  แต่เรา......แต่เราเลิกรักแบ๊งค์ไม่ได้หรอก”    กาวพูดครับ

“กาว.............”    แบ๊งค์เอื้อมมือไปแตะไหล่มันครับ

“แบ๊งค์รู้นะว่ากาวรักแบ๊งค์     แต่แบ๊งค์คงให้กาวไม่ได้มากกว่านี้แบ๊งค์ไม่อยากรักกาวแบบคนรักหรอกนะ  แบ๊งค์อยากรักกาวในแบบเพื่อนมากกว่าหวังว่ากาวคงเข้าใจนะ”    แบ๊งค์พูดครับ

“อืม....เราเข้าใจ   เราก็รู้   แต่เราทำใจไม่ได้ก็เท่านั้น”    กาวมันก้มหน้าพูดครับ

“กาว....อย่าทำแบบนี้สิ   อย่าให้คำว่าเพื่อนต้องมาพังลงด้วยคำว่ารักสิ”    แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์.......เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ย”   กาวพูด

“ใช่สิ   ไม่ว่ายังไง  นายก็ยังเป็นเพื่อนเราเสมอแหละ”    แบ๊งค์ตอบกลับไป

“ขอบคุณนะ”  กาวพูดครับ   แบ๊งค์เลยขยับเข้าไปโผกอดมัน    แบ๊งค์กอดมันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้  มันเองก็กอดแบ๊งค์ตอบเหมือนกัน   

จากนั้นแบ๊งค์ก็ผละออก  แล้วค่อย ๆ เช็ดคราบน้ำตา ที่ไหลอาบแก้มมันอยู่

“แบ๊งค์...........”    ไอ้กาวมันเรียกแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหันหน้าไปมองมัน   ตอนนี้เราสองคนจ้องตากันอยู่   ไอ้กาวค่อย ๆ เลื่อนหัวลงมา เหมือนว่ากำลังจะประกบจูบกับแบ๊งค์    แต่แล้วมันก็เบี่ยงหน้าออกไป

“ไม่ ๆๆ  เราเป็นเพื่อนกัน เราต้องไม่ทำแบบนี้”   กาวมันบ่นออกมาครับ

“กาว..........”   แบ๊งค์เรียกมันครับ  พอมันหันมา   แบ๊งค์ก็ประกบปากจูบมันในทันที  มันก็ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกัน   แต่แล้วมันก็เคลิ้มไปกับจูบของแบ๊งค์  มันค่อย ๆ ดันลิ้นสอดเข้ามาในปากของแบ๊งค์   เราดื่มด่ำกับรสจูบอยู่อย่างนั้นซักพัก  แล้วแบ๊งค์ก็ผละออก

“ให้ทุกอย่าง  มันหายไปกับจูบเมื่อกี้นะแล้วหลังการจูบเมื่อกี้  เราขอให้ทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่นะ”    แบ๊งค์พูด

“อืม....มิตรภาพใหม่ของเรา”    กาวพูด  แล้วมันก็ยื่นมือมาให้แบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์ก็เลยจับมือมันเอาไว้

“อืม....มิตรภาพใหม่ของเรา........”   แบ๊งค์พูด
****************************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-07-2007 22:00:59
มิตรภาพใหม่  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 13-07-2007 22:34:13
 :impress:

ผ่านไปได้ด้วยดี

ก่อเกิดมิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อน.....

รออ่านต่อไปนะครับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-07-2007 22:43:04
คำว่ามิตรภาพของคำว่าเพื่อนมั่นคงและยืนยาวเสมอ
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-07-2007 22:48:49
ตอนนี้ก็บอกรักกันครบทุกคนแล้ว ต่อไปคงไม่มีเรื่องเสร้าอีกนะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 13-07-2007 23:29:34
 o7 ตอนนี้ซึ้งมากๆๆๆๆๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-07-2007 12:57:12
ปัญหาแก้ไปทีละเปลาะ

หรือปัญหาใหญ่สุดท้ายยยย

ทำใจไม่ได้

หรือจะเลิกอ่านไปเลยดีหวา

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 14-07-2007 13:19:26
เหลือปัญหาสุดท้ายคือแบงค์ป่วยเป็นอะไร :confuse: :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 14-07-2007 17:38:35
เพื่อนเท่านั้น...แต่เป็นเพื่อนกันตลอดไป  :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-07-2007 13:50:40
เป็นงี้ก้อลุ้นกาวไม่ขึ้นแล้วดิ

เซงงงงงงงงงง

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 15-07-2007 19:52:35
 :serius2: :serius2: อย่าเพิ่งเลิกอ่านนะคับ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน  ชักจะไม่ดีซะแล้ว :sad4:
*********************************
บทที่ 65 ใกล้สอบ ใกล้ความจริง

ช่วงนี้ก็ใกล้สอบเข้ามาทุกที ๆ แล้ว  กิจกรรมทุกอย่างได้งดไปหมดแล้ว  โดยพวกเราเปลี่ยนมาช่วยกันติวแทน   เมื่อถึงเวลาพักหรือ  มีเวลาว่างเมื่อไหร่  เราก็จะมาช่วยกันติว  ในวิชาที่อีกฝ่ายไม่ถนัด 

โดยเฉพาะนายกาว   เพราะนายกาวเนี่ยขาดเรียนไปเป็นอาทิตย์ ๆ ทำให้ค่อนข้างช้ากว่าคนอื่น ๆ  พวกเพื่อน ๆ ก็เลยต้องทุกทเติวให้นายกาวมากเป็นพิเศษ

“เฮ้ย ตรงนี้มันมาได้ไงอ่ะ”   ไอ้กาวถามครับ

“ก็ ajvs;fk;sgfuakg;sjflajf; ajfidsust[sstwrw]r ไง  “   ไอ้แมคอธิบายครับ   คนอะไรก็ไม่รู้เก่งจริง ๆ เลย   จะว่าไปแบ๊งค์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกนะ  อาศัยที่ไอ้แมคมาช่วยติวให้นายกาวเนี่ยแหละ

“นี่ ๆ ถามหน่อยดิ  ผมไม่เข้าใจตรงนี้น่ะ”   ปรินซ์ถามครับ  แบ๊งค์เลยต้องอธิบายไป   เหมือนว่าแบ๊งค์อยู่ปีหนึ่งเลยนะ  ทั้งที่ความจริงแล้วแบ๊งค์อยู่ปี 2 น่ะ  แหะ ๆ ก็คนมันไม่เก่งนี่นา  อธิบายได้แต่เรื่องที่เคยเกือบตก ก็เท่านั้นแหละ

“พี่ตั้มเค้ามีสอบวันไหนมั่งหรอ”   กาวถามครับ

“ก็ไม่ตรงกับพวกเราเลยน่ะ  คงไม่ได้เจอหน้ากันซักพัก”   แมคตอบครับ

“เสียดายจังเนอะ  คิดถึงแย่เลย  แล้วพี่อาร์ทล่ะ”   ปรินซ์พูด  แล้วหันมาถามทางแบ๊งค์ครับ

“ก็มีสอบไม่กี่ตัวน่ะ   มีบางตัวเท่านั้นแหละ ที่ตรงกับพวกเรา”   แบ๊งค์ตอบไปครับ   แล้วพวกเราก็นั่งติวกันต่อ

ช่วงนี้ที่มหาวิทยาลัยดูเงียบมากมาย   หันไปทางไหนก็เจอแต่คนนั่งอ่านหนังสือ  บางคนก็นั่งอ่านเดี่ยว ๆ คนเดียว  บางคนก็อ่านกันเป็นกลุ่ม  ถึงในกลุ่มจะมีคนมากมายก็เหอะ  ไม่เห็นมีเสียงเล็ดลอดออกมาซักแอะ

“เดี๋ยวกรูส์ไปซื้อน้ำ  เอาอะไรเปล่า”   กาวถามครับ

“รอก่อน ๆ แบ๊งค์ไปด้วย”   แล้วแบ๊งค์กับกาวก็ลุกไปซื้อของด้วยกันครับ   ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาแบ๊งค์กับกาวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม  โดยทิ้งเรื่องราวทุกอย่างไว้ข้างหลัง  ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน  ไม่มีอะไรมากมายไปกว่านี้แล้ว   

ส่วนไอ้เมลล์คนแปลกหน้าน่ะหรอ  เราก็ยังคงใช้ติดต่อกันเหมือนปกตินะ  เพียงแค่ว่านายกาวไปเปลี่ยนชื่อทอปปิคใหม่แล้วก็เท่านั้น  ดีใจจังที่เรื่องทั้งหมดคลี่คลายลงได้

แล้วปริศนาทุกอย่างที่คาใจแบ๊งค์ก็เริ่มจางหายไปหมด  ทั้งเรื่องของนายโต้  และเรื่องที่นายปรินซ์เคยทายไว้  ว่ามีคนที่ชอบแบ๊งค์อีก 2 คน  ที่แท้ก็เป็นพี่ตั้มกับนายกาวนี่เอง  เฮ้อ~~ผ่านไปได้ซะทีนะ  ตอนนี้ก็เหลือแค่การสอบเนี่ยแหละ   ไม่รู้จะผ่านมันไปได้รึเปล่า

“แบ๊งค์จะเอาอะไรเพิ่มมั้ย”      กาวถามเมื่อเรามาถึงร้านขายขนมครับ

“แบ๊งค์เอาชาเขียวก็แล้วกัน  แล้วก็เอาขนมเพิ่มอีกซัก 2-3 อย่างนะเอาไปแค่นี้ไม่พอหรอก”   แบ๊งค์พูดครับ

“อืม....นั่นสิ   ท่าทางจะไม่พอจริง ๆ”    กาวพูด แล้วหยิบขนมมาอีก 2-3 ถุง  แล้วเราก็ไปจ่ายเงินกันครับ  ได้ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะสิ   ก็เรื่องเงินเนี่ยแหละ  แบ๊งค์จะจ่าย  ไอ้กาวก็ขัด  ก็เลยต้องใช้วิธีโบราณสุดคลาสสิคตัดสินไป   เป่ายิ้งฉุบไงล่ะ

“บอกแล้วให้แบ๊งค์จ่ายตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องจะได้ไม่ต้องมาใช้วิธีปัญญาอ่อนแบบนี้ตัดสิน”   แบ๊งค์พูด

“ก็เราเกรงใจแบ๊งค์นี่นา  อยากเลี้ยงขนมแบ๊งค์บ้าง”  กาวพูดครับ

“พอ ๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอก  เพื่อนกันน่า”    แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปกอดคอมัน

“อืมใช่   ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา”    กาวพูดครับ  แล้วเราก็เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ

“นี่แบ๊งค์เราเป็นเพื่อนกันใช่มั้ย”   กาวพูด

“ก็ใช่ไง ทำไมหรอ”   แบ๊งค์ถามกลับ

“งั้นเราขอหอมแก้มแบ๊งค์ทีนึงดิ”   ไอ้กาวทำหน้าหื่น ๆ ครับ

“จะบ้าหรอกาว   ลามกว่ะ”    แบ๊งค์พูด

“ล้อเล่นน่า  คิดมาก  ว่าแต่จะอายทำไมวะ”  กาวพูด

“อะไร ๆ ใครอาย  ไม่เห็นมีเลย”   แบ๊งค์แกล้งแถไปเรื่อย ๆ ครับ   แล้วเราก็มาถึงที่โต๊ะกัน

“สนุกสนานกันจังนะ”   แมคแซวครับ

“จะเครียดไปทำไมละแมค  เครียดมาก ๆ หน้าจะแก่นะ”   แบ๊งค์ตอบไป

“แล้วตอนที่ติด F อย่ามานั่งเครียดก็แล้วกัน”   แมคพูดครับ

“อ้าววววว  เวงมาแช่งกรูส์ซะงั้น”   แบ๊งค์พูด

“เลิกเถียงกันได้แล้วครับ  หาอะไรมาเติมพลังดีกว่านะ”  ปรินซ์พูดครับ

“ไอ้นี่ก็เอาแต่กินนะ”  กาวพูดครับ

“ก็เค้าเป็นเด็กกำลังโตนี่นา ใช่มั้ยแบ๊งค์“   แล้วปรินซ์ก็เข้ามาซบที่ไหล่แบ๊งค์ครับ

“พอ ๆๆ  เลิกทะเลาะกันได้แล้วพักกินอะไรก่อน  เดี๋ยวจะได้ติวกันต่อ”   แบ๊งค์พูด แล้วทุกคนก็ลงกินขนมที่ซื้อมากันใหญ่เลย  ใช้สมองไปมากคงเครียดน่าดูล่ะสิ 
.
.
.
แล้วสัปดาห์แห่งการสอบอันเคร่งเครียดก็ผ่านพ้นไปครับ  เหนื่อยแทบตายแน่ะ  กว่าจะสอบเสร็จ 

“แบ๊งค์วันนี้มีฉลองที่ไหนรึเปล่า”   กาวถามครับ

“ไม่มีน่ะ  ไม่มีคนชวนเลย”   แบ๊งค์ตอบ

“ไปฉลองกับพวกเรามั้ย  เดี๋ยวรอเจ้าปรินซ์สอบอีกซักแปปก็ไปกันแล้ว”   แมคชวนครับ

“อืม....เอาอย่างนั้นก็ได้”   แบ๊งค์ตอบไปครับ    แล้วเราก็ไปนั่งเล่นที่สนามบาสเพื่อรอเจ้าปรินซ์สอบเสร็จ   กาวกับแมคก็เล่นบาสกันไป   ส่วนแบ๊งค์น่ะหรอ  ก็นั่งฟังเพลง  ตามที่เคยทำอยู่นั่นแหละ   โทรศัพท์ของแบ๊งค์ดังขึ้นอีกแล้วครับ  เบอร์นี้อีกแล้วหรอเนี่ย

“ฮัลโหลครับ”    แบ๊งค์รับสายไปอย่างหวั่น ๆ
.
.
.
“อ้าว...อยู่นี่ ๆ เอง”  ปรินซ์มาแล้วครับ    แบ๊งค์เลยรีบวางสายไป 

“ป่ะแบ๊งค์ไปกันได้แล้ว”    กาวเรียกครับ   แบ๊งค์เลยเก็บของแล้วเดินตามไป  วันนี้แมคกับกาวมันเลี้ยงคาราโอเกะครับ   บอกว่าจะเลี้ยงฉลองสอบเสร็จน่ะ

พอไปถึงคนที่เปิดประเดิมไมค์คนแรก  ก็ไม่ใช่ใครอื่นหรอก  เจ้าหอกเจ้าปรินซ์นั่นเอง  ไม่เปิดโอกาสเลยนะ  ปรินซ์มันร้องเพลงทั่วไปเนี่ยแหละครับ  ก็เพลงที่กำลังดังติดชาร์จนั่นแหละ

“พอ ๆ ให้ไอ้กาวมั่ง  เมริงร้องมาเป็นสิบเพลงแล้ว”   แมคบอกให้ปรินส์หยุดครับ

“นั่นสิ  เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน “  ปรินซ์พูดแล้วดื่มน้ำครับ  จากนั้นมันก็มานอนที่ตักของแบ๊งค์

“เหนื่อยมากล่ะสิ “   แบ๊งค์ก้มลงไปพูดกับมันครับ

“นิดหน่อยน่ะ  ฉลองสอบเสร็จ”   ปรินซ์พูดครับ    แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมา  เพราะ intro  เพลง ๆ นี้ เป็นเพลงที่แบ๊งค์คุ้นเคย   เพลงเพื่อนรัก  รักเพื่อนนั่นเองครับ   ไอ้กาวมันร้องเพลงนี้หรอเนี่ย


เมื่อเพื่อนรักกลายเป็นว่ารักเพื่อน
ฟังแล้วดูเหมือนว่าใกล้กัน
จริงจริงแล้วคำนั้นมันห่างไกล
เมื่อความรักฉันเป็นเหมือนอากาศ
ที่คอยเคียงข้างเธอเรื่อยไป
ไม่เคยเห็นเลยใช่ไหม ว่าใครรักเธอ


ตอนมันร้องท่อนนี้  แบ๊งค์รู้สึกยังไงก็ไม่รู้สิ   แบ๊งค์นั่งมองไปที่มันตลอด  แต่มันไม่ยอมมองมาที่แบ๊งค์เลย  ตอนนี้ตามันดูใส ๆ อีกซักพัก น้ำตามันคงไหลแน่ ๆ

“อย่าทำซึ้งดิวะ”   แบ๊งค์แกล้วผลักหัวมันครับ  มันก็เลยหันมาหัวเราะคืน   มันคงไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ    แล้วพวกเราก็ร้องเพลงอยู่หลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน

ในที่สุดก็ได้เวลากลับซะที   ขณะที่แบ๊งค์กำลังเดินออกมา  อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกมึน ๆ หัวครับ  เหมือนจะเซล้มไป  แต่ไอ้กาวเข้ามารับไว้

“แบ๊งค์!!!”   ไอ้กาวเรียกชื่อแบ๊งค์ครับ  เหมือนปรินซ์กับแมคจะได้ยิน  เลยรีบเข้ามาช่วย

“แบ๊งค์เป็นอะไรไปน่ะ”    แมคเข้ามาถามครับ

“ไม่มีอะไรหรอก   มึนหัวนิดหน่อยน่ะ”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ยืนขึ้นครับ

“ไม่เป็นไรแน่นะแบ๊งค์”   ปรินซ์ถามครับ

“อืม...คงเป็นเพราะข้างในนั้นมันมืด  แล้วที่ตรงนี้มันสว่างน่ะก็เลยมึน ๆ” แบ๊งค์ตอบไป    แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับครับ  แบ๊งค์ค่อย ๆ ขึ้นลิฟต์ไป   แล้วพอเปิดประตูห้องได้  แบ๊งค์เข้าไปล้มนอนบนเตียงเลย

เฮ้อ~~~จะทำไงต่อไปดีเนี่ย   จะบอกหรือไม่บอกดีนะ  ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ต้องไม่ดีแน่ ๆ เลย  แบ๊งค์พลิกตัวมานอนหงาย  รู้สึกคัดจมูกยังไงก็ไม่รู้  แบ๊งค์เลยเอามือไปคลำ ๆ  ปราฏกว่าเป็นเลือดที่ไหลออกมา

“นี่เราเลือดกำเดาไหลอกีแล้วหรอ ฮะฮะฮะ”   แบ๊งค์พูดกับตัวเอง  แล้วค่อย ๆ หลับตาลง   แบ๊งค์อยากจะหลับไป  ไม่ต้องรับรู้อะไร  อยากที่จะหลับไปตลอดกาล
************************
 :bye2:

   
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-07-2007 20:07:57
แบงค์ป่วยเป็นอะไรกันแน่ ทำไมเลือดกำเดาไหลตลอดเลย  :confuse:

ไม่อยากให้เศร้าอีกเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-07-2007 20:13:46
ไม่นะ อย่าเศร้าเลย  :serius2:  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-07-2007 20:19:58
เป็นอะไรอ่า

แบงค์เป็นอารายยยยย :serius2: :serius2: :serius2:



แล้วเบอร์ที่โทรมาอ่ะครายยยย
หมอโทรตามตัวป่าว
รีบรักษานะ :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 15-07-2007 20:45:10
จะเป็นโรคเดียวกะอึนโซป่าวหนิ คงไม่นะ  o9
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-07-2007 20:48:24
แบงค์ ไปหาหมอเซ่     :o o12 o12 o12 o12 o12 :o
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 15-07-2007 21:30:11
 :impress:

รักตัวเองบ้างสินายแบ็งค์ 

ขอให้รักษาทันแล้วกันนะ

รออ่านต่อไปครับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 16-07-2007 15:57:00
ม่ายน้าาาาา
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-07-2007 16:07:14
แบงค์เป็นไรอ่า  o21
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 16-07-2007 16:28:14
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-07-2007 18:06:09
ทำไมแบงค์ไม่รักตัวเองเลยอะ

ขัดใจอย่างแรงงงงงงงงงงงงง

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 16-07-2007 19:25:04
แบงค์ทำไมไม่ไปหาหมอ :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 16-07-2007 20:45:27
****************************
บทที่ 66 ทะเล

วันนี้พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ เค้านัดแบ๊งค์ไปเที่ยวกันครับ  เห็นว่าจะไปหัวหินเนี่ยแหละมั้ง  แบ๊งค์เลยเก็บข้าวของใส่กระเป๋า  แล้วรอพี่อาร์ทมารับครับ  ตอนออกมาก็เจอพี่นุ่นพอดี

“แบ๊งค์จะออกไปไหนน่ะ”  พี่นุ่นถามครับ

“จะไปเที่ยวกะพวกพี่อาร์ทน่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“เดี๋ยวนี้อยู่ไม่ติดคอนโดเลยนะ”   พี่นุ่นแซวครับ

“เอาน่า  ก็ปิดเทอมแล้วนี่นา”   แบ๊งค์ตอบไปครับ

“แล้วเราจะกลับบ้านเมื่อไหร่น่ะ”  พี่นุ่นถามครับ

“ไม่รู้สิ  คงอีกซักพัก”   แบ๊งค์ตอบไป

“พี่คงกลับตอนเที่ยง ๆ น่ะ”  พี่นุ่นพูดครับ

“อ้าวววว  ทำไมรีบกลับล่ะ  ไม่เห็นแบ๊งค์รู้เรื่องเลย”  แบ๊งค์พูด

“พอดียุ่ง ๆ น่ะ กะว่าจะบอกหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืม”   พี่นุ่นพูดครับ

“หนีกลับก่อนน่ะ”   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ

“ยะ   ทีปีที่แล้วเธอเองก็หนีชั้นไปก่อนเหมือนกันนะ”  พี่นุ่นพูดครับ

“อ่านะ”   แบ๊งค์ตอบไปครับ  แล้วซักพักพี่อาร์ทก็โทรมาตาม  แบ๊งค์เลยลาพี่นุ่น  แล้วลงไปหาพี่อาร์ทที่ลานจอดรถครับ

“เป็นไงเด็กดื้อ  ตื่นเช้าได้ด้วยหรอเนี่ย”  พี่อาร์ทแซวครับ
“ไม่ต้องมาพูดเลย  ไปกันได้แล้ว”  แบ๊งค์พูดครับ  พี่อาร์ทก็เลยขับรถออกไป  พี่อาร์ทบอกว่าจะไปมหาวิทยาลัยก่อน  เพราะนัดพวกเพื่อน ๆ เอาไว้ที่นั่น  พอไปถึงก็เจอ พี่ตั้ม กาว แมค ปรินซ์ครับ

“แล้วพี่ตี๋  กับพี่ปอยไม่ไปด้วยกันหรอ”    แบ๊งค์ถมพี่ตั้มไปครับ

“เห็นว่ามันแอบหนีร้อนขึ้นไปทางเหนือตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”  พี่ตั้มตอบครับ

“เฮ้อ  เสียดายจัง  น่าจะมาด้วยกันนะ”   แบ๊งค์ทำท่าเสียดายครับ

“แล้วพี่ตั้มเอารถใครมาเนี่ย”     แบ๊งค์ทักขึ้นเมื่อเห็นรถตู้คันใหญ่จอดอยู่ข้าง ๆรถบ้านเราเองแหละแบ๊งค์  ยืมมาชั่วคราวน่ะ”  แมคบอกครับ  แล้วเราก็แยกย้านกันขึ้นรถกัน  แบ๊งค์ไปกับพี่อาร์ท  ส่วนพวกที่เหลือ ก็แยกไปขึ้นรถตู้ของแมคโดยมีพี่ตั้มเป็นคนขับ

พี่อาร์ทขับรถนำครับ   เพราะว่าเราจะพักกันที่บ้านพักตากอากาศของพี่อาร์ท  เราก็เลยต้องให้เจ้าของสถานที่นำไป  ในที่สุดก็มาถึงครับ  บ้านของพี่อาร์ทค่อนข้างใหญ่  ข้างหลังเป็นชายหาดที่ทอดยาวไปจนเห็นทะเลที่แสนจะกว้างใหญ่  ตอนนี้ทุก ๆ คนทยอยลงมาจากรถแล้วครับ

“บ้านกรูส์สกปรกหน่อยนะ  ไม่ได้มานานแล้ว”   พี่อาร์ทหันไปพูดกับพี่ตั้มครับ

“แบ๊งค์ว่า  เรามาช่วยกันทำความสะอาดดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูดครับ

“อืม....เอางั้นก็ได้  ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”   กาวพูดครับ

“เอางี้ดีกว่า  ไอ้แมคกับปรินซ์ไปช่วยกันซื้อของกินก็แล้วกัน”  พี่ตั้มพูดครับ

“เอางั้นก็ได้ครับ  ป่ะปรินซ์ไปกัน”    แมคพูดครับ    แล้วเราก็ค่อย ๆ เอาของลงจากรถ  แล้วแมคกับปรินซ์ก็แยกไปซื้อของกินกัน  ตามที่พี่อาร์ทบอกทางไว้

ตอนนี้เราเดินเข้าในบ้านแล้วครับ  ทุกอย่างถูกคลุมด้วยผ้ากันฝุ่นสีขาว   เราช่วยกันรื้อออกมาครับ    โดยแบ๊งค์มีหน้าที่นำผ้าพวกนี้ไปซัก   ส่วนพี่ตั้ม พี่อาร์ท และกาว  ก็มีหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูบ้านทั้งหมด   โดยพี่อาร์ท กับพี่ตั้ง รับผิดชอบชั้นล่างครับ   เมื่อแบ๊งค์จับผ้าไปโดยนลงเครื่องเสร็จแล้ว  แบ๊งค์ก็ตามไปช่วยกาวทำความสะอาดชั้นบนครับ

เราช่วยกันทำความสะอาดอยู่นานพอสมควร    ในที่สุดก็เสร็จซะที   แบ๊งค์เดินออกไปเอาผ้าคลุมเมื่อกี้ไปตากครับ   พอเดินกลับเข้ามาก็เห็น พี่อาร์ท  พี่ตั้ม และกาวนอนแผ่หลา รับลมทะเลกันใหญ่เลย

“มาแล้ววววววว”   เสียงเจ้าปรินซ์ ดังขึ้นครับ  โดยมีแมคเดินตามหลังมา  ทั้งสองคนหอบอะไรก็ไม่รู้  พะรุงพะรัง เต็มมือไปหมดเลย

“อ้าววว  นอนกันหมด”   แมคพูดครับ   โดยหันมาทางแบ๊งค์   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยักไหล่ตอบไป

“ตื่น ๆๆๆ  ตื่นกันได้แล้ววววจะกินกันมั้ย”   แบ๊งค์พูดครับ  แค่นั้นแหละ  ท้งสามคนเด้งตัวขึ้นมาพร้อมกันเลย 

“มาแล้วหรอ  ไหน ๆๆ “   พี่ตั้มพูดครับ

“ป่ะ  ไปช่วยกันย่างเร็ว”     แล้ว พวกเราก็ช่วยกันลากเตาออกไปข้างนอก  รวมทั้งถ้วย ช้อน จานชม แก้ว  ขนออกไปหมดเลย   แล้วก็ช่วยกันปิ้งช่วยกันย่างนั่นแหละ
มื้อนี้ดูท่าทางจะเป็นชุดใหญ่นะเนี่ย  เต็มไปหมดเลย 

“ทำไมไปนานกันจังเลยอ่ะสองคน”   พี่อาร์ทถามครับ

“ก็พอดีเห็นของน่ากินหลายอย่างน่ะครับ”   แมคบอก

“เสียเวลาตอนที่พี่แมคไปต่อของนั่นแหละ”   ปรินซ์ช่วยเสริมครับ

“ก็คิดดูดิ  ใครเค้าจะขายแพงขนาดนั้นซื้อไปก็ไม่คุ้มดิ  ถ้าไม่ต่อก็ซื้อได้ไม่กี่อย่างเอง  แล้วเราก็นั่งทานกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเย็นนั่นแหละครับ   แมคกับปรินซ์น่ะ  เกิดบ้าพลังอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้   ไปเล่นน้ำซะงั้น  ส่วนพี่อาร์ทกับพี่ตั้มก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องโน่น   มาที่ไอ้กาวบ้าง  มันนั่งดู อีกสองคนเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนานเลย

“ไม่คิดจะลงไปเล่นกะพวกเค้ามั่งหรอ”   แบ๊งค์ถามครับ

“ไม่เอาล่ะ  เอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่า”  กาวพูด

“ที่นี่อากาศดีจังเลยเนอะ”   แบ๊งค์พูดครับ

“อืม...นั่นสิ   ไม่ได้มาพักผ่อน   แบบนี้มานานแล้ว”   พอพูดจบ  กาวมันก็ทิ้งตัวลงนอนครับ   แบ๊งค์ก็เลยนั่งอยู่เฉย ๆ  รับลมเย็น ๆ ที่คอยพัดมาปะทะกับผิวกาย   อยากซึมซับความสุขนี้ไปนาน ๆ

ตกดึกเราก็แยกย้ายกันเข้านอน  แน่ล่ะว่าแบ๊งค์ต้องนอนห้องเดียวกันกับพี่อาร์ท  ตอนแรกแบ๊งค์ก็จะขอไปนอนห้องเดียวกับกาวนะ   แต่ไอ้กาวน่ะดิ  ไล่แบ๊งค์ให้มานอนกับพี่อาร์ทซะงั้น  คนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครช่วยแบ๊งค์เลย  พี่ตั้มนอนห้องเดียวกับแมค  ส่วนกาวนอนห้องเดียวกับปรินซ์ครับ

“สองคนนั้นน่ะ  อย่าทำอะไรเสียงดังล่ะมันรบกวนห้องข้าง ๆ”   พี่ตั้มแซวครับ  เล่นเอาแบ๊งค์อายหน้าแดงไปเลย (-///////-)

“บ้าหรอ  ใครเค้าจะทำอะไรกัน”   แบ๊งค์พูดครับ

“อ้าว..ใครจะไปรู้ล่ะครับแบ๊งค์”   พี่อาร์ทเสริมครับ  ทุกคนก็เลยโห่กันยกใหญ่

“ไม่เอาแล้ว  พอได้แล้วไปนอนกันเหอะ ดีแต่ว่าคนอื่น  ถ้าห้องไหนมีเสียงนะ  แบ๊งค์จะไปถ่ายวิดีโอเก็บไว้เลย”   แบ๊งค์พูดครับ  ทุกคนก็ได้แต่หัวเราเบา ๆ แล้วแยกย้ายกันเข้าห้องของแต่ละคนไป

ตอนนี้แบ๊งค์นั่งอยู่บนเตียงของพี่อาร์ทครับ   ห้องของพี่อาร์ทมีระเบียงที่เปิดไปเห็นทะเลด้วย   ท้องทะเลยามค่ำคืนเนี่ย  ดูได้หลายแบบนะ  มีทั้งความสวยงาม    ความอ้างว้าง  และความน่าสะพรึงกลัว ในตัวของมันเอง

“มองอะไรอยู่หรอครับ”  พี่อาร์ทเข้ามากอดแบ๊งค์จากด้านหลังครับ

“ก็มองอะไรไปเพลิน ๆ น่ะ”   แบ๊งค์พูด

“นอนกันได้แล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ

“อืม....นอนก็นอน  พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเล่นน้ำแต่เช้า”   แบ๊งค์พูดพลางเอนตัวลงนอน

“จะให้พี่กอดมั้ยครับ”  พี่อาร์ทถาม

“ยังจะถามอีกหรอ  ควรจะรู้หน้าที่ได้แล้วนะ”  พูดจบแบ๊งค์ก็ขยับตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่อาร์ทครับ  พี่อาร์ทก็กอดแบ๊งค์ตอบเหมือนกัน  แล้วเราก็หลับไปด้วยกันครับ

“แบ๊งค์....แบ๊งค์ ตื่นได้แล้ว”  พี่อาร์ทเรียกพลางเขย่าตัวแบ๊งค์เบา ๆ ครับ

“มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามพี่อาร์ทไปครับ

“ไปเล่นน้ำได้แล้วครับ  เพื่อน ๆ เค้าลงไปเล่นกันหมดแล้ว”   พี่อาร์ทพูดครับ 

“นี่กี่โมงแล้วเนี่ย”  แบ๊งค์ถามไปครับ

“11 โมงกว่า ๆ แล้วครับ”  พี่อาร์ทตอบ  นี่แบ๊งค์หลับไปนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ งัวเงียเข้าไปในห้องน้ำครับ  แบ๊งค์อาบน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย  ตอนนี้แบ๊งค์มาหยุดยืนเชคตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกครับ 

ระหว่างที่กำลังมองเข้าไปในกระจกอยู่นั้น  อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกเหมือนมีของเหลวอุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูกแบ๊งค์ครับ  มันคือเลือดนั่นเอง

“แบ๊งค์  พี่เอากางเกงว่ายน้ำวางไว้บนเตียงนะรีบเปลี่ยนแล้วรีบตามลงไปล่ะ”   พี่อาร์ทพูด  แบ๊งค์เลยรีบเช็ดเลือด  แล้วออกมาเปลี่ยนชุด  ดีนะที่พี่อาร์ทไม่เห็น  ไม่งั้นแบ๊งค์คงอธิบายไม่ถูกแน่ ๆ
แบ๊งค์เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงว่ายน้ำ  กับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นครับ   แล้วเดินออกมายังชายหาด  ก็เห็นเพื่อน ๆ เล่นน้ำกันอยู่แล้ว  รวมทั้งพี่อาร์ทด้วย

“ลงมาเล่นน้ำด้วยกันเร็วแบ๊งค์”   เสียงพี่ตั้มเรียกแบ๊งค์ครับ   โดยมีทุกคนเรียกตามมาเหมือนกัน  แต่แบ๊งค์ก็ยังคงไม่ลงน้ำอยู่ดี  แบ๊งค์เดินเลาะ ๆ ไปตามเงาไม้ครับ

“ไปจับแบ๊งค์โยนลงน้ำดีกว่า”   เสียงเจ้าปรินซ์ตะโกนบอกครับ  ตอนนี้ทุกคนก็เลยขึ้นจากน้ำ  แล้ววิ่งไล่จับแบ๊งค์กันใหญ่   แบ๊งค์ก็ได้แต่วิ่งหนี    แต่ก็หนีไม่พ้น  โดนจับโยนลงทะเลจนได้  แล้วเราก็เล่นน้ำกันไปจนกระทั่งรู้สุกเหนื่อย  แล้วตัวก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลไหม้ ๆ นั่นแหละครับ  เราก็เลยขึ้นจากน้ำกัน   
พอขึ้นมา  กาวกับแมคก็ไปเข้าครัว  แล้วไปตักราดหน้าทะเล มาเสิร์ฟพวกเราครับ

“ทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”  แบ๊งค์ถามไป

“ทำไว้ตั้งแต่ตอนคุณชายยังไม่ตื่นแล้วล่ะครับ”  พี่ตั้มแซวครับ 

“แค่ตื่นสายนิดหน่อยเอง  ทำแซวไปได้”   แบ๊งค์ตอบไปแก้เขินครับ   แล้วเราก็ลงมือทานมื้อเที่ยงกัน     พอทานเสร็จ  ก็ไปเดินเล่นสำรวจพื้นที่กัน  จากนั้นเราก้ไปเล่นน้ำกันต่อ  สรุปว่าวันที่สอง  เราก็ไม่ได้ทำอะไรกันเลย  นอกจากเล่นน้ำทะเล
.
.
.
แล้วก็มาถึงวันที่สามของการมาพักผ่อน   วันนี้ทุกคนคงเหนื่อยจากการใช้พลังไปมากมาย  ในกิจกรรมของเมื่อวาน  วันนี้ก็เลยไม่มีใครคิดที่จะออกไปเล่นน้ำทะเลอีก   ก็มีพี่ตั้ม  แมค และก็ปรินซ์นั่นแหละ  ที่ยังพอมีแรงหลงเหลือไปเล่นฟุตบอลชายหาดกัน  ส่วนพี่อาร์ทกับกาว  ก็ไปผูกเปลนอนกันใต้ต้นไม้   แบ๊งค์ก็ได้ แต่เดินเล่นไปเรื่อย ๆ น่ะ

ระหว่างที่เดิน ๆ อยู่  แบ๊งค์ก็รู้สึกมึนหัวครับ  เลยไปเกาะต้นไม้  แต่ก็เอื้อมไปไม่ถึง  ในที่สุดแบ๊งค์ก็ล้มลงตรงหาดทราย

“เฮ้ย!!!!ไอ้แบ๊งค์เป็นลม”   เสียงพี่ตั้มตะโกนอยู่ไกล ๆ ครับ  ซักพัก  ก็เห็นทุกคนมายืนอยู่รอบ ๆ แต่ก็ไม่ได้ใกล้มากอะไร  คงกลัวอากาศไม่ถ่ายเท  เดี๋ยวแบ๊งค์จะหายใจไม่ออกน่ะ

แบ๊งค์รู้สึกว่าพี่อาร์ทมาอุ้มแบ๊งค์เอาไว้นะครับ   แล้วอยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกว่ามีเลือดไหลออกจากจฒุกของแบ๊งค์อีกครั้ง

“แบ๊งค์....เลือดกำเกาไหล”   พี่อาร์ทพูดครับ    แล้วแบ๊งค์ก็ไม่รู้สึกตัวอีก
.
.
.
แบ๊งค์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา  เหมือนว่าตอนนี้แบ๊งค์จะอยู่ในโรงพยาบาลที่ไหนซักที่นะ

“แบ๊งค์ตื่นแล้วครับ”   ไอ้กาวพูดครับ  แล้วทุก ๆ คนก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาแบ๊งค์

“แบ๊งค์ขอโทษนะ   อุตส่าห์ได้มาพักผ่อนกันแล้วแท้ ๆ”   แบ๊งค์พูดน้ำเสียงเศร้า ๆ ครับ

“ไม่เป็นไรหรอก  สุขภาพของแบ๊งค์สำคัญกว่านะ”   แมคพูดครับ  ตอนนี้ที่อยู่รอบ ๆ แบ๊งค์ก็มีพี่ตั้ม  กาว  แมค  ปรินซ์    แล้วพี่อาร์ทล่ะ?

“พี่อาร์ทอยู่ไหนหรอ”   แบ๊งค์ถามไปครับ

“ออกไปรับโทรศัพท์น่ะ  ออกไปตั้งนานแล้วยังไม่เข้ามาเลย”   ปรินซ์พูดครับ  แล้วอยู่ดี ๆ ประตูห้องแบ๊งค์ก็ถูกเปิดออก  พี่อาร์ทเดินเข้ามาด้วยท่าทางโกรธครับ

“แบ๊งค์ไป  กลับกันได้แล้ว”  พี่อาร์ทเข้ามาคว้าแขแบ๊งค์เอาไว้ครับ

“ทำอะไรน่ะพี่อาร์ท  แบ๊งค์เจ็บนะ”    แบ๊งค์พูดครับ  เพราะรู้สึกเจ็บจริง ๆ

“อาร์ทเมริงทำอะไรน้องน่ะ  น้องเค้าเจ็บนะเว้ย”   พี่ตั้มพูดครับ

“เมริงอย่ามายุ่ง  วันนี้พวกเราต้องกลับกรุงเทพฯ”   พี่อาร์ทตะคอกออกมาครับ

“พี่อาร์ท!!!มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ก่อนสิ”    แบ๊งค์พยายามสะบัดแขนออก  แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

“ทำไม  ทำไมแบ๊งค์ไม่บอกพี่”  พี่อาร์ทค่อย ๆ ปล่อยมือออก   แล้วทรุดตัวร้องไห้

“เกิดอะไรขึ้นหรอกครับพี่อาร์ท”   แมคเข้าไปถาม

“มีอะไรหรอพี่อาร์ท”    แบ๊งค์ถามไป

“พี่รู้ทุกอย่างแล้วนะ  โรงพยาบาลโทรมาบอกพี่เมื่อกี้แล้ว”   พี่อาร์ทชูมือถือแบ๊งค์ให้ดู   แค่นั้นแหละครับ  แบ๊งค์รู้สึกชอคไปเลย  พี่อาร์ทรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น  บอกผมหน่อยสิครับผมงงไปหมดแล้ว”    ปรินซ์เริ่มโวยวายครับ  ตอนนี้สภาพภายในห้องเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย 

“แบ๊งค์........แบ๊งค์เป็นลูคิเมีย”    พี่อาร์ทพยายามกลั้นร้องไห้  แล้วพูดออกมา   ทุกคนต่างอึ้งที่ได้ยิน  แล้วหันมามองทางแบ๊งค์
************************
 :serius2: มันไม่จริงใช่มั้ย  :m15:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-07-2007 20:54:26
และแล้วก็เศร้าจริง ๆ  :m15:  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 16-07-2007 21:50:21
 :freeze: ลู คี เมีย ..........  o22 :sad5: :sad3:

เฮ้อ  ความสุขมันอยู่กะเราไม่นานจริงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 17-07-2007 02:39:41
 :impress:

ไม่ว่าอะไรในโลกนี้ มันมีจุดจบของมันเอง

รออ่านต่อไปนะ

มารีดึกไปหน่อย ไปดูปามมี่มาอ่า.....

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-07-2007 04:31:41
สงสารพี่อาร์ทจังเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 17-07-2007 06:13:42
แบงค์อ่า.......
ทำไมทำแบบนี้ล่ะ
ไม่สงสารตัวเองก็น่าจะสงสารคนที่เรารักและรักเราบ้างน้า :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 17-07-2007 10:27:21
สงสารพี่อาร์ท สงสารกาว สงสารพี่ตั้ม
สงสารคนที่รักแบงค์ทุกคน
 :m15: :m15: :m15:

เอ๊ะ...แล้วเราไม่สงสารแบงค์หรอ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-07-2007 13:20:27
มะเร็งเม็ดเลือดขาว เหรอ หว๋ายยย  :m15:


ว่าแต่โรคนี้มันรักษาหายได้ป่าวอ่ะ  ม่ะมีความรู้เรื่องนี้....
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-07-2007 14:57:05
อะไรๆดูเหมือนจะมีความสุขแล้วเชียว

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 17-07-2007 15:17:33
อืมแล้วโรคนี้มันสามารถรักษาได้ป่าวคับ :o7:

ใครรู้ช่วยตอบหน่อย :sad2: :
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 17-07-2007 20:45:58
******************************
บทที่ 67 มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิ

“ทางโรงพยาบาลบอกว่า  ได้ตรวจพบนานมาแล้วว่าแบ๊งค์เป็นลูคิเมีย   และพยายามติดต่อที่จะคุยกับแบ๊งค์

“แต่แบ๊งค์ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด”   พี่อาร์ทพูดพลางร้องไห้

“.....................”   แบ๊งค์นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร

“แบ๊งค์.....มันเกิดตั้งแต่วันนั้นใช่มั้ย  วันที่เราพาแบ๊งค์ไปโรงพยาบาล”   กาวเข้ามาเขย่าตัวแบ๊งค์ครับ

“.......................”   แบ๊งค์พยักหน้า  แทนคำตอบ  ตอนนี้แบ๊งค์ไม่อยากพูดอะไรเลยจริง ๆ

“ทำไมแบ๊งค์ไม่บอกเรา  เราบอกแล้วใช่มั้ยว่ามีอะไรให้บอก”   กาวเขย่าตัวแบ๊งค์  แล้วทรุดตัวลงนั่งร้องไห้กับพื้นโดนมีพี่ตั้มเข้าปลอบ

“แบ๊งค์ขอโทษ   แบ๊งค์ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง”  แบ๊งค์กล่าวออกมา

“แบ๊งค์ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงอย่างนั้นน่ะหรอรู้มั้ยยิ่งแบ๊งค์ทำแบบนี้น่ะ  มันยิ่งทำให้ทุกคนเป็นห่วง”    ปรินซ์พูดขึ้นบ้างครับ

“กลับกันได้แล้ว   วันนี้แบ๊งค์ต้องกลับไปหาหมอที่กรุงเทพฯ”   พี่อาร์ทลุกขึ้นแล้วพูดครับ

“แต่..............”   แบ๊งค์กำลังจะขออยู่ต่อที่นี่

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”  พี่อาร์ทตะคอกออกมาครับ

“ตั้ม  แมค กาว ปรินซ์  กลับไปเก็บของที่บ้านก่อนนะเดี๋ยวที่นี่ พี่จัดการเอง”   พี่อาร์ทพูด  แล้วทุก ๆ คนก็แยกย้ายกันออกไป  พี่อาร์ทคงออกไปจ่ายเงินค่ารักษาแบ๊งค์ล่ะมั้ง   ตอนนี้ก็เลยมีแค่แบ๊งค์ที่อยู่คนเดียวในห้อง
.
.
.
ตลอดทางตั้งแต่หัวหิน  จนถึงกรุงเทพฯ   แบ๊งค์กับพี่อาร์ทไม่ได้ปริปากพูดคุยอะไรกันแม้แต่คำเดียว  แบ๊งค์เอาแต่ร้องไห้มาตลอดทาง  ร้องจนตอนนี้รู้สึกปวด ๆ ที่ตาแล้ว   พอมาถึงกรุงเทพฯ  พี่อาร์ทก็ขับรถเข้าไปยังโรงพยาบาลทันที  โดยมีพวกพี่ตั้ม  กาว แมค และปรินซ์ตามมาด้วย

พี่อาร์ทพาแบ๊งค์เข้าไปหาหมอที่ห้องตรวจครับ  โดยที่ทุกคนขอตามเข้ามาฟังผลด้วย  ซึ่งหมอก็ต้องยอมแต่โดยดี
หมอบอกว่าแบ๊งค์เป็นลูคิเมีย  หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวนั่นเอง  และตอนนี้แบ๊งค์เป็นอาการเริ่มแรก  ยังไม่แสดงอาการออกมามากเท่าไหร่  แต่หมอก็อยากให้แบ๊งค์อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด  แต่แบ๊งค์ก็พยายามที่จะเลี่ยงตลอดมา

หมอบอกว่าโรคที่แบ๊งค์เป็น ในตอนนี้เป็นอาการของลูคิเมียแบบเฉียบพลัน  ซึ่งไม่สามารถจะระบุได้  ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่  จึงอยากให้อยู่ใกล้แพทย์ให้มากที่สุด  เพราะถ้าเกิดโรคนี้เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันแล้ว  หมอกลัวว่าจะรักษาได้ไม่ทันการณ์
การรักษาของโรคนี้มีอยู่ 2 วิธีคือการปลูกถ่ายไขกระดูก  หรือปลูกถ่าย stem cell  วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถทำให้โรคหายขาดได้  แต่ก็เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง    แล้วการปลูกถ่ายไขกระดูก  หรือ stem cell ก็ค่อนข้างยากลำบาก  เพราะต้องหาคนที่มีเนื้อเยื่อตรงกันเท่านั้น  ซึ่งโอกาสก็มีอยู่น้อยมาก 

ส่วนอีกวิธี  เป็นวิธีที่นิยมใช้แพร่หลายมากในการรักษาผู้ป่วยโรคลูคิเมียแบบเฉียบพลัน  นั่นก็คือการรักษาด้วยเคมีบำบัด  แต่วิธีนี้จะทำให้เชื้อเข้าสู้ระยะสงบเท่านั้น  กล่าวคือโรงคนี้จะกลับมาอีกหลังจากการรักษา ผ่านไป 3-9 เดือน และวิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างมีผลข้างเคียงสูง

ผู้ป่วยที่รักษาด้วยเคมีบำบัด  อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน  ผมร่วง และเม็ดเลือดต่ำลง  ทำให้ติดเชื้อง่าย และมีไข้   ระยะนี้เป็นระยะที่เกิดภาวะแทรกซ้อนและอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย   ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล  เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ  และให้เลือดประมาณ 34 สัปดาห์  หลังจากนั้นหากไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนเชื้อก็จะเข้าสู่ระยะสงบ

ทุกคนต่างอึ้ง  เมื่อหมออธิบายจบ  โรคที่แบ๊งค์เป็นอยู่มีความเสี่ยงสูงมาก  ที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิต  และก็ไม่มีทางที่จะหายขาดจากโรคนี้ได้เลย   เพราะโรคนี้โอกาสที่จะหายมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น  นั่นก็คือการปลุกถ่ายไขกระดูก  แต่ก็เป็นการยากที่จะหาเนื้อเยื่อที่ตรงกัน

“คุณหมอครับ  ช่วยตรวจเนื้อเยื่อของผมได้มั้ยครับว่าตรงกับของน้องเค้ารึเปล่า  ถ้าตรง ก็ปลูกถ่ายไขกระดุกของผมไปได้เลย”  พี่อาร์ทอาสา

“ของผมด้วยครับ”  จากนั้นทุก ๆ คนก็พูดตาม ๆ กัน  คือให้หมดตรวดูเนื้อเยื่อ  เผื่อว่าจะมีของใครซักคนที่ตรงกลับแบ๊งค์บ้าง
สรุปแล้วว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  แบ๊งค์ต้องนอนอยู่แต่ในโงพยาบาลครับ  เพื่อรอดูอาการ  และเพื่อรอคอย  เผื่อว่ามีใครที่มีเนื้อเยื่อที่ตรงกัน  จะได้ทำการรักษาในทันที

ตอนนี้พี่อาร์ทโทรไปบอกทุกอย่างให้ทางบ้านแบ๊งค์รู้แล้ว  อีกไม่นานแม่แบ๊งค์ก็คงจะมาหาแบ๊งค์ที่กรุงเทพฯ   ไม่อยากให้ใครต้องห่วงแบ๊งค์แบบนี้เลยจริง ๆ
.
.
.
แบ๊งค์ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาครับ  ผ่านไปแล้วกับหนึ่งคืนในโรงพยาบาล แบ๊งค์เห็นทุก ๆ คนยังคงยืนอยู่รอบ ๆ ตัวแบ๊งค์  แล้วรู้สึกว่าแม่จะนั่งข้าง ๆ แบ๊งค์ 

“ตื่นแล้วหรอลูก”   เสียงแม่ถามไถ่มาด้วยความเป็นห่วงครับ  ตอนนี้เหมือนกับว่าแม่ของแบ๊งค์พยายามสะกดกลั้นน้ำตาอยู่   แต่แม่ก็ทำไม่ได้  น้ำตาก็ยังไหลออกมาอยู่ดี

“แม่ร้องไห้ทำไม   แบ๊งค์ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”  แบ๊งค์พยายามตอบออกไป  ทั้ง ๆ ที่แม่และทุกคนก็รู้หมดแล้วว่าอาการมันร้ายแรงขนาดไหน

“อืม....แม่รู้”   แล้วแม่ก็เอามือลูบหัวแบ๊งค์  แล้วร้องไห้ออกมาอีก  ตอนนี้ทุก ๆ คนในห้องเริ่มที่จะมีน้ำตาคลอ ๆ อยู่เหมือนกัน   ไอ้กาวมันคงกลั้นน้ำไว้ไม่ได้  เลยรีบวิ่งออกไปนอกห้อง  ส่วนคนอื่น ๆ ก็พยายามไม่มองมาที่แบ๊งค์  บางคนก็หลบมุมแอบเช็ดน้ำตาไป

“เดี๋ยวแบ๊งค์ก็หายแล้ว  ปีนี้แบ๊งค์จะกลับไปเล่นสงกรานต์ที่บ้านนะชวนเพื่อน ๆ แบ๊งค์ไปได้มั้ย”  ตอนนี้แบ๊งค์พูดไปยิ้มไป  แต่น้ำตาก็ไหลอาบแก้มไปด้วย

“อืม....ได้สิ  เดี๋ยวแม่จะทำอาหารเลี้ยงเอง”    แม่แบ๊งค์พูด ออกมา  แบ๊งค์เลยโผเข้ากอดแม่ซึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง

“แม่...เอ่อ   คือแบ๊งค์กับพี่อาร์ท”   ตอนนี้แบ๊งค์กำลังอยากจะบอกแม่ว่า  แบ๊งค์กับพี่อาร์ท เป็นอะไรที่มากว่าพี่น้องกัน

“ไม่ต้องพูดแล้วลูก  แม่รู้เรื่องแล้วไม่เป็นไรหรอกนะ   แม่ไม่โกรธหรอก  ลูกพักผ่อนดีกว่านะ”   แม่พูด  พลางค่อย ๆ ดันแบ๊งค์ให้นอนลงกับเตียง

“เดี๋ยวพ่อกับแม่พี่เค้าก็จะมาเยี่ยมแบ๊งค์แล้วนะ”   พี่อาร์ทพูดครับ  ตอนนี้พี่อาร์ทก็มีน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน  อีกซักพัก  พ่อกับแม่ของพี่อาร์ทก็เข้ามาในห้อง

“เป็นไงบ้างลูก “  แม่พี่อาร์ทเดินเข้ามาหาแบ๊งค์พร้อมด้วยกระเช้าผลไม้ครับ

“พ่อครับ  แม่ครับ  นี่เป็นแม่ของน้องแบ๊งค์ครับ”   พี่อาร์ทแนะนำให้พ่อกับแม่ของพี่อาร์ท  รู้จักกับแม่ของแบ๊งค์

“ สวัสดีค่ะ”   แม่แบ๊งค์ยกมือไหว้ไป  พ่อกับแม่ของพี่อาร์ทก็รับไหว้

“เอ่อ...คุณครับ  ผมขอคุยด้วยหน่อยนะ”   พ่อพี่อาร์ทเรียกแม่แบ๊งค์ออกไปคุยข้างนอกครับ   แบ๊งค์ก็ได้แต่มองตาม ด้วยความอยากรู้ว่าพ่อพี่อาร์ทจะพูดอะไรกับแม่ของแบ๊งค์

“ไม่ต้องห่วงนะลูก  พ่อเค้าไปคุยเรื่องของลูกนี่แหละลูกต้องหายนะ  เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวแม่ออกให้เอง”   แม่ของพี่อาร์ทพูดครับ  แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากของแบ๊งค์เบา ๆ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  อย่าให้แบ๊งค์ต้องรบกวนคุณแม่เลย”   แบ๊งค์กล่าวขอบคุณไปครับ

“ไม่เป็นไรหรอกลูก   ยังไงลูกก็ต้องหายนะ”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ  แบ๊งค์จ้องมองเข้าไปในแววตาของแม่พี่อาร์ท  มันเป็นแววตาที่ดูอบอุ่น  แต่ตอนนี้กลับมีน้ำใส ๆ เคลือบอยู่  ซึ่งน้ำใส ๆ นี้เตรียมที่จะไหลทะลักออกมาแล้ว  แม่พี่อาร์ทเลยเดินหนีออกไปก่อน  ราวกับว่าไม่อยากให้แบ๊งค์ต้องมาเห็นน้ำตา

“ไงไอ้ตัวเล็ก  คราวนี้หมดลายเลยนะ”   พี่ตั้มซึ่งปาดคราบน้ำตาออกไปหมดแล้วเข้ามาทัก

“หมดลายอะไรล่ะ  ถ้าแบ๊งค์ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่นะแบ๊งค์จะไปคิดบัญชีที่พี่ตั้มคนแรกเลย”    แบ๊งค์พูดครับ

“ยังไงก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะแบ๊งค์พวกเรารอแบ๊งค์อยู่นะ”   แมคพูดครับ

“อืม.....รอไม่นานหรอก เดี๋ยวแบ๊งค์ก็ออกโรงพยาบาลแล้ว”  แบ๊งค์พูดปลอบทุกคน

“แล้วอย่าลืมคำพูดที่พูดไว้ล่ะ  แบ๊งค์ต้องออกจากโรงพยาบาลไว ๆ นะแล้วเราจะพาแบ๊งค์ไปทัวร์จตุจักรให้ได้เลย”   ปรินซ์พูดครับ

“ขอบใจนะ”   แบ๊งค์กล่าวขอบคุณไป  ตอนนี้แบ๊งค์เองก็เริ่มที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน   แล้วจู่ ๆ ไอ้กาวก็เดินเข้าห้องมาครับ  ตอนนี้ตาของมันดูแดง ๆ  พอแบ๊งค์มองไปที่มัน  มันก็ยิ้มกลับมาให้แบ๊งค์ครับ

“เป็นอะไรไปกาว  ตาดูแดง ๆ นะขี้แยจริง ๆ เลย นายคนนี้ ฮะฮะฮะ”   แบ๊งค์พยายามฝืนหัวเราะ หากแต่ยามนี้ไม่มีใครคิดที่จะหัวเราะตามไปกับแบ๊งค์เลยแม้แต่คนเดียว

“กาว   เข้ามายืนใกล้ ๆ แบ๊งค์สิ”   พี่อาร์ทเรียกกาวเข้ามาครับ  ไอ้กาวก็เลยเดินเข้ามายืนข้าง ๆ พี่อาร์ทที่ข้างเตียงของแบ๊งค์

“เมริงจะร้องไห้ทำไมวะ”  แบ๊งค์พูดแล้วเอามือจับมือ  ของไอ้กาวเอาไว้  ตอนนี้มันเริ่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้อีกรอบแล้วครับ  มันก็เลยระเบิดออกมา   มันร้องไห้ใหญ่เลย

“กาวไม่เอาน่า  อย่าร้อง ร้องไห้มาก ๆ เดี๋ยวเมริงไม่หล่อนะเว้ย”   แบ๊งค์พูด 

“อืม.....กรูส์จะพยายามไม่ร้องนะเว้ย”    ไอ้กาวพูดไว้แค่นั้น  แล้วก็หนีออกไปนอนห้องอีกครั้ง

“พี่ว่าแบ๊งค์นอนก่อนดีกว่านะ”  พี่อาร์ทพูดครับ

“อืมก็ได้........พี่อาร์ท”   แล้วแบ๊งค์ก็เรียกพี่อาร์ทอีกรอบ

“ครับมีอะไรหรอ”    พี่อาร์ทหันมามองหน้าแบ๊งค์

“ถ้าแบ๊งค์ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วอ่ะแบ๊งค์จะไปเสิร์ฟน้ำให้พี่อาร์ท  ที่สนามบาสทุกวันเลยนะ”   แบ๊งค์พูดครับ   ไม่มีเสียงตอบจากพี่อาร์ท   มีแต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของพี่อาร์ทแทนคำตอบ แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ หลับไป
.
.
.
ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว     สรุปว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดน่ะ  พ่อกับแม่ของพี่อาร์ทจะเป็นคนออกให้   แม่แบ๊งค์ก็เลยขอบคุณพ่อกับแม่ของพี่อาร์ทซะยกใหญ่เลย  เหมือนกับว่าแม่ของแบ๊งค์กับแม่ของพี่อาร์ท  จะเข้ากันได้ดีด้วยนะ  ดีใจจัง
.
.
.
“อะไรนะครับหมอ  ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก  ตรวจผิดรึเปล่า”    เสียงพี่อาร์ทโวยวายครับ  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา  ตอนนี้มีแค่พี่อาร์ท  และกาวเท่านั้นที่เฝ้าไข้แบ๊งค์ 
 
“ตื่นแล้วหรอแบ๊งค์”   กาวค่อย ๆ เข้ามาพยุงแบ๊งค์ให้ลุกขึ้นนั่งครับ

“มีอะไรหรอ”   แบ๊งค์ถามกาวไป

“เอ่อ............”  ไอ้กาวไม่ยอมตอบครับ

“มีอะไรกันหรอครับ คุณหมอ”   แบ๊งค์เลยหนไปถามหมอแทน  ส่วนพี่อาร์ทตอนนี้  ลงไปนั่งที่โซฟาอย่างไม่พอใจแล้ว

“คือผลตรวจเนื้อเยื่อของเพื่อนคุณทุกคนออกมาแล้วน่ะครับผลปรากฏว่าไม่มีใครเลย  ที่มีเนื้อเยื่อตรงกับคุณ”   หมอพูด

“อ่ะ.........หรอครับ  ไม่เป็นไรครับ”    แบ๊งค์พูด  แล้วหมอก็เดินออกจากห้องไป

“พี่อาร์ท.....ไม่เอาน่า  อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”   แบ๊งค์พูด

“ก็จะให้พี่ไม่พอใจได้ยังไงล่ะ  มีคนตั้งมากมายแต่มันจะไม่มีใครที่มีเนื้อเยื่อตรงกับแบ๊งค์เลยหรอ”    พี่อาร์ทพูดอย่างไม่พอใจ

“คงจะเป็นเพราะความซวยของตัวแบ๊งค์เองก็ได้”   แบ๊งค์พูด

“แบ๊งค์.......อย่าพูดแบบนั้นสิ”    กาวห้ามครับ

“นี่ ๆ  พี่อาร์ท  กาว”   แบ๊งค์เรียกทั้งสองคนครับ

“แบ๊งค์ขออกไปเดินเล่นข้างนอกได้มั้ยอ่ะอยู่ในนี้นาน ๆ แล้วมันเบื่ออะ”    แบ๊งค์พูด

“แต่..........”  พี่อาร์ทอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

“นะครับ  ขอร้องล่ะ”   แบ๊งคืทำท่าขอร้อง

“พี่อาร์ทครับ  ให้แบ๊งค์ออกไปบ้างนะครับ “   กาวพูด

“อืม  เอางั้นก็ได้”   พี่อาร์ทพูด

“งั้นเดี๋ยวแบ๊งค์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”    แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ลุกไปเข้าห้องน้ำ  โดยมีพี่อาร์ทและกาวคอยพยุง   
 
แบ๊งค์ยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ   ตอนนี้แบ๊งค์ดูซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด   ผิวของแบ๊งค์จากที่เคยเป็นผิวสีออกน้ำตาลอ่อน ๆ  ตอนนี้กลับกลายเป็นสีคล้ำซีด   เฮ้อ~~~เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ

แบ๊งค์ค่อยเดินออกมาจากห้องน้ำครับ   เราสามคนเดินเล่นที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล  ก็เห็นคนไข้อยู่หลายคนเหมือนกัน  ที่ออกมาเดินเล่นที่สวนหย่อมตรงนี้  ขณะที่เดินไป  อยู่ ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกไม่มีแรง  แล้วก็ล้มลงไป

“แบ๊งค์   แบ๊งค์”   พี่อาร์ทประคองเอาไว้ 

“เดี๋ยวผมไปตามพยาบาลนะครับ”   ไอ้กาวพูดแล้ววิ่งไป  จากนั้นแบ๊งค์ก็ไม่รู้เรื่องอีกเลย
***************************************
 :m15: :m15:

 :bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-07-2007 21:01:30
บีบหัวจายจริง ๆ  :sad2:  :sad2:  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 17-07-2007 21:17:09
ง่า........ :sad2: :sad2:

เศร้าจายยยยยยยยยยยยยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 17-07-2007 22:03:50
แบงค์ สู้นะครับ

ทุกคนเป็นห่วง
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 17-07-2007 22:37:41
สู้ สู้ เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 17-07-2007 23:45:54
เศร้าสุดชีวิต
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-07-2007 23:47:00
ทำไมไม่ลองของพ่อแม่ แล้วก็ญาติๆก่อนหล่ะ
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 18-07-2007 02:57:20
ทามมายมานส้าวแบบนี้ :o7: :o7:

แบงค์ต้องหายแน่ๆ ใช่ป่ะคับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-07-2007 04:30:27
เศร้า   o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 18-07-2007 08:34:04
 :impress:

แบงค์ต้องหายนะ ไม่ง้านเศร้าตายแน่เลย

 :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-07-2007 15:03:49
อ่านไปน้ำตาแอบซึมเล้กน้อย   :m15:

ขอให้เจอ stem cell ที่เข้ากันได้นะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 18-07-2007 23:07:22
วันนี้ผมลงให้ถึงตอนจบเลยนะคับ จะได้ไม่ขาดช่วงเนอะ

*******************************
บทที่ 68 แบ๊งค์ต้องไม่ไปไหนนะ

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น  แบ๊งค์ก็ถูกเข้มงวดมากขึ้น   ปรากฏว่าตอนนี้แบ๊งค์ได้แสดงอาการของโรคลูกคิเมียเฉียบพลันออกมาแล้ว    เพราะช่วงนี้  แบ๊งค์จะตัวซีดเอามาก ๆ  แล้วยังมีอาการไข้ขึ้นสูงอยู่บ่อย ๆ ด้วย  หมอก็เลยลงความเห็นให้แบ๊งค์รักษาด้วยเคมีบำบัด  หรือที่เราเรียกกันโดยทั่วไป   ว่าทำคีโมนั่นแหละ

การทำคีโมจะทำโดยการ  ฉีดสารเคมีอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ    ในปริมาณค่อนข้างสูงเข้าสู่เส้นเลือด    มันเจ็บมาก   เจ็บเกินกว่าจะบรรยายออกมา  แบ๊งค์พยายามจะไม่แสดงอาการให้ทุกคนรับรู้   เพราะตอนนี้แบ๊งค์เห็นทุก ๆ คน  ทั้งแม่แบ๊งค์  แม่พี่อาร์ท   พี่อาร์ท  กาว พี่ตั้ม  แมค และปรินซ์  กำลังมองมาอย่างสงสารอยู่

แบ๊งค์เอามือจิกผ้าปูเตียงที่กำลังนอนอยู่  ราวกับจะฉีกให้ขาดออกเป็นชิ้น ๆ   เพื่อที่จะสะกดกลั้นความเจ็บไม่ให้ใครรับรู้   แต่ผลสุดท้ายแบ๊งค์ก็ทำไม่ได้   ต้องร้องแผดเสียงออกมาดังไปทั่วห้อง 

แบ๊งค์เห็นเหมือนกับว่าแม่ของแบ๊งค์  กับแม่ของพี่อาร์ทจะมีน้ำตาไหลอาบแก้ม  ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง   ท่านคงรับไม่ได้มั้ง  ที่ต้องเห็นแบ๊งค์ทรมานแบบนี้  ตอนนี้ก็เลยเหลือแต่พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของแบ๊งค์ที่กำลังจ้องมองดูวิธีการรักษาแบ๊งค์ในครั้งนี้อยู่  แล้วแบ๊งค์ก็หลับไปด้วยอาการเจ็บปวด
.
.
.
ช่วงนี้เป็นระยะเฝ้าระวัง  เพื่อไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อน  แบ๊งค์เลยถูกจำกัดบริเวณให้อยู่ภายในห้อง  จะออกจากห้องได้ก็เฉพาะเวลาที่ไปรับยาปฏิชีวนะ  และไปรับเลือดก็เท่านั้น

“พี่อาร์ท   แบ๊งค์อยากออกไปข้างนอกบ้างอ่ะ”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ได้นะครับ  ตอนนี้แบ๊งค์ต้องพักผ่อนเยอะ”   พี่อาร์ทพูด

“น่าเบื่อจะตาย    พี่ตั้มแบ๊งค์อยากกินโจ๊กที่ข้างมหาวิทยาลัยอ่ะ”   แบ๊งค์เลยหันไปหาพี่ตั้มบ้าง

“เอาไว้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่  พี่จะพาไปนะ”    พี่ตั้มพูด

“โอยย ๆๆๆๆ  ทำไมน่าเบื่อแบบนี้เนี่ย”    แบ๊งค์เริ่มเครียดครับ

“แล้ววันนี้  กาว  แมค ปรินซ์ล่ะ  ไปอยู่ไหน”    แบ๊งค์ถามครับ

“สามคนนั้นเค้าไม่ว่างน่ะ  มีธุระนิดหน่อย”    พี่อาร์ทตอบครับ

“เมื่อไหร่แบ๊งค์จะได้ออกจากโรงพยาบาลนี่ซะทีอ่ะพี่อาร์ท”   แบ๊งค์หันไปพูดกับพี่อาร์ทแทน

“รออีกหน่อยนะ  เดี๋ยวอีกไม่กี่สัปดาห์  ก็ได้ออกไปแล้ว”   พี่อาร์ทพูด  แล้วยิ้มให้แบ๊งค์

“ก็รีบหายไว ๆ สิ  ไอ้เด็กดื้อ”   พี่ตั้มพูดครับ

“เดี๋ยวก็หายแล้วน่า”    แบ๊งค์พูด

“เฮ้อ~~~อยากเห็นตัวเองในกระจกจัง”   แบ๊งค์พูด

“ทำไมล่ะแบ๊งค์”  พี่อาร์ทถาม

“แบ๊งค์คงดูน่าเกลียดกว่าเดินแยะเลยเนอะตัวก็ผอม  จนตอนนี้จะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้วตัวยังซีดเป็นไก่ต้มอีก   แล้วไหนยังจะผมร่วงอีกล่ะ”   แบ๊งค์ยื่นแขนออกไป  แล้วมองดูแขนของตนเอง  แล้วเปลี่ยนเอามือมาลูบศีรษะตัวเอง   ซึ่งได้มีผมกระจุกหนึ่ง  ติดออกมาด้วย

“ดูสิ   ผมร่วงอีกแล้ว   สงสัยงานนี้ได้หัวล้านแน่ ๆ เลย ฮะฮะฮะ”   แบ๊งค์หยิบกระจุกผมนั้นขึ้นมาดู  แล้วหัวเราะ   แต่ว่าคนรอบข้าง ไม่มีใครหัวเราะกับแบ๊งค์เลย   ทั้งพี่ตั้มและพี่อาร์ทกลับมีน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม  แทนเสียงหัวเราะ

ตอนนี้แบ๊งค์ต้องออกไปรับเลือดอีกแล้วล่ะสิ  ไม่อยากไปเลย  แต่ก็ต้องจำใจไป  เพราะทั้งพี่อาร์ท  พี่ตั้ม และใครต่อใคร  บังคับแบ๊งค์ให้ไป
.
.
.
ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ ตอนนี้ผมแบ๊งค์ร่วงจนหมดหัวแล้วล่ะ   ไม่เหลือซักเส้นเลย  เฮ้อ~~~กลายเป็นคนหัวโล้นไปเลย  ในอาทิตย์ที่ผ่านม่าอ่ะ  พี่นุ่น  พี่ตี๋  พี่ปอย  เค้าแวะมาเยี่ยมเยียนแบ๊งค์ด้วย   อายจัง  ต้องอยู่ในสภาพนี้   พอมาถึง  ทั้งสามคนก็มีอาการเหมือนกันหมดเลย  ไม่รู้เป็นอะไรกัน  ใครมาเห็นแบ๊งค์เป็นต้องร้องไห้ทุกราย

อีกกี่อาทิตย์กันนะ  ที่แบ๊งค์จะได้ออกจากโรงพยาบาลเนี่ย  อุ๊ก!!!!!!  อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็รู้สึกอยากอ้วกครับ  ตอนนี้มีกาวอยู่ในห้องเพียงคนเดียว  พี่อาร์ทเค้าลงไปซื้อขนมมาให้แบ๊งค์น่ะ

“เฮ้ยยยย  แบ๊งค์  จะไปไหนน่ะ”  ไอ้กาวเรียกครับ  เมื่อเห็นแบ๊งค์กระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำ   ตอนนี้แบ๊งค์อ้วกออกมาเต็มไปหมดเลย  คงเป็นผลข้างเคียงจากการทำคีโมน่ะ

“เป็นอะไรมากมั้ย”   ไอ้กาวมันมาลูบหลังให้ครับ

“ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”   แบ๊งค์พุด  แล้วลุกขึ้นไปล้างปาก  ตอนนี้แบ๊งค์ยืนจ้องมองไปที่กระจก    แบ๊งค์สวมหมวกไหมพรมเอาไว้  เพราะตอนนี้น่ะ  แบ๊งค์หัวโล้นไม่มีผมซักเส้น  คิดไปคิดมาก็ตลกดีนะ   ส่วนตามเนื้อตัวก็เป็นสีซีด ๆ ออกเขียว ๆ แล้วยังมีจ้ำม่วง ๆ ขึ้นตามตัวด้วย   แบ๊งค์ดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัดเลย   เหมือนจะเป็นหนังหุ้มกระดูกน่ะ  เมื่อก่อนแบ๊งค์เคยกลัวที่จะอ้วนนะ  แต่ผอมขนาดนี้ก็คงไม่ไหวหรอกนะ  เฮ้อ~~~น่าเกลียดชะมันเลยเรา 
   
“ไปนอนได้แล้วแบ๊งค์เดี๋ยวพี่อาร์ทก็กลับมาแล้ว”  กาวพูดครับ  แบ๊งค์ก็เลยค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องน้ำ  ระหว่างที่กำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียง  แบ๊งค์ก็รู้สึกหมดแรง   แล้วเหมือนกับว่าแบ๊งค์จะล้มไป

“เฮ้ยยยยย  แบ๊งค์ !!!!!!”   ไอ้กาวพยุงแบ๊งค์เอาไว้  แล้วอุ้มแบ๊งค์ไปวางบนเตียงครับ

“ก......กาว...........วว”   แบ๊งค์เรียกออกมาอย่างแผ่วเบา    ภาพสุดท้ายที่แบ๊งค์เห็นก็คือ  ภาพไอ้กาวกดสวิตช์เรียกพยาบาลให้เข้ามาในห้อง.....
.
.
.
ผมลงไปซื้อขนมให้แบ๊งค์ครับ  เห็นบ่นอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากกิน     สงสารเค้าเหมือนกันนะครับ  ที่ต้องมาเป็นแบบนี้ระหว่างทางที่กำลังเดินจะกลับเข้าห้อง   ก็เห็น พยาบาล  และบุรุษพยาบาลวิ่งน้ำหน้าผมไปซัก 3-4 คน  สงสัยจะมีใครเป็นอะไรแน่ ๆ
แต่ภาพที่ทำให้ผมหัวใจต้องหล่นวูบไปก็คือ  กลุ่มคนเหล่านั้นวิ่งเข้าไปในห้องของแบ๊งค์ครับ  ถุงขนมที่ผมตั้งใจจะซื้อมาให้แบ๊งค์หลุดร่วงลงจากมือ   แล้วพยาบาลก็ค่อย ๆ เข็นเตียงแบ๊งค์ออกมาครับ  โดยมีกาวตามออกมาด้วย

“พี่อาร์ท   แบ๊งค์..............”   กาวพยายามจะพูดครับ  แต่มันคงพูดอะไรไม่ออก  ผมเห็นกาวเอาแต่ร้องไห้   ผมเองก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน 

“แบ๊งค์......แบ๊งค์ตื่นมาคุยกับพี่นะครับ”      ผมวิ่งตามเตียงนั่นไปด้วย   แต่แบ๊งค์ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ    แล้วเตียงของแบ๊งค์ก็ถูกเข็นเข้าห้อง  ICU ไป

“กาว....แบ๊งค์เป็นอะไรไปหรอ”     ผมถามกาวด้วยเสียงเรียบ ๆ  ผมคงตกใจจนช็อคไปซะแล้ว  ตอนนี้น้ำตาของผมเริ่มไหลตามมา  แต่ผมก็ยังคงนิ่งอยู่

“ผมไม่รู้   อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็ล้มไป”    กาวพยายามตอบออกมา  ทั้งที่ตัวเองยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่  ผมค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์มาไล่โทรบอกทุก ๆ คน  อีกซักพัก  เพื่อน ๆ รวมทั้งพ่อกับแม่ของผม  และแม่ของน้องแบ๊งค์ก็มาจนเต็มหน้าห้อง ICU 
ทุกคนมีอาการไม่ต่างไปจากผมและกาวเลย  ทุกคนมีน้ำตาไหลอาบแก้ม  มาด้วยความเศร้าโศก  และความช็อค   เรารอกันอยู่ซักพัก  คุณหมอก็ออกมา เราทุกคนก็กรูเข้าหาหมอในทันที

“เป็นยังไงบ้างครับ  น้องเค้าเป็นอะไรครับ”   ผมถามไป

“ลูกชายดิฉันเป็นเป็นไงบ้างคะ”   แม่น้องแบ๊งค์ถามด้วยครับ

“เอ่อ.........”   หมอไม่ตอบอะไรครับ

“บอกมาสิครับ  ว่าน้องเค้าเป็นอะไร”   ไอ้ตั้มมันโวยวายครับ

“คนไข้มีอาการของโรคแทรกซ้อนครับ  ตอนนี้ผมให้เค้าอยู่ให้ห้องปลอดเชื้อผมพยายามเต็มที่แล้ว  แต่ผมก็ไม่รับรองนะครับว่าเค้าจะอยู่กับเราได้นานเท่าไหร่”   หมอพูดออกมาครับ   พอหมอพูด  ทั้งแม่ของแบ๊งค์และแม่ของผมต่างก็เป็นลมไปพร้อม ๆ กัน  ทุก ๆ คนก็เลยค่อย ๆ พยุงให้มานั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง ICU

ผมยืนจ้องมองผ่านช่องประตูห้อง ICU เข้าไป   แบ๊งค์จะเป็นยังไงบ้างนะ   ไม่น่า.....อาการของแบ๊งค์ต้องไม่ร้ายแรงแบบนี้  แล้วพยาบาลคนหนึ่งก็ออกมาบอกครับ  ว่าตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกตัวแล้ว

พ่อกับแม่ของผม  และแม่ของแบ๊งค์ได้เข้าไปเยี่ยมเป็นชุดแรก   ท่านทั้งสามเข้าไปอยู่นานพอสมควร   แล้วพ่อกับแม่ผมก็ออกมา  โดยบอกว่าอยากให้แม่กับลูกได้อยู่กันตามลำพัง    อีกซักพักใหญ่ ๆ  แม่ของแบ๊งค์ก็ออกมาพร้อมกับคราบน้ำตา  ดูท่าทางท่านจะเสียใจมาก

แล้วชุดที่สองก็ตามเข้าไป  มีนุ่น  ปอย  และตี๋ครับ    นุ่นดูอาการหนักกว่าเพื่อน    เพราะนุ่นดูตาบวม ๆ คงร้องไห้มานานแล้วแน่ ๆ เลย

แล้วชุดที่สามก็ได้เข้าไป   โดยมีตั้ม  กาว  ปรินซ์  และแมค   ทั้งหมดเข้าไปด้วยอาการเศร้าสร้อย    แล้วก็ตามคาดครับ  ทุกคนออกจากห้องปลอดเชื้อด้วยอาการเดียวกัน  คือตาที่แดงราวกับคนที่ร้องไห้มาเป็นชั่วโมง ๆ  ชุดนี้กาวหนีออกมาก่อนครับ  โดยอ้างว่า  สงสารแบ๊งค์มาก  ไม่อยากเห็นแบ๊งค์ในสภาพนี้ก็เลยขอออกมาก่อน    แล้วในที่สุด  ก็ถึงคิวของผม

“อาร์ท  ฝากน้องด้วยนะลูก”   แม่ของแบ๊งค์พูดขึ้นครับ

“ครับ........”   ผมรับคำแล้วเดินเข้าห้องไป.
.
.
.
ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มรู้สึกตัวแล้ว   แบ๊งค์อยู่ที่ไหนเนี่ย  ทำไมมีสายระโยงรยางค์เต็มตัวแบ๊งค์ไปหมด   เกิดอะไรขึ้นกับแบ๊งค์กันแน่   แบ๊งค์เหลือบตาไปมองพยาบาลคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ปลายเตียง พอเค้าเห็นแบ๊งค์ลืมตา  เท่านั้นแหละ  เค้าก็วิ่งออกไปเลย  จะวิ่งไปไหนกันนะ

ซักพัก  แบ๊งค์ก็เห็นแม่ของแบ๊งค์และ  พ่อกับแม่ของพี่อาร์ทเดินเข้ามา  ทุกคนอยู่ในชุดคลุมและหมวกเก็บผม   สงสัยแบ๊งค์ต้องอยู่ให้ห้องปลอดเชื้อแน่ ๆ เลย  พอแบ๊งค์เห็นพ่อกับแม่ของพี่อาร์ท  แบ๊งค์ก็พยายามจะยกมือไหว้  แต่ทำไมนะ  แขนมันไม่มีแรงเลย

“ไม่ต้องหรอกลูก  แค่ลูกตื่นมาคุยได้แค่นี้ก็ดีแล้ว”   แม่พี่อาร์ทพูดครับ

“ค....ครับ”   แบ๊งค์ตอบออกไป  ทำเสียงแบ๊งค์มันแหบแห้งแบบนี้เนี่ย  อยากจะพูดออกไปแต่กลับไม่มีเสียงซะงั้น

“เอาไว้ถ้าหายแล้วไปเที่ยวบ้านพ่อกับแม่อีกนะลูก”   พ่อพี่อาร์ทพูดครับ

“......................”   แบ๊งค์ไม่สามารถพูดอะไรได้  ก็เลยได้แต่พยักหน้าไป

“รีบ ๆ หายนะลูก  แม่จะได้เตรียมบ้านให้ลูกพาเพื่อน  ๆ ไปเล่นสงกรานต์กันไง”  แม่แบ๊งค์พูดครับ  ตอนนี้แม่ร้องไห้ไปด้วย  แล้วพ่อกับแม่ของพี่อาร์ทก็ยืนพูดคุยกับแบ๊งค์อยู่ซักพัก  แล้วเดินออกจาห้องไป  ปล่อยให้แบ๊งค์อยู่กับแม่แค่สองคน

“เข้มแข้งไว้นะลูก  แล้วเราจะได้กลับไปเชียงใหม่ด้วยกัน”    แม่แบ๊งค์พูด

“..อ.......อืม....”   แบ๊งค์ค่อย ๆ ตอบออกไป   แม่แบ๊งค์นั่งจับมือแบ๊งค์  แล้วพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยทำด้วยกัน  อย่างเมื่อก่อนน่ะ  แบ๊งค์ชอบไปเดินซื้อเสื้อผ้ากับแม่  ก็ช่วย ๆ กันดูนั่นแหละแบ๊งค์ช่วยดูให้แม่ว่าอันไหนเหมาะ  ส่วนแม่ก็ช่วยดูว่าอันไหนเหมาะกับแบ๊งค์

คิดแล้วก็อยากไปด้วยกันอีกครั้งจังเลย  เมื่อไหร่แบ๊งค์จะหายนะ  จะได้ไปทำอย่างนั้นอีก แม่รอแบ๊งค์หน่อยนะ  แบ๊งค์จะรีบ ๆ หาย  แล้วเราจะได้เดินเที่ยวด้วยกันอีก

“แม่ออกไปก่อนนะลูก  มีเพื่อน ๆ มาเยี่ยมอีกเยอะเลย”   แม่แบ๊งค์พูด  ก่อนจะออกไปท่านหันมายิ้มให้แบ๊งค์หนึ่งที  มันเป็นยิ้มที่อบอุ่น  แล้วสวยที่สุดเสมอสำหรับแบ๊งค์

อักซักพัก  ก็เป็นพี่นุ่น  พี่ตี๋  พี่ปอย  เข้ามากัน 3 คนครับ 

“แบ๊งค์~~~~”   เสียงพี่นุ่นเรียกครับ 

“.....................”   แบ๊งค์เลยพยักหน้าไป  แล้วพี่ ๆ ทั้งสามก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เตียงแบ๊งค์  โดยมีพี่นุ่นจับมือแบ๊งค์เอาไว้

“แบ๊งค์ต้องหายไว ๆ นะ   เราจะได้ไปเล่นเกมด้วยกัน”   พี่นุ่นพูด

“.....อ.....อืม......แบ๊งค์.........ต.....ต้อง...ห...หา...หาย”    แบ๊งค์พยายามที่จะพูดออกมาให้เป็นประโยค

“แบ๊งค์ไม่ต้องพูดก็ได้  แค่พยักหน้า  พี่ก็เข้าใจแล้ว”    พี่นุ่นพูดพลางร้องไห้ไป

“แบ๊งค์ต้องรีบหายไว ๆ นะครับพี่จะรอแบ๊งค์มาช่วยงานพี่   ที่มหาวิทยาลัยอีก”   พี่ตี๋พูดครับ

“.....................”   แบ๊งค์พยักหน้าอีก

“แบ๊งค์น่ะแข็งแรง  เพราะฉะนั้นต้องหายไว ๆ นะคะ”   พี่ปอยพูด  แล้วอยู่ ๆ น้ำตาของพี่ปอยก็ไหลออกมา   พี่ปอยก็เลยหันไปซบพี่ตี๋แทน   

“เดี๋ยวพวกพี่ไปก่อนนะแบ๊งค์ แบ๊งค์จะได้พักผ่อน  แล้วจะได้หายไว ๆ”   พี่นุ่นพูด แล้วก็พากพี่ตี๋  และพี่ปอยออกห้องไป
********************************
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 18-07-2007 23:08:51
****************************
บทที่ 69 อยู่กับพวกเราต่อไปเถอะนะ

สงสัยอาการแบ๊งค์คงหนักมากแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทุกคนคงไม่แห่กันมาเยี่ยมอย่างนี้หรอก    แบ๊งค์คงจะตายจริง ๆ แล้วใช่มั้ย   แบ๊งค์ก็เลยร้องไห้ออกมา   แล้วชุดต่อไปก็เข้ามา  มีพี่ตั้ม แมค  กาว ปรินซ์   แบ๊งค์พยายามที่จะเช็ดน้ำตาไม่ให้ทุกคนเห็น  แต่ก็ทำไม่ได้  เพราะแขนแบ๊งค์ไม่มีแรงจริง ๆ

“อย่าร้องไห้นะ  ไอ้ตัวเล็ก”  พี่ตั้มเดินเข้าเช็ดน้ำตาให้แบ๊งค์ครับ

“...............................”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบครับ   แล้วแบ๊งค์ก็มองเห็นไอ้กาวมันหันหลังให้แบ๊งค์อยู่  เหมือนมันกำลังพยายามไม่ร้องไห้อยู่น่ะ

“ก........กา.....กาว”    แบ๊งค์ค่อย ๆ เปล่งเสียงอันแหบแห้งออกไป   ทันทีที่ไอ้กาวได้ยิน  มันก็รีบวิ่งเข้ามานั่งข้างแบ๊งค์เลยครับ

“มีอะไรหรอแบ๊งค์”   มันจับมือแบ๊งค์เอาไว้ครับ   แบ๊งค์เลยค่อย ๆ เอามือเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลออกจากตาของไอ้กาว  อย่างไม่ขาดสาย   แทนที่มันจะทำให้น้ำตาของกาวหยุดไหล  มันกลับทำให้ไหลออกมาอย่างไม่หยุดแทน

“ฮะ........ฮะ...........”   แบ๊งค์ได้แต่ขำออกไป  ที่ไอ้กาวเป็นแบบนั้น

“แบ๊งค์..........”   กาวเรียกชื่อแบ๊งค์ออกมา  แล้วฟุบลงที่ข้างตัวแบ๊งค์  จากนั้นมันก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลยครับ   แบ๊งค์เลยเอามือลูบหัวมันเบา ๆ

“แบ๊งค์ ..........แบ๊งค์ต้องหายไว ๆ นะจะได้ไปกินโจ๊กด้วยกันที่ข้างมหาลัยอีก”   พี่ตั้มพูดครับ  แบ๊งค์เลยพยักหน้า  ทั้ง ๆ ที่แบ๊งค์ก็รู้ว่ามันคงไม่มีวันนั้นอีกแล้วก็ตาม

“ป......ปริน......ซ์”    แบ๊งค์เรียกชื่อปรินซ์ออกมาครับ

“มีอะไรหรอแบ๊งค์  เราอยู่นี่แล้ว”   ปรินซ์มันรีบขานรับครับ

“อย......อย่า.......ซ...........ซน............นะ”   เสียงของเบ๊งค์เริ่มแผ่วเบาลงไปทุกที ๆ

“อืม.......เราจะไม่ซนนะ”   ปรินซ์รับคำ

“แล........แล้ว....เรา....จะ.....ป...ไป..จ....ตุ...จ...จัก....ด...ด้วย....กัน....นะ”   แบ๊งค์ค่อย ๆ พูดออกมา  นึกรำคาญตัวเองเหมือนกัน  ที่เป็นแบบนี้

“อืม........เราจะพาแบ๊งค์ไปหาเจ้าโจบินะ เพื่อนเรามันไม่ขายแล้วล่ะ  มันเลี้ยงไว้ที่จตุจักรนั่นและแบ๊งค์ต้องไปเล่นกับมันนะ”    ปรินซ์พูด   แบ๊งค์ก็ได้แต่พยักหน้า

“ม......นุด.......ต...ต่าง........ดาว”   แบ๊งค์พูดถึงมุกตลกแป๊ก ๆ ของแบ๊งค์ที่เคยเล่นกับเจ้าปรินซ์เอาไว้ตอนที่เจอมันครั้งแรก

“แบ๊งค์~~~~~”    ปรินซ์เรียกชื่อแบ๊งค์ออกมาเบา ๆ

“ม..........แมค”   ตอนนี้แบ๊งค์หันไปทางแมคบ้างครับ

“แบ๊งค์ไม่ต้องพูดหรอก   เก็บแรงเอาไว้ดีกว่านะ”   แมคพูด

“ม.....ไม่...ด....ได้”   แบ๊งค์ค่อย ๆ พูดออกมา

“ร.......เรา.....ต...ต้อง.....พูดดด”   แบ๊งค์พูดต่อ

“อืม...เราจะฟังนะ”  แมคตอบ   แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ กวักมือให้แมคมาใกล้ ๆ ปากแบ๊งค์  ซึ่งแมคก็ทำตาม

“...น...นาย.....ค...คือ...เพื่อน......ขอ...ง....เรา....นะ เร.........เรา.......ไม่......เคย....ก....โกรธ...นา...นาย...เลย”   แบ๊งค์ตอบออกไป  เป็นเหมือนการให้อภัยทุก ๆ สิ่งที่แมคเคยทำไว้กับแบ๊งค์

“จ........จริง.......จ....จริงนะ”   แบ๊งค์พูดไว้แค่นั้น

“ขอบคุณนะแบ๊งค์   เราจะไม่มีวันลืมแบ๊งค์เลยจริง ๆ”   แมคพูด  แล้วรีบเช็ดน้ำตา

“ก...กาว”    แบ๊งค์เรียกกาวอีกครั้ง  มันเลยรีบ ลุกขึ้นมากหาแบ๊งค์

“จ.....จำ....ได้...มั้ย”    แบ๊งค์พูดไป

“จำอะไรหรอ”   กาวถามกลับมา   แบ๊งค์เลยกวักมือให้กาวเข้ามาใกล้ที่สุด  เท่าที่จะใกล้ได้  แล้วแบ๊งค์ก็ยกหัว  พยายามเหมือนกับว่าแบ๊งค์จะหอมแก้มกาว   แต่หน้ากากออกซิเจน  ก็กั้นหน้าของเราสองคนเอาไว้   ที่แบ๊งค์ทำแบบนั้น  ก็มาจากตอนที่แบ๊งค์เดินไปซื้อของกับกาว  แล้วกาวขอหอมแก้มแบ๊งค์ แต่แบ๊งค์ไม่ให้   แล้วเขิน ๆ ไปนั่นเอง   ซึ่งดูเหมือนว่าไอ้กาวเอง  ก็จะจำได้

“แบ๊งค์..............”   มันร้องไห้หนักกว่าเดิม   ตอนนี้น้ำตามันไหลหยด  ลงมาที่หน้ากากออกซิเจนของแบ๊งค์ด้วย   แบ๊งค์เลยยิ้มให้มัน  พลางเอามือไปกุมมือของกาว  ข้างที่กาวเอาเท้าเตียงไว้ตอนที่กาวโน้มตัวลงมาหาแบ๊งค์   พอไอ้กาวเห็นว่าแบ๊งค์ยิ้มให้เท่านั้นแหละ  มันก็วิ่งหนีออกไปเลย

“พิ.........พี่..”   ยังไม่ทันที่แบ๊งค์จะเรียกจบ  พี่ตั้มก็เหมือนรู้ครับ  โน้มตัวลงมาหาแบ๊งค์

“มีอะไรหรอแบ๊งค์”   พี่ตั้มพูด

“ข....ขอ...บ......ค....คุณ...นะ   ส......สำ........ห..หรับ.......น...นาฬิ......ก..กา”   แบ๊งค์ขอบคุณพี่ตั้มเรื่องนาฬิกา

“ไม่เป็นไรหรอกแบ๊งค์  พี่อยากให้แบ๊งค์จริง ๆ ไม่ต้องมาขอบคุณพี่หรอก  เป็นของขวัญคริตมาสนะ”    พี่ตั้มพูด

“............................”   แบ๊งค์พยักหน้า

“แบ๊งค์...................แบ๊งค์ต้องหายนะ แล้วพี่จะเอาของขวัญมาให้แบ๊งค์อีก”     พี่ตั้มพูด

“อ....อืม......ต....ต้อง...หาย...สิ”     แบ๊งค์ตอบ

“พี่ว่า  เรารีบออกไปก่อนดีกว่านะ อาร์ทมันคงรอแย่แล้ว”   พี่ตั้มพูดครับ  แล้วทุก ๆ คนก็ลุกออกไป

“ด.....เดี๋ยว.....ก..ก่อน”     แบ๊งค์พยายามเรียกครับ  ทุกคนก็เลยหยุด  แล้วหันมา

“บ....แบ....แบ๊งค์....ร..รัก....ท...ทุก....ค..น....นะ”   แบ๊งค์พูดออกไป

“อืม.....พวกเราก็รักแบ๊งค์เหมือนกัน”   พี่ตั้มตอบก่อนที่จะออกห้องไป    เวลาของแบ๊งค์มันจะเหลืออีกเท่าไหร่เนี่ย   คนต่อไปต้องเป็นพี่อาร์ทแน่ ๆ เลย   ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าซักวันมันต้องเป็นแบบนี้  ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจเอาไว้แล้ว  ทำไมนะ  ทำไม  ถึงยังทำใจไม่ได้อีกก็ไม่รู้    แบ๊งค์นอนหลับตา  แล้วบ่นกับตัวเองในใจ

พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่อาร์ทยืนอยู่ที่ปลายเตียงแล้ว   แบ๊งค์เลยส่งยิ้มไปให้พี่อาร์ท  ซึ่งพี่อาร์ทก็ส่งยิ้มกลับมาเหมือนกัน  แล้วพี่อาร์ทก็ค่อยเดินเข้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ แบ๊งค์

ที่ใบหน้าของพี่อาร์ทตอนนี้ ไม่มีแม้แต่รอยน้ำตา   มีแต่รอยยิ้มเท่านั้น  เห็นแล้วสบายใจดีจัง  เห็นคนอื่นร้องไห้มาแยะละ

“เป็นไงบ้างครับ  เด็กดื้อของพี่อาร์ท”  พี่อาร์ทเข้ามานั่ง  แล้วลูบหัวแบ๊งค์เบา ๆ ครับ  แบ๊งค์เลยยิ้มตอบออกไป

“รู้มั้ย  ทำพี่เป็นห่วงแทบแย่แน่ะ”  พี่อาร์ทพูดครับ

“ข...ขอ...โท....โทษ”   แบ๊งค์กล่าวขอโทษพี่อาร์ท    รู้สึกเสียใจจริง ๆ ที่ทำให้พี่อาร์ทเป็นห่วงได้ขนาดนี้

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  แล้วทีหลังอย่าทำอีกล่ะ”   พี่อาร์ทกำชับ

“............................”  แบ๊งค์พยักหน้าให้แทนคำตอบ

“แต่พี่ยังไม่หายโกรธง่าย ๆ หรอกนะ”   พี่อาร์ทพูด  แบ๊งค์เลยทำหน้างง ๆ

“อยากรู้หรอ  ว่าจะทำยังไงให้พี่หายโกรธ”  พี่อาร์ทถามกลับมาครับ  แบ๊งค์เลยพยักหน้า

“อยากให้พี่หายโกรธ  ก็ต้องรีบ ๆ หายไว ๆ แล้วมาเที่ยวกับพี่ไงครับ”   พี่อาร์ทคว้ามือแบ๊งค์มากุมไว้

“จ....จะ....ไป.....ไ....ไหน....หรอ”   แบ๊งค์ถาม  ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มหมดแรงที่จะพูดแล้วล่ะสิ

“ก็ไปที่ ๆ เราเคยไปด้วยกันไง ไปให้หมดทุก ๆ ที่เลย  โดยเฉพาะที่ถนนแห่งความทรงจำของเรา”   พี่อาร์ทหันมายิ้มให้แบ๊งค์ครับ

“.....................”   แบ๊งค์ยิ้มตอบ

“พี่จะพาแบ๊งค์ไปทุก ๆ วันเลย เพราะมันเป็นที่แห่งความทรงจำของสองเรา  แบ๊งค์ไปกับพี่นะ”   พี่อาร์ทพูด

“....ค....ครับ....แบ..แบ๊งค์....จ..จะไป”   แบ๊งค์พูดออกมา

“ดีมาก ๆ เลยล่ะ ไม่ดื้อแบบนี้สิ  ถึงจะน่ารักหน่อย”  พี่อาร์ทพูดแล้วส่งยิ้มมาให้ครับ

“พ....พิ...พี่..อา...อาร์ท”   แบ๊งค์เรียก

“มีอะไรหรอครับ”   พี่อาร์ทถาม

“แบ.....แบ๊งค์..จ..จะ..ตา...ตาย..แล้ว..ใช่มั้ย”   แบ๊งค์ตัดสินใจถามออกไป

“ไม่นะ  แบ๊งค์ยังไม่ตายซักหน่อย แบ๊งค์ยังต้องไปเที่ยวกับพี่อีกไง  แบ๊งค์ยังตายไม่ได้”    พี่อาร์ทพูด  ตอนนี้พี่อาร์ทเริ่มร้องไห้ออกมาแล้ว

“ร..ร้อง...ไห้...ท.....ทำ..ไม”    แบ๊งค์พูดแล้วเอามือเช็ดที่แก้มพี่อาร์ทครับ

“ป...เปล่าครับ  พี่ไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย”   พี่อาร์ทพูด  แล้วเอาหน้าถูไปมากับ  มือของแบ๊งค์

“ก....อ.....กอด....”    แบ๊งค์พูดได้แค่นั้น  แล้วเสียงก็หายไป  ทำไมนะ  การพูดในวันนี้มันช่างเหนื่อยล้าเหลือเกิน 

“ได้ครับ  พี่จะกอดแบ๊งค์เอาไว้นะ”   พอพี่อาร์ทพูดจบ  ก็ค่อย ๆ สอดมือช้อนตัวแบ๊งค์เอาไว้  พลางเอามืออีกข้างหนึ่ง   โอบผ่านตัวแบ๊งค์มา

“อุ่นพอมั้ยครับ”   พี่อาร์ทถามด้วยรอยยิ้ม  มันไม่ใช่ยิ้มที่สดใส  หากเป็นยิ้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา

“.อ.....อืม.....”       แบ๊งค์ตอบออกไป 

“แบ.....แบ๊งค์....ร...รัก...พี่อา....อาร์ท”    แบ๊งค์บอกรักออกมา   ประโยคที่แบ๊งค์พูดไม่บ่อยนัก  วันนี้แบ๊งค์อยากพูดมันซ้ำ ๆ เป็นร้อยพันครั้ง  แต่ก็ทำไม่ได้เลย  ทำไมนะ  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกเสียดาย  เสียดายวันเวลา  ที่เคยปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไม่รู้คุณค่า  ทำไมนะ แบ๊งค์ไม่เอาวันเวลาเหล่านั้น มาพร่ำบอกคำว่ารักให้พี่อาร์ทได้ฟัง

“ครับ...พี่ก็รักแบ๊งค์เหมือนกันนะ รักมากมายด้วย”   พี่อาร์ทพูดแล้วฟุบลงข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ

“ข....ขึ้น....มะ”  แบ๊งค์พูดพลาง  ใช้แรงที่อยู่เพียงน้อยนิด  ขยับตัวให้มีพื้นที่ให้พี่อาร์ท ขึ้นมานอนเคียงข้าง

“ได้ครับ   เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปนอนด้วยนะ”    แล้วพี่อาร์ทก็ค่อย ๆ ขยับตัวขี้นมานอนอยู่ข้าง ๆ  พลางเอามือโอบกอดแบ๊งค์ไว้   แบ๊งค์อยากให้เวลาหยุดอยู่อย่างนี้ไปตราบนานเท่านาน  พี่อาร์ทเองก็คงจะต้องการแบบนี้เหมือนกัน

แล้วอยู่ ๆ พี่อาร์ทก็ร้องเพลงออกมา  มันเป็นเพลงที่พี่อาร์ทเคยเล่นเปียโนให้แบ๊งค์ฟัง  มันเป็นเพลงที่ดังก้องอยู่ในใจแบ๊งค์เสมอ

มีคนๆหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อมทุกอย่าง และยังเป็นคนไม่ค่อยน่าสนใจ
เขาไม่ได้ทำอะไรที่ดูมีความหมาย เป็นแค่คนหนึ่งคน

หน้าตาก็ธรรมดาค่อนข้างไม่พิเศษ ไม่ค่อยสวยงามอย่างคนไหน
และยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ไม่ๆซักอย่าง




พี่อาร์ทร้องไป  พลางสะอึกสะอื้นไป  เหมือนพี่เค้ากำลังพยายามที่จะกล่อมแบ๊งค์

“พ...พอ....เหอะ..”   แบ๊งค์บอกให้พี่อาร์ทหยุด   ตอนนี้แบ๊งค์เริ่มง่วงแล้วสิ  เหมือนว่าเปลือกตาของแบ๊งค์มันเริ่มหนักมากขึ้นทุกที ๆ  และมันก็เริ่มที่จะปิดลงมาแล้วล่ะสิ

“ไม่นะแบ๊งค์  ห้ามหลับนะ ตื่นมาฟังพี่ร้องเพลงก่อน   แบ๊งค์!!!!!”    พี่อาร์ท  เรียกแบ๊งค์ครับ   

“แบ.....แบ๊งค์....รัก...พิ...พี่...อาร์ท...นะ...ค..ครับ”    แบ๊งค์พูดออกไป   ทำไมมันง่วงซะเหลือเกิน   ลาก่อนนะทุก ๆ คน  แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ ปิดตาและหลับไป    ตลอดกาล............
.
.
.
“แบ.....แบ๊งค์....รัก...พิ...พี่...อาร์ท...นะ...ค..ครับ”     แบ๊งค์พูดประโยคสุดท้ายออกมาครับ

“ไม่นะแบ๊งค์  ตื่นขึ้นมาสิ  แบ๊งค์!!!!”   ผมตะโกนเรียกชื่อแบ๊งค์จนสุดเสียงโดยไม่สนใจว่าที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลหรือไม่  เมื่อผมเห็นแบ๊งค์หลับไปแล้วนั้น  ผมก็กดสวิตช์ที่ใช้สำหรับเรียกเจ้าหน้าที่ให้ออกมาช่วยคนที่ผมรัก  เมื่อผมยังไม่เห็นว่ามีใครมา  ผมก็รีบลงจากเตียง   ตะโกนเรียกร้องของความช่วยเหลืออย่างบ้าคลั่ง

“หมอ!!!!!!!!!!  อยู่ไหนน่ะ มาช่วยแฟนผมด้วย!!!!!!!”   ผมตะโกนออกไปจนเส้นเสียงแทบแตก  ในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามากันราว ๆ 5-6 คน ผมก็ได้แต่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนกันผมเอาไว้

เจ้าหน้าที่เหล่านั้นทำอะไรก็ไม่รู้กับร่างกายของคนที่ผมรัก  ซักพักหมอก็เอาเหมือนเครื่องปั๊มหัวใจ  มาช๊อตที่ร่างกายของแฟนผม

“1...2...3...clear”   หมอพูดแบบในหนัง  หรือละครที่ผมเคยได้ดูมา  จากนั้นก็เอาเจ้าเครื่องที่ว่าช๊อตไปที่หน้าอกของแบ๊งค์     ร่างของแบ๊งค์ลอยตามขึ้นมา  แล้วก็หลุดกลับลงไปนอนอยู่ที่เดิม  หมอทำแบบนั้นอยู่ 3-4 ครั้ง   ระหว่างที่เค้าช๊อตหัวใจแบ๊งค์  ผมร้องออกมาไม่เป็นเสียง  ด้วยความสงสารที่ร่างกาย  บาง ๆ ของแบ๊งค์ต้องโดนกระทำอย่างรุนแรงแบบนั้น  แล้วอยู่ ๆ หมอก็หยุดไป  โดยพูดอะไรกับพยาบาลก็ไม่รู้

“ทำไมหยุดไปล่ะครับ  เค้ายังไม่ฟื้นเลยนี่”   ผมท้วงครับ

“ผมเสียใจด้วยครับ   เค้าจากเราไปแล้ว”  หมอพูดแล้วเดินจากไปครับ   พอผมหันไปที่เตียง  ตอนนี้พยาบาล  เอาผ้าคลุมหน้าแบ๊งค์ไปแล้ว

“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”   ผมตะโกนออกไป
***************************
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ.. จบแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 18-07-2007 23:09:47
บทที่ 70  ลาก่อน...แบ๊งค์

ในที่สุด  แบ๊งค์ก็จากผมไปจนได้  ไม่มีทางใดเลยที่จะรั้งเค้าเอาไว้   ตอนนี้เค้าคงล่องลอยไปอยู่ที่ใดซักที่   โดยที่ ๆ นั้นจะทำให้เค้ามีความสุขหรือไม่  ผมเองก็ไม่อาจทราบได้

ผมยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก  กำลังจัดเนคไทด์ให้เข้าที่ กับสูทสีดำ   วันนี้ผมแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ  ด้วยชุดสูทสีดำ   ผมไม่ได้ไปไหนหรอก  มันเป็นงาน ๆ หนึ่งที่ผมไม่เคยปรารถนาจะไปเลยด้วยซ้ำ  งานศพของแบ๊งค์นั่นเอง
“อาร์ท  เสร็จรึยังลูก  ไปกันได้แล้ว”  แม่ผมเรียกออกมาจากนอกห้องผมเลยรีบเดินออกไป
.
.
.
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความเศร้าโศก  ทุกคนใส่ชุดสีดำสนิทมางาน  มันยิ่งทำให้บรรยากาศภายในงานดูเศร้ามากขึ้นเป็นสองเท่า  แม่ของแบ๊งค์เอาแต่นั่งร้องไห้  ไม่พูดไม่จาอยู่ข้าง ๆ โอโต้ซัง  พ่อเลี้ยงชาวญี่ปุ่นของแบ๊งค์    แม่ของผมเองก็เช่นกัน   เธอร้องไห้อย่างหนัก  จนกระทั่งตาของเธอบวมเป่ง  ทำให้วันนี้แม่ของผมต้องใส่แว่นตาสีดำมางาน  เพื่อปกปิดร่องรอยเหล่านั้น

เพื่อน ๆ เองก็ไม่ต่างกัน   นุ่นเป็นคนนั่งจุดธูปอยู่หน้าโลง   เธอเองก็ดูแย่ไปไม่กว่ากัน  ในมือข้างหนึ่งของเธอถือผ้าเช็ดหน้าคอยซับน้ำตาไปด้วย

พวกแมค  ตั้ม ปรินซ์  ก็คอยเอาน้ำเสิร์ฟให้บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน   ทั้งสามเหมือนว่าจะทำใจได้  มีหลายครั้งอยู่เหมือนกัน  ที่ผมแอบเห็นสามคนนี้แอบไปเช็ดน้ำตา

ปอยกับตี๋  ก็มาช่วยงานนี้เหมือนกัน   โดยทั้งคู่ทำหน้าที่ต้อนรับแขก  ที่พากันเข้ามาในงาน  เพราะตอนนี้แม่ของแบ๊งค์คงยังไม่มีกำลังพอที่จะทำอะไร
 
พอพ่อกับแม่ของผมมาถึงบริเวณงาน   ก็รีบตรงเข้าไปหาแม่ของแบ๊งค์ในทันที   ทั้งคู่พูดอะไรกันก็ไม่รู้  แล้วก็เอาแต่กอดกันร้องไห้    ผมเลยแยกออกมาไปทักทาย เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทีละคน   แล้วแบ๊งค์ก็เข้าไปไหว้ศพแบ๊งค์
รูปที่ตั้งอยู่หน้าโลง  เป็นภาพของแบ๊งค์ที่ดูสดใส  ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้ม   ดูแล้วสดใสเกินกว่าจะเป็นคนที่อายุ 19 ปี   มองไปแล้วดูเหมือนจะเป็นแค่เด็ก ในชั้นมัธยมปลายมากกว่า

ผมรับธูปจากนุ่น  ที่ตอนนี้เอาแต่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น  มาไหว้ศพแบ๊งค์ 

“หลับให้สบายนะครับ  เด็กดื้อของพี่”   ผมพูดก่อนจะเอาธูปลงไปปักในกระถาม  แล้วผมก็เดินอ้อม ๆ โลงศพไปข้างหลัง   แล้วผมก็เคาะโลงศพเบา ๆ

“พี่รักแบ๊งค์มากนะครับ”   นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่ผมพูด  ก่อนจะเข้าไปนั่งฟังพระสวดอยู่เงียบ ๆ   หลายคนอาจแปลกใจว่าทำไม  ผมไม่เศร้า  ผมไม่มีน้ำตา   

ผมเองก็ไม่รู้จะตอบเค้าเหล่านั้นว่าอย่างไรเหมือนกัน   ผมร้องไห้จนน้ำตามันเหือดหาย  ตอนนี้อาจจะมีเพียงสายเลือดเท่านั้นที่จะไหลออกมาแทนน้ำตา   ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนภายในมันแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ     มันอัดอั้นจนผมเองพูดอะไรไม่ออก

ผมก็เลยได้แต่นั่งนิ่ง ๆ อย่างนั้นไป
.
.
.
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว   มีแขกมาเยอะพอสมควร  ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติ ๆ ของแบ๊งค์  รวมถึงคณะครูอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย  และคนที่รู้จักแบ๊งค์  ต่างมาแสดงความเสียใจ 

แม่ของแบ๊งค์ทำหน้าที่ถือพานดอกไม้จัน  ส่วนผมทำหน้าที่ ถือพานแจกของชำร่วยอยู่หน้า เมรุ  ผู้คนที่มาร่วมงาน  รวมถึงเพื่อน ๆ ของเราผลัดกันเดินขึ้นยังเมรุ  เสมือนเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้าย   

แล้วผมกับแม่ของแบ๊งค์ก็เดินขึ้นไป วางดอกไม้จันแม่คนสุดท้าย   ผมค่อย ๆ วางไดอารี่ของผมลงไปด้วย  ไดอารี่ที่บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก  ความคิดถึงของผมที่มีต่อเค้า  ซึ่งผมตั้งใจจะมอบให้เค้าอ่าน  แต่มันก็สายไปซะแล้ว
นุ่นเดินมาข้าง ๆ ผม  แล้วโยนพวกกุญแจตุ๊กตาอันหนึ่งเข้าไป   มันคือพวกกุญแจตุ๊กตาโอชาเคนนั่นเอง  ตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนของไอ้โป้ง

กรูส์ฝากดูแลน้องเค้าด้วยนะเมริง   ผมได้แต่ส่งกระแสจิตไป  หวังว่าโป้งคงจะรับรู้
.
.
.
หลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน  ในช่วงเช้า  เราก็ไปเก็บอัฐิของแบ๊งค์กันครับ   ทุกคนมากันพร้อมหน้า  ด้วยเสื้อผ้าสีดำเหมือนเดิม   เราเก็บอัฐิ  โดยแบ่งเป็น 2 โกศ   โดยแม่แบ๊งค์เก็บไว้โกศหนึ่ง  และมอบให้ผมโกศหนึ่ง   ส่วนที่เหลือเราคงจะเอาไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยากัน

ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือ  ที่กำลังแล่นออกไป  แล้วจอดลอยลำอยู่นิ่ง ๆ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา   แม่ของแบ๊งค์ค่อย ๆ โปรยห่ออัฐิของแบ๊งค์ลงน้ำไป   เพื่อน ๆ ทุกคนก็ค่อย ๆโปรยดอกไม้ตามไปด้วย

เมื่อเสร็จพิธีลอยอังคาร   แม่ของแบ๊งค์ก็มอบสิ่ง ๆ หนึ่งให้ผมก่อนกลับเชียงใหม่ครับ   มันเป็นโทรศัพท์มือถือของแบ๊งค์นั่นเอง
ผมเปิดดูภาพต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ จะว่าไป  เจ้าเด็กดื้อของผมก็บ้ากล้องเหมือนกันนะเนี่ย   ถ่ายไว้ซะหลายรูปเลย มีตั้งแต่รูปที่ใส่ชุดนักศึกษาไปจนถึงชุดผู้ป่วยในโรงพยาบาล   

แล้วผมก็เปิดไปดูไฟล์วิดีโอบ้าง  ข้างในนั้นก็มีอยู่หลายไฟล์เลยครับ   เป็นไฟล์แอบถ่ายนายกาวตอนนอนหลับบ้างล่ะ  บางอันก็เป็นไฟล์ที่แบ๊งค์เล่นวิ่งไล่จับกับไอ้ตั้ม  แล้วก็มาถึงไฟล์ ๆ หนึ่ง  เป็นไฟล์ที่เพิ่งบันทึกไม่นานมานี้
พอผมเปิดเข้าไป  ก็เจอเป็นภาพของแบ๊งค์ที่เข้ามาตั้งกล้อง  แล้วเดินกลับไปนั่งบนเตียง

“หวัดดี    เราชื่อแบ๊งค์นะ”   

“ตอนนี้เราป่วยอยู่อ่ะ  รู้สึกว่าจะเป็นลูคิเมียนะ หมอบอกว่าโรคนี้ร้ายแรงมาก  เราก็ไม่รู้หรอกว่าจะหายรึเปล่า แต่เราก็ไม่เสียใจหรอก  หากเราต้องตายไป เพราะตอนนี้เราได้รู้แล้ว  ว่ามีคนที่รักเรามากขนาดไหน มีทั้งแม่  ทั้งเพื่อน  ทั้งรุ่นพี่ที่ดีต่อเรามากมายแล้วก็ยังรวมไปถึง.........คน ๆ หนึ่ง คน ๆ นี้เป็นคนที่หล่อมากเลยล่ะ  สำหรับเรา เค้าชอบหาว่าเราดื้อ   เราก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเราดื้อตรงไหน แต่ถึงเค้าจะว่าเราดื้อก็เหอะ  แต่เค้าก็ตามใจเรามาตลอดเลย ไม่เคยขัดใจเราแม้แต่ครั้งเดียวเลย   แต่เรานี่สิ  ชอบขัดใจเค้าตลอด

ตลอดเวลาที่อยู่กับเค้า   เค้ามักจะพูดเสมอว่าเค้ารักเราแต่เราอ่ะ  ไม่ค่อยได้บอกรักพี่เค้าเลย วันนี้เราก็เลยจะมาบอกอ่ะ แบ๊งค์อาจจะเคยทำตัวไม่ดีไปบ้าง ทำให้พี่อาร์ทต้องเสียใจไปก็หลายครั้ง แต่ไม่ว่ายังไง  แบ๊งค์ก็อยากจะบอก แบ๊งค์รักพี่อาร์ทนะครับ”
 
แบ๊งค์พูดไว้แค่นั้น   แล้วแบ๊งค์ก็เดินมาปิดกล้อง  คำพูดคำนี้ที่หลุดออกมาจากปากของแบ๊งค์มันช่างมีค่าเหลือเกินในเวลานี้   

“พี่ก็รักแบ๊งค์เหมือนกัน”    ผมตอบออกไป   เรื่องราวทั้งหมดมันคงจบลงเท่านี้แล้วสินะ   หลับให้สบายนะ........นายเด็กดื้อ.............

......จบแล้วคร้าบ..........
**********************************
:sad2: :sad2:

 :bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 18-07-2007 23:39:03
 :impress:

เอาจนได้นะนายแบ็งค์

เล่นซะท่วมจอคอมเลย

ขอบคุณคุณ pajaa ด้วยนะครับ ที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ได้อ่านกัน

รออ่านเรื่องต่อไปอยู่นะคับ

 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 18-07-2007 23:42:44
 :dont2: :dont2: ง่าทำใมถึงจบแบบนี้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 19-07-2007 00:04:39
ถึงแม้จะรู้ แต่ก็ทำใจไม่ได้
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 19-07-2007 00:28:16
 o7 ขอบคุณมากคุณจา  เป็นเรื่องให้อะไรดีกับคนอ่านเยอะเลยอ่ะ  อ่านจบก็ชวนให้คิดถึงคนข้างๆ เวลาชองแต่ละคนมันไม่แน่นอน  จะพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ถ้าเวลามาถึงจะได้ไม่รู้สึกเสียดาย.....

 :o12:ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเป็นจบประมาณนี้ แต่มันทำใจไม่ได้จริง อ่านไปน้ำตาซึมไป

ขอให้คุณจามีความสุขกับปัจจุบันและอนาคตมากๆๆๆๆ นะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-07-2007 00:30:11
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:


ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะเป็นแบบฮาๆ สนุกๆ

แต่พออ่านไปทำไมมันเริ่มเศร้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนพี่โป้งตาย

พอตอนจบแบงค์ก็มาตายอีกซะงั้นอ่ะ

ทำร้ายจิตใจอ่ะ
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-07-2007 00:55:09
 o7  o7  o7  o7

เศร้ามากมาย

ของคุณคนแต่ง คนโพสจ้า  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 19-07-2007 09:46:57
เริ่มเรื่องด้วยคราบแห่งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

แต่กลับจบลงด้วยคราบน้ำตา o7 o7

เศร้าชะมัด

แต่ก็ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้นะครับสนุกมากเลย

ไม่ผิดหวังจริงๆที่ได้อ่านเรื่องนี้ o1 o1
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: lanlan ที่ 19-07-2007 13:05:28
โหยเล่ยไม่กล้าอ่านเรื่องอื่นเลยอ่านไปเมื่อจนนำตา
คงท่วมบ้านได้แล้วมั้ง :m15: ทำไมต้องให้นายเอกตายง่ะ
ไม่ไหวเศร้าๆๆๆพออ่านเรื่องอื่นไปก็คิดแต่เรื่องของแบงค์เค้านี่แหละ
แต่ขอบคุณมากคับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kook_kai ที่ 19-07-2007 14:54:13
 :sad4:ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากจะเจอ ถ้าเราเจอเราจะทำไงกัน :sad4:

ขอบคุณกั้บ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-07-2007 15:28:57
 :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-07-2007 17:32:26
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:


เสียน้ำตามากมาย


--------------------------------

ขอบคุณ BrOwNiE สำหรับเรื่องดีๆ

ขอบคุณ pajaa ที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอบคุณ เรย์โก๊ะ สำหรับที่วิ่งเล่น

ขอบคุณ เซ็งเป็ด ที่ทำให้เรารู้จักกัน

ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับมิตรภาพ

ขอบคุณครับ

 o14 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 19-07-2007 19:47:58
 :o12:  ทำใจไม่ได้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-07-2007 20:03:17
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะเศร้า แต่ลึก ๆ ในใจก็ยังอดลุ้นไม่ได้ อยากให้มีปาฎิหารย์สักครั้ง
แต่น่าเสียดาย ... ปาฎิหารย์ไม่มีจริง  :m15:  :m15:  :m15:

ขอบคุณคนแต่ง ขอบคุณคนโพสต์ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ  o15  o15  o15

 :m15:  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-07-2007 20:17:37
เล่นเอาน้ำตาท่วมแทบเป็นสายเลือดเลย
 :เศร้า2: :เศร้า2: :เศร้า2: :เศร้า2:

จะดีใจหรือเจ็บปวดดีนะ
ที่กว่าจะฝ่าฟันกันมาเสียยากเย็น

สุดท้ายเวลาจะมีความสุขด้วยกันมันช่างน้อยเหลือเกิน

เหลือแต่ภาพผ่านจอคอม ที่จะคอยหล่อเลี้ยงให้อาร์ตเข้มแข็งต่อไป
 :dont2: :dont2: :dont2:


ขอบคุณคนโพส และ คนเขียนที่เอาเรื่องดีๆมาแบ่งบันกัน
 o14
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sasi ที่ 01-08-2007 19:14:41
 :m15: รู้ป่าวเนี่ย อ่านจบปุ๊บ นั่งร้องไห้ต่ออีกเกือบ ชม.อ่ะ (จริงๆ ร้องตั้งแต่ตอนที่แต่ละคนทะยอยเข้าไปดูใจอ่ะ)
สงสารพี่อาร์ทจัง กว่าจะมีวันนี้ ผ่านความทุกข์มาก็ตั้งเท่าไหร่ แต่ก็อย่างว่านะคับ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ แน่นอน
ยังไงก็ไม่ต้องห่วงแบ๊งค์แล้วนะครับ อย่างน้อย ก็มีพี่โป้งคอยอยู่เป็นเพื่อนแบงค์อีกคน แบ๊งค์ไม่เหงาหรอก
สู้ๆนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-08-2007 09:05:37
เศร้าอ่ะ

แต่ประทับใจครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 10-08-2007 00:02:09

 :a5: :a5: :a5: :a5:

อ่า.......ซะอย่างง้าน......สงสารพี่อาร์ท

แต่ชอบเรื่องนี้นะ....ชอบตั้งแต่ต้นจนจบ  แม้ว่ามันจะเศร้า....แต่ว่าได้ใจเราไปเต็มๆ เลย   :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jomjai ที่ 15-08-2007 22:43:00
 o1 o1ขอบคุณมากครับ o1 o1
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: lovesick ที่ 09-10-2007 00:18:47
สะใจมากเลยครับ กว่าจาจบ ขอบคุณมากๆเลยนะคัรบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 09-10-2007 02:13:56
จบอย่างเศร้า โคตรเลยอ่ะคับ

แงงงงงงงงงงงงงงงง  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-10-2007 02:55:47
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

เศร้ามากมาย  นั่งอ่านอยู่ตั้งสามวัน

จริงๆก้ออยากอ่านวันเดียวให้จบ  แต่มีสอบทุกวันเลยต้องแบ่งอ่านอ่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้...แต่จบได้เศร้ามาเลยอ่ะ  :m15: :m15: น้ำตาท่วมคอมฯแล้วเนี้ย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ment12835 ที่ 15-10-2007 22:05:55
เป็นเรื่องที่สนุก มากเลยครับแล้วก็เศร้าด้วยครับ ไม่เคยร้องไห้ เยอะเท่ากับเรื่องนี้เลย ทำไมแบ๊งค์ต้องจากทุกคนไปด้วย พูดแล้วยังเศร้าไม่หายเลยครับ ไปร้องห้ายต่อแล้ว  :sad2: o9 :o12: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ment12835 ที่ 15-10-2007 22:07:25
เป็นเรื่องที่สนุก มากเลยครับแล้วก็เศร้าด้วยครับ ไม่เคยร้องไห้ เยอะเท่ากับเรื่องนี้เลย ทำไมแบ๊งค์ต้องจากทุกคนไปด้วย พูดแล้วยังเศร้าไม่หายเลยครับ ไปร้องห้ายต่อแล้ว  :sad2: o9 :o12: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 30-10-2007 00:07:19

         สัจธรรม คือ อไร
 
         ความรัก คือ อไร

         ชีวิต คือ อไร

          มิตรภาพ คือ อไร

          อนาคต คือ อไร

          อดีต คือ อไร

          ตัวเรา คือ อไร

          คนรอบข้าง คือ อไร

          แล้ว อไร เป็น เช่นไร ใครรู้บ้าง         
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 07-11-2007 00:36:03
 :impress:
เดิมได้อ่านเรื่องนี้ประมาณ 10 ตอนจากที่อื่น...แล้วก็ไม่สามารถอ่านต่อได้อีก...
ดีใจมากมายที่เจอเรื่องนี้ในเล้าเป็ด...ขอบคุณ pajaa ที่ทำให้ได้อ่านจนจบ +1 ให้เป็นกำลังใจ

 :m8:     เป็นอีกเรื่องที่ต้องเสียน้ำตาเป็นช่วง ๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง...โดยเฉพาะตอนจบ....
เสียดายความรักที่สวยงามของอาร์ทกับแบงค์...ความรักของครอบครัว และเพื่อน ๆ พี่น้อง...
การจากลา...นำความทุกข์มาให้เราเสมอ...ไม่ว่าจากเป็น หรือ จากตาย... :m2:
อยากให้ทุกคน ดูแลและรักษาความรักของคุณเอาไว้ให้ดี....เป็นกำลังใจให้ทุกเส้นทางของความรัก

 :pigwrite:     จำได้คร่าว ๆ ว่าคนเขียนเข้ามา post ไว้ว่าเป็นงานเขียนเรื่องแรก...จึงขอบอกเล่าความรู้สึก
หลังจากอ่านผลงานสักนิด....โครงเรื่องน่าสนใจถือเป็นจุดขายของผลงานก็ว่าได้...แม้จะมีกลิ่นอาย
ของ Autumn in my Heart โชยมาแต่ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียด....สิ่งที่อยากให้เพิ่มเติมน่าจะเป็น
ภาษาและการเชื่อมต่อ...หาก smooth กว่านี้น่าจะทำเป็น pocket book ได้เลยทีเดียว..... :a2:
เอาใจช่วยให้ผลิตผลงานใหม่ ๆ ได้อย่างดีและมีคุณภาพมากยิ่ง  ๆ ขึ้นไป......
 o14 o15
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 09-11-2007 00:16:51
ปวดใจจังเลย เศร้าโคตรรเลย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 12-11-2007 03:11:51
ได้กลับมาอ่านต่อจนจบ...

ไม่คิดว่าจะเศร้าได้ใจขนาดนี้เลยครับ

น้ำตาร่วงกราวเลย  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-11-2007 12:51:55
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: dekchin ที่ 12-11-2007 23:20:12
 :o12: :o12:

ช้ำใจ ช้ำใจ

ทำไมคะ ทำไม

ไม่เข้าใจ

แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 18-11-2007 20:48:03
 :o11:เศร้าจางเยย  อ่ะ
                                          อ่านแล้วทำให้รู้ว่า
                 
                  ความรักไม่ต้องการการครอบครอง ขอเพียงรู้ว่าใจเราอยู่กับใคร และรู้ว่าใจใครอยู่กับเรา       
                   ถึงแม้ความเป็นจริงมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้ ขอแค่เรารักเขา                                   
                                     และขอแค่เขารักเรา เท่านั้นเองที่ต้องการ                       
       อาจจะเสียใจที่ไม่ได้เคียงคู่กัน แต่เมื่อเรามองดูเขามีชีวิตที่ดี เราเองก็ควรจะดีใจ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: iizze ที่ 18-11-2007 21:51:05
สุดๆคับ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tarper ที่ 25-11-2007 00:44:02
 o7 :o12: :sad2: o7 :sad2: :o12: o7 :sad2: :o12:

เศร้าจังเลยคับทำไมไม่สมหวัง   น่าสงสารพี่อาร์ทจังเลยที่ต้องมาอนู่ตัวคนเดียว  ไม่มีแบงค์มาอยู่เคียงข้างกาย


 :m15: :m15: :o12: o7 :sad2: :o12: o7 o7 :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: I_am_Mania ที่ 10-12-2007 03:09:05
เศร้าจัง เสียน้ำตาไปเปงตุ่มเลย อ่านตอนจบ

ชีวิตคนมันไม่แน่นอน ขอให้คนที่ยังอยู่ มีชีวิตอย่างเข้มแข็งด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sippakorn ที่ 02-01-2008 03:29:30
- ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่มีมาให้ติดตาม ประทับใจจริงๆๆ และอาร์ทกะแบ็งค์และเพื่อนๆจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: อาจารย์..สีฟ้า ที่ 08-01-2008 14:20:48
ยิ่งใหญ่จัง เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ ขอบอกว่าไม่มีอะไรสุดยอดเท่านี้อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 09-01-2008 21:39:57
 :sad4: ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 09-01-2008 21:52:45
ตกใจเลย แฮะ เรื่องจบตั้งนานแล้วยังมีคนสนใจอ่านอยู่เลยเนอะ

ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านกันนะคับ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 10-01-2008 03:50:01
 :o12: เศร้าครับ ผมอ่านรวดเดียวจบเลยครับ จะตีสี่แล้ว  :o12:

 :o12: มันทำให้นึกถึงเรื่องเก่า ๆ น่ะครับ ผมก็เคยมีประสบการณ์แนว ๆ นี้ครับ  :o12:

 :o12: ผมคือคนที่อยู่ต่อไป แต่เขาคือคนที่จากไปไม่มีวันกลับมา มันเศร้ามากเลยนะครับ  :o12:

 :o12: เรื่องนี้ทำให้ผมร้องไห้ เหมือนกับเรื่อง แบงค์กับริว เก่งกับตี๋ อยากบอกว่ามันยอดเยี่ยมมากครับ  :o12:

 :o12: แต่ถ้าให้เลือก ผมอยากให้คนที่ผมรัก อยู่ต่อไป ถึงแม้ว่าอนาคตผมอาจจะไม่ได้อยู่กับเขา  :o12:

 :o12: ตอนนี้สิ่งที่ผมคิดอย่างเดียวก็คือ ผมยังมีความทรงจำดี ๆ ไม่เคยลืม ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาเกือบ 10 ปี  :o12:

 :o12: แต่ผมก็ไม่เคยลืมวันเวลาเหล่านั้นเลย ผมยังคิดถึงเขาอยู่เสมอ ตลอดไป...

ปล. ขอบคุณเจ้าของเรื่อง และคนที่นำมาลงนะครับ ขอบคุณจริงๆ  ครับ ที่ทำให้ผมได้ระลึกถึงวันเก่า ๆ อีกครั้ง

มันเจ็บ แต่ก็เป็นความทรงจำที่ดีนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: holymist1988 ที่ 10-01-2008 19:50:47
ผมอ่านเรื่องนี้จบไปได้ซักพักแล้วละคับ แต่วันนี้ดูMV เพลง สายลม ของเจนนิเฟอร์ คิ้มอ่ะคับ
เจงๆ ครั้งแรกที่ฟังเพลงนี้ ผมก็นึกถึงเรื่องๆนี้แล้วแหละคับ แล้วพอยิ่งดูMV มันโดนสุดๆเลยคับ
ผมเลยอยากให้เพื่อนๆได้ฟังด้วยอ่ะคับ เลยเอาเพลงมาฝากคับ
เพลงๆนี้เหมาะสำหรับพี่อาร์ท แล้วก็ทุกๆคนที่รักแบงค์น่ะคับ

.

.

.

http://www.uploadtoday.com/download/?06cb82075e2fe09e2a68ea9fbc59e474

ไม่รู้ว่านานเท่าไร ที่ฉันและเธอห่างไกล ตั้งแต่วันนั้น
อยากขอแค่เพียงสักวัน ให้เราได้มาพบกันเหมือนวันเก่า

แม้ไม่อาจเป็นดั่งใจที่ต้องการ เราต่างรู้
คงไม่นานเกินเฝ้ารอ จะจำไว้เสมอ

เมื่อใดที่สายลมพัด ดั่งมีความรักมาช่วยปลอบความเหงาใจ
ไม่ว่าตัวเธออยู่ไหน ลมจะเป็นเหมือนใจที่ห่วงใยกัน
เพราะรักแท้ก็เป็นเหมือนลมที่โอบกอดฉัน
แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ…

แค่นึกว่าได้เจอกัน หรือว่าพบในฝัน ฉันก็สุขใจเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอ…จะเป็นแบบเดิมและคิดถึงกันหรือเปล่า

แม้ไม่อาจเป็นดั่งใจที่ต้องการ เราต่างรู้
คงไม่นานเกินเฝ้ารอ จะจำไว้เสมอ

เมื่อใดที่สายลมพัด ดั่งมีความรักมาช่วยปลอบความเหงาใจ
ไม่ว่าตัวเธออยู่ไหน ลมจะเป็นเหมือนใจที่ห่วงใยกัน
เพราะรักแท้ก็เป็นเหมือนลมที่โอบกอดฉัน
แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ… 

ลมจะพัดมาจากทิศใดก็ตาม
สายลมเป็นดั่งเป็นสายใย เชื่อมใจเราไว้ไม่ขาด
ให้เราผูกพันแม้ต้องห่างกัน…

ไม่ว่าตัวเธออยู่ไหน ลมจะเป็นเหมือนใจที่ห่วงใยกัน
เพราะรักแท้ก็เป็นเหมือนลมที่โอบกอดฉัน
แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ…

แม้มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้เสมอ…
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 27-01-2008 03:12:22
พี่ใจร้ายมาก ๆ เลยอ่ะ....ทำผมบ่อน้ำตาแตกอีกแล้ว :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: M@5teR I[K][K]I ที่ 07-02-2008 13:57:44
ผ่านมาแล้วจึงเอาเพลงมาแป๊ะ.....เรื่องนี้ ตอนจบไม่หักมุมมากเท่าเรื่องริวกับแบงค์...(แบงค์ไม่ตายแต่เป็นนายเอกเหมือนกาน....?)

เอาเพลงมาประกอบนะงับ (แปลไทยไม่เก่งเลยเอาแปลEngมาแทน) นั่งฟังแล้วนึกตั้งแต่ต้นจนจบนะ....ตาบวมแน่ๆ......ป๋มร้องไห้จนปวดหัวเลย

One more time, One more chance
Masayoshi Yamazaki
Ost.5 Centimeters Per Second


Lyrics
Koreijou nani wo ushinaeba kokoro wa yurusareru no
Dore hodo no itami naraba mou ichido kimi ni aeru
One more time kisetsu yo utsurowanaide
One more time fuzake atta jikan yo

Kuichigau toki wa itsumo boku ga saki ni oreta ne
Wagamama na seikaku ga naosara itoshiku saseta
One more chance kioku ni ashi wo torarete
One more chance tsugi no basho wo erabenai

Itsudemo sagashite iru yo dokka ni kimi no sugata wo
Mukai no HOOMU rojiura no mado
Konna toko ni iru hazu mo nai no ni
Negai ga moshimo kanau nara ima sugu kimi no moto e
Dekinai koto wa mou nanimo nai
Subete kakete dakishimete miseru yo

Sabishisa magirasu dake nara
Dare demo ii hazu na no ni
Hoshi ga ochisou na yoru dakara
Jibun wo itsuwarenai
One more time kisetsu yo utsurowanaide
One more time fuzake atta jikan yo

Itsudemo sagashite iru yo dokka ni kimi no sugata wo
Kousaten demo yume no naka demo
Konna toko ni iru hazu mo nai no ni
Kiseki ga moshimo okoru nara ima sugu kimi ni misetai
Atarashii asa korekara no boku
Ienakatta suki to iu kotoba mo

Natsu no omoide ga mawaru fui ni kieta kodou

Itsudemo sagashite iru yo dokka ni kimi no sugata wo
Akegata no machi sakuragichou de
Konna toko ni kuru hazu mo nai no ni
Negai ga moshimo kanau nara ima sugu kimi no moto e
Dekinai koto wa mou nanimo nai
Subete kakete dakishimete miseru yo

Itsudemo sagashite iru yo dokka ni kimi no kakera wo
Tabisaki no mise shinbun no sumi
Konna toko ni aru hazu mo nai no ni
Kiseki ga moshimo okoru nara ima sugu kimi ni misetai
Atarashii asa kore kara no boku
Ienakatta suki to iu kotoba mo

Itsu demo sagashite shimau dokka ni kimi no egao wo
Kyuukou machi no fumikiri atari
Konna toko ni iru hazu mo nai no ni
Inochi ga kurikaesu naraba nandomo kimi no moto e
Hoshii mono nado mou nanimo nai
Kimi no hoka ni taisetsu na mono nado

Translation..
How much more do I have to lose, before my heart is forgiven?
How many more pains do I have to suffer, to meet you once again?
One more time, oh seasons, fade not
One more time, when we were messing around

Whenever we disagreed, I would always give in first
Your selfish nature made me love you even more
One more chance, the memories restrain my steps
One more chance, I cannot choose my next destination

I’m always searching, for your figure to appear somewhere
On the opposite platform, in the windows along the lane
Even though I know you couldn’t be at such a place
If my wish were to come true, I would be at your side right away
There would be nothing I couldn’t do
I would put everything on the line and hold you tight

If I just wanted to avoid loneliness, anybody would have been enough.
Because the night looks like the stars will fall, I cannot lie to myself.
One more time, oh seasons, fade not.
One more time, when we were messing around

I’m always searching, for your figure to appear somewhere
At a street crossing, in the midst of dreams
Even though I know you couldn’t be at such a place
If a miracle were to happen here, I would show you right away
The new morning, who I’ll be from now on
And the words I never said: “I love you.”

The memories of summer are revolving
The throbbing which suddenly disappeared

I’m always searching, for your figure to appear somewhere
At dawn on the streets, at Sakuragi-cho
Even though I know you couldn’t be at such a place
If my wish were to come true, I would be at your side right away
There would be nothing I couldn’t do
I would put everything on the line and hold you tight

I’m always searching, for fragments of you to appear somewhere
At a traveller’s store, in the corner of newspaper,
Even though I know you couldn’t be at such a place
If a miracle were to happen here, I would show you right away
The new morning, who I’ll be from now on
And the words I never said: “I love you.”

I always end up looking for your smile, to appear somewhere
At the railroad crossing, waiting for the express to pass
Even though I know you couldn’t be at such a place
If our lives could be repeated, I would be at your side every time
I would want nothing else
Besides you, nothing else matters

(http://i.yimg.jp/images/evt/5cm/4/kabegami_cos4s.jpg)

ขอตัวนะงับ....มันล้นๆ ยังงัยไม่รู้...ทำใจไม่ได้อ่ะ

The Best Thing in Life are Always Free.....Wishing You were Here with Me
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tanutchai ที่ 12-03-2008 03:22:23
นำตาร่วงคบ :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: wava ที่ 15-03-2008 23:21:19
 :m23:   ขอบคุณ นะครับ  :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 16-03-2008 16:10:09

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคับ

มาติดต่อรับ จุ๊ฟๆ จากผม ได้ในฝันเลยคับ  :o8:

็ขอบคุณ คุณ[TheHolyMist] กะคุณ ikki ด้วยนะคับ  :m1:





หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: conan2550 ที่ 18-03-2008 18:51:04
เศร้ามามายครับ ตามอ่านมาหลายเวปก็จบจนได้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-03-2008 01:23:41
ขอบคุงคับ

สนุกมากมาย เลยอ่าคับ

 :o12: :o12: :o12:

 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-03-2008 19:19:55
:o12: :o12: :o12:

เศร้าอ่า

ร้องไห้เป็น สิบ แล้วอ่า

 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 24-04-2008 08:50:14
 :m15: :m15: :m15:



 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: pazon ที่ 25-04-2008 16:24:11
เห้อ ทำไมจาจบแบบแฮปปี้ไม่ได้น๋อ
น้ำตาลองมาได้สองถังแล้วนะนี่
ไม่ไหวแล้ว :o12: :o12: :o12: :o12:
 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: innocentman ที่ 27-04-2008 21:32:32
 :sad2: :o12: o7
 ฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือฮือ

อ่านมาก็หลายเรื่องแล้วแต่ไม่เคยตอบให้ใครเลย
แต่เรื่องนี้ขอตอบหน่อย เศร้าซึ้งกินใจผมมาก
ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย

แต่ก็ขอบคุณที่นำมาให้ได้อ่านนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 05-05-2008 07:30:15
:o11:เศร้าจางเยย  อ่ะ
                                          อ่านแล้วทำให้รู้ว่า
                 
                  ความรักไม่ต้องการการครอบครอง ขอเพียงรู้ว่าใจเราอยู่กับใคร และรู้ว่าใจใครอยู่กับเรา       
                   ถึงแม้ความเป็นจริงมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้ ขอแค่เรารักเขา                                   
                                     และขอแค่เขารักเรา เท่านั้นเองที่ต้องการ                       
       อาจจะเสียใจที่ไม่ได้เคียงคู่กัน แต่เมื่อเรามองดูเขามีชีวิตที่ดี เราเองก็ควรจะดีใจ


คุ้นๆๆ ก๊ากๆๆๆ

มาตอบให้เรื่องของเด็กดื้อ......

อยากจะบอกว่า......................อายมากมาย

เพราะว่า วันนี้เน็ตที่บ้านเสียเลยมาเล่นร้าน แถวหลังโรงเรียน

ขนาดเช้าๆๆคนยังเยอะขอบอกว่า

ดันได้มาอ่านตอนจบของเรื่องนี้ ไม่อยากจะ Said เลยว่า

โห่ ทั้งร้าน...................ดังเลยกู เพราะว่า ปลา โคตรจะอิน ร้องดังมากๆๆ

ร้องเหมือนคนรักตาย....ก็แบงค์ไงตาย เหอๆๆ

ถ้าเป็นเรื่องตัวเอง คงสลับแน่เลยยยย ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ต่อหน้าผู้คนได้

*

*

*

ตอนแรกหมั่นไส่แบงค์มากมาย....เอาไปเอามา ก๊าก โคตรจะรัก และ สงสาร แบงค์มากมาย

เลือดกำเดาไหลเนี้ยว่าแล้วต้องเป็น แสงดาวเลียขี้หมู[ลูคีเมีย] แน่นอน.....เดาๆๆ นะ แล้วก็ถูก ไฮโซมาก และ โลโซมาก เป็นกัน

แต่นึกว่าจะปลูกถ่ายกระดูกสันหลังได้ แล้วจบแบบ Happy ending ...........*****

แต่ก็ดีแล้วหล่ะเพราะถ้าจบอย่างนั่น คงไม่สนุก ไม่เศร้า และ ไม่ค่อยหน้าจดจำใน Memory ของผมสั่กเท่าไหร่

อ่านเสร็จ สงสัยต้องรีบบอกรักที่รักซะแล้วกลัวมาเสียดายตอนใกล้ตาย 55555 ทำยังกะตัวเองเป็นโรค

อะไรซะนี่....... ไม่แน่ๆ อิอิ

อ่านไปเรื่อยก็ ซึมๆๆ นะ มาปล่อยโฮเนี้ยตอน"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~" ของพี่อาร์ทเนี้ยหล่ะ

เศร้าหนักที่สุด มี 2 ตอนผมว่าคือ ตอนเคาะโลงอ่ะ ผมทุบโต๊ะเลย กับตอนเอา ไดอารี่ไปเผา อันนี้ก็ไม่อ่านต่อแล้ว นั้งร้องไห้เลย

ตอนแรกก็ร้องตอน พี่โป้งจากไป น่านหล่ะ แต่ไม่หนักเท่า แบงค์

ขนาดเอา สูตรปิดปาด เสียงก็ยังรอด บีบจมูกเหมือนหนังเรื่อง นาดะ โซโซ เผื่อไม่ให้ร้องแต่ก็ไม่ไหว อั่นไม่อยู่

ถ้ามีโอกาสเปิดเทอมจาเอาให้เพื่อนๆๆ ที่โรงเรียนอ่านด้วย จาได้มาร้องไห้ด้วยกัน อิอิ

ไปและเด๋วจามา บวก ให้ทุกวันเลยน๊า!!!~*


Sayaonara  จาจดจำเรื่องนี้ตลอดไป !!!~*
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: กิมตี๋หัดขับ ที่ 05-05-2008 22:55:58
ตามอ่านมาหลายเว็บจบมาจบในเล้านี่ครับ

ซาบซึ้งอย่างแรง แต่งไม่แกรงใจคนอ่านเลยน่ะอิอิอิ นี่ขนาดเรื่องแรกน่ะครับ ต้องขอยกนี้วให้เลยครับ

แร้วจะมีภาคสองไหมอ่ะ 

ขอบคุณเล้าเป็ด ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณคนโพส ขอบคุณคนเม้นท์ ขอบคุณความรักน่ะที่ทำให้เราเจอกัน อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 07-05-2008 00:40:57
จามาลงโทษ โทษฐานที่ทำให้ผู้อ่านผู้นี้ นอนไม่หลับ

เอาไป +1 ก๊ากๆๆๆๆ

เพลงนี้จาจาเอาลิ้งมาตอนจบเนอะ ถ้ามีนะ ผมร้องไห้ตายคาคอมแน่ ก๊ากๆๆๆ


เพลง สุดที่รัก

เพียงเวลาแค่ไม่นาน ทำให้เราได้คุ้นเคย
สุขและทุกข์ที่ล่วงเลย มันทำให้เรายิ่งผูกพัน
แต่เวลาคือสิ่งเลวร้ายเช่นกัน เวลาช่างแสนสั้น
ทำให้เราต้องจากกัน

สุดเส้นทางปรายขอบฟ้า ชะตาได้กำหนด
ไม่อาจจะพบกัน แต่ตัวฉันไม่เคยจะลืมเธอ
ภาพเก่าคืนย้อนมา
จุดจบคือน้ำตา และรักที่ยังไม่เคยจางหาย

แม้ว่าวันนี้เธอจะอยู่แสนไกล
แต่ความทรงจำดีๆนั้นไม่เคยจางหาย
ตราบที่ดาวเต็มฟ้าเธอยังคงวนเวียนในหัวใจ
หลับให้สบายสักวันคงพบกัน สุดที่รัก

สุดเส้นทางปรายขอบฟ้า ชะตาได้กำหนด
ไม่อาจจะพบกัน แต่ตัวฉันไม่เคยจะลืมเธอ
ภาพเก่าคืนย้อนมา
จุดจบคือน้ำตา และรักที่ยังไม่เคยจางหาย

แม้ว่าวันนี้เธอจะอยู่แสนไกล
แต่ความทรงจำดีๆนั้นไม่เคยจางหาย
ตราบที่ดาวเต็มฟ้าเธอยังคงวนเวียนในหัวใจ
หลับให้สบายสักวันคงพบกัน

แม้ว่าวันนี้เธอจะอยู่แสนไกล
แต่ความทรงจำดีๆนั้นไม่เคยจางหาย
ตราบที่ดาวเต็มฟ้าเธอยังคงวนเวียนในหัวใจ
หลับให้สบายสักวันคงพบกัน สุดที่รัก สุดที่รัก สุดที่รัก   
By www.Siamzone.com
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Lacus ที่ 08-05-2008 03:17:03
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad2:

หลวมตัวอ่านเต็มๆเลยค่ะ  ตอนแรกคิดว่าจะเฮฮาสนุกสนาน  พออ่านมาถึงตอนที่ป่วยก็ยังคิดว่าน่าจะมีทางรักษา  เพราะดูชื่อเรื่องแล้ว ไม่น่าจะตายเลย

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ  เศร้าสุดหูรูด  โฮๆ  :m15:  เรานั่งอ่านจบตอนเกือบจะตีสามแบบนี้  แล้วจะนอนหลับไหมเนี่ย เหอๆ  :serius2:  น้ำตาไหลพรากๆเลย  กระซิกๆ

แต่ยังไงก็ขอบคุณผู้แต่งและผู้โพสต์มากนะคะ  ที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 19-05-2008 01:48:02
ถึงไม่ต้อ เราก็จามา + ให้เรื่อยๆๆๆ เป็นเรื่องแรกที่ทำให้ร้องไห้ได้เยอะขนาดนี้ เศร้า


มีการเอาเก็บไปฝันอีก เหอๆๆๆ !!!~*
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: EaK_kung^^ ที่ 15-07-2008 18:04:54
 :oni2:เริ่มอ่านตอนแรก ได้ไม่นานเอง ยังไม่จบเลย
แต่แอบแวะมาดูตอนสุดท้ายนิดนึง  :m15: ขอบอกว่าเศ้รามากมากๆ
เศร้าจนอดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ  :m15:

ขอบคุณผู้เขียน ที่เอาเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาให้อ่านกัน ทำให้นึกถึงเรื่องราวอดีตของผมจัง :o12:

แล้วไม่นาน ถ้าพร้อมผมเองก็อยากเอามาให้เพื่อนได้อ่านบ้าง  :m23: แต่ว่าไม่รู้เมื่อไร แฮะๆ

 :L2:ขอบคุณคนเขียนมากๆเลยครับ :c5:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 15-07-2008 22:23:23
อ่านจบแล้วตาบวมเลยอะ เรื่องนี้

 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: EaK_kung^^ ที่ 17-07-2008 21:56:17
 :เฮ้อ:ในที่สุดก็อ่านจบซะที ไม่สิ ไม่น่าจบเลย :m23:

ความรู้สึก......

 :mc4:แบ้งค์ตัวละครที่สร้างสีสรรค์ให้กับเรื่องอย่างมาก  :m16:เป็นคนที่เจอเรื่องราวมากมาย ทั้งดีและไม่ดี  :เตะ1:แต่ก็ยังมีคนที่รักจนหมดใจ :L1:

ครั้งก่อนแอบมาอ่านตอนจบก่อน แต่พออ่านตั้งแต่ต้นจน จบวันนี้

คงเหมือนเพื่อนๆอีกหลายคนที่น้ำตาไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และมันไม่มีทีท่าจะหยุดได้

เรื่องราวจบแต่ความทรงจำและเนื้อเรื่องยังติดในใจผมตลอดเวลา :L1:

อย่างที่บอก มันทำให้ผมนึกถึงคนที่รักผมมากที่สุดเหมือนกัน แต่คงดีกว่านี้หากผมได้เป็นเหมือน กับแบ้ง แม้หลับตาลงและไม่อาจตื่นขึ้นมา

อีกก็มีแต่ความรักที่อยู่ติดตัวตลอดไป :o12:

อยากคุยกับคนเขียนจังอยากรู้วิธีเขียนบ้างผมอยากเอาเรื่องราวเขียนให้คนอ่าน ได้รู้สึกเหมือนเดินไปกับเรื่องเลยจัง

 o13
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ][Devil_Naked][ ที่ 26-07-2008 05:40:46
กว่าจะอ่านจบด้ายนานมากๆ ..

พอมาถึงบทสรุปมันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเลย..

 o7  :sad2:  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 27-07-2008 21:22:51
อ่านจบแล้วอ่ะ  :sad2: :o12: o7 ไมมันเศร้าอย่างนี้อ่ะ ตอนที่พี่โป้งตายก้อเศร้าแล้วอ่ะ แล้วยัมาจบอย่างนี้อีกอ่ะ  :sad2: :o12: o7 สงสานอ่ะสงสานทุกคนเลยอ่ะ ไม่น่าจบอย่างนี้เลยอ่ะ เศร้าๆๆๆ  น่าจะจบแบบดีดีอ่ะตอนแรกๆๆอกจะตลก สนุกขนาดนั้น  :sad2: :o12: o7

บอกได้คำเดียวว่าเศร้ามากมายย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: santaboyz ที่ 05-09-2008 12:32:33
 :m15: :sad2: :o12:
ไม่มีอะไรจะบรรยาย เศร้าจิงๆ ขอตัวปายทำใจก่อนแระ มะไหวแร้ว  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: The Lover ที่ 08-09-2008 22:11:45
เสร้ามากเลย เป็นเรื่องที่ประทับใจมากเลยคับ แม้ว่าจะเสียน้ำตาไปเยอะพอสมควร
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 18-09-2008 09:12:03
 :m15: อ่านจบแล้ว หมดทิชชู่ไปเกือบครึ่งม้วน
ชอบจังเลย ถึงแม้จะจบเศร้า(มากกก) แต่ก็เป็นเรื่องที่ลงตัวในอารมณ์ความรู้สึก
ถ้าจบเหมือนออทัมในมายเฮิร์ท คงจะน้ำตามท่วมจอกว่านี้(แบบว่ารักกันจนยอมตายพร้อมกัน)
ชอบจังเรื่องนี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 05-10-2008 14:19:15
เศร้ามากๆๆๆๆ :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: supernene ที่ 05-10-2008 16:15:22
เศร้ามากๆๆๆ
อ่านไปร้องให้ไปด้วย
ใจร้ายๆๆๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Akiizz ที่ 07-10-2008 05:57:52
เป็นเรื่องเศร้าเรื่องแรกเลยนะคับเนี่ย

ที่ผมอ่านแล้วต้องมาร้องไห้อินกับตัวละครสุดๆ

ไม่ไหวละตาแดงมั่ก ร้องไห้+นั่งอ่านมาทั้งคืน  :sad2:

ยังไงก้ขอไห้มีผลงานเขียนดีๆอย่างนี้ออกมาอีกนะคับ

ขอตัวไปนอนละคับ

เด๋วคุนแม่ไม่ปลื้ม  ฮึก ฮึก
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ByakuyA ที่ 21-10-2008 21:26:46
เศร้ามากเรยอ่ะ

อ่านแร้วจะร้องไห้

สงสารทั้งแบงค์ แระก็พี่อาร์ท เรยอ่ะ

T_T
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tmbbutnt ที่ 25-10-2008 00:14:06
เพิ่งอ่านจบเมื่อกี๊อ่ะคับ

ตาบวมใหญ่แล้ววว

 :o12: :o12: :o12:

ประทับใจสุดๆเลย ขอบคุนู้แต่ง คนที่เอามาลง

แล้วก้ทุกคนที่เกี่ยวข้องนะครับ

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 08-11-2008 15:27:06
ในที่สุดก็อ่านจบค่ะ  ใช้เวลาอ่านร่วมเดือนเลยทีเดียว แบบว่าอ่านไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน

อ่านช่วงสุดท้ายแล้วน้ำตาคลอค่ะ เศร้าจริงๆ  ทั้งๆที่เรื่องต่างๆของชีวิตแบงค์เริ่มคลี่คลายแล้วแท้ๆ  ทั้งๆที่น่าจะได้มีความสุขแท้ๆแต่ก็ต้องจากคนที่รักไปซะอย่างนั้นเลย :sad2: :o12: o7 :m15:

ขอบคุณคนแต่งและทุกๆคนที่ทำให้ได้อ่านเรื่องที่ดีๆอย่างนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kamjaa ที่ 13-11-2008 18:51:17
ฮือออออ

อ่านรวดเดียวจบเลยอ่ะ

น้ำตาท่วมจอ

เด๋วกะจะไปร้องต่อคืนนี้

แง้ๆๆๆๆๆๆๆ

 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 14-11-2008 09:17:20

http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2B0CG4P0&Autoplay=1
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: lalala123 ที่ 19-11-2008 18:57:48
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

เศร้ามากเลย แง่ ๆๆ ไม่มีคำบรรยาย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jele ที่ 10-03-2009 12:14:53
หื่อๆๆๆๆๆ



อ่านมาแล้ว

สนุกมากครับ




แต่ว่าตอนจบอ่าครับ




หื่อๆๆๆๆ  ฮึ...ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: minimai ที่ 16-03-2009 22:43:26
อ่านรวดเดียวจบเลย

น้ำท่วมจอ :m15: :m15:

เศร้าแบงค์ตาย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: golf_zaa ที่ 20-03-2009 13:59:03
สนุกมากเลยค๊าฟ

เคยอ่านแล้ว

แต่พอมาอ่านอีกรอบ

ก้อน้ามตาท้วมอีกจนได้ :o12:
5555

เศร้าอ่า :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jeack noI ที่ 21-03-2009 17:17:05
เรื่องนี้เเรกๆ ก็สนุกม๊ากกกมากกก

เเต่ตอนจบกลับเศร้าสุดๆเช่นกัน




น้ำตาท่วมจอกันเลยทีเดียว

จะเศร้าไปไหหนอะไรประมาณนี้


ปล.. เป็นกำลังใจให้น่ะครับ
 :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tamtam ที่ 25-03-2009 22:46:57
อ่า.. มีแต่คนร้องไห้
เศร้าอ่ะดิ

ไปอ่านก่อง
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ku_nan_jung ที่ 23-04-2009 23:03:06
โห๋   สุดยอดอ่ะไรเตอร์   o13  o13  o13

อ่านไปน้ามตาล่วงเป็นสายเลยอ่ะ  :sad4:  :sad4:   :sad4:

2 ตอนสุดท้าย  จี๊ดถึงใจมากอ่ะ :o12:  :o12:

ตาแดงเลยอ่ะไรเตอร์  :m15:

 :pig4:

ขอบคุณที่เอาเรื่องดีดี  มีคุณภาพมาให้อ่านนะคร๊าบ   :L2:

o13

 :bye2:
 :bye2:
 :bye2:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: jajey9 ที่ 25-04-2009 00:46:26
 :m15: :m15: :m15:

เศร้ามากๆเลยยย 

ร้องไห้ตั้งแต่ตอนพี่โป้งเสีย

ยังต้องมาร้องไห้ ให้แบงค์อีก

ปวดหัว....ใจ

จังเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: CrazyBoY ที่ 26-04-2009 17:26:02
ผมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นเอามากกับเรื่องๆนี้
ร้องให้แบบไม่อายใครเลยครับ
ซึ้งมากเลยครับ
ความรัก ขอบคุณผู้เขียนนะครับที่ได้มอบเรื่องราวนี้ให้กับผู้อ่าน
ไม่ได้เป็นตัวละครในเรื่องแต่กลับรับรู้ความรู้สึกได้มากมายขนาดนี้
เกินคาดจริงๆครับ

เรื่องแรกที่ทำให้ผมร้องให้ได้มากมายขนาดนี้

ขอบคุณครับ ได้อะไรดีๆเยอะแยะเลยครับผม
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: silw ที่ 08-06-2009 10:55:53
ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่นำมาให้อ่าน

ตอนแรกก็อ่านไปยิ้มไป เศร้าบ้าง ต้องทำใจ

แต่ช่วงหลัง ทั้งที่คิดว่ารู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

แต่น้ำตามันก็ท่วมจอจนได้ แทบอ่านต่อไม่รู้เรื่อง

พออ่านจบก็หันกลับมามองชีวิตตัวเอง แล้วเริ่มคิด

หากในชีวิต ได้มีคนที่รักและห่วงใยเรามากมายขนาดนี้ ถึงแม้จะต้องจากไปก็จะไม่เสียใจเลย ถือว่าเกิดมาครั้งนึงนั้นเพียงพอแล้ว
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 09-06-2009 18:59:28
ร้องไห้จนได้  :-[

มันเศร้าจริงๆอะ

แหม

เสียดายสุดๆเลยอะ T^T  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kedtisak ที่ 10-06-2009 04:24:27
เศร้ามากเลยครับ :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ZooS ที่ 11-06-2009 00:47:05
      :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

      :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

    :m15:  ทามมายต้องเปนแบบนี้ด้วย :m15:

 :เฮ้อ:เฮ้อ!!!เศร้าได้จัยจิงจิง บะบายแบงค์ :bye2:

            ขอบคุณเรื่องราวดีดีนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 19-06-2009 16:37:00
อ่านจบแล้ว
แต่ทำไมมันเศร้าจัง  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 20-06-2009 01:38:27
จะบอกว่า  :m15: :monkeysad: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: theboys ที่ 21-06-2009 22:44:24
 :sad4:  ตาบวม+ปวดตา เลยคับ
จบแบบไม่ Happy เลยอ่า

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 05-07-2009 20:15:25
เศร้าค่ะ น้ำตาท่วมจอออ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 11-07-2009 23:03:45
 :pig4:

ขอบคุณไรท์เตอร์และคนที่โพสต์นะคะ

ซึ้งมากๆๆ ร้องไห้ไปหลายลิตรแล้วคะ  :monkeysad:

เด็กดื้อของเราก็นอนตายตาหลับ พี่อาร์ทก็ต้องทนต่อไป
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 14-08-2009 23:40:21
อ่านที่ไร น้ำตาท่วมจอทุกที  :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: orion ที่ 31-08-2009 16:37:30
 :m31: เกลียดโป้งมากๆเลย
สงสารแบงค์ :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nonoo ที่ 01-09-2009 21:58:03
เศร้ามากมาย ทำกันได้ลงคอ
กว่าจะอ่านจบ น้ำตาไหลเป็นน้ำตกเรย..
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: orion ที่ 02-09-2009 16:34:09
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
ตอนที่แบงค์ตายน้ำตาไหลไม่รุตัวเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MiNi•Chun ที่ 06-09-2009 18:28:17
แบบว่าเศร้ามากมายอะครับ


ชอบเรื่องนี้มากๆเลย (ถึงตอนจบจาเศร้าปายหน่อย)

แต่ว่าก็ให้ข้อคิดดีนะครับว่าเราไม่ควรปล่อยให้เวลามันเสียเปล่า

เพราะไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องจากไปเหมือนแบงค์ก็ได้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 21-09-2009 01:17:58
อ่านจบแล้วก็บอกได้คำเดียว

ขอบคุณเรื่องราวดีดี

ขอบคุณผู้แต่ง

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ดีใจมากขอรับที่ได้อ่านเรื่องนี้

 :L2:

เสียงหัวเราะรอยยิ้ม เศร้า น้ำตา ข้าน้อยได้ทั้งหมดจากการอ่านเรื่องนี้

ขอบคุณมากขอรับ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 22-09-2009 15:53:40
น้ำตาไหล :m15:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 30-09-2009 03:54:53
ไม่นึกเลยว่า จะ :o12:    :o12:    :o12:   :o12:   :o12:    :o12:   :o12:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: mon826 ที่ 09-10-2009 18:21:49
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ทำไมมันเศร้าได้อีกล่ะเนี่ย ฮือๆๆๆ
มาอ่าน สองวันจบเลย ยาวมามกาย
 แต่ก็อ่านะ สนุกมาคับ แบบ น้า หวานซะ อิจฉามากมาย
แต่ตอนนจบไม่ไหวคับ

บ่อน้ำตาแตก ฮือออๆๆๆๆๆๆๆ
สงสารพี่อาร์ท ก็ต้องทนต่อไปเนอะ
แต่ก็เชื่อนะ ไม่ว่ายังไง พวกเค้าก็ยังอยู่ในใจของกันและ
กันตลอดไป
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 11-10-2009 23:09:56
ขอบคุณมากนะคับ

ซึ้งมากๆๆๆๆ

หวังว่าเราคงเจอรักแท้เหมือนเค้าสักวัน

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tophilia ที่ 25-10-2009 20:56:37
 :o12: ขอบอกเลยน่ะคับ ว่าเป็นเรื่องแรกตั้งแต่เข้ามาอ่านที่ทำให้ร้องไห้ได้มากมายจริงๆ ความรุ็สึกของตัวละครแต่ละตัว ถูกถ่ายทอด จนรู้สึกเหมือนว่าเราได้ไปสัมผัสกับมันจริงๆ ขอบคุณน่ะคับที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านน่ะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: gigne ที่ 26-10-2009 22:01:44
สนุกสนาน  เฮฮา  รั่ว  ซ่า  บ้า ซึ้ง  และเศร้า

 :o12:  ขอตัวไปทำใจและ :o12:

ขอบคุณคนแต่ง  และคนโพสท์มากมาย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: paraboy ที่ 05-11-2009 04:09:35
 เ้รื่องนี้ผมชอบมากเลยคับซึ่งดี แล้วก็ชอบกาวมากๆ  :o8: อยากได้แฟนแบบกาวจัง  :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 08-11-2009 23:06:47

http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2CFEG7CPAD&Autoplay=1
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 17-11-2009 19:33:33
น่ารักมากๆอ่ะ    แต่มันก็เศร้ามากๆเลย

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: dek_jun_rai ที่ 14-12-2009 03:23:11
อ่านจบแล้ว ถามว่าเศร้ามั๊ย ก็เศร้านะ แต่ม่ะมากอ่ะ เหอะๆ  o18

พอจะเดาๆเรื่องได้ตอนกลางๆเรื่องละ   :a5:
ตอนที่พี่อาร์ทเข้ามาบอกว่า แบงค์เป็นลูคีเมียอ่ะ แทนที่จะเศร้ากลายเป็นหัวเราะออกมาซะงั้น  :laugh:

ประมาณว่าถ้าซื้อหวยก็คงถูกแล้วว่างั้นนะ :m20:

ความรู้สึกตอนอ่านบอกตรงๆ ว่าเอือม แบงค์เอามากๆ  โดยส่วนตัวม่ะชอบเรื่องเศร้ากะ ตัวเอกที่เป็นแบบนี้อ่ะ:seng2ped:

ความจิงคนแต่งน่าจะปล่อยให้แบงค์โดนรถชนตายซะก็จบเรื่องละ  :t3:

รู้สึกสงสารพี่โป้งยังงัยไม่รู้ สุดท้ายก็ตายฟรีซะงั้น  :monkeysad:
แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าคนแต่งแต่งได้ดีคัฟ ทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมได้ ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็เหอะนะ  o13
สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณคนแต่ง กะ คนโพสมากๆ นะคัฟ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: M5_0_1 ที่ 16-12-2009 19:32:41
ได้อ่านแล้ว น้ำตาใหลเลยครับ ซึ้งมักๆ :m15:
น่าสงสารพี่อาร์ทจังเลย :serius2:
คนที่แต่งเรื่องนี้ก็สุดยอดครับ
(โศกนาฏกรรม ของความรัก)
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 02-02-2010 21:43:54
เหอะๆๆๆ สงสารพี่อาร์ทตั้งแต่ต้นจนจบบ...

ไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของแบงค์นิดหน่อยอะ..... o22
แอบบเซงน้องแบงค์ทำไม หลงคนง่ายซะขนาดนั้นอะ......
พี่อาร์ทอย่าเส้ามากนะฮับบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 09-02-2010 21:01:50
จะมีต่อภาคสองหรือเปล่าค่ะ สงสารพี่อาทร์ง่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 23-02-2010 22:50:55
ขอบคุณนะค่ะ  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: รักแท้มีอยู่จริง  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ovam ที่ 22-04-2010 12:27:11




เศร้าครับ :sad11:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sinelent ที่ 26-04-2010 13:08:35
 :sad11:ไม่น่าอ่านตอนจบในที่

มีคนอยู่เยอะเลยอ่ะ

อายว่ะ

เหมือนคนอกหักเลยกรู
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yakusa ที่ 27-04-2010 10:00:20
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Aon ที่ 27-04-2010 20:17:28
 :a5:อ่านจบแล้วเกิดอาการช็อคแล้วน้ำตาก็ไหลพรากเลยอ่ะแบบว่า

เรื่องนี้ไม่น่าจะจบด้วยความตายของแบงค์เลยอ่ะรู้สึกสงสารทุกๆคนที่

ได้ข้องเกี่ยวกับแบงค์มากมายเพราะทุกคนต่างก็รักในความสดใสในตัว

ของแบงค์กันหมดแต่เราเชื่อว่าแม้แบงค์จะไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้แล้ว

แต่ความรักและความทรงจำที่ทุกคนมีร่วมกับแบงค์จะคงอยู่ตลอดไป
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 20-05-2010 21:14:42
เราก็พอจะเดาไว้แล้วแหล่ะว่า มันต้องจบแบบนี้
แต่ว่า เราก็เศร้าอยู่ดี ร้องไห้ น้ำตาท่วมแล้วเนี้ย
ทรมานจิตใจเรามากเลย เรื่องนี้ เรานั่งลุ้นตลอดเรื่องเลย

เราพึ่งอ่านวันนี้วันแรก เราอ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 22-05-2010 14:07:42
ซึ้งถึงคำว่า "รัก" มากเลยคับ :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 09:45:23
RIP นะค่ะแบ๊งค์ :monkeysad: เข้มแข็งไว้นะค่ะพี่อาร์ท :3123:
รักแท้ :L1: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 08-08-2010 17:41:53
เศร้าได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-08-2010 19:07:22
 :m15: อ่านรวดเดียวจบ
แรกๆก็อ่านไปยิ้มไป หลังๆก็น้ำตาท่วมเลย
 ขอบคุณนะคะที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: akira_aki ที่ 22-12-2010 15:56:50
สนุกมากค่า  แต่ยังอ่านไม่จบ เดี๋ยวมาอ่านต่อนะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: akira_aki ที่ 23-12-2010 10:47:52
สนุกมากเลย

อ่านถึงตอนที่  :oo1: กันแล้ว  :o8:

เดี๋ยวจะกลับมาอ่านต่นะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 07:23:57
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ton_2529_21 ที่ 26-12-2010 22:51:17
ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณจริงๆที่แต่ง
เรื่องราวดีๆให้ทุกคนและตัวผมเองติดตาม
ยังไงต้องขอบคุณมากๆ
ที่ทำให้เราได้เห็นถึงอีกมุม
ของความรัก ไม่ว่าจะเป็นความรักของแฟนพ่อแม่ แม้แต่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็ตาม :L3:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sassyaom ที่ 09-02-2011 02:41:15
ขอจองที่เม้นไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ที่จะเม้น.
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 16-02-2011 15:40:38
จะบอกว่าอ่านรวดเดียวจบค่ะ

ทำเอาต่ายน้ำตาซึมร้องไห้กลางห้องคอมคณะเลยค่ะ อายชะมัดโชคดีที่มีคนไม่เยอะนะเนี่ย :sad4:

ตอนแรกๆต่ายก็อ่านไปเรื่อยๆเอาสนุก ก้คิดว่าเรื่องนี้ก็แต่งสนุกดีนะแต่ไม่นึกเลยค่ะว่าจะจบแบบนี้

แค่พี่โป้งคนเดียวก็เศร้าแล้วพอมาเจอแบงค์อีก...บ่อน้ำตาแตกเลยค่ะ

ขอบคุณคนแต่งและคนโพสมากนะคะที่ทำให้ได้อ่านเรื่องนี้

เป็นอีกเรื่องที่ต่ายอาจจะไม่เข้ามาอ่านอีก(เดี๋ยวร้องไห้อีก)แต่ก็จะจำไว้เสมอค่ะ

ขอบคุณนะคะ ^^

ปี2...มาตายปีเดียวกับต่ายอี๊ก!  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 19-02-2011 12:57:32
เป็นเรื่อง 1 ใน top 5 ที่ผมชอบมากๆ คับ อ่านทีไร น้ำตาท่วมจอทุกที ขอบคุณคนแต่งนะคับที่ทำนิยายดีๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kaowkong ที่ 19-02-2011 15:54:41
แย่แระ...จบเศร้ารึนี่..

สงสัยต้องทำใจก่อนอ่าน...จะได้แอบอ่านคนเดียว...งืมๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 21-02-2011 02:20:03
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะเศร้า แต่ลึก ๆ ในใจก็ยังอดลุ้นไม่ได้ อยากให้มีปาฎิหารย์สักครั้ง
แต่น่าเสียดาย ... ปาฎิหารย์ไม่มีจริง  :m15:
so sad.... :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Otani ที่ 21-02-2011 05:08:23
เศร้ามากแต่ ก็ประทับใจมากเช่นกัน
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kaowkong ที่ 21-02-2011 06:02:54
ทำได้อย่างเดียว..คือ
ร้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ร้องเข้าไป....ไม่ไหวแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: yotaka ที่ 23-03-2011 00:55:42
ผมใม่รู้จะพูดอย่างไรดีๆๆๆ

เศร้าครับ เศร้ามากๆๆ

ผมเคยต้องเสียเพื่อน ไป  ตอนอยู่  ม. 4 

และต้องเสียเพื่อนไปอีก ตอนเรียนมหาลัย อยู่ ปี 3

เพื่อนคนนี้ ช่วยผมติว แม้เขาจะรู้ว่าตัวเองป่วย

ชอบเรื่องนี้ๆมากๆๆ ครับ 

ขอบคุณครับที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 06-04-2011 09:50:59
อ่านเป็นรอบที่2 แล้ว ก็รู้อยู่ว่าเรื่องจะจบยังไง แต่นำ้ตาก็ไหลออกมาอยู่ดี

เศร้าเนอะ อยากอ่านเรื่องต่อของเหล่าพ้องเพื่อนเหมือนกัน เพราะถึงแม้
แบ๊งค์จะจากไปแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนต้องใชัชีวิตต่อไป ขอบคุณที่เอา
เรื่องมาแบ่งปันครับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 01-05-2011 21:04:03
ขอบคุณที่ทำให้เราได้อ่านอะไรที่ดีๆแบบนี้ ซึ้งมาก เสียใจ เศร้าไปเลย ร้องไห้จนตาบวมเลย สงสารพี่อาร์ทจังที่ต้องจบแบบนี้ แต่ยังไงแบงค์ก็ไปสบายแล้วนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 02-05-2011 02:38:04
อ่านรอบที่สองยังเศร้าเหมือนเดิม สงสารทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tookujang ที่ 30-06-2011 23:33:53
เศร้ามากเลย :monkeysad:
จริงๆแล้วไม่ค่อยชอบอ่านแนวนี้เท่าไหร่ (แต่ก็อ่านจนจบนะ)
แบบว่าอ่านแล้วตาบวมทุกทีเลย  :-[
ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีๆแบบนี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 19-07-2011 08:44:59
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เรื่องนี้เศร้ามาก

เราร้องไห้ไม่หยุดเลย

ถ้าเราเป็นพี่อาร์ทเราก็ไม่รู้ว่า...

จะทำยังไงกับชีวิตตัวเอง

เศร้าดีเเท้

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 20-07-2011 08:19:18
 :m15: :m15: น้ำตาท่วมเลย
เป็นเรื่องที่ประทับใจมากกก
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่าประทับใจนะฮ๊าฟฟฟ  :monkeysad:
  :L2: Bank & Art forever  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: dekthuem ที่ 22-07-2011 02:01:58
ว่าาาาไม่คิดว่าจะจบแบบนี้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 23-07-2011 02:09:04
 :sad4: :o12:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: E.L.F. Thai ที่ 25-08-2011 18:33:14
เพิ่งจะได้อ่าน
บอกตรงเรยว่าเรื่องนี้ครบรสจิงๆๆ
แต่เสียดายอะ แบ๊งน่าจะฟื้น
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Mickii ที่ 29-10-2011 23:00:01
ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องดูน่ารักใสๆ ยิ่งอ่านต่อๆไป ดูสนุกและน่ารัก

อ่านไปอ่านมาเริ่มเศร้าแล้วววว น้ำตาคลอเลย ร้องไห้เต็มที่

ทำไมแบงต้องเปงด้วย สงสารอาร์ทมากๆ รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วย

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: golf7777 ที่ 06-11-2011 20:06:47
จบแบบเศร้าๆนะคับ มันไม่มีอะไรแน่นอนจิงๆนะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: ott1212 ที่ 05-02-2012 02:41:00
 :m15:  เศร้านะ..ด้วยฝีมือการเขียนของคนเขียน

เป็นความเศร้าที่ไม่ต้องการเหตุผล................

ชีวิตจริงของคนเรา...บางที่ก็ไม่มีเหตุผล.......

เชื่อได้เลยว่า เรื่องต่อๆ ไปของคนเขียน

ต้องดีกว่านี้แน่....ขอบคุณที่แบ่งปัน.....

ทั้งคนเขียน และคนนำมาลง......

ขอบคุณนะ..... :3123:

หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: meki ที่ 05-02-2012 16:48:40
โอ๊ย...น้ำตาท่วมจอทีเดียว
ทำไมเศร้าขนาดนี้ ฮืออออ
แต่สนุกมากนะค๊า^^
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kabper ที่ 07-02-2012 00:49:08
ชอบมากเลยคับ ร้องไห้เลยตอนจบ ซึ้งจริงๆสงสารแบ้งกับพี่อาร์ต
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: fluke000 ที่ 19-02-2013 00:24:12
เศร้าน่าาาาาา
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 26-02-2013 18:46:25
อ่านจบไปนานมาก  แต่คิดถึงเลยกลับมาอ่านใหม่อีกครั้ง  อ่านแล้วก็สงสาร ปนอิจฉา  ปนหมั่นไส้น้องแบงค์เหมือนเดิม....จะเสน่ห์แรงไปไหนยะ...

เรื่องนี้สงสารกาวมากที่สุด  อยากให้คู่กับปริ๊นซ์
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: sistarr.1997 ที่ 02-03-2013 21:46:36
 :m15: :monkeysad: :monkeysad: :m15: :monkeysad: เศร้ามากเลย น้ำตาเต็มบ้านแล้ว :sad11: :sad11: :sad11: :sad4: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: tongzaa ที่ 03-03-2013 15:25:21
 :sad4: :o12: :sad4: :o12: :sad4: :sad4: เรื่องนี้เป็นนิยาเรื่องแรกที่ผม อ่านแล้วร้องไห้ เรียกน้ำตาผมไปหลายปีบเลยล่ะ
ดีมากๆเลยครับ...แต่ก้อสงสารพี่อาร์ท สงสารทุกคนจัง..หากเรื่องเป้นเรื่องจริงก้อขอให้แบ๊งค์ หลับให้สบายน่ะครับ..
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 09-03-2013 20:57:53
สงสารพี่อาร์ท TT
อ่านแล้วจะร้องไห้
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 30-03-2013 19:55:53
สงสารแบงค์ ทั้งๆ ที่ได้เข้าใจกับทุกๆ คนแล้ว โรคร้ายก็ดันมาขวาง
ถ้าหากเราเป็นแบงค์เราก็คงมีความสุขที่มีทุกๆ คนข้างกาย แต่จะให้ดีก็คงไม่อยากให้คนที่เรารักไม่ว่าจะคนไหนร้องไห้หรอก

ปล.ประทับใจมากเลยค่ะ น้ำตาไหลตั้งหลายรอบ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 31-03-2013 02:40:03
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: คู่กันรักกาฟิว ที่ 04-04-2013 15:28:58
สงสารอาร์ท เกรียดแบงคือ่านต่อไม่ไหวแล้ว ปวดร้าว รังเกรียด อยากให้รุ้สึกว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง :ling1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: คู่กันรักกาฟิว ที่ 04-04-2013 15:46:12
ผมอ่านไปไม่อยากได้ยิน ได้เห็นคำว่าโป้ง เลยรู้สึกว่าจะเกรียดขึ้นใจเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: คู่กันรักกาฟิว ที่ 04-04-2013 16:01:20
คิดถึง(จินตนาการ)บรรยากาศ ถนนอักษะที่อร์ทกับแบงค์ไปจอดแล้วบอกรักกัน พอคิดถึงทีไรกลั้นน้ำตาไม่ไหว อ่านเรื่องนี้แล้วอยากออกบวชหาทางพ้นจาก กามราคะ(ความรู้สึกชอบ) ปฏิฆะ(ความรุ้สึกไม่ชอบ) ซะเหลือเกิน  อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้อยากเข้าถึงพระนิพพาน โลกนี้เต็มไปด้วความพลัดพราก :call:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: คู่กันรักกาฟิว ที่ 04-04-2013 20:24:56
ขอ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างครับ ผมร้องให้อย่างฟูมฟายเป็นครั้งแรกสำหรับการอ่านนิยาย
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-04-2013 13:56:53
สงสารพี่อาร์ทสุดใจ
ทำมายยยยย แบงค์ต้อง
คนแต่งใจร้ายมากไปแว้ว -*-
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 09-04-2013 23:01:00
เรื่องนี้เศร้ามากๆแต่ก็ประทับใจมากๆเช่นกัน

นักเขียนแต่งเก่งมากๆและชอบมากๆเลย
หลับให้สบายนะ พี่โป้ง และ แบ๊งค์
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kinly ที่ 16-06-2013 15:05:06
ขอบคุณครับ เนื้อเรื่องสนุกดีครับ ตอนท้ายเศร้ามากๆเลยครับน้ำตาไหลเลยน้ำมูกก็ไหลไม่หยุดเลยนะครับเขียนได้เศร้ามากๆ
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: duaen12 ที่ 18-06-2013 20:31:10
โอ๊ยยยยยยย แก ฉันเศร้า  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 08-10-2013 21:16:05
เรื่องนี้เศร้ามากๆๆๆๆๆ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: LM1412 ที่ 12-10-2013 22:16:57
TT ไยจึงจบเศร้าเยี่ยงนี้เล่า  :katai1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-11-2014 00:05:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 11-03-2015 11:33:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 12-03-2015 09:36:43
 :monkeysad: เศร้าจังเลยค่ะ นึกว่าจะจบแบบแบ็งค์หายอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขซะอีก
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 20-08-2015 03:17:54
 :o12: อ่านเรื่องนี้จบร้องไห้ตาบวมเลย :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 20-08-2015 21:51:51
เศร้าอะ ทำไมๆๆๆๆๆๆ

ร้องไห้จนตาบวมไปหมดแล้วเนี๊ย :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 00:31:36
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 04-10-2020 18:55:14

กล้าที่จะไปคบกับพี่โป้ง   
แกบ้าเหรอ มันข่มขืนและแบล็คเมล์แกนะ ยังคิดจะไปคบมันอีก อย่าโง่
หัวข้อ: Re: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Goplayz ที่ 19-09-2021 20:43:44
ในมุมมองของผม
ผมมองว่านิยายเรื่องนี้...จงใจจะให้จบแบบนี้...ถามว่าในชีวิตจริง...คนที่มีรักแท้รอบด้านแบบนี้ทำไมถึงถอดใจ...ได้ง่ายดายขนาดนี้....สำกรับผม...ผมเลยรู้สึกไม่อินกับนิยายเรื่องนี้เอาเสียเลย...มันจงใจ....มากเกินไปจนเหนือความเป็นจริงของชีวิตคน....ที่ไม่รักตัวเอง?...นะ
แต่ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะครับ