ตอนที่ 16 รู้สึกแปลก
"กรูไม่ลงกีฬาสีละ ไม่ลงเด็ดขาด สีไหนก็ไม่ลง"
เม้งไม่ตอบแต่กดน้ำก๊อกมาดีดใส่ผมแทน
"ทำเจรี้ยรายยย"
"ไล่ผีให้มรึง ผีเข้าผีออกชิพหาย"
ผมก้มลงไปกินน้ำก๊อกบ้าง "กรูรู้ว่ากรูเคยบอกจะลงสีมรึง แต่...." แต่กริชเป็นรองประธานฝ่ายนักกีฬา ถึงจะคนละสีก็เถอะ...
งานอย่างหนึ่งของตำแหน่งนี้คือสอดส่องลาดเลาของทีมสีอื่นในกีฬาทุกประเภทอย่างละเอียดยิบ ถ้าลงนักบาสไม่ว่าสีไหนก็ตามผมต้องถูกกริชเจอแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ที่ร้ายสุดคือพวกนักกีฬาย้ายสีจะโดนสต๊าฟสีเดิมรุมด่า ผมไม่อยากให้กริชเกลียดผม และก็ไม่อยากถูกเขาเจอ
เม้งพอจะเข้าใจแต่หน้ามันผิดหวังปานกลางถึงรุนแรง เรือเล็กไม่ควรไปอยู่บนหน้ามันตอนนี้
"ก็ดี มรึงจะได้อ่านหนังสือ อยากเอ็นท์ฯติดปีนี้เลยไม่ใช่รึ"
ผมก้มหน้าล้างแว่น เม้งมันเสียใจแต่ยังพยายามปลอบใจผมแทนซะงั้น มีเพื่อนดีแบบนี้รักตายเลย แต่ถ้าเอ็นท์ฯ ติดจริงผมก็ไม่มีโอกาสได้ลงกีฬาสีที่โรงเรียนนี้อีกแล้วสิ ที่ๆผมฝึกบาสมาตั้งแต่ม.1จากตัวกระจ้อยที่เลี้ยงบอลยังไม่เป็น วงบาสทุกเที่ยงและเย็น เพื่อนกลุ่มที่เล่นมาด้วยกันจนถึงม.4 ช่วงปิดเทอมที่ขลุกอยู่บนลานซีเมนต์นี้ ความภูมิใจที่ได้เหรียญทองแดงบาส ม.ต้นและหวังจะสานต่อชิงเหรียญทองตอนม.ปลาย ทุกความทรงจำเกี่ยวกับบอลสีส้มนี้มีไอ้เม้งอยู่ข้างๆเสมอ
"กรูไม่รู้จะทำไงดีแล้ว" ผมสะอื้นจริงๆ "ทำไมวะชีวิตมันดิ่งเหวแบบนี้" แค่ความคิดพิเรนทร์วูบเดียวมันเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง.....
เม้งกดน้ำใส่มือมาโปะตาผม "ไม่เอาน่า ลูกผู้ชายไม่ร้องไห้....แต่จะร้องก็เอาเลยนะ หน้ามรึงเปียกอยู่แล้วไม่มีใครสังเกตหรอก" มันโปะตาทั้งสองข้างด้วยฝ่ามือคาหน้าผมไว้อย่างนั้น
"ขอบใจว่ะ แต่มรึงวักน้ำมาเยอะไปมั้ง กรูเปียกทั้งตัวเลยเนี่ย น้ำเย็นด้วยนะโว้ย" เราสองคนยืนขำในท่าพิลึกๆอย่างนั้น
"ฮะฮะฮะ กรูไปห้องน้ำแปบละกันเม้ง" มันอือออ เหลือเวลาพักอีก 10 นาทีก่อนคาบเจ็ดจะเริ่ม
ถ้าเม้งไม่ช่วยผมเมื่อกี้ผมคง.....ผมใกล้จะคุมตัวเองไม่ได้แล้ว มันอัดอั้น ทั้งๆที่ผมได้มีกริชเป็นคนรักแต่ทำไม...น่าจะมีความสุขไม่ใช่เหรอ นอกจากนั้นผมยังรู้สึกกลัวลึกๆ โหวงๆ ในใจอย่างประหลาด ยิ่งเจอกริชบ่อยเท่าไหร่ความกลัวนั้นก็ชัดขึ้นแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าใจผมรู้สึกอะไรอยู่......
คิดมากน่า แค่เครียดที่ต้องหลบๆซ่อนๆ เท่านั้นแหละ เขารักผม ผมรักเขา ความรักต้องการอะไรมากกว่านี้อีก
ผมเข้าห้องน้ำหลังตึก ถอดเสื้อออกสะบัดไปมาเผื่อมันจะแห้งบ้าง
..
..
..
ผมหยิบป้าย 'กำลังทำความสะอาด' ที่วางใต้อ่างล้างหน้าไปแขวนประตูใหญ่แล้วปิดงับประตู
"ทีหลังแขวนป้ายแบบนี้นะจะได้ไม่มีใครมาเจอ"
"ขะ...ขอบใจนะ" เสียงตอบจากห้องส้วมที่ปิดประตูอยู่ "นั่นคงไม่ใช่อาจารย์นะ?"
"เปล่า นักเรียนเหมือนนายนั่นแหละ"
ประตูค่อยๆ แง้มออก เป็นคนที่เคยช่วยผมจากรถเฉี่ยวนั่นเอง (ไอ้คนที่ปล่อยผมจ่ายค่าแท๊กซี่คนเดียวน่ะแหละ)
เขาเปลือยท่อนบน เสื้อนร.แขวนไว้บนกำแพงจะได้ไม่ติดกลิ่นบุหรี่
"โลกกลมจังเนอะ"
"อืม"
"คิดไงถึงดูดบุหรี่ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ ไม่ได้เข้ากับนายเลย" ปากเขาแดงระเรื่อ หน้าก็เกลี้ยงเนียนดูแล้วไม่ใช่สูบบุหรี่จนเป็นนิสัย
"เราสูบเวลาเครียดมากๆ เท่านั้น"
"ขอสักปื้ดดิ เครียดเหมือนกัน" ผมเดินเข้าไปหาเขา ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรแค่จะรับมาดูดบ้าง
แต่ในห้องแคบๆนั้นเรายืนแทบชิดกัน เปลือยท่อนบนทั้งคู่ เจ้าหนูผมดันแข็งตัวขึ้นมาซะงั้น ผมหันหลบช้าๆ ไม่ให้ผิดสังเกต
....มรึงจะลุกขึ้นมาทำไมวะเจ้าหมูยอดื้อ.... ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
"ของนายลุกไหม? เราลุกว่ะ ฮะฮะ"
"ขอบใจเรื่องคราวนั้นนะ" ผมเปลี่ยนเรื่องพูด
"เรื่องไหน?"
"ที่ช่วยเราไม่ให้รถชน...เรื่องนาฬิกาก็ด้วย"
"คงไม่โดนยึดนะ ไม่เห็นนายใส่อีกเลย"
"ถอดเก็บในกระเป๋าตลอด ใส่เวลาอยู่บ้านกับ...ไปเที่ยวน่ะ" ทำไมผมถึงรู้สึกผิดถ้าจะต้องโกหกคนๆ นี้ ชื่อยังไม่รู้จักเลย
..
..
"เราชื่อต้น" "เราชื่อวิง" (-*- พูดพร้อมกันอีกละ)
ยังไม่ทันคุยต่อเสียงกริ่งก็ดังขึ้น "ไปเหอะ"
"วิง บ้วนปากก่อนดิ"
"เออๆ ใจนะต้น นายช่วยเราอีกแล้ว"
"อย่านับเลย นับแล้วสังหรณ์ใจจะต้องมีเรื่องให้นายช่วยเราคืนอีก"
คาบเจ็ดแปดผ่านไปอย่างราบรื่น จิตใจผมกลับเป็นปกติแล้ว....ว่าแต่เมื่อกี้เรียนวิชาอะไรไป? คนในห้องเริ่มเก็บกระเป๋า ตอนเลิกเรียนนี่มีความสุขที่ซู๊ดดด (แน่ใจว่าแกมาเรียนหนังสือนะ?) เมื่อรู้ว่ากริชเป็นกรรมการสีแดงผมก็หลบหน้าเขาได้ง่ายขึ้นเพราะจำแหล่งทำงานได้ขึ้นใจ กรรมการหลักจะประชุมรวมที่ห้องฝ่ายปกครอง อยู่ห้องในสุดติดกระจกรอบด้าน (เป็นห้องที่อาจารย์ใช้ประชุมด้วยจึงกันเสียงอย่างดีและมักปิดม่านเสมอ)
นอกเวลาประชุม กรรมการสีแดงจะอยู่ตึก 4 ชั้น 3 ถึงจะใกล้ตึกผมแต่ช่วงนี้จนถึงกีฬาสีทุกคนต้องงานยุ่งมากคงไม่ป้วนเปี้ยนไกล
ทีมเชียร์จะอยู่ที่อัฒจันทน์ ปีนี้ยังไม่มีการจับสลากเลือก สีต่างๆจึงยึดอัฒจันทน์เดิมตามปีที่แล้วไปก่อน
ทีมบาสกีฬาสีจะยึดสนามบาสในโรงยิมกับอีกสองสนามที่ติดกับโรงยิม ถ้าผมไปเล่นสนามที่ไกลที่สุดก็น่าจะปลอดภัยแล้ว
"เล่นบาสป่าว?"
"เล่นดิ"
"กรูดีใจว่ะที่มรึงดีขึ้น ถึงจะไม่ได้แข่งจริงด้วยกันก็เถอะ"
เราเล่นบาสจนเริ่มมืด "เม้ง กรูขอไปหอมรึงอีกทีนะ"
"ได้ แต่อย่าค้างล่ะมรึงไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนะอย่าลืม"
มีเรื่องที่ผมสงสัยในคำพูดของกริช ....ลืมเรื่องเก่าๆ....เริ่มต้นชีวิตใหม่....คืออะไรกัน?
ผมคงถามเขาตรงๆ ไม่ได้ อีกอย่างเขาอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ผมก็ไม่ควรฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก เบาะแสเดียวที่พอหาได้ตอนนี้คือจากหนังสือรุ่นเท่านั้น
เอาเสื้อแขวนข้างฝาเสร็จก็นั่งดูหนังสือรุ่นไปเรื่อยๆ คราวนี้อ่านเฉพาะม.5 เลย
....แต่ทำไมไม่มีชื่อคมเดช...หรือผมอ่านข้ามไป......ผมอยากเห็นหน้ากริช แค่เห็นรูปยังก็ยังดี
ลมเบาๆ ปะทะหน้าอกชวนให้นึกถึงสัมผัสของเขาแต่ความเครียดและความเหนื่อยทำให้อารมณ์ไม่ขึ้นเลยวุ้ย
ไม่ได้คิดจะชักว่าวต่อหน้าไอ้เม้งนะ แค่อยากคิดถึงความรู้สึกดีๆของกริชอ่า บิ้วท์อารมณ์ไม่ขึ้นซะที
แผ่นอกของ...อุ๊ก!
ผมเปลี่ยนเป็นนอนอ่านหนังสือแทน เม้งชะเลืองแวบนึงแล้วอ่านการ์ตูนดื่มเบียร์ต่อไป
อะไรวะ!....สมองกรูเล่นพิเรนทร์อะไรเนี่ย? ทำไมผมนึกถึงช่วงที่อยู่กับ...ในห้องน้ำ.....
ไอ้หมูยออย่าเล่นแบบนี้ดิ๊... มันไม่ได้ล้อเล่นว่ะ...มันลุกจริงๆ....ภาพยิ่งชัด...หน้าเนียนขาวกับปากแดงระเรื่อนั่น
ไม่ได้! ต้องเพ่งสมาธิไปที่กริชสุดที่รักของผม!
เห็นแล้วๆ กล้ามอกบางๆ หัวนมสีส้ม...เออชัดแล้วปรับอีกหน่อย...!!..?
เม้งเริ่มสงสัยว่าเพื่อนมันออกกำลังกายหรือฝึกเป็นแมวน้ำทะเล นอนคว่ำกับพื้นแล้วขยับเอวไปมา
"ต้น..."
ดีๆ ภาพชัดอีกครั้ง เห็นกล้ามท้องแล้ว ต่ำลงไปอีก อูย...ตรงนี้ต้องจินตนาการเยอะหน่อย
ผมคว้าแก้วเบียร์มาดื่มทั้งที่นอนคว่ำ ทุลักทุเลมากแต่ลุกจากพื้นไม่ได้ เอาละ ตึงนิดๆ ละ ต่ำลงไปเลย กางเกงสีดำ...
"ต้นเป็นไรวะ?"
หนังสือรุ่นกระเด็นไป ผมเอาหัวโขกพื้นโป๊กๆๆ
"ไอ้โต๊นนนนนน!!!"
"กรูสบายดี ขอยืมหนังสือรุ่นกลับบ้านได้ไหม? ขอบใจมากเม้ง" ผมลุกพรวดพราดคว้ากระเป๋าออกจากห้องมัน
"แล้วไม่ใส่เสื้อเรอะ!!"
"กรู...แกล้งลืม ใจนะ ไปล่ะ"
ไวเหมือนพริบตาผมกลับมาถึงบ้านตัวเองแล้ว
"ต้นเมื่อคืนไปไหนมา"
"ผมค้างติวหนังสือบ้านเพื่อนน่ะครับ" ไม่รอฟังคำเทศน์ผมรีบเข้าห้องนอนทันที
ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ! ผมนึกถึงวิงตอนถอดเสื้อได้ยังไง!?
-----------------------------------------------------------------------------------