[novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [novel] เรื่องวุ่นวาย ของนายเด็กดื้อ  (อ่าน 285793 ครั้ง)

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
หวังว่าอีกไม่นานคงได้เจอกับพี่อาร์ท
รอ ร้อ รอ
 o14 o14 o14 o14 o14 o14

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
ใกล้แล้วคับใกล้จะได้เจอกันหล่ะ อีกนิด
***********************
บทที่ 39  รวมตัวฉลองเปิดเทอม!!!!

แบ๊งค์ตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมละลือ    พอมองไปที่นาฬิกา  เฮ้ย!!!! 10 โมงกว่าจะ 11 โมงแล้ว  เดี๋ยวพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ กรูส์จะมาตอนเที่ยง  รีบตื่นดีกว่ากรูส์ ไม่งั้นไม่ทันแน่ ๆ  พอคิดได้แบ๊งค์ก็รีบอาบน้ำล้างหน้า แปรงฟันเลยครับ   กลัวไม่ทันจริง ๆ พออาบเสร็จ ก็มานั่งเล่นเกมในคอมฯ รอไปครับ    พอถึงเวลา 12.00 น. ตรงเป๊ะ ก็มีสายด่วนสายแรกโทรเข้ามาเลยครับ

"ฮัลโหลครับ "   แบ๊งค์รับสาย

"แบ๊งค์หรอ  กรูส์อยู่หน้าคอนโดแล้วนะเว้ย "   ไอ้กาวส่งเสียงมาทักทายอย่างสุภาพ ( ตรงไหนฟระ )

"เมริงก็เข้ามาสิ  หรือจะรอให้กรูส์จุดธูปอันเชิญก่อน  เมริงถึงจะเข้ามาได้ "   แบ๊งค์ตอบแบกวน ๆ

"เออ ๆๆๆ งั้นเดี๋ยวกรูส์เข้าไปละ  เมริงโดนดีแน่ ๆ "   ไอ้กาวขู่ทิ้งท้ายก่อนจะวางสายครับ

คนที่หนึ่งมารายงานตัวแล้ว  ตอนนี้ก็รอคนต่อ ๆ ไป   และแล้วตามที่ทุกคนคิดไว้ ( รึเปล่านะ ) ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกหนึ่งสาย 

"ไง  ไอ้ตัวเล็ก "   พี่ตั้มเริ่มแซวมาเลยครับ

"ก็ดี  ว่าแต่...มีอะไรหรอ "   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

"อ้าว ไอ้เวร  ก็เมื่อวานเมริงโทรเรียกกรูส์มาเองนี่หว่า "   พี่ตั้มพูดแบบงง ๆ

"ล้อเล่น....มาถึงแล้วใช่มั้ย  ถ้างั้นก็เอารถจอดไว้  แล้วขึ้นรถเมล์กลับบ้านซะนะ "  แบ๊งค์พูดให้งงเข้าไปอีก

"อ้าววว  ซะงั้น  พอ ๆๆ กรูส์งงเว้ย "   พี่ตั้มคงจะงงจริง ๆ นั่นแหละ

"ถ้าไม่กลับก็ขึ้นมาก็แล้วกัน "    แบ๊งค์พูด

"เออ ๆๆ วันนี้เมริงโดนแน่ ๆ ขอหากวนตรีนแต่เช้า "   พี่ตั้มพูดครับ

"อะไรว้า   ซะงั้นอ่ะ "   แบ๊งค์ลากเสียงยาว ๆ ก่อนที่พี่ตั้มจะวางสายไป
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ( เปิดประตู เปิดออกดู ว่าใครมา----  เก่าไปป่าววะเนี่ย )  มีคนมาแล้วครับ  แบ๊งค์ก็เลยไปเปิดประตู  ไอ้กาวนั่นเอง  ขณะกำลังจะปิดประตู  ไอ้คุณพี่ตั้มก็มาพอดีเลยครับ  มาได้จังหวะเหลือเกินนะ

"พี่ตั้มอ่ะ  จะมาทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้ "   แบ๊งค์แกล้งทำท่าไม่พอใจออกไป

"ทำไมวะ  กรูส์มาแล้วทำไม "   พี่ตั้มก็ทำท่าไม่พอใจมั่ง

"ก็แบ๊งค์กะว่าจะหลอก แดซไอ้กาวซะหน่อย  เสียแผนหมด "   แบ๊งค์พูดไป

"เย้ยยย "   ไอ้กาวร้องเสียงหลงออกมา  ดูท่าทางมันตกใจเหมือนกันนะเนี่ย

"อ้าววว   งั้นกรูส์กลับก็ได้ "  พี่ตั้มทำท่าน้อยใจ  จะเดินออกนอกห้อง

"จะไปไหน  คนเค้าแซวเล่นนิดเดียว ทำน้อยใจไปได้  หัวก็ไม่ได้ล้านซะหน่อย "    แบ๊งค์ดึงแขนพี่ตั้มเอาไว้

"หายงอนนะ ๆๆ "   แบ๊งค์ปลอบพี่ตั้มแบบที่ผู้ใหญ่คอยปลอบเด็กเล็ก ๆ

"ได้แต่ต้องทำแบบนี้ก่อน "   แล้วพี่ตั้มก็เขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที 

"โอ้ย!!! เจ็บนะ  เขกหัวแบ๊งค์ทำไมอ่ะ "  แบ๊งค์เอามือกุมหัวตัวเองไว้

"ก็เมริงเล่นมากวนตรีนแต่เช้าทำไมล่ะ "   พี่ตั้มพูด

"ใช่ ๆ ตั้งแต่กลับมานี่  กวนขึ้นเยอะเลยนะ โดนบ้างซะก็ดี "  ไอ้กาวช่วยเสริมครับ

"เป็นพวกกันหมดซะงั้น  แบ๊งค์ไม่ได้กวนตรีนแต่เช้าซะหน่อย "

"ตอนนี้มันเที่ยงจนจะบ่ายแล้วตะหาก "   แบ๊งค์พูด

"เอาอีกทีดีมั้ยเนี่ย "   คราวนี้ไอ้กาวทำท่าจะเขกหัวบ้างครับ

"อย่านะ!!!! "    แบ๊งค์รีบห้ามเอาไว้ก่อน

"แล้วนี่ไอ้โป้งยังไม่มาอีกหรอ "   พี่ตั้มถามครับ

"อืม  นั่นดิไม่เห็นโทรมาเลย "  แบ๊งค์พูด

"เดี๋ยวก็คงมามั้ง  เพราะเมื่อกี้เราโทรหาแล้ว  เห็นบอกว่าใกล้จะถึงแล้วนี่นา "   ไอ้กาวพูดครับ   แล้วเราก็มาจัดแจง  จำหน่ายจ่ายแจก  ของฝากทั้งหลายครับ 

"เออแล้วแมคจะสึกเมื่อไหร่น่ะ "   แบ๊งค์ถามครับ

"คงจะใกล้ ๆ เปิดเทอมน่ะ "   กาวพูด

"ไม่รู้ว่าแมคจะเป็นยังไงบ้างเนอะ "   แบ๊งค์พูด

"ไม่ต้องห่วงหรอก  แมคสบายดี  เมื่อวานพี่กับไอ้กาวก็เพิ่งไปหามา "   พี่ตั้มพูดครับ

"อ้าววว  ไปไม่ชวนกันเลย "   แบ๊งค์ทำท่าน้อยใจ

"ก็เจ้าชายแบ๊งค์อยู่ให้ชวนมั้ยล่ะครับ "   ไอ้กาวพูดประชดมั่งครับ

"เออ  กรูส์ผิดเอง "   แบ๊งค์ทำท่างอน ๆ
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก  มีคนมาเคาะประตูอีกแล้วครับ  พี่โป้งแน่ ๆ เลย  แบ๊งค์เลยวิ่งไปเปิดประตู  พอเปิดไปก็อึ้งสิครับ มีทั้งเลือด  ตับ  ไต ไส้ กองอยู่บนพื้น  ไม่ใช่!!!!!!!!!!! ( โทดที  คนแต่งเบลอ ) พี่โป้งซื้อของกินมาเพียบเลยครับ

"พี่โป้ง!!!!!  ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย "   แบ๊งค์พูด

"ก็พี่รู้ว่า  เดี๋ยวพวกเราจะมา  คิดว่าคงไม่มีอะไรทาน  พี่เลยซื้อติดมือมาน่ะครับ "   พี่โป้งพูดแบบยิ้ม ๆ

"แบบนี้ที่บ้านพี่โป้งเรียกซื้อติดมือหรอ  ไม่เยอะไปหน่อยมั้ง "   แบ๊งค์แกล้งแซว

" ไอ้คุณกาว  ไอ้คุณพี่ตั้ม  ถ้าอยากทานก็มาช่วยกันแกะใส่จานหน่อยสิครับ "   แบ๊งค์ขอกำลังเสริมไป

"คร้าบบบบบ  ไอ้คุณน้องแบ๊งค์ที่แสนดื้อ  แสนซน "   พี่ตั้มตอบกลับมาครับ  ไอ้กาวก็เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ

"ดีจังที่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงไป "   ไอ้กาวพูดครับ

"ของฟรีไม่มีพลาดนะเมริง "   แบ๊งค์แซว

"ของมันแน่อยู่แล้ว "  ไอ้กาวพูดครับ   แล้วเราก็นั่งทานข้าวเที่ยงด้วยกันครับ  มื้อนี้สบายกระเป๋าหน่อย  เพราะมีป๋าโป้งเลี้ยง  เราก็เลยอิ่มจังตังอยู่ครบไปตามระเบียบ หุหุ ( ^ ^ )

พอทานเสร็จล้างจาน  เก็บกวาดอะไรเสร็จเรียบร้อย  ไอ้กาวมันก็พูดขึ้นมาครับ.

"เออ....ใช่  ลืมไปเลยนะเนี่ย "   มันอุทานออกมา  อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ

"ลืมอะไรหรอกาว "   พี่โป้งถาม

"เออ นั่นดิ   เล่นเอากรูส์ตกใจหมด "    พี่ตั้มเสริมออกมาอีกที

"พอดี  ช่วงปิดที่ผ่านมา  ผมไปเที่ยวปักกิ่งกับที่บ้านน่ะครับ "  กาวพูด

"ไปไกลนะเมริง  ไม่เห็นกรูส์รู้เรื่องเลย "   พี่ตั้มพูด

"นั่นสิ  ไปไหนไม่เคยบอกนะ "   แบ๊งค์แกล้งทำเป็นน้อยใจ

"ขอโทษ ๆๆ พอดีตอนจะไปก็เพิ่งรู้เหมือนกัน  ตอนแรกคิดว่าจะไปแค่ต่างจังหวัด  แต่ไปต่างประเทศซะงั้น "  กาวพูด

"ผมก็เลยซื้อของฝากมาให้ทุก ๆ คนด้วย "  กาวพูดทิ้งท้าย  แล้วยิ้ม ๆ

"ไหน ๆๆๆ เอามาดิ "   พี่ตั้มตรงไปเข้าหากาวเป็นคนแรกเลยครับ

"มากไปป่าว  พี่ "   แบ๊งค์แกล้งแซว

"เห็นของฝาก  ของฟรีเป็นไม่ได้นะเมริง "  พี่โป้งช่วยซ้ำครับ

"เออ....เอาเข้าไป  เข้ากันใหญ่เลยนะ  ไอ้สองคนนี้ "    พอพี่ตั้มพูดแซวเสร็จ  แบ๊งค์กับพี่โป้งก็หันหน้ามามองกันพอดีครับ  แล้วก็หลบตากัน  ได้แต่ก้มหน้ายิ้ม

"เอาน่า  อย่าทะเลาะกัน "   แล้วไอ้กาวก็เอากระเป่ามันมาตั้งบนโต๊ะแล้วเปิดออกครับ  ของฝากเยอะเหมือนกันนะเนี่ย  ส่วนใหญ่เป็นขนมนะครับ

"อันนี้เป็นตุ๊กตาหินอ่ะ  เค้าว่ากันว่าเป็นตุ๊กตานำโชคนะ "

"ผมก็ไม่รู้หรอก  แต่ซื้อมาให้ทุก  ๆ คนเลย "   แล้วกาวก็ยื่นให้พวกเราคนละตัว

"นายคงไม่ลืมของแมคหรอกนะ "  แบ๊งค์พูด

"ไม่หรอก  ของแมคน่ะ  เราเก็บไว้ที่บ้านน่ะ  ไม่ต้องห่วงหรอก  เราแบ่งไว้เป็นส่วน ๆ แล้ว "   กาวพูด

"ขนมนี่อร่อยดีนะ  มา ๆ มากินด้วยกัน "   พี่ตั้มกินใหญ่เลยครับ  ไม่รอใคร

"อ่ะนะ  เฮ้ย!!! อย่ากินหมดสิ  เหลือไว้ให้แบ๊งค์บ้าง "   แบ๊งค์พูด  แล้วรีบเข้าไปแย่งขนมมาทานบ้าง 

"อ้าว!!!แย่งกันทำไม  เอามานี่ "   แล้วพี่โป้งก็เอาขนมไปบ้างครับ

"พี่โป้งอ่ะ  เอามานะ "   แบ๊งค์จะแย่งคืน  แต่พี่โป้งไม่ให้ครับ

"แย่งกันทำไมหรอ  มีอีกตั้งหลายถุง "   กาวพูด  แค่นั้นแหละครับ  เราก็ตรงเข้าไปที่กาวทันที  โดยที่แบ๊งค์กับพี่ตั้ม พยายามแย่งกันด้วยความเร็วสูง

"เฮ้ย!!!!!  สองคนนี้  จะแย่งกันทำไมเนี่ย "   ไอ้กาวพูดครับ  แต่ไม่มีใครหยุอหรอก  แย่งกันไปแย่งกันมาไม่จบซะที   กว่าจะได้นั่งทานดี ๆ ก็อิ่มกันพอดีเลย 

พอเราแย่งขนมกันเป็นอันเสร็จพิธีแล้วเราก็มานั่ง ๆ นอน ๆ กองรวมกันที่หน้าทีวีครับ แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็พูดขึ้นมา

"เออ.....นี่  แบ๊งค์รู้รึยัง  ไอ้อาร์ทมันกลับมาแล้วนะ "   สิ้นเสียงของพี่ตั้ม  ทุกคนที่เหลือรวมทั้งแบ๊งค์ต่างทำหน้า  ตกใจ   พี่โป้งมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด   ส่วนไอ้กาว  ก็นิ่งไปซักพักเหมือนกัน

"พี่อาร์ทกลับมา...ตั้งแต่.....เมื่อไหร่หรอ "   แบ๊งค์ค่อย ๆ พูด

"ได้ซักสองอาทิตย์แล้วล่ะ  แต่พี่ก็เพิ่งรู้ "   พี่ตั้มพูด

"แล้วเมริงรู้ได้ไงวะ "   

"ก็เมื่อวานมันโทรมาหากรูส์ กรูส์ก็ตกใจเหมือนกัน  มันมาเล่นไม่บอกอะไรกรูส์เลย "   พี่ตั้มพูด

"พี่เค้ากลับมา  จะมาเรียนต่อรึเปล่าครับ "   กาวถามขึ้นบ้าง

"อืม.... มันคงจะมาอ่ะ  เพราะมันแค่ดรอปไว้นี่นา "  พี่ตั้มพูดไปแบบไม่ได้สนใจอะไร  แต่ดูพวกเราสามคนจะวิตกกังวลกันมาก  แบ๊งค์กับพี่โป้งเนี่ยไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก  แต่ทำไมไอ้กาวต้องตกใจแบบนั้นด้วยนะ  เป็นอะไรของมันเนี่ย  แปลกจัง

"เปิดเทอมก็คงจะได้เจอกับมันเองแหละ  มีอะไรก็ไปถามมันเองนะ "   พี่ตั้มพูดไว้แค่นั้น   แล้วบรรยกาศภายในห้องก็เงียบ   ไม่มีใครพูดอะไร  มีแค่เสียงจากทีวีเท่านั้น

แบ๊งค์พยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก   แต่มันก็นึกถึงจนได้   คิดถึงวันเปิดเรียน  วันที่แบ๊งค์จะไปเผชิญหน้ากับพี่อาร์ทอีกครั้ง  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำอย่างไร  แบ๊งค์กับพี่เค้าจะมองหน้ากันได้เหมือนเมื่อก่อนมั้ย    แบ๊งค์กลัว   กลัวไปหมดทุกอย่าง  แบ๊งค์ค่อนข้างเครียด  ก็เลยชวนทุกคนไปเที่ยวเล่นกัน

"เย็นนี้ทุกคนว่างกันป่ะ "   แบ๊งค์ถามขึ้นมา

"อืม...พี่ว่างทำไมหรอ "    พี่โป้งตอบมาคนแรก

"เราก็ว่าง "   กาวตอบบ้าง

"อืม  กรูส์ก็ว่าง "   ตามมาด้วยพี่ตั้มคนสุดท้าย

"แบ๊งค์ว่า  เราไปเที่ยวเล่นกันมั้ย "   แบ๊งค์เสนอความคิดเห็นไป

"จะไปไหนล่ะแบ๊งค์  เย็น ๆ แบบนี้ "   กาวถาม

"นั่นสิ  ไปไหนดีอ่ะ.......แบ๊งค์อยากไปสะพานพุทธอ่ะ "   แบ๊งค์พูด

"โห......กว่าสะพานพุทธจะเปิด  คุณน้องไม่รอจนเหงือกแห้งหรอครับ ใช้อะไรคิดเนี่ย "   พี่ตั้มแซวมา  ( เหมือนหลอกด่ากรูส์เลยอ่ะ )

"งั้นไม่ไป  ก็ได้  ไม่อยากไปแล้ว "   แล้วแบ๊งค์ก็เดินเข้าห้อง  แล้วล็อคประตูไปเลย

"เฮ้ย !!!! แบ๊งค์เป็นอะไรวะ   อย่างอนดิ "    ไอ้กาวพูดครับ

"น้องแบ๊งค์   ออกมาพูดกันดี ๆ จะดีกว่านะครับ "    พี่โป้งกล่อมอีกคน

"ไม่เอา  แบ๊งค์จะนอนแล้ว  ถ้าออกไปกันแล้วก็ช่วยล็อคประตูด้วยนะ "    แบ๊งค์นั่งอยู่บนเตียงแล้วตะโกนออกไป

"แบ๊งค์!!!! จะเปิดประตูมั้ย "    พี่ตั้มทำเสียงขู่ครับ

"ทำไม  จะเผาห้องแบ๊งค์รึไง  ก็เอาสิ  กลัวซะที่ไหนล่ะ "   แบ๊งค์ยังคงงอน

" แบ๊งค์!!!!งั้นพี่จะใช้วิธีสุดท้ายแล้วนะ "   พี่โป้งขู่มาอีกครับ

"ไม่เอา ๆๆๆๆ ไม่เปิด ๆๆๆๆ "    แบ๊งค์ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ   แต่ตอนนี้แบ๊งค์ยืนอยู่หน้าประตูแล้ว  กลัวเหมือนกันนะครับ  ที่กลัวน่ะไม่ใช่อะไรหรอก  กลัวพี่ตั้มจะพังประตูเข้ามา  ประตูแค่นี้  กับแรงหมีฟายอย่างพี่ตั้ม  เค้าพังเข้ามาได้ง่าย ๆ แน่  แบ๊งค์กลัวมันจะเสียงดังไปถึงห้องข้าง ๆ น่ะ

"ไม่เปิดใช่มั้ย!!!! "   พี่ตั้มพูดครั้งที่สุดท้าย

"เฮ้ย!!! อย่านะเว้ยไอ้ตั้ม "   เสียงพี่โป้งครับ

"อย่าทำรุนแรงเลยนะครับ  พี่ตั้ม "    ไอ้กาวก็คงช่วยกล่อมอีกคน

"แบ๊งค์!!!!!!! "  คราวนี้  พี่โป้งเสียงดังกว่าเดิมครับ  แบ๊งค์เลยรีบเปิดประตูออกไป  เป็นจังหวะที่พี่ตั้มคุกเข่านั่งอยู่หน้าห้องแบ๊งค์พอดี

"พี่ผิดไปแล้ว   อภัยให้พี่นะครับ  อย่าทำแบบนี้เลย  อย่าโกรธพี่นะ....... "    พี่โป้งพล่ามอะไรก็ไม่รู้ออกมาเต็มไปหมด  แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแบ๊งค์   ทุกคนต่างหัวเราะออกมาเบา ๆ

"ออกมาก็ไม่บอก  เซ็งว่ะ "    พี่ตั้มทำท่าไม่พอใจ  แล้วลุกขึ้นพูดโดยกันหน้าไปทางอื่น  แต่หน้าพี่ตั้มสิ แดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว (-///////-)

"ถ้าบอกก่อน  จะได้เห็นของดีแบบนี้หรอ  นายหมีฟายยย "   แบ๊งค์กระโดกอดพี่ตั้มจากทางด้านหลัง  แล้วเอามือขยี้หัวเบา ๆ

"นี่เล่นหัวหรอ  เดี๊ยะปั๊ดเหนี่ยวววว "   พี่ตั้มสะบัดแบ๊งค์ลงจากหลัง  แล้วโวยวายครับ  แต่หน้าพี่ตั้มก็ยังคงแดงเหมือนเดิม  ไม่สิ  แดงมากกว่าเดิมอีก (-/////////-)

"หายงอน  หายโกรธกันแล้ว  งั้นก็ไปกันเถอะ "   พี่โป้งพูดครับ

"จะไปไหนหรอกครับ  สะพานพุทธมันยังไม่เปิดนะตอนนี้ "   ไอ้กาวพูดครับ

"อืม....แบ๊งค์ว่า  เราไม่ต้องไปกันแล้วดีกว่า สะพานพุทธน่ะ " 

"ไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ  คงสนุกกว่าตั้งแยะ "   แบ๊งค์เสนอความคิดไป

"อ้าวว.....แล้วที่กรูส์นั่งง้อ  นั่งขอโทษเรื่องสะพานพุทธเมื่อกี้ล่ะ  สูญเปล่าหรอวะ "   พี่ตั้มทำท่างง ๆ

"เออดิ   แต่ตอนที่เมริงนั่งขอโทษ  น่ารักดีนะเว้ย "

"ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ทำท่าเหมือนเด็ก ๆ "   พี่โป้งแซวไป  หัวเราะไป

"อะไรวะ  รู้งี้กรูส์ไม่ทำก็ดีอะ สะพานพุทธก็ไม่ได้ไป  แถมขายหน้าเพื่อนอีก "   พี่ตั้มทำท่าเซ็งมากมาย

"แบ๊งค์ไม่ได้ขอให้ทำซะหน่อย  ทำเองนะช่วยไม่ได้ "    แบ๊งค์ทำท่ายั่วโมโหพี่ตั้มอีก

"ก็เพราะใครล่ะ หา..... "    พี่ตั้มล็อคคอแบ๊งค์เอาไว้  แล้วเอามือขยี้หัวแบ๊งค์

"ปล่อยนะ  เดี๋ยวผมเสียทรง "   แบ๊งค์พยายามดิ้น  แต่พี่ตั้มไม่ยอมปล่อย

"พอได้แล้ว  สองคนนี่  จะไปกันมั้ยเนี่ย "    ไอ้กาวบ่นแล้วครับ  เราก็เลยหยุด  แล้วขนโขยงออกจากห้องไปลานจอดรถกัน   เราตกลงว่าจะเอารถพี่โป้งไปครับ  แน่นอน  แบ๊งค์ไม่นั่งคู่คนขับหรอก  แบ๊งค์ชิ่งหนีไปนั่งข้างไอ้กาวนู่น  ปล่อยให้พี่โป้งกับพี่ตั้มนั่งหน้าไป 

"จะทานอะไรกันหรอครับ "   พี่โป้งถาม

"กาว  เมริงอยากกินอะไรล่ะ "   แบ๊งค์หันไปถามไอ้กาว

"ไม่รู้สิ  ตามใจแบ๊งค์ก็แล้วกัน "   ไอ้กาวพูดครับ

"งั้นไปกินเอ็มเคกัน "   แบ๊งค์หันไปพูดกับพี่โป้ง

"อ้าวววว   แล้วไม่คิดจะถามกรูส์บ้างเลยหรอ "  พี่ตั้มโวยวาย

"ถามไปทำไม  พี่ตั้มทานได้ทุกอย่างแหละ "   แบ๊งค์พูด

"เออ... จำไว้นะเมริง   เดี๋ยวกรูส์จะแย่งเมริงแดซให้หมดเลย "   พี่ตั้มขู่อีกแล้วครับ

"ไม่กลัว ๆๆๆ "    แบ๊งค์ยังคงยั่วโมโหต่อไป

"พอได้แล้ว "   ไอ้กาวพูดเบา ๆ แล้วดึงแบ๊งค์มานั่งนิ่ง ๆ ครับ

สรุปแล้วเราก็ไปกินเอ็มเคกัน  ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ( อีกแล้ว.....ก็มันใกล้นี่ฝ่า )  เย็น ๆ แบบนี้คนค่อนข้างเยอะครับ    ต้องไปยืนรอโต๊ะอยู่นานเหมือนกัน  พอไปถึงไอ้คุณพี่ตั้มก็ประเดิมสั่งเอา  เห็นปืนกลเลยครับ

"อ้าววว  ไม่สั่งอะไรกันหรอ "   พี่ตั้มถามครับ

"คงไม่ต้องแล้วล่ะ  ขอบคุณนะครับ  เดี๋ยวจะสั่งเพิ่ทีหลังนะครับ "   แบ๊งค์หันไปพูดกับพนักงานที่ยืนจดรายการอาหารครับ

"ทำไมไม่สั่งล่ะแบ๊งค์ "   พี่โป้งถามขึ้นบ้าง

"ยังจะสั่งอีกหรอ   แค่ที่ไอ้พี่ตั้มสั่งมา  ก็พอสำหรับคนสี่คนแล้วนะ "    แบ๊งค์พูด

"เออ...จริงด้วย  จะว่าไปมันก็ครบแล้วนี่หว่า "    ไอ้กาวเสริม

"เออ ๆๆ  กรูส์ขอโทษ ๆๆ ก็กรูส์เคยมากับครอบครัวนี่หว่า "

"ครอบครัวกรูส์  ครอบครัวใหญ่เว้ย  เวลาสั่งต้องสั่งเยอะ ๆ "   พี่ตั้มอธิบาย

"เออ ๆๆ  พอได้แล้ว  ไม่เถียงแล้ว "   แบ๊งค์พูด   เรานั่งรอซักพัก  อาหารที่สั่งก็มาอยู่ตรงหน้าพอดี   เราทั้งสี่คนก็เลยจัดการกันอย่างรวดเร็วครับ  อร่อยดีจัง  ถึงจะได้กินน้อยก็เหอะ   แต่ยังไงกินกันแยะ ๆ แบบนี้แบ๊งค์ว่ามันอร่อยกว่ากินคนเดียวอีกนะ

************************
 :bye2:คับ

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
นึกภาพหมีฟาย นั่งเจื๋ยมเจี้ยมคุกเข่าขอโทา 55+  คงขำน่าดู  o17

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ใกล้จาได้เจอพี่อาร์ทแล้ว   แบงค์เอ๋ย   โฮะๆๆๆๆ :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย

รอพี่อาร์ทเช่นกาน

 :o9:

BrOwNiE

  • บุคคลทั่วไป
ลงไปได้แยะเหมือนกันแระนะเนี่ย

ไม่รู้ว่าน้อง pajaa ได้ไฟล์ที่พี่ส่งให้อ่ะป่ะนะคัฟ

คือตอนนี้พี่อยู่หอในอ่า  ยังไม่มีคอม ( เศร้ามากกก )

ก้อเรยไม่ค่อยได้มาเชคเมลล์เท่าไหร่

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รอลุ้น  o15

อยากให้แบงค์กะพี่อาร์ทมาคบกันเหมือนเดิม  :amen:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
รอพี่อาทต่อไป











แต่เชียร์กาวเหมือนเดิมครับ

 :laugh3:

picuzz

  • บุคคลทั่วไป
จะได้เจอพี่อาร์ทแล้ว ลุ้นๆ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ลุ้นให้เจออาร์ทไวไว  o15  o15

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ขอให้ได้เจอกับพี่อาร์ทเร็วๆ ทีเถอะ
 :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
ยังคับ ยังไม่ให้เจอพี่อาร์ทหรอก o3
เมื่อไหร่จะได้เจอกันซะทีนะ o9 อยากอ่านตอนนั้นเหมือนกานนิคับ
*********************
บทที่ 40  คืนของนายกาว

หลังจากที่เรากินอะไรกันเรียบร้อยก็ไม่มีอะไรมากมาย   ก็แยกย้ายกันกลับครับ  พี่โป้งขับรถมาส่งพวกเราที่คอนโดของแบ๊งค์   พี่ตั้มก็ขับรถกลับ  ส่วนนายกาวก็ไปรอรถเมล์ที่หน้าคอนโด  แบ๊งค์ก็เลยขึ้นไปที่ห้องกะว่าจะอาบน้ำ  เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วครับ

ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก  เสียงคนมาเคาะประตูครับ   ใครกันนะ  มาเคาะประตูซะดึกดื่นเลย  แบ๊งค์ก็เลยไปเปิดประตู  อยากรู้ว่าเป็นใคร

"อ้าว...กาว   ทำไมไม่กลับอีกล่ะ "   แบ๊งค์แปลกใจมากครับที่เจอกาว 

"พอดีเราลืมเอาของให้แบ๊งค์น่ะ "    กาวพูด

"อะไรหรอ "   แบ๊งค์ทำท่างง ๆ

"แบมือมาสิ "   กาวยิ้ม ๆ  แบ๊งค์ก็เลยยื่นมือออกไป  แล้วกาวก็เอาอะไรซักอย่างมาใส่ไว้ที่มือแบ๊งค์  พอแบ๊งค์แบมืออกก็พบว่า  เป็นยันต์จีนสีเหลืองที่พับเป็นสามเหลี่ยม  กับสร้อยหิน DZI แบ๊งค์ก็เลยถามไป

"อะไรน่ะกาว "   แบ๊งค์ยังคงงง ๆ

"ก็ตอนที่เราไปปักกิ่งมาน่ะ เราได้ไปไหว้พระมาด้วย "   
 
"แล้วเราก็เลยได้ยันต์นี้มา  เราเลยเอามาให้แบ๊งค์ "   กาวยิ้มอย่างมีความสุข  โหยยย  น่ารักว่ะ  ทำไมกรูส์ไม่เคยสังเกตวะ   ไม่ ๆๆๆๆ   

"แล้วของนายล่ะ "    แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

"ขอเราก็มี  ไม่ต้องห่วงหรอก "   กาวพูด

"แล้วไอ้สร้อยหิน DZI นี่คงไม่ได้มาจากเมืองจีนหรอกนะ "   แบ๊งค์ถามไป

"อืม...พอดีวันก่อน  เราไปเดินจตุจักรมา  ก็เลยซื้อมาฝาก "  กาวบอก

"จะซื้อมาให้ทำไมก็ไม่รู้  เดี๋ยวเราไปซื้อเองก็ได้  ลำบากนายเปล่า ๆ "   แบ๊งค์พูด

"เอาเหอะน่า  เราอยากให้แบ๊งค์จริง ๆ นะ "   กาวพูด

"อืม...ก็ได้ ๆๆๆ "   แล้วแบ๊งค์ก็ทำท่าว่าจะใส่สร้อยข้อมือที่กาวให้  แต่ใส่ไม่ถนัด  เพราะแบ๊งค์จะใส่ที่ข้อมือขวา

"มา ๆๆ เดี๋ยวเราใส่ให้ "   แล้วกาวก็เข้ามาช่วยแบ๊งค์ใส่สร้อยข้อมือครับ

"ทำไมถึงใส่ไว้ที่ข้อมือขวาล่ะ "   กาวถาม

"ก็มือซ้ายเอาไว้ใส่นาฬิกาไงล่ะ "   แบ๊งค์อธิบาย

"อืม ๆๆ  อ่ะเสร็จแล้ว "    กาวพูดเมื่อใส่สร้อยข้อมือให้แบ๊งค์เสร็จ

"ขอบคุณคับ "   แบ๊งค์ขอบคุณกาวไป

"งั้นเรากลับก่อนนะ "   กาวพูด  แล้วทำท่าว่าจะเดินออกไป

"เดี๋ยวก่อนสิ  รอเราก่อน "   แบ๊งค์เรียกกาวไว้   แล้วรีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งตามไป

"แบ๊งค์จะไปไหนหรอ "   กาวถาม

"ก็จะไปส่งนายขึ้นรถกลับบ้านไง "   แบ๊งค์ตอบ

"ไม่ต้องหรอก  เราโตแล้วนะ  ไม่ต้องห่วง "   กาวพยายามปฏิเสธ

"ไม่ได้นะ ถ้ามีคนมาฉุดนายจะทำยังไง  เรายอมไม่ได้หรอกนะ"     แบ๊งค์ทำท่าจริงจัง

"เป็นห่วงเราด้วยหรอ"     กาวถาม

"เปล่าหรอก  กรูส์จะถ่ายคลิป"    แบ๊งค์ตอบแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ

"นี่แน่ะ  กรูส์ก็นึกว่าจะห่วงกรูส์"    กาวเขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที

"โอ้ย !!!  เจ็บนะ  ล้อเล่นน่ะ  เป็นห่วงดิ  ไม่งั้นไม่มาส่งหรอก"    แบ๊งค์ตอบออกไป  ไอ้กาวก็ได้แต่ยิ้มครับ

เรารอรถเมล์กันอยู่นานเหมือนกัน  แต่น่าแปลกนะ  ที่วันนี้ไม่มีรถผ่านมาซักคันเลย  เราก็ได้แต่นั่งรอแล้วรออีก  จนเวลาผ่านไปเกือบ ๆ จะห้าทุ่มแล้ว

"กาว  แบ๊งค์ว่าคงไม่มีรถแล้วล่ะ "   แบ๊งค์พูด

"ไม่เป็นไร  เดี๋ยวก็มี  แบ๊งค์กลับห้องไปก่อนเถอะ "   กาวพูด

ไม่หรอก  เราว่าไม่ต้องรอแล้ว "   แบ๊งค์พูด

"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า "   กาวพูด

"กาว......คืนนี้นอนห้องเราก่อนก็ได้ "   แบ๊งค์ตัดสินใจชวนกาวออกไปครับ

"................... "   กาวไม่ตอบอะไร  แต่หันมามองหน้าแบ๊งค์แทน

"มันดึกมากแล้ว  ไม่ต้องเกรงใจหรอก  พี่นุ่นก็ไม่อยู่  นายจะได้อยู่เป็นเพื่อนเราไง "  แบ๊งค์อธิบายไป

"แต่...... "    กาวกำลังจะพูด  แต่แบ๊งค์สวนขึ้นมาก่อน

"ไม่ต้องพูดแล้ว  ตอนนี้ดึกแล้วนะ  อากาศก็เย็น  แบ๊งค์หนาวแล้ว "   แบ๊งค์เริ่มโวยวาย

"อืม....เอางั้นก็ได้ "    กาวตอบตกลง   แล้วเราสองคนก็พากันขึ้นห้องไป  พอถึงห้องแบ๊งค์ก็ไปค้น ๆ เอาพวกชุดนอน  กับผ้าขนหนูมาให้กาวครับ

"อ่ะ...เอาไป  เดี๋ยวแบ๊งค์ไปอาบน้ำก่อนนะ "   แบ๊งค์พูด  ก่อนจะหายตัวเข้าไป สะสางตัวเองจนเรียบร้อย

"ถึงคิวนายแล้วไปอาบสิ "   แบ๊งค์ไล่กาวให้ไปอาบน้ำครับ

"อืม... จะไปเดี๋ยวนี้แหละ "    แล้วกาวก็เข้าไปอาบน้ำครับ  แบ๊งค์ก็เลยออกไปนั่งดูทีวีอยู่ข้างนอก  เพื่อรอไอ้กาว

พอไอ้กาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมันก็เดินออกมาครับ   ตอนที่มันเดินออกมา  แบ๊งค์สังเกตที่คอมัน มีรอยดูดด้วยครับ  เย้ยยยยย  ไม่ใช่ ๆๆๆ มีสร้อยหิน DZI ด้วยครับ  ลายเดียวกับที่มันเอาให้แบ๊งค์ที่เป็นสร้อยข้อมือเลย

"เดี๋ยวคืนนี้  กาวนอนห้องแบ๊งค์นะ   เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปนอนห้องพี่นุ่นเอง"   แบ๊งค์พูด

"จะดีหรอแบ๊งค์  เข้าไปยุ่มย่ามในห้องพี่นุ่น "

"แบ๊งค์นอนห้องแบ๊งค์นั่นแหละ  เดี๋ยวเรานอนข้างนอกเอง "  กาวพูด

"ไม่ได้นะกาว  มานอนคอนโดเราทั้งที  ก็น่าจะได้นอนสบาย ๆ นะ "

"เราไปนอนคืนเดียว  พี่นุ่นไม่รู้หรอก "    แล้วแบ๊งค์ก็ไปเปิดประตูห้องพี่นุ่น 

แกร็ก แกร็ก (O_o)  กรรม....ประตูเปิดไม่ออก  เจ้ล็อคห้องไว้หรอเนี่ย

“พี่นุ่นล็อคห้องไว้ใช่มั้ย”   กาวถามครับ  แบ๊งค์ก็เลยหันไปพยักหน้าแทนคำตอบ

“เดี๋ยวเรานอนข้างนอกเอง  ไม่เป็นไรหรอก”   กาวงพูดแล้ว  ท่าเหมือนว่าจะเข้าไปเอาหมอนในห้องแบ๊งค์มานอนข้างนอก

“ไม่ต้องหรอก  นอนด้วยกันก็ได้”   แบ๊งค์ เผลอพูดออก  แต่ทำไงได้ก็พูดไปแล้วนี่นา

“...จริงหรอ”    กาวถามครับ  เหมือนมันก็ไม่แน่ใจในคำตอบของแบ๊งค์เหมือนกัน

“................”   แบ๊งค์พยักหน้าแทนคำตอบ

“ลำบากใจ ไม่ต้องก็ได้นะ”    กาวทำท่าเศร้า

“บ้าหรอกาว  ลำบากใจเรื่องอะไร  นายเป็นเพื่อนเรานะ”   แบ๊งค์ทำท่าไม่พอใจ

“เรา...ข..ขอโทษ”    กาวเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“ช่างเหอะ  ทีหลังก็อย่าทำอีกนะ  นายคือเพื่อนที่เราสนิทที่สุด  อย่าพูดแบบนั้นอีกล่ะ”   แบ๊งค์พูดก่อนที่เราทั้งสองคนจะเข้านอน  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกาวหรอกนะ  แค่เขิน ๆ น่ะ ไม่รู้สิ  อยู่ใกล้  ๆ ไอ้กาวทีไร  บอกไม่ถูกทุกที
แสงอาทิตย์ตอนสาย ๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง  แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา  นี่เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  แล้วตอนนี้กาวมันอยู่ไหนเนี่ย   แบ๊งค์เดินออกจากห้องไป  ที่หน้าทีวี กาวก็ไม่อยู่  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปในครัว  เห็นโจ๊กแกะใส่ถ้วยวางไว้อยู่  โจ๊กยังร้อน ๆ อยู่  แสดงว่ากาวเพิ่งไม่นาน   ข้าง ๆ ชามโจ๊ก  มีกระดาษพร้อมข้อความที่เป็นลายมือกาววางอยู่


ตื่นมาแล้วทานโจ๊กซะนะ
เราออกไปซื้อมาให้เองแหละ
เราคงต้องรีบกลับก่อน
แล้วจะโทรหาทีหลังนะ
...กาว...

เพื่อนคนนี้ก็เหลือเกินนะ  แทนที่จะอยู่ทานโจ๊กด้วยกัน  หนีกลับบ้านไปซะงั้น  จะทำตัวเป็นคนขี้เกรงใจไปถึงไหนกันนะ  แบ๊งค์ก็เลยได้แต่นั่งทานโจ๊กไป   ยิ้มไป
-------------------------------------------------------------------

วันนี้ผมจะไปเจอกับแบ๊งค์ครับ  ดีใจจัง  แบ๊งค์กลับมาจากเชียงใหม่ซะที   ผมเองก็มีของอยากจะให้แบ๊งค์เหมือนกัน  พอผมมาถึงที่หน้าคอนโดผมก็โทรหาแบ๊งค์เลย

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ  กรูส์อยู่หน้าคอนโดแล้วนะเว้ย”  ผมบอกไป

“เมริงก็เข้ามาสิ  หรือจะรอให้กรูส์จุดธูปอันเชิญก่อน  เมริงถึงจะเข้ามาได้”  แบ๊งค์นี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ  กวนตรีนได้ตลอดเวลา  แต่นั่นคงเป็นเสน่ห์ของเค้ามั้งครับ

“เออ ๆๆๆ งั้นเดี๋ยวกรูส์เข้าไปละ  เมริงโดนดีแน่ ๆ”     ผมแกล้งขู่ไป  แล้วผมก็เดินเข้าไปในคอนโดของแบ๊งค์   อยากเจอแบ๊งค์เร็ว ๆ จัง  พอผมมาถึงที่หน้าก็เคาะประตูเลยครับ  แล้วแบ๊งค์ก็เปิดประตูออกมา  เหมือนจะยังไม่มีใครมา 

แล้วอยู่ ๆ พี่ตั้มก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ครับ    เฮ้อ~~~ ไม่เป็นไร  เอาไว้คุยกับแบ๊งค์ทีหลังก็ได้  แล้วผมก็เดินเข้าห้องไป

“พี่ตั้มอ่ะ  จะมาทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้”  อยู่ดี ๆ แบ๊งค์ก็พูดขึ้นครับ

“ทำไมวะ  กรูส์มาแล้วทำไม”   พี่ตั้มก็งง ๆ

“ก็แบ๊งค์กะว่าจะหลอก แดซไอ้กาวซะหน่อย  เสียแผนหมด”   แบ๊งค์ออกมาเล่นเอาผมตกใจไปเหมือนกัน

“เย้ยยย”   ผมลืมตัวเผลอร้องออกไป

“อ้าววว   งั้นกรูส์กลับก็ได้”  พี่ตั้มทำท่าน้อยใจ  จะเดินออกนอกห้อง

“จะไปไหน  คนเค้าแซวเล่นนิดเดียว ทำน้อยใจไปได้  หัวก็ไม่ได้ล้านซะหน่อย”    แบ๊งค์ดึงแขนพี่ตั้มเอาไว้

“หายงอนนะ ๆๆ “   แบ๊งค์ปลอบพี่ตั้มแบบที่ผู้ใหญ่คอยปลอบเด็กเล็ก ๆ

“ได้แต่ต้องทำแบบนี้ก่อน”   แล้วพี่ตั้มก็เขกหัวแบ๊งค์ไปหนึ่งที 

“โอ้ย!!! เจ็บนะ  เขกหัวแบ๊งค์ทำไมอ่ะ”  แบ๊งค์เอามือกุมหัวตัวเองไว้

“ก็เมริงเล่นมากวนตรีนแต่เช้าทำไมล่ะ”   พี่ตั้มพูด

“ใช่ ๆ ตั้งแต่กลับมานี่  กวนขึ้นเยอะเลยนะ โดนบ้างซะก็ดี”  ผมช่วยเสริมครับ  แต่แบ๊งคืก็ยังกวนไม่เลิก 

ตั้งแต่แบ๊งค์กลับมาจากเชียงใหม่นี่  ดูสดใสขึ้นเยอะเลยนะครับ   ไม่รู้สิครับ  ผมชอบเวลาที่แบ๊งค์เป็นแบบนี้ที่สุดเลย 
แล้วเราก็มานั่งคุยกันครับ แบ๊งค์ก็ถามถึงเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของแมค   อีกซักพักน่ะครับ  ตอนนี้แมคมันกำลังเข้าสู่ทางสงบ  เปิดเทอมก็คงจะได้เจอมัน  อีกซักพัก  พี่โป้งก็มาครับ  พี่ชายคนนี้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง มาพร้อมกับของกินตลอด 

เราก็จัดการกับของที่ติดมือพี่โป้งมาสิครับ  อิ่มมากมายเลย  พอทานเสร็จ  ผมก็นึกขึ้นได้ว่าจะคุยกับแบ๊งค์  แต่ดันเผลอลืมตัว  อุทานออกมา  ทุกคนก็เลยหันมามองผมกันหมด  ผมก็เลยต้องแก้เขินด้วยของฝากเนี่ยแหละ  ดีนะที่มีของฝากมาด้วย  ไม่งั้นผมต้องตายแน่ ๆ เลย

แล้วเราก็มานั่งคุยกันครับ  บรรยกาศก็ปกติดีนะ  สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก  แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็พูดขึ้นมาว่า  พี่อาร์ทกลับมาแล้ว  เล่นเอาผมอึ้งไปเหมือนกันครับ  ฝ่ายพี่โป้งกับแบ๊งค์ก็ดูอึ้งไปเหมือนกัน  พอได้ยินแค่นั้นแหละครับ  บรรยกาศภายในห้องเปลี่ยนไปทันที  ทุกคนเงียบ  ไม่พูดไม่จา คิดอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ 

แต่สำหรับผม....ผมบอกไม่ถูกหรอกครับ  ว่าคิดอะไร  ใจหนึ่งผมก็ดีใจ ที่แบ๊งค์กับพี่อาร์ทจะได้มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิม  อีกใจหนึ่งผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น   คิดแล้วก็อิจฉานะครับ  อยากเป็นพี่อาร์ทบ้าง  อย่างได้รับความรักจากแบ๊งค์บ้าง  ความรัก...ที่มากกว่าคำว่าเพื่อน

แล้วแบ๊งค์ก็พูดตัดบทขึ้นมาว่าอยากไปสะพานพุทธ  แต่ก็โดนพี่ตั้มแซว  แล้วงอนจนได้  แบ๊งค์หนีเข้าห้องไปเลยครับ  ใครไปง้อก็ไม่ยอม  พี่ตั้มเลยดูเหมือนไม่พอใจ  ท่าทางน่ากลัวมากเลยครับ 

สังสัยพี่ตั้มต้องพังประตูเข้าไปแน่ ๆ  ผมกับพี่โป้งเลยพยายามห้าม  แต่พี่ตั้มไม่ฟังเลยครับ แล้วอยู่ดี ๆ พี่ตั้มก็ทรุดตัวคุกเข่าขอโทษแบ๊งค์ซะงั้น  เป็นจังหวะเดียวกับที่แบ๊งค์เปิดประตูมาเหมือนกัน  ผมกับพี่โป้งก็เลยหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
สรุปว่าวันนี้เราไม่ไปสะพานพุทธกันหรอกครับ  แต่ไปกินเอ็มเคสุกี้แทน  ตอนที่ขึ้นรถอยู่ดี ๆ  แบ๊งค์ก็วิ่งมานั่งกับผมซะงั้น  นึกว่าจะนั่งข้างหน้าซะอีก  แล้วแบ๊งค์กับพี่ตั้มก็เปิดศึกกันในรถอีกแล้วครับ  ผมเลยต้องดึงแบ๊งค์ให้ลงมานั่งเฉย
สองคนนี้ไม่รู้เป็นอะไรกันนักหนา  กัดกันอยู่ได้ตลอดเวลา  หาเรื่องโกรธ  เรื่องงอน กันอยู่ได้ เหมือนเด็ก ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ก็โต ๆ กันแล้วทั้งสองฝ่าย

พอไปถึงเอ็มเค  พี่ตั้มก็เอาแต่สั่ง ๆ ครับ  ไม่มีใครสั่งทันซักคน  สงสัยพี่เค้าจะมาบ่อยแน่ ๆ  แบ๊งค์ก็เลยพูดไประชดไป  พี่ตั้มก็เลยอธิบายมาว่า พี่เค้าชอบมากับครอบครัว เวลาสั่งก็จะสั่งกันเยอะ ๆ เป็นธรรมดา
เอ็มเควันนี้ดูอบอุ่นเป็นพิเศษนะครับ  อาหารก็ดูอร่อยกว่าครั้งก่อน ๆ ที่ผมเคยมาทาน  คงเป็นเพราะวันนี้  ผมได้มาทานกับคนที่ผม...ชอบ ( อยากพูดว่ารักแต่ไม่กล้า )  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากันสองต่อสองก็เหอะ

ขากลับ  พี่โป้งมาส่งเราที่คอนโดครับผม  แล้วเราก็แยกย้ายกันไป  ตอนนี้ผมนั่งรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายครับ  อะ...นั่นไง  รถมาแล้ว  แต่....เฮ้ยยยยย ลืมเอาให้แบ๊งค์  ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปในคอนโดครับ   ตอนนี้ผมก็หยุดอยู่หน้าห้องของแบ๊งค์แล้ว
ผมพยายามหายใจลึก ๆ เพื่อไม่ให้แบ๊งค์เห็นว่าผมเหนื่อย  แล้วผมก็เคาะประตูห้องไป  แบ๊งค์มาเปิดประตูให้ครับ  ดูท่าทางคงกำลังจะอาบน้ำ   แบ๊งค์เค้าก็งงนะครับ  ว่าผมมาทำไม  ผมก็เลยบอกว่ามีของจะให้  แล้วยื่นของให้แบ๊งค์ไป  มันเป็นแค่ยันต์ที่ผมได้มาจากวัดที่ปักกิ่ง  กับสร้อยหิน DZI ที่ไปซื้อมาจากจตุจักร   ไม่รู้ว่าแบ๊งค์จะถูกใจรึเปล่า
แบ๊งค์ก็รับไปนะครับ  แต่ก็บ่น ๆ อยู่เหมือนกัน  ว่าจะซื้อมาให้ทำไม  ก็คนมันอยากให้นี่นา  และสิ่งที่ทำให้ผมดีใจก็คือ  พอแบ๊งค์ได้สร้อยขอมือไป  แบ๊งค์ก็ใส่มันทันที   แต่เหมือนว่าจะใส่ไม่ถนัด  ผมเลยเข้าไปช่วย
แบ๊งค์ใส่สร้อยที่ข้อมือขวาครับ  ใจจริงผมอยากให้แบ๊งค์ใส่ที่ข้อมือขวามากกว่า  เพราะมันเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้ฝั่งของหัวใจมากที่สุด  แต่ก็ช่างเถอะครับแค่แบ๊งค์ยอมใส่ผมก็ดีใจแล้ว

จากนั้นผมก็ทำท่าว่าจะกลับ  แต่แบ๊งค์วิ่งตามมาบอกว่าจะไปส่งผม  แล้วก็มีแซวผมอีกว่า  ถ้าผมโดนฉุดจะถ่ายคลิป  ทะลึ่งจริง ๆ เลยเพื่อนคนนี้   ยิ่งผมได้เดินใกล้ ๆ เค้าขนาดนี้มันยิ่งทำให้ผมรู้สึก  รู้สึกว่าเค้าดูน่ารักเกินกว่าจะเป็นว่าที่เด็กปี 2   แบ๊งค์ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูง  ผมอยากให้เค้ามาเป็นน้องของผมจัง  ผมจะดูแลให้อย่างดีเลย
ผมกับแบ๊งค์มารอรถเมล์กันครับ  น่าแปลกที่รถไม่มาซะที  หายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้  ผมสังเกตเห็นว่าแบ๊งค์เริ่มที่จะหนาวแล้ว  คงเพราะลมที่พัดผ่านล่ะมั้ง  น่าสงสารจัง  รถก็ไม่ยอมมาซะที  ผมไล่ให้แบ๊งค์กลับห้อง  แต่แบ๊งค์ก็ไม่ยอมไป  สงสัยแบ๊งค์จะหนาวมากเลยนะ

แล้วอยู่ ๆ แบ๊งค์ก็ชวนให้ผมค้างเป็นเพื่อนเค้า  พอสิ้นสุดประโยคนั้น มันเหมือนว่าทุกอย่างหยุดไปเลยครับ  จากเสียงรถราที่วิ่งไปมาบนท้องถนน  มันเงียบไปหมด  ผมได้ยินแค่เสียงของแบ๊งค์เท่านั้น  ตอนแรกผมกะว่าจะปฏิเสธ  แต่ผลสุดท้ายก็โดนแบ๊งค์บังคับอีกจนได้

แบ๊งค์เอาชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวมาให้ผม  แล้วเข้าไปอาบน้ำ  ผมเลยเอาช่วงเวลานี้โทรบอกทางบ้าน  เพื่อที่เค้าจะได้ไม่เป็นห่วง  จากนั้นแบ๊งค์ก็ออกมา  พร้อมกับไล่ผมไปอาบน้ำครับ  เหมือนผู้ปกครองเลยนะเนี่ย ผมเลยต้องทำตาม
พออกมาก็ไม่เห็นแบ๊งค์อยู่ในห้องนอน  ที่แท้ก็ไปนั่งดูทีวีอยู่นี่เอง  แล้วแบ๊งค์ก็บอกให้ผมไปนอนในห้องของเค้า  โดยที่แบ๊งค์จะนอนห้องพี่นุ่น   แต่ปรากฏว่าห้องพี่นุ่นเปิดไม่ออกครับ  ตอนนี้ดูท่าทางเหมือนแบ๊งค์รังเกียจผมเลย   ผมเลยบอกเค้าไปว่าเดี๋ยวผมจะออกมานอนข้างนอกเอง  แล้วผมก็หลุดปากไป  พูดประมาณว่า  แบ๊งค์รังเกียจผม
แค่นั้นแหละครับ  แบ๊งค์วีนขึ้นมาทันทีเลย   หาว่าผมคิดมาก ไปต่าง ๆ นานา  ผมก็เลยได้แต่เศร้าไปตามระเบียบ แล้วเราก็ได้มานอนเตียงเดียวกันจนได้  เหมือนตอนที่ผมมาค้างที่นี่ครั้งแรกเลย  ผมนอนไม่หลับหรอกครับ ใจมันเต้นแรงมาก  แรงจนผมไม่รู้ว่า แบ๊งค์จะได้ยินรึเปล่า

ซักพักเสียงลมหายใจของแบ๊งค์เริ่มนิ่งลง  คงกหลับไปแล้วสินะ  ผมทำเหมือนครั้งแรกครับ  ผมนอนจ้องหน้าแบ๊งค์  อีกมือหนึ่งก็ค่อย ๆ ลูบหน้า  แล้วจากนั้นผมก็จูบที่หน้าผาก  แล้วหอมแก้มแบ๊งค์ไปหนึ่งที   ขอโทษด้วยนะแบ๊งค์ที่เราต้องทำแบบนี้  ถ้าเราไม่ทำ  เราคงนอนไม่หลับแน่ ๆ แล้วผมก็หลับไป

แดดเริ่มสาดเข้ามาในห้องแล้วครับ  ผมตื่นขึ้นมา  แต่แบ๊งค์ยังคงหลับอยู่  ผมเลยอาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อย  แล้วลงไปซื้อโจ๊กมาใส่ชามทิ้งไว้ให้แบ๊งค์ พร้อมกับเขียนโน้ตเล็กน้อย  ผมหวังว่าเค้าคงจะตื่นมาทานทัน ในขณะที่มันยังร้อน ๆ อยู่นะ
ผมเดินออกจากคอนโดมาด้วยความสุข  อย่างผมก็คงทำได้แค่นี้แหละครับ  ถึงจะทำได้แค่นี้  ผมก็มีความสุขแล้ว  เพราะความสุขของผมไม่ได้อยู่ที่การครอบครอง  แต่มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่ได้ทำอะไรดี ๆ เพื่อคนที่เรารักตะหาก...

******************
เออหนอ สงสารกาวจังเลยเนอะคับ :sad4:
 :bye2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
กาวน่าสงสาร  :o11:



แต่เชียร์พี่อาร์ท  o15

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
กาวอย่าถอดใจดิ    เชียร์กาวอยู่น้า        o15 o15 o15 o15 o15

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สงสารกาวเป็นที่สุด

เชียร์กาว เพราะกาวน่ารักค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :o11:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนของกาวจริงๆเลย ...  กาวเป้นเพื่อนที่น่ารักมากเหือนกานเลยนะนี่

เฮ้อ...แต่น่าสงสารจัง จิงอยุ่รักไม่ใช่การครอบครอง แต่ถ้าเราได้ทั้งใจและตัวเค้าด้วย มันจะดีมากๆเลยนิ  :undecided:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้ง

 o7

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ยกให้กาวเป็นพระเอกซักตอนก็ได้  :o9:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
************************
บทที่ 41 จตุจักร

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ   ไม่รู้จะไปไหนเลย  ทั้ง ๆ ที่กรุงเทพฯ ก็มีที่ให้ไปออกจะแยะ แต่ทำไมคิดไม่ออกนะ อืม...ไปจตุจักรดีกว่า   แต่จะไปกับใครล่ะ........ ไปคนเดียวก็ได้ฟระ

และแล้วแบ๊งค์ก็ออกไปเที่ยวจตุจักรคนเดียวครับ  นานมากแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้ไปไหนคนเดียว จะว่าไปอยู่คนเดียวก็สนุกเหมือนกันนะ  พอแบ๊งค์จัดแจงแต่งตัวเสร็จ  ก็ออกมายืนรอรถเมล์ที่หน้าคอนโดครับ
สงสัยเพราะเป็นวันหยุด  หรือเพราะเหตุใดก็ไม่รู้  วันนี้รถเมลสายที่ไปจตุจักร คนเยอะจัง  แต่แบ๊งค์ไม่หวั่นหรอก  หนุกดีออก  ไม่ได้ขึ้นรถเมล์แน่น ๆ แบบนี้มานานแล้ว

 แล้วในที่สุดแบ๊งค์ก็ไปถึงจตุจักรซะที

“เฮ้อ~~~ไปเที่ยวกันดีกว่านะ”   แบ๊งค์บ่นกับตัวเองเบา ๆ  คนเยอะจังเลยครับ ( เอ....หรือว่ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้วอ่ะ  ไม่เคยมา )  มีแต่ของน่าสนใจทั้งนั้นเลย เสื้อผ้าก็น่าซื้อ  ของแต่งบ้านก็น่าสน  แล้วแบ๊งค์จะซื้ออะไรดีเนี่ย แต่ก่อนอื่นขอซื้อน้ำดีกว่า  คอแห้งเป็นผงแล้ว

ฮ้า~~~~ชื่นใจ สดใส อะไรเช่นนี้   ได้ดื่มทีไรมีความสดชื่นขึ้นมาทุกที  ไอ้ชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวเนี่ย  ดื่มจนจะติดไปแล้ว 

แบ๊งค์เดินดูไปเรื่อย ๆ ครับ  ไปเจอร้านขายเสื้อยืดร้านหนึ่ง  สวยดีอ่ะ  ยิ่งแบ๊งค์เป็นพวกบ้าเสื้อยืดอยู่ด้วย  ก็เลยอดที่จะเข้าไปดูไม่ได้  ร้านนี้มีเสื้อหลายสีหลายลายให้เลือกเยอะแยะมากมายเลยครับ   เสื้อลายนั้นก็ดี  ลายนี้ก็สวย  บายลาย...เอ่อ....มันอ่านว่าอะไรอ่ะ  ภาษาเกาหลีอ่านไม่ออก  แต่ช่างมันเหอะ เอาสวยเป็นพอ

แว้บบบบบบบบ    เหมือนมีอะไรมาสะดุดตาแบ๊งค์อย่างแรง   แบ๊งค์เลยหันไปมองอย่างช้า ๆ  เสื้อตัวนั้น สกรีนลายเป็น astroboy ด้วย  ความจริงแบ๊งค์ก็ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้หรอกนะ  เกิดไม่ทันอ่ะ  แต่ชอบมากมาย น่ารักดีอ่ะ
แบ๊งค์เดินเข้าไปคว้ามาชื่นชมอย่างไม่สนใจใคร มันเป็นเสื้อสีขาว ที่คอกับแขนเสื้อขลิปเป็นสีส้มอ่อน ๆ  อีกตัวเป็นเสื้อสีน้ำตาล ขลิบเหลือง  ตรงกลางของทั้งสองตัว  เป็นลาย astroboy นั่นเอง  โดนใจแบบนี้มีหรอที่แบ๊งค์จะไม่ซื้อ

“มีสองตัว สองแบบเองนะคะน้อง”   เจ้าของร้านบอกมาครับ

“มีไซส์อะไรมั่งหรอครับ”    แบ๊งค์ถามไป

“มีไซส์...รู้สึกสีน้ำตาล M สีขาว L น่ะค่ะ”   เจ้าของร้านบอก   แล้วแบ๊งค์ก็ยืนพิจารณา  ดูว่าจะใส่ไซส์ไหนดี  คือแบ๊งค์เป็นคนหุ่นไม่มาตฐานน่ะ  บางทีตัวพอดีแต่แขนสั้นไป  บางทีแขนพอดีแต่ตัวยาวไป  แล้วลายมันก็ไม่เหมือนกัน  ก็เลยต้องพิจารณาดูเป็นพิเศษ

“พี่ว่าน้องใส่ไซส์ M ก็คงได้มั้งคะ”

“ไซส์ L  เหมือนจะยาวไปน่ะค่ะ  อีกอย่างพี่ว่าสีน้ำตาลจะเหมาะกว่านะคะ”   เจ้าของร้านบอกมาครับ

“อืม.....งั้นเอาตัวนี้แหละครับ”   แล้วแบ๊งค์ก็ยื่น เสื้อ ให้เจ้าของร้านไปพร้อมกับเงินครับ

“ขอบคุณค่ะ”    เจ้าของร้านยื่นเงินทอนพร้อมถุงเสื้อ คืนมาให้แบ๊งค์  แบ๊งค์ก็รับมาครับ  ในที่สุดการออกมาข้างนอกครั้งนี้  แบ๊งค์ก็ไม่กลับไปมือเปล่า หุหุ 

พอเดินถัดไปอีกไม่กี่ร้าน  แบ๊งค์ก็ต้องสดุดตาอีกครั้ง  กับนาฬิกาลาย astroboy วันนี้มันช่างเป็นวันที่วิเศษอะไรเช่นนี้ซาราห์ ( ใช่แล้วจอร์จ )   แบ๊งค์เลยถอยมาหนึ่งเรือน  ตัวเรือนสีขาวหน้าปัดสีดำครับ  ข้างในเป็นลาย astroboy ของโปรดแบ๊งค์นั่นเอง

แบ๊งค์เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนผ่านไปที่โซนสัตว์เลี้ยง  มีตัวอะไรก็ไม่รู้  ทั้งที่แบ๊งค์รู้จักและก็ไม่รู้จักเต็มไปหมดเลย  มีลูกหมาน่ารัก ๆ ด้วย  แต่เสียดาย  ซื้อไปเลี้ยงที่คอนโดไม่ได้  ก็เลยได้แต่ดูผ่าน ๆ  มีลูกหมาตัวหนึ่ง รู้สึกจะเป็นพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้มั้งครับ

น่ารักจังเลยอ่ะ  มันมองแบ๊งค์ด้วย   แบ๊งค์ก้มลงไปเล่นกับมัน  แล้วเจ้าของก็เดินออกมา  หุหุ  เจ้าของร้านก็น่ารักเหมือนกัน  เหมือนว่าอายุจะไม่ห่างจากแบ๊งค์เท่าไหร่นะ แล้วก็เหมือนว่าเค้าจะเป็น.....ด้วย

“ชอบหรอครับ”   เจ้าของร้านหน้าใสทักขึ้น

“ค...ครับ”   แบ๊งค์ตอบไป  ในใจก็กลัวว่าเค้าจะมาว่าอะไร  ที่แบ๊งค์ไปเล่นหมาเค้ารึเปล่า

“ไม่ซื้อไปเลี้ยงล่ะครับ เดี๋ยวผมลดให้ก็ได้”   เจ้าของร้านเสนอขายให้กับแบ๊งค์

“ไม่หรอกครับ  คือแบ๊งค์อยู่คอนโดน่ะ  คงเลี้ยงไม่ได้หรอกครับ”  แบ๊งค์ตอบไป

“ชื่อแบ๊งค์หรอครับ”   เจ้าของร้านถามกลับ กรรม......เพราะความเคยชิน  กรูส์เผลอเปิดเผยชื่อไปซะงั้น   แบ๊งค์ก็เลยได้แต่ยอมรับความผิดพลาด  ด้วยการพยักหน้าไป

“ผมปรินซ์นะครับ”   หนุ่มหน้าใสคนนั้นแนะนำมา

“อ๋อปรินท์เตอร์น่ะหรอ  งืม ๆ ชื่อแปลกดีนะ”  แบ๊งค์แกล้วแซวไป

“เย้ยยย   ไม่ใช่ปรินท์เตอร์  ปรินซ์ที่แปลว่าเจ้าชายน่ะ”  นายปรินซ์  อธิบาย

“ก็ถึงว่า คนอะไรชื่อปรินท์เตอร์  สงสัยพี่ชายคงชื่อ คอมพิวเตอร์มั้ง”   แบ๊งค์ยังคงแซวต่อ  แล้วเราทั้งสองก็หัวเราะไปด้วยกัน

“เจ้าตัวนี้ชื่ออะไรหรอ โจบิรึเปล่า”   แบ๊งค์ถามไป

“รู้ได้ไงเนี่ย  วันนี้มีคนทายถูกสองคนแล้วนะ”   ปรินซ์บอก

“หรอ  ก็ทายตามชื่อในซีรีย์ญี่ปุ่นน่ะ”   แบ๊งค์อธิบาย

“อืม......แล้วแบ๊งค์มาเที่ยวคนเดียวหรอ”  ปรินซ์ถาม

“อืม...พอดีไม่มีอะไรทำน่ะ”    แบ๊งค์ตอบไป

“ให้เราไปเที่ยวเป็นเพื่อนมั้ย”    ปรินซ์อาสา   อะไรวะ  มาแนวไหนเนี่ย เจอหน้ากันครั้งแรกก็จะไปเที่ยวด้วยกันซะแล้ว  คนกรุงเทพฯ ไวไฟกันจัง  ไม่ได้ ๆๆ แม่แบ๊งค์สอนมาดี ว่าถ้าเจอคนแปลกหน้าให้วิ่งตาม เย้ยยยย ไม่ใช่  ถ้าเจอคนแปลกหน้าอย่าเพิ่งไว้ใจ  ไปดีกว่ากรูส์

“ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเราไปก่อนนะ”  แบ๊งค์รีบถอนตัวกลับ  โดยปฏิเสธไป

“เดี๋ยวก่อนสิ  เรายังไม่มีเบอร์แบ๊งค์เลย”   ปรินซ์รีบถาม

“อย่าเลย  เราไม่มีโทรศัพท์หรอก”   แบ๊งค์ปฏิเสธไป  นายปรินซ์ก็เลยได้แต่ทำหน้าเศร้า ๆ  แล้วอยู่ ๆ โทรศัพท์มือถือแบ๊งค์ก็ดังขึ้น ( ใครโทรมาฟระ......)

“อ้าว...ห”   ปรินซ์ทำท่างง ๆ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ตัวแบ๊งค์  ก่อนที่ปรินซ์จะได้อ้าปากถามอะไร  เจอมุกแป๊กของแบ๊งค์ไปก่อนก็แล้วกัน

“อ่ะ.....นั่น....มนุษย์ต่างดาว”    แบ๊งค์ชี้ไปทางข้างหลังของปรินซ์  แล้วมันก็ได้ผลครับ  นายปรินซ์หันตาม  แค่นั้นแหละ  มีหรอที่แบ๊งค์จะปล่อยให้เวลาแบบนี้ผ่านไปได้ง่าย ๆ พอได้ทีเผลอแบ๊งค์ก็วิ่งสุดแรงเกิด  ออกไปโดยทันที ( โดยที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน )

แฮ่ก ๆๆๆ เหนื่อยว่ะ  ทำอย่างกับกรูส์ไปขโมยอะไรมาอย่างนั้นแหละ  ออกมาได้ก็ดีแล้ว  ไปหาซื้อของต่อดีกว่าว่ะ  แล้วใครโทรมาฟระ  เจ้นุ่นนั่นเอง

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ   อยู่ไหนเนี่ย”   พี่นุ่นถาม

“อยู่จตุจักรอ่ะ  มาเที่ยวเล่น”   แบ๊งค์บอก

“อืม ๆ ไม่มีอะไรหรอก  แค่จะมาบอกว่า”

“พี่นุ่นจะกลับไปวันพุธนะ”    พี่นุ่นบอก

“แล้วจะกลับมากี่โมงล่ะ”   แบ๊งค์ถามพี่นุ่น

“ยังไม่รู้เลย  เดี๋ยวพี่โทรบอกอีกทีนะ”   พี่นุ่นพูด

“อ้าว.......”    แบ๊งค์ อุทานออกมา

“เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ พี่ยุ่งอยู่  บายจ้า”   แล้วพี่นุ่นก็วางสายไปโดยที่  แบ๊งค์ยังไม่ทันได้พูดอะไร   นี่กรูส์วิ่งหนีแทบตาย  เพื่อมารับโทรศัพท์แค่นี้เองน่ะหรอ  กรรม เซงจิต

แล้วแบ๊งค์ก็เดินต่อไป  ตอนนี้เริ่มปวดฉี่ซะแล้วสิ   ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า  พอแบ๊งค์ทำธุระส่วนตัวเสร็จ   ตอนที่แบ๊งค์ออกมาหน้าห้องน้ำ  แบ๊งค์เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางคุ้น ๆ หน้าเหมือนเคยเห็นเลยครับ 
เรามองหน้ากัน กะว่าจะถามไปว่าเคยเจอกันรึเปล่าก็ไม่กล้า  ก็เลยปล่อยไว้อย่างนั้น  แล้วแบ๊งค์ก็เดินออกไป  แบ๊งค์เดินไปดูของแต่งบ้านต่อครับ  ส่วนใหญ่จะเป็นรูปภาพ  แบ๊งค์เลยไม่รู้จะเอาอะไรไปแต่งห้อง  เลือกไม่เป็นน่ะ 

เริ่มเหนื่อยซะแล้ว  ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเป็นเวลาเย็นแล้ว  ไปเดินเล่นที่สวนรถไฟข้าง ๆ ดีกว่า  จะได้บริหารกล้ามเนื้อ   แล้วได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปด้วย  ตอนนี้ที่สวนรถไฟคนก็เริ่มมาออกกำลังกายกันบ้างแล้วครับ

บางคนก็ปั่นจักรยาน  บางคนก็วิ่ง  บางคนก็กำลังวอร์มร่างกายเลย  บางคนก็มากับเพื่อน  เห็นแล้วคิดถึงเพื่อน ๆ จัง  ถ้ามาด้วยกันคงสนุกกว่านี้  แต่....วันนี้กรูส์ตั้งใจมาเที่ยวคนเดียวนี่หว่า ช่างเหอะ  แค่คิดถึงก็พอแล้ว

ตอนนี้ก็ใกล้ที่จะมืดเข้ามาทุกทีแล้ว  แบ๊งค์กลับคอนโดดีกว่าสรุปว่าวันนี้แบ๊งค์ได้ของกลับไปกี่อย่างเองเนี่ย  เสื้อหนึ่งตัว  กับนาฬิกาอีกหนึ่งเรือน  แบ๊งค์ดูนาฬิกาสีขาวที่ข้อมือตัวเอง  เข็มนาฬิกาอยู่ที่ 18.05 น.  คงได้เวลากลับซะทีสินะ  แบ๊งค์ออกไปยืนรอรถเมลล์ซักพัก  แล้วรถก็มาพอดี  แบ๊งค์เลยขึ้นรถกลับคอนโดไป

..............................

“พี่อาร์ทคะ  แทมขอเข้าไปได้มั้ย”   แทมขอผม

“เข้ามาสิครับ”   ผมอนุญาตไป    แล้วน้องแทมก็เข้ามาในห้องผมครับ  ความจริงน้องเค้าไม่ต้องเคาะประตูก็ได้นะ  เพราะผมสนิทกับน้องแทมมากแล้ว

“มีอะไรหรอครับ มาหาพี่แต่เช้าเลย”  ผมถามเธอไป

“พี่อาร์ทรู้จักสวนจตุจักรมั้ยคะ”   แทมถามครับ

“รู้จักสิครับ  ทำไมหรอ .......อยากไปล่ะสิ”    ผมตอบเธอไป  น้องแทมก็ได้แต่ทำหน้าเขินอาย  ที่ผมรู้ทัน

“ค่ะ....แทมอยากไป  พี่อาร์ทไปกับแทมนะคะ”  น้องแทมขอครับ

“ก็ได้ครับ  แต่พี่คงไม่เอารถไปหรอกนะ  ให้คนขับรถไปส่งเราดีกว่า”   ผมเสนอไป  คือผมอยากพักผ่อนน่ะครับ

“ก็ได้ค่ะ  ขอแค่ไปถึงที่นั่นก็พอ”   แทมพูด  แล้วเราสองคนก็ให้คนขับรถไปส่งที่จตุจักรกันครับ  คนเยอะเหมือนกันนะวันนี้  คงเป็นเพราะว่าเป็นวันอาทิตย์แน่ ๆ เลย

“อยากไปดูอะไรก่อนหรอครับ”   ผมถามน้องแทมไป

“ไม่รู้สิคะ  พี่อาร์ทนำดีกว่า”   น้องแทมเสนอมาครับ

“พี่ก็ไม่ค่อยได้มาหรอกนะ  ไปดูโซนสัตว์เลี้ยงดีกว่านะ”   ผมชวนน้องแทมไปกันครับ

“ก็ได้ค่ะ   อยากลองหาไปเลี้ยงที่บ้านเหมือนกัน”   น้องแทมพูด

“จะซื้อไปน่ะ ขอคุณลุงกับคุณป้ารึยังครับ”    ผมแซวไป

“หะหะ ล้อเล่นค่ะ  ไม่ซื้อหรอก  ขืนซื้อไป แม่แทมได้ดุกันแน่ ๆ “   แทมทำท่ากลัว ๆ

เราเดินมาจนถึงร้านหนึ่งครับ  คนเต็มร้านเลย  คงเพราะสุนัขจากร้านนี้เป็น  พันธุ์แท้และมีหลายพันธุ์ให้เลือกมั้งครับ  คนเลยเต็มร้านไปหมด

“อุ้ย!!! พี่อาร์ทดูนั่นสิคะ”   น้องแทมทำท่าตกใจครับ  แล้วรีบวิ่งไป ที่กรงของสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้  น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย  สุนัขพันธุ์นี้

“ไหนขอดูหน่อยซิ”   ผมตามเธอเข้าไปครับ  ยิ่งดูใกล้ ๆ ก็ยิ่งน่ารักนะครับ สุนัขพันธุ์นี้

“ชอบหรอครับ  เหลือตัวสุดท้ายแล้วนะครับ”   มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น  ดูเหมือนว่าเค้าจะเป็นเจ้าของร้าน

“หรอคะ....น่าสงสารจังนะ  เพื่อน ๆ หายไปกันหมดเลย”   น้องแทมหันไปพูดกับสุนัขตัวนั้นต่อ

“ชื่ออะไรหรอครับ  โจบิ รึเปล่า”    ผมถามไป  เพราะผมเห็นสุนัขพันธุ์นี้ส่วนใหญ่ จะชื่อนี้กันทั้งนั้น  คงเป็นเพราะซีรีย์ญี่ปุ่นที่เคยเอาฉายในบ้างเราแหละมั้ง  เลยจุดกระแสให้ชื่อนี้ดังขึ้น

“ค..ครับผม  ชื่อโจบิ”  เด็กหนุ่มหน้าใสคนนั้นตอบกลับมา

“เดี๋ยวพวกเราขอตัวกันก่อนนะครับ “

“แทมป่ะ  ไปโซนอื่นกันเหอะ”  ผมพูดกับเด็กหนุ่มคนนั้น  แล้วหันไปพูดกับน้องแทม

“ค่ะ  ไปก่อนนะ โจบิ  บาย..”   แทมรับคำผมแล้วกันไป ลาเจ้าโจบิครับ    เราสองคนเดินกันมาเรื่อย ๆ   แวะไปทุกโซนนั่นแหละครับ  น้องแทมดูเค้าตื่นเต้นมากเลยนะเนี่ย   เห็นอะไรก็ชมไปซะทุกอย่าง 

“พี่อาร์ทดูเสื้อร้านนั้นสิคะ  น่าจะเหมาะกับพี่อาร์ทนะ”   น้องแทมไม่ชี้เปล่าหรอกครับ  แต่กลับลากผมตามไปด้วย  ผมวิ่งตามแทบไม่ทัน

“ครับ ๆๆ ช้าก็ได้ครับ  พี่วิ่งตามไม่ทัน”  ผมพูด

“ไปดูก่อนค่ะ  เดี๋ยวลายสวย ๆ โดนแย่งไปนะคะ”  น้องแทมพูดครับ  แล้วผมก็ตามไปเป้นหุ่น  ยืนให้น้องแทมเอาเสื้อหลากสี หลายตัวผลัดเวียนกันมาเทียบที่ตัวผม  เพื่อดูว่าตัวไหนถึงจะเหมาะ  ความจริงผมไม่เหมาะกับเสื้อลายแบบนี้หรอกครับ  มันเหมาะกับแบ๊งคืมากกว่า  ถ้าแบ๊งค์ได้มาเดินด้วย คงได้ไปซักตัวแล้วล่ะ

“เอาลายนี้ดีมั้ยคะ  พี่อาร์ท astroboy ด้วยนะ”   น้องแทมเลือกมาได้แล้วหนึ่งดัวครับ

“จะเหมาะกับพี่หรอครับ”  ผมถามอย่างงง ๆ

“ไม่รู้สิคะ  แทมว่าแทมมีเซนส์นะ  เสื้อตัวนี้ต้องมีความสัมพันธ์กับพี่อาร์ทแน่ ๆ”       น้องแทมพูดแล้วหันมาทางผม

“เพี้ยนมากไปรึเปล่าแทม”   ผมพูดติดตลก

“เอาตัวนี้แหละค่ะ”   แทมยื่นเสื้อตัวนั้นให้เจ้าของร้านไป

“ตัวเล็กแบบนี้พี่จะใส่ได้หรอ  มีไซส์อื่นมั้ยครับ”   ผมถามไป

“ลายแบบนี้ที่เอามาก็มีสองสีน่ะค่ะ”

“สีขาวกับสีน้ำตาล  แต่สีน้ำตาลไซส์ M มีคนเอาไปแล้วเมื่อเช้าน่ะค่ะ  ตัวนี้ไซส์ L น้องน่าจะใส่ได้นะคะ”  เจ้าของร้านบอกมาครับ

ผมก็ได้แต่ผงกหัว   แล้วจ่ายเงินไป   เสื้อตัวนี้มันจะเหมาะกับผมจริง ๆ หรอเนี่ย  ผมมองดูเสื้อแปลก ๆ สลับกับมองหน้าแทม

“น่ารักดีออก  มีคนซื้อไปตัวหนึ่งแล้วเห็นมั้ย”  น้องแทมพูด

“คนที่มาซื้ออาจจะเป็นเด็กม.ปลายก็ได้”  ผมแย้งไป

“ไม่หรอกค่ะ  น่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยนะคะ  เพราะผมยาว  แต่ดูหน้าเด็กหน่อยนะคะ”   เจ้าของร้านช่วยเสริม   เด็กมหาวิทยาลัยแต่หน้าเด็กหรอ  คำ ๆ นี้ทำให้ผมนึกถึงคน ๆ นั้นอีกแล้ว วันนี้ผมรู้สึกแปลกจัง  รู้สึกเหมือนว่ามีเค้าอยู่ใกล้ ๆ  ตลอดเวลา

“คิดอะไรอยู่อ่ะ  เงียบไปเลย”  น้องแทมพูดขึ้น ผมถึงได้ตื่นออกจากภวังค์

“อ๋อ  กำลังคิดเรื่องเซนส์ของน้องแทมไง  ว่าจะเชื่อได้รึเปล่า”  ผมแกล้งแซวเธอไป

“โห....ไม่เชื่อใจกันเลยนะ  งอนแล้ว”   น้องแทมทำท่างอน ๆ ครับ ผมเลยต้องรีบง้อเธอ

“โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนพี่นะ  เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรทานก็ได้”   ผมเสนอไป

“จริง ๆ นะ”   แทมหันมาในทันที  น้องผมคนนี้เห็นแก่กินเหลือเกิน

“อืม....ตามมาก็แล้วกัน” ผมพูดแล้วปล่อยให้เธอเดินตาม  จนร้าอาหารที่เราจะทานกัน  มันก็ไม่ได้เป็นร้านหรูอะไรหรอกครับ

“พอทานได้นะ”  ผมกระซิบบอกน้องแทม

“ได้สิคะ  แทมไม่หวั่นอยู่แล้ว”    น้องแทมพูดแบบนี้ผมค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย   แล้วเราก็สั่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทานกัน ไม่อยากทานมากเพราะเดี๋ยวคงจะเดินต่ออีกซักนิด  พอทานเสร็จเราก็นั่งกันซักพัก เพื่อวางแผนว่าจะไปที่ไหนต่อ

“แทมอยากไปที่เค้าขายของตกแต่งบ้านน่ะค่ะ”   น้องแทมพูด

“ก็ได้ครับ  แต่เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ยครับ”   ผมพูด

“ถ้าแทมบอกว่าไม่ได้ล่ะคะ”   น้องแทมแกล้งผมครับ

“โห...น้องแทมครับ  พี่ปวดจริง ๆ นะ”   ผมแกล้งทำเป็นอ้อนวอนเธอ

“ล้อเล่นค่ะ  ไปก็ไปสิคะ เดี๋ยวแทมรอที่หน้าห้องน้ำนะคะ”    แล้วผมก็จ่ายเงินค่าอาหาร  จากนั้นเราทั้งคู่ก็แยกกันไปเข้าห้องน้ำ  พอออกมาก็เห็นน้องแทมทำท่าครุ่นคิดอะไรก็ไม่รู้

“คิดอะไรอยู่หรอแทม”   ผมถามไป

“เมื่อกี้แทมเจอหน้าผู้ชายคนหนึ่ง  หน้าคุ้น ๆ น่ะค่ะ”   แทมพูด

“หรอ...เคยเจอที่อังกฤษหรอ”  ผมถามไป

“ไม่รู้สิคะ  แต่แทมว่าไม่ใช่นะ”   แทมยังคงพยายามคิดหาคำตอบต่อไป

“หน้าตาเค้าเป็นยังไงล่ะ”   ผมถามอีก

“ก็หน้าตาน่ารักนะคะ  ดูเด็ก ๆ ดี”    แทมพูด

“อย่าไปสนใจเลยน่ะ  สงสัยเค้าคงหน้าโหลมั้ง”

“พี่ว่าเราไปซื้อของต่อเหอะ”    จากนั้นเราสองคนก็ไปซื้อของมาอีกมากมายเลยครับ  น้องแทมได้โคมไฟไปแต่งบ้าน  จากนั้นยังไปเดินผ่านพวกงานศิลปะ  ก็เลยซื้อกลับไปอีก  น้องคนนี้ช้อปเก่งจริง ๆ

ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว ข้าวของก็พะรุงพะรังเล็กน้อย  ผมเลยรีบโทรไปหาคนขับรถรีบมารับ  จากนั้นเราก็ไปรอรถที่ใกล้ ๆ กับป้ายรถเมล์ครับ  ตอนนี้เวลา 18.08  น.  รถเมล์สายนี้....สายที่ผ่านคอนโดของแบ๊งค์น่ะครับ  ผ่านไปพอดี   แล้วคนขับรถมาพอดีครับ  เราเลยรีบขนของใส่ท้ายรถ  แล้วรีบขึ้นรถไป

“นี่ครับ  ของที่น้องอาร์ทสั่ง”  พี่คนขับรถ ยื่นซองยามาให้ผมครับ

“อ่ะ  ทานซะจะได้ไม่เป็นอะไรมาก”   ผมยื่นซองยาต่อไปให้น้องแทมครับ

“อะไรคะ”    น้องแทมถามสั้น ๆ

“ยาแก้ท้องเสียน่ะ  เมื่อกี้ทานเข้าไป แสลงท้องเรารึเปล่าก็ไม่รู้”   ผมยื่นซองยา  แล้วเอาขวดน้ำยื่นตามให้ครับ

“ขอบคุณค่ะ  พี่อาร์ทละเอียดอ่อนจังนะคะ”  น้องแทมพูดก่อนทานยา

“ไม่ใช่พี่หรอกครับ มีคนเคยทำให้พี่แบบนี้มาก่อน”   ผมบอกไป

“คงจะเป็นแบ๊งค์ คนเดิมอีกใช่มั้ยคะ”   น้องแทมทานยาเสร็จแล้วพูดครับ

“.......................”  ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“อ่ะ!!!!!!!”    น้องแทมอุทานออกมาเสียงดัง

“อะไรหรอแทม  ร้องออกมาซะดังเลย”  ผมถามเธอ

“พี่อาร์ท ๆๆๆ จำตอนที่แทม ที่แทม  บอกว่าเจอคนหน้าคุ้น ๆ ได้มั้ย”    น้องแทมตกใจจนพูดติดอ่างเลยครับ

“อ๋อ..ครับ  จำได้สิ ทำไมหรอ”   ผมตอบไป

“แทมจำได้แล้วค่ะว่าเป็นใคร  เค้าคือแบ๊งค์  คนที่อยู่ในรูปในห้องนอนพี่อาร์ทไงคะ”   พอน้องแทมพูดจบ  ผมอึ้งไปเลย

“ช....ช...ใช่หรอแทม”   ผมถามย้ำเธออีกครั้ง

“ใช่ค่ะ  แทมจำได้ จำได้จริง ๆ”   แทมย้ำอีกครั้ง

“พี่ครับวนรถกลับไปจตุจักรด้วยครับ”   ผมรีบบอกให้พี่คนขับรถวกรถกลับไปยังจตุจักรอีกครั้งหนึ่ง

พอไปถึงที่จตุจักร  ผมวิ่งลงไปด้วยความรวดเร็ว  ผมมองหาในสถานที่ ที่ผมคิดว่าเค้าจะไป  โดยมีน้องแทมวิ่งตามมาติด ๆ   ผมไปหาแบ๊งค์แถวบริเวณหน้าห้องน้ำ   ไปโซนสัตว์เลี้ยง  ไปโซนหนังสือ ไปโซนต้นไม้  แต่ก็หาไม่เจอ  ตอนนี้ผมเริ่มเหนื่อยแล้วน้องแทมเองก็เหมือนกัน  เราสองคนมานั่งพักด้วยกัน

“แฮ่ก ๆๆๆ เหนื่อยจังเลยค่ะพี่อาร์ท”  น้องแทมบ่น

“แทม....แทมมั่นใจหรอว่าเป็นแบ๊งค์”   ผมถามกลับไปอีกที

“ค่ะ  แทมมั่นใจจริง ๆ นะคะ”    น้องแทมย้ำ   แล้วผมก็นึกถึงคำพูดของ เจ้าของร้านขายเสื้อที่พูดว่า ‘น่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยนะคะ  เพราะผมยาว  แต่ดูหน้าเด็กหน่อยนะคะ’  แบ๊งค์….ต้องเป็นแบ๊งค์แน่ ๆ ที่ไปซื้อเสื้อ  เพราะแบ๊งค์ชอบใส่เสื้อแบบนี้

“แทม  ไปกับพี่หน่อย  ที่สุดท้ายแล้ว”   ผมบอกแทม

“ไปไหนอีกหรอคะ”  ผมไม่ตอบแทม  แต่ตอนนี้ลากตัวแทมตามมาแล้ว  จนเราไปถึงร้านขายเสื้อร้านเดิม

“มาที่นี่ทำไมหรอคะพี่อาร์ท”   น้องแทมถาม  แต่ผมไม่ตอบ น้องแทมก็เลยนั่งลง ข้าง ๆ ผม

“อ้าว...กลับมามีอะไรหรอคะ  หรือว่าเสื้อใส่ไม่ได้”   เจ้าของร้านเสื้อถามมาครับ

“เปล่าหรอกครับ  เอ่อ...คือพี่บอกว่าเสื้อมีสองตัวใช่มั้ยครับ”

“แล้วมีคนมาซื้อไปก่อนผมตัวหนึ่ง  คนที่ซื้อไปใช่คน ๆ นี้รึเปล่าครับ”  ผมเปิดรูปแบ๊งค์ที่อยู่ในมือถือให้เจ้าของร้านขายเสื้อดู

“อืม......ใช่แล้วค่ะ  เด็กคนนี้แหละ  ”  เจ้าของร้านขายเสื้อถาม

“แล้วเค้ามากับใครหรอครับ”  ผมถามต่อ

“มาคนเดียวนะคะ รู้จักกันด้วยหรอคะ”     เจ้าของร้านเสื้อถามต่อ

“ครับ...ผมอยากเจอเค้ามาก  แต่ไม่รู้จะหาโอกาสไปยังไง”   ผมบอกไป

“ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ  เดี๋ยวก็คงได้เจอกัน  เพราะเมื่อกี้ตอนที่พี่ไปหาเพื่อน”

“เหมือนจะเห็นน้องเค้าออกไปรอรถเมล์อยู่น่ะค่ะ”    เจ้าของร้านขายเสื้อบอก

“จริงหรอครับ  ขอบคุณมาก ๆ นะครับ”   ผมขอบคุณเจ้าของร้านไป

“ป่ะแทม  ไปได้แล้ว”   แล้วผมก็ลากแทมวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์

“พี่อาร์ท  แทมจะไม่ไหวแล้วนะ  จบวันนี้แทมผอมกันพอดี”   น้องแทมบ่นอิดออด  แต่ผมก็ยังคงหาแบ๊งค์ต่อไป  คนที่ป้ายรถเมลล์มีไม่มาก  แต่ไม่มีแบ๊งค์อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นเลย  ผมก้มมองดูนาฬิกา 19.10 น. แล้ว  เวลา...ตอน หกโมงกว่า ๆ ผมเห็นรถเมล์สายประจำคอนโดแบ๊งค์  นี่ผมช้าไปไม่กี่นาทีเองหรอเนี่ย  ทำไมนะทั้ง ๆ ที่ผมจะได้เจอแบ๊งค์อยู่แล้ว  เจอกันในวันที่ผมมีความกล้า  เจอกับแบ๊งค์ในวันที่เป็นส่วนตัว   ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ผมนั่งลงริมฟุตบาท แล้วเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร

“พี่อาร์ท......”    น้องแทมเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วเอามือวางบนบ่าของผม

“พี่ช้าไป  ช้าไปแค่เสี้ยวนาที  ทำไม  ทำไมสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งพี่แบบนี้ด้วย”   ผมพูดไปร้องไห้ไป

“ไม่เจอวันนี้  แต่วันอื่นก็ยังมีนี่คะ”  แทมพยายามปลอบใจผม

“มันไม่เหมือนกันหรอกแทม  วันนี้เค้ามาคนเดียว  แต่วันอื่น ๆ เค้าก็อยู่กับแฟนเค้าสิ  พี่ไม่กล้าบากหน้าเข้าไปหาเค้าหรอก”   ผมก้มหน้าร้องไห้ต่อไป

“อย่าเศร้าไปเลยค่ะ  แทมว่าเรากลับบ้านก่อนจะดีกว่านะคะ”  แล้วแทมก็พาผมขึ้นรถกลับบ้านไป  ตลอดทางกลับบ้าน  ผมร้องไห้มาตลอด  ผมหวังว่ามันคงจะมีโอกาสอีกสักครั้ง  โอกาสที่ผมจะได้อยู่กับเค้าตามลำพังเพื่อที่จะได้บอกความรู้สึกทุกอย่างไป  ผมจะรอวันนั้น..
**********************
 :bye2:คับ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
คนเราถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






FOAM

  • บุคคลทั่วไป
พยายามเข้าน้า o8 o8 o8 o8 o8 o8

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ คลาดกันไป คลาดกันมา  :sad4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
พรหมลิขิตหรือเปล่านะ





แต่เชียร์กาวเหมือมเดิมครับ

  :laugh:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
คลาดกันไป คลาดกันมา เกือบจะเจอกันอยู่แล้ววว  o9

ใจเย็นๆ น๊า  คู่กันยังไงก็ต้องได้เจอกานนน  เชื่อมั่นเข้าไว้น๊า    :impress:

เชียร์พี่อาร์ททมากกว่าคนอื่นๆเลย หุหุ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
กำ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
แล้วอยากนี้จะได้เจอกันเมื่อไรล่ะเนี่ย
 :sad2: :sad2: :sad2:

picuzz

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆๆ ให้เจอกันซะที :impress:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
************************
บทที่ 42 เปิดเทอม....อยู่ปี 2 แล้วนะ


และแล้ววันนี้ก็มาถึงครับ  วันเปิดเทอม  วันที่แบ๊งค์จะกลับไปเจอหน้าใครบางคนอีกครั้ง  ถ้าแบ๊งค์เจอเค้าแบ๊งค์จะหลบหรือว่า จะอยู่เผชิญหน้าดีนะ

“แบ๊งค์!!!!ไปสายพี่นุ่นไม่รู้ด้วยนะ  พี่นุ่นไปก่อนล่ะ”   พี่นุ่นมาตามแบ๊งค์ครับ

“เฮ้ย!!!!!!เดี๋ยวก่อนสิเจ้  รอแบ๊งค์ก่อน”   แบ๊งค์รีบคว้ากระเป๋า   แล้ววิ่งออกห้องตามพี่นุ่นไป   พี่นุ่นก็รอกันหน่อยก็ไม่ได้

“จะไปสายตอนเปิดเรียนวันแรกตลอดหรอจ๊ะ”   พี่นุ่นถาม

“โห....ยังไม่สายซะหน่อย  พี่นุ่นออกเช้าเองตะหาก”  แบ๊งค์เถียง

“ป่ะ  ไปกันได้แล้ว”   พี่นุ่นพูด  แล้วแบ๊งค์ก็ขึ้นรถตามไป  พี่นุ่นมาส่งแบ๊งค์ที่เดิมเลยครับ โต๊ะม้าหินอ่อนตัวเดิม   ตัวประจำที่เราเคยนั่ง ๆ กันอยู่นั่นแหละ  ตอนนี้มีคนมานั่งเต็มไปหมดเลย  ก็มีพี่ปอย  พี่ตี๋  พี่ตั้ม แล้วก็ไอ้กาว

“อ้าว..แบ๊งค์มาพอดี  มานั่งสิ”   พี่ตั้มเรียกครับ

“มากันเกือบครบ  แล้วพี่โป้งกับแมคล่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ไอ้โป้งมันไปซื้อของกินอยู่น่ะ  เดี๋ยวอิ่มกันแน่ ๆ โต๊ะนี้”   พี่ตี๋แซว

“เออ....ใช่  ลืมไปเลยนะเนี่ย  ของฝากพี่ปอยกับพี่ตี๋อยู่ที่คอนโดแบ๊งค์น่ะ”  แบ๊งค์บอก

“อ๋อค่ะ  ไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังก็ได้  ขอบคุณนะคะ”   พี่ปอยพูด

“เออ...ว่าแต่ลมอะไรหอบเอาพวกเมริงมานั่งนี่กันได้วะ”

“เมื่อก่อนเห็นชอบไปนั่งหลบมุมกันสองคน”   พี่ตั้มแซว

“เฮ้ย!!! ไอ้ตั้มหยุด  พูดดี ๆ เลย”  พี่ปอยขู่ครับ

“คร้าบบบบ  กลัวแล้วคร้าบบ”    พี่ตั้มทำท่ากลัว พี่ปอย

“ที่หายไป  ก็ไปช่วยพวกเด็กกิจกรรมปีหนึ่งปีที่แล้วไง  แล้วที่วันนี้มาที่นี่ก็เพราะว่าจะมาช่วยรับน้องไง”   พี่ตี๋อธิบาย  ใช่สิ  ต้องมีรับน้องด้วยนี่นา  แบ๊งค์ลืมไปเลยนะเนี่ย  เดี๋ยวก็ต้องมีน้องรหัสอีก  วุ่นวายกันแน่ ๆ

“แล้วใครจะเป็นประธานว๊ากหรอครับ  รุ่นผมน่ะ”   กาวถาม

“นั่นไง  ยืนอยู่นั่นไง”  พี่ปอยบุ้ยปากไปอีกทางหนึ่ง  ชี้ไปทางผิงนั่นเอง

“ผิง....แล้วค..ครีมล่ะครับ”   แบ๊งค์ถามขึ้นบ้าง

“ครีมไทร์ออกไปแล้วนะ”  กาวพูด   เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเลย

“ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเหมือนว่าครีมยังทำใจไม่ได้น่ะ  ก็เลยขอไทร์ดีกว่า”  กาวพูด

“.......................”   แบ๊งค์ไม่ได้พูดอะไร

“อย่าเศร้าไปเลย  ไอ้ตัวเล็ก  ทำหน้าสดใสหน่อย  เดี๋ยวน้องรหัสมันจะหดหู่นะ เห็นหน้าพี่รหัสเป็นแบบนี้น่ะ”   พี่ตั้มแซว

“อืมครับ“ แบ๊งค์ตอบไปสั้น ๆ   สักพักพี่โป้งก็เดินถือของมาเต็มมือ  กับแมคสองคน

“โห..ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย”   พี่ปอยถาม

“ไม่ได้ซื้ออะไรมากหรอก  ก็แค่แซนด์วิชกับนมกล่องก็เท่านั้นเอง”   พี่โป้งพูด

“แล้วเมริงซื้อมาเลี้ยงใครเยอะแยะวะ”   พี่ตี๋ถามขึ้นบ้าง

“ก็เอามาให้พวกเราไง  รวมพวกสต๊าฟปีนี้ด้วย”   พี่โป้งพูด

“งั้นเดี๋ยวผมไปเรียกสต๊าฟมารับไปทานนะครับ”   กาวอาสา

“อืมไปสิ  ทานกันไม่หมดหรอก”  แมคพูด

“เป็นไงบ้าง  นายหัวเหม่ง”   แบ๊งค์แซวแมค

“อ่ะนะ  อย่าแซวกันดิ  เค้าไม่ได้เรียกหัวเหม่ง  เค้าเรียก สกินเฮด”    แมคพูด

“กรูส์ยังไม่กินอะไรก็จะอ้วกแต่เช้าแล้วว่ะ  ปอยทำไงดีวะ”   พี่ตั้มแกล้งทำท่าเหมือนจะอ้วก  เพื่อแซวแมค  พี่ปอยก็ได้แต่ยิ้ม ตอบไป

“โห....  พี่ขอผมเท่ซักวันไม่ได้หรอ”   แมคพูด

“พอเหอะ  อย่างเมริงไม่ได้ครึ่งของกรูส์หรอก”  พี่ตั้มพูด  เล่นเอาทุกคนทำหน้าแหย ๆ ไปหมดเลย

“อะไรว้า  กรูส์พูดความจริง ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยอ่ะ”   พี่ตั้มพูด

“เค้าคงรับไม่ได้กับความจริงน่ะครับ”   ไอ้แมคสวนขึ้นครับ

“ไอ้แมค!!!!”   พี่ตั้มทำเสียงขู่

“พอได้แล้วทั้งสองคนเลย  รีบ ๆ ทานซะ จะได้ไปช่วยกันรับน้อง”   พี่ปอยตัดบท  ทั้งสองคนถึงได้หยุด  พวกเราทานกันจนอิ่มเสร็จเรียบร้อยก็ไปช่วยกันรับน้อง  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ  แค่แนะนำอาคาร  แนะนำชื่อรุ่นพี่แต่ละคน

ในกลุ่มน้องปีหนึ่ง  มีอยู่คนหนึ่งแบ๊งค์รู้สึกคุ้นหน้าจัง  เหมือนเคยเจอกันที่ไหนซักที่   ยังไม่ทันจะได้คิด  แบ๊งค์ก็ถูกให้ไปช่วยเขียนป้ายแขวนคอน้องปีหนึ่งเพื่อที่จะเข้าฐาน  แบ๊งค์ก็นั่งเขียนไปเรื่อย ๆ จนมีเสียงคุ้น ๆ ดังขึ้น

“ชื่อปรินซ์ครับ”    เสียงนี้ใช่เลย  แบ๊งค์เลยเงยหน้ามองไป  จ๊ากกกกกกกกกกก(O_o)  นายปรินซ์ที่แบ๊งค์เจอที่สวนจตุจักรเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว  เรียนที่เดียวกันหรอเนี่ย   แบ๊งค์ค่อย ๆ เขียน  แล้วยื่นให้   ไม่กล้ามองหน้าอ่ะ  อายมุกมนุษย์ต่างดาวอ่ะ  นายปรินซ์ก็รับไป  แล้วยิ้ม ๆ

อายจังง่ะ  ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้  เปิดเทอมใหม่นี่  มีอะไรมากกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย  กรูส์ไม่น่าไปสร้างคดีไว้อีกเลยเศร้ามากมายแล้วเค้าก็จับน้อง ๆ มาแยะฐานกันครับ  รุ่นพี่ก็แกล้งกันต่าง ๆ นานา  แต่ปีนี้ไม่เห็นมีเหมือนรุ่นแบ๊งค์เลยอ่ะ  รุ่นพี่ใจดีกันจัง  ทำไมแบ๊งค์ถึงต้องโดนตะคอกนะ  พอถามไปถามมา  ที่แบ๊งค์โดนแบบนั้นเป็นเพราะ แบ๊งค์ไปเถียงรุ่นพี่ ( พี่ตั้ม ) ตั้งแต่วันแรกนั่นเอง แต่เด็กรุ่นนี้เป็นเด็กดี ไม่มีใครกล้าเถียงรุ่นพี่ซักคำ   เฮ้อ~~ เด็กพวกนี้  ไม่รู้จักระบบประชาธิปไตยเอาซะเลย ยอมให้พวกเผด็จการกดขี่อยู่ได้

“แบ๊งค์ ๆๆ เราเห็นน้องคนนั้นมันมองแบ๊งค์มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”   ไอ้กาวกระซิบมาครับ

“คนไหนหรอ”  แบ๊งค์ถาม   แล้วไอ้กาวก็บอกพิกัดตำแหน่งมาครับ  กรรม....ไอ้น้องปรินซ์นั่นเอง หาใช่คนอื่นคนไกลไม่

“อืม...ช่างน้องเค้าเหอะ”    แบ๊งค์พูด

“แต่เราว่า  คงไม่ทันแล้วล่ะ  พี่ตั้ม  พี่โป้ง แล้วก็ไอ้แมค  นั่งวางแผนแกล้งกันอยู่โน่นแล้ว”   แล้วกาวก็บุ้ยปากไปทางกลุ่มสามทหารเสือเลยครับ  แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา

“จะทำอะไรกันน่ะ  อย่าคิดว่าแบ๊งค์ไม่รู้นะ”   แบ๊งค์พูด

“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย”   พี่ตั้มปฏิเสธ

“จะไปแกล้งน้องเค้าทำไมล่ะ”  แบ๊งค์ถาม

“ก็แบ๊งค์ดูดิ  น้องเค้ามองแบ๊งค์ขนาดนั้น  มันจะมองอะไรกันนักกันหนา”  พี่โป้งพูดแบบไม่พอใจ

“ใช่ ๆ มองมากไปแล้วมั้ง”   แมคช่วยเสริม

“ก็แค่มอง  แบ๊งค์ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อย”   แบ๊งค์พูดไป

“เออ...ว่ะ    แต่ไม่รู้อ่ะ  พี่ตั้มตัดสินแล้วว่ามันผิด  มันก็ต้องผิด”   ไอ้แมคพูด

“อ้าว....ไอ้ฟายพูดมาได้ไงฟระ”     แบ๊งค์บ่น

“แบ๊งค์รู้จักมันหรอ”   พี่โป้งถาม

“เคยเจอ  เคยคุยกันที่จตุจักรน่ะ”   แบ๊งค์บอก

“ไม่เห็นแบ๊งค์บอกพี่เลย  ใช่สิ...พี่คงไม่สำคัญ”   พี่โป้งทำท่าน้อยใจ

“ไม่ต้องเลยพี่โป้ง  อย่ามาใช้มุกนี้นะ”   แบ๊งค์ดักคอไว้

“ไม่รู้แหละ  พี่จะแกล้งมัน เอาน่า ขำ ๆ แบ๊งค์”    พี่โป้งพูด

“พี่โป้งง่ะ”   แบ๊งค์ทำท่าอิดออด   สรุปก็คือแบ๊งค์ห้ามทัพสามทหารเสือไม่ได้จริงด้วยครับ  ตอนนี้เค้าลุยกันไปแล้ว  แบ๊งค์ก็ได้แต่ยืนดู  เอาเป็นว่าถ้ามันรุนแรงเดี๋ยวแบ๊งค์เข้าไปช่วยก็ได้

สามทหารเสือตั้งกติกามฤตยูขึ้นมาครับ  คือให้แนะนำตัวทีละคน  แล้วบอกเหตุผลที่มาเข้าคณะนี้  โดนที่เหตุผลของแต่ละคนห้ามซ้ำกัน  ถ้าซ้ำกันมีความผิด  และถ้าตอบภายใน 5 วินาทีไม่ได้ก็มีความผิด  ต้องโดนสามทหารเสือบูชายัญเหมือนกันครับ

แบ๊งค์ว่านายปรินซ์ไม่รอดแน่ ๆ ก็เล่นนั่งหลังสุดซะขนาดนั้น  ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหน้า ๆ เริ่มรอดตัวกันไปทีละคน  คนไหนไม่ผ่านก็แยกไว้  เหตุผลต่าง ๆ ผ่านไปหมดแล้ว  ทั้งพ่อบังคับ  แฟนบังคับ  เอนท์ไม่ติดคณะอื่น  ฯลฯ จนตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุผลอะไรแล้ว  คนที่อยู่ข้างหลัง ๆ ก็โดนต้อนไปอยู่เขตทำโทษจนเรียบ จนมาถึงนายปรินซ์   เหล่าสามทหารเสือต่างยิ้มอย่างผู้มีชัย

“ไหน น้องลองบอกมาซิว่าทำไมมาเข้าคณะนี้  ห้ามซ้ำนะ”   ไอ้แมคทำเสียงดุตอนเน้นคำหลังครับ

“เริ่มจับเวลา”   พี่โป้งเริ่มจับเวลาอย่างรวดเร็วครับ

“1..2..3..”  พี่ตั้มนับครับ  ดูเหมือนจะเร็วไปนิดนึงนะ

“เพราะผมชอบพี่คนนั้นครับ”   นายปรินซ์ตอบแล้วชี้นิ้วมาทางแบ๊งค์  ทุกคนต่างนิ่งเงียบ  แล้วมองมาที่แบ๊งค์  ซวยแล้วกรูส์  คนมองกันหมด

“อะไรนะ”   ไอ้กาวถามซ้ำแทนทุก ๆ คน ( ซึ่งคงอยากถามอยู่ แต่พูดไม่ออก )

“ผมมาเข้าคณะนี้เพราะผมชอบพี่คนนี้ครับ  เลยอยากมาอยู่ใกล้ ๆ”   นายปรินซ์พูดไปยิ้มไป  แต่ตอนนี้สามทหารเสือไม่ยิ้มกันแล้ว  โดยเฉพาะพี่ตั้มกับพี่โป้งน่ะ  หน้างอเป็นม้าหมากรุกเลย

“ไม่ผ่าน  เหตุผลนี้ไม่ผ่าน”   พี่โป้งพูดขึ้น

“ใช่ ๆ ไม่ผ่าน”   พี่ตั้มกับไอ้แมคช่วยกันประสานเสียง  จากนั้นก็มีเสียงฮือฮา   กันใหญ่เลยครับ  แบ๊งค์ก็งงเหมือนกัน ( อายด้วย ) ว่าทำไมไม่ผ่าน  เพราะเหตุผลก็ไม่ซ้ำ

“ทำไมไม่ผ่านล่ะครับ  เหตุผลของผมก็ไม่ซ้ำซะหน่อย  ในกติกาก็ไม่ได้ห้าม”   ปรินซ์เถียง

“ก็.... ก็.....ก็ไอ้แบ๊งค์เป็นของสูงประจำคณะเว้ย  เป็นน้องของกรูส์ห้ามกล่าวถึงโดยไม่จำเป็น”   พี่โป้งพูดออกมา  เฮ้อ~~พูดมาได้ไงเนี่ย  ของสูงประจำคณะ  ตกลงกรูส์กลายเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรอเนี่ย

“ใช่ ๆๆ เพื่อนกรูส์ด้วย  เค้าเป็นคนน่ารักกล่าวถึงลอย ๆ ไม่ได้”   ไอ้แมคเสริมเข้าไปอีก  ตกลงมันไม่มีเหตุผลอะไรกันอีกแล้วใช่มั้ย

“แต่พี่ไม่เห็นบอกไว้ก่อนเลยนะครับ”   ปรินซ์ทำท่างง ๆ

“อีกอย่างเหตุผลเมริงเชื่อถือไม่ได้เฟ้ย  โกหกรึเปล่า”    พี่ตั้มพยายามหาเรื่องครับ

“ไม่นะครับ  ผมกับพี่เค้าเคยเจอกันมาแล้วรอบหนึ่ง  ผมชอบพี่เค้าจริง ๆ นะครับ”  นายปรินซ์พยายามเถียง  แต่เหล่าสามทหารเสือก็ยังหาเรื่องอยู่ดี

“พอ ๆๆๆๆๆ  สรุปว่าชั้นให้ผ่าน  เอาล่ะ  ทำกิจกรรมอื่นต่อดีกว่า”   พี่ปอยตัดบทครับ

“เฮ้ย !!!!ปอย  ได้ไงวะ”    พี่โป้งโวย

“ไม่จบใช่มั้ย”   พี่ปอยทำเสียงดุครับ  ทหารเสือหงอกันไปหมดเลย

“จบแล้วคร้าบบบบ”   ทั้งสามคนประสานเสียง ตลกดีเหมือนกันนะเนี่ย  เห็นหน้าทั้งสามคนเป็นแบบนี้  ในที่สุดเรื่องก็จบลงได้ นายปรินซ์ก็รอดตัวไป  น้อง ๆ คนอื่นก็โดนทำโทษด้วยการเต้นไก่ย่างไปตามระเบียบ  แต่ความจริงพวกสามทหารเสือคงอยากทำมากกว่านี้  แต่ในเมื่อนายปรินซ์รอดไป  ก็เลยทำโทษแบบเบา ๆ ไป
และแล้วกิจกรรมช่วงเช้าก็เสร็จไป  ตอนนี้ก็พักกลางวันแล้ว น้อง ๆ ก็แยกย้ายไปทานข้าวกันหมด  แบ๊งค์ก็กำลังจะไปเหมือนกัน  แต่ปวดฉี่ก็เลยขอแยกตัวออกไปก่อน

“เดี๋ยวแบ๊งค์ตามไปนะ  ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”   แบ๊งค์พูด

“เออ...รีบมานะเว้ย”   พี่ตั้มพูดก่อนที่แบ๊งค์จะแยกออกมาเข้าห้องน้ำ   ห้องน้ำตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเลย  คงเพราะเค้าหนีไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้วมั้ง  พอแบ๊งค์ทำธุระเสร็จก็ออกมาล้างมือ  ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในห้องน้ำเลย  ระหว่างที่กำลังจะเดินออกไป  ก็มีคนเข้ามาคว้าแขนแบ๊งค์  แล้วดึงเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตู

“นายเป็นค.......”   แบ๊งค์กำลังจะโวยวาย  แต่ถูกใครบางคนเอามือปิดปากไว้ซะก่อน  แบ๊งค์ต้องตกใจอีกรอบครับ  คนที่จับแบ๊งค์ไว้แล้วเอามือปิดปาก  คือนายปรินซ์นั่นเอง

“อย่าเสียงดังไป  เดี๋ยวคนก็เข้ามาเห็นหรอก”    นายปรินซ์พูด  แล้วค่อย ๆ เอามืออก

“นายจับเรามามีเรื่องอะไร”  แบ๊งค์ถามไป

“แสบนักนะ  นายตัวเล็ก”  ปรินซ์พูดแล้วเอามือขยี้หัวแบ๊งค์

“ปล่อยนะ!!! เราเป็นรุ่นพี่นายนะ”   แบ๊งค์พูดพลางเอามือปัดมือนายปรินซ์ออก

“รุ่นพี่หรอ  ทำไมตัวเด็กจัง  ตั้งแต่มุกมนุษย์ต่างดาวแล้ว”   ปรินซ์พูด

“.............................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้อายหน้าแดงแล้ว (-//////-)

“ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเด็ก ม.ปลายที่ไหน ทำไมแสบซ่าได้ขนาดนั้น  ที่แท้เป็นรุ่นพี่ปี 2นี่เอง ร้ายนักนะ วันนี้ต้องเอาเบอร์ให้

ได้”   ปรินซ์ก้มหน้าพูด  จนตอนนี้หน้านายปรินซ์จะติดหน้าแบ๊งค์อยู่แล้ว   แบ๊งค์ก็ได้แต่ก้มหน้าหลบ

“.......................”     แบ๊งค์หลับตาปี๋  ไม่อยากมองอะไรอีกแล้ว

“ฮะฮะฮะ”    แล้วนายปรินซ์ก็ระเบิดหัวเราะออกมา  อ้าว....หัวเราะอะไรวะ

“หัวเราะอะไรของนายน่ะ”   แบ๊งค์ถาม

“ก็ดูดิ  หลับตาปี๋  กลัวอะไรหรอ ฮะฮะฮะ”   นายปรินซ์ยังหัวเราะต่อ

“บ้า!!!!!”    แบ๊งค์พูดพร้อมกับผลักนายปรินซ์ออกไป  แล้วแบ๊งค์ก็รีบวิ่งออกจากห้องน้ำไป  พอไปถึงโรงอาหาร  ก็เห็นคนอื่น ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว

“ทำอะไรมาวะช้าว่ะ  แล้วนั่นเป็นอะไร  หน้าดูซีด ๆ เหงื่อก็ออกเต็มไปหมด”  พี่ตั้มทักขึ้น

“เออ....นั่นสิ   ไปเจออะไรมาหรอ”   ไอ้กาวถาม

“เปล่าหรอก  อากาศมันร้อนน่ะ  แบ๊งค์ก็เป็นแบบนี้แหละ”   แบ๊งค์แก้ตัวไป

“เดี๋ยวถ้าทานข้าวเสร็จ  ไปห้องพยาบาลก่อนมั้ยคะ  สีหน้าดูไม่ดีเลย”   พี่ปอยแนะนำ

“ใช่  ๆๆๆ ไปกันมั้ยครับน้องแบ๊งค์”   พี่โป้งพูด

“ไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่เดี๋ยวแบ๊งค์ไปซื้อ ข้าวก่อนนะ”   แบ๊งค์ก็ขอตัวไปซื้อข้าว

“ไม่ต้องหรอก  ไอ้โป้งมันซื้อไว้ให้แล้ว”    พี่ตี๋พูด  แบ๊งค์เลยหันไปทางพี่โป้ง  ใช่จริง ๆ ด้วย พี่โป้งซื้อวุ้นเส้นเย็นตาโฟ ของโปรดแบ๊งค์มาสองชาม  ของพี่โป้งกับของแบ๊งค์

“วุ้นเส้นเย็นตาโฟน่ะครับ  ทานได้รึเปล่า”   พี่โป้งถาม

“ได้สิครับ”   แบ๊งค์เลยเข้าไปนั่งข้างพี่โป้ง

“เอาใจกันจังเลยว่ะ   เย็นตาโฟชามนี้รถขนน้ำตาลคว่ำแน่ ๆ”   พี่ตั้มแซว

“พอ ๆๆๆ  ทานได้แล้ว”   แบ๊งค์พูด    แล้วเราก็นั่งทานกัน  ก็อร่อยดีนะ  ดีเหมือนกันไม่ต้องไปต่อแถว  เพราะตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้ว

“นี่มันจะไม่หยุดมองเลยใช่มั้ย”   แมคพูดออกมา

“อะไรหรอแมค”   แบ๊งค์เลยถามไป

“ก็ไอ้น้องที่มองแบ๊งค์ตั้งแต่เมื่อเช้าไง ชื่อ..ปิ่น  ปิน”    แมคพยายามพูดชื่อน้องคนนั้น

“ปรินซ์”   ไอ้กาวช่วยครับ

“เออ....ใช่  นั่นแหละ ๆๆ ตอนนี้มันยังมองอยู่เลย”   แมคพูด

“ไหน ๆๆ มันอยู่ไหน  มองอะไรวะ”   พี่ตั้มทำท่าจะลุกไปเอาเรื่อง  แบ๊งค์เลยรีบเอามือกุม มือของพี่ตั้มเอาไว้

“พี่ตั้ม!!!!อย่าเลย”   แบ๊งค์ขอพี่ตั้มเอาไว้

“นั่นสิ   ปล่อยเด็กมันไปเหอะตั้ม”   พี่ปอยช่วยเสริม

“แต่........”   พี่ตั้มกำลังจะแย้ง  แต่แบ๊งค์ขัดไว้

“ถือว่าแบ๊งค์ขอนะ   น้องเค้าไม่ได้มาทำร้ายแบ๊งค์ซะหน่อย”    แบ๊งค์ขอร้องพี่ตั้ม

“เออ.....ก็ได้วะ”   พี่ตั้มทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย  แต่เรื่องที่โรงอาหารก็จบไป

มาถึงกิจกรรมช่วงบ่าย  ในตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ  เพราะส่วนใหญ่ก็ไปเน้นหนักที่ช่วงเช้า  ที่สำคัญ ๆ ก็มีแค่จับคู่พี่รหัสน้องรหัสเนี่ยและ  ตามที่หลาย ๆ คนคิดไว้นั่นแหละ  แบ๊งค์ได้น้องรหัสเป็นนายปรินซ์   ( ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้ซาราห์ ----  เสียใจด้วยนะจอรจ์ )

พี่ตั้ม  พี่โป้ง ไอ้กาว  ไอ้แมค  มองกันเป็นตาเดียวเลยครับ  ส่วนนายปรินซ์ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย  ความตายจะมาเยือน  แต่ยังกระดี๊กระด๊า   ดีใจอยู่ได้   แล้วเวลาสำคัญก็มาถึง  เมื่อมีกติกามาว่า น้องรหัสจะต้องจำเบอร์โทรพี่รหัสได้   โดยให้มาท่องกับพี่ว้าก  แล้วจะนำคำตอบไปเทียบกับคำตอบที่เตรียมไว้  ถ้าไม่ตรง  น้องรหัสกับพี่รหัสโดนทำโทษทั้งคู่  ในฐานะที่ไม่สามัคคีต่อกัน   อุตส่าห์หนีวันนั้นมาได้แล้วแท้ ๆ

“ขอเบอร์ด้วยนะครับ....พี่แบ๊งค์”   นายปรินซ์ทำหน้ากวน ๆ ใส่แบ๊งค์ครับ

“.............................”  แบ๊งค์ไม่ตอบ  ไม่อยากให้ไปเลยจริง ๆ  ใครเป็นคนกำหนดกติกานี้ขึ้นมาฟระ  อยากเห็นหน้าจริง ๆ เลย

“ถ้าไม่ให้เบอร์ผม  เดี๋ยวผมโดนทำโทษนะครับ”    นายปรินซ์ย้ำกติกา

“086-916xxxx”    แบ๊งค์เลยต้องบอกไปอย่างเสียไม่ได้

“ครับผม  แล้วถ้าว่าง ๆ ผมจะโทรไปปรึษาปัญหาหัวใจ  เอ้ย!!! ปัญหาการเรียนนะครับ”   นายปรินซ์ยิ้มอย่างผู้มีชัย  ดูมันมีความสุขจริง ๆ เลยนะ  แต่แบ๊งค์เนี่ยสิ  ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว 

ปรินซ์กับแบ๊งค์ผ่านกิจกรรมนั้นมาได้แล้วครับ  พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ไม่ค่อยชอบหน้านายปรินซ์มีเคืองอยู่บ้างเล็กน้อย  ที่แบ๊งค์ให้เบอร์ปรินซ์ไป  ก็ทำไงได้ล่ะ  ไปโทษคนออกกติกาเลย  กิจกรรมช่วงบ่ายก็หยุดอยู่แค่นั้นนั่นแหละครับ  ก็ไม่มีอะไรมาก  แล้วเค้าก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านครับ  แบ๊งค์กะว่าจะเดินไป หาพี่นุ่นคณะ โดยมีกาวไปเป็นเพื่อนครับ  แล้วก็มีเสียงตามหลังมา

“เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะครับ  ระวังมนุษย์ต่างดาวด้วยนะ”    นายปรินซ์นั่นเอง  ตะโกนบอกแบ๊งค์ก่อนจะเดินไปอีกทาง  ดันมาแซวมุกโบราณของแบ๊งค์อีก   แบ๊งค์ก็ไม่พูดอะไร  ได้แต่ก้มหน้าอาย

“น้องคนนี้มนุษย์ต่างดาวอะไรหรอแบ๊งค์”   กาวถาม

“เฮ้อ~~~~ อย่าไปสนใจเลยกาว  มันเป็นความผิดกรูส์เองแหละ”  แบ๊งค์บอกไป

“เรื่องอะไรหรอ  บอกเราหน่อยนะ”   กาวถามอีก  แบ๊งค์ไม่อยากเล่าเลย  แบ๊งค์เลยพยายามปฏิเสธมัน  แต่มันก็ยังง้อต่อไป  แบ๊งค์เลยใจอ่อนยอมเล่าให้มันฟัง

“กร้ากกกกกกกกกกกกกกก  ทำไปได้นะเมริง”   ไอ้กาวหัวเราะใหญ่เลยครับ

“อย่าหัวเราะดิ  กรูส์อายนะเว้ย”    แบ๊งค์พูด

“ก็คิดดูดิ  เล่นไปได้  มุกมนุษย์ต่างดาว”   กาวยังหัวเราะไม่เลิก

“พอ ๆๆ ไปหาพี่นุ่นดีกว่า”   แล้วเราสองคนก็มาถึงคณะของพี่นุ่นแล้วครับ คนเยอะจัง  น้อง ๆ นั่งกันเงียบกริบเลย

“น้อง!!!! ร้องเพลงน่ะ  ร้องเป็นมั้ย  ปากเอามามั้ย”   มีผู้หญิงคนหนึ่งครับ  คาดว่าน่าจะเป็นพี่ว้าก  กำลังสั่งน้องอยู่  มองไป
มองมา  อ้าว....พี่ว้ากคนนั้นคือพี่นุ่นนั่นเอง  เล่นเอาแบ๊งค์กับกาวกลัวไปเลย   เราทั้งสองต่างไม่มีใครกล้าทัก  ได้แต่ยืนมองอยู่เฉย ๆ พอพี่นุ่นเห็นก็เลยเดินออกมา

“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”   พี่นุ่นถาม

“ก็ดูเจ้ดิ  น่ากลัวแบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้”   แบ๊งค์แซว

“ย่ะ  เวลาอยู่หน้าน้อง ๆ ต้องดุ ๆ เข้าไว้สิ”   พี่นุ่นบอก

“แต่พี่นุ่นน่ากลัวจริง ๆ นะ  ผมกลัวมาก ๆ เลย”   กาวเสริม

“จ้า  ไม่ต้องกลัวหรอก มาหาพี่มีอะไรหรอ”   พี่นุ่นพูดกับกาว  แล้วหันมาถามแบ๊งค์

“ก็จะมาดูว่า  เสร็จกันรึยัง  ถ้ายังแบ๊งค์จะไปรอที่สนามบาสนะ”   แบ๊งค์พูด

“อืม ๆๆ เอางั้นก็ได้  เดี๋ยวพี่ไปหาเราที่สนามบาสก็แล้วกัน”  พี่นุ่นพูด  แล้วก็มีเสียงเพื่อนพี่นุ่นเรียกให้เข้าไปช่วยว้ากน้อง  พี่นุ่นก็เลยขอตัวไปก่อนแบ๊งค์กับกาวก็ไปที่สนามบาส  พอไปถึงก็ต้องตกใจเลยครับ  พี่อาร์ท.....พี่อาร์ทกำลังเลี้ยงลูกอยู่ที่กลางสนาม

“พี่อาร์ท......”   แบ๊งค์เผลอพูดออกมาเบา ๆ

“จะไปทักพี่เค้ามั้ยล่ะ”   กาวพูด

“อ...เอ่อ...ไม่ต้องหรอก  เราไปนั่งที่ข้างสนามดีกว่านะ”   แบ๊งค์พูดแล้วรีบเดินไปนั่งข้างสนาม   ตอนนี้เหมือนว่าพี่อาร์ทก็เห็นแบ๊งค์แล้วเหมือนกัน  พี่เค้ามองมาที่แบ๊งค์  แล้วเราก็เผลอมองหน้ากัน  แต่ก็หลบสายตากันไปในที่สุด

“อาร์ทมันกลับมาแล้วนะ  ไม่ไปทักมันหน่อยหรอ”   พี่โป้งเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  พูดขึ้นทำให้แบ๊งค์หายเหม่อ

“ไม่ดีกว่านะ พี่โป้ง”   แบ๊งค์ปฏิเสธไป

“พี่เค้าไม่เห็นมาเรียนเลยครับ”   กาวถาม

“มันดรอปไว้ไม่กี่ตัวเองนี่นา  มันคงจะมาเรียนเฉพาะตัวที่ดรอปไว้  แต่เห็นโค้ชบอกว่ามันจะมาซ้อมบาสทุกเย็นนะ”   พี่โป้งบอก

ทุกเย็นอย่างนั้นหรอ.....หมายความว่า  แบ๊งค์ต้องเจอหน้าเค้าทุก ๆ เย็นน่ะสิ  ตอนนี้การหลบหน้าคงไม่มีประโยชน์ต่อไปอีกแล้วล่ะสิ  แบ๊งค์คงต้องเผชิญหน้ากับพี่เค้าไปอย่างนี้  แบ๊งค์ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจริง ๆ

“ไอ้กาวป่ะ  ไปซ้อมได้แล้ว”   พี่โป้งเรียกกาว

“ค...ครับ”   กาวรับคำแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือ กับกระเป๋าสตางค์ให้แบ๊งค์

“ฝากไว้หน่อยนะแบ๊งค์  ไปก่อนละ”   แล้วกาวก็วิ่งตามพี่โป้งไป   โค้ชเค้าเรียกไปวอร์ม  แล้วก็หารือเรื่องที่พรุ่งนี้จะมีการรับสมาชิกใหม่เข้าชมรม  แบ๊งค์ก็นั่งมองกลุ่มนักบาสไป  และก็รู้สึกว่ามีสายบางคู่กำลังจับจ้องมาที่แบ๊งค์  ไม่ใช่สายตาใครหรอกครับ  สายตาของพี่อาร์ทนั่นเอง   แบ๊งค์เลยพยายามหลบสายตา

แบ๊งค์หยิบเครื่องเล่น MP3 มาเปิดฟังเบา  ๆ  แล้วนั่งก้มหน้าไป  ไม่สนใจอะไร   พยายามไม่คิดเรื่องอะไร  วันนี้คงไม่มีอะไรมาก  โค้ชเลยให้แบ่งทีมแล้วเล่นตามปกติ  โดยโค้ชจะดูพัฒนาการ  และจุดด้อยของแต่ละคน  แล้วให้คำแนะนำ  พี่อาร์ท  พี่โป้ง  และกาวได้อยู่ทีมเดียวกันด้วย  การเล่นก็ไม่ได้รุนแรงอะไรหรอกนะ  เล่นแบบสบาย ๆ แต่ทำมไหน้าตาทั้งสามคนดูเครียด ๆ ก็ไม่รู้สิ

“ไอ้ตัวเล็กนั่นน่ะ”  โค้ชตะโกนเรียกออกมาครับ   แบ๊งค์เลยหันไปมองข้าหลังเผื่อว่า มีคนอื่นนั่งอยู่

“ไม่ต้องมอง  เรานั่นแหละมานี่หน่อย”   โค้ชชี้มาที่ตัวแบ๊งค์ครับ   แบ๊งค์เลยเดินเข้าไปหา

“มีอะไรหรอครับ”  แบ๊งค์ถามไป

“เดี๋ยวถ้าเค้าเล่นเสร็จ  เอาน้ำไปเสิร์ฟนักกีฬาได้มั้ย”   โค้ชถามมา

“ได้ครับ”   แบ๊งค์เลยตอบไป  จากนั้นโค้ช  ก็ให้แบ๊งค์ไปเอาน้ำใส่แก้ววางในถาดเพื่อเตรียมเสิร์ฟ   ไม่นาน โค้ชก็เป่านกหวีดให้หยุดพัก   นักบาสทั้งหลายก็เลยค่อย ๆ ทยอยเดินกันเข้ามา   แบ๊งค์เลยเอาน้ำไปเสิร์ฟ

“ขอบคุณนะ”   ไอ้กาวรับน้ำไป  แล้วพูดครับ  แบ๊งค์ก็ยิ้มตอบไป

“ขยันทำงานหน่อย”   พี่โป้งแซวครับ

“งั้นไม่ต้องดื่มเลยมั้ย”   แบ๊งค์แกล้งพี่โป้งครับ

“โอ๋ ๆๆๆๆ ขอโทษนะครับ”   พี่โป้งทำท่าง้อแบ๊งค์

“ล้อเล่นน่า  เอาไปสิ”   แล้วแบ๊งค์ก็ยื่นแก้วน้ำให้พี่โป้ง  แบ๊งค์ก็เดินเสิร์ฟน้ำไปเรื่อย ๆ จนไปถึงที่นักกีฬาคนสุดท้าย  พี่อาร์ทนั่นเอง

“..................”   แบ๊งค์ไม่พูดอะไร  ได้แต่ก้มหน้าก้มตา  แล้วยื่นแก้วน้ำให้

“ข...ขอบคุณนะครับ”   พี่อาร์ทพูดก่อนจะรับแก้วน้ำไป  พอพี่อาร์ทรับแก้วน้ำไปแล้ว  แบ๊งค์เลยทำท่าว่าจะเดินกลับ

“เดี๋ยวก่อน...แบ๊งค์!!!”   พี่อาร์ทเรียกแบ๊งค์ครับ  แบ๊งค์เลยหันหน้ากลับมา

“ม..มีอะไรหรอครับ”   แบ๊งค์ถามไป  ตอนนี้เริ่มหน้าแดงแล้ว (-//////-)

“เอ่อ....คือ....คือ...พี่ขอน้ำอีกแก้วได้มั้ยครับ”   นึกว่าจะพูดอะไรที่แท้ก็ขอน้ำนี่เอง   แต่น้ำในมือพี่อาร์ท  พี่อาร์ทยังไม่ได้ดื่มเลย  สงสัยจะเหนื่อยมาก   แบ๊งค์เลยยื่นให้อีกหนึ่งแก้ว  ตอนนี้แบ๊งค์รู้สึกเหมือนพี่โป้ง  กับกาวกำลังมองอยู่

“ขอบคุณนะครับ”   พี่อาร์ทพูด

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”   แบ๊งค์ก้มหน้าตอบไป

“เอ่อ.......”   พี่อาร์ททำท่าเหมือนจะพูด  แบ๊งค์เลยเงยหน้าขึ้นมามอง  แต่พี่อาร์ทก็ยังไม่พูดอะไร

“วันนี้น้องแบ๊งค์กลับช้าหรอครับ”  พี่อาร์ทถาม

“.................”   แบ๊งค์ได้แต่พยักหน้าไป  ไม่กล้าพูดเลยจริง ๆ

“อืม........แล้วยังใช้เบอร์เดิมอยู่รึเปล่าครับ”    พี่อาร์ทถามมาอีก เฮ้อ~~~เป็นอะไรไปเนี่ย  ทำไมแบ๊งค์ถึงไม่ตอบไปนะ  พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ

“ครับ....ยังใช้เบอร์เดิมอยู่”  แบ๊งค์ตอบ

“แล้วแบ๊งค์กับแม......”  ยังไม่ทันที่พี่อาร์ทจะได้ถามอะไรจบ  โทรศัพท์แบ๊งค์ก็ดังขึ้น  พี่นุ่นโทรมานั่นเอง

“ฮัลโหลครับ”   แบ๊งค์รับสาย

“แบ๊งค์หรอ  กลับได้แล้วนะ พี่นุ่นขับรถมารอแล้ว”   พี่นุ่นพูด

“ครับ  เดี๋ยวแบ๊งค์จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  แบ๊งค์พูด จากนั้นพี่นุ่นก็วางสายไป

“แบ๊งค์คงต้อง.....ต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”   แบ๊งค์พูดกับพี่อาร์ท

“ไม่เป็นไรครับ   ไว้คุยกันวันหลังก็ได้”   พี่อาร์ทพูด  แล้วแบ๊งค์ก็รีบเดินไปเอากระเป๋า   แล้วยื่นของคืนให้กาว  ทำไมกาวทำหน้าเศร้า ๆ แบบนั้นนะ  พี่โป้งก็ไม่ต่างกัน  แต่แบ๊งค์ไม่สนอะไรแล้วรีบวิ่งออกไปเลยนั่งในรถไปก็เหม่อไป  คิดถึงวันพรุ่งนี้  ถ้าแบ๊งค์ได้เจอพี่อาร์ทอีก  แล้วแบ๊งค์จะทำตัวยังไง โอยคิดไม่ออกเลยจริง ๆ
*******************************
 :bye2:


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เจอกันแล้ว  :impress: แต่ดูท่ายังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่เลย  :o7:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเปลี่ยนจากเชียร์กาว มาเชียร์น้องปริ้นซ์จาทันป่าวหว่า   รักเด็กคับ รักเด็ก
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด